The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Ane Cha, 2023-02-26 22:39:01

แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม

แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม

ประจำ ปีง ปี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ เ อ ก ส า ร หมา ย เ ล ข ๑ ๑ /๒๕ ๖ ๕ ก ลุ่มนโ ยบา ยแล ะแผน สำ นัก ง านศึกษา ธิ ก า ร จั ง ห วัดนครปฐม ของสำ นักงานศึกษาธิกธิารจังจัหวัดวันครปฐม แผนปฏิบัติ บั ติ ราชการ


คำนำ ตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 หมวด 3 มาตรา 9 (1) , (2) ได้กำหนดให้ส่วนราชการต้องจัดทำแผนปฏิบัติราชการไว้เป็นการล่วงหน้า และแผนปฏิบัติ ราชการดังกล่าวต้องมีรายละเอียดของขั้นตอน ระยะเวลา และงบประมาณที่จะต้องใช้ในการดำเนินการของแต่ละ ขั้นตอน เป้าหมายของภารกิจ ผลสัมฤทธิ์และตัวชี้วัดความสำเร็จของภารกิจหน่วยงาน และพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 มาตรา 7 กำหนดให้ส่วนราชการ จัดให้มีการทบทวนภารกิจของตน โดยคำนึงถึงยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 - 2580 (แผนระดับที่ 1) แผนแม่บท ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผน ระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (แผนระดับที่ 2) นโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา และแผนอื่น ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกำลังเงินงบประมาณ ความคุ้มค่าของภารกิจและสถานการณ์อื่น ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 เห็นชอบให้หน่วยงานของรัฐปรับปรุงแผนระดับ 3 ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูป การศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2560 กำหนดให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ปฏิบัติภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการเกี่ยวกับการบริหารและการจัดการศึกษา โดยมีอำนาจหน้าที่ในการจัดทำ แผนพัฒนาการศึกษาและแผนปฏิบัติการ ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และฉบับที่ 2 พ.ศ. 2562 และสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายในแผนระดับที่ 1 และแผนระดับที่ 2 รวมทั้งสอดรับกับมติคณะรัฐมนตรี นโยบายรัฐบาล แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 นโยบายและ จุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และเชื่อมโยงข้อมูลสู่ระบบติดตาม และประเมินผลแห่งชาติ (Electronic Monitoring and Evaluation System of National Strategy and country Reform : eMENSCR) ตามระเบียบว่าด้วยการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูป ประเทศ พ.ศ. 2562 สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม จึงได้จัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ขึ้น เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารงานและให้บุคลากร ในสังกัดใช้เป็นกรอบแนวทางในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความร่วมมือในการจัดทำแผนปฏิบัติ ราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ฉบับนี้ สำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม กลุ่มนโยบายและแผน ธันวาคม 2565


(ก) บทสรุปสำหรับผู้บริหาร ตามที่พระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 หมวด 3 มาตรา 9 (1) , (2) ได้กำหนดให้ส่วนราชการต้องจัดทำแผนปฏิบัติราชการไว้เป็นการล่วงหน้า และแผนปฏิบัติ ราชการดังกล่าวต้องมีรายละเอียดของขั้นตอน ระยะเวลา และงบประมาณที่จะต้องใช้ในการดำเนินการของแต่ละขั้นตอน เป้าหมายของภารกิจ ผลสัมฤทธิ์และตัวชี้วัดความสำเร็จของภารกิจหน่วยงาน และพระราชกฤษฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 มาตรา 7 กำหนดให้ส่วนราชการจัดให้มีการทบทวน ภารกิจของตน โดยคำนึงถึงยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 - 2580 (แผนระดับที่ 1) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วย ความมั่นคงแห่งชาติ (แผนระดับที่ 2) นโยบายของคณะรัฐมนตรีที่แถลงต่อรัฐสภา และแผนอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกำลัง เงินงบประมาณ ความคุ้มค่าของภารกิจและสถานการณ์อื่น ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2562 เห็นชอบให้หน่วยงานของรัฐปรับปรุงแผนระดับ 3 ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 19/2560 เรื่อง การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ให้จัดตั้งสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อปฏิบัติภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับการบริหารและการจัดการศึกษาตามที่กฎหมายกำหนด การปฏิบัติราชการตามอำนาจหน้าที่ นโยบายและ ยุทธศาสตร์ของส่วนราชการต่าง ๆ ที่มอบหมาย โดยอำนาจหน้าที่ข้อ 11 (2) คือ การจัดทำแผนพัฒนาการศึกษา และแผนปฏิบัติการ รวมทั้งสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้อนุมัติให้ใช้แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) ตามหนังสือ ด่วนมาก ที่ ศธ 0208/19657 ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2565 ให้หน่วยงานได้แปลงเป็นแผนปฏิบัติราชการประจำปี งบประมาณ พ.ศ. 2566 ของหน่วยงาน ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546 และฉบับที่ 2 พ.ศ. 2562 และสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายในแผนระดับที่ 1 และแผนระดับที่ 2 รวมทั้งสอดรับกับมติคณะรัฐมนตรี นโยบายรัฐบาล แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 - 2579 นโยบายการและ จุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของกระทรวงศึกษาธิการ แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) และเชื่อมโยงข้อมูลสู่ระบบติดตาม และประเมินผลแห่งชาติ (eMENSCR) ตามระเบียบว่าด้วยการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2562 สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม จึงได้จัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ขึ้น เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารงานและให้บุคลากรในสังกัดใช้เป็น กรอบแนวทางในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ วิสัยทัศน์ องค์กรหลักในการประสาน ส่งเสริม และบูรณาการจัดการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล ยกระดับคุณภาพการศึกษา พัฒนาพลเมืองนครปฐม สู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะ


(ข) พันธกิจ 1. ส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิและโอกาสเสมอภาคทางการศึกษา โดยได้รับการ จัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่หลากหลายอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ 2. ส่งเสริม สนับสนุน หน่วยงานการศึกษาในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับ การพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 3. ส่งเสริม สนับสนุน การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรม มีคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม และดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ 5. ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาพลเมืองให้เป็นพลเมืองอัจฉริยะ (Smart Citizen) รองรับ การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เป้าประสงค์รวม 1. ผู้เรียนเป็นคนดี มีคุณธรรม มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ น้อมนำศาสตร์ พระราชา ๒. ประชาชนทุกคนได้รับสิทธิและโอกาสทางการศึกษา และเรียนรู้ตลอดชีวิตที่หลากหลายอย่าง ทั่วถึงมีคุณภาพ ๓. ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 รวมถึงทักษะวิชาชีพเพื่อการม๊งานทำ ๔. ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ประเด็นยุทธศาสตร์ 1. การจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและเป็นพลเมืองดี มีจิตอาสา น้อมนำศาสตร์ พระราชา 2. การพัฒนากำลังคน เพื่อรองรับการเป็นเมืองอัจฉริยะ 3. การยกระดับคุณภาพมาตรฐานการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีทักษะในศตวรรษที่ 21 4. การเข้าถึงบริการทางการศึกษาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต 5. การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการศึกษาแบบบูรณาการโดยเน้นการมีส่วนร่วม กลยุทธ์ภายใต้ประเด็นยุทธศาสตร์ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 การจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและเป็นพลเมืองดี มีจิต อาสา น้อมนำศาสตร์พระราชา กลยุทธ์ 1.1 ส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ปลูกฝังวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ค่านิยม ที่ดีงาม ความภูมิใจในชาติ 1.2 การสร้างและส่งเสริมความเป็นพลเมืองดี ตามรอยพระยุคลบาทด้านการศึกษาสู่การ ปฏิบัติ รวมทั้งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่เกี่ยวกับการศึกษา 1.3 ส่งเสริมการเรียนรู้ที่สอดคล้องตามบริบทความหลากหลายทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง


(ค) 1.4 ปลูกฝังผู้เรียนให้มีค่านิยมที่ถูกต้อง มีคุณธรรม จริยธรรม และเป็นผู้มีความพอเพียง มีวินัย สุจริต โดยใช้กระบวนการลูกเสือและยุวกาชาดหรือกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่หลากหลาย 1.5 พัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อการจัดระบบการดูแลและป้องกันภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ อาทิ อาชญากรรมและความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ยาเสพติด ภัยพิบัติจากธรรมชาติภัยจากโรคอุบัติใหม่ ภัยจากไซเบอร์ เป็นต้น 1.6 การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่เป็นมิตรกับสิงแวดล้อม ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนากำลังคน เพื่อรองรับการเป็นเมืองอัจฉริยะ กลยุทธ์ 2.1 ส่งเสริมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ 2.2 พัฒนาครูให้มีศักยภาพในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลายโดยใช้เทคโนโลยี เครื่องมือที่ทันสมัย 2.3 จัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี และการฝึกอาชีพในสถานประกอบการ 2.4 พัฒนาหลักสูตรและรูปแบบการเรียนการสอนอาชีวศึกษาให้สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานฝีมือ แรงงานและมาตรฐานอาชีพ 2.5 พัฒนาทักษะวิชาชีพที่สอดคล้องกับบริบทและความต้องการของพื้นที่ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 การยกระดับคุณภาพมาตรฐานการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีทักษะในศตวรรษที่ 21 กลยุทธ์ 3.1 ส่งเสริมสถานพัฒนาเด็กปฐมวัย ให้ได้มาตรฐานตามมาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ 3.2 พัฒนาหลักสูตรการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย 3.3 พัฒนาหลักสูตรการออกแบบเรียนรู้ 3.4 พัฒนาการออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ในทุกระดับทุกประเภท 3.5 ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ที่เสริมสร้างพหุปัญญาในรูปแบบที่หลากหลาย 3.6 ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 การเข้าถึงบริการทางการศึกษาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต กลยุทธ์ 4.1 ส่งเสริมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ 4.2 พัฒนาครูให้มีศักยภาพในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลายโดยใช้เทคโนโลยี เครื่องมือที่ทันสมัย 4.3 จัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี และการฝึกอาชีพในสถานประกอบการ 4.4 พัฒนาหลักสูตรและรูปแบบการเรียนการสอนอาชีวศึกษาให้สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานฝีมือ แรงงานและมาตรฐานอาชีพ 4.5 พัฒนาทักษะวิชาชีพที่สอดคล้องกับบริบทและความต้องการของพื้นที่


(ง) ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการศึกษาแบบบูรณาการ โดยเน้นการมีส่วนร่วม กลยุทธ์ 5.1 สร้างและพัฒนาความร่วมมือด้านการจัดการศึกษาระหว่างหน่วยงาน องค์กรภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง 5.2 ส่งเสริมการขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษาและประสิทธิภาพการศึกษาจังหวัดโดยผ่านกลไก ของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) 5.3 พัฒนาฐานข้อมูลด้านการศึกษาที่มีมาตรฐาน เชื่อมโยงและเข้าถึงได้ สรุปงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม แผนงาน /ผลผลิต / โครงการ งบประมาณ งบดำเนินงาน งบเงินอุดหนุน งบรายจ่ายอื่น รวม รวมงบประมาณทั้งสิ้น 3,301,900 10,000 367,600 3,679,500 1. แผนงานบุคลากรภาครัฐ 1.1 รายการค่าเช่าบ้าน 2. แผนงานพื้นฐานด้านการพัฒนาและเสริมสร้าง ศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 2.1 ผลผลิตหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับบริการเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา กิจกรรมการสร้างและพัฒนาเครือข่ายเทคโนโลยี สารสนเทศ 2.1.1 ค่าใช้บริการอินเทอร์เน็ต 2.2 ผลผลิตผู้ได้รับการส่งเสริมและพัฒนา คุณธรรม จริยธรรม กิจกรรมลูกเสือ ยุวกาชาดและ กิจการนักเรียน 2.2.1 โครงการส่งเสริมการจัดงานวันคล้าย วันสถาปนายุวกาชาดไทย ประจำปี 2566 2.2.2 โครงการนิเทศการจัดกิจกรรมยุว กาชาดในสถานศึกษา ประจำปี 2566 2.2.3 โครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพ ความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา ประจำปี พ.ศ. 2566 2.3 ผลผลิตนักเรียนโรงเรียนเอกชนที่ได้รับการ อุดหนุน กิจกรรมพัฒนาบุคลากร/ผู้เรียนและโรงเรียน เอกชน 2.3.1 โครงการบริหารงานและตรวจ ติดตามโรงเรียนเอกชนในสังกัด ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 2.3.2 โครงการประชุมเครือข่ายพัฒนา การศึกษาเอกชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 2.4 ผลผลิตนโยบายและแผนด้านการศึกษา กิจกรรมดำเนินงานนโยบายและยุทธศาสตร์ 695,200 64,200 - - - 52,400 - - - - 10,000 - - - - - 40,000 - 16,500 - 15,000 695,200 64,200 40,000 10,000 16,500 52,400 15,000


(จ) แผนงาน /ผลผลิต / โครงการ งบประมาณ งบดำเนินงาน งบเงินอุดหนุน งบรายจ่ายอื่น รวม 2.4.1 โครงการการส่งเสริม สนับสนุนการ ขับเคลื่อนการดำเนินงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนใน โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจาก พระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม ราชกุมารีกระทรวงศึกษาธิการในระดับจังหวัด 3.แผนงานยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนด้านการพัฒนา และเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ 3.1 โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษา ที่ยั่งยืน กิจกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา ในส่วนภูมิภาค 3.1.1 ค่าใช้สอย วัสดุ 3.1.2 ค่าสาธารณูปโภค 3.1.3 ค่าเช่ารถยนต์ 3.1.4 ค่าตอบแทนพนักงานปฏิบัติงานให้ ราชการ 3.1.5 โครงการการบริหารและจัดการศึกษา แบบบูรณาการโดยผ่านการมีส่วนร่วมของ กศจ. 3.1.6 โครงการนครปฐมร่วมใจ สร้างความ ปลอดภัยในสถานศึกษา 3.1.7 โครงการทุนการศึกษาพระราชทาน ม.ท.ศ. ประจำปี 2566 3.1.8 โครงการการพัฒนาและจัดการ เว็บไซต์สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม 3.1.9 โครงการประเมินและพัฒนา ความสามารถด้านการอ่านออกเขียนได้ และด้านการ คิดคำนวณ 3.1.10 โครงการจัดทำแผนพัฒ นา การศึกษาจังหวัดนครปฐม ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 3.1.11 โครงการการประชุมแลกเปลี่ยน เรียนรู้เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษา และประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษาจังหวัด นครปฐมโดยผ่านกลไกของ กศจ. 3.1.12 โครงการเสริมสร้างศักยภาพ บุคลากรของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 3.1.13 โครงการตรวจติดตามประเมินผล และนิเทศการดำเนินงานตามนโยบายและยุทธศาสตร์ 3.2 โครงการขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษา ที่ยั่งยืน กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาระบบประกัน คุณภาพการศึกษา 3.2.1 โครงการพัฒนาครูโรงเรียนเอกชน - 1,106,600 344,700 297,000 180,000 434,400 29,000 16,650 6,750 75,000 - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 9,500 - - - - - - - - - 30,400 90,900 40,000 65,300 40,000 9,500 1,106,600 344,700 297,000 180,000 434,400 29,000 16,650 6,750 75,000 30,400 90,900 40,000 65,300 40,000


(ฉ) แผนงาน /ผลผลิต / โครงการ งบประมาณ งบดำเนินงาน งบเงินอุดหนุน งบรายจ่ายอื่น รวม 4. แผนงานบูรณาการการป้องกัน ปราบปรามและ บำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด 4.1 โครงการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติด กิจกรรมการสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดใน สถานศึกษา 4.1.1 โครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและ ป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษาของจังหวัดนครปฐม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - - 20,000 20,000


(1) สารบัญ หน้า คำนำ บทสรุปผู้บริหาร (ก) สารบัญ (1) ส่วนที่ 1 ข้อมูลสภาพทั่วไปของจังหวัด 1 - สภาพทั่วไปของจังหวัดนครปฐม 1 - อำนาจหน้าที่ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม 5 - ข้อมูลพื้นฐานด้านการศึกษาจังหวัดนครปฐม 6 - ข้อมูลด้านคุณภาพการศึกษาจังหวัดนครปฐม 9 ส่วนที่ 2 กรอบแนวคิดและความสอดคล้องกับแผน 3 ระดับ 13 2.1 ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580 (แผนระดับที่ 1) 13 2.2 แผนระดับที่ 2 15 2.2.1 (ร่าง) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2566 – 2580) ฉบับปรับปรุง 15 2.2.2 แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) 21 2.2.3 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) 22 2.2.4 (ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ 24 (พ.ศ. 2566 - 2570) 2.3 นโยบายและแผนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 26 2.3.1 นโยบายรัฐบาล (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) 26 2.3.2 เป้าหมายการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) 26 2.3.3 นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 27 2.4 แผนระดับที่ 3 ที่เกี่ยวข้อง 32 2.4.1 แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 – 2579) 32 2.4.2 (ร่าง) แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 35 ของกระทรวงศึกษาธิการ 2.4.3 แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 35 ของสำนักงานของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร)


(2) สารบัญ (ต่อ) หน้า ส่วนที่ 3 สาระสำคัญของแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 37 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม - ปรัชญาการศึกษา 37 - วิสัยทัศน์ 37 - พันธกิจ 37 - ค่านิยมร่วม 37 - เป้าประสงค์ 37 - ประเด็นยุทธศาสตร์ 37 - ยุทธศาสตร์ เป้าหมาย ตัวชี้วัด กลยุทธ์ภายใต้ประเด็นยุทธศาสตร์ 38 - ประเด็นยุทธศาสตร์ ตัวชี้วัดรายประเด็นยุทธศาสตร์ และค่าเป้าหมาย 40 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - แผนผังความเชื่อมโยงสาระสำคัญของแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 42 พ.ศ. 2566 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ส่วนที่ 4 โครงการตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566ของสำนักงาน 43 ศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม 4.1 งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 43 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม 4.2 โครงการของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม 45 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 4.3 รายละเอียดโครงการของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม 75 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 4.3.1 โครงการส่งเสริมการจัดงานวันคล้ายวันสถาปนายุวกาชาดไทย 75 ประจำปี 2566 4.3.2 โครงการนิเทศการจัดกิจกรรมยุวกาชาดในสถานศึกษา ประจำปี 2566 80 4.3.3 โครงการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา 84 ประจำปี พ.ศ. 2566 4.3.4 โครงการบริหารงานและตรวจติดตามโรงเรียนเอกชนในสังกัด 89 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 4.3.5 โครงการประชุมเครือข่ายพัฒนาการศึกษาเอกชน 94 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566


(3) สารบัญ (ต่อ) หน้า 4.3.6 โครงการการส่งเสริม สนับสนุนการขับเคลื่อนการดำเนินงาน 99 สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กระทรวงศึกษาธิการในระดับจังหวัด 4.3.7 โครงการการบริหารและจัดการศึกษาแบบบูรณาการ 103 โดยผ่านการมีส่วนร่วมของ กศจ. 4.3.8 โครงการนครปฐมร่วมใจ สร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา 108 4.3.9 โครงการทุนการศึกษาพระราชทาน ม.ท.ศ. ประจำปี 2566 113 4.3.10 โครงการการพัฒนาและจัดการเว็บไซต์สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม 118 4.3.11 โครงการประเมินและพัฒนาความสามารถด้านการอ่านออกเขียนได้ 121 และด้านการคิดคำนวณ 4.3.12 โครงการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดนครปฐม 127 ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 4.3.13 โครงการการประชุมแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพื่อขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพ 132 การศึกษาและประสิทธิภาพการบริหารจัดการศึกษาจังหวัดนครปฐม โดยผ่านกลไกของ กศจ. 4.3.14 โครงการเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรของสำนักงานศึกษาธิการ 138 จังหวัดนครปฐม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 4.3.15 โครงการตรวจติดตามประเมินผลและนิเทศการดำเนินงาน 142 ตามนโยบายและยุทธศาสตร์ 4.3.16 โครงการพัฒนาครูโรงเรียนเอกชน 147 4.3.17 โครงการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันยาเสพติดในสถานศึกษา 152 ของจังหวัดนครปฐม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ส่วนที่ 5 การติดตาม ประเมินผล และรายงานผลแผนปฏิบัติราชการ 156 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ภาคผนวก - โครงการจัดทำแผนพัฒนาการศึกษาจังหวัดนครปฐม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 - คำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม - คณะผู้จัดทำ


(4) สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 1 ข้อมูลจำนวนโรงเรียน ครู และนักเรียน ของหน่วยงานการศึกษาจังหวัดนครปฐม 6 2 ข้อมูลจำนวนนักเรียนแยกตามสังกัด และระดับ 7 3 ข้อมูลจำนวนนักเรียนแยกรายอำเภอสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบ 8 และการศึกษาตามอัธยาศัย 4 ข้อมูลจำนวนนักเรียนแยกตามประเภทการให้บริการ/ประเภทความพิการ 8 ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 1 จังหวัดนครปฐม 5 ผลการทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 จำแนกตามสังกัด 9 6 ผลการทดสอบ O-NET ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 จำแนกตามสังกัด 9 7 ผลการทดสอบ O-NET ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 จำแนกตามสังกัด 10 8 ผลการทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2562 – 2564 จังหวัดนครปฐม 10 9 ผลการทดสอบ O-NET ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2562 – 2564 จังหวัดนครปฐม 10 10 ผลการทดสอบ O-NET ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2562 – 2564 จังหวัดนครปฐม 10 11 ผลการทดสอบ V-NET ระดับ ปวช. ปีการศึกษา 2564 จังหวัดนครปฐม 11 12 ผลการทดสอบ N-NET ระดับประถมศึกษา ปีการศึกษา 2564 จังหวัดนครปฐม 11 13 ผลการทดสอบ N-NET ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ปีการศึกษา 2564 จังหวัดนครปฐม 12 14 ผลการทดสอบ N-NET ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2564 จังหวัดนครปฐม 12 15 โครงการของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม จำแนกตามประเด็นยุทธศาสตร์ 47 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม - ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 การจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและเป็นพลเมืองดี 47 มีจิตอาสา น้อมนำศาสตร์พระราชา - ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 การยกระดับคุณภาพมาตรฐานการเรียนรู้ให้ผู้เรียน 56 มีทักษะในศตวรรษที่ 21 - ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 4 การเข้าถึงบริการทางการศึกษาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต 59 - ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 5 การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการศึกษา 61 แบบบูรณาการโดยเน้นการมีส่วนร่วม


ส่วนที่ 1 ข้อมูลสภาพทั่วไปของจังหวัด สภาพทั่วไปของจังหวัดนครปฐม ประวัติความเป็นมา “นครปฐม” เป็นอู่อารยธรรมสำคัญที่มีประวัติความเป็นมายาวนานในแผ่นดินสุวรรณภูมิ จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าวว่า เมืองนครปฐมแต่เดิมนั้นตั้งอยู่ริมทะเล เป็นเมืองเก่าแก่มีความเจริญรุ่งเรือง มานับตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิ และเป็นราชธานีสำคัญในสมัยทวารวดี ในยุคนั้นนครปฐมเป็นแหล่งเผยแพร่อารยธรรม จากประเทศอินเดีย ซึ่งรวมทั้งพุทธศาสนา นครปฐมจึงเป็นศูนย์กลางของความเจริญ มีชนชาติต่าง ๆ อพยพเข้ามาตั้ง ถิ่นฐานอยู่เป็นจำนวนมาก ต่อมาได้เกิดความแห้งแล้งขึ้นในเมืองนครปฐม เพราะกระแสน้ำที่ไหลผ่านตัวเมืองเปลี่ยน เส้นทาง ประชาชนจึงอพยพไปตั้งหลักแหล่งอยู่ริมน้ำและสร้างเมืองใหม่ขึ้นชื่อ “เมืองนครไชยศรี” หรือ “ศรีวิชัย” นครปฐมจึงกลายเป็นเมืองร้างมาเป็นเวลาหลายร้อยปี จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวขณะที่ทรง ยังผนวชได้ธุดงค์ไปพบพระปฐมเจดีย์ และทรงเห็นว่าเป็นเจดีย์องค์ใหญ่ไม่มีที่ใดเทียบเท่า ครั้นเมื่อได้ครองราชย์ จึงโปรดฯ ให้ก่อเจดีย์แบบลังกาครอบองค์เดิมไว้ โดยให้ชื่อว่า “พระปฐมเจดีย์” ทรงปฏิสังขรณ์สิ่งต่าง ๆ ในบริเวณ องค์พระปฐมเจดีย์ให้มีสภาพดี และโปรดฯ ให้ขุดคลองเจดีย์บูชาเพื่อให้การเสด็จมานมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ สะดวกขึ้น ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เริ่มก่อสร้างทางรถไฟสายใต้ผ่านเมืองนครปฐม ซึ่งขณะนั้นยังเป็นป่ารก พระองค์จึงโปรดฯ ให้ย้ายเมืองจากตำบลท่านา อำเภอนครชัยศรีมาตั้งที่บริเวณองค์พระปฐม เจดีย์เหมือนเช่นครั้งสมัยโบราณ ครั้งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้สร้างพระราชวังสนามจันทร์เป็นที่เสด็จ แปรพระราชฐานและฝึกซ้อมรบแบบเสือป่า โดยโปรดฯ ให้ตัดถนนเพิ่มขึ้นอีกหลายสาย รวมทั้งสร้างสะพานเจริญ ศรัทธาข้ามคลองเจดีย์บูชาเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟกับองค์พระปฐมเจดีย์ ตลอดจนสร้างพระร่วงโรจนฤทธิ์ทางด้าน ทิศเหนือขององค์พระปฐมเจดีย์และบูรณะองค์พระปฐมเจดีย์ให้สมบูรณ์สวยงามดังที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน และได้โปรด ให้เปลี่ยนชื่อจากเมือง “นครไชยศรี”เป็น “นครปฐม” ที่ตั้งและอาณาเขต นครปฐมเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางด้านตะวันตก ตั้งอยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำท่าจีนในที่ราบลุ่มภาคกลาง โดยอยู่ ระหว่างเส้นรุ้งที่ 13 องศา 45 ลิปดา 10 ฟิลิปดา เส้นแวงที่ 100 องศา 4 ลิปดา 28 ฟิลิปดา มีพื้นที่ 2,168.327 ตารางกิโลเมตรหรือ 1,355,204 ไร่ เป็นร้อยละ 0.42ของประเทศและอันดับที่ 62ของประเทศอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร


2 ไปตามเส้นทางถนนเพชรเกษม 56 กิโลเมตร หรือตามเส้นทางถนนบรมราชชนนี(ถนนปิ่นเกล้า–นครชัยศรี) 51 กิโลเมตร และตามเส้นทางรถไฟ 62 กิโลเมตร โดยมีอาณาเขตติดต่อดังนี้ ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอกระทุ่มแบน อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร และอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอไทรน้อย อำเภอบางใหญ่ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรีและเขตทวีวัฒนา เขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอบ้านโป่ง อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี และอำเภอท่ามะกา อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี คำขวัญประจำจังหวัดนครปฐม “ส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวงาม ข้าวหลามหวานมัน สนามจันทร์งามล้น พุทธมณฑลคู่ธานี พระปฐมเจดีย์เสียดฟ้า สวยงามตาแม่น้ำท่าจีน” สภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิประเทศของจังหวัดนครปฐมโดยทั่วไปมีลักษณะเป็นที่ราบถึงค่อนข้างราบเรียบ ไม่มีภูเขา และป่าไม้ ระดับความแตกต่างของความสูงของพื้นที่อยู่ระหว่าง 2 – 10 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง สภาพพื้นที่โดยทั่วไป ลาดจากทิศเหนือสู่ทิศใต้ และตะวันตกสู่ตะวันออกมีแม่น้ำท่าจีนไหลผ่านจากทิศเหนือลงสู่ทิศใต้ พื้นที่ทางตอนเหนือ และทางตะวันออกเฉียงเหนือส่วนใหญ่เป็นที่ดอน ส่วนพื้นที่ทางตอนกลางของจังหวัดเป็นที่ราบลุ่ม มีที่ดอนกระจายเป็นแห่งๆ และมีแหล่งน้ำกระจาย สำหรับพื้นที่ด้านตะวันออก และด้านใต้เป็นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน มีคลองธรรมชาติและคลองซอยที่ขุดขึ้น เพื่อการเกษตรและคมนาคมอยู่มาก พื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล 2 - 4 เมตร สภาพภูมิอากาศ ปริมาณน้ำฝน จากสถิติข้อมูลปริมาณน้ำฝนของจังหวัดนครปฐม โดยใช้ข้อมูลของสถานีอุตุนิยมวิทยานครปฐมย้อนหลัง 5 ปี (2559 – 2563) ปริมาณน้ำฝนจะอยู่ในช่วง 600 – 1,300 มิลลิเมตร ในปี 2563 ปริมาณน้ำฝนวัดได้ 1,207.07 มิลลิเมตร จำนวนวันที่ฝนตก 94 วัน ฝนตกมากที่สุดปี 2560 วัดได้ 1,227.90 มิลลิเมตร จำนวนวันที่ ฝนตก 123 วัน ส่วนฝนตกน้อยที่สุดในปี 2562 วัดได้ 694.10 มิลลิเมตร จำนวนวันที่ฝนตก 87 วัน อุณหภูมิ อุณหภูมิในปี 2563 อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 39.7 องศาเซลเซียส อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด 14.0 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด เดือนมีนาคม 39.7 องศาเซลเซียส และต่ำสุด เดือนธันวาคม 14.0 องศาเซลเซียส อุณหภูมิในปี 2562 มีฝนตกในฤดูฝน ฤดูหนาวไม่หนาวจัด อุณหภูมิเฉลี่ย 36.90 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด เดือนเมษายน 40.50 องศา


3 เซลเซียส และต่ำสุด เดือนมกราคม 14.20 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิในปี 2561 อุณหภูมิสูงสุด เดือนเมษายน 38.90 องศาเซลเซียส และต่ำสุด เดือนมกราคม 15.60 องศาเซลเซียส ข้อมูลการปกครอง เขตการปกครอง จังหวัดนครปฐมแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ 106 ตำบล 919 หมู่บ้าน สำหรับการ บริหารราชการส่วนท้องถิ่น ประกอบด้วย องค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลนคร 1 แห่ง เทศบาลเมือง 5 แห่ง เทศบาลตำบล 19 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 92 แห่ง เขตการปกครองจังหวัดนครปฐม ปี 2564 ที่มา : แผนพัฒนาจังหวัดนครปฐม 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) ประชากร จำนวนประชากรของจังหวัดนครปฐม ในปี 2563 มีจำนวนทั้งสิ้น 920,729 คน เป็นชาย จำนวน 441,884 คน หญิง จำนวน 478,845 คน ครัวเรือน จำนวน 411,586 ครัวเรือน โดยมีอัตราที่เพิ่มขึ้น 0.07 ปี 2562 มีจำนวนทั้งสิ้น 920,030 คน เป็นคนไทย 909,900 คน เป็นเพศชาย 441,351 คน เพศหญิง 478,679 คน และคนที่ไม่ได้สัญชาติไทย จำนวน 10,103 คน เป็นเพศชาย 5,308 คน และเพศหญิง 4,822 คน และครัวเรือน จำนวน 404,004 ครัวเรือน โดยปี 2562 มีอัตราที่เพิ่มขึ้น 0.32 ปี 2561 เพิ่มขึ้น 0.61 ปี 2560 เพิ่มขึ้น 0.72 ซึ่งจำนวนประชากรในปีที่ผ่านมามีแนวโน้มลดลง สำหรับอำเภอที่มีประชากร มากที่สุด ได้แก่ อำเภอเมือง รองลงมา ได้แก่ อำเภอกำแพงแสน และอำเภอนครชัยศรีตามลำดับ จำนวนประชากรและจำนวนครัวเรือน จังหวัดนครปฐม พ.ศ. 2559 – 2563 ที่มา : แผนพัฒนาจังหวัดนครปฐม 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570)


4 การบริหารราชการ จังหวัดนครปฐม แบ่งส่วนการบริหารราชการออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1) ส่วนราชการบริหารส่วนกลางในจังหวัด (ที่ขึ้นตรงต่อส่วนกลาง) มีจำนวน 66 หน่วยงาน เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวง ทบวง กรมอื่นๆ จำนวน 48 หน่วยงาน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จำนวน 4 หน่วยงาน และหน่วยงานอิสระจำนวน 14 หน่วยงาน 2) ส่วนราชการบริหารส่วนภูมิภาค มีจำนวน 31 หน่วยงาน เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวง ทบวง กรมอื่นๆ จำนวน 23 หน่วยงาน หน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย 8 หน่วยงาน ระดับอำเภอ แบ่งเป็น 7 อำเภอ 106 ตำบล 919 หมู่บ้าน 3) ส่วนราชการบริหารส่วนท้องถิ่น แบ่งออกเป็น องค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน 1 แห่ง เทศบาลนคร จำนวน 1 แห่ง เทศบาลเมือง จำนวน 5 แห่ง เทศบาลตำบล จำนวน 19 แห่ง และองค์การบริหาร ส่วนตำบล จำนวน 92 แห่ง สถานการณ์ด้านสังคม ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2558 โดยมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป เกินกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งพบว่าในระหว่างปี 2559 – 2563 จังหวัดนครปฐม มีจำนวน ประชากรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กล่าวคือ ปี พ.ศ. 2559 มีประชากรผู้สูงอายุ จำนวน 135,625 คน คิดเป็น ร้อยละ 14.99 ของประชากรทั้งจังหวัด ปี พ.ศ. 2560 มีประชากรผู้สูงอายุ จำนวน 142,221 คน คิดเป็น ร้อยละ 15.60 ของประชากรทั้งจังหวัด ปี พ.ศ. 2561 มีประชากรผู้สูงอายุ จำนวน 149,004 คน คิดเป็น ร้อยละ 16.25 ปี 2562 มีประชากรผู้สูงอายุ จำนวน 156,470 คน คิดเป็นร้อยละ 17.01 และในปี2563 มีประชากรผู้สูงอายุ จำนวน 164,560 คน คิดเป็นร้อยละ 17.87 ของจำนวนประชากรทั้งจังหวัด และคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2564 จะมีประชากรผู้สูงอายุมากถึงร้อยละ 20 ของจำนวนประชากรทั้งจังหวัด อันเป็นผลมาจากอัตราการเกิดที่ลดลงและความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์ ทำให้ผู้สูงอายุมีอายุยืนยาวขึ้น และการที่ประชากรวัยสูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ประเทศต้องมีรายจ่ายด้าน สวัสดิการ เพื่อผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้น ครอบครัวต้องแบกรับภาระ ในการดูแลผู้สูงอายุมากขึ้น ขณะที่ผู้สูงอายุเมื่อ มีอายุยืนยาว จะต้องเผชิญกับปัญหาขาดแคลนรายได้หรือมีรายได้ไม่เพียงพอแก่การดำรงชีพ รวมถึงความ เสี่ยงจากการเจ็บป่วย ด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ และส่วนหนึ่งเป็นผู้สูงอายุ ที่มีความพิการหรือทุพพลภาพร่วมด้วย ทั้งนี้พบว่า ประมาณร้อยละ 75 ของผู้สูงอายุ ในประเทศไทย มีถิ่นที่อยู่อาศัยในชนบท ซึ่งที่อยู่อาศัย ส่วนใหญ่มีสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม และปลอดภัย ทำให้เกิดความเสี่ยงในการดำรงชีวิต ซึ่งสอดคล้อง กับองค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ให้ความสำคัญ กับแนวคิดเรื่อง “เมืองน่าอยู่ของผู้สูงวัย” นอกจากนี้ ปัญหาที่ พบอีกประการหนึ่ง คือ สภาพครอบครัวไทย ที่เปลี่ยนแปลงไปจากอดีต จากครอบครัวขยายกลายเป็น ครอบครัวเดี่ยว ทำให้ผู้สูงอายุต้องอยู่ตามลำพังขาดผู้ดูแล


5 อำนาจหน้าที่ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม เป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ ตั้งอยู่เลขที่ 161/4 ถนนเพชรเกษม ตำบลพระประโทน อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เพื่อปฏิบัติภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการเกี่ยวกับการบริหารและการจัดการศึกษาตามที่กฎหมายกำหนดการปฏิบัติ ราชการตามอำนาจหน้าที่ นโยบายและยุทธศาสตร์ของส่วนราชการต่าง ๆ ที่มอบหมาย และให้มีอำนาจหน้าที่ในเขต จังหวัด ดังต่อไปนี้ 1. รับผิดชอบงานธุรการของ กศจ. อกศจ. คณะอนุกรรมการบริหารราชการเชิงยุทธศาสตร์ คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการพัฒนาการศึกษา คณะอนุกรรมการและคณะทำงาน รวมทั้งปฏิบัติงานราชการที่เป็นไป ตามอำนาจและหน้าที่ของ กศจ. และตามหน้าที่ กศจ. มอบหมาย 2. จัดทำแผนพัฒนาการศึกษาและแผนปฏิบัติการ 3. สั่งการ กำกับ ดูแล เร่งรัด ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการ หรือหน่วยงาน และสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ 4. จัดระบบ ส่งเสริม และประสานงานเครือข่ายข้อมูลสารสนเทศและเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษา 5. ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาเพื่อคนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้มีความสามารถพิเศษ 6. ดำเนินงานเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 7. ส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินการเกี่ยวกับงานด้านวิชาการ การนิเทศ และแนะแนวการศึกษา ทุกระดับและทุกประเภท รวมทั้งติดตามและประเมินผลระบบบริหารและการจัดการศึกษา 8. ดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบด้านการบริหาร การเงิน และการบัญชีของส่วนราชการ หรือหน่วยงานและสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ 9. ส่งเสริมและประสานงานการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการกีฬา เพื่อการศึกษา 10. ส่งเสริม สนับสนุน และดำเนินการเกี่ยวกับการจัดการศึกษาเอกชน 11. ปฏิบัติภารกิจตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการหรือตามที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งปฏิบัติภารกิจ เกี่ยวกับราชการประจำทั่วไปของกระทรวงศึกษาธิการ และประสานงานต่าง ๆ ในจังหวัด


6 ข้อมูลด้านการศึกษาจังหวัดนครปฐม ตารางที่ 1 ข้อมูลจำนวนโรงเรียน ครู และนักเรียน ของหน่วยงานการศึกษาจังหวัดนครปฐม ที่ สังกัด โรงเรียน ครู นักเรียน (แห่ง) (คน) (คน) 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 1 122 2,040 30,750 2 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครปฐม เขต 2 120 1,880 27,465 3 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม 29 1,909 37,307 4 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน 44 2,225 34,402 5 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 12 586 6,554 6 สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย 7 103 6,674 7 สำนักงานบริหารงานการศึกษาพิเศษ 3 167 593 8 สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 1 7 65 9 กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม 5 505 5,811 10 กระทรวงวัฒนธรรม 2 203 1,073 11 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 21 579 9,813 12 องค์การมหาชน 1 146 720 รวม 367 10,350 161,227 (ข้อมูล ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2565)


7 ตารางที่ 2 ข้อมูลจำนวนนักเรียนแยกตามสังกัด และระดับ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2565) หมายเหตุ : สังกัด สอศ. ไม่นับรวมระดับ ปวส. และปริญญาตรีสังกัด อว. ไม่นับรวมปริญญาตรี สังกัด อปท. ไม่นับรวม ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัด ศศศ. ไม่นับรวม ศูนย์การศึกษาพิเศษ และ กศน. สพฐ สช. สอศ. อปท. อว. พศ. สศศ. องคก์าร มหาชน วัฒนธรรม อนุบาล 1 1,199 2,192 - 383 182 - - - - 3,956 อนุบาล 2 5,606 2,524 - 912 182 - 3 - - 9,227 อนุบาล 3 5,907 2,601 - 797 184 - 7 - - 9,496 รวมระดบักอ่นประถมศกึษา 12,712 7,317 - 2,092 548 - 10 - - 22,679 ประถมศกึษาปีที่ 1 6,514 2,741 - 830 290 - 11 - - 10,386 ประถมศกึษาปีที่ 2 6,431 2,851 - 850 284 - 10 - - 10,426 ประถมศกึษาปีที่ 3 6,691 2,811 - 864 275 - 10 - - 10,651 ประถมศกึษาปีที่ 4 7,272 3,165 - 902 234 - 10 - - 11,583 ประถมศกึษาปีที่ 5 7,364 3,140 - 909 230 - 33 - - 11,676 ประถมศกึษาปีที่ 6 6,868 2,876 - 794 192 - 18 - - 10,748 รวมระดบัประถมศกึษา 41,140 17,584 - 5,149 1,505 - 9 2 - - 65,470 มธัยมศกึษาปีที่ 1 8,214 1,605 - 701 423 6 26 - 92 11,067 มธัยมศกึษาปีที่ 2 8,335 1,740 - 675 414 16 18 - 158 11,356 มธัยมศกึษาปีที่ 3 8,396 1,871 - 733 409 19 19 - 218 11,665 รวมระดบัมัธยมศกึษาตอนตน้ 24,945 5,216 - 2,109 1,246 4 1 7 3 - 468 34,088 มธัยมศกึษาปีที่ 4/ปวช.1 5,834 1,544 2,318 190 899 8 13 241 185 11,232 มธัยมศกึษาปีที่ 5/ปวช.2 5,678 1,359 1,887 143 857 7 25 239 187 10,382 มธัยมศกึษาปีที่ 6/ปวช.3 5,213 1,382 2,349 130 756 9 17 240 233 10,329 รวมระดบัมัธยมศกึษาตอนปลาย 16,725 4,285 6,554 463 2,512 2 4 5 5 720 605 31,943 รวมทงั้สนิ้ (คน) 95,522 34,402 6,554 9,813 5,811 6 5 220 720 1,073 154,180 ระดบั สงักดั รวมทงั้สนิ้


8 ตารางที่ 3 ข้อมูลจำนวนนักเรียนแยกรายอำเภอ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย หมายเหตุ : ข้อมูลภาคเรียนที่ 1/2565 ตารางที่ 4 ข้อมูลจำนวนนักเรียนแยกตามประเภทการให้บริการ/ประเภทความพิการ ศูนย์การศึกษาพิเศษ เขตการศึกษา 1 จังหวัดนครปฐม หมายเหตุ : ข้อมูลภาคเรียนที่ 2/2565 กศน.อ าเภอ รวม (คน) ชาย (คน) หญงิ (คน) ชาย (คน) หญงิ (คน) ชาย (คน) หญงิ (คน) เมอืงนครปฐม 114 79 529 270 671 385 2,048 ก าแพงแสน 27 29 346 143 369 213 1,127 นครชัยศรี 19 24 138 123 162 200 666 ดอนตมู 4 6 108 112 130 134 494 บางเลน 18 18 86 90 106 159 477 สามพราน 38 38 273 260 441 437 1,487 พทุธมณฑล 23 23 111 45 105 68 375 รวมทงั้สนิ้ 243 217 1,591 1,043 1,984 1,596 6,674 ตอนปลาย ประถมศกึษา มัธยมศกึษาตอนตน้ มัธยมศกึษา บกพร่องทางการเห็น บกพร่องทางการได้ยิน บกพร่องทางสติปัญญา บกพร่องทางร่างกายหรือสุขภาพ บกพร่องทางการเรียนรู้ บกพร่องทางการพูดและภาษา บกพร่องทางพฤติกรรมหรืออารมณ์ ออทิสติก ความพิการซ้อน รวม (คน) 1 แรกเกิด - 3 ปี 12 4 - - 6 1 - - - 8 1 16 2 4 - 6 ปี 47 21 - 1 21 5 - 1 - 40 - 6 8 3 7 - 12 ปี 98 46 - 4 43 28 - - - 58 11 144 4 13 - 15 ปี 21 11 1 1 14 4 - - - 10 2 3 2 5 15 - 18 ปี 46 28 1 - 33 13 1 - - 17 9 7 4 6 18 ปีขึ้นไป 26 13 1 2 15 11 1 1 - 6 2 3 9 รวมทงั้หมด 250 123 3 8 132 6 2 2 2 - 139 2 5 373 ที่ช่วงอายุชาย (คน) หญงิ (คน) ประเภทการให้บริการ/ประเภทความพิการ


9 ข้อมูลด้านคุณภาพการศึกษาจังหวัดนครปฐม ตอนที่ 1 ผลการทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จังหวัดนครปฐม ตารางที่ 5 ผลการทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 จำแนกตามสังกัด ระดับ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ประเทศ 50.38 39.22 36.83 34.31 จังหวัด 54.56 45.51 39.15 36.03 สพป. 52.80 39.28 37.62 34.98 สช. 56.65 53.58 40.64 37.35 อปท. 49.20 36.25 35.76 31.30 ตารางที่ 6 ผลการทดสอบ O-NET ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2564 จำแนกตามสังกัด ระดับ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ประเทศ 51.19 31.11 24.47 31.45 จังหวัด 58.34 36.44 27.85 34.29 สพป. 52.44 27.70 21.12 30.56 สพม.นครปฐม 58.43 33.95 27.51 34.39 สช. 58.50 37.97 27.59 33.83 อปท. 47.22 25.86 20.29 29.29 ผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ O-NET V-NET และ N-NET ปีการศึกษา 2564 จังหวัดนครปฐม


10 ตารางที่ 7 ผลการทดสอบ O-NET ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2564 จำแนกตามสังกัด ระดับ ภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ประเทศ 46.40 36.87 25.56 21.28 28.65 จังหวัด 55.87 43.66 38.68 34.76 33.64 สพม.นครปฐม 55.89 42.92 35.27 31.59 32.08 สช. 52.46 41.56 36.27 30.20 31.90 อปท. 57.28 44.36 26.50 22.78 29.78 ตอนที่ 2 ผลการทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2562 – 2564 จังหวัดนครปฐม ตารางที่ 8 ผลการทดสอบ O-NET ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2562 – 2564 จังหวัดนครปฐม วิชา ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ปี 62 ปี 63 ปี 64 ปี 62 ปี 63 ปี 64 ปี 62 ปี 63 ปี 64 ปี 62 ปี 63 ปี 64 จ.นครปฐม 52.20 60.56 54.56 38.44 51.46 45.51 36.37 33.18 39.15 38.53 41.79 36.03 ตารางที่ 9 ผลการทดสอบ O-NET ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2562 – 2564 จังหวัดนครปฐม วิชา ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ปี 62 ปี 63 ปี 64 ปี 62 ปี 63 ปี 64 ปี 62 ปี 63 ปี 64 ปี 62 ปี 63 ปี 64 จ.นครปฐม 57.91 58.32 58.34 35.67 41.81 36.44 29.86 31.03 27.85 31.12 32.59 34.29 ตารางที่ 10 ผลการทดสอบ O-NET ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2562 – 2564 จังหวัดนครปฐม วิชา ภาษาไทย สังคมศึกษา ภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ ปี 62 ปี 63 ปี 64 ปี 62 ปี 63 ปี 64 ปี 62 ปี 63 ปี 64 ปี 62 ปี 63 ปี 64 จ.นครปฐม 46.42 48.61 55.87 38.42 38.04 43.66 33.92 34.45 38.68 31.27 30.46 34.76 วิชา วิทยาศาสตร์ ปี 62 ปี 63 ปี 64 จ.นครปฐม 32.67 36.00 33.64


11 ตอนที่ 3 ผลการทดสอบ V-NET ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ขั้นสูง (ปวส.) จังหวัดนครปฐม ตารางที่ 11 ผลการทดสอบ V-NET ระดับ ปวช. ปีการศึกษา 2564 จังหวัดนครปฐม วิชา จำนวน ผู้เข้าสอบ คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ย จังหวัดนครปฐม คะแนนเฉลี่ย ระดับประเทศ ความรู้ด้านสมรรถนะหลักและ สมรรถนะทั่วไป 1,007 100 41.90 41.90 ตอนที่ 4 ผลการทดสอบ N-NET ระดับประถมศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น และ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย จังหวัดนครปฐม ตารางที่ 12 ผลการทดสอบ N-NET ระดับประถมศึกษา ปีการศึกษา 2564 จังหวัดนครปฐม วิชา จำนวน ผู้เข้าสอบ คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ย จังหวัดนครปฐม คะแนนเฉลี่ย ระดับประเทศ ครั้งที่ 1 สาระการประกอบอาชีพ 176 100 28.01 39.83 สาระการพัฒนาสังคม 176 100 34.93 48.66 สาระความรู้พื้นฐาน 176 100 34.50 42.35 สาระทักษะการดำเนินชีวิต 176 100 29.91 43.65 สาระทักษะการเรียนรู้ 176 100 28.75 38.24 รวมเฉลี่ย 5 วิชา 31.22 42.55 ครั้งที่ 2 สาระการประกอบอาชีพ 130 100 46.04 40.73 สาระการพัฒนาสังคม 130 100 52.67 39.87 สาระความรู้พื้นฐาน 130 100 57.82 41.92 สาระทักษะการดำเนินชีวิต 130 100 48.23 41.53 สาระทักษะการเรียนรู้ 130 100 30.97 32.81 รวมเฉลี่ย 5 วิชา 47.15 39.37


12 ตารางที่ 13 ผลการทดสอบ N-NET ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ปีการศึกษา 2564 จังหวัดนครปฐม วิชา จำนวน ผู้เข้าสอบ คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ย จังหวัดนครปฐม คะแนนเฉลี่ย ระดับประเทศ ครั้งที่ 1 สาระการประกอบอาชีพ 321 100 39.03 36.47 สาระการพัฒนาสังคม 321 100 39.54 37.81 สาระความรู้พื้นฐาน 321 100 34.55 33.67 สาระทักษะการดำเนินชีวิต 321 100 43.05 39.78 สาระทักษะการเรียนรู้ 321 100 41.10 37.41 รวมเฉลี่ย 5 วิชา 39.45 37.03 ครั้งที่ 2 สาระการประกอบอาชีพ 290 100 43.55 38.79 สาระการพัฒนาสังคม 290 100 30.88 30.54 สาระความรู้พื้นฐาน 290 100 37.05 34.80 สาระทักษะการดำเนินชีวิต 290 100 43.39 49.92 สาระทักษะการเรียนรู้ 290 100 42.30 37.22 รวมเฉลี่ย 5 วิชา 39.43 38.25 ตารางที่ 14 ผลการทดสอบ N-NET ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ปีการศึกษา 2564 จังหวัดนครปฐม วิชา จำนวน ผู้เข้าสอบ คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ย จังหวัดนครปฐม คะแนนเฉลี่ย ระดับประเทศ ครั้งที่ 1 สาระการประกอบอาชีพ 432 100 41.54 36.64 สาระการพัฒนาสังคม 432 100 31.77 30.08 สาระความรู้พื้นฐาน 432 100 28.59 27.37 สาระทักษะการดำเนินชีวิต 432 100 35.76 32.26 สาระทักษะการเรียนรู้ 432 100 30.70 27.75 รวมเฉลี่ย 5 วิชา 33.67 30.82 ครั้งที่ 2 สาระการประกอบอาชีพ 441 100 37.13 32.95 สาระการพัฒนาสังคม 441 100 30.68 29.17 สาระความรู้พื้นฐาน 441 100 32.83 30.91 สาระทักษะการดำเนินชีวิต 441 100 40.89 35.85 สาระทักษะการเรียนรู้ 441 100 36.96 33.52 รวมเฉลี่ย 5 วิชา 35.69 32.48 หมายเหตุ : ข้อมูล ณ วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 : กลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผล สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม


ส่วนที่ 2 กรอบแนวคิดและความสอดคล้องกับแผน 3 ระดับ แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ได้จัดทำภายใต้กรอบแนวคิดแผนระดับที่ 1 ถึงแผนระดับที่ 3 โดยสอดคล้องตามนัยของมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560 เห็นชอบการจำแนกแผนออกเป็น 3 ระดับ โดยแผนระดับที่ 1 ได้แก่ ยุทธศาสตร์ชาติ แผนระดับที่ 2 ได้แก่ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนการปฏิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ และนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ และแผนระดับที่ 3 คือ แผนที่จัดทำขึ้นเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของแผนระดับที่ 1 และแผนระดับที่ 2 ให้บรรลุเป้าหมาย รวมทั้ง นโยบาย ยุทธศาสตร์ จุดเน้น แผนที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม เชื่อมโยง ข้อมูลสู่ระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ (Electronic Monitoring and Evaluation System of National Strategy and country Reform : eMENSCR) ดังนี้ 2.1 ยุทธศาสตร์ชาติ พ.ศ. 2561 – 2580 (แผนระดับที่ 1) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 65 บัญญัติให้รัฐพึงจัดให้มียุทธศาสตร์ชาติ เป็นเป้าหมาย การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาล เพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนต่าง ๆ ให้สอดคล้องและ บูรณาการกันเพื่อให้เกิดเป็นพลังผลักดันร่วมกันไปสู่เป้าหมาย วิสัยทัศน์ “ประเทศไทย มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒนาตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” เป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนาอย่าง ต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติยั่งยืน” มี 6 ยุทธศาสตร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับภารกิจของกระทรวงศึกษาธิการ 6 ยุทธศาสตร์ ดังนี้ 1. ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญ คือ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เน้นการบริหารจัดการสภาวะแวดล้อมของประเทศให้มีความมั่นคง ปลอดภัย เอกราช อธิปไตย และมีความสงบเรียบร้อยในทุกระดับตั้งแต่ระดับชาติ สังคม ชุมชน มุ่งเน้นการพัฒนาคน เครื่องมือ เทคโนโลยีและระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ ให้มีความพร้อมสามารถรับมือกับภัยคุกคามและภัยพิบัติได้ ทุกรูปแบบ และทุกระดับความรุนแรง ควบคู่ไปกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ใช้กลไกการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการทั้งกับส่วน ราชการ ภาคเอกชน ประชาสังคม และองค์กรที่ไม่ใช่รัฐ รวมถึงประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศ ทั่วโลกบนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาล เพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์ต่อการดำเนินการของยุทธศาสตร์ชาติด้านอื่น ๆ ให้สามารถขับเคลื่อนไปได้ตาม ทิศทางและเป้าหมายที่กำหนด 2. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายการพัฒนาที่มุ่งเน้น การยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ บนพื้นฐานแนวคิด 3 ประการ ได้แก่ 1) “ต่อยอดอดีต” โดยมองกลับไปที่รากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณีวิถี ชีวิต และจุดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย รวมทั้งความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศใน ด้านอื่น ๆ นำมาประยุกต์ผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อให้สอดรับกับบริบทของเศรษฐกิจและ สังคมโลกสมัยใหม่


14 2) “ปรับปัจจุบัน” เพื่อปูทางสู่อนาคต ผ่านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ในมิติต่าง ๆ ทั้งโครงข่ายระบบคมนาคมและขนส่ง โครงสร้างพื้นฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และดิจิทัล และ การปรับสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการอนาคต 3) “สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคน รุ่นใหม่ รวมถึง ปรับรูปแบบธุรกิจ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ผสมผสานกับยุทธศาสตร์ที่รองรับ อนาคต บนพื้นฐานของการต่อยอดอดีตและปรับปัจจุบัน พร้อมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐ ให้ประเทศไทยสามารถสร้างฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ ขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนในเวทีโลก ควบคู่ไปกับการยกระดับรายได้และการกินดีอยู่ดี รวมถึงการเพิ่มขึ้นของคนชั้นกลางและลดความเหลื่อมล้ำของ คนในประเทศได้ในคราวเดียวกัน 3. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมาย การพัฒนาที่สำคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ โดยคนไทย มีความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รักษาศีลธรรม และเป็นพลเมืองดีของชาติ มีหลักคิดที่ถูกต้อง มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 มีทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาที่ 3 และอนุรักษ์ ภาษาท้องถิ่น มีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตสู่การเป็นคนไทย ที่มีทักษะสูง เป็นนวัตกร นักคิด ผู้ประกอบการ เกษตรกรยุคใหม่และอื่น ๆ โดยมีสัมมาชีพตามความถนัดของตนเอง 4. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม มีเป้าหมาย การพัฒนาที่สำคัญที่ให้ความสำคัญการดึงเอาพลังของภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชน ท้องถิ่น มาร่วมขับเคลื่อน โดยการสนับสนุนการรวมตัวของประชาชน ในการร่วมคิดร่วมทำเพื่อส่วนรวม การกระจายอำนาจและความรับผิดชอบไปสู่กลไกบริหารราชการแผ่นดินในระดับท้องถิ่น การเสริมสร้าง ความเข้มแข็งของชุมชนในการจัดการตนเอง และการเตรียมความพร้อมของประชากรไทยทั้งในมิติ สุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมให้เป็นประชากรที่มีคุณภาพ สามารถพึ่งตนเองและทำประโยชน์ แก่ครอบครัว ชุมชน และสังคมให้นานที่สุด โดยรัฐให้หลักประกันการเข้าถึงบริการและสวัสดิการที่มีคุณภาพ อย่างเป็นธรรมและทั่วถึง 5. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ ทั้งมิติ ด้านสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาล และความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกันทั้งภายใน และภายนอกประเทศอย่างบูรณาการ ใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งในการกำหนดกลยุทธ์และแผนงาน และการให้ทุกฝ่าย ที่เกี่ยวข้องได้เข้ามามีส่วนร่วมในแบบทางตรงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยเป็นการดำเนินการ บนพื้นฐาน การเติบโตร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นทางเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และคุณภาพชีวิต โดยให้ความสำคัญกับการสร้าง สมดุลทั้ง 3 ด้าน อันจะนำไปสู่ความยั่งยืนเพื่อคนรุ่นต่อไปอย่างแท้จริง 6. ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ มีเป้าหมายการพัฒนาที่สำคัญเพื่อปรับเปลี่ยนภาครัฐที่ยึดหลัก “ภาครัฐของประชาชนเพื่อประชาชนและ ประโยชน์ส่วนรวม”


15 2.2 แผนระดับที่ 2 2.2.1 (ร่าง) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2566 – 2580) (ฉบับปรับปรุง) ประเด็น (1) ความมั่นคง แผนย่อยการรักษาความสงบภายในประเทศ แนวทางการพัฒนาที่ 2 เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ ภายใต้การปกครอง ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยปลูกฝังและสร้างความตระหนักรู้ ถึงความสำคัญของสถาบันหลักของชาติ รณรงค์เสริมสร้างความรักและภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยและชาติ ไทยผ่านกลไกต่าง ๆ รวมถึงการศึกษาประวัติศาสตร์ในเชิงสร้างสรรค์ น้อมนำและเผยแพร่ศาสตร์พระราชา หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงแนวทางพระราชดำริต่าง ๆ ให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ และนำไป ประยุกต์ปฏิบัติใช้อย่างกว้างขวาง จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติและพระราชกรณียกิจอย่างสม่ำเสมอ ประเด็น (10) การปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรม มุ่งเน้นให้สถาบันทางสังคมร่วมปลูกฝังค่านิยมวัฒนธรรมที่พึงประสงค์ บูรณาการร่วมระหว่าง ภาคีต่าง ๆ อาทิ ครอบครัว ชุมชน ศาสนา การศึกษา สื่อ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมในการหล่อหลอม คนไทยให้มีคุณธรรม จริยธรรม ในลักษณะที่เป็นวิถีการดำเนินชีวิต โดยวางรากฐานการพัฒนาคนให้มีความ สมบูรณ์ เริ่มตั้งแต่การพัฒนาคนให้มีสุขภาพกายและใจที่ดี บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของสถาบันสังคม และวัฒนธรรม ที่เข้มแข็ง ทั้งครอบครัว ชุมชน ศาสนา การศึกษา สื่อ และภาคเอกชน โดยมีแผนย่อย ที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ แผนย่อยการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และการเสริมสร้างจิตสาธารณะและการ เป็นพลเมืองที่ดีโดยมีแนวทางการพัฒนา แนวทางการพัฒนาที่ 2 บูรณาการเรื่องความซื่อสัตย์ วินัย คุณธรรม จริยธรรม และด้าน สิ่งแวดล้อมในการจัดการเรียนการสอนในและนอกสถานศึกษา จัดให้มีการเรียนการสอนตามพระราชดำริ และปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในสถานศึกษา จัดให้มีการเรียนรู้ทางศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมของชาติ และภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมทั้งการตระหนักรู้ และการมีส่วนร่วมด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้รองรับการเปลี่ยนแปลงทั้งในประเทศและต่างประเทศ แนวทางการพัฒนาที่ 4 ปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมโดยใช้ชุมชนเป็นฐาน อนุรักษ์พัฒนา และสืบสานมรดกทางศิลปะและวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รณรงค์ ส่งเสริมความเป็นไทยในระดับท้องถิ่นและชุมชน จัดให้มีพื้นที่มรดกทางวัฒนธรรมของพื้นที่ ส่งเสริมชุมชน ให้เป็นฐานการสร้างวิถีชีวิตพอเพียง แนวทางการพัฒนาที่ 5 การส่งเสริมให้คนไทยมีจิตสาธารณะและมีความรับผิดชอบ ต่อส่วนรวม สร้างจิตสาธารณะและจิตอาสาโดยใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร เพื่อรับผิดชอบต่อส่วนรวม สร้างเสริมผู้นำการเปลี่ยนแปลง และต้นแบบที่ดีทั้งระดับบุคคลและ องค์กร โดยการยกย่องผู้นำที่มีจิตสาธารณะและจิตอาสา และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ส่งเสริมสนับสนุน ให้มีกลไกการดำเนินงานในการสร้างเสริมการพัฒนาวจิตสาธารณะและจิตอาสา เพื่อสังคมและส่วนรวม โดยส่งเสริมและสนับสนุนองค์กรสาธารณะที่ไม่หวังผลประโยชน์ ประเด็น (11) การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต จำเป็นต้องมุ่งเน้นการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ สร้างความอยู่ดีมีสุขของครอบครัวไทยซึ่งเป็นหน่วยที่ย่อยที่สุด เพื่อให้สามารถเป็นพลังในการขับเคลื่อน ช่วยเหลือสังคม พัฒนาและยกระดับคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ดี เก่ง และ


16 มีคุณภาพพร้อมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไปข้างหน้าได้อย่างเต็มศักยภาพ ซึ่ง “คนไทยในอนาคตจะต้องมี ความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการที่ดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รักษาภาษาไทยได้ดี มีทักษะการสื่อสาร ภาษาอังกฤษและภาษาที่ 3 รวมทั้งอนุรักษ์ภาษาท้องถิ่น มีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตัวเอง อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต สู่การเป็นคนไทยที่มีทักษะสูง เป็นนักพัฒนาเทคโนโลยีระดับสูงและนวัตกร นักคิด ผู้ประกอบการ เกษตรกรยุคใหม่และอื่น ๆ โดยมีสัมมาชีพ ตามความถนัดของตนเอง” แผนย่อยเพื่อพัฒนา และยกระดับทรัพยากรมนุษย์ในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เต็มศักยภาพและเหมาะสม ที่เกี่ยวข้อง ด้านการศึกษา ดังนี้ แผนย่อยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ โดยมี แนวทางการพัฒนา แนวทางการพัฒนาที่ 1 สร้างความอยู่ดีมีสุขของครอบครัวไทย สร้างครอบครัวที่เหมาะสม กับโลกในศตวรรษที่ 21 โดยส่งเสริมความรู้ในการวางแผนชีวิตที่เหมาะสมกับค่านิยมของคนรุ่นใหม่ และการ จัดกิจกรรม ที่เหมาะสมบนฐานความรู้ทางวิชาการตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์และถึงช่วงอายุต่าง ๆ พัฒนาทักษะชีวิต และการเรียนรู้ การทำงานและการดำรงชีวิตอย่างมีคุณภาพของประชากรแต่ละช่วงวัย รวมถึงการให้ทุกภาค ส่วนในสังคมเข้ามามีส่วนร่วม พร้อมทั้งการพัฒนาสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างครอบครัวอบอุ่นเข้มแข็ง โดยเน้นการส่งเสริมการเกื้อกูลกันของคนทุกวัยในครอบครัวในการดูแลสมาชิกในครอบครัว การส่งเสริม นโยบายการสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน การส่งเสริมสนับสนุนภาคเอกชน สถานประกอบการ จัดบริการที่ส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และสนับสนุนครอบครัวในการเลี้ยงดูบุตรและการดูแลผู้สูงอายุ การสนับสนุนควบคู่กับการปฏิรูปสื่อให้มีบทบาทในเชิงสร้างสรรค์ในการให้ความรู้ต่อการพัฒนาและเสริมสร้าง ความเข้มแข็งครอบครัว โดยที่จะต้องมีระบบการจัดการที่อยู่อาศัยสำหรับครอบครัวที่เอื้อต่อการดำรงชีวิต ครอบครัว ส่งเสริมพัฒนาการเด็ก และมีความปลอดภัย มีระบบสนับสนุนในการดูแลเด็กและครอบครัวในชุมชน ที่มีคุณภาพมาตรฐาน รวมทั้งมีระบบสนับสนุนในการทำงานที่เอื้อต่อครอบครัวที่ทุกภาคส่วนการพัฒนา สนับสนุนการจัดสวัสดิการและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีในการทำงานที่สมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและ ชีวิตครอบครัว แนวทางการพัฒนาที่ 2 ส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น ครอบครัว และชุมชนในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ปลูกฝังและพัฒนาทักษะนอกห้องเรียน สร้างกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาทักษะของประชากรให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของโลกในอนาคต สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาตนเอง และการมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาและพัฒนาสังคม รวมทั้งสนับสนุนด้านวิชาการ และสร้างนวัตกรรมที่สนับสนุนการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพคน เพื่อให้ องค์กรเครือข่ายชุมชนมีความเข้มแข็ง และมีกลไกการพัฒนาระดับพื้นที่ที่ประชาชน ชุมชน องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการพัฒนา เฝ้าระวัง และติดตามการดำเนินงานส่งผลให้การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลได้อย่างเป็นรูปธรรม การปลูกฝังและพัฒนาทักษะนอกห้องเรียน โดยเน้น ให้พ่อแม่มีวัฒนธรรมที่ปลูกฝังให้ลูกเพิ่มพูนทักษะ การเรียนรู้ชีวิต ดนตรี กีฬา ศิลปะ รวมทั้งส่งเสริมให้ทุกภาค ส่วนเปิดพื้นที่แห่งการเรียนรู้ และจัดกระบวนการเรียนรู้ที่หลากหลายและเหมาะสม เอื้อแก่ครอบครัว ทุกลักษณะ แนวทางการพัฒนาที่ 3 พัฒนาระบบฐานข้อมูลเพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่มีความ เชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูลด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ระหว่างภาคีการพัฒนาต่าง ๆ โดยการเชื่อมโยง ข้อมูลที่เกี่ยวกับการศึกษา การพัฒนาตนเอง สุขภาพ และการพัฒนาอาชีพในตลอดช่วงชีวิต เพื่อเสริมและ สร้างศักยภาพของการดำเนินงานการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ตามพันธกิจของแต่ละหน่วยงานให้มีความเข้มแข็ง


17 และตอบโจทย์ประเทศ เป็นฐานข้อมูลการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศไทยที่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล สามารถประเมินจุดอ่อน จุดแข็ง และศักยภาพบุคคลของประเทศ นำไปสู่การตัดสินใจระดับ นโยบายและปฏิบัติ เพื่อพัฒนาคนไทยอย่างมีทิศทางและสอดคล้องกับการพัฒนาประเทศไทยในอนาคต รวมถึงข้อมูลที่สนับสนุนการผลิตกำลังแรงงานที่มีทักษะตรงต่อความต้องการของตลาดงานในอนาคต และใช้ ประกอบการตัดสินใจในการศึกษาต่อมีธนาคารคลังสมองเพื่อรวบรวมผู้สูงอายุที่มีความรู้ ประสบการณ์ และทักษะเพื่อถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์ และทักษะให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ แผนย่อยการพัฒนาเด็กตั้งแต่ช่วงการตั้งครรภ์จนถึงปฐมวัย โดยมีแนวทางการพัฒนา ดังนี้ แนวทางการพัฒนาที่ 1 จัดให้มีการเตรียมความพร้อมทั้งสุขภาวะ เจตคติ ความรู้ และทักษะ ให้แก่พ่อแม่ก่อนการตั้งครรภ์ พร้อมทั้งส่งเสริมอนามัยแม่และเด็กตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ รวมทั้งกำหนดมาตรการ สร้างความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานให้พ่อแม่สามารถเลี้ยงดูบุตรได้ด้วยตนเอง ทั้งการจูงใจให้สถาน ประกอบการจัดให้มีการจ้างงานที่ยืดหยุ่น รณรงค์ให้ผู้ชายตระหนักและมีส่วนร่วมในการทำหน้าที่ในบ้านและ ดูแลบุตรมากขึ้น แนวทางการพัฒนาที่ 2 จัดให้มีการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีสุขภาวะที่ดีและสมวัย โดยส่งเสริม และสนับสนุนให้โรงพยาบาลทุกระดับและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานตามมาตรฐานงานอนามัยแม่ และเด็กสู่มาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ ตลอดจนส่งเสริมและสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และสารอาหารที่จำเป็นต่อสมองเด็ก แนวทางการพัฒนาที่ 3 จัดให้มีการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีพัฒนาการ สมรรถนะ และ คุณลักษณะที่ดีที่สมวัยทุกด้าน โดยการพัฒนาหลักสูตรการสอนและปรับปรุงสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มี คุณภาพตามมาตรฐานที่เน้นการพัฒนาทักษะสำคัญด้านต่าง ๆ อาทิ ทักษะทางสมอง ทักษะด้านความคิด ความจำ ทักษะการควบคุมอารมณ์ ทักษะการวางแผนและการจัดระบบ ทักษะการรู้จักประเมินตนเองควบคู่ กับการยกระดับบุคลากรในสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยให้ครอบคลุมทั้งการพัฒนาทักษะ การเรียนรู้เน้นการเตรียม ความพร้อมเข้าสู่ระบบการศึกษา การพัฒนาสุขภาพอนามัยให้มีพัฒนาการที่สมวัยและการเตรียมทักษะการอยู่ ในสังคมให้มีพัฒนาการอย่างรอบด้าน แผนย่อยการพัฒนาวัยเรียน/วัยรุ่น โดยมีแนวทางการพัฒนา ดังนี้ แนวทางการพัฒนาที่ 1 จัดให้มีการพัฒนาทักษะที่สอดรับกับทักษะในศตวรรษที่ 21 โดยเฉพาะทักษะด้านการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกับผู้อื่น แนวทางการพัฒนาที่ 2 จัดให้มีการพัฒนาทักษะด้านภาษา ศิลปะ และความสามารถในการ ใช้เทคโนโลยีที่สอดคล้องกับความสามารถ ความถนัดและความสนใจ แนวทางการพัฒนาที่ 3 จัดให้มีการพัฒนาทักษะในการวางแผนชีวิตและวางแผนการเงิน ตลอดจนทักษะที่เชื่อมต่อกับโลกการทำงาน แนวทางการพัฒนาที่ 4 จัดให้มีพัฒนาทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ การบ่มเพาะการเป็นนักคิด นักนวัตกร และการเป็นผู้ประกอบการใหม่ รวมทั้งทักษะชีวิตที่สามารถอยู่ร่วมและ ทำงานภายใต้สังคมที่เป็นพหุวัฒนธรรม แนวทางการพัฒนาที่ 5 ส่งเสริมและสนับสนุนระบบบริการสุขภาพและอนามัยที่เชื่อมต่อกัน ระหว่างระบบสาธารณสุขกับโรงเรียนหรือสถานศึกษา เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านความฉลาดทางเชาวน์ ปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ ตลอดจนภูมิคุ้มกันด้านต่าง ๆ ในการดำเนินชีวิตของกลุ่มวัยเรียน/วัยรุ่น


18 แผนย่อยการพัฒนาและยกระดับศักยภาพวัยแรงงาน โดยมีแนวทางการพัฒนา ดังนี้ แนวทางการพัฒนาที่ 1 ยกระดับศักยภาพ ทักษะและสมรรถนะของคนในช่วงวัยทำงานให้มี คุณภาพมาตรฐานสอดคล้องกับความสามารถเฉพาะบุคคลและความต้องการของตลาดแรงงาน รวมทั้ง เทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจและผลิตภาพเพิ่มขึ้นให้กับประเทศ แนวทางการพัฒนาที่ 3 ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาทักษะแรงงานฝีมือให้เป็น ผู้ประกอบการใหม่ สามารถพัฒนาต่อยอดความรู้ในการสร้างสรรค์งานใหม่ ๆ มีโอกาสและทางเลือกทำงาน และสร้างงาน ประเด็น (12) การพัฒนาการเรียนรู้ เน้นทั้งการแก้ไขปัญหาในปัจจุบัน การเสริมสร้างและยกระดับการพัฒนาการศึกษาและ การเรียนรู้ ทั้งการศึกษาในระบบ นอกระบบ และการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยการพัฒนาระบบการเรียนรู้ ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 มีการออกแบบระบบการเรียนรู้ใหม่ การเปลี่ยนบทบาทครู การเพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศึกษา และการพัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้ สามารถกำกับการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับตนเองได้อย่างต่อเนื่องแม้จะออกจากระบบการศึกษาแล้ว ควบคู่กับการ ส่งเสริมการพัฒนาคนไทยตามพหุปัญญาให้เต็มตามศักยภาพ รวมถึงการสร้างเสริมศักยภาพผู้มีความสามารถ พิเศษให้สามารถต่อยอดการประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง โดยประกอบด้วย 2 แผนย่อย ดังนี้ แผนย่อยการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 แนวทางการพัฒนาที่ 1 ปรับเปลี่ยนระบบการเรียนรู้สำหรับศตวรรษที่ 21 ประกอบด้วย 4 แนวทางย่อย ได้แก่ (1) พัฒนากระบวนการเรียนรู้ในทุกระดับชั้น ตั้งแต่ปฐมวัยจนถึงอุดมศึกษา ที่ใช้ฐานความรู้ และระบบคิดในลักษณะสหวิทยาการ มีการวิจัยและพัฒนาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็น หลักสูตรฐานสมรรถนะให้ได้มาตรฐานกับหลักสูตรในระบบการศึกษาชั้นนำที่ได้รับการยอมรับในระดับ นานาชาติอย่างต่อเนื่อง โดยมีการจัดทำรายงานประจำปีที่เปิดเผยต่อสาธารณะเกี่ยวกับการนิเทศ การติดตาม ประเมินผล และการปรับปรุงหลักสูตรฐานสมรรถนะ ปฏิรูปหลักสูตรและรูปแบบการเรียนการสอนอาชีวศึกษา ให้สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและมาตรฐานอาชีพ โดยเน้นการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี และการฝึกงานในสถานประกอบการ ปฏิรูปการจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาโดยเน้นการเรียนรู้ที่ผูกกับงาน เพื่อวางรากฐานให้มีสถาบันอุดมศึกษาที่สามารถตอบสนองความต้องการของประเทศได้ในหลากหลายมิติ ทั้งในด้านการผลิตกำลังคนที่มีสมรรถนะ และทักษะในสาขาที่เป็นที่ต้องการของตลาด การพัฒนาผู้ประกอบการ ยุคใหม่ที่มีศักยภาพในการสร้างธุรกิจใหม่ที่มีใช้เทคโนโลยี นวัตกรรม และสามารถไปสู่ตลาดต่างประเทศได้ รวมถึงมีนักวิจัยและนวัตกรที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีคุณภาพ สามารถส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจและสังคมเป็นอย่างดี (2) พัฒนากระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนทุกระดับการศึกษา รวมถึงจัดกิจกรรมเสริมทักษะ เพื่อพัฒนาทักษะสำหรับศตวรรษที่ 21 มีการผสมผสานเทคโนโลยีเข้ากับเนื้อหาและวิธีการสอน โดยใช้ เทคโนโลยีสนับสนุนทฤษฎีการเรียนรู้แบบใหม่ในการพัฒนาเนื้อหาและทักษะแบบใหม่ เทคโนโลยีเพื่อการ เรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ควรมีคุณลักษณะที่มีชีวิต มีพลวัต มีปฏิสัมพันธ์ การเชื่อมต่อและมีส่วนร่วม (3) พัฒนาระบบการเรียนรู้เชิงบูรณาการที่เน้นการลงมือปฏิบัติ มีการสะท้อนความคิด/ทบทวน ไตร่ตรอง โดยเน้นการเรียนการสอนที่เสริมสร้างทักษะชีวิต และสามารถนำมาใช้ต่อยอดในการประกอบอาชีพ ได้จริง และ (4) พัฒนาระบบการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนสามารถกำกับการเรียนรู้ของตนได้เพื่อให้สามารถนำองค์ ความรู้ไปใช้สร้างรายได้ รวมถึงมีทักษะด้านวิชาชีพและทักษะชีวิต โดยใช้สื่อผสมอย่างหลากหลาย


19 ปรับเปลี่ยนตามความสามารถและระดับของผู้เรียน มีเนื้อหาที่ไม่ยึดติดกับตัวสื่อ เลือกประกอบเนื้อหาได้ เอง ค้นหา แก้ไข จดบันทึกได้ เก็บประวัติการเรียนรู้อย่างเป็นระบบ มีระบบการประเมินผลการเรียนรู้ที่รวดเร็ว และต่อเนื่องโดยผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ และสมรรถนะที่เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน แนวทางการพัฒนาที่ 2 เปลี่ยนโฉมบทบาท “ครู” ให้เป็นครูยุคใหม่ ประกอบด้วย 3 แนวทางย่อย ได้แก่ (1) วางแผนการผลิต พัฒนาและปรับบทบาท “ครู คณาจารย์ยุคใหม่” ให้เป็น “ผู้อำนวยการการ เรียนรู้” มีหลักสูตรผลิตครูอาชีวะยุคใหม่ที่สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและมาตรฐานอาชีพ โดยเน้น การเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการในสาขาที่ตนเองสอน (2) ปรับระบบการผลิตและพัฒนาครูตั้งแต่การดึงดูด คัดสรร ผู้มีความสามารถสูงให้เข้ามาเป็นครู ปฏิรูประบบการผลิตครูยุคใหม่โดยใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะของวิชาชีพครูที่สามารถสร้างทักษะในการจัดการเรียน การสอนในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ และมีครูที่ชำนาญในด้านการสอน ภาษาอังกฤษและภาษาที่ 3 ที่ได้มาตรฐานในระดับนานาชาติ ในจำนวนที่เพียงพอต่อความต้องการของนักเรียน อีกทั้งยังมีระบบการอบรมและเสริมสมรรถนะครูที่ผ่านการศึกษาในระบบเดิม หรือครูภาษาอังกฤษ และภาษาที่ 3 ที่ยังไม่ผ่านการประเมินมาตรฐานในระดับนานาชาติ (3) ส่งเสริมสนับสนุนระบบการพัฒนาศักยภาพและสมรรถนะครูอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม ทั้งเงินเดือน สายอาชีพและระบบสนับสนุนอื่น ๆ ปฏิรูประบบการผลิตครูอาชีวะยุคใหม่ โดยผู้ที่มีใบประกอบ วิชาชีพจะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ในการปฏิบัติงานจริงในสถานประกอบการในสาขาที่ตนเองสอน มีความรู้ ทักษะ และสามารถสร้างสมรรถนะที่สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและมาตรฐานอาชีพให้แก่ ผู้เรียน และมีอัตรากำลังเพียงพอต่อความต้องการของสถานศึกษาตามเกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลังของสำนักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา แนวทางการพัฒนาที่ 3 เพิ่มประสิทธิภาพระบบบริหารจัดการศึกษาในทุกระดับ ทุกประเภท ประกอบด้วย 6 แนวทางย่อย ได้แก่ (1) ปฏิรูปโครงสร้างองค์กรด้านการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ โดยเน้นการสร้าง ความรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ ตั้งแต่ระดับบนสุดลงไปจนถึงระดับโรงเรียน รวมถึงมีโครงสร้างแรงจูงใจ และความรับผิดชอบของหน่วยงานและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบที่เหมาะสม (2) จัดให้มีมาตรฐานขั้นต่ำของโรงเรียนในทุกระดับ เพื่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่สูงขึ้น มีการกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของโรงเรียนในทุกระดับ ที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศ ในด้านความพร้อม ของโครงสร้างพื้นฐาน อุปกรณ์การเรียนการสอน การบริหารจัดการโรงเรียน จำนวนครูที่ครบชั้น ครบวิชา จำนวนพนักงานสนับสนุนงานบริหารจัดการโรงเรียน (3) ปรับปรุงโครงสร้างการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพและเพิ่มคุณภาพการศึกษามีการ ปรับปรุงโครงสร้างการศึกษาที่เน้นสายอาชีพมากขึ้น มีการเรียนการสอนและการเรียนรู้ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เกิดทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ทักษะภาษาที่ 3 ทักษะและความรู้ในการประกอบอาชีพใหม่ ๆ อย่างคล่องตัว เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรทางการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม (4) เพิ่มการมีส่วนร่วมจากภาคเอกชนในการจัดการศึกษา ส่งเสริมภาคประชาสังคมปรับปรุง แหล่งเรียนรู้ในชุมชนให้เป็นพื้นที่เรียนรู้เชิงสร้างสรรค์และมีชีวิต รวมถึงการเรียนรู้และทบทวนทักษะพื้นฐาน ได้แก่ การอ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น โดยระดมทรัพยากรจากภาคเอกชนและภาคประชาสังคม


20 (5) พัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษา โดยแยกการประกันคุณภาพการศึกษาออกจาก การประเมินคุณภาพและการรับรองคุณภาพและการกำกับดูแลคุณภาพการศึกษา และปฏิรูประบบการสอบ ที่นำไปสู่การวัดผลในเชิงทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 มากกว่าการวัดระดับความรู้ และ (6) ส่งเสริมการวิจัยและใช้เทคโนโลยีในการสร้างและจัดการความรู้ การเรียนการสอน และการ จัดการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ ซึ่งรวมถึงการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง สถาบันอุดมศึกษา กับภาคอุตสาหกรรม ชุมชน และภาครัฐ เพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่เข้มแข็ง แนวทางการพัฒนาที่ 4 พัฒนาระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต ประกอบด้วย 5 แนวทางย่อย ได้แก่ (1) จัดให้มีระบบการศึกษาและระบบฝึกอบรมบนฐานสมรรถนะที่มีคุณภาพสูงและยืดหยุ่น (2) มีมาตรการจูงใจและส่งเสริมสนับสนุนให้คนเข้าสู่ใฝ่เรียนรู้ พัฒนาตนเอง รวมถึงการยกระดับ ทักษะวิชาชีพ (3) พัฒนาระบบการเรียนรู้ชุมชนให้เข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา โดยความร่วมมือจากภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม (4) พัฒนาระบบเครือข่ายเทคโนโลยีดิจิทัลและดิจิทัลแฟลตฟอร์ม สื่อดิจิทัลเพื่อการศึกษาในทุกระดับ ทุกประเภทการศึกษาอย่างทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ และ (5) พัฒนาโปรแกรมประยุกต์หรือสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลที่มีคุณภาพที่นักเรียน นักศึกษา และประชาชน สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองผ่านเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ แนวทางการพัฒนาที่ 5 สร้างระบบการศึกษาเพื่อเป็นเลิศทางวิชาการระดับนานาชาติ ประกอบด้วย 5 แนวทางย่อย ได้แก่ (1) ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพสถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญและมีความโดดเด่น เฉพาะสาขาสู่ระดับนานาชาติ มีกรอบมาตรฐานฝีมือแรงงานและมาตรฐานอาชีพที่กำหนดสมรรถนะและทักษะ พื้นฐานสำหรับสาขาอาชีพต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับความต้องการของอุตสาหกรรม โดยเฉพาะใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-curve และ New S-curve เพื่อเป็นเครื่องมือในการยืนยัน และพัฒนาสมรรถนะ ของแรงงาน และมีกรอบแนวคิดในการคาดการณ์อุปสงค์แรงงานในอนาคตในสาขาอาชีพต่าง ๆ และมีแนวทาง ทบทวนและปรับปรุงให้แม่นยำ มากขึ้นเป็นระยะ (2) สร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการและแลกเปลี่ยนนักเรียน นักศึกษาและบุคลากรในระดับ นานาชาติ รวมถึงการพัฒนาศูนย์วิจัย ศูนย์ฝึกอบรม และทดสอบในระดับภูมิภาค (3) จัดให้มีการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยและประวัติศาสตร์ท้องถิ่น (4) จัดให้มีการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ประเพณี วัฒนธรรมของไทยและพัฒนาการ ของประเทศเพื่อนบ้านในสถานศึกษา และสำหรับประชาชน และ (5) ส่งเสริมสนับสนุนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเด็ก เยาวชน และนักเรียนกับประเทศ เพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ แผนย่อยการตระหนักถึงพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย แนวทางการพัฒนาที่ 1 พัฒนาและส่งเสริมพหุปัญญา โดยพัฒนาระบบบริหารจัดการกลไก การคัดกรองและการส่งต่อเพื่อส่งเสริมการพัฒนาคนไทยตามพหุปัญญาให้เต็มตามศักยภาพ ส่งเสริมสนับสนุน ครอบครัวในการเสริมสร้างความสามารถพิเศษตามความถนัดและศักยภาพ ทั้งด้านกีฬา ภาษาและวรรณกรรม สุนทรียศิลป์ ส่งเสริมสนับสนุนระบบสถานศึกษาและสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างและพัฒนาเด็ก


21 และเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษบนฐานพหุปัญญา และส่งเสริมสนับสนุนมาตรการจูงใจแก่ภาคเอกชน และสื่อ ในการมีส่วนร่วมและผลักดันให้ผู้มีความสามารถพิเศษ มีบทบาทเด่นในระดับนานาชาติ แนวทางการพัฒนาที่ 2 สร้างเส้นทางอาชีพ สภาพแวดล้อมการทำงาน และระบบสนับสนุน ที่เหมาะสมสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ โดยจัดให้มีโครงสร้างพื้นฐานและระบบสนับสนุนเพื่อผู้มีความสามารถ พิเศษได้สร้างความเข้มแข็งและต่อยอดได้ จัดให้มีกลไกการทำงานในลักษณะการรวมตัวของกลุ่มผู้มีความสามารถ พิเศษในหลากสาขาวิชา เพื่อรวมนักวิจัยและนักเทคโนโลยีชั้นแนวหน้าเพื่อพัฒนาต่อยอดงานวิจัยเพื่อตอบโจทย์การ พัฒนาประเทศ สร้างความร่วมมือและเชื่อมต่อสถาบันวิจัยชั้นนำทั่วโลก เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้นักวิจัย ความสามารถสูงของไทยให้มีศักยภาพสูงยิ่งขึ้น ประเด็น (21) การต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ แผนย่อยการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ แนวทางการพัฒนาที่ 1 ปลูกและปลุกจิตสำนึกการเป็นพลเมืองที่ดี มีวัฒนธรรมสุจริต และการปลูกฝังและหล่อหลอมวัฒนธรรมในกลุ่มเด็กและเยาวชนทุกช่วงวัย ทุกระดับ มุ่งเน้นการปรับ พฤติกรรม “คน” โดยการ “ปลูก” และ “ปลุก” จิตสำนึกความเป็นพลเมืองที่ดี มีวัฒนธรรมสุจริต สามารถ แยกแยะได้ว่าสิ่งใดเป็นประโยชน์ส่วนตน สิ่งใดเป็นประโยชน์ส่วนรวม มีความละอายต่อการกระทำความผิด ไม่เพิกเฉยอดทนต่อการทุจริต และเข้ามา มีส่วนร่วมในการต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ รวมถึงการส่งเสริมการ สร้างวัฒนธรรม และค่านิยมสุจริตในระดับชุมชนเพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมค่านิยมที่ยึดประโยชน์ สาธารณะมากกว่าประโยชน์ส่วนตน และต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการ ส่งเสริมวัฒนธรรมสุจริตผ่านหลักสูตรการศึกษาภาคบังคับที่เด็กไทยทุกคนต้องเรียนทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงระดับอุดมศึกษา เพื่อปฏิรูป “พลเมืองไทยในอนาคต” ให้มีความเป็น พลเมืองเต็มขั้น สามารถทำหน้าที่ความเป็นพลเมืองที่ดี มีจิตสำนึกยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต มีความ รับผิดชอบต่อส่วนรวมมีระเบียบวินัย และเคารพกฎหมาย แนวทางการพัฒนาที่ 2 ส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐให้มีความ ใสสะอาด ปราศจากพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริต โดยการปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเปิดเผย โปร่งใส ถูกต้อง เป็นธรรม ไม่คดโกง รู้จักแยกแยะเรื่องส่วนตัวออกจากหน้าที่การงาน การสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารงาน ตลอดจนการสร้างจิตสำนึกและค่านิยมในการต่อต้านการทุจริตให้แก่บุคลากรขององค์กรโดยการสนับสนุน ให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐ เข้ามามีส่วนร่วมเป็นเครือข่ายต่อต้านการทุจริตในหน่วยงานภาครัฐ เพื่อส่งเสริม การมีส่วนร่วมในการเฝ้าระวัง สอดส่อง ติดตามพฤติกรรมเสี่ยงและแจ้งเบาะแส เพื่อสกัดกั้นมิให้เกิดการทุจริต ประพฤติมิชอบได้ โดยมีมาตรการสนับสนุนและคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส 2.2.2 แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) แผนการปฏิรูปประเทศ ฉบับปรับปรุง ประกาศ ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ประกอบด้วยแผนการปฏิรูปประเทศ 13 ด้าน (ได้แก่ ด้านการเมือง ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านกฎหมาย ด้านกระบวนการยุติธรรม ด้านเศรษฐกิจ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านสาธารณสุข ด้านสื่อสารมวลชนเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านสังคม ด้านพลังงาน ด้านการป้องกันและปราบปราม การทุจริตและประพฤติมิชอบ ด้านการศึกษา และด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงานและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์) เป็นแผนระดับ 2 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2560 และเพื่อสร้างการปฏิรูปที่ชัดเจน เฉพาะ จึงบรรจุกิจกรรมที่มีความสำคัญเร่งด่วนที่ดำเนินการร่วมกันหลายหน่วยงาน สามารถดำเนินการ และวัดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม ในช่วงปี 2564 - 2565 เป็นกิจกรรมปฏิรูปประเทศที่จะส่งผลให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ (Big Rock) ซึ่งทุกหน่วยงานต้องดำเนินการตามกิจกรรม Big Rock


22 นำไปสู่การปฏิบัติตามหลักความสัมพันธ์เชิงเหตุและผล (Causal Relationship: XYZ) เพื่อให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ ตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติของแต่ละช่วงเวลา 5 ปีโดยแผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) จะดำเนินการคู่ขนานไปกับเล่มแผนการปฏิรูปประเทศฉบับเดิมที่ประกาศใช้เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2561 ที่เป็นกิจกรรมในลักษณะภารกิจปกติของหน่วยงาน ภารกิจสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐมมีส่วนเกี่ยวข้อง รวม 3 ด้าน 9 กิจกรรมปฏิรูป ประเทศ (Big Rock) ดังนี้ แผนการปฏิรูปประเทศ (2) ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน เป้าหมาย : 1) บริการของรัฐ มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้งาน 2) ภาครัฐมีการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ ด้วยการนำ นวัตกรรมเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ มีกิจกรรมปฏิรูปประเทศ (Big Rock) ที่เกี่ยวข้อง 5 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม ปฏิรูปที่ 1 ปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารงานและการบริการภาครัฐไปสู่ระบบดิจิทัล กิจกรรมปฏิรูปที่ 2 จัดโครงสร้างองค์กร และระบบงานภาครัฐให้มีความยืดหยุ่น คล่องตัวและเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ กิจกรรมปฏิรูปที่ 3 ปรับเปลี่ยนการบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐสู่ระบบเปิด เพื่อให้ได้มาและรักษาไว้ซึ่งคน เก่งดีและมีความสามารถอย่างคล่องตัว ตามหลักคุณธรรม กิจกรรมปฏิรูปที่ 4 สร้างความเข้มแข็งในการบริหาร ราชการในระดับพื้นที่ โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน และกิจกรรมปฏิรูปที่ 5 ขจัดอุปสรรคในการจัดซื้อ จัดจ้างภาครัฐ และการเบิกจ่ายเงินเพื่อความรวดเร็ว คุ้มค่า โปร่งใส ปราศจากการทุจริต แผนการปฏิรูปประเทศ (11) ด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เป้าหมาย : หน่วยงานภาครัฐมีวัฒนธรรมและพฤติกรรมที่ซื่อสัตย์สุจริต สิ่งแวดล้อม มีกิจกรรมปฏิรูปประเทศ (Big Rock) ที่เกี่ยวข้อง 1 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมปฏิรูปที่ 4 การพัฒนาระบบราชการไทยให้โปร่งใส ไร้ผลประโยชน์ แผนการปฏิรูปประเทศ (12) ด้านการศึกษา เป้าหมาย : ผู้เรียนทุกกลุ่มวัยได้รับการศึกษา ที่มีคุณภาพตามมาตรฐาน มีทักษะที่จำเป็นของโลกอนาคต สามารถแก้ปัญหา ปรับตัว สื่อสาร และทำงาน ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีวินัย มีนิสัยใฝ่เรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต และเป็นพลเมืองที่รู้สิทธิและ หน้าที่ มีความรับผิดชอบและมีจิตสาธารณะ สิ่งแวดล้อม มีกิจกรรมปฏิรูปประเทศ (Big Rock) ที่เกี่ยวข้อง 3 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรมปฏิรูปที่ 1 การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัย กิจกรรม ปฏิรูปที่ 2 การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนสู่การเรียนรู้ฐานสมรรถนะ เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลง ในศตวรรษที่ 21 และกิจกรรมปฏิรูปที่ 3 การปฏิรูปกลไกและระบบการผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการ ศึกษาให้มีคุณภาพมาตรฐาน กลไกและระบบการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ทั้งนี้ แผนการปฏิรูปประเทศจะสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ ในวันที่ 31 ธันวาคม 2565 หน่วยงานของรัฐทั้งหน่วยงานหลักและหน่วยงานร่วมดำเนินการสามารถดำเนินการประเด็นต่อเนื่องต่าง ๆ ผ่านกลไกของแผนระดับ 2 ที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากทุกด้านของแผนการปฏิรูปประเทศมีความเชื่อม โยงและ สอดคล้องกับเป้าหมายของแผนระดับ 2 อื่น ๆ ทั้งในส่วนของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และ (ร่าง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566-2570) (หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ นร 1112/5672 ลงวันที่ 26 กันยายน 2565) 2.2.3 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 -2570) เป็นกลไก ที่สำคัญในการแปลงยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การปฏิบัติ ซี่งเป็นการพัฒนาประเทศในช่วง 5 ปีที่สองของยุทธศาสตร์ชาติ เพื่อให้ก้าวข้ามความท้าทายที่เป็นอุปสรรคต่อการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ เร่งแก้ไขจุดอ่อนและ ข้อจำกัด


23 ของประเทศที่มีอยู่เดิม รวมทั้งเพิ่มศักยภาพในการรับมือกับความเสี่ยงสำคัญที่มาจากการเปลี่ยนแปลงบริบท ทั้งจากภายนอกและภายใน ตลอดจนการเสริมสร้างความสามารถในการสร้างสรรค์ประโยชน์จากโอกาสที่ เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ พลิกโฉมประเทศไทยสู่ “สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่า อย่างยั่งยืน” และมีเป้าหมายหลัก จำนวน 5 ประการ ประกอบด้วย 1) การปรับโครงสร้างการผลิตสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม 2) การพัฒนาคนสำหรับโลกยุคใหม่ 3) การมุ่งสู่สังคมแห่งโอกาสและความเป็นธรรม 4) การเปลี่ยนผ่านการผลิตและบริโภคไปสู่ความยั่งยืน 5) การเสริมสร้างความสามารถของประเทศในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยง ภายใต้บริบทโลกใหม่ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการมีส่วนเกี่ยวข้องกับเป้าหมายที่ 2 เป็นเป้าหมายหลัก ส่วนเป้าหมายที่ 3 5 และ 4 เป็นเป้าหมายรองตามลำดับ และเพื่อถ่ายทอดเป้าหมายหลักไปสู่ภาพของการ ขับเคลื่อนที่ชัดเจน เป็นรูปธรรมจึงได้กำหนดหมุดหมายการพัฒนา จำนวน 13 หมุดหมาย ภารกิจสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐมมีส่วนเกี่ยวข้องกับหมุดหมายการพัฒนา จำนวน 5 หมุด หมาย ดังนี้ 1) หมุดหมายที่ 8 ไทยมีพื้นที่และเมืองอัจฉริยะที่น่าอยู่ปลอดภัย เติบโตได้อย่างยั่งยืน เป้าหมาย : 1) การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของภาคและการลงทุนในเขตเศรษฐกิจพิเศษขยายตัวเพิ่มขึ้น 2) การพัฒนาเมืองให้มีความ น่าอยู่อย่างยั่งยืน มีความพร้อมในการรับมือและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทุกรูปแบบ เพื่อให้ประชาชนทุกกลุ่มมี คุณภาพชีวิตที่ดีอย่างทั่วถึง กลยุทธที่ 1 การสร้างความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก กลยุทธ์ย่อยที่ 1.2 สร้างความเข้มแข็ง ให้กับเศรษฐกิจชุมชน โดยสร้างเสริมองค์ความรู้ให้กับชุมชนจากสถาบันการศึกษาในพื้นที่ กลยุทธ์ที่ 2 การส่งเสริมกลไก ความร่วมมือภาครัฐ เอกชน ประชาชนและประชาสังคมเพื่อการพัฒนาพื้นที่และเมือง กลยุทธ์ย่อยที่ 2.1 สนับสนุนการ พัฒนาพื้นที่และเมืองด้วยความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ หลากหลายรูปแบบ 2) หมุดหมายที่ 9 ไทยมีความยากจนข้ามรุ่นลดลงและคนไทยทุกคนมีความคุ้มครองทางสังคม ที่เพียงพอ เหมาะสม เป้าหมาย : 1) ครัวเรือนยากจนข้ามรุ่นมีโอกาสในการเลื่อนสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม จนสามารถหลุดพ้นจากความยากจนได้อย่างยั่งยืน กลยุทธ์ที่ 2 การสร้างโอกาสที่เสมอภาคแก่เด็กจากครัวเรือนยากจน ข้ามรุ่น กลยุทธ์ย่อยที่ 2.2 ส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาและการพัฒนาทักษะอาชีพที่มีคุณภาพ 3) หมุดหมายที่ 11 ไทยสามารถลดความเสี่ยงและผลกระทบจากภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศ เป้าหมาย : สังคมไทยมีภูมิคุ้มกันจากภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลยุทธ์ที่ 2 การพัฒนาและเพิ่มศักยภาพประชาชนและชุมชนในการรับมือภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลยุทธ์ ย่อยที่ 2.1ส่งเสริมให้ประชาชนทุกภาคส่วนมีความรู้ ความเข้าใจ ตระหนักถึงความเสี่ยงและปรับตัวรับมือผลกระทบจาก ภัยธรรมชาติและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 4) หมุดหมายที่ 12 ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์การพัฒนา แห่งอนาคต เป้าหมาย : 1) คนไทยได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพในทุกช่วงวัย มีสมรรถนะที่จำเป็นสำหรับโลก ยุคใหม่ มีคุณลักษณะตามบรรทัดฐานที่ดีของสังคม มีคุณธรรม จริยธรรม และมีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างพลิก โฉมฉับพลันของโลก สามารถดำรงชีวิตร่วมกันอย่างสงบสุข 2) ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงการเรียนรู้ตลอดชีวิต กลยุทธ์ที่ 1 การพัฒนาคนไทยทุกช่วงวัยในทุกมิติ กลยุทธ์ย่อยที่ 1.1 พัฒนาเด็กช่วงตั้งครรภ์ถึงปฐมวัยให้มีพัฒนาการรอบด้าน มีอุปนิสัยที่ดี กลยุทธ์ย่อยที่ 1.2 พัฒนาผู้ที่อยู่ในช่วงวัยระดับพื้นฐานให้มีความตระหนักรู้ในตนเอง มีทักษะดิจิทัลและ


24 มีสมรรถนะที่จำเป็นต่อการเรียนรู้ การดำรงชีวิตและการทำงาน กลยุทธ์ย่อยที่ 1.4 พัฒนาวัยแรงงานให้มีสมรรถนะ ที่จำเป็นเพื่อการประกอบอาชีพและเชื่อมโยงกับโลกการทำงานในอนาคต กลยุทธ์ย่อยที่ 1.5 พัฒนาผู้สูงอายุให้เป็น พลเมืองมีคุณค่าของสังคม โดยพัฒนาผู้สูงอายุให้เป็นพลังงานของสังคม กลยุทธ์ที่ 3 การเรียนรู้ตลอดชีวิต กลยุทธ์ย่อย ที่ 3.1 พัฒนาระบบนิเวศเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต กลยุทธ์ย่อยที่ 3.2 พัฒนาทางเลือกในการเข้าถึงการเรียนรู้สำหรับ ผู้ที่ไม่สามารถเรียนรู้ในระบบการศึกษาปกติ 5) หมุดหมายที่ 13 ไทยมีภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพและตอบโจทย์ประชาชน เป้าหมาย : 1) การบริการภาครัฐที่มีคุณภาพ เข้าถึงได้ 2) ภาครัฐมีขีดสมรรถนะคล่องตัว กลยุทธ์ที่ 1 พัฒนาคุณภาพการให้บริการ ภาครัฐที่ตอบโจทย์ สะดวกและประหยัด กลยุทธ์ย่อยที่ 1.1 ยกเลิกภารกิจให้บริการที่สามารถเปิดให้ส่วนอื่น ให้บริการแทน กลยุทธ์ย่อยที่ 1.2 ทบทวนกระบวนการทำงานของภาครัฐควบคู่กับการบริการภาครัฐในรูปแบบดิจิทัล แบบเบ็ดเสร็จ กลยุทธ์ที่ 2 ปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการและโครงสร้างของภาครัฐให้ยืดหยุ่น เชื่อมโยง เปิดกว้างและ มีประสิทธิภาพรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ กลยุทธ์ย่อยที่ 2.1 ทบทวนบทบาทภาครัฐ และกระจายอำนาจการบริหารจัดการภาครัฐ กลยุทธ์ย่อยที่ 2.2 สร้างความโปร่งใสและธรรมาภิบาลภาครัฐ กลยุทธ์ที่ 3 ปรับเปลี่ยนภาครัฐเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่ใช้ข้อมูลในการบริหารจัดการเพื่อการพัฒนาประเทศ กลยุทธ์ย่อยที่ 3.1 ปรับเปลี่ยนภาครัฐทั้งหมดให้เป็นข้อมูลดิจิทัล กลยุทธ์ย่อยที่ 3.2 ปรับเปลี่ยนกระบวนการภาครัฐเป็นดิจิทัล กลยุทธ์ที่ 4 การสร้างระบบบริหารภาครัฐที่ส่งเสริมการปรับเปลี่ยนและพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะที่จำเป็นในการ ให้บริการภาครัฐดิจิทัลและปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ มาตรการภาครัฐให้เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ กลยุทธ์ย่อยที่ 4.1 ปรับระบบบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐ เพื่อดึงดูดและรักษาผู้มีศักยภาพมาขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ กลยุทธ์ ย่อยที่ 4.2 ยกเลิกกฎหมายที่หมดความจำเป็นและพัฒนากฎหมายที่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศ 2.3.4 (ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566 - 2570) (ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566 - 2570) ใช้เป็น กรอบทิศทางในการป้องกัน แจ้งเตือน แก้ไข หรือระงับยับยั้งภัยคุกคาม เพื่อธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงแห่งชาติ และรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของประเทศ โดยมีวิสัยทัศน์ว่า “ประเทศชาติมีเสถียรภาพ ประชาชนอยู่ดีมีสุข ปลอดภัยจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ มีศักยภาพบริหารจัดการความมั่นคงแบบองค์รวม และรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์แห่งชาติอย่างยั่งยืน” และมีเป้าหมายในภาพรวม : ประเทศไทยมีความมั่นคง และมีเสถียรภาพมากขึ้น ประชาชนดำรงชีวิตโดยปกติสุข รวมทั้งมีการพัฒนาศักยภาพบริหารจัดการ เพื่อเสริมสร้าง ความมั่นคงแบบองค์รวมและรักษาไว้ซึ่งผลประโยชน์แห่งชาติ โดยมีทั้งสิ้น 17 นโยบายและแผนความมั่นคง สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐมมีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 6 นโยบายและแผนความมั่นคง ดังนี้ นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 1 การเสริมสร้างความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ กลยุทธ์หลักที่ 1 การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์กลยุทธ์ย่อยที่ 1.1 ส่งเสริมการเรียนรู้ และการ จัดทำหรือพัฒนาหลักสูตรการศึกษาเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ในทุกระดับอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับ ทุกช่วงวัย เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจและการตระหนักถึงความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ในฐานะ ศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในชาติกลยุทธ์ย่อยที่ 1.2 ส่งเสริมการจัดทำและเผยแพร่ชุดข้อมูลความรู้เกี่ยวกับ สถาบันพระมหากษัตริย์พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ โครงการพระราชดำริ หลักการทรงงานแก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป โดยมุ่งเน้นการจัดทำสื่อที่มีความทันสมัย มีการเผยแพร่ในหลายช่องทาง รวมถึง มีการจัดทำระบบการบริหารจัดการ ชุดข้อมูลระหว่างส่วนราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน โดยเฉพาะ การเข้ามามีส่วนร่วมของเด็กและเยาวชน กลยุทธ์หลักที่ 2 การส่งเสริมการอยู่ร่วมกันของคนในชาติอย่างสันติ และเคารพในความแตกต่างหลากหลาย บนพื้นฐานสิทธิมนุษยชน กลยุทธ์ย่อยที่ 2.4 สร้างความตระหนักรู้


25 การเสริมสร้าง ทัศนคติ และความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับหลักการสิทธิมนุษยชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับ ครอบครัว ชุมชน สถานศึกษา สถานที่ทำงาน ให้บุคคล ตระหนักและปกป้องถึงสิทธิของตนเอง รวมถึงเคารพ และไม่ละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น กลยุทธ์ย่อยที่ 2.10 ส่งเสริมให้สถาบันครอบครัวและสถาบัน การศึกษาเป็น หน่วยทางสังคม ที่สำคัญในการวางรากฐานความมั่นคงของประเทศ โดยมุ่งเน้นแนวคิดการแบ่งปันและการทำ ประโยชน์เพื่อสังคม ส่วนรวม ตลอดจนการอยู่ร่วมกันบนความแตกต่างหลากหลายของคนในชาติ นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 6 การบริหารจัดการผู้หลบหนีเข้าเมืองและผู้โยกย้าย ถิ่นฐานแบบไม่ปกติ กลยุทธ์หลักที่ 1 การป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองกลุ่มที่มีปัญหาสถานะ และสิทธิของบุคคล กลยุทธ์ย่อยที่ 1.3 คุ้มครองและส่งเสริมสวัสดิการ อาทิ สิทธิด้านการศึกษา สิทธิ ด้านสาธารณสุข และสิทธิในการทำงานของกลุ่มที่มีปัญหาสถานะและสิทธิของบุคคลให้เข้าถึงเป็นไปตาม กฎหมายภายใน และพันธกรณีระหว่างประเทศที่ไทยเป็นรัฐภาคี รวมทั้งการมีกองทุนสนับสนุนงบประมาณ รองรับการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 7 การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ กลยุทธ์ หลักที่ 2 การพัฒนาขีดความสามารถและสมรรถนะในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์กลยุทธ์ย่อย ที่ 2.4 จัดทำและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนในสถานศึกษาเพื่อให้เด็กและเยาวชนสามารถป้องกันตนเอง จากการค้ามนุษย์ นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 8 การป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด กลยุทธ์หลักที่ 1 การเสริมสร้างความเข้มแข็งในระดับปัจเจกบุคคล ครอบครัว ชุมชน และสังคมให้มีภูมิคุ้มกัน และสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างพื้นที่ปลอดภัยและลดความต้องการยาเสพติด กลยุทธ์ย่อยที่ 1.1 สร้างภูมิคุ้มกันระดับบุคคล ด้วยการเสริมสร้างทัศนคติและความรู้เท่าทันยาเสพติดทั้งการเสพและการค้า รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ให้สอดคล้องกับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ทั้งรูปแบบ เนื้อหา วิธีการ และช่องทางการสื่อสาร และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมาย ในทุกขั้นตอน นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 9 การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กลยุทธ์หลักที่ 1 การลดความเสี่ยงจากสาธารณภัยให้มีประสิทธิภาพ กลยุทธ์ย่อยที่ 1.3 เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ รวมถึง การรับรู้และตระหนักรู้การจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยที่ถูกต้องให้กับทุกภาคส่วน ทั้งมิติการวิเคราะห์ภัย ที่อาจเกิดขึ้น ความล่อแหลมในพื้นที่ และประเมินสภาพความเปราะบางที่อาจก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อชีวิต และทรัพย์สิน นโยบายและแผนความมั่นคงที่ 10 การป้องกันและแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางไซเบอร์ กลยุทธ์หลักที่ 1 การป้องกัน รับมือ และลดความเสี่ยงกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่กระทบ ต่อระบบ โครงสร้าง พื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ กลยุทธ์ย่อยที่ 1.2 ส่งเสริมให้หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ มีมาตรฐาน และแนวทางปฏิบัติในการป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยง รักษาและฟื้นฟูความเสียหายจากภัย คุกคามทางไซเบอร์ที่เท่าทันต่อเหตุการณ์ที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล


26 2.3 นโยบายและแผนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 2.3.1 นโยบายรัฐบาล (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 รวม 12 นโยบายหลัก และ 12 นโยบายเร่งด่วน ซึ่งภารกิจสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มีส่วนเกี่ยวข้อง รวม 10 นโยบายหลัก 5 นโยบายเร่งด่วน ดังนี้ นโยบายหลัก ได้แก่ นโยบายหลักที่ 1 การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ นโยบายหลักที่ 2 การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ และความสงบสุขของประเทศ นโยบาย หลักที่ 3 การทำนุบำรุงศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม (3.2 ปลูกฝังค่านิยมและวัฒนธรรมที่ดี ทั้งด้านคุณธรรม จริยธรรม กตัญญู ความซื่อสัตย์ การมีวินัย เคารพกฎหมาย มีจิตสาธารณะและการมีส่วนร่วมทำประโยชน์ให้ ประเทศและการเป็นพลเมืองดี) นโยบายหลักที่ 4 การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก (4.2 สร้างความเป็น ปึกแผ่นของอาเซียน) นโยบายหลักที่ 6 การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค (6.1 ส่งเสริมพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษเพื่อเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของเอเชีย 6.2 ส่งเสริมและเร่งรัดการพัฒนาเมือง อัจฉริยะน่าอยู่ทั่วประเทศ) นโยบายหลักที่ 8 การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของคนไทย ทุกช่วงวัย (8.1 ส่งเสริมการพัฒนาเด็กปฐมวัย 8.2 พัฒนาบัณฑิตพันธุ์ใหม่ 8.5 วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ 8.6 ส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาทักษะทุกช่วงวัย 8.7 จัดทำระบบปริญญา ชุมชนและการจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้น) นโยบายหลักที่ 9 การพัฒนาระบบสาธารณสุข และหลักประกันทางสังคม (9.4 สร้างหลักประกันทางสังคม) นโยบายหลักที่ 10 การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน นโยบายหลักที่ 11 การปฏิรูปการบริหารจัดการ ภาครัฐ นโยบายหลักที่ 12 การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติ-มิชอบ และกระบวนการยุติธรรม นโยบายเร่งด่วน ได้แก่ นโยบายเร่งด่วนที่ 6 การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศ สู่อนาคต นโยบายเร่งด่วนที่ 7 การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 นโยบายเร่งด่วนที่ 8 การแก้ไขปัญหาทุจริต และประพฤติมิชอบในวงราชการ นโยบายเร่งด่วนที่ 9 การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ ชายแดนภาคใต้ นโยบายเร่งด่วนที่ 10 การพัฒนาระบบการให้บริการประชาชน 2.3.2 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) (พ.ศ. 2559-2573) การประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (United Nations General Assembly – UNGA) เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2558 ผู้นำประเทศสมาชิกสหประชาชาติและประเทศไทย รวม 193 ประเทศ ได้ลงนามรับรองเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ทดแทนเป้าหมาย การพัฒนาแห่งสหัสวรรษ (Millennium Development Goals : MDGs)ซึ่งหมดอายุลงในปี 2558 เป้าหมาย การพัฒนาที่ยั่งยืนถูกใช้เป็นเครื่องกำหนดทิศทางการพัฒนาทั้งของประเทศไทยและของโลกจนถึงปี ค.ศ.2030 (พ.ศ.2573) เป็นระยะเวลา 15 ปี ประกอบด้วย 17 เป้าหมาย (Goal) 169 เป้าหมายย่อย (SDG Targets) ครอบคลุมประเด็นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล อันเป็นสามเสาหลัก ของการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อขจัดความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ โดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง ไม่ทำลายแหล่งทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นต่อการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งจะต้องร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานรับผิดชอบและประสานงานหลัก (Goal) การขับเคลื่อน เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs) ในเป้าหมายหลัก (Goal) ที่ 4 (การประชุม กพย. ครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563) โดยมีกระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นหน่วยงานร่วมรับผิดชอบและประสานงาน


27 ระดับเป้าหมายย่อย (Target) รวม 10 เป้าหมายย่อย (SDGs Targets) โดยที่กระทรวงศึกษาธิการรับผิดชอบ 8 เป้าหมายย่อย (Target) ดังนี้ เป้าหมายย่อยที่ 4.1 สร้างหลักประกันว่าเด็กชายและเด็กหญิงทุกคนสำเร็จการศึกษาระดับ ประถมศึกษา และมัธยมศึกษาที่มีคุณภาพ เท่าเทียม และไม่มีค่าใช้จ่าย นำไปสู่ผลลัพธ์ทางการเรียน ที่มีประสิทธิผล ภายในปี พ.ศ. 2573 เป้าหมายย่อยที่ 4.2 สร้างหลักประกันว่า เด็กชาย และเด็กหญิง ทุกคนเข้าถึงการพัฒนา การดูแล และการจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษา สำหรับเด็กปฐมวัยที่มีคุณภาพ เพื่อให้เด็กเหล่านั้น มีความพร้อม สำหรับการศึกษาระดับประถมศึกษา ภายในปี พ.ศ. 2573 เป้าหมายย่อยที่ 4.4 เพิ่มจำนวนเยาวชน และผู้ใหญ่ที่มีทักษะที่เกี่ยวข้องจำเป็น รวมถึง ทักษะทางด้านเทคนิคและอาชีพสำหรับการจ้างงาน การมีงานทำที่มีคุณค่า และการเป็นผู้ประกอบการภายใน ปี พ.ศ. 2573 เป้าหมายย่อยที่ 4.5 ขจัดความเหลี่อมล้ำทางเพศด้านการศึกษา และสร้างหลักประกันว่า กลุ่มที่เปราะบาง ซึ่งรวมถึงผู้พิการ ชนพื้นเมือง และเด็ก เข้าถึงการศึกษาและการฝึกอาชีพทุกระดับ อย่างเท่าเทียม ภายในปี พ.ศ. 2573 เป้าหมายย่อยที่ 4.6 สร้างหลักประกันว่าเยาวชนทุกคนและผู้ใหญ่ทั้งชายและหญิงในสัดส่วนสูง สามารถอ่านออกเขียนได้ และคำนวณได้ ภายในปี พ.ศ. 2573 เป้าหมายย่อยที่ 4.7 สร้างหลักประกันว่าผู้เรียนทุกคนได้รับความรู้และทักษะที่จำเป็น สำหรับส่งเสริม การพัฒนาที่ยั่งยืน รวมไปถึง การศึกษาสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืนและการมีวิถีชีวิตที่ยั่งยืน สิทธิมนุษยชน ความเสมอภาคระหว่างเพศ การส่งเสริมวัฒนธรรมแห่งความสงบสุขและการไม่ใช้ความรุนแรง การเป็นพลเมืองของโลก และความชื่นชมในความหลากหลายทางวัฒนธรรมและการที่วัฒนธรรมมีส่วนช่วยให้ เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายในปี พ.ศ. 2573 เป้าหมายย่อยที่ 4.a สร้างและยกระดับสถานศึกษา ตลอดจนเครื่องมือและอุปกรณ์ การศึกษาที่อ่อนไหวต่อเด็ก ผู้พิการ และเพศภาวะ และจัดให้มีสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้ที่ปลอดภัย ปราศจากความรุนแรง ครอบคลุม และมีประสิทธิผลสำหรับทุกคน เป้าหมายย่อยที่ 4.c เพิ่มจำนวนครูที่มีคุณวุฒิ รวมถึงการดำเนินการผ่านความร่วมมือ ระหว่างประเทศในการฝึกอบรมครูในประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศพัฒนาน้อยที่สุด และ รัฐกำลังพัฒนาที่เป็นเกาะขนาดเล็ก ภายในปี พ.ศ. 2573 ภารกิจของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม มีส่วนเกี่ยวข้องสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมาย การพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายหลัก (Goal) ที่ 4 สร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพ อย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต และทุกรายเป้าหมายย่อย (Target) ที่กระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานรับผิดชอบและประสานงานหลักการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนา ที่ยั่งยืน 2.3.3 นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 หลักการตามนโยบาย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖6 กระทรวงศึกษาธิการมุ่งมั่นดำเนินการภารกิจหลักตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 – 2580) ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพขับเคลื่อนทุกแผนย่อยในประเด็น 12 การพัฒนาการเรียนรู้ และแผนย่อยที่ 3 ในประเด็น 11 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต รวมทั้งแผนการปฏิรูปประเทศด้านการศึกษา (ฉบับปรับปรุง) และนโยบายรัฐบาลทั้งในส่วนนโยบายหลักด้านการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนาศักยภาพ


28 ของคนไทยทุกช่วงวัย และนโยบายเร่งด่วน เรื่อง การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 และพหุปัญญาของมนุษย์ ที่หลากหลาย นอกจากนี้ ยังสนับสนุนการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติประเด็นอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่าง แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 – 2570) โดยเฉพาะหมุดหมายที่ 12 ไทยมีกำลังคนสมรรถนะสูง มุ่งเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตอบโจทย์การพัฒนาแห่งอนาคตแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 รวมทั้งนโยบายและแผนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมุ่งหวังให้ผู้เรียนทุกช่วงวัยจะได้รับการพัฒนา ในทุกมิติ ทั้งในด้านโอกาส ความเท่าเทียม ความเสมอภาค ความปลอดภัย และมีสมรรถนะที่สำคัญจำเป็นในศตวรรษ ที่ 21 และมีความพร้อมร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ดังนั้น ในการเร่งรัดการทำงานภาพรวมกระทรวงให้เกิดผลสัมฤทธิ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นความ ไว้วางใจให้กับสังคม และผลักดันให้การจัดการศึกษามีคุณภาพและประสิทธิภาพในทุกมิติ กระทรวงศึกษาธิการ จึงได้กำหนดหลักการสำคัญในการประกาศนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไว้ดังนี้ 1. สร้างความเชื่อมั่น ไว้วางใจให้กับสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เรียนและประชาชน โดยให้ ทุกหน่วยงานนำรูปแบบการทำงานโดยบูรณาการการทำงานร่วมกัน และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส ความรับผิดชอบ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน 2. สนับสนุนให้ผู้ปฏิบัติงานทุกคนดำเนินการตามภารกิจด้วยความรับผิดชอบ ต่อตนเอง องค์กร ประชาชนและประเทศชาติ โดยให้ความสำคัญกับการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ผ่านกลไกการรับฟัง ความคิดเห็นมาประกอบการดำเนินงานที่เป็นประโยชน์ต่อการยกระดับคุณภาพการศึกษา 3. ดำเนินการตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้ประกาศและแถลงนโยบายไว้แล้ว เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เพื่อมุ่งเน้นผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของภาคการศึกษาที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อผู้เรียนและประชาชนอย่างมีนัยสำคัญ นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 1. การจัดการศึกษาเพื่อความปลอดภัย 1.1 เร่งสร้างความปลอดภัยในสถานศึกษาเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของสังคม และป้องกันจากภัย คุกคามในชีวิตรูปแบบใหม่ และภัยอื่นๆ โดยมีการดำเนินการตามแผนและมาตรการด้านความปลอดภัยให้แก่ ผู้เรียน ครู และบุคลากรในรูปแบบต่างๆ อย่างเข้มข้น รวมทั้งดำเนินการศึกษา วิเคราะ ห์ วิจัย ติดตาม ประเมินผลการดำเนินการ และแสวงหาสถานศึกษาที่ดำเนินการได้ดีเยี่ยม (Best Practice) เพื่อปรับปรุง พัฒนาและขยายผลต่อไป 1.2 เร่งปลูกฝังทัศนคติ พฤติกรรม และองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง โดยบูรณาการอยู่ใน กระบวนการจัดการเรียนรู้ เพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้และสร้างภูมิคุ้มกันควบคู่กับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ในเชิงบวกและสร้างสรรค์ พร้อมทั้งหาแนวทางวิธีการปกป้องคุ้มครองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา 1.3 เสริมสร้างการรับรู้ ความเข้าใจ ความตระหนัก และส่งเสริมคุณลักษณะและพฤติกรรม ที่พึงประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งการปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 1.4 เร่งพัฒนาบทบาทและภารกิจของหน่วยงานด้านความปลอดภัยที่มีอยู่ในทุกหน่วยงาน ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการให้ดำเนินการอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ


29 2. การยกระดับคุณภาพการศึกษา 2.1 ส่งเสริม สนับสนุนให้สถานศึกษานำหลักสูตรฐานสมรรถนะไปสู่การปฏิบัติอย่างเต็ม รูปแบบ เพื่อสร้างสมรรถนะที่สำคัญจำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 ให้กับผู้เรียน 2.2 จัดการเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้ค้นพบพรสวรรค์ ความสนใจ ความถนัดในอาชีพของตนเอง ด้วยการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง (Active Learning) ทั้งในห้องเรียน สถานประกอบการ รวมทั้งการ เรียนรู้ ผ่านแพลตฟอร์มและห้องดิจิทัลให้คำปรึกษาแนะนำ 2.3 พัฒนาและบูรณาการกระบวนการจัดการเรียนรู้และการวัดประเมินผลฐานสมรรถนะสู่ การปฏิบัติในชั้นเรียน เพื่อสร้างความฉลาดรู้ด้านการอ่าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สร้างตรรกะความคิด แบบเป็นเหตุเป็นผลให้นักเรียนไทยสามารถแข่งขันได้กับนานาชาติ 2.4 พัฒนาทักษะดิจิทัลและภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) สำหรับผู้เรียนทุกช่วงวัย เพื่อ รองรับการเปลี่ยนแปลงสู่สังคมดิจิทัลในโลกยุคใหม่ 2.5 พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและศีลธรรมให้มี ความทันสมัย น่าสนใจ เหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของท้องถิ่น และการ เสริมสร้างวิถีชีวิตของความเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง 2.6 จัดการเรียนรู้ตามความสนใจรายบุคคลของผู้เรียนผ่านดิจิทัลแพลตฟอร์มที่หลากหลาย และแพลตฟอร์มการเรียนรู้อัจฉริยะที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการจัดการเรียนรู้ สื่อการสอนคุณภาพสูง รวมทั้งมีการประเมินและพัฒนาผู้เรียน 2.7 ส่งเสริมการให้ความรู้และทักษะด้านการเงินและการออม (Financial Literacy) ให้กับ ผู้เรียน โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารออมสิน สหกรณ์ ฯลฯ ผ่านกระบวนการเรียนรู้ โครงการ และกิจกรรม ต่าง ๆ และการเผยแพร่สื่อแอนิเมชันรอบรู้เรื่องเงิน รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการลงทุนเชิงพาณิชย์เพื่อให้เกิด ผลตอบแทนที่สูงขึ้น 2.8 ปรับโฉมศูนย์วิทยาศาสตร์และศูนย์การเรียนรู้ ให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย สวยงาม ร่มรื่น จูงใจ ให้เข้าไปใช้บริการ โดยมีมุมค้นหาความรู้ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย มุมจัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ของผู้เรียน หรือกลุ่มผู้เรียน และการร่วมกิจกรรมกับครอบครัว หรือจัดเป็นฐานการเรียนรู้ด้านต่างๆ ที่ผู้เรียนและประชาชนสามารถมาลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม และได้รับเอกสารรับรองการเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในส่วนที่เกี่ยวข้องหรือสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank) ได้ รวมทั้งมีบริเวณพักผ่อน ที่มีบริการลักษณะบ้านสวนกาแฟเพื่อการเรียนรู้ เป็นต้น 2.9 ส่งเสริมสนับสนุนสถานศึกษาให้มีการนำผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติไปใช้ ในการวางแผนการพัฒนาการจัดการเรียนการสอน 2.10 พัฒนาระบบการประเมินคุณภาพสถานศึกษาที่เน้นสมรรถนะและผลลัพธ์ที่ตัวผู้เรียน 3. การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษาทุกช่วงวัย 3.1 พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศของนักเรียนเป็นรายบุคคล เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการ ส่งต่อไปยังสถานศึกษาในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะระดับการศึกษาภาคบังคับ เพื่อป้องกันเด็กตกหล่นและเด็ก ออกกลางคัน 3.2 ส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กปฐมวัยที่มีอายุตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไปทุกคน เข้าสู่ระบบการศึกษา เพื่อรับการพัฒนาอย่างรอบด้าน มีคุณภาพ ตามศักยภาพ ตามวัยและต่อเนื่องอย่างเป็นระบบ โดยบูรณาการ ร่วมงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


30 3.3 พัฒนาข้อมูลและทางเลือกที่หลากหลายให้กับผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษ และกลุ่ม เปราะบาง รวมทั้งกลุ่ม NEETs ในการเข้าถึงการศึกษา การเรียนรู้ และการฝึกอาชีพ อย่างเท่าเทียม 3.4 พัฒนาระบบสนับสนุนการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว (Home School) และ การเรียนรู้ที่บ้านเป็นหลัก (Home–based Learning) 4. การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 4.1 พัฒนาหลักสูตรอาชีวศึกษา และหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น แบบโมดูล (Modular System) มีการบูรณาการวิชาสามัญและวิชาชีพในชุดวิชาชีพเดียวกัน เชื่อมโยงการจัดการอาชีวศึกษาทั้งใน ระบบ นอกระบบและระบบทวิภาคี รวมทั้งการจัดการเรียนรู้แบบต่อเนื่อง (Block Course) เพื่อสะสมหน่วย การเรียนรู้ (Credit Bank) ร่วมมือกับสถานประกอบการในการจัดการอาชีวศึกษาอย่างเข้มข้นเพื่อการมีงานทำ 4.2 ขับเคลื่อนการผลิตและพัฒนากำลังคนตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และยกระดับสมรรถนะ กำลังคนตามกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน และมาตรฐานสากล รวมทั้งขับเคลื่อนความเป็นเลิศทางการ อาชีวศึกษา (Excellent Center) โดยความร่วมมือกับภาคเอกชนและสถานประกอบการในการผลิตกำลังคนที่ ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ 4.3 พัฒนาสมรรถนะอาชีพที่สอดคล้องกับความถนัด ความสนใจ โดยการ Re-skill Up-skill และ New skill เพื่อให้ทุกกลุ่มเป้าหมายมีการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น พร้อมทั้งสร้างช่องทางอาชีพในรูปแบบ หลากหลายให้ครอบคลุมผู้เรียนทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งผู้สูงอายุ โดยมีการบูรณาการความร่วมมือระหว่าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 4.4 ส่งเสริมการพัฒนาแบบทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านอาชีวศึกษา (V-NET) ตาม สมรรถนะที่จำเป็นในการเข้าสู่อาชีพ และการนำผลการทดสอบไปใช้คัดเลือกเข้าทำงาน ศึกษาต่อ ขอรับ ประกาศนียบัตรมาตรฐานสมรรถนะการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy) การขอรับวุฒิบัตรสมรรถนะภาษาอังกฤษ (English Competency) 4.5 จัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาการจัดตั้งธุรกิจ (ศูนย์ Start up) ภายใต้ศูนย์พัฒนาอาชีพ และการเป็นผู้ประกอบการ และพัฒนาศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา เพื่อการส่งเสริม และพัฒนา ผู้ประกอบการด้านอาชีพทั้งผู้เรียนอาชีวศึกษาและประชาชนทั่วไป โดยเชื่อมโยงกับ กศน. และสถาน ประกอบการ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่สอดคล้องกับการประกอบอาชีพในวิถีชีวิตรูปแบบใหม่ 4.6 เพิ่มบทบาทการอาชีวศึกษาในการสร้างและพัฒนาผู้ประกอบการและกำลังแรงงาน ในภาคเกษตร โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรอัจฉริยะ (Smart Farmer) และกลุ่มยุวเกษตรกรอัจฉริยะ (Young Smart Farmer) ที่สามารถรองรับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ 4.7 ส่งเสริม และสนับสนุนการผลิตและพัฒนากำลังคนทุกช่วงวัยเพื่อการมีงานทำ โดยบูรณา การความร่วมมือในการจัดการศึกษาร่วมกับหน่วยงาน องค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน ชุมชน องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น และสถาบันสังคมอื่น 4.8 พัฒนาหลักสูตรอาชีพสำหรับกลุ่มเป้าหมายผู้อยู่นอกระบบโรงเรียนและประชาชน ที่สอดคล้องมาตรฐานอาชีพ เพื่อการเข้าสู่การรับรองสมรรถนะและได้รับคุณวุฒิวิชาชีพตามกรอบคุณวุฒิ แห่งชาติ รวมทั้งสามารถนำผลการเรียนรู้และมวลประสบการณ์เทียบโอนเข้าสู่การสะสมหน่วยการเรียนรู้ (Credit Bank) ได้


31 5. การส่งเสริมสนับสนุนวิชาชีพครู บุคลากรทางการศึกษา และบุคลากรสังกัด กระทรวงศึกษาธิการ 5.1 ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินการตามหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะแนวใหม่ Performance Appraisal (PA) โดยใช้ระบบการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะของข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา ระบบ Digital Performance Appraisal (DPA) 5.2 ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินการ พัฒนาสมรรถนะทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลตามกรอบ ระดับสมรรถนะดิจิทัล (Digital Competency) สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษาระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน และระดับอาชีวศึกษา 5.3 พัฒนาครูให้มีความพร้อมด้านวิชาการและทักษะการจัดการเรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ รวมทั้งให้เป็นผู้วางแผนเส้นทางการเรียนรู้ การประกอบอาชีพ และการดำเนินชีวิตของผู้เรียนได้ตามความสนใจและความถนัดของแต่ละบุคคล 5.4 พัฒนาขีดความสามารถของข้าราชการพลเรือนในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้มี สมรรถนะที่สอดคล้องและเหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต 5.5 เร่งรัดการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งระบบ ควบคู่ กับการให้ความรู้ด้านการวางแผนและการสร้างวินัยด้านการเงินและการออม 6. การพัฒนาระบบราชการ และการบริการภาครัฐยุคดิจิทัล 6.1 ขับเคลื่อนการพัฒนาระบบราชการ 4.0 ด้วยนวัตกรรม และการนำเทคโนโลยีดิจิทัล มา เป็นกลไกหลัก ในการดำเนินงาน (Digitalize Process) การเชื่อมโยงและแบ่งปันข้อมูล (Sharing Data) การ ส่งเสริมความร่วมมือ บูรณาการกับภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอก 6.2 ปรับปรุงประสิทธิภาพของเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศให้สามารถใช้งานเครือข่าย สื่อสารข้อมูลเชื่อมโยงหน่วยงานภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรองรับระบบราชการ 4.0 สามารถ ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้ในทุกเวลา ทุกสถานที่ ทุกอุปกรณ์และทุกช่องทาง 6.3 ปรับปรุงระบบการจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรทางการศึกษา โดยยึดหลักความ จำเป็นและใช้พื้นที่เป็นฐาน ที่มุ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นสำคัญ 6.4 นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในระบบการคัดเลือกข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในตำแหน่งและสายงานต่าง ๆ 6.5 ส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินงานของส่วนราชการให้เป็นไปตามกลไกการประเมิน คุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ 7. การขับเคลื่อนกฎหมายการศึกษาและแผนการศึกษาแห่งชาติ เร่งรัดการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองและแผนการศึกษาแห่งชาติเพื่อรองรับพระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติควบคู่กับการสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนได้รับทราบอย่างทั่วถึง แนวทางการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติ 1. ให้ส่วนราชการ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ นำนโยบายและจุดเน้น ของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ข้างต้น เป็นกรอบแนวทางในการจัดการศึกษา โดยดำเนินการจัดทำแผนและงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 2. ให้มีคณะกรรมการติดตาม ประเมินผล และรายงานการขับเคลื่อนนโยบายการจัดการศึกษา ของกระทรวงศึกษาธิการ สู่การปฏิบัติระดับพื้นที่ ทำหน้าที่ตรวจราชการ ติดตาม ประเมินผลในระดับนโยบาย และจัดทำรายงานเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ทราบตามลำดับ


32 3. กรณีมีปัญหาในเชิงพื้นที่หรือข้อขัดข้องในการปฏิบัติงาน ให้ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลและ ดำเนินการแก้ไขปัญหาในระดับพื้นที่ก่อน โดยใช้ภาคีเครือข่ายในการแก้ไขข้อขัดข้อง พร้อมทั้งรายงาน ต่อคณะกรรมการติดตามฯ ตามข้อ 2 ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ตามลำดับ 4. สำหรับภารกิจของส่วนราชการหลักและหน่วยงานที่ปฏิบัติในลักษณะงานในเชิงหน้าที่ (Function) งานในเชิงยุทธศาสตร์ (Agenda) และงานในเชิงพื้นที่ (Area) ซึ่งได้ดำเนินการอยู่ก่อนแล้ว หากมี ความสอดคล้องกับหลักการนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ข้างต้น ให้ถือเป็นหน้าที่ของส่วนราชการหลักและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งรัด กำกับ ติดตาม ตรวจสอบให้ การดำเนินการเกิดผลสำเร็จ และมีประสิทธิภาพอย่างเป็นรูปธรรม 2.4. แผนระดับที่ 3 ที่เกี่ยวข้อง 2.4.1 แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 - 2579) แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 เป็นแผนที่วางกรอบเป้าหมายและทิศทาง การจัดการศึกษาของประเทศ โดยมุ่งจัดการศึกษาให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสและความเสมอภาค ในการศึกษาที่มีคุณภาพ พัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาที่มีประสิทธิภาพ พัฒนาคน ให้มีสมรรถนะในการ ทำงานที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานและการพัฒนาประเทศ แนวคิดการจัดการศึกษา ตามแผนการศึกษาแห่งชาติ ยึดหลักสำคัญในการจัดการศึกษา ประกอบด้วย หลักการจัดการศึกษาเพื่อปวงชน (Education for All) หลักการจัดการศึกษาเพื่อความเท่าเทียมและทั่วถึง (Inclusive Education) หลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) และหลักการมีส่วนร่วมของสังคม (All For Education) อีกทั้งยึดตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs 2030) ประเด็น ภายในประเทศ (Local Issues) อาทิ คุณภาพ ของคนช่วงวัยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของประเทศ ความเหลื่อมล้ำของการกระจายรายได้และวิกฤติด้านสิ่งแวดล้อม โดยนำยุทธศาสตร์ชาติมาเป็นกรอบความคิด สำคัญในการจัดทำแผนการศึกษาแห่งชาติ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ วิสัยทัศน์ : คนไทยทุกคนได้รับการศึกษาและเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างมีคุณภาพ ดำรงชีวิต อย่างเป็นสุข สอดคล้องกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และการเปลี่ยนแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อพัฒนาระบบและกระบวนการจัดการศึกษาที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ 2. เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะ ทักษะและสมรรถนะที่สอดคล้องกับ บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ และยุทธศาสตร์ชาติ 3. เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรม จริยธรรม รู้รักสามัคคี และ ร่วมมือผนึกกำลังมุ่งสู่การพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. เพื่อนำประเทศไทยก้าวข้ามกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง และความเหลื่อมล้ำ ภายในประเทศลดลง ยุทธศาสตร์แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560- 2579 ประกอบด้วย 6 ยุทธศาสตร์ ซึ่ง เกี่ยวข้องกับภารกิจของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการทั้ง 6 ยุทธศาสตร์ ดังนี้


33 ยุทธศาสตร์ที่ 1 การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศชาติ ยุทธศาสตร์ที่ 2 การผลิตและพัฒนากำลังคน การวิจัย และนวัตกรรมเพื่อสร้างขีด ความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เป้าหมาย แนวทางการพัฒนา 1. กำลังคนมีทักษะที่สำคัญจำเป็นและมีสมรรถนะ ตรงตามความต้องการของตลาดงานและการพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ 2. สถาบันการศึกษาและหน่วยงานที่จัดการศึกษา ผลิตบัณฑิตที่มีความเชี่ยวชาญและเป็นเลิศเฉพาะด้าน 3. การวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้และ นวัตกรรมที่สร้างผลผลิตและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ 1. ผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีสมรรถนะในสาขา ที่ตรงตามความต้องการของตลาดงานและการพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมของประเทศ 2. ส่งเสริมการผลิตและพัฒนากำลังคนที่มีความ เชี่ยวชาญและเป็นเลิศเฉพาะด้าน 3. ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างองค์ความรู้ และนวัตกรรมที่สร้างผลผลิตและมูลค่าเพิ่มทาง เศรษฐกิจ ยุทธศาสตร์ที่ 3 การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัย และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ เป้าหมาย แนวทางการพัฒนา 1. ผู้เรียนมีทักษะและคุณลักษณะพื้นฐานของพลเมือง ไทยและทักษะและคุณลักษณะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 2. คนทุกช่วงวัยมีทักษะความรู้ความสามารถและ สมรรถนะตามมาตรฐานการศึกษาและมาตรฐานวิชาชีพ และพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ตามศักยภาพ 3. สถานศึกษาทุกระดับการศึกษาสามารถจัดกิจกรรม/ กระบวนการเรียนรู้ตามหลักสูตรได้อย่างมีคุณภาพและ มาตรฐาน 1. ส่งเสริม สนับสนุนให้คนทุกช่วงวัยมีทักษะ ความรู้ ความสามารถ และการพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างเหมาะสม เต็มตามศักยภาพในแต่ละช่วงวัย 2. ส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ สื่อตำราเรียนและสื่อ การเรียนรู้ต่าง ๆ ให้มีคุณภาพมาตรฐานและประชาชน สามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ได้โดยไม่จำกัดเวลาและ สถานที่ 3. สร้างเสริมและปรับเปลี่ยนค่านิยมของคนไทยให้มีวินัย จิตสาธารณะ และพฤติกรรมที่พึงประสงค์ เป้าหมาย แนวทางการพัฒนา 1. คนทุกช่วงวัยมีความรักในสถาบันหลักของชาติ และ ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2. คนทุกช่วงวัยในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัด ชายแดนภาคใต้และพื้นที่พิเศษได้รับการศึกษาและ เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ 3. คนทุกช่วงวัยได้รับการศึกษา การดูแลและป้องกัน จากภัยคุกคามในชีวิตรูปแบบใหม่ 1. พัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคง ของสถาบันหลักของชาติและการปกครองระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2. ยกระดับคุณภาพและส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึง การศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดน ภาคใต้ 3. ยกระดับคุณภาพและส่งเสริมโอกาสในการเข้าถึง การศึกษาในพื้นที่พิเศษ 4. พัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อการจัดระบบการดูแล และป้องกันภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ อาทิ อาชญากรรม และความรุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ ยาเสพติด ภัยพิบัติจากธรรมชาติภัยจากโรคอุบัติใหม่ ภัยจากไซเบอร์เป็นต้น


34 เป้าหมาย แนวทางการพัฒนา 4. แหล่งเรียนรู้ สื่อตำราเรียน นวัตกรรมและสื่อการเรียนรู้ มีคุณภาพและมาตรฐาน และประชาชนสามารถเข้าถึงได้โดย ไม่จำกัดเวลาและสถานที่ 5. ระบบและกลไกการวัด การติดตามและประเมินผล มีประสิทธิภาพ 6. ระบบการผลิตครู อาจารย์ และบุคลากรทางการ ศึกษาได้มาตรฐานระดับสากล 7. ครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาได้รับการ พัฒนาสมรรถนะตามมาตรฐาน 4. พัฒนาระบบและกลไกการติดตาม การวัดและ ประเมินผลผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพ 5. พัฒนาคลังข้อมูล สื่อ และนวัตกรรมการเรียนรู้ ที่มี คุณภาพและมาตรฐาน 6. พัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการผลิตครู อาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา 7. พัฒนาคุณภาพครู อาจารย์ และบุคลากรทางการ ศึกษา ยุทธศาสตร์ที่ 4 การสร้างโอกาส ความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางการศึกษา เป้าหมาย แนวทางการพัฒนา 1. ผู้เรียนทุกคนได้รับโอกาสและความเสมอภาคในการ เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ 2. การเพิ่มโอกาสทางการศึกษาผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อการศึกษาสำหรับคนทุกช่วงวัย 3. ระบบข้อมูลรายบุคคลและสารสนเทศทางการศึกษา ที่ครอบคลุม ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน เพื่อการวางแผนการ บริหารจัดการศึกษา การติดตามประเมินและรายงานผล 1. เพิ่มโอกาสและความเสมอภาคในการเข้าถึง การศึกษาที่มีคุณภาพ 2. พัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษาสำหรับ คนทุกช่วงวัย 3. พัฒนาฐานข้อมูลด้านการศึกษาที่มีมาตรฐาน เชื่อมโยงและเข้าถึงได้ ยุทธศาสตร์ที่ 5 การจัดการศึกษาเพื่อสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป้าหมาย แนวทางการพัฒนา 1. คนทุกช่วงวัย มีจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม และนำแนวคิดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียงสู่การปฏิบัติ 2. หลักสูตร แหล่งเรียนรู้ และสื่อการเรียนรู้ที่ส่งเสริม คุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คุณธรรม จริยธรรม และการนำแนวคิดตามหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ 3. การวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และนวัตกรรมด้านการ สร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 1. ส่งเสริม สนับสนุนการสร้างจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อม มีคุณธรรม จริยธรรม และนำแนวคิดตามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติในการดำเนินชีวิต 2. ส่งเสริมและพัฒนาหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ และสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการ สร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 3. พัฒนาองค์ความรู้ งานวิจัย และนวัตกรรม ด้านการ สร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยุทธศาสตร์ที่ 6 การพัฒนาประสิทธิภาพของระบบบริหารจัดการศึกษา เป้าหมาย แนวทางการพัฒนา 1. โครงสร้าง บทบาทและระบบการบริหารจัดการ การศึกษามีความคล่องตัว ชัดเจนและสามารถตรวจสอบ ได้ 2. ระบบการบริหารจัดการศึกษามีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผลส่งผลต่อคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา 1. ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการศึกษา 2. เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสถานศึกษา 3. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการ จัดการศึกษา 4. ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับระบบการเงิน


35 เป้าหมาย แนวทางการพัฒนา 3. ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนและพื้นที่ 4. กฎหมายและรูปแบบการบริหารจัดการทรัพยากร ทางการศึกษารองรับลักษณะที่แตกต่างกันของผู้เรียน สถานศึกษาและความต้องการกำลังแรงงานของประเทศ 5. ระบบบริหารงานบุคคลของครู อาจารย์ และบุคลากร ทางการศึกษามีความเป็นธรรม สร้างขวัญกำลังใจ และ ส่งเสริมให้ปฏิบัติงานได้อย่างเต็มตามศักยภาพ เพื่อการศึกษาที่ส่งผลต่อคุณภาพและประสิทธิภาพ การจัดการศึกษา 5. พัฒนาระบบบริหารงานบุคคลของครู อาจารย์ และ บุคลากรทางการศึกษา 2.4.2 (ร่าง) แผนปฏิบัติราชการกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 แผนปฏิบัติราชการของกระทรวงศึกษาธิการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 มีกรอบ แนวทางและเป้าหมายการดำเนินงานของกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้ วิสัยทัศน์ ภายในปี 2570 ผู้เรียนทุกช่วงวัยได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ มีคุณธรรม จริยธรรม มีทักษะที่จำเป็นพร้อมเรียนรู้ตลอดชีวิตและปรับตัวสอดคล้องกับวิถีชีวิตโลกยุคใหม่ พันธกิจ 1. พัฒนาการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพตามมาตรฐาน 2. สร้างโอกาสการเรียนรู้ตลอดชีวิต และลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 3. ผลิต พัฒนาและสร้างเสริมศักยภาพกำลังคนที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับความต้องการ ของตลาดแรงงานและความต้องการของประเทศ 4. ส่งเสริม สนับสนุนการสร้างผลงานวิจัย องค์ความรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์สำหรับการพัฒนาด้านการศึกษา สังคม หรือสร้างมูลค่าเพิ่มเชิงเศรษฐกิจ 5. พัฒนาระบบบริหารจัดการการศึกษาให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล ประเด็นยุทธศาสตร์ 1. การจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของสังคมและประเทศ 2. การผลิตและพัฒนากำลังคน เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน 3. การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัยและการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ 4. การสร้างโอกาสเข้าถึงบริการทางการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเสมอภาค 5. การจัดการศึกษาเพื่อการสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6. การพัฒนาระบบการบริหารจัดการศึกษาให้ทันสมัย มีประสิทธิภาพตามหลักธรรมาภิบาล 2.4.3 แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุงตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้ศึกษา วิเคราะห์ และทบทวนบริบทที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ระดับประเทศ ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) (ร่าง) แผน แม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2566-2580) (ฉบับปรับปรุง) แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสาม พ.ศ. 2566-2570 (ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วย ความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566-2570) นโยบายรัฐบาล (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) แถลงต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDGs)


36 เป้าหมายที่ 4 เป้าหมายด้านการศึกษา แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 นโยบายและจุดเน้น กระทรวงศึกษาธิการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และ (ร่าง) แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของกระทรวงศึกษาธิการ และบริบทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เป็นกรอบแนวทางการจัดทำแผนปฏิบัติ ราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับปรับปรุง ตามงบประมาณที่ได้รับจัดสรร) ดังนี้ วิสัยทัศน์ บูรณาการจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้เรียนมีคุณภาพและทักษะที่จำเป็นในโลกยุคใหม่ พันธกิจ 1. ส่งเสริม สนับสนุนการบริหารและจัดการศึกษาแบบบูรณาการทุกระดับทุกพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ส่งเสริม สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัย ให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่ 3. ส่งเสริม สนับสนุนการสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางการศึกษาอย่างทั่วถึง เหมาะสม ตามศักยภาพและช่วงวัยของผู้เรียน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา 4. ส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาระบบการบริหารงานบุคคลและพัฒนาสมรรถนะของข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษาให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่ ค่านิยม TEAMWINS T = Teamwork การทำงานเป็นทีม E = Equality of Work ความเสมอภาคในการทำงาน A = Accountability ความรับผิดชอบ M = Morality and Integrity การมีศีลธรรมและมีความซื่อสัตย์ W = Willful ความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานอย่างเต็มศักยภาพ I = Improvement การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ N = Network and Communication การเป็นเครือข่ายที่มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน S = Service Mind การมีจิตมุ่งบริการ เป้าประสงค์รวม 1. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการมีการบริหารและการจัดการศึกษาแบบบูรณาการ ที่มีประสิทธิภาพ 2. ผู้เรียนได้รับการศึกษาและการเรียนรู้ที่มีคุณภาพและเท่าทันการเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่ 3. ผู้เรียนได้รับโอกาสทางการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตอย่างทั่วถึงและเสมอภาค 4. ข้าราชการ ครู และบุคลากรทางการศึกษามีสมรรถนะที่ส่งผลต่อการพัฒนาผู้เรียนให้เท่าทัน การเปลี่ยนแปลงในโลกยุคใหม่ ประเด็นยุทธศาสตร์ 1. พัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคง 2. พัฒนากำลังคน เพื่อสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ 3. พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ 4. สร้างโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษา 5. ส่งเสริมการสร้างคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม 6. พัฒนาระบบบริหารจัดการให้มีประสิทธิภาพ


ส่วนที่ 3 สาระสำคัญของแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครปฐม ปรัชญาการศึกษา สร้างคนให้เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้ เป็นคนดี ปรับตัวให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลง วิสัยทัศน์ องค์กรหลักในการประสาน ส่งเสริม และบูรณาการจัดการศึกษาตามหลักธรรมาภิบาล ยกระดับคุณภาพการศึกษา พัฒนาพลเมืองนครปฐม สู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะ พันธกิจ 1. ส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนทุกคนมีสิทธิและโอกาสเสมอภาคทางการศึกษา โดยได้รับการจัดการ เรียนรู้ตลอดชีวิตที่หลากหลายอย่างทั่วถึงและมีคุณภาพ 2. ส่งเสริม สนับสนุน หน่วยงานการศึกษาในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับ การพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 3. ส่งเสริม สนับสนุน การจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรม มีคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตร กับสิ่งแวดล้อม และดำเนินชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีประสิทธิภาพ 5. ส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาพลเมืองให้เป็นพลเมืองอัจฉริยะ (Smart Citizen) รองรับ การเป็นเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ค่านิยมร่วม เดินตามรอยพระยุคลบาท ปฏิบัติราชการด้วยความเป็นธรรม เป้าประสงค์ 1. ผู้เรียนเป็นคนดี มีคุณธรรม มีความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ น้อมนำศาสตร์ พระราชา ๒. ประชาชนทุกคนได้รับสิทธิและโอกาสทางการศึกษา และเรียนรู้ตลอดชีวิตที่หลากหลายอย่างทั่วถึง มีคุณภาพ ๓. ผู้เรียนมีความรู้ มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 รวมถึงทักษะวิชาชีพเพื่อการมีงานทำ ๔. ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา ประเด็นยุทธศาสตร์ 1. การจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและเป็นพลเมืองดี มีจิตอาสา น้อมนำศาสตร์พระราชา 2. การพัฒนากำลังคน เพื่อรองรับการเป็นเมืองอัจฉริยะ 3. การยกระดับคุณภาพมาตรฐานการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีทักษะในศตวรรษที่ 21 4. การเข้าถึงบริการทางการศึกษาและส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต 5. การพัฒนาประสิทธิภาพการบริหารและการจัดการศึกษาแบบบูรณาการโดยเน้นการมีส่วนร่วม


38 ยุทธศาสตร์ เป้าหมาย ตัวชี้วัด กลยุทธ์ภายใต้ประเด็นยุทธศาสตร์ ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 1 การจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและเป็นพลเมืองดี มีจิตอาสา น้อมนำศาสตร์พระราชา เป้าหมาย ตัวชี้วัด ๑. ผู้เรียนมีความจงรักภักดี ซื่อสัตย์ พร้อมธำรงไว้ซึ่ง สถาบันหลักของชาติ น้อมนำศาสตร์พระราชาสู่การปฏิบัติ ๒. ผู้เรียนมีค่านิยมที่ถูกต้อง มีคุณธรรม จริยธรรม และ เป็นผู้มีความพอเพียง มีวินัย สุจริต 3. ส่งเสริมการเรียนรู้ที่สอดคล้องตามบริบทความ หลากหลายทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ๑. ร้อยละของสถานศึกษาที่มีการจัดการเรียนการสอนหรือ กิจกรรมเพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองหรือจิตอาสาหรือ การมีจิตสำนึกในการอยู่ร่วมกันในสังคม ๒. ร้อยละของสถานศึกษาที่ส่งเสริมและบูรณาการ การจัดการเรียนการสอนและการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจในวิถีวัฒนธรรมท้องถิ่น ๓. ร้อยละของสถานศึกษาที่จัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม กลยุทธ์ภายใต้ประเด็นยุทธศาสตร์ 1. ส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย ปลูกฝังวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ค่านิยมที่ดีงาม ความภูมิใจในชาติ 2. การสร้างและส่งเสริมความเป็นพลเมืองดี ตามรอยพระยุคลบาทด้านการศึกษาสู่การปฏิบัติ รวมทั้งโครงการอัน เนื่องมาจากพระราชดำริที่เกี่ยวกับการศึกษา 3. ส่งเสริมการเรียนรู้ที่สอดคล้องตามบริบทความหลากหลายทางวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 4. ปลูกฝังผู้เรียนให้มีค่านิยมที่ถูกต้อง มีคุณธรรม จริยธรรม และเป็นผู้มีความพอเพียง มีวินัย สุจริต โดยใช้กระบวนการ ลูกเสือและยุวกาชาดหรือกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่หลากหลาย 5. พัฒนาการจัดการศึกษาเพื่อการจัดระบบการดูแลและป้องกันภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ อาทิ อาชญากรรม และความรุนแรงในรูปแบบต่างๆ ยาเสพติด ภัยพิบัติจากธรรมชาติภัยจากโรคอุบัติใหม่ ภัยจากไซเบอร์ เป็นต้น 6. การส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตที่เป็นมิตรกับสิงแวดล้อม ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 2 การพัฒนากำลังคน เพื่อรองรับการเป็นเมืองอัจฉริยะ เป้าหมาย ตัวชี้วัด ๑. ครูและบุคลากรทางการศึกษามีสมรรถนะตามมาตรฐาน วิชาชีพ ๒. ผู้เรียนสามารถนำองค์ความรู้ไปใช้สร้างรายได้ รวมถึงมี ทักษะด้านวิชาชีพและทักษะชีวิต ๑. ร้อยละของครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการ พัฒนาให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ ๒. ร้อยละของครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับการ พัฒนาด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ๓. ร้อยละของผู้เรียนที่ผ่านการประเมินมาตรฐานวิชาชีพ ก่อนจบการศึกษา ๔. จำนวนผู้เรียนอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีเพิ่มขึ้น ๕. สัดส่วนของผู้เรียนอาชีวศึกษาต่อผู้เรียนสามัญศึกษา กลยุทธ์ภายใต้ประเด็นยุทธศาสตร์ ๑. ส่งเสริมการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีสมรรถนะตามมาตรฐานวิชาชีพ ๒. พัฒนาครูให้มีศักยภาพในการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างหลากหลายโดยใช้เทคโนโลยี เครื่องมือ ที่ทันสมัย ๓. จัดการศึกษาอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี และการฝึกอาชีพในสถานประกอบการ ๔. พัฒนาหลักสูตรและรูปแบบการเรียนการสอนอาชีวศึกษาให้สอดคล้องกับกรอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน และมาตรฐานอาชีพ ๕. พัฒนาทักษะวิชาชีพที่สอดคล้องกับบริบทและความต้องการของพื้นที่


Click to View FlipBook Version