ขั้นนำไปใช้ 1. นักศึกษานำผลงานมานำเสนอ 2. นักศึกษาทำใบกิจกรรมหน่วยที่ 2 ขั้นสรุป 1. ผู้เรียนและครูร่วมกันระดมความคิดเห็นสรุปเกี่ยวกับหลักการเลือกกิจกรรมนันทนาการ 2. นักศึกษาทำแบบทดสอบหลังเรียน 3. ครูสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต ความสามัคคี ความมีน้ำใจ เป็นนักกีฬา ความอดทน เป็นต้น 4. นัดหมายและชี้แจงเกณฑ์การประเมินในชั่วโมงต่อไป การบูรณาการกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความพอประมาณ 1.1 แสดงความรู้เกี่ยวกับหลักการเลือกกิจกรรมนันทนาการ 2. ความมีเหตุผล 2.1 ผู้เรียนหลักในการเลือกให้เหมาะสมกับวัย เพศ โอกาส ความรู้ ความสามารถ เพื่อทำ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด 3. การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี 3.1 การนำไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน ผู้เรียนวิชานี้จะได้ความรู้ที่ถูกต้อง 4. เงื่อนไขความรู้ 4.1 ทักษะกระบวนการทำงาน 4.2 มีความรู้ในเรื่องหลักการเลือกกิจกรรมนันทนาการ 4.3 ทักษะชีวิตในกิจกรรมการสืบค้นข้อมูล 5. เงื่อนไขคุณธรรม 5.1 ความสามัคคี 5.2 ช่วยเหลือแบ่งปัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ 5.3 มีวินัย ตรงต่อเวลาความรับผิดชอบ 5.4 ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีจิตอาสา การวัดและประเมินผล วิธีวัดผล 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม 3. การนำเสนอผลงาน 4. ตรวจใบงาน 5. ตรวจแบบทดสอบ
เครื่องมือวัดผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม 3. แบบประเมินผลการนำเสนอผลงาน 4. แบบประเมินกิจกรรมใบงาน 5. แบบทดสอบ เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม 3. นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์ 4. แบบประเมินกิจกรรมใบงานมีเกณฑ์ผ่าน 50% สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน รหัส 30000-1610 นันทนาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต 2. ใบงานที่ 2 2. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 1 3. แบบทดสอบหลังเรียน หลักฐานการเรียนรู้ 1. บันทึกการสอน 2. ใบเช็ครายชื่อ 3. แผนจัดการเรียนรู้ 4. การตรวจประเมินผลงาน การวัดผลและประเมินผล ก่อนเรียน 1. สังเกตจากการตอบคำถามก่อนเข้าสู่บทเรียน ขณะเรียน 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. การนำเสนอผลงาน 3. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 2 หลังเรียน 1. แบบทดสอบหลังเรียน เครื่องมือประเมิน 1. แบบทดสอบ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์ 2. แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
กิจกรรมการเรียนการสอนหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขั้นตอนการเรียนรู้หรือกิจกรรมของนักเรียน ขั้นเตรียม 1. แบ่งนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม เพื่อให้แต่ละกลุ่มได้ แบ่งหน้าที่บริหารงานภายในกลุ่ม 2. มอบหมายให้หัวหน้ากลุ่มสำรวจสมาชิก 1. จัดกลุ่มในชั้นเรียน 4 กลุ่ม 2. ร่วมปรึกษา แบ่งหน้าที่กัน 4 ภายในกลุ่ม ขั้นอธิบายและสาธิต 1. ครูอธิบายเนื้อหาแต่ละหัวข้อพร้อมยกตัวอย่าง 2. ครูมอบหมายให้แต่ละกลุ่มคิดเกมส์ โดยเลือก จากหัวข้อที่เรียน 3. ผู้เรียนฟังครูอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ขั้นฝึกปฏิบัติ 1. ครูมอบหมายให้แต่ละกลุ่มปฏิบัติงานตามใบ งาน 1. นักศึกษาฟังคำอธิบายและซักถามประเด็นที่ สงสัย 2. แต่ละกลุ่มเลือกหัวข้อของเกมส์และไปฝึก ปฎิบัติ 3. นำเสนอเป็นกลุ่มและสรุปผลหลังปฏิบัติ ขั้นนำไปใช้ 1. ให้ผู้เรียนนำผลงานมานำเสนอหน้าชั้นเรียน 2. ครูมอบหมายงานให้ผู้เรียนทำใบกิจกรรมหน่วย ที่ 1. แต่ละกลุ่มปฏิบัติกิจกรรมแล้วช่วยกัน วิเคราะห์สรุปกิจกรรมว่าสามารถนำไปใช้ใน ชีวิตประจำวันอย่างไร 2. ผู้เรียนนำผลงานมานำเสนอ 3. แต่ละกลุ่มปฏิบัติงานในใบงานที่ ผู้เรียนทำ ใบกิจกรรมหน่วยที่ 2 ขั้นสรุปและวัดผล 1. ผู้เรียนและครูร่วมกันระดมความคิดเห็น 2. ครูให้ผู้เรียนแบบทดสอบหลังเรียน 1. ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน สื่อการเรียนการสอน/การเรียนรู้ สื่อสิ่งพิมพ์ 1. หนังสือเรียน 2. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 2 3. แบบทดสอบหลังเรียน สื่อโสตทัศน์ (ถ้ามี) - สื่อของจริง 1. อุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรม ตามที่ผู้เรียนเลือก เช่น อุปกรณ์กีฬา แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา 1. ห้องสมุด
2. หนังสือเรียน นอกสถานศึกษา 1. อินเทอร์เน็ต การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กับวิชาอื่น - การประเมินผลการเรียนรู้ • หลักการประเมินผลการเรียนรู้ รายละเอียดการประเมินผลการเรียนรู้ 1. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 1 1.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 1.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 2. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 2 2.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 2.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 3. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 3 3.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 3.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 4. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 4 4.1 ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ก่อนเรียน 1. สังเกตจากการตอบคำถามก่อนเข้าสู่บทเรียน ขณะเรียน 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. การนำเสนอผลงาน 3. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 2 หลังเรียน 1. แบบทดสอบหลังเรียน ผลงาน/ชิ้นงาน/ผลสำเร็จของผู้เรียน 1. การนำเสนอผลงาน 2. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 2 3. แบบทดสอบหลังเรียน
ใบกิจกรรม หน่วยที่ 2 หลักการเลือกกิจกรรมนันทนาการ คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. หลักการเลือกกิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย มีแนวทางในการปฏิบัติอย่างไร บอกมา 5 ข้อ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. หลักการเลือกกิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพทางจิต มีแนวทางในการปฏิบัติอย่างไร บอกมา 5 ข้อ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. บอกลักษณะของกิจกรรมนันทนาการ มา 5 ประเภท ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. กิจกรรมงานอดิเรก มีลักษณะอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. กิจกรรมทางสังคม มีลักษณะอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
หลักการเลือกกิจกรรมนันทนาการ คำสั่ง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดเป็นกิจกรรมต่อไปนี้ต้องคำนึงถึงเพศด้วย ก. วอลเล่ย์บอล ข. กอล์ฟ ค. มวย ง. แบดมินตัน จ. ว่ายน้ำ 2. งานอดิเรกแบ่งออกเป็นกี่ประเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท จ. 6 ประเภท 3. ข้อใดเป็นกิจกรรมกลางแจ้ง ก. โบว์ลิ่ง ข. หมากรุก ค. วอลเล่ย์บอล ง. มวยไทย จ. ฟุตบอล 4. กรีฑามีกี่ประเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท จ. 6 ประเภท 5. การเลือกกิจกรรมที่ส่งเสริมสมรรถภาพทางกาย ข้อใดต้องคำนึงเป็นสิ่งสำคัญ ก. ต้องหุ่นดี ข. ต้องแข็งแรง ค. ต้องสนุก ง. ต้องเล่นได้ทุกเพศ จ. ต้องปลอดภัย 6. ข้อใดเป็นองค์ประกอบสำคัญของนันทนาการ ก. มีความสนใจอยากทำ ข. ทำในช่วงเวลาว่าง ค. มีความสุขทางกายมากกว่าจิตใจ ง. มีความสุขทางจิตใจมากกว่าทางกาย จ. ต้องเล่นได้ทุกเพศ 7. ข้อใดไม่เป็นแนวทางในการเลือกกิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพทางจิต ก. สถานที่ ข. เพศ ค. เวลา ง. สนใจ จ. สถานการณ์ 8. นันทนาการมีกี่ประเภท ก. 12 ประเภท ข. 14 ประเภท แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 2
ค. 16 ประเภท ง. 18 ประเภท จ. 20 ประเภท 9. E-Sport คือกิจกรรมในข้อใด ก. นันทนาการการละเล่น ข. นันทนาการการเต้นรำ ค. นันทนาการการแสดง ง. นันทนาการพิเศษเพื่อสังคม จ. นันทนาการเพื่อคนในครอบครัว 10. การแสดงมายากล คือ กิจกรรมข้อใด ก. การละเล่น ข. การแสดงและละคร ค. กิจกรรมทางสังคม ง. กิจกรรมพิเศษ จ. กิจกรรมร้องเพลง เล่นดนตรี
หลักการเลือกกิจกรรมนันทนาการ คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. หลักการเลือกกิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย มีแนวทางในการปฏิบัติอย่างไร บอกมา 5 ข้อ ตอบ 1) เลือกกิจกรรมสามารถกระทำได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และได้รับประโยชน์สูงสุด 2) เลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับเพศ 3) เลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับวัย 4) เลือกกิจกรรมที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย 5) เลือกกิจกรรมตามความสนใจและความถนัด 2. หลักการเลือกกิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพทางจิต มีแนวทางในการปฏิบัติอย่างไร บอกมา 5 ข้อ ตอบ 1) คำนึงถึงสภาพร่างกาย จิตใจอารมณ์ 2) คำนึงถึงความสนใจ 3) สถานที่ 4) เวลาและโอกาส 5) ความสม่ำเสมอ 3. บอกลักษณะของกิจกรรมนันทนาการ มา 5 ประเภท ตอบ 1) เกมส์ กีฬา 2) ศิลปะ หัตถกรรม 3) ร้องเพลง และดนตรี 4) งานอดิเรก 5) นันทนาการทางสังคม 4. กิจกรรมงานอดิเรก มีลักษณะอย่างไร ตอบ กิจกรรมงานอดิเรก เป็นกิจกรรมของบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่ใช้เวลาว่างทำกิจกรรมเพื่อผ่อน คลายซึ่งสามารถกระทำได้ทุกเพศ ทุกวัยโดยลักษณะของงานอดิเรกขึ้นอยู่กับความสนใจของแต่ละบุคคล 5. กิจกรรมทางสังคม มีลักษณะอย่างไร ตอบ กิจกรรมทางสังคม เป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกับผู้อื่น เป็นงานสังสรรค์กิจกรรมตามประเพณีหรือ กิจกรรมของชุมชน เฉลยใบงานหน่วยที่ 2
หลักการเลือกกิจกรรมนันทนาการ คำสั่ง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดเป็นกิจกรรมต่อไปนี้ต้องคำนึงถึงเพศด้วย ก. วอลเล่ย์บอล ข. กอล์ฟ ค. มวย ง. แบดมินตัน จ. ว่ายน้ำ 2. งานอดิเรกแบ่งออกเป็นกี่ประเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท จ. 6 ประเภท 3. ข้อใดเป็นกิจกรรมกลางแจ้ง ก. โบว์ลิ่ง ข. หมากรุก ค. วอลเล่ย์บอล ง. มวยไทย จ. ฟุตบอล 4. กรีฑามีกี่ประเภท ก. 2 ประเภท ข. 3 ประเภท ค. 4 ประเภท ง. 5 ประเภท จ. 6 ประเภท 5. การเลือกกิจกรรมที่ส่งเสริมสมรรถภาพทางกาย ข้อใดต้องคำนึงเป็นสิ่งสำคัญ ก. ต้องหุ่นดี ข. ต้องแข็งแรง ค. ต้องสนุก ง. ต้องเล่นได้ทุกเพศ จ. ต้องปลอดภัย 6. ข้อใดเป็นองค์ประกอบสำคัญของนันทนาการ ก. มีความสนใจอยากทำ ข. ทำในช่วงเวลาว่าง ค. มีความสุขทางกายมากกว่าจิตใจ ง. มีความสุขทางจิตใจมากกว่าทางกาย จ. ต้องเล่นได้ทุกเพศ 7. ข้อใดไม่เป็นแนวทางในการเลือกกิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพทางจิต ก. สถานที่ ข. เพศ ค. เวลา ง. สนใจ จ. สถานการณ์ 8. นันทนาการมีกี่ประเภท ก. 12 ประเภท ข. 14 ประเภท เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 2
ค. 16 ประเภท ง. 18 ประเภท จ. 20 ประเภท 9. E-Sport คือกิจกรรมในข้อใด ก. นันทนาการการละเล่น ข. นันทนาการการเต้นรำ ค. นันทนาการการแสดง ง. นันทนาการพิเศษเพื่อสังคม จ. นันทนาการเพื่อคนในครอบครัว 10. การแสดงมายากล คือ กิจกรรมข้อใด ก. การละเล่น ข. การแสดงและละคร ค. กิจกรรมทางสังคม ง. กิจกรรมพิเศษ จ. กิจกรรมร้องเพลง เล่นดนตรี
แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ลำดับที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง ความ คิดเห็น การตอบ คำถาม การรับฟัง ความ คิดเห็น ทำงาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย รวม 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 20 ลงชื่อ……………………………….ผู้สังเกต (………………………….……) …………/…………/……….. เกณฑ์การให้คะแนน ระดับคุณภาพของแต่ละพฤติกรรมดังนี้ ดีมาก = 4 (เกณฑ์ระหว่าง 90 - 100%) ดี = 3 (เกณฑ์ระหว่าง 70 - 89%) ปานกลาง = 2 (เกณฑ์ระหว่าง 50 - 69% ) ปรับปรุง = 1 (เกณฑ์ต่ำกว่า 50 %) หมายเหตุ : ใช้แบบประเมินนี้ทุกแผนการจัดการเรียนรู้
แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง…………… รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน 2 การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรับปรุงงาน รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… วันที่…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์การให้คะแนน 1. การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายการทำงานอย่างชัดเจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 2. การหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียมสถานที่ สื่อ / อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง ยึดหลักความประหยัด 2 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง แต่ไม่ตรงตามความสามารถ และมีสื่อ /อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง แต่ขาด การจัดเตรียมสถานที่และไม่ยึดหลักความประหยัด 1 คะแนน = กระจายงานไม่ทั่วถึงและมีสื่อ /อุปกรณ์ไม่เพียงพอ และไม่ยึดหลักความประหยัด 3. การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย และตามเวลาที่กำหนด มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 2 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย แต่ช้ากว่าเวลาที่กำหนด ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 1 คะแนน = ทำงานไม่สำเร็จตามเป้าหมาย และไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็นระยะ มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมปรึกษาหารือ แต่ไม่ปรับปรุงงาน ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง 1 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมไม่มีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง
แบบประเมินผลการนำเสนอผลงาน ชื่อกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง................................................ รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจน (ความรู้เกี่ยวกับเนื้อหา ความ ถูกต้อง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการนำเสนอ 3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 4 บุคลิกลักษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น้ำเสียง ซึ่งทำให้ผู้ฟังมี ความสนใจ รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจนถูกต้อง 3 คะแนน = มีสาระสำคัญครบถ้วนถูกต้อง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคัญไม่ครบถ้วน แต่ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคัญไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการนำเสนอที่เหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ นำเสนอที่น่าสนใจ นำวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่าและประหยัด 2 คะแนน = มีเทคนิคการนำเสนอที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอที่น่าสนใจ แต่ขาด การ ประยุกต์ใช้ วัสดุในท้องถิ่น 1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม และไม่น่าสนใจ 3. การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกว่าร้อยละ 90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70-90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังน้อยกว่าร้อยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมือ
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ชื่อ……………………………………………………………ชั้น………………เลขที่...........แผนก................................................. คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. ซื่อสัตย์ สุจริต ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 2. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ 3. รับผิดชอบ มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 4. มุ่งมั่นในการทำงาน มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 5. ใฝ่เรียนรู้ รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และนำไปปฏิบัติได้ 6. มีจิตสาธารณะ รู้จักช่วยงานเพื่อนและครูทำงาน 7. มีความสุภาพ มีความสุภาพ อ่อนน้อม รู้จักกาลเทศะ มีมารยาทดี 8. มีจิตสาธารณะ รู้จักช่วยงานเพื่อนและครูทำงาน 9. มีความสามัคคี ความพร้อมเพรียง ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติงานจนบรรลุวัตถุประสงค์ ไม่ทะเลาะวิวาท 10. มีภาวะความเป็นผู้นำผู้ตาม ยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน รวม รวมคะแนนที่ได้ทั้งสิ้น 20 คะแนน (คะแนนที่ได้/2) สรุปผลประเมิน ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน ................/.............../................ เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ดีมาก พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ดี พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจน ให้ 2 คะแนน พอใช้ พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน น้อย
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง
บันทึกหลังการสอน หน่วยที่ 2 หลักการเลือกกิจกรรมนันทนาการ ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนของนักเรียน ผลการสอนของครู ลงชื่อ.................................................. (นายองอาจ แก้วเขียว) ครูผู้สอน
แผนการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 หน่วยที่ 3 ชื่อวิชา นันทนาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต สอนสัปดาห์ที่ 4-5 ชื่อหน่วย เกมและกีฬา คาบรวม 4 คาบ ชื่อเรื่อง เกมและกีฬา จำนวนคาบ 4 คาบ หัวข้อเรื่อง 1. ความหมายและประโยชน์ของเกมและกีฬา 2. ประเภทและขอบข่ายของเกมและกีฬา 3. กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายและประโยชน์ของเกมและกีฬา 2. ประเภทและขอบข่ายของเกมและกีฬา 3. กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ ด้านคุณธรรม จริยธรรม 1. มีความรับผิดชอบ 2. มีความตรงต่อเวลา 3. มีระเบียบวินัย สาระสำคัญ เกมและกีฬา เป็นกิจกรรมที่เน้นการเคลื่อนไหวของร่างกาย เป็นกิจกรรมหรือการเล่นเพื่อความ สนุกสนาน เพลิดเพลิน เพื่อเป็นการบำรุงแรงหรือเพื่อผ่อนคลายความเครียดทางจิต สมรรถนะอาชีพประจำหน่วย 1. แสดงความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาตนเองตามหลักนันทนาการ 2. ใช้กิจกรรมนันทนาการที่เหมาะสมในการพัฒนาตนเองและสังคม คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1. ซื่อสัตย์สุจริต 2. มีวินัย 3. แสวงหาความรู้ 4. อยู่อย่างพอเพียง 5. มุ่งมั่นการทำงาน
จุดประสงค์การสอน / การเรียนรู้ • จุดประสงค์ทั่วไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. มีเข้าใจหลักการนำกิจกรรมนันทนาการไปใช้การพัฒนาคุณภาพชีวิต 2. สามารถใช้กิจกรรมนันทนาการเพื่อพัฒนาสุขภาวะตามลักษณะงานอาชีพ • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. บอกความหมาย ประโยชน์ของเกมและกีฬาได้ 2. บอกกิจกรรมสัมพันธ์ได้ 3. บอกประเภท ขอบข่ายของเกม กีฬาได้ 4. มีภูมิคุ้มกัน ความมีวินัย ความเป็นระเบียบ ละเอียดรอบคอบ ความอดทน รับผิดชอบในการ ปฏิบัติงาน และ มีเจตคติทีดีต่อการเรียน กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียม 1. แบ่งนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม เพื่อให้แต่ละกลุ่มได้แบ่งหน้าที่บริหารงานภายในกลุ่ม 2. มอบหมายให้หัวหน้ากลุ่มสำรวจสมาชิก 3. นักศึกษาที่เป็นหัวหน้ากลุ่มรายงานสมาชิกในกลุ่ม 4. นักศึกษาหรือตัวแทนของห้องออกมานำเพื่อนอบอุ่นร่างกาย ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ โดยครู และเพื่อนนักเรียนอบอุ่นร่างกายตามผู้นำ 5. ครูซักถามความรู้เดิมเบื้องต้น เรื่อง เกมและกีฬา ขั้นสอน (ขั้นอธิบายและสาธิต) 1. ครูอธิบายกิจกรรมเพื่อพัฒนาสุขภาพและสมรรถภาพ 2. ครูอธิบายประเภท กิจกรรมนันทนาการ ขั้นฝึกปฏิบัติ 1. ครูมอบหมายให้แต่ละกลุ่มคิดและเลือกปฏิบัติกิจกรรมนันทนาการ ตามที่ตนเองสนใจ 2. ครูมอบหมายให้แต่ละกลุ่มหาตัวแทน ออกมานำเสนอ กิจกรรมที่ตนเองเลือกและสรุปผล กิจกรรม ขั้นนำไปใช้ 1. แต่ละกลุ่มอภิปรายและเลือกกิจกรรมที่กลุ่มตนเองสนใจ มาให้สมาชิกในกลุ่มร่วมกัน ปฏิบัติ 2. แต่ละกลุ่มส่งนักศึกษาตัวแทนออกมาอธิบายและนำเสนอหลังจากปฏิบัติกิจกรรมของกลุ่ม แล้ว 3. แต่ละกลุ่มช่วยกันวิเคราะห์กิจกรรมในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 4. ผู้เรียนทำใบกิจกรรมหน่วยที่ 3
ขั้นสรุป 1. ผู้เรียนและครูร่วมกันระดมความคิดเห็นสรุปเกี่ยวกับเกมและกีฬา 2. ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน 3. ครูสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต ความสามัคคี ความมีน้ำใจ เป็นนักกีฬา ความอดทน เป็นต้น 4. นัดหมายและชี้แจงเกณฑ์การประเมินในชั่วโมงต่อไป การบูรณาการกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความพอประมาณ 1.1 แสดงความรู้เกี่ยวกับเกมและกีฬา 2. ความมีเหตุผล 2.1 ใช้กิจกรรมนันทนาการที่เหมาะสมในการพัฒนาตนเองและสังคม 3. การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี 3.1 การนำไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน ผู้เรียนวิชานี้จะได้ความรู้ที่ถูกต้อง 4. เงื่อนไขความรู้ 4.1 ทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม 4.2 มีความรู้ในเรื่องเกมและกีฬา 4.3 ทักษะชีวิตในกิจกรรมการสืบค้นข้อมูล 5. เงื่อนไขคุณธรรม 5.1 ความสามัคคี 5.2 ช่วยเหลือแบ่งปัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ 5.3 มีวินัย ตรงต่อเวลาความรับผิดชอบ 5.4 ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีจิตอาสา การวัดและประเมินผล วิธีวัดผล 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม 3. การนำเสนอผลงาน 4. ตรวจใบงาน 5. ตรวจแบบทดสอบ เครื่องมือวัดผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม 3. แบบประเมินผลการนำเสนอผลงาน 4. แบบประเมินกิจกรรมใบงาน 5. แบบทดสอบ
เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม 3. นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์ 4. แบบประเมินกิจกรรมใบงานมีเกณฑ์ผ่าน 50% สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน รหัส 30000-1610 นันทนาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต 2. ใบงานที่ 3 3. แบบทดสอบหลังเรียน หลักฐานการเรียนรู้ 1. บันทึกการสอน 2. ใบเช็ครายชื่อ 3. แผนจัดการเรียนรู้ 4. การตรวจประเมินผลงาน การวัดผลและประเมินผล ก่อนเรียน 1. สังเกตจากการตอบคำถามก่อนเข้าสู่บทเรียน ขณะเรียน 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. การนำเสนอผลงาน 3. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 3 หลังเรียน 1. แบบทดสอบหลังเรียน เครื่องมือประเมิน 1. แบบทดสอบ เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์ 2. แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ กิจกรรมการเรียนการสอนหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขั้นตอนการเรียนรู้หรือกิจกรรมของนักเรียน ขั้นเตรียม 1. แบ่งนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม เพื่อให้แต่ละกลุ่ม ได้แบ่งหน้าที่บริหารงานภายในกลุ่ม 2. มอบหมายให้หัวหน้ากลุ่มสำรวจสมาชิก 3. ครูให้ผู้เรียนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มรายงาน สมาชิกในกลุ่ม 1. จัดกลุ่มในชั้นเรียน 4 กลุ่ม 2. นักศึกษาที่เป็นหัวหน้ากลุ่มรายงานสมาชิกใน กลุ่ม 3. ตัวแทนของห้องออกมานำเพื่อนอบอุ่น ร่างกาย ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
4. ครูให้ผู้เรียนหรือตัวแทนของห้องออกมานำ เพื่อนอบอุ่นร่างกาย ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ โดย ครูและเพื่อนนักเรียนอบอุ่นร่างกายตามผู้นำ 5. ครูซักถามความรู้เดิมเบื้องต้น เรื่อง เกมและ กีฬา ขั้นสอน (ขั้นอธิบายและสาธิต) 1. ครูอธิบายกิจกรรมเพื่อพัฒนาสุขภาพและ สมรรถภาพ 2. ครูอธิบายประเภท กิจกรรมนันทนาการ 1. ผู้เรียนฟังครูอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ขั้นฝึกปฏิบัติ 1. ครูมอบหมายให้แต่ละกลุ่มคิดและเลือก ปฏิบัติกิจกรรมนันทนาการ ตามที่ตนเองสนใจ 2. ครูมอบหมายให้แต่ละกลุ่มหาตัวแทน ออกมานำเสนอ กิจกรรมที่ตนเองเลือกและ สรุปผลกิจกรรม 1. ผู้เรียนฟังคำอธิบายและซักถามประเด็นที่ สงสัย 2. แต่ละกลุ่มเลือกหัวข้อของเกมส์และไปฝึก ปฎิบัติ 3. นำเสนอเป็นกลุ่มและสรุปผลหลังปฏิบัติ ขั้นนำไปใช้ 1. ให้ผู้เรียนนำผลงานมานำเสนอหน้าชั้นเรียน 2. ครูมอบหมายงานให้ผู้เรียนทำใบกิจกรรม หน่วยที่ 3 1. แต่ละกลุ่มปฏิบัติกิจกรรมแล้วช่วยกัน วิเคราะห์ 2. ผู้เรียนนำผลงานมานำเสนอ 3. แต่ละกลุ่มปฏิบัติงานในใบงานที่ ผู้เรียนทำ ใบกิจกรรมหน่วยที่ 3 ขั้นสรุป 1. ผู้เรียนและครูร่วมกันระดมความคิดเห็นสรุป เกี่ยวกับเกมและกีฬา 2. นักศึกษาทำแบบทดสอบหลังเรียน 1. ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน สื่อการเรียนการสอน/การเรียนรู้ สื่อสิ่งพิมพ์ 1. หนังสือเรียน 2. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 3 3. แบบทดสอบหลังเรียน สื่อโสตทัศน์ (ถ้ามี) - สื่อของจริง 1. อุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติกิจกรรม ตามที่ผู้เรียนเลือก เช่น อุปกรณ์กีฬา แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา 1. ห้องสมุด
2. หนังสือเรียน นอกสถานศึกษา 1. อินเทอร์เน็ต การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กับวิชาอื่น - การประเมินผลการเรียนรู้ • หลักการประเมินผลการเรียนรู้ รายละเอียดการประเมินผลการเรียนรู้ 1. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 1 1.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 1.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 2. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 2 2.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 2.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 3. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 3 3.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 3.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 4. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 4 4.1 ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ก่อนเรียน 1. สังเกตจากการตอบคำถามก่อนเข้าสู่บทเรียน ขณะเรียน 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. การนำเสนอผลงาน 3. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 3 หลังเรียน 1. แบบทดสอบหลังเรียน ผลงาน/ชิ้นงาน/ผลสำเร็จของผู้เรียน 1. การนำเสนอผลงาน 2. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 3 3. แบบทดสอบหลังเรียน
ใบความรู้หน่วยที่ 3 3.1 ความหมายของเกมและกีฬา เกมและกีฬานั้นเป็นกิจกรรมที่ต้องการความสัมพันธ์กันระหว่างทักษะการเคลื่อนไหว สติปัญญา ความทนทาน และพละกำลังของร่างกาย ในการประกอบกิจกรรม ซึ่งบางกิจกรรมจะมีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น ลูกบอล ใช้ไม้ตีและแรคเกต ถุงมือ ฯลฯ โดยมากมักจะจัดกิจกรรมประเภทนี้ในสถานที่ที่เป็นบริเวรกว้าง เช่น สนามหญ้า โรงยิมเนเซี่ยม ลานกว้าง เป็นต้น ในการเล่นหรือการแข่งขันก็จะมีกฎกติกาในการเล่นตายตัว เฉพาะแต่ละชนิดเกมกีฬา เพื่อให้เกิดการแข่งขันทีเสมอภาค สนุกและท้าทาย ดังนั้นกิจกรรมนันทนาการ ประเภทเกม กีฬา จึงเป็นกิจกรรมที่สนุนกสนาน ตื่นเต้นและท้าทายความสามารถของผู้เข้าร่วมกิจกรรม ทั้งยัง มีหลากหลายกิจกรรม สามารถเลือกเข้าร่วมได้เหมาะสม ทั้งวัยเด็ก วัยผู้ใหญ่ วัยสูงอายุ หญิง ชาย รวมทั้งคน พิการ ดังนั้นกิจกรรมประเภทนี้จึงได้รับความนิยมสูงและมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบันทั้งในประเทศไทยและ ต่างประเทศ 3.2 ทักษะเกมส์ และกีฬา การเคลื่อนไหวร่างกาย คือการเปลี่ยนที่ การขยับ การไม่อยู่นิ่งของร่างกาย ให้ร่างกายได้ทำกิจกรรม ต่างๆ ตามที่ต้องการ เช่น การนอน การนั่ง การยืน การเดิน การก้มเงย แกว่งแขน และเอียงตัว เป็นต้น และ การเคลื่อนไหวร่างกายในชีวิตประจำวันของเรา ได้แก่ การเดินทาง ทำงานบ้าน ไปซื้อของ การหยิบยกสิ่งของ ปลูกต้นไม้ การเล่นเกม การออกกำลังกาย เล่นกีฬาต่างๆ ฯลฯ ดังนั้นเราควรฝึกการเคลื่อนไหวร่างกายให้ ถูกต้อง เพื่อพัฒนาบุคลิกภาพและมีสุขภาพแข็งแรง การเคลื่อนไหวร่างกาย ประกอบด้วย การเคลื่อนไหวขณะอยู่กับที่ ได้แก่ การนอน นั่ง การก้มเงย และยืน การเคลื่อนไหวขณะเคลื่อนที่ ได้แก่ การเดิน วิ่ง กระโดด และการกลิ้งตัว และการเคลื่อนไหวประกอบ อุปกรณ์ ได้แก่ การจับลูกบอล การกลิ้งลูกบอล การโยนรับลูกบอล การเตะลูกบอล การปาไกล กระโดดเชือก การเคาะจังหวะโดยใช้ไม้ แผ่นหนัง กลอง กิจกรรมทางกาย เกม และกีฬา สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบทำให้สุนกสนาน เพลิดเพลิน และ ช่วยให้มีสุขภาพดี กิจกรรมทางกาย เป็นกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายที่ทำให้ร่างกายใช้พลังงานมาก ขึ้น เกม เป็นกิจกรรมการเคลื่อนไหวร่างกายตามธรรมชาติ มีกฎ กติกา ข้อตกลงในการเล่นที่ง่าย ไม่ซับซ้อน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย เน้นทักษะการเคลื่อนไหวร่างกายและทักษะการเล่นกีฬาเบื้องต้น กิจกรรมทางกาย และเกม ได้แก่ การเล่นเกมประเภทผลัด ประเภทโลดโผน ประเภทชิงที่หมาย การบริหารประกอบจังหวะ การ เล่นเกมบทบาทสมมติ เป็นกิจกรรมเพื่อการออกกำลังกายและช่วยให้ประสาทและกล้ามเนื้อต่างๆ ทำงาน สัมพันธ์กันดีขึ้น รู้จังหวะในการเคลื่อนไหว มีความสนุกสนานและเป็นพื้นฐานการเคลื่อนไหวสำหรับนำไปใช้ใน การเล่นกีฬา 3.3 กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ เป็นกิจกรรมเพื่อสร้างความคุ้ยเคยระหว่างบุคคลหรือระหว่างองค์กร รวมทั้งการ เพื่อการทำงานเป็น ทีมและเพื่อการสังเกตพฤติกรรมของบุคคลหรือกลุ่ม ตลอดจน การจัดฝึกอบรมของหน่วยงานต่างๆ ทั้งของ ภาครัฐและเอกชน ซึ่งกิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์เป็นการสร้างความคุ้นเคยให้กับสมาชิกผู้เข้ารับการอบรม มีความ จำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับการจัดฝึกอบรมแต่ละครั้ง เพราะเป็นการกระตุ้นให้ผู้เข้าอบรมกล้าแสดงออก มีการ
เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปตามวัตถุประสงค์ของการฝึกอบรมและจะทำให้การดำเนินการฝึกอบรามเป็นไปด้วย ความราบรื่น นอกจากนั้นเป็นการเตรียมความพร้อมให้กับผู้เข้ารับการอบรมและเป็นการเสริมสร้างความคิดริ เริมสร้างสรรค์ เพื่อการบริหารงานในกลุ่มหรือองค์กร
ใบกิจกรรม หน่วยที่ 3 เกมและกีฬา คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. จงบอกความหมายของเกมและประโยชน์ของเกม คืออะไร 1.1 เกม คืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 1.2 ประโยชน์ของเกม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.จงบอกขอบข่ายของเกมมา 3 ข้อ 2.1 การเล่นที่ใช้ทักษะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 การเล่นที่ใช้ประสาทสัมผัส ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 การเล่นที่ใช้สติปัญญา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ประเภทของกีฬามีอะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. บอกลักษณะของเกมมีอะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. การแบ่งลักษณะเกมตามสถานที่ มีอะไรบ้าง …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เกมและกีฬา 1. ข้อใดไม่ใช่เกม ก. มีกฎ กติกาชัดเจน ข. มีจุดมุ่งหมาย ค. มีคุณค่าในตัวเอง ง. มีความต้องกานในชัยชนะ จ. ใช้ทักษะขั้นสูง 2. ข้อใดเป็นความสำคัญของเกม ก. ส่งเสริมทักษะเคลื่อนไหว ข. ส่งเสริมทักษะ ค. ได้มิตรภาพและเพื่อน ง. มีกฎ กติกาชัดเจน จ. ถูกทุกข้อ 3. ข้อใดคือประโยชน์ของเกมในด้านจิตใจ ก. มีทักษะการเคลื่อนไหว ข. มีสมรรถภาพทางกายดี ค. มีอารมณ์ร่าเริง แจ่มใส ง. มีความกล้าแสดงออก จ. ส่งเสริมทักษะ 4. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของเกมทางด้านอารมณ์ ก. กล้าแสดงออก ข. อารมณ์ร่าเริง แจ่มใส ค. มีความเชื่อมั่นในตัวเอง ง. รู้จักให้อภัย จ. ได้มิตรภาพและเพื่อน 5. เกมผาดโผนมีจุดเน้นในข้อใด ก. สร้างทักษะเคลื่อนไหว ข. สร้างความแข็งแรง ช่วยยืดหยุ่น ค. สร้างทักษะความสัมพันธ์ของระบบประสาท ง. มุ่งเน้นการเลี่ยงบาดเจ็บ หรือผาดโผน จ. ส่งเสริมทักษะ 6. เกมที่เป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรม คือข้อใด ก. เกมเล่นเป็นนิยาย ข. เกมเลียนแบบ ค. เกมพื้นบ้าน ง. เกมนำสู่ทักษะ จ. เกมที่ใช้ไหวพริบ 7. ข้อใดเป็นเกมกลางแจ้ง Outdoor ก. ฟุตบอล ข. หมากรุก ค. โบว์ลิ่ง ง. เทเบิลเทนนิส จ. เทเบิลเทนนิส 8. คำว่า “Sport” มาจากภาษาฝรั่งเศส หมายถึงข้อใด ก. เวลาว่าง ข. กิจกรรม แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 3
ค. กีฬา ง. ความเข้าใจ จ. ทักษะ 9. คำว่า “Sport” กับ “Game” มีข้อแตกต่างกันในข้อใด ก. กีฬามีกติกาซับซ้อนกว่าเกม ข. กีฬาต้องใช้ทักษะที่สูงกว่าเกม ค. กีฬามีเวลาจำกัด เกมไม่มีเวลาจำกัด ง. กีฬามีข้อจำกัดในด้านร่างกาย จ. ถูกทุกข้อ 10. ข้อใดคือบทบาทของผู้นำเกม ก. รู้จักการแก้ไขปัญหาในขณะเล่นเกม ข. มีเทคนิคในการควบคุมการเล่นและควบคุมเวลา ค. มีเทคนิคในการจับผิด หูตาไว และยืนในระยะที่เหมาะสม ง. ตัดสินชี้ขาดที่ยุติธรรมในการตัดสิน จ. ถูกทุกข้อ
เกมและกีฬา คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. จงบอกความหมายของเกมและประโยชน์ของเกม คืออะไร 1.1 เกม คืออะไร ตอบ การเล่นที่มีกฎ กติกา ในการเล่นอย่างชัดเจน โดยมากจะใช้ทักษะพื้นฐานไม่ได้ใช้ทักษะ ขั้นสูงอย่างกีฬา โดยเกมมีจุดมุ่งหมายและมีคุณค่าในตัวเอง ช่วยให้ผู้เข้าร่วมได้พัฒนาตนเองในด้านต่างๆ เช่น ความกล้าแสดงออก การเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี เกิดความสามัคคีในหมู่คณะ พบเพื่อนใหม่ ฝึกการแก้ปัญหา เฉพาะหน้า 1.2 ประโยชน์ของเกม ตอบ การเล่นเกมนั้นให้ประโยชน์แก่ผู้เล่นหลายด้านด้วยกัน เช่น ทางด้านร่างกาย ทางด้าน จิตใจ ทางด้านสังคม ทางด้านอารมณ์ 2. จงบอกขอบข่ายของเกมมา 3 ข้อ 2.1 การเล่นที่ใช้ทักษะ ตอบ การเล่นที่ต้องอาศัยทักษะของบุคคลความสามารถในการพิจารณาวินิจฉัย ความชำนาญ ต่าง ๆ ที่เกิดจากประสบการณ์เดิม ซึ่งต้องเกิดจากความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง แล้วนำมาประยุกต์สู่การปฏิบัติ 2.2 การเล่นที่ใช้ประสาทสัมผัส ตอบ การเล่นที่ต้องใช้ประสาทความรู้สึกในการรับรู้ จับต้อง มองดู หรือความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และแสดงออกอย่างฉับพลัน ซึ่งเกิดจากความพร้อมและการวินิจฉัยของประสาทรับรู้ แล้วตอบสนองออกมา โดยการปฏิบัติ 2.3 การเล่นที่ใช้สติปัญญา ตอบ การใช้ความสามารถทางสมอง ความคิดรวบยอด การแปลความหมายแล้วสรุป เพื่อการ แสดงออกตอบโต้ในทันทีทันใด หรือรับรู้และตอบสนองอย่างฉับพลัน ทั้งการแสดงออกทางด้านความคิด การ พูด หรือการแสดงอาการต่าง ๆ 3. ประเภทของกีฬามีอะไรบ้าง ตอบ 1) เกมเบ็ดเตล็ด (Low Organized Games) 2) เกมผาดโผน และทดสอบสมรรถภาพ (Stunt and Self-testing Activities) 3) เกมเล่นเป็นนิยาย และสร้างสรรค์ (Story Play and Creative Games) 4) เกมประเภทชิงที่หมายไล่จับ (Goal Games and Tag Games) 5) เกมประเภทรายบุคคล และเลียนแบบ (Individual Contest and Imitative Games) 6) เกมแบบหมู่ และผลัด (Mass Contest and Relay Games) 7) เกมนันทนาการ (Recreation Games) 8) เกมพื้นบ้าน เกมประจำชาติ (Native and National Games) 9) เกมนำสู่ทักษะกีฬา (Lead-UP Games) เฉลยใบงานหน่วยที่ 3
4. บอกลักษณะของเกมมีอะไรบ้าง ตอบ - จุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ของเกมต่าง ๆแต่ละเกมจะแตกต่างกันออกไป - มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด ในระยะเวลาสั้น ๆ - บางเกมต้องใช้บริเวณที่ว่าง และกำหนดของเขตที่แน่นอน - มีกติกา - เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วม 5. การแบ่งลักษณะเกมตามสถานที่ มีอะไรบ้าง ตอบ เกมในร่ม (Indoor Games) และเกมกลางแจ้ง (Outdoor Games)
เกมและกีฬา คำสั่ง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดไม่ใช่เกม ก. มีกฎ กติกาชัดเจน ข. มีจุดมุ่งหมาย ค. มีคุณค่าในตัวเอง ง. มีความต้องกานในชัยชนะ จ. ใช้ทักษะขั้นสูง 2. ข้อใดเป็นความสำคัญของเกม ก. ส่งเสริมทักษะเคลื่อนไหว ข. ส่งเสริมทักษะ ค. ได้มิตรภาพและเพื่อน ง. มีกฎ กติกาชัดเจน จ. ถูกทุกข้อ 3. ข้อใดคือประโยชน์ของเกมในด้านจิตใจ ก. มีทักษะการเคลื่อนไหว ข. มีสมรรถภาพทางกายดี ค. มีอารมณ์ร่าเริง แจ่มใส ง. มีความกล้าแสดงออก จ. ส่งเสริมทักษะ 4. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ของเกมทางด้านอารมณ์ ก. กล้าแสดงออก ข. อารมณ์ร่าเริง แจ่มใส ค. มีความเชื่อมั่นในตัวเอง ง. รู้จักให้อภัย จ. ได้มิตรภาพและเพื่อน 5. เกมผาดโผนมีจุดเน้นในข้อใด ก. สร้างทักษะเคลื่อนไหว ข. สร้างความแข็งแรง ช่วยยืดหยุ่น ค. สร้างทักษะความสัมพันธ์ของระบบประสาท ง. มุ่งเน้นการเลี่ยงบาดเจ็บ หรือผาดโผน จ. ส่งเสริมทักษะ 6. เกมที่เป็นเอกลักษณ์วัฒนธรรม คือข้อใด ก. เกมเล่นเป็นนิยาย ข. เกมเลียนแบบ ค. เกมพื้นบ้าน ง. เกมนำสู่ทักษะ จ. เกมที่ใช้ไหวพริบ 7. ข้อใดเป็นเกมกลางแจ้ง Outdoor ก. ฟุตบอล ข. หมากรุก ค. โบว์ลิ่ง ง. เทเบิลเทนนิส จ. เทเบิลเทนนิส 8. คำว่า “Sport” มาจากภาษาฝรั่งเศส หมายถึงข้อใด ก. เวลาว่าง ข. กิจกรรม เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 3
ค. กีฬา ง. ความเข้าใจ จ. ทักษะ 9. คำว่า “Sport” กับ “Game” มีข้อแตกต่างกันในข้อใด ก. กีฬามีกติกาซับซ้อนกว่าเกม ข. กีฬาต้องใช้ทักษะที่สูงกว่าเกม ค. กีฬามีเวลาจำกัด เกมไม่มีเวลาจำกัด ง. กีฬามีข้อจำกัดในด้านร่างกาย จ. ถูกทุกข้อ 10. ข้อใดคือบทบาทของผู้นำเกม ก. รู้จักการแก้ไขปัญหาในขณะเล่นเกม ข. มีเทคนิคในการควบคุมการเล่นและควบคุมเวลา ค. มีเทคนิคในการจับผิด หูตาไว และยืนในระยะที่เหมาะสม ง. ตัดสินชี้ขาดที่ยุติธรรมในการตัดสิน จ. ถูกทุกข้อ
แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ลำดับที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง ความ คิดเห็น การตอบ คำถาม การรับฟัง ความ คิดเห็น ทำงาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย รวม 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 20 ลงชื่อ……………………………….ผู้สังเกต (………………………….……) …………/…………/……….. เกณฑ์การให้คะแนน ระดับคุณภาพของแต่ละพฤติกรรมดังนี้ ดีมาก = 4 (เกณฑ์ระหว่าง 90 - 100%) ดี = 3 (เกณฑ์ระหว่าง 70 - 89%) ปานกลาง = 2 (เกณฑ์ระหว่าง 50 - 69% ) ปรับปรุง = 1 (เกณฑ์ต่ำกว่า 50 %) หมายเหตุ : ใช้แบบประเมินนี้ทุกแผนการจัดการเรียนรู้
แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง…………… รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน 2 การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรับปรุงงาน รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… วันที่…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์การให้คะแนน 1. การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายการทำงานอย่างชัดเจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 2. การหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียมสถานที่ สื่อ / อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง ยึดหลักความประหยัด 2 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง แต่ไม่ตรงตามความสามารถ และมีสื่อ /อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง แต่ขาด การจัดเตรียมสถานที่และไม่ยึดหลักความประหยัด 1 คะแนน = กระจายงานไม่ทั่วถึงและมีสื่อ /อุปกรณ์ไม่เพียงพอ และไม่ยึดหลักความประหยัด 3. การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย และตามเวลาที่กำหนด มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 2 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย แต่ช้ากว่าเวลาที่กำหนด ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 1 คะแนน = ทำงานไม่สำเร็จตามเป้าหมาย และไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็นระยะ มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมปรึกษาหารือ แต่ไม่ปรับปรุงงาน ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง 1 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมไม่มีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง
แบบประเมินผลการนำเสนอผลงาน ชื่อกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง................................................ รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจน (ความรู้เกี่ยวกับเนื้อหา ความ ถูกต้อง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการนำเสนอ 3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 4 บุคลิกลักษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น้ำเสียง ซึ่งทำให้ผู้ฟังมี ความสนใจ รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจนถูกต้อง 3 คะแนน = มีสาระสำคัญครบถ้วนถูกต้อง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคัญไม่ครบถ้วน แต่ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคัญไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการนำเสนอที่เหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ นำเสนอที่น่าสนใจ นำวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่าและประหยัด 2 คะแนน = มีเทคนิคการนำเสนอที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอที่น่าสนใจ แต่ขาด การ ประยุกต์ใช้ วัสดุในท้องถิ่น 1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม และไม่น่าสนใจ 3. การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกว่าร้อยละ 90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70-90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังน้อยกว่าร้อยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมือ
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ชื่อ……………………………………………………………ชั้น………………เลขที่...........แผนก................................................. คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. ซื่อสัตย์ สุจริต ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 2. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ 3. รับผิดชอบ มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 4. มุ่งมั่นในการทำงาน มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 5. ใฝ่เรียนรู้ รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และนำไปปฏิบัติได้ 6. มีจิตสาธารณะ รู้จักช่วยงานเพื่อนและครูทำงาน 7. มีความสุภาพ มีความสุภาพ อ่อนน้อม รู้จักกาลเทศะ มีมารยาทดี 8. มีจิตสาธารณะ รู้จักช่วยงานเพื่อนและครูทำงาน 9. มีความสามัคคี ความพร้อมเพรียง ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติงานจนบรรลุวัตถุประสงค์ ไม่ทะเลาะวิวาท 10. มีภาวะความเป็นผู้นำผู้ตาม ยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน รวม รวมคะแนนที่ได้ทั้งสิ้น 20 คะแนน (คะแนนที่ได้/2) สรุปผลประเมิน ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน ................/.............../................ เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ดีมาก พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ดี พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจน ให้ 2 คะแนน พอใช้ พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน น้อย
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง
บันทึกหลังการสอน หน่วยที่ 3 เกมส์และกีฬา ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนของนักเรียน ผลการสอนของครู ลงชื่อ.................................................. (นายองอาจ แก้วเขียว) ครูผู้สอน
แผนการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 หน่วยที่ 4 ชื่อวิชา นันทนาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต สอนสัปดาห์ที่ 6-7 ชื่อหน่วย ศิลปหัตถกรรม คาบรวม 4 คาบ ชื่อเรื่อง ศิลปหัตถกรรม จำนวนคาบ 4 คาบ หัวข้อเรื่อง 1. การวาดรูป 2. การประดิษฐ์สิ่งของ 3. การปั้น สาระการเรียนรู้ 1. ความหมายของการวาดภาพ การประดิษฐ์สิ่งของและการปั้น 2. หลักการและเทคนิคการวาดภาพ 3. ความสำคัญของสิ่งประดิษฐ์ 4. ประเภทของผลงานประดิษฐ์ ตามโอกาสใช้สอย 5. การออกแบบงานประดิษฐ์ 6. การปั้น 6.1 ความหมายของการปั้น 6.2 ประเภทของการปั้น ด้านคุณธรรม จริยธรรม 1. มีความรับผิดชอบ 2. มีความตรงต่อเวลา 3. มีระเบียบวินัย สาระสำคัญ ศิลปะและหัตถกรรม เป็นกิจกรรมการใช้ฝีมือ เช่นกันฝีมือปั้นแกะสลักว่าเขียนจากสาร เย็บปักถัก ร้อยการประดิษฐ์การประกอบอาหารเป็นต้น สมรรถนะอาชีพประจำหน่วย 1. ใช้กิจกรรมนันทนาการที่เหมาะสมในการพัฒนาตนเองและสังคม คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1. ซื่อสัตย์สุจริต 2. มีวินัย 3. แสวงหาความรู้ 4. อยู่อย่างพอเพียง
5. มุ่งมั่นการทำงาน จุดประสงค์การสอน / การเรียนรู้ • จุดประสงค์ทั่วไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. สามารถใช้กิจกรรมนันทนาการเพื่อพัฒนาสุขภาวะตามลักษณะงานอาชีพ • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. บอกและปฏิบัติทักษะการวาดรูปได้ 2. บอกและปฏิบัติทักษะการประดิษฐ์สิ่งของได้ 3. บอกและปฏิบัติทักษะการปั้นได้ 4. มีภูมิคุ้มกัน ความมีวินัย ความเป็นระเบียบ ละเอียดรอบคอบ ความอดทน รับผิดชอบในการ ปฏิบัติงาน และ มีเจตคติทีดีต่อการเรียน กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียม 1. แบ่งนักเรียนเป็น 3 กลุ่ม 2. มอบหมายให้หัวหน้ากลุ่มสำรวจสมาชิก 3. นักศึกษาที่เป็นหัวหน้ากลุ่มรายงานสมาชิกในกลุ่ม 4. นักศึกษาหรือตัวแทนของห้องออกมานำเพื่อนอบอุ่นร่างกาย ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ โดยครู และเพื่อนนักเรียนอบอุ่นร่างกายตามผู้นำ 5. ครูซักถามความรู้เดิมเบื้องต้นในชั่วโมงที่แล้ว ขั้นสอน (ขั้นอธิบายและสาธิต) 1. ครูอธิบายความรู้เกี่ยวกับการวาดรูป การประดิษฐ์สิ่งของ และการปั้น 2. ครูอธิบายใบกิจกรรมการทำงานในกลุ่มพร้อมยกตัวอย่าง 3. มอบหมายงานและคอยแนะนำ ขั้นฝึกปฏิบัติ 1. นักศึกษาแต่ละกลุ่มรับใบความรู้จากคุณครู 2. นักศึกษาแต่ละกลุ่มระดมความคิดและปฏิบัติกิจกรรมตามที่ได้รับมอบหมาย ขั้นนำไปใช้ 1. ตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงาน 2. นำผลงานแต่ละคนส่งครู กลุ่มแล้ว 3. แต่ละกลุ่มช่วยกันวิเคราะห์กิจกรรมในการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 4. นักศึกษาทำใบกิจกรรมหน่วยที่ 4 ขั้นสรุป 1. ผู้เรียนและครูร่วมกันระดมความคิดเห็นสรุปเกี่ยวกับกิจกรรมการวาดรูป การประดิษฐ์ สิ่งของและการปั้น 2. นักศึกษาทำแบบทดสอบหลังเรียน 3. ครูสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต ความสามัคคี ความมีน้ำใจ เป็นนักกีฬา ความอดทน เป็นต้น
4. นัดหมายและชี้แจงเกณฑ์การประเมินในชั่วโมงต่อไป การบูรณาการกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความพอประมาณ 1.1 แสดงความรู้เกี่ยวกับศิลปหัตถกรรม 2. ความมีเหตุผล 2.1 ใช้กิจกรรมนันทนาการเพื่อพัฒนาสุขภาวะตามลักษณะงานอาชีพ 3. การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี 3.1 การนำไปประยุกต์ใช้ในการดำรงชีวิตประจำวัน ผู้เรียนวิชานี้จะได้ความรู้ที่ถูกต้อง 4. เงื่อนไขความรู้ 4.1 ทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม 4.2 มีความรู้ในเรื่องศิลปหัตถกรรม 4.3 ทักษะชีวิตในกิจกรรมการสืบค้นข้อมูล 5. เงื่อนไขคุณธรรม 5.1 ความสามัคคี 5.2 ช่วยเหลือแบ่งปัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ 5.3 มีวินัย ตรงต่อเวลาความรับผิดชอบ 5.4 ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีจิตอาสา การวัดและประเมินผล วิธีวัดผล 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม 3. การนำเสนอผลงาน 4. ตรวจใบงาน 5. ตรวจแบบทดสอบ เครื่องมือวัดผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม 3. แบบประเมินผลการนำเสนอผลงาน 4. แบบประเมินกิจกรรมใบงาน 5. แบบทดสอบ เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม
3. นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์ 4. แบบประเมินกิจกรรมใบงานมีเกณฑ์ผ่าน 50% สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน รหัส 30000-1610 นันทนาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต 2. ใบงานที่ 4 3. แบบทดสอบหลังเรียน 4. ใบความรู้ หลักฐานการเรียนรู้ 1. บันทึกการสอน 2. ใบเช็ครายชื่อ 3. แผนจัดการเรียนรู้ 4. การตรวจประเมินผลงาน การวัดผลและประเมินผล ก่อนเรียน 1. สังเกตจากการตอบคำถามก่อนเข้าสู่บทเรียน ขณะเรียน 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. การนำเสนอผลงาน 3. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 4 หลังเรียน 1. แบบทดสอบหลังเรียน เครื่องมือประเมิน 1. แบบทดสอบ 2. ใบกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์ 2. แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม กิจกรรมการเรียนการสอนหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขั้นตอนการเรียนรู้หรือกิจกรรมของนักเรียน ขั้นเตรียม 1. แบ่งนักเรียนเป็น 3 กลุ่ม 2. มอบหมายให้หัวหน้ากลุ่มสำรวจสมาชิก 3. นักศึกษาที่เป็นหัวหน้ากลุ่มรายงานสมาชิก ในกลุ่ม 1. จัดกลุ่มในชั้นเรียน 3 กลุ่ม 2. นักศึกษาที่เป็นหัวหน้ากลุ่มรายงานสมาชิกใน กลุ่ม 3. ตัวแทนของห้องออกมานำเพื่อนอบอุ่น ร่างกาย ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ
4. ครูซักถามความรู้เดิมเบื้องต้นในชั่วโมงที่แล้ว ขั้นสอน (ขั้นอธิบายและสาธิต) 1. ครูอธิบายความรู้เกี่ยวกับการวาดรูป การ ประดิษฐ์สิ่งของ และการปั้น 2. ครูอธิบายใบกิจกรรมการทำงานในกลุ่ม พร้อมยกตัวอย่าง 3. มอบหมายงานและคอยแนะนำ 1. ผู้เรียนฟังครูอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ขั้นฝึกปฏิบัติ 1. ครูให้แต่ละกลุ่มรับใบความรู้จากคุณครู 1. รับใบความรู้จากคุณครู 1. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดและปฏิบัติ กิจกรรมตามที่ได้รับมอบหมาย ขั้นนำไปใช้ 1. ตัวแทนกลุ่มนำเสนอผลงาน 2. นำผลงานแต่ละคนส่งครู กลุ่มแล้ว 1. แต่ละกลุ่มปฏิบัติกิจกรรมแล้วช่วยกัน วิเคราะห์ 2. ผู้เรียนนำผลงานมานำเสนอ 3. แต่ละกลุ่มช่วยกันวิเคราะห์กิจกรรมในการ นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 4. นักศึกษาทำใบกิจกรรมหน่วยที่ 4 ขั้นสรุป 1. ผู้เรียนและครูร่วมกันระดมความคิดเห็นสรุป เกี่ยวกับกิจกรรมการวาดรูป การประดิษฐ์ สิ่งของและการปั้น 2. นักศึกษาทำแบบทดสอบหลังเรียน 3. ครูสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม เช่น ความ ซื่อสัตย์สุจริต ความสามัคคี ความมีน้ำใจเป็น นักกีฬา ความอดทน เป็นต้น 4. นัดหมายและชี้แจงเกณฑ์การประเมินใน ชั่วโมงต่อไป 1. ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน สื่อการเรียนการสอน/การเรียนรู้ สื่อสิ่งพิมพ์ 1. หนังสือเรียน 2. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 4 3. แบบทดสอบหลังเรียน 4. ใบความรู้ สื่อโสตทัศน์ (ถ้ามี) -
สื่อของจริง - แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา 1. ห้องสมุด 2. หนังสือเรียน นอกสถานศึกษา 1. อินเทอร์เน็ต การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กับวิชาอื่น - การประเมินผลการเรียนรู้ • หลักการประเมินผลการเรียนรู้ รายละเอียดการประเมินผลการเรียนรู้ 1. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 1 1.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 1.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 2. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 2 2.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 2.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 3. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 3 3.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 3.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 4. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 4 4.1 ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ก่อนเรียน 1. สังเกตจากการตอบคำถามก่อนเข้าสู่บทเรียน ขณะเรียน 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. การนำเสนอผลงาน 3. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 4 หลังเรียน 1. แบบทดสอบหลังเรียน ผลงาน/ชิ้นงาน/ผลสำเร็จของผู้เรียน 1. การนำเสนอผลงาน 2. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 4 3. แบบทดสอบหลังเรียน
ใบความรู้หน่วยที่ 4 ศิลปหัตถกรรม 1. ความหมายของการวาดภาพ 1.1 หลักการ ขั้นตอนวิธีการวาดรูป ผู้ที่เริ่มฝึกหัดวาดเขียนใหม่ๆ มักมีปัญหาว่าจะเขียนอะไรก่อนและเขียนอย่างไร ทั้งนี้เพราะสิ่งที่เป็น แบบในการวาดเขียนนั้นมีหลายประเภทและมีส่วนของราย ละเอียดต่างๆมากมาย จนไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร สิ่งที่มองเห็นไม่ว่าจะเป็นรูปทรง แสง เงา และพื้นผิว ชนิดต่างๆ ก่อให้เกิดความซับซ้อนจนผู้ที่ฝึกวาดเขียน มองเห็นว่ายากเกินไปที่จะจับลักษณะสำคัญได้ ลำดับขั้นตอนในการร่างภาพ 1. สังเกตลักษณะของภาพ 2. ร่างภาพโครงสร้างสัดส่วนให้เหมาะสมกับหน้ากระดาษ วิธีการร่างภาพโครงสร้าง-สัดส่วน มีวิธีการดังนี้ 2.1 ให้ลากเส้นตรงในแนวดิ่งหนึ่งเส้น 2.2 จากนั้นกำหนดส่วนสูงที่สุดของหุ่นและส่วนที่ต่ำที่สุดของหุ่นโดยการลากเส้นใน แนวนอนให้ตั้งฉากกับเส้นดิ่ง 2.3 กำหนดความกว้างของหุ่นโดยประมาณ แล้วกำหนดสัดส่วนให้เท่ากัน 2.4 เมื่อกำหนดโครงสร้างรวมของหุ่นแล้ว จากนั้นให้เขียนเส้นโค้ง เส้นเว้า เพื่อให้ โครงสร้างใกล้เคียงหุ่นมากที่สุด 3. ลงน้ำหนักรวมๆของหุ่น 4 .แรงน้ำหนักพร้อมทั้งเก็บรายละเอียด เมื่อได้สังเกตและฝึกฝนการวาดเส้นจนชำนาญ จะสามารถมองเห็นภาพแสงเงาที่เกิดขึ้นใน ธรรมชาติได้ง่ายและชัดเจนขึ้น ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์ ถ่ายทอดความรู้สึกที่ท่านมีต่อสิ่งที่พบ เห็นเบื้องหน้าของท่านออกมาเป็นงานศิลปะ เรียกได้ว่า มีสายตาศิลปะและเป็นศิลปินได้ 1.2 เทคนิคการฝึกความแม่นยำในการวาดรูป 1. การขีดเส้นตรงในแนวนอนและแนวตั้งให้เส้นมีชองไฟเท่าๆกัน 2. การขีดเส้นตรงให้ลงน้ำหนักมือและผ่อนลงไปจะได้เส้นที่มีลักษณะคล้ายดาวตก 3.การขีดเส้นตาข่ายให้ช่องไฟเท่ากันในทุกทิศทาง 4. การไล่น้ำหนักเงาจากอ่อนไปหาแก่และจากแก่ไปหาอ่อน 5. การลากเส้นเป็นเลขแปดอย่างต่อเนื่อง 2. การประดิษฐ์สิ่งของ 2.1ความสำคัญและประโยชน์ของงานประดิษฐ์ 1. ฝึกให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ สร้างผลงานให้มีรูปร่างแปลกใหม่และพัฒนางาน ประดิษฐ์เดิมให้สามารถใช้ประโยชน์ขึ้น
2. งานประดิษฐ์ที่ใช้วัสดุต่าง ๆ ที่นำมาประกอบกันเป็นชิ้นงาน สามารถใช้วัสดุอื่นทดแทน กันได้ และสามารถนำวัสดุที่มีในท้องถิ่น มาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ 3. ฝึกให้รู้จักการวางแผนทำงานอย่างเป็นระบบ เป็นขั้นตอนการปฏิบัติเป็นการสร้างระเบียบ วินัยให้ตนเอง และมีนิสัยรักในงานประดิษฐ์ 4. ให้นักเรียนรู้จักใช้และดูแลรักษาเครื่องมือในงานประดิษฐ์อย่างถูกต้องและเหมาะสมกับ ประเภทของงานประดิษฐ์ 5. ฝึกการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ สามารถทำงานได้อย่างมีสมาธิและมีความสุข ในการ สร้างสรรค์ชิ้นงานประดิษฐ์ของตนเอง 6. ฝึกให้นักเรียนรู้จักประหยัด สามารถนำสิ่งของที่เหลือใช้มาทำให้เกิดประโยชน์มากที่สุด โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการลงทุนมากนัก 7. เป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น ให้มีการสืบทอดและพัฒนาต่อไปจากภูมิปัญญา เดิมสู่การเรียนรู้ที่มากขึ้นและเป็นผลงานของคนไทย 8. สามารถเพิ่มพูนรายได้ให้กับผู้ประดิษฐ์ โดยการนำออกไปจำหน่ายในโอกาสต่าง ๆและ สร้างเป็นอาชีพได้ในอนาคต 9. เกิดความภาคภูมิใจในชิ้นงานของตนเอง ทำให้ผู้อื่นยอมในความสามารถของตนเองใน ระดับหนึ่ง 2.2ลักษณะของงานประดิษฐ์ 1. งานประดิษฐ์ทั่วไป เป็นงานประดิษฐ์ที่ไม่มีความเป็นมาจากบรรพบุรุษหรือท้องถิ่น กล่าวคือเป็นงาน ประดิษฐ์ที่บุคคลทั่วไป สามารถเรียนรู้และนำไปประดิษฐ์ได้โดยอาศัยการศึกษาจากตำรา เช่นดอกไม้จากเศษ วัสดุเหลือใช้ หมวก ตุ๊กตา เครื่องใช้ต่าง ๆ 2. งานประดิษฐ์ที่เป็นเอกลักษณ์ไทย เป็นงานประดิษฐ์ที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษหรืองานประดิษฐ์ที่มีเฉพาะในท้องถิ่น นั้น ๆ โดยส่วนมากจะเป็นการสืบทอดจากผู้ใหญ่ในครอบครัวมาสู่ลูกหลานงานประดิษฐ์หลายอย่างทำขึ้นเพื่อ งานประเพณีทางเช่น พานพุ่ม มาลัย เครื่องแขวนบายศรี และบางอย่างก็ทำขึ้นเพื่อความสวยงาม สนุกสนาน ภายในครอบครัว เช่นว่าวไทย รถลาก ตุ๊กตา 2.3ประเภทของงานประดิษฐ์ งานประดิษฐ์ต่าง ๆ เราสามารถเลือกชิ้นงานประดิษฐ์ได้ตามประโยชน์ หรือความต้องการใช้ สอยในโอกาสต่าง ๆ ซึ่งสามารถแบ่งประเภทของงานประดิษฐ์ตามโอกาสใช้สอยดังนี้ 1. ประเภทงานประดิษฐ์เครื่องเล่น งานประดิษฐ์เครื่องเล่นส่วนใหญ่จะเป็นการเรียนรู้และ ฝึกฝนจากผู้ใหญ่มาสู่ลูกหลานในบ้าน และมีการแพร่กระจายจากเพื่อนมาสู่เพื่อน เช่นการประดิษฐ์ตุ๊กตา ว่าว และรถลาก 2. ประเภทเครื่องใช้ งานประดิษฐ์เครื่องใช้เป็นชิ้นงานที่ทำขึ้นเพื่อความสะดวกสบายและ เป็นเครื่องทุ่นแรงในการดำเนินชีวิต หรือประกอบอาชีพในชีวิตประจำวัน เช่นเสื้อผ้า แจกัน หมวก ตะกร้า กระจาดและเข่ง
3. ประเภทเครื่องตกแต่ง งานประดิษฐ์ตกแต่ง ทำขึ้นเพื่อความสวยงามและเป็นสิ่งประดิษฐ์ ใช้กับบ้านเรือน นอกจากนี้บางชิ้นงานสามารถนำมาใช้ในด้านการใช้สอยได้ เช่นกรอบรูป โคมไฟ ภาพวาด งาน แกะสลัก ประเภทเครื่องใช้ในพิธี ทำขึ้นเพื่อใช้ในพิธีทางศาสนา ในช่วงโอกาสต่าง ๆ และงานประเพณีสำคัญ เช่นงาน ลอยกระทง งานวันเข้าพรรษา ออกพรรษา งานศพ งานประดิษฐ์เครื่องใช้ เช่น พานพุ่ม มาลัย บายศรี การจัด ดอกไม้ในงานศพ 2.4 หลักการทำงาน ในการทำงานประดิษฐ์เพื่อให้ได้ผลงานตามจุดหมายที่กำหนดไว้ ควรยึดหลักในการทำงาน ประดิษฐ์ดังต่อไปนี้ 1. ศึกษารายละเอียดของงานที่จะนำมาประดิษฐ์ให้เข้าใจ ค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ รูปแบบต่าง ๆ ของงานและเลือกทำสิ่งประดิษฐ์ให้เหมาะสมความรู้ ความสามารถของตนเอง และเป็นสิ่งที่ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวันได้ 2. วางแผนการทำงาน กำหนดขั้นตอนการทำงานให้สะดวก รวดเร็ว ประหยัดเวลา แรงงาน ค่าใช้จ่ายและออกแบบรายละเอียดวิธีการประดิษฐ์ไว้ให้ครบถ้วน เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติงาน 3. การจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ที่จะใช้ในการทำงานประดิษฐ์ไว้ให้ครบถ้วนและใช้ให้เหมาะสม กับการที่ออกแบบไว้ โดยทั่วไปการเลือกวัสดุมาใช้ในงานประดิษฐ์ นิยมเลือกใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่น หรือวัสดุ ที่มีอยู่ภายในบ้านซึ่งหาง่าย มีราคาถูก 4. ลงมือปฏิบัติงานตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ ขณะที่ทำการประดิษฐ์ เมื่อเกิดปัญหาไม่ควร ท้อถอย ควรปรึกษาครูหรือผู้ที่มีความสามารถ และควรพยายามตั้งใจปฏิบัติงานต่อไปจนกว่างานจะสำเร็จ 2.5การออกแบบงานประดิษฐ์ การออกแบบ หมายถึงการแสดงความคิด การวางแผน เพื่อกำหนดรูปแบบผลงานที่ต้องการก่อน ทำงานประดิษฐ์ โดยการร่างภาพเขียนด้วยดินสอและไม้บรรทัดเท่านั้น การออกแบบมีความสำคัญมากเพราะ ผู้ออกแบบต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์การดัดแปลง แก้ผลงาน ให้มีรูปร่างแปลกใหม่ การออกแบบที่ดีจะช่วยให้ การทำงานได้สะดวกรวดเร็วขึ้นผลงานสำเร็จตรงตามต้องการไม่มีผิดพลาด 3. การปั้น 3.1ความหมายการปั้น การปั้นหมายถึงการนำเอาวัสดุที่มีเนื้ออ่อน เช่น ขี้ผึ้ง ดินเหนียว ดินน้ำมีมัน ที่สามารถเปลี่ยนรูป ได้ มาผ่านกระบวนการในการเพิ่มวัสดุให้เกิดเป็นรูปทรงตามต้องการ โดยใช้มือและวัสดุอุปกรณ์ชนิดต่าง ๆ ช่วยในการสร้างงานปั้น นอกจากนี้ งานปั้นยังเป็นงานศิลปะที่สามารถสัมผัสกับส่วนตื้น ลึก หนา บางได้ ตามความเป็นจริง ไม่เหมือนงานจิตรกรรมที่มีลักษณะเป็น 2 มิติ ที่ผู้ชมจะสัมผัสกับความตื้นลึก หนา หรือ บางได้จากความรู้สึกเท่านั้น 3.2ความเป็นมาของการปั้น การปั้นมีประวัติความเป็นมาพร้อม ๆ กับงานจิตรกรรมที่ปรากฏเป็นหลักฐานขึ้นในแต่ละภูมิภาค ของโลก โดยเฉพาะในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ ในยุคหินเก่ามนุษย์เริ่มรู้จักการขูดขีดจากนั้นจึงพัฒนามาเป็น
การแกะสลักตกแต่งสิ่งต่าง ๆ ให้สวยงามเช่นการสร้างอาวุธและเครื่องมือเพื่อการดำรงชีวิต ต่อมาได้นำวิธีการ เหล่านี้มาใช้ในการสร้างงานประเภทประติมากรรม 3.3ประเภทของการปั้น 1. การปั้นแบบลอยตัว (Round - relief) การปั้นแบบลอยตัว เป็นการปั้นที่สามารถ มองเห็นได้ทุกด้านโดยรอบ ปกติจะมีฐานอยู่เพื่อให้ตั้งกับพื้นได้ พบเห็นมากในการสร้างอนุสาวรีย์ และรูป เคารพต่าง ๆ ลักษณะการปั้นมีทั้งขนาดเท่าของจริง และใหญ่กว่าของจริง แต่ที่สำคัญจะต้องยึดถือความ เหมือนต้นแบบให้มากที่สุด เช่น พระบรมรูปทรงม้า รูปปั้นศาสตราจารย์ศิลป พีระศรี เป็นต้น 2. การปั้นแบบนูนสูง (High - relief) การปั้นแบบนูนสูง เป็นการปั้นที่มีแผ่นหลัง รองรับและมีส่วนที่นูนสูงขึ้น มาจากแผ่นพื้นหลังมากกว่าปั้นนูนต่ำความนูนสูงของรูปปั้นนูนสูงจะแตกต่างกัน ไปมากบ้าง น้อยบ้างตามจุดประสงค์ของการปั้นนั้น ๆ การสร้างสรรค์งานปั้นแบบนูนสูงนี้จะต้องให้เกิด ความงามทางด้านหน้าและด้านข้าง เช่น รูปปั้นบริเวณฐานของอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รูปปั้นนูนสูงประดับ ฝาผนังต่าง ๆ เป็นต้น 3. การปั้นแบบนูนต่ำ (Low - relief) การปั้นแบบนูนต่ำ เป็นการปั้นที่จะต้องมีแผ่น หลังรองรับและนูนสูงขึ้นมาจากพื้นเพียงเล็กน้อย มองเห็นเพียงด้านหน้าเพียงด้านเดียว การสร้างสรรค์งาน ปั้นแบบนูนต่ำนี้จะต้องทำให้เกิดความงามเฉพาะด้านหน้าเท่านั้น เช่น เหรียญบาท เหรียญตรา เหรียญรูป พระ เป็นต้น
ใบกิจกรรม หน่วยที่ 4 ศิลปหัตถกรรม คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. การวาดภาพ หมายถึงอะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. ลำดับขั้นตอนในการร่างภาพ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. การจับดินสอมีอยู่กี่อย่าง อะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. ลักษณะของงานประดิษฐ์ แบ่งออกเป็นกี่ประเภท ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. จงอธิบายการปั้น 3 ประเภท ต่อไปนี้ 5.1 การปั้นแบบลอยตัว ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5.2 การปั้นแบบนูนสูง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5.3 การปั้นแบบนูนต่ำ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ศิลปหัตถกรรม คำสั่ง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดเป็นอุปกรณ์ในการวาดภาพ ก. ดินสอ EE + มีดคัทเตอร์ ข. กระดาษปรู๊ฟ ค. ยางลบ ง. ไม้บรรทัด จ. ถูกทุกข้อ 2. การจับดินสอแบบใด ใช้สำหรับเก็บรายละเอียดของงาน ก. แบบเขียนหนังสือ ข. จับแบบหลวม ค. แบบใช้ทุกนิ้วสัมผัส ง. จับแบบคว่ำมือ จ. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ 3. ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของงานประดิษฐ์ ก. เกิดความคิดริเริ่ม ข. สามารถทำได้เหมือนจริง ค. อนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ง. ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ จ. สามารถเพิ่มพูนรายได้ให้กับผู้ประดิษฐ์ 4. ข้อใดเป็นงานประดิษฐ์เครื่องใช้ ก. รถลากของเด็ก ข. หมอก ค. โคมไฟ ง. พานพุ่ม จ. ตุ๊กตา 5. ข้อใดเป็นงานประดิษฐ์เครื่องตกแต่ง ก. ตุ๊กตา ข. ตะกร้า ค. กรอบรูป ง. บายศรี จ. โคมไฟ 6. ข้อใดเป็นหลักการออกแบบ ก. ความสมดุล ข. สัดส่วน ค. ความกลมกลืน ง. ความแตกต่าง จ. ถูกทุกข้อ 7. ข้อใดเป็นหลักการทำงานประดิษฐ์ ก. วางแผนการทำงาน ข. การเตรียมวัสดุอุปกรณ์ ค. ศึกษารายละเอียดของงาน ง. ปฏิบัติงานตามขั้นตอน จ. ถูกทุกข้อ 8. ลักษณะ 3 มิติของการปั้น คือข้อใดบ้าง ก. มีความกว้าง ข. มีความยาว ค. มีความหนา ง. ถูกทุกข้อ จ. ไม่มีข้อใดถูก แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 4
9. ข้อใดไม่ใช่ประเภทของการปั้น ก. ปั้นแบบ 3 มิติ ข. ปั้นแบบลอยตัว ค. ปั้นแบบนูนสูง ง. ปั้นแบบนูนต่ำ จ. ปั้นแบบหนา 10. จากคำตอบข้อ 9 รูปปั้นพระบรมรูปทรงม้า คือข้อใด ก. ปั้นแบบ 3 มิติ ข. ปั้นแบบลอยตัว ค. ปั้นแบบนูนสูง ง. ปั้นแบบนูนต่ำ จ. ปั้นแบบหนา