The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชานันทนาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Ongaat1991kaewkhiew, 2024-05-23 23:33:08

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชานันทนาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชานันทนาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต

แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง…………… รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน 2 การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรับปรุงงาน รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… วันที่…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์การให้คะแนน 1. การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายการทำงานอย่างชัดเจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 2. การหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียมสถานที่ สื่อ / อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง ยึดหลักความประหยัด 2 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง แต่ไม่ตรงตามความสามารถ และมีสื่อ /อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง แต่ขาด การจัดเตรียมสถานที่และไม่ยึดหลักความประหยัด 1 คะแนน = กระจายงานไม่ทั่วถึงและมีสื่อ /อุปกรณ์ไม่เพียงพอ และไม่ยึดหลักความประหยัด 3. การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย และตามเวลาที่กำหนด มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 2 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย แต่ช้ากว่าเวลาที่กำหนด ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 1 คะแนน = ทำงานไม่สำเร็จตามเป้าหมาย และไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็นระยะ มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมปรึกษาหารือ แต่ไม่ปรับปรุงงาน ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง 1 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมไม่มีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง


แบบประเมินผลการนำเสนอผลงาน ชื่อกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง................................................ รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจน (ความรู้เกี่ยวกับเนื้อหา ความ ถูกต้อง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการนำเสนอ 3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 4 บุคลิกลักษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น้ำเสียง ซึ่งทำให้ผู้ฟังมี ความสนใจ รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจนถูกต้อง 3 คะแนน = มีสาระสำคัญครบถ้วนถูกต้อง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคัญไม่ครบถ้วน แต่ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคัญไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการนำเสนอที่เหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ นำเสนอที่น่าสนใจ นำวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่าและประหยัด 2 คะแนน = มีเทคนิคการนำเสนอที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอที่น่าสนใจ แต่ขาด การ ประยุกต์ใช้ วัสดุในท้องถิ่น 1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม และไม่น่าสนใจ 3. การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกว่าร้อยละ 90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70-90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังน้อยกว่าร้อยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมือ


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ชื่อ……………………………………………………………ชั้น………………เลขที่...........แผนก................................................. คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. ซื่อสัตย์ สุจริต ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 2. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ 3. รับผิดชอบ มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 4. มุ่งมั่นในการทำงาน มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 5. ใฝ่เรียนรู้ รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และนำไปปฏิบัติได้ 6. มีจิตสาธารณะ รู้จักช่วยงานเพื่อนและครูทำงาน 7. มีความสุภาพ มีความสุภาพ อ่อนน้อม รู้จักกาลเทศะ มีมารยาทดี 8. มีจิตสาธารณะ รู้จักช่วยงานเพื่อนและครูทำงาน 9. มีความสามัคคี ความพร้อมเพรียง ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติงานจนบรรลุวัตถุประสงค์ ไม่ทะเลาะวิวาท 10. มีภาวะความเป็นผู้นำผู้ตาม ยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน รวม รวมคะแนนที่ได้ทั้งสิ้น 20 คะแนน (คะแนนที่ได้/2) สรุปผลประเมิน ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน ................/.............../................ เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ดีมาก พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ดี พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจน ให้ 2 คะแนน พอใช้ พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน น้อย


เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง


บันทึกหลังการสอน หน่วยที่ 6 นันทนาการทางสังคม ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนของนักเรียน ผลการสอนของครู ลงชื่อ.................................................. (นายองอาจ แก้วเขียว) ครูผู้สอน


แผนการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 หน่วยที่ 7 ชื่อวิชา นันทนาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต สอนสัปดาห์ที่ 13-15 ชื่อหน่วย ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คาบรวม 6 คาบ ชื่อเรื่อง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จำนวนคาบ 6 คาบ หัวข้อเรื่อง 1. ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียง 2. ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 3. แนวทางการดำเนินชีวิตตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สาระการเรียนรู้ 1. การทำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาวางแนวทางการดำเนินชีวิต 2. การสร้างธรรมาภิบาลในการบริหารงาน ด้านคุณธรรม จริยธรรม 1. มีความรับผิดชอบ 2. มีความตรงต่อเวลา 3. มีระเบียบวินัย สาระสำคัญ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหนึ่งในศาสตร์พระราชา ซึ่งเป็นพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระบรม-ชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เป็นปรัชญาที่ให้แนว ทางการดำเนินชีวิตแก่บุคคลในทุกด้าน โดยมีหลัก คือ การสามารถพึ่งพาตนเองได้บนความพอดีในทางสาย กลาง มีความพอประมาณ ความมีเหตุผลมีภูมิคุ้มกันตลอดจนใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ซึ่งถ้าทุก บุคคลรวมถึงองค์กรต่าง ๆ เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา ประยุกต์ใช้แล้ว ก็จะช่วยให้บุคคลและองค์กรสามารถพัฒนาตนไปในแนวทางที่ถูกต้อง เกิดความเข้มแข็ง สามารถพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน สมรรถนะอาชีพประจำหน่วย 1. วางแผนดำเนินชีวิตอย่างมีคุณธรรม จริยธรรมและจิตสาธารณะสอดคล้องตามหลักของปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1. ซื่อสัตย์สุจริต 2. มีวินัย 3. แสวงหาความรู้ 4. อยู่อย่างพอเพียง


5. มุ่งมั่นการทำงาน จุดประสงค์การสอน / การเรียนรู้ • จุดประสงค์ทั่วไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. มีคุณธรรม จริยธรรม จิตสาธารณะและหลักการในการดำเนินชีวิตสอดคล้องตามหลักของปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. บอกความหมายของเศรษฐกิจพอเพียงได้ 2. บอกลักษณะของ 3 ห่วง 2 เงื่อนไขได้ 3. บอกแนวทางการดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงได้ 4. บอกการสร้างธรรมาภิบาลสู่การบริหารงานในองค์กรได้ 5. มีภูมิคุ้มกัน รอบรู้ ความมีวินัย ความเป็นระเบียบ ละเอียดรอบคอบ ความอดทน รับผิดชอบใน การปฏิบัติงาน และ มีเจตคติทีดีต่อการเรียน กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียม 1. แบ่งนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม 2. มอบหมายให้หัวหน้ากลุ่มสำรวจสมาชิก 3. นักศึกษาที่เป็นหัวหน้ากลุ่มรายงานสมาชิกในกลุ่ม 4. ครูถามผู้เรียนว่า “ เศรษฐกิจพอเพียงในความคิดของผู้เรียน คืออะไร ? ” ผู้เรียนอาจจะ ตอบว่า เป็นการดำรงชีวิตให้อยู่ในความพอดี พอประมาณ ไม่ฟุ้มเฟือย / เป็นการดำรงชีวิตประจำวันให้อยู่บน ความพอประมาณ รู้จักการอดออมและการวางแผนในอนาคต หรืออาจจะเป็นคำตอบอื่นๆ (ขึ้นอยู่กับดุลย พินิจของผู้สอน) ขั้นสอน (ขั้นอธิบายและสาธิต) 1. ครูอธิบายว่า หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหนึ่งศาสตร์พระราชา ศาสตร์พระราชา คือ หลักในการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากษัตริย์นักพัฒนา ซึ่งศาสตร์พระราชามีแนวทางในการมุ่งพัฒนาเพื่อความยั่งยืนและมั่นคง โดยอยู่บน แนวพระราชดำาริ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” อย่างแท้จริงซึ่งเป็นการดำเนินงานในลักษณะทางสายกลางที่ สอดคล้องกับวิถีชีวิตของสังคมไทย และสามารถปฏิบัติได้จริงแนวพระราชดำริ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ทรงยึดถือมาตลอด ระยะเวลา 70 ปี แห่งการครองราชย์ ขั้นฝึกปฏิบัติ 1. ครูให้ตัวแทนออกมารับใบความรู้และใบกิจกรรม 2. นักศึกษาแต่ละกลุ่มระดมความคิดและปฏิบัติกิจกรรมตามที่ได้รับมอบหมาย ขั้นนำไปใช้ 1. แต่ละกลุ่มระดม สมองและศึกษาข้อมูล 2. นำเสนอผลงาน 3. นักศึกษาทำใบกิจกรรมหน่วยที่ 7


ขั้นสรุป 1. ผู้เรียนและครูร่วมกันระดมความคิดเห็นสรุปหลังการทำกิจกรรม 2. นักศึกษาทำแบบทดสอบหลังเรียน 3. ครูสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต ความสามัคคี ความมีน้ำใจ เป็นนักกีฬา ความอดทน เป็นต้น 4. นัดหมายและชี้แจงเกณฑ์การประเมินในชั่วโมงต่อไป การบูรณาการกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความพอประมาณ 1.1 แสดงความรู้เกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สามารถพึ่งพาตนเองได้บนความพอดี ในทางสายกลาง 2. ความมีเหตุผล 2.1 เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา ประยุกต์ใช้แล้ว ก็จะช่วยให้บุคคลและองค์กรสามารถพัฒนาตนไปในแนวทางที่ถูกต้อง 3. การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี 3.1 เกิดความเข้มแข็ง สามารถพร้อมรับต่อการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพและมี การพัฒนาอย่างยั่งยืน 4. เงื่อนไขความรู้ 4.1 ทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม 4.2 มีความรู้ในเรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 4.3 ทักษะชีวิตในกิจกรรมการสืบค้นข้อมูล 5. เงื่อนไขคุณธรรม 5.1 ความสามัคคี 5.2 ช่วยเหลือแบ่งปัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ 5.3 มีวินัย ตรงต่อเวลาความรับผิดชอบ 5.4 ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีจิตอาสา การวัดและประเมินผล วิธีวัดผล 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม 3. การนำเสนอผลงาน 4. ตรวจใบงาน 5. ตรวจแบบทดสอบ


เครื่องมือวัดผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม 3. แบบประเมินผลการนำเสนอผลงาน 4. แบบประเมินกิจกรรมใบงาน 5. แบบทดสอบ เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม 3. นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์ 4. แบบประเมินกิจกรรมใบงานมีเกณฑ์ผ่าน 50% สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน รหัส 30000-1610 นันทนาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต 2. ใบงานที่ 7 3. แบบทดสอบหลังเรียน 4. ใบความรู้ หลักฐานการเรียนรู้ 1. บันทึกการสอน 2. ใบเช็ครายชื่อ 3. แผนจัดการเรียนรู้ 4. การตรวจประเมินผลงาน การวัดผลและประเมินผล ก่อนเรียน 1. สังเกตจากการตอบคำถามก่อนเข้าสู่บทเรียน ขณะเรียน 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. การนำเสนอผลงาน 3. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 7 หลังเรียน 1. แบบทดสอบหลังเรียน เครื่องมือประเมิน 1. แบบทดสอบ 2. ใบกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์


2. แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม กิจกรรมการเรียนการสอนหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขั้นตอนการเรียนรู้หรือกิจกรรมของนักเรียน ขั้นเตรียม 1. แบ่งนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม 2. มอบหมายให้หัวหน้ากลุ่มสำรวจสมาชิก 3. ครูซักถามความรู้เดิมเบื้องต้นในชั่วโมงที่แล้ว 4. ครูถามผู้เรียนว่า “ เศรษฐกิจพอเพียงใน ความคิดของผู้เรียน คืออะไร ? ” 1. จัดกลุ่มในชั้นเรียน 4 กลุ่ม 2. นักเรียนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มรายงานสมาชิกใน กลุ่ม 3. นักเรียนช่วยกันตอบคำถามที่ครูถาม ขั้นสอน (ขั้นอธิบายและสาธิต) 1. ครูอธิบายหัวข้อ หลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง 1. ผู้เรียนฟังครูอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจ ขั้นฝึกปฏิบัติ 1. ครูให้ตัวแทนออกมารับใบความรู้และใบ กิจกรรม 2. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดและ ปฏิบัติกิจกรรมตามที่ได้รับมอบหมาย 3. ครูแนะนำให้คำปรึกษาในการทำงาน 1. รับใบความรู้จากคุณครู 2. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดและปฏิบัติ กิจกรรมตามที่ได้รับมอบหมาย ขั้นนำไปใช้ 1. ให้แต่ละกลุ่มระดม สมองและศึกษาข้อมูล 2. ให้นักเรียนนำเสนอผลงาน 3. ให้นักเรียนทำใบกิจกรรมหน่วยที่ 7 1. แต่ละกลุ่มปฏิบัติกิจกรรมแล้วช่วยกัน วิเคราะห์ 2. ผู้เรียนนำเสนอผลงาน 3. แต่ละกลุ่มช่วยกันวิเคราะห์กิจกรรมในการ นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 4. นักศึกษาทำใบกิจกรรมหน่วยที่ 7 ขั้นสรุป 1. ผู้เรียนและครูร่วมกันระดมความคิดเห็นสรุป เกี่ยวกับนันทนาการทางสังคม 2. นักศึกษาทำแบบทดสอบหลังเรียน 3. นัดหมายและชี้แจงเกณฑ์การประเมินใน ชั่วโมงต่อไป 1. ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน


สื่อการเรียนการสอน/การเรียนรู้ สื่อสิ่งพิมพ์ 1. หนังสือเรียน 2. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 7 3. แบบทดสอบหลังเรียน 4. ใบความรู้ สื่อโสตทัศน์ (ถ้ามี) - สื่อของจริง - แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา 1. ห้องสมุด 2. หนังสือเรียน นอกสถานศึกษา 1. อินเทอร์เน็ต การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กับวิชาอื่น - การประเมินผลการเรียนรู้ • หลักการประเมินผลการเรียนรู้ รายละเอียดการประเมินผลการเรียนรู้ 1. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 1 1.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 1.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 2. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 2 2.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 2.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 3. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 3 3.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 3.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 4. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 4 4.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 4.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 5. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 5 5.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 5.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม


ก่อนเรียน 1. สังเกตจากการตอบคำถามก่อนเข้าสู่บทเรียน ขณะเรียน 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. การนำเสนอผลงาน 3. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 7 หลังเรียน 1. แบบทดสอบหลังเรียน ผลงาน/ชิ้นงาน/ผลสำเร็จของผู้เรียน 1. การนำเสนอผลงาน 2. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 7 3. แบบทดสอบหลังเรียน


ใบความรู้หน่วยที่ 7 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียงและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักปรัชญาที่สามารถเป็นได้ทั้งหลักในการดำเนินชีวิตของทุกคนใน สังคม และเป็นหลักในการบริหารประเทศไปพร้อม ๆ กัน โดยเศรษฐกิจพอเพียงนั้น มีความหมายถึงความ พอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว รวมถึงการนำหลักวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการ วางแผนและการดำเนินงานในแต่ละขั้นตอนนั้น จำเป็นที่จะต้องใช้ความรอบรู้ รอบคอบ และความระมัดระวัง อย่างที่สุด ในขณะเดียวกันการทำให้ทุกคนในชาติมีจิตสำนึกในคุณธรรม และความซื่อสัตย์สุจริต ก็เป็นสิ่งที่ จำเป็นที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ คนทุกระดับชั้นจะต้องมีความรอบรู้ที่เหมาะที่ควร โดยใช้หลักความอดทน เพียรพยายาม สติปัญญา และความรอบคอบในการดำเนินชีวิต มีการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลและพร้อมเสมอ สำหรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นทั้งด้านวัตถุ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม 2. ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง “คำนิยาม” ว่าความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 ห่วง และ 2 เงื่อนไข 3 ห่วง 1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดย ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่น การผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ 2. ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไป อย่างมีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ 3. การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการ เปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นใน อนาคตทั้งใกล้และไกล 2 เงื่อนไข การตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้น ต้องอาศัยทั้งความรู้ และคุณธรรมเป็นพื้นฐาน กล่าวคือ 1. เงื่อนไขความรู้ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบ ด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกัน เพื่อประกอบการวางแผนและ ความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ 2. เงื่อนไขคุณธรรม ที่จะต้องเสริมสร้าง ประกอบด้วย มีความตระหนักในคุณธรรม มีความชื่อสัตย์สุจริต และมีความอดทน มีความพากเพียร ใช้สติปัญญาในการดำเนินชีวิต แนวทางปฏิบัติ/ผลที่ คาดว่าจะได้รับ จากการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ คือการพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อม รับต่อการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ความรู้ และเทคโนโลยี


3. แนวทางการดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาชี้ถึงแนวทางการดำรงชีวิตและปฏิบัติตนของประชาชน ทุกระดับ ตั้งแต่ ครอบครัว ชุมชน องค์กรธุรกิจ จนถึงระดับรัฐ ทั้งในการดำรงชีวิตประจำวัน การพัฒนาและ บริหารองค์กร ประเทศชาติ ให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาภาคธุรกิจเพื่อให้ก้าวหน้าทัน ต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเศรษฐกิจที่สามารถอุ้มชูตนเองได้ ให้มีความพอเพียงกับตัวเอง (Self Sufficiency) อยู่ได้โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้ตนเองและผู้อื่น ซึ่งต้องสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจของ ตนเองให้ดีก่อน มีความพอกิน พอใช้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ ย่อมสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าและฐานะ ทางเศรษฐกิจของประเทศได้ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวปรัชญาที่ทุกคนหรือทุกองค์กรธุรกิจ สามารถนำไป ปฏิบัติในชีวิตประจำวันได้ ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน หัวหน้างาน ผู้บริหารระดับกลาง ระดับสูง สามารถนำปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพียงดังกล่าวไปปฏิบัติ เพื่อดำรงชีวิตและพัฒนาธุรกิจการค้าได้อย่างจริงจัง


ใบกิจกรรม หน่วยที่ 7 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร อธิบายมาพอสังเขป ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. การนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. หลักการพื้นฐานของการสร้างธรรมาภิบาลมีกี่องค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่อะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. การปฏิบัติตนตามแนวทางของเศรษฐกิจพอเพียง มีประโยชน์ต่อครอบครัวอย่างไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ประโยชน์ที่องค์กรธุรกิจจะได้รับจากการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร ระบุมา 4 ข้อ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………


การวางแผนชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คำสั่ง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดไม่อยู่ใน 3 ห่วง ของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก. พอประมาณ ข. มีเหตุผล ค. มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ง. มีความรู้คู่คุณธรรม จ. ข้อ ก. และ ข. ถูก 2. ข้อใดไม่อยู่ในเงื่อนไขความรู้ของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก. รอบคอบ ข. ระมัดระวัง ค. สติปัญญา ง. รอบรู้ จ. มีภูมิคุ้มกัน 3. ข้อใดเป็นเงื่อนไขคุณธรรมของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก. รอบรู้ ข. ระมัดระวัง ค. สติปัญญา ง. รอบคอบ จ. มีภูมิคุ้มกัน 4. Self Sufficiency คือข้อใด ก. ความพอเพียงกับตัวเอง ข. ปรัชญาพอเพียง ค. การเปลี่ยนแปลงในองค์กร ง. มีความรู้คู่คุณธรรม จ. ไม่มีข้อถูก 5. ข้อใดเป็นผลมาจากการนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต ก. คุณภาพชีวิตดีขึ้น ข. สุขภาพจิตดี ค. ร่างกายแข็งแรงขึ้น ง. มีเพื่อนมากขึ้น จ. มีความรู้มากขึ้น 6. บุคคลในข้อใด ได้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ก. นายเจสัน ปลูกผักไว้รับประทานเอง ข. นายแซม ซื้อผักปลอดสารพิษมารับประทาน ค. นายนนท์ เบิกเงินจากธนาคารไปใช้จ่ายในครอบครัว ง. นายนัด เก็บเงินอย่างเดียวไม่ยอมใช้จ่าย จ. นายแดง นำเงินไปลงทุนกับธุรกิจทั้งหมด 7. หลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการองค์กรคือข้อใด ก. ความรับผิดชอบ ข. ความโปร่งใส ค. การสร้างการมีส่วนร่วม ง. ความเห็นชอบร่วมกัน จ. ถูกทุกข้อ 8. การยึดสายกลางของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงคือข้อใด ก. มีความสมดุลพอเพียง ข. พอประมาณ แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 7


ค. มีเหตุผล ง. มีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี จ. ถูกทุกข้อ 9. ข้อใดสอดคล้องกับระบบพอเพียงของครอบครัว ก. ครอบครัวมีรากฐานดี ข. รู้จักใช้จ่ายเงินเฉพาะที่จำเป็น ค. มีคุณธรรมจริยธรรม ง. มีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี จ. ถูกทุกข้อ 10. สุขภาพดีตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงคือข้อใด ก. ภาวะทางกายดี ข. ภาวะทางจิตดี ค. ภาวะทางสังคมดี ง. ถูกทั้งข้อ ก. ข. และ ค. จ. ไม่มีข้อใดถูก


ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้ 1. ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร อธิบายมาพอสังเขป ตอบ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว รวมถึงการนำหลักวิชาการต่าง ๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินงานในแต่ละขั้นตอนนั้น จำเป็นที่จะต้องใช้ความรอบรู้ รอบคอบ และความ ระมัดระวังอย่างที่สุด ในขณะเดียวกันการทำให้ทุกคนในชาติมีจิตสำนึกในคุณธรรม และความซื่อสัตย์สุจริต ก็ เป็นสิ่งที่จำเป็นที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้ คนทุกระดับชั้นจะต้องมีความรอบรู้ที่เหมาะที่ควร โดยใช้หลักความ อดทน เพียรพยายาม สติปัญญา และความรอบคอบในการดำเนินชีวิต มีการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลและพร้อม เสมอสำหรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นทั้งด้านวัตถุ วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม 2. การนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร ตอบ มีความพอกิน พอใช้ สามารถพึ่งพาตนเองได้ ย่อมสามารถสร้างความเจริญก้าวหน้าและฐานะ เศรษฐกิจได้ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวปรัชญาที่ทุกคนนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ เพื่อการดำรงชีวิตและ พัฒนาธุรกิจการค้า การทำงานได้จริง 3. หลักการพื้นฐานของการสร้างธรรมาภิบาลมีกี่องค์ประกอบที่สำคัญ ได้แก่อะไรบ้าง ตอบ 1) หลักนิติธรรม 2) หลักความโปร่งใส 3) หลักการมีส่วนร่วม 4) หลักความรับผิดชอบตรวจสอบได้ 5) หลักความคุ้มค่า 6) หลักคุณธรรม 4. การปฏิบัติตนตามแนวทางของเศรษฐกิจพอเพียง มีประโยชน์ต่อครอบครัวอย่างไรบ้าง ตอบ - สมาชิกในครอบครัวอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข - ฐานะทางเศรษฐกิจภายในครอบครัวมีความพอกิน พอใช้ ไม่มีหนี้สิน และสามารถพึ่งพาตนเอง ได้ 5. ประโยชน์ที่องค์กรธุรกิจจะได้รับจากการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงคืออะไร ระบุมา 4 ข้อ ตอบ 1) พนักงานมีแนวทางในการปฏิบัติงานที่สมดุลและมีความสุขตามอัตภาพ 2) พนักงาน ครอบครัวใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่มีหนี้สิน บุตรหลานได้รับการศึกษาที่สูง 3) การอยู่ร่วมกันของพนักงานในองค์กรธุรกิจเกิดความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน ลดความแก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น 4) ภายในองค์กร ไม่มีปัญหาคอร์รัปชัน ทำให้องค์กรสามารถจัดสรรงบประมาณไปใช้ในการ พัฒนาองค์กรได้อย่างเต็มที่ 5) ผู้บริหารองค์กร ธุรกิจมีสุขภาพจิตที่ดี เนื่องจากมีความเพียงพอ มีความสันโดษ เฉลยใบกิจกรรมหน่วยที่ 7


6) ระหว่างแต่ละองค์กร ธุรกิจลดการแข่งขันเพื่อแบ่งแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดมาเป็นการสร้าง พันธมิตรทางการค้า 7) องค์กรธุรกิจเป็นองค์กรแห่งการสะสมทุนและระดมทุนเพื่อขยายฐานการผลิตโดยมองปัจจัย อย่างรอบด้าน 8) ระดับผู้บริหารในแต่ละส่วนงานมีความสามัคคี ไม่มีการแบ่งพรรคพวก ทำให้สามารถทำงาน ร่วมกันได้เป็นอย่างมีดี ส่งผลต่อประสิทธิภาพขององค์กรโดยรวม 9) พนักงานทุกคนในองค์กร ทำงานอย่างเต็มศักยภาพ เนื่องจากมีแรงจูงใจในการทำงาน เช่น ได้รับค่าตอบแทนตามศักยภาพ 10) องค์กรธุรกิจในประเทศไทยเจริญก้าวหน้าแม้ เศรษฐกิจโลกถดถอย เนื่องจากองค์กรธุรกิจ ในประเทศไทยมีภูมิคุ้มกัน จึงไม่ถดถอยตามกระแสโลก 11) องค์กรธุรกิจสามารถขับเคลื่อนตนเองไปได้อย่างต่อเนื่องในกระแสโลกาภิวัตน์


การวางแผนชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คำสั่ง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. ข้อใดไม่อยู่ใน 3 ห่วง ของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก. พอประมาณ ข. มีเหตุผล ค. มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ง. มีความรู้คู่คุณธรรม จ. ข้อ ก. และ ข. ถูก 2. ข้อใดไม่อยู่ในเงื่อนไขความรู้ของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก. รอบคอบ ข. ระมัดระวัง ค. สติปัญญา ง. รอบรู้ จ. มีภูมิคุ้มกัน 3. ข้อใดเป็นเงื่อนไขคุณธรรมของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ก. รอบรู้ ข. ระมัดระวัง ค. สติปัญญา ง. รอบคอบ จ. มีภูมิคุ้มกัน 4. Self Sufficiency คือข้อใด ก. ความพอเพียงกับตัวเอง ข. ปรัชญาพอเพียง ค. การเปลี่ยนแปลงในองค์กร ง. มีความรู้คู่คุณธรรม จ. ไม่มีข้อถูก 5. ข้อใดเป็นผลมาจากการนำแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต ก. คุณภาพชีวิตดีขึ้น ข. สุขภาพจิตดี ค. ร่างกายแข็งแรงขึ้น ง. มีเพื่อนมากขึ้น จ. มีความรู้มากขึ้น 6. บุคคลในข้อใด ได้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ ก. นายเจสัน ปลูกผักไว้รับประทานเอง ข. นายแซม ซื้อผักปลอดสารพิษมารับประทาน ค. นายนนท์ เบิกเงินจากธนาคารไปใช้จ่ายในครอบครัว ง. นายนัด เก็บเงินอย่างเดียวไม่ยอมใช้จ่าย จ. นายแดง นำเงินไปลงทุนกับธุรกิจทั้งหมด 7. หลักธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการองค์กรคือข้อใด ก. ความรับผิดชอบ ข. ความโปร่งใส ค. การสร้างการมีส่วนร่วม ง. ความเห็นชอบร่วมกัน จ. ถูกทุกข้อ 8. การยึดสายกลางของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงคือข้อใด เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 7


ก. มีความสมดุลพอเพียง ข. พอประมาณ ค. มีเหตุผล ง. มีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี จ. ถูกทุกข้อ 9. ข้อใดสอดคล้องกับระบบพอเพียงของครอบครัว ก. ครอบครัวมีรากฐานดี ข. รู้จักใช้จ่ายเงินเฉพาะที่จำเป็น ค. มีคุณธรรมจริยธรรม ง. มีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี จ. ถูกทุกข้อ 10. สุขภาพดีตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงคือข้อใด ก. ภาวะทางกายดี ข. ภาวะทางจิตดี ค. ภาวะทางสังคมดี ง. ถูกทั้งข้อ ก. ข. และ ค. จ. ไม่มีข้อใดถูก


แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ลำดับที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง ความ คิดเห็น การตอบ คำถาม การรับฟัง ความ คิดเห็น ทำงาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย รวม 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 20 ลงชื่อ……………………………….ผู้สังเกต (………………………….……) …………/…………/……….. เกณฑ์การให้คะแนน ระดับคุณภาพของแต่ละพฤติกรรมดังนี้ ดีมาก = 4 (เกณฑ์ระหว่าง 90 - 100%) ดี = 3 (เกณฑ์ระหว่าง 70 - 89%) ปานกลาง = 2 (เกณฑ์ระหว่าง 50 - 69% ) ปรับปรุง = 1 (เกณฑ์ต่ำกว่า 50 %) หมายเหตุ : ใช้แบบประเมินนี้ทุกแผนการจัดการเรียนรู้


แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง…………… รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน 2 การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรับปรุงงาน รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… วันที่…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์การให้คะแนน 1. การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายการทำงานอย่างชัดเจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 2. การหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียมสถานที่ สื่อ / อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง ยึดหลักความประหยัด 2 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง แต่ไม่ตรงตามความสามารถ และมีสื่อ /อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง แต่ขาด การจัดเตรียมสถานที่และไม่ยึดหลักความประหยัด 1 คะแนน = กระจายงานไม่ทั่วถึงและมีสื่อ /อุปกรณ์ไม่เพียงพอ และไม่ยึดหลักความประหยัด 3. การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย และตามเวลาที่กำหนด มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 2 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย แต่ช้ากว่าเวลาที่กำหนด ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 1 คะแนน = ทำงานไม่สำเร็จตามเป้าหมาย และไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็นระยะ มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมปรึกษาหารือ แต่ไม่ปรับปรุงงาน ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง 1 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมไม่มีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง


แบบประเมินผลการนำเสนอผลงาน ชื่อกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง................................................ รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจน (ความรู้เกี่ยวกับเนื้อหา ความ ถูกต้อง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการนำเสนอ 3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 4 บุคลิกลักษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น้ำเสียง ซึ่งทำให้ผู้ฟังมี ความสนใจ รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจนถูกต้อง 3 คะแนน = มีสาระสำคัญครบถ้วนถูกต้อง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคัญไม่ครบถ้วน แต่ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคัญไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการนำเสนอที่เหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ นำเสนอที่น่าสนใจ นำวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่าและประหยัด 2 คะแนน = มีเทคนิคการนำเสนอที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอที่น่าสนใจ แต่ขาด การ ประยุกต์ใช้ วัสดุในท้องถิ่น 1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม และไม่น่าสนใจ 3. การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกว่าร้อยละ 90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70-90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังน้อยกว่าร้อยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมือ


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ชื่อ……………………………………………………………ชั้น………………เลขที่...........แผนก................................................. คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. ซื่อสัตย์ สุจริต ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 2. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ 3. รับผิดชอบ มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 4. มุ่งมั่นในการทำงาน มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 5. ใฝ่เรียนรู้ รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และนำไปปฏิบัติได้ 6. มีจิตสาธารณะ รู้จักช่วยงานเพื่อนและครูทำงาน 7. มีความสุภาพ มีความสุภาพ อ่อนน้อม รู้จักกาลเทศะ มีมารยาทดี 8. มีจิตสาธารณะ รู้จักช่วยงานเพื่อนและครูทำงาน 9. มีความสามัคคี ความพร้อมเพรียง ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติงานจนบรรลุวัตถุประสงค์ ไม่ทะเลาะวิวาท 10. มีภาวะความเป็นผู้นำผู้ตาม ยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน รวม รวมคะแนนที่ได้ทั้งสิ้น 20 คะแนน (คะแนนที่ได้/2) สรุปผลประเมิน ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน ................/.............../................ เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ดีมาก พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ดี พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจน ให้ 2 คะแนน พอใช้ พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน น้อย


เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 16-20 ดีมาก 11-15 ดี 6-10 พอใช้ ต่ำกว่า 5 ปรับปรุง


บันทึกหลังการสอน หน่วยที่ 7 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ ผลการเรียนของนักเรียน ผลการสอนของครู ลงชื่อ.................................................. (นายองอาจ แก้วเขียว) ครูผู้สอน


แผนการจัดการเรียนรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 หน่วยที่ 8 ชื่อวิชา นันทนาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต สอนสัปดาห์ที่ 16-17 ชื่อหน่วย ปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐานและทักษะใน การสื่อสาร คาบรวม 4 คาบ ชื่อเรื่อง ปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐานและทักษะในการสื่อสาร จำนวนคาบ 4 คาบ หัวข้อเรื่อง 1. ความหมาย และวัตถุประสงค์ของการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐาน 2. การปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐาน สาระการเรียนรู้ 1. ความหมาย และวัตถุประสงค์ของการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐาน 2. การทำ CPR 3. ทักษะการสื่อสารในการช่วยเหลือ ด้านคุณธรรม จริยธรรม 1. มีความรับผิดชอบ 2. มีความตรงต่อเวลา 3. มีระเบียบวินัย สาระสำคัญ ภาวะหัวใจหยุดเต้นหรือหยุดหายใจ เป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบช่วยเหลือผู้ป่วยให้รอดชีวิตและกลับมา ดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ดังนั้นผู้ให้การช่วยเหลือจำเป็นต้องเรียนรู้และปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพให้ได้อย่าง ถูกต้องและรวดเร็ว สมรรถนะอาชีพประจำหน่วย 1. ปฏิบัติการฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน 2. มีทักษะในการสื่อสาร คุณลักษณะที่พึงประสงค์ 1. ซื่อสัตย์สุจริต 2. มีวินัย 3. แสวงหาความรู้ 4. อยู่อย่างพอเพียง 5. มุ่งมั่นการทำงาน


จุดประสงค์การสอน / การเรียนรู้ • จุดประสงค์ทั่วไป / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. มีทักษะในการสื่อสาร 2. มีจิตสาธารณะ การช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ • จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม / บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง 1. บอกความหมายและวัตถุประสงค์ของการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐาน 2. บอกหลักการสำคัญของการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐาน 3. บอกขั้นตอนการทำ CPR ได้ 4. บอกทักษะในการสื่อสารเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุได้ 5. มีภูมิคุ้มกัน รอบรู้ ความมีวินัย ความเป็นระเบียบ ละเอียดรอบคอบ ความอดทน รับผิดชอบใน การปฏิบัติงาน และ มีเจตคติทีดีต่อการเรียน กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียม 1. แบ่งนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม 2. มอบหมายให้หัวหน้ากลุ่มสำรวจสมาชิก 3. นักศึกษาที่เป็นหัวหน้ากลุ่มรายงานสมาชิกในกลุ่ม 4. ครูกล่าวว่า ภาวะหยุดหายใจและหัวใจหยุดเต้น สามารถเกิดขึ้นได้ โดยอาจเกิดจากการทำ กิจกรรมที่เสี่ยงอันตราย หวาดเสียว จนทำให้เกิดอาการตื่นกลัว ตกใจ และช็อคได้ ทั้งนี้ยังรวมไปถึงการมีโรค ประจำตัว ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้วิธีการช่วยฟื้นคืนชีพ หากเกิดเหตุการณ์ ดังกล่าวในกรณีฉุกเฉิน ขั้นสอน (ขั้นอธิบายและสาธิต) 1. ครูอธิบายบอกข้อบ่งชี้ในการช่วยฟื้นคืนชีพ ผู้ที่ต้องได้รับการช่วยฟื้นคืนชีพ 2. ครูสาธิตขั้นตอนการช่วยฟื้นคืนชีพการทำ CPR ที่ถูกวิธี โดยให้ผู้เรียนมาร่วมสาธิตเพื่อให้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนและเข้าใจขั้นตอนการช่วยฟื้นคืนชีพ ในภาวะวิกฤต การช่วยฟื้นคืนชีพ อย่างถูกวิธีจะทำให้ผู้ป่วยที่หมดสติสามารถรอดชีวิตและกลับมาดำเนินชีวิตได้ ขั้นฝึกปฏิบัติ 1. ครูให้ตัวแทนออกมารับใบความรู้และใบกิจกรรม 2. นักศึกษาปฏิบัติการทำ CPR ตามขั้นตอน ขั้นนำไปใช้ 1. นักศึกษานำความรู้ไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างถูกวิธีในชีวิตประจำวัน 2. นักศึกษาทำใบกิจกรรมหน่วยที่ 8 ขั้นสรุป 1. ผู้เรียนและครูร่วมกันระดมความคิดเห็นสรุปหลังการทำกิจกรรม 2. นักศึกษาทำแบบทดสอบหลังเรียน 3. ครูสอดแทรกคุณธรรมจริยธรรม เช่น ความซื่อสัตย์สุจริต ความสามัคคี ความมีน้ำใจ เป็นนักกีฬา ความอดทน เป็นต้น


4. นัดหมายและชี้แจงเกณฑ์การประเมินในชั่วโมงต่อไป การบูรณาการกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 1. ความพอประมาณ 1.1 แสดงความรู้เกี่ยวกับปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐานและทักษะในการสื่อสาร 2. ความมีเหตุผล 2.1 สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยให้รอดชีวิตและกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยปฏิบัติตาม การช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐานที่ถูกต้อง 3. การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี 3.1 ปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพให้ได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว 4. เงื่อนไขความรู้ 4.1 ทักษะกระบวนการทำงานกลุ่ม 4.2 มีความรู้ในเรื่องปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐานและทักษะในการสื่อสาร 4.3 ทักษะชีวิตในกิจกรรมการสืบค้นข้อมูล 5. เงื่อนไขคุณธรรม 5.1 ความสามัคคี 5.2 ช่วยเหลือแบ่งปัน ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ 5.3 มีวินัย ตรงต่อเวลาความรับผิดชอบ 5.4 ใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีจิตอาสา การวัดและประเมินผล วิธีวัดผล 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม 3. ตรวจใบงาน 4. ตรวจแบบทดสอบ เครื่องมือวัดผล 1. แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม 3. แบบประเมินกิจกรรมใบงาน 4. แบบทดสอบ เกณฑ์การประเมินผล 1. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม 3. นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์


4. แบบประเมินกิจกรรมใบงานมีเกณฑ์ผ่าน 50% สื่อและแหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน รหัส 30000-1610 นันทนาการเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต 2. ใบงานที่ 8 3. แบบทดสอบหลังเรียน 4. ใบความรู้ หลักฐานการเรียนรู้ 1. บันทึกการสอน 2. ใบเช็ครายชื่อ 3. แผนจัดการเรียนรู้ 4. การตรวจประเมินผลงาน การวัดผลและประเมินผล ก่อนเรียน 1. สังเกตจากการตอบคำถามก่อนเข้าสู่บทเรียน ขณะเรียน 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. การทำCPR 3. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 8 หลังเรียน 1. แบบทดสอบหลังเรียน เครื่องมือประเมิน 1. แบบทดสอบ 2. ใบกิจกรรม เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนทำแบบทดสอบได้ ร้อยละ 50 ขึ้นไปถือว่าผ่านเกณฑ์ 2. แบบประเมินพฤติกรรมรายบุคคล ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์ 3. เกณฑ์ผ่านการสังเกตพฤติกรรมกลุ่ม


กิจกรรมการเรียนการสอนหรือกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นตอนการสอนหรือกิจกรรมของครู ขั้นตอนการเรียนรู้หรือกิจกรรมของนักเรียน ขั้นเตรียม 1. แบ่งนักเรียนเป็น 4 กลุ่ม 2. มอบหมายให้หัวหน้ากลุ่มสำรวจสมาชิก 3. ครูซักถามความรู้เดิมเบื้องต้นในชั่วโมงที่แล้ว 4. ครูกล่าวว่า ภาวะหยุดหายใจและหัวใจหยุด เต้น สามารถเกิดขึ้นได้ โดยอาจเกิดจากการทำ กิจกรรมที่เสี่ยงอันตราย หวาดเสียว จนทำให้ เกิดอาการตื่นกลัว ตกใจ และช็อคได้ ทั้งนี้ยัง รวมไปถึงการมีโรคประจำตัว ดังนั้นจึงมีความ จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้เรียนจะต้องเรียนรู้วิธีการช่วย ฟื้นคืนชีพ หากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวในกรณี ฉุกเฉิน 1. จัดกลุ่มในชั้นเรียน 4 กลุ่ม 2. นักเรียนที่เป็นหัวหน้ากลุ่มรายงานสมาชิกใน กลุ่ม 3. นักเรียนช่วยกันตอบคำถามที่ครูถามเข้าสู่ บทเรียน ขั้นสอน (ขั้นอธิบายและสาธิต) 1. ครูอธิบายบอกข้อบ่งชี้ในการช่วยฟื้นคืนชีพ ผู้ที่ต้องได้รับการช่วยฟื้นคืนชีพ 2. ครูสาธิตขั้นตอนการช่วยฟื้นคืนชีพการทำ CPR ที่ถูกวิธี โดยให้ผู้เรียนมาร่วมสาธิตเพื่อให้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอนและเข้าใจ ขั้นตอนการช่วยฟื้นคืนชีพ ในภาวะวิกฤต การ ช่วยฟื้นคืนชีพอย่างถูกวิธีจะทำให้ผู้ป่วยที่หมด สติสามารถรอดชีวิตและกลับมาดำเนินชีวิตได้ 1. ผู้เรียนฟังครูอธิบายเพื่อให้เกิดความเข้าใจ เพื่อที่จะปฏิบัติได้ถูกต้อง ขั้นฝึกปฏิบัติ 1. ให้นักเรียนนำความรู้ไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้ อย่างถูกวิธีในชีวิตประจำวัน 2. ครูให้นักเรียนออกมารับใบความรู้เพิ่มเติม เพื่อนำไปศึกษาและปฏิบัติตาม 1. รับใบความรู้จากคุณครู 2. ผู้เรียนแต่ละกลุ่มระดมความคิดและปฏิบัติ จริงตามที่ครูได้สาธิต ขั้นนำไปใช้ 1. ให้แต่ละกลุ่มระดม สมองและศึกษาข้อมูล จากใบความรู้ 2. ให้นักเรียนนำเสนอผลงาน 3. ให้นักเรียนทำใบกิจกรรมหน่วยที่ 7 1. แต่ละกลุ่มปฏิบัติกิจกรรมแล้วช่วยกัน วิเคราะห์ 2. ผู้เรียนนำเสนอผลงาน 3. ผู้เรียนทำใบกิจกรรมหน่วยที่ 7


ขั้นสรุป 1. ผู้เรียนและครูร่วมกันระดมความคิดเห็นสรุป เกี่ยวกับปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐานและ ทักษะในการสื่อสาร 2. นักศึกษาทำแบบทดสอบหลังเรียน 3. นัดหมายและชี้แจงเกณฑ์การประเมินใน ชั่วโมงต่อไป 1. ผู้เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน สื่อการเรียนการสอน/การเรียนรู้ สื่อสิ่งพิมพ์ 1. หนังสือเรียน 2. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 8 3. แบบทดสอบหลังเรียน 4. ใบความรู้ สื่อโสตทัศน์ (ถ้ามี) - สื่อของจริง - แหล่งการเรียนรู้ ในสถานศึกษา 1. ห้องสมุด 2. หนังสือเรียน นอกสถานศึกษา 1. อินเทอร์เน็ต การบูรณาการ/ความสัมพันธ์กับวิชาอื่น - การประเมินผลการเรียนรู้ • หลักการประเมินผลการเรียนรู้ รายละเอียดการประเมินผลการเรียนรู้ 1. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 1 1.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 1.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 2. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 2 2.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 2.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 3. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 3


3.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 3.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 4. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 4 4.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 4.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม 5. จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม ข้อที่ 5 5.1 ประเมินพฤติกรรมรายบุคคล 5.2 ประเมินการทำงานกลุ่ม ก่อนเรียน 1. สังเกตจากการตอบคำถามก่อนเข้าสู่บทเรียน ขณะเรียน 1. สังเกตพฤติกรรมรายบุคคล 2. การนำเสนอผลงาน 3. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 8 หลังเรียน 1. แบบทดสอบหลังเรียน ผลงาน/ชิ้นงาน/ผลสำเร็จของผู้เรียน 1. การนำเสนอผลงาน 2. ใบกิจกรรมหน่วยที่ 8 3. แบบทดสอบหลังเรียน


ใบความรู้หน่วยที่ 8 ปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐาน 1. ความหมายการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐาน การช่วยฟื้นคืนชีพ (cardio pulmonary resuscitation หรือ CPR) หมายถึง การช่วยเหลือผู้ที่หยุด หายใจหรือหัวใจหยุดเต้น ให้มีการหายใจและการไหลเวียนกลับคืนสู่สภาพเดิม ป้องกันเนื้อเยื่อได้รับอันตราย จากการขาดออกซิเจนอย่างถาวร ซึ่งสามารถทำได้โดยการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน (Basic life support) ได้แก่ การผายปอด และการนวดหัวใจภายนอก 2. วัตถุประสงค์ของการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐาน 1. การไหลเวียนของโลหิตยังคงไว้ซึ่งในขณะหัวใจหยุดเต้น เพื่อนำออกซิเจนไปสู่สมอง หัวใจและ เนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ปอด สมอง หลอดเลือดไปเลี้ยงหัวใจ ไตและอวัยวะอื่น ๆ 2. เพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายและเนื้อเยื่อ 3. ป้องกันสมองตายจากการที่โลหิตไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ ป้องกันสมองตายโดยการทำให้โลหิต ไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ 3. การปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน การเสียชีวิตอย่างกะทันหันเนื่องจากหัวใจหยุดบีบตัว จะสามารถช่วยฟื้นคืนชีพได้ หากได้รับการ ช่วยเหลือภายใน4นาที หรือเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ การที่หัวใจหยุดบีบตัวอย่างกะทันหันมักจะมาจากหลาย สาเหตุ เช่น จมน้ำ ไฟฟ้าดูด หัวใจวาย สิ่งแปลกปลอมอุดทางเดินหายใจ สำลักควันไฟ เป็นต้น ดังนั้นผู้ช่วยชีวิต จำเป็นจะต้องมีทักษะในการปฏิบัติการช่วยชีวิตเป็นอย่างดีและถูกต้อง จึงจะทำให้ช่วยเหลือผู้ป่วยให้รอดชีวิต ได้ การฝึกปฏิบัติวิธีการช่วยชีวิตในกรณีเกิดอุบัติเหตุนั้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน หากผู้ปฏิบัติมีทักษะก็ ย่อมจะเป็นการช่วยชีวิตผู้อื่น ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างบุญกุศลอย่างมหาศาล การช่วยฟื้นคืนชีพจากการที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นอย่างเฉียบพลัน คือการช่วยให้ผู้ป่วยสามารถหายใจ ได้ (หรือเรียกว่าการช่วยการหายใจให้ผู้ป่วย) เป็นการกู้หรือช่วยชีวิต ซึ่งเสมือนตายแล้วกลับคืนสู้ปกติ โดยมี จุดมุ่งหมายให้เกิดการไหลเวียนของโลหิตและการหายใจเป็นปกติซึ่งเราเรียกว่า เป็นการปฏิบัติการคืนชีพ (Resuscitation) โดยมีวิธีการช่วยเหลือ 2 วิธี ดังนี้ 1) การฟื้นปอด (Pulmonary resuscitation) เป็นการช่วยเหลือผู้ป่วยทางด้านระบบการ หายใจให้ผู้ป่วยหายใจได้ตามปกติภายหลังที่หยุดหายใจไปแล้ว โดยยึดหลักที่จะพยายามให้อากาศเข้าสู่ปอด เพื่อกำจัดภาวะขาดออกซิเจนของอวัยวะต่างๆ 2) การฟื้นหัวใจ (Cardiac resuscitation) เป็นการช่วยผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้น ให้หัวใจของ ผู้ป่วยกลับทำงานได้ตามปกติภายหลังที่หยุดหายใจไปแล้ว การช่วยเหลือผู้ป่วยที่หยุดหายใจ และหัวใจหยุดเต้นมักใช้ 2 วิธีร่วมกัน และเรียกรวมกันว่า การฟื้นปอดและหัวใจ (Cardiopulmonary Resuscitation) ผู้ป่วยต้องได้รับการช่วยเหลืออย่างถูกวิธีภายในเวลา 4-5 นาทีหลังจากหัวใจหยุดเต้น สมองจะหยุด ทำงานถ้าขาดออกซิเจน 5 นาที และหัวใจจะหยุดทำงานถ้าขาดออกซิเจนนาน 8 นาที ดังนั้นการช่วยฟื้นคืน ชีพควรทำให้เร็วที่สุด


การช่วยฟื้นคืนชีพนี้เรียกว่าเป็นการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน (Basic Life Support) เป็นการรักษาเพื่อ ประคับประคองชีวิตในระยะแรก โดยการฟื้นปอดและหัวใจ ซึ่งผู้ปฏิบัติการช่วยเหลือต้องรู้ถึงอาการและ อาการแสดงมาก่อน รู้จักว่าหัวใจหยุดเต้นเป็นอย่างไร และการตั้งต้นช่วยอย่างรีบด่วนทำอย่างไร โดยสามารถ สังเกตลักษณะของผู้ป่วยที่หัวใจหยุดทำงานได้ คือ ไมรู้สติ (เกิดเมื่อหัวใจหยุดไป 3-5 วินาที) ซีดเขียว หยุด หายใจ หรือหายใจกระตุก นานๆ ครั้ง หายใจลำบาก หอบ คลำชีพจรข้างๆ คอ หรือขาหนีบไม่ได้ ฟังเสียงหัวใจ และคลำหัวใจเต้นไม่ได้ วัดความดันโลหิตไม่ได้ รูม่านตาขยาย ซึ่งเริ่มเกิดเมื่อหัวใจหยุดไป 45 วินาที และขาย กว้างสุด เมื่อถึง 1 นาที หรือาจมีอาการชัก ตาค้าง การที่หัวใจหยุดเต้น (Cardiac arrest) หรือการหยุดหายใจ การช่วยฟื้นคืนชีพ ผู้ที่ต้องได้รับการช่วยฟื้นคืนชีพมีข้อบ่งชี้ในเรื่องดังต่อไปนี้ 1) ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจ โดยที่หัวใจยังคงเต้นอยู่ประมาณ 2-3 นาที ให้ผายปอดทันทีจะช่วย ป้องกันภาวะหัวใจหยุดเต้นได้ และช่วยป้องกันการเกิดภาวะเนื้อเยื่อสมองขาดออกซิเจนอย่างถาวร 2) ผู้ที่มีภาวะหยุดหายใจและหัวใจหยุดเต้นพร้อมกัน การช่วยฟื้นคืนชีพทันทีจะช่วยป้องกันไม่ให้ เนื้อเยื่อขาดออกซิเจนโดยเฉพาะเนื้อเยื่อสมอง โดยทั่วไปมักจะเกิดการขาดออกซิเจนหลังมีภาวะหยุดหายใจ 4-6 นาที ดังนั้นการปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพจึงควรทำภายใน 4 นาที ขั้นตอนการช่วยฟื้นคืนชีพ ขั้นตอนการช่วยฟื้นคืนชีพที่ถูกวิธี โดยให้ผู้เรียนมาร่วมสาธิตเพื่อให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนการ สอนและเข้าใจขั้นตอนการช่วยฟื้นคืนชีพ ในภาวะวิกฤต การช่วยฟื้นคืนชีพอย่างถูกวิธีจะทำให้ผู้ป่วยที่หมดสติ สามารถรอดชีวิตและกลับมาดำเนินชีวิตได้ ขั้นตอนการช่วยเหลือผู้ป่วยที่หมดสติ ควรปฏิบัติดังนี้ ปัจจัยที่ต้อ จัดท่าผู้ป่วยให้นอนหงายราบบนพื้นแข็งประเมินระดับความรู้สึกความรู้สึกโดยการตีบ่า (Tab on Shoulder) พร้อมร้องเรียก “คุณเป็นอย่างไรบ้าง” ถ้าหมดสติ ไม่หายใจหรือหายใจลำบาก ยกมือหรือ โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือที่หมายเลข 1669 สังเกตการณ์หายใจและคลำชีพจรที่คอ (Carotid Pulse) อย่างรวดเร็วไม่เกิน 10 นาที


แต่ปัญหาที่พบคือเรื่องของเวลามีความสำคัญมาก การรักษาที่ล่าช้าส่งผลให้อัตราการรอดชีวิต ลดลงเรื่อย ๆ หรือไม่มีเลย ดังนั้นผู้ให้การช่วยเหลือจำเป็นต้องปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพให้ได้อย่างถูกต้องและ รวดเร็ว ลำดับขั้นตอนในการช่วยฟื้นคืนชีพ C-A-B เหตุผล การกดหน้าอกก่อนจะทำให้มีเลือดเลี้ยงอวัยวะที่สำคัญ คือ หัวใจและสมอง ในกรณีมี 2 คน ผู้ช่วยเหลือคนที่ 1 เริ่มกดหน้าอก 30 ครั้ง ต่อด้วยผู้ช่วยเหลือคนที่ 2 เปิด ทางเดินหายใจ เป่าปาก 2 ครั้ง ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผู้ช่วยเหลือ 1 คนหรือมากกว่า 1 คน เริ่มต้นด้วยการกดหน้าอกให้เร็วที่สุดและ ควรใช้ระยะเวลาช่วยหายใจน้อยที่สุด 3.1 C : Circulation 1) จัดให้ผู้ป่วยนอนหงายราบบนพื้นแข็ง ถ้าพื้นอ่อนนุ่มให้สอดไม้กระดานแข็งใต้ลำตัว 2) วัดตำแหน่งที่เหมาะสำหรับการนวดหัวใจ โดยใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางข้างที่ไม่ถนัดวางจาก ขอบชายโครงล่างของผู้ป่วยขึ้นไปจนถึงปลายกระดูกหน้าอก วัดเหนือปลายกระดูกหน้าอกขึ้นมา 2 นิ้วมือ แล้วใช้ส้นมือข้างที่ถนัดวางบนตำแหน่งดังกล่าว และใช้ส้นมือข้างที่ไม่ถนัดวางทับลงไป เกี่ยวนิ้วข้างมือให้นิ้ว มือที่วางทับแนบชิดกับร่องนิ้วมือของมือล่าง แล้วยกปลายนิ้วขึ้นจากหน้าอก เริ่มจากกดหน้าอก (C-Circulation) เปิดทางเดินหายใจ (A-Airway) ช่วยหายใจ (B-Breathing)


การกดหน้าอกที่ถูกต้อง 1) เน้นที่การกดหน้าอก “กดแรงและเร็ว” ที่กึ่งกลางหน้าอก 2) กดด้วยอัตราเร็วอย่างน้อย 100 ครั้งต่อนาที 3) กดให้ลึกอย่างน้อย 2 นิ้ว (5 เซนติเมตร) ในผู้ใหญ่ 4) ปล่อยให้อกคืนตัวสุดหลังการกดแต่ละครั้ง 5) กดหน้าอกต่อเนื่องกันให้ได้มากที่สุด 6) หลีกเลี่ยงการช่วยหายใจมากเกินไป 3.2 A : Airway Airway หมายถึง การเปิดทางเดินหายใจให้โล่ง ซึ่งเป็นการปฏิบัติการขั้นแรกที่ต้องทำอย่าง รวดเร็วเพราะเนื่องจากโคนลิ้นและกล่องเสียงมีการตกลงไปอุดทางเดินหายใจส่วนบนในผู้ป่วยที่หมดสติดังนั้น จึงต้องมีการเปิดทางเดินหายใจให้โล่ง โดยการดัดคางขึ้นร่วมกับการกดหน้าผากให้หน้าแหงนเรียกว่า “Head Tilt Chin Lift” การช่วยจัดทางเดินหายใจให้โล่ง และอยู่ในท่าที่จะให้การช่วยเหลือ ทำได้โดย ใช้ฝ่ามือด้านที่ อยู่ใกล้ศีรษะของผู้ป่วยวางบนหน้าผากพร้อมกดลง แล้วใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางของมืออีกข้างหนึ่งเชยบริเวณ ขากรรไกรของผู้ป่วย โดยหลีกเลี่ยงการกดก้อนเนื้อบริเวณคางเพราะจะทำให้อุดตันทางเดินหายใจมากขึ้น ควรระมัดระวังในผู้ป่วยที่ได้รับการบาดเจ็บบริเวณกระดูกสันหลังและกระดูกคอ เพราะอาจ ทำให้เกิดอันตรายต่อไขสันหลัง ขั้นตอนการเปิดทางเดินหายใจนี้ควรใช้เวลา 4-10 วินาที


3.3 B : Breathing Breathing หมายถึง การช่วยหายใจ เนื่องจากการหยุดหายใจ ร่างกายจะมีออกซิเจนคงอยู่ใน ปอดและกระแสเลือด แต่ไม่มีสำรองไว้ใช้ ดังนั้นเมื่อหยุดหายใจจึงต้องช่วยหายใจ เป็นวิธีที่จะช่วยให้ออกซิเจน เข้าสู่ปอดผู้ป่วยได้ ซึ่งออกซิเจนที่เป่าออกไปนั้นมีออกซิเจนประมาณร้อยละ 16-17 ซึ่งเพียงพอสำหรับใช้ใน ร่างกาย การตรวจดูการหายใจ ควรใช้เวลาเพียง 3-5 วินาที ซึ่งทำโดยคุกเข่าลงใกล้ไหล่ผู้ป่วยผู้ให้การ ช่วยเหลือเอียงศีรษะดูทางปลายเท้าผู้ป่วย หูอยู่ชิดติดกับปากผู้ป่วย และฟังเสียงลมหายใจผู้ป่วยตามองดู หน้าอกว่ามีการเคลื่อนไหวหรือไม่ หรือใช้แก้มสัมผัสลมหายใจจากผู้ป่วย การหายใจเข้าเป็นการที่ปอดพอง ตัวรับอากาศภายนอกเข้าทรวงอก จากนั้นปอดจะบีบตัวเอาลมที่ใช้แล้วออกทำให้เห็นทรวงอกเคลื่อนลง เล็กน้อยซึ่งการขยายขึ้นลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอและนับการหายใจหนึ่งครั้งซึ่งการหายใจน้อย (ตื้น) หรือไม่ หายใจจะต้องช่วยการหายใจในทันที โดยการที่ผู้ทำ CPR สูดหายใจเข้าเต็มที่แล้วเป่าเข้าสู่ผู้ป่วย โดยสามารถ ทำได้หลายวิธี คือด้วยการเป่าปาก (Mouth to Mouth) เป่าจมูก (Mouth to Nose) 1) ปากต่อปาก ผู้ช่วยฟื้นคืนชีพควรนั่งข้างใดข้างหนึ่งใช้นิ้วชี้และนิ้วหัวแม่มือของข้างที่กด ศีรษะบีบจมูกผู้ป่วยเพื่อไม่ให้อากาศรั่วออกขณะเป่าลมเข้าปาก มือข้างที่ยกคางประคองให้ปากเผยอเล็กน้อย ผู้ทำ CPR สูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ 2-3 ครั้งให้เต็มที่ ประกบปากครอบปากผู้ป่วยพร้อมเป่าลมเข้าเต็มที่ด้วย ความเร็วสมํ่ำเสมอประมาณ 800 มิลลิลิตรต่อ 1 ครั้งเพื่อให้ปอดขยาย ขณะทำการช่วยเหลือควรสังเกตว่า ทรวงอกขยายออกแสดงถึงอากาศผ่านเข้าไปได้ดีแล้วรีบถอนปาก รอให้ลมออกจากผู้ป่วยซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-15 วินาที แล้วเป่าซํ้า 2) ปากต่อจมูก การเป่าลมเข้าทางจมูกเป็นวิธีที่ดี กระทำได้เช่นเดียวกับการเป่าปากซึ่งใน กรณีที่เปิดปากไม่ได้หรือมีแผลที่ปาก หรือในเด็กเล็กให้ใช้มือด้านที่เชยคางยกขึ้นให้ปากปิดแล้วเป่าลมเข้าทาง จมูกแทน โดยต้องใช้แรงเป่ามากกว่าปากเพราะมีแรงเสียดทานสูงกว่า เปิดทางเดินหายใจ (Open airway) ใช้วิธีการเชยคาง ดันหน้าผาก (Head Tilt Chin Lift) เมื่อไม่หายใจให้ช่วยหายใจโดยเป่าปาก 2 ครั้ง ครั้งละ 1 วินาทีเต็ม ต้องเห็นหน้าอกขยับขึ้น


ข้อสังเกต หากไม่มั่นใจว่าผู้ป่วยมีโรคติดต่อหรือไม่ ให้กดหน้าอกอย่างเดียว หรือถ้าจำเป็นต้อง ผายปอด ให้หาผ้าคลุมบริเวณปากผู้ป่วยก่อนทำการผายปอด


ใบกิจกรรม หน่วยที่ 8 ปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐาน คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง 1. จงบอกความหมายของการช่วยฟื้นชีพ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จงบอกวัตถุประสงค์ของการฟื้นคืนชีพ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. การปฏิบัติการคืนชีพ มี 2 วิธี คือ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. การปฏิบัติตามขั้นตอน การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน A–B–C คืออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 5. ขั้นตอนการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน มีอะไรบ้าง ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………


ปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐาน คำสั่ง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การช่วยฟื้นคืนชีพ คือข้อใด ก. CPR ข. OTP ค. ABC ง. PRC จ. POA 2. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของการช่วยฟื้นคืนชีพ ก. เพื่อออกซิเจนไปสู่สมอง ข. เพิ่มออกซิเจนไปสู่หัวใจ ค. เพิ่มเลือดเข้าสู่ร่างกาย ง. ป้องกันสมองตาย จ. เพื่อป้องกันเกิดเนื้อตาย 3. การช่วยเหลือผู้ที่หยุดหายใจ ต้องใช้วิธีใด ก. ฟื้นปอดและหัวใจ ข. ฟื้นปอดและตับ ค. ฟื้นหัวใจและตับ ง. ฟื้นตับและ จ. ฟื้นปอดและไต 4. ผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้น ต้องช่วยอย่างถูกวิธีภายในเวลาเท่าไหร่ หลังหัวใจหยุดเต้น ก. 2-3นาที ข. 3-4 นาที ค. 4-5 นาที ง. 5-6 นาที จ. 6-7 นาที 5. A-B-C คือ ขั้นตอนการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน รวมเรียกว่าอะไร ก. Anyway ข. Breathing ค. Circulation ง. Automated External Defibrillator จ. CPR 6. ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ก. การทำให้หายใจโล่ง ข. การช่วยให้หายใจ ค. การทำให้เลือดไหลเวียน ง. การเพิ่มปริมาณเลือด จ. การนวดหัวใจ 7. การทำ CPR ทำในขั้นตอนใด ก. ขั้นตอนที่ 1 ข. ขั้นตอนที่ 2 ค. ขั้นตอนที่ 3 ง. ขั้นตอนที่ 4 จ. ขั้นตอนที่ 5 แบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 8


8. ข้อใดเป็นเทคนิคในการกดหน้าอกอย่างถูกต้อง ก. กรณีเด็ก กดหน้าอกให้ยุบลงอย่างน้อย 5 เซนติเมตร ข. กรณีทารก กดหน้าอกให้ยุบลงอย่างน้อย 2 เซนติเมตร ค. กรณีผู้ใหญ่ กดหน้าอกให้ยุบลงอย่างน้อย 7 เซนติเมตร ง. กรณีเด็ก ใช้นิ้วมือสองนิ้ว กดที่กึ่งกลางหน้าอก จ. กรณีทารก กดหน้าอกให้ยุบลงอย่างน้อย 5 เซนติเมตร 9. การนวดหัวใจแล้วเป่าปากสลับกัน โดยมีสัดส่วนคือ ก. นวดหัวใจ 15 ครั้ง แล้วเป่าปาก 2 ครั้ง ข. นวดหัวใจ 20 ครั้ง แล้วเป่าปาก 2 ครั้ง ค. นวดหัวใจ 15 ครั้ง แล้วเป่าปาก 1 ครั้ง ง. นวดหัวใจ 20 ครั้ง แล้วเป่าปาก 1 ครั้ง จ. นวดหัวใจ 25 ครั้ง แล้วเป่าปาก 1 ครั้ง 10. การช่วยเหลือผู้ป่วยจมน้ำและหายใจเฮือกสุดท้าย เอาน้ำเข้าไปเต็มปอดจนเสียชีวิตคือข้อใด ก. น้ำจืด 2-3 นาที ข. น้ำจืด 3-4 นาที ค. น้ำจืด 1-2 นาที ง. น้ำจืด 4-5 นาที จ. น้ำจืด 6-7 นาที


ปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐาน คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนี้ 1. จงบอกความหมายของการช่วยฟื้นชีพ ตอบ การช่วยเหลือผู้ที่หยุดหายใจหรือหัวใจหยุดเต้น ให้มีการหายใจและการไหลเวียนกลับคืนสู่สภาพ เดิม ป้องกันเนื้อเยื่อได้รับอันตรายจากการขาดออกซิเจนอย่างถาวร ซึ่งสามารถทำได้โดยการช่วยฟื้นคืนชีพขั้น พื้นฐาน (Basic life support) ได้แก่ การผายปอด และการนวดหัวใจภายนอก 2. จงบอกวัตถุประสงค์ของการฟื้นคืนชีพ ตอบ - การไหลเวียนของโลหิตยังคงไว้ซึ่งในขณะหัวใจหยุดเต้น เพื่อนำออกซิเจนไปสู่สมอง หัวใจและ เนื้อเยื่อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ปอด สมอง หลอดเลือดไปเลี้ยงหัวใจ ไตและอวัยวะอื่น ๆ - เพิ่มออกซิเจนให้กับร่างกายและเนื้อเยื่อ - ป้องกันสมองตายจากการที่โลหิตไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ ป้องกันสมองตายโดยการทำให้ โลหิตไปเลี้ยงสมองได้เพียงพอ 3. การปฏิบัติการคืนชีพ มี 2 วิธี คือ ตอบ วิธีที่ 1 การฟื้นปอด (Pulmonary resuscitation) เป็นการช่วยเหลือผู้ป่วยทางด้านระบบการ หายใจให้ผู้ป่วยหายใจได้ตามปกติภายหลังที่หยุดหายใจไปแล้ว โดยยึดหลักที่จะพยายามให้อากาศเข้าสู่ปอด เพื่อกำจัดภาวะขาดออกซิเจนของอวัยวะต่างๆ วิธีที่ 2 การฟื้นหัวใจ (Cardiac resuscitation) เป็นการช่วยผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้น ให้หัวใจของ ผู้ป่วยกลับทำงานได้ตามปกติภายหลังที่หยุดหายใจไปแล้ว 4. การปฏิบัติตามขั้นตอน การช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน A–B–C คืออะไร ตอบ A คือ Air การทำให้หายใจโล่ง B คือ Breathing การช่วยให้หายใจ C คือ Circulation การทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน 5. ขั้นตอนการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน มีอะไรบ้าง ตอบ ขั้น 1 เรียกดูว่าหมดสติหรือไป ขั้น 2 เรียกหาความช่วยเหลือ ขั้น 3 จัดทำให้พร้อมสำหรับการช่วยชีวิต เฉลยใบกิจกรรมหน่วยที่ 8


ปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพพื้นฐาน คำสั่ง จงเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. การช่วยฟื้นคืนชีพ คือข้อใด ก. CPR ข. OTP ค. ABC ง. PRC จ. POA 2. ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของการช่วยฟื้นคืนชีพ ก. เพื่อออกซิเจนไปสู่สมอง ข. เพิ่มออกซิเจนไปสู่หัวใจ ค. เพิ่มเลือดเข้าสู่ร่างกาย ง. ป้องกันสมองตาย จ. เพื่อป้องกันเกิดเนื้อตาย 3. การช่วยเหลือผู้ที่หยุดหายใจ ต้องใช้วิธีใด ก. ฟื้นปอดและหัวใจ ข. ฟื้นปอดและตับ ค. ฟื้นหัวใจและตับ ง. ฟื้นตับและ จ. ฟื้นปอดและไต 4. ผู้ป่วยที่หัวใจหยุดเต้น ต้องช่วยอย่างถูกวิธีภายในเวลาเท่าไหร่ หลังหัวใจหยุดเต้น ก. 2-3นาที ข. 3-4 นาที ค. 4-5 นาที ง. 5-6 นาที จ. 6-7 นาที 5. A-B-C คือ ขั้นตอนการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน รวมเรียกว่าอะไร ก. Anyway ข. Breathing ค. Circulation ง. Automated External Defibrillator จ. CPR 6. ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐาน ก. การทำให้หายใจโล่ง ข. การช่วยให้หายใจ ค. การทำให้เลือดไหลเวียน ง. การเพิ่มปริมาณเลือด จ. การนวดหัวใจ 7. การทำ CPR ทำในขั้นตอนใด ก. ขั้นตอนที่ 1 ข. ขั้นตอนที่ 2 ค. ขั้นตอนที่ 3 ง. ขั้นตอนที่ 4 เฉลยแบบทดสอบหลังเรียนหน่วยที่ 8


จ. ขั้นตอนที่ 5 8. ข้อใดเป็นเทคนิคในการกดหน้าอกอย่างถูกต้อง ก. กรณีเด็ก กดหน้าอกให้ยุบลงอย่างน้อย 5 เซนติเมตร ข. กรณีทารก กดหน้าอกให้ยุบลงอย่างน้อย 2 เซนติเมตร ค. กรณีผู้ใหญ่ กดหน้าอกให้ยุบลงอย่างน้อย 7 เซนติเมตร ง. กรณีเด็ก ใช้นิ้วมือสองนิ้ว กดที่กึ่งกลางหน้าอก จ. กรณีทารก กดหน้าอกให้ยุบลงอย่างน้อย 5 เซนติเมตร 9. การนวดหัวใจแล้วเป่าปากสลับกัน โดยมีสัดส่วนคือ ก. นวดหัวใจ 15 ครั้ง แล้วเป่าปาก 2 ครั้ง ข. นวดหัวใจ 20 ครั้ง แล้วเป่าปาก 2 ครั้ง ค. นวดหัวใจ 15 ครั้ง แล้วเป่าปาก 1 ครั้ง ง. นวดหัวใจ 20 ครั้ง แล้วเป่าปาก 1 ครั้ง จ. นวดหัวใจ 25 ครั้ง แล้วเป่าปาก 1 ครั้ง 10. การช่วยเหลือผู้ป่วยจมน้ำและหายใจเฮือกสุดท้าย เอาน้ำเข้าไปเต็มปอดจนเสียชีวิตคือข้อใด ก. น้ำจืด 2-3 นาที ข. น้ำจืด 3-4 นาที ค. น้ำจืด 1-2 นาที ง. น้ำจืด 4-5 นาที จ. น้ำจืด 6-7 นาที


แบบสังเกตพฤติกรรมรายบุคคล ลำดับที่ ชื่อ-สกุล พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง ความ คิดเห็น การตอบ คำถาม การรับฟัง ความ คิดเห็น ทำงาน ตามที่ได้รับ มอบหมาย รวม 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 20 ลงชื่อ……………………………….ผู้สังเกต (………………………….……) …………/…………/……….. เกณฑ์การให้คะแนน ระดับคุณภาพของแต่ละพฤติกรรมดังนี้ ดีมาก = 4 (เกณฑ์ระหว่าง 90 - 100%) ดี = 3 (เกณฑ์ระหว่าง 70 - 89%) ปานกลาง = 2 (เกณฑ์ระหว่าง 50 - 69% ) ปรับปรุง = 1 (เกณฑ์ต่ำกว่า 50 %) หมายเหตุ : ใช้แบบประเมินนี้ทุกแผนการจัดการเรียนรู้


แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม ชื่อกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง…………… รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน 2 การแบ่งหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 4 การประเมินผลและปรับปรุงงาน รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… วันที่…………เดือน……………………..พ.ศ…………... เกณฑ์การให้คะแนน 1. การกำหนดเป้าหมายร่วมกัน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายการทำงานอย่างชัดเจน 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีส่วนร่วมในการกำหนดเป้าหมายในการทำงาน 2. การหน้าที่รับผิดชอบและการเตรียมความพร้อม 3 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง และตรงตามความสามารถของสมาชิกทุกคน มีการจัดเตรียมสถานที่ สื่อ / อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง ยึดหลักความประหยัด 2 คะแนน = กระจายงานได้ทั่วถึง แต่ไม่ตรงตามความสามารถ และมีสื่อ /อุปกรณ์ไว้อย่างพร้อมเพรียง แต่ขาด การจัดเตรียมสถานที่และไม่ยึดหลักความประหยัด 1 คะแนน = กระจายงานไม่ทั่วถึงและมีสื่อ /อุปกรณ์ไม่เพียงพอ และไม่ยึดหลักความประหยัด 3. การปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย 3 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย และตามเวลาที่กำหนด มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 2 คะแนน = ทำงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย แต่ช้ากว่าเวลาที่กำหนด ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 1 คะแนน = ทำงานไม่สำเร็จตามเป้าหมาย และไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 4. การประเมินผลและปรับปรุงงาน 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนร่วมปรึกษาหารือ ติดตาม ตรวจสอบ และปรับปรุงงานเป็นระยะ มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง 2 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมปรึกษาหารือ แต่ไม่ปรับปรุงงาน ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และ ระมัดระวัง 1 คะแนน = สมาชิกบางส่วนมีส่วนร่วมไม่มีส่วนร่วมปรึกษาหารือ และปรับปรุงงาน ไม่มีความรอบรู้ รอบคอบ และระมัดระวัง


แบบประเมินผลการนำเสนอผลงาน ชื่อกลุ่ม……………………………………………ชั้น………………………ห้อง................................................ รายชื่อสมาชิก 1……………………………………เลขที่……. 2……………………………………เลขที่……. 3……………………………………เลขที่……. 4……………………………………เลขที่……. ที่ รายการประเมิน คะแนน ข้อคิดเห็น 3 2 1 1 เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจน (ความรู้เกี่ยวกับเนื้อหา ความ ถูกต้อง ปฏิภาณในการตอบ และการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า) 2 รูปแบบการนำเสนอ 3 การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 4 บุคลิกลักษณะ กิริยา ท่าทางในการพูด น้ำเสียง ซึ่งทำให้ผู้ฟังมี ความสนใจ รวม ผู้ประเมิน………………………………………………… เกณฑ์การให้คะแนน 1. เนื้อหาสาระครอบคลุมชัดเจนถูกต้อง 3 คะแนน = มีสาระสำคัญครบถ้วนถูกต้อง ตรงตามจุดประสงค์ 2 คะแนน = สาระสำคัญไม่ครบถ้วน แต่ตรงตามจุดประสงค์ 1 คะแนน = สาระสำคัญไม่ถูกต้อง ไม่ตรงตามจุดประสงค์ 2. รูปแบบการนำเสนอ 3 คะแนน = มีรูปแบบการนำเสนอที่เหมาะสม มีการใช้เทคนิคที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยี ประกอบการ นำเสนอที่น่าสนใจ นำวัสดุในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้อย่างคุ้มค่าและประหยัด 2 คะแนน = มีเทคนิคการนำเสนอที่แปลกใหม่ ใช้สื่อและเทคโนโลยีประกอบการนำเสนอที่น่าสนใจ แต่ขาด การ ประยุกต์ใช้ วัสดุในท้องถิ่น 1 คะแนน = เทคนิคการนำเสนอไม่เหมาะสม และไม่น่าสนใจ 3. การมีส่วนร่วมของสมาชิกในกลุ่ม 3 คะแนน = สมาชิกทุกคนมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 2 คะแนน = สมาชิกส่วนใหญ่มีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 1 คะแนน = สมาชิกส่วนน้อยมีบทบาทและมีส่วนร่วมกิจกรรมกลุ่ม 4. ความสนใจของผู้ฟัง 3 คะแนน = ผู้ฟังมากกว่าร้อยละ 90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 2 คะแนน = ผู้ฟังร้อยละ 70-90 สนใจ และให้ความร่วมมือ 1 คะแนน = ผู้ฟังน้อยกว่าร้อยละ 70 สนใจ และให้ความร่วมมือ


แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ชื่อ……………………………………………………………ชั้น………………เลขที่...........แผนก................................................. คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดับคะแนน รายการประเมิน ระดับคะแนน 4 3 2 1 1. ซื่อสัตย์ สุจริต ให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นจริง ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 2. มีวินัย ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ 3. รับผิดชอบ มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 4. มุ่งมั่นในการทำงาน มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 5. ใฝ่เรียนรู้ รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์และนำไปปฏิบัติได้ 6. มีจิตสาธารณะ รู้จักช่วยงานเพื่อนและครูทำงาน 7. มีความสุภาพ มีความสุภาพ อ่อนน้อม รู้จักกาลเทศะ มีมารยาทดี 8. มีจิตสาธารณะ รู้จักช่วยงานเพื่อนและครูทำงาน 9. มีความสามัคคี ความพร้อมเพรียง ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติงานจนบรรลุวัตถุประสงค์ ไม่ทะเลาะวิวาท 10. มีภาวะความเป็นผู้นำผู้ตาม ยอมรับความคิดเห็นซึ่งกันและกัน รวม รวมคะแนนที่ได้ทั้งสิ้น 20 คะแนน (คะแนนที่ได้/2) สรุปผลประเมิน ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน ................/.............../................ เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ 4 คะแนน ดีมาก พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน ดี พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจน ให้ 2 คะแนน พอใช้ พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้ 1 คะแนน น้อย


Click to View FlipBook Version