แนวการจัดกจิ กรรม Active Learning
ท�เี สริมสร้างทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ :
ประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย
สถาบนั สงั คมศึกษา สํานักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา
สาํ นกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน
แนวการจดั กิจกรรม Active Learning
ทเ่ี สริมสร้างทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ :
ประวตั ิศาสตรช์ าตไิ ทย
สถาบันสงั คมศกึ ษา ส�ำนักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
สำ� นักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน
แนวการจัดกิจกรรม Active Learning
ท่เี สรมิ สร้างทกั ษะการคิดวิเคราะห์ : ประวตั ิศาสตร์ชาตไิ ทย
ISBN : 978-616-564-062-6
พมิ พค์ รัง้ ที่ ๑ พ.ศ. ๒๕๖๐ จ�ำนวนพมิ พ์ ๖๐๐ เล่ม
พิมพค์ ร้งั ที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๖๓ จ�ำนวนพมิ พ์ ๓๐,๐๐๐ เลม่
(ฉบบั ปรับปรงุ )
ผู้จดั พิมพเ์ ผยแพร ่ สถาบันสงั คมศกึ ษา สำ� นกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา
ส�ำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธิการ
ถนนราชดำ� เนินนอก เขตดุสิต กรงุ เทพมหานคร ๑๐๓๐๐
พมิ พท์ ่ ี โรงพมิ พ์ชุมนมุ สหกรณก์ ารเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำ� กัด
๗๙ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร
กรงุ เทพมหานคร ๑๐๙๐๐
โทร. ๐-๒๕๖๑-๔๕๖๗ โทรสาร ๐-๒๕๗๙-๕๑๐๑
นายโชคดี ออสวุ รรณ ผพู้ มิ พ์ผโู้ ฆษณา
คณะผู้เขยี นและบรรณาธกิ าร ขออภัยทมี่ ิอาจแจง้ แหลง่ ท่ีมาของขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งครบถว้ น
และขอขอบคณุ เจ้าของผลงานทง้ั ข้อความ ภาพ และอนื่ ๆ ที่น�ำ มาใช้ในเอกสารฉบบั น้ี
ทง้ั นี้ เพ่ือประโยชน์ทางการศึกษา
แมจ้ ะมไิ ด้มีหนงั สอื ขออนญุ าตเป็นลายลกั ษณ์อักษรกต็ าม
สมเดจ็ พระนางเจ้าสริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชินนี าถ
พระบรมราชชนนีพนั ปหี ลวง
“...ประวัติศาสตร์ของแต่ละชาติทุกชาติเขาก็ทะนุถนอมและเขาก็เรียนของเขากัน
แม้แต่คนต่างประเทศไปเรียนในประเทศเขา ก็ต้องเรียนประวัติศาสตร์ของเขาด้วย อันน้ี
ก็แปลกที่เราไม่มปี ระวัตศิ าสตรช์ าตไิ ทย เหมือนอย่างว่าแผน่ ดนิ นีไ้ ด้มาอยา่ งง่าย ๆ ไม่ต้อง
คดิ ถึงพระเดชพระคุณของปู่ ยา่ ตา ยายทีบ่ ุกบ่ันฝ่าฟันมา แม้แต่ชวี ิตจะสละใหเ้ พอ่ื ที่จะเปน็
หลกั ประกนั ของคนไทย ความจรงิ แลว้ การทม่ี แี ผน่ ดนิ เปน็ ของตนเอง เปน็ การประกนั คอ่ นขา้ ง
จะปลอดภัย...”
พระราชด�ำรัส สมเด็จพระนางเจ้าสิรกิ ติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนพี นั ปีหลวง
พระราชทานเนื่องในวโรกาสใหค้ ณะบุคคลตา่ ง ๆ เขา้ เฝา้ ฯ ถวายพระพรชยั มงคล
เน่อื งในวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๓
“...ที่ประเทศไทย บรรพบุรุษของเราสละชีวิตเพ่ือปกป้องแผ่นดินมาเสียเลือดเนื้อ
แตเ่ สยี ดายทต่ี อนนที้ า่ นนายกฯ เขาไมใ่ หเ้ รยี นประวตั ศิ าสตรแ์ ลว้ นะ ฉนั กไ็ มเ่ ขา้ ใจ เพราะตอนที่
ฉนั อยู่ เรยี นอยู่ทส่ี วติ เซอรแ์ ลนด์ สวิตเซอรแ์ ลนด์ก็แสนไมม่ ปี ระวัตศิ าสตร์อะไรเทา่ ไร แต่เรา
ตอ้ งเรยี นประวตั ศิ าสตรส์ วติ แต่เมอื งไทยน่ี โอโ้ ห บรรพบรุ ุษเลือดทาแผน่ ดนิ กว่าจะมาถึงท่ี
ให้พวกเราอย่นู ัง่ อย่กู ันสบาย มีประเทศชาตเิ น่ีย เรากลับไม่ใหเ้ รียนประวัตศิ าสตร์ ไมร่ วู้ ่าใคร
มาจากไหน เอะ๊ เปน็ ความคดิ ทแี่ ปลกประหลาด อยา่ งทอ่ี เมรกิ า ถามไปเขากส็ อนประวตั ศิ าสตร์
สอนประวัติศาสตร์บ้านเมอื งเขา ที่ไหนประเทศไหนเขากส็ อนกนั แต่ประเทศไทยไม่มี ไม่ทราบว่า
แผ่นดินน้ีมันรอดมาอยู่บัดน้ีเพราะใคร หรือว่ายังไงกัน โอ้โห อันน้ีน่าตกใจ แต่ชาวต่างประเทศ
ยงั ไม่คอ่ ยทราบว่า นกั เรยี นไทยน่ี ไม่มีการสอนประวตั ิศาสตร์ชาติเลย...”
พระราชด�ำรสั สมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนพี ันปีหลวง
พระราชทานเน่อื งในวโรกาสให้คณะบคุ คลต่าง ๆ เขา้ เฝา้ ฯ ถวายพระพรชัยมงคล
เน่ืองในวนั เฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สงิ หาคม ๒๕๕๑
ค�ำน�ำ
(ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. ๒๕๖๓)
ส� ำ นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ก า ร ศึ ก ษ า ข้ั น พ้ื น ฐ า น ก� ำ ห น ด ใ ห ้ โ ค ร ง ก า ร
การ การพัฒนาผู้เรียนให้พร้อมเป็นพลเมืองท่ีมีความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะที่จ�ำเป็น
ในศตวรรษที่ ๒๑ มีความส�ำคัญอย่างยิ่งต่อประเทศ โดยเฉพาะเพื่อการแข่งขันทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม เพ่อื ธ�ำรงไวซ้ ่งึ ความมัน่ คง สถาพรของประเทศชาติ การจัดการศึกษาเพอ่ื บ่มเพาะ
ผู้เรียนให้รักและภาคภูมิใจในรากเหง้าของตนเอง ในประวัติศาสตร์ ความเป็นมาของชาติ
ในขนบธรรมเนยี ม ประเพณี วฒั นธรรมและภูมิปัญญาของบรรพบุรษุ กม็ คี วามสำ� คญั เช่นกัน
เพื่อพัฒนาผู้เรียนระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานให้พร้อมเป็นพลเมืองที่มีความรู้ ทักษะ
สมรรถนะท่ีจ�ำเป็นในศตวรรษท่ี ๒๑ เกิดความรักและภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติไทย
แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพื้นฐาน ได้น้อมน�ำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร
รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นแนวทางใจความส�ำคัญว่า
“...การศึกษาต้องมุ่งสร้างพ้ืนฐานให้แก่ผู้เรียนใน ๒ ด้าน คือ ส่งเสริมให้นักเรียนมีทัศนคติ
ท่ีถูกต้องต่อบ้านเมือง และมุ่งสร้างพ้ืนฐานชีวิตหรืออุปนิสัยที่ม่ันคง...” และรับใส่เกล้าฯ
กระแสพระราชดำ� รสั สมเดจ็ พระนางเจา้ สริ กิ ติ ์ิ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง
ท่ีแสดงความห่วงใยต่อการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย ก�ำหนดให้โครงการ
การพัฒนาหลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอนวิชาท่ีมีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
และสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นจุดเน้นเชิงนโยบาย และได้ด�ำเนินโครงการการพัฒนา
การจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทยตามแนวพระราชด�ำริของสมเด็จพระนางเจ้า
สริ ิกติ ิ์ พระบรมราชนิ ีนาถ พระบรมราชชนนีพันปหี ลวง “การเสรมิ สรา้ งทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
ผ่านกิจกรรม Active Learning การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติไทย” ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้น
พัฒนาการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เพ่ือให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจประวัติศาสตร์
ชาติไทย ได้รับการเสริมสร้างทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ ผ่านการลงมือปฏิบัติกิจกรรมรูปแบบ
Active Learning ทีบ่ ่มเพาะและปลกู ฝังความรัก ความภาคภมู ิใจในชาตไิ ทยและแสดงออกถงึ
ความจงรักภกั ดตี ่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ดงั นนั้ เพอ่ื ใหค้ รผู สู้ อนสาระประวตั ศิ าสตร์ กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศกึ ษา ศาสนาและ
วฒั นธรรมครผู นู้ ำ� กจิ กรรมเสรมิ หลกั สตู ร มแี นวการจดั กจิ กรรมการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทย
ท่ีเสริมสร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ ท่ีผู้เรียนได้ศึกษาและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
ผา่ นการลงมอื ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมแบบ Active Learning สำ� นกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน
จงึ ไดจ้ ดั ทำ� เอกสาร “แนวการจดั กจิ กรรม Active Learning ทเี่ สรมิ สรา้ งทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ :
ประวัติศาสตร์ชาติไทย” ขึ้น เป็นชุดกิจกรรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะทางประวัติศาสตร์
๓ ขนั้ ตอน คอื ขนั้ การรจู้ กั หลกั ฐานทหี่ ลากหลาย (Sourcing) ขนั้ การประเมนิ คณุ คา่ ของหลกั ฐาน
หรือการวิพากษ์หลักฐาน (Corroboration) และขั้นการวิเคราะห์สังเคราะห์โดยการใช้ข้อมูล
ทผี่ า่ นการวพิ ากษก์ บั ขอ้ มลู อนื่ ๆ (Contextualizing) หรอื รวมเรยี กวา่ “ทกั ษะทางประวตั ศิ าสตร์
1S2C” เพ่ือเป็นแนวทางและแรงบันดาลใจให้แก่ครูผู้สอนที่จะมีต้นแบบในการพัฒนาและ
ปรบั เสรมิ รูปแบบการสอนของตนต่อไป
หวงั เปน็ อยา่ งยงิ่ วา่ เอกสารฉบบั นจ้ี ะเปน็ ประโยชนต์ อ่ ครแู ละผทู้ ส่ี นใจการจดั กจิ กรรม
การเรียนการสอนทเ่ี สรมิ สรา้ งทักษะในศตวรรษที่ ๒๑ ผา่ นกิจกรรมรูปแบบ Active Learning
ปลูกฝังความรักความภาคภูมิใจในชาตไิ ทยและความจงรกั ภกั ดีตอ่ สถาบันพระมหากษตั ริย์
สำ� นกั งานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน
สารบัญ
ค�ำน�ำ หนา้
ทกั ษะทางประวตั ิศาสตรแ์ ละกิจกรรมเสริมสรา้ งการเรียนรู้ประวตั ศิ าสตร ์
กิจกรรม Active Learning การเรยี นรู้ประวัตศิ าสตรช์ าตไิ ทย ๑
l ชุดกิจกรรม ทกั ษะทางประวตั ศิ าสตร์ - ลำ� ดบั กษตั ริยส์ โุ ขทยั
l ชุดกจิ กรรม เรยี นรู้ภูมปิ ญั ญาสมัยสโุ ขทัย ๙
l ชุดกิจกรรม กษัตรยิ ์อยธุ ยามหี น้าท ี่ ๔๑
l ชดุ กิจกรรม เฮฮาคา้ ขาย สนธิสัญญาเบาว์รงิ ๘๑
ตวั อย่างแบบประเมนิ ผลการเรียนรู ้ ๑๑๙
คณะผจู้ ดั ท�ำ ๑๖๑
๑๖๗
ทกั ษะทางประวตั ศิ าสตร์
และกจิ กรรมเสรมิ สร้างการเรียนรูป้ ระวตั ศิ าสตร์
การเรยี นรู้ประวัตศิ าสตร์ คือ พน้ื ฐานเบือ้ งต้นในการรูจ้ กั และเข้าใจคุณค่าความสำ� คัญ
ของอดีต ด้วยการคิดวิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ วินิจฉัย บนพื้นฐานของความเป็นเหตุเป็นผล
จากหลกั ฐานข้อเท็จจริงที่หลากหลาย ส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นนักคิด มีเหตุมีผล
กระบวนการศึกษาทางประวตั ศิ าสตร์ หรอื วธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตรม์ งุ่ เสรมิ สรา้ งจติ ใจ
ใหเ้ ปน็ ผใู้ ฝเ่ รยี นรู้ รจู้ กั ตง้ั คำ� ถามและคน้ หาคำ� ตอบ ทำ� ใหไ้ ดเ้ รยี นรบู้ ทเรยี นจากอดตี ความเปน็ มา
ของสงั คมในพน้ื ท่ีและบรบิ ทของเวลาตา่ ง ๆ
ประวัติศาสตร์เปรียบเสมือนกระจกที่ส่องให้เห็นสังคมมนุษย์ ณ ช่วงเวลาหนึ่ง
ในพื้นท่ีท่ีหน่ึง ท่ีมีพัฒนาการสืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน สอนให้เรารู้จักตนเอง รวมถึง
ความเป็นมาของชุมชน ท้องถ่ินและประเทศชาติ ปลูกจิตส�ำนึกในความเป็นชาติ รักและ
ภาคภูมิใจในบรรพบุรษุ ทกี่ ่อต้ังชาตบิ า้ นเมอื ง
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ จึงมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้ผู้เรียนได้ตระหนัก
ถงึ ความสำ� คญั ของประวตั ศิ าสตรแ์ ละเนอ้ื หาทางประวตั ศิ าสตรต์ า่ ง ๆ เพอ่ื พฒั นาทกั ษะ สมรรถนะ
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผเู้ รยี น ทง้ั น้ี การจดั กจิ กรรมการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตรอ์ าจจดั ไดท้ งั้ รปู แบบ
กิจกรรมในห้องเรียนและกิจกรรมนอกห้องเรียน ซึ่งการเรียนรู้เน้ือหาสาระ หลักการ และ
ทฤษฎีในห้องเรียนจะเป็นรูปธรรม เข้าใจได้ง่ายและชัดเจนขึ้นเมื่อผู้เรียนได้สัมผัส รับรู้
เกิดประสบการณ์ตรงจากส่ิงที่ได้เรียนรู้หรือก�ำลังศึกษาอยู่จากการจัดกิจกรรมนอกห้องเรียน เช่น
การทำ� โครงงานประวตั ศิ าสตร์ การทศั นศกึ ษาแหลง่ เรยี นรทู้ างประวตั ศิ าสตร์ การเรยี นรนู้ อกสถานท่ี
ถือเป็นการเรียนรู้ที่มีชีวิตชีวา สร้างประสบการณ์ ผู้เรียนได้สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
เกดิ เปน็ การสร้างการเรยี นรูท้ ่ีมีความหมายใหแ้ ก่ผูเ้ รยี น
เมื่อผู้เรียนเกิดความตระหนักว่า วิชาประวัติศาสตร์ เป็นวิชาส�ำคัญต่อการพัฒนา
ทักษะการคิดวิเคราะห์ และผลของการเรียนวิชาประวัติศาสตร์จะพัฒนากระบวนการคิด
อย่างเป็นระบบแล้ว ผู้สอนควรเน้นย�้ำในรายละเอียดของทักษะทางประวัติศาสตร์ และขั้นตอน
ในการจดั กจิ กรรมประวตั ศิ าสตร์ เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นสามารถนำ� ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั ได้ เชน่
การเลอื กบรโิ ภคขอ้ มูลข่าวสาร การประเมนิ ความน่าเช่ือถือของขอ้ มลู การตรวจสอบแหลง่ ท่มี า
ของขอ้ มูล การแสดงความคดิ เห็นอยา่ งมตี รรกะ สมเหตุสมผล เป็นตน้ ส่งิ เหลา่ นจี้ ะทำ� ใหผ้ ้เู รยี น
ไม่โน้มเอียง หรือเชื่อโดยไม่มีหลักฐาน และสามารถแสดงเหตุผลในการเลือกเชื่อหรือปฏิบัติ
สิง่ นน้ั ๆ ได้
แนวการจัดกจิ กรรม Active Learning ท่ีเสริมสรา้ งทักษะการคิดวเิ คราะห์ : 1
ประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย
ทักษะทางประวัติศาสตร์
ทักษะ หมายถึง ความช�ำนาญในการกระท�ำหรือการปฏิบัติอย่างใดอย่างหน่ึง
ซงึ่ อาจเปน็ ทกั ษะดา้ นรา่ งกาย สตปิ ญั ญา หรอื สงั คม ทเ่ี กดิ ขนึ้ จากการฝกึ ฝนหรอื การกระทำ� ซา่ํ้ ๆ
ทักษะทางประวัติศาสตร์ หมายถึง ความสามารถ ความช�ำนาญในการรวบรวม
หลกั ฐานต่าง ๆ การประเมินค่าหลักฐาน การฝึกคิดวิเคราะหต์ ามบริบททางประวตั ศิ าสตร์ คือ
การต้องรู้จักบุคคล เวลา สถานท่ี และรู้จักเช่ือมโยงข้อมูลจากหลักฐานที่ได้รับกับองค์ความรู้
ตา่ ง ๆ ได้อยา่ งชดั เจน
ทักษะทางประวัติศาสตร์ เป็นทักษะการคิดวิเคราะห์ในมิติประวัติศาสตร์
เน้นการต้ังค�ำถามตลอดเวลา ไม่ใช่เพียงการน�ำข้อมูล หลักฐานที่รวบรวมได้มาเรียงต่อกัน
ทักษะทางประวตั ิศาสตร์ 1S2C จงึ เป็นทักษะทผ่ี สู้ อนต้องจดั กระบวนการเรยี นรูเ้ พ่ือให้ผ้เู รียน
มีความสามารถอย่างเชี่ยวชาญในการใช้ความคิดท่ีเป็นกระบวนการ เป็นเหตุเป็นผล
มวี จิ ารณญาณ เปดิ กวา้ งทางความคดิ เหน็ เพอ่ื สบื สอบเรอื่ งราวบนพนื้ ฐานขอ้ มลู หลกั ฐาน ขอ้ เทจ็ จรงิ
ท่ีปรากฏ ประกอบด้วยทกั ษะทีเ่ ปน็ ล�ำดบั ข้ันตอน ไดแ้ ก่
๑. ข้ันการรู้จักเอกสารหลักฐานท่ีหลากหลาย (Sourcing) หลักฐานเป็นพื้นฐาน
ส�ำคัญของการสืบค้นประวัติศาสตร์ กระบวนการรวบรวมข้อมูลหลักฐานจากแหล่งต่าง ๆ
จึงเป็นกระบวนการเร่ิมต้นที่ส�ำคัญของการสืบค้นเรื่องราวท่ีเกิดข้ึนไปแล้ว ผู้สอนจึงควร
จัดกระบวนการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการสืบค้นข้อมูล วางแผนรวบรวมข้อมูล
หลักฐานจากแหล่งต่าง ๆ ทั้งหลักฐานชั้นต้น คือ หลักฐานท่ีเกิดร่วมสมัยกับเหตุการณ์น้ัน ๆ
หรือมีการบันทึกร่วมสมัยกัน และหลักฐานชั้นรอง คือ งานเขียนท่ีใช้หลักฐานช้ันต้นมาศึกษา
วิเคราะห์ แสดงความคดิ เห็น เกิดขึ้นภายหลงั เหตุการณ์
ตัวอย่างหลักฐานทางประวัติศาสตร์ท่ีผู้เรียนอาจพบได้ใกล้ตัว เช่น เอกสาร
ทางราชการ บทความในหนังสือพิมพ์ การสัมภาษณ์ ภาพถ่าย ข้อมูลท่ีได้จากการสืบค้น
ทางอนิ เทอรเ์ นต็ โบราณสถาน โบราณวัตถุ เป็นตน้
๒. ขั้นการประเมินค่าของหลักฐาน (Corroboration) คือ กระบวนการ
ตรวจสอบประเมนิ คา่ เนอื้ หาและขอ้ มลู ทป่ี รากฏจากขอ้ มลู ภายในหลกั ฐานเอง เชน่ การตรวจสอบ
วัน เดือน ปี ที่ผลิตหรือสร้างเอกสาร การตรวจสอบชื่อบุคคล สถานที่ที่ปรากฏ การเทียบ
ศกั ราชในเอกสาร การตรวจสอบความนา่ เชื่อถือ อคติของผูเ้ ขยี น ขอ้ เท็จจริง การบิดเบอื นขอ้ มลู
ความหมายทแ่ี ท้จรงิ เป็นต้น
การจัดกระบวนการเรียนรู้ท่ีส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการประเมินค่าเน้ือหา
และข้อมูลท่ีปรากฏในหลักฐานนั้น ๆ โดยเฉพาะมิติความน่าเช่ือถืออคติของผู้เขียน
ข้อเท็จจริง การบิดเบือนข้อมูล ความหมายท่ีแท้จริง ถือเป็นขั้นตอนส�ำคัญท่ีผู้เรียน
จะไดฝ้ กึ ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ การคดิ พจิ ารณาความนา่ เชอ่ื ถอื ตามตรรกะและความสมเหตสุ มผล
2 แนวการจัดกิจกรรม Active Learning ท่เี สรมิ สร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ :
ประวัตศิ าสตรช์ าติไทย
๓. ข้ันการเปรียบเทียบข้อมูลจากหลักฐานที่หลากหลาย (Contextualizing)
คอื กระบวนการสอบทานเปรยี บเทยี บเนอ้ื หาและขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากหลกั ฐานนน้ั ๆกบั หลกั ฐานเอกสาร
ข้อมูลแวดล้อมอื่น ๆ เพ่ือให้ทราบข้อเท็จจริงหรือความจริงทางประวัติศาสตร์ ความเป็นมา
ของเหตกุ ารณ์ สาเหตทุ ท่ี ำ� ใหเ้ กดิ เหตกุ ารณ์ ความเปน็ ไปของเหตกุ ารณ์ ผลของเหตกุ ารณ์ เปน็ ตน้
โดยอาจจดั กระบวนการใหผ้ เู้ รยี นไดเ้ ปรยี บเทยี บเอกสารกบั หลกั ฐานอนื่ ๆ เชน่ ระหวา่ งหลกั ฐาน
ภาพถ่าย แผนท่ีโบราณ ข้อมูลที่ได้จากการสืบค้นทางอินเทอร์เน็ต ฯลฯ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เรียน
ได้พัฒนาทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ การเปรียบเทียบชุดข้อมูล และการสังเคราะห์ข้อมูล
สรปุ เรอ่ื งราวทไ่ี ด้ศึกษาตามตรรกะความน่าเชื่อถอื จากหลกั ฐานท่ปี รากฏ
กจิ กรรมเสริมสรา้ งการเรียนรู้ประวตั ิศาสตร์ โดยใชโ้ ครงงานประวตั ศิ าสตร์
โครงงาน หมายถึง กิจกรรมการจัดการเรียนรู้ที่ให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะการศึกษา
คน้ คว้า และลงมอื ปฏิบตั ดิ ว้ ยตนเองตามความสามารถ ความถนดั และความสนใจ โดยมีผสู้ อน
เป็นผู้กระตุ้น แนะน�ำให้คำ� ปรึกษาแก่ผู้เรียนในกระบวนการท�ำงานทุกข้ันตอน ตั้งแต่การเลือก
และกำ� หนดหวั ขอ้ เรอ่ื งทจ่ี ะทำ� การศกึ ษาคน้ ควา้ การวางแผนการดำ� เนนิ งาน การกำ� หนดขน้ั ตอน
การท�ำงาน การส�ำรวจรวบรวมข้อมูล การตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ของข้อมูล
และการออกแบบการนำ� เสนอผลงาน
กิจกรรมโครงงานประวัติศาสตร์ท่ดี ี ซึ่งมีกระบวนการพฒั นาทกั ษะทางประวัติศาสตร์
1S2C มีแนวทางการจัดโครงงานประวตั ิศาสตร์ ดงั น้ี
ขน้ั ที่ ๑ การอธบิ ายทักษะทางประวตั ิศาสตรแ์ ละโครงงานประวตั ิศาสตร์
ผู้สอนต้องอธิบายทักษะทางประวัติศาสตร์ 1S2C ๓ ข้ันตอน ให้ผู้เรียนเข้าใจ
และได้ฝึกฝนทักษะให้เกิดความช�ำนาญเพิ่มมากขึ้นก่อน เช่น การให้ผู้เรียนได้รู้จักหลักฐาน
ทุกประเภทเท่าท่ีสามารถกระท�ำได้ จากนั้นฝึกให้ผู้เรียนวิพากษ์ความน่าเช่ือถือของหลักฐาน
วิเคราะห์ เปรียบเทียบและสังเคราะห์ข้อมูลจากเอกสารท่ีผ่านการวิพากษ์กับเอกสาร
จากแหล่งอื่น ๆ
เมื่อผู้เรียนได้ฝึกฝนทักษะทางประวัติศาสตร์ 1S2C จนเป็นที่น่าพอใจแล้ว ผู้สอนจึง
ดำ� เนนิ กิจกรรมโครงงานประวตั ิศาสตร์ ต่อไป
ขน้ั ที่ ๒ การด�ำเนินงานโครงงานประวตั ศิ าสตร์ทมี่ ีทักษะทางประวัตศิ าสตร์ 1S2C
โครงงานเป็นกิจกรรมที่ต้องกระท�ำอย่างต่อเนื่อง ต้ังแต่เร่ิมต้นจนกระทั่งเสร็จส้ิน
โครงงาน ซึ่งผู้เรียนต้องเป็นผู้ด�ำเนินการเองท้ังสิ้น โดยมีผู้สอนท�ำหน้าที่เป็นท่ีปรึกษา แนะน�ำ
เสนอแนะอย่างใกล้ชิดตลอดเวลาในการด�ำเนินงานโครงงาน ขั้นตอนการด�ำเนินงานโครงงาน
ประวตั ศิ าสตร์ ประกอบด้วย
แนวการจัดกิจกรรม Active Learning ที่เสรมิ สรา้ งทักษะการคดิ วเิ คราะห์ : 3
ประวัตศิ าสตร์ชาติไทย
๑. การคดิ ประเด็นโครงงานและการเลอื กหัวขอ้ โครงงาน
ขั้นตอนน้ีเป็นการคิดหาและเลือกหัวข้อเร่ืองท่ีจะท�ำโครงงาน โดยผู้เรียนต้อง
ตง้ั ต้นด้วยคำ� ถามท่วี ่าจะศกึ ษาเรื่องใด เพราะเหตใุ ด ทำ� ไมต้องศกึ ษาเรอ่ื งดงั กลา่ ว เร่อื งดังกลา่ ว
มคี วามสำ� คัญอยา่ งไรต่อผู้เรียน ตอ่ ชมุ ชน หรอื ตอ่ ประเทศ สงิ่ ท่ีจะนำ� มากำ� หนดเปน็ หัวขอ้ เรื่อง
โครงงาน อาจได้มาจากปญั หา ค�ำถาม หรือความอยากร้อู ยากเห็นในเรื่องตา่ ง ๆ ของผ้เู รยี นเอง
ซ่ึงเป็นผลจากการท่ีผู้เรียนได้อ่านหนังสือต่าง ๆ มีการแลกเปลี่ยนความเห็นในกลุ่มผู้เรียนเอง
ตามแบบประชาธิปไตย หรือจากการท่ีได้ไปดูงานทัศนศึกษานอกสถานท่ี หรือสังเกตจาก
ปรากฏการณต์ ่าง ๆ รอบตัว หัวข้อของโครงงานควรเป็นเรือ่ งทเี่ ฉพาะเจาะจง และชดั เจน
โดยทั่วไปการสืบค้นเร่ืองราวต่าง ๆ ควรเป็นเร่ืองท่ีใกล้ตัว ผู้เรียนมีความสนใจ
อาจเร่ิมด้วยความอยากรู้เร่ืองของตนเองและครอบครัว เช่น ศึกษาเรื่องประวัติความเป็นมา
ของครอบครวั ตนเอง การประกอบอาชพี ของบคุ คลในครอบครวั เปน็ ตน้ ซง่ึ แหลง่ สบื คน้ ขอ้ มลู หลกั ฐาน
ก็จะอยู่ใกลต้ ัวผเู้ รียน เช่น รูปภาพ ขอ้ มลู จากการซกั ถามผู้ปกครอง ญาตสิ นิท เรอื่ งราวในชมุ ชน
หรือท้องถิ่นก็สามารถถูกสืบค้นด้วยวิธีการทางประวัติศาสตร์เช่นกัน อาทิ เร่ืองประเพณี
วัฒนธรรม การละเลน่ ในชุมชน ความเป็นมาของชอื่ หมูบ่ า้ น ถนน ต�ำบล อ�ำเภอ หรอื สถานท่สี �ำคัญ
แหล่งสืบค้นข้อมูลหลักฐานอาจเป็นสิ่งใกล้ตัว เช่น ลักษณะภูมิประเทศ การสอบถาม
ภูมิปัญญาท้องถ่ินหรือผู้รู้ในชุมชน รวมทง้ั แหลง่ ความรใู้ นชมุ ชนหรอื ในทอ้ งถน่ิ ทงั้ นี้ การเรยี นรู้
ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจะมีความหมายและมีคุณค่ายิ่งขึ้น เมื่อผู้เรียนสามารถเชื่อมโยง
ประวตั ศิ าสตรท์ อ้ งถน่ิ กบั ประวตั ศิ าสตรช์ าติ
๒. การศึกษาเอกสารทเี่ ก่ยี วขอ้ ง
การด�ำเนินงานตามข้ันตอนนี้ เป็นการศึกษาเอกสารที่เก่ียวข้องต่าง ๆ รวมถึง
การขอค�ำปรึกษาหรือข้อมูลรายละเอยี ดอนื่ ๆ จากปราชญช์ าวบ้าน ผูอ้ าวุโสในทอ้ งถ่ิน พระสงฆ์
ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เก่ียวข้องทุกระดับ รวมทั้งการส�ำรวจวัสดุ อุปกรณ์ต่าง ๆ การด�ำเนินงาน
ตามขั้นตอนน้ีจะท�ำให้เกิดความรู้ความเข้าใจในรายละเอียดต่าง ๆ ของเน้ือหาที่เกี่ยวข้อง
เพ่ิมมากข้ึน รวมทั้งท�ำให้เห็นถึงขอบข่ายของภาระงานท่ีจะต้องด�ำเนินการ ผลท่ีจะเกิด
จากการด�ำเนินงาน ช่วยท�ำให้ได้แนวคิดในการก�ำหนดขอบข่าย หรือเค้าโครงของเรื่อง
ท่จี ะศกึ ษาชดั เจนวา่ จะทำ� อะไร ท�ำไมตอ้ งท�ำ ตอ้ งการใหเ้ กดิ อะไร ท�ำอยา่ งไร ใชท้ รัพยากรอะไร
ท�ำกบั ใคร เสนอผลงานอยา่ งไร
๓. การเขยี นเค้าโครงของโครงงาน
เป็นการสร้างแผนผังความคิด เป็นการน�ำเอาภาพของงานและภาพความส�ำเร็จ
ของโครงงานท่ีวิเคราะห์ไว้มาจัดท�ำรายละเอียด เพื่อแสดงแนวคิด แผนงานและข้ันตอน
การทำ� โครงงาน มกี ารระดมสมอง ปรกึ ษาหารอื เพอื่ ใหผ้ รู้ ว่ มงานและผเู้ กย่ี วขอ้ งทกุ คนไดม้ องเหน็
ภาระงานตั้งแต่เร่ิมต้นจนเสร็จส้ิน รวมทั้งได้ทราบถึงบทบาทและระยะเวลาในการด�ำเนินงาน
เมื่อเกิดความชัดเจนแล้ว จึงน�ำมาก�ำหนดเขยี นเปน็ เคา้ โครงของโครงงาน
4 แนวการจดั กจิ กรรม Active Learning ทเ่ี สริมสร้างทักษะการคิดวเิ คราะห์ :
ประวัตศิ าสตร์ชาตไิ ทย
๔. การปฏบิ ัตโิ ครงงาน
เปน็ การดำ� เนนิ งานหลงั จากทโ่ี ครงงานไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากผสู้ อน (ครทู ป่ี รกึ ษา) แลว้
เป็นข้ันตอนที่ผู้เรียนลงมือปฏิบัติงานจริงตามแผนงานท่ีก�ำหนดไว้ในเค้าโครงของโครงงาน
มีการลงพ้ืนท่ีเก็บข้อมูล ระหว่างการปฏิบัติงานผู้เรียนต้องปฏิบัติงานด้วยความรอบคอบ
ค�ำนึงถึงความประหยัดและความปลอดภัยในการท�ำงาน ตลอดจนค�ำนึงถึงสภาพแวดล้อม
ในระหว่างการปฏิบัติงาน ต้องมีการจดบันทึกข้อมูลต่าง ๆ ไว้อย่างละเอียดว่า ท�ำอะไร
ได้ผลอย่างไร มีปัญหา อุปสรรค และมีแนวทางการแก้ไขอย่างไร การบันทึกข้อมูลดังกล่าวนี้
ต้องจัดท�ำอย่างเป็นระบบระเบียบ เพ่ือจะได้ใช้เป็นข้อมูลส�ำหรับการปรับปรุงการด�ำเนินงาน
ในโอกาสต่อไป การปฏิบัติกิจกรรมตามท่ีระบุไว้ในข้ันตอนการด�ำเนินงานโครงงานถือว่า
เป็นการเรียนรูเ้ นื้อหา ฝึกทกั ษะตา่ ง ๆ ตามทีร่ ะบุไวใ้ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้ การปฏิบัติโครงงาน
ควรใช้เวลาด�ำเนินการในสถานศึกษามากกว่าท่ีจะท�ำเป็นการบ้าน เพราะผู้เรียนจะได้ร่วมกัน
แกไ้ ขปญั หา
๕. การเขยี นรายงาน
การสรุปรายงานผลการด�ำเนินงานโครงงานต้องสรุปแนวคิด วิธีด�ำเนินงาน
ผลท่ีได้รับ ตลอดจนข้อสรุป ข้อเสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกับโครงงานท้ังหมด โดยใช้ภาษา
ท่ีเข้าใจง่าย กระชับ ชัดเจน และครอบคลุมประเด็นส�ำคัญ ๆ ของโครงงานที่ปฏิบัติไปแล้ว
ทั้งนี้ อาจสรปุ ในรปู แบบตารางก็ได้
๖. การแสดงผลงาน
นับเป็นข้ันตอนสุดท้ายของการท�ำโครงงาน เป็นการน�ำเสนอผลการด�ำเนินงาน
โครงงานทั้งหมดให้ผู้อ่ืนได้ทราบ อาจน�ำเสนอในรูปแบบเอกสาร รายงาน ชิ้นงาน แบบจ�ำลอง
การแสดงผลงานการจัดนิทรรศการ ส่ือสิ่งพิมพ์ ส่ือมัลติมีเดีย ฯลฯ ตามประเภทของโครงงาน
ทปี่ ฏิบตั ิ
การด�ำเนินงานตามขั้นตอนการท�ำโครงงานที่กล่าวมานี้ สามารถปรับให้เหมาะสม
กับช่วงช้ัน/ช่วงวัยของผู้เรียน ซึ่งการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในรูปแบบการท�ำโครงงาน
ประวัติศาสตร์ สามารถจัดได้กับผู้เรียนทุกระดับชั้น อาจลงมือกระท�ำเป็นรายบุคคล
หรือรายกลมุ่ เปน็ โครงงานเล็ก ๆ ทีศ่ กึ ษาเรอื่ งใกล้ตัว หรือโครงงานใหญ่ ๆ ที่ซบั ซอ้ น ตอ้ งมี
ผ้เู ชี่ยวชาญใหค้ ำ� แนะน�ำ และตอ้ งใชค้ วามรู้ วิธีการ ทักษะกระบวนการหลายอย่างประกอบกัน
ท้ังนี้ ส�ำหรับผู้เรียนระดับชั้นต้น ๆ ควรมีผู้สอน ครู-อาจารย์ท่ีปรึกษา เป็นผู้คอยให้ค�ำแนะน�ำ
ช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด และการด�ำเนินงานในแต่ละขั้นตอนควรมีความง่าย ไม่สลับซับซ้อน
สว่ นผเู้ รยี นในระดบั ชนั้ สงู ๆ ทสี่ ามารถอา่ นออกเขยี นได้ มที กั ษะในการอา่ นและประเมนิ หลกั ฐาน
ทางประวัติศาสตร์ ควรเน้นเร่ืองการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ขั้นสูง ทักษะความคิดริเร่ิม
สรา้ งสรรค์ ความรบั ผิดชอบ การตัดสินใจ และการลงมือปฏบิ ัติ
แนวการจัดกจิ กรรม Active Learning ทเี่ สรมิ สร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ : 5
ประวัติศาสตร์ชาตไิ ทย
กจิ กรรมเสริมสรา้ งการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตร์ โดยใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ในท้องถ่นิ
แหลง่ เรยี นรทู้ างประวตั ศิ าสตรใ์ นทอ้ งถนิ่ คอื สถานทสี่ ำ� คญั ในทอ้ งถนิ่ ทมี่ ปี ระวตั ศิ าสตร์
ความเปน็ มา พฒั นาการของสถานท่ี บุคคล ฯลฯ ให้เหน็ เปน็ การเฉพาะ และสามารถสบื คน้ ได้
เช่น โรงเรียน วัด มัสยิด โบสถ์ อนุสาวรีย์ ตลาด ย่านการค้า แหล่งชุมชนโบราณ ป้ายจารึก
พิพิธภัณฑ์ในท้องถิ่น การประกอบอาชีพ วิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี หรืออาจหมายถึง
บคุ คลสำ� คญั ปราชญ์ หรอื ภมู ปิ ญั ญาในทอ้ งถนิ่ ฯลฯ
องคป์ ระกอบส�ำคญั ของการจดั กจิ กรรมลกั ษณะนี้ คอื
๑. การก�ำหนดเนื้อหาท่ีชัดเจน สอดคล้องกับบทเรียนในแต่ละระดับชั้น การก�ำหนด
สถานทตี่ า่ ง ๆ ในพนื้ ทแ่ี หลง่ เรยี นรสู้ ำ� หรบั จดั กจิ กรรมเรยี นรนู้ น้ั มคี วามจำ� เปน็ อยา่ งยง่ิ มฉิ ะนนั้
จะกลายเปน็ การพาออกไปทอ่ งเทย่ี วโดยไมเ่ กดิ ประโยชนใ์ นการเรยี นรู้ ดงั นน้ั การไปทศั นศกึ ษา
แหลง่ เรยี นรู้ ผสู้ อนจะตอ้ งกำ� หนดเนอื้ หาและประชมุ วางแผนเตรยี มกจิ กรรมลว่ งหนา้
๒. การก�ำหนดกิจกรรมให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติ กิจกรรมในพื้นท่ีแหล่งเรียนรู้ เช่น
การวาดภาพ/วาดแผนผงั ถา่ ยรปู สมั ภาษณ์ ทำ� โครงงาน เปน็ ตน้
๓. การประเมินทักษะต่าง ๆ ของผ้เู รยี น เชน่ การท�ำงานเดยี่ วหรือกลมุ่ การสนทนา
การเขียน การคดิ ฯลฯ รวมถงึ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ า่ ง ๆ
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ผ่านแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์
จำ� เปน็ ตอ้ งมกี ารวางแผนการดำ� เนนิ งานทด่ี ี ดงั น้ี
๑. ขน้ั เตรยี มการกอ่ นออกเดนิ ทาง
๒. ขนั้ ศกึ ษาแหลง่ เรยี นรู้
๓. ขนั้ นำ� เสนอผลงาน
๑. ขน้ั เตรยี มการกอ่ นออกเดนิ ทาง
กอ่ นพาผเู้ รยี นไปเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตรท์ แ่ี หลง่ เรยี นรู้ คณะผสู้ อนตอ้ งมกี ารประชมุ เพอื่ ตกลง
ในรายละเอยี ด เชน่ สถานทที่ เี่ ปน็ แหลง่ เรยี นรู้ ตอ้ งพจิ ารณาถงึ ความสอดคลอ้ งกบั ประเดน็ ของการศกึ ษา
คน้ ควา้ เปน็ หลกั นอกจากนี้ ยงั ตอ้ งตดิ ตอ่ ประสานงานกบั เจา้ หนา้ ท่ี เชน่ จำ� นวนวทิ ยากรประจำ� จดุ
ทสี่ อดคลอ้ งกบั จำ� นวนผเู้ รยี น หากผเู้ รยี นมจี ำ� นวนมาก ควรแบง่ กลมุ่ ผเู้ รยี นเปน็ กลมุ่ ยอ่ ยในจำ� นวน
ที่เหมาะสม โดยมีครูประจ�ำกลุ่มดูแลพฤติกรรม ประเมินความสามารถและทักษะของผู้เรียน
ผสู้ อนควรไปส�ำรวจพ้ืนที่ก่อนพาผู้เรียนลงพื้นที่จริง เพราะจะท�ำให้ทราบว่าสถานที่แห่งน้ัน
มีพื้นท่ีเป็นอย่างไร เหมาะสมกับจ�ำนวนผู้เรียนหรือไม่ ตลอดจนความปลอดภัยและ
การเตรยี มการอืน่ ๆ
6 แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ท่เี สรมิ สร้างทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ :
ประวตั ิศาสตรช์ าตไิ ทย
สิ่งส�ำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การจัดท�ำใบงานหรือใบความรู้ท่ีเน้นกระบวนการ
ให้ผู้เรียนได้แสดงความสามารถในการศึกษาค้นคว้าและแสวงหาความรู้ด้วยการใช้วิธีการ
ทางประวัติศาสตร์ หรือการจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะทางประวัติศาสตร์ 1S2C
ในการศึกษาหลกั ฐานท่หี ลากหลาย มีการวพิ ากษ์หลักฐานน้นั ๆ กอ่ นออกไปสถานทีจ่ ริง
ผู้สอนจะต้องก�ำหนดเป้าหมายและวิธีการเรียนรู้ให้ชัดเจนว่า ผู้เรียนควรท�ำอะไร
เก็บข้อมูลอย่างไร ไม่ใช่เพียงการบันทึกข้อมูลท่ีจดได้เท่านั้น หากมีความเป็นไปได้ให้ผู้เรียน
ได้ทดลองปฏิบัติการเขียนโครงงานหรือแผนผังความคิดก่อนออกเดินทาง เพื่อจะได้มีประเด็น
ขอ้ ค�ำถามในการศึกษาลว่ งหน้า
๒. ขั้นศกึ ษาแหล่งเรียนรู้
ผสู้ อนตอ้ งบอกใหผ้ เู้ รยี นทราบถงึ กำ� หนดการ วทิ ยากร และสถานทท่ี จ่ี ะไปศกึ ษา พรอ้ มทงั้
ให้ศึกษาใบงานล่วงหน้า อาจให้มีการแบ่งบทบาท ภาระงานในการบันทึก รวบรวมข้อมูล
ที่ได้จากการเรียนรู้ โดยอาจให้ผู้เรียนเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือส�ำหรับบันทึกภาพ บันทึกเสียง
สมุดจดบันทึกไปด้วย นอกจากน้ี ผู้สอนต้องเตรียมตัวส�ำหรับท�ำการประเมินผู้เรียน
ในดา้ นกริ ยิ ามารยาท ความประพฤติ ทกั ษะ สมรรถนะ เชน่ ทกั ษะการทำ� งานและการทำ� งานกลมุ่
๓. ข้ันน�ำเสนอผลงาน
ผสู้ อนและผเู้ รยี นรว่ มกนั สรปุ กจิ กรรมและความรทู้ ไี่ ดร้ บั จากการศกึ ษาแหลง่ เรยี นรู้ ทบทวน
เน้อื หาทไ่ี ด้รบั น�ำเสนอผลงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย ผสู้ อนประเมนิ คุณคา่ ของชิ้นงานตามทกี่ ำ� หนด
โดยมีเกณฑ์การประเมนิ ชน้ิ งานท่ีชัดเจน
เม่ือเสร็จส้ินการจัดกิจกรรมการศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนแล้ว ผู้สอนอาจให้
ผู้เรียนท�ำโครงงานประวัติศาสตร์ร่วมด้วย เพราะโครงงานประวัติศาสตร์เป็นกิจกรรม
การเรยี นรทู้ มี่ งุ่ ฝกึ ฝนทกั ษะและวธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์ หรอื วธิ กี ารสบื คน้ เรอื่ งราวทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั
สังคมมนษุ ย์จากหลักฐานทางประวตั ศิ าสตร์ ด้วยวิธีการอยา่ งเปน็ ระบบ เปน็ กระบวนการเรยี นรู้
ตามวิธีการทางประวัติศาสตร์ท่ีชัดเจน และหากด�ำเนินโครงงานประวัติศาสตร์อย่างต่อเน่ือง
ตงั้ แตเ่ รมิ่ ตน้ จนกระทงั่ สนิ้ สดุ ผเู้ รยี นจะไดร้ บั การฝกึ ฝนทกั ษะทจ่ี ำ� เปน็ ในการดำ� รงชวี ติ เชน่ ทกั ษะ
การคิดวิเคราะห์ การใช้ค�ำถาม การอ่าน การสังเกต การส�ำรวจ และฝึกฝนคุณธรรม
ในการด�ำเนินชีวิต เช่น ความอดทน สัมมาคารวะ มารยาท มนุษยสัมพันธ์ ความซื่อสัตย์
ความไม่มีอคติต่อความแตกต่างทางวัฒนธรรม ความคิด ความเช่ือของบุคคล/ชุมชม/สังคม
เป็นการศึกษาคน้ คว้าขอ้ มลู เชงิ สรา้ งสรรค์
แนวการจัดกิจกรรม Active Learning ท่เี สริมสรา้ งทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ : 7
ประวัตศิ าสตรช์ าติไทย
วิธกี ารและทักษะทางประวตั ศิ าสตร์
วธิ ีการ ทักษะ
ทางประวตั ศิ าสตร์ ทางประวัติศาสตร์
1S2C
๑. ตั้งประเดน็ ค�ำถาม Sourcing
๒. รวบรวมหลกั ฐานขอ้ มูล Corroboration
๓. วิพากษ์หลกั ฐาน/ประเมินค่า Contextualizing
๔. วเิ คราะห/์ ตีความ
๕. สรปุ /น�ำเสนอ
8 แนวการจดั กจิ กรรม Active Learning ทเี่ สริมสร้างทักษะการคดิ วเิ คราะห์ :
ประวตั ิศาสตรช์ าตไิ ทย
กจิ กรรม Active Learning การเรียนรูป้ ระวัติศาสตรช์ าตไิ ทย
ชุดกจิ กรรม
ทกั ษะทางประวตั ิศาสตร์ - ล�ำดบั กษตั รยิ ส์ โุ ขทยั
กิจกรรม Active Learning การเรียนรปู้ ระวัตศิ าสตรช์ าตไิ ทย
ชดุ กิจกรรม ทักษะทางประวตั ศิ าสตร์ - ล�ำดบั กษตั รยิ ์สุโขทยั
ชดุ กจิ กรรมทกั ษะทางประวตั ศิ าสตร์ - ลำ� ดบั กษตั รยิ ส์ โุ ขทยั เปน็ กจิ กรรมทมี่ วี ตั ถปุ ระสงค์
ให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้รู้จักหลักฐานที่หลากหลายท่ีเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์สุโขทัย เน้นการ
ได้รู้จักหลักฐานชั้นต้นประเภทจารึก ซึ่งมีลักษณะเฉพาะ กล่าวคือ จารึกเป็นหลักฐาน
ที่ผลิตข้ึนร่วมสมัยหรือในสมัยท่ีเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์น้ัน ๆ เกิดขึ้น และอาจผลิต
ลงในวสั ดทุ ่ีหลากหลาย เชน่ หนิ แผ่นดินเผา หรอื โลหะอืน่ ๆ นกั ประวัตศิ าสตร์จึงประเมินค่า
จารึกว่าเป็นเอกสารช้ันต้นร่วมสมัย แต่หลักฐานจารึกที่พบในประเทศไทยหรือท่ีอ่ืน ๆ มักจะ
มขี อ้ มลู ทไ่ี มค่ รบสมบรู ณ์ จารกึ บางชน้ิ แตกหกั หรอื หายไปบางสว่ น ขอ้ มลู ทไ่ี ดร้ บั จากจารกึ จงึ ตอ้ ง
นำ� มาตอ่ เข้าด้วยกนั ผูร้ ว่ มชุดกจิ กรรม ทักษะทางประวตั ศิ าสตร์ - ล�ำดบั กษัตรยิ ์สโุ ขทยั จงึ ต้อง
อาศยั การประกอบข้อมูลจากจารกึ หลายชน้ิ ผู้ร่วมกจิ กรรมนจี้ ะไดข้ อ้ สรปุ วา่ การสบื คน้ เรอ่ื งราว
ทางประวตั ศิ าสตร์จำ� เปน็ ต้องอาศยั ข้อมลู อืน่ ๆ จากหลากหลายแหลง่ มาประกอบเข้าด้วยกนั
การจัดกิจกรรม Active Learning ชุดกิจกรรม ทักษะทางประวัติศาสตร์ - ล�ำดับ
กษัตริย์สุโขทัย เป็นกิจกรรมน�ำเข้าสู่บทเรียนให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้รู้จักทักษะทางประวัติศาสตร์
ในเร่ืองหลกั ฐานทีห่ ลากหลาย (Soucing) โดยจดั กิจกรรมเปน็ ๒ ช่วง คือ
ช่วงแรก กิจกรรมรู้จักหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ผู้ร่วมกิจกรรมจะได้รู้จัก
หลกั ฐานท่หี ลากหลายและเปน็ หลกั ฐานทอ่ี ยใู่ กลต้ วั การจดั กจิ กรรมมลี ักษณะเป็นกิจกรรมกลมุ่
กลมุ่ ละ ๑๐ คน ผรู้ ว่ มกจิ กรรมจะไดร้ บั เอกสารคนละ ๑ ชน้ิ อา่ นครง้ั ละ ๑ ชน้ิ อา่ นวนไปทว่ั ทง้ั กลมุ่
จากน้ันเป็นการวิเคราะห์ให้สมาชิกในกลุ่มฟังผ่านการเล่าเรื่อง ท�ำให้เกิดการแลกเปล่ียนเรียนรู้
ซง่ึ กันและกนั และสังเกตเอกสารวา่ เปน็ เอกสารชั้นต้นหรอื ชั้นรอง และมีความน่าเชอื่ ถอื เพยี งใด
หลังจากจัดกิจกรรมท่ีผู้ร่วมกิจกรรมได้รู้จักหลักฐานประวัติศาสตร์แล้ว กิจกรรม
ช่วงท่ีสอง คือ การหาความสัมพันธ์ของกษัตริย์สุโขทัยจากเอกสารหลักฐานชั้นต้น โดยที่ผู้ร่วม
กจิ กรรมจะไดร้ บั แจกเอกสารชนั้ ตน้ ประเภทจารกึ สมยั สโุ ขทยั จำ� นวน ๕ ชนิ้ และรว่ มกนั วเิ คราะห์
ขอ้ มลู จากหลกั ฐานนน้ั ๆ เพอื่ เขยี นสรปุ ลงในกระดาษ กจิ กรรมกลมุ่ นี้ ผรู้ ว่ มกจิ กรรมจะไดร้ ว่ มกนั
หาช่ือและความสัมพันธ์ทางเครือญาติของกษัตริย์สุโขทัย โดยต้องวิพากษ์ความน่าเช่ือถือของ
หลกั ฐานกอ่ น ท้ังน้ีจะเหน็ ว่าเอกสารหลกั ฐานแต่ละชนิ้ ให้ขอ้ มลู ท่ไี มค่ รบถว้ น บางช้ินปรากฏช่อื
ท่ผี ้รู ่วมกิจกรรมไมร่ ู้จกั มากอ่ น หรือแสดงความสัมพนั ธท์ ี่ชดั เจนของกษัตริย์สโุ ขทยั
แนวการจดั กจิ กรรม Active Learning ท่ีเสริมสรา้ งทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ : 11
ประวัติศาสตร์ชาติไทย
เม่ือผู้ร่วมกิจกรรมได้เขียนสรุปความสัมพันธ์ทางเครือญาติของกษัตริย์สมัยสุโขทัย
ลงในกระดาษและนำ� เสนอแลว้ ผนู้ ำ� กจิ กรรมตอ้ งสรปุ ใหเ้ หน็ ทกั ษะทางประวตั ศิ าสตรว์ า่ ลกั ษณะ
ของหลกั ฐานประวตั ศิ าสตรใ์ นประเทศไทยมขี ้อจ�ำกดั ในการใชห้ ลกั ฐาน เช่น มขี อ้ มูลไม่ครบถว้ น
หรือข้อมูลไม่ปะติดปะต่อกัน การจัดกิจกรรมคร้ังน้ีเน้นท่ีกระบวนการและเอกสาร ไม่ใช่
การศกึ ษาเนอ้ื หาประวตั ศิ าสตรไ์ ทยจากจารกึ ดงั นน้ั ผลสรปุ ทไ่ี ดจ้ งึ มใิ ชก่ ารไดล้ ำ� ดบั กษตั รยิ ท์ ค่ี รบถว้ น
ตามเอกสารต�ำราเรียนโดยท่วั ไป แต่เปน็ การสรุปความสัมพันธ์ของกษตั ริย์สุโขทัยตามที่ปรากฏ
ในหลกั ฐานทีใ่ ช้ในการดำ� เนินกิจกรรม
12 แนวการจัดกจิ กรรม Active Learning ท่เี สริมสร้างทักษะการคิดวเิ คราะห์ :
ประวตั ิศาสตร์ชาติไทย
แผนการจัดกิจกรรม
ชุดกจิ กรรม ทักษะทางประวตั ิศาสตร์ - ล�ำดบั กษัตริย์สโุ ขทยั
มาตรฐานการเรยี นรู้
ส ๔.๑ เข้าใจความหมาย ความส�ำคัญของเวลาและยุคสมัยทางประวัติศาสตร์
สามารถใช้วธิ กี ารทางประวตั ศิ าสตร์มาวิเคราะหเ์ หตุการณ์ต่าง ๆ อยา่ งเป็นระบบ
ตัวชีว้ ัด
ส ๔.๑ ป.๔/๓ แยกแยะประเภทหลักฐานท่ใี ชใ้ นการศึกษาความเปน็ มาของท้องถิ่น
ส ๔.๑ ป.๖/๑ อธบิ ายความส�ำคญั ของวิธีการทางประวัตศิ าสตรอ์ ยา่ งง่าย ๆ
ส ๔.๑ ป.๖/๒ นำ� เสนอขอ้ มลู จากหลกั ฐานทห่ี ลากหลายในการทำ� ความเขา้ ใจเรอื่ งราว
สำ� คญั ในอดีต
สง่ิ ท่ีไดเ้ รียนรู้
๑. จะรู้เร่ืองราวในอดีตต้องสืบค้นจากร่องรอยหลักฐาน ซึ่งมีหลากหลายชนิด และ
มีความน่าเชื่อถือแตกต่างกนั ไป
๒. รายช่ือและลำ� ดบั ของพระมหากษัตริย์สมัยสุโขทัย
๓. การท�ำเส้นเวลา (Timeline)
กิจกรรม ๑ : ทักษะทางประวตั ศิ าสตร์
การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ควรศึกษาอย่างเป็นระบบ โดยใช้กระบวนการและวิธีการ
ทางประวัติศาสตร์ ซึ่งในการวิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างเป็นระบบนั้น ทักษะท่ีต้องการ
ใหเ้ กดิ ขนึ้ กบั ผรู้ ว่ มกจิ กรรมในการเรยี นรปู้ ระวตั ศิ าสตรร์ ปู แบบ Active Learning คอื ทกั ษะ 1S2C
(Sourcing Corroboration Contextualizing) ผา่ นวิธีการทางประวัติศาสตร์ ๕ ขนั้ ตอน ดังนี้
ขน้ั ท่ี ๑ ตงั้ ประเด็นคำ� ถาม
ขน้ั ท่ี ๒ รวบรวมหลักฐานข้อมลู มากกว่า ๑ ช้นิ (Sourcing)
ขั้นท่ี ๓ วิพากษห์ ลกั ฐาน/ประเมนิ ค่า หลักฐานแต่ละช้นิ (Corroboration)
ข้ันที่ ๔ วิเคราะห์/ตีความ เปรียบเทียบ เชื่อมโยงบริบทของหลักฐานท่ีรวบรวมได้
เพอ่ื เรยี บเรียงใหไ้ ดเ้ รือ่ งราวทางประวัติศาสตร์ (Contextualizing)
ขั้นที่ ๕ สรุป/นำ� เสนอ
แนวการจดั กจิ กรรม Active Learning ทเี่ สริมสร้างทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ : 13
ประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย
ข้นั ตอนการจดั กิจกรรม
๑. แบง่ ผรู้ ว่ มกจิ กรรมเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ ๑๐ คน จากนน้ั แจกหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์
หมายเลข ๑ - ๑๐ ให้กลุ่ม ใหส้ มาชกิ ในกล่มุ รบั ผดิ ชอบศึกษาเอกสาร คนละ ๑ ช้ิน
๒. ให้สมาชิกแต่ละคนประเมินค่าและวิพากษ์หลักฐานที่ตนเองได้รับว่าหลักฐานน้ัน
เปน็ หลกั ฐานประเภทใด (หลกั ฐานชนั้ ตน้ หรอื หลกั ฐานชน้ั รอง) มคี วามนา่ เชอ่ื ถอื มากนอ้ ยเพยี งใด
แล้วส่งต่อให้สมาชิกในกลุ่มทางขวามือ พร้อมรับหลักฐานชิ้นต่อไปจากสมาชิกท่ีส่งมาให้ทาง
ซ้ายมอื พจิ ารณาหลกั ฐานช้นิ ที่อยใู่ นมือ ท�ำเชน่ น้ีจนทกุ คนได้ศกึ ษาเอกสารทกุ ชนิ้
๓. ผู้น�ำกิจกรรมต้ังประเด็นค�ำถามว่า เอกสารหมายเลข ๑ - ๑๐ ให้ข้อมูลอะไรบ้าง
หากอยากทราบประวตั ขิ องบคุ คลหนึ่ง ๆ จะศกึ ษาจากหลกั ฐานใดบา้ ง หลกั ฐานน้ัน ๆ สามารถ
เชอ่ื มโยงข้อมูลกนั ได้อย่างไร เชน่ ระหวา่ งสำ� เนาทะเบียนบ้านกับสตู ิบตั ร
๔. ผู้น�ำกิจกรรมชี้ให้เห็นว่าการศึกษาหลักฐานที่รวบรวมมาได้จากแหล่งต่าง ๆ ควร
ประเมนิ ค่าหลกั ฐานแต่ละชิ้นว่ามีความน่าเชื่อถอื มากนอ้ ยเพยี งใด และควรหาหลกั ฐานมากกว่า
๑ ชน้ิ เพอ่ื ประกอบการวิเคราะห์ เช่ือมโยงหาค�ำตอบตามประเดน็ คำ� ถามทีก่ ำ� หนด
๕. ผู้ร่วมกิจกรรมร่วมกันสรุปว่า การศึกษาประวัติของบุคคล ควรรวบรวมหลักฐาน
ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับตวั บคุ คลหลาย ๆ ช้นิ เพื่อท�ำการวิเคราะห์ความเชือ่ มโยง ความสมั พนั ธข์ องข้อมูล
อนั จะทำ� ให้การเขียนบรรยายสรปุ เกย่ี วกับบคุ คลนนั้ ๆ มคี วามครบถ้วนและน่าเชื่อถือ
กิจกรรมที่ ๒ : ล�ำดบั กษัตริย์สโุ ขทยั
๑. ตั้งประเด็นค�ำถามเพ่ือกระตุ้นการเรียนรู้ว่า “พระมหากษัตริย์สมัยสุโขทัย
มีก่พี ระองค์และแตล่ ะพระองค์มีความสมั พันธ์กนั อยา่ งไร”
๒. ผนู้ ำ� กจิ กรรมแจกหลกั ฐานทางประวตั ศิ าสตร์ จำ� นวน ๕ ชนิ้ (เอกสารหมายเลข ก - จ)
ใหแ้ ต่ละกลุ่ม ประกอบดว้ ย
เอกสารหมายเลข ก ศิลาจารกึ พ่อขนุ รามค�ำแหง (จารกึ หลักท่ี ๑)
เอกสารหมายเลข ข ศิลาจารกึ พอ่ ขนุ รามคำ� แหง (จารกึ หลักที่ ๑)
เอกสารหมายเลข ค จารกึ ปู่ขนุ จิดขนุ จอด
เอกสารหมายเลข ง จารกึ นครชุม (จารกึ หลกั ท่ี ๓)
เอกสารหมายเลข จ ชินกาลมาลปี กรณ์
๓. แต่ละกลุ่มศึกษาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ โดยให้ท�ำกิจกรรม ตามใบกิจกรรม
ตาราง ล�ำดับกษตั รยิ ส์ ุโขทยั ชนิ้ งานทีเ่ กดิ ขน้ึ คอื แผนภมู พิ ระมหากษตั รยิ ใ์ นสมยั สโุ ขทัย
14 แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ทเ่ี สรมิ สรา้ งทักษะการคดิ วเิ คราะห์ :
ประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย
๔. เลือกกลุ่มโดยวิธีการสุ่มหรือสมัครใจ เพื่อให้น�ำเสนอผลการศึกษาหลักฐาน
ทางประวัติศาสตร์ จากแผนภมู ทิ ่ีกลมุ่ จัดทำ� ขึ้น
๕. ร่วมสรุปกิจกรรมส�ำคัญที่ใช้ในการหาค�ำตอบ จากประเด็นค�ำถาม ประกอบด้วย
ทกั ษะสำ� คญั คอื ทกั ษะทางประวตั ศิ าสตร์ 1S2C เรม่ิ จากการรวบรวมหลกั ฐานขอ้ มลู แลว้ วพิ ากษ์
ประเมินค่าหลักฐานทีละช้ิน จากนั้นจึงท�ำการวิเคราะห์เนื้อหาหลักฐานท่ีได้ท้ังหมด เปรียบเทียบ
หาความเชื่อมโยงของเนือ้ หาหลักฐานท้ัง ๕ ชน้ิ เพ่อื ทำ� การสรุปและน�ำเสนอ
ข้ันสรปุ
- จากกจิ กรรม นักเรยี นได้ฝึกทกั ษะใดบา้ ง
- จากกิจกรรม นักเรียนไดเ้ รียนรอู้ ะไรบ้าง
- ทผ่ี ่านมานักเรยี นมวี ธิ กี ารในการศกึ ษาเรอ่ื งราวในอดีตอย่างไร
- นกั เรยี นสามารถนำ� ทกั ษะทางประวตั ศิ าสตร์ 1S2C ไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั
ได้อยา่ งไร
สรปุ กิจกรรม
การจดั กจิ กรรมทเ่ี นน้ ใหผ้ รู้ ว่ มกจิ กรรมไดร้ จู้ กั หลกั ฐานทห่ี ลากหลาย และเปน็ หลกั ฐาน
ท่ีมีอยู่รอบตัวเป็นกิจกรรมเบ้ืองต้นท่ีเสริมสร้างทักษะทางประวัติศาสตร์ ขั้นการรู้จักหลักฐาน
ท่หี ลากหลาย (Sourcing) กจิ กรรมนี้ ผ้รู ่วมกจิ กรรมจะต้องรจู้ ักหลักฐานต่าง ๆ เปน็ ล�ำดับแรก และ
สามารถจดั ประเภทของหลกั ฐานได้ โดยชใี้ หเ้ หน็ วา่ หลกั ฐานตา่ ง ๆ นน้ั มหี ลายประเภท หลกั ฐาน
ช้นั ตน้ เป็นเอกสารรว่ มสมัยที่มคี ุณค่า และหากแมม้ ีการผลติ ซำ้� เน้อื หา เชน่ การคดั ลอกเนอ้ื หา
การทำ� ส�ำเนา การถ่ายภาพ ฯลฯ กย็ งั นบั วา่ เปน็ หลกั ฐานช้ันต้น
เมอ่ื ผนู้ ำ� กจิ กรรมจดั กจิ กรรมแรกแลว้ หากจดั กจิ กรรมทสี่ อง เรอ่ื ง ลำ� ดบั กษตั รยิ ส์ โุ ขทยั
จะตอ้ งเชอื่ มโยงใหผ้ รู้ ว่ มกจิ กรรมเหน็ วา่ จากหลกั ฐานทม่ี อี ยรู่ อบตวั ซง่ึ เปน็ หลกั ฐานทเี่ กดิ รว่ มสมยั
ของเหตุการณ์ ถือเป็นหลักฐานชั้นต้น ซ่ึงหลักฐานช้ันต้นมีความน่าเช่ือถือ ในกรณีเดียวกัน
ในการศึกษาประวัติศาสตร์สุโขทัย หากใช้ศิลาจารึกซ่ึงเป็นหลักฐานช้ันต้น เพราะเกิดร่วมสมัย
กับเหตกุ ารณ์ ก็ยอ่ มจะทำ� ให้การศกึ ษาประวตั ิศาสตร์สโุ ขทัยมคี วามนา่ เชื่อถือขน้ึ ดว้ ย เมื่อผู้รว่ ม
กิจกรรมไดป้ ฏบิ ตั กิ จิ กรรมทง้ั หมดแล้ว ผลงานที่ผรู้ ว่ มกจิ กรรมน�ำเสนอจะแสดงใหผ้ ู้ร่วมกิจกรรม
เห็นประโยชนข์ องหลักฐานและวพิ ากษค์ วามน่าเช่ือถอื ของหลกั ฐานได้
ข้อควรระวังในการจัดกิจกรรมล�ำดับกษัตริย์สุโขทัย คือ ผู้ร่วมกิจกรรมส่วนใหญ่
จะพยายามหาคำ� ตอบทค่ี รบถว้ นสมบรู ณจ์ ากสอื่ ตา่ ง ๆ เชน่ อนิ เทอรเ์ นต็ เพอ่ื หาคำ� ตอบเกยี่ วกบั
ความสัมพันธ์เชิงเครือญาติของกษัตริย์สมัยสุโขทัย และจะเติมแผนผังกิจกรรมได้อย่างสมบูรณ์
ผนู้ �ำกจิ กรรมตอ้ งเนน้ ย�้ำวา่ ใหค้ น้ หาขอ้ มลู จากหลกั ฐานทไ่ี ดร้ บั เทา่ นน้ั และการจดั กจิ กรรมครง้ั น้ี
เปน็ การเนน้ ที่ทกั ษะทางประวตั ศิ าสตร์ ไมใ่ ช่เนอ้ื หาขอ้ มูลประวัตศิ าสตร์
แนวการจัดกจิ กรรม Active Learning ท่ีเสริมสร้างทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ : 15
ประวัตศิ าสตรช์ าตไิ ทย
เอกสารประกอบการท�ำกจิ กรรมท่ี ๑
ประกอบดว้ ยเอกสาร หมายเลข ๑ - ๑๐
ได้แก่
หมายเลข ๑ - จดหมายลาปว่ ย
หมายเลข ๒ - การสบื ค้นขอ้ มลู จากเว็บไซต์ Wikipedia
หมายเลข ๓ - ขา่ วหนงั สือพมิ พ์
หมายเลข ๔ - ส�ำเนาทะเบียนบ้าน
หมายเลข ๕ - ปา้ ยศาลาวัด
หมายเลข ๖ - การด์ งานแตง่ งาน
หมายเลข ๗ - การด์ งานบวช
หมายเลข ๘ - สูตบิ ตั ร
หมายเลข ๙ - ขา่ วหนงั สือพิมพ์ (บันทึกประจำ� วนั โดยเจา้ หนา้ ทีต่ ำ� รวจ)
หมายเลข ๑๐ - พนิ ัยกรรม
16 แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ท่เี สริมสร้างทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ :
ประวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทย
หมายเลข ๑
แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ท่เี สริมสรา้ งทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ : 17
ประวัติศาสตร์ชาตไิ ทย
หมายเลข ๒
18 แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ทีเ่ สริมสรา้ งทักษะการคดิ วเิ คราะห์ :
ประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย
หมายเลข ๓
Nation TV - เว็บไซต์สถานขี ่าวอันดบั ๑ ของเมอื งไทย
“ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปตรวจสอบ ก็พบว่าท่ีบ้านเลขท่ี ๗๙ ม.๑๐ ต.หัวฝาย
อ.แคนดง ได้มีบรรดาญาติพ่ีน้องและเพื่อนบ้านใกล้เคียง ต่างพากันมาแสดงความยินดีกับ
นางหงวน อดทน อายุ ๔๗ ปี และนายทองใบ ชิดรัมย์ อายุ ๔๘ ปี สองสามีภรรยามีอาชีพ
ทำ� นาและไร่มันส�ำปะหลัง ซ่งึ เปน็ ผูโ้ ชคดีทถ่ี ูกลอตเตอร่ี รางวลั ที่ ๑ จำ� นวน ๑ ฉบับ ไดเ้ งินรางวลั
จ�ำนวน ๖ ลา้ นบาท”
อ่านตอ่ ท่ี : http://www.nationtv.tv/main/content/social/๓๗๘๕๑๘๙๘๘/
แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ท่เี สรมิ สรา้ งทักษะการคดิ วเิ คราะห์ : 19
ประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย
หมายเลข ๔
20 แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ทีเ่ สริมสรา้ งทักษะการคดิ วเิ คราะห์ :
ประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย
หมายเลข ๕
แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ท่เี สริมสรา้ งทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ : 21
ประวัติศาสตร์ชาตไิ ทย
หมายเลข ๖
22 แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ทีเ่ สริมสรา้ งทักษะการคดิ วเิ คราะห์ :
ประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย
หมายเลข ๗
แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ท่เี สริมสรา้ งทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ : 23
ประวัติศาสตร์ชาตไิ ทย
หมายเลข ๘
24 แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ทีเ่ สริมสรา้ งทักษะการคดิ วเิ คราะห์ :
ประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย
หมายเลข ๙
มรี ายงานเมอื่ เวลา ๑๗.๐๐ น. วนั ท่ี ๑๖ กรกฎาคม ขณะที่ ร.ต.อ. ชยั สทิ ธิ์ วรวงศ์ รอง สว.
(สอบสวน) สภ.เมืองรอ้ ยเอด็ ปฏิบตั หิ นา้ ท่ีอยบู่ นโรงพัก ได้มีนางภารฌั ชน์ ทิพบตุ ร วัย ๔๐ ปี
ชาวอ�ำเภอเสลภูมิ น�ำสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ถูกรางวัลท่ี ๑ งวดประจ�ำวันที่ ๑๖ กรกฎาคม
หมายเลข ๔๔๙๗๖๔ จ�ำนวน ๕ คู่ ซึง่ เงนิ รางวลั รวมเป็นเงนิ มูลค่า ๓๐ ลา้ นบาท มาแจง้ ความ
ลงบนั ทึกประจ�ำวันไว้
โดยนางภารัฌชน์ เจ้าของลอตเตอร่ี เล่าให้ฟังด้วยอาการต่ืนเต้นว่า ตนเป็นภรรยา
นายตำ� รวจ ยศ ร.ต.อ. ตำ� รวจ ประจำ� กองสอบสวนกลาง กรงุ เทพฯ โดยไดพ้ กั อาศยั อยทู่ กี่ รงุ เทพฯ
แตบ่ า้ นเกดิ อยทู่ ี่จงั หวดั รอ้ ยเอด็ และทผ่ี า่ นมาเมอ่ื วนั ท่ี๑๕กรกฎาคมสามหี ยดุ ยาวในวนั เขา้ พรรษา
และได้กลับมาเท่ียวบ้าน
แนวการจัดกิจกรรม Active Learning ทีเ่ สรมิ สร้างทักษะการคิดวิเคราะห์ : 25
ประวตั ศิ าสตรช์ าติไทย
หมายเลข ๑๐
26 แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ทีเ่ สริมสรา้ งทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ :
ประวตั ศิ าสตร์ชาตไิ ทย
เอกสารประกอบการท�ำกจิ กรรมท่ี ๒
ประกอบดว้ ยเอกสาร หมายเลข ก - จ
ไดแ้ ก่
หมายเลข ก - ศลิ าจารกึ พ่อขุนรามค�ำแหง (จารึกหลักท่ี ๑)
หมายเลข ข - ศลิ าจารึกพ่อขุนรามค�ำแหง (จารึกหลกั ท่ี ๑)
หมายเลข ค - จารึกปขู่ ุนจดิ ขุนจอด
หมายเลข ง - จารึกนครชมุ (จารึกหลักท่ี ๓)
หมายเลข จ - ชินกาลมาลีปกรณ์
และใบกจิ กรรม ตาราง ลำ� ดับกษตั รยิ ์สุโขทัย
แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ทเี่ สรมิ สรา้ งทักษะการคดิ วเิ คราะห์ : 27
ประวตั ศิ าสตร์ชาติไทย
หมายเลข ก
ศิลาจารกึ พอ่ ขนุ รามค�ำแหง (จารึกหลกั ท่ี ๑)
จดั ท�ำโดย พอ่ ขนุ รามค�ำแหงมหาราช เมอ่ื พ.ศ. ๑๘๓๕
ด้านที่ ๑ บรรทดั ท่ี ๑ - ๓
ค�ำอ่าน
“พ่อกูชื่อศรีอินทราทิตย์ แม่กูชื่อนางเสือง พ่ีกูช่ือบานเมือง ตูพี่น้องท้องเดียวห้าคน
ผูช้ ายสาม ผู้ญงี โสง พี่เผ-ื อ ผอู้ ้าย ตายจากเผอื เตยี มแต่ยงั เล็ก”
ค�ำแปล
บิดาของพ่อขุนรามค�ำแหงชื่อศรีอินทราทิตย์ มารดาชื่อนางเสือง พ่ีชายชื่อบานเมือง
พอ่ ขนุ รามคำ� แหงมพี นี่ อ้ งทอ้ งเดยี วกนั ทง้ั หมดหา้ คน เปน็ ผชู้ ายสามคน ผหู้ ญงิ สองคน พชี่ ายคนโต
ของพอ่ ขุนรามค�ำแหงได้ตายจากไปต้งั แตย่ ังเดก็
ค�ำอธิบายเพ่มิ เตมิ
ศิลาจารึกพ่อขุนรามค�ำแหง หรือ จารึกหลักที่ ๑
เปน็ จารกึ ทบี่ นั ทกึ ประวัติศาสตรส์ มัยสุโขทยั
ศลิ าจารกึ นี้เจา้ ฟา้ มงกฎุ ฯ (ตอ่ มาคอื พระบาทสมเดจ็
พระจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั รัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรตั นโกสนิ ทร)์
เปน็ ผู้ทรงค้นพบ เมอื่ พ.ศ. ๒๓๗๖ ณ เนินปราสาทเมืองเก่า
สุโขทัย อ�ำเภอเมือง จังหวดั สโุ ขทยั
ปัจจุบันเก็บรักษาอยู่ท่ีพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
พระนคร กรุงเทพมหานคร
28 แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ทเี่ สริมสรา้ งทักษะการคิดวเิ คราะห์ :
ประวัติศาสตรช์ าติไทย
หมายเลข ข
ศลิ าจารกึ พ่อขุนรามค�ำแหง (จารกึ หลกั ที่ ๑)
จัดท�ำโดย พอ่ ขนุ รามค�ำแหงมหาราช เมื่อ พ.ศ. ๑๘๓๕
ดา้ นที่ ๑ บรรทดั ท่ี ๑๖ - ๑๘
ค�ำอา่ น
“พอ่ กตู ายยงั พกี่ ู กพู รำ่� บำ� เรอแกพ่ กี่ ู ดง่ั บำ� เรอแกพ่ อ่ กู พก่ี ตู าย จง่ึ ไดเ้ มอื งแกก่ ทู ง้ั กลม”
ค�ำแปล
เมื่อพ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์ (พอ่ กู) ส้ินพระชนม์ พอ่ ขุนบานเมือง (พี่กู) ครองราชยต์ ่อ
พ่อขุนรามค�ำแหง (กู) ก็ยังคงปฏิบัติตนเช่นเดิม ยังคงคอยปรนนิบัติรับใช้พ่อขุนบานเมือง
ดั่งเช่นเคยท�ำกับพ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เม่ือพ่อขุนบานเมืองส้ินพระชนม์ราชสมบัติจึงตกแก่
พ่อขุนรามค�ำแหง
ค�ำอธบิ ายเพิม่ เติม
ศิลาจารึกพ่อขุนรามค�ำแหง หรือ จารึกหลักท่ี ๑
เปน็ จารึกทบ่ี นั ทกึ ประวตั ิศาสตร์สมัยสุโขทัย
ศลิ าจารกึ น้ี เจา้ ฟา้ มงกฎุ ฯ (ตอ่ มา คอื พระบาทสมเดจ็
พระจอมเกลา้ เจ้าอยูห่ วั รัชกาลที่ ๔ แห่งกรุงรตั นโกสินทร์)
เปน็ ผู้ทรงค้นพบ เมือ่ พ.ศ. ๒๓๗๖ ณ เนินปราสาทเมืองเกา่
สโุ ขทยั อำ� เภอเมอื ง จงั หวัดสุโขทยั
ปัจจุบัน เก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
พระนคร กรุงเทพมหานคร
แนวการจัดกจิ กรรม Active Learning ทเี่ สริมสร้างทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ : 29
ประวัติศาสตรช์ าติไทย
หมายเลข ค
จารกึ ปู่ขนุ จดิ ขุนจอด
จารกึ ปขู่ นุ จดิ ขนุ จอด ดา้ นท่ี ๑ ตอนตน้ ของจารกึ มกี ารอญั เชญิ เทพยดาอารกั ษ์ ทอี่ าศยั
อย่ใู นนำ�้ ในถ�ำ้ ตา่ ง ๆ และดวงพระวญิ ญาณกษัตริย์ฝา่ ยราชวงศส์ ุโขทัย ดังน้ี
ค�ำจารกึ อา่ นว่า
ค�ำแปล
“(ฝู) งผหู้ วาน ปู่ขุนจติ ขุนจอด ปูพ่ ระยาศ (รีอินทราท)ิ ตย์ ปูพ่ ระยาบานเมอื ง ปพู่ ระยา
รามราช ปู่ไสส...(ส) งคราม ปู่พระยาเลอไทย ปู่พระยางัวน�ำถม ปู่...(พระ) ยามหาธรรมราชา
พอ่ งำ� เมือง พ่อเลอไทย แ...(ลไท) ย ผดู้ ผี ชี าวเลอื งเท่าน้ีแล”
ค�ำอธบิ ายเพิ่มเตมิ
จารกึ ปขู่ นุ จดิ ขนุ จอด เปน็ จารกึ สมยั สโุ ขทยั ไมป่ รากฏ
หลักฐานผู้สรา้ ง ถูกค้นพบท่รี ิมเสาเบอ้ื งขวาหนา้ วหิ ารหลวง
วัดมหาธาตุ อำ� เภอเมอื ง จงั หวัดสโุ ขทยั
จารกึ นเี้ ปน็ จารกึ ประเภท“สตั ยประตชิ ญา”คอื จารกึ
หลักฐานการที่ผู้น�ำท้ังสองรัฐกระท�ำสัตย์สาบานร่วมกัน
ในท่ีนี้ ข้อความด้านที่ ๑ ได้กล่าวถึงการท�ำสัตย์สาบาน
ระหว่างผูเ้ ป็นใหญข่ องน่านและสโุ ขทยั
(ที่มาค�ำแปล : จารึกสุโขทัย ฉบับภาษาไทย - เขมร. สมาคม
วัฒนธรรมไทย - กมั พชู า, ๒๕๕๑)
30 แนวการจัดกิจกรรม Active Learning ที่เสรมิ สร้างทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ :
ประวัติศาสตร์ชาติไทย
หมายเลข ง
จารึกนครชุม (จารึกหลกั ที่ ๓)
ค�ำจารกึ อา่ นวา่
ค�ำอธบิ ายเพม่ิ เติม
จารกึ นครชุม (จารกึ หลักท่ี ๓) สรา้ งโดย พระธรรมราชาท่ี ๑
(ลิไท) เม่อื มหาศกั ราช ๑๒๗๙ ปรี ะกา (พ.ศ. ๑๙๐๐)
เดิมไม่ทราบว่าอยู่ท่ีไหน พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา
ด�ำรงราชานุภาพ ทรงพยายามสืบหาอยู่เป็นเวลานาน สุดท้าย
พบทวี่ ดั พระบรมธาตุ ตำ� บลนครชมุ อำ� เภอเมอื ง จงั หวดั กำ� แพงเพชร
เม่ือ พ.ศ. ๒๔๖๔
ปัจจุบัน เก็บรักษาอยู่ท่ีหอพระสมุดวชิรญาณ กองหอสมุด
แห่งชาติ กรุงเทพมหานคร
แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ทเี่ สริมสรา้ งทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ : 31
ประวตั ศิ าสตรช์ าติไทย
หมายเลข จ
ชนิ กาลมาลีปกรณ์
ชนิ กาลมาลปี กรณ์ กลา่ ววา่ พระยางวั่ นำ� ถมุ เปน็ พระราชโอรสของพอ่ ขนุ บานเมอื ง
พระยางว่ั นำ� ถมุ ในขณะทพี่ ระองคค์ รองเมอื งสโุ ขทยั ทรงสถาปนาพระยาลไิ ท
(พระมหาธรรมราชาท่ี ๑) ให้เป็นพระมหาอุปราช ทรงครองเมืองศรีสัชนาลัย เม่ือ
พ.ศ. ๑๘๘๓
ค�ำอธบิ ายเพม่ิ เตมิ
ชินกาลมาลีปกรณ์ เป็นวรรณกรรม
ภาษาบาลีที่ถูกใช้อ้างอิงในฐานะเอกสารต�ำนาน
พงศาวดาร เขียนโดยพระรัตนปัญญาเถระ ภิกษุ
ชาวลังกาในล้านนา มีเรื่องราวพงศาวดารของ
แว่นแคว้นฝ่ายเหนือ หริภุญไชย โยนก ล้านนา
เรอื่ งพระพทุ ธสหิ งิ ค์ พระมหาธาตเุ ชยี งใหม่ พระแกว้
มรกต จนกระทั่ง สุดเร่ืองที่ประวัติราชวงศ์มังราย
ในสมยั ของผแู้ ตง่ คอื สมยั พระเมอื งแกว้ กษตั รยิ ร์ ชั กาลท่ี
๑๔ ในราชวงศม์ งั ราย ตรงกบั พ.ศ. ๒๐๖๐
32 แนวการจัดกิจกรรม Active Learning ทเ่ี สรมิ สรา้ งทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ :
ประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย
หลักฐาน ตาราง ล�ำดบั กษตั ริย์สุโขทยั ระบุความสมั พันธเ์ ชิงเครอื ญาติ
หมายเลข ก หลักฐานชนิ้ นก้ี ล่าวถงึ กษตั ริย์สุโขทัย ของกษตั ริยส์ ุโขทัยที่ถูกกลา่ วถงึ ในหลกั ฐาน
พระองคใ์ ดบ้าง
หมายเลข ข
แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ที่เสรมิ สรา้ งทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ :
ประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย
หมายเลข ค
หมายเลข ง
หมายเลข จ
33
ตวั อยา่ ง PowerPoint ประกอบการท�ำกจิ กรรม
34 แนวการจัดกิจกรรม Active Learning ทีเ่ สรมิ สร้างทักษะการคดิ วเิ คราะห์ :
ประวตั ิศาสตร์ชาติไทย
แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ที่เสรมิ สรา้ งทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ : 35
ประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย
36 แนวการจดั กจิ กรรม Active Learning ท่ีเสริมสรา้ งทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ :
ประวัติศาสตร์ชาติไทย
แนวการจดั กิจกรรม Active Learning ที่เสรมิ สรา้ งทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ : 37
ประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย