16310ebook

บทที่ 4

การทำเวบ็ ไซต์ใหต้ ดิ อนั ดบั การค้นหา
(Search Engine Optimization Technique)

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. เข้าใจความหมายของ SEO
2. สามารถบอกถงึ ความสำคัญของการทำ SEO ได้
3. สามารถใชเ้ ครอ่ื งมือสำหรับการค้นหาคีย์เวริ ด์ ต่าง ๆ ได้

91

การทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหา ถือว่าเป็นช่องทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมในหมู่นักธุรกิจและ
นักการตลาด สำหรับการทำการตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงบนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นหลักการและเทคนิคต่าง ๆ
ในการปรับปรุงเว็บไซต์ เพื่อทำให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ ที่ปรากฎในส่วนของผลลัพธ์การค้นหา
ในเว็บเสริ ช์ เอนจนิ ผูใ้ ชส้ ามารถพิมพค์ ำตา่ ง ๆ ในชอ่ งของการค้นหาเพือ่ หาขอ้ มลู ท่ีตอ้ งการ เรียกวา่ “คยี ์เวริ ์ด”
(Keyword) หลังจากที่ได้ทำการคลิกปุ่มค้นหาข้อมูลหรือกดปุ่ม Enter แล้ว หน้าจอก็จะแสดงผลลัพธ์ในการ
ค้นหาจากคีย์เวิร์ดที่ได้ทำการพิมพ์ลงไป โดยจะเรียกการแสดงผลนี้ว่าหน้า “Search Engine Result Page
หรือ SERP” ซึ่งจะเป็นการเรียงลำดับเว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดมากที่สุดโดยเรียงจากบนลงล่าง
ตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทเสิร์ชเอนจินที่คนทั่วโลกนิยมใช้ในการค้นหาข้อมูล เช่น Google, Bing, Baidu,
Yahoo, Yandex เปน็ ต้น

1. ความหมายของ SEO

Search Engine Optimization หรือ SEO หมายถึง การเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องมือค้นหา
กล่าวได้วา่ เป็นการปรับแต่งให้เหมาะกับการค้นหาด้วยเสิร์ชเอนจิน ซึ่งการปรับแตง่ หรือการเพ่ิมประสิทธิภาพ
ที่ต้องการนั้นก็คือ “เว็บไซต์” โดยมีเป้าหมายหลักในการดันเว็บไซต์ให้อยู่ในอันดับต้น ๆ ของเสิร์ช
เอนจิน ซึ่งจำเป็นต้องทราบถึงคุณลักษณะให้มีความสอดคล้องกับการทำงานของเสิร์ชเอนจิน เพื่อทำให้
เสริ ช์ เอนจนิ มองวา่ เวบ็ ไซตน์ ้ันมคี ุณภาพ

ด้วยพฤติกรรมของผู้ใช้งานมักอาศัยการค้นหาข้อมูลผ่านเว็บเสิร์ชเอนจิน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเริ่มต้น
ในการใช้งานอินเทอร์เน็ต ประกอบกับเครื่องมือที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน
ยกตัวอย่างเช่น Google, Bing, Baidu เป็นเครื่องมือที่ใช้ค้นหาข้อมูล ข่าวสาร สินค้า สถานที่ท่องเที่ยว
ร้านอาหาร จองที่พักและข้อมูลอื่น ๆ อีกมากมาย คงจะดีถ้าสามารถใช้ประโยชน์จากเครื่องมือในการค้นหา
ข้อมูลหรือเสิร์ชเอนจิน เพื่อสร้างผลตอบแทนและประโยชน์ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าคนส่วนใหญ่อยู่กับอินเทอร์เน็ต
เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ เทคโนโลยีล้ำสมัย ผู้บริโภคมีวิธีในการเข้าถึงสื่อรวดเร็ว ดังนั้น
สิ่งที่สำคัญในการทำการตลาดปัจจุบันที่ถือได้ว่าเป็นโลกของการแข่งขันอย่างไร้ขีดจำกัด คู่แข่งขันเกิดใหม่
ในวงการธุรกิจทุกวินาที ทำให้จำเป็นต้องมีการเรียนรู้และเห็นถึง ประโยชน์ของ SEO ประกอบกับ
การนำเครื่องมือที่ทันสมัยมาช่วยในการทำการตลาด ยกตัวอย่างเช่น การทำ SEO ด้วย Google AdWords
เป็นตน้

ภาพท่ี 1 โลโก้ Google AdWords
ทีม่ า: https://www.google.com/

92

ซือ้ สนิ ค้า สถานที่ทอ่ งเท่ยี ว
ร้านอาหาร จองที่พัก

ภาพท่ี 2 เครือ่ งมอื ในการค้นหาข้อมูลทไ่ี ด้รบั ความนยิ ม google.com
ท่ีมา: http://www.google.co.th

จากพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตของผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะพบว่าเสิร์ชเอนจิน คือประตูที่เชื่อมผู้คน
มากมายเข้าไปสู่ข้อมูลที่มีอยู่ในเครือข่ายเว็บไซต์ทั่วโลก และที่สำคัญเจ้าของเว็บไซต์ต่างต้องการให้เว็บไซต์
ของตนติดอันดับต้น ๆ จากการค้นหาใน Google หรือที่เรียกว่า ติดอันดับแรงกิ้งสูง ๆ (Ranking) เนื่องจาก
ผู้ใช้งานส่วนใหญ่จะคลิกเข้าเว็บไซต์ที่แสดงในอันดับต้น ๆ เมื่อเทียบกับเว็บไซต์ที่ปรากฎอยู่หน้า 2 – 3
ซึ่งมีโอกาสทีผ่ ้ใู ชง้ านจะคลกิ เขา้ เวบ็ ไซตน์ อ้ ยลงไปเรอื่ ย ๆ ตามลำดับ

จุดประสงคข์ อง Google คอื Search Engine Result Page
- เพอ่ื ใหเ้ วบ็ ไซต์ขึน้ ไปติดอนั ดบั ต้น ๆ ของผลการค้นหา (ไมใ่ ช่การซอ้ื โฆษณาใน Google)
- เป็นหน้าที่แสดงรวบรวมผลการค้นหา (SERP) โดยจะแสดงเว็บไซต์ท่ีมีจำนวนผู้ใช้งานคลิกเข้า

ไปยังเวบ็ ไซตม์ ากทีส่ ดุ เรียงลำดับจากบนลงลา่ ง
- ส่วนของชุดข้อความที่เเสดงผลบนหน้าจอค้นหา (Snippet) นั่นคือข้อความที่แสดงรายละเอียด

โดยยอ่ ของแต่ละเว็บไซต์

93

Keyword

Snippet

SERP

ภาพที่ 3 แสดงผลลัพธท์ ่ไี ดจ้ ากการค้นหาข้อมูล
ท่ีมา: http://www.google.co.th

Keyword คอื คำทพี่ มิ พ์ลงไปในชอ่ งเพ่อื ใช้ในการคน้ หา
Snippet คือ ชุดข้อความที่ปรากฏในหน้าแสดงผลการค้นหาของ Google ประกอบด้วยกัน 2 ส่วน
คือ ส่วนหัวข้อ และส่วนคำอธิบาย โดยจะแสดงรายละเอียดแบบย่อของแต่ละเว็บไซต์ เพื่อเป็นข้อมูลให้แก่
ผู้ใช้งานไดต้ ัดสนิ ใจเลือกในการเขา้ ชมเวบ็ ไซต์ต่าง ๆ ใหต้ รงกบั ความตอ้ งการได้มากทสี่ ุด
Search Engine Result Page (SERP) คือ ส่วนของการแสดงผลที่ได้จากการพิมพ์คำค้นหา โดยจะ
แสดงรายชื่อพร้อมรายละเอียดของเว็บไซต์ต่าง ๆ ซึ่งจะประกอบไปด้วย Snippet หลาย ๆ อันเรียงลำดับจาก
บนลงลา่ ง

กระบวนการทำเวบ็ ไซต์ให้ตดิ อนั ดับ มี 2 วธิ ี ดังนี้

การทำ SEO เพ่อื ปรบั แต่งเวบ็ ไซต์ การค้นหาท่ีตอ้ งเสยี เงนิ

ให้ติดอันดับการคน้ หาแบบไมเ่ สียเงิน เพอ่ื ซือ้ พ้นื ทใี่ นอันดบั ตน้ ๆ (Paid Search)

การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ถูกจัดอันดับโดย เป็นการค้นหาที่เจ้าของเว็บไซต์ต้องจ่ายเงิน

เสิร์ชเอนจิน มีข้อดีคือ ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพื่อจ่าย ค่าโฆษณาให้กับ Google เพื่อซื้อพื้นที่ให้แสดง

ค่าโฆษณาและการติดอันดับ แต่ต้องใช้ระยะเวลา ในอันดับต้น ๆ ของหน้า SERP โดยแสดงเว็บไซต์

เนื่องจากบางคีย์เวิร์ดมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ของผลู้ งโฆษณาแบบอตั โนมัติ

ในทางกลับกันก็เป็นจุดที่ผู้ค้นหามีความเชื่อถือมาก

ทสี่ ุดดว้ ยเชน่ กนั

2. ประโยชนข์ อง SEO

- ถ้าทำ SEO ให้ติดอับดับ 1 - 5 ได้ โอกาสที่มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) คลิกเข้ามาในเว็บไซต์ก็มี
จำนวนมากข้นึ ดว้ ยเชน่ กนั

- เป็นการสร้าง SEO ด้วยตนเองโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อเว็บไซต์หรือร้านค้า
ออนไลน์ทไ่ี ม่มงี บประมาณซื้อโฆษณาแพง ๆ กส็ ามารถทำ SEO ได้เพื่อการโปรโมทร้านตนเองใหเ้ ปน็ ทร่ี จู้ ัก

94

- ลูกค้ามักจะใช้คีย์เวิร์ดที่แสดงถึงความต้องการหรือความสนใจของตนเองออกมา เพื่อใช้ในการ
ค้นหาข้อมูล ทำใหส้ ามารถเขา้ ถงึ ลกู ค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมายจากการคัดเลือกผ่านคยี ์เวริ ด์

- การที่เว็บไซต์ของตนเองอยู่ในอันดับต้น ๆ จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าและ
แบรนด์ ตามความรสู้ กึ ของลกู ค้า สง่ ผลใหม้ ีคนรู้จักมากขน้ึ และมีโอกาสซือ้ สินคา้ มากขน้ึ

3. ความสำคัญของผเู้ ขา้ ชมเว็บไซต์ (Traffic) ที่มีผลตอ่ การทำ SEO

จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ส่งผลต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์ กล่าวคือ ถ้ามีผู้เข้าชมเว็บไซต์
เป็นจำนวนมากก็จะส่งผลให้เว็บไซต์มีโอกาสติดอันดับ เพราะจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ถือเป็นการส่งสัญญาณ
ไปให้ Google เห็นว่าหน้าเพจนั้นมีคุณภาพและมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากมีผู้คนที่สนใจเปิดเข้าไปอ่าน
เว็บเพจนั้นเป็นจำนวนมาก เว็บไซต์ชั้นนำใหญ่ ๆ หลายแห่งที่ติดอันดับใน Google เนื่องจากมีปริมาณจำนวน
ผู้เข้าชมเว็บไซต์จำนวนมาก จากที่กล่าวมานี้ถือว่าปริมาณจำนวนผูเ้ ข้าชมเว็บไซต์เปน็ สิ่งสำคัญและมผี ลต่อการ
ทำ SEO ซึ่งจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ คือ ตัวเลขแสดงจำนวนครั้งที่มีการเปิดเข้าเว็บไซต์ ส่งผลให้หน้าเพจมี
โอกาสติดอันดับผลการค้นหาใน Google ยิ่งถ้ามีผู้เข้าชมเว็บไซต์คลิกเข้าไปยังเว็บไซต์จำนวนมาก
นั่นหมายความว่าเว็บไซต์นั้นมีหัวข้อ/ประเด็น (Content) น่าสนใจ การโปรโมทหัวข้อ/ประเด็นต่าง ๆ มี
ความสำคัญต่อ SEO ด้วยเช่นกัน รวมไปถึงการนำลิงก์ URL ไปโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ เช่น Facebook
Twitter หรือ Instagram เพื่อแชร์ให้ผู้ที่สนใจสามารถคลิกเข้ามาอ่านข้อมูลได้ในเว็บไซต์ต้นทางและนี่เป็น
กลยุทธ์อย่างหนึ่งที่จะทำให้ยอดจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์เพิ่มขึ้น ช่วยให้เว็บไซต์ได้รับ Backlink กลับมาเพิ่มขึ้น
ทำให้เว็บไซต์เกิดความน่าเช่ือถือ นอกจากจำนวนผ้เู ขา้ ชมเว็บไซต์และการทำ Backlink ทมี่ ีความสำคัญตอ่ การ
ทำ SEO แล้ว สิ่งที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่เว็บไซต์ได้อีกปัจจัยหนึ่ง คือ อายุของโดเมน (Domain)
เนื่องจากถ้ามีการจดทะเบียนโดเมนมานานหลายปี (โดเมนเก่าแก่) ก็จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์
ดว้ ยเช่นกนั โดย Google จะมองว่าเวบ็ ไซต์ทนี่ า่ เช่อื ถือจำเป็นตอ้ งอาศัยระยะเวลา ดังภาพท่ี 4

ภาพที่ 4 ปจั จยั หลักทีม่ คี วามสำคญั ตอ่ SEO

95

4. ขนั้ ตอนการทำ SEO

มที ้ังหมด 6 ขน้ั ตอน ดังนี้

ภาพที่ 5 ข้ันตอนการทำ SEO

4.1 วางแผนจัดทำ SEO วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย โดยจะทำการกำหนดกลุ่มเป้าหมายหลักของ
เว็บไซต์ว่าจะทำ SEO เพื่อดึงดูดใครมายังเว็บไซต์ จากนั้นทำการวิเคราะห์ว่ากลุ่มเป้าหมายมีความต้องการ
ในหัวข้อ/ประเด็นแบบใด เช่น ต้องการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์หรือเพิ่มจำนวนกลุ่มเป้าหมายให้รู้จัก
เว็บไซต์ สามารถวัดผลความคืบหน้าของงานที่ทำได้ เนื่องจากการทำ SEO นั้นจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการ
ทำท่ยี าวนาน

4.2 คัดเลือกคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายว่าใช้คีย์เวิร์ดใดเข้าไป
ค้นหาใน Google เช่น ถ้าวัตถปุ ระสงคต์ ้องการเพ่ิมยอดขายใหก้ ับเวบ็ ไซต์ กค็ วรเลอื กทำ SEO ให้กับคีย์เวิร์ดท่ี
มีโอกาสสร้างยอดขายให้แก่เวบ็ ไซตต์ ามวตั ถปุ ระสงคท์ ่ตี ้องการ

4.3 สร้างหัวข้อ/ประเด็นให้ตรงตามหลัก SEO เพื่อเป็นการสร้างจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์น้ัน
จำเป็นต้องสร้างหวั ขอ้ /ประเด็นทด่ี ี มปี ระโยชน์และต้องตรงกบั ความต้องการของผ้คู น้ หา

4.4 ปรับแต่งปัจจัยภายในเว็บไซต์ (SEO On-Page) ต้องไม่ขาดการปรับแต่งการสร้างหัวข้อ/
ประเด็น ยกตวั อย่างเชน่

4.4.1 ใสค่ ียเ์ วิร์ดเข้าไปในบทความ และหัวข้อของบทความ
4.4.2 ใสข่ ้อมลู ในส่วน Meta Tag เพ่อื เป็นการตั้งช่ือใหก้ บั เว็บเพจ
4.4.3 ปรบั เปลีย่ นโครงสรา้ งเว็บไซตใ์ ห้เหมาะสม ไมซ่ บั ซอ้ น
4.4.4 มีความเร็วในการเขา้ เว็บไซต์ สำหรบั การโหลดใช้งานเพอ่ื รองรับการใช้งานผ่านมือถอื
4.5 ปรับแต่งปัจจัยภายนอกเว็บไซต์ (SEO Off-Page) จะเป็นการนำหัวข้อ/ประเด็นไปโปรโมท
เพ่ือให้บคุ คลท่ัวไป รจู้ ักและเหน็ เวบ็ ไซตม์ ากยงิ่ ขน้ึ ยกตัวอย่างเชน่

96

4.5.1 การสรา้ ง Backlink เขา้ สู่เวบ็ ไซต์
4.5.2 ลิงก์เชื่อมโยงจากเว็บไซต์หนึ่งไปยังเว็บไซต์หนึ่ง เช่น แชร์ข้อความ แชร์โพส วางลิงก์
เพ่ืออา่ นตอ่ /อ่านเพม่ิ เติม เป็นตน้
4.5.3 ใชเ้ ครือข่ายสงั คมออนไลน์ เช่น Facebook, Twitter, Instagram เพ่อื โปรโมทเวบ็ ไซต์
4.5.4 อัปเดตเนื้อหา ปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีความทันสมัยอยู่เสมอ ในกรณีนี้ถ้าหยุดทำ SEO
สักระยะ อาจจะสามเดือน ครึ่งปีหรือมากกว่าหนึ่งปีก็จะส่งผลให้จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่ได้รับจาก Google
จะลดลงไป เพราะกระบวนการทำ SEO จำเป็นต้องทำอย่เู ร่อื ย ๆ

5. กระบวนการทำ SEO

แบ่งออกเปน็ 2 ส่วน ดังน้ี

SEO On-Page SEO Off-Page
การปรบั แตง่ ภายในเวบ็ ไซต์ องคป์ ระกอบภายนอกเว็บไซต์

5.1 SEO On-Page คือ การปรับแต่งภายในเว็บไซต์ซึ่งจะรวมถึงทุก ๆ อย่างที่อยู่ภายในเว็บไซต์ที่
สามารถปรับปรุงหรือเปล่ียนแปลงได้ เช่น รูปภาพ วิดีโอ เนื้อหา โครงสร้างเวบ็ ไซต์ เป็นต้น การกระทำน้ีจะส่ง
ต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ โดย Googlebot จะเข้ามาเก็บข้อมูลยังเว็บไซต์ว่ามีคีย์เวิร์ดใดที่มีการอัปเดตและ
มีความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดที่กำลังได้รับความนิยม ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งของการทำ SEO สรุปได้ว่าการทำ SEO
On-Page คือ สิ่งทส่ี ามารถควบคุมไดภ้ ายในเวบ็ ไซต์ โดยมีปัจจัยต่าง ๆ ท่เี กยี่ วขอ้ งดังภาพที่ 6

ภาพที่ 6 ปจั จยั ทีส่ ามารถควบคุมได้สำหรบั SEO On-Page

สิ่งแรกสำหรับการเริ่มต้นการทำ SEO On-Page คือ การปรับแต่ง Meta Tag การเขียน Meta Tag
จะเป็นสื่อให้ Google ทราบว่าเว็บไซต์มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องใด โดยเฉพาะเวลาที่มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเข้าไป
ค้นหาข้อมูลใน Google โดยใช้คีย์เวิร์ดใด ๆ นั้น Google ก็จะทำการแสดงผลการค้นหา (เว็บไซต์
ที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ด) ให้ผู้ใช้รายนั้น โดย Google มีวิธีการในการคัดกรองว่าเว็บไซต์ใดเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ด
นั้น ๆ นอกจาก Google Crawler จะเข้าไปดูเนื้อหาที่มีในเว็บไซต์แล้ว ยังสามารถดูได้จาก Meta Tag
ด้วยเชน่ กัน

97

Google Crawler เป็นเครื่องมือสำหรับการสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ทำหน้าท่ีหลักในการจัดเก็บข้อมูลและเป็น
เสิรซ์ เอนจนิ ทไ่ี ด้รับความนยิ ม เน่อื งจากมีศักยภาพในการประมวลผล ส่งผลใหก้ ารคน้ หาที่ออกมามีความแมน่ ยำอยา่ งมาก

ส่วนที่สำคัญของ Meta Tag มี 3 ส่วนด้วยกัน คือ ส่วนหัวเรื่อง (Title) ส่วนคำอธิบายเนื้อหา
(Description) และสว่ นของคยี เ์ วริ ด์ (Keyword)

5.1.1 ส่วนหัวเรื่อง หรือที่เรียกว่า Tag Title คือ ส่วนบนสุดที่ถูกดึงมาจากส่วนหัวเรื่อง
เปรียบเสมอื นชอื่ ของเพจ โดยเปน็ สว่ นท่แี สดงว่าเพจนั้นมีข้อมลู เกี่ยวกบั เรอ่ื งอะไร

<title> ใส่ชื่อเร่ืองของหน้าเวบ็ เพจ แนะนำว่าควรไม่ความยาวไม่เกนิ 60 ตวั อกั ษร </title>
ตัวอย่างเช่น
<title> ขายรองเท้ามือสองราคาถูก คณุ ภาพดี การันตีจากลกู ค้า </title>

5.1.2 ส่วนคำอธิบายเนื้อหา หรือ Meta Tag Description คือ ส่วนของคำอธิบายโดยย่อ
ของหนา้ เพจที่ถูกดึงมาจาก Meta Tag Description ซึ่งจะอธิบายเนื้อหาโดยย่อของเวบ็ ไซต์นนั้ ๆ

<meta name= “description” content= “รายละเอียดอย่างย่อของหนา้ เพจน้ัน ๆ ควรมคี วามยาว
ไม่เกิน 160 ตัวอักษร />
ตัวอย่างเชน่
<meta name= “description” content= “เวบ็ ไซต์ทรี่ วบรวมรองเท้ามือสอง คัดสรรเอาแต่หวั นำ้ หน่ึง
จากประเทศญี่ปุน่ รับรองงานสวย คณุ ภาพดี เกนิ ราคา มหี ลากหลายแบบให้คณุ เลือก สง่ ฟรที กุ คู่” />

5.1.3 ส่วนของคยี ์เวริ ์ด หรอื สว่ น Meta Tag Keyword คอื สว่ นท่ีบง่ บอกว่าหน้าเพจน้ันมีคำ
สำคญั อะไรบ้าง

<meta name= “keyword” content= “ใส่คีย์เวริ ด์ ค่ันด้วยเครื่องหมาย Comma (,) />
ตวั อยา่ งเช่น
<meta name= “keyword” content= “รองเทา้ มอื สอง, รองเท้าแฟชั่น, รองเท้าคุณภาพญ่ีปนุ่ ” />

โดยปกติแล้วเมื่อเปิด Google เพื่อค้นหาคำต่าง ๆ Google จะแสดงผลลัพธ์ (SERP) โดยมีรายชื่อ
เว็บไซต์ต่าง ๆ ไล่ลงมาตามลำดับ ถ้าสังเกตจะเห็นได้ว่าทุกเว็บไซต์จะมีข้อมูลแสดงอยู่ด้วยกันประมาณ 4 – 5
บรรทัด เรียกว่า Snippet ซึ่งจะแสดงข้อความที่ถูกดึงมาจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ประกอบด้วย Title, URL และ
Meta Tag Description ดงั ภาพที่ 7

98

Title
URL
Meta Tag

ภาพท่ี 7 ตวั อย่างการแสดงผลของ Meta Tag สำหรบั SEO On-Page

ส่วน URL จะเป็นการแสดงหน้า Landing Page ของหน้าเพจนั้น (Landing Page หมายถึง หน้าแรกหลังจากที่มี
การคลิกโฆษณาเข้ามายังเว็บไซต์ เช่น ถ้าผู้ใช้มีการค้นหาคีย์เวิร์ดใน Google จากนั้นทำการคลิกโฆษณา หน้าแรก
ที่ผู้ใช้เจอคือ หน้า Landing Page ซึ่งหน้า Landing Page ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นหน้าแรก (Home Page) เสมอไป
แตเ่ ปน็ หนา้ ๆ หน่ึงท่ถี ูกสร้างขนึ้ มาเพอื่ การขายของ)

สามารถเข้าไปดู code และทำการปรบั เปลีย่ นแก้ไขได้ ดงั ภาพท่ี 8

ภาพท่ี 8 ตวั อย่างการแสดงผลหน้า Coding ของ Meta Tag สำหรบั SEO On-Page
5.2 SEO Off-Page คือ องค์ประกอบภายนอกเว็บไซต์ นั่นหมายถึงลิงก์ที่โยงมาจากเว็บไซต์อื่นเพื่อ
โยงกลับมายังเว็บไซต์ต้นทาง หรือที่เรียกว่า Backlink ซึ่งจะเป็นการโปรโมทเว็บไซต์ให้บุคคลภายนอกได้รู้จัก
และอยากเขา้ มาเยีย่ มชมเวบ็ ไซต์ เช่น สร้างลงิ ก์ เขียนบล็อก อปั โหลดวดิ โี อเป็นต้น โดยการทำ SEO Off-Page
นเ้ี ปน็ วธิ กี ารทเ่ี ราตอ้ งพบกบั ปจั จยั ตา่ ง ๆ ที่ไม่สามารถควบคมุ ได้ ดังภาพที่ 9

99

ภาพท่ี 9 ปัจจยั ทไ่ี มส่ ามารถควบคมุ ได้สำหรับ SEO Off-Page
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าอ่านบทความใดแล้วเกิดประทับใจหรืออยากติดตามผู้โพสหรือผู้เขียนบทความ
ก็สามารถนำเว็บไซต์ไปเผยแพร่หรือแชร์ให้กับเพื่อนบนโลก Social ต่อได้ เช่น Facebook, Instagram,
YouTube หรือ Twitter เพื่อให้กลุ่มผู้ใช้งานดังกล่าวสามารถคลิกลิงก์เพื่อเชื่อมโยงกลับมายังเว็บไซต์ต้นทาง
ท่เี รียกว่า Backlink ดังภาพท่ี 10

Backlink
เชอ่ื มโยงไปยงั เว็บไซต์

Mahidol

ภาพท่ี 10 Backlink เช่อื มโยงไปยงั เวบ็ ไซต์อน่ื ๆ สำหรับการทำ SEO Off-Page
หนึ่งในปัจจัยสำหรับการติดอันดับการค้นหาของ Google คือ ยิ่งเว็บไซต์ไหนมี Backlink โยงไปหา
มากเท่าใด Google ก็ยิ่งมองว่าเว็บไซต์นั้นมีคุณค่ามากขึ้น ซึ่งการทำ Backlink ไม่ใช่เรื่องยากเพียงแค่นำ
URL หรือนำบทความไปเผยแพร่ (Share) ยงั เวบ็ ไซต์อ่ืน เพ่อื ให้ผู้อ่านสามารถคลกิ ลงิ ก์ URL กลับมายังเว็บไซต์
ต้นทาง รวมถึงการท่ีไปโพสต์ตอบกระทู้ในเว็บบอร์ดที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์และแนบลิงก์ URL เพื่อให้
ผู้ที่สนใจติดตามและคลิกเข้ามาอ่านข้อมูลยังเว็บไซต์ต้นทางก็สามารถทำได้เช่นกัน ข้อควรจำในการสร้าง
Backlink คือ ไมค่ วรโพสต์แตล่ ิงกอ์ ยา่ งเดียว ควรมีขอ้ ความประกอบด้วยอยา่ งน้อย 2 – 3 บรรทดั

100

ซึ่งโดยท่ัวไปอนั ดับจะไตข่ ึน้ อยา่ งค่อยเปน็ คอ่ ยไป ถา้ อนั ดบั ของเว็บไซต์ยงั ไมอ่ ยู่ในอันดับเปน็ ท่ีน่าพอใจ
จำเปน็ ต้องเพมิ่ เติม/ปรับปรุงเน้ือหาในเว็บไซตแ์ ละเพ่ิมจำนวน Backlink ท่มี ีคุณภาพให้มากข้ึน ในทางกลับกัน
เมื่อเว็บไซต์ของเราติดหน้าแรกของการค้นหาแล้ว ยังจำเป็นต้องทำการอัปเดตเว็บไซต์ เพิ่มเติม/ปรับปรุง
เน้อื หาและเพ่ิมจำนวน Backlink อย่างสมำ่ เสมอดว้ ยเช่นกนั เพื่อเปน็ การรกั ษาอันดับไว้

ตัวอย่างการสร้าง Backlink ใน Facebook เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ Social Network ที่ได้รับความ
นิยม ประกอบกับมีความน่าเชื่อถือค่อนข้างมากทำให้ผู้ใช้งานเกิดความมั่นใจว่า Backlink ต่าง ๆ มาจาก
แหล่งข้อมูลที่มีคุณภาพเชื่อถือได้ ซึ่งรวมไปถึงการทำ Backlink จาก Facebook ส่งผลให้ปริมาณผู้เข้าชม
เว็บไซตม์ จี ำนวนมาก เน่ืองจากบางเพจมผี ูต้ ิดตามอยแู่ ล้ว ดังภาพที่ 11

ภาพที่ 11 การสรา้ ง Backlink จาก Facebook
นอกจากนี้ยังสามารถสร้าง Backlink จาก Facebook ด้วยการใส่ข้อมูลของเพจในส่วน “เกี่ยวกับ”
ดงั ภาพที่ 12

ภาพที่ 12 กำหนดลิงก์เพือ่ สรา้ ง Backlink จาก Facebook

101

6. ลกั ษณะการทำงานของ Google

Google มีกระบวนการทำงานเพื่อใช้ในการค้นหาเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ด
ท่ผี คู้ น้ หาตอ้ งการ แบง่ ออกเป็น 3 ขน้ั ตอน คือ 1. เก็บขอ้ มลู 2. ทำดชั นี และ 3. จดั อนั ดบั ดังตอ่ ไปน้ี

- Google จะส่งหุ่นยนต์ (Googlebot) วิ่งไปตามเว็บไซต์ต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูลและดูว่าเนื้อหา
มีความเกี่ยวข้องอะไรกับคีย์เวิร์ด มีลิงก์ใดบ้าง มีการอัปเดตอะไรใหม่ ๆ บ้างเมื่อเทียบกับการเข้ามาเก็บข้อมูล
จากครั้งก่อน และเจ้าหุ่นยนต์น้ียังไต่ไปตามลิงก์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเว็บไซต์ เพื่อนำผลลัพธ์ที่ได้เตรียมทำดัชนีใน
ข้ันตอนที่ 2

- หลังจากท่ีหุ่นยนต์ได้เก็บรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ แล้วนั้น ขั้นตอนนี้จะเป็นการทำดัชนีข้อมูล
เพ่ือเกบ็ ไวใ้ นฐานขอ้ มลู ของ Google จากนนั้ จะทำการประมวลผลข้อมูลเพ่ือรอเรียกใชง้ านในอนาคต

- เมื่อมีคนเข้ามาค้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ Google โดยใส่คีย์เวิร์ดในช่องค้นหา Google ก็จะเลือก
เว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดมากที่สุดจากฐานข้อมูลที่ได้ทำดัชนีเอาไว้ และจัดอันดับด้วยอัลกอลิทึม
แล้วแสดงผลการค้นหา ซึ่งจริง ๆ มีปัจจัยที่เกี่ยวข้องในการจัดอันดับมากมายกว่า 200 ปัจจัย แต่หลัก ๆ จะ
เกย่ี วกบั คียเ์ วริ ์ดและความน่าเชื่อถอื เปน็ หลกั

7. การใชเ้ คร่อื งมือคน้ หาคยี เ์ วิรด์

ในการทำ SEO จำเปน็ ต้องมีคำว่าคียเ์ วิรด์ (Keyword) เข้ามาเกย่ี วข้อง โดยใช้คำหรือวลีพิมพใ์ ส่เข้าไป
ในช่องค้นหาของ Google เพื่อให้ Google ค้นหาเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาเก่ียวกับคำหรือวลีที่ต้องการ ดังนั้นจึงต้อง
ใช้เคร่ืองมือเขา้ มาช่วยในการค้นหาคียเ์ วริ ด์

7.1 Google Keyword Planner
เครื่องมือยอดนิยมสำหรับการดันเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้น ๆ หรือการทำ SEO เป็นเครื่องมือที่ใช้งาน
ง่ายและไมเ่ สียค่าใชจ้ า่ ย สามารถคน้ หาคยี ์เวิร์ดได้เปน็ จำนวนมากและแสดงขอ้ มูลพื้นฐานท่ีช่วยในการคัดเลือก
คีย์เวิรด์ ไดเ้ ปน็ อยา่ งดี นนั่ คือ Google Keyword Planner โดยผใู้ ชจ้ ำเปน็ ตอ้ งมีบญั ชี Google Account
Google Keyword Planner คือ เครื่องมือที่เอาไว้ตรวจสอบว่าคีย์เวิร์ดแต่ละคำมีจำนวนผู้ค้นหา
ต่อเดือนจำนวนเท่าไหร่ ทำให้ทราบว่ามีคนต้องการสินค้าหรอื บริการประเภทนี้มากขนาดไหน โดยจุดประสงค์
หลักท่ี Google สรา้ งข้นึ มา เพอ่ื ให้ผู้ทลี่ งโฆษณา Google Adwords สามารถวางแผนการลงโฆษณาของตวั เอง
ได้ดยี งิ่ ขึน้ ดงั ภาพที่ 13

ภาพท่ี 13 เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ในการคน้ หาคยี ์เวิรด์

102

การใช้งานขั้นแรกให้เข้าไปที่ลิงก์ http://adwords.google.com เมื่อทำการเข้าสู่ระบบ (Login)
จะพบกับหน้าแรกของ Google AdWords ที่แสดงภาพรวมในการสร้างโฆษณาการเข้าใช้งาน Google
Keyword Planner จากนั้นให้คลกิ ยังรปู ประแจ ซง่ึ อยู่ด้านบนขวามือ ดังภาพท่ี 14

ภาพท่ี 14 เรม่ิ ตน้ การใช้งาน Google Keyword Planner
จากนั้นดทู ่ีหมวดการวางแผน เลอื กเครอ่ื งมอื วางแผนคยี เ์ วริ ด์ ดงั ภาพที่ 15

ภาพท่ี 15 เครอ่ื งมือการวางแผน Google Keyword Planner
การค้นหาคำใน Google Keyword Planner จะแสดงกรอบข้อความสี่เหลี่ยมอยู่ด้วยกัน 2 ส่วนคือ
ค้นหาคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ และรับปริมาณการค้นหาและการคาดการณ์ ให้ทำการเลือก “ค้นหาคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ”
ดังภาพที่ 16

103

ภาพที่ 16 การค้นหาคำใน Google Keyword Planner
หน้าจอจะแสดงส่วนของการค้นหา เราสามารถเลือกแถบการใช้งานได้ 2 ส่วน ได้แก่ แถบเริ่มต้นด้วย
คีย์เวิร์ด และแถบเริ่มต้นด้วยเว็บไซต์ โดยการค้นหาคีย์เวิร์ดดังกล่าวสามารถใส่คีย์เวิร์ดที่ต้องการได้มากกว่า
1 คีย์เวิร์ด และสามารถเพิ่ม URL ที่เกี่ยวข้องกับคำที่ต้องการค้นหาได้ จากนั้นคลิกที่ปุ่ม “ดูผลลัพธ์”
ดงั ภาพที่ 17

ภาพท่ี 17 การคน้ หาคยี เ์ วริ ์ดใน Google Keyword Planner
นอกจากนย้ี งั สามารถกำหนด ตำแหน่งที่ตั้ง ภาษา และเครอื ข่ายการค้นหาได้ ดังภาพท่ี 18

104

ภาพท่ี 18 การกำหนดคา่ ตา่ ง ๆ ใน Google Keyword Planner

7.2 แนวคดิ คีย์เวริ ์ด (Keyword Ideas)
ในแถบแนวคิดคีย์เวิร์ดจะเป็นการแสดงภาพรวมของคีย์เวิร์ดท่ีค้นหาว่ามีคีย์เวิร์ดอะไรที่เกี่ยวข้อง
มกี ารคน้ หาโดยเฉล่ยี ต่อเดือนในคำนัน้ ประมาณเท่าไหร่ มกี ารแข่งขันสงู หรอื ไม่ ราคาเสนอเปน็ อยา่ งไร
คีย์เวิร์ด (ตามความเกี่ยวข้อง) หมายถึง เมื่อค้นหาคีย์เวิร์ดคำใด ระบบจะคำนวณและค้นหา
คำที่เกี่ยวข้องมาให้ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อค้นหาคำว่า “อาหารเพื่อสุขภาพ” ระบบก็จะหาคำอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
เชน่ อาหารเพื่อสุขภาพคอื อาหารเชา้ เพ่อื สขุ ภาพ ผักเพ่อื สขุ ภาพ เป็นต้น
การค้นหารายเดือนโดยเฉลี่ย เป็นการแสดงจำนวนการค้นหาคีย์เวิร์ดโดยเฉลี่ย ซึ่งจะพิจารณาจาก
ค่าที่กำหนดเป้าหมายและช่วงวันที่ได้ทำการเลือกไว้ ข้อมูลที่ปรากฎจะแสดงให้เห็นถึงความนิยมของ
คยี เ์ วริ ด์ ในชว่ งเวลาตา่ ง ๆ (คยี ์เวิรด์ ท่ีควรเลือก ควรจะมคี า่ เฉล่ียในการคน้ หาไมน่ อ้ ยจนเกนิ ไป)
7.3 การพิจารณาจากระดบั การแขง่ ขนั
ในระดับการแข่งขันต่าง ๆ จะพิจารณาจากจำนวนผู้ลงโฆษณาที่เสนอราคาสำหรับคีย์เวิร์ดแต่ละ
รายการโดยเทียบกับคียเ์ วิรด์ ทัง้ หมดของ Google ซึ่งถ้าทาง Google มีข้อมูลไมเ่ พียงพอ จะแสดงเครื่องหมาย
ขีดกลาง (-) นอกจากนีข้ ้อความท่แี สดงอยู่ในช่อง “การแข่งขัน” แบง่ ออกเปน็ 3 ระดับ ไดแ้ ก่

7.3.1 ระดับการแขง่ ขันสูง หมายถงึ คนซือ้ เยอะ
7.3.2 ระดบั การแข่งขนั ปานกลาง หมายถึง คนซอ้ื กลาง ๆ
7.3.3 ระดบั การแข่งขนั ตำ่ หมายถงึ มคี นซ้ือนอ้ ยหรืออาจจะไมม่ ีเลย
การจ่ายเงินคลิกต่อคลิก (Cost Per Click: CPC) หมายถึง ต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับ Google ก็ต่อเม่ือ
มีคนคลกิ โฆษณา
ราคาเสนอสำหรับด้านบนของหน้า (ช่วงต่ำ) หมายถึง การแสดงช่วงราคาเสนอสำหรับด้านบนของ
หน้าของคีย์เวิร์ดท่ีตำ่ กวา่ ทีผ่ ู้ลงโฆษณาเคยจา่ ยไป โดยอิงจากสถานที่ตัง้ และการตั้งค่าเครอื ข่ายการค้นหา CPC
เฉลยี่ ของคียเ์ วิรด์ อาจแตกต่างกันออกไป

105

ราคาเสนอสำหรับด้านบนของหน้า (ช่วงสูง) หมายถึง การแสดงช่วงราคาเสนอสำหรับด้านบนของ
หน้าของคีย์เวิร์ดที่สูงกว่าท่ีผูล้ งโฆษณาเคยจ่ายไป โดยอิงจากสถานที่ตั้งและการตั้งค่าเครอื ข่ายการคน้ หา CPC
เฉล่ียของคยี เ์ วริ ์ดอาจแตกต่างกันออกไป

ภาพที่ 19 การแปลความหมายค่าต่าง ๆ ใน Google Keyword Planner
นอกจากนี้ ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ ที่สามารถกำหนดช่วงเวลาของข้อมูลที่แสดงได้ เช่น กำหนดเอง
เดือนที่แล้ว 12 เดือนที่ผ่านมา 24 เดือนที่ผ่านมาหรือทั้งหมดที่มี โดยสามารถเลือกช่วงเวลาตามที่ต้องการได้
ดังภาพท่ี 20

ภาพท่ี 20 การกำหนดช่วงเวลาของขอ้ มลู ใน Google Keyword Planner

106

ฟังก์ชันการกรองข้อมูลที่ต้องการหรือเรียกว่า “ตัวกรอง” โดยสามารถเพิ่มตัวกรองในการค้นหา
คีย์เวริ ์ดทีเ่ ก่ียวขอ้ งได้เพือ่ ใหต้ รงกบั ความตอ้ งการในการคน้ หา ดงั ภาพท่ี 21 ไดแ้ ก่

- คียเ์ วิรด์
- การแข่งขัน
- สว่ นแบง่ การแสดงผลของโฆษณา
- ราคาเสนอสำหรบั ดา้ นบนของหน้า (ช่วงต่ำ)
- ราคาเสนอสำหรับดา้ นบนของหน้า (ชว่ งสูง)
- ยกเว้นคยี เ์ วริ ์ดในบญั ชขี องฉัน
- ยกเว้นแนวคดิ เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่
- ยกเวน้ คียเ์ วริ ์ดในแผน
- การแขง่ ขนั (มูลคา่ ท่จี ัดทำดัชนีไว)้
- สว่ นแบง่ การแสดงผลบนการคน้ หาทว่ั ไป
- อันดับเฉล่ยี บนการคน้ หาท่ัวไป

ภาพที่ 21 ฟงั กช์ ันการกรองข้อมูลใน Google Keyword Planner

8. ความสำคญั ของการวจิ ยั คีย์เวิรด์ (Keyword Research)

การวิจัยคีย์เวิร์ดมีผลต่อกิจกรรมที่เกี่ยวข้องสำหรับการทำ SEO ยกตัวอย่างเช่น การหาหัวข้อ
ของบทความที่ต้องการเขียน การทำ SEO On-page รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ เป็นต้น กล่าวได้ว่า
การวิจัยคีย์เวิร์ดเป็นกระบวนการวิเคราะห์เพื่อคัดเลือกคีย์เวิร์ดที่จะนำมาใช้สำหรับทำ SEO เพื่อให้ได้ผลลัพธ์
ที่ดีท่ีสดุ ถอื วา่ เปน็ จุดเรม่ิ ต้นของการทำการตลาดบนโลกอนิ เทอรเ์ น็ต

เช่น ซ้ือ iPhone XS = เป้าหมายของผู้ค้นหาคอื ตอ้ งการซ้อื
ฟงั กช์ นั iPhone XS = เป้าหมายของผูค้ น้ หา อาจเพยี งแค่ค้นหาข้อมลู

จะเห็นได้วา่ คีย์เวริ ด์ มีความสำคญั และมีความหมายทส่ี ามารถเปลี่ยนกลมุ่ ลูกค้าไดใ้ นทนั ที

107

วิธกี ารคัดเลือกคยี ์เวิร์ดท่ีมศี ักยภาพ มดี ้วยกัน 4 วิธี ดงั นี้
1. จำนวนการค้นหาที่ไม่น้อยเกินไป (วิเคราะห์จากการค้นหารายเดือนโดยเฉลี่ย) ควรเลือกคีย์เวิร์ด
ท่มี จี ำนวนไม่ตำ่ กวา่ 100 – 200 ครั้งต่อเดอื นเปน็ อยา่ งต่ำ จำไวเ้ สมอว่าการทำ SEO ตอ้ งใชเ้ วลา
2. ต้องมีคีย์เวิร์ด 2-3 คำขึ้นไป เนื่องจากคีย์เวิร์ดคำเดียวมักมีความหมายกว้างไปเช่น“กระโปรง”
คำนี้เป็นคำที่ไม่สื่อถึงจุดประสงค์ว่าต้องการค้นหาเพื่อทำอะไรในเว็บไซต์ ซึ่งผู้ค้นหาอาจจะซื้อหรืออาจจะเข้า
มาหาขอ้ มูลก็ได้ โดยอาจจะเลือกใช้คำว่า “กระโปรงสน้ั ผหู้ ญิง” คยี เ์ วิรด์ แบบนจ้ี ะสามารถเดาได้ง่ายกว่าเพราะ
เป็นคำท่ีช้ีเฉพาะเจาะจงไดด้ ีกวา่
3. คีย์เวิร์ดตอบจุดประสงค์ของเว็บไซต์ โดยให้เลือกคีย์เวิร์ดที่ตอบจุดประสงค์ได้อย่างชัดเจน เช่น
เว็บไซต์ขายเครือ่ งแตง่ กาย ควรเลอื กใชค้ ียเ์ วริ ด์ “แวน่ ตาแฟชน่ั ราคาถกู ” “เวบ็ ขายรองเท้า” โดยนำคำคีย์เวริ ์ด
ที่ทำงานแบบกว้าง ๆ (broad keyword) ไปผสมดว้ ย เชน่ ราคาถกู สง่ ฟรี ผอ่ น 0% ราคาส่ง เป็นต้น
4. การแข่งขันไม่สูงเกินไป ขั้นตอนแรกควรทดสอบด้วยการนำคีย์เวิร์ดที่น่าสนใจไปค้นหา
ใน Google เสียก่อน แล้วดูว่าคำ ๆ นี้ติดอันดับหน้าแรกหรือไม่ เนื่องจากเว็บไซต์ที่ทำ SEO ก่อนหน้านี้แล้ว
โอกาสที่จะไปแซงนั้นยากพอสมควร ดังนั้น ควรใช้คีย์เวิร์ดที่มีความเกี่ยวข้องไปก่อน โดยทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ
จนสามารถติด Rank พอ Google เริ่มมองว่าเว็บไซต์น่าเชื่อถือแล้วค่อยอัปเดต หันมาเล่นคีย์เวิร์ดที่มีการ
แข่งขนั สงู ในลำดับถดั ไป
ยกตัวอยา่ งเชน่ 1K = 1,000
การทำ SEO ต้องใช้เวลา อย่ามัวแต่เสียเวลานำคำที่มีคนค้นหาประมาณ 30 ครั้งต่อเดือน ซึ่งให้ดู
ชอ่ งการคน้ หาโดยประมาณตอ่ เดอื นให้เลอื กประมาณ 100 – 200 ต่อเดือนเป็นอยา่ งตำ่ ดังภาพท่ี 22

ภาพท่ี 22 ฟงั ก์ชนั การคน้ หารายเดือนโดยเฉลย่ี ใน Google Keyword Planner

108

8.1 Google Trends
Google Trends เปน็ เคร่อื งมือของ Google ทน่ี า่ สนใจโดยมีหนา้ ที่ในการวเิ คราะหแ์ นวโน้มการคน้ หา
คำต่าง ๆ ผ่าน Google Search โดย Google Trends จะทำการเก็บบันทึกสถิติการใช้คีย์เวิร์ดจากผู้ใช้ ทำให้
ทราบได้ว่าคีย์เวิร์ดใดกำลังเป็นที่นิยม โดยจะแสดงผลลัพธ์ทางสถิติในรูปแบบกราฟ นอกจากนี้ยังสามารถ
ทำการเปรยี บเทยี บจำนวนการค้นหากับระยะเวลาไดอ้ ีกด้วย

ภาพท่ี 23 โลโก้ Google Trends
ตัวอย่างเช่น หากต้องการค้นหาคีย์เวิร์ดผ่าน Google Search คำว่า “ฟุตบอล” รวมอยู่ในคำ
ที่ต้องการค้นหาว่ามีแนวโน้มเป็นอย่างไร สามารถระบุคำนี้ในช่องค้นหาของ Google Trends เพื่อดูแนวโน้ม
การค้นหาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันได้ สำหรับการแสดงผลของข้อมูลนั้นจะแสดงออกมาในรูปแบบ
กราฟเส้นขึ้นลงตามจำนวนปริมาณการค้นหาในแต่ละช่วงเวลา โดยจุดสูงสุดของกราฟ หมายถึง ช่วงที่มี
ปริมาณการคน้ หามากท่ีสุด
วธิ ีการใช้งาน Google Trends เริ่มต้นจากการเข้าไปท่ีลิงก์ http://www.google.com/trends/

ภาพท่ี 24 ตัวอยา่ งหนา้ จอ Google Trends
พิมพค์ ำคน้ หาลงในช่องคน้ หา โดยสามารถใส่คีย์เวิร์ดทต่ี อ้ งการมากกวา่ 1 คำ เพ่ือทำการเปรียบเทียบ
ความนิยมของคีย์เวิร์ดทั้ง 2 คำ นอกจากนี้ Google Trends ยังมีฟังก์ชันเพื่อให้สามารถเลือกประเทศ
ทตี่ ้องการ เลือกระยะเวลา หมวดหมู่ และประเภทการคน้ หา ดังภาพท่ี 25

109

ภาพที่ 25 กราฟแสดงการเปรียบเทยี บ Google Trends

ข้อควรจำ การดูแนวโน้มหรือ Trends ของคีย์เวิร์ด จะสามารถช่วยให้การคัดเลือกคีย์เวิร์ดมาทำ SEO ได้ดี
ยง่ิ ขน้ึ โดยแบ่งออกเปน็ 3 รปู แบบ ดงั น้ี
- คีย์เวิร์ดแบบมาครั้งเดียวหายไป ถือว่าเป็นกลุ่มคีย์เวิร์ดที่ค่อนข้างเสี่ยง เนื่องจากถ้าอัตรา

ความนิยมหายไป นั่นหมายความว่า ปริมาณการค้นหาคีย์เวิร์ดนั้นหายไปด้วย เช่น ตุ๊กตาเฟอร์บี้ ส่งผลให้
ปริมาณการค้นหาหายไปด้วย แนวทางการแก้ไข คือ ต้องขยันอัปเดตข้อมูลอยู่ตลอดเวลาเพื่อเปลี่ยนคีย์เวิร์ด
ใหม่ ๆ มาแทนคยี ์เวิรด์ เดิม

- คีย์เวิร์ดแบบเกิดแล้วดับ เช่น iPhone จะมีกราฟขึ้น ๆ ลง ๆ เนื่องจากมีรุ่นใหม่เปิดตัว
ก็จะกลับมาไดร้ บั ความนยิ มใหม่อีกคร้งั ดงั น้ัน ควรจะมคี ียเ์ วริ ์ดใหม่ ๆ ที่มีความใกล้เคยี งมาทดแทนเร่ือย ๆ

- คีย์เวิร์ดตามฤดูกาลที่สามารถคาดการณ์ได้ เช่น เสื้อกันหนาว เสื้อกันฝน โดยคนขายต้อง
อาศัยคยี ์เวิรด์ ทีม่ าตามฤดูกาล ควรมกี ารศึกษาวางแผนเปน็ รอบ ๆ

8.2 KW Finder
หนึ่งในเครื่องมือสำหรับการค้นหาคีย์เวิร์ดที่ทำงานคล้าย ๆ Google Keyword Planner แต่สิ่งท่ี
พิเศษ คือ มีตารางการบอกความนิยมของคีย์เวิร์ด มีการค้นหารายเดือนโดยเฉลี่ย มี CPC หรือค่าคลิกในการ
ทำโฆษณาบน Google จะแสดงค่าคะแนนความยากง่าย และยังสามารถเลือกภาษาในการวิเคราะห์ได้
ลกั ษณะเด่นของ KW Finder คือ ใชง้ านง่ายและฟรี (แบบมขี ้อจำกัดและต้องสมัครเป็นสมาชิกก่อน)

ภาพที่ 26 โลโก้ KW Finder

110

วิธีการใช้งาน KWFinder เรม่ิ ต้นจากการเข้าไปทลี่ งิ ก์ https://kwfinder.com/

ภาพท่ี 27 ตัวอย่างหนา้ จอ KW Finder
พมิ พค์ ยี เ์ วริ ์ดทีต่ ้องการลงในช่อง Enter the keyword เลอื กสถานทแี่ ละภาษาทีต่ อ้ งการ จากน้นั คลกิ
ที่ป่มุ Find keywords ดังภาพท่ี 28 โดยเว็บไซต์จะทำการแสดงผลลัพธ์ แบง่ ออกเปน็ 3 สว่ น ดงั นี้
ส่วนที่ 1 ตารางด้านซ้ายมือ แสดงคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องโดย KW Finder จะเลือกเฉพาะคีย์เวิร์ดที่
เก่ียวขอ้ งมากท่ีสดุ มาแสดง
ส่วนที่ 2 ตารางด้านขวามอื แสดงอนั ดบั เว็บไซต์ของคยี เ์ วริ ์ดนนั้ แบบเรยี งลำดับ
ส่วนที่ 3 ส่วนด้านบนของตาราง แสดงคะแนนความยากสำหรับคีย์เวิร์ดนั้น ๆ แปลความหมายได้ว่า
ยิ่งค่าคะแนนมากเท่าใดหมายความว่าคีย์เวิร์ดนั้นมีการแข่งขันสูง ซึ่งคะแนนนั้นได้มาจากการประมวลผล
Metric อันดับเว็บไซต์ (สว่ นท่ี 2)
นอกจากนี้ยังสามารถ Export ไฟล์ข้อมูลเพื่อมาทำการวิเคราะห์ในเครื่องของตนเองหรือส่งต่อไปให้
คนอื่นได้ด้วยเช่นกัน โดยการคลกิ เครือ่ งหมายถูก (✓) หน้าคยี ์เวิรด์ ทต่ี อ้ งการสง่

111

สว่ นที่ 3

ส่วนท่ี 1

สว่ นท่ี 2

ภาพที่ 28 หนา้ จอการแสดงผลคน้ หาคีย์เวริ ด์ KW Finder

9. บทสรปุ

การทำ SEO มีจุดประสงค์เพื่อดันให้เว็บไซต์ให้ติดอันดับหน้าแรกของการค้นหาโดยเฉพาะโปรแกรม
เสิร์ชเอนจินอย่าง Google ซึ่งการทำ SEO จำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาบวกกับเทคนิคการปรับแต่งองค์ประกอบ
ทั้งภายในเว็บไซต์ และองค์ประกอบภายนอกเว็บไซต์ เพื่อช่วยให้เพิ่มยอดขาย เพิ่มโอกาสทางธุรกิจ รวมถึง
เพิ่มการรับรู้แก่ผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกได้เป็นอย่างดี ด้วยข้อดีที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการโฆษณา อีกทั้ง
ยงั สามารถเข้าถงึ กลุ่มเป้าหมายไดต้ รงตามความตอ้ งการของเจา้ ของเว็บไซต์

สิ่งที่เกี่ยวข้องกับการทำ SEO คือ คีย์เวิร์ด ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการทำ SEO เนื่องจาก
เป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการค้นหาคำต่าง ๆ ในเว็บประเภทเสิร์ชเอนจินอย่าง Google โดยจะช่วยสร้าง
ปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ได้เป็นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อการจัดอับดับเว็บไซต์ให้อยู่ลำดับต้น ๆ ทั้งน้ี
ยังมีเครื่องมือต่าง ๆ เข้ามาช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล วิเคราะห์คำค้นหาหรือคีย์เวิร์ด วิเคราะห์ความนิยม
ในการทำ SEO เชน่ Google Keyword Planner, Google Trends, KWFinder เปน็ ต้น

112

เอกสารอ้างอิง

ณฐั พล ใยไพโรจน.์ Digital Marketing 5G: concept & case study. นนทบุร:ี บรษิ ัท ไอดีซี พรีเมยี ร์ จำกดั ,
2560.

ธญั ธชั นนั ท์ชนก. เก่ง Keyword + SEO ใหค้ รบสตู ร. กรงุ เทพฯ: วติ ต้กี รปุ๊ , 2562.
ศุภณฐั สขุ โข. ดนั เวบ็ ไซต์ใหด้ งั ด้วย SEO 2nd Edition. นนทบุรี: บรษิ ทั ไอดีซี พรีเมียร์ จำกัด, 2560.

113

คำถามทา้ ยบทที่ 4

ส่วนท่ี 1 เปน็ คำถามปรนยั
คำสัง่ จงกากบาท (X) คำตอบท่ีถกู ต้อง

1. ขอ้ ใดไม่ใชเ่ ว็บไซต์ประเภทเสริ ์ชเอนจิน

ก. Ask.com ข. Bing

ค. Google ง. BBC

2. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกย่ี วกับ SEO

ก. การทำ SEO ตอ้ งอาศัยผทู้ ี่มที กั ษะทางดา้ นไอทเี ป็นหลัก

ข. การทำ SEO เปน็ การเพ่มิ ประสิทธิภาพของเวบ็ ไซตเ์ พ่อื ให้ตดิ อันดับตน้ ๆ ของเสริ ช์ เอนจนิ
ค. การทำ SEO ตอ้ งมกี ารอปั เดตขอ้ มูลภายในเวบ็ ไซต์อยู่ตลอดเวลา
ง. การทำ SEO จำเป็นต้องมีความรู้ทางดา้ นการตลาดเพอื่ สรา้ งเน้อื หาใหม้ ีความนา่ สนใจ
3. Search Engine Result Page: SERP คือ
ก. ส่วนทีแ่ สดงผลทไี่ ด้จากการค้นหาคยี เ์ วริ ด์
ข. ส่วนที่ใส่คำคน้ หาลงไปในช่องวา่ ง
ค. ชุดขอ้ ความท่แี สดงผลจากการค้นหา

ง. การจัดอนั ดบั เว็บไซตใ์ หอ้ ยู่อนั ดบั ต้น ๆ

4. ข้อใดไม่ใชป่ ระโยชนข์ องการทำ SEO

ก. สามารถเพมิ่ จำนวนผู้เข้าชมเวบ็ ไซต์ไดม้ ากขนึ้

ข. สามารถทำไดโ้ ดยไม่เสยี คา่ ใช้จ่าย

ค. สามารถเขา้ ถงึ ลกู ค้าไดต้ รงกลุ่มเป้าหมายจากการคดั เลอื กผ่านคยี ์เวริ ์ด

ง. สามารถปรับแต่งขอ้ มลู และปรบั ปรุงโครงสรา้ งเว็บไซต์ได้อยา่ งงา่ ยดาย

5. ข้อใดคอื องคป์ ระกอบในการทำ SEO ทส่ี ำคัญที่มีผลตอ่ จำนวนผ้เู ข้าชมเวบ็ ไซต์

ก. Traffic – Backlink - Domain ข. Traffic - Backlink - URL

ค. Keyword - Traffic - Backlink ง. Keyword – Backlink – SERP

6. ขอ้ ใดคือหนา้ ทีข่ อง Google Crawler

ก. จดั เก็บขอ้ มูลทไ่ี ด้จากการสืบคน้ ขอ้ มูลบนอนิ เทอรเ์ น็ต

ข. การปรับแต่งรูปภาพและเนื้อหาต่าง ๆ ภายในเวบ็ ไซต์
ค. ทำการอปั เดตคีย์เวริ ด์ หลังจากที่ไดท้ ำการปรับปรุงเว็บไซต์
ง. ช่วยคน้ หากลุม่ ลกู ค้าเปา้ หมายใหต้ รงตามวัตถุประสงค์หลกั ของเว็บไซต์
7. Backlink คือ
ก. ขอ้ ความท่ใี ชใ้ นการโปรโมทเว็บไซต์
ข. ลงิ กท์ ่โี ยงมาจากเวบ็ ไซต์อน่ื เพอ่ื โยงกลับมายงั เว็บไซต์ต้นทาง

ค. ขอ้ มลู ท่ใี ชแ้ สดงคำสำคญั ต่าง ๆ เพ่ือใหท้ ราบวา่ เวบ็ ไซตน์ น้ั มีความสำคัญอยา่ งไร

ง. ลิงกท์ แ่ี สดงรายละเอียดต่าง ๆ เพอ่ื เปน็ การโฆษณาเว็บไซต์ของลกู คา้

114

8. ลักษณะการทำงานของ Google bot มอี ะไรบา้ ง

ก. เก็บขอ้ มูล คัดลอกขอ้ มลู จัดอนั ดบั

ข. คดั ลอกขอ้ มูล คน้ หาข้อมูล จดั อันดบั

ค. จัดอนั ดบั เก็บขอ้ มลู ทำดชั นี

ง. เกบ็ ขอ้ มลู ทำดชั นี จัดอนั ดบั

9. จุดเดน่ ของการใชเ้ ครอื่ งมอื Google Keyword Planner คอื

ก. เปน็ เคร่ืองมือทีใ่ ช้ตรวจสอบวา่ คยี เ์ วริ ด์ แตล่ ะคำมจี ำนวนผู้ค้นหาตอ่ เดอื นจำนวนเท่าใด

ข. เป็นเครื่องมือทใ่ี ชใ้ นการวิเคราะห์แนวโนม้ การค้นหาคำตา่ ง ๆ ผ่าน Google Search

ค. เป็นเครอ่ื งมือท่ใี ช้ในการเปรยี บเทยี บจำนวนการค้นหากับระยะเวลาในรูปแบบแผนภมู วิ งกลม

ง. เปน็ เคร่อื งมือทใ่ี ชใ้ นการสรา้ งลงิ กเ์ พ่ือเช่อื มโยงมายังหน้าเวบ็ ไซต์ตน้ ทาง

10. ข้อใดไมใ่ ช่เครอ่ื งมือที่ชว่ ยในการวิเคราะหข์ อ้ มลู สำหรับการทำ SEO

ก. Google Keyword Planner ข. KWFinder

ค. Semrush ง. Canva

สว่ นท่ี 2 เปน็ คำถามอตั นัย
คำสง่ั จงตอบคำถามตอ่ ไปนใ้ี ห้ถูกตอ้ ง

1. จงบอกข้อดีของการทำ SEO มาอยา่ งน้อย 5 ข้อ
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________

2. การทำ SEO On-Page แตกตา่ งจากการทำ SEO Off-Page อย่างไร
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________

3. Backlink มีความสำคญั ตอ่ การทำ SEO อย่างไร
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________

115

4. จงอธบิ ายกระบวนการทำงานของ Google ทส่ี ่งผลตอ่ การทำ SEO
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
5. จงยกตวั อยา่ งเคร่ืองมือที่ใชใ้ นการทำ SEO มา 3 เครอื่ งมือ พร้อมทงั้ บอกหนา้ ทก่ี ารทำงาน
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________
________________________________________________________________________________

ใบงานปฏิบตั ิ

1. จงทดสอบการใช้งานเคร่อื งมอื ทใ่ี ชใ้ นการค้นหาคยี เ์ วิรด์ มา 1 เคร่อื งมือ พร้อมท้งั อธบิ ายตามหัวข้อต่อไปนี้
- เคร่อื งมือทใี่ ชใ้ นการทำ SEO
- คยี เ์ วิรด์ เพื่อใช้ในการคน้ หา
- วิเคราะห์ข้อมูลจากผลลพั ธท์ ีไ่ ด้
- แสดงความคิดเห็นสำหรับการวางแผนการทำ SEO ในอนาคต (จากผลลพั ธท์ ่ไี ด้)

116

บทท่ี 5

การใชส้ อ่ื สงั คมออนไลนเ์ พอื่ งานธรุ กิจ
(Using social media for business purposes)

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. เผยแพรต่ วั ตน (Identity network) การนำเสนอตัวตนบนส่ือสงั คมออนไลน์ ด้วยขอ้ มลู อิเลก็ ทรอนิกส์
2. เผยเเพร่ผลงาน (Creative network) ผลงานของเจ้าของ หรือแบรนด์ธุรกิจบนสื่อสังคมออนไลน์ ด้วย

ข้อมลู อเิ ลก็ ทรอนิกส์

117

ปัจจุบันการสื่อสารบนสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมอย่าง
แพรห่ ลาย สามารถเช่ือมโยงผู้คนทวั่ โลกและกล่มุ ผใู้ ช้งานจริงผ่านสอื่ สงั คมออนไลนซ์ ่ึงมีขนาดตลาดและจำนวน
ลูกค้ามหาศาลเข้าไว้ด้วยกัน โดยในปี 2016 มีปริมาณจำนวนผู้ใช้งานจริงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ (Active
Social Media Users) สูงถึง 2.28 พันล้านคนทั่วโลก ดังนั้นการตลาดบนสื่อสังคมออนไลน์จึงเป็นวิธีเข้าถึง
ลกู คา้ ที่มีประสทิ ธภิ าพสำหรบั ธรุ กิจทุกขนาด และลูกคา้ มีปฏสิ ัมพนั ธก์ บั สนิ คา้ บนส่ือสงั คมออนไลน์ การตลาดท่ี
ยอดเยี่ยมบนสื่อสังคมออนไลน์สามารถนำความสำเร็จมาสู่ธุรกิจ สามารถผลักดันลูกค้าเป้าหมายและยอดขาย
ถือได้ว่าเป็นความนิยมแนวใหม่ในทางธุรกจิ ที่จะเข้าถึงกลุ่มเปา้ หมาย

1. แนวโนม้ การตลาดบนส่อื สงั คมออนไลน์ (Social Media Marketing)

- ง่ายทั้งการเข้าถงึ และการใชง้ าน
- เปิดช่องทางใหธ้ ุรกจิ สามารถโฆษณาทำการตลาดตามความตอ้ งการ
- มคี วามสอดคล้องในการใช้งานกับความต้องการของผู้ใชง้ าน
- เกิดการรวมกลุ่มสังคมเพื่อการสื่อสารแบบบุคคลต่อบุคคล (Person to Person) แบบกลุ่มต่อ
บุคคล (Broadcasting Communication) และการสอ่ื สารโตต้ อบระหวา่ งกนั ทนั ต่อเหตกุ ารณ์ (Real Time)
เครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ช่วยสง่ เสริมการขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการตลาดเชิงคุณค่า (Value-Driven
Marketing) และสะท้อนแบรนด์สินค้าโดยผา่ นหลักสำคญั ทเ่ี รียกวา่ 3i ประกอบด้วย
1. อัตลักษณ์ของแบรนด์ (Brand Identity) คือ การออกแบบลักษณะเฉพาะให้แบรนด์หรือองค์กร
เพื่อให้เกิดการจดจำ เช่น ป้ายโฆษณา ฉลาก บรรจุภัณฑ์ สี รูปแบบตัวอักษร ตราสินค้า วิธีการนำเสนอ
เป็นต้น
2. คณุ ค่าทแี่ ท้จรงิ ของแบรนด์ (Brand Integrity) คอื การสร้างความนา่ เชือ่ ถอื ทม่ี าจากคณุ งามความดี
ความเอาใจใส่ จริงใจ สม่ำเสมอ ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมสารธารณประโยชน์หรือได้การรับรอง
ตามมาตรฐาน
3. ภาพลักษณ์ (Brand Image) องค์กรหรือแบรนด์สร้างภาพที่คิดว่าควรจะเพื่อมุ่งเน้นให้ลูกค้าได้
สัมผสั ทัง้ ในรปู รส กลิ่น เสยี งและสี
1.1 รปู แบบของการสร้างเครอ่ื งมือทางการตลาดบนสอื่ สงั คมออนไลน์
การตลาดบนสื่อสังคมออนไลน์ มีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ด้านการกระจายและสร้างมูลค่าทาง
การตลาด ดา้ นการตดิ ต่อสอ่ื สารและดา้ นการสร้างตราสนิ ค้า ซึ่งประกอบดว้ ยปจั จยั พ้นื ฐาน คือ เนอ้ื หา รูปภาพ
ภาพเคลอ่ื นไหว เสยี ง
1.2 วัตถุประสงคห์ ลกั ของการตลาด
การกระจายเนื้อหาไปยังผู้บริโภค และพัฒนาช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการได้
หลากหลายรูปแบบและกิจกรรม เช่น การส่งข่าวสาร การโฆษณาโดยการเชื่อมโยงระหว่างสื่อสังคมออนไลน์
เปน็ ต้น
ความหมายสื่อสังคม ราชบัณฑิตยสถาน (2554) ได้บัญญัติ คำว่า “Social Media” หรือ “สื่อสังคม”
หมายถึง สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสื่อกลางที่ให้บุคคลทั่วไปมีส่วนร่วมสร้างและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่าง ๆ
ผา่ นอินเทอรเ์ น็ตได้

118

1.3 ประเภทของโซเชียลมีเดีย
โซเชียลมีเดียส่วนใหญ่นำมาใช้เพื่อช่วยในการดำเนินธุรกิจไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และเพื่อต้องการบรรลุ
วัตถุประสงคโ์ ดยวธิ ีการคิดอย่างสร้างสรรค์ ซงึ่ เราเรียกโซเชียลมีเดียตา่ ง ๆ นัน้ วา่ แพลตฟอรม์
โซเชยี ลมีเดยี ทมี่ ีอยใู่ นปจั จุบันแบ่งเปน็ 7 ประเภท

1. เว็บไซตโ์ ซเชยี ลเน็ตเวริ ์ก
เป็นเว็บไซต์เครือข่ายสังคม เช่น Facebook, Twitter และ LinkedIn แพลตฟอร์มเหล่านี้
ช่วยให้เชื่อมต่อกับเพื่อน ครอบครัวและแบรนด์ต่าง ๆ มีการสนับสนุนการแบ่งปนั ความรู้และเป็นเรื่องเกี่ยวกบั
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ในการเชื่อมต่อเครือข่ายสังคม สามารถช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย
ผ่านโฆษณา ซึ่งสามารถสร้างชุมชนไปจนถึงขนาดใหญ่ ผู้โฆษณาสามารถเช่าสิทธิ์ในการโต้ตอบกับผู้คน
ตามตัวช้วี ดั การกำหนดเปา้ หมายที่เฉพาะเจาะจง ผลลัพธ์ที่ไดจ้ ากการใชเ้ วบ็ ไซตเ์ ชยี ลเนต็ เวริ ค์ มดี งั ต่อไปนี้

- เครือข่าย: มีส่วนร่วมกับผู้ติดตาม ค้นหาลูกค้าที่มีความคิดเหมือนกันหรือคู่ค้าทาง
ธรุ กิจทมี่ ีศักยภาพผา่ นแฮชแท็กและกลมุ่ และสรา้ งการเช่ือมตอ่

- การวิจัย: แพลตฟอร์มเครือข่ายสังคมออนไลน์เป็นสถานที่ที่ดีเยี่ยมในการค้นหาข้อมูล
ลูกค้าและใช้เครื่องมือการฟังทางสังคมเพื่อติดตามการสนทนาเกี่ยวกับข้อกำหนดเฉพาะ ซึ่งจะช่วยให้เข้าใจ
และให้บรกิ ารไดด้ ีขึน้

2. เวบ็ ไซต์วจิ ารณส์ ังคม
เว็บไซต์บทวิจารณ์เป็นแหล่งข้อมูลแห่งหนึ่งที่มีการแสดงความเห็นของเหล่าผู้คนที่ได้พบกับ
ประสบการณ์มากมาย ซึ่งอาจทำให้ค้นพบวิธีช่วยลดการคาดเดาท่ีไม่แน่ใจว่าเป็นสิ่งที่ใช่หรือไม่ และการดูรีวิว
แล้วอาจจะรู้ว่าธุรกิจสามารถได้รับประโยชน์จากการศึกษาบทวิจารณ์ทั้งข้อดีและข้อเสีย ผลลัพธ์ที่ได้จากการ
ใชเ้ วบ็ ไซตว์ จิ ารณ์สงั คมดงั ตอ่ ไปน้ี

- เข้าใจมุมมองของลูกค้า: รีวิวต่าง ๆ บอกเกี่ยวกับประสบการณ์ของลูกค้า ซึ่งสามารถ
นำเอาประสบการณข์ องลกู คา้ มาใช้เพื่อระบปุ ัญหา

- แก้ไขปัญหา: บทวิจารณ์เป็นโอกาสในการมีส่วนร่วมกับลูกค้าท่ีรีวิว และแก้ไขปัญหาที่
อาจเกดิ ขึ้นกอ่ นทจี่ ะกลายเปน็ เรื่องใหญ่

3. เว็บไซตแ์ บง่ ปนั รปู ภาพ
เน้ือหาภาพ เชน่ รปู ภาพ อินโฟกราฟิก และภาพประกอบทที่ ำให้ดึงดดู ใจและจนิ ตนาการเพอื่
นำไปใช้กับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Instagram, Imgur และ Snapchat ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่ม
พลังให้กบั แบรนด์ ผลลัพธท์ ่ไี ด้จากการใช้เวบ็ ไซต์แบ่งปนั รปู ภาพดงั ต่อไปนี้

- ส่งเสริมเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้น: ไซต์แบ่งปันรูปภาพเป็นของขวัญสำหรับธุรกิจถ่ายรูป
สามารถเรียกใช้แคมเปญที่สนับสนุนให้ผู้ใช้ถ่ายภาพและแชร์รูปภาพกับผลิตภัณฑ์ของคุณและติดแฮชแท็ก
ที่ไม่เหมอื นใคร

- สร้างแรงบันดาลใจ: เป็นการแบ่งปันภาพ สามารถสร้างแรงบันดาลใจและดึงดูดผู้ใช้
เชื่อมสัมพันธก์ ับความสนใจร่วมกนั

119

4. เว็บไซต์โฮสตว์ ดิ โี อ
แพลตฟอร์มการโฮสต์วิดีโอ เช่น YouTube และ Vimeo ช่วยให้ผู้สร้างรวบรวมเนื้อหาและ
แชร์ไปยังแพลตฟอร์มที่ปรบั ให้เหมาะสำหรับการถ่ายทอดภาพและเสยี งบนอนิ เทอร์เน็ต (Streaming) ผลลัพธ์
ทีไ่ ด้จากการใชเ้ ว็บไซต์โฮสต์วดิ ีโอดงั ตอ่ ไปน้ี

- แบ่งปันเนื้อหา: เพื่อให้ผู้รับได้รับสารอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และรวดเร็ว เช่น อินโฟ-
กราฟิก วดิ ีโอ ถ่ายทอดสด

- มีส่วนร่วม: ส่วนความคิดเห็นของในเว็บไซต์โฮสต์วิดีโอมอบโอกาสมากมายในการทำ
ความรู้จกั กบั ผู้ทร่ี ับชมเนือ้ หา

5. บลอ็ กชุมชน
บางครั้งรูปภาพหรือโพสต์ท่ีไม่ซับซ้อน ซึ่งเพียงพอสำหรับข้อความที่แชร์ไปในโซเชียลแหล่ง
ชุมชน แพลตฟอร์มบล็อกจึงสามารถใช้เป็นพื้นที่ในการแสดงความคิดและช่วยเชื่อมโยงกับผู้อ่าน ผลลัพธ์ที่ได้
จากการใชบ้ ล็อกชมุ ชนดงั ตอ่ ไปนี้

- มีพื้นที่มากมายสำหรับการปรับแต่งข้อความ: การประชาสัมพันธ์ และการแสดงความ
คิดเห็น

6. เวบ็ ไซตส์ นทนา
ความมีอิสระที่จะถามคำถามหรือหรือแสงความคิดเห็น บางครั้งข้อความมีพลังที่สามารถ
ดึงดูดผู้ทีม่ ีความสนใจและความอยากรู้อยากเห็นรว่ มกัน ผลลพั ธ์ทไ่ี ดจ้ ากการใชเ้ วบ็ ไซตส์ นทนาดงั ต่อไปน้ี

- การวิจยั : สามารถคน้ หาและมีส่วนรว่ มกับผคู้ นในกลุ่มเปา้ หมายทีต่ รงกบั ความต้องการ
และอาจจะคน้ พบสงิ่ ที่เป็นประโยชนท์ แ่ี ฝงมากบั คำถาม และใชส้ ิ่งนเี้ ปน็ จุดเรม่ิ ต้นสำหรบั กลยทุ ธ์การตลาด

- ตอบคำถาม: คำถามทกุ ประเภทสามารถช่วยให้กระตุ้นการเข้าชมเวบ็ ไซตไ์ ดม้ ากขึน้
7. เวบ็ ไซตแ์ บ่งปนั เครือข่ายเศรษฐกิจ
เว็บไซต์แบ่งปันเครือข่ายเศรษฐกิจไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ค้นหาสินค้าราคาถูก แต่ยังเป็นการ
แบง่ ปนั โอกาส และรวบรวมทรพั ยากรจำนวนมาก

แผนการสรา้ งส่ือสังคมออนไลน์ เพือ่ ให้บรรลเุ ปา้ หมายการตลาดบนส่ือสงั คมออนไลน์มแี นวทางปฏิบัติ
ดงั น้ี

- กำหนดนโยบายการใช้งานและสร้างแนวปฏิบัติการใช้งานร่วมกัน เพื่อควบคุมจัดระเบียบการใช้
งานสื่อสังคมออนไลน์ของผู้ปฏิบัติงานในองค์กร เช่น ระเบียบหรือข้อตกลงการใช้งาน หรือวิธีการใช้สื่อสังคม
ออนไลนข์ ององคก์ ร ซงึ่ ไม่ควรเครง่ ครดั มากจนเกนิ ไปจนอาจทำใหเ้ ป็นอุปสรรคตอ่ การใชง้ าน

- มีระบบตรวจสอบและควบคุมเนื้อหาสาระที่โพสต์หรือแชร์ โดยกำหนดผู้รับผิดชอบการพัฒนา
โปรแกรมตรวจสอบ เพื่อทำหน้าที่ในการกลั่นกรองข้อความที่ผู้เข้าชมใช้สื่อสังคมออนไลน์ มีการสื่อสารและ
เป็นไปตามนโยบายด้านการสื่อสารองค์กร เพื่อป้องกันข้อมูลที่เป็นความลับขององค์กร และข้อความที่ไม่ใช่
ขอ้ เท็จจริงหรือขัดตอ่ ศีลธรรมเผยแพร่สสู่ าธารณะชน

- ฝึกอบรมการใช้งาน เพ่อื เพม่ิ พนู ความรู้ความเขา้ ใจและทกั ษะการใช้งาน
- สร้างเครื่องมือประเมินผลที่กำหนดตัวชี้วัดอย่างชัดเจน ความจำเป็นที่องค์กรต้องตระหนักถึง
ความสำคัญในการควบคุมเนื้อหาสาระในสื่อสังคมออนไลน์ เกิดจากความอิสระในการโพสต์ข้อความ ภาพถ่าย

120

วิดีโอ อภิปรายความคิดเห็นของผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ ส่งผลให้ข้อความมีมากเกินไป และอาจก่อให้เกิด
ปญั หาทเ่ี ส่ียงตอ่ การใช้งานส่ือสังคมออนไลน์

- ส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เอื้อต่อการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ โดยจัดทีมงานขับเคลื่อน
การใชง้ าน เนื่องจากอาจจะใชเ้ วลามากในการลองผิดลองถูกและทำใหก้ ารนำมาใช้งานผดิ พลาด

1.4 การวัดประสทิ ธภิ าพการตลาดบนสื่อสงั คมออนไลน์

การรับรู้ถึงแบรนด์ Brand Awareness หัวใจสำคัญของการสร้างแบรนด์ให้ประสบผลสำเร็จ และให้

ลูกค้าเลือกให้เป็นที่หนึ่งในใจเป็นแบรนด์แรกนั้น การทำให้เกิดการรับรู้เมื่อพูดถึงสินค้าหรือบริการในทาง

นน้ั ๆ และต้องคำนึงถึงภาพลกั ษณแ์ ละจดุ เด่นของแบรนด์ใหเ้ ปน็ ทรี่ จู้ กั อย่างกวา้ งขวางมากย่งิ ข้ึน
การเข้าถึงผู้เขา้ ชมสอ่ื สงั คมออนไลน์
- ความถี่ Frequency capping ผู้ผลิตสื่อแสดงโพสต์มากเกินไปหรือไม่ เช่น ความถี่การแสดง

โฆษณาบ่อยครั้ง อาจจะจำกดั ความถใ่ี นการเหน็ โพสตห์ รือโฆษณาเพือ่ ไม่ใหน้ ่ารำคาญ
- แสดงความประทับใจ Impression การแสดงความประทับใจจำนวนมากแต่เป็นคนเดิม ๆ ต้อง

ปรับกลุ่มเป้าหมายใหช้ ัดเจนกว่าเดมิ
- การเข้าถึง Reach ผู้เข้าชมสื่อสังคมออนไลน์จำนวนน้อย อาจเป็นเพราะความสำคัญและการ

เผยแพรเ่ นอ้ื หาต่าง ๆ ไมเ่ ปน็ ท่นี ่าสนใจ หรือกลมุ่ เปา้ หมายไม่ตรง หรือเป็นเพราะกลุม่ เป้าหมายไมค่ รอบคลุม
- จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์จาก Social Media เนื่องจากเว็บไซต์เปรียบเสมือนหน้าร้านหรือ

สำนักงานใหญ่บนโลกออนไลน์ ส่วนสื่อสังคมออนไลน์ Social media เปรียบเสมือนการออกร้านหรือสาขา
ยอ่ ยให้แกธ่ รุ กจิ จึงเป็นช่องทางกลับมายังเวบ็ ไซตห์ ลกั

- จำนวนผู้ตดิ ตาม การมีปฏิสมั พนั ธข์ องผ้ตู ดิ ตามในกล่มุ ตา่ ง ๆ เชน่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพ
เป็นต้น ซึ่งสามารถนำมาใช้วัดผลเชิงปริมาณและคุณภาพในลักษณะสถิติ เพื่อการประเมินการรับรู้และการ
วางแผน

- จำนวนครั้งที่แบรนด์ถูกกล่าวถึง จุดยืนของแบรนด์ที่ไม่เป็นที่จดจำเป็นสาเหตุให้ขาดพลังการ
ศรทั ธาในแบรนด์ จึงต้องพัฒนาด้วยการเพิม่ ความแตกตา่ งในแบรนด์

- ระดับการมีส่วนร่วม เช่น Likes, Shares, Comments, Replies, Subscribe เป็นต้น การ
สนองตอบจากผู้เข้าชมสื่อสังคมออนไลน์เป็นการแสดงออกถงึ ความรูส้ ึกที่มีต่อภาพนิ่ง วิดีโอ การจัดกลุ่มหัวขอ้
เรอื่ ง Hashtag หรอื คำบรรยายภาพ Caption ทนี่ า่ สนใจ ทำใหเ้ กิดการจดจำจากการนำเสนอ

- การพูดแบบปากตอ่ ปาก เมอื่ ลูกคา้ ไดร้ ับส่ิงทดี่ ีจากแบรนด์ ดังนัน้ การพดู แบบปากต่อปาก (Words-
of-Mouth) ในทางบวกจึงมคี วามนา่ เชอื่ ถือมากกวา่ คำกลา่ วอา้ งในโฆษณา

1.5 ประโยชนข์ องสังคมออนไลน์

- เเลกเปลย่ี นขอ้ มลู และความรู้
- เป็นแหล่งความรู้ คน้ หาได้สะดวก
- สามารถเลือกรปู แบบการตดิ ตอ่ สอ่ื สาร
- เป็นชอ่ งทางในการนำเสนอผลงาน
- ส่อื โฆษณาท่มี คี า่ ใชจ้ า่ ยนอ้ ย
- โอกาสของธุรกิจทำการขยายกลุม่ เป้าหมาย
- ช่วยให้มกี ารผ่อนคลายจากการทำงาน
- สรา้ งความสมั พันธท์ ั้งบุคคล และกลุม่ สงั คม

121

1.6 โทษของสือ่ สังคมออนไลน์
สังคมออนไลน์ถึงเเม้จะมีประโยชน์มากมาย เเต่ก็มีโทษอยู่บ้าง ฉะนั้นผู้ใช้ต้องพึงใช้ในส่วนที่เป็น
ประโยชน์ และป้องกันมใิ ห้เกดิ ผลเสยี จากการใช้สงั คมออนไลน์ โทษของสังคมออนไลนม์ ดี ังนี้

- เว็บไซต์ให้บริการบางแห่งอาจจะเปดิ เผยข้อมูลส่วนตวั มากเกินไป พึงตระหนักว่าข้อความหรอื
ความเหน็ ท่เี ผยเเพร่บนสังคมออนไลน์ เป็นขอ้ ความที่สามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะ

- สังคมออนไลนต์ อ้ งระมดั ระวังการส่งข้อมูลอาจทำใหเ้ ข้าใจคลาดเคล่ือน
- เปน็ ชอ่ งทางในการถกู ละเมดิ ลขิ สทิ ธิ์ ต้องไมล่ ะเมดิ ทรัพยส์ ินทางปัญญาของผอู้ ืน่
- ผู้ท่เี ข้าใช้สังคมออนไลน์เเละอยกู่ บั หน้าจอคอมพิวเตอรเ์ ปน็ เวลานานอาจสายตาเสียได้

2. การสรา้ งเนอื้ หา Content บนสอ่ื สงั คมออนไลน์

การตลาด Traditional Marketing เป็นการตลาดที่มีรูปแบบเดิมทั่วไป เช่น โฆษณาในทีวีที่มี
ขัดจังหวะ ขณะกลุ่มเป้าหมายกำลังชมสิ่งที่สนใจอยู่ด้วยเนื้อหาหรือ Content Marketing เป็นการตลาดท่ี
นำเสนอเนื้อหาที่น่าสนใจมาให้กลุ่มเป้าหมายเลือกดูได้ที่มีคุณค่า และเป็นประโยชน์ที่สุด โดยไม่ทำให้อารมณ์
เสีย เมื่อทำโฆษณาในสื่อต่าง ๆ เช่น Facebook, Google Adwords, SEO, SEM, PPC เป็นต้น การเข้าใจ
ลูกค้าเพื่อโน้มน้าวพฤติกรรมการบริโภคของลูกค้าได้ถูกช่วงเวลาและถูกวิธี Customer Journey โดยพื้นฐาน
แล้วจะแบ่งออกเปน็ 4 ข้อ

- Awareness คือ ลูกค้าอาจไม่รวู้ ่าตัวเองต้องการส่ิงนีม้ ากอ่ น จึงตอ้ งทำรูต้ วั (Aware)
- Research คอื เม่ือลูกคา้ รู้ตวั หรอื รับรู้แลว้ ลกู คา้ จะหาขอ้ มลู เก่ยี วกับสนิ คา้ นั้น เชน่ คนทอี่ ยากซื้อ
รถ กจ็ ะคน้ ดวู ่ามรี ถรุ่นไหนบ้างทีเ่ หมาะกบั เขา
- Consideration คือ เมือ่ ไดข้ ้อมูลครบแล้ว ลกู คา้ กจ็ ะเปรยี บเทยี บสินค้าเหมาะท่ีสดุ และซ้ือสินค้า
ไดจ้ ากท่ีไหน
- Buy คอื เม่อื ลูกคา้ ตัดสินใจได้แล้ว ลกู ค้ากจ็ ะทำการสั่งซ้อื
2.1 Content Marketing หลักสำคัญ 5 ประการ คอื
- Content มคี วามเพลดิ เพลนิ ปรับเนื้อหาใหน้ ่าสนใจ
- Content มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย การเลือกเนื้อหาให้เกี่ยวข้องนั้นสำคัญมาก ไม่ควร
เน้นทำเนื้อหาตลกอย่างเดียว และไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งอาจจะได้ยอดวิวจำนวนมาก แต่อาจจะ
ไมไ่ ดก้ ลมุ่ เปา้ หมายทีต่ ้องการ
- Content มีความสม่ำเสมอ หมายถึง เนื้อหาและระยะเวลาของการออก Content ใหม่ เพราะ
อาจจะมีกล่มุ เป้าหมายคอยติดตามหรืออปั เดตความรอู้ ย่างเสมอตน้ เสมอปลาย
- Content มคี วามจรงิ ใจ เนอ้ื หาของ Content ตอ้ งทำใหก้ ลมุ่ เปา้ หมายรสู้ กึ ว่าได้รับให้ขอ้ มูลอย่าง
จริงใจ ไมม่ ีการแฝงโฆษณา Tie-in ซึ่งอาจเหมือนโดนหลอกขายสินค้า
- Content มีคุณค่า การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า โดยคำนึงเนื้อหาทีมีประโยชน์กับกลุ่มเป้าหมาย
อย่างแท้จริง

122

3. Growth Hacking

คำว่า Growth ความหมายคือ การเติบโต ความหมายทางธุรกิจ เช่น Business Growth คือ การ
เติบโตของธุรกิจ หรือ Economic Growth ก็คือ การเติบโตของเศรษฐกิจ ส่วนคำว่า Hacking ความหมายคือ
การใช้เทคนิคใหม่ ๆ สรุปคำว่า Growth Hacking คือ การหาเทคนิคใหม่ ๆ มาทำให้ธุรกิจเติบโตอย่าง
รวดเร็ว ซึ่งมีความเหมาะที่จะนำวิธีการมาประยุกต์ใช้กับการเริ่มทำธุรกิจที่งบประมาณน้อย Startup และ
ธุรกจิ ท่มี กี ารแข่งขันสงู ตอ้ งการเตบิ โตอยา่ งกา้ วกระโดด

3.1 การประยกุ ต์ Growth Hacking กับธุรกิจบนสือ่ สังคมออนไลน์
การทำ Growth Hacking เปลี่ยนแปลงวิธีการการตลาดแบบเดิม ๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ เช่น
การทำแคมเปญแจกของฟรี แจกส่วนลด ตัวอย่างการใชเ้ ทคนิค Growth Hacking มาปรับใช้โดยลง Content
ทีห่ วั ข้อใหส้ นใจอยากคลกิ เข้าไปอา่ น และเกิดการแชรอ์ ย่างมหาศาล ยกตัวอย่าง การเชิญให้ผู้คนเข้ามารับการ
โปรโมช่ันหากเชิญไดต้ ามตามเงื่อนไขก็จะไดร้ บั ประโยชน์ตอบแทน หรืออาจจะเป็นการเชญิ ใหม้ กี ารแชร์เพ่ือรับ
สิทธิพิเศษ
ข้อควรระวงั Growth Hacking
โดยปกติการทำ Growth Hacking มีความสุ่มเสี่ยงตอ่ การเป็น Spam เพราะการเติบโตทางการตลาด
แบบก้าวกระโดดโดยอาศัยมีลักษณะบอกต่อเป็นหลัก จึงต้องมีความละเอียดและรัดกุม ระหว่างความน่า
รำคาญและการเตบิ โต เพราะการมุ่งสร้างการเติบโตมากเกนิ ไปอาจจะเป็นภาพลบตอ่ แบรนด์
3.2 การเลอื กใช้แพลตฟอรม์ สื่อสงั คมออนไลน์
การวางแผนกลยุทธ์เพื่อการปรับปรุงการเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามอัตราส่วนผลตอบแทนจากการ
ลงทุนที่จะเปรียบเทียบระหว่างเงินลงทุนกับกำไร ROI (Return on Investment) ก่อนที่จะตัดสินใจเลือก
แอปพลิเคชนั มาใช้งาน หรือทีเ่ รยี กว่าแพลตฟอร์ม Platform เช่น Platform Facebook, Platform Twitter
เป็นตน้ ขน้ึ อยกู่ ับรปู แบบธรุ กจิ และกลุม่ เปา้ หมาย

ภาพที่ 1 สอื่ สังคมออนไลน์

ต่อไปนี้แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์โดยยอ่ เพื่อการตลาดตามฐานผู้ใช้และสภาพแวดล้อมเฉพาะของ
แต่ละแพลตฟอร์ม เพื่อพิจารณาการเลือกใช้แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ทางการตลาดที่แตกต่างกันแต่
มีความต้องการแนวทางที่แตกต่างกัน ดังนั้นการพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดอาจจะใช้แพลตฟอร์มเฉพาะหรือ
เลอื กใชม้ ากกว่าหนึ่งแพลตฟอรม์

123

4. Facebook

ภาพท่ี 2 Fackbook

Facebook เป็นบริการเครือข่ายสังคมสัญชาติอเมริกัน สำนักงานใหญ่อยู่ที่เมนโลพาร์ก รัฐ
แคลิฟอร์เนีย เฟซบุ๊กก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 2004 โดยมาร์ก ซักเคอร์เบิร์กและเพื่อนร่วมห้องภายในมหาวิทยาลัย
ฮาร์วาร์ด พร้อมโดยสมาชิกเพอ่ื นผ้กู ่อต้งั Eduardo Saverin, Andrew McCollum, Dustin Moskovitz และ
Chris Hughes ต่อมานักศึกษาภายในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด มีการเข้าชมเว็บไซต์อย่างจำกัดและภายหลังได้
ขยายเพิ่มจำนวนในมหาวิทยาลัยและในพื้นท่ีบอสตัน ไอวีลีกมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด และค่อย ๆ รับรอง
มหาวิทยาลัยอื่นต่าง ๆ ต่อมาก็รับรองโรงเรียนมัธยมศึกษา โดยเฟซบุ๊กให้การอนุญาตให้เยาวชนอายุต่ำกว่า
13 ปี ทั่วโลกสามารถสมคั รสมาชกิ ได้ภายในเวบ็ ไซต์ โดยไมต่ อ้ งอ้างองิ หลักฐานใด ๆ

Facebook คือ แอปพลิเคชันบริการบนอินเทอร์เน็ตบริการหนึ่งที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อสื่อสาร
และร่วมทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งหรือหลาย ๆ กิจกรรมกับผู้ใช้ Facebook คนอื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการต้งั
ประเด็นถามตอบในเรื่องที่สนใจ โพสต์รูปภาพ โพสต์คลิปวิดีโอ เขียนบทความหรือบล็อก แชทคุยกันแบบ
สด ๆ เล่นเกมส์แบบเป็นกลุ่ม และยังสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ผ่านแอปพลิเคชันเสริมที่มีอยู่อย่างมากมาย
ซึง่ แอปพลเิ คชนั ดังกล่าวได้ถูกพฒั นาเข้ามาเพิ่มเติมอยเู่ รื่อย ๆ

4.1 การใชก้ ลยุทธ์ทางการตลาดบนเฟชบกุ๊
Marketing on facebook เป็นการทำการตลาดผ่านทาง Facebook ผ่านระบบออนไลน์หรือระบบ
Social media โดยการโปรโมทสินค้าให้มีคนเข้ามารู้จักหรือโปรโมทเว็บไซต์ เพื่อให้ได้กลุ่มลูกค้าที่ตรงตาม
กลุ่มเป้าหมายที่เราวางไว้ ซึ่งการโปรโมทผ่านระบบออนไลน์นี้เราไม่ต้องกังวลว่าจะติดอันดับบนเว็บด้วย
โปรแกรมค้นหาเว็บไซต์ เสิร์ชเอนจิน เพียงทำอย่าไรให้มีคนสนใจในตัวสินค้า เพราะสามารถโปรโมทสินค้าได้
ตลอด 24 ช่ัวโมง และจะเป็นการประหยดั ค่าใช้จ่ายในการลงสอ่ื โฆษณา ซง่ึ เปน็ กลยุทธ์ทางการตลาดอีกวธิ ีหนงึ่
ที่นกั การตลาดนิยมท่จี ะใชใ้ นการโปรโมทสินคา้
4.2 การทำ Marketing on Facebook
Facebook เป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยโปรโมทและประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาแบรนด์ การสร้าง
ขอ้ มลู ขอ้ มลู ทีเ่ ป็นประโยชนแ์ ก่ลูกค้าให้มากท่ีสุดทำให้เป็นจุดสนใจ จำนวนผูเ้ ข้าชมมากก็คือเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้
มากการทำใหล้ ูกคา้ ติดตามความเคลอ่ื นไหวของ page น้นั ๆ ไดจ้ ากการกด like เป็นการเพม่ิ โอกาสใหก้ ับธรุ กิจ
การทำ Marketing on Facebook สามารถทำได้ 3 แบบ Profile, Group, Page มีความแตกต่าง
กันออกไปดงั นี้

4.2.1 Profile จะเป็นการสว่ นตวั มากน้อยแคไ่ หนได้นั้นอยทู่ ีก่ ารต้ังค่า
4.2.2 Group จะเป็นการรวมกลุ่มกันของบุคคลที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน สามารถ
พูดคุยสนทนากันได้เปน็ กลุ่มเพอ่ื แลกเปลี่ยนความคิดเหน็

124

4.2.3 Page จะเป็นการสร้าขึ้นมาเพื่อเป็นการโปรโมทสินค้าหรือแบรน์สินค้า หรือเป็นการ
โฆษณาธุรกิจที่ทำอยู่ ซึ่งจะสามารถเห็นได้ทุกคนจะมีความเป็นสาธารณะสูง เพียงแค่กด like ลูกค้าก็สามารถ
ตดิ ตามความเคล่ือนไหวของขอ้ มลู การอปั เดตต่าง ๆ ของสนิ คา้ หรอื Page นน้ั ๆ ไดต้ ลอดเวลา

4.3 การทำ Marketing on Facebook
4.3.1 ประหยดั ค่าใช้จา่ ยในการลงส่ือโฆษณา ไม่ต้องเสยี คา่ ใช้จา่ ยในการโปรโมท
4.3.2 การทำ Marketing on facebook จะเข้าถีงกลมุ่ ลูกคา้ เปา้ หมายที่วางไวไ้ ดง้ า่ ย
4.3.3 สามารถขยายช่องทางการตลาดให้เปน็ ที่รูจ้ ักไดม้ ากข้นึ
4.3.4 สามารถโฆษณาและโปรโมทสินค้าไดต้ ลอดเวลา
4.3.5 สามารถติดตอ่ สอื่ สารกนั ได้ง่ายขึ้น
4.3.6 สามารถจัดทำงา่ ย สะดวก รวดเร็ว
4.3.7 สามารถวดั ผลไดด้ ว้ ยจากการกด like ของผคู้ นท่ีใหค้ วามสนใจ

5. Pinterest

ภาพท่ี 3 Pinterest

Pinterest ก่อตั้งโดย เบน ซิลเบอร์แมนน์, พอล เซียอารา และ อีวาน ชาร์ป ได้รับการบริหารจัดการ
โดยโคลด์บริลแลปส์ ตลอดจนได้รับทุนจากกลุ่มเล็ก ๆ ของผู้ประกอบการและนักลงทุน คำว่า Pinterest
มาจาก Pin + Interest หมายถึง การปักหมุด Pin รูปภาพที่เราสนใจลงบนบอร์ดของตัวเอง เหมือนการ
ปกั หมุดไปบนบอรด์

Pinterest เป็นเครื่องมือที่ผู้คนใช้เก็บรวบรวมแนวความคิดสำหรับโครงการต่าง ๆ ที่พวกเขาสนใจ
ผู้ใช้สามารถสร้างและแบ่งปันของที่สะสมไว้ (เป็น "บอร์ด") แบบเป็นที่คั่นหนังสือภาพ (เป็น "เข็มหมุด") ซึ่งใช้
สำหรับวางแผน และจัดโครงการ จัดกิจกรรม หรือบันทึกบทความและตำรา นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ เช่น
การบันทึกบางอย่างที่อาจไม่เขา้ กันกับบอร์ด ซึ่งใช้รูปภาพในหนา้ บอร์ดร่วมกับประโยคส้ัน ๆ ของรูปภาพ จาก
ข้อมูลผู้ใช้ Pinterest ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงมีความสนใจในสื่อ เช่น วางแผนงานแต่งงาน เก็บรวบรวมทรงผม
และแฟชนั่ สวย ๆ เปน็ ต้น

5.1 การทำ Marketing on Pinterest
5.1.1 ทำข้อมูลในหัวข้อที่น่าสนใจได้เป็นระเบียบ โดยการสร้างบอร์ด เช่น บอร์ดอาหาร

อาจจะแบ่งย่อยเป็นของคาว ของหวาน สามารถปักหมุดรูปภาพที่เลือกได้จากเว็บต่าง ๆ มาลงไว้ในบอร์ด
ส่วนตัวหรอื จะถา่ ยรปู ผ่านทาง Instagram แล้วนำมาปักหมุด

5.1.2 ฟังก์ชันการใช้งาน เช่น repin การนำบุ๊คมาร์คของคนอื่นมาปักหมุดไว้บอร์ดของเรา
การปักหมดุ ภาพท่ีตวั เองสนใจ ปุ่มกด like กดชอบภาพทถ่ี กู ใจ การดรู ูปภาพมีทมี่ าจากไหน อีกการเช่ือมต่อกับ
Twitter, Instagram, และ Facebook ขณะปักหมุดภาพใหม่ ๆ ลงไปในบอร์ดด้วย นอกจากนี้ยังมีการใช้

125

Pinterest ทำ Marketing ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวโน้มการตลาด สื่อสังคมออนไลน์ที่เติบโตเร็ว แพลตฟอร์มที่มี
รูปภาพเปน็ ศูนย์กลางของ Pinterest นนั้ เหมาะสำหรบั การคา้ ปลีก

6. Twitter

ภาพที่ 4 Twitter

Twitter ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 โดย แจ็ก ดอร์ซี, บิซ สโตน และอีวาน วิลเลียมส์
เจ้าของบริษัทอ็อบวีโออุส ทวิตเตอร์เกิดจากการระดมความคิดที่ถูกจัดขึ้นโดยบริษัทโอดีโอ ซึ่งเป็นบริษัท
พอดแคสติง โดยดอร์ซี เป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์กได้แนะนำความคิด หรือเอสเอ็มเอส (SMS)
พูดคุยและสนทนากันภายในกลุ่มเล็ก ๆ ช่วงแรกโค้ดเนมของบริการนี้มีชื่อว่า “twit” ซึ่งต่อมาภายหลังได้
เปดิ ตัวเวบ็ ไซตส์ งั คมออนไลน์และได้รบั ความนิยมจากทัว่ โลก

Twitter เป็นบริการเครือข่ายสังคมออนไลน์จำพวกโพสต์ข้อความสั้นๆ เข้าสู่เว็บไซต์ หรือเรียกว่า
ไมโครบลอ็ ก Micro blogging โดยผู้ใช้สามารถส่งขอ้ ความยาวไม่เกนิ 280 ตัวอักษร โดยเรยี กการสง่ ข้อความนี้
ว่า ทวีต (Tweet) ซง่ึ แปลว่า เสียงนกร้อง

6.1 การทำ Marketing on Twitter
6.1.1 เพิ่มโอกาสในการขายและยอดขาย เพิ่มความจงรักภักดีของลูกค้า Customer

Loyalty สร้างความตระหนักถงึ แบรนด์และสินคา้ ลดค่าใช้จ่ายทางดา้ นการสนบั สนุนลูกคา้
6.1.2 ศึกษาการตลาดออนไลน์ของคู่แข่ง จุดแข็งและจุดอ่อนทางด้านการตลาดออนไลน์

และนำสง่ิ นนั้ ไปปรบั ปรุงแบรนด์ตนเอง
6.1.3 เข้าใจกลุ่มลูกค้า สินค้าที่ผลิตออกมาขายอาจจะไม่สามารถดึงดูดลูกค้าทุกคนได้

จึงต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายและมัดใจคนกลุ่มนี้ให้ได้ โดยใช้เครื่องมือเพื่อค้นหาคำตอบ เช่น วิเคราะห์สถิ ติ
ผู้ติดตามข้อความที่ส่งทวิตไปแล้ว Followerกลุ่มเป้าหมายมีปฏิสัมพันธ์กับตัวแบรนด์ในรูปแบบต่าง ๆ Brand
Engagement

7. LinkedIn

ภาพที่ 5 LinkedIn

126

LinkedIn ถูกก่อตั้งในปี ค.ศ. 2002 โดย Reid Hoffman ได้ชักชวน Jeff Weiner ที่มีประสบการณ์
ด้านแพลตฟอร์มออนไลน์มาร่วมทีมและปัจจุบันมันก็กลายเป็น Social Media ที่เป็นที่นิยมมากในเครือข่าย
สังคมทเ่ี น้นดา้ นเครือขา่ ยธรุ กิจและเพือ่ การสร้างเครือขา่ ยทางวิชาชีพเปน็ หลกั

LinkedIn เป็นสื่อสังคมออนไลน์ท่ีเน้นไปในทางด้านอาชีพและธรุ กิจ เป็นการเชอื่ มโยงระหว่างผู้ว่าจา้ ง
และผู้ถูกจ้าง โดยจะทำหน้าที่เชื่อมโยงทั้งสองฝ่ายเข้าด้วยกัน จึงเป็นฐานข้อมูลที่ใช้ในการจ้างงานและหางาน
สามารถสร้างข้อมูลส่วนตัว เช่น ข้อมูลทางด้านการศึกษา ประสบการณ์ ความถนัดเฉพาะตัว ซึ่งคล้ ายกับ
Resume ประจำตัวของผู้ใช้คนนั้น ๆ และฐานข้อมูลส่งผลให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ของบริษัท
ต่าง ๆ ที่กำลังสืบหาพนักงาน นอกจากนี้ผู้ใช้คนอื่น ๆ สามารถเข้ามายืนยันความสามารถของผู้ใช้งานคนอื่น ๆ
ได้ เพอื่ เปน็ การสร้างความน่าเช่อื ถอื และเพ่มิ ความน่าสนใจใหแ้ กผ่ ูใ้ ช้

7.1 การทำ Marketing on LinkedIn
7.1.1 สามารถกำหนดรายการของข้อมูลได้เอง ปรับปรุง ตกแต่ง สร้างหมายเหตุในแต่ละ

แหล่งเครือข่ายตามที่ต้องการ สามารถสร้างรายการที่ต้องการเน้นย้ำและให้ตรงเป้าหมายที่จะได้รับการแจ้ง
เตือนทกุ คร้งั ทโ่ี พสต์เนอื้ หา

7.1.2 สามารถใช้เป็นช่องทางในการสรรหาพนักงาน อย่างตรงความต้องการได้หลากหลาย
เพื่อให้เหมาะสมกับเฉพาะด้านธุรกิจ และยังสามารถเริ่มต้นเปิดการเจรจากับกลุ่มเป้าหมายเป็นทางเลือก
เพือ่ เพิม่ ปริมาณคุณภาพและด้านความสามารถท่ตี ้องการ เพื่อใหก้ ารสรรหาอยา่ งมศี กั ยภาพ

7.1.3 สามารถสร้างแบนเนอร์ (การวางภาพโฆษณาลงไปบนหน้าเว็บแล้วทำไฮเปอร์ลิงก์
กลับไปยังเว็บที่โฆษณา) โฆษณาและสร้างเนื้อหาเพื่อสร้างความน่าสนใจและสร้างแรงจูงใจเพื่อให้
กลุ่มเป้าหมายต้องการร่วมธุรกิจ การมองหาผู้เกี่ยวข้องทางด้านสายอาชีพที่เป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้ทั้งด้ าน
ผจู้ า้ งงาน ผถู้ ูกจา้ งงาน คู่คา้ และบรษิ ทั ต่าง ๆ

8. YouTube

ภาพท่ี 6 YouTube

YouTube ตามสำเนียงอเมริกัน หรือ ยูทิวบ์ เป็นเว็บไซต์เผยแพร่วิดีโอ โดยมีสำนักงานอยู่ท่ี
แซนบรูโน แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการสร้างเว็บไซต์จากอดีตพนักงาน 3 คนในบริษัทเพย์พาล
ทำธุรกิจเกี่ยวกับระบบการจ่ายเงินอีกรูปแบบหนึ่งใช้แทนที่การจ่ายเงินสด เช็คหรือบัตรเครดิต
อันประกอบด้วย แชด เฮอร์ลีย์ สตีฟ เชน และยาวีด คาริม ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 ในเดือนพฤศจิกายน
พ.ศ.2549 ต่อมายูทูบถูกกูเกิลซื้อไปในราคา 1.65 พันล้านเหรียญสหรัฐ ยูทูบจึงเป็นหนึ่งในบริษัทย่อยของ
กเู กิล

YouTube เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการแลกเปลี่ยนภาพวิดีโอระหว่างผู้ใช้ได้ฟรี โดยนำเทคโนโลยี
ของ Adobe Flash Player มาใช้ในการแสดงภาพวิดีโอ โดยผู้ใช้สามารถเข้าดูวิดีโอต่าง ๆ พร้อมทั้งเป็น
ผู้อัปโหลดวิดีโอผ่าน YouTube ได้ฟรี เมื่อสมัครสมาชิกแล้วผู้ใช้จะสามารถใส่ภาพวิดีโอเข้าไป แบ่งปันภาพ

127

วิดีโอให้คนอื่นดูด้วย แต่หากไม่ได้สมัครสมาชิกก็สามารถเข้าไปเปิดดูภาพวิดีโอที่ผู้ใช้คนอื่น ๆ ใส่ไว้ใน
YouTube ได้ แต่ไม่สามารถเป็นผู้อัปโหลดวิดีโอได้ วิดีโอที่สามารถอัปโหลดลงยูทูบได้ ต้องมีความยาวไม่เกิน
15 นาที ยกเว้นวิดีโอจากผู้ที่ร่วมทำธุรกิจที่ได้รับอนุญาตจากยูทูบขนาดของไฟล์ไม่เกิน 2 GB ยูทูปสามารถรับ
file วิดีโอที่อัปโหลดเข้ามาในนามสกุลต่าง ๆ ได้แก่ .AVI , .MOV, .MP4, .FLV, .DivX รวมทั้งรูปแบบ MPEG,
VOB และ .WMV นอกจากนีย้ งั รองรับไฟล์สกุล 3GP ท่อี ัปโหลดเข้ามาทางสมารต์ โฟนอีกดว้ ย

8.1 การทำ Marketing on YouTube
การทำ Ads แบบตา่ ง ๆ บน YouTube สามารถทำดว้ ยตวั เอง ดังน้ี

8.1.1 แบบ True view เป็นแบบที่จะมีการคิดเงินก็ต่อเมื่อคลิปวิดีโอถูกชมจริง ๆ เท่าน้ัน
ซึ่งก็แบง่ ออกเปน็ 3 แบบย่อย ๆ ด้วยกัน คือ แบบ in stream หรือก็คือคลิปส้ัน ๆ ที่แสดงให้คนดูเหน็ สามารถ
กด skip ได้และกด skip ไม่ได้ แบบ in display และแบบ in search จะคิดเงนิ ก็ตอ่ เม่ือมีการคลิกลิงค์เข้าไปดู
โฆษณานน้ั จรงิ ๆ เทา่ น้ัน

8.1.2 แบบ Mastheads เป็นการซื้อแบนเนอร์ขนาดใหญ่ที่จะเห็นได้บนหน้า Homepage
โดยจะเปิดให้ซื้อกันแบบ Fixed Banner และขายกันเป็นวัน ให้เราเลือกได้ตามสะดวกเลยว่าต้องการใช้ Ads
ในรูปแบบนี้ในการทำการตลาดออนไลน์ดว้ ยหรือไม่

8.1.3 แบบ Display ads จะเป็น Ads ขนาดประมาณ 300×250 px (จุดภาพบน
จอแสดงผล) ที่จะปรากฎให้ผู้ชมเห็นบนหน้าต่าง ๆ ของ YouTube ยกเว้นหน้าแรก โดยตำแหน่งที่จะพบเห็น
ได้ก็คือตรงข้าง ๆ คลิปวิดีโอหรืออยู่เหนือ Suggest video ขึ้นไป ซึ่งในบางแบรนด์ก็เลือกที่จะทำการตลาด
ออนไลนโ์ ดยใช้โฆษณา ads ประเภทน้ีเปน็ การโฆษณาทไี่ มเ่ ป็นการรบกวนการชมคลปิ

8.1.4 แบบ Overlay in-video ads หรือเรียกอีกอยา่ งหนงึ่ ว่า เป็น Banner โฆษณา ซงึ่ Ads
แบบนจี้ ะแสดงซ้อนอยูบ่ นตวั วดิ โี อหลกั ทีผ่ ู้ชมคลิกเขา้ มาดู

8.1.5 แบบ One million view pack สำหรับ Ads ประเภทนี้ จะเป็นการซื้อโฆษณากับทาง
Google โดยตรง โดยที่ทาง Google กำหนดค่าใช้จ่ายมาให้แบบเหมาจ่าย และจะมีการการันตียอดวิวให้
1 ล้านวิวใน 4 สัปดาห์ แต่ราคาจะค่อนข้างสูงมาก การเลือกทำการตลาดออนไลน์ด้วยวิธีนี้ จึงต้องมีการ
วางแผนและศึกษาขอ้ มลู กนั ดว้ ยทกุ คร้ัง เพื่อใหไ้ ดผ้ ลลพั ธท์ ไ่ี ดต้ รงตามเป้าหมายและไมข่ าดทุน

8.1.6 แบบ Reserved ad เป็นแบบที่จ่ายเงินซื้อโฆษณาที่เน้นกลุ่มเป้าหมายอย่าง
เฉพาะเจาะจง เพื่อจะไดท้ ำการตลาดออนไลน์ไดอ้ ยา่ งตรงจุด โดยทาง Google จะมีแพ็กเกจมาให้เลอื กหรอื จะ
request เพิ่มเติมไปก็ได้ จากนั้นโฆษณาจะไปปรากฏตามคอนเทนต์ในแต่ละแพ็กเกจที่ซื้อเอาไว้ เช่น ถ้าเลือก
แบบ music pack โฆษณาก็จะไปแสดงให้เห็นตามหนา้ เว็บหรอื เนอื้ หาทีเ่ ป็นเพลง เปน็ ต้น

9. Instagram

ภาพที่ 7 Instagram

128

Instagram ได้รับการคิดค้นขึ้นมาที่ซานฟรานซิสโก โดยเควิน ซิสตรอม และไมเคิล ไมก์ ครีเกอร์
คิดค้นโดยเน้นระบบโปรแกรม HTML5 ในการจัดโครงสร้างและการแสดงผลของเนื้อหาสำหรับเวิลด์ไวด์เว็บ
มาตรฐานใหม่จะมีคุณลักษณะเด่นที่สำคัญ ได้แก่ การใช้งานวิดีโอ การแสดงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ การเก็บ
ไฟล์ในลักษณะออฟไลน์ การแสดงกราฟิก

Instagram เป็นโปรแกรมที่สามารถนำภาพที่ถ่ายไว้ หรือโอนภาพในแหล่งเก็บภาพทำการตกแต่งให้
สวยงามในสไตล์ที่ต้องการฟิลเตอร์ (Filter) และเครื่องมือที่มีอยู่ใน Instagram ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบบให้เลือก
แล้วนำรูปภาพทต่ี กแตง่ ส่งต่อไปใหผ้ ู้อ่ืน เชน่ Twitter, Facebook, Foursquare, Tumblr เป็นตน้

9.1 การทำ Marketing on Instagram
9.1.1 Instagram จะรวบรวมและคำนวณข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจ

โดยข้อมูลที่ Instagram จะนำมาวิเคราะห์ให้ โดยจำแนกเป็นลักษณะทางประชากรของผู้บริโภคได้ทั้งสถานท่ี
ที่ถูกเข้าถึงมากที่สุด ช่วงอายุ เพศ ช่วงเวลาที่เข้าดู วัน/เวลาที่ออนไลน์ส่วนใหญ่ เช่น ยอดเข้าถึง (Reach)
ผู้บริโภคโดยรวมทั้งหมด ยอดผู้บริโภคที่แสดงปฏิกิริยาตอบกลับ (Like/Follow/Comment) ยอดเข้าถึง
ผู้บริโภคเก่า/ใหม่ ผลรวมของจำนวนโพสต์ทั้งหมดที่ถูกเข้าถึง รายละเอียดของวิธีการดำเนินการของโปรโมช่ัน
ท่ถี ูกนำเสนอออกไป

9.1.2 ตรงประเด็น ทั้ง “คำบรรยาย” และ “แฮชแท็ก #Hashtags” บางครั้งการโฆษณา
ผลิตภัณฑ์ถูกแทนที่ด้วยสารต่าง ๆ หลากหลายประเภทและถูกลบหายไปในที่สุด การสร้างแฮชแท็กหรือ
แคปชั่นที่น่าสนใจเป็นสิ่งที่สามารถดึงดูดและสรา้ งการรับรู้ให้ผู้บริโภคเห็น Message ได้มากยิ่งขึ้น ง่ายต่อการ
ค้นหาและเกดิ เป็น Community สำหรบั คนทีม่ คี วามชอบเดียวกันและสามารถกระจายสนิ คา้ ตอ่ กลุ่มเป้าหมาย
ไดด้ ีย่ิงขึน้

9.1.3 สร้างคอนเทนต์ Story IG การเล่าเรื่องใน Story IG ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัวแต่ต้องไป
ในทางเดียวกันของแบรนด์ (Positioning) ภาพโดยรวมที่นำเสนอออกไปจึงต้องพิถีพิถันในการคัดเลือกเพราะ
สามารถสื่อถึงตัวแบรนด์ได้ในอีกรูปแบบและประยุกต์ให้เข้ากับข้อมูลที่ต้องการสื่อสารด้วย เช่น การบอกถึง
โปรโมชั่นใหม่ ประกาศหรือเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เพราะเมื่อผู้รับสารรับรู้และเกิดความชอบต่อ Story IG ของ
แบรนด์นั้น ๆ ก็จะตามมาด้วยการ Follow กลายเป็นหนึ่งในผู้ติดตาม ถูกเก็บในยอดสถิติเพื่อสร้างฐานข้อมูล
ในการสรา้ งกลยทุ ธ์จนทำให้เกิดพฤตกิ รรมการซ้อื ไดใ้ นที่สดุ

9.1.4 IGTV ชอ่ งทางการโปรโมทใหม่ล่าสุดจาก Instagram ฟีเจอรใ์ หม่ลา่ สดุ จาก Instagram
ท่จี ะทำให้ผู้ใชบ้ รกิ ารทุกคนเปรยี บเสมือนเจ้าของ Channel โดยบญั ชผี ู้ใชท้ ่มี ีฐานผู้ตดิ ตาม (Follower) ไม่มาก
จะสามารถอัปโหลดวิดีโอความยาวสูงสุดไม่เกิน 10 นาที แต่ถ้ามีฐานผู้ติดตามมากกว่าหลักหมื่นเป็นต้นไป
จะสามารถอปั โหลดไดน้ านที่สดุ 1 ชวั่ โมง

10. Foursquare

ภาพที่ 8 Foursquare

129

Foursquare สร้างโดย Dennis Crowley ผู้ก่อตั้ง Dodgeball.com ซึ่งเป็น Mobile Social ใน
อเมริกา ซึ่งถูกซื้อโดย Google ไปในปี ค.ศ. 2005 และ Dennis ลาออกจาก Google ในปี ค.ศ. 2007 มาเปดิ
บริการคล้าย ๆ กับ Dodgeball โดยใช้ชอ่ื FourSquare.com ในปี ค.ศ. 2009

Foursquare เป็นการรวมเทคโนโลยีด้าน Social Network และเทคโนโลยีสมาร์ตโฟนส่วนของ
Location เกดิ เปน็ "Location-Based Social Network" เปน็ บรกิ ารบนเวบ็ ไซต์ผสมผสานกบั สมาร์ตโฟน โดย
ให้ผู้เป็นสมาชิกสามารถบอกเพื่อน ๆ ในเครือข่าย Network บอกพิกัดตนเองโดยการแจ้งผ่านสมาร์ท
โฟน เรียกว่าการ "Check-in" โดยทุกครั้งที่ Check-in ก็จะได้แต้ม (Point) เป็นรางวัลในแต่ละครั้ง โดย
สามารถแจ้งได้ทั้งในวันทำงานและวันหยุด และยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ Social Network ดัง ๆ ได้อีกด้วย
เชน่ Facebook และ Twitter เปน็ ตน้

10.1 การทำ Marketing on Foursquare
10.1.1 Brand Profile Page/Partner - 4SQ ให้แบรนด์สามารถสร้างหน้า BrandPage

ของตัวเองเพื่อให้ลูกค้าสามารถติดตามข้อมูลของแบรนด์ได้ง่าย สะดวกในการให้ข้อมูล Tips, Promotion,
ข่าวสารเปิดสาขาใหม่ก็สามารถทำให้ได้เช่นกัน พูดง่าย ๆ ก็คือ เป็นหน้าที่แบรนด์และธุรกิจที่สามารถสร้าง
Location-Based Content บน 4SQ

10.1.2 Special badge ได้สัญลักษณ์พิเศษจากการติดต่อเป็นหุ้นส่วน Partner 4SQ เพ่ือ
ทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับทาง 4SQ ส่วนใหญ่จะเป็นการนิยมสร้าง Badge พิเศษของแบรนด์ขึ้นมาเพื่อสร้าง
กจิ กรรมการมีส่วนร่วมและเพมิ่ ความสนกุ กันในการทำกจิ กรรมกบั แบรนด์

10.1.3 Special offers ข้อเสนอพิเศษสามารถสรา้ งขึ้นมาไดเ้ องหากเป็นเจ้าของสถานที่และ
ได้ทำการยืนยันความเป็นเจ้าของสถานที่กับทาง 4SQ เป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จะสามารถสร้าง Special Offer
บน 4SQ ไดท้ ันที เช่น การแสดงโฆษณาทีไ่ ด้จากการ Check-in สถานท่นี ้นั ๆ เปน็ ตน้

11. Line

ภาพท่ี 9 Line

Line สรา้ งข้ึนเมอื่ ปี ค.ศ. 2010 โดยรว่ มก่อตัง้ ระหว่างบรษิ ัท Naver Japan Corporation และบริษทั
livedoor ส่วนของการตลาดด้านธุรกิจบริษัทแม่ที่เกาหลี NHN Corporation บริหารจัดการ สาเหตุแรก
ทำการสร้างโปรแกรม Chat เนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ภูมิภาค Tohoku ปี ค.ศ. 2011 ทำให้ระบบ
การติดต่อทางการโทรศัพท์ใช้งานไม่ได้ ทำให้ NHN Japan จึงออกแบบแอปพลิเคชันที่สามารถใช้ได้ทั้งบน
มือถือ บนแท็บเล็ตและคอมพิวเตอร์พีซี สามารถทำงานบนเครือข่าย และสามารถแชทตอบโต้ได้รวดเร็วและ
ตอ่ เนือ่ ง

130

Line เป็นแอปพลิเคชันการพูดคุยออนไลน์ Chat ความสามารถถือว่าเป็นแอปพลิเคชันแรก ๆ
ทีส่ ามารถสง่ สต๊กิ เกอร์ให้ผูอ้ นื่ ลักษณะการให้บริการสง่ ข้อความออนไลน์ Messaging และสอื่ สารทางเสียงผ่าน
โครงข่ายอินเทอร์เน็ต Voice Over IP โดยบริการดังกล่าวสามารถสร้างกลุ่ม ส่งข้อความ โพสต์รูปต่าง ๆ หรือ
โทรคุยกันแบบเสียงก็ได้ ซึ่งในทางการตลาดจะอนุญาตให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถสร้างสติ๊กเกอร์แบรนด์ของ
ตัวเอง นอกจากนี้การเพิ่มเพื่อนอย่างไม่จำกัด Official Account โดยที่แบรนด์สามารถส่งข้อมูลข่าวสารให้กับ
ผู้ตดิ ตามตนเอง

11.1 การทำ Marketing on Line
การสร้าง Official Account เป็นของตัวเองเพื่อติดต่อสื่อสารและส่งข้อมูลข่าวสารทั้งในเชิงส่วน
บคุ คลและเชงิ ธรุ กิจได้ตรงตามกล่มุ เปา้ หมายที่ต้องการ โดยการใชช้ อ่ งทางและเครอื ข่ายเพือ่ ช่วยผลักดันในการ
สร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้า ทำให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดต้นทุนค่าใช้จ่าย
แอปพลิเคชัน Line จึงเป็นวิธีการทำธุรกิจในช่องทางการตลาดที่ชัดเจนในระยะเวลาที่สั้น การบริการ
มี 2 ประเภท คือ แบบไมม่ คี า่ บริการและมคี า่ บริการ

11.1.1 แบบไม่มีค่าบริการ สามารถส่งข้อความได้เดือนละ 1,000 ข้อความ การส่ง
1 ขอ้ ความต่อผู้ติดตาม 1 คน

11.1.2 แบบมีคา่ บรกิ าร สามารถส่งขอ้ ความได้เดือนละ 50,000 ขอ้ ความ
การบริการแบบ PREMIUM ID เป็นบริการพิเศษในการเปลี่ยนชื่อตามต้องการ โดยสามารถเลือก ID
กล่าวคือ การเลือก ID จะส่งผลต่อประเภทของธุรกิจตรงตามต้องการ เพื่อให้ตรงกับรูปแบบธุรกิจ มีความ
สวยงามและช่วยสร้างความน่าจดจำได้มากยิ่งขึ้น บริการแบบนี้มีค่ารายปี ซึ่งมีรูปแบบเพิ่มทางเลือก
18 ตัวอักษร สามารถมีชื่อเดียวกันกับชื่อบริษัทได้ ความแตกต่างระหว่าง LINE และ LINE@ คือ หน้าแรกของ
บัญชี LINE@ สามารถดจู ำนวนคนและปรมิ าณของโพสต์ในธรุ กิจได้

12. SnapChat

ภาพที่ 10 SnapChat

SnapChat แอปพลเิ คชนั ถูกสรา้ งข้นึ เมื่อ ค.ศ. 2011 โดยอวี าน สปเี กล Evan Spiegel บ็อบบ้ี เมอร์ฟ่ี
Bobby Murphy เร็กกี้ บราวน์ Reggie Brown ซึ่งทั้งสามคนก็ได้ร่วมพัฒนาแอปพลิเคชันและเริ่มเปิดตัว
แอปพลเิ คชนั ในชื่อแบรนด์ Picaboo กอ่ นเปลย่ี นช่อื เปน็ SnapChat

SnapChat เป็นแอปพลิเคชันสามารถส่งข้อความได้หลายรูปแบบ Multimedia messaging ทั้งแบบ
วิดีโอ และแบบภาพถา่ ย มีกลอ้ งในตัวและเลือกตกแต่งภาพเปน็ ฟลิ เตอรไ์ ด้หลากหลาย นอกจากนี้สามารถแชร์
รปู วดิ ีโอ ให้กบั ผอู้ ่ืนได้ โดยสามารถต้ังเวลาในการแสดงรูปได้

131

12.1 การทำ Marketing on SnapChat
12.1.1 สามารถส่งขอ้ มูลได้ทัง้ แบบ ข้อความ ภาพและวดิ โี อ (จำกดั ความยาว)
12.1.2 สามารถเปิดอ่านแล้วลบข้อความทันทีที่อ่าน หรือตั้งเวลาเมื่อครบเวลาที่กำหนดแล้ว

ข้อความจะหายไปเอง ซึ่งหากต้องการดูย้อนหลังได้รอบเดียวจากนั้นภาพจะทำลายตัวเอง และมีการแจ้งเตือน
Capture ภาพของเรา

12.1.3 My Story สามารถโพสต์วดิ โี อได้ และจะหายไปในหนึ่งวัน
12.1.4 การรบั เป็นเพื่อนตอ้ งรออกี ฝา่ ยกดรบั ก่อนถึงจะคุยกันได้
12.1.5 โทรหาเพอ่ื นแบบวิดโี อคอลได้
12.1.6 สามารถแตง่ ธมี ตา่ ง ๆ หรอื ฟลิ เตอร์ในวิดีโอแชทได้
12.1.7 สามารถตดิ ตาม SnapChat ของบคุ คลท่ีตอ้ งการตดิ ตามผา่ น My Story

13. Weibo

ภาพที่ 11 Weibo

Weibo สร้างโดย บริษัทซนิ ล่างคอร์ป เวยปอ๋ เมื่อปี ค.ศ. 2009 ภาษาจีนเรียกว่า "เวยป์ อ๋ " มีชอ่ งทางให้
เกิดการทำการตลาดในรูปแบบอาศัยความนิยม ความน่าเชื่อถือ การติดตามบุคคลที่มีอิทธิพลทางความคิด
บนโลกออนไลน์ KOL (Key Opinion Leader หรอื influencer)

Weibo เป็นเว็บไซต์แบบไมโครบล็อก (microblog) ผสมผสานการใช้งานได้ทั้งการส่งบริการข้อความ
สั้นคล้ายทวิตเตอร์กับเฟซบุ๊ก แอปพลิเคชันนี้นับเป็นที่ยอดนิยมตัวหนึ่ง เนื่องจากคนในสาธารณรัฐประชาชน
จีนใชส้ ่วนใหญ่

13.1 การทำ Marketing on Weibo
13.1.1 Corporate Weibo ห ร ื อ Enterprise Edition เ ป ็ น ร ะ ด ั บ ส ู ง ข อ ง Weibo มี

คุณลักษณะเด่นพิเศษ Feature ใหม่มากมาย การได้สัญลักษณ์ยืนยันความน่าเชื่อถือและได้ป้าย (V) Verified
จาก Corporate Account จะสามารถปรับเปลี่ยนหน้าตาได้ตามต้องการ คล้ายกับแพลตฟอร์มทวิตเตอร์
ส่วนหน้า Profile Account สามารถปรับเปลี่ยนใส่ Widget ใส่ Banner Flash หรือในหน้าวิดีโอได้ และมา
พร้อมกบั หน้า Insights Stat (การแปลผลจากการ Research)

13.1.2 Weibo ได้ผสมผสานความสามารถโดยการรวมฟีเจอร์หลาย ๆ สื่อสังคมออนไลน์
เข้าด้วยกัน จึงเป็นทวิตเตอร์จีนและรวมความสามารถฟีเจอร์สำคญั ในเฟซบุ๊ก Path Tumblr หรือ Instagram
ขยายความสามารถตามความต้องการของตลาดผู้ใช้ คนจีนจึงใช้ Weibo เป็นสื่อสังคมออนไลน์หลักในการ
ตดิ ตามบคุ คลสำคญั แบรนด์ สือ่ และข่าวสาร

132

13.1.3 Influencer การใช้ Influencer ในการทำการตลาดในประเทศจีนต้องเลือกดูว่า
มี Follower สูงบน Weibo หรอื ไม่ เป็นการสร้างความนา่ เช่อื ถือจากคนท่มี าสรา้ งเพจแล้วมีชื่อเสียงทนี่ อกจาก
เนอ้ื หา Blog

14. WeChat

ภาพท่ี 12 WeChat

WeChat ก่อตั้งโดย บริษัทเทนเซ็นต์ ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เดิมตั้งชื่อโปรแกรมชื่อ
Weixin เปิดให้ใช้งาน ค.ศ. 2011 ต่อมาได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อ วีแชท แทน และเมื่อ ค.ศ. 2013 บริษัท เทนเซ็นต์
ได้ทำความร่วมมอื กบั สนกุ ออนไลน์ เปิดตัวแอปพลิเคชนั ในประเทศไทย

WeChat เป็น WeChat แอปพลิชันใช้ในการสื่อสารทางสมาร์ตโฟน ซึ่งรองรับการใช้งานโดยสามารถ
ส่งเสียง วิดีโอ รูปภาพและข้อความตัวอักษร สามารถพูดคุยเป็นกลุ่มหรือหาเพื่อนใหม่ได้ นอกจากน้ีสามารถ
ลอ๊ กอนิ เข้าสโู่ ปรแกรมผา่ นไอดขี องเฟซบ๊กุ ได้

14.1 การทำ Marketing on WeChat
WeChat การโฆษณาสามารถแสดงข้อความสนบั สนนุ การขายบนไทม์ไลน์ของลกู คา้ หรือส่วนดา้ นลา่ ง
ของบทความ หากต้องการโฆษณาเพื่อจุดประสงค์เพิ่มผู้ติดตามและต้องการขยายการบริการของธุรกิจของ
แบรนด์ คือ บริการ WeChat Official Account และยังสามารถส่งต่อลูกค้าไปสู่เว็บไซต์หลักของแบรนด์ได้
รวมถึงเพิ่มยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้อีกด้วย การโฆษณาลงโฆษณาทาง Moment หรือสามารถ
เปรียบเทียบได้กับ Facebook Newsfeed เป็นช่องทางสำหรับนักการตลาดต่างชาติที่ทำการโฆษณาผ่าน
WeChat เนื่องจากมีความคล้ายกับโฆษณาผ่านเฟซบุ๊กไทม์ไลน์แต่มีข้อจำกัดกับร้านค้าที่เริ่มเปิดธุรกิจหรือ
มีงบทางการตลาดน้อย เนื่องจากมคี ่าใชจ้ ่ายในการโฆษณาค่อนข้างมาก

15. กรณีศึกษาการตลาดบนส่ือสงั คมออนไลน์

15.1 กรณศี กึ ษาของ AT&T
AT&T บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ของประเทศสหรัฐอเมริกา ประสบความสำเร็จบนสื่อสังคม
ออนไลน์โดยการใช้กลยุทธ์การขายทางสังคม (The Social Sales Strategy) จากนั้นจึงเริ่มต้นสร้างเนื้อหาที่
สำคัญทางการตลาด (Content Marketing) ที่จำเป็นกับสินค้าหรือบริการของบริษัท เพื่อเป็นการช่วยเหลือ
กลุ่มลูกค้า โดยการเก็บข้อมูลปัญหาและแนวทางการทำการตลาด สรุปได้ 10 รูปแบบ ที่ลูกค้านำไปแก้ไข
ปัญหา ดังนั้นทาง AT&T โดยเนื้อหาบน Blog โฟกัสไปที่การทำแบบ B2B ซึ่งเรียกว่า “Networking
Exchange” สิ่งที่สำคัญกค็ ือ Content จะต้องเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่สนใจจรงิ ๆ จากการที่ AT&T เลือก Twitter

133

และ LinkedIn ซึ่งเป็นช่องทางที่กลุ่มลูกค้ามากที่สุดและมักจะได้รับใบเสนอราคามากที่สุด แต่กลวิธีที่ใช้ใน
ด้าน Content เกี่ยวกับเทคนิคเป็นส่วนใหญ่ และกลุ่มเป้าหมายก็เป็นแนวกลุ่มที่ชอบเทคโนโลยี จากกลยุทธ์
Content แบบ B2B ซ่ึงจะต้องโฟกัสไปท่กี ลมุ่ ของ “นกั ธรุ กิจ” ดังนนั้ จึงปรับแก้ Content ให้นักธุรกิจมองเห็น
โอกาสต่อยอดให้สามารถช่วยแก้ไขปัญหาให้กับธุรกิจอย่างไรได้บ้าง โดยสร้างเนื้อหาจากการพูดคุยและปัญหา
ที่เกิดขึ้นจริง เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสได้ว่ามีความเอาใจใส่และเป็นการสานสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าไปด้วยในเวลา
เดียวกัน ในช่วงเวลา 18 เดือนทำให้บริษัทได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และได้รับความ
ไว้วางใจในการให้เข้าไปช่วยแก้ปัญหาปัญหาให้กับบริษัทต่าง ๆ รวมไปถึงใบเสนอราคาโปรเจคต่าง ๆ ที่ได้รับ
ทำให้เกิดมูลค่าทางธุรกิจสูงถึง 47 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ 1,600 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง
18 เดอื นเทา่ นั้น

15.2 กรณศี กึ ษาของ Red Bull
Red Bull หรือกระทิงแดง สื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้คือ Instagram ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคมากกว่า
1.2 ล้านคน เริ่มทำการตลาดในประเทศที่แถบยุโรป ใช้ชื่อบริษัท Red Bull GmbH และนิตยสาร Forbes
จัดอันดับให้ Red Bull เป็นแบรนด์อันดับ 76 ของโลกในปี ค.ศ. 2017 นี้ ในกรณีศึกษาครั้งน้ี Red Bull
การทำการตลาดออนไลน์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจุดประสงค์หลัก คือ ต้องการสร้าง Brand Awareness
ในการสนบั สนุนแคมเปญ “Summer Edition” ตลาดในกลุ่มชาวออสเตรเลี่ยน (Red Bull Australia) เน้นให้
กลุ่มเป้าหมายโฟกัสไปที่การรับรู้และหาซื้อที่มีขายเฉพาะช่วงเวลา ในปี ค.ศ. 2016 Red Bull ได้เลือกที่จะใช้
Instagram ในการเปิดตลาดก่อน เนื่องจากยอดขายได้ขึ้นสูงถึง 6,000 ล้านกระป๋อง และใช้แฮชแท็ก
ชื่อว่า #thissummer เพื่อทำให้ลูกค้าจดจำถึงฤดูร้อนกับเครื่องดื่ม ซึ่ง Content มาในแบบของรูปภาพและ
วิดีโอบน Instagram ของ Red Bull Australia ทำให้เกดิ การตลาดแบบปากตอ่ ปากวา่ ถา้ คดิ ถงึ ฤดรู ้อนที่กำลัง
จะมาถึง ดังนั้นคำว่า Red Bull กับกระป๋องสีเหลือง จะสื่อถึงการเป็น Top of Mind สรุปได้ว่า พฤติกรรม
ของผู้บริโภคของแต่ละสื่อสังคมออนไลน์ว่ามีพฤติกรรมอย่างไร เพราะอาจจะมีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน และ
กลุ่มเป้าหมายแตล่ ะสอื่ ก็พฤติกรรมทแ่ี ตกตา่ งกัน

16. กรณีศกึ ษาการตลาดบนสือ่ สังคมออนไลน์ในประเทศจีน

16.1 กรณีศกึ ษาของ GIVENCHY
GIVENCHY แบรนด์ดังได้ใช้บริการเพื่อโฆษณากระเป๋ารุ่นลิมิเต็ด Tao Liang เป็นที่รู้จักในเว็บภายใต้
ชื่อ Mr. Bags มีผู้ชม 1.2 ล้านคนใน WeChat การใช้ KOL กับผู้ติดตามจำนวนมากพิสูจน์แล้วว่าเป็นวิธีที่
ยอดเย่ียมสำหรับแบรนดใ์ นการบรรลุชุมชนที่เกีย่ วข้องและม่งุ เน้นด้านแฟชัน่ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งแบรนด์และ
KOL นี้เกี่ยวข้องกับ Tao Liang ที่เผยแพร่โพสต์ใน WeChat ของเขาซึ่งอ้างถึงการเป็นหุ้นส่วนกับ Givenchy
และการส่งเสริมการขาย 80 กระเป๋าในรุ่นที่จำกัดจำหน่ายราคา 15,000 หยวนต่อใบ จากการได้ใช้ประโยชน์
ของการตลาดดิจิทัล นอกจากนี้บริษัทตัดสินใจที่จะเปิดตัวการตลาดของกระเป๋าเหล่านี้ไม่กี่วันก่อน
วันวาเลนไทน์ คนจีนเป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องความสำคัญของการให้ของขวัญในเหตุการณ์สำคัญสำหรับ
WeChat กับแบรนด์ในเวลาเพียง 12 นาที สินค้าก็ถกู ขายทั้งหมด ส่วนหนึ่งทีป่ ระสบความสำเร็จเนื่องจากการ
พูดกันปากต่อปากในเชิงบวกที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเสริมสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของแบรนด์และเพิ่ม
ภาพลักษณข์ องแบรนด์

134

16.2 กรณศี กึ ษาของ MONTBLANC
MONTBLANC แบรนด์หรูได้ตัดสินใจใช้ Wechat เพื่อโปรโมทคอลเล็กชั่นสไตล์ ในอดีตที่ผ่านมา
Montblanc ไดใ้ ชแ้ พลตฟอรม์ สำหรบั การสง่ เสริมการตลาด โดยแคมเปญการตลาดแบ่งออกเปน็ 2 สว่ น
- ส่วนแรก คือการสร้างความตระหนักในประวัติศาสตร์ของแบรนด์ วิธีนี้มักใช้ในความหรูหรา
การเล่าเรื่องช่วยให้ผู้บริโภคสามารถหวนกลับและทำความคุ้นเคยกับประวัติศาสตร์และผลิตภัณฑ์และได้รับ
ความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าเหตุใดจึงถือเป็นแบรนด์หรู สำหรับแคมเปญ Montblanc ใช้บุคลิกภาพที่โด่งดัง
Hugh Jackman เพือ่ บอกเลา่ เรื่องราวของแบรนด์
- ส่วนที่สองของแคมเปญมุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการดึงดูดผู้บริโภคในประสบการณ์ของแบรนด์
ผ้ใู ช้มโี อกาสปรบั แตง่ ปากกา Montblanc ของเขาโดยเลอื กสที ีต่ ้องการ ในที่สุดสีทีเ่ ลอื กบุคคลมคี วามเป็นไปได้
ที่จะแบ่งปนั การสร้างของเขาใน WeChat

17. กรณีศกึ ษาตวั อย่างแบรนดใ์ ช้ช่องทางการตลาดบนส่อื สงั คมออนไลน์ Instagram

แบรนด์ในมุมมองของความคิดสร้างสรรค์และความเฉลียวฉลาดผ่านการตลาดของ Instagram
ที่หลากหลายอาชีพสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มหรือหาแรงบันดาลใจกับแบรนด์ตัวอย่าง และดูว่าจะใช้
หลกั การอย่างไรกับกลยทุ ธก์ ารตลาดในสื่อสงั คมออนไลน์

17.1 Ipsy ด้วยจำนวนผู้ติดตามมากกว่าสองล้านคนทำให้ Ipsy กับผลิตภัณฑ์กระเป๋า ในขณะการ
สนับสนุนให้โพสต์ด้วยแฮชแท็ก เพื่อแสดงในเรื่องราวประเด็นสำคัญ คือ เนื้อหาที่ติดต่อกันและเลื่อนดูได้หรือ
ฟดี จึงเป็นตัวอยา่ งสำคญั ของความหลากหลายใน Instagram ในแงข่ องเน้อื หา

17.2 Loot Crate เป็นตัวอย่างสำคัญของแบรนด์นี้ได้ทำการรู้จักพฤติกรรมลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ประเด็นสำคัญ การรู้พฤติกรรมของผู้ติดตาม อารมณ์ที่ผู้ติดตามแสดงออกต่อแบรนด์แปลก ๆ เช่น Loot
Crate ซึ่งมีผู้ติดตามผู้ชื่นชอบการหัวเราะเป็นอย่างมากและมีการแจกของรางวัลจากแบรนด์ยังแสดงถึงวิธีที่
ยอดเย่ียมในการตอบแทนผตู้ ิดตาม

17.3 Desigual ด้วยการควบคุมแฮชแท็กและภาพ ได้ใช้วิธีการที่เหมาะสมกับ Instagram อย่าง
แท้จริงประเด็นสำคญั หากไม่ได้ใช้เวลาในการสร้างแฮชแท็กให้กับแบรนดก์ ารโฆษณากจ็ ะช้าไป ดังนั้นไม่ว่าจะ
โฆษณาอะไรบน Instagram การทำแฮชแท็กนน้ั เปน็ สว่ นสำคัญอย่างย่ิงสำหรบั การตลาด

18. บทสรปุ

แคมเปญการตลาดที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทต่างชาติสนใจที่จะเปิดตัว
โปรโมชั่นแบรนดผ์ ่านแพลตฟอรม์ ดจิ ทิ ลั ของประเทศจนี ช่องทางดจิ ิทลั ในประเทศสำคญั เกินกวา่ ท่จี ะใช้กลยุทธ์
และแคมเปญเนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างดิจิทัลและพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคนั้นแตกต่างจากประเทศ
ตะวันตกอย่างสิ้นเชิง เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับพฤติกรรมเหล่านี้ เพื่อทำ
การตลาดธุรกิจหรือแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จในประเทศจีน จึงควรคำนึงถึงความร่วมมือกับธุรกิจใน
ท้องถ่นิ ทเ่ี ขา้ ใจการทำงานดิจิทัลในประเทศจนี เพื่อพัฒนากลยทุ ธ์ตรงกับความต้องการของตลาดในท้องถนิ่

135

เอกสารอา้ งอิง

การใช้ Google Ads เพอื่ การตลาดออนไลน์, จาก https://support.google.com/google- ads/
answer/6227565?hl=th

บริษัท แอมทูบีมารเ์ ก็ตติ้ง. (2561). วิธีการสรา้ งแผนการตลาดในสื่อสังคมออนไลน์ให้ประสบความสำเรจ็ , จาก
https://www.am2bmarketing.co.th/content-marketing-article/social/

ปิยะชาติ อิศรภักดี. (2559). Branding 4.0. พมิ พค์ ร้ังท่ี 3. กรงุ เทพฯ : อมรินทร์ฮาวทู อมรนิ พรน้ิ ตง้ิ แอนดพ์ ับลชิ ช่ิง
Chanii. (2560). BRAND AWARENESS ไมใ่ ชแ่ คส่ รา้ งการรบั รู้เพยี งเทา่ นนั้ , จาก

https://digitalmarketingwow.com/2017/07/15/brand-awareness/
Kalaya. (2561). รู้ 4 วิธีทำแบรนดใ์ น Instagram ให้ปัง! แบบไมต่ ้องเสียตังคไ์ ปเรียนคอร์สแพง ๆ, จาก

https://marketeeronline.co/archives/67907
Kaur, G. (2016). Social Media Marketing. Asian Journal of Multidisciplinary Studies, 4(6), 34-36,

from https://www.iplandigital.co.th
MoneyHUB. (2559). 3 วธิ ีการใช้ LinkedIn ขยายการเติบโตด้านธุรกิจของคุณในปี 2017, จาก

https://moneyhub.in.th/article/how-to-use-linkedin-for-business/
Positioningmag. (2554). ทำตลาดดว้ ย Foursqure เจ๋ง หรือ เจ๊ง?, จาก

https://positioningmag.com/14310

136

คำถามทา้ ยบทท่ี 5

ส่วนท่ี 1 เปน็ คำถามปรนยั
คำสั่ง จงกากบาท (X) คำตอบทีถ่ กู ตอ้ ง

1. ข้อใดเป็นวัตถปุ ระสงค์หลกั ทางการตลาดบนสอ่ื สังคมออนไลน์

ก. ลดคา่ ใช้จ่ายในการประชาสมั พนั ธอ์ งคก์ ร

ข. ความน่าเชอื่ ถือของผู้บริโภคทม่ี ตี ่อแบรนด์

ค. กระจายเน้ือหาไปยังผูบ้ รโิ ภคไดห้ ลายช่องทาง

ง. ทำใหแ้ บรนด์ตดิ อนั ดับใน Google

2. ข้อใดเปน็ สอ่ื สังคมประเภท Social networking site

ก. Blogger ข. Weibo

ค. Facebook ง. Twitter

3. ข้อใดไมเ่ ก่ยี วกบั แผนสรา้ งสือ่ สังคมออนไลนเ์ พ่ือบรรลุเป้าหมายทางการตลาด

ก. ส่งเสริมคา่ ตอบแทนการสรา้ งสื่อ

ข. กำหนดนโยบายการใชแ้ ละการสรา้ ง

ค. มรี ะบบตรวจสอบและควบคมุ เนื้อหา

ง. ฝึกอบรมการใช้งาน

4. ข้อใดไม่เกดิ ประสทิ ธภิ าพทางการตลาดบนส่ือออนไลนใ์ นลักษณะ Brand Awareness

ก. ราคาสนิ คา้ ถกู กว่าร้านคา้ ท่วั ไป

ข. การสร้างเน้อื หาทส่ี ร้างสรรคแ์ ละนา่ จดจำ

ค. สร้างการรบั รู้อย่างมงุ่ ม่นั และตง้ั ใจ

ง. ทำให้ผูบ้ รโิ ภครสู้ กึ ดแี ละประทับใจ

5. ขอ้ ใดคอื ประสทิ ธิภาพการเขา้ ถงึ ผ้ชู มสือ่ สังคมออนไลนล์ ักษณะ Frequency capping

ก. จำกดั จำนวนผู้ชมสอ่ื ข. จำกัดความถี่ในการเหน็ โฆษณา

ค. ปรบั เน้อื หาให้ตรงกล่มุ เป้าหมาย ง. แสดงความประทบั ใจให้ตรงกลุ่มเปา้ หมาย

6. คำว่า “ช่องทางทเี่ ปรยี บเสมอื นหน้าร้านทำให้กลับมาสู่เวบ็ ไซต์หลกั ” ช่องทางหมายถงึ อะไร

ก. รายการทีวี ข. Social Media

ค. รายการวทิ ยุ ง. แผ่นพบั ประชาสัมพันธ์

7. Growth Hacking มีความเหมาะสมในการทำธรุ กิจลักษณะใด

ก. ธุรกิจไม่มีงบประมาณในการทำโฆษณา ต้องการช่องทางใหม่ ๆ ในการโฆษณา

ข. ธุรกิจมงี บประมาณปานกลาง ธรุ กจิ ไมม่ คี ู่แขง่ ตอ้ งการเตบิ โตแบบกา้ วกระโดด

ค. ธุรกจิ มมี ลู คา่ ทางการตลาดสงู มีงบประมาณมากในการโฆษณา

ง. ธุรกิจมีงบประมาณนอ้ ย ธุรกิจมกี ารแขง่ ขนั สงู ต้องการเตบิ โตแบบก้าวกระโดด

137

8. สอ่ื สงั คมออนไลน์มีการเพมิ่ ประสิทธิภาพการตดิ ตามอตั ราสว่ นผลตอบแทนเปรียบเทียบจากอะไร
ก. เปรยี บเทยี บระหวา่ งจำนวนผตู้ ดิ ตามกบั กำไร
ข. เปรยี บเทยี บระหว่างกำไรกบั ผลงานท่ไี ด้
ค. เปรยี บเทยี บระหว่างผลงานทไ่ี ด้กับคา่ ใชจ้ ่าย
ง. เปรยี บเทยี บระหว่างเงนิ ลงทุนกบั กำไร

9. ขอ้ ใดเป็นการทำ IG Story ทางการตลาดบนสอื่ สังคมออนไลน์
ก. การใชภ้ าพถา่ ยเคลอ่ื นไหวกับ Content สัน้ ๆ และกระชบั
ข. การบอกถงึ โปรโมชน่ั ใหม่กบั การดาวน์โหลดแอพใหล้ กู คา้ ติดตั้ง
ค. เปดิ ตวั ผลติ ภณั ฑใ์ หมน่ ำเสนอสนิ คา้ ด้วย Content ดึงดดู ความสนใจ
ง. ถูกทุกขอ้

10. Location Based Content บน Foursquare หมายถงึ
ก. ขอบเขตเปา้ หมายทีต่ ้องการจำนวนลกู คา้
ข. ลกู ค้าสามารถตดิ ตามข้อมลู ของแบรนด์ได้งา่ ย
ค. ปจั จัยพื้นฐานการนำเสนอแบรนด์
ง. หวั ข้อที่ถกู คัดเลอื กในการนำเสนอแบรนด์

ส่วนที่ 2 เปน็ คำถามอตั นยั
คำส่งั จงตอบคำถามตอ่ ไปนีใ้ หถ้ กู ตอ้ ง

1. จงอธิบายความหมายของคำศัพท์เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ธุรกิจดิจิทัลมาให้เข้าใจ

พรอ้ มยกตวั อยา่ งท่ีใช้อยู่ในส่อื สงั คมออนไลน์

1.1 Brand Awareness 2.1 Branner

1.2 Frequency capping 2.2 True view

1.3 Impression 2.3 Mastheads

1.4 Reach 2.4 Display ads

1.5 Hashtag 2.5 Story IG

1.6 Platform 2.6 Location-Based Social Network

1.7 Repin 2.7 Special badge

1.8 Micro blogging 2.8 Special offers

1.9 Follower

2.0 Brand Engagement

138

2. ยกตัวอย่างองค์กรมา 1 แห่ง ที่มีการทำ Marketing online ด้วยแพลตฟอร์ม Facebook และอธิบายการ
วัดประสทิ ธภิ าพการตลาดขององค์กรเป็นอย่างไร

3. ให้นักศึกษาสร้างร้านค้าบน Facebook ให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ โดยต้องสามารถทำการซื้อขาย
สินค้า/บริการออนไลน์ได้จริง มีการประชาสัมพันธ์ โดยวิธีการต่าง ๆ เช่น อินโฟกราฟิก วิดีโอ เพาเวอร์
พอ้ ยทแ์ บบวิดีโอ และตอ้ งมีจำนวนไลค์กอ่ นการนำเฟซบกุ๊ ไม่นอ้ ยกว่า 50

139

ภาคผนวก

1. วิธกี ารสรา้ งหน้าร้านคา้ Facebook เพอ่ื ใหส้ ามารถขายผลิตภณั ฑ์

Facebook เป็นช่องทางโซเชียลมีเดียที่ทรงอิทธิพลที่สุดในปัจจุบัน เริ่มต้นจากสถานที่ที่เพื่อน ๆ
สามารถติดต่อกันได้ ปัจจุบัน Facebook ได้กลายเป็นช่องทางธุรกิจระดับโลกแล้ว ดังนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญท่ที ุก
ธุรกิจมีสถานะบน Facebook สิ่งนี้อนุญาตให้โฆษณา แต่วิธีที่ดีกว่าคือการสร้างร้านค้าของบน Facebook
ขั้นตอนต่าง ๆ ที่ต้องทำเพื่อสร้างร้านค้า Facebook เหมือนกันกับการสร้างหน้าร้านค้าซึ่งสามารถแสดง
รายการสินค้าเพ่ือขายตามความต้องการ

1.1 สิง่ ทต่ี อ้ งเตรยี มก่อนสรา้ งรา้ นค้า Facebook
Facebook มีกฎแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ สาเหตุบางอย่างที่ไม่สามารถใช้งานได้ เนื่องจากเป็น
บริษัทที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา นโยบายส่วนใหญ่จึงเกี่ยวข้องกับกฎหมายของสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม
Facebook มีสิทธิ์ใช้ข้อกำหนดเดียวกันนี้กับผู้ใช้จากประเทศอื่น ๆ สามารถสร้างร้านค้า Facebook ได้โดย
ไม่ต้องยุ่งยาก แต่หากผู้ใช้ผิดระเบียบ หรือผิดกฎหมาย ทีมรักษาความปลอดภัยของ Facebook อาจระงับ
บัญชขี องหนา้ ธรุ กิจ Facebook
1.2 ขั้นตอนในการสรา้ งรา้ นค้า Facebook เป็นร้านคา้ ออนไลน์
ขัน้ ตอนที่ 1: สรา้ งหนา้ Facebook และร้านค้า
ในการเริ่มต้นต้องตั้งค่าหน้า Facebook ก่อน ที่จะสร้างหน้าร้านได้ต้องสร้างบัญชี Facebook
เจ้าของบัญชีที่สร้างเพจ Facebook และจะเป็นผู้ดูแลระบบ การทำเช่นนี้กับโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตนั้นเป็น
เรอ่ื งยาก ดังน้ันจึงขอแนะนำใหใ้ ชค้ อมพิวเตอรภ์ าพหน้าจอเพอื่ สรา้ งหน้า

เมื่อคลิกสร้างเพจจะเข้าสู่พื้นท่ี โดยกรอกรายละเอียดและเลือกว่าเพจมีลักษณะธุรกิจ ดำเนินการ
ลงทะเบยี นให้สมบูรณ์และเตมิ ชื่อธุรกจิ ท่ีอยู่ และอนื่ ๆ ทม่ี ีใหก้ รอกทง้ั หมด

140