รัตนะแหง่ ปัญญา
นักประพันธไ์ ทย
อันความม่ังมเี งนิ ทองนั้น
ยอ่ มจะเกดิ คุณประโยชนแ์ ก่มนุษยไ์ ด้
เป็ นอเนกประการถ้ารู้จกั ใช้
แต่ถา้ คนไม่รู้จักใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์
กเ็ ป็ นโทษแก่ผู้ใช้อย่างอนันต์
นับแต่ไม่ไดใ้ ช้ความสามารถอนั มีประจาตัวมนุษยอ์ ยทู่ ุกคน
จนกระท่งั ถงึ ทาลายชีวติ มนุษยผ์ ู้นั้นในทสี่ ุด
น.ประภาสถติ
จะไว้ใจอะไรตามใจเถดิ แตอ่ ย่าเกิดไว้ใจในสงิ่ หา้
หน่ึงอย่าไว้ใจทะเลทุกเวลา สองสัตวเ์ ขยี้ วเล็บงาอย่าวางใจ
สามผู้ถอื อาวุธสุดจักร้าย สผี่ ู้หญงิ ทงั้ หลายอย่ากรายใกล้
หา้ มหากษัตริยท์ รงฉัตรชัย ถา้ แม้ใครประมาทอาจตายเอย
น.ม.ส.
ชวี ิตของคนเราสั้น และมีเขตจากัด
เราไม่ควรจะปล่อยใหเ้ วลาของเรา
ลว่ งไปโดยเปลา่ ประโยชนเ์ ลย
คนเกยี จคร้านไม่ผดิ อะไรกับคนตายทย่ี ังลมื ตาอยู่
หรือคนทน่ี อนอย่ใู นหลุมฝังศพเทา่ ใดนัก
การดารงชวี ติ ของคนเรา
มไิ ดม้ คี วามหมายแตเ่ พยี งการมีลมหายใจ
การกนิ และนอนเทา่ นั้น จาเป็ นเช่นทไี่ ดก้ ล่าวว่า
คนเราตอ้ งทางานดว้ ย เพอื่ ตนเพอ่ื ครอบครัว
เพอ่ื ประชาชาตแิ ละประเทศชาติ
พ.เนตรรังสี
การสร้างอนาคตกเ็ หมือนการปี นขึน้ ภเู ขาสูง
ถ้าเรารีบร้อนมากเกนิ ไปกจ็ ะเหน่ือยเร็ว
และอาจจะพลัดตกลงมา
การสร้างอนาคตอย่างโลดโผน อย่างเสีย่ งโชค
อยา่ งใจเร็วดว่ นได้อาจจะประสบโชคดใี หส้ ร้างขึน้ ได้
โดยรวดเร็วแต่กจ็ ะเป็ นอนาคตทไี่ มเ่ ทยี่ งแทแ้ น่นอน
คนทก่ี ระโดดขึน้ สู่ทส่ี ูงรวดเรว็ กอ็ าจจะตกลงมารวดเรว็ ได้
เหมอื นกนั
หลวงวิจติ รวาทการ
ถงึ แมจ้ ะยังเขา้ ใจอยา่ งละเอียดไม่ได้วา่ ชวี ิตคอื อะไร
แตก่ พ็ อจะสรุปความไดว้ า่
ชีวิตคอื ทางเดินเส้นหน่ึง ราบเรียบในบางแหง่
ขรุขระในบางตอน บางทกี เ็ ตม็ ไปดว้ ยขวากหนาม
บางทกี เ็ ตม็ ไปด้วยรุกขชาติ
อันมีดอกหอมตระหลบและสวยงาม
เราเดนิ ไปตามเส้นนี-้ เดนิ ไป-เดนิ ไป
ถ้าโชคดเี ราก็ไดท้ างราบเรยี บเป็ นสว่ นมาก
ถ้าโชคร้ายเราก็ต้องลุยเลนตม
และบุกป่ าฝ่ าหนามเป็ นส่วนใหญ่
แต่วา่ ทางเส้นนีใ้ ครจะเดนิ กต็ าม
ยอ่ มจะไปจบลงในทอ่ี ันเดยี วกนั คอื ทซี่ งึ่ มคี วามเสมอภาค
ไมม่ ีไพร่ ไม่มีผู้ดี ไม่มีนาย ไม่มีทาส ไม่มรี วย ไมม่ จี น
ทนี่ ั้นคอื หลุมฝังศพ และเชงิ ตะกอน
สด กรู มะโรหติ
มนุษยเ์ ราเม่อื มชี่ วี ติ อยู่มคี ่าสูงกว่าส่ิง ใดๆ ในโลก
มนุษยเ์ ป็ นสัตวโ์ ลกทป่ี ระเสริฐ
แตเ่ มอื่ ตายไปแล้วซากของมนุษย์
ก็มคี า่ เทา่ กบั ซากสัตวห์ รือกงิ่ ไม้แหง้ หญ้าแหง้ ไมต่ ่างกนั เลย
เตมิ รัตนางกูร
ร่างกายของคนเราเป็ นเสมือนเพยี งกระดาษซบั
ทซ่ี มึ ซับรับคาส่ังจากดวงจติ
ถ้าความคิดบอกว่าทุกข์ สังขารภายนอกก็ร่วงโรยไป
นัยนต์ าทแี่ จม่ ใสจะหม่นหมอง ผวิ พรรณทผี่ ่องใสจะซบู ซดี
ผมทด่ี าสนิทจะเร่ิมหงอก กริ ิยาอาการทเี่ คยกระปรีก้ ระเปร่า
จะเงอ่ื งหงอย ถ้าความคดิ บอกว่าสุข
สรรพส่ิงต่าง ๆ เหล่านีก้ ็จะเปลย่ี นไปในลักษณะตรงกนั ข้าม
ม.ชูพนิ ิจ
เงนิ ซอื้ อาหารได้ ซอื้ เครื่องนุ่งหม่ ได้
ซอื้ เคร่ืองใช้สอยต่าง ๆ ได้
ซอื้ ช่ือเสียงกไ็ ด้ ซอื้ อานาจกไ็ ด้
ซอื้ ความนิยมนับถอื ของคนอน่ื กไ็ ด้
ซอื้ ความงามกไ็ ด้ ซอื้ ความฉลาดกไ็ ด.้ ......
คนทไี่ ม่มคี วามดอี ะไรเลย ถ้ามีเงนิ ก็มีคนนับถอื ......
ตราบใดทม่ี นุษยย์ ังเป็ นนายของเงนิ อยู่
ตราบนั้น มนุษยก์ ็เป็ นสุขอยูไ่ ด้
แต่ขณะใดทเ่ี งนิ กลับเป็ นนายมนุษย์
ตราบนั้นมนุษยจ์ ะตอ้ งเสอื่ มโทรมทงั้ กาลังกาย
กาลังใจ และศีลธรรม
หลวงวิจติ รวาทการ
ถา้ โลกไม่มคี นเลย โลกนีก้ ไ็ ม่มีอะไรทน่ี ่าทงึ่
แตเ่ มอื่ โลกเป็ นทอี่ าศัยของคน คนจงึ บนั ดาลโลก
โลกของเราทุกวนั นีจ้ งึ เตม็ ไปดว้ ยความมหศั จรรย์
พร่ังพร้อมไปดว้ ยสวรรคแ์ ละนรก
ดาดาษไปดว้ ยธรรมดาและธรรมชาตอิ นั ตระกาน
จนสุดพรรณนาใหถ้ ูกถว้ นจบสิน้ ได้
เวทางค์
ส่ิงทงั้ หลายในโลกนีเ้ ป็ นอนิจจังของไม่เทย่ี ง
และเป็ นอนัตตาปราศจากตวั ตน
ความดคี วามร้ายทเ่ี กดิ ขึน้ แก่เราลว้ นเป็ นของไม่เทย่ี ง
เมื่อเกดิ ขึน้ แล้วอาจแตกดับไปได้ หรือเมอื่ แตกดับไปแล้วยอ่ ม
เกดิ ขนึ้ ได้ใหม่เป็ นธรรมดา
ตวั ของเราเองกม็ ใิ ชต่ วั เรา เราเป็ นแต่ละครตวั หน่ึง
ทต่ี ้องโลดเตน้ ทาบทบาทอยู่ในฉากอนั กวา้ งขวางคือพนื้ พภิ พ
ดวงวญิ ญาณของเราได้มาสวมร่างกายทเ่ี ราเป็ นอยู่ในบัดนี้
เรามีเคร่ืองแตง่ กาย มียศ มีศักดิ์ มีทรัพยส์ มบตั ิ
หรอื ไม่มีอะไรเลยต้องตกตา่ ต้องยากจนเข็ญใจ
ต้องเสยี หายอะไร ๆ เรื่องเหล่านีเ้ ป็ นเร่ืองละครของเราทงั้ สนิ้
ม.จ. อากาศดาเกงิ
ฉันพง่ึ ทราบว่ารักทแี่ ทน้ ั้น คอื การเสยี สละไม่เหน็ แกต่ ัว
ไม่ตน่ื เต้นขาดสติ ไม่ตามใจตัวเอง รักทแี่ ทอ้ ยใู่ นหวั ใจ
ไม่ใช่อยทู่ กี่ ารจับตอ้ ง เราอาจจะอยู่หา่ งกันคนละมุมโลก
แตเ่ ราอาจรักกนั ได้ และมคี วามสุขเพราะความรักของเรา
สด กรู มะโรหติ
ขอจงหม่ัน หม่ัน หม่ันท่วั กันเถดิ
คงจกั เกดิ เศรษฐี ทวหี ลาม
อุปถัมภ์ บา้ นเมือง ใหเ้ รืองนาม
ประสบความ ไพบลู ย์ พนู สราญ
คนมที รัพย์ แกเ่ ฒ่า กเ็ บาจติ
ทรัพยเ์ ปลือ้ งปลดิ ทุกขค์ ลาย หลายสถาน
เช่นฟันหกั ใส่ใหม่ พอใชก้ าร
เมื่ออยากอ่าน หนังสือ ซอื้ แวน่ ตา
เดนิ ไปไหน ใชร้ ถ หมดลาบาก
ถงึ โรคมาก หาหมอ พอรักษา
ทงั้ หลานลูก ผูกใจ เวยี นไปมา
คงหลบั ตา นอนตาย สบายเอย
พระยาอุปกติ ศิลปะสาร
อันปวงกรรมทาไว้แตป่ างหลงั เป็ นพชื ยังปางนีใ้ หม้ ผี ล
หว่านพชื ดผี ลดมี แี ก่ตน หวา่ นพชื ช่ัวกลั้วผลทข่ี ้นแคน้
ความจริงข้อนีม้ ีมาแล้ว ไม่คลาดแคล้วเป็ นอนื่ ทุกหมนื่ แสน
จะเปล่ียนช่ัวใหด้ มี ีมาแทน ถงึ แม้นแมนแมน่ ไม่เปลยี่ นไดเ้ อย
น.ม.ส.
นิยายภารตะ “วิกรมจริต” ตุก๊ ตา 32 ตวั
มหาพฤกษาใหร้ ่มเงาแก่ผู้อนื่
แต่ตวั ของมนั เอง
ต้องทนตอ่ แสงแดดอนั แผดกล้า
แลตน้ ไม้นั้น ย่อมผลติ ผลเป็ นปกติ
แต่หาใช่เพอ่ื ประโยชนข์ องตนเองไม่
แทจ้ ริงกเ็ พอ่ื ผู้อน่ื ทงั้ นั้น
สังสาระนีค้ อื ความเสื่อมโดยแท้
ไม่มใี ครรู้หรอกว่าอะไรจะเกดิ ขนึ้ แกใ่ ครและเมอ่ื ใด
ดว้ ยเหตุนี้ ทรัพยส์ นิ ความม่ังค่ัง จะมีประโยชนอ์ ะไร
เวน้ เสียแตว่ ่าเขาจะใชม้ ันใหส้ มค่า
หรอื บริจาคใหแ้ ก่ผู้อน่ื ทตี่ ้องการความช่วยเหลือ เทา่ นั้น
ผู้มที รัพยแ์ ต่มิไดบ้ ริจาคใหแ้ ก่ผู้อนื่
ยอ่ มได้ชอ่ื วา่ มีทรัพยแ์ ต่ไร้ประโยชนโ์ ดยแท้
ผู้ใดมที รัพย์ เขาก็ควรมใี จยินดี และใชจ้ า่ ยมันไป
อยา่ ใหท้ รัพยน์ ั้นต้องไร้ค่าเปล่าเลย
จงดเู ยย่ี งฝูงผึง้ เถดิ
มันตัง้ หน้าตัง้ ตาสะสมนา้ หวานไวใ้ นรัง
แทบลม้ ประดาตาย
แตค่ นอน่ื แท้ ๆ กลับเอานา้ ผงึ้ ไปกนิ สบายใจ
เมอ่ื สละทรัพยใ์ หก้ ับผู้สมควรจะไดร้ ับ
ย่อมไดช้ ื่อวา่ ใหผ้ ลคุ้มคา่
เหมือนหยาดฝนทต่ี กต้องเปลอื กหอยทะเล
ยอ่ มก่อกาเนิดมุกเมด็ งามขึน้ ฉันนั้น
เหมือนผลไทรอันกะจอ้ ยร่อยนิดเดยี ว
เมือ่ ตกลงสู่ผนื ดนิ อนั มโี อชะ
ยอ่ มกอ่ กาเนิดต้นไทร อนั แผ่กง่ิ ก้าน สาขา
กวา้ งใหญ่ไดฉ้ ันใด
การให้ทรัพยแ์ ก่ผู้ทส่ี มควรยอ่ มมผี ลยงิ่ ใหญ่ฉันนั้น
หมู่สตั วท์ งั้ หลาย ทด่ี ารงชีวติ อยู่
ก็ล้วนเหน็ แก่ปากทอ้ งของตัวเองเทา่ นั้น
แต่ชวี ติ ของคนจะมีค่าแทจ้ ริงกเ็ มอื่
เขามชี ีวติ อยเู่ พอ่ื ผู้อนื่
เม่อื ไรกต็ ามทคี่ นเรานั้นสิน้ สูญทรัพย์
ญาตพิ น่ี ้อง กต็ ตี นออกห่าง
คนเหล่านั้น จะนับญาติ เม่ือเรามีฐานะเทา่ นั้น
พอสิน้ ทรัพย์ พวกกาฝากทงั้ หลาย กห็ ลบลีห้ ายไป
เพอื่ น ๆ กเ็ มินหมาง ป่ วยการจะกล่าวไปใย
แมแ้ ต่ภรรยาของตนเอง
กพ็ ลอยกระด้างกระเดอื่ งไปด้วย เมือ่ เราไม่มีทรัพย์
สังขาร ร่างกายนีด้ ารงอยู่เพยี งช่ัวกาลอนั สั้น
ทรัพยส์ มบัตเิ ล่า กห็ าความย่ังยนื ไม่ได้
และมฤตยูกย็ า่ งกรายเข้ามาทุกที
เมือ่ พจิ ารณาดังนีแ้ ล้ว จงเร่งส่ังสมความดเี ถดิ
บุคคลเป็ นทุกข์ เพราะเหน็ ผู้อนื่ ตกทุกข์
และบคุ คลผู้เป็ นสุข เพราะเหน็ ผู้อน่ื มคี วามสุข
เขาคอื ผู้ทเ่ี ข้าถงึ แก่นแทข้ องพระศาสนา
ใครกต็ ามทมี่ ไิ ดแ้ สวงหาสจั ธรรมอันหาความเส่อื มมไิ ด้
มาเป็ นเคร่ืองดารงร่างกายอนั เสื่อมสลายของตนนี้
มิได้มีสตพิ จิ ารณาว่า ร่างกายนี้ หาความย่งั ยนื มไิ ด้
ยอ่ มเสอ่ื มสลายไปไมโ่ อกาสใดกโ็ อกาสหนึ่ง
บคุ คลดงั กลา่ วย่อมเป็ นคนโงท่ นี่ ่าสงสาร
ถา้ หากร่างกายของคนเรา
มไิ ด้ดารงอยู่ เพอ่ื การรับใช้สัตวโ์ ลกทงั้ หลาย
ได้โปรดพจิ ารณาดเู ถดิ จะมีประโยชนอ์ ะไร
ทเี่ ราจะมาอาทรต่อมนั ทุกวันคนื
บุคคลผู้มคี วามปรารถนาอันสูงสุด
ทจี่ ะช่วยคนทุกคนในโลก
ย่อมไดร้ ับผลบุญอันสูงสุด และสถานภาพอนั สูงสุด
ยง่ิ กวา่ ผู้บาเพญ็ บญุ อย่างอน่ื ๆ ทงั้ หมด
ร่างกายนีจ้ ะดารงอยู่กไ็ ม่นาน
ทรัพยศ์ ฤงคารก็ไมจ่ รี ังตลอดไป
ความตายกย็ อ่ มเกดิ ขึน้ ได้โดยไมค่ าดฝัน
ฉะนั้น ขอใหเ้ ร่งสะสมบุญกุศลไว้เถดิ
ความม่ังค่งั เหมือนฝ่ ุนละอองทเ่ี ทา้
วยั เยาวเ์ หมอื นกระแสธารทไ่ี หลเชยี่ ว
ผ่านไปไม่มีวนั ทจ่ี ะไหลกลบั คนื มา
กิจกรรมของมนุษยก์ ็ไม่มอี ะไรแน่นอน
ย่อมคล้อยเคล่ือนผ่านไปดุจดังหยดนา้
ชีวิตกเ็ หมือนฟองนา้ ในทะเล
ถา้ บุคคลไม่สร้างบญุ กุศลด้วยจติ อนั เป่ี ยมไปด้วยศรัทธา
ไฉนจะไขประตสู วรรคไ์ ดเ้ ลา่
เม่อื ร่างกายนีค้ ดค้อมลงดว้ ยชราภาพ
กจ็ ะมีแต่ความโศกเศร้า ระทดใจ เกาะกนิ อยู่ร่าไป
และจะตอ้ งถูกเผาไหม้ด้วยไฟแหง่ ความทกุ ขท์ รมาน
ไม่มีวันทส่ี ิน้ สุด
ภควัทคตี า
บทเพลงแหง่ ชวี ิต
ชีวติ คนเรานั้น
ก่อนกอ่ เกิดเราก็ไม่ทราบวา่ มันมาอยา่ งไร
ครั้นหลังจากตายไปแล้ว
เรากไ็ ม่อาจคาดรู้ว่ามันจะไปอย่างไร
มีเพยี งปัจจุบันของชีวติ เทา่ นั้น
ทเ่ี ราพอจะรู้และเหน็ ตามมันได้
ไมเ่ สียใจกบั สง่ิ ทสี่ ูญเสยี ไป
กบั ไม่ดใี จในสง่ิ ทไ่ี ด้มา
หลักปฏิบัตเิ พยี งเลก็ น้อยนี้
หากใครสามารถกระทาตามได้
เขาย่อมสามารถพาตนเอง
ขา้ มมหนั ตภยั แห่งชีวิตอนั ใหญ่หลวงได้
จงรีบขวนขวายทาความดีเถดิ
การทาความดยี อ่ มประเสริฐกวา่ การหายใจทงิ้ เปลา่ ๆ
โดยไม่ไดท้ าส่ิงอนั เป็ นคุณประโยชนแ์ ก่ตนและคนอน่ื
ร่างกายของคนเราเม่ือวันเวลาล่วงผ่าน
ยอ่ มทรุดโทรมชารุด
ถงึ เวลานั้นแล้ว
แม้อยากจะกระทาความดกี ย็ ากทจ่ี ะทาได้ดงั ใจนึก
ทุกชวี ติ ในโลกถูกลิขติ
ใหเ้ ดนิ ไปตามแรงบันดาลของกรรม
แตก่ ารกระทาทมี่ ุ่งความหลุดพ้นจากหว้ งกรรม
ไมจ่ ัดเป็ นกรรม
เพราะฉะนั้นเม่อื จะกระทากรรม
ขอจงอุทศิ การกระทานั้นเพอ่ื ความหลุดพน้ เถดิ
โลกเรานีน้ ับวนั กม็ ีแต่จะหมุนไปข้างหน้า
ผู้ใดจมชวี ติ ตนเองไว้กบั กระแสโลกียสุข
ไม่กา้ วไปขา้ งหน้าพร้อมกับการเปล่ียนแปรของวนั คนื
ชีวติ ของคนผู้นั้นนับวา่ สูญเปล่าปราศจากแกน่ สารแท้
คนโงเ่ มอื่ กระทากรรมย่อมยดึ ม่ันในการกระทานั้น
ส่วนผู้รู้กระทากรรมแล้วหาได้ยดึ ตดิ ในการกระทานั้นไม่
ปราชญท์ ากรรมเพอ่ื ช่วยเหลอื เพอ่ื นมนุษย์
ไม่ได้กระทาเพอื่ ตนเอง
สง่ิ ทก่ี ระตุ้นใหค้ นกระทาความช่ัวคอื ความกระหายอยาก
อันจะแปรเป็ นความเคยี ดแคน้ เมือ่ ไม่ได้สมอยากในทนั ที
สง่ิ นีน้ ่ีเองทเ่ี ป็ นศัตรูของความดี
ควันบดบังความโชตชิ ่วงของเปลวไฟ
ฝ่ ุนธุลีบดบังความสดใจของกระจก
รกหมุ้ หอ่ ทารกเอาไวด้ ว้ ยอาการฉันใด
ความกระหายอยากยอ่ มหมุ้ หอ่ จติ ใจใหเ้ ศร้าหมองมดื มัว
ดว้ ยอาการดงั ของสามอย่างทก่ี ล่าวมาฉันนั้น
ผู้ใดมองเหน็ สุขทกุ ขข์ องเพอ่ื นร่วมแผ่นดนิ
เสมอดว้ ยสุขทุกขข์ องตน
ผู้นั้นนับว่าเป็ นคนประเสริฐหาได้ยากยงิ่ !
มีพลังลกึ ลับชนิดหน่ึง
เป็ นตัวผลักดันใหเ้ กดิ ชวี ิตใหม่
สง่ิ มชี ีวติ ทุกอย่างในจักรวาล
ตา่ งเวียนวา่ ยตายแล้วเกิด
ตามแรงผลักดันของพลังอนั นี้
พลังทวี่ ่านีเ้ รียกว่ากรรม
เม่อื จติ ใจถกู บว่ งคอื ความกระหายอยากรัดรึงเช่นนั้น
เขายอ่ มพยายามทกุ วถิ ที างทจี่ ะสะสมทรัพย์
สาหรับเอาไวซ้ อื้ กามสุขโดยไม่กระดากอาย
ว่าการกอบโกยนั้นจะเป็ นความยุตธิ รรมอย่างไร
หลักชัยแหง่ ชวี ิต
ราชนีติ ธรรมนีติ
ไม่พงึ ดูหมิน่ วชิ าความรู้
หรอื ศลิ ปวทิ ยาวา่ น้อย
วิชาความรู้หรือศลิ ปะวิทยาแม้อยา่ งเดยี ว
หากแตกฉานกส็ ามารถใช้เลยี้ งชีวติ ได้
ในวยั เดก็ ไม่แสวงหาวชิ า
ในวยั หนุ่มสาวไม่แสวงหาทรัพย์
ในวัยผู้ใหญ่ ไม่แสวงหาธรรม
ในวยั แกเ่ ฒ่าจกั ทาอะไรได้
เพราะตัง้ ใจฟังจงึ มคี วามรู้
ความรู้ ก่อใหเ้ กิดปัญญา
เพราะมีปัญญาจงึ รู้เหตุผล
การรู้เหตุผลทาใหค้ นมีความสุข
โคกบั คนต่างกม็ ีการกนิ การเสพเมถุน
และการนอน เชน่ เดยี วกัน แต่วชิ าความรู้เทา่ นั้น
ทที่ าใหค้ นต่างจากสัตว์
คนทไี่ ม่มวี ิชาความรู้ ก็ไม่ต่างอะไรกับโค
บุตรคนตา่ ศักดิ์ กอ็ าจเป็ นอามาตยข์ องพระราชาได้
บตุ รคนโง่ กอ็ าจเป็ นบณั ฑิตได้
บุตรคนจน ก็อาจเป็ นเศรษฐีได้
ฉะนั้น จงอยา่ ดูหมิ่นคน
ช่องหมอ้ ตหี ม้อ มิใชม่ ุ่งใหห้ มอ้ แตก แตม่ ุง่ ใหส้ วยงาม
ครูตศี ษิ ย์ มใิ ช่มุ่งผลักไสใหศ้ ิษยต์ กทุกขไ์ ด้ยาก
แต่มุ่งสร้างสรรค์ ใหม้ ีความเจริญก้าวหน้า
ในโลกนีผ้ งไม้จนั ทนน์ ั้นว่าเยน็
แต่ยงั เยน็ สู้แสงจนั ทรไ์ ม่ได้
ทงั้ ผงไม้จันทน์ และแสงจนั ทร์ นั้นวา่ เย็นแล้ว
แตย่ ังเยน็ สู้คาสุภาษิต ของคนดไี ม่ได้
ร่มเงาของตน้ ไมย้ อ่ มอานวยความสุขใหไ้ ด้
ร่มเงาของญาตยิ อ่ มอานวยความสุขใหไ้ ด้
ยง่ิ กวา่ ร่มเงาของต้นไม้
ร่มเงาของบดิ ามารดา
ย่อมอานวยความสุข ใหไ้ ดย้ งิ่ กว่าร่มเงาของญาติ
ร่มเงาของอาจารยแ์ ละพระราชา
ยอ่ มอานวยความสุขใหไ้ ด้ยงิ่ กวา่ ร่มเงาของบดิ ามารดา
ร่มเงาของพระพทุ ธเจ้า
ยอ่ มอานวยความสุขใหไ้ ด้ยง่ิ กวา่ ร่มเงาทงั้ มวล
โทษของคนอนื่
แม้เพยี งเลก็ น้อยเทา่ เมล็ดงา
คนช่ัวกม็ องเหน็ ได้
แตโ่ ทษของตน
แม้ใหญ่โตเทา่ ผลมะพร้าว กลับมองไมเ่ หน็
ควรหลกี สตั วม์ ีเขา ใหห้ า่ ง 50 ศอก
หลกี ม้า 100 ศอก
หลกี ช้างงา 1000 ศอก
แต่ทรชนคนช่ัวนั้นควรหลกี หนี โดยยอมทงิ้ ถนิ่ ทอี่ ยู่
นักดนตรี เว้นดดี ซ้อม 5 วันกล็ มื เลือน
นักแม่นธนู เว้นฝึ กซอ้ ม 7 วัน กไ็ มแ่ ม่นยา
ภรรยาทด่ี จี ากไปเดอื นเดยี วกเ็ ป็ นอนื่
นักเรียนเวน้ การเรียนกงึ่ เดอื นกล็ ืมวชิ า
ความสามัคคขี องคนทมี่ ีกาลังน้อย แตม่ จี านวนมาก
กส็ ามารถทจ่ี ะเอาชนะผู้อ่ืนได้ ดุจดงั เชอื กทฟี่ ่ันดว้ ยหญ้า
ย่อมสามารถใช้ล่ามช้างได้ ฉันนั้น
แมม้ คี ุณสมบัตเิ สมอดว้ ยพระสัพพัญญู
แต่ไร้ผู้อุ้มชู ย่อมไม่รุ่งเรือง
ด่งั รัตนมณีทลี่ า้ ค่า
ก็ยงั ตอ้ งอาศัยเรือนทองรองรับจงึ จะงาม
ดอกและผลของต้นไม้ ย่อมเจริญ เพราะอาศยั ดนิ ดี
ฉันใด
บญุ กุศล คุณงามความดี ยอ่ มเจริญ
เพราะการคบหาคนดี ฉันนั้น
นกทงั้ หลายยอ่ มละทงิ้ ต้นไม้ทผ่ี ลวายแล้ว
นกกนิ ปลาย่อมละทงิ้ สระทแ่ี หง้ แล้ง
หญงิ รักสนุกทงั้ หลาย ยอ่ มละทงิ้ ชายทห่ี มดทรัพย์
อามาตยร์ าชมนตรี ยอ่ มละทงิ้ ราชาทส่ี นิ้ อานาจแล้ว
ผงึ้ ทงั้ หลายยอ่ มละทงิ้ ดอกไม้ทเ่ี หยี่ วเฉา
สัตวท์ งั้ หลายยอ่ มละทงิ้ ป่ าทถี่ ูกไฟไหม้
ชนทงั้ ปวงยอ่ มรักกนั
เพราะเหน็ แกป่ ระโยชนท์ งั้ นั้น
ใครเล่าจะเป็ นทร่ี ักของใครจริง ๆ
ผู้เจริญแม้อยูห่ า่ งไกลจากภเู ขาทมี่ รี ัตนชาติ
กส็ ามารถเลือกเอารัตนชาตไิ ปได้
ส่วนคนป่ า แม้อยู่ใกล้ภเู ขาทมี่ ีรัตนชาติ
กเ็ อารัตนชาตไิ ปไม่ได้
เหมอื นคนโงอ่ ยู่ใกล้ผู้รู้ กไ็ ม่ได้ความรู้อะไร ฉันนั้น
คนช่ัวชา้ แม้ผู้รู้ทงั้ หลายจะพากนั ส่ังสอนสกั เทา่ ใด
กย็ ังเป็ นคนคดโกงอยนู่ ่ันเอง
เช่นเดยี วกบั ถ่านไฟ ถงึ จะขัดสเี ทา่ ไร
กย็ ังคงมีสดี าอยู่น่ันเอง
ผู้นายอ่ มมตี า มหี ู นับร้อย
จงึ ไดท้ ราบเร่ืองราวอยูต่ ลอดเวลา
แมก้ ระนั้น กพ็ งึ ทาเป็ นคนตาบอด
หหู นวก เสียบา้ ง นีเ้ ป็ นลักษณะของผู้นา
คนทที่ าบญุ หรอื ทาบาปกต็ าม
พงึ ดูตน้ ไม้ใหญ่เช่นตน้ ไทรเป็ นตวั อยา่ ง
ซงึ่ เกดิ จากเมล็ดพนั ธุเ์ ล็กนิดเดยี ว
กลายเป็ นต้นไม้ใหญ่ มีผลมากมาย
ต้นไม้เมอื่ มผี ลดก ย่อมมกี ง่ิ น้อมลง
ผู้มคี วามรู้ กอ็ ่อนน้อมถ่อมตนเชน่ กนั
ไมแ้ หง้ ยอ่ มไมอ่ ่อนมแี ต่จะหกั ไป
เช่นเดยี วกบั คนโงท่ ไ่ี ม่รู้จกั อ่อนน้อมถอ่ มตน
ความไม่มีโรคเป็ นลาภอยา่ งยงิ่
ความรู้จักพอ เป็ นทรัพยอ์ ย่างยงิ่
คนทส่ี นิทสนมไวว้ างใจกนั เป็ นญาตอิ ยา่ งยง่ิ
นิพพานเป็ นสุขอยา่ งยงิ่
หว่านพชื ชนิดใดยอ่ มได้ผลชนิดนั้น
ผู้ทาดยี ่อมไร้รับผลดแี ละผู้ทาช่ัวย่อมไดร้ ับผลช่ัว
ทานเป็ นยาเสน่ห์ ความตระหน่ีเป็ นยาชัง
ทานเป็ นยาทาให้คนมเี กียรตยิ ศช่ือเสียง
ความตระหนี่เป็ นยาทาให้คนไร้พวก
พระพทุ ธเจ้าผู้ทรงพระคุณอนั ยง่ิ ใหญ่ตรัสไวว้ า่
กระดูกของคนคนหน่ึง
หากเกบ็ รวบรวมไว้ เพยี งกัปเดยี วเทา่ นั้น
ก็จะกองเทา่ ภเู ขา
ผู้ชักชวนใหค้ นอนื่ ทาบุญได้ ๔ ส่วน
ผู้ทชี่ ่วยทางานได้บุญ ๓ ส่วน
ผู้ทอ่ี นุโมทนา คอื พลอยช่นื ชมยนิ ดดี ้วยไดบ้ ุญ ๑ ส่วน
ส่วนเจ้าของทาน
ได้บญุ เทา่ กบั บุญทบี่ ุคคล ๓ ประเภทได้รับรวมกัน
คนดที ม่ี อี ายุยนื
เป็ นเหตใุ หส้ รรพสัตวไ์ ดค้ วามสุขด้วย
แต่คนช่ัวมอี ายุยืน
กลับเป็ นเหตุใหส้ รรพสัตวเ์ ดอื ดร้อน
โดยไม่ต้องสงสยั เลย
จงเลิกคลุกคลกี บั คนช่ัว
จงคบหาสมาคมกับคนดี
จงทาความดที งั้ กลางวัน กลางคนื
จงนึกถงึ ความไม่เทย่ี งอยตู่ ลอดเวลา
วันคืนล่วงไป ๆ
ชวี ติ สัตวท์ งั้ หลายในโลกนี้ กพ็ ลอยล่วงไปด้วย
เพราะฉะนั้น
สาธุชนจงอยา่ ไดล้ ะเลยคาสอนของพระพุทธเจา้
หโิ ตปเทศ เสฐียรโกเศศ
การทางานทงั้ ปวงสาเร็จไดด้ ้วยสามคั คพี ร้อมเพรียงกนั
แมจ้ ะเป็ นเร่ืองเลก็ น้อย
เส้นหญ้าคว่นั เขา้ เป็ นเชือกเกลยี ว
อาจจะผูกช้างสารอนั เมามันได้
ทา่ นทชี่ ุ่มชื่นดว้ ยนา้ อมฤตคอื ความสนั โดษ
มใี จเยน็ ฉ่า ก็เสพความสาราญได้
ส่วนผู้ละโมบแกท่ รัพย์
เทยี่ ววงิ่ กระเสอื กกระสนแทบทุกหวั ระแหง
จะหาความสาราญอยา่ งท่านมาจากไหน
สาหรับมนุษยใ์ นพนื้ ดนิ
อะไรเป็ นธรรม? ความเอน็ ดูตอ่ สัตว์
อะไรเป็ นความสุข? ความปราศจากโรคาพาธ
อะไรเป็ นเสน่ห?์ ความทใี่ จบริสุทธิ์
อะไรเป็ นองคบ์ ัณฑติ ? การรู้จกั ตดั ตอน
การรู้จกั ตดั ตอนย่อมเป็ นองคบ์ ณั ฑิต
เพราะเป็ นเหตใุ หก้ ารพบิ ัตขิ ัดข้องทงั้ หลาย
ลดเสือ่ มหายสูญไป
ผู้ทท่ี าอะไรโดยไม่รู้จักตัดตอนพงึ มคี วามวิบตั ทิ ุกฝี กา้ ว
ทา่ นสร้างทรัพยไ์ ว้มันเป็ นเหตใุ หไ้ ดค้ วามวบิ ตั ิ
เพราะมีทรัพยแ์ ตไ่ ม่เผอ่ื แผ่
กด็ ่ังถังนา้ ทอี่ ัดนา้ ไว้ไม่มีทางออก กลแตจ่ ะระเบดิ
การเผอ่ื แผ่เป็ นเครื่องรักษาทรัพยท์ มี่ ีไว้มิใหเ้ ป็ นอันตราย
เสมือนถงั นา้ ทม่ี ที อ่ ระบายผ่อนใหไ้ หลได้
สิ่งอันปลมื้ ใจคอื ทรัพย์ มีคตเิ ป็ น 3 สถาน
สถานที่ 1 เผือ่ แผ่ใหเ้ ป็ นประโยชนแ์ ก่ผู้อน่ื
สถานที่ 2 บริโภคใช้สอยให้ตนไดส้ ุข
สถานที่ 3 สาหรับวนิ าศยอ่ ยยับไป
ก็ถ้าเจา้ ของไมแ่ บ่งปันเฉลี่ยเผอ่ื เป็ นสุขแก่ใครบา้ ง
มหิ นาซา้ ตนเองกไ็ ม่คอ่ ยพอใช้จา่ ย
พอใหไ้ ด้รับความอมิ่ เอบิ สาราญไซร้
ทรัพยข์ องเขายอ่ มมีคตเิ ป็ นสถานท่ี 3
มิตรใดเป็ นทเ่ี จริญตาเพลดิ เพลินใจ
ยอมตัวเป็ นภาชนะรองรับทกุ ขส์ ุข
คลุกคลไี ปด้วยกบั เพอ่ื น มิตรนั้นหาไดย้ าก
ส่วนเกลอใดมุ่งจอ้ งแตท่ รัพยใ์ นสมัยสมบูรณ์
ยอ่ มแลหลามไปในทท่ี กุ สถาน
เกลอชนิดนั้น จะกอบโกยสักเทา่ ไรกไ็ มข่ าดจานวน
ยามวิบัตเิ ป็ นดงั หนิ ฝนทองไดอ้ ย่างดี
สาหรับทดลองความเป็ นมิตรแทห้ รือเทยี ม
เกดิ เป็ นมนุษยต์ อ้ งพยายามแสวงหาทรัพยซ์ ง่ึ ยงั ไม่ได้
ทรัพยซ์ ง่ึ ได้แล้วตอ้ งรักษาใหพ้ ้นภยันตราย
เพมิ่ พูนทรัพยท์ ร่ี ักษาไว้นั้นโดยทางทช่ี อบ
หวา่ นทรัพยท์ เี่ พม่ิ พนู ไวล้ งในบญุ เขต
นา้ หยดลงทลี ะหยาด ยังเตม็ หม้อได้
น่ันเป็ นอุปมาแหง่ วทิ ยาทงั้ ปวง แหง่ ธรรม แหง่ ทรัพย์
คอ่ ยศึกษาวิชา ค่อยปฏิบตั ธิ รรม คอ่ ยส่ังสมทรัพย์
แมท้ ลี ะน้อย
สิง่ นั้นๆย่อมจะคอ่ ยมาคอ่ ยเจริญในตนจนบริบูรณ์
ในสมยั ยงั ไม่ถงึ พรหมลขิ ติ
แม้ต้องศรตัง้ 100 เลม่ ก็ไม่ตาย
ถงึ คราวแลว้
เพยี งถกู คมใบหญ้าคาบาดกด็ ารงชพี อยูไ่ ม่ได้
รัฐประศาสน์ ย่อมเหมือนกบั หญิงบาเรอราษฎร์
มกี ารเปล่ยี นรูปเป็ นอเนก
กลา่ วคอื ตรงความจริงหรือกลับอุบายบ้าง
เข้มงวดหรือผ่อนผันบ้าง ดุร้ายหรือกรุณาบ้าง
ตัดผลประโยชนเ์ สยี หรอื ช่วยทนุ ทรัพยบ์ า้ ง
มีรายจ่ายเสมอ
แต่ก็มีแก้วแหวนเงนิ ทองเป็ นรายได้จานวนใหญ่
การดม่ื นา้ นมแหง่ พญานาค มีแตเ่ พมิ่ พษิ ร้ายแรง
การว่ากลา่ วตกั เตอื นคนบัดซบกฉ็ ันเดยี วกนั
สาหรับใหม้ นั โกรธ หาเพอื่ ความสุขสงบไม่
ผู้มคี วามคิดกพ็ อตักเตอื นกนั ได้
แต่คนไม่มีความคิด หาควรไม่เลย
อันว่าทรุ ชน ถงึ จะใหย้ ศบรรดาศักดสิ์ ูงเพยี งไร
ยอ่ มคงลงไปสู่ปรกตสิ ันดานเดมิ ของตน
ไม่ผิดกับหางสุนัขซงึ่ ถงึ จะเข้าเคร่ืองดัด
ซัดนา้ มันชโลมสกั เทา่ ไรมันก็ไมห่ ายงอ
ธรรมดาว่าหางของสุนัข
แม้จะถูด้วยนา้ มันรัดไว้ดว้ ยผ้าตงั้ 12 ปี
แตพ่ อแก้ออกมนั กก็ ลบั งอตามธรรมชาตเิ ดมิ ของมนั
ในต้นจนั ทย์ ังมอี สรพษิ
ในลุ่มนา้ ทดี่ าดาษดว้ ยกอบวั ยังมจี ระเข้
ในความสุขสมบตั ิ ยังมีคนอจิ ฉาคอยรังควานอยู่เสมอ
จะหาทส่ี ุขอันปราศจากส่ิงขัดใจไม่ได้เลย
เชงิ ผาหมิ พานต์
อาจารย์ สุชีพ ปุญญาณุภาพ
จะตอ้ งรู้จักอดทน ทาเป็ นไม่รู้เทา่ ทนั ทาเป็ นไมเ่ หน็
ไม่ได้ยนิ กิริยาอาการหรือถอ้ ยคาล่วงเกินของคนอน่ื
คนทอ่ี ดทนต่อเรื่องเล็กน้อยไม่ได้
จะตอ้ งจาใจอดทนตอ่ ความยากลาบากอนั จกั เกดิ ขึน้
เน่ืองจากขาดความอดทนในตอนแรกนั้นหลายสิบเทา่
ถ้าทา่ นจะปลูกพชื คือความไม่เหน็ แกต่ น
ความคดิ บาเพญ็ ประโยชนแ์ ก่ผู้อนื่ ลงไปในจติ ใจของทา่ น
แล้วพยายามทะนุถนอมรดนา้ พรวนดนิ
ใหเ้ จรญิ เตบิ โตทลี ะเล็กทลี ะน้อย
จนกระท่งั ผลดิ อกออกผล
เป็ นการลงมอื กระทาสาธารณประโยชนไ์ ด้ภายหลัง
ก็เป็ นทพี่ อใจแล้ว
เม่อื ตัวเราถกู ใครว่ากลา่ วกระทบกระเทยี บ
กค็ วรมีอาวุธไว้สองอยา่ ง
อยา่ งหน่ึงอาวุธคือความอดทน
ทม่ี กี ารพจิ ารณาโดยแยบคาย
อาวุธอีกอยา่ งหนึ่งคอื การใหอ้ ภยั แกผ่ ู้ทลี่ ว่ งเกนิ เรา
คนทม่ี ีการใหอ้ ภยั อยู่เนืองนิตยจ์ ะเป็ นคนหนักแน่น
ไม่วูว่ ามเพราะถอ้ ยคาล่วงเกินเล็กๆ น้อยๆ
การผูกใจเจบ็ แค้นผู้อนื่ นั้น
ความจริงมาหนักอยู่ทใี่ จของเราเอง
ทาใหค้ รุ่นคิดกระวนกระวาย
อยากจะเหน็ เขาถงึ ความพนิ าศล่มจม
ถ้าหดั ใหอ้ ภยั แกเ่ ขากเ็ ป็ นการชว่ ยตัวเราเอง
ใหม้ ีจติ ใจเบาสบายขึน้ ปลอดโปร่งขนึ้
ตกลงผลดกี ็อยูท่ ตี่ ัวเราเอง
ตน้ โศกนีใ้ หค้ วามร่มเยน็ แก่ผู้เข้ามาภายใต้ร่มเงาของมัน
แตต่ ัวมันเองกลบั ต้องตากแดดตากฝนอยูก่ ลางแจง้ เช่นนี้
นักปกครองทด่ี จี ะต้องพยายามใหค้ วามร่มเย็น
แกผ่ ู้อยู่ใตป้ กครอง
แม้ตนเองจะลาบากเหน็ดเหนื่อยกจ็ ะตอ้ งอดทน
การทท่ี า่ นสอนใหส้ ามัคคผี ูกไมตรีกนั ไว้
ดกี วา่ การโกรธเคอื งทะเลาะววิ าทกันนั้น
เพอื่ มใิ หท้ ุกคนเสยี เวลาโดยไม่จาเป็ น
ในการเดนิ ทางแหง่ ชวี ติ
ไม่ต้องแวะวนในระหวา่ งทางด้วยเร่ืองไม่มีสาระอน่ื ๆ
ขอใหท้ ุกคนนึกดูว่า เราเกดิ มานี้
เมอื่ พอคดิ พออา่ น และรู้เดยี งสาแล้ว
มีใครบา้ งทตี่ งั้ ใจไวว้ ่า
จะดาเนินชวี ิตด้วยการทะเลาะววิ าท
แทจ้ รงิ ก็มุง่ หมายเดนิ ทางไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง
การหดั อยู่ข้างหลัง คือการไม่แย่งกันเป็ นใหญ่
ไม่แยง่ กนั มีหน้ามตี า
ไมแ่ ยง่ กนั มเี ชอ่ื เสียงเกยี รตยิ ศ
หดั ทาความดี
โดยไมต่ ฆี อ้ งร้องป่ าวให้ใครๆพากันมาชน่ื ชม
แมไ้ ม่มใี ครเหน็ ไมม่ ใี ครรู้ กไ็ ม่เดอื ดร้อน
ไม่ทวงผลของความดที ที่ าลงไป
จะไปหรืออย่ทู ไี่ หนกไ็ ม่แสดงอาการชูงวง
การครองชีวิตอยูใ่ นโลกก็เช่นกัน
ถา้ ไมห่ ดั ทาจติ ใจใหเ้ บาสบายไว้บา้ ง
มัวมุ่งแต่จะหอบสุมสง่ิ ทเี่ รียกกันว่าหน้าตา
ชื่อเสียง หรือเกียรตยิ ศไม่ยอมอยู่หลังใคร
ไม่ยอมลดนา้ หนัก ในการแบกหามลงไป
ผู้นั้นเองยอ่ มเดอื ดร้อน กระวนกระวายหาความสุขมไิ ด้
การหดั เดนิ หลงั เป็ น
คอื การไม่แย่งกนั เป็ นใหญ่มหี น้ามีตา
สว่ นการหดั เดนิ หน้าเป็ น
หมายถงึ การรู้จกั รับผดิ ชอบรับภาระ
และเป็ นคนออกหน้าในการเสยี สละ
ซง่ึ อาจกล่าวได้อกี อยา่ งหน่ึงว่า
การหดั เป็ นทงั้ ผู้น้อยและผู้ใหญ่
เม่อื ถงึ คราวเป็ นผู้น้อยกเ็ ป็ นผู้น้อยทดี่ ี
เมอื่ ถงึ คราวเป็ นผู้ใหญ่กเ็ ป็ นผู้ใหญ่ทนี่ ่าเคารพนับถอื
จะวา่ เป็ นทางสายกลางกไ็ ด้
ผู้นาหน้าคนทยี่ อมเสียสละความสุข
เหมอื นตน้ ไม้ยอมตากแดด
และทาประโยชนแ์ ก่ผู้อนื่ ด้วยการให้ผลดตี ่างๆ
เหมือนต้นไม้ใหด้ อกผลแกผ่ ู้อน่ื นั้น
เป็ นผู้ควรแกก่ ารสรรเสรญิ อย่างแท้จรงิ
คุณความดี
ไมว่ ่าจะนาไปประดับไว้ทจ่ี ติ ใจของใครหรือไม่
วา่ จะนาไปผสมกลมกลืนกับวชิ าความรู้สาขาใด
ยอ่ มทาจติ ใจและวชิ าความรู้ทุกสาขาใหส้ มบรู ณย์ งิ่ ขึน้
มคี วามหมายสาหรับมนุษยย์ งิ่ ขึน้
ความรู้ทข่ี าดธัมมะหรือคุณความดคี อยควบคุม
ยอ่ มเป็ นพษิ และทาอันตรายได้
คนประเสริฐสุด ในเทวดาและมนุษย์
กค็ อื คนทม่ี ที งั้ ความรู้ดมี ีทงั้ ความประพฤตดิ ี
ในการทาความดนี ั้นขอใหท้ าดว้ ยความบริสุทธิใ์ จ
ปลงใจวา่ เป็ นสงิ่ ดงี าม สมควรจะทาจงึ ไดท้ า
ไม่ใช่พอลงมือทาเลก็ ๆ น้อยๆ
กน็ ่ังทวงบุญคุณเอากับคุณงามความดนี ั้น
เร่งจะใหเ้ กดิ ผล ครั้นใหผ้ ลไม่ทนั ใจก็ละเลิกเสีย
ทางทด่ี ี ควรทาใหเ้ ป็ นพนื้ อัธยาศัย
ไมเ่ ลือกวา่ เป็ นความดนี ้อยหรือมากมคี นเหน็ หรอื ไม่เหน็
ยง่ิ ถอื ได้ว่าการทาความดโี ดยไม่มีใครเหน็
ยงิ่ เป็ นการมีเกียรตแิ ล้ว
ร่างกายและจติ ใจของเรากจ็ ะเป็ นเหมอื นพนื้ นาทดี่ ี
อนั เหมาะสมจะปลูกใหเ้ กดิ พชื ผลคอื ความสุขความเจริญ
การมคี นเอาอกเอาใจ ยกย่องเชิดชูดว้ ยประการต่างๆ
เพราะเหตุทยี่ ังมีอานาจวาสนา
หรือมที รัพยส์ ินเงนิ ทองนั้น
บุคคลไมพ่ งึ ลมื ตัวเป็ นอันขาด
เพราะถงึ คราวสนิ้ อานาจวาสนา หรือยากจนตกตา่ ลง
สิ่งทน่ี ่าพอใจตา่ งๆ ทเี่ คยมนี ั้น จะพลอยสลายตัวไปสนิ้
โลกกจ็ ะต้องเป็ นโลกอยูต่ ลอดไป
คือตอ้ งวุ่นวายตอ้ งยุ่งยาก
การทจี่ ะบังคับโลกใหเ้ ป็ นไปตามทางทตี่ นปรารถนา
จงึ ไม่ผิดอะไรกบั การบังคับเดก็ ซนใหอ้ ยนู่ ิ่ง
ทางทด่ี ที สี่ ุดกค็ อื เมอ่ื อยู่ในโลก
และพบอะไรยุ่งมากนักกใ็ หร้ ู้เทา่ ทนั ไวบ้ า้ ง
อยา่ ถงึ กบั ถอื เอาอะไรเป็ นจรงิ เป็ นจงั
กจ็ ะพออยใู่ นโลกไดโ้ ดยไม่เดอื ดร้อนมากเกินไป
จงอยา่ ดหู ม่ินใครว่าเป็ นคนเลก็ น้อย
แล้วเลือกปลูกฝังไมตรเี ฉพาะในคนทสี่ าคญั
เป็ นคนใหญ่คนโตเทา่ นั้น
ศีรษะของคนทนี่ ับว่าสูง
และเป็ นส่วนสาคัญทสี่ ุดในร่างกาย
ถา้ ไมม่ ีคอรองรับกจ็ ะสูงขนึ้ มาไม่ได้
ทานองเดยี วกัน ร่างกายส่วนล่างตัง้ แต่คอลงไปถงึ เทา้
ถ้าปราศจากศรี ษะกเ็ ป็ นคนสมบรู ณไ์ ม่ได้
ตกลงเพราะอาศยั กนั และกนั จงึ รวมกนั สาเรจ็
เป็ นมนุษยท์ มี่ อี วัยวะไม่บกพร่องพกิ ลพกิ าร
ถา้ ทา่ นรู้จักเหน็ อกเหน็ ใจตัวเองมากเทา่ ใด
กจ็ งเหน็ อกเหน็ ใจผู้อนื่ มากเทา่ นั้น
จงพยายามทาลายความคดิ เอาเปรียบเพอ่ื นมนุษย์
ทาลายความเหน็ แก่ตัว
โดยไมย่ อมรับรู้ความทุกขย์ ากของคนอนื่ เสยี
กจ็ ะช่อื ว่าไดด้ าเนินไปตามรอยของพระผู้มพี ระภาคเจ้า
เราคิดว่าทุกคนกเ็ กิดมาอย่างไมม่ ีอะไรติดตวั มาเลย
แม้แต่ผ้านุ่งผ้าหม่ สักผืนหน่ึง
เวลาจากไปก็นาอะไรไปไม่ได้ ไมว่ ่าจะเป็ นทรัพยส์ มบตั ิ
หรอื แม้แตร่ ่างกายทเ่ี รานึกวา่ เป็ นสมบตั แิ ทๆ้
ทใี่ กล้ชิดทสี่ ุดกต็ ้องฝังหรือเผาเปลย่ี นสภาพไป
เมอื่ ฐานะทแี่ ทจ้ รงิ ของมนุษย์
คอื การไม่อาจถอื กรรมสิทธิใ์ นอะไรเลย
ไม่วา่ จะเป็ นทรัพยส์ นิ หรือชวี ติ เลือดเนือ้ ของตนเช่นนี้
การทเ่ี ราจะมาน่ังเศร้าโศก
กบั ส่ิงทเ่ี ราไมส่ ามารถจะมีสทิ ธิค์ รอบครองไดจ้ ริงจังนั้น
จะต่างอะไรกับคนทเ่ี วยี นดใี จเม่ืออาทติ ยข์ ึน้
และเสียใจเมือ่ อาทติ ยต์ ก ซา้ แล้วซา้ เล่าอยู่ทกุ เม่ือเชือ่ วนั
การหดั ยอมแพ้คน การทาเป็ นคนโงไ่ ม่รู้เทา่ ทนั
คลา้ ยการเดนิ ฝ่ าป่ าดงพงพี
อันจาเป็ นจะตอ้ งพบหนามบ้าง ตอไม้บ้าง
ทางอนั เป็ นหลุมเป็ นบ่อบ้าง
ถา้ เราจะยุง่ ไปเสยี ทกุ อย่าง พบหนามก็หยุดถางป่ า
พบตอก็หยุดขุดตอ พบหลุมบ่อก็จะถมใหเ้ ตม็
จะไม่ยอมเลย่ี งดว้ ยเหน็ แกจ่ ุดหมายปลายทางขา้ งหน้าบ้างเลย
ความวกวนเสยี เวลาในระหวา่ งทาง
กจ็ ะทาให้ชวี ติ ป่ันป่ วนวุ่นวาย
ด้วยเรื่องขยะมูลฝอยข้างทาง
จนไมเ่ ป็ นอันทจี่ ะหาความสุขได้
ชีวิตของพระโพธสิ ัตว์
คอื ทา่ นผู้ตงั้ ปณิธานเพอ่ื บาเพญ็ ประโยชนแ์ ก่สตั วโ์ ลก
มีการไดต้ รัสรู้สัจธรรมดว้ ยตนเอง
แล้วส่ังสอนผู้อน่ื ใหร้ ู้แจง้ เหน็ จริง
ในสจั ธรรมเป็ นจุดมุง่ หมายใหญ่นั้น
จะต้องบาเพญ็ บารมคี ือคุณงามความดตี ่างๆ
เพอ่ื เป็ นกาลังตนใหถ้ งึ ฝ่ังแหง่ ความสาเรจ็ ใหจ้ งได้
บารมีคอื คุณธรรมทใี่ หบ้ รรลุฝ่ังแหง่ ความสาเร็จนั้น
ในบางครั้งแมจ้ ะต้องเป็ นการยอมทอดตนลง
ใหผ้ ู้อน่ื เหยยี บย่าแต่ผลดที จ่ี ะเกดิ แก่สว่ นรวม
พระโพธสิ ัตวก์ จ็ ะไม่ลังเลใจเลยในการทาเช่นนั้น
เพราะอุดมคตสิ ูงสุดของการเป็ นพระพุทธเจ้านั้น
คอื การทาประโยชนแ์ ก่สว่ นรวมได้มากทสี่ ุดเทา่ ทจ่ี ะทาได้
คนธรรมดา ทาอะไรคิดอะไรโดยสว่ นใหญ่
ก็จะต้องเพง่ ประโยชนข์ องตนเอง
ต้องการเอาตนเองออกหน้า
แตค่ นทป่ี ลงใจดาเนินปฏปิ ทาของผู้ประเสรฐิ
จะต้องเก็บตนเองแอบไวต้ ้องอดทนเสยี สละ
ตอ้ งนึกถงึ ความสุขของคนอนื่ ไว้ก่อน
ปฏปิ ทานีใ้ ครจะเหน็ วา่ เป็ นการโงเ่ ป็ นการมองขา้ มตนเองไป
แตผ่ ู้บาเพญ็ จะมีความรู้สึกสดช่ืนม่ันคง
รู้ดวี า่ ไม่ไดม้ องขา้ มตนเองเลย
แตเ่ ป็ นการทาให้ตนเองสูงขึน้ ในทางคุณงามความดตี ่างหาก
ความริษยาไม่เคยช่วยใหใ้ ครไดด้ ขี นึ้ มาเลย
นอกจากนาใหป้ ระสบความพนิ าศ
เพราะฉะนั้นทา่ นทงั้ หลายจงใสใ่ จไวว้ ่า
เมอื่ เหน็ มอี ะไรเกินหน้าทา่ น
จะโดยความรู้ความสามารถหรือทางใดๆ ก็ตาม
ถา้ ไม่สามารถแผ่มุทติ าจติ คือความพลอยยนิ ดตี ่อเขาได้
เพราะใจยังตา่ กจ็ งหลกี เลีย่ งอย่าแก้ไขเรื่องนี้
ด้วยใช้ความริษยาเป็ นเคร่ืองนาทาง
การเผยแผ่ศาสนธรรมใหค้ วามดงี าม
มใิ ช่อย่เู พยี งในตารา
หรืออยู่เพยี งแคล่ มปาก
ทพี่ ร่าพูดกันถงึ ความดงี ามทงั้ หลาย
แตไ่ ปสงิ สถติ อยทู่ ี่
ความประพฤตทิ างกาย วาจา ใจ อย่างแทจ้ ริง
กเ็ ป็ นเรื่องของการไมค่ ดิ ดคี นเดยี ว
แตช่ ว่ ยกนั ปลูกใหเ้ กิดคนดมี ากขึน้
ถา้ พระพทุ ธเจา้ ทรงคิดเพยี งดพี ระองคเ์ ดยี ว
ดูกไ็ ม่น่าจะทรงเหน็ดเหนื่อย เทย่ี วจาริก
บุกป่ าฝ่ าหนามไปในทศิ ทงั้ หลาย
แตท่ ท่ี รงทนยากลาบากพระวรกายนั้น
เป็ นการช่วยปลูกใหเ้ กดิ คนดมี ากๆ นีเ้ อง
ทา่ นทงั้ หลายจงึ ควรสาเหนียกในพระพทุ ธจริยา
แล้วดาเนินตามพระยุคลบาทร่มเงาแหง่ สันตสิ ุข
กจ็ ะไม่จากดั แคบอยเู่ พยี งทใี่ ดทห่ี น่ึง แตจ่ ะแพร่หลายออกไป
ภาษติ รากผัก..........หงยงิ่ หมงิ
ชีวติ ทพ่ี อเพยี ง
เวลาได้รับไม่นาหน้า
เวลาเสียสละไม่รั้งหลัง
ในยามได้รับลาภผลเกยี รตยิ ศ
จงอย่าเข้าแยง่ แซงหน้าผู้อนื่
ในยามทตี่ อ้ งเสียสละจงอยา่ มัวช้าอย่ขู ้างหลังผู้อน่ื
เม่ือไดร้ ับประโยชนต์ ามสมควรแลว้
จงอยา่ โลภขอส่วนเพมิ่
เมอื่ ฝึ กปฏบิ ตั ติ นจงอยา่ ลดมาตรฐานลง
ความอดกลัน้ คอื ศิลปะชัน้ สูง
ดตี ่อเขาคอื ดีตอ่ ตนเอง
การดาเนินชวี ติ นั้น
หากรู้จกั อดกลัน้ ยนิ ยอมได้ ย่อมเป็ นศลิ ปะชัน้ สูง
การรู้จักถอยหลกี สักก้าว
มักจะนามาซง่ึ จงั หวะก้าวหน้าทดี่ กี ว่า
ผู้ทปี่ ฏบิ ตั ติ ่อผู้อืน่ อย่างโอบอ้อมอารี
ย่อมเป็ นผู้มคี วามสุขโดยแท้
การเออื้ เฟื้ อเผื่อแผ่ตอ่ ผู้อน่ื
คอื การวางรากฐาน
อนั นากลบั มาซงึ่ ประโยชนส์ ู่ตนเองน่ันแล
คุยโว ทาใหผ้ ลงานด้อยค่า
สานึกบาป ช่วยลดทอนความผิด
คนเรานั้น
แม้ว่าจักสามารถสร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ขึน้ มาได้
แต่แลว้ กค็ อยแตจ่ ะคุยโวโอ้อวดผลงานนั้นๆ
กจ็ ะหมดคุณค่าลงอย่างรวดเร็ว
ส่วนคนทผ่ี ดิ พลาดเสียหายอย่างหนัก
แตแ่ ลว้ สามารถสานึกบาป กลับเนือ้ กลับตวั ได้
เสมือนโจรกลบั ใจ
บาปกรรมของเขา
จักถูกชะล้างไปดว้ ยความรู้จักผดิ ชอบช่ัวดนี ่ันเอง
เรื่องดี ไม่เอาใส่ตวั ผู้เดยี ว
เร่ืองช่ัว ไม่ผลักใหผ้ ู้อนื่
อนั ความดคี วามชอบนั้น
ไม่ควรครอบครองเอาไว้แตผ่ ู้เดยี ว
การรู้จกั ยกย่อง แบง่ ปันใหผ้ ู้อน่ื บ้าง
จกั ช่วยขจดั ปัดเป่ าอนั ตรายใหไ้ กลตวั ออกไปได้
ส่วนเร่ืองอปั ยศอดสู กไ็ ม่ควรผลักใหผ้ ู้อนื่ ทงั้ หมด
การรู้จกั รับผดิ บา้ งจกั ชว่ ยขดั เกลาจติ ใจ
ปลูกฝังคุณธรรมใหก้ ล้าแข็งขึน้ ได้
ความดีความชอบไมข่ อใหป้ ร่ีล้น
เป็ นคนตอ้ งรู้จักพอดี
การทเี่ รากระทาสิ่งใดกต็ าม
หากสามารถทาทุกสงิ่ ดว้ ยความเออื้ เฟื้ อเผ่ือแผ่แลว้ ไซร้
แมแ้ ต่พระผู้เป็ นเจา้ กจ็ ะไม่ทรงตาหนิเรา
หรือแม้แตภ่ ตู ผปี ี ศาจกไ็ ม่อาจทาร้ายเราได้เชน่ กนั
หากเป็ นคนทกี่ ระทาสง่ิ ใดก็หวังจะเอาแต่ได้
ความดีความชอบกจ็ ะรับไวท้ งั้ หมด
หากแม้ไมเ่ กดิ เรื่องราวขึน้ ภายใน
กจ็ ักนามาซงึ่ ความเดอื ดร้อนจากภายนอกเป็ นแน่แท้