• อยูก่ บั ด้านทดี่ ที สี่ ุดของตัวเอง
มนุษยส์ ามารถทจี่ ะทะยานขึน้ เหนือสภาวการณไ์ ด้
มนุษยม์ ไิ ด้ถูกลขิ ติ มาใหเ้ ป็ นเหยอ่ื แหง่ พันธุกรรม
หรอื สภาพแวดล้อม
และมนุษยส์ ามารถจะปรับปรุงลกั ษณะนิสัยของตนได้
ดว้ ยการสร้างนิสยั ควบคุมตนเองอยา่ งอาจหาญ
เกอื บจะทกุ ส่ิงความใฝ่ ปรารถนาแรงกล้าต่อสิ่งนั้นๆ ของทา่ น
จะอานวยประโยชนแ์ กท่ า่ น
ถา้ ทา่ นเพยี งแตค่ อยเอาใจใส่ดแู ลมาก ๆ หน่อย
ใหป้ รากฏผลทต่ี อ้ งการ
ทา่ นจะบรรลุความสาเร็จอย่างแน่นอนทส่ี ุด
ถ้าทา่ นอยากรวย ทา่ นจะรวย
ถา้ ทา่ นอยากไดว้ ิชาความรู้ ทา่ นจะไดว้ ชิ าความรู้
ถา้ ทา่ นอยากเป็ นคนดี ทา่ นจะเป็ นคนดี
ทา่ นจะต้องอยากไดส้ งิ่ นีโ้ ดยแทจ้ ริง
และอยากได้โดยเฉพาะเจาะจงเทา่ นั้น
และไมใ่ ช่อยากไดใ้ นเวลาเดยี วกันตงั้ ร้อยอย่าง
ในส่งิ ทขี่ ัดแย้งกนั และดว้ ยความตัง้ ใจอนั แรงกล้าเทา่ เทยี มกนั
• ความกังวลเล็กๆ น้อยๆ เป็ นส่ิงทด่ี ี
ความกงั วลเล็กๆ น้อยๆ เป็ นสิง่ ทดี่ สี าหรับคนเรา
มันทาใหเ้ ซลลส์ มองตน่ื ตัวอยเู่ สมอ
ทาใหค้ วามตัง้ ใจสูงขนึ้ ปรับปรุงการกระทา
ปลอ่ ยฮอรโ์ มนออกมา และชว่ ยอานวยการเรียนรู้
โดยขยายปริมาณข่าวสารทแี่ ผ่ออกไป
ตามเส้นใยประสาทในสมองใหม้ ากขนึ้ กว่าปกติ
• ทาส่งิ ทยี่ ากทกุ วนั
ถา้ เราลม้ เลิกความพยายามบอ่ ยๆ ก่อนจะรู้สึกตัว
สมรรถภาพในการสร้างความพยายามกจ็ ะมลายไป
ถ้าเรามวั แต่ทกุ ขร์ ้อนว่ามันจะใจลอยฟุ้งซ่านอยู่เสมอละก็
ในไม่ช้าเราก็จะใจลอยฟุ้งซ่านตลอดเวลา
รักษาความสามารถในการพยายามทาตวั เรา
ใหม้ ีชีวติ ชีวาอยู่เสมอดว้ ยการกระทาอะไรยากๆ
เล็กๆ น้อยๆ ทกุ วนั
โดยไมจ่ าเป็ นต้องมีจดุ มุ่งหมายพเิ ศษ
ทกุ หนึ่งหรือสองวนั
จงทาอะไรบางอย่างดว้ ยเหตุผลไมม่ ากไปกวา่
เพราะวา่ เราไมอ่ ยากจะทามัน
เพอื่ ว่าเมือ่ ถงึ เวลายุง่ ยากขนึ้ จรงิ ๆ
จะได้แกร่งพอทจี่ ะผจญการทดสอบนั้นได้
โดยท่วั ไปแล้วคนเรานีอ้ าจจะใช้สมรรถภาพ
อันโดดเดน่ ของตนได้เพยี ง10%เทา่ นั้น
เราเพยี งแตเ่ ป็ นคนคร่ึงหลับคร่ึงตน่ื เทา่ นั้น
น่ันกห็ มายความวา่ เรานาขุมทรัพย์
แหง่ ร่างกายและจติ ใจของเรา
มาใชป้ ระโยชนแ์ ต่เพยี งน้อยนิด
หรือกล่าวอกี นัยหน่ึงว่ามนุษยเ์ รา
ดารงชวี ิตอยู่หา่ งไกลจากจุดมุ่งหมาย
ทเี่ ขาควรจะกา้ วไปถงึ
มนุษยเ์ ราตา่ งมีพลังอยู่มากมายหลายหลากชนิด
ซงึ่ เขามักจะล้มเหลวเสมอ
ในการทไ่ี ม่นาเอาพลงั เหล่านั้นมาใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์
ปรัชญาของอเี มอรส์ ัน
• ความเช่ือถอื ตนเอง
ความเช่ือถอื ในตนเองคือเคลด็ ลับประการแรก
ของความสาเร็จ
เรื่องอายุนั้นกไ็ ม่เป็ นอุปสรรค
เขาบอกวา่ เราไม่อาจวัดคนดว้ ยอายุ
นอกเสยี จากว่าเขาไม่มอี ะไรจะใหว้ ัด
ทกุ คนมีของดแี ฝงอยู่ จงหามนั ใหพ้ บ
ความเชือ่ ถอื ในตนเอง
เป็ นด้านหนึ่งของเหรียญเทา่ นั้น
อกี ด้านหน่ึงคอื การเชอื่ ถอื
ในปัญญาและความซอ่ื สัตยข์ องผู้อนื่
จงสลัดทงิ้ ซงึ่ เป็ นความกลัว
จงเชือ่ ม่นั ในความสามารถภายในตนเอง
จงเชื่อถอื ชีวิต แล้วชวี ติ กจ็ ะเช่อื ถอื ทา่ นตอบแทน
คนเราทาได้ดกี ว่าทเ่ี ช่อื ว่าทาได้
โปรดจาไวว้ ่า คุณมีสุขภาพ พลังงาน
ความอดทนอยู่แล้วอย่างพร้อมมูล
และความเชอื่ ของคุณเทา่ นั้น
จะช่วยสร้างความจรงิ ของคุณขนึ้ มาใหป้ รากฏ
กวางในนิทานอีสป ภาคภมู กิ บั เขาอันงามของตน
แล้วตาหนิขาทเ่ี กง้ ก้างน่าเกลียด
แตเ่ มอ่ื นายพรานมาถงึ ขาของมันช่วยใหร้ อดตาย
ทว่าหลังจากนั้นเขาของมันกลับไปเกย่ี วตดิ กง่ิ ไม้
มันจงึ ถงึ แกค่ วามตาย
ทกุ คนในช่ัวชวี ติ ตา่ งกม็ โี อกาสทจ่ี ะต้องขอบคุณ
ความผดิ พลาดของตน
เนื่องจากไมม่ ีใครจะเขา้ ใจความจริงไดโ้ ดยตลอด
จนกว่าเขาจะไดส้ ู้รบปรบมือกับมนั เสยี กอ่ น
คนเราในการศึกษาชีวิต
จะตอ้ งมาถงึ ระยะหน่ึงจะตระหนักว่า
ความอจิ ฉารษิ ยา เป็ นความโง่เขลา
การเลียนแบบเป็ นการฆ่าตัวตาย
อนาคตจะดจี ะเลวอยา่ งไร กแ็ ลว้ แตโ่ ชคชะตา
แม้ในโลกนีจ้ ะเตม็ ไปด้วยขุมทรัพยต์ ่างๆ
แตผ่ ู้เพาะปลูกเทา่ นั้นสามารถจะเก็บผลประโยชน์
ในร่างกายของคนเรามีพลงั ใหมๆ่ แปลกๆซอ่ นอยู่
ซงึ่ พลังนั้น จะไมท่ าประโยชนอ์ ันใดเลย
จนกว่าเราจะรู้จักคุณคา่ ของมัน
หรือเราจะลองใช้มัน
• จงพยายามใหถ้ งึ ทสี่ ุด
ความสามารถพเิ ศษของคนเราจะใช้การไดด้ ี
กใ็ นขณะทล่ี งมือทาเทา่ นั้น
เช่นเดยี วกันกบั ผงึ้ ทตี่ อ้ งใส่ชีวติ ไว้ในเหล็กใน
ทป่ี ล่อยออกไป
คนเราจะทาอะไรได้ถา้ ปราศจากความกระตอื รือร้น
คนทท่ี ุม่ เทสุดพลงั ในการกระทาทเี่ หมาะสม
ย่อมจะได้รับผลปัญญาอันม่ันคงเป็ นเครื่องตอบแทน
คนทที่ ุม่ เทสุดพลังในการกระทาทเ่ี หมาะสม
ยอ่ มจะได้รับปัญญาอันม่ันคงเป็ นเคร่ืองตอบแทน
ถา้ บุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ยึดถอื ในสัญชาตญาณของตนเองอยา่ งทรหด
และถอื ตามนั้นตลอดไป
ทงั้ โลกจะแซ่ซ้องสรรเสริญ
อย่าใช้เวลาใหห้ มดไปกับการสงสัยและความกลัวเลย
แตจ่ งทุม่ เทชีวิตใหก้ ับงานทอ่ี ยู่ข้างหน้าคุณ
ขอใหส้ นใจไดเ้ ลยวา่
การทางานใหด้ ที สี่ ุดเกย่ี วกับภาระหน้าท่ี
ทม่ี ีอยใู่ นช่ัวโมงนี้
จะเป็ นการเตรียมตวั ทด่ี ที ส่ี ุดสาหรับช่ัวโมงหน้า
หรือกาลเวลาข้างหน้า ทจ่ี ะตดิ ตามมา
มนั จะเป็ นไรไป ถ้าหกลม้ สักหนสองหน
ลุกขึน้ มาใหมซ่ ี กลวั ทาไมกบั การหกล้ม
ลองฟันฝ่ ากระแสคลนื่ ทป่ี ่ันป่ วนดู
เช่นเดยี วกับเมอื่ มันราบเรียบบา้ ง
คลนื่ ทป่ี ่ันป่ วนนั้นใหบ้ ทเรียนทคี่ วรค่าแก่การเรียนรู้
การกระทาทุกอย่างจะตอ้ งได้รับคา่ ตอบแทน
ค่าจ้างยง่ิ ถกู หน่วงการจ่ายไวน้ านสักเพยี งใด
กย็ งิ่ จะเป็ นผลดแี กท่ า่ นมากเพยี งนั้น
เน่ืองจากดอกเบยี้ ทบต้นทเ่ี พม่ิ พนู จะมากขนึ้
ตามส่วนและจะเป็ นทนุ ขั้นตอ่ ไปของทา่ น
สันตวิ รบท
ของเจ้าคุณนรรัตนร์ าชมานิต
• PERSONAL MAGNET
เร่ืองทมี่ คี นเมตตากรุณา เหน็ อกเหน็ ใจนั้น
เป็ นเพราะคุณธรรมความดีของตนเอง
หลายประการด้วยกนั
เป็ นต้นว่า วิริยะ อุตสาหะ บากบ่ัน เข้มแข็ง แรงกล้า
และจติ ใจเมตตากรุณา
ไม่เย่อหยงิ่ ไม่จองหอง เป็ นเหตุใหผ้ ู้ทแ่ี วดล้อมอยู่
เกดิ ความเมตตากรุณารักใคร่
เหน็ อกเหน็ ใจคดิ ทจี่ ะช่วยเหลอื
คนซง่ึ มกี ริยามารยาทออ่ นโยน สุภาพนิ่มนวล
ยอ่ มเป็ นทน่ี ่าเสน่หารักใคร่ของคนทไ่ี ด้พบเหน็
และพยายามทจ่ี ะช่วยเหลอื
นี่เป็ น Personal magnet คอื เสน่หใ์ นตวั ของตัวเอง
เพราะฉะนั้น จงพยายามรักษาคุณสมบัตดิ งั กล่าวนีไ้ ว้
จนเป็ นเคร่ืองช่วยตัวเองใหบ้ รรลุความสาเรจ็
สมประสงคท์ ุกประการ
ทกุ กาลเวลา ทงั้ ปัจจบุ นั และอนาคต
• เมตตา
อยา่ กลวั จงรักษาตัวใหบ้ ริสุทธิ์
ไม่มีอะไรทาอนั ตรายได้
จงจาไวว้ ่า ถ้าปรารถนาความเมตตา
และความเหน็ อกเหน็ ใจจากผู้อื่น
กค็ วรส่งกระแสใจทป่ี ระกอบด้วยความเมตตา
และความเหน็ อกเหน็ ใจไปยังทา่ นเหล่านั้น
แล้วกจ็ ะได้รับความเมตตาและความเหน็ อกเหน็ ใจ
จากทา่ นเหล่านั้นเช่นเดยี วกนั
นี่เป็ นกฎของจติ ตานุภาพ
แล้วความสาเร็จทงั้ หลายทปี่ รารถนา
กจ็ ะบังเกดิ แกต่ นสมประสงคท์ ุกประการ
เป็ นแน่นอน ไมต่ อ้ งสงสัยเลย
• สบายใจ
คาวา่ “ไม่สบายใจ” อย่าใช้และอย่าใหม้ ีขนึ้ ในใจต่อไป
“ Let it go, and get it out!” ก่อนมันจะเกิดต้อง Let it go.
ปล่อยใหม้ นั ผ่านไป
อยา่ รับเอาความไมส่ บายใจไว้
ถ้าเผลอใจมันแอบเข้ามาอยู่ในใจได้
พอมสี ตริ ู้สกึ ตัววา่ ความไม่สบายใจแอบเข้ามาอยใู่ นใจ
ตอ้ ง Get it out. ขับมนั ออกไปทนั ที
อย่าเลยี้ งเอาความไมส่ บายใจไว้ในใจมันจะเคยตวั
ทหี ลังจะเป็ นคนอ่อนแอออดแอด
ทาอะไรผดิ พลาดนิดๆหน่อยๆกไ็ มส่ บายใจเคยตวั
เพราะความไม่สบายใจน่ีแหละเป็ นศัตรู
เป็ นมารทาให้ใจไม่สงบ
ประสาท สมองไม่ปกติ เป็ นเหตุใหร้ ่างกายผิดปกติ
พลอยไมส่ งบไม่สบายไปด้วย
ทาใหส้ มองทบึ ไมป่ ลอดโปร่งเป็ น habit
ความเคยชนิ ทไี่ ม่ดี
เป็ นอุปสรรคกดี ขั้นขัดขวางสตปิ ัญญา
ไมใ่ หป้ ลอดโปร่งแจ่มใส
ต้องฝึ กหดั แก้ไขปรับปรุงจติ ใจเสียใหม่
ทงั้ กอ่ นทจ่ี ะทาอะไรหรือกาลังทาอยู่
และเม่อื เวลากระทาเสร็จแลว้
ตอ้ งหดั ใหจ้ ติ ใจแจม่ ใสร่ืนเริง
เกดิ ปี ตปิ ราโมทยเ์ ป็ นสุขสบายอยเู่ สมอ
เป็ นเหตใุ หเ้ กิดกาลังกายกาลงั ใจ
มชี ีวติ อยดู่ ว้ ยความเบกิ บาน สมองจงึ จะเบกิ บาน
จะศึกษาเล่าเรียนกเ็ ขา้ ใจจาได้งา่ ย
เหมอื นดอกไม้ทแี่ ยม้ เบกิ บานตอ้ นรับหยาดนา้ คา้ ง
และอากาศอันบริสุทธิฉ์ ันนั้น
สันตสิ ุข
พระพุทธเจ้าสอนวา่ “ นตถฺ ิ สนฺติ ปร สุข ”
“สุขอน่ื ยง่ิ กว่าความสงบไม่มี”
หมายความว่า ความสุขอนื่ มี
เช่นความสุข ในการดูละคร ดูหนัง ในการเข้าสังคม
ในการมคี ่รู ัก คูค่ รองหรือในการมลี าภยศ
ได้รับความสุขสรรเสริญ
และได้รับความสุขจากส่ิงเหล่านีก้ ส็ ุขจริง
แต่ว่า สุขเหล่านีม้ ที ุกขซ์ อ้ นอย่ทู ุกอย่าง
ต้องคอยแกไ้ ขปรับปรุงกันอยเู่ สมอ
ไมเ่ หมือนกบั ความสุขทเ่ี กิดจากสันตคิ วามสงบ
ซงึ่ เป็ นความสุขทเ่ี ยอื กเยน็ และไมซ่ ้อนด้วยความทุกข์
และไมต่ ้องแกไ้ ขปรับปรุงตกแตง่ มาก
เป็ นความสุขทที่ าได้งา่ ยๆ
เกดิ จากกายใจของเรานี่เอง
ทาอะไรไม่ผดิ เลย ก็คอื ไมท่ าอะไรเลย
จงระลึกถงึ คตพิ จนว์ ่า
“ ทาอะไรไม่ผดิ เลย ก็คอื ไม่ทาอะไรเลย ”
“ ความผดิ นีแ้ หละเป็ นครูอย่างดี
ควรจะรู้สกึ บุญคุณของตวั เองทท่ี าอะไรผิดพลาด
และควรสบายใจทไี่ ด้พบกบั อาจารยผ์ ู้วเิ ศษ
คือความผิด จะได้ตรงกับคาว่า”เจบ็ แลว้ ต้องจา!
ตวั ทาเองผดิ เอง น่ีแหละเป็ นอาจารยผ์ ู้วิเศษ
เป็ นตวั อยา่ งทดี่ ี
เพอื่ จะได้จดจาไวส้ งั วรระวงั ไมใ่ หผ้ ดิ ตอ่ ไป
แล้วตัง้ ต้นใหม่ด้วยความไม่เลนิ เล่อประมาท
อดตี ทผี่ ิดไปแลว้ ผ่านพน้ ล่วงเลยไปแลว้
แตอ่ าจารยผ์ ู้วเิ ศษ
ยังคงอยูค่ อยกระซบิ เตอื นใจอยูเ่ สมอทกุ ขณะ
ว่า”ระวงั !อยา่ ประมาทนะ!อย่าใหผ้ ดิ พลาดเช่นนั้นอกี นะ!”
• สตสิ ัมปชัญญะ
(ความระลึกได้ และความรู้ตวั )
ทจ่ี ะทาอะไรไม่ผิดนั้น ข้อสาคัญอยู่ทส่ี ติ
ถา้ มีสตคิ ุ้มครองกายวาจาใจอยทู่ ุกขณะ
จะทาอะไรไมผ่ ดิ พลาดเลย
ทผ่ี ิดพลาดเพราะขาดสติ คอื เผลอ เหม่อ เลนิ เล่อ
ประมาท ระเริง หลงลมื จงึ ผิดพลาด
จงนึกถงึ คตพิ จนว์ า่
“กุมสตติ ่างโลป่ ้อง อาจแกล้วกลางสนาม”
• “ชวี ติ คอื การต่อสู้”
ธรรมดาชีวติ ทกุ ชนิด ทงั้ มนุษยแ์ ละสตั ว์
ตลอดจนพชื พันธุพ์ ฤกษชาติ
เป็ นอยไู่ ด้ดว้ ยการตอ่ สู้ ตรงกบั คาวา่ “Live is figthing”
“ชีวิตคือการต่อสู้” เมื่อต่อสู้ไม่ไหวขณะใดก็ถึงท่ีสุดแห่ง
ชีวิต คือ Death ความตาย
เพราะฉะนั้น ยงั มีสตอิ ยตู่ ราบใด ถงึ ตายก็ตายแตก่ าย
เช่นกบั ชีวิตของพระพทุ ธเจา้ และพระอรหนั ต์
ท่านมีสติไพบูลยอ์ ยู่ทุกขณะจิต ท่านจึงทาอะไรไม่ผิด
และถงึ ซงึ่ อมตธรรม
คอื ธรรมทไี่ ม่ตาย ตรงกับคาว่า Immortal
จงึ เรียกว่า ปรินิพพาน
• อานุภาพของไตรสกิ ขาคือ ศลี สมาธิ ปัญญา
ด้วยอานุภาพของไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
นีแ้ ลจงึ ชนะข้าศึก คอื กิเลสอยา่ งหยาบ อย่างกลาง
และอยา่ งละเอยี ดได!้
ชนะความหยาบคาย ซงึ่ เป็ นกิเลสอยา่ งหยาบ
ทล่ี ่วงทางกายวาจาไดด้ ว้ ยศีล
ชนะความยนิ ดยี ินร้าย หลงรัก หลงชงั
ซง่ึ เป็ นกิเลสอยา่ งกลางทเ่ี กดิ ในใจไดด้ ว้ ยสมาธิ!
ชนะความเข้าใจผิด รู้ผิด เหน็ ผิด จากความเป็ นจริง
ของสังขาร ซงึ่ เป็ นกเิ ลศอยา่ งละเอยี ดได้ด้วยปัญญา
ผู้ใดศึกษาและปฏิบัติตามไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ
ปัญญา นีโ้ ดยพร้อมมูล บริบูรณ์ สมบรู ณแ์ ล้ว
ผู้นั้นจงึ เป็ นผู้พน้ ทุกขท์ งั้ ปวงได้เป็ นแน่นอน
ไม่ตอ้ งสงสัยเลย!
เพราะฉะนั้น จงึ ควรสนใจ เอาใจใส่
ตงั้ ใจศึกษาและปฏบิ ัตติ ามไตรสกิ ขา
คือ ศลี สมาธิ ปัญญา นี้ ทุกเม่ือเทอญ
• ดอกมะลิ
ดอกมะลิ เป็ นดอกไม้ทถ่ี ูกรับรองแล้ววา่
เป็ นดอกไม้ทห่ี อมเยน็ ช่นื ใจทสี่ ุดและขาวบริสุทธิ์
ในบรรดาดอกไม้ทงั้ หลาย
ชวี ติ ของมนุษยท์ เี่ ป็ นอยู่กเ็ ช่นเดยี วกบั การเลน่ ละคร
ขอให้เป็ นตัวเอกทมี่ ชี ื่อเสียงทส่ี ุด
เชน่ เดยี วหรือลักษณะเดยี วกับดอกมะลิ
อย่าเป็ นผู้ร้ายทเ่ี ลวทสี่ ุดและใหเ้ หน็ ว่าดอกมะลินี้
จะบานเตม็ ทเ่ี พยี ง ๒-๓ วัน กจ็ ะเหยี่ วเฉาไป
ฉะนั้น ขอใหท้ าตัวใหด้ ที ส่ี ุด เมื่อยังมชี ีวติ อยู่
ใหห้ อมทส่ี ุดเหมือนดอกมะลทิ เ่ี ร่ิมแย้มบาน ฉะนั้น
“จงเลือกทาแต่กรรมทด่ี ๆี ! นะ”
• ทาดี ดกี ว่าขอพร
“จงเลือกทาแต่กรรมทด่ี ๆี นะ”
เตือนให้เตรียมตัวไว้ดาเนินชีวิตต่อไปเป็ นคาแทน
คาอวยพรอย่างสูงสุด
ประกอบด้วยเหตุผล เมือ่ ทากรรมดแี ลว้ ไม่ใหพ้ รก็ต้องดี
เม่อื ทาช่ัวแล้วจะมาเสกสรรปั้นแตง่ อวยพรอย่างไร
กด็ ไี ม่ได้
ทาช่ัวเหมือนโยนหนิ ลงนา้ หนิ จะตอ้ งจมลงทนั ที
ไม่มผี ู้วเิ ศษใดๆจะมาเสกเป่ าอวยพร
อ้อนวอนขอร้องใหห้ นิ ลอยนา้ ขึน้ มาได้
ทาช่ัวจะตอ้ งล่มจมป่ นปี้ เสยี ราศเี กยี รตคิ ุณช่ือเสียง
เหมือนกอ้ นหนิ หนักจมลงไปอยู่ในโคลนใต้นา้
ทาดเี หมอื นนา้ มันเบาเม่อื เทลงนา้
ยอ่ มลอยเป็ นประกายมันปราบอยู่เหนือนา้
ทากรรมดยี ่อมมสี ง่าราศี มีเกยี รติคุณชอ่ื เสียง
มแี ต่คนเคารพนับถอื ยกย่องบูชา
เฟ่ื องฟุ้งฟูลอยนา้ เหมอื นนา้ มันลอย
ถงึ จะมีศัตรูหมู่ร้ายจงใจเกลยี ดชังมุ่งร้าย
อิจฉารษิ ยาแช่งด่าให้จม กไ็ ม่สามารถจะเป็ นไปได้
กลบั จะแพเ้ ป็ นภยั แกต่ วั เอง
ขอใหจ้ งตัง้ ใจกลา้ หาญพยายามทาแตก่ รรมดๆี
โดยไม่มีความเกรงกลัวหว่ันไหวต่ออุปสรรคใดๆทงั้ สิน้
ผู้ทม่ี คี วามเลอ่ื มใสในคุณพระรัตนตรัย
ผู้ทม่ี ีความสุขและผู้ทส่ี ามารถเจริญ
ประสงคใ์ ดสาเร็จสมประสงค์
กค็ อื ผู้ทป่ี ระกอบกรรมแตค่ วามดอี ยา่ งเดยี วน่ันเอง
สมเดจ็ พระญาณสังวร
สมเดจ็ พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
พระพทุ ธเจ้าไดต้ รัสสอนใหท้ กุ คนมีศีลและมจี ติ ใจงาม
เพราะจะมีความสุขและอยู่ด้วยกันเป็ นสุขจริงๆ
ทกุ ๆคนต้องการสุขด้วยกนั ทงั้ นั้นไม่มีใครปฏเิ สธ
แต่ทาไมไม่เดนิ ในทางของความสุข
ไปเดนิ ในทางของความทกุ ข์ แล้วกร็ ่าร้องว่าไม่มคี วามสุข
ก่อนจะทากรรมใดๆขอใหน้ ้อมใจนึกถงึ พระพุทธเจ้า
ว่า ทรงเสยี สละลาบากเพยี งไหน
เพอ่ื สอนใหเ้ ชอื่ กรรมไม่ใหท้ ากรรมไม่ดที งั้ หลาย
ใหท้ าแต่กรรมดแี ละกรรมดที ท่ี รงแสดงสอน
กท็ รงแสดงอย่างมไิ ดท้ รงปิ ดบงั แม้แต่น้อย
ดังนั้นจงึ พากนั น้อมรับใหเ้ ตม็ สตปิ ัญญาความสามารถ
เช่ือกรรมอย่างมกี ตัญญูกตเวทใี นพระมหากรุณาธิคุณ
ของพระพุทธองคเ์ ถดิ จะเป็ นสิริมงคลลา้ เลศิ สูงสุด
อนิจจัง ความไม่เทย่ี ง
ทุกขงั ความเป็ นทุกขท์ นอยูไ่ ม่ได้ต้องเปลี่ยนแปลง
อนัตตา ความไมเ่ ป็ นไปตามปรารถนาตอ้ งการ
นีค้ อื ไตรลักษณ์ ลักษณะ 3 ทม่ี อี ยู่ในทกุ คนทกุ สิ่ง
ความสุข ความทกุ ข์ ความเจรญิ ความเสอ่ื ม ความเป็ น
มนุษย์ ความเป็ นสัตว์
เหล่านีอ้ ยใู่ นไตรลักษณท์ งั้ สิน้
ดังนั้นแม้ว่าชาตหิ นึ่งกรรมไม่ดจี ะแตง่ ใหเ้ ป็ นสตั ว์
กไ็ ม่ใช่ว่าจะตอ้ งเป็ นสัตวท์ ุกชาติ
และแมว้ ่าชาตหิ นึ่งกรรมดจี ะนาใหเ้ ป็ นมนุษยก์ ็ใชว่ า่ จะ
ไดเ้ ป็ นมนุษยท์ ุกชาติ
น่ันคอื สัตวย์ อ่ มเป็ นคนไดแ้ ละคนกย็ ่อมเป็ นสัตวไ์ ด้
ทงั้ หมดนีข้ ึน้ อยู่กบั กรรมของแต่ละคนแตล่ ะสตั ว์
ผู้ไมป่ ระมาทระวงั ในการกระทากรรม
ยอ่ มสามารถพ้นจากการถอื ภพชาตอิ ันไมป่ รารถนาได้
อานุภาพของความดหี รือบุญกุศลนั้นอศั จรรยจ์ ริง
เชอื่ ไว้ดกี วา่ ไม่เชือ่ และเมอื่ เชือ่ แล้ว
กใ็ หพ้ ากนั แสวงหาอานุภาพของความดี
หรือบญุ กุศลใหเ้ หน็ ความอัศจรรยด์ ว้ ยตนเองเถดิ
ความดเี ป็ นเหตุใหช้ ือ่ สกุลดารงอยอู่ ยา่ งช่ืนชม
ความช่ัวเป็ นเหตุใหช้ อ่ื สกุลดารงอยอู่ ย่างดูถูก
พระพุทธเจา้ ทรงเป็ นพยานยนื ยันความจริงทว่ี า่
ร่างกายของสัตวย์ ่อยยับไดแ้ ต่ช่อื และสกุลไมย่ ่อยยับ
พระพุทธสรีระคอื ร่างกายของพระพุทธเจา้
ย่อยยบั ไปนานแล้ว นับเป็ นเวลากว่าสองพันปี
แต่ช่อื และสกุลของพระองคท์ า่ นหาไดย้ ่อยยบั ไปดว้ ยไม่
ยังดารงอย่อู ยา่ งม่ันคงตราบเทา่ ทกุ วันนี้
พระนามของพระพทุ ธองคเ์ ป็ นทรี่ ู้จักอย่างกว้างขวาง
และเป็ นทรี่ ู้จกั อย่างเทดิ ทนู บูชาศรัทธาเล่ือมใสอยา่ ง
สูงส่ง
ของใหญ่ยอ่ มเกดิ จากของเลก็
นา้ ฝนทเ่ี ป็ นของจาเป็ นอยา่ งยง่ิ แกช่ ีวติ
เกิดจากเมฆใหญ่
แตเ่ มฆใหญ่ก็เกิดจากการรวมตวั ของปยุ เมฆน้อย ๆ
และปุยเมฆน้อย ๆ กเ็ กดิ จากละอองทบี่ างเบา
แม้เพยี งเทา่ นีย้ อ่ มชัดว่าไม่เริ่มต้นจากเล็กน้อยแล้ว
สิ่งทย่ี งิ่ ใหญ่จะเกดิ ไม่ได้
ฉะนั้นอยา่ ประมาทความเลก็ น้อย
กรรมนั้นน่าเช่อื ถอื นักในการใหผ้ ลตรงตามเหตุ
ไมม่ ีอคตดิ ้วยอานาจใดเลย
แม้เกดิ อยู่ในฐานะทส่ี ุขสบาย
กไ็ มใ่ ช่วา่ ไม่จาเป็ นต้องนึกถงึ กรรม
ไมใ่ ช่ว่าไม่จาเป็ นต้องเช่ือกรรม
สุขสบายเพยี งไรกจ็ าเป็ นตอ้ งนึกถงึ กรรม
ถา้ ไมไ่ ดท้ ากรรมดอี ันควรแกเ่ หตุแล้ว
จะอยู่ในฐานะสุขสบายได้อยา่ งไร
ใครอน่ื อีกมากมายหาได้อยใู่ นฐานะเช่นนั้น
อดอยากยากไร้เหน็ ใจกันหนักหนา
ทาไมเป็ นได้เช่นนั้นมีอะไรเป็ นเคร่ืองทาใหเ้ ป็ นไป
การไดม้ าซงึ่ สิง่ ของหรือทรัพยส์ นิ ใด ๆ กต็ าม
ด้วยวธิ ีอันมิชอบ นับเป็ นการไดท้ ไ่ี ม่คุ้มเสยี
เพราะส่ิงเหล่านั้นเมื่อถงึ เวลา
กต็ อ้ งหมดสนิ้ ไปตามธรรมดา
แตค่ วามเสียหายอนั เกดิ จากการทุจริตยอ่ มจกั คงอยู่
การเชอื่ พระพุทธเจา้ ใหแ้ น่วแน่ม่ันคง
ยอมเป็ นยอมตายได้
เพอื่ ปฏบิ ตั ติ ามทที่ รงสอนไวเ้ ป็ นวธิ ีพเิ ศษ
ทจ่ี ะชว่ ยใหก้ ารใช้ธรรมโอสถรักษาโรคทางใจไดผ้ ล
รวดเร็วทนั ที
การเช่ือพระพทุ ธเจา้ และปฏบิ ัตติ ามทท่ี รงสอนไว้
โดยไม่มีข้อคดิ คา้ นอยา่ งนั้นอย่างนี้ ไม่ใชค่ วามงมงาย
ไมใ่ ช่การแสดงความออ่ นแอ ไม่เป็ นตัวของตวั เอง
ตรงกันข้ามกลบั เป็ นความปรีชาฉลาดลึกซงึ้
อยา่ งยากจะหาผู้ทดั เทยี มได้
ผู้ปรารถนาใหต้ นเองมีจติ ใจสูง
มีจติ ใจดี มีจติ ใจเยน็ สบาย
ไมม่ ีโทสะ ไมม่ ีพยาบาท ไมม่ อี จิ ฉาริษยา
ควรต้องอบรมพรหมวหิ ารธรรมใหส้ มบรู ณ์ บริบรู ณ์
อยา่ ไดว้ ่างเว้น โอกาสทจ่ี ะแผ่เมตตามอี ยู่ทกุ เวลา
มีสตริ ะวงั ใหม้ ีอุเบกขาไปพร้อมกันดว้ ย
กจ็ ะเป็ นพรหมวหิ ารธรรมทถ่ี กู ตอ้ งสมบูรณ์ บริบรู ณ์
ทจี่ ะใหค้ ุณแก่เจ้าตัวเตม็ ทกี่ ่อนให้แกผ่ ู้อนื่
พระคตธิ รรม ย่อมเป็ นอาภรณเ์ ป็ นอิสรยิ ยศของคนดี
เพราะคนดยี ่อมเหน็ ว่าความดนี ่ีแหละเป็ นยศอนั ยงิ่ ใหญ่
และยอ่ มพอใจประดับความดเี ป็ นอาภรณ์
กล่าวได้ว่าความดนี ั้นเป็ นอิสริยาภรณข์ องคนดี
เราเป็ นพทุ ธศาสนิก นับถอื พระพทุ ธเจา้
อย่าใหส้ ักแตว่ ่านับถอื เพยี งทป่ี าก ต้องนับถอื ใหถ้ งึ ใจ
การนับถอื ใหถ้ งึ ใจนั้น
หมายความวา่ ทรงสอนใหป้ ฏิบัตอิ ยา่ งไร
ตอ้ งตัง้ ใจทาตามใหเ้ ตม็ สตปิ ัญญาความสามารถ
ทส่ี วดกันว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ขา้ พเจา้ ถงึ พระพทุ ธเจ้าเป็ นทพ่ี งึ่
ธรรมมงั สรณัง คจั ฉามิ ข้าพเจ้าถงึ พระธรรมเป็ นทพี่ ง่ึ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าถงึ พระสงฆเ์ ป็ นทพ่ี ง่ึ
หมายถงึ จะปฏบิ ตั ติ ามพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์
อย่างจริงจัง
พระพทุ ธเจา้ ไม่ไดท้ รงสอนใหส้ วดมนต์
เพอ่ื ขอร้องหรอื วิงวอน
ใหท้ รงบันดาลให้เกดิ ความสุขสวสั ดี
โดยเจา้ ตวั เองไมป่ ฏิบัตดิ ี
ความหมายในบทสวดมอี ยู่บริบูรณ์
ทผ่ี ู้สวดจะไดร้ ับผลเป็ นความสุขความเจริญรุ่งเรอื ง
ถ้าปฏิบตั ติ าม
แตถ่ า้ ไมป่ ฏบิ ัตติ ามความหมายของบทสวดมนต์
หรือเช่นไม่ปฏบิ ตั ติ ามทไ่ี ด้สวดวา่
ข้าพเจา้ ถงึ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆเ์ ป็ นทพี่ ง่ึ
กจ็ ะไมไ่ ด้รับผลอันเลิศทค่ี วรไดร้ ับเลย
ฉะนั้นจงึ ควรปฏบิ ัตใิ หไ้ ด้ถงึ พระพทุ ธ พระธรรม
พระสงฆเ์ ป็ นทพี่ งึ่
คอื ปฏบิ ตั ติ ามทพ่ี ระพทุ ธเจ้าทรงปฏบิ ตั ิ
ปฏบิ ตั ติ ามทพี่ ระธรรมทรงส่ังสอน
และปฏบิ ตั ติ ามพระสงฆส์ าวกทปี่ ฏบิ ัติ
เป็ นแบบอยา่ งไว้เถดิ
จะได้รับความสุขสวัสดอี ย่างยง่ิ ตลอดไป
ไมว่ า่ จะเกิดอะไรขนึ้ ก็ตาม
จงอย่าช้า รีบเร่งทาความดี ทกุ ชวี ติ มีเวลาจากดั
อยา่ งมากไม่เกินร้อยปี ก็จะต้องละร่างนี้ ละโลกนีไ้ ป
อยา่ ผัดวันประกนั พรุ่งทจี่ ะทาความดี
เพราะถ้าสายเกินไปเมอ่ื ไร
กต็ นเองน่ันแหละ
จะต้องได้เสวยผลของการไม่กระทากรรมดี
ไม่มีผู้ใดอนื่ จะรับผลของความดคี วามช่ัวทตี่ นเองทาไว้
เจา้ ตวั เองเทา่ นั้นจักเป็ นผู้รับผลของความดคี วามช่ัว
ทตี่ นทา
การกระทาทุกอย่าง ทงั้ ดแี ละไมด่ ี
เมอ่ื ทาแล้ว ไม่ลบเลือนไปไหน
จะส่ังสมตัวเองอยตู่ ลอดเวลา
อยู่ภายในใจของผู้กระทานั้นเอง
เป็ นพนื้ ฐานแหง่ จติ ใจของผู้กระทานั้นเอง
ทาดมี าก พนื้ ฐานของจติ ใจก็ดีมาก
ทาไมด่ มี าก พนื้ ฐานของจติ ใจกไ็ ม่ดมี าก
ทุก ๆ ส่ิงทไ่ี ดจ้ ะเป็ นลาภเป็ นยศ เป็ นอะไรกต็ าม
ทไี่ ด้นั้นชื่อวา่ เป็ นการได้ทเ่ี ป็ นความตงั้ ต้น
ของความพลดั พราก
เพราะฉะนั้น เมือ่ ไดก้ ด็ ใี จ รู้สกึ เป็ นสุข
แต่ความดใี จ ความสุขนั้นตัง้ อยู่ประเดยี๋ วประดา๋ ว
แล้วเม่อื ส่งิ ทไี่ ดน้ ั้นต้องแปรปรวน
เปล่ียนแปลงไป ดบั ไป
เมอื่ ความยดึ ถอื อยูว่ ่าเป็ นตัวเราของเรา
ยดึ ถอื ไวเ้ ทา่ ไรกต็ ้องเป็ นทุกขม์ ากเทา่ นั้น
ยึดถอื มากกเ็ ป็ นทกุ ขม์ าก ยึดถอื น้อยก็ทุกขน์ ้อย
ไม่ยดึ ถือเลย จงึ จะไม่เป็ นทกุ ข์
การหว่านเมลด็ ข้าวเปลือกลงในพนื้ นา ๑ กามือ
แมเ้ มล็ดข้าวนั้นกจ็ ะเป็ นพนั ธุด์ ที พ่ี ร้อมจะงอกงาม
และผู้หว่านคอื กสกิ รกม็ ีเจตนาจะหวา่ นเพอื่ ทานาใหเ้ กดิ
ผลิตผลเป็ นอาชพี
.... แต่หากทนี่ านั้นเป็ นทท่ี ไี่ ม่สม่าเสมอกนั
เมลด็ ข้าวทหี่ ว่านลงไปกง็ อกเงยไม่เสมอกัน
โดยเมล็ดทไี่ ปตกในทเ่ี ป็ นดดี ี ป๋ ุยดี มีนา้ อุดมดี
ก็จะงอกเงยมผี ลติ ผลทส่ี มบูรณ์
ส่วนเมลด็ ทไี่ ปตกบนพนื้ ทนี่ าทแี่ หง้ แล้ง
มแี ต่กรวดกบั ทรายและขาดนา้
กจ็ ะแหง้ เหยี่ วหรือเฉาตายไป
หรือไม่งอกเงยเสียเลย ในการทานา
ตวั บุคคลผู้รับของทเี่ ราใหท้ าน
จงึ เป็ นเงอื่ นไขทสี่ าคัญทส่ี ุด
เราผู้ทาทานจะได้บุญมากหรือน้อย
กข็ ึน้ อยู่กบั คนพวกนี้
หมู่คนทเ่ี หมอื นดอกบวั อนั มีหวังจะบานได้
เม่อื ยงั ไม่บานกเ็ รียกว่าเวไนยนิกร
เมื่อบานแล้วกเ็ รียกวา่ พระสงฆ์
และดอกบัวจะบานไดก้ เ็ พราะต้องแสงอาทติ ยฉ์ ันใด
หมู่ของเวไนยจะบานกเ็ พราะต้องแสงพระธรรมฉันนั้น
การรักษาศีล เหมอื นเป็ นการสร้างรั้วล้อมตนเอง
ศลี ยงิ่ มากข้อ ก็ยง่ิ เหมอื นรั้วทแ่ี น่นหนาแขง็ แรง
จติ ใจทขี่ าดสันโดษ ประกอบดว้ ยความปรารถนา
กระหายในสิ่งต่าง ๆ ย่อมรู้สกึ ว่าขาดแคลนอยูเ่ สมอ
มีทรัพยม์ ากเทา่ ไรก็เหมอื นไมม่ ี
ทรัพยเ์ หล่านั้นมคี า่ เทา่ กับเชือ้ สาหรับสุมกองไฟ
คือตณั หาเทา่ นั้น
แล้วเชอื้ นั้นเองก็กลายเป็ นเถา้ ถา่ นไปในเวลาไม่ช้า
ตัณหาจะอยากทะยานหาเชือ้ ใหม่ต่อไป
ตอ่ เมอื่ มสี ันโดษ จงึ ความม่ังมีและความสุข
คตธิ รรมสมเดจ็ โต ฯ
“ชีวติ มนุษยอ์ ย่ไู ดไ้ มถ่ งึ ร้อยปี กต็ อ้ งตาย
และถูกหามเข้าป่ าช้า”
ดังนั้นมนุษย์
จงึ ควรประพฤติปฏิบัตอิ ยู่ในศลี สมาธิและปัญญา
เพอื่ ใหห้ ลุดพน้ จากสงสารวัฏ
มนุษยน์ ั้นอาบนา้ ชาระกายวันละสองครั้ง
เพอื่ กาจัดเหงอ่ื ไคล สง่ิ โสโครก ทเ่ี กาะร่างกาย
แต่ไมเ่ คยคดิ ชาระจติ ใหส้ ะอาด แมแ้ ต่เพยี งนาทเี ดยี ว
“เราทงั้ หลายเกดิ มาเป็ นมนุษยแ์ ล้ว
ลว้ นแตม่ ีกรรมผูกพนั กนั มาทงั้ สิน้
ผูกพนั ในความเป็ นมิตรบ้างเป็ นศัตรูบ้าง
แตล่ ะชวี ติ กย็ อ่ มทจี่ ะเดนิ ไป
ตามกรรมวิบากของตนทไี่ ดก้ ระทาไว้
ทกุ ชีวิตล้วนมีกรรมเป็ นเคร่ืองลขิ ิต
เร่ืองกฎแหง่ กรรม
ถา้ เป็ นชาวพุทธแล้ว ถอื ว่าเป็ นกฎแหง่ ปัจจัตตัง
ผู้ตอ้ งการรู้ต้องทาเองรู้เอง ถงึ เอง แล้วจะเข้าใจ
“ทุกขท์ งั้ หลายเกดิ จากการยดึ ม่ัน
ยดึ เขา ยดึ เรา ยดึ คณะ ยดึ พวก
เมอ่ื ใดเกิดความยดึ ม่ัน ในสงิ่ เหล่านั้น
แม้เพยี งส่ิงเดยี ว เมือ่ นั้นย่อมเกิดทกุ ข”์
ยศและลาภหาบไปไมไ่ ดแ้ น่
มเี พยี งแต่ต้นทนุ บุญกุศล
ทรัพยส์ มบตั ทิ งิ้ ไวใ้ หป้ วงชน
แมร้ ่างตนเขากเ็ อาไปเผาไฟ
เม่ือเจา้ มามีอะไรมาด้วยเจา้
จะเอาแตส่ ุขสนุกไฉน
เจ้ามามอื เปล่าเจา้ จะเอาอะไร
เจ้าก็ไปมอื เปล่าเหมือนเจ้ามา
ทา่ นทาดกี เ็ สวยกรรมดี
ทาไม่ดกี ็ตกนรกไป
ทา่ นอยา่ นึกว่าทา่ นตายแล้วสูญเปลา่
ทา่ นทงั้ หลายจะพบกันในโลกวญิ ญาณอกี
หนีส้ ินทท่ี า่ นสร้างขนึ้ ในโลกมนุษย์
กจ็ ะชดใช้กนั ในโลกวญิ ญาณ
ใช้ไมห่ มดกต็ อ้ งไปเกิด
ไม่อยา่ งนั้นจะไมเ่ รยี กว่าเวยี นวา่ ยตายเกดิ
เมื่อทา่ นหาเวลาวา่ งไดจ้ งพยายามทาจติ ใหส้ งบ
เมือ่ จติ สงบดแี ล้ว จะเกดิ อานาจทพิ ย์
ช่วยใหท้ า่ นเป็ นผู้มสี มองปลอดโปร่ง
มปี ัญญาในการดารงไว้ซงึ่ สมั มาอาชีวะ
ความสุขจะเกดิ แกท่ า่ น
ถ้าเราม่ันใจในคาสอนของพระสัมมาสัมพทุ ธเจา้
ฉะนั้น เจา้ จงหม่ันสะสมบุญ ทงั้ ทาน ศีล ภาวนา ไว้
อยา่ งสม่าเสมอ
เทพยดา ฟ้า ดนิ จะเอน็ ดูช่วยเหลอื เจา้ เอง
ถา้ เจา้ ไม่เคยสร้างไว้ ใครทไี่ หนจะมาช่วยไดล้ ูกเอ๋ย
กอ่ นทเ่ี จา้ จะเทย่ี วไปอ้อนวอน
ขอพง่ึ บารมหี ลวงพ่อองคใ์ ดองคห์ นึ่ง
เจ้าจะตอ้ งมีทนุ (บญุ ) ของตวั เองเป็ นทุนเดมิ
ตดิ ตัวไปบา้ งก่อน
ตอ่ เมอ่ื บารมขี องตวั เจา้ เองยงั ไม่พอ
จงึ ขอร้องยมื บารมีของผู้อนื่ มาช่วยเหลือ
ถา้ มฉิ ะนั้นแล้วจะเอาตวั ไมร่ อด
เพราะเจ้าจะตอ้ งเป็ นหนีบ้ ุญบารมีทเี่ จ้าร้องขอ
หรือยืมคนเขามาจนลน้ พ้นตวั
ครั้นเวลาใดทเี่ จ้ามีโอกาสทาบุญทากุศลบ้าง
เรยี กวา่ พอจะมบี ญุ บารมีเป็ นของตวั เองบา้ ง
เจา้ จะตอ้ งไปผ่อนใช้หนีท้ เี่ จ้าเคยขอร้องยมื เขามา
จนหมดสนิ้ แทบไม่เหลอื สาหรับตัวเอง
แลว้ เจา้ จะมีบุญกุศลใดตดิ ตวั ไวจ้ ุนเจอื ตัวเองในภพ
หน้าทยี่ ังจะตอ้ งเวยี นวา่ ยตายเกดิ
จงจาไว้เถดิ วา่ เมื่อไดท้ าบุญ ทากุศลแลว้
อยา่ คดิ ว่าจะได้รับผลนั้นทนั ที
จะทาใหจ้ ติ ใจหดหู่ ทอ้ ถอย
แตจ่ งม่ันใจเถดิ ว่า ผลบุญนั้นไม่สูญหายไปไหน
เพราะการใหผ้ ลของกรรมนั้นจะใหผ้ ลตามกาหนด
ถ้ายงั ไมถ่ งึ เวลาสง่ ผลแลว้
แมแ้ ต่เทพเจ้าหรือผู้ทม่ี ีฤทธิอ์ งคใ์ ด
ทเี่ จ้าไปขอร้องใหช้ ่วยเหลอื กไ็ ม่สามารถใหผ้ ลนั้นเกดิ ได้
แต่เมือ่ ถงึ เวลาทจี่ ะใหผ้ ลท่วั ฟ้า ดนิ
กต็ า้ นทานผลของกรรมนั้นไว้ไม่อยู่
ฉะนั้น จงเตอื นใจไวเ้ สมอว่า
ถ้าประสงคค์ วามสุข ความเจริญ โภคสมบัติ
จงหม่ันสร้างบุญ สร้างกุศล ไว้อยา่ งสม่าเสมอ
มากบา้ ง น้อยบ้าง ตามกาลงั ศรัทธา
ฉะนั้น ด้วยความไม่ประมาท
จงระลึกไวว้ ่า ถา้ ตนเอง ไม่สะสมไวแ้ ล้ว
ใครทไ่ี หนจะช่วยเจ้าได้
เจ้าจะมีอะไรไว้เป็ นทนุ เดนิ ทาง
เวียนวา่ ย ในวฏั ทุกข์ ทย่ี งั ตอ้ งผจญตอ่ ไป
ไม่รู้วา่ จะจบสิน้ เมื่อไร
จงระลกึ ไว้เสมอว่า
เจ้าสะสมเตรียมตวั ไว้เดนิ ทางแล้วหรอื ยัง
จะรอใหค้ นอนื่ ทาไปใหน้ ั้น
จะม่ันใจดเี ทา่ กบั เราเตรียมหาไปเองหรือ
ดงั พทุ ธภาษิต วา่
“ตนนั้นแลเป็ นทพี่ ง่ึ แหง่ ตน”
ถ้าถงึ พระนิพพานแลว้ ก็สิน้ เร่ืองยุ่งกนั จงึ ช่ือว่า เอกันตบ
รมสุขดังนีแ้ ล ฯ
คาสอนของพระพุทธเจา้
ธรรมบทยอดของความดี
ผู้ใดเหน็ ส่งิ ทไ่ี ม่เป็ นสาระวา่ เป็ นสาระ
เหน็ สิง่ ทเี่ ป็ นสาระวา่ ไร้สาระ
ผู้นั้นมีความคดิ ผิดเสยี แลว้
ย่อมไม่ประสบสงิ่ ทเี่ ป็ นสาระ
คนทาดยี อ่ มสุขใจในโลกนี้
คนทาดีย่อมสุขใจในโลกหน้า
คนทาดียอ่ มสุขใจในโลกทงั้ สอง
เมอื่ คดิ วา่ ตนไดท้ าแตบ่ ุญกุศล ย่อมสุขใจ
ตายไปเกดิ ในสุคติ ยงิ่ สุขใจยงิ่ ขนึ้
ความไมป่ ระมาท เป็ นทางอมตะ
ความประมาท เป็ นทางแหง่ ความตาย
ผู้ไม่ประมาท ไมม่ วี นั ตาย
ผู้ประมาท ถงึ มชี วี ติ อยูก่ เ็ หมือนคนตายแล้ว
ยศย่อมเจริญแกผ่ ู้ขยัน
มสี ติ มีการงานสะอาด
ทางานดว้ ยความรอบคอบระมัดระวัง
เป็ นอยู่โดยชอบธรรม ไม่ประมาท
จติ ทอ่ งเทยี่ วไปไกล เทย่ี วไปดวงเดยี ว
ไม่มรี ูปร่าง อาศัยอยใู่ นร่างกายนี้
ใครควบคุมจติ นีไ้ ด้ ยอ่ มพ้นจากบว่ งมาร
เมือ่ รู้วา่ ร่างกายนีแ้ ตกดับงา่ ยเหมอื นหม้อนา้
พงึ ป้องกนั จติ ใหม้ ่ันเหมือนป้องกันเมืองหลวง
แล้วพงึ รบกบั พญามารดว้ ยอาวุธคือปัญญา
เมอื่ รบชนะแล้วพงึ รักษาชัยชนะนั้นไว้
ระวงั อย่าตกอยู่ในอานาจมารอกี
อกี ไม่นาน ร่างกายนี้
จักปราศจากวญิ ญาณ
ถูกทอดทงิ้ ทบั ถมแผ่นดนิ
เหมอื นทอ่ นไม้อนั หาประโยชนม์ ิได้
ใครจักครองแผ่นดนิ นี้ พร้อมทงั้ ยมโลกและเทวโลก
ใครจักเลือกเฟ้นพระธรรมบท ทที่ รงแสดงไว้ดแี ลว้
เหมือนนายมาลาการผู้ฉลาด เลือกเกบ็ ดอกไม้
ไม่ควรแส่หาความผดิ ผู้อน่ื
หรือธุระทเ่ี ขาทาแล้วหรอื ยงั ไม่ทา
ควรตรวจดเู ฉพาะกจิ
ทต่ี นทาหรือยังไม่ทาเทา่ นั้น
เมอ่ื เกดิ มาแล้วจะต้องตาย
กค็ วรสร้างบญุ กุศลไวใ้ หม้ าก
เหมอื นนายมาลาการร้อยพวงมาลัย
เป็ นจานวนมากจากกองดอกไม้
หากแสวงหาไม่พบเพอื่ นทดี่ กี ว่าตน
หรือเพอื่ นทเี่ สมอกับตน
กพ็ งึ เทย่ี วไปคนเดยี ว
เพราะมติ รภาพ ไม่มีในหมู่คนพาล
กรรมใดทาแล้วทาใหเ้ ดือดร้อนภายหลงั
อกี ทงั้ ทาใหร้ ้องไหน้ า้ ตานอง
รับสนองผลของการกระทา กรรมนั้นไมด่ ี
กรรมใดทาแล้ว ไมเ่ ดอื ดร้อนภายหลัง
ทงั้ ผู้กระทากเ็ บกิ บานสาราญใจ
ได้เสวยผลของการกระทา กรรมนั้นดี
ตลอดระยะเวลาทบ่ี าปยังไม่ใหผ้ ล
คนพาลสาคัญบาปหวานปานนา้ ผงึ้
เมอ่ื ใดบาปใหผ้ ล เมอ่ื นั้นเขาย่อมได้รับทกุ ข์
กรรมช่ัวทท่ี าแล้ว ยงั ไม่ใหผ้ ลทนั ทที นั ใด
เหมอื นนมรีดใหม่ ๆไม่กลายเป็ นนมเปรีย้ วในทนั ที
แตม่ ันจะค่อย ๆ เผาผลาญผู้กระทาในภายหลัง
หมือนไฟไหม้แกลบ
คาพดู ทเี่ หลวไหลไร้ประโยชนต์ งั้ พนั คา
กส็ ู้คาพูดทมี่ ปี ระโยชนค์ าเดยี วไมไ่ ด้
เพราะฟังแล้วทาใหจ้ ติ ใจสงบ
บทกวตี ัง้ พนั โศลก
แตไ่ ร้ประโยชน์
ไม่เทา่ บทกวีบรรทดั เดยี ว
ทท่ี าใหผ้ ู้ฟังได้รับความสงบ
บทกวีบรรยายธรรมบทเดยี ว
ทท่ี าใหผ้ ู้ฟังไดร้ ับความสงบ
ประเสริฐกวา่ บทกวที ท่ี อ่ งจาไดต้ ัง้ ร้อยโศลก
แตไ่ ม่มีประโยชนแ์ ม้แต่บทเดยี ว
เอาชนะตนไดน้ ั้นแล ประเสรฐิ
ผู้ทฝี่ ึ กตนได้ ระวังระไวตลอดเวลา
ถงึ เทวดา คนธรรพ์ และพระพรหม
ก็เอาชนะไม่ได้
การบชู าทา่ นผู้ฝึ กตน แม้เพยี งหนึ่งครั้ง
บังเกิดผลมหาศาล
ยง่ิ กวา่ สละทรัพยบ์ ูชายัญเดอื นละพัน
เป็ นเวลาตดิ ตอ่ กนั ถงึ ร้อยปี
ผู้กราบไหว้ ออ่ นน้อมถอ่ มตวั
ตอ่ ผู้ใหญ่เป็ นนิจศีล
ย่อมเจริญด้วยคุณธรรมส่ปี ระการคอื
อายุ ช่ือเสยี ง สุข และกาลงั
ผู้เหน็ พระธรรมอันประเสริฐ
มชี ีวติ อยู่วนั เดยี ว
ประเสริฐกว่าชวี ติ ตงั้ ร้อยปี ของผู้ไม่เหน็
พงึ รบี เร่งกระทาความดี
และป้องกนั จติ จากความช่ัว
เพราะเมอื่ กระทาความดชี ้าไป
ใจจะกลับยินดใี นความช่ัว
ถา้ หากจะทาความดี
ก็ควรทาดบี อ่ ยๆ
ควรพอใจในการทาความดนี ั้น
เพราะการส่ังสมความดนี าสุขมาให้
เม่ือบาปยงั ไม่ส่งผล
คนช่ัวกเ็ หน็ ว่าเป็ นของดี
ต่อเมื่อมันเผล็ดผลเม่ือใด
เมื่อนั้นแหละเขาจงึ รู้พษิ สงของบาป
อยา่ ดถู ูกความช่ัวเลก็ น้อยวา่ จักไมส่ นองผล
นา้ ตกจากเวหาทลี ะหยาดๆ ยังเตม็ ตุม่ ได้
คนพาลทาความช่ัวทลี ะเล็กละน้อย
ยอ่ มเตม็ ด้วยความช่ัวไดเ้ ช่นกัน
อย่าดูถูกบุญเล็กน้อยวา่ จักไม่สนองผล
นา้ ตกจากเวหาทลี ะหยาดๆ ยังเตม็ ตุ่มได้
นักปราชญส์ ะสมบุญทลี ะเลก็ ละน้อย
ยอ่ มเตม็ ด้วยบญุ ได้เช่นกัน
เมือ่ มอื ไม่มแี ผล
บุคคลย่อมจบั ต้องยาพิษได้
ยาพษิ นั้นไม่สามารถทาอันตรายได้
บาปกไ็ ม่มีแกผ่ ู้ไม่ทาบาป
สตั วบ์ างพวกกลับมาเกดิ อีก
พวกทท่ี าบาป ไปนรก
พวกทท่ี าดี ไปสวรรค์
พวกทห่ี มดอาสวกเิ ลส ปรินิพพาน
ไมว่ า่ บนทอ้ งฟ้า
ไม่ว่าทา่ มกลางสมุทร
ไม่วา่ ในหุบเขา
ไม่มแี ม้แต่แหง่ เดยี ว
ทผี่ ู้ทากรรมช่ัวอาศัยอยู่
จะหนีพ้นกรรมไปได้
ไม่ว่าบนทอ้ งฟ้า
ไมว่ า่ ทา่ มกลางมหาสมุทร
ไมว่ ่าในหุบเขา
ไม่มีแม้สักแหง่ เดยี ว
ทค่ี นเราอาศัยอย่แู ล้ว
จะหนีพน้ ความตายได้
สัตวท์ งั้ หมดกลัวโทษทณั ฑ์
สัตวท์ งั้ หมดรักชีวติ ของตน
เปรยี บตนเองกบั คนอนื่ อย่างนีแ้ ลว้
ไม่ควรฆา่ เอง ไม่ควรส่ังใหค้ นอนื่ ฆา่
สัตวท์ งั้ หลายล้วนต้องการความสุข
ผู้ทต่ี ้องการความสุขแกต่ น
แตเ่ บยี ดเบยี นสัตวอ์ น่ื
ตายไปแล้วยอ่ มไม่ได้รับความสุข
ถา้ เธอทาตนใหเ้ งยี บเสียงได้
เหมือนฆอ้ งแตก
กน็ ับวา่ เธอเขา้ ถงึ นิพพานแล้ว
เธอกจ็ ะไมต่ ้องทะเลาะเบาะแว้งกับใครอีก
ความแกแ่ ละความตาย
ไล่ต้อนอายุสัตวท์ งั้ หลายไป
เหมอื นเดก็ เลีย้ งโค ถอื ทอ่ นไม้
คอยไล่ต้อนฝูงโคไปสู่ทหี่ ากนิ
ผู้หกั หา้ มใจไม่ทาช่ัวเพราะละอายบาป
หาไดน้ ้อยนักในโลกนี้
คนเช่นนีย้ อ่ มปลุกตวั เองจากหลับอยู่เสมอ
เหมือนม้าดี ระวังตัวเองใหพ้ ้นแส้
จะมัวร่าเริง สนุกสนานกนั ทาไม
ในเม่อื โลกกาลังลุกเป็ นไฟอย่เู นืองนิตย์
พวกเธอถูกความมืดมิดปิ ดบังตา
ไยไม่แสวงหาแสงสว่างกันเล่า
จงดูร่างกายทวี่ ่าสวยงามนีเ้ ถดิ
เตม็ ไปด้วยแผล สร้างขึน้ ดว้ ยกระดูก
มากดว้ ยโรค มากดว้ ยความครุ่นคิดปรารถนา
หาความย่งั ยนื ถาวรมิได้