The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

จากใจ ศ.ศิลาแลง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Lakkaew Channel, 2021-04-14 01:04:23

จากใจ ศ.ศิลาแลง

จากใจ ศ.ศิลาแลง

และส่ิงท่ีแปลกกว่านนั้ คอื ประชาชนตาดา ๆ ท่ไี ดเ้ หน็ ข่าวทีวแี ละอ่านในหนงั สือพมิ พต์ ่างก็คิดว่า
อาหารกระป๋ องผกั ดองเจ ของโรงงานนนี้ า่ จะลองชมิ ดู เพราะถา้ คา้ ขายไดร้ ่ารวยเงนิ ทองจนเจยี ดเงนิ มาช่วยคน
ประสบภยั แบบนีต้ อ้ งถือว่า ไม่ธรรมดา ดงั นนั้ รา้ นคา้ ต่าง ๆ หา้ งตา่ ง ๆ รวมทงั้ ลกู คา้ ใหญ่ ๆ
ในตา่ งประเทศ ตา่ งก็โทร ฯเขา้ มาขอส่งั ซอื้ ผกั ดองกระป๋ องของโรงงานแห่งนกี้ นั โกลาหล เรียกว่า รบั แต่ใบออ
เดอรท์ ่ีโทร ฯ ประดงั เขา้ มาก็จดกนั มอื นวิ้ ชาไปหมด โรงงานของสองพ่นี อ้ งจงึ ฟื้นคนื ชีพขนึ้ มาอย่างปาฏิหารยิ ์
และขายดิบขายดีตงั้ แต่บดั นนั้

6. ตรอกหกฟตุ

"ขจรศกั ด"ิ์

ในสมยั ราชวงศช์ ิงท่ีบา้ นเกดิ ของรฐั มนตรีจาง ถงิ อี้ แห่งเมอื งถงเฉิน มณฑลอานฮยุ ในระหว่างท่มี ีการ
ซอ่ มแซมกาแพงบา้ น เกิดมกี รณีพพิ าทเรื่องท่ีดนิ ทบั ซอ้ นกบั บา้ นขา้ งเคยี ง ตกลงกนั ไม่ไดว้ ่าท่ีดินท่ีโตเ้ ถียงกนั
เป็นของบา้ นใครกนั แน่

แมข่ องท่านรฐั มนตรจี ึงไดเ้ ขียนจดหมายถึงลกู ท่รี บั ราชการอยทู่ ่ีปักก่งิ อยากใหล้ กู ส่งั การใหข้ า้ ราชการทอ้ งถ่ิน
ออกมาจดั การเร่ืองนี้ หลงั ไดร้ บั จดหมายจากแมแ่ ลว้ ท่านรฐั มนตรีจึงไดต้ อบจดหมายถงึ แม่

ความว่า...

"จดหมายมาไกลเพยี งเพราะเรื่องกาแพง อยา่ ใจแข็ง ถอยสกั สามฟตุ จะเป็นไรกาแพงเมอื งจีนทกุ วนั นี้
ยงั ย่ิงใหญ่ แตไ่ ฉนจึงไรเ้ งาจ๋ินซีฮอ่ งเต"้

หลงั จากแม่ไดอ้ ่านจดหมายท่ลี กู สง่ มา จึงตดั สินใจยา้ ยแนวกาแพง ถอยห่างเขา้ มาสามฟตุ (หน่ึงฟตุ
ของจนี เท่ากบั เศษหน่งึ สว่ นสามเมตร)

คกู่ รณีตระกลู เอยี้ เม่ือเห็นว่าเหตกุ ารณก์ ลายเป็นเช่นนี้ เกิดความละอายใจขนึ้ มา กถ็ อยแนวกาแพงรวั้
ของบา้ นตนรน่ เขา้ ไปสามฟตุ เชน่ กนั ระหว่างบา้ นทงั้ สองจงึ กลายเป็นตรอกกวา้ งหกฟตุ ท่ผี ูค้ นใชส้ ญั จรได้
เหตกุ ารณด์ งั กลา่ วไดล้ ว่ งรูถ้ ึงจกั รพรรดิคงั ซใี นเวลาต่อมา พระองคท์ รงประทบั ใจในความเออื้ อาทร และการรูจ้ กั
มีความอะลมุ่ อลว่ ยต่อกนั อยากใหเ้ ป็นแบบอยา่ งท่ีดขี องประชาชนท่วั ไป

จึงทรงรบั ส่งั มีการสรา้ งหลกั จารกึ คาวา่ "เอือ้ อาทร" ไปประดิษฐานอยทู่ ่ีบรเิ วณปากตรอก จน
กลายเป็นท่มี าของ "ตรอกหกฟตุ " อนั โดง่ ดงั และกลายเป็นแหลง่ ท่องเท่ียวเชิงประวตั ิศาสตรอ์ ยทู่ ุกวนั นี้

สิง่ ท่บี า้ นของรฐั มนตรีจาง ถิง อี้ อาจจะหดหายไปบา้ ง คือท่ดี ินเลก็ นอ้ ยท่ีบรรพบรุ ุษทิง้ ไวใ้ ห้ แตส่ ่ิงท่ี
ไดม้ าคือ "ความสงบสขุ " ระหวา่ งเพ่อื นบา้ น และช่ือเสียงความเป็นแบบอยา่ งท่ีดที ่ลี ือไปไกลท่วั ปฐพี

ในชวี ิตของเรานนั้ ความเอือ้ อาทรเป็นพลงั ท่ีแข็งแกรง่ ไม่มีวนั สญู หาย เพ่อื นฝงู ท่ีรูจ้ กั มีความเอือ้ อาทร
ตอ่ กนั จะเป็นมิตรภาพท่ีย่งั ยืน สามีภรรยาท่ีรูจ้ กั อะลมุ่ อลว่ ยใหอ้ ภยั ต่อกนั จะอยู่ค่กู นั จนช่วั ฟา้ ดินสลาย

7. คาวิงวอนของแมแ่ พะ

สมยั โบราณมกั มีเรอื่ งราวแปลก ๆ ท่ีคนยคุ นีค้ ิดไม่ถงึ ว่าจะเป็นไปได้ อยา่ งเชน่ ชายท่ีช่ือ
ไป๋ กยุ เหนียน เลา่ กนั ว่าเขาไดร้ บั คมั ภีรว์ เิ ศษมาเลม่ หนึ่ง เม่ือศึกษาสาเรจ็ ทาใหส้ ามารถเขา้ ใจภาษาสตั ว์
ทงั้ หลายได้ ดงั นนั้ ผคู้ นจงึ เคารพนบั ถือเขาประดจุ ดงั เทพเซียน

วนั หนง่ึ ระหวา่ งท่ี ไป๋ กยุ เหนียน เดินทางผา่ นเม่ืองลู่ ท่านเจา้ เมืองไดย้ นิ กิตติศพั ท์ เร่ืองคณุ วิเศษของ
เขา จงึ เช่ือเชิญใหไ้ ปพกั ท่จี วน พรอ้ มทงั้ ตอ้ นรบั อยา่ งดีเลิศ

ขณะท่ีกาลงั สนทนากนั อยู่ มคี นงานไลต่ อ้ นแพะฝงู หน่งึ ไปไวท้ ่หี นา้ โรงครวั เพ่อื เตรียมจะฆ่าสาหรบั งาน
เลีย้ งอาหารค่า ทว่าในฝงู นนั้ มแี ม่แพะตวั หน่งึ อยรู่ งั้ ทา้ ย มนั หยดุ เดินแลว้ หันมารอ้ งพรอ้ มกบั ทาปากขมบุ ขมิบ

ท่านเจา้ เมอื งซ่งึ น่งั อย่ใู นหอ้ งรบั แขกสงั เกตเหน็ จงึ ไดก้ ระซิบถามไป๋ กุยเหนียนว่า
“ทา่ นเซียน..... รา่ ลือกนั ว่าท่านสามารถสื่อภาษาเขา้ ใจสตั ว์ เจา้ แพะตวั นนั้ พดู อะไรหรือ?”
ทา่ น ไป๋ กุยเหนียน จึงตอบว่า
“แพะตวั นนั้ พดู วิงวอนวา่ ในทอ้ งของเธอมีลกู นอ้ ยอยู่ ขอใหท้ ่านเจา้ เมืองเมตตารอจนเธอคลอดลกู
แลว้ เม่อื นนั้ เธอก็ยินดีตายโดยจะไม่ขออะไรอีก !”
ทา่ นเจา้ เมอื งไดฟ้ ังเช่นนนั้ ก็รูส้ กึ สงสาร จงึ ส่งั ใหเ้ ลีย้ งแม่แพะตวั นไี้ วก้ ่อน ไม่นานต่อมามนั กใ็ หก้ าเนดิ
ลกู แพะ 2 ตวั พอโตขนึ้ สกั นดั พวกมนั ทงั้ กระโดดโลดเตน้ และวงิ่ เลน่ อย่ขู า้ ง ๆ แม่อยา่ งนา่ รกั น่าชงั ทีเดียว
นบั แต่นนั้ เป็นตน้ มา ทา่ นเจา้ เมอื งจงึ มีบญั ชาส่งั การ หา้ มมิใหม้ กี ารฆ่าแพะอกี ต่อไป ดว้ ยอานิสงส์
แหง่ ความมีเมตตาจิต ละเวน้ ชวี ิตสตั ว์ ท่านเจา้ เมืองลจู่ ึงมสี ขุ ภาพพลานามยั ท่แี ข็งแรงและอายยุ ืนถึง 90 ปี
วา่ กนั ว่า คนสมยั โบราณท่ีสามารถเขา้ ใจภาษาและพดู คยุ กบั สตั วไ์ ด้ มีอย่มู ากมายไมใ่ ช่แค่เฉพาะท่าน
ไป๋ กยุ เหนียน เท่านนั้ เร่ืองราวเช่นนี้ ดจู ะลีล้ บั อศั จรรยย์ ากจะเช่ือ แตห่ ากจะคิดพิจารณาใหถ้ ่ีถว้ น คนเราก็

คอื หน่ึงในจานวนสตั วโ์ ลกทงั้ หลาย แลว้ สตั วอ์ ่นื ๆ อีกมากมายหลายหม่ืนหลายแสนชนดิ จะไม่มภี าษา
พดู คยุ กนั เลยหรือ?

ถงึ เวลานพี้ วกเราจะไม่มคี มั ภีรว์ เิ ศษใหเ้ รียน ขอแต่เพียงเอาใจของตวั เองออกมาคิดถึงใจของสตั ว์ เชน่
น.ี้ ..... ความปรารถนา ....... ความรูส้ กึ ของสตั วท์ งั้ หลาย ก็ไม่ใชเ่ ร่อื งยากท่จี ะรูไ้ ด้ !

7. ร้อยรู้หรอื จะสหู้ น่ึงทา

1. ร้อยรู้หรือจะสู้หนึ่งทา

เคยมคี ากลา่ วท่วี า่ คิดแลว้ ไม่ทามนั กไ็ ม่เกิดประโยชน์ แตถ่ า้ ทาโดยไม่คิดมนั ก็อนั ตราย คนบาง
คนมีความรูค้ วามสามารถมากแต่ขาดประสบการณใ์ นการลงมือทางานจรงิ จงึ ไมค่ ่อยท่จี ะประสบความสาเรจ็
เทา่ ท่คี วร ดงั ภาษิตไทยเราท่ีวา่ “ความรูท้ ่วมหวั แตเ่ อาตวั ไมร่ อด” การลงมือทาจรงิ จะทาใหท้ ราบขอ้ ผิดพลาด
ขอ้ แกไ้ ขต่าง ๆ เป็นบทเรยี นท่ไี ดจ้ ากของจรงิ ไมใ่ ช่ไดจ้ ากหอ้ งเรยี นหรือตารา การเรียนในหอ้ งเรียนเปรยี บเสมือน
เราไดอ้ าวธุ คือปัญญา ท่มี ีความเฉียบคมแต่เราตอ้ งนาอาวธุ นนั้ มาใชก้ บั ชวี ิตจรงิ ก็คือ นาความรูท้ ่ไี ดม้ า
ประยกุ ตใ์ ชก้ บั การดาเนินชีวิตจรงิ น่นั เอง มภี าษิตจนี กลา่ วเอาไวว้ า่ “รอ้ ยรูห้ รือจะสหู้ น่ึงทา” น่นั คือ คนจนี เขาให้
ความสาคญั กบั การลงมือทาจรงิ อย่างเชน่ นิทาน เร่ืองดอกเตอรท์ างทะเล

ด๊อกเตอร์ ทางทะเล

มีด๊อกเตอร์ ซ่งึ จบมาทางทะเลวิทยา โดยเฉพาะเป็นผูท้ ่ีมีความรูเ้ กี่ยวกบั ทอ้ งทะเลและมหาสมุทร
เป็นอย่างมาก วันหน่ึงด๊อกเตอรไ์ ดอ้ าศัยเรือชาวประมงซ่ึงจะ เดินทางไปยังเกาะแห่งหนึ่ง ระหว่างท่ีเรือว่ิงอยู่
กลางทะเลนนั้ ท่านด๊อกเตอรก์ ็ไดค้ ุยฟุ้งถึงเร่ืองราวของทะเลและมหาสมุทรว่ามีสตั วน์ า้ อะไรบา้ ง และมนั ผสม
พนั ธุก์ นั แลว้ จะวางไข่ท่ีไหนในระหว่างสนทนากบั ชาวประมง ด๊อกเตอรก์ ็ไดถ้ ามชาวประมงตลอด เวลาวา่ รูเ้ รื่อง
ไหม ชาวประมงตอบว่า ไม่รูเ้ รื่องอะไรเลย ท่ีท่านด๊อกเตอรเ์ ล่ามา รูอ้ ย่อู ย่างเดียวว่า จะจบั ปลาอย่างไรว่ายนา้
ในทะเลไดอ้ ย่างไร ทาใหด้ ๊อกเตอรท์ างทะเลหวั เราะเยาะตลอดเวลา ในขณะท่ีเรือว่งิ มาไดค้ รง่ึ ทางเกดิ มีพายพุ ดั
จนทาใหเ้ รือ ประมงล่มกลางทะเล ผลปรากฏว่าชาวประมงรอดตายว่ายนา้ เขา้ หาฝ่ังได้ แต่ด๊อกเตอรท์ ่ีคยุ โว
เรื่องราวทะเลรูห้ มดทกุ อยา่ ง จมนา้ ตายอย่างอนาถ

บางคนมีความรูใ้ นตารา เท่ียวได้คุยโม้โออ้ วดว่าจบโน่น จบน่ี พอทางานเข้าจริงๆ กลับไม่ประสบ
ความสาเรจ็ เพราะความรูใ้ นหอ้ งเรียน เปรียบเหมือนเครื่องมือในการทางานเท่านนั้ ความสาเร็จจะเกิดต่อเม่ือ
นาขอ้ มูลหรือความรูท้ ่ีมีอยู่นาไปใชอ้ ย่างถูกหลกั การ ถูกจงั หวะจึงจะทาใหเ้ กิดเป็นผลงานขึน้ มาได้ มิฉะนั้น
แลว้ กจ็ ะกลายเป็นวา่ มีความรูท้ ่วมหวั แต่เอาตวั ไมร่ อด คอื ไม่รูจ้ กั นาความรูม้ าใชใ้ หเ้ ป็นประโยชนน์ ่นั เอง

2. ไฟดบั อย่าลุกขนึ้ วิง่

ไฟดบั อย่างลกุ ขนึ้ วิ่ง เป็นธรรมชาตอิ ย่างหน่ึง ในขณะท่มี แี สงสวา่ งอย่แู ลว้ ก็ดบั ไปเฉย ๆ ถา้ เราวิ่งเราก็
จะชนสง่ิ ของท่ีวางอยู่ เพราะสายตายงั ไม่สามารถปรบั เขา้ กบั สถานท่ีมดื ได้ แต่เม่อื เรารอจงั หวะสกั ระยะหน่ึง
ปลอ่ ยใหเ้ วลาผา่ นไป สายตากจ็ ะปรบั เขา้ ไดก้ บั ความมืด เม่ือนนั้ เรากส็ ามารถเคล่ือนไหวไดอ้ ย่างสะดวกและ
ปลอดภยั

ภาษิตนเี้ ป็นการสอนคนท่พี บกบั อปุ สรรคแบบกะทนั หนั ตงั้ ตวั ไมท่ นั ก็อยา่ งเพ่ิงว่วู าม ใชอ้ ารมณ์ หรือ
หนุ่ หนั พลนั แลน่ จะเสียการ ตอ้ งใจเยน็ ๆ ไวก้ อ่ นปลอ่ ยใหก้ าลเวลามนั ผ่านไปสกั ระยะหนง่ึ แลว้ ค่อยดาเนินการ
คิดหาทางออก ใชป้ ัญญาแกไ้ ขปัญหานนั้ ต่อไป

ความเพยี รของมหาชนก
ชาดกเรื่องมหาชนก นบั เป็นหนึ่งในสบิ เรื่องของการบาเพ็ญบารมขี องพระพทุ ธเจา้ จากอดีต ท่ผี า่ นมา

เรามกั จะคนุ้ เคยกบั เรื่องพระเวสสนั ดร ซ่งึ เป็นเร่ืองสดุ ทา้ ย ของทศชาติ จะใหข้ อ้ คิดเก่ียวกบั เร่ืองของการ
บรจิ าคทานเป็นสว่ นใหญ่ สาหรบั เรื่องมหาชนกนัน้ ก็เป็นชาดกท่เี นน้ ในเรื่องของความ เพยี รพยายาม ของ
มหาชนกในขณะท่ีเรือแตกอปั ปางกลางทะเลและไม่คิดย่อทอ้ ตงั้ สติ อย่างดี ในกรณีนมี้ ีขอ้ คิดหลายประเด็น
ดว้ ยกนั ประการแรก การตงั้ สติ มหาชนกนบั ว่ามีสติ ดีกว่าลกู เรือทงั้ หลาย ท่พี อมีเหตกุ ารณ์ ก็พากนั ต่ืนเตน้
ตกใจ ไม่คิดจะช่วยตวั เอง จงึ พากนั วงิ วอนเทวดาต่างๆใหช้ ว่ ย ตรงนีต้ รงกบั ภาษิตจนี ท่ีว่า " ไฟดบั อยา่ ลุกขึน้
วงิ่ " รอใหส้ ายตาปรบั เขา้ กบั ความมืดก่อนแลว้ ค่อยคิดแกไ้ ขตอ่ ไป ประการทสี่ อง การพ่งึ ตนเอง มหาชนกเรม่ิ
เตรยี มการพ่งึ ตนเองตงั้ แตแ่ รกเลย คือเตรยี มการกนิ นา้ ตาลกรวดใหอ้ ิ่มทอ้ ง หาผา้ มาพนั ตวั เอานา้ มนั ทาตวั
เพ่อื ใหพ้ น้ อนั ตรายจากพวกปลายกั ษ์ ทงั้ หลายแลว้ ปีนขนึ้ ไปบนเสากระโดงเรือเพ่อื กาหนดทิศทางเมืองมถิ ลิ า
แลว้ ดีดตวั เองไปไดไ้ กลพอท่ีจะหนีพวกปลากินคนไดน้ ่นั เอง สว่ นพวกลูกเรอื ท่เี หลือท่ขี อพ่งึ เทวดากเ็ ป็นอนั จมลง
ทะเลทงั้ หมด
ประการทส่ี าม ความเพียร มหาชนกหลงั จากพน้ ภยั จากพวกปลายกั ษ์มาแลว้ กใ็ ชค้ วามเพียรพยายาม ว่าย
นา้ มาถงึ ๗ วนั จึงมาพบกบั นางมณีเมขลาแลว้ เกิดโตต้ อบกนั ขนึ้ " บุคคลเม่ือกระทาความเพยี ร แมจ้ ะตาย
กเ็ ช่อื วา่ ไมเ่ ป็ นหนีร้ ะหว่างหมู่ญาติ เทวดาและบดิ ามารดา อน่ึง บุคคล เมอื่ ทากิจอยา่ งลกู ผู้ชาย ย่อม
ไม่เดือดร้อนในภายหลัง " จนนางมณีเมขลาเห็นว่าพระมหาชนกมคี วามเพียรพยายามท่ีแนว่ แน่เชน่ นนั้ จึง
ยอมอมุ้ มหาชนกไปขนึ้ บกท่เี มืองมิถลิ าตามตอ้ งการ

3. เหลา้ ไมเ่ ตม็ ถัง เขย่าเสยี งดังนัก

ส่ิงใดเต็ม สิ่งนนั้ เงยี บ สิ่งใดพรอ่ งส่ิงนนั้ จะเสียงดงั คนท่มี ีความรูค้ วามสามารถจะพดู นอ้ ย ออ่ นนอ้ ม
ถอ่ มตน อารมณด์ ี คนท่มี ีความรูน้ อ้ ยดอ้ ยปัญญา ชอบคยุ โมโ้ ออ้ วด ลกั ษณะแข็งกระดา้ ง พดู จากา้ วรา้ ว
สามหาว พวกนจี้ งึ ไมค่ ่อยเจริญกา้ วหนา้ ท่แี ทจ้ รงิ

บัณฑิตสามคนพีน่ ้องสอบจอหงวน
แต่กอ่ นมีบณั ฑิตสามคนพ่นี อ้ ง พวกเขาตงั้ ใจวา่ จะไปสอบจอหงวน ดงั นนั้ จงึ มมุ านะศกึ ษาเลา่ เรียนหวงั

ว่าจะตอ้ งสอบใหไ้ ด้ ปีนีต้ รงกับปีมะโรง เมืองหลวงเปิดรบั สมัครสอบจอหงวนเพ่ือสอบคัดเลือกแข่งขันกับ
บณั ฑิตอ่นื ๆ ท่วั ประเทศเน่อื งจากพวกเขาเรง่ เดินทางเกรงจะไปไม่ทนั กาหนดเวลาจึงเดินทางจนมดื ค่า โดยไม่ได้
คานึงถงึ โรงเตยี้ มท่ีพกั แรม ครน้ั เหน็ ตะวนั ใกลจ้ ะลบั ฟ้า หม่บู า้ นแถบนกี้ ็ไม่มีโรงเตยี้ มเลยสกั แห่งเดียว จึงตอ้ งไป
ขออาศยั พกั แรมยงั โรงกล่นั แหลา้ แห่งหนึ่ง

เถา้ แก่เจา้ ของโรงกล่นั เหลา้ เป็นชายชราผมขาวโพลนไปทงั้ ศีรษะแลว้ พอเจา้ ใหญ่เห็นเถา้ แก่เจา้ ของ
รา้ นเขา้ กร็ ีบโคง้ คานบั อย่างนอบนอ้ ม เจา้ รองเพียงแต่โคง้ ตวั พองามตามมารยาทท่วั ไป สว่ นเจา้ เล็กกลบั ยืนท่ือ
เป็นตอไม้ ไมท่ กั ไม่ทายแมส้ กั คาเดียว ชายชราเจา้ ของรา้ นดีใจมาก รีบรอ้ งเชญิ ว่า

“ทา่ นบณั ฑติ อตุ สา่ หด์ นั้ ดน้ มาถึงท่ีน่นี บั เป็นเกียรตขิ องขา้ จริงๆ ขอเชญิ เขา้ มาพกั ผ่อนในบา้ นเถิด”
ตกกลางคืน ชายชรานาเหลา้ มาบรกิ ารสามพ่ีนอ้ ง หลงั จากรบั ประทานอาหารและด่ืมเหล้าจนอ่ิมหนา
สาราญแลว้ เจา้ เล็กอดรนทนไมไ่ หว จงึ พดู ขนึ้ ว่า
“ทา่ นลงุ เราสามพ่ีนอ้ งกาลงั เดินทางไปสอบจอหงวนท่เี มืองหลาว ท่านเห็นวา่ ใครแววดี นา่ จะสอบได้ “
ชายชราลบู เคราสีเงินยวงของตนพลางหวั เราะหึๆ กล่าวว่า “เม่ือท่านเอย่ ปากถามความเห็นจากขา้ ขา้
ก็ขอพดู ตรงๆ ละนะ ปีนีเ้ จา้ ใหญ่สอบได้ ปีหนา้ เจา้ รองสอบได้ สว่ นเจา้ เลก็ ทา่ น…”
“ขา้ ? ทาไมหรือ?”
“เหน็ ทีจะไมม่ ีโอกาสสอบได”้
เจ้าเลก็ ได้ยินดงั น้ัน ก็รู้สกึ ไม่สบายใจมาก คืนนั้นเขานอนไม่หลบั ทัง้ คืน
รุง่ เชา้ พวกเขาทงั้ สามกร็ า่ ลาเถา้ แก่เจา้ ของรา้ น แลว้ ออกเดนิ ทาง
ตอ่ ไป ระหว่างทาง เจา้ รองพดู ขนึ้ ว่า
“พ่ใี หญ่ ตามคาทานายของทา่ นลงุ คนนนั้ ปีนพี้ ่คี งจะไดเ้ ป็นใหญ่
เป็นโตแลว้ ”

ทงั้ สามเรง่ เดินทางดว้ ยความรบี รอ้ น ไม่นานนกั กม็ าถงึ เมอื งหลวง
และเขา้ สอบคดั เลือกแลว้ ผลการสอบปรากฏวา่ เจา้ ใหญ่สอบไดท้ ่ี 1 ไดเ้ ป็นจอหงวนจรงิ ๆ

ปีท่สี อง เจา้ รองกส็ อบไดจ้ อหงวนตามคาทานายของชายชราเจา้
ของโรงกล่นั เหลา้

เหลอื เจา้ เล็กเพียงคนเดยี ว สอบก่ีปีกี่ครง้ั กส็ อบไม่ตดิ สกั ที เจา้ เลก็
รูส้ ึกกลดั กลมุ้ และสงสยั มากหรือว่า ชายชราคนนนั้ เป็นเทวดา เม่ือคิดเช่นนีแ้ ลว้ เจา้ เล็กจึงคิดว่าควรจะไปขอ
คาแนะนาจากชายชราดกี ว่า

วนั นนั้ เขารีบเดินทางมายงั โรงกล่นั เหลา้ ของชายชราเม่ือไดพ้ บชาย
ชราแลว้ เขารูส้ กึ แปลกใจท่ชี ายผูน้ นั้ ยงั คงเหมือนเดิมทกุ อย่าง ดหู นา้ ตาทา่ ทางของเขายงั คงเปลง่ ปล่งั ไมแ่ กท่ รุด
โทรมลงเลย ใบหนา้ ของเขาอ่ิมเอิบดว้ ยประกายเลือดฝาด ท่าทางกระตือรือรน้ ชอบรบั แขกเหมือนเม่ือหลายปี
ก่อน เจา้ เล็กจึงปักใจเช่ือว่าชายชราผูน้ ีต้ อ้ งเป็นเทวดาแน่แลว้ เขาบอกเจตนาในการมาเย่ียมคานับครงั้ นีอ้ ย่าง
แจ่มชดั ชายชราไดย้ นิ ดงั นนั้ ก็หวั เราะก๊ากๆ แลว้ กลา่ วว่า

“ไอห้ นู ขา้ ไมใ่ ชเ่ ทวดาท่ีไหนดอก เจา้ ลองคดิ ดสู ิ ถา้ ขา้ เป็นเทวดา
จรงิ ๆ ทาไมขา้ ตอ้ งลงไมล้ งมอื กล่นั เหลา้ เองใหเ้ หน่อื ยยากแสนเข็ญเช่นนเี้ ลา่ ”

“ถา้ เชน่ นนั้ ทาไมคาทานายของทา่ นจึงแม่นยานกั ละครบั ”
“ออ๋ ขา้ เพียงแตท่ านายพวกเจา้ โดยอาศยั ประสพการณช์ วี ิตของขา้
เขา้ ช่วยเท่านนั้ เอง บณั ฑิตท่ีจะไปสอบจอหงวนน่ะตอ้ งเป็นผทู้ ่ีมีความรู้ ผทู้ ่ีมีความรูต้ อ้ งเป็นคนมีมารยาท อีก
อย่างหนึ่ง ขา้ ตอ้ งตรวจดถู งั เหลา้ เต็ม มนั จะไม่มีเสียงดัง เหลา้ ถงั ไหนใส่เหลา้ เกือบเต็ม มนั จะมีเสียงดงั แต่ไม่
ดงั มากนกั แต่ถา้ เหลา้ ถงั ไหนใสเ่ หลา้ ไมถ่ งึ ครง่ึ ถงั มนั มกั จะสง่ เสียงดงั ราวกบั กลวั คนอ่นื จะไม่รูอ้ ย่างนนั้ แหละ”
เจา้ เล็กไดย้ นิ ดงั นีแ้ ลว้ เขารูส้ กึ อบั อายเหลอื เกิน รีบอาลาชายชรา
กลบั บา้ นไป จากนนั้ เป็นตน้ มาเขาก็มมุ านะศึกษาเล่าเรียนอย่างขยนั หม่นั เพียร และถ่อมตัวมาก เขาพยายาม
แกไ้ ขโรค “เหลา้ ไม่เต็มขวด ชอบอวดใครๆ” ของเขาอยา่ งจรงิ จงั ไม่นานต่อมา เขากส็ อบจอหงวนไดเ้ ช่นเดยี วกนั

4. ทางไกลจึงได้รู้กาลงั มา้ นานเวลาจงึ ประจกั ษจ์ ติ ใจคน

ภาษิตนีค้ ลา้ ยกบั ของไทยท่วี ่า “ระยะ ทางพิสจู นฝ์ ีเทา้ มา้ ระยะเวลาพสิ ูจนค์ น” กลา่ วคือ มา้ จะรูว้ า่
มนั มีกาลงั ขนาดไหน ตอ้ งดหู นทางท่วี ่งิ ไป สว่ นคนเรานนั้ ก็ตอ้ งใชเ้ วลาเป็นเคร่ืองพิสจู น์ คนเราพบกนั ใหม่ ๆ
พดู คยุ ทางานดว้ ยกนั เร่มิ แรกอาจดดู ี แต่พอเวลาผา่ นไป ความจรงิ ก็เรม่ิ ปรากฏว่าเขาดีจรงิ หรอื เปลา่ เพราะ
การโกหกช่วั ครูช่วั ยามอาจทาได้ แต่หากเวลาอนั ยาวนานกย็ ากท่จี ะโกหกหลอกลวงต่อไปได้ ไมว่ า่ ความรู้
ความประพฤติ ความดี ทงั้ หลายตอ้ งใชก้ าลเวลาเป็นเคร่ืองพสิ จู นท์ งั้ นนั้

ดีแท้ คอื ไมอ่ ยากได้

หู ซู่ เป็นบคุ คลผมู้ ีชีวิตอยใู่ นรชั สมยั ราชวงศซ์ ่ง แตไ่ หนแตไ่ รมาเขาเป็นคนท่ซี ื่อสตั ย์สจุ รติ และเหนอื

สิ่งอ่นื ใดเขาเฝา้ ดแู ลปรนนิบตั แิ มด่ ว้ ยความกตญั ญกู ตเวทีย่งิ

ตงั้ แต่ตอนท่เี ป็นวยั รุน่ หซู ู่ ใหค้ วามเคารพนบั ถือพระภกิ ษุสงฆร์ ูปหนง่ึ อีกทงั้ ยงั ปวารณาตนเป็นโยม

อปุ ฐากคอยอนเุ คราะหช์ ว่ ยเหลือท่านเสมอมา เป็นท่รี ูจ้ กั กนั ดีวา่ หลวงจีนทา่ นนมี้ ีวิชาท่ีเรน้ ลบั แปลกปละหลาด

มากมาย

ต่อมา หลวงจีนทา่ นนไี้ ดอ้ าพาธดว้ ยโรคชรา ครง้ั สดุ ทา้ ยท่หี ซู ู่ มาเย่ียม ขณะท่ีใกลจ้ ะมรณะภาพท่าน

ไดเ้ อามือของหซู มู่ ากมุ ไวพ้ รอ้ มกบั กลา่ วว่า

“คุณโยมหูซ…ู่ …..สังขารอันน่าเน่าเหมน็ หมดสภาพเช่นนีค้ งต้องรบกวนคณุ โยมเป็ นธุระ

จดั การให้อกี แลว้ ตลอดหลายสบิ ปี มานีค้ ณุ โยมคอยอปุ ฐากดแู ลด้วยดเี สมอมา อาตมภาพกไ็ มม่ ี

อะไรจะตอบแทนความมนี ้าใจของคุณโยม นอกเสยี จากจะถา่ ยทอดวชิ าแปรธาตุหนิ ใหเ้ ป็ นทองแก่

คุณโยมก็แล้วกนั นะ”

หซู ู่ กราบเรียนหลวงจนี ไปว่า

“เร่อื งงานฌาปณกิจ……ขอพระคุณเจ้าอยา่ ได้เป็ นห่วงไปเลย กระผมจะรับเอาเป็ นธุระ

จัดการใหท้ ัง้ หมด แต่สาหรับวิชาเปลย่ี นหนิ ให้เป็ นทองทพ่ี ระคุณเจ้าเมตตาจะถ่ายทอดใหน้ ั้น

กระผมคงไม่กล้ารับไวด้ อกขอรับ”

หลวงจีนผชู้ ราถอนหายใจยาว พรอ้ มกบั กล่าววา่

“เฮอ้ …..ตลอดเวลาทผี่ ่านมา ศรัทธาญาติโยมลูกศิษลูกหาต่างร่าร้องรบเร้าอยากไดว้ ชิ านีก้ ัน

ทงั้ นั้น นี่แหละหนาทเี่ ขาวา่ คนไร้คณุ สมบตั ิ หวงั แต่จะไดอ้ ยรู่ ่าไป แตผ่ ู้เปี่ ยมไปดว้ ยคุณสมบตั ิ กลบั

ไม่เคยแมแ้ ต่จะหวัง”

และแลว้ หลวงจีนพระภิกษุผมู้ วี ชิ าลา้ เลศิ ก็มรณะภาพ! หซู ูไ่ ดจ้ ดั การงานฌาปนกจิ ใหท้ ่านอยา่ ง
เรียบรอ้ ยสมบรู ณ์

ต่อมาเขาไดไ้ ปดารงตาแหนง่ ผูต้ รวจการแห่งเมอื ง หยางโจว ชว่ งเวลานนั้ เกดิ อทุ กภยั ใหญ่ บา้ นเมอื ง
ถกู นา้ ท่วมเสียหายหมดท่านไดร้ ะดมทงั้ เรอื หลวงและเรอื สว่ นตวั ออกไปชว่ ยเหลอื ทนั ที ทาใหร้ าษฎรหลายพนั
ชีวิตรอดตาย

เม่อื หมดวาระ ท่านหซู ูไ่ ดย้ า้ ยไปรบั ตาแหนง่ ขา้ หลวงใหญ่แห่งหโู จว ท่นี ่นั ท่านไดส้ ารา้ งอา่ งเก็บนา้ ดว้ ย
หนิ เพ่อื ป้องกนั นา้ ทว่ มและยงั นานา้ ท่เี ก็บกกั ไวไ้ ปใชใ้ นการเกษตร ประชาชนชาวเมอื งทงั้ หลายรูส้ กึ สานกึ ใน
พระคณุ ของทา่ น ถงึ กบั สรา้ ง “หอระลึกคณุ ” เพ่อื เป็นเกียรติ

ท่าน หซู ู่ ปฏิบตั หิ นา้ ท่รี าชการเรอ่ื ยมา จนตาแหนง่ สงู สดุ ของทา่ น คือ “ราชครู” พระอาจารยถ์ วาย
งานการศกึ ษาแกพ่ ระราชโอรสฮ่องเต้ แต่แมจ้ ะอย่ใู นตาแหน่งท่ีสงู ศกั ดิ์ เพียบพรอ้ มดว้ ยยศถาบารมี ถงึ
กระนนั้ แลว้ ไม่วา่ จะเป็นเสือ้ ผา้ และของใช้ ตลอดจนท่พี กั อาศยั ของท่านก็ยังคงเป็นเหมอื นอย่างประชาชน
ธรรมดาท่วั ไป น่ีย่อมบ่งบอกถึงจิตใจของผมู้ ีความสมถะอย่างแทจ้ รงิ

ยามหน่มุ ……แมว้ ชิ าเสกหินใหเ้ ป็นทองกไ็ มข่ อรบั จิตใจของเขาทา่ นหซู ู่เหนอื คนธรรมดาจรงิ ๆ ลกู
ชายของทา่ น จงเย่ยี น ตลอดจนถึงหลาน “จงอวีแ้ ละจงหุย” กย็ ดึ ถือความสมถะไมเ่ ห็นแก่ได้ ทกุ คนลว้ น
มงุ่ ม่นั สรา้ งสรรคส์ งั คม หนนุ สง่ ใตห้ ลา้ รว่ มใจเจรญิ ปณิธานบรรพชนใหส้ าเรจ็ สมบรู ณ์

5. จนแตไ่ ม่เคยคดโกงใคร สุขใจเสมอ
รวยเพราะโกงกนิ ทกุ ขใ์ จเสมอ

ภาษิตนีต้ รงกบั ภาษิตของไทยวา่ “ซื่อกนิ ไมห่ มด คดกินไม่นาน” คนซ่ือสตั ยส์ จุ ริตมีชีวติ ท่เี รียบงา่ ย
แมไ้ ม่ร่ารวยกม็ ีความสขุ ไมไ่ ดไ้ ปก่อกรรมทาเขญ็ กับใคร ใจจึงสขุ อย่เู สมอ สว่ นคนท่ีคดโกงเขามา ต่อใหร้ วย
ลน้ ฟ้า แต่จิตใจของเขา ไม่ไดม้ คี วามสขุ เทา่ ไรนกั เพราะเขายอ่ มรูอ้ ยแู่ ก่ใจตนเองว่าเขาทาอะไรลงไป

ขนมปังเลอื ด

ในสมยั ของกรู ูนานคั ซาฮิบ ในเมืองอมั มาบดั มีชายผกู้ าเนิดในตระกลู ขุนนางอนั ม่งั ค่งั มีนามว่า มาลิค
บาโก เขาเป็นมหาอามาตยข์ องผวู้ ่าการรฐั ปาทานแลดงั นนั้ เขาจงึ เป็นคนท่มี ีอานาจราชศกั ดิใ์ หญ่โตยงิ่ นกั

เร่ืองมีอย่วู ่าครนั้ ถึงวนั ครบรอบอสัญกรรมแห่งบิดาของมาลิค บาโก เขาตระเตรียมงานเลีย้ งหรูหราแล
เชิญบรรดานกั บวชแลผทู้ รงศลี ทงั้ หมดทงั้ ใกลแ้ ละไกลมารว่ ม เขาเช่ือว่าจกั ไดบ้ ญุ หนกั จากการกระทาเชน่ นี้

ขณะเดียวกนั ท่มี ีงานเลีย้ งจดั ขนึ้ ท่คี ฤหาสนข์ องมาลิค บาโก กรู ูนานคั ไดม้ าเยือนเมืองอมั มาบดั แลแวะ
รบั อาหารจากบา้ นของชายช่างไมผ้ ูย้ ากไรน้ ามว่า ไบ ลาโล ดว้ ยช่างไมเ้ ป็นสาวกของท่านกูรู ลาโลจึงตอ้ นรบั
ท่านกรู ูดว้ ยความอ่อนนอ้ มถอ่ มตนแลความเคารพนบั ถือเป็นท่ิยงิ่

ขา่ วท่ีว่าท่านนกั บุญมาพานกั อย่ทู ่ีบา้ นของลาโลรูไ้ ปถึงหูของมาลิค บาโก เขาเรง่ ส่งคนรบั ใชใ้ หม้ าเชิญ
ท่านกรู ูพรอ้ มดว้ ยเหลา่ ผตู้ ิดตาม แต่ทวา่ กรู ูนานคั ปฏิเสธคาเชือ้ เชิญของมหาอามาตย์ บาโกเช่ือว่างานเลีย้ งของ
เขาจะไม่มีวันสมบูรณ์หากท่านนักบุญมิมาเยือน ดังนัน้ เขาจึงส่งคนรบั ใชม้ าเชือ้ เชิญท่านกูรูครง้ั แลว้ ครง้ั เล่า
จนกระท่งั ในท่สี ดุ ท่านกูรูยอมไปเยือนคฤหาสนข์ องเขา แล ไบ ลาโล ผซู้ ่งึ ไม่อยากอย่หู ่างจากท่านกูรูจึงตามติด
ไป
“เหตใุ ดทา่ นจงึ ไมม่ ารว่ มงานเลยี้ งภตั ตาหาร สาหรบั นกั บวชท่คี ฤหาสนข์ องขา้ เลา่ ” มาลิคถามกรู ูนานคั
“โปรดไปนาอาหารมาเถดิ แลว้ ขา้ จะรบั เด๋ยี วนี”้ กรู ูตอบ แลว้ ท่านกูรูหนั ไปเห็นลาโลยนื อย่เู บอื้ งหลงั จึงแนะว่าให้
เขานาอาหารจากบา้ นมาดว้ ย ดงั นนั้ ลาโลจึงเรง่ กลบั บา้ นสกั ประเด๋ียวก็กลบั มาพรอ้ มกบั ขนมปังเนือ้ หยาบ ใน
เวลานนั้ ผูค้ นต่างพากนั เขา้ มารายลอ้ มท่านกูรู ท่านหยิบขนมปังแหง้ ของลาโลขึน้ มาไวใ้ นมือหนึ่งแลมืออีกขา้ ง
หน่ึงกาขนมปังของบาโกแลว้ จึงบีบขนมปังในแต่ละมือพรอ้ มกนั ในมือของท่านกูรูท่ีบีบขนมปังลาโลนนั้ เกิดมี
นา้ นมไหลออกมาสว่ นในมอื ท่บี ีบขนมปังของบาโกนนั้ กลบั มหี ยดเลือดไหลออกมา

“ทีนเี้ จา้ เขา้ ใจแลว้ วา่ ทาไมขา้ จงึ ปฏเิ สธไมร่ บั อาหารจากเจา้ ” ทา่ นกรู ูกลา่ วกบั มาลิค บาโก
“อาหารของเจ้าเปื้ อนไปด้วยโลหิตของคนจน แต่ทว่าของลาโลอาหารท่ีบ้านเขาบริสุทธิ์เน่ือง
ดว้ ยเขาหามันมาดว้ ยน้าพักนา้ แรงของเขาเอง”

6. การพจิ ารณา เป็ นบดิ าหรือมารดา ของความเฉลยี วฉลาด

คนเรานนั้ แมจ้ ะมคี วามรูค้ วามสามารถขนาดไหน กแ็ ลว้ แต่ หากขาดการพินจิ พจิ ารณา กย็ งั ถือว่ายงั ไม่
ฉลาดนกั การพินิจพิจารณา ถือว่าเป็นปัจจยั อนั สาคญั ท่ที าใหภ้ ารกจิ น้อยใหญ่ในโลกนปี้ ระสบความสาเรจ็ ไป
ไดด้ ว้ ยดี

ผ้ใู จบญุ
กาลครง้ั หนึ่งนนั้ ผจู้ ารกิ แสวงบญุ ผหู้ นึ่งเดินผ่านคกุ เห็นสภาพความเป็นอย่ขู องนกั โทษน่าอนาถใจจึง

เกิดเวทนา เขาเห็นว่านกั โทษเหลา่ นนั้ ไมม่ นี า้ หวานเยน็ ช่ืนใจไวด้ ่มื จงึ บรจิ าคนา้ แขง็ และนา้ ตาลแก่เหลา่ นกั โทษ
ทาใหพ้ วกเขาอย่สู บายขึน้ และเป็นสขุ ยิง่ นกั

ต่อมาชายวรรณะสงู ผูห้ น่ึงผ่านมา และไดเ้ ห็นว่าเหล่านักโทษกินแต่จมกู ขา้ วหยาบๆ และอาหารเหลว
เขาจงึ จดั หาอาหารรสชาติโอชะมาใหเ้ หลา่ นกั โทษเป็นประจา สิง่ นกี้ ท็ าใหพ้ วกเขาเป็นสขุ ย่ิงนกั

แลว้ ชายผกู้ รุณาคนท่ีสามผ่านมา เม่ือเขาเห็นเหลา่ นกั โทษใสเ่ สือ้ ผา้ ท่ีแสนสกปรกเขาจึงตดั เสือ้ ใหม่ให้
บรรดานกั โทษสวมไส่ สง่ิ นเี้ ช่นกนั ทาใหพ้ วกเขาเป็นสขุ ยง่ิ ขึน้

ชายใจบุญทงั้ สามช่วยเหลือเหล่านักโทษ ทาใหช้ ีวิตพวกเขาสุขสบายขึน้ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ทว่า
นกั โทษเหลา่ นคี้ งถกู ขงั อยใู่ นสถานจองจา

ใจท่ีเป่ียมไปดว้ ยความเมตตานนั้ น่ายกย่องยิ่งนัก แต่ทว่าลาพังความเมตตากรุณาเพียงอย่างเดียวไม่
สามารถปลดปล่อยเราออกจากวฏั สงสารได้ เราควรจะมีใจเอือ้ เฟื้อและแบ่งปันซ่ึงกันและกันแต่กระนนั้ ยังมิ
สามารถปลดปลอ่ ยผใู้ ดออกจากกรงขงั ขนาดใหญ่แหง่ การเวียนวา่ ยตายเกิดไปได้

และแลว้ มีชายใจบุญอีกคนหนึ่งผ่านมา ในมือเขาถือกุญแจไขประตกู รงขงั เขาไขกญุ แจเปิดประตอู อก
แลว้ กลา่ วกบั เหล่านกั โทษว่า “เจา้ เป็นอิสระแลว้ จงกลบั ไปสนู่ ิวาสสถานเถิด” ในบรรดาผใู้ จบญุ ทงั้ หมด ใครเลา่
มอบความสขุ ใหแ้ กน่ กั โทษมากท่ีสดุ หากมิใช่ชายคนสดุ ทา้ ยท่ีปลอ่ ยเหลา่ นกั โทษเป็นอสิ ระ ปัญหานนั้ หากไม่แก้
ท่สี าเหตกุ ็ยากท่จี ะพน้ ทกุ ขไ์ ด้

7. ความเกียจคร้าน เป็ นอุโมงคฝ์ ังศพคนเป็ น ๆ

ในประเทศญ่ีป่นุ ผคู้ นชอบรบั ประทานปลา มีปลาอย่ชู นิดหนง่ึ ถา้ จะกนิ ใหอ้ รอ่ ยตอ้ งสด ๆ เท่านนั้
ชาวประมง เม่อื จบั ปลามาใหก้ ็แชแ่ ข็ง เพ่ือยงั คงความสดเอาไว้ แต่ปรากฏว่า ไมถ่ กู ปากผูร้ บั ประทาน ต่อมา
ชาวประมง จงึ สรา้ งบ่อใหญ่ ๆ ขนึ้ ภายในเรือแลว้ ใหป้ ลาลงไปวา่ ยในนา้ เม่ือมาถงึ ปลาก็จะสด แต่ก็ไม่ถูกปาก
นกั ชมิ อกี สาเหตเุ พราะปลาไม่ไดอ้ อกกาลงั

ตอ่ มาชาวประมงจบั ปลาฉลามใสล่ งไปในบ่อว่งิ ไล่ลา่ ปลาท่จี บั เอามาไดน้ นั้ ตลอดเวลา
เม่อื ถงึ ญ่ีป่นุ ปรากฏว่าปลายทงั้ สดและอร่อยมาก เพราะปลาต่นื ตวั อยตู่ ลอดเวลา

เรื่องนีเ้ ป็นอทุ าหรณส์ อนใจคนท่วั ไปวา่ สบายเกินไปนักกไ็ มด่ ี
ควรมแี รงกระตนุ้ บา้ ง เพ่อื ใหเ้ ลือดไดส้ ูบฉีดสารเอนโดฟินออกมา คนจงึ จะกา้ วไปขา้ งหนา้ ได้

คนท่วั ไปในโลกนที้ ่ยี ากจน ขน้ แคน้ กเ็ พราะสาเหตวุ ่า ชอบผดั วนั ประกนั พรุง่ ยงั เชา้ ไป ยงั ไม่ถงึ เวลา
ยงั พอมกี นิ อยู่ ผลดั ไปจนกลายเป็นไมอ่ ยากทาอะไร สดุ ทา้ ยกลายเป็นคนขีเ้ กียจสนมิ เกาะติดตวั ตน จน
กลายเป็นนิสยั สนั ดานในจติ ใจไป เม่ือนนั้ มชี ีวติ อยกู่ เ็ หมือนกบั ศพท่เี ดินไดน้ ่ันเอง

ชายจอมขีเ้ กียจ
นานมาแลว้ ในคืนพายหุ ิมะจดั คืนหน่ึง ชายขีเ้ กียจซ่งึ ชาวบา้ นรูจ้ กั กนั ดีไดเ้ ดินทางออกจากบา้ นเพ่ือไป

ประกอบธุรกิจอย่างหนึ่ง เขาเดินมาไม่ไกลนกั ก็น่งั คดุ คอู้ ยู่กบั พืน้ รอ้ งครวญครางขึน้ ว่า “โอย…ขา้ …หนาว…
จะ…ตาย…อย่…ู แลว้ ”

ในเวลานนั้ เอง เขาก็แว่วไดย้ ินเสียงลกู กระพรวนมา้ ดังกรุ๊งกริง๊ มาแต่ไกล ครู่หน่ึงต่อมา รถมา้ ซ่ึงมีมา้
เทยี มเกวยี นสามตวั ก็วง่ิ ผา่ นมาทางท่ีเขาคดุ คอู้ ยู่ ชายขเี้ กียจคนนนั้ รอ้ งขอความช่วยเหลือต่อเจา้ ของรถมา้ อย่าง
หมดเรย่ี วแรงวา่

“ชว่ ย-ดว้ ย-“
“หยดุ -“ ชายผเู้ ป็นเจา้ ของรถมา้ ดงึ บงั เหียนใหม้ า้ หยดุ จากนนั้ เดินเขา้ ไปมองดชู ายขเี้ กียจครูห่ นึ่ง แทนท่ี
เขาจะช่วยชายขเี้ กียจ เขากลบั พลางรอ้ งด่าวา่
“ขอใหแ้ กจงตายในสภาพเช่นนีเ้ ถิด แข็งตายเสียไดก้ ็สมควรแลว้ ” พดู จบกผ็ ละจากไปโดยไม่สนใจใยดี
ชายขเี้ กียจคนนนั้ แมแ้ ตน่ อ้ ย

ชายขีเ้ กียจโมโหมาก คิดในใจว่า “แกไม่ใหข้ า้ น่งั รถก็ได้ แต่ทาไมตอ้ งเฆ่ียนตีขา้ ดว้ ย ขา้ จะตอ้ งจองเวร
กบั แกใหถ้ ึงท่สี ดุ …”

เม่อื คิดเช่นนีแ้ ลว้ ชายขีเ้ กียจกร็ ีบลกุ ขึน้ กระโดดตวั ลอยวง่ิ ตามรถมา้ ไปทนั ทีรถมา้ วงิ่ ไปขา้ งหนา้ ครู่หนึ่ง
ก็รง้ั รอชายขีเ้ กียจคนนั้น คลา้ ยกบั ไม่ตอ้ งการเรง่ ความเร็วเพราะเกรงชายขีเ้ กียจจะว่ิงตามมาไม่ทนั ครน้ั ชายขี้
เกียจวิ่งเขา้ ใกล้ รถมา้ กว็ ง่ิ ต่อไปอีก วิ่งไลก่ นั มาเช่นนี้ ประมาณระยะทาง 2 กิโลเมตรเห็นจะได้ ชายขเี้ กียจคนนนั้
เหง่อื ท่วมตวั ไดย้ นิ เสยี งเถา้ แกเ่ จา้ ของรถมา้ รอ้ งบอกมา้ ว่า “หยดุ -“ จากนนั้ รถมา้ จึงค่อยๆ หยดุ ลง

เถา้ แก่หันหนา้ มาบอกชายขีเ้ กียจว่า “ขึน้ รถเถิด…เม่ือตะกีน้ ีถ้ ้าขา้ ไม่โบยแกสกั ทีสองที แกก็คงลุกไม่
ขนึ้ ”

ชายขีเ้ กียจคนนั้นรู้ถึงเจตนาของเถ้าแก่เจา้ ของรถม้าเขารูส้ ึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง ความเคียดแค้น
ปราศจากไปสนิ้ เขากลา่ วตอ่ เถา้ แก่เจา้ ของรถมา้ อย่างรูค้ ณุ ว่า

“ท่านอา…แสข้ องท่านขับไล่ความขีเ้ กียจของขา้ ไปจนหมดสิน้ เม่ือตะกีน้ ี้ ท่านไม่ยอมใหข้ า้ ขึน้ รถของ
ท่าน ขา้ แคน้ ท่านมาก ท่านแยบคายจริงๆ บงั คับใหข้ า้ วิ่งตามท่านจนรอ้ นวบู วาบไปทงั้ ตวั แลว้ จึงยอมใหข้ า้ ขึน้
รถ…”“ดีมาก…เม่ือเจา้ เขา้ ใจเหตผุ ลตา่ งๆ ดแี ลว้ จากนไี้ ปก็อยา่ ขเี้ กียจอีกละ่ ” จากนนั้ เป็นตน้ มา คนทงั้ สองก็
เป็นมิตรท่ดี ตี อ่ กนั

8. คนทต่ี ้ังใจจริงยอ่ มมที างไป

ภาษิตนเี้ ปรียบเทียบใหเ้ ห็นถึงความม่งุ ม่นั ตงั้ ใจท่จี ะทาการนัน้ ใหส้ าเรจ็ คนเราถา้ มีปณิธาณ อย่างนี้
แลว้ มกั จะมหี นทางเกิดขนึ้ ในความคิดและวางแผนการปฏิบตั ใิ หป้ ระสบความสาเรจ็ ได้ สว่ นคนท่ีขาดความ
ม่งุ ม่นั ตงั้ ใจ กจ็ ะหาเหตผุ ลมาอธิบาย เพ่ือท่จี ะไมป่ ฏิบตั ิ

จดหมายถึง การเ์ ซีย

เม่อื สงครามระหว่างสเปญ และ สหรฐั ระเบิดขึน้ นนั้ รฐั บาลมีความจาเป็น ท่จี ะตอ้ งติดต่อกบั หวั หนา้
พวกขบถในควิ บาอยา่ งรีบด่วน การเ์ ซยี จะตอ้ งอยู่ในท่ีแหง่ ใดแหง่ หนง่ึ ในแถบภเู ขาของควิ บา – แต่ไม่มีใครรูว้ ่า
ตรงไหน ไมม่ ีทางท่ีจดหมายหรอื โทรเลขจะไปถงึ เขาได้ ท่านประธานาธิบดีตอ้ งการสงิ่ นอี้ ยา่ งท่สี ดุ และจะตอ้ ง
รวดเรว็ ดว้ ย

ทาอย่างไรละ่ ?

มคี นเรียนท่านประธานาธิบดีว่า “มีคนผหู้ นงึ่ ช่อื โรวาน สามารถท่จี ะหาการเ์ ซยี ใหท้ ่านได้ ถา้ หากคน
อ่นื ๆ ทาไมไ่ ด”้

โรวานถกู เรียกเขา้ พบและรบั จดหมายฉบบั หนงึ่ เพ่อื สง่ ใหแ้ ก่การเ์ ซยี คนท่ชี ่ือ “โรวาน” เอาจดหมาย
ฉบบั นนั้ , ใสม่ นั ไวใ้ นกระเป๋ าผา้ นา้ มนั , รดั ไวท้ ่หี นา้ อก, พายเรือเขา้ สฝู่ ่ังทะเลของคิวบาตอนกลางคนื ภายในส่ีวนั
, หายเขา้ ไปในราวป่าและกลบั ออกมาท่ีอีกดา้ นหน่งึ ของเกาะในสามสปั ดาหต์ ่อมา ไดเ้ ดินทางผา่ นเขา้ ไปใน
ดนิ แดนของขา้ ศกึ ดว้ ยเทา้ เปลา่ และสง่ จดหมายถึงมอื ของการเ์ ซยี เป็นเรื่องราวท่ขี า้ พเจา้ มไิ ดม้ ีความ
ปรารถนาท่จี ะเลา่ อยา่ งละเอียด จดุ สาคญั ท่ีขา้ พเจา้ ตอ้ งการท่จี ะพดู ก็คือ แมคคินล่ี ไดม้ อบจดหมายถงึ การเ์ ซยี
ใหโ้ รวานเอาไปสง่ โรวานรบั จดหมายฉบบั นนั้ โดยมไิ ดถ้ ามว่า “เขาอยทู่ ่ไี หนละครบั ?”

ตราบช่วั กลั ปวสาน ! มนั มีคนท่คี วรจะจาลองรา่ งของเขาไดด้ ว้ ยทองบรอนส์ และตงั้ ไวใ้ นวิทยาลยั ทกุ
ๆ แหง่ ของประเทศ มนั มใิ ช่การเรียนรูด้ ว้ ยการอ่านจากตารบั ตาราหรอก ท่จี าเป็นสาหรบั คนหนมุ่ สาว หรือ
การศกึ ษาเรียนรูเ้ ร่ือง ตา่ ง ๆ นานา หากแต่อย่ทู ่ีหวั ใจอนั เขม้ แข็งซ่งึ จะเป็นเหตใุ หเ้ ขาจงรกั ภกั ดี , กระทาอย่าง
ทนั ทที นั ใด, ท่มุ เทพลงั งานของตนอย่างแน่วแน่ เพ่อื ท่จี ะ
“นาจดหมายไปใหก้ ารเ์ ซีย”

นายพล การเ์ ซียไดต้ ายไปแลว้ , แต่ก็มีการเ์ ซียคนอ่ืน ๆ ไมม่ ีคนผใู้ ดซง่ึ มคี วามอตุ สาหะท่ีจะทางานให้
ลลุ ว่ งไปได้ เม่ือจาเป็นท่จี ะตอ้ งใชค้ วามร่วมมือของคนหลาย ๆ คน, แต่กก็ ลวั จนขขี้ นึ้ สมองในบางขณะ เพราะ
ความโง่ บดั ชบของคนท่วั ๆ ไป ดว้ ยความไรส้ มรรถนะหรือความไมเ่ ตม็ ใจท่จี ะทมุ่ เทความสามารถเพ่ือท่จี ะ
ทางานสกั อย่างหนง่ึ

9. คนทไ่ี ม่เคยเปล่ยี นแปลงความคดิ เหน็
หรอื การกระทาของตนเองนั้น
เปรยี บเสมอื นกับนา้ นิ่ง
ทเ่ี พาะเลยี้ งสัตวเ์ ลอื้ ยคลาน
แห่งสติปัญญา
วลิ เลี่ยม บลาด

ภาษิตนหี้ มายถึงคนท่มี คี วามยดึ ม่นั ถือม่นั ในตวั เองสงู คิดวา่ ตวั เองเท่านนั้ ท่ถี กู ตอ้ งท่ีสดุ ใครจะมาพดู ให้
ฟังหรอื เสนอแนวความคิดกไ็ ม่ยอมรบั ฟัง ซง่ึ ในท่ีสดุ เขาก็จะถกู โดดเดยี่ วใหอ้ ย่คู นเดียวในสงั คม และยากท่จี ะ
ประสบความสาเรจ็ ดงั เรื่องเทวดากบั หนอน

เทวดา กบั หนอน ของนายแปลก สนธิรกั ษ์

“ มเี รื่องเลา่ มาว่า ชายสองคนเป็นเพ่อื นรกั เพ่ือนเกลอกนั อยบู่ า้ นห่างกนั แต่ก็ไปมาหาสกู่ นั เสมอ เพ่อื น
ทงั้ สองไดใ้ หค้ าม่นั สญั ญาต่อกนั วา่ จะคอยสอดสอ่ งสาระทกุ ขส์ ขุ ดิบของกนั และกนั แมว้ ่าใครจะตายไปเกิดเป็น
อะไรกต็ าม จะไม่ละ่ ทิง้ กนั เจา้ เพ่อื นคนหน่ึงเป็นคนดี มีนิสยั โอบออ้ มอารเี อือ้ เฟื้อเผ่ือแผอ่ อ่ นโยน มสี มั มาคารวะ
ไม่ “ เบ่ง ” เจา้ เพ่อื นอกี คนหน่ึงเป็นคนช่วั มนี ิสยั เหน็ แก่ตวั เอารดั เอาเปรยี บ กระดา้ งไม่รูจ้ กั ท่ตี ่าท่สี งู เย่อหย่ิง
และ “ เบ่ง ” มิใยท่เี จา้ เพ่ือนท่ดี จี ะจะว่ากลา่ วตกั เตือนอย่างไร เจา้ เพ่อื นเกเรกไ็ ม่คิดจะกลบั ใจ คงมีนิสยั เหน็ แก่
ตวั เอารดั เอาเปรียบ กระดา้ งเย่อหยงิ่ และ “ เบง่ ”อย่อู ย่างนนั้ แต่เพ่ือนทงั้ สองก็ยงั เป็นเพ่อื นเกลอกนั อยไู่ ด้ ”

ครนั้ ตอ่ มาเพ่อื นท่ีเป็นคนดตี ายไป เกดิ เป็นเทวดาชนั้ นมิ มานธดี เพ่อื นเกเรตายไปเกดิ เป็นหนอนในสว้ ม
อยมู่ าวนั หนงึ่ เพ่อื นผเู้ ป็นเทวดา เกิดคิดถงึ เพ่อื นท่เี ป็นคนช่วั ก็อยากรูว้ ่าเจา้ เพ่ือนรกั ไปอย่ทู ่ไี หน มที กุ ขส์ ขุ
อย่างไร หากช่วยเหลือไดก้ ็จะชว่ ย

จงึ สอดสอ่ งทิพยเนตรดเู หตไุ ป
กแ็ จง้ ใจในเพ่อื นผเู้ ป็นหนอน
ทนทกุ ขเ์ วทนาอาวรณ์
ทา่ ทจี ะเดือดรอ้ นเตม็ ประดา

จึงรบี ลกุ จากแท่นท่บี รรจรณ์
บทจรโดยยานผ่านฟา้
ลดั นวิ้ มือเดยี วถงึ สว้ มอนาถา
องคเ์ ทวาก็มองลงไป

ตามเรื่องว่าทงั้ หนอนและเทวดา
ตา่ งจาหนา้ กนั ได้
ตา่ งแสนเสน่หาอาลยั
เปรมใจท่ีไดพ้ บประสบกนั
เทวดา - “ เพ่ือน จากนั ไดไ้ หม ? ”
หนอน – “ จาไดซ้ เิ พ่อื น เพ่อื นไปอยทู่ ่ไี หนมา ”
เทวดา - “ เราไปอย่บู นสวรรคช์ นั้ นิมมานรดี ”
หนอน – “ เออ เป็นอย่างไรบา้ งบนสวรรคช์ นั้ ฟา้ อาหาร การบรโิ ภคอดุ มดีอย่หู รอื เพ่อื น ”

เทวดา - “ เพ่อื นเอ๋ย สวรรคช์ นั้ นิมมานรดีนสี บายมากอยากกนิ อะไรก็มผี เู้ นรมิตมาใหก้ ินทนั ที ไม่ตอ้ งไปเท่ยี ว
เสาะ

แสวงหาดอกเพ่ือน เพ่ือนอยากจะไปอย่ดู ว้ ยกนั ไหมละ่ ? ”
หนอน – “ ไม่ละ่ เพ่ือน เราฟังเพ่อื นบอกแลว้ เหน็ ว่าลาบาก อยากกินอะไรก็ไม่ทนั ใจ ตอ้ งมคี นอ่นื เนรมิตใหจ้ ึงจะ
กนิ

ไดส้ ขู้ องเราไม่ได้ ไม่ตอ้ งเนรมติ ก็ไดก้ ิน อยากเป็นไดก้ นิ อาจารของเราอดุ มสมบรู ณจ์ ะกนิ เม่ือไรกไ็ ด้
ท่ี

อยขู่ องเรานแี้ สนสขุ กวา่ แดนสวรรคแ์ ลว้ เพ่อื นเอ๋ย เชิญเพ่อื นกลบั ไปเถอะ เราไม่ไปดว้ ยละ่ ”
- เม่อื เทวดากบั หนอนสนทนากนั อยู่ พอสมควรแกเ่ วลาเทวดาก็กลบั วิมานของตน ท่เี ทวดาทนอยไู่ ดใ้ นสว้ มไดก้ ็
ดว้ ยความรกั เพ่ือน หวงั จะช่วยเหลือเพ่อื น แต่เม่ือเพ่อื นเห็นวา่ เกิดเป็นหนอนดีกว่า เป็นเทวดาก็จนใจ จึงกลบั ไป
ดว้ ยความสงสารเพ่ือผเู้ ป็นหนอน

10.เราคือ ผลผลิต จากการทไ่ี ดป้ ระพฤติซา้ กนั หลายๆครัง้
หลังจากนั้น มนั จะไมใ่ ช่ความประพฤตอิ ีกตอ่ ไป
แต่กลับกลายเป็ นอปุ นิสัย

ความคดิ ก่อใหเ้ กดิ การกระทา การกระทาก่อใหเ้ กดิ นสิ ยั นิสยั ก่อใหเ้ กิดอปุ นิสยั ทกุ สิ่งของการกระทา
เกดิ มาจากความคิดก่อนทงั้ นนั้ เม่ือนานๆ เขา้ ก็ถกั ทอไปเรื่อย ๆ จนแกไ้ ขลาบาก เหมือนถกั ทอเสน้ ดา้ ยจน
กลายเป็นผืนผา้ ยากท่จี ะดงึ ใหข้ าดจากกนั ไดง้ ่าย ๆ

ทาจนเคยชิน
มีขนุ นางตาแหนง่ เล็กๆ คนหนึ่ง อปุ นิสยั ชอบสอพลอนกั เวลาพดู กบั เจา้ นาย เขามกั จะคกุ เขา่ ลงขา้ ง

หนง่ึ เสมอ ทวา่ ครง้ั หนง่ึ เขาคกุ เขา่ รวดเรว็ เกนิ ไปทาใหเ้ สียหลกั เสน้ เอน็ พลกิ กระดกู สนั หลงั ไดร้ บั บาดเจ็บ ไม่
สามารถยืดตวั ตรงไดอ้ ีก ดงั นนั้ ทว่ งท่าของเขาจึงเหมือนกบั กาลงั กม้ ตวั ทาความเคารพอย่ตู ลอดเวลา

ตอ่ มา เจา้ นายคนใหมม่ ารบั หนา้ ท่แี ทนเจา้ นายคนเก่า เจา้ นายคนใหม่เป็นขนุ นางท่ีเกลียดคนประจบ
สอพลอมากท่สี ดุ เวลาขนุ นางชนั้ ผนู้ อ้ ยผนู้ เี้ ขา้ พบเจา้ นาย จงึ อย่ใู นท่ากม้ ตวั ทาความเคารพอย่างนบนอบเสมอ
ทาใหเ้ จา้ นายผมู้ าใหมร่ ูส้ กึ ขดั ลกู ตามาก จึงตาหนิขนุ นางชนั้ ผนู้ อ้ ยขึน้ ว่า

“ผทู้ ่เี ป็นขนุ นางควรจะเป็นคนซอื่ สตั ยย์ ตุ ธิ รรม รบั ใชป้ ระชาชนดว้ ยความสจุ รติ ปฏิบตั หิ นา้ ท่ีของตน
อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ ไม่จาเป็นตอ้ งประจบสอพลอ ยกยอปอป้ันผทู้ ่เี หนือกวา่ มีอานาจมากกว่า ดทู ่วงทานอง
ของเจา้ สิ กม้ เอวย่อเขา่ จนน่าสมเพช ไมม่ ศี กั ดิศ์ รีเสยี เลย”

ขนุ นางชนั้ ผนู้ อ้ ยถกู ตาหนเิ ช่นนี้ จึงตอบอยา่ งจนใจว่า “กราบเรียนใตเ้ ทา้ ขา้ ผูน้ อ้ ยปฏิบตั ิตนเช่นนจี้ นกลายเป็น
ความเคยชินเสียแลว้ ไม่มีทางแกไ้ ขท่วงทานองเชน่ นไี้ ด้

ในปัจจบุ นั คนประเภทนยี้ งั มีอีกมาก แตเ่ ปลยี่ นรูปแบบใหท้ นั กบั ยคุ สมยั เท่านนั้ คนพวกนจี้ ะสงั เกตง่าย
พวกเขามกั ใชค้ าพดู ว่า ถูกครบั พ่ี ดีครบั ผม เหมาะสมครบั ท่าน คนพวกนีช้ อบดถู กู ศกั ดิศ์ รีของตวั เอง ยอมลด
ศกั ดิศ์ รีของความเป็นมนษุ ย์ เพียงเพ่ือใหไ้ ดม้ าซ่งึ ลาภยศ

8. มิลินทปัญหา

พระเจา้ มิลินท์ หรือท่ีฝร่งั เรียกว่า เมนนั เดอร์ ( Menander ) เป็นเลือดเนือ้ เชือ้ สายฝร่งั ชาติกรกี เป็นพระ
เจา้ แผ่นดินท่ีสมบูรณาญาสิทธิราชในพทุ ธศกั ราช ๓๙๒ ถึงพุทธศักราช ๔๑๔ รวมเวลา ๒๑ ปีพระนครหลวง
ตงั้ อยู่ท่ีเมืองสงั คะ ( หรือสาคละ ) สมเด็จพระเจา้ มิลินท์ กษัตราธิราชแห่งสาคลประเทศ ทรงเป็นผเู้ ฉลียวฉลาด
มาก และไดเ้ ป็นเอกในการพดู จนประชาชนกรีกโยนกราชต่างยกย่องเฉลิมพระเกียรติคุณไวใ้ นประวตั ิศาสตร์
เป็นปฐมวา่ “ นักพดู ทเี่ รอื งนามในโลก คือพระเจ้าของชาวเราเป็ นพระองคแ์ รก ”

พระเจา้ มิลินทต์ ามประวตั ิศาสตรก์ ล่าวว่า พระองคน์ บั ถือศาสนากรีก ซ่งึ มีพระเจา้ นบั องคไ์ ม่ถว้ น และ
มพี ระทยั ม่งุ ทาลายพระพทุ ธศาสนา เชน่ ยกทพั เขา้ รุกรานบา้ นเมืองท่มี ีพระพุทธศาสนา เช่นตีเมอื งราชคฤหหรือ
ปาฏลีบุตร ฯลฯ และใช้วาทะอันเป็นเอกของเขาโดยตั้งปัญหาต่าง ๆ แก่สาวกพระพุทธเจา้ จนคณะสงฆ์ไม่
สามารถจะตอบโตไ้ ด้ สาวกของพระพทุ ธเจา้ ก็ต่างหนีไปถ่ินต่าง ๆ ถึงกบั เมืองเหลา่ นนั้ ว่างเปล่าจากสมณะเป็น
เวลาถึง ๑๒ ปี

พระเจา้ มลิ ินทเ์ ป็นกษัตรยิ น์ กั ปราชญ์ ไดท้ รงศกึ ษาวิชาการถึง ๑๙ อย่าง พระองคม์ วี าทะอนั เลิศเม่ือได้
โตต้ อบกับผูใ้ ดแลว้ ผูน้ นั้ ตอ้ งพ่ายแพอ้ ย่างราบคาบ พระองคเ์ ป็นนกั โต้คารม ชอบถามปัญหาต่าง ๆ แก่บุคคล
ท่วั ๆ ไปเม่ือไม่มีใครใหโ้ ตต้ อบพระองคใ์ หถ้ ึงจิตใจของพระองคไ์ ดเ้ ช่นนี้ ขา้ พเจา้ คิดว่าพระองคค์ งจะภูมิใจใน
ความเป็นปราชญข์ องพระองค์ หรือมิเช่นนนั้ ก็คงจะเอือมละอา ต่อชีวิตท่ีหาค่โู ตท้ ่ีสนุก ๆ และถึงจิตใจพระองค์
ไม่ได้

ครนั้ ต่อมา ณ วนั หนึ่ง พระองคไ์ ดพ้ ระนาคเสนศิษยพ์ ระโคตมะ (พระพทุ ธเจา้ ) ในแดนมหาภรตเขา้ จึง
ทาใหก้ ารสนทนาโตต้ อบกนั ระหว่างพระเจา้ มิลินทก์ บั พระนาคเสนเป็นไปอย่างเผด็ รอ้ น และโดยท่พี ระนาคเสน
ก็เป็นนกั ปราชญผ์ มู้ ีวาทะเป็นเลศิ ผูห้ น่งึ อนั หาผทู้ ดั เทียมไดย้ าก

พระเจา้ มิลินทจ์ ึงปราบไม่ลง และทาใหท้ งั้ สองไดโ้ ตต้ อบกนั อย่างถึงพรกิ ถึงขิง และรูเ้ ท่าทนั กนั เกือบทุก
อย่าง ในการโตต้ อบกนั นถี้ ึงแมส้ มเด็จพระเจา้ มิลินทจะมีวาทะดอ้ ยกว่าพระนาคเสนอย่บู า้ งแต่สมเด็จพระเจา้ มิ
ลนิ ทไ์ มย่ อมแพพ้ ระนาคเสนง่าย ๆ คอื พระองคไ์ ดท้ ิง้ ลวดลายในวาทะศลิ ปไวไ้ ม่นอ้ ยเลย

การโตต้ อบระหว่างสมเด็จพระเจา้ มิลินทก์ บั พระนาคเสนนเี้ ป็นการโตต้ อบท่มี ีคารมคมคายและสานวน
ไพเราะเพราะทั้ง ๒ เป็นนักปราชญ์ดว้ ยกันทั้งคู่ เม่ือปราชญ์ต่อปราชญ์ได้พบกันเรามักไดฟ้ ังคารมดี ๆ ได้
ความรูป้ ระดบั สตปิ ัญญาและไม่เป็นภยั แกส่ งั คมเลย

๑. เรอ่ื งศีล

พระเจ้ามลิ ินท์ ทรงตรสั กบั พระนาคเสนว่า คาวา่ ศีลมลี กั ษณะอย่างไร ?
พระนาคเสน ทูลตอบว่า ศีลเป็นท่ีเพาะปลกู คณุ งามความดีอ่ืน ๆ ใหง้ อกงาม ดงั ผทู้ ่ีรกั ษาศีลอยู่เป็น
นิตยไ์ ม่ใช่ว่าจะมีแต่ศีลฝ่ายเดียว ย่อมปรากฏว่าเป็นผเู้ ต็มไปดว้ ยคณุ ธรรมเหลา่ อ่ืน มีเมตตากรุณาเป็นตน้ ดว้ ย
ขอถวายพระพร น่เี ป็นลกั ษณะของศลี

พระเจ้ามิลนิ ท์ อาราธนาขอพระคณุ เจา้ จงอปุ มาใหเ้ ขา้ ใจยิ่งกว่านี้
พระนาคเสน ขอถวายพระพร เหมือนอย่างคนทาการเพาะปลูกต้นไม้ จาตอ้ งอาศัยแผ่นดินเป็นท่ี
เพาะปลกู พืชพันธุน์ นั้ จึงจะงอกงามขึน้ ได้ หรือเช่นการปลกู บา้ นสรา้ งเรือน ก็จาตอ้ งอาศยั แผ่นดินเป็นท่ีขดุ ราก
ฝังเข็มเช่นเดียวกนั ขอ้ นีฉ้ ันใด แมผ้ ทู้ ่ีอบรมคณุ งามความดีอย่างอ่ืนก็จาตอ้ งรกั ศีลใหเ้ ป็นพืน้ เสียก่อน คณุ ธรรม
นนั้ ๆ จึงจะอยปู่ ระจาและงดงามขนึ้ ได้ และขอ้ นพี้ ระผมู้ พี ระภาคเจา้ กไ็ ดต้ รสั ไวใ้ จความว่า ผรู้ กั ษาศลี ยอ่ มทาให้
สมาธิและปัญญางอกงามขึน้ เพราะศีลนีเ้ ป็นท่ีตงั้ อาศัยแห่งคณุ ธรรมเหลา่ อ่ืนประหน่ึงว่าแผ่นดินเป็นท่ีอาศัย
แห่งเหลา่ สตั ว์

พระเจ้ามลิ ินท์ พระคณุ เจา้ วสิ ชั นานีส้ มควรแลว้

๒. เร่ืองความเชือ่

พระเจา้ มลิ ินท์ ทรงถามพระนาคเสนว่า ดกู ่อนพระนาคเสน ความเช่อื มีลกั ษณะอยา่ งไร
พระนาคเสน ทลู ตอบว่า ขอถวายพระพรมีลกั ษณะทาจติ ใหผ้ ่องใส และมลี กั ษณะจงู ใจ

พระเจา้ มิลนิ ท์ ความเช่ือทาจติ ใหผ้ ่องใสไดอ้ ย่างไร
พระนาคเสน เม่ือความเช่ือเกิดขึน้ ย่อมขบั ไล่ ๑.ความกาหนดั รกั ใคร่ ๒.ปองรา้ ยผอู้ ่ืน ๓.จิตหดห่แู ละ
เคลิบเคลิม้ ๔.ฟุ้งซ่านแลราคาญและ ๕.ใจรวนเรใหอ้ อกไปจากจิต ธรรมดาจิตเม่ือปราศจากส่ิงยวนยีเหล่านี้
แลว้ ผอ่ งใส

พระเจา้ มิลนิ ท์ อาราธนาขอพระคณุ เจา้ จงอปุ มาใหเ้ ขา้ ใจยงิ่ กวา่ นี้

พระนาคเสน เหมือนพระมหากษัตริยพ์ รอ้ มดว้ ยจตุรงคเสนาเสด็จกรีธาทพั ยกขา้ มแม่นา้ นอ้ ย แห่ง
หนึ่งไปครนั้ แลว้ ทรงกระหายนา้ จึงตรสั ส่งั ใหร้ าชบุรุษไปตักนา้ มาถวาย แต่ทว่าแกว้ มณีมีเดชศกั ดิส์ ิทธิ์สามารถ
ทานา้ ขุ่นใหใ้ สไดข้ องพระมหากษัตริยพ์ ระองคม์ ีอยู่ดวงหน่ึง เม่ือพระราชบุรุษนัน้ รบั ราชโองการแลว้ ก็นาเอา
แกว้ มณีดวงนนั้ ไปแช่ลงในแม่นา้ นอ้ ยนนั้ พอแช่สาหรา่ ยจอกแหนก็หลีกลอยไป ท่ีเป็นตมก็จมลง นา้ ก็ใสขึน้ ราช
บรุ ุษจึงตกั นา้ นนั้ มาถวายพระมหากษัตริยต์ ามพระราชประสงค์ ขอถวายพระพร จิตเปรียบเหมอื นนา้ ผทู้ าความ
เช่ือใหเ้ หมือนราชบรุ ุษ เครอื่ งยียวนเหลา่ นัน้ เหมือนสาหรา่ ยและตม ความเช่ือเหมอื นแกว้ มณี อนั จิตใจของคนท่ี
เศรา้ หมองนนั้ พึงเหน็ ท่ีมพี ยาบาทคิดปองรา้ ย ใจเขาย่อมข่นุ เสมอ ก็ถา้ ใจขณะนนั้ เขาผ่อนใจใหห้ วนมาคานึงถึง
เหตผุ ลจนเห็นโทษแห่งพยาบาทได้ ก็ย่อมจะขจดั ความพยาบาทเสียไดท้ นั ที เพราะเกิดความเช่ือขึน้ ว่า ทาช่วั ก็
รบั ผลช่วั ตนก่อความพยาบาท ตนก็ตอ้ งรบั ผลของพยาบาท ซ่งึ เป็นการก่อเวรกรรมทาลายประโยชนส์ ขุ ของตน
แลผอู้ ่ืน เม่ือเช่นนีใ้ จก็จะจางจากข่นุ แลว้ มีสภาพผ่องใสขึน้ โดยลาดบั ขอถวายพระพร จิตเม่ือปราศจากส่ิงท่ีข่นุ
๕ อย่างนนั้ แลว้ ยอ่ มผ่องใสยงิ่ กว่านา้ ท่ใี สไดอ้ ยา่ งนี้

พระเจ้ามิลินท์ ดกู ่อนพระนาคเสน ท่วี า่ ความเช่ือมีลกั ษณะจงู ใจนนั้ เป็นอย่างไร ?
พระนาคเสน ขอถวายพระพร ตวั อย่างเช่นคนท่ีเห็นคนอ่ืนเขาพยายามทาความดีจนสามารถ นาตน
จากขนั้ ต่าขึน้ ส่ฐู านะอันสงู สดุ ได้ แลว้ นาเอาปฏิปทาของผูน้ นั้ มาเป็นทางดาเนินของตนบา้ ง แมจ้ ะยากลาบาก
สกั เพียงไรก็สูพ้ ยายาม ดว้ ยความเช่ือว่าคนท่ีจะตงั้ ตนไวใ้ นฐานะอนั สงู เช่นนนั้ ได้ ตอ้ งมีความอดทนบากบ่นั ทา
เป็นเบอื้ งตน้ ไปก่อน ขอถวายพระพรตวั อย่างเชน่ นีเ้ ป็นลกั ษณะแห่งความเช่ือท่จี งู ใจ

พระเจ้ามิลินท์ ยงั ไม่แจ่มแจง้ จงหาตวั อย่างมาเปรียบเทียบใหฟ้ ังอีก
พระนาคเสน เหมือนแม่นา้ ท่ีถูกกระแสนา้ เซาะฝ่ังพังกวา้ งออกไปโดยลาดบั ผทู้ ่ีผ่านไปเม่ือไม่ทราบ
ว่าแม่นา้ นนั้ ตืน้ ลึกเพียงไร ก็ไม่กลา้ ท่ีจะขา้ มไป ตอ้ งยืนอย่รู มิ ฝ่ังนนั้ ต่อเม่ือมีผอู้ าสาขา้ มไปก่อนเขาจึงกลา้ ขา้ ม
ตามผนู้ นั้ ไป เพราะเช่ือว่าตนก็คงสามารถขา้ มไดเ้ ช่นนนั้ ตวั อย่างนีฉ้ ันใด ความเช่ือก็ฉันนนั้ ย่อมจูงใจใหห้ าญ
กระทากิจการดงั พระพทุ ธภาษิต ใจความวา่ คนเราจะขา้ มหว้ งไดก้ ด็ ว้ ยความเช่ือ ขา้ มมหาสมทุ รหรือวฏั ฏสงสาร
ไดด้ ว้ ยความไม่ประมาท ขา้ มความทกุ ขย์ ากไดด้ ว้ ยความเพียรและจะบรสิ ทุ ธิ์ไดก้ ็ดว้ ยปัญญา
พระเจ้ามลิ ินท์ พระคณุ เจา้ วิสชั นานสี้ มควรแลว้

๓. เร่ืองความเพยี ร

พระเจา้ มลิ นิ ท์ ตรสั ถามพระนาคเสนว่า ดกู อ่ นพระนาคเสนความเพียรมลี กั ษณะอยา่ งไร ?
พระนาคเสน ขอถวายพระพร มีลกั ษณะคา้ จนุ ไวแ้ ลว้ ยอ่ มไมเ่ สอ่ื มทรามจรงิ

พระเจา้ มลิ นิ ท์ ขอพระคณุ เจา้ จงเปรียบเทียบใหฟ้ ัง
พระนาคเสน เหมอื นบา้ นเรอื นท่ีซวนเซจะลม้ เม่ือเอาไมเ้ ขา้ คา้ ไวก้ ็ลม้ ไม่ไดฉ้ นั ใด ความเพียรก็ฉนั นั้น
ย่อมคอยคา้ ใจท่ีรวนเรอยู่กลา้ บากบ่นั ต่อความยากลาบาก จนความดีอ่ืน ๆ ใหท้ รงตัวอยู่ได้ ดงั นัยแห่งพุทธ
ภาษิตว่า ผมู้ คี วามเพยี รย่อมละความช่วั และทาความดีใหเ้ กดิ ขนึ้ โดยไม่มเี วลาเสือ่ มทราม
พระเจา้ มลิ นิ ท์ พระคณุ เจา้ วิสชั นานสี้ มควรแลว้

๔. เร่ืองสติ

พระเจา้ มลิ นิ ท์ ตรสั ถามพระนาคเสนว่า ดกู ่อนพระนาคเสน สติมลี กั ษณะอย่างไร ?
พระนาคเสน ขอถวายพระพรมลี กั ษณะใหน้ กึ ไดแ้ ละใหถ้ ือไว้

พระเจา้ มลิ ินท์ ใหน้ ึกไดอ้ ยา่ งไร ใหถ้ ือไวอ้ ยา่ งไร ?
พระนาคเสน อนั หนา้ ท่ีของสติเม่ือเกิดขึน้ ย่อมใหน้ ึกถึงบุญบาปทงั้ หลาย เช่นใหน้ ึกว่าศีลมีลกั ษณะ
อย่างนนั้ เป็นตน้

พระเจ้ามลิ ินท์ ขอพระคณุ เจา้ จงหาตวั อยา่ งมาเปรียบ
พระนาคเสน ขอถวายพระพร เหมือนเจา้ พนกั งานคลงั ของพระเจา้ จกั รพรรดิ มีหนา้ ท่ีทาบญั ชีพระ
ราชทรพั ยถ์ วาย เพ่ือใหท้ รงทราบว่าชา้ งมีอยู่เท่านนั้ พลรบมีอยู่เท่านนั้ แกว้ แหวนเงินทองมีอย่างละเท่านัน้ ๆ
เม่อื พระเจา้ จกั รพรรดิไดท้ อดพระเนตรบญั ชีแลว้ จะไดเ้ พลิดเพลินพระหฤทยั ดว้ ย มาทรงระลกึ ถงึ บญุ บารมที ่ีได้
ส่งั สมมาซง่ึ เป็นเหตใุ หไ้ ดร้ าชสมบตั ินนั้ ๆ ขอถวายพระพร สติซง่ึ เป็นเหมือนเจา้ พนกั งานคลงั ก็มีลกั ษณะเช่นนนั้
เม่อื เกดิ ขนึ้ ใหน้ ึกถงึ ว่าน่ดี ีน่ชี ่วั นมี้ ีคณุ และโทษเป็นอย่างนนั้ ๆ

พระเจ้ามลิ นิ ท์ แลว้ ท่ใี หถ้ ือไวน้ นั้ มีลกั ษณะเป็นอยา่ งไร ?
พระนาคเสน ขอถวายพระพร สติเม่ือเกิดขึน้ ย่อมใหเ้ ลอื กถือเอาว่าน่ดี ีมคี ณุ ควรประพฤติ น่ชี ่ัวใหโ้ ทษ
ควรละ
พระเจา้ มิลินท์ อาราธนาขอพระคณุ เจา้ จงอปุ มาใหเ้ ขา้ ใจยง่ิ กว่านี้
พระนาคเสน เหมือนนายประตู ย่อมมีหนา้ ท่ีตรวจตราผทู้ ่ีเขา้ ออก ถา้ เห็นสมควรจึงอนญุ าตใหเ้ ขา้ ไป
ถา้ เห็นพิรุธเกรงว่าจะเป็นคนทุจรติ ก็หา้ มไม่ใหเ้ ขา้ ขอถวายพระพร สติเป็นอย่างนีน้ นั้ แล ย่อมคอยปอ้ งกันส่ิงท่ี
ช่วั มใิ หเ้ ขา้ มาประจาใจ เลือกเฟ้นเอาไวเ้ ฉพาะสิง่ ท่ดี ีกระทาไวใ้ นใจ
พระเจา้ มิลินท์ พระคณุ เจา้ วสิ ชั นานสี้ มควรแลว้

๕. เรอ่ื งความตงั้ ใจม่นั

พระเจา้ มิลนิ ท์ ทรงตรสั ถามพระนาคเสนว่าดกู อ่ นพระนาคเสน ความตงั้ ใจม่นั มีลกั ษณะอยา่ งไร ?
พระนาคเสน มีลกั ษณะพยุงใจใหเ้ ท่ียงตรงอยู่ในความดีทงั้ มวล และความดีทั้งหลายก็ตอ้ งอาศัย
ความตงั้ ใจม่นั เป็นประธานจงึ จะลลุ ว่ งได้ ขอถวายพระพร

พระเจ้ามิลินท์ พระคณุ เจา้ จงเปรียบเทียบใหฟ้ ัง
พระนาคเสน ขอถวายพระพร เหมือนพระมหากษตั รยิ เ์ สดจ็ ไปในงานพระราชสงคราม พรอ้ มดว้ ย จตุ
รงคเสนา ในบรรดากองทัพ ๔ เหล่า ซ่ึงจัดเป็นหมู่หมวดนั้น ต้องมีพระมหากษัตริยเ์ ป็ นผูบ้ ัญชากิจการเป็น
ประธานในกิจการนนั้ ๆ จึงจะลลุ ่วงไปได้ ตวั อย่างนีฉ้ ันใด แมส้ มาธิซ่ึงทาใจใหม้ ่ันก็ฉันนนั้ ย่อมเป็นหลกั เป็น
ประธานของความดีทัง้ หลาย จริงอยู่ความดีทงั้ หลายตอ้ งอาศยั ใจท่ีม่นั คง ใจท่ีแน่วแน่เป็นหลกั จึงจะอยู่คงท่ี
หรือกา้ วหนา้ ไปถึงท่ีสดุ แห่งความดีได้ พระพทุ ธภาษิตก็มีรบั รองอย่วู ่า จงทาสมาธิความตั้งใจม่นั ใหเ้ กิด เพราะ
ผทู้ ่มี ีจติ ม่นั ยอ่ มทาการอะไร ๆ สาเรจ็ หมดทกุ ประการ
พระเจ้ามิลนิ ท์ พระคณุ เจา้ น่สี ามารถอปุ มาใหเ้ ราฟังเขา้ ใจได้

๖. เร่ืองปัญญา

พระเจา้ มิลนิ ท์ ทรงตรสั ถามพระนาคเสนว่า “ ดกู ่อนพระนาคเสน ปัญญามลี กั ษณะอยา่ งไร ?
พระนาคเสน ทูลตอบว่า “ ขอถวายพระพร มีลกั ษณะตดั ชาวนาเขาเอามือขวาจบั เคียว เอามือซา้ ย
จับกาข้าวตะล่อมขึน้ แล้วก็ตัดกาขา้ วด้วยเคียวนั้น ข้อนี้ฉันใดแม้ผู้ฝึกฝนตนก็ฉันนั้นเหมือนกัน ใช้โยนิโส
มนสิการ ความคิดความนึกยกเอาเหตุเอาผลแห่งวิธีฝึกหดั ทงั้ หลายมารวมไดส้ ่วนก่อนแลว้ จึงใชป้ ัญญาความ
รอบรูเ้ ป็นผชู้ ีข้ าดว่าจะควรฝึกหัดดว้ ยวิธีอย่างไรจึงจะมีผล ปัญญานอกนีย้ งั มีลกั ษณะส่องใหส้ ว่างอีกประการ
หน่ึง ”

พระเจ้ามลิ นิ ท์ มลี กั ษณะสอ่ งใหส้ ว่างนนั้ อยา่ งไร ?
พระนาคเสน ขอถวายพระพร เม่ือปัญญาเกิดขึน้ ย่อมมีหนา้ ท่ีส่องขอ้ ความ แมท้ ่ีลึกซงึ้ ใหเ้ ห็นไดจ้ น
ชดั เจน

พระเจา้ มลิ นิ ท์ พระคณุ เจา้ จงหาตวั อยา่ งมาเปรยี บ
พระนาคเสน เหมอื นคนถือโคมไฟเขา้ ไปในท่ีมดื ทนั ทีนนั้ ความมืดย่อมหายไปความสวา่ งเกิดขนึ้ แทน
โคมไฟมีหนา้ ท่ีสอ่ งแสงใหป้ รากฏชดั เจนนีฉ้ นั ใด แมป้ ัญญาก็ฉนั นนั้ เม่ือเกิดขึน้ ย่อมกาจดั ความโง่เขลา ซ่งึ เป็น
ของมดื ใหห้ ายไป กลบั ทาความสว่างคือความรูใ้ หเ้ กดิ แลว้ สอ่ งแสงคือความฉลาดใหป้ รากฏแทนความโง่เขลา
พระเจ้ามลิ ินท์ พระคณุ เจา้ วิสชั นานสี้ มควรแลว้

๗. เร่อื งความดี

พระเจ้ามิลินท์ ทรงตรสั ถามพระนาคเสนว่า “ ดกู ่อนพระนาคเสน บรรดาความดีย่อมมีอย่มู ากอย่าง
ตา่ ง ๆ กนั แตเ่ ม่อื จะพดู ถงึ ประโยชนแ์ ลว้ ผลสาเรจ็ เป็นอย่างเดยี วกนั ทงั้ หมดมีหรือไม่ ?

พระนาคเสน ทลู ตอบว่า มี ! ขอถวายพระพรคือกาจดั ความช่วั เหมอื นกนั ทงั้ หมด

พระเจ้ามิลนิ ท์ พระคณุ เจา้ จงยกตวั อย่างมาเปรียบใหฟ้ ัง ”
พระนาคเสน อนั กองทพั ย่อมมีอย่หู ลายพวกดว้ ยกนั แลต่างก็กระทากิจธุระอนั เป็นหนา้ ท่ีของตนแต่
ละอย่าง ๆ มิใชห่ รอื ?

พระเจา้ มลิ ินท์ ใช่สพิ ระคณุ เจา้
พระนาคเสน ขอถวายพระพร ก็จุดม่งุ หมายท่ีคนจานวนมากเหล่านั้นตอ้ งการอยู่ คือม่งุ ถึงอะไรเป็น
ขอ้ ใหญ่ ?

พระเจ้ามิลนิ ท์ ก็คอื ม่งุ จะปราบขา้ ศกึ หวงั เอาชนะมาสกู่ องทพั ของตน
พระนาคเสน ขอถวายพระพร อันความดีทงั้ หลายก็เช่นเดียวกนั กบั กองทัพนนั้ คือมีมากอย่างมาก
ประเภทและต่างก็มีหนา้ ท่ีกระทากิจตามคณุ วิเศษของตน ๆ แต่จดุ ม่งุ ท่ีความดเี หลา่ นนั้ ม่งุ กระทา ก็คือต่างหวงั
ปราบความช่วั ทงั้ หลาย ซ่งึ เป็นขา้ ศกึ ของตนใหห้ มดสนิ้ ไปเทา่ นนั้
พระเจา้ มิลินท์ พระคณุ เจา้ วสิ ชั นานสี้ มควรแลว้

๘.เรื่องกรรม

พระเจา้ มิลนิ ท์ มีพระราชโองการตรสั ว่า ขา้ แตพ่ ระนาคเสน มนษุ ยท์ งั้ หลายเกิดมาในโลกนมี้ ไิ ดเ้ สมอ
กนั บางคนมีอายนุ อ้ ย บางคนเกิดมามีอายยุ ืน บางคนอาพาธเจบ็ ป่วยมากบางคนมีอาพาธเจ็บป่วยนอ้ ย บาง
คนมผี ิวพรรณวรรณอนั ช่วั บางพวกมีผิวพรรณอนั งาม บางพวกมีอานภุ าพนอ้ ย บางพวกมศี กั ดานภุ าพมาก
บางพวกมสี มบตั ินอ้ ย บางพวกมีสมบตั มิ าก บางพวกมสี กลุ อนั ต่า บางพวกมีสกลุ อนั สูง บางพวกมปี ัญญา
นอ้ ย บางพวกมีปัญญาวิเศษ ดว้ ยเหตเุ ป็นไฉน

พระนาคเสน อนั ว่าตน้ ไมท้ งั้ หลายเกดิ มาไม่เสมอกนั บางตน้ ขมข่ืน บางตน้ เผ็ดรา้ ยกาจ บางตน้
เฝ่ือนฝาด รุกขชาติบางตน้ หวาน เหตกุ ารณเ์ ป็นไฉน นะบพติ รพระราชสมภาร

พระเจา้ มลิ ินท์ ขา้ แต่พระนาคเสน รุกขชาติเหล่านเี้ ป็นดว้ ยพืชตา่ ง ๆ กนั
พระนาคเสน ฉนั ใดก็ดี คนทงั้ หลายนเี้ กิดมาไมเ่ หมือนกนั เพราะกศุ ลา กุศลกรรมกระทาไวต้ า่ ง ๆ กนั
กระแสพทุ ธฎกี าตรสั โปรดไวว้ ่า อนั ว่าสตั วโ์ ลกทงั้ หลายอนั จะเกดิ มาในโลกนี้ มีลกั ษณะต่าง ๆ กนั โดย
ประเภท เหตเุ พราะผลกรรมท่ตี นไดก้ ระทาไว้ บางพวกมีกรรมเป็นเผ่าพงศว์ งศา บางพวกมกี รรมเป็นท่พี ง่ึ
กศุ ลกรรมและอกุศลกรรมสองจาพวกนีแ้ บง่ สตั วใ์ หเ้ ป็นสองจาพวกออกไป ใหเ้ ป็นหยาบกระดา้ งจาพวก หน่ึง
ใหเ้ ป็นประณีตจาพวกหนึ่ง คอื แต่งดแี ตง่ ช่วั ท่ฝี ่ายกศุ ลกแ็ ต่งใหด้ ี ท่ฝี ่ายอกุศลกแ็ ต่งใหช้ ่วั ชา้ น่แี หละพทุ ธ
ฎีกาโปรดไวฉ้ ะนี้

พระเจา้ มลิ นิ ท์ สาธุ พระคณุ เจา้ วสิ ชั นานสี้ มควรแลว้

๙. เร่ืองนิโรธนิพพาน

พระเจ้ามลิ ินท์ มพี ระราชโองการถามว่า ขา้ แต่พระนาคเสน อนั ว่านโิ รธ นหี้ รือช่ือว่านิพพาน
พระนาคเสน ขอถวายพระพร อนั วา่ นิโรธ ช่ือว่านพิ พาน

พระเจา้ มิลนิ ท์ ขา้ แต่พระนาคเสน ยงั ไรกระนนั้ เจา้ ขา้ โยมใหก้ งั ขาสงสยั นิมนตว์ ิสชั นาใหแ้ จง้ ก่อน
พระนาคเสน ถวายพระพรว่า อนั วา่ พาลปถุ ชุ นทงั้ หลายอนั เวยี นตายเวยี นเกิดอยใู่ นกาลทงั้ ๓ คอื
อดีต อนาคต ปัจจบุ นั กาลนี้ ย่อมมายนิ ดีในอายตนะภายนอก ภายใน คือ ยินดใี นรูป เสยี ง กลิ่น รส
โผฏฐัพพารมณน์ ยิ มยกเบญจกามคณุ ว่าประเสรฐิ ก็พากนั เกิดตาย ว่ายเวยี นอย่ตู ามกระแสโลกีย์ อนั เป็น
อาตยนะภายนอกภายใน มิไดพ้ น้ ไปจากชาติทกุ ข์ ชราทกุ ข์ พยาธิทกุ ข์ มรณทกุ ข์ มีความโศกและปรเิ ทว
ทกุ ข์ และโทมนสั ขดั เคืองใจ มิไดพ้ น้ จากกองทกุ ขเ์ ลย ขอถวายพระพร ฝ่ายพระอรยิ สาวกผมู้ ศี ีลสงั วร มไิ ด้
ยินดใี นอายตนะภายนอกภายใน คือ รูป เสียง กลน่ิ รส โผฎฐัพพารมณ์ มไิ ดส้ รรเสรญิ เชยชมว่าดี มิไดม้ ี
ความรกั ใครก่ ระทาใจเบ่ือหน่ายมไิ ดป้ รารถนา ก็ดบั ซ่งึ ตวั ตณั หาดบั อปุ าทาน ดบั ภพชาตดิ บั ชราทกุ ข์ มรณทกุ ข์
โสกทกุ ข์ ดบั โทมนสั สปุ ายาสทกุ ขส์ นิ้ ดบั ซ่ึงกเิ ลสทกุ ขข์ นั ธข์ าดจากสนั ดานเป็นสมจุ เฉทประหาน ดจุ ตน้ ตาลมี
ยอดอนั ขาดมิไดก้ ลบั เกิดไดด้ งั นี้ แหละเรียกว่าองคพ์ ระนิโรธ พระพทุ ธฎกี าโปรดไวว้ ่านิพพาน ขอถวายพระพร
พระเจา้ มิลนิ ท์ มพี ระทยั โสมนสั ตรสั ว่า พระคณุ เจา้ วิสชั นามานสี้ มควรแลว้

10. เร่ืองพระพุทธเจ้ามจี ริงหรอื เปล่า

พระเจ้ามิลนิ ท์ มีพระราชโองการถามปัญหาว่า ขา้ แต่พระนาคเสน อันว่าองคส์ มเด็จพระสมั มาสมั
พทุ ธเจา้ นี้ พระคณุ เจา้ ไดเ้ ห็นหรอื ประการใด

พระนาคเสน สมเด็จพระพทุ ธองคน์ พิ พานลว่ งไปนานแลว้ อาตมาเกิดไมท่ นั จะไดเ้ ห็นองคพ์ ระ
สพั พญั ญบู รมครูหามิได้ ขอถวายพระพร

พระเจา้ มิลินท์ พระคณุ เจา้ ไม่เห็นพระพทุ ธองคว์ า่ พระมหากรุณานพิ พานไปชา้ นาน ก็พระอาจารย์
ของพระคณุ เจา้ ไดเ้ ห็นหรอื ไมเ่ ป็นประการใดเล่า

พระนาคเสน ตอบว่า ขอถวายพระพร พระอาจารยข์ องอาตมานเี้ ลา่ กม็ ไิ ดท้ ศั นาการเห็นพระองค์
ขอถวายพระพร

พระเจา้ มลิ นิ ท์ ถา้ กระนนั้ สมเด็จพระพทุ ธเจา้ ก็ไมม่ แี หละซิ พระคณุ เจา้ ถา้ สมเด็จพระพทุ ธเจา้ มจี รงิ
พระคณุ เจา้ กจ็ ะเห็น ถึงพระคณุ เจา้ ไมเ่ ห็น อาจารยข์ องพระคณุ เจา้ กจ็ ะเหน็ ถา้ กระนนั้ ก็วา่ เปลา่ ๆ จะว่า
สมเด็จพระพทุ ธเจา้ มไี ดอ้ ยา่ งไร

พระนาคเสน จงึ มีเถรวาจาถามบา้ งว่า พระองคไ์ ดท้ ศั นาการทอดพระเนตรเหน็ โอหานที คือสะดอื
ทะเลกลางทะเลบา้ งหรือไม่

พระเจา้ มลิ ินท์ ตรสั ว่า โยมไมเ่ คยเหน็ นะพระคณุ เจา้
พระนาคเสน สะดือทะเลนนั้ เลา่ พระองคส์ ิไมเ่ คยทอดพระเนตรเหน็ ก็สมเด็จพระบิตเุ รศของพระองค์
เลา่ ไดเ้ ห็นหรือไมป่ ระการใด

พระเจา้ มิลนิ ท์ ตรสั วา่ สมเด็จพระบติ เุ รศของโยมก็ไม่ไดท้ อดพระเนตรนะพระคณุ เจา้
พระนาคเสน ถา้ กระนนั้ สะดอื ทะเลกไ็ ม่มีน่นั แหละสิบพิตร
พระเจ้ามลิ ินท์ จึงตรสั วา่ สะดือทะเลนนั้ ถึงโยมมิไดท้ อดพระเนตร ถงึ พระบิตเุ รศโยมไม่รูไ้ มเ่ หน็ ก็ดี
สะดือทะเลนมี้ ีอย่เู ป็นม่นั คง พระคณุ เจา้ จงรูเ้ ถดิ
พระนาคเสน ถวายพระพรวา่ ความขอ้ นมี้ ฉี ันใด องคส์ มเด็จพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ อาตมาและพระ
อาจารยข์ องอาตมาไมเ่ หน็ ก็ดี องคส์ มเด็จพระสมั มาสมั พทุ ธเจา้ มีจรงิ ๆ ดจุ สะดือทะเลนนั้ ขอถวายพระพร
พระเจา้ มลิ นิ ท์ ก็ทรงพระโสมนสั ตรสั วา่ พระคณุ เจา้ วิสชั นานีค้ วรนกั หนา ในกาลบดั นี้

9. นิยายภารตะ “วกิ รมจรติ ” ตุ๊กตา 32 ตัว

มหาพฤกษาใหร้ ม่ เงาแก่ผอู้ ่นื
แต่ตวั ของมนั เอง ตอ้ งทนต่อแสงแดดอนั แผดกลา้
แลตน้ ไมน้ นั้ ย่อมผลติ ผลเป็นปกติ
แต่หาใช่เพ่อื ประโยชนข์ องตนเองไม่
แทจ้ รงิ ก็เพ่ือผอู้ ่นื ทง้ั นนั้

สงั สาระนคี้ อื ความเสือ่ มโดยแท้
ไมม่ ใี ครรูห้ รอกวา่ อะไรจะเกิดขนึ้ แกใ่ ครและเม่อื ใด
ดว้ ยเหตนุ ี้ ทรพั ยส์ ิน ความม่งั ค่งั จะมีประโยชนอ์ ะไร
เวน้ เสียแต่ว่าเขาจะใชม้ นั ใหส้ มค่า
หรอื บรจิ าคใหแ้ ก่ผอู้ ่นื ท่ตี อ้ งการความชว่ ยเหลือ เท่านนั้
ผมู้ ที รพั ยแ์ ตม่ ิไดบ้ รจิ าคใหแ้ ก่ผอู้ ่นื
ยอ่ มไดช้ ่อื วา่ มที รพั ยแ์ ต่ไรป้ ระโยชนโ์ ดยแท้

ผใู้ ดมที รพั ย์ เขาก็ควรมใี จยนิ ดี และใชจ้ า่ ยมนั ไป
อยา่ ใหท้ รพั ยน์ นั้ ตอ้ งไรค้ ่าเปลา่ เลย
จงดเู ย่ยี งฝงู ผงึ้ เถิด
มนั ตงั้ หนา้ ตงั้ ตาสะสมนา้ หวานไวใ้ นรงั
แทบลม้ ประดา แต่คนอ่นื แท้ ๆ กลบั เอานา้ ผงึ้ ไปกินสบายใจ

เม่อื สละทรพั ยใ์ หก้ บั ผสู้ มควรจะไดร้ บั
ยอ่ มไดช้ ่อื วา่ ใหผ้ ลคมุ้ ค่า
เหมือนหยาดฝนท่ตี กตอ้ งเปลอื กหอยทะเล
ย่อมก่อกาเนิดมกุ เมด็ งามขนึ้ ฉนั นนั้
เหมอื นผลไทรอนั กะจอ้ ยรอ่ ยนดิ เดียว
เม่อื ตกลงสผู่ ืนดินอนั มีโอชะ
ยอ่ มกอ่ กาเนิดตน้ ไทร อนั แผก่ ิ่งกา้ น สาขา
กวา้ งใหญ่ไดฉ้ นั ใด
การใหท้ รพั ยแ์ กผ่ ทู้ ่สี มควรย่อมมีผลย่ิงใหญ่ฉนั นนั้

หม่สู ตั วท์ งั้ หลาย ท่ดี ารงชีวิตอยู่
ก็ลว้ นเหน็ แก่ปากทอ้ งของตวั เองเทา่ นนั้
แต่ชวี ิตของคนจะมีคา่ แทจ้ รงิ กเ็ ม่อื
เขามชี ีวติ อย่เู พ่อื ผอู้ ่นื

เม่อื ไรก็ตามท่คี นเรานนั้ สิน้ สญู ทรพั ย์
ญาตพิ ่นี อ้ ง กต็ ตี นออกห่าง
คนเหลา่ นนั้ จะนบั ญาติ เม่ือเรามีฐานะเท่านนั้
พอสนิ้ ทรพั ย์ พวกกาฝากทง้ั หลาย ก็หลบลีห้ ายไป
เพ่อื น ๆ ก็เมินหมาง ป่วยการจะกลา่ วไปใย
แมแ้ ต่ภรรยาของตนเอง
ก็พลอยกระดา้ งกระเด่ืองไปดว้ ย เม่อื เราไม่มที รพั ย์

สงั ขาร รา่ งกายนดี้ ารงอย่เู พยี งช่วั กาลอนั สนั้
ทรพั ยส์ มบตั ิเลา่ ก็หาความย่งั ยืนไมไ่ ด้
และมฤตยกู ย็ า่ งกรายเขา้ มาทกุ ที
เม่อื พิจารณาดงั นแี้ ลว้ จงเรง่ ส่งั สมความดีเถิด

บคุ คลเป็นทกุ ข์ เพราะเห็นผอู้ ่นื ตกทกุ ข์
และบคุ คลผเู้ ป็นสขุ เพราะเหน็ ผอู้ ่นื มีความสขุ
เขาคือผทู้ ่เี ขา้ ถงึ แกน่ แทข้ องพระศาสนา

ใครกต็ ามท่ีมไิ ดแ้ สวงหาสจั ธรรมอนั หาความเสือ่ มมิได้
มาเป็นเคร่ืองดารงรา่ งกายอนั เสอื่ มสลายของตนนี้
มไิ ดม้ สี ติพจิ ารณาว่า รา่ งกายนี้ หาความย่งั ยนื มิได้
ยอ่ มเสื่อมสลายไปไมโ่ อกาสใดกโ็ อกาสหนงึ่
บคุ คลดงั กลา่ วย่อมเป็นคนโงท่ ่นี า่ สงสาร

ถา้ หากรา่ งกายของคนเรา
มไิ ดด้ ารงอยู่ เพ่ือการรบั ใชส้ ตั วโ์ ลกทง้ั หลาย
ไดโ้ ปรดพจิ ารณาดเู ถิดจะมีประโยชนอ์ ะไร
ท่เี ราจะมาอาทรตอ่ มนั ทกุ วนั คืน

บคุ คลผมู้ คี วามปรารถนาอนั สงู สดุ
ท่จี ะชว่ ยคนทกุ คนในโลก
ยอ่ มไดร้ บั ผลบญุ อนั สงู สดุ และสถานภาพอนั สงู สดุ
ย่งิ กวา่ ผบู้ าเพญ็ บญุ อย่างอ่นื ๆ ทงั้ หมด

รา่ งกายนจี้ ะดารงอยกู่ ็ไม่นาน
ทรพั ยศ์ ฤงคารก็ไมจ่ รี งั ตลอดไป
ความตายกย็ อ่ มเกิดขนึ้ ไดโ้ ดยไมค่ าดฝัน
ฉะนนั้ ขอใหเ้ รง่ สะสมบญุ กศุ ลไวเ้ ถิด

ความม่งั ค่งั เหมือนฝ่นุ ละอองท่ีเทา้
วยั เยาวเ์ หมอื นกระแสธารท่ไี หลเช่ยี ว
ผา่ นไปไม่มวี นั ท่ีจะไหลกลบั คนื มา
กิจกรรมของมนษุ ยก์ ็ไม่มีอะไรแน่นอน
ย่อมคลอ้ ยเคล่ือนผ่านไปดจุ ดงั หยดนา้
ชวี ิตก็เหมือนฟองนา้ ในทะเล
ถา้ บคุ คลไม่สรา้ งบญุ กศุ ลดว้ ยจิตอนั เป่ียมไปดว้ ยศรทั ธา
ไฉนจะไขประตสู วรรคไ์ ดเ้ ลา่
เม่อื รา่ งกายนคี้ ดคอ้ มลงดว้ ยชราภาพ
กจ็ ะมีแตค่ วามโศกเศรา้ ระทดใจ เกาะกินอย่รู ่าไป
และจะตอ้ งถกู เผาไหมด้ ว้ ยไฟแหง่ ความทกุ ขท์ รมานไม่มวี นั ท่สี นิ้ สดุ

10. ภควทั คีตา
บทเพลงแหง่ ชีวติ

ชีวิตคนเรานนั้
กอ่ นก่อเกิดเราก็ไมท่ ราบวา่ มนั มาอยา่ งไร
ครนั้ หลงั จากตายไปแลว้
เรากไ็ มอ่ าจคาดรูว้ า่ มนั จะไปอยา่ งไร
มเี พียงปัจจบุ นั ของชวี ิตเท่านนั้
ท่เี ราพอจะรูแ้ ละเห็นตามมนั ได้

ไมเ่ สียใจกบั ส่งิ ท่ีสญู เสียไป
กบั ไมด่ ีใจในสิ่งท่ไี ดม้ า
หลกั ปฏิบตั ิเพยี งเล็กนอ้ ยนี้
หากใครสามารถกระทาตามได้
เขาย่อมสามารถพาตนเอง
ขา้ มมหนั ตภยั แหง่ ชีวิตอนั ใหญ่หลวงได้

จงรบี ขวนขวายทาความดเี ถิด
การทาความดียอ่ มประเสรฐิ กวา่ การหายใจทงิ้ เปลา่ ๆ
โดยไม่ไดท้ าส่ิงอนั เป็นคณุ ประโยชนแ์ กต่ นและคนอ่นื

รา่ งกายของคนเราเม่ือวนั เวลาลว่ งผ่าน
ยอ่ มทรุดโทรมชารุด
ถงึ เวลานนั้ แลว้
แมอ้ ยากจะกระทาความดกี ย็ ากท่จี ะทาไดด้ งั ใจนึก
ทกุ ชวี ติ ในโลกถกู ลขิ ิต
ใหเ้ ดินไปตามแรงบนั ดาลของกรรม
แต่การกระทาท่มี งุ่ ความหลดุ พน้ จากหว้ งกรรม
ไม่จดั เป็นกรรม
เพราะฉะนนั้ เม่ือจะกระทากรรม
ขอจงอทุ ิศการกระทานนั้ เพ่อื ความหลดุ พน้ เถิด

โลกเรานนี้ บั วนั ก็มแี ตจ่ ะหมนุ ไปขา้ งหนา้
ผใู้ ดจมชวี ิตตนเองไวก้ บั กระแสโลกียสขุ
ไม่กา้ วไปขา้ งหนา้ พรอ้ มกบั การเปลย่ี นแปรของวนั คนื
ชีวติ ของคนผนู้ นั้ นบั ว่าสญู เปลา่ ปราศจากแกน่ สารแท้

คนโง่เม่อื กระทากรรมยอ่ มยดึ ม่นั ในการกระทานนั้
สว่ นผรู้ ูก้ ระทากรรมแลว้ หาไดย้ ดึ ตดิ ในการกระทานนั้ ไม่
ปราชญท์ ากรรมเพ่อื ชว่ ยเหลือเพ่อื นมนษุ ย์
ไมไ่ ดก้ ระทาเพ่อื ตนเอง

สิ่งท่กี ระตนุ้ ใหค้ นกระทาความช่วั คือความกระหายอยาก
อนั จะแปรเป็นความเคียดแคน้ เม่อื ไม่ไดส้ มอยากในทนั ที
ส่ิงนนี้ ่เี องท่เี ป็นศตั รูของความดี
ควนั บดบงั ความโชตชิ ว่ งของเปลวไฟ
ฝ่นุ ธุลีบดบงั ความสดใจของกระจก
รกหมุ้ หอ่ ทารกเอาไวด้ ว้ ยอาการฉนั ใด
ความกระหายอยากย่อมหมุ้ หอ่ จิตใจใหเ้ ศรา้ หมองมืดมวั
ดว้ ยอาการดงั ของสามอย่างท่กี ลา่ วมาฉนั นนั้

ผใู้ ดมองเหน็ สขุ ทกุ ขข์ องเพ่ือนรว่ มแผ่นดิน
เสมอดว้ ยสขุ ทกุ ขข์ องตน
ผนู้ นั้ นบั วา่ เป็นคนประเสริฐหาไดย้ ากย่งิ !

มีพลงั ลกึ ลบั ชนดิ หน่ึง
เป็นตวั ผลกั ดนั ใหเ้ กิดชีวิตใหม่
สิ่งมชี วี ติ ทกุ อยา่ งในจกั รวาล
ต่างเวียนวา่ ยตายแลว้ เกิด
ตามแรงผลกั ดนั ของพลงั อนั นี้
พลงั ท่วี ่านเี้ รียกวา่ กรรม

เม่อื จิตใจถกู บว่ งคอื ความกระหายอยากรดั รงึ เช่นนนั้
เขาย่อมพยายามทกุ วถิ ีทางท่จี ะสะสมทรพั ย์
สาหรบั เอาไวซ้ อื้ กามสขุ โดยไมก่ ระดากอาย
วา่ การกอบโกยนนั้ จะเป็นความยตุ ิธรรมอยา่ งไร

11. เชงิ ผาหมิ พานต์

อาจารย์ สุชพี ปุญญาณุภาพ

จะตอ้ งรูจ้ กั อดทน ทาเป็นไมร่ ูเ้ ท่าทนั ทาเป็นไม่เห็น
ไมไ่ ดย้ นิ กริ ยิ าอาการหรือถอ้ ยคาลว่ งเกินของคนอ่ืน
คนท่อี ดทนต่อเรื่องเลก็ นอ้ ยไม่ได้
จะตอ้ งจาใจอดทนต่อความยากลาบากอนั จกั เกิดขนึ้
เน่อื งจากขาดความอดทนในตอนแรกนนั้ หลายสบิ เท่า

ถา้ ทา่ นจะปลกู พืชคือความไม่เห็นแกต่ น
ความคดิ บาเพ็ญประโยชนแ์ ก่ผอู้ ่นื ลงไปในจิตใจของท่าน
แลว้ พยายามทะนถุ นอมรดนา้ พรวนดนิ
ใหเ้ จรญิ เตบิ โตทีละเลก็ ทีละนอ้ ย
จนกระท่งั ผลดิ อกออกผล
เป็นการลงมอื กระทาสาธารณประโยชนไ์ ดภ้ ายหลงั
กเ็ ป็นท่พี อใจแลว้

เม่อื ตวั เราถกู ใครว่ากลา่ วกระทบกระเทยี บ
ก็ควรมีอาวธุ ไวส้ องอย่าง
อย่างหนึ่งอาวธุ คือความอดทน
ท่มี ีการพิจารณาโดยแยบคาย
อาวธุ อีกอย่างหนงึ่ คอื การใหอ้ ภยั แกผ่ ทู้ ่ีลว่ งเกนิ เรา
คนท่มี ีการใหอ้ ภยั อย่เู นอื งนิตยจ์ ะเป็นคนหนกั แนน่

ไมว่ ่วู ามเพราะถอ้ ยคาลว่ งเกนิ เล็กๆ นอ้ ยๆ
การผกู ใจเจบ็ แคน้ ผอู้ ่นื นนั้
ความจรงิ มาหนกั อย่ทู ่ใี จของเราเอง
ทาใหค้ รุน่ คิดกระวนกระวาย
อยากจะเหน็ เขาถงึ ความพนิ าศลม่ จม
ถา้ หดั ใหอ้ ภยั แก่เขากเ็ ป็นการชว่ ยตวั เราเอง
ใหม้ จี ติ ใจเบาสบายขนึ้ ปลอดโปรง่ ขนึ้
ตกลงผลดีก็อยทู่ ่ตี วั เราเอง

ตน้ โศกนใี้ หค้ วามรม่ เยน็ แกผ่ เู้ ขา้ มาภายใตร้ ม่ เงาของมนั
แต่ตวั มนั เองกลบั ตอ้ งตากแดดตากฝนอย่กู ลางแจง้ เชน่ นี้
นกั ปกครองท่ีดจี ะตอ้ งพยายามใหค้ วามรม่ เย็น
แกผ่ อู้ ย่ใู ตป้ กครอง
แมต้ นเองจะลาบากเหนด็ เหน่อื ยกจ็ ะตอ้ งอดทน

การท่ที า่ นสอนใหส้ ามคั คีผกู ไมตรีกนั ไว้
ดกี วา่ การโกรธเคอื งทะเลาะวิวาทกนั นนั้
เพ่อื มใิ หท้ กุ คนเสียเวลาโดยไม่จาเป็น
ในการเดินทางแห่งชวี ติ
ไมต่ อ้ งแวะวนในระหว่างทางดว้ ยเรอ่ื งไม่มีสาระอ่นื ๆ
ขอใหท้ กุ คนนึกดวู ่า เราเกดิ มานี้
เม่อื พอคดิ พออา่ น และรูเ้ ดยี งสาแลว้
มใี ครบา้ งท่ีตงั้ ใจไวว้ า่
จะดาเนินชีวติ ดว้ ยการทะเลาะววิ าท
แทจ้ รงิ ก็ม่งุ หมายเดินทางไปสคู่ วามเจรญิ รุง่ เรือง

การหดั อย่ขู า้ งหลงั คอื การไม่แยง่ กนั เป็นใหญ่ ไม่แย่งกนั มีหนา้ มตี า
ไมแ่ ย่งกนั มีเช่อื เสียงเกียรติยศ
หดั ทาความดีโดยไม่ตีฆอ้ งรอ้ งป่ าวใหใ้ ครๆพากนั มาช่ืนชม
แมไ้ มม่ ีใครเหน็ ไม่มีใครรู้ ก็ไม่เดอื ดรอ้ น
ไม่ทวงผลของความดีท่ที าลงไป
จะไปหรอื อย่ทู ่ีไหนก็ไม่แสดงอาการชงู วง
การครองชวี ิตอย่ใู นโลกก็เช่นกนั
ถา้ ไมห่ ดั ทาจติ ใจใหเ้ บาสบายไวบ้ า้ ง
มวั ม่งุ แต่จะหอบสมุ ส่ิงท่ีเรียกกนั วา่ หนา้ ตา
ช่ือเสียง หรือเกียรติยศไม่ยอมอย่หู ลงั ใคร
ไม่ยอมลดนา้ หนกั ในการแบกหามลงไป
ผนู้ นั้ เองย่อมเดอื ดรอ้ น กระวนกระวายหาความสขุ มิได้

การหดั เดินหลงั เป็น คือ การไมแ่ ยง่ กนั เป็นใหญ่มีหนา้ มตี า
สว่ นการหดั เดินหนา้ เป็นหมายถึงการรูจ้ กั รบั ผิดชอบรบั ภาระ
และเป็นคนออกหนา้ ในการเสยี สละ
ซ่งึ อาจกลา่ วไดอ้ ีกอยา่ งหน่งึ ว่า
การหดั เป็นทงั้ ผนู้ อ้ ยและผใู้ หญ่
เม่ือถึงคราวเป็นผนู้ อ้ ยก็เป็นผนู้ อ้ ยท่ีดี
เม่ือถงึ คราวเป็นผใู้ หญ่ก็เป็นผใู้ หญ่ท่นี ่าเคารพนบั ถือ
จะวา่ เป็นทางสายกลางก็ได้

ผนู้ าหนา้ คนท่ยี อมเสยี สละความสขุ
เหมือนตน้ ไมย้ อมตากแดด
และทาประโยชนแ์ ก่ผอู้ ่นื ดว้ ยการใหผ้ ลดีต่างๆ
เหมือนตน้ ไมใ้ หด้ อกผลแกผ่ อู้ ่นื นนั้

เป็นผคู้ วรแก่การสรรเสรญิ อยา่ งแทจ้ รงิ
คณุ ความดีไมว่ ่าจะนาไปประดบั ไวท้ ่ีจติ ใจของใครหรือไม่
ว่าจะนาไปผสมกลมกลืนกบั วชิ าความรูส้ าขาใด
ยอ่ มทาจติ ใจและวชิ าความรูท้ กุ สาขาใหส้ มบรู ณย์ ิ่งขึน้
มคี วามหมายสาหรบั มนษุ ยย์ ง่ิ ขึน้

ความรูท้ ่ขี าดธมั มะหรอื คณุ ความดคี อยควบคมุ
ย่อมเป็นพิษและทาอนั ตรายได้
คนประเสรฐิ สดุ ในเทวดาและมนษุ ย์
กค็ ือคนท่มี ที งั้ ความรูด้ มี ีทงั้ ความประพฤติดี

ในการทาความดีนนั้ ขอใหท้ าดว้ ยความบรสิ ทุ ธิใ์ จ
ปลงใจวา่ เป็นสงิ่ ดงี าม สมควรจะทาจงึ ไดท้ า
ไม่ใชพ่ อลงมือทาเล็กๆ นอ้ ยๆ
กน็ ่งั ทวงบญุ คณุ เอากบั คณุ งามความดีนนั้
เรง่ จะใหเ้ กิดผล ครนั้ ใหผ้ ลไมท่ นั ใจก็ละเลิกเสีย
ทางท่ดี ี ควรทาใหเ้ ป็นพืน้ อธั ยาศยั
ไมเ่ ลอื กว่าเป็นความดนี อ้ ยหรือมากมีคนเหน็ หรอื ไมเ่ ห็น
ยิ่งถือไดว้ า่ การทาความดโี ดยไม่มใี ครเห็นยิ่งเป็นการมีเกียรติแลว้
รา่ งกายและจิตใจของเรากจ็ ะเป็นเหมือนพืน้ นาท่ดี ี
อนั เหมาะสมจะปลกู ใหเ้ กิดพชื ผลคอื ความสขุ ความเจรญิ

การมคี นเอาอกเอาใจ ยกยอ่ งเชิดชดู ว้ ยประการตา่ งๆ
เพราะเหตทุ ่ยี งั มีอานาจวาสนา หรอื มีทรพั ยส์ นิ เงนิ ทองนนั้
บคุ คลไมพ่ งึ ลมื ตวั เป็นอนั ขาด
เพราะถึงคราวสิน้ อานาจวาสนา หรือยากจนตกต่าลง

ส่งิ ท่ีนา่ พอใจตา่ งๆ ท่เี คยมนี นั้ จะพลอยสลายตวั ไปสิน้
โลกกจ็ ะตอ้ งเป็นโลกอยตู่ ลอดไป
คือตอ้ งวนุ่ วายตอ้ งยงุ่ ยาก
การท่จี ะบงั คบั โลกใหเ้ ป็นไปตามทางท่ีตนปรารถนา
จงึ ไม่ผดิ อะไรกบั การบงั คบั เด็กซนใหอ้ ยนู่ ่งิ
ทางท่ีดที ่สี ดุ ก็คือเม่อื อย่ใู นโลก
และพบอะไรย่งุ มากนกั ก็ใหร้ ูเ้ ท่าทนั ไวบ้ า้ ง
อย่าถึงกบั ถือเอาอะไรเป็นจรงิ เป็นจงั
ก็จะพออยใู่ นโลกไดโ้ ดยไม่เดือดรอ้ นมากเกินไป

จงอยา่ ดหู ม่ินใครวา่ เป็นคนเล็กนอ้ ย
แลว้ เลอื กปลกู ฝังไมตรีเฉพาะในคนท่สี าคญั
เป็นคนใหญ่คนโตเทา่ นนั้
ศีรษะของคนท่นี บั ว่าสงู
และเป็นสว่ นสาคญั ท่ีสดุ ในรา่ งกาย
ถา้ ไมม่ ีคอรองรบั กจ็ ะสงู ขึน้ มาไม่ได้
ทานองเดียวกนั รา่ งกายสว่ นลา่ งตงั้ แต่คอลงไปถึงเทา้
ถา้ ปราศจากศีรษะก็เป็นคนสมบรู ณไ์ มไ่ ด้
ตกลงเพราะอาศยั กนั และกนั จึงรวมกนั สาเรจ็
เป็นมนษุ ยท์ ่มี อี วยั วะไม่บกพรอ่ งพิกลพกิ าร

ถา้ ทา่ นรูจ้ กั เห็นอกเหน็ ใจตวั เองมากเท่าใด
กจ็ งเหน็ อกเห็นใจผอู้ ่นื มากเทา่ นนั้
จงพยายามทาลายความคิดเอาเปรยี บเพ่ือนมนษุ ย์
ทาลายความเหน็ แก่ตวั
โดยไมย่ อมรบั รูค้ วามทกุ ขย์ ากของคนอ่นื เสยี
กจ็ ะช่อื ว่าไดด้ าเนินไปตามรอยของพระผมู้ พี ระภาคเจา้

เราคิดว่าทกุ คนกเ็ กดิ มาอยา่ งไมม่ ีอะไรตดิ ตวั มาเลย
แมแ้ ต่ผา้ น่งุ ผา้ หม่ สกั ผืนหน่งึ
เวลาจากไปก็นาอะไรไปไม่ได้ ไมว่ ่าจะเป็นทรพั ยส์ มบตั ิ
หรอื แมแ้ ต่รา่ งกายท่เี รานึกวา่ เป็นสมบตั แิ ทๆ้
ท่ใี กลช้ ดิ ท่สี ดุ กต็ อ้ งฝังหรือเผาเปลีย่ นสภาพไป
เม่ือฐานะท่ีแทจ้ รงิ ของมนษุ ย์
คอื การไมอ่ าจถือกรรมสิทธิ์ในอะไรเลย
ไม่ว่าจะเป็นทรพั ยส์ ินหรือชีวิตเลือดเนือ้ ของตนเชน่ นี้
การท่เี ราจะมาน่งั เศรา้ โศก
กบั สง่ิ ท่ีเราไม่สามารถจะมีสทิ ธิ์ครอบครองไดจ้ รงิ จงั นนั้
จะต่างอะไรกบั คนท่เี วียนดใี จเม่อื อาทิตยข์ นึ้
และเสียใจเม่อื อาทิตยต์ ก ซา้ แลว้ ซา้ เลา่ อยทู่ กุ เม่ือเช่ือวนั

การหดั ยอมแพค้ น การทาเป็นคนโง่ไม่รูเ้ ทา่ ทนั
คลา้ ยการเดนิ ฝ่าป่าดงพงพี
อนั จาเป็นจะตอ้ งพบหนามบา้ ง ตอไมบ้ า้ ง
ทางอนั เป็นหลมุ เป็นบ่อบา้ ง
ถา้ เราจะย่งุ ไปเสียทกุ อย่าง พบหนามกห็ ยดุ ถางป่า
พบตอก็หยดุ ขดุ ตอ พบหลมุ บอ่ ก็จะถมใหเ้ ตม็
จะไม่ยอมเลีย่ งดว้ ยเห็นแกจ่ ดุ หมายปลายทางขา้ งหนา้ บา้ งเลย
ความวกวนเสยี เวลาในระหวา่ งทาง
กจ็ ะทาใหช้ ีวติ ป่ันป่วนว่นุ วาย
ดว้ ยเรอ่ื งขยะมลู ฝอยขา้ งทาง
จนไมเ่ ป็นอนั ท่จี ะหาความสขุ ได้

ชีวติ ของพระโพธิสตั ว์
คอื ท่านผตู้ งั้ ปณิธานเพ่อื บาเพญ็ ประโยชนแ์ ก่สตั วโ์ ลก
มีการไดต้ รสั รูส้ จั ธรรมดว้ ยตนเอง แลว้ ส่งั สอนผอู้ ่ืนใหร้ ูแ้ จง้ เหน็ จรงิ
ในสจั ธรรมเป็นจดุ ม่งุ หมายใหญ่นนั้ จะตอ้ งบาเพ็ญบารมคี ือคณุ งามความดตี ่างๆ
เพ่อื เป็นกาลงั ตนใหถ้ งึ ฝ่ังแหง่ ความสาเรจ็ ใหจ้ งได้

บารมคี ือคณุ ธรรมท่ีใหบ้ รรลฝุ ่ังแหง่ ความสาเรจ็ นนั้
ในบางครงั้ แมจ้ ะตอ้ งเป็นการยอมทอดตนลง
ใหผ้ อู้ ่นื เหยียบย่าแต่ผลดีท่จี ะเกดิ แก่ส่วนรวม
พระโพธิสตั วก์ จ็ ะไม่ลงั เลใจเลยในการทาเช่นนนั้
เพราะอดุ มคติสงู สดุ ของการเป็นพระพทุ ธเจา้ นนั้
คือการทาประโยชนแ์ กส่ ว่ นรวมไดม้ ากท่สี ดุ เท่าท่จี ะทาได้

คนธรรมดา ทาอะไรคิดอะไรโดยสว่ นใหญ่
ก็จะตอ้ งเพ่งประโยชนข์ องตนเอง
ตอ้ งการเอาตนเองออกหนา้
แตค่ นท่ปี ลงใจดาเนินปฏิปทาของผปู้ ระเสรฐิ
จะตอ้ งเก็บตนเองแอบไวต้ อ้ งอดทนเสียสละ
ตอ้ งนึกถึงความสขุ ของคนอ่นื ไวก้ อ่ น
ปฏิปทานใี้ ครจะเห็นว่าเป็นการโง่เป็นการมองขา้ มตนเองไป
แตผ่ บู้ าเพญ็ จะมคี วามรูส้ กึ สดช่นื ม่นั คง
รูด้ วี า่ ไม่ไดม้ องขา้ มตนเองเลย
แตเ่ ป็นการทาใหต้ นเองสงู ขึน้ ในทางคณุ งามความดีต่างหาก
ความรษิ ยาไมเ่ คยช่วยใหใ้ ครไดด้ ีขึน้ มาเลย
นอกจากนาใหป้ ระสบความพนิ าศ

เพราะฉะนนั้ ท่านทงั้ หลายจงใสใ่ จไวว้ ่า
เม่อื เหน็ มอี ะไรเกนิ หนา้ ทา่ น
จะโดยความรูค้ วามสามารถหรือทางใดๆ กต็ าม
ถา้ ไม่สามารถแผ่มทุ ิตาจิตคอื ความพลอยยนิ ดีต่อเขาได้
เพราะใจยงั ต่ากจ็ งหลกี เลี่ยงอยา่ แกไ้ ขเรอ่ื งนี้
ดว้ ยใชค้ วามรษิ ยาเป็นเครอื่ งนาทาง

การเผยแผ่ศาสนธรรมใหค้ วามดงี าม
มใิ ชอ่ ยเู่ พยี งในตารา หรอื อย่เู พียงแค่ลมปาก
ท่พี รา่ พดู กนั ถงึ ความดงี ามทงั้ หลาย
แตไ่ ปสิงสถิตอยทู่ ่ีความประพฤติทางกาย วาจา ใจ อยา่ งแทจ้ รงิ
ก็เป็นเรอื่ งของการไม่คดิ ดคี นเดยี ว
แตช่ ่วยกนั ปลกู ใหเ้ กิดคนดมี ากขนึ้
ถา้ พระพทุ ธเจา้ ทรงคดิ เพยี งดพี ระองคเ์ ดียว
ดกู ไ็ มน่ ่าจะทรงเหนด็ เหน่อื ย เท่ยี วจารกิ
บกุ ป่าฝ่าหนามไปในทิศทงั้ หลาย
แต่ท่ที รงทนยากลาบากพระวรกายนนั้
เป็นการช่วยปลกู ใหเ้ กดิ คนดีมากๆ นเี้ อง
ทา่ นทงั้ หลายจึงควรสาเหนียกในพระพทุ ธจรยิ า
แลว้ ดาเนินตามพระยคุ ลบาทรม่ เงาแหง่ สนั ตสิ ขุ
ก็จะไมจ่ ากดั แคบอย่เู พยี งท่ใี ดท่หี นึ่ง แตจ่ ะแพรห่ ลายออกไป

12. ภาษิตรากผัก..........หงยงิ่ หมงิ
ชวี ติ ทพ่ี อเพยี ง

เวลาไดร้ ับไม่นาหน้า
เวลาเสียสละไม่รั้งหลัง

ในยามไดร้ บั ลาภผลเกียรติยศ
จงอยา่ เขา้ แยง่ แซงหนา้ ผอู้ ่ืน
ในยามท่ีตอ้ งเสยี สละจงอยา่ มวั ชา้ อย่ขู า้ งหลงั ผอู้ ่ืน
เม่ือไดร้ บั ประโยชนต์ ามสมควรแลว้
จงอย่าโลภขอสว่ นเพ่ิม
เม่อื ฝึกปฏบิ ตั ิตนจงอย่าลดมาตรฐานลง

ความอดกลน้ั คือศลิ ปะชั้นสูง
ดีต่อเขาคือดตี ่อตนเอง

การดาเนนิ ชีวิตนนั้
หากรูจ้ กั อดกลนั้ ยินยอมได้ ย่อมเป็นศิลปะชนั้ สงู
การรูจ้ กั ถอยหลกี สกั กา้ ว
มกั จะนามาซ่งึ จงั หวะกา้ วหนา้ ท่ดี กี ว่า
ผทู้ ่ีปฏิบตั ิต่อผอู้ ่นื อย่างโอบออ้ มอารี
ยอ่ มเป็นผมู้ ีความสขุ โดยแท้
การเอือ้ เฟื้อเผ่ือแผ่ต่อผูอ้ ่นื คือการวางรากฐาน
อนั นากลบั มาซ่งึ ประโยชนส์ ตู่ นเองน่นั แล

คยุ โว ทาให้ผลงานด้อยค่า
สานึกบาป ชว่ ยลดทอนความผดิ

คนเรานนั้
แมว้ า่ จกั สามารถสรา้ งผลงานอนั ยงิ่ ใหญ่ขึน้ มาได้
แต่แลว้ ก็คอยแตจ่ ะคยุ โวโออ้ วดผลงานนนั้ ๆ
กจ็ ะหมดคณุ ค่าลงอยา่ งรวดเรว็
สว่ นคนท่ผี ิดพลาดเสยี หายอย่างหนกั
แต่แลว้ สามารถสานึกบาป กลบั เนอื้ กลบั ตวั ได้
เสมอื นโจรกลบั ใจ
บาปกรรมของเขา
จกั ถกู ชะลา้ งไปดว้ ยความรูจ้ กั ผิดชอบช่วั ดนี ่นั เอง

เร่ืองดี ไม่เอาใสต่ ัวผูเ้ ดียว
เรอื่ งช่ัว ไมผ่ ลักให้ผ้อู น่ื

อนั ความดีความชอบนนั้
ไม่ควรครอบครองเอาไวแ้ ตผ่ เู้ ดยี ว
การรูจ้ กั ยกย่อง แบ่งปันใหผ้ ูอ้ ่นื บา้ ง
จกั ช่วยขจดั ปัดเป่าอนั ตรายใหไ้ กลตวั ออกไปได้

สว่ นเรื่องอปั ยศอดสู กไ็ ม่ควรผลกั ใหผ้ อู้ ่นื ทงั้ หมด
การรูจ้ กั รบั ผดิ บา้ งจกั ช่วยขดั เกลาจิตใจ
ปลกู ฝังคณุ ธรรมใหก้ ลา้ แข็งขนึ้ ได้

ความดคี วามชอบไม่ขอใหป้ ร่ลี ้น
เป็ นคนต้องรู้จกั พอดี

การท่เี รากระทาสิง่ ใดก็ตาม
หากสามารถทาทุกส่ิงดว้ ยความเออื้ เฟื้อเผ่ือแผ่แลว้ ไซร้
แมแ้ ตพ่ ระผเู้ ป็นเจา้ ก็จะไม่ทรงตาหนเิ รา
หรือแมแ้ ต่ภตู ผีปีศาจกไ็ มอ่ าจทารา้ ยเราไดเ้ ชน่ กนั
หากเป็นคนท่ีกระทาสง่ิ ใดกห็ วงั จะเอาแต่ได้
ความดีความชอบก็จะรบั ไวท้ งั้ หมด
หากแมไ้ ม่เกิดเร่ืองราวขึน้ ภายใน
ก็จกั นามาซ่งึ ความเดือดรอ้ นจากภายนอกเป็นแนแ่ ท้

ตาหนิคน อยา่ ให้หนักไป
สอนคนอยา่ ให้สูงไป

การตาหนิตเิ ตียนความบกพรอ่ งผิดพลาดของผอู้ ่ืน
อย่าใหร้ ุนแรงนกั
ตอ้ งพจิ ารณาอย่าใหเ้ กินกวา่ ท่ีเขาจะรบั ไดด้ ว้ ย
สว่ นการส่งั สอนใหผ้ อู้ ่นื ทาดี
กอ็ ย่าไดเ้ รยี กรอ้ งเขาใหส้ งู เกินไป
ตอ้ งพจิ ารณาถงึ ระดบั ท่เี ขาจะพงึ ทาไดด้ ว้ ย

ความสะอาด เกิดจากความโสโครก
ความสว่าง เกิดจากความมืด

ตวั หนอนท่ีคืบคลานอย่ใู นกองอาจม เป็นส่งิ ท่ีโสโครกท่สี ดุ
แตค่ รน้ั ไดล้ อกคราบเป็นแมลงมีปีก
ก็กลบั บนิ ไปดื่มนา้ คา้ งอนั บริสทุ ธิ์ได้
กอหญา้ เนา่ เป่ือย ไม่มแี สงสว่างในตวั เอง
แต่หิ่งหอ้ ยท่ีมนั เพาะเลยี้ งนนั้
กลบั สอ่ งแสงระยิบระยบั อย่ใู นราตรีอาบแสงจนั ทร์
จากปรากฏการธรรมชาติเหลา่ นี้
ทาใหพ้ บสจั ธรรมขอ้ หนง่ึ วา่ สิ่งท่สี ะอาดบรสิ ทุ ธิ์นนั้
กาเนดิ มาจากสง่ิ สกปรกโสโครก
และความสว่างไสวนนั้ กเ็ กิดมาจากความมืดน่นั เอง

ความพากเพยี รอยา่ ให้เกินเลย
การคบคนอย่าใหเ้ หนิ ห่าง

ความเพียรพยายามกระทาเร่ืองดี
อยา่ งท่มุ เททงั้ กายและใจนนั้
อนั ท่จี รงิ ก็เป็นคณุ งามความดีประการหน่งึ
เพยี งแต่หากกระทาจนเกินไป
จนเป็นเหตใุ หต้ นเองตอ้ งเหน่ือยแสนสาหสั
ก็ไมม่ ีประโยชนต์ อ่ การดดั นสิ ยั ตน
อกี ทงั้ ทาใหช้ วี ิตตอ้ งสญู เสียความสนุกสนานรา่ เรงิ ไป
สว่ นความสมถะมกั นอ้ ย กเ็ ป็นจิตใจอนั สงู สง่
เพียงแต่หากทาตวั ใหเ้ หินห่างสงั คมผคู้ นเกนิ ไป
ก็จะไม่มีสว่ นช่วยเหลือสงั คมบา้ งตามควร

เผยความบริสุทธิถ์ ูกตอ้ ง
เผยโฉมจิตเดิมแท้

การท่ีคนเรามีทา่ ทางหยง่ิ ยโสนนั้ เป็นเพราะใชส้ ่ิงหลอกลวงจอมปลอมบางอย่าง
มาปกปิดจุดอ่อนของตนใหด้ ดู ีในสายตาของผอู้ ่นื เทา่ นนั้ ดอก
หากว่าสามารถการาบนสิ ยั ชอบโออ้ วดนีไ้ ด้
ความบรสิ ทุ ธิ์ถกู ตอ้ งท่ีอย่ภู ายในจะปรากฏตวั ออกมา
ความอยากไดใ้ ครด่ ี กค็ ือความฝันเฟ่ืองท่ีฟ้งุ ซ่าน
หากสามารถขจดั ความคิดอนั ว่นุ วายสบั สนเหล่านลี้ งได้
จติ เดมิ แทก้ ็จะเผยตวั ออกมาเอง

คนรวยควรมีใจกว้าง
คนฉลาด ควรอาพรางความเก่ง

คนรวยควรกอปรดว้ ยเมตตาจิตและความใจกวา้ ง
หากเป็นคนใจคอคบั แคบเสียแลว้
แมต้ วั จะเป็นคนรวย แตก่ ารกระทานนั้ เย่ียงคนจน
ไฉนจกั สามารถใชช้ ีวิตอนั สมบรู ณพ์ นู สขุ อย่างยาวนานไดเ้ ลา่
คนฉลาดเก่งกาจควรรูจ้ กั ซอ่ นเรน้ ปัญญาความสามารถของตน
ถา้ หากเท่ียวคยุ โวโออ้ วดเสียแลว้
คนฉลาดเย่ยี งนีจ้ ะแตกตา่ งอะไรกบั คนโงบ่ ดั ซบแลว้ ไฉนจกั ไม่แพพ้ า่ ย

รู้จักถอยหลกี สักกา้ ว
เอือ้ เฟื้ อทางแกผ่ อู้ ่นื

สถานการณแ์ หง่ ชีวิตคนเรานนั้
เปลยี่ นแปลงขึน้ ลง หาความแน่นอนไม่ได้
เสน้ ทางชวี ิตก็คดเคีย้ วขรุขระยากลาบาก
เม่อื คนเราเดินทางมาถึงจดุ ท่ีไปตอ่ ไปไมไ่ ด้
จงรูจ้ กั ถอยหลีกสกั กา้ วหนึง่ ใหผ้ อู้ ่ืนไดก้ า้ วตอ่ ไป
และเม่ือถึงจดุ ท่ีไปตอ่ ได้
กย็ งั ตอ้ งรูจ้ กั เอือ้ เฟื้อเผ่ือแผ่ทางเดนิ ใหผ้ อู้ ่ืนบา้ ง
เช่นนี้
จงึ จกั สามารถเปล่ียนจากเคราะหร์ า้ ยใหก้ ลายดีได้

รักษาความดีความบรสิ ุทธ์ใิ จ
เหลือไว้เป็ นมรดกโลก

จงรูจ้ กั ยอมเป็นคนไมร่ ูป้ ระสีประสา
เพ่ือดารงไวซ้ ่งึ ความบรสิ ทุ ธิ์
ทางความคดิ จิตใจตามธรรมชาติดงั้ เดิมของคน
โดยยอมสลดั ทงิ้ ความฉลาดมากเลห่ ์ เพ่อื ใหม้ ีความดีไว้
ตอบแทนพระคณุ แก่แผน่ ดนิ บา้ ง
จงรูจ้ กั ละชวี ิตอนั ฟงุ้ เฟอ้ เห่อเหิม โดยใชช้ ีวิตอย่างสมถะเรียบงา่ ย
เพ่ือใหเ้ หลือไวซ้ ่งึ ความบรสิ ทุ ธิผ์ ดุ ผอ่ งเป็นมรดกแก่ชนรุน่ หลงั

ควรตงึ ต้องตึง
ควรหยอ่ นต้องหยอ่ น

การบรหิ ารราชการในภาวะท่ีบา้ นเมืองสงบเรียบรอ้ ย
ควรเขม้ งวดตามตวั บทกฎหมาย
สว่ นในภาวะท่บี า้ นเมืองระส่าระสาย
ควรผ่อนคลายความยืดหย่นุ
และในภาวะท่บี า้ นเมืองวกิ ฤติ
ควรใชท้ งั้ ความเขม้ งวดและความยืดหยนุ่
การปฏิบตั ิกบั คนดี ควรใชพ้ ระคณุ สว่ น
กบั คนไม่ดี ควรใชพ้ ระเดช
และควรใชท้ งั้ พระเดชและพระคณุ กบั ขา้ ทาสบรวิ ารท่วั ๆ ไป

ลมื บญุ จาบาป
ลืมแค้นจาคุณ

เม่อื เรามีบญุ คณุ ต่อผอู้ ่ืน อย่าไดจ้ ดจา
แตก่ ารล่วงเกนิ ท่ีมีตอ่ ผอู้ ่นื นนั้ ไมจ่ าไม่ได้
เม่ือผอู้ ่นื มีบุญคณุ ต่อเรา อย่าไดล้ มื เลอื น
แตค่ วามแคน้ ท่ผี อู้ ่ืนกระทาต่อเรานนั้ ก็ควรลืมเสีย

เม่ือให้ไมห่ วังผล
หากหวงั ผลไร้คุณ

คนใจบญุ สนุ ทานนนั้ เม่อื ใหอ้ ะไรใครแลว้
มไิ ดเ้ ก็บมาคิดมาจาและก็ไมไ่ ดเ้ ท่ียวประกาศใหค้ นรบั รู้
เม่อื เป็นเช่นนแี้ มเ้ พยี งขา้ วสารหน่งึ ถงั ท่ีใหท้ านไป
กอ็ าจเป็นพระคณุ หม่ืนแสนได้
สว่ นคนตระหน่ีถ่ีเหนียว ใหอ้ ะไรใครกจ็ ดบญั ชีละเอียดยิบ
อกี ทงั้ คอยแตจ่ ะตาหนิ การตอบแทนของผูอ้ ่นื
ถึงแมจ้ ะใหใ้ ครไปเป็นรอ้ ยพนั ช่งั ก็ยากจะกลายเป็นพระคณุ

คิดมองมุมกลบั
บรรลุทางธรรม

อนั โชคชะตาของคนเรานนั้ มที งั้ ดีและไมด่ ี
ใครเลา่ จะสามารถทาใหค้ นประสบ
แต่ความโชคดีเท่านนั้
หลกั การเหตผุ ลของคนเรากเ็ ช่นกนั
มีทงั้ ท่ีคนยอมรบั และไม่ยอมรบั
ใครเลา่ จะสามารถทาใหต้ น
ไดร้ บั แตก่ ารยอมรบั เท่านนั้
เม่อื หวนพิจารณาใครค่ รวญถงึ เหตผุ ลนี้
จึงพบวา่ นเี้ ป็นประตเู ขา้ ส่พู ทุ ธธรรมอีกทางหน่ึง


Click to View FlipBook Version