พฤตกิ รรมทางวฒั นธรรม สังคม ประเพณี ศีลธรรม จริยธรรม แม้แตภ่ าษาซึ่งล้วนเปน็ เอกลักษณ์ของชาติ
เราตอ้ งดแู ลไมใ่ ห้สูญสลายไป การดำรงชวี ิตของคนเปน็ ส่ิงท่ีดีงาม อุปถมั ภ์เกื้อกลู กัน มจี ิตใจดีมีความอ่อนโยนออ่ น
นอ้ ม และมีชวี ิตที่เรียบงา่ ย ซงึ่ หาได้ยากในสังคมขึ้น
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเราไม่อาจต้านกระแสโลกได้ และการเปลี่ยนแปลงกไ็ ม่ใช่สื่อเลวร้ายเสมอไป
เราคงขวางกระแสใหญ่ของโลกาภิวัตน์ทง้ั หมดไม่ได้ ในแงด่ ผี ลกระทบจากโลกาภวิ ัตนใ์ ห้ประโยชน์ต่อคนไทยเป็น
ความทนั สมัยไมโ่ ง่เขลา ลา้ หลงั เมอื งไทยนบั จาก ค.ศ.2000 เราจะก้าวสู่สหสั วรรษใหม่ทีม่ ีการแข่งขันกันสูง เกิด
ปัญหาหลายประการตามมา ขณะเดียวกันเราก็ต้องช่วยกันประคับประคองให้แก้ปัญหาต่างๆ ตลอดจนกำหนด
แนวทางบำรุงรกั ษาดุลยภาพแห่งชวี ิตของคนไทยใหด้ ำรงความเป็นไทยในสงั คมยคุ โลกาภวิ ตั นใ์ หไ้ ด้
1. สาเหตขุ อง 2. ประเภทของการ 3. ผลดีของการ 4. ผลเสยี ของ 5. ปัจจัยทที่ ำให้เกิด
การเปล่ยี นแปลง เปลี่ยนแปลง เปลย่ี นแปลง การ การเปลีย่ นแปลง
เปลยี่ นแปลง
สังคม วัฒนธร ภายใน ภายนอก
รม
ใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง สังคมยคุ โลกาภวิ ตั น์
คำสงั่ ให้นักเรียนอ่าน เรอื่ ง สงั คมยคุ โลกาภิวัตน์ แลว้ วเิ คราะห์ตามหวั ขอ้ ต่อไปนี้
1. สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย มเี ร่ืองใดบ้างประมาณ 5-6 เรอื่ ง และนำขอ้ ความ
มาเขียนลงในตารางวิเคราะห์ ข้อ 1
2. วเิ คราะห์ประเภทของการเปลย่ี นแปลงในสงั คมโดยขดี เคร่ืองหมาย ✓ ลงในตารางวิเคราะห์ ข้อ 2
3. บอกผลดแี ละผลเสยี ของการเปลยี่ นแปลงในสังคมโดยเขียนตอบในตารางวเิ คราะห์ ขอ้ 3, 4
4. บอกปจั จยั ทีท่ ำให้เกิดการเปล่ยี นแปลงในสังคมโดยขีดเครอ่ื งหมาย ✓ ลงในตารางวิเคราะห์ ข้อ 5
1. สาเหตขุ อง 2. ประเภทของการ 3. ผลดีของการ 4. ผลเสยี ของ 5. ปัจจยั ท่ีทำให้เกดิ
การเปลีย่ นแปลง เปลี่ยนแปลง เปล่ียนแปลง การ การเปลี่ยนแปลง
เปล่ยี นแปลง
สงั คม วัฒนธร ภายใน ภายนอก
รม
(หมายเหตุ พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรยี น ใหอ้ ยู่ในดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน)
ใบงานที่ 2.2 เรอ่ื ง ปญั หาสังคมไทย
คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ช่วยกนั คิดว่า เรอ่ื งใดบา้ งทีเ่ ปน็ ปญั หาสังคมอยู่ในขณะนั้น แล้วเลอื กปญั หาสำคญั
1 ปัญหา มาวเิ คราะห์และตอบคำถามตามหวั ขอ้ ท่ีกำหนด
ลำดับ ปัญหาสังคม ผลเสียตอ่ สังคม วิธกี ารแก้ไข
ท่ี
1. ปญั หาทส่ี ่งผลกระทบทำให้เกดิ ความเสยี หายต่อสังคมมากที่สดุ คอื
2. กลุม่ นักเรยี นมีความสนใจในการมสี ่วนร่วมปอ้ งกันแกไ้ ขปญั หาไดโ้ ดยการจดั ทำโครงงานเรือ่ ง
3. แนวทางการพฒั นาสงั คมตามแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติ ที่กล่มุ นักเรยี นนำมาปรบั ใช้
ในการทำโครงงานไดแ้ ก่เรอ่ื งใด
ใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง ปญั หาสงั คมไทย
คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มชว่ ยกันคิดวา่ เร่ืองใดบา้ งทเ่ี ปน็ ปัญหาสงั คมอยใู่ นขณะนน้ั แลว้ เลอื กปญั หาสำคญั
1 ปัญหา มาวเิ คราะห์และตอบคำถามตามหัวข้อท่ีกำหนด
ลำดับ ปญั หาสงั คม ผลเสียตอ่ สงั คม วิธีการแกไ้ ข
ท่ี
1. ปญั หาทส่ี ่งผลกระทบทำให้เกดิ ความเสียหายต่อสังคมมากทสี่ ุด คอื
2. กล่มุ นกั เรียนมคี วามสนใจในการมีส่วนรว่ มป้องกนั แก้ไขปัญหาไดโ้ ดยการจดั ทำโครงงานเร่ือง
3. แนวทางการพฒั นาสงั คมตามแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทีก่ ลุม่ นักเรยี นนำมาปรับใช้
ในการทำโครงงานไดแ้ กเ่ รอ่ื งใด
(หมายเหตุ พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น ใหอ้ ยูใ่ นดลุ ยพินจิ ของครูผสู้ อน)
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม
ชอ่ื – ความ การแสดง การรับฟัง การตั้งใจ การรว่ ม รวม
สกลุ รว่ มมือ ความ ความ ทำงาน ปรบั ปรงุ 20
ของ คดิ เหน็ คดิ เห็น ผลงานกล่มุ คะแน
ลำดั ผรู้ บั น
บที่ การ 43214321432143214321
ประเมิ
น
เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
ดีมาก = 4
หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ิธีการมอบหมายใหห้ วั หนา้ กล่มุ
ดี = 3 เป็นผปู้ ระเมิน หรอื ใหต้ วั แทนกล่มุ ผลดั กนั ประเมนิ
หรือใหม้ ีการประเมินโดยเพ่ือน โดยตวั นกั เรยี นเอง
พอใช้ = 2 ตามความเหมาะสมกไ็ ด้
ปรบั ปรุง = 1
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ช่ ว ง ร ะ ดั บ
คะแนน คณุ ภาพ
17 – 20 ดมี าก
13 – 16
9 – 12 ดี
5 – 8 พอใช้
ปรบั ปรุง
2
หน้าทพี่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนนิ ชีวิตในสงั คม
กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 เวลาเรยี น 6 ชั่วโมง
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ดั
ส 2.1 ม.4-6/5 วเิ คราะหค์ วามจำเป็นที่จะตอ้ งมีการปรบั ปรงุ เปล่ียนแปลงและอนุรักษว์ ัฒนธรรมไทย
และเลอื กรับวฒั นธรรมสากล
สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
วฒั นธรรมไทย มคี ณุ คา่ และความสำคัญตอ่ การดำเนนิ ชีวิตของชาวไทย ซง่ึ จะต้องรู้จกั การปรับปรงุ
เปลยี่ นแปลง และอนุรักษ์วฒั นธรรมไทย และเลือกรบั วฒั นธรรมสากลอย่างเหมาะสม
สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1. ความหมาย และความสำคญั ของวฒั นธรรม
2. ลักษณะและความสำคัญของวฒั นธรรมไทยท่ีสำคัญ
3. การปรบั ปรุงเปลี่ยนแปลง และอนุรักษว์ ัฒนธรรมไทย
4. ความแตกตา่ งระหวา่ งวัฒนธรรมไทยกับวฒั นธรรมสากล
5. แนวทางการอนรุ กั ษ์วฒั นธรรมไทยทด่ี ีงาม
6. วิธกี ารเลอื กรับวฒั นธรรมสากล
3.2สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่
-
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
4.3ความสามารถในการสอื่ สาร
4.4ความสามารถในการคดิ
- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทกั ษะการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ
4.5ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ
- กระบวนการปฏิบัติ - กระบวนการทำงานกลุ่ม
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
4. มีวินยั
5. ใฝ่เรียนรู้
6. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
บทความ เรื่อง การอนรุ ักษ์วัฒนธรรมไทยและการเลอื กรบั วฒั นธรรมสากล
การวดั และการประเมินผล
7.1การประเมนิ กอ่ นเรยี น
- แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรู้ 2 เรื่อง วฒั นธรรมไทย
7.2การประเมินระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
1. ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง ความสำคัญของวฒั นธรรม
2. ใบงานท่ี 1.2 เรือ่ ง ลักษณะของวัฒนธรรมไทย
3. ใบงานท่ี 1.3 เรื่อง วฒั นธรรมท้องถิ่นภาคเหนอื
4. ใบงานท่ี 1.4 เรอ่ื ง วัฒนธรรมท้องถิน่ ภาคกลาง
5. ใบงานที่ 1.5 เรอื่ ง วฒั นธรรมทอ้ งถิน่ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื
6. ใบงานท่ี 1.6 เรอ่ื ง วฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ ภาคใต้
7. ใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง วเิ คราะหว์ ัฒนธรรม
8. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่
7.3 การประเมินหลังเรียน
- แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง วัฒนธรรมไทย
7.4การประเมนิ ช้นิ งาน / ภาระงาน (รวบยอด)
- ประเมินบทความ เรื่อง การอนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทยและการเลือกรบั วฒั นธรรมสากล
การประเมนิ ชน้ิ งาน / ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมนิ บทความ เร่อื ง การอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมไทยและการเลือกรบั วฒั นธรรมสากล
รายการประเมนิ ดีมาก (4) คำอธบิ ายระดับคุณภาพ / ระดบั คะแนน ปรบั ปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)
1. ความ เขยี นวิเคราะห์ เขียนวเิ คราะห์ เขียนวเิ คราะห์ เขยี นวเิ คราะห์
จำเป็นท่ี ความจำเปน็ ท่ี ความจำเป็นที่ ความจำเปน็ ที่ ความจำเปน็ ที่
จะตอ้ งมีการ จะต้องมกี าร จะตอ้ งมกี าร จะตอ้ งมีการ จะตอ้ งมกี าร
ปรับปรงุ ปรบั ปรุง ปรบั ปรงุ ปรบั ปรงุ ปรับปรงุ
เปลี่ยนแปลง เปลีย่ นแปลง เปลย่ี นแปลง เปล่ียนแปลง เปลี่ยนแปลง
วัฒนธรรม วัฒนธรรมอยา่ งมี วฒั นธรรมอยา่ งมี วัฒนธรรมอย่างมี วัฒนธรรมอยา่ งมี
เหตผุ ลเหมาะสม เหตุผลเหมาะสม เหตุผลเหมาะสม เหตผุ ลเหมาะสม
4 ประเดน็ ขึ้นไป 3 ประเดน็ 2 ประเด็น 1 ประเดน็
2. แนว เขยี นแนวทางการ เขียนแนวทางการ เขียนแนวทางการ เขยี นแนวทางการ
ทางการ อนรุ ักษ์วัฒนธรรม อนรุ กั ษ์วัฒนธรรม อนรุ ักษ์วัฒนธรรม อนรุ กั ษ์วัฒนธรรม
อนุรกั ษ์ ไทยได้ถูกต้อง ไทยได้ถกู ตอ้ ง ไทยไดถ้ กู ต้อง ไทยได้ถูกตอ้ ง
วฒั นธรรม เหมาะสม พรอ้ ม เหมาะสม พรอ้ ม เหมาะสม พร้อม เหมาะสม พรอ้ ม
ไทย ยกตวั อยา่ ง ยกตัวอย่าง ยกตัวอยา่ ง ยกตัวอยา่ ง
ประกอบอยา่ ง ประกอบ 4-5 ประกอบ 2-3 ประกอบ 1
นอ้ ย แนวทาง แนวทาง แนวทาง
6 แนวทางขน้ึ ไป
3. การเลือก เขียนเสนอวิธีการ เขียนเสนอวิธีการ เขยี นเสนอวธิ ีการ เขียนเสนอวธิ ีการ
รบั เลอื กรบั เลอื กรบั เลือกรบั เลือกรับ
วฒั นธรรม วฒั นธรรมสากล วัฒนธรรมสากล วัฒนธรรมสากล วฒั นธรรมสากล
สากล พรอ้ มยกตัวอย่าง พรอ้ มยกตวั อยา่ ง พรอ้ มยกตัวอย่าง พร้อมยกตวั อย่าง
ประกอบอย่างมี ประกอบอยา่ งมี ประกอบอยา่ งมี ประกอบอยา่ งมี
เหตุผลเหมาะสม เหตผุ ลเหมาะสม เหตุผลเหมาะสม เหตผุ ลเหมาะสม
อยา่ งนอ้ ย 3 วิธกี าร 2 วธิ ีการ 1 วธิ ีการ
4 วิธีการ
4. การ การนำเสนอได้ การนำเสนอได้ การนำเสนอได้ การนำเสนอได้
นำเสนอ ถูกต้องตรงตาม ถกู ตอ้ งตรงตาม ถูกตอ้ งตรงตาม ถกู ต้องตรงตาม
ผลงาน ประเด็น ประเดน็ ประเด็น ประเด็น
เรยี งลำดับ เรียงลำดับ เรียงลำดบั เรียงลำดบั
ขั้นตอนได้อย่าง ขนั้ ตอนได้ ขน้ั ตอนได้ ขน้ั ตอนได้
เหมาะสม วิธกี าร เหมาะสมเป็นสว่ น เหมาะสมเปน็ บาง เหมาะสมเป็นบาง
นำเสนอเรา้ ใจให้ ใหญ่ วิธกี าร ตอน วธิ ีการ ตอนวธิ กี าร
ติดตามฟัง นำเสนอเร้าใจให้ นำเสนอเรา้ ใจให้ นำเสนอไม่
ตดิ ตามฟัง ตดิ ตามฟังเป็น เร้าใจใหต้ ดิ ตาม
บางตอน ฟัง
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
13-16 ดมี าก
9-12 ดี
5-8 พอใช้
1-4 ปรับปรุง
กจิ กรรมการเรียนรู้
นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เรื่อง วัฒนธรรมไทย
รกั วฒั นธรรมไทย
กิจกรรมท่ี วธิ สี อนโดยการจดั การเรียนรู้แบบร่วมมือ : เทคนคิ คคู่ ิดสสี่ หาย เวลา 3 ชัว่ โมง
1 , เทคนคิ การตอ่ เร่ืองราว (Jigsaw)
2. ครูให้นกั เรียนแต่ละคนยกตัวอย่างวฒั นธรรมไทยที่นักเรียนชอบ พร้อมบอกเหตผุ ลประกอบ
3. ครอู ธบิ ายเชอื่ มโยงให้นกั เรยี นเห็นความสำคัญของวัฒนธรรมไทย
4. ครูแบ่งนักเรยี นเปน็ กลุ่ม กลุม่ ละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เก่ง ปานกลางคอ่ นข้างเกง่
ปานกลางค่อนขา้ งออ่ น และออ่ น (ครแู บ่งกลุ่มไว้ลว่ งหน้า) นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มจบั คูก่ นั เปน็ 2 คู่
ใหแ้ ตล่ ะคู่ช่วยกันศึกษาความรู้ เรอ่ื ง ความสำคญั ของวฒั นธรรมไทย ลกั ษณะของวัฒนธรรมไทย
จากหนังสือเรียน หรอื หนังสือคน้ ควา้ เพม่ิ เติม หรือแหลง่ ข้อมลู สารสนเทศตามความเหมาะสม
และช่วยกันทำใบงาน ดังนี้
- คทู่ ่ี 1 ทำใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง ความสำคญั ของวฒั นธรรมไทย
- คทู่ ี่ 2 ทำใบงานที่ 1.2 เรื่อง ลกั ษณะของวฒั นธรรมไทย
4. นักเรยี นแต่ละคูต่ รวจสอบความถูกตอ้ งของใบงาน แล้วผลัดกนั ถา่ ยทอดความร้ใู ห้เพ่ือนอีกคู่หนงึ่ ฟัง
5. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอผลงานตอ่ ชั้นเรยี น แล้วครแู ละนกั เรียนช่วยกนั สรุป
ความรูเ้ กย่ี วกับความหมาย ความสำคัญ ประเภทของวัฒนธรรม และลกั ษณะของวฒั นธรรมไทย
6. สมาชิกกลุม่ เดิม เรยี กว่า กลุ่มบ้าน (Home Groups) แต่ละกล่มุ เลือกหมายเลขประจำตัว 1-4 ตามลำดับ
แล้วแยกยา้ ยกันไปหาสมาชิกท่ีมีหมายเลขเดียวกนั ในกล่มุ ใหม่
7. สมาชิกกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุ่มผู้เช่ยี วชาญ (Expert Groups) ในแต่ละหมายเลขรว่ มกันศึกษาความรู้
เรอื่ ง วัฒนธรรมในภมู ิภาคตา่ งๆ ของไทย จากหนงั สือเรยี น และแหล่งการเรยี นรตู้ ่างๆ ตามความ
เหมาะสม จากนั้นชว่ ยกนั ทำใบงาน ดงั น้ี
- สมาชิกหมายเลข 1 ทำใบงานที่ 1.3 เรื่อง วฒั นธรรมท้องถนิ่ ภาคเหนอื
- สมาชกิ หมายเลข 2 ทำใบงานที่ 1.4 เรื่อง วฒั นธรรมทอ้ งถ่ินภาคกลาง
- สมาชิกหมายเลข 3 ทำใบงานท่ี 1.5 เรือ่ ง วัฒนธรรมทอ้ งถิน่ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื
- สมาชกิ หมายเลข 4 ทำใบงานที่ 1.6 เร่ือง วฒั นธรรมท้องถิ่นภาคใต้
8. สมาชิกกลุ่มผู้เช่ยี วชาญแตล่ ะหมายเลขตรวจสอบความถูกตอ้ งของใบงาน แล้วแยกย้ายกันกลับไปกลุม่
เดมิ ซึ่งเรยี กวา่ กลมุ่ บ้าน (Home Groups) แล้วผลัดกนั เล่าความรู้ทไ่ี ด้จากการทำใบงานท่ีตนทำใหแ้ ก่
เพอ่ื นสมาชกิ หมายเลขอ่ืนๆ และผลดั กนั ซักถามจนมคี วามเขา้ ใจกระจ่างชัดเจน
9. ครูส่มุ เรียกนกั เรียนบางคนในกลุ่มออกมาเฉลยคำตอบของใบงาน แลว้ ครูและนกั เรียนช่วยกันสรปุ
ความร้เู กยี่ วกบั ลกั ษณะสำคัญของวัฒนธรรมไทยในแตล่ ะภูมภิ าค
กจิ กรรมที่ การอนุรักษว์ ฒั นธรรมไทย เวลา 3 ชั่วโมง
2
วิธีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการสรา้ งความ
ตระหนัก, กระบวนการกล่มุ
1. ครูนำภาพเก่ยี วกับวฒั นธรรมไทยและวัฒนธรรมสากล มาใหน้ ักเรียนดู แลว้ ให้ช่วยกนั วเิ คราะห์
ความแตกต่าง และสาเหตุของความแตกตา่ ง
2. ครอู ธบิ ายเชอ่ื มโยงใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจถึงปจั จัยสำคัญที่ทำให้เกิดความแตกต่างทางวัฒนธรรม และการ
เผยแพรว่ ัฒนธรรมสากลไปยังภมู ิภาคตา่ งๆ ในโลก
3. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มศึกษาความรู้เร่อื ง การปรบั ปรงุ เปล่ียนแปลงวฒั นธรรมไทย และความแตกตา่ ง
ระหว่างวฒั นธรรมไทยกบั วัฒนธรรมสากล และชว่ ยกนั ทำใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง วเิ คราะห์วฒั นธรรม
4. ครแู ละนักเรยี นช่วยกนั เฉลยคำตอบในใบงาน และร่วมกนั สรปุ เกย่ี วกับการปรับปรงุ เปล่ยี นแปลง
วัฒนธรรมไทย อิทธพิ ลของชาตติ ะวันตกทมี่ ีตอ่ วัฒนธรรมไทย การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมท่ีมีผล
ตอ่ การเปล่ียนแปลงวัฒนธรรมไทย ความแตกตา่ งระหว่างวฒั นธรรมไทยกับวฒั นธรรมสากล
5. ครูใหน้ ักเรียนเล่าความประทบั ใจในวฒั นธรรมทดี่ ีงามของไทย มาคนละ 1 อย่าง และใหอ้ ธบิ ายเหตุผล
วา่ เหตุใดจงึ ประทับใจ ซ่งึ นักเรยี นจะมีเหตผุ ลแตกตา่ งกันออกไป
6. ครูอธบิ ายเชอ่ื มโยงให้นักเรียนเห็นคณุ ค่าของวฒั นธรรมไทย และความจำเปน็ ของการอนรุ กั ษ์
วฒั นธรรมไทย และการเลือกรบั วฒั นธรรมสากลท่ีดีงาม
7. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มศกึ ษาความรู้เร่ือง แนวทางการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทยที่ดงี าม และวธิ ีการเลือกรบั
วฒั นธรรมสากล จากหนงั สอื เรียนและจากแหล่งการเรียนรู้ตา่ งๆ และนำความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษาไป
เขียนเป็นบทความ เรื่อง การอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมไทยและการเลือกรับวัฒนธรรมสากล โดยเขยี นเปน็
บทความวเิ คราะห์และเสนอความคดิ เหน็ ในประเด็นตอ่ ไปน้ี
1) ความจำเป็นท่จี ะต้องมีการปรบั ปรงุ เปลยี่ นแปลงวฒั นธรรมไทย
2) แนวทางการอนรุ กั ษว์ ัฒนธรรมไทย
3) การเลอื กรับวัฒนธรรมสากล
8. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานหน้าช้ันเรยี นดว้ ยวิธกี ารทหี่ ลากหลายตามความเหมาะสม
9. ครูและนักเรียนชว่ ยกนั สรุปถึงความจำเปน็ ท่ีต้องมีการปรบั ปรงุ เปลย่ี นแปลงวฒั นธรรมไทย
การอนุรักษ์วฒั นธรรมไทย และการเลอื กรับวฒั นธรรมสากล
นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 เร่อื ง วฒั นธรรมไทย
สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
9.1 สอ่ื การเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น หน้าทีพ่ ลเมืองฯ ม.4-ม.6
2. หนงั สอื ค้นควา้ เพิ่มเตมิ
1) ชลุ พี ร สุสวุ รรณ และสุชิราภรณ์ บรสิ ทุ ธ.ิ์ ความรู้รอบตวั : ขนบธรรมเนียมและประเพณไี ทย.
กรงุ เทพฯ : บริษัท อกั ษราพพิ ฒั น์ จำกัด, 2544.
2) สมชยั ใจดี และยรรยง ศรวี ริ ยิ าภรณ.์ ประเพณีและวฒั นธรรมไทย. กรงุ เทพฯ : บรษิ ัท
สำนกั พิมพ์ ไทยวัฒนาพานชิ จำกดั , 2528.
3. เอกสารประกอบการสอนเรื่อง วฒั นธรรมไทย
4. ตวั อยา่ งสื่อประกอบการสอน
5. ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง ความสำคัญของวฒั นธรรมไทย
6. ใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง ลักษณะของวฒั นธรรมไทย
7. ใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคเหนอื
8. ใบงานท่ี 1.4 เรื่อง วฒั นธรรมทอ้ งถ่ินภาคกลาง
9. ใบงานท่ี 1.5 เรอ่ื ง วัฒนธรรมทอ้ งถิ่นภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ
10. ใบงานที่ 1.6 เรอ่ื ง วฒั นธรรมท้องถ่นิ ภาคใต้
11. ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง วเิ คราะหว์ ัฒนธรรม
9.2 แหลง่ การเรียนรู้
1. ห้องสมดุ
2. สำนกั หอจดหมายเหตแุ หง่ ชาติ
3. แหล่งข้อมูลสารสนเทศ
www.prapayneethai.com/th/culture/
th.wikipedia.org/wiki/หมวดหมู่:วัฒนธรรมไทย
guru.sanook.com/encyclopedia/สังคมและวฒั นธรรมไทย/
แบบทดสอบกอ่ นเรียน-หลังเรยี น ประจาหน่วยการ
คำชแ้ี จง ใหเน้ รกั ียเรนียนรเลูท้ อื กี่ 2คำตอบท่ีถูกต้องทส่ี ุดเพยี งขอ้ เดยี ว
1. “คนไทยทอ่ี ยรู่ มิ น้ำจะสร้างบา้ นใต้ถนุ สูง ชาวไทยจะรจู้ ักนำสมนุ ไพรมาใชเ้ ป็นอาหาร และยารกั ษา
โรค นอกจากนน้ั ยงั มีการสรา้ งสรรคศ์ ิลปะการวาดภาพลายไทย” ข้อความดังกล่าวแสดงถงึ ประโยชนข์ อง
วฒั นธรรมในข้อใด
ก. ตอบสนองความตอ้ งการทางด้านร่างกายและจิตใจ
ข. เป็นเป้าหมายหรอื วตั ถุประสงค์ในการดำรงชีวติ
ค. การกำหนดส่ิงท่ีดงี ามและเหมาะสมกบั ชวี ติ
ง. การปรบั ตนใหเ้ ข้ากบั สภาพแวดลอ้ ม
2. การแสดงออกของคนในสงั คมตะวันตกจะมีความแตกต่างจากสังคมไทย ขอ้ ความนแี้ สดงถงึ ประโยชนข์ อง
วัฒนธรรมในข้อใด
ก. เปน็ สง่ิ หล่อหลอมบคุ ลิกภาพ
ข. ความประพฤตขิ องคนในสังคม
ค. ความแตกต่างทางสภาพความเปน็ อยู่
ง. เปน็ ตัวกำหนดความสัมพันธ์หรอื พฤติกรรมของมนุษย์
3. “เกรกิ เกยี รตเิ ปน็ คนทีอ่ ยู่ทางภาคเหนือ เขาจงึ เป็นคนท่มี คี วามสุภาพ พูดจานุ่มนวล หนา้ ตายิม้ แยม้
เป็นไมตรีกบั คนทัว่ ไป” ขอ้ ความนี้แสดงถึงความสำคัญของวฒั นธรรมอยา่ งไร
ก. มีผลตอ่ คุณภาพชวี ิตของคนภาคเหนือ
ข. อุดมการณ์ ค่านิยม และทศั นคติของบุคคล
ค. ความสัมพนั ธร์ ะหว่างสถานภาพของคนในสังคม
ง. หล่อหลอมบุคลกิ ภาพใหส้ มาชกิ ของสังคมให้มีลักษณะแบบเดยี วกนั
4. “ประชาชนในจังหวัดยโสธรจะรว่ มมอื กันจดั ประเพณบี ญุ บ้ังไฟเปน็ ประจำทกุ ป”ี ขอ้ ความน้ีแสดงถึง
ความสำคญั ของวัฒนธรรมอย่างไร
ก. มจี ดุ หมายปลายทาง
ข. สังคมมีความเป็นระเบยี บ
ค. ก่อให้เกิดความเปน็ อนั หน่งึ อันเดียวกนั
ง. การเรยี นรู้ระเบยี บทางสงั คมและวฒั นธรรมไทย
5. เรงิ ชัยเป็นผู้ทม่ี ีมารยาทในการพบผู้ใหญ่ มีมารยาทในการเขา้ สังคม เขาปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมในข้อใด
ก. คตธิ รรม ข.วตั ถธุ รรม ค.เนตธิ รรม ง. สหธรรม
6. ชาวไทยไดร้ ับวัฒนธรรมมาจากชาติใด
ก. จีน ลาว ข.พม่า จีน ค.จีน อนิ เดยี ง. เขมร ลาว
7. ขอ้ ความเก่ยี วกบั พืน้ ฐานของวัฒนธรรมไทยข้อใดไมถ่ ูกตอ้ ง
ก. ภาษาขอม มอญ ละวา้ เปน็ พ้นื ฐานของวฒั นธรรมทางด้านภาษาของไทย
ข. สภาพแวดลอ้ มทางภูมิศาสตร์ก่อให้เกิดประเพณีและวฒั นธรรม
ค. พระพทุ ธศาสนาเปน็ บ่อเกิดของขนบธรรมเนียมประเพณีไทย
ง. วันสำคัญและเทศกาลสำคัญถอื วา่ เปน็ วฒั นธรรมหลักของชาติ
8. คนไทยส่วนใหญจ่ ะมวี ิถชี วี ิตและบุคลกิ ภาพทอี่ ่อนนอ้ ม และให้ความเคารพผใู้ หญ่ บุคลกิ ภาพดังกล่าวน้นั
ได้มาอยา่ งไร ข. สภาพแวดลอ้ มทางสงั คม
ก. การสอื่ สารระหวา่ งกนั
ค. เชือ้ ชาติและสภาพแวดลอ้ ม ง. การขัดเกลาทางสังคมและวฒั นธรรม
9. วันนักขตั ฤกษ์และประเพณใี นข้อใด ที่แสดงถึงความรัก ความเคารพ และความผกู พันของคนในชาติ
ก. วนั วสิ าขบชู า วนั เด็ก วนั เข้าพรรษา ข. วันสงกรานต์ วนั ลอยกระทง วนั ครู
ค. วันขึน้ ปีใหม่ วันปยิ มหาราช ง. วันจักรี วนั เด็ก วันธรรมะสวนะ
10. งานทำบญุ ตานกว๋ ยสลากหรืองานบุญสลากภัต มีคตสิ อนใจสำคญั ในเร่ืองใด
ก. ความรักใคร่ สามคั คกี นั ข. ความเสยี สละ
ค. ความรบั ผิดชอบ ง. ความเมตตา
11. งานประเพณกี ารสืบชะตาหรือการตอ่ อายุ มีผลดีในเรอื่ งใด
ก. การต่ออายุคน
ข. การทำบญุ อนั ย่งิ ใหญ่
ค. การให้กำลงั ใจ และการรวมญาติพนี่ ้อง
ง. การสรา้ งความเชื่อม่นั ใหแ้ ก่ผู้ที่ชะตาขาด
12. ขอ้ ใดจัดเปน็ วฒั นธรรมทอ้ งถนิ่ ภาคกลาง
ก. งานบุญคนู หลาน ข. การทำขวญั ข้าว
ค. งานแหผ่ ีตาโขน ง. ประเพณลี ากพระ
13. ประเพณีในข้อใดแสดงถงึ ความกตญั ญกู ตเวทตี อ่ บรรพบุรษุ
ก. ประเพณเี ลย้ี งข้าวแลงขันโตก ของภาคเหนือ
ข. ประเพณีแห่ผีตาโขน อำเภอดา่ นซา้ ย จงั หวัดเลย
ค. ประเพณีสารทเดือนสิบ ของจังหวัดนครศรีธรรมราช
ง. ประเพณีรบั โยนบัว อำเภอบางพลี จงั หวัดสมุทรปราการ
14. การปฏิรูปประเทศไทยต้งั แต่สมัยรัชกาลใดท่กี อ่ ให้เกิดการเปล่ยี นแปลงวฒั นธรรมและชีวติ ความเปน็ อยู่
ของคนไทยในด้านต่าง ๆ
ก. สมยั รัชกาลที่ 1 ข. สมยั รัชกาลท่ี 2
ค. สมยั รชั กาลที่ 3 ง. สมยั รชั กาลท่ี 4
15. การพฒั นาเศรษฐกจิ ท่ีเปลีย่ นแปลงไปอยา่ งรวดเรว็ กว่าการเปลยี่ นแปลงทางวฒั นธรรมจะเกิดปญั หาใด
ตามมา
ก. ปัญหาสงั คม ข. ปญั หาเศรษฐกิจ
ค. ปญั หาวัฒนธรรม ง. ปัญหาสิ่งแวดลอ้ ม
16. วฒั นธรรมสากล มลี ักษณะในข้อใด
ก. วฒั นธรรมทางทวปี ยโุ รป และทวปี อเมริกา
ข. วฒั นธรรมทม่ี คี วามเจริญก้าวหนา้ กว่าวฒั นธรรมอ่นื
ค. วฒั นธรรมท่ีมีความผสมผสานระหวา่ งหลายวฒั นธรรม
ง. วัฒนธรรมทกุ สงั คมมีความคล้ายคลึงกนั และมวี ัฒนธรรมพนื้ ฐานท่ีเหมือนกัน
17. ขอ้ ใดจดั ว่าเปน็ ความแตกต่างระหวา่ งวัฒนธรรมสากลกบั วัฒนธรรมไทย
ก. วัฒนธรรมสากลมคี วามหลากหลาย วัฒนธรรมไทยเนน้ การผสมผสาน
ข. วัฒนธรรมสากลเนน้ การอนุรักษ์วฒั นธรรมเดมิ วฒั นธรรมไทยเน้นการเปลีย่ นแปลง
ค. วัฒนธรรมสากลมีความเจริญทางด้านจิตใจ วฒั นธรรมไทยเนน้ ความเจริญทางด้านวตั ถุ
ง. วัฒนธรรมสากลเน้นปรัชญาว่า มนุษย์เปน็ นายธรรมชาติ วัฒนธรรมไทยเน้นปรัชญาวา่ มนษุ ย์ควรอยู่
แบบผสมกลมกลนื กับธรรมชาติ
18. แนวทางการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมมหี ลายประการยกเว้นในข้อใด
ก. รว่ มกจิ กรรมตา่ ง ๆ กบั องคก์ รระหว่างประเทศ
ข. คน้ คว้า รวบรวมวัฒนธรรมไทยและวัฒนธรรมทอ้ งถิน่
ค. การบริการความร้ทู างด้านวชิ าการและกจิ กรรมทางวฒั นธรรม
ง. มีการแลกเปล่ยี นศิลปวฒั นธรรมท้ังภายในประเทศและระหว่างประเทศ
19. การเลอื กรบั วฒั นธรรมสากลน้นั ควรพจิ ารณาจากปัจจัยในข้อใด
ก. รับวฒั นธรรมจากประเทศท่ีเจริญแล้ว
ข. สามารถผสมผสานกับวฒั นธรรมไทยได้
ค. การตอบสนองความตอ้ งการของชาวไทย
ง. วฒั นธรรมสากลตอ้ งมีผลประโยชนท์ างเศรษฐกิจ
20. ขอ้ ใดจัดว่าเป็นเหตุผลของการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงวฒั นธรรมไทย
ก. สังคมมีการเปล่ยี นแปลงไป
ข. วฒั นธรรมไทยเป็นสิ่งท่ีมมี าช้านานแลว้
ค. การปรับปรงุ ให้เขา้ กับการเมอื งการปกครอง
ง. ใหส้ อดคล้องกบั แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ
เฉลย
1. ก 2. ง 3. ง 4. ค 5. ง
6. ค 7. ก 8. ง 9. ข 10. ก
11. ค 12. ข 13. ค 14. ง 15. ก
16. ง 17. ง 18. ก 19. ข 20. ก
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1
หน้าท่ีพลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชีวิตในสงั คม
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 วัฒนธรรมไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4
เร่อื ง รักวฒั นธรรมไทย เวลา 3 ชั่วโมง
สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
ประเทศไทย มวี ัฒนธรรมซงึ่ ใช้เป็นแนวทางและวิถปี ฏบิ ตั ิต่อกันในสงั คมไทย สง่ ผลต่อบุคลกิ ลักษณะของ
คนไทยและความเปน็ เอกลักษณ์ของชาติไทย
ตัวชวี้ ดั /จดุ ประสงค์การเรียนรู้
2.1ตวั ช้วี ัด
ส 2.1 ม.4-6/5 วเิ คราะห์ความจำเป็นที่จะตอ้ งมีการปรบั ปรุงเปลี่ยนแปลงและอนรุ กั ษ์
วฒั นธรรมไทยและเลอื กรบั วัฒนธรรมสากล
2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายความหมาย ความสำคญั ของวฒั นธรรมได้
2. อธบิ ายลักษณะและความสำคัญของวฒั นธรรมไทยได้
สาระการเรยี นรู้
3.1สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
1. ความหมาย และความสำคัญของวัฒนธรรม
2. ลกั ษณะและความสำคญั ของวฒั นธรรมไทยทสี่ ำคัญ
3.2สาระการเรียนร้ทู ้องถน่ิ
-
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
4.3ความสามารถในการสื่อสาร
4.4ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคิดวเิ คราะห์
4.5ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
- กระบวนการปฏิบตั ิ
- กระบวนการทำงานกลมุ่
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
4. มีวินัย
5. ใฝเ่ รยี นรู้
6. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน
กิจกรรมการเรียนรู้
(วธิ สี อนโดยการจัดการเรยี นรแู้ บบรว่ มมือ : เทคนคิ คู่คดิ สี่สหาย, เทคนิคการตอ่ เรอ่ื งราว (Jigsaw))
นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 เร่อื ง วฒั นธรรมไทย
ช่ัวโมงท่ี 1
1. ครใู ห้นักเรียนแต่ละคนยกตวั อยา่ งวัฒนธรรมไทยท่ชี อบ พรอ้ มบอกเหตผุ ล ซงึ่ นักเรียนอาจจะ
ยกตวั อย่างหลากหลาย เชน่
- ประเพณลี อยกระทง
- การแต่งกายชดุ ไทย
- การแห่เทียนพรรษา
- อาหารไทย
- รำไทย
- ดนตรีไทย
- ภาษาไทย
2. ครอู ธบิ ายเช่ือมโยงให้นกั เรยี นเหน็ ความสำคัญของวัฒนธรรมไทย
3. ครแู บ่งนกั เรียนเปน็ กลมุ่ กลุม่ ละ 4 คน คละกันตามความสามารถ คอื เก่ง ปานกลางค่อนข้างเกง่
ปานกลางค่อนขา้ งอ่อน และอ่อน (ครแู บ่งกลุ่มนักเรยี นไวล้ ว่ งหนา้ ) นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ จับคกู่ นั
เปน็ 2 คู่ ใหแ้ ต่ละค่ชู ่วยกนั ศึกษาความรเู้ รื่อง ความสำคญั ของวัฒนธรรมไทย ลักษณะของวัฒนธรรมไทย
จากหนงั สอื เรียน และให้แต่ละค่ชู ว่ ยกันทำใบงาน ดงั นี้
- คู่ที่ 1 ทำใบงานที่ 1.1 เร่ือง ความสำคญั ของวัฒนธรรมไทย
- คทู่ ่ี 2 ทำใบงานที่ 1.2 เรือ่ ง ลักษณะของวฒั นธรรมไทย
4. นักเรยี นแตล่ ะคตู่ รวจสอบความถูกต้องสมบูรณข์ องใบงานทต่ี นรับผดิ ชอบ แล้วแต่ละคผู่ ลดั กนั อธิบาย
ถ่ายทอดความรจู้ ากการทำใบงานใหเ้ พอ่ื นอกี คู่หนึ่งฟัง สมาชกิ ทุกคนในกลุม่ ผลัดกนั ซกั ถามและ
ตรวจสอบความถูกต้องของใบงาน
5. ครใู หต้ ัวแทนกล่มุ นำเสนอผลงาน ประมาณ 2-3 กลมุ่ และให้กล่มุ อื่นท่ีมีผลงานแตกต่างกนั
ออกไปนำเสนอเพ่ิมเตมิ
6. ครแู ละนักเรยี นช่วยกนั สรุปความรูเ้ กยี่ วกบั ความหมาย ความสำคัญ ประเภทของวฒั นธรรม และ
ลักษณะของวัฒนธรรมไทย
ช่ัวโมงท่ี 2-3
1. ครูทบทวนความรูเ้ ดิมของนักเรยี นดว้ ยการตง้ั คำถามให้นักเรยี นตอบ ดงั นี้
1) วัฒนธรรมมีความหมายวา่ อย่างไร
2) วฒั นธรรมมีความสำคัญอย่างไร
3) วัฒนธรรมมกี ี่ประเภท อะไรบา้ ง
4) วฒั นธรรมไทยมีลักษณะสำคญั อย่างไร
2. นกั เรยี นกลุ่มเดมิ เรยี กวา่ กล่มุ บ้าน (Home Groups) และให้สมาชิกในกลุม่ เลอื กหมายเลขประจำตัว
ต้ังแตห่ มายเลข 1-4 ตามลำดับ แล้วใหแ้ ต่ละกลุ่มแยกยา้ ยกันไปหาสมาชิกที่มีหมายเลขเดยี วกัน
เรียกวา่ กลมุ่ ผ้เู ชยี่ วชาญ (Expert Groups)
3. สมาชิกกลุ่มผู้เช่ยี วชาญแต่ละหมายเลขร่วมกันศกึ ษาความรเู้ ร่ือง วฒั นธรรมในภูมภิ าคตา่ งๆ
ของไทย จากหนังสือเรียนและแหลง่ การเรียนร้ตู ่างๆ และทำใบงาน ดงั น้ี
- หมายเลข 1 ทำใบงานท่ี 1.3 เรือ่ ง วัฒนธรรมท้องถน่ิ ภาคเหนอื
- หมายเลข 2 ทำใบงานท่ี 1.4 เร่ือง วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคกลาง
- หมายเลข 3 ทำใบงานที่ 1.5 เรือ่ ง วฒั นธรรมทอ้ งถิ่นภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื
- หมายเลข 4 ทำใบงานท่ี 1.6 เรอ่ื ง วฒั นธรรมท้องถน่ิ ภาคใต้
4. สมาชกิ กลุ่มผเู้ ชี่ยวชาญช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ งของใบงานทกี่ ลมุ่ รบั ผดิ ชอบ และทำความ
เขา้ ใจจนกระจ่างชดั เจนแลว้ แยกยา้ ยกันกลับไปกลมุ่ เดมิ ซ่ึงเรยี กวา่ กลุม่ บ้าน (Home Groups)
5. สมาชิกกล่มุ บ้านแตล่ ะหมายเลขผลัดกันเล่าความร้จู ากใบงานทตี่ นศึกษามาให้แก่สมาชกิ หมายเลขอื่น
ฟัง และผลัดกนั ซกั ถามจนมคี วามเขา้ ใจชดั เจนดีทุกคน
6. ครสู มุ่ เรยี กนักเรียนบางคนในกล่มุ ออกมาเฉลยคำตอบของใบงาน ทุกใบงานตามความเหมาะสม
จากนั้นช่วยกนั สรปุ ความรู้เกีย่ วกับ ลกั ษณะสำคญั ของวฒั นธรรมไทยในแต่ละภมู ิภาค
การวัดและประเมินผล เครือ่ งมือ เกณฑ์
แบบทดสอบก่อนเรียน รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
วธิ กี าร หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เรอ่ื ง
ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น วัฒนธรรมไทย รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง ใบงานท่ี 1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
วฒั นธรรมไทย ใบงานท่ี 1.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 1.1 ใบงานท่ี 1.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 1.2 ใบงานท่ี 1.4 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 1.3 ใบงานที่ 1.5 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 1.4 ใบงานท่ี 1.6 ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 1.5 แบบประเมินการนำเสนอผลงานกลมุ่ ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 1.6 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่
ประเมนิ การนำเสนอผลงานกลุ่ม
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ
ส่ือ/แหลง่ การเรยี นรู้
8.1สื่อการเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น หนา้ ท่พี ลเมอื งฯ ม.4-ม.6
2. หนงั สือคน้ ควา้ เพ่มิ เติม
1) ชุลพี ร สุสวุ รรณ และสุชริ าภรณ์ บริสุทธ์ิ. ความรรู้ อบตัว : ขนบธรรมเนียมและประเพณไี ทย.
กรุงเทพฯ : บริษัท อักษราพิพัฒน์ จำกัด, 2544.
2) สมชยั ใจดี และยรรยง ศรวี ริ ยิ าภรณ.์ ประเพณีและวัฒนธรรมไทย. กรุงเทพฯ : บรษิ ทั
สำนักพิมพ์ ไทยวฒั นาพานชิ จำกัด, 2528.
3. เอกสารประกอบการสอนเรื่อง วฒั นธรรมไทย
4. ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง ความสำคญั ของวัฒนธรรมไทย
5. ใบงานที่ 1.2 เรื่อง ลกั ษณะของวัฒนธรรมไทย
6. ใบงานที่ 1.3 เร่อื ง วัฒนธรรมทอ้ งถิน่ ภาคเหนอื
7. ใบงานท่ี 1.4 เรอื่ ง วัฒนธรรมท้องถน่ิ ภาคกลาง
8. ใบงานท่ี 1.5 เรอ่ื ง วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ
9. ใบงานที่ 1.6 เร่ือง วฒั นธรรมท้องถิน่ ภาคใต้
8.2แหล่งการเรียนรู้
1. หอ้ งสมุด
2. สำนักหอจดหมายเหตแุ หง่ ชาติ
3. แหล่งข้อมลู สารสนเทศ
www.prapayneethai.com/th/culture/
th.wikipedia.org/wiki/หมวดหมู่:วฒั นธรรมไทย
guru.sanook.com/encyclopedia/สงั คมและวฒั นธรรมไทย/
เอกสารประกอบการสอน
เรอื่ ง วัฒนธรรมไทย
ความหมายของวฒั นธรรม
คาว่า วฒั นธรรม เป็นภาษาบาลีและสันสกฤต “วฒั น” เป็นภาษาบาลี แปลวา่ “เจริญ
งอกงาม” สว่ นคาว่า “ธรรม” เป็นภาษาสนั สกฤต หมายถงึ “ความดี” ซึ่งถา้ แปลตามรากศพั ทก์ ็
คอื “สภาพอนั เป็นความเจริญงอกงามหรอื ลกั ษณะที่แสดงถึงความเจรญิ งอกงาม”
วัฒนธรรมเป็นวิถีชีวิตหรือการดาเนินชีวิตของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ซ่ึงหมายรวมถึง
ความคิด ศิลปะ วรรณคดี ดนตรี ปรัชญา ศีลธรรม จรรยา ภาษา กฎหมาย ความเช่ือ
ขนบธรรมเนียมประเพณีและสิง่ ตา่ งๆ ทม่ี นษุ ยส์ รา้ งขนึ้ ซึง่ ไดถ้ ่ายทอดใหก้ บั คนรุน่ ต่อๆ มา เป็น
เร่ืองของการเรียนรูจ้ ากคนกล่มุ หน่ึงไปยังคนอีกกล่มุ หนึ่ง ซึ่งถา้ ส่ิงใดดีก็เก็บไว้ ส่ิงใดควรแกก้ ็
แกไ้ ขกนั ใหด้ ขี นึ้ เพอื่ จะไดส้ ่งเสรมิ ใหม้ ลี กั ษณะทด่ี ีประจาชาติต่อไป ในลกั ษณะนี้ วฒั นธรรมจึง
เป็นการแสดงออกซ่ึงความเจริญงอกงาม ความเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย และศีลธรรมอันดีงาม
ของประชาชน
สรุปแลว้ วัฒนธรรม หมายถึงการดาเนินชีวิตของคนกล่มุ ใดกล่มุ หน่ึงท่ีแสดงออกถึง
ความเจริญงอกงาม ความเป็นระเบียบเรยี บรอ้ ย ความกลมเกลยี ว ความกา้ วหนา้ และศีลธรรม
ของประชาชน
ความเป็ นมาของวัฒนธรรมไทย
ชาติไทยเป็นชาติทม่ี ีวฒั นธรรมอนั ดีงามมาแต่โบราณ วฒั นธรรมไทยท่ีเรามแี ละปฏิบัติ
กนั อย่สู ่วนหนึ่งเป็นเรอ่ื งของคนรุน่ กอ่ นๆ หรอื บรรพบรุ ุษของเราไดถ้ า่ ยทอดมายงั อนชุ นรุ่นหลัง
ทาใหเ้ รามีความประพฤติและการปฏิบัติอย่างที่เราเป็นอยู่ อีกส่วนหนึ่งจากการท่ีเราไดม้ ีการ
ตดิ ต่อกบั คนชาตอิ น่ื ๆ เพ่อื เชือ่ มสมั พนั ธไมตรี หรือเพ่ือคา้ ขาย หรอื ดว้ ยเหตใุ ดก็ตาม วฒั นธรรม
ของชาติท่เี ราเก่ยี วขอ้ งดว้ ย มผี ลต่อวฒั นธรรมไทยไม่นอ้ ย และชนชาตทิ ีม่ ีอิทธิพลตอ่ วฒั นธรรม
ไทย คือ มอญ ขอม อินเดีย จีน และชาตติ ะวนั ตก
หากมองยอ้ นส่อู ดตี เราไดต้ ดิ ต่อสมาคมกบั ชาวพนื้ เมอื ง คอื มอญ และขอม มอญและ
ขอมรับอิทธิพลจากอินเดียเช่นกัน โดยคนไทยเห็นว่าสิ่งใดดีมีประโยชน์ก็นามาดัดแปลง
กลายเป็นวฒั นธรรมไทย
โดยเฉพาะอิทธิพลของอารยธรรมอินเดีย ปรากฏได้ในด้านศาสนา การปกครอง
ขนบธรรมเนียมประเพณี วรรณคดี ศิลปกรรมอย่างกว้างขวาง แต่ในระยะหลังอิทธิพลของ
อารย-ธรรมตะวนั ตกและจีนมมี ากขนึ้
ศาสนา เรารบั ศาสนาพทุ ธมาจากอนิ เดีย ซ่งึ อทิ ธิพลของศาสนาพทุ ธมตี ่อคนไทยอย่าง
มาก ทัง้ ในด้านการปกครอง และในดา้ นกิริยามารยาทและความเป็นอย่จู นกลายเป็นธรรม
เนียมไทยไป ส่วนคติความเชื่อในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ของพราหมณ์ ไทยนามาปฏบิ ตั ิ
ไม่นอ้ ย เชน่ การโกนจกุ การหมน้ั ฯลฯ
การปกครอง สมัยสโุ ขทัย เรามีการปกครองแบบของตนเอง คือ แบบพ่อปกครองลกู
แตป่ ลายสมยั สโุ ขทยั และสมยั อยธุ ยา มีอิทธิพลของขอมเขา้ มาแทรกแซง ทาใหร้ ูปการปกครอง
ไดเ้ ปลี่ยนจากแบบพ่อปกครองลูกมาเป็นขา้ กบั เจา้ หรือบ่าวกับนาย ซึ่งขอมก็รบั การปกครอง
จากอินเดียอีกทอดหนึ่ง โดยถือว่ากษัตริย์เป็นสมมติเทพ ภายหลังเรารับอารยธรรมของ
ตะวนั ตก จึงเปล่ียนการปกครองเป็นแบบประชาธิปไตยมพี ระมหากษัตรยิ เ์ ป็นประมขุ
ศิลปกรรม สมยั สโุ ขทยั มีศิลปกรรมเป็นของตนเอง งดงาม และคอ่ นขา้ งเป็นแบบไทย
แท้ แต่เมือ่ ไทยไดร้ บั พระพทุ ธศาสนาลทั ธิหินยานนิกายลังกาวงศ์ ศลิ ปกรรมของลงั กาจงึ เขา้ มา
มีอิทธิพลในศิลปะของสุโขทัย โดยเฉพาะ “เจดีย์” ส่วนคติการสรา้ ง “วัด” หรือการสรา้ ง
พระพทุ ธรูปเรารบั มาจากอนิ เดีย พอถึงสมยั อยธุ ยาอทิ ธิพลของขอมมมี ากในรูปการสรา้ ง
“พระปรางค”์
วรรณกรรม วรรณกรรมของอินเดียมักเก่ียวกับศาสนาหรือยกย่องเทิดทูน
พระมหากษัตริย์ ซึ่งคติความเชื่อในเร่ืองนีม้ ีอิทธิพลต่อวรรณกรรมหรือพืน้ ฐานความเชื่อของ
ไทย เชน่ การมใี จเมตตาเออื้ เฟื้อใหท้ าน ความจงรกั ภกั ดีตอ่ กษตั ริย์ การเชอื่ ฟังผปู้ กครอง ความ
กตญั ญกู ตเวทตี ่อผมู้ พี ระคณุ การใหอ้ ภยั ต่อกนั เป็นตน้
ภาษา สมัยสุโขทัย พ่อขุนรามคาแหงประดิษฐ์อักษรไทยขึน้ โดยไดร้ บั อิทธิพลจาก
ตัวอักษรขอม นอกเหนือจากภาษาขอมแลว้ เรายงั นิยมใชภ้ าษาบาลีและสันสกฤต ซ่ึงเป็นผล
จากการเผยแผ่ศาสนาพทุ ธ และศาสนาพราหมณ์ เมื่อเรารบั ศาสนาเขา เราก็รบั ภาษาของเขา
มาใชใ้ นภาษาไทยดว้ ย สมยั อยธุ ยาเรารบั การปกครองแบบสมมติเทพจากขอม เราจึงรบั ภาษา
ขอมมาใชม้ ากขนึ้ โดยเฉพาะคาราชาศพั ท์ สว่ นชาวจีนเราตอ้ งอาศัยในการเดินเรอื คา้ ขายและ
รบั เอาภาษาจีนมาใชใ้ นการเรียกตาแหน่งตา่ งๆ เชน่ จนุ้ จู๊ นายสาเภา ไตก้ ๋ง เป็นตน้ ปัจจบุ นั เรา
ยอมรับภาษาชาติอ่ืนๆ มาใชบ้ ้าง เพ่ือความเข้าใจต่อกันและเพื่อความรู้ เช่น ภาษาองั กฤษ
(สไตรค์ หรือศพั ทท์ างการแพทยบ์ างอย่าง เช่น วคั ซนี ฯลฯ) เป็นตน้
หตั ถกรรม สมยั พ่อขนุ รามคาแหง มีช่างมาสอนทาเครื่องป้ันดินเผา สมยั อยธุ ยา บาง
ท่านกล่าวว่า เราคงไดค้ วามคิดในการประดิษฐ์ลายประดับมุกจากจีน แต่ปัจจบุ ันเรานิยมทา
เคร่ืองถว้ ยชามดว้ ยเครื่องจกั รแบบตะวนั ตกไมน่ อ้ ย
ขนบธรรมเนียมประเพณี ไทยในสมยั อยธุ ยาไดค้ ตคิ วามเชอ่ื จากขอมทถ่ี ือว่ากษตั รยิ ์
เป็นสมมติเทพ ทาใหม้ กี ารใชร้ าชาศพั ทแ์ ละพธิ ีการต่างๆ ในราชสานกั นอกจากนน้ั ประเพณไี ม่
นอ้ ยไดม้ าจากอินเดีย เช่น การแต่งงาน เผาศพ ปลูกบา้ น การตงั้ ศาลพระภูมิ แต่อารยธรรม
ตะวันตกก็ไดเ้ ขา้ มาผสมผสานในหลายเรื่อง เช่น การแต่งงานแบบไทยแต่เลีย้ งแบบฝร่งั หรือ
การจบั มือกนั แทนการไหวใ้ นบางโอกาส
ระยะหลงั สังคมไทยมีการติดต่อกับประเทศที่เจริญกว่ามากขึน้ โดยเฉพาะประเทศ
ตะวนั ตก และย่งิ เราติดตอ่ มากขนึ้ เทา่ ไรเราก็ยง่ิ รบั อารยธรรมจากเขามากขนึ้ เทา่ นนั้ ไม่วา่ จะใน
ดา้ นความเช่ือลทั ธิ อดุ มการณ์ การปกครอง การศึกษา สังคม เป็นตน้ วิถีชีวิตท่ีเคยเป็นอยจู่ ึง
เปลี่ยนไปจากเดิมในหลายดา้ น เช่น ในดา้ นการปกครอง ดา้ นความเป็นอยู่ (ชายหญิงก็เท่า
เทียมกนั มากกว่าแต่กอ่ น หญิงสามารถทางานเคียงบ่าเคียงไหล่กบั ชายได)้ ดา้ นการแต่งกาย
ดา้ นการปลกู สรา้ ง (มกี ารใชว้ สั ดใุ หม่ๆ เชน่ อะลมู ิเนยี ม ซเี มนต์ เป็นตน้ )
สรุปแลว้ วฒั นธรรมไทยในอดีตและปัจจบุ นั มอี ิทธิพลของอารยธรรมต่างชาติไม่มากก็
นอ้ ย โดยเราไดเ้ ลอื กสรรสิง่ ท่ีเป็นประโยชน์ และเขา้ กบั สภาพความเป็นอยขู่ องคนไทย เป็นการ
ผสมผสานกบั วฒั นธรรมของเราเองที่มีมาแต่ดงั้ เดิม คือ เรายอมรบั เอาวฒั นธรรมที่ดีของชาติ
อื่นท่ีเราติดต่อด้วยมาเป็นของเราบา้ ง ดัดแปลงบ้าง ให้เขา้ กับความเชื่อแบบไทยๆ จนเป็น
วฒั นธรรมท่ีมีลักษณะแบบของเราเองท่ีแตกต่างกบั ชาติอ่ืนๆ โดยในแต่ละยุคแต่ละสมัย ได้
พยายามสง่ เสรมิ และรกั ษาวฒั นธรรมท่ดี ีงามเหลา่ นตี้ ลอดมา
ปัจจยั ท่เี กอื้ หนุนและบ่ันทอนวัฒนธรรม
วฒั นธรรมมีทงั้ เจริญและเสื่อมสญู ไปได้ ซ่ึงขึน้ อย่กู บั สภาพของสงั คม ความเชื่อและ
ปัจจยั ส่งิ แวดลอ้ มอน่ื ๆ
ก. ปัจจยั ทเี่ กอื้ หนนุ วฒั นธรรม
ในท่ีนจี้ ะขอยกเพยี งบางปัจจยั ท่ีสาคญั ดงั ตอ่ ไปนี้ คอื
1. สอดคล้องหรือเข้ากับความประพฤติที่มีอยู่เดิม เช่น ศาสนาพุทธแพร่หลายในไทย
มากกว่าศาสนาพราหมณ์ ซงึ่ อาจเป็นไดว้ ่าเพราะเราไมน่ ิยมการแบง่ คนออกเป็นชนชนั้
ตา่ งๆ เหมือนระบบวรรณะในศาสนาพราหมณ์
2. อิทธิพลของศาสนา คนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ดังนั้น พระพุทธศาสนามี
อิทธิพลต่อชีวิตของคนไทยมาก เช่น ความกตญั ญกู ตเวที การมีสมั มาคารวะ ความ
สุภาพเรียบรอ้ ย ความโอบออ้ มอารีมีใจเมตตา ฯลฯ ซึ่งเป็นวฒั นธรรมของไทยเรามา
แต่โบราณจนถึงปัจจบุ นั
3. การเหน็ คณุ ประโยชน์ หากประชาชนสว่ นใหญ่เหน็ วา่ ทาแลว้ ไดป้ ระโยชน์ ประชาชนจะ
รกั ษาและปฏิบัติตามวฒั นธรรมนัน้ ๆ เช่น ในเทศกาลตรุษสงกรานตเ์ ราก็สรงนา้ พระ
รดนา้ และขอพรจากผใู้ หญ่ ทาความสะอาดบา้ นเรือน หรือการแรกนาขวญั เป็นพิธีท่ี
บอกว่าถึงฤดูทานาแล้ว และข้าวจากพิธีจะช่วยให้การปลูกข้าวได้ผลขึน้ ซ่ึงเป็น
กาลงั ใจแก่ชาวนา หรือการยอมรบั เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อความเป็นอย่ทู ี่สุขสบายขึน้
เป็นตน้
4. กลุ่มผลประโยชน์ เป็นกลุ่มที่ต้องการรักษาวัฒนธรรมของตน เช่น กลุ่มอนุรักษ์
วัฒนธรรม กล่มุ ดนตรีไทย ฯลฯ บุคคลเหล่านีเ้ ห็นว่าวัฒนธรรมไทยเป็นของดีอย่แู ล้ว
พยายามส่งเสริมและคัดคา้ นการเปล่ียนแปลงใดๆ ที่ทาลายวฒั นธรรมที่ตนเห็นว่าดี
และสนบั สนนุ ส่งเสรมิ การเปลีย่ นแปลงที่ทาใหว้ ฒั นธรรมทตี่ นส่งเสรมิ นน้ั ดขี นึ้
5. ตัวแทนของวัฒนธรรม ตัวแทนใดก็ตามท่ีมีอิทธิพลหรือมีอานาจจะเป็นเคร่ืองช่วย
ส่งเสริมวัฒนธรรมได้มากย่ิงขึน้ เช่น ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้
เจา้ อย่หู วั เจา้ นายและขา้ ราชการชนั้ ผใู้ หญ่ ไดแ้ ต่งกายแบบยโุ รป ทาใหป้ ระชาชนนิยม
เลียนแบบแต่งกายตามแบบยุโรปดว้ ยไม่นอ้ ย หรือในรชั กาลนีไ้ ดม้ ีการเปลี่ยนแปลง
การปกครองใหท้ นั สมยั ขนึ้ เป็นตน้
6. สภาพทางเศรษฐกิจ หากสภาวะเศรษฐกิจรุง่ เรือง ไม่ขาดแคลน คนจะมีจิตใจสบาย
ความปกติสุขจะเกิดขึน้ คนจะอยู่อย่างสงบสุขหรือพยายามอย่ใู หด้ ีขึน้ โดยสิ่งใดดี
มกั จะรบั ไว้ วฒั นธรรมจึงดารงอย่ไู ดแ้ ละอาจจะมีวฒั นธรรมทีใ่ หม่และดีเพิ่มขนึ้
7. สภาพทางการเมือง ประเทศใดภาวะทางการเมืองม่นั คงประเทศนน้ั จะมแี ต่ความปกติ
สขุ สถาบนั ต่างๆ ก็สามารถดารงอย่ไู ดอ้ ยา่ งม่นั คง
ข. ปจั จยั ทบี่ ่นั ทอนวฒั นธรรม
1. ความรูส้ ึกหรืออารมณ์ เป็นความรูส้ ึกผกู พนั กับส่ิงเก่าๆ ตามความเคยชิน เช่น คนแก่
มกั กลวั โรงพยาบาล ไมอ่ ยากไปถา้ ไม่จาเป็นจรงิ ๆ เพราะคิดวา่ เป็นสถานท่ีท่ีจะไปตาย
หรือชาวเขาไม่ชอบอาบนา้ บอ่ ยๆ เป็นตน้
2. กล่มุ ผลประโยชน์ เป็นกล่มุ ท่ีต่อต้านวัฒนธรรมใดก็ตามที่ทาใหต้ นเสียผลประโยชน์
เช่น คนเขา้ ทรงนิยมใหค้ นเชอื่ เร่ืองไสยศาสตรเ์ พือ่ ตนจะไดม้ ีรายได้ คนขายควายก็ไม่
ชอบใหม้ ีการทาควายเหล็กเพราะจะทาใหช้ าวนาซือ้ ควายทานานอ้ ยลง ซึ่งทาใหต้ น
ขาดรายได้ เป็นตน้
3. ทศั นคติหรือเจตคติ แมจ้ ะเห็นว่าวฒั นธรรมนนั้ ดี แต่ไม่เต็มใจรบั เพราะเห็นว่าย่งุ ยาก
ลาบากหรือไม่คนุ้ เคย เช่น ชาวชนบทไม่นอ้ ยนิยมเกบ็ เงินไวก้ บั บา้ นหรอื ซอื้ เป็นทอง ไม่
นิยมฝากไวก้ บั ธนาคาร จึงทาใหถ้ กู ปลน้ สะดมไดง้ ่าย และทาใหเ้ งินทองไม่หมนุ เวยี น
เป็นตน้
4. การไม่เห็นคุณประโยชนข์ องวัฒนธรรม เพราะไม่เห็นผลทันตา วัฒนธรรมหลายๆ
อย่างจึงตอ้ งใชเ้ วลา ทาใหป้ ฏิบตั วิ ฒั นธรรมไม่ไดผ้ ลเท่าท่ีควร เชน่ ชาวเขายนิ ดีรบั ปืน
ไปใชแ้ ตไ่ ม่นิยมรบั ยาไปรกั ษา เพราะยาไมเ่ หน็ ผลทนั ตาเท่ากบั ปืน เป็นตน้
5. ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เช่น การแพทย์เจริญทาให้มีคนเพิ่มมากขึน้
ในขณะที่ทรัพยากรเพิ่มไม่ทันกับจานวนคน ทาใหค้ นตอ้ งดิน้ รนเห็นแก่ตัว หรือคิด
อาวธุ ประหตั ประหารกนั ฯลฯ เป็นการทาลายลา้ งวฒั นธรรมท่ใี หม้ เี มตตาตอ่ กัน เออื้ เฟื้อ
ต่อกนั เป็นตน้
6. สภาพทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะสภาพความแรน้ แค้นยากจนที่ก่อใหเ้ กิดปัญหาเสื่อม
โทรมทางดา้ นศีลธรรม เช่น อาชญากรรม โสเภณี ยาเสพติด ฯลฯ เป็นการทาลาย
วฒั นธรรมอนั ดีงามทม่ี ีอย่แู ต่เดิม
7. สภาพทางการเมือง หากประเทศแตกแยกไม่ม่นั คง มีการต่อสทู้ างลัทธิต่างๆ ไม่ว่าจะ
เป็นการต่อสกู้ นั เองหรือจากฝ่ายตรงกนั ขา้ ม (คอมมวิ นสิ ต)์ วฒั นธรรมกจ็ ะถกู บ่นั ทอน
เช่น เรารกั เคารพพระมหากษัตรยิ แ์ ต่คอมมวิ นิสตอ์ าจจะมองไปในทางตรงกนั ขา้ ม
เป็นตน้
สรุปแลว้ ปัจจยั ท่ีเกือ้ หนุนหรือบ่ันทอนวัฒนธรรมขึน้ อย่กู บั สภาพสังคม เศรษฐกิจแต่ละ
ประเทศ ว่ามคี วามม่นั คงและเส่อื มโทรมเพยี งไร
ท่ีมา : สมชัย ใจดี และยรรยง ศรีวิริยาภรณ์. ประเพณีและวัฒนธรรมไทย.
กรุงเทพฯ : บรษิ ัท สานกั พิมพ์ ไทยวฒั นาพานชิ จากดั , 2528
ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง ความสำคัญของวฒั นธรรมไทย
ตอนท่ี 1
คำชีแ้ จง ให้นกั เรียนเขียนแผนผงั ความคดิ เรือ่ ง ความสำคญั ของวฒั นธรรม
ใช้ประโยชน์
ต่อการดารงชวี ิต
ความสาคญั ก่อให้เกดิ ความเป็ น
ของ อนั หนึ่งอนั เดยี วกัน
วฒั นธรรม
ทาหน้าทหี่ ล่อหลอม
บุคลกิ ภาพ
ตอนที่ 2
คำชี้แจง ให้นกั เรียนยกตวั อย่างประเภทของวฒั นธรรมในกรอบท่วี า่ ง
ประเภทของวฒั นธรรม
การจัดประเภทตาม การจัดประเภทตาม
ลกั ษณะทม่ี องเห็นหรอื เนือ้ หา
สมั ผัสได้
ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อยา่ ง ตวั อย่าง ตวั อยา่ ง
ใบงานที่ 1.1 เร่อื ง ความสำคญั ของวฒั นธรรมไทย
ตอนที่ 1
คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรียนเขยี นแผนผงั ความคิด เร่ือง ความสำคัญของวัฒนธรรม
เป็นเป้าหมาย กาหนด
ในการ พฤตกิ รรม
ดารงชีวิต ของมนษุ ยค์ วบคมุ สงั คม
ใช้ประโยชน์ ตอบสนองความ ร่วมมอื กนั
อนรุ กั ษ์
ต่อการดารงชวี ิต ความ วฒั นธรรม
ผกู พนั
ตอ้ งการ
ก่อให้เกดิ ความเป็ น
ดา้ นรา่ งกายและจติ ใจ อนั หนึง่ อนั เดยี วกัน
ความสาคัญ
ของ
วัฒนธรรม
ทาหน้าทหี่ ล่อหลอม
บคุ ลิกภาพ
ความ กริ ยิ า การพ่งึ พา จิตสานกึ
เชคอื่ วามสนใจ การแตง่ ทา่ ทาง อาศยั กนั เป็นพวก
ความคิดกาย เดียวกนั
ทศั นคติ สรา้ งสรรค์
ความรู้
ตอนที่ 2
คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนยกตัวอย่างประเภทของวฒั นธรรมในกรอบที่วา่ ง
ประเภทของวฒั นธรรม
การจัดประเภทตาม การจัดประเภทตาม
ลกั ษณะทมี่ องเห็นหรือ เนอื้ หา
สัมผสั ได้
วฒั นธรรม วฒั นธรรม คติธรรม วตั ถธุ รรม เนตธิ รรม สหธรรม
ทางวตั ถุ ทางอวตั ถุ
ตวั อย่าง ตวั อย่าง ตวั อยา่ ง ตวั อย่าง
ตวั อย่าง ตวั อยา่ ง ความ บา้ น กฎหมาย มารยาท
เมตตา รถยนต์ กฎ ใน
หนงั สอื ค่านยิ ม ความ โทรทศั น์ ศีลธรรม การพบ
แวน่ ตา มารยาท กรุณา หนงั สอื จารีต ผูใ้ หญ่
รถยนต์ ปรชั ญา ความ เครอื่ ง มารยาท
โทรทศั น์ ความเชอื่ กตญั ญู แต่ง ใน
ความ การเขา้
กาย
(หมายเหตุ นกั เรยี นสามารถยกตัวอย่างเป็นอขยยา่ นงั อืน่ ไดต้ ามความเหถมนาะนสม ให้อยู่ในดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อสนงั) คม
ความ
อดทน
ใบงานที่ 1.2 เรื่อง ลักษณะของวัฒนธรรมไทย
คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นวเิ คราะห์ภาพแลว้ เขียนบรรยายใต้ภาพ ใหเ้ ห็นความสอดคล้องของภาพกับลกั ษณะ
ของวฒั นธรรมไทย
ใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง ลกั ษณะของวฒั นธรรมไทย
คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นวิเคราะห์ภาพแลว้ เขยี นบรรยายใต้ภาพ ใหเ้ หน็ ความสอดคล้องของภาพกับลักษณะ
ของวัฒนธรรมไทย
แนวความคิด ความเชือ่ ของคนไทย จะอยู่ ภาษาไทยเปน็ สอื่ กลางในการติดตอ่ สมั พันธ์
บนพ้ืนฐานของพระพทุ ธศาสนา กนั
ขนบธรรมเนียมประเพณขี องคนไทย สภาพทางภมู ิศาสตร์ ทำให้เกิดประเพณี
ส่วนใหญจ่ ะเก่ยี วขอ้ งกับพระพุทธศาสนา วัฒนธรรม
พระมหากษตั รยิ เ์ ปน็ ศูนยร์ วมจิตใจ มกี ารทำพิธกี รรมในวนั สำคัญของชาติ
เป็นเครอ่ื งยดึ เหนีย่ วจติ ใจของประชาชน
การปรุงอาหารมีความประณตี พิเศษ เป็น วนั สำคัญทางพระพทุ ธศาสนา เป็นวันท่ี
อยา่ งหนึ่งของวฒั นธรรมหลัก ชาวไทยมารว่ มพธิ ีกรรมอย่างพร้อมเพรียง
การขดั เกลาทางสงั คม สง่ ผลตอ่ บคุ ลกิ ภาพ มีประเพณีที่แสดงถงึ ความรกั ความกตญั ญู
ในวันสำคญั ตา่ งๆ เช่น วนั สงกรานต์
วันลอยกระทง
(หมายเหตุ นกั เรยี นอาจบรรยายภาพตามความคิดเห็นของนกั เรียน ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน)
ใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง วฒั นธรรมท้องถ่ินภาคเหนือ
คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
1. วัฒนธรรมทอ้ งถน่ิ ภาคเหนือท่ีสำคัญเกีย่ วกับอาหารคืออะไร มลี กั ษณะสำคญั อย่างไร จงอธบิ าย
2. วฒั นธรรมดา้ นศาสนาและลัทธิความเชอ่ื ของชาวไทยภาคเหนือ ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง มีลกั ษณะสำคญั
อย่างไร จงอธิบาย
ใบงานท่ี 1.3 เรอ่ื ง วัฒนธรรมท้องถิ่นภาคเหนอื
คำชี้แจง ให้นักเรยี นตอบคำถามต่อไปนี้
1. วฒั นธรรมทอ้ งถ่ินภาคเหนอื ทส่ี ำคญั เกี่ยวกับอาหารคืออะไร มลี กั ษณะสำคัญอย่างไร จงอธบิ าย
ประเพณเี ลี้ยงข้าวแลงขนั โตก หรอื กน๋ิ ข้าวแลงขนั โตก มีการแหน่ ำขบวนขนั โตก มสี าวงามช่างฟ้อน
มีดนตรปี ระกอบ เมอื่ ถึงงานเลี้ยงจะนำกระติบหลวงไปวางกลางงาน แล้วนำข้าวน่ึงแบง่ ใสก่ ระติบ
เลก็ ๆแจกไปตามโตกต่างๆ อาหารท่ีเลี้ยงทเ่ี ปน็ กับข้าว คือ แกงฮงั เล แกงอ่อม แกงแค ไส้อวั่ น้ำพรกิ
ออ่ ง นำ้ พริกหน่มุ แคบหมู ผักสด ของหวาน เชน่ ขนมปาด ขา้ วแตน๋
2. วัฒนธรรมด้านศาสนาและลัทธิความเช่อื ของชาวไทยภาคเหนอื ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง มีลกั ษณะสำคัญ
อยา่ งไร จงอธิบาย
1. งานทำบญุ ทอดผ้าป่าแถว ในบริเวณรอบนอกของจงั หวดั กำแพงเพชร ซง่ึ ทำในคืนวัน
ลอยกระทง ชาวบา้ นจะนำองคผ์ า้ ป่าไปไวใ้ นลานวัด นำพาดบนกิ่งไม้ เคร่ืองไทยธรรมก็จะนำวางใต้
ก่งิ ไม้ เจ้าของผา้ ป่าไปจับสลากรายชอ่ื พระภกิ ษุ พระภิกษจุ ะไปชกั ผา้ ป่า แล้วน่ังรวมกนั ใหศ้ ลี เจรญิ
พระพุทธมนต์ให้พร
2. งานทำบญุ ตานกว๋ ยสลาก หรอื การทำบญุ สลากภัต (ทานสลาก) ทำในวนั เพ็ญ เดือน 12 แต่
ละครอบครัวจะเตรยี มงานเรียกว่า “วันตา” ผู้หญงิ ไปซ้ือของ ผ้ชู ายจะเหลาตอกสานก๋วยไว้หลายๆ
ใบ นำมากรุด้วยใบตอง หรอื กระดาษสี เพ่อื บรรจุของกินของใช้ แล้วนำใบตองหรอื กระดาษปิดมดั
ก๋วยรวมกันเป็นมดั ๆ สำหรบั เป็นทจี่ บั สว่ นตรงที่รวบไวน้ ้ี ชาวบ้านจะเสยี บไมไ้ ผ่และสอดเงินไว้
เป็นเสมอื นยอด
3. งานประเพณีการสืบชะตา หรือการต่ออายุ กระทำข้ึนเพ่อื ยดื ชีวิตดว้ ยการทำพธิ ี เพือ่ ให้
เกดิ พลงั รอดพน้ ความตายได้ แบ่งออกเปน็ 3 ประเภท คอื ประเพณกี ารสืบชะตาคน ประเพณีการ
สืบชะตาบ้าน และสืบชะตาเมอื ง
การสืบชะตาคนจะกระทำขน้ึ เม่อื เกิดการเจ็บปว่ ย หรือหมอดทู กั ว่าชะตาไม่ดี การสืบชะตา
บา้ นและการสืบชะตาเมอื ง เป็นอุบายให้ญาตพิ ี่นอ้ งและผู้เกยี่ วขอ้ งมารวมกัน เพ่อื ให้กำลงั ใจและ
ปรกึ ษาหารอื ในการแกป้ ัญหาบ้านเมือง
(หมายเหตุ นักเรียนอาจตอบเป็นอยา่ งอน่ื ตามความเหมาะสมได้ ให้อยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครผู ู้สอน)
ใบงานท่ี 1.4 เรื่อง วัฒนธรรมท้องถนิ่ ภาคกลาง
คำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี
1. วฒั นธรรมทอ้ งถนิ่
ภาคกลางดา้ น
ศาสนา
และลทั ธิค1.วามเช่อื ที่
สาคญั ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง
จงยกตวั อยา่ ง
2. วฒั นธรรมเก่ยี วกบั
การดารงชีวิตทาง
การเกษตรของภาค
กลางไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง
จงยกตวั อย่าง
3. วฒั นธรรมดา้ นยา
และ
การรกั ษาพนื้ บา้ น
ทส่ี าคญั คืออะไร
จงยกตวั อยา่ ง
ใบงานท่ี 1.4 เรอื่ ง วัฒนธรรมท้องถ่ินภาคกลาง
คำชี้แจง ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี
1. วฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน 1. ประเพณีรบั บวั โยน ทอี่ าเภอบางพลี จงั หวดั
ภาคกลางดา้ น สมุทรปราการ
ศาสนา เป็นประเพณีนมิ นต์หลวงพอ่ โตขนึ้ เรอื แล่นไปใหช้ าวบา้ น
และลทั ธิค1.วามเช่ือท่ี นมสั การ ชาวบา้ นจะคอยอยู่ริมคลอง และเด็ดดอกบวั
สาคญั ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง ริมนา้ โยนเบาๆขนึ้ ไปบนเรือของหลวงพอ่
จงยกตวั อยา่ ง 2. การบชู ารอยพระพทุ ธบาท จงั หวดั สระบุรี ประชาชนจะ
พากนั ไปนมสั การรอยพระพทุ ธบาทในพระมณฑป ซ่งึ
2. วฒั นธรรมเก่ยี วกบั เป็นปชู นยี สถานทีส่ าคญั ทีเ่ ชอื่ วา่ เป็นรอยพระพทุ ธบาท
การดารงชีวิตทาง ของพระพทุ ธเจา้
การเกษตรของภาค 3. ประเพณีตกั บาตรเทโว จงั หวดั อทุ ยั ธานี
กลางไดแ้ ก่อะไรบา้ ง 4. ประเพณีกอ่ พระเจดยี ์ทราย จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา
จงยกตวั อยา่ ง
การทาขวญั ขา้ ว ซ่ึงนยิ มในหมู่ของคนไทยภาคกลาง
ไทยยวน ไทยอสี าน จะทากนั เป็นระยะ คอื กอ่ นขา้ วออกรวง
หลงั นวดขา้ ว และขนขา้ วขนึ้ ยงุ้
3. วฒั นธรรมดา้ นยา ตารายาไทยแผนโบราณ รวม 318 ขนาน เช่น ยาแกไ้ ข้ ยา
และ แกท้ อ้ งเสีย ยาขบั โลหติ ยาแกไ้ อ ยาแกท้ อ้ งขนึ้ ทอ้ งเฟอ้
ยาแกล้ ม ยาสว่ นใหญ่เป็นพชื สมนุ ไพรและแร่ธาตุ
การรกั ษาพนื้ บา้ น
ทส่ี าคญั คอื อะไร
จงยกตวั อยา่ ง
(หมายเหตุ นักเรียนอาจตอบเป็นอยา่ งอื่นตามความเหมาะสมได้ ให้อยู่ในดุลยพินจิ ของครูผู้สอน)
ใบงานที่ 1.5 เร่ือง วัฒนธรรมทอ้ งถนิ่ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื
คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนตอบคำถามตอ่ ไปน้ี
1. วฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน
ดา้ นอาหารของภาค
ตะวนั ออกเฉียงเหนือ
ที่สาคญั ไดแ้ ก่
อะไรบา้ ง1.
2. วฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน
ดา้ นศาสนาและลทั ธิ
ความเชอ่ื ของภาคตะวนั
ออกเฉียงเหนือที่สาคญั
ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง
3. วฒั นธรรมดา้ นทเี่ ก่ยี ว
กบั การดารงชวี ติ ทาง
การเกษตรของภาค
ตะวนั ออกเฉียงเหนือ
ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง
ใบงานที่ 1. 5 เร่อื ง วฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ
คำชี้แจง ให้นกั เรียนตอบคำถามต่อไปน้ี
1. วฒั นธรรมทอ้ งถิน่ มกี ารปรุงอาหารโดยเก็บพชื ผกั มาประกอบรวมกบั เนอื้ สตั ว์
ดา้ นอาหารของภาค แลว้ ทาใหส้ กุ เช่น น่งึ ตม้ ย่าง อาหารทีป่ ระกอบแลว้ เช่น
แกงออ่ ม ออ๋ หมกยา ส่า ค่วั หลู้ ป่น หลน เหนยี น ซปุ ลาบ
ตะวนั ออกเฉียงเหนือ กอ้ ย แจว่ มีการถนอมอาหารโดยนามาตากแหง้ และใชว้ ิธี
ทส่ี าคญั ไดแ้ ก่ หมกั ตามธรรมชาติ
อะไรบา้ ง1.
1. บุญบงั้ ไฟ เป็นการเตรยี มไถนาและจดั บชู าพธิ บี ชู าพญา
2. วฒั นธรรมทอ้ งถิน่ แถนทกุ ปีดว้ ยการทาบงั้ ไฟ โดยมีความเชอื่ ว่าของสิ่งลลี้ บั
ดา้ นศาสนาและลทั ธิ และเทวดาหรอื พญาแถนทอี่ ยบู่ นสวรรคส์ ามารถบนั ดาล
ความเช่อื ของภาคตะวนั ใหฝ้ นตกได้
ออกเฉียงเหนือที่สาคญั
ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง 2. การแห่ผีตาโขนทอี่ าเภอดา่ นซา้ ย จงั หวดั เลย ผูเ้ ลน่ จะนา
รูป
3. วฒั นธรรมดา้ นท่ีเก่ยี ว
กบั การดารงชวี ิตทาง หนา้ กากทมี่ ีลกั ษณะนา่ เกลยี ดมาใส่ แตง่ ตวั มิดชดิ เขา้
การเกษตรของภาค ขบวนแห่ มกี ารรวมบญุ ประเพณี บญุ พระเวสและบญุ
ตะวนั ออกเฉียงเหนือ บงั้ ไฟเขา้ ดว้ ยกนั มกี ารทาพธิ ีอญั เชิญพระอปุ คตุ เขา้ มา
ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง ประดิษฐานในวดั โพนชยั เพราะเชอื่ ว่าจะสามารถ
ปอ้ งกนั
งานเบหตุญเุ ภคทูนภลายั นต่าเงปๆ็นทปจี่ ระะเเกพดิ ณในอี งยาา่ นงไหดน้ ง่ึ ในฮตี สิบสอง หรอื
งานทาบญุ สาคญั ในรอบปี คอื งานทาขวญั ขา้ วกอ่ นขนขา้ ว
มาสู่
ยงุ้ ฉาง เป็นสิริมงคล เพม่ิ ความม่งั มศี รสี ุขแกต่ นและครอบครวั
เป็นการอญั เชญิ ขวญั ขา้ ว คอื พระแมโ่ พสพ ใหม้ าอยปู่ ระจา
ขา้ ว การทานาจะไดอ้ ดุ มสมบรู ณ์
(หมายเหตุ นักเรยี นอาจตอบเปน็ อยา่ งอ่ืนตามความเหมาะสมได้ ให้อยู่ในดุลยพนิ ิจของครผู ู้สอน)
ใบงานที่ 1. 6 เร่อื ง วฒั นธรรมทอ้ งถิ่นภาคใต้
คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้
1. วฒั นธรรมทอ้ งถน่ิ
ภาคใตด้ า้ นอาหาร
ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง
1.
2. วฒั นธรรมทอ้ งถิ่น
ภาคใตด้ า้ นศาสนาและ
ลทั ธิความเชื่อท่ีสาคญั
ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง
3. วฒั นธรรมทอ้ งถิน่
ภาคใตด้ า้ นศลิ ปะ
ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง
ใบงานท่ี 1. 6 เรื่อง วัฒนธรรมทอ้ งถ่นิ ภาคใต้
คำช้แี จง ให้นักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปนี้
1. วฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน ประเพณกี นิ ผกั ของชาวภูเก็ต มกี ารนาผกั ไปใชป้ ระโยชนใ์ น
ภาคใตด้ า้ นอาหาร การเป็นอาหาร คอื ใชป้ รุงอาหาร ใชร้ บั ประทานสด ใชล้ วก
ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง ดอง และใชไ้ ดท้ งั้ ปรุงอาหารและรบั ประทานสด การบริโภค
1. ผกั ทาใหร้ ่างกายแข็งแรง ควบคมุ ภาวะธาตใุ นร่างกายใหอ้ ยู่
ในภาวะสมดลุ
2. วฒั นธรรมทอ้ งถ่ิน
ภาคใตด้ า้ นศาสนาและ 1. ประเพณีลากพระ ชกั พระ หรือแหพ่ ระ ชาวบา้ นจะ
ลทั ธิความเช่อื ท่สี าคญั อญั เชิญ
ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง
พระพทุ ธรูปจากวดั ขนึ้ รถลอ้ เลอื่ นหรือเรอื แลว้ ลากหรือ
3. วฒั นธรรมทอ้ งถิน่ ชกั แห่ไปตามถนน หรอื ตามแม่นา้ ลาคลอง ประชาชนจะ
ภาคใตด้ า้ นศลิ ปะ นาภตั ตาหารไปใส่บาตรทีเ่ รียงไวต้ รงหนา้ พระลาก
ไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง เรยี กวา่
ตกั บาตรหนา้ ลอ้ ชาวบา้ นจะนยิ มนาตม้ (ขา้ วเหนยี วห่อ
ใบ
กะพอ้ ทาเป็นรูปสามเหลยี่ ม) มาแขวนทลี่ อ้ เลอื่ นเพอื่
ท1.าปบรญุ ะเพณกี ารราโนรา มคี วามสมั พนั ธก์ บั วิถชี วี ติ ของ
2. ปชราะวเบพา้ ณนสี เาปร็นทคเดวือามนเสชิบอื่ ขทอางงจพงั รหะวพดั ทุ นธคศราศสรนีธารผรมสรมาผชสเาพนอื่
กบั อทุ ิศสว่ นบญุ กศุ ลใหแ้ ก่ผูล้ ่วงลบั
ลทั ธิพราหมณ์-ฮินดู และความเชอื่ ในเรอื่ งไสยศาสตร์
หรอื
ผสี างเทวดา เซน่ ไหวบ้ รรพบุรุษ
2. ประเพณตี กั บาตรธูปเทียน เป็นการทาบุญดว้ ยธูปเทียน
และดอกไม้ เนอ่ื งในเทศกาลเขา้ พรรษา เพอื่ ใหพ้ ระสงฆ์
(หมายเหตุ นกั เรยี นอาจตอบเปน็ อยา่ งอนื่ ทตี่ามความเหมาะสมได้ ให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน)
จาพรรษานาธูปเทียนใชบ้ ชู าพระรตั นตรยั ตลอดพรรษา
แบบประเมินการนำเสนอผลงานกล่มุ
กลุ่มท.ี่ ................................................. .............................................................................. 2. ..............................................................................
สมาชิกของกลุ่ม 1. .............................................................................. 4. ..............................................................................
.............................................................................. 6. ..............................................................................
3.
5. คุณภาพผลงาน
432
ลำดั รายการประเมิน 1
บที่
1 นำเสนอเนอื้ หาในผลงานได้ถกู ตอ้ ง
2 การนำเสนอมีความน่าสนใจ
3 ความเหมาะสมกบั เวลา
4 ความกลา้ แสดงออก
5 บุคลกิ ภาพ นำ้ เสยี งเหมาะสม
รวม
ลงชือ่ ..............................................................................ผ้ปู ระเมิน
/ /....................... ........................... ........................
เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
การปฏิบตั งิ านสมบูรณช์ ดั เจน
การปฏบิ ตั งิ านยงั มีขอ้ บกพรอ่ งเลก็ นอ้ ย ให้ 3 คะแนน
การปฏิบตั งิ านยงั มขี อ้ บกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน
การปฏบิ ตั งิ านมีขอ้ บกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดับ
คณุ ภาพ
17-20 ดีมาก
13-16
9-12 ดี
5-8 พอใช้
ปรบั ปรุง
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ
ชอ่ื – ความ การแสดง การรบั ฟงั การต้งั ใจ การรว่ ม รวม
สกลุ รว่ มมือ ความ ความ ทำงาน ปรบั ปรงุ 20
ของ คดิ เหน็ คิดเหน็ ผลงานกลุม่ คะแน
ลำดั ผรู้ ับ น
บท่ี การ 43214321432143214321
ประเมิ
น
เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมิน
ดมี าก = 4 ............../.................../................
ดี = 3
พอใช้ = 2
ปรบั ปรุง =1
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
ช่ ว ง ร ะ ดั บ
คะแนน คุณภาพ หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ิธีการมอบหมายใหห้ วั หนา้ กลมุ่
ดมี าก เป็นผปู้ ระเมิน หรอื ใหต้ วั แทนกลมุ่ ผลดั กนั ประเมนิ
17 – 20 ดี หรอื ใหม้ ีการประเมนิ โดยเพอื่ น โดยตวั นกั เรียนเอง
13 – 16 พอใช้ ตามความเหมาะสมกไ็ ด้
9 – 12 ปรบั ปรุง
5–8
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2
หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชวี ิตในสังคม
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 วฒั นธรรมไทย ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4
เรือ่ ง การอนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทย เวลา 3 ช่วั โมง
สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
วัฒนธรรมไทย มีการเปลย่ี นแปลงไปตามกาลเวลาอนั มผี ลมาจากปัจจัยหลายประการ ดงั นัน้ ทกุ คนจึง
ควรร่วมมอื กันอนรุ ักษ์วัฒนธรรมไทยที่ดงี ามและเลือกรับวัฒนธรรมสากลอยา่ งเหมาะสม
ตัวชว้ี ดั /จดุ ประสงค์การเรียนรู้
2.1 ตวั ชี้วัด
ส 2.1 ม.4-6/5 วิเคราะห์ความจำเปน็ ที่จะต้องมกี ารปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและอนุรกั ษ์
วัฒนธรรมไทยและเลือกรบั วัฒนธรรมสากล
2.2 จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. วิเคราะห์ความจำเปน็ ในการปรับปรงุ เปลี่ยนแปลงและอนุรกั ษ์วัฒนธรรมไทยได้
2. วเิ คราะหค์ วามแตกต่างระหว่างวฒั นธรรมไทยกับวัฒนธรรมสากลได้
3. เสนอแนวทางการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมไทยทด่ี ีงามได้
4. อธบิ ายวิธีการเลือกรับวฒั นธรรมสากลได้
สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1. การปรับปรุงเปล่ียนแปลง และอนุรกั ษ์วัฒนธรรมไทย
2. ความแตกต่างระหว่างวฒั นธรรมไทยกบั วฒั นธรรมสากล
3. แนวทางการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมไทยท่ีดีงาม
4. วธิ ีการเลอื กรบั วัฒนธรรมสากล
3.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่นิ
-
สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ
- ทักษะการคดิ วิเคราะห์
- ทกั ษะการคดิ อย่างมีวิจารณญาณ
4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต
- กระบวนการปฏบิ ตั ิ
- กระบวนการทำงานกลุม่
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
กิจกรรมการเรียนรู้
(วิธีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการสร้างความตระหนกั , กระบวนการกลมุ่ )
ช่ัวโมงท่ี 1
1. ครนู ำภาพต่อไปนมี้ าใหน้ ักเรียนช่วยกนั วเิ คราะหค์ วามแตกต่าง และสาเหตุของความแตกต่าง
1) อาหาร เชน่ อาหารไทย อาหารจนี อาหารญีป่ ่นุ อาหารยุโรป
2) การแต่งกาย เช่น การแตง่ กายของชาวไทย การแตง่ กายของชาวญี่ปุน่ การแต่งกายของชาว
ยโุ รป
3) อาคารบา้ นเรือน เชน่ บ้างทรงไทย บา้ นทรงตะวนั ตก
4) ยารักษาโรค เชน่ ยาแผนปัจจุบัน ยาแผนโบราณ สมุนไพร
2. ครูอธบิ ายเชื่อมโยงใหน้ กั เรยี นเข้าใจวา่ ภาพต่างๆที่ครนู ำมาใหน้ ักเรยี นดแู ละชว่ ยกันวเิ คราะหน์ ้นั
เปน็ ส่วนหนึ่งของความแตกตา่ งระหวา่ งวฒั นธรรมไทยกบั วฒั นธรรมสากล ซึ่งแต่ละประเทศหรอื
แตล่ ะสังคมจะสรา้ งวัฒนธรรมของตนเองขึน้ มา และมีเอกลักษณเ์ ฉพาะท่ีข้นึ อยกู่ บั สภาพแวดลอ้ ม
ทางกายภาพและสงั คมนั้นๆ ทกุ สงั คมจะมีวฒั นธรรมพื้นฐานที่เหมือนกนั เรียกวา่ วฒั นธรรม
สากล และมีการกระจายวัฒนธรรมสากลไปยังภูมภิ าคต่างๆ
3. ครใู ห้นกั เรยี นกล่มุ เดิม (ในแผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 1) ศึกษาความรู้เรอื่ ง การปรับปรุงเปล่ียนแปลง
วัฒนธรรมไทย และความแตกตา่ งระหว่างวฒั นธรรมไทยกบั วฒั นธรรมสากล จากหนังสอื เรยี น
แล้วชว่ ยกนั ทำใบงานที่ 2.1 เร่ือง วเิ คราะห์วฒั นธรรม
4. ครูและนักเรยี นชว่ ยกันเฉลยคำตอบในใบงาน และรว่ มกันสรปุ เกี่ยวกับการปรับปรงุ เปล่ียนแปลง
วฒั นธรรมไทย อิทธิพลของชาตติ ะวนั ตกทมี่ ตี อ่ วฒั นธรรมไทย การพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมท่มี ี
ผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงวฒั นธรรมไทย ความแตกต่างระหวา่ งวฒั นธรรมไทยกับวฒั นธรรมสากล
ช่ัวโมงที่ 2-3
1. ครใู ห้นักเรยี นเล่าความประทับใจในวัฒนธรรมทีด่ ีงามของไทย มาคนละ 1 อยา่ ง และให้อธิบาย
เหตุผลวา่ เพราะเหตุใดจึงประทบั ใจ ซงึ่ นกั เรยี นจะมีเหตผุ ลหลากหลายแตกตา่ งกันออกไป
2. ครูอธบิ ายเชื่อมโยงใหน้ กั เรียนเห็นคณุ ค่าของวัฒนธรรมไทยทไี่ ด้สร้างและส่ังสมกันมาเป็นเวลานาน จนเปน็
เอกลักษณ์ของตนเอง มรดกทางวัฒนธรรมล้วนมคี วามสำคัญตอ่ การดำเนนิ ชวี ติ ของคนไทย
มปี ระโยชนต์ ่อคนรนุ่ หลงั ไมว่ า่ จะเป็นวฒั นธรรมทางด้านวตั ถุ และวฒั นธรรมทางด้านจิตใจ หรอื จะเปน็
วัฒนธรรมตามเน้อื หา คือ ทางคติธรรม วตั ถธุ รรม เนตธิ รรม หรือสหธรรม จึงเป็นหนา้ ทีข่ อง
ชาวไทยทกุ คนจะต้องร่วมมือกันอนุรักษว์ ัฒนธรรมไทยท่ีดงี ามไว้ และยงั ต้องรจู้ ักเลือกรับวัฒนธรรมสากลท่ี
ดีงามเช่นเดียวกนั
3. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาความรู้ เรื่อง แนวทางการอนรุ ักษ์วฒั นธรรมไทยที่ดีงาม และวธิ ีการเลอื ก
รบั วฒั นธรรมสากล จากหนงั สอื เรยี น หรือแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ
4. ครูมอบหมายงานให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มนำความรู้ทีไ่ ดจ้ ากการศึกษามาเขียนเป็นบทความ เรือ่ ง
การอนุรักษ์วฒั นธรรมไทยและการเลอื กรับวฒั นธรรมสากล โดยเขียนเปน็ บทวเิ คราะห์และนำเสนอความ
คิดเห็น ในประเดน็ ต่อไปน้ี
1) ความจำเป็นท่ีจะต้องมีการปรบั ปรงุ เปลยี่ นแปลงวัฒนธรรมไทย
2) แนวทางการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมไทย
3) การเลอื กรับวฒั นธรรมสากล
5. นักเรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานท่ีหน้าชั้นเรียน ซงึ่ อาจจะใชว้ ิธหี ลากหลาย เช่น
- การอภิปราย
- การถามตอบ
- การแสดงบทบาทสมมุติ
- การบรรยาย
- การบรรยายสลับการแสดงสถานการณจ์ ำลอง
6. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันสรุปถงึ ความจำเป็นที่ตอ้ งมีการปรบั ปรุงเปลยี่ นแปลงวฒั นธรรมไทย
การอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมไทย และเลือกรับวัฒนธรรมสากล
นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 เรอ่ื ง วฒั นธรรมไทย
การวดั และประเมนิ ผล
วธิ ีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 2.1 ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ บทความเรือ่ ง การอนรุ ักษ์ แบบประเมินบทความเรอื่ ง ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
วฒั นธรรมไทย และการเลือกรบั การอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมไทยและการ
วัฒนธรรมสากล เลือกรับวัฒนธรรมสากล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การนำเสนอผลงานกลมุ่ แบบประเมินการนำเสนอผลงานกลุ่ม ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการ
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง เรียนรู้ที่ 2 เรอ่ื ง วฒั นธรรมไทย
วฒั นธรรมไทย
สื่อ/แหลง่ การเรียนรู้
8.1สอื่ การเรียนรู้
1. หนังสือเรียน หนา้ ท่พี ลเมอื งฯ ม.4-ม.6
2. หนงั สอื คน้ ควา้ เพ่ิมเตมิ
1) ชุลีพร สุสวุ รรณ และสุชริ าภรณ์ บริสุทธิ์. ความร้รู อบตวั : ขนบธรรมเนยี มและประเพณไี ทย.
กรุงเทพฯ : บริษัท อกั ษราพพิ ัฒน์ จำกดั , 2544.
2) สมชัย ใจดี และยรรยง ศรวี ริ ิยาภรณ์. ประเพณีและวฒั นธรรมไทย. กรุงเทพฯ : บรษิ ัท
สำนกั พมิ พ์ ไทยวัฒนาพานชิ จำกดั , 2528.
3. ตวั อย่างสื่อประกอบการสอน
4. ใบงานที่ 2.1 เร่ือง วเิ คราะหว์ ัฒนธรรม
8.2แหลง่ การเรียนรู้
1. หอ้ งสมุด
2. แหล่งข้อมลู สารสนเทศ
www.prapayneethai.com/th/culture/
th.wikipedia.org/wiki/หมวดหม่:ู วัฒนธรรมไทย
guru.sanook.com/encyclopedia/สงั คมและวัฒนธรรมไทย
ตวั อย่างสือ่ ประกอบการสอน
อาหารไทย
อาหารจนี
อาหารญ่ีป่ นุ
อาหารยโุ รป
ตัวอย่างสื่อประกอบการสอน
การแต่งกายของชาวไทย
การแต่งกายของชาวญ่ีป่ นุ
การแต่งกายของชาวยโุ รป
ตวั อยา่ งสือ่ ประกอบการสอน
บา้ นทรงไทย
บา้ นทรงตะวนั ตก
ตวั อย่างสอ่ื ประกอบการสอน
ยาแผนปัจจบุ นั
ยาแผนโบราณ
สมนุ ไพร