5. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวนิ ัย
1. ใฝ่เรียนรู้
2. ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
6. กจิ กรรมการเรียนรู้
(วิธสี อนโดยการจัดการเรยี นรแู้ บบร่วมมอื : เทคนคิ การเรยี นร่วมกนั , เทคนิคคคู่ ดิ )
นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เรือ่ ง ระบอบการเมอื งการปกครอง
ช่วั โมงที่ 1
1. ครใู หน้ กั เรยี นผลัดกันเล่าความรเู้ ดิมเรื่อง ระบอบการปกครองแบบต่างๆ ไดแ้ ก่
- ระบอบเผดจ็ การ
- ระบอบประชาธิปไตย
2. ครอู ธิบายใหน้ ักเรียนเขา้ ใจถึงหลักการสำคญั ของการปกครองระบอบเผด็จการและการปกครอง
ระบอบประชาธปิ ไตย
3. ครแู บง่ นกั เรยี นเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละกันตามความสามารถ คอื เก่ง ปานกลางคอ่ นขา้ งเก่ง
ปานกลางคอ่ นข้างออ่ น และอ่อน
3. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาความรู้เรอ่ื ง ลกั ษณะการเมอื งการปกครอง จากหนงั สอื เรียน หรือ
หนงั สอื ค้นควา้ เพม่ิ เตมิ หรือแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศตามความเหมาะสม ในหัวขอ้ ต่อไปน้ี
1) หลกั การของระบอบประชาธิปไตย
2) หลกั การของระบอบเผด็จการ
5. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ ผลดั กนั อภิปรายความรู้ที่ไดศ้ กึ ษา จนมีความเข้าใจกระจา่ งชัดเจน
6. ครแู จกใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง การเมอื งการปกครอง แลว้ ให้สมาชิกแต่ละกล่มุ แบ่งหน้าทก่ี ันทำใบงาน
แต่ละหัวข้อ ดังนี้
- สมาชกิ คนท่ี 1 อา่ นคำส่ัง คำถาม หรอื ประเด็นคำถาม แยกแยะประเด็นให้ชดั เจน
- สมาชิกคนที่ 2 ฟังข้นั ตอน รวบรวมขอ้ มลู หาแนวทางเสนอแนะในการตอบคำถาม
- สมาชกิ คนที่ 3 ตอบคำถาม หรอื คำนวณหาคำตอบ
- สมาชิกคนที่ 4 ตรวจสอบความถกู ต้อง
7. สมาชิกแต่ละคนในกลมุ่ จะหมนุ เวียนเปล่ยี นหนา้ ที่กนั ตอบคำถาม หรือประเด็นที่กำหนด จนครบ
ทกุ ข้อ
8. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั เฉลยคำตอบในใบงาน และช่วยกันสรปุ ความแตกต่างของการปกครอง
ระบอบประชาธปิ ไตย กับระบอบเผด็จการ
ช่วั โมงที่ 2
1. ครูตัง้ คำถามเพ่ือเปน็ การตรวจสอบความร้ขู องนักเรียน เช่น
- ประเทศทเ่ี ปน็ เอกรัฐ หรอื รฐั เดี่ยว ไดแ้ กป่ ระเทศใดบ้าง
แนวคำตอบ ไทย สงิ คโปร์ ญป่ี นุ่ สเปน
- ประเทศทีเ่ ปน็ สหพันธรัฐ หรอื รัฐรวม ไดแ้ กป่ ระเทศใดบ้าง
แนวคำตอบ สหรัฐอเมริกา สหพันธรฐั รสั เซีย มาเลเซยี
2. ครอู ธบิ ายให้นักเรยี นเข้าใจถงึ ความแตกต่างกนั ของรฐั เดี่ยวหรอื เอกรัฐ กบั สหพนั ธรฐั หรือรัฐรวม
และสรปุ ประเด็น ดงั น้ี
- รัฐเดยี่ วหรือเอกรัฐ เปน็ รฐั ท่มี รี ัฐบาลกลางเพยี งรฐั เดยี ว ใช้อำนาจอธปิ ไตยปกครองดินแดน
ท้งั หมด อาจมกี ารกระจายใหท้ อ้ งถ่นิ ได้บริหารกจิ การของท้องถ่ินตามที่รฐั บาลเห็นสมควร
- รฐั รวมหรือสหพนั ธรัฐ เปน็ รฐั ท่มี ีรัฐบาลหลายระดบั คอื รัฐบาลกลาง และรฐั บาลทอ้ งถิน่
ของแต่ละมลรฐั
3. ครเู ชอ่ื มโยงเข้าส่เู ร่ือง รูปแบบของรฐั ไทย ซ่ึงเปน็ รัฐเดย่ี ว มกี ารปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย
อนั มพี ระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมุข
4. นักเรยี นกลมุ่ เดิมจากชัว่ โมงทีแ่ ล้วจับคูก่ ันเปน็ 2 คู่ ชว่ ยกันศึกษาความรู้เรื่อง การใชอ้ ำนาจอธปิ ไตย
จากหนังสือเรียน แล้วช่วยกันทำใบงานที่ 1.2 เร่อื ง การใช้อำนาจอธิปไตย
4. นกั เรยี นแตล่ ะคู่ของกล่มุ ชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้องของใบงานและอธิบายความรู้ในประเด็นสำคัญ
ของคำตอบในแต่ละขอ้
6. ครแู ละนกั เรียนช่วยกันเฉลยคำตอบในใบงาน และสรปุ ประเดน็ สำคญั ของการใชอ้ ำนาจอธปิ ไตย
ในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อนั มพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุขทางรฐั สภา คณะรัฐมนตรี
และศาล
ช่ัวโมงท่ี 3
1. ครูให้นกั เรยี นชมวีดทิ ัศน์หรอื ภาพเก่ยี วกบั พระราชกรณยี กิจของพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว
รัชกาลปัจจุบัน แลว้ ใหน้ ักเรยี นผลดั กันแสดงความประทบั ใจในพระราชกรณยี กจิ ของพระองค์ ครู
อธบิ ายเชอื่ มโยงใหน้ ักเรียนเข้าใจว่า พระราชกรณียกจิ ดงั กลา่ วนั้น จัดเป็นบทบาทของพระมหากษตั รยิ ์
ไทยท่ปี ฏิบตั ิตามฐานะและพระราชอำนาจตามบทบญั ญัติของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย
2. นกั เรยี นรวมกลุม่ กนั กลมุ่ ละ 4 คน ตามความสมัครใจ ให้แต่ละกลมุ่ ศึกษาความรู้เรอ่ื ง ฐานะและ
พระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ จากหนังสือเรียน
3. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกนั ทำใบงานที่ 1.3 เรื่อง ฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทย
4. นักเรยี นแต่ละกลุ่มผลดั กนั นำเสนอผลงานจากใบงาน แลว้ ให้กลมุ่ ทม่ี ีความคิดเห็นตา่ งกันออกไป
นำเสนอเพมิ่ เติม โดยครเู ปน็ ผตู้ รวจสอบความถูกต้อง
5. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ ค้นควา้ ความรเู้ กี่ยวกบั พระราชกรณียกิจทีส่ ำคัญของ
พระมหากษัตริยไ์ ทย และพระบรมวงศานุวงศ์ ท่มี ผี ลตอ่ การพัฒนาประเทศไทย
ช่ัวโมงท่ี 4
1. ครสู นทนาซักถามนกั เรยี นถงึ ความพร้อมของนักเรยี นแต่ละกลุ่มที่ไปสืบค้นหาความรูเ้ กย่ี วกบั
พระราชกรณยี กจิ สำคัญของพระมหากษตั ริย์ไทย และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่มผี ลตอ่ การพัฒนา
ประเทศไทย วิธีการสืบคน้ และการเบ่งหน้าที่กันทำงานของนกั เรียน
2. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มช่วยกันทำใบงานท่ี 1.4 เรื่อง พระราชกรณยี กิจของพระมหากษตั ริยไ์ ทย
3. นักเรียนแต่ละกลุ่มเสนอผลงานต่อช้นั เรียน ดังนี้
- กลุ่มท่ี 1 นำเสนอผลงาน กลุ่มที่ 2 แสดงความคิดเห็นเพ่ิมเตมิ
- กลุ่มท่ี 2 นำเสนอผลงาน กลมุ่ ที่ 3 แสดงความคิดเห็นเพม่ิ เติม
- กลุม่ ที่ 3 นำเสนอผลงาน กลมุ่ ท่ี 4 แสดงความคิดเหน็ เพิม่ เตมิ
- กล่มุ ที่ 4 นำเสนอผลงาน กลุ่มท่ี 5 แสดงความคิดเห็นเพม่ิ เตมิ
- กลมุ่ ที่ 5 นำเสนอผลงาน กลมุ่ ท่ี 1 แสดงความคิดเหน็ เพม่ิ เตมิ
4. ครแู ละนักเรียนช่วยกันอภปิ รายความสำคญั และความจำเป็นท่ีต้องรกั ษาไว้ซ่ึงการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตย อนั มพี ระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมขุ
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ กี าร เครื่องมือ เกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 เรอ่ื ง ระบอบ เรียนรูท้ ี่ 5 เร่อื ง ระบอบการเมืองการ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การเมอื งการปกครอง ปกครอง
ตรวจใบงานที่ 1.1 ใบงานท่ี 1.1
ตรวจใบงานท่ี 1.2 ใบงานที่ 1.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 1.3 ใบงานท่ี 1.3 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 1.4 ใบงานท่ี 1.4 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
8. สอ่ื / แหล่งการเรียนรู้
8.1 ส่อื การเรียนรู้
1. หนังสือเรียน หนา้ ที่พลเมืองฯ ม.4-ม.6
2. ตวั อย่างสื่อประกอบการสอน
3. ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง การเมืองการปกครอง
4. ใบงานที่ 1.2 เร่ือง การใช้อำนาจอธิปไตย
5. ใบงานท่ี 1.3 เรอ่ื ง ฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ไทย
6. ใบงานที่ 1.4 เร่อื ง พระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษัตรยิ ์ไทย
8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1. หอ้ งสมดุ
2. แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ
www.kullawat.net/civic/3.1.htm
www.dopa.go.th/history/polith.htm
th.wikipedia.org/wiki/ประชาธปิ ไตย
ตัวอยา่ งสอ่ื ประกอบการสอน
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั
เสดจ็ ไปเยีย่ มเยียนราษฎรในทอ้ งถิน่ ตา่ งๆ
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู วั
ตอ้ นรบั พระราชอาคนั ตกุ ะ
พระบาทสมเด็จพระเจา้ อย่หู วั
เสดจ็ ไปประกอบพธิ ีทางศาสนา
ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง การเมอื งการปกครอง
คำช้ีแจง ให้นักเรยี นอธิบายข้อความท่ีกำหนดให้
1. หลกั การสาคญั ของ
ระบอบประชาธิปไตย
2. หลกั การสาคญั ของ
ระบอบเผด็จการ
3. รูปแบบของการ
ปกครองระบอบ
เผดจ็ การ
4. ความแตกตา่ งระหว่าง
ระบอบเผดจ็ การ
คอมมิวนสิ ต์ กบั
ระบอบเผด็จการทหาร
5. ความแตกต่างของ
เอกรฐั กบั สหพนั ธรฐั
ใบงานที่ 1.1 เรือ่ ง การเมอื งการปกครอง
คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นอธบิ ายข้อความทก่ี ำหนดให้
1. หลกั การสาคญั ของ 1. อานาจอธิปไตย เป็นอานาจทมี่ าจากประชาชน
ระบอบประชาธิปไตย 2. ประชาชนมีสิทธมิ อบอานาจปกครองใหแ้ กป่ ระชาชนดว้ ยกนั เอง
โดยการออกเสียงเลือกตงั้ ประชาชนกล่มุ หน่งึ มาบริหารประเทศ
แทน3. รฐั บาลเคารพสิทธิพนื้ ฐานของประชาชน
4. ประชาชนทกุ คนมีสิทธิเสมอกนั ในการทจี่ ะไดร้ บั บรกิ ารทกุ ชนดิ
ทรี่ ฐั จดั ใหแ้ ก่ประชาชน
5. รฐั บาลถอื กฎหมายและความเป็นธรรมเป็นบรรทดั ฐานในการปกคร
อง
2. หลกั การสาคญั ของ 1. ผูน้ ามีอานาจสงู สดุ ในการปกครอง
ระบอบเผด็จการ 2. การรกั ษาความม่นั คงของผูน้ ามคี วามสาคญั กวา่ การคมุ้ ครองสิทธิ
เสรภี าพของประชาชน
3. ผูน้ าสามารถอยู่ในอานาจไดต้ ลอดชวี ติ หรอื เทา่ ทีผ่ รู้ ่วมงานหรือ
กองทพั สนบั สนนุ
4. รฐั ธรรมนูญเป็นแค่เพยี งรากฐานรองรบั อานาจของผนู้ า
3. รูปแบบของการ 1. ระบอบเผดจ็ การทหาร คณะผนู้ าทหารเป็นผใู้ ชอ้ านาจเผดจ็ การ
ปกครองระบอบ ในการปกครองโดยตรงหรือโดยออ้ ม
เผดจ็ การ
2. ระบอบเผดจ็ การฟาสซิสต์ เนน้ ความสาคญั ของผูน้ าว่า มอี านาจ
เหนอื ประชาชนทว่ั ไป
3. ระบอบเผด็จการคอมมวิ นสิ ต์ มีพรรคคอมมวิ นสิ ตเ์ พยี งพรรคเดียว
เป็นผใู้ ชอ้ านาจเผดจ็ การปกครองประเทศ
4. ความแตกตา่ งระหวา่ ง ระบอบเผดจ็ การทหารจะควบคมุ กจิ การทางการเมอื งของประชาชน
ระบอบเผดจ็ การ เท่านนั้ แต่ระบอบเผดจ็ การคอมมิวนสิ ต์ จะใชอ้ านาจเผด็จการควบคมุ
คอมมิวนิสต์ กบั กิจกรรมและการดาเนนิ ชวี ติ ของประชาชนในทกุ ดา้ น ทงั้ ดา้ นการเมือง
ระบอบเผดจ็ การทหาร การปกครอง เศรษฐกจิ และสงั คม
5. ความแตกตา่ งของ เอกรฐั คือ รฐั ทมี่ รี ฐั บาลกลางเพยี งรฐั เดียว ใชอ้ านาจอธิปไตย
เอกรฐั กบั สหพนั ธรฐั ปกครองดินแดนทงั้ หมด อาจมีการกระจายอานาจใหท้ อ้ งถิ่นได้ บรหิ าร
กิจการของทอ้ งถ่ินไดต้ ามทรี่ ฐั บาลเหน็ สมควร
สหพนั ธรฐั คอื รฐั ทมี่ รี ฐั บาลสองระดบั คอื รฐั บาลกลางและรฐั บาล
ทอ้ งถ่นิ ของแตล่ ะมลรฐั รฐั บาลแต่ละระดบั จะใชอ้ านาจอธปิ ไตย
ปกครองตามทีร่ ฐั ธรรมนญู กาหนด รฐั บาลกลางของสหพนั ธรฐั จะเป็น
ผูใ้ ชอ้ านาจในกิจการทเี่ กยี่ วขอ้ งหรือกระทบกระเทอื นต่อประโยชน์
ส่วนรวม ของชาติ
ใบงานที่ 1.2 เร่ือง การใชอ้ ำนาจอธิปไตย
คำช้ีแจง ให้นกั เรียนนำหมายเลขหน้าขอ้ ความดา้ นลา่ งมาใส่ในกรอบคำทีก่ ำหนดให้ด้านบน
ท่มี ใี จความสัมพันธ์กัน
รฐั สภา สภาผแู้ ทนราษฎร วฒุ ิสภา
คณะรฐั มนตรี ศาลรฐั ธรรมนญู ศาลยตุ ธิ รรม ศาลปกครอง
1. ตรวจสอบการตรากฎหมายทีข่ ดั หรือแยง้ ต่อรัฐธรรมนญู
2. พจิ ารณาร่างพระราชบญั ญัติ
3. กำหนดนโยบายการบริหารราชการแผน่ ดินและบรหิ ารให้เป็นไปตามนโยบาย
4. พิจารณาร่างพระราชบัญญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญวา่ ขัดหรอื แย้งตอ่ รฐั ธรรมนูญหรอื ไม่
5. มอี ำนาจพิจารณาคดีแพ่งและคดีอาญาท่มี ีการอุทธรณ์คำพพิ ากษาจากศาลชนั้ ต้น
6. บญั ญัติกฎหมายและยกเลกิ กฎหมาย
7. มอี ำนาจพิจารณาและวินิจฉัยคดีท่เี กยี่ วกับการเลือกต้ังและเพิกถอนสทิ ธิเลอื กตัง้ ในการเลอื กต้งั สมาชกิ
สภาท้องถ่นิ และผบู้ ริหารท้องถน่ิ
8. มอี ำนาจพิจารณาและวนิ ิจฉยั คดีที่เกยี่ วกบั การเลือกตัง้ และเพกิ ถอนสิทธเิ ลือกต้ังในการเลอื กต้ัง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
9. บรหิ ารราชการแผน่ ดนิ ส่วนกลาง สว่ นภมู ภิ าค และสว่ นท้องถนิ่
10. มอี ำนาจพจิ ารณาพิพากษาคดพี ิพาทระหวา่ งหน่วยงานราชการ หนว่ ยงานของรฐั เจ้าหน้าทข่ี องรัฐกับ
เอกชน อนั เนอื่ งมาจากการดำเนนิ กจิ การการปกครองของหนว่ ยงานราชการ
11. เสนอและพจิ ารณากฎหมาย
12. ศาลช้ันต้น ศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกา
13. ควบคุมข้าราชการประจำให้นำนโยบายไปปฏบิ ัติ
14. ถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือขา้ ราชการระดบั สูงออกจากตำแหน่ง
15. ควบคมุ การบริหารราชการแผ่นดนิ โดยการตงั้ กระทู้ถามรัฐมนตรีหรอื นายกรัฐมนตรีในเรือ่ งเกย่ี วกบั งาน
ในหน้าท่ี
ใบงานที่ 1.2 เร่อื ง การใชอ้ ำนาจอธิปไตย
คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นนำหมายเลขหนา้ ขอ้ ความดา้ นล่างมาใส่ในกรอบคำที่กำหนดให้ด้านบน
ที่มใี จความสัมพนั ธก์ นั
รฐั สภา สภาผแู้ ทนราษฎร วฒุ ิสภา
6 11, 15 1, 2, 14, 15
คณะรฐั มนตรี ศาลรฐั ธรรมนญู ศาลยตุ ธิ รรม ศาลปกครอง
3, 9, 13 4 5, 7, 8, 12 10
1. ตรวจสอบการตรากฎหมายที่ขดั หรอื แยง้ ต่อรฐั ธรรมนูญ
2. พิจารณาร่างพระราชบัญญตั ิ
3. กำหนดนโยบายการบรหิ ารราชการแผน่ ดินและบรหิ ารใหเ้ ป็นไปตามนโยบาย
4. พจิ ารณาร่างพระราชบญั ญตั ิประกอบรัฐธรรมนญู วา่ ขัดหรือแย้งตอ่ รฐั ธรรมนญู หรอื ไม่
5. มีอำนาจพจิ ารณาคดีแพง่ และคดีอาญาท่ีมีการอุทธรณค์ ำพพิ ากษาจากศาลชั้นต้น
6. บญั ญตั ิกฎหมายและยกเลกิ กฎหมาย
7. มีอำนาจพิจารณาและวนิ ิจฉัยคดีที่เกีย่ วกับการเลือกตั้งและเพกิ ถอนสิทธเิ ลือกต้ังในการเลอื กตัง้ สมาชิก
สภาท้องถนิ่ และผู้บริหารทอ้ งถ่ิน
8. มอี ำนาจพิจารณาและวินิจฉัยคดีท่เี ก่ียวกับการเลือกต้ังและเพกิ ถอนสทิ ธเิ ลือกต้งั ในการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
9. บริหารราชการแผ่นดินสว่ นกลาง สว่ นภูมภิ าค และสว่ นท้องถ่นิ
10. มอี ำนาจพิจารณาพพิ ากษาคดีพพิ าทระหว่างหนว่ ยงานราชการ หนว่ ยงานของรฐั เจา้ หน้าที่ของรฐั กบั
เอกชน อันเนอ่ื งมาจากการดำเนินกิจการการปกครองของหนว่ ยงานราชการ
11. เสนอและพิจารณากฎหมาย
12. ศาลชั้นตน้ ศาลอุทธรณ์ ศาลฎกี า
13. ควบคมุ ข้าราชการประจำใหน้ ำนโยบายไปปฏิบัติ
14. ถอดถอนผู้ดำรงตำแหนง่ ทางการเมอื งหรือขา้ ราชการระดบั สงู ออกจากตำแหนง่
15. ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดนิ โดยการตงั้ กระทู้ถามรฐั มนตรีหรอื นายกรัฐมนตรีในเร่ืองเก่ียวกบั งาน
ในหนา้ ที่
ใบงานท่ี 1.3 เรอื่ ง ฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษตั ริย์ไทย
ตอนที่ 1
คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นวเิ คราะห์ภาพพระราชกรณียกิจของพระมหากษตั ริย์ไทย แล้วบรรยายใต้ภาพทีแ่ สดงถงึ
ความสำคญั ของสถาบันพระมหากษัตรยิ ไ์ ทย
ตอนที่ 2
คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนตอบคำถามตอ่ ไปนี้
1. พระมหากษตั ริยไ์ ทยทรงมฐี านะและพระราชอำนาจตามรฐั ธรรมนูญอยา่ งไร
2. ใหน้ กั เรียนแสดงความคิดเห็นถึงความสำคญั และความจำเปน็ ทีต่ อ้ งดำรงไวซ้ งึ่ การปกครองระบอบ
ประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเป็นประมขุ
ใบงานที่ 1.3 เรื่อง ฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทย
ตอนท่ี 1
คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรยี นวิเคราะห์ภาพพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตรยิ ไ์ ทย แล้วบรรยายใตภ้ าพที่แสดงถงึ
ความสำคัญของสถาบันพระมหากษตั รยิ ไ์ ทย
ทรงอย่ใู นฐานะประมขุ ของประเทศ เป็นศนู ยร์ วม ทรงเป็นพทุ ธมามกะ และทรงเป็นอคั รศาสนูปถมั ภก
จติ ใจของประชาชนชาวไทย ใหท้ กุ คนรวมพลงั กนั เป็นขวญั กาลงั ใจใหป้ ระชาชนพระพฤติตนเป็นคนดี
ทากิจกรรมต่างๆ ในการพฒั นาประเทศชาติ
ทรงเสด็จไปเยยี่ มราษฎรในภาคตา่ งๆ โดยเฉพาะใน ทรงดารงตาแหน่งจอมทพั ไทย เป็นการสรา้ งขวญั
ดนิ แดนทรุ กนั ดาร ชว่ ยเหลือราษฎรผยู้ ากไร้ ตลอด และกาลงั ใจใหแ้ กท่ หารในกองทพั ไดป้ ฏิบตั ิหนา้ ที่
ทงั้ ส่งเสรมิ การพฒั นาอาชีพ และสภาพความ ในการปกปอ้ งรกั ษาเอกราชของชาตไิ ทย
เป็นอย่ขู องราษฎร
ทรงเป็นศูนย์รวมจติ ใจของประชาชนชาวไทย การที่ ทรงเป็นตวั แทนของปวงชนชาวไทยในการตอ้ นรบั
พระองคป์ ฏิบตั พิ ระราชกรณยี กจิ ทแี่ สดงถึงการดูแล ผแู้ ทนของประเทศตา่ งๆ ทเี่ ขา้ มาเจริญสมั พนั ธไมตรี
ทกุ ขส์ ขุ ของประชาชน และโครงการในพระราชดาริ กบั ไทย ทาใหเ้ กดิ ความสมั พนั ธ์ทดี่ ีงามกบั ต่างชาติ
ส่งผลดตี อ่ การพฒั นาประเทศชาติ
ทรงใชอ้ านาจอธปิ ไตยผ่านทางรฐั สภา คณะรฐั มนตรี ทรงเป็นตวั แทนของปวงชนชาวไทยในการตดิ ต่อกบั
และศาล แสดงถึงความม่นั คงของการปกครอง ประมุขของต่างประเทศ เป็นการสรา้ งความสมั พนั ธ์
ระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ทดี่ งี ามกบั ต่างประเทศ
ประมขุ
ตอนท่ี 2
คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปนี้
1. พระมหากษตั ริยไ์ ทยทรงมีฐานะและพระราชอำนาจตามรฐั ธรรมนูญอย่างไร
1. ทรงอยูใ่ นฐานะประมขุ ของประเทศ โดยจะทรงใช้อำนาจอธิปไตยผ่านทางรัฐสภา คณะรฐั มนตรี
และศาล
2. ทรงเป็นกลางและทรงอยูเ่ หนอื การเมือง
3. ทรงดำรงอย่ใู นฐานะอนั เปน็ ที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดกลา่ วหา หรือฟอ้ งร้องพระมหากษตั ริย์
ในทางใดๆ มิได้
4. ทรงเป็นพุทธมามกะ และทรงเป็นอัครศาสนปู ถมั ภก
5. ทรงดำรงตำแหนง่ จอมทัพไทย
6. ทรงเปน็ ตวั แทนของปวงชนชาวไทยในการติดต่อกบั ประมขุ ตา่ งประเทศ
2. ให้นกั เรียนแสดงความคิดเหน็ ถึงความสำคญั และความจำเป็นทตี่ อ้ งดำรงไว้ซง่ึ การปกครองระบอบ
ประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมขุ
1. เป็นศูนยร์ วมแหง่ ความสามัคคขี องประชาชน เพ่ือทำกจิ กรรมตา่ งๆ อนั จะเป็นประโยชน์
ตอ่ สว่ นรวม ประเทศ เมอื่ มเี หตุการณข์ ัดแยง้ กนั ขึน้ กลุ่มผมู้ อี ดุ มการณ์ทางการเมืองแตกต่างกัน
หรอื ระหวา่ งผ้บู รหิ ารประเทศ ซง่ึ จะมผี ลเสียต่อประเทศ พระองคก์ ็ทรงแนะนำแนวทางที่เป็น
ประโยชนแ์ ละสามารถชี้นำให้ทกุ ฝ่ายสมานสามคั คกี นั ได้ ซงึ่ ทำใหป้ ระชาชนอยูอ่ ย่างเปน็ สขุ
2. ทรงช้ีแนะเก่ียวกับโครงการต่างๆ ทเ่ี ปน็ แนวทางในการพฒั นาคณุ ภาพชีวติ และความเปน็ อยู่
ของราษฎร เชน่ โครงการเกย่ี วกบั การพัฒนาแหลง่ น้ำ การประกอบอาชีพดา้ นเกษตรกรรม
การแก้ปญั หาภัยแลง้ ตลอดทัง้ ยงั ทรงพระราชทานปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือการดำรงชีวติ
อยา่ งมีความสขุ ให้แกป่ ระชาชนชาวไทย
3. ทรงมีพระราชกรณยี กจิ ในดา้ นการสรา้ งความสมั พนั ธ์กบั ตา่ งประเทศ เช่น การเสด็จไปเยอื น
ประเทศต่างๆ การตอ้ นรับผู้นำหรอื ตวั แทนของประเทศต่างๆ ที่มาเจรญิ สมั พันธไมตรกี ับประเทศ
ไทยเปน็ การสรา้ งความสัมพนั ธ์ทด่ี ตี อ่ กนั \
ฯลฯ
(หมายเหตุ นกั เรยี นอาจตอบเป็นอย่างอื่นตามความเหมาะสม ใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพินจิ ของครผู ู้สอน)
ใบงานท่ี 1.4 เรอื่ ง พระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษัตรยิ ์ไทย
คำชแ้ี จง ให้นักเรียนนำขอ้ มลู ความรู้เก่ยี วกับพระราชกรณยี กิจของพระมหากษตั ริยไ์ ทยมาวิเคราะห์
และตอบคำถามตามหวั ขอ้ ที่กำหนด
ภาพพระราชกรณียกจิ ของพระมหากษตั รยิ ไ์ ทย
1. พระราชกรณียกิจทีส่ ำคญั คอื อะไร สอดคล้องกบั ฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษตั ริยไ์ ทยตาม
บทบัญญัตขิ องรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยอย่างไร
2. พระราชกรณยี กจิ ดังกล่าวสง่ ผลดีตอ่ การพัฒนาประเทศ อยา่ งไรบ้าง
ใบงานท่ี 1.4 เรอื่ ง พระราชกรณยี กิจของพระมหากษตั ริย์ไทย
คำชี้แจง ให้นักเรียนนำข้อมลู ความรเู้ กี่ยวกบั พระราชกรณียกิจของพระมหากษตั รยิ ์ไทยมาวิเคราะห์
และตอบคำถามตามหัวขอ้ ทก่ี ำหนด
ภาพพระราชกรณยี กจิ ของพระมหากษตั รยิ ์ไทย
1. พระราชกรณยี กิจท่ีสำคัญ คอื อะไร สอดคลอ้ งกบั ฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษัตรยิ ์ไทยตาม
บทบัญญตั ิของรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทยอย่างไร
2. พระราชกรณยี กจิ ดังกล่าวสง่ ผลดีต่อการพฒั นาประเทศ อยา่ งไรบา้ ง
(หมายเหตุ พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรยี น ให้อยูใ่ นดลุ ยพินิจของครูผู้สอน)
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
ชอ่ื – ความ การแสดง การรับฟัง การต้ังใจ การรว่ ม รวม
สกลุ ร่วมมอื ความ ความ ทำงาน ปรับปรงุ 20
ของ คดิ เห็น คดิ เหน็ ผลงานกลุม่ คะแน
ลำดั ผรู้ ับ น
บท่ี การ 43214321432143214321
ประเมิ
น
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../................
ดีมาก = 4
หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ิธีการมอบหมายใหห้ วั หนา้ กล่มุ
ดี = 3 เป็นผปู้ ระเมนิ หรอื ใหต้ วั แทนกลมุ่ ผลดั กนั ประเมิน
หรอื ใหม้ กี ารประเมินโดยเพอ่ื น โดยตวั นกั เรยี นเอง
พอใช้ = 2 ตามความเหมาะสมกไ็ ด้
ปรบั ปรุง = 1
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ช่ ว ง ร ะ ดั บ
คะแนน คุณภาพ
17 – 20 ดีมาก
13 – 16
9 – 12 ดี
5–8 พอใช้
ปรบั ปรุง
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2
หน้าทพี่ ลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชวี ิตในสังคม
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 ระบอบการเมืองการปกครอง ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4-6
เรอ่ื ง การเมอื งกบั ชีวิต เวลา 2 ช่วั โมง
1. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การมีส่วนร่วมของประชาชนในการเมืองการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยของไทยน้ัน มีปัญหาต่างๆ ซ่ึง
เป็นอุปสรรคต่อการบริหารบ้านเมืองและประเทศ ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันหาแนวทางแก้ไข อีกทั้งยังต้อง
รว่ มมือกนั ทางการเมอื งการปกครองที่จะนำไปส่คู วามเข้าใจและการประสานประโยชนร์ ะหวา่ งประเทศ
2. ตวั ชีว้ ดั /จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
2.1 ตวั ชว้ี ดั
ส 2.2 ม.4-6/1 วิเคราะห์ปัญหาการเมืองที่สำคัญในประเทศจากแหล่งข้อมูลต่างๆ พร้อมทั้ง
เสนอแนวทางแก้ไข
ม.4-6/2 เสนอแนวทางทางการเมืองการปกครองทน่ี ำไปส่คู วามเข้าใจ และการ
ประสานประโยชน์ร่วมกนั ระหวา่ งประเทศ
2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. วิเคราะหป์ ญั หาการเมืองไทยและเสนอแนวทางแก้ไขได้
2. วิเคราะห์แนวทางในการสร้างความเขา้ ใจ และการประสานประโยชนร์ ะหว่างประเทศได้
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
1. ปัญหาการเมอื งสำคญั ที่เกดิ ขน้ึ ภายในประเทศ
2. สถานการณก์ ารเมอื งการปกครองของสงั คมไทย
3. อิทธิพลของระบบการเมอื งการปกครองที่มีผลตอ่ การดำเนนิ ชวี ิต
4. การประสานประโยชน์รว่ มกนั ระหวา่ งประเทศ เช่น การสร้างความสัมพันธ์ระหวา่ ง
ประเทศไทยกับประเทศตา่ งๆ
5. การแลกเปลี่ยนเพ่ือชว่ ยเหลือและส่งเสรมิ ด้านวัฒนธรรม การศกึ ษา เศรษฐกิจ สังคม
3.2 สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่ิน
-
4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคิด
- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทกั ษะการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ
- ทักษะการคดิ แก้ปญั หา
4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
- กระบวนการทำงานกลมุ่
- กระบวนการสืบค้นขอ้ มลู
5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ มั่นในการทำงาน
6. กิจกรรมการเรียนรู้
(วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้แบบรว่ มมือ : เทคนคิ คคู่ ิด วิธีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุม่ )
ช่ัวโมงท่ี 1
1. ครนู ำข่าวหรือภาพกจิ กรรมทางการเมอื งการปกครองของประเทศตา่ งๆ ในโลก มาใหน้ ักเรยี นวเิ คราะห์
เชน่
- การชุมนมุ ประทว้ งรฐั บาลของชาวตุรกี
- การเลอื กต้งั ประธานาธิบดีของสหรฐั อเมรกิ า
- การเลือกตัง้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของประเทศองั กฤษ ญป่ี ุ่น
- รฐั บาลพมา่ กักบริเวณใหน้ างอองซาน ซูจี อยภู่ ายในบริเวณบ้านพกั ของตนเอง
2. ครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกนั วิเคราะหว์ ่าขา่ วหรอื ภาพข่าวดงั กล่าวมีผลต่อการดำเนนิ ชีวติ ของประชาชน
อยา่ งไร
3. ครูช่วยอธบิ ายสรุปให้นักเรียนเขา้ ใจว่าอิทธพิ ลของระบอบการเมืองการปกครองมีผลต่อการดำเนิน
ชีวิตของประชาชน และการทป่ี ระเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยทำใหม้ ผี ลต่อการดำเนิน
ชวี ิตของประชาชน เชน่
- ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพเทา่ เทยี มกัน
- ประชาชนมคี วามสนใจในทางการเมอื ง
- มกี ารรวมกลุ่มทางเศรษฐกจิ ของกลุ่มทีม่ ีอาชพี เดียวกัน
- การรวมกลมุ่ สร้างพลงั ความเข้มแขง็ ต่อการอนรุ กั ษส์ ภาพแวดล้อมในชุมชนทอ้ งถน่ิ
4. ครูแบ่งนกั เรยี นเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 6 คน คละกนั ตามความสามารถ คอื เกง่ ปานกลางค่อนข้างเกง่
ปานกลางค่อนข้างอ่อน และออ่ น และใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ แบ่งออกเปน็ 2 กลุม่ ยอ่ ย กลมุ่ ละ 3 คน
ใหแ้ ต่ละกล่มุ ยอ่ ยชว่ ยกนั ทำใบงาน ดังน้ี
- กลุ่มย่อยที่ 1 ศกึ ษาสบื ค้นความรู้เกี่ยวกบั ปัญหาทางการเมืองท่สี ำคัญทเ่ี กิดข้ึนในประเทศไทย
และทำใบงานท่ี 2.1 เร่ือง วิเคราะหป์ ัญหาการเมืองไทย
- กลมุ่ ยอ่ ยท่ี 2 ศกึ ษาสบื คน้ ความรู้เกย่ี วกับ ความสมั พันธ์ระหว่างประเทศไทยกบั ต่างประเทศ
และทำใบงานที่ 2.2 เรื่อง การประสานประโยชน์ร่วมกันระหว่างประเทศ
ช่ัวโมงที่ 2
1. ครูสนทนากบั นักเรยี นถงึ การดำเนินงานของแตล่ ะกล่มุ วธิ ีการสบื คน้ ขอ้ มูลในเร่อื งทศ่ี ึกษา
การแบง่ หน้าท่คี วามรับผิดชอบ และความก้าวหน้าของงานทรี่ ับผิดชอบ
2. นักเรียนกลุ่มยอ่ ยของแต่ละกลุม่ ผลดั กนั เล่าผลงานที่กลมุ่ ตนรบั ผิดชอบตามหัวขอ้ ในใบงาน ให้สมาชกิ
อกี กลุ่มย่อยฟัง และช่วยกนั แสดงความคดิ เห็นและข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ ทเี่ ปน็ ประโยชน์
3. นักเรียนแต่ละกล่มุ ออกมานำเสนอผลงานตอ่ ชั้นเรียน และให้กล่มุ อืน่ เสนอแนะเพ่ิมเติม โดยมีครู
เป็นผู้ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
4. ครูและนกั เรียนชว่ ยกันอภิปรายสรปุ ปัญหาการเมืองท่สี ำคัญของประเทศ และแนวทางแก้ไข
กิจกรรมการเมืองการปกครองสำคัญที่นำไปส่คู วามเข้าใจและการประสานประโยชนร์ ่วมกนั
ระหวา่ งประเทศ
5. ครูมอบหมายให้นกั เรียนแตล่ ะกลุม่ ช่วยกนั เขยี นบทความวิเคราะหก์ ารเมืองการปกครองไทย
ในประเด็นต่อไปนี้
1) การวิเคราะหป์ ญั หาการเมืองในประเทศ
2) การเสนอแนวทางการเมืองการปกครอง
3) การวิเคราะห์ความจำเปน็ ในการธำรงรกั ษาการปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษัตรยิ ์
ทรงเป็นประมขุ
6. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ออกมานำเสนอผลงานต่อครผู ู้สอน แล้วครเู ลอื กบทความวเิ คราะห์ที่มีผลงาน
อยู่ในเกณฑด์ นี ำไปจดั ป้ายนเิ ทศ
นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เร่อื ง ระบอบการเมอื งการปกครอง
7. การวดั และประเมนิ ผล
วธิ ีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 2.1 ใบงานที่ 2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ระดับคุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 2.2 ใบงานที่ 2.2
ระดับคณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ บทความวิเคราะห์ แบบประเมนิ บทความวิเคราะห์ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การเมืองการปกครองไทย การเมอื งการปกครองไทย
สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน แบบทดสอบหลังเรยี น
หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 5 เร่ือง ระบอบ หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 5 เรือ่ ง ระบอบ
การเมืองการปกครอง การเมอื งการปกครอง
8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 สือ่ การเรยี นรู้
1. หนังสือเรยี น หน้าที่พลเมืองฯ ม.4-ม.6
2. ตัวอยา่ งข่าว
3. ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง วิเคราะห์ปัญหาการเมอื งไทย
4. ใบงานที่ 2.2 เร่ือง การประสานประโยชนร์ ว่ มกนั ระหว่างประเทศ
8.2 แหล่งการเรียนรู้
1. ห้องสมุด
2. แหล่งข้อมลู สารสนเทศ
www.kullawat.net/civic/3.1.htm
www.dopa.go.th/history/polith.htm
th.wikipedia.org/wiki/ประชาธิปไตย
ตวั อยา่ งขา่ ว
ออง ซาน ซจู ี ผู้นำฝา่ ยคา้ นพม่า ถกู ศาลในเรือนจำอนิ เส่งพพิ ากษาวา่ มีความผิดข้อหาละเมดิ กฎ
การกกั บริเวณ ส่งผลใหน้ างซจู ตี อ้ งถูกกกั ขังต่อไปอีก 1 ปี 6 เดอื น
นางออง ซาน ซจู ี หัวหน้าพรรคสันนบิ าตแห่งชาติ
เพ่อื ประชาธิปไตย หรอื NLD (National League
for Democracy) ถกู ศาลในเรอื นจำอินเส่งพพิ ากษา
วา่ มีความผิด ข้อหาละเมดิ กฎการกักบริเวณ ส่งผล
ให้นางซูจีตอ้ งถูกกกั ขงั ตอ่ ไปอกี 1 ปี 6 เดือน โดย
ทางการพม่าอนญุ าตใหผ้ ู้สือ่ ข่าวในพม่าเข้าร่วมฟงั การ
พพิ ากษาในช้ันศาล โดยการพพิ ากษาในวนั นี้ (11
ส.ค.) ศาลในเรือนจำอนิ เส่งประกาศจำคกุ นางซูจตี อ่ ไปอีก 3 ปี แต่มคี ำสงั่ ลดโทษให้เหลือเพียง 1 ปี 6 เดอื น โดย
นางซจู จี ะถกู กกั บรเิ วณให้อยแู่ ต่ในบา้ นพักในกรงุ ยา่ งกงุ้ เหมือนทผ่ี า่ นมา
อยา่ งไรกต็ าม ก่อนการพิพากษาจะเรม่ิ ขนึ้ นางซูจีได้เปดิ เผยกบั ทนายความของเธอวา่ เธอพรอ้ มทีจ่ ะเผชิญ
กับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอ ซึ่งผลการพิพากษาเป็นไปตามที่นักการทูตในพม่าได้คาดการณ์ไว้
หลังการพิจารณาคดีนางซจู ียืดเยื้อมาเป็นเวลาสองเดือน
หลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลพม่าใช้การบุกรุกของชายอเมริกันเป็นเครื่องมือในการกักขังนางซูจี
ในช่วงท่ีจะมกี ารเลือกตั้งในปหี น้า ด้านทนายความของนางซูจีเปิดเผยว่า กฎหมายที่รัฐบาลพม่านำมาใช้ลงโทษ
นางซูจีนั้นไม่สามารถใช้ได้แล้ว เนื่องจากล้มเลิกไปแล้วเมื่อ 20 ปีก่อน และกล่าวว่า เจ้าหน้าที่รักษาความ
ปลอดภัยของทางการพม่าควรร่วมรบั ผิดชอบต่อเหตุการณ์ใน ครั้งนี้ด้วย เนื่องจากหละหลวมต่อหน้าที่โดยการ
ปล่อยให้บคุ คลภายนอกบุกรุกเขา้ มาบรเิ วณ บา้ นพักของนางซูจี
ประชาชนในย่างกุ้งเปิดเผยว่า ในช่วงใกล้วันพิพากษานางซูจี ทางการพม่าได้เพ่ิ มกำลังรักษาความ
ปลอดภัยอย่างเข้มงวดทั่วกรุงย่างกุ้ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยประจำการตามถนนหลายสายแม้ในช่วงเวลา
กลางคืน ขณะที่สื่อท้องถิ่นของพม่าประกาศห้ามประชาชนออกมาประท้วงหากทางการพิพากษา นางซูจีว่ามี
ความผดิ
อย่างไรก็ตาม คดีนรี้ ฐั บาลทหารพม่าถกู วพิ ากษว์ ิจารณอ์ ย่างหนกั จากนานาชาติ ซง่ึ ทงั้ สหรฐั อเมริกาและ
สหภาพยุโรป หรอื EU (European Union) ได้ใชม้ าตรการควำ่ บาตรทางเศรษฐกิจเพอ่ื ต่อตา้ นการกักขังนักโทษ
การเมอื งกว่า 2,000 คน รวมถงึ นางซูจี
ท่ีผา่ นมา นางซูจี ผู้นำพรรคฝ่ายค้านคนสำคัญถูกรฐั บาลพม่าคุมขังเปน็ เวลา 14 ปี ในช่วงระยะเวลา 20
ปีของการถกู จบั และถกู ปลอ่ ยตวั โดยในอดีต รฐั บาลพม่าไม่ยอมรับชัยชนะของนางซูจใี นเลือกตั้งเมอ่ื ปี 2533 แต่
กลบั ยึดอำนาจและจบั กมุ นักการเมือง นกั เคลอื่ นไหวและประชาชนทีไ่ มเ่ ห็นดว้ ยกบั รัฐบาลทหาร ประเทศพม่าอยู่
ภายใต้การปกครองโดยรัฐบาลเผด็จการทหารมายาวนานต้ังแต่ปี พ.ศ. 2505 และยังไม่มีทีท่าวา่ จะยอมลงจาก
อำนาจจนถงึ ปจั จุบัน
แบบประเมนิ บทความวเิ คราะหก์ ารเมอื งการปกครองไทย
กลุ่มท.่ี ................................................. .............................................................................. 2. ..............................................................................
สมาชิกของกลมุ่ 1. .............................................................................. 4. ..............................................................................
.............................................................................. 6. ..............................................................................
3.
5. คณุ ภาพผลงาน
432
ลำดั รายการประเมิน 1
บท่ี
1 การวเิ คราะหป์ ัญหาการเมืองในประเทศ
2 การเสนอแนวทางการเมืองการปกครอง
3 การวเิ คราะห์ความจำเป็นในการธำรงรกั ษาการปกครองระบอบ
ประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ
รวม
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงช่ือ..............................................................................ผู้ประเมิน
/ /....................... ........................... ........................
ดมี าก = 4
ดี = 3
พอใช้ = 2
ปรบั ปรุง = 1
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ช่ ว ง ร ะ ดั บ
คะแนน คณุ ภาพ
10-12 ดมี าก
7-9
4-6 ดี
1-3 พอใช้
ปรบั ปรุง
ใบงานที่ 2.1 เร่อื ง วเิ คราะหป์ ัญหาการเมอื งไทย
คำช้แี จง ใหน้ ักเรยี นนำปัญหาการเมอื งสำคญั ท่ีเกดิ ข้ึนในประเทศไทยมาวเิ คราะห์ และตอบคำถาม
ปัญหาเรื่อง
สาระสาคญั
1. ปัญหาข้างต้นเปน็ ปัญหาดา้ นใด
2. สาเหตุของปญั หา คืออะไร
3. มีแนวทางแกไ้ ขอยา่ งไร
4. นกั เรยี นจะมสี ว่ นรว่ มในการแกป้ ญั หาอยา่ งไรบา้ ง
ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง วิเคราะห์ปัญหาการเมอื งไทย
คำช้แี จง ใหน้ ักเรียนนำปญั หาการเมืองสำคัญที่เกดิ ขึ้นในประเทศไทยมาวิเคราะห์ และตอบคำถาม
ปัญหาเรือ่ ง
สาระสาคญั
1. ปญั หาขา้ งตน้ เป็นปญั หาดา้ นใด
2. สาเหตุของปัญหา คืออะไร
3. มีแนวทางแก้ไขอยา่ งไร
4. นกั เรียนจะมีส่วนรว่ มในการแกป้ ญั หาอยา่ งไรบา้ ง
(หมายเหตุ พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น ให้อยใู่ นดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน)
ใบงานที่ 2.2 เรื่อง การประสานประโยชน์รว่ มกนั ระหว่างประเทศ
คำช้แี จง ให้นกั เรยี นนำข้อมลู ท่ีสบื ค้นมาเกีย่ วกับเรอ่ื ง ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งประเทศไทยกบั ต่างประเทศ
มาวิเคราะห์ แล้วตอบคำถาม
ปัญหาเร่อื ง
สาระสาคญั
1. ขอ้ มูล/ข่าว เร่อื ง
2. จากข้อมลู /ขา่ วมขี ้อความแสดงถึงความสมั พนั ธ์ระหว่างประเทศใด และมีความสัมพันธด์ า้ นใด
จงอธบิ าย
3. ความสัมพนั ธด์ งั กลา่ วมีผลดีอยา่ งไร จงอธบิ าย
ใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง การประสานประโยชน์รว่ มกันระหวา่ งประเทศ
คำชี้แจง ให้นกั เรียนนำข้อมลู ที่สบื คน้ มาเกี่ยวกับเร่ือง ความสมั พนั ธ์ระหว่างประเทศไทยกบั ต่างประเทศ
มาวเิ คราะห์ แล้วตอบคำถาม
ปัญหาเรอ่ื ง
สาระสาคญั
1. ขอ้ มลู /ข่าว เร่อื ง
2. จากขอ้ มลู /ข่าวมขี ้อความแสดงถึงความสัมพันธร์ ะหวา่ งประเทศใด และมคี วามสมั พนั ธ์ดา้ นใด
จงอธิบาย
3. ความสมั พนั ธด์ ังกลา่ วมีผลดอี ยา่ งไร จงอธิบาย
(หมายเหตุ พิจารณาตามคำตอบของนกั เรยี น ใหอ้ ย่ใู นดลุ ยพินจิ ของครูผูส้ อน)
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม
ชื่อ – ความ การแสดง การรบั ฟัง การตงั้ ใจ การรว่ ม รวม
สกลุ ร่วมมอื ความ ความ ทำงาน ปรับปรุง 20
ของ คิดเหน็ คิดเห็น ผลงานกลุ่ม คะแน
ลำดั ผรู้ ับ น
บท่ี การ 43214321432143214321
ประเมิ
น
เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ
ดีมาก = 4 ............../.................../................
ดี = 3 หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ิธีการมอบหมายใหห้ วั หนา้ กล่มุ
เป็นผปู้ ระเมิน หรอื ใหต้ วั แทนกล่มุ ผลดั กนั ประเมิน
พอใช้ = 2 หรอื ใหม้ กี ารประเมนิ โดยเพื่อน โดยตวั นกั เรียนเอง
ตามความเหมาะสมกไ็ ด้
ปรบั ปรุง = 1
เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ
ช่ ว ง ร ะ ดั บ
คะแนน คณุ ภาพ
17 – 20 ดีมาก
13 – 16
9 – 12 ดี
5 – 8 พอใช้
ปรบั ปรุง