The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน รายวิชา ส31102 ม4 บ พ ค 2 64 ทศพล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sodsod1515, 2021-12-02 02:55:23

แผนการสอน รายวิชา ส31102 ม4 บ พ ค 2 64 ทศพล

แผนการสอน รายวิชา ส31102 ม4 บ พ ค 2 64 ทศพล

ก. สำนกั งานตำรวจแห่งชาติ ข. กระทรวงศกึ ษาธิการ

ค. กระทรวงการตา่ งประเทศ ง. กระทรวงวัฒนธรรม

18. ข้อใดไม่ใชป่ ญั หาสิทธมิ นษุ ยชนในประเทศไทยที่กำลงั ประสบอยู่

ก. ปัญหาเด็กไร้สัญชาติ ข. ปัญหาแรงงานต่างด้าว

ค. ปัญหาโสเภณี ง. ปญั หาความรนุ แรงต่อเดก็ และสตรี

19. แนวทางใดที่รัฐบาลใช้แกป้ ญั หาแรงงานข้ามชาติในปัจจุบัน

ก. ของบประมาณจากสหประชาตเิ ล้ยี งดแู รงงานตา่ งด้าว

ข. กำหนดจำนวนและจดทะเบียนแรงงานต่างดา้ ว

ค. ผลักดนั ให้แรงงานอพยพกลบั ประเทศ

ง. ขอใหป้ ระเทศท่ีมง่ั ค่งั กวา่ รบั ไปดแู ล

20. องค์การระหวา่ งประเทศที่เข้ามามบี ทบาทดา้ นสิทธิมนษุ ยชนในประเทศไทยมากทีส่ ุด คอื องคก์ ารใด

ก. องคก์ ารยูนเิ ซฟ

ข. องคก์ ารอนามัยโลก

ค. องค์การแรงงานระหวา่ งประเทศ

ง. สำนักงานข้าหลวงใหญผ่ ้ลู ี้ภยั แห่งสหประชาชาติ

เฉลย

1. ง 2. ค 3. ง 4. ข 5. ง
6. ก 7. ก 8. ก 9. ค 10. ค
11. ข 12. ค 13. ก 14. ง 15. ข
16. ง 17. ก 18. ค 19. ข 20. ง

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 1

หนา้ ท่ีพลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชีวิตในสังคม

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 สิทธิมนุษยชน ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4
เรื่อง ความสำคัญของสิทธิมนษุ ยชน เวลา 2 ชัว่ โมง

1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

สิทธิมนุษยชน เป็นสิทธิพื้นฐานที่ทุกคนมีอยู่ในฐานะที่เกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งเป็นไปตามหลักการของสิทธิ
มนุษยชนตามปฏิญญาสากลวา่ ด้วยสิทธิมนษุ ยชนแหง่ สหประชาชาติ

2. ตัวช้ีวัด/จุดประสงค์การเรยี นรู้

2.1 ตัวชวี้ ดั
ส 2.1ม.4-6/4 ประเมนิ สถานการณ์สทิ ธิมนุษยชนในประเทศไทย และเสนอแนวทางพัฒนา

2.2 จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธบิ ายความหมาย ความสำคญั แนวคิด และหลกั การของสิทธมิ นุษยชนได้
2. วิเคราะหค์ วามสำคญั ของปฏิญญาสากลว่าดว้ ยสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ สหประชาชาตไิ ด้

3. สาระการเรียนรู้

3.1สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1. ความหมาย ความสำคญั แนวคิด และหลกั การของสิทธมิ นษุ ยชน
2. สาระสำคญั ของปฏญิ ญาสากลวา่ ด้วยสิทธิมนษุ ยชน

3.2 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่
-

4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

- ทกั ษะการคิดวิเคราะห์

4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

- กระบวนการปฏิบัติ
- กระบวนการทำงานกลุ่ม

5. คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

1. มีวนิ ัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

(วิธีสอนโดยการจัดการเรียนรูแ้ บบรว่ มมือ : เทคนคิ คู่คดิ สี่สหาย, เทคนิครว่ มกันคิด)
 นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เร่อื ง สทิ ธิมนุษยชน

ช่ัวโมงที่ 1

1. ครูให้นักเรยี นอ่านข่าวต่อไปน้ี
- ขา่ วเกี่ยวกบั สำนักงานแห่งหนง่ึ ไมร่ บั คนทเี่ ป็นโปลิโอเขา้ ทำงานอ้างว่า เปน็ คนพิการ
คงทำงานไดไ้ มด่ เี ท่าคนปกติ ใหน้ กั เรียนร่วมกันวเิ คราะหใ์ นประเดน็ ว่า ขอ้ อา้ งจากนายจา้ ง
ขัดต่อหลักสทิ ธมิ นุษยชนหรือไม่ พร้อมอธบิ ายเหตุผลประกอบ
- ข่าวเกย่ี วกบั เด็กถกู ล่ามโซ่ให้อยกู่ บั บ้านเพราะต้องการดัดนสิ ัย เพราะเปน็ เดก็ ทซ่ี ุกซนมาก
ถึงเวลาอาหารกน็ ำใสจ่ านมาวางไวใ้ ห้ และเด็กมกั ถกู ทุบตถี ้าสง่ เสยี งร้องโวยวาย ให้นักเรยี น
ร่วมกันวิเคราะห์ว่า ข่าวดงั กล่าวขดั ตอ่ หลักสิทธมิ นษุ ยชนด้านใด และการทเ่ี ด็กถูกทารุณกรรม
ดังกล่าว มผี ลเสียอย่างไร
จากนั้นครถู ามนกั เรยี นว่า จากข่าวทีย่ กตัวอยา่ งมาน้นั นักเรยี นคิดวา่ มนษุ ย์ทุกคนควรปฏิบัติตอ่ กนั อย่างไร
จงึ จะสอดคลอ้ งกับหลักสิทธิมนุษยชน

2. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั อภปิ รายเรือ่ ง ความหมายและความสำคญั ของสทิ ธมิ นษุ ยชน
3. ครอู ธิบายเพิ่มเตมิ ให้เห็นถึงความจำเปน็ ที่ทกุ คนจะตอ้ งใหค้ วามสำคญั ของสทิ ธมิ นุษยชนและให้

นกั เรียนศกึ ษาความรูเ้ พ่มิ เตมิ เรือ่ ง สิทธิมนุษยชน จากหนังสือเรยี น
4. ครูแบง่ นกั เรียนเปน็ กล่มุ กลุม่ ละ 4 คน โดยใหจ้ ับคู่กันเปน็ 2 คู่ และให้แต่ละคู่ชว่ ยกันทำใบงานท่ี 1.1

เรื่อง แนวคดิ และหลกั การของสทิ ธมิ นษุ ยชน ดังนี้
- คู่ท่ี 1 วเิ คราะห์กรณีตวั อยา่ งที่ 1 เร่อื ง นอ้ งบอล...เด็กเรร่ ่อน
- ค่ทู ่ี 2 วิเคราะหก์ รณตี วั อยา่ งที่ 2 เรื่อง กรกบั แกว้ ...ลกู ชาวนา
5. ใหน้ กั เรียนแต่ละคนทำใบงานและวเิ คราะห์หาคำตอบด้วยตนเองกอ่ น และผลัดกนั อภิปรายผล
การวเิ คราะหใ์ ห้กับคู่ของตนฟงั จนครบทั้ง 2 คู่
6. ครสู ่มุ เรยี กนกั เรียนออกมานำเสนอผลงานท่ีหนา้ ชั้นเรียน 2-3 กลุ่ม และให้กลุ่มอ่นื ๆ เสนอแนะเพ่มิ เตมิ ใน
ประเดน็ ท่ีแตกตา่ งกนั
7. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ ความสำคัญ แนวคิด และหลักการของสิทธมิ นุษยชน

ช่ัวโมงท่ี 2

1. ครนู ำภาพข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแหง่ สหประชาชาติ มาใหน้ ักเรียนดู และสนทนาซกั ถามเกยี่ วกับหน้าที่ของ
บุคคลดังกล่าว และเชอ่ื มโยงสูป่ ฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ สหประชาชาติ

2. ให้นกั เรยี นศกึ ษาใบความรู้เรือ่ ง ปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
3. ครูแบง่ นักเรียนเปน็ กล่มุ กลุม่ ละ 4 คน ( หรอื อาจใช้กลุม่ เดมิ ก็ได้ ) และให้สมาชกิ ในกลมุ่ มหี มายเลข

ประจำตัว ตั้งแตห่ มายเลข 1 , 2, 3 ,4 แลว้ ให้ทำใบงานที่ 1.2 เรอื่ ง ปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธมิ นุษยชน

4. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันคิดหาคำตอบ และช่วยกนั อธบิ ายคำตอบให้เพ่อื นๆ สมาชกิ ในกลุ่ม
ของตนเขา้ ใจอย่างชดั เจน

5. ครสู ่มุ เรียกหมายเลขใดหมายเลขหน่งึ ของกล่มุ เพื่อตอบคำถามและอธบิ ายให้เพ่ือนฟังหน้าชนั้ เรยี น
โดยหมนุ เวยี นกนั ตอบให้ครบตามประเด็นคำถามในใบงาน

6. นักเรียนและครูชว่ ยกนั สรปุ สาระสำคัญของปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสทิ ธมิ นษุ ยชน ซึง่ ถือเป็นมาตรฐาน
ในการปฏบิ ตั ติ อ่ กันของมวลมนษุ ยแ์ ละของบรรดานานาชาติ

7. การวัดและประเมินผล

วิธกี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรียน แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการ
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 เรอื่ ง เรียนร้ทู ่ี 4 เรอ่ื ง สทิ ธมิ นษุ ยชน
สทิ ธิมนษุ ยชน
ตรวจใบงานท่ี 1.1 ใบงานที่ 1.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ใบงานท่ี 1.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 1.2 แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม

8. สื่อ / แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สอ่ื การเรียนรู้

1. หนังสอื เรียน หนา้ ท่ีพลเมอื งฯ ม. 4-ม.6
2. หนงั สือค้นคว้าเพิ่มเตมิ

1) เสน่ห์ จามริก. สทิ ธิมนษุ ยชน : เกณฑ์คุณค่าและฐานความคดิ . กรุงเทพมหานคร :
มลู นิธโิ ครงการดำรงศาสตร์และมนุษยศาสตร,์ 2544.

2) เสนห่ ์ จามริก. สิทธิมนุษยชนในสังคมไทย. กรงุ เทพมหานคร : มูลนธิ ิโครงการดำรง
ศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์, 2545.

3) เสน่ห์ จามรกิ . สทิ ธิมนษุ ยชน : เส้นทางสสู่ นั ติประชาธรรม. กรงุ เทพมหานคร :
มูลนิธโิ ครงการดำรงศาสตร์และมนษุ ยศาสตร,์ 2543.

3. ใบความรเู้ รือ่ ง ปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแหง่ สหประชาชาติ
4. ใบงานที่ 1.1 เรือ่ ง แนวคดิ และหลักการสทิ ธมิ นษุ ยชน
5. ใบงานท่ี 1.2 เร่อื ง ปฏิญญาสากลวา่ ด้วยสิทธิมนษุ ยชน

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้

1. ห้องสมุด
2. แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ

http://www.mfa.go.th/humanright

ใบความรู้ เรอื่ ง ปฏิญญาสากลว่าดว้ ยสิทธิมนษุ ยชนแหง่ สหประชาชาติ

(The Universal Declaration of Human Rights)

องค์การสหประชาชาตไิ ด้รเิ รม่ิ จัดทำปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธิมนุษยชน โดยทปี่ ระชุมสมัชชาแห่ง
สหประชาชาติได้ให้การรบั รองเมอื่ วันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2491 และไดก้ ำหนดใหว้ ันท่ี 10 ธนั วาคม ของทุกปี
เปน็ “วนั สิทธมิ นุษยชนแหง่ โลก” ปฏิญญาฉบบั นไี้ ด้วางมาตรฐานสากลของการดำเนินงานเร่ืองสิทธมิ นุษยชน
เพือ่ ใหเ้ ป็นแนวทางใหป้ ระเทศต่างๆ นำไปปฏบิ ัตใิ หเ้ กิดผลและมีประสทิ ธิภาพ สำหรบั สิทธติ าม
ปฏิญญาสากลแหง่ สหประชาชาติ จำแนกออกเปน็ ประเภทใหญ่ๆ ดังน้ี

1. สทิ ธขิ องพลเมือง และสิทธิทางการเมอื ง (Civil and Political Rights)
2. สทิ ธิทางเศรษฐกจิ สงั คม และวัฒนธรรม (Economic Social and Cultural Rights)
ประเทศไทยเป็นประเทศหนึง่ ท่ไี ดร้ ่วมรับรองปฏิญญาสากลวา่ ด้วยสทิ ธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติและ
เพ่ือให้ความคุ้มครองสทิ ธมิ นุษยชนได้ผลตามเจตนารมณ์ของปฏญิ ญา จึงได้บัญญตั เิ รอ่ื งสิทธมิ นษุ ยชนไว้ใน
รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 และจดั ตั้งองค์กรท่เี กีย่ วข้องทำหน้าที่ติดตาม และค้มุ ครอง
สิทธิมนษุ ยชนไวอ้ ย่างชัดเจน
หลักปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสิทธมิ นษุ ยชน มดี ังน้ี
(1) มนษุ ยท์ กุ ๆ คนเกิดมามีอสิ ระและเสมอภาคกันในศกั ดิศ์ รีและสิทธิ ต่างกม็ ีเหตุผลและมโนธรรม และ
ควรปฏิบัตติ ่อกันดว้ ยเจตนารมณแ์ หง่ ภราดรภาพ
(2) ทกุ ๆ คนมีสทิ ธิและเสรีภาพ ไมม่ กี ารบ่งแยก เชือ้ ชาติ ผวิ เพศ ภาษา ศาสนา ความคิดเหน็ ทางการ
เมืองหรอื ทางอืน่ เผา่ พนั ธแุ์ หง่ ชาติหรอื สงั คม ทรัพย์สิน ชาตกิ ำเนดิ หรอื สถานะอนื่ ใด
(3) บุคคลมสี ิทธิในการดำรงชวี ิตในเสรีธรรม และในความม่นั คงแห่งร่างกาย
(4) เสรภี าพท่จี ะไมต่ กเปน็ ทาส และการค้าทาสจะมไี มไ่ ด้ในทุกรปู แบบ
(5) บุคคลจะถกู ทรมานหรอื ลงโทษดว้ ยวธิ กี ารโหดร้ายผดิ มนุษยธรรมหรอื ตำ่ ช้ามิได้
(6) สิทธบิ ุคคลตามกฎหมาย
(7) ทุกคนเสมอกนั ในกฎหมายและมีสิทธิทีจ่ ะได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเทา่ เทยี มกนั
(8) สิทธิทจ่ี ะได้รับการดูแล ในกรณีทถ่ี กู ละเมดิ สิทธขิ ัน้ พื้นฐาน
(9) บุคคลจะถูกจับกมุ กกั ขัง หรือถกู เนรเทศไปต่างถ่นิ โดยพลการมไิ ด้
(10) สทิ ธิโดยเสมอภาคเตม็ ที่ในอันทจี่ ะไดร้ ับการพจิ ารณาท่ีเป็นธรรมจากศาลท่อี สิ ระและเทีย่ งธรรม
(11) ทุกคนที่ถกู กลา่ วหาวา่ กระทำผิดทางอาญามสี ทิ ธจิ ะไดร้ ับการสันนษิ ฐานไวก้ ่อนวา่ บรสิ ทุ ธจ์ิ นกวา่ จะ
พิสจู นไ์ ดว้ ่ามีความผดิ ตามกฎหมายในการพิจารณาเปดิ เผย
(12) เสรภี าพในความเป็นอยู่สว่ นตวั ในครอบครวั เคหสถาน และในการส่อื สาร
(13) สทิ ธิในการเคลื่อนยา้ ยและการเลอื กสถานท่ีอยภู่ ายในของเขตของรัฐ มสี ิทธิจะออกจากประเทศ
ใดๆ และกลับคืนส่บู ้านเกิดเมอื งนอน
(14) สทิ ธิท่จี ะแสวงหาและอาศยั พำนักในประเทศอน่ื เพอ่ื ล้ีภัยจากการประหัตประหาร (แต่ตอ้ งเป็นกรณี
การดำเนนิ คดีที่เกี่ยวกบั การเมอื ง)
(15) สิทธิในการถอื สัญชาติ
(16) สิทธิในการจดั ตงั้ ครอบครวั โดยปราศจากข้อจำกัดเกี่ยวกับเชอ้ื ชาติ สญั ชาติ ศาสนา โดยมสี ทิ ธิ

เท่าเทยี มกนั ในการสมรส การสมรสจะกระทำกันด้วยความยินยอมโดยอิสระตามเจตนาของคู่สมรส
(17) สทิ ธิในการเป็นเจ้าของทรัพยส์ ิน
(18) สิทธิในการนบั ถอื ศาสนา
(19) สิทธิในการแสดงความคิดเห็นและแสดงออก
(20) สทิ ธิในการชุมนมุ โดยสงบ
(21) สิทธิในการมสี ่วนร่วมในรฐั บาลของตน จะเป็นทางตรงหรือผา่ นทางผ้แู ทน ซ่งึ เลือกต้ังโดยอิสระ
(22) สทิ ธิเทา่ เทยี มกันทางสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม
(23) สิทธิในการประกอบอาชพี โดยอสิ ระและมีสิทธิทีจ่ ะไดร้ บั ค่าจ้างทยี่ ุตธิ รรม และมีสิทธใิ นการจัดตัง้ และ

เข้ารว่ มสหภาพแรงงานเพ่อื ความคุ้มครองแห่งผลประโยชนข์ องตน
(24) สทิ ธิในการพกั ผอ่ นและเวลาว่าง
(25) สิทธิในมาตรฐานการครองชพี อันเพยี งพอสำหรบั สุขภาพและความเปน็ อยู่ทดี่ ีของตนและครอบครัว

รวมทั้งอาหาร เครอ่ื งนงุ่ ห่ม ที่อยู่อาศยั การดแู ลรักษาทางการแพทย์ บรกิ ารทางสงั คมท่จี ำเปน็ และมีสทิ ธิในความ
มนั่ คงยามวา่ งงาน เจบ็ ป่วย พิการ เปน็ ม่าย วัยชรา หรือขาดอาชีพ มารดาและเด็กจะมสี ิทธไิ ด้รบั การดูแลรักษาและ
การช่วยเหลอื เปน็ พเิ ศษ

(26) สทิ ธิในการรับการศึกษาขนั้ พ้ืนฐานที่รฐั จะต้องจดั ให้อย่างทว่ั ถึงและมคี ณุ ภาพโดยไม่เกบ็ คา่ ใช้จ่าย
(27) สิทธิทางวัฒนธรรมและทรพั ย์สินทางปัญญา
(28) สทิ ธิทางสังคมทง้ั ในประเทศและระหว่างประเทศ
(29) สิทธแิ ละอิสรภาพแห่งตนตามกฎหมาย
(30) รัฐ หมู่คน หรอื บุคคลไม่มสี ิทธิดำเนนิ การใด ๆ อนั ม่งุ ต่อการทำลายสิทธแิ ละเสรภี าพ
ความรู้เกยี่ วกบั ปฏญิ ญาสากลของสมัชชาใหญแ่ ห่งสหประชาชาติ มีความสำคัญตอ่ สทิ ธมิ นษุ ยชนขั้น
พ้นื ฐาน จงึ มีความจำเปน็ ที่จะต้องสง่ เสริมใหป้ ระชาชนมีความรคู้ วามเขา้ ใจ เห็นความสำคัญของหลักสิทธิ
มนษุ ยชน และได้มสี ว่ นร่วมในการคมุ้ ครองสทิ ธิมนษุ ยชนและป้องกนั การกระทำทเี่ ปน็ การละเมดิ สิทธิมนษุ ยชน
ซ่ึงจะมีผลกระทบต่อการดำเนนิ ชวี ิตในสงั คมไทย และสังคมโลก

บทบญั ญตั ิรัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2550 เก่ียวกบั สิทธิมนษุ ยชน

รัฐธรรมนูญฉบับนี้นับว่ามีบทบัญญัติที่ส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอย่างดียิ่ง มีขอบเขต
กวา้ งขวางทนั สมยั กว่าทกุ ฉบับที่ผ่านมา มีเนอ้ื หาสาระสอดคล้องกับมาตรฐานสากลของสหประชาชาติที่กำหนด
ไว้ในปฏญิ ญาสากลวา่ ด้วยสทิ ธมิ นษุ ยชน

บทบญั ญตั ขิ องรัฐธรรมนญู ฯ ไดค้ มุ้ ครองสทิ ธิใหม่ๆ หลายประการ ไดแ้ ก่
● การค้มุ ครองศกั ดิ์ศรคี วามเปน็ มนุษย์
● การหา้ มเลอื กปฏิบัตติ อ่ คนทุกรปู แบบ
● การหา้ มเซน็ เซอรห์ รอื ปิดโรงพิมพ์ สถานีวิทยุและสถานโี ทรทัศน์
● การรบั รองเสรีภาพทางวิชาการ การศกึ ษา อบรม การเรียน การสอน การวจิ ยั ฯลฯ
● สิทธิเสมอกันในการรับการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานไมน่ ้อยกว่า 12 ปี ทร่ี ฐั จะตอ้ งจดั ให้อย่างท่วั ถึง

และมีคณุ ภาพโดยไมเ่ ก็บค่าใชจ้ า่ ย
● สิทธิของชมุ ชนทอ้ งถิ่นด้งั เดมิ ย่อมมกี ารอนรุ กั ษห์ รอื ฟื้นฟูจารตี ประเพณี ฯลฯ

● สิทธขิ องเดก็ เยาวชนและบุคคลในครอบครัว มสี ทิ ธทิ ีจ่ ะไดร้ ับการค้มุ ครองโดยรัฐจากการ
ใช้ความรุนแรง สิทธิคนชราและคนพิการมีสทิ ธไิ ด้รับความช่วยเหลือจากรัฐ

● สิทธิของบคุ คลท่ีจะมีส่วนรว่ มกับรฐั และชมุ ชนในการบำรุงรักษาและการไดป้ ระโยชน์จาก
ทรพั ยากรธรรมชาติ ฯลฯ

● สิทธิในการไดร้ บั ความค้มุ ครองผู้บรโิ ภค
● สิทธใิ นการรับข้อมูลข่าวสารทางราชการ
● สิทธิในการทำประชาพจิ ารณ์
● สิทธใิ นการตอ่ ต้านโดยสันตวิ ิธซี ง่ึ การกระทำใดๆ ที่เป็นไปเพื่อใหไ้ ดม้ าซ่งึ อำนาจในการ
ปกครองประเทศ โดยวิธกี ารซงึ่ มไิ ดเ้ ปน็ ไปตามวิถที างทีบ่ ญั ญัติไวใ้ นรัฐธรรมนญู
● การค้มุ ครองสิทธิผตู้ ้องหาหรือจำเลยในเร่อื งการประกนั ตวั และสิทธิทจี่ ะพบหรอื ปรกึ ษา
ทนายความเป็นการเฉพาะตวั
● สิทธทิ ี่ผู้ตอ้ งหาหรอื จำเลยในคดีอาญาจะได้รบั การสอบสวนหรอื พิจารณาคดีด้วยความ
รวดเรว็ ต่อเน่ืองและเปน็ ธรรม
● สิทธิทผี่ ู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญามสี ิทธิให้ทนายความหรือผซู้ ง่ึ ตนไว้วางใจเขา้ รับฟงั
การสอบปากคำตนในช้นั สอบสวนได้
● สิทธขิ องพยานในคดอี าญามสี ิทธไิ ด้รบั การคุ้มครองจากรัฐ
● สิทธิของผู้เสียหายในคดอี าญา มีสิทธิไดร้ บั ความคุม้ ครอง การปฏบิ ตั ิทเ่ี หมาะสมและ
คา่ ตอบแทนที่จำเป็นและสมควรจากรัฐ
● สิทธิของจำเลยในคดีอาญาและถกู คุมขังระหวา่ งการพจิ ารณาคดีทจี่ ะไดร้ ับค่าชดเชยจากรัฐ
หากต่อมาศาลมีคำพิพากษาถงึ ท่สี ุดวา่ มไิ ดก้ ระทำความผิดหรอื การกระทำของจำเลยไมเ่ ปน็ ความผิด

องค์กรท่เี กี่ยวข้องกบั สิทธิมนษุ ยชน

รัฐธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช 2550 ได้มีบทบัญญัติจัดตัง้ องคก์ รท่มี ีความเกย่ี วข้องกบั
การติดตาม ตรวจสอบ สง่ เสริมและคมุ้ ครองสิทธมิ นษุ ยชนทง้ั ทางตรงและทางอ้อมดงั น้ี

1. องค์กรทม่ี อี ำนาจหนา้ ท่ีส่งเสรมิ และความคุ้มครองสทิ ธมิ นุษยชนโดยตรง ไดแ้ ก่ “คณะกรรมการสทิ ธิ
มนุษยชนแหง่ ชาติ” ซึ่งมอี งค์ประกอบขององค์กรและอำนาจหน้าที่ ดังนี้

1.1 องคป์ ระกอบของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหง่ ชาติ
(1) ให้มีคณะกรรมการสิทธมิ นุษยชนแห่งชาติ ประกอบด้วย ประธานกรรมการคน

หนง่ึ และกรรมการอน่ื อีกสิบคน ซ่ึงมีพระมหากษตั รยิ ท์ รงแตง่ ตง้ั ตามคำแนะนำของวุฒสิ ภา จากผูซ้ งึ่ มคี วามรู้หรือ
ประสบการณ์ด้านการคุ้มครองสทิ ธิเสรภี าพของประชาชนเป็นที่ประจักษ์ ท้งั นี้ โดยตอ้ งคำนงึ ถงึ การมีส่วนร่วม
ของผแู้ ทนจากองคก์ รเอกชนดา้ นสิทธมิ นุษยชนดว้ ย

(2) ให้ประธานวฒุ สิ ภาลงนามรบั รองสนองพระบรมราชโองการแตง่ ตง้ั ประธาน
กรรมการและกรรมการสทิ ธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติ

ใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง แนวคดิ และหลักการสทิ ธมิ นุษยชน

คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนศกึ ษากรณีตัวอย่าง และตอบคำถามตามประเด็นท่ีกำหนดให้

กรณตี วั อย่างที่ 1
เรื่อง น้องบอล...เด็กเร่รอ่ น

ตารวจไดร้ บั แจง้ จากป้าสายใจว่า พบเด็กชายบอล อายุประมาณ 6 ปี เรร่ อ่ นขอทานอยู่ใน
ซอยของตน ตอนกลางคืนอาศยั แผงในตลาดใชเ้ ป็นที่นอน ป้าสายใจเกรงว่าจะไม่ปลอดภยั จงึ ใหก้ าร
ชว่ ยเหลือหาอาหารและพาไปอาบนา้ เปลี่ยนเสอื้ ผา้ และใหอ้ าศยั อย่ดู ว้ ย ปา้ สายใจพยายามสอบถาม
เด็กชายบอล ไดค้ วามวา่ เรร่ อ่ นมา 3 เดอื นแลว้ โดยพ่อแมเ่ สียชีวิต ป้าสายใจสงสารจึงแจง้ ความกับ
ตารวจเพื่อขออปุ การะเดก็ ใหถ้ ูกตอ้ งและส่งเสยี ให้เรยี นหนงั สือในโรงเรียนใกลบ้ า้ น เด็กชายบอลเรียน
ไม่เกง่ นกั แต่มคี วามสามารถในการเลน่ ฟตุ บอล

ตอ่ มาเป็นนกั กีฬาของโรงเรยี นและไดส้ รา้ งช่อื เสยี งใหก้ บั โรงเรียนอยา่ งมาก หลงั จากเรียนจบ
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 6 บอลไดร้ บั การคดั เลือกให้เขา้ เรียนในมหาวิทยาลยั ชนั้ นาของประเทศในโควตา
นกั กีฬา สมาคมกีฬาแห่งหน่ึงสนใจในความสามารถของบอลจึงใหก้ ารสนบั สนุนส่งบอลไปฝึกฝนกบั
สโมสรฟุตบอลในยุโรป และได้ลงแข่งขันฟุตบอลนานาชาติหลายครั้ง จนได้รบั การยกย่องเป็นนัก
ฟุตบอลดีเด่น

คำถาม
ขอ้ ความใดที่แสดงวา่ บอล มีสิทธิในเร่ืองต่อไปน้ี
1) สิทธใิ นชวี ิต
2) สิทธิในการยอมรับนบั ถือ
3) สิทธิในการดำเนนิ ชีวติ และพัฒนาตนเอง

กรณตี ัวอย่างท่ี 2
เรอ่ื ง กรกับแก้ว...ลูกชาวนา

ทห่ี ม่บู า้ นแหง่ หนงึ่ ในจงั หวดั รอ้ ยเอ็ด มีครอบครวั หน่งึ เป็นชาวนา ฐานะไมด่ นี กั แตม่ ีความขยนั
ทงั้ สามีและภรรยา พอหมดหนา้ นากเ็ ขา้ มาหางานทาในกรุงเทพเกบ็ หอมรอมรบิ หาเงินส่งลกู 2 คน
เรียนหนงั สือและจะส่งใหเ้ รียนถงึ มหาวทิ ยาลยั ลูกทงั้ 2 คน ช่อื กรกบั แกว้ แมจ้ ะหวั ไม่ดมี าก แตก่ ข็ ยนั
หม่นั เพยี รเอาใจใส่การเรียน และไดร้ บั ทนุ จากจงั หวดั เขา้ เรยี นในมหาวิทยาลยั โดยกรเลอื กเรียนแพทย์
และแกว้ เลอื กเรียนเศรษฐศาสตร์ พอปิดเทอมทงั้ 2 คน กห็ างานพิเศษทาจนเรยี นจบ กรไดเ้ ป็นแพทย์
ในโรงพยาบาลของรฐั ตามทว่ี าดฝันไว้ มีรายไดท้ มี่ ่นั คง สว่ นแกว้ รวมตวั กบั เพ่ือนเปิดบรษิ ทั เก่ยี วกบั
เสอื้ ผา้ สาเรจ็ รูป ทงั้ กรและแกว้ ขอรอ้ งใหพ้ ่อแมเ่ ลกิ ทางานแตพ่ ่อแม่บอกวา่ ไม่อยากอยเู่ ฉยๆ จึงเปิดรา้ น
ขายของชาเลก็ ๆ ในหมบู่ า้ น

คำถาม
จากกรณีตวั อย่าง กร แก้ว และพ่อแมไ่ ด้ดำเนินชีวิตในสังคมตามหลักสิทธมิ นษุ ยชนในเรื่องใด
จงอธบิ ายพร้อมยกตวั อยา่ งประกอบ

ใบงานที่ 1.1 เรื่อง แนวคดิ และหลักการสทิ ธมิ นุษยชน

คำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นศกึ ษากรณีตัวอยา่ ง และตอบคำถามตามประเด็นที่กำหนดให้

กรณตี วั อย่างท่ี 1
เร่ือง น้องบอล...เด็กเรร่ ่อน

ตารวจไดร้ บั แจง้ จากป้าสายใจว่า พบเด็กชายบอล อายปุ ระมาณ 6 ปี เร่รอ่ นขอทานอยู่ใน
ซอยของตน ตอนกลางคืนอาศยั แผงในตลาดใชเ้ ป็นที่นอน ป้าสายใจเกรงว่าจะไมป่ ลอดภยั จงึ ใหก้ าร
ชว่ ยเหลอื หาอาหารและพาไปอาบนา้ เปลี่ยนเสอื้ ผา้ และใหอ้ าศัยอย่ดู ว้ ย ปา้ สายใจพยายามสอบถาม
เดก็ ชายบอล ไดค้ วามว่า เรร่ อ่ นมา 3 เดอื นแลว้ โดยพอ่ แม่เสียชีวิต ป้าสายใจสงสารจึงแจง้ ความกับ
ตารวจเพือ่ ขออปุ การะเดก็ ใหถ้ ูกตอ้ งและส่งเสยี ให้เรยี นหนงั สือในโรงเรียนใกลบ้ า้ น เด็กชายบอลเรียน
ไม่เก่งนกั แต่มีความสามารถในการเล่นฟุตบอล

ตอ่ มาเป็นนกั กีฬาของโรงเรยี นและไดส้ รา้ งชอ่ื เสยี งใหก้ บั โรงเรยี นอยา่ งมาก หลงั จากเรยี นจบ
ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6 บอลไดร้ บั การคัดเลือกใหเ้ ขา้ เรียนในมหาวทิ ยาลยั ชน้ั นาของประเทศในโควตา
นกั กีฬา สมาคมกีฬาแห่งหน่ึงสนใจในความสามารถของบอลจึงใหก้ ารสนบั สนนุ ส่งบอลไปฝึกฝนกบั
สโมสรฟุตบอลในยุโรป และได้ลงแข่งขันฟุตบอลนานาชาติหลายครัง้ จนไดร้ ับการยกย่องเป็นนกั
ฟตุ บอลดเี ด่น

คำถาม
ข้อความใดที่แสดงวา่ บอล มีสิทธใิ นเรอ่ื งต่อไปนี้
1) สทิ ธใิ นชีวิต
2) สทิ ธใิ นการยอมรบั นบั ถือ
3) สิทธใิ นการดำเนนิ ชวี ิตและพัฒนาตนเอง

กรณตี วั อย่างที่ 2
เรือ่ ง กรกบั แกว้ ...ลูกชาวนา
ทห่ี ม่บู า้ นแห่งหนง่ึ ในจงั หวดั รอ้ ยเอ็ด มีครอบครวั หนึง่ เป็นชาวนา ฐานะไมด่ ีนกั แตม่ คี วามขยนั
ทงั้ สามีและภรรยา พอหมดหนา้ นากเ็ ขา้ มาหางานทาในกรุงเทพเก็บหอมรอมริบหาเงินส่งลกู 2 คน
เรียนหนงั สือและจะสง่ ใหเ้ รยี นถงึ มหาวทิ ยาลยั ลกู ทงั้ 2 คน ชือ่ กรกบั แกว้ แมจ้ ะหวั ไม่ดมี าก แตก่ ข็ ยนั
หม่นั เพยี รเอาใจใส่การเรียน และไดร้ บั ทนุ จากจงั หวดั เขา้ เรียนในมหาวทิ ยาลยั โดยกรเลอื กเรยี นแพทย์
และแกว้ เลือกเรียนเศรษฐศาสตร์ พอปิดเทอมทงั้ 2 คน กห็ างานพเิ ศษทาจนเรียนจบ กรไดเ้ ป็นแพทย์
ในโรงพยาบาลของรฐั ตามทวี่ าดฝันไว้ มรี ายไดท้ มี่ ่นั คง ส่วนแกว้ รวมตวั กับเพอ่ื นเปิดบรษิ ัทเก่ยี วกบั
เสอื้ ผา้ สาเร็จรูป ทงั้ กรและแกว้ ขอรอ้ งใหพ้ ่อแม่เลิกทางานแตพ่ อ่ แมบ่ อกวา่ ไมอ่ ยากอย่เู ฉยๆ จึงเปิดรา้ น
ขายของชาเลก็ ๆ ในหม่บู า้ น

คำถาม
จากกรณตี วั อยา่ ง กร แก้ว และพอ่ แม่ไดด้ ำเนินชวี ิตในสังคมตามหลักสิทธิมนษุ ยชนในเร่ืองใด
จงอธบิ ายพรอ้ มยกตัวอยา่ งประกอบ

(หมายเหตุ พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยใหอ้ ยู่ในดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน)

ใบงานท่ี 1.2 เรอื่ งปฏญิ ญาสากลวา่ ด้วยสทิ ธิมนษุ ยชน

คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนอ่านกรณีศึกษาแลว้ วเิ คราะห์ประเภทของสิทธเิ สรภี าพ และความสอดคลอ้ งกบั กฎหมาย

กรณีศกึ ษา ประเภทของสิทธิเสรีภาพ สอดคลอ้ งกบั กฎหมาย

1. การฆ่าล้างเผ่าพันธ์ชุ าวเขมร
ของพวก

เขมรแดง

2. บริษัทแห่งหน่งึ ไมร่ ับ
พนักงานท่เี ปน็

โปลโิ อ โดยอ้างว่าเปน็ คน
พกิ าร

ประสิทธภิ าพในการทำงาน
ไมเ่ ท่า

คนปกติ
3. สำนกั งานตำรวจแห่งชาติ
เตอื น

นกั ข่าวห้ามเสนอข่าวทาง
ลบของ

รฐั บาล
4. เจา้ หนา้ ทีป่ า่ ไม้บังคับให้
ชาวเขาย้าย

ออกไปอยู่ที่พ้ืนราบ เพราะ
จะประกาศ

เปน็ เขตปา่ สงวน
5. หนงั สือพมิ พล์ งภาพข่าว
ผหู้ ญงิ ถูก

ขม่ ขืนและนำเสนอข่าวการ
ถูกขม่ ขืน

อยา่ งละเอียด

6. รัฐบาลออกกฎหมายใหม้ ี
พรรค

การเมอื งของรัฐบาลเพยี ง
พรรคเดียว

7. รฐั บาลสรา้ งเข่ือนโดยไม่ให้
สทิ ธิ

ประชาชนในการรบั รู้
ข่าวสาร

8. ตำรวจซอ้ มผ้ตู ้องหาให้รับ
สารภาพ

9. นายสชุ าติ ชาวบุรีรมั ย์ มา
ทำงานเป็น

กรรมกรก่อสรา้ งใน
กรุงเทพฯ ได้

ค่าจา้ งวนั ละ 150 บาท
10. ชาวกะเหรี่ยงถือผี จัดพธิ ี
เคารพเจดยี ์ เจ้าป่าเจา้ เขา แต่
ถูกเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ส่ังห้าม

ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื งปฏิญญาสากลวา่ ด้วยสิทธิมนุษยชน

คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรยี นอ่านกรณศี กึ ษาแลว้ วิเคราะหป์ ระเภทของสิทธิเสรีภาพ และความสอดคล้องกับกฎหมาย

กรณศี ึกษา ประเภทของสทิ ธเิ สรีภาพ สอดคลอ้ งกับกฎหมาย

1. การฆ่าลา้ งเผ่าพันธ์ุชาวเขมร ละเมดิ ศกั ด์ิศรีของความเปน็ ปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธิ
มนุษยชน ขอ้ 1 และข้อ 3
ของพวก มนุษย์และสิทธิในชีวติ ปฏญิ ญา ฯ ขอ้ 2
รัฐธรรมนญู ม.30
เขมรแดง
ปฏญิ ญา ฯ ขอ้ 19
2. บริษทั แหง่ หน่ึงไมร่ บั ละเมดิ หลกั ความเสมอภาค รฐั ธรรมนูญ ม.39

พนกั งานที่เป็น และการเลอื กปฏิบตั ิ ปฏิญญา ฯ ข้อ 13
รัฐธรรมนญู ม.36
โปลโิ อ โดยอา้ งวา่ เปน็ คน
ปฏญิ ญา ฯ ข้อ 12
พกิ าร รัฐธรรมนูญ ม.34

ประสทิ ธภิ าพในการทำงาน ปฏญิ ญา ฯ ข้อ 20
รัฐธรรมนูญ ม.47
ไม่เทา่

คนปกติ

3. สำนักงานตำรวจแหง่ ชาติ เสรภี าพในการแสดงความ

เตอื น คิดเห็นและเสรีภาพของ

นักขา่ วห้ามเสนอข่าวทาง สอ่ื มวลชน

ลบของ

รฐั บาล

4. เจา้ หนา้ ที่ป่าไมบ้ ังคบั ให้ เสรีภาพในการเดินทางและ

ชาวเขายา้ ย เลือกถ่ิน

ออกไปอยู่ที่พืน้ ราบ เพราะ ทอี่ ยู่

จะประกาศ

เป็นเขตป่าสงวน

5. หนงั สอื พมิ พล์ งภาพขา่ ว เสรภี าพในเกียรติยศ ชอื่ เสียง

ผู้หญิงถกู และความเปน็ ส่วนตวั

ขม่ ขนื และนำเสนอข่าวการ

ถูกขม่ ขืน

อยา่ งละเอยี ด

6. รัฐบาลออกกฎหมายใหม้ ี สิทธิเสรภี าพทางการเมือง

พรรค

การเมอื งของรัฐบาลเพียง สทิ ธิที่จะรู้ข้อมูลข่าวสาร รัฐธรรมนญู ม.57
พรรคเดียว
7. รัฐบาลสรา้ งเขื่อนโดยไม่ให้ สิทธิในชีวิตและร่างกาย ห้าม ปฏิญญา ฯ ข้อ 5
สทิ ธิ ทรมาน รัฐธรรมนูญ ม.31
สิทธิในการมีงานทำและได้ ปฏญิ ญา ฯ ขอ้ 23
ประชาชนในการรับรู้ คา่ จา้ งทยี่ ตุ ิธรรม
ข่าวสาร
8. ตำรวจซอ้ มผตู้ ้องหาให้รับ สิทธใิ นการนบั ถอื ศาสนา และ ปฏิญญา ฯ ขอ้ 18 , 27
สารภาพ สทิ ธใิ นการดำเนินกจิ กรรมทาง
9. นายสุชาติ ชาวบุรรี มั ย์ มา วัฒนธรรม
ทำงานเป็น

กรรมกรกอ่ สร้างใน
กรุงเทพฯ ได้

ค่าจา้ งวนั ละ 150 บาท
10. ชาวกะเหร่ียงถือผี จัดพธิ ี
เคารพเจดยี ์

เจ้าป่าเจ้าเขา แตถ่ กู
เจา้ หน้าทปี่ า่ ไม้

สง่ั หา้ ม

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่

ชื่อ – ความ การแสดง การรับฟงั การตั้งใจ การร่วม รวม
สกุล ร่วมมือ ความ ความ ทำงาน ปรับปรงุ 20
ของ คดิ เห็น คิดเห็น ผลงานกลมุ่ คะแน
ลำดั ผู้รับ น
บท่ี การ 43214321432143214321
ประเมิ



เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
ดมี าก = 4
หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ิธีการมอบหมายใหห้ วั หนา้ กลมุ่
ดี = 3 เป็นผปู้ ระเมนิ หรอื ใหต้ วั แทนกล่มุ ผลดั กนั ประเมนิ
หรอื ใหม้ กี ารประเมินโดยเพ่ือน โดยตวั นกั เรยี นเอง
พอใช้ = 2 ตามความเหมาะสมกไ็ ด้

ปรบั ปรุง = 1

เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ

ช่ ว ง ร ะ ดั บ

คะแนน คุณภาพ

17 – 20 ดมี าก
13 – 16
9 – 12 ดี

5 – 8 พอใช้

ปรบั ปรุง

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2

หนา้ ทพ่ี ลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำรงชีวิตในสงั คม

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 สิทธิมนุษยชน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4

เรื่อง บทบัญญัติของรัฐธรรมนญู และบทบาทขององค์กรระหว่าง เวลา 2 ชว่ั โมง
ประเทศทเ่ี กี่ยวกบั สิทธิมนษุ ยชน

1. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย มีบทบัญญตั เิ กี่ยวกับสทิ ธิมนุษยชนซึ่งเป็นไปตามความร่วมมือระหว่าง
องคก์ รระหวา่ งประเทศ

2. ตวั ชว้ี ดั /จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

2.1 ตวั ชี้วดั
ส 2.1 ม.4-6/4 ประเมนิ สถานการณส์ ทิ ธมิ นุษยชนในประเทศไทย และเสนอแนวทางพฒั นา

2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. วิเคราะห์บทบญั ญัติของรฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทยเก่ียวกบั สทิ ธิมนษุ ยชนได้
2. วิเคราะห์บทบาทขององค์กรระหวา่ งประเทศในเวทโี ลกเกยี่ วกับสิทธมิ นษุ ยชนทม่ี ผี ล

ตอ่ ประเทศไทยได้

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง

1. บทบญั ญัตขิ องรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยฉบบั ปจั จบุ ันเกีย่ วกับสิทธมิ นษุ ยชน
2. บทบาทขององค์กรระหวา่ งประเทศในเวทโี ลกท่ีมีผลตอ่ ประเทศไทย

3.2 สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถนิ่
-

4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น

4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

- ทักษะการคิดวิเคราะห์

4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

- กระบวนการทำงานกลุ่ม

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้ (วิธีสอนตามแนววฏั จกั รการเรียนรู้ (4 MAT) วิธีสอนแบบกรณีศกึ ษา)

ช่ัวโมงที่ 1

1. ใหน้ กั เรยี นช่วยกันคิดเกีย่ วกับสิทธิ เสรีภาพที่มนษุ ย์ควรไดร้ บั ต้งั แตเ่ กิดจนตาย พร้อมอธิบายเหตุผล
ประกอบประเภทของสทิ ธิ เสรภี าพ แล้วเขียนลงบนกระดาษ

2. ครแู ละนักเรยี นอภิปรายร่วมกันและช่วยกนั แยกแยะการกระทำให้ถกู ตอ้ งตามประเภทของสทิ ธิ
3. ใหน้ ักเรียนดภู าพขา่ วต่างๆ จากหนงั สือพิมพ์ แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ ที่แสดงถงึ การมสี ทิ ธิ เสรภี าพ

ตามบทบัญญัติรฐั ธรรมนูญทก่ี ำหนดไว้ และให้นักเรียนประดษิ ฐก์ ารด์ รปู แบบตา่ งๆ ให้สวยงาม โดย
เขยี นขอ้ ความเกี่ยวกบั สิทธิ และผลประโยน์ท่ไี ด้รบั จากการไดร้ บั สทิ ธินั้น เสรจ็ แลว้ นำมาติดปา้ ย
นเิ ทศใหเ้ พอื่ นไดแ้ ลกเปล่ยี นเรยี นรู้
4. ครูแบง่ นกั เรียนเปน็ กลุม่ กลมุ่ ละ 5-7 คน คน้ ควา้ ความรู้ เร่ือง สิทธมิ นษุ ยชนชาวไทย จากบทบัญญตั ิ
รฐั ธรรมนญู ฉบับปัจจบุ ัน และชว่ ยกนั ทำใบงานที่ 2.1 เร่อื ง บทบญั ญตั ขิ องรัฐธรรมนูญ 2550 ที่เกีย่ วกับ
สิทธิมนุษยชน
5. ครูส่มุ เรยี กตวั แทนนกั เรียน 2-3 กล่มุ ออกมานำเสนอผลงานต่อชั้นเรียน ครชู มเชยผลงานของนกั เรยี น
6. นักเรียนแต่ละกล่มุ ช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานทแี่ สดงถงึ สิทธิของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนญู และ
ปฏิญญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธมิ นุษยชน โดยจัดทำเป็นแผ่นพับ / บทเพลง / บทความ / คำขวัญ หรอื คำ
กลอนตามความถนดั หรือความสนใจ
7. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกันปรับปรุงผลงานใหม้ ีความสมบูรณ์
8. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานท่ีหน้าชั้นเรียน และให้นักเรยี นกล่มุ อื่นชว่ ยกันแสดง
ความคดิ เหน็ เพม่ิ เติม จากนั้นครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปเก่ยี วกบั ประโยชน์ของการไดร้ ับสทิ ธิ
ในทกุ ๆ ดา้ น และให้นกั เรยี นรว่ มกนั พิจารณาแนวทางในการรณรงค์ใหค้ วามรเู้ ก่ียวกับสิทธมิ นษุ ยชน

ช่วั โมงที่ 2

1. ครูนำภาพข่าวต่อไปน้ีให้นกั เรยี นวเิ คราะห์วา่ เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการละเมิดสทิ ธมิ นุษยชนหรอื ไม่
เพราะเหตใุ ด
- การฆ่าลา้ งเผ่าพันธ์ุชาวยิวในสงครามโลกคร้ังที่ 2
- “ยเู อ็น” เรยี กรอ้ งรฐั บาลพม่า ใหป้ ลอ่ ยตวั นางอองซาน ซูจี

- การสลายการประชุมที่ อ. ตากใบ จ. นราธวิ าส
- กรณี ด.ช. หมอ่ ง ทองดี : สถานะเด็กไร้สญั ชาติ
2. ครูเชอื่ มโยงใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจถงึ วิกฤติการณ์การละเมิดสทิ ธิมนุษยชนในประเทศตา่ งๆในโลกยังคงมี
อยู่ แมว้ า่ คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแหง่ สหประชาชาติ ซึ่งมหี น้าที่ติดตาม ตรวจสอบ ใหค้ ำแนะนำ
แกป่ ระเทศตา่ งๆ แต่ไมส่ ามารถทำได้เต็มที่ เพราะขาดความร่วมมอื จากบางประเทศหรือบุคคลบาง
กลุม่
3. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กลุม่ ละ 5-7 คน ตามความสมัครใจ ศกึ ษาข้อมลู ความรู้เก่ยี วกบั บทบาทของ
องคก์ รระหวา่ งประเทศในเวทโี ลกที่เกี่ยวข้องกับสิทธมิ นุษยชน จากหนงั สือเรยี น หนังสือคน้ ควา้
เพ่มิ เติม หรอื จากแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ ตามความเหมาะสม
4. นักเรียนแต่ละกลมุ่ นำขอ้ มูลทไี่ ด้ศึกษาคน้ คว้ามาเป็นพ้นื ฐานการวเิ คราะห์สถานการณ์ ตามหวั ขอ้ ใน
กรณีตวั อย่าง ในใบงานที่ 2.2 เรือ่ ง เปลือยชีวิตชาวโรฮิงญากับชีวติ ท่มี ากกว่าคำว่า โหดรา้ ย
5. ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มรวมพลงั สมอง ชว่ ยกนั คิดวิเคราะหต์ ามคำถามทกี่ ำหนดให้
6. ครูส่มุ เรียกนกั เรียน 2-3 กลุม่ ออกมานำเสนอผลงานตอ่ ชัน้ เรียน และให้กลมุ่ อืน่ เสนอแนะเพิ่มเตมิ
ในประเด็นทแ่ี ตกต่างกนั ออกไป
7. ครแู ละนักเรียนช่วยกนั สรุปข้อคิดทไ่ี ดจ้ ากการวิเคราะห์กรณีตัวอยา่ ง และแนวทางการนำไปปฏบิ ตั ิ
ตนต่อชาวต่างชาตทิ เี่ ข้ามาท่องเทย่ี วหรอื ประกอบอาชีพ โดยไมม่ ีการเลอื กปฏบิ ัติ จงึ ทำใหป้ ระเทศ
ไทยของเราไม่มีความขัดแยง้ กับประเทศตา่ งๆ

7. การวัดและประเมินผล

วิธีการ เครือ่ งมอื เกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 2.1 ใบงานท่ี 2.1 รอ้ ยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
ตรวจใบงานที่ 2.2 ใบงานท่ี 2.2 รอ้ ยละ 50 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินการนำเสนอผลงานกลุ่ม แบบประเมินการนำเสนอผลงานกลุ่ม ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่ แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

8. สอื่ / แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สื่อการเรยี นรู้

1. หนังสอื เรียน หนา้ ทพี่ ลเมืองฯ ม.4-ม.6
2. หนงั สอื คน้ ควา้ เพมิ่ เติม

1) เสน่ห์ จามรกิ . สิทธมิ นุษยชน : เกณฑ์คณุ คา่ และฐานความคดิ . กรุงเทพมหานคร :
มูลนธิ ิโครงการดำรงศาสตร์และมนุษยศาสตร,์ 2544.

2) เสนห่ ์ จามรกิ . สิทธมิ นษุ ยชนในสงั คมไทย. กรุงเทพมหานคร : มูลนธิ โิ ครงการดำรง
ศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร์, 2545.

3) เสน่ห์ จามริก. สิทธมิ นษุ ยชน : เสน้ ทางสูส่ ันติประชาธรรม. กรงุ เทพมหานคร :

มูลนธิ โิ ครงการดำรงศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร,์ 2543.
3. ใบงานที่ 2.1 เรื่อง บทบญั ญตั ิของรัฐธรรมนญู 2550 ที่เก่ียวกับสิทธิมนุษยชน
4. ใบงานที่ 2.2 เร่ือง เปลือยชีวิตชาวโรฮิงญากบั ชีวติ ทม่ี ากกว่าคำว่า โหดรา้ ย

8.2 แหล่งการเรียนรู้

1. ห้องสมุด
2. แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ

http://hilight.kappok.com/view/33433

ใบงานที่ 2.1

เรอ่ื ง บทบัญญตั ิของรฐั ธรรมนูญ 2550 ท่เี ก่ียวกับสิทธมิ นษุ ยชน

คำช้แี จง ให้นกั เรยี นศกึ ษาสิทธขิ องปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ แลว้ พจิ ารณาว่า สิทธิใดมคี วามสอดคลอ้ ง
กับสทิ ธมิ นุษยชน และเกิดผลตอ่ การพฒั นาคุณภาพชวี ติ อยา่ งไร

ลำดบั สทิ ธติ ามรฐั ธรรมนญู สทิ ธิตามปฏิญญาสากล ผลต่อการพฒั นาคุณภาพชีวติ
ท่ี

ใบงานท่ี 2.1
เร่อื ง บทบัญญตั ิของรฐั ธรรมนญู 2550 ท่ีเกย่ี วกับสิทธิมนษุ ยชน

คำชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนศกึ ษาสทิ ธิของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนญู แล้วพจิ ารณาวา่ สทิ ธิใดมีความสอดคลอ้ ง
กบั สทิ ธมิ นษุ ยชน และเกิดผลตอ่ การพฒั นาคุณภาพชีวิตอย่างไร

ลำดับ สทิ ธิตามรฐั ธรรมนูญ สทิ ธิตามปฏญิ ญาสากล ผลต่อการพัฒนาคุณภาพชวี ติ
ท่ี

ตัวอยา่ ง

สิทธิ สทิ ธใิ นการเดินทาง ไดร้ บั ประสบการณ์และความรู้
(ขอ้ 13) ไดแ้ ลกเปล่ยี นวัฒนธรรม และพัฒนา
ศกั ยภาพดา้ นต่างๆ

(หมายเหตุ พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น โดยให้อยใู่ นดลุ ยพินจิ ของครูผู้สอน)

ใบงานที่ 2.2
เรอื่ ง เปลอื ยชวี ติ ชาวโรฮงิ ญากับชวี ติ ท่ีมากกว่าคำว่า โหดรา้ ย

คำชแี้ จง ให้นกั เรยี นอา่ นกรณีศึกษา แลว้ ตอบคำถามตามประเด็นทีก่ ำหนดให้

เปลอื ยชวี ติ ชาวโรฮงิ ญากบั ชีวิตทมี่ ากกวา่ คาวา่ โหดร้าย

เปลอื ยชวี ติ ชาวโรฮงิ ญากบั ชีวติ ท่มี ากกว่าคาวา่ โหดร้าย (คมชดั ลกึ )

“อย่ทู ่ีรฐั อาระกนั ก็เหมอื นรอคอยความตาย สบู้ ากหนา้ มาหาความหวงั ใหมด่ ีกว่า”
“โรฮิงญา” ชนกล่มุ นอ้ ยในประเทศพมา่ เชือ้ สายอาระกนั เอ่ยปากเล่าถึงชีวติ ที่สุดแสนจะโหดรา้ ยของ
พวกเขา ในเขตพนื้ ท่ีจงั หวดั หมอ่ งดอ และจงั หวดั สดิ อ ในรฐั อาระกนั ประเทศพม่า

มามุต ฮุดเซ็น อายุ 50 ปี เล่าถึงครอบครัวของเขาที่จังหวัดหม่องดอ ทางตอนเหนือ
ของประเทศพมา่ ติดกับประเทศบังกลาเทศ วา่ มีเมีย 1 คน ลกู ชาย 1 คน ผหู้ ญิง 3 คน มอี าชพี ทา
นา ซ่ึงเป็นอาชพี หลกั ของชาวโรฮิงญาในย่านดังกล่าว “ลาบากมากๆ” มามตุ บ่น เน่ืองจากบางวนั แทบ
จะไม่มีอะไรกินเลย เพราะความยากจน และยงั ถกู กล่นั แกลง้ จากทหารพม่า ท่ีมกั จะเขา้ มาในหมบู่ า้ น
เก็บเก่ียวผลผลิตของชาวบา้ นไปหนา้ ตาเฉย ใครขัดขืนก็จะโดนเฆี่ยนดว้ ยหวาย หรือบางรายถึงขน้ั โดน
ฆ่าทิง้ ก็มีใหเ้ ห็นบ่อยๆ เม่ือใครไปขายของไดเ้ งินแลว้ หากทหารพม่ารู้ ก็จะเขา้ มาถามก่อนท่ีจะแย่งเงิน
เหล่านนั้ ไปทนั ที

“ไม่มีสภาพความเป็นคน หรือเป็นมนุษยเ์ ลย พวกเราอย่อู ย่างไรอ้ นาคต โดนกดดันจากทหาร
พม่าตลอดเวลา ไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหน โดยเฉพาะการเดินทางขา้ มเขตท่ีไม่สามารถทาได้
เลย จะเดินทางไปมาไดก้ ็ในเฉพาะจังหวัดท่ีตงั้ ถ่ินฐานอยู่เท่าน้ัน เพราะหากออกนอกพืน้ ท่ีไม่เฉพาะ
ทหารพมา่ ที่คอยจบั จอ้ ง ชาวพม่ากไ็ ม่ชอบขหี้ นา้ พวกเรา และบ่อยครงั้ ที่พวกเราโดนทารา้ ยรา่ งกายโดย
ชาวพมา่ หรือโดนดถู กู เหยียดหยาม ถ่มนา้ ลายใสก่ ม็ ี”

ฮามิด ดูซัน ชายหนุ่มอาระกัน วัย 19 ปี กล่าวว่า พวกเรายากจนมาก ซา้ รา้ ยโดนกล่นั
แกลง้ ตลอดเวลา ออกไปสมคั รงานท่ีไหนก็ไม่ได้ เน่ืองจากเป็นชนกล่มุ นอ้ ย ทงั้ ยังเป็นชนกล่มุ ที่รฐั บาล
พม่ารงั เกียจมากที่สุด ถึงข้นั ไม่ยอมรบั ว่ามีพวกเราอย่ใู นประเทศ พวกเราไม่มีสิทธิอะไรเลย ทงั้ ที่ดิน
การศึกษา การรกั ษาพยาบาล

“นอ้ ยใจครบั ผมเกิดในจงั หวัดหมอ่ งดอ รฐั อาระกนั ซึง่ ตงั้ อยใู่ นประเทศพม่า แมว้ า่ ผมจะมเี ชือ้
สายบงั กลาเทศ แต่การท่ีเกิดท่ีรฐั อาระกนั ก็มีความรกั และความผูกพันต่อแผ่นดินเกิด แต่แผ่นดินท่ีผม
เกิดกลบั ไม่ตอ้ นรบั ผม ผมไมเ่ ขา้ ใจครบั โดยเฉพาะการตงั้ ขอ้ รงั เกยี จต่อพวกเราของรฐั บาลทหารพม่า”

ฮามิด เล่าอีกว่า ชาวโรฮิงญา แมว้ ่าจะมีประวตั ิศาสตรท์ ่ีไม่ดีกบั ชาวพม่าสมยั รฐั บาลอังกฤษ
เป็นเจา้ อาณานิคมในย่านนี้ แต่หลังจากอังกฤษออกไปแลว้ พวกเราถือเป็นชนกล่มุ นอ้ ยที่ไม่เคยต่อสู้
หรือเรียกรอ้ งอะไรจากรฐั บาลทหารพมา่ เลย นอกจากเรียกรอ้ งขอ “สิทธิความเป็นคน” ใหท้ ดั เทียมกบั
ชาวพมา่ ท่วั ไปแคน่ พี้ วกเรากพ็ อใจแลว้

เชย ลี ฮัน ดา อายุ 25 ปี จากจงั หวัดมุสิดอ กล่าวว่า ตอนที่โดนจบั ตัวอยูท่ ่ี สภ. ปากน้า
จ. ระนอง และได้รบั อาหารจากตารวจไทย เชอ่ื ไหมว่า เมอ่ื ไดก้ ินข้าวคาแรกนา้ ตาไหลออกมา
ทันที และหลายคนก็มีความรูส้ ึกเชน่ เดียวกัน คอื นอกจากจะซาบซงึ้ ในนา้ ใจของคนไทยที่ตา่ งจากชาว
พม่าท่ีโดนจบั และโดนทารา้ ยทีเ่ กาะแห่งหน่งึ ในพม่า

“พวกเราโดนควบคมุ ตัวไว้ถงึ 5 วนั ไม่ได้กนิ อะไรเลย’
ฮนั ดา เล่าขณะนา้ ตาคลอเบา้ วา่ อีกเหตผุ ลที่ทาใหน้ า้ ตารว่ ง คือ คดิ ถึงลกู เมยี ทบ่ี า้ น บ่อยครง้ั
ท่ีพวกเราอดขา้ ว ไม่มีอะไรจะกิน บางคร้งั กินแค่วนั ละมือ้ จะกินครบ 3 มือ้ เช่นคนท่ัวไปก็นอ้ ยเต็มที
โดยเฉพาะหลายครง้ั ทต่ี อ้ งอด เน่ืองจากตอ้ งการใหล้ กู เมียอ่มิ ก่อน สว่ นเราผชู้ ายอดทนได้
“ทกุ คนรกั บา้ นเกิดครบั ไม่มีใครที่ตอ้ งการดิน้ รน หรือดนั้ ดน้ เดินทางออกจากบา้ นเกิด มีแต่ทกุ
คนดิน้ รนที่จะอาศยั อย่ใู นบา้ นเกดิ หรือถน่ิ ฐานที่ตนถือกาเนิด แต่จากความโหดรา้ ยที่พวกเราไดร้ บั มัน
สุดจะบรรยายใหเ้ ห็นหรือใหร้ บั รูไ้ ด้ หากไม่เจอดว้ ยตนเอง ยากท่ีจะบรรยายจริงๆ ผมถามเพ่ือนๆ ถึง
ความรูส้ ึกตอนนี้ ทราบว่าทุกคนห่วงเมีย ห่วงลูกท่ีอยู่ที่รฐั อาระกัน โดยเฉพาะอาจจะถูกทารา้ ยอีก
หลงั จากที่ทหารพม่าทราบวา่ พวกเราหายตวั ไป”
มามัด จอคิด อายุ 24 ปี จากจังหวัดมุสิดอ ซึ่งยังนอนรกั ษาตัวอย่ทู ่ีโรงพยาบาลระนอง
หลงั จากท่ีโดนทหารพม่าทารา้ ยจนไดร้ บั บาดเจบ็ สาหสั ขณะเรือที่เดินทางกาลังลอยลาบริเวณจงั หวดั
มะริด ประเทศพมา่ “ทนั ทีทท่ี กุ คนเห็นทหารพมา่ ซึง่ น่ังเรอื รบมาท้งั หมด 4 ลา ลอ้ มรอบพวกเรา
กลวั มากครับ เพราะทุกคนรู้ถึงกติ ตศิ พั ทค์ วามโหดร้ายของทหารพม่าเป็ นอย่างดี”
บางคนตวั ส่นั เทาไปหมด และแลว้ พวกเราก็ไดร้ บั การทาทารุณกรรมจริงๆ ตงั้ แต่ทหารพม่าลง
มาควบคมุ ตวั จะเตะ ตอ่ ย ตบหนา้ ถีบ จนกระท่งั นาตวั พวกเราไปยงั เกาะแห่งหนึ่ง ทกุ คนจงึ ถกู ลงโทษ
โบยดว้ ยแส้ จนไดร้ บั บาดเจ็บ และใชผ้ า้ พนั ชบุ นา้ มนั จดุ ไฟเผามาลน ตนเองโชครา้ ยทส่ี ดุ

เพราะเป็นแผลฉกรรจท์ ขี่ า “เจ็บมากครบั แต่พวกเราทุกคนทนได้ เพราะความเจ็บปวดแค่นี้ เมอ่ื
เทยี บกับความโหดร้ายทเ่ี ราไดร้ บั อยู่ทุกวัน มันเทยี บกันไม่ไดเ้ ลย”

มามดั จอคิด เลา่ ต่อว่า หลงั จากพวกเรานอนทนทกุ ขท์ รมานอย่ถู ึง 4 เดอื น 5 วนั ทหารพม่าจงึ
ปล่อยลงเรือ และใหเ้ ดินทางต่อจนถูกทหารไทยจับตวั “ทกุ คนดีใจ กราบพระอลั เลาะหท์ นั ทีเห็นทหาร
ไทย เพราะทกุ คนรูว้ า่ รอดแลว้ จากความรูส้ ึกในตอนนนั้ ” พวกเราไม่เคยคดิ ทจี่ ะมาทาใหค้ นไทยย่งุ ยาก
เพียงแต่ไมร่ ูว้ า่ จะไปไหน ทกุ ประเทศลว้ นรงั เกยี จพวกเรา

“แมผ้ มจะถกู ควบคมุ ตวั ในเมืองไทย โดนจองจาในหอ้ งขงั ในเรอื นจา หรือทไ่ี หนๆ พวกเราดีใจ
เพราะน่นั เป็นชีวิตที่สขุ สบายท่สี ดุ ทีไ่ ดพ้ บเจอ ตอนนผี้ มนอนรกั ษาตวั อยใู่ นโรงพยาบาลระนอง คณุ รูไ้ หม
ความรูส้ ึกผมเหมือนอย่ใู นโรงแรมชน้ั 1 อย่หู อ้ งพกั ดีๆ ไดก้ ินอาหารอิสลามที่อร่อยที่สดุ ในชีวิตของผม
ทงั้ ๆ ที่ผมน่าจะเป็นทกุ ขก์ ับสภาพบาดแผลท่ีผมไดร้ บั แต่ความรูส้ ึกเป็นสุขมนั มีมากกว่าจริงๆครบั ผม
อจิ ฉาคนไทยจรงิ ๆ ทีไ่ ดเ้ กิดมาบนผนื ดินแห่งนี้ ผนื แผ่นดนิ ท่ีมีแตค่ วามสขุ ไม่เป็นผืนแผ่นดนิ ท่มี ีแต่ความ
ทกุ ขเ์ ชน่ ผืนแผ่นดินของพวกผม” มามดั จอคิด กลา่ วในทสี่ ดุ

1. โรฮงิ ญา หมายถึง

2. กรณใี ดเปน็ การละเมิดสิทธมิ นุษยชนชาวโรฮิงญา ให้ยกตัวอยา่ งประกอบ

หลกั การสทิ ธมิ นุษยชน ตัวอยา่ งการกระทำ
1. สิทธิ (right) เช่น สทิ ธิจะมีชีวติ อย่รู อด และอยู่อย่าง

สมเกยี รติ

2. เสรีภาพ (freedom) เช่น การแสดงความคิดเห็น
การเลือกคู่ครอง การสรา้ งครอบครัว การประกอบ
อาชีพ

3. ศกั ด์ิศรีความเป็นมนษุ ย์ (human dignity) เช่น คุณคา่
ความเปน็ คน ความเท่าเทยี มกนั

4. ความเสมอภาคและการเลือกปฏิบัติ (equality and
diserimination) เช่น การปฏบิ ตั ิต่อกนั ฉนั ท์พี่นอ้ ง
ความเป็นธรรม

3. องคก์ รระหว่างประเทศเกี่ยวกับสทิ ธิมนษุ ยชนท่ีมบี ทบาทให้ความคมุ้ ครอง ปกปอ้ ง ตรวจสอบ
ช่วยเหลือ กรณมี กี ารละเมิด สิทธิมนุษยชนในประเทศต่างๆ ไดแ้ กอ่ งคก์ รใดบ้าง

ใบงานที่ 2.2
เร่ือง เปลือยชวี ิตชาวโรฮิงญากับชวี ิตทมี่ ากกวา่ คำวา่ โหดร้าย

คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นอา่ นกรณีศกึ ษา แลว้ ตอบคำถามตามประเดน็ ท่กี ำหนดให้

1. โรฮิงญา หมายถงึ

ชนกลุม่ น้อย เช้อื สายอาระกัน อาศัยอย่ใู นพนื้ ทจ่ี ังหวดั หมอ่ งดอและจังหวดั มสุ ดิ อ ประเทศพมา่
เดิมอาศัยอยู่ในพน้ื ที่บงั กลาเทศ และรฐั บาลอังกฤษเกณฑ์ให้มาส้รู บกับพม่าเพือ่ ยึดพม่าเปน็ อาณานคิ ม

2. กรณใี ดเป็นการละเมดิ สทิ ธมิ นุษยชนชาวโรฮิงญา ให้ยกตัวอยา่ งประกอบ

หลักการสทิ ธมิ นุษยชน ตวั อยา่ งการกระทำ

1. สิทธิ (right) เช่น สทิ ธิจะมชี วี ติ อยู่รอด และอยู่อยา่ ง โรฮิงญาถกู ละเมิดสทิ ธหิ ลายประการ เช่น

สมเกยี รติ จำกัดทีอ่ ย่อู าศยั ขาดการศึกษา การรกั ษา -

พยาบาล อดอยาก ฯลฯ

2. เสรีภาพ (freedom) เชน่ การแสดงความคดิ เห็น โรฮิงญาประกอบอาชพี ทำนา มคี วามยาก

การเลือกคคู่ รอง การสรา้ งครอบครวั การประกอบ ลำบาก และถกู เจ้าหนา้ ทบี่ ังคับเอาผลผลิต

อาชพี ไปการเดินทางข้ามเขตไมส่ ามารถทำได้ ไป

สมคั รงานที่ไหนไม่ได้เพราะเปน็ ชนกลุ่มนอ้ ย

3. ศักดศ์ิ รีความเป็นมนุษย์ (human dignity) เช่น คุณค่า โรฮิงญาถูกเฆยี่ นหรอื าจโดนฆ่าทงิ้ เมอ่ื ขัดขืน

ความเปน็ คน ความเท่าเทยี มกัน เจา้ หน้าท่ี และโดนทำรา้ ยรา่ งกายโดยชาวพมา่

โดนดูถกู เหยยี ดหยามถ่มนำ้ ลายใส่

4. ความเสมอภาคและการเลอื กปฏิบัติ (equality and รัฐบาลพม่าจำกัดสิทธิเกือบทุกด้านแก่

diserimination) เชน่ การปฏบิ ัติตอ่ กนั ฉนั ท์พนี่ อ้ ง โรฮิงญา กระทำการทารุณโหดร้ายและ

ความเปน็ ธรรม ปฏิบตั ิต่อชาวโรฮิงญาแตกต่างจากชาวพม่า

ท่ัวไป

3. องค์กรระหวา่ งประเทศเกย่ี วกับสทิ ธมิ นุษยชนท่มี ีบทบาทให้ความคุ้มครอง ปกปอ้ ง ตรวจสอบ

ชว่ ยเหลอื กรณีมีการละเมิด สิทธมิ นุษยชนในประเทศต่างๆ ได้แกอ่ งคก์ รใดบา้ ง
1) คณะมนตรีสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ สหประชาชาติ (UNHRE)
2) สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลีภ้ ัยแหง่ สหประชาชาติ (UNHER)
3) องคก์ ารแรงงานระหว่างประเทศ (ILO)
4) องคก์ ารแอมเนสต้ี อินเตอร์เนชน่ั แนล (AI)

แบบประเมนิ การนำเสนอผลงานกล่มุ

กลมุ่ ท.่ี ................................................. .............................................................................. 2. ..............................................................................
สมาชิกของกลุ่ม 1. .............................................................................. 4. ..............................................................................
.............................................................................. 6. ..............................................................................
3.
5. คุณภาพผลงาน
432
ลำดั รายการประเมนิ 1
บที่

1 นำเสนอเนอ้ื หาในผลงานได้ถูกต้อง

2 การนำเสนอมีความนา่ สนใจ

3 ความเหมาะสมกบั เวลา

4 ความกล้าแสดงออก

5 บคุ ลิกภาพ นำ้ เสียงเหมาะสม

รวม

ลงชอื่ ..............................................................................ผปู้ ระเมิน
/ /....................... ........................... ........................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
การปฏบิ ตั ิงานสมบรู ณช์ ดั เจน

การปฏบิ ตั งิ านยงั มีขอ้ บกพรอ่ งเล็กนอ้ ย ให้ 3 คะแนน

การปฏิบตั ิงานยงั มขี อ้ บกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน

การปฏิบตั ิงานมขี อ้ บกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั
คุณภาพ
17-20 ดีมาก
13-16
9-12 ดี
5-8 พอใช้
ปรบั ปรุง

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่

ชือ่ – ความ การแสดง การรับฟงั การตัง้ ใจ การรว่ ม รวม
สกลุ ร่วมมอื ความ ความ ทำงาน ปรบั ปรุง 20
ของ คิดเห็น คิดเห็น ผลงานกลุม่ คะแน
ลำดั ผ้รู ับ น
บที่ การ 43214321432143214321
ประเมิ



เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ
ดีมาก = 4 ............../.................../................

ดี = 3 หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ิธีการมอบหมายใหห้ วั หนา้ กล่มุ
เป็นผปู้ ระเมิน หรือใหต้ วั แทนกลมุ่ ผลดั กนั ประเมนิ
พอใช้ = 2 หรือใหม้ กี ารประเมินโดยเพอ่ื น โดยตวั นกั เรียนเอง
ตามความเหมาะสมกไ็ ด้
ปรบั ปรุง = 1

เกณฑก์ ารตดั สนิ คณุ ภาพ

ช่ ว ง ร ะ ดั บ

คะแนน คณุ ภาพ

17 – 20 ดมี าก
13 – 16
9 - 12 ดี

5 – 8 พอใช้

ปรบั ปรุง

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3

หนา้ ที่พลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชวี ติ ในสังคม

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 สิทธมิ นุษยชน ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4
เรอ่ื ง ปัญหาสิทธิมนษุ ยชนและแนวทางแก้ไขพัฒนา เวลา 1 ชว่ั โมง

1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

ปัญหาสทิ ธมิ นุษยชนในประเทศไทย เปน็ สง่ิ ทีช่ าวไทยทุกคนต้องร่วมมือกันปอ้ งกนั แกไ้ ข และช่วยกนั หา
แนวทางพัฒนา

2. ตวั ชีว้ ดั /จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

2.1 ตัวชี้วัด
ส 2.1 ม.4-6/4ประเมนิ สถานการณส์ ิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และเสนอแนวทางพฒั นา

2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้

1. วเิ คราะห์ปัญหาสทิ ธมิ นุษยชนในประเทศได้
2. เสนอแนวทางแกไ้ ขและพัฒนาสทิ ธมิ นษุ ยชนได้

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

- ปญั หาสทิ ธิมนุษยชนในประเทศ และแนวทางแก้ปัญหาและพัฒนา

3.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ
-

4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์

4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

- กระบวนการเผชญิ สถานการณ์

5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. มีวนิ ัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน

6. กิจกรรมการเรยี นรู้ (วิธสี อนโดยใชท้ กั ษะกระบวนการเผชิญสถานการณ)์

1. ครนู ำข่าวตอ่ ไปนี้ให้นักเรียนชว่ ยกันวิเคราะหว์ า่ เหมาะสมหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด
- ประชาชนรวมกลุ่มกนั ปดิ ถนนประทว้ งการบริหารงานของรัฐบาล
- พ่อเลีย้ งใชบ้ หุ รีจ่ ้ีตามตวั ลกู เลี้ยงอายุ 8 ปี
- นายทุนใชแ้ รงงานเด็กอายตุ ่ำกวา่ 13 ปี

2. ครอู ธบิ ายเชอ่ื มโยงใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจถึงผลดีและผลเสยี ของการเคารพสทิ ธิมนุษยชนของบคุ คลใน
สังคม

3. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 5-7 คน จำนวน 6 กลุ่ม ตามความสมัครใจ ศกึ ษาข้อมูลความร้เู ก่ยี วกับ
ปญั หาสทิ ธิมนษุ ยชน จากหนังสอื เรยี น หนังสอื คน้ ควา้ เพิ่มเตมิ หรอื แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ
ตามความเหมาะสม

4. ใหน้ ักเรียนแต่ละกลมุ่ นำเสนอข้อมลู ความรทู้ ่ไี ด้จากการศกึ ษาค้นคว้ามาเปน็ พน้ื ฐานการวิเคราะห์
และประเมนิ เหตกุ ารณท์ กี่ ำหนดให้ในใบงาน และใหต้ ัวแทนกล่มุ ออกมานำเสนอผลงานต่อช้นั เรียน
- กลุ่มท่ี 1 และกลมุ่ ที่ 2 ทำกิจกรรมในใบงานท่ี 3.1 เรอื่ ง ปัญหาการถูกละเมดิ สทิ ธิมนุษยชน
- กลุ่มที่ 3 และกลุ่มท่ี 4 ทำกจิ กรรมในใบงานที่ 3.2 เรือ่ ง แนวทางการชว่ ยเหลือผู้ถกู ละเมดิ
สทิ ธิมนษุ ยชน
- กลมุ่ ที่ 5 และกลมุ่ ที่ 6 ทำกจิ กรรมในใบงานท่ี 3.3 เรอ่ื ง แนวทางในการพัฒนาสทิ ธมิ นุษยชน

5. นักเรยี นทุกคนชว่ ยกันสรุปปัญหาสิทธมิ นษุ ยชน พร้อมท้ังเสนอแนะแนวทางแกไ้ ขและการพฒั นา
6. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกนั จัดปา้ ยนเิ ทศ เรือ่ ง สถานการณ์สทิ ธมิ นษุ ยชนในประเทศไทย โดยให้

ครอบคลมุ ประเดน็ ต่อไปนี้
1) การประเมนิ สถานการณส์ ทิ ธมิ นษุ ยชนในประเทศไทย
2) การเสนอแนวทางการพฒั นาสทิ ธมิ นุษยชน
3) การมสี ่วนรว่ มในการคุ้มครองปกปอ้ งสทิ ธิมนุษยชน

 นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 เรอื่ ง สทิ ธมิ นุษยชน

7. การวดั และประเมนิ ผล

วธิ ีการ เคร่ืองมอื เกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 3.1 ใบงานที่ 3.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 3.2 ใบงานท่ี 3.2 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 3.3 ใบงานที่ 3.3 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ประเมนิ ปา้ ยนิเทศเรอ่ื ง สถานการณ์ แบบประเมินป้ายนเิ ทศ เรอ่ื ง สถานการณ์ ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
สิทธมิ นษุ ยชนในประเทศไทย สทิ ธมิ นุษยชนในประเทศไทย
สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ย แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ท่ี ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
การเรียนรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง สิทธิมนุษยชน 4 เร่ือง สทิ ธมิ นษุ ยชน

8. สือ่ / แหลง่ การเรียนรู้

8.1 ส่อื การเรยี นรู้

1. หนังสอื เรียน หนา้ ท่พี ลเมือง ม. 4-ม.6
2. หนงั สือคน้ คว้าเพ่มิ เตมิ

1) เสนห่ ์ จามรกิ . สทิ ธิมนษุ ยชน : เกณฑค์ ณุ ค่าและฐานความคดิ . กรงุ เทพมหานคร :
มูลนธิ ิโครงการดำรงศาสตร์และมนษุ ยศาสตร,์ 2544.

2) เสน่ห์ จามรกิ . สทิ ธิมนษุ ยชนในสงั คมไทย. กรงุ เทพมหานคร : มูลนิธิโครงการดำรงศาสตร์
และมนษุ ยศาสตร,์ 2545.

3) เสน่ห์ จามริก. สทิ ธิมนุษยชน : เส้นทางสู่สนั ติประชาธรรม. กรงุ เทพมหานคร :
มลู นิธิโครงการดำรงศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร์, 2543.

3. ตัวอยา่ งข่าว
4. ใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง ปญั หาการถกู ละเมิดสทิ ธมิ นษุ ยชน
5. ใบงานท่ี 3.2 เรอื่ ง แนวทางการชว่ ยเหลอื ผู้ถูกละเมดิ สิทธมิ นุษยชน
6. ใบงานท่ี 3.3 เร่ือง แนวทางในการพัฒนาสทิ ธิมนษุ ยชน

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้

- ห้องสมุด

แบบประเมินปา้ ยนเิ ทศ เร่อื ง สถานการณส์ ิทธิมนษุ ยชนในประเทศไทย

กลมุ่ ท.ี่ ................................................. .............................................................................. 2. ..............................................................................
สมาชิกของกลุม่ 1. .............................................................................. 4. ..............................................................................
.............................................................................. 6. ..............................................................................
3.
5.

ลำดั รายการประเมิน คุณภาพผลงาน
บที่ 432 1

1 การประเมินสถานการณส์ ทิ ธมิ นษุ ยชนในประเทศไทย

2 การเสนอแนวทางการพัฒนาสทิ ธิมนุษยชน

3 การมีสว่ นร่วมในการคุ้มครองปกป้องสิทธิมนษุ ยชน

รวม

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชื่อ..............................................................................ผ้ปู ระเมิน
/ /....................... ........................... ........................
ดมี าก = 4

ดี = 3

พอใช้ = 2

ปรบั ปรุง = 1

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ
ช่ ว ง ร ะ ดั บ
คะแนน คุณภาพ
10-12 ดีมาก
7-9 ดี
4-6 พอใช้
1-3 ปรบั ปรุง

ใบงานที่ 3.1
เรือ่ ง ปญั หาการถูกละเมิดสทิ ธิมนษุ ยชน

คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนวเิ คราะหก์ รณตี ัวอย่าง และตอบคำถามตามประเด็นทีก่ ำหนดให้
สาเปน็ เดก็ ยากจน บา้ นเดมิ อยู่ท่ีแม่สอด พอ่ แมแ่ ยกทางกัน สาเป็นลูกคนโต เปน็ หวั เร่ียวหวั แรงหารายได้

จุนเจอื ครอบครัว ตอ้ งเลีย้ งแม่และนอ้ งแต่ก็ไม่พอกิน จึงตดั สนิ ใจเดินทางเขา้ มายังตัวเมืองจงั หวดั ตาก สาเข้า
ทำงานในโรงงานเย็บเสือ้ โหล แตเ่ พราะเธอไมม่ คี วามรู้และอายตุ ่ำกวา่ 15 ปี ทำใหน้ ายจ้างข่มขู่เธอและให้
คา่ ตอบแทนน้อยกวา่ เพอ่ื นๆ มาก เธอทนอยไู่ ด้ 1 ปี จงึ ลาออก ตอ่ มาเพอ่ื นชกั ชวนให้เข้ากรุงเทพจึงไดง้ านเป็น
พนกั งานเสริ ์ฟอาหารท่ีร้านอาหารแห่งหน่ึง หลงั จากทำงานได้ไม่นาน สามีเจ้าของรา้ นเขา้ มาลวนลามเธอและ
ขม่ ขูต่ ่างๆ นานา บางคร้งั กท็ ุบตีเธอ เธอจึงขอลาออกแตน่ ายจา้ งไม่ยอมและข่วู า่ ถา้ ลาออกจะสง่ เธอไปขายตวั
ประเทศมาเลเซีย เธอกลวั มาก จึงแอบหลบหนีในตอนกลางคืน นายจ้างตามตวั จนพบเธอและแจ้งตำรวจให้
ดำเนนิ คดขี ้อหาลกั ทรัพย์ และถกู จบั สง่ บ้านพักฉุกเฉิน เธอจะทำอย่างไรดี
คำถาม

1. การกระทำใดที่แสดงถึงการละเมดิ สทิ ธมิ นุษยชน

2. ผลของการกระทำการละเมิดคอื อะไร

3. หนว่ ยงานใดควรมบี ทบาทหน้าท่เี ข้าไปชว่ ยแก้ไขปัญหา

4. นกั เรียนจะมีบทบาทในเรอื่ งน้ีอย่างไร

ใบงานท่ี 3.1
เรื่อง ปญั หาการถกู ละเมดิ สิทธิมนุษยชน

คำชี้แจง ให้นักเรียนวเิ คราะห์กรณีตัวอย่าง และตอบคำถามตามประเดน็ ท่ีกำหนดให้
สาเปน็ เด็กยากจน บ้านเดมิ อยู่ท่แี มส่ อด พอ่ แมแ่ ยกทางกนั สาเปน็ ลูกคนโต เป็นหวั เรี่ยวหวั แรงหารายได้

จุนเจอื ครอบครัว ตอ้ งเล้ยี งแมแ่ ละนอ้ งแต่กไ็ ม่พอกิน จงึ ตดั สินใจเดนิ ทางเข้ามายังตัวเมืองจังหวัดตาก สาเข้า
ทำงานในโรงงานเย็บเสอื้ โหล แต่เพราะเธอไมม่ คี วามรู้และอายตุ ำ่ กวา่ 15 ปี ทำใหน้ ายจ้างขม่ ขู่เธอและให้
คา่ ตอบแทนน้อยกว่าเพือ่ นๆ มาก เธอทนอยูไ่ ด้ 1 ปี จึงลาออก ต่อมาเพื่อนชกั ชวนใหเ้ ข้ากรงุ เทพจงึ ได้งานเปน็
พนกั งานเสริ ์ฟอาหารทร่ี า้ นอาหารแห่งหนง่ึ หลังจากทำงานไดไ้ มน่ าน สามเี จ้าของร้านเข้ามาลวนลามเธอและ
ข่มขู่ต่างๆ นานา บางครั้งกท็ ุบตีเธอ เธอจงึ ขอลาออกแตน่ ายจ้างไม่ยอมและขู่ว่าถ้าลาออกจะส่งเธอไปขายตวั
ประเทศมาเลเซีย เธอกลัวมาก จึงแอบหลบหนใี นตอนกลางคนื นายจา้ งตามตัวจนพบเธอและแจง้ ตำรวจให้
ดำเนินคดขี ้อหาลกั ทรัพย์ และถูกจบั สง่ บา้ นพักฉกุ เฉิน เธอจะทำอย่างไรดี

1. การกระทำใดท่แี สดงถึงการละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชน
1. สาถูกนายจ้างข่มขู่ และใหค้ ่าตอบแทนแรงงานนอ้ ยกวา่ เพือ่ นๆ
2. สาถกู สามีนายจ้างลวนลาม ทุบตี และขู่วา่ จะสง่ เธอไปขายตัวต่างประเทศ
3. นายจา้ งแจง้ ตำรวจกล่าวหาวา่ เธอลกั ทรพั ย์

2. ผลของการกระทำการละเมดิ คืออะไร
1. ขาดความยุติธรรมเกย่ี วกับสทิ ธใิ นการรับคา่ ตอบแทน และเสยี ผลประโยชน์อันพงึ จะได้รบั
2. เป็นการละเมิดสิทธใิ นชีวิตและร่างกาย ศักดศ์ิ รีของความเป็นมนษุ ย์
3. เจา้ หนา้ ท่ดี ำเนนิ คดีอาญา และจับกุมตัวตกเป็นผตู้ ้องหาโดยไม่มคี วามผิด

3. หน่วยงานใดควรมีบทบาทหนา้ ท่เี ข้าไปช่วยแกไ้ ขปญั หา
1. คณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ
2. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
3. มูลนิธิเด็กและสตรี

4. นักเรียนจะมีบทบาทในเรือ่ งนอี้ ยา่ งไร
ช่วยสอดส่องดูแล สังเกต และแจง้ ผู้เก่ยี วขอ้ ง กรณพี บเห็นการละเมิดสทิ ธิมนษุ ยชน และประพฤติ

ปฏิบตั ิตนตามหลกั การสิทธมิ นุษยชน

ใบงานท่ี 3.2
เรอ่ื ง แนวทางการช่วยเหลอื ผู้ถูกละเมดิ สิทธิมนุษยชน

คำชี้แจง ให้นกั เรยี นวางแผนแนวทางการช่วยเหลือผู้ถกู ละเมดิ สิทธมิ นุษยชน

ผพู้ บเหน็ / ผถู้ กู ละเมิด รอ้ งทกุ ขต์ อ่

เมอ่ื เกิดปัญหา
การละเมิดสทิ ธิมนษุ ยชน

องคก์ รท่ดี แู ล การดาเนินการกบั ผลู้ ะเมดิ และผถู้ กู
ดา้ นสทิ ธิมนษุ ยชน ละเมิด

ศาลปกครอง

ใบงานที่ 3.2
เร่อื ง แนวทางการชว่ ยเหลือผูถ้ กู ละเมิดสิทธิมนษุ ยชน

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นวางแผนแนวทางการช่วยเหลอื ผูถ้ ูกละเมดิ สทิ ธมิ นษุ ยชน

เม่อื เกดิ ปัญหา ผพู้ บเห็น / ผถู้ กู ละเมดิ รอ้ งทกุ ขต์ ่อ
การละเมดิ สิทธิมนษุ ยชน รอ้ งทกุ ข์ตอ่ เจา้ หนา้ ทปี่ กครอง
ตารวจ

องคก์ รท่ีดแู ล การดาเนนิ การกบั ผลู้ ะเมดิ และผถู้ กู
ดา้ นสทิ ธิมนษุ ยชน ละเมิด
โดยใหค้ วามช่วยเหลือรีบด่วน และ
ประสานหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง พรอ้ ม
เขา้ จบั กมุ ผลู้ ะเมดิ

คณะกรรมการสิทธิ สานกั งานตารวจ ศาลปกครอง ผตู้ รวจการแผ่นดิน
มนษุ ยชนแหง่ ชาติ แห่งชาติ

ใบงานที่ 3.3
เร่ือง แนวทางในการพัฒนาสิทธิมนษุ ยชน

คำชแี้ จง ใหน้ กั เรียนร่วมกนั อภปิ รายเสนอแนวทางในการพฒั นาสทิ ธิมนุษยชน

แนวทางในการพัฒนาสทิ ธมิ นุษยชน ผลของการพฒั นาสทิ ธมิ นษุ ยชน

1. 1.

2. 2.

3. 3.

4. 4.

5. 5.

ใบงานท่ี 3.3
เร่อื ง แนวทางในการพัฒนาสิทธิมนษุ ยชน

คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายเสนอแนวทางในการพัฒนาสิทธิมนษุ ยชน

แนวทางในการพัฒนาสทิ ธมิ นุษยชน ผลของการพัฒนาสทิ ธมิ นุษยชน

1. การให้ความรู้ ขอ้ มลู ขา่ วสารเกี่ยวกบั 1. เกิดความรู้ เข้าใจเกย่ี วกับสิทธิ เสรีภาพ
เกยี่ วกบั มนุษยชน ของตนอนั พงึ ได้รับ

2. แก้ไขเพิ่มเตมิ กฎหมายให้สอดคล้องกับ 2. ประชาชนรู้บทบาทหน้าท่ี และปฏิบตั ติ าม
ปฏิญญาสากลฯ กฎหมาย

3. จัดทำนโยบายและแผนปฏิบตั ิการแมบ่ ท 3. เกดิ ความชดั เจนในการดำเนนิ งานท้ัง

แห่งชาตดิ ้านสิทธมิ นษุ ยชน ภาครฐั และเอกชน

4. จัดการศกึ ษาสิทธิมนษุ ยชนใน 4. นักเรียน นกั ศึกษา และประชาชน มีความรู้
สถาบนั การศึกษา อย่างถูกต้อง

5. การเข้าเปน็ ภาคอี นุสญั ญา หรือข้อตกลง 5. เกิดความรว่ มมอื รว่ มใจ คุ้มครองสทิ ธิ
ระหวา่ งประเทศด้านสทิ ธมิ นษุ ยชน มนษุ ยชนอยา่ งกวา้ งขวาง

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่

ชือ่ – ความ การแสดง การรับฟัง การตงั้ ใจ การรว่ ม รวม
สกลุ ร่วมมอื ความ ความ ทำงาน ปรบั ปรุง 20
ของ คดิ เห็น คิดเหน็ ผลงานกล่มุ คะแน
ลำดั ผรู้ ับ น
บท่ี การ 43214321432143214321
ประเมิ



เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ
............../.................../................
ดีมาก = 4

ดี = 3

พอใช้ = 2

ปรบั ปรุง = 1

เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ

ช่ ว ง ร ะ ดั บ

คะแนน คุณภาพ หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ิธีการมอบหมายใหห้ วั หนา้ กล่มุ
เป็นผปู้ ระเมิน หรือใหต้ วั แทนกลมุ่ ผลดั กนั ประเมนิ
17 – 20 ดมี าก หรือใหม้ ีการประเมนิ โดยเพอ่ื น โดยตวั นกั เรยี นเอง
13 – 16 ตามความเหมาะสมกไ็ ด้
9 - 12 ดี

5 – 8 พอใช้

ปรบั ปรุง

5

รายวชิ าหนา้ ทีพ่ ลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนินชวี ติ ในสงั คม

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4-6 เวลาเรยี น 6 ชัว่ โมง

 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ดั

ส 2.2 ม.4-6/1 วเิ คราะหป์ ัญหาการเมืองที่สำคญั ในประเทศจากแหล่งขอ้ มลู ตา่ งๆ พรอ้ มท้ังเสนอ

แนวทางแก้ไข

ม.4-6/2 เสนอแนวทางทางการเมอื งการปกครองท่ีนำไปสู่ความเขา้ ใจ และการประสาน
ประโยชน์ร่วมกนั ระหวา่ งประเทศ

ม.4-6/3 วิเคราะหค์ วามสำคัญและความจำเปน็ ท่ีต้องธำรงรกั ษาไว้ซ่ึงการปกครองตาม
ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุข

 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

การร่วมมือกันแก้ปัญหาการเมืองการปกครองและประสานประโยชน์ร่วมกนั ระหว่างประเทศ
เป็นส่วนสำคญั ในการธำรงรักษาไวซ้ งึ่ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ

 สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง

1. ปัญหาการเมืองสำคญั ท่ีเกิดข้ึนภายในประเทศ
2. สถานการณก์ ารเมอื งการปกครองของสงั คมไทย
3. อทิ ธพิ ลของระบบการเมืองการปกครองท่ีมผี ลต่อการดำเนินชวี ิต
4. การประสานประโยชนร์ ว่ มกนั ระหวา่ งประเทศ เช่น การสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง

ประเทศไทยกับประเทศตา่ งๆ
5. การแลกเปล่ียนเพือ่ ช่วยเหลอื และส่งเสรมิ ด้านวฒั นธรรม การศึกษา เศรษฐกิจ สังคม
6. การปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุข

- รปู แบบของรัฐ
- ฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษตั ริย์

3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถ่ิน

-

 สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น

4.1 ความสามารถในการส่อื สาร

4.2 ความสามารถในการคิด

- ทักษะการคดิ วิเคราะห์
- ทักษะการคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ
- ทักษะการคิดแกป้ ญั หา

4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต

- กระบวนการทำงานกลมุ่
- กระบวนการสบื ค้นข้อมลู

4.4 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. มวี ินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมั่นในการทำงาน

 ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

บทความวิเคราะห์การเมอื งการปกครองไทย

 การวัดและการประเมินผล

7.1 การประเมนิ ก่อนเรยี น

- แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 5 เรอ่ื ง ระบอบการเมอื งการปกครอง

7.2 การประเมนิ ระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง การเมอื งการปกครอง
2. ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง การใชอ้ ำนาจอธิปไตย
3. ใบงานที่ 1.3 เรอ่ื ง ฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษัตรยิ ์ไทย
4. ใบงานที่ 1.4 เรื่อง พระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ไทย
5. ใบงานที่ 2.1 เรอื่ ง วเิ คราะหป์ ัญหาการเมอื งไทย
6. ใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง การประสานประโยชน์ร่วมกนั ระหวา่ งประเทศ
7. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่

7.3 การประเมินหลงั เรยี น

- แบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เร่ือง ระบอบการเมอื งการปกครอง

7.4 การประเมนิ ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- ประเมินบทความวิเคราะหก์ ารเมอื งการปกครองไทย

การประเมินชน้ิ งาน / ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมินบทความวิเคราะหก์ ารเมอื งการปกครองไทย

รายการประเมิน คำอธบิ ายระดบั คณุ ภาพ/ระดับคะแนน

ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรุง (1)

1. การวิเคราะห์ เขยี นวิเคราะห์ เขยี นวิเคราะห์ เขียนวิเคราะห์ เขียนวิเคราะห์
ปญั หาการเมือง ปญั หาการเมือง ปญั หาการเมอื งใน ปัญหาการเมือง ปญั หาการเมอื ง
ในประเทศ ในประเทศและ ประเทศและเสนอ ในประเทศและ ในประเทศและ
เสนอแนวทาง แนวทาง เสนอแนวทาง เสนอแนวทาง
แกไ้ ขอย่างมี แก้ไขอย่างมี แกไ้ ขอย่างมี แก้ไขอยา่ งมี
เหตผุ ล อยา่ งนอ้ ย เหตผุ ล อยา่ งน้อย เหตุผล อย่าง เหตุผล อย่าง
4 ปญั หา 3 ปัญหา นอ้ ย 2 ปัญหา นอ้ ย 1 ปญั หา
2. การเสนอ เสนอแนวทาง เสนอแนวทาง เสนอแนวทาง เสนอแนวทาง
แนวทาง การเมอื งการ การเมอื งการ การเมืองการ การเมอื งการ
การเมือง ปกครองท่ีนำไปสู่ ปกครองทีน่ ำไปสู่ ปกครองทีน่ ำไปสู่ ปกครองท่ีนำไปสู่
การปกครอง ความเข้าใจและ ความเข้าใจและ ความเข้าใจและ ความเข้าใจและ
การประสาน การประสาน การประสาน การประสาน
ประโยชน์ร่วมกัน ประโยชนร์ ว่ มกัน ประโยชนร์ ว่ มกัน ประโยชน์รว่ มกัน
ระหว่างประเทศ ระหวา่ งประเทศ ระหว่างประเทศ ระหว่างประเทศ
อยา่ งมีเหตุผล อยา่ งมเี หตุผล อยา่ งมีเหตุผล อย่างมีเหตุผล
พรอ้ มยกตัวอย่าง พร้อมยกตัวอย่าง พร้อมยกตัวอย่าง พรอ้ มยกตวั อยา่ ง
ประกอบ อย่าง ประกอบ อย่าง ประกอบ อย่าง ประกอบ อยา่ ง
น้อย 4 แนวทาง นอ้ ย 3 แนวทาง น้อย 2 แนวทาง นอ้ ย 1 แนวทาง
3. การวเิ คราะห์ แสดงเหตผุ ลถึง แสดงเหตุผลถึง แสดงเหตผุ ลถึง แสดงเหตุผลถึง
ความ จำเปน็ ใน ความจำเปน็ ที่ ความจำเป็นที่ ความจำเป็นท่ี ความจำเป็นที่
การธำรง ต้องธำรงรกั ษาไว้ ตอ้ งธำรงรกั ษาไว้ ต้องธำรงรกั ษาไว้ ต้องธำรงรักษาไว้
รกั ษาการปกครอง ซึ่งการปกครอง ซ่ึงการปกครอง ซ่ึงการปกครอง ซึ่งการปกครอง
ระบอบ ระบอบ ระบอบ ระบอบ ระบอบ
ประชาธปิ ไตย ประชาธิปไตย ประชาธิปไตย ประชาธปิ ไตย ประชาธิปไตย
อันมี อนั มี อันมี อนั มี อันมี
พระมหากษตั รยิ ์ พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์ พระมหากษัตรยิ ์ พระมหากษัตรยิ ์
ทรงเป็นประมุข ทรงเปน็ ประมุข ทรงเป็นประมุข ทรงเป็นประมุข ทรงเป็นประมุข
พร้อมยกตวั อยา่ ง พรอ้ มยกตัวอยา่ ง พรอ้ มยกตัวอย่าง พร้อมยกตวั อยา่ ง
ประกอบ ประกอบ ประกอบ ประกอบ
4 ประเดน็ ขน้ึ 3 ประเด็น 2 ประเดน็ 1 ประเดน็
ไป

เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
10-12 ดีมาก
7-9 ดี
4-6 พอใช้
1-3 ปรับปรงุ

 กจิ กรรมการเรียนรู้

 นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เรอ่ื ง ระบอบการเมอื งการปกครอง

ระบอบประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ

กจิ กรรมท่ี วธิ ีสอนโดยการจัดการเรียนรู้แบบรว่ มมอื : เทคนิคการเรยี น เวลา 4 ชัว่ โมง
1 ร่วมกัน,เทคนคิ คูค่ ิด

1. ครใู หน้ ักเรยี นผลัดกนั เล่าความรูเ้ ดมิ เกี่ยวกับเรื่อง ระบอบการปกครองแบบต่างๆ ได้แก่ ระบอบ
เผด็จการ ระบอบประชาธิปไตย

2. ครอู ธิบายใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจถึงหลักการสำคัญของการปกครองระบอบเผดจ็ การ และการปกครอง
ระบอบประชาธิปไตย

3. ครูแบ่งนักเรียนเปน็ กล่มุ กลุ่มละ 4 คน คละกันตามความสามารถ ให้แต่ละกลมุ่ ศกึ ษาความรู้
เรือ่ ง ลักษณะการเมืองการปกครอง และช่วยกันทำใบงานที่ 1.1 เรอื่ ง การเมืองการปกครอง โดยสมาชกิ
แต่ละกลุ่มแบง่ หน้าท่กี ันทำใบงานแต่ละหวั ข้อ คอื
- สมาชกิ คนที่ 1 อา่ นคำสั่ง คำถาม หรอื ประเดน็ คำถาม แยกแยะประเดน็ ให้ชัดเจน
- สมาชกิ คนท่ี 2 ฟงั ขัน้ ตอน รวบรวมข้อมลู หาแนวทางเสนอแนะในการตอบคำถาม
- สมาชิกคนท่ี 3 ตอบคำถาม หรือคำนวณหาคำตอบ
- สมาชกิ คนที่ 4 ตรวจสอบความถกู ต้อง

4. สมาชิกแต่ละคนในกลมุ่ จะหมุนเวยี นเปลี่ยนหนา้ ที่กันตอบคำถาม จนเสรจ็ ทกุ ข้อ แลว้ ครูและนกั เรยี น
ร่วมกันเฉลยคำตอบในใบงาน จากน้นั ร่วมกันสรปุ ประเด็นสำคญั

5. ครอู ธิบายความรูเ้ กีย่ วกบั เร่ือง รัฐเด่ียวหรอื เอกรฐั กบั รัฐรวมหรอื สหพนั ธรัฐ
6. นักเรียนกลมุ่ เดิมจับคู่กนั เป็น 2 คู่ ศกึ ษาความรูจ้ ากหนังสือเรยี น แลว้ ช่วยกนั ทำใบงานที่ 1.2 เรอ่ื ง

การใชอ้ ำนาจอธิปไตย
7. นักเรยี นแต่ละคขู่ องกลุ่มผลดั กนั ตรวจสอบความถูกต้องของใบงานที่ 1.2 จากนัน้ ครแู ละนกั เรยี น

ชว่ ยกนั เฉลยคำตอบในใบงาน แลว้ ชว่ ยกนั สรปุ
8. นกั เรยี นดภู าพหรอื วีซดี เี กีย่ วกับพระราชกรณยี กิจของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ ัวรชั กาลปจั จบุ ัน

แล้วให้นักเรยี นผลัดกนั แสดงความประทับใจในพระราชกรณียกิจ

9. นักเรียนรวมกลุ่มกนั ตามความสมัครใจ ศกึ ษาความร้จู ากหนังสือเรยี น แลว้ ช่วยกนั ทำใบงานท่ี 1.3 เรือ่ ง
ฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษตั ริยไ์ ทย

10. นักเรียนแต่ละกล่มุ ผลัดกันนำเสนอผลงานจากใบงานท่ี 1.3 โดยครูเป็นผตู้ รวจสอบความถูกตอ้ ง
11. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มค้นคว้าความรูเ้ กี่ยวกับพระราชกรณียกิจทส่ี ำคัญของพระมหากษัตริย์ไทย

และนำมาวเิ คราะห์ตามหวั ข้อในใบงานท่ี 1.4 เร่อื ง พระราชกรณียกจิ ของพระมหากษตั รยิ ์ไทย
12. นกั เรียนแต่ละกลุม่ เสนอผลงานตอ่ ชัน้ เรียน ครแู ละนกั เรยี นอภิปรายสรุปความสำคญั และความจำเป็น

ทต่ี อ้ งรักษาไวซ้ ึง่ การปกครองระบอบประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ

การเมอื งกบั ชีวิต

กจิ กรรมที่ วิธสี อนโดยการจดั การเรียนรแู้ บบรว่ มมือ : เทคนคิ คู่คิด เวลา 2 ชวั่ โมง
2 วธิ ีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม

ครนู ำขา่ วหรือภาพข่าวกจิ กรรมทางการเมอื งการปกครองของประเทศต่างๆ มาให้นกั เรียน

วเิ คราะหว์ ่า ข่าวหรือภาพข่าวดังกล่าวมีผลตอ่ การดำเนนิ ชวี ติ ของประชาชนอยา่ งไร

2. ครูอธิบายให้นักเรยี นเข้าใจถงึ อิทธิพลของระบอบการเมอื งการปกครองทมี่ ผี ลตอ่ การดำเนนิ

ชวี ิตของประชาชน และระบอบการเมอื งการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยมผี ลต่อการดำเนิน

ชวี ติ ของประชาชนชาวไทย

3. ครูแบง่ นักเรียนเปน็ กลมุ่ กลมุ่ ละ 6 คน คละกนั ตามความสามารถ แต่ละกลุ่มแบง่ ออกเปน็ กลมุ่ ยอ่ ย

กลมุ่ ละ 3 คน ใหแ้ ต่ละกล่มุ ศกึ ษาความรแู้ ละทำใบงานกลมุ่ ละ 1 ใบงาน ดังน้ี

- กลุม่ ยอ่ ยที่ 1ทำใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง วเิ คราะหป์ ญั หาการเมอื งไทย

- กลมุ่ ย่อยที่ 2ทำใบงานท่ี 2.2 เรอื่ ง การประสานประโยชนร์ ่วมกันระหว่างประเทศ

4. นกั เรยี นกลมุ่ ยอ่ ยของแต่ละกลมุ่ ผลดั กันเล่าผลงานที่กลมุ่ รบั ผดิ ชอบให้สมาชิกอีกกลมุ่ ย่อยฟงั และ

ชว่ ยกันเสนอแนะปรบั ปรุงแก้ไขผลงาน

5. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานตอ่ ช้ันเรียน โดยมีครเู ป็นผู้ตรวจสอบความถูกตอ้ ง

6. ครูและนกั เรียนช่วยกันสรุปปัญหาการเมืองท่สี ำคัญของประเทศ และเสนอแนวทางแกไ้ ขกิจกรรมการเมอื ง

การปกครองทีส่ ำคัญท่ีนำไปสู่ความเข้าใจและการประสานประโยชนร์ ว่ มกนั ระหว่าง

ประเทศ

7. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันเขยี นบทความวิเคราะหก์ ารเมอื งการปกครองไทย และส่ง

ครูผสู้ อน จากนนั้ ครูเลอื กกลุ่มทม่ี ีผลงานอยู่ในเกณฑด์ ี นำไปตดิ ป้ายนเิ ทศ

 นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เร่ือง ระบอบการเมืองการปกครอง

 สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

9.1 สอ่ื การเรยี นรู้

1. หนังสือเรยี น หน้าที่พลเมืองฯ ม. 4-ม.6

2. ตัวอย่างส่อื ประกอบการสอน

3. ตวั อยา่ งขา่ ว

4. ใบงานท่ี 1.1 เรอ่ื ง การเมืองการปกครอง

5. ใบงานท่ี 1.2 เรอื่ ง การใชอ้ ำนาจอธิปไตย
6. ใบงานท่ี 1.3 เร่ือง ฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษตั ริย์ไทย
7. ใบงานที่ 1.4 เร่อื ง พระราชกรณียกจิ ของพระมหากษตั ริย์ไทย
8. ใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง วเิ คราะห์ปญั หาการเมืองไทย
9. ใบงานที่ 2.2 เร่อื ง การประสานประโยชน์รว่ มกนั ระหว่างประเทศ

9.2 แหล่งการเรียนรู้

1. หอ้ งสมุด
2. แหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ

www.kullawat.net/civic/3.1.htm
www.dopa.go.th/history/polith.htm
th.wikipedia.org/wiki/ประชาธิปไตย

แบบทดสอบกอ่ นเรียน-หลงั เรยี น ประจำหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 5

คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นเลือกคำตอบท่ีถกู ต้องทีส่ ุดเพยี งขอ้ เดยี ว

1. หลกั การสำคญั ของระบอบประชาธปิ ไตยมหี ลายประการ ยกเว้นขอ้ ใด

ก. อำนาจสูงสดุ ในการปกครองประเทศเปน็ ของประชาชน

ข. ประชาชนมีสิทธมิ อบอำนาจปกครองให้แก่ประชาชนด้วยกัน

ค. รัฐบาลตอ้ งเคารพสิทธิ และเสรีภาพขั้นพืน้ ฐานของประชาชน

ง. รฐั บาลมีสทิ ธิออกกฎหมายเพ่อื ควบคมุ ความสงบของประเทศเมื่อมีการต่อต้าน

2. ข้อใดเปน็ หลักการสำคญั ของระบอบเผดจ็ การ

ก. ผนู้ ำหรือกลุ่มผู้นำมีอำนาจสูงสดุ ในการปกครองประเทศ

ข. ประชาชนวพิ ากษว์ จิ ารณร์ ฐั บาลท่ีอยู่ในวาระได้หลายสมยั

ค. ประชาชนวพิ ากษว์ จิ ารณก์ ารกระทำของรัฐบาลภายในขอบเขต

ง. รฐั ธรรมนูญเปน็ กฎหมายสูงสดุ ในการปกครองประเทศผ่านความเห็นชอบของรัฐสภา

3. ระบอบเผด็จการทหาร มลี กั ษณะอย่างไร

ก. ผู้นำเปน็ ทหารที่มีอำนาจในการปกครองประเทศ

ข. ใชก้ ฎอัยการศกึ เป็นกฎหมายในการปกครองประเทศ

ค. มพี รรคการเมืองภายใตก้ ารกำกบั ของรัฐสภาเพียงพรรคเดยี ว

ง. ควบคมุ กิจกรรมทางการเมอื งและการดำเนนิ ชวี ิตของประชาชน

4. ระบอบเผด็จการแบบใด ท่ีเชอ่ื ว่าจะชว่ ยทำให้ชนช้ันกรรมาชีพเป็นอิสระจากการกดขีข่ องนายทนุ

ก. ระบอบเผดจ็ การทหาร ข. ระบอบเผด็จการพลเรือน

ค. ระบอบเผด็จการฟาสซิสต์ ง. ระบอบเผดจ็ การคอมมิวนิสต์

5. ระบอบเผดจ็ การแบบเบด็ เสรจ็ หมายถงึ ขอ้ ใด

ก. ระบอบเผดจ็ การทหาร ข. ระบอบเผด็จการพลเรือน

ค. ระบอบเผด็จการคอมมิวนสิ ต์ ง. ระบอบเผด็จการฟาสซิสต์

6. ประเทศท่มี ีรูปแบบของรัฐเด่ยี ว คือประเทศใด

ก. สิงคโปร์ ไทย ญีป่ ุน่ ข. รัสเซีย มาเลเซีย ญปี่ นุ่

ค. ไทย จนี อนิ เดีย ง. ญี่ป่นุ สหรัฐอเมรกิ า สงิ คโปร์

7. ลักษณะของสหพันธรฐั หรือรฐั รวม เปน็ อย่างไร

ก. รฐั บาลท้องถนิ่ มีอำนาจในกจิ การท่ีเปน็ ประโยชนต์ ่อสว่ นรวม

ข. รฐั บาลกลางมอบนโยบายการปกครองให้แต่ละทอ้ งถนิ่ ดำเนินการ

ค. รัฐบาลกลางเปน็ ผูใ้ ชอ้ ำนาจในกจิ การทหาร การต่างประเทศ การคลัง

ง. รัฐบาลท้องถน่ิ มคี วามสำคญั ตอ่ การบรหิ ารประเทศและแกป้ ัญหาไดร้ วดเรว็

8. อำนาจหนา้ ที่ของสมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรมีหลายประการ ยกเว้นขอ้ ใด

ก. เสนอและพจิ ารณากฎหมาย

ข. ควบคุมการบรหิ ารราชการแผ่นดนิ

ค. ควบคุมการตรากฎหมายที่ขัดหรือแยง้ ต่อรฐั ธรรมนญู

ง. ถอดถอนผ้ดู ำรงตำแหน่งทง้ั ทางการเมืองและข้าราชการประจำ

9. ขอ้ ใดกลา่ วถึงอำนาจหนา้ ท่ขี องสมาชิกวฒุ ิสภาได้ถูกต้อง

ก. พจิ ารณาร่างพระราชบญั ญตั ิ

ข. กลน่ั กรองงบประมาณแผน่ ดิน

ค. เสนอกฎหมายทีเ่ ก่ียวกับความมน่ั คง

ง. ควบคุมการบริหารงานในหนว่ ยงานของรฐั

10. หน้าที่ในการกำหนดนโยบายในการบริหารราชการแผ่นดนิ คอื ใคร

ก. คณะรฐั มนตรี ข. องคมนตรี

ค. สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎร ง. สมาชกิ วุฒิสภา

11. หน่วยงานใดทีเ่ ปน็ องคก์ รปกครองท้องถ่ินรูปพเิ ศษ

ก. เทศบาล ข. กรงุ เทพมหานคร

ค. องค์การบริหารสว่ นจังหวัด ง. องค์การบรหิ ารสว่ นตำบล

12. ศาลใดมอี ำนาจพจิ ารณาและวินิจฉยั คดีที่เก่ียวกบั การเลือกต้ัง

ก. ศาลฎีกา ข. ศาลชั้นตน้

ค. ศาลปกครอง ง. ศาลรัฐธรรมนญู

13. ศาลใดมอี ำนาจพิจารณา พิพากษาคดีพพิ าทระหว่างหน่วยงานราชการ หนว่ ยงานของรฐั รัฐวิสาหกจิ

องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ เจ้าหนา้ ทขี่ องรัฐกบั เอกชน

ก. ศาลยุตธิ รรม ข. ศาลทหาร

ค. ศาลปกครอง ง. ศาลรฐั ธรรมนญู

14. ข้อใดกล่าวถงึ ฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษตั ริย์ไทยไมถ่ กู ตอ้ ง

ก. ทรงเป็นตัวแทนปวงชนชาวไทยในการติดตอ่ กับประมุขของตา่ งประเทศ

ข. ทรงอย่ใู นฐานะอนั เปน็ ทเ่ี คารพสักการะ

ค. ทรงอยใู่ ตก้ ฎหมายแตอ่ ยูเ่ หนือการเมือง

ง. ทรงดำรงตำแหนง่ จอมทัพไทย

15. อิทธิพลของระบอบการเมอื งการปกครองมีผลต่อการดำเนินชวี ติ ของคนไทยอย่างไร

ก. มีการรวมกลุ่มกันในดา้ นต่างๆ เพือ่ เรียกร้องสทิ ธบิ างประการทีเ่ ป็นประโยชน์ตอ่ ส่วนรวม

ข. มคี า่ นิยมที่เปลยี่ นแปลงท้งั ในดา้ นดีและด้านไม่ดีกระทบต่อการรวมพลังสามคั คี

ค. ประชาชนให้ความสำคัญต่อทอ้ งถิ่นมากกวา่ ส่วนรวมของประเทศ

ง. ประชาชนมคี วามเบื่อหนา่ ยในการร่วมกจิ กรรมทางการเมือง

16. ข้อใดเปน็ ปัญหาทางการเมืองท่ีสง่ ผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศ

ก. การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบอ่ ยก่อนครบกำหนดวาระการดำรงตำแหนง่

ข. ความคิดเห็นทางการเมอื งแตกตา่ งกัน

ค. พรรคการเมอื งมีนโยบายตา่ งกัน

ง. มอี งค์กรอสิ ระมากเกินไป

17. การที่ประเทศไทยเป็นสมาชกิ องค์การสหประชาชาติ มีผลดอี ย่างไร

ก. ได้รบั ความช่วยเหลอื ทางการเมอื งการปกครอง

ข. ประเทศไทยได้เปรยี บประเทศอ่ืนในด้านเศรษฐกจิ

ค. การเมืองการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยมีความมั่นคง

ง. มสี ่วนรว่ มในการสง่ เสริมสนั ติภาพและความม่ันคงระหว่างประเทศ

18. ประเทศไทยมสี ว่ นสำคัญในฐานะประเทศรว่ มกอ่ ตั้งองคก์ ารระหวา่ งประเทศหลายองคก์ ร ยกเว้นข้อใด

ก. องคก์ ารการคา้ โลก ข. องค์การสหประชาชาติ

ค. อาเซียน ง. อาฟตา้

19. การทป่ี ระเทศไทยเข้าเปน็ สมาชกิ ขององค์การการคา้ โลก มีผลดอี ยา่ งไร

ก. ประเทศอื่นใหค้ วามสำคัญตอ่ สินค้าไทย

ข. ระงบั ข้อพิพาททางการคา้ กบั ประเทศเพือ่ นบา้ น

ค. สามารถผลิตสนิ ค้าสง่ ไปจำหนา่ ยยงั ตา่ งประเทศได้มาก

ง. มกี ารปรบั ปรุงมาตรฐานการผลติ สินคา้ และบริการให้เป็นไปตามหลกั สากลมากข้นึ

20. การท่ปี ระเทศไทยมคี วามขัดแยง้ ระหว่างรฐั บาลกับประชาชนน้อยกวา่ ประเทศอืน่ เนือ่ งจากปัจจัย

สำคญั ในขอ้ ใด

ก. มสี ถาบนั พระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมแห่งความสามัคคีของคนในชาติ

ข. ทหารมพี ลงั อำนาจในการประสานและยุตคิ วามขัดแย้ง

ค. พรรคการเมืองเข้มแข็งในการร่วมมอื กนั แก้ปญั หา

ง. ประชาชนไมส่ นใจการเมอื งการปกครอง

เฉลย

1. ง 2. ก 3. ข 4. ง 5. ค
6. ก 7. ค 8. ง 9. ก 10. ก
11. ข 12. ก 13. ค 14. ค 15. ก
16. ก 17. ง 18. ข 19. ง 20. ก

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 1

หน้าท่พี ลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนนิ ชวี ิตในสงั คม

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 ระบอบการเมอื งการปกครอง ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4-6

เรอื่ ง ระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นประมขุ เวลา 4 ชั่วโมง

1. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด

การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขของไทย เป็นการปกครองที่มี
หลักการสำคัญในการใช้อำนาจอธิปไตยเพือ่ ประโยชน์สูงสุดของประชาชน โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวม
จิตใจของปวงชน ส่งผลต่อการพฒั นาประเทศในทกุ ดา้ น

2. ตวั ชว้ี ดั /จดุ ประสงค์การเรียนรู้

2.1 ตัวชี้วดั
ส 2.2 ม.4-6/3 วเิ คราะห์ความสำคัญและความจำเป็นที่ตอ้ งธำรงรกั ษาไว้ซึง่ การปกครอง

ตามระบอบประชาธปิ ไตย อันมพี ระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ

2.2 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธิบายการปกครองระบอบประชาธิปไตยของไทยอนั มพี ระมหากษตั รยิ ท์ รงเปน็ ประมขุ ได้
2. อธบิ ายฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษัตรยิ ์ไทยได้
3. วเิ คราะห์ความจำเปน็ ในการธำรงรกั ษาไว้ซง่ึ การปกครองระบอบประชาธปิ ไตย อนั มี

พระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมขุ ได้

3. สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

การปกครองตามระบอบประชาธปิ ไตย อนั มพี ระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข
- รูปแบบของรัฐ
- ฐานะและพระราชอำนาจของพระมหากษตั ริย์

3.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่น

-

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น

4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์

4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

- กระบวนการทำงานกลมุ่

4.4 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี


Click to View FlipBook Version