The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน รายวิชา ส31102 ม4 บ พ ค 2 64 ทศพล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sodsod1515, 2021-12-02 02:55:23

แผนการสอน รายวิชา ส31102 ม4 บ พ ค 2 64 ทศพล

แผนการสอน รายวิชา ส31102 ม4 บ พ ค 2 64 ทศพล

แบบประเมนิ บทความเรอ่ื ง การอนุรกั ษ์วัฒนธรรมไทย
และการเลือกรับวัฒนธรรมสากล

กลมุ่ ท.ี่ ................................................. .............................................................................. 2. ..............................................................................
สมาชิกของกลุ่ม 1. .............................................................................. 4. ..............................................................................
.............................................................................. 6. ..............................................................................
3.
5.

ลำดั รายการประเมิน คณุ ภาพผลงาน 1
บที่ 432

1 ความจำเป็นท่ีจะต้องมีการปรับปรงุ เปล่ยี นแปลงวัฒนธรรม

2 แนวทางการอนรุ ักษว์ ฒั นธรรมไทย

3 การเลือกรับวัฒนธรรมสากล

4 การนำเสนอผลงาน

รวม

เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชื่อ..............................................................................ผปู้ ระเมิน
/ /....................... ........................... ........................
ดีมาก = 4

ดี = 3

พอใช้ = 2

ปรบั ปรุง = 1

เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ
ช่ ว ง ร ะ ดั บ
คะแนน คุณภาพ
13-16 ดีมาก
9-12 ดี
5-8 พอใช้
1-4 ปรบั ปรุง

ใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง วิเคราะหว์ ฒั นธรรม

ตอนท่ี 1
คำช้แี จง ให้นกั เรยี นตอบคำถามตอ่ ไปนี้
1. วัฒนธรรมดงั้ เดมิ ของไทยผูกพันกบั วฒั นธรรมชาติใด จงยกตวั อยา่ ง

2. วฒั นธรรมของชาวตะวันตกท่เี ผยแพรเ่ ขา้ มาในประเทศไทยนัน้ เก่ยี วกบั เร่อื งใด

3. การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างรวดเร็ว มผี ลตอ่ สังคมและวฒั นธรรมอยา่ งไร

ตอนที่ 2
คำชี้แจง ให้นกั เรยี นเปรียบเทียบความแตกตา่ งของวฒั นธรรมไทยกับวัฒนธรรมสากล

วัฒนธรรมสากล วัฒนธรรมไทย

ใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง วเิ คราะหว์ ฒั นธรรม

ตอนท่ี 1
คำช้แี จง ให้นกั เรยี นตอบคำถามต่อไปน้ี
1. วัฒนธรรมด้ังเดิมของไทยผกู พันกับวฒั นธรรมชาตใิ ด จงยกตวั อย่าง

วัฒนธรรมอินเดยี และจนี เชน่ ความเช่ือ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ พิธีกรรม อาหาร มารยาท
และวิถกี ารดำเนินชวี ิต

2. วัฒนธรรมของชาวตะวนั ตกทเ่ี ผยแพรเ่ ข้ามาในประเทศไทยนัน้ เก่ียวกบั เรอ่ื งใด
ความรู้ ความคดิ และวิทยาการแผนใหม่ เช่น การพิมพ์ การแพทย์ การศกึ ษา ความร้ทู างวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี การคมนาคมขนสง่ การปกครอง การแตง่ กาย

3. การพัฒนาเศรษฐกจิ ของประเทศไทยอยา่ งรวดเร็ว มีผลตอ่ สงั คมและวัฒนธรรมอย่างไร
1. การเปล่ยี นแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรวดเรว็ มีผลต่อความสมั พันธ์ของสมาชิกในครอบครัว
เปล่ียนไป ครอบครวั ท่ีเคยมีความสมั พนั ธก์ ันอย่างอบอนุ่ ก็ต้องห่างเหินกนั
2. วิถีชีวติ ของคนในสงั คมเปลี่ยนแปลงไป ลักษณะทีเ่ คยมคี วามเกือ้ กูลกนั ชว่ ยเหลือกนั ก็มีความ
ห่างเหนิ กัน ต่างคนตา่ งอยู่ ขาดปฏิสมั พันธ์ระหว่างกันในชมุ ชนและสงั คมท่วั ไป

ตอนที่ 2
คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบความแตกต่างของวฒั นธรรมไทยกับวัฒนธรรมสากล

วฒั นธรรมสากล วัฒนธรรมไทย

1. เนน้ ปรชั ญา “มนุษยเ์ ปน็ นายธรรมชาติ” สามารถ 1. เน้นปรชั ญา “มนษุ ยค์ วรอย่แู บบผสมกลมกลืนกับ
บงั คับธรรมชาติให้ตอบสนองความต้องการของ ธรรมชาติ” วัฒนธรรมไทยจะสอดคลอ้ งกบั สภาพ
มนุษย์ เชน่ การประดิษฐ์รถยนต์ เครื่องใช้ แทน ธรรมชาติ เชน่ การสรา้ งบา้ นเรือน
การเดินทางโดยสตั ว์พาหนะ

2. มีการแบง่ ทุกส่ิงทุกอยา่ งเป็นสองส่วนตรงกันข้าม 2. เนน้ การมองทุกอย่างเปน็ องค์รวมการทีจ่ ะสง่ เสริม

กนั เช่น ขาว-ดำ ดี-เลว ทนั สมยั -ล้าสมยั โลกใหม้ ีความสมดุลนัน้ ตอ้ งอาศยั ปจั จยั หรือ

องค์ประกอบต่างๆ

3. เนน้ การใช้วธิ ีการทางวิทยาศาสตร์ ที่ตง้ั อยบู่ น 3. ตงั้ อย่บู นพน้ื ฐานทางวิทยาศาสตร์ แต่เนน้ ปัจจัยท่ี
เหตผุ ลของปจั จัยท่สี ามารถสัมผัสได้ มีการตัง้ สัมผัสได้มาศกึ ษาร่วมกับปัจจัยทางจิตใจ ความคดิ
สมมุติฐานพิสูจน์ปจั จยั ตา่ งๆ ว่าเปน็ ไปตาม ความเชือ่ ทางพระพทุ ธศาสนาควบคู่กันไป เชือ่ ม
สมมตุ ฐิ านหรอื ไม่ วเิ คราะห์ สงั เคราะห์ใหไ้ ด้ โยงให้เห็นความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งมนษุ ยก์ บั
ความร้ใู หม่ เพ่ือนำไปสรา้ งทฤษฎีเชงิ พาณิชย์ ส่ิงแวดลอ้ ม มนษุ ยก์ ับมนษุ ย์ และมนุษย์กับส่ิงทมี่ ี
มีการสร้างเครื่องมือ เครื่องใช้ท่ีทนั สมัย อำนาจนอกเหนือธรรมชาติ

(หมายเหตุ นกั เรยี นอาจตอบเปน็ อย่างอนื่ ตามความเหมาะสม ให้อยใู่ นดุลยพินจิ ของครผู ู้สอน)

แบบประเมินการนำเสนอผลงานกล่มุ

กลุ่มท.ี่ ................................................. .............................................................................. 2. ..............................................................................
สมาชิกของกลุ่ม 1. .............................................................................. 4. ..............................................................................
.............................................................................. 6. ..............................................................................
3.
5. คุณภาพผลงาน
432
ลำดั รายการประเมิน 1
บที่

1 นำเสนอเนอื้ หาในผลงานได้ถกู ตอ้ ง

2 การนำเสนอมีความน่าสนใจ

3 ความเหมาะสมกบั เวลา

4 ความกลา้ แสดงออก

5 บุคลกิ ภาพ นำ้ เสยี งเหมาะสม

รวม

ลงชือ่ ..............................................................................ผปู้ ระเมิน
/ /....................... ........................... ........................

เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 4 คะแนน
การปฏิบตั งิ านสมบูรณช์ ดั เจน

การปฏบิ ตั งิ านยงั มีขอ้ บกพรอ่ งเลก็ นอ้ ย ให้ 3 คะแนน

การปฏิบตั งิ านยงั มขี อ้ บกพรอ่ งเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 2 คะแนน

การปฏบิ ตั งิ านมีขอ้ บกพรอ่ งมาก ให้ 1 คะแนน

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับ
คณุ ภาพ
17-20 ดีมาก
13-16
9-12 ดี
5-8 พอใช้
ปรบั ปรุง

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

ชอ่ื – ความ การแสดง การรับฟงั การต้ังใจ การรว่ ม รวม
สกลุ รว่ มมือ ความ ความ ทำงาน ปรบั ปรุง 20
ของ คิดเหน็ คิดเหน็ ผลงานกลุ่ม คะแน
ลำดั ผรู้ ับ น
บท่ี การ 43214321432143214321
ประเมิ



เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................
ดมี าก = 4
หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ิธีการมอบหมายใหห้ วั หนา้ กล่มุ
ดี = 3 เป็นผปู้ ระเมนิ หรือใหต้ วั แทนกลมุ่ ผลดั กนั ประเมิน
หรือใหม้ ีการประเมินโดยเพือ่ น โดยตวั นกั เรียนเอง
พอใช้ = 2 ตามความเหมาะสมก็ได้

ปรบั ปรุง = 1

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

ช่ ว ง ร ะ ดั บ

คะแนน คุณภาพ

17 – 20 ดมี าก
13 – 16
9 – 12 ดี

5 – 8 พอใช้

ปรบั ปรุง

3

รายวิชาหน้าทพี่ ลเมอื ง วฒั นธรรม และการดำเนินชีวติ ในสงั คม

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4-6 เวลาเรียน 5 ช่ัวโมง

 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด

ส 2.1 ม.4-6/3 ปฏบิ ตั ิตนและมสี ว่ นสนับสนุนให้ผู้อน่ื ประพฤตปิ ฏบิ ตั เิ พ่อื เป็นพลเมอื งดี

ของประเทศชาติ และสังคมโลก

 สาระสำคัญ / ความคดิ รวบยอด

การปฏิบตั ติ นเปน็ พลเมืองดีของประเทศชาตแิ ละสงั คมโลกนั้น ยอ่ มสง่ ผลต่อการอยูร่ ่วมกันอยา่ งสนั ตสิ ขุ

 สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง

คณุ ลกั ษณะพลเมืองดขี องประเทศชาติ และสงั คมโลก เชน่
- เคารพกฎหมายและกติกาสังคม
- เคารพสิทธิเสรภี าพของตนเองและบุคคลอ่ืน
- มีเหตุผล รบั ฟังความคดิ เห็นของผู้อ่นื
- มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ชุมชน ประเทศชาติ และสงั คมโลก
- เข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองการปกครอง
- มีส่วนรว่ มในการปอ้ งกนั แกไ้ ข ปญั หาทางเศรษฐกิจ สงั คม การเมอื งการปกครอง

ส่ิงแวดลอ้ ม
- มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมเป็นหลักในการดำเนินชีวิต

3.2 สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่นิ

-

 สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น

4.1 ความสามารถในการสื่อสาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์
- ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ

4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ติ

- กระบวนการปฏบิ ัติ

- กระบวนการทำงานกลุ่ม

 คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มีวินยั
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

 ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

รายงานการดำเนนิ กจิ กรรมการปฏบิ ตั ติ นเปน็ พลเมืองดี

 การวดั และการประเมนิ ผล

7.1 การประเมินกอ่ นเรยี น

- แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง พลเมอื งดีของประเทศชาตแิ ละสงั คมโลก

7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ใบงานที่ 1.1 เร่อื ง พลเมืองดเี ป็นศรปี ระเทศ
2. ใบงานที่ 2.1 เรอ่ื ง แนวทางการปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมอื งดี
3. ใบงานที่ 2.2 เรื่อง วเิ คราะห์พลเมืองดี
4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่

7.3 การประเมินหลงั เรียน

- แบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง พลเมอื งดขี องประเทศชาติและสังคมโลก

7.4 การประเมินช้ินงาน / ภาระงาน (รวบยอด)

- ประเมนิ รายงานการดำเนินกจิ กรรมการปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดี

การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมินรายงานการดำเนนิ กจิ กรรมการปฏบิ ตั ติ นเปน็ พลเมืองดี

รายการประเมนิ ดีมาก (4) คำอธิบายระดับคณุ ภาพ/ระดับคะแนน ปรับปรุง (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. การปฏิบัติ กิจกรรมแสดงถึง กิจกรรมแสดงถงึ กจิ กรรมแสดงถงึ กจิ กรรมแสดงถึง

ตนเป็น การเปน็ พลเมืองดี การเปน็ พลเมอื งดี การเป็นพลเมืองดี การเปน็ พลเมอื งดี

พลเมืองดี ในดา้ นเศรษฐกจิ ในดา้ นเศรษฐกิจ ในดา้ นเศรษฐกจิ ในด้านเศรษฐกจิ

ดา้ นการ ดา้ นการ ดา้ นการ ดา้ นการ

เมืองการปกครอง เมืองการปกครอง เมืองการปกครอง เมืองการปกครอง

ดา้ นสงั คมและ ด้านสังคมและ ด้านสงั คมและ ด้านสังคมและ

วฒั นธรรม ด้าน วัฒนธรรม ดา้ น วัฒนธรรม ด้านการ วัฒนธรรม ดา้ นการ

การอนุรกั ษ์ การอนรุ ักษ์

ส่งิ แวดล้อมรวม 4 ส่ิงแวดลอ้ มรวม 3 อนรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ้ ม อนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ ม

ด้าน ดา้ น เพียง 2 ด้าน เพยี ง 1 ด้าน

2. การ มขี อ้ มูลทแ่ี สดงถึง มีขอ้ มลู ท่แี สดงถึง มขี อ้ มูลที่แสดงถงึ มีข้อมลู ท่แี สดงถงึ

รายงานผล ผลสำเรจ็ ของการ ผลสำเรจ็ ของการ ผลสำเรจ็ ของการ ผลสำเรจ็ ของการ

การปฏิบตั ิตน ปฏิบัตติ นเปน็ ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ปฏิบัติตนเปน็

เปน็ พลเมืองดี พลเมอื งดใี นระดบั พลเมืองดีในระดบั พลเมอื งดีในระดบั พลเมืองดีในระดับ

ดีทกุ ด้าน ดี 3 ดา้ น ระดับ ดี 2 ดา้ น ระดับ ปานกลางเป็น

ปานกลาง 1 ด้าน ปานกลาง 2 ด้าน สว่ นใหญ่

3. การ มขี ้อมูลแสดงถึง มขี อ้ มลู แสดงถงึ มขี อ้ มลู แสดงถงึ มีขอ้ มูลแสดงถึง

สนับสนุนให้ การสง่ เสรมิ การส่งเสริม การส่งเสรมิ การสง่ เสรมิ

ผู้อนื่ ปฏบิ ตั ิตน สนับสนนุ ผู้อื่นให้ สนบั สนุนผ้อู ่นื ให้ สนบั สนุนผูอ้ ื่นให้ สนบั สนุนผ้อู นื่ ให้

เปน็ พลเมอื งดี ปฏบิ ตั ติ นเป็น ปฏิบตั ิตนเป็น ปฏบิ ัติตนเป็น ปฏิบตั ิตนเป็น

พลเมอื งดีได้ พลเมอื งดไี ด้ พลเมอื งดไี ด้ พลเมืองดีได้

4 พฤติกรรม 3 พฤติกรรม 2 พฤติกรรม 1 พฤติกรรม

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
10-12 ดีมาก
7-9 ดี
4-6 พอใช้
1-3 ปรบั ปรุง

 กจิ กรรมการเรียนรู้

 นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 3 เรอ่ื ง พลเมอื งดขี องประเทศชาติ
และสังคมโลก

พลเมืองดี เวลา 3 ชวั่ โมง
กจิ กรรมท่ี วิธสี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม, กระบวนการ
1 สร้างความตระหนัก

1. ครใู หน้ กั เรียนยกตวั อยา่ งการกระทำของตนเองทแี่ สดงวา่ เป็นพลเมืองดขี องสังคมหรอื ประเทศชาติ
แล้ววเิ คราะหผ์ ลของการปฏบิ ตั ติ น

2. ครูใหน้ ักเรียนยกตวั อย่างบคุ คลที่มกี ารกระทำท่ีแสดงถงึ การเป็นพลเมืองดขี องสังคม ประเทศชาติ
และสงั คมโลก แลว้ ช่วยกนั วิเคราะห์ผลของการปฏิบตั ิตนของบุคคลดังกล่าว

3. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 4-5 คน ช่วยกนั ทำใบงานท่ี 1.1 เรอื่ ง พลเมืองดีเป็นศรปี ระเทศ
4. นักเรียนออกมานำเสนอผลงาน 3-4 กลมุ่ และให้กล่มุ ที่มผี ลงานแตกต่างกนั ออกไปได้นำเสนอ

ผลงานเพมิ่ เติม
5. ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั สรปุ ความสำคัญของพลเมืองดใี นด้านสังคม ดา้ นเศรษฐกจิ ด้านการเมือง

การปกครอง และคุณลักษณะของพลเมอื งดี
6. ครูมอบหมายให้นักเรียนแตล่ ะกลุ่มศกึ ษาความรู้ เรอื่ ง คุณธรรม จริยธรรมของการเปน็ พลเมอื งดี

ของประเทศชาตแิ ละสงั คมโลก จากหนังสือเรียน และใหไ้ ปสมั ภาษณ์บุคคลทเ่ี ปน็ พลเมอื งดี
ในท้องถิ่นทน่ี ักเรยี นมีภมู ิลำเนาอยู่ และบันทึกลงในแบบบนั ทึกสรุปการสัมภาษณ์พลเมอื งดี โดยให้
นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ไปวางแผนการตงั้ คำถาม เพอ่ื ให้ได้ขอ้ มลู มาสรุปลงในแบบบนั ทกึ
7. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ นำขอ้ มลู การสมั ภาษณม์ าบนั ทึกสรุปในแบบบันทกึ การสมั ภาษณ์พลเมอื งดี
8. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ นำเสนอผลงานตอ่ ชนั้ เรยี นด้วยวธิ กี ารที่หลากหลาย เช่น การสนทนา การถามตอบ
การแสดงบทบาทสมมุติ การบรรยาย การบรรยายประกอบดนตรี/เพลง การอภปิ ราย ฯลฯ
9. นักเรียนกลุ่มท่ีเปน็ ผฟู้ งั ทำหนา้ ทว่ี ิเคราะหข์ ้อคิดจากการฟงั การนำเสนอผลงาน เม่ือจบการนำเสนอในแต่
ละกลมุ่
10. ครูและนักเรียนช่วยกันสรปุ คุณลักษณะ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม พลเมืองดีของประเทศและสงั คมโลก
11. นักเรียนแต่ละกลมุ่ นำผลงานการสมั ภาษณ์พลเมืองดี มาจัดป้ายนิเทศแสดงผลงาน

วิถีชวี ติ พลเมอื งดี

กิจกรรมท่ี วิธีสอนโดยการจัดการเรยี นรูแ้ บบร่วมมือ : เทคนิคเลา่ เรือ่ งรอบวง
2 เวลา 2 ชว่ั โมง
วิธีสอนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม, กระบวนการปฏบิ ตั ิ

1. ครูแบง่ นกั เรียนเปน็ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ปานกลางค่อนข้างเก่ง
ปานกลางค่อนข้างอ่อน และออ่ น

2. นกั เรียนแต่ละกลุม่ ผลัดกนั เล่าเรอ่ื งรอบวงตามหัวขอ้ ท่ีกำหนดในใบงานที่ 2.1 เรือ่ ง แนวทางการ
ปฏิบตั ิตนเป็นพลเมืองดี โดยดำเนนิ การดังน้ี คอื
- สมาชกิ คนที่ 1 เร่ิมเลา่ แสดงความคิดเห็นถึงแนวทางการปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัว
แลว้ สมาชกิ คนที่ 2-3-4 จะเลา่ เพม่ิ เตมิ ตามลำดับ จากน้ันทุกคนจดบนั ทึกประเดน็ สำคญั ลงใน
ใบงานท่ี 2.1 หัวขอ้ ที่ 1

- สมาชิกคนที่ 2 เร่ิมเลา่ แสดงความคิดเหน็ ถึงแนวทางการปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชิกทดี่ ีของโรงเรยี น
แลว้ สมาชกิ คนท่ี 3-4-1 จะเลา่ เพม่ิ เตมิ ตามลำดบั จากน้นั ทุกคนจดบันทกึ ประเด็นสำคญั ลงใน
ใบงานที่ 2.1 หวั ข้อที่ 2

- สมาชิกคนที่ 3 เร่ิมเล่าแสดงความคิดเห็นถงึ แนวทางการปฏิบัติตนเปน็ สมาชกิ ท่ีดขี องชมุ ชน
แล้วสมาชิกคนท่ี 4-1-2 จะเลา่ เพมิ่ เติมตามลำดับ จากนัน้ ทกุ คนจดบันทึกประเด็นสำคัญลงใน
ใบงานที่ 2.1 หัวข้อท่ี 3

- สมาชกิ คนที่ 4 เริ่มเลา่ แสดงความคิดเห็นถงึ แนวทางการปฏบิ ัติตนเป็นสมาชิกทดี่ ีของประเทศชาติ
และสงั คมโลก แล้วสมาชกิ คนท่ี 1-2-3 จะเลา่ เพิ่มเตมิ ตามลำดับ จากนั้นทกุ คนจดบันทึกประเดน็
สำคัญลงในใบงานท่ี 2.1 หัวขอ้ ที่ 4

3. สมาชกิ ทุกคนในกลุ่มตรวจสอบความถกู ตอ้ งสมบูรณข์ องใบงานและชว่ ยกันวเิ คราะหว์ า่ นักเรียน
สามารถนำไปปฏบิ ตั ไิ ด้จรงิ ในเร่อื งใดบา้ ง และปฏิบตั อิ ย่างไร จากนั้นให้แตล่ ะกลุ่มออกมานำเสนอ
ผลงานทห่ี น้าชนั้ เรยี น

4. ครมู อบหมายให้นกั เรียนแต่ละคนปฏิบัติตนตามแนวทางการปฏบิ ัตติ นเปน็ พลเมืองดี แล้วรายงานผล
ต่อครผู สู้ อน ครูชมเชยนกั เรยี นท่ีปฏิบัติไดจ้ ริง

5. ครูมอบหมายให้นักเรียนแต่ละกล่มุ สืบคน้ ข้อมูลขา่ วสารเกย่ี วกบั บคุ คลที่มีการกระทำเปน็ พลเมืองดี
ท่ที ำประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติหรอื สังคมโลก แลว้ นำมาวิเคราะห์ตามหวั ข้อในใบงานท่ี 2.2 เรอื่ ง
วเิ คราะหพ์ ลเมืองดี

6. นักเรยี นแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานต่อชน้ั เรียน แลว้ ครแู ละนักเรียนชว่ ยกนั สรปุ ข้อคดิ ท่ีได้
จากผลงานของพลเมืองดีในระดับชุมชน ประเทศ และสงั คมโลก

7. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนแต่ละกลุ่มวางแผนทำกจิ กรรมท่ีแสดงถงึ การเปน็ พลเมอื งดีของประเทศชาติ
และสังคมโลก และสนบั สนุนใหผ้ อู้ ่นื โดยครอบคลุมประเดน็ ต่อไปน้ี
1) การมสี ่วนรว่ มกจิ กรรมทางการเมืองการปกครอง
2) การมสี ว่ นร่วมกจิ กรรมทางดา้ นเศรษฐกจิ
3) การมีส่วนรว่ มกิจกรรมทางด้านสงั คมและวฒั นธรรม
4) การมสี ่วนร่วมกิจกรรมทางดา้ นการอนุรกั ษส์ ่งิ แวดลอ้ ม

8. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มสง่ แผนการดำเนนิ กจิ กรรมต่อครผู ู้สอนเพ่อื ตรวจสอบความเหมาะสมกอ่ นนำไป
ปฏิบตั ิจริง

9. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มดำเนินกิจกรรมตามแผนทก่ี ำหนด และรายงานผลต่อครูผู้สอนเป็นระยะเวลา
ตามทกี่ ำหนด ครแู ละนักเรียนชว่ ยกันสรปุ ผลของการปฏบิ ัตติ นและสนับสนุนใหผ้ ้อู น่ื ปฏบิ ัตติ น
เปน็ พลเมืองดขี องประเทศชาตแิ ละสงั คมโลก

 นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เร่อื ง พลเมืองดขี องประเทศชาติ
และสงั คมโลก

 ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้

9.1 สอื่ การเรยี นรู้

1. หนังสอื เรียน หนา้ ทพ่ี ลเมืองฯ ม.4-ม.6

2. ตัวอย่างขา่ วเก่ียวกบั พลเมืองดี
3. ใบงานท่ี 1.1 เร่ือง พลเมืองดเี ป็นศรปี ระเทศ
4. ใบงานท่ี 2.1 เร่ือง แนวทางการปฏิบัตติ นเป็นพลเมอื งดี
5. ใบงานท่ี 2.2 เร่ือง วิเคราะหพ์ ลเมืองดี

9.2 แหล่งการเรียนรู้

1. หอ้ งสมุด
2. แหล่งขอ้ มลู สารสนเทศ

www.kullawat.net/civic/1.1.htm
www.oknation.net/blog/print.php?id=37905
www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลงั เรียน ประจำหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3

คำชแี้ จง ให้นกั เรียนเลอื กคำตอบท่ีถกู ต้องท่สี ุดเพียงข้อเดยี ว

1. การทป่ี ระชาชนของประเทศส่วนใหญม่ ีความเสยี สละเพอื่ ประโยชน์สว่ นรวมจดั วา่ มีความสำคญั

ต่อการพัฒนาประเทศดา้ นใด

ก. สงั คม ข.เศรษฐกจิ ค.การเมอื ง ง. การปกครอง

2. โตมรยอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของเพอื่ นในกลมุ่ ที่มีขอ้ เสนอแนะในการทำงานกล่มุ ท่ีแตกตา่ ง

กับความคิดของเขา แสดงถงึ คณุ ลกั ษณะของโตมรในข้อใด

ก. มคี วามกลา้ หาญ

ข. มีคณุ ธรรม จริยธรรม

ค. เคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อนื่

ง. มีเหตผุ ล ใจกว้าง รบั ฟงั ความคดิ เห็นของผอู้ ื่น

3. การพัฒนาสมาชกิ ในครอบครัวให้เปน็ คนดี มคี วามรู้ ปฏบิ ัติตามกฎ กติกาของสังคม มีผลดีในด้านใด มาก

ที่สดุ

ก. สถาบนั ครอบครวั มีความมัน่ คง

ข. ทำใหส้ ามารถอยรู่ ว่ มกับผ้อู ืน่ ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ

ค. เป็นพลเมืองทม่ี คี ุณภาพกอ่ ให้เกดิ ความสงบสุขในสังคม

ง. ครอบครวั ได้รับการยกย่อง มีช่ือเสียงเปน็ ทป่ี รากฏตอ่ คนทว่ั ไป

4. การทนี่ ักเรียนมีสว่ นรว่ มในการเชิญชวนสมาชกิ ในหมู่บ้านไปใชส้ ิทธเิ ลือกตง้ั ทง้ั ในระดบั ทอ้ งถน่ิ

และในระดับประเทศน้นั การกระทำดงั กลา่ วสอดคลอ้ งกับข้อใด

ก. สมาชกิ ท่ีดขี องชุมชนด้านการเมอื ง

ข. คนดีของหมบู่ า้ นท่ีมีความรับผิดชอบ

ค. คนดีของสังคมในด้านสงั คมและวัฒนธรรม

ง. สมาชกิ ที่ดีของประเทศด้านการพฒั นาประชาธิปไตย

5. คณุ ธรรม จริยธรรมของพลเมืองในข้อใด ท่ีสรา้ งความม่นั คงในระบอบประชาธิปไตย

ก. ความรบั ผดิ ชอบ ความเมตตา ความกรุณา

ข. ความขยัน ความอดทน ความเพยี รพยายาม

ค. ความสามคั คี ความซ่อื สัตย์ ความรบั ผิดชอบ

ง. ความละอายเกรงกลัวตอ่ บาป ความขยัน ความอดทน

6. ขอ้ ใดจดั ว่าเป็นพลเมืองดีด้านเศรษฐกิจ

ก. ส่งเสรมิ ผลิตภณั ฑ์ของตำบล รวมกลุ่มกันกำหนดราคาสนิ ค้าการเกษตร

ข. ประกอบอาชีพสุจริต ใช้จา่ ยอย่างประหยัด เสียภาษอี ากรตามกำหนด

ค. เสยี ภาษอี ากรเฉพาะทีต่ รวจสอบได้ กู้ยมื เงินเท่าท่ีจำเป็น

ง. รับราชการดว้ ยความซ่ือสตั ย์ ปฏิบตั ิตามหน้าที่

7. สอื่ มวลชนหลายฉบับลงข่าวการทำงานของรฐั บาล และองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิน่ เปน็ ขา่ วจรงิ ที่

เชอื่ ถือได้ สอดคล้องกบั บทบาทหน้าท่ีพลเมืองในข้อใด

ก. ตดิ ตามข้อมูลข่าวสาร ข. ปฏิบัติตามหนา้ ทอ่ี ย่างปกติ

ค. ใช้สทิ ธเิ สรภี าพอยา่ งเหมาะสม ง. ตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานรฐั

8. การท่นี ักเรียนต้งั ใจศกึ ษาเล่าเรยี นทกุ วชิ าใหไ้ ด้ความรูแ้ ละประสบการณ์มากที่สดุ แสดงว่านกั เรียน

เป็นพลเมอื งดดี ้านใด

ก. สังคมและวฒั นธรรม ข. เศรษฐกิจ

ค. การปกครอง ง. การเมือง

9. หลักธรรมของพระพุทธศาสนา ข้อใดสง่ ผลให้การอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสนั ติสขุ

ก. ความไมย่ ดึ มั่น การละเว้นอบายมขุ

ข. ความขยนั ความอดทน ความเสยี สละ

ค. การประกอบการงานท่ไี ม่เปน็ โทษ ความซื่อสัตย์

ง. ความรกั การให้อภยั ความเสยี สละ พงึ เอาชนะความชั่วดว้ ยความดี

10. หลกั ธรรมของศาสนาคริสตแ์ ละศาสนาอสิ ลามทมี่ ีความสอดคล้องกนั ในเรือ่ งความยตุ ธิ รรมนน้ั

ถ้าสมาชิกในสงั คมนำไปปฏิบตั ิจะเกดิ ผลดใี นด้านใด

ก. การอยู่ร่วมกันอย่างสงบ สังคมไม่วุน่ วาย

ข. สังคมมกี ารพัฒนาอย่างเป็นระบบ

ค. ไม่มีการแบ่งชนชนั้

ง. สงั คมเท่าเทียมกนั

เฉลย

1. ก 2. ง 3. ค 4. ง 5. ค
6. ข 7. ง 8. ก 9. ง 10. ก

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1

หนา้ ท่ีพลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนินชวี ิตในสังคม

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 พลเมอื งดขี องประเทศชาติและสงั คมโลก ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4

เรื่อง พลเมืองดี เวลา 3 ชวั่ โมง

 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

การปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมืองดนี ั้น มีความสำคญั ต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ ซ่ึงประชาชนทุกคนนำ
หลักคณุ ธรรม จรยิ ธรรม มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ

 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

2.1 ตวั ชีว้ ดั

ส 2.1 ม.4-6/3 ปฏบิ ัติตนและมีส่วนสนบั สนนุ ให้ผู้อ่ืน ประพฤตปิ ฏบิ ัติเพ่อื เปน็ พลเมืองดี

ของประเทศชาตแิ ละสังคมโลก

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1. วิเคราะหค์ วามสำคญั และคุณลกั ษณะของพลเมืองดีของประเทศชาตแิ ละสงั คมโลกได้
2. อธบิ ายแนวทางการปฏิบัติตนเปน็ พลเมอื งดีได้
3. วเิ คราะห์การปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดีตามหลกั คุณธรรม จริยธรรมได้

 สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง

คุณลกั ษณะพลเมอื งดีของประเทศชาติ และสงั คมโลก เชน่
- เคารพกฎหมายและกตกิ าสงั คม
- เคารพสทิ ธเิ สรีภาพของตนเองและบุคคลอื่น
- มีเหตผุ ล รับฟังความคิดเหน็ ของผอู้ น่ื
- มีความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง ชมุ ชน ประเทศชาติ และสังคมโลก
- เขา้ ร่วมกิจกรรมทางการเมืองการปกครอง
- มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรมเป็นหลักในการดำเนินชีวติ

3.2 สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน

-

 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

4.6 ความสามารถในการส่ือสาร
4.7 ความสามารถในการคดิ

- ทักษะการคิดวิเคราะห์

- ทักษะการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ

4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ

- กระบวนการปฏบิ ัติ - กระบวนการทำงานกล่มุ

 คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

7. มีวินัย
8. ใฝเ่ รียนรู้
9. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน

 กจิ กรรมการเรียนรู้

(วธิ สี อนโดยเนน้ กระบวนการ : กระบวนการกลุ่ม, กระบวนการสรา้ งความตระหนกั )
 นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง พลเมอื งดีของประเทศชาติ

และสงั คมโลก

ช่ัวโมงที่ 1-
1. ครูให้นกั เรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งการกระทำ2ของตนเองท่ีแสดงวา่ เปน็ พลเมอื งดขี องสงั คม

หรอื ประเทศชาติ และวเิ คราะห์ผลของการปฏบิ ัติตน ตวั อยา่ งการปฏบิ ัตติ น เช่น
- ปฏิบตั ติ ามกฎหมาย กฎ กตกิ า และระเบยี บของชุมชน
- ช่วยชมุ ชนและทอ้ งถนิ่ พฒั นาความสะอาด ปลูกต้นไม้ จัดสวนสาธารณะ ลอกคลอง ซ่อมแซม

ถนนหนทาง
- บริจาคเงินการกุศลเพือ่ ซอ่ มแซมสาธารณสมบัติ ศาสนสถาน
- รณรงค์ใหป้ ระชาชนไปใช้สทิ ธิเลอื กตั้งท้งั ระดบั ท้องถ่ินและระดับประเทศ
- สมัครเปน็ อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภยั ชมรมสาธารณประโยชน์ ชมรมอนุรกั ษส์ ิ่งแวดลอ้ ม
- ร่วมกิจกรรมของชมุ ชนในการเดนิ รณรงค์ปอ้ งกนั และตอ่ ต้านยาเสพติด กำจดั แหล่งเพาะพันธุ์

ยุงลาย
2. ครใู ห้นกั เรยี นช่วยกนั ยกตวั อยา่ งบคุ คลอื่นที่มกี ารกระทำที่แสดงถึงการเป็นพลเมอื งดขี องสังคม

ประเทศชาติ และสังคมโลก และชว่ ยกันวิเคราะห์ผลของการปฏิบัติตนของบคุ คลดังกลา่ ว
3. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4-5 คน ตามความสมคั รใจ แลว้ ใหแ้ ต่ละกลุม่ ชว่ ยกนั ทำใบงานท่ี 1.1

เรื่อง พลเมืองดเี ป็นศรีประเทศ
4. ครสู ุม่ เรยี กนักเรยี นออกมานำเสนอผลงานทีห่ นา้ ชั้นเรียน 3-4 กล่มุ และให้กล่มุ ที่มีผลงานแตกตา่ งกัน

ออกไปนำเสนอผลงานเพ่ิมเตมิ
5. ครูและนักเรียนชว่ ยกนั สรุปความสำคญั ของพลเมืองดใี นด้านสงั คม ด้านเศรษฐกจิ ด้านการเมือง

การปกครอง และคุณลกั ษณะของพลเมอื งดี
6. ครมู อบหมายให้นักเรยี นแต่ละกล่มุ ศึกษาความร้เู รื่อง คุณธรรม จริยธรรมของการเป็นพลเมืองดี

ของประเทศชาติ และสังคมโลก จากหนงั สือเรียน และใหไ้ ปสมั ภาษณบ์ ุคคลทีเ่ ปน็ พลเมอื งดีใน
ทอ้ งถ่นิ ทีน่ กั เรียนมีภมู ิลำเนา และบันทึกลงในแบบบนั ทกึ สรุปการสัมภาษณ์พลเมอื งดี โดยนักเรียน

แตล่ ะกล่มุ วางแผนการตัง้ คำถามสมั ภาษณเ์ พอ่ื ให้ได้ข้อมลู มาสรปุ ลงในแบบบนั ทกึ เชน่
1) ท่านมชี ื่อและนามสกุลวา่ อะไร
2) ภมู ลิ ำเนาของทา่ นอยทู่ ไ่ี หน
3) ทา่ นมอี าชพี อะไร
4) สมาชกิ ในครอบครัวของท่านมใี ครบา้ ง

5) ทา่ นมีสว่ นช่วยสงั คม ชุมชน และประเทศชาตใิ นเร่ืองใดบา้ ง และผลทไ่ี ด้รบั มีประโยชน์
อย่างไร

6) ท่านมคี วามภมู ิใจในการกระทำใดของท่านมากท่ีสุด ทีแ่ สดงถึงการมสี ว่ นชว่ ยในการพฒั นา
ชมุ ชนหรือประเทศทงั้ ในทางตรงและทางออ้ ม

ช่วั โมงท่ี 3

1. ครสู นทนาซักถามนักเรยี นถึงผลงานการไปสมั ภาษณ์พลเมืองดีของแตล่ ะกลุม่ ในประเด็นต่อไปน้ี

- การเลอื กบุคคลทมี่ ีคุณลักษณะของการเปน็ พลเมืองดี

- การวางแผนไปสมั ภาษณ์ (การประสานงานของกลุ่มกับผู้ให้สัมภาษณ)์

- ความรว่ มมอื ของผใู้ หส้ มั ภาษณ์

- วิธกี ารสัมภาษณ์

- วิธกี ารบนั ทกึ สรุปขอ้ มูลการสมั ภาษณ์

- ปญั หา/อุปสรรค และวิธกี ารแก้ไข

2. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานการสัมภาษณพ์ ลเมืองดี ซึ่งอาจนำเสนอในรปู แบบตา่ งๆ

ที่น่าสนใจ เชน่

- การสนทนา - การถามตอบ

- การแสดงบทบาทสมมุติ - การบรรยาย

- การบรรยายประกอบดนตรี/เพลง - การอภปิ ราย ฯลฯ

3. นกั เรียนทีเ่ ป็นผู้ฟังการนำเสนอผลงานจะมหี นา้ ทว่ี เิ คราะหข์ อ้ คดิ ทไ่ี ด้จากการฟัง เม่ือจบการนำเสนอ

ของแต่ละกลุ่ม

4. นักเรียนแต่ละกลุ่มนำผลงาน บนั ทึกสรปุ การสัมภาษณพ์ ลเมอื งดี มาจดั ป้ายนิเทศแสดงผลงานของ

นักเรยี นท่หี นา้ ช้ันเรียน

5. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ คุณลกั ษณะ คณุ ธรรม จริยธรรม พลเมืองดขี องประเทศชาติ และสงั คม

โลก

 การวัดและประเมินผล

วิธีการ เครื่องมอื เกณฑ์
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจแบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนรู้
ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 เรอ่ื ง พลเมอื งดี ที่ 3 เร่อื ง พลเมอื งดีของประเทศชาติ ระดบั คุณภาพ 2 ผ่านเกณฑ์

ของประเทศชาติและสงั คมโลก และสงั คมโลก ระดับคุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

ตรวจใบงานที่ 1.1 ใบงานที่ 1.1

ประเมินบันทึกสรปุ การสมั ภาษณ์ แบบประเมนิ การสมั ภาษณ์พลเมอื งดี

พลเมอื งดี

สังเกตพฤติกรรมการทำงานกล่มุ แบบสังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่

 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 ส่ือการเรียนรู้

1. หนงั สือเรียน หน้าทพี่ ลเมอื งฯ ม.4-ม.6
2. ใบงานท่ี 1.1 เรือ่ ง พลเมืองดีเป็นศรีประเทศ

8.2 แหล่งการเรยี นรู้

1. ห้องสมุด
2. แหล่งข้อมลู สารสนเทศ

www.kullawat.net/civic/1.1.htm
www.oknation.net/blog/print.php?id=37905
www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content

แบบบนั ทกึ สรปุ การสมั ภาษณพ์ ลเมอื งดี

1. ชือ่ นามสกลุ บ้านเลขที่

ถนน ตำบล/แขวง อำเภอ/เขต

จังหวัด เบอรโ์ ทรศัพท์

2. สมาชิกในครอบครัว

3. อาชพี

4. การกระทำทแี่ สดงวา่ เป็นพลเมืองดี

5. ผลของการกระทำในขอ้ 4

6. การกระทำของบุคคลน้สี อดคล้องกับคุณลักษณะพลเมอื งดี คือ

7. บคุ คลนีม้ ีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ของการเป็นพลเมอื งดใี นเรอ่ื ง

8. ขอ้ คิดทีไ่ ด้จากการสมั ภาษณ์ คือ

9. นักเรียนสามารถนำแบบอย่างของบุคคลน้ีไปประยุกต์ปฏบิ ตั ิตน เพ่ือการเป็นพลเมอื งดี คอื

แบบประเมินการสัมภาษณพ์ ลเมืองดี

รายการประเมนิ ดมี าก (4) คำอธบิ ายระดับคุณภาพ/ระดับคะแนน ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)

1. ความ สรปุ ประวตั ิ สรปุ ประวตั ิ สรปุ ประวัติ สรปุ ประวัติ

สมบูรณ์ของ พลเมอื งดที ่ี พลเมืองดที ี่ พลเมอื งดที ี่ พลเมืองดที ่ี

ขอ้ มลู ท่ีไดจ้ าก สัมภาษณ์ได้สาระ สมั ภาษณไ์ ด้สาระ สัมภาษณ์ได้สาระ สัมภาษณ์ได้สาระ

การสัมภาษณ์ ถูกตอ้ งครบถ้วน ถูกตอ้ งเป็นส่วน ถูกตอ้ งเป็น ถกู ต้องเปน็ สว่ น

ทุกประเด็น ใหญ่ บางส่วน น้อย

2. การวเิ คราะห์ เขยี นวเิ คราะห์ เขยี นวเิ คราะห์ เขยี นวิเคราะห์ เขียนวเิ คราะห์

การกระทำที่ การกระทำที่ การกระทำท่ี การกระทำที่ การกระทำที่

แสดงว่าเปน็ แสดงว่าเปน็ แสดงวา่ เป็น แสดงวา่ เป็น แสดงวา่ เป็น

พลเมืองดี พลเมืองดไี ด้ พลเมืองดีได้ พลเมืองดีได้ พลเมืองดไี ด้

ถกู ตอ้ งชัดเจนทกุ ถกู ต้องชดั เจน ถูกต้องชัดเจน ถกู ตอ้ งชัดเจน

ประเด็น เป็นสว่ นใหญ่ เป็นบางสว่ น เป็นส่วนน้อย

3. การเสนอ เสนอข้อคิดได้ เสนอข้อคดิ ได้ เสนอข้อคิดได้ เสนอข้อคิดได้

ข้อคิดจากการ ถกู ตอ้ งเหมาะสม ถูกตอ้ งเหมาะสม ถกู ตอ้ งเหมาะสม ถูกต้องเหมาะสม

สมั ภาษณ์ 4 ขอ้ คิด 3 ขอ้ คิด 2 ขอ้ คิด 1 ข้อคิด

ขึ้นไป

4. การนำ เสนอการนำ เสนอการนำ เสนอการนำ เสนอการนำ

แบบอย่างที่ได้ แบบอย่างไป แบบอย่างไป แบบอย่างไป แบบอย่างไป

จากการ ประยุกตใ์ ช้ในชวี ิต ประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ิต ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิต ประยกุ ต์ใชใ้ นชีวิต

สมั ภาษณไ์ ป ได้ 4 พฤติกรรม ได้ 3 พฤติกรรม ได้ 2 พฤติกรรม ได้ 1 พฤตกิ รรม

ประยุกต์ใช้ใน ขนึ้ ไป

ชีวติ

เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ

ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
13-16 ดีมาก
9-12 ดี
5-8 พอใช้
1-4 ปรบั ปรงุ

ใบงานที่ 1.1 เรอ่ื ง พลเมอื งดเี ปน็ ศรปี ระเทศ

ตอนที่ 1
คำช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นวิเคราะห์ความสำคญั ของพลเมอื งดี

ดา้ นสงั คม ด้านเศรษฐกจิ

ความสาคัญ
ของพลเมอื งดี

ดา้ นการเมืองการปกครอง

ตอนที่ 2
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นแผนผงั ความคิด เร่อื ง คุณลักษณะพลเมืองดี

คุณลักษณะ
พลเมอื งดี

ใบงานท่ี 1.1 เรื่อง พลเมืองดเี ป็นศรปี ระเทศ

ตอนท่ี 1
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรยี นวิเคราะหค์ วามสำคญั ของพลเมอื งดี

ดา้ นสงั คม ดา้ นเศรษฐกิจ

- สงั คมสงบเรียบรอ้ ย เพราะทกุ คนปฏบิ ตั ติ ามกฎ - ฐานะทางเศรษฐกิจของแต่ละครอบครวั มน่ั คง
กตกิ า กฎหมาย เพราะสมาชกิ ในครอบครวั รูจ้ กั ใชจ้ ่ายอยา่ ง
มีเหตผุ ล
- สงั คมสงบ เพราะทกุ คนสามารถแกป้ ัญหาความ
ขดั แยง้ ไดด้ ว้ ยเหตผุ ล - ประชาชนรูจ้ กั ปฏบิ ตั ติ นอย่างพอเพยี ง เพราะ
พลเมืองยอ่ มตอ้ งรูจ้ กั การออม และปฏิบตั ิตาม
- สงั คมไดร้ บั การพฒั นา เพราะพลเมอื งดีจะ นโยบายของประเทศ
เสียสละ
- มีการช่วยเหลือกนั ในการพฒั นาอาชพี เพราะ
และรว่ มมือกนั พฒั นาทอ้ งถิ่นและสงั คม พลเมืองดยี อ่ มมีการช่วยเหลือและบาเพญ็

ประโยชนต์ อ่ ผอู้ นื่

ความสาคญั
ของพลเมอื งดี

ด้านการเมืองการปกครอง

- การดาเนนิ กิจกรรมวิถีประชาธิปไตยเป็นไปอยา่ งมรี ะบบ เพราะประชาชน
จะตระหนกั ถึงความสาคญั และมีส่วนรว่ มในการเมืองการปกครอง

- ประชาชนปฏิบตั ิตามกฎหมาย เพราะทกุ คนจะตอ้ งปฏิบตั ิตนเป็นสมาชกิ ทดี่ ี
ในการเคารพกฎ กติกา และระเบยี บของสงั คม

- ประชาชนปฏิบตั ติ ามสทิ ธิ หนา้ ทขี่ องตน เพราะตอ้ งทาตามบทบญั ญตั ิของ
รฐั ธรรมนูญ

ตอนที่ 2
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นแผนผังความคดิ เรอ่ื ง คุณลกั ษณะพลเมืองดี

เคารพกฎหมาย มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม

รว่ มกจิ กรรมตา่ งๆ ทาง เคารพสทิ ธิ เสรีภาพ
การเมืองการปกครอง ผอู้ นื่

คณุ ลักษณะ
พลเมืองดี

ร่วมมอื ในการแกป้ ัญหาของ มเี หตผุ ล ใจกวา้ ง รบั ฟัง
ชมุ ชน สงั คม ประเทศชาติ ความคดิ เห็นของผอู้ นื่

และสงั คมโลก

รบั ผดิ ชอบตอ่ หนา้ ที่
ครอบครวั โรงเรยี น ชมุ ชน
ประเทศชาติ สงั คมโลก

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลมุ่

ช่อื – ความ การแสดง การรับฟัง การตงั้ ใจ การรว่ ม รวม
สกุล รว่ มมือ ความ ความ ทำงาน ปรบั ปรุง 20
ของ คดิ เห็น คิดเหน็ ผลงานกล่มุ คะแน
ลำดั ผูร้ ับ น
บท่ี การ 43214321432143214321
ประเมิ



เกณฑก์ ารให้คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผูป้ ระเมนิ
............../.................../................
ดีมาก = 4
หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ิธีการมอบหมายใหห้ วั หนา้ กล่มุ
ดี = 3 เป็นผปู้ ระเมิน หรือใหต้ วั แทนกลมุ่ ผลดั กนั ประเมนิ
หรือใหม้ ีการประเมนิ โดยเพอ่ื น โดยตวั นกั เรยี นเอง
พอใช้ = 2 ตามความเหมาะสมกไ็ ด้

ปรบั ปรุง = 1

เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพ

ช่ ว ง ร ะ ดั บ

คะแนน คุณภาพ

17 – 20 ดีมาก
13 – 16
9 – 12 ดี

5 – 8 พอใช้

ปรบั ปรุง

แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 2

หน้าที่พลเมือง วฒั นธรรม และการดำเนินชีวติ ในสังคม

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 พลเมอื งดีของประเทศชาติและสังคมโลก ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4

เรื่อง วถิ ีชวี ติ พลเมืองดี เวลา 2 ชัว่ โมง

 สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด

พลเมืองของประเทศชาตแิ ละสังคมโลกย่อมต้องมีส่วนร่วมและสนับสนุนผูอ้ ่ืนให้มีส่วนร่วมในการปอ้ งกนั
แก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครอง และเข้าร่วมกิจกรรมทางการเมืองการปกครอง ซึ่งจะ
ส่งผลดตี ่อการอยูร่ ว่ มกนั อยา่ งปกติสขุ

 ตัวชีว้ ดั /จุดประสงค์การเรียนรู้

2.1 ตัวชี้วัด

ส 2.1 ม.4-6/3 ปฏิบัติตนและมีส่วนสนับสนุนให้ผู้อื่น ประพฤติปฏิบัติเพื่อเป็นพลเมืองดี

ของประเทศชาติและสังคมโลก

2.2 จุดประสงค์การเรียนรู้

1. วเิ คราะหแ์ นวทางการพัฒนาตนเป็นพลเมอื งดีของประเทศชาติและสังคมโลกได้
2. วเิ คราะห์บทบาทหน้าท่ีของพลเมืองดขี องประเทศชาติและสงั คมโลกได้

 สาระการเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

คณุ ลักษณะพลเมอื งดขี องประเทศชาติ และสังคมโลก เช่น
- เขา้ ร่วมกิจกรรมทางการเมืองการปกครอง
- มีส่วนรว่ มในการป้องกัน แกไ้ ขปัญหาทางเศรษฐกิจ สงั คม การเมืองการปกครอง

สง่ิ แวดลอ้ ม
- มคี ุณธรรม จริยธรรมเปน็ หลกั ในการดำเนินชวี ติ

3.2 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถน่ิ

-

 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

- ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์

- ทักษะการคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ

4.3 ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

- กระบวนการปฏิบตั ิ - กระบวนการทำงานกลุ่ม

 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. มวี นิ ัย

2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

 กิจกรรมการเรยี นรู้

(วิธสี อนโดยการจัดการเรียนรูแ้ บบรว่ มมือ : เทคนิคเลา่ เรื่องรอบวง วิธสี อนโดยเน้นกระบวนการ :
กระบวนการกล่มุ , กระบวนการปฏบิ ัติ)

ช่ัวโมงท่ี 1

1. ครูแบง่ นกั เรียนเปน็ กล่มุ กลุ่มละ 4 คน คละกนั ตามความสามารถ คือ เกง่ ปานกลางคอ่ นขา้ งเกง่
ปานกลางคอ่ นขา้ งอ่อน และออ่ น (ครูแบง่ นกั เรียนไว้ลว่ งหนา้ )

2. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ ผลดั กันเล่าเร่อื งรอบวงในหัวข้อท่กี ำหนด เรยี งตามประเดน็ ในใบงานท่ี 2.1
เร่ือง แนวทางการปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมอื งดี ดงั นี้
1) แนวทางการปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชิกที่ดขี องครอบครวั
2) แนวทางการปฏิบตั ติ นเปน็ สมาชิกทด่ี ขี องโรงเรียน
3) แนวทางการปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชกิ ท่ีดีของชมุ ชน
4) แนวทางการปฏิบตั ิตนเป็นสมาชกิ ทีด่ ีของประเทศชาตแิ ละสังคมโลก

3. การดำเนินการเลา่ เรอ่ื งจะเริม่ ต้น ดงั นี้
- สมาชกิ คนท่ี 1 เริ่มเลา่ แสดงความคิดเห็นถึงแนวทางการปฏิบตั ติ นเปน็ สมาชกิ ท่ีดีของครอบครัว
แลว้ สมาชกิ คนที่ 2-3-4 จะเล่าเพิ่มเติมตามลำดบั จากน้ันทกุ คนจดบันทกึ ประเดน็ สำคัญลงใน
ใบงานท่ี 2.1 หวั ข้อที่ 1
- สมาชกิ คนที่ 2 เรม่ิ เล่าแสดงความคิดเห็นถึงแนวทางการปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกทดี่ ขี องโรงเรียน
แล้วสมาชิกคนที่ 3-4-1 จะเล่าเพ่มิ เติมตามลำดบั จากนัน้ ทุกคนจดบันทึกประเดน็ สำคัญลงใน
ใบงานท่ี 2.1 หัวขอ้ ที่ 2
- สมาชกิ คนที่ 3 เริ่มเล่าแสดงความคิดเหน็ ถึงแนวทางการปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชิกท่ดี ีของชมุ ชน
แลว้ สมาชิกคนท่ี 4-1-2 จะเล่าเพม่ิ เตมิ ตามลำดับ จากนัน้ ทุกคนจดบันทกึ ประเด็นสำคัญลงใน
ใบงานท่ี 2.1 หัวขอ้ ที่ 3
- สมาชิกคนที่ 4 เร่มิ เลา่ แสดงความคิดเห็นถึงแนวทางการปฏิบัตติ นเป็นสมาชิกทดี่ ีของประเทศชาติ
และสงั คมโลก แลว้ สมาชกิ คนท่ี 1-2-3 จะเล่าเพ่มิ เตมิ ตามลำดับ จากน้ันทุกคนจดบันทึกประเดน็
สำคญั ลงในใบงานที่ 2.1 หวั ข้อที่ 4

4. เม่ือสมาชกิ ทุกคนแสดงความคดิ เห็นจนครบทุกประเด็นแล้ว ให้ชว่ ยกันตรวจสอบความถกู ต้อง
และเพ่ิมเติมตามความเหมาะสม จากนนั้ ให้ชว่ ยกันแสดงความคดิ เห็นว่า แนวทางการปฏิบัติตนเปน็
สมาชกิ ที่ดีของครอบครวั โรงเรียน ชมุ ชน ประเทศชาติและสังคมโลกน้นั นกั เรยี นสามารถนำไป
ปฏิบตั ไิ ด้จริงในเรื่องใดไดบ้ ้าง และปฏิบัตอิ ย่างไร

5. ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานต่อชัน้ เรียน หรือครูอาจส่มุ ตัวอยา่ งนำเสนอ
ผลงานตอ่ ช้นั เรียน 2-3 กลุม่ แลว้ ใหก้ ลุ่มทีม่ ีผลงานแตกตา่ งกันได้ออกไปนำเสนอเพม่ิ เตมิ

6. ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกันสรปุ แนวทางการปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชกิ ท่ีดขี องครอบครัว โรงเรยี น ชุมชน

ประเทศชาติ และสงั คมโลก และมอบหมายใหน้ ักเรียนแต่ละคนได้ปฏบิ ัติตนตามแนวทางการปฏบิ ัตติ น
เปน็ พลเมืองดี แลว้ บันทึกสงิ่ ท่ีนักเรยี นปฏิบตั ไิ ด้จรงิ และรายงานผลต่อครู ครูชมเชยนกั เรียนท่ีปฏบิ ตั ิตนเปน็
แบบอยา่ งของพลเมอื งดี
7. ครมู อบหมายให้นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสบื ค้นข้อมูลข่าวสารจากส่ือและแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ เกี่ยวกับ
พลเมอื งดที ่ีทำประโยชน์ต่อประเทศชาติและสังคมโลก ในดา้ นการเมอื งการปกครอง เศรษฐกิจ สังคม
และวฒั นธรรม และนำมาอภปิ รายในชว่ั โมงตอ่ ไป

ช่วั โมงที่ 2

1. ครนู ำชอื่ บคุ คลที่มีชื่อเสียงในดา้ นตา่ งๆ มาให้นักเรียนเล่นเกมแข่งขันทายปญั หาว่า เขาคอื ใคร

มคี วามสำคญั อยา่ งไร เปน็ พลเมืองดีของประเทศหรือสงั คมโลกในด้านใด โดยใหน้ กั เรียนรวมกลุม่

กนั เปน็ 5-6 กลุ่ม ตามความเหมาะสม ตวั อย่างชอ่ื บคุ คล เช่น

- นายธานินทร์ กรัยวิเชียร

- นายสญั ญา ธรรมศักดิ์

- นายสชุ พี ปุญญานุภาพ

- นายอนันต์ ปญั ยารชุณ

- ม.ล.ป่นิ มาลากลุ

- นายสรุ ินทร์ พศิ สุวรรณ

- นายกรณ์ จาติกวณชิ

- นายศุภชัย พานชิ ภักด์ิ

ฯลฯ

2. ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ที่หาข้อมลู ข่าวสารเกี่ยวกบั บคุ คลทีม่ ีการกระทำเปน็ พลเมอื งดี ท่ที ำประโยชน์

ตอ่ สงั คมและประเทศชาติหรอื สงั คมโลก มาวิเคราะหต์ ามหวั ขอ้ ในใบงานท่ี 2.2 เรอ่ื ง วิเคราะหพ์ ลเมืองดี

ดงั นี้

1) บคุ คลท่ีแสดงว่าเป็นพลเมอื งดี คอื ใคร

2) เขามกี ารกระทำทีแ่ สดงว่าเปน็ พลเมอื งดี อยา่ งไร

3) จากการปฏบิ ตั ิตนในข้อ 2 สอดคล้องกบั คุณลกั ษณะของพลเมืองดอี ยา่ งไร จงอธิบาย

4) นกั เรยี นสามารถนำแบบอยา่ งของบคุ คลดังกลา่ วไปประยุกต์ปฏิบัตไิ ด้อยา่ งไร

3. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ออกมานำเสนอผลงานต่อช้ันเรียน โดยใหก้ ลุ่มอ่ืนท่เี ป็นผ้ฟู ังไดใ้ ห้ข้อคิดหรือ

ข้อเสนอแนะเพ่มิ เตมิ

4. ครแู ละนักเรียนช่วยกนั สรุปข้อคดิ ท่ีไดร้ ับจากการนำเสนอผลงานของพลเมืองดใี นระดบั ชมุ ชน

ประเทศ และสงั คมโลก

5. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกล่มุ วางแผนรว่ มกนั ทำกิจกรรมท่ีแสดงถึงการเป็นพลเมืองดี

ของประเทศชาติและสังคมโลกโดยให้ครอบคลุมประเด็นต่อไปน้ี

1) การมีสว่ นร่วมกจิ กรรมทางการเมอื งการปกครอง

2) การมสี ว่ นรว่ มกจิ กรรมทางดา้ นเศรษฐกจิ
3) การมีส่วนร่วมกิจกรรมทางด้านสงั คมและวัฒนธรรม
4) การมสี ่วนร่วมกิจกรรมทางด้านการอนุรกั ษส์ ิ่งแวดล้อม
6. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มสง่ แผนการดำเนินกจิ กรรมต่อครผู สู้ อน เพื่อตรวจสอบความเหมาะสมก่อนนำไป
ปฏิบตั ิจรงิ
7. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มดำเนินกจิ กรรมตามแผนงานทกี่ ำหนดในเวลาที่ตกลงกนั ระหวา่ งครผู สู้ อนกบั
นกั เรียน ครจู ะคอยตดิ ตามความเคลื่อนไหวของการดำเนนิ กิจกรรมของนกั เรียนแต่ละกลมุ่ เปน็ ระยะๆ
8. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ รายงานผลการดำเนินงานตามกิจกรรมตามหวั ขอ้ ทีก่ ำหนด
9. ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกนั สรปุ ผลของการปฏิบัตติ นและสนับสนนุ ให้ผ้อู นื่ ปฏบิ ัติตนเปน็ พลเมอื งดี
ของประเทศชาติ และสงั คมโลก
 นกั เรยี นทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอื่ ง พลเมืองดขี องประเทศชาตแิ ละสังคมโลก

 การวัดและประเมินผล

วิธีการ เคร่ืองมือ เกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 2.1
ตรวจใบงานที่ 2.2 ใบงานที่ 2.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ประเมินรายงานการดำเนินกจิ กรรม
การปฏิบตั ติ นเป็นพลเมอื งดี ใบงานท่ี 2.2 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่
ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ย แบบประเมินรายงานการดำเนนิ กจิ กรรม ระดับคณุ ภาพ 2 ผ่านเกณฑ์
การเรยี นรูท้ ่ี 3 เรื่อง พลเมอื งดีของ
ประเทศชาติและสังคมโลก การปฏบิ ตั ติ นเปน็ พลเมอื งดี

แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

แบบทดสอบหลังเรยี น หนว่ ยการเรียนรู้ รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ท่ี 3 เรอื่ ง พลเมืองดีของประเทศชาตแิ ละ

สงั คมโลก

 ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สอ่ื การเรยี นรู้

1. หนังสอื เรียน หนา้ ทพ่ี ลเมืองฯ ม.4-ม.6
2. ตวั อยา่ งข่าวเก่ียวกบั พลเมืองดี
3. ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง แนวทางการปฏิบตั ิตนเปน็ พลเมืองดี
4. ใบงานท่ี 2.2 เร่อื ง วิเคราะห์พลเมอื งดี

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้

1. หอ้ งสมดุ
2. แหล่งข้อมลู สารสนเทศ

www.kullawat.net/civic/1.1.htm
www.oknation.net/blog/print.php?id=37905
www.trueplookpanya.com/true/knowledge_detail.php?mul_content

ตัวอย่างขา่ วเกย่ี วกบั พลเมืองดี

เจาะชีวติ ฉายาเภสชั กรยปิ ซี “ดร.กฤษณา ไกรสนิ ธ์ุ บุคคลแห่งปเี อเชยี ” นักสู้เอดส์

ชอ่ื ยาต้านไวรัสเอดส์อยา่ งซีโดวูดนี หรอื เรียกส้ันๆ วา่ เอแซดที และ จพี ีโอเวยี ร์ เป็นท่ีรู้จักในสังคมไทย มา
ระยะหนึ่งแล้ว ซงึ่ ยาน้ีคดิ ค้นและผลิตโดยเภสัชกรไทย ขายโดยองคก์ ารเภสัชกรรมของไทย ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการ
ซื้อยาจากต่างชาติได้ถึง 26 เท่า โดยบุคคลที่อยู่เบ้ืองหลังความสำเร็จนี้ เมื่อหลายปีก่อนได้เดินทางไปถ่ายทอดการ
ผลิตยาในหลายประเทศในทวีปแอฟริกา จนไดร้ บั ฉายา “เภสัชกรยิปซ”ี

เจา้ ของฉายา “ภสชั กรยิปซี” คนทีว่ า่ นี้ ก็คอื “ดร.กฤษณา ไกรสนิ ธุ์” ซ่งึ ลา่ สดุ ได้รับรางวัล “บุคคลแห่ง
ปีของเอเชีย ประจำปี ค.ศ. 2008” จากนิตยสารรีดเดอร์ส ไดเจสท์ ในฐานะที่เป็นบุคคลที่ทุ่มเททำงานอย่างมิ
รู้จักเหนด็ เหน่อื ย เพอื่ ผลักดันให้ผ้ปู ่วยยากไร้ท่ัวโลกมีโอกาสได้ใช้ยารักษาโรคเอดส์

เปิดฉากบทสนทนากับทมี วิถชี วี ิต ถึงเหตผุ ลการลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา
องค์การเภสัชกรรม ของ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เมื่อ พ.ศ. 2545 เจ้าตัวบอกว่า ก็เพื่อไปช่วยคนท่ี
แอฟรกิ าตามสญั ญา เพราะประเทศไทยไปประกาศในท่ปี ระชุมองค์การอนามยั โลก เมื่อ พ.ศ. 2545 วา่ เราจะไป
ชว่ ยเขา แต่นกั การเมอื งซกี รฐั บาลท่ีเก่ียวข้องตอนนน้ั ประกาศเสร็จแลว้ ก็แล้วไป กลายเปน็ สัญญาปากเปล่า ทีนี้
คนแอฟริกันทรี่ ู้จักกันเขาก็ถามวา่ เม่ือไหร่จะไปสกั ที กร็ ้สู ึกอายแทนเมอื งไทย ก็เลยลาออกดีกวา่ แลว้ ก็ไปช่วยเขา
เอง

“ในประเทศไทยผ้ปู ่วยโรคเอดส์เยอะแยะ แตเ่ รากช็ ่วยแลว้ ทำยาแลว้ และคนไทยไดใ้ ชก้ นั หมดแล้ว เรา
ก็เลยไป และคิดว่าตัวเองมีความหมายกับทีอ่ ่ืนมากกวา่ เขาต้องการเรามากกวา่ ไปเพราะว่าอยากไป และชอบ
ทวปี นั้นมาตัง้ แตเ่ รยี นหนังสือทีอ่ งั กฤษแล้ว มเี พอ่ื นชาวแอฟรกิ นั เยอะ รมู เมท (เพ่อื นร่วมหอ้ ง) เปน็ ทง้ั ชาวไนจเี รีย
และอาหรับ ก็รสู้ กึ มคี วามผกู พันกับพวกเขา”

ดร.กฤษณาบอกตอ่ ไปว่า ท่ไี ปกเ็ ป็นการไปตามสญั ญา ไปรักษาสัญญา เพราะว่าเป็นคนเขียนโครงการน้ี
ขน้ึ มากับมอื แลว้ เสนอขึน้ ไปตามลำดบั งาน กม็ ีการไปประกาศในทป่ี ระชมุ องค์การอนามยั โลก ทุกคนก็ช่ืนชมตบ
มือกันใหญ่ แต่เอาเขา้ จริงคนพูดก็พูดไป แตต่ นเปน็ คนทำ จงึ รูส้ ึกว่าตอ้ งรับผิดชอบ และก็เต็มใจทจ่ี ะไป ส่วนงาน
ที่องคก์ ารเภสัชกรรมนน้ั ไมห่ ว่ ง เพราะมีคนพร้อมท่ีจะสานต่อไดอ้ ยา่ งดี โดยเฉพาะเรื่องยาต้านไวรัสเอดส์

“ไมไ่ ดย้ ดึ ตดิ กบั ตำแหนง่ กบั เงนิ เดอื น โชคดที ไี่ ม่ไดย้ ากจนเท่าไหร่ กส็ บาย จึงใชเ้ งินตัวเองไปได้ อีกอยา่ ง
มันอยู่ที่ใจ ถา้ คดิ ว่าพอ เรากไ็ มจ่ ำเป็นจะต้องใช้อะไรมากมาย”

อดตี ผ้อู ำนวยการสถาบันวจิ ัยและพัฒนา องค์การเภสชั กรรม บอกอกี วา่ ที่เลือกประเทศในทวีปแอฟริกา
เพราะเขายังมีปัญหาเรื่องผูน้ ำ ประชาชนยากจน และประเทศมหาอำนาจเอาทรพั ยากรไปหมด ทำใหด้ ้อยโอกาส
ไม่มีจะกิน มีโรคภัยไขเ้ จ็บต่าง ๆ ทั้งเอดส์ มาลาเรยี วณั โรค

ในโลกนมี้ ีคนตดิ เช้อื เอดสอ์ ยู่ 38 ลา้ นคน อยู่ทีท่ วปี นี้ 30 ลา้ นคน คิดเป็นรอ้ ยละ 90 และแตล่ ะปีคนตาย
เพราะมาลาเรยี 2 ล้านคน ตายมากกวา่ โรคเอดส์ 2 เทา่ ก็มองวา่ ถา้ ไปอยู่ตรงน้นั น่าจะชว่ ยเขาได้มาก

ประเทศแรกในดินแดนกาฬทวีปที่ ดร.กฤษณาได้เดินทางไปคือ คองโก ประเทศที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วย
ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเพชร แทนทาลัม น้ำมัน ฯลฯ แต่ประชากรยากจนทีส่ ุด เพราะถูกประเทศมหาอำนาจ
เอารดั เอาเปรยี บ และมกี ารสู้รบในประเทศตลอดเวลา

สิง่ ท่ีไปทำคอื ไปสร้างโรงงานยา ไปวาดแผนผงั โรงงานยา และสอนผลิตยา จนเขาผลิตยาได้ สูตรยาท่ีใช้
ในทุกประเทศทวีปแอฟริกา คือสูตรเดียวกับในเมืองไทย แต่ต่างกันก็ที่วัตถุดิบ ซึ่ง ดร.กฤษณายังได้ไปลองที่
ประเทศจนี อีกด้วย ซง่ึ ราคาถกู กวา่ ของประเทศไทยมากทีเดยี ว

ดร.กฤษณาบอกว่า ไปช่วยคราวนั้น ค่าเดินทาง ค่าที่พัก และอื่นๆ ใช้ทุนส่วนตัวทั้งหมด เริ่มต้นที่เจ้าของ
โรงงานยาในคองโกตดิ ตอ่ มา เพราะอา่ นเร่อื งราวของตนและยาต้านไวรัสเอดส์ในนิตยสารภาษาเยอรมนั และเห็นว่า
ยานี้ดี ก็ติดต่อตนขอให้ไปพบท่ีเมืองเจนวี า สวิตเซอร์แลนด์ โดยเจ้าของโรงงานบอกว่าจะช่วยพนักงานของเขาฟรี
และช่วยคนพื้นเมือง ซึ่งก็เห็นว่าเขาจะช่วยฟรี ก็เลยไป ตอนแรกก็ไม่มีใครช่วยเหลือ แต่พอผ่านไปหนึ่งปี รัฐบาล
เยอรมันก็เขา้ มาช่วยเหลือโรงงานในการซ้ือเครอื่ งจักรต่าง ๆ

“อย่ทู ่ีคองโก 3 ปี ตรงน้ันรบกนั ตลอด เรอ่ื งความปลอดภยั ไมม่ ี บางทีเข้าประเทศน้นั ไปทำงานแตต่ กเย็น
มานอนอีกประเทศหนึ่ง และเรากไ็ มร่ ูว้ ่าใครจะยงิ เราเมื่อไหร่ ช่วงแรกมีคนคุ้มกนั ตลอด แตต่ อนหลงั ไม่มี เพราะ
ถ้ามีมากจะยิง่ กลายเปน็ เปา้ เรียกว่าตนื่ เตน้ จนไม่ตน่ื เตน้ แล้ว และเคยถกู จตี้ อนลงจากรถท่ีประเทศไนจีเรยี ซึง่ ไป
ทำโครงการให้สหภาพยโุ รป (อีย)ู พอตอนหลังก็เฉยๆ แล้ว คนทจี่ ้ีเขาตอ้ งการเงนิ เทา่ นน้ั ไม่ไดต้ ้องการชีวิต แต่
ท่ปี ระเทศอนื่ อาจจะตอ้ งการชวี ิตกไ็ ด้ ไม่รู้นะ เพราะวา่ เราเป็นคนต่างชาติเข้าไปที่น่ัน ท่นี นั่ ไม่มนี กั ท่องเท่ียวเลย
เพราะมันอันตรายมาก”

ช่วงเวลาประมาณ 5 ปี ดร.กฤษณาเดินทางไปทั่วทวีปแอฟริกา เพื่อช่วยการสร้างโรงงานผลิตยา สอน
วิธีการผลติ ยาต้านไวรัสเอดส์ จนสามารถผลิตยา “แอฟรเิ วยี ร์” ในคองโกไดส้ ำเรจ็ และยารกั ษามาลาเรีย “ไทย
แทนซูเนท” ยาเหน็บทวาร “อาร์เตซูเนท” เพื่อรักษาโรคมาลาเรีย ในเด็ก ในประเทศแทนซาเนีย รวมถึงฟื้นฟู
โรงงานยาในประเทศมาลซี ึ่งใกลเ้ ปิดกิจการได้สำเร็จ ผลติ ยารกั ษามาลาเรยี ระดับอตุ สาหกรรมได้ ซ่งึ ทำให้กวา่ 10
ประเทศในแอฟริกา อาทิ อริ ิคเทอร์เรีย เบนิน รวนั ดา บุรนุ ดี ไลบเี รีย ได้รับอานสิ งส์มากมาย

เหลา่ น้เี กดิ จากพนั ธสญั ญาทเ่ี คยมกี ารประกาศไว้ในนามประเทศไทย บวกกบั แรงบนั ดาลใจท่สี มัยเรียนท่ี
องั กฤษ ดร.กฤษณามีเพ่อื นร่วมหอ้ งเป็นชาวแอฟริกนั และทวปี น้ีก็ธรรมชาติสวยงาม ทุกอย่างจึงลงตวั

ตัดกลับมาที่ประวัติส่วนตัวของเภสัชกรไทยผู้นี้ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เป็นชาว อ.เกาะสมุย
จ.สุราษฎร์ธานี ปัจจุบันอายุ 55 ปี เรียนจบคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ไม่ได้จบแพทย์ก็ด้วย
เหตุผลท่ีว่าคะแนนไม่ถงึ คณะแพทยศาสตร์ ขาดไปเพียง 1 คะแนนเทา่ น้ัน

ส่วนปริญญาโท จบสาขาเภสัชวิเคราะห์ มหาวิทยาลัยสตราห์ ไคลด์ และปริญญาเอก สาขาเภสัชเคมี
มหาวทิ ยาลัยบาธ ประเทศอังกฤษ จากน้นั รบั ตำแหนง่ หวั หน้าภาควิชาเภสชั เคมี ทมี่ หาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร์ 2 ปี
กอ่ นทจ่ี ะลาออกเพอ่ื ทำงานที่องคก์ ารเภสัชกรรม เม่ือปี พ.ศ. 2532 และได้รับเลือกเปน็ ผูอ้ ำนวยการสถาบันวิจัยและ
พัฒนา ด้วยอายุเพียง 37 ปี

“จริงๆ แล้วชอบศิลปะมาก อยากเป็นวาทยกร เพราะชอบดนตรี ชอบศิลปะ แต่งกลอน เขียนหนังสอื
แต่พ่อแมเ่ ป็นหมอเปน็ พยาบาล หากจะเลือกเรียนศิลปะก็รู้สกึ ยงั ไง ๆ อยู่ ใจจรงิ อยากเปน็ คนคุมวงดนตรีมากกวา่
เป็นเภสัชกร เพราะมันสนกุ ดี ไดค้ ุมจังหวะ แตต่ อนนีเ้ ราก็เหมอื นกับคอนดักเตอรน์ ะ่ แหละ เพราะเราไปคมุ ให้เขา
สรา้ งโรงงาน ให้เขาผลติ ยา ก็พยายามปลอบใจตัวเอง เมอื่ เราไม่ไดเ้ ป็นในสง่ิ ท่ีเราอยากจะเป็น เราก็ตอ้ งชอบส่ิงที่
เรามีอยู่ ตอ้ งทำใหด้ ีที่สุด”

ดร. กฤษณาบอกอีกว่า เมอื่ มีเวลาก็จะฟังดนตรีของทุกประเทศ อยา่ งเอธิโอเปีย มาเลเซยี อารบิก เพลง
ไทย ฟังหมด นอกจากนสี้ มยั อยูโ่ รงเรยี นราชนิ กี ไ็ ด้เข้าร่วมวงดนตรไี ทย เล่นระนาดเอกอยู่ถงึ 6 ปี ซึ่งทำให้ชอบ
ดนตรี เมอ่ื ไม่ได้ประกอบอาชีพทางดา้ นนี้แลว้ กไ็ ม่ได้เสียใจอะไร ทำอาชพี ไหน กต็ อ้ งทำให้ดีทส่ี ุด

นอกจากแอฟริกา ดร.กฤษณายังเป็นศาสตราจารย์พิเศษที่มหาวิทยาลัยฮาบิน ประเทศจีน สอนวิชา
สร้างโรงงาน สอนวิชาเครื่องมือ เพราะประเทศจีนกำลังจะสร้างโรงงานสมุนไพรเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งก็ได้ไปช่วย
เพิม่ เติมหลายอย่างใหท้ นี่ นั่ โดยส่งิ ท่ไี ปช่วยนอกประเทศก็คือสิ่งทีเ่ มืองไทยทำเสร็จหมดแล้ว

“อย่าเพิ่งท้อแท้ ท้อถอย ไม่ว่ากับเรื่องอะไร ขอให้อดทน เรื่อง การเมืองก็อย่าไปอินกับสถานการณ์
การเมืองมากนัก อย่าเอามาเป็นทุกข์ เพราะเราทำอะไรไม่ได้ ทำหน้าที่แค่เป็นประชาชนที่ดีก็พอแล้ว”
เป็นคำท้งิ ท้ายฝากถงึ เพอ่ื นคนไทย ก่อนจะปิดฉากบทสนทนา ของ “ดร.กฤษณา ไกรสนิ ธุ์”

“เภสัชกรยปิ ซี” เลือดไทยแท้

รางวัลแห่งความภูมิใจ
กว่า 30 ปแี ห่งการเรียนรู้ การทำงาน รวมถึงการอุทิศชวี ติ ใหก้ ับสงั คม ทำให้ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ได้รับ

รางวัลมากมาย อาทิ รางวลั นักวิทยาศาสตร์โลก (Global Scientist Award) ประจำปี พ.ศ. 2547 จาก Letten
Foundation ประเทศนอร์เวย์, ผู้หญิงคนแรกที่ได้รับปริญญาเอกกิตติมศักดิ์ สาขาวิทยาศาสตร์ จาก Mauny
Holly Oke College, USA รวมถึงปรญิ ญากิตติมศักดอ์ิ กี ไมร่ กู้ ่ีใบต่อก่ีใบ

เรื่องราวของ ดร.กฤษณา ได้รับความสนใจจากสื่อต่างประเทศ จนถูกนำไปสรา้ งเป็นภาพยนตร์สารคดี
ความยาว 45 นาที เรื่อง A Right to Live-AIDS medication for Millions (2006) ได้รับรางวัลจากเทศกาล
ภาพยนตรน์ านาชาตเิ มอื งคานส์ และยังถกู นำไปสร้างเป็นละครบรอดเวย์ ช่ือ Cocktail

แต่เม่อื ถา้ ถามวา่ รางวลั ไหน ทีภ่ ูมิใจทีส่ ดุ ดร.กฤษณา บอกวา่ คือรางวลั ศษิ ยเ์ ก่าดเี ดน่ ของโรงเรียนราชินี
ซึ่งที่ภูมิใจมาก เพราะโรงเรียนสอนตนเองมาดี สอนให้เข้ากับคนได้ สอนให้มีมนุษยสัมพันธก์ บั คน ไม่ได้สอนแต่
วิชาความรู้ให้ ซึ่งคนเราต้องมีหลายๆ ด้านประกอบกัน ไม่ใช่ว่าเก่งแต่เอาตัวไม่รอด ต้องมีน้ำใจ นี่คือสิง่ ที่ภูมิใจ
ที่สุดไม่วา่ ใครจะถาม โดยท่ีรางวลั นีเ้ ป็น เขม็ อกั ษร สผ.ประดับเพชร

“อายุกว่า 50 ปีแล้ว เพิ่งจะมาได้รับ ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่คนเราความภูมิใจต่างกัน เราเหมือนเป็น
โมเดล เป็นไอดอลให้เด็กๆ ส่วนตัวมีความภูมิใจในโรงเรียนแห่งนี้เสมอ และความคิดดีๆ ยังได้รับการปลูกฝัง
อยา่ งดีจากคนในครอบครวั ด้วย โดยเฉพาะอทิ ธิพลความคิดจาก คณุ ยายเยอ้ื น วิชัยดษิ ฐ์ ซง่ึ เป็นแมช่ ี ทีส่ อนให้ทำ
ดีทกุ คร้ังที่มโี อกาส” ดร.กฤษณา กล่าว

พร้อมทั้งบอกว่า เคยได้รางวัลเป็นเงินเปน็ ทองเยอะๆ แต่ก็เฉยๆ ก็บริจาคไป และไปที่แอฟริกา หรือไป
ทำงานที่ไหน ก็จะไปตั้ง มูลนิธิกฤษณา ไกรสินธุ์ แล้วก็เอาเงินจากยอดขายยามาเข้ามูลนิธิฯ เพื่อจะช่วยเด็ก
กำพร้าทพ่ี อ่ แมต่ ายเพราะเอดส์ และเดก็ ก็ตดิ เอดส์ด้วย ซง่ึ เด็กพวกนีน้ ่าสงสารมาก

ทมี่ า : http://www.nathoncity.com/paper/1155 สบื คน้ เมือ่ วนั ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

สบิ โทอุดม เพ็ชรธนู จากนักรบมาเป็นนกั อนุรักษ์

“รถถกู ซุ่มยงิ ผมบาดเจ็บพกิ าร ชวี ิตทหารเลยหยุดเท่านั้น”
นาทีชีวิตพลกิ ผนั ยังอย่ใู นความทรงจำของสบิ โทอุดม เพ็ชรธนู ประธานคณะทำงานกล่มุ อนุรักษ์คลองแห
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
เขาเกิด พ.ศ.2502 ริมสายนำ้ คลองแห ไมไ่ กลจากวดั และโคกนกค่มุ สถานที่ศกั ด์ิสิทธต์ิ ้นตำนานคลองแห
อุดมไปจบมัธยมต้นที่จังหวัดสตูล หลังรับการเกณฑ์ทหารแล้วต่อเข้าเป็นนักเรียนนายสิบปี 2523 จึงเข้ารับ
ราชการทหารยศสบิ ตรี สงั กัดกองทพั แหง่ ชาตอิ ยแู่ ค่ 3 เดือน
“ชุดของเราไดร้ บั มอบหมายภารกจิ ดูแลพ้ืนทีท่ วั่ ภาคใต้ ทดี่ ังหนอ่ ยกส็ มรภูมิค่าย 508 ท่ชี อ่ งชา้ ง ปราบท่ี
นน่ั เสรจ็ ลงมาทางเบตง วนั นั้นรถถกู ซุ่มยงิ รถหกั หลบตกเขาพลิกควำ่ ผมแขนหักแลว้ แต่ยงั มีสตอิ ยู่ ยังเห็นทางไฟ
(ปืน)ฝ่ายตรงขา้ ม จึงคว้าปืนใครได้ไม่รู้พยายามยงิ ตอบ พอพลิกตัวจะยิงเทา่ น้ันรู้สึกว่าถูกยิงจึ๊กเข้าไปในโคนขา
ผมค่อยหมดแรงมารสู้ กึ ตวั อีกทอี ยโู่ รงพยาบาลเขาผา่ ตดั ใหแ้ ลว้ ”
อุดมรกั ษาตวั อยู่ในโรงพยาบาลนาน 2 ปี กลายเป็นทหารผ่านศึก ขา้ ราชการบำนาญพเิ ศษยศสิบโท คร้ัน
รา่ งกายพอจะใชช้ วี ิตตามปกตไิ ด้บ้าง จงึ กลบั บา้ นหันมาทำงานเปน็ ช่างเหลก็
“ผมเคยทำงานกับมูลนิธิสายใจไทยซึ่งสมเด็จพระเทพฯ ท่านทรงดูแลทหารผ่านศึกฝึกประกอบอาชีพ
ตอนนั้นผมเลือกฝึกการเจียระไนพลอย ทำเครื่องหนัง แต่พอกลับมาบ้านไม่ได้ทำต่อเพราะไม่มีตลาดและ
อปุ กรณ์”
สำหรับงานช่างเหล็กเขาไม่ได้เรียนมาก่อนอาศัยครูพักลักจำ อาศัยมีเพื่อนมากๆ มีคนช่วยเหลือ
งานนี้จึงโตเร็วต่อมามีลูกน้อง 20 กว่าคน รับทำงานหลายประเภท ตั้งแต่เหล็กดัดในบ้านกระทั่งรับเหมาทำ
ปมั๊ นำ้ มัน โรงเรยี น แฟลต ฯลฯ
ระหว่างเป็นช่างเหล็กเขาพยายามช่วยเหลือสังคม โดยเสนอทำเสาธงเหล็กให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลน
โดยทางโรงเรียนช่วยออกวัสดุ หินทราย เขาจัดหาปูน เสาธง ผืน ธง เชือก สามารถช่วยสร้างเสาธงได้ 60 กว่า
โรงเรียน วิกฤตใิ นปี 2540 ธรุ กิจช่างเหล็กของเขาประสบภาวะขาดทนุ
“ไม่มอี ะไรเหลอื ผมว่างงานมาถึงปี 2542 พอปี 2543 น้ำทว่ มใหญ่ หลังนำ้ ทว่ มทา่ นเจา้ อาวาสวัดคลอง
แหองค์กอ่ นมรณภาพลง ตอ่ มาพระครปู ลดั สมพร ฐานธมฺโม มาเปน็ เจา้ อาวาสแทน” อาศัยความค้นุ เคย อุดมซงึ่ มี
โอกาสคุยกับพระครูปลัดสมพร บ่อยๆ ได้เห็นปัญหาร่วมกันอย่างหนึ่งว่า สายน้ำคลองแหกำลังเต็มไปด้วยขยะ
และนำ้ เสยี
“ตอนนั้นเองที่เริ่มคิดฟื้นฟูคลองแหกัน ผมหาพรรคพวก 3 - 4 คนมาร่วมพัฒนาคลอง ปี 2544 น้ัน
สำหรับผมรายได้เลี้ยงครอบครัวมาจากบำนาญอย่างเดียว งานช่างเหล็กเริ่มไม่มีแล้วลูกน้องเหลือ 4-5 คนแล้ว
คอ่ ยทยอยออกไปจนหมด ผมเองหันไปช่วยพ่อท่าน (เจ้าอาวาส) ลอกคลอง”
สภาพคลองแหขณะน้นั อุดมเล่าว่า รก น้ำเสีย และเหม็นมาก สภาพขยะท่ีอยู่ในคลองหนาแน่นแออัดยัด
เยยี ด จนชาวบา้ นเหน็ พอ้ งกนั ว่าถา้ เกดิ มปี ระกายไฟขึน้ สามารถลุกลาม “ไฟไหม้คลอง”ใหเ้ ห็นเป็นแน่
อุดมช่วยพระครูปลัดสมพรลอกคลองแห ได้ระยะทางหลายกิโลเมตร การดำเนินการจะหาเวลาว่างนัด
คนท่ีมีจติ อาสามาทำใช้เวลานบั เดือน
“จากแรกๆ มไี มถ่ งึ 10 คนใช้แรงมอื ตอนหลังเพ่มิ มาเป็น 50 คน เป็น 100 คน มหี นว่ ยงานเขา้ มาชว่ ย”

งานอาชีพช่างเหล็กค่อยเลิกรา บวกกับสภาพร่างกาย ผลพวงบาดเจ็บจากการสู้รบ ยังเกิดอาการเจ็บ
แขนชา ยกไม่ขนึ้ เขาจึงหนั มาทำงานสงั คมเต็มเวลา

กระบวนการฟน้ื ฟูสภาพนำ้ ในคลองแห เขาเปน็ ผู้นำเทน้ำหมักชีวภาพลงคลองนับเปน็ ปรากฏการณ์ใหม่
ท่ีคนเพิง่ จะรจู้ กั

ท่มี าเกีย่ วกับเร่ืองนี้อุดมเลา่ วา่ ในปี 2543 พลเอกหาญ ลีนานนท์ อดตี แม่ทพั ภาค 4 ซึ่งเป็นเจ้านายเก่า
มาชวนไปทำนำ้ หมักชีวภาพทจ่ี งั หวดั สตูล

“เปน็ โครงการของท่านแมท่ ัพหลงั แกเกษียณ ทา่ นหาลูกน้องเก่าไปเรยี นรู้ หัดทำนำ้ หมัก ไปดงู านสระบุรี
กลับมาทำเองทสี่ ตูล ทดลองสูตรทำกนั มาเร่อื ยๆ ใช้เศษอาหาร สบั ปะรด เป็นหลกั เปน็ น้ำหมกั ชีวภาพที่นำไปใช้
ในนากุ้ง บ่อปลา ไดผ้ ล ผมเกิดความคดิ วา่ น่าจะเอามาใช้ในคลองบ้านเรากข็ นมาจากสตลู มาเทลงในคลอง ”

ตอนนั้นน้ำหมักชีวภาพยังไม่แพร่หลาย ใครเห็นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำอะไรก็ไม่รู้กลิ่นเหม็น
เหลือเกนิ “คนไมย่ อมรับก็หาวา่ เราบ้า” อุดมเลา่

หลังจากเทน้ำหมักลงคลอง ปรากฏว่าน้ำคลองที่มกี ลิ่นเนา่ เหม็นเร่ิมดีขึ้น เกิดการตอบรับขยายวงกว้าง
ออกไปโดยเฉพาะคนท่ที ำงานส่ิงแวดล้อม กระทงั่ พฒั นาเปน็ การเร่ิมชกั ชวนกันเอาจุลินทรยี ์แบบก้อนเข้ามาทิ้งลง
คลองในประเพณีวันสำคัญของท้องถิ่น เช่น แข่งเรือ ลอยกระทง กัลยาณมิตรทางสังคมเหล่านั้นเองเข้ามาช่วย
สนบั สนนุ ใหเ้ กดิ เปน็ กลมุ่ อนรุ กั ษค์ ลองแห มพี ระครปู ลัดสมพรเปน็ แกนนำ

“ฝ่ายชาวบ้านมีผมเป็นแกนนำ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หลายคนเข้ามาร่วม ปี 2548 โครงการวัฒนธรรม
พื้นบ้านประสานวัดได้จัดตั้งขึ้นมีงบสนับสนนุ จาก สสส. และ พอช. สนับสนุนการทำกิจกรรมสิ่งแวดล้อม และ
ประวัตหิ มู่บา้ น”

กรณีน้ำหมกั ไดเ้ รมิ่ ทำอย่างจริงจัง จาก 4-5 ถงั เปน็ 20-30 ถัง เมอื่ นำไปเทลงคลองมากจะได้ผลชัดเจน
ว่าคณุ ภาพนำ้ ดขี น้ึ คนที่รับร้กู เ็ ขา้ มาชว่ ยมากข้ึน

เมื่อสิง่ แวดล้อมดีขึ้นเช่ือมโยงไปสู่การพัฒนาทอ้ งถน่ิ ด้านตา่ งๆในเวลาต่อมา เริ่มตง้ั แต่การฟ้ืนฟูประเพณี
ลากพระทีข่ าดหายไป การหนั มาสนใจประวัติชุมชน โดยการเอาคนเฒ่ามาชว่ ยกันเล่าเรื่องชุมชน
มาเปน็ การสืบค้นตำนานคลองแหอย่างเปน็ ระบบจากการทำประวัตชิ ุมชนคลองแห พบวา่ ทด่ี ินในคลองแหส่วน
ใหญ่สมัยอดีตเป็นเรือกสวนไร่นาของ เจ้าพระยาวิเชียรคีรี เจ้าเมืองสงขลา ชาวบ้านดั้งเดิมจึงน่าจะเป็นคนเฝ้า
สวนของเจ้าเมอื งสงขลามากอ่ น กระท่งั ได้รบั มอบทดี่ ินในเวลาตอ่ มา โคกนกค่มุ หรอื โคกคุ่ม ซึ่งห่างจากบ้านของ
อุดมไมก่ รี่ ้อยเมตรเปน็ พน้ื ทีส่ ำคัญในตำนานคลองแห

“ชื่ออย่างนั้นเพราะว่ามีนกคมุ่ มาก โคกนกคุ่มเคยเป็นเกาะกลางคลอง เป็นทฝ่ี งั สมบัติตามตำนาน ตอน
เลก็ ผมได้ฟังเร่ืองแบบนี้จากแม่เฒ่า”

เรื่องเลา่ สูญหายไปตามยคุ สมยั ชมุ ชนคลองแหเปล่ียนแปลง จากหมบู่ ้านทีน่ บั ญาติกนั ไดห้ มด เป็นคลอง
แหยคุ ใหม่ ที่มคี นต่างถ่ินอพยพเข้ามาอยู่จำนวนมาก

การทำโครงการคนเฒ่าเล่าเรื่องจนได้ประวัติคลองแหขึ้นมา ทางกลุ่มอนุรกั ษ์คลองแหจึงได้จัดงานยอ้ น
ตำนาน คลองแหครั้งที่ 1 เมื่อปี 2549 ได้งบประมาณสนับสนุนจำนวนหนึ่งจาก สสส. และ พอช. ซึ่งเป็น
งบประมาณทีใ่ ช้ทำงานขบั เคลอื่ นประเด็นสิ่งแวดลอ้ มไปด้วย

“งบไม่พอครบั แต่คณะทำงานเราไมเ่ อาคา่ ตอบแทน ชาวบา้ นมาช่วยสมทบอีกตามแต่กำลังศรัทธา 10 -
20 บาท เราจึงถอื ว่าไดจ้ ดั ตำนานคลองแหครง้ั แรกโดยความรว่ มมือของประชาชนทั้งตำบลคลองแห”

หลงั การจดั งานยอ้ นตำนานคลองแหครงั้ แรก ชาวบ้านเกดิ การตน่ื ตัว เกิดการมสี ว่ นรว่ มอย่างสูง การจัด

งานย้อนตำนานคลองแหครั้งที่ 2 เมื่อปี 2550 จึงอาศัยแรงศรัทธาชาวบ้านโดยไม่ต้องขอการสนับสนุนจาก

ภายนอก

กระทง่ั งานยอ้ นตำนานคร้งั ที่ 3 ปี 2551 เปลย่ี นไป เพราะเทศบาลเมอื งคลองแหเห็นว่างานน้ีมีคนสนใจ

จึงรับไปจัดการเองหมด บทบาทการย้อนตำนานของกลุ่มรักษ์คลองแหจึงยุติไป แต่อุดมเห็นว่ากิจกรรมที่หยุด

ไมไ่ ดค้ อื สิง่ แวดล้อม น้ำในคลองแหยังเสียมาก การรณรงค์ชาวบ้านให้ทำน้ำหมกั ชีวภาพเอาไปเทลงคลองก็ยังไม่

ได้ผลจริงจัง นับตั้งแต่ปลายปี 2550 อุดมหันมาคิดค้นผลิตภัณฑ์ชีวภาพเกี่ยวเนื่อง เขาทดลองทำน้ำยา

อเนกประสงคด์ ว้ ยตนเอง

“มานั่งคิดดูน้ำที่ใช้ในครัวเรือนมักจะเทลงคู จากคูเล็กไปลงคูใหญ่ จากคูใหญ่ไปลงคลอง มานั่งเท

จลุ นิ ทรยี ์ลงคลองทุกวนั มนั แก้ปลายเหตุ ทำไมไมแ่ กท้ ต่ี น้ เหตุ เลยคดิ เรื่องน้ำยาอเนกประสงค์ชวี ภาพสำหรบั ซกั ผ้า

ล้างจาน” อุดมเริ่มจากทำแจก แล้วสอนให้ชาวบ้านทำใช้เอง จากหมู่บ้านตัวเอง ออกไปตามกลุ่มต่างๆ เข้า

โรงเรียน กระจายออกไปกว้าง ถึงอำเภอบางกลำ่ พื้นท่รี ิมคลองอูต่ ะเภา อันเช่ือมตอ่ กบั คลองแห

เขาศึกษาทดลองทำในหลายสิ่งหลายอย่างที่เกี่ยวข้องสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่ น้ำหมักชีวภาพ ปุ๋ยชีวภาพ

นำ้ ยาอเนกประสงค์ชีวภาพ น้ำยาไลแ่ มลงชวี ภาพ ยากำจดั วชั พืชจากนำ้ หมักชวี ภาพ การผลติ แกส๊ ชวี ภาพ เตาเผา

ถา่ น เครื่องอัดถา่ นเป็นแท่ง นำ้ ส้มควันไม้ เปน็ ตน้

การประดษิ ฐ์ ดัดแปลง อปุ กรณต์ ่างๆ ฐานความคิด ได้มาจากการเปน็ ชา่ ง ทำให้มองไดเ้ ร็ว อุดมเล่าวา่ ส่ิง

ทเ่ี ขาคิดทำแต่ละอย่างตา่ งจากคนอน่ื ไม่ได้ลอกเลยี นใครมาโดยตรง แต่มกั จะเป็นการค้นควา้ ทดลอง พิสูจน์ ทำ

โดยตวั เอง

“ผมมพี ืน้ ฐานที่ได้เหน็ คนรนุ่ กอ่ นทำ อยา่ งแก๊สชีวภาพใครว่าเปน็ ของใหม่ ตอนผมเรยี นอย่ปู ระถมลงุ ของ

ผมทำแล้วตามประสาชาวบ้านแกใช้ถงั ซีเมนต์หมักข้ีววั แลว้ ใช้ฝาชีสังกะสีครอบ ต่อท่อนำแกส๊ หัว

เตาไม่มีใชก้ ็ใช้หวั บัวเคร่ืองสบู นำ้ มาแทน”

เขาพบว่าการเผาถ่านนอกจากได้ถ่านก้อน ยังได้น้ำส้มควันไม้และยังมีถ่านผงที่คนทั่วไปมักไม่ได้ใช้

ประโยชนเ์ ขาคดิ อดั ถา่ นผงเป็นแท่ง

“ดูจากเว็บไซต์เขาแนะนำเครื่องอัดราคาเป็น 2-3หมื่น อย่างนั้นชาวบ้านจะทำอย่างไร ก็คิดเครื่องอัด

ถ่านผงขึ้นมาเอง ต้นทุน 1,000 กว่าบาท แต่ได้เครื่องอัดแลว้ ไม่รู้จะอัดอย่างไรใหถ้ ่านตดิ เปน็ ก้อน จนพบว่าเอา

แปง้ เปียกมาผสมพอไดผ้ ลกไ็ ปบอกชาวบา้ นคนอื่น”

การเผาถ่าน เขาเน้นการอนุรักษ์ธรรมชาติ วัสดุที่นำมาเผาจึงเน้นเปลือกสะตอ ที่แคะเมล็ดออกแล้ว

เปลือกเงาะ ทุเรียน มังคุด สับปะรด และผลไม้ทุกชนิด ถ่านที่ได้ออกมาบางอย่างยังคงสภาพผลไม้แบบเดิม มี

แนวความคดิ เอาไปใชใ้ นการดูดกลนิ่ ตูเ้ ยน็ ถ้าแตกหักเอาไปอัดแท่ง

นำ้ สม้ ควนั ไมใ้ ช้ไล่แมลงได้แต่อดุ มยงั คดิ ตอ่ เรอ่ื งสารไล่แมลงแบบธรรมชาติ ใชส้ มนุ ไพร เครอ่ื งแกง พวก

ข่า ตะไคร้ เอามาปั่น หรือตำ เอาผ้าขาวกรองค้ันน้ำไปผสมเหล้าขาว ส่วนยาปราบวัชพืชใช้ เกลือ นำตาลทราย

ผงชรู ส ผสมน้ำยาอเนกประสงคช์ ีวภาพ

“ทุกวนั นี้ ผมไมม่ ีรายไดจ้ ากงานอ่ืนนอกจากเงนิ บำนาญ แต่อยากตอบแทนสังคม แทนท่ีจะกินเงินเดือน

เปลา่ ๆ เพอ่ื นว่าบ้าท่ีเหน็ ว่าเราเอาเงินไปช่วยคนอืน่ แตผ่ มบอกวา่ สิ่งทไ่ี ด้รับ ถ้ากระจายออกสสู่ ังคมต้องทำ แทนท่ี

จะนั่งกินเงนิ เดือนเปล่าๆ ก็ภาษขี องประชาชน”

นอกจากเป็นนักเคล่ือนไหวในบทบาทกลุ่มอนรุ ักษ์คลองแห ที่เขาเป็นประธาน ทุกวนั นีอ้ ดุ มมภี าระ การ
เป็นวิทยากรสอนความรูต้ ่างๆ ที่เขาประดิษฐ์คิดค้น พัฒนาตอ่ เกือบทุกวัน ทั้งที่บ้าน และนอกสถานท่ี และเขา
มุ่งมั่นจะทำหนา้ ท่ที างสังคมนี้ต่อไป

ท่ีมา : http://www.songkhlahealth.org/paper/1591 สืบคน้ เม่อื วนั ท่ี 25 มกราคม พ.ศ. 2553

แบบประเมินรายงานการดำเนินกิจกรรมการปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมอื งดี

กลมุ่ ท.ี่ ................................................. .............................................................................. 2. ..............................................................................
สมาชกิ ของกลุ่ม 1. .............................................................................. 4. ..............................................................................
.............................................................................. 6. ..............................................................................
3.
5. คุณภาพผลงาน
432
ลำดั รายการประเมิน 1
บท่ี

1 การปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมืองดี

2 การรายงานผลการปฏิบัตติ นเปน็ พลเมืองดี

3 การสนับสนนุ ใหผ้ ้อู น่ื ปฏบิ ัติตนเปน็ พลเมอื งดี

รวม

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชื่อ..............................................................................ผูป้ ระเมิน
/ /....................... ........................... ........................
ดีมาก = 4

ดี = 3

พอใช้ = 2

ปรบั ปรุง = 1
เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

ช่ ว ง ร ะ ดั บ

คะแนน คุณภาพ

10-12 ดีมาก
7-9
4-6 ดี

1-3 พอใช้

ปรบั ปรุง

ใบงานท่ี 2.1 เรอ่ื ง แนวทางการปฏบิ ัตติ นเป็นพลเมอื งดี

คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนอธิบายแนวทางการปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมืองดีตามหวั ข้อทก่ี ำหนดให้ พรอ้ มเขยี นสง่ิ ท่ี
นกั เรยี นสามารถปฏบิ ตั ไิ ด้จรงิ

หัวข้อ แนวทางการปฏิบตั ิตน สิง่ ที่นักเรยี นปฏิบัตไิ ด้จริง
1. แนวทางการปฏบิ ัตติ น

เปน็ สมาชกิ ทด่ี ขี อง
ครอบครัว

2. แนวทางการปฏบิ ัติตน
เป็นสมาชกิ ทดี่ ีของ
โรงเรียน

3. แนวทางการปฏิบตั ิตน
เป็นสมาชิกที่ดีของ
ชมุ ชน

4. แนวทางการปฏบิ ัตติ น
เป็นสมาชิกท่ดี ขี อง
ประเทศชาติและสงั คม
โลก

ใบงานที่ 2.1 เร่ือง แนวทางการปฏบิ ตั ติ นเป็นพลเมืองดี

คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนอธบิ ายแนวทางการปฏบิ ตั ิตนเป็นพลเมอื งดตี ามหวั ขอ้ ทีก่ ำหนดให้ พรอ้ มเขียนส่ิงที่

นักเรียนสามารถปฏิบตั ิได้จรงิ

หวั ข้อ แนวทางการปฏิบตั ิตน ส่ิงท่ีนกั เรยี นปฏิบตั ิได้จริง

1. แนวทางการปฏบิ ตั ิตน 1. ช่วยบดิ า มารดา ทำงานบ้าน พจิ ารณาตามคำตอบของนกั เรียน

เป็นสมาชิกทด่ี ขี อง 2. ประหยดั ค่าใชจ้ า่ ย ให้อยู่ในดุลยพินจิ ของครูผู้สอน

ครอบครวั 3. ตง้ั ใจศกึ ษาเล่าเรียน

4. เชอ่ื ฟงั และปฏบิ ตั ติ ามคำสัง่ สอน

ของบดิ า มารดา

2. แนวทางการปฏิบตั ิตน 1. ตง้ั ใจศกึ ษาเลา่ เรียน พิจารณาตามคำตอบของนกั เรียน

เป็นสมาชิกทดี่ ขี อง 2. รับผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย3. ใหอ้ ย่ใู นดุลยพินจิ ของครูผู้สอน

โรงเรยี น ร่วมกจิ กรรมท่ีเปน็ ประโยชน์ตอ่

โรงเรียน

4. ปฏิบตั ิตามกฎระเบยี บของโรงเรยี น

5. เคารพเชื่อฟังคำสั่งสอนของครู

อาจารย์

3. แนวทางการปฏิบตั ติ น 1. ร่วมกนั รกั ษาสิง่ แวดลอ้ มของชุมชน พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น

เป็นสมาชกิ ทด่ี ีของ 2. รกั ษาความสงบเรยี บร้อย ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครผู ู้สอน

ชุมชน 3. รว่ มทำกิจกรรมทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่

ชุมชน

4. รว่ มมอื กนั พฒั นาชมุ ชน

5. รว่ มมอื กันสอดสอ่ งดูแล ป้องกัน

เร่อื งยาเสพติด

6. ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บของชมุ ชน

7. ร่วมกจิ กรรมกับองคก์ รการปกครอง

สว่ นท้องถ่ิน

8. มสี ่วนรว่ มในการรณรงค์ให้บคุ คล

ในท้องถ่ินไปใช้สิทธเ์ิ ลอื กตง้ั

หัวขอ้ แนวทางการปฏิบตั ติ น ส่ิงทน่ี ักเรียนปฏบิ ตั ิไดจ้ ริง
4. แนวทางการปฏิบัตติ น พิจารณาตามคำตอบของนักเรยี น
1. ปฏิบัติตนตามบทบาทหนา้ ท่ขี อง ใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน
เป็นสมาชิกทด่ี ขี อง สมาชกิ ทดี่ ีของครอบครัว โรงเรยี น
ประเทศชาตแิ ละสงั คม และชมุ ชน
โลก
2. มกี ารพฒั นาตนเองอย่างต่อเนอื่ ง
3. แสวงหาข้อมูลตา่ งๆ ให้ทันตอ่

เหตกุ ารณ์ของโลก
4. ใหค้ วามรว่ มมือกบั ประเทศตา่ งๆ

ในการป้องกนั แก้ปัญหาภัยพิบัติ
ต่างๆ
5. รว่ มมอื กันอนุรกั ษส์ ง่ิ แวดล้อม
6. ใหค้ วามช่วยเหลือผู้ที่ดอ้ ยโอกาส
เม่ือมีโอกาส

ใบงานท่ี 2.2 เร่ือง วิเคราะห์พลเมอื งดี

คำชแ้ี จง ให้นกั เรียนนำขา่ ว/ประวัตบิ คุ คลทม่ี ีการกระทำท่ีแสดงถึงการเป็นพลเมืองดี มาวเิ คราะห์
แลว้ ตอบคำถามตามทีก่ ำหนด อยา่ งนอ้ ย 3 บคุ คล
ช่ือเรอ่ื ง
สรุปประเด็นสาคญั

1. บคุ คลทีเ่ ปน็ พลเมืองดี คือ
2. บคุ คลดงั กล่าวมกี ารกระทำทแ่ี สดงว่าเป็นพลเมอื งดี อย่างไร

3. การกระทำจากข้อ 2. สอดคล้องกบั ลกั ษณะของพลเมืองดี อยา่ งไร จงอธบิ าย

4. นักเรยี นสามารถนำแบบอย่างการกระทำของบคุ คลนี้ไปประยกุ ต์ปฏิบัติได้อย่างไร

ใบงานที่ 2.2 เรือ่ ง วิเคราะหพ์ ลเมืองดี

คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นนำข่าว/ประวตั บิ ุคคลที่มกี ารกระทำทแี่ สดงถงึ การเป็นพลเมอื งดี มาวเิ คราะห์
แล้วตอบคำถามตามทกี่ ำหนด อยา่ งนอ้ ย 3 บุคคล
ชือ่ เรอ่ื ง
สรุปประเดน็ สาคญั

1. บคุ คลท่ีเปน็ พลเมอื งดี คือ
2. บุคคลดงั กลา่ วมีการกระทำทแ่ี สดงว่าเปน็ พลเมืองดี อยา่ งไร

3. การกระทำจากข้อ 2. สอดคลอ้ งกับลกั ษณะของพลเมืองดี อย่างไร จงอธบิ าย

4. นักเรียนสามารถนำแบบอยา่ งการกระทำของบุคคลนไี้ ปประยุกตป์ ฏบิ ัตไิ ดอ้ ยา่ งไร

(หมายเหตุ พจิ ารณาตามคำตอบของนักเรียน ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของครผู สู้ อน)

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่

ช่อื – ความ การแสดง การรับฟงั การต้ังใจ การรว่ ม รวม
สกลุ รว่ มมือ ความ ความ ทำงาน ปรบั ปรุง 20
ของ คดิ เห็น คิดเห็น ผลงานกลมุ่ คะแน
ลำดั ผรู้ ับ น
บท่ี การ 43214321432143214321
ประเมิ



เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน
............../.................../................
ดมี าก = 4
หมายเหตุ ครูอาจใชว้ ิธีการมอบหมายใหห้ วั หนา้ กลมุ่
ดี = 3 เป็นผปู้ ระเมิน หรอื ใหต้ วั แทนกลมุ่ ผลดั กนั ประเมนิ
หรือใหม้ ีการประเมนิ โดยเพ่อื น โดยตวั นกั เรียนเอง
พอใช้ = 2 ตามความเหมาะสมกไ็ ด้

ปรบั ปรุง =1

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

ช่ ว ง ร ะ ดั บ

คะแนน คุณภาพ

17 – 20 ดมี าก
13 – 16
9 – 12 ดี

5 – 8 พอใช้

ปรบั ปรุง

4

หนา้ ทพี่ ลเมอื ง วัฒนธรรม และการดำเนินชวี ติ ในสังคม

กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 เวลาเรียน 5 ช่ัวโมง

 มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชี้วัด

ส 2.1 ม.4-6/4 ประเมินสถานการณ์สิทธมิ นษุ ยชนในประเทศไทย และเสนอแนวทางพฒั นา

 สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

ปจั จบุ ันน้อี งค์กรตา่ งๆ ท้งั ในประเทศและองคก์ รระหว่างประเทศต่างๆ ให้ความสำคัญกบั สิทธิมนุษยชนใน
ประเทศไทย และร่วมมือกันแก้ไขปัญหาสทิ ธมิ นษุ ยชนใหเ้ ป็นไปตามปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสิทธมิ นุษยชน

 สาระการเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1. ความหมาย ความสำคัญ แนวคิด และหลกั การของสทิ ธิมนุษยชน
2. บทบาทขององคก์ รระหวา่ งประเทศในเวทีโลกท่ีมีผลต่อประเทศไทย
3. สาระสำคัญของปฏิญญาสากลวา่ ด้วยสทิ ธิมนษุ ยชน
4. บทบญั ญัติของรัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยฉบบั ปจั จุบันเกี่ยวกับสทิ ธิมนษุ ยชน
5. ปญั หาสิทธิมนุษยชนในประเทศ และแนวทางแกป้ ัญหาและพัฒนา

3.2 สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ

-

 สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น

4.1 ความสามารถในการสอื่ สาร
4.2 ความสามารถในการคดิ

- ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์

4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

- กระบวนการเผชิญสถานการณ์
- กระบวนการทำงานกล่มุ
- กระบวนการปฏบิ ตั ิ

 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

4. มีวนิ ัย
5. ใฝเ่ รียนรู้

6. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน

 ช้ินงาน / ภาระงาน (รวบยอด)

ปา้ ยนิเทศ เรอื่ ง สถานการณ์สทิ ธิมนษุ ยชนในประเทศไทย

 การวดั และการประเมนิ ผล

7.1 การประเมนิ กอ่ นเรียน

- แบบทดสอบกอ่ นเรียน หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 4 เรื่องสิทธมิ นษุ ยชน

7.2 การประเมินระหวา่ งการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

1. ใบงานที่ 1.1 เรื่อง แนวคิดและหลกั การสิทธิมนษุ ยชน
2. ใบงานท่ี 1.2 เร่ือง ปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสิทธมิ นุษยชน
3. ใบงานที่ 2.1 เรื่อง บทบญั ญตั ขิ องรัฐธรรมนญู 2550 ทเ่ี กย่ี วกบั สิทธิมนษุ ยชน
4. ใบงานที่ 2.2 เรอ่ื ง เปลือยชีวิตชาวโรฮิงญากับชวี ิตทีม่ ากกวา่ คำว่า โหดรา้ ย
5. ใบงานท่ี 3.1 เรื่อง ปัญหาการถูกละเมิดสิทธมิ นุษยชน
6. ใบงานที่ 3.2 เร่อื ง แนวทางการชว่ ยเหลอื ผู้ถูกละเมดิ สิทธมิ นษุ ยชน
7. ใบงานท่ี 3.3 เร่อื ง แนวทางในการพฒั นาสิทธมิ นษุ ยชน
8. ประเมินการนำเสนอผลงานกลมุ่
9. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

7.3 การประเมนิ หลังเรียน

- แบบทดสอบหลงั เรียน หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 เรื่อง สทิ ธิมนษุ ยชน

7.4 การประเมินชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- ประเมนิ ปา้ ยนเิ ทศ เรอ่ื ง สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย

การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
แบบประเมินปา้ ยนิเทศ เรอื่ ง สถานการณส์ ิทธมิ นษุ ยชนในประเทศไทย

รายการประเมนิ ดีมาก (4) คำอธิบายระดบั คณุ ภาพ/ระดบั คะแนน ปรับปรงุ (1)
ดี (3) พอใช้ (2)
1. การ เสนอสถานการณ์ เสนอสถานการณ์
ประเมนิ สิทธมิ นุษยชนใน เสนอสถานการณ์ เสนอสถานการณ์ สทิ ธมิ นุษยชนใน
สถานการณ์ ประเทศไทยอยา่ ง สทิ ธมิ นษุ ยชนใน สทิ ธิมนุษยชนใน ประเทศไทย 1-2
สทิ ธมิ นษุ ยชน น้อย ประเทศไทย 3 ประเทศไทย 1-2 สถานการณ์ แต่
ในประเทศไทย 4 สถานการณ์ สถานการณ์ และ สถานการณ์ และ การวิเคราะหผ์ ลท่ี
และ วิเคราะห์ผลท่ี วเิ คราะห์ผลที่ ไดร้ ับไมม่ ีเหตผุ ล

วิเคราะห์ผลที่ ไดร้ ับอยา่ งมี ไดร้ บั อย่างมี

ไดร้ บั อยา่ งมีแหตุ เหตผุ ล เหตผุ ล

ผล

2. การเสนอ เสนอแนวทางการ เสนอแนวทางการ เสนอแนวทางการ เสนอแนวทางการ
แนวทางการ
พฒั นาสทิ ธิ พฒั นาสทิ ธิ พัฒนาสทิ ธิ พฒั นาสทิ ธิ พัฒนาสิทธิ
มนษุ ยชน
มนษุ ยชนใน มนษุ ยชนใน มนุษยชนใน มนุษยชนใน
3. การมีสว่ น
รว่ มในการ ประเทศไทยอยา่ ง ประเทศไทยอย่าง ประเทศไทยอยา่ ง ประเทศไทยอยา่ ง
คุ้มครอง
ปกปอ้ งสิทธิ มเี หตผุ ล 4 มีเหตผุ ล 3 มเี หตผุ ล 2 มีเหตผุ ล 1
มนุษยชน
แนวทาง แนวทาง แนวทาง แนวทาง

รายงานการ รายงานการ รายงานการ รายงานการ

ปฏิบตั ติ นทแี่ สดง ปฏิบัติตนท่ีแสดง ปฏบิ ัติตนทแี่ สดง ปฏิบตั ติ นทแ่ี สดง

ว่ามสี ่วนร่วมใน วา่ มสี ว่ นรว่ มใน ว่ามสี ่วนรว่ มใน วา่ มสี ่วนรว่ มใน

การคมุ้ ครองสทิ ธิ การคุ้มครองสิทธิ การคมุ้ ครองสิทธิ การคมุ้ ครองสทิ ธิ

มนุษยชนได้อยา่ ง มนษุ ยชนไดอ้ ย่าง มนษุ ยชนได้อยา่ ง มนุษยชนได้อย่าง

น้อย 4 พฤตกิ รรม น้อย 3 พฤติกรรม นอ้ ย 2 พฤตกิ รรม นอ้ ย 1 พฤติกรรม

เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ
10-12 ดีมาก
7-9 ปรบั ปรงุ
4-6 พอใช้
1-3 ปรับปรงุ

 กิจกรรมการเรยี นรู้

 นกั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 เรอื่ ง สทิ ธิมนุษยชน

กจิ กรรมที่ ความสำคญั ของสิทธิมนุษยชน เวลา 2 ชั่วโมง
1
วิธีสอนโดยการจดั การเรียนรูแ้ บบร่วมมอื : เทคนิคคคู่ ดิ สีส่ หาย,
เทคนิครว่ มกันคิด

1. ครูให้นักเรียนอา่ นข่าวตอ่ ไปน้ี
- ขา่ วเกย่ี วกับสำนกั งานแหง่ หนง่ึ ไมร่ ับคนท่เี ป็นโปลิโอเข้าทำงานอ้างวา่ เปน็ คนพกิ าร

คงทำงานได้ไมด่ เี ท่าคนปกติ ใหน้ ักเรียนรว่ มกนั วเิ คราะห์ในประเดน็ ว่า ข้ออา้ งจากนายจ้าง
ขดั ต่อหลกั สิทธมิ นษุ ยชนหรือไม่ พร้อมอธบิ ายเหตุผลประกอบ
- ข่าวเกี่ยวกบั เด็กถกู ล่ามโซ่ใหอ้ ยกู่ ับบา้ นเพราะตอ้ งการดัดนสิ ัย เพราะเปน็ เดก็ ที่ซุกซนมาก
ถึงเวลาอาหารก็นำใสจ่ านมาวางไวใ้ ห้ และเด็กมกั ถูกทุบตีถ้าส่งเสียงรอ้ งโวยวาย ใหน้ ักเรยี น
ร่วมกนั วิเคราะห์วา่ ข่าวดงั กล่าวขดั ต่อหลกั สทิ ธิมนุษยชนด้านใด และการทเี่ ด็กถูกทารุณกรรม
ดังกล่าว มีผลเสียอย่างไร
จากนน้ั ครูถามนักเรียนว่า จากขา่ วท่ียกตวั อย่างมานนั้ นักเรียนคิดว่า มนษุ ย์ทุกคนควรปฏิบัติตอ่ กันอยา่ งไร
จึงจะสอดคล้องกบั หลักสิทธิมนษุ ยชน
2. ครูและนักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายเรอ่ื ง ความหมายและความสำคัญของสทิ ธมิ นุษยชน แล้วครูอธบิ าย
เพิ่มเติมใหเ้ ห็นถึงความจำเป็นที่ทุกคนจะต้องให้ความสำคัญของสิทธมิ นษุ ยชนและใหน้ กั เรียนศกึ ษา
ความร้เู พิ่มเติมเรื่อง สทิ ธมิ นษุ ยชน จากหนังสือเรยี น
3. ครแู บง่ นักเรยี นเปน็ กล่มุ กลุ่มละ 4 คน โดยใหจ้ บั คกู่ ันเปน็ 2 คู่ และใหแ้ ต่ละคชู่ ่วยกันทำใบงานที่ 1.1
เรอ่ื ง แนวคิดและหลักการของสทิ ธิมนุษยชน ดงั น้ี
- คทู่ ่ี 1 วิเคราะห์กรณีตวั อย่างท่ี 1 เรอ่ื ง นอ้ งบอล...เดก็ เร่รอ่ น
- คู่ที่ 2 วิเคราะห์กรณีตวั อยา่ งท่ี 2 เรื่อง กรกับแก้ว...ลกู ชาวนา
4. ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนทำใบงานและวเิ คราะหห์ าคำตอบด้วยตนเองก่อน แลว้ ผลัดกันอภิปรายผล
การวเิ คราะหใ์ ห้กบั คขู่ องตนฟังจนครบท้ัง 2 คู่ แล้วครูสุม่ เรียกนักเรียนออกมานำเสนอผลงานทหี่ น้าชัน้
เรียน 2-3 กลมุ่ และใหก้ ล่มุ อนื่ ๆ เสนอแนะเพ่มิ เตมิ ในประเด็นทีแ่ ตกตา่ งกนั จากนน้ั นกั เรยี นและครู
ร่วมกันสรปุ ความสำคญั แนวคิด และหลักการของสิทธมิ นษุ ยชน
5. ครูนำภาพข้าหลวงใหญส่ ิทธิมนษุ ยชนแหง่ สหประชาชาติ มาให้นักเรยี นดู และสนทนาซกั ถามเกยี่ วกับหน้าท่ี
ของบุคคลดงั กล่าว และเชือ่ มโยงสูป่ ฏิญญาสากลว่าด้วยสทิ ธมิ นุษยชนแหง่ สหประชาชาติ

แลว้ ใหน้ กั เรยี นศึกษาใบความรูเ้ ร่ือง ปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแหง่ สหประชาชาติ

6. ครูแบ่งนักเรยี นเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ 4 คน ( หรืออาจใชก้ ล่มุ เดิมก็ได้ ) และให้สมาชิกในกล่มุ มหี มายเลข

ประจำตัว ต้ังแต่หมายเลข 1 , 2, 3 ,4 แล้วให้ทำใบงานที่ 1.2 เร่อื ง ปฏญิ ญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน

7. ครสู ุ่มเรียกหมายเลขใดหมายเลขหน่ึงของกลมุ่ เพื่อตอบคำถามและอธิบายให้เพือ่ นฟังหน้าชน้ั เรยี น

โดยหมุนเวยี นกันตอบให้ครบตามประเดน็ คำถามในใบงาน
8. นักเรยี นและครูช่วยกนั สรุปสาระสำคญั ของปฏิญญาสากลว่าดว้ ยสทิ ธมิ นษุ ยชน

กจิ กรรมที่ บทบญั ญตั ขิ องรฐั ธรรมนญู และบทบาทขององคก์ รระหวา่ งประเทศท่เี กย่ี วกบั
2 สทิ ธิมนุษยชน

วธิ สี อนตามแนววฏั จักรการเรียนรู้ ( 4 MAT ) วิธีสอนแบบกรณศี ึกษาเวลา 2 ชว่ั โมง

1. ให้นกั เรยี นชว่ ยกันคดิ เกยี่ วกบั สิทธิ เสรภี าพท่ีมนุษย์ควรไดร้ บั ตั้งแตเ่ กดิ จนตาย พร้อมอธบิ ายเหตผุ ล
ประกอบประเภทของสทิ ธิ เสรภี าพ แล้วเขียนลงบนกระดาษ จากนนั้ ครูและนักเรียนอภปิ รายรว่ มกนั
และช่วยกนั แยกแยะการกระทำให้ถกู ตอ้ งตามประเภทของสทิ ธิ

2. ครูให้นกั เรยี นดภู าพข่าวตา่ งๆ จากหนังสือพมิ พ์ แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ ทแ่ี สดงถงึ การมีสิทธิ
เสรีภาพ ตามบทบญั ญตั ริ ฐั ธรรมนูญท่กี ำหนดไว้ และใหน้ กั เรียนประดษิ ฐก์ ารด์ รูปแบบต่างๆ
ใหส้ วยงาม โดยเขยี นขอ้ ความเก่ียวกับสิทธิ และผลประโยชนท์ ี่ไดร้ บั จากการได้รับสทิ ธนิ นั้
เสร็จแล้วนำมาติดป้ายนิเทศให้เพอ่ื นไดแ้ ลกเปลย่ี นเรียนรู้

3. ครูแบง่ นักเรียนเปน็ กลุม่ กล่มุ ละ 5-7 คน คน้ ควา้ ความรู้ เรื่อง สิทธมิ นษุ ยชนชาวไทย จากบทบญั ญัติ
รฐั ธรรมนญู ฉบับปัจจบุ นั และชว่ ยกันทำใบงานที่ 2.1 เร่อื ง บทบัญญัติของรัฐธรรมนญู 2550 ท่ีเกยี่ วกับสทิ ธิ
มนษุ ยชน แล้วครสู ่มุ เรยี กตวั แทนนักเรยี น 2-3 กลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานท่ีหน้าชน้ั เรยี น

7. นักเรยี นแต่ละกลุ่มชว่ ยกันสรา้ งสรรคผ์ ลงานทแี่ สดงถงึ สทิ ธขิ องปวงชนชาวไทยตามรฐั ธรรมนูญ
และปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน โดยจัดทำเปน็ แผน่ พบั / บทเพลง / บทความ / คำขวัญ หรอื
คำกลอนตามความถนัดหรือความสนใจ แล้วให้นักเรียนชว่ ยกนั ปรบั ปรุงผลงานให้มีความสมบรู ณ์

8. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ออกมานำเสนอผลงานที่หน้าชั้นเรียน และให้นกั เรยี นกลุ่มอื่นช่วยกันแสดง
ความคดิ เหน็ เพิ่มเติม จากนั้นครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ เกยี่ วกับ ประโยชนข์ องการได้รับสทิ ธิ
ในทกุ ๆด้าน และใหน้ กั เรยี นรว่ มกันพิจารณาแนวทางในการรณรงคใ์ ห้ความรเู้ กีย่ วกบั สิทธิมนุษยชน

9. ครนู ำขา่ วต่อไปนใ้ี หน้ ักเรยี นวิเคราะห์วา่ เหตกุ ารณ์ดังกล่าวเปน็ การละเมิดสิทธมิ นุษยชนหรอื ไม่ เพราะเหตุ
ใด
- การฆ่าล้างเผ่าพนั ธุช์ าวยวิ ในสงครามโลกคร้งั ที่ 2
- “ยูเอ็น” เรยี กรอ้ งรฐั บาลพมา่ ใหป้ ลอ่ ยตวั นางอองซาน ซูจี
- การสลายการประชมุ ท่ี อ. ตากใบ จ. นราธิวาส
- กรณี ด.ช. หม่อง ทองดี : สถานะเด็กไร้สญั ชาติ

7. ครเู ช่ือมโยงใหน้ กั เรียนเขา้ ใจถงึ วกิ ฤตกิ ารณ์การละเมดิ สทิ ธิมนุษยชนในประเทศต่างๆในโลกยงั คง
มอี ยู่ แมว้ ่าคณะมนตรีสทิ ธมิ นุษยชนแหง่ สหประชาชาติ ซ่ึงมหี นา้ ท่ตี ิดตาม ตรวจสอบ ให้คำแนะนำ
แกป่ ระเทศต่างๆ แตไ่ ม่สามารถทำได้เต็มที่ เพราะขาดความร่วมมอื จากบางประเทศหรือบุคคลบางกลุม่

8. นกั เรียนแบง่ กลมุ่ กล่มุ ละ 5-7 คน ตามความสมัครใจ ศกึ ษาข้อมลู ความรเู้ กีย่ วกับบทบาทขององคก์ ร
ระหวา่ งประเทศในเวทโี ลกท่เี ก่ยี วข้องกบั สิทธมิ นุษยชน จากหนงั สือเรียน หนังสอื ค้นคว้าเพมิ่ เตมิ หรือ
จากแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ ตามความเหมาะสม

9. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนำข้อมูลท่ไี ดศ้ ึกษาค้นควา้ มาเป็นพน้ื ฐานการวิเคราะห์สถานการณ์ ตามหวั ข้อในกรณี
ตัวอย่าง ในใบงานที่ 2.2 เร่ือง เปลือยชวี ิตชาวโรฮงิ ญากับชีวติ ทม่ี ากกวา่ คำว่า โหดรา้ ย โดยใหน้ ักเรียนแต่
ละกลมุ่ รวมพลงั สมอง ช่วยกนั คดิ วิเคราะหต์ ามคำถามท่กี ำหนดให้ แลว้ ครสู ่มุ เรยี กนกั เรียน 2-3 กลุ่ม
ออกมานำเสนอผลงานต่อชน้ั เรยี น และใหก้ ลุ่มอ่ืนเสนอแนะเพ่มิ เตมิ ในประเด็น
ที่แตกตา่ งกันออกไป

10. ครูและนักเรียนชว่ ยกนั สรปุ ขอ้ คดิ ทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะหก์ รณตี ัวอย่าง และแนวทางการนำไปปฏิบตั ิตน
ตอ่ ชาวต่างชาตทิ ี่เขา้ มาทอ่ งเทีย่ วหรือประกอบอาชพี โดยไมม่ ีการเลือกปฏบิ ัติ จงึ ทำให้ประเทศไทยของ
เราไมม่ คี วามขดั แยง้ กับประเทศตา่ งๆ

กิจกรรมท่ี ปญั หาสิทธิมนุษยชนและแนวทางแกไ้ ขพฒั นา
3
วิธีสอนโดยใช้ทักษะกระบวนการเผชิญสถานการณ์ เวลา 1 ชว่ั โมง

1. ครนู ำข่าวตอ่ ไปน้ใี ห้นกั เรียนชว่ ยกันวเิ คราะห์ว่าเหมาะสมหรือไม่ เพราะเหตุใด
- ประชาชนรวมกลมุ่ กนั ปิดถนนประท้วงการบริหารงานของรัฐบาล
- พ่อเลย้ี งใช้บหุ รจี่ ้ีตามตัวลกู เลยี้ งอายุ 8 ปี
- นายทนุ ใช้แรงงานเดก็ อายตุ ำ่ กวา่ 13 ปี
แล้วครอู ธิบายเช่อื มโยงใหน้ กั เรียนเขา้ ใจถึงผลดแี ละผลเสียของการเคารพสิทธิมนุษยชนของ
บุคคลในสงั คม
2. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5-7 คน จำนวน 6 กลุ่ม ตามความสมัครใจ ศกึ ษาข้อมูลความร้เู กี่ยวกับ
ปัญหาสทิ ธิมนุษยชน จากหนงั สือเรยี น หนงั สือคน้ คว้าเพมิ่ เตมิ หรอื แหลง่ ข้อมลู สารสนเทศ
ตามความเหมาะสม
3. ใหน้ ักเรยี นแต่ละกลุ่มนำเสนอข้อมูลความรูท้ ่ีไดจ้ ากการศึกษาค้นคว้ามาเปน็ พ้นื ฐานการวเิ คราะห์
และประเมินเหตุการณ์ที่กำหนดใหใ้ นใบงาน และใหต้ วั แทนกลุม่ ออกมานำเสนอผลงานตอ่ ชนั้ เรยี น
กลมุ่ ที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ทำกิจกรรมในใบงานที่ 3.1 เรอ่ื ง ปัญหาการถกู ละเมดิ สิทธิมนุษยชน
กลมุ่ ที่ 3 และกล่มุ ที่ 4 ทำกิจกรรมในใบงานที่ 3.2 เรอ่ื ง แนวทางการชว่ ยเหลือผู้ถูกละเมิด
สิทธิมนุษยชน
กลุ่มที่ 5 และกล่มุ ที่ 6 ทำกิจกรรมในใบงานที่ 3.3 เรื่อง แนวทางในการพฒั นาสิทธิมนษุ ยชน
4. นกั เรยี นทกุ คนชว่ ยกนั สรปุ ปญั หาสิทธิมนุษยชน พรอ้ มท้งั เสนอแนะแนวทางแก้ไขและการพฒั นา
5. นักเรยี นแต่ละกล่มุ ชว่ ยกนั จัดป้ายนิเทศ เร่อื ง สถานการณส์ ิทธิมนษุ ยชนในประเทศไทย โดยให้
ครอบคลมุ ประเดน็ ตอ่ ไปนี้
1) การประเมนิ สถานการณส์ ทิ ธิมนษุ ยชนในประเทศไทย
2) การเสนอแนวทางการพัฒนาสทิ ธมิ นุษยชน
3) การมีส่วนรว่ มในการคมุ้ ครองปกปอ้ งสทิ ธมิ นษุ ยชน
 นกั เรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรื่อง สทิ ธมิ นษุ ยชน

 สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

9.1 ส่ือการเรยี นรู้

1. หนงั สือเรียน หนา้ ทีพ่ ลเมอื งฯ ม.4-ม.6

2. หนังสอื ค้นคว้าเพมิ่ เติม
1) เสนห่ ์ จามรกิ . สทิ ธิมนุษยชน : เกณฑค์ ุณค่าและฐานความคดิ . กรงุ เทพมหานคร :
มูลนธิ โิ ครงการดำรงศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์, 2544.
2) เสน่ห์ จามริก. สทิ ธมิ นษุ ยชนในสงั คมไทย. กรงุ เทพมหานคร : มลู นธิ โิ ครงการดำรงศาสตร์
และมนษุ ยศาสตร์, 2545.
3) เสนห่ ์ จามริก. สทิ ธิมนุษยชน : เส้นทางส่สู นั ติประชาธรรม. กรุงเทพมหานคร :
มลู นธิ โิ ครงการดำรงศาสตร์และมนษุ ยศาสตร,์ 2543.

3. ตวั อยา่ งข่าว
4. ใบความรเู้ รือ่ ง ปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสทิ ธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ
5. ใบงานที่ 1.1 เรื่อง แนวคดิ และหลักการสิทธมิ นษุ ยชน
6. ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง ปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสิทธิมนษุ ยชน
7. ใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง บทบญั ญตั ิของรฐั ธรรมนญู 2550 ทเี่ ก่ยี วกบั สทิ ธมิ นษุ ยชน
8. ใบงานที่ 2.2 เรื่อง เปลอื ยชวี ิตชาวโรฮิงญากบั ชีวติ ที่มากกว่าคำว่า โหดร้าย
9. ใบงานที่ 3.1 เรื่อง ปญั หาการถกู ละเมิดสิทธมิ นุษยชน
10. ใบงานท่ี 3.2 เรอื่ ง แนวทางการชว่ ยเหลือผู้ถูกละเมดิ สิทธมิ นุษยชน
11. ใบงานท่ี 3.3 เรอ่ื ง แนวทางในการพัฒนาสทิ ธิมนษุ ยชน

9.2 แหล่งการเรยี นรู้

1. ห้องสมุด
2. แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศ

http://hilight.kappok.com/view/33433
http://www.mfa.go.th/humanright

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น-หลงั เรยี น ประจาหน่วยการเรียนรู้ที่ 4



คำช้แี จง ให้นักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกตอ้ งทสี่ ุดเพียงขอ้ เดยี ว

1. ขอ้ ใดอธบิ ายความหมายของสิทธมิ นุษยชนไดช้ ัดเจนทีส่ ุด

ก. สิทธใิ นการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ที ีถ่ ูกต้องในฐานะมนษุ ย์

ข.สิทธทิ ีจ่ ะได้รบั การบรกิ ารจากรัฐและสงั คมตามควรแกอ่ ัตภาพ

ค.สทิ ธใิ นการดำเนนิ ชวี ิตและพฒั นาตนเองตามแนวทางทีช่ อบธรรม

ง. สทิ ธทิ ี่ทุกคนมีอยู่ในฐานะเป็นมนษุ ยเ์ ปน็ สทิ ธิทั้งในการดำรงอยสู่ ว่ นบุคคลและอยูร่ ว่ มกันในสังคม

2. หลกั การค้มุ ครองสิทธมิ นษุ ยชนท่ีสมชั ชาใหญ่ขององค์การสหประชาชาติประกาศเพอื่ เปน็ แนวทางใหเ้ ป็น

ประเทศสมาชิกใช้เป็นแนวทางปฏบิ ตั ติ อ่ พลเมือง เรยี กว่าอะไร

ก. ปฏิญญาสากลวา่ ด้วยหน้าท่ีข้นั พืน้ ฐานของประชาชน

ข.กตกิ าสากลว่าด้วยสิทธิของพลเมือง

ค.ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน

ง. หลักการสิทธมิ นษุ ยชน

3. วันสิทธมิ นษุ ยชนแห่งสหประชาชาติ คอื วันใด

ก. 1 มกราคม ข. 10 ตุลาคม

ค. 5 ธนั วาคม ง. 10 ธันวาคม

4. สิทธมิ นุษยชนประกอบด้วยสทิ ธิต่างๆที่ครอบคลุมการดำรงอยู่ของมนษุ ย์ ขอ้ ใดไมใ่ ช่

ก. สทิ ธิของพลเมอื งในชวี ติ และทรพั ยส์ ิน ข. สิทธพิ ทิ กั ษ์รัฐธรรมนญู

ค. กฎหมายอาญา ง. กฎหมายรัฐธรรมนูญ

5. การกำหนดเรอ่ื งสิทธิมนษุ ยชนในประเทศไทย มอี ยใู่ นกฎหมายใด

ก. กฎหมายปกครอง ข. กฎหมายระหวา่ งประเทศ

ค. กฎหมายอาญา ง. กฎหมายรัฐธรรมนูญ

6. หน่วยงานท่ีเกย่ี วข้องกับสทิ ธิมนุษยชนทีม่ ีอำนาจบทบาทกวา้ งขวางมากที่สุด คอื องค์กรใด

ก. คณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแห่งชาติสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ข. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ค. กระทรวงวฒั นธรรม

ง. กระทรวงมหาดไทย

7. นายแดงทะเลาะกับนางขาวภรรยาแล้วบงั คับใหน้ างขาวแก้ผา้ วิง่ ออกไปนอกบา้ นโดยขู่วา่ ถ้าไมก่ ระทำ

จะถูกทำร้าย การกระทำของนายแดงละเมดิ นางขาวเรื่องใด

ก. สทิ ธิทางรา่ งกาย ข. สทิ ธิในชีวติ

ค. ศักด์ิศรีของความเปน็ มนุษย์ ง. เสรภี าพเกนิ ขอบเขต

8. การท่ีชาวไทยปฏบิ ัติตอ่ ชาวต่างชาติทีล่ ี้ภยั จากประเทศเพ่ือนบา้ นเข้ามาพกั พงิ ในประเทศไทย จนได้รบั

การยกยอ่ งจาก สหประชาชาตกิ ารกระทำน้จี ดั อยู่ในข้อใด

ก. หลักมนุษยธรรม ข. หลกั สทิ ธิ เสรีภาพ

ค. หลักเสมอภาค ง. หลักยตุ ิธรรม

9. เหตกุ ารณ์สำคญั ทีเ่ กิดขนึ้ ในขอ้ ใดที่ทำใหร้ ฐั บาลไทยถกู กล่าวหาวา่ ละเมิดสิทธิมนษุ ยชน

ก. กลมุ่ คนเสอ้ื สเี หลอื งชมุ นุมประทว้ งรฐั บาล

ข. กลุม่ คนเสือ้ สีแดงชมุ นุมประท้วงรฐั บาล

ค. ความไมส่ งบในพนื้ ท่ี 3 จงั หวดั ชายแดนภาคใต้

ง. ภัยจากคลืน่ สนึ ามทิ ำให้ประชาชนไดร้ ับความเดอื ดรอ้ น

10. ประเทศแรกท่ีมีการประกาศหลักสทิ ธิของพลเมอื ง คือประเทศใด

ก. อเมรกิ า ข. ฝร่งั เศส

ค. เอกวาดอร์ ง. อังกฤษ

11. ขอ้ ใดจัดเป็นสิทธิมนษุ ยชนประเภทสทิ ธพิ ลเมอื ง

ก. สิทธทิ ่ีจะมงี านทำ ข. สทิ ธิในชีวิตและร่างกาย

ค. สิทธกิ ารรบั การศึกษา ง. สทิ ธิในการสร้างครอบครัว

12. คณะกรรมการสทิ ธิมนุษยชนแห่งชาติ มีจำนวนกี่คน

ก. 5 คน ข.6 คน ค.7 คน ง. 8 คน

13. รัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย พ.ศ.2550 ได้ให้ความคุ้มครองสิทธิมนุษยชนอยา่ งชดั เจนโดยบญั ญตั ิ

ไว้ในหมวดใด

ก. หมวดที่ 3 สทิ ธิและเสรีภาพของชนชาวไทย

ข. หมวดที่ 4 หนา้ ที่ของชนชาวไทย

ค. หมวดท่ี 5 แนวนโยบายพื้นฐานแหง่ รัฐ

ง. หมวดที่ 7 การมีส่วนร่วมทางการเมอื งโดยตรงของประชาชน

14. การแก้ไขปัญหาแรงงานข้ามชาตใิ หไ้ ด้ผลดตี ามเป้าหมายนนั้ จะตอ้ งได้รบั ความรว่ มมือจากใคร

ก. กรมแรงงาน

ข. นายจา้ งหรอื ผู้รบั แรงงาน

ค. องค์การสหประชาชาติ

ง. ประเทศทเี่ ป็นตน้ ทางของแรงงาน

15. ผู้ใดเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแตง่ ต้ังประธานกรรมการสิทธิมนษุ ยชนแหง่ ชาติ

ก. ประธานรัฐสภา ข. ประธานวฒุ ิสภา

ค. ประธานองคมนตรี ง. ประธานสภาผแู้ ทนราษฎร

16. ข้อใดไมใ่ ชอ่ ำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ

ก. สง่ เสรมิ การศกึ ษา การวจิ ัย และเผยแพรค่ วามรูด้ า้ นสิทธิมนษุ ยชน

ข. ฟ้องคดีตอ่ ศาลยุติธรรมแทนผ้เู สียหายกรณไี ด้รบั การรอ้ งขอ

ค. ตรวจสอบและรายงานการละเมดิ สทิ ธิมนุษยชนต่อรัฐสภา

ง. ตรวจสอบการกระทำความผิดฐานทุจริตต่อหนา้ ที่

17. หน่วยงานใดท่ีมอี ำนาจหน้าทีใ่ นการคุม้ ครองมใิ หม้ ีการละเมิดและดำเนินคดกี ับบคุ คลที่ละเมดิ สทิ ธิ

มนษุ ยชน


Click to View FlipBook Version