The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน วิชาการออกแบบและเทคโนโลยี ม.3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ความสุข ของทุกคน, 2021-06-21 01:46:31

แผนการสอน วิชาการออกแบบและเทคโนโลยี ม.3

แผนการสอน วิชาการออกแบบและเทคโนโลยี ม.3

Keywords: แผนการสอน วิชาการออกแบบและเทคโนโลยี ม.3

พเิ ศษ 1

คณะผจู้ ดั ทำ

สารบัญ

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี หนา้
พเิ ศษ 3
คำอธิบายรายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3
พิเศษ 5
โครงสร้างรายวิชา เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3
พิเศษ 6-8
โครงสร้างแผนการจดั การเรยี นรู้ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3
พเิ ศษ 9-14
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 เทคโนโลยีกบั ชีวิต
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 สาเหตหุ รือปจั จยั ที่ส่งผลตอ่ การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี 1
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 ความสัมพันธ์ของเทคโนโลยกี ับศาสตรอ์ นื่ 10
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 การนำเทคโนโลยีไปสร้างนวตั กรรมใหม่ 16
24

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 2 เทคโนโลยกี บั การพัฒนางานอาชีพภายในชุมชนหรือท้องถ่ิน 39
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 ปญั หาหรอื ความต้องการภายในชมุ ชนหรอื ทอ้ งถน่ิ 50
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 การใชเ้ ทคโนโลยใี นการแก้ปัญหา 59

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 วสั ดุ อุปกรณ์ เครอ่ื งมือ และความรู้ในการแกป้ ัญหาหรอื พฒั นางาน 74
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 ความรูเ้ ก่ียวกับวัสดสุ ำหรับการพัฒนาชนิ้ งาน 85
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 อุปกรณ์และเครอ่ื งมอื ช่างพน้ื ฐานในการแกป้ ัญหาและสร้างชน้ิ งาน 93
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 ความรูใ้ นการแกป้ ญั หาหรือพัฒนาช้ินงาน 99

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การแก้ปญั หาชุมชนหรอื ท้องถ่ินดว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม 115
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรมกับการแก้ปญั หาชมุ ชนหรือท้องถ่นิ 127
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 กรณีศึกษาการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวตั กรรมไปพัฒนาชมุ ชน 152

พิเศษ 2

ตวั ชีว้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลย*ี

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวติ ในสังคมท่มี ีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเรว็

ใช้ความรแู้ ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อืน่ ๆ เพ่ือแก้ปญั หาหรอื

พัฒนางานอยา่ งมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี

อย่างเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชีวิต สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม

ชั้น ตัวชวี้ ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง

ม.3 1. วเิ คราะห์สาเหตุ หรอื ปัจจยั ท่ีสง่ ผลต่อ  เทคโนโลยมี กี ารเปล่ยี นแปลงตลอดเวลาตั้งแต่อดีตจนถึง

การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี และ ปจั จบุ ัน ซงึ่ มีสาเหตุหรือปัจจัยมาจากหลายดา้ น เชน่

ความสมั พันธข์ องเทคโนโลยกี บั ศาสตร์อื่น ปัญหาหรือความต้องการของมนุษย์ ความก้าวหนา้

โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตร์ หรอื คณติ ศาสตร์ ของศาสตรต์ า่ ง ๆ การเปลีย่ นแปลงทางด้านเศรษฐกจิ

เพือ่ เปน็ แนวทางการแก้ปัญหาหรือพัฒนา สังคม วัฒนธรรมสง่ิ แวดลอ้ ม

งาน  เทคโนโลยมี คี วามสัมพันธ์กบั ศาสตร์อ่ืน โดยเฉพาะ

วิทยาศาสตร์ โดยวิทยาศาสตร์เปน็ พ้ืนฐานความรู้ท่ี

นำไปสกู่ ารพัฒนาเทคโนโลยี และเทคโนโลยที ี่ไดส้ ามารถ

เป็นเครอ่ื งมือที่ใชใ้ นการศกึ ษา ค้นคว้าเพื่อให้ได้มาซ่ึง

องค์ความร้ใู หม่

2. ระบุปัญหาหรอื ความต้องการของชุมชน  ปัญหาหรอื ความต้องการอาจพบได้ในงานอาชีพของชุมชน

หรอื ท้องถิน่ เพ่ือพฒั นางานอาชีพ หรือท้องถิ่น ซึ่งอาจมหี ลายดา้ น เชน่ ด้านการเกษตร

สรุปกรอบของปญั หา รวบรวม วเิ คราะห์ อาหาร พลังงาน การขนส่ง

ขอ้ มูลและแนวคิดที่เกย่ี วข้องกับปญั หา  การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ปัญหาชว่ ยให้เข้าใจเงื่อนไข

โดยคำนงึ ถึงความถูกตอ้ งดา้ นทรัพย์สิน และกรอบของปญั หาไดช้ ดั เจน จากนน้ั ดำเนินการสืบคน้

ทางปัญญา รวบรวมข้อมลู ความรจู้ ากศาสตรต์ ่าง ๆ ที่เกยี่ วข้อง

เพื่อนำไปสู่การออกแบบแนวทางการแก้ปญั หา

3. ออกแบบวิธีการแกป้ ญั หา โดยวิเคราะห์  การวเิ คราะห์ เปรยี บเทียบ และตดั สนิ ใจเลือกข้อมลู

เปรยี บเทยี บ และตดั สนิ ใจเลือกข้อมูล ทีจ่ ำเป็น โดยคำนงึ ถงึ ทรัพยส์ ินทางปัญญา เง่ือนไขและ

ทีจ่ ำเปน็ ภายใต้เง่ือนไขและทรพั ยากร ทรพั ยากร เช่น งบประมาณ เวลา ขอ้ มลู และสารสนเทศ

ท่มี อี ยู่ นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหา วัสดุ เครอ่ื งมือและอปุ กรณช์ ว่ ยใหไ้ ด้แนวทาง

ให้ผ้อู น่ื เข้าใจดว้ ยเทคนิคหรือวิธกี าร การแก้ปัญหาทเ่ี หมาะสม

ท่ีหลากหลาย วางแผนขั้นตอนการทำงาน  การออกแบบแนวทางการแก้ปญั หาทำไดห้ ลากหลายวิธี

และดำเนนิ การแก้ปัญหาอย่างเป็นข้ันตอน เช่น การร่างภาพ การเขียนแผนภาพ การเขยี นผงั งาน

พิเศษ 3

ชั้น ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง

 เทคนคิ หรือวิธีการในการนำเสนอแนวทางการแกป้ ญั หา

มีหลากหลาย เชน่ การใชแ้ ผนภมู ิ ตาราง ภาพเคลือ่ นไหว

 การกำหนดขนั้ ตอนและระยะเวลาในการทำงานก่อน

ดำเนนิ การแก้ปัญหาจะชว่ ยให้การทำงานสำเร็จตาม

เปา้ หมาย และลดขอ้ ผดิ พลาดของการทำงานที่อาจ

เกดิ ขึน้

4. ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์ และ  การทดสอบและประเมินผลเป็นการตรวจสอบช้นิ งาน

ใหเ้ หตผุ ลของปัญหาหรือข้อบกพร่อง หรือวธิ ีการว่า สามารถแก้ปัญหาไดต้ ามวตั ถปุ ระสงค์

เกิดขน้ึ ภายใต้กรอบเง่อื นไข พรอ้ มทั้ง ภายใตก้ รอบของปญั หา เพื่อหาข้อบกพร่อง และ

หาแนวทางการปรบั ปรุงแก้ไข และ ดำเนินการปรบั ปรงุ โดยอาจทดสอบซำ้ เพ่ือให้สามารถ

นำเสนอผลการแกป้ ญั หา แกไ้ ขปญั หาได้

 การนำเสนอผลงานเปน็ การถ่ายทอดแนวคดิ เพ่ือใหผ้ ู้อน่ื

เขา้ ใจเก่ยี วกับกระบวนการทำงานและชิ้นงานหรือวิธีการ

ที่ได้ ซง่ึ สามารถทำได้หลายวิธี เช่น การเขยี นรายงาน

การทำแผน่ นำเสนอผลงาน การจดั นทิ รรศการ

การนำเสนอผา่ นสื่อออนไลน์

5. ใช้ความรู้ และทักษะเกี่ยวกับวสั ดุ อุปกรณ์  วสั ดุแต่ละประเภทมีสมบตั แิ ตกตา่ งกัน เช่น ไม้ โลหะ

เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ พลาสติก เซรามิก จึงต้องมีการวเิ คราะห์สมบัติ

ใหถ้ กู ต้องกับลักษณะของงาน และ เพอื่ เลือกใช้ให้เหมาะสมกบั ลักษณะของงาน

ปลอดภัยเพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน  การสร้างช้ินงานอาจใชค้ วามรู้ เร่อื งกลไก ไฟฟ้า

อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เชน่ LED LDR มอเตอร์ เฟือง คาน รอก

ลอ้ เพลา

 อปุ กรณ์และเครอื่ งมอื ในการสรา้ งชน้ิ งานหรอื พฒั นา

วิธีการมหี ลายประเภท ต้องเลอื กใชใ้ ห้ถกู ต้อง เหมาะสม

และปลอดภยั รวมทั้งรู้จักเก็บรักษา

พิเศษ 4

คำอธิบายรายวิชา

รายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) กลุม่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 20 ช่ัวโมง

ศกึ ษาสาเหตุหรอื ปจั จัยที่ส่งผลตอ่ การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี และผลกระทบต่อมนษุ ย์ สังคม เศรษฐกิจ
สิ่งแวดล้อม และอาชีพในชุมชน เพื่อสำรวจและระบุปัญหาที่เกิดขึ้นได้ตรงตามความจริง กระบวนการแก้ปัญหาโดย
ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ ร่วมกัน ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประเภท และสมบัติของวัสดุต่าง ๆ
เช่น ไม้ เหล็ก พลาสติก ยางพารา เครื่องมือในการสร้างช้ินงาน เช่น ค้อน ประแจ สว่าน คีมประเภทต่าง ๆ เพื่อให้
สามารถตดั สนิ ใจเลือกแนวทางในออกแบบการแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสม

โดยอาศัยกระบวนการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน ( Problem – based Learning) วิธีการสอนโดยเน้นรูปแบบ
การสอนแบบใช้โครงงานเป็นฐาน (Project-based Learning) วัฏจักรการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es
Intructional Model) และวิธีการสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบอุปนัย (Induction) เพื่อเน้นให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติ
ฝึกทักษะการคิด เผชิญสถานการณ์การแก้ปัญหา วางแผนการเรียนรู้ ตรวจสอบการเรียนรู้ และสร้างองค์ความรู้ใหม่ด้วย
ตนเองผา่ นกระบวนการคิดและปฏิบัติ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์

เพอ่ื ให้ผเู้ รยี นมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะเกีย่ วกบั การใช้ความร้ดู ้านวิทยาศาสตร์และศาสตรอ์ น่ื ๆ ในการ
ออกแบบและพัฒนาเทคโนโลยีในดา้ นตา่ ง ๆ ทีส่ ามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ และเกดิ ประโยชน์
ต่อสังคม และการดำรงชวี ติ จนสามารถพัฒนากระบวนการคิดและจนิ ตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและ
การจัดการทักษะในการสื่อสาร และความสามารถในการตัดสินใจ และเป็นผทู้ ่มี จี ิตวทิ ยาศาสตร์ มีคณุ ธรรม
จริยธรรม และค่านยิ มในการใชว้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์

ตัวชี้วดั
ว 4.1 ม.3/1 ม.3/2 ม.3/3 ม.3/4 ม.3/5

รวม 5 ตวั ช้ีวดั

พเิ ศษ 5

โครงสรา้ งรายวชิ า เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ช้นั ม.3

ลำดับท่ี ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน มโนทัศนส์ ำคญั เวลา
1. เทคโนโลยกี บั ชวี ติ การเรยี นรู/้ ตัวชว้ี ดั (ชม.)

ว 4.1 ม.3/1 ความต้องการของมนุษย์เกิดข้ึนอยู่ตลอดเวลา 5

และยังทำให้เกิดการเปล่ยี นแปลงในด้านตา่ ง ๆ

คือ การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม

ด้านวฒั นธรรม และด้านสงิ่ แวดล้อม

ปัจจุบนั มีการนำเทคโนโลยขี ้ันสงู มาใช้ในทุก

ภาคส่วน ดงั น้ัน เทคโนโลยีจึงเกย่ี วข้องกับ

การนำความรจู้ ากศาสตรต์ ่าง ๆ มาประกอบกับ

ความรูด้ า้ นวิทยาศาสตร์และด้านคณติ ศาสตร์

เพื่อแกป้ ัญหาหรือพัฒนางานอาชพี ตา่ ง ๆ

ในชุมชนอยา่ งสร้างสรรค์ เพ่ือตอบสนองต่อ

ตลาดแรงงาน โดยมุ่งสง่ เสริมเทคโนโลยีพนื้ ฐาน

ท้ัง 4 ดา้ น ได้แก่ เทคโนโลยชี วี ภาพ นาโน

เทคโนโลยี เทคโนโลยวี ัสดศุ าสตร์พลังงาน

และส่งิ แวดลอ้ ม และเทคโนโลยสี ารสนเทศ

การส่อื สาร และดิจิทัล

2. เทคโนโลยีกับ ว 4.1 ม.3/2 การสำรวจชมุ ชน เป็นศึกษาข้อเท็จจริง 4
เกี่ยวกับลักษณะและสภาพของสังคม เศรษฐกจิ
การพัฒนางานอาชีพ ม.3/3 วัฒนธรรม ความต้องการ และปัญหาในชุมชน
เพ่ือใหท้ ราบลักษณะและขอบเขตของปัญหา
ภายในชุมชนหรอื ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในชุมชน และเป็นพน้ื ฐาน
ในการศึกษาหาสาเหตุของแต่ละปัญหา และ
ท้องถิ่น หาแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ซึ่งปญั หาหรือ
ความต้องการภายในชุมชนหรือท้องถนิ่ นั้น
สามารถแบ่งเป็นประเภทตา่ ง ๆ ไดด้ ังนี้ คือ
ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ดา้ นสังคม ด้านวัฒนธรรม
และดา้ นส่งิ แวดล้อม

เทคโนโลยี เป็นสิง่ ทม่ี นุษยส์ ร้างสรรค์ขึ้น
มาใชเ้ พ่ือการแก้ปัญหาพ้นื ฐานที่เกิดขึ้น

พเิ ศษ 6

ลำดบั ที่ ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน มโนทัศนส์ ำคัญ เวลา
การเรียนรู/้ ตวั ชี้วดั (ชม.)

ในการดำรงชวี ิตตั้งแต่สมัยโบราณ โดยมีการ

แบ่งระดบั ของเทคโนโลยีที่ใช้ในการแกป้ ัญหา

ออกเปน็ 3 ระดบั

3. วัสดุ อปุ กรณ์ ว 4.1 ม.3/5 วสั ดุ หมายถึง สิง่ ของหรือวตั ถุท่นี ำมาใช้ 4
ประกอบกนั เปน็ ช้นิ งานตามการออกแบบ 7
เครื่องมอื และความรู้ มีสมบัตเิ ฉพาะตัวทางฟสิ ิกส์ ทางเคมี ทาง
ไฟฟา้ หรอื สมบัติเชิงกลแตกต่างกนั ไป โดย
ในการแกป้ ัญหาหรือ วัสดุแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ โลหะและอโลหะ
โดยการเลอื กใช้วัสดคุ วรพจิ ารณาจากสมบัติ
พัฒนางาน ของวสั ดุใหต้ รงกบั งานทอี่ อกแบบหรือตาม
วัตถปุ ระสงค์ทีต่ ้องการ รวมถึงการใช้งาน
4. การแก้ปัญหาชุมชน ว 4.1 ม.3/1 อปุ กรณ์และเครื่องมือช่างพืน้ ฐานถอื ว่าเปน็
ตัวชว่ ยที่สำคญั ในการออกแบบกระบวนการ
หรือท้องถ่นิ ดว้ ย ม.3/2 ผลิต

กระบวนการออกแบบ ม.3/3 การแกป้ ัญหาโดยการพัฒนางานจำเปน็ ตอ้ ง
อาศยั กลไกให้ทำงานประสานสอดคลอ้ งกนั ใน
เชงิ วศิ วกรรม ม.3/4 การพฒั นาชิ้นงาน ได้แก่ ล้อและเพลา รอก
เฟอื งตรง คาน และสปรงิ รวมถงึ กระบวนการ
ไฟฟ้าท่ีก่อใหเ้ กิดพลังงานอื่น ๆ เชน่ แสงสว่าง
ความร้อน พลังงานกล การควบคุมหรือออกแบบ
การไหลของกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟา้
กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรมเป็น
กระบวนการแกป้ ญั หาหรือพัฒนาชนิ้ งาน
อยา่ งเปน็ ขน้ั ตอนภายใต้ทรัพยากรท่มี ีอยู่
โดยวิเคราะหส์ ถานการณ์ของปญั หา ผลกระทบ
ของการแก้ปัญหา เพื่อนำไปสูก่ ารออกแบบ
แนวทางการแกป้ ัญหา โดยใช้ความร้ดู า้ น
วิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อน่ื ๆ

สำหรบั กระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม

พเิ ศษ 7

ลำดับท่ี ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน มโนทศั นส์ ำคญั เวลา
การเรียนร/ู้ ตวั ชี้วัด (ชม.)

โดยการพฒั นาชุมชนอย่างยง่ั ยืนนนั้ จะม่งุ เน้น

พัฒนาชมุ ชนให้พึ่งพาตัวเองได้ผา่ นการสรา้ ง

ผนู้ ำชุมชนทีเ่ ข้มแข็ง ทำงานตอบสนองต่อ

สภาพแวดลอ้ มทเ่ี ปน็ เอกลกั ษณข์ องแต่ละ

ชมุ ชน นำวิธกี ารพัฒนาที่ไดผ้ ลมาใช้แกป้ ัญหา

ทีส่ ำคัญของชมุ ชน และกระตุ้นใหเ้ กิดการลง

มือทำ ตลอดจนมีการสรา้ งเศรษฐกิจใหก้ ับ

ชุมชนโดยอาศยั กระบวนการออกแบบเชงิ

วิศวกรรมมาชว่ ยในการสรา้ งงาน เพ่ือนำไปสู่

การแก้ปัญหาท่ีเกิดขน้ึ ในชมุ ชนอยา่ งย่งั ยนื

พเิ ศษ 8

โครงสร้างแผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าพื้นฐานวิทยา

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วธิ สี อน/วธิ กี ารจดั
1. เทคโนโลยีกับชีวิต กจิ กรรมการเรยี นรู้

แผนท่ี 1 สาเหตุหรือปัจจยั ทส่ี ่งผล แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es

ตอ่ การเปลี่ยนแปลงของ (5Es Instructional Model)

เทคโนโลยี

แผนที่ 2 ความสัมพันธข์ อง แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es
เทคโนโลยกี ับศาสตรอ์ ื่น (5Es Instructional Model)

พเิ ศ

าศาสตร์ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3

เวลา 20 ชวั่ โมง

ทกั ษะท่ีได้ การประเมิน เวลา
(ชว่ั โมง)

1. ทักษะการสอ่ื สาร 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2

) 2. ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 1 เทคโนโลยีกบั ชีวติ

3. ทักษะการแกป้ ญั หา 2. ตรวจแบบฝกึ หดั

4. ทักษะการสงั เกต 3. ประเมินการนำเสนอผลงาน

5. ทักษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้ 4. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล

6. ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั 5. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่

7. ทักษะการใช้เทคโนโลยี 6. สงั เกตความมวี ินัย ความรับผดิ ชอบ

สารสนเทศ ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ ม่ันในการทำงาน

1. ทกั ษะการสือ่ สาร 1. ตรวจใบงานท่ี 1.2.1 เรือ่ ง เทคโนโลยีกับ 2

) 2. ทกั ษะการให้เหตผุ ล ศาสตร์ตา่ ง ๆ

3. ทักษะการแก้ปัญหา 2. ตรวจแบบฝึกหัด

4. ทกั ษะการสังเกต 3. ประเมินการนำเสนอผลงาน

5. ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 4. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล

6. ทกั ษะการทำงานร่วมกัน 5. สงั เกตพฤตกิ รรมการทำงานกลุ่ม

7. ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี 6. สังเกตความมีวินัย ความรบั ผดิ ชอบ

สารสนเทศ ใฝ่เรียนรู้ มุง่ มนั่ ในการทำงาน

ศษ 9

หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ วธิ สี อน/วิธกี ารจัด
กจิ กรรมการเรียนรู้
แผนที่ 3 การนำเทคโนโลยี แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es
ไปสรา้ งนวัตกรรม (5Es Instructional Model)

2. เทคโนโลยีกบั การพฒั นา แผนท่ี 1 ปัญหาหรอื ความต้องการ แบบใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน

งานอาชีพภายในชุมชน ภายในชมุ ชนหรอื ท้องถ่นิ (Problem-Based Learning

หรอื ท้องถ่นิ

พิเศษ

ทกั ษะที่ได้ การประเมิน เวลา
(ชัว่ โมง)
1. ทักษะการสือ่ สาร 1. ตรวจแบบฝึกหัด
1
) 2. ทักษะการให้เหตผุ ล 2. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
2
3. ทักษะการแก้ปัญหา 3. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล

4. ทกั ษะการสงั เกต 4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม

5. ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 5. สงั เกตความมวี ินัย ความรบั ผดิ ชอบ

6. ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั ใฝเ่ รียนรู้ ม่งุ มั่นในการทำงาน

7. ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี 6. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น

สารสนเทศ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เทคโนโลยีกบั ชวี ติ

7. ตรวจช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

เรือ่ ง เทคโนโลยีและนวตั กรรม

1. ทกั ษะการส่ือสาร 1. ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น

g) 2. ทักษะการใหเ้ หตผุ ล หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 2 เทคโนโลยีกบั

3. ทกั ษะการแก้ปญั หา การพัฒนางานอาชีพภายในชุมชนหรอื

4. ทกั ษะการสงั เกต ท้องถิ่น

5. ทกั ษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้ 2. ตรวจแบบฝกึ หัด

6. ทกั ษะการทำงานร่วมกัน 3. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน

7. ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี 4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล

สารสนเทศ 5. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลมุ่

6. สังเกตความมวี นิ ยั ความรับผดิ ชอบ

ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

ษ 10

หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วธิ ีสอน/วธิ ีการจดั
กจิ กรรมการเรียนรู้
แผนที่ 2 การใชเ้ ทคโนโลยี แบบใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน
ในการแกป้ ัญหา (Problem-Based Learning

3. วัสดุ อปุ กรณ์ แผนท่ี 1 ความรเู้ กยี่ วกบั วสั ดุ แบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es
เคร่อื งมือ และความรู้ สำหรบั การพฒั นาช้ินงาน (5Es Instructional Model)
ในการแกป้ ัญหาหรอื
พฒั นางาน

พเิ ศษ

ทักษะท่ีได้ การประเมิน เวลา
(ชั่วโมง)
1. ทกั ษะการสอ่ื สาร 1. ตรวจแบบฝกึ หดั
2
g) 2. ทักษะการใหเ้ หตผุ ล 2. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
1
3. ทักษะการแก้ปญั หา 3. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล

4. ทกั ษะการสงั เกต 4. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม

5. ทกั ษะการประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ 5. สังเกตความมีวินัย ความรับผดิ ชอบ

6. ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

7. ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี 6. ตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น

สารสนเทศ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 เทคโนโลยกี บั

การพัฒนางานอาชีพภายในชุมชนหรือ

ทอ้ งถิน่

7. ตรวจช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

เรอื่ ง การพฒั นางานอาชีพภายในชมุ ชน

หรอื ทอ้ งถนิ่ โดยใช้เทคโนโลยี

1. ทักษะการสอ่ื สาร 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น

) 2. ทกั ษะการให้เหตผุ ล หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 วัสดุ อุปกรณ์

3. ทกั ษะการแกป้ ัญหา เคร่ืองมอื และความรูใ้ นการแกป้ ญั หา
4. ทกั ษะการสงั เกต หรอื พฒั นางาน
5. ทกั ษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้ 2. ตรวจใบงานที่ 3.1.1 เร่อื ง สำรวจวัสดุ
6. ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั ภายในบา้ น
7. ทักษะการใช้เทคโนโลยี 3. ตรวจแบบฝึกหดั
4. ประเมินการนำเสนอผลงาน
สารสนเทศ

5. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล

6. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม

ษ 11

หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธสี อน/วธิ ีการจัด
กจิ กรรมการเรยี นรู้

แผนท่ี 2 อุปกรณแ์ ละเคร่อื งมอื ช่าง แบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es
พืน้ ฐานในการแก้ปัญหา (5Es Instructional Model)
และสร้างช้นิ งาน

แผนที่ 3 ความรใู้ นการแก้ปญั หา แบบใชป้ ัญหาเปน็ ฐาน
หรือพัฒนาช้นิ งาน (Problem-Based Learning

พิเศษ

ทกั ษะท่ีได้ การประเมิน เวลา
(ช่วั โมง)
7. สังเกตความมีวินยั ความรับผดิ ชอบ
ใฝ่เรียนรู้ มุง่ ม่ันในการทำงาน 1

1. ทักษะการสอ่ื สาร 1. ตรวจแบบฝึกหดั 2

) 2. ทกั ษะการให้เหตผุ ล 2. ประเมินการนำเสนอผลงาน

3. ทกั ษะการแกป้ ญั หา 3. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล

4. ทกั ษะการสงั เกต 4. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานกล่มุ

5. ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้ 5. สงั เกตความมวี ินยั ความรับผดิ ชอบ
6. ทักษะการทำงานร่วมกัน
7. ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี ใฝ่เรยี นรู้ มุง่ มัน่ ในการทำงาน

สารสนเทศ

1. ทักษะการสื่อสาร 1. ตรวจใบงานที่ 3.3.1 เรือ่ ง กลไก ไฟฟา้

g) 2. ทกั ษะการให้เหตผุ ล และอปุ กรณอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์

3. ทกั ษะการแก้ปญั หา 2. ตรวจแบบฝกึ หัด

4. ทักษะการสงั เกต 3. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
5. ทกั ษะการประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ 4. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
6. ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน 5. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่
7. ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี 6. สงั เกตความมีวนิ ยั ความรบั ผดิ ชอบ

สารสนเทศ ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน

7. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 วัสดุ อปุ กรณ์

เครื่องมอื และความร้ใู นการแก้ปญั หา

หรือพัฒนางาน

ษ 12

หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ วธิ สี อน/วธิ กี ารจดั
กิจกรรมการเรยี นรู้

4. การแก้ปญั หาชมุ ชน แผนที่ 1 กระบวนการออกแบบ แบบใชโ้ ครงงานเป็นฐาน
หรือทอ้ งถนิ่ ดว้ ย เชิงวิศวกรรมกบั (Project-Based Learning)
กระบวนการออกแบบ การแก้ปัญหาชุมชน
เชิงวศิ วกรรม หรอื ทอ้ งถนิ่

พเิ ศษ

ทกั ษะที่ได้ การประเมิน เวลา
(ช่วั โมง)
1. ทักษะการสอ่ื สาร 8. ตรวจชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
2. ทักษะการใหเ้ หตผุ ล เรอ่ื ง การพัฒนาชน้ิ งานเพอื่ แกป้ ัญหา 4
3. ทกั ษะการคิดอยา่ งเป็นระบบ โดยใชค้ วามรเู้ ก่ียวกบั วสั ดุ อปุ กรณ์
4. ทักษะการแก้ปญั หา
5. ทกั ษะการสงั เกต 1. ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น
6. ทักษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้ หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 การแกป้ ญั หาชมุ ชน
7. ทกั ษะการทำงานร่วมกนั หรือท้องถนิ่ ด้วยกระบวนการออกแบบ
8. ทกั ษะการใช้เทคโนโลยี เชิงวิศวกรรม

สารสนเทศ 2. ตรวจใบงานท่ี 4.1.1 เรอ่ื ง การระบุปัญหา
9. ทักษะการสืบค้นขอ้ มลู 3. ตรวจใบงานท่ี 4.1.2 เรอ่ื ง การรวบรวม

ข้อมูลและแนวคดิ ท่เี กี่ยวข้อง
4. ตรวจใบงานท่ี 4.1.3 เรอื่ ง การออกแบบ

วธิ กี ารแก้ปัญหา
5. ตรวจใบงานที่ 4.1.4 เรอ่ื ง การวางแผน

และดำเนนิ การแก้ปญั หา
6. ประเมนิ การนำเสนอผลงาน
7. สังเกตพฤตกิ รรมการทำงานรายบคุ คล
8. สังเกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่
9. สงั เกตความมีวนิ ยั ความรับผดิ ชอบ

ใฝ่เรียนรู้ มุง่ มั่นในการทำงาน

ษ 13

หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ วิธสี อน/วธิ กี ารจัด
กจิ กรรมการเรยี นรู้
แผนท่ี 2 กรณศี กึ ษาการนำ แบบอุปนัย (Induction)
วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี
และนวตั กรรมไปพัฒนา
ชมุ ชน

พเิ ศษ

ทกั ษะท่ีได้ การประเมิน เวลา
(ชวั่ โมง)
1. ทกั ษะการส่อื สาร 1. ตรวจแบบฝึกหดั
2. ทักษะการใหเ้ หตผุ ล 2. ประเมินการนำเสนอผลงาน 3
3. ทกั ษะการคิดอยา่ งเป็นระบบ 3. สังเกตพฤติกรรมการทำงานรายบคุ คล
4. ทกั ษะการแกป้ ัญหา 4. สงั เกตพฤติกรรมการทำงานกลุม่
5. ทักษะการสงั เกต 5. สงั เกตความมีวนิ ยั ความรับผดิ ชอบ
6. ทกั ษะการประยุกตใ์ ช้ความรู้
7. ทักษะการทำงานรว่ มกัน ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
8. ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยี 6. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น

สารสนเทศ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การแก้ปญั หาชุมชน
9. ทักษะการสบื คน้ ข้อมลู หรือท้องถ่ินดว้ ยกระบวนการออกแบบ
เชงิ วิศวกรรม
7. ตรวจช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรอ่ื ง การแกป้ ญั หาชุมชนหรอื ทอ้ งถน่ิ
ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม

ษ 14

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เทคโนโลยกี ับชีวิต

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1
เทคโนโลยีกับชีวิต

เวลา 5 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด

ว 4.1 เข้าใจแนวคดิ หลักของเทคโนโลยีเพ่ือการดำรงชีวติ ในสงั คมท่ีมกี ารเปลย่ี นแปลงอย่างรวดเร็ว
ใชค้ วามร้แู ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพ่ือแก้ปัญหาหรือ
พัฒนางานอยา่ งมีความคดิ สร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้
เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชีวติ สังคม และส่ิงแวดล้อม
ว 4.1 ม.3/1 วเิ คราะห์สาเหตุ หรอื ปจั จยั ท่ีสง่ ผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี และ
ความสัมพนั ธข์ องเทคโนโลยกี ับศาสตรอ์ น่ื โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือ
คณิตศาสตร์ เพื่อเปน็ แนวทางการแกป้ ัญหาหรือพัฒนางาน

2. สาระการเรียนรู้

2.1 สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
1) เทคโนโลยมี ีการเปลย่ี นแปลงตลอดเวลาตง้ั แต่อดีตจนถึงปัจจบุ นั ซึ่งมสี าเหตุหรอื ปจั จยั
มาจากหลายดา้ น เช่น ปัญหาหรอื ความต้องการของมนุษย์ ความก้าวหน้าของศาสตรต์ ่าง ๆ
การเปลย่ี นแปลงทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม ส่ิงแวดลอ้ ม
2) เทคโนโลยมี ีความสัมพนั ธ์กับศาสตรอ์ ื่น โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตร์ โดยวิทยาศาสตร์เป็นพื้นฐาน
ความรูท้ ีน่ ำไปสกู่ ารพัฒนาเทคโนโลยี และเทคโนโลยีท่ีได้สามารถเปน็ เครือ่ งมอื ท่ใี ชใ้ นการศกึ ษา
ค้นควา้ เพ่ือให้ได้มาซงึ่ องคค์ วามรใู้ หม่

2.2 สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่นิ
(พจิ ารณาตามหลกั สูตรสถานศกึ ษา)

3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

ความต้องการของมนุษย์ก็คอื ความอยากได้ ซึ่งเม่ือมนษุ ย์เกิดความอยากได้ จงึ ตอ้ งพยายาม
ดิน้ รนหาสิ่งท่สี ามารถตอบสนองความต้องการนัน้ ๆ เม่ือร่างกายได้รบั การตอบสนองแล้วกจ็ ะเกิด
ความต้องการใหม่ ๆ ขน้ึ มาทดแทน ดังน้นั ความต้องการของมนุษย์จึงเกิดขนึ้ อยู่ตลอดเวลา นอกจากน้ัน
ความต้องการของมนุษยย์ ังทำให้เกิดการเปลยี่ นแปลงในด้านตา่ ง ๆ คือ การเปลย่ี นแปลงด้านเศรษฐกิจ
การเปล่ยี นแปลงดา้ นสังคม การเปล่ียนแปลงดา้ นวัฒนธรรม และการเปลย่ี นแปลงดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม

เทคโนโลยเี ปน็ วิทยาการทเ่ี กิดขึน้ จากการนำความรูด้ า้ นต่าง ๆ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์และ
คณติ ศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหา ปจั จบุ นั มกี ารนำเทคโนโลยีขัน้ สูงมาใช้ในทุกภาคส่วน ดังนั้น

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

1

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เทคโนโลยกี ับชีวติ

เทคโนโลยจี ึงเกีย่ วขอ้ งกบั การนำความร้จู ากศาสตร์ต่าง ๆ มาประกอบกบั ความร้ดู ้านวิทยาศาสตรแ์ ละ
คณติ ศาสตร์ เพอื่ แกป้ ญั หาหรือพฒั นางานอาชีพตา่ ง ๆ ในชุมชนอยา่ งสรา้ งสรรค์ และ เทคโนโลยีทีไ่ ด้จาก
การพฒั นาสามารถเปน็ เครื่องมอื ที่ใชใ้ นการศึกษาค้นคว้า เพือ่ ให้ไดม้ าซงึ่ องค์ความรใู้ หม่และนวัตกรรมใหม่
อย่างมีความคดิ สรา้ งสรรค์ เพ่ือตอบสนองต่อตลาดแรงงาน โดยมุ่งส่งเสริมเทคโนโลยพี น้ื ฐานทง้ั 4 ด้าน
ไดแ้ ก่ เทคโนโลยีชีวภาพ นาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยวี ัสดศุ าสตร์พลงั งานและสิง่ แวดลอ้ ม และเทคโนโลยี
สารสนเทศ การสื่อสาร และดิจทิ ัล

4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี นและคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ

- ทกั ษะการสอ่ื สาร 2. ใฝเ่ รียนรู้

2. ความสามารถในการคิด 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

- ทักษะการใหเ้ หตผุ ล

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

- ทักษะการแก้ปญั หา

- ทักษะการสงั เกต

- ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

- ทกั ษะการทำงานรว่ มกนั

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

- ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ

5. ชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)

- ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรอื่ ง เทคโนโลยกี บั ชวี ิต

6. การวัดและการประเมนิ ผล

รายการวัด วิธวี ัด เครื่องมอื เกณฑก์ ารประเมิน
ประเมินตามสภาพจรงิ
6.1 การประเมนิ ก่อนเรียน - แบบทดสอบ
กอ่ นเรยี น
- แบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 1 กอ่ นเรียน

เรอื่ ง เทคโนโลยีกบั ชวี ติ

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

2

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เทคโนโลยกี บั ชวี ิต

รายการวดั วิธีวดั เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมนิ
6.2 การประเมินระหว่างการจดั
- ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหดั รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
กิจกรรม
1) สาเหตุหรือปจั จัย - ตรวจใบงานท่ี 1.2.1 - ใบงานท่ี 1.2.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
- แบบฝึกหดั รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
ทสี่ ่งผลต่อ - ตรวจแบบฝกึ หดั
การเปลีย่ นแปลง - แบบฝกึ หดั ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ของเทคโนโลยี - ตรวจแบบฝกึ หดั
2) เทคโนโลยีกับศาสตร์ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
ต่าง ๆ - ประเมินการนำเสนอ
3) ความสมั พนั ธข์ อง ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
เทคโนโลยีกบั - สังเกตพฤติกรรม
ศาสตรอ์ ื่น ๆ การทำงานรายบุคคล - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
4) การนำเทคโนโลยี - สังเกตพฤติกรรม
ไปสร้างนวัตกรรม การทำงานกลมุ่ การทำงานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์
5) การนำเสนอผลงาน - สงั เกตความมีวนิ ยั
ความรับผิดชอบ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
6) พฤติกรรมการทำงาน ใฝเ่ รียนรู้ และมงุ่ มน่ั
รายบุคคล ในการทำงาน การทำงานกล่มุ ผา่ นเกณฑ์

7) พฤติกรรมการทำงาน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 2
กลุ่ม หลังเรยี น
คณุ ลักษณะ ผ่านเกณฑ์
8) คณุ ลักษณะ - ตรวจช้ินงาน/
อนั พงึ ประสงค์ ภาระงาน (รวบยอด) อนั พึงประสงค์

6.3 การประเมินหลังเรียน - แบบทดสอบ ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
1) แบบทดสอบหลังเรยี น หลงั เรยี น
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1
เรื่อง เทคโนโลยีกับชีวติ - แบบประเมนิ ช้ินงาน/ - ระดบั คุณภาพ 2
2) การประเมนิ ชิน้ งาน/ ภาระงาน (รวบยอด) ผา่ นเกณฑ์
ภาระงาน (รวบยอด)
เรอ่ื ง เทคโนโลยีกับชีวิต

7. กิจกรรมการเรยี นรู้

นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 1 เรอื่ ง เทคโนโลยีกบั ชีวิต

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

3

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เทคโนโลยกี ับชวี ติ

เรอื่ งท่ี 1: สาเหตุหรอื ปจั จัยทสี่ ง่ ผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เวลา 2 ช่ัวโมง

วิธกี ารสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ข้ันนำ

ขั้นที่ 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement)
1. ครูถามคำถามสำคญั ประจำหัวข้อกบั นักเรียนว่า “ในชุมชนที่นกั เรียนอาศัยอยู่
มีการเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยอี ย่างไร เพราะเหตใุ ด”

ขน้ั สอน

ขั้นที่ 2 สำรวจคน้ หา (Exploration)
1. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-5 คน หรือตามความเหมาะสม เพ่ือสบื คน้ ความหมายของคำวา่
“เทคโนโลยี” และยกตวั อย่างเทคโนโลยใี นดา้ นต่าง ๆ ทน่ี กั เรยี นพบในชีวติ ประจำวัน
จากนนั้ ให้นักเรยี นแต่ละกล่มุ สง่ ตวั แทนออกมานำเสนอพร้อมอภิปรายบรเิ วณหนา้ ชั้นเรยี น

ขนั้ ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
2. นกั เรียนศกึ ษาเนื้อหา เร่อื ง ปัญหาหรอื ความต้องการของมนษุ ย์ จากหนังสือเรยี น
3. นกั เรียนสังเกตวตั ถุดิบปรงุ อาหารในรูปแบบตา่ ง ๆ เพ่ือตอบสนองความต้องการของมนุษย์
ที่แตกตา่ งกนั จากหนังสือเรยี น
4. นกั เรยี นสงั เกตปญั หาท่ีเกิดข้ึนกับเกษตรกร วธิ ีแกป้ ญั หา และผลลัพธ์จากหนงั สือเรียน
5. นักเรยี นศกึ ษาเนื้อหา เรื่อง ความกา้ วหนา้ ของศาสตรต์ า่ ง ๆ และการเปลย่ี นแปลง
ด้านเศรษฐกจิ ด้านสงั คม ด้านวัฒนธรรมจากหนังสอื เรยี น
6. เปิดโอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามข้อสงสัย และครูใหค้ วามรเู้ พ่ิมเตมิ ในสว่ นน้นั

ขั้นท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
7. ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมฝึกทักษะจากแบบฝึกหดั และสุม่ นักเรียนออกมา
นำเสนอบรเิ วณหน้าช้ันเรยี น

ขั้นสรุป

ข้ันท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมนิ ผลโดยการสังเกตการณ์ตอบคำถามและการนำเสนอผลงานของนักเรยี น
2. นกั เรียนและครูร่วมกันสรปุ ความรูเ้ ก่ียวกับสาเหตหุ รือปัจจัยท่ีสง่ ผลต่อการเปล่ียนแปลงของ
เทคโนโลยี

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

4

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยกี บั ชีวติ

เรอื่ งท่ี 2: ความสมั พันธข์ องเทคโนโลยีกับศาสตร์อนื่ เวลา 2 ช่ัวโมง

วิธกี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ข้ันนำ

ขัน้ ที่ 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคำถามสำคญั ประจำหัวขอ้ กับนักเรยี นวา่ “นักเรยี นเคยเหน็ ตัวอยา่ งการนำเทคโนโลยี
เขา้ ไปใช้แกป้ ัญหาร่วมกับศาสตรใ์ ดบา้ ง จงยกตวั อย่างพร้อมอธบิ าย”

ขน้ั สอน

ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 3-5 คน หรือตามความเหมาะสม เพ่อื สบื ค้นวา่ มีเทคโนโลยีใดบา้ ง
ท่นี ำเขา้ มาประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจำวัน และใหน้ ักเรียนส่งตัวแทนออกมานำเสนอบรเิ วณ
หน้าชัน้ เรียน

ขัน้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
2. นกั เรยี นศึกษาเน้ือหา เรอ่ื ง ความสัมพันธข์ องเทคโนโลยีกบั วทิ ยาศาสตร์ ความสัมพนั ธ์ของ
เทคโนโลยีกบั คณิตศาสตร์ ความสมั พนั ธข์ องเทคโนโลยีกับมนษุ ยศาสตร์ และความสมั พันธ์
ของเทคโนโลยกี บั สังคมศาสตร์จากหนังสอื เรยี น
3. เปดิ โอกาสให้นักเรยี นสืบคน้ ข้อมลู เก่ียวกบั เทคโนโลยที ีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั วทิ ยาศาสตร์ คณิตศาสตร์
มนษุ ยศาสตร์ และสังคมศาสตร์
4. จากนนั้ ครเู ขยี นคำวา่ เทคโนโลยีกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีกบั คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยีกบั
มนุษยศาสตร์ และเทคโนโลยกี บั สังคมศาสตรล์ งบนกระดานหน้าชั้นเรยี น พรอ้ มให้นักเรียน
ร่วมกนั ยกตัวอย่างเทคโนโลยใี นชีวติ ประจำวันทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั วทิ ยาศาสตร์ โดยครูคอยบนั ทึก
คำตอบของนกั เรียนลงบนกระดานหน้าชนั้ เรียน

ข้นั ที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
5. เปิดโอกาสให้นักเรยี นซักถามข้อสงสัย และครใู ห้ความรู้เพ่ิมเตมิ ในส่วนน้นั
6. ครมู อบหมายใหน้ กั เรียนทำใบงานท่ี 1.2.1 เรอ่ื ง เทคโนโลยีกับศาสตร์ต่าง ๆ
7. ครูสุม่ นกั เรยี น 2-3 คน ออกมานำเสนอหนา้ ชั้นเรียน พรอ้ มกบั อภิปรายร่วมกนั ในห้องเรียน

ขั้นสรุป

ขน้ั ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมินผลโดยการสงั เกตการตอบคำถามและการนำเสนอผลงานของนกั เรียน
2. ครูตรวจสอบผลการทำงานท่ี 1.2.1 เรื่อง เทคโนโลยีกบั ศาสตรต์ า่ ง ๆ
3. นักเรยี นและครูร่วมกันสรปุ ความรเู้ กย่ี วกบั ความสัมพนั ธข์ องเทคโนโลยกี บั ศาสตรอ์ นื่
4. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนทำกิจกรรม High Oder Thinking จากแบบฝึกหัด
เป็นการบ้านและนำมาสง่ ในช่ัวโมงถดั ไป

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

5

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เทคโนโลยกี บั ชวี ติ

เรอื่ งท่ี 3: การนำเทคโนโลยไี ปสร้างนวัตกรรมใหม่ เวลา 1 ช่วั โมง

วิธกี ารสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ข้ันนำ

ขน้ั ท่ี 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคำถามสำคัญประจำหัวข้อว่า “นกั เรียนคิดวา่ เทคโนโลยีใหม่ดา้ นใด สามารถแก้ปญั หา
ในชมุ ชนหรอื ท้องถ่นิ ของนักเรียนได้ เพราะอะไร”

ขน้ั สอน

ขั้นที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-5 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพื่อสืบคน้ วา่ ปจั จบุ ันมเี ทคโนโลยี
ใหม่ ๆ ประเภทใดบ้างทนี่ ักเรียนสามารถพบในชีวิตประจำวนั และเทคโนโลยีเหลา่ นั้นช่วยให้
เกิดประโยชน์อยา่ งไร จากนั้นครูสุม่ นกั เรยี นออกมาตอบคำถามบริเวณหนา้ ช้นั เรยี น

ขน้ั ท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
2. นักเรียนศึกษาเน้ือหา เรอ่ื ง การนำเทคโนโลยไี ปสรา้ งนวตั กรรมใหม่จากหนังสือเรียน

ขน้ั ท่ี 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
3. เปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามขอ้ สงสัย และครูให้ความรู้เพ่ิมเติมในสว่ นนน้ั
4. ใหน้ กั เรยี นทำกจิ กรรม High Oder Thinking จากแบบฝกึ หดั และสุม่ นักเรียน 2-3 คน
ออกมาตอบคำถามบริเวณหน้าช้นั เรยี น

ขั้นสรุป

ขั้นท่ี 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมินผลโดยการสงั เกตการณ์ตอบคำถามและการนำเสนอผลงานของนักเรียน
2. นักเรียนและครรู ว่ มกนั สรุปความรเู้ กีย่ วกบั การนำเทคโนโลยไี ปสร้างนวตั กรรมใหม่
3. นกั เรยี นทำกจิ กรรมทสี่ อดคล้องกบั เนื้อหา โดยใหผ้ ู้เรยี นฝึกปฏบิ ตั เิ พือ่ พัฒนาความรู้และทกั ษะ
(Design Activity) และบันทึกลงในสมุดประจำตัว
4 นักเรยี นแต่ละคนทำแบบฝึกหัด (Unit Activity) จากหนังสือเรยี นเพื่อทบทวนความรู้
ความเขา้ ใจ และพฒั นาทกั ษะการคิดของผเู้ รียนโดยการตอบคำถามลงในสมดุ ประจำตวั
5. ครใู หน้ กั เรียนตรวจสอบระดับความสามารถของตนเองจากหนังสอื เรยี น โดยพจิ ารณาขอ้ ความ
ว่าถูกหรือผดิ หากนักเรยี นพิจารณาข้อความไม่ถูกต้องให้นักเรียนกลับไปทบทวนเนอ้ื หา
ตามหวั ข้อทีก่ ำหนดให้
6. นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 เร่อื ง เทคโนโลยกี ับชีวติ หรอื ทำ
แบบทดสอบ (Unit Test) จากแบบฝึกหัด เพอ่ื วัดความรทู้ ่ีนักเรียนได้รับหลังจากผา่ น
การเรียนรู้
7. นกั เรยี นทำชน้ิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรื่อง เทคโนโลยีกับชวี ิต และนำมาส่งในชว่ั โมงถดั ไป

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

6

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เทคโนโลยกี บั ชีวิต

8. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้

8.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียนรายวชิ าพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1
เรอ่ื ง เทคโนโลยกี บั ชีวิต
2) แบบฝึกหัดรายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1
เร่อื ง เทคโนโลยีกบั ชีวิต
3) ใบงานที่ 1.2.1 เรื่อง เทคโนโลยีกับศาสตร์ต่าง ๆ

8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องคอมพวิ เตอร์
2) อินเทอรเ์ นต็

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

7

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยกี ับชวี ติ

แบบทดสอบกอ่ นเรียน

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1

คำชแี้ จง : ให้นกั เรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. การเปล่ียนแปลงที่เก่ียวขอ้ งกับการผลิตและ 6. ศาสตร์ในดา้ นใดไม่อยู่ในกลมุ่ วิทยาศาสตรป์ ระยุกต์

การจดั จำหน่าย ถือวา่ เปน็ การเปลีย่ นแปลง ก. ดาราศาสตร์ ข. วิทยาการรบั รู้

ทางด้านใด ค. วิศวกรรมศาสตร์ ง. วทิ ยาการคอมพวิ เตอร์

ก. ดา้ นสงั คม ข. ด้านเศรษฐกิจ 7. เวบ็ ไซตก์ ารแปลภาษาอังกฤษถือวา่ เปน็ เทคโนโลยี

ค. ด้านวฒั นธรรม ง. ด้านส่งิ แวดล้อม ในดา้ นใด

2. การเปล่ยี นแปลงทเ่ี ก่ยี วข้องกับแนวคดิ และแนวทาง ก. ดา้ นภาษา

ปฏบิ ตั ิตา่ ง ๆ ถือว่าเป็นการเปลย่ี นแปลงทางด้านใด ข. ดา้ นศลิ ปะ

ก. ด้านสังคม ข. ด้านเศรษฐกจิ ค. ดา้ นศาสนา

ค. ด้านวัฒนธรรม ง. ดา้ นสิง่ แวดล้อม ง. ดา้ นวทิ ยาการคอมพิวเตอร์

3. ข้อใดจดั เป็นการเปล่ยี นแปลงทางด้านวัฒนธรรม 8. เทคโนโลยีในข้อใดถือว่าเกีย่ วขอ้ งกบั ดา้ นภูมิศาสตร์

ก. หนูนาชอบการแต่งกายแบบเกาหลี ก. โปรแกรม Siri

ข. ประเทศญ่ีปุน่ ผลิตหนุ่ ยนต์มาใชใ้ นโรงงาน ข. ระบบปัญญาประดิษฐ์

ค. วมิ ลปรับเปล่ยี นการขายสนิ ค้าทางหนา้ รา้ น ค. เทคโนโลยภี าพเสมอื นจริง

เปน็ ขายสินค้าทางออนไลน์ ง. ระบบกำหนดตำแหนง่ บนพื้นโลก (GPS)

ง. แดนนำแผงโซล่าเซลลม์ าใช้เก็บพลังแสงอาทิตย์ 9. ขอ้ ใดต่อไปนี้ไม่เกีย่ วข้องกบั เทคโนโลยพี ้ืนฐาน

4. ข้อใดจัดเปน็ การเปลย่ี นแปลงทางดา้ นสิ่งแวดล้อม ก. นาโนเทคโนโลยี

ก. สมศกั ดิ์ชอบซอื้ สินคา้ ทางออนไลน์ ข. เทคโนโลยชี ีวภาพ

ข. ประเทศไทยนำแผงโซล่าเซลล์มาใชเ้ ก็บ ค. เทคโนโลยีเครือขา่ ย

พลังแสงอาทติ ย์ ง. เทคโนโลยวี สั ดศุ าสตร์

ค. โรงพยาบาลผา่ ตดั ผู้ปว่ ยโดยใช้วิธีการส่องกลอ้ ง 10.โปรแกรมทีส่ รา้ งข้ึนในลักษณะของปัญญาประดิษฐ์

ง. ประเทศจีนผลติ หุ่นยนต์มาเป็นพธิ กี รอ่านขา่ ว คือข้อใด

5. ศาสตร์ในดา้ นใดไม่อยู่ในวิทยาศาสตรธ์ รรมชาติ ก. เทคโนโลยีคลาวด์

ก. ฟิสกิ ส์ ข. อนิ เทอรเ์ น็ตทุกสรรพส่ิง

ข. ชวี วิทยา ค. เทคโนโลยพี นั ธุกรรมสมยั ใหม่

ค. ดาราศาสตร์ ง. โปรแกรมอัจฉริยะทสี่ ามารถคิดและทำงาน

ง. วศิ วกรรมศาสตร์ แทนมนษุ ย์

เฉลย 1. ข 2. ค 3. ก 4. ข 5. ง 6. ก 7. ก 8. ง 9. ค 10. ง

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

8

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เทคโนโลยกี บั ชีวิต

แบบทดสอบหลงั เรยี น

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1

คำชแ้ี จง : ใหน้ ักเรยี นเลือกคำตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว

1. การเปล่ียนแปลงที่เก่ียวขอ้ งกับระเบยี บแบบแผน 6. ศาสตร์ในข้อใดเปน็ การศึกษาที่เกยี่ วข้องกับวัตถุบน

ความสัมพันธ์และสถานภาพต่าง ๆ ถอื วา่ เป็น ท้องฟ้า

การเปล่ยี นแปลงทางด้านใด ก. ชีววทิ ยา ข. ดาราศาสตร์

ก. ด้านสงั คม ข. ดา้ นเศรษฐกิจ ค. วทิ ยาการรบั รู้ ง. วิศวกรรมศาสตร์

ค. ดา้ นวัฒนธรรม ง. ดา้ นสิง่ แวดล้อม 7. วิทยาการคอมพวิ เตอร์เปน็ ศาสตร์ทางดา้ นใด

2. การเปลย่ี นแปลงท่เี กี่ยวขอ้ งกับสงิ่ ตา่ ง ๆ ทอ่ี ยู่ ก. การใช้วิทยาศาสตรใ์ นการออกแบบ

รอบตัวมนุษย์ ถือวา่ เป็นการเปลย่ี นแปลงทาง ข. ความสัมพันธ์ระหวา่ งการคิดและการแสดงออก

ดา้ นใด ค. การศกึ ษาเกีย่ วกับสสารและองคป์ ระกอบต่าง ๆ

ก. ด้านสงั คม ข. ด้านเศรษฐกจิ ง. การคำนวณหรือการประมวลผลของคอมพวิ เตอร์

ค. ดา้ นวฒั นธรรม ง. ด้านส่ิงแวดลอ้ ม 8. การหาระยะเวลาในการลอยตัวของโดรน จัดเปน็

3. ข้อใดจัดเปน็ การเปลี่ยนแปลงทางด้านสงั คม ความสัมพนั ธ์ของเทคโนโลยีกบั ศาสตร์ในดา้ นใด

ก. ลัดดาชอบการแต่งกายแบบชาวตา่ งชาติ ก. เทคโนโลยกี บั คณติ ศาสตร์

ข. ประเทศไทยนำแผงโซล่าเซลล์มาใช้เก็บ ข. เทคโนโลยีกบั สงั คมศาสตร์

พลังแสงอาทติ ย์ ค. เทคโนโลยีกบั วิทยาศาสตร์

ค. วิมลเปลยี่ นการขายสินค้าทางหน้าร้าน ง. เทคโนโลยีกบั มนุษยศาสตร์

เป็นขายสนิ ค้าผา่ นทางออนไลน์ 9. กลอ้ งตรวจจับความเรว็ บนท้องถนน ถอื วา่ ประยุกต์

ง. ประเทศญี่ปุ่นผลติ ห่นุ ยนต์มาใช้ภายในโรงงาน ใช้ความรใู้ นด้านใด

4. ขอ้ ใดจดั เปน็ การเปลีย่ นแปลงทางดา้ นเศรษฐกิจ ก. ฟสิ ิกส์กับคณติ ศาสตร์

ก. สมศกั ดิช์ อบสง่ั ซอ้ื สินคา้ ทางออนไลน์ ข. ฟสิ กิ ส์กับวิทยาศาสตร์

ข. ประเทศจนี ผลิตห่นุ ยนต์เป็นนักแสดง ค. วศิ วกรรมกบั วิทยาการคอมพิวเตอร์

ค. ประเทศไทยนำแผงโซลา่ เซลลม์ าใชเ้ กบ็ ง. เทคโนโลยีชวี ภาพกับนาโนเทคโนโลยี

พลงั แสงอาทิตย์ 10.แผงโซลา่ เซลลจ์ ดั เป็นเทคโนโลยีในดา้ นใด

ง. โรงพยาบาลผ่าตดั ผู้ปว่ ยโดยใช้วธิ ีการสอ่ งกล้อง ก. เทคโนโลยคี ลาวด์

5. ศาสตร์ในข้อใดเป็นการศึกษาท่เี กี่ยวข้องกบั ข. เทคโนโลยีการเก็บพลังงาน

สิง่ ไม่มชี ีวิต ค. เทคโนโลยพี นั ธกุ รรมสมยั ใหม่

ก. เคมี ข. ฟิสิกส์ ง. เทคโนโลยหี ุ่นยนตข์ ัน้ ก้าวหน้า

ค. ชีววทิ ยา ง. ดาราศาสตร์

เฉลย 1. ก 2. ง 3. ง 4. ก 5. ข 6. ข 7. ง 8. ก 9. ก 10. ข

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

9

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เทคโนโลยกี ับชีวิต
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง สาเหตุหรือปจั จยั ทสี่ ่งผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1

สาเหตหุ รอื ปัจจัยท่ีส่งผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี

เวลา 2 ชั่วโมง

1. มาตรฐาน/ตวั ชวี้ ัด

1.1 ตัวช้ีวดั
ว 4.1 ม.3/1 วิเคราะห์สาเหตุ หรอื ปจั จัยที่ส่งผลตอ่ การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี และ
ความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกบั ศาสตรอ์ ่ืน โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตร์ หรือ
คณติ ศาสตร์ เพ่ือเป็นแนวทางการแก้ปัญหาหรอื พฒั นางาน

2. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธิบายกระบวนการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยีในด้านตา่ ง ๆ ได้ (K)
2. วิเคราะหส์ าเหตุหรือปจั จัยทีส่ ่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีได้ (K)
3. ยกตัวอย่างและอธิบายเกย่ี วกับการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีในดา้ นต่าง ๆ ได้ (K)
4. สืบคน้ ขอ้ มลู เกีย่ วกับเทคโนโลยที ีพ่ บในชีวิตประจำวันได้ (P)
5. เห็นความสำคัญของสาเหตหุ รือปัจจัยท่สี ่งผลตอ่ การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
- เทคโนโลยมี กี ารเปลีย่ นแปลงตลอดเวลาตั้งแต่อดตี

จนถงึ ปจั จุบนั ซง่ึ มีสาเหตุหรือปัจจยั มาจากหลาย
ด้าน เช่น ปัญหาหรือความต้องการของมนุษย์
ความก้าวหนา้ ของศาสตรต์ า่ ง ๆ การเปลีย่ นแปลง
ทางด้านเศรษฐกิจ สงั คม วัฒนธรรม ส่งิ แวดล้อม

4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

ความตอ้ งการของมนุษยก์ ็คอื ความอยากได้ ซึ่งเม่ือมนษุ ยเ์ กิดความอยากได้ จงึ ต้องพยายาม
ดนิ้ รนหาสิ่งท่ีสามารถตอบสนองความต้องการนั้น ๆ เม่ือรา่ งกายไดร้ ับการตอบสนองแล้วก็จะเกิด
ความต้องการใหม่ ๆ ขึน้ มาทดแทน ดังนน้ั ความต้องการของมนุษยจ์ ึงเกดิ ขึ้นอยู่ตลอดเวลา นอกจากนั้น
ความตอ้ งการของมนษุ ย์ยงั ทำให้เกดิ การเปล่ียนแปลงในดา้ นตา่ ง ๆ คือ การเปลย่ี นแปลงด้านเศรษฐกจิ
การเปล่ยี นแปลงด้านสังคม การเปลย่ี นแปลงด้านวฒั นธรรม และการเปลีย่ นแปลงด้านส่ิงแวดล้อม

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

10

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เทคโนโลยกี ับชีวติ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เรอ่ื ง สาเหตุหรือปัจจยั ท่ีส่งผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี

5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียนและคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 1. มวี ินยั รับผิดชอบ

- ทกั ษะการสอื่ สาร 2. ใฝ่เรยี นรู้

2. ความสามารถในการคดิ 3. มุง่ มั่นในการทำงาน

- ทักษะการให้เหตุผล

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

- ทกั ษะการแกป้ ัญหา

- ทกั ษะการสงั เกต

- ทักษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้

4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

- ทกั ษะการทำงานรว่ มกัน

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

- ทักษะการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ

6. กจิ กรรมการเรยี นรู้

 วธิ ีการสอนโดยเน้นรูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ชว่ั โมงท่ี 1

ขนั้ นำ

ขัน้ ท่ี 1 กระตุน้ ความสนใจ (Engagement)
1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง เทคโนโลยกี ับชีวิต
2. ครูถามคำถามสำคัญประจำหัวข้อกบั นักเรียนวา่ “ในชุมชนที่นกั เรยี นอาศัยอยมู่ ีการเปล่ียนแปลง
ของเทคโนโลยอี ยา่ งไร เพราะเหตใุ ด”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียนขึ้นอย่กู ับดุลยพนิ จิ ของครูผ้สู อน เชน่ การสือ่ สารผ่านไปรษณีย์
อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (E-mail) แทนการสง่ จดหมาย เนื่องจากเทคโนโลยีมคี วามก้าวหนา้ อยา่ งรวดเร็ว
และตอบสนองต่อความตอ้ งการของมนษุ ย์)

ข้นั สอน

ข้นั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลุม่ ละ 3-5 คน หรอื ตามความเหมาะสม เพื่อสบื ค้นความหมายของคำว่า
“เทคโนโลยี” และยกตัวอย่างเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ ที่นกั เรยี นพบในชวี ิตประจำวนั

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

11

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยกี ับชีวติ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง สาเหตุหรือปจั จัยท่ีสง่ ผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี

2. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอเกย่ี วกับความหมายของเทคโนโลยี และ
ยกตวั อย่างเทคโนโลยที ่ีนกั เรยี นพบในชีวติ ประจำวนั บริเวณหนา้ ชน้ั เรยี น พร้อมอภปิ ราย
ร่วมกบั เพ่ือนในชัน้ เรียน

ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
3. นกั เรยี นศึกษาเนื้อหา เร่อื ง ปัญหาหรือความต้องการของมนุษย์ จากหนังสือเรียนรายวิชา
พ้นื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1
เรือ่ ง เทคโนโลยีกบั ชีวติ
4. นักเรยี นสงั เกตวัตถุดิบปรุงอาหารในรปู แบบตา่ ง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์
ท่ีแตกต่างกัน จากหนงั สือเรียน
5. ครูอธบิ ายกับนักเรียนวา่ “เมื่อมนุษย์มคี วามต้องการมากขึ้นจึงเกดิ เทคโนโลยีใหม่
เพือ่ ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ตลอดเวลา และเป็นตัวผลักดันใหเ้ กดิ การพฒั นา
เทคโนโลยตี ่อไปเร่ือย ๆ เพ่ือช่วยแก้ปญั หาของมนุษย์ จนกว่าจะตอบสนองต่อความตอ้ งการ
ของมนษุ ยไ์ ด้ครบถว้ นสมบรู ณ์”
6. นกั เรียนสงั เกตปญั หาทเี่ กิดข้ึนกับเกษตรกร วิธีแก้ปญั หา และผลลัพธจ์ ากหนงั สือเรยี น
7. ครอู ธบิ ายเกร็ดเสริมความรู้ที่เกีย่ วข้องกับเน้ือหา (Design Focus) เร่ือง ปัญหาของการใช้สินค้า
หรือบริการ (Pain Point) จากหนงั สอื เรียน
8. เปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสยั และครใู หค้ วามร้เู พ่ิมเตมิ ในสว่ นนน้ั

ชั่วโมงที่ 2

ขัน้ สอน

ข้ันที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
9. ครูทบทวนเนื้อหาการเรยี นเมื่อช่วั โมงที่แลว้ พอสังเขป
10. นักเรียนศึกษาเนื้อหา เรอ่ื ง ความกา้ วหนา้ ของศาสตรต์ ่าง ๆ จากหนังสอื เรยี น
11. ครอู ธบิ ายกบั นักเรียนเพื่อใหน้ ักเรียนเขา้ ใจมากยงิ่ ขึ้นว่า “ความรดู้ า้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยีทีส่ ่ังสมมาตั้งแต่อดีตอย่างต่อเนือ่ ง ทำให้เกิดการพฒั นาเทคโนโลยใี หม่ ๆ ทส่ี ามารถ
พลิกรปู แบบวิถีการดำเนินชวี ิตของผู้คนในสังคมได้ อกี ท้ังยังมีความก้าวหน้าทางวทิ ยาศาสตร์
พ้นื ฐานแขนงใหม่ท่ชี ่วยในการหาคำตอบ”
12. นักเรยี นศึกษาเน้ือหา เรือ่ ง การเปลย่ี นแปลงดา้ นเศรษฐกจิ ดา้ นสงั คม ดา้ นวัฒนธรรม
และด้านสิง่ แวดลอ้ ม จากหนงั สือเรียน
13. ครอู ธิบายเกรด็ เสริมความรทู้ ี่เกีย่ วขอ้ งกับเน้ือหา (Design Focus) เรอื่ ง การแก้ปญั หามลพิษ
สง่ิ แวดลอ้ มโลกจากหนงั สือเรียน
14. เปิดโอกาสให้นักเรียนซักถามข้อสงสยั และครูให้ความรู้เพิ่มเติมในส่วนน้ัน

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

12

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เทคโนโลยกี บั ชีวิต
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เรือ่ ง สาเหตหุ รือปัจจัยที่ส่งผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี

ขนั้ ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
15. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมฝึกทักษะกระบวนการคิด และทบทวนเน้ือหาอย่างครบถ้วน

ตามตวั ชีว้ ัดจากแบบฝึกหดั รายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เร่ือง เทคโนโลยกี ับชวี ิต
16. ครสู ุม่ นักเรยี นออกมานำเสนอบรเิ วณหน้าชนั้ เรียน

ข้นั สรปุ

ขัน้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)

1. ครปู ระเมินผลโดยการสังเกตการตอบคำถามและการนำเสนอผลงานของนกั เรยี น

2. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรปุ ความรเู้ กย่ี วกับสาเหตหุ รือปจั จัยทส่ี ง่ ผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงของ

เทคโนโลยี

7. การวัดและประเมนิ ผล

รายการวัด วิธีวัด เครอื่ งมอื เกณฑ์การประเมิน

7.1 การประเมินก่อนเรยี น

- แบบทดสอบก่อนเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบก่อนเรยี น ประเมินตามสภาพจริง

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 ก่อนเรียน

เรอ่ื ง เทคโนโลยีกับชีวติ

7.2 การประเมินระหว่างการ

จัดกจิ กรรม

1) สาเหตุหรอื ปัจจยั - ตรวจแบบฝึกหดั - แบบฝกึ หัด รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

ท่สี ง่ ผลต่อ

การเปลย่ี นแปลง

ของเทคโนโลยี

2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2

ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์

3) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2

รายบคุ คล การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์

4) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2

กลุ่ม การทำงานกลุ่ม การทำงานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์

5) คณุ ลักษณะ - สังเกตความมีวนิ ัย - แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 2

อันพงึ ประสงค์ ความรบั ผดิ ชอบ คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์

ใฝ่เรียนรู้ และมงุ่ มัน่ อันพงึ ประสงค์

ในการทำงาน

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

13

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยกี ับชวี ิต
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 1 เร่ือง สาเหตหุ รือปัจจัยท่ีส่งผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี

8. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1
เรอ่ื ง เทคโนโลยีกบั ชวี ิต
2) แบบฝึกหัดรายวชิ าพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1
เรอ่ื ง เทคโนโลยีกับชีวติ

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องคอมพวิ เตอร์
2) อนิ เทอร์เน็ต

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

14

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยกี ับชีวติ .
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่ือง สาเหตหุ รือปจั จยั ท่สี ่งผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี )
.......
9. ความเห็นของผูบ้ ริหารสถานศกึ ษาหรอื ผ้ทู ีไ่ ด้รับมอบหมาย

ข้อเสนอแนะ

ลงชือ่
(

ตำแหนง่

10. บนั ทกึ ผลหลงั การสอน

 ดา้ นความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน

 ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

 ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทีม่ ปี ญั หาของนกั เรยี นเปน็ รายบุคคล (ถ้าม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแก้ไข

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

15

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เทคโนโลยกี บั ชีวติ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง ความสมั พนั ธข์ องเทคโนโลยกี บั ศาสตรอ์ นื่

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2

ความสมั พันธข์ องเทคโนโลยกี ับศาสตรอ์ ่ืน

เวลา 2 ช่วั โมง

1. มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั

1.1 ตัวชว้ี ดั
ว 4.1 ม.3/1 วเิ คราะหส์ าเหตุ หรือปัจจยั ท่ีสง่ ผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี และ
ความสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อ่ืน โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรอื
คณติ ศาสตร์ เพือ่ เปน็ แนวทางการแก้ปัญหาหรอื พัฒนางาน

2. จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธบิ ายความสัมพนั ธข์ องเทคโนโลยกี บั ศาสตร์อ่ืน ๆ ได้ (K)
2. ยกตัวอย่างเทคโนโลยที พ่ี บในชวี ิตประจำวันตามศาสตรต์ า่ ง ๆ ได้ (K)
3. สบื คน้ ข้อมูลเก่ียวกบั เทคโนโลยใี นด้านต่าง ๆ ได้ (P)
4. เหน็ ประโยชนข์ องเทคโนโลยใี นศาสตรต์ ่าง ๆ ได้ (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถนิ่
พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
- เทคโนโลยีมีความสัมพนั ธ์กับศาสตรอ์ ืน่ โดยเฉพาะ

วทิ ยาศาสตร์ โดยวิทยาศาสตรเ์ ปน็ พ้ืนฐานความรู้ที่
นำไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยี และเทคโนโลยีทีไ่ ด้
สามารถเป็นเครื่องมือเคร่ืองใชใ้ นการศึกษา คน้ คว้า
เพอ่ื ให้ไดม้ าซงึ่ องค์ความรู้ใหม่

4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

เทคโนโลยเี ป็นวิทยาการที่เกดิ ขึ้นจากการนำความร้ดู า้ นตา่ ง ๆ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์และ
คณติ ศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการแกป้ ัญหา ปจั จุบนั มีการนำเทคโนโลยขี น้ั สูงมาใชใ้ นทุกภาคส่วน ดังน้นั
เทคโนโลยีจึงเกีย่ วขอ้ งกบั การนำความรู้จากศาสตรต์ า่ ง ๆ มาประกอบกับความรดู้ ้านวิทยาศาสตรแ์ ละ
คณิตศาสตร์ เพอ่ื แก้ปัญหาหรอื พฒั นางานอาชีพตา่ ง ๆ ในชุมชนอย่างสร้างสรรค์

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

16

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เทคโนโลยกี บั ชวี ติ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง ความสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยกี บั ศาสตรอ์ นื่

5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี นและคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี ินัย รับผิดชอบ

- ทกั ษะการสอ่ื สาร 2. ใฝ่เรียนรู้

2. ความสามารถในการคิด 3. มุ่งม่นั ในการทำงาน

- ทกั ษะการใหเ้ หตุผล

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

- ทักษะการแก้ปญั หา

- ทักษะการสงั เกต

- ทักษะการประยกุ ต์ใช้ความรู้

4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

- ทกั ษะการทำงานร่วมกนั

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

- ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

6. กิจกรรมการเรียนรู้

 วิธีการสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ชัว่ โมงที่ 1

ข้นั นำ

ข้นั ที่ 1 กระตนุ้ ความสนใจ (Engagement)
1. ครูถามคำถามสำคัญประจำหัวขอ้ กับนักเรียนว่า “นักเรยี นเคยเหน็ ตวั อย่างการนำเทคโนโลยี
เขา้ ไปใชแ้ ก้ปญั หารว่ มกับศาสตร์ใดบา้ ง จงยกตวั อยา่ งพร้อมอธิบาย”
(แนวตอบ : คำตอบของนกั เรียนข้ึนอย่กู ับดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน เช่น การใชเ้ ทคโนโลยกี บั
วิทยาศาสตร์ในดา้ นดาราศาสตร์ เช่น การถา่ ยภาพหลมุ ดำดว้ ยเครือขา่ ยกลอ้ งโทรทรรศน์
อีเวนตฮ์ อไรซนั โดยใชค้ ลื่นความถี่สงู ของหอดูดาวท้ัง 8 แห่งทวั่ โลกมารวมกนั กำเนิดเปน็
กล้องโทรทรรศนว์ ิทยทุ ม่ี ีขนาดเทา่ กับเสน้ ผา่ นศนู ย์กลางของโลก ทำใหส้ ามารถถา่ ยภาพได้
พรอ้ มกัน เวลาเดียวกัน และตำแหน่งเดยี วกันได้ ภาพที่ได้จึงมคี วามละเอยี ดสงู มาก และ
นำขอ้ มลู มาประมวลผลด้วยคอมพวิ เตอร์จนเกิดภาพถ่ายหลมุ ดำ)

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

17

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เทคโนโลยกี บั ชวี ิต
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง ความสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยกี ับศาสตรอ์ นื่

ขน้ั สอน

ขน้ั ท่ี 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 3-5 คน หรือตามความเหมาะสม เพ่ือสบื คน้ ว่ามเี ทคโนโลยีใดบ้าง
ที่นำเขา้ มาประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจำวนั
2. ให้นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ส่งตวั แทนออกมานำเสนอบริเวณหน้าช้นั เรยี น

ขั้นท่ี 3 อธบิ ายความรู้ (Explanation)
3. นักเรียนศึกษาเน้ือหา เรื่อง ความสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยกี บั วิทยาศาสตร์ จากหนังสือเรยี น
รายวชิ าพ้ืนฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1
เรื่อง เทคโนโลยีกบั ชีวิต
4. ครูอธบิ ายกบั นักเรียนเพ่อื ใหน้ ักเรียนเข้าใจมากยงิ่ ข้ึนว่า “วิทยาศาสตร์ทน่ี ำไปประยกุ ต์ใช้ใน
การสรา้ งสิง่ ประดิษฐท์ ี่ตอบสนองต่อความต้องการหรือการแกป้ ญั หาของมนุษย์ สามารถแบ่ง
ออกได้ 2 สาขา คือ วทิ ยาศาสตรธ์ รรมชาติ (Natural Science) และวิทยาศาสตรป์ ระยุกต์
(Applied Science)”
5. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นสบื คน้ ข้อมูลเกย่ี วกับเทคโนโลยที เี่ กย่ี วขอ้ งกับวิทยาศาสตร์
6. จากนั้นครูเขียนคำว่า “เทคโนโลยกี ับวิทยาศาสตร์” ลงบนกระดานหน้าชั้นเรียน พร้อมให้
นกั เรียนรว่ มกนั ยกตัวอยา่ งเทคโนโลยใี นชวี ติ ประจำวันที่เกยี่ วข้องกบั วทิ ยาศาสตร์ โดยครู
คอยบนั ทึกคำตอบของนักเรียนลงบนกระดานหน้าช้นั เรยี น
7. นักเรยี นศึกษาเนื้อหา เรอ่ื ง ความสมั พันธข์ องเทคโนโลยกี บั คณิตศาสตร์จากหนงั สือเรียน
8. ครูอธบิ ายกบั นักเรยี นเพื่อให้นักเรยี นเข้าใจมากย่งิ ขน้ึ ว่า “คณติ ศาสตรเ์ ปน็ ความรู้ด้านการคำนวณ
ทเี่ ข้ามาพสิ ูจนส์ ง่ิ ทีส่ ังเกตได้จากวิทยาศาสตร์ เพ่ืออธบิ ายปรากฏการณ์ที่เกิดขน้ึ ได้ และสามารถ
ทำนายผลลพั ธ์ได้อยา่ งแม่นยำ”
9. เปิดโอกาสให้นักเรยี นสบื คน้ ข้อมูลเก่ยี วกับเทคโนโลยที เ่ี ก่ยี วขอ้ งกับคณิตศาสตร์
10. จากนนั้ ครูเขียนคำวา่ “เทคโนโลยกี บั คณติ ศาสตร์” ลงบนกระดานหน้าชั้นเรียน พร้อมให้
นักเรยี นร่วมกนั ยกตวั อยา่ งเทคโนโลยีในชวี ิตประจำวนั ทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกบั คณิตศาสตร์ โดยครู
คอยบันทึกคำตอบของนักเรยี นลงบนกระดานหน้าช้ันเรยี น
11. เปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถามข้อสงสัย และครูใหค้ วามรู้เพิ่มเตมิ ในสว่ นนัน้

ชว่ั โมงที่ 2

ข้นั สอน

ขน้ั ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
12. ครทู บทวนเน้ือหาการเรียนเมื่อช่ัวโมงที่แลว้ พอสังเขป

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

18

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 เทคโนโลยกี ับชวี ติ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง ความสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยกี ับศาสตรอ์ น่ื

13. นกั เรยี นศึกษาเนื้อหา เรือ่ ง ความสัมพนั ธข์ องเทคโนโลยกี บั มนุษยศาสตร์ จากหนงั สือเรยี น
14. ครอู ธิบายกับนักเรยี นเพือ่ ให้นักเรยี นเขา้ ใจมากย่ิงขึน้ ว่า “มนุษยศาสตร์ เปน็ การศึกษา

ทำความเข้าใจเก่ียวกับมนษุ ย์ ไดแ้ ก่ ความร้สู ึกนกึ คดิ ความรูส้ ึกทางอารมณ์ จินตนาการ
ความฝัน คุณคา่ คุณธรรม และจรยิ ธรรม”
15. เปดิ โอกาสให้นักเรยี นสบื คน้ ข้อมูลเกีย่ วกับเทคโนโลยที เ่ี กยี่ วขอ้ งกับมนุษยศาสตร์
16. จากนน้ั ครูเขียนคำวา่ “เทคโนโลยีกับมนุษยศาสตร์” ลงบนกระดานหน้าช้ันเรยี น พร้อมให้
นักเรียนร่วมกนั ยกตวั อยา่ งเทคโนโลยใี นชีวติ ประจำวนั ทเ่ี ก่ยี วข้องกบั วิทยาศาสตร์ โดยครู
คอยบนั ทึกคำตอบของนักเรยี นลงบนกระดานหน้าช้นั เรยี น
17. นกั เรียนศกึ ษาเน้ือหา เรอ่ื ง ความสัมพันธข์ องเทคโนโลยีกับสังคมศาสตรจ์ ากหนงั สอื เรียน
18. ครอู ธิบายกบั นักเรียนเพอ่ื ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจมากย่งิ ข้ึนว่า “สังคมศาสตร์ เปน็ ความรู้เก่ยี วกับ
มนษุ ยแ์ ละสังคม โดยใช้วิธกี ารทางวทิ ยาศาสตร์ทพี่ สิ ูจนไ์ ด้แนน่ อนดว้ ยประสาทสมั ผัส หรอื
ดว้ ยการใชเ้ ครือ่ งมอื สำหรับทดลองและเก็บข้อมลู ท่มี คี วามน่าเชือ่ ถือ”
19. เปิดโอกาสให้นักเรียนสืบคน้ ข้อมูลเก่ียวกบั เทคโนโลยที ่ีเกย่ี วข้องกบั สังคมศาสตร์
20. จากน้ันครเู ขียนคำวา่ “เทคโนโลยกี บั สังคมศาสตร์” ลงบนกระดานหนา้ ช้นั เรียน พร้อมให้
นักเรียนรว่ มกันยกตวั อย่างเทคโนโลยีในชวี ติ ประจำวันท่ีเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ โดยครู
คอยบนั ทึกคำตอบของนักเรียนลงบนกระดานหนา้ ชั้นเรียน

ขน้ั ที่ 4 ขยายความเข้าใจ (Elaboration)
21. เปิดโอกาสให้นักเรียนซกั ถามข้อสงสัย และครใู ห้ความรเู้ พิ่มเติมในส่วนนัน้
22. ครูมอบหมายใหน้ ักเรยี นทำใบงานที่ 1.2.1 เรือ่ ง เทคโนโลยีกบั ศาสตรต์ า่ ง ๆ
23. ครูส่มุ นักเรยี น 2-3 คน ออกมานำเสนอหน้าชน้ั เรยี น พรอ้ มกับอภิปรายรว่ มกนั ในห้องเรยี น

ขัน้ สรปุ

ขนั้ ที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครปู ระเมินผลโดยการสังเกตการตอบคำถามและการนำเสนอผลงานของนกั เรยี น
2. ครตู รวจสอบผลการทำใบงานที่ 1.2.1 เรอ่ื ง เทคโนโลยกี บั ศาสตรต์ ่าง ๆ
3. นักเรยี นและครรู ว่ มกนั สรปุ ความรูเ้ ก่ียวกบั ความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น
4. ครมู อบหมายให้นักเรียนทำกิจกรรม High Oder Thinking ทส่ี อดคล้องกบั ตวั ช้ีวัดตามทักษะ
แห่งศตวรรษที่ 21 จากแบบฝึกหดั รายวิชาพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและ
เทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง เทคโนโลยกี บั ชวี ิต เปน็ การบ้านและนำมาส่ง
ในชัว่ โมงถัดไป

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

19

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เทคโนโลยกี บั ชวี ติ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่ือง ความสมั พนั ธข์ องเทคโนโลยกี บั ศาสตรอ์ นื่

7. การวดั และประเมนิ ผล วิธีวัด เครือ่ งมอื เกณฑ์การประเมนิ

รายการวดั - ตรวจใบงานท่ี 1.2.1 - ใบงานท่ี 1.2.1 ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
7.1 การประเมนิ ระหวา่ งการ
- ตรวจแบบฝกึ หัด - แบบฝกึ หัด ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
จัดกจิ กรรม
1) เทคโนโลยกี บั ศาสตร์ - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
ผลงาน การนำเสนอผลงาน ผา่ นเกณฑ์
ตา่ ง ๆ - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม ระดบั คุณภาพ 2
2) ความสมั พันธข์ อง การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
- สงั เกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2
เทคโนโลยกี ับ การทำงานกลมุ่ การทำงานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
ศาสตร์อ่นื ๆ - สังเกตความมีวนิ ัย - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
3) การนำเสนอผลงาน ความรับผิดชอบ คุณลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์
ใฝเ่ รยี นรู้ และมงุ่ มัน่ อันพึงประสงค์
4) พฤติกรรมการทำงาน ในการทำงาน
รายบคุ คล

5) พฤติกรรมการทำงาน
กลุ่ม

6) คณุ ลกั ษณะ
อนั พงึ ประสงค์

8. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

8.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพนื้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1
เร่อื ง เทคโนโลยกี บั ชวี ิต
2) แบบฝึกหัดรายวิชาพน้ื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1
เรอ่ื ง เทคโนโลยกี บั ชีวติ
3) ใบงานที่ 1.2.1 เรอ่ื ง เทคโนโลยีกบั ศาสตร์ต่าง ๆ

8.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งคอมพวิ เตอร์
2) อนิ เทอรเ์ น็ต

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

20

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยกี ับชวี ิต
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่ือง ความสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยกี บั ศาสตรอ์ น่ื

ใบงานท่ี 1.2.1
เรื่อง เทคโนโลยีกับศาสตร์ต่าง ๆ

คำชีแ้ จง : ให้นักเรยี นอธบิ ายความสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยีกบั ศาสตรต์ า่ ง ๆ ดังต่อไปน้ี
เทคโนโลยีกับการเกษตร

เทคโนโลยกี ับการศึกษา

เทคโนโลยีกับการแพทยแ์ ละสาธารณสุข

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

21

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยกี ับชีวติ เฉลย
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 เรือ่ ง ความสมั พนั ธข์ องเทคโนโลยกี บั ศาสตรอ์ น่ื

ใบงานท่ี 1.2.1
เร่ือง เทคโนโลยกี บั ศาสตร์ต่าง ๆ

คำช้แี จง : ให้นกั เรียนอธิบายความสมั พนั ธ์ของเทคโนโลยีกบั ศาสตรต์ ่าง ๆ ดังต่อไปนี้

เทคโนโลยกี ับการเกษตร

เทคโนโลยีสามารถประยุกต์ใช้ในด้านการผลิตคดิ คน้ เครื่องจักรกลทางการเกษตรและพฒั นากระบวนการผลิต
แทนการเกษตรแบบดง้ั เดมิ ท่ใี ชก้ ำลงั คน เชน่ การคดั เลือกพันธ์ุ การปรับปรงุ พนั ธ์ุ การเพ่ิมผลผลิต การรดนำ้
การฉีดยาฆ่าแมลงส่งผลใหเ้ กษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และยังช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและประเทศชาติ

เทคโนโลยีกบั การศึกษา

เทคโนโลยสี ามารถนำมาใชใ้ นดา้ นศกึ ษาได้หลายอย่าง เช่น การพัฒนาสื่ออเิ ล็กทรอนิกส์ การพัฒนาบทเรียน
คอมพวิ เตอรช์ ่วยสอน อีกทั้งยังช่วยอำนวยความสะดวกทั้งผู้สอนและผเู้ รียน รวมถึงยังชว่ ยใหก้ ารเรยี นรขู้ อง
ผู้เรยี นมีประสทิ ธภิ าพมากยิ่งขึ้น จงึ ทำใหเ้ กดิ ผลดตี ่อการศกึ ษาเป็นอยา่ งมาก

เทคโนโลยีกับการแพทยแ์ ละสาธารณสุข

เทคโนโลยีสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยอาจจะนำไปใช้ในการวนิ ิจฉยั โรค
การหาสาเหตุของการเกิดโรค และคิดค้นวธิ กี ารรักษาโรคที่รกั ษาได้ยากหรือไม่สามารถรักษาไดใ้ นอดีต
เทคโนโลยที างการแพทย์ที่ถูกพฒั นา เชน่ กล้องจลุ ทรรศน์ในการผ่าตัด กลอ้ งแคปซูล หรอื แสงเลเซอร์ ทำให้
ประชากรในประเทศมีอายุโดยเฉล่ยี ทสี่ ูงข้ึน และทำให้การรักษาอาการเจบ็ ป่วยมีประสทิ ธภิ าพมากยิ่งขน้ึ

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

22

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยกี บั ชวี ติ .
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 เรอ่ื ง ความสมั พนั ธข์ องเทคโนโลยกี บั ศาสตรอ์ น่ื )
.......
9. ความเห็นของผบู้ ริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ีไ่ ดร้ ับมอบหมาย

ข้อเสนอแนะ

ลงช่อื
(

ตำแหน่ง

10. บันทกึ ผลหลงั การสอน

 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น

 ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางเทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทม่ี ีปัญหาของนักเรยี นเปน็ รายบคุ คล (ถ้ามี))

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแก้ไข

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

23

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เทคโนโลยกี บั ชวี ติ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 เรื่อง การนำเทคโนโลยีไปสร้างนวัตกรรมใหม่

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3

การนำเทคโนโลยไี ปสร้างนวัตกรรมใหม่

เวลา 1 ชวั่ โมง

1. มาตรฐาน/ตวั ช้วี ัด

1.1 ตัวชว้ี ดั
ว 4.1 ม.3/1 วิเคราะห์สาเหตุ หรอื ปจั จัยที่ส่งผลตอ่ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และ
ความสัมพนั ธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตรอ์ น่ื โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรอื
คณิตศาสตร์ เพอ่ื เป็นแนวทางการแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน

2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. อธิบายความสำคัญของเทคโนโลยีได้ (K)
2. ยกตัวอยา่ งและอธิบายเก่ียวกับเทคโนโลยีทก่ี ่อให้เกดิ นวัตกรรมใหม่ ๆ ได้ (P)
3. สืบค้นข้อมูลเก่ยี วกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ท่ีพบไดใ้ นชีวิตประจำวนั (P)
4. เห็นประโยชนข์ องเทคโนโลยีใหม่ท่ีพบในชีวติ ประจำวนั (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น
พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

- เทคโนโลยมี กี ารเปลยี่ นแปลงตลอดเวลาตง้ั แต่อดีต
จนถึงปัจจบุ ัน ซงึ่ มสี าเหตหุ รือปัจจัยมาจากหลาย
ด้าน เชน่ ปัญหาหรือความต้องการของมนุษย์
ความก้าวหน้าของศาสตรต์ า่ ง ๆ การเปลยี่ นแปลง
ทางดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม วัฒนธรรม สง่ิ แวดล้อม

- เทคโนโลยีมคี วามสัมพนั ธ์กบั ศาสตร์อ่ืน โดยเฉพาะ
วิทยาศาสตร์ โดยวิทยาศาสตรเ์ ปน็ พืน้ ฐานความรูท้ ี่
นำไปสู่การพฒั นาเทคโนโลยี และเทคโนโลยีที่ได้
สามารถเป็นเครื่องมือเครือ่ งใช้ในการศึกษา ค้นคว้า
เพอ่ื ใหไ้ ดม้ าซ่ึงองค์ความรใู้ หม่

4. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด

เทคโนโลยีทไี่ ด้จากการพฒั นาสามารถเปน็ เครื่องมือที่ใช้ในการศกึ ษาค้นควา้ เพ่ือให้ได้มาซึ่ง
องค์ความรใู้ หมแ่ ละนวัตกรรมใหม่อย่างมคี วามคิดสร้างสรรค์ เพอ่ื ตอบสนองต่อตลาดแรงงาน โดยมุ่ง
ส่งเสริมเทคโนโลยีพนื้ ฐาน 4 ดา้ น ได้แก่ เทคโนโลยีชวี ภาพ นาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีวสั ดุศาสตร์
พลงั งานและสง่ิ แวดลอ้ ม และเทคโนโลยสี ารสนเทศ การสอื่ สาร และดิจทิ ัล

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

24

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เทคโนโลยกี ับชีวิต
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 เรอ่ื ง การนำเทคโนโลยีไปสร้างนวตั กรรมใหม่

5. สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียนและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

1. ความสามารถในการสือ่ สาร 1. มีวนิ ัย รับผิดชอบ

- ทักษะการสอ่ื สาร 2. ใฝ่เรียนรู้

2. ความสามารถในการคิด 3. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

- ทักษะการให้เหตผุ ล

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

- ทกั ษะการแก้ปัญหา

- ทกั ษะการสงั เกต

- ทกั ษะการประยุกต์ใช้ความรู้

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

- ทกั ษะการทำงานร่วมกนั

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

- ทักษะการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

6. กจิ กรรมการเรียนรู้

 วิธกี ารสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ชวั่ โมงท่ี 1

ขนั้ นำ

ขัน้ ที่ 1 กระต้นุ ความสนใจ (Engagement)
1. ครถู ามคำถามสำคญั ประจำหัวข้อวา่ “นกั เรยี นคดิ ว่า เทคโนโลยีใหม่ด้านใด สามารถแก้ปญั หา
ในชุมชนหรือท้องถิ่นของนักเรยี นได้ เพราะอะไร”
(แนวตอบ : คำตอบของนักเรียนขน้ึ อยู่กับดลุ ยพินิจของครูผสู้ อน เชน่ เทคโนโลยีวัสดุศาสตร์
พลงั งานและสง่ิ แวดลอ้ ม เพราะช่วยใหผ้ ลติ อปุ กรณ์และเคร่อื งมือท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั การประกอบ
อาชีพภายในชุมชน ทำให้อุปกรณ์และเครื่องมือที่ไดม้ คี ุณภาพและความทนทานทส่ี ูงขน้ึ
มีอายุการใชง้ านที่ยาวนานข้ึน จึงทำให้ค่าใชจ้ ่ายในการลงทุนลดลงและเพ่ิมผลผลิตได้มากข้นึ )

ข้นั สอน

ขน้ั ที่ 2 สำรวจค้นหา (Exploration)
1. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 3-5 คน หรือตามความเหมาะสม เพอ่ื สบื คน้ วา่ ปัจจบุ ันมเี ทคโนโลยี
ใหม่ ๆ ประเภทใดบา้ งท่ีนักเรียนสามารถพบในชีวติ ประจำวนั และเทคโนโลยเี หล่านนั้ ช่วยให้
เกิดประโยชนอ์ ย่างไร

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

25

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 เทคโนโลยกี ับชวี ติ
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง การนำเทคโนโลยไี ปสร้างนวตั กรรมใหม่

2. ครสู ุม่ นักเรยี นออกมาตอบคำถามบริเวณหนา้ ชั้นเรียน พร้อมอภิปรายร่วมกันภายในชน้ั เรียน
โดยครคู อยบนั ทึกคำตอบลงบนกระดานหนา้ ชั้นเรยี น

ขัน้ ที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation)
3. นกั เรียนศกึ ษาเน้ือหา เรือ่ ง การนำเทคโนโลยไี ปสร้างนวตั กรรมใหม่จากหนังสือเรียนรายวิชา
พืน้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.3 หน่วยการเรียนรู้ที่ เรอื่ ง เทคโนโลยี
กบั ชีวิต
4. ครูอธบิ ายกับนักเรยี นเพ่อื ให้นักเรยี นเข้าใจมากยง่ิ ขึ้นวา่ “เทคโนโลยีเกิดจากการพฒั นาตา่ ง ๆ
จนไดเ้ คร่ืองมือท่ีใช้ในการศึกษาคน้ คว้า เพ่อื ให้ไดม้ าซึ่งองค์ความรใู้ หมแ่ ละนวัตกรรมใหม่
อยา่ งมีความคดิ สร้างสรรค์ เพ่ือตอบสนองต่อตลาดแรงงาน โดยมงุ่ สง่ เสริมเทคโนโลยีพืน้ ฐาน
ทัง้ 4 ด้าน ซึง่ เทคโนโลยีพืน้ ฐานดงั กล่าวจะสง่ ผลใหเ้ กิดการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ
อกี 12 ดา้ น”

ขั้นที่ 4 ขยายความเขา้ ใจ (Elaboration)
5. เปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามขอ้ สงสยั และครูใหค้ วามรูเ้ พิ่มเตมิ ในสว่ นนั้น
6. ครูอธบิ ายเกร็ดเสริมความรู้ท่ีเก่ียวข้องกับเนื้อหา (Design Focus) เรอ่ื ง สตาร์ทอัพ และ
พลังงานชีวมวล
7. ใหน้ กั เรียนทำกจิ กรรม High Oder Thinking ทส่ี อดคล้องกับตวั ชว้ี ดั ตามทกั ษะแหง่ ศตวรรษ
ท่ี 21 จากแบบฝึกหัดรายวชิ าพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 เร่อื ง เทคโนโลยกี บั ชีวิต
8. ครูสุม่ นักเรียน 2-3 คน ออกมาตอบคำถามบรเิ วณหนา้ ชั้นเรียน

ขน้ั สรุป

ขั้นที่ 5 ตรวจสอบผล (Evaluation)
1. ครูประเมนิ ผลโดยการสังเกตการณต์ อบคำถามและการนำเสนอผลงานของนักเรยี น
2. นักเรยี นและครูรว่ มกันสรุปความรู้เก่ยี วกับการนำเทคโนโลยีไปสรา้ งนวตั กรรมใหม่
3. นักเรยี นทำกจิ กรรมท่สี อดคล้องกับเนื้อหา โดยให้ผ้เู รียนฝกึ ปฏิบตั ิเพ่อื พัฒนาความรู้และทักษะ
(Design Activity) จากหนงั สือเรยี นและบนั ทึกลงในสมดุ ประจำตัว
4 นักเรียนแต่ละคนทำแบบฝึกหัด (Unit Activity) จากหนงั สือเรยี นเพ่ือทบทวนความรู้
ความเข้าใจ และพฒั นาทักษะการคดิ ของผเู้ รียนโดยการตอบคำถามลงในสมดุ ประจำตัว
5. ครใู ห้นักเรยี นตรวจสอบระดบั ความสามารถของตนเองจากหนงั สือเรยี น โดยพิจารณาขอ้ ความ
วา่ ถกู หรอื ผิด หากนักเรียนพจิ ารณาข้อความไมถ่ ูกต้องให้นักเรียนกลับไปทบทวนเน้อื หา
ตามหัวข้อทก่ี ำหนดให้

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

26

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เทคโนโลยกี ับชวี ติ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 เรือ่ ง การนำเทคโนโลยไี ปสรา้ งนวตั กรรมใหม่

6. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 1 เรอ่ื ง เทคโนโลยกี บั ชวี ติ หรอื ทำ
แบบทดสอบ (Unit Test) จากแบบฝกึ หดั เพ่อื วัดความรูท้ ี่นักเรียนได้รับหลังจากผา่ น
การเรยี นรู้

7. นักเรียนทำช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เร่อื ง เทคโนโลยกี ับชีวติ และนำมาส่งในชัว่ โมงถัดไป

7. การวดั และประเมินผล

รายการวัด วิธวี ัด เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมิน

7.1 การประเมนิ ระหวา่ งการ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์

จดั กจิ กรรม ระดับคุณภาพ 2
ผา่ นเกณฑ์
1) การนำเทคโนโลยี - ตรวจแบบฝกึ หดั - แบบฝกึ หดั ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
ไปสร้างนวัตกรรม ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมนิ การนำเสนอ - แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
ผลงาน การนำเสนอผลงาน
รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
3) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤติกรรม
ระดับคุณภาพ 2
รายบุคคล การทำงานรายบคุ คล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์

4) พฤติกรรมการทำงาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม

กลมุ่ การทำงานกลมุ่ การทำงานกลุ่ม

5) คณุ ลกั ษณะ - สงั เกตความมวี ินัย - แบบประเมิน

อนั พงึ ประสงค์ ความรบั ผิดชอบ คณุ ลกั ษณะ

ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ ม่ัน อนั พึงประสงค์

ในการทำงาน

7.2 การประเมนิ หลังเรียน

1) แบบทดสอบหลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรยี น

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 หลงั เรียน

เรอื่ ง เทคโนโลยกี บั

ชวี ติ

2) การประเมนิ ชน้ิ งาน/ - ตรวจช้นิ งาน/ - แบบประเมินช้นิ งาน/

ภาระงาน (รวบยอด) ภาระงาน (รวบยอด) ภาระงาน (รวบยอด)

เร่ือง เทคโนโลยกี บั

ชีวติ

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี)

27

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 1 เทคโนโลยกี บั ชีวติ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 เรือ่ ง การนำเทคโนโลยไี ปสรา้ งนวตั กรรมใหม่

8. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้

8.1 ส่อื การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรียนรายวิชาพื้นฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1
เรอื่ ง เทคโนโลยีกับชีวิต
2) แบบฝึกหดั รายวชิ าพ้นื ฐาน เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.3 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1
เรอ่ื ง เทคโนโลยีกบั ชวี ิต

8.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งคอมพิวเตอร์
2) อนิ เทอรเ์ น็ต

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

28

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เทคโนโลยกี ับชวี ิต
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง การนำเทคโนโลยไี ปสรา้ งนวัตกรรมใหม่

ชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรอื่ ง เทคโนโลยีกบั ชีวิต

คำช้ีแจง : ให้นักเรยี นตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง
1. ใหน้ ักเรียนวิเคราะหก์ ารเปลีย่ นแปลงดา้ นต่างๆ ต่อไปนีจ้ ากอดีตถงึ ปัจจุบันว่ามีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งไร

ด้าน อดีต ปจั จุบัน
ด้านเศรษฐกิจ

ด้านสังคม

ดา้ นวัฒนธรรม

ด้านสิ่งแวดลอ้ ม

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

29

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เทคโนโลยกี ับชวี ิต
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่อื ง การนำเทคโนโลยีไปสร้างนวัตกรรมใหม่

2. ในปัจจบุ นั มีการนำโดรนเขา้ มาช่วยในการทำกจิ กรรมหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะในดา้ นการเกษตร
ใหน้ ักเรยี นอธบิ ายความสัมพนั ธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตรอ์ นื่ ๆ ท่ีนำมาใชใ้ นการสร้างโดรนมาพอสงั เขป

เทคโนโลยีกบั วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยกี บั คณติ ศาสตร์

เทคโนโลยีกบั มนุษยศาสตร์ เทคโนโลยีกับสังคมศาสตร์

เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี

30


Click to View FlipBook Version