The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สร้างคนอย่างไร ธุรกิจยั่งยืน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Poonnie HR, 2022-12-17 01:33:20

สร้างคนอย่างไร ธุรกิจยั่งยืน

สร้างคนอย่างไร ธุรกิจยั่งยืน

Keywords: คน,็HR

146

ท่มี าของความสาเรจ็ ทงั้ หมดทงั้ มวลนี้ คณุ วีรพลน์ ขยายความเพ่มิ เติมวา่ รากเหงา้ ของโชคนาชยั โตมาจาก
ธุรกจิ เล็ก ๆ แต่ดว้ ยความมงุ่ ม่นั ท่ตี อ้ งการสรา้ งธรุ กิจใหบ้ รษิ ัทเติบโต แน่นอนวา่ สว่ นหนงึ่ มาจากการมี
Innovation ซง่ึ เป็นเหมอื นตวั ชว่ ยทาใหง้ านของเราง่ายขนึ้ เพิม่ ขีดความสามารถในการผลติ ไดม้ ากขึน้ แต่
อกี ปัจจยั หน่งึ ท่ตี อ้ งใหเ้ ครดิตคือเร่ืองของ “การสรา้ งคน”

วสิ ยั ทศั นข์ องคนจบป. 4 เม่ือมโี อกาสไดท้ าธุรกิจของตนเอง คณุ นาชยั เปิดโอกาสใหพ้ นกั งานทกุ คนท่ีต่างก็
มาจากพืน้ ฐานการศึกษาไม่สงู นกั สามารถเรียนเพ่ิมเติมภาษาองั กฤษจนอย่างนอ้ ยตอ้ งอา่ นออกเขียนได้
เรยี นรูก้ ารใชง้ านคอมพวิ เตอร์ การเขียนแบบดว้ ยโปรแกรม AutoCAD การนาซอฟตแ์ วรส์ มยั ใหม่เขา้ มาชว่ ย
ในการวเิ คราะห์ ปรบั ปรุง และพฒั นาเทคนิคในการทางานใหม่ เชน่ โปรแกรมการตรวจเช็คคณุ ภาพชนั้ สงู
โดยใช้ CMM Table, Camera Scan โปรแกรมออกแบบ และ Simulation

ซ่งึ ในช่วงยคุ นนั้ อาจกล่าวไดว้ ่า มธี รุ กจิ นอ้ ยรายท่จี ะใหค้ วามสาคญั กบั เร่อื งดงั กลา่ ว แต่คณุ นาชยั พดู อยู่
เสมอว่า ความสาเรจ็ ของทกุ กจิ การอยทู่ ่ีคนเป็นหวั ใจสาคญั เพราะไมว่ า่ เทคโนโลยจี ะพฒั นาไปไกลแค่ไหน
แต่ถา้ คนขาดศกั ยภาพองคก์ รกไ็ มส่ ามารถพฒั นาไปได้ ดว้ ยเหตนุ จี้ งึ พยายามปลกู ฝังเรอื่ งการเรียนรูแ้ ละ
การสรา้ งเปา้ หมายในชีวติ ใหแ้ ก่พนกั งานดว้ ย เพ่ือท่จี ะเป็นโอกาสในการพฒั นาศกั ยภาพของบคุ ลากร

ครงั้ หน่งึ คณุ นาชยั เคยใหส้ มั ภาษณส์ ่อื มวลชนท่ีมาเย่ยี มชมโรงงานวา่

“สวรรคไ์ มไ่ ดส้ ง่ เทคโนโลยมี าให้ แตเ่ กดิ จากทมี่ นษุ ยพ์ ฒั นาขึน้ มาเพอื่ ช่วยใหเ้ ราสบายขึน้ และสามารถ
พฒั นาไดเ้ ร็วกว่า”

Diversification through Innovation

หลงั วกิ ฤตแฮมเบอรเ์ กอรเ์ ป็นตน้ มา ผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกจิ และอตุ สาหกรรมยานยนตข์ องโลก ทา
ใหท้ กุ อตุ สาหกรรมท่เี กี่ยวขอ้ งกบั การผลิตรถยนตห์ ดตวั ไม่ว่าจะเป็นผผู้ ลติ ชิน้ สว่ น OEM หรอื REM
(Replacement Equipment Manufacturer) ดลี เลอร์ โชวร์ ูมตา่ ง ๆ บรษิ ทั ลีสซง่ิ แมแ้ ต่ตลาดรถมือสอง
รวมไปถึงผลกระทบต่อแรงงานในระบบ

“ปี 2558 พวกเราเหน็ ถงึ วกิ ฤตใิ นอตุ สาหกรรมรถยนตข์ องบา้ นเรา ในฐานะทเี่ ราเป็นธรุ กจิ บริษัทผผู้ ลิต
แมพ่ มิ พข์ นาดใหญ่ทสี่ ดุ ในประเทศไทย พอยอดรถยนตต์ ก ถา้ เรายงั อยเู่ หมอื นเดมิ คงตายแน่ ปกติ
อตุ สาหกรรมรถจะมีโมเดลใหมม่ าใหท้ าเรื่อย ๆ วงจรธรุ กิจมนั สลบั ฟนั ปลามีขึน้ มลี ง แลว้ เรากท็ ารถรุ่นใหม่
ล่วงหนา้ ไป 2 ปี แตป่ ีนนั้ มนั หนกั มาก Production รอสามปีไมไ่ ด้ เราก็เลยคดิ ใหม่ทาใหม”่


147

น่นั คือท่มี าของแนวคิด Diversification through Innovation ท่มี ่งุ ไปยงั ธรุ กิจใหม่ โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พ่อื
วจิ ยั และพฒั นาผลติ ภณั ฑท์ ่เี ป็นนวตั กรรม นาความเช่ียวชาญเร่อื งการขึน้ รูปโลหะโดยใชว้ สั ดแุ ละ
เทคโนโลยีสมยั ใหม่ ไปใชใ้ นการผลติ ยานพาหนะนา้ หนกั เบาท่เี ป็นแบรนดข์ องคนไทย ไดม้ าตรฐานสากล
และมีราคาท่เี หมาะสม สามารถนาไปตอ่ ยอดในเชิงพาณิชยไ์ ดอ้ ย่างลงตวั ตลอดจนยกระดบั ความ
ปลอดภยั ดา้ นคมนาคม ซ่งึ เป็นจดุ ขายหลกั ของแบรนด์ Sakun C ไม่ว่าจะเป็น เรอื หรือรถโดยสาร

กลา่ วไดว้ ่า สกลุ ฎซ์ ี เป็นสว่ นผสมท่ลี งตวั ของประสบการณจ์ ากบรษิ ัทแม่ เป็นการเอาความรูใ้ นการขนึ้ รูป
โลหะ ระบบ Automationฐาน Supply Chain อยา่ งครบวงจร และความสามารถทางดา้ นวิศวกรรม
ระดบั สงู ทงั้ CAD/CAM/CAE มาบวกกบั ธุรกจิ ลกู ท่มี ีความสามารถในการออกแบบผลติ ภณั ฑส์ มยั ใหม่ท่มี ี
ความซบั ซอ้ น นา้ หนกั เบา ทกุ ชนดิ ทกุ ขนาด

แต่คียเ์ วิรด์ สาคญั ท่คี ณุ วรี พลนพ์ ดู ถงึ อย่เู สมอก็คือ สกลุ ฎซ์ ี เป็นธุรกิจท่ีมองเห็น “ความสามารถของคนไทย”
ว่ามศี กั ยภาพเพียงพอท่จี ะพฒั นาองคค์ วามรูต้ า่ ง ๆ ไปสรา้ ง Innovation ตามมาตรฐานสากลได้ ควรจะไป
ไดไ้ กลกว่าการเป็นเพยี งผไู้ ดร้ บั แต่ค่าแรงเพียงอยา่ งเดียว

“ตอนทเี่ ราเร่ิมบุกเบกิ สกลุ ฎ์ซี เราถกู ธนาคารตราหนา้ ว่า ธุรกิจประเภทนยี้ งั ไงกเ็ จ๊ง ใหเ้ งนิ ไปสงสยั ไม่รอด
ผลงานไมม่ ี เราขอแหล่งเงนิ มาทานวตั กรรมใหม่ กไ็ มม่ ีใครสนใจ ทกุ คนสา่ ยหนา้ ทงั้ ๆ ทตี่ อนนนั้ มารจ์ นิ
ชนิ้ สว่ นเราแค่ 4 % พอหนั ไปหาลูกคา้ งานชนิ้ สว่ นใหพ้ อ ถา้ อยากไดง้ านกต็ ดั ราคากนั เหมือนหนีตาย
สดุ ทา้ ยไมม่ ีใครไดอ้ ะไรเลย

ทา่ นประธานนาชยั กเ็ รยี กประชมุ ระดมสมองทมี ผูบ้ รหิ าร ถงึ เวลาทเี่ ราจะทาธรุ กจิ ของตวั เอง ท่านมี
วสิ ยั ทศั นล์ า้ ยคุ มาก บอกว่าเราควรเร่ิมจากจดุ แขง็ ทบี่ า้ นเรามี เชน่ ภาคการเกษตร สมยั นนั้ มองไปทางไหน
90 % ของเครอื่ งมอื เครือ่ งจกั รเป็นแบรนดข์ องต่างชาติ แลว้ คนไทยทาไร ทาไดแ้ คช่ นิ้ สว่ นพว่ งเดนิ ตามแบบ
นเี้ หรอ”

นอกจากเคร่ืองจกั รกลเกษตรแลว้ สกลุ ฎซ์ ียงั ม่งุ ไปอีกหน่งึ เปา้ หมายใหมก่ ็คือภาคการท่องเท่ยี ว เรือ
อะลมู เิ นยี มแบรนด์ (Sakun C) ถือกาเนิดจากทมี งานภายในบรษิ ทั ท่มี ีทงั้ ทีมออกแบบ และทมี วิจยั พฒั นา
โดยการรว่ มมือกบั สานกั งานพฒั นาวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยแี ห่งชาติ (สวทช.) ผลติ ยานพาหนะแบบ
ใหม่ เป็นรายแรกในโลกท่ีใชแ้ มพ่ ิมพป์ ๊ัมทกุ ชนิ้ สว่ นท่มี ีคณุ ภาพสงู ทดแทนการพบั ตดั ต่อ เช่ือมแบบเดิม
ปัจจบุ นั กรมเจา้ ท่าไดน้ าเรอื ไฟฟ้าออกใหบ้ รกิ ารทางทะเลในจงั หวดั ท่องเท่ยี ว เช่น จงั หวดั กระบี่ ภเู ก็ต และ
พงั งา รวมทงั้ การต่อยอดการใหบ้ รกิ ารในแมน่ า้ เจา้ พระยาอีกดว้ ย


148

“เราออกแบบใหเ้ รือสกลุ ฎซ์ ีมีโฟมพเิ ศษลอยตวั ไดเ้ องเวลาเกดิ อบุ ตั เิ หตุ ปร่ิมยงั ไงกไ็ มจ่ ม ทสี่ าคญั คอื เรอื
ประเภทนบี้ ริษัทใหญ่ ๆ ยงั ตอ้ งใชเ้ วลาผลติ ลาละ 6 เดือน 9 เดอื น แต่บา้ นเราลานงึ ใชเ้ วลาผลติ แค่ 26 วนั
ใครอยากซือ้ ไมต่ อ้ งพรีออรเ์ ดอรก์ นั คร่งึ ปีแบบเมือ่ ก่อน”

ตามมาดว้ ย “สกลุ ฎซ์ ี มนิ บิ สั ” ท่ผี ลิตดว้ ยอะลมู เิ นียมชนิดพิเศษแบบลดรอยต่อ ไดร้ ถนา้ หนกั เบา แตย่ งั คง
แข็งแรงเท่าเดิม โดยตอ้ งการใหม้ ีระบบบรหิ ารงานวิจยั เพ่ือพฒั นา ต่อยอดผลิตภณั ฑไ์ ดอ้ ย่างย่งั ยืน และ
ไมใ่ ช่แคข่ ายคนไทย แต่ตอ้ งขายต่างประเทศไดด้ ว้ ย

การขนึ้ มายืนหนึง่ ในฐานะของผผู้ ลิต “รถ - เรอื โดยสาร” ท่ีเดยี วในไทย โดยใชเ้ ทคโนโลยีชนั้ สงู เทยี บเท่าคา่ ย
รถยนตช์ นั้ นา เช่น Vehicle Design Engineering, Advanced CAD/CAM/CAE Technology, Advance
Die Design Manufacturing, Advance Material Technology), Manufacturing & Production
Technology ทงั้ หมดท่กี ลา่ วมาเป็นการพฒั นาโดย “ฝีมือคนไทย” ภายในบริษัททงั้ หมด ปัจจบุ นั สกลุ ฎซ์ ีตงั้
เปา้ ทาธุรกิจรถ – เรือ ครบวงจร ตงั้ แต่การวิจยั และพฒั นา ผลติ และทาตลาด

ถ้าแม่พมิ พข์ ึน้ รูปผลิตภัณฑไ์ ด้ “ระบบ” กส็ ร้างบุคลากรไดเ้ ชน่ กนั

ส่ิงท่สี กลุ ฎซ์ สี บื ทอดจากบรษิ ัทแม่นนั้ ไม่ไดม้ ีเพียงเรอื่ งของนวตั กรรมแต่เพียงถา่ ยเดียว หากยงั ประกอบไป
ดว้ ยเจตนารมณข์ องทา่ นประธานในเรอื่ งของทรพั ยากรบุคคล ท่เี ช่ืออยา่ งสดุ หวั ใจว่า ความสาเรจ็ ของทกุ
กิจการอยทู่ ่ี “คน” เพราะต่อใหม้ ีเทคโนโลยีท่ลี า้ กว่าค่แู ข่งแคไ่ หน องคก์ รก็ไม่สามารถเดนิ หน้าต่อไปได้

“วนั ทเี่ ราแยกแบรนดส์ กลุ ฎ์ซอี อกมา เราคยุ กนั วา่ ตอ้ งมี R&D ตอ้ งมีนวตั กรรม เรามีเป็นคนออกแบบดไี ซน์
วา่ หนา้ ตาจะเป็นยงั ไง ฝ่งั โรงงานกจ็ ะเป็น OEM ความทเี่ ราเคยทามา แมว้ ่าเราจะไม่เก่งมาร์เกตตงิ้ ขาย
ของไม่เป็น แต่มนั คือการมองเหน็ วอลลมุ่ บวกกบั ตระหนกั รูว้ ่าเรามจี ุดแข็งทเี่ ราทาไดท้ เี่ ดยี วในไทย

ทนี ปี้ ัญหาต่อมาคือเราจะสรา้ งคนยงั ไง เราจะเอาคนมาจากไหน วนั แรก ๆ เราดงึ คนมาจากทเี่ ดมิ มาตงั้
หลกั กอ่ น เอามาปรุงใหม่หมด มาแลว้ ตอ้ งคิดใหมท่ าใหม่นหี่ นกั มาก เพราะเดมิ ทใี นโลกของโรงงาน มนั คือ
อะไร ทาไม ยงั ไง เมือ่ ไร แต่พอมาอย่สู กลุ ฎซ์ ี เราตอ้ งคยุ ภาษามาร์เกตตงิ้ ใหร้ ูเ้ รือ่ ง คาว่า 4 P (Product,
Price, Place, Promotion) กเ็ คยเรียนแต่หอ้ งเรยี น เหมือนมนั คอื โลกอกี ใบหนง่ึ

ทา่ นประธานบอกเสมอว่า บริษทั ทดี่ ีตอ้ งเร่ิมจากระบบทีด่ ี จึงเรง่ หาคนทมี่ ีความตงั้ ใจเขา้ มาฝึกอบรมตาม
ระบบ”

คณุ วรี พลน์ กลา่ วถงึ การออกแบบ “ระบบ” ไวร้ องรบั บคุ ลากรขององคก์ ร คลา้ ยคลงึ กบั การพดู ถงึ “แมพ่ ิมพ”์
ผลิตชนิ้ สว่ นท่ีคนุ้ เคยและเช่อื ม่นั ได้ คือถา้ เบา้ หลอมถกู ออกแบบไวด้ ี ความคลาดเคล่ือนนอ้ ย ความแมน่ ยา


149

สงู มมี าตรวดั ท่ีตรวจสอบประเมินความถกู ตอ้ งได้ ระบบอนั หนง่ึ ท่ีสกลุ ฎซ์ ีใช้ ก็เร่ืองของมาตรฐาน ISO ท่ี
เป็นเหมือนไกดไ์ ลนใ์ หพ้ นกั งานนอ้ งใหม่สามารถทางานเป็นระบบได้ เป็นกรอบในการเพม่ิ ประสิทธิภาพใน
การทางาน มจี ิตสานึกในเรื่องของคณุ ภาพมากขนึ้ มีวินยั ในการทางาน สามารถทางานเป็นทีมหรือเป็น
กลมุ่ ภายใตก้ ารประสานงานท่ดี ี และสามารถพฒั นาตนเองตลอดจนเกิดทศั นคตทิ ่ีดีต่อการทางานได้

“คนเกา่ ทีถ่ า่ ยมาจากบรษิ ทั แม่ ผมเนน้ เลอื กคนทีต่ อ้ งถึก คอื อดทนสงู ตอ้ งรูร้ ะบบ ตอ้ งรูใ้ จกนั เพราะเรามี
เวลาสนั้ มาก ผดิ คอื ผิด จบนะ ไปแกม้ า พอเรามกี ารออกแบบระบบเสร็จ คนใหม่เขา้ มาก็สานต่อไดท้ นั ที
คราวนกี้ องหลงั เราจะแน่น กองหนา้ เราก็พรอ้ ม เราจะมเี วลาไปทาอยา่ งอนื่ แลว้ กม็ ีการทดสอบเป็นระยะ
เวลาคนใหมม่ าลองผดิ ลองถูก ไหนลองเขยี นโฟลวช์ าร์ทไดย้ งั 1-2-3-4 ก็ค่อย ๆ ปรบั กนั ไป

ผมมองวา่ ถา้ ระบบดี คนใหม่เขา้ มาก็เดนิ ตามระบบไดผ้ า่ นกระบวนการเทรนนง่ิ ความยากคอื เทรนน่งิ ไป
แลว้ เขาจาไมไ่ ดห้ มด การทจี่ ะช่วยใหเ้ ขาไปไดเ้ ร็วขนึ้ คือ สรุปประจาสปั ดาห์ มีหวั ขอ้ KPI ใหท้ า ถา้ คณุ
ตอบใน KPI ได้ แสดงว่าคณุ เขา้ ใจ พูดงา่ ย ๆ ว่าเรามเี ครื่องมือ มีไกดไ์ ลน์ ทเี่ หลอื คอื ประสบการณ์
เฉพาะตวั

ผมเหน็ ประธานจบป. 4 อ่านหนงั สอื ยงั ไมอ่ อก ภาษาไมไ่ ดเ้ ลย แตท่ า่ นเป็นคนใฝ่รู้ แสวงหา เวลาเจอ
ต่างชาติ เอ๊ะ ทาไมทา่ นพูดองั กฤษทบั ศพั ทไ์ ดเ้ ป๊ ะเลย มนั คอื การเรยี นรูม้ าจากระบบธรรมชาตริ อบตวั เวลา
ประชมุ บรษิ ัท ทา่ นจะไมช่ อบดราม่า ใครเสนออะไรไมต่ อ้ งมาพดู อะไรมาก ทา่ นบอกงา่ ย ๆ สนั้ ๆ ‘ขอดู
พาวเวอร์พอยทห์ นอ่ ย’ ไหน ๆ บอกสิ ผลคอื อะไร เหตมุ ายงั ไง ปัญหาอยู่ตรงไหน แลว้ คณุ จะแกย้ งั ไง แค่นี้
- จบเลย”

“Why-Why Analysis”

นอกจากการออกแบบระบบในการพฒั นาบคุ ลากรท่ี “ชดั เจน วดั ผลได”้ แลว้ สกลุ ฎซ์ ียงั นาเคร่ืองมือ
วเิ คราะหท์ ่ีใชก้ นั อย่างแพรห่ ลายในวงการอตุ สาหกรรมของญ่ีป่นุ มาใสไ่ วใ้ นวฒั นธรรมการทางานอีกดว้ ย

“ผมเคยเจอเดก็ มารเ์ กตตงิ้ มาใหม่ ๆ ฟงุ้ มาก พูดสวย ๆ ไปเรือ่ ย แต่พอเราขอรีพอร์ทตอบไมไ่ ด้ ไม่มีตวั เลข
ผมก็มกั จะเร่มิ ดว้ ย Why Why”

หวั เรือใหญ่แหง่ สกลุ ฎซ์ ี พดู ถึง “Why-Why Analysis” ท่ถี กู นามาใชเ้ พ่อื ใหร้ ูว้ ่า อะไรคือ “สาเหตทุ ่แี ทจ้ รงิ ”
อะไรคอื “ปัญหาเรอื้ รงั ” และอะไรคือ “ปัญหาช่วั คราว” โดยตวั ผนู้ าองคก์ ร ก็ตอ้ งเป็นผถู้ ามท่ดี ี ท่เี จาะลกึ ลง


150

ไปในปัญหา โดยเฉพาะในกระบวนการทางานภายในโรงงาน การวิเคราะหป์ ัญหาดว้ ย Why – Why
Analysis เป็นพืน้ ฐานสาคญั ท่ที าใหป้ ้องกนั การ “แกป้ ญั หาแบบมโนไปเอง”

"ถามใหถ้ ูกใหถ้ งึ ราก แตอ่ ยา่ ถามซ้าถามซาก เดก็ บางคนมาใหม่ ๆ แอบสงสยั วา่ เราทาไมถามกวน ทกุ วนั นี้
เราใช้ Why เป็น Norm ในบรษิ ัท คนทไี่ ม่เคยผา่ นระบบโรงงานมาเจอถามแบบนี้ วนั แรก..ออกเลยกม็ ี

กราฟทผี่ มใหท้ าในสรุปประจาสปั ดาห์ เราจะถามวา่ ตวั เลขนมี้ าจากไหน มที มี่ ายงั ไง คุณอธิบายไดม้ ยั้
ภาษาคนโรงงานก็คยุ กนั แบบนี้ ทาไมยอดขายไม่ได้ ทาไมลูกคา้ คอมเพลนเรือ่ งนบี้ ่อย ก่อนหนา้ นนั้
จนิ ตนาการวา่ ปญั หามาจากตรงนตี้ รงนนั้ แต่คาตอบมนั อยู่บนกราฟเลย มนั จะไม่มโน พอเราทาจนอยู่ตวั
จากชว่ งแรก ๆ ทมี่ ีคนออกเยอะ ตอนหลงั พอตงั้ ระบบได้ ค่อย ๆ น่งิ เดก็ ใหม่มาเราตอ้ งตงั้ หลกั ว่า เราจะทา
ยงั ไงใหเ้ ขามาในทศิ ทางทเี่ ราตอ้ งการ”

ตวั เลขถวั เฉลี่ยของการกลมกลนื คนใหม่ใหก้ ลายเป็นสายเลอื ดสกลุ ฎซ์ เี ต็มตวั คณุ วีรพลนเ์ ผยวา่ “อยา่ งมาก
ไมเ่ กินสองสปั ดาห”์ แถมสาทบั ดว้ ยสหี นา้ ม่นั ใจอีกดว้ ยว่า น่คี ือนบั รวมตงั้ แตข่ นั้ ตอนการปฐมนิเทศน์ อบรม
เทรนน่งิ ปอ้ นขอ้ มลู เรียนรูเ้ ร่ืองวฒั นธรรมองคก์ ร แลว้ ดว้ ยซา้

“คนใหม่ตอ้ งเขา้ ระบบไดใ้ น 2 อาทติ ย์ เพราะชา้ เสยี เวลา ธุรกิจเรารอไมไ่ ด้ ผมเชอื่ ว่าไปเรียนเยอะ ๆ อดั
ทฤษฎีเยอะ ๆ ยงั ไงเขากร็ บั ไมห่ มด เราแค่ออกแบบระบบใหด้ ี ใหภ้ าพใหญ่ไป ถงึ ทสี่ ดุ กต็ อ้ งลงปฏิบตั งิ าน
ดว้ ยตนเอง ผมบอกว่าการเทรนนง่ิ ของเรา ถา้ มนั มกี รณีศกึ ษามนั กเ็ หน็ ภาพ การเจ็บก็จะชว่ ยจาไดเ้ ร็วขึน้

นอกจากนเี้ รายงั มี ‘ระบบบดั ด’ี้ คนเก่าจบั คู่กบั คนเขา้ มาใหม่ คยุ กนั ทกุ เยน็ ทีน่ ใี่ หเ้ วลาสามเดอื นช่วงผา่ น
โปร พอบดั ดเี้ ขาคุยกนั เขาจะมีบนั ทกึ มาใหเ้ ราดู ว่าเดก็ ใหมม่ าปรึกษาเรือ่ งไร ตดิ ขดั อะไร คนเก่าแนะนา
อะไรไป ผลเป็นยงั ไงหลงั จากนนั้

แลว้ เรากม็ ี Weekly Meeting, Monthly Meeting ของเราประชมุ กนั ค่อนขา้ งดเุ ดอื ด ถา้ เขาตอบการบา้ น
ไมไ่ ด้ แปลวา่ คณุ ตอบตวั เองไม่ไดว้ า่ วนั นที้ าอะไร เอาจริง ๆ ผมไมไ่ ดซ้ เี รยี สว่างานมปี ัญหา แตค่ ณุ ตอ้ ง
อธบิ ายไดว้ ่าปญั หามาจากไหน เกิดเพราะอะไร แกท้ ตี่ รงไหน ถา้ เดก็ ใหม่ตอบแบบนไี้ ด้ ผมถือวา่ จบ

การทเี่ ขามีวธิ ีคดิ ในการตอบทดี่ ี ทถี่ กู ตอ้ ง ผมถอื วา่ เป็นคนทอี่ ยูใ่ นข่ายทจี่ ะพฒั นาต่อได้ ถอื วา่ ผ่าน
มาตรฐานของเรา คอื การมีจิตใจทจี่ ะพฒั นาตวั เองต่อไปได้ ทา้ ยทสี่ ดุ ธรุ กจิ จะถูกผลกั ดนั ใหม้ นั เดนิ หนา้
ตอ่ ไปดว้ ยคนแบบนี้ ผมเชือ่ ว่าคนเราถา้ ตงั้ ใจอะไรก็ทาไดห้ มด หรือเป็นคนเกง่ แต่ความอดทนต่า แบบนกี้ ็
อย่ดู ว้ ยกนั ยาก


151

กว่าจะเปลยี่ นคนของเราใหม้ ีวธิ คี ดิ แบบนไี้ ด้ มนั ตอ้ งใชเ้ วลา แต่บางทกี ็คยุ กนั ตงั้ แตแ่ รกเลย คดิ แบบนไี้ ด้
ไหม ถา้ ไมไ่ ดก้ ็เป็นการสกรีนคนไปในตวั ผมบอกทกุ คนเสมอว่า ธรุ กจิ คอื การแกป้ ญั หา ถา้ คนมาแลว้ ตอ้ ง
พรอ้ มแกป้ ญั หาทีต่ วั เองก่อน ต่างคนต่างแกท้ ตี่ วั เองก่อนมนั ก็แกภ้ าพรวมขององคก์ รได”้

CNC Mold & Die Training Center

เม่อื รากแกว้ ของบรษิ ัทแมแ่ ข็งแรง การผลดิ อกออกใบไปรอบทิศทางขนาดไหน กย็ ่อมหลกี ไมพ่ น้ “แก่น” ท่ี
มองวา่ “คน” คอื ทรพั ยากรสาคญั ขององคก์ ร เป็นหวั ใจของความสาเรจ็ ทกุ ธรุ กจิ ของโชคนาชยั รวมทงั้
สกลุ ฎซ์ ี จงึ พยายามปลกู ฝังเร่อื งการเรียนรูแ้ ละการสรา้ งเปา้ หมายในชวี ติ ใหแ้ ก่พนกั งานอยเู่ สมอ รวมไปถึง
การสรา้ งบคุ ลากรรุน่ ใหมท่ ่ีมีคณุ ภาพ เพราะเล็งเหน็ ถึงอนาคตของชาตทิ ่จี ะเติบโตมาเป็นกาลงั สาคญั ใน
การพฒั นาอตุ สาหกรรมไทยต่อไป

“เราอยใู่ นอตุ สาหกรรมแบบนี้ เราเหน็ ปญั หาอยทู่ กุ วนั โรงงานบา้ นเรามแี ต่เครือ่ งจกั ร มีแตแ่ ขนขา แตไ่ มม่ ี
สมอง ผมคดิ วา่ คนไทยโดนตอน เหมือนเราโดนแยกหวั กบั ตวั ออกจากกนั

เพราะการออกแบบดไี ซนค์ ือสมอง เดมิ ทเี ราตอ้ งจา้ ง ตอ้ งซอื้ ทกุ วนั นธี้ ุรกิจหลายทีก่ ็ยงั มองว่าการมีดไี ซน์ มี
การออกแบบเป็นตน้ ทนุ มนั แพง มนั ไมส่ รา้ งรายได้ ไม่เหมอื นซือ้ เครือ่ งจกั รมาแลว้ รบั จา้ งผลติ ทาเงนิ ไดเ้ รว็
กว่า งา่ ยกว่า หลายบรษิ ัทจา้ งแผนกอนื่ แพงได้ แตแ่ ผนกดไี ซนข์ อจา้ งถกู ๆ ทกุ วนั นมี้ ีกโี่ รงงานทอี่ อกแบบทา
ผลติ ภณั ฑต์ วั เองได้ การจะผนั ตวั ไปทานวตั กรรมเองไดม้ นั เลยนอ้ ยตามไปดว้ ย”

กศุ โลบายในการสรา้ งคนรุ่นใหมข่ อง CNC เคยลงทนุ ถงึ ขนาดเปิดโรงเรียนเพ่ือผลิตคนรุน่ ใหม่ โดยสอนฟรี
เรยี นฟรี แถมมีเงินใหเ้ ป็นค่ามาเรียนวนั ละ 200 บาท ใครจบมามีเงนิ เดอื นหลกั หม่ืนรออยู่แบบไมต่ อ้ งไปลนุ้
หางานท่ไี หน

“สมยั เราตงั้ ตวั เราก็เจอปญั หาเดก็ จบมาแต่ทางานไม่ได้ คณุ นาชยั เลยถอื หนงั สอื ไปหาสภาพฒั นฯ์ ขอเปิด
หลกั สูตร CNC Mold & Die Training Center เอาเดก็ ยากจนมาเรยี น เหมือนโรงเรียนประจาเลย เชา้ เรยี น
ทฤษฎี บ่ายสอนภาษา เลกิ เรยี นกลบั ไปใหก้ ารบา้ น Self-Study เองถงึ เทยี่ งคนื ทกุ วนั

เราเนน้ รบั เดก็ ยากจน มีการตรวจสอบว่ายากจนจรงิ มยั้ ขาดโอกาสจรงิ มยั้ นอ้ ง ๆ ม. 6 เรากร็ บั หญิงชาย
ไมเ่ กยี่ งขอแค่อายุ 18 ขอแค่อ่านออกเขียนได้ คานวณได้ ขอแค่มคี วามตงั้ ใจมาเราก็รบั ไม่ตอ้ งสอบไรเลย
ตอนเขา้ แต่ทกุ เดอื นขอสอบวดั ผลการเรยี น ใครตกคอื ไม่ไดไ้ ปต่อ แกบอกว่าถา้ ใครไดโ้ อกาสแลว้ ไมต่ งั้ ใจ ก็
กลบั บา้ นไป เพราะคณุ นาชยั ตงั้ ใจเกินรอ้ ย เชา้ มาอบรมเองหนา้ แถว สอนแมก้ ระท่งั คติธรรมในการใชช้ วี ติ


152

ทสี่ าคญั เราเขียนหลกั สตู รทมี่ าจากประสบการณ์ตรงของโรงงาน วา่ เราตอ้ งการคนแบบไหน ตอ้ งทาอะไร
เป็น หลกั สูตรไม่ไดส้ อนใหเ้ ป็นเลเบอร์ แต่สอนงานออกแบบ สอนทา 3D เราไดค้ วามรว่ มมือจาก สถาบนั
ไทยเยอรมนั เดก็ ทเี่ รียนปีเดยี วไดว้ ฒุ ิ ปวส. คอื ถา้ ใหว้ ฒุ วิ ศิ วะไดท้ ่านประธานคงใหไ้ ปแลว้ (หวั เราะ)

ผลของการเปิดโรงเรียน 4 รุ่น รวมนกั ศกึ ษาประมาณ 130 คน แม่พมิ พท์ นี่ อ้ ง ๆ พวกนอี้ อกแบบมา ทงั้ ทไี่ ม่
มีพนื้ ฐานทางช่างมากอ่ น แต่นอ้ งเขาทาแมพ่ มิ พไ์ ดจ้ รงิ สง่ ขายต่างประเทศผา่ นมาตรฐานฉลยุ คนเรยี นใน
ระบบมา 4-5 ปี บางทยี งั ทาไมไ่ ด้ นคี่ ือการคิดหลกั สูตรระยะสนั้ มาก เรียนเทา่ ทตี่ อ้ งรู้ ปีเดยี วทางานไดเ้ ลย”

โรงเรียนของ CNC ไดร้ บั การรบั รองมาตรฐานจากทางสมาคมอตุ สาหกรรมแมพ่ ิมพไ์ ทย และ สถาบนั ไทย-
เยอรมนั เป็นการการนั ตีคณุ ภาพคบั แกว้ ว่านกั ศกึ ษาท่จี บมคี ณุ สมบตั ิ “ตรงตามมาตรฐานวชิ าชีพ ระดบั
T4 ในเรอื่ งของการพฒั นาบุคลากรสาขาช่างแมพ่ มิ พ”์ ซ่งึ เป็นระดบั ช่างแม่พมิ พด์ า้ นออกแบบ มีทกั ษะใน
การปฏิบตั ิงานออกแบบแมพ่ ิมพ์ ถึงขนั้ 3D CAD มีความเขา้ ใจในเรือ่ งขอ้ กาหนดและตวั แปรตา่ ง ๆ เพ่ือการ
ออกแบบแม่พิมพ์ GD&T วสั ดแุ มพ่ มิ พ์ รวมถึงรูข้ นั้ ตอนต่าง ๆ ในกระบวนการสรา้ งแม่พมิ พ์

หลกั สตู ร CNC Mold & Die Training Center ทาไดเ้ พียง 4 รุน่ (2548-2552) กป็ ระสบปัญหาเศรษฐกิจจน
ตอ้ งพบั แผนใสล่ นิ้ ชกั ไปช่วั คราว แตล่ า่ สดุ กาลงั ถูกหยิบยกขนึ้ มาปัดฝ่นุ ใหม่ เตรียมจะเปิดอีกรอบ คราวนมี้ ี
แวววา่ จะยง่ิ ใหญ่เกรยี งไกรกวา่ เดมิ เพราะท่านผนู้ าปักธงไวบ้ นยอดเขาลิบ ๆ นยั ว่าเป็นการประกาศศกั ดา
ว่าคนไทยทาได้

เพราะหลกั สตู รใหม่ท่กี าลงั จะเปิดรบั เป็นหลกั สตู รท่เี ปิดเพ่อื สอนเดก็ ไทยใหท้ า “รถไฟทงั้ คนั ” !!

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

เครือ่ งมือท่ีใชใ้ นการพัฒนาบคุ ลากร
• การฝึกอบรมในขณะทางาน (On the Job Training : OJT)
• การฝึกอบรมในหอ้ งเรียน (Classroom Training)
• การสอนงาน (Coaching)
• การใหค้ าปรกึ ษาแนะนา (Consulting)
• การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง (Self Learning)
• การฝึกงานกบั ผเู้ ช่ียวชาญ (Counterpart)
• การใหท้ นุ การศกึ ษา (Scholarship)
• รว่ มมอื กบั สถาบนั การศกึ ษาเพ่อื พฒั นาหลกั สตู รท่ตี รงกบั ความตอ้ งการขององคก์ ร


153

• แผนพฒั นาบคุ ลากรเป็นรายบคุ คล (Individual Development Plan)
• การจดั ใหม้ กี ารจดั การความรู้ (Knowledge Management)
• สรา้ ง Role Model ในดา้ นต่าง ๆ เพ่ือสรา้ งแรงบนั ดาลใจในการพฒั นาตนเองใหพ้ นักงาน


154

11) บริษัท สหพัฒนพบิ ลู จากัด (มหาชน) (สหพฒั น)์

หน่งึ ในตานานอมตะนริ นั ดรก์ าลของการก่อรา่ งสรา้ งธุรกิจ ท่ที กุ สถาบนั การตลาดตอ้ งหยิบยกขนึ้ มาเป็น
กรณีตวั อย่าง คือเรอื่ งรา้ นของชาเลก็ ๆ บนถนนทรงวาด “เฮียบเซง่ เชียง” ท่กี ่อตงั้ โดย ดร. เทียม โชควฒั นา
ดว้ ยเงนิ ทนุ เพยี ง 10,000 บาท โดยเร่มิ จากการขยายสนิ คา้ อปุ โภคและบรโิ ภคสารพดั ชนิด ก่อนจะ
เจรญิ กา้ วหนา้ เติบโตขนึ้ เป็น บรษิ ัท สหพฒั นพบิ ลู จากดั (สหพฒั นฯ) ในปี พ.ศ. 2495 และตามมาดว้ ยการ
รว่ มทนุ กบั บรษิ ัทญ่ีป่นุ เพ่ือผลิตยาสีฟัน แชมพู ผงซกั ฟอก และรว่ มทนุ กบั บรษิ ัทไตห้ วนั เพ่อื ผลิตบะหม่ีก่ึง
สาเรจ็ รูปมามา่ ท่คี นไทยทกุ ครวั เรือนรูจ้ กั กนั ดี

ความสาเรจ็ ของผงซกั ฟอกและบะหม่กี งึ่ สาเรจ็ รูป เป็นใบเบิกทางใหส้ หพฒั น์ สามารถจดทะเบยี นแปร
สภาพเป็นบรษิ ัท มหาชน จากดั จากเงนิ ทนุ จดทะเบียน 30 ลา้ นบาทในปี พ.ศ. 2521 ปัจจบุ นั บรษิ ัทมีทนุ
จดทะเบียนรวมทงั้ สนิ้ 330 ลา้ นบาท พนกั งานมากกวา่ 3,000 ชีวิต ดแู ลสนิ คา้ กวา่ 90 แบรนด์ จานวน
มากกวา่ 3,000 รายการ (SKU) และถือเป็นบรษิ ัทตวั แทนจาหนา่ ยของคนไทยท่ใี หญ่ท่ีสดุ ในประเทศไทย ท่ี
มีระบบโลจิสตกิ สท์ ่ีทนั สมยั ครอบคลมุ ทุกช่องทางการขาย และมเี ครือข่ายกวา้ งขวางท่ีสดุ ในประเทศ เป็นผู้
จดั จาหนา่ ยท่ไี ดร้ บั การรบั รองมาตรฐานสากล ISO เป็นบรษิ ัทแรกของประเทศไทย ตงั้ แต่ปี 2532

MOP สตู รของความสาเร็จ เคล็ดลบั สไตล์ สหพฒั น์

แน่นอนวา่ ท่ผี ่านมา การปรบั ตวั ของธรุ กจิ ท่ตี อ้ งทากนั ทกุ วินาที ถือเป็นส่ิงสาคญั ท่ีทาใหส้ หพฒั นป์ ระสบ
ความสาเรจ็ คณุ ผาสขุ รกั ษาวงศ์ รองประธานกรรมการบรหิ าร บรษิ ัท สหพฒั นพบิ ลู จากดั (มหาชน) เลา่ ถึง
MOP ซง่ึ เป็นกลไกสาคญั ท่ีสามารถนามาปรบั ใชก้ บั ชีวติ ส่วนตวั ชีวิตครอบครวั และชีวิตการทางานได้ ท่ี
สาคญั ท่สี ดุ คือ ช่วยใหเ้ ป็นองคก์ รท่ที ุกคนมีสว่ นรว่ มเป็นเจา้ ของ ประสบความเจรญิ กา้ วหนา้ ได้

“ปี 2545-2546 เราทายอดขาย 10,000 ลา้ นบาท กาไรเหลอื แค่ 26 ลา้ น แลว้ เราก็ไม่โต แถมบางทยี อดก็
ตก คณุ บญุ เกยี รติ (โชควฒั นา) ก็คดิ MOP ขนึ้ มา พอเราเอาเครือ่ งมือตวั นมี้ าใช้ ในปี 2547 จากยอดขาย
หมืน่ ลา้ นนดิ ๆ ก็กลายเป็น 12,000 ลา้ น กาไรปีต่อมาได้ 235 ลา้ น ปีต่อไปตงั้ เป้าไว้ 14,000 เราทาได้
14,600 ทาแบบนีท้ กุ ปี จนปัจจุบนั เราโตต่อเนอื่ งทกุ ปี ต่อใหเ้ ศรษฐกจิ ไมด่ ี เครอื่ งมอื ตวั นกี้ ็ยงั ใชง้ านไดด้ ี
อยู”่

MOP (Mission, Objective, Policy) คือกิจกรรมการจดั ทาแผนกลยทุ ธก์ ารดาเนนิ งานประจาปี เป็น
กระบวนการในการหลอมรวมความมงุ่ ม่นั (Determination or Wishes) ใหม้ โี อกาสเป็นจรงิ ได้ เป็นแนวทาง
เฉพาะของบรษิ ทั ซง่ึ ตอ้ งประกอบไปดว้ ย “Mission” ภารกจิ ท่ตี อ้ งทาหรือจดุ มงุ่ หมายท่ตี อ้ งบรรลุ และ


155

Mission ตอ้ งเป็นเร่ืองดี ๆ ต่อองคก์ ร เช่น ทาใหบ้ รษิ ทั มีกาไรมากขนึ้ ยอดขายเพ่มิ ขนึ้ หรอื บรษิ ัทมีการ
พฒั นามากขนึ้

แต่ส่งิ สาคญั ท่จี ะทาให้ Mission สมั ฤทธิ์ผล คอื “Objective” วธิ ีการท่ชี ดั เจนวา่ จะตอ้ งทาอะไร คือ How to
ซ่งึ ตอ้ งวดั ผลได้ หรือสามารถกาหนดจากจุดหนง่ึ ไปยงั อกี จดุ หน่งึ ได้ ภายใน 1 ปี รวมทงั้ มี ‘Policy’ เป็น
กรอบในการทางาน

“ก่อนนสี้ หพฒั น์ ตงั้ เป้าหมายแลว้ กท็ าถงึ เป้าหมายนอ้ ยมาก เพราะตา่ งคนต่างมีเป้าหมายของใครของมนั
พอเราเร่ิมทา MOP ทกุ คนในองคก์ รตอ้ งทราบ Mission ของบริษัท มีการประชมุ ทกุ เดอื น CEO สูงสดุ ตอ้ ง
เขา้ มาร่วมประชมุ ถ่ายทอดสผู่ ูป้ ฏบิ ตั งิ าน เดอื นละ 2 ครงั้ ทาแบบนที้ กุ เดอื น ถา้ ปีนี้ คอื ปี 2563 Mission
เราตงั้ เปา้ 37,000 ลา้ น ตอ้ งแบง่ ว่า Break Down มาจากฝ่ังไหน ตอ้ งวดั ได้ ติดตามผลได้ ทกุ เป้าย่อยตอ้ ง
มเี จา้ ภาพ ตอ้ งมารายงานผลทกุ 15 วนั ว่าถงึ ไหน ติดตรงไหน

MOP ตอ้ งมี ‘Objective’ คือ How to ทจี่ ะทาใหถ้ งึ เป้า เช่น ปีนจี้ ะเพม่ิ ชอ่ งทางการขายออนไลน์ ก็ตอ้ งมี
กลยทุ ธอ์ ะไรบา้ ง หรือจะมีสนิ คา้ ใหม่ ตลาดคแู่ ข่งเป็นไง โดยมี ‘Policy’ เหมือนหางเสอื ทขี่ บั เคลอื่ นและ
ควบคมุ ไมใ่ หเ้ ราหลดุ กรอบ เช่น เรามี Core เรอื่ งสนิ คา้ คุณภาพ เราเป็นองคก์ รคนดี มีคณุ ธรรม ถา้ ฝ่ าย
การตลาดจะขายเหลา้ แบบนกี้ ผ็ ดิ กรอบทเี่ ราวางไว้ ไมไ่ ด้ ไม่เอา จะไมข่ ายสนิ คา้ ทผี่ ิดทเี่ ป็นอบายมขุ เช่น
สรุ า ยาสูบ

สหพฒั น์ เป็นองคก์ รทไี่ มไ่ ดท้ าเรือ่ ง Long Term Planning 5-10 ปี เนอื่ งจากธรุ กจิ เราการแข่งขนั สงู มีการ
ทา MOP ทกุ ปี ตวั อย่างนา้ แร่ มองต์ เฟลอ (Mont Fleur) ปี 59 ขายเดือนละ 40 กว่าลา้ น ทงั้ ปี 500 กว่า
ลา้ น แตพ่ อปี 60 อยากไดเ้ ดอื นละ 100 ลา้ น Mission ทาใหเ้ ราพยายามทาทกุ วถิ ที าง พอปี 60 ไดม้ า
เดอื นละ 90 กว่าลา้ น ไมม่ ีอะไรทที่ าไม่ได้ ทกุ อย่างขึน้ อย่กู บั เรา

เวลาฝ่ายไหนมาพรเี ซนต์ ก็จะมคี ณะกรรมการคอยตรวจสอบ ถา้ ตงั้ แลว้ ทาไม่ถงึ เราไมถ่ อื วา่ เป็นความผดิ
มีแต่จะช่วยกนั มนั ตอ้ งทาใหค้ นกลา้ ตงั้ เปา้ ทสี่ ูงขึน้ ไปเรือ่ ย ๆ สมยั กอ่ นเราทาแบบกบกระโดด ตงั้ เปา้ 30 %
คนทาไดร้ างวลั พเิ ศษเลย ปลายปีมีโบนสั ฝ่ายไหนทาไดเ้ อาไปเลย 5 เดือน ฝ่ายไหนไดน้ อ้ ยอาจจะ 4 เดือน
3 เดอื น การทา MOP ทาใหเ้ ราเสพตดิ ความสาเรจ็ เป็นแรงจูงใจทที่ าใหค้ นเตม็ ทกี่ บั งาน”


156

สหพัฒน์ ลุยสถาบันยทุ ธศาสตร์ สร้างคนรุ่นใหม่

สถาบนั ยทุ ธศาสตรธ์ ุรกิจเชงิ บวก (Institute of Strategic and Appreciative Business) หรอื I-SAB เป็น
สถาบนั การศกึ ษาท่ถี กู จดั ตงั้ ขึน้ เพ่อื สรา้ งนกั ธรุ กิจรุน่ ใหม่ท่ตี อ้ งมที งั้ “คณุ ภาพ” และ “คณุ ธรรม” ตาม
แนวทางของ ดร. เทยี ม โชควฒั นา มกี ารอบรมและพฒั นาความรูแ้ ละนวตั กรรมดา้ นธุรกิจการคา้ ปลีก
รวมถงึ ศาสตรด์ า้ นการคา้ อ่นื ๆ ท่ที นั สมยั อย่างต่อเน่ือง ซ่งึ ไม่ไดเ้ ป็นเพียงการสง่ เสรมิ การขบั เคลือ่ น
เศรษฐกจิ แต่ตอ้ งการสรา้ งความย่งั ยนื ทางธุรกิจดว้ ยจรยิ ธรรม

“I-SAB ตงั้ มาเพอื่ ถ่ายทอดประสบการณ์ความรูท้ างธรุ กิจทมี่ มี ามากกว่า 50 ปี ของคนในเครือ ใหผ้ ูบ้ รหิ าร
รุ่นใหม่ และผบู้ ริหารภายนอกองค์กร นาไปใชว้ างแผนและทางานเชิงกลยทุ ธ์ เพอื่ ใหธ้ ุรกจิ องคก์ รบรรลุ
เป้าหมายทตี่ งั้ ไว้ เราทามาปีหนา้ เป็นรุ่นที่ 6 รุ่นละประมาณ 100 คน แกนของเราจะเนน้ เรอื่ ง ‘ภาวะผนู้ า
คณุ ธรรม และความคดิ เชงิ บวก’ 3 เรื่องนตี้ อ้ งยนื พนื้ มาก่อน เพราะคนของเรานอกจากความรู้ ความเกง่
แลว้ ตอ้ งมี “คณุ ธรรม” ดว้ ย”

นอกจากนี้ ยงั มี “โครงการวนั นกั การตลาด” ท่จี ดั เป็นประจาทกุ เดือน เร่มิ มาตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2556 เพ่อื เพิม่
ความรูท้ ่ีหลากหลายใหผ้ บู้ รหิ ารทกุ ระดบั เช่น ความรูด้ า้ นการตลาด กฎหมาย เศรษฐกิจ สงั คม การเมือง
และอ่นื ๆ โดยผพู้ ดู หลกั จะเป็นผบู้ รหิ ารระดบั สงู เช่น คณุ บญุ ชยั คณุ เวทิต โชควฒั นา และตวั พ่ีเอง

“ปลายปีก่อนเปา้ เราจะไมถ่ งึ พกี่ ็เนน้ การพูดเพอื่ กระตนุ้ ตอ้ งฝนั ใหไ้ กล ตอ้ งไปใหถ้ งึ แต่ก็มีการเชิญคนทมี่ ี
ขอ้ คิดนา่ สนใจมา มีทงั้ นกั การเมอื ง นกั การตลาดมาอพั เดทเรือ่ งใหม่ ๆ ของวงการ E-Commerce หรอื
แมแ้ ต่บางที ดเี จรายการกรีนเวฟ พอี่ อ้ ย (นภาพร) กย็ งั เป็นวทิ ยากรของเราดว้ ย หรอื ตวั พเี่ องกเ็ คยไปเป็น
ผูบ้ รรยายเรือ่ ง “Personalized marketing + กบั ดกั ความสาเรจ็ ”

กระบวนการพฒั นาคนทงั้ ในและนอกองคก์ รของสหพฒั น์ ยงั มีโครงการ SPC Smart Generation ท่ตี งั้
ขนึ้ มาเพ่อื กระตนุ้ ใหบ้ ุคลากรของสหพฒั นพ์ ฒั นาตนเองพรอ้ มรบั การเปลี่ยนแปลงโดยจดั สอบวชิ าตา่ ง ๆ
เช่น ภาษาไทย ความรอบรู้ ภาษาองั กฤษ ภาษาจนี ภาวะผนู้ า และทศั นคติ คนท่สี อบผา่ นจะไดร้ บั การปรบั
เพิม่ เงนิ พเิ ศษ ใหว้ ชิ าละ 1,500 บาท

รวมทงั้ โครงการ The New Thinking Group เร่มิ ขึน้ ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2557 เป็นโครงการท่ีม่งุ เนน้ ใหเ้ กดิ
ความคดิ สรา้ งสรรคส์ ิ่งใหม่ๆ โดยสง่ เสรมิ ใหพ้ นกั งานในทกุ ระดบั ตาแหนง่ และทกุ สายงาน สามารถรวมทีม
กนั นาเสนอโครงการตอ่ ประธานและคณะกรรมการ


157

“โครงการ New Thinking เป็นการประกวดไอเดีย ใครมองเหน็ จุดอ่อนของบรษิ ัทบา้ ง ใครมองเหน็ โอกาส
อะไรทจี่ ะเพม่ิ ช่องทางใหธ้ ุรกิจ ก็ตงั้ ทมี เสนอไอเดียมาประกวดกนั ไอเดยี ทดี่ มี ีประโยชนก์ บั องคก์ รก็จะไดร้ บั
รางวลั

ทนี่ ไี่ ม่ใชว้ ธิ ตี ่อว่ากนั ไม่โยนใหเ้ ป็นภาระของคนอืน่ ไม่โทษกนั วา่ เพราะฝ่ ายนนั้ ตอ้ งเป็นหนา้ ทฝี่ ่ายนี้ เวลา
ประชมุ ปัญหามนั เยอะแยะอยแู่ ลว้ เราตอ้ งเสนอวธิ แี กโ้ ดยเร่ิมทตี่ วั เราเอง การประกวดจะใหร้ างวลั กบั คนที่
มองกระบวนการแกป้ ัญหาออก ตอ้ งแกแ้ ลว้ ไดป้ ระโยชน์ตอ่ องคก์ รดว้ ย แลว้ ตอ้ งวดั ผลได้ ในระยะเวลา
ชดั เจน ถงึ เอามาใช”้

การเปิดโอกาสใหท้ กุ คนมสี ว่ นรว่ มในการคิดและลงมอื ทา ทาใหผ้ ลผลิตทางความคิดของพนกั งาน สามารถ
นาไปใชจ้ รงิ ไดแ้ ละช่วยพฒั นาในการทางานใหม้ ีประสิทธิภาพมากขนึ้ เช่น โครงการ “ระบบชว่ ยงานขาย
อจั ฉรยิ ะ หรือ Smart SOP” (Smart Sales, Operation and Planning) ท่ถี กู คิดขนึ้ ในปี พ.ศ. 2561 ช่วย
เพ่มิ ประสทิ ธิภาพในการขายท่ไี ดผ้ ลเรว็ ขนึ้ 38% ทาใหพ้ นกั งานขายสามารถคน้ หาสินคา้ เขา้ ใจรา้ นคา้
จดจารา้ นคา้ ง่ายขนึ้ สะดวกขนึ้ และมปี ระสิทธิภาพมากขึน้ ดว้ ยการจาลองหลกั คิดและแนวปฏิบตั ใิ นการ
ขายสินคา้ ของพนกั งานขายอาวโุ สมาไวบ้ นสมารท์ โฟน ช่วยใหย้ อดขายของพนกั งานขายเพมิ่ ขนึ้ ได้

หรืออีกกรณีศกึ ษาท่นี า่ สนใจ เป็นเร่อื งของ โครงการ “แหวกกฎการตลาด” ปี 2562 เป็นแนวคิดดา้ นการ
สอ่ื สารการตลาดในรูปแบบใหมท่ ่ีบรษิ ัทยงั ไมเ่ คยทามาก่อน ทาใหผ้ ลิตภณั ฑ์ มามา่ โอเค รสไขเ่ ค็ม เป็น
กระแส Talk of the Town หรอื Word of Mouth จนสรา้ งปรากฏการณ์ Sold Out ทางช่องทางออนไลนไ์ ด้
ภายใน 1 สปั ดาห์ และทาใหล้ กู คา้ รูจ้ กั ชอ่ งทาง Sahapat Home Delivery มากขนึ้ และกลายเป็นช่องทาง
การขายท่สี าคญั อีกช่องทางหนง่ึ ของบริษทั มาจนถึงปัจจุบนั

องคก์ รคณุ ธรรม เน้นป้ัน “คนด”ี ก่อน “คนเก่ง”

จะเหน็ ไดว้ ่า วิธีคิดท่มี อง “คน” เป็นหวั ใจของธรุ กิจ การขบั เคล่ือนองคก์ รยกั ษใ์ หญ่แบบสหพฒั นฯ์ จงึ ตอ้ ง
ใหค้ วามสาคญั กบั การบารุงหวั ใจใหแ้ ข็งแรง และทาหนา้ ท่สี บู ฉีดโลหติ ไปเลยี้ งท่วั รา่ งกายไดอ้ ยา่ งไม่รูจ้ กั คา
ว่าอ่อนลา้ การปรบั โครงสรา้ ง “ทนุ มนษุ ย”์ (Human Capital) ของสหพฒั น์ จะเนน้ การผลิตบุคลากร
คณุ ภาพ เพ่อื ป้อนเขา้ สรู่ ะบบธรุ กิจในเครืออย่างต่อเน่อื ง ทงั้ นี้ ตอ้ งอย่บู นพนื้ ฐานความเช่ือม่นั อนั เป็น
เอกลกั ษณข์ องสหพฒั น์ น่นั คอื

“ระหว่างคนเก่งกบั คนดี สหพฒั น์ จะเลอื กคนดกี ่อน เราถอื วา่ ความเกง่ เป็นเรื่องฝึกกนั ทหี ลงั ได”้

อีกปัจจยั สาคญั มาจากเป็นระบบธุรกิจท่มี ีรากฐานมาจากการเป็นธุรกิจครอบครวั จะเหน็ ไดว้ า่ สหพฒั น์
นยิ มสรา้ งวธิ ีคิดแบบ “เถา้ แก่” ไม่ใชส่ รา้ ง “มอื ปืน” คือเนน้ กระบวนการหลอ่ หลอมท่พี ฒั นาคนไปพรอ้ ม ๆ


158

กบั การสรา้ งความจงรกั ภกั ดีต่อองคก์ ร ทาใหค้ นของสหพฒั น์ นอกจากจะกระตือรือรน้ ทมุ่ เทกาลงั กายใจ
เพ่อื องคก์ รอย่างเตม็ ความสามารถแลว้ ยงั พรอ้ มจะเติบโตควบคกู่ นั ไปกบั องคก์ รอยู่ โดยมคี มั ภีรค์ ณุ ธรรม
เป็นแกน่ ของการทางานตลอดเวลาอกี ดว้ ย

“ปจั จุบนั เรามีพนกั งานประมาณ 3,400 คน ทสี่ หพฒั นฯ์ จะใหค้ นออกกรณีเดียวคอื การทจุ รติ คณุ บญุ ชยั
พดู ตลอดเวลาวา่ ‘ผมไมเ่ หมือนบริษทั ฝร่งั ผมเป็นนกั สะสมรถ เป็นช่างซ่อมรถ ซือ้ โรลสรอยซ์มาคนั นงึ ทาไป
แกไ้ ป 20 ปี คนไหนไมด่ ผี มไมไ่ ลอ่ อก ผมจะพยายามแกท้ กุ อย่างใหเ้ ขาเป็นคนดี เป็นประโยชนก์ บั ตวั เขา
และสงั คมสว่ นรวมจนได’้ น่นั คอื วธิ คี ดิ ทผี่ ูบ้ ริหารเราเชือ่ ว่า ‘ทกุ คนพฒั นาได”้

ทนี่ เี่ ลยใชว้ ธิ ีคยุ กนั แบบพแี่ บบนอ้ ง คนไหนมีปัญหาเราจะเรียกเขามาคยุ เช่น คนไหนทางานเก่งแต่ปากไม่ดี
แลว้ มหี นา้ ทตี่ อ้ งคมุ คนเยอะๆ เคสพเี่ องยงั โดนนายถาม ‘อดี๊ รูม้ ยั้ วา่ อดี๊ มีจุดดอ้ ยอะไรบา้ ง’ นายบอก ‘ปีนวี้ นั
เกิดผม ขออะไรอยา่ งนงึ นะ อดี๊ เสยี งเบาชว่ ยพูดใหเ้ สยี งดงั ขึน้ ’ ขอกนั แบบนเี้ ลย หรือผูน้ าฝ่ายขายบางคน
เกง่ ทกุ อย่าง การศกึ ษาดี แต่ลูกนอ้ งไม่ชอบ มีบตั รสนเท่ห์ นายก็จะเรียกมาสอน

เราสอนลูกนอ้ งเหมือนเขาเป็นคนในครอบครบั เดยี วกบั เรา เรากนิ ขา้ วโต๊ะเดียวกนั ไปทางานนอนโรงแรม
เดยี วกนั นง่ั รถไปไหนก็คนั เดยี วกนั ไมม่ ีแบ่งแยก หอ้ งทางานเราลูกนอ้ งเปิดเขา้ มาหาไดต้ ลอด เวลาประชมุ
ท่านประธานแทนทจี่ ะพดู เรือ่ งงาน บางทมี ่งุ แตส่ อน เราตอ้ งบอก ‘คณุ บุญชยั คะ 2 ชว่ั โมงแลว้ ค่ะ ยงั ไมเ่ ขา้
เรอื่ งงาน’ เขาจะบอกว่า ‘ผมจะพูด 20 ครงั้ จนกวา่ คนจะจา’ แตส่ าคญั คือ เราจะสอนคนยงั ไงมนั กไ็ มไ่ ดผ้ ล
หรอก เราตอ้ ง ‘ทาใหด้ ู อยู่ใหเ้ หน็ ’ เช่น พจี่ ะไม่ไปบอกเดก็ ว่าอย่ามาทางานสาย แต่พจี่ ะมาทางานคนแรก
ของบรษิ ัท 7 โมงเชา้ เราถงึ ออฟฟิศแลว้ เราทาใหด้ ูว่าเรามาเชา้ เพราะเราเอนจอยในการทางาน

ทที่ ่านสอนลูกนอ้ งตลอดเวลาคอื เราไม่ตอ้ งแข่งกบั ใคร เราแขง่ กบั ตวั เอง เราจะไม่มีศตั รู สหพฒั นว์ ดั คน
จากผลงานทที่ า เราไม่มโี ควตา้ วา่ ปีนงึ ชนเพดานใหแ้ คส่ องขนั้ ใหไ้ ม่เกนิ สองคน แต่ใครทาดไี ดด้ ี ทาได้
เท่าไรเอาไปเทา่ นนั้ ทกุ คนพรอ้ มจะไดร้ บั การโปรโมทโดยไม่จากดั โควตา้ ”

หวั เรอื จะไมห่ ลงทศิ เพราะเรามียุทธศาสตรค์ วามคิดทช่ี ัดเจน

การเป็นบรษิ ัทท่มี องทรพั ยกรบคุ คลเป็น “สนิ ทรพั ยท์ ่มี ีคา่ สงู สดุ ” ทาใหบ้ รษิ ัทมีนโยบายพฒั นาคนโดยจดั
ความสาคญั ใหเ้ ป็นการลงทนุ ท่ตี อ้ งทาอย่างสม่าเสมอและต่อเน่ือง เพ่อื ยกระดบั ขีดความสามารถใหพ้ รอ้ ม
สกู่ ารแข่งขนั และเพ่ือสนบั สนนุ กลยทุ ธ์ MOP ใหบ้ รรลตุ ามเปา้ หมายท่ีตงั้ ไว้

ปัจจบุ นั สหพฒั น์ มีการบรู ณาการกระบวนการเรียนรูท้ ่หี ลากหลาย เพ่ือใหส้ อดคลอ้ งกบั รูปแบบการเรียนรู้
ความตอ้ งการ ความจาเป็นในการพฒั นาเฉพาะดา้ น สาหรบั แต่ละบคุ คล ในแตล่ ะหน่วยงาน และการ


159

เสรมิ สรา้ งศกั ยภาพดา้ นการบรหิ ารและภาวะผนู้ าในระดบั ต่าง ๆ เพ่ือเป็นเครื่องมือในการบริหารจดั การงาน
และทีมงานไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ

โดยมีการกาหนด Training Roadmap ใหส้ อดคลอ้ งกบั Competencies ของหนว่ ยงาน ตามระดบั
ตาแหน่งงาน Job Level เช่ือมโยงกบั การพฒั นาเพ่อื การเตบิ โตในสายอาชพี Career Development หรอื
เตบิ โตขา้ มสายงาน Cross Functional เพ่อื สนบั สนนุ ใหพ้ นกั งานท่มี ีศกั ยภาพ High Potential ไดม้ เี สน้ ทาง
ในการเรยี นรูเ้ พ่อื พฒั นาศกั ยภาพท่ีมีอยมู่ าเป็นจดุ แขง็ ในการปฏบิ ตั งิ าน

กระบวนการคน้ หาและพฒั นาผมู้ ีศกั ยภาพจากภายในองคก์ รของสหพฒั น์ มีเครื่องมือท่นี ่าสนใจเรียนรูอ้ ยู่
หลายชนิดดว้ ยกนั เช่น

• การฝึกอบรมก่อนหรือในขณะปฏิบตั งิ าน (On the Job Training) ใชก้ บั พนกั งานใหมห่ รอื พนกั งาน
ท่โี อนยา้ ยงานมา จะตอ้ งผ่านการฝึกอบรม OJT ภายใน เป็นระยะเวลา 3 เดอื น โดยมีการกาหนด
หวั ขอ้ ตามมาตรฐานการปฏิบตั ิของแตล่ ะหน่วยงาน และตอ้ งมีการติดตามประเมนิ ผลทกุ เดือน

• โปรแกรมพ่เี ลีย้ ง (Mentoring Program) สาหรบั พนกั งานใหม่ ฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด จะมพี ่เี ลีย้ ง
ท่มี ปี ระสบการณใ์ นสายงาน เป็นผสู้ อนงานและใหค้ าแนะนาในการทางาน ตลอดระยะเวลา
ทดลองงาน 4 เดือน หรือจนกว่าจะสามารถปฏิบตั งิ านดว้ ยตวั เองไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะท่ี
ตวั พ่ีเลีย้ งเอง ก็จะตอ้ งผ่านโปรแกรมการฝึกอบรมพฒั นทกั ษะใหม่ เช่น ในการสอนงาน (Upskill)
เพ่อื ใหน้ าไปปรบั ใชใ้ นการสอนงานได้

• การสอนงาน (Coaching) เป็นทกั ษะหลกั ท่พี ฒั นาใหพ้ นกั งานในระดบั ผบู้ งั คบั บญั ชาทกุ คนทกุ
หน่วยงาน สามารถนาไปปรบั ใชใ้ นการสอนงานทีมงานได้

• การเป็นวิทยากรภายใน (Internal Trainer) โดยคดั เลือกจากผเู้ ช่ียวชาญในสายงานต่าง ๆ เพ่ือเป็น
วทิ ยากรในโปรแกรมการปฐมนเิ ทศพนกั งานใหม่, หลกั สตู รทกั ษะเบือ้ งตน้ ของพนกั งานขาย
หลกั สตู รตามขอ้ กาหนดของระบบ ISO ของบรษิ ัท

• การทากิจกรรม (Activities) และการมอบหมายงานโครงการ (Project Assignment) ในทกุ ๆ ปี
ทางบรษิ ัทจะจดั ใหม้ กี ารมอบหมายโครงการต่าง ๆ ใหแ้ ต่ละหน่วยงานไปจดั ทาแผนและดาเนนิ การ
ใหบ้ รรลผุ ล โดยสนบั สนนุ ใหพ้ นกั งานในแตล่ ะหน่วยงานเสนอไอเดียใหม่ โดยมีผบู้ รหิ ารใหก้ าร
สนบั สนนุ รวมถึงติดตามผลการกาเนินการอยา่ งต่อเน่ือง


160

• การประชมุ และสมั มนา (Meetings and Seminars) มกี ารเชิญผบู้ รหิ ารระดบั สงู มาถ่ายทอด
ความรูป้ ระสบการณ์ และมีการเชิญบคุ ลากรจากภายนอกท่มี คี วามรูค้ วามเช่ยี วชาญ มาใหค้ วามรู้
กบั พนกั งาน

เม่อื ถกู ถามถึงงบประมาณท่ีใชใ้ นการพฒั นาบคุ ลากร คณุ ผาสขุ ไดย้ กตวั อยา่ งสาหรบั ปี พ.ศ. 2563 คดิ เป็น
1 - 2% ของงบประมาณรายจา่ ยประจาปี โดยมีจานวนพนกั งานภายใตแ้ ผนพฒั นาบุคลากรรวมทกุ
หลกั สตู ร (แบบนบั ซา้ ) ประมาณ 3,500 คน ท่กี าหนดใหพ้ นกั งานในแต่ละระดบั ตอ้ งไดร้ บั การฝึกอบรมและ
พฒั นา คิดเป็นจานวนเฉลีย่ ช่วั โมงของการเขา้ รบั การฝึกอบรมของพนกั งาน เช่น พนกั งานระดบั ปฏิบตั ิการ
จะมีจานวนฝึกอบรมเฉล่ยี 40 ช่วั โมง ไปจนถึง ผบู้ รหิ ารระดบั สงู จะมีจานวนฝึกอบรมเฉลย่ี 64 ช่วั โมง

โมเดล 70:20:10 สัดส่วนทพี่ สิ ูจนแ์ ลว้ ว่าใช้ไดจ้ ริง

สตู รเฉพาะตวั ท่สี หพฒั นน์ ามาใชแ้ ละพสิ จู นผ์ ่านกาลเวลามาแลว้ ว่าไดผ้ ลจรงิ น่นั คือ โมเดล 70:20:10 ท่ไี ด้
จากการมองภาพรวมของการเรยี นรูแ้ ละพฒั นา โดย

• 70% นนั้ จะเป็นกระบวนการลงมอื ทา เพ่ือใหเ้ กดิ ประสบการณท์ างานจรงิ เห็นผลลพั ธข์ องการ
พฒั นา เช่น On the Job Training (OJT) หรือ การ มอบหมายโครงการใหป้ ฏิบตั ิ เป็นตน้

• 20% คอื กระบวนการพ่ีเลีย้ งหรอื โคช้ (Mentoring/Coaching) เพ่อื การแนะนาแนวทางในการนา
ความรูท้ ่ไี ดจ้ ากการเรียนรูไ้ ปปฏิบตั จิ รงิ และช่วยติดตามดแู ลความคืบหนา้ ของโครงการท่ี
มอบหมาย

• 10% คอื การเรยี นรูใ้ นหอ้ งเรียนเพ่ือเพ่มิ พนู ความรู้ ทกั ษะ และทศั นคติหรือพฤตกิ รรมท่คี วรมีในการ
ทางาน

• จากพืน้ ฐานโมเดลการพฒั นาบคุ ลากรแบบ 70:20:10 นนั้ บรษิ ัทยงั ไดเ้ พิม่ อตั ราสว่ น +10 เพ่อื เนน้
พฒั นาความคิด เชงิ นวตั กรรม (Innovation) หรอื (Startup) ใหเ้ กิดขนึ้ ในองคก์ รอีกดว้ ย

“เวลาใครถามคณุ บญุ ชยั ว่า ทกุ วนั นเี้ ราประสบความสาเร็จเพราะอะไร เขาจะบอกว่า เรายงั ไมส่ าเร็จ แต่
เรารูแ้ ค่ว่าเราควรแกไ้ ขความผดิ พลาด ความลม้ เหลว ตรงไหนบา้ ง เหมือนเรือ่ งของการพฒั นาคนทเี่ รา
ทมุ่ เททากนั มายสี่ บิ ปี บทเรยี นทแี่ พงทสี่ ดุ คอื การไดผ้ ูบ้ ริหารระดบั สงู ทขี่ าดคณุ ธรรม หลงตวั เอง สรา้ ง
ความแตกแยก หรือ แตง่ ตงั้ ผบู้ ริหารทขี่ าดความสามารถ ไม่มีภาวะผูน้ า ไม่มีความรอบคอบ จากบทเรยี นนี้
ทาใหต้ อ้ งใชค้ วามระมดั ระวงั ในการเลอื กคนขนึ้ มาในการดารงตาแหนง่ สาคญั ต่าง ๆ


161

สหพฒั น์ ถอื ว่า การพฒั นาคนเป็นหนา้ ทขี่ องผูน้ าสูงสดุ และผูน้ าในระดบั รองลงมาทกุ คน ต่อใหพ้ ฒั นาแลว้
เขาไม่อย่กู บั เรา แตน่ ายจะบอกเสมอว่า เราพฒั นาคนไม่ใช่เพอื่ ใหเ้ ป็นคนของเรา แตพ่ ฒั นาคนเพอื่ ใหต้ วั
เขาดขี ึน้ เพอื่ ใหเ้ ป็นคนของสงั คม ถา้ เราอยากใหเ้ ขาอยู่กบั บรษิ ัทนาน เราตอ้ งทาสง่ิ แวดลอ้ มใหด้ ี ใหเ้ ขา
อยากอยู่กบั เราและตอบแทนเขาอย่างเหมาะสม”

ทงั้ เฉียบและคมจนไมแ่ ปลกใจท่ีทาใหบ้ รษิ ัทซ่งึ เร่มิ ตน้ ดว้ ยทนุ เพยี ง 10,000 บาท จะไดก้ ลายมาเป็นบรษิ ัท
ขายสินคา้ อปุ โภคบรโิ ภคท่ใี หญ่ท่สี ดุ ในประเทศไทย เพราะฟังดเู หมือนมีทงั้ ความ “เรว็ ชา้ หนกั เบา” ตาม
ขอ้ คิดและปรชั ญาในการสรา้ งความสาเรจ็ ทางธรุ กจิ ของผกู้ อ่ ตงั้ เอาไวไ้ ดอ้ ยา่ งครบถว้ น

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

เครอื่ งมือทใ่ี ช้ในการพัฒนาบุคลากร
• การฝึกอบรมในขณะทางาน (On the Job Training : OJT)
• การฝึกอบรมในหอ้ งเรยี น (Classroom Training)
• การสอนงาน (Coaching)
• โปรแกรมพ่เี ลีย้ ง (Mentoring Program)
• การเพ่ิมคณุ คา่ ในงาน (Job Enrichment)
• การมอบหมายงาน (Delegation)
• การใหค้ าปรกึ ษาแนะนา (Consulting)
• การทากจิ กรรม (Activity)
• การเป็นวิทยากรภายใน (Internal Trainer)
• การประชมุ /สมั มนา (Meeting/Seminar)
• การใหค้ าปรกึ ษาดา้ นชีวิตการทางาน (Counseling)
• รว่ มมือกบั สถาบนั การศกึ ษาเพ่อื พฒั นาหลกั สตู รท่ตี รงกบั ความตอ้ งการขององคก์ ร
• จดั ทาแผนพฒั นาบคุ ลากรเป็นรายบคุ คล (Individual Development Plan)
• การจดั ใหม้ ีการจดั การความรู้ (Knowledge Management)
• จดั ทา Fast Track Career Path สาหรบั บุคลากรความสามารถสงู
• การจดั ประกวดแผนธุรกจิ หรือ การจดั ประกวดนวตั กรรม
• สรา้ ง Role Model ในดา้ นต่าง ๆ เพ่ือสรา้ งแรงบนั ดาลใจในการพฒั นาตนเองใหพ้ นกั งาน


162

ขอ้ คดิ จากคณุ บญุ ชยั โชควฒั นา ประธานกรรมการ บริษทั สหพฒั นพบิ ูล จากดั (มหาชน)


163

12) บริษทั ปูนซิเมนตไ์ ทย จากัด (มหาชน) (SCG)

บรษิ ัท ปนู ซิเมนตไ์ ทย จากดั (มหาชน) (SCG) หรือท่ีคนเรียกขานกนั ติดปากในนาม “ปนู ใหญ่” ปัจจบุ นั ใช้
ช่ือเรยี กทงั้ กลมุ่ ธุรกจิ ว่า “เอสซจี ี” (Siam Cement Group) เป็นกลมุ่ บรษิ ัทชนั้ นาในภมู ิภาคอาเซียนท่กี ่อตงั้
ในประเทศไทยเม่ือปี 2456 ตามพระบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี
6 ท่จี ะใหป้ ระเทศไทยผลติ ปนู ซีเมนตใ์ ชเ้ อง ลดการพง่ึ พาการนาเขา้ จากตา่ งประเทศ

ต่อมา SCG มีการขยายกิจการไปสผู่ ลติ ภณั ฑอ์ ่นื ๆ อกี มากมาย อาทิ ผลิตภณั ฑก์ ่อสรา้ ง กระดาษ โลหะ
เครือ่ งจกั รกล ปิโตรเคมี ธรุ กิจจดั จาหน่าย ฯลฯ รวมทงั้ การขยายการลงทนุ ตามวิสยั ทศั น์ “Go Regional”
ในการลงทนุ ทงั้ หมดของทางกลมุ่ ผ่าน 3 ธรุ กิจหลกั ไดแ้ ก่ กลมุ่ ปิโตรเคมี หรือ เคมภี ณั ฑ์ ซ่งึ มกี ารลงทนุ
โรงงานในประเทศเวียดนาม กลมุ่ แพ็กเกจจิง้ มกี ารลงทนุ ทางตอนใตข้ องเวียดนาม ฟิ ลปิ ปินส์ และ
อนิ โดนเี ซยี รวมถงึ มาเลเซยี กลมุ่ ซีเมนตแ์ ละผลิตภณั ฑก์ ่อสรา้ ง มีการเขา้ ไปลงทนุ ในเมียนมา สปป. ลาว
และ อนิ โดนีเซีย กลมุ่ วสั ดกุ ่อสรา้ ง ซีเมนต์ รเี ทล เขา้ ไปลงทนุ ในเวยี ดนาม กมั พชู า

การเป็นบรษิ ทั เก่าแก่ท่ผี ่านรอ้ นผา่ นหนาวฝ่าวกิ ฤตทิ างเศรษฐกิจมาแลว้ ไมร่ ูก้ ่ีครง้ั ยิง่ ทาใหอ้ งคก์ รแหง่ นเี้ ตม็
ไปดว้ ยเรื่องราวแหง่ ความสาเรจ็ และบทเรียนท่เี จ็บปวดมากมาย ทกุ ยา่ งกา้ วจงึ เป็นกรณีศกึ ษาท่นี ่าสนใจ
โดยเฉพาะในวนั ท่ที ุกธรุ กจิ ต่างก็ตอ้ งเผชิญกบั ความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี แมจ้ ะเป็นบรษิ ทั ยกั ษใ์ หญ่
อายมุ ากกว่า 107 ปี ก็ตอ้ งปรบั ตวั ใหห้ ลดุ พน้ จาก Digital Disruption เช่นกนั

เร่ิมตน้ ทกี่ ารสร้างองคก์ รแห่งนวัตกรรม

เม่อื ทรานสฟอรเ์ มชนั (Transformation) เป็นทางเลือกท่ีดีท่สี ดุ ของธุรกิจ คณุ กานต์ ตระกลู ฮนุ กรรมการ
และประธานท่ปี รกึ ษาฝ่ายจดั การ (Director and Chairman of Management Advisory Committee) มกั
กลา่ วเสมอว่า เปา้ หมายของการเป็นองคก์ รนวตั กรรมไม่ใช่เพ่อื ความอยรู่ อด แต่เพ่ือสรา้ งสรรคจ์ ดุ ตา่ งจาก
คแู่ ข่งและสรา้ งมลู ค่าเพม่ิ ใหก้ บั ธรุ กิจเพ่อื ความเป็นผนู้ า ไม่ใช่เฉพาะตลาดในเมืองไทย แต่คาดหวงั ใหเ้ ป็น
บรษิ ัทชนั้ นาในอาเซยี นและตลาดโลก

จากเดิมท่ีเคยเป็นชา้ งตวั ใหญ่ ไดเ้ ปรียบเร่ืองขนาดนนั้ ไม่พอเสยี แลว้ ดงั นนั้ วนั นคี้ งตอ้ งปรบั ตวั ใหก้ ลายเป็น
ชา้ งท่ีว่องไว แมจ้ ะเป็นองคก์ รแรก ๆ ของเมืองไทยท่ีปรบั ตวั เขา้ สกู่ ารเป็นองคก์ รนวตั กรรม ดว้ ยการเปล่ียน
วฒั นธรรมองคก์ ร คน และงบประมาณในเรื่อง R&D เพ่อื สรา้ ง Innovation ในปีท่ผี ่านมา SCG ลงทนุ ดา้ น
การวจิ ยั และพฒั นาถงึ 1.3% ของยอดขายรวมหรอื มากกว่า 5,663 ลา้ นบาท ในจานวนนเี้ ป็นของธรุ กจิ เคมิ
คอลสถ์ งึ 2,454 ลา้ นบาท คิดเป็นรอ้ ยละ 43 ของทงั้ หมด โดยมียอดขายสนิ คา้ HVA (High Value Added


164

Products & Services) เพ่มิ สงู ขึน้ ทกุ ปี ปัจจบุ นั มีบคุ ลากรดา้ น R&D และ Product Design กวา่ 1,600 คน
และมสี ิทธิบตั รต่าง ๆ ในมือกว่า 1,200 ฉบบั

“วนั นปี้ ระเทศไทย No Way out แลว้ Innovation & Digitalization เป็นส่งิ สาคญั ทปี่ ระเทศเราตอ้ งทา ช่วง
ทพี่ กี่ านตเ์ ป็นกรรมการผูจ้ ดั การใหญ่ ตอ้ งเดินทางปีละเกือบ 200 วนั เราไปสรา้ ง Collaborative Network
ทขี่ าดไมไ่ ดค้ อื ไปเยยี่ ม MIT, Stanford, Georgia Tech, Cal Tech, Oxford, Cambridge ฯลฯ ทาใหเ้ กิด
Project ร่วมกบั มหาวทิ ยาลยั ในต่างประเทศมากมาย

ทงั้ หมดนี้ วสิ ยั ทศั นเ์ ป็นเรือ่ งทสี่ าคญั และตอ้ งสือ่ สารอยา่ งมาก แตท่ สี่ าคญั ไม่แพก้ นั คือเรอื่ งการสรา้ ง
วฒั นธรรม Key Success Factor ของเราเป็นเรอื่ งของ Culture”

น่นั คือสิง่ ท่ผี บู้ รหิ าร อดีตนกั ศกึ ษาฝึกงานท่ไี ต่เตา้ ผ่านระบบพฒั นาบุคลากร จนมกี ารเปลีย่ นแปลงตาแหน่ง
ถงึ 10 ครงั้ ในเวลา 22 ปี กว่าจะเขา้ สกู่ ารเป็นเบอรห์ นึ่งของ SCG ถือว่าเป็นตวั อย่างของกระบวนการ
พฒั นาบคุ คลท่สี มบรู ณท์ ่สี ดุ ไดเ้ ลา่ ถงึ ประสบการณเ์ บอื้ งหลงั ของความสาเรจ็ ในการเปลีย่ นวฒั นธรรม
องคก์ ร จากยคุ ก่อนท่ี SCG เคยมจี ดุ แขง็ คือระเบียบวนิ ยั เขม้ ขน้ ระดบั นอ้ ง ๆ กองทพั มีการส่งั งานแบบจาก
บนลงลา่ ง (top-down) ไดป้ รบั วิธีทางานเร่มิ จากการใหค้ นกลา้ แสดงความเห็นในท่ีประชมุ กลา้ เขา้ ลฟิ ตท์ ่ี
สงวนไวเ้ ฉพาะผบู้ รหิ าร ฯลฯ รวมทงั้ เรม่ิ จากการสอนใหค้ นกลา้ เรียก กจญ. ว่า “พ่ีกานต”์

วฒั นธรรมองคก์ รท่ปี ลกุ ป้ันจนสาเรจ็ คือ ใหท้ กุ คนเปิดใจรบั ฟังกนั มากขนึ้ เพราะการสรา้ งสนิ คา้ HVA อาจ
ตงั้ ตน้ จากทมี วจิ ยั และพฒั นา แต่ผลสมั ฤทธิต์ อ้ งอาศยั ความรว่ มมือภายในองคก์ ร ทมี วิจยั ตอ้ งไดร้ บั
Feedback จากทกุ ฝ่ายเพ่ือนาขอ้ มลู กลบั มาแกโ้ จทย์ ทีมมารเ์ ก็ตตงิ้ ตอ้ งทางานใกลช้ ดิ กนั เพ่อื ทราบว่า
ลกู คา้ ตอ้ งการอะไร แลว้ งานวิจยั จึงจะต่อยอดไปเป็นสินคา้ วางขายทากาไรได้

การทลายกาแพงท่ปี ิดกนั้ การสรา้ งสรรคน์ วตั กรรม เกิดขึน้ จาก 4 Core Value หรืออดุ มการณใ์ นการทางาน
ของพนกั งาน SCG ทงั้ 4 ขอ้ ไดแ้ ก่ 1) ตงั้ ม่นั ในความเป็นธรรม 2) ม่งุ ม่นั ในความเป็นเลิศ 3) เช่อื ม่นั ใน
คณุ ค่าของคน 4) ถือม่นั ในความรบั ผิดชอบต่อสงั คม แมว้ ่า SCG จะเป็นบรษิ ทั ใหญ่ท่ีมีบรษิ ทั ในเครือฯ กว่า
300 บรษิ ัท ทาใหว้ ิธีการบรหิ ารคนแต่ละธุรกิจไมเ่ หมอื นกนั ทาใหก้ ารดแู ลพนกั งานแต่ละธรุ กิจจึงตอ้ งมกี าร
ปรบั เปลีย่ นกนั ไปตามธรรมชาติของธรุ กจิ นนั้ ๆ โดยมี 4 Core นเี้ ป็นกรอบ

คณุ อรรถพงศ์ สถิตมโนธรรม กรรมการผจู้ ดั การ บรษิ ทั ปนู ซเิ มนตไ์ ทย (ทา่ หลวง) จากดั กลา่ วถึง วธิ ีการ
หลอ่ หลอมบคุ ลากร ซ่งึ เป็นตน้ แบบในการทางานของทกุ คนท่ีกา้ วเทา้ เขา้ มาในองคก์ รแห่งนีว้ า่


165

“วนั แรกทมี่ าทางาน ตงั้ แต่วนั ปฐมนเิ ทศน์ ผูบ้ ริหารระดบั สูงจะพดู เรอื่ ง 4 ขอ้ นเี้ ยอะมาก พอเร่ิมทางานไป
พวกพี่ ๆ จะสอนตลอดเวลา เขาบอกวา่ ถา้ มอี ปุ สรรค ถา้ มีเรอื่ งขดั แยง้ ทีต่ อ้ งตดั สนิ ใจคนเดียว หรือถา้ คิด
อะไรไม่ออกว่าควรทายงั ไงดี ใหน้ กึ ถงึ 4 ขอ้ นไี้ วก้ ่อน ถา้ มนั ไมข่ ดั คณุ ตดั สินใจไปไดเ้ ลย คอื ไมผ่ ดิ แนน่ อน”

ทรานสฟอรม์ อย่างต่อเน่ืองดว้ ย “โซลูชัน”

“SCG มี 3 ธรุ กิจหลกั ซ่งึ ค่อนขา้ งใหญ่และหลากหลาย เรามีการเปลยี่ นแปลงองคก์ รใหญ่ ๆ 2 ครงั้ ครงั้
แรกคือหลงั ตม้ ยากงุ้ 2542 ดว้ ยความทมี่ ีธุรกิจเยอะ ฝ่ายจดั การตอ้ งเขา้ ไปดวู ่าจดุ ไหนในกระบวนการธรุ กจิ
ทจี่ ะปรบั ปรุงไดบ้ า้ ง เพอื่ ทาใหอ้ งคก์ ร Lean และมีประสทิ ธภิ าพมาก ธรุ กจิ อนั ไหนไม่ใช่ Core กต็ ดั ออก
พอกระชบั ขนึ้ เราทาส่งิ ทเี่ ราเก่ง ออกมาเป็นผลลพั ธ์การเตบิ โตทดี่ ี หรือในปี 2557 ก็มกี ารปรบั รวมธรุ กจิ
ยอ่ ยใหอ้ ยู่ใตร้ ่มเดยี วกนั รวมกลมุ่ วสั ดกุ ่อสรา้ งทงั้ วสั ดกุ ่อสรา้ ง เซรามคิ ซเี มนต์ เทรดดงิ้ ทเี่ คยทางาน
บรหิ ารแยกกนั เกดิ ความไม่คลอ่ งตวั เกดิ การทางานทบั ซอ้ น ก็ออกมาเป็น CBM (Cement- Building
Materials)”

เม่อื ความตอ้ งการของผบู้ รโิ ภคมีความหลากหลายมากยงิ่ ขนึ้ ธรุ กิจจงึ ตอ้ งกา้ วใหท้ นั ความตอ้ งการของ
ลกู คา้ ในยคุ ดจิ ิทลั SCG ในฐานะขององคก์ รท่ไี ม่เคยหยดุ อย่กู บั ท่ี จงึ มงุ่ เขา้ สกู่ ารทาธรุ กจิ แบบ
“Experience Economy” โดยจดั ตงั้ Digital Office หรือเรยี กอีกช่อื หน่ึงว่า WEDO (WE are Digital
Office) ดาเนินการภายใตธ้ ุรกิจซเี มนตแ์ ละผลติ ภณั ฑก์ อ่ สรา้ งของเอสซีจี เป็น Corporate Innovation ท่ี
ช่วยให้ SCG CBM เปลย่ี นแปลงไปสธู่ รุ กิจในยุคใหม่ ท่ีขบั เคลื่อนดว้ ยดจิ ทิ ลั และเทคโนโลยี

เพ่อื นาดิจทิ ลั เทคโนโลยีมาประยกุ ตใ์ ชก้ บั การดาเนนิ งานต่าง ๆ เพมิ่ ความสามารถในการเขา้ ถงึ และเขา้ ใจ
ลกู คา้ ไดม้ ากขนึ้ ปัจจบุ นั ทมี งานประกอบดว้ ยคนไทยราว 145-150 คน และท่ีอินเดียอีกราว 60-65 คน

ดว้ ยกลยทุ ธท์ ่มี องว่า ‘ทายงั ไงใหล้ กู คา้ ไดม้ ากกว่าการซือ้ วสั ดกุ ่อสรา้ ง’ รูปธรรมท่เี ห็นไดค้ ือการใชเ้ ทคโนโลยี
ช่วยออกแบบประสบการณใ์ หม่ ๆ ใหล้ กู คา้ แอพพลเิ คช่นั Active Omnichannel จะทาการเช่ือมโยงกบั
ลกู คา้ ทงั้ ในช่องทางออนไลนแ์ ละออฟไลน์ เพิม่ ความสะดวกสบายและตอบสนองความตอ้ งการของลกู คา้
ไดอ้ ย่างรอบดา้ นทกุ ท่ที ุกเวลาใช้ Augmented Reality (AR), Virtual Reality (VR) ชว่ ยใหล้ กู คา้ สามารถ
ดีไซนห์ อ้ งและเห็นแบบบา้ นเสมอื นจรงิ ก่อนการสรา้ งบา้ น ใช้ Mixed Reality (MR) ชว่ ยใหล้ กู คา้ เขา้ ถงึ วสั ดุ
และโซลชู ่นั จนไดร้ บั สินคา้ และบรกิ ารท่ีตรงจดุ ลกู คา้ สามารถปรกึ ษาปัญหาบา้ น คน้ หาช่าง รวมทงั้ สง่ ต่อ
ขอ้ มลู ใหพ้ นกั งานบรกิ ารในพืน้ ท่ใี กลเ้ คียงเขา้ ไปดแู ล นอกจากนี้ ยงั สามารถตอ่ เช่ือมกบั Digital Platform
อ่นื เชน่ SCG Online Store และ Digital Payment Solution ใช้ SCG E-Wallet เพ่อื เพ่ิมความสะดวกใน
การซอื้ และชาระสินคา้


166

แตก่ ารพลิกโฉมธรุ กจิ จาก “ผผู้ ลติ ” มาเป็น “ผสู้ รา้ งสรรคโ์ ซลชู นั และนวตั กรรมครบวงจร” ทาใหพ้ นกั งาน
ตอ้ งถกู ปรบั วิธีคิดและวิธีทางานรองรบั ตามไปดว้ ย ซ่งึ คณุ อรรถพงศ์ ไดก้ ลา่ วถงึ เรือ่ งนวี้ ่า

“ธุรกิจมกี ารแข่งขนั สงู นโยบายหลกั ของเราจะเคลอื่ นไปที่ Industrial 4.0 เราจะ Transformation ก็ไมไ่ ด้
เร่มิ ทเี่ ทคโนโลยี แต่เราเร่ิมจากการปรบั คนทเี่ ขา้ มาอยู่ในกระบวนการทรานสฟอร์ม เขาตอ้ งเรียนรู้
เทคโนโลยแี ละทกั ษะความรูใ้ หม่ ๆ เพอื่ พฒั นากระบวนการทางานทตี่ อบสนองต่อการ Service & Solution
Provider คนทเี่ คยทางานผลิต งานขายวสั ดุ ก็ตอ้ งมาเพ่มิ ทกั ษะงานขายโซลูชน่ั ตอ้ งมีความรูว้ ่าโซลชู น่ั
ขายยงั ไง ตอ้ งเขา้ ใจลูกคา้ คนอยโู่ รงงานปนู มา ตอ้ งทางานบริหารจดั การหนา้ งาน เราก็ตอ้ ง Reskill และ
Upskill ใหพ้ นกั งานทกุ คน ผนั ตวั จาก Production Oriented มาเป็น Service Provider มากขนึ้ ”

สง่ เสรมิ การเรียนรู้ด้วย Learning Model 70-20-10

เพราะเช่ือว่า Human Capital เป็นทงั้ ทนุ และสินทรพั ยท์ ่ีมคี ณุ คา่ มากท่สี ดุ กระบวนการพฒั นาพนกั งาน
ของ SCG จึงทมุ่ เทกบั เรื่องนีอ้ ยา่ งเต็มท่ี มกี ารจดั หลกั สตู รใหพ้ นกั งานมงุ่ เนน้ การเรยี นรูด้ ว้ ยตวั เอง โดยมี
ผบู้ งั คบั บญั ชาเป็นผสู้ นบั สนุน ทาใหพ้ นกั งานมคี วามรูแ้ ละเพิ่มพนู ทกั ษะท่สี ามารถรบั มือกบั ความ
เปล่ยี นแปลงไดอ้ ย่างทนั ท่วงที และเกิดเป็น Lifelong Learning ตามนโยบายขององคก์ ร

ซ่งึ ทงั้ หมดนี้ SCG ใชร้ ะบบการบรหิ ารจดั การการเรียนรู้ Learning Management System (LMS) ท่มี ี
คณุ ภาพและมาตรฐานเดยี วกนั ทงั้ ภมู ภิ าค ท่ผี า่ นมามีการจดั ทาแผนการพฒั นารายบคุ คล (IDP) รูปแบบ
70:20:10

70 คอื การเรียนรูแ้ ละพฒั นามาจากการลงมือทา ไดท้ ดลองทา (Experiential Learning) ก็คอื เรยี นรูผ้ ่าน
จากประสบการณจ์ รงิ จากการทางานจรงิ การพฒั นาทกั ษะการเป็นโคช้ (Being Coach), ทกั ษะการเป็นพ่ี
เลีย้ ง (Mentoring), การฝึกท่ีหนา้ งาน (OTJ), การเป็นท่ปี รกึ ษาในโครงการตา่ ง ๆ (Being Consultant),
การมอบหมายงาน (Assignment), การเรยี นรูแ้ กไ้ ขปัญหาในทีมย่อย (Action Learning)

สว่ นอกี 20 การเรียนรูม้ าจาก การพฒั นาจากบคุ คลอ่นื ๆ ซ่งึ กค็ ือ เรื่องของการ Coaching การไดร้ บั
Feedback จากหวั หนา้ ของตนเอง หรือจากบคคุ ลท่เี ก่ียวขอ้ งในการทางาน จะเป็นเรอ่ื งของการพฒั นาผ่าน
พ่เี ลีย้ ง ผเู้ ช่ียวชาญ หรือหวั หนา้ งาน เชน่ การดงู าน (Site Visit), การสรา้ งเนทเวริ ค์ (Networking), การ
ตดิ ตาม Role model (Shadowing), การไดร้ บั Feedback จากผบู้ งั คบั บญั ชา (Being Coachee), การ
เรียนรูจ้ ากผเู้ ช่ียวชาญ (Consulting with SME) และสว่ นท่เี หลอื อีก 10 จะเป็นเร่ืองของการพฒั นาใน
หอ้ งเรยี น เช่น การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง (Self-Learning), การฝึกอบรมหรือการทาเวิรค์ ชอป (Classroom),
การเขา้ ประชมุ (Conferences and Forums)


167

“ที่ SCG นอกเหนอื จากการใหแ้ รงจงู ใจดว้ ย Incentive แลว้ ยงั ไดม้ ่งุ สกู่ ารพฒั นาท่ีย่งั ยืนในระยะยาว เรา
พยายามทาใหเ้ ป็นวฒั นธรรมองคก์ รมากกว่า เพราะเขาทาแลว้ ตวั เขาเกง่ ขนึ้ แต่ในบางสว่ นกม็ กี ารจดั
กิจกรรม เช่น จดั งาน KAIZEN DAY ใหพ้ นกั งานสง่ แนวคิดการปรบั ปรุงประสทิ ธิภาพการดาเนินงานตาม
แนวคิดไคเซ็น เรากไ็ ดเ้ หน็ การพฒั นานวตั กรรมใหม่ ๆ ออกมา”

คณุ อรรถพงศ์ สถิตมโนธรรม และทมี งานฝ่ายพฒั นาบคุ ลากร ไดเ้ ลา่ ถงึ กระบวนการในการหลอ่ หลอมคน
ของ SCG วา่ เป็นไปอยา่ งค่อยเป็นค่อยไป แต่เป็นการทาอย่างสม่าเสมอ อีกทงั้ ยงั ตอ้ งมที ศิ ทางชดั เจนจาก
ระดบั ผบู้ รหิ ารเป็นหางเสือของการพฒั นาอกี ดว้ ย

“วฒั นธรรมของเราเร่มิ จากผูบ้ ริหารสูงสดุ วา่ ทศิ ทางไปทางไหน บางครงั้ เราก็เปิดโอกาสใหก้ ล่มุ ยอ่ ยของแต่
ละฟงั กช์ ่นั ทเี่ ขาสนใจรว่ มกนั สามารถครีเอทโปรเจกตท์ เี่ ขาอยากทาขึน้ มาได้ โดยเราจะมีการสรา้ งแพลท
ฟอร์มทเี่ ป็นฐานรวม Best Practice ทมี่ าจาก Sub-Business Unit ย่อย ๆ ซ่ึงจะอนญุ าตใหท้ กุ คนเขา้ ไป
ศกึ ษาได้ เราเชือ่ วา่ พฤตกิ รรมทที่ าซา้ ๆ มนั จะถูกขยายออกไปในเชิงปริมาณ สดุ ทา้ ยมนั จะกลายเป็น
Culture ทแี่ ขง็ แรง”

ในสว่ นของการ Reskill และ Upskill เพ่ือรองรบั การเปลีย่ นแปลงของธุรกจิ SCG จะมีหลกั สตู รการเรยี นรูไ้ ว้
รองรบั อยา่ งมากมาย ไม่วา่ จะเป็น หลกั สตู ร Digital Literacy, Business Model Canvas, Design
Thinking, Data Analytics ฯลฯ ในสว่ นของการพฒั นาหลกั สตู รดา้ น Digital Literacy ก็จะมีตวั เลือกให้
พนกั งานอกี หลายหวั ขอ้ ทงั้ Big Data, Digital Marketing, Robotic Process Improvement, Internet of
Things (IoT), Structured Query Language (SQL) เพ่ือใหพ้ นกั งานมคี วามพรอ้ มในการนาเทคโนโลยี
ดิจทิ ลั มาประยกุ ตใ์ ชใ้ นการทางาน

นอกจากนี้ ยงั มกี ารรว่ มออกแบบหลกั สตู รกบั สถาบนั การศกึ ษาชนั้ นาในประเทศ เช่น
มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ หรือ มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกลา้ พระนครเหนอื ท่มี ีโครงการ SCG–
KMUTNB Collaboration on Work Integrated Learning : Industry 4.0 Development Program เพ่อื
พฒั นาความรูท้ างวิชาการและสรา้ งความรว่ มมือดา้ นการวจิ ยั และพฒั นานวตั กรรมดา้ นการผลิตและการ
บรกิ ารดา้ นอตุ สาหกรรม

“เรามนี โยบายม่งุ หนา้ ไป Industrial 4.0 เราก็ไปคยุ กบั ทางมหาวทิ ยาลยั ซ่งึ มีความตอ้ งการตรงกนั ว่า
อยากจะยกระดบั อตุ สาหกรรมของประเทศ SCG มโี รงงาน พระนครเหนอื กม็ ีองค์ความรู้ เขาโดดเดน่ เรือ่ ง
Robot ชนะรางวลั ติดตอ่ กนั มาหลายปี ปีทแี่ ลว้ ทางมหาวทิ ยาลยั กจ็ ะเลอื กนกั ศกึ ษาใหเ้ ขา้ มาพฒั นา
โครงการรว่ มกบั พนกั งานของเรา สง่ มาประจาโรงปนู 60 คน นอ้ ง ๆ ไดท้ างานจรงิ เหน็ ของจริง ว่า


168

เครอื่ งจกั ร กระบวนการ Pain Point เป็นอยา่ งไร มนั เหมือนเรากาลงั สรา้ งเมลด็ พนั ธใ์ หมข่ นึ้ รองรบั ตลาดใน
อนาคต”

ในสว่ นการเรยี นรูผ้ า่ นระบบดิจทิ ลั ของ ธุรกจิ ซเี มนต์ และคอนสตรคั ช่นั โซลชู ่นั จะผา่ น Prompt Learn
Platform ท่ใี ชร้ ว่ มกนั ทงั้ ในและต่างประเทศ โดยเป็นแอพลิเคช่นั ท่ถี ูกพฒั นาขนึ้ มาเพ่อื ตอบโจทยค์ นทางาน
ในแต่ละภาคส่วน มหี วั ขอ้ ใหเ้ ลือกเรยี นดว้ ยตนเองตามความตอ้ งการท่หี ลากหลาย

“เราพฒั นาใหเ้ ป็นแอพมอื ถือมาก่อนหนา้ นแี้ ลว้ แต่สถานการณ์โควิดทที่ กุ คนตอ้ ง Work from Home ทาให้
แพลทฟอร์มนไี้ ดร้ บั การตอบรบั เร็วขึน้ สว่ นหน่งึ มาจากการทเี่ ราดไี ซนใ์ หม้ นั ใชง้ ่ายทสี่ ดุ เป็นอนิ เตอร์แอคทฟี
ทคี่ นเรียนเลอื กเมนเู รียนเองได้ กดเขา้ ไปจะมโี ปรไฟลข์ องผูเ้ รยี น บอกใหร้ ูว้ า่ คณุ ยงั ขาดทกั ษะอะไร เมนูก็
จะมแี บง่ เป็นกรุ๊ป A เกีย่ วกบั Common & General เช่น การปรบั ตวั อย่างไรหลงั โควดิ เรอื่ ง Creative
Innovation เรอื่ งสรา้ งแชทบอทใน 3 นาที หรอื การพฒั นาธรุ กจิ ดว้ ย BMC (Business Model Canvas)

สว่ นกรุ๊ป B จะเป็นการตอบโจทยต์ ามหนา้ งาน Upskill พวก มาร์เกตตงิ้ แบรนดงิ้ คนอยเู่ หมอื งกไ็ ปเลอื ก
ชดุ ความรูเ้ กีย่ วกบั การทาเหมืองได้ เราจะกาหนดเนอื้ หาใหต้ รงพนกั งานและสมั พนั ธ์กบั นโยบายธรุ กิจ แลว้
ทกุ คนตอ้ งทาการบา้ นคกู่ บั ไลนแ์ มเนจอร์ มเี มนูใหผ้ ูบ้ งั คบั บญั ชาเห็นว่าพนกั งานเรยี นอะไรไปแลว้ ยงั ขาด
อะไร ชว่ งโควดิ ทผี่ า่ นมามีอตั ราคนเขา้ ใชง้ านสูงถงึ 80 %”

Knowing & Doing Gap ปิ ดชอ่ งวา่ งระหว่างความรู้และการลงมอื ทา

โดยปกติแลว้ องคก์ รธรุ กจิ ใหญ่ ๆ มกั เตม็ ไปดว้ ยความรูม้ ากมาย แต่อาจจะไม่ไดป้ ระยุกตค์ วามรูท้ ่มี ีอยู่
เพ่อื ใหเ้ กิดการปฏิบตั ิท่ไี ดผ้ ลจรงิ จงั กระบวนการเรยี นรูท้ กุ อยา่ งของ SCG จงึ เนน้ การสรา้ งความคลอ่ งตวั
เพ่อื ใหพ้ นกั งานสามารถเรยี นรูท้ กั ษะและความรูใ้ หม่ ๆ ไดอ้ ย่างรวดเรว็ ทกุ ท่ที กุ เวลา โดยมีแผนงานทงั้
ระยะปานกลาง (Medium Term Plan) และแผนรายปี (Annual Plan) ดแู ลอย่างใกลช้ ิดภายใต้
คณะกรรมการและหน่วยงาน ท่รี บั ผิดชอบดา้ นการเรียนรูข้ องพนักงานอย่างชดั เจน ตงั้ แต่ระดบั วิชาชีพ
(Professional Academy Committee) ระดบั ธรุ กิจ (BU Academy Committee) จนถึงระดบั เอสซจี ี
(Learning Council Committee)

“Learning Council จะเป็นคณะกรรมการใหญ่ของ SCG เราเรยี กวา่ Management Development
Committee (MDC) ทาหนา้ ทดี่ แู ลภาพรวม ทงั้ นโยบายดา้ นคน เรือ่ ง Career Path เรื่องสวสั ดกิ ารและการ
พฒั นาพนกั งานระดบั จดั การทเี่ รียกว่า “จ 3” ขนึ้ ไป สว่ น Academic Committee ดูแล 3 BU ใหญ่ ธุรกจิ
ซีเมนตแ์ ละผลติ ภณั ฑก์ ่อสรา้ ง ธรุ กจิ แพคเกจจงิ้ และธรุ กิจเคมิคอลส์


169

SCG มองวา่ เราโดดเดน่ เรื่องการผลติ ทามาเป็นรอ้ ยปี มีระบบปฏบิ ตั กิ ารเตม็ ไปหมด มีความหลากหลาย
เรือ่ งองคค์ วามรู้ แต่ทผี่ า่ นมา พวกนมี้ นั ไมม่ าเจอกนั ขาดการแชร์ความรู้ เลยมกี ล่มุ “คณะวชิ าชีพ” ขนึ้ มา
เช่น วชิ าชพี ผลติ วชิ าชพี ตลาด แอดมิน เชน่ บญั ชี บุคคล จดั ซือ้ ฯลฯ พอจบั มาเจอกนั มีกิจกรรมร่วมกนั
ไดส้ รา้ งเนทเวริ ์คซ่ึงเราคาดหวงั ว่ากลบั ไปแลว้ เขาจะสามารถไปคยุ กนั ตอ่ ได้ แชร์ขอ้ มูลกนั ได้ ผา่ นทางฟอร่มั
ทใี่ หม้ กี ารนาเสนอ Best Practice มีกิจกรรมพาสมาชิกไป Visit สถานทจี่ รงิ มจี ดั ประกวดแขง่ ขนั มนั ทาให้
เรากระจายองคค์ วามรูไ้ ดเ้ รว็ พฒั นาคนไดเ้ ร็วขึน้ มาก”

ในแผนการเรียนรูแ้ ละพฒั นาบคุ ลากรของ SCG ยงั มีแบง่ เป็นทงั้ สว่ นของ Business Knowledge และ
Leadership Skill ซ่งึ ทงั้ สองฝ่ังนีจ้ ะเรียนรูค้ วบค่กู นั ไปในหวั ขอ้ ต่าง ๆ เช่น Marketing, Problem Solving,
Presentation, Communication โดยถา้ เป็นพนกั งานระดบั บงั คบั บญั ชาท่มี ีอายงุ านระหวา่ ง 1-2 ปี จะได้
เรยี นรูเ้ ร่ืองการดาเนนิ ธรุ กจิ ในหลกั สตู ร Abridge Business Concept (ABC) และเรียนรูใ้ นเร่อื งการรูจ้ กั
ตวั เองและทางานรว่ มกบั ผอู้ ่ืนไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพในหลกั สตู ร Leadership Development Program
(Leading Yourself)

สว่ นพนกั งานระดบั บงั คบั บญั ชาท่มี อี ายงุ าน 6 ปีขึน้ ไป จะไดเ้ รียนรูห้ ลกั การดาเนนิ ธุรกจิ อย่างลกึ ซงึ้ ใน
หลกั สตู ร Business Concept Development (BCD) ผเู้ ขา้ เรียนจะไดเ้ รยี นรูเ้ นอื้ หาดา้ นทฤษฎแี ละความรู้
พนื้ ฐานผา่ นหลกั สตู รดจิ ิทลั จากนนั้ ตอ้ งนาองคค์ วามรูท้ ่เี รยี นมาฝึกปฏิบตั ิ ฝึกวิเคราะหก์ รณีศึกษา และนา
องคค์ วามรูท้ งั้ หมดมาปรบั ใชก้ บั การปฏิบตั งิ านจรงิ ในการจดั ทาโครงการตา่ ง ๆ (Project-Based Learning)
รวมทงั้ เนอื้ หาเร่ืองการเป็นผนู้ าท่มี ีประสิทธิภาพในหลกั สตู ร Leadership Development Program 2
(Leading the Team)

ในขณะท่ีพนกั งานระดบั จดั การ ท่มี อี ายงุ าน 10 ปีขึน้ ไป มีหลกั สตู รเขม้ ขน้ ดา้ นการจดั การ Management
Development Program (MDP) โดยรว่ มมือกบั มหาวทิ ยลยั ชนั้ นาระดบั โลก เช่น Wharton Business
School และ Duke University เนอื้ หาหลกั สตู รจะประกอบดว้ ยความรูด้ า้ นการบรหิ ารจดั การธุรกจิ เชงิ ลกึ
ทงั้ ในดา้ นการวางกลยทุ ธ,์ การตลาด, การเงนิ และการบรหิ ารจดั การ Operation Excellence กบั
นวตั กรรม นอกจากนี้ ยงั มหี ลกั สตู รผนู้ าดว้ ย Leadership Development 3 (Facilitative Leadership)
ควบค่กู นั ไป

เม่อื อายงุ านเฉลีย่ 20 ปีขึน้ ไป การเป็นพนกั งานจดั การระดบั กลาง จะมหี ลกั สตู ร Executive Development
Program (EDP) โดยความร่วมมือของ Columbia University วตั ถปุ ระสงคเ์ พ่ือพฒั นาพนกั งานดา้ น
Leadership, Working through People, Entrepreneurship, Implement Change และ Global Mindset


170

และพอถึงระดบั พนกั งานจดั การระดบั สงู (Senior Executive) ก็ตอ้ งเรยี นหลกั สตู ร Advanced
Management Program (AMP) ท่ชี ว่ ยสรา้ ง Network กบั ผนู้ าองคก์ ร ทงั้ ภาคเอกชน และภาครฐั ในระดบั
Global โดยเราสง่ ผบู้ รหิ ารระดบั สงู ไปเขา้ รว่ มใชเ้ วลาประมาณ 4-6 สปั ดาห์ ในมหาวทิ ยาลยั อนั ดบั ตน้ ๆ
เช่น Harvard Business School, Stanford, IMD, Wharton เป็นตน้

ปิ รามดิ สร้างคน คนสร้างองคก์ ร

“เราใชป้ ิรามิดแบบนพี้ ฒั นาคนตงั้ แตว่ นั แรกทเี่ ขา้ มาทางาน คอื เรยี นทงั้ เรอื่ งธรุ กิจ เรียนทงั้ เรอื่ งการเป็นผนู้ า
ทดี่ ี เร่มิ จากใหเ้ รียนเรอื่ งพนื้ ฐานธรุ กจิ ง่าย ๆ พอถงึ ระดบั จดั การ คอื เร่ิมมีลูกนอ้ ง กจ็ ะสอนใหด้ ธู รุ กจิ เป็น
ดแู ลคนได้ พอขยบั ขึน้ ไป MDP คณุ ไม่ตอ้ งทางานเลยเดอื นนงึ คอื เรียนเตม็ ที่

MAP (Management Acceleration Program) เป็นหลกั สตู รท่เี นน้ การพฒั นาทกั ษะในการมองและเขา้ ใจ
ภาคธรุ กจิ ท่ีมคี วามซบั ซอ้ นมากขนึ้ และสรา้ ง Mindset ในระดบั Global เพ่อื ใหเ้ กิดการวางแผนกลยทุ ธท์ ่ี
ปฏิบตั ิไดจ้ รงิ ในระยะยาวอย่างย่นั ยนื โดยวิธีการเรยี นรูจ้ ะเป็นแบบ Project Based Learning และ
Immersive Learning คือการนาผเู้ ขา้ รว่ มหลกั สตู ร ไปเย่ียมชมธรุ กจิ จรงิ ท่ีประสบความสาเรจ็ มกี ารพฒั นา
เตบิ โตอยา่ งรวดเรว็ ในเมืองเซนิ เจนิ้ ประเทศจีน เพ่อื สรา้ งแรงบนั ดาลใจ และสามารถนามาต่อยอดในการ
ทางานจรงิ ของตนเองได้

เม่อื เป็นองคก์ รท่มี งุ่ เนน้ เตบิ โตในระดบั ภมู ิภาค SCG จงึ ตอ้ งมหี ลกั สตู รเตรยี มความพรอ้ มสาหรบั คนท่จี ะไป
ตา่ งประเทศ ท่จี ดั ขนึ้ ลว่ งหนา้ 6 เดือนก่อนพนกั งานเดนิ ทาง ประกอบดว้ ย Effective Business Writing,
Conversation, Cross Cultural Management Workshop, Team Building, Negotiation และ Global
Leadership นอกจากนี้ ยงั เปิดโอกาสใหพ้ นกั งานท่มี ศี กั ยภาพสงู จากประเทศตา่ ง ๆ สามารถเดินทางเขา้
มาเรียนรูง้ านและเขา้ หลกั สตู ร Flagship Programs เชน่ การบรหิ ารทรพั ยากรบคุ คล ความปลอดภยั
สง่ิ แวดลอ้ ม การตลาดและการขาย ฯลฯ รวมทงั้ หลกั สตู ร Management Development Program (MDP)
ท่ปี ระเทศไทยไดอ้ ีกดว้ ย

จดุ เด่นในเรอื่ งของการท่มุ ทนุ สรา้ งคนนี้ SCG ไดร้ บั การยอมรบั ว่าเป็นองคก์ รท่ี “จดั เตม็ ” กลา่ วเฉพาะ
งบประมาณในเรื่องทนุ การศึกษาต่อในต่างประเทศและการอบรมทงั้ ในและต่างประเทศ ปีละไมต่ ่ากวา่
1,500 ลา้ นบาท มกี ารใหท้ นุ การศึกษาต่อในระดบั ปรญิ ญาโทเฉพาะทาง (Technical Scholarship) และ
ทางดา้ นบรหิ ารธรุ กจิ (MBA Scholarship) โดยใหท้ นุ เรียนต่อในมหาวิทยาลยั ชนั้ นาของทงั้ ไทย (สถาบนั
บณั ฑิตบรหิ ารธุรกจิ ศศนิ ทร,์ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลยั ) และทนุ เรยี นต่อต่างประเทศ อาทิ University of
Pennsylvania, Harvard University, Stanford University, University of Chicago, Northwestern


171

University หรือ มหาวิทยาลยั ชนั้ นาในยโุ รป อาทิ The European Institute of Business Administration
(INSEAD), London Business School, International Institute for Management Development (IMD)

ซ่งึ เร่มิ ทามาตงั้ แต่ปี 2518 อยา่ งตอ่ เน่อื ง ไม่เวน้ แมแ้ ตใ่ นปี 2540 ท่ี SCG ไดร้ บั ผลกระทบจากวิกฤตตม้ ยา
กงุ้ เพ่อื ผลกั ดนั ใหพ้ นกั งานมีความรูค้ วามสามารถระดบั แนวหนา้ ของอตุ สาหกรรม จนถึงปัจจบุ นั SCG มี
ทนุ การศกึ ษาสาหรบั พนกั งานดา้ น MBA ไปแลว้ กว่า 500 ทนุ ถือเป็นองคก์ รในประเทศไทยท่สี ง่ ผบู้ รหิ าร
ระดบั สงู ไปเขา้ โปรแกรม AMP ท่ี Harvard Business School มากท่สี ดุ ในโลก

“เราใหท้ นุ ปรญิ ญาโท ปริญญาเอก ทกุ ปี มกี ระบวนการคดั เลอื กจากแต่ละธรุ กิจของ SCG พกี่ านตพ์ ดู
ตลอดว่า พยายามใหน้ อ้ งสมคั รเยอะ ๆ แต่ทนี่ ที่ นุ เยอะกว่า (หวั เราะ) เพราะพกี่ านตม์ องเหน็ วา่ เวลาเด็ก
จบใหมม่ าทางาน เขาจะเพลนิ สนกุ กบั งานจนลมื ไปวา่ ตวั เองอยากเรียนต่อ ช่วงนงึ ทคี่ นสมคั รทนุ นอ้ ย พี่
กานตถ์ งึ ขนั้ ตงั้ โครงการเอาเดก็ มาเขา้ แคมป์ เราใหเ้ ขาเรียนภาษา ค่าใชจ้ ่ายออกใหห้ มด ค่าเดนิ ทาง จะ
สอบโทอคิ โทเฟล จะตวิ ถา้ คนไหนสมคั รทนุ ผา่ นมาเบกิ คา่ ใชจ้ ่ายทจี่ ่ายไปแลว้ ไดเ้ ลย”

พร้อมส่งต่อความย่งั ยืน

เพราะเป็นองคก์ รท่ีมองว่า “การพฒั นาบคุ ลากรถือเป็นการลงทนุ ไมใ่ ชต่ น้ ทนุ ” เรื่องของคนจงึ ยทุ ธศาสตรท์ ่ี
SCG ใหน้ า้ หนกั พอ ๆ กบั เรื่อง R&D แมแ้ ต่ตอนท่ธี รุ กจิ ประสบกบั วิกฤตเศรษฐกิจกระทบขนาดไหน ผล
ประกอบการท่เี คยติดลบในอดตี จนจาเป็นตอ้ งตดั ค่าใชจ้ ่ายลงไปเกือบทกุ ส่วน SCG ก็ยงั ยกเวน้ ไม่แตะ
ตอ้ งเร่ืองของงบพฒั นาคน

ปัจจบุ นั พนกั งานของ SCG ในประเทศไทย ไดร้ บั การประเมนิ สมรรถนะและการจดั ทาแผนการพฒั นา
รายบคุ คล (IDP) บนระบบบรหิ ารจดั การเรียนรู้ (LMS) ครบทกุ คน 100% ต่อเน่ืองทกุ ปี โดยมีค่าใชจ้ า่ ยใน
การเรยี นรูแ้ ละพฒั นาพนกั งานทงั้ ภายในและภายนอกในปี 2562 คิดเป็นเงิน 1,298 ลา้ นบาท

ไมเ่ ช่ือก็ตอ้ งเช่ือวา่ องคก์ รขนาดใหญ่อย่าง SCG ซง่ึ เป็นผนู้ าในดา้ นวสั ดกุ ่อสรา้ งและเคมภี ณั ฑม์ านาน
มากกวา่ 100 ปี จะมคี า่ อายงุ านเฉลีย่ (Service Years) ของพนกั งานอย่ทู ่ี 12 ปี และมอี ตั ราการลาออก
(Turnover Rate) ต่าเพยี ง 4% เท่านนั้ ซง่ึ ตวั เลขนถี้ ือวา่ อยใู่ นระดบั World-Class เพราะหลายๆ
อตุ สาหกรรมมีอตั ราการลาออกเกิน 20% คาถามท่ีตามมากค็ ือ เพราะเหตใุ ด SCG จึงสามารถรกั ษา
พนกั งานหลากหลายเจนเนเรช่นั เอาไวใ้ นองคก์ รได้

ดงั ท่ี “พ่ีกานต"์ ของนอ้ ง ๆ ไดใ้ หน้ โยบายไว้ ว่าการป้องกนั ปัญหาการสญู เสยี พนกั งานของ SCG นนั้ ไม่ใช่
หนา้ ท่ขี องฝ่ายทรพั ยากรบคุ คล แต่ถือเป็นพนั ธกจิ ใหญ่ขององคก์ รท่ที กุ ฝ่ายตอ้ งมสี ว่ นรว่ ม ยิ่งถา้ เป็นองคก์ ร
ท่ที มุ่ ใจใหเ้ กนิ รอ้ ยพฒั นาศกั ยภาพพนกั งานอย่างเตม็ ท่ีขนาดนแี้ ลว้ “ยงิ่ ตอ้ งไม่ใหส้ ญู เปลา่ ”


172

“การลาออกของพนกั งาน เป็นปญั หาทเี่ ราไมอ่ ยากใหเ้ กิด เพราะเทา่ กบั การลงทนุ ทสี่ ูญเปล่า ผูบ้ ริหารยคุ
ใหมจ่ งึ ตอ้ งทอ่ งคาถา ‘Happiness Strategy’ ใหล้ กู นอ้ งทางานอย่างมีความสขุ ไวใ้ นใจไวเ้ สมอ ตอ้ ง Work
Life Balance เพราะถา้ พนกั งานมีความสขุ การเรียนรูใ้ หม่ ๆ ก็จะเกิดขนึ้ โดยเร็ว

เรอื่ ง Boss Issue กบั Fair Treatment เป็นสองเรอื่ งหลกั ทถี่ า้ ทาไม่ดจี ะทาใหค้ นลาออกมาก เพราะถงึ แม้
บรษิ ัทจะมีสวสั ดกิ ารชนั้ ดี มเี งนิ เดอื นมากมายแค่ไหน แต่หากพนกั งานทางานไมม่ ีความสขุ กเ็ ปลา่
ประโยชน์ และปัญหาการลาออกของพนกั งานมกั มาจาก “เจา้ นาย” ซ่ึงผูน้ ายคุ ใหมจ่ าเป็นมากทจี่ ะตอ้ งมี
ทกั ษะในการบริหารคน สรา้ งทกั ษะในการฟงั ลูกนอ้ ง ย่งิ ทางานกบั คนรุ่นใหม่ ย่งิ ตอ้ งปรบั ตวั ”

ปัจจบุ นั เอสซจี มี ีพนกั งานทงั้ เครือประมาณ 5.8 หม่ืนคน เป็นพนกั งานตา่ งชาตปิ ระมาณ 1 ใน 3 และท่ี
สาคญั คอื เป็น Gen Y 40% โดยมแี นวโนม้ วา่ ในอีก 5 ปีขา้ งหนา้ Gen Y จะเพม่ิ ขึน้ มากกว่า 50% ซ่งึ คน
กลมุ่ นจี้ ะเป็นกลมุ่ ท่ีมวี ธิ ีคิดวิธีทางานเฉพาะตวั มีความรูเ้ ร่อื งเทคโนโลยีสงู มพี ลงั ในการทางาน มีความ
ม่งุ หวงั ในการเติบโตในอนาคต ม่นั ใจในตวั เองสงู และตอ้ งการเห็นความสาเรจ็ เร็ว การส่งั งานจึงตอ้ งตงั้ อยู่
บนความชดั เจน ซง่ึ คณุ อรรถพงศไ์ ดก้ ลา่ วถงึ เรื่องการดแู ลรกั ษาคนเก่งใหอ้ ย่กู บั องคก์ รไดน้ าน ๆ ว่า

“สมยั พกี่ านตเ์ ราคุยกนั จรงิ จงั มาก ว่าทาไมนอ้ งออก เราถงึ กบั สรา้ งชอ่ งทางใหน้ อ้ งมที างเลอื ก ว่านอ้ งอยาก
ทาไรกนั แน่ ทเี่ หมาะสมกบั ตวั เขา บางคนมขี อ้ จากดั เรอื่ งโลเคช่นั เรื่องครอบครวั บางคนมคี วามจาเป็นตอ้ ง
ไปดแู ลพอ่ แม่ เรามกี ารรองรบั ดว้ ยการสรา้ งระบบใหน้ อ้ งสามารถเลอื กบสิ เิ นสของเราตรงไหนทเี่ ขาไปอยไู่ ด้
สะดวก พนกั งานสามารถสมคั รไดเ้ ลยไมต่ อ้ งขออนญุ าตจากผูบ้ งั คบั บญั ชา เดินเรอื่ งไดเ้ องเลย พอ
สมั ภาษณผ์ า่ นแลว้ ไดแ้ ลว้ ค่อยมาบอกยงั ไง

แตถ่ า้ เราสนบั สนนุ ทกุ อย่างแลว้ นอ้ งยงั อยากจะไป ผูบ้ ริหารทนี่ ถี่ ือว่า ถา้ นอ้ งอยู่แลว้ เขา้ กนั ไม่ไดก้ ็ไม่เป็นไร
เรามองบวกว่าเราพฒั นานอ้ งไป ถอื ว่าเป็นการช่วยพฒั นาอตุ สาหกรรมเดยี วกนั ดว้ ย นอ้ งไดค้ วามรูจ้ ากเรา
ไปทาใหอ้ งคก์ รอนื่ เจริญรุ่งเรือง ก็ตอ้ งถือเป็นเรื่องทดี่ ี เราก็ยนิ ดดี ว้ ย เพราะทกุ คนทางานเพอื่ ชาตดิ ว้ ยกนั
ทงั้ นนั้ ”

เพราะใจกวา้ งจนแมน่ า้ เรียกพ่ี หรือใหพ้ ดู อีกที ตอ้ งบอกว่า SCG ใจใหญ่เหมอื น “ชา้ ง” ในโลโกข้ องตวั เองก็
คงไมผ่ ดิ นกั

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

เครื่องมือท่ใี ช้ในการพัฒนาบุคลากร

• การฝึกอบรมในขณะทางาน (On the Job Training : OJT)


173

• การฝึกอบรมในหอ้ งเรียน (Classroom Training)
• การสอนงาน (Coaching)
• โปรแกรมพ่เี ลีย้ ง (Mentoring Program)
• การเพม่ิ คณุ คา่ ในงาน (Job Enrichment)
• การหมนุ เวียนงาน (Job Rotation)
• การใหค้ าปรกึ ษาแนะนา (Consulting)
• การติดตาม/สงั เกต (Job Shadowing)
• การทากจิ กรรม (Activity)
• การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง (Self Learning)
• การดงู านนอกสถานท่ี (Site Visit)
• การใหข้ อ้ มลู ป้อนกลบั (Feedback)
• การฝึกงานกบั ผเู้ ช่ียวชาญ (Counterpart)
• การประชมุ /สมั มนา (Meeting/Seminar)
• การใหท้ นุ การศกึ ษา (Scholarship)
• การใหค้ าปรกึ ษาดา้ นชีวติ การทางาน (Counseling)
• รว่ มมือกบั สถาบนั การศกึ ษาเพ่อื พฒั นาหลกั สตู รท่ตี รงกบั ความตอ้ งการขององคก์ ร
• แผนพฒั นาบคุ ลากรเป็นรายบคุ คล (Individual Development Plan)
• จดั ทาหลกั สตู รการพฒั นาบุคลากรท่เี ป็นมาตรฐาน
• การจดั ใหม้ ีการจดั การความรู้ (Knowledge Management)


174

• จดั ทา Fast Track Career Path สาหรบั บุคลากรความสามารถสงู
• สรา้ ง Role Model ในดา้ นต่าง ๆ เพ่ือสรา้ งแรงบนั ดาลใจในการพฒั นาตนเองใหพ้ นกั งาน


175

13) บริษทั สยามพิวรรธน์ จากัด

บรษิ ทั สยามพวิ รรธน์ จากดั (สยามพวิ รรธน)์ คือ หนง่ึ ในบรษิ ทั คา้ ปลีกและพฒั นาอสงั หารมิ ทรพั ยช์ นั้ แนว
หนา้ ของประเทศไทย มีวิสยั ทศั นใ์ นการดาเนินธรุ กิจท่มี งุ่ เสนอความแปลกใหม่ในการพฒั นาโครงการชนั้ นา
ตา่ ง ๆ ใหเ้ กิดขนึ้ ในประเทศดว้ ยความคิดสรา้ งสรรคอ์ ย่างไมห่ ยดุ น่งิ กอ่ ตงั้ ครง้ั แรกในช่ือ บรษิ ทั บางกอก
อนิ เตอรค์ อนตเิ นนตอล โฮเต็ลส จากดั เม่ือวนั ท่ี 10 มกราคม พ.ศ. 2502

โดยเป็นผบู้ รหิ ารและพฒั นาท่ดี นิ จานวน 50 ไร่ บรเิ วณถนนพระรามท่ี 1 เพ่อื ก่อสรา้ งโรงแรมสยามอินเตอร์
คอนตเิ นนตลั โรงแรมหา้ ดาวระดบั นานาชาตแิ หง่ แรกของไทย และต่อมา ไดก้ ่อสรา้ งสยามเซน็ เตอรเ์ ป็น
ศนู ยก์ ารคา้ ระดบั นานาชาติแห่งแรกของประเทศไทย ตามดว้ ยสยามดสิ คฟั เวอร่ี ศนู ยก์ ารคา้ ไลฟ์ สไตลแ์ หง่
แรกของประเทศไทย ควบค่กู บั อาคารสานกั งาน สยามพวิ รรธนท์ าวเวอร์

สยามพวิ รรธนต์ ดั สินใจปิดกิจการโรงแรมสยามอินเตอรค์ อนตเิ นนตลั หลงั ดาเนนิ กจิ การมาได้ 35 ปี และรือ้
ถอนสิ่งปลกู สรา้ งทงั้ หมดเพ่ือเรม่ิ โครงการกอ่ สรา้ ง “ศนู ยก์ ารคา้ สยามพารากอน” ในฐานะศนู ยก์ ารคา้ ระดบั
โลกแหง่ แรกของประเทศไทยดว้ ยเงนิ ลงทนุ สงู สดุ เป็นประวตั ิการณ์ และมี รอยลั พารากอน ฮอลล์ ศนู ยก์ าร
ประชมุ และแสดงนทิ รรศการระดบั โลก ไดร้ บั เลือกใหเ้ ป็นสถานท่จี ัดงานยิ่งใหญ่รองรบั ผมู้ าเยอื นจากท่วั โลก

ในปี 2561 ไดเ้ ปิดอภิมหาโครงการเมอื งไอคอนสยามซ่งึ เป็นโครงการลงทนุ ของภาคเอกชนท่ใี หญ่ท่สี ดุ ใน
ประเทศไทย โดยความรว่ มมือของ สยามพิวรรธน์ เครือเจรญิ โภคภณั ฑ์ และแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลอ็ ป
เมน้ ต์ คอรป์ อเรช่นั มีมลู คา่ การลงทนุ ถึง 55,000 ลา้ นบาท เพ่ือเนรมติ จดุ หมายปลายทางใหม่ของประเทศ
ไทยบนแม่นา้ เจา้ พระยา และนาเสนอความรุง่ โรจนข์ องประเทศ

ปัจจบุ นั ธรุ กจิ ภายใตก้ ารบรหิ ารของ กลมุ่ สยามพวิ รรธน์ มตี งั้ แต่ ศนู ยก์ ารคา้ เชน่ สยามเซน็ เตอร,์
สยามดสิ คฟั เวอรี, สยามพารากอน, ไอคอนสยาม, สยาม พรเี มียม เอาทเ์ ล็ต แบงคอ็ ก, อาคารสานกั งาน
สยามพวิ รรธนท์ าวเวอร์ และธุรกิจคา้ ปลกี อีกเป็นจานวนมาก ทงั้ หมดมนี โยบายในการขบั เคล่ือนโดยเนน้
“ความเป็นเลศิ ในการบรหิ ารจดั การ เพ่อื สรา้ งประสบการณเ์ หนอื ชนั้ ท่สี รา้ งแรงบนั ดาลใจใหล้ กู คา้ อยเู่ สมอ”
ทกุ โครงการของสยามพิวรรรธนล์ ว้ นมีสว่ นยกระดบั คณุ ภาพชีวิตชาวไทยทกุ คน ยงั ความเจรญิ รุง่ เรืองมาสู่
ประเทศชาติ ดงึ ดดู นกั ท่องเท่ียวจากท่วั โลกมายงั ประเทศไทย รวมทงั้ นาช่ือเสียงและความภาคภมู ิใจมาสู่
ชาวไทย

เคลื่อนทัพใหญ่ด้วยหัวใจของคนทางาน

ถา้ ถามว่าองคก์ รแห่งนเี้ ลือกคนแบบไหนมาทางาน เราอาจจะดตู วั อย่างไดจ้ ากประสบการณข์ อง คณุ นรา
ทพิ ย์ รตั ตประดษิ ฐ์ รองกรรมการผจู้ ดั การใหญ่อาวโุ ส บริษัท สยามพวิ รรธน์ จากดั ผทู้ ่ีผา่ นประสบการณ์
การทางานในธุรกจิ ประเภทเดยี วกนั มานานเกือบ 40 ปี


176

“พที่ าทนี่ มี่ า 15 ปี คอื มาตงั้ แต่ตอนทเี่ พ่งิ เปิดพารากอนแรก ๆ ก่อนนีท้ าธุรกิจคา้ ปลีกทีอ่ นื่ มาเจอวกิ ฤตลว้ น
ๆ ผา่ นมาหมดตงั้ แตน่ า้ ท่วม ไฟไหม้ ไปทภี่ เู ก็ตเจอสนึ ามิน่งั รอ้ งไหห้ นา้ ตึก พอยา้ ยไปทาอนิ เดก็ ซ์ลฟี ว่งิ
มอลล์ เจอไฟไหมโ้ กดงั แลว้ พอมาทาทนี่ ี่ เจอกฬี าสี ชมุ นมุ ทางการเมือง อยู่ในเหตกุ ารณ์วกิ ฤตกิ ารเมืองทกุ
สี เหตกุ ารณว์ างระเบดิ ทว่ั กทม. บางทกี ็มีคนสงสยั ว่า เอ๊ะ เป็นเพราะพหี่ รือเปล่า (หวั เราะ)”

ปัจจบุ นั ส่วนหน่งึ ของภารกิจในความรบั ผิดชอบของคณุ นราทิพย์ คอื การดแู ลพนื้ ท่ี One Siam (กลมุ่ ธุรกิจ
ศนู ยก์ ารคา้ และอาคารสานกั งานของบริษัท) ทงั้ หมด 1 ลา้ นตารางเมตร พนกั งานของบรษิ ัทกวา่ 1,000 คน
เรยี กไดว้ ่า “พ่ีตมุ้ ” ของนอ้ ง ๆ ตอ้ งดแู ลรบั ผดิ ชอบคนกว่า 30% ขององคก์ ร งานท่รี บั ผิดชอบ เป็นงานท่ีตอ้ ง
บอกวา่ “ไมจ้ ิม้ ฟันยนั เรือรบ ”

“งานสายปฏิบตั กิ ารเราเร่มิ ตงั้ แตก่ ารดูแลรบั ผดิ ชอบการสรา้ งตกึ ตรงคอนเซปตท์ ีว่ างไวม้ ยั้ รา้ นคา้ เช่า
ออกแบบมาถกู ตอ้ งมยั้ สญั ญาทายงั ไง มอนเิ ตอร์จนกว่าเขาจะเปิดได้ คนของพที่ าตงั้ แต่หนา้ รา้ น รปภ. ที่
จอดรถ แม่บา้ น หนว่ ยชา่ ง ก่อสรา้ ง วตั ถุดบิ เซฟตี้ ดไี ซน์ ความสวยงาม เสยี งเพลง ลูกคา้ ไดร้ บั ความไม่
สะดวกตรงไหน หลงั โควดิ เตรยี มเปิดหา้ งตอ้ งเช็ดลา้ งตรงไหน ใครลมื ปิดแอร์ นา้ ไม่ไหล คนรอ้ งเรียนว่าเจอ
หนูในหา้ ง เหตดุ ว่ น เหตรุ า้ ย ศลิ ปินมา VIP ราชวงศเ์ ขา้ พนื้ ที่ เวลามีเรื่องอะไรใหม่ เฉพาะกจิ อะไรมา สรุป
พเี่ หมาหมด เราตอ้ งรูต้ อ้ งทราบ และจดั การใหผ้ ูเ้ ช่าพนื้ ที่ ลูกคา้ ผจู้ ดั งานมีความมน่ั ใจวา่ เราจดั ใหก้ าร
สนบั สนนุ ใหท้ กุ อยา่ งราบรนื่ อยใู่ นมาตรฐานในเรือ่ งการบริการและความปลอดภยั ทงั้ นกี้ ็เพอื่ ใหล้ ูกคา้ รกั
เชือ่ ใจ และกลบั มาหาเราอกี ”

การเป็นผบู้ รหิ ารท่ตี อ้ งทาหนา้ ท่ีไม่ต่างจาก ผรม.-ผรู้ บั เหมา ตงั้ แตห่ นา้ บา้ นไปยนั ทา้ ยครวั รบั ผิดชอบตงั้ แต่
ดาดฟ้ายนั ชนั้ ใตด้ ิน ทาใหแ้ นวคิดและมมุ มองในการเลือกคนทางาน เป็นอะไรท่ตี อ้ งเรียกวา่ ไมธ่ รรมดา

“คนทางานตรงนเี้ ซอร์วสิ มายดต์ อ้ งมาทหี่ นง่ึ แต่อาจจะมีคาแรคเตอร์ต่างกนั ได้ เช่น ถา้ คนตกึ นอี้ าจจะดูดี
หนอ่ ย เสอื้ ผา้ หนา้ ผมบคุ ลกิ ทนี่ า่ เชือ่ ถือเพราะตอ้ งคุยกบั ลูกคา้ คยุ กบั ผูเ้ ช่า สาหรบั พเี่ ป็นหรือไมเ่ ป็นงาน
เป็นเรอื่ งมาทหี ลงั เพราะเราเชอื่ ว่าทกุ อย่างสอนกนั ได้ แต่ขอความอึดสาหรบั บางแผนก เพราะคนนอก
อาจจะมองวา่ หา้ งฯ เปิดกลางวนั แต่จริง ๆ ตอนกลางคนื เราทางานบา้ เลอื ด ถา้ อเี วนท์พรุง่ นตี้ อ้ งกลายเป็น
กลว้ ยไมท้ งั้ ตกึ คนื นกี้ ็ไม่ตอ้ งนอนกนั หรือคนไหนเป็น รปภ. เราตอ้ งไวใ้ จได้ ในวนิ าทที ตี่ อ้ งการความ
ช่วยเหลอื สว่ นนคี้ ร่ึงหนง่ึ จงึ เป็นคนของบรษิ ทั เราเอง ทที่ างานชนดิ ทเี่ รียกวา่ พรอ้ มถวายหวั ”

เลา่ ไปขากนั ไปทงั้ คนพดู และคนฟัง แต่เอาเขา้ จรงิ ก็ตอ้ งบอกวา่ เป็นงานท่เี ขม้ ขน้ ทงั้ หลกั การและวิธีปฏิบตั ิ
เพราะสงิ่ ท่คี าดหวงั จากคนทางานนนั้ คือ เร่ืองของ Competence ความรู้ ทกั ษะ คา่ นิยมท่ีพนกั งานตอ้ งมี
เพ่อื การสรา้ งผลงานใหก้ บั องคก์ ร Committed to Excellence ความเต็มใจท่จี ะอทุ ิศตนเพ่อื ใหผ้ ลงาน


177

ออกมาดที ่สี ดุ รวมทงั้ Contribution หรอื ความรูส้ กึ วา่ ตนเป็นสว่ นสาคญั สว่ นหนง่ึ ขององคก์ ร ท่ไี ม่ใช่แค่
ทางานไปวนั ๆ เพ่อื ใหไ้ ดผ้ ลตอบแทนเท่านนั้

“สยามพวิ รรธนเ์ ป็นองค์กรทที่ าใหเ้ รารูส้ กึ ว่า เราทางานดว้ ยความภาคภมู ใิ จ พพี่ ดู กบั นอ้ ง ๆ ตลอดเวลาวา่
นคี่ อื บรษิ ัทของคนไทย ทมี่ ีเป้าหมายทจี่ ะตอ้ งทาเพอื่ ประเทศชาติ คนของพจี่ ะรูส้ กึ ฮกึ เหมิ เพราะมนั มที มี่ าที่
ไป เราผา่ นรอ้ นผา่ นหนาวมาดว้ ยกนั คนของเราอายงุ านเก่าสดุ 42 ปีบา้ ง 35 ปีบา้ ง อยู่กนั ดว้ ยความ
จงรกั ภกั ดี ไมใ่ ช่กบั ใครคนใดคนหน่งึ แต่คอื เป้ารวมว่าเราเป็นสว่ นหนง่ึ ทที่ าเพอื่ ร่วมกนั สรา้ งชือ่ เสยี งทดี่ งี าม
และเป็นฟนั เฟืองในการขบั เคลอื่ นเศรษฐกิจของประเทศ”

แมไ้ ร้ดาวบนบ่า แต่ต้องมากคา่ ศักดิศ์ รคี นทางาน

การมองเห็นความมีตวั ตนของพนกั งาน ถือเป็นพืน้ ฐานสาคญั สาหรบั ทกุ องคก์ ร แมจ้ ะเป็นเพยี งพนกั งาน
ตาแหน่งเลก็ ๆ กม็ ีสว่ นช่วยในการขบั เคล่ือนองคก์ รเช่นกนั ผบู้ รหิ ารท่ใี หค้ วามสาคญั กบั พนกั งานทุกคน
ดว้ ยความใสใ่ จ จรงิ ใจ จดจารายละเอียดของนอ้ ง ๆ ในทีมได้ การพดู จาทกั ทาย หรือกลา่ วช่นื ชม ทกุ อย่าง
เป็นสว่ นประกอบท่ชี ่วยสรา้ งความผกู พนั ใหเ้ กดิ ขนึ้ ภายในองคก์ รได้

“พจี่ ะพูดเสมอว่า คณุ เป็น รปภ. ทีด่ ที สี่ ดุ ในประเทศไทย ปลูกฝงั เขาทกุ วนั ว่าเขาคอื ทหี่ น่งึ ลา้ งคาวา่ ยาม
ออกจากหวั เขาใหไ้ ด้ เพราะมนั คอื คาที่ Look Down เขา มนั ไมใ่ ชใ่ ครเดินเขา้ มาแลว้ เป็นได้ มีหลกั สูตร
ตอ้ งเทรน ตอ้ งสอบ ไม่ไดผ้ า่ นง่าย ๆ รปภ. ทนี่ พี่ ดู ภาษาองั กฤษได้ พูดจนี ได้ รปภ.เรา จบตรี จบโท มหี มด

เราเรยี กเขาว่า ‘Intelligent Guard’ คณุ สมบตั เิ ป๊ ะ แตง่ ตวั หล่อเนยี้ บ มบี ตั รตดิ เลยว่าพดู ภาษาอะไรไดบ้ า้ ง
ทาเหมอื นโรงแรมเลย ถา้ คนทอี่ ยูช่ นั้ ทจี่ าหนา่ ยสนิ คา้ Luxury Brand ไปดเู ลย พูดภาษาองั กฤษฉอด ๆ
เวลาศลิ ปินดงั ระดบั โลกมา เขาจะรูว้ ่าตอ้ งคมุ คนยงั ไง ทงั้ หมดนคี้ ือเราสรา้ งคณุ คา่ ใหต้ วั เขาภมู ิใจในงาน
รปภ. บางคนมาตอนไมจ่ บ ม 6 เราใหเ้ รยี น กศน. ตอนนจี้ บปริญญาตรี เขามาบอกเราว่า ลูกภูมใิ จผมมาก
เลย พอ่ แก่ขนาดนแี้ ลว้ ยงั เรียนจนจบตรีได”้

นอกจากสรา้ งความภาคภมู ิใจใหค้ นทางานแลว้ สยามพวิ รรธนเ์ ป็นองคก์ รท่ชี ดั เจนในเรือ่ งของสวสั ดิการ
และคา่ ตอบแทน ในขณะท่ีบรษิ ทั ท่วั ไป อาจจะตอ้ งใหพ้ นกั งานซือ้ ชดุ เอง กระบอกไฟฉายจ่ายเอง ค่าอบรม
ตา่ ง ๆ เรียกเก็บจากคนทางาน แต่ท่ีน่ที กุ อยา่ งฟรี แถมยงั ไม่อนั้ กบั เรื่อง โบนสั กองทนุ สารองเลีย้ งชีพ สทิ ธิ
ประโยชนต์ ่าง ๆ รวมทงั้ คอรส์ ฝึกอบรมสารพดั ท่จี ดั กนั แทบจะทกุ ไตรมาสเลยกว็ ่าได้

“คนทางานทนี่ แี่ ทบจะไมม่ ี Turnover เพราะเราไมป่ ล่อยใหเ้ ขาคดิ ว่าไม่มที างไป เป็น รปภ. แลว้ ตนั อยแู่ คน่ ี้
ไมไ่ ด้ เราใหเ้ ขาเหน็ Career Path ชดั เจน เพราะเราขยายงานตลอดเวลา พอเปิดหา้ งใหมก่ ต็ ดั คนทมี่ ี


178

ประสบการณ์ไปเป็นหวั หนา้ เวลาไปตอ้ งไดโ้ ต ถา้ ไปไมโ่ ตเราไมใ่ หไ้ ป บางคนอยู่ 3 ปีจะเร่ิมเป็นซปุ เปอร์ไว
เซอร์ เร่มิ เป็นสเปเชยี ลลสิ ต์ เขาเหน็ เสน้ ทางอาชีพชดั พอไปเป็นโฟรแ์ มน เราสง่ ไปเรียนจรงิ จงั กบั ทหาร”

หลายคนอาจจะนึกไม่ออกว่า รปภ. มีอะไรใหต้ อ้ งเรียนมากมายขนาดนนั้ แต่คนในวงการจะรูก้ นั ดีว่า รปภ.
ทกุ วนั นี้ นอกจากจะกากบั ดแู ลเรือ่ งการรกั ษาความปลอดภยั แลว้ ยงั ตอ้ งมีทกั ษะเรอ่ื งการปฐมพยาบาล
การสงั เกตบคุ คล การอารกั ขาคนสาคญั การใชอ้ าวธุ การตอ่ สมู้ ือเปลา่ การเรียนรูท้ ่จี ะใชเ้ ครือ่ งมือส่ือสารท่ี
สมยั ใหม่ การเขา้ ใจขนั้ ตอนในการดบั เพลงิ ทงั้ หมดนีย้ งั ไมร่ วมเร่ือง สมรรถนะความพรอ้ มของร่างกาย
ซือ่ สตั ย์ ขยนั อดทน และสาคญั ท่สี ดุ คือตอ้ งมสี ิง่ ท่คี ณุ นราทิพยเ์ รียกว่า “ความรบั ผดิ ชอบสูง๊ งงง”

“เวลาคนไปหา้ งเหน็ รปภ. ยืนเฉย ๆ จรงิ ๆ อยใู่ นสายตาเขาหมดว่ามีใครหวิ้ ถงุ อะไรแปลก ๆ เขา้ มา เขา
ตอ้ งรูว้ ธิ ีเจรจาต่อรองถา้ เกิดเหตคุ นถกู จบั เป็นตวั ประกนั เวลามคี นวางระเบดิ ตอ้ งเคลียร์คนยงั ไง ลกู คา้
ตอ้ งออกประตูไหน เดก็ ตกี นั ในหา้ งตอ้ งทาอะไรก่อน เวลามขี ่าวคนโดดตกึ ในหา้ งฯ ทอี่ นื่ ทกุ คนตอ้ งไปทา
การบา้ นว่า ถา้ เราเจอบา้ งตอ้ งทายงั ไง เคลยี รพ์ นื้ ทีต่ รงไหนก่อน ตอ้ งประสานงานตารวจยงั ไง แลว้ ตอ้ งคดิ
เผอื่ พนื้ ทเี่ ราวา่ ตรงไหนคนจะโดดตกึ จะไดป้ ้องกนั ไวก้ ่อน เราเชิญทหารตารวจมาช่วยสรา้ งหลกั สตู ร ทาไป
ทามาเปิดโรงเรียนเองเลย ตอนนเี้ ลยรบั จา้ งสอนคนอนื่ ดว้ ย เอาทซ์ อสทจี่ ะมาหาเราตอ้ งผา่ นหลกั สูตรเรา
ก่อน”

ดว้ ยประสบการณก์ ารบรหิ ารจดั การอาคารในเครือท่ีมมี าอยา่ งยาวนาน ปัจจบุ นั สยามพวิ รรธนย์ งั ไดต้ งั้
บรษิ ัทย่อยขึน้ ทาหนา้ ท่บี รหิ ารจดั การอาคารระดบั โลกท่ใี หบ้ รกิ ารชนั้ เลิศแก่อาคารทกุ ประเภท ดาเนินงาน
โดยทมี งานมืออาชพี ท่เี พียบพรอ้ มดว้ ยประสบการณก์ ารปฏิบตั ิการท่ที า้ ทายและซบั ซอ้ นท่สี ดุ เพียบพรอ้ ม
ดว้ ยเครอ่ื งมือการฝึกอบรมท่ีโดดเดน่ เพ่อื ผลติ พนกั งานท่ไี วว้ างใจไดส้ าหรบั การปฏบิ ตั ิการทกุ ระดบั

จะพัฒนางานต้องเตรียมคน จะพัฒนาคนต้องเร่ิมทใี่ จ

ทกุ องคก์ รยุค 4.0 ต่างกพ็ ดู เป็นเสียงเดียวกนั วา่ ทรพั ยากรบคุ คลถือเป็นส่ิงสาคญั แต่ส่งิ ท่คี ณุ นราทพิ ยฉ์ าย
ภาพใหเ้ ห็นชดั กว่านนั้ คอื การท่ตี อ้ งมีกระบวนการในการทาใหพ้ นกั งานทางานดว้ ยความเตม็ ใจ มีความ
จงรกั ภกั ดี มี Loyalty ต่อองคก์ ร ช่วยรกั ษาผลประโยชนใ์ หบ้ รษิ ทั ช่วยลดค่าใชจ้ ่าย ช่วยตรวจสอบจดุ
ร่วั ไหลหรอื ความเสียหายท่ีอาจเกดิ ขนึ้ จากงาน โดยเตม็ ใจ ตงั้ ใจ และเช่อื สดุ หวั ใจวา่ ย่งิ ทาดีเท่าไร ผลดีก็จะ
ย่ิงเกิดกบั ทงั้ ตวั เองและองคก์ รเทา่ นนั้

“ก่อนอนื่ เราตอ้ งเขา้ ใจความรูส้ กึ ของพนกั งานกอ่ น สมมตุ พิ นกั งานขาย สมยั นดี้ ขี ึน้ แต่เมือ่ ก่อนมนั คอื
ตาแหนง่ ทถี่ กู คนดูถกู วา่ หางานทาไม่ไดถ้ งึ มาเป็นพนกั งานขาย แตเ่ ราสรา้ งใหเ้ ขาภูมใิ จในงานทที่ า เหน็
คณุ ค่าของงานทีท่ า พจี่ ะใชค้ าว่า อนิ เลฟิ ในงาน อนิ เลฟิ ในตวั สนิ คา้ อนิ เลฟิ ในลกู คา้ ถา้ เขารกั สามอย่างนี้


179

เขาจะขวนขวายมาบริการสดุ กาลงั เราตอ้ งปลูกฝงั บ่อย ๆ คยุ กบั คนทางานทกุ วนั ตอนเชา้ ตอ้ งใหก้ าลงั ใจ
บิว้ ดใ์ หเ้ ขาฮึกเหมิ กระฉบั กระเฉงตลอดเวลา”

อกี กลมุ่ คนทางานท่ไี ม่ค่อยมีใครเหน็ ตวั แอบทางานเงียบ ๆ แต่เก็บเรยี บทกุ จุด เป็นเฟืองสาคญั ท่ีทาใหท้ ุก
อย่างในตกึ ลื่นไหล น่นั คือกลมุ่ ท่ีคณุ นราทพิ ยเ์ รียกวา่ “กล่มุ บรกิ ารท่วั ไป”

“หนา้ ทสี่ ารพดั เหมือนกนั คมุ แม่บา้ นเอาทซ์ อส ดแู ลสต๊อคสนิ คา้ ทนี่ สี่ ามตกึ ใชก้ ระดาษทชิ ชเู ดอื นละลา้ น
ทกุ จดุ ตอ้ งมคี นดแู ล 1 ไม่ใหข้ าด 2 ไมใ่ หร้ ่วั ไหล แอลกอฮอลเ์ จลอยู่ตรงไหน เวลาเขาจดั งานมคี นเข็นเกา้ อี้
ลกู คา้ เราจะไมเ่ คยไดเ้ หน็ เกา้ อเี้ ปลอื ย เกา้ อเี้ ราตอ้ งมผี า้ คลมุ สวย ๆ แม่บา้ นตา่ งดา้ วจะถกู สอนใหใ้ ช้
เทคโนโลยี เวลาลูกคา้ สูบบหุ รี่ ลูกคา้ เขา้ ไปทาอะไรกนั ในหอ้ งนา้ สองคน เขามปี ่ มุ ใหก้ ด SOS จากมือถอื
แป๊ บเดยี วจะมีคนไปถงึ จดุ นนั้

พขี่ อเปรียบเหมือนรา้ นอาหารหรู ถา้ พนกั งานไมเ่ คยชมิ เอง จะรูไ้ ดไ้ งว่าอาหารอร่อย พเี่ ลยใชว้ ธิ สี ง่ พนกั งาน
ไปดู ไปเห็น ไปสมั ผสั กบั สถานทที่ มี่ ีมาตรฐานชนั้ นา นอกสถานที่ เช่น โรงแรมหรู หา้ งหรู รา้ นหรู ทไี่ หน
เปิดป๊ับเรากส็ ง่ คนไป พสี่ อนเขาอย่างนงึ เวลาไปดงู านขา้ งนอก อย่าไปดูว่าเขามีอะไรแยก่ ว่าเรา ใหไ้ ปดูว่า
เขามอี ะไรดกี ว่าเรา เราตอ้ งเปลยี่ น Mindset วธิ ดี งู าน สมยั กอ่ นเขาชอบพดู วา่ โอ๊ย อนั นเี้ ราดีกวา่ อนั นนั้
เราดกี ว่า แต่พใี่ หไ้ ปจบั ถกู ไมใ่ ชไ่ ปจบั ผดิ ถา้ เราไปดูว่าเขาดกี ว่าตรงไหน เพราะอะไร ทายงั ไง เราจะไดเ้ อา
มาพฒั นาต่อ

เวลาใครเปิดอะไรใหมค่ นพูดถงึ ทงั้ ประเทศ แบบนตี้ อ้ งไปดูละ พวกดูแลสขุ ากไ็ ปดูสขุ า พวก รปภ. ก็จะดูวธิ ี
จดั การระบบ การบรหิ ารทจี่ อดรถ ดูความปลอดภยั พวกทมี่ หี นา้ ทเี่ รื่องฟังก์ชน่ั การทางาน กไ็ ปดูเรือ่ งกล่นิ
อณุ หภมู ิ แสง เราใสใ่ จทกุ รายละเอยี ด ตอนนหี้ า้ งพารากอนเราขนึ้ แท่นสถานทเี่ ชค็ อนิ อนั ดบั 6 ของโลก

นอกจากนี้ เรายงั มี Management Trainee คดั พวกสมองเทพ ๆ ครมี ๆ เอามาทาโปรเจคเฉพาะ บางคนก็
โดนมอบหมายใหไ้ ปเดนิ พารากอน อาทติ ยน์ งึ เตม็ ๆ เดนิ กนั ทกุ ชนั้ ทกุ แผนก เสรจ็ แลว้ ทาการบา้ นมาสง่ ว่า
‘เราขาดอะไร’ ‘คณุ อยากเอาแบรนดไ์ หนเขา้ มา’ ไอเดยี บางคนกบ็ รรเจิดมาเลย เสนอม่วั ไมไ่ ดน้ ะ ตอ้ งมีคอน
เซปตม์ าชดั เจน คดิ เผอื่ ไปถงึ วา่ ตอ้ งมีกิจกรรมนนี่ ่นั สนกุ มาก”

แมส้ ยามพิวรรธน์ จะมีเครื่องมอื ในการพฒั นาบคุ ลากรมากมาย แต่ส่งิ สาคญั ท่สี ดุ ในความเหน็ ของผบู้ รหิ าร
ทา่ นนี้ ท่จี ะทาใหเ้ กิด New Normal หลาย ๆ ดา้ น รวมถงึ ดา้ นการพฒั นาคน ก็คือเร่ืองของ “การสื่อสาร”

“เรามีประชมุ ประจาสปั ดาห์ ประชมุ ประจาเดอื น ทกุ คนมีตารางใหต้ รวจงาน คุยกนั จนเหมอื นฝงั ชพิ เขา้ ไป
ในสมอง ยา้ ตลอดว่า ทคี่ ณุ ทาอยู่ ทคี่ ณุ ไปเรยี นตรงนตี้ รงนนั้ นคี่ อื โอกาสของคณุ นะ ทกุ อย่างคอื ความรูต้ ดิ
ตวั คณุ ไป คยุ อย่างเดยี วไม่พอ ยงั ตอ้ งทาใหเ้ ขาเหน็ คณุ ค่าในงาน


180

ถา้ เป็นคนทางานระดบั ใชแ้ รงงาน เราทา Orientation Program วนั แรกพูดเรือ่ งนกี้ ่อนเลย พนื้ ทีต่ รงนคี้ ือ
สถานทีศ่ กั ดสิ์ ทิ ธิ์ คนทาไมด่ ี คดิ ไมด่ ี พดู ไมด่ ี จะอยทู่ ีน่ ไี่ ม่ได้ ปฐมนเิ ทศทนี่ วี่ นั แรกใหไ้ ปไหว้ 5 ศาลก่อน
เป็นประเพณขี องเราทสี่ บื ทอดกนั เรามแี ผนกเทวะสมั พนั ธ์ รา้ นคา้ จะมาใหมต่ อ้ งไหวต้ รงไหน ใชไ้ กก่ ีต่ วั
ดอกไมส้ ีอะไร เขาจะรูส้ กึ ว่ามนั คอื เรือ่ งจริงจงั

เดก็ ทดี่ รู า้ นคา้ กเ็ ทรนเรื่องการดแู บบ ตอ้ งสอื่ สารกบั ลูกคา้ ตอ้ งคยุ ภาษาชา่ งได้ พวกพนกั งานทตี่ อ้ งดูแล
รา้ นคา้ ต่าง ๆ ตอ้ งดูตงั้ แต่ก่อนเปิดรา้ น ตอ้ งเทรนอะไร ระบบไฟ ระบบนา้ วธิ ีจดั การขยะของเราวนั ละ 25
ตนั ไมม่ มี หาวทิ ยาลยั ไหนสอนนะ ทงั้ หมดคอื องค์ความรูเ้ ฉพาะทางทงั้ นนั้ ทายงั ไงไม่ใหเ้ กดิ ปัญหาหนู มด
แมลงสาบ ก็ตอ้ งไปเชิญคนของเขตทีด่ ูแลเรือ่ งสง่ิ แวดลอ้ มมาสอน”

ฝึ กให้เข้ม เติมใหเ้ ต็ม แล้วตอ่ ยอดให้ไปตอ่

นอกจากกระบวนการพฒั นาคน โดยยดึ หลกั Self – Learning และ Continuous Learning แลว้ New
Model ในการพฒั นาพนกั งานของสยามพิวรรธน์ ยงั เนน้ ไปท่เี รือ่ งของการพฒั นาทงั้ ดา้ นทกั ษะ
ความสามารถ คอื Reskill การสรา้ งทกั ษะใหมๆ่ ท่ีตอบรบั กบั โลกในปัจจบุ นั มากขนึ้ และ Upskill ใหค้ วามรู้
เก่ียวกบั ทกั ษะใหมท่ ่ีสงู ขึน้ ใหก้ บั พนกั งาน รวมทงั้ Cross-Skill การเพ่ิมความรู้ ความสามารถในงานดา้ นอ่นื
ๆ นอกเหนอื จากงานประจา

“เวลาคนใหม่เขา้ มา บางคนด่านแรกกเ็ จอคาถามวดั ความสามารถในการใสใ่ จรายละเอยี ด เราถามว่า ‘ที่
เดนิ เขา้ มานี่ เลขาหนา้ หอ้ งพใี่ สเ่ สอื้ สอี ะไร’ พอสมคั รผา่ นมาได้ ก็ตอ้ งสง่ ไปเทรนเบอื้ งตน้ ประมาณ 2 เดอื น
ใชท้ กุ เครือ่ งมอื มที งั้ ระบบพเี่ ลยี้ ง มปี ระกบบดั ดี้ เรามพี แี่ ยกเป็นฟลอรล์ ะคน ใครดรู า้ นอาหารตอ้ งมาฝึกกบั
คนนเี้ ทา่ นนั้ เพราะคนดูรา้ นอาหารจะหนกั สดุ ตอ้ งผา่ นรา้ นแบบอนื่ มาก่อนถงึ มาดรู า้ นอาหารได้

OTJ เรามีตารางเรียนทงั้ 2 เดอื น วา่ เรียนอะไร พเี่ ลยี้ งมีหนา้ ทตี่ รวจเชค็ ลสิ ตว์ า่ คนใหม่เรยี นรูค้ รบหรือยงั
สมมตุ วิ นั นมี้ ีงานแกรนดโ์ อเพนนง่ิ ผูบ้ รหิ ารมายงั ไง ยนื มมุ ไหน ก็พานอ้ งไปดู ถา้ วนั นรี้ องเทา้ แบรนดด์ งั
เปิดตวั คนเขา้ ควิ หางแถวยาวลน้ ไปถงึ ขา้ งนอก กต็ อ้ งไปดูวธิ ีจดั ควิ ”

สยามพวิ รรธน์ ในช่วงท่ผี ่านมา (มค. – สค. 63) ใชเ้ วลาในการพฒั นาทรพั ยากรบคุ คลเฉล่ยี 461 ช่วั โมง/คน
โดยแยกเป็น การเรยี นแบบ Offline 201 ช่วั โมง/คน , การเรียนแบบ Virtual ผา่ นระบบ ZOOM และ MS
Teams 260 ช่วั โมง/คน ใชท้ งั้ การอบรมผา่ นระบบ e-Learning, On the Job Training, Classroom
นอกจากนยี้ งั มี Train the Trainer เช่น First Manager เดมิ เคยเป็นลกู นอ้ งไม่เคยเป็นนาย กต็ อ้ งผ่าน
หลกั สตู รสอนวธิ ีเป็นหวั หนา้ วธิ ีมอนเิ ตอรล์ กู นอ้ ง ซ่ึงทงั้ ผเู้ รยี นและผสู้ อนกต็ อ้ งไดร้ บั การประเมนิ หลากหลาย
รูปแบบ เชน่ การสอบวดั ความรู,้ การประเมินผลจากการปฏิบตั งิ าน, การมอบหมายงานใหม่


181

“ทนี่ ใี่ ชท้ กุ วธิ ีทเี่ ราจะทาใหเ้ ขาพฒั นาตวั เองมากขนึ้ Coaching, Mentor, Motivation, Role Model,
Ownership เราพูดเสมอวา่ เราไม่ไดแ้ ข่งกบั ใคร เรากาลงั แข่งกบั ตวั เอง ขนาดผูบ้ รหิ ารกย็ งั ตอ้ งแอคทฟี
ตลอดเวลา ไปต่างประเทศก็ตอ้ งไปดูวา่ มแี บรนดอ์ ะไรใหม่ตอ้ งเอาเขา้ มา เราจะมีเสยี งคอยกระตนุ้
ตลอดเวลาว่า ‘ตมุ้ ๆ ไปดูเรื่องนเี้ รือ่ งนนั้ หนอ่ ย’ เราอยูเ่ ฉยไมไ่ ดเ้ ลย

ทเี่ ราใชป้ ระโยชนไ์ ดม้ ากก็คอื เรียนรูจ้ ากการสรา้ งเนท็ เวริ ์ค สมาคมศนู ยก์ ารคา้ สมาคมรเี ทล ฯลฯ ตอ้ งฉก
ฉวยทกุ ความรูม้ าเพม่ิ ในงาน บางทบี ริษัทจะใหห้ วั ขอ้ มา วา่ ตอนนมี้ อี ะไรมาใหม่ บางอย่างกเ็ ป็นการเทรน
บางอย่างก็เกิดจากการมอบหมายงาน Job Enrichment ใหค้ นทมี่ ีความสามารถ ถา้ คณุ ยงั ขาด Skill ดา้ น
ไหน อะ งนั้ ไปเรียน สง่ ไปเทรน บางคนบ่นเลย ‘อบรมจนไมม่ ีเวลาทางาน’ เราก็ตอ้ งปรบั ตารางการทางาน
สรา้ ง Mindset ใหเ้ ขาเขา้ ใจ และเหน็ ถงึ ความสาคญั ในการอบรมหลกั สูตรนนั้ ๆ”

ความเป๊ ะเว่อรใ์ นเร่ืองพฒั นาคนขององคก์ รแหง่ นี้ ถกู ตงั้ มาตรฐานไวส้ งู เพราะเช่ือว่า ทุกคนมีศกั ยภาพใน
ตวั เองท่ีพรอ้ มจะถกู นามาใช้ ถา้ ไดผ้ ่านกระบวนการท่เี หมาะสม คณุ นราทพิ ยย์ งั ไดเ้ ปิดเผยถึงเคร่ืองมือใน
การกรองคนอีกเคร่อื งมือหนึ่ง คอื เร่ืองของการเอา Six Sigma เขา้ มาใชก้ บั คนท่ไี ดร้ บั มอบหมายโปรเจคใหม่
ๆ ซ่งึ เป็นแนวคิดและเทคนิคการพฒั นาคณุ ภาพสนิ คา้ และบรกิ าร ดว้ ยการปรบั ปรุงกระบวนการผลติ และ
กระบวนการทางาน และเป็นแนวคิดท่ไี ดร้ บั การยอมรบั อย่างกวา้ งขวาง อย่างนอ้ ย 2 ใน 3 ขององคก์ ร
ทงั้ หมดใน Fortune 500 ว่าสามารถลดงานท่บี กพรอ่ ง (Defect), ความสญู เปลา่ (Waste), และความไม่
แนน่ อน (Variation) ในกระบวนการไดจ้ รงิ

Siam Piwat Academy

ดว้ ยประสบการณก์ ารบรหิ ารจดั การอาคารท่สี ่งั สมกว่า 60 ปี สยามพิวรรธนไ์ ดน้ าองคค์ วามรูท้ งั้ หมดมา
จดั ตงั้ “สยามพิวรรธนอ์ คาเดม”ี สถาบนั แรกในประเทศไทยท่รี วบรวมทกุ แง่มมุ ของการบรหิ ารจดั การ
ศนู ยก์ ารคา้ และโครงการอสงั หารมิ ทรพั ย์ เพ่อื ถ่ายทอดความรูแ้ ละประสบการณท์ งั้ ภายในและภายนอก
องคก์ ร เป็นหลกั สตู รท่สี รา้ งขึน้ โดยไดร้ บั ความรว่ มมือจาก จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั และ
มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ โดยมงุ่ หวงั จะถ่ายทอดความรูแ้ ละความเช่ียวชาญในธรุ กจิ เพ่อื สง่ เสรมิ การ
พฒั นาศกั ยภาพบุคลากรในธรุ กจิ คา้ ปลกี และเพมิ่ ขีดความสามารถของคนไทยใหพ้ รอ้ มแขง่ ขนั บนเวทโี ลก

สยามพวิ รรธนอ์ คาเดมี ยงั มีทงั้ หลกั สตู รดา้ นการบรหิ ารจดั การศนู ยก์ ารคา้ (Shopping Mall Facility
Management) และการบรหิ ารจดั การอาคาร โครงการ สถานท่สี าธารณะ (Public Assembly Facility
Management) ปัจจบุ นั ไดเ้ ปิดหลกั สตู รอบรมสาหรบั ผบู้ รหิ าร ระยะสน้ั 3 เดือน เนือ้ หาในหลกั สตู ร
นอกจากจะไดร้ บั ฟังการบรรยายจากคณาจารย์ และวทิ ยากรผทู้ รงคณุ วฒุ แิ ลว้ ยงั สามารถเขา้ ชมการ
ดาเนนิ งานในสถานท่จี รงิ และยงั ไดร้ ว่ มกจิ กรรม Group Project ภายใตก้ ารแนะนาของวิทยากร


182

ลา่ สดุ สยามพิวรรธนย์ งั มแี ผนการท่จี ะยกระดบั การศกึ ษาสายอาชพี นี้ ใหป้ ระเทศไทยเป็นศนู ยก์ ลางการ
เรยี นรูด้ า้ นการบรหิ ารธุรกจิ ศนู ยก์ ารคา้ และการคา้ ปลีก ท่ี “ใหญ่ท่สี ดุ ในภมู ภิ าคอาเซยี น”

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

เครื่องมือท่ใี ช้ในการพัฒนาบคุ ลากร
• การฝึกอบรมในขณะทางาน (On the Job Training : OJT)
• การฝึกอบรมในหอ้ งเรยี น (Classroom Training)
• การสอนงาน (Coaching)
• โปรแกรมพ่เี ลีย้ ง (Mentoring Program)
• การเพ่มิ คณุ ค่าในงาน (Job Enrichment)
• การมอบหมายงาน (Delegation)
• การหมนุ เวียนงาน (Job Rotation)
• การใหค้ าปรกึ ษาแนะนา (Consulting)
• การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง (Self Learning)
• การดงู านนอกสถานท่ี (Site Visit)
• การฝึกงานกบั ผเู้ ช่ียวชาญ (Counterpart)
• การเปรียบเทียบกบั ค่แู ขง่ (Benchmarking)
• การประชมุ /สมั มนา (Meeting/Seminar)
• การใหท้ นุ การศกึ ษา (Scholarship)
• การใหค้ าปรกึ ษาดา้ นชีวติ การทางาน (Counseling)
• รว่ มมอื กบั สถาบนั การศกึ ษาเพ่อื พฒั นาหลกั สตู รท่ตี รงกบั ความตอ้ งการขององคก์ ร
• แผนพฒั นาบคุ ลากรเป็นรายบคุ คล (Individual Development Plan)
• จดั ทาหลกั สตู รการพฒั นาบุคลากรท่เี ป็นมาตรฐาน
• Simulation Game (เกมจาลองเสมือนจรงิ )
• การจดั ใหม้ ีการจดั การความรู้ (Knowledge Management)
• การมอบหมายโครงการท่ที า้ ทาย (Challenging Project) นอกเหนือจากงานประจา
• จดั ทา Personal Learning Cloud (คลาวดเ์ พ่อื การเรียนรูส้ ว่ นบุคคล)
• สรา้ ง Role Model ในดา้ นต่าง ๆ เพ่ือสรา้ งแรงบนั ดาลใจในการพฒั นาตนเองใหพ้ นักงาน


183

14) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยสี รุ นารี (มทส.) จดั ตงั้ ขึน้ เม่อื วนั ท่ี 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2533 ตามนโยบายกระจาย
โอกาสทางการศกึ ษาระดบั อดุ มศกึ ษาไปสู่ 5 ภมู ิภาค โดยในสว่ นภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือตอนลา่ ง ได้
เลอื กจงั หวดั นครราชสีมาซ่งึ มศี กั ยภาพและความพรอ้ มท่ีจะสนองความตอ้ งการของการพฒั นาประเทศใน
ภมู ภิ าคนี้ พรอ้ มเป็นประตสู ู่ อีสาน ลาว เขมร เวยี ดนาม และจนี ตอนใต้
มทส. วางบทบาทตวั เองเป็น มหาวทิ ยาลยั เฉพาะทางดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (University of
Technology) จดั การเรียนการสอนครอบคลมุ สาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยเี กษตร เทคโนโลยีสงั คม
วศิ วกรรมศาสตร์ แพทย์ พยาบาล ทนั ตแพทย์ สาธารณสขุ รวม 8 สานกั วชิ า มหี ลกั สตู รในระดบั ปรญิ ญา
ตรี 32 หลกั สตู ร ปรญิ ญาโท 34 หลกั สตู ร และปรญิ ญาเอก 28 หลกั สตู ร จานวนนกั ศกึ ษากว่า 17,000 คน
นอกจากการเป็นมหาวิทยาลยั ในกากบั ของรฐั (Public Autonomous University) แห่งแรกของประเทศไทย
แลว้ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีสรุ นารี ยงั เป็นมหาวทิ ยาลยั ท่มี คี ณาจารยค์ ณุ วฒุ ปิ รญิ ญาเอก คิดเป็นรอ้ ยละ
สงู ท่ีสดุ ในประเทศไทย (80.21%) และเป็นมหาวทิ ยาลยั ท่ีมีผลงานวิจยั ต่อหวั คณาจารยส์ งู ท่ีสดุ ของไทย
เป็นมหาวทิ ยาลยั ท่อี ายนุ อ้ ยท่สี ดุ ท่ไี ดร้ บั การรบั เลือกใหเ้ ป็น 1 ใน 9 มหาวิทยาลยั วิจยั แห่งชาติ และไดร้ บั
การจดั อนั ดบั การมงี านทาและศกึ ษาต่อของบณั ฑิต 96% ซง่ึ สงู ท่ีสดุ ในประเทศ
เสรภี าพ 3 ประการ ภารกิจหลกั 5 ประการ
มทส. มงุ่ เนน้ ความเป็นมหาวิทยาลยั ท่ียดึ ม่นั ในเสรภี าพ 3 ประการ คือ

1. เสรภี าพเชิงวิชาการ ทาให้ มทส. สามารถรบั นกั ศกึ ษาโดยใชร้ ะบบโควตา้ ท่เี ป็นการขยายโอกาสทาง
การศึกษาสเู่ ยาวชนในภมู ิภาคตา่ ง ๆ มากขนึ้ เปิดการเรียนการสอนในรูปแบบไตรภาค มีการจดั การสหกิจ
ศกึ ษาและพฒั นาอาชพี เพ่อื เสรมิ ประสบการณจ์ รงิ แก่บณั ฑิต สามารถเปิดหลกั สตู รท่เี ป็นท่ตี อ้ งการของ
ประเทศไดม้ าตรฐานและทนั ตอ่ ความตอ้ งการ ตอบสนองตอ่ การเขา้ สปู่ ระชาคมอาเซียนไดเ้ ป็นอย่างดี

2. เสรีภาพในการบรหิ ารจดั การ มทส. มรี ะเบยี บการบรหิ ารงานบคุ คลและระเบียบการบรหิ ารการเงนิ และ
ทรพั ยส์ นิ เป็นของตนเอง ตาม พรบ. มหาวทิ ยาลยั โดยมีคณะกรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิท่ปี ระกอบดว้ ย
บคุ คลภายนอกมากกวา่ ภายในเป็นกรรมการ การบรหิ ารงานบคุ คลท่เี ป็นอสิ ระนนั้ ทาให้ มทส. สามารถ
กาหนดอตั ราเงนิ เดือนและสวสั ดิการท่เี หมาะสมต่อภาระงานของคณาจารยแ์ ละบคุ ลากรไดอ้ ย่างลงตวั และ
แข่งขนั ไดก้ บั หน่วยงานต่าง ๆ ทาให้ มทส. สรรหาและรกั ษาบุคลากรท่ดี ีมีความสามารถใหเ้ ขา้ รว่ มทางาน
ไดม้ าก คณาจารยข์ องมหาวิทยาลยั จะไดร้ บั การคดั เลือกโดยคณะกรรมการท่เี ขม้ งวด มีอธิการบดีเป็น
ประธานและมีระบบประเมนิ ผลงานและติดตามอย่างใกลช้ ิด


184

3. เสรภี าพในดา้ นความรบั ผิดชอบต่อสงั คม มทส. มกี ารดาเนินงานดา้ น University Engagement และ
Social Enterprise อนั จะสง่ ผลตอ่ การดาเนนิ งานในภารกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะดา้ นพนั ธกิจสมั พนั ธก์ บั
องคก์ รชมุ ชนของมหาวิทยาลยั ใหร้ ุดหนา้ ซง่ึ มทส. ไดใ้ หค้ วามสาคญั กบั การเขา้ ไปมสี ว่ นรว่ มแสดงความ
รบั ผดิ ชอบต่อสงั คมในหลายระดบั โดยประกาศนโยบายการเป็น “สถาบนั คเู่ คยี งสงั คม” เพ่อื ม่งุ จะเป็น
สถาบนั แหง่ การเรียนรูท้ างดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยชี นั้ เลิศและเป็นท่พี ่งึ ของสงั คม

ศาสตราจารย์ ดร.วิจิตร ศรสี อา้ น นายกสภามหาวิทยาลยั เทคโนโลยสี รุ นารี ไดฉ้ ายใหเ้ ห็นภาพรวมของ
มหาวิทยาลยั และกลา่ วถงึ การเป็นองคก์ รท่ตี อ้ งประกอบไปดว้ ยภารกจิ 5 ประการ น่นั คือ

1. ผลิตและพฒั นากาลงั คนระดบั สงู ใหม้ มี าตรฐานท่สี อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการในการพฒั นา เศรษฐกิจ
และสงั คมของประเทศ

2. ดาเนินการศกึ ษา คน้ ควา้ วิจยั และพฒั นาองคค์ วามรูใ้ หม่ ใหส้ ามารถนาไปใชใ้ นการผลิตใหม้ คี ณุ ภาพ
และประสิทธิภาพ เพ่ิมความสามารถในการพ่งึ ตนเองและการแขง่ ขนั ในระดบั นานาชาติ

3. ใหบ้ รกิ ารทางวชิ าการแก่หน่วยงานต่าง ๆ ทงั้ ภาครฐั และเอกชน ใหค้ าปรกึ ษาและแนะนาการวจิ ยั และ
พฒั นา การทดสอบ การสารวจ รวมทงั้ การฝึกอบรมและพฒั นา อนั ก่อใหเ้ กิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีท่ี
จาเป็นและเหมาะสม เพ่อื การพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมของประเทศชาติ

4. อนรุ กั ษแ์ ละฟื้นฟศู ิลปะและวฒั นธรรม อนั เป็นจารีตประเพณี รวมทงั้ ศิลปะบรสิ ทุ ธิ์และศิลปะประยกุ ต์
เพ่อื ใหม้ หาวิทยาลยั เป็นศนู ยร์ วมของชมุ ชนและเป็นแบบอย่างท่ดี ีของสงั คม

5. ปรบั แปลง ถา่ ยทอด และพฒั นาเทคโนโลยี เพ่ือการพฒั นาประเทศ

“ไมว่ า่ จะเป็นธุรกิจเอกชน หรือเป็นสถาบนั การศกึ ษา ตา่ งก็มจี ุดม่งุ หมายทตี่ อ้ งทาใหบ้ รรลุ แต่ความ
แตกตา่ งคือ มหาวทิ ยาลยั ตอ้ งบรรลเุ รอื่ งการพฒั นาคน ตอ้ งผลติ ผลงานทางวชิ าการ และตอ้ งเป็นแหลง่
ความรูท้ เี่ ป็นประโยชน์ ความรูน้ นั้ ไมค่ วรจะตกกบั คนทเี่ ขา้ ไปศกึ ษาเทา่ นนั้ แต่ตอ้ งใหป้ ระโยชน์กบั
ประชาชนดว้ ย รวมทงั้ เป็นองคก์ รทมี่ กี ระบวนการสรา้ งคนใหม้ วี ฒั นธรรม เพราะสว่ นประกอบของความ
เป็นคนทสี่ มบูรณ์ ตอ้ งมที งั้ ความรูแ้ ละวฒั นธรรม”


185

พฒั นาคนบนเป้าหมายของการทางาน

“เมือ่ จะพฒั นาบคุ ลากร ผมจะใชง้ านเป็นตวั ตงั้ ว่าองคก์ รนตี้ อ้ งทาอะไร ธรุ กจิ ทว่ั ไปอาจจะมองเรอื่ งผลกาไร
แต่มหาวิทยาลยั เป็น Non-Profit เรามองวา่ เรื่องคนมีความสาคญั เป็นปจั จยั ทีห่ นง่ึ ทมี่ หาวทิ ยาลยั ตอ้ งทมุ่ เท
ตอ้ งมองหาคนทมี่ ปี ระสบการณ์ มคี วามสามารถ สะสมคนเหล่านเี้ พอื่ เป็นพลงั ขบั เคลอื่ น ใชว้ ธิ ีการตา่ ง ๆ
ทจี่ ะทาใหค้ นเกง่ ทเี่ ขา้ มาอยู่ เจรญิ เตบิ โตในดา้ นวชิ าการ เพอื่ จะไดข้ ยายผลไปสสู่ งั คม”

ศ.ดร.วิจิตร ศรีสอา้ น ไดก้ ลา่ วถึงสายงานของมหาวทิ ยาลยั ท่ปี ระกอบดว้ ยบคุ ลากร 3 ประเภท ดงั นี้

1. สายวิชาการ ไดแ้ ก่ ศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ อาจารย์ นกั วิจยั ทาหนา้ ท่ี
สอน วจิ ยั บริการวิชาการ ทานบุ ารุงศลิ ปวฒั นธรรม และพฒั นานกั ศกึ ษา

2. สายบริหาร มี 3 ระดบั คือ ระดบั สงู ระดบั กลาง ระดบั ตน้

3. สายสนบั สนนุ ไดแ้ ก่ กลมุ่ สนบั สนนุ วชิ าการ กลมุ่ วชิ าชีพเฉพาะ กลมุ่ สนบั สนนุ ท่วั ไปและงานธรุ การ

“หนา้ ทขี่ องเราคอื การทาตามภารกจิ 5 ดา้ น และตอ้ งบริหารบคุ คลากรอย่างนอ้ ย 3 กล่มุ ทมี่ ลี กั ษณะ
แตกตา่ งกนั เวลาพฒั นาคนก็ตอ้ งทาควบคกู่ นั ไปทงั้ 3 กล่มุ ใหเ้ ขาไดโ้ อกาสเติบโตไมแ่ พก้ นั บางครงั้ กจ็ ะ
เกิด Pain Point คอื บางกลุ่มมกั จะขดั แยง้ กนั เกิดความรูส้ กึ ไดเ้ ปรียบเสยี เปรยี บ ทาไมกลมุ่ นนั้ ไปไดเ้ รว็
กว่า แต่เขาไมไ่ ดด้ ูวา่ ลกั ษณะงานมนั ตอ้ งใชค้ นแบบไหน คนยุคประชาธิปไตยอะไรก็ตอ้ งโหวตตอ้ งนบั
คะแนนเสยี ง ก็เลยเกิดความขดั แยง้ ขนึ้ หาว่าไม่เคารพเสียงสว่ นใหญ่ ทงั้ ที่ ๆ มนั ไมใ่ ช่ระบบเลอื กตงั้ ”

ผวู้ างแผนจดั ทาโครงการจดั ตงั้ มหาวทิ ยาลยั แห่งนี้ ไดก้ ลา่ วยอ้ นอดีตไปถึงแนวคดิ ในการจดั ตงั้
สถาบนั อดุ มศกึ ษาในกากบั ของรฐั ท่มี ีการบรหิ ารการจดั การอิสระแยกจากระบบราชการ ไดร้ บั เงนิ อดุ หนนุ
ท่รี ฐั จดั สรรใหโ้ ดยตรงบางสว่ น และตอ้ งหารายไดด้ ว้ ยตนเอง เพ่อื ใชจ้ ่ายตามความจาเป็นในการดาเนินการ
ตามวตั ถปุ ระสงคข์ องมหาวทิ ยาลยั และเพ่อื สรา้ งคนท่มี คี ณุ ภาพใหต้ รงกบั ความตอ้ งการของสงั คม

“เวลาจะทาอะไร ตอ้ งดูความตอ้ งการก่อน แลว้ ดวู า่ เราจะตอบสนองจุดนนั้ อยา่ งไร เราจะสรรหาคนมาช่วย
แบบไหน ถา้ จะผลติ นกั ศกึ ษา ก็ตอ้ งไปดคู วามตอ้ งการของผใู้ ช้ เชน่ อตุ สาหกรรมตา่ ง ๆ เขาตอ้ งการใชค้ น
แบบไหน ตอ้ งมีความรูแ้ บบไหน ถา้ เราฟังตรงนใี้ หม้ าก ใชต้ วั นเี้ ป็นตวั ตงั้ เรากจ็ ะไดค้ นทมี่ าทางานที่
เหมาะสม พอเขามาแลว้ เรากต็ อ้ งมวี ธิ พี ฒั นาคน

มหาวทิ ยาลยั เทคโลยสี รุ นารี เป็นมหาวทิ ยาลยั ในกากบั ของรฐั แห่งแรกของประเทศไทย ซ่ึงแตกตา่ งจาก
มหาวทิ ยาลยั ในราชการ คอื เขาใหอ้ านาจจดั สรรเงนิ ทไี่ ดถ้ อื เป็นรายไดท้ งั้ หมด บอร์ดของมหาวทิ ยาลยั


186

เทคโนโลยสี รุ นารกี ็ตอ้ งมาดแู ล คนทีท่ างานกจ็ ะเป็นพนกั งานมหาวทิ ยาลยั ทงั้ หมด ซ่งึ ปลอดจาก
กฎระเบียบขอ้ บงั คบั ของราชการโดยสนิ้ เชงิ ความตา่ งนีค้ ือนยั ยะดา้ นการบริหาร

เชน่ บา้ นเมืองตอนนนั้ ขาดแคลนองคค์ วามรู้ และกาลงั คนดา้ นทางวทิ ยาศาสตรเ์ ทคโนโลยี เราตดั สนิ ใจ
เป็นมหาวทิ ยาลยั เฉพาะทาง ไม่สอนสาขาสงั คมศาสตร์ มนษุ ยศ์ าสตร์ มนั มเี กนิ พอแลว้ หนั มาสอนสาขา
วทิ ยาศาสตร์ สาขาเทคโนโลยที ขี่ าดแคลน ถา้ มหาวทิ ยาลยั ทว่ั ไปตอ้ งมีภารกิจ 4 ประการ ของเราก็จะมี
ภารกิจที่ 5 เพม่ิ เขา้ มา คอื การปรบั แปลงและถ่ายทอดเทคโนโลยี จะตอ้ งถอื เอาแนวคิดว่าเทคโนโลยเี พอื่
การพฒั นามาเป็นคยี เ์ วริ ด์

ตงั้ แต่วนั แรกทีต่ งั้ มหาวทิ ยาลยั แห่งนเี้ รากเ็ ห็นแลว้ ว่า มกี ารขาดแคลนอาจารยเ์ ฉพาะทางเป็นอย่างมาก ถา้
เราใชว้ ธิ ีพฒั นาแบบราชการ คอื เลยี้ งตอ้ ย บรรจคุ นจบปริญญาตรมี าก่อน แลว้ ค่อยสง่ ไปเรยี น กวา่ จะ
กลบั มา บางคนไม่กลบั หรอื กลบั มาแลว้ ไปอยู่ทอี่ นื่ มทส. เลยมนี โยบายตงั้ แต่ตน้ วา่ ไม่เลยี้ งตอ้ ย ใครจะมา
ตอ้ งจบปรญิ ญาเอกมาเท่านนั้ หรือถา้ จบปริญญาโทมา กเ็ ปิดช่องไวว้ า่ ตอ้ งเป็นโททเี่ รียนเอกได้ ทงั้ หมดนี้
เพอื่ ทเี่ ราจะไดไ้ มต่ อ้ งไปใชท้ รพั ยากรไปพฒั นาคนก่อนใชง้ าน เราอยากใชง้ านก่อนแลว้ คอ่ ยพฒั นา หรือ
พฒั นาไม่ตอ้ งมาก แตม่ าเพ่มิ สมรรถนะบางเรือ่ ง เช่น อาจารยส์ อนหนงั สอื ไมเ่ ป็น เก่งวชิ าการจนเป็นเอก
ใครก็อยากได้ แตบ่ างคนสอนไม่เป็น สอนแบบทตี่ วั เคยถูกสอนมากกวา่ ทจี่ ะรูว้ ธิ สี อน เพราะแตล่ ะศาสตร์
มนั มวี ธิ ที จี่ ะสอนเฉพาะศาสตร”์

Great Teacher is the Beginning of Great University

สง่ิ แรกท่ี ศ.ดร.วิจิตรทาก่อนสรา้ งมหาวิทยาลยั ในกากบั ของรฐั นี้ ก็คอื การสารวจองคป์ ระกอบแวดลอ้ ม
โดยเฉพาะบรรดามหาวิทยาลยั อ่นื ทงั้ ในและต่างประเทศ และไดพ้ บวา่ ถา้ เราสรา้ งมหาวทิ ยาลยั แบบเดิมจะ
ไมส่ ามารถเทยี บเคยี งกบั มหาวทิ ยาลยั ในตา่ งประเทศท่มี ีลกั ษณะเฉพาะตวั ได้ เพราะระบบของแตล่ ะ
ประเทศนนั้ มีความแตกตา่ งกนั ในขณะท่ถี า้ เทียบเคยี งกับมหาวทิ ยาลยั ของรฐั อ่นื ในประเทศดว้ ยกนั ก็ยงั ไม่
มมี หาวิทยาลยั ไหนท่ีมีรูปแบบการบรหิ าร โดยเฉพาะเร่อื งค่าตอบแทนท่แี ตกต่างในการท่ีจะเป็นท่รี วมของ
ผสู้ อนท่มี ีความเป็นเลิศทางวิชาการได้ มหาวิทยาลยั เอกชนในสมยั นนั้ กเ็ พิ่งจะเรม่ิ มี

“ถา้ เราทาแบบราชการไมม่ ีคนไหนมาหรอก เราอยู่ตา่ งจงั หวดั ดว้ ย สาขาทเี่ ปิดสอนเป็นสาขาขาดแคลน
ดว้ ย ขอ Benchmark กบั มหาวทิ ยาลยั ดว้ ยกนั ยงั ไมไ่ ดเ้ ลย เราพบว่ารฐั วสิ าหกิจเขาใหค้ า่ ตอบแทนสูงกว่า
ราชการ 25 % แต่เขามสี วสั ดกิ าร งนั้ เราไมเ่ ทยี บ ตอนนนั้ ผมรูแ้ ค่ว่าต่ากวา่ รฐั วสิ าหกิจไม่ได้ เลยไปเทยี บ
กบั ธรุ กิจเอกชน เลือกดูอนั ทมี่ สี ถาบนั วจิ ยั เช่น ปนู ซีเมนตไ์ ทย เทียบกบั เขาว่า ถา้ เราตอ้ งการคนวฒุ ิ
เดยี วกนั ประสบการณเ์ ท่ากนั เร่มิ ตน้ เขาใหค้ นจบปริญญาเอก 50,000 บาท นคี่ อื เมอื่ 30 ปีก่อน แลว้ ผมก็
มาดวู า่ ราชการใหไ้ ม่ถงึ หมนื่ คอื ได้ 9 พนั กวา่ รฐั วสิ าหกิจใหอ้ กี 25 % เพ่มิ เป็น 12,000 เอกชน 5 หมืน่


187

ผมมาน่งั คานวณแลว้ วา่ เราจะใหบ้ า้ นพกั สวสั ดกิ าร ความสะดวกในการไปอยูท่ ีโ่ คราช เงนิ สตารท์ ที่ 30,000
บาท ซ่งึ เมือ่ 30 ปีทแี่ ลว้ ถอื ว่าเหนอื กวา่ คร่งึ หน่งึ ของบริษัทเอกชน แลว้ ก็ใชว้ ธิ เี สาะหาคนทจี่ ะมาเป็นผนู้ า
มองหาตามหนว่ ยราชการทมี่ คี นอย่ใู นสาขาทเี่ ราตอ้ งการ เร่ิมดงึ คนเก่ง ๆ บางคนเป็นดอกเตอร์จาก
กระทรวงเกษตรฯ ผลงานมาเยอะอยูแ่ ลว้ มาอยมู่ หาวทิ ยาลยั แค่ 2-3 ปีก็ยนื่ ขอตาแหนง่ ศาสตราจารยไ์ ด้
เลย บางคนมาจากสหรฐั อเมริกา จากนาซ่ากม็ ี จากกองทพั อากาศอีก 3 คน เนน้ เจาะหาคนทเี่ ขาจบ
ปรญิ ญาเอก มาแลว้ ไม่ตอ้ งเร่มิ ตน้ ใหม่ ตอ่ ยอดไดเ้ ลย กเ็ ลยไดค้ นมาสองระดบั ระดบั มาใหม่ไฟแรงอยาก
ทางาน กบั ระดบั ทมี่ ีผลงานเป็นทยี่ อมรบั ”

ดว้ ยวิสยั ทศั นท์ ่เี นน้ การสรา้ งมลู ค่าเพม่ิ ใหอ้ งคก์ ร ทาให้ มทส. เป็นมหาวิทยาลยั ท่เี ปิดสอนปรญิ ญาตรีแตม่ ี
อาจารยจ์ บปรญิ ญาเอกมากท่สี ดุ ในประเทศตงั้ แต่วนั เปิดตวั ถงึ รอ้ ยละ 70 ศ.ดร.วิจิตรบอกว่า การเร่มิ ตน้
ดว้ ยการคดั เลือกบุคลกรอย่างเขม้ ขน้ ทาใหเ้ บาแรงในการพฒั นาคนไปไดม้ าก ขอ้ สาคญั คือ มทส.ยงั เป็น
องคก์ รท่วี างแนวทางในการเตบิ โตของบคุ ลากรสายวิชาการท่ที นั สมยั และตรงความตอ้ งการของ
ผปู้ ฏิบตั ิงาน

“บคุ ลากรเรามาดตี งั้ แตแ่ รก ทาใหก้ ารพฒั นาเขากไ็ ม่ตอ้ งพูดอะไรกนั มาก เราเปิดโอกาสใหเ้ ขากา้ วหนา้
ขอ้ ดคี อื ตาแหนง่ ทางวชิ าการก็ขนึ้ ไดท้ กุ คน ถา้ ผลงานทางวชิ าการเขา้ เกณฑ์ ไดม้ าตรฐาน กข็ นึ้ ตาแหนง่
ศาสตราจารยไ์ ดเ้ ลย วธิ นี ที้ าใหเ้ ราเป็นมหาวทิ ยาลยั ทพี่ งุ่ แรงมากในช่วงสบิ ปีแรก พอปีที่ 18 กไ็ ดเ้ ป็น
มหาวทิ ยาลยั วจิ ยั แห่งชาติ เร็วกว่าทีอ่ นื่ ซ่งึ เขาตอ้ งใชเ้ วลากนั อย่างต่าคร่ึงศตวรรษ ปัญหาของทนี่ จี่ ึงไมใ่ ช่
ปัญหาหาคนไม่ได้ แตเ่ ราจะทาอย่างไรใหม้ กี ารพฒั นาคนใหต้ ่อเนอื่ ง เราจงึ สรา้ งหลกั สูตรพฒั นาผูบ้ ริหาร
ระดบั กลาง และทนี่ เี่ ป็นมหาวทิ ยาลยั แหง่ เดยี วในไทยทมี่ ีสถานพฒั นาคณาจารย”์

สถานพฒั นาคณาจารย์ (Faculty Development Academy) เป็นโครงการพฒั นาคณาจารย์ ใหไ้ ดร้ บั การ
พฒั นาทกั ษะและสมรรถนะวิชาชีพใหส้ อดคลอ้ งกบั การพฒั นาประเทศไทย กจิ กรรมท่ีจดั กนั แทบไมเ่ วน้ แต่
ละวนั เชน่ การใหค้ าปรกึ ษาดา้ นการสอนโดยผทู้ รงคณุ วฒุ ิ การวิจยั ดา้ นการสอน การจดั อบรมอาจารยม์ ือ
อาชีพสาหรบั อาจารยม์ อื ใหม่ การเขียนแผนการสอน อบรมเร่อื งการออกขอ้ สอบ การทาสอ่ื การสอน
Learning by Doing เทคนิคการสอนออนไลนผ์ า่ นโปรแกรม Zoom Cloud Meeting เป็นตน้

“สมยั แรก ๆ เราจะมี Workshop เสริมใหอ้ าจารยม์ สี มรรถนะเพ่มิ ขนึ้ ตอนทผี่ มจะแจกโน๊ตบุ๊คใหก้ บั
อาจารย์ ผมรูว้ า่ อาจารยบ์ างคนใชไ้ ม่เป็น ผมก็จะบอกว่า ใครใชเ้ ป็นมารบั ไปเลย แตต่ อ้ งไปผา่ นการ
ทดสอบทีศ่ ูนย์คอมพวิ เตอร์มากอ่ น เรามีเทรนนง่ิ ใหส้ อนจนเป็น หรืออาจารย์บางท่านออกขอ้ สอบไมเ่ ป็น
ออกขอ้ สอบไม่มปี ระสทิ ธิภาพ ออกขอ้ สอบใหเ้ กดิ การสงั เคราะห์ วเิ คราะห์ ประเมิน ไม่ได้ อาจารย์
มหาวทิ ยาลยั สว่ นหน่งึ ชนิ กบั ขอ้ สอบทเี่ คยถูกทามา ก็เอาไปทาตอ่ ของแบบนกี้ ็ตอ้ งสอนกนั ใหม่หมด บาง


188

วชิ าทเี่ ดก็ ตกเยอะ เราเอามาขนึ้ จอดูกนั เลยว่าวชิ านที้ าไมเดก็ ทาไม่ได้ วชิ านที้ าไมเกรดเฟอ้ ถกเถยี งกนั วา่
เพราะขอ้ สอบหรอื เพราะคนสอน แลว้ ก็แกป้ ัญหาทีต่ รงจุด”

ยกระดับมาตรฐานวิชาชีพสูค่ วามเป็ นเลิศ

อกี สง่ิ หนึง่ ท่นี บั เป็นความภาคภมู ิใจของมหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีสรุ นารี คือการรเิ รม่ิ การพฒั นาดา้ นการ
จดั การเรียนการสอนตามมาตรฐานสากล อนั เกิดจากความรว่ มมอื กบั สถาบนั The Higher Education
Academy (HEA) จากประเทศองั กฤษ ซง่ึ ปัจจบุ นั เปลยี่ นช่ือเป็น Advance Higher Education (AHE) เป็น
โครงการท่เี สรมิ สรา้ งบุคลากรของมหาวทิ ยาลยั ใหเ้ ป็นผมู้ ีความรูค้ วามสามารถในการถา่ ยทอดองคค์ วามรู้
ดา้ นการจดั การเรยี นการสอน ท่เี ป็นมาตรฐานและสอดคลอ้ งตามกรอบมาตรฐานวิชาชีพดา้ นการสอนของส
หราชอาณาจกั ร UK Professional Standards Framework (UKPSF) ซ่งึ แบ่งระดบั วิทยฐานะดา้ นการสอน
เป็น 4 ระดบั ไดแ้ ก่

(1) Associate Fellow ระดบั ของคณาจารย/์ บคุ ลากรสายสนบั สนนุ ดา้ นการเรียนการสอน ท่เี พ่ิงเร่มิ
ประสบการณใ์ นการสอนหรือมสี ว่ นในการสนบั สนนุ ใหเ้ กิดการเรียนการสอนท่มี ีประสิทธิภาพ
(2) Fellow ระดบั ของคณาจารยผ์ ทู้ ่มี ีประสบการณก์ ารสอน ซง่ึ เป็นผทู้ ่นี าองคค์ วามรูแ้ ละเทคนิควิธีการสอน
ตา่ ง ๆ มาใชใ้ นการจดั การเรียนการสอนของตนไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ
(3) Senior Fellow ระดบั ของคณาจารยผ์ มู้ ีประสบการณก์ ารสอน มีองคค์ วามรู้ ใชเ้ ทคนิควิธีการสอนท่มี ี
ประสิทธิภาพ และใหค้ าปรกึ ษา/แนะนาแก่คณาจารยท์ ่านอ่นื ๆ ในการพฒั นาตนดา้ นการสอน
(4) Principal Fellow ระดบั ของคณาจารยผ์ มู้ ีประสบการณก์ ารสอน มอี งคค์ วามรู้ ใชเ้ ทคนิควิธีการสอนท่มี ี
ประสิทธิภาพ ใหค้ าปรกึ ษา/แนะนาแก่คณาจารยท์ ่านอ่นื ๆ ในการพฒั นาตนดา้ นการสอน และเป็นผทู้ ่มี ี
สว่ นในการกาหนดแนวทาง/ขอบข่ายนโยบายเพ่ือการพฒั นาคณาจารยท์ งั้ ในระดบั ชาตแิ ละนานาชาติ

ปัจจบุ นั มีคณาจารยข์ องมหาวิทยาลยั เทคโนโลยสี รุ นารไี ดร้ บั การรบั รองในระดบั ตา่ ง ๆ รวมทั้งสนิ้ 72 ท่าน
ประกอบดว้ ย ระดบั Principal Fellow 1 ท่าน Senior Fellow of HEA จานวน 21 ท่าน ระดบั Fellow of
HEA จานวน 26 ทา่ น และระดบั Associate Fellow of HEA จานวน 24 ทา่ น ซง่ึ ถือไดว้ ่าเป็นมหาวทิ ยาลยั
ของประเทศไทยแหง่ แรกท่มี ีคณาจารยท์ ่ไี ดร้ บั การรบั รองวิทยฐานะดา้ นการสอนตามมาตรฐานวชิ าชีพดา้ น
การสอน UKPSF

“สถาบนั นที้ าอยา่ งเดยี ว คอื พฒั นาหลกั สูตรการฝึกอบรมใหอ้ าจารยส์ อนเป็น ใชค้ าวา่ ‘มคี วามเป็นครู’ เพอื่
การสอนและสนบั สนนุ การเรียนรู้ วธิ นี ที้ าให้ 99 % ของอาจารยท์ อี่ งั กฤษแสนกว่าคน เป็นผูส้ อนทมี่ ี
คณุ ภาพ ทาใหอ้ งั กฤษกลายเป็นแหลง่ ทคี่ นแห่ไปเรียนสูงสดุ แซงหนา้ สหรฐั อเมริกา มนั ไม่เกยี่ ววา่ วชิ าการ


189

ใครดไี ม่ดี แตม่ นั คอื วธิ ีสอน วธิ กี ารทางานกบั นกั ศกึ ษา เทคนคิ ทใี่ ชใ้ นการถ่ายทอดความรู้ เป็น Soft Skill ที่
คนเป็นอาจารยต์ อ้ งมี

มทส. เหน็ ว่านา่ สนใจและเขาใชม้ าแลว้ ไดผ้ ล กไ็ ปสมคั รเป็นเมมเบอร์ เอาระบบของเขามาใช้ ทาใหต้ อนนี้
เรามีคณาจารยผ์ ไู้ ดร้ บั การรบั รองวทิ ยฐานะตามกรอบมาตรฐานวชิ าชพี ดา้ นการสอน UKPSF หลายสบิ คน
ตอนนที้ งั้ ประเทศเรามี Principal Fellow 3 คน ผมเป็นหน่งึ ในสามและเป็น Principal Fellow คนแรกของ
ประเทศไทย

สง่ิ ท่นี ่าสนใจสาหรบั การพฒั นากรอบมาตรฐานวชิ าชีพดา้ นการสอน UKPSF ก็คือ ผเู้ รียนตอ้ งสอบใหผ้ ่าน
ดว้ ยการเขยี น RAP (Reflective Account of Practice) ซง่ึ อ.วจิ ิตรไดเ้ ป็นผบู้ ญั ญัติศพั ทข์ องเทคนคิ นไี้ ด้
อย่างกระจ่างท่สี ดุ ว่า “บทวิเคราะหส์ ะทอ้ นคิด”

บทวิเคราะหส์ ะทอ้ นคิด คอื การเรยี นรูจ้ ากประสบการณ์ ซ่งึ การวิเคราะหส์ ะทอ้ นคิดจะตอ้ งเป็นการปฏิบตั ิ
อย่างต่อเน่ืองและเป็นระบบ บนพนื้ ฐานของความเช่อื ความรู้ ในสถานการณน์ นั้ เพราะประสบการณเ์ พียง
อย่างเดียวไมส่ ามารถนาไปส่กู ารเรยี นรูไ้ ด้ ตอ้ งอาศยั การวิเคราะหส์ ะทอ้ นคิดจากประสบการณน์ นั้ จน
นาไปสกู่ ารเขา้ ใจอย่างถอ่ งแท้ และประกอบดว้ ย การมีส่วนรว่ ม การตงั้ คาถามใหร้ ูถ้ ึงสมมตุ ิฐาน ส่ิงท่ีรูแ้ ลว้
พิจารณาใสใ่ จในความหมายท่เี ป็นนยั สาคญั และสืบคน้ หาคาตอบ เป้าหมายของการสะทอ้ นคิด คอื เพ่ือ
พฒั นาศกั ยภาพใน 3 ดา้ น คือ ความรู้ (Knowledge) ทกั ษะ (Skills) และทศั นคติ (Attitude)

“แบบทเี่ คยไดย้ นิ เรื่อง สุ จิ ปุ ลิ บางคนฟงั ไมเ่ ก่ง คดิ ไม่ค่อยคิด ถามไม่ค่อยถาม ลขิ ติ ออ่ นมาก ทงั้ ๆ ที่
ขอ้ เทจ็ จริงมอี ยู่ว่า เวลาเราทาอะไร ตอ้ งเขยี นมนั ออกมาใหไ้ ด้ มนั จะอยูก่ บั เราลกึ ทสี่ ดุ เหมอื นทญี่ ีป่ ่ นุ ใช้
เทคนคิ การเขียนทกุ อย่างใหไ้ ม่เกินสามหนา้ กระดาษ เดยี๋ วนเี้ ป็นศาสตรท์ คี่ นนยิ มไปท่วั เพราะในบรรดา
ทกั ษะการ ฟงั พูด อา่ น เขียน การเขียนคือส่งิ สะทอ้ นความเขา้ ใจ เขา้ ถงึ และ ติดยึด ถา้ เราเขา้ ใจเราจะ
เขยี นได”้

การเขยี น RAP จะตอ้ งเช่ือมโยง 3 มิติ ดงั นี้

มิตดิ า้ นกิจกรรม (Areas of Activity) ประกอบดว้ ย การออกแบบและวางแผนกจิ กรรมการเรียนรูแ้ ละ/หรือ
โปรแกรมการศกึ ษา การสอนและ/หรือสนบั สนนุ การเรยี นรู้ การประเมนิ และใหข้ อ้ มลู การปอ้ นกลบั กบั
ผเู้ รยี น การพฒั นาสภาพแวดลอ้ มการเรียนรูท้ ่มี ปี ระสทิ ธิผล และวธิ ีการท่สี นบั สนนุ นกั ศกึ ษาและการแนะ
แนว การเขา้ รว่ มในการพฒั นาวิชาชพี อย่างต่อเน่อื งในดา้ นรายวิชา/สาขาวิชาและวทิ ยาการการสอน การ
วิจยั ความเป็น นกั วชิ าการ และการประเมินผลการปฏิบตั ิทางวชิ าชีพ


190

มิตดิ า้ นความรูห้ ลกั (Core Knowledge) ประกอบดว้ ย สาระรายวิชา วิธีการท่เี หมาะสมสาหรบั การสอน
การเรียนรูแ้ ละการประเมนิ ในสาระรายวิชาและท่ีระดบั ของหลกั สตู รวชิ าการ นกั ศกึ ษาเรียนรูอ้ ย่างไร การใช้
และเหน็ คณุ ค่าของเทคโนโลยีการเรยี นรูท้ ่เี หมาะสม วธิ ีการประเมินประสิทธิผลของการสอน ความ
เกี่ยวขอ้ งกบั การประกนั คณุ ภาพและการปรบั ปรุงคณุ ภาพสาหรบั การปฏบิ ตั ิทางวิชาการและวชิ าชีพเนน้
การสอน

มิตดิ า้ นค่านิยมทางวิชาชีพ (Professional Values) ประกอบดว้ ย การคานงึ ถงึ ผเู้ รยี นเป็นรายบคุ คล และ
ความหลากหลายของชมุ ชนการเรียนรู้ สง่ เสรมิ การมีสว่ นรว่ มในการศกึ ษาระดบั อดุ มศึกษาและความเทา่
เทียมดา้ นโอกาสของผเู้ รียน ใชแ้ นวทางขอ้ มลู เชงิ ประจกั ษ์ และผลลพั ธจ์ าการวิจยั ความเป็นนักวชิ าการ
และการพฒั นาเชิงวชิ าชพี อย่างต่อเน่ือง ใหค้ วามสาคญั กบั การดาเนินงานของระบบอดุ มศกึ ษาในบรบิ ทท่ี
กวา้ งขวางขึน้ และผลท่ตี ามมาสาหรบั การปฏิบตั ิเชงิ วชิ าชพี เพ่ือสนองตอบความตอ้ งการของสงั คม

“เขาใหเ้ ขียน 3 มิติ เพอื่ ทดสอบว่ามีความรูห้ รอื ความเป็นครูแคไ่ หน เราตอ้ งเลา่ ออกมาได้ แลว้ เชือ่ มโยงได้
เขาเชอื่ ว่าคนเรียนรูจ้ ากบทวเิ คราะหส์ ะทอ้ นคดิ ในส่งิ ทที่ า ถา้ คณุ สะทอ้ นคดิ ในสง่ิ ทคี่ ณุ ทาได้ คนอนื่ เหน็ ว่า
ใช่ นน่ั ละคอื ความรู้ เรียนรูก้ ารทางานจากการไปทางาน คนไมท่ างานไปสอนมนั สอนไม่ได้ เขาไม่ไดต้ รวจ
จากความสละสลวยของภาษา แต่สง่ิ ทเี่ ขาเขยี นมนั ตอ้ งสะทอ้ นความจริงถงึ ไปสอนคนอนื่ ได้ ถา้ เขียน
มาแลว้ ประเมนิ ไมผ่ า่ น ก็จะใหไ้ ปแกภ้ ายใน 30 วนั

ถา้ เราผา่ นระดบั Fellow ก็จะมหี นา้ ทเี่ หมอื นเมนทอร์ คอื ตอ้ งไปชว่ ยคนอนื่ ตอ่ คือเขาจะสง่ เสรมิ ใหม้ ีสว่ น
ร่วม ถา้ เมือ่ ไรทเี่ ราไปชว่ ยเพอื่ นอาจารยใ์ หเ้ ขาสอนเป็น เราก็เป็น Senior Fellow ได้ เนอื่ งจากว่าเราเป็น
สถาบนั ทเี่ ขารบั รองแลว้ คนของเราทรี่ บั การอบรมมาจะอบรมใหค้ นของเราต่อ มาโคช้ ช่งิ ให้ ประเมนิ ใหว้ ่าที่
เขียนมาเป็นยงั ไง”

ฟังแลว้ ไมแ่ ปลกใจวา่ เหตใุ ดมหาวทิ ยาลยั แหง่ นี้ ถงึ ไดก้ ลายเป็นกรณีศึกษาท่ีน่าสนใจของสถาบนั การศกึ ษา
ทงั้ ไทยและตา่ งประเทศ และเม่อื ถกู ถามถงึ เคล็ดลบั ของความสาเรจ็ ในการพฒั นาบคุ ลากรดา้ นการศกึ ษา
ในฐานะท่ีเป็นไดร้ บั การยกย่องว่าเป็น “ครูของครู” ศ.ดร.วจิ ิตร ศรสี อา้ น ไดก้ ลา่ วถึงเรื่องนีแ้ ค่ว่า

“งานเป็นตวั ตงั้ คนเป็นตวั ตาม เทคโนโลยเี ป็นตวั ช่วย ระบบบริหารเป็นตวั สนบั สนนุ ”

///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


191

เครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาบุคลากร
• การฝึกอบรมในขณะทางาน (On the Job Training : OJT)
• การฝึกอบรมในหอ้ งเรียน (Classroom Training)
• การสอนงาน (Coaching)
• โปรแกรมพ่เี ลีย้ ง (Mentoring Program)
• การใหค้ าปรกึ ษาแนะนา (Consulting)
• การเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง (Self Learning)
• การเป็นวทิ ยากรภายใน (Internal Trainer)
• การใหข้ อ้ มลู ป้อนกลบั (Feedback)
• การฝึกงานกบั ผเู้ ช่ียวชาญ (Counterpart)
• การประชมุ /สมั มนา (Meeting/Seminar)
• การใหท้ นุ การศกึ ษา (Scholarship)
• การใหค้ าปรกึ ษาดา้ นชีวติ การทางาน (Counseling)
• การจดั ใหม้ กี ารจดั การความรู้ (Knowledge Management)
• จดั ทา Personal Learning Cloud (คลาวดเ์ พ่อื การเรียนรูส้ ว่ นบคุ คล)


192

15) บรษิ ทั โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จากัด (TOYOTA)

โตโยตา้ มอเตอร์ ก่อตงั้ โดย คชี ิโระ โตโยะดะ เม่ือเดือนกนั ยายน พ.ศ.2476 เรม่ิ แรก คือการเป็นผผู้ ลิตเครอื่ ง
ทอผา้ โตโยดะ แต่ปีต่อมาไดต้ งั้ แผนกใหม่เพ่อื พฒั นาเคร่ืองยนต์ Type A ซ่งึ ไดน้ าไปใชใ้ น Model A1 ซ่งึ
เป็นรถยนตน์ ่งั คนั แรกของบริษัท ปี 2557 โตโยตา้ รายงานวา่ ไดผ้ ลิตรถยนตค์ นั ท่ี 200 ลา้ น จนถงึ ปัจจุบนั
ไดร้ บั การจดั อนั ดบั เป็น 1 ใน 12 บรษิ ทั ท่ใี หญ่ท่สี ดุ ในโลกวดั ตามรายได้ และเป็นบรษิ ัทผลิตรถยนตท์ ่ใี หญ่
ท่สี ดุ ในโลก (วดั ตามจานวนคนั ผลิต) แซงหนา้ โฟลก์ สวาเกน กรุ๊ป และ เจเนรลั มอเตอร์ และยงั เป็นบรษิ ัทท่ี
จดทะเบยี นในตลาดทุนญี่ป่ นุ ท่ใี หญ่และมีรายไดม้ ากท่สี ดุ ของญี่ป่นุ ห่างจากอนั ดบั สองคอื SoftBank กว่า
สามเทา่ ตวั

โตโยตา้ นาสตู รของความสาเรจ็ “ระบบการผลิตแบบโตโยตา้ ” หรอื Toyota Production System (TPS) ท่ี
ไดร้ บั การยอมรบั ไปท่วั โลก เขา้ มาดาเนินธรุ กิจในประเทศไทยตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2505 โดย ปัจจบุ นั บรษิ ัท โต
โยตา้ มอเตอร์ ประเทศไทย จากดั มีบคุ ลากร 15,000 คน มีโรงงานผลติ 3 แหง่ มีกาลงั การผลติ 750,000
คนั ต่อปี และเพิ่งฉลองความสาเรจ็ มยี อดการผลิตรถยนตข์ องโตโยตา้ ครบ 10 ลา้ นคนั ไปเม่อื สองปีท่ผี ่านมา
แบ่งออกเป็นการผลิตเพ่อื จาหน่ายในประเทศ จานวน 5.8 ลา้ นคนั และสง่ ออกจานวน 4.2 ลา้ นคนั ซง่ึ คดิ
เป็นมลู คา่ การสง่ ออกสรา้ งรายไดเ้ ขา้ สปู่ ระเทศไทยกวา่ 2,589,000 ลา้ นบาท

ถอดรหสั “วิถีโตโยต้า” (TOYOTA WAY)

การเป็นองคก์ รท่ปี ระกาศจะ “ม่งุ สกู่ ารสรา้ งโลกอนาคตท่ีสมบรู ณแ์ ละย่งั ยืน” ซ่งึ จะสาเรจ็ บรรลตุ าม
เปา้ หมายไดน้ นั้ จาตอ้ งอาศยั แรงผลกั ดนั จากมนษุ ยแ์ ละความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยรี ว่ มกนั อย่าง
กลมกลืน เบือ้ งหลงั ความสาเรจ็ ท่ียงิ่ ใหญ่และย่งั ยืนทงั้ หมดของโตโยตา้ มาจากวธิ ีคิดท่ีไมเ่ หมือนใคร และ
ถกู หลอ่ หลอมใหเ้ ป็นปรชั ญาในการทางานและเป็นวฒั นธรรมองคก์ รท่ใี ชร้ ว่ มกนั ท่วั โลก เรียกกนั ว่า
TOYOTA WAY หรอื “วิถีแห่งโตโยตา้ ”

คณุ สรุ ศกั ดิ์ สทุ องวนั รองกรรมการผจู้ ดั การใหญ่ บรษิ ัท โตโยตา้ มอเตอร์ ประเทศไทย จากดั ไดก้ ล่าวถึง
หวั ใจสาคญั ในการพฒั นาของของโตโยตา้ วา่ ตอ้ งเป็นไปตาม TOYOTA WAY ซง่ึ ประกอบดว้ ย 2 เสาหลกั
คือ

1.การพฒั นาปรบั ปรุงอย่างต่อเน่ือง (Continuous Improvement)

2.ความยอมรบั ผอู้ ่นื (Respect for People)

และใน 2 เสาหลกั นี้ ยงั ประกอบดว้ ยสงิ่ สาคญั 5 ประการ ไดแ้ ก่


193

1. ความทา้ ทาย (Challenge) หวั ใจของวิถีแห่งโตโยตา้ คือ ความไม่พงึ พอใจกบั ส่งิ ท่ดี ารงอยู่ โดยบคุ ลากร
ของโตโยตา้ ตอ้ งถามตวั เองเสมอว่า “เหตใุ ดเราทาแบบนี้ ยงั มีวิธีอ่นื ดีกว่านีห้ รอื ไม”่ ในมมุ มองของโตโยตา้
คือ การสรา้ งวิสยั ทศั นใ์ นระยะยาวและปฏบิ ตั ิดว้ ยความกลา้ หาญใหบ้ รรลคุ วามทา้ ทายนนั้ ตวั อย่าง การ
พยายามผลติ รถยนตท์ ่มี ีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพ่ือใหม้ ีคณุ ภาพมากกว่ารถยนตย์ ่หี อ้ หนง่ึ ซ่งึ ไดร้ บั การยอมรบั วา่
เป็นรถยนตอ์ นั ดบั หนึง่ ของโลก ทาใหโ้ ตโยตา้ ผลิต Lexus ท่มี ปี ัญหาในตวั รถนอ้ ยกว่า จนไดร้ บั การยอมรบั
ว่าเป็นรถท่คี ณุ ภาพดีท่สี ดุ ประกอบอยา่ งดที ่สี ดุ และเป็นรถท่ชี นะใจผบู้ ริโภคชาวสหรฐั อเมรกิ าได้

2. ไคเซ็น (Kaizen) มาจากรากศพั ทภ์ าษาญ่ีป่นุ 2 คาคือ KAI หมายถึง Continuous และ ZEN หมายถงึ
Improvement ไคเซนไมใ่ ช่การเปล่ียนใหม่ทงั้ หมด แต่เป็นการปรบั ปรุงการดาเนินธุรกิจอยา่ งต่อเน่ืองและมี
วิวฒั นาการอย่ตู ลอดเวลา จนเกิดเป็นนวตั กรรมใหม่ ดว้ ยกระบวนการ PDCA (Plan-Do-Check-Act) หรือ
“การวางแผนหาวธิ แี กป้ ญั หา การลงมอื ทา การตรวจสอบวา่ ทาแลว้ แกป้ ญั หาไดห้ รือไม่ ถา้ เป็นวธิ ีทดี่ ีก็
นาไปใช”้ ซ่งึ Kaizen จะประสบความสาเรจ็ ได้ ตอ้ งขึน้ กบั คนทางานท่อี ยากจะทางานนนั้ ใหด้ ียิ่ง ๆ ขึน้ ไป
อยากลดตน้ ทนุ อยากลดการสญู เสยี ตา่ ง ๆ ดว้ ยการปรบั ลดกระบวนการท่ไี มจ่ าเป็นหรือสนิ้ เปลืองออก

3. เกน็ จิ เก็นบตุ สึ (Genchi Genbutsu) หมายถงึ การเรียนรูด้ ว้ ยการท่ตี อ้ งไปยงั แหล่งท่ีมาของปัญหา
การศึกษาจากสถานท่จี รงิ เพ่ือหาขอ้ เทจ็ จรงิ กอ่ นตดั สนิ ใจ ตวั อย่างจากโตโยตา้ ประเทศไทย เม่อื เกิด
อบุ ตั ิเหตุ ประธานตอ้ งไปท่หี นา้ งาน เพ่ือไปฟังพนกั งานเล่าขอ้ เทจ็ จรงิ ว่าเกิดอะไรขนึ้ และตอ้ งเป็นพนกั งาน
ระดบั ปฏบิ ตั ิการท่ีปฏิบตั งิ านอย่ใู นเวลานนั้ จรงิ ไม่ใช่หวั หนา้ หรือผจู้ ดั การมาสรุปรายงานให้ฟัง

4. การยอมรบั นบั ถือ (Respect) ในมมุ มองของโตโยตา้ คอื การยอมรบั ว่าทกุ คนเทา่ เทยี มกนั มีการรณรงค์
ใหไ้ วว้ างใจ ยอมรบั และนบั ถือผอู้ ่ืน เปิดโอกาสใหท้ กุ คนสามารถเสนอความคิดได้ ส่ือสารอย่างจรงิ ใจและ
ตรงไปตรงมา เพ่ือกระตนุ้ การมสี ว่ นรว่ มและรบั ผิดชอบต่อองคก์ รระหว่างกันและกนั

5. การทางานเป็นทมี (Teamwork) เวลาเกิดความผิดพลาดขนึ้ ในโตโยตา้ จะไมม่ กี ารถามว่า ใครเป็นคนทา
ใหเ้ กิดความผิดพลาด แต่จะถามว่า “เกิดอะไรขนึ้ ” เพราะหลกั คิดของโตโยตา้ มองว่า พลงั ของการทางาน
เป็นทมี นนั้ เกิดขนึ้ ไดจ้ ากการรวบรวมพลงั ของแต่ละคน จึงม่งุ เนน้ ใหม้ กี ารพฒั นาบุคลากรใหส้ ามารถทางาน
รว่ มกนั ได้ และม่งุ เนน้ ถึงความสาเรจ็ ของทีมเป็นหลกั

เพราะการพัฒนาบุคลากรคือพนั ธะสาคัญ

“พนกั งานคือสนิ ทรพั ยท์ มี่ ีคา่ ทสี่ ดุ ของโตโยตา้ และเป็นส่งิ ทชี่ ีถ้ งึ ความรุ่งโรจนห์ รือตกต่าของบริษัท และใน
เมือ่ พนกั งานคอื ผูส้ รา้ งรถยนต์ ดงั นนั้ พนกั งานจะเร่มิ ลงมือไดก้ ็ต่อเมือ่ เขาไดร้ บั การอบรมและพฒั นาที่
เพยี งพอแลว้ ” เออจิ ิ โตโยดะ ผบู้ รหิ ารในยคุ ก่อตงั้ และเป็นคนคิดคน้ TOYOTA WAY กลา่ วไวเ้ ชน่ นนั้ ดว้ ย


194

อดุ มคตขิ องโตโยตา้ ขา้ งตน้ เป็นท่มี าของแนวคดิ ท่ีวา่ ทกุ คนในโตโยตา้ คือผมู้ ีสว่ นสาคญั ต่อการพฒั นา
องคก์ รทงั้ สนิ้ คาวา่ “ลกู คา้ ตอ้ งมาก่อน” (Customer First) สาหรบั ชาวโตโยตา้ แลว้ กไ็ ม่ไดห้ มายความเพยี ง
แคล่ กู คา้ ท่เี ป็นผบู้ รโิ ภคเทา่ นนั้ แต่รวมถึงพนกั งานท่ีอย่ใู นกระบวนการทางานดว้ ย

โตโยโตไ้ ม่คิดว่า “ความเกง่ ” เป็นพรสวรรคเ์ ฉพาะบคุ คล แตเ่ ป็นสิง่ ท่พี ฒั นาขึน้ ไดด้ ว้ ยความพยายามและ
ทางานหนกั โตโยตา้ จึงใหค้ วามสาคญั กบั เร่ืองของการพฒั นาคน (People Development) มากท่สี ดุ ตาม
ดว้ ยเร่ืองการปรบั ปรุงกระบวนการ (Process Improvement) การสรรหาพนกั งานของโตโยตา้ จงึ ไมเ่ นน้ รบั
คนเกง่ หรือคนท่มี ที กั ษะเช่ียวชาญ แตจ่ ะมองหาคนท่มี คี ณุ ลกั ษณะพนื้ ฐานท่ใี ฝ่เรียนรู้ อยากฝึกฝน มี
ความคดิ สรา้ งสรรค์ ชอบตงั้ คาถาม ชอบคน้ หาและแกป้ ัญหา ยืดหยนุ่ ปรบั ตวั ไดด้ ี มีความม่นั ใจ รบั ฟังผอู้ ่นื
เพ่อื นาเขา้ สกู่ ระบวนการเรียนรูต้ ามวิถีของโตโยตา้ ต่อไป

วธิ ีสอนงานแบบโตโยตา้ จะเนน้ ความ “เรียบง่าย” มีการแบ่งซอยงานเป็นสว่ นยอ่ ย ๆ มีการจดั ลาดบั
ความสาคญั เพ่อื ช่วยในการตดั สินใจ ขณะเดียวกนั กเ็ นน้ สอนประเด็นหลกั ๆ (Key Points) ของแตล่ ะ
ขนั้ ตอนการทางาน เพ่ือนาผเู้ รียนไปสผู่ ลลพั ธส์ ดุ ทา้ ย โดยมีแผน่ งานท่ีเรยี กว่า “Job Breakdown Sheet”
ชว่ ยวิเคราะหป์ ระเดน็ สาคญั และสรา้ งความชดั เจนใหก้ บั ผฝู้ ึกสอน มีโครงสรา้ งองคก์ รท่เี ออื้ อานวยต่อการ
ฝึก เชน่ ทกุ ๆ พนกั งาน 10 คนจะมี Trainer 1 คน และทกุ ๆ Trainers 10 คน มี Instructor 1 คน เป็นตน้

การขดั เกลาบคุ ลากรให้ “เกง่ แบบโตโยตา้ ” จะเกิดขนึ้ อยา่ งตอ่ เน่ืองตลอดเวลาตามหลกั การ KAIZEN เชน่
ถา้ มีการปรบั ปรุงการผลิต รายละเอยี ดชิน้ สว่ นจะเปลี่ยนอยตู่ ลอดเวลา หากมกี ารทดสอบแลว้ พบวา่ อะไรท่ี
ทาใหด้ ีขึน้ กจ็ ะปรบั ปรุงทนั ที เชน่ การปรบั ปรุงการขนั น็อตลอ้ รถยนตข์ องพนกั งานฝ่ายชา่ ง จะใชว้ ิธีทาใหม้ ีสี
ตดิ ตรงเคร่ืองมือขนั นอ็ ต หากพนกั งานขนั น็อตแน่นพอจะทาใหส้ นี นั้ ไปตดิ ท่หี วั น็อต เป็นการยนื ยนั วา่ ทาได้
ถกู ตอ้ งแลว้

ระหวา่ งการปฏิบตั ิงาน จะมีระบบการใชค้ วามรูใ้ นการวเิ คราะหแ์ ทบทุกกระบวนการ ชาวโตโยตา้ จะเรยี ก
กนั วา่ วธิ ีตงั้ คาถาม 5 WHYS ดงั คากลา่ วท่ีว่า “เขา้ ไปสงั เกตท่บี รเิ วณกระบวนการผลิต ดว้ ยจิตใจท่ีเปิดรบั
ส่งิ ท่พี บ ไม่คดิ ทกึ ทกั หรือคาดการณไ์ ปก่อน จากนนั้ ใหถ้ าม “ทาไม” 5 ครง้ั (5 Why) ในทกุ เร่ือง”

การเรยี นรูแ้ ละพฒั นาของพนกั งานแตล่ ะคน จะเนน้ ไปท่กี ารเรยี นรูผ้ า่ นการทางานจรงิ ในแตล่ ะวนั OJT –
On the Job Training การฝึกอบรมจะใหพ้ นกั งานมีอสิ ระความคิดเห็นของตนอย่างเตม็ ท่มี ากกว่ายึดตาม
ระเบียบอย่างเครง่ ครดั อกี ทงั้ โตโยตา้ ยงั ใชห้ ลกั ท่ีวา่ ไมม่ ีคาว่า “ลม้ เหลว” มแี ต่คาวา่ ไม่ยอมเรียนรู้

การฝึกอบรมของโตโยตา้ จะมีทงั้ รูปแบบ Training Classroom และ E-Learning โดยทางบรษิ ัทฯ จะ
กาหนดแผนการพฒั นาขดี ความสามารถสาหรบั พนกั งานและผบู้ รหิ ารทุกคน ควบค่ไู ปกบั การเรียนรูป้ รชั ญา


195

พนื้ ฐานท่สี าคญั ของของโตโยตา้ พนกั งานใหม่ตอ้ งไปเรยี นรูเ้ ร่อื ง Toyota Way ท่สี ถาบนั โตโยตา้ และไป
Genchi (เกนจิ) คือไปดสู ถานท่ปี ฏบิ ตั งิ านจรงิ (Go to See) จึงจะผา่ นขนั้ ตอนของการทดลองงาน ทงั้ นี้
แผนการพฒั นานีท้ าโดยวางแผนรว่ มกนั ระหวา่ งหวั หนา้ งานและลกู นอ้ ง เพ่อื วางแผนเสน้ ทางอาชีพของแต่
ละคน

พัฒนาไมห่ ยุดยั้งอย่าง KAIZEN

โตโยตา้ เนน้ การฝึกพนกั งานแบบ “ชา้ แต่สม่าเสมอ” มกี าร “ทาซา้ ” ภายใตก้ ารสรา้ งระบบท่สี มบรู ณแ์ บบ
กอ่ นปฏิบตั ิงาน จากนนั้ ใหค้ ่อยๆ ปรบั ปรุงไปเร่ือย ๆ เช่ือว่าย่ิงทาซา้ ก็ยิ่งเรียนรู้ ทาใหค้ วามเช่ียวชาญใน
ระบบของโตโยตา้ ใชเ้ วลานานในการบ่มเพาะเป็น 10 ปี และการพฒั นาของคนโตโยตา้ จะมีหวั หนา้ คอย
ดแู ลไมใ่ หแ้ ค่ทาซา้ แต่ตอ้ งทาดว้ ยการเพิ่มความทา้ ทายใหท้ างานเรว็ ขึน้ และดขี นึ้ กวา่ เดิม

โตโยตา้ จะใชห้ ลกั Visualization คือ ทกุ อย่างตอ้ งมองเหน็ และเขา้ ใจไดง้ ่าย โดยผ่านการนาเสนอภาพรวม
ทงั้ หมด ผา่ นกราฟหรือถอ้ ยคาง่าย ๆ เพ่อื ใหท้ กุ คนมีความเขา้ ใจรว่ มกนั เช่น การมีสญั ญาณแสดง
ความกา้ วหนา้ ของการผลติ หรอื การทางานในแต่ละวนั เพ่อื ช่วยเตือนฝ่ายท่เี ก่ียวขอ้ งและควบคมุ การ
ทางานใหเ้ สรจ็ ภายในกาหนด ถา้ มีการแกไ้ ข คนท่เี ก่ียวขอ้ งก็ตอ้ งรายงานวา่ ฝ่ายตนไดป้ รบั ปรุงงานแลว้
อย่างไร มีการลดการสญู เสยี อยา่ งไรบา้ ง

“ผมถูกฝึกมาใหค้ ดิ ทกุ อย่างจบในกระดาษใบเดยี ว จะโครงการแสนลา้ นอะไรกจ็ บไดใ้ นแผน่ เดยี ว ตอนทผี่ ม
เป็นคนสรา้ งโตโยตา้ ชวั ร์ กเ็ อา เป้าหมาย วตั ถุประสงค์ วิธีทางาน สรุปใหเ้ หน็ ทกุ อย่างในใบเดียว เพราะโต
โยตา้ จะเนน้ Visualization คอื เนน้ การมองเหน็ กระบวนการตงั้ แตต่ น้ จรดปลาย

สมมตุ ถิ า้ ใครไปศูนยบ์ รกิ ารวนั นี้ เราจะมบี ริการเช็ครถช่วั โมงเดยี ว คอื เอา Toyota Production System มา
ใช้ ทกุ อย่างถกู จบั มาอยู่บน Visualization Board คณุ รบั งานมาเทา่ ไร มีควิ ผลติ ยงั ไง ตอ้ งเตมิ วตั ถดุ ิบ
เทา่ ไร พอมบี อรด์ อนั นีท้ กุ คนจะเหน็ ขอ้ มูลร่วมกนั วา่ ฝ่ ายไหนทาถงึ ไหน อกี ฝ่ายตอ้ งทาเท่าไร จะเหน็ ป้ายรถ
เขา้ ศูนยม์ ากี่คนั ตอนนผี้ า่ นขนั้ ตอนไหน ถงึ ไหนแลว้ ใครรบั ผดิ ชอบอยู่ ปา้ ยบอกว่าอะไหล่มีเทา่ ไร ใครเอา
ออกไปแลว้ เหลือเท่าไร

เขาปลูกฝังเราใหค้ ิดแกป้ ัญหาตลอดเวลา หลกั การบริหารแบบ Toyota Production System จะชว่ ยใหค้ ณุ
และทกุ คน สามารถมองเหน็ สถานะของคลงั สนิ คา้ ในทกุ ขนั้ ตอน เราจะสามารถจดั การไดว้ า่ สนิ คา้ ควร
จดั เก็บตรงไหน อะไรทมี่ ีมากเกนิ ไป อะไรทเี่ ก็บนานเกินไปแลว้ จดั การลดตน้ ทนุ สว่ นนนั้ ออกไป เพราะการ
ลดตน้ ทนุ เท่ากบั การเพ่มิ ผลกาไร”


Click to View FlipBook Version