96
วิธีแกเ้ กมของบิ๊กไพศาล คือ การถอยกลบั มาตงั้ หลกั ในฐานของตนใหม่ ยบุ สาขาต่างจงั หวดั ทงั้ หมด คิด
ใหม่ทาใหม่ วางระบบ Internal Control โดยการจา้ งมืออาชีพมาออกแบบโดยเฉพาะ ตงั้ แต่เรื่องเล็กไป
ยนั เรื่องใหญ่ ท่ีคณุ สรุ พงษ์ใชค้ าว่า “จะขยบั ไปทางไหน เอาระบบนาหนา้ ไปก่อน” ไม่มีการปล่อยใหใ้ คร
คนใดคนหนึ่งรบั ผิดชอบทุกอย่างแบบเดิมอีกต่อไป ในขณะท่ีพนกั งานทงั้ ระบบในวนั นนั้ ประมาณ 50-60
คน ตอ้ งเร่มิ ปรบั กระบวนการทางานใหม่หมด
“บางคนเขาโตมาเรียนรูม้ าพรอ้ มกบั เราตงั้ แต่วนั ก่อตงั้ ธุรกิจ วนั ทีว่ างระบบใหม่เราก็เอาเขามาช่วยกนั คิด
เรียกว่าเอาทงั้ ภาคทฤษฎีมาปรบั ใหเ้ ขา้ กบั คนทีท่ างานในภาคปฏิบตั ิ ทฤษฎีว่ายงั ไง ตอนเขาทาจริงอยู่
หนา้ งานจริงมนั ใช่แบบนนั้ ไหม จะปรบั ตรงไหน
เครื่องมือในการพฒั นาคนที่ไดผ้ ลอีกอย่างหน่งึ คือการจบั คู่ เราใหค้ นเก่าสอนคนใหม่ หรือแบบโคช้ ช่ิงคือ
ใหพ้ สี่ อนนอ้ ง ช่วงไหนขยายงาน เรารบั คนใหม่เขา้ มา ก็มีคยี ์แมนคนเก่าของเราเป็นตวั ยืน นอ้ งใหม่มาก็
เรียนรูก้ บั พี่ ถา้ ระบบดี ทกุ อย่างจะไปไดเ้ ร็ว งานเราก็เดินไดร้ าบรื่นขึน้ ”
วัฒนธรรมองคก์ ร กรอบการทางานและกรอบแห่งคุณธรรม
ธุรกิจของบิ๊กไพศาลเติบโตขึน้ อย่างมีทิศทางท่ีชดั เจน มีการขยายพืน้ ท่ีคลงั สินคา้ ล่าสดุ ในปี 2562 มีการ
ร่วมทุนกับ SME D BANK โดยเพ่ิมทุนจดทะเบียนเป็น 62 ลา้ นบาท
แต่การวางระบบเพ่ือการพัฒนาบุคลากร ก็ยงั ตอ้ งทากันต่อเนื่องไม่มีคาว่าเสรจ็ สิน้ เพราะคณุ สรุ พงษ์
มองว่า ถา้ เราตงั้ เป้าจะเป็นบรษิ ัทท่ีใหค้ วามสาคญั ถึงคณุ ภาพของการบริการและสินคา้ เป็นหลกั เราตอ้ ง
ทาใหล้ กู คา้ ม่นั ใจไดใ้ นคณุ ภาพของการบริการและสินคา้ ดงั นนั้ ทุกเปา้ หมายมีคาตอบอย่ทู ่ีการพฒั นา
บุคลากรเป็นพืน้ ฐาน และน่นั คือท่ีมาของการวางแผนสรา้ งวัฒนธรรมองคก์ รท่ีเขม้ แข็ง
“ช่วงหลงั ๆ เวลานอ้ งใหม่เขา้ มาก็จะมีพี่ HR เรียกมาคุยภาพรวม บอกถงึ เรื่องการปฏิบตั ิตวั เรื่อง
วฒั นธรรมองค์กรของเรา เราทางานแบบไหน เราอยู่ร่วมกนั ยงั ไง พอเขาลงไปทางานในแผนก พีใ่ น
แผนกก็จะลงรายละเอียดงานอีกที เรียกว่ามีกรอบรองรบั หลายชนั้
เรื่องวฒั นธรรมองค์กรนี้ เป็นของใหม่ทพี่ วกเรากาลงั ปรบั เพ่งิ เร่ิมจริงจงั เมือ่ ปีทีแ่ ลว้ ตอนนนั้ บิ๊กไพศาลไป
เขา้ ร่วมหลกั สูตรโดยไดบ้ า้ นปเู ป็นพเี่ ลีย้ งมาช่วยระดมสมอง ใชเ้ วลาเป็นปีกว่าจะออกมาเป็นทพี่ อใจของ
ทกุ คน ทุกคนตอ้ งไปเขียนมา คิดว่าควรมีอะไร ผูบ้ ริหารตอ้ งน่งั สมั ภาษณ์พนกั งานทีละคน ไดม้ าเป็นรอ้ ย
เรือ่ ง แลว้ ตกผลึกออกมาเหลือแต่แก่นของมนั จริง ๆ”
97
วฒั นธรรมองคก์ รของบิ๊กไพศาลในปัจจุบนั ประกอบไปดว้ ย 4 หัวขอ้ ใหญ่ 3 หวั ขอ้ ย่อย คือ
1. UNITY ทีมงานเขม้ แข็ง : มีความรบั ผิดชอบ การยอมรบั ใหเ้ กียรติกนั การประสานงานช่วยเหลือกนั
2. Ethical Person ยึดม่นั คุณธรรมนาทาง : ซ่ือสตั ย์ ขยนั อดทน
3. Excellent Service ม่งุ ม่นั สุดยอดบริการ : รอบคอบถกู ตอ้ งแม่นยา รูจ้ ริงรวดเร็วในการบริการ
น่าเช่ือถือ
4. Initiative คิดสรา้ งสรรคต์ ่อยอด : รวบรวมขอ้ มลู และเรียนรูว้ ิเคราะห์ คิดนอกกรอบบนพืน้ ฐานท่ี
ถกู ตอ้ ง เสนอแนะปรบั ปรุง
กรอบหลกั ของการอย่รู ่วมกันนีย้ งั มีรายละเอียดเพิ่มเติมในเรื่องของ Do & Don’t เช่น ในเรื่องของ Ethical
Person ยึดม่นั คณุ ธรรมนาทาง พนกั งานของท่ีน่ีจะตอ้ ง Do พูดความจริง ซื่อสตั ย์ ตงั้ ใจทางาน ขยนั
อดทน ส่วน Don’t ก็คือ ไม่ลกั ทรพั ยย์ กั ยอก ไม่โตเ้ ถียงเอาชนะหลบเลี่ยงงาน แต่ถา้ เป็นเรื่องความคิด
สรา้ งสรรค์ Do คือตอ้ งพฒั นาตนเองใฝ่รู้ รบั ฟังยอมรบั ความเห็นท่ีแตกต่าง สว่ น Don’t ก็คือ ไม่คิดเอา
เองโดยปราศจากขอ้ มลู ไม่ทางานไปแค่ตามหนา้ ท่ี หรือไม่คิดเสนอแนะสิ่งใหม่ ๆ เป็นตน้
“ผมมองว่ามนั คือเครื่องมือสรา้ งกรอบใหค้ นทางาน เราเนน้ เรื่องขยนั ซ่ือสตั ย์ อดทน แลว้ ถา้ เราเป็น
องค์กรทีเ่ ทรดดงิ้ คนคา้ ขายก็ตอ้ งรูจ้ ริงในสินคา้ ตอ้ งรอบคอบเวลาทาเอกสาร ตอ้ งสือ่ สารลูกคา้ ได้
แกป้ ัญหาลูกคา้ ได้ หรือเราวางตาแหน่งว่าเราเป็นองค์กรนวตั กรรม คนของเราก็ตอ้ งมีความคิด
สรา้ งสรรค์ ตอ้ งคิดนอกกรอบ เราจะอยู่ร่วมกนั คนของเราก็ตอ้ งมี Unity ใหเ้ กียรติกนั สามคั คีกนั ”
ปัจจุบนั พนักงานของบิ๊กไพศาลกว่า 80 ชีวิต ถูกจัดวางโดยแบ่งเป็นสองสว่ นหลกั ส่วนหน่ึงอย่ทู ี่
สานกั งานใหญ่ 40 คน ที่ถนนสขุ ุมวิท คือพนกั งานท่ีทาหนา้ ท่ีในแผนก เซลล์ มารเ์ กตติง้ บญั ชี กบั สว่ นท่ี
สองอีก 40 คน ท่ีแวรเ์ ฮาสท์ างดา้ นถนนเทพารกั ษ์ ดแู ลเรื่องของคลงั สินคา้ การจัดส่ง
“การแยกคนออกเป็นสองกล่มุ เราใชว้ ธิ ีการพฒั นาคนที่ต่างกนั เช่น พนกั งานที่คลงั สินคา้ ซ่ึงไม่เนน้ เรื่อง
วุฒกิ ารศึกษา เวลาสอนเขาก็ตอ้ งเป็นแบบท่องจา มีการเรียกเขา้ แถวรวมพลทกุ เชา้ หวั หนา้ คลงั สินคา้ ก็
จะมีมอรน่ิงทอลคท์ กุ เชา้ พูดทุกวนั เขา้ หูไม่เขา้ หูไม่รู้ แต่เขาจะซึมซับวฒั นธรรมองค์กรอยู่ตลอดเวลา
ส่วนคนทางฝ่ังออฟฟิศหลกั เราใชเ้ ครื่องมืออกี ตวั หน่งึ คือใหห้ วั หนา้ แผนกเป็นคนสอนลูกนอ้ งของตวั เอง
ซ่ึงทกุ คนจะมีรายงานกล่มุ ถา้ เป็นเรื่องของ Performance พอประชุมเสร็จตอ้ งสง่ งานสง่ การบา้ นทกุ วนั
พธุ เราก็สามารถตรวจสอบประสทิ ธิภาพของการทางานวา่ ไดผ้ ลมากนอ้ ยขนาดไหน”
98
เม่อื ถกู ถามวา่ ความสมั ฤทธิ์ผลของการปรบั โครงสรา้ งองคก์ ร รวมทงั้ การใชเ้ คร่ืองมอื ท่หี ลากหลายมา
ประกอบกนั นนั้ ไดผ้ ลเป็นอย่างไร ผบู้ รหิ ารของบิ๊กไพศาลกลา่ ววา่ คนคือความหลากหลาย นบั เป็นเรื่อง
ยากท่จี ะหลอ่ หลอมใหท้ กุ คนคิดเหมือนกนั ทาเหมือนกนั แต่เราสามารถออกแบบเบา้ หลอมใหด้ ที ่สี ดุ เป็น
กรอบในความคิดและการปฏบิ ตั ไิ ดด้ ี ท่สี าคญั คือ สง่ิ เหล่านคี้ วรเป็นส่งิ ท่เี ป็นของสว่ นกลาง ไม่ใชอ่ อกมา
จากความคิดของใครคนใดคนหน่ึง หรือเป็นเพยี งความคิดของผบู้ รหิ ารเป็นหลกั
“มนั คงยงั บอกไม่ไดว้ ่า Success ไหม เพราะเราเพ่งิ เร่มิ ทาในปีทผี่ า่ นมา แต่ผบู้ ริหารตอ้ งเป็น Role Model
กอ่ น ผมเองกต็ อ้ งทา ไมเ่ อาความคดิ ตวั เราเป็นใหญ่ การมีเบา้ หลอมสว่ นกลาง ทาใหอ้ ยา่ งนอ้ ยเวลาคณุ
ทาไมถ่ ูก เช่น นอ้ งคนทชี่ อบมาทางานสาย พอเขาเดนิ ผา่ นเบา้ หลอมอนั นี้ เขาเหน็ คนอนื่ มาทางานตรงเวลา
ทกุ วนั เวลาเดนิ เขา้ มาสายอยู่คนเดยี วมนั แปลกแยกกบั คนอนื่ สดุ ทา้ ยนอ้ งเขาจะค่อย ๆ เรยี นรูท้ จี่ ะปรบั ตวั
สมยั กอ่ นบ๊กิ ไพศาลเคยมีวนั แมนโชว์ คนนเี้ กง่ คนนที้ ายอดขายโดดเด่น มีฮโี รท่ ที่ ายอดขายถล่มทลาย ทา
ไปทามากก็ ลายเป็นความคดิ ว่า องคก์ รขาดฉนั ไม่ได้ แบบนมี้ นั ไมแ่ ฟร์กบั คนอนื่ พอเราใชเ้ ครอื่ งมือพวกนี้
มาสรา้ งกรอบใหม่ เราพยายามใหท้ กุ คนเป็นฮีโร่ วฒั นธรรมองคก์ รของเราบอกชดั เจนว่า ‘ทกุ คนคอื
ซุปเปอร์ฮโี ร’่ ‘คณุ ทาได’้ ตอนนเี้ ราก็สรา้ งรากฐานความคดิ ใหม่ สรา้ งความเชือ่ ใหมว่ ่าทกุ คนสาคญั หมด
การใหค้ ณุ ใหโ้ ทษก็ใชไ้ ดผ้ ลในระดบั หนง่ึ เชน่ การใหร้ างวลั ใหใ้ บประกาศทกุ เดอื น ขนึ้ บอร์ดเลย ประกาศ
เลยคนนไี้ มเ่ คยขาด ลา มาสาย มใี บรางวลั ชมเชยว่าคนนตี้ งั้ ใจทางาน ติดรูปหนา้ ตาในใบดว้ ย หรือในไลน์
กล่มุ บริษทั เราก็ประกาศยกยอ่ งวา่ คนนมี้ ผี ลงานดอี ะไรบา้ ง แลว้ ยงั ใหเ้ ขาสะสมใบรางวลั พวกนี้ ปลายปีมา
แลกของได้ เป็นรูปธรรมทไี่ มใ่ ชแ่ ค่คาชมเท่านนั้ ”
ธุรกจิ ยุคใหม่ ตอ้ งคดิ ให้ไวแลว้ ไปใหเ้ รว็
เม่ือถกู ถามถึงเรื่องของงบประมาณในการพฒั นาบุคลากร ผบู้ ริหารขององคก์ รกล่าวอย่างเช่ือม่ันว่า ท่ีบิก๊
ไพศาลใหค้ วามสาคญั กบั เร่ืองของการสรา้ งทีมงานใหเ้ ป็นมืออาชีพ แมว้ ่าตัวธุรกิจเองจะมีมารจ์ ิน้ ค่อน
ขา้ งต่า แต่ก็ยงั จัดสรรงบประมาณสาหรบั เรื่องนีอ้ ย่างเต็มท่ี ปีนึงเป็นตัวเลขถึง 7 หลกั
“ย่ิงเรามองไปถงึ อนาคตว่ายงั ตอ้ งขยายงานไปอีกมาก อนั ไหนที่คนของเราขาด ผมจะสง่ ไปอบรม
ภายนอก เรามีโปรแกรมเลือกคอรส์ ทเี่ หมาะสม คนทางานคลงั กส็ ง่ ไปอบรมเรือ่ งคลงั เชน่ ตอนนเี้ ราจะขาย
ออนไลน์ คนทางานก็ตอ้ งเรียนเรอื่ งออนไลนเ์ พ่มิ หรือหวั หนา้ คนไหน ทางานเกง่ จะไดร้ บั การโปรโมท แต่
เขาขาดทกั ษะการจูงใจคน ขาดความเป็นผูน้ า เขาก็ตอ้ งไปเรียนเรือ่ งนเี้ พ่มิ
99
เราเตม็ ทีเ่ รื่องพฒั นาคนมาก เพราะเราจะโตไดต้ อ้ งมีคน มีแขนขาไม่มีหวั ก็ไปไม่รอด มีหวั ไม่มีตวั ก็ยาก
คนไปเรียนนอกจากจะไดค้ วามรูแ้ ลว้ มนั เหน็ ผลชดั เจนว่า เขาไดท้ ศั นคติ ไดม้ ุมมองใหม่มากขึน้ เดิมเขา
อาจจะกม้ หนา้ กม้ ตาทาอยู่ในโลกของตวั เอง พอไปเจอคนขา้ งนอก เห็นโลกขา้ งนอกว่าเขาไปถงึ ไหน
บางคนเป็นตงั้ แต่เด็กสง่ ของ เรียน ม. 6 ตอนนสี้ ่งไปเรียนจบปริญญาตรีก็เป็นสิบคน คนจบตรีมาไปเรียน
โทก็หลายคน ใครอยากเรียนมาบอกเลย เงื่อนไขมีแค่อายุการทางานว่าตอ้ งเป็นพนกั งานมากี่ปีขึน้ ไป ถา้
ระดบั ผูบ้ ริหารเราใหท้ ุนเรียนฟรี เพราะโอกาสทีเ่ ขาจะอยู่กบั เรายาวก็มีมาก หรือบางคนเราใหก้ ูไ้ ม่คดิ
ดอกเบีย้ ก็มี แถมยงั ไม่มีขอ้ ผูกพนั ว่าเรียนจบตอ้ งอยู่ใชห้ นกี้ บั เรา ถา้ ไปแลว้ เจริญกา้ วหนา้ เราก็สนบั สนุน”
ธุรกิจบางสว่ นของบิก๊ ไพศาล ในฐานะท่ีเป็นผูอ้ อกแบบระบบไฟฟ้าใหเ้ ครื่องจักร สาหรบั โรงงานท่ีตอ้ งใช้
ทกั ษะสงู ซ่งึ ผทู้ ่ีจะทางานนีไ้ ดต้ อ้ งใชค้ วามชานาญเฉพาะทาง ทางบิ๊กไพศาลก็จะจดั ส่งคนไปอบรมกับ
ทางผจู้ าหน่ายเคร่ืองจักรดงั กล่าว เรียนรูแ้ บบประกบกนั ตวั ต่อตวั แลว้ นาความรูท้ ่ีไดม้ าสอนคนรุน่ ใหม่ ๆ
ในองคก์ รต่ออีกทอดหนึ่ง ถือเป็นการสงั เคราะหช์ ุดความคิดและโนวฮ์ าวเฉพาะทาง ท่ีมีแต่คนของท่ีน่ี
เท่านนั้ ท่ีทาได้
“พวกนีย้ อดขายนอ้ ยไม่ถงึ 5% ของเรานะ แต่มนั คอื อาชีพดงั้ เดมิ ที่คนทาตอ้ งอยู่ตรงนมี้ าเป็นสบิ ปีกว่าจะ
ชานาญ มนั จึงเป็นเวยท์ ี่ค่อนขา้ งย่งั ยืน เพราะใครจะขึน้ แพลนทใ์ หม่ตอ้ งมาหาเราเท่านนั้ เครื่องจกั รบาง
ตวั จากเยอรมนั ราคา 600 ลา้ น ทงั้ แพลนท์ลงทุน 3 พนั ลา้ น มนั จะมีคนทาสเปเชียลเฉพาะ
หวั หนา้ งานก็ตอ้ งมาเทรนลูกทมี ต่อ เวลาเราสรา้ งคนของเราเองใหเ้ ป็นวทิ ยากร เป็น Train the Trainer
ก็จะมีสองแบบคือ สง่ คนเก่าไปพฒั นา แต่ถา้ บางทกั ษะมนั ยาก คนรุ่นเก่าอาจจะฝึกไดช้ า้ เราก็จะมอง
หาคนใหม่ทีม่ ีคุณสมบตั ิเหมาะสม เอาคนเก่งมาฝึกเลย แลว้ แยกไปดูแลธุรกิจเฉพาะทางอนั ใหม่ไปเลย
เช่นพวกนวตั กรรมใหม่ๆ Smart Home กลมุ่ สนิ คา้ Home Innovation โซลาร์รูฟทอ้ ป ก็ตอ้ งเร่ิมกบั คน
ใหม่ไปเลยง่ายกว่า
แลว้ เราก็เอาไปต่อเครดิตใหต้ วั เราได้ ว่าเราคือเชีย่ วชาญเฉพาะเรื่องนนั้ ๆ ปัจจุบนั เรามีลูกคา้ รอตดั สินใจ
ทจี่ ะติดแผงโซลาร์รูฟทอ้ ปอีกหลายรอ้ ยลา้ น เป็นตวั ต่อทีเ่ ราจะขยายธุรกิจต่อจากตรงนไี้ ดอ้ ีก”
นอกจากนี้ บิ๊กไพศาลยงั มีโครงการความรว่ มมอื ทางวิชาการดา้ นเทคโนโลยกี บั มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยี
พระจอมเกลา้ เจา้ คณุ ทหารลาดกระบงั เพ่อื ผลิตบุคลากรคนรุน่ ใหมส่ าหรบั การกา้ วเขา้ สคู่ วามเป็น
Industry 4.0 สามารถรองรบั ธุรกจิ ในยคุ ของการผสมผสานกนั ระหวา่ งระบบออโตเมช่นั ในสายการผลติ กบั
Internet of Things เขา้ ดว้ ยกนั
100
“สถาบนั การศึกษาสว่ นใหญ่ยงั สอนภาพรวมท่วั ไป ไม่สามารถสอนเฉพาะทางได้ เพราะเขาจะผลิต
บุคลากรแค่ 20 คนก็ไม่ได้ เลยตอ้ งมาเรียนหนา้ งานที่เรา เช่น ตอนนเี้ รามีโครงการความร่วมมือกบั พระ
จอมเกลา้ ลาดกระบงั ทาพวกสวิทช์อตั โนมตั ิต่าง ๆ เรามีโจทย์ไปใหเ้ ขา ทางนนั้ ก็ร่วมวิจยั กบั เราทา
อุปกรณ์สมาร์ทโฮม เป็นพาร์ทเนอร์กนั คือบางทีมนั ตอ้ งเอาทฤษฎีไปบวกภาคปฏิบตั ิ”
ก่อนกลบั ออกจาก บริษัท บิ๊กไพศาล โปรเจค จากัด ในวันท่ีพูดคยุ กนั นนั้ ในสมองยงั คงวนเวียนกบั คา
ของผูบ้ รหิ ารหน่มุ ไฟแรง ที่พดู ถึงทรพั ยากรมนษุ ยว์ ่าเป็นดงั “สมบตั ิอนั ลา้ คา่ ” ขององคก์ ร เป็นวาระเรง่ ด่วน
ท่ตี อ้ งเรง่ พฒั นาใหเ้ ตบิ โตและกลายเป็นสว่ นหนงึ่ ในการขบั เคลื่อนตนเองและองคก์ รไปพรอ้ มกนั แถมยงั มี
คาทิง้ ทา้ ยไวอ้ ย่างน่าเอาไปคิดเป็นการบา้ นต่อว่า
“เพราะธุรกิจ..รอไม่ได”้
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เคร่ืองมือที่ใช้ในการพัฒนาบุคลากร
• การฝึกอบรมในขณะทางาน (On the Job Training : OJT)
• การฝึกอบรมในหอ้ งเรียน (Classroom Training)
• การสอนงาน (Coaching)
• โปรแกรมพ่ีเลีย้ ง (Mentoring Program)
• การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง (Self Learning)
• การเป็นวิทยากรภายใน (Internal Trainer)
• การดงู านนอกสถานท่ี (Site Visit)
• การฝึกงานกับผเู้ ช่ียวชาญ (Counterpart)
• การใหท้ ุนการศึกษา (Scholarship)
• ร่วมมือกบั สถาบนั การศึกษาเพ่ือพฒั นาหลกั สตู รท่ีตรงกบั ความตอ้ งการขององคก์ ร
• สรา้ ง Role Model ในดา้ นต่าง ๆ เพ่ือสรา้ งแรงบนั ดาลใจในการพฒั นาตนเองใหพ้ นักงาน
101
5) สานักงานพัฒนาเทคโนโลยอี วกาศ และภมู สิ ารสนเทศ (องคก์ ารมหาชน) (GISTDA)
สานกั งานพฒั นาเทคโนโลยีอวกาศและภมู ิสารสนเทศ (องคก์ ารมหาชน) (สทอภ.) หรือท่คี นเรยี กกนั ติดปาก
ว่า GISTDA (Geo-Informatics and Space Technology Development Agency) (GISTDA) เป็น
หนว่ ยงานรฐั ท่ีใหบ้ ริการขอ้ มลู ดาวเทียม ขอ้ มลู ภมู สิ ารสนเทศและวิจยั พฒั นาดา้ นเทคโนโลยอี วกาศของ
ประเทศไทย
GISTDA มจี ดุ กาเนิดขนึ้ เม่ือประเทศไทยไดม้ ี “โครงการสารวจทรพั ยากรธรรมชาตดิ ว้ ยดาวเทียม” (พ.ศ.
2514) โดยเขา้ รว่ มกบั โครงการ NASA ERTS-1 ซ่งึ เป็นโครงการของ องคก์ ารบรหิ ารการบินและอวกาศ
แห่งชาติสหรฐั อเมรกิ า (NASA) จากความสาเรจ็ ของโครงการจึงไดม้ ีการเปลีย่ นสถานภาพโครงการ เป็น
หน่วยงานระดบั กองช่อื "กองสารวจทรพั ยากรธรรมชาตดิ ว้ ยดาวเทียม" ในปี พ.ศ. 2522 และใน พ.ศ.2525
ไดด้ าเนนิ การจดั ตงั้ สถานีรบั สญั ญาณดาวเทียมขนึ้ ท่เี ขตลาดกระบงั กรุงเทพมหานคร นบั เป็นสถานีรบั แหง่
แรกในภมู ิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้
ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2543 กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและส่ิงแวดลอ้ ม ไดร้ วมกองสารวจ
ทรพั ยากรธรรมชาติดว้ ยดาวเทียม สานกั งานคณะกรรมการวจิ ยั แห่งชาติ และฝ่ายประสานงานและสง่ เสรมิ
การพฒั นาระบบสารสนเทศภมู ิศาสตร์ ศนู ยข์ อ้ มลู ขอ้ สนเทศ สานกั งานปลดั กระทรวงวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยแี ละสิ่งแวดลอ้ ม จดั ตงั้ เป็นหนว่ ยงานใหม่ใชช้ ่ือวา่ "สานกั งานพฒั นาเทคโนโลยอี วกาศและภมู ิ
สารสนเทศ" และต่อมาไดป้ รบั เปลยี่ นสถานภาพใหเ้ ป็นองคก์ ารมหาชน
หนุนคนไทยใชป้ ระโยชนจ์ ากอวกาศ
ปัจจบุ นั ทกุ ประเทศท่วั โลกต่างพากนั ขบั เคลอ่ื นไปท่ีเปา้ หมาย “เศรษฐกิจอวกาศ" (New Space Economy)
เน่ืองจากมกี ารคาดการณก์ นั วา่ อตุ สาหกรรมอวกาศโลกอีก 20 ปีขา้ งหนา้ (พ.ศ. 2583) จะมีมลู ค่าถึง 1.1
ลา้ นลา้ นดอลลาร์ ประเทศไทยไดเ้ ลง็ เห็นถงึ ความสาคญั และไดก้ าหนดใหอ้ ตุ สาหกรรมอวกาศเป็น 1 ใน 12
อตุ สาหกรรมเปา้ หมาย ( S-Curve Industries) เพ่อื ใชใ้ นการขบั เคลอื่ นเศรษฐกจิ เพ่อื อนาคตของประเทศ
(New Engine of Growth)
ดร. ปกรณ์ อาภาพนั ธุ์ ผอู้ านวยการสานกั งานพฒั นาเทคโนโลยอี วกาศและภมู สิ ารสนเทศ (องคก์ าร
มหาชน) หรือ สทอภ. เปิดเผยว่า
102
“สทอภ. เป็นหนว่ ยงานทมี่ ่งุ เนน้ พฒั นาเทคโนโลยีอวกาศใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ ขณะทขี่ อบเขตเทคโนโลยี
อวกาศมีมากกว่าดาวเทียมสือ่ สารและดาวเทียมสารวจทรพั ยากร เพราะอวกาศเป็นพนื้ ทที่ ยี่ งั ไมม่ ีเจา้ ของ
ทกุ คนท่วั โลกสามารถเขา้ ถงึ ได้ สามารถใชป้ ระโยชนจ์ ากอวกาศได้ ไทยก็ไม่ควรพลาดโอกาสนเี้ ช่นกนั ”
ท่ผี า่ นมา ภารกจิ หลกั ของ GISTDA คือ การรบั สญั ญาณจากดาวเทียมสารวจทรพั ยากรดวงต่าง ๆ มา
จดั เก็บ ประมวลผล และวเิ คราะหข์ อ้ มลู จากดาวเทยี มสารวจทรพั ยากรในหลายรูปแบบ เพ่อื ใหบ้ รกิ าร
ขอ้ มลู จากดาวเทียมแกผ่ ใู้ ชท้ งั้ ภาครฐั และเอกชนทงั้ ภายในและตา่ งประเทศท่วั โลก นอกจากนี้
ยงั ดาเนนิ การถ่ายทอดเทคโนโลยี จดั ทาบรกิ ารสาธารณะท่ีเก่ียวขอ้ ง ไปจนถึงการใหบ้ รกิ ารวชิ าการ สง่ เสรมิ
และสนบั สนนุ การวจิ ยั และพฒั นา การประยกุ ตเ์ ทคโนโลยีอวกาศและภมู สิ ารสนเทศของประเทศ ตลอดจน
พฒั นาบคุ ลากรดา้ นเทคโนโลยีอวกาศ
GISTDA เป็นหนว่ ยงานเดยี วในประเทศไทยท่ใี หบ้ รกิ ารขอ้ มลู จากดาวเทียมแบบครบวงจร มสี ถานรี บั
สญั ญาณโดยตรงจากดาวเทียม มีคลงั ขอ้ มลู ดาวเทียมซง่ึ บนั ทกึ ไวต้ งั้ แต่ปลาย พ.ศ.2524 มีการวเิ คราะห์
ขอ้ มลู และผลิตเป็นแผนท่เี ฉพาะกิจ จดั ทาขอ้ มลู ในลกั ษณะสารสนเทศภมู ศิ าสตร์ (GIS) ใหบ้ รกิ ารขอ้ มลู
จากดาวเทยี มสารวจทรพั ยากรแกห่ น่วยงานต่าง ๆ ใน 4 มิตหิ ลกั ท่สี าคญั ไดแ้ ก่ มิติดา้ นการเกษตรเชิงพนื้ ท่ี
มติ ดิ า้ นสงั คมและทรพั ยากร มติ ิดา้ นเศรษฐกจิ และอตุ สาหกรรม และมติ ิดา้ นการพฒั นาเทคโนโลยีอวกาศ
ผอู้ านวยการคนใหม่ของ GISTDA ไดก้ ลา่ วถงึ วาระงาน 4 ปีของตนนบั จากนไี้ ปว่า จะมกี ารวางกรอบ
นโยบายการทางานท่มี งุ่ 2 สว่ นหลกั สว่ นแรกคืองานขอ้ มลู ภมู ิสารสนเทศ (GIS) ท่มี ีการใชง้ านจรงิ ทงั้ ใน
ระดบั หน่วยงานภาครฐั ผา่ นกลไกสรา้ งความรว่ มมือเพ่อื ใหเ้ กดิ การบรู ณาการขอ้ มลู ระหวา่ งหนว่ ยงาน และ
มงุ่ ผลกั ดนั ใหป้ ระชาชนและสงั คมเขา้ ถึงขอ้ มลู GIS ไดง้ ่ายและสะดวก ผา่ นการพฒั นาแอพพลเิ คช่นั ใหม่ ๆ
รวมทงั้ สว่ นท่สี องคอื งานดา้ นอวกาศ ล่าสดุ คอื การมงุ่ เนน้ ไปท่ดี าวเทยี มธีออส 2 ท่ีกาลงั อยรู่ ะหว่างการ
เตรยี มสง่ ขึน้ อวกาศอีก 2 ปีขา้ งหนา้ เพ่ือใหค้ มุ้ ค่ากบั การลงทนุ ประมาณ 8,000 ลา้ นบาท
ดาวเทียมท่ี ผอ. ปกรณก์ ลา่ วถึงนนั้ สาหรบั คนนอกวงการอาจจะนึกภาพไมอ่ อกว่า ประเทศไทยของเรามี
ความกา้ วหนา้ ในการพฒั นาเทคโนโลยีอวกาศมาตลอดระยะเวลา 30 ปีท่ผี ่านมา แมว้ ่าจะเรม่ิ ตน้ จากการ
เป็นเพยี งผใู้ ชง้ านหรอื ควบคมุ ดแู ลดาวเทยี มในอวกาศ แตก่ ไ็ ดม้ ีการขยบั ขีดความสามารถของประเทศให้
มาเป็นผพู้ ฒั นาเทคโนโลยีอวกาศดว้ ยตนเอง ทงั้ การพฒั นาดาวเทยี ม การพฒั นาซอฟตแ์ วรแ์ ละอปุ กรณ์
สาหรบั การควบคมุ และปฏิบตั ิการดาวเทียมภาคพนื้ เช่น ระบบจานรบั -สง่ ขอ้ มลู คาส่งั ดาวเทียม ซอฟตแ์ วร์
ควบคมุ ดาวเทยี ม ซอฟตแ์ วรว์ เิ คราะหว์ งโคจร หรือซอฟตแ์ วรว์ างแผนถ่ายภาพ
ในสว่ นของดาวเทียมธีออส 2 ถกู พฒั นามาจากโครงการพฒั นาดาวเทียมสารวจทรพั ยากรของประเทศ
ไทย Thailand Earth Observation Satellite (THEOS) ตงั้ แต่เดือนกรกฎาคม 2547 ภายใตข้ อ้ ตกลงความ
103
รว่ มมือดา้ นเทคโนโลยอี วกาศและการประยกุ ตใ์ ชร้ ะหวา่ งรฐั บาลไทยกบั รฐั บาลฝร่งั เศส โดยมี GISTDA กบั
บรษิ ทั EADS Astrium SAS เป็นผรู้ บั ผิดชอบในการดาเนินงาน การออกแบบ การพฒั นา การสง่ ขึน้ สวู่ ง
โคจร และการทดสอบการทางาน รวมถงึ การติดตงั้ ระบบควบคมุ ดาวเทียมและผลติ ขอ้ มลู ภาคพนื้ ดิน
ดาวเทียมสารวจทรพั ยากรขนาดเลก็ THEOS ถกู สง่ ขึน้ สวู่ งโคจรครงั้ แรกในวนั ท่ี 1 ตลุ าคม 2551 สถานี
ควบคมุ และรบั สญั ญาณภาคพนื้ ดินตงั้ อย่ทู ่อี าเภอศรีราชา จงั หวดั ชลบรุ ี สว่ นควบคมุ ประกอบดว้ ยสว่ น
สาคญั 4 สว่ น คือ ศนู ยก์ ารรบั สง่ คาส่งั และการควบคมุ ช่วงคล่ืน S- Band ศนู ยค์ วบคมุ ดาวเทียม (Satellite
Control Center) ระบบคานวณและวิเคราะหว์ งโคจร (Flight Dynamic System) และศนู ยว์ างแผนการ
บนั ทกึ ภาพ และสว่ นรบั สญั ญาณภาคพนื้ ดิน ประกอบดว้ ยสว่ นสาคญั 3 สว่ น คอื สถานีรบั สญั ญาณ X-
Band สว่ นประมวลผลขอ้ มลู (Data Processing Facility) และสว่ นประมวลผลภาพมลู คา่ เพมิ่ (Image
Exploitation Facility)
คัดสรรบุคลากรวนั นี้ รองรับวิถีอวกาศในวันหน้า
สาหรบั บคุ ลากรขององคก์ รทงั้ หมดใน GISTDA นอกเหนือจากเจา้ หนา้ ท่สี านกั งาน เช่น ธรุ การ บญั ชี ฯลฯ
แลว้ เจา้ หนา้ ท่ปี ฏบิ ตั กิ ารสว่ นใหญ่กวา่ 60 % จะมาจากดา้ นวิศวกรรมศาสตร์ ไมว่ ่าจะเป็น วิศวกรรมการ
บนิ วิศวกรรมคอมพวิ เตอร์ โยธา ผงั เมือง ฯลฯ ยกตวั อย่างสาขาท่เี รียนมาทางดา้ น “วิทยาศาสตรอ์ วกาศ”
หรอื “Space Science” ซง่ึ เป็นหมวดวชิ าวิทยาศาสตรว์ ่าดว้ ยการศกึ ษาเกี่ยวกบั ทกุ สิ่งท่ีอยใู่ นอวกาศ ตงั้ แต่
การสารวจอวกาศอนั ไกลโพน้ ส่งิ มชี วี ติ นอกโลก วตั ถทุ อ้ งฟา้ จนถงึ เรื่องภยั พบิ ตั ิจากปรากฎการณท์ าง
ธรรมชาติ
สาหรบั ผทู้ ่ีเรียนมาทางดา้ นสาขาวิศวกรรมอวกาศ (Astronautical Engineering) กจ็ ะศกึ ษาเรอื่ งการ
ออกแบบและสรา้ งยานท่สี ามารถเคล่ือนท่ไี ดใ้ นอวกาศนอกชนั้ บรรยากาศของโลก (กระสวยอวกาศ ยานสง่
และดาวเทียม) ศึกษาพฤติกรรมและสภาพของอวกาศ แตถ่ า้ เป็นสาขาวศิ วกรรมอากาศยาน
(Aeronautical Engineering) กจ็ ะศกึ ษา ออกแบบ และสรา้ งยานท่สี ามารถเคลื่อนท่ไี ดใ้ นอากาศภายใน
ชนั้ บรรยากาศของโลก (ยานท่เี บากว่าอากาศ ประเภท เครือ่ งรอ่ น และอากาศยาน ทงั้ เครอ่ื งบินและ
เฮลิคอปเตอร)์ และธรรมชาติของอากาศ รวมทงั้ ผลกระทบท่มี ผี ลต่อยานและการเคลื่อนท่ี
จะเหน็ ไดว้ ่า GISTDA เป็นองคก์ รท่มี ลี กั ษณะพเิ ศษเฉพาะตวั เพราะรวมเอาหวั กะทขิ องคนทางานทางดา้ น
งานวิศกรรม เชน่ วิศวกรระบบดาวเทยี ม วิศวกรเครื่องกล วศิ วกรการบนิ วิศวกรสือ่ สาร และวิศวกรพฒั นา
ห่นุ ยนต์ ฯลฯ หรือถา้ เป็นสายงานวทิ ยาศาสตร์ กจ็ ะประกอบไปดว้ ย นกั ฟิสิกส์ นกั ส่งิ แวดลอ้ ม นกั
104
ธรณีวทิ ยา นกั อตุ นุ ิยมวิทยา นกั ชวี วทิ ยา นกั เคมี และนกั ภมู ิศาสตร์ ฯลฯ รวมทงั้ อาชพี ดา้ นนกั เทคโนโลยี
และชา่ งเทคนิคอวกาศ นกั คอมพวิ เตอร์ นกั เขียนแบบ ช่างอิเล็กทรอนกิ ส์ เป็นตน้
การคดั สรรบคุ ลากรเขา้ ทางานของ GISTDA นอกจากจะถกู ระบุคณุ สมบตั ิดงั ท่ีไดก้ ลา่ วมาขา้ งตน้ แลว้ ยงั
ตอ้ งเป็นงานท่ีพรอ้ มไปปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ียงั จดุ ตา่ ง ๆ ตวั อยา่ งของหนา้ ท่ใี นการทางาน เชน่ ท่สี ถานีควบคมุ และ
รบั สญั ญาณดาวเทียมไทยโชต อ.ศรีราชา จ.ชลบรุ ี วศิ วกรดาวเทียมประจาการหอ้ งปฏิบตั กิ ารการรบั
สญั ญาณและผลติ ขอ้ มลู ดาวเทยี ม ก็จะตอ้ งดแู ลเร่ืองการรบั สญั ญาณจากดาวเทียมท่สี ง่ ลงมาผลติ เป็น
ขอ้ มลู ดาวเทียมเพ่อื สง่ ใหก้ บั ลกู คา้
ซ่งึ ผปู้ ฏิบตั งิ านจะมกี ารประสานความตอ้ งการไปยงั ศนู ยว์ างแผนถ่ายภาพ เพ่อื วิเคราะหว์ งโคจรและวาง
แผนการถ่ายภาพใหเ้ ป็นไปตามท่ีลกู คา้ ตอ้ งการ ก่อนจะส่งแผนไปยงั ศนู ยค์ วบคมุ ดาวเทยี มเพ่อื ส่งั การ
ถา่ ยภาพ ทงั้ ดาวเทียมไทยโชต ดาวเทยี มเรดาหแ์ ซต ดาวเทียมคอสโมสกายเมต และดาวเทยี มแลนเซท ท่ี
ผา่ นมา ภาพถ่ายดาวเทียมถูกใชป้ ระโยชนท์ งั้ ทางดา้ นการวเิ คราะหป์ ่าไม้ พืน้ ท่กี ารเกษตร การตดิ ตาม
ตรวจสอบการเพาะปลกู พชื เศรษฐกิจ การทาผงั เมือง ความม่นั คงระดบั ประเทศ การติดตามสถานการณภ์ ยั
พิบตั ติ ่าง ๆ ฯลฯ
“30 ปีก่อน คนทเี่ ร่มิ ตน้ ยุคนนั้ กไ็ ดท้ นุ เรียนจากแคนาดา มอี าจารยเ์ กง่ ๆ มาช่วยก่อตงั้ กองดาวเทยี ม มีการ
ใหท้ ดลองใชข้ อ้ มูล ใหส้ ญั ญาณดาวเทยี มฟรี มีองคค์ วามรูจ้ ากต่างชาติ ทงั้ ญปี่ ่ นุ แคนาดา อเมรกิ า พอเรา
มโี ครงการ THEOS 1 เกาหลใี ต้ จีน ฝรง่ั เศสทกุ ประเทศกม็ าแข่งกนั มีบทบาทช่วยเรา เขาใหเ้ พราะเขาก็
อยากไดข้ อ้ มูลจากเรา แตเ่ รากไ็ ดโ้ นวฮ์ าวไดค้ วามรู้ ผมมองวา่ มนั วนิ ทงั้ คู่
ขอ้ มูลเมือ่ ก่อนมนั หยาบ 25 ตารางเมตรต่อพกิ เซล เหน็ แคพ่ นื้ ทรี่ วม ๆ ไม่เหน็ หลงั คาบา้ น พอชว่ งทเี่ กิดสนึ า
มิ มีดาวเทยี ม มนั เหมือนเป็นการปฏวิ ตั อิ ตุ สาหกรรม มองเหน็ หลงั คาบา้ น รฐั บาลยคุ นนั้ กไ็ ฮเทคอย่แู ลว้
เอาขอ้ มูล GIS (Geographic Information System) มาใช้ มกี ารโปรโมทสง่ เสริมใหใ้ ชง้ านมากขนึ้ ตอนนนั้
แต่ละหนว่ ยงานเร่ิมมีตาแหน่งนกั วชิ าการดา้ นนี้ มนี กั แปลขอ้ มูลดาวเทยี ม ฯลฯ
ตามมหาวิทยาลยั กเ็ ร่มิ บรรจุวชิ านี้ ไทยกเ็ ร่มิ สง่ คนออกไปเรยี น ผมเองก็เป็นหน่งึ ในคนรุ่นแรก ๆ ทไี่ ดท้ นุ
กพ. ไปเรยี น Remote Sensing and Geographic Information System ผูบ้ รหิ ารองคก์ รรุน่ นนั้ ก็เร่ิม
วางแผนสรา้ งเครือข่ายตามมหาวทิ ยาลยั ต่าง ๆ ท่านมองว่าเทคโนโลยนี ี้ ศาสตรน์ ี้ จะเจริญไดต้ อ้ งมีคนใช้
มนั ถงึ จะพฒั นาตอ่ ไดไ้ กล
สว่ นบรษิ ัทเอกชนหลายแห่งทเี่ ร่มิ ใชเ้ ทคโนโลยพี วกนี้ เร่ิมเอาซอฟตแ์ วร์ ฮารด์ แวรม์ าขาย ทกุ อย่างกเ็ ลย
ขยายตวั บางบริษทั ใหซ้ อฟตแ์ วร์มหาวทิ ยาลยั ฟรแี ถมยงั สง่ คนไปสอนใหใ้ ชเ้ ป็นดว้ ย เพอื่ โปรโมทสนิ คา้ ของ
105
ตวั เอง กลายเป็นว่าเกิดการแข่งขนั ท่ามกลางความรว่ มมือ เพราะมนั อยนู ่งิ ไมไ่ ด้ มนั เกี่ยวความม่นั คงใน
ชวี ติ ทรพั ยส์ นิ และความย่งั ยนื ของประเทศ เทคโนโลยคี ือสง่ิ ทใี่ ครรูม้ ากกว่า เรว็ กวา่ ดกี วา่ คนนนั้ ก็ได้
ประโยชนไ์ ป มนั เลยทาใหศ้ าสตร์ดา้ นนพี้ ฒั นาไดเ้ ร็วมากในชว่ งนนั้ ”
GISTDA เร่งพัฒนาคนอย่างต่อเน่ือง
แน่นอนวา่ สิง่ เหลา่ นี้ เป็นเร่ืองท่ีตอ้ งใชเ้ มด็ เงนิ ในการลงทุนมหาศาล แต่ในมมุ มองของ ดร. ปกรณ์ อาภา
พนั ธุ์ มองว่า คนและเงินคือส่ิงท่ีตอ้ งมีควบคกู่ นั เพราะไอเดยี ดแี ต่ไม่มเี งินก็ทาไมไ่ ด้ หรือมเี งินแต่ไมม่ คี นก็
ไปไดย้ าก ซง่ึ GISTDA เองก็เป็นองคก์ รท่ที มุ่ เทในเร่อื งการสรา้ งคนรุน่ ใหม่อย่างจรงิ จงั มาตงั้ แต่ตน้
“คนทนี่ เี่ ขา้ มาตอ้ งผา่ นกระบวนการ Orientation เรยี นรูร้ ะบบงาน ภาพรวมองคก์ ร วธิ ีทางาน กฎหมายที่
เกยี่ วขอ้ ง สอนงานใหร้ ูจ้ กั แต่ละแผนก ฯลฯ เราไม่มเี วลา ผมอยากใหแ้ ค่ไมเ่ กินสองเดอื นตอ้ งเร่มิ ทางานแลว้
แตใ่ นสายงานเฉพาะทาง ยกตวั อยา่ งชว่ ง THEOS 1 เราจะสง่ คนไปเรียนรูเ้ รื่องดาวเทยี ม เรอื่ งการรบั
สญั ญาณ ยุคแรกสง่ ไป 20 คน เขา้ โปรแกรมของ THEOS อยูก่ บั เขาเลย 2 ปี เพอื่ ใหเ้ ขา้ ใจระบบการ
ควบคมุ ดาวเทยี ม ระบบสือ่ สาร
ซ่ึงการสง่ คนไปเรยี นต่อ นอกจากจะไดป้ ระสบการณแ์ ละโนวฮ์ าวกลบั มาแลว้ ยงั มผี ลต่อเรอื่ งการสรา้ ง
แรงจูงใจ ผมเป็นนกั เรยี นทนุ 1 ใน 3 คนแรกของ GISTDA พอกลบั มาเรากไ็ ฟแรง เพราะเราไดไ้ ปเหน็
เทคโนโลยเี ทรนดข์ องชาติอนื่ ประเทศนเี้ ขาคดิ อะไร เขาสอนอะไร อกี สามปีหา้ ปีเขาจะไปทางไหน เราจะ
อยากเอาความรูท้ ไี่ ดไ้ ปดไู ปเหน็ จากตา่ งชาตมิ าใชก้ บั บา้ นเรา พอกลบั มาตอนทเี่ ราเขียนรายงานว่าไปดู
อะไรมาบา้ ง เราก็จะอยากเสนอไอเดยี มากมายวา่ หนว่ ยงานเราควรปรบั ตรงไหน
ตอนผมเรียนจบมาทางานวนั แรก นายยงั บอกเลยวา่ คณุ จบดอกเตอร์ยงั ไม่พอ คณุ ตอ้ งไปดูงาน
ตา่ งประเทศใหม้ าก ๆ ตอนนนั้ นายก็เลยสง่ ผมไปทกุ เดอื น บางปีไป 15 ครงั้ ”
ปัจจบุ นั นี้ นโยบายในการบริหารองคก์ รของ GISTDA โดยเฉพาะเรอื่ งของการผลิตบคุ ลากรรุน่ ใหม่ ตอ้ ง
เรยี กไดว้ ่า “มเี ทา่ ไรใหไ้ ม่อนั้ ” เพราะผบู้ รหิ ารมีมมุ มองว่า ในขณะท่ีวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยขี องประเทศ
เรากาลงั เติบโตขนึ้ อยา่ งต่อเน่อื ง งานดา้ นอวกาศและภมู ิสารสนเทศของไทย ทงั้ ดา้ นสมรรถนะและ
ศกั ยภาพก็ถือว่าอย่ใู นระดบั แนวหนา้ ของอาเซียน กาลงั คนท่ถี กู สง่ ออกไปเรียนเฉพาะทาง เม่อื ทยอยกนั
กลบั มาทางานท่ปี ระเทศไทยแลว้ ก็สามารถออกแบบและผลิตเครื่องมอื รวมถึงโซลชู ่นั ต่าง ๆ ไดน้ า่ สนใจ
และมคี วามหลากหลาย อีกทงั้ เรอ่ื งของการเรยี นการสอนหลกั สตู ร SCGI Master Program ระดบั ปรญิ ญา
โทนานาชาติ สาขาภมู สิ ารสนเทศศาสตร์ ซ่งึ เป็นความร่วมมือระหวา่ ง GISTDA กบั มหาวิทยาลยั อ่ฮู ่นั
สาธารณรฐั ประชาชนจีน และมหาวทิ ยาลยั บรู พา กก็ าลงั ดาเนนิ การอย่างต่อเน่ือง
106
ท่ผี ่านมา GISTDA ยงั ไดท้ าโครงการพฒั นาบคุ ลากรเขา้ ส่อู ตุ สาหกรรมการบนิ และอวกาศไทย โดยมกี าร
คดั เลือกวิศวกรท่มี พี นื้ ฐานความรูท้ างดา้ นดาวเทยี มและเทคโนโลยีอวกาศ ทงั้ พลเรอื นและทหาร สง่ ไปรว่ ม
ปฏบิ ตั งิ านพรอ้ มเรียนรูเ้ ทคโนโลยกี บั ผเู้ ช่ียวชาญ รบั การถา่ ยทอดเทคโนโลยที งั้ สว่ นของฮารด์ แวร์ และ
ซอฟตแ์ วร์ การออกแบบพฒั นา ประกอบ และทดสอบดาวเทียมเลก็ ใน Airbus Defence and Space SAS
ท่ฝี ร่งั เศสเป็นเวลา 1 ปี แลว้ กลบั มาเรม่ิ ผลิต ทดสอบท่ศี นู ยผ์ ลติ และทดสอบดาวเทยี มท่ีกาลงั กอ่ สรา้ งใน
พนื้ ท่อี ทุ ยานรงั สรรคน์ วตั กรรมอวกาศ GISTDA อ.ศรีราชา
นอกจากนี้ ยงั มกี ารสรา้ งและพฒั นากาลงั คน ดว้ ยการทา Workshop การฝึกงาน การทางานวิจยั ใน
หลกั สตู ร ดา้ นขอ้ มลู ภมู ิสารสนเทศ (GI) และการบนิ และอวกาศ (Aerospace) รว่ มกบั มหาวทิ ยาลยั ชนั้ นา
ทงั้ ของไทยและต่างประเทศ เช่น ความรว่ มมอื กบั University of Twente Netherlands ซง่ึ เป็นสถาบนั ท่มี ี
ความเช่ียวชาญในดา้ นวชิ าการ งานประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ เป็นท่ยี อมรบั อย่างมากในยโุ รป แอฟรกิ า
และเอเชยี
GISTDA ยงั มงุ่ เปา้ วิทยาศาสตรร์ ะบบโลกและอวกาศ (Earth Space Science Frontier Research &
Development & Innovation) ดว้ ยการสนบั สนนุ การวิจยั และพฒั นานวตั กรรมขนั้ แนวหนา้ ท่สี ามารถนาไป
ตอ่ ยอดทงั้ ในลกั ษณะการ Spin-Off หรือจดั ตงั้ Startup เพ่อื นาไปสกู่ ารพฒั นาเศรษฐกิจอวกาศของชาตไิ ด้
เชน่ การพฒั นาการวจิ ยั ดา้ นอาหารและการเกษตรในอวกาศ การผลิตยารกั ษาโรคแบบใหมท่ ่ตี อ้ งอาศยั
สภาวะแรงโนม้ ถว่ งจากอวกาศ และการสรา้ งความปลอดภยั ใหก้ บั อวกาศไทย (Space Safety and
Security) โดยผ่านความรว่ มมือในรูปแบบ Space Consortium
รวมถึงกจิ กรรม Space Science School ท่รี วบรวมผเู้ ช่ียวชาญและวิศวกรอวกาศจากองคก์ รอวกาศท่วั
โลก เช่น ISSI (Switzerland), European Space Astronomy Center (ESA/ESAC, Spain), Swiss
Space Center at EPFL (Switzerland), University of Strathclyde (United Kingdom), National Space
Science Center (CAS-China), JAXA(Japan), National Central University (Taiwan), Space
Research Institute (Russia), APSCO เพ่อื มาอพั เดทความรูด้ า้ นวิศวกรรมอวกาศ สาหรบั นกั วิจยั และ
วศิ วกรรุน่ ใหม่ ตงั้ แต่ระดบั ปริญญาโทถึงหลงั ปรญิ ญาเอก
ไม่เพียงแตน่ กั ศกึ ษาหรือบุคลากรวยั ทางานเท่านนั้ GISTDA ยงั มีวสิ ยั ทศั นไ์ ปถึงเรือ่ งของการปลกู ฝัง
ทศั นคติท่ีดีตอ่ วิชาชพี ดา้ นนี้ ดว้ ยการจดั กจิ กรรมกบั นกั เรียนระดบั มธั ยม ท่จี ะเป็นกาลงั สาคญั ในการ
ขบั เคล่ือนการพฒั นาเศรษฐกิจอวกาศใหม่ของประเทศไทยในอนาคต เช่น กจิ กรรมการจดั การแขง่ ขนั สรา้ ง
ดาวเทียมขนาดเลก็ กจิ กรรมสง่ เสรมิ เยาวชนเขยี นโปรแกรมเพ่อื ควบคมุ หนุ่ ยนต์ หรืออปุ กรณท์ ่ใี ชส้ ารวจ
107
อวกาศ และกจิ กรรมโครงการประกวดธรุ กิจนวตั กรรมดา้ นอตุ สาหกรรมอากาศยานไรค้ นขบั UAV
Application และการแขง่ ขนั ดา้ นวิทยาศาสตรโ์ ลกและอวกาศอ่นื ๆ
เปลี่ยน Mindset ปรับวิสัยทศั น์ พฒั นาภาวะผนู้ า
“สง่ิ ทผี่ มวางแผนไว้ คือเรอื่ งของกระบวนการสรา้ งวฒั นธรรมองคก์ ร ส่งิ หน่งึ ทตี่ อ้ งใหค้ วามสาคญั ก็คือ เรา
ตอ้ งปรบั เปลยี่ นจาก Distributor Mindset ไปเป็น Investor Mindset คอื องค์กรจะทาอะไรกไ็ ด้ ขอใหร้ ูว้ า่
ทกุ อย่างทที่ ามนั คมุ้ คา่ การลงทนุ ทผี่ า่ นมาเราอาจจะไม่ไดค้ ิดถงึ กาไรในเชิงการลงทนุ มากนกั
สมยั กอ่ นเราเป็นผูใ้ หบ้ ริการขอ้ มูล คอื รบั ขอ้ มูลมาแลว้ สง่ ต่อ แตว่ นั นขี้ อง GISTDA 4.0 เราเป็นคนคมุ
แพลทฟอร์มแลว้ เราตอ้ งปรบั Mindset ทกุ คนใหม้ องภาพเดยี วกนั ตอ้ งคานงึ ถงึ ‘Value Based
Organization’ ทาอะไรตอ้ งมองใหเ้ หน็ คณุ คา่ ทเี่ กิด ทงั้ จากสงั คมหรือทางการเงนิ ”
และเสน้ ทางท่จี ะไปถงึ ตามวิสยั ทศั นด์ งั กลา่ ว ผอ.ปกรณ์ เช่ือวา่ ผนู้ าท่ีดีมีผลอย่างยง่ิ ต่อการพฒั นาองคก์ ร
หน่วยงานแหง่ นีจ้ ึงเนน้ เรื่องของการพฒั นาภาวะผนู้ าท่เี ขม้ ขน้ เป็นพิเศษ ทงั้ เรื่องของความรูแ้ ละทกั ษะท่ีใช้
ในการทางาน และทกั ษะท่ีใชใ้ นการปฏิสมั พนั ธก์ บั คน
“เรามกี ารโคช้ ผบู้ ริหารมาตลอดหลายรุน่ ตงั้ แต่รุน่ ระดบั รองลงมาถงึ หวั หนา้ ฝ่ าย ปัญหาของพวกเทคนิคอล
คอื เรื่องของการสอื่ สาร บางทเี ขาเป็นสเปเชยี ลลสิ ตม์ ากไป การโคช้ เป็นภาคบงั คบั ทที่ กุ คนตอ้ งเขา้ ถา้ เป็น
ระดบั ทมี่ ลี กู นอ้ ง คอื ตอ้ งสรา้ งทกั ษะการโคช้ ภาวะผูน้ า ทกั ษะการฟงั ทางเราจะดไี ซนห์ ลกั สูตรเอง เชญิ
วทิ ยากรจากภายนอกเขา้ มาสอนใหผ้ ูน้ าเป็นโคช้ ได้ พอสอนเสร็จในระดบั ลดี เดอร์ เขาจะมีเชค็ ลสิ ตว์ ่าวนั นี้
ไดท้ าพฤติกรรมอะไรของการโคช้ หรือยงั พอสรา้ งคนใหเ้ ป็นแบคอพั แลว้ คนพวกนกี้ จ็ ะเป็นเมนเทอร์สรา้ ง
คนรุ่นตอ่ ไปได้
แต่ถา้ ระดบั ผูป้ ฏิบตั งิ าน เราจะมี Self-Coaching เพอื่ ใหเ้ ขารูว้ ธิ เี ขาโคช้ ตวั เองใหม้ ี Passion ในการทางาน
ตอนนมี้ แี ผนจะสรา้ งทาเนียบผเู้ ชยี่ วชาญดา้ นอวกาศ คนผ่าน GISTDA จะมใี บเซอร์ เพอื่ สนบั สนนุ ให้
คนทางานมี Passion มากขึน้
สว่ นอกี โครงการทกี่ าลงั วางแผนคอื เราจะเปิดฟลอร์คยุ กนั ใหเ้ วลาเลา่ เรอื่ ง 5 นาที แลว้ ดสู วิ ่าคนฟังจะบอก
ไดม้ ยั้ วา่ คนเลา่ เลา่ เรือ่ งอะไร บางคนสอื่ สารไม่รูเ้ รอื่ ง ขาดความเป็น Story Teller เราตอ้ งสรา้ งวฒั นธรรม
ของการเปิดอกคยุ กนั ทบี่ างคนเรียกว่า ‘สนุ ทรียสนทนา’ Core Value ของ GISTDA คอื การเลา่ เรื่องใหค้ น
อนื่ เขา้ ใจ เช่น เล่าใหส้ งั คมตระหนกั ความสาคญั ของงานทเี่ ราทาอยู่
108
นคี่ อื สองสง่ิ ทตี่ อ้ งมี 1 องคก์ รตอ้ งมี Leadership เพราะถา้ ขาดความเป็นผนู้ า มนั จะขาดความรบั ผดิ ชอบ
หลายหนว่ ยงานเดนิ ต่อไมไ่ ด้ เพราะเวลาคนขาดความรบั ผดิ ชอบกไ็ ม่กลา้ ตดั สนิ ใจ 2 คอื ตอ้ งสรา้ งโอกาสให้
คนทมี่ แี วว ลสิ ตร์ ายชือ่ มาเลย แลว้ คอ่ ยไปดูวา่ แต่ละคนขาด Skill อะไร เราตอ้ งทาอะไรเพอื่ ฟมู ฟกั เขาตอ่ ”
ทงั้ หมดนคี้ ือภารกจิ ของ GISTDA ในการสานต่อองคค์ วามรูใ้ นดา้ นการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศเพ่ือ
การสารวจและพฒั นาประเทศ ท่สี ่งั สมมาตลอดครง่ึ ทศวรรษสคู่ นรุน่ ใหม่ โดยตงั้ เปา้ จะเห็นไทยมีบทบาท
สาคญั ในเวทีระดบั โลกและไดร้ บั การยอมรบั ในระดบั นานาชาติ
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เคร่อื งมอื ทีใ่ ชใ้ นการพัฒนาบคุ ลากร
• การฝึกอบรมในขณะทางาน (On the Job Training : OJT)
• การฝึกอบรมในหอ้ งเรยี น (Classroom Training)
• การสอนงาน (Coaching)
• โปรแกรมพ่เี ลีย้ ง (Mentoring Program)
• การเพม่ิ คณุ คา่ ในงาน (Job Enrichment)
• การใหค้ าปรกึ ษาแนะนา (Consulting)
• การทากจิ กรรม (Activity)
• การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง (Self Learning)
• การเป็นวิทยากรภายใน (Internal Trainer)
• การดงู านนอกสถานท่ี (Site Visit)
• การฝึกงานกบั ผเู้ ช่ียวชาญ (Counterpart)
• การประชมุ /สมั มนา (Meeting/Seminar)
• การใหท้ นุ การศกึ ษา (Scholarship)
• รว่ มมือกบั สถาบนั การศกึ ษาเพ่อื พฒั นาหลกั สตู รท่ตี รงกบั ความตอ้ งการขององคก์ ร
• การจดั ใหม้ ีการจดั การความรู้ (Knowledge Management)
• การจดั ประกวดแผนธุรกจิ หรือ การจดั ประกวดนวตั กรรม
• พฒั นาความพรอ้ มของอปุ กรณ์ เครื่องมอื และผนวก Collaboration Platform ท่เี พ่มิ ความสามารถในการ
สรา้ งเครอื ข่ายสงั คม
109
6) บรษิ ัท อินเด็กซ์ ครีเอทฟี วลิ เลจ จากดั (มหาชน) (INDEX)
บมจ.อินเดก็ ซ์ ครีเอทฟี วิลเลจ (Index) เป็นบรษิ ทั ครเี อทีฟ อีเวน้ ท์ อนั ดบั 1 ของไทย และเป็นบริษัทอเี วน้ ท์
ของคนไทยบรษิ ัทเดียวท่ตี ิดอนั ดบั 7 ของโลก (จดั อนั ดบั โดยนิตยสาร Special Events Magazine
สหรฐั อเมรกิ า) ตอกยา้ การเป็นผนู้ าดา้ นการตลาดเชิงสรา้ งสรรคอ์ ย่างครบวงจรในภมู ิภาคอาเซียน โดย
ขยายสาขาไปยงั ประเทศเพ่อื นบา้ นและเอเซีย มกี ารดาเนินธุรกิจตอบสนองความตอ้ งการของลกู คา้ ไดใ้ น
ทกุ มิติ แบบ Co-Creation คือ ผสมผสานจดุ แข็งดา้ นประสบการณ์ ใหเ้ ขา้ กบั Know-How และความ
เช่ียวชาญเฉพาะตวั ทงั้ หมดนอี้ ย่ภู ายใตส้ โลแกน ‘Never Stop Creating’
ไอเดยี กลับหวั คิด พิชติ หวั ใจธุรกิจ
"เกรยี งไกร กาญจนะโภคนิ " ประธานเจา้ หนา้ ท่บี ริหาร บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทฟี วลิ เลจ จากดั (มหาชน)
หรอื ท่ีคนทงั้ วงการเรียกขานกนั ติดปากวา่ “พ่ีเมฆ INDEX” เลา่ ถึงจดุ เรม่ิ ตน้ ของความสาเรจ็ นวี้ า่ “เราเร่มิ ตน้
ธรุ กิจอเี วนต์ ในวนั ทยี่ งั ไม่มใี ครรูจ้ กั เลยวา่ ‘อเี วนต์’ คอื อะไร”
“สมยั กอ่ นมนั ไมม่ ีใครทา ไม่มใี ครรูจ้ กั ‘Organizer’ คอื อะไร ‘โมเดลธุรกจิ ’ ตอ้ งแบบไหน ไมร่ ูแ้ มก้ ระทง่ั ว่า
‘Quotation ตอ้ งทายงั ไง เวลาคนถามว่า ‘ทาธรุ กิจอะไร’ เรายงั ตอบไม่ถกู เลย บอก ‘รบั จา้ งจดั งาน’ แคน่ นั้ ”
จากอดตี ลกู หมอ้ JSL รบั ผิดชอบงานโปรดวิ เซอรท์ ีวี เป็นครีเอทฟี คิดรูปแบบ เกมโชว์ ละคร คอนเสริ ต์ ใน
วนั ท่ีสถานท่จี ดั งานท่ใี หญ่ท่ีสดุ ของกรุงเทพฯ ยคุ นนั้ มีแค่ Bangkok Convention Center พนื้ ท่ี 2,000
ตารางเมตร แต่ความรกั ในงานท่อี ยากทากเ็ ลยตดั สินใจก่อตงั้ ธุรกจิ ของตนเอง
“ความมนั คอื ไดล้ นุ้ เรอื่ งใหม่ ๆ ทกุ วนั เป็นธุรกจิ ทไี่ มม่ ีความเป็นรูทนี ไม่มีความพรอ้ มของซบั พลายเชน
สมยั นนั้ ไมม่ บี รษิ ทั ไฟ เสยี ง ฉาก เวที ทกุ อยา่ งเร่มิ จากศูนย์ มีปญั หาใหม่ ๆ ใหแ้ กท้ กุ วนั ไมเ่ คยไดน้ อนก่อน
วนั งาน ช่างอยถู่ งึ เชา้ เราก็เชา้ ดว้ ย เปิดบริษัทวนั แรกถอื เงนิ ไปเปิดกระแสรายวนั 500 บาท ธนาคารไล่
กลบั มา บอกตอ้ งหมืน่ นงึ ค่ะพ”ี่
2530 คอื ปีท่กี ่อตงั้ บริษัทแรกใชช้ ่ือวา่ Scene Progress เรม่ิ ตน้ ดว้ ยเงิน 60,000 บาท มีเพ่อื นมาช่วยดดู า้ น
มารเ์ กตตงิ้ และระบบหลงั บา้ น ในขณะท่ีผกู้ ่อตงั้ สงวนตาแหนง่ ท่ีตนเองถนดั น่นั คือการคิดและผลิตผลงาน
เอาไว้ แตส่ องปีผ่านไป บรษิ ัทท่กี าลงั ทาท่าจะไปไดด้ ีก็เกิดเรื่องท่ีทิศทางในการประกอบธุรกิจไม่ลงตวั จึง
ตดั สินใจแยกตวั ออกมา ภายใตแ้ บรนดใ์ หม่อย่าง Index ในปี 2533 โดยเรม่ิ จาก Town House เล็ก ๆ ซ่งึ ใน
วนั แรกไม่มเี ฟอรน์ เิ จอสกั ชนิ้ ตอ้ งน่งั กบั พนื้ ทางานกนั
110
แต่นบั เป็นการแจง้ เกดิ ถกู ท่ีถกู เวลา เพราะมาในจงั หวะท่เี ศรษฐกจิ กาลงั บมู ลกู คา้ กลมุ่ แรกขององคก์ รคือ
สินคา้ ประเภท FMCG (Fast-Moving Consumer Goods) ท่ที าใหท้ งั้ งานและเงนิ ไหลมาเทมาจนแทบ
รบั มือไมท่ นั
“ตอนนนั้ เนสกาแฟพยายามเพม่ิ การบรโิ ภคกาแฟในฤดูรอ้ นซ่ึงปกติยอดขายจะลดลง โดยพยายามแนะนา
วธิ กี ารชงกาแฟเยน็ โดยใชก้ ระบอก Shaker ใสก่ าแฟผง เอานา้ แข็งใสน่ มขน้ หวานใสก่ ระบอกเขยา่ ความ
สนกุ อยู่ที่ ลูกคา้ โทรมาหาตอนหน่งึ ท่มุ ว่า ‘เมฆ พรุ่งนถี้ า่ ยแสงระวสี ามท่มุ นะ’ ถามไปว่าถา่ ยอะไร ลูกคา้
บอกว่าใหเ้ วลาคิดหนง่ึ คนื พรุ่งนี้ 9 โมงเชา้ เจอกนั แต่ 9 โมงเชา้ เรายงั ไมร่ ูเ้ ลยว่า ‘จะถ่ายอะไร’ สมยั นนั้
กจิ กรรมการตลาดอยา่ งมากก็เอานางสาวไทยไป visit ตามจดุ ขายต่าง ๆ มแี คก่ ารลด แลก แจก แถม แต่
ไมม่ กี ารเชอื่ มโยงกบั Benefit ของแบรนด์
เราเป็นคนแรกทคี่ ิดถงึ การใชอ้ เี วนตใ์ นแง่ของ Communication ผลคอื ดงั ระเบิด เนสกาแฟขายกระบอก
เชคไดล้ า้ นกระบอกยอดขายเนสกาแฟทะลเุ ป้า กลายเป็น Campaign ทปี่ ระเทศอนื่ นา Format Shake
Lady นไี้ ปใชท้ ่วั โลกเลย Index ก็เลยได้ Success Story นี้ เป็น Project แจง้ เกิด
นอกเหนือจากไอเดียท่มี าก่อนกาลแลว้ อินเดก็ ซย์ งั โตไม่หยดุ เพราะความคิดนอกกกรอบ ท่เี จา้ ตวั เลา่ ว่า
“คดิ อะไรกไ็ ดท้ ีค่ นอนื่ เขาไม่คดิ กนั ” อาทิ การเป็นบรษิ ทั แรกท่ที าบา้ นตวั อย่างสเกลเทา่ ของจรงิ แบบ 1 : 1
ไปตงั้ อย่กู ลางหา้ งฯ หรือการยกกรนี กอลฟ์ เขา้ มาในพืน้ ท่ีจดั งานจนกลายเป็น Talk of the Town
“เราทาอะไรกไ็ ดท้ ไี่ ม่เหมือนคนอืน่ ทาหวอื หวายงั ไง ขอให้ End Up ขายของไดค้ ือจบ ย่งิ ช่วงอสงั หาฯ บูม
งานวนั เปิดตอ้ งย่งิ ใหญ่ เกมตอ้ งเร็ว ตอ้ งปิดการขายใหไ้ ดใ้ นวนั เปิดตวั อมิ แพคตอ้ งสูงสดุ ”
ตงั้ หมู่บ้านใหญ่ไวผ้ ลิตไอเดีย
ใครฟังเรอ่ื งยอ้ นอดีตแลว้ คงตอ้ งองึ้ ปนท่งึ คาถามท่ีตามมาจงึ ไม่ใชแ่ ค่ ‘คดิ แบบนนั้ ไดย้ งั ไง’ แต่ตอ้ งถาม
ต่อไปว่า “แลว้ ไปเอาคนทไี่ หนมาคิด” คณุ เกรยี งไกรเลา่ ทีเลน่ ทจี รงิ วา่ “ชว่ งแรกหาคนยากกกก... มาก ใคร
มาทางานถอื เป็นผูม้ ีพระคณุ มาก”
“สมยั นนั้ ใครก็ไดข้ อใหม้ าเถอะ จะจบใหม่ จะเกรด 1 เรารบั หมด เพราะธรุ กิจเราไมม่ ใี ครรูจ้ กั เกือบ 100 %
มแี ตเ่ ดก็ จบใหม่มาสมคั ร กลบั บา้ นไปพอ่ แมถ่ ามวา่ ทางานอะไรยงั ตอบกนั ไมถ่ กู เลย มหาวทิ ยาลยั ยงั ไมม่ ี
วชิ าอเี วนต์ เราตอ้ งใชว้ ธิ ไี ปตกเขียวจากสถาบนั ต่าง ๆ เลอื กคนทมี่ นั ดูลน้ ๆ
111
ใครสมคั รมาผมเป็นคนสมั ภาษณเ์ อง บางคนเกรดไม่ดเี ราก็ถามว่าทาไมคะแนนนอ้ ย อ๋อ ทากิจกรรมเยอะ
แลว้ ทาไมมาสมคั รทีน่ ี่ เขาบอกสมคั รทอี่ นื่ ไม่มีใครรบั ไลฟ์ สไตล์ เป็นไง ไหนเล่าเรื่องหนงั ทเี่ พ่งิ ไปดสู ิ ถา้ คน
ไหนไมค่ ยุ แลว้ ไมช่ อบผมไม่เอาเลย เคยมเี กรดดี เกียรตนิ ิยม เรียนองั กฤษ แต่พอถามถงึ เป้าหมายในชีวติ
เขาตอบว่า ‘อยากมรี ถเบนซ์’ แบบนผี้ มกว็ ่าไม่นา่ เขา้ กบั เราได้
เพราะถา้ คนไหนมเี ป้าหมายชีวติ เรือ่ งความร่ารวย มนั จะไมไ่ ดท้ างานดว้ ย Passion ผมถอื ว่าถา้ คนเรา
ทางานทตี่ วั เองรกั เดีย๋ วรถเบนซ์มนั มาเอง เพราะอเี วนตเ์ ป็นงานหนกั มเี ดทไลน์ ไมม่ ีการเลอื่ นเวลาสง่ มอบ
ถา้ คณุ เอาเงนิ เป็นตวั ตงั้ คณุ จะอยูไ่ มไ่ ด้ ขนาด Index ทกุ วนั นี้ ผมยงั ใหน้ โยบายนอ้ ง ๆ วา่ ‘หา้ มทามารจ์ นิ้
เกนิ เท่าน’ี้ ใครทาเกนิ แปลว่าเนน้ แตก่ าไร เดยี๋ วงานห่วย เราไมเ่ อา”
แมไ้ มไ่ ดท้ างาน “โดยเอากาไรเป็นตวั ตงั้ ” แตธ่ รุ กจิ ของ Index กลบั งอกเงยรุดหนา้ ไปอยา่ งเกินความ
คาดหมาย คณุ เกรียงไกรเลา่ ถงึ วนั ท่ตี ดั สนิ ใจเขา้ ตลาดฯ ในปี 2548 กอ่ นหนา้ นนั้
“ผมไมเ่ คยดบู ญั ชี ไมส่ นกาไรขาดทนุ เท่าไร รูแ้ ค่ว่ามีหนา้ ทหี่ าเงนิ คิดงาน ตอนนนั้ ธรุ กิจเราไปถงึ ระดบั
500-600 ลา้ นแลว้ พอคนมาชวนเขา้ ตลาดถงึ เพ่งิ ไปดูทสี่ รรพากร เพ่งิ รูว้ ่า อ๋อ ในธุรกจิ บนั เทงิ Index คือ
Top 3 ทจี่ ่ายภาษีมากทสี่ ดุ รองจากแกรมมีก่ บั เวริ ์คพอยท์ ตอน FA เขามาสอนวชิ าบญั ชี ฟงั ไม่รูเ้ รือ่ งเลย
แตอ่ ยากเขา้ ตลาดฯ เพราะมีคาวา่ มหาชนต่อทา้ ย โอ๊ย เท่ ชอบ ตอบโอเคไปเลย
ยนื่ Filling ก.ล.ต. Approve แลว้ กาลงั เตรยี มวางแผน IPO ทางแกรมมีต่ ดิ ต่อเขา้ มาวา่ คุณไพบูลย์
ดารงคช์ ยั ธรรม อยากเจอ เราก็ไม่ทราบว่าเรอื่ งอะไรแต่เกิดมาไมเ่ คยเจอคณุ ไพบูลย์ ก็เลยเขา้ ไปเจอ ทาง
Grammy ดวิ อยา่ งรวดเร็วโดยเสนอเขา้ มาถอื หนุ้ Index ในสดั สว่ น 50% แผนการ IPO จงึ ไมเ่ กิดเพราะเรา
มองวา่ การไดแ้ กรมมมี่ าถอื หนุ้ นา่ จะเป็นประโยชนม์ ากกว่าการเขา้ ตลาดหนุ้ ”
นบั เป็นการ M & A ท่ลี งตวั Grammy เป็น Strategic Partner ทาให้ Index เพม่ิ พนู ศกั ยภาพแนวตงั้ และ
แนวนอน คือนอกจากจะมีความพรอ้ มเพ่อื ตอ้ งการตอบสนองความตอ้ งการของตลาดมากขนึ้ แลว้ อกี ทาง
หนึ่งยงั ไดเ้ ปรียบในเร่ืองการไดใ้ ชท้ รพั ยากรของกลมุ่ จีเอ็มเอ็มแกรมม่ที งั้ หมด ไมว่ ่าจะเป็น ศิลปิน นกั รอ้ ง
ดารา สอื่ ต่าง ๆ ทงั้ โทรทศั น์ วิทยุ ส่งิ พิมพ์ เขา้ มาเสรมิ งานอีเวนต์ โดยมีเง่ือนไขของการเขา้ ถือหนุ้ ว่า รูปแบบ
การบรหิ ารการจดั การของ Index นนั้ จะไมม่ ีการเปล่ียนแปลงอย่างใด ยกเวน้ ตรวจเช็คสขุ ภาพทางการเงิน
ทกุ เดือน
ซง่ึ น่นั รวมถึงวิธีการปรบั องคก์ รทงั้ องคาพยพ รวมถึงเรื่องของ “คน” ซ่งึ เป็นหวั ใจหลกั ของการทางานเชิง
สรา้ งสรรค์ บรษิ ทั อินเด็กซ์ อีเวนต์ เอเจนซี่ จากดั (มหาชน) (Index Event) ซ่งึ ภายหลงั ถกู เพิ่มคาต่อทา้ ยวา่
112
Village หมายถงึ “การอยรู่ ว่ มกนั เป็นหม่บู า้ น” ท่ีประกอบไปดว้ ยบา้ นหลายหลงั และมีพ่อบา้ นคอยดแู ลแต่
ละบา้ นย่อย ๆ โดยไดร้ บั อานาจในการตดั สินใจและบรหิ ารงานอย่างชดั เจน
“คนยคุ แรก ๆ 60-70 คน ยงั ทางานกบั เรามาจนถงึ วนั นี้ เพราะเราอยกู่ นั แบบคนรว่ มหมู่บา้ นกนั ขนาดชว่ ง
วกิ ฤตตม้ ยากงุ้ เรายงั ผา่ นมาไดโ้ ดยไม่ลดเงนิ เดือน ไม่เอาคนออก ทงั้ ๆ ทตี่ อนนนั้ แทบไมม่ งี านเลย
ผบู้ ริหารลดเงนิ เดือนตวั เอง หลงั บา้ นจดั การไป เงนิ ไมพ่ อค่อยมาบอก เรามีหนา้ ทเี่ ตมิ เงนิ เขา้ ไป
บรษิ ทั เอเจนซี่ โฆษณา บริษทั ค่แู ขง่ ตอนนนั้ เอาคนออกเพอื่ ประหยดั คา่ ใชจ้ ่าย แตเ่ รากลบั ขยายธรุ กจิ
เพราะมองเหน็ ชอ่ งทางทวี่ ่า ถา้ เรามวั แตจ่ า้ งซพั พลายเช่น แสง เสยี ง ฉาก เราเสนองานแข่งกบั ชาวบา้ น
แทบตายสดุ ทา้ ยไดง้ านมาแบง่ เงนิ เพอื่ นหมด สเู้ อามาทาเอง ต่อทา้ ยกนั เป็นรถไฟขบวนยาว ๆ ครบวงจรไป
เลย พอเร่มิ ขยายงานคนก็เพ่มิ เป็นหลายรอ้ ย คอนเซปตเ์ ราใชค้ าว่า Village คือแต่ละบา้ นมารวมกนั เรา
เลอื กลกู บา้ นได้ วนั ไหนมีบา้ นทไี่ มโ่ อเค ลา้ สมยั ก็ขายออกได้ ทกุ บา้ นมีความเชยี่ วชาญเฉพาะดา้ น มี
พอ่ บา้ นดูแล
ผมให้ Full Authorized พอ่ บา้ นเขาว่าไปเลย เขารูด้ กี วา่ เราวา่ ธุรกิจของเขาเป็นยงั ไง เราแคม่ าดู perform
รายเดอื น ไม่ตอ้ งมาโมใ้ หฟ้ ัง ตรวจการบา้ นดว้ ยตวั เลขมนั ง่ายกวา่ และตกลงกนั ว่าสองสามปีแรกเราให้
งานได้ แตห่ ลงั จากนนั้ ทกุ บา้ นตอ้ งยนื ดว้ ยตวั เองได”้
การขยายธรุ กจิ ท่ไี ต่เพดานบินสงู ขึน้ เรือ่ ย ๆ จาก Town House 1 หอ้ งกลายเป็น 5 หอ้ ง สกู่ ารเป็นมหาชน
คมุ คนบา้ นจาก 60 คน ไปเป็น 500-600 คน คณุ เกรยี งไกรมองวา่ ปัจจยั สาคญั ท่สี ดุ ท่ีทาใหท้ กุ อยา่ งอย่ใู นท่ี
ทางของมนั ได้ ก็คือเรอื่ งของ Culture ซ่งึ เป็นเสมือน “กฎของหมู่บา้ น”
“ผมมคี วามเชือ่ หลกั อยู่ 2 เรือ่ ง หน่งึ คือเรอื่ งของ Culture วฒั นธรรมของเรา ตวั ยอ่ Index ก็บอกชดั เจน I –
Innovation, N - No Limit, D – Developing, E – Efficiency, X – Expert
และสองคอื ผมเชอื่ ว่าไม่มี Super Star ไม่มใี ครเก่งทสี่ ดุ คนนีต้ ายไมไ่ ด้ ใครมาแทนไมไ่ ด้ เพราะเราสรา้ ง
คนใหท้ าแทนกนั ไดต้ ลอดเวลา ตอนที่ ก.ล.ต. ถามว่า บริษัทแบบนมี้ คี วามเสยี่ งมากนะ เพราะ Handle ทกุ
อย่างดว้ ยคน แตเ่ รากลบั คดิ อกี มมุ ว่า ทมี เวริ ค์ สาคญั กว่า เราใชว้ ธิ ีซอยทมี ใหเ้ ลก็ ทสี่ ดุ คนไหนหายไปก็เอา
คนใหมม่ าเตมิ ไดต้ ลอด
ผมบรหิ ารงานแบบ เซอร์ อเลก็ ซ์ เฟอร์กูสนั ไมง่ อ้ โรนลั ด์โด้ ไม่งอ้ เดวิด เบคแฮม เพราะเชือ่ วา่ ถา้ เรา
ออกแบบระบบไวด้ ี เราจะใสใ่ ครลงไปกไ็ ด้ แต่ถา้ ปล่อยใหอ้ งคก์ รมซี ุปเปอร์สตาร์เมือ่ ไร ระบบพงั ทนั ที พอ
เราสรา้ งองค์กรดว้ ย Culture แบบนี้ ตวั ผมเองเวลาไปไหน คนโทรหาผมนอ้ ยมาก เพราะผมกระจายงานไป
113
ใหล้ กู บา้ นหมดแลว้ ใหก้ รอบปฏบิ ตั แิ คว่ ่า ถา้ กาไรนอ้ ยกว่าทตี่ งั้ นี้ ใหม้ าขอกอ่ น แตถ่ า้ ทกุ อย่างปกติ ผมให้
อานาจคณุ ตดั สนิ ใจไปเลย ลูกคา้ กไ็ ม่ตอ้ งถามหาแต่พเี่ มฆ”
“BORN TO BE CREATOR” ปลุกความคิดสร้างสรรคใ์ นตัวคุณ
“งานเรามนั เป็นทีร่ วมของคนคดิ อะไรแปลก ๆ ไม่เหมือนชาวบา้ น ตอ้ งเขา้ ใจอย่างหน่งึ ว่า งานครีเอท
มนั ตสิ้ ทท์ กุ คน แลว้ เราทางานกบั เดก็ สมยั ใหม่ เราย่งิ ตอ้ งปรบั ตวั ผมขอแคเ่ อาเรือ่ งวนิ ยั เป็นสาคญั สง่ มอบ
งานตอ้ งตรงเวลา งานตอ้ งเสรจ็ คณุ จะมาทางานกโี่ มงอะไรยงั ไงไมซ่ เี รียส”
จากแนวคดิ ของผบู้ ริหาร บริษัท Index Creative Village ท่ใี หค้ วามสาคญั กบั เรื่องของทรพั ยากรบุคคลมา
เป็นอนั ดบั แรก โดยมีโครงสรา้ งองคก์ รและวฒั นธรรมองคก์ ร คอยกากบั ดแู ลและสนบั สนนุ ใหเ้ กิดความคิด
สรา้ งสรรคแ์ ละนวตั กรรมใหม่ ๆ ในการทางานอย่ตู ลอดเวลา นบั เป็นกรณีศกึ ษาท่ีนา่ สนใจ โดยเฉพาะใน
วนั ท่ธี ุรกิจเติบใหญ่จนแทบจะเรยี กไดว้ ่า เป็น “สถาบนั ” ของวงการอเี วนตท์ ่ใี ครก็ตอ้ งอยากรว่ มงานดว้ ย
“ทกุ วนั นี้ Index เป็นเครดิตต่อทา้ ยคนทางาน ถา้ บอกว่าเคยทาทนี่ เี่ วลาไปไหนก็อาจจะไดอ้ พั เงนิ เดอื น
ยสี่ บิ กว่าปีทเี่ ราสรา้ งแบรนดข์ นึ้ มาอย่างแข็งแรง ไมเ่ พยี งเท่านนั้ เรายงั ทางานเชิงลกึ ดว้ ยการร่วมมือกบั
มหาวทิ ยาลยั 6 สถาบนั ทงั้ ในไทยและตา่ งประเทศ ไปผลกั ดนั ใหอ้ เี วนตเ์ ป็นวชิ าเรยี น เป็นไมเนอร์ เป็น
เมเจอร์ ผมเดนิ สายตลอดปี พูดใหค้ วามรูเ้ รือ่ งอเี วนต์ ไปพดู ใหอ้ าจารยม์ หาวทิ ยาลยั ฟงั เหมือนเราทา
หนา้ ที่ Train the Trainer เวลาอาจารยเ์ อาไปสอนในหอ้ งเรียน จะยกตวั อย่างเคสไหน ๆ กเ็ คสของ Index
ทงั้ นนั้
นอกจากขยนั เขียนคอลมั นต์ ามสอื่ สง่ิ พมิ พต์ า่ ง ๆ แลว้ ผมยงั เขยี นตารา Event Marketing จาก
ประสบการณ์ตรงของตวั เอง พมิ พแ์ จกจ่ายไปตามสถาบนั การศึกษาต่าง ๆ ถอื เป็นตาราอเี วนต์ ‘เลม่ แรก
ของโลก’ เพราะก่อนหนา้ นปี้ ระเทศไหนก็ไม่มี มแี ต่คาว่า Event Management เราผลติ ตาราอเี วนตเ์ พอื่
สรา้ งมิตขิ องเราใหห้ ลากหลายมากขนึ้ ทงั้ หมดทเี่ ราทาคอื การสรา้ งฐาน
ตอนนี้ Index กลายเป็นทงั้ ภาคทฤษฎแี ละภาคปฏิบตั ิ เป็นหนง่ึ ในบริษัททเี่ ดก็ อยากทางานดว้ ยมากทสี่ ดุ
มหาวทิ ยาลยั ผลติ คนดา้ นนมี้ า เดก็ ก็จะมาหาเราหมด เราเลยไมเ่ คยมีปญั หาเรอื่ งการขาดคน เวลาคนถาม
ว่านอี่ นั ดบั หนง่ึ เหรอ เราบอกไมท่ ราบครบั แตผ่ มอนั ดบั 7 ของโลก (หวั เราะ) ซ่ึงถา้ ถามวา่ อะไรคือ
เครือ่ งมอื สาคญั ทที่ าใหเ้ รามาถงึ จุดนไี้ ด้ ผมตอบชดั เจนเลยวา่ การสรา้ งแบรนดค์ ือสง่ิ สาคญั ”
รวมทงั้ ในปีท่ผี ่านมา Index ฉลองครบรอบ 30 ปี ดว้ ยการจดั กจิ กรรมโครงการ “หวั รอ้ น” (Hot Head
Project) ประกวดไอเดยี จากนิสติ นกั ศกึ ษา โดยมเี งนิ รางวลั และทนุ การศกึ ษา กว่า 150,000 บาท เเละเปิด
โอกาสใหน้ อ้ งใหมไ่ ฟแรง ไดเ้ ป็นสว่ นหน่งึ ในการร่วมงานระดบั เวิลดค์ ลาส “World Expo” ท่ดี ไู บ
114
แต่ส่ิงท่สี นบั สนนุ ใหท้ งั้ คนใหม่และคนเกา่ หลอมรวมเขา้ ดว้ ยกนั บนขบวนรถไฟสายท่ชี ่ือ Index นี้ ก็คือ
กรอบความคิดท่ถี กู จดั วางเอาไวอ้ ย่างแข็งแรง คณุ เกรียงไกรบอกวา่ คณุ จะมาจากไหน จะเป็นเบอร์ 1 ของ
ท่อี ่นื มาก่อนก็ไมส่ าคญั เพราะทกุ คนตอ้ งอย่ภู ายใตก้ ฎของหม่บู า้ น โดยการเปิดโอกาสใหท้ กุ คนสามารถ
“ไปใหส้ ดุ อยา่ หยุดทคี่ วามคดิ แรก” ทาใหท้ กุ คนกลา้ คดิ กลา้ นาเสนอไอเดยี ลา้ ๆ ใหม่ ๆ ตลอดเวลา
“ปกตบิ ริษัทอนื่ มกั แบง่ งานกนั เป็น Group ใน 1 ทมี มี Creative, Designer, Project Manager, Producer
พอมีครีเอทฟี เป็น Head มนั จะไม่คดิ เยอะ เดยี๋ วมนั ตอ้ งทาเยอะ แลว้ มนั ตอ้ งดูกาไรขาดทนุ มนั เลย
กลายเป็นคนระวงั ตวั แตข่ องเราคนคดิ ทมี นงึ ทมี ขายอกี ทีม ทมี ทาอกี ทมี แยกหมด มนั เลยบาลานซ์กนั เอง
คนคดิ ไม่มีขอ้ จากดั ทะลุโลกไปเลยกไ็ ด้ มนั ทาใหง้ านเรา Challenge ตลอดเวลา ลูกคา้ เราหลายเจา้ อยา่ ง
โคก้ ถงึ ทากนั มา 30 ปีไม่เคยเปลยี่ น ไทยประกนั ฯ ทามา 20 กวา่ ปี เราแคท่ าหนา้ ทที่ างานของเราใหด้ ขี นึ้ ไป
เรอื่ ย ๆ
เมอื่ กอ่ นเรามี BD (Business Development) หาลกู คา้ แต่พวกนที้ าตวั เลขสวย ๆ มาทไี ร เจ๊งทกุ ที สง่ิ ทเี่ รา
เรยี นรูท้ าใหเ้ ราเปลีย่ นเป็น CBD (Creative Business Development) งานไม่ไดจ้ บแค่ไดท้ าแลว้ ดลี ลงตวั
แลว้ หมดหนา้ ที่ แต่ CBD ตอ้ งคดิ แลว้ ลงมือทาจนเสร็จ เสร็จไม่พอตอ้ งใหเ้ หน็ กาไรดว้ ย
บางคนบอกวา่ ความยากอยู่ตรงทที่ างานปีทแี่ ลว้ เจ๋งสดุ แลว้ ปีนที้ าไงตอ่ ก็สโลแกนของเราบอกไวว้ ่า Never
Stop Thinking แลว้ เราก็พสิ จู นแ์ ลว้ วา่ เราไตร่ ะดบั ความเจ๋งขนึ้ ไปไดท้ กุ ปี เพราะเรามีความเชือ่ ว่า สง่ิ ทที่ า
อยไู่ ม่ใช่ส่งิ ทดี่ ที สี่ ดุ ดงั นนั้ ตอ้ งพรอ้ มทจี่ ะดกี วา่ เสมอ”
เปิ ดแนวรุกใหม่ คดิ แบบผู้นาตลาด
ดา้ นยอดขาย Index สามารถรกั ษาระดบั 1,400-2,000 ลา้ นบาท มาตลอด 12 ปีท่ผี ่านมา และในปี 2563
Index มีพนกั งานรวมทงั้ สนิ้ 340 คน 7 บรษิ ัทยอ่ ย กบั อีก 4 Business Units ซง่ึ ผบู้ รหิ ารถือหลกั “ดูอยู่ห่าง
ๆ อย่างห่วง ๆ” รวมทงั้ ทาตวั เป็นเจา้ นายท่เี ปิดใจและเปิดโอกาส ใชห้ ลกั “ตอ้ งเป็นโคช้ มากกว่าผเู้ ลน่ ”
“ตอ้ งเป็นผฟู้ ังมากกว่าผูพ้ ูด” และ “ตอ้ งไมเ่ ป็น Idea Killer” ปลอ่ ยใหท้ มี งานแสดงฝีมืออย่างเต็มท่ี เพราะ
มองวา่ น่นั คือแนวทางในการสรา้ งคนใหเ้ ก่งขึน้
“ที่ Index เวลาผมสวมหมวก Creative สถานะผมจะเท่าเทยี มทมี งาน ทกุ ไอเดยี ของผม ตอ้ งเสนอ
ความคดิ จนกวา่ ทกุ คนจะ Ok บางทกี ไ็ มผ่ า่ นก็มี บรรยากาศขององคก์ รทตี่ อ้ งการความคดิ สรา้ งสรรค์ บน
โต๊ะประชมุ ตอ้ งไม่มใี ครใหญ่สดุ เพราะผมเชือ่ ว่า ไอเดยี ดี ๆ ไม่จาเป็นตอ้ งมาจากตาแหนง่ หรอื อาย”ุ
นอกจากนี้ Index ยงั มีกระบวนการสรา้ งลกู บา้ น ไม่วา่ จะเป็นเร่ืองของการ Basic Training ท่สี อนกนั ตงั้ แต่
เรือ่ งพนื้ ฐานอย่าง Presentation Skill เพ่ือใหส้ ามารถนาเสนองานไดอ้ ย่างมืออาชพี สอนกนั ตงั้ แต่ตาแหนง่
115
การน่งั การเช่ือม Computer กบั TV หรือ Projector การทาโปรแกรม Excel , Power Point มกี ารเชญิ
วิทยากรหรือบางครง้ั ก็เชญิ ดีไซนเนอร์ Creative จากนอกองคก์ รเขา้ มาจดั อบรมเป็นคอรส์ สน้ั ๆ เวลามีปล๊กั
อนิ โปรแกรมใหม่ ๆ ทางบรษิ ัทก็จะจดั คอรส์ เฉพาะกจิ ใหไ้ ดเ้ รียนรูก้ นั
“เครอื่ งมอื อะไรกไ็ ด้ ทาแลว้ ขอใหค้ นทางานมี Efficiency เร็วขนึ้ ทนี่ มี่ ีทงั้ การจบั คู่เป็นพเี่ ลยี้ ง ใหค้ นเก่าสอน
คนใหม่ มี Mentor คอยดูแล ช่วยปรบั จูน Mindset ใหค้ นใหม่ เขา้ มาใหม่ก็ On the Job Training กนั ไป
ทกุ สามเดอื นหกเดือนกเ็ ปิดสอนเรอื่ งใหม่ ๆ เราตอ้ งทาแบบนตี้ ลอดเพราะมนั มีโปรเจคตใ์ หม่ ๆ เกดิ ขึน้ ทกุ
วนั ถา้ อยากใหอ้ งคก์ รเดนิ หนา้ เราจะหยุดเรยี นรูไ้ มไ่ ด้
R & D คอื อกี หน่งึ กญุ แจสาคญั ทที่ าให้ Index ยงั คงรกั ษาภาพองคก์ รทเี่ ตม็ ไปดว้ ยความคดิ สรา้ งสรรคไ์ ด้
เราสรา้ งทมี ทมี่ ีหนา้ ทพี่ ฒั นา Technology ต่าง ๆ เพอื่ มาใชง้ านแทนการตอ้ งรอเทคโนโลยจี ากต่างประเทศ
หลงั อย่างเรามีไอเดยี เรากร็ ่วมพฒั นากบั มหาวิทยาลยั ซ่ึงเรอื่ งนเี้ ราทามาตงั้ แต่ปี 2542 แลว้ ซ่ึง
หมายความวา่ เราถอื เทคโนโลยที คี่ ่แู ข่งไม่อาจซือ้ หาได”้
ผลรูปธรรมของการใหโ้ อกาสคนทางาน ตวั อย่างจากช่วงล็อคดาวนท์ ่ผี ่านมา เม่ือธุรกิจอีเวนตเ์ ป็น
อตุ สาหกรรมแรกท่ไี ดร้ บั ผลกระทบแบบ 100% แต่ Index กลบั สรา้ งธุรกจิ ใหม่ไมห่ ยดุ เชน่ การเปิดแฟรน
ไชสฆ์ ่าเชอื้ โควิด-19 ท่ชี ่ือ KILL & KLEAN ซ่งึ ใชเ้ วลาคิดแค่ 3 อาทิตย์ พฒั นาธุรกจิ นีจ้ าก 0 แค่เวลาเดือน
ครง่ึ หลงั จากเปิดตวั ก็มีคนสนใจเขา้ มารบั บรกิ ารฉีดพน่ ไปแลว้ บนพืน้ ท่กี ว่าหนง่ึ ลา้ นตารางเมตร
“ไอเดยี นีก้ ็มาจากนอ้ งในทมี ผมยงั เกบ็ แชทประโยคนไี้ วด้ ูเลย ‘พเี่ มฆ ๆ หนูอยากทาฉีดพน่ ฆา่ เชือ้ ’ ผมก็วา่
เอ มนั จะไดส้ กั กีต่ งั แตก่ ็ใหโ้ อกาสเขา ลงทนุ ไป 60,000 ตอนนกี้ ลายเป็นว่า KILL & KLEAN เป็นแบรนดท์ ี่
แข็งแรงทสี่ ดุ ในเรือ่ งของการฆา่ เชอื้ โรค และขยายธุรกิจแฟรนไชสไ์ ป สปป.ลาว, เมียนมา, กมั พูชา, สหรฐั
อาหรบั เอมเิ รตส,์ บาหเ์ รน และไทย รวม 6 ประเทศ 27 เมืองแลว้ และนวตั กรรมทเี่ ราคดิ ขึน้ มา คอื เครอื่ ง
ทาความสะอาดพนื้ รองเทา้ ถูกสง่ ออกไปยงั 4 ประเทศ
ทกุ วนั นี้ เราทางานภายใตค้ าวา่ From Insight to Idea กระบวนการความคิดตอ้ งมาจาก Insight กอ่ น มนั
คอื เข็มทิศว่าถา้ เราไปทศิ นี้ โอกาสผดิ มนี อ้ ย ในขณะเดยี วกนั เราก็ตอ้ งใหท้ กุ คนสรา้ งสรรคค์ วามคิดใหม่ ๆ
ผมจะไมใ่ หค้ ะแนน KPI ถา้ คณุ คดิ อะไรซา้ ๆ เดมิ ๆ เรานอกกรอบไดแ้ ต่ตอ้ งใสค่ วามชานาญของเราเขา้ ไป”
สว่ นเครื่องมือสาคญั อีกหลายตวั ท่ี Index มองว่าใชไ้ ดผ้ ลกบั ธุรกจิ ท่เี รียกตวั เองว่า Creative Solution ก็คอื
เรอ่ื งของการสง่ คนไปดงู าน เชน่ การสง่ ออกพนกั งานใหไ้ ปเรียนรูจ้ ากมหกรรมอีเวนตร์ ะดบั โลกในหลาย
ประเทศ และเรอื่ งของ Job Rotation เพ่อื เปิดมมุ มองและรบั ประสบการณใ์ หม่ ๆ ส่งิ เหลา่ นีท้ าใหส้ ามารถ
สรา้ งทมี งานขนึ้ มารองรบั ธุรกิจท่งี อกโปรเจกตใ์ หม่ ๆ ตลอดเวลาได้
116
Index ยงั เป็นองคก์ รท่เี ดินหนา้ ฝ่าพายเุ ศรษฐกิจ ดว้ ยการผดุ ธรุ กิจขนึ้ มาใหม่ ๆ ไม่เวน้ แตล่ ะวนั เช่น
โครงการสรา้ งแพลทฟอรม์ “คนื ปล่อยของ” ท่เี ปิดใหม้ ีการประมลู สินคา้ ออนไลนผ์ า่ นทาง Facebook Live
ซ่งึ เกดิ จากการมองเหน็ Pain Point ของธุรกิจท่ซี บเซา สต็อคสนิ คา้ ไวแ้ ต่ไมม่ ที ่รี ะบาย หรือ “Friendship
Economy” ท่เี กดิ ขนึ้ ท่ามกลางวกิ ฤตจนทาใหธ้ ุรกจิ อีเวนตแ์ ละคอนเสริ ต์ เจอทางตนั เป็นท่มี าของ Business
Model ใหม่ ท่ี Index เป็นคนกลางในการเอาผปู้ ระกอบการทงั้ ซพั พลายเชน ไมว่ ่าจะเป็นออรก์ าไนเซอรผ์ ู้
จดั คอนเสิรต์ สถานท่ี ผใู้ หบ้ ริการแสง สี เสยี ง และศลิ ปิน มารว่ มลงทนุ กนั ในรูปแบบ “เศรษฐกจิ แบบเพ่ือน
ฝงู ” และแบ่งรายไดร้ ่วมกนั (Revenue Sharing)
รวมทงั้ ลา่ สดุ ของไอเดียกระฉูดจากทมี งาน คือการปั้น ANYA MEDITEC ท่เี กิดจากแนวคดิ ในการเช่ือมโยง
ระหวา่ ง Hospital + Hotel + Technology เขา้ ดว้ ยกนั โดย ANYA จะเขา้ ไปบรหิ ารจดั การวางแผนธรุ กิจ
และวางระบบให้ โดยนากิจกรรมทางการแพทยท์ ่ไี ม่จาเป็นตอ้ งทาในโรงพยาบาลเชน่ Sleep Test , Anti-
Aging เป็นตน้ และลา่ สดุ เปิด House of Illumination Digital Art Experience ใหญ่ท่สี ดุ ในภมู ิภาคนีท้ ่ี
Central world ชนั้ 8
ปัจจบุ นั มลู ค่ารวมของตลาดอีเวนตอ์ ยู่ท่ี 2.3 แสนลา้ นบาท ผลประกอบการเม่ือปลายปี 2562 ของ
บริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จากัด (มหาชน) อยู่ท่ี 1,800 ลา้ นบาท โตกว่าปี 2561 ถึง 13% ตงั้ แต่
ปี 2558 กล่มุ กาญจนะโภคินซือ้ หุน้ กลบั จาก Grammy ทงั้ หมด และกระจายหุน้ บางส่วนใหพ้ นักงานท่ีมี
Loyalty สงู ถือ และมีโครงการจะ IPO ต่อไปในอนาคต
“ในปี 2563 ภายใตว้ ิกฤติเศรษฐกิจครงั้ รุนแรง เพือ่ นร่วมธุรกิจเลือกที่จะลด Cost ดว้ ยการปลด
พนกั งานออก Index ยงั คงมีมุมมองเรื่องคนเป็นอาวุธสาคญั เราปรบั ลดพนกั งานลงแค่ 4% ตงั้ แต่ตน้ ปี
ซ่ึงไม่ใช่สาเหตุโควิดดว้ ยซ้า แต่เราเลือกทีจ่ ะเปิดธุรกิจใหม่ๆ เราเลือกบุกในจงั หวะทีท่ ุกคนถอย เลือก
เก็บคนเก่งไวม้ ากกว่าปล่อยออกไปในเวลาที่ทุกคนเดือดรอ้ น องค์กรทีม่ ีคนเป็นแกนหลกั เราก็ยอมเจ็บ
มากกว่าจะปล่อยคนไป”
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
117
เคร่อื งมือทีใ่ ชใ้ นการพัฒนาบคุ ลากร
• การฝึกอบรมในขณะทางาน (On the Job Training : OJT)
• การฝึกอบรมในหอ้ งเรียน (Classroom Training)
• การสอนงาน (Coaching)
• โปรแกรมพ่เี ลีย้ ง (Mentoring Program)
• การเพม่ิ คณุ ค่าในงาน (Job Enrichment)
• การมอบหมายงาน (Delegation)
• การหมนุ เวียนงาน (Job Rotation)
• การทากจิ กรรม (Activity)
• การเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง (Self Learning)
• การดงู านนอกสถานท่ี (Site Visit)
• รว่ มมอื กบั สถาบนั การศกึ ษาเพ่อื พฒั นาหลกั สตู รท่ตี รงกบั ความตอ้ งการขององคก์ ร
• การจดั ใหม้ ีการจดั การความรู้ (Knowledge Management)
• การมอบหมายโครงการท่ที า้ ทาย (Challenging Project) นอกเหนอื จากงานประจา
• การจดั ประกวดแผนธรุ กจิ หรอื การจดั ประกวดนวตั กรรม
118
7) ธนาคารกสิกรไทย จากัด (มหาชน) (KASIKORNBANK PLC)
ธนาคารกสิกรไทย ก่อตงั้ เม่ือวนั ท่ี 8 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2488 ดว้ ยทนุ จดทะเบียน 5 ลา้ นบาท (ช่ือภาษาองั กฤษ
เดิม: Thai Farmers Bank; TFB) ซ่งึ เป็นชว่ งปลายสงครามโลกครงั้ ท่ี 2 โดยมนี ายโชติ ลา่ ซา และญาตมิ ิตร
ชาวไทยเชือ้ สายจนี เป็นผรู้ ว่ มก่อตงั้ ในระยะแรกม่งุ เนน้ ลกู คา้ รายยอ่ ยท่เี ป็นเกษตรกร ซ่งึ เป็นประชากรสว่ น
ใหญ่ของประเทศ สง่ ผลใหเ้ ศรษฐกจิ ของประเทศท่ฝี ืดเคืองอย่ใู นเวลานนั้ เกิดความคลอ่ งตวั ขนึ้ โดย
สานกั งานใหญ่แหง่ แรกตงั้ อยบู่ นถนนเสือป่า กรุงเทพมหานคร เร่มิ ดว้ ยพนกั งานเพยี ง 21 คน แคเ่ พยี งงวด
บญั ชีแรกท่สี นิ้ สดุ หรือเพยี ง 6 เดอื น ณ วนั ท่ี 31 ธันวาคม พ.ศ. 2488 กม็ ยี อดเงนิ ฝากสงู ถงึ 12 ลา้ นบาท
และมีสินทรพั ย์ 15 ลา้ นบาท
กิจการของธนาคารมคี วามเจรญิ รุดหนา้ มาอย่างต่อเน่อื ง มกี ารขยายสาขาทงั้ ในประเทศและต่างประเทศ
ธนาคารกสกิ รไทยเป็นกลมุ่ ธุรกิจทางการเงนิ ท่เี นน้ ลกู คา้ คือหวั ใจ เพ่ือสง่ มอบบรกิ ารมาตรฐานสากลตาม
ปณิธาน “บรกิ ารทกุ ระดบั ประทบั ใจ” ดว้ ยการเพมิ่ อานาจใหท้ กุ ชวี ิตและธุรกิจของลกู คา้ (To Empower
Every Customer’s Life and Business) ในชว่ งทศวรรษ 2530 เศรษฐกจิ ไทยเจรญิ เติบโตเป็นอยา่ งมาก
ธนาคารไดย้ า้ ยสานกั งานใหญ่จากถนนสลี มมาตงั้ อย่บู นถนนพหลโยธิน และเขา้ จดทะเบยี นตลาด
หลกั ทรพั ยแ์ ห่งประเทศไทยเป็น “บรษิ ัทมหาชน” ในปี 2519
ในชว่ งวิกฤตเศรษฐกิจใน พ.ศ. 2540 สถาบนั การเงนิ ไดร้ บั กระทบรุนแรง แต่ธนาคารกสิกรไทยสามารถฝ่า
วกิ ฤตมาไดด้ ว้ ยนโยบายท่ที ามาก่อนหนา้ นนั้ คือการนา "รีเอ็นจิเนยี ร่งิ " (Reengineering) มาใชเ้ ป็นแหง่
แรก ซ่งึ สง่ ผลใหว้ งการธนาคารพาณิชยไ์ ทยตนื่ ตวั ต่อมามีการรวมธนาคารกสิกรไทยและบรษิ ทั ของ
ธนาคารกสิกรไทย (K Companies) และไดก้ าหนด "K KASIKORNTHAI" เป็นสญั ลกั ษณท์ ่รี บั ประกนั
คณุ ภาพและมาตรฐาน
ธนาคารกสกิ รไทยเป็นธนาคารแหง่ แรกในประเทศไทยและอาเซียน ท่ไี ดร้ บั คดั เลอื กเป็นสมาชิกดชั นีแห่ง
ความย่งั ยืน Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) เป็นปีท่ี 4 ติดต่อกนั ไดร้ บั คดั เลอื กเป็นสมาชิก
FTSE4 Good Emerging Index เป็นปีท่ี 4 ติดต่อกนั ไดร้ บั การประเมินผลดา้ นการบริหารจดั การ
เปล่ียนแปลงสภาพภมู อิ ากาศจากดชั นชี ีว้ ดั ดา้ นความย่งั ยืน Carbon Disclosure Project (CDP) ปี 2562
ในระดบั A- ถือเป็นธนาคารไทยแหง่ แรกและแห่งเดยี วท่ไี ดร้ บั ผลคะแนนในระดบั Leadership อกี ทงั้ ไดร้ บั
คดั เลือกใหอ้ ยใู่ นรายช่ือหนุ้ ย่งั ยืนประจาปี 2562 ของตลาดหลกั ทรพั ยแ์ หง่ ประเทศไทยเป็นปีท่ี 4 รวมถึง
ไดร้ บั รางวลั ในดา้ นอ่นื ๆ อย่างมากมาย
119
ปัจจบุ นั มีสาขา 880 สาขา จานวนพนกั งาน 20,162 คน มีขอ้ มลู งบการเงินรวม ณ มิถนุ ายน 2563
สินทรพั ยร์ วม 3.586 ลา้ นลา้ นบาท เงินใหส้ ินเช่อื 2.127 ลา้ นลา้ นบาท เงนิ ฝาก 2.308 ลา้ นลา้ นบาท มลู ค่า
หนุ้ ตามราคาตลาด(Market Capitalization) 2.21 แสนลา้ นบาท นบั เป็นอนั ดบั 2 ของหนุ้ กลมุ่ ธนาคาร
พาณิชยไ์ ทย
DNA ชาวกสกิ ร พัฒนาสคู่ วามย่งั ยนื
จากสภาพเศรษฐกิจของโลกและภายในประเทศไทย พฤติกรรมของลกู คา้ ท่เี ปล่ียนไปจากเดิม รวมทงั้
วิกฤตการณ์ COVID-19 สง่ ผลใหธ้ นาคารตอ้ งรบั มือการการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเรว็ ธนาคารยงั คงม่งุ ม่นั
ใหพ้ นกั งานของธนาคารรบั มือกบั สถานการณต์ า่ ง ๆ ไดเ้ ป็นอย่างดี โดยธนาคารกระตนุ้ และสรา้ งจิตสานกึ
ใหท้ กุ คนในองคก์ รยดึ ม่นั และมีพฤตกิ รรมตามค่านยิ มขององคก์ ร
Customer at Heart ลกู คา้ คือหวั ใจ เราใสใ่ จความตอ้ งการของลกู คา้ แสวงหาและวิเคราะหข์ อ้ มลู รวมถึง
สงั เกตและแกไ้ ขปัญหาใหต้ รงจดุ สรา้ งประสบการณโ์ ดนใจ ลกู คา้ เขา้ ถงึ พ่งึ ได้ และทมุ่ สดุ ใจเพ่อื พาลกู คา้
ไปสคู่ วามสาเรจ็ เพราะเรายึดเปา้ หมายของลกู คา้ เป็นสาคญั ใหค้ าปรกึ ษาและการสนบั สนนุ โดยคานงึ
ประโยชนข์ องธนาคารควบค่ไู ปกบั ผลประโยชนข์ องลกู คา้
Agility ว่องไวคลอ่ งตวั เราทางานอย่างโปรง่ ใส ใหข้ อ้ มลู อย่างตรงไปตรงมา ปรบั เปลี่ยนไดท้ นั ต่อ
สถานการณ์ ใหง้ านเดินตอ่ ไปได้ กลา้ ตดั สินใจ และพรอ้ มรบั ผดิ ชอบต่อผลลพั ธท์ ่เี กิดขนึ้ องคก์ รเปิดโอกาส
ใหพ้ นกั งานแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ลงมือทา ยกยอ่ ง ชมเชย และไม่กลา่ วโทษกนั ไม่วา่ งานสาเรจ็
หรือลม้ เหลว
Collaboration รว่ มมือ รว่ มใจ เรารกั ษาคาพดู เช่ือม่นั ไวว้ างใจกนั และกนั ปฏบิ ตั ติ ่อทกุ คนอย่างเท่าเทียม
และใหเ้ กียรติ ใชจ้ ดุ แขง็ ของตนเองในการทาใหท้ ีมบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคร์ วมทงั้ รบั ฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน
แบง่ ปันความรู้ ขอ้ มลู และรบั ผดิ ชอบต่อขอ้ มลู ท่เี กี่ยวขอ้ ง รบั ผดิ ชอบเปา้ หมายเดยี วกนั ม่งุ สผู่ ลลพั ธท์ ่เี ป็น
เลิศ และทาใหอ้ งคก์ รไดร้ บั ผลประโยชนส์ งู สดุ
Innovativeness สรรคส์ รา้ งอยา่ งย่งั ยืน พนกั งานมีอสิ ระในการคดิ เร่ืองใหม่ ๆ ท่แี ตกต่างจากเดิม รูเ้ ทา่ ทนั
เทคโนโลยแี ละเสนอไอเดียท่ีทนั สมยั กลา้ ตงั้ คาถาม และทา้ ทายความคดิ ซง่ึ กนั และกนั อย่างสรา้ งสรรค์
กลา้ ลงมือทาในสงิ่ ท่แี ตกตา่ งไปจากเดิม คน้ หาแนวทางการทางานใหม่ ๆ พรอ้ มรบั การเปล่ยี นแปลง พฒั นา
ตอ่ ยอดผลงานใหด้ ยี ง่ิ ขนึ้ เร่ือย ๆ
120
ธนาคารดาเนินการจดั กจิ กรรมต่าง ๆ อยา่ งตอ่ เน่ืองเพ่อื สง่ เสรมิ ใหพ้ นกั งานตระหนกั รู้ เขา้ ใจและมี
พฤตกิ รรมตามค่านิยมขององคก์ ร เพ่อื ใหก้ ารดาเนินธรุ กิจขององคก์ รเป็นไปอย่างม่นั คงและย่งั ยนื
“ลกู ค้าคือศูนยก์ ลาง แตพ่ นักงานเป็ นหัวใจ”
“บรกิ ารทกุ ระดบั ประทบั ใจ” สโลแกนคนุ้ หทู ่ไี ดย้ ินเม่ือไร ทกุ คนตอ้ งนกึ ถงึ ธนาคารสีเขียว ซง่ึ เนน้ การเอา
ลกู คา้ เป็นศนู ยก์ ลางท่ีองคก์ รพรอ้ มจะมอบบรกิ ารท่ดี ที ่สี ดุ องคก์ รจงึ ตอ้ งเร่มิ จากดแู ลพนกั งานท่ี
เปรียบเสมือนหวั ใจหลกั ใหอ้ ย่อู ยา่ งมคี ณุ ภาพชวี ิตท่ดี ีและมกี ารพฒั นาอย่างต่อเน่อื ง
ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากกรณีการประกาศปิด 80 สาขาในปี 2562 แตก่ สิกรไทยกไ็ ม่ปลดพนกั งานแมแ้ ต่คนเดียว
และนโยบายของธนาคารยงั เช่ือม่นั วา่ พนกั งานทกุ คนมีศกั ยภาพ มที กั ษะความสามารถท่แี ตกต่างกนั แต่
ละคนมีความมงุ่ หวงั ในการเติบโตในสายอาชพี ท่หี ลากหลาย ธนาคารจงึ ไดส้ นบั สนนุ เครือ่ งมือการพฒั นา
อาชีพ ผ่านช่องทางต่าง ๆ ทงั้ เรยี นรูใ้ นหอ้ งเรียน เรยี นออนไลน์ เรียนรูจ้ ากสถาบนั ภายนอก เรยี นรูผ้ ่าน
ประสบการณท์ างานจรงิ หรือผา่ นการถ่ายทอดจากผเู้ ช่ียวชาญดา้ นต่าง ๆ
ท่ผี า่ นมา ธนาคารฯ ตงั้ เปา้ หมายสกู่ ารเป็น Data-Driven Bank ซง่ึ ตอ้ งทาความเขา้ ใจพฤติกรรมของลกู คา้
ใหม้ ากท่สี ดุ เพ่ือพฒั นาผลิตภณั ฑแ์ ละบรกิ ารใหต้ รงกบั ความตอ้ งการของลกู คา้ ทกั ษะความสามารถท่ี
ธนาคารตอ้ งการใหพ้ นกั งานมมี ากท่สี ดุ จงึ หนไี มพ่ น้ เรื่องของ ทกั ษะการวเิ คราะห์ การหาความตอ้ งการเชงิ
ลกึ ทกั ษะในการทดลองและขยายผล และทกั ษะเก่ียวกบั การบรหิ ารการเปลีย่ นแปลง (Change
Management Skills) อาทิ การเป็นผนู้ า (Lead Change) การสื่อสาร (Communication) หรือ People
Management Skills
การปรบั ทกั ษะ (Reskill) ใหเ้ หมาะสมกบั ยคุ สมยั จึงเป็นเรื่องจาเป็น ตลอดระยะเวลาท่ีผา่ นมา ธนาคาร
กสิกรไทย ไดม้ งุ่ เนน้ การพฒั นาทกั ษะความสามารถและศกั ยภาพของพนกั งาน โดยเนน้ ทกั ษะท่เี ป็นท่ี
ตอ้ งการในอนาคต (Future Skills) โดยเฉพาะดา้ นการพฒั นาภาวะผนู้ า ไดม้ ีการจดั การเรียนรูใ้ หแ้ ก่
พนกั งานในรูปแบบต่าง ๆ เช่น Management Development Program (MDP) มีการสง่ พนกั งานออกไป
เรยี นรูห้ ลกั สตู รกบั สถาบนั ภายนอก มกี ารจดั สมั มนาใหแ้ ก่กลมุ่ ผบู้ รหิ ารและพนกั งานท่ีมีศกั ยภาพสงู มีการ
เชญิ วทิ ยากรจากสถาบนั ชนั้ นาในต่างประเทศ มาใหค้ วามรูเ้ รอ่ื งของกระแสของผบู้ รโิ ภคในโลกยคุ ใหม่
ขณะเดยี วกนั ยงั ไดจ้ ดั กจิ กรรมการเรยี นรูใ้ หเ้ ขา้ ใจถงึ บทบาทของการเป็นผนู้ าและการสรา้ งสภาวะแวดลอ้ ม
ในองคก์ รท่มี งุ่ สคู่ วามสาเรจ็ ผ่านการแลกเปล่ียนมมุ มองและแนวคิดท่ไี ดเ้ รียนรูจ้ ากแหลง่ ตา่ ง ๆ อีกดว้ ย
นอกจากนี้ ยงั ไดจ้ ดั กจิ กรรม Executive Retreat ในกลมุ่ ผบู้ รหิ ารของธนาคารกสิกรไทยและบรษิ ัทของ
121
ธนาคารกสิกรไทย เพ่ือสง่ เสริมใหเ้ กดิ ความรว่ มมือรว่ มใจ และการสรรคส์ รา้ งอยา่ งย่งั ยืน ตามค่านิยมหลกั
ของธนาคาร
ในสว่ นของการจดั การองคค์ วามรู้ (Knowledge Management) ธนาคารไดพ้ าพนกั งานไปศกึ ษาดงู านดา้ น
การจดั การองคค์ วามรูข้ องหนว่ ยงานภายนอก เพ่ือใหม้ ีการแลกเปล่ียนแนวคิดและแนวทางการจดั การองค์
ความรูท้ ่สี ามารถนามาประยุกตใ์ ชใ้ นการทางานของธนาคารใหเ้ กดิ ประสทิ ธิผล รวมทงั้ ยงั สง่ เสรมิ ใหม้ ีการ
ถา่ ยทอดความรู้ ทกั ษะ และ ประสบการณ์ จากพนกั งานท่มี คี วามรูค้ วามเช่ียวชาญในดา้ นตา่ ง ๆ แก่
ทีมงานอีกดว้ ย
17 ชอ่ งทาง สร้างการเรียนรู้
พนกั งานของธนาคารกสกิ รไทยมกี ารเรียนรูต้ ลอดทงั้ ปี โดยใชห้ ลกั การเรียนรูแ้ บบ 70:20:10 Model คอื
Experiential: On-the-Job Learning 70 % Social Learning: Coaching/Mentoring 20 %และ Formal
Training: Online/Offline 10 % ผ่านชอ่ งทางต่าง ๆ ดงั นี้
1.Self Study (การเรียนรูผ้ ่านหนงั สอื บทความ)
2.Stretch Assignments (การมอบหมายงานพเิ ศษ)
3.Special Project (โครงการพเิ ศษ)
4.Learning Alert (การคน้ ควา้ เพ่อื การเรียนรู)้
5.Mentoring (การเรียนรูจ้ ากพ่ีเลีย้ ง)
6.Coaching (การสอนงาน)
7.Peer – assisted learning / Work Buddy (การจบั ค่ทู างานกบั เพ่ือน)
8.Reading Group (การศกึ ษาคน้ ควา้ รว่ มกบั กลมุ่ )
9.Job Shadowing / Observation (การสงั เกตการณ)์
10.Jobs Aids (เครือ่ งมือช่วยเหลอื ในการปฏิบตั ิงาน)
11.Critical Incident Notes (บนั ทกึ เหตกุ ารณส์ าคญั )
12.Lesson Learned Session (การแลกเปลี่ยนบทเรียนท่ไี ดจ้ ากการปฏิบตั ิงาน)
13.e –Learning (การเรยี นรูด้ ว้ ยสื่ออเิ ล็กทรอนกิ ส)์
14.Courses/Seminars /Workshops (การเขา้ รบั การอบรมตามหลกั สตู รการสมั มนา การสมั มนาเชงิ
ปฏิบตั ิการ)
15. Professional Association / Networks (การเขา้ รว่ มสมาคม เครือข่ายวชิ าชพี )
122
16.Conference and Forums(การประชมุ สมั มนา)
17.Field Trip (การดงู าน)
พัฒนาออนไลนแ์ พลตฟอรม์ 4,000 หลักสูตร
ในอดีต การท่ีองคก์ รจะฝึกอบรมพนกั งาน อาจจะเกิดขนึ้ ไดเ้ ป็นวาระ เช่น ปีละสองรอบ ทาใหเ้ ม่ือมี
พนกั งานใหม่เขา้ มา หรือเม่ือมีเรอ่ื งใหม่ ๆ ท่ีตอ้ งมกี ารจดั การเรียนรู้ พนกั งานเหล่านนั้ อาจจะตอ้ งรอรอบ
การอบรมนานถงึ 6 เดือน ทาใหอ้ งคก์ รเสียโอกาสทางธุรกิจ ตวั พนกั งานเองก็ตอ้ งทางานไประหวา่ งท่ีไมม่ ี
ความพรอ้ มในการรบั มอื กบั ส่งิ ท่เี กดิ ขนึ้ แตใ่ นปัจจบุ นั การมี Digital Learning Platform ทาใหพ้ นกั งาน
สามารถเรียนรูเ้ รอ่ื งใหม่ ๆ และนาไปใชใ้ นการทางานไดอ้ ย่างทนั ท่วงที
เช่นท่ีผา่ นมา ธนาคารกสิกรไทยไดน้ าคอรส์ ออนไลนร์ ะดบั แนวหนา้ ทงั้ ในประเทศและต่างประเทศ อย่าง
SkillLane TBAC Coursera edX มาใช้ ทาใหพ้ นกั งานสามารถเรียนไดท้ กุ ท่ที ุกเวลา ไมว่ ่าจะจาก
คอมพิวเตอรห์ รือมือถือ สามารถเรียนไดแ้ มเ้ ป็นวนั หยดุ ช่วงพกั ผอ่ นอย่ทู ่บี า้ น ซง่ึ สอดคลอ้ งกบั นโยบายการ
พฒั นาบคุ ลากรของธนาคารกสิกรไทยในยคุ 4.0 ท่พี นกั งานสามารถประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีในการทางาน
และการใหบ้ รกิ ารลกู คา้ ตลอดจนม่งุ สวู่ ฒั นธรรมการเรียนรูด้ ว้ ยตวั เอง Self-Directed Learning อยา่ งเตม็
รูปแบบ
นอกจากจะทาใหบ้ รษิ ัทไม่ตอ้ งเสยี กาลงั คนในการใหพ้ นกั งานหยดุ งานหลายวนั เพ่อื ส่งไปฝึกอบรมแลว้ การ
เรยี นคอรส์ ออนไลนย์ งั เป็นความรูแ้ บบ On-Demand เพราะมคี อรส์ ออนไลนท์ ่มี ใี หเ้ รียนกวา่ 4,000 คอรส์ ท่ี
ยืดหย่นุ ตามความตอ้ งการของผเู้ รยี น โดยมีทงั้ หลกั สตู รท่ีเกี่ยวกบั การทางาน และหลกั สตู รท่นี า่ สนใจในมิติ
อ่นื ๆ เช่น เนอื้ หาท่เี ก่ียวกบั การพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตของตวั ของพนกั งานเอง เป็นตน้
ซ่งึ การเพ่มิ คอรส์ ออนไลนเ์ ขา้ มาอีกช่องทางเรยี นรู้ ทาใหพ้ นกั งานแต่ละคนสามารถเรยี นผา่ นออนไลนไ์ ด้
อยา่ งไม่จากดั พนกั งานบางคนอาจจะเรยี นไดป้ ีละมากกวา่ 100 หลกั สตู รถา้ มคี วามพยายามและสนใจใน
การเรยี นรู้ ในขณะท่ีทางธนาคารเอง ก็มีการพฒั นาหลกั สตู รใหมท่ ่ีพนกั งานสนใจเพ่ิมเขา้ มาในระบบทกุ ๆ
เดอื น เพ่ือท่จี ะ update องคค์ วามรูใ้ หท้ นั โลกท่เี ปลย่ี นแปลงอย่ตู ลอดใหม้ ากยงิ่ ขึน้ โดยมเี ปา้ หมายท่จี ะเพมิ่
การเรียนรูข้ องพนกั งานเป็น 20 หลกั สตู รต่อคนต่อปี รวมทงั้ มเี ครือ่ งมอื ท่ใี หท้ าง HR เขา้ ไปติดตามการเรียน
ของพนกั งานอีกดว้ ย
จากการเกบ็ ขอ้ มลู ประจาปี 2562 นนั้ พบวา่ พนกั งานไดร้ บั การเรียนรูเ้ ฉล่ีย 6.5 วนั หรือประมาณ 52 ช่วั โมง
ต่อปี ซง่ึ มีแนวโนม้ ท่ีเพ่มิ ขึน้ ในช่องทางออนไลน์ โดยเฉพาะเม่อื ทกุ อยา่ งไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณ์
COVID-19 การเรียนรูท้ างออนไลน์ จึงย่ิงมแี นวโนม้ สงู ขึน้ อยา่ งต่อเน่ือง ธนาคารมีการปรบั เปล่ียนวธิ ีการ
123
เรียนการสอนใหต้ อบรบั กบั ความจาเป็นและความตอ้ งการทางธรุ กจิ อยเู่ สมอ ในปี 2563 จึงไดม้ ีการจดั
เรยี นหลกั สตู รแบบ Virtual, Webinar, Micro Learning ผา่ น Application ตา่ ง ๆ ทงั้ ท่จี ดั กนั เองภายใน
องคก์ รและสถาบนั ภายนอก
นอกจากนี้ ยงั มกี ารเปิดพนื้ ท่ี KBank Digital Academy ท่ชี นั้ 4 ธนาคารกสิกรไทย สานกั งานใหญ่ เพ่ือ
รองรบั โลกยคุ ดิจิทลั ใน 3 ระดบั คือ Live Digital ฟมู ฟักพนกั งานใหย้ อมรบั การใชเ้ ทคโนโลยใี หม่ ๆ และ
เปิดรบั การเรียนรูเ้ พ่อื ปรบั เปล่ียน และเพิ่มความสามารถในดา้ นดิจทิ ลั Execute Digital พฒั นาพนกั งานให้
สามารถนาเทคโนโลยีมาเป็นสว่ นหนึ่งในการเพมิ่ ประสิทธิภาพการทางาน และนาพาพนกั งานอ่นื ไปสู่
แนวคิดการทางานใหม่ไดอ้ ย่างตอ่ เน่ือง Lead Digital สรา้ งพนกั งานใหส้ ามารถนาเทคโนโลยีมาสรา้ ง
โซลชู ่นั และนวตั กรรมเพ่ือตอบโจทยล์ กู คา้ และนาธนาคารไปสกู่ ารเป็น Beyond Banking
K-Coaching Way วิถแี ห่งผนู้ า
ภาพลกั ษณห์ นึ่งท่ีโดดเด่นของธนาคารกสิกรไทย คือการเป็นธนาคารแหง่ นวตั กรรมท่ีพยายามนาเสนอ
ผลติ ภณั ฑท์ างการเงินท่ลี า้ สมยั อยเู่ สมอ แตธ่ นาคารเองกลบั มององคก์ รตวั เองวา่ ต่อใหอ้ งคก์ รมีเครือ่ งมอื
เครื่องจกั รท่ที นั สมยั มากแคไ่ หน แต่ถา้ ไม่มีบคุ คลากรท่มี คี ณุ ภาพ ทรพั ยากรตา่ ง ๆ ก็คงไมไ่ ดร้ บั การบรหิ าร
อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ และไมส่ ามารถสง่ มอบบรกิ ารท่นี ่าประทบั ใจใหล้ กู คา้ ได้
พนกั งานของธนาคารจงึ เป็นหวั ใจหลกั ในการสรา้ งสรรคน์ วตั กรรมตา่ ง ๆ ธนาคารจึงใหค้ วามสาคญั ในเรื่อง
ของคนดว้ ยแนวคดิ Possibility to Learn and Grow เช่ือวา่ ทกุ อย่างเป็นไปไดท้ ่นี ่ี โดยมกี ารพฒั นาคนอยา่ ง
เป็นระบบ (Training Roadmap) ผา่ นการอบรมในหอ้ งเรียน (Classroom Training) พร่งั พรอ้ มดว้ ย
หลกั สตู รการเรียนออนไลน์ และจากการสารวจผลการพฒั นาพนกั งานใหเ้ กิดประสทิ ธิผลนนั้ พบวา่ “หวั หนา้
งาน” เป็นผทู้ ่มี ีสว่ นสาคญั ในการพฒั นาความสามารถของพนกั งานเป็นอยา่ งมาก
ธนาคารจึงไดจ้ ดั โครงการ K-Coaching Way ซ่งึ เป็นวิถีการโคช้ ท่เี นน้ การฟัง การถาม การแนะนา การให้
กาลงั ใจ อยา่ งสรา้ งสรรค์ ใหแ้ กผ่ บู้ รหิ ารระดบั ต่าง ๆ โครงการนีด้ าเนนิ การมาเป็นระยะเวลา 3 ปีแลว้ พบว่า
สง่ ผลดตี ่อการพฒั นาพนกั งาน การสรา้ งความผกู พนั ของพนกั งาน และสง่ ผลดีต่อผลการปฏบิ ตั งิ านของ
องคก์ รและของพนกั งาน ซง่ึ ถือวา่ ประสบความสาเรจ็ ตามจดุ มงุ่ หมายท่ีตงั้ ไวท้ กุ ประการ
โดยการจดั โครงการ K-Coaching Academy จะเนน้ การสรา้ ง Executive Coach ใหผ้ นู้ าทกุ ระดบั
โดยเฉพาะผบู้ รหิ ารระดบั ผบู้ รหิ ารฝ่ายขึน้ ไป ไดเ้ รียนรูห้ ลกั สตู รดา้ นการ Coach ท่มี กี ารเรยี นรูอ้ ย่างเขม้ ขน้
124
อีกทงั้ ยงั ประชาสมั พนั ธเ์ รอื่ ง Coaching ทงั้ ธนาคาร เพ่ือใหห้ วั หนา้ งานและพนกั งานตระหนกั ถงึ
ความสาคญั เก่ียวกบั เรอ่ื งโคช้ และทาหนา้ ท่โี คช้ และผรู้ บั การโคช้ ไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งเหมาะสม
ในสว่ นของการพฒั นาทกั ษะการโคช้ ใหแ้ กผ่ บู้ ริหารของสาขา เพ่ือใหแ้ น่ใจว่าผบู้ รหิ ารของสาขาซ่งึ ดแู ล
พนกั งานสว่ นใหญ่ของธนาคาร มีทกั ษะการโคช้ ท่ีดแี ละเหมาะสม โดยมกี ารกาหนดตวั วดั ผลงานเร่ืองโคช้
ของผบู้ รหิ ารสาขาท่ชี ดั เจน
ผลสาเรจ็ จากการกาหนดใหห้ ลกั สตู รเร่ืองการโคช้ อย่ใู นแผนการเรียนรูข้ องผบู้ รหิ ารทกุ ระดบั ทาให้ปัจจบุ นั
มีผบู้ รหิ ารของธนาคารท่ีผา่ นการเรยี นรูเ้ ร่ืองโคช้ แลว้ จานวนทงั้ สนิ้ 2,500 คน และสง่ ผลสืบเน่อื งไปถึง
พนกั งานทกุ คนอยา่ งต่อเน่อื ง โดยมีการจดั โปรแกรม “พ่ีอยากโคช้ นอ้ งอยากคยุ ” ซ่งึ เป็นโปรแกรมท่ใี ห้
ผบู้ รหิ ารท่ไี ดร้ บั การเรยี นรูเ้ รื่อง Coaching จนไดร้ บั ใบรบั รอง มาเป็นโคช้ ใหแ้ กพ่ นกั งานท่มี ศี กั ยภาพสงู ของ
ธนาคาร และพนกั งานท่สี มคั รเขา้ รว่ มโครงการ โดยท่ผี า่ นมาไดจ้ ดั โปรแกรมไปแลว้ 3 Seasons มโี คช้ เขา้
รว่ มโครงการ 253 คน และพนกั งานเขา้ รว่ มโครงการ 731 คน
การดาเนนิ โครงการอย่างต่อเน่ือง ทาใหส้ ามารถเปลี่ยนแนวคิดของคาว่า Coaching จากดา้ นลบ ท่ี
หมายถงึ การติดตามเปา้ การต่อว่า การทาโทษ เป็นดา้ นบวก ท่หี มายถึงการใหค้ าแนะนาและการถามเพ่อื
ปลดปลอ่ ยศกั ยภาพของพนกั งาน ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากคะแนนประเมนิ 360 องศา ในหวั ขอ้ Coaching &
Feedback เพิ่มสงู ขึน้ 2.45% และคะแนนประเมิน Employee Engagement ในหวั ขอ้ Department
Head สงู ขึน้ 6.76% และหวั ขอ้ Supervision สงู ขึน้ 3.09%
Possibility to Learn and Grow
สาหรบั การวดั ผลการเรียนรูน้ นั้ ธนาคารกสกิ รไทย ไดน้ า The Kirkpatrick Model มาใชเ้ ป็นแนวทางวดั
ระดบั การเรียนรูข้ องพนกั งานจากการเรียนรู้ แบง่ เป็น 4 ระดบั ดงั นี้
Reaction (การตอบสนอง): ประเมินไดจ้ ากการตอบสนอง และมสี ว่ นรว่ มในหอ้ งเรียน เช่น การตอบคาถาม
การตงั้ คาถาม การรว่ มทากจิ กรรมท่มี อบหมายให้ เป็นตน้
Learning (การเรยี นรู)้ : ประเมินไดจ้ ากการทดสอบความรู้ ความเขา้ ใจ และทกั ษะ เช่น Pre – Post Test
การทาบทบาทสมมติ เป็นตน้
125
Behavior (พฤติกรรม): ประเมินไดจ้ ากการนาความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะ และพฤติกรรมท่ีสะทอ้ นทศั นคติท่ี
ไดจ้ ากการเรียนรูไ้ ปปฏิบตั จิ รงิ เช่น การสมั ภาษณก์ ระบวนการคดิ การมอบหมายโครงการ เป็นตน้
Results (ผลลพั ธ)์ : ประเมินไดจ้ ากผลของการใชส้ ่ิงท่ไี ดเ้ รียนรูม้ าปฏิบตั จิ รงิ เช่น การสมั ภาษณ์ 360 องศา
ผลลพั ธข์ องโครงการท่มี อบหมาย เป็นตน้
แต่เน่ืองดว้ ยการท่พี นกั งานแต่ละคน มชี ่องทางการเรยี นรูท้ ่หี ลากหลาย ในขณะท่ีฝ่ายพฒั นาทรพั ยากร
บคุ คลของธนาคาร มีการเก็บประวตั กิ ารเรยี นรูแ้ ละนามาวเิ คราะหอ์ ย่างเป็นระบบ เพียงแค่ 3 ชอ่ งทางหลกั
ๆ คือ การเรียนรูภ้ ายในหอ้ งเรยี น (In-house Learning) การเรียนรูอ้ อนไลน์ (Online Learning) และ การ
เรียนรูก้ บั สถาบนั ภายนอก (Outside Learning) ทาใหใ้ นปัจจบุ นั จงึ ยงั ไม่สามารถสรุปไดช้ ดั เจนว่า ช่อง
ทางการเรยี นรูท้ ่ธี นาคารจดั สรรใหน้ นั้ ทาใหศ้ กั ยภาพของพนกั งานผนู้ นั้ เพมิ่ ขึน้
แนวทางแกไ้ ขท่ีกาลงั อย่รู ะหว่างดาเนินการก็คือ มีการจดั โปรแกรมการเรียนรูเ้ ฉพาะกลมุ่ Focus และ
กาหนดระยะเวลาการเรยี นรูท้ ่ชี ดั เจนในระหว่างการเรียนรู้ และ/หรือหลงั จากจบโปรแกรมแลว้ ว่าพนกั งานมี
การเปล่ยี นแปลงอย่างเป็นรูปธรรมอย่างไร และความรูค้ วามสามารถท่พี นกั งานไดร้ บั การพฒั นาตนเองนนั้
สง่ ผลต่อการเจรญิ เติบโตในทางธุรกจิ ไดอ้ ย่างไร ซ่งึ อยรู่ ะหวา่ งการพฒั นาโปรแกรมดงั กลา่ ว
อยา่ งไรก็ตาม สิง่ ท่ธี นาคารกสิกรไทย ในฐานะผนู้ าดา้ นการเปลย่ี นแปลงอยเู่ สมอ จะยงั คงยดึ ม่นั แนว
ทางการพฒั นาองคก์ ร โดยเนน้ ไปท่ีหวั ใจสาคญั ของการเปลย่ี นแปลงในทกุ ครง้ั คือ บคุ ลากรท่มี ีคณุ ภาพ
และวฒั นธรรมองคก์ รยุคใหมท่ ่ีมีรว่ มกนั ไดแ้ ก่ การมีลกู คา้ เป็นศนู ยก์ ลาง (Customer at Heart) ประสาน
ความรว่ มมือ (Collaboration) เสรมิ สรา้ งนวตั กรรม (Innovativeness) และทางานคลอ่ งตวั (Agile) เพ่อื
ขบั เคลื่อนสงั คมและเศรษฐกิจของประเทศไทยใหเ้ ขม้ แขง็ และเดินหนา้ ไดอ้ ยา่ งม่นั คง
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
126
เครื่องมอื ทใ่ี ช้ในการพัฒนาบคุ ลากร
• การฝึกอบรมในขณะทางาน (On the Job Training : OJT)
• การฝึกอบรมในหอ้ งเรยี น (Classroom Training)
• การสอนงาน (Coaching)
• โปรแกรมพ่เี ลีย้ ง (Mentoring Program)
• การเพ่ิมปรมิ าณงาน (Job Enlargement)
• การใหค้ าปรกึ ษาแนะนา (Consulting)
• การติดตาม/สงั เกต (Job Shadowing)
• การทากจิ กรรม (Activity)
• การเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง (Self Learning)
• การเป็นวิทยากรภายใน (Internal Trainer)
• การดงู านนอกสถานท่ี (Site Visit)
• การใหข้ อ้ มลู ปอ้ นกลบั (Feedback)
• การฝึกงานกบั ผเู้ ช่ียวชาญ (Counterpart)
• การประชมุ /สมั มนา (Meeting/Seminar)
• การใหค้ าปรกึ ษาดา้ นชีวติ การทางาน (Counseling)
• รว่ มมือกบั สถาบนั การศกึ ษาเพ่อื พฒั นาหลกั สตู รท่ตี รงกบั ความตอ้ งการขององคก์ ร
• แผนพฒั นาบคุ ลากรเป็นรายบคุ คล (Individual Development Plan)
• จดั ทาหลกั สตู รการพฒั นาบคุ ลากรท่เี ป็นมาตรฐาน
• การจดั ใหม้ กี ารจดั การความรู้ (Knowledge Management)
• สรา้ ง Role Model ในดา้ นต่าง ๆ เพ่ือสรา้ งแรงบนั ดาลใจในการพฒั นาตนเองใหพ้ นกั งาน
• พฒั นาความพรอ้ มของอปุ กรณ์ เคร่ืองมอื และผนวก Collaboration Platform ท่เี พิ่มความสามารถในการ
สรา้ งเครอื ข่ายสงั คม
127
8) มลู นิธิแมฟ่ ้าหลวง ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
มลู นธิ ิแม่ฟา้ หลวง ในพระบรมราชปู ถมั ภ์ (มลู นธิ ิแม่ฟ้าหลวงฯ) เดมิ ช่ือ มลู นธิ ิสง่ เสรมิ ผลผลติ ชาวเขาไทย
ในพระราชปู ถมั ภ์ ก่อตงั้ ขึน้ ตามพระราชดารขิ องสมเด็จพระศรนี ครนิ ทราบรมราชชนนี ในปี พ.ศ. 2515 เพ่อื
แกป้ ัญหาความ “เจบ็ จน ไม่รู”้ อย่างบรู ณาการและครบวงจร
คาว่า “แมฟ่ า้ หลวง” ไดม้ าจากพระสมญั ญานามท่ีชาวไทยภเู ขาพรอ้ มใจกนั เรียกขานสมเดจ็ ย่า เพราะภาพ
ท่พี วกเขาเหน็ จนชินตา คือ สมเดจ็ ย่าเสดจ็ ฯ ดว้ ยเฮลิคอปเตอรพ์ ระท่ีน่งั พรอ้ มกบั สิง่ ของ อาหาร เครือ่ งมือ
และบคุ ลากรทางการแพทยม์ าเย่ยี มเยยี นพวกเขา เสมือนเสด็จฯ จากฟ้ามาปัดเป่าทกุ ขโ์ ศกโรคภยั
นอกเหนือจากการอนรุ กั ษศ์ ิลปวฒั นธรรมและเพิ่มรายไดใ้ หแ้ กช่ าวเขา โดยสง่ เสรมิ และหาตลาดใหง้ าน
หตั ถกรรมของชาวเขาเผ่าตา่ ง ๆ แลว้ มลู นิธิแม่ฟา้ หลวงฯ ยงั มกี ารทางานเพ่ือดแู ลไมใ่ หช้ าวเขาเหลา่ นนั้ ถกู
เอารดั เอาเปรียบจากพอ่ คา้ คนกลาง เกิดการสรา้ งงานสรา้ งรายไดแ้ ละอาชีพท่ยี ่งั ยนื ทาใหห้ ตั ถกรรม
ชาวเขาเป็นท่นี ิยมทงั้ ในและตา่ งประเทศนบั แตน่ นั้ เป็นตน้ มา โครงการสาคญั ของมลู นิธิแมฟ่ า้ หลวงฯ
ประกอบดว้ ย
1. โครงการพฒั นาดอยตงุ (พนื้ ท่ที รงงาน) อนั เน่ืองมาจากพระราชดาริ เรม่ิ ตน้ ขนึ้ เม่ือปีพ.ศ. 2531 เพ่อื แกไ้ ข
ปัญหาความยากจนและยกระดบั คณุ ภาพชวี ติ อยา่ งองคร์ วม ปัจจบุ นั ไดร้ บั การยกย่องในระดบั นานาชาตใิ ห้
เป็นตน้ แบบการพฒั นาทางเลอื กเพ่ือลดการปลกู พืชเสพตดิ และแกป้ ัญหาความยากจนไดอ้ ย่างย่งั ยนื อีกทงั้
ยงั ไดร้ บั การยอมรบั ใหเ้ ป็นหนึ่งในตน้ แบบของธุรกจิ เพ่อื สงั คม ท่สี ามารถพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตของประชาชน
ควบค่ไู ปกบั การแกป้ ัญหาสงั คมและฟื้นฟสู ิ่งแวดลอ้ มไดส้ าเรจ็
2. อทุ ยานศิลปะวฒั นธรรมแม่ฟา้ หลวง (ไรแ่ มฟ่ ้าหลวง) เดมิ เป็นสถานท่ที าการของมลู นธิ ิสง่ เสรมิ ผลผลิต
ชาวเขาไทย เพ่ือหาตลาดใหง้ านหตั ถกรรมท่เี ป็นศลิ ปะของชาวไทยภเู ขา รวมทงั้ ยงั เป็น “บา้ น” สาหรบั ผนู้ า
เยาวชนชาวเขาท่ไี ดร้ บั พระราชทานทนุ เลา่ เรียน ไดฝ้ ึกวชิ าชวี ติ จากการอย่รู ่วมกนั ต่อมาเม่อื มกี ารขยาย
โอกาสทางการศกึ ษา เยาวชนมโี อกาสเรียนในโรงเรยี นใกลห้ ม่บู า้ น ไรแ่ มฟ่ ้าหลวงจึงเปล่ยี นเป็น “อทุ ยาน
ศิลปะวฒั นธรรมแมฟ่ ้าหลวง” เพ่ือเป็นศนู ยก์ ลางดา้ นศิลปวฒั นธรรมลา้ นนาของไทย
3. หอฝ่ิน อทุ ยานสามเหลี่ยมทองคา ตงั้ อย่บู นพืน้ ท่ปี ระมาณ 250 ไร่ รมิ แม่นา้ โขง อาเภอเชียงแสน จงั หวดั
เชียงราย หอฝ่ินเปิดใหบ้ รกิ ารเม่ือปีพ.ศ. 2548 ตามพระราชดารขิ องสมเด็จพระศรีนครนิ ทราบรมราชชนนที ่ี
มงุ่ หวงั ใหป้ ระชาชนตระหนกั ถงึ มหนั ตภยั ของสารเสพติด ทงั้ ต่อบคุ คลและสว่ นรวมอย่างลกึ ซงึ้ นาไปสกู่ าร
128
ลดอปุ สงคข์ องยาเสพติด โดยนาเสนอประวตั ิศาสตร์ ววิ ฒั นาการของสารเสพติดจากฝ่ิน รวมถงึ ขบวน
การคา้ ยาเสพติดผ่านมลั ตมิ ีเดียทนั สมยั เป็นการใหค้ วามรูค้ คู่ วามบนั เทิง
นอกจากนี้ มลู นิธิแมฟ่ ้าหลวงฯ ยงั มบี ทบาทสาคญั ในการเป็นท่ปี รกึ ษา ผผู้ ลกั ดนั เชิงนโยบาย และผแู้ ทน
ประเทศไทยในการเผยแพรแ่ นวคิด “การพฒั นาคณุ ภาพชีวิตท่ยี ่งั ยืน” (Sustainable Alternative
Livelihood Development) ในเวทีสหประชาชาติอย่างต่อเน่ือง
นาศาสตรพ์ ระราชา แก้ปัญหาทต่ี ้นเหตุ
“มูลนธิ ฯิ เราตงั้ มาเกือบ 50 ปีแลว้ เร่มิ ตน้ จากการมองเหน็ ปญั หาว่าชาวไทยภูเขาในพนื้ ทดี่ อยตงุ มีความ
ยากจน คณุ ภาพชวี ิตไมด่ ี เขา้ ไปเกยี่ วขอ้ งกบั การปลูกฝ่ิน คา้ ฝ่ิน ตดั ไมท้ าลายป่ า ทาไร่เลอื่ นลอย การ
แกป้ ญั หาจึงตอ้ งเร่มิ จากตน้ เหตทุ แี่ ทจ้ รงิ น่นั คอื ความยากจน และการขาดโอกาส เราจึงตอ้ งเร่ิมทกี่ าร
เปลยี่ นพวกเขา จากชาวไร่ เป็นคนปลูกป่ า มีรายไดร้ ายวนั มีการวางการแผนพฒั นาอย่างเป็นขนั้ เป็นตอน
คอื ถา้ จะใหป้ ่ าอยไู่ ด้ คนก็ตอ้ งอยรู่ อดดว้ ย แลว้ จะแกป้ ญั หาเรอื่ งคน ก็ตอ้ งมองใหเ้ หน็ รากเหงา้ 3 อย่างของ
ปญั หา คอื ความเจ็บป่ วย ความยากจน ความไมร่ ู้ มูลนธิ ิฯ ก็ทาสามสง่ิ นี้ โดยการตงั้ คาถามว่า “ทาไม”
(Why) ไปเรอื่ ย ๆ เราจะเปลยี่ นชาวไทยภเู ขาจากทาไรเ่ ลือ่ นลอยใหม้ าเป็นคนปลูกป่ าไดย้ งั ไง คนมาปลูกป่ า
แลว้ ถา้ ไม่มอี ะไรทาแลว้ เขาก็จะกลบั ไปอย่างเดมิ มยั้ จึงเป็นทมี่ าของการสรา้ ง ‘อาชพี ใตป้ ่ า’
พอคนจะปลูกป่ าได้ ก็ตอ้ งมีสขุ ภาพทพี่ รอ้ ม เราก็เร่ิมแกป้ ัญหาความเจ็บป่ วย ไปฉีดวคั ซีน ไปทาฟัน เรา
อยากใหพ้ นื้ ทปี่ ลอดยาเสพติด แกป้ ญั หาการคา้ มนษุ ย์ เขากต็ อ้ งมีรายได้ ลูกหลานตอ้ งมอี นาคต มีความรูก้ ็
ตอ้ งไดเ้ รียน จะไดต้ อ่ ยอดได้ เรากท็ าเรื่องการศกึ ษา”
หมอ่ มหลวงดิศปนดั ดา ดิศกุล ประธานเจา้ หนา้ ท่ีบรหิ าร มลู นธิ ิแมฟ่ า้ หลวงฯ เลา่ ถึงความสาเรจ็ ของการ
แกป้ ัญหาแบบครบวงจร ท่ีทาใหโ้ มเดลการทางานของมลู นธิ ิฯ ถกู นาไปใชแ้ ละขยายผลกบั อีกหลายประเทศ
ท่มี ปี ัญหาใกลเ้ คยี งกนั เช่น
โครงการธนาคารแกะท่ีอฟั กานิสถาน โดยการใหเ้ จา้ ของแกะท่เี ขา้ รว่ มโครงการนาแกะเกดิ ใหม่เพศเมยี รอ้ ย
ละ 10 มาแลกกบั การใหบ้ รกิ ารสตั วบาลโดยหน่วยสตั วบาลเคลอื่ นท่ี (Mobile Veterinary Units) ท่ผี า่ นการ
ฝึกอบรมกบั มลู นิธิแม่ฟ้าหลวงฯ แลว้ จากนนั้ โครงการจะนาแกะเหลา่ นไี้ ปใหค้ รอบครวั ท่ยี ากจนกยู้ มื ตอ่ ไป
จานวนแกะท่เี พม่ิ ขึน้ เป็นการเพ่ิมสนิ ทรพั ยแ์ ละช่องทางการเพิ่มมลู คา่ ผลติ ภณั ฑแ์ ละวสิ าหกิจอ่นื ๆ
หรอื ท่ไี ดร้ บั การรอ้ งขอจากรฐั บาลเมียนมาและรฐั บาลไทย ใหไ้ ปดาเนนิ โครงการพฒั นาในหมบู่ า้ นหยอ่ งข่า
รฐั ฉาน เพ่อื แกป้ ัญหาความยากจน สขุ ภาพพนื้ ฐาน และการปลกู พืชเสพติด โดยการนาหนว่ ยแพทย์
129
เคล่ือนท่เี ขา้ ไปดแู ลสขุ ภาพ แกป้ ัญหาโรคติดต่อท่มี ีทงั้ มาลาเรยี วณั โรค และหิด มีการพฒั นา
สาธารณปู โภค สรา้ งโรงพยาบาลขนาด 16 เตียง และโรงเรยี นสาหรบั นกั เรียน 500 คน โดยจา้ งแรงงานใน
พนื้ ท่ใี นการก่อสรา้ ง จดั อบรมอาสาสมคั รปอ้ งกนั มาลาเรีย หรอื สอนการเลยี้ งปลา เลีย้ งไก่ท่โี รงเรียนเป็น
อาหารกลางวนั เพิ่มพนู ทกั ษะทางการเกษตรใหน้ กั เรียน
สว่ นท่อี ินโดนเี ซยี ซ่งึ เป็นพืน้ ท่ที ่มี ปี ัญหาความขดั แยง้ ภายในประเทศมายาวนานกวา่ 3 ทศวรรษ และ
ประสบภยั สนึ ามิ (2547) กม็ ีการจดั ตงั้ ศนู ยผ์ ลติ ขาเทยี ม ฝึกอบรมผทู้ พุ พลภาพขาขาดและบคุ ลากรทางการ
แพทยใ์ นการผลิตขาเทยี ม การรกั ษาและปอ้ งกนั โรคมาลาเรีย การจดั ตงั้ ศนู ยพ์ ฒั นาชนบทอยา่ งย่งั ยืน เป็น
สถานีสาธิตดา้ นชลประทาน เกษตรกรรม ปศสุ ตั ว์
“ทกุ ทที่ มี่ ีคนดอ้ ยโอกาส จะมีสง่ิ ทเี่ หมือนกนั คือ 1. เขา้ ไมถ่ งึ สว่ นงานราชการ 2. ขาดสาธารณูปโภค
พนื้ ฐาน และ 3. ขาดตน้ ทนุ มนั ไมใ่ ช่เรือ่ งเงนิ อยา่ งเดยี ว เพราะมีตงั้ แต่ตน้ ทนุ นา้ ตน้ ทนุ ดนิ ตน้ ทนุ ความรู้
แคค่ นเป็นมาเลเรีย ทาไมตอ้ งนอนรอความตาย เสน้ บาง ๆ ระหว่างความเป็นกบั ความตาย มีมูลคา่ คอื ค่า
ยาแค่ 50 บาทเท่านนั้ หรือ
การทางานของเรา คอื เขา้ ไปทาหนา้ ทีบ่ ริหารจดั การสภาพแวดลอ้ ม โดยการ Carry ศาสตรพ์ ระราชาไป คือ
‘เขา้ ใจ เขา้ ถงึ พฒั นา’ ทาใหก้ ารดารงชีวติ เขาดขี ึน้ ไปดวู ่าเขามีศกั ยภาพทาไรไดบ้ า้ ง ทนุ ในสงั คมคอื อะไร
ทนุ ธรรมชาติคอื อะไร องคค์ วามรูท้ มี่ อี ยู่คอื อะไร องคค์ วามรูใ้ หมท่ คี่ วรไดค้ อื อะไร เราเป็นเหมือนคนทเี่ ขา้ ไป
เป็นคอนดคั เตอรข์ องการเปลีย่ นแปลง พอเขามอี าชีพมรี ายได้ เร่ิมรูว้ ่ามีตลาดรองรบั เร่ิมรูว้ า่ สง่ิ เหล่านี้
เปลยี่ นแปลงชวี ติ เขาได้ แกเ้ รือ่ งเจบ็ ป่ วยได้ กเ็ กดิ เป็นความไวเ้ นอื้ เชอื่ ใจ มนั ก็ขยบั มวลชนไดง้ ่ายขึน้ ”
จะปลูกป่ าหรอื ปลกู คน ต้องเริม่ ตน้ ทวี่ ันแรก
จากภาพรวมของงานเพ่ือสงั คมทงั้ หมดท่ีกลา่ วมา จะเห็นไดว้ ่ามลู นธิ ิแม่ฟา้ หลวงฯ มกี ารดาเนินงานโดย
ตงั้ อย่บู นพนื้ ฐานของ “การพฒั นาศกั ยภาพคน” ไม่ว่าจะเป็นคนในพืน้ ท่ี หรือแมแ้ ต่คนท่ลี งไปทางาน
พฒั นาก็เชน่ กนั และทงั้ หมดนเี้ รม่ิ ตน้ ขนึ้ โดยมโี ครงการดอยตงุ เป็นสถานท่แี ห่งการเรียนรู้ และส่งั สม
ประสบการณม์ าตลอดสามสิบปี
ซ่งึ ปัจจบุ นั มลู นธิ ิแมฟ่ า้ หลวงฯ มพี นกั งานประจาประมาณหนงึ่ พนั หกรอ้ ยคน แบง่ ออกเป็นทีมท่ีทาธรุ กจิ เพ่อื
สงั คมภายใตแ้ บรนดด์ อยตงุ กบั ทีมท่ีดาเนินโครงการพฒั นาต่าง ๆ นอกพนื้ ท่ีดอยตงุ ทงั้ ในและตา่ งประเทศ
โดยมีการวางแผนการพฒั นาบคุ ลากรท่มี ีอดุ มการณโ์ ดยเฉพาะกบั คนรุน่ ใหม่ ๆ ขนึ้ มารองรบั ตลอดเวลา
“เราหาคนทางานไดย้ ากขนึ้ เพราะทศั นคติคนรุน่ ใหมต่ อ้ งการประสบความสาเรจ็ ไม่อยากเรียนรูน้ าน ไม่
อยากอดทน การทเี่ รารบั คนใหม่เขา้ มา ทกุ คนจึงตอ้ งผา่ นการอบรม On the Job Training เพราะงานของ
130
เรามนั ไมเ่ หมอื นบริษัททว่ั ไป คณุ จะแกป้ ัญหาหนา้ งานยงั ไง จะเขา้ ใจเรอื่ งการคยุ กบั คนในชมุ ชนยงั ไง เวลา
ลงพนื้ ทที่ ไี่ มม่ ใี ครรูจ้ กั กบั เราเลย มชี าวบา้ นมาฟงั ทลี ะ 400-500 คน เราตอ้ งพูดกบั เขาวา่ เรามาทาอะไร
ตอ้ งตอบคาถามเขาได้ ตอ้ งอาศยั ประสบการณ์ลว้ น ๆ ถา้ ลมปราณไมถ่ งึ ธาตไุ ฟแตกซ่านแนน่ อน
คนของเราตอ้ งใชเ้ วลาส่งั สมประสบการณ์เป็นปี กวา่ จะสามารถทากระบวนการพูดคยุ กบั ชมุ ชนได้ กอ่ น
หนา้ นนั้ พวกเขาตอ้ งลงพนื้ ที่ เป็นผูส้ งั เกตการณ์ไปก่อน เมือ่ เราคดิ ว่าเขาพรอ้ มกเ็ ร่ิมจากเลก็ ๆ คอื ตอ้ ง
เรียกประชมุ คน 4-5 คนใหไ้ ดก้ อ่ น แสดงใหเ้ หน็ ศกั ยภาพก่อนแลว้ ค่อยขยายกล่มุ ใหญ่ขนึ้ ทงั้ หมดนคี้ อื การ
ใชก้ ระบวนการในการสรา้ งคน Learning by Doing คือตอ้ ง Learning จากรุน่ พๆี่ Learning แลว้ ก็ตอ้ ง
Doing ไดด้ ว้ ย เร่ิมจากเลก็ ไปใหญ่”
แนน่ อนว่า การมองหาคนท่พี รอ้ มจะเตบิ โตไปกบั องคก์ รจึงเป็นเรอื่ งสาคญั จากยุคแรกท่มี อี ตั ราการ Turn
Over ค่อนขา้ งสงู ทาใหต้ อ้ งมีการปรบั กลยทุ ธส์ าหรบั รบั มือกบั ปัญหาท่เี กดิ ขึน้ โดยคณุ ดศิ ปนดั ดาไดเ้ ลา่ ถงึ
ด่านแรกของการรบั คนเขา้ ทางาน อนั เป็นกระบวนการท่ี “ถกู ออกแบบ” ไวเ้ ป็นพเิ ศษเพ่ือการนีโ้ ดยเฉพาะ
“เราไมโ่ พสตใ์ นเว็บหางานตา่ ง ๆ เพราะเราไม่อยากไดค้ นสมคั รงานทว่ั ไป แตค่ นจะมาสมคั รกบั เรา เขาตอ้ ง
มองเราอยูใ่ นเรดาร์ เขาสนใจตดิ ตามข่าวของเราอยูก่ ่อนแลว้ และเรารบั คนโดยเนน้ เรือ่ งบคุ ลิกภาพสว่ นตวั
ทกั ษะเฉพาะตวั ไหวพริบในการจดั การ ถา้ พวกทที่ างานออฟฟิศ กจ็ ะมีกระบวนการสมั ภาษณแ์ บบนงึ แต่
คนทางานภาคสนามก็จะอกี แบบ
เราจงใจนดั สมั ภาษณว์ นั หยุด เสาร์ อาทติ ย์ ขอนดั 7 โมงเชา้ แตพ่ อเขามาถงึ แลว้ เราจะปล่อยใหน้ ่งั รอ น่งั
ไปจน 9 โมง ดวู ่าเขายกุ ยกิ มยั้ ดูปฏกิ ริ ิยาวา่ รบั มอื ยงั ไง ดูทศั นคติ มกี ารทดสอบบุคลกิ ภาพ เพอื่ จะดูวา่ เขา
ตกอยใู่ นหมวดไหน เวลาไดค้ าถามไปแลว้ เขาตอบยงั ไง
คนถามจะมที งั้ คนใจดแี ละคนตงั้ ใจถามกวน ย่วั ใหโ้ มโห เราใชผ้ สู้ มั ภาษณ์สามคน ในขณะทคี่ นสมคั รจะนง่ั
บนเกา้ อตี้ วั เดยี ว ห่างไป 5 เมตร ไม่มีโต๊ะ นง่ั คนเดยี วโล่ง ๆ เราจะดูวา่ ระหวา่ งกดดนั นี่ เขาน่งั เล่นกบั มอื
ไหล่หอ่ กระดกิ ตนี ทงั้ หมดคอื ภาษากายทเี่ ราดูอยู่
สมั ภาษณเ์ สรจ็ เราก็จะใหท้ าขอ้ สอบ ถามตาแหนง่ ทตี่ อ้ งการ สมมตุ จิ บไฟแนนซม์ าก็ตอ้ งทา Series of
Questions เกีย่ วกบั เรือ่ งตวั เลข โดยขอ้ สอบถกู ออกแบบมาใหไ้ ม่มีทางทาจบในเวลา เพราะเราไมไ่ ด้
ตอ้ งการดูการทาตวั เลขเพยี งอยา่ งเดียว เราตอ้ งการดวู ่าเขามไี หวพริบพอทจี่ ะรูร้ เึ ปล่าว่าเขาไม่มที างทาทนั
และภายใตข้ อ้ จากดั นนั้ เขาจะแกไ้ ขปัญหายงั ไง จากการประมวลผลทงั้ วนั สดุ ทา้ ยคอื เราเอาชือ่ ผสู้ มคั ร
ทงั้ หมด พรอ้ มคะแนนรวมในทกุ ๆ ส่วนทไี่ ดร้ บั การทดสอบมาเรียงตามลาดบั แลว้ ใหท้ มี งานทมี่ าร่วม
คดั เลอื กทกุ คนเป็นคนโหวตว่าใครผา่ นหรอื ไม่ผา่ น โดยการทจี่ ะเขา้ มาทางานทนี่ ไี่ ด้ ทกุ คนตอ้ งลงคะแนน
131
ให้ หากมเี พยี ง 1 เสียงทไี่ ม่เหน็ ดว้ ย เรากไ็ ม่รบั อตั ราการเขา้ ทางานทผี่ า่ นมาจากคนสมคั ร 100 คน เราจะ
รบั เขา้ ทางานประมาณ 3-4 คน เราถอื วา่ ถา้ กรองมาดี อยา่ งนอ้ ยเร่ิมตน้ มนั กต็ อ้ งด”ี
วฒั นธรรมองคก์ ร กรอบของการเรียนรู้และเติบโต
ผ่านดา่ นแรกว่ายากแลว้ ดา่ นตอ่ ไปอาจยากกวา่ เพราะท่ีน่ใี ชก้ ระบวนการเรียนรูด้ ว้ ยตนเองตลอดเวลา โดย
มีผอู้ าบนา้ รอ้ นมาก่อนเป็นผสู้ อนงาน ควบคกู่ นั ไปกบั การทางานในพนื้ ท่ีจรงิ ปัญหาจรงิ ซง่ึ จาเป็นอย่างยิ่งท่ี
ผสู้ นใจงานพฒั นาเชน่ นี้ ตอ้ งมีทกั ษะในการปรบั ตวั สงู และเป็นงานท่ีไมม่ ีคมู่ อื บอกวิธี ไมม่ ี
สถาบนั การศกึ ษาใดสอนกนั มาในหอ้ งเรยี น
“สง่ิ สาคญั ทสี่ ดุ ขององคก์ รทีต่ อ้ งเดินหนา้ ไปในอนาคต 5 ปี 10 ปี ก็คือ Agility หรือความสามารถในการ
ปรบั ตวั คณุ พฒั นาตวั เองอย่างตอ่ เนอื่ งตลอดเวลามยั้ คณุ คดิ แบบไม่ตดิ กรอบไดม้ ยั้ ย่งิ การทางานกบั ผม
ผมเนน้ เรอื่ ง ‘แกงโฮะ’ คือ ผมชอบเรยี กมาคุยทนี งึ ทงั้ แผนกเลย ไมต่ อ้ งมาน่งั พูดซ้าทีละคน คยุ รว่ มกนั ฟัง
รว่ มกนั ตกลงร่วมกนั เพอื่ ใหไ้ ดค้ วามหลากหลายของไอเดยี และมมุ มองทแี่ ตกตา่ ง ทะเลาะกนั ไดแ้ ตต่ อ้ ง
ทะเลาะกนั แบบจบคอื จบ ออกมาแลว้ ถา้ ตกลงกนั วา่ ขวา กต็ อ้ งขวาทกุ คน”
อีกเครอ่ื งมอื สาคญั ท่ีคณุ ดิศปนดั ดานามาปรบั ใชจ้ นกลายเป็นวฒั นธรรมองคก์ ร คอื เรื่องของ “วงกลม
กลั ยาณมติ ร” ซ่งึ เป็นสว่ นหนึ่งของการเรยี นรูก้ ารอย่รู ่วมกนั โดยเป็นการส่ือสารท่เี นน้ เร่ืองเปิดใจใหก้ วา้ ง ให้
คนทางานทกุ คนไดม้ ีโอกาส ขอบคณุ ขอโทษ ซ่งึ กนั และกนั ซง่ึ ผทู้ ่จี ะเขา้ มาอย่ใู นวงกลมนีไ้ ด้ ตอ้ งมหี วั ใจ
ของกลั ยาณมิตร คอื ความหวงั ดตี ่อกนั เกือ้ กลู ต่อกนั เตมิ เต็มกนั และความม่งุ ม่นั พฒั นาตนเอง มคี วาม
ศรทั ธาในสิง่ ท่ที าอยู่
“ผมเร่มิ ทตี่ วั เองก่อนเลย ผมเป็นคนทลี่ ูกนอ้ งกลวั เพราะนิสยั เป็นคนเสยี งดงั ไมม่ คี วามอดทน ดดุ นั เจา้
ระเบยี บ พนกั งานเลยไมค่ ่อยแสดงความเหน็ ทแี่ ตกตา่ ง หรอื ไมก่ ลา้ ทจี่ ะเสนออะไรทอี่ าจจะขดั แยง้ กบั
มมุ มองของผม นาน ๆ เขา้ มนั กก็ ลายเป็นการทางานทขี่ าดประสทิ ธภิ าพ ผมจงึ เร่ิมกระบวนการนขี้ นึ้ โดย
เอาตวั อย่างมาจากโรงเรยี นของลูก ทมี่ กี ารพูดคยุ ระหว่างครูกบั ผปู้ กครอง ครูกบั นกั เรียน และนกั เรียนกบั
นกั เรยี น โดยกระบวนการนเี้ นน้ ทกี่ ารชืน่ ชมความดี สะทอ้ นความรูส้ กึ ของตนหากมีใครทาใหไ้ ม่สบายใจ
หรอื เสยี ใจ และกระบวนการนจี้ ะจบดว้ ยการขอโทษและการอภยั กนั ทกุ ครงั้
ผมไดเ้ ร่ิมทาเมือ่ ปีทแี่ ลว้ โดยในครงั้ แรกผมเป็นคนทาใหด้ ูก่อน เร่ิมจากการขอบคณุ ทกุ คน ผูบ้ รหิ าร
ระดบั กลาง ระดบั สูง 40-50 คน แลว้ ผมขอโทษทกุ คนในความประพฤตขิ องผมทที่ าใหเ้ ขาเสยี ใจ เสยี
ความรูส้ กึ หรืออะไรทผี่ มคดิ ว่าผมไดท้ าผิดกบั เขา ผมตอ้ งตงั้ ใจมากเพราะการขอบคุณและขอโทษตอ้ ง
ละเอยี ด ตอ้ งจริงใจ หลงั จากทที่ าแลว้ ผมก็รูส้ กึ ไดว้ ่า พนกั งานสว่ นใหญ่เขา้ ใจและใหอ้ ภยั สาหรบั ผมเองก็
132
เหมือนผมไดก้ ดป่ มุ รเี ซทตวั เองในความผดิ พลาดทเี่ กิดขนึ้ และก็เป็นจุดเร่มิ ตน้ ทที่ าใหผ้ มพยายามรกั ษา
ความดเี อาไว้ ไมท่ าผดิ ซา้
ในการทา Workshop ครงั้ ต่อ ๆ ไปพนกั งานกเ็ ร่ิมทาตามตวั อย่างทผี่ มไดท้ าใหด้ ู กลายเป็นทกุ คนมีความ
พยายามทจี่ ะปรบั ตนมากขึน้ แต่ความพยายามเพยี งอย่างเดยี วไมส่ ามารถ Transform Organization ได้
เราตอ้ งให้ Tools กบั พนกั งานไปใชด้ ว้ ย ผมจึงพยายามสรา้ งวฒั นธรรมเรือ่ งของ Open Communication
โดยเฉพาะเรื่องการสอื่ สารแบบ Assertive หรอื การแสดงจุดยนื ของตน
อย่างไรก็ตามการแสดงจุดยืนนนั้ ตอ้ งทาควบคู่กบั กริยา ท่าทางทเี่ หมาะสมดว้ ย เราจึงเร่ิมเรยี นรูเ้ รือ่ ง การ
เลอื กคาพดู การใชน้ ้าเสยี ง และการแสดงท่าทาง เพอื่ ใหก้ ารสอื่ สารเป็นการสอื่ ขอ้ มูลมากกว่าอารมณ์ พอ
เรามีการสอื่ สารเชิงบวก ผลการทางานก็ดขี ึน้ ทกุ คนในทีมจะกลา้ พูดคุยกนั มากขนึ้ คนเร่ิมเปิดใจกนั เร่ิมรบั
ฟังไอเดยี กนั เราจะมีกติกาในการประชมุ คอื หา้ มใชค้ าว่า ‘แต่’ เราจะใชค้ าว่า ‘แลว้ ก็’ แทน คอื ไม่ใช่ พูดวา่
คณุ ทางานดนี ะ แต.่ . พอแต่ป๊ับ มนั คือเบรกเขาเลย ตา่ งจากการใช้ ‘แลว้ ก’็ ซ่งึ จะช่วยเสริมในทางบวก
มากกว่า”
เม่อื องคก์ รสรา้ งวฒั นธรรมในการทางานท่ตี ่างก็เปิดใจใหก้ นั ไดแ้ ลว้ การใชท้ กั ษะการ Feedback ก็เป็นสิ่งท่ี
ตามมาอยา่ งไดป้ ระสิทธิภาพ บางคนอาจมองวา่ การ Feedback เป็นไดท้ งั้ ยาหอมและยาขมของคนทางาน
แต่สาหรบั การพฒั นาศกั ยภาพของทีมงาน โดยเฉพาะคนท่ที างานดา้ นพฒั นาสงั คม ซ่งึ ตอ้ งมีการเรียนรูแ้ ละ
รบั มอื กบั ปัญหาใหม่ ๆ ท่เี กิดขนึ้ อย่ตู ลอดเวลา ผนู้ าองคก์ รจึงตอ้ งมกี ระบวนการในการใช้ Feedback เป็น
เคร่อื งมอื เพ่ือสรา้ งมาตรฐาน หรือเพ่อื ใหเ้ ป็นไปตามเปา้ หมายท่ตี กลงกนั ไว้
“ในระหว่างการทา Training หรือ Workshop ดา้ น Effective Communication เราจะจดั เวลาตงั้ แต่หลงั
อาหารเยน็ ถงึ สที่ มุ่ ใหพ้ นกั งาน Feedback กบั ใครก็ได้ โดยใหไ้ ปคุยกนั เอง ทกุ คนก็จะจดั มาเตม็ ทเี่ ลย ของ
ผมมคี นมาหา 6-7 คน มาบอกวา่ ไมเ่ ขา้ ใจทาไมทายงั งนั้ ทาไมเรือ่ งนถี้ งึ สองมาตรฐาน บางคนมาแบบทา
พาวเวอร์พอยทม์ าเลย เขา Suffer เรอื่ งอะไร เขาอยากใหห้ นว่ ยงานสนบั สนนุ อะไรเขาบา้ ง ผมก็ตอ้ งตงั้ ใจ
ฟังเป็นอยา่ งมาก พอเขาพูดจบผมก็จะถามกลบั ไปวา่ วนั นมี้ าพูดใหฟ้ งั อย่างเดยี วหรืออยากใหเ้ ราตอบ
ประเดน็ อะไรรึเปลา่ มนั เป็นการพยายามฟงั ใหเ้ ขา้ ใจถงึ ความรูส้ กึ ของเขา และพยายามหาทางออกให้
กิจกรรมนจี้ ะยงั คงดาเนนิ ตอ่ ไปเรอื่ ย ๆ ในปีหนา้
ผมคดิ เสมอวา่ การเปลยี่ นแปลงเชงิ โครงสรา้ ง ไมว่ า่ จะเรอื่ งวฒั นธรรมองคก์ ร หรือเรือ่ งอะไรก็ตาม มนั ตอ้ ง
เร่มิ จากตวั เราเองก่อนเสมอ ผมดูตวั อย่างจากการทสี่ องพระองคท์ ่าน (พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หวั รชั กาล
ที่ 9 และสมเดจ็ ย่า) ไมเ่ คยตงั้ โต๊ะแถลงขา่ วว่า คนดคี อื อะไร การทางานทีด่ ที าอยา่ งไร ทงั้ สองพระองคจ์ ะ
133
แสดงใหป้ ระชาชนเหน็ ดว้ ยการ ‘พาทา’ ผมจึงเชือ่ วา่ การสรา้ งองคก์ ร สรา้ งวฒั นธรรม ไมไ่ ดเ้ กิดจากคอรส์
เทรนนง่ิ หรือมีใครมาบอก แต่มนั ตอ้ งเกดิ จากการปฏบิ ตั ติ วั ของพวกเราทกุ คน
ช่วงสามเดอื นทที่ าปลายปีนี้ จะเป็นการรเี ฟรซ พอกลบั ไปเขาจะไดไ้ ปฝึกฝนตวั เองต่อ สว่ นตวั เราเองก็
พยายามเขา้ ประชมุ รายเดอื นใหม้ ากขนึ้ เพอื่ ทาใหเ้ กดิ วฒั นธรรมองคก์ รของการสอื่ สารแบบเปิดกวา้ งมาก
ขึน้ แลว้ กาลงั วางแผนว่า อกี หนอ่ ยเราจะคยุ เรื่องอดตี ใหน้ อ้ ยลง หนั มาเพม่ิ เวลาใหก้ บั การคยุ เรอื่ งอนาคต
ใหม้ ากขึน้ ทงั้ หมดนีอ้ ยใู่ นแผนการทเี่ รากาลงั จะค่อย ๆ ปรบั องคก์ รของเรา”
เน่อื งจากผบู้ รหิ ารเช่ือวา่ การผลกั ดนั องคก์ รหรอื กระบวนการทางานท่จี ะย่งั ยืนไดน้ นั้ จะตอ้ งเกิดจาก
วฒั นธรรมองคก์ รท่เี ขม้ แขง็ โดยเฉพาะเร่อื งของ “การสรา้ งพฤตกิ รรมใหม่” จึงเป็นท่มี าของอกี หนึง่ กจิ กรรม
เพ่อื สง่ เสรมิ ใหค้ นทางานพฒั นาตนเอง
“เรากาลงั จะจดั โครงการปฏิบตั ธิ รรมปีละ 2 ครงั้ เป็นโครงการทใี่ หค้ นสมคั รใจไป ไมเ่ กีย่ ววา่ ใครศาสนา
อะไร แต่การปฏิบตั ธิ รรม ทาใหค้ นมีโอกาสเรยี นรูต้ นเอง เกดิ ความ Aware รูอ้ ารมณ์ตวั เอง ควบคมุ ตวั เอง
ได้ วา่ กาลงั โกรธ ไม่พอใจ จะพดู อะไรก็ตอ้ งระวงั คาพูด
เพราะผมเชือ่ อยู่อยา่ งหนง่ึ ว่า คนจะพฒั นาได้ คือตอ้ งกลา้ ทจี่ ะมองตวั เอง เหมอื นเวลาเรามองกระจก เรา
เหน็ อะไรตามความเป็นจรงิ พอเราเปิดใจยอมรบั ความจริง เราก็จะเปลยี่ นมมุ มองทมี่ ีต่อตวั เอง ต่อผอู้ นื่ เรา
ตอ้ งการใหค้ นทางานเกยี่ วขอ้ งสมั พนั ธก์ นั แบบ Positively ทศั นคตขิ องเขาตอ้ งเป็นบวกกบั ทมี
ผมบอกทกุ คนวา่ ผมจะเป็น CEO แคส่ องเทอม เพราะเชือ่ วา่ เวลา 8 ปีมนั นานพอแลว้ สาหรบั คนหน่งึ คนที่
จะนาพาองคก์ รไป หลงั จากนนั้ ตอ้ งมีคนอนื่ เขา้ มานาพาองคก์ รใหเ้ ดนิ ต่อไป ดงั นนั้ เราตอ้ งเร่งสรา้ ง
วฒั นธรรมใหเ้ กิดการทางานคลา้ ยๆ การเล่นบอลเป็นทมี ตอ้ งไม่พ่งึ นกั เตะเพยี งคนเดยี วมากเกนิ ไป เพราะ
ถา้ คนนอี้ อกไป องค์กรก็อาจจะไปตอ่ ไดล้ าบากตอ้ งใชเ้ วลามานง่ั สรา้ งกนั ใหม่หมดอีก ผมจงึ มองว่าบริษทั
จะแข็งแรง มนั ตอ้ งแขง็ แรงทรี่ ะบบ ไมใ่ ช่ทคี่ น”
134
จากโมเดลพฒั นาชุมชน สู่ต้นแบบธุรกิจเพอ่ื สังคม
นอกจากพฒั นาคนทางาน เพ่อื ใหส้ ามารถตอบโจทยก์ ารทางานเพ่อื สงั คมแลว้ มลู นิธิแม่ฟ้าหลวงฯ ยงั มี
แนวทางชดั เจนท่ตี อกยา้ กบั คนทางานเสมอว่า เปา้ หมายของการพฒั นาคนทางานนนั้ มีผลตอบแทนเป็น
“คณุ ค่า” ท่ที ุกคนไดร้ ว่ มกนั สรา้ งส่ิงดี ๆใหเ้ กิดขนึ้ กบั ประเทศชาติ กบั โลกท่ที กุ คนรว่ มอย่อู าศยั เป็นเสมือน
รางวลั แหง่ ความภาคภมู ิใจท่ีไม่สามารถประเมินคา่ ได้
เพราะทกุ คนเป็นสว่ นหนึ่งขององคก์ รท่ีกาลงั รว่ มมือกนั เป็นสว่ นหนึ่งของขบวนการสรา้ งงานสรา้ งรายได้ ท่ี
ควบคไู่ ปกบั การรบั ผิดชอบต่อสงั คมองคร์ วม เช่น กรณีของแบรนด์ “ดอยตงุ ” ท่ไี ดร้ บั ยกย่องใหเ้ ป็นตน้ แบบ
ของธุรกิจเพ่ือสงั คม ทางมลู นธิ ิแม่ฟ้าหลวงฯ ไดม้ วี ตั ถปุ ระสงคช์ ดั เจน ว่าเป็นการทางานเพ่ือพฒั นา
ศกั ยภาพและคณุ ภาพชวี ิตของคนในพนื้ ท่ี สรา้ งชมุ ชนท่เี ขม้ แข็ง และตอ้ งควบค่ไู ปกบั การดแู ลรกั ษาป่าตน้
นา้ และสิง่ แวดลอ้ มไดด้ ว้ ย
“ปญั หาของโลกเราวนั นกี้ เ็ หมอื นดอยตงุ เมือ่ กว่า 30 ปีก่อน ทกุ คนรูว้ ่ามปี ัญหาแต่ไม่ตระหนกั ว่าตวั เองเป็น
สว่ นหน่งึ ของปัญหา หรอื มองวา่ ปญั หายงั ไกลตวั แต่ดอยตงุ เองก็พยายามปรบั ตวั ใหเ้ ป็นธรุ กิจทที่ าใหโ้ ลกนี้
ดขี นึ้ โดยพยายามลดผลกระทบดา้ นส่งิ แวดลอ้ ม เชน่ การนานโยบายเศรษฐกิจหมนุ เวยี น (Circular
Economy) มาปรบั ใชใ้ นกระบวนการผลติ การลด Carbon Footprint และการม่งุ สกู่ ารเป็นองคก์ ร
Carbon Neutral
เราเป็นธรุ กจิ เพอื่ สงั คม ผมไมไ่ ดบ้ อกวา่ เราไม่มองกาไร แตธ่ รุ กจิ ของเราตอ้ งทาใหโ้ ลกดขี นึ้ ตอ้ งทาใหช้ มุ ชน
มีอนาคตทีด่ ขี นึ้ ดว้ ย ดอยตงุ มีเงอื่ นไขในการรบั ซือ้ สนิ คา้ ของชมุ ชนทตี่ อ้ งไมป่ ล่อยนา้ เสยี กระบวนการยอ้ ม
สขี องเขาตอ้ งจดั การกบั ของเสยี จากกระบวนการผลติ ดว้ ย เราทาธุรกจิ แลว้ ไดก้ าไร แต่ตอ้ งมองตอ่ ไปอกี ว่า
ควรเอากาไรทไี่ ดไ้ ปทาอะไร เรามีการใหท้ นุ การศกึ ษาเด็กในชมุ ชน เพราะมองไปถงึ อนาคตวา่ ถา้ วนั หนง่ึ มี
เดก็ ทจี่ บดา้ นการออกแบบกลบั มา เขากจ็ ะมีฐานการผลติ ในชมุ ชนรองรบั ”
จะเห็นไดว้ ่า ตวั ชวี้ ดั ความสาเรจ็ ของโครงการพฒั นาดอยตงุ ไม่อาจวดั ดว้ ยตวั เลขทางเศรษฐกจิ เพยี งอย่าง
เดียว แตส่ ามารถวดั ดว้ ยตวั ชีว้ ดั ทางสงั คม คือ การสรา้ งสงั คมท่ีเคารพกฎกตกิ า สามารถพง่ึ พาตนเองได้
และหม่นั ยกระดบั ตนเองอยา่ งต่อเน่ือง โดยมีตวั ชวี้ ดั อย่บู นหลกั การของ “ความอย่รู อด พอเพียง ย่งั ยนื ”
สอดรบั กบั 17 เปา้ หมายการพฒั นาอยา่ งย่งั ยืน SDG (Sustainable Development Goals) 2558 ซ่งึ ผนู้ า
โลกไดล้ งนามเหน็ ดว้ ย กบั การเรยี กรอ้ งใหม้ ีการดาเนินการเพ่อื ยตุ ิความยากจน ปกปอ้ งโลก และทาใหท้ กุ
คนมีความสงบสขุ และความม่งั ค่งั เพ่อื ใหแ้ น่ใจว่าโลกจะดขี นึ้ ภายในปี 2573
“ผมมองวา่ เวลาของโลกนเี้ หลอื นอ้ ยลงทกุ ทแี ลว้ บางคนบางธรุ กจิ อาจจะบอกวา่ ตอ้ งรอใหร้ อดใหร้ วยก่อน
ค่อยคิดทาเพอื่ ส่วนรวมเพอื่ โลก กไ็ มผ่ ดิ แต่ถามว่าโลกรอไดม้ ยั้ โลกมเี วลาใหค้ ณุ แค่ไหน จุดจบของโลกใน
135
อกี 80 ปี ถา้ รอใหพ้ รอ้ มแลว้ ค่อยทา คนรุน่ เราคงตายไปก่อน แต่ลูกหลานเหลนของเราตา่ งหาก ทจี่ ะตอ้ ง
ทนทกุ ข์อยกู่ บั ส่งิ ทเี่ ราทงิ้ ไวใ้ หเ้ ขา ทาไมเราไม่เปลยี่ นตวั เองวนั นี้ เพอื่ สง่ ตอ่ ทรพั ยากรและคณุ ภาพชีวติ ทเี่ ท่า
เทยี มหรือดกี ว่าไวใ้ หค้ นรุน่ หลงั ”
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เคร่ืองมอื ทใ่ี ชใ้ นการพัฒนาบคุ ลากร
• การฝึกอบรมในขณะทางาน (On the Job Training : OJT)
• การสอนงาน (Coaching)
• การเพ่มิ คณุ ค่าในงาน (Job Enrichment)
• การมอบหมายงาน (Delegation)
• การใหค้ าปรกึ ษาแนะนา (Consulting)
• การติดตาม/สงั เกต (Job Shadowing)
• การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง (Self Learning)
• การดงู านนอกสถานท่ี (Site Visit)
• การใหข้ อ้ มลู ปอ้ นกลบั (Feedback)
• การฝึกงานกบั ผเู้ ช่ียวชาญ (Counterpart)
• การใหค้ าปรกึ ษาดา้ นชีวิตการทางาน (Counseling)
• การจดั ใหม้ กี ารจดั การความรู้ (Knowledge Management)
• สรา้ ง Role Model ในดา้ นต่าง ๆ เพ่ือสรา้ งแรงบนั ดาลใจในการพฒั นาตนเองใหพ้ นกั งาน
136
9) บรษิ ทั พีทีที โกลบอล เคมิคอล จากัด (มหาชน) (GC)
บรษิ ัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จากดั (มหาชน) (GC) เป็นบรษิ ทั ดา้ นปิโตรเคมีและเคมีภณั ฑ์ เกดิ จากการ
ควบรวมกิจการ ระหว่าง บริษัท ปตท. เคมิคอล จากดั (มหาชน) (PTTCH) และ บรษิ ัท ปตท. อะโรเมติกส์
และการกล่นั จากดั (มหาชน) (PTTAR) จดทะเบียนจดั ตงั้ บรษิ ัทขนึ้ เม่ือวนั ท่ี 19 ตลุ าคม 2554 โดยมี
วตั ถปุ ระสงคใ์ นการจดั ตงั้ บริษัท เพ่อื กา้ วขนึ้ เป็นผนู้ าในธรุ กิจเคมภี ณั ฑร์ ะดบั สากล เพ่อื สรา้ งสรรคค์ ณุ ภาพ
ชวี ิต โดยแบง่ ธุรกจิ หลกั ไดเ้ ป็น 8 กลมุ่ ประกอบดว้ ย กลมุ่ ผลติ ภณั ฑป์ ิโตรเลยี มและสาธารณปู การ กลมุ่
ผลติ ภณั ฑอ์ ะโรเมตกิ ส์ กลมุ่ ผลิตภณั ฑโ์ อเลฟินส์ กลมุ่ ธุรกิจผลติ ภณั ฑโ์ พลเิ มอร์ กลมุ่ ธุรกิจผลิตภณั ฑเ์ อ
ทลิ นี ออกไซด์ กลมุ่ ธรุ กจิ ผลติ ภณั ฑเ์ คมีเพ่อื ส่ิงแวดลอ้ ม กลมุ่ ธุรกจิ ผลติ ภณั ฑฟ์ ีนอล และกลมุ่ ผลติ ภณั ฑ์
Performance Materials and Chemicals
ปัจจบุ นั GC เป็นบรษิ ัทท่ดี าเนนิ ธุรกจิ ปิโตรเคมแี ละการกล่นั ครบวงจรท่มี ขี นาดใหญ่ท่ีสดุ ในประเทศไทย
และเป็นบรษิ ทั ชนั้ นาในระดบั ภมู ภิ าคเอเชียแปซิฟิกในดา้ นธุรกิจปิโตรเคมแี ละการกล่นั ทงั้ ขนาดและความ
หลากหลายของผลิตภณั ฑ์ อีกทงั้ ยงั เป็นผนู้ าดา้ นผลิตภณั ฑเ์ พ่อื ส่ิงแวดลอ้ ม โดยมผี ลิตภณั ฑเ์ มด็ พลาสติก
ชีวภาพ ชนดิ PLA: Polylactic-Acid ท่ใี ชข้ า้ วโพดเป็นวตั ถุดบิ ซ่งึ มีกาลงั การผลิตใหญ่เป็นอนั ดบั หน่งึ ของ
โลก
ก้าวสยู่ คุ Digital Transformation ดว้ ยกลยทุ ธ์ 3 Steps
ในยคุ สมยั ท่ที กุ ธุรกิจและอตุ สาหกรรมไม่สามารถทางหลีกเลยี่ งผลกระทบจาก Digital Disruption ได้ ทกุ
ธุรกจิ และอตุ สาหกรรมต่างเร่งผ่าตดั องคก์ รของตนเองเพ่อื ปรบั ปรุงกระบวนการทางานใหต้ อบรบั กบั ยคุ
ดจิ ทิ ลั มากย่ิงขึน้ การทา “Digital Transformation” มมี ากมายหลายรูปแบบ บางองคก์ รเนน้ การนา
เทคโนโลยขี นั้ สงู มาใช้ บางองคก์ รเร่มิ ตน้ จากการปรบั ปรุงกระบวนการและต่อยอดดว้ ยการนาเทคโนโลยีท่ี
เหมาะสมมาเสรมิ ในขณะท่ี GC มงุ่ เนน้ ไปยงั การพฒั นาศกั ยภาพของพนกั งานในองคก์ ร
GC ไดจ้ ดั ตงั้ ทีม Digital Transformation ขนึ้ ตงั้ แต่ปลายปี 2560 โดยมแี นวคดิ ในการสรา้ งการ
เปลีย่ นแปลงแบบ Triple Transformation น่นั คือ People, Technology และ Business Transformation
ซง่ึ ดร. คงกระพนั อินทรแจง้ ประธานเจา้ หนา้ ท่บี รหิ าร (CEO) ไดก้ ล่าวถงึ กลยทุ ธ์ 3 Steps ของ GC เพ่อื
การเติบโตอยา่ งย่งั ยนื คือ
1. Step Change คือ การทาบา้ นใหแ้ ขง็ แรง เพ่ือเพม่ิ ขดี ความสามารถในการแข่งขนั ดว้ ย
Operational Excellence โดยยดึ หลกั Operational Discipline เพ่อื การทางานอย่างปลอดภยั
รกั ษามาตรฐานการผลิต ต่อยอดสรา้ งมลู ค่าเพมิ่ จากการพฒั นาผลติ ภณั ฑใ์ หม้ มี ลู ค่าสงู ขึน้ (High-
137
Value Products) และตอบสนองความตอ้ งการของตลาดตาม New Normal รวมทงั้ การขยาย
Home Base เพิม่ การขายเขา้ สภู่ มู ิภาคเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ และการขยายต่อยอด Value
Chain ซ่งึ ทงั้ หมดนตี้ อ้ งเรง่ ทาใหเ้ รว็ ขนึ้ เพ่ือใหธ้ รุ กิจ Resilience ต่อการแขง่ ขนั ท่ที วีความรุนแรง
2. Step Out คือ แสวงหาโอกาสใหม่เพ่อื การเตบิ โตแบบกา้ วกระโดด พรอ้ มทบทวนการลงทนุ ใน
ต่างประเทศใหร้ อบคอบ โดยมงุ่ เนน้ การแสวงหาโอกาสใหมๆ่ ทางธุรกจิ ทงั้ การ M&A ใน High-
Value Business, การสรา้ ง New Business โดยมี CVC เป็นเครื่องมอื สาคญั และการสรา้ งบา้ น
หลงั ท่ี 2 ของ GC ในตา่ งประเทศ
3. Step Up คือ การยกระดบั พรอ้ มเช่ือมโยงความย่งั ยนื มายงั ธุรกจิ กาหนดเปา้ หมายท่ีวดั ไดอ้ ยา่ ง
เป็นรูปธรรม พรอ้ มม่งุ สกู่ ารเป็น Global Leadership Position in Sustainability โดยแบง่ เป็น 3
เรอ่ื งหลกั ๆ ไดแ้ ก่ 1) การเป็นผนู้ าดา้ น Climate & Water: ตอ่ ยอดการลด GHG Emission สู่
Scope 3 ท่ีครอบคลมุ ดา้ น Value Chain Emissions, การสรา้ งพนั ธมติ รดา้ น Climate Strategy
และการบริหารจดั การนา้ อย่างย่งั ยนื 2) Circular Economy: ครอบคลมุ ดา้ น Business
Integration เช่ือมโยงองคก์ รกบั ค่คู า้ , การสรา้ งโอกาสดา้ นธุรกิจใหม่ๆ และการขยายผลเรอื่ ง Loop
Connecting 3) การเปล่ยี นโฉม CSR ใหเ้ ป็นในรูปแบบ Social Enterprise มากขนึ้
ต่อยอดเพือ่ ความย่ังยืนดว้ ย Circular Economy
“Circular Economy หรือ หลกั เศรษฐกิจหมนุ เวยี น เป็นความยง่ั ยนื แหง่ อนาคตทตี่ อ้ งสรา้ งจากความ
ร่วมมอื ของทกุ คน เรามกี ารขยายผลการดาเนนิ งานทงั้ Supply Chain เช่น การลดการเดนิ ทางของ
พนกั งาน จากนโยบาย Work from Home ตอนนเี้ ราก็ทาเรอื่ ง “You Turn” ภายในองคก์ รก่อนเอาไปใช้
ขา้ งนอก พนกั งานทนี่ ีต่ อ้ งสแกนขวดพลาสตกิ ทจี่ ะทงิ้ ใหถ้ ูกถงั ขยะพลาสตกิ ทีค่ ดั แยกไว้ จะถูกสง่ ไปเขา้
โรงงานรีไซเคลิ และนากลบั มาผลติ เป็นสนิ คา้ Upcycling ทมี่ มี ูลคา่ สงู ขนึ้ ซ่ึงเป็นการทาแบบครบวงจร
ตวั อยา่ งเหล่านเี้ ป็นเพยี งสว่ นหน่งึ เราต่อยอดเรื่องความย่งั ยนื ในทกุ ๆ ดา้ น ใหเ้ ขา้ มาเป็นสว่ นหน่งึ ของ
ธุรกจิ และกระบวนการทางาน ซ่งึ ถา้ ดจู ากขนาดของบริษัทเคมี เราอยใู่ นอนั ดบั Top 30 ของโลก แต่หาก
พจิ ารณาการดาเนนิ งานดา้ นความยง่ั ยืนแลว้ เราไดร้ บั การจดั อนั ดบั เป็นที่ 1 ของโลกดา้ นความย่งั ยนื ใน
กล่มุ อตุ สาหกรรมเคมภี ณั ฑ์ และอยู่ในระดบั Top 10 ของ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI)
ตอ่ เนือ่ งมาเป็นปีที่ 8 นอกจากความยง่ั ยนื ในเปา้ หมายความทา้ ทายของโลก ในมิตเิ ศรษฐกิจหมนุ เวยี น
แลว้ นนั้ บริษัทฯ ยงั เป็นสว่ นสาคญั ในการขบั เคลอื่ น สรา้ งตน้ แบบองคก์ รย่งั ยืน สอดรบั กบั เปา้ หมายความ
ทา้ ทายโลกขององค์การสหประชาชาติ หรือ United Global Compact (UNGC) ทไี่ ดจ้ ดั ใหบ้ ริษทั ฯ เป็น
ตน้ แบบต่อองคก์ รสมาชิกท่วั โลก ในฐานะผนู้ าดา้ นความยง่ั ยนื UNGC LEAD ระดบั สูงสดุ
138
เราตอ้ ง Transform ทงั้ คนและองคก์ รไปดว้ ยกนั ขณะเดยี วกนั ก็ตอ้ งการให้ Agile มากขนึ้ Efficiency
สงู ขนึ้ Productivity ดขี นึ้ คือตอ้ งออกแบบองคก์ รใหไ้ ม่ว่าโลกจะล่มสลายอยา่ งไรกีร่ อบ ก็ตอ้ งทางานได้
อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ระบบทกุ อยา่ งตอ้ งเชือ่ มโยงกนั หมด”
โดยแนวคิดของ GC มองว่า เทคโนโลยเี ป็นเพียงเคร่ืองมือท่ชี ่วยใหก้ ารทางานงา่ ยขึน้ เรว็ ขนึ้ แต่สดุ ทา้ ยแลว้
กระบวนการ Digital Transformation ตอ้ งเรม่ิ ท่ีพนกั งาน จงึ ไดม้ ีการปรบั กระบวนการหลายๆ อยา่ งเพ่อื
สนบั สนนุ การพฒั นาบุคลากร ใหเ้ ขา้ ไปเป็นสว่ นหนงึ่ ของวฒั นธรรมองคก์ ร (Culture) การทางานของคนใน
GC ซ่งึ การเตรียมคนใหม้ คี วามพรอ้ มรบั มอื กบั สถานการณห์ รือเทคโนโลยีท่จี ะมกี ารเปล่ยี นไปในอนาคต
สาหรบั เรื่อง Digital Disruption GC กไ็ ดก้ าหนดแผนงานในเรอื่ ง Digital Transformation ไวอ้ ย่างชดั เจน
โดยแบง่ เป็น 3 ระดบั คือ
ระดบั ท่ี 1 Fundamental Uplift เพ่อื เสรมิ สรา้ งความรูใ้ หค้ นทางาน ใหร้ ูจ้ รงิ มคี วามตระหนกั รวมทงั้
ปรบั ปรุง Infrastructure ต่าง ๆ ใหม้ รี ากฐานท่แี ขง็ แรงขึน้
ระดบั ท่ี 2 Digital Transformation of Function คือ การนาระบบ Digital มาใชใ้ นกระบวนการทางาน เช่น
การใช้ Advance Analytic, AI เพ่อื เพ่มิ ประสิทธิภาพการทางาน สรา้ งกระบวนการทางานใหม้ ีความรวดเรว็
คลอ่ งตวั (Agility) มากขนึ้
ระดบั ท่ี 3 คือ Digital Transformation of Business คอื การต่อยอดเขา้ สธู่ รุ กจิ ใหม่ๆ
สร้างวฒั นธรรมองคก์ ร สร้างคนให้ไปต่อ
“ทงั้ หมดนที้ จี่ ะทาใหเ้ กดิ ขึน้ ไดจ้ รงิ คอื พนื้ ฐานวฒั นธรรมองคก์ รตอ้ งแนน่ เรามีส่งิ ทเี่ รียกว่า GC SPIRIT 4
Core Behaviors ประกอบดว้ ย 4 ขอ้ ไดแ้ ก่ 1) กลา้ คดิ กลา้ ทา สรา้ งสรรคส์ ่งิ ทีด่ กี ว่า 2) พฒั นาตน ทางาน
เป็นทมี 3) ทางานเชงิ รุก สนองตอบความตอ้ งการของลูกคา้ และ 4) มงุ่ ปฏิบตั งิ านเพอื่ ประโยชนส์ ว่ นรวม
มากกวา่ สว่ นตน พอทาตรงนีไ้ ดเ้ ขม้ แข็ง มนั เหมือนเป็น Backbone ของเรา เราจะทา Digital
Transformation กง็ า่ ย จะทา Impact กง็ ่าย”
ท่ผี า่ นมา GC ไดใ้ หค้ วามสาคญั ในการปลกู ฝังและหลอ่ หลอมวฒั นธรรมองคก์ ร ผ่านการบรหิ ารทรพั ยากร
มนษุ ยใ์ นระบบและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ระบบการบรหิ ารผลการปฏิบตั งิ าน (Performance Management)
โปรแกรมการพฒั นาพนกั งานและผบู้ รหิ าร ระบบการปรบั ระดบั และแต่งตงั้ พนกั งาน ฯลฯ โดยพนกั งานใน
องคก์ รจะไดร้ บั ความรู้ การเช่ือมโยงของธรุ กิจในองคก์ ร ความเก่ียวขอ้ งจากแผนกลยทุ ธอ์ งคก์ ร ไปจนถงึ
ขอบเขตงานของตนเอง และความสาคญั ของงานของตนเองท่ีเป็นสว่ นหนึง่ ในความสาเรจ็ ขององคก์ ร
139
ในสว่ นนโยบายการพฒั นาทรพั ยากรบุคคลเพ่อื ใหพ้ รอ้ มรองรบั การเติบโตทางธรุ กจิ ทงั้ ในและต่างประเทศ
GC ไดป้ รบั ปรุงระบบและกระบวนการพฒั นาบคุ ลากร โดยนาแนวทางการฝึกอบรมและพฒั นาแบบมงุ่
พฒั นาขีดความสามารถ (Competency - Based Training and Development) มาใชโ้ ดยเนน้ หลกั การ
พฒั นา 10:20:70 (10% Formal Training, 20% Coaching, 70% Job Assignment + Rotation) เพ่อื
เรง่ รดั ใหก้ ารพฒั นาบคุ ลากรมีประสิทธิภาพมากยิง่ ขึน้ โดยเม่อื พนกั งานรบั การพฒั นาแลว้ ตอ้ งบนั ทกึ ลง
ระบบการอบรมหรือ ผ่าน Achievement ในการทางานทุกครง้ั
การจดั รูปแบบการพฒั นา จะมีทงั้ ท่ีเป็นการจดั ฝึกอบรมภายในและภายนอกองคก์ ร คอื มีการจดั ฝึกอบรม
ภายในใหแ้ ก่พนกั งานและผบู้ รหิ ารทุกระดบั รวมทงั้ เปิดโอกาสใหพ้ นกั งานและผบู้ รหิ ารไดเ้ ขา้ ฝึกอบรม/
สมั มนากบั สถาบนั ต่าง ๆ ทงั้ ในประเทศและต่างประเทศ ในหลกั สตู รต่าง ๆ ทงั้ หลกั สตู รทางดา้ นเทคนิค
หลกั สตู รเฉพาะดา้ นตามตาแหนง่ งาน หลกั สตู รทางดา้ นความปลอดภยั ม่นั คง อาชวี อนามยั และ
ส่งิ แวดลอ้ ม (SSHE) และหลกั สตู รพฒั นาทกั ษะท่จี าเป็นในการทางาน เช่น ทกั ษะทางดา้ นคอมพิวเตอร์
ทกั ษะภาษาต่างประเทศ ทกั ษะการบรหิ ารจดั การ รวมทงั้ การพฒั นาภาวะผนู้ า
นอกจากนี้ ยงั ไดม้ ีการจดั ทาโปรแกรมฝึกอบรมและพฒั นาระยะยาว เพ่อื เป็นการเตรียมความพรอ้ มใหก้ บั
พนกั งานสาหรบั การเขา้ ปฏบิ ตั ิงานในโครงการต่าง ๆ ในเวลาท่กี าหนด โดยมโี ปรแกรมฝึกอบรมและพฒั นา
พนกั งานระยะยาวตงั้ แต่ 1-3 ปี ตามแผนพฒั นารายบคุ คล โดยสง่ พนกั งานเขา้ รบั การฝึกงานในรูปแบบ
On the Job Training ผ่านการปฏบิ ตั ิงานในโครงการต่าง ๆ ของบรษิ ทั หรือปฏบิ ตั งิ านรว่ มกบั บรษิ ัทรว่ ม
ทนุ หรือบรษิ ัท Services Company ทงั้ ในและตา่ งประเทศ
ปัญหาท่ี GC มกั พบอย่เู สมอ คอื เรื่องของการท่พี นกั งานหรือผบู้ งั คบั บญั ชาบางคน อาจใหค้ วามสาคญั กบั
การปฏิบตั ิงานมากกว่าการพฒั นาบคุ ลากร เช่น พนกั งานอาจถกู เรียกกลบั ระหว่างการอบรม ซ่งึ ทางองคก์ ร
กไ็ ดห้ าทางแกไ้ ข โดยการส่ือสารผบู้ งั คบั บญั ชา เพ่อื ใหม้ กี ารวางแผนงานในทมี งานท่ชี ดั เจนก่อนอนมุ ตั ิให้
ไปอบรม รวมทงั้ จดั ใหม้ ีการอบรมหลกั สตู รเดียวกนั มากกว่า 1 ครง้ั เพ่อื อานวยความสะดวกใหพ้ นกั งานใน
การเขา้ รบั การอบรมดว้ ย
Succession Plan และทศิ ทางการบริหารคนเกง่
GC มกี ลไกในการพฒั นาบคุ ลากร โดยใชก้ ารกาหนด Success Profile ของทกุ ตาแหนง่ งาน ทกุ กลมุ่ ระดบั
เพ่อื กาหนดเปา้ หมายคณุ สมบตั ิท่จี าเป็นใน 3 มิติ ไดแ้ ก่ ความรูท้ กั ษะการทางาน (Competency) ความรู้
เกี่ยวกบั องคก์ ร (Organizational Knowledge) ประสบการณ์ (Experience) และคณุ สมบตั ิประจาตวั
(Personal Attributes) โดยในแต่ละปี ผบู้ งั คบั บญั ชาจะประเมินศกั ยภาพของพนกั งานเทยี บกบั Success
140
Profile เพ่อื หาจดุ แข็ง และจดุ ท่คี วรพฒั นา เพ่อื นาไปสกู่ ารสรา้ งแผนพฒั นาพนกั งานรายบคุ คล (Individual
Development Plan หรือ IDP)
การพฒั นาศกั ยภาพพนกั งานตามกรอบของ IDP จะม่งุ เนน้ การพฒั นาโดยการปฏบิ ตั ิงานจรงิ มากกวา่ การ
ฝึกอบรมเพียงอยา่ งเดียว และใชว้ ิธีการพฒั นาศกั ยภาพพนกั งานแบบผสมผสานแนวทางของ 70:20:10 ซง่ึ
ตอ้ งมกี ารติดตามผลอย่างต่อเน่ือง และทบทวนการประเมินศกั ยภาพของพนกั งานทกุ ปี
แต่ในสว่ นของการบรหิ ารกล่มุ Talent และ Succession Plan ซง่ึ ถือเป็นเรื่องสาคญั เพ่อื ปอ้ งกนั ปัญหาการ
ขาดพนกั งานในตาแหนง่ สาคญั และเพ่อื ใหก้ ารถ่ายทอดงานและสง่ มอบงานเป็นไปไดอ้ ย่างราบรื่น
โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งในตาแหนง่ ผบู้ รหิ ารระดบั สงู จะทาใหอ้ งคก์ รสามารถประเมินสถานการณล์ ว่ งหนา้ และ
เตรียมความพรอ้ มเรื่องคนทดแทนอย่ตู ลอดเวลา
การทา Succession Plan ของ GC จะเร่มิ ตงั้ แตข่ นั้ ตอนของการวเิ คราะหส์ ถานการณธ์ ุรกิจ ทงั้ ดา้ นกลยทุ ธ์
นโยบาย ทิศทาง เพ่อื ประเมินอตั รากาลงั คนท่ีตอ้ งการในปัจจบุ นั และอนาคต แลว้ วางแผนพฒั นาฝึกอบรม
พนกั งานเรม่ิ จากความสามารถ ความรู้ ทกั ษะ บคุ ลิกภาพ และทศั นคติท่ตี อ้ งการในตาแหนง่ นนั้ ๆ ซง่ึ จะมี
การคดั เลอื กพนกั งานกลมุ่ ท่ีมีศกั ยภาพ ผา่ นกลไก Career Management โดยมีการตดิ ตามผลการพฒั นา
อย่างสม่าเสมอ
“ของเราจะทาไดด้ พี อสมควร เรามีการจดั Tier1 Tier2 Tier3 ชดั เจน ในการสรา้ ง Successor สาหรบั การ
เตบิ โตไปเป็นผบู้ ริหารระดบั สูง ซ่ึงจะมีการพฒั นา ประเมินผลปฏบิ ตั งิ านและทบทวนกนั อยู่ตลอด”
จากขอ้ มลู ของฝ่ายบรหิ ารบคุ ลากรพบวา่ GC ยงั ไดร้ เิ ร่มิ แนวทางใหม่ ๆ เช่น เปล่ียนจากเดิมท่ีแบง่ การหา
คนท่ีตอ้ งการตามสายงาน ในช่วงสามปีท่ผี า่ นมา ก็เร่มิ มีการแบ่งตามลาดบั ขนั้ เช่น มีการแบ่งว่าตาแหนง่ นี้
ตอ้ งเตรียมไว้ 3 คน แลว้ ค่อยมาดวู ่า Tier ไหน ถา้ เป็น Tier 1 คอื พรอ้ มสาหรบั การกา้ วขนึ้ สตู่ าแหนง่ ทนั ที
หรือ Tier 2 ซ่งึ อาจตอ้ งรออีกสกั สองปี Tier 3 กอ็ าจจะรอสามปีขนึ้ ไป และภายในระยะเวลารอคอยนนั้ กจ็ ะ
มีการพฒั นาและติดตามผลอยตู่ ลอด ว่ามีการพฒั นาไปถงึ คณุ สมบตั ทิ ่ตี อ้ งการมากนอ้ ยแคไ่ หนแลว้
นอกจากเรอื่ งของการบรหิ ารคนเก่ง GC ยงั เป็นองคก์ รแห่งการเรียนรู้ โดยการออกแบบระบบบรหิ าร
ทรพั ยากรบคุ คล ประยกุ ตเ์ ขา้ กบั การใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศเพ่อื ชว่ ยในการทางาน มีการใชร้ ะบบ SAP
(Systems Applications and Products) สาหรบั เกบ็ ฐานขอ้ มลู การทางานของพนกั งาน และรายละเอยี ด
สมรรถนะท่ไี ดม้ าจากการวเิ คราะหง์ านและแผนความคาดหวงั ของตาแหนง่ งาน (Success Profile) ทงั้ ยงั
ใชก้ ารเก็บขอ้ มลู KPI สาหรบั ประมวลผลขอ้ มลู การประเมนิ ผลการปฏิบตั ิงานท่ีเป็นมาตรฐานท่วั ทงั้ องคก์ ร
141
เพ่อื สง่ เสรมิ โอกาสในการสรา้ งศกั ยภาพและความเป็นผนู้ า พฒั นาพนกั งานทุกระดบั ใหท้ างานอย่างมอื
อาชีพ และมีความพรอ้ มในการเรยี นรูอ้ ยา่ งต่อเน่ืองตลอดช่วงชวี ติ การทางาน
เพราะทุกคนคือคนสาคญั ขององคก์ ร
สิ่งท่ี GC มองว่าเป็นหวั ใจหลกั ในการพฒั นาบคุ ลากรใหม้ ีประสทิ ธิภาพ คอื การสือ่ สารระหวา่ งกนั (2-Way
Communication) ระหว่างพนกั งานและผบู้ งั คบั บญั ชา โดยใชเ้ ทคนิคของการพดู คยุ แบบ STAR
(Situation/Task/Action/Result) เพ่อื แลกเปลี่ยนความเห็นถงึ จดุ แขง็ และจดุ ท่คี วรพฒั นา รวมถึงให้
พนกั งานมสี ว่ นรว่ มในการวางแผนพฒั นาของตนเอง มองหาส่งิ ท่ีพนกั งานอยากพฒั นาและสิ่งท่อี งคก์ ร
อยากใหเ้ ป็น โดยใหม้ ีการตกลงยอมรบั ร่วมกนั วา่ ตอ้ งพฒั นาท่จี ดุ ใด
GC ยงั ใสใ่ จดแู ลพนกั งานใหเ้ กิดความสมดลุ ทงั้ ดา้ นการทางานและการดารงชวี ิตสว่ นตวั (Work-Life
Balance) โดยมโี ครงการรองรบั มากมาย เช่น โครงการ Employee Assistance Program (EAP) ภายใต้
โปรแกรม “Happy Work Place” ซ่งึ เป็นโปรแกรมสง่ เสรมิ สขุ ภาพจติ และ EQ ของพนกั งานและครอบครวั
โดยมีผเู้ ช่ียวชาญจากหน่วยงานภายนอก มาใหค้ าแนะนาตอ่ ปัญหาท่เี กิดขึน้ ไม่วา่ จะเป็นเรื่องทอ้ ใจ ตงึ
เครยี ด ความขดั แยง้ ในท่ีทางาน การทางานไมม่ คี วามสขุ หรอื ปัญหาครอบครวั โดยขอ้ มลู ทงั้ หมดเป็น
ความลบั เป็นตน้ และยงั จดั ใหม้ วี นั Family Day ใหพ้ นกั งานพาลกู หลานเขา้ มาทากิจกรรมรว่ มกนั จนทา
ให้ GC มีผลความผกู พนั ของพนกั งานต่อองคก์ ร (Employee Engagement Survey) ในปีท่ผี า่ นมาอย่ใู น
เกณฑท์ ่ดี ีมาก
ยงั มีอกี หลายตวั อย่าง ท่แี สดงใหเ้ หน็ ถึงการพฒั นาศกั ยภาพของคนทางาน GC ไดจ้ ดั ทาโครงการ Data
Science and Engineering Program ซง่ึ เป็นความรว่ มมือกบั สถาบนั วิทยสิรเิ มธี (VISTEC) ในการพฒั นา
หลกั สตู รเพ่อื ใหพ้ นกั งานสามารถนาความรูท้ ่ไี ดร้ บั มาเพ่ิมศกั ยภาพดา้ นการวิเคราะหแ์ ละจดั การขอ้ มลู ของ
องคก์ ร ตลอดจนนาเทคโนโลยดี ิจิทลั มาต่อยอดเพ่อื รองรบั การวจิ ยั และพฒั นาของบรษิ ัทฯ ท่ผี ่านมามี
โครงการท่สี ามารถนาไปตอ่ ยอดปฏบิ ตั ิจรงิ 24 โครงการ สรา้ งรายไดใ้ หบ้ รษิ ัทฯ มากกว่า 46 ลา้ นบาทต่อปี
ซ่งึ คิดเป็นความคมุ้ ค่าของการลงทนุ ฝึกอบรม (Training Return on Investment) รอ้ ยละ 398.34
หรอื โครงการพฒั นาความเป็นผนู้ า 2 (Leadership Development Program II: LDP 2) ท่จี ดั ขนึ้ สาหรบั
ผบู้ รหิ ารระดบั ผจู้ ดั การฝ่าย (Vice President) เพ่อื เรยี นรูก้ ารสรา้ งทมี การจดั การเครือข่าย และการพฒั นา
ยทุ ธศาสตร์ โดยในปี 2562 โครงการ LDP 2 ก่อใหเ้ กิดรายได้ 44 ลา้ นบาท จากการพฒั นาปรบั ปรุง
ประสทิ ธิภาพท่วั ทงั้ องคก์ ร หรือโครงการสรา้ งสรรคน์ วตั กรรมและเพมิ่ ผลผลิต โดยจดั การเรียนรูแ้ บบบรู ณา
การตามทฤษฎีการเรียนรูเ้ พ่ือสรา้ งสรรคด์ ว้ ยปัญญา (PI-ChEPS) เป็นโครงการท่พี ฒั นาองคค์ วามรูด้ า้ น
วศิ วกรรมเคมีและเพิม่ ทกั ษะการคิดแบบวิพากษใ์ หแ้ กพ่ นกั งาน ท่ผี า่ นมา โครงการ PI-ChEPS ท่ไี ด้
142
ดาเนนิ การจนเป็นผลสาเรจ็ ในปี 2562 สามารถประหยดั ตน้ ทนุ การผลิตใหแ้ ก่บรษิ ัทฯ ไดถ้ ึง 7.8 ลา้ นบาท
โดยคิดเป็นผลตอบแทนการลงทนุ จากการฝึกอบรมของโครงการ PI-ChEPS เท่ากบั รอ้ ยละ 40.16
“ทผี่ า่ นมาเราใชว้ ิทยากรทงั้ จากภายในและภายนอก เกิดการ Train the Trainer อนั ทีเ่ ราไมม่ ีความรูก้ ็ให้
คนนอกมาสอน สดั สว่ นของเราจะเนน้ พวก Technical มากกว่า Soft Skill บางทกี ็มกี าร Coaching จาก
คนเก่ง ๆ เป็น Personal Coach เราเร่งสรา้ งคนเพราะทนี่ ตี่ อ้ งสง่ คนไปเป็นไดเรคเตอรข์ องบริษทั กว่า 50
บรษิ ัทในเครือ ทงั้ ในและต่างประเทศ เรามกี ารทา Knowledge Sharing มกี ารเลือก Mentor ซ่ึงเราจะใช้
คนทกี่ อ้ ปปี้แบบได้ เป็น Role Model คนไหนเกง่ ฉายแววกไ็ ปเชญิ มา บอกเลยว่าเครือ่ งมอื ในการสรา้ งคน
ของเราเยอะมาก”
การสรา้ งวฒั นธรรมการเรียนรูภ้ ายในองคก์ ร ของ GC กระจายการสรา้ งคนไปท่วั ถงึ ทกุ ระดบั ชนั้ ของ
คนทางานอย่างจรงิ จงั และใชค้ รบทกุ เครื่องมอื อยา่ งแทจ้ รงิ ไม่วา่ จะเป็นการทา On the Job Training มี
Process Simulation Program ใหน้ อ้ ง Operator ใหม่ฝึกงานตงั้ แต่การหดั เปิดปิดวาลว์ ก่อนจะสง่ ไป
ฝึกงานท่ยี ากขนึ้ เร่ือย ๆ มีการพฒั นาคนกลมุ่ Talent ดว้ ยการมอบหมายงานท่ยี ากขนึ้ (Job Enrichment)
สง่ ไปฝึกงานกบั ผเู้ ช่ียวชาญ หรอื แมแ้ ตใ่ นบางหลกั สตู รออนไลน์ ก็มีการใช้ Machine Learning มาวเิ คราะห์
พนกั งาน วา่ มแี นวโนม้ จะไปทางไหน ทาใหอ้ งคก์ รจดั เตรียมแผนรองรบั หรอื Upskill พนกั งานคนนนั้ ได้
อยา่ งเหมาะสมต่อไป
พฒั นาคนเตม็ ที่ เพราะองคก์ รมีเป้าหมายเพื่อความย่ังยืน
GC ไดน้ าระบบการบริหารจดั การผลการปฏิบตั งิ าน (Performance Management System: PMS) มาใช้
ในการบรหิ ารผลการปฏิบตั งิ านของบคุ ลากร เพ่อื สรา้ งใหเ้ กิดผลการดาเนินงานท่ีดอี ย่างตอ่ เน่ือง โดย
ผบู้ รหิ ารและพนกั งานทกุ คนตอ้ งกาหนดตวั ชีว้ ดั รายบุคคล ท่สี อดคลอ้ งกบั กลยทุ ธข์ ององคก์ รและเสรมิ สรา้ ง
ความผกู พนั รวมถงึ เช่ือมโยงกบั มมุ มองตาม Balance Scorecard ในทกุ ดา้ น ทงั้ ดา้ นผลติ ภณั ฑ์ ดา้ น
ลกู คา้ ดา้ นการเงนิ ดา้ นบุคลากร ดา้ นกระบวนการภายใน ดา้ นการเรยี นรูแ้ ละพฒั นา และมีการติดตามการ
ดาเนินงาน เพ่ือใหพ้ นกั งานสามารถปฏิบตั ิงานไดต้ ามเปา้ หมายท่กี าหนด สอดคลอ้ งกบั วสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจ
ค่านยิ ม และกลยทุ ธข์ ององคก์ ร
สาหรบั ผทู้ ่ีกา้ วขนึ้ ส่รู ะดบั ผบู้ งั คบั บญั ชา ถือวา่ มีหนา้ ท่ีพฒั นาทีมใหม้ ศี กั ยภาพเพ่ิมขนึ้้ โดยทางองคก์ รจะ
กาหนดให้ Line Manager ตอ้ งรบั ผิดชอบบรหิ ารงานและบรหิ ารคนไปพรอ้ มกนั 3 กระบวนการ เร่มิ ตงั้ แต่
วนั ท่ไี ดร้ บั การเลื่อนตาแหนง่ ผบู้ งั คบั บญั ชาลาดบั ถดั ไปจะตอ้ งแจง้ ความคาดหวงั (Expectation) ขอบเขต
งานและการบรหิ ารคนท่เี พิม่ ขนึ้ รวมทงั้ มอบบทบาทหนา้ ท่ขี อง New Line Manager ตามกฎระเบยี บท่ี
องคก์ รกาหนด อานาจอนมุ ตั ิ และ เทคนิคการพฒั นา Soft Side ท่เี กี่ยวขอ้ ง เช่น การสื่อสาร Two-Way
143
Communication การบรหิ ารคนท่มี ี Generation แตกต่างกนั , การวางแผนพฒั นาคน ฯลฯ และติดตาม
การทาหนา้ ท่ี Line Manager ผ่านผบู้ งั คบั บญั ชา กระบวนการทางทรพั ยากรบคุ คล และคณะกรรมการ
บรหิ ารสายอาชีพ เพ่ือใหเ้ ป็นไปตามเป้าหมาย
GC ไดน้ า Organizational Health Index (OHI) มาใชใ้ นการวดั ผลดา้ นการเติบโตและการเรียนรูข้ อง
องคก์ ร เพ่ือใหม้ ่นั ใจว่า องคก์ รจะมีความเขม้ แข็งในทกุ ๆ ดา้ น อาทิ Direction, Accountability,
Coordination and Control, Leadership, External Orientation, Innovation and Learning,
Capabilities, Motivation, Culture and Climate และสามารถเติบโตในระยะยาวไดอ้ ยา่ งย่งั ยืน โดยมี
เปา้ หมายท่ีจะไดค้ ะแนนอย่ใู นกลมุ่ 1st Quartile ในทกุ ปัจจยั ภายในปี 2567
ปัจจบุ นั GC ใหค้ วามสาคญั กบั การพฒั นาบุคลากร ไปพรอ้ มกบั การเสรมิ สรา้ งความผกู พนั ของพนกั งานท่มี ี
ตอ่ องคก์ ร จงึ เนน้ ใหค้ วามสาคญั กบั การ Retain คนใหอ้ ย่กู บั องคก์ ร โดยมีการนาปัจจยั ท่จี ะทาใหพ้ นกั งาน
ลาออกหรือไมผ่ กู พนั กบั องคก์ รมานาเสนอในระดบั ผบู้ รหิ าร เพ่ือกาหนดแผนรองรบั และมีการติดตาม
แผนงานอย่างใกลช้ ดิ ทกุ ปี เพราะ GC เช่ือว่า การสรา้ ง (Build) เป็นกระบวนการท่ีตอ้ งใชร้ ะยะเวลา
มากกวา่ การซือ้ (Buy) มาก แตม่ ีประโยชนท์ ่พี นกั งานท่อี งคก์ ร Build มา จะมี Job/Culture Mapping ท่ดี ี
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เครือ่ งมือทใี่ ช้ในการพัฒนาบคุ ลากร
• การฝึกอบรมในขณะทางาน (On the Job Training : OJT)
• การฝึกอบรมในหอ้ งเรยี น (Classroom Training)
• การสอนงาน (Coaching)
• การพฒั นาผสู้ อนภายในองคก์ ร (Train the Trainer)
• โปรแกรมพ่เี ลีย้ ง (Mentoring Program)
• การเพ่มิ คณุ คา่ ในงาน (Job Enrichment)
• การหมนุ เวียนงาน (Job Rotation)
• การใหค้ าปรกึ ษาแนะนา (Consulting)
• การทากจิ กรรม (Activity)
• การเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง (Self Learning)
• การเป็นวิทยากรภายใน (Internal Trainer)
• การใหข้ อ้ มลู ป้อนกลบั (Feedback)
144
• การฝึกงานกบั ผเู้ ช่ียวชาญ (Counterpart)
• การใหค้ าปรกึ ษาดา้ นชีวิตการทางาน (Counseling)
• แผนพฒั นาบคุ ลากรเป็นรายบุคคล (Individual Development Plan)
• จดั ทาหลกั สตู รการพฒั นาบคุ ลากรท่เี ป็นมาตรฐาน
• Simulation Game (เกมจาลองเสมือนจรงิ )
• การจดั ใหม้ ีการจดั การความรู้ (Knowledge Management)
• จดั ทา Fast Track Career Path สาหรบั บคุ ลากรความสามารถสงู
• การจดั ประกวดแผนธรุ กิจ หรอื การจดั ประกวดนวตั กรรม
• สรา้ ง Role Model ในดา้ นต่าง ๆ เพ่ือสรา้ งแรงบนั ดาลใจในการพฒั นาตนเองใหพ้ นกั งาน
145
10) บรษิ ัท สกลุ ฎซ์ ี อนิ โนเวช่ัน จากัด
บรษิ ทั สกลุ ฎซ์ ี อินโนเวช่นั จากดั (สกลุ ฎซ์ ี) บรษิ ัทเลือดไทย 100% เป็นธรุ กจิ รุน่ ใหม่ท่มี งุ่ เนน้ การวิจยั และ
พฒั นาผลิตภณั ฑท์ ่เี ป็นนวตั กรรม โดยใชว้ สั ดแุ ละเทคโนโลยีสมยั ใหม่ มียานพาหนะลา้ ๆ อยา่ ง รถ - เรือ
เป็นผลิตภณั ฑเ์ ปา้ หมายขององคก์ ร นอกจากจะสามารถทาการผลิตไดอ้ ย่างครบวงจรแลว้ ยงั สามารถตอบ
โจทยใ์ นเชงิ พาณิชย์ และยกระดบั อตุ สาหกรรมการท่องเท่ยี วและคมนาคมเชงิ คณุ ภาพไดอ้ ีกดว้ ย
แมว้ า่ จะเป็นแบรนดน์ อ้ งใหม่ท่เี พงิ่ ก่อตงั้ ไดเ้ พียง 5 ปี แตส่ กลุ ฎซ์ ีถกู จดั ว่าเป็นธรุ กจิ เก๋าในเกม เน่อื งจากเป็น
เมลด็ พนั ธุท์ ่แี ตกหน่อมาจากกลมุ่ บรษิ ัทโชคนาชยั ผผู้ ลิตแม่พมิ พข์ นาดใหญ่ท่สี ดุ ในประเทศไทย ตดิ อนั ดบั
1 ใน 5 ของเอเชยี โดยมกี ารผลติ แม่พมิ พส์ าหรบั ผลิตตวั ถงั รถยนตไ์ ดท้ กุ ชิน้ สว่ นใหแ้ ก่แบรนดร์ ถยนตใ์ นโลก
Innovation บวกความเชื่อม่นั ว่า “คนไทยทาได้”
คณุ วรี พลน์ เตชะผาสขุ สนั ติ ประธานเจา้ หนา้ ท่บี รหิ าร สกลุ ฎซ์ ี กลา่ ววา่
“เดมิ ทคี ณุ นาชยั สกลุ ฎ์โชคนาชยั ประธานกลมุ่ บริษัทโชคนาชยั เจา้ ของตานานนกั สชู้ ีวติ จบประถม 4 ก็
ตอ้ งหาเลยี้ งตวั เองตงั้ แต่อายุ 13 เร่ิมจากการเป็นเด็กฝึกงานในอซู่ ่อมรถ ทาหนา้ ทชี่ ่าง เคาะ พน่ สี จน
กิจการของเถา้ แก่ขยบั ขยาย จากอูก่ ลายเป็นโรงงานขนาดใหญ่ ผลติ ชิน้ ส่วนอะไหล่รถยนต์ (Spare Parts)”
ทงั้ ท่ีคณุ นาชยั พดู ภาษาองั กฤษไมไ่ ดส้ กั คา แต่เถา้ แกเ่ ห็นแววของเพชรเม็ดงาม ตดั สินใจสง่ คณุ นาชยั ไปดู
งานในตา่ งประเทศ จนไดแ้ นวคดิ กลบั มาบวกกบั ทุนมนั สมองท่ีมีอยเู่ ดมิ คณุ นาชยั สามารถสรา้ งแมพ่ ิมพ์
แทนการเคาะขนึ้ รูปและป๊ัมชิน้ งานขนึ้ มาใชเ้ อง จนเป็นนายชา่ งเบอรห์ น่ึงของอู่และไต่เตา้ จากลกู มอื ขนึ้ น่งั
เกา้ อี้ Factory Manager ของบรษิ ทั ไดต้ งั้ แต่อายเุ พยี ง 39 ปี ก่อนจะตดั สินใจลาออกมาตงั้ ธรุ กจิ เป็นของ
ตนเอง ตอนอายุ 39 โดยเถา้ แกใ่ หเ้ งินขวญั ถงุ ติดตวั ออกมาดว้ ยเป็นเลข 7 หลกั
ปี 2541 เป็นกา้ วแรกของบรษิ ัท โชคนาชยั ออโตเ้ พรสซ่ิง จากดั ธรุ กิจโรงงานแมพ่ ิมพร์ ถยนต์ ท่จี งั หวดั
สพุ รรณบรุ ี ต่อมาเตบิ โตเป็นผรู้ บั จา้ งผลติ ในแบบ OEM (Original Equipment Manufacturer) เรม่ิ จากการ
ผลติ แม่พิมพข์ นาดเลก็ ไปจนถึงแมพ่ ิมพท์ ่มี ีความซบั ซอ้ นสงู ซง่ึ บรษิ ทั ค่อย ๆ พัฒนามาจนมศี กั ยภาพเพยี ง
พอท่จี ะผลติ ตวั ถงั รถรวมถงึ ช่วงลา่ งไดท้ กุ ชนิ้ สว่ น ปอ้ นตลาดบรษิ ทั รถยนตช์ นั้ นาหลายแหง่ ทงั้ ในและ
ต่างประเทศ ทงั้ Honda, Toyota, Nissan, Chevrolet, Ford และ Nissan เป็นตน้ โชคนาชยั มีการพฒั นา
อยา่ งต่อเน่ือง มีเทคโนโลยใี นการขนึ้ รูปแมพ่ ิมพด์ ว้ ยการออกแบบคอมพวิ เตอร์ ผสมผสานกบั เทคนิคในการ
ขนึ้ รูปโลหะท่ีเป็น Advanced Material และเหล็ก Super Steel จนมีผลงานท่ีโดดเด่นสามารถแขง่ ขนั กบั
ผลติ ภณั ฑข์ องต่างประเทศได้