1
2
3
ปางที่ 1
นา มอ ฮอ ลา ตัน นอ ตอ ลา เหย เย
่
ิ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฎพระวรกายเปนรูปพระองคทรงถือลูกประค า
์
็
ั
์
่
ออกมาคอยสงเกตดูเหตุการณเพือหาชองทางชวยเหลือบรรดาสตวโลกทังหลาย
่
ั
์
่
ั
้
์
้
่
้
ิ
์
ั
้
ผูทีสวดมนตปฏิบัติดวยความเคารพศรทธาโดยแทจรง
่
ความหมายของพระคาถา นา มอ ฮอ ลา ตัน นอ ตอ ลา เหย เย
ึ
น ำ มอ หมำยถง กำรนอบน้อม พึงพิง
่
ึ
ั
ฮอ ลำ ตัน นอ หมำยถง ควำมเปนรตนะ
็
ตอ ลำ เหย่ หมำยถง สำม
ึ
ึ
เย หมำยถง นมัสกำร
้
์
ขอนอบนอมนมัสการพระไตรรตนทังสาม
ั
้
์
การนอมเอาพระไตรสรณคมน พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ เปนที่พึ่งที่ระลึก
็
์
้
้
้
์
้
้
์
ผูตองการปฏิบัติใหถึงพระองค จะตองสวดมนตภาวนาปฏิบัติดวยความเคารพ
้
์
้
้
่
้
ิ
ิ
ั
ศรทธาโดยแทจรง พระโพธสตวขอใหเรานอบนอมพึงพิงมหามรรคบรรลุแจงชดใน
ั
ั
้
่
็
็
ั
ิ
ั
็
จิตและ เหนสภาวะแหงตนอันเปนธารณี* ที่จะสาเรจสมมาสมพุทธ
ที่วานอบนอมพึ่งพิงก็คือ ไตรสาม
่
้
์
็
ถือพระพุทธเจาเปนสรณะ ถือพระธรรมเปนสรณะ ถือพระสงฆเปนสรณะ
็
็
้
เห็นสภาวะแหงตนอันเปนธารณี*
่
็
่
้
่
่
ิ
็
้
่
ั
่
่
ิ
ี
้
้
่
ึ
ท าตนดุจผืนแผนดินซงเปนทีใหก าเนิด อุมชูเลียงดูและรองรบสงปฏิกูลเนาเสยภายใตขันติบารมีโดยไมปรปากบน
4
5
ปางที่ 2
นา มอ ออ หลี่ เย
์
ั
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกาย
ิ
็
์
เปนรูปพระองคทรงถือพระธรรมจักร
้
ิ
ิ
้
้
ผูปฏบัติจะตองปฏบัติตามดวยความเคารพ
ความหมายของพระคาถา นา มอ ออ หลี่ เย
่
น ำ มอ หมำยถง นอบน้อมพึงพิง
ึ
ออ หล หมำยถง องค์อรยะ
ี่
ิ
ึ
ึ
เย หมำยถง นมัสกำร
ึ
์
้
้
ิ
่
ขอนอบนอมพึ่งพิงองคอรยะ ซงละบาปและอกุศลธรรมแลว
ิ
ผูปฏบัติจะตองปฏบัติตามดวยความเคารพ
้
ิ
้
้
ั
ิ
์
็
ี
ิ
้
้
็
่
ั
ประโยคน้เปนธารณีที่พระโพธสตวสงสอนชาวโลกใหตองปฏบัติทางจิตเปนมูลฐาน
้
้
พระสัทธรรม ลวนเกิดขึ้นดวยจิต
้
่
ฉะนนผูปฏบัติจะตองมีความแจงชดในจิต และเหนสภาวะแหงตน
ิ
ั
้
้
็
้
ั
จึงจะสามารถบรรลุโพธภูมิ
ิ
่
้
เมื่อแจงชดในจิต ก็จะสามารถเหนสภาวะแหงตน
ั
็
่
ถาความคิดไมเกิด จิตจะสวางแจมใส *
่
่
้
ตถาคตเปนอจละ ก็จะบรรลุถึงนพพาน
ิ
็
ถาความคิดไมเกิด จิตจะสวางแจมใส *
้
่
่
่
การปฏิบัติจิตจิตจับที่การก าหนดลมหายใจ ดวงจิตเพิกเฉยจากความเกิดดับแหงจิต เมื่อความคิดไมเกิด จิตเปนอิสระจากความคิด
่
่
็
่
่
้
้
่
ในขณะนันจะท าใหดวงจิตใสสวางและท าใหเกิดแสงแหงจิตเดิมแทในกายโชติชวงขึ้น
้
้
6
7
ปางที่ 3
่
ผอ ลู กิด ตี ซอ ปอ ลา เย
ั
ิ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกาย
์
้
้
เปนรูปพระองคทรงปางอุมบาตร เพือออกโปรดสตวทังสามโลก
์
์
็
ั
่
่
้
็
้
ผูปฎิบัติจงเพงใหเหนพระองคทาน ก็สามารถใหสรรพสตวไดมีอายุยืนยาวนาน
้
ั
์
้
์
่
่
ความหมายของพระคาถา ผอ ลู กิด ตี ซอ ปอ ลา เย
ึ
ผ่อ ลู กิด ต หมำยถง เพ่ง สว่ำง พิจำรณำ
ี
ี
ึ
ิ
็
ซอ ปอ ลำ หมำยถง เสยงของโลกอันเปนอสระ
่
ึ
เย หมำยถง นอบน้อม นมัสกำร พึงพิง
้
่
ั
ขอนอมนอบคารวะตอองคพระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว
ิ
์
์
์
ผูเพงเสยงแหงสรรพสตวผูยาก
้
้
่
ั
ี
่
์
ี
์
ั
ิ
่
้
่
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว สงสารชวิตคนทีตกอยูในความทุกข ลวนเกิดจากการ
่
่
หลงลืมสภาวะเดิมของตน ตกอยูในการเวียนวายตายเกิด จึงเกิดเมตตาจิตเพื่อโปรด
ิ
ิ
่
่
์
ั
์
ั
สรรพสตว ตางปฏบัติพระพุทธรรม พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ไมยึดอินทรย ์
ี
ิ
์
ตางๆ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เปนโพธสตวทีบรสุทธ
์
ิ
่
ั
ิ
่
็
้
่
ึ
้
ิ
้
ั
ั
ิ
่
ฉะนนผูปฏบัติจะตองศกษาตามทานใหจิตใจสวาง นสยสะอาดแลวจึงปฏิบัติธรรมได ้
้
้
้
้
ิ
์
คือ เหนขันธหา เปนศูนย ขามพนไปจากทุกขยากทุกประการ ปดทวารทังหกแลวไป
์
้
็
้
้
็
์
ิ
ั
ิ
่
ั
ปฏิบัติท าสมาธ จึงไมหนเหไปทางนสยภายนอก
้
์
้
็
ั
่
ผูปฎิบัติจงเพงใหเหนพระองคทาน ก็สามารถใหสรรพสตวไดมีอายุยืนยาวนาน
้
่
้
์
8
9
ปางที่ 4
ผู ที สต ตอ ผ่อ เย
่
ั
ั
์
ิ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตวปรากฏพระวรกาย
ิ
ั
เปนรูปพระอมงบาศโพธสตว ก าลังโปรดสตว
็
์
์
ั
่
ั
่
ความหมายของพระคาถา ผู ที สต ตอ ผอ เย
ู
ั
ผู่ ท (โพธ ) หมำยถง ตรสร ้
ิ
ึ
ี
ึ
สัต ตอ หมำยถง สัตว์
ึ
ผ่อ เย หมำยถง น้อมคำรวะ
้
ั
้
ี
้
่
้
ขอนอบนอมคารวะตอผูใหผูใหความตรสรูแกทุกชวิต
่
้
้
็
้
เปนการตักเตือนใหสตวทังหลายในโลกน้ ี
้
์
ั
็
ตื่นจากความหลับ(อวิชชา ,มัวเมาในกามคุณ 5 )โดยเรว
้
ั
้
็
หนมาใหปฏบัติมหาธรรมมรรค อันเปนเสนทางสูธารณี
่
ิ
ึ
้
หากมุงมันฝกใฝอยูในธรรมดวยความตังใจอยางลึกซง
่
่
่
่
่
ั
้
้
่
้
้
้
้
่
หมั่นระลึกนอบนอมตอความแจงในสภาวะดังเดิม ก็จะหลุดพนไดโดยงาย
้
10
11
ปางที่ 5
หมอ ฮอ สต ตอ พอ เย
ั
่
ิ
็
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏเปนพระวรกาย
ั
์
ั
่
็
์
่
่
เปนรูปพระองคก าลังสวดพระคาถาทรงประทับนงอยูบนแทนดอกบัวดอกใหญ ่
้
์
ผูปฏบัติตามพระคาถาน้ ยอมหลุดพนทุกข
้
ี
่
ิ
่
ความหมายของพระคาถา หมอ ฮอ สต ตอ พอ เย
ั
หม่อ ฮอ หมำยถง ใหญ่มำก
ึ
ึ
สัต ตอ หมำยถง สัตว์โลก หรออกนัยหนงหมำยถงผู้กล้ำหำญ
ึ
่
ี
ึ
ื
ึ
พอ เย หมำยถง น้อมคำรวะ
้
่
่
่
ั
์
้
้
่
้
นอมคารวะตอผูกลาหาญ แหงสรรพสตวในโลกทีกวางใหญ
ิ
่
็
พระโพธสตวอันเปยมดวยพระกรุณา เหนวา
ั
์
้
่
ี
้
์
์
์
้
สรรพสตวอยูใตอ านาจของอินทรย 6(ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ) ถูกอารมณทัง 7
่
ี
ั
้
่
(ดีใจ โกรธ กังวล ครุนคิด โศกเศรา หวาดกลัว ตกใจ)ปกคลุมอยู
่
ยอมละทิ้งมูลสจธรรมของตนไปเวียนวายตายเกิด
่
ั
จึงประกาศพระธารณีน้ ี
ผูปฏบัติตามพระคาถาน้ สามารถยึดมันอนุตตรมรรคน้
่
ิ
ี
ี
้
้
ิ
ถารูสกตัวและลงมือปฏบัติลวนหลุดพนไดทังสน
้
้
้
้
ิ
ึ
้
้
้
้
้
้
์
ี
์
็
จะไดหลุดพนทุกข สามารถขามสาครอันเปนทุกขน้ได
็
้
ั
และจะไดรบความสุขอันเปนนรนดร
ั
ิ
์
12
13
ปางที่ 6
หมอ ฮอ เกีย ลู หน เกีย เย
่
ี่
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตวปรากฏพระวรกายเปนรูปพระอัศวโฆษโพธสตว
ั
ิ
็
ิ
ั
์
์
ั
้
้
้
ึ
่
ซงตรสรูอนุตตรธรรมดวยตนเอง คือ ตรสรูเอง หลุดพนไดดวยพระองคเอง
์
้
้
ั
้
้
ทังยังโปรดผูอืนใหเหนแจงในอนุตตรธรรมนนดวย
้
่
้
ั
้
้
็
้
้
้
ั
้
่
่
และเมือผูนนรูแจงแลวยังโปรดผูอืน
้
้
้
ความหมายของพระคาถา หมอ ฮอ เกีย ลู น เกีย เย
ี
่
หม่อ ฮอ หมำยถง ใหญ่มำก
ึ
เกีย ลู หมำยถง กรณำ
ึ
ุ
ิ
ึ
ี่
หน เกีย หมำยถง จต
ึ
เย หมำยถง คำรวะ
ขอนอมคารวะตอผูมีมหากรุณาจิต
้
้
่
้
ิ
้
้
้
้
ประโยคน้เตือนใหผูปฏบัติตองปลอยวางกายและจิต หลีกพนจากภาพลวงทังหลาย
ี
่
่
่
์
่
่
้
และท าใหจิตใจผองใสลดความโลภของตน ไมมีลักษณะแหงมนุษย ไมมีลักษณะแหง
่
ตน เปนอยูโดยอิสระ
็
่
ผูปฏบัติตองสามารถปลอยวาง อารมณใดๆ สามารถลืมอารมณตางๆได
้
์
่
้
่
้
ิ
์
่
ิ
ื
่
้
่
ปฏบัติอยูตอเนองกันก็จะสามารถบรรลุถึงมหามรรคได
่
็
็
เมื่อเพงเหนรูป และลักษณะโลกเปนสูญ
ความทุกขก็จะดับไปเอง ขามไปถึงฝงหลุดพนได ้
์
้
่
้
ั
14
15
ปางที่ 7
งัน
ิ
่
็
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตวปรากฏพระวรกายเปนรูปราชาแหงเทพทังปวง
้
์
ั
้
์
้
เทพเจาทุกชน พุทธเจาทุกองค ลวนเพงค าน้และบรรลุสมมาสมพุทธิ
ี
่
้
้
ั
ั
ั
้
ั
จะตองพนมมือฟงพระคาถาบทน้ ี
ความหมายของพระคาถา งัน
งัน หมำยถง นอบน้อม
ึ
่
้
็
้
ความนอบนอม อันเปนมารดาแหงธารณีทังหลาย เปนมูลเหตุดังเดิมของมนุษย ์
้
็
์
ิ
็
ั
ขอนอบนอมบูชาถวายแดพระโพธสตวเปนผูมีความเมตตากรุณาไมมีประมาณ
่
้
้
่
้
์
้
ั
ิ
่
่
ทรงนาสทธรรมอันเปนความสุขทีแทจรง ปลุกใหมนุษยฟนคืนจากสภาวะเดิมทีมีอยู ่
้
ื
็
่
์
้
ั
ิ
เขาถึงสทธรรมธรรมอันบรสุทธ มีความหมายวา
ิ
ิ
นอบนอม บูชาถวาย ปลุกใหตืน ฝกธรรมกาย นรมานกาย สมโภคกาย
ั
้
้
ึ
่
ถาชาวโลกถือสทธรรมน้ ทวยเทพและภูตผีจะพนมมือคารวะ
้
ั
ี
จะตองพนมมือฟงพระคาถาบทน้
้
ี
ั
16
17
ปางที่ 8
สต พัน ลา ฮว อี
ั
ั
็
ั
์
ิ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูป
ทานทาวจตุโลกบาลและองคเทพราช
่
้
์
้
เพื่อโปรดพวกมาร ดวย พระบารมี 6 อยาง*
่
ั
ความหมายของพระคาถา สต พัน ลา ฮว อี
ั
ึ
สัต พัน ลำ หมำยถง อสระ
ิ
ิ
ฮัว อี หมำยถง องค์อรยะ
ึ
้
องคอรยะ ผูมีจิตอิสระ มีกายใจอันบรสุทธ
ิ
์
ิ
ิ
์
มีกาย ใจ สะอาด เหลามารมาท ารายไมได
่
่
้
้
์
ั
ิ
ี
็
ประโยคน้เปนคาถาพระโพธสตว
้
สอนผูปฏบัติจะตองท ากายและจิตใจใหบรสุทธ ์ ิ
ิ
้
้
ิ
่
ี
ั
้
ิ
่
่
ิ
้
์
้
ิ
้
จะใหกายใจบรสุทธ ตองตังใจอยูในสทธรรม ปฏบัติตังมันอยูในศล
่
็
้
้
็
แกความผิดมาเปนกุศลกรรม เปนทางทีจะเขาถึงธรรมมรรค
้
้
ผูปฏบัติธรรมจะตองกวาดลางความโลภทางกายใจใหหมดสน
ิ
ิ
้
้
้
จึงจะเกิดเปนปญญาได
็
ั
้
และไดรบการคุมครองจาก ทานทาวจตุโลกบาลเทพราช
้
ั
้
่
้
ิ
ี
ี
ี
ี
ี
ี
ี
* บำรม 6 ประกอบด้วย ทำนบำรม ศลบำรม ขันติบำรม วิรยะบำรม ฌำนบำรม ปญญำบำรม ี
ั
18
19
ปางที่ 9
ซู ตัน นอ ตัน เซ
ั
์
ิ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูป
็
่
์
่
์
้
้
้
ทานทาวจตุโลกบาลและองคเทพราชพรอมทังองคเทพทัวไป
้
้
ิ
ี
เสด็จพรอมดวยเทพและภูตผีปศาจบรวาร ในใตบังคับบัญชา
้
เพือชหนทางใหมนุษยเลิกท าบาปหนไปท ากรรมดี
้
์
ั
่
ี
้
ความหมายของพระคาถา ซู ตัน นอ ตัน เซ
ิ
ึ
ซู ตัน นอ ตัน เซ หมำยถง กำรปฏบัตธรรม
ิ
การปฏิบัติธรรม ตองถือความสตยเปนพื้นฐาน ถือความเพียรเปนเครองมือ
้
็
์
ื่
ั
็
่
ิ
เพือบรรลุสูอรยสจ
ั
่
้
ั
่
้
ั
์
่
ถาการปฏิบัติมิไดประกอบดวยความสตย ก็เทากับไมเขาใจ เพราะความสตย ์
้
้
ปราศจากความหลอกลวง จิตจะเปนหนง
็
ึ่
ั
เมื่อมีความสตย จิตจะเปนหนง ก็จะเกิดความเขาใจ
้
ึ่
์
็
่
็
้
เมื่อเกิดความเขาใจ ก็จะเหนความปลอดโปรง
่
เมื่อจิตปลอดโปรง ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลง
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะมีการกลับกลายไปในทางที่ดีงาม
ฉะนนการปฏิบัติดวยความสตย ์
้
ั
้
ั
้
้
ั
้
จึงไดรบความคุมครองจากจตุโลกบาล 6 และทวยเทพทังหลาย
ิ
่
ิ
้
่
ั
ั
เพือใหพระอรยะใชอภนหารเพือปกปกรกษาตักเตือนมวลมนุษย
ิ
้
์
ใหตังใจมุงตรงไปในทางธรรม พยายามก าจัดความเคยชนตอการท าบาป
้
้
ิ
่
่
20
21
ปางที่ 10
นา มอ สด กิด ลี ตอ อี หมง ออ ลี เย
ิ
่
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูปพระนาคารชุนโพธสตว
็
์
ิ
ั
ิ
์
ั
็
้
้
ิ
่
เปนผูควบคุมและคุมครองผูปฏบัติธรรมอยางแทจรง
้
้
ิ
่
และปราบปรามเหลามาร (ศตรูคูอร) ใหพินาศสนสมดังมุงหวัง
่
ั
ิ
่
้
ิ
้
่
ิ
ความหมายของพระคาถา นา มอ สด กิด ลี ตอ อี หมง ออ ลี เย
ึ
น ำ มอ หมำยถง นอบน้อม
ิ
ิ
ึ
ุ
สด กิด ลี ตอ อี หม่ง หมำยถง ผู้ปฏบัตธรรมย่อมได้รบควำมค้มครองจำก
ิ
ั
ิ
พระพุทธเจ้ำและพระโพธสัตว์
ิ
ึ
ออ ลี เย หมำยถง กำรปฏบัตธรรมจะใจรอนเพื่อให้ได้ผลในทันท ี
้
ิ
ไม่ได้
่
่
ั
้
้
้
่
ิ
ขอนอบนอมตอผูปฏบัติธรรมทียอมไดรบความคุมครองจากพระพุทธเจา
้
้
้
และพระโพธสตว ซงการปฏิบัติธรรมจะตองท าดวยความมานะพากเพียร มีจิต
้
์
ึ่
ิ
ั
้
่
้
้
มั่นคงจะใจรอนเพื่อใหไดผลในทันทีไมได
้
ิ
ผูทีจะนอบนอมเขาถึงองคอรยะ จ าตองปฏบัติธรรมโดยความมานะพากเพียร มีจิต
้
้
์
ิ
้
่
้
ึ่
มั่นคงเปนหนง
็
จะกระท าโดยเรงรบไมได ตองท าใจใหวาง เขาถึงองคพระธรรมคัมภีร
้
้
์
้
่
่
์
้
่
ี
ิ
หมั่นในการปฏิบัติตามหลักธรรม มีความคิดด ารมั่น
ั
ี
์
้
้
์
ที่จะกาวขามพนตอโลกียวิสย คิดจะท าประโยชนตอสรรพชวิต
่
่
้
์
้
ั
ิ
่
ั
เชนน้ ก็จะมีโพธสตววัชรธร คอยปกปกษรกษาการกระท าไมมีขัดของในทุกๆ กรณี
ี
ั
์
่
มีความสะดวกเหมาะสมความปรารถนาทุกประการ
22
23
ปางที่ 11
่
ผอ ลู กิต ตี สด ฮู ลา เลง ถอ พอ
่
ิ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปน
ิ
ั
์
็
รูปพระสมโภคกาย แหงองคพระไวโรจนะพุทธเจาอันเปนทิพยภาวะ
์
ั
็
้
่
่
ื
่
่
ั
์
็
มีรศมีรุงเรองแผซานทัวไป เพื่อลงมาโปรดสตวในจ านวนที่เปนอมิต
ั
่
ความหมายของพระคาถา ผอ ลู กิต ตี สด ฮู ลา เลง ถอ พอ
่
่
ิ
ผ่อ ลู กิต ต หมำยถง จตต้องกระท ำ
ึ
ิ
ี
ิ
ิ
ึ
ี
่
สด ฮู ลำ หมำยถง ท่องเทยวไปอย่ำงอสระ
็
ุ
ึ
เลง ถ่อ พอ หมำยถง ม่งส ำเรจในมรรคผล
้
พระโพธสตวสอนใหผูปฏบัติ มีจิตอิสระ ตังจิตมุงกาวหนาไป
์
้
ิ
้
้
ั
่
้
ิ
เพื่อสาเรจในมรรคผล
็
้
้
ิ
์
ี
ั
ิ
่
้
ประโยคน้พระโพธสตวสอนใหผูปฏบัติ ตองตังใจมุงกาวหนาไป
้
้
้
็
ั่
การนงเพงสมาธ เปนการ ฝกฝนใหจิตและกายรวมเปนหนง(เอกัคคตา)
่
ึ
็
ิ
ึ่
้
้
้
ั่
ิ
ดังนนเวลาปฏิบัติตองนงตัวตรง จิตมีสมาธ
ั
่
้
์
ก็จะไดแสงสวางอันสมบูรณ
มารไมสามารถมารบกวนได ทุกสงจะเปนไปตามความตองการ
้
่
็
ิ
้
่
24
25
ปางที่ 12
นา มอ นอ ลา กิน ซ
ี
็
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตวปรากฏพระวรกายเปนรูปพระไวโรจนะพุทธเจา
ิ
้
์
ั
้
์
้
โปรดบันดาลใหเหลาสตวโลกทังหลายมีความสุขสาราญ
ั
่
ความหมายของพระคาถา นา มอ นอ ลา กิน ซ ี
ึ
น ำ มอ หมำยถง นอบน้อม
ิ
นอ ลำ กิน ซี หมำยถง กำรคุ้มครองผู้กระท ำควำมด และผู้ปฏบัตดปฏบัตชอบ
ิ
ิ
ิ
ี
ี
ึ
ิ
ั
์
้
้
่
้
้
ิ
้
ขอนอบนอมตอพระโพธสตว ผูใหการคุมครองตอผูกระท าความดี และผูปฏบัติดี
่
้
ิ
้
้
็
์
่
ั
์
ปฏิบัติชอบ พรอมนกปราชญ อันเปนความเมตตากรุณาอยางแทจรง ขององคพระ
ั
ิ
มหาโพธสตว
์
็
่
่
้
้
้
ผูปฏิบัติธรรมจะตองท าตนเปนตัวอยาง เพื่อใหสาธุชนรุนหลังไดรบรูเปนแบบอยาง
็
้
ั
่
้
์
้
ิ
และเจรญรอยตามสาธุชนผูปฏบัติตามพระพุทธองคและพระธรรม
ิ
ซงตองมีความเมตตากรุณาจิตและโพธจิตเพื่อโปรดสตว
ิ
์
ั
ึ่
้
่
ั
ี
่
่
รกษาพระธรรมยิ่งกวาชวิต และเผื่อแผทั่วไปไมมีประมาณ
่
ั
้
่
็
เปนคาถาที่บอกกลาวแกชาวโลก ใหยึดถือพระไตรรตนะ
จะตองปฏบัติตนอยูในมนุษยธรรม
้
่
ิ
ผูปฏบัติจะตองมีจิตใจทีกวางขวาง
ิ
้
้
่
้
ื
์
็
ิ
ึ
ั
์
ศกษาตามพระโพธสตว หรอการโปรดสตวเปนหนาที่ของตน
ั
้
้
่
่
่
่
มีปณิธานวา ตราบใด นรกไมวางจะไมบรรลุพุทธภูมิ เพือใหสตวโลกหลุดพน
่
์
้
ั
็
ิ
ี
โลกเราน้ก็อาจจะเปนโลกบรสุทธ ์ ิ
26
27
ปางที่ 13
ซ ลี หมอ ฮอ พัน ตอ ซา เม
ี
่
้
ั
ี
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูปพระรูปเมษ ศรษะเทพเจา
ิ
็
์
่
ี
ความหมายของพระคาถา ซ ลี หมอ ฮอ พัน ตอ ซา เม
ุ
ึ
ุ
ซี ลี หม่อ ฮอ หมำยถง ควำมเมตตำกรณำไพศำล สำมำรถบ ำบัดทกข์บ ำรงสขได้
ุ
ุ
ุ
ุ
ึ
ี่
ี
ั
พัน ตอ ซำ เม หมำยถง ผู้ทมบญวำสนำจะได้รบกำรค้มครองจำกองค์พระ
ื
ู
ิ
ิ
โพธสัตว์และเทพเจ้ำเบ้องบนพวกมำรและอรรำชศัตรทั้งหลำย ไม่สำมำรถมำ
รบกวนได้
่
์
์
่
่
็
ั
พระโพธสตวทรงเหนวามนุษยควรมีความเมตตากรุณาตอสรรพสตว ผอนใจในทาง
์
ิ
ั
่
้
์
้
้
โลก โนมนาวจิตมาในทางมรรคผล อันจะสามารถชวยบ าบัดทุกขบ ารุงสุขได โดยที่ผู ้
์
่
้
ทีมีบุญวาสนาเหลานนยอมจะไดรบการคุมครองจากองคพระโพธสตวและเทพเจา
ั
้
้
่
่
์
ั
้
ั
ิ
ิ
เบื้องบน พวกมารและอรราชศตรูทังหลายไมสามารถมารบกวนได
้
้
ั
่
์
ั
ิ
่
็
พระโพธสตวเล็งเหนวาชาวโลก
ั
ิ
็
ี
ั
ถือเอาความรวย มีชอเสยง ศกดินา เปนที่นยมศรทธา
ื่
็
์
่
อันเปนการหาความทุกขใสตัวเอง
พระองคจึงเตือนจิตใหมนุษย จงผอนใจในทางโลก
์
์
่
้
้
้
ั
่
ฉะนนจึงกลาวคาถาน้ ใหผูปฏบัติผอนใจในทางโลก โนมนาวจิตใจ
้
้
่
ี
้
ิ
ใหจิตหนไปทางมรรคผล
้
ั
เมื่อจิตวางจากทางโลกหมดสนแลว จิตในทางธรรมก็จะเจรญขึ้น
้
้
่
ิ
ิ
28
29
ปางที่ 14
สต ผอ ออ ทอ เตา ซ พง
่
ั
ี
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตวปรากฏพระวรกายเปนรูปพระอมฤตโพธสตว
ั
ิ
็
ิ
ั
์
์
่
มือหนงพระองคทรงถือกิงทับทิม อีกมือหนงถืออมฤตกุณฑ(หมอน้ามนต)
่
ึ
์
ึ
่
้
ี
์
ั
์
เพื่อจะออกโปรดสตวโลก
ี
ความหมายของพระคาถา สต ผอ ออ ทอ เตา ซ พง
ั
่
สัต หมำยถง กำรได้เหน (ได้รได้เหนในส่งทั้งหลำยทั้งปวง)
ึ
็
ิ
ู
้
็
ผ่อ หมำยถง เสมอภำค
ึ
ออ หมำยถง พระสัทธรรมอันบรสทธ ิ์
ิ
ุ
ึ
ทอ เตำ ซี พง หมำยถง ธรรมไม่มขอบเขต
ี
ึ
่
้
์
็
้
่
์
ิ
ิ
ั
็
พระสทธรรมอันบรสุทธอันเปนธรรมทีไมมีขอบเขต มนุษยทุกคนสามารถรูไดเหน
้
่
ไดเพือสูพระพุทธภูมิโดยเสมอภาค
่
ั
ิ
พระโพธสตวทรงมีความเมตตากรุณาประทานพระคาถาบทน้ ี
์
้
้
่
ใหทุกคนสวดทองพระมนตอันสาคัญและปฏบัติธรรมไดโดยสะดวกสบาย
ิ
์
ิ
็
นาไปสูการจะสามารถปฏบัติบรรลุพระพุทธภูมิไดสาเรจ
้
่
้
ทุกคนทีปฏบัติสามารถรูไดเหนได และบรรลุสูพุทธภูมิไดโดยเสมอกัน
้
้
็
้
่
ิ
่
30
31
ปางที่ 15
ี
ออ ซ เย็น
็
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูปยักษ ์
ิ
ั
์
เหาะเหนมาตรวจตราไปทัวทุกๆ ทิศ เพือพิจารณาความผิดถูก
่
ิ
่
้
ั
้
์
้
่
ั
์
พระองคจะไดคอยตักเตือนใหมนุษยหนมาท าความดี ละเวนจากการกระท าความชว
ความหมายของพระคาถา ออ ซ เย็น
ี
ี
ึ
ั
ออ ซี เย็น หมำยถง สรรพสัตว์และผู้ทท ำควำมดย่อมได้รบกำรยกย่องชมเชย ผู้ท ำ
ี
่
ุ
ึ
บำปจะต้องส ำนกและขอขมำโทษ ให้พระองค์ทรงโปรดประทำนเมตตำกรณำ
์
ั
่
็
่
ั
์
พระโพธสตวเกิดความหวงใยและสงสารในสรรพสตวทีมีจิตเปนอกุศล
ิ
่
์
้
ั่
่
ชอบในการกระท าความชว ไมยอมท าบุญ ยอมตกอยูในหวงทุกข
่
ั
พระองคเกรงวาสรรพสตวเบื่อหนายการท าบุญ
์
์
่
่
์
ิ
จึงใหยักษราชเหาะมาสารวจทัวทุกทิศ และแสดงอภนหาร
ิ
้
เพื่อเปนการตักเตือนใหแกไขกลับใจมาสรางความดี
็
้
้
้
ใหละบาปและมาบ าเพ็ญบุญแทน
้
32
33
ปางที่ 16
่
ั
ั
่
่
ั
สต ผอ สต ตอ นอ มอ ผอ สต ตอ นอ มอ ผอ เค
็
ิ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูปเทพเจาภคติ
์
้
ั
่
รูปรางใหญโต ผิวกายด าสนท ถือโตมรเปนศาสตราวุธ(ถือมีดเตรยมปราบมาร)
่
ิ
็
ี
่
ั
ั
่
ความหมายของพระคาถา สด ผอ สต ตอ นอ มอ ผอ สต ตอ นอ มอ ผอ เค
ั
่
ึ
สัต ผ่อ สัต ตอ หมำยถง พระพุทธธรรมอันไม่มขอบเขตทส้นสด สรรพ
ุ
่
ี
ิ
ี
็
ี
็
สัตว์ทั้งหลำยในโลกน้ล้วนจะส ำเรจเปนพระพุทธเจ้ำได้
็
ึ
นอ มอ ผ่อ สัต ตอ หมำยถง พุทธธรรมเปนควำมเสมอภำค ไม่แบ่งแยกชั้น
ื
่
็
ู
วรรณะเปนสงหรอต ำ และมำกน้อย
นอ มอ ผ่อ เค หมำยถง พุทธธรรมมควำมยิ่งใหญ่ไพศำล ผู้ทปฏบัตธรรม
ึ
่
ี
ี
ิ
ิ
ิ
ุ
จะระงับภยันตรำยทกส่งได้
ิ
ั
้
้
็
พระพุทธธรรมอันไมมีขอบเขตทีสนสุด สรรพสตวทังหลายในโลกน้ลวนจะสาเรจ
์
้
ี
่
่
เปนพระพุทธเจาได พุทธธรรมเปนความเสมอภาค ไมแบงแยกชนวรรณะเปนสูง
้
็
้
่
่
ั
้
็
็
ิ
่
้
้
่
่
หรอต า และมากนอย พุทธธรรมมีความยิงใหญไพศาล ผูทีปฏบัติธรรม จะระงับ
่
ื
้
ั
์
ั
่
้
ภยันตรายทุกสงไดไมวานกปราชญหรอผูโงเขลาเบาปญญา คนหรอสตวลวนสามารถ
ื
่
ั
ิ
่
ื
้
่
์
้
้
้
่
หลุดพนได ถาเขาเหลานนปฏิบัติธรรมดวยความสจ
้
ั
ั
้
้
่
เปนคาถาที่ไมวานกปราชญ หรอคนโงเขลา คนหรอสตว เมือสวดบูชา ลวนสามารถ
์
่
่
่
ั
ื
์
ื
็
ั
์
ั
้
้
ิ
้
์
ิ
หลุดพนได ถาสรรพสตวปฏิบัติตามดวยความจรงใจ พระโพธสตวจะใหความเมตตา
้
้
ั
็
ั
้
้
ิ
ั
์
์
กรุณา ปรากฏใหเหนพันกรพันเนตร มาโปรดใหพนทุกขภย เพราะโพธสตวมีอาวุธที ่
้
่
้
ิ
้
้
สามารถปราบปรามมารราย ใหผูปฏบัติไดปฏบัติธรรมอยางสุขสบาย
้
ิ
34
35
ปางที่ 17
ั
มอ ฮว เตอ เตา
็
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูปกุนตาลี
ิ
ั
์
่
ทรงถือจักรมือหนง และทรงถือบวงบาศเปนศาสตราวุธ
็
่
ึ
มีตา 3 ดวง นาเกรงขามยิ่งนก
่
ั
ั
ความหมายของพระคาถา มอ ฮว เตอ เตา
ื
ึ
ค ำว่ำ มอ ฮัว เตอ เตำ หมำยถง กำรสั่งสอนตักเตอน
ื
ิ
ื
พระโพธสัตว์ได้สั่งสอนตักเตอน ให้ผู้ตั้งใจถอในกำรปฏบัตในสัทธรรมให้เกิดควำม
ิ
ิ
ิ
ิ
ว่ำง ไม่ข้องแวะตดในรป ไม่ยึดตดในจต ใช้ปญญำดับกิเลสให้หมดส้นไป
ั
ิ
ิ
ู
เปนการตักเตือนของพระโพธสตว
ิ
ั
็
์
ิ
่
้
้
้
็
ใหผูปฏบัติถือพระสทธรรมใหเปนสูญ ไมของแวะ
ั
้
่
่
ไมยึดถือติดอยูในรูป และไมยึดถือติดอยูในจิต
่
่
็
ั
ถือความสทธรรมเปนใหญ
่
้
ตองละความคิดวิตกกังวล ดับความโกรธ ความโลภ ความหลง
้
โดยใชหลักแหงปญญาดับกิเลสใหหมดสนจนเกิดจิตวางจิตสงบ
่
่
้
้
ิ
ั
เปนอยูในโลกน้อยางสนติสุข
่
ั
่
ี
็
36
37
ปางที่ 18
ตัน จิต ทอ
ั
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูปพระอรหนต
์
็
์
ั
ิ
ั
์
ทรงแสดงธรรมเพื่อโปรดสตว
ความหมายของพระคาถา
ึ
ิ
่
ี
ื
ั
่
ตัน จต ทอ หมำยถง ควำมศรทธำทแท้จรงอย่ำงต่อเนอง
ิ
่
่
ิ
้
ความศรทธาที่แทจรงอยางตอเนอง ยังผลใหจิตตรงกับพระธรรม ไมเกิดความติด
่
ั
้
ื่
้
้
้
ทางโลกเกิดขึ้นในดวงจิต เพื่อนาทางเขาถึงธรรมทังหลาย ดวยความศรทธาโดย
ั
้
แทจรง
ิ
้
่
ั
ิ
ความศรทธาจรงอันตอเนองกัน จิตตองตรงกับพระธรรม
ื่
้
หามมิใหมีความคิดทางโลกเกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
้
ื่
ทังน้เนองจากวา หากปลอยใหความคิดทางโลกเกิดขึ้นในจิต
่
้
้
ี
่
่
กายใจก็จะไมบรสุทธ
์
ิ
ิ
้
้
ท าใหเกิดความขัดแยงกับพระธรรม
้
จะไมอาจพบสนติสุขไดเลย
ั
่
38
39
ปางที่ 19
่
งัน ออ ผอ ลู ซ ี
์
็
ิ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตวปรากฏพระวรกายเปนรูป
ั
ั่
พระองคทรงประทับนงขัดสมาธพนมมือตรงระหวางหนาอก
่
์
้
ิ
้
็
่
แสดงถึงความเมตตากรุณาเพือจะใหเปนความสุข
่
์
่
ชวยปลดเปลื้องความทุกขของสรรพสตวทีอยูในโลก
่
ั
์
ความหมายของพระคาถา งัน ออ ผอ ลู ซ ี
่
ึ
็
งัน(โอม) หมำยถง นอบน้อม, เปนบทน ำ
ี
ึ
ออ ผ่อ ลู ซ หมำยถง ถอหลักปฏบัตด้วยจตใจเด็ดเดยวไม่หวั่นไหว
่
ิ
ิ
ิ
ื
ี
่
่
้
ขอนอบนอมตอผูปฏบัติธรรมทีถือหลักปฏบัติดวยจิตใจเด็ดเดียวไมหวันไหว
่
ิ
้
ิ
้
่
่
้
่
่
่
่
้
้
ผูปฏบัติธรรมตองมีจิตใจทีเด็ดเดียว ไมหวันไหวตอการกอกวนของเหลามารทังมวล
่
ิ
่
่
้
้
ั
่
(กิเลส) ถาหากสามารถตังจิต ขมจิต สารวมกาย วาจา และจิต ละทิ้งโลกียวิสย
์
่
้
็
ิ
์
ทังหมด ยึดถือในพระธรรมเปนผูนาแหงความบรสุทธ จิตสะอาดปราศจากราคี มี
ิ
้
่
้
่
้
ความสดใสไมมีราคะปนเปอน ก็จะเขาถึงพุทธสภาวะทีมีอยูดังเดิม
้
่
ื
่
้
ั
ถาสามารถท าใหจิตมีความสงบนงอยูทุกขณะ ไมวาจะเดิน นง นอน นงอยูในทุก
่
้
่
่
ิ
่
่
่
ิ
็
้
ขณะ ทังในขณะหยุดนงและเคลือนไหว ก็จะมีความสาเรจทางธรรมโดยไมรูสกตัว
่
้
ึ
่
ิ
่
้
ั
ิ
่
่
์
พระพุทธเจาทุกพระองค รวมทังพระโพธสตวไดหลุดพนในขณะทีอยูบนโลก อัน
์
้
้
้
มากลนๆดวยกิเลสที่เต็มไปดวยความเสอม 5 ประการ(เสอมญาติ เสอมโภคะ เสอม
ื่
้
้
ื่
ื่
ื่
้
ี
ื่
ิ
เพราะโรค เสอมศล เสอมทิฐ)น้ ี
ื่
40
41
ปางที่ 20
ลู เกีย ตี
์
็
ิ
ั
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูปพระมหาพรหมเทพราช
ิ
่
่
ออกโปรดสตวและคอยสอดสองดูแลโดยเฉพาะสรรพสตวทีปฏบัติดีปฏบัติชอบ
ิ
ั
์
ั
์
ความหมายของพระคาถา ลู เกีย ตี
ี
ึ
ี
ลู เกีย ต หมำยถง มกุศลจตสะอำดบรสทธ ิ์
ิ
ิ
ุ
ั
ิ
้
์
ั
เปนธรรมที่พระโพธสตวไดตักเตือนสรรพสตว ์
็
ิ
ิ
ั
ั
์
้
ั
้
พระโพธสตวตักเตือนสรรพสตว ใหรกษาความมีกุศลจิตใหสะอาดบรสุทธ ์ ิ
์
้
็
้
ึ่
่
มีแสงรศมีสวางรอบกาย ไมมัวหมอง สามารถเขารวมกับดินฟาเปนอันหนงอัน
่
ั
่
ิ
็
เดียวกัน การเปนอิสระ เปนโลกนารถ มีกุศลจิตสะอาดบรสุทธ มีแสงสวางรอบพระ
่
ิ
็
์
็
่
วรกาย ไมมัวหมอง อยาท าลายตนเอง อยาหลงผิดเปนชอบ สามารถเขารวมกับดินฟา
้
่
่
้
่
เปนอันหนงอันเดียวกัน
็
ึ่
ิ
่
ั
ผูปฏบัติจิต สงสาคัญตองรกษาจิตใหบรสุทธ
้
้
ิ
ิ
ิ
้
์
้
่
่
ตองระมัดระวังอยูตลอดเวลา และสวดมนตคาถาอยูเสมอ
์
42
43
ปางที่ 21
เกีย ลอ ตี
ั
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูปของเทพเจา
์
้
ิ
็
่
ั
เพื่อคอยชวยเหลือสรรพสตว ์
ความหมายของพระคาถา เกีย ลอ ตี
ึ
ี
เกีย ลอ ต หมำยถง ผู้มควำมกรณำ ผู้ปลดเปล้องควำมทกข์
ื
ุ
ี
ุ
็
้
ิ
้
้
ั
์
พระโพธสตวมีเมตตาจิต กรุณาจิต ใหผูปฏบัติธรรมมีความกรุณา เปนผูปลดเปลื้อง
ิ
์
้
้
ความทุกข ใหเปนผูมีจิตสงบ มีจิตในทางธรรม ด ารงดวยมรรคอันเที่ยงแทมั่นคง มี
้
็
้
สติปญญาเฉยบแหลม ยิ่งใหญ ่
ั
ี
ั
ิ
์
้
ั
์
้
็
ิ
เปนคาถาที่พระโพธสตวมีเมตตาจิต กรุณาจิต ชกชวนใหมนุษยไดปฏบัติธรรม
้
เมื่อจิตมีความสงบ ก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงสงชวรายใหกลับกลายเปนดี เปลี่ยนจิต
้
ิ่
็
ั่
็
บาปเปนจิตกุศลได ้
44
45
ปางที่ 22
ี
อี ซ ลี
้
ิ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูปเทพเจามเหศวร
ั
็
์
เสด็จลงมาจากสวรรคชนดาวดึงส ทรงนาทัพเทพยดา ลงมาโปรดเหลาสตว
์
้
ั
์
์
ั
่
้
่
่
ั
ั
็
่
่
์
ั
ฉะนนไมวาในหนแหงใดสรรพสตวใดไดรบความไมเปนสุข
้
ี
ั
ิ
้
์
่
้
ั
พระโพธสตวจะไปชวยตามเสยงที่รองขอนนๆ
ี
ความหมายของพระคาถา อี ซ ลี
อี ซี ลี หมำยควำมว่ำ กำรไม่ให้มจตใจทคดผิดและหลงผิดมัวเมำมำกไปด้วย
ี
่
ี
ิ
ิ
ควำมโลภทเปนต้นเหต ุ
็
ี่
ิ
ั
์
พระโพธสตวผูตังอยูในความเมตตากรุณา อ านวยประโยชนแกมนุษยและสรรพสตว ์
ั
์
์
่
่
้
้
้
่
้
์
ทังปวง ทรงสงสอนไมใหมนุษยมีจิตใจที่คิดผิดและหลงผิดมัวเมามากไปดวยความ
้
ั่
ึ
่
้
้
โลภทีเปนตนเหตุ ซงท าใหสรรพสตวไดรบความไมเปนสุข
่
็
์
ั
ั
้
่
็
46
47
ปางที่ 23
่
ั
หมอ ฮอ ผู ที สต ตอ
่
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูปพระโพธสตว
ิ
ั
็
ิ
ั
์
์
ิ
ใชความเมตตากรุณาอันบรสุทธเปนพระคาถาทีมีความเปนอนตตา
ิ
่
้
็
็
ั
์
ิ
้
่
ั
เพือจะไดนาเอามาอบรมสงสอนผูทีปฏบัติ
่
่
้
ความหมายของพระคาถา หมอ ฮอ ผู ที สต ตอ
่
ั
่
ิ
ุ
หม่อ ฮอ หมำยถง ควำมยิ่งใหญ่ไพศำลในพระพุทธธรรม ทกคนพึงปฏบัตกันได้
ิ
ึ
ุ
ด้วยหลักเหตผล
่
ี
็
ผู่ ท หมำยถง มองเหนโลกทพวกเรำได้อำศัยอยู่น้
ึ
ี
ี
ู
ุ
ี
ี
โลกน้เปนควำมสญ โลกน้เปนจดศูนย์กลำง
็
็
ิ
ึ
็
ิ
สัต ตอ หมำยถง อนัตตำธรรม พึงปฏบัตได้ มองเหนสรรพธรรมเปนศูนย์กลำง
็
่
ั
ึ
พระพุทธธรรมทีมีความยิงใหญไพศาลซงทุกคนพึงปฏบัติ คืออนตตาธรรม ที่
่
่
ิ
่
์
มองเหนโลกและสรรพธรรมเปนศูนยกลาง พิจารณาเหนโลกน้เปนความสูญ
็
็
ี
็
็
้
ี
้
็
่
ิ
พระโพธสตวทรงชใหเหนวา
์
ั
ิ
็
ื
่
ความรุงเรอง ลาภ ยศ สรรเสรญเปนสูญ
็
เหนเปนฟองน้า เหนเปนเงาลวง
็
็
็
้
ท าจิตใจรางกายใหบรสุทธ
่
ิ
์
ิ
โดยเฉพาะผูเรมปฏบัติ จะตองมีจิตใจทีมันคงแนวแน
้
้
่
่
่
ิ
่
ิ
่
พยายามขามพนไปจากความทุกข กิเลส
้
้
์
48
49
ปางที่ 24
ั
สต พอ สต พอ
ั
ิ
็
์
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูปคนธาลัยโพธสตว
ั
ั
ิ
์
้
้
้
ไดนาทหารและทัพภูตผีทัง 5 ทิศ และผูติดตามมาโปรดสรรพสตว
์
ั
ั
ั
ความหมายของพระคาถา สต พอ สต พอ
ึ
สัต พอ สัต พอ หมำยถง พระพุทธธรรมมควำมเสมอภำค
ี
่
่
พระพุทธธรรมมีความเสมอภาค ชวยทังอ านวยประโยชนสุขแกสตวโลกทังหลาย
์
้
์
ั
้
่
ั
้
่
่
่
ั
ทานที่มีปจจัยแหงบุญ ประกอบบุญกุศล ยอมไดรบความสุขยิงๆ ขึ้นไป
็
ั
์
็
พระโพธสตว ไดปรากฏเปนลักษณะอันเปนอจินไตย บันดาลความสุข และประโยชน ์
ิ
้
่
้
ใหแกเหลาสรรพชน
่
ั
ั
เมื่อทานโปรดสตวโดยทั่วไปนน ไมหลีกเลี่ยงความยากล าบาก
้
่
์
่
้
ื
่
้
่
์
่
่
ไมหวันตอความทุกขเข็ญ กาวหนาไปเรอย
์
จึงสามารถท าประโยชนแกสตวโลกได ้
์
ั
่
้
่
ผูปฏบัติถาลืมความเกิดดับอันเปนเรองใหญ ไมหลงติดในรูปลักษณะทางโลก
ิ
่
ื่
้
็
้
้
่
ผูทีเรมตนดวยความเพียรแตเมือนานวันเขา ไมตังใจ ลังเลสงสย
่
ั
่
่
้
้
้
ิ
่
้
นคือความไมมีวันทีจะหลุดพน
ี่
่
่
50