151
ปางที่ 75
ซอ ผอ ฮอ
่
็
ั
์
ิ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูป
พระมหากัสสปเถระเจา พระหตถซายทรงถือลูกประค า พระหตถขวาทรงถือไมเทา
้
้
ั
์
์
้
้
ั
ั
์
ทรงเที่ยวแนะนาค าสงสอนใหสรรพสตว ไดปฏิบัติธรรมดวยความตังใจจรง
้
ิ
้
้
้
ั่
่
ความหมายของพระคาถา ซอ ผอ ฮอ
ึ
ซอ ผ่อ ฮอ หมำยถง ควำมเมตตำกรณำของพระโพธสัตว์เพือโปรดเหล่ำสรรพ
่
ุ
ิ
ั
็
สัตว์ทั้งปวงให้ได้รบพระสัมมำสัมโพธเหนหลักชัย เปนกำรรวมเอำพระคำถำทั้งหมด
็
ิ
แห่งมหำกรณำธำรณสตร มำไว้ครบถ้วน
ู
ี
ุ
เปนการรวมความเอาพระคาถาทังหมด
้
็
ี
้
่
แหงมหากรุณาธารณีสูตรมาไวในประโยคน้
์
ิ
ั
่
ั
มีนยบงบอกถึงความเมตตากรุณาของพระมหาโพธสตว
์
่
่
ิ
้
้
เพือโปรดเหลาสรรพสตวใหไดรบหตานุหตประโยชน(ประโยชนเกื้อกูลนอยใหญ)
้
ั
่
์
ั
์
ิ
มีพระสมมาสมโพธเปนหลักชย
็
ิ
ั
ั
ั
์
ั
ทรงเที่ยวแนะนาสงสอนใหสรรพสตว
้
ั่
้
้
ิ
ไดปฏิบัติธรรมดวยความตังใจจรง
้
152
153
ปางที่ 76
นา มอ หอ ลา ตัน นอ ตอ ลา เหย เย
่
่
ั
์
ิ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูป
็
์
ิ
อากาศครรภโพธสตว ทรงประทับนงอยูบนอาสนหนศลา
ั
์
ิ
์
่
่
ั
ิ
ั
์
พระหตถขวาทรงวางไวบนอาสนะ พระหตถซายทรงถือดอกไม
้
้
ั
์
้
่
่
ความหมายของพระคาถา นา มอ หอ ลา ตัน นอ ตอ ลา เหย เย
ี
น ำ มอ ห่อ ลำ ตัน นอ ตอ ลำ เหย่ เย หมำยถง อย่ำปล่อยเวลำให้เสยโอกำสให้
ึ
ิ
ิ
หมั่นตั้งใจปฏบัตธรรม
ั่
้
เพื่อการสงสอนตักเตือนใหมวลสตวโลก
์
ั
้
ั
ิ
จงมั่นคงในศรทธาวิรยะกลาหาญอดทนขยันหมั่นเพียรในการปฏิบัติพระธรรม
ิ
่
ั
พระโพธสตวไดย ้าเตือนผูสวดทองมนตบทน้
้
้
ี
์
์
้
ตองพยายามควบคุมกายใจ ไมใหลื่นไหลไปตามอารมณที่มากระทบ
้
่
์
่
โนมนาฌานสมาธเพงพิจารณาการเกิดการดับ
ิ
้
พิจารณาบุคคลทีถือเอาพุทธะเปนสรณะ แตไมยอมเพงตถาธรรม
่
็
่
่
่
เพียงแตกินเจ ระลึกถึงพระพุทธเจาเปนที่นาสงสารมาก
่
่
้
็
ั
ความประสงคที่พระโพธสตวไดย ้าถึงมนตน้
ิ
์
ี
์
์
้
เพื่อแจงวาการปฏิบัติมีทางที่ไปไดโดยเรว
้
็
่
้
้
ิ
้
ึ่
ี
เราจงอยาละเสยซงโอกาสตองตังใจปฏิบัติจรง
่
154
155
ปางที่ 77
นา มอ ออ ลี เย
ั
็
ิ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูป
์
ั่
์
พระสมันตภัทรโพธสตว ทรงประทับนงขัดสมาธบนคันธหตถ ์
ิ
ั
ิ
ั
้
้
ั
็
ั
้
์
้
้
ทรงรอยรตนะเพื่อใหสตวโลก ไดรูเหน ไดเพียรพยายามในการปฏิบัติ
่
้
่
เพือการบรรลุธรรมไดอยางสมบูรณ ์
ความหมายของพระคาถา นา มอ ออ ลี เย
็
ิ
ิ
ี
ึ
น ำ มอ ออ ลี เย หมำยถง คำถำบทน้เปนกำรนอบน้อมสรรเสรญพระอรยะ และกล่ำว
ิ
ึ
ิ
ึ
็
ย ้ำถงกำรปฏบัตธรรม ต้องละควำมเปนตัวตนของเรำ จงจะสำมำรถ ไม่ให้เกิดควำม
ิ
นกคดได้
ึ
์
คาถาบทน้เปนสาธยายมนตสรรเสรญพระอรยะ และกลาวย ้าถึง
็
่
ิ
ิ
ี
้
การปฏิบัติธรรมตองละความเปนตัวตน บุคคล เรา-เขา
็
จึงจะสามารถไมใหเกิดความนกคิดอันเปนบอเกิดแหงความทุกขได
็
่
่
่
้
์
ึ
้
็
่
้
ึ
้
ความนกคิดติดยึดไมเกิด ความเขาใจถึงธรรมก็จะเปนที่หวังได
็
ี
่
ธรรมบทน้เปนการย ้าใหเรงรบสวดทองธารณี
่
ี
้
้
้
้
้
มีความตื่นตัวโดยเรว แกความผิดแลวตังตนใหม ่
็
เสาะแสวงหาพระธรรมรกษาโรคทางจิตกวาดลางความหลงผิด
ั
้
้
ิ
่
ื
ถาสามารถระลึกถึงพระธรรมอยูเนองๆ ไมวาในกิรยาใด เสมอตนเสมอปลาย
้
่
่
่
่
กระทั่งบรรลุในความไมมีตัวตน ความนกคิดไมโปรงสบายเขาถึงธรรมก็ไมมีหวัง
่
้
่
ึ
156
157
ปางที่ 78
่
ผอ ลู กิต ตี
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูป
็
์
ิ
ั
์
ี
ิ
ิ
มัญชูศรโพธสตว ประทับนงบนหลังสงหอาสน พระหตถชขึ้นฟา
์
์
ี
้
้
ั
ั
ั่
้
้
เพื่อสงสอนใหสรรพสตวเขาถึงธรรม
์
ั
ั่
ความหมายของพระคาถา ผอ ลู กิต ตี
่
ี
ี
ิ
ิ
ผ่อ ลู กิต ต หมำยถง พระสัทธรรมไม่มควำมส้นสด บรรดำผู้ปฏบัตย่อมมควำม
ี
ุ
ึ
ิ
ุ
ิ
ุ
บรสทธ สำมำรถไปจตยังสขำวดภูม ิ
ุ
ิ
ี
ิ์
ิ
์
ึ
์
้
ั
ประโยคน้เปนคาถาที่โพธสตวย ้าถึงความลึกซงของมนต
็
ี
พระสทธรรมไมมีความสนสุด
่
ั
ิ
้
ิ
ิ
่
ื
์
้
ิ
่
่
่
บรรดาผูปฏบัติธรรม ยอมมีความบรสุทธเปนเครองอยูนาทางสูแดนสุขาวดี
็
้
่
่
่
้
มีการเกิดยอมตองมีการตาย มีชนะก็ยอมมีความพายแพ
้
แตชาวโลกผูตกอยูภายใตอวิชชา
้
่
่
ั
กลับยินดีตอการเกิด เกลียดชงความตาย
่
่
แตทายทีสุดก็ตองมีการตายอยูนนเอง
่
่
ั่
้
้
ฉะนนถาหากตองการใหรอดพนจากความตายมีอายุยืนยาว
ั
้
้
้
้
้
จะตอง คนหาความเปน ในความตาย ใหไดเสยกอน
้
็
้
้
่
้
ี
158
159
ปางที่ 79
ซอ พัน ลา เย
ิ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ไดทรงแสดงกิรยาอาการบรรยายใหเหน
้
้
์
ั
ิ
็
ั
์
้
ั
่
พระองคก าลังปลดประสาทตาทีรบรูป รบรูมองเหน
็
ทรงประทับนงบนดอกบัวทองพันกลีบ
ั่
ความหมายของพระคาถา ซอ พัน ลา เย
ิ
ซอ พัน ลำ เย หมำยถง ผู้ปฏบัตต้องกำรส ำเรจเปนธรรมกำยอันบรสทธได้
ึ
ิ
ิ
ิ์
ุ
็
็
ี
็
็
ิ
โดยเรวกว่ำปกต จะต้องช ำระประสำททำงตำให้สะอำดเสยก่อน เพื่อเปนอุบำยให้
ู
็
็
สรรพสัตว์ละประสำทตำและรปภำยนอก เพื่อกำรมองเหนธรรมวิสัยอันเปนอนต
ุ
็
ตระ(ดวงตำเหนธรรม) ได้อย่ำงแท้จรง
ิ
็
เพื่อแนะนาชกชวนใหสตวโลก ลดละประสาทตาและรูปภายนอก อันเปนความหลง
ั
้
์
ั
่
้
้
้
ิ
็
้
่
ผิด ตองใหมองเหนในสภาวะแหงตน เขาใจในจิตภายในตนอยางแทจรงประโยคน้ ี
เปนการแนะใหเหนถึงมหามรรคโดยตรง ใหผูปฏิบัติธรรมมีทางจะแสวงหาไดไม ่
้
็
้
้
็
้
้
หลงเขาที่ผิด
160
้
็
้
ิ
การปฏิบัติธรรมจ าเปนตองปดทวารทังหก
่
้
่
ิ
็
้
ั
ั
่
่
้
ก าจัดประสาทตาดวยใจ ไมยึดติดไปตามภาพนนๆ ทีตามองเหนและรบรูในสงทีจะ
เกิดเปนบาปกรรมเพราะรูปขึ้นมาไดอีก
็
้
้
้
ิ
่
้
้
ผูปฏบัติทังหลายจงรบรูไวดวยเถิดวา
ั
้
่
้
้
็
ตาเปนมารอยางรายกาจ ที่คอยขัดขวางการเขาถึงพระธรรม
็
จ าเปนตองก าจัดประสาทตาเพราะตาเปนมารที่ขัดขวางการเขาถึงธรรม
็
้
้
ี
็
้
จงระลึกถึงธรรมไวในใจเสมอ เหมือนเปนสวนหนงของชวิต
ึ่
่
้
หากมุงเขาสูสุขาวดีภูมิ ตองละประสาทตาใหหมดไปจากการสมผัสรบรู
ั
้
้
้
่
่
ั
็
็
่
้
่
จะไดไมเปนมารคอยขัดขวางความสาเรจอีกตอไป
่
่
้
่
ิ
ผูปฏบัติตองสารวม ตาเหนรูป ไมปรุงแตงไปตามรูปทีมองเหน
็
็
้
้
ั
รูถึงความปลอมแปลงหลอกลวงของรูปจากประสาทตาสมผัส
ใหมองเปนเพียงสงไมยั่งยืน
ิ่
่
้
็
่
้
รูถึงสภาวะซงรากมูลของสภาวะนนเปนสูญ
ึ
็
้
ั
้
่
ิ
เพือเปนไปในการเขาสูความบรสุทธ
่
็
์
ิ
็
็
เปนธรรมชาติของสภาวะเดิมของตนมีความเปนสูญ
สูทางสาเรจมรรคผลได
่
็
้
161
162
ปางที่ 80
่
ซอ ผอ ฮอ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ไดทรงแสดงกิรยาอาการ
ิ
้
ิ
ั
์
็
็
้
์
ี
บรรยายใหเหนถึงประสาทหู วิพากษถึงเสยงเปนภัย
ี
ี
่
ทรงวางแขนสทองค าลงมาเบื้องลาง เพื่อชแนะสงสอนใหสตวโลกทังปวง
้
้
ั
้
ั่
์
ั
่
้
ั
้
่
์
โดยใหเหลาสตวละประสาทหู ไดฟงความสูญแหงสภาวะตน
่
ความหมายของพระคาถา ซอ ผอ ฮอ
ี
็
ึ
ื
่
ี
ซอ ผ่อ ฮอ หมำยถง เปนพระคำถำน้ต่อเนองจำกประโยคก่อน มควำมหมำย
ี
ึ
ว่ำ ถงแม้จะละประสำทตำแล้วประสำทหก็เปนทขัดข้องกีดขวำง จงต้องละเช่นกัน
ึ
ู
็
่
่
้
จงปฏิบัติธรรมดวยการสารวมหูฟงเสยง ไมปรุงแตงไปตามเสยงทีไดยิน รูถึงสภาวะ
ี
้
้
่
่
ี
ั
่
ึ
้
ั
้
์
ิ
็
่
ิ
็
ซงรากมูลของสภาวะนนเปนสูญ เพือเปนไปในการเขาสูความบรสุทธ เปนธรรมชาติ
็
่
ของสภาวะเดิม
่
็
้
รูถึงความปลอมแปลงหลอกลวงของกลินสมผัส ใหมองเปนเพียงสงไมยั่งยืน
่
้
ิ่
ั
็
่
้
้
แลวในทีสุดก็จะสามารถเขาถึงสภาวะเดิมของตนมีความเปนสูญ สูทางสาเรจมรรค
่
็
็
ั
่
ี
่
ี
ิ
ผลได ละประสาทหู จากเสยงทีไมใชความเปนจรง เพื่อการฟงแตเสยงจรง ความ
ิ
่
่
้
สูญแหงสภาวะของตน
่
์
้
ฉะนนความสาเรจในวิสยที่เปนอนุตตระได เพราะถาประสาทไมบรสุทธก็ไมมีทางที ่
ิ
่
่
ิ
ั
ั
็
้
็
้
้
่
้
้
จะบรรลุมรรคผลได เราตองท าใหประสาทหู ประสาทตาสะอาดไมหวันไหว ตาม
่
์
้
้
้
็
ภาวะสมผัสที่มากระทบการปฏิบัติตองใหเปนไปตามธรรมชาติแลวาตุ 4 ขันธ 5 ก็
ั
้
่
็
ิ
์
จะสะอาดเองไมดับสูญและสมบูรณในความเปนธาตุที่แทจรง
163
164
ปางที่ 81
งัน สต ติน ตู
ิ
้
ั
์
ิ
ิ
ั
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ไดทรงแสดงกิรยาอาการบรรยายใหสรรพสตวได ้
้
์
้
มองเหน พระกิรยาอาการชูน้วมือทังหา ความแปลกปลอมที่แปลงปลอม
้
ิ
ิ
็
ในการดมกลิ่นตางๆ ของประสาทสมผัสทางจมูก ซงฐานเดิมสภาวะเปนศูนย
ั
่
์
่
็
ึ
ิ
ความหมายของพระคาถา งัน สต ติน ตู
็
งัน หมำยถง กำรน ำให้เกิด เปนปฐมบทแห่งธำรณ
ึ
ี
สต ตน ตู หมำยถง ควำมส ำเรจของธำตแห่งตน เปนจดศูนย์รวมของกำรปฏบัต ิ
ึ
็
ิ
็
ิ
ุ
ิ
ุ
ิ
ึ
ื
ึ
ธรรม คอกำรปฏบัตธรรมจะต้องละกำรดมของจมูก จงจะเข้ำถงควำมบรสทธ ิ์
ุ
ิ
ิ
่
์
้
้
ี
้
ิ
มนตพระคาถาบทน้ เมื่อรวมเขาดวยกัน ยอมหมายถึง การปฏบัติดูลมหายใจ เขา-
้
้
่
ิ
ออกในทุกขณะจิตการปฏบัติจะตองมีจิตสงบ ใหการหายใจสม าเสมอจากหยาบถึง
ึ
่
้
่
่
่
ื
่
่
่
้
ิ
ละเอียด ดวยความเปนสมาธสงบนงอยางตอเนองสม าเสมอ จนกระทังไมรูสกวามี
ิ
็
่
ลมหายใจ
็
์
เพื่อใหสรรพสตวเหนความปลอมแปลง
ั
้
่
ในการดมกลินของประสาทสมผัสทางจมูก ซงมาจากภายนอก
ั
ึ่
่
สารวมจมูกดมกลิน ไมปรุงแตงไปตามทีจมูกดม รูถึงสภาวะซงรากมูลของสภาวะ
ึ
่
่
่
้
่
่
็
้
ั
นนเปนสูญเพือเปนไปในการเขาสูความบรสุทธ เปนธรรมชาติของสภาวะเดิม
้
ิ
็
็
่
ิ
์
้
่
รูถึงความปลอมแปลงหลอกลวงของกลินสมผัส ใหมองเปนเพียงสงไมยังยืน แลวใน
้
่
ั
้
็
่
ิ
่
้
็
้
ทีสุดก็จะสามารถเขาถึงสภาวะเดิมของตนมีความเปนสูญ สูทางสาเรจมรรคผลได
็
่
่
165
166
ปางที่ 82
มัน ตอ ลา
ั
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ไดทรงแสดงกิรยาอาการบรรยาย
ิ
์
้
ิ
เรอง ลิ้น เพื่อปลอยละสมผัสในการลิ้มรสชาติตาง ๆ รูปลักษณะปรากฏใหเหน
ั
ื่
่
่
้
็
์
้
์
้
ั
ิ
ั
็
็
พระกิรยาอาการรูปชูพระหตถ เพื่อใหสรรพสตวทังหลายมองเหนเปนการประกาศวา
่
่
็
่
่
็
ใหละการลิ้มรสดวยลิ้นทีสมผัสติดใจ ใหมองเปนเพียงสงไมยังยืนเปนศูนย
์
่
้
้
ิ
ั
้
้
แลวในทีสุดก็จะสามารถเขาสูทางสาเรจมรรคผลได ้
่
็
้
่
ความหมายของพระคาถา มัน ตอ ลา
ี
่
ิ
ิ
ิ
ิ
่
ึ
มัน ตอ ลำ หมำยถง ผู้ปฏบัตต้องปล่อยละล้นประสำท เพือตัดกิเลสทต้องล้ม
ิ
ิ
ิ
ิ
ลองรสชำตอยู่ตลอดเวลำ ต้องขจัดกำรตดใจในกำรล้มรส อย่ำให้เข้ำมำสัมผัสกับล้น
ึ
ี
จตใจจงจะมสะอำดบรสทธ ิ์
ิ
ิ
ุ
ั
พระโพธสตว บรรยาย เรองลิ้นประสาทไปชมรส เพื่อปลอยละสมผัสในการลิ้ม
ั
ิ
ื่
ิ
์
่
็
่
่
้
์
็
ั
รสชาติตางๆ เพื่อใหสรรพสตวทังหลายมอง เหนเปนการประกาศวา
้
้
็
้
ใหละการลิ้มรสดวยลิ้นที่สมผัสติดใจ รูถึงวาเปนการปลอมแปลง
่
ั
้
้
่
ประสาทสมผัสในการลิ้มรสชาติตางๆ จะท าใหจิตใจไขวเขวติดใจเกิดกิเลสตามมา
ั
้
้
้
้
้
ั
จะตองตัดปญหาในดานของรสที่ลิ้นไดไปเที่ยวสมผัสเขาเที่ยวไปชมตลอดเวลา
ิ
ั
ั
ึ
สารวมลิ้นรบรส ไมปรุงแตงไปตามรสทีลิ้นรบ รูถึงสภาวะซงรากมูลของสภาวะนน
้
่
้
ั
่
ั
่
่
เปนสูญ เพือเปนไปในการเขาสูความบรสุทธ เปนธรรมชาติของสภาวะเดิม
ิ
ิ
์
็
้
่
็
็
่
่
ั
่
็
็
้
้
รูถึงความปลอมแปลงหลอกลวงของรสสมผัส ใหมองเปนเพียงสงไมยังยืนเปนสูญ
ิ
่
้
้
แลวในทีสุดก็จะสามารถเขาถึงสภาวะของตนมีความเปนสูญ ทางสาเรจมรรคผลได
้
็
็
่
167
168
ปางที่ 83
่
ั
ปด ถอ เย
็
์
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตวปรากฏพระวรกายเปนรูป
ิ
ั
ิ
ั
พระโพธสตวปางถือบาตร บรรยายถึงความหลงในกายสมผัส เกิดความโลภมักมาก
ั
์
่
์
ื
้
ั
ั
ั
่
็
้
ในการสมผัสรางกาย สอนใหสรรพสตวละจากกายสมผัส ใหเหนวารูปกายและเรอน
ิ
ั
็
่
ิ่
็
้
ิ
้
้
รางที่จรงแลวนนเปนสงที่หลอกลวงใจ เปนภาพลวงตาทังสน
้
ั
่
ความหมายของพระคาถา ปด ถอ เย
็
ั
ี
ึ
ึ
ปด ถ่อ เย หมำยถง ควำมต้องใจ ถูกใจและมควำมต้องกำรทหมำยถงร่ำงกำยเปน
ี่
ุ
ื
ี
ี
ึ
่
เหตมูลฐำนแห่งควำมทกข์ เมอไม่มร่ำงกำยน้แล้ว สำมำรถเข้ำถงธรรมได้
ุ
์
้
ั
ิ
พระโพธสตวทรงชเหตุและไดบรรยายใหสรรพสตวโลกเกี่ยวกับความหลงในกาย
ี
้
์
้
ั
่
็
ั
ประสาทและกายสมผัส ถึงเกิดเปนความโลภมักมากในการสมผัสแตะตองรางกาย
้
ั
เพื่อสอนใหสรรพสตวละจากกายประสาทและกายสมผัส สารวมกายถูกตองสมผัส
้
ั
ั
์
ั
้
้
่
่
ไมปรุงแตงไปตามทีรางกายถูกตองสมผัส ใหเหนวารูปกายและเรอนรางทีจรงแลว
่
่
็
้
่
่
ิ
ื
้
ั
่
็
ิ่
้
ั
้
นนเปนสงที่หลอกลวงใจ เปนภาพลวงตาทังนน
้
็
ั
์
คาถาบทน้ เปนความกรุณาของพระโพธสตว
ั
ี
ิ
็
ี
ี
ี
ั
์
ชใหสรรพสตวรบหลีกหนจากความหลงรางกายนน
ั
้
่
้
้
ที่จรงเปนภาพลวง เปนการผสมของดินน้าลมไฟ ไมมีตัวตนที่แทจรง
ิ
ิ
็
้
็
่
้
์
่
เปนเพียงสภาวะแหงตนของธาตุ 4 ขันธทัง 5
็
่
่
้
ในความไมมีตัวตนที่แทจรง สภาวะแหงตนเปนสูญ
็
ิ
้
้
ิ่
ั
้
เพื่อท าจิตใหสงบนงกับสภาวะนน ผูปฏบัติควรสงวรใหมาก
้
ั
ิ
169
170
ปางที่ 84
่
ซอ ผอ ฮอ
Suo Po He
ั
ิ
พระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว ปรากฏพระวรกายเปนรูป
์
็
ั
์
พระโพธสตวทรงเหาะในกลางอากาศ สวนพระหตถทรงถือ ธวัชดามยาว
ิ
้
่
์
ั
้
ื
่
ั่
ื่
ทรงเหาะไปเพื่อแนะนาสงสอนธรรม มีเน้อหาสาระเขาใจงายในเรองของจิตให ้
ิ
่
มองเหนในสภาวะไมใชตัวตน วาอะไรจรงและไมจรง เมือจิตสมผัส ก าหนดรบรู ้
่
่
ั
็
่
ิ
่
ั
่
้
็
์
่
่
ิ
เขาถึงสภาวะแหงตน จึงมองทุกสงเปนสูญ พระองคทรงมีจิตใจเมตตากรุณาอยาง
เปยมลน ในการชวยชทางสวางพนทุกขไดอยางแทจรง
้
้
้
ี
่
่
์
้
้
ิ
่
่
ี
ความหมายของพระคาถา ซอ ผอ ฮอ
่
ิ
ซอ ผ่อ ฮอ หมำยถง จบแล้วโดยบรบูรณ ์
ึ
็
ธรรมเหล่ำใดจะส ำเรจได้ด้วยอำศัยใจเปนประธำน จงเว้นจำกกำรท ำบำป เร่งบ ำเพ็ญ
็
่
ิ
ื
ี
กุศล ช ำระจตให้สะอำดหมดจด นคอพระธรรมของพระพุทธเจ้ำทั้งหลำย
ิ
็
่
้
่
่
่
ใหมองเหนในสภาวะไมใชตัวตน วาอะไรจรงและไมจรง
ิ
ั
ั
่
้
้
เมื่อจิตสมผัส ก าหนดรบรูเขาถึงสภาวะแหงตน
จึงมองทุกสงเปนสูญ
ิ
็
่
่
์
่
ี
้
พระองคทรงมีจิตใจเมตตากรุณาอยางเปยมลน
ในการชวยชทางสวางพนทุกขไดอยางแทจรง
่
่
้
้
่
้
์
ี
้
ิ
์
ิ
เปนคาถาอันศกสทธ ทรงมีอานุภาพในการท าจิตใจใหสะอาด
ั
ิ
็
้
สอนใหเรารูระบบของจิต
้
้
้
สอนใหเรารูวาตองมีจิตจดจออยูกับธรรมตลอดเวลา
่
้
่
่
้
171
์
ิ
้
้
้
ั
ถาผูปฏบัติสารวมใจรบรูอารมณ
้
่
์
่
่
่
ไมยึดมันถือมัน ไมปรุงแตงใหเกิดอารมณใดๆ ทีใจรบรู
่
่
ั
้
์
ิ
์
ี
ิ
รวมเรยกวา สารวมอินทรย 6 ให ตา หู จมูก ลิ้น กายและใจบรสุทธ
้
ี
่
่
้
์
้
ก็จะสามารถขามหวงทุกขทังมวลโดยปลอดภัย
์
็
ั
ิ
บรรลุเปนโพธสตวอันบรสุทธ ิ
ิ
์
่
้
เพราะคาถาของพระพุทธเจา พระองคตรสวา
ั
์
เวนจากการท าบาป บ าเพ็ญสรรพกุศล ชาระจิตใหสะอาดหมดจด
้
้
ิ่
้
ความสะอาดจะตองเรมจากในใจ
ั
้
ั
ั
ิ
์
้
้
ฉะนนเรมดวยความสตยจรง จบลงดวยความสตยจรง
ิ่
ิ
์
ี
่
นคือพระธรรมของพระพุทธเจาทังหลาย
้
้
่
้
่
ทรงใชสงสอน กาวพนทุกข สูแดนสงบยิงดวยธรรม
์
้
ั่
้
้
ตองคนหาในความเกิดใหบังเกิดขึ้นมาจากความแตกดับ
้
้
้
้
้
่
้
คนหาในความชนะใหเกิดขึ้นในความพายแพ
์
้
้
คนหาความสุขใหเกิดขึ้นมาจากความทุกข
้
้
คนหาความสบายใหเกิดขึ้นมาจากความล าบาก
่
เพียงเทาน้ก็สามารถสาเรจในคุณธรรมทังหมด
ี
้
็
ไมกังวลในการเกิด แก เจ็บ ตาย
่
่
้
็
้
เปนหนทางกาวเขาถึงความจรง
ิ
172
์
มหากรุณาธารณีสูตรและมนตมหากรุณาธารณี
ั
่
มหากรุณาธารณี (สนสกฤต: महा करुणा धारनी, จีน: 大悲咒: ธารณีวา
ื
ิ
่
่
ั
้
ดวยความกรุณาอันยิงใหญ) หรอ นลกัณฐธารณี (สนสกฤต: नीलकण्ठ धारनी :
ื
้
ิ
ี
็
่
้
่
ธารณีวาดวยพระผูมีศอสนล) เปนชอบทสวด (ธารณี) สาคัญในพระพุทธศาสนามหายาน
ั
เปนธารณีประจ าองคพระอวโลกิเตศวร ปางสหสภุชสหสเนตร (พันหตถพันเนตร) ใน
์
็
์
ั
ั
ี
่
้
่
่
ภาษาจีนเรยกธารณีน้วา ไตปุ ่ ยจิว (จีน: 大悲咒; พินอิน: Dàbēi zhòu; "ตาเปย
ี
โจว" ตามสาเนยงจีนกลาง) มีตนก าเนดจากพระสูตรมหายานภาษาสนสกฤตของอินเดีย พระ
ั
้
ิ
้
ี
็
้
์
ภควธรรมเถระชาวอินเดียนาเขาไปแปลในประเทศจีนสมัยราชวงศถัง และมีฉบับแปลเปน
ภาษาทิเบตดวย
้
์
่
่
มหากรุณาธารณีเปนมนตรอันเกิดจากความเมตตากรุณาอันยิงใหญของพระอวโลกิเต
็
่
่
์
ศวร ทีมีตอสรรพสตวทีตกทุกขในโลก ในคัมภีรกลาววาธารณีน้มีชอตาง ๆ กัน เชน มหาไว
่
่
์
ี
ื่
์
่
่
่
ั
ปุลยสมปุรณธารณี, อกิญจนมหากรุณาธารณี, อายุวัฒนธารณี, วิกรมอุตตรภูมิธารณี,
ั
์
ึ่
มโนมัยอิศวรธารณี เปนตน อักษรหนงตัวและประโยคหนงในบทธารณีมนตรน้ ลวนขยาย
้
ึ่
็
้
ี
เปนอรรถธรรม อันจะนาเขาถึงพระสมมาสมโพธญาณในประเทศไทยธารณีสูตรฉบับน้ได ้
้
ี
็
ิ
ั
ั
์
ี
้
้
้
แปลโดยหลวงจีนคณาจีนพรต (เย็นบุญ) เจาอาวาสวัดทิพยวารวิหาร แขวงบานหมอ เขตพระ
ั
นคร กรุงเทพ ในคัมภีรสนสกฤตของมหายานคือคัมภีร "สหสภุชสหสเนตรอวโลกิเตศวรโพธ ิ
์
์
ั
ั
้
ั
ั
สตวไวปุลยสมปุรณอกิญจนมหากรุณาจิตธารณีสูตรมหากรุณามนตระ" นาเขาไปแปลในจีน
่
์
ั
ิ
่
้
โดยพระภควธรรม ชาวอินเดีย ในสมัยราชวงศถัง ไดกลาวถึงบทสวดธารณีแหงพระโพธสตว ์
่
์
ิ
์
ั
ิ
้
์
ิ
อวโลกิเตศวร คือ มหากรุณาหฤทัยธารณี อันจะยังอานสงสความศกดิสทธใหบังเกิดขึ้นแกผู ้
สวดนานปการ
ั
173
้
่
ั
่
ั
ื
่
่
เน้อหากลาวถึงเมือครงทีพระศากยมุนสมมาสมพุทธเจาประทับอยู ณ โปตาลกะ
้
ี
ั
์
บรรพต ในกาลนน พระอวโลกิเตศวรโพธสตวไดขอพุทธานุญาตแสดงธารณีมนตรอัน
ั
้
ั
ิ
้
์
้
ี
ั
็
์
่
้
์
ศกดิสทธไว เพือเปนทีพึงแกสรรพสตว ซงธารณีน้ยอนไปในครงกาลสมัยของพระพุทธเจา
ิ
้
์
ึ
่
ั
่
่
ั
่
้
ิ
ั
ั
์
้
ั
่
ี
้
้
นามวาพระสหสประภาศานติสถิตยตถาคต พระพุทธเจาพระองคนนไดตรสธารณีน้แก ่
่
ี
้
ั
์
พระอวโลกิเตศวร และตรสวา "สาธุ บุรุษ เมือเธอไดหฤทัยธารณีน้ จงสรางประโยชนสุข
่
้
่
่
สาราญแกสตวทังหลายในกษายกัลป ์ แหงอนาคตกาลโดยทัวถึง" ตามเน้อความของพระสูตร
้
ื
่
์
ั
ไดกลาววา ในขณะนน เมือพระอวโลกิเตศวรโพธสตวไดสดับมนตรน้แลว ก็ไดบรรลุถึงภูมิที ่
้
้
่
ี
่
่
ั
ั
้
ิ
้
้
์
์
้
้
8 แหงพระโพธสตวเจา จึงไดตังปณิธานวา "ในอนาคตกาล หากขาพเจาสามารถยัง
้
้
่
ั
์
้
ิ
่
้
่
์
้
์
้
ั
ั
้
ประโยชนสุขแกสรรพสตวได ขอใหขาพเจามีพันเนตรพันหตถในบัดดล"
์
่
ั
์
ี
้
เมื่อทานตังปณิธานดังน้แลว พลันก็บังเกิดมีพันหัตถพันเนตรขึ้นทันที และเพลานน
้
้
่
่
้
่
พื้นมหาพสุธาดลทัวทศทิศก็ไหวสะเทือนเลือนลัน พระพุทธเจาทังปวงในทศทิศก็เปลงแสง
้
่
์
่
ั
่
้
่
โอภาสเรองรองมาตองวรกายแหงพระโพธสตว และฉายรศมีไปยังโลกธาตุตาง ๆ อยาง
ื
ั
ิ
่
่
้
ั
์
ั
่
ปราศจากขอบเขต พระสมมาสมพุทธเจาไดตรสแกพระอานนทวา เนองจากปณิธานอัน
้
ั
ื
์
์
ั
่
่
ิ
ี
่
ยิงใหญของพระโพธสตว หากเหลามนุษยและทวยเทพตังจิตสวดธารณีมนตรน้คืนละ 7 จบ
้
์
ั
์
่
ก็จะดับมหนตโทษจ านวนรอยพันหมืนลานกัลป ์ ได หากเหลามนุษยทวยเทพสวดคาถามหา
้
้
่
้
้
ั
้
กรุณาธารณีน้ เมือใกลชวิตดับ พระพุทธเจาทัง 10 ทิศจะยืนพระกรมารบใหไปอุบัติในพุทธ
ี
่
้
้
่
ี
้
้
่
เกษตรทุกแหงในพระสูตรกลาววา ผูทีตังใจสวดมหากรุณามนตรน้ดวยจิตศรทธาตังมัน จะ
ั
่
่
้
ี
่
์
่
้
ประกอบดวยอานสงสดังน้
์
ิ
ี
้
174
์
ิ
อานสงสของการสวดธารณีสูตร
้
้
่
่
่
่
้
์
ี
้
ั
้
ในพระสูตรกลาววา ผูทีตังใจสวดมหากรุณามนตรน้ดวยจิตศรทธาตังมัน จะประกอบดวย
ิ
็
์
อานสงสเปนกุศล ๑๕ ประการคือ
่
่
๑.ทีทีเกิดจะพบแตกุศล ๕ ประการ
่
๒.ไดเกิดในประเทศกุศล
้
๓.พบแตยามดี
่
๔.พบแตมิตรดี
่
้
๕.รางกายประกอบดวยอินทรยพรอมมูล
์
้
ี
่
๖.จิตเปนธรรมโดยสมบูรณ ์
็
่
๗.ไมผิดศล
ี
๘.ญาติบรวารมีความกตัญญู ปรองดองกัน มีสามัคคีกัน
ิ
์
ั
๙.ทรพยสมบัติ โภคทรพยมีความสมบูรณครบถวน
ั
้
์
์
๑๐.มีผูเคารพและใหความชวยเหลือเสมอ
้
่
้
๑๑.ทรพยสนทีมีอยูไมมีใครมาปลนชง
ั
์
่
ิ
ิ
่
้
่
๑๒.คิดปรารถนาสงใดจะไดสมความปรารถนา
ิ่
้
ั
่
่
้
ั
๑๓.ทวยเทพ นาค ใหความปกปกรกษาอยูทุกเมือ
้
่
่
้
้
้
้
๑๔.เกิดในทีทีไดเฝาพระพุทธเจา ไดฟงธรรมของพระพุทธเจา
ั
้
้
๑๕.สามารถเขาถึงอรรถแหงพระธรรมที่ไดสดับ
่
175
้
์
ิ
้
ี
นอกจากน้ยังมีอานสงสท าใหไมตองทุกขมรณะดวยเหตุ ๑๕ ประการ คือ
่
้
้
้
้
่
้
๑.ไมตองมรณะดวยความอดอยากขนแคน
่
้
่
๒.ไมตองมรณะดวยการใสขื่อคา กักขัง และเฆี่ยนโบย
้
่
๓.ไมตองมรณะดวยศตรูจองเวร
ั
้
้
้
๔.ไมตองมรณะดวยการศกสงคราม
้
ึ
่
้
๕.ไมตองมรณะดวยสตวขบกิน
้
่
ั
์
้
่
้
๖.ไมตองมรณะดวยงูพิษ แมลงปอง
่
่
๗.ไมตองมรณะดวยการจมน้า ไฟไหม
้
้
้
๘.ไมตองมรณะดวยยาพิษ
่
้
้
้
๙.ไมตองมรณะดวยแมลงรายขบกัด
้
่
้
้
้
่
๑๐.ไมมรณะดวยจิตใจวาวุน เปนบา
็
่
้
่
้
๑๑.ไมมรณะดวยตกจากภูเขา ตนไม และหนาผาสูง
้
้
้
่
ี
่
้
๑๒.ไมตองมรณะดวยการสาปแชงภูตผีปศาจ
้
้
้
๑๓.ไมตองมรณะเพราะเทพรายและผีสาง
่
ื
๑๔.ไมตองมรณะดวยโรครายเร้อรง
่
ั
้
้
้
่
้
้
๑๕.ไมตองมรณะดวยความไมประมาณตนจนเกินฐานะ
่
176
ี
็
่
่
่
ั
บทสวดน้เปนทีนบถือและสวดบูชาพระอวโลกิเตศวร (กวนอิม) กันอยูทัวไปในหมู ่
พุทธศาสนกชน ตังแตอินเดียเหนอ เนปาล ทิเบต ไปจนถึงจีน ญีปุ ่ น และเกาหลี มหากรุณา
ิ
่
่
้
ื
์
ี
็
์
ธารณีน้เปนบทสวดของพระอวโลกิเตศวรปางพันหตถพันเนตร ในคัมภีรระบุวา
่
ั
ั
็
ื
่
่
้
่
่
ผูทีเลือมใสถวายสกการะตอพระอวโลกิเตศวรอยูเปนเนองนตย ตังใจสวดสรรเสรญ
ิ
์
ิ
้
ิ
้
่
พระนาม ยอมจะถึงพรอมในกุศลทังปวง สามารถยังวิบากกรรมอันมิมีประมาณใหสนสูญ
้
้
้
์
ื
่
้
ั
์
ครนเมือวายชนมจะไปอุบัติ ณ สุขาวดีโลกธาตุแหงองคพระอมิตภพุทธเจา ตามเน้อความของ
่
้
ั
พระสูตรไดกลาววา ในขณะนน เมือพระอวโลกิเตศวรโพธสตวไดสดับมนตรน้แลว ก็ไดบรรลุ
้
่
้
่
้
์
้
์
ั
ิ
ี
่
้
์
้
ั
่
้
้
ิ
่
่
ถึงภูมิที ๘ แหงพระโพธสตวเจา จึงไดตังปณิธานวา
้
้
์
้
่
“ในอนาคตกาล หากขาพเจาสามารถยังประโยชนสุขแกสรรพสตวได ขอใหขาพเจามี
์
้
ั
้
้
้
้
์
่
ี
์
พันเนตรพันหัตถในบัดดล” เมื่อทานตังปณิธานดังน้แลว พลันก็บังเกิดมีพันหัสถพันเนตร
่
ขึ้นทันที และเพลานนพื้นมหาพสุธาดลทัวทศทิศก็ไหวสะเทือนเลือนลัน พระพุทธเจาทังปวง
่
้
ั
้
่
้
้
่
ั
ื
ั
ิ
ในทศทิศก็เปลงแสงโอภาสเรองรองมาตองวรกายแหงพระโพธสตว และฉายรศมีไปยัง
์
่
โลกธาตุตาง ๆ อยางปราศจากขอบเขต
่
่
่
พระสมมาสมพุทธเจาไดตรสแกพระอานนทวา เนองจากปณิธานอันยิ่งใหญของพระ
้
้
ั
ั
่
่
ื่
์
ั
์
ิ
โพธสตว หากเหลามนุษยและทวยเทพ ตังจิตสวดมหากรุณาธารณี มนตรน้คืนละ ๗ จบ ก็จะ
ั
์
์
้
ี
่
ดับมหนตโทษจ านวนรอยพันหมืนลานกัลป ์ ได หากเหลามนุษยทวยเทพสวดคาถามหากรุณา
้
์
้
่
่
ั
้
ธารณีน้ เมือใกลชวิตดับ พระพุทธเจาทัง ๑๐ ทิศจะยื่นพระกรมารบใหไปอุบัติในพุทธเกษตร
้
ี
ี
้
่
้
้
ั
ทุกแหง
่
177
ั
ิ
์
ั
์
จากเรองราวในพระสูตรน้ท าใหเกิดการสรางรูปพระโพธสตวพันหสถพันเนตร อัน
ี
้
้
ื
่
ั
แสดงถึงการทอดทัศนาเล็งเหนทัวโลกธาตุและพันหสตแสดงถึงอ านาจในการชวยเหลือสรรพ
์
่
่
็
์
ั
ี
์
ั
้
้
็
้
สตวใหพนทุกข บทสวดในพระสูตรน้เปนภาษาสนสกฤตผสมภาษาทองถิ่นโบราณในอินเดีย
ทีหลงเหลือมาในปจจุบันมีหลายฉบับทีไมตรงกัน ทังในฉบับทิเบต ฉบับจีนซงมีทังของพระ
้
่
ึ
ั
่
่
่
้
้
ภควธรรม พระอโมฆวัชระ ฯลฯ ตอมาไดมีการคนควาและปรบปรุงใหถูกตองตามหลัก
ั
้
้
่
้
้
็
่
์
ไวยากรณโดย Dr.Lokesh Chandra และตีพิมพเผยแพรเมื่อ ค.ศ.1988 เปน
์
ิ
์
บทสวดสาคัญประจ าองคพระอวโลกิเตศวรโพธสตวทีพุทธศาสนกชนมหายานสวดกันอยู ่
์
ิ
่
ั
โดยทั่วไป
็
่
่
ั
ี
บทสวดน้เปนทีนบถือและสวดบูชาพระอวโลกิเตศวร กันอยูทัวไปในหมู ่
่
่
้
พุทธศาสนกชน ตังแตอินเดียเหนอ เนปาล ทิเบต ไปจนถึงจีน ญีปุ ่ น และเกาหลี มหากรุณา
ื
ิ
่
็
ี
์
่
ธารณีน้เปนบทสวดของพระอวโลกิเตศวรปางพันหตถพันเนตร ในคัมภีรระบุวา ผูทีเลือมใส
้
่
่
์
ั
็
่
ิ
่
ิ
ถวายสกการะตอพระอวโลกิเตศวรอยูเปนเนองนตย ตังใจสวดสรรเสรญพระนาม ยอมจะถึง
ื
์
่
้
ั
่
ั
้
พรอมในกุศลทังปวง สามารถยังวิบากกรรมอันมิมีประมาณใหสนสูญ ครนเมือวายชนมจะไป
ิ
์
้
้
้
้
อุบัติ ณ สุขาวดีโลกธาตุแหงองคพระอมิตาภพุทธ
่
์
้
อางอิงจาก
https://palungjit.org/threads/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9A%
E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C-
%E0%B8%95%E0%B8%AD%E0%B8%99-
%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%B2%E0
%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B8%B5%E0%B8%AA%E0%B8%B9%E0%B8%95%E0%B8
%A3-
%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0
%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8
%A8%E0%B8%A9%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B2
%E0%B8%A3.614517/
https://84awatarn.wordpress.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B
8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C/
178
มหากรุณาธารณีสูตร ฉบับสวดมนตแปล
์
ิ
ี
ี
์
รจนาและเรยบเรยงโดย อาจารยอรยะ สุพรรณเภษัช
ปางที่ 1
่
นา มอ ฮอ ลา ตัน นอ ตอ ลา เหย เย
ั
้
้
ขอนอบนอมนมัสการพระไตรรตนทังสาม
์
ปางที่ 2
นา มอ ออ หลี่ เย
ขอนอบนอมมนสการองคอรยะซงละบาปและอกุศลธรรมแลว
์
ิ
ึ
ั
่
้
้
ปางที่ 3
่
ผอ ลู กิด ตี ซอ ปอ ลา เย
์
ั
์
้
่
ิ
ขอนอมนอบคารวะตอองคพระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว
ั
์
่
้
ผูเพงเสยงแหงสรรพสตวผูยาก
ี
้
่
ปางที่ 4
่
่
ผู ที สต ตอ ผอ เย
ั
้
ี
ขอนอบนอมคารวะตอผูใหความตรสรูแกทุกชวิต
้
ั
่
้
่
้
179
ปางที่ 5
่
หมอ ฮอ สต ตอ ผอ เย
่
ั
์
้
้
ั
่
่
ขอนอมคารวะตอผูกลาหาญ แหงสรรพสตวในโลกที่กวางใหญ
้
้
่
ปางที่ 6
หมอ ฮอ เกีย ลู หน เกีย เย
ี่
่
ี
ขอนอมคารวะตอผูมมหากรุณาจต
่
้
้
ิ
ปางที่ 7
งัน
ความนอบนอม อันเปนมารดาแหงธารณีทังหลาย
้
้
่
็
ปางที่ 8
ั
สต พัน ลา ฮว อี
ั
ี
ิ
้
ิ
องคอรยะ ผูมจตอิสระ
์
180
ปางที่ 9
ซู ตัน นอ ตัน เซ
การปฏิบติธรรม ตองถือความสตยเปนพื้นฐาน
้
็
ั
ั
์
้
็
และใชความเพียรเปนเครองมือ
่
ปางที่ 10
ิ
่
นา มอ สด กิด ลี ตอ อี หมง ออ ลี เย
ิ
่
ั
ึ่
้
่
ขอนอบนอมตอผูปฏบติธรรมทีซงมีความเพียรและมีจิตมั่นคง
้
้
้
ั
ั
ิ
่
์
้
ยอมไดรบความคุมครองจากพระพุทธเจาและพระโพธสตว
ปางที่ 11
่
ผอ ลู กิต ตี สด ฮู ลา เลง ถอ พอ
่
ิ
ิ
ั
้
้
้
ผูปฏบติตองมีจิตอิสระตังจิตในมรรคผล
ปางที่ 12
นา มอ นอ ลา กิน ซ
ี
่
่
้
ขอนอบนอมตอพระโพธสตว ผูใหคุมครองตอผูประพฤติธรรม
้
้
้
้
์
ิ
ั
181
ปางที่ 13
่
ี
ซ หลี่ หมอ ฮอ พัน ตอ ซา แม
ี
่
้
ั
ผูมความเมตตากรุณายอมจะไดรบการคุมครอง
้
้
ื
์
้
์
ั
ิ
จากองคพระโพธสตวและเทพเจาเบ้องบน
ปางที่ 14
่
ั
สต ผอ ออ ทอ เตา ซ พง
ี
็
ั
้
พระสทธรรมอันบรสุทธ เสมอภาคไรขอบเขต ทุกคนรูเหนได
ิ
์
ิ
้
้
ปางที่ 15
ออ ซ เย็น
ี
้
ั
ผูทีท าความดียอมไดรบค าชมเชย
้
่
่
้
ผูท าบาปจะตองสานกและขอขมาโทษ
ึ
้
ปางที่ 16
่
สัต ผอ สด ตอ นอ มอ ผอ สด ตอ นอ มอ ผอ เค
่
ั
ั
่
้
่
อันพระพุทธธรรมยิ่งใหญไรขอบเขตไรการแบงแยก
้
่
่
้
ระงับภยันตรายแกผูปฏบติธรรม
ั
ิ
182
ปางที่ 17
มอ ฮว เตอ เตา
ั
ั่
ั
็
สงสอนตักเตือนใหถือพระสทธรรมเปนสูญ
้
ปางที่ 18
ตัน จิต ทอ
ั
้
ผูปฏบติตองก าจดความคิดทางโลกไมใหเกิดในดวงจต
ิ
้
่
ั
ิ
้
ปางที่ 19
งัน ออ ผอ ลู ซ
่
ี
่
้
้
ขอนอบนอมตอผูเด็ดเดี่ยวในธรรม
ปางที่ 20
ลู เกีย ตี
์
ั
ิ
้
ิ
ใหรกษาความมีกุศลจตสะอาดบรสุทธ ิ
ปางที่ 21
เกีย ลอ ตี
์
ี
่
จงมความกรุณาชวยปลดเปลื้องความทุกข
183
ปางที่ 22
อี ซ ลี
ี
เวนจากความเหนผิดมัวเมาในความโลภ
้
็
ปางที่ 23
ั
่
่
หมอ ฮอ ผู ที สต ตอ
พิจารณาอนตตาธรรมเหนโลกน้เปนความสูญ
็
ี
็
ั
ปางที่ 24
ั
ั
สต พอ สต พอ
พระพุทธธรรมมความเสมอภาค
ี
ปางที่ 25
มอ ลา มอ ลา
ผูปฏบติธรรมตองปฏิบติจิตใหใสสะอาดบรสุทธ
ิ
์
้
ั
ิ
้
้
ั
ิ
ปางที่ 26
ี
ี
มอ ซ มอ ซ ลี ทอ ยิน
จงเรงปฎิบติธรรมสูจิตอิสระและบรรลุมรรคผล
่
่
ั
184
ปางที่ 27
กี ลู กี ลู กิด มง
ทวยเทพคุมครองผูหมนสรางสมบุญบารม ี
้
้
้
่
ั
ปางที่ 28
ตู ลู ตู ลูฟา เซ เย ตี
์
ิ
ิ
ิ
่
มีจิตใจที่สะอาดบรสุทธ สงบ มีสมาธ พบความวาง
สามารถดับกิเลสขามพนสงสารวัฏได
้
้
้
ั
ปางที่ 29
หมอ ฮอ ฮว เซ เย ตี
่
ั
้
่
ระงับความเกิดดับแหงกิเลสได ภัยพิบติตางๆ ไมแผวพาน
้
่
่
ั
ปางที่ 30
ทอ ลา ทอ ลา
้
้
ิ
ด ารงจตใหไรฝุ ่ นละอองและความขุนมว
ั
่
่
่
มุงสูแสงสวางแหงสภาวะเดิม
่
่
185
ปางที่ 31
ตี ลี น
ี
ั
ั
้
่
หญิงสาวที่ปฏิบติธรรมดีแลวยอมไดรบความคุมครอง
้
้
ปางที่ 32
สด ฮู ลา เย
ิ
์
ึ
้
การเขาถงความสมบูรณเพียบพรอมแหงสภาวะเดิม
้
่
จะมีความสวางปรากฏในกายของตน
่
ปางที่ 33
เจ ลา เจ ลา
ี
้
้
เสยงแหงพรหม เสยงค ารามของฟา ปลุกจตตืนรูธรรม
่
่
ิ
ี
ปางที่ 34
มอ มอ ฮว มอ ลา
ั
ั
การปฏิบติในสงที่ดี ท าลายความกังวลแหงภยันตรายได
้
่
ิ่
186
ปางที่ 35
หมก ตี ลี
์
่
ท าจิตสะอาดผองใส สาธยายมนตดวยความสงบ
้
์
จะบรรลุพุทธผลหลุดพนทุกข
้
ปางที่ 36
อี ซ อี ซ
ี
ี
ั
ั
ิ
่
ิ
ทุกสรรพสงด าเนนไปตามเหตุปจจย
ปางที่ 37
ิ
ิ
สด นอ สด นอ
มีมหาสติและมีปฏิภาณ ด ารงจตมนเขาสูมหาปญญา
ั
่
้
่
ั
ิ
ปางที่ 38
ออ ลา ซน ฮู ลา เซ ลี
ั
จงเขาถึงอิสระในธรรม เพื่อพระธรรมกายอันบรสุทธ ิ
้
ิ
์
187
ปางที่ 39
ั
ั
ฮว ซอ ฮวซน
ั
้
่
้
ิ
การตังอยูในขันติธรรม นาความสุขอันแทจรง
ปางที่ 40
ฮู ลา เซ เย
้
้
้
ิ
้
ผูปฏบติธรรมดวยความรอบรูดวยตนเอง
ั
เมื่อเขาถึงสภาวะดังเดิม ยอมสามารถละสงที่ยึดติดทังปวงได
้
ิ่
้
่
้
้
ปางที่ 41
ฮู ลู ฮู ลู มอ ลา
ิ
การบรรลุธรรมจะมีอภินหารตามใจปรารถนา
ปางที่ 42
ฮู ลู ฮู ลู ซ ลี
ี
็
ผูสาเรจมหามรรคการกระท าใดๆ ไรการยึดติด มีจิตอิสระ
้
้
188
ปางที่ 43
ซอ ลา ซอ ลา
ิ
ิ
ั
็
ี
ั
่
้
่
้
ึ
่
ผูปฏบติธรรมผูมุงมนมจตเปนหนงเดียว
ั
็
สกการะพระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตวเปนประจ า
์
ิ
ั
้
์
บารมีดลบนดาลใหพบพระองค
ั
ปางที่ 44
ิ
ิ
สด ลี สด ลี
ประกอบกุศลกรรม พาความสุขสมบูรณ
์
ปางที่ 45
ซู ลู ซู ลู
น้าอมฤตจากดวงจิตพระอวโลกิเตศวรมหาโพธสตว
ิ
์
ั
ชาระลางกายและจิตใหสุขสดชน
่
ื
้
้
ปางที่ 46
่
่
ผู ถี่ เย ผู ถี่ เย
ั
้
การตรสรูธรรมตองหมั่นพากเพียร
้
189
ปางที่ 47
ผู ถอ เย ผู ถอ เย
่
่
่
่
ิ
ั
้
ื
ผูปฏบติธรรมตองยึดถอความเมตตากรุณาเปนหลักสาคัญ
้
็
ปางที่ 48
มี ตี ลี เย
ิ
์
พระมหากรุณาขององคพระโพธสตว
ั
์
ิ
้
้
ั
ยังสรรพสตวใหเขาถึงโพธมรรค
์
ปางที่ 49
นอ ลา กิน ซ
ี
ตองเคารพและชวยกันรกษานกปราชญ
์
ั
ั
้
่
ปางที่ 50
ตี ลี สด น นอ
ี
ิ
การปฏิบติธรรมดวยจิตมั่นไมรอชา
้
ั
้
่
190
ปางที่ 51
่
ผอ เย มอ นอ
สงเสยงแหงปติสุข กองไปสบทิศ
่
่
ี
ิ
้
ิ
ปางที่ 52
ซอ ผอ ฮอ
่
่
มีความสงบไมเกิดดับ
ิ
้
ถาสรรพสงเขาถึงนพพาน โลกก็คือสุขาวดี
้
ิ่
ปางที่ 53
ิ
่
สด ถอ เย
ละวางทุกสรรพสง หลุดพนโดยงาย
ิ
่
่
้
ปางที่ 54
่
ซอ ผอ ฮอ
รูแจงในสทธรรม เหนแจงจรงเท็จ สาเรจมรรคผลไดโดยงาย
้
ิ
็
้
้
่
้
ั
็
191
ปางที่ 55
ิ
หมอ ฮอ สด ทอ เย
่
ั
ปฎิบติพุทธธรรมอันไพศาล บันดาลความสาเรจในพระพุทธผล
็
ปางที่ 56
่
ซอ ผอ ฮอ
ิ
์
์
ธารณีแหงพระโพธสตว ยังประโยชนใหหลุดพน
ั
่
้
้
ปางที่ 57
ิ
สด ทอ ยี อี
ยึดถอความวาง บรรลุมรรคผล
่
ื
ปางที่ 58
ิ
สด พัน ลา เย
ิ
์
ั
่
็
พระโพธสตวโปรดเหลาเทพี ใหสาเรจในธรรม
้
ปางที่ 59
่
ซอ ผอ ฮอ
สภาวธรรมมความสมบูรณ เปนอิสระ ไรขอบเขต
้
ี
์
็
192
ปางที่ 60
นอ ลา กิน ซ
ี
ั
ิ
์
่
พระโพธสตวโปรดหนยานเถระสูมหายานธรรม
ิ
ปางที่ 61
ซอ ผอ ฮอ
่
่
ความเมตตากรุณา ธารณีแหงมหายาน
ปางที่ 62
มอ ลา นอ ลา
็
้
สาเรจพุทธธรรม ดวยอนุตระธรรม
ปางที่ 63
่
ซอ ผอ ฮอ
พระโพธสตวเปดเผยมหามรรค มุงสูสภาวะเดิม
ิ
่
่
ั
ิ
์
193
ปางที่ 64
ิ
สด ลา เซง ออ หมก เค เย
์
ั
ิ
พระโพธสตวโปรดสตวโลกที่หลงผิด โลภครองจิตใจ
์
ั
้
็
โรครายทางจิตเกิดขึ้นเปนภัยคุกคาม
ปางที่ 65
ซอ ผอ ฮอ
่
โรคทางจิตเปนภัยคุกคาม มีธรรมเทานนที่จะรกษาได
ั
้
ั
็
่
้
ปางที่ 66
่
่
ซอ ผอ หมอ ฮอ ออ สด ถอ เย
ิ
่
ิ
้
์
ั
สรรพสตวบรรลุพระสมมาสมโพธ ไดเสมอภาคเทาเทียม
่
ั
ั
ปางที่ 67
ซอ ผอ ฮอ
่
เพือความสาเรจในพุทธภูม ใหมุงสูมหายานธรรม
่
่
็
ิ
่
้
194
ปางที่ 68
่
เจ กิด ลา ออ สด ถอ เย
ิ
วัชรธรรมจักร ปราบเหลามาร สาเรจธรรม
็
่
ปางที่ 69
ซอ ผอ ฮอ
่
ั
ิ
์
์
ิ
้
สรรพสตวสาเรจในความบรสุทธ ดวยการละอกุศลกรรม
็
ปางที่ 70
่
ปอ ทอ มอ กิด สด ถอ เย
ิ
็
สติปญญาพาผลสาเรจ กายจิตสะอาดดั่งดอกบวแดง
ั
ั
ปางที่ 71
ซอ ผอ ฮอ
่
็
ิ
ิ
จิตด ารงหรโอตตัปปะ นาทางสูความสาเรจมรรคผล
่
195
ปางที่ 72
นอ ลา กิน ซ พัน เค ลา เย
ี
็
้
ก าจัดความหวั่นกลัว ดวยการเปนที่รก
ั
ปางที่ 73
่
ซอ ผอ ฮอ
การปฏิบติธรรมใหถือเอาสมมาจิตและสจจะเปนหลัก
ั
ั
็
ั
้
ปางที่ 74
มอ พอ ลี เซง กิต ลา เย
็
้
ี
ด ารงจตเปนผูกลา มรรควิถสูสภาวะเดิม
ิ
่
้
ปางที่ 75
่
ซอ ผอ ฮอ
่
ธารณีทังปวงแหงพระมหากรุณาธารณีสูตร
้
ิ
่
นาสูพระสมมาสมโพธ
ั
ั
196
ปางที่ 76
่
นา มอ หอ ลา ตัน นอ ตอ ลา เหย เย
่
ั
้
่
่
ี
จงตังใจปฏิบติธรรม อยาปลอยเวลาใหเสยไป
้
ปางที่ 77
นา มอ ออ ลี เย
็
ึ
การละความเปนตัวตน สามารถท าใหละความนกคิด
้
์
้
ทีเปนบอเกิดแหงทุกขได
่
็
่
่
ปางที่ 78
่
ผอ ลู กิต ตี
่
ิ
์
ั
พระสทธรรมยังความบรสุทธนาทางสูสุขาวดีภูม ิ
ิ
ปางที่ 79
ชอ พัน ลา เย
่
็
สารวมตาเหนรูป ไมปรุงแตงไปตามรูปทีมองเหน
็
่
่
197
ปางที่ 80
่
ซอ ผอ ฮอ
ั
ี
่
่
ี
สารวมหูฟงเสยง ไมปรุงแตงไปตามเสยงทีไดยิน
่
้
ปางที่ 81
งัน สต ติน ตู
ิ
่
่
่
่
่
สารวมจมูกดมกลิน ไมปรุงแตงไปตามกลินทีจมูกดม
ปางที่ 82
มัน ตอ ลา
่
่
ั
สารวมลิ้นรบรส ไมปรุงแตงไปตามรสทีลิ้นรบ
ั
่
ปางที่ 83
ปด ถอ เย
่
ั
สารวมกายถูกตองสมผัส ไมปรุงแตงไปตามทีรางกายถูกตองสมผัส
ั
้
้
่
่
่
ั
่
ปางที่ 84
ซอ ผอ ฮอ
่
สารวมใจรบรูอารมณ ไมปรุงแตงใหเกิดอารมณใด ๆ ทีใจรบรู
่
ั
์
้
์
่
่
ั
้
198