The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by TAN RUNNING, 2021-07-21 00:17:04

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษาฯป.3เทอม2

ilovepdf_merged

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 รอบรู้ภูมิศาสตร์ บทที่ 2 ชุมชนของเรา
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 2 เรื่อง การใช้ประโยชนจ์ ากสง่ิ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ

9. การวัดและประเมนิ ผล วธิ วี ดั เครอ่ื งมือ เกณฑ์การประเมนิ

รายการวดั - ตรวจกจิ กรรมร้เู ร่อื ง - กจิ กรรมร้เู รอื่ ง ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
9.1 การประเมนิ ระหวา่ ง ภมู ิศาสตร์ ภมู ิศาสตร์
- ตรวจใบงานท่ี 2.2.1 - ใบงานที่ 2.2.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ - ตรวจแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ - แบบฝกึ ปฏิบัติ ร้อยละ 60 ผ่านเกณฑ์
1) ปฏิบตั กิ ิจกรรมรเู้ รื่อง ทักษะรวบยอด ทักษะรวบยอด
- สงั เกตการนาเสนอ - ระดับคณุ ภาพ 2
ภูมิศาสตร์ ผลงาน - แบบประเมินการ ผา่ นเกณฑ์
2) อธิบายประโยชนท์ ไี่ ด้รับ - สงั เกตพฤติกรรม นาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2
การทางานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
จากสงิ่ แวดล้อมและ - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคณุ ภาพ 2
ทรัพยากรธรรมชาติ การทางานกล่มุ การทางานรายบคุ คล ผ่านเกณฑ์
3) การนาเสนอผลงาน - สังเกตความมวี ินยั - แบบสังเกตพฤตกิ รรม ระดบั คณุ ภาพ 2
ความรับผดิ ชอบ การทางานกลมุ่ ผา่ นเกณฑ์
4) พฤตกิ รรมการทางาน ใฝเ่ รยี นรู้ และมุ่งม่ัน - แบบประเมิน
รายบคุ คล ในการทางาน คุณลกั ษณะ
อนั พึงประสงค์
5) พฤตกิ รรมการทางาน
กลุม่

6) คณุ ลักษณะอนั พึง
ประสงค์

10. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้

10.1 สอ่ื การเรยี นรู้
1) หนังสอื เรียนรายวิชา สังคมศึกษาฯ ป.3 หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 รอบร้ภู มู ศิ าสตร์ บทท่ี 2
ชุมชนของเรา
2) แบบฝกึ ปฏิบัติทักษะรวบยอด สงั คมศึกษาฯ ป.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 รอบรภู้ มู ศิ าสตร์ บทที่ 2
ชุมชนของเรา
3) ใบงาน 2.2.1 เรือ่ ง การใชป้ ระโยชนท์ ไ่ี ด้รับจากสงิ่ แวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาติ
4) ตวั อยา่ งบตั รภาพเกี่ยวกบั สิง่ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ

10.2 แหล่งการเรียนรู้
-

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
544

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 รอบรู้ภูมศิ าสตร์ บทท่ี 2 ชุมชนของเรา
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 เรื่อง การใช้ประโยชนจ์ ากสิ่งแวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

บตั รภาพ

สังคมศึกษาฯ ป.3
545

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 รอบรภู้ ูมิศาสตร์ บทท่ี 2 ชุมชนของเรา
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 2 เรอื่ ง การใช้ประโยชน์จากส่ิงแวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ

ใบงานท่ี 2.2.1

เรอ่ื ง การใชป้ ระโยชน์ทไ่ี ด้รบั จากส่งิ แวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาติ
คาช้แี จง : ให้นักเรยี นติดภาพประกอบ 2-3 ภาพ ตามหัวขอ้ ทีต่ นเองได้รับมอบหมาย จากน้ันใหอ้ ธบิ ายถงึ

วีถีการดาเนนิ ชีวิตของคนในชุมชน เป็นผลมาจากสง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาตอิ ยา่ งไร

............................................................................................................................. ..............................................
..........................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .............................................

สังคมศึกษาฯ ป.3
546

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 รอบรู้ภมู ศิ าสตร์ บทท่ี 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 2 เรอ่ื ง การใช้ประโยชนจ์ ากสิง่ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ

ใบงานท่ี 2.2.1 เฉลย

เร่อื ง การใช้ประโยชนท์ ่ีไดร้ บั จากสง่ิ แวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ

คาช้แี จง : ให้นกั เรียนติดภาพประกอบ 2-3 ภาพ ตามหัวข้อที่ตนเองไดร้ บั มอบหมาย จากนั้นให้อธบิ ายถึง
วถี ีการดาเนนิ ชวี ิตของคนในชุมชน เป็นผลมาจากสิง่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติอย่างไร
(แนวคาตอบ)

จากทมี่ ภี มู ิลาเนาทอ่ี ยู่ตดิ ชายฝั่ งทะเล จึงทาให้ผ้คู นในละแวกนนั ้ ประกอบอาชีพท่ีเกย่ี วข้องกับทะเล เช่นทาประมง โดย
นาเรือออกหาปลาเพือ่ นามาขาย ใช้เรือในการขนสง่ นักทอ่ งเที่ยวไปตามเกาะตา่ งๆหรือจัดทัวร์ทอ่ งเทีย่ วพา
นกั ทอ่ งเที่ยวดานา้ รวมทงั ้ อาหารทรี่ ับประทานสว่ นใหญ่กส็ ามารถหาได้ภายในท้องถิ่น

สงั คมศึกษาฯ ป.3
547

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 รอบรู้ภมู ศิ าสตร์ บทท่ี 2 ชุมชนของเรา
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 2 เร่ือง การใชป้ ระโยชน์จากสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ

11. ความเห็นของผู้บริหารสถานศกึ ษาหรือผทู้ ีไ่ ด้รับมอบหมาย

ขอ้ เสนอแนะ

ลงชื่อ ................................

( ................................ )

ตาแหน่ง .......

12. บันทึกผลหลังการสอน

 ดา้ นความรู้

 ด้านสมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน

 ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางภูมศิ าสตร์

 ด้านอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมท่ีมีปญั หาของนกั เรียนเปน็ รายบุคคล (ถ้าม)ี )

 ปญั หา/อปุ สรรค
 แนวทางการแก้ไข

สงั คมศึกษาฯ ป.3
548

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 รอบรู้ภูมศิ าสตร์ บทท่ี 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 เรอื่ ง ส่ิงแวดลอ้ มของชุมชนในอดตี กับปจั จุบนั

แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 3

สงิ่ แวดลอ้ มของชมุ ชนในอดตี กบั ปจั จบุ นั

เวลา 2 ชวั่ โมง

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวัด

1.1 ตวั ชี้วัด
ส 5.2 ป.3/1 เปรยี บเทียบการเปล่ียนแปลงส่ิงแวดล้อมของชุมชนในอดตี กับปจั จุบนั

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) อธิบายสงิ่ แวดล้อมและการเปล่ียนแปลงสิ่งแวดลอ้ มในอดีตและปจั จุบนั ได้ (K)
2) เปรยี บเทยี บการเปล่ยี นแปลงของส่ิงแวดลอ้ มจากอดีตจนถึงปัจจบุ นั ได้ (P)
3) เหน็ ความสาคญั ของการเปลยี่ นแปลงสิง่ แวดล้อมในชุมชนจากอดีตจนถงึ ปัจจบุ นั (A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิน่ สาระการเรยี นรู้จากส่ือ
พจิ ารณาตามหลักสตู รของ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สถานศึกษา สิ่งแวดลอ้ มของชมุ ชนในอดีตกบั
 สงิ่ แวดล้อมของชมุ ชนในอดตี กับ ปจั จบุ ัน
ปัจจุบัน - ส่ิงแวดลอ้ มท่เี กิดข้นึ เองตาม
- สงิ่ แวดล้อมทางธรรมชาติ ธรรมชาติ
- สิ่งแวดลอ้ มที่มนษุ ยส์ ร้างขึน้ - สงิ่ แวดลอ้ มทม่ี นุษยส์ ร้างข้ึน

4. มโนทัศน์สาคัญ (Key Concept)

ปจั จบุ นั สิ่งแวดลอ้ มในชุมชนมีการเปลย่ี นแปลงไปจากอดตี

5. คาถามหลัก (Big Question)

ส่งิ แวดลอ้ มของชมุ ชนในอดตี กบั ปัจจุบนั แตกตา่ งกันอย่างไร เพราะเหตใุ ด

6. การรู้เร่ืองภมู ิศาสตร์ (Geo–Literacy)

ความสามารถทางภมู ศิ าสตร์ กระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ ทกั ษะทางภูมิศาสตร์
1. การสงั เกต
1. ความเขา้ ใจระบบธรรมชาติ 1. การตัง้ คาถามเชิงภูมิศาสตร์ 2. การแปลความข้อมูลทาง

และมนุษย์ 2. การรวบรวมขอ้ มลู ภูมิศาสตร์

2. การให้เหตุผลทางภูมศิ าสตร์ 3. การจดั การข้อมูล

4. การวิเคราะหข์ อ้ มูล

5. การสรปุ เพื่อตอบคาถาม

สังคมศึกษาฯ ป.3
548

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 รอบร้ภู มู ศิ าสตร์ บทท่ี 2 ชุมชนของเรา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง สงิ่ แวดล้อมของชุมชนในอดีตกับปจั จบุ นั

7. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี นและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินัย รบั ผิดชอบ

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้

- ทักษะการคดิ วิเคราะห์ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

3. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต

8. กิจกรรมการเรยี นรู้

 วธิ กี ารสอนโดยกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ (Geographic Inquiry Process)

ชั่วโมงที่ 1

ขัน้ นา

1. ครูถามคาถามกระตนุ้ ความสนใจนกั เรียนว่า “ชมุ ชนของนักเรียนมสี งิ่ แวดล้อมเป็นอย่างไร” นกั เรียนใน
ชนั้ เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็น

2. ครขู ออาสาสมัครนกั เรยี น 4-5 คน ใหอ้ อกมาเขียนสถานทีใ่ นชุมชนของตนเองบนกระดาน จากนนั้ ให้
เพอื่ นในชนั้ เรียนรว่ มกนั บอกวา่ อะไรเป็นสง่ิ แวดลอ้ มที่มนษุ ย์สรา้ งขึน้ และอะไรเปน็ สง่ิ แวดล้อมทีเ่ กดิ ขนึ้
เองตามธรรมชาติ ครูตรวจสอบความถูกตอ้ งของคาตอบบนกระดาน

ข้ันสอน

1. ครนู าภาพท่ไี ดค้ ัดเลือกไวจ้ ากท่ีได้มอบหมายให้นกั เรยี นนามาสง่ เม่อื ชว่ั โมงท่ีผา่ นมา แล้วให้นักเรยี น
รว่ มกันแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับภาพว่า “จากสภาพชุมชนในอดีตตามภาพกับสภาพชมุ ชนในปัจจบุ ัน
เปลยี่ นแปลงไปมากน้อยพยี งใด และเปลย่ี นแปลงไปอยา่ งไร”

2. ครูอธบิ ายเพ่ิมเติมจากภาพและความคิดเห็นของนักเรียนวา่ “ในแต่ละชุมชนมสี ิง่ แวดล้อมทแี่ ตกต่างกัน
โดยส่งิ แวดลอ้ มทเ่ี กิดข้ึนเองตามธรรมชาติ เชน่ อากาศ ทะเล ภเู ขา ปา่ ไม้ แมน่ ้า ดิน และส่ิงแวดลอ้ มท่ี
มนษุ ย์สร้างขน้ึ เชน่ บ้าน โรงเรียน รถยนต์ ถนน รวมถึงวฒั นธรรมประเพณีตา่ งๆ ระบบเศรษฐกิจและ
สังคม ซง่ึ สิง่ เหล่าน้ลี ้วนประกอบรวมกนั กลายเป็นชมุ ชน ซงึ่ การเปลยี่ นแปลงสงิ่ แวดล้อมของชมุ ชนจาก
อดีตมาถงึ ปัจจุบนั ลว้ นมาจากการกระทา้ ของมนุษยท์ ง้ั ส้นิ เพราะมนษุ ย์ใชป้ ระโยชนแ์ ละไดอ้ าศัย
ส่ิงแวดล้อมในการดา้ รงชีวติ มนุษย์จึงมีความสัมพันธ์อย่างใกลช้ ดิ กับสง่ิ แวดล้อม ซง่ึ การกระทา้
บางอย่างของมนุษยม์ ผี ลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม และส่ิงมชี วี ติ ต่างๆ ถ้าผลกระทบเป็นไปในทางท่ดี ี
สง่ิ แวดลอ้ มก็จะดขี น้ึ แต่ถา้ ผลกระทบน้นั เปน็ การท้าลายสง่ิ แวดลอ้ มก็จะแยล่ งด้วย”

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
549

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 รอบร้ภู ูมิศาสตร์ บทท่ี 2 ชุมชนของเรา
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรอ่ื ง ส่ิงแวดล้อมของชุมชนในอดีตกับปจั จบุ ัน

ข้นั ที่ 1 การตงั้ คาถามเชงิ ภมู ิศาสตร์
3. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ต้งั คาถามเชิงภูมศิ าสตร์ ดังนี้

- สิง่ แวดล้อมของชมุ ชนในอดีตกบั ปัจจบุ ันแตกต่างกนั อยา่ งไร เพราะเหตุใด

ขน้ั ท่ี 2 การรวบรวมขอ้ มูล
4. นักเรียนแต่ละคนศึกษาเกี่ยวกบั สง่ิ แวดลอ้ มของชุมชนในอดีตกบั ปัจจุบนั จากหนังสอื เรียน สังคมศกึ ษาฯ

ป.3 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 รอบรูภ้ มู ศิ าสตร์ บทท่ี 2 ชุมชนของเรา หวั ขอ้ เร่ือง สงิ่ แวดลอ้ มของชุมชนใน
อดตี กบั ปจั จบุ นั
5. ครูอธบิ ายเกี่ยวกับสงิ่ แวดล้อมของชมุ ชนในอดตี กับปจั จบุ ันเพ่อื เพิ่มเติมความร้ใู หก้ บั นักเรยี นวา่
“ส่ิงตา่ งๆ ในชมุ ชนมีอยู่มากมาย เชน่ บา้ น รถยนต์ ต้นไม้ สตั ว์ ทะเล แมน่ า้ ถนน ป่าไม้ สิ่งเหลา่ นี้
เรยี กวา่ สิ่งแวดล้อม ซงึ่ เราสามารถจ้าแนกสิ่งแวดล้อมไดเ้ ปน็ 2 ประเภท คือ สิ่งแวดล้อมทเี่ กดิ ขึน้ เอง
ตามธรรมชาติ ซึง่ เป็นปัจจัยพน้ื ฐานในกา้ หนดลกั ษณะการด้าเนินชีวิตของมนษุ ย์ ไม่วา่ จะเปน็ การ
ประกอบอาชีพ ลกั ษณะทอ่ี ยอู่ าศยั อาหาร การคมนาคม และสิง่ แวดลอ้ มที่มนุษย์สร้างขึ้นช่วยให้การ
ด้าเนนิ ชีวิตของมนุษยม์ ีความสะดวกสบาย ปลอดภัย และมคี วามเป็นอย่ทู ด่ี มี ากขน้ึ ซ่ึงบางอย่างได้
นา้ เอาธรรมชาติมาดัดแปลงให้เปลี่ยนสภาพสง่ิ แวดล้อมของชุมชนในอดตี กับปจั จบุ นั มกี ารเปล่ียนแปลง
ไปตามเวลา เชน่
การคมนาคม
อดตี การคมนาคมใชเ้ สน้ ทางทางน้าเปน็ หลัก เนอื่ งจากมแี ม่น้าเชอ่ื มต่อหลายสายและใชเ้ รือเป็นพาหนะ
ในการเดนิ ทาง การเดนิ ทางโดยรถซง่ึ เปน็ การคมนาคมทางบกยงั ไม่สะดวกเนอ่ื งจากยังมถี นนตดั ผา่ น
เสน้ ทางต่างๆ นอ้ ย
ปัจจุบนั การคมนาคมมีความสะดวกและหลากหลายมากข้นึ เนือ่ งจากมคี วามเจริญก้าวหนา้ ทาง
เทคโนโลยมี มี ากขึ้น เช่น รถยนต์ รถไฟ รถไฟฟา้ เครอ่ื งบิน
การประกอบอาชีพ
อดตี การประกอบอาชพี สว่ นใหญ่จะท้าการเกษตร เพราะพน้ื ท่ีส่วนใหญม่ คี วามอดุ มสมบูรณ์ มฝี นตก
เพยี งพอ ส่วนชุมชนไหนทอ่ี ยู่ใกลแ้ มน่ ้าหรือทะเลกจ็ ะประกอบอาชีพประมง
ปจั จุบนั การประกอบอาชพี เกีย่ วกับการเกษตรหรอื ประมงมีน้อยลง มอี าชีพหลากหลายเพ่ิมมากข้นึ
เนอื่ งจากความกา้ วหน้าการพัฒนาทางด้านเศรษฐกจิ สงั คม และเทคโนโลยีมีมากขึ้น”
6. ครูนานกั เรยี นไปสารวจชุมชนทอี่ ยใู่ กล้เคยี งกบั บริเวณโรงเรียน โดยหาผรู้ มู้ าเป็นวิทยากรใหค้ วามรกู้ บั
นักเรียนเกี่ยวกบั สภาพชุมชนในอดตี และปัจจุบัน โดยให้นกั เรยี นจดบนั ทึกข้อมูลจากวิทยากรและ
ถ่ายภาพประกอบ (หรือครูจดั หาวิทยากร (หน่วยงานราชการ) ภายในชมุ ชนเขา้ มาให้ความร้เู ก่ียวกบั
สภาพชมุ ชนในอดตี และปัจจบุ นั แกน่ กั เรียนภายในสถานศึกษา)

สังคมศึกษาฯ ป.3
550

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 รอบรภู้ ูมิศาสตร์ บทท่ี 2 ชุมชนของเรา
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง สง่ิ แวดล้อมของชุมชนในอดตี กับปัจจุบนั

ชวั่ โมงท่ี 2

ขนั้ ที่ 3 การจัดการข้อมลู
7. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะคนนาข้อมูลทไ่ี ด้จากการสารวจชมุ ชนและและได้รบั ความรูจ้ ากวิทยากรมาจัดกล่มุ

ข้อมลู ตรวจสอบ จาแนกข้อมลู โดยครชู ว่ ยชีแ้ นะและตรวจสอบความถกู ต้อง

ขน้ั ท่ี 4 การวเิ คราะหแ์ ละแปลผลข้อมูล
8. ครูให้นกั เรียนแตล่ ะคนนาขอ้ มลู ท่ีได้จดั กล่มุ ข้อมลู ตรวจสอบ จาแนกขอ้ มูลแล้วนามาวเิ คราะห์ โดย

นาไปตอบคาถามลงในใบงานท่ี 2.3.1 เรือ่ ง ชุมชนของฉนั ในอดีตและปจั จบุ ัน ตามประเด็น ดงั นี้
- ชอื่ ชมุ ชน
- ทาเลทต่ี ัง้ ของชมุ ชน
- ประวัติความเปน็ มาของชมุ ชน
- สงิ่ แวดล้อมของชมุ ชนในอดตี กบั ปจั จบุ นั
- ความแตกตา่ งของสิ่งแวดล้อมชุมชนในอดีตกบั ปัจจบุ นั โดยแบ่งออกเปน็
 สิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาติ
 ส่ิงแวดลอ้ มท่มี นษุ ยส์ ร้างขน้ึ
- สาเหตทุ ่ที าใหส้ งิ่ แวดลอ้ มของชมุ ชนเปล่ียนแปลงไปจากอดีต
- คาดหมายการเปล่ียนแปลงสง่ิ แวดลอ้ มของชมุ ชนในอนาคต

ขน้ั ท่ี 5 การสรปุ เพือ่ ตอบคาถาม
9. นักเรยี นปฏิบัติกิจกรรมรู้เรอื่ งภูมิศาสตร์ตามที่กาหนดให้จากหนังสอื เรียนรายวิชา สงั คมศึกษาฯ ป.3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 รอบรภู้ ูมิศาสตร์ บทท่ี 2 ชุมชนของเรา เสรจ็ แล้วนาสง่ ครู
10. นกั เรียนและครูรว่ มกันสรุปคาตอบตามประเดน็ คาถาม ดงั นี้

- สิ่งแวดลอ้ มของชมุ ชนในอดีตกับปัจจุบนั แตกต่างกันอยา่ งไร
(แนวตอบ
สิ่งแวดล้อมของชุมชนแต่ละแหง่ มีการเปล่ียนแปลงจากอดีต สาเหตุหลกั มาจากการเพมิ่ ขน้ึ ของ
ประชากรในชุมชน ทาใหม้ ีการนาเอาทรัพยากรธรรมชาตมิ าใชม้ ากขนึ้ จึงส่งผลทาให้สิ่งแวดลอ้ ม
เปลี่ยนแปลงไป การเปล่ยี นแปลงส่งิ แวดลอ้ มของชุมชนมีทง้ั ผลดีและผลเสีย เช่น
 แมน่ ้า
อดตี น้ามีความใสสะอาด มีขยะ สิ่งปฏิกลู และสารพษิ ปะปนอยู่ด้วย มีสัตว์น้าอาศยั ชกุ ชุม สามารถ
นามาใช้เพ่ือการอุปโภคบริโภคได้ บา้ นเรอื นที่ต้งั อยรู่ มิ น้าไมห่ นาแนน่
ปัจจุบัน นา้ ขุ่น มีโคลนตะกอนมาก มีการทิ้งขยะสิง่ ปฏิกูลตา่ งๆ และนา้ เสยี ลงไป นา้ มสี ารพษิ ปนเป้ือน
อยูม่ าก สัตวน์ ้าลดลง แมน่ า้ บางสายต้นื เขนิ ไม่เหมาะกบั นามาใช้ประโยชน์

สังคมศกึ ษาฯ ป.3
551

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 รอบรู้ภมู ศิ าสตร์ บทท่ี 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เรื่อง สิ่งแวดลอ้ มของชมุ ชนในอดตี กับปัจจบุ ัน

 อากาศ
อดีต อากาศมีความบริสุทธิ์ มฝี ุน่ ควนั มลพษิ ปะปนอยู่น้อย เน่ืองจากมตี ้นไม้มาก ทาใหอ้ ากาศ
สดชน่ื รวมทงั้ อณุ หภูมขิ องอากาศทเ่ี ย็นสบายไม่ร้อนมาก
ปจั จบุ ัน อากาศมฝี นุ่ ละออง มลพษิ ปะปนอยู่มากอนั เกดิ จากเคร่อื งจักร โรงงาน ยานพาหนะ ปล่อย
ควันเสียออกมา รวมถึงต้นไมท้ ่มี นี ้อยอากาศจึงบริสุทธิ์นอ้ ยลงและร้อนมากข้นึ
 ทอ่ี ยู่อาศัย
อดตี มักปลูกสร้างด้วยไม้ หลังคามุงดว้ ยใบไม้ แผ่นไม้ หรอื วัสดทุ ่ีหาไดง้ า่ ยจากปา่ กระเบ้ืองดินเผา
ลักษณะบา้ นเรือนเปน็ แบบเรอื นไทยตามท้องถนิ่ น้ันๆ การสรา้ งบ้านจะอยหู่ ่างกัน โดยความเย็นของบ้าน
ไดจ้ ากลมทพ่ี ดั เขา้ มา
ปจั จบุ ัน มกี ารนาวัสดุทค่ี งทน เชน่ ปูนซีเมนต์ อฐิ โลหะ ใชแ้ ทนไม้ รปู แบบของบ้านเป็นอยา่ งสมยั ใหม่
แบบตะวันตก สร้างติดๆ กนั หรือสรา้ งเป็นอาคารชดุ สว่ นใหญจ่ ะมกี ารตดิ เคร่อื งปรับอากาศใหค้ วาม
เย็นภายในบา้ น
 ตลาด
อดีต มักเป็นตลาดนัด สรา้ งอยา่ งงา่ ยๆ ผูค้ า้ ขายส่วนใหญ่จะเป็นคนในชุมชนน้นั ๆ หรือชมุ ชนใกล้เคยี ง
สินคา้ มักจะเปน็ สินคา้ ทางการเกษตรทมี ีผลผลติ ตามฤดกู าลหรือเปน็ สิง่ ที่มีอยู่ตามธรรมชาติ หรอื เป็น
สินค้าหัตถกรรม ไม่หลากหลายมาก
ปัจจุบัน เป็นตลาดท่ีสรา้ งอย่างถาวร บางแหง่ เป็นซเู ปอร์มาร์เก็ตสมยั ใหม่ สินค้ามีใหเ้ ลือกหลากหลาย
ยังมีสนิ ค้าอุตสาหกรรมชนดิ ตา่ งๆ ผ้ขู ายมาจากหลายพ้ืนทแี่ ละทาเปน็ อาชพี ประจา
 ยานพาหนะ
อดตี เส้นทางการคมนาคมมีน้อยและมักเปน็ เส้นทางธรรมชาติ ซึ่งอาจใชเ้ ดินทางไม่ได้ในช่วงฤดฝู น
ยานพาหนะส่วนใหญจ่ ะเปน็ เรือ รถไฟ จกั รยาน รถสามลอ้ รถโดยสารสาธารณะ จานวนยานพาหนะ
ยงั มไี ม่มาก
ปัจจุบนั เส้นทางการคมนามคมกระจายครอบคลุมทัว่ พน้ื ที่ มีการพฒั นายานพาหนะสมยั ใหมท่ ่ี
เดินทางไดร้ วดเรว็ ยงิ่ ข้ึน ท้ังเครื่องบนิ รถไฟฟ้าบนดนิ และใต้ดินและมกี ารใชย้ านพาหนะส่วนตัวกัน
อยา่ งแพรห่ ลาย

สังคมศกึ ษาฯ ป.3
552

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 รอบรภู้ มู ิศาสตร์ บทท่ี 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง สง่ิ แวดล้อมของชมุ ชนในอดีตกับปจั จุบนั

Note
วตั ถุประสงคข์ องกิจกรรมเพอ่ื ใหน้ ักเรยี นมี
- ทกั ษะการสังเกต รจู้ ักสงั เกตการณ์ส่งิ แวดลอ้ มทั้งทีเ่ กดิ ขึ้นเองตามธรรมชาติและมนุษยส์ ร้างขึน้

เช่น สังเกตขอ้ มูลต่าง ๆ ในสงิ่ ทีไ่ ดพ้ บเห็นจากส่ือต่าง ๆ และจากส่ิงแวดล้อมรอบตวั
- ทกั ษะการแปลความขอ้ มูลทางภมู ศิ าสตร์ สามารถแปลความหมายของสงิ่ ทป่ี รากฏอย่บู นพ้ืน

โลกทอ่ี าจปรากฏอยใู่ นรูปของรปู ถ่าย
- ทักษะการคิดวิเคราะห์ เกิดจากกระบวนการทางภมู ิศาสตร์ โดยนาขอ้ มลู ผา่ นกระบวนการ

จดั การ อธบิ าย วิเคราะห์ และแปลผลขอ้ มลู
- ความสามารถในการส่อื สาร ถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ เพอ่ื แลกเปล่ียนข้อมลู ขา่ วสาร ซึ่งกนั

และกนั
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต รจู้ กั การเรยี นรู้ด้วยตนเอง และสามารถนาความรูไ้ ปปรบั ใชใ้ น

การดาเนนิ ชวี ิตประจาวนั

ขน้ั สรุป

1. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรุปเกย่ี วกบั ส่งิ แวดล้อมของชุมชนในอดีตกบั ปจั จบุ ันว่า
“สิ่งแวดล้อมในชมุ ชนจากอดีตถงึ ปจั จุบนั มีการเปล่ยี นแปลงไปตามเวลา ซ่งึ ส่งผลตอ่ การด้าเนนิ ชีวิตของ
ผ้คู นในชมุ ชน ดงั นนั้ เราจึงควรตระหนักถงึ ผลกระทบที่จะเกดิ ขน้ึ กับสิ่งแวดลอ้ ม และร่วมกนั ดูแลรักษา
สิ่งแวดล้อมใหม้ ีความอดุ มสมบูรณ์ตลอดไป”

2. ครใู ห้นักเรียนทาแบบฝกึ ปฏิบตั ิทักษะรวบยอด สงั คมศึกษาฯ ป.3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 รอบรู้ภมู ิศาสตร์ บทที่
2 ชุมชนของเรา เพอื่ ประเมนิ ความก้าวหนา้ ของนกั เรยี น

9. การวดั และประเมินผล วธิ ีวดั เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารประเมนิ

รายการวัด - ตรวจกิจกรรมรเู้ ร่ือง - กิจกรรมรเู้ รื่อง - รอ้ ยละ 60
9.1 การประเมินระหว่าง ภูมิศาสตร์ ภูมศิ าสตร์ ผา่ นเกณฑ์

การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
1) ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมรูเ้ ร่อื ง

ภมู ิศาสตร์

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
553

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 รอบรู้ภมู ิศาสตร์ บทที่ 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 เร่ือง สงิ่ แวดลอ้ มของชุมชนในอดตี กบั ปจั จุบนั

รายการวัด วิธีวดั เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
2) อธิบายและเปรียบเทยี บ - ตรวจใบงานท่ี 2.3.1 - ใบงานท่ี 2.3.1 - ร้อยละ 60
- ตรวจแบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ - แบบฝกึ ปฏบิ ตั ิ ผา่ นเกณฑ์
การเปลย่ี นแปลง ทกั ษะรวบยอด ทกั ษะรวบยอด - รอ้ ยละ 60
สง่ิ แวดลอ้ มในอดตี และ ผา่ นเกณฑ์
ปจั จุบัน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ 2
3) พฤตกิ รรมการทางาน การทางานรายบคุ คล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์
รายบคุ คล - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมิน - ระดบั คณุ ภาพ 2
4) คณุ ลกั ษณะ ความรับผิดชอบ คุณลกั ษณะ ผ่านเกณฑ์
อนั พงึ ประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่นั อันพงึ ประสงค์
ในการทางาน

10. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

10.1 สือ่ การเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรียนรายวชิ า สงั คมศกึ ษาฯ ป.3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 รอบรู้ภมู ศิ าสตร์ บทที่ 2
ชุมชนของเรา
2) แบบฝึกปฏบิ ัติทักษะรวบยอด สงั คมศึกษาฯ ป.3 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 รอบรภู้ มู ิศาสตร์ บทที่ 2
ชมุ ชนของเรา
3) ใบงานท่ี 2.3.1 เร่ือง ชุมชนของฉนั ในอดีตและปจั จบุ ัน

10.2 แหลง่ การเรยี นรู้
-

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
554

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 รอบร้ภู ูมศิ าสตร์ บทที่ 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 3 เรอ่ื ง ส่ิงแวดล้อมของชมุ ชนในอดตี กบั ปจั จุบัน

ใบงานท่ี 2.3.1

เรอ่ื ง ชมุ ชนของฉันในอดตี และปจั จุบนั
คาชี้แจง : ใหน้ กั เรยี นนาข้อมลู ทไ่ี ดจ้ ากการสารวจชุมชนทอ่ี ยู่ใกล้เคียงกบั บรเิ วณโรงเรยี น หรอื ขอ้ มูลที่ไดจ้ าก

วทิ ยากรบรรยายใหฟ้ ัง นามาตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
1. ช่ือชุมชน
2. ทาเลที่ตง้ั ของชุมชน
3. ประวตั คิ วามเปน็ มาของชุมชน

4. สิง่ แวดล้อมของชุมชนในอดตี กบั ปจั จุบัน

5. ความแตกตา่ งของส่งิ แวดลอ้ มชมุ ชนในอดตี กบั ปจั จุบนั โดยแบง่ ออกเป็น
 สง่ิ แวดล้อมทางธรรมชาติ

 ส่ิงแวดล้อมท่ีมนุษย์สร้างข้นึ

6. สาเหตทุ ี่ทาให้ส่งิ แวดล้อมของชุมชนเปล่ยี นแปลงไปจากอดีต

7. คาดหมายการเปล่ยี นแปลงสง่ิ แวดล้อมของชุมชนในอนาคต

สังคมศึกษาฯ ป.3
555

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 รอบรู้ภูมศิ าสตร์ บทท่ี 2 ชุมชนของเรา เฉลย
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง สงิ่ แวดล้อมของชุมชนในอดตี กับปัจจบุ ัน

ใบงานที่ 2.3.1

เรือ่ ง ชุมชนของฉนั ในอดีตและปจั จบุ นั

คาชี้แจง : ให้นักเรยี นนาขอ้ มูลทไ่ี ดจ้ ากการสารวจชมุ ชนทีอ่ ยู่ใกลเ้ คยี งกบั บริเวณโรงเรียน หรอื ข้อมูลที่ไดจ้ าก
วิทยากรบรรยายให้ฟงั นามาตอบคาถามตอ่ ไปนี้

1. ชอื่ ชมุ ชน

2. ทาเลทีต่ ัง้ ของชุมชน

3. ประวัตคิ วามเป็นมาของชมุ ชน

4. สิ่งแวดลอ้ มของชมุ ชนในอดตี กับปัจจบุ นั

5. ความแตกตา่ งของสง่ิ แวดลอ้ มชุมชนในอดีตกบั ปัจจบุ นั โดยแบง่ ออกเปน็
 สง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติ

 สง่ิ แวดลอ้ มท่มี นษุ ยส์ ร้างขน้ึ

6. สาเหตุท่ีทาใหส้ ่งิ แวดลอ้ มของชุมชนเปลี่ยนแปลงไปจากอดตี

7. คาดหมายการเปลีย่ นแปลงสิ่งแวดล้อมของชมุ ชนในอนาคต

(โดยคาตอบขน้ึ อยู่กบั ดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
556

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 รอบรูภ้ มู ศิ าสตร์ บทที่ 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 เรอื่ ง สิ่งแวดลอ้ มของชมุ ชนในอดีตกบั ปจั จุบัน

11. ความเหน็ ของผบู้ ริหารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ่ไี ด้รับมอบหมาย

ข้อเสนอแนะ

ลงช่อื ................................

( ................................ )

ตาแหนง่ .......

12. บันทกึ ผลหลงั การสอน

 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน

 ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

 ดา้ นความสามารถทางภมู ศิ าสตร์

 ดา้ นอ่ืน ๆ (พฤติกรรมเดน่ หรอื พฤติกรรมทม่ี ีปญั หาของนักเรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปญั หา/อปุ สรรค
 แนวทางการแก้ไข

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
557

หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 รอบรภู้ ูมิศาสตร์ บทที่ 2 ชุมชนของเรา เวลา 2 ช่วั โมง
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 เรือ่ ง ลักษณะของเมืองกับชนบท

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4

ลักษณะของเมอื งกับชนบท

1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตัวชวี้ ดั

1.1 ตัวช้ีวดั
ส 5.2 ป.3/4 อธบิ ายความแตกตา่ งของลักษณะเมอื งและชนบท

2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) อธบิ ายลกั ษณะของเมืองและชนบทได้ (K)
2) แยกแยะความแตกตา่ งของลักษณะเมอื งและชนบทได้ (P)
3) มคี วามเอาใจใสใ่ นการเรยี น ตง้ั ใจฟัง กระตือรือรน้ ปฏบิ ตั ิงานตามทไ่ี ด้รับมอบหมายไดเ้ ป็นอย่างดี(A)

3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ สาระการเรยี นรูจ้ ากส่ือ
พิจารณาตามหลักสูตรของ ลักษณะของเมืองกับชนบท
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สถานศกึ ษา - ลกั ษณะของเมือง
 ลกั ษณะของเมืองและชนบท - ลักษณะของชนบท
เชน่ สง่ิ ปลูกสรา้ ง การใช้ทีด่ ิน
การประกอบอาชีพ

4. มโนทัศนส์ าคัญ (Key Concept)

เมืองและชนบทเป็นชุมชนทม่ี คี วามแตกต่างกันทัง้ ทางกายภาพและวิถีชีวิต

5. คาถามหลกั (Big Question)

เมืองและชนบทมีความแตกตา่ งกันอยา่ งไร

6. การรเู้ รือ่ งภมู ิศาสตร์ (Geo–Literacy)

ความสามารถทางภูมศิ าสตร์ กระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ ทักษะทางภมู ิศาสตร์
1. การสังเกต
1. ความเขา้ ใจระบบธรรมชาติ 1. การตั้งคาถามเชิงภูมิศาสตร์ 2. การแปลความข้อมลู ทาง

และมนุษย์ 2. การรวบรวมข้อมลู ภูมิศาสตร์

2. การให้เหตผุ ลทางภูมิศาสตร์ 3. การจดั การข้อมูล

4. การวเิ คราะหข์ ้อมลู

5. การสรปุ เพ่ือตอบคาถาม

สังคมศึกษาฯ ป.3
558

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 รอบรู้ภมู ศิ าสตร์ บทท่ี 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 เรอื่ ง ลกั ษณะของเมืองกับชนบท

7. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียนและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มวี นิ ยั รบั ผิดชอบ

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้

- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 3. มุ่งม่ันในการทางาน

3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

8. กจิ กรรมการเรยี นรู้

 วธิ กี ารสอนโดยกระบวนการทางภูมศิ าสตร์ (Geographic Inquiry Process)

ชว่ั โมงท่ี 1

ขน้ั นา

1. ครูนาภาพเกีย่ วกบั พืน้ ทเ่ี มืองหรอื ชนบท เชน่ ภาพทะเลหมอก ศูนยก์ ารคา้ อาหารนานาชาติ การจราจร
ติดขัด ทงุ่ ดอกไม้ คอนโดมิเนียม นาขา้ ว มาใหน้ กั เรียนดู จากน้ันถามนักเรียนวา่ “จากภาพมภี าพใดบ้าง
ทอี่ ย่ใู นพน้ื ที่เมอื งและภาพใดอย่ใู นพน้ื ที่ชนบท” พรอ้ มกับบอกเหตุผลตามความคิดของตนเอง

2. ครูถามนักเรียนวา่ “โรงเรียนของเราอยใู่ นพ้ืนท่ใี นเมืองหรอื ชนบท” พร้อมบอกเหตผุ ล จากน้นั ครูกลา่ ว
เชอื่ มโยงเขา้ สู่เน้ือหาการเรียนเรอื่ ง ลกั ษณะของเมืองและชนบท

ข้ันสอน

ข้นั ท่ี 1 การตั้งคาถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์
1. ครูและนักเรยี นรว่ มกันตงั้ คาถามเชงิ ภมู ศิ าสตร์ ดังน้ี

- เมืองและชนบทมคี วามแตกตา่ งกันอย่างไร

ขั้นท่ี 2 การรวบรวมข้อมูล
2. ครูให้นักเรยี นแตล่ ะคนสบื ค้นลกั ษณะของเมืองและชนบทว่ามีความแตกตา่ งกันอย่างไร ตามประเดน็

ดงั นี้
- สิ่งปลูกสรา้ ง
- การประกอบอาชพี
- การใชท้ ดี่ นิ
- ความสมั พนั ธข์ องผคู้ น

สังคมศกึ ษาฯ ป.3
559

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 รอบรภู้ มู ิศาสตร์ บทท่ี 2 ชุมชนของเรา
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 4 เรือ่ ง ลักษณะของเมืองกบั ชนบท

- ความหนาแนน่ ของประชากร
- การคมนาคม
โดยศกึ ษาจากหนังสอื เรียน สังคมศึกษาฯ ป.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 รอบรภู้ มู ศิ าสตร์ บทที่ 2 ชมุ ชนของเรา
หัวขอ้ เรอื่ ง ลักษณะของเมืองและชนบท
3. ครูอธิบายเพ่ิมเตมิ ความรู้ให้กบั นกั เรียนเกี่ยวกบั ลกั ษณะของเมืองและชนบทวา่
“ชมุ ชนเมือง จะมีลกั ษณะถน่ิ ท่อี ยอู่ าศยั หรอื มีอาคารบ้านเรือนท่หี นาแน่น เพราะมปี ระชากรอาศัยอยู่
มาก และมกี ารคมนาคมทีส่ ะดวก เมอื งเปน็ ศูนย์กลางความเจรญิ ในหลายๆ ดา้ น เปน็ สถานท่ตี งั้ ถ่ินฐานที่
ถาวร หนาแนน่ ดว้ ยประชากร และเป็นสถานท่ใี นการรวมผ้คู นที่มีความแตกตา่ งกัน โดยชุมชนเมอื งมัก
อยใู่ นเขตเมืองหรอื เทศบาล
ลกั ษณะของเมอื ง
- มีประชากรอยูร่ วมกนั อย่างหนาแน่น
- มสี ิ่งอานวยความสะดวกในการดาเนนิ ชวี ิตครบถว้ น
- เปน็ ศนู ย์กลางของความเจรญิ ท้ังระบบการคมนาคมและเทคโนโลยีตา่ งๆ มากมาย
- ผคู้ นใชช้ วี ติ ที่เร่งรบี มกี ารแข่งขันสงู
- การประกอบอาชีพมคี วามหลากหลาย เชน่ เป็นพนกั งานในองค์กร สานกั งานต่างๆประกอบธุรกิจ
สว่ นตัว ค้าขาย หรอื งานทางดา้ นการบรกิ าร
- มีครอบครัวเดยี่ ว มีท่ีพกั อาศัยหลากหลายรปู แบบ เช่น อาคารสงู บ้านเด่ียว
- ผคู้ นมักจะรบั ประทานอาหารจานด่วน เพราะสะดวกและประหยัดเวลา
- ความสมั พนั ธ์กับครอบครัวและบคุ คลรอบขา้ งมนี ้อย ลักษณะตา่ งคนต่างอยู่
- การจราจรติดขัด มมี ลพษิ
- ผู้คนมเี วลาส่วนตวั ไม่มากนกั เน่อื งจากใช้เวลาสว่ นใหญ่กบั การเดนิ ทาง และการทางานทีเ่ รง่ ด่วน
การศกึ ษาท่ีหนักในแตล่ ะวัน
ชุมชนชนบท มีพ้ืนท่อี อกหา่ งจากเมือง หรือเปน็ พื้นท่ีนอกเขตเทศบาลอาศยั สิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ
เป็นหลกั มีความเจริญทางดา้ นวัตถุน้อย มีการอยู่รวมกลุ่มกนั เปน็ หมู่บา้ นซงึ่ มจี านวนประชากรไม่มาก
นกั หรอื อาจมีประมาณ 100 ครวั เรอื น การรวมตวั กันของชมุ ชนชนบทมีการรวมตัวกนั อย่างเหนียวแนน่
มีความสมั พันธอ์ ันดีกันในหมคู่ ณะ
ลักษณะของชนบท
- มปี ระชากรไมม่ ากนกั สรา้ งที่พกั อาศยั ห่างกัน ไมห่ นาแนน่
- การดาเนินชวี ิตอาศยั ส่งิ แวดล้อมทางธรรมชาติ มีความผกู พนั กับสง่ิ แวดลอ้ มทางธรรมชาติมาก การ
ดาเนินชวี ิตไม่รบี เร่งมาก
- ประกอบอาชีพเกยี่ วกบั เกษตรกรรม เลยี้ งสตั ว์ ประมง ประกอบอาชีพคล้ายๆ กนั ในแต่ละชุมชน
- อาศยั อยู่กนั เปน็ ครอบครวั ใหญใ่ นบา้ นเดยี วกนั หรอื มที ีพ่ กั อาศัยทีใ่ กล้ๆ หรอื ละแวกเดยี วกนั
- ความสมั พนั ธก์ บั ครอบครวั และบคุ คลรอบข้างมีความสัมพันธผ์ ูกพนั แน่นแฟ้น เครือญาติมีมาก

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
560

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 รอบร้ภู ูมศิ าสตร์ บทท่ี 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 4 เรอื่ ง ลักษณะของเมืองกบั ชนบท

- มกี ารแข่งขันน้อย ช่วยเหลือซึง่ กันและกัน มคี วามเห็นอกเหน็ ใจกนั ใหค้ วามเคารพนบั ถือกนั ภายใน
ชมุ ชน
- รับประทานอาหารทปี่ ระกอบหรือปรุงข้นึ เอง โดยหาวัตถุดบิ ในบริเวณชมุ ชนของตนเอง

ชว่ั โมงที่ 2

ขน้ั ท่ี 3 การจดั การข้อมูล
4. ครใู หน้ ักเรียนแตล่ ะคนนาข้อมลู ทีไ่ ดจ้ ากการสืบค้นมาจัดกลุ่มขอ้ มูล ตรวจสอบ จาแนกข้อมูลโดยครูชว่ ย

ช้แี นะและตรวจสอบความถูกต้อง

ขั้นท่ี 4 การวิเคราะหแ์ ละแปลผลข้อมลู
5. ครใู ห้นักเรยี นแต่ละคนนาข้อมลู ที่ได้จดั กลุ่มข้อมลู ตรวจสอบ จาแนกข้อมูลแลว้ นามาวเิ คราะห์ตาม

ประเดน็ ทก่ี าหนดให้
6. ครูใหน้ กั เรยี นทาใบงานท่ี 2.4.1 เรอื่ ง ความแตกตา่ งระหว่างลกั ษณะของเมอื งและชนบท

ขน้ั ที่ 5 การสรปุ เพ่ือตอบคาถาม
7. นักเรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมรู้เร่อื งภูมศิ าสตร์ตามทกี่ าหนดให้จากหนงั สอื เรียนรายวชิ า หนงั สอื เรยี น สังคม

ศึกษาฯ ป.3 หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 รอบรภู้ มู ศิ าสตร์ บทท่ี 2 ชุมชนของเรา เสรจ็ แลว้ นาสง่ ครู
8. นักเรยี นและครรู ่วมกันสรุปคาตอบตามประเดน็ คาถาม ดงั น้ี

- เมืองและชนบทมีความแตกต่างกันอยา่ งไร
(แนวตอบ
ลกั ษณะของเมือง
เมอื งเปน็ ศนู ยก์ ลางความเจริญในดา้ นตา่ งๆ ประชากรอาศยั อยู่จานวนมาก มกี ารปกครองรปู แบบ
เทศบาลหรอื การปกครองในรปู แบบพเิ ศษอื่นๆ ซ่งึ ชุมชนเมอื งมีลักษณะ ดงั นี้
 ประชากร
มคี วามหนาแนน่ เนื่องจากเมอื งเป็นศนู ยร์ วมความเจรญิ ในดา้ นต่างๆ จงึ มผี ู้คนเขา้ มาพักอาศยั
ประกอบอาชีพ เข้ารับการศกึ ษา หรือทากิจกรรมต่างๆ จานวนมาก การเพิม่ ขึ้นหรือลดลงของจานวน
ประชากรในแตล่ ะช่วงเวลาเห็นไดอ้ ย่างเดน่ ชดั
 สิ่งปลูกสรา้ ง
มคี วามหนาแนน่ โดยในเมอื งมสี ง่ิ ปลูกสรา้ งอยตู่ ดิ กนั อยา่ งหนาแนน่ หรือสร้างเปน็ ตึก อาคารสงู
เพราะมีพนื้ ทจี่ ากัด ส่ิงปลูกสร้างมีรูปแบบตา่ งๆ สร้างด้วยปูนซเี มนต์ อิฐ โลหะ วสั ดุสมยั ใหม่

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
561

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 รอบรูภ้ ูมศิ าสตร์ บทที่ 2 ชุมชนของเรา
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 เร่ือง ลักษณะของเมืองกบั ชนบท

 การประกอบอาชพี
มีความหลากหลาย ส่วนใหญจ่ ะประกอบอาชีพทางด้านพาณชิ ยกรรม อุตสาหกรรมการบรกิ าร
รับจ้าง และอาชพี อิสระ
 การใชท้ ่ีดิน
ท่ีดินจะถูกนาไปใชส้ ร้างเป็นท่ีพกั อาศยั สถานประกอบการทางธุรกิจ หรือหนว่ ยงานต่างๆ ของทาง
ราชการ เป็นแหล่งสาธารณปู โภคพนื้ ฐาน เพ่อื อานวยประโยชน์ให้กบั ประชาชนทเ่ี ข้ามาพกั อาศยั และ
ดารงชีวติ
 การเดนิ ทาง
ใช้ยานพาหนะจานวนมากในการไปดาเนนิ กิจกรรมตา่ งๆ เช่น เดนิ ทางไปทางาน เรยี นหนังสอื โดยใน
ชวั่ โมงเรง่ ดว่ นมักมีปัญหาเร่อื งการจราจรติดขัด
 วิถีชวี ิต
จะมลี กั ษณะต่างคนตา่ งอยู่ ใชช้ ีวติ อยา่ งเรง่ รีบ มีการแข่งขนั กนั สูง อาหารทบ่ี ริโภคมักเป็นอาหารทีซ่ อ้ื
สาเรจ็ มาเป็นอาหารแช่แขง็ อาหารจานดว่ น การซื้อวัตถุดบิ มาปรุงเองมีน้อย เนื่องจากมีขอ้ จากัดเรือ่ งเวลา
อาหารมีความหลากหลาย เนอื่ งจากมกี ารรบั วัฒนธรรมอาหารมาจากตา่ งชาตริ ่วมด้วย

ลักษณะของชนบท
ชนบทเป็นชุมชนสว่ นใหญข่ องประเทศ โดยยงั พง่ึ พาสิ่งแวดลอ้ มทางธรรมชาติเปน็ หลักประชากรมี
จานวนไม่มากมีการปกครองในรปู แบบหม่บู า้ น ตาบล ซึ่งชุมชนชนบทจะมีลกั ษณะ ดังน้ี
 ประชากร
มคี วามเบาบาง ในแตล่ ะชุมชนจะมีจานวนประชากรไม่มากการเพ่ิมข้นึ หรือลดลงของจานวนประชากรใน
แต่ละช่วงเวลาไมค่ อ่ ยเดน่ ชดั
 สิ่งปลูกสร้าง
เป็นลักษณะกระจายตัว ส่วนใหญจ่ ะเปน็ ท่ีพกั อาศยั ตามแนวราบ ซึ่งจะสรา้ งอยหู่ ่างกนั มบี รเิ วณเพื่อทา
กจิ กรรมตา่ งๆ สว่ นใหญส่ รา้ งด้วยไม้ หรือส่งิ ท่ีมตี ามธรรมชาตใิ นชุมชน ลักษณะส่งิ ปลกู สรา้ งจะไมแ่ ตกตา่ ง
กันมาก มักเปน็ ไปตามรปู แบบท่ีชุมชนถือปฏบิ ตั สิ ืบต่อกันมา
 การประกอบอาชพี
ผ้คู นส่วนใหญ่มอี าชพี ทีค่ ล้ายคลึงกัน ไมห่ ลากหลายมาก โดยมากเป็นอาชีพท่ีเกย่ี วกับเกษตรกรรม
เช่น การปลกู ขา้ ว เลีย้ งสตั ว์ การค้าขาย รบั จ้าง
 การใชท้ ี่ดนิ
สว่ นใหญ่จะถกู นาไปใชเ้ พื่อการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะการเพาะปลูกและเลยี้ งสัตว์ แตบ่ างสว่ นยัง
เปน็ ที่รกรา้ งหรือยงั ไม่ได้รบั การพัฒนาเพ่อื นาไปใชป้ ระโยชน์

สงั คมศึกษาฯ ป.3
562

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 รอบรู้ภูมศิ าสตร์ บทที่ 2 ชุมชนของเรา
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง ลักษณะของเมืองกับชนบท

 การเดนิ ทาง
รปู แบบการเดินทางจะมไี มม่ ากจานวนยานพาหนะมีนอ้ ย เนอ่ื งจากที่พกั อาศัยกบั พน้ื ทเี่ กษตรกรรมอยไู่ ม่
ห่างไกลกัน
 วถิ ชี วี ิต
ผ้คู นมคี วามสัมพันธท์ ค่ี ุย้ เคยกนั ชีวติ มีความสงบ เรียบงา่ ย ไมเ่ ร่งรีบ การแขง่ ขนั มนี ้อย ครอบครัวอยู่
ร่วมกนั เปน็ ครอบครัวใหญ่ วิถชี วี ติ พ่งึ พาธรรมชาติ อาหารทีบ่ รโิ ภคมักไดจ้ ากสิง่ แวดลอ้ มและ
ทรัพยากรธรรมชาตใิ นชมุ ชนตามฤดกู าล เป็นอาหารพื้นถ่ิน โดยจะนาเอาวัตถุดิบมาปรงุ เพอ่ื บรโิ ภค
ภายในครวั เรอื นกันเป็นสว่ นใหญ่

Note
วัตถุประสงค์ของกจิ กรรมเพ่อื ใหน้ ักเรยี นมี
- ทกั ษะการสงั เกต ร้จู กั สงั เกตการณส์ ง่ิ แวดลอ้ มรอบตวั ทง้ั ท่ีเกดิ ขนึ้ เองตามธรรมชาตแิ ละมนษุ ย์
สรา้ งขึน้ เชน่ สังเกตข้อมลู ต่าง ๆ ในสิ่งทไ่ี ดพ้ บเห็นจากสอื่ ตา่ ง ๆ และจากส่ิงแวดล้อมรอบตัว
- ทักษะการแปลความข้อมูลทางภูมิศาสตร์ สามารถแปลความหมายของสิง่ ที่ปรากฏอย่บู นพน้ื โลก
ท่ีอาจปรากฏอยู่ในรปู ของรูปถา่ ย
- ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ เกดิ จากกระบวนการทางภูมิศาสตร์ โดยนาขอ้ มลู ผา่ นกระบวนการจดั การ
อธบิ าย วิเคราะห์ และแปลผลขอ้ มลู
- ความสามารถในการสอ่ื สาร ถา่ ยทอดความรู้ ความเข้าใจ เพ่อื แลกเปลี่ยนข้อมูลขา่ วสาร ซึ่งกัน
และกนั
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ รจู้ ักการเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง และสามารถนาความรู้ไปปรบั ใชใ้ น
การดาเนินชวี ติ ประจาวนั

ขั้นสรปุ

1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปเกีย่ วกบั ลักษณะของเมอื งกับชนบทวา่ “ลกั ษณะของเมืองกบั ชนบทมคี วาม
แตกต่างกันในหลายๆ ดา้ น ไม่ว่าจะเป็นดา้ นประชากร ส่ิงปลูกสรา้ ง การประกอบอาชพี การใช้ทด่ี นิ การ
เดินทาง วิถชี วี ติ แตอ่ ยา่ งไรก็ตามไมว่ ่าชมุ ชนเมอื งหรือชนบทล้วนมคี วามต้องการพนื้ ฐานทเี่ หมอื นกนั
คือ ผู้คนทอี่ ยใู่ นชุมชนน้นั ๆ ต้องการท่ีจะมชี ุมชนทอี่ าศยั อย่รู ว่ มกนั อยา่ งสงบสุข อยู่ในสง่ิ แวดลอ้ มทด่ี ี
สะอาด รม่ รนื่ มคี วามปลอดภยั ผคู้ นท่ีอยู่ร่วมกนั มีจิตใจท่ีดีมคี วามเอ้ืออาทรซงึ่ กนั และกัน รจู้ กั แบ่งปัน
เออ้ื เฟอ้ื เผือ่ แผ่ ไม่เอารัดเอาเปรยี บกัน เพยี งเท่านี้ไม่ว่าเราจะอยู่ในชมุ ชนแบบไหนเรากจ็ ะมคี วามสุขท้งั
กายและใจเหมอื นๆ กนั ”

2. นักเรยี นทาชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรอ่ื ง ชุมชนของเรา

สงั คมศึกษาฯ ป.3
563

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 รอบรู้ภูมศิ าสตร์ บทท่ี 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 เรือ่ ง ลกั ษณะของเมืองกบั ชนบท

3. นักเรยี นทาแบบฝึกปฏบิ ัติทักษะรวบยอด สงั คมศกึ ษาฯ ป.3 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 4 รอบรู้ภมู ศิ าสตร์ บทที่
2 ชมุ ชนของเรา

4. นักเรียนทาแบบวดั และบันทึกผลฯ สงั คมศึกษาฯ ป.3 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 รอบรูภ้ ูมศิ าสตร์ บทที่ 2
ชมุ ชนของเรา

5. นกั เรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรียนหนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 รอบรู้ภมู ิศาสตร์ หนว่ ยย่อยที่ 2 (บทที่ 2) ชมุ ชน
ของเรา จากนั้นครูตรวจแบบทดสอบหลังเรยี น

6. ครูนาเอาคะแนนของนกั เรยี นในการทาแบบทดสอบก่อนเรียนมาเปรียบเทยี บกบั คะแนนการทา
แบบทดสอบหลังเรียน เพ่อื ดูพัฒนาการของนักเรยี นหลงั จากจบการเรียนรใู้ นเร่อื ง ชมุ ชนของเรา

9. การวดั และประเมนิ ผล วิธีวดั เครอื่ งมือ เกณฑ์การประเมนิ

รายการวดั - ตรวจกจิ กรรมรู้เร่อื ง - กจิ กรรมรเู้ ร่ือง - รอ้ ยละ 60
9.1 การประเมินระหว่าง ภมู ิศาสตร์ ภูมศิ าสตร์ ผ่านเกณฑ์
- ตรวจใบงานท่ี 2.4.1 - ใบงานที่ 2.4.1 - ร้อยละ 60
การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ผ่านเกณฑ์
1) ปฏิบัตกิ จิ กรรมร้เู รือ่ ง

ภูมศิ าสตร์

2) เปรยี บเทียบความ
แตกตา่ งของลักษณะ
เมืองและชนบท

3) บอกลักษณะของเมือง - ตรวจแบบฝกึ ปฏบิ ัติ - แบบฝึกปฏบิ ัตทิ กั ษะ - ร้อยละ 60
และชนบท ทักษะรวบยอด รวบยอด ผ่านเกณฑ์
- ตรวจแบบวดั และ - แบบวดั และบนั ทึกผลฯ - ร้อยละ 60
บันทกึ ผลฯ ผา่ นเกณฑ์

4) พฤตกิ รรมการทางาน - สงั เกตพฤติกรรม - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม - ระดับคณุ ภาพ 2

รายบุคคล การทางานรายบคุ คล การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์

5) คุณลักษณะ - สงั เกตความมีวนิ ยั - แบบประเมนิ - ระดบั คณุ ภาพ 2
อนั พึงประสงค์ ความรบั ผดิ ชอบ คณุ ลกั ษณะ ผา่ นเกณฑ์
ใฝเ่ รียนรู้ และมุ่งม่ัน อนั พงึ ประสงค์
ในการทางาน

สงั คมศึกษาฯ ป.3
564

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 รอบรูภ้ มู ิศาสตร์ บทที่ 2 ชุมชนของเรา
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 เรือ่ ง ลกั ษณะของเมอื งกับชนบท

รายการวดั วธิ วี ัด เครือ่ งมือ เกณฑก์ ารประเมิน
9.2 การประเมินหลังเรยี น - ตรวจแบบทดสอบ
หลังเรยี น แบบทดสอบหลงั เรยี น - รอ้ ยละ 60
1) แบบทดสอบหลังเรียน ผา่ นเกณฑ์
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 - ตรวจผลงานกิจกรรม
รอบรู้ภูมิศาสตร์ หนว่ ย แผนผงั ชุมชน - แบบประเมินกิจกรรม - ระดบั คุณภาพ 2
ยอ่ ยท่ี 2 (บทท่ี 2)
ชมุ ชนของเรา แผนผงั ชุมชน ผ่านเกณฑ์

2) การประเมินชนิ้ งาน/
ภาระงาน (รวบยอด)
กจิ กรรม ชุมชนของเรา

10. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้

10.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียนรายวิชา สังคมศึกษาฯ ป.3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 4 รอบรภู้ มู ศิ าสตร์ บทที่ 2 ชุมชน
ของเรา
2) แบบฝึกปฏบิ ัติทักษะรวบยอด สังคมศกึ ษาฯ ป.3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 รอบรภู้ ูมศิ าสตร์ บทที่ 2
ชุมชนของเรา
3) แบบวดั และบนั ทึกผลฯ สงั คมศึกษาฯ ป.3 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 รอบรูภ้ มู ศิ าสตร์ บทที่ 2
ชุมชนของเรา
4) ใบงานท่ี 2.4.1 เรือ่ ง ความแตกตา่ งระหวา่ งลกั ษณะของเมืองและชนบท
5) ภาพชุมชนเมืองและชนบท

10.2 แหล่งการเรียนรู้
-

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
565

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 รอบร้ภู มู ศิ าสตร์ บทที่ 2 ชุมชนของเรา
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 4 เรอื่ ง ลักษณะของเมอื งกบั ชนบท

บัตรภาพ

สงั คมศึกษาฯ ป.3
566

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 รอบรูภ้ มู ิศาสตร์ บทท่ี 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 4 เร่อื ง ลกั ษณะของเมอื งกบั ชนบท

ช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)
เรอ่ื ง ชุมชนของเรา

คาชแ้ี จง : ให้นักเรียนปฏบิ ัติกิจกรรม ดังตอ่ ไปนี้
1. หาภาพชมุ ชนในอดีตและภาพชมุ ชนในปจั จุบนั ของตนเองมาติดลงในกรอบท่กี าหนดให้
พร้อมบอกความแตกต่างสง่ิ แวดลอ้ มของชุมชนในอดตี กบั ปัจจุบัน และบอกความสัมพนั ธ์
ของลกั ษณะทางกายภาพกับการดาเนนิ ชวี ิตของในชุมชนตามท่ีไดศ้ ึกษามา

ติดภาพชุมชนในอดีต ติดภาพชมุ ชนในปจั จุบัน

ความแตกตา่ งสง่ิ แวดล้อมของชมุ ชนในอดีตกับปัจจบุ นั

สังคมศกึ ษาฯ ป.3
567

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 รอบรภู้ มู ิศาสตร์ บทที่ 2 ชุมชนของเรา
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง ลกั ษณะของเมอื งกับชนบท

ช้นิ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เฉลย
เรอื่ ง ชุมชนของเรา

คาชแี้ จง : ใหน้ กั เรียนปฏิบตั ิกจิ กรรม ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. หาภาพชมุ ชนในอดตี และภาพชุมชนในปัจจุบันของตนเองมาติดลงในกรอบทก่ี าหนดให้
พรอ้ มบอกความแตกตา่ งส่ิงแวดลอ้ มของชุมชนในอดตี กับปัจจุบนั และบอกความสมั พันธ์
ของลักษณะทางกายภาพกับการดาเนินชวี ิตของในชุมชนตามที่ไดศ้ ึกษามา

ภาพชุมชนในอดตี ภาพชมุ ชนในปัจจบุ ัน

ความแตกตา่ งสงิ่ แวดล้อมของชุมชนในอดีตกับปจั จบุ นั
(แนวตอบ อดีต : ตลาดจะสร้างอย่างงา่ ยๆ ผู้ขายสว่ นใหญจ่ ะเปน็ คนในชมุ ชนหรอื ชุมชนใกลเ้ คยี ง สินค้าท่ขี าย
ส่วนใหญจ่ ะเป็นสินคา้ ท่ไี ด้ตามฤดูกาล หรอื เป็นสงิ่ ทไี่ ดจ้ ากธรรมชาติ หรอื เป็นสินคา้ ทอ้ งถิ่นทไ่ี ม่ไดม้ ขี ายทว่ั ไป
ปัจจบุ นั : ตลาดถกู สรา้ งถาวร มีความทนั สมยั เปน็ ซุปเปอรม์ ารเ์ กต็ ทอ่ี านวยความสะดวกในด้านการซ้ือ-ขาย
สินคา้ ที่หลากหลาย ซึ่งมีผู้จัดจาหนา่ ยสนิ ค้าในตลาดอยมู่ ากรายท้งั สนิ คา้ เกษตร อุตสาหกรรม สนิ คา้ อปุ โภค
บริโภค)

(โดยคาตอบขึน้ อยู่กับดุลยพินิจของครผู ู้สอน)

สังคมศกึ ษาฯ ป.3
568

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 รอบรภู้ ูมิศาสตร์ บทที่ 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง ลักษณะของเมืองกับชนบท

ใบงานท่ี 2.4.1

เร่อื ง ความแตกตา่ งระหวา่ งลักษณะของเมอื งและชนบท

คาช้ีแจง : ให้นกั เรยี นบอกความแตกตา่ งลกั ษณะของชมุ ชนเมอื งและชมุ ชนชนบท

ชุมชนเมอื ง ชุมชนชนบท

สังคมศกึ ษาฯ ป.3
569

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 รอบร้ภู มู ิศาสตร์ บทที่ 2 ชมุ ชนของเรา เฉลย
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอื่ ง ลักษณะของเมืองกับชนบท

ใบงานที่ 2.4.1

เรอ่ื ง ความแตกตา่ งระหวา่ งลกั ษณะของเมอื งและชนบท

คาชแ้ี จง : ให้นกั เรียนบอกความแตกตา่ งลกั ษณะของชุมชนเมืองและชุมชนชนบท

ชุมชนเมือง ชมุ ชนชนบท

(แนวตอบ (แนวตอบ

ประชากร มคี วามหนาแน่น เพราะเปน็ ศูนยร์ วมความ ประชากร มคี วามหนาแน่นน้อย ในแต่ละชุมชนจะมี

เจริญในด้านต่างๆ ผู้คน เข้ามาพักอาศัย ประกอบ จานวนประชากรไม่มาก

อาชพี เรียนหนังสือ หรอื ทากจิ กรรมต่างๆ ส่ิงปลูกสร้าง มีลักษณะกระจายตัว และเป็นท่ีพัก

สิ่งปลูกสร้าง ในเมอื งมีตึก อาคารสงู เนอ่ื งจากมพี ้ืนที่ อาศัยตามแนวราบ สร้างอยู่หา่ งกัน มีบริเวณในการ

จากัด ส่ิงปลูกสร้างมีรูปแบบต่างๆ สร้างด้วยวัสดุ ทากิจกรรมต่างๆ ส่วนใหญ่สร้างด้วยวัสดุท่ีอยู่ใน

สมัยใหม่ ชุมชน ลักษณะสิ่งปลูกสร้างจะไม่ต่างกันมาก มัก

การประกอบอาชีพ มีความหลากหลาย ส่วนใหญ่จะ เปน็ ไปตามรูปแบบท่ชี ุมชนปฏิบัติสบื ตอ่ กันมา

ประกอบอาชีพค้าขาย อุตสาหกรรม การบริกา ร การประกอบอาชีพ มักจะมีอาชีพท่ีคล้ายคลึงกัน

รับจา้ ง และอาชีพอิสระ ไมห่ ลากหลาย และเป็นอาชีพทเ่ี กี่ยวกับเกษตรกรรม

การใ ช้ที่ ดิน ถูกน า ไป ใช้สร้า งเป็น ที่ พักอ าศั ย เชน่ ปลูกขา้ ว เลย้ี งสัตว์ คา้ ขาย รับจ้าง

สถานประกอบการทางธุรกิจ หรือหน่วยงานต่างๆ การใชท้ ด่ี ิน ส่วน ให ญ่ จ ะใช้เพื่อกา ร เกษ ตร แ ต่

ของทางราชการเป็นแหล่งสาธารณูปโภคพ้ืน ฐาน บางส่วนก็ยงั ไมไ่ ด้รบั การพฒั นา

ให้กับประชาชน การเดนิ ทาง มีไม่หลากหลาย ยานพาหนะมีนอ้ ย

การเดินทาง ผู้คนเดินทางโดยใช้ยานพาหนะต่างๆ ที่ เพราะทีพ่ กั อาศัยกบั พื้นทเี่ กษตรกรรมอยู่ไมห่ ่างกนั

มีเป็นจานวนมากในการทากิจกรรมต่างๆ เช่น ทางาน วิถชี ีวติ ผู้คนมีความคุ้นเคยกัน อยกู่ ันอยา่ งสงบ เรยี บ

เรยี นหนังสอื ทาให้ในช่วั โมงเร่งด่วนมกั มปี ัญหาเร่ือง งา่ ย ใช้ชวี ิตอย่างไมเ่ รง่ รีบ การแข่งขนั มนี ้อย อยู่เป็น

การจราจรตดิ ขดั ครอบครัวใหญ่ วิถีชีวิตพ่ึงพาธรรมชาติ อาหาร ท่ี

วิถีชีวิต จะมีลักษณะต่างคนต่างอยู่ ใช้ชวี ิตอย่างเร่ง รับประทานมักได้จากชุมชนและเปน็ ไปตามฤดูกาล

รีบ มีการแข่งขัน สูง อาหารท่ีรับประทานมักเป็น และสว่ นใหญเ่ ปน็ อาหารท้องถิน่ โดยนาเอาวัตถดุ บิ มา

อาหารสาเร็จรปู ปรุงเสรจ็ นามาอุ่นร้อน เนอ่ื งจากต้อง ปรงุ เพ่ือบรโิ ภคภายในครอบครัว

ใช้ชวี ิตอย่างเรง่ รบี )

(โดยคาตอบขึ้นอยู่กบั ดุลยพินจิ ของครูผู้สอน)

สังคมศกึ ษาฯ ป.3
570

หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 รอบรูภ้ ูมิศาสตร์ บทที่ 2 ชุมชนของเรา
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 4 เรือ่ ง ลกั ษณะของเมืองกบั ชนบท

แบบประเมินกจิ กรรม ชมุ ชนของเรา

ส 5.2 ป.3/4 อธบิ ายความแตกต่างของลักษณะเมอื งและชนบท

รายการ เกณฑก์ ารประเมิน (ระดบั คณุ ภาพ) ระดบั
ประเมิน คณุ ภาพ
ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรบั ปรงุ (1)
1. ความสามารถ 
ทางภูมศิ าสตร์ บอกความแตกตา่ ง บอกความแตกต่าง บอกความแตกต่าง ไม่สามารถบอกความ ดีมาก
สิ่งแวดล้อมของชุมชนใน แตกตา่ งส่งิ แวดล้อม 
2. กระบวนการ อดตี กบั ปจั จุบัน สง่ิ แวดล้อมของชมุ ชนใน สง่ิ แวดลอ้ มของชมุ ชนใน ของชุมชนในอดตี กับ
ทางภมู ิศาสตร์ เปรยี บเทียบความ ปัจจบุ นั เปรยี บเทียบ ดี
แตกตา่ งของชุมชนเมอื ง อดตี กับปัจจุบัน อดตี กบั ปจั จุบนั ความแตกตา่ งของ 
3. ทักษะทาง และชุมชนชนบท และ ชุมชนเมอื งและชุมชน พอใช้
ภูมศิ าสตร์ บอกความสัมพันธข์ อง เปรยี บเทียบความ เปรียบเทยี บความ ชนบท และบอก 
ลกั ษณะทางกายภาพกับ ความสมั พันธ์ของ ปรบั ปรุง
การดาเนินชวี ติ ของคน แตกต่างของชุมชนเมอื ง แตกต่างของชมุ ชนเมอื ง ลักษณะทางกายภาพ
ในชุมชนไดอ้ ย่างถกู ต้อง กับการดาเนนิ ชวี ติ ของ
และชมุ ชนชนบท และ และชุมชนชนบท และ คนในชุมชนได้
ดาเนินการตาม
กระบวนการทาง บอกความสมั พันธ์ของ บอกความสัมพันธข์ อง ดาเนินการตาม
ภมู ศิ าสตร์ไดถ้ ูกตอ้ งครบ กระบวนการทาง
ทกุ ข้ันตอน ลกั ษณะทางกายภาพกับ ลกั ษณะทางกายภาพกับ ภมู ศิ าสตร์ไม่ถูกตอ้ ง
และไม่เป็นไปตาม
สังเกตความแตกต่าง การดาเนนิ ชวี ติ ของคน การดาเนินชีวิตของคน ขั้นตอน
ของสิง่ แวดลอ้ มระหว่าง
ชุมชนเมืองกบั ชมุ ชน ในชมุ ชนได้ถกู ต้องเป็น ในชมุ ชนได้ถูกต้องเป็น ไม่สามารถสังเกต
ชนบทและสงั เกต ความแตกต่างของ
ความสัมพันธ์ของ ส่วนใหญ่ บางส่วน ส่งิ แวดล้อมระหวา่ ง
ลักษณะทางกายภาพกับ ชุมชนเมอื งกับชุมชน
การดาเนนิ ชวี ิตของคน ดาเนินการตาม ดาเนินการตาม ชนบทและสงั เกต
ในชุมชนได้ถูกตอ้ ง ความสัมพนั ธข์ อง
ครบถ้วน กระบวนการทาง กระบวนการทาง ลกั ษณะทางกายภาพ
กบั การดาเนินชวี ติ ของ
ภมู ิศาสตร์ไดถ้ กู ตอ้ งตาม ภูมิศาสตร์ไดถ้ ูกตอ้ งแต่ คนในชุมชนได้

ขน้ั ตอนเป็นส่วนใหญ่ ไมค่ รบทกุ ข้นั ตอน

สงั เกตความแตกตา่ ง สังเกตความแตกต่าง
ของสงิ่ แวดลอ้ มระหว่าง ของส่ิงแวดลอ้ มระหวา่ ง
ชุมชนเมอื งกบั ชุมชน ชุมชนเมืองกับชมุ ชน
ชนบทและสงั เกต ชนบทและสงั เกต
ความสมั พันธข์ อง ความสมั พนั ธ์ของ
ลักษณะทางกายภาพกับ ลกั ษณะทางกายภาพกับ
การดาเนินชีวติ ของคน การดาเนนิ ชวี ิตของคน
ในชุมชนได้ถกู ตอ้ งเป็น ในชุมชนได้ถกู ตอ้ งเป็น
ส่วนใหญ่ แตไ่ มค่ รบถว้ น บางสว่ น

เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ

11-12 ดมี าก

9-10 ดี

7-8 พอใช้

1-6 ปรบั ปรุง

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
571

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 รอบรู้ภมู ิศาสตร์ บทที่ 2 ชุมชนของเรา
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 4 เรอื่ ง ลกั ษณะของเมอื งกับชนบท

แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน

คาช้ีแจง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในชอ่ งท่ี

ตรงกบั ระดบั คะแนน

ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน 1
32

1 เนอ้ื หาละเอยี ดชัดเจน  

2 ความถูกต้องของเนือ้ หา  

3 ภาษาทใ่ี ช้เขา้ ใจง่าย  

4 ประโยชนท์ ไ่ี ด้จากการนาเสนอ  

5 วิธีการนาเสนอผลงาน  

รวม

ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ
.........../................./................

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางส่วน

เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ

12 - 15 ดี

8 - 11 พอใช้

ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรงุ

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
572

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 4 รอบรู้ภูมศิ าสตร์ บทท่ี 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 4 เร่ือง ลักษณะของเมอื งกบั ชนบท

แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล

คาช้ีแจง : ให้ผ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องที่

ตรงกับระดับคะแนน

ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1
32

1 การแสดงความคดิ เหน็  

2 การยอมรับฟงั ความคิดเหน็ ของผ้อู ่ืน  

3 การทางานตามหนา้ ที่ท่ไี ด้รับมอบหมาย  

4 ความมีนา้ ใจ  

5 การตรงตอ่ เวลา  

รวม

ลงชอ่ื ...................................................ผ้ปู ระเมิน
............../.................../................

เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง

เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ

12 - 15 ดี

8 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรุง

สังคมศึกษาฯ ป.3
573

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 รอบรภู้ ูมศิ าสตร์ บทท่ี 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 เรอ่ื ง ลักษณะของเมอื งกบั ชนบท

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่

คาช้แี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องท่ี

ตรงกบั ระดับคะแนน

ลาดับท่ี ช่ือ – สกุล การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมี การมี รวม
ของนกั เรียน ความ ฟงั คนอื่น ตามที่ได้รับ น้าใจ ส่วนร่วมใน 15
คิดเห็น มอบหมาย การปรับปรุง คะแนน
ผลงานกล่มุ

32132132132132 1

ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../...............

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครั้ง

เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ

12 - 15 ดี

8 - 11 พอใช้

ตา่ กว่า 8 ปรับปรงุ

สังคมศกึ ษาฯ ป.3
574

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 รอบรู้ภูมิศาสตร์ บทท่ี 2 ชุมชนของเรา
แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 4 เรอ่ื ง ลกั ษณะของเมอื งกบั ชนบท

แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

คาชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในช่องที่

ตรงกบั ระดับคะแนน

คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ า้ น 321

1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้

กษัตรยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์

ต่อโรงเรยี น

1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาทีต่ นนับถือ ปฏบิ ัติตามหลักศาสนา

1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเี่ กยี่ วกับสถาบนั พระมหากษตั ริยต์ ามที่โรงเรียนจดั ขึน้

2. ซอื่ สตั ย์ สุจรติ 2.1 ให้ข้อมลู ท่ถี ูกตอ้ ง และเปน็ จรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสิ่งท่ถี ูกต้อง

3. มวี นิ ยั รบั ผดิ ชอบ 3.1 ปฏบิ ัตติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครวั

มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั กิ ิจกรรมต่าง ๆ ในชีวติ ประจาวนั

4. ใฝเ่ รยี นรู้ 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบัติได้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชื่อฟงั คาสั่งสอนของบดิ า - มารดา โดยไม่โตแ้ ย้ง

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

5. อย่อู ยา่ งพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และส่งิ ของของโรงเรียนอย่างประหยัด

5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรู้คุณคา่

5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั และมีการเก็บออมเงนิ

6. มุ่งมน่ั ในการทางาน 6.1 มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย

6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพอื่ ใหง้ านสาเรจ็

7. รกั ความเป็นไทย 7.1 มีจติ สานกึ ในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ิปญั ญาไทย

7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏิบัตติ นตามวฒั นธรรมไทย

8. มีจติ สาธารณะ 8.1 รู้จักชว่ ยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครูทางาน

8.2 รจู้ กั การดแู ลรักษาทรพั ย์สมบัตแิ ละสิง่ แวดล้อมของห้องเรยี นและ
โรงเรียน

ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมิน

............../.................../................

เกณฑก์ ารให้คะแนน

พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ตั ิชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 3 คะแนน

พฤติกรรมที่ปฏบิ ัตชิ ดั เจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 2 คะแนน

พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางครง้ั ให้ 1 คะแนน

สังคมศกึ ษาฯ ป.3
575

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 4 รอบร้ภู มู ิศาสตร์ บทที่ 2 ชมุ ชนของเรา
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 4 เรอื่ ง ลกั ษณะของเมอื งกบั ชนบท

11. ความเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาหรอื ผูท้ ไ่ี ด้รับมอบหมาย

ขอ้ เสนอแนะ

ลงชื่อ ................................

( ................................ )

ตาแหนง่ .......

12. บนั ทึกผลหลังการสอน

 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

 ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

 ด้านความสามารถทางภูมศิ าสตร์

 ดา้ นอ่นื ๆ (พฤติกรรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมท่ีมีปญั หาของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล (ถา้ มี))

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

สงั คมศึกษาฯ ป.3
576

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 รอบรภู้ มู ิศาสตร์ บทท่ี 3 สงิ่ แวดลอ้ มในชุมชน
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง มลพิษและผลกระทบจากการเปล่ยี นแปลงของสงิ่ แวดลอ้ มในชมุ ชน

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1

มลพษิ และผลกระทบของการเปลย่ี นแปลงส่ิงแวดล้อมในชุมชน เวลา 2 ชั่วโมง

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชวี้ ดั

1.1 ตัวชี้วดั
ส 5.2 ป.3/3 อธิบายสาเหตุทีท่ าให้เกิดมลพิษโดยมนษุ ย์
ป.3/6 มีส่วนรว่ มในการจดั การสง่ิ แวดลอ้ มในชุมชน

2. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) อธบิ ายความหมายและประเภทของมลพิษโดยมนษุ ย์ได้ (K)
2) อธบิ ายผลกระทบของการเปล่ยี นแปลงส่งิ แวดล้อมท่มี ีต่อชมุ ชนได้ (K)
3) อภปิ รายสาเหตุท่ีทาให้เกดิ มลพิษโดยมนษุ ยไ์ ด้ (P)
4) เหน็ ความสาคัญของมลพิษทีเ่ กดิ ข้ึนโดยมนุษยแ์ ละผลกระทบของการเปลีย่ นแปลงส่ิงแวดล้อมที่มตี อ่

ชุมชนและร่วมเปน็ ส่วนหนึง่ ในการดแู ลสิ่งแวดล้อมภายในชมุ ชนของตนเอง (A)

3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น สาระการเรยี นรจู้ ากส่ือ
พิจารณาตามหลักสูตรของ 1. มลพิษ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สถานศึกษา
 ความหมายและประเภทของ 1) ความหมายของมลพิษ
มลพิษโดยมนษุ ย์ 2) ประเภทของมลพิษโดย
 สาเหตุของการเกดิ มลพิษ
ที่เกิดจากการกระทาของมนุษย์ มนษุ ย์
 ผลกระทบของการเปล่ียนแปลง 2. ผลกระทบของการเปลย่ี นแปลง
สิ่งแวดล้อมที่มีต่อชมุ ชน
สงิ่ แวดลอ้ มท่มี ีต่อชมุ ชน

4. มโนทศั นส์ าคญั (Key Concept)

1. มลพิษเกดิ จากการกระทาของมนุษย์
2. การมีสว่ นร่วมในการจัดการส่ิงแวดลอ้ มในชมุ ชนเป็นหนา้ ที่ของทุกคนในชมุ ชน

5. คาถามหลกั (Big Question)

1. มนษุ ย์ทาใหเ้ กดิ มลพษิ ได้อยา่ งไร
2. ในชมุ ชนของนกั เรยี นมมี ลพษิ อะไรบ้าง และนักเรียนมวี ิธแี กป้ ัญหามลพษิ น้ันอย่างไรบ้าง

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
579

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 รอบรภู้ ูมศิ าสตร์ บทที่ 3 สิ่งแวดล้อมในชุมชน
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เร่ือง มลพิษและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของส่ิงแวดลอ้ มในชมุ ชน

6. การรู้เรื่องภูมศิ าสตร์ (Geo–Literacy)

ความสามารถทางภมู ศิ าสตร์ กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ ทักษะทางภูมศิ าสตร์
1. การสังเกต
1. ความเขา้ ใจระบบธรรมชาติ 1. การต้ังคาถามเชงิ ภูมศิ าสตร์ 2. การแปลความข้อมลู ทาง

และมนุษย์ 2. การรวบรวมข้อมูล ภูมศิ าสตร์

2. การให้เหตุผลทางภมู ิศาสตร์ 3. การจดั การขอ้ มูล

3. การตดั สนิ ใจอย่างเป็นระบบ 4. การวิเคราะหข์ อ้ มูล

5. การสรุปเพือ่ ตอบคาถาม

7. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียนและคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสอื่ สาร 1. มีวนิ ัย รบั ผดิ ชอบ

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้

- ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน

3. ความสามารถในการแก้ปญั หา

4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

8. กจิ กรรมการเรียนรู้

 วิธกี ารสอนโดยกระบวนการทางภูมศิ าสตร์ (Geographic Inquiry Process)

ชัว่ โมงท่ี 1

 นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 รอบรภู้ มู ิศาสตร์ หนว่ ยย่อยที่ 3 (บทที่ 3)
สิ่งแวดล้อมในชุมชน

ขนั้ นา

1. ครเู ปดิ ข่าวเกี่ยวกับฝุ่นละออง PM 2.5 ใหน้ ักเรียนดู จากนั้นครถู ามนักเรียนวา่ “จากข่าวฝุน่ ละออง PM
2.5 มสี าเหตุเกิดมาจากอะไร และส่งผลกระทบต่อผ้คู นอยา่ งไรบา้ ง” นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเหน็

2. ครอู ธิบายเสรมิ จากทน่ี ักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ วา่ “PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กไมเ่ กิน 2.5
ไมครอน หรอื มขี นาดประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผ่านศูนยก์ ลางของเสน้ ผมมนุษย์ ขนจมูกของมนษุ ย์ก็ไม่
สามารถกรองได้ PM 2.5 จึงสามารถแพรก่ ระจายเข้าสทู่ างเดินหายใจ กระแสเลอื ด และแทรกซมึ
กระบวนการทางานของอวยั วะต่างๆ ในรา่ งกาย เพม่ิ ความเสี่ยงในการเปน็ โรคเกีย่ วกบั ทางเดินหายใจ โรค
เรื้อรงั และอาจจะก่อใหเ้ กดิ โรคมะเร็งตามคาเตือนขององคก์ ารอนามัยโลก ซงึ่ สาเหตขุ องการเกิดเกดิ ฝนุ่

สังคมศกึ ษาฯ ป.3
580

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 4 รอบรภู้ ูมศิ าสตร์ บทท่ี 3 ส่ิงแวดลอ้ มในชมุ ชน
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ี่ 1 เร่ือง มลพษิ และผลกระทบจากการเปล่ยี นแปลงของส่ิงแวดล้อมในชุมชน

ละอองมีหลายสาเหตดุ ้วยกนั คอื โรงผลิตไฟฟา้ ควันท่อไอเสยี ของรถยนต์ การเผาไมท้ าลายป่า การเผาขยะ
ควันบุหร่ี สาเหตหุ ลกั ที่สาคญั คอื การเผาไหม้เชอ้ื เพลิงธรรมชาติทไี่ ม่สมบรู ณแ์ ละฝุ่นจากการกอ่ สร้าง”

ขัน้ สอน

1. ครถู ามกระตนุ้ ความสนใจของนักเรียนเกยี่ วกับชุมชนวา่ “มลพษิ คืออะไร” นักเรยี นร่วมกันบอก
ความหมายของมลพิษ โดยครูชว่ ยสรปุ ความหมายของมลพิษ เพือ่ สร้างความเขา้ ใจท่ีถูกต้องให้กับ
นักเรยี น

2. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ เปน็ 4 กลุ่ม สมาชิกในแต่ละกลุม่ รว่ มกนั ศึกษาความรู้จากหนงั สอื เรียน รายวิชา สังคม
ศึกษาฯ ป.3 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 รอบรภู้ มู ิศาสตร์ บทท่ี 3 สงิ่ แวดล้อมในชุมชน หัวขอ้ เรอ่ื ง มลพิษและ
ผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงของสงิ่ แวดล้อมในชุมชน

3. ครอู ธบิ ายเพิม่ เตมิ ความร้ใู ห้กับนักเรียนเกย่ี วกบั ประเภทของมลพษิ ท่เี กิดจากการกระทาของมนษุ ย์ ดงั น้ี
“มลพิษทางนา้ หรือที่เราเหน็ ในลักษณะของน้าเสีย
สาเหตุทีท่ าให้เกดิ มลพิษทางนา้ คือ
- การปล่อยน้าเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมโดยไม่ผ่านกระบวนการฆา่ เช้อื ใดๆ ลงสูแ่ หล่งน้าธรรมชาติ
- การกอ่ สรา้ งท่ีอยูอ่ าศัย อาคารตา่ งๆ กม็ สี ว่ นในการปล่อยนา้ เสยี เชน่ เดียวกัน
- การเพาะปลกู และเลย้ี งสัตวโ์ ดยการใช้ปยุ๋ และสารเคมีปอ้ งกันในการกาจัดศัตรูพชื และสัตว์ ซง่ึ ถา้
เกษตรกรขาดการระมัดระวงั อาจทาให้สารเคมกี ระจายสู่แหล่งนา้ อาจเกิดขึ้น ระหวา่ งการฉีด พ่นสาร
การชะล้างจากฝนตก การลา้ งภาชนะ หรอื อปุ กรณ์ทีบ่ รรจุสารเคมี
ผลกระทบจากการเกิดมลพิษทางน้า คือ
- เป็นแหล่งแพรก่ ระจายเช้ือโรคตา่ งๆ เชน่ โรคบดิ อหวิ าตกโรค
- มผี ลกระทบตอ่ การดารงชวี ิตของสัตวน์ า้ เพราะน้าเสยี ทาให้ออกซเิ จนในน้าต่าลง อาจทาลายพืชและ
สัตวน์ ้าทม่ี ขี นาดเล็กและเป็นแหล่งอาหารของปลาลดลง สว่ นนา้ เสยี ทเี่ กิดจากการปลอ่ ยน้าทีม่ ีสารพิษ
ลงสูแ่ หล่งน้าธรรมชาติอาจทาให้ส่งิ มชี ีวิตท่ีอยู่ในนา้ ตายทนั ที
- ทาลายความสวยงามและแหล่งท่องเท่ยี วตามธรรมชาตอิ กี ด้วย
- เกิดการเปล่ียนแปลงระบบนิเวศ เช่น มกี ลิน่ เหมน็ จากนา้ เนา่ เสีย

สังคมศึกษาฯ ป.3
581

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 รอบรูภ้ มู ิศาสตร์ บทท่ี 3 สิ่งแวดล้อมในชุมชน
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 1 เร่อื ง มลพิษและผลกระทบจากการเปลีย่ นแปลงของส่งิ แวดล้อมในชุมชน

มลพษิ ทางดิน เกิดจากการปนเปื้อนของสารพษิ ทมี่ ีอยู่มากจนส่งผลใหม้ ีอนั ตรายต่อสขุ ภาพ รวมทงั้ การ
เจริญเตบิ โตของสงิ่ มีชีวติ ไม่ว่าจะเปน็ มนษุ ย์ พืช และสัตว์ ซงึ่ มลพิษทางดินสง่ ผลถงึ อาหาร นา้ อากาศ
และระบบนิเวศตา่ งๆ
สาเหตทุ ี่ทาให้เกดิ มลพิษทางดิน คอื
1. มลพษิ ทางดินโดยเกดิ จากการกระทาของมนุษย์ คือ

- การใชส้ ารเคมกี าจัดศตั รพู ชื ทาให้ดนิ เปน็ แหล่งสะสมสารเคมีทมี่ ผี ลตกคา้ งนาน
- การปล่อยน้าเสียจากกระบวนการผลิตในอุตสาหกรรมลงในแหลง่ น้าจนเกดิ การไหลซึมของนา้ ลง
ดิน ส่งผลให้ดนิ มสี ารเคมีเจอื ปน
- การใช้ปุ๋ยเคมที างวทิ ยาศาสตรใ์ นการเพิ่มผลผลิต เมื่อใชต้ ดิ ตอ่ กันเป็นเวลานานจะทาให้ดนิ เปรย้ี ว
จนมีสภาพความเปน็ กรดสงู
- การทิ้งวสั ดเุ หลือใช้ทยี่ ากตอ่ การยอ่ ยสลายลงบนพื้นดนิ จนเกดิ การสะสมในดินจนทาให้เกิดมลพษิ
ทางดิน
2. มลพิษทางดินที่เกดิ ข้ึนเองตามธรรมชาติ เช่น ดินเปรีย้ ว ดนิ เคม็ ดินท่มี ีสารกมั มันตรังสี และดินทีม่ ี
โลหะหนักเจอื ปนอยู่
ผลกระทบจากการเกิดมลพิษทางดนิ คอื
- ดนิ ท่ีเป็นพิษทาใหเ้ กิดอันตรายต่อสตั ว์ เพราะสตั ว์มโี อกาสไดร้ ับพษิ มากกว่ามนุษย์ โดยอาจจะไดร้ ับ
พิษจากการขดุ คยุ้ หารอาหารกนิ จากดนิ โดยตรง รวมถงึ การใช้ยาฆา่ แมลงทไี่ ม่ถกู ตอ้ ง ยงั เปน็ การ
ทาลายผลผลิตทางการเกษตรด้วย
- ดนิ ท่ีเปน็ พษิ กอ่ ใหเ้ กดิ อันตรายตอ่ มนุษย์ทางออ้ ม เช่น การดมื่ น้าท่มี สี ารพิษปะปนโดยไมร่ ้ตู วั หรอื การ
รับประทานพืช ผกั ทีป่ ลกู ในดนิ ทม่ี ีสารพิษปะปนอยู่

สังคมศกึ ษาฯ ป.3
582

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 4 รอบรู้ภมู ิศาสตร์ บทท่ี 3 ส่งิ แวดลอ้ มในชุมชน
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 1 เร่ือง มลพษิ และผลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงของสงิ่ แวดลอ้ มในชมุ ชน

มลพิษทางอากาศ เกดิ จากอากาศมสี ารพิษเจอื ปนอยู่ในปรมิ าณสูงเป็นเวลานานจนทาใหเ้ กิดอันตราย
แก่มนุษย์ สตั ว์ พชื บริเวณท่ปี ระสบปญั หามลพาทางอากาศมาก ไดแ้ ก่ บริเวณที่พบมากเปน็ พื้นท่ีริม
ถนนท่มี กี ารจราจรหนาแน่น หรอื บรเิ วณทอ่ี ยใู่ กล้โรงงานอตุ สาหกรรม และสภาพมลพษิ ทางอากาศใน
ขณะที่อากาศมีความแหง้ แลง้ จะมปี ญั หาเก่ยี วกับฝุ่นละอองค่อนข้างสูงโดยเกิดจากการเผาขยะ เผาปา่
สาเหตทุ ีท่ าให้เกดิ มลพิษทางอากาศ คอื
- เกดิ จากยานพาหนะท่ใี ช้เครอ่ื งยนต์ รถยนต์ทาใหอ้ ากาศเสียเพราะเกิดจากสารต่างๆ ทอ่ี อกมาจากท่อ
ไอเสียซง่ึ เปน็ พษิ ตอ่ มนุษย์โดยตรง
- การใช้เชื้อเพลงิ ในการประกอบกิจวัตรประจาวัน ซึง่ การเผาไหม้เชื้อเพลิงเพื่อนาพลังงานความรอ้ นไป
ใชป้ ระโยชน์จนกอ่ ใหเ้ กดิ มลพษิ ทางอากาศ
- การเผาขยะก่อให้เกดิ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นตวั การสาคญั ทท่ี าให้เกิดมลพิษทางอากาศ
- เกดิ การเสียดสขี องตน้ ไม้โดยเฉพาะในฤดูรอ้ นอาจทาใหเ้ กิดไฟไหม้ป่า สารพิษท่เี กดิ จากการเผาไหมป้ ่า
ได้แก่ ควันหรือแก๊สต่างๆ
ผลกระทบจากการเกิดมลพิษทางอากาศ คือ
- อากาศที่ไมด่ ีส่งผลทาใหเ้ กดิ โรคระบบทางเดินหายใจ แพ้อากาศ โรคทเี่ กย่ี วกับการไหลเวียนของเลือด
ระยะยาวอาจทาใหเ้ สยี ชวี ิตได้
- ทาให้อณุ หภมู ิลดต่าลงกว่าปกติและทาให้การมองเห็นขณะขับขแี่ ยล่ ง อาจทาให้เกดิ อบุ ตั ิเหตุทัง้ ใน
อากาศและบนถนนได้

สังคมศึกษาฯ ป.3
583

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 รอบร้ภู ูมศิ าสตร์ บทท่ี 3 ส่ิงแวดล้อมในชมุ ชน
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 1 เรื่อง มลพษิ และผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงของสิง่ แวดล้อมในชุมชน

มลพษิ ทางเสียง เกดิ จากเสียงทดี่ ังเกนิ คา่ มาตรฐานกอ่ ใหเ้ กิดความราคาญ ทาใหเ้ กิดความเครียดท้ัง
ทางรา่ งกายและจติ ใจ จนกอ่ ให้เกดิ ผลเสียตอ่ สขุ ภาพของคน
สาเหตทุ ่ที าให้เกดิ มลพิษทางเสียง คอื
- เสียงจากยานพาหนะต่างๆ เชน่ รถยนต์ รถไฟ รถจกั รยานยนต์ เรือหางยาว เครือ่ งบิน
- เสียงจากเคร่อื งขยายเสียงตามรถโฆษณาขายสนิ คา้ ต่างๆ
- เสียงจากเครอื่ งจกั รกลท่ใี ช้ในการก่อสร้าง
- เสยี งจากเครอ่ื งขยายเสียงของสถานเริงรมย์
- เสียงจากโรงงานอตุ สาหกรรม
- เสยี งรบกวนท่เี กดิ จากสาเหตุอ่นื ๆ เช่น เสียงทะเลาะวิวาท เสียงจากภัยธรรมชาติ เชน่ ฟ้ารอ้ ง ฟา้ ผ่า
ผลกระทบจากการเกิดมลพิษทางเสียง
องค์การอนามัยโลกได้มีข้อกาหนดสาหรับเสยี งทีป่ ลอดภัยต้องไมเ่ กิน 85 เดซิเบล ถา้ มนุษยไ์ ดย้ ินเสยี งท่ี
เกินกวา่ 85 เดซิเบล วนั ละหลายชวั่ โมงเป็นเวลานาน จะก่อให้เกิดอันตรายได้
- หัวใจเตน้ แรง ความดนั โลหติ สงู
- นอนไม่หลับ
- กล้ามเน้อื กระตุก มีอาการเหนอื่ ยหอบ
- ประสาทหเู ส่อื ม อาจจะทาใหห้ ูพิการ หตู ึง หูหนวก
- เกิดอาการหงดุ หงิด ราคาญ มีอาการเครียด เกดิ การเปล่ียนแปลงทางอารมณ์ อาจกอ่ ใหเ้ กิดอาการ
คลุม้ คล่ัง สญู เสยี สมาธิ
- สง่ ผลต่อการทางานทาให้ประสิทธิภาพการทางานลดลง
- เสียงท่ีดงั กวา่ ปกติอาจรบกวนการตดิ ตอ่ ส่ือสารระหวา่ งกันได้

สังคมศกึ ษาฯ ป.3
584

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 รอบรู้ภมู ิศาสตร์ บทท่ี 3 สิ่งแวดลอ้ มในชุมชน
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เร่ือง มลพษิ และผลกระทบจากการเปล่ยี นแปลงของสิ่งแวดล้อมในชุมชน

ขัน้ ที่ 1 การต้ังคาถามเชงิ ภมู ิศาสตร์
4. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ตงั้ คาถามเชิงภมู ิศาสตร์ ดังนี้

- มนษุ ยท์ าให้เกิดมลพษิ ข้นึ ไดอ้ ย่างไร และการเปลีย่ นแปลงของส่ิงแวดลอ้ มทีเ่ กิดข้ึนจากมลพษิ ส่งผล
กระทบอยา่ งไรต่อชมุ ชน

ข้ันที่ 2 การรวบรวมข้อมูล
5. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม แล้วให้สมาชกิ แต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมาจับสลากหวั ขอ้

ต่างๆ ดงั น้ี
- มลพษิ ทางดิน
- มลพิษทางนา้
- มลพิษทางอากาศ
- มลพิษทางเสียง
โดยให้นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ไปศึกษาคน้ ควา้ นอกเวลาเรยี นตามประเด็น ดังนี้
- ช่ือมลพิษ
- ลกั ษณะของมลพษิ
- สาเหตกุ ารเกิดมลพษิ
- ผลกระทบของมลพษิ
 ด้านสงั คม
 ด้านสขุ ภาพ

สังคมศึกษาฯ ป.3
585

หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 4 รอบรภู้ ูมศิ าสตร์ บทที่ 3 สงิ่ แวดล้อมในชมุ ชน
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง มลพิษและผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงของสิง่ แวดล้อมในชมุ ชน

 ดา้ นเศรษฐกจิ
- ตัวอย่างพื้นท่ที ี่ประสบปัญหามลพิษ
- แนวทางแก้ไขปัญหามลพิษ

ชว่ั โมงที่ 2

ข้ันท่ี 3 การจดั การขอ้ มลู
6. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มนาข้อมูลที่ได้จากการสืบค้นและศึกษาค้นควา้ เก่ียวกับมลพษิ มาจัดกลมุ่ ข้อมลู

ตรวจสอบ จาแนกข้อมูล โดยครูชว่ ยชแี้ นะและตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

ขัน้ ท่ี 4 การวเิ คราะห์และแปลผลขอ้ มลู
7. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาข้อมลู ท่ีไดจ้ ากการจัดการขอ้ มลู แลว้ นามาวิเคราะห์ โดยจดั ทาเป็นแผนผงั ความคดิ

พร้อมตดิ รูปถ่ายเกยี่ วกบั มลพิษตามประเด็นที่สบื คน้ และศึกษาค้นคว้ามา แล้วใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทน
ออกมานาเสนอแผนผงั ความคดิ ของกลมุ่ ที่หนา้ ชนั้ เรยี น

ข้นั ที่ 5 การสรุปเพื่อตอบคาถาม
8. นกั เรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมรู้เรอื่ งภมู ศิ าสตร์ตามทีก่ าหนดให้จากหนังสือเรียนรายวิชา สงั คมศกึ ษาฯ ป.3

หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 4 รอบรู้ภูมิศาสตร์ บทท่ี 3 สง่ิ แวดล้อมในชมุ ชน หัวขอ้ เรอ่ื ง มลพิษและ
ผลกระทบจากการเปล่ยี นแปลงส่ิงแวดลอ้ มของชุมชน เสรจ็ แลว้ นาสง่ ครู
9. นักเรียนและครูรว่ มกันสรปุ คาตอบตามประเด็นคาถาม ดงั น้ี
- มนษุ ย์ทาให้เกิดมลพิษข้ึนได้อยา่ งไร และการเปลย่ี นแปลงของสง่ิ แวดลอ้ มท่เี กิดขึ้นจากมลพิษส่งผล
กระทบอยา่ งไรต่อชมุ ชน
(แนวตอบ
มนษุ ยแ์ ละส่ิงแวดลอ้ มมีความสัมพนั ธ์กนั โดยมนุษยใ์ ชป้ ระโยชน์จากส่ิงแวดลอ้ มและ
ทรพั ยากรธรรมชาติในการตอบสนองความตอ้ งการดา้ นปัจจัย 4 รวมถึงดา้ นอน่ื ๆ ซึ่งการใชป้ ระโยชน์
ของมนษุ ยโ์ ดยขาดความระมัดระวงั จงึ สง่ ผลให้สิง่ แวดลอ้ มสกปรกจนเกิดมลพิษข้นึ และการทจ่ี านวน
ประชากรเพิ่มมากขนึ้ ความต้องการของมนุษย์ทจ่ี ะนาสง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติมาใช้
ประโยชน์ก็มมี ากขนึ้ ตามไปดว้ ย ทาให้เกิดผลกระทบตามมาท้งั การลดจานวนของทรัพยากรธรรมชาติ
มีการทง้ิ ขยะเสียส่สู ่งิ แวดลอ้ มทมี่ ากเกินกว่าท่ธี รรมชาตจิ ะกาจดั หรอื ปรับสมดลุ ได้จนทาให้เกิดมลพษิ
ซึ่งมลพษิ ทีเ่ กดิ ข้นึ จากการกระทาของมนษุ ย์ คอื มลพิษทางดนิ มลพิษทางน้า มลพิษทางอากาศ และ
มลพิษทางเสียงด้วยเหตทุ ี่สงิ่ แวดล้อมเป็นปจั จยั หลักทม่ี ผี ลอยา่ งมากตอ่ การดารงชีวิตของมนษุ ย์ ดงั น้นั
เม่ือส่งิ แวดล้อมในชมุ ชนเปลี่ยนแปลงกย็ ่อมส่งผลกระทบถงึ การดารงชวี ิตของผ้คู นในชุมชน เช่น

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
586

หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 รอบรู้ภมู ิศาสตร์ บทท่ี 3 ส่งิ แวดล้อมในชุมชน
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 1 เร่อื ง มลพษิ และผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงของสิ่งแวดล้อมในชุมชน

สุขภาพอนามัย
สงิ่ แวดล้อมในชุมชนที่เปลยี่ นแปลงไปจากเดิม โดยเฉพาะชุมชนทีต่ งั้ อย่ใู นเมืองใหญ่ย่อมก่อให้เกดิ
ผลกระทบโดยตรงทที่ าใหผ้ คู้ นเกดิ การเจบ็ ป่วยด้วยโรคตา่ งๆ เชน่ โรคภมู แิ พ้ โรคผวิ หนงั โรคปอด
นอกจากน้ันยงั มผี ลทางอ้อมในด้านเศรษฐกจิ เพราะผู้ป่วยตอ้ งหยุดงาน หยุดปฏิบัติภารกจิ ต่างๆ
เสยี ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟแู ละรักษา สงั คมทผี่ คู้ นมสี ุขภาพอนามยั ไม่แข็งแรง ก็จะพัฒนาให้
เจรญิ ก้าวหน้าไดล้ าบาก
การประกอบอาชพี
ส่ิงแวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาตทิ ่ีเสอ่ื มโทรมลงย่อมส่งผลกระทบต่อการขาดแหลง่ อาหารที่มี
คุณภาพ และมปี รมิ าณมากเพียงพอทจ่ี ะเลีย้ งดูผู้คนในชุมชนได้ทาให้ต้องเสียเวลาและเสียตน้ ทนุ ใน
การประกอบอาชพี มากข้ึน เชน่ พน้ื ที่ทขี่ าดแคลนน้า ส่งผลให้การเพาะปลูกไดผ้ ลผลิตนอ้ ย และต้อง
เสยี ค่าใชจ้ า่ ยในการซอ้ื น้ามาเพื่ออปุ โภคและบริโภค หรอื ผู้ทปี่ ระกอบอาชพี ประมง เม่ือแหลง่ น้ามสี ตั ว์
น้าทีน่ ้อยลงสง่ ผลให้การประกอบอาชีพไมด่ ีอยา่ งเดิม ทาให้ผคู้ นอาจต้องประกอบอาชพี อน่ื แทนหรอื
ย้ายไปประกอบอาชีพทตี่ ่างถิน่ และ ย้ายถนิ่ ท่อี ย่อู าศยั ดว้ ย
การยา้ ยถ่นิ
สิ่งแวดล้อมของชมุ ชนที่มสี ภาพเสือ่ มโทรมเกิดมลพิษที่ทาใหส้ ขุ ภาพผูค้ นอ่อนแอ
ทรัพยากรธรรมชาตมิ ีน้อย ผู้คนขาดแคลนแหลง่ อาหาร การประกอบอาชพี ฝดื เคือง ค่าแรงทไ่ี ด้รับไม่
เพียงพอกับคา่ ใชจ้ า่ ยทาใหฐ้ านะไม่ดี สิ่งเหลา่ นีเ้ ป็นสว่ นหนง่ึ ของแรงผลักดันทาให้ผคู้ นยา้ ยถิ่นออกไป
ตั้งถ่นิ ฐานยงั ชุมชนอนื่ ทด่ี กี ว่า เมื่อมผี ยู้ า้ ยออกจากชมุ ชนเดิมทาให้จานวนประชากรในชมุ ชนเดิมลด
น้อยลง ทาใหก้ ารพฒั นาชมุ ชนนั้นทาได้ยากมากขน้ึ
วิถีชวี ิต
สิ่งแวดล้อมเปลี่ยน ทรพั ยากรธรรมชาตขิ าดแคลน ทาให้วถิ ีชวี ิตของผคู้ นเกิดการแก่งแย่งกนั ซง่ึ อาจ
นาไปสูก่ ารขัดแย้งได้ เมื่อในชุมชนประกอบอาชีพไดไ้ ม่คอ่ ยดี คนวยั ทางานจงึ ตอ้ งออกไปทางานตา่ ง
ถิน่ เพือ่ หารายไดเ้ ลย้ี งครอบครัวในชุมชนจึงเหลอื แตเ่ ด็กและผู้สงู วยั ทาให้เด็กท่อี ยใู่ นปกครองขาด
ความอบอนุ่ ขาดการดแู ลเอาใจใส่อยา่ งใกลช้ ิด เด็กอาจจะมปี ญั หาดา้ นพฤติกรรมจนส่งผลกระทบต่อ
การเรียน และอาจทาใหม้ ีความรนู้ ้อย เมอื่ เตบิ โตขึ้นเด็กหางานทาได้ยาก ไดค้ ่าแรงนอ้ ย ก็จะวนกลบั
ไปสู่ความยากจนเชน่ เดมิ )

สังคมศึกษาฯ ป.3
587

หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 รอบรูภ้ มู ศิ าสตร์ บทที่ 3 สิง่ แวดลอ้ มในชมุ ชน
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง มลพิษและผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงของสิ่งแวดล้อมในชมุ ชน

Note
วัตถุประสงคข์ องกิจกรรมเพอ่ื ใหน้ ักเรยี นมี
- ทักษะการสังเกต รจู้ กั สงั เกตการณส์ ิง่ แวดลอ้ มท้งั ท่ีเกดิ ขน้ึ เองตามธรรมชาติและมนษุ ย์สรา้ งขนึ้

เช่น สังเกตขอ้ มลู ต่าง ๆ ในสิ่งท่ไี ด้พบเห็นจากส่ือตา่ ง ๆ และจากสง่ิ แวดลอ้ มรอบตัว
- ทกั ษะการแปลความข้อมลู ทางภมู ิศาสตร์ สามารถแปลความหมายของส่ิงท่ปี รากฏอย่บู นพน้ื

โลกทอี่ าจปรากฏอยูใ่ นรปู ของรูปถา่ ย
- ทักษะการคิดวิเคราะห์ เกิดจากกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ โดยนาข้อมลู ผา่ นกระบวนการ

จัดการ อธบิ าย วเิ คราะห์ และแปลผลข้อมลู
- ความสามารถในการสอื่ สาร ถา่ ยทอดความรู้ ความเข้าใจ เพอ่ื แลกเปล่ยี นข้อมลู ขา่ วสาร ซึ่งกัน

และกัน
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต รู้จกั การเรียนรูด้ ว้ ยตนเอง และสามารถนาความรูไ้ ปปรับใชใ้ น

การดาเนินชวี ติ ประจาวัน

ขัน้ สรปุ

1. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสรุปเก่ียวกบั มลพษิ และผลกระทบของการเปลยี่ นแปลงสงิ่ แวดลอ้ มที่มีตอ่ ชุมชน
ว่า “มนุษยแ์ ละสิง่ แวดล้อมมคี วามสัมพนั ธก์ นั อยา่ งต่อเน่ือง ซึ่งการกระทาของมนษุ ย์ทใี่ ชส้ ิ่งแวดลอ้ ม
และทรัพยากรธรรมชาติโดยขาดความระมดั ระวัง ส่งผลใหเ้ กิดต่างๆ เช่น มลพิษทางดิน มลพษิ ทางนา้
มลพษิ ทางอากาศ และมลพษิ ทางเสยี ง และผลจากการเกิดมลพษิ เหลา่ นที้ าใหเ้ กดิ ผลกระทบของการ
เปลย่ี นแปลงสิ่งแวดล้อมทมี่ ตี ่อชุมชนหลายดา้ น คือ ดา้ นสุขภาพอนามัย การประกอบอาชีพ การยา้ ยถนิ่
และวิถชี ีวติ ของผู้คนในชมุ ชนเปลีย่ นแปลงไปอีกดว้ ย”

2. นักเรียนทาแบบฝึกปฏิบัตทิ ักษะรวบยอด สงั คมศึกษาฯ ป.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 รอบรู้ภมู ศิ าสตร์ เร่อื ง
สงิ่ แวดล้อมในชุมชน เพอ่ื ประเมนิ ความกา้ วหนา้ ของตนเอง

9. การวดั และประเมินผล วธิ ีวัด เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ

รายการวดั - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - ประเมินตาม
9.1 การประเมินกอ่ นเรียน กอ่ นเรยี น สภาพจริง

ทดสอบก่อนเรียน
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 รอบรู้
ภูมศิ าสตร์ หนว่ ยยอ่ ยที่ 3
(บทที่ 3) สิ่งแวดลอ้ มใน
ชุมชน

สังคมศกึ ษาฯ ป.3
588

หน่วยการเรยี นรูท้ ่ี 4 รอบร้ภู ูมิศาสตร์ บทท่ี 3 สง่ิ แวดลอ้ มในชุมชน
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่อื ง มลพิษและผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงของส่ิงแวดลอ้ มในชมุ ชน

รายการวดั วิธวี ัด เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ

9.2 การประเมินระหวา่ ง - ร้อยละ 60
ผา่ นเกณฑ์
การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

1) ปฏิบัตกิ จิ กรรมรเู้ รอื่ ง - ตรวจกิจกรรมร้เู รอ่ื ง - กจิ กรรมรู้เรอ่ื ง

ภูมศิ าสตร์ ภมู ศิ าสตร์ ภูมศิ าสตร์

2) อธิบายผลกระทบของ - ตรวจแบบฝึกปฏิบัติ - แบบฝึกปฏิบตั ิ - ร้อยละ 60
การเปล่ียนแปลง ทักษะรวบยอด ทักษะรวบยอด ผา่ นเกณฑ์
สิ่งแวดลอ้ มทม่ี ตี ่อชุมชน - ร้อยละ 60
- สงั เกตการนาเสนอ ผ่านเกณฑ์
3) อภิปรายสาเหตุทีท่ าให้ ผลงาน
เกดิ มลพิษโดยมนษุ ย์ - สังเกตพฤตกิ รรม - แบบประเมินการ - ระดับคณุ ภาพ 2
การทางานรายบุคคล นาเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
4) การนาเสนอผลงาน - สงั เกตพฤตกิ รรม - แบบสังเกตพฤติกรรม - ระดบั คุณภาพ 2
การทางานกลุ่ม การทางานรายบคุ คล ผา่ นเกณฑ์
5) พฤติกรรมการทางาน - สงั เกตความมวี ินัย - แบบสังเกตพฤตกิ รรม - ระดบั คณุ ภาพ 2
รายบคุ คล ความรบั ผดิ ชอบ การทางานกลมุ่ ผ่านเกณฑ์
ใฝ่เรยี นรู้ และมงุ่ มน่ั - แบบประเมนิ - ระดบั คุณภาพ 2
6) พฤตกิ รรมการทางาน ในการทางาน คุณลักษณะ ผ่านเกณฑ์
กลุ่ม อันพึงประสงค์

7) คุณลักษณะอนั พึง
ประสงค์

10. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้

10.1 สอื่ การเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี นรายวิชา สงั คมศกึ ษาฯ ป.3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 รอบรู้ภูมิศาสตร์ บทที่ 3
สิ่งแวดล้อมในชุมชน
2) แบบฝกึ ปฏบิ ตั ทิ กั ษะรวบยอด สงั คมศกึ ษาฯ ป.3 หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 รอบรู้ภมู ิศาสตร์ บทที่ 3
สิ่งแวดลอ้ มในชมุ ชน
3) ภาพเกี่ยวกับมลพษิ ทางดิน มลพิษทางน้า มลพิษทางอากาศ และมลพิษทางเสยี ง
4) ขา่ วเหตกุ ารณ์เร่ือง PM 2.5

10.2 แหลง่ การเรยี นรู้
-

สงั คมศึกษาฯ ป.3
589

หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 รอบรูภ้ ูมศิ าสตร์ บทท่ี 3 สิ่งแวดลอ้ มในชุมชน
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 1 เรื่อง มลพิษและผลกระทบจากการเปลีย่ นแปลงของสง่ิ แวดล้อมในชุมชน

11. ความเห็นของผบู้ รหิ ารสถานศึกษาหรอื ผทู้ ี่ได้รับมอบหมาย

ขอ้ เสนอแนะ

ลงช่อื ................................

( ................................ )

ตาแหนง่ .......

12. บันทกึ ผลหลังการสอน

 ด้านความรู้

 ด้านสมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รยี น

 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์

 ด้านความสามารถทางภูมิศาสตร์

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรือพฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนักเรียนเปน็ รายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปญั หา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
590

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 รอบร้ภู มู ิศาสตร์ บทที่ 3 ส่งิ แวดล้อมในชุมชน เวลา 2 ช่ัวโมง
แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 2 เรือ่ ง การจัดการสิง่ แวดลอ้ มในชมุ ชน

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2

การจัดการส่งิ แวดลอ้ มในชุมชน

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั

1.1 ตวั ชี้วดั
ส 5.2 ป.3/6 มสี ว่ นร่วมในการจดั การสิง่ แวดลอ้ มในชุมชน

2. จุดประสงค์การเรยี นรู้

1) อธบิ ายวธิ ีการมสี ่วนรว่ มในการจัดการสง่ิ แวดลอ้ มในชุมชนได้ (K)
2) เสนอแนะวิธกี ารในการจดั การและฟ้นื ฟูสง่ิ แวดล้อมท่ีเหมาะสมกบั ชมุ ชนของตนเองได้ (P)
3) ใหค้ วามร่วมมอื กับผ้นู าชมุ ชนในการจดั การและฟนื้ ฟสู ่ิงแวดล้อมในชุมชน รวมทงั้ เห็นประโยชน์

ในการจดั การและฟ้ืนฟูส่ิงแวดลอ้ มในชุมชน (A)

3. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ สาระการเรียนรจู้ ากส่อื

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง พิจารณาตามหลักสูตรของ 1. การจัดการสิง่ แวดลอ้ มในชุมชน
สถานศึกษา 1) การมีส่วนร่วมในการจดั การ
 การจดั การสงิ่ แวดล้อมในชุมชน สง่ิ แวดล้อมในชมุ ชน
2) แนวทางการฟน้ื ฟู
สิง่ แวดลอ้ มในชุมชน
3) การมสี ่วนร่วมอนุรักษ์
สิ่งแวดล้อมในชุมชน

4. มโนทัศน์สาคญั (Key Concept)

การมสี ่วนร่วมในการจัดการสง่ิ แวดลอ้ มในชุมชนเป็นหน้าทข่ี องทกุ คนในชุมชน

5. คาถามหลกั (Big Question)

นกั เรยี นมีส่วนร่วมในการจัดการสง่ิ แวดลอ้ มในชมุ ชนได้อยา่ งไร

สงั คมศกึ ษาฯ ป.3
591

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 4 รอบร้ภู ูมิศาสตร์ บทท่ี 3 สิ่งแวดล้อมในชุมชน
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 2 เรือ่ ง การจดั การสิ่งแวดลอ้ มในชุมชน

6. การรู้เร่อื งภมู ศิ าสตร์ (Geo–Literacy)

ความสามารถทางภมู ศิ าสตร์ กระบวนการทางภูมศิ าสตร์ ทกั ษะทางภมู ิศาสตร์
1. การสงั เกต
1. ความเขา้ ใจระบบธรรมชาติ 1. การต้ังคาถามเชงิ ภูมศิ าสตร์ 2. การแปลความขอ้ มูลทาง

และมนษุ ย์ 2. การรวบรวมขอ้ มูล ภมู ศิ าสตร์

2. การใหเ้ หตุผลทางภูมิศาสตร์ 3. การจดั การขอ้ มลู

3. การตัดสนิ ใจอยา่ งเป็นระบบ 4. การวเิ คราะห์ข้อมลู

5. การสรุปเพือ่ ตอบคาถาม

7. สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รยี น คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี นิ ยั รับผิดชอบ

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้

- ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ 3. มุ่งม่ันในการทางาน

3. ความสามารถในการแก้ปญั หา

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

8. กิจกรรมการเรียนรู้

 วธิ กี ารสอนโดยกระบวนการทางภมู ศิ าสตร์ (Geographic Inquiry Process)

ชั่วโมงท่ี 1

ขนั้ นา
1. ครูถามคาถามเพอื่ ทบทวนความรูเ้ ดิมของนักเรียนวา่ “ปัญหาสิง่ แวดล้อมก่อให้เกิดผลกระทบต่อชมุ ชน

ทางดา้ นใดบ้าง” นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็
2. ครูให้นกั เรียนรว่ มกนั ยกตัวอยา่ งปัญหาส่งิ แวดล้อมท่ีเกดิ ขน้ึ ในชุมชนของตนเองและชุมชนใกลบ้ ริเวณ

โรงเรยี น ครูเขียนปัญหาทน่ี กั เรยี นยกตวั อย่างบนกระดาน และจากปัญหาท้ังหมดให้นกั เรยี นร่วมกันโหวต
ปัญหาที่นกั เรียนคิดวา่ ควรเร่งจัดการและฟ้นื ฟูอยา่ งเรง่ ดว่ นมา 1 ปญั หา

ข้ันสอน

ขัน้ ที่ 1 การตั้งคาถามเชงิ ภมู ิศาสตร์
1. ครูอธบิ ายความรูเ้ กี่ยวกับการจัดการสงิ่ แวดล้อมในชมุ ชน จากหนังสอื เรยี นรายวิชา สงั คมศึกษาฯ ป.3

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 4 รอบรู้ภมู ิศาสตร์ บทท่ี 3 ส่ิงแวดลอ้ มในชุมชน หวั ขอ้ เรอื่ ง การจดั การส่ิงแวดล้อม
ในชมุ ชน

สงั คมศึกษาฯ ป.3
592

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 4 รอบร้ภู ูมิศาสตร์ บทที่ 3 สิ่งแวดลอ้ มในชุมชน
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 2 เรื่อง การจัดการสงิ่ แวดล้อมในชุมชน

2. ครแู บง่ นกั เรยี นออกเป็นกลุม่ กลมุ่ ละ 4-5 คน ตามความเหมาะสม เพ่ือร่วมกนั เสนอแนะวธิ ีการจัดการ
สิง่ แวดลอ้ มในชมุ ชนและการเข้าไปมีสว่ นรว่ มในการจัดการสงิ่ แวดล้อมในชุมชน

3. จากปัญหาที่นกั เรียนไดร้ ว่ มกันสรุป ครแู ละนักเรียนจึงไดร้ ่วมกันตัง้ คาถามเชงิ ภูมิศาสตร์ ดงั นี้
- นักเรยี นมสี ่วนร่วมในการจดั การและฟื้นฟูสง่ิ แวดลอ้ มในชมุ ชนไดอ้ ยา่ งไร

ข้ันที่ 2 การรวบรวมข้อมลู
4. ครเู ชิญวทิ ยากรจากหน่วยงานทเี่ กีย่ วขอ้ งกับทางดา้ นสง่ิ แวดล้อมในภาครัฐหรือเอกชน หรอื เชิญผ้ทู ม่ี ี

ความร้ทู างดา้ นสิง่ แวดลอ้ มมาให้ความร้แู กน่ กั เรยี นเก่ยี วกบั แนวทางการจดั การและฟื้นฟูส่งิ แวดล้อมใน
ชุมชน
5. นักเรยี นแต่ละคนบันทึกความรทู้ ่ีได้ฟังจากวทิ ยากรหรือผู้ทีม่ ีความรู้ทางด้านส่ิงแวดลอ้ ม เพ่ือทาการ
รวบรวมข้อมูล
6. จากนั้นนกั เรียนแต่ละคนศกึ ษาความร้เู พิ่มเติมจากแหล่งเรียนรตู้ า่ งๆ เชน่ อินเทอร์เน็ต หอ้ งสมุด
เก่ียวกับแนวทางการจัดการและแนวทางการฟน้ื ฟูส่งิ แวดลอ้ มในชมุ ชน

ชว่ั โมงท่ี 2

ข้ันที่ 3 การจดั การข้อมลู
7. นักเรียนแต่ละคนนาข้อมูลทตี่ นเองได้บันทึกไวจ้ ากการบรรยายของวิทยากรและจากการศึกษาคน้ คว้า

เพิ่มเตมิ มาอภิปรายรว่ มกนั กบั สมาชกิ ภายในกลุ่มของตนเอง และร่วมกนั จัดกลุ่มข้อมูลตรวจสอบ
จาแนกขอ้ มูล โดยครชู ว่ ยช้ีแนะและตรวจสอบความถูกต้อง

ข้นั ท่ี 4 การวิเคราะหแ์ ละแปลผลข้อมลู
8. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ นาขอ้ มลู ที่ได้จากการจัดการข้อมูลแล้วนามาวเิ คราะห์ โดยจัดทาเปน็ แผนผังความคดิ

พร้อมตดิ รูปถ่ายเกี่ยวกับมลพษิ ตามประเดน็ ที่สบื คน้ และศึกษาค้นคว้ามา แลว้ ใหแ้ ต่ละกล่มุ ส่งตัวแทน
ออกมานาเสนอแผนผังความคิดของกลมุ่ ท่หี น้าชน้ั เรียน
9. นกั เรยี นนาข้อมูลที่ไดจ้ ากการวางแผนมาจดั ทาเป็นแนวทางปฏิบัติในการจัดการส่งิ แวดล้อมของชมุ ชน
และฟื้นฟสู ง่ิ แวดลอ้ มในชุมชน เชน่
- เดนิ รณรงค์สร้างจิตสานึกรกั ษาสง่ิ แวดล้อมของชุมชน
- รว่ มกนั เผยแพร่ขอ้ มูลเก่ียวกบั การรกั ษาสิง่ แวดลอ้ มของชมุ ชนลงในโซเชยี ลมีเดยี เช่น Facebook
Instagram
- เขา้ ร่วมกิจกรรมกับหน่วยงานทีเ่ กี่ยวข้องกับสง่ิ แวดลอ้ มในภาครฐั หรอื เอกชนตามโอกาสทีเ่ หมาะสม
หรอื ชว่ งเวลาทีส่ ามารถปฏิบตั ไิ ด้

สังคมศึกษาฯ ป.3
593

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 รอบร้ภู มู ิศาสตร์ บทท่ี 3 ส่งิ แวดลอ้ มในชมุ ชน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 เรอื่ ง การจัดการส่งิ แวดล้อมในชมุ ชน

10. ครใู ห้นักเรยี นร่วมกันจัดกจิ กรรมในการจดั การและฟน้ื ฟูส่งิ แวดลอ้ ม หรอื ใหค้ วามรว่ มมือกบั หน่วยงานที่
เกีย่ วขอ้ งกบั ทางด้านส่ิงแวดล้อมในภาครัฐหรอื ภาคเอกชน เพ่อื ทาการฟืน้ ฟูส่ิงแวดลอ้ มภายในชมุ ชน
ตามประเด็นปญั หาทีน่ ักเรยี นภายในชน้ั เรยี นได้ร่วมกนั คดั เลือกไว้

11. หลังจากทน่ี กั เรยี นไดป้ ฏิบตั ิกิจกรรมหรือไดเ้ ขา้ ร่วมกจิ กรรมกับหน่วยงานต่างๆ แล้วใหน้ กั เรยี นบนั ทึก
ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมลงในสมุด

ข้ันท่ี 5 การสรปุ เพ่อื ตอบคาถาม
12. นกั เรียนปฏิบัติกจิ กรรมร้เู รอ่ื งภูมศิ าสตร์ตามท่กี าหนดให้จากหนงั สือเรยี นรายวชิ า สังคมศกึ ษาฯ ป.3

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4 รอบรู้ภูมศิ าสตร์ บทที่ 3 สิง่ แวดล้อมในชมุ ชน เสรจ็ แล้วนาสง่ ครู
13. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรุปคาตอบตามประเด็นคาถาม ดังน้ี

- นกั เรยี นมสี ว่ นรว่ มในการจดั การและฟ้ืนฟูสิง่ แวดลอ้ มในชมุ ชนได้อย่างไร
(แนวตอบ
การจดั การสิ่งแวดลอ้ มสามารถทาไดง้ า่ ยๆ โดยเรมิ่ จากตัวเรากอ่ น ดงั นี้
- คิดใหม่ เราควรเปลยี่ นความคดิ และคดิ ใหม่วา่ ทรัพยากรไม่ได้มไี วใ้ ห้เราใชอ้ ย่างฟุ่มเฟอื ยแต่มีอยู่

อยา่ งจากดั จงึ ต้องใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสดุ และเป็นหน้าที่ของทกุ คนที่ต้องใหค้ วามร่วมมอื ไม่ซอื้
สนิ ค้าและบรกิ ารท่ีทางายสิง่ แวดล้อม
- ลดการใช้ เก่ยี วกบั สิ่งแวดล้อมและทรพั ยากร ใช้เฉพาะทจี่ าเปน็ ไมใ่ ชฟ้ มุ่ เฟือย เชน่ ปิดไฟเมื่อไมใ่ ช้
งานแล้ว รบั ประทานอาหารให้หมดหรอื ตกั อาหารแคพ่ อรบั ประทาน ใชถ้ ุงผ้าแทนถงุ พลาสติก
- ใช้ซา้ สงิ่ ของบางอย่างท่ีใช้แลว้ แตส่ ามารถนากลับมาใช้ได้อีก เชน่ นาขวดทใ่ี ชง้ านแล้วมาทาความ
สะอาดแลว้ นากลับไปใช้ได้อกี นาสมดุ เลา่ เก่ามาใช้จดบนั ทึก
- นากลับมาใชใ้ หม่ เปน็ การแปรสภาพสง่ิ ของท่ีกาลงั จะเปน็ ขยะ โดยผา่ นกระบวนการแปรรูป เพ่ือให้
สามารถนากลับมาใชไ้ ด้อกี ครัง้ โดยเราให้ความร่วมมอื ได้ดว้ ยการคัดแยกขยะก่อนท้งิ เพอ่ื จะได้ง่าย
ตอ่ การนาไปแปรรูปและลดพลังงานในการกาจดั
- ซ่อมแซม นาเครอื่ งใช้ที่ชารุดมาซอ่ มแซมเพอ่ื ใหส้ ามารถนากลบั มาใช้ไดอ้ ีก เชน่ ซ่อมแซมโตะ๊ เกา้ อี้
ท่ีขาหักแล้วนากลบั มาใชง้ านไดอ้ ีกคร้งั
- ปฏเิ สธ โดยการไม่รว่ มมอื และไม่สนบั สนุนการใชส้ ิง่ ของท่ที าลายสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่ซอื้ อาหารทใ่ี ช้
บรรจุภัณฑ์ทใ่ี ช้ได้เพียงคร้ังเดียว รวมทงั้ การเลิกใชห้ ลอดพลาสตกิ
- ตอบแทน เราควรทาให้ทรพั ยากรบางชนิดเพมิ่ ขึน้ ทาใหส้ ิง่ แวดลอ้ มกลับสคู่ วามเปน็ ธรรมชาติมาก
ข้นึ เช่น ปลูกตน้ ไม้ เพอ่ื เพิม่ พืน้ ท่สี ีเขยี วใหป้ ่า ปลอ่ ยลกู สัตวต์ า่ งๆ คนื สู่ธรรมชาติ
แนวทางการฟ้นื ฟสู ิ่งแวดลอ้ มในชุมชน มดี ังนี้
การฟน้ื ฟดู นิ สามารถทาได้หลายวธิ ี เช่น
- ไมใ่ ชส้ ารเคมี โดยการใช้ปุ๋ยอนิ ทรีย์ใสล่ งไปในดนิ เพอื่ เพ่มิ ธาตุอาหาร

สังคมศึกษาฯ ป.3
594


Click to View FlipBook Version