เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการข้ันสงู ๘๑
ความสำคัญตามท่ีตนต้องการ ซ่ึงผลการดำเนินการครั้งนี้ก็จะได้ผลลัพธ์ที่พึง
ประสงค์ทีม่ คี ะแนนแสดงลำดบั ความสำคัญจากมากไปหาน้อยอย่างชัดเจนดัง
ตาราง
ลำดบั ผลลพั ธ์ท่ีพึงประสงคท์ ี่ได้ ค ะ แ น น น้ ำ ห นั ก ๙
คะแนน
๑. ผลงานวจิ ัยและผลงานทางวิชาการด้าน
พุทธศาสนาเป็นท่ียอมรับและนำไปใช้
งานไดจ้ ริง ๗.๖๓
๒. มีระบบสนับสนุนงบประมาณและ
บุคลากรด้านบริการวิชาการอย่างเป็น
รปู ธรรม ๗.๑๓
๓. มี ห ลั ก สู ต ร ที่ ส อ ด ค ล้ อ งกั บ ก า ร
เปล่ียนแปลงของสังคม และเปิดโอกาส
ให้ประชาชนไดเ้ ข้ารบั การศกึ ษามากขน้ึ ๖.๕๘
๔. บัณฑิตท่ีสำเร็จการศึกษามีคุณลักษณะ
ทีด่ ตี ามความต้องการของสังคม ๖.๕๘
๕. มีการพั ฒ นาส่ือป ระชาสัมพั นธ์ท่ี
ทนั สมัยสำหรบั การบรกิ ารวชิ าการ ๖.๔๐
๖. มีการพัฒนาระบบและกลไกการพัฒนา
อ าจ ารย์ ทั้ งท างด้ าน คุ ณ วุฒิ แ ล ะ
ความก้าวหนา้ ทางวชิ าการ ๖.๒๐
๗. มีการพัฒนาระบบสนบั สนนุ การทำวจิ ัย
และผลติ ผลงานทางวิชาการ ๖.๐๑
๘ เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และเผยแพร่ ๕.๗๓
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขน้ั สงู ๘๒
ศลิ ปวัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนา
๙. เป็ น ศู น ย์ ก ล า ง ก า ร เรี ย น รู้ ด้ า น
พระพุทธศาสนาในระดบั นานาชาติ ๔.๘๔
๑๐. พั ฒ น า กิ จ ก ร ร ม ก า ร ท ำ นุ บ ำ รุ ง
ศิลปวัฒนธรรมเป็นส่วนหน่ึงของการ
ผลติ บณั ฑิต ๔.๖๔
ตารางท่ี ๒ แสดงผลการจัดลำดับความสำคญั ของผลลพั ธ์ที่พึงประสงค์
จากนั้นเพื่อจะให้ผลลัพธ์ที่พึงประสงค์ได้ถูกจับวางไว้บนความ
ต้องการท่ีผู้เขา้ ร่วมประชุมอยากเห็นหน่วยงานของตนจะตอ้ งขับเคลื่อนไปใน
อีก ๕ ปีข้างหน้า จึงต้องนำผลการถ่วงน้ำหนักผลลัพธ์ท่ีพึงประสงค์มาวางไว้
บน Time Line ดังตัวอย่างตอ่ ไปน้ี
ปี
๕๕ ผลงานวิจัยและผลงานทางวิชาการด้านพุทธศาสนาเป็นที่
ยอมรบั และนำไปใชง้ านไดจ้ ริง
๕๖
๕๗ มีระบบสนับสนุ น งบประมาณ แล ะบุคล ากรด้าน บริการวิช าการ
อยา่ งเปน็ รปู ธรรม
มีหลักสูตรที่สอดคล้องกับการเปล่ียนแปลงของสังคม และเปิด
๕๘ โอกาสใหป้ ระชาชนไดเ้ ขา้ รับการศกึ ษามากขึน้
๕๙ บัณฑิตท่ีสำเร็จการศึกษามีคุณลักษณะท่ีดีตามความต้องการของ
สังคม
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการขน้ั สงู ๘๓
มกี ารพฒั นาสือ่ ประชาสัมพันธ์ที่ทนั สมยั สำหรบั การบริการวิชาการ
มีการพัฒนาระบบและกลไกการพัฒนาอาจารย์ทั้งทางด้านคุณวุฒิ
และความก้าวหนา้ ทางวิชาการ
มีการพัฒนาระบบสนับสนุนการทำวิจัย และผลิตผลงานทาง
วชิ าการ
เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และเผยแพร่ศิลปวัฒ นธรรมทาง
พระพุทธศาสนา
เปน็ ศนู ย์กลางการเรยี นรดู้ า้ นพระพุทธศาสนาในระดับนานาชาติ
พัฒนากิจกรรมการทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมเป็นส่วนหน่ึงของการ
ผลติ บัณฑิต
รูปท่ี ๓ แสดงการจัดผลลัพธท์ พ่ี งึ ประสงคใ์ น Time Line
หลังจากที่ได้จับวางผลลัพธ์ที่พึงประสงค์แต่ละข้อไว้ในระยะเวลา
ของแผนพัฒนาระยะ ๕ ปีแล้ว จึงเข้าสู่กระบวนการระดมความคิดเห็นเพ่ือ
นำผลลัพธ์ท่ีพึงประสงค์แต่ละข้อไปจัดทำกรอบการดำเนินงานท่ีชัดเจน ผล
การระดมความคิดเห็นคร้ังน้กี ็จะได้กรอบการดำเนินงานตามตารางต่อไปนี้
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการขน้ั สูง ๘๔
ตารางที่ ๓ แสดงกรอบการดำเนินงานภายใต้ผลลพั ธ์ทีพ่ ึงประสงค์ลำดับที่ ๑
ผ ล ลั พ ธ์ ท่ี พึ ง ผลงานวิจัยและผลงานทางวิชาการด้านพุทธศาสนาเป็น
ประสงค์ ท่ยี อมรบั และนำไปใชง้ านได้จริง
ภาคีหุ้นส่วนหลัก คณะสังคมศาสตร์
(DP)
ภาคีหุ้นส่วนเชิง สถาบันวจิ ัยพทุ ธศาสตร์
ยุทธศาสตร์ สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.)
(SP) สำนกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การวจิ ยั (สกว.)
สำนกั งานคณะกรรมการวจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.)
บ ท บ า ท ภ า คี ๑. ส่งเสริมให้อาจารย์ส่งผลงานวิจัยเข้าร่วมในการ
หนุ้ สว่ นหลัก สัมมนาทางวิชาการท้ังในและต่างประเทศ
๒. สนับสนุนใหม้ กี ารตีพิมพแ์ ละเผยแพรผ่ ลงานวิจยั
๓. จัดทำ Social Lab เพ่ือนำผลงานวิจัยไปใช้ในพื้นที่
จรงิ
๔. จัดหาผู้ชำนาญการเพ่ือตรวจสอบผลงานวิจัยก่อนท่ี
จะตีพมิ พ์
๕. หาตลาดรองรบั งานวิจัย
บ ท บ า ท ภ า คี ๑. ส่งเสรมิ สนับสนนุ ทนุ ในการเผยแพรผ่ ลงานวจิ ยั
หุ้ น ส่ ว น เ ชิ ง ๒. มีคณะกรรมการหรือผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกมา
ยุทธศาสตร์ ตรวจสอบงานวจิ ัย
๓. สนบั สนนุ ใหม้ กี ารสรา้ งเครอื ข่ายงานวิจยั
๔. ประเมินการบริหารงานวิจัยในมหาวทิ ยาลยั
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขัน้ สงู ๘๕
ตัวชว้ี ัดความสำเรจ็ (KPI) ที่ ม า ตั ว ชี้ วั ด
ความสำเรจ็
เชงิ ปรมิ าณ ๑. ๘๐% ของงานวิจัยเป็นท่ี ๑. รายงานประจำปี
เชิงคุณภาพ
ยอมรับของสังคม ของมหาวทิ ยาลัย
๒. ๘๐ % ของงานวิจัยเป็น ๒. ผ่านการประกัน
ผ ล ง า น วิ จั ย ด้ า น คุณ ภ าพ ท้ั งภ ายใน
พระพุทธศาสนา และภายนอก
๓. ๘๐% ของงานวิจัยสามารถ ๓ . มี ก า ร น ำ
นำมาบูรณาการในการเรียน ผลงานวิจยั ไปอ้างองิ
การสอน ๔. มีการจดทะเบียน
๔. ๘๐% ของงานวิจัยมีการ ลิ ข สิ ท ธ์ิ ข อ ง
นำไปใชห้ รือปฏิบัติจรงิ ผลการวจิ ัย
๑ . วัฒ น ธ รรม อ งค์ ก รข อ ง
มหาวิทยาลัยเป็นวัฒนธรรม
แ ห่ ง ก า ร วิ จั ย ด้ า น
พระพุทธศาสนา
๒. มีการใช้ผลสัมฤทธิ์ทางการ
วิจัย/ประยุกต์ในการเรียนการ
สอน
๓. นักวิจัยของมหาวิทยาลัยมี
จรรยาบรรณในการวจิ ัย
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขัน้ สูง ๘๖
3.๕ การบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์ : ศึกษาเฉพาะกรณียุทธศาสตร์และ
แนวทางการบูรณาการการศาสนากับการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยของ
วดั
เพ่ือให้เห็นภาพความชัดเจนในการบูรณาการส่วนต่างๆของระบบ
ย่อยในสังคมมารวมตัวกันเป็นหน่ึงเดียวเพ่ือทำภารกิจผลักดันงานในเชิง
ยุทธศาสตร์ใหป้ ระสบความสำเร็จ ในท่ีนผ้ี เู้ ขยี นขอนำเสนอการบูรณาการการ
ศาสนามาใช้ในการจัดการศึกษาตามอัธยาศัยของวัดในพระพุทธศาสนา ซ่ึง
ด ำเนิ น ก า ร โด ย ส ำ นั ก งา น เล ข า ธิ ก า ร ส ภ า ก า ร ศึ ก ษ า แ ห่ งช าติ
กระทรวงศึกษาธิการ๑๐ ดังรายละเอยี ดตอ่ ไปนี้
ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ แ ล ะ แ น ว ท า ง ก า ร บู ร ณ า ก า ร ก า ร ศ า ส น า กั บ ก าร จั ด
การศึกษาตามอัธยาศัยของวัด เป็นการนำพุทธศาสนาสู่กระบวนการทาง
การศึกษา โดยการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน ตามแนวคิดหรือหลัก
“บวร” คือ บ้าน วัด โรงเรียนและชุมชน และการบูรณาการการศาสนา
ศลิ ปะ วัฒนธรรมการศึกษา ภมู ปิ ัญญาไทย อาชีพกบั วถิ ีชีวติ เป็นองค์รวม
การสร้างความสัมพันธ์อนั ดีระหวา่ งวัดกับชุมชนมีลักษณะการพึ่งพา
ซ่งึ กันและกัน การสงเคราะห์ เกื้อกูลกันซงึ่ มีความจำเป็นยงิ่ ต่อสัมฤทธิ์ผลของ
การจัดการศึกษา วัดท่ีเป็นกรณีศกึ ษาล้วนมีความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน เน้น
การมีส่วนร่วมของชุมชน การสร้างความร่วมมือและเครือข่าย การช่วยเหลือ
เก้ือกูลกันระหว่างวัด กับโรงเรียนและชุมชนอันเป็นแบบอย่างที่ดีของการ
บรหิ ารจดั การศึกษา
๑. บทบาทของวัด วัดบูรณาการหลักธรรม คำสอน ประเพณี
พิธีกรรม และกิจการต่างๆของวัดกับบ้าน โรงเรียน และชุมชนเพื่อดึงชุมชน
๑๐ ชุติมา สัจจานันท์, รูปแบบ ยุทธศาสตร์และแนวทางการบูรณาการการ
ศาสนากับการศึกษาของวดั ในพระพุทธศาสนา : กรณกี ารจัดการศกึ ษาตามอัธยาศยั .
(กรุงเทพมหานคร : หจก.วที ีซี คอมมิวนเิ คชั่น, 2548), หนา้ ๙๐-๙๔.
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขั้นสูง ๘๗
เข้าวัด ให้ความสงเคราะห์ชุมชนในด้านธรรมและพิธีกรรม รวมทั้งด้าน
สถานที่ของวัดแก่ชุมชน ท้ังบ้านและโรงเรียนมาทำกิจกรรมของชุมชน เพ่ือ
ประโยชน์ แก่ชุมชนเช่น การจัดตลาดนัดชุมชนวัดท่ีมีโรงเรียนต้ังอยู่ในวัดมี
บทบาทเด่นชัดในการอุปถัมภ์โรงเรียนในรูปแบบต่างๆ เจ้าอาวาสและ
พระสงฆ์ของวัดร่วมกิจกรรม เช่น เป็นท่ีปรึกษาของโรงเรียน ร่วมพัฒนา
หลักสูตรศีลธรรม สอนศีลธรรม อบรมจริยธรรมแก่นักเรยี นเป็นต้น การมอบ
สื่อการศึกษา อุปกรณ์การศึกษาแก่โรงเรียนการให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียน
หรือโครงการอาหารกล างวันวัดที่ได้รับการยกย่องในการนำเสนอ
กระบวนการเสริมสร้างศีลธรรมคุณธรรม จริยธรรม ท่ีบูรณาการบ้าน วัด
และ โรงเรียน ได้ดีเป็นวัดตัวอย่าง คือ วัดราชโอรสาราม เจ้าอาวาสเป็นองค์
อุปถัมภ์ทปี่ รกึ ษาของโรงเรียน วัดใหก้ ารอปุ ถัมภ์โรงเรียนในการพฒั นาอาคาร
สถานท่ี วสั ดุอุปกรณ์ ส่อื การศึกษา การให้ทุนการศกึ ษาแก่นักเรยี น การสรา้ ง
ห้องเรียนจริยศึกษา การร่วมพัฒนาหลักสูตรวิชาศีลธรรม การสอนและการ
อบรมจริยธรรมแก่นักเรียน การให้ครูและนักเรียนได้ใช้วัดเป็นแหล่งการ
เรยี นรู้
ความสัมพันธ์ระหว่างวัดกับบ้าน โรงเรียนและชุมชนท่ีน่าใจ มีอาทิ
วัดไตรมิตรวิทยารามราชวรวิหาร มีความร่วมมือจัดการเรียนการสอน
ภาษาจีนที่โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัยในทุกระดับชั้นในภาคปกติ และในภาค
คำ่ เปิดสอนให้บุคคลทั่วไปและชุมชน โดยผู้ช่วยเจา้ อาวาสได้ให้การสนับสนุน
เงินจำนวน ๔๐๐,๐๐๐ บาท และร่วมกับศิษยานุศิษย์จัดต้ังกองทุน
พัฒนาการเรียนภาษาจีนวัดสามจีน เพ่ือใช้ร่วมกับงบประมาณที่ได้รับจาก
กรมสามัญศึกษา และมีโครงการ “คณิตศาสตร์ เพชรยอดมงกุฎ” ชิง
ทุนการศึกษาพระราชภาวนาวิกรม เพ่ือพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนวิชา
ภาษาตา่ งประเทศท่ี ๒ (ภาษาจีน)และวชิ าคณิตศาสตร์ของครูและนกั เรยี น
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการข้นั สงู ๘๘
หลักการสำคัญที่วัดใช้เป็นแนวทางในการจัดวัดให้เป็นแหล่งการ
เรียนรู้ คือ ร่วมกับนักปราชญ์พ้ืนบ้านในชุมชนสืบทอดภูมิปัญญาในท้องถิ่น
และสร้างสรรค์องค์ความรู้ต่างๆให้แก่ชุมชน จัดกิจกรรมเพื่อการศึกษาและ
การเรียนรู้ด้วยการฟังธรรม และด้วยกระบวนการถ่ายทอดธรรมเนียม
ประเพณีการปฏิบัติจากศาสนพิธีที่วัดจัด รวมพระสงฆ์เป็นท่ีพึ่งทางด้านพุทธ
ศาสนา และวิชาการท่ีเก่ียวข้องตามความเช่ียวชาญของพระสงฆ์แต่ละรูป
เช่น เป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ปรึกษา กรรมการวัดกับชมุ ชนในท้องถ่นิ ต่างเอ้อื เฟ้ือ
ต่อกัน เช่น วัดพระธาตุศรีจอมทอง บริเวณ ใกล้วัดด้านตะวันออก มีหมู่บ้าน
แผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง ซึ่งเป็นหมู่บ้านนักปฏิบัติต่างให้การอุปถัมภ์ซ่ึงกัน
และกันด้วยดี
วัดเป็นแกนนำของประชาชนในท้องถิ่น มีบทบาทในการให้
การศึกษาและส่งเสริมการพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนโดยเฉพาะในด้าน
ศิลปวัฒนธรรม สุขภาพอนามัย อาชีพ การอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมและ
ทรัพยากรธรรมชาติ ประวัติศาสตร์โบราณคดี และมีบทบาทในการบำเพ็ญ
ประโยชน์แก่ชุมชนโดยจัดกิจกรรมร่วมกับชุมชน ภาครัฐ และภาคเอกชนใน
รูปแบบตา่ งๆ
วัดเฉลิมพระเกียรติ จัดโครงการตรวจสุขภาพประชาชนจัดต้ังกอง
ทุนการศึกษาสงเคราะหข์ องวดั สำหรับนกั เรียนยากจนขาดแคลน รว่ มกับกรม
ประมงและการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยพัฒนาแหล่งน้ำหน้าวัด โครงการ
หอกระจายข่าวเสียงตามสาย
วัดธรรมาภิมุข เจ้าอาวาสเป็นพระนักพัฒนาได้ชักชวนชาวบ้านให้
ร่วมกันพัฒนาวัดให้เป็นศูนย์กลางของชุมชนท้ังด้านกายภาพและการพัฒนา
จิตใจ เปน็ ศูนย์รวมกจิ กรรมพัฒนาเดก็ นกั เรียน นกั ศึกษา เยาวชน ประชาชน
และขา้ ราชการ
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการขน้ั สงู ๘๙
วัดสุวรรณมงคล ร่วมมือกับประชาชน ส่วนราชการในท้องถิ่นและ
เอกชนในการพัฒนาวัดและชุมชน เช่น ร่วมกับสโมสรไลออนส์ จังหวัดตราด
และราษฎรจัดสรา้ งทีอ่ ่านหนังสือพิมพ์ประจำหมู่บ้าน ร่วมกับราษฎร ลูกเสือ
ชาวบ้าน ตำรวจตระเวนชายแดน ปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติและมอบกล้าไม้ให้
ราษฎรนำไปปลูกในพื้นท่ีของตนและมีกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้โดยพา
นักเรียนธรรมศึกษาไปทัศนศึกษานอกสถานที่ร่วมกับพระสงฆ์สามเณร และ
ร่วมกับโรงเรียนวัดสุวรรณมงคล จัดงานวันแม่แห่งชาติ เน้นการสอน
คณุ ธรรมกตัญญกู ตเวที และวนั พอ่ แห่งชาติ เน้นการปฏิบัติธรรมบวชเนกขมั ม์
บำเพญ็ จิตภาวนา
วัดศรีโคมคำ จัดสร้างฉางข้าว หาทุนสนับสนุนการจัดต้ังร้านค้า
ประจำหม่บู า้ น ช่ือว่าตลาดสาธติ การค้าประจำหมบู่ ้าน จดั หาทุนส่งเสริมกลุ่ม
แมบ่ ้าน อบรมอาชีพแกช่ าวบ้าน และจดั ตัง้ ศนู ย์เด็กเลก็ ในหมูบ่ า้ น
วัดนาหลวง ต้ังอยู่ในเขตวนอุทยานแห่งชาติ จึงได้รับมอบหมายให้
วัดช่วยดูแลป่า พระมีหน้าท่ีเทศนาส่ังสอนชาวบ้านใกล้เคียง และชาวบ้านไม่
บุกรกุ เพราะเห็นวา่ เปน็ สถานทข่ี องวดั
๒. บทบาทของบ้าน โรงเรียนและชุมชน บ้าน โรงเรียนและชุมชน
ให้การอุปถัมภ์วัดและพระสงฆ์ ให้อามิสทาน แก่พระสงฆ์ การให้ความ
ร่วมมือ ช่วยเหลือในการบริหารจัดการการดำเนินกิจกรรมของวัด เช่น การ
เป็นกรรมการวัด การช่วยเหลือในกิจกรรมต่างๆของวัด การประพฤติธรรม
และดำรงตนเป็นคนดี โรงเรียนให้การสนับสนุนให้นักเรียนศึกษาหาความรู้
จากแหล่งการเรียนรู้ของวัด เช่น โรงเรียนวัดจองคำ ครูมอบหมายงานให้
นกั เรียนมาศกึ ษาค้นคว้าจากแหลง่ การเรียนรู้ภายในวดั
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการขนั้ สงู ๙๐
สรปุ
การจัดการโครงการแบบบูรณาการ คือ การบริหารการพัฒนาท่ีผู้ที่
เกี่ยวข้องทุกส่วนมีการกำหนดเป้าหมาย แผนงานรวมขององค์กร มีการ
จัดการ และการวัดผลงานร่วมกัน โดยมีการกำหนดไว้เป็นแผนยุทธศาสตร์
(Strategic Plan) ซึ่งให้เป็นทิศทางในการดำเนินงาน มุ่งสู่วิสัยทัศน์ (Vision)
และผลสัมฤทธิ์ (Result) ขององค์กร และเทคนิคที่นำมาใช้ในการจัดการ
โครงการแบบบูรณาการได้แก่ การจัดโครงการแบบแผนท่ีผลลัพธ์ ท่ีมุ่งเน้น
การเปลี่ยนแปลงองค์กรท่ีไม่ใช้เพียงแค่ผลผลิตเท่านั้น หากท่ีมุ่งสู่การสร้าง
โครงการให้เป็นกลไกในการเปลี่ยนแปลงความคิด ความรู้สึก ทัศนคติ และ
พฤติกรรมของคนในองค์กรได้เปลี่ยนแปลงไปด้วยอนั จะก่อให้เกิดการเก้ือกูล
ตอ่ ประสทิ ธภิ าพของงานต่อไป
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขั้นสงู ๙๑
คำถามประจำบท
1. ให้สรปุ แนวคดิ เก่ยี วกับการจดั การโครงการ
2. การบรู ณาการโครงการมคี วามสำคัญอยา่ งไร
3. สาระสำคญั ของการจดั การโครงการแบบบูรณาการมอี ะไรบ้าง
4. การจัดการโครงการแบบบูรณาการโดยใช้แผนท่ีผลลัพธ์ส่งผล
ต่อองค์กรอยา่ งไร
5. ให้นิสิตอธิบายถึงรูปแบบ วิธีการของการจัดการโครงการพร้อม
ยกตวั อยา่ งประกอบ
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขน้ั สูง ๙๒
อ้างอิงประจำบท
เกรียงศักด์ิ เจริญวงศักด์ิ. แหกคุกทางปัญญา. กรุงเทพฯ : ซัคเซสมีเดีย,
2542.
ชุติมา สัจจานันท์. รูปแบบ ยุทธศาสตร์และแนวทางการบูรณาการการ
ศาสนากับการศึกษาของวัดในพระพุทธศาสนา : กรณีการจัด
การศึกษาตามอัธยาศัย. กรุงเทพมหานคร : หจก.วีทีซี คอมมิวนิ
เคชนั่ , 2548.
ซาราน เอ เฟรด คาร์เดน และคณะ (แปลโดย พิกุล สิทธิประเสริฐกุล และ
คณะ). แผนที่ผลลัพธ์ (Outcome Mapping) : การสร้างการ
เรยี นรแู้ ละการสะท้อนกลบั ในแผนงานพัฒนา. กรงุ เทพมหานคร :
โรงพมิ พ์เดือนตลุ า, ๒๕๔๗.
ปยิ วรรณ คงประเสรฐิ .การท่องเที่ยวเชงิ นิเวศแบบบูรณาการเพอื่ การวางแผน
พัฒนาการท่องเที่ยวอย่างย่ังยืนท่ีเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี.
ปริญญานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบณั ฑติ . มหาวิทยาลัยศรีนครินท
รวโิ รฒ : บณั ฑติ วทิ ยาลยั , 2551.
ราชบัณฑติ ยสถาน. พจนานุกรมฉบับราชบัณฑติ ยสถานสถาน พ.ศ.๒๕46.
กรุงเทพมหานคร : อกั ษรเจริญทัศน์, 2552.
บทที่ ๔
การวางแผนและดำเนินการโครงการ
(project planning and execution)
แผนการเรียนการสอน
1. ความสำคญั ของการวางแผนโครงการ
2. ปจั จัยที่เกี่ยวข้องกบั การวางแผนโครงการ
3. กระบวนการวางแผนโครงการ
4. การกำหนดกิจกรรมเพ่ือดำเนินโครงการ
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. สามารถอธิบายความสำคัญของการวางแผนโครงการได้
2. ทราบปัจจัยทเ่ี ก่ียวข้องกบั การวางแผนโครงการ
3. สามารถอธิบายถึงกระบวนการวางแผนโครงการได้
4. สามารถการกำหนดกจิ กรรมเพอื่ ดำเนนิ โครงการได้
กิจกรรมการเรียนการสอน
1. ฝกึ ทำแบบฝึกหดั ท้ายบท
2. อา่ นทบทวนและสรุปสาระสำคัญ
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขน้ั สูง ๙๔
๔.๑ การวางแผนโครงการ
ข้ันตอนของการวางแผนโครงการจะเป็นข้ันตอนแรกท่ีมีความ
เก่ียวข้องกับความเป็นมาของโครงการ โดยมีแนวความคิดจากแหล่งต่างๆ ที่
ต้องการให้มีโครงการเกิดข้ึนและเป็นเร่ืองเก่ียวข้องกับการเปลี่ยนปัจจัย
ทางการบริหาร ได้แก่ บุคลากร วัสดุอุปกรณ์ เงินทุน ข้อมูล และการจัดการ
ให้ เป็ น ผ ล ผ ลิ ต ห รื อ ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ท่ี มี ค ว าม ส อ ด ค ล้ อ งกั บ วั ต ถุ ป ร ะ ส งค์ ข อ ง
โครงการ ดังนั้นผู้บริหารโครงการจะต้องให้ความสำคัญในด้านวัตถุประสงค์
ขอบเขตการดำเนินงาน องค์การ คุณภาพ ต้นทุน เวลา เป็นต้น เพื่อนำ
วัตถุประสงค์ดังกล่าวมาวางแผนเพ่ือดำเนินกิจกรรมท่ีเก่ียวข้องต่อไป การ
ริเรมิ่ โครงการท่จี ะให้มีโครงการเกิดข้ึนน้ีเกิดจากการเห็นโอกาสทางการตลาด
องค์การจึงดำเนินการผลิตผลิตภัณฑ์ที่ตลาดต้องการหรือเกิดจากความ
ตอ้ งการ เสรมิ ให้โครงการท่ีกำลังดำเนินการอยแู่ ล้วประสบผลสำเร็จ เกดิ จาก
ภัยพิบัติทางธรรมชาติ องค์การจึงต้องมีโครงการในการดูแลและช่วยเหลือ
เกิดจากความต้องการของสังคม จึงต้องกำหนดให้มีโครงการให้ความ
ช่วยเหลือ เป็นต้น ดังนั้นผู้บริหารโครงการจะต้องใช้ทรัพยากร การบริหาร
ต่างๆ ทำให้ผู้บริหารจำเป็นจะต้องใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิด
ประโยชน์สงู สดุ
การวางแผนโครงการเป็นกระบวนการแรกของการเร่ิมต้นโครงการ
หากโครงการไม่ได้รับความเอาใจใส่ไว้ล่วงหน้าแล้วจะทำให้โครงการน้ันเป็น
โครงการท่ีถูกำหนดขึ้นมาอย่างเลื่อนลอย ขาดความน่าเชื่อถือ ซึ่งเหตุการณ์
ดงั กล่าวเกิดจากการขาดการวเิ คราะห์ขอ้ มลู สารสนเทศ ความเปน็ เหตเุ ป็นผล
ท่ีสอดคล้องกันในการดำเนินโครงการ ขาดการพิจารณาจากฐานข้อมูลท่ี
เกย่ี วข้องอย่างครอบคลมุ ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ขาดการสร้างรากฐาน
ความเข้มแข็งให้กับโครงการอย่างเป็นระบบ ซึ่งจะทำให้เกิดความล้มเหลว
จากการดำเนินโครงการในอนาคตได้ ดังน้ันการกำหนดโครงการท่ีผิดพลาด
จะก่อให้เกิดผลกระทบตามมาอย่างต่อเน่ือง เนื่องจากสภาวะแวดล้อมใน
ปัจจุบันมีการเปล่ียนแปลงที่รวดเร็วและมีความไม่แน่นอนจึงทำให้โครงการ
ไดร้ บั ความสำคัญมากย่งิ ขน้ึ
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการข้ันสงู ๙๕
ผู้บริหารโครงการควรเริ่มต้นจากการวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมท้ัง
ภายในและภายนอกอย่างรอบคอบก่อนดำเนินโครงการจริง เน่ืองจาก
กิจกรรมของโครงการจะมีความสัมพันธ์อย่างเป็นระบบเพ่ื อบรรลุ
วัตถุประสงค์และเพ่ือสนองตอบความต้องการตามแผนงานที่กำหนดของ
องค์การ การวิเคราะห์สภาวะแวดล้อมจึงมีส่วนช่วยทำให้ลดผลกระทบจาก
สภาวะแวดล้อมท่ีไม่คาดคิดลงได้ จากลักษณะของการดำเนินโครงการที่มี
ความแตกต่างออกไปจากการวางแผนการปฏิบัติโดยทั่วไป ดังน้ันผู้วางแผน
โครงการจะต้องทราบถึงหลักการท่ีจำเป็นในการดำเนินโครงการและให้
ความสำคัญในการวางแผนด้วย
๔.๑.๑ ความสำคญั ของการวางแผนโครงการ
โครงการเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของแผนงานหลักในองค์การ ซ่ึง
แผนงานแต่ละแผน จะประกอบไปด้วยโครงการที่จะต้องมีความครอบคลุม
กิจกรรมทุกด้านของแผน แผนงานจะไม่สามารถดำเนินการไปได้อย่างมี
ประสิทธิภาพหากแผนน้ันขาดโครงการที่ไม่ครอบคลุมงานหรือกิจกรรม
ได้แก่ การกำหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมาย วิธีการดำเนินกิจกรรมท่ีชัดเจน
เป็นต้น เพ่ือให้การดำเนินกิจกรรมบรรลุผลสำเร็จของโครงการ ดังนั้น
ผบู้ ริหารจึงต้องทำการวางแผนงานหรือกำหนดกิจกรรมเป็นข้ันตอนท่ีมีความ
สอดคล้องกันไป นอกจากนี้ลักษณะที่สำคัญของโครงการ คือ การปฏิบัติท่ี
สอดคล้องกัน เนื่องจากการดำเนินโครงการมักเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน
และการดำเนินกิจกรรมท่ีมีความซับซ้อนรวมท้ังมีวัตถุประสงค์ท่ีชัดเจ นซ่ึง
เป็นปัจจยั สำคญั และยังเป็นปจั จยั ทีก่ ำหนดความสำเรจ็ ของโครงการอีกดว้ ย
การวางแผนโครงการ (Project planning) คือ ความพยายามท่ีจะ
คาดคะเนเวลาและค่าใช้จ่ายท่ีจะใช้ในการดำเนินงานโครงการใดโครงการ
หนึ่ง นอกจากน้ียังรวมถึงผลประโยชน์ท่ีคาดว่าจะได้รับจากโครงการ การ
กำหนดขน้ั ตอนในการทำงาน กิจกรรมท่จี ะต้องทำ เวลาที่ใชใ้ นแตล่ ะกิจกรรม
รวมท้ังบุคลากรที่เหมาะสมในแต่ละกิจกรรมด้วย ในแต่ละโครงการควรจะ
วางแผนในรายละเอียดใหม้ ากก่อนทจ่ี ะเรม่ิ ทำงานจริงและเมอื่ ดำเนินงานจริง
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการขัน้ สูง ๙๖
แล้วควรมีการตดิ ตามและควบคุมให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ด้วย สำหรับการ
กำหนดแผนงานและออกแบบโครงการจะประกอบไปด้วยกิจกรรมต่างๆ
ได้แก่ การวิเคราะห์ การออกแบบและการพัฒนาโปรแกรม การเตรียม
เอกสาร การฝึกอบรมและการปฏิบัติงานจริง ซึ่งแต่ละกิจกรรมก็จะ
ประกอบด้วยงานย่อยแยกอีก ได้แก่ การคาดคะเนและกำหนดระยะเวลา
การเตรียมตาราง การปฏิบัติงาน คาดคะเนและจัดสรรค่าใช้จ่าย
ผลประโยชนท์ จี่ ะไดร้ ับ เป็นต้น
สำหรับลักษณะของการวางแผนโครงการที่มีประสิทธิผลนั้น จะ
ประกอบไปด้วยคุณลักษณะที่สำคัญ คือ โครงการต้องมีวัตถุประสงค์ท่ีมี
ความเฉพาะเจาะจง มีความยืดหยนุ่ มีการประสานท่ีดีระหว่างผู้ปฏิบัติและมี
การวางแผนการควบคุมท่ีดี เป็นต้น ส่วนองค์ประกอบของการวางแผน
โครงการ ได้แก่ มีการกำหนดภาพรวมของโครงการ มีการกำหนด
วัตถุประสงค์ของโครงการ มีการกำหนดเน้ือหาทั่วไปของโครงการ มีการ
พิจารณาข้อตกลงการปฏิบัติงาน มีการกำหนดเวลาในการปฏิบัติ ทรัพยากร
ที่ใช้ในการบริหารโครงการ บุคลากรผู้ปฏิบัติในโครงการ เครื่องมือหรือ
เทคนิคในการประเมินโครงการการ พิจารณาปัญหาและอุปสรรคท่ีอาจ
เกิดข้ึนได้ เป็นต้น ส่วนกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเก่ียวข้องในการวางแผนโครงการ
ประกอบด้วย คณะกรรมการอำนวยการ ผู้บริหารระดับสูง ผูจ้ ัดการตามสาย
งาน ผู้จัดการโครงการ ผู้จัดการกลุ่มงาน ท่ีปรึกษาโครงการ ผู้เช่ียวชาญหรือ
ผู้ชำนาญพิเศษ เปน็ ต้น
วิสูตร จิระดำเกิง กล่าวว่า ขั้นตอนการวางแผนน้ันจะเริ่มตั้งแต่การ
กำหนด วัตถุประสงค์ของโครงการ วิธกี ารจัดการและวิธีทำงานต่างๆ เพ่ือให้
บรรลุตามเป้าหมาย โดยการแยกโครงการออกเป็นกลุ่มงานและงานแล้วจึง
กำหนดเวลาแต่ละงาน ตลอดจนความสัมพันธ์ระหว่างงาน โดยทีมงาน
บริหารโครงการจะกำหนดต้นทุนการใช้ทรัพยากรต่างๆ สำหรับแต่ละงาน
และรวมเป็นของท้ังโครงการ ท้ังน้ีจะต้องให้ผู้รับผิดชอบในแต่ละกลุ่มงาน
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการข้ันสูง ๙๗
และในกรณีที่ต้องมีการพัฒนาวิธีการที่ต้องพัฒนา วิธีการปฏิบัติท่ีจำเป็นก็
จะต้องจัดทำไปในช่วงเวลาท่ีเหมาะสม รวมไปถึงการฝึกอบรมให้กับผู้ปฏิบัติ
ดว้ ย๑
การวางแผนโครงการน้ันมีประโยชน์และความสำคัญต่อองค์การ
หลายประการ หากผู้บริหารมีการวางแผนโครงการอย่างเป็นระบบแล้ว จะ
ทำให้การใช้ทรพั ยากรทีม่ ีอยอู่ ย่างจำกดั เปน็ ไปอย่างมีประสิทธิภาพ เนือ่ งจาก
การวางแผนโครงการไดม้ กี ารพิจารณาถงึ กิจกรรมท่ีเกยี่ วข้องทำใหส้ ามารถใช้
ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า ลดความสูญเสียและข้อผิดพลาดลงได้ การวางแผน
โครงการท่ีดีควรจัดทำอย่างเป็นระบบและอาศัยความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับ
ตัวโครงการ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่โครงการต้องการแก้ไขและความคาดหวัง
จากการแก้ไขปญั หานั้น ดังนนั้ โครงการจะต้องมกี ารประสานงานกบั โครงการ
อ่ืนๆ ด้วย ดังนนั้ การประสานงานจึงจะช่วยทำให้การใช้ทรพั ยากรที่มีอยู่อยา่ ง
จำกดั เปน็ ไปอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
โครงการประกอบด้วยกิจกรรมที่เป็นระบบย่อยท่ีมีความเก่ียวข้อง
กับระบบย่อยหลายๆ ระบบ จึงทำให้การวางแผนโครงการเป็นกลไกในการ
ประสานกิจกรรมต่างๆ ของโครงการ ดังนั้นการวางแผนโครงการจึงต้อง
ดำเนินการก่อนกิจกรรมอ่ืน เพ่ือกำหนดกจิ กรรมท่ีจำเป็นต่อความสำเร็จของ
โครงการ ซ่ึงปัญหาจากกิจกรรมในการดำเนินโครงการที่ผู้บริหารโครงการ
จะต้องคำนึงถึง คือ ผลการดำเนินโครงการท่ีอาจเกิดการเบี่ยงเบนไปจาก
แผนท่ีกำหนดหรือผลผลิตของโครงการแตกต่างจากที่คาดหวัง เป็นต้น
เนื่องจากในการนำโครงการไปปฏิบัติมักพบว่าผู้ท่ีเก่ียวข้องกับโครงการไม่
สามารถปฏิบัติงานได้ตามแผนที่วางไว้ ดังน้ันการวางแผนที่ดีและเหมาะสม
จึงเปน็ ปจั จยั ทม่ี ีความสำคัญต่อความสำเร็จของโครงการ
อย่างไรก็ตาม การวางแผนโครงการยังมีความจำเป็น เน่ืองจากไม่
เพียงแต่ทำให้ผู้บริหารสามารถประสานงานกับกิจกรรมต่างๆ ของโครงการ
๑วิสูตร จริ ะดำเกิง, การบริหารโครงการ แนวทางปฏิบตั ิจริง, (กรุงเทพมหานคร :
วรรณกวี, ๒๕๔๗), หน้า ๙๗.
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการข้นั สงู ๙๘
อย่างมปี ระสิทธิภาพ แตย่ ังทำให้สามารถตัดสนิ ใจและจัดสรรทรัพยากรให้กับ
กิจกรรมภายในโครงการอย่างเหมาะสมอีกด้วย ให้ผู้บริหารสามารถบริหาร
โครงการจนบรรลุวัตถุประสงค์ท่ีต้องการ นอกจากน้ีการวางแผนโครงการ
อย่างมีประสิทธิภาพทำให้โครงการ สามารถแล้วเสร็จภายในระยะเวลาและ
งบประมาณที่กำหนด โดยการวางแผนจะมีการคำนึงถึงวัตถุประสงค์ ท้ังใน
ระยะสั้น ปานกลาง และระยะยาวเพื่อการบรรลุภารกิจขององค์การหรือ
สังคม การวางแผนโครงการจึงเป็นวิธีการวางแผนที่มุ่งเน้นอนาคต มีการใช้
ระบบสารสนเทศในการบริหารกิจกรรมในโครงการ แบบบูรณาการ และ
มุ่งเน้นถึงการบรรลุผลสำเร็จตามแผนท่ีได้กำหนดไว้ในแผนของโครงการ
นั่นเอง
๔.๑.๒ ปจั จยั ที่เกยี่ วขอ้ งกับการวางแผนโครงการ
เม่ือแผนโครงการได้รา่ งเสรจ็ แลว้ เพื่อให้เกิดความมนั่ ใจวา่ ทรัพยากร
ท่จี ำเป็นจะได้รับการจัดสรรอย่างเพียงพอและแผนจะถูกนำไปสู่การปฏิบัติได้
อย่างเหมาะสม ผู้บริหารโครงการควรส่งแผนไปให้ผู้บริหารระดับสูงได้
พิจารณาและให้ข้อเสนอแนะเพ่ือการปรับปรุงและแก้ไขเบื้องต้น เมื่อแผนได้
ปรับปรุงแก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงนำเสนอแผนโครงการเพื่อให้ความ
เห็นชอบและรับการอนุมัติ และเมื่อโครงการได้รับการอนุมัติให้ดำเนิน
โครงการแล้ว จากนั้นผู้บริหารโครงการจึงจัดทำแผนดำเนินงาน เช่น การจัด
โครงสร้างการปฏิบัติเพื่อนำไปสู่วัตถุประสงค์ที่ต้องการ โดยแผนจะแสดงให้
ทราบถึงภาระหน้าท่ีและความรับผิดชอบท่ีบุคลากรแต่ละคนต้องปฏิบัติ
รวมถึงการตัดสินใจท่ีสำคัญทั้งหมด ดังน้ันแผนโครงการจึงเป็นกลไกสำหรับ
การติดต่อประสานงานระหว่างผู้ปฏิบัติในโครงการและเป็นกิจกรรมแรกที่
จัดทำขึ้นเพ่ือใช้กำหนดลำดับของงานอย่างละเอียดและเตรียมงบประมาณ
สำหรับโครงการตอ่ ไป
แ ผ น โ ค ร ง ก า ร จ ะ ถู ก จั ด ท ำ แ ล ะ ก ำ ห น ด ก า ร ใน รู ป ป ฏิ ทิ น เพื่ อ
ดำเนินการอย่างเหมาะสม ถ้าหากแผนโครงการท่ีไม่ได้ถูกกำหนดการเพ่ือ
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขั้นสงู ๙๙
ดำเนินการอย่างเหมาะสมล่วงหน้าแล้ว อาจจะนำไปสู่การดำเนินงานท่ีมี
ปัญหาและอุปสรรคจนเกิดความล้มเหลวได้ ดังนน้ั สิ่งสำคัญท่ีผบู้ รหิ ารจะต้อง
ทำการวางแผนเพ่ือดำเนินงานต้ังแต่เริ่มต้นก่อนที่จะเริ่มต้นทำกิจกรรมอื่น
อย่างไรก็ตามแผนสำหรับดำเนินโครงการท่ีดีนั้น จะต้องสามารถปรับปรุง
เปล่ียนแปลงได้ตามความเหมาะสมตามสถานการณ์ เน่ืองจากสภาวะ
แวดล้อมที่โครงการต้องเผชิญสามารถเปล่ียนแปลงไป จนสามารถทำให้ผล
การดำเนินโครงการคลาดเคลื่อนไปจากวัตถุประสงค์ได้ตลอดเวลาน่ันเอง
อย่างไรก็ตามแผนจะถูกเปล่ียนแปลงก็ต่อเม่ือต้องการป้องกันหรือแก้ไข
ปญั หา เชน่ ขาดแคลนเงินทุน ใช้เวลาเกนิ กวา่ ที่กำหนด เป็นต้น ท่ีแตกต่างไป
จากแผนทก่ี ำหนดไว้
ข้อมูลสารสนเทศเป็นปัจจัยที่สำคัญและจำเป็นสำหรับการวางแผน
โครงการ ผู้วางแผนจำเป็นต้องค้นหาข้อมูลท่ีเกี่ยวข้องมาวิเคราะห์
ประกอบการตัดสินใจ เช่น ผู้ที่มีส่วนเก่ียวข้องกับโครงการ ประเภทของ
โครงการ สถานที่ต้ังของโครงการ ขอบเขตของงานท่ีต้องดำเนินการ การ
ประมาณการดา้ นต้นทุน ปัจจยั ดา้ นสภาวะแวดลอ้ ม เป็นต้น นอกจากนก้ี ารมี
ส่วนร่วมระหว่างผู้บริหารและผู้ปฎิบัติในโครงการ ก็เป็นปัจจัยที่มีบทบาท
และความสำคัญในการเตรียมแผนและดำเนินโครงการอีกด้วย สำหรับผู้มี
ส่วนร่วมในโครงการ เช่น วิศวกร ผู้บริหาร ผู้ประเมินผลโครงการ เป็นต้น
ผู้บริหารโครงการต้องสร้างความรู้และความเข้าใจในด้านวัตถุประสงค์ที่
ต้องการจากโครงการกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องดังกล่าว เนื่องจากความเข้าใจที่
ตรงกันสามารถส่งผลต่อความสำเร็จของโครงการได้ ดังน้ันการมีส่วนร่วมจึง
เป็นปัจจัยท่ีมีความสำคัญ ทั้งในการมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางการ
ปฏิบัติ การติดตามผลงาน และควบคุมงาน เป็นต้น
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการข้นั สูง ๑๐๐
เพ่ือให้การวางแผนโครงการเกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ผู้
วางแผนโครงการจะตอ้ งคำนึงถึงปัจจยั ต่างๆ ที่มีความสำคัญของการวางแผน
โครงการและการดำเนนิ โครงการดังนี้๒
๑. ภาพรวม เป็นส่วนแรกท่ีมีการสรุปวัตถุประสงค์และขอบเขตของ
โครงการ ซึ่งประกอบด้วย ข้อความที่ระบุหลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์
เปา้ หมาย การวัดความก้าวหน้าของโครงการ เปน็ ต้น
๒. วัตถุประสงค์ เป็นส่วนของแผนท่ีจะให้รายละเอียดและกล่าวถึง
ในส่วนแรก รวมทั้งเป้าหมายทางด้านเทคนิคที่ใช้ การกำหนดผลลัพธ์ท่ี
ต้องการและมคี วามชดั เจนจากการดำเนินโครงการ
๓. วิธีการดำเนินงาน เป็นส่วนท่ีอธิบายถึงวิธีการหรือแนวปฏิบัติ
โดยทั่วไปจะกำหนดแนวทางในการปฏิบัติ เช่น เทคนิควิธีปฏิบัติ การ
ประสานงาน ความสัมพนั ธ์ของกิจกรรมต่างๆ ในโครงการ เป็นต้น
๔. ลักษณะของสัญญา เป็นส่วนท่ีมีความสำคัญที่ประกอบด้วย
รายการและคำอธิบายของรายงานที่ถูกกำหนดไว้ในส่วนต่างๆ การจัดเตรียม
สญั ญาข้อตกลงตา่ งๆ วิธีการยกเลิกสัญญา เปน็ ต้น
๕. กำหนดการ เป็นส่วนท่ีระบุถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดข้ึนและใช้
สำหรับการวัดความก้าวหน้าของโครงการท้ังหมดหรือระยะเวลาท่ีคาดว่าจะ
ใช้ในการดำเนนิ โครงการ เปน็ ต้น
๖. ทรัพยากร เป็นส่วนประกอบด้วยงบประมาณที่ระบุถึงเงินลงทุน
และค่าใช้จ่ายต่างๆ ท่ีจำเป็นต้อง ใช้ในการดำเนินงาน วิธีการในการจัดสรร
การกำกับดูแล และการควบคมุ เงินลงทุนหรือค่าใช้จ่าย
๗. บุคลากร เป็นการระบุถึงบุคลากรท่ีต้องการ เช่น จำนวน ความรู้
ความชำนาญ การฝึกอบรมที่จำเป็น ปญั หาที่เกิดจากการแสวงหานโยบายใน
การบริหารบคุ ลากร การประสานงาน เปน็ ต้น
๒ฐาปนา ฉ่ินไพศาลและอัจฉรา ชีวะตระกูลกิจ, การบริหารโครงการและ
การศึกษาความเป็นไปได้, (กรงุ เทพมหานคร : ธีระฟลิ ม์ และไซเท็กซ์, ๒๕๔๗), หน้า ๒-
๘.
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขัน้ สูง ๑๐๑
๘. วิธีการประเมิน เป็นการเปรียบเทียบกับมาตรฐานหรือวิธีการที่
กำหนดไว้ในข้ันตอนของการรับโครงการ การกำหนดแนวทางหรือเทคนิควิธี
ในการประเมนิ ผลดา้ นความสำเรจ็ ของโครงการ
๙. ปัญหาท่ีอาจจะเกิดข้ึนได้ เป็นการคาดการณ์ถึงปัจจัยที่สามารถ
สง่ ผลกระทบต่อการบรรลุผลสำเร็จ เช่น ความล่าช้า ข้อจำกัดของทรัพยากร
การขาดการติดตอ่ และประสานงานของบุคลากร เป็นต้น
นอกจากนี้สภาวะแวดล้อมท้ังภายในและภายนอกของโครงการยัง
เปน็ ปจั จยั ท่ีเกยี่ วข้องกับการบรรลผุ ลสำเรจ็ ของการวางแผนโครงการท่สี ำคัญ
อีกด้วย โดยสภาวะแวดล้อมดังกล่าวสามารถส่งเสริมหรือขัดขวางการบรรลุ
ความสำเร็จของโครงการ ได้แก่ ด้านโครงสร้างขององค์การหรือสังคม เช่น
กฎหมาย ขนบธรรมเนียมประเพณี เป็นต้น ด้านการบริหาร เช่น โครงสร้าง
การบริหารแบบรวมศูนย์ที่ควบคุมการตัดสินใจด้านทรัพยากร ทัศนคติของ
ผู้บริหารที่ต่อต้านการดำเนินโครงการ เป็นต้น และด้านสังคม เช่น
ผู้รับบริการขาดความม่ันใจหรือไม่ยอมรับโครงการ เป็นต้น ดังนั้นการ
วเิ คราะหถ์ งึ ปัจจัยที่เกีย่ วข้องกับสภาวะแวดลอ้ มสำหรับการวางแผนโครงการ
จงึ เปน็ ปัจจัยทม่ี คี วามสำคัญต่อการดำเนินโครงการด้วย
๔.๑.๓ กระบวนการวางแผนโครงการ
ในการวางแผนน้ัน จะต้องทำในทุกข้ันตอนของวงจรโครงการเพ่ือ
เตรียมไปสู่ขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ผู้บริหารยังอาจกระทำซ้ำในหลายๆ
ระดบั พรอ้ มกัน ซึ่งโครงการหนง่ึ มักประกอบดว้ ยแผนย่อย ท่แี ยกออกจากกัน
ตามช่วงเวลาและตามขั้นตอนของโครงการ เช่น แผนการจัดซื้อและจัดจ้าง
การปฏิบตั ิการ การบำรงุ รักษา เป็นตน้ กระบวนการและข้นั ตอนการวางแผน
โครงการจะเร่มิ ตน้ ต้ังแตก่ ารกำหนดวัตถปุ ระสงค์ วิธีการจัดการและวธิ ีปฏิบัติ
เพ่ือให้เกิดการบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายโดยการแบ่งแยก กิจกรรมใน
โครงการออกมาแล้วจึงทำการกำหนดเวลาของแต่ละกิจกรรม ตลอดจน
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขั้นสงู ๑๐๒
ความสัมพันธ์ระหว่างกิจกรรม โดยคณะทำงานจะทำการกำหนดการใช้
ทรัพยากรบริหารต่างๆ ในแต่ละกิจกรรมและรวมเป็น ทรัพยากรรวมของทั้ง
โครงการ ท้ังนี้ผู้บริหารโครงการจะต้องมีการกำหนดผู้รับผิดชอบในแต่ละ
กิจกรรมอีกด้วย ดังแผนภาพที่ ๔.๑ แสดงวัฏจักรของเดมม่ิง (Deming
cycle) ในการวางแผนดงั นี้
การวางแผน
(Plan)
การปรบั ปรงุ แก้ไข การปฏิบตั ิ
(Act) (Do)
การตรวจประเมิน
(Check)
แผนภาพที่ ๔.๑ แสดงวฏั จกั รของเดมมิง่ (Deming cycle)
เพ่ือให้การปฏิบัติโครงการเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ผู้บริหารจึงควร
ดำเนินการจดั ทำแผนการ นำโครงการไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งอาจเรียกวา่ แผนการ
ดำเนินงานหรือแผนยทุ ธวิธีเปน็ กระบวนการแปรเปลยี่ นสง่ิ ทโ่ี ครงการตอ้ งการ
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการข้ันสูง ๑๐๓
ทั้งหมดให้เป็นกลุ่มงานต่างๆ ตามลำดับ ด้วยหลักเหตผุ ล ซึ่งประกอบด้วย ๕
ขน้ั ตอน ดงั นี้๓
๑. พิจารณาหรือกำหนดปัญหา เป็นการศึกษาและวิเคราะห์ถึง
ปัญหาด้านความต้องการ เช่น เหตุผลท่ีผู้รับบริการมีความต้องการ ซึ่งก่อนที่
จะกำหนดวัตถุประสงค์ของโครงการผู้วางแผนโครงการต้องพิจารณาและให้
ความสำคัญกับสภาวะแวดล้อมทั้งท่ีมาจากภายในและภายนอกองค์การ
ความต้องการของผู้รับบริการและปัญหาต่างๆ ที่เกิดข้ึน โดยการรวบรวม
ข้อมูลข่าวสารและทำการวิเคราะห์จากผู้เช่ียวชาญและผู้บริหา รท่ีตัดสินใจ
สำหรับเทคนิคที่ใช้ในการระบุความต้องการมีดว้ ยกันอยู่หลายวิธี ซ่ึงในแต่ละ
วิธีจะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ การระดมสมอง การ
สัมภาษณ์ แบบสอบถาม เป็นตน้
๒. กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการ โดยทั่วไป
ผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์ท่ีเป็นผลลัพธ์จากการดำเนินโครงการ ผู้วางแผน
จะตอ้ งกำหนดวตั ถุประสงค์หลักของโครงการใน ไดแ้ ก่ ดา้ นเวลา ตน้ ทุน และ
คุณภาพ หากในกรณีที่วัตถุประสงค์ของโครงการขัดแย้งกันจะทำให้ไม่
สามารถให้ดำเนินโครงการได้อย่างราบร่ืน ดังนั้นควรให้ความสำคัญแก่
วตั ถปุ ระสงค์ทุกด้านโดยไม่ลดความสำคัญของวตั ถุประสงค์ด้านอื่นๆ เช่น ถ้า
ลดความสำคัญของเวลาดำเนินการโครงการอาจต้องเสียต้นทุนสูงขึ้นและ
อาจจะส่งผลอย่างต่อเนื่องไปถึงวัตถุประสงค์ด้านคุณภาพของผลผลิตก็ได้
เปน็ ตน้
๓. การกำหนดกิจกรรมท่ีจะใช้ปฏิบตั ิโครงการ การกำหนดผลผลิต
หรือผลิตภัณฑ์ที่ต้องส่งมอบให้ผู้รับบริการอาจเขียนเป็นรายงานที่มีการ
อธิบายรายละเอียดต่างๆ เช่น เคร่ืองมือ อุปกรณ์ ระบบเทคโนโลยี
สารสนเทศ เป็นต้น ส่ิงท่ีโครงการต้องการส่งมอบให้ผู้รับบริการต้องกำหนด
โดยคำนึงถึงวัตถุประสงค์ด้านเวลา ต้นทุนและคุณภาพ ดังนั้นผู้ปฏิบัติงาน
๓สุ ภ าพ ร พิ ศ าล บุ ต ร , ก ารว าง แ ผ น แ ล ะ ก ารบ ริ ห ารโค รงก าร ,
(กรุงเทพมหานคร : โครงการศูนย์หนังสอื มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต, ๒๕๔๗), หน้า
๘๒ – ๘๔.
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการข้ันสูง ๑๐๔
ควรจะเข้าใจเป็นอย่างดีในส่ิงที่โครงการต้องส่งมอบให้ผู้รับบริการ ส่ิงท่ีส่ง
มอบให้ผู้รับบรกิ ารท่ีชัดเจนและเป็นที่ทราบกนั ในกลุ่มทีมงานจะเป็นแนวทาง
ให้ผู้ปฏิบัติงานเป็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อให้โครงการบรรลุเป้าหมายเมื่อ
โครงการยุตลิ ง
๔. การลำดับความสำคัญของกิจกรรมที่จะใช้ปฏิบัติโครงการ
ขั้นตอนนี้จะกำหนดงานท้ังหมดที่จะดำเนินการต่อไปโดยแสดงให้เห็นถึง
กิจกรรมหน่วยงานย่อยและกลุ่มของงานให้ถูกต้องมากที่สุดได้แก่ การ
กำหนดโครงสร้างการดำเนินงาน การผสมผสานโครงการให้เป็นอันหน่ึงอัน
เดียวกันทั้งระบบ เป็นต้น ในการกำหนดกิจกรรมจะใช้เทคนิคการแยกย่อย
กิจกรรมของโครงการให้เป็นส่วนๆ ตามลำดับชั้น ดังนั้น การแยกแยะงานจึง
เป็นกรอบในการจัดทำกำหนดการด้านกิจกรรม โครงสร้างองค์การ การ
กำหนดคณุ ภาพ งบประมาณ เป็นต้น ทำให้ผู้บรหิ ารสามารถควบคุมโครงการ
ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธิภาพทสี่ ูงข้ึน
๕. กำหนดแผนปฏิบัติโครงการ เป็นการกำหนดลำดับและความ
เช่ือมโยงของแต่ละกิจกรรมที่จะใช้ในการดำเนินโครงการอย่างครอบคลุม
การจัดทำแผนปฏิบัติการเป็นเคร่ืองมือที่สำคัญของการจัดทำโครงการ
เน่ืองจากจะเป็นการแสดงรายละเอียดเก่ียวกับข้ันตอนสำหรับปฏิบัติใน
โครงการอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกกจิ กรรม ซ่งึ จะเปน็ ผลใหผ้ ู้ปฏบิ ัติท่ี
เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้ดำเนินกิจกรรมได้ สำหรับแผนปฏิบัติการจะ
ประกอบด้วยกิจกรรมท่ีต้องทำ ผู้รับผิดชอบ ช่วงเวลา งบประมาณ การ
ควบคุม เป็นตน้
๔.๑.๔ การกำหนดกิจกรรมเพือ่ ดำเนนิ โครงการ
โครงการทมี่ ีขนาดใหญ่ ทป่ี ระกอบไปด้วยกจิ กรรมต่างๆ จำนวนมาก
ผู้บริหารโครงการจำเป็นจะต้องมีการวางแผน เพ่ือกำหนดขั้นตอนในการ
ดำเนินกิจกรรมและการควบคุมโครงการให้ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นัน่ คือ ตอ้ งการให้โครงการแล้วเสร็จภายในเวลาทกี่ ำหนดโดยใช้ทรัพยากรให้
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการข้นั สูง ๑๐๕
เกิดประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากน้ีทีมงานจะต้องมีคุณลักษณะที่สำคัญ คือ
ผลผลิตที่ได้จะต้องมากกว่าผลรวมของผลผลิตของแต่ละคนรวมกัน ผลผลิต
ของผ้ปู ฏบิ ัตเิ กดิ จากความร่วมมอื กนั นั่นเอง
สำหรบั กรอบในการกำหนดกจิ กรรมมขี ัน้ ตอน ดงั นี้๔
๑. กำหนดแผนผังโครงขา่ ย เป็นการแยกกจิ กรรมในรายละเอียดของ
โครงการออกเป็นกิจกรรมย่อย และกำหนดความสัมพันธ์ของงานตามลำดับ
กอ่ นหลงั อยา่ งชดั เจน
๒. ประมาณการด้านเวลาและทรัพยากรท่ีต้องใช้ในการทำให้
กจิ กรรมย่อยนั้นแล้วเสรจ็ โดยกำหนดสมมติฐานเบ้ืองต้นด้านกำลังคน ความ
พร้อมของวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ที่มีอยู่ ข้ันตอนนี้เกี่ยวข้องกับการ
จัดกำลังคน เลือกเครื่องมือเครื่องใช้ วัสดุอุปกรณ์ ประมาณเวลาในการ
ดำเนนิ งาน
๓. กำหนดเวลา เพื่อทราบถึงเวลาท่ีคาดว่างานแต่ละงานจะเริ่มต้น
และแล้วเสร็จได้เร็วที่สุด และกำหนดเวลาที่คาดว่างานแต่ละงานจะเริ่มต้น
และเสร็จได้ช้าท่ีสุด ผลของการกำหนดเวลาดังกล่าว สามารถคำนวณได้จาก
สายงานวกิ ฤตของโครงขา่ ยและเวลาทยี่ ดื หยนุ่ ไดท้ ีเ่ กิดขนึ้ ในแตล่ ะสายงาน
๔. จัดสรรทรัพยากร งานแต่ละงานในโครงการจะดำเนินไปได้ตาม
กำหนดเวลาที่คำนวณข้างต้น โดยอยู่ภายใต้ข้อสมมติฐานเบ้ืองต้นว่า
สามารถจัดกำลังคน เครื่องจักร วัสดุอุปกรณ์ ให้กับงานเหล่าน้ัน ได้อย่าง
เพยี งพอกับความต้องการในแตล่ ะชว่ งเวลา
๕. ควบคุมโครงการ เม่ือโครงข่ายและกำหนดเวลาดำเนินงานของ
โครงการเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำโครงข่ายไปดำเนินการ โดยมอบหมายงาน
และกำหนดตารางเวลาการทำงานให้ผู้ปฏิบัติและเคร่ืองจักร ให้เป็นไปตาม
แผนงานที่กำหนดไว้ ซ่ึงอาจมีการปรับปรุงแก้ไขโครงข่ายเมื่อมีการ
เปลี่ยนแปลงเกดิ ขึน้
๔พิภพ ลลิตาภรณ์, เทคนิคการบริหารโครงการโดย CPM และ PERT,
(กรงุ เทพมหานคร : สมาคมส่งเสรมิ เทคโนโลยี (ไทย-ญ่ปี ุ่น), ๒๕๓๙), หน้า ๘ - ๑๑.
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการขัน้ สงู ๑๐๖
๖. การกำหนดงบประมาณ เม่ือรวบรวมข้อมูลด้านค่าใช้จ่ายท่ี
เกิดขึ้นจากกิจกรรมทั้งหมดแล้ว จึงทำการกำหนดงบประมาณรวมได้ทันที
เน่ืองจากการกำหนดงบประมาณเป็นกิจกรรมในอนาคต ซึ่งต้องอาศัยการ
ประมาณการเก่ียวกบั รายรบั รายจา่ ยนนั่ เอง
๗. การมอบหมายงาน เพื่อให้แน่ใจว่ากิจกรรมในโครงการจะได้รับ
ความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ควรมอบหมายบทบาทและความ
รับผิดชอบท่ีมีอยู่ในระดับต่างๆ ของโครงสร้างการแยกแยะงาน ให้แก่
ผู้ปฏิบัติงานท่ีเหมาะสม โดยมุ่งเน้นถึงผู้ปฏิบัติและความรับผิดชอบอย่าง
เหมาะสมท่สี ดุ
สรุป
เพื่อให้การดำเนินโครงการบรรลุผลสำเร็จ ผู้บริหารจึงต้องทำการ
วางแผนงานที่มีความ สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ ซึ่งการวางแผนโครงการ
หมายถึง ความพยายามที่จะคาดคะเนเวลาและค่าใช้จ่าย ที่จะใช้ในการ
ดำเนินโครงการใดโครงการหนึ่ง รวมถึงผลประโยชน์ท่ีจะได้รับจากโครงการ
ส ำ ห รับ ข้ั น ต อ น ก า รว า งแ ผ น จ ะเริ่ม ตั้ ง แ ต่ ก า รก ำ ห น ด วั ต ถุ ป ร ะส งค์ ข อ ง
โครงการ วิธีการจัดการและวิธีทำงานต่างๆ เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมาย โดย
การแตกโครงการออกเป็นกลุ่มงานและงานแล้วจึงกำหนดเวลาแต่ละงาน
ทง้ั นี้ จะตอ้ งให้ผู้รับผิดชอบในแต่ละกจิ กรรมและกลุ่มงานมกี ารพัฒนาวธิ ีการ
ในการปฏบิ ัติงานที่จำเปน็ ด้วย
การวางแผนโครงการมีประโยชน์และความสำคัญต่อองค์การหลาย
ประการ หากผู้บริหารมีการวางแผนโครงการอย่างเป็นระบบแล้ว จะทำให้
การใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความ
สูญเสียและข้อผิดพลาดลงได้ ส่วนปัจจัยที่มีความสำคัญของการวางแผน
โครงการ ได้แก่ ภาพรวมของขอบเขตของโครงการ วัตถุประสงค์ วิธีการ
ดำเนินงาน ทรัพยากร วิธีการประเมินผล ปัญหาท่ีอาจจะเกิดข้ึน เป็นต้น
นอกจากน้ีสภาวะแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกของโครงการยังเป็นปัจจัย
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขัน้ สงู ๑๐๗
ที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับการวางแผนโครงการอย่างใกล้ชิดและมีผลต่อการ
บรรลวุ ัตถปุ ระสงค์อีกดว้ ย
กระบวนการวางแผนโครงการ ประกอบด้วย ๕ ข้ันตอน ได้แก่ การ
พิจารณาหรือกำหนดปัญหา การกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายของ
โครงการ การกำหนดกิจกรรมที่จะใช้ปฏิบัติโครงการ การจัดลำดับ
ความสำคัญของกิจกรรมท่ีจะใช้ปฏิบัติโครงการและกำหนดแผนปฏิบัติ
โครงการ ตามลำดับ ผู้บริหารโครงการจึงเป็นผู้ที่มีบทบาทท่ีสำคัญในการ
กำหนดแผนและการควบคมุ โครงการอยา่ งหลกี เลีย่ งไม่ได้
๔.๒ การดำเนินการโครงการ
ในการดำเนินโครงการนั้นจะมีขั้นตอนการดำเนินงานอยู่หลาย
ขน้ั ตอนดว้ ยกนั ซ่ึงผู้บรหิ าร โครงการจะต้องกำหนดแนวทางดำเนินงานอยา่ ง
เป็นระบบและจะต้องทราบว่าจะจัดการกับโครงการ ให้ดำเนินการอย่าง
ราบร่ืนได้อย่างไร ตั้งแต่การวางแผนโครงการ จัดองค์การโครงการ จัด
บุคลากรเข้าสู่การปฏิบัติในทีมงานโครงการและการควบคุมการปฏิบัติงาน
จากน้ันจึงเริ่มนำแผนโครงการไปดำเนินการต่อไป นอกจากนี้ในการนำแผน
โครงการไปดำเนินการน้ันจะต้องดำเนินการผ่านระบบการบริหารโครงการท่ี
ประกอบไปด้วยระบบย่อยต่างๆ เช่น ระบบองค์การ ระบบการบริหารงาน
บุคคล ระบบสารสนเทศ ระบบการติดต่อสื่อสาร ระบบการควบคุม เป็นต้น
โดยผบู้ รหิ ารโครงการจะต้องใช้ ทกั ษะด้านความเป็นผู้นำและแรงจูงใจในการ
บริหาร เพื่อให้ระบบโครงการดังกล่าวสามารถผสมผสานเป็นอันหน่ึงอัน
เดียวกัน จึงอาจกล่าวได้ว่าการดำเนินโครงการก็คือการอำนวยการ การ
ติดตาม และ การควบคุมการปฏิบัติงานเพื่อให้แผนโครงการบรรลุผลสำเร็จ
ตามวตั ถุประสงค์น่ันเอง
การวางแผนเพื่อดำเนินงานโครงการ การติดตาม และการควบคุม
โครงการเป็นกิจกรรม ท่ีมีความเก่ียวเนื่องกันและใช้ควบคู่กันเสมอ เพ่ือเป็น
การบังคับให้การปฏิบัติงานไปสู่ทิศทางท่ีต้องการ และช่วยให้โครงการบรรลุ
สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการได้ ดังนั้นการดำเนินงานโครงการ
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการข้นั สูง ๑๐๘
การติดตามและการควบคุมจงึ ชว่ ยให้โครงการมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ทั้งระบบ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารโครงการจะต้องมีการวางแผนใน
รายละเอียดให้มากก่อนท่ีจะเริ่มดำเนินการจริง และเม่ือดำเนินงานแล้วควร
จะติดตามและควบคุมให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ดว้ ย ส่วนการควบคุมจะเป็น
กิจกรรมในการกำกับติดตามการทำงานเม่ือโครงการเร่ิมต้นแล้ว ซึ่งจะทำให้
ทราบว่าการทำงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของแผนงานหรือไม่ ผู้บริหาร
โครงการจะต้องติดตามการทำงานอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมการทำงานให้
เปน็ ไปตามแผนงานและค่าใช้จ่ายใหอ้ ย่ใู นงบประมาณท่ีกำหนดไว้ นอกจากนี้
ยังทำให้ผู้บริหารโครงการสามารถค้นพบปัญหา ซึ่งจะทำให้การแก้ไขเป็นไป
อย่างมีประสทิ ธิภาพยิง่ ขนึ้
โดยทั่วไปผู้บริหารโครงการจะมีหน้าท่ีสร้างบรรยากาศท่ีเอื้ออำนวย
ให้โครงการประสบ ความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ได้กำหนดไว้ ผู้บริหาร
โครงการจึงต้องเอาใจใส่ในปญั หาทเี่ กี่ยวกบั ความเป็นอันหน่งึ อันเดียวกันของ
ทีมงานและระบบย่อยต่างๆ ของโครงการ เน่ืองจากระบบการบริหาร
โครงการที่ได้วางแผนไว้นั้น อาจจะไม่ใช่กลไกการบริหารที่จะทำให้โครงการ
บรรลุวัตถปุ ระสงค์ สาเหตุเพราะความสำเรจ็ ของโครงการส่วนหนึ่งต้องอาศัย
ความพยายามและความทุ่มเทของผู้บริหารในการจูงใจให้ทีมงานได้ปฏิบัติ
ไปสู่ความสำเร็จ แต่ถ้าหากโครงการประสบความล้มเหลว ความรับผิดชอบ
จงึ ตกอยกู่ บั ผ้บู ริหารโครงการอย่างหลกี เล่ยี งไม่ได้
๔.๒.๑ ความสำคัญของการดำเนินงานโครงการ
การดำเนินงานโครงการ มีความหมายที่รวมถึงการวางแผนโครงการ
และการปฏิบัติงาน ในโครงการให้บรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ท่ีกำหนด
ปัจจัยสำคัญที่ผู้บรหิ ารโครงการจะต้องให้ความสำคญั คือ การกำหนดแผนให้
เกิดความชัดเจนที่สุดเพ่ือใช้ในการจำกัดขอบเขตของโครงการท่ีจะบรรลุ
วัตถุประสงค์ตามกำหนดของช่วงเวลาและงบประมาณ การบริหารโครงการ
เป็นกิจกรรมหน่ึงที่ต้องมีผู้เข้ามาเก่ียวข้องเพื่อร่วมกันปฏิบัติจำนวนมาก
ดังน้ันเพ่ือให้โครงการบรรลุผลสำเร็จ ผู้ท่ีเข้ามาเก่ียวข้องดังกล่าวจะต้อง
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการข้นั สูง ๑๐๙
ดำเนินงานโครงการอย่างเปน็ ข้ันตอน ต้ังแต่การวางแผนโครงการ การปฏบิ ัติ
และการควบคมุ โครงการตามลำดบั
การดำเนินโครงการท่ีมีประสิทธิภาพ โดยท่ัวไปจะประกอบไปด้วย
องค์ประกอบ ๓ ประการ ท่ีดำเนินการเก่ียวเนอ่ื งกันอย่างเป็นระบบและครบ
วงจร ซ่งึ ได้แก่ การวางแผน การปฏิบัตติ ามแผน การกำกับติดตามและการ
ประเมินผล โดยขั้นตอนของการวางแผนจะมีการวิเคราะห์และศึกษา
สถานการณ์ ตลอดจนปัญหาต่างๆ ท่ีจะเข้ามามีผลเก่ียวเนื่องกับโครงการ
อย่างต่อเน่ืองเพ่ือประมวลผลท่ีได้รับ การคัดเลือกและจัดลำดับความสำคัญ
ของสถานการณ์และปัญหามากำหนดวัตถุประสงค์ แนวนโยบายและ
มาตรการสำหรับใช้ปฏิบัติให้บรรลุผลสำเร็จสูงสุด แต่เน่ืองจากวัตถุประสงค์
และแนวนโยบาย ของแผนเป็นการกำหนดไว้อย่างกว้างๆ ก่อนที่จะมีการนำ
แผนไปปฏบิ ัติเพ่ือให้เกิดผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้ ควรจะต้องมีการ
จัดทำรายละเอียดของแผนในรูปของแผนงาน งาน โครงการและกิจกรรม
ต่างๆ ขนึ้ เพือ่ ทจี่ ะไดบ้ งั เกิดความชัดเจนในการปฏบิ ัตดิ ้วย
สำหรับความหมายของ การดำเนนิ งานและการควบคุมโครงการ มี
นักวชิ าการไดใ้ ห้ความหมายไว้ ดังนี้
เยาวดี รางชัยกุล วิบูลย์ศรี กล่าวว่า ในข้ันตอนการดำเนิน
โครงการผู้บริหารโครงการ จะต้องทำการค้นหา ตรวจสอบ และควบคุมผล
การดำเนินโครงการ นอกจากนี้ผู้บริหารโครงการ จะต้องระบุถึงแผนและ
ความต้องการดา้ นทรพั ยากรบริหารอย่างเพียงพอเพื่อทำให้โครงการสามารถ
ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ส่วนองค์การแม่จะมีบทบาทในการสนับสนุนแผน
ดำเนินโครงการอย่างเต็มท่ที งั้ ในด้านงบประมาณและเวลาท่ตี ้องใช้ไป๕
ทวีป ศิริรัศมี กล่าวว่า การบริหารโครงการเป็นข้ันตอนที่นำ
โครงการไปสู่การปฏิบัติหลังจากที่โครงการได้รับการอนุมัติแล้ว การ
ดำเนินงานในขั้นตอนน้ีจะมีข้ันตอน นับตั้งแต่การจัดหาสถานที่ปฏิบัติ การ
๕เยาวดี รางชัยกลุ วบิ ลู ยศ์ รี, การประเมินโครงการ : แนวคิดและแนวปฏิบัติ,
(กรงุ เทพมหานคร : สำนักพมิ พแ์ หง่ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั , ๒๕๕๑), หน้า ๖๙.
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการขน้ั สงู ๑๑๐
จัดซื้อครุภัณฑ์พร้อมอุปกรณ์ การก่อสร้างอาคารสำนักงาน การติดตั้ง
เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ การบรรจุบุคลากรไปจนถึงการปฏิบัติตามแผน
ดำเนินงานของ โครงการ การนิเทศ การควบคุม การติดตามผลและการ
ประเมินผลโครงการ
การติดตามโครงการ หมายถึง กระบวนการของการวัดและการ
ตรวจสอบที่ทำเป็นประจำ เป็นช่วงๆ ส่วนใหญ่จะทำการวัดและตรวจสอบ
ปัจจัยนำเข้า กิจกรรมในการจัดซื้อจัดจ้าง การเคล่ือนย้ายและการนำ
ทรัพยากรมาใช้ในการดำเนินโครงการว่าเป็นไปตามแผนหรอื ไม่ และผลผลิต
หรือผลิตภัณฑ์ ท่ีเกิดข้ึนในช่วงของการดำเนินงานตามโครงการเป็นอย่างไร
การติดตามโครงการมีจุดมุ่งหมาย เพ่ือให้ข้อมูลแก่ฝ่ายบริหาร ในการ
ช้ีให้เห็นสถานการณ์ของโครงการเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากร การปฏิบัติ
กิจกรรมต่างๆ หรือผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์โครงการเพื่อจัดการปรับปรุงแก้ไข
สถานการณ์ ของโครงการทเี่ ป็นปญั หาได้ทันท่วงที
การอำนวยการโครงการเป็นการดำเนินการของผู้บรหิ ารโครงการใน
การส่ังการ ตัดสินใจ ตรวจตรา ช้ีแนะ และนิเทศงานแก่ผู้ปฏิบัติงานท่ีเป็น
สมาชิกทีมงานโครงการจนโครงการบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ การ
อำนวยการเกี่ยวข้องกับการประสานงานโครงการท่ีได้วางแผนไว้ให้เป็น
อันหน่ึงอันเดียวกัน ผู้บริหารโครงการจึงเป็นผู้มีหน้าท่ีรับผิดชอบต่อผลการ
ดำเนินโครงการ๖
จากการที่มีผู้ให้ความหมายดังกล่าวข้างต้น ผู้เขียนมีความเห็นว่า
ความหมายของ การดำเนินงานและการควบคุมโครงการ หมายถึง การนำ
โครงการไปสู่การดำเนินงานหลังจากที่โครงการได้วางแผนและรับการอนุมัติ
แล้ว โดยจะมีการจัดหาสถานท่ีและทรัพยากรการบริหารต่างๆ ท่ีจำเป็น
จากนั้นจึงปฏิบัติตามแผนในโครงการ และมีการควบคุมจะเป็นเคร่ืองมือที่
๖ทวีป ศิริรัศม,ี การวางแผนพฒั นาและประเมินโครงการ, (กรุงเทพมหานคร
: สำนกั งานกองทุนสนับสนนุ การวิจัย (สกว.), ๒๕๔๕), หน้า ๔๗.
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการขั้นสงู ๑๑๑
ช่วยในการกำกับให้กิจกรรมต่างๆ ในโครงการสามารถดำเนินการไปอย่าง
ถกู ตอ้ งตามแผนที่ไดก้ ำหนดไว้
๔.๒.๒ กระบวนการดำเนินโครงการ
ภายใต้ความรับผิดชอบของผู้บริหารโครงการ ความเป็นอันหน่ึงอัน
เดียวกันจะช่วยให้ระบบโครงการดำเนินงานไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่
ปัญหาที่สำคัญไม่ได้เกิดจากการนำองค์ประกอบของโครงการท่ีมีความ
หลากหลายมาผสมผสานกันเพื่อดำเนินโครงการ หรือเป็นกิจกรรมท่ีเกิดขึ้น
ภายหลังระบบย่อยๆ ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้วเท่าน้ัน ทั้งนี้เพราะ
กิจกรรมสำคัญที่ทำให้เกิดความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันจำเป็นต้องกระทำ
ตั้งแต่เร่ิมต้นโครงการ การวางแผนและการควบคุมโครงการเพื่อให้แน่ใจว่า
จะเกดิ ความเปน็ อันหน่ึงอันเดียวกันของระบบของโครงการในอนาคต สำหรับ
กระบวนการสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของโครงการประกอบด้วย
กิจกรรมต่างๆ ที่ผู้บริหารโครงการต้องรับผิดชอบ กิจกรรมดังกล่าว ได้แก่
กิจกรรมที่เก่ียวกับการดำเนินโครงการให้ราบรื่น ตลอดระยะเวลาจน
โครงการเสร็จส้ินและกิจกรรมเฉพาะดา้ นในแตล่ ะชว่ งเวลา
เพื่อให้ผูบ้ ริหารโครงการหรือผู้บริหารระดับสูงเกิดความม่ันใจว่าการ
ดำเนินโครงการ จะมีความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันและทำให้เกิดกิจกรรมข้ึน
ดังนั้นผู้บริหารโครงการหรือผู้บริหารระดับสูง จึงควรที่จะให้ความสำคัญกับ
กิจกรรมต่างๆ ดงั น้ี๗
๑. เพ่ือความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกัน ผู้บริหารระดับสูงต้องเริ่มต้น
ดำเนินกิจกรรมบางอย่างในเวลาที่เหมาะสม เพราะเป็นกิจกรรมท่ีส่งผลต่อ
ความสำเร็จในการนำโครงการไปสู่การปฏิบัติ ได้แก่ การนำเสนอความคิด
เก่ียวกับการบริหารโครงการให้ผู้ปฏิบัติงานได้รับทราบ การเลือกรูปแบบ
องค์การท่ีจะนำโครงการปฏิบัติท่ีเหมาะสม การนำเสนอแผนภูมิความ
๗มยุรี อนุมานราชธน, การบริหารโครงการ, (เชียงใหม่ : ภาควิชารัฐศาสตร์
คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เชียงใหม่, ๒๕๔๘), หนา้ ๒๒๘ – ๒๒๙.
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขน้ั สูง ๑๑๒
รับผิดชอบโครงการที่แยกแยะอำนาจ หน้าท่ีและความรับผิดชอบของ
ผปู้ ฏบิ ัตงิ านโครงการ และผปู้ ฏบิ ัติงานของหน่วยงานแบบหนา้ ที่ การคดั เลอื ก
ผู้บริหารโครงการ การคัดเลือกผู้บริหารหน่วยงานแบบหน้าท่ีให้มาร่วมงาน
โครงการ การให้ความสนับสนุนโครงการและผู้บริหารโครงการอย่างเต็มท่ี
การจัดสรรทรัพยากรอย่างเพียงพอให้แก่องค์การโครงการ เช่น งบประมาณ
เครอ่ื งมอื บุคลากร เปน็ ตน้
๒. ผู้บริหารโครงการต้องรับผิดชอบในการดำเนินกิจกรรม หลังจาก
ผบู้ รหิ ารระดับสงู ใหก้ ารสนับสนุนโครงการอย่างเต็มที่แลว้ ผู้บริหารโครงการ
ก็จะได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการ ในการดำเนินงานโครงการไปสู่
ความสำเร็จและสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันน้ี สิ่งที่ผู้บริหาร โครงการ
ต้องรับผิดชอบคือ การกำหนดแผนการดำเนินงานโครงการ การจัดทำ
โครงสร้างการแยกแยะงาน การออกแบบและกำหนดองค์การโครงการ การ
จัดทำคู่มือเก่ียวกับการดำเนินงานโครงการ การจัดทำเอกสารเกี่ยวกับการ
จัดซ้ือจัดจ้างของโครงการ การออกคำส่ังเกี่ยวกับอำนาจหน้าท่ีในการ
ปฏิบัติงาน กิจกรรมที่กล่าวมามีความสัมพันธ์ซ่ึงกันและกันและต้อง
ดำเนินการในเวลาเดียวกัน จึงต้องจัดทำเอกสารท่ีกำหนดกิจกรรมข้างต้น
ออกมาให้เร็วทส่ี ุดเทา่ ท่ีจะทำได้
ในกระบวนการเพ่ือสร้างความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันของโครงการ
เร่ิมต้นจากผู้บริหาร ทำการแยกงานหรือกิจกรรมออกเป็นงานหรือกิจกรรม
ย่อยๆ เพือ่ ความสะดวกในการจัดทำโครงสร้าง การแยกแยะงานซ่งึ เปน็ งานที่
ยากที่สุดในการวางแผนโครงการ โดยผู้บริหารโครงการต้องมั่นใจว่า งานทุก
งานมีความสอดคล้องกันอย่างเหมาะสม จนทำให้ระบบโครงการทำงานเป็น
อันหน่ึงอันเดียวกัน ก่อนอื่นผู้บริหารโครงการต้องแยกแยะงานให้เป็นระบบ
ตามโครงสร้างการแยกแยะองค์การ และแสดงรายการของผลิตผลหรือ
ผลิตภัณฑ์ที่งานทั้งหมดจะก่อให้เกิดขึ้น หลังจากแยกแยะโครงการ ออกเป็น
ระบบย่อยๆ แลว้ จึงแยกแยะองคป์ ระกอบของโครงสร้างการแยกแยะงาน ซ่ึง
ต้องผสมผสานกันและมีความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันกับกำหนดการและ
งบประมาณ เน่อื งจากกลุ่มงานแตล่ ะงาน ตอ้ งมคี า่ ใชจ้ า่ ย กำหนดเวลาเร่มิ ต้น
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจัดการโครงการข้นั สงู ๑๑๓
และเวลาสิ้นสุดกำกับไว้ โครงสร้างการแยกแยะงานท่ีจัดทำอย่างเหมาะสม
แล้วนำมาจัดเตรียมแผนโครงการในรายละเอียด จากนั้นจึงเขียนแผนผัง
โครงข่ายงาน การกำหนดคา่ ใช้จ่ายท่ีคาดวา่ จะต้องใช้และความรับผดิ ชอบใน
งานของผปู้ ฏบิ ตั ติ ่อไป
สำหรับการดำเนินงานโครงการอย่างเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันเป็น
ปัจจัยท่ีมคี วามสำคัญ ต่อการบรรลุผลสำเร็จของโครงการ โดยเฉพาะอยา่ งยิ่ง
ความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันในขณะที่นำโครงการไปปฏิบัติน้ันผู้บริหาร
โครงการควรใหค้ วามสำคัญต่อกิจกรรมตอ่ ไปนี้
๑. การควบคมุ โครงการ มีความสำคัญต่อการสร้างความเป็นอนั หนึ่ง
อันเดียวกันของโครงการ การวางแผนโครงการโดยใช้โครงข่ายจะไม่เกิด
ประโยชน์ถ้าการควบคุมโครงการไม่มีประสิทธิภาพ การใช้เทคนิคการ
วางแผนและการควบคุม โดยใช้โครงข่ายจะต้องสามารถระบุเหตุการณ์
เช่ือมโยง และจุดเชื่อมโยงที่สำคัญได้ เหตุการณ์ท่ีเป็นจุดเช่ือมโยง เช่น การ
ส่งมอบสิง่ อำนวยความสะดวก งบประมาณ ระยะเวลาที่จะจัดสรรทรพั ยากร
จะมีความต้องมีความสอดคล้องและมีความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ที่เป็นจุด
เชอื่ มโยงของโครงการดว้ ย เปน็ ต้น
๒. การจัดการกับความขัดแย้ง ผู้บรหิ ารโครงการจะมีบทบาทในการ
เป็นผู้บริหารความขัดแยง้ โดยเฉพาะเม่ือเปน็ ความขัดแย้งเก่ียวกับทรัพยากร
โครงการ เช่น บุคลากรโครงการ ความขัดแย้งมักเกิดขึ้นภายในโครงการ ถ้า
ผู้บริหารโครงการไม่มีความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในการ
ทำงานกับสมาชิก ทีมงานหรือกับผู้บริหารหน่วยงานแบบหน้าที่ท่ีสนับสนุน
โครงการ ความขัดแย้งอาจมีมากข้ึน เน่ืองจากความแตกต่างระหว่าง
วัตถุประสงค์ของโครงการและวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน แบบหน้าที่และ
การแก่งแย่งทรัพยากรระหวา่ งโครงการน่นั เอง
๔.๒.๓ ดชั นีชว้ี ัดความสำเร็จในการดำเนินงานโครงการ
ปัจจุบันการดำเนินงานโครงการที่ผบู้ ริหารให้ความสำคัญและม่งุ เน้น
การจัดองค์การท่ีเป็นแบบสมัยใหม่ ทำให้กลายเป็นองค์การที่มุ่งเน้นและให้
ความสำคัญกับกระบวนการการดำเนินงานเป็นสำคัญ ซ่ึงมีวัตถุประสงค์ คือ
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขัน้ สงู ๑๑๔
เพื่อต้องการผลสำเร็จของงานโดยใช้ทีมงานท่ีมุ่งเน้นการเช่ือมโยงและ
ประสานงานแบบข้ามหน่วยงาน โดยยึดผลลัพธ์สดุ ท้ายและสำคัญ คือ ความ
พึงพอใจของท้ังผู้รับบริการและบุคลากรทุกฝ่าย นอกจากน้ีองค์การสมัยใหม่
ยังมุ่งเน้นการปฏิบัติในลักษณะองค์การแบบแนวราบ ซ่ึงมีดัชนีช้ีวัด
ความสำเร็จที่สำคัญประการหนึ่ง คอื การจัดการทรัพยากรมนุษย์ท่ีมุ่งเน้นใน
การใช้และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีศักยภาพและความสามารถท่ี
สูงข้ึน โดยสามารถพิจารณาได้จาก องค์การจะมีการใช้เทคนิคการ
เปรียบเทียบเพื่อปรับปรุงการทำงาน มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง มีการ
จัดการคุณภาพทั่วท้ังองค์การ มีการออกแบบงานและให้ความสำคัญในงาน
มีนวัตกรรมใหม่ออกสู่สังคม การท่ีองค์การมีผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ มีการประเมิน
การปฏิบัติงานที่มุ่งเน้นผลงาน เป็นต้น ลักษณะดังกล่าวจะเป็นผลทำให้
องค์การสามารถปรับตัวได้สอดคล้องการสภาวะแวดล้อมได้เปน็ อยา่ งดี
เมื่อผู้บริหารระดับสูงได้กำหนดแผนโครงการแล้ว จากน้ันจะเป็น
ขัน้ ตอนการนำแผน ไปสู่การปฏิบัติ โดยการพัฒนาแผนการดำเนินงานข้ึนมา
เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานโครงการ สำหรับตัวแบบในการนำแผน
ไปสู่การปฏิบัติหรือดำเนินงานนั้นมีตัวแบบหน่ึง คือ แบบจำลอง 7-S ของ
บริษัท แมคคินซีย์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาสำหรับองค์การธุรกิจ แบบจำลอง
7-S นี้ใช้สำหรับการวิเคราะห์แผนกลยุทธ์และการปฏิบัติงานของหน่วยงาน
ต่างๆ เพื่อให้ผูบ้ รหิ ารได้คำนึงถึงความสำคัญของวัฒนธรรมองค์การที่มีผลต่อ
ความการปฏิบัติงาน นอกจากนี้แบบจำลอง 7-S ยังช่วยให้ผู้บริหารสามารถ
วัดประสิทธิภาพในการทำงานของบุคลากรได้อีกด้วย ดังตารางท่ี ๔.๑
ต่อไปน้ี
ปัจจัย คณุ ลกั ษณะ
- โครงสรา้ ง
มีรูปแบบเรียบง่ายธรรมดา พนักงานอำนวยการมี
- กลยุทธ์ จำนวนจำกัด
ให้ความสำคัญกับผู้รับบริการ ทำธุรกิจท่ีมีความ
เชี่ยวชาญและเกีย่ วเนอื่ ง
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขนั้ สูง ๑๑๕
- ระบบ สัมผัสกบั งานอย่างใกลช้ ดิ การใชว้ ธิ ีการวิทยาศาสตร์
- พนักงาน มคี วามรูส้ ึกเป็นเจ้าของ การทีม่ ีอิสระในการทำงาน
- รู ป แ บ บ ก า ร มภี าวะผนู้ ำและความมีสตปิ ัญญาเฉลยี วฉลาด
บริหาร
- ทักษะ มีความรู้ความสามารถ งานบางอย่างควรควบคุม
งานบางอยา่ งควรปลอ่ ยอิสระ
- ค่านิยมรว่ ม ความเช่ือในคุณค่าเป็นแรงผลักดันความคิด ความ
เชอ่ื อุดมการณจ์ ะตอ้ งสอดคล้องกนั ทกุ ฝา่ ย
ตารางที่ ๔.๑ ประสทิ ธภิ าพของการจดั การองค์การโดยแบบจำลอง 7-S
ส ำ ห รั บ อ ง ค์ ก า ร ท่ี ด ำ เนิ น ง า น จ น ป ร ะ ส บ ผ ล ส ำ เร็ จ ได้ อ ย่ า ง มี
ประสิทธิภาพนั้นมักจะมาจาก เงื่อนไขท่ีมีความสำคัญต่อการบรรลุผล
ประสบผลสำเรจ็ ท่ีมาจากองค์ประกอบของความสัมพันธ์ ระหว่างกิจกรรมใน
การกำหนดโครงสร้างองค์การ การกำหนดกลยุทธ์ การกำหนดระบบ สไตล์
ในการทำงาน การใช้ทักษะ การใช้คน และการกำหนดค่านิยมร่วม ซ่ึงปัจจัย
ทั้ง ๗ ประการหรือแบบจำลอง 7-S จะมีอิทธิพลต่อการเปล่ียนแปลงภายใน
องค์การ ดงั น้ี๘
๑. โครงสร้าง (Structure) การจัดโครงสร้างการทำงานที่เหมาะสม
จะมผี ลต่อความสำเรจ็
ในการดำเนินงาน ซ่ึงการจัดโครงสร้างนี้จะเป็นการกำหนดด้านการแบ่ง
หน้าท่ี การประสานงาน การควบคุมการปฏิบัติ เป็นต้น ลงไปสู่บุคลากรท่ีมี
ความเหมาะสมกับความรู้ความสามารถ ซ่ึงจะทำให้เกิดประสิทธิภาพและ
ประสิทธผิ ลในการดำเนนิ งานเชงิ กลยุทธ์
๒. กลยุทธ์ (Strategy) การกำหนดกลยุทธ์เป็นการกำหนดแนวทาง
ในการตอบสนองต่อ
๘สมยศ นาวีการ, การบริหารและพฤติกรรมองค์การ, (กรุงเทพมหานคร :
บรรพกจิ , ๒๕๔๓), หนา้ ๕๐๖ – ๕๑๒.
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขัน้ สูง ๑๑๖
การเปล่ียนแปลงจากสภาวะแวดล้อม ทำให้องค์การสามารถบรรลุ
วัตถุประสงค์และเป้าหมายได้อย่างเหมาะสมกับสภาวะแวดล้อมที่มีการ
เปลีย่ นแปลงอยตู่ ลอดเวลาได้เป็นอยา่ งดี
๓. ระบบ (System) ระบบการดำเนินงานเป็นระเบียบวิธีปฏิบัติงาน
ขององค์การท้ังท่ีเปน็ ทางการและไม่เป็นทางการ เช่น ระบบการติดต่อส่ือสาร
ระบบงบประมาณ ระบบการจดั หาบุคลากร เป็นต้น ระบบการปฏิบัติงานจะ
เป็นปัจจัยท่ีมีผลต่อการบรรลุผลสำเร็จด้านการดำเนินการขององค์การ ท่ีมี
การประสานความสามารถของบุคลากรในหน้าที่ตา่ งๆ ภายในองค์การ
๔. สไตล์ (Style) สไตล์เป็นรูปแบบหรือลักษณะของผู้บริหารในการ
เลือกใช้ ในการ บริหารงานหรือปฏิบัติการ สไตล์จะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการ
บรรลุผลสำเรจ็ โดยเฉพาะอย่างย่งิ การใหค้ วามสำคญั กับการวางแผนและการ
ควบคุมกลยุทธข์ องผู้บรหิ ารในองคก์ ารดว้ ย
๕. ทักษะ (Skills) ทักษะเป็นความสามารถของบุคคลท่ีสามารถ
ปฏิบัติงานภายใต้สภาวะแวดล้อมท่ีมีการเปลี่ยนแปลงได้เป็นอย่างดี ทักษะ
เปน็ การนำความสามารถไปใชใ้ นการบรหิ ารดา้ นตา่ งๆ ในองคก์ าร ได้แก่ ดา้ น
การตลาด ดา้ นการเงนิ ด้านการบรหิ ารทรพั ยากรมนุษย์ เปน็ ต้น
๖. คน (Staff) คนหมายถึงบคุ ลากรทีเ่ ป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ในองค์การที่
มีความเหมาะสม ต่อลักษณะของงาน มีขวัญและกำลังใจ มีทัศนคติ และมี
พฤติกรรมที่เหมาะสมในการปฏิบัติงาน ซ่ึงบุคลากรจะเป็นปัจจัยพ้ืนฐานใน
การปฏบิ ัตงิ านและมผี ลต่อการประสบผลสำเรจ็ ขององคก์ าร
๗. ค่านิยมร่วม (Shared value) ค่านิยมร่วมเป็นแนวความคิดใน
การสร้างธุรกิจหรือท่ีเป็นทิศทางความต้องการของผู้บริหารหรือบุคลากร ซ่ึง
เปน็ แบบอย่างและถูกปลกู ฝงั ต่อไปยังบุคลากรในปัจจุบันและบุคลากรใหม่ใน
อนาคตท่ีจะให้ความสำคัญกับภารกิจ วัตถุประสงค์และเป้าหมายที่องค์การ
ต้องการบรรลุถงึ ความสำเรจ็ ตามมา
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขนั้ สงู ๑๑๗
สรปุ
การวางแผนเพื่อดำเนินงานโครงการ การติดตามและการควบคุม
เป็นกิจกรรมท่ีเก่ียวเนื่องกัน เพ่ือเป็นการปรับการปฏิบัติงานให้ไปสู่ทิศทางที่
ต้องการ และช่วยให้โครงการมีความเป็นอันหน่ึงอันเดียวกันทั้งระบบ ตลอด
อายุของโครงการ เน่ืองจากโครงการเป็นระบบที่มีการผสมผสานระบบย่อย
ต่างๆ ยิ่งทำให้มีความจำเป็นที่โครงการจะต้องมีบุคลากรที่มีความเช่ียวชาญ
เฉพาะทางมาช่วยเหลือกัน และมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกันมากขึ้น
สำหรับคำว่าการดำเนินงานและการควบคุมโครงการ หมายถึง การนำ
โครงการไปสู่การดำเนินงานหลังจากที่โครงการได้รับการอนุมัติแล้ว โดยมี
การจัดหาสถานท่ีและทรัพยากรการบริหารต่างๆ จากนั้นจึงปฏิบัติตามแผน
โครงการ และมีการควบคุมที่เป็นเครื่องมือที่ช่วยกำกับให้กิจกรรมต่างๆ
ดำเนนิ ไปอยา่ งถกู ต้องตามแผนที่ได้กำหนดไว้
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขนั้ สงู ๑๑๘
คำถามประจำบท
๑. การวางแผนโครงการ คืออะไร มีความสำคัญต่อความสำเร็จของ
โครงการอย่างไร จงอธบิ าย
๒. จงวิเคราะห์ถึงปัจจัยท่ีเก่ียวข้องกับการวางแผ นโครงการ
ประกอบด้วยอะไรบ้าง
๓. กระบวนการวางแผนโครงการคืออะไร มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง จง
อธิบาย
๔. การดำเนินงานโครงการมีความสำคัญต่อโครงการอย่างไร จง
อธบิ าย
๕. กระบวนการดำเนินโครงการ มีการกำหนดข้ันตอนอย่างไร และ
แต่ละขั้นตอนมีความสำคัญต่อการบรรลุผลสำเร็จของโครงการอย่างไร
๖. ให้นิสิตวิเคราะห์ถึงดัชนีชี้วัดความสำเร็จในการดำเนินโครงการ
ประกอบดว้ ยปจั จยั ดา้ นใดบา้ งและแต่ละปจั จยั มีความสำคัญอยา่ งไร
เอกสารประกอบการสอน วิชาการจดั การโครงการขัน้ สงู ๑๑๙
อา้ งอิงประจำบท
ฐาปนา ฉ่ินไพศาลและอัจฉรา ชีวะตระกูลกิจ. การบริหารโครงการและ
การศึกษาความเป็นไปได้. กรุงเทพมหานคร : ธีระฟิล์มและไซ
เท็กซ์, ๒๕๔๗.
ทวปี ศิริรัศมี. การวางแผนพฒั นาและประเมินโครงการ. กรงุ เทพมหานคร :
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวจิ ัย (สกว.), ๒๕๔๕.
พิภพ ลลิตาภรณ์. เทคนิคการบริหารโครงการโดย CPM และ PERT.
กรงุ เทพมหานคร : สมาคมสง่ เสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญปี่ ุ่น), ๒๕๓๙.
มยุรี อนุมานราชธน. การบริหารโครงการ. เชียงใหม่ : ภาควิชารัฐศาสตร์
คณะสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่, ๒๕๔๘.
เยาวดี รางชยั กุล วิบูลย์ศรี. การประเมินโครงการ : แนวคิดและแนวปฏบิ ตั ิ.
กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,
๒๕๕๑.
วิสูตร จิระดำเกิง. การบริหารโครงการ แนวทางปฏิบัติจริง. กรุงเทพมหานคร :
วรรณกวี, ๒๕๔๗.
สมยศ นาวีการ. การบริหารและพฤติกรรมองค์การ. กรุงเทพมหานคร :
บรรพกิจ, ๒๕๔๓.
สุ ภ าพ ร พิ ศ าล บุ ต ร . ก า รว า งแ ผ น แ ล ะ ก า ร บ ริห า ร โค ร งก า ร .
กรุงเทพมหานคร : โครงการศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัยราชภัฏสวน
ดุสติ , ๒๕๔๗.
บทท่ี 5
การจัดการทรัพยากรในการจดั การโครงการ
(resource management in project management)
แผนการเรียนการสอน
1. ความรู้พื้นฐานเกยี่ วกับการจัดการทรพั ยากรในการจัดโครงการ
2. ทรัพยากรที่ใชใ้ นการจัดการโครงการ
3. การใชท้ รัพยากรอย่างมปี ระสิทธิภาพ
4. การวางแผนการใช้ทรัพยากรภายใต้ข้อจำกดั
5. การจัดสรรการใช้ทรัพยากรใหเ้ หมาะสม
6. การกำหนดแผนการใชท้ รพั ยากรท่มี ีอยูอ่ ยา่ งจำกัด
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. มีความรู้พน้ื ฐานเกี่ยวกบั การจดั การทรัพยากรในการจดั โครงการ
2. อธบิ ายถงึ ทรัพยากรที่ใชใ้ นการจัดการโครงการได้
3. สามารถการใชท้ รพั ยากรอยา่ งมีประสิทธิภาพ
4. สามารถอธบิ ายถึงการวางแผนการใช้ทรพั ยากรภายใต้ข้อจำกัด
5. มคี วามเขา้ ใจเกยี่ วกบั การจดั สรรการใช้ทรพั ยากรให้เหมาะสม
6. ทราบถงึ การกำหนดแผนการใชท้ รัพยากรทีม่ ีอยู่อย่างจำกัด
กิจกรรมการเรยี นการสอน
1. ฝกึ ทำแบบฝกึ หดั ท้ายบท
2. อา่ นทบทวนและสรุปสาระสำคัญ
121
5.1 ความรู้พน้ื ฐานเกยี่ วกบั การจัดการทรัพยากรในการจัดโครงการ
ทรัพยากรโครงการประกอบด้วย บุคลากร เคร่ืองมือ ส่ิงอำนวย
ความสะดวกต่างๆ และงบประมาณ ซ่ึงทรพั ยากรเหล่าน้มี ีอยูจ่ ำกัดและจัดหา
ได้ในขอบเขตจำกัดด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามประเด็นเหล่านี้มิใช่ปัญหาหลัก
ของโครงการ เพราะโครงการทุกโครงการได้ทราบและกำหนดข้อจำกัดไว้
อย่างชัดเจนแล้ว ท้ังในเร่อื งงบประมาณของโครงการ ระดับความชำนาญของ
บุคลากรท่ีต้องใช้ รวมท้ังกำหนดเวลาท่ีต้องดำเนินการให้เสร็จส้ินเรียบร้อย
แต่ทว่าโครงการส่วน ใหญ่กล่าวถึงเฉพาะการจัดการโครงก ารให้เสร็จตาม
กำหนดเวลา แต่มิได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างทรัพยากรที่มีอยู่และการ
ใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยให้เสร็จตามกำหนดระยะเวลา ความ
เป็นจริงก็คือทรัพยากรท่ีจำเป็นบางประการไม่สามารถจัดหาได้ หรืออาจ
จัดหาได้เพียงบางส่วนเท่านั้น หรือในบางกรณีทรัพยากรที่มีแต่ไม่ตรงกับ
ความต้องการ หรือไม่สามารถจัดหาได้ในเวลาท่ีต้องการ ซ่ึงลักษณะดังกล่าว
ทั้งหมดน้ีมีส่วนส่งผลกระทบต่อการบริหารโครงการให้เป็นไปตามแผนงานท่ี
กำหนดไวท้ ้งั สิ้น๑
ความล่าช้าของโครงการต่างๆ ท่ีเกิดข้ึนในโลกของความเป็นจริง
มักจะเกิดข้นึ ในชว่ งเวลาวกิ ฤตเสมอ ท้ังนเี้ พราะปัจจัยต่างๆ ที่จำเป็นอาทิเช่น
แรงงาน เคร่ืองมือ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาจเกิดติดขัดขึ้นอย่าง
กะทันหัน โดยไม่สามารถจัดหามาทดแทนได้ทันตามเวลาที่ต้องการ
นอกจากน้ีแล้ว ถ้าทรัพยากรเหล่านี้มิได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม เร่ือง
ของต้นทุนแรงงานอาจจะเพิม่ ขนึ้ เพราะโครงการเกดิ ความลา่ ช้าเกนิ กว่าเวลา
ทก่ี ำหนดไว้ ซึ่งอาจต้องทำงานนอกเวลาเพือ่ เร่งรัดงานให้เสร็จเรว็ ข้ึนเป็นเหตุ
ให้ต้นทุนเพ่ิมข้ึนโดยปริยาย รวมทั้งค่าเช่าเครื่องมือก็อาจเพิ่มข้ึน เมื่อต้องใช้
เวลานานข้ึน เพราะในเวลาท่ีควรใช้แต่ไม่ได้ใช้แต่เมื่อต้องการใช้ก็เกินเวลาท่ี
เช่ามาแล้วจึงต้องเสียค่าเช่าเพ่ิมข้ึน เป็นต้น ดังน้ันจึงกล่าวได้อย่างชัดเจนว่า
๑ ประชุม รอดประเสริฐ, การบริหารโครงการ, (กรุงเทพฯ: เนติกุลการพิมพ์.
2529), หนา้ 56.
122
การจัดการทรพั ยากรโครงการมคี วามสำคญั ต่อการบริหารโครงการให้ประสบ
ความสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลเป็นอย่างย่ิงในบทนี้จะได้
กล่าวถึงเรื่อง การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ การวางแผนการใช้
ทรัพยากรภายใต้ข้อจำกัด การใช้ทรัพยากรตามแผนที่กำหนดไว้ การจัดสรร
การใช้ทรัพยากรใหเ้ หมาะสม๒
5.2 ทรพั ยากรท่ีใชใ้ นการจดั การโครงการ๓
1. ทรัพยากรด้านวัตถุ (Physical Resource)
ประกอบขึ้นด้วย อาคาร อุปกรณ์ เคร่ืองมือและวัสดุ ต่างๆ
ตัวอย่างเช่น ทำการควบคุมอุปกรณ์เคร่ืองมือ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ และ
เคร่ืองจักรอื่นๆ ทำการจัดการควบคุมวัตถุดิบคงคลังว่าคงเหลืออยู่เป็น
จำนวนมากน้อยเพียงใด และเมื่อไรที่ผู้จัดจำหน่ายจะนำวัตถุดิบมาส่ง จัดทำ
การควบ คุ มคุ ณ ภ าพ เพื่ อ ให้ เกิด ความมั่ น ใจได้ว่าสิน ค้าที่ ผลิ ตเป็ น ไป ตาม
มาตรฐานท่ีไดก้ ำหนดไว้
2. ทรพั ยากรดา้ นบคุ คล (Human Resources)
ก า ร ค ว บ คุ ม พ นั ก ง า น ด้ ว ย ก า ร ว่ า จ้ า ง บุ ค ค ล จ ะ ท ำ ก า ร ท ด ส อ บ
บุคลิกลักษณะ ติดยาเสพติดหรือไม่ ประเมินผลการดำเนินงานเพื่อวัด
ประสิทธภิ าพของการดำเนนิ งาน และทำการสำรวจเพอ่ื ประเมนิ ถึงเรื่องความ
พอใจในการทำงานและภาวะความเป็นผนู้ ำของพนักงาน
3. ทรพั ยากรด้านขา่ วสาร (Informational Resources)
ตารางการผลิต การพยากรณ์ยอดขาย ผลกระทบของสภาวะ
แวดล้อม ทำการวิเคราะห์คู่แข่งขัน การประชาสัมพันธ์ ซ่ึงเร่ืองต่างๆ เหล่านี้
จะใช้การควบคุมท่ีแตกตา่ งกนั ไป
๒ ปกรณ์ ปรียากร, การวางแผนการวิเคราะห์แนวทางในการบริหาร
โครงการให้ประสบผลสำเร็จ, เขา้ ถึงขอ้ มูลเม่ือวนั ที่ 9 มกราคม 2565.
๓ ประสทิ ธิ์ ย่ิงศริ ิ, การวิเคราะห์และประเมินโครงการ, (กรงุ เทพฯ: โอเดียนส
โตร.์ 2527), หนา้ 114.
123
4. ทรัพยากรดา้ นการเงิน (Financial Resources)
ได้มกี ารชำระเงินตรงตามเวลาท่กี ำหนดหรือไม่ จำนวนเงินท่ีจะไดร้ ับ
ชำระจากลูกค้ามีอยู่เท่าไร เป็นหนี้ผู้จัดจำหน่ายอยู่เป็นจำนวนเงินเท่าใด มี
เงินเหลืออยู่เพียงพอท่ีจะจ่ายเงินเดือนให้แก่พนักงานหรอื ไม่ ตารางการชำระ
หน้ีเปน็ อย่างไร และงบประมาณในการจดั ทำโฆษณาตา่ งๆ๔
5.3 การใชท้ รพั ยากรอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ๕
การบริหารโครงการส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับเร่ืองระยะเวลาใน
การดำเนินโครงการให้สำเร็จค่อนข้างมาก ทำให้ละเลยความสำคัญในเร่ือง
การจัดการกับความสัมพันธ์ระหว่างประสิทธิภาพและการใช้ทรัพยา กรท่ี
จำเป็นทั้งหมด รวมถึงแผนการที่จะทำให้การบริหารโครงการบรรลุเป้าหมาย
อยา่ งมีประสิทธิภาพ
โดยทั่วไปความล่าช้าของโครงการจะเกิดข้ึนในช่วงวิกฤต เน่ืองจาก
เกิดปัญหาความขาดแคลนทรัพยากรหลายๆ ด้านพร้อมกัน ท้ังด้านแรงงาน
อุปกรณ์ เคร่ืองมือ และส่ิงอำนวยความสะดวกท่ีจำเป็น นอกจากน้ีอาจมี
สาเหตุมาจากการจัดการทรัพยากรไม่เหมาะสม ทำให้เกิดความสูญเปลา่ และ
ต้นทุนสงู ตามไปด้วย
ในการบริหารโครงการนั้น เม่ือผู้จัดการโครงการตระหนักว่า
“ทรัพยากรเป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จด้วยประการหน่ึง” ดังนั้นในการ
จดั ทำแผนโครงการผู้จัดการโครงการจะต้องพยายามลดความผันแปรจากการ
ใชท้ รัพยากรให้น้อยที่สุด เช่น จะต้องไมร่ ะดมบคุ ลากรท้ังหมดใหท้ ำงานอยา่ ง
หนึ่งอย่างใดให้เสร็จอย่างรวดเร็ว แล้วปล่อยให้วา่ งงานเป็นเวลาหลายวัน ซึ่ง
จะเป็นการสูญเสียทรัพยากรโดยใช่เหตุ ทางที่ดีท่ีสุดคือการจัดคนให้
พอเหมาะกบั ปริมาณงาน และสามารถทำงานเสรจ็ ได้ตามระยะเวลาท่ีกำหนด
๔ มยุรี อนุมานราชธน, การบริหารโครงการ, พิมพ์คร้ังท่ี3, ภาควิชา
รฐั ศาสตร์, มหาวิทยาลัยเชียงใหม,่ 2546), หน้า 79.
๕ จิระดา เกิง, การบริหารโครงการ : แนวทางปฏิบัติจริง, พิมพ์คร้ังที่ 2,
กรุงเทพฯ: วรรณกวี. 2550), หนา้ 251.
124
ไว้ โดยไม่ก่อให้เกิดการว่างงานแต่อย่างใดเทคนิคที่สำคัญในการลดการผัน
แปรของการใช้ทรัพยากรให้น้อยที่สุด คือ การแบ่งสรรทรัพยากรในแต่ละ
หน่วยงานให้เหมาะสม กระบวนการนี้พยายามที่จะใช้ทรัพยากรให้เป็นแบบ
แผนมากท่ีสุดเท่าท่ีจะเป็นได้ โดยไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อการขยาย
ระยะเวลาการเสรจ็ สิ้นโครงการออกไป๖
ทรัพยากรที่สำคัญของโครงการประกอบด้วย บุคลากร เครื่องมือ
เครื่องจักรกล อุปกรณ์ ส่ิงอำนวยความสะดวกต่างๆ และพ้ืนท่ีในการทำงาน
ความต้องการทรัพยากรเหล่านี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละโครงการและ
ชว่ งเวลาที่ต้องใช้ ในส่วนของทรัพยากรบุคคลน้ัน อาจประกอบด้วยบุคลากร
หลายๆ ประเภท เช่น วิศวกร สถาปนิก นักโปรแกรมคอมพิวเตอร์ นักบัญชี
และการเงิน เป็นต้น บุคลากรเหล่าน้ีจะได้รับมอบหมายหน้าที่ให้รับผิดชอบ
ใหเ้ หมาะสมกบั ความรคู้ วามสามารถและทกั ษะของแต่ละบุคคล
นอกจากน้ีในการพิจารณาเก่ียวกับทรัพยากรโครงการยังหมาย
รวมถึงทรัพยากรอีกมิติหน่ึงด้วย ได้แก่ การวางแผนและการกำหนด
ตารางเวลาการทำงานให้เปน็ ไปตามแผน
ในหลายโครงการปริมาณและประเภทของทรัพยากรท่ีจำเป็นต้องใช้
และสามารถจัดหาไว้ในการดำเนินกิจกรรมของโครงการมักจะมีอยู่อย่าง
จำกัด กิจกรรมของโครงการหลายกิจกรรมอาจมีความต้องการใช้ทรัพยากร
ชนิดเดียวกันในเวลาเดียวกัน ซึ่งทรัพยากรท่ีมีอาจไม่เพียงพอต่อความ
ต้องการของกิจกรรมทั้งหมดในเวลาเดียวกัน ในลักษณะนี้อาจกล่าวได้ว่า
กิจกรรมเหล่าน้ีเป็นกิจกรรมท่ีต้อง “แข่งขันกัน” เพื่อให้ได้ทรัพยากรอย่าง
เดียวกันตามความต้องการของงานให้เพียงพอ เม่ือทรัพยากรท่ีต้องการใช้ใน
กิจกรรมอ่ืนไม่เพียงพอ ผู้จัดการโครงการจำเป็นจะต้องปรับแผนการทำงาน
และแผนการใช้ทรัพยากรใหม่ให้เหมาะสม เพื่อมิให้เกิดความล่าช้าหรือเป็น
อุปสรรคต่อการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของโครงการ ดังน้ันทรัพยากรจึงเป็น
๖ เฉลมิ พงศ์ มีสมนัย, นโยบายสาธารณะและการบรหิ ารโครงการ, (นนทบรุ ี :
มหาวิทยาลัยสุโขทยั ธรรมาธริ าช, 2547), หนา้ 134.
125
ปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดข้อจำกัดในการกำหนดตารางเวลาทำงานของโครงการ
ได้เสมอ และอาจเป็นอุปสรรคสำคัญทที่ ำให้การใชล้ บประมาณไม่เป็นไปตาม
แผนที่กำหนดไวแ้ ละจำเปน็ ตอ้ งจัดหางบประมาณเพิ่มเติม เพอื่ ทำให้โครงการ
เสรจ็ สมบูรณต์ ามเปา้ หมายและตรงตามเวลา
ประเด็นสำคัญในการพิจารณาการใช้ทรัพยากรโครงการอย่างมี
ประสทิ ธิผลประกอบด้วย 4 ประการ ตอ่ ไปนี้๗
ประการแรก ในการพัฒนาเครือข่ายของแผนงานโครงการทั้งหมด
จำเป็นต้องนำข้อจำกัดในเรื่องทรัพยากรท่ีจำเป็นต้องใช้ในโครงการมาร่วม
พิจารณาด้วย
ประการที่สอง การกำหนดแผนการใช้ทรัพยากรให้สอดคล้องกับ
การดำเนินงานของโครงการให้บรรลเุ ปา้ หมาย
ประการที่สาม แบ่งสรรการใช้ทรัพยากรให้เป็นตามความต้องการ
ของกจิ กรรมในแตล่ ะช่วงเวลา
ประการสุดท้าย พยายามกำหนดตารางเวลาการทำงานให้ส้ันที่สุด
ภายใต้ขอ้ จำกัดทท่ี รพั ยากรมอี ยหู่ รือสามารถจัดหาได้
5.4 การวางแผนการใชท้ รัพยากรภายใต้ข้อจำกัด๘
ถึงแม้ว่าทรัพยากรจะมีอย่างจำกัดในการบริหารโครงการ แต่การ
วางแผนที่ดีจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ผู้จัดการโครงการสามารถผ่านพ้น
อุปสรรคนี้ไปได้ เพราะการวางแผนที่ดี โดยคำนึงถึงทรัพยากรท่ีมีอยู่อย่าง
จำกัด จะทำให้การวางแผนมีความรัดกุม เพราะได้คำนึงถึงทรัพยากรที่มีอยู่
และความจำเป็นท่ีตอ้ งใช้ต้ังแต่เริม่ ต้นจนกระท่ังเสร็จส้นิ โครงการ
แนวทางในการพิจารณาใช้ทรัพยากรดังกล่าว กระทำโดยการสร้าง
แผนภาพความสัมพันธ์เชิงตรรกะระหว่างกิจกรรมต่างๆ ทั้งหมดที่ต้อง
๗ เนตร์พัฒนา ยาวิราช, การจัดการสมัยใหม่, พิมพ์คร้ังท่ี 2, (กรุงเทพฯ:
สำนกั พมิ พ์ เซ็นทรัลเอ็กซเ์ พรส, 2546), หนา้ 24-26.
๘ ปกรณ์ ปรียากร, การบริหารโครงการ: แนวคิดและแนวทางในการสร้าง
ความสำเรจ็ , (กรุงเทพฯ : สำนักพมิ พ์เสมาธรรม, 2548), หนา้ 251.
126
ดำเนินการ โดยอย่างน้อยท่ีสุดการเขียนแผนภาพดงั กล่าวจะต้องแสดงให้เห็น
ข้อจำกัดเชิงเทคนิคระหว่างกิจกรรมต่างๆ ของโครงการด้วย การเขียน
แผนภาพความสัมพันธ์ของกิจกรรมต้องมีลักษณะเป็นชุดของความสัมพันธท์ ่ี
มีลำดับขั้น ทัง้ นเี้ พราะในทางเทคนิคแลว้ กจิ กรรมเหล่านี้จะต้องกระทำไปเป็น
ลำดบั ขน้ั ก่อนหลัง
กล่าวโดยสรุปในกรณีที่มีทรัพยากรอยู่จำกัด การวางแผนการใช้
ทรัพยากรอย่างรัดกุมจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างย่ิงที่จะช่วยลดความกดดันจาก
ความต้องการใช้ทรัพยากรพร้อมๆ กันหลายๆ กิจกรรมและสามารถเลือกวิธี
ท่ีเหมาะสมได้ว่าควรจะใช้เทคนิคการวางแผนอย่างไร จึงจะทำให้การ
ดำเนินงานของโครงการสำเร็จตามเป้าหมายอย่างมีประสิทธิผล โดยมีให้
ทรัพยากรท่ีมอี ยู่อยา่ งจำกดั มาเป็นอุปสรรคของความสำเรจ็ ๙
5.5 การจัดสรรการใชท้ รัพยากรให้เหมาะสม
การจัดสรรการใช้ทรัพยากรให้เหมาะสม เป็นวิธีการท่ีใช้ในการ
พัฒนาตารางเวลาการทำงาน ซ่ึงเป็นความพยายามที่จะลดความไม่แน่นอน
หรือความผันแปรของชุดความต้องการใช้ทรัพยากรของโครงการให้เหลือ
น้อยท่ีสุด วิธีการในการจัดสรรทรัพยากรดังกล่าวน้ีเป็นการประยุกต์ให้มี
ความเป็นเอกภาพมากท่ีสุด เพ่ือป้องกันมิให้เกิดผลกระทบต่อการขยาย
ตารางเวลาการทำงานให้ยาวออกไป วิธีการน้ีอาจกล่าวได้ว่าเป็นเสมือนการ
ลองผิดลองถูก (Trial and Error) โดยจะไม่ก่อให้เกดิ วิกฤตต่อกิจกรรมท่ีต้อง
กระทำให้เรียบร้อยตามแผนงานท่ีกำหนดไว้ โครงการอาจถูกทำให้ล่าช้าไป
เฉพาะกรณีท่ีทรัพยากรต่างๆ ท่ีมีอยู่ได้ถูกใช้ไปหมดแล้วเท่าน้ัน การจัดสรร
ทรัพยากรใช้ทรัพยากรให้เหมาะสมเป็นความพยายามท่ีจะปรับตารางการ
๙ ประชุม รอดประเสรฐิ , การบรหิ ารโครงการ, (กรุงเทพฯ: เนติกุลการพิมพ์,
2529), หนา้ 215.
127
ทำงานเพื่อให้สามารถแบ่งสรรการใช้ทรัพยากรได้ตลอดทั้งโครงการ เพ่ือให้
โครงการสำเรจ็ ตามเปา้ หมาย๑๐
5.6 การกำหนดแผนการใชท้ รัพยากรทีม่ ีอยอู่ ยา่ งจำกดั
การกำหนดแผนการใช้ทรัพยากรท่ีจำกัดเป็นวิธีการสำหรับพัฒนา
กำหนดเวลาการใช้ทรัพยากรท่ีส้ันท่ีสุดในกรณีที่จำนวนหรือปริมาณของ
ทรัพยากรที่สามารถจัดหาได้มีจำนวนคงท่ี วิธีการนี้มีความเหมาะสมในกรณี
ทรัพยากรท่ีสามารถจัดหาไดส้ ำหรับโครงการมีอยู่จำกัดและไม่สามารถจัดหา
เพิ่มเติมได้ วิธีการน้ีอาจทำให้เวลาการเสรจ็ สิน้ ของโครงการตอ้ งขยายออกไป
ถ้าจำเป็นเพ่ือรักษาปริมาณทรัพยากรท่ีต้องใช้ให้คงที่ กรณีนี้เป็นวิธีการ
กระทำซ้ำเพ่ือจัดสรรทรัพยากรสำหรับกิจกรรมต่างๆ โดยให้มีความล่าช้า
น้อยที่สุด เมื่อกิจกรรมหลายๆ กิจกรรมต้องการทรัพยากรที่จำกัดในเวลา
เดียวกนั กจิ กรรมทม่ี คี วามล่าช้านอ้ ยทีส่ ุดจะมโี อกาสไดใ้ ช้ทรัพยากรก่อน
ถ้าทรัพยากรยังเหลืออยู่กจิ กรรมที่มีความล่าช้าลำดบั รองลงมาจะได้
ใช้ทรัพยากรถัดมา การจัดสรรทรัพยากรจะเป็นเช่นนี้ตลอดไปจนกระท่ัง
ทรัพยากรหมดลง ถา้ กจิ กรรมอ่นื ตอ้ งการใช้ทรัพยากรแตท่ รพั ยากรถูกจดั สรร
ให้กับกิจกรรมท่ีมีความต้องการลำดับก่อนหมดไปแล้ว กิจกรรมที่มีลำดับ
ความสำคัญน้อยกวา่ ก็จะต้องเลื่อนเวลาออกไป ถา้ กจิ กรรมใดยิ่งมคี วามล่าช้า
มากขึ้นในที่สุดกิจกรรมนั้นจะถูกจัดให้มีความสำคัญสูงข้ึนเพื่อป้องกันมิให้
ความล่าช้ายิ่งขยายตัวออกไป ความล่าช้าของการดำเนินกิจกรรมเหล่าน้ี จะ
สง่ ผลกระทบให้ระยะเวลาการเสร็จสมบรู ณ์ของโครงการต้องขยายออกไป
สำหรับโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งต้องการทรัพยากรท่ีมีความแตกต่าง
กนั จำนวนมาก โดยทรัพยากรแตล่ ะชนิดจะมีข้อจำกัดในการจัดหาที่แตกต่าง
กัน ดังนั้นการกำหนดแผนการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดจะช่วยแก้ไข
ปัญหาที่ซับซ้อนเหล่านี้ได้ อย่างไรก็ตามปัจจุบันได้มีการคิดค้นซอฟท์แวร์
๑๐ ประสิทธ์ิ ตงย่ิงศิริ, การวิเคราะห์และประเมินโครงการ, (กรุงเทพฯ:
สถาบันบัณฑิตพัฒน บรหิ ารศาสตร์, 2524), หน้า 56.
128
สำเร็จรูป สำหรับการจัดการโครงการต่างๆ ให้สะดวกข้ึน ซึ่งจะทำให้การ
กำหนดแผนการใช้ทรพั ยากรท่มี อี ยูอ่ ยา่ งจำกดั กระทำไดง้ า่ ยขนึ้
ซอฟตแ์ วรส์ ำหรับการบรหิ ารโครงการ
ซอฟต์แวร์สำหรับการบริหารโครงการเป็นอุปกรณ์ท่ีมีประสิทธิภาพ
สำหรับการพิจารณาทรัพยากรภายในโครงการ ชุดของซอฟต์แวร์สำเร็จรูป
ส่วนใหญ่ช่วยให้ผู้จัดการโครงการสามารถดำเนินการในการวางแผนและ
จัดสรรทรัพยากรได้ ซอฟต์แวร์ท่ีจะกล่าวถึงในบทนี้ ได้แก่โปรแกรม
ไมโครซอฟต์โปรเจ็ค (Microsoft Project) ซ่ึงเป็นโปรแกรมท่ีไดถ้ ูกพัฒนาข้ึน
มา เพื่อช่วยในการบริหารโครงการมีความสามารถในการวางแผน
(schedule) และความสามารถในการคำนวณค่าใช้จ่าย (cost) รวมถึงการ
ติดตามการทำงานที่ทำสำเร็จไปแล้ว ซ่ึงจะแสดงให้เห็นความสามารถของ
โปรแกรมดงั นี้๑๑
1. งาน (task) ในโปรแกรมจะให้ระบุงานและกำหนดรายละเอียด
ของงานทีท่ ำในโครงการ การจัดขน้ั ตอน กำหนดระยะเวลาของแต่ละงาน
2. ทรัพยากร (resource) ผู้ใช้สามารถกำหนดทรัพยากรท่ี
ต้องการได้ โดยเก็บข้อมูลของทรัพยากรแยกออกจากงาน และสามารถ
เช่อื มโยงเพือ่ ทำงานร่วมกันไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพ
ทรัพยากร หมายถึง บุคลากร อุปกรณ์ และวัตถุดิบที่จำเป็นต่อการ
ทำงานในโครงการ ตัวอย่างของทรัพยากรท่เี ป็นบุคลากร
แสดงบุคลากรแต่ละคน โดยใช้ช่อื เปน็ ตวั กำหนด เชน่ สมพร, สมใจ
แสดงบุคลากรแต่ละคน โดยใช้ช่ือากรทำงานหรือประโยชน์ใช้สอย
เช่น เลขานุการ
๑๑ พุทธชนิ ราช, สหวทิ ยาลัย, เอกสารประกอบการสอนวิชาองคก์ ารและการ
จัดการ, พษิ ณุโลก: สหวทิ ยาลยั พุทธชินราช, 2530), หนา้ 94.
129
กลุม่ ของคนทีม่ ีทกั ษะแบบเดียวกนั เช่น ชา่ งไฟฟา้ , ช่างไม้
3. ค่าใช้จ่าย (cost) ในโปรแกรมมีคุณสมบัติในการจัดการ
ค่าใช้จ่ายไว้ พร้อมทั้งให้ผู้ใช้กำหนดรายละเอียดต่างๆ รวมถึงทำการคำนวณ
ค่าให้
ในการคำนวณค่าใช้จา่ ยในแต่ละทรัพยากรที่ใช้ในโครงการ โดยปกติ
การคำนวณคา่ ใชจ้ า่ ย จะใชส้ ูตรดังนี้
จำนวนชั่วโมง (work) = ระยะเวลาที่ใช้ในการทำงาน x จำนวน
หน่วยทรัพยากร
ตัวอยา่ งของการคำนวณคา่ ใช้จา่ ย
นายสมพร ทำงานวันละ 8 ชม. ต้องทำงานเป็นระยะเวลา 4 วัน
ได้รบั เงินค่าจ้างตอ่ ชวั่ โมง 1,000 บาท รวมเปน็ เงนิ ท่ีได้รับ 32,000 บาท
4. เวลา (time) ในโปรแกรมจะทำการคำนวณเวลา และให้ความ
สะดวกในการจัดการเก่ียวกบั เวลาในโครงการ
ในโปรแกรมจะมีการคำนวณเวลาในการดำเนินงานในแต่ละกิจกรรม
ย่อย โดยอัตโนมัติ โดยการระบุวันเริ่มต้นโครงการ และระยะเวลาในแต่ละ
กิจกรรม สามารถสร้างปฏทิ นิ การทำงานในรปู แบบทีอ่ งค์กรตอ้ งการได้
นอกจากนี้โปรแกรมไมโครซอฟต์โปรเจ็ค สามารถแจ้งให้ผู้ใช้ทราบ
ว่ามีปัญหาเกี่ยวกับความขัดแย้ง เรื่องเวลาในการจัดหาทรัพยากรแต่ละชนิด
หรือไม่ หรืแปรากฎการจัดสรรทรัพยากรเกินความต้องการในส่วนใดหรือไม่
รวมท้งั โครงการทีเ่ กิดข้ึนในช่วงเวลาเดียวกันด้วย๑๒
ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งหรือการจัดสรรทรัพยากรให้เหมาะสม
โปรแกรมสามารถนำมาใช้ได้ 2 กรณี ได้แก่ กรณีแรก เพ่ือการแก้ไข
สถานการณ์โดยบุคคล ด้วยวิธีการน้ีผู้ใช้สามารถดัดแปลงลักษณะการใช้งาน
ของข้อมูล และความต้องการทรัพยากรหรือการระบุรายการทรัพยาก รที่
สามารถจัดหาได้ แล้วจึงพิจารณาว่าปัญหาได้รับการแก้ไขเรียบร้อยหรือไม่
๑๒ สมพงษ์ เกษมสิน, การบริหาร, (กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช, 2526),
หนา้ 214.
130
กรณีที่สอง คือ การใช้โปรแกรมให้ทำงานอัตโนมัติ เมื่อระบบอัตโนมัติถูก
เลือกเรียบรอ้ ยแลว้ ระบบจะถามผู้ใชว้ ่ากำหนดการแล้วเสรจ็ ของงานสามารถ
ขยายเวลาออกไปได้หรือไม่๑๓ ถ้าหากการขยายเวลาจะเป็นวิธีการเดียวท่ี
สามารถขยาเวลาออกไปไดห้ รือไม่ ถ้าหากการขยายเวลาจะเปน็ วิธีการเดียวท่ี
สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในการจัดสรรทรัพยากรได้ ดังนั้นการนำ
โปรแกรมสำเร็จรูปมาช่วยในการจัดการบริหารโครงการ จะมีประโยชน์ใน
การจดั สรรการใชท้ รัพยากรของโครงการใหเ้ หมาะสม
๑๓ สมชาย ดุรงค์เดช, การประเมินผลโครงการแนวคิดและวิธีการ,
(กรงุ เทพฯ: ภาควชิ าโภชนวทิ ยา คณะสาธารณสุขศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหดิ ล, 2542),
หน้า 114-116.