พระยาวาสุเทพ (กุสตาฟ เชา) 89 ว่าโรงเรียนนายร้อยต�ำรวจ ตั้งอยู่ที่อ�ำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม) โรงเรียน นายร้อยส�ำหรับฝึกหัดต�ำรวจภูธรที่จัดตั้งขึ้นนี้นับได้ว่าเป็นแหล่งผลิตนายต�ำรวจ ภูธรระดับสัญญาบัตรเพื่อออกไปประจ�ำการตามกองก�ำกับการต�ำรวจภูธรมณฑล ต่างๆเป็นศูนย์กลางการศึกษาอบรมเพื่อเพิ่มพูนความรู้ด้านวิชาการอันเกี่ยวกับ กรมต�ำรวจภูธร และฝึกอบรมเกี่ยวกับระเบียบวินัยของกรมให้แก่เจ้าพนักงาน ของกรมโดยเฉพาะซึ่งมีส่วนเสริมสร้างกองก�ำลังพลให้มีฐานะมั่นคงและปฏิบัติ หน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สนองตามพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวในการจัดปรับปรุงหัวเมืองและรักษาความสงบเรียบร้อย ของหัวเมืองให้เป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น ในขณะที่ราชการกรมต�ำรวจภูธรด�ำเนินไปอย่างมั่นคงและเจริญก้าวหน้า โดยไม ่หยุดยั้ง กรมต�ำรวจภูธรได้ขยายหน ่วยงานความรับผิดชอบออกไป ทั่วประเทศ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ต�ำรวจภูธรภายในสังกัดกรมกองเพิ่มจ�ำนวน มากขึ้น บางส่วนเป็นข้าราชการทหารโอนมาจากกระทรวงยุทธนาธิการ35 และบางส่วนส�ำเร็จการศึกษามาจากโรงเรียนนายร้อยส�ำหรับฝึกหัดต�ำรวจภูธร มีข้าราชการชาวต่างประเทศรับราชการประจ�ำเฉพาะมณฑลและส่วนราชการ ที่ส�ำคัญ ต่อมาระหว่าง พ.ศ. ๒๔๔๑ - ๒๔๔๙ พระยาวาสุเทพได้เสนอให้รัฐบาล ว ่าจ้างนายทหารชาวเดนมาร์กเข้ามารับราชการในกรมต�ำรวจภูธรเพิ่มเติม รวมทั้งสิ้น ๒๐ นาย มีรายชื่อ ดังนี้36 35 หอจดหมายเหตุแห ่งชาติ. ร.๕ น.๑๑.๑/๔ เอกสารกระทรวงมหาดไทย รัชกาลที่ ๕ เรื่อง ที่ ๒๔/๒๙๖๕ วันที่ ๒๓ มีนาคม ร.ศ. ๑๑๙ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาภานุพันธุวงศ์วรเดชผู้บัญชาการกรมยุทธนาธิการกราบบังคมทูลพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว36 สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ, ท�ำเนียบข้าราชการ กรมต�ำรวจภูธร ส�ำหรับกรมต�ำรวจภูธร พระพุทธศักราช ๒๔๕๗, ไม่ปรากฏเลขหน้า.
90 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ การจัดตั้งโรงเรียนต�ำรวจภูธรที่นครปฐม พ.ศ. ๒๔๔๕
พระยาวาสุเทพ (กุสตาฟ เชา) 91 ๑. นายพันตรีโทวาลเซ็น (B. Thorvaldson) ครูและผู้ตรวจราชการ มณฑลพายัพเหนือ ๒. นายพันตรีทรอเลอร์ (H.T. Troller) ครูและผู้ตรวจราชการมณฑล นครศรีธรรมราช ชุมพร ปัตตานีภูเก็ต ๓. นายพันตรีสปริงเกอร์ (C.N. Springer) ครูและผู้ตรวจราชการ เมืองน่าน แพร่ ๔. นายพันตรีฟาปรีซิอุ๊ต(F.M.Fabricius)ครูและผู้ตรวจราชการมณฑล นครสวรรค์ ๕. นายพันตรีหวามิง(P.L.E.Warming)ครูโรงเรียนนายร้อยต�ำรวจภูธร ๖. นายพันตรียาเมอร์(J.Jarmer)ครูและผู้ตรวจราชการเมืองแม่ฮ่องสอน ๗. นายพันตรีแอนเดอร์เซ็น (J.P. Anderson) ครูและผู้ตรวจราชการ เมืองยวม ๘. นายพันตรีสไตเนอร์(F.T.E.Steiner)ครูและผู้ตรวจราชการมณฑล อุดร ๙. นายพันตรีสิเลาว์(C.V. Sylo) ครูและผู้ตรวจราชการเมืองล�ำปาง ๑๐. นายพันตรีไซเต็นฟาเต็น (E. Seidenfaden) ครูและผู้ตรวจการ มณฑลอุบลราชธานี ๑๑. เอ.พี.เอ็ฟ. โคลส์ (A.P.F. Kolls) ครูโรงเรียนนายร้อยต�ำรวจภูธร นครราชสีมา ๑๒. ซี.เอฟ.วี. เจนเซน (C.F.V. Jensen) ๑๓. เอฟ. บาร์โธลิน (F. Bartholin) ๑๔. อี.โอ. เอ็กคอล (E.O. Ekdal) ๑๕. ซี.เอฟ.เอ.ซี. เว็ทเทอร์สตรอม (C.F.A.C. Wetterstrom) ๑๖. แฮนส์มาร์ควาร์ค เจนเซน (Hans Markvard Jensen)
92 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ ๑๗. วี.อี. คร้าก แฮนเซน (V.E. Kragh-Hanson) ๑๘. ซี.เอฟ. โฮล์ม (C.F. Holm) ๑๙. พี. โจฮันเซน (P. Johansen) ๒๐. ลาเซน (Lasen) การฝึกอบรมต�ำรวจภูธรนั้นยึดหลักทหารเป็นส�ำคัญ ทั้งนี้เพื่อให้ต�ำรวจภูธร ทั้งหมดสามารถปฏิบัติงานเยี่ยงทหารได้ผลการปฏิบัติหน้าที่ของครูและผู้ตรวจ ราชการชาวเดนมาร์กภายใต้การบังคับบัญชาของพระยาวาสุเทพด�ำเนินไปได้ด้วย ความเรียบร้อยตามแบบแผนมาตรฐานของประเทศตะวันตก มีประสิทธิภาพ ขยันหมั่นเพียรและเข้มงวดกวดขัน จนต�ำรวจภูธรสมัยนั้นได้รับการยกย่องทั่วไป ถึงความมีระเบียบวินัยคล่องแคล่วว่องไว ปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความเอาใจใส่ และตั้งใจอย่างแท้จริง ส่งผลถึงความเจริญก้าวหน้าและความมั่นคงแก่ราชการ กรมต�ำรวจภูธรยิ่งขึ้น กล่าวได้ว่านับตั้งแต่สถาปนากรมต�ำรวจภูธร เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๐ เป็นต้นมา พระยาวาสุเทพ (Gustav Schau) เจ้ากรมต�ำรวจภูธรคนแรกที่เป็นก�ำลังส�ำคัญ ของสมเด็จฯ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ เสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ในด้าน การจัดตั้งกรมต�ำรวจภูธรและกองต�ำรวจภูธรประจ�ำมณฑลต่าง ๆ ทั่วประเทศ เป็นตัวจักรส�ำคัญในการบริหารกิจการกรมต�ำรวจภูธร เป็นผู้วางรากฐานและ ระเบียบแบบแผนของกรมต�ำรวจภูธรทั้งทางด้านข้อบังคับของกรม และการ จัดหน่วยงานให้เป็นระเบียบ เพื่อการบริหารราชการกรมต�ำรวจภูธรด�ำเนินไป โดยเรียบร้อย พระยาวาสุเทพปฏิบัติหน้าที่ด้วยความขยันหมั่นเพียร เคร่งครัดใน เรื่องระเบียบวินัยจนเป็นที่เลื่องลือดังปรากฏหลักฐานในหนังสือเรื่อง พระประวัติ ลูกเล่า โดยหม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัย ดิศกุล ที่ทรงเล่าเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวว่า
พระยาวาสุเทพ (กุสตาฟ เชา) 93 “...การต�ำรวจภูธรนั้นโปรดให้พระยาวาสุเทพ (ครูเชาว์ชาวเดนมาร์ก) เป็นผู้บังคับ บัญชาเจ้าคุณผู้นี้ตรวจงานโดยไม่มีก�ำหนด บางทีเวลา ๒๔ น.ก็ขอติดรถไฟสินค้า ไปและหยุดตามสถานีต�ำรวจต่างๆและค้างคืนที่นั่น งานต�ำรวจภูธรจึงเรียบร้อย และรวดเร็วเหมือนกันทุกแห่งจนในหลวงตรัสว่า“ฉันเบื่อโรงต�ำรวจของกรมต�ำรวจ เพราะเหมือน ๆ กันทุกแห่ง...”37 จากค�ำกล่าวข้างต้นย่อมเป็นที่ประจักษ์ถึง ความตั้งใจอันแน่วแน่ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเอาใจใส่โดยไม่เห็นแก่ความ เหน็ดเหนื่อยทั้งในเวลาและนอกเวลาราชการของพระยาวาสุเทพ ทั้งนี้เพื่อเป็น บ�ำเหน็จความชอบในคุณงามความดีของพระยาวาสุเทพที่ได้ทุ่มเทให้กับราชการไทย ตลอดระยะเวลา ๓๐ ปีพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทานบรรดาศักดิ์และสัญญาบัตรเลื่อนยศเป็น พลตรีพระยา วาสุเทพ อธิบดีกรมต�ำรวจภูธร นับเป็นชาวต่างชาติที่สมควรได้รับการเชิดชูเกียรติ ผู้หนึ่งในประวัติศาสตร์ไทย 37 หม่อมเจ้าหญิงพูนพิศมัยดิศกุล, พระประวัติลูกเล่า(พระนคร: โรงพิมพ์มหามกุฏ ราชวิทยาลัย, ๒๕๐๕), หน้า ๓๕. นันทพร บรรลือสินธุ์
94 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ ผู้บังคับการโรงเรียนนายร้อยต�ำรวจภูธรนครปฐม คณะครูและนักเรียนโรงเรียนนายร้อยต�ำรวจภูธรนครปฐม พ.ศ. ๒๔๔๙ ที่มา: หนังสืออนุสรณ์ ๑๐๐ ปี โรงเรียนนายร้อยต�ำรวจ อาคารโรงเรียนนายร้อยต�ำรวจภูธร นครปฐม ที่มา: หนังสืออนุสรณ์ ๑๐๐ ปี โรงเรียนนายร้อยต�ำรวจ
พระยาวาสุเทพ (กุสตาฟ เชา) 95 บรรณานุกรม จักรกฤษณ์ นรนิติผดุงการ. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ กับกระทรวงมหาดไทย. พระนคร: คณะรัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์, ๒๕๐๖. ด�ำรงราชานุภาพ, สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยา. ความทรงจ�ำ. พระนคร: ศิลปาบรรณาคาร, ๒๕๑๑. _________ ___ .เทศาภิบาล. พระนคร: โรงพิมพ์รุ่งเรืองธรรม, ๒๕๐๓. พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงาน พระราชทานเพลิงศพ พระยาอรรถกระวีสุนทร(สงวน ศตะรัตอรรถกระวีสุนทร) ณ สุสานหลวงวัดเทพศิรินทราวาส วันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๐๓). _________ ___ .ท�ำเนียบข้าราชการกรมต�ำรวจภูธร ส�ำหรับกรมต�ำรวจภูธร พระพุทธศักราช ๒๔๕๗. พระนคร: โรงพิมพ์หนังสือพิมพ์ไทย, ๒๔๕๗. ต�ำรวจ, กรม. กิจการต�ำรวจสมัยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ (๒๔๓๕ - ๒๔๕๘). (ม.ป.ท. : ม.ป.ป.). (กรมต�ำรวจจัดพิมพ์เป็นการเฉลิมพระเกียรติ งานฉลองวันครบ ๑๐๐ ปีแห ่งวันประสูติของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ วันที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๕). _________ ___ .ประวัติการต�ำรวจไทย. (ม.ป.ท. : ม.ป.ป.). (พิมพ์เป็นอนุสรณ์ในงานพระราชทาน เพลิงศพ พ.ต.อ. หลวงสรพลเรืองเดช ณ เมรุวัดมกุฏกษัตริยาราม ๒๑ มิถุนายน ๒๕๐๗). _________ ___ .พระมหากษัตริย์กับประวัติศาสตร์ต�ำรวจสยาม. พระนคร: วัชรินทร์การพิมพ์, ๒๕๑๙. เตช บุนนาค. ขบถ ร.ศ. ๑๒๑. กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนาพานิช, ๒๕๒๔. แถมสุข นุ่มนนท์.การเมืองและการต่างประเทศในประวัติศาสตร์ไทย.กรุงเทพฯ: ไทยวัฒนา พานิช, ๒๕๒๔. นายร้อยต�ำรวจ, โรงเรียน. อนุสรณ์๑๐๐ ปีโรงเรียนนายร้อยต�ำรวจ. (ม.ป.ท. : ม.ป.ป.). (จัดพิมพ์เผยแพร ่เนื่องในโอกาสครบรอบ ๑๐๐ ปีโรงเรียนนายร้อยต�ำรวจ กันยายน ๒๕๔๔).
96 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ บี. อาร์. เฟิร์น. ประวัติศาสตร์อาเซียอาคเนย์. แปลโดย ม.ร.ว. จีรวัฒน์จักรพันธ์. พิมพ์ ครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์สมาคมสังคมศาสตร์แห่งประเทศไทย, ๒๕๑๕. ประชา บูรณธนิต, พลตำ� รวจตรี. ประวัติโรงเรียนนายร้อยต�ำรวจห้วยจระเข้. ต�ำรวจ ๒๕, ๒๐ (๑๓ ตุลาคม ๒๔๙๙) : ๓๙. พิชาน ดโนนัย. กฎหมายสมัยกรุงศรีอยุธยา. พระนคร: โรงพิมพ์แพร่พิทยา, ๒๕๑๘. พูนพิศมัย ดิศกุล, หม่อมเจ้าหญิง. พระประวัติลูกเล่า. พระนคร: โรงพิมพ์มหามกุฏ ราชวิทยาลัย, ๒๕๐๕. มงคล วีระเศรษฐ, พลต�ำรวจตรี. โรงเรียนนายร้อยต�ำรวจแห่งประเทศไทย. ต�ำรวจ ๒๕, ๒๐ (๑๓ ตุลาคม ๒๔๙๙): ๗. มหาดไทย, กระทรวง. ๑๐๐ ปีมหาดไทย. (ม.ป.ท. : ม.ป.ป.). (กระทรวงมหาดไทยจัดพิมพ์ เนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนา ๑๐๐ ปี ๑ เมษายน ๒๕๓๕). แมคเอซินวัฒนาวิทยา. เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๘. ศิลปากร, กรม. ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติในประเทศไทย เล่ม ๒. กรุงเทพฯ: ศรีเมืองการพิมพ์, ๒๕๓๙. ส�ำเริง สิงหะวาระ, พันต�ำรวจตรี. นายต�ำรวจชาวเดนมาร์ก. ต�ำรวจ ๓๕, ๖ (มิถุนายน ๒๕๐๙): ๘๗. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. เอกสารกระทรวงการต่างประเทศ รัชกาลที่ ๕ กต.๔๔.๑๕/๑ นายกวด หุ้มแพร เอตาเช ให้ไปสืบตรวจราชการยังกรมนัครภิบาลแลโรงโปลิศ _________ ___ .เอกสารกระทรวงมหาดไทยรัชกาลที่ ๕ ร.๕ น.๑๑.๑/๔ กรมหมื่นด�ำรงราชานุภาพ กราบบังคมทูลรัชกาลที่ ๕ ที่ ๖๔/๓๕๒๖๐ วันที่ ๖ กุมภาพันธ์ร.ศ. ๑๑๖ _________ ___ .เอกสารกระทรวงมหาดไทย รัชกาลที่ ๕ ร.๕ น.๑๑.๑/๘ ที่ ๑๗๑/๔๑๗ พระราชหัตถเลขาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัววันที่ ๓๑ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๒ พระราชทานกรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ _________ ___ .เอกสารกระทรวงมหาดไทยรัชกาลที่ ๕ ร.๕ น.๑๑.๑/๗ พระราชหัตถเลขารัชกาล ที่ ๕ ที่ ๑๓๑/๓๖๑ วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๑ พระราชทานกรมหลวงด�ำรง ราชานุภาพ _________ ___ .เอกสารกระทรวงมหาดไทยรัชกาลที่๕ ร.๖ น.๑๑.๑/๘ พระราชหัตถเลขาพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ ๓๐/๑๐๕๘ วันที่ ๒๙ ธันวาคม ร.ศ. ๑๒๗ พระราชทานพระองค์เจ้าจิรประวัติ
พระยาวาสุเทพ (กุสตาฟ เชา) 97 หอจดหมายเหตุแห ่งชาติ. เอกสารกระทรวงมหาดไทย รัชกาลที่ ๖ ร.๖ น.๓๑/๑๒๒ พระราชหัตถเลขาพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๖ พระราชทานกรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ _________ ___ .เอกสารกระทรวงพระคลังมหาสมบัติรัชกาลที่ ๖ ร.๖ บ.๕/๓๔ เสนาบดีกระทรวง พระคลังมหาสมบัติกราบบังคมทูลรัชกาลที่ ๖ ท ี่ ๑๗๐๘๙/๑๘ ๕ วันที่ ๒๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๗ _________ ___ .เอกสารกระทรวงมหาดไทยรัชกาลที่ ๖ ร.๖ น.๓/๑๙ เล่ม ๒ ความเห็นเรื่องอธิบดี กรมต�ำรวจภูธร วันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๕๗ _________ ___ .เอกสารกระทรวงมหาดไทยรัชกาลที่ ๖ ร.๖ น.๓.๑/๒๒ เล่ม ๓ ตั้งพระยาวาสุเทพ เป็นอธิบดีกรมต�ำรวจภูธร วันที่ ๑๓ กันยายน พ.ศ. ๒๔๕๖ _________ ___ .เอกสารกระทรวงมหาดไทยรัชกาลที่ ๖ ร.๖ บ.๕/๓๔ นายจี.เชา (พระยาวาสุเทพ) อธิบดีกรมต�ำรวจภูธร (๑๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๓๔ - ๒๖ กุมภาพันธ์พ.ศ. ๒๔๕๗) _________ ___ .เอกสารกระทรวงมหาดไทยรัชกาลที่๖ ร.๖ ม.๑/๓๘ เล่ม ๒ เห็นควรให้นายต�ำรวจ ภูธรชาติเดนมาร์กช ่วยราชการทางกระทรวงมหาดไทย (๑๕ กันยายน - ๔ กรกฎาคม ๒๔๕๘) Graham, W.A. Siam. Vol. I. London: The De La More Press, 1924. Wright, Arnold and Breakspear, Oliver T., eds. Twentieth Century Impressions of Siam: Its History, People, Commerce, Industries, and Resources. London: Lloyd’s Greater Britain Publishing Company, Ltd., 1908.
นายคาร์ล เบทเก (Karl Bethge) เจ้ากรมรถไฟคนแรก ในสมัยรัชกาลที่ ๕ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชด�ำเนินมาทรงประกอบพระราชพิธีเปิดการเดินรถไฟหลวงสายนครราชสีมา ช่วงกรุงเทพฯ ถึงพระนครศรีอยุธยา เสด็จตรึงหมุดเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๓๙
100ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู ่หัว รัชกาลที่ ๕ ประเทศไทยมีการพัฒนาประเทศให้เจริญรุ ่งเรืองทัดเทียมนานา อารยประเทศหลายด้าน เช่น การสาธารณสุขการศึกษาและการคมนาคม เป็นต้น รวมถึงด�ำเนินนโยบายในการปกป้องประเทศไปพร้อมกันด้วยเนื่องจากเป็นช่วงระยะ เวลาที่มีการล่าอาณานิคมของมหาอ�ำนาจตะวันตกอยู่รอบด้าน โดยเฉพาะประเทศ อังกฤษและฝรั่งเศสซึ่งก�ำลังแผ่อิทธิพลในแถบภูมิภาคเอเชียดังนั้น การริเริ่มกิจการ รถไฟของไทยจึงนับว่าเป็นการพัฒนาด้านการคมนาคมที่ส�ำคัญ อีกทั้งยังเป็น การป้องกันประเทศจากการล่าอาณานิคมและเสริมสร้างความมั่นคงของประเทศ เนื่องจากรถไฟสามารถล�ำเลียงก�ำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์อาหาร และสิ่งของ เครื่องใช้จ�ำเป็นอื่น ๆ จากส ่วนกลางหรือหัวเมืองชั้นในไปยังเมืองชายแดน ได้สะดวกรวดเร็วกว่าการคมนาคมแบบอื่น1 ประเทศเยอรมนีในขณะนั้นเป็นประเทศเดียวที่ไม่มีจุดประสงค์จะเข้ามา ล ่าอาณานิคมในดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย ่างประเทศอังกฤษและ ฝรั่งเศสซึ่งก�ำลังขยายอ�ำนาจเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้บทบาทของประเทศเยอรมนี จึงมีความเป็นกลาง นอกจากนี้ชาวเยอรมันยังเป็นผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ด้านเทคโนโลยีด้วย จะเห็นได้ว ่ารัฐบาลไทยจึงได้ว ่าจ้างชาวเยอรมันเข้ามา รับราชการในประเทศไทย ในเวลานั้นมีชาวเยอรมันหลายคนซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เข้ามามีบทบาทส�ำคัญในการปฏิรูปพัฒนาประเทศไทยในหลายด้าน โดยส่วนใหญ่ จะเข้ามาดูแลงานด้านไปรษณีย์โทรเลขและการรถไฟ สำ� หรับด้านการรถไฟ รัฐบาล ไทยได้ว่าจ้างนายคาร์ลเบทเก2 (Herr KarlBethge)วิศวกรชาวเยอรมันมาเป็น 1 การรถไฟแห่งประเทศไทย, ๑๐๐ ปีสถานีรถไฟกรุงเทพ พ.ศ. ๒๔๕๙ - ๒๕๕๙ (กรุงเทพฯ: โฟโต้สแควร์แอนด์กราฟฟิค จ�ำกัด, ๒๕๕๙), หน้า ๑๔.2 ในที่นี้ใช้ตามเอกสารของส�ำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติกรมศิลปากร หากใช้ หลักเกณฑ์การทับศัพท์ภาษาเยอรมันของส�ำนักงานราชบัณฑิตยสภาจะใช้ว่า“คาร์ลเบทเกอ”
นายคาร์ล เบทเก 101 ที่ปรึกษาเกี่ยวกับการสร้างทางรถไฟและได้ด�ำรงต�ำแหน่งเจ้ากรมรถไฟคนแรก การว่าจ้างชาวเยอรมันมารับราชการในหน้าที่ส�ำคัญดังกล่าวเป็นการน�ำความเจริญ รุ่งเรืองมาสู่การคมนาคมในประเทศ และยังมีส่วนช่วยป้องกันประเทศให้รอดพ้น จากการล่าอาณานิคมของอังกฤษและฝรั่งเศสซึ่งก�ำลังแผ่อิทธิพลอยู่รอบด้าน3 จุดเริ่มต้นของการรถไฟในประเทศไทย กิจการรถไฟสายแรกของโลกเริ่มต้นขึ้นที่ประเทศอังกฤษเมื่อ พ.ศ. ๒๓๖๖ ส่วนของประเทศไทย ภายหลังการลงนามในสนธิสัญญาทางพระราชไมตรีและ การพาณิชย์กับประเทศอังกฤษ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว ่าสนธิสัญญาเบาว์ริง ใน พ.ศ. ๒๓๙๘ ซึ่งมีเซอร์จอห์น เบาว์ริง (Sir JohnBowring) เป็นราชทูตอังกฤษ จากนั้นนายแฮรีสมิท ปาร์กส์ (Harry Smith Parkes) อุปทูตในคณะของ เซอร์จอห์น เบาว์ริงได้น�ำสนธิสัญญากลับเข้ามาเพื่อแลกเปลี่ยนสัตยาบันกับฝ่ายไทย พร้อมกับได้อัญเชิญพระราชสาส์นและเครื่องราชบรรณาการจากสมเด็จ พระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งอังกฤษมาถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๓๙๘ ในบรรดาเครื่องราชบรรณาการนั้น มีขบวนรถไฟจ�ำลองที่ย่อส่วนจากของจริง4 นับเป็นครั้งแรกที่คนไทยได้เห็นรถไฟ แม้ว่าจะเป็นเพียงรถไฟจ�ำลองแต่ก็ท�ำให้คนไทยในสมัยนั้นเริ่มสนใจความก้าวหน้า ของการคมนาคมแบบใหม่นี้ 3 คณะกรรมการจัดงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี, ประวัติศาสตร์กรุง รัตนโกสินทร์เล่ม ๒ รัชกาลที่ ๔ - พ.ศ. ๒๔๗๕ (กรุงเทพฯ : อมรินทร์การพิมพ์, ๒๕๒๕), หน้า ๑๓๙ - ๑๔๐. 4 การรถไฟแห่งประเทศไทย, การรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๓๙ - ๒๕๑๒ (ที่ระลึกในวันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟครบรอบ ๗๒ ปีพ.ศ. ๒๔๓๙ - ๒๕๑๒) (กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์การรถไฟ, ๒๕๑๓), หน้า ๒๓.
102 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู ่หัว รัชกาลที่ ๕ ทรงด�ำเนินพระบรมราโชบายในการกระชับสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศและ มีพระราชประสงค์ที่จะทอดพระเนตรกิจการบ้านเมืองที่ชาวยุโรปเข้ามาปกครอง เพื่อน�ำมาปรับปรุงประเทศ ใน พ.ศ. ๒๔๑๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสสิงคโปร์และชวา นับเป็นการเสด็จประพาสต่างประเทศ ครั้งแรก ที่ชวานั้นได้เสด็จพระราชด�ำเนินไปทอดพระเนตรการก่อสร้างทางรถไฟ และต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๑๔ เสด็จประพาสอินเดีย ในครั้งนี้ได้เสด็จพระราชด�ำเนิน โดยรถไฟจากเมืองกัลกัตตาไปเมืองเดลฮีและจากเดลฮีไปอัครา ลักเนา คอนปุระ จนถึงบอมเบย์5 หลังจากเสด็จกลับจากประเทศอินเดีย มีชาวยุโรป หลายชาติมาติดต่อขอรับเหมาก่อสร้างทางรถไฟให้แก่รัฐบาลไทย แต่ในเวลานั้น เศรษฐกิจภายในประเทศยังไม่เอื้ออ�ำนวยให้มีการก่อสร้างทางรถไฟ จึงยังไม่มี การรับข้อเสนอใดๆ ครั้นใน พ.ศ. ๒๔๒๙ รัฐบาลไทยได้อนุมัติสัมปทานแก่บริษัท ของเดนมาร์ก เพื่อสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพฯ - สมุทรปราการ หรือที่รู้จักกัน ในชื่อว่า “รถไฟสายปากน�้ำ” 6 ระยะทาง ๒๑ กิโลเมตร นับได้ว่าเป็นทางรถไฟ ที่สร้างโดยเอกชนสายแรกของประเทศไทย7 5 เรื่องเดียวกัน, หน้า ๒๕.6 เริ่มการเดินรถเมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๓๖7 การรถไฟแห่งประเทศไทย, ๑๐๐ ปีรถไฟไทย พ.ศ. ๒๔๓๙ - ๒๕๔๐ (กรุงเทพฯ: เวิลด์วิชั่น, ๒๕๔๐), หน้า ๑๑๗, ๑๒๐.
นายคาร์ล เบทเก 103 ขบวนรถไฟจ�ำลองย่อส่วน สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียแห่งอังกฤษ ถวายพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
104 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ หลังจากนั้นใน พ.ศ. ๒๔๓๐ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ออกประกาศส�ำรวจทางรถไฟทั้งเส้นทางจาก กรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ และจากกรุงเทพฯ ไปยังนครราชสีมา จนกระทั่งน�ำไปสู่ การตกลงสร้างทางรถไฟจากกรุงเทพฯถึงนครราชสีมาเป็นอันดับแรกเพื่อขัดขวาง ฝรั่งเศสที่พยายามจะล่วงล�้ำอาณาเขตเข้ามาเพื่อยึดดินแดนในภาคตะวันออกและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อีกทั้งเมืองนครราชสีมายังเป็นศูนย์กลางการปกครอง และเศรษฐกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งไทยจะต้องท�ำนุบ�ำรุงให้มั่นคง8 จะเห็นได้ว ่าการรถไฟไทยได้ถือก�ำเนิดขึ้นได้ด้วยพระปรีชาสามารถของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านการรถไฟจากต่างประเทศ ในช่วงเริ่มต้นของการรถไฟของไทย คนไทยยังไม่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ด้านการรถไฟ จึงจ�ำเป็นต้องสรรหาว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญชาวตะวันตกมาช่วยเหลือ งานด้านการก่อสร้างทางรถไฟ นายคาร์ล เบทเก วิศวกรชาวเยอรมัน จึงมีโอกาส เข้ามาช่วยเหลืองานด้านการรถไฟในไทย การที่รัฐบาลไทยว่าจ้างชาวเยอรมัน มาท�ำงานด้านการคมนาคมที่ส�ำคัญครั้งนี้นับว่าเป็นการรักษาดุลอ�ำนาจไม่ให้ อังกฤษครอบคลุมกิจการรถไฟของไทย และยังเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายเพื่อ ความอยู่รอดของรัฐบาลไทยซึ่งเล็งเห็นแล้วว่าอังกฤษและฝรั่งเศสก�ำลังเข้ามา มีผลประโยชน์ในประเทศไทยมากเกินไป9 8 คณะกรรมการจัดงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี, ประวัติศาสตร์กรุง รัตนโกสินทร์เล่ม ๒ รัชกาลที่ ๔ - พ.ศ. ๒๔๗๕, หน้า ๓๒๗ - ๓๒๘. 9 เรื่องเดียวกัน, หน้า ๑๓๙ - ๑๔๐.
นายคาร์ล เบทเก 105 นายคาร์ลเบทเกเป็นวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการก่อสร้างทางรถไฟ เป็นอย่างยิ่งเกิดเมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์พ.ศ. ๒๓๙๐ (ค.ศ. ๑๘๔๗) ที่กรุงเบอร์ลิน (Berlin) ประเทศเยอรมนีหลังจากส�ำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยใน กรุงเบอร์ลินและเมืองคาร์ลสรูห์ (Karlsruhe) ได้เดินทางไปประเทศฮังการีและ ประเทศออสเตรียเพื่อแสวงหาความรู้และสั่งสมประสบการณ์ในการก่อสร้าง ทางรถไฟก็อตต์ฮาร์ท (Gotthard railway) และหน่วยงานต่าง ๆ อีกหลายแห่ง จนกระทั่งต ่อมาได้เข้าท�ำงานในต�ำแหน ่งวิศวกรของบริษัทครุปป์ (Krupp) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตและจ�ำหน่ายเหล็กรายใหญ่ของประเทศเยอรมนีซึ่งท�ำให้เขา ได้มีโอกาสไปท�ำงานที่ประเทศจีน10 แต่เมื่อการสร้างทางรถไฟในประเทศจีน น้อยลง จึงได้เดินทางมายังประเทศไทย11 เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๓๑ และมีโอกาสเข้าเฝ้าพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงศ์วโรประการ เสนาบดี ว่าการต่างประเทศ รัฐบาลไทยมอบหมายให้เขาส�ำรวจเส้นทางรถไฟสาย นครราชสีมา มีการจดบันทึกการท�ำงานไว้อย่างละเอียดหลังจากนั้นได้น�ำส่งรายงาน กราบทูลพระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงเทวะวงศ์วโรประการเสนาบดีว่าการต่างประเทศ ลงวันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๓๒ โดยเนื้อความในรายงานนั้นเขาได้เสนอ ข้อคิดเห็นอย ่างตรงไปตรงมาและข้อเสนอแนะอันเป็นประโยชน์ในการสร้าง ทางรถไฟของรัฐบาลไทยเช่น ประโยชน์ของการทำ� ทางรถไฟ เส้นทางที่เหมาะสม ในการท�ำทางรถไฟ ตารางวิธีกู้เงินท�ำรถไฟ อัตราค่าโดยสารการบรรทุกสินค้าเป็นต้น ดังความจากรายงานฉบับแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยตอนหนึ่งว่า 10 Deutsche Kolonialgesellschaft, Karl Bethge in Deutsche Kolonialzeitung, Volume 17 (Frankfurt: Eigentum und Verlag des Deutschen Kolonialvereins, 1900), p.195. 11 ลูอิส ไวเลอร์, ก�ำเนิดการรถไฟในประเทศไทย, แปลโดย ถนอมนวล โอเจริญ และวิลิตา ศรีอุฬารพงศ์, พิมพ์ครั้งที่ ๒ (กรุงเทพฯ: โครงการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ คณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๖), หน้า ๒.
106 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ “...ข่าวที่ว่าจะท�ำทางรถไฟไปถึงเมืองนครราชสีมานั้น ล้วนเปนที่ชื่นชมยินดีทั่วไปทุกๆแห่งการที่ได้ตรวจดูกระท�ำให้ เหนชัดปราศจากสงไสยได้ว่า ที่จะท�ำทางรถไฟต่อกับในระหว่าง เมืองนครราชสีมากับกรุงเทพฯ นั้น จะต้องทำ� ไปทางเมืองสระบุรี ที่จะไปทางเมืองปราจิณบุรีนั้นไม่ได้ระยะทางที่จะต่อกันได้อย่าง สั้นที่สุดในระหว่างเมืองปราจินบุรีกับเมืองนครราชสีมานั้น มีเครื่องกีดขวางแลเปนที่ล�ำบากในธรรมดาพื้นที่นั้นมากนัก... ...เปนความจริงถ้าจะก่อสร้างท�ำการอันส�ำคัญยิ่งใหญ่ เช่นนี้เพื่อบ�ำรุงความเจริญของการค้าขายแลการภายน่าของ ประเทศสยามแล้วถ้าไม่ลงมือท�ำตั้งแต่ประตูกรุงเทพฯไปทีเดียว ก็ดูไม่สมควรกับภูมถานแห่งเมืองแลประเทศที่ตั้งของคอเวอนเมนต์ สยามเลย ข้าพเจ้าคิดเหนว่า คอเวอนเมนต์สยามคงจะมีความ เหนอันดีนอกไปจากนี้ในการที่จะตกลงให้ท�ำทางรถไฟตั้งแต่ กรุงเทพฯไปถึงเมืองนครราชสีมาโดยตรงทีเดียวดียิ่งกว่าจะท�ำ ตั้งแต่ท่าเรือไปถึงเมืองนครราชสีมานั้น... ...ส่วนตัวข้าพเจ้าเองนั้น ในเวลาที่ยังอาไศรยอยู่ในกรุงนี้ ก็ยอมรับที่จะฉลองพระเดชพระคุณทูลถวายให้ทรงทราบใน ข้อความอย่างเลอียดต่อไป ไม่ว่าจะเรื่องหนึ่งเรื่องใดจะเปนเรื่อง เฉพาะการรถไฟก็ดีฤาเรื่องอื่น ๆ ด้วยก็ดี (ลงชื่อ) กาล เบทเย คอเวอนเมนต์ซิวิลอินยิเนีย กรุงเทพฯ วันที่ ๒๙ เดือนแยนุวรี ๑๘๘๙” 12 12 หอจดหมายเหตุแห่งชาติ.ร.๕ กต. ๕.๒/๔ เอกสารกรมรถไฟ รัชกาลที่๕ กระทรวง การต่างประเทศ เรื่องนายเบทเก (MR. KARL BETHGE) เจ้ากรมรถไฟรายงานและเสนอ ความเห็นในการส�ำรวจเส้นทางสายนครราชสีมา (พ.ศ. ๒๔๓๑)
นายคาร์ล เบทเก 107 ประกาศตั้งกรมรถไฟ การด�ำเนินงานเกี่ยวกับการรถไฟของไทยในระยะแรกยังไม่มีหน่วยงานใด ที่รับผิดชอบกิจการรถไฟโดยตรง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตั้งกรมรถไฟขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๓๓ สังกัดกระทรวง โยธาธิการ พระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ทรงเป็นเสนาบดี และด�ำเนินการว่าจ้างนายคาร์ล เบทเก วิศวกรชาวเยอรมันเป็นเจ้ากรมรถไฟ คนแรก ท�ำหน้าที่ควบคุมการสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพฯ - นครราชสีมา ซึ่งเป็นทางรถไฟสายแรกของรัฐบาลให้ส�ำเร็จโดยท�ำสัญญาจ้างก�ำหนดเวลา ๕ ปี นับตั้งแต่วันที่ ๑๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๓๓ ได้รับเงินค่าจ้างปีละ ๑๗,๕๐๐ บาท โดยจ่ายให้ทุกสิ้นเดือน เดือนละ ๑,๔๕๘ บาท ๒๑ อัฐ13 หลังจากนั้นมีการเปิดประมูลการก ่อสร้างทางรถไฟระหว ่างกรุงเทพฯ ถึงนครราชสีมา โดยนายจี. เมอร์เรย์แคมป์เบลล์ (G. Murray Campbell) ชาวอังกฤษเป็นผู้ประมูลได้ในราคา ๙,๙๕๖,๑๖๔ บาท การก่อสร้างทางรถไฟ สายนี้ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ ๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๔ ซึ่งกรมรถไฟได้ขยายการ เดินรถถึงแก่งคอยเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๐ และการสร้างทางรถไฟสายนครราชสีมาได้ เสร็จเรียบร้อยและเปิดการเดินรถสายนครราชสีมาตลอดสายเมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓14 13 หอจดหมายเหตุแห ่งชาติ. ก-ร.๕ บ/๓๒/๑ เอกสารกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ ๕ เบ็ดเตล็ด เรื่องนายเค เบทเก้(MR. BETHGE) เจ้ากรมรถไฟ (๓๐ ต.ค. ๑๐๘ - ๙ ก.พ. ๑๑๘) 14 คณะกรรมการจัดงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี, ประวัติศาสตร์กรุง รัตนโกสินทร์เล่ม ๒ รัชกาลที่ ๔ - พ.ศ. ๒๔๗๕, หน้า ๓๒๘.
108 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ ส�ำเนาบางส่วนของรายงานและเสนอความเห็นในการส�ำรวจเส้นทางสายนครราชสีมา ของนายคาร์ล เบทเก กราบทูลพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงศ์วโรประการ เสนาบดีว่าการต่างประเทศ ลงวันที่ ๒๙ มกราคม ค.ศ. ๑๘๘๙ (พ.ศ. ๒๔๓๒)
นายคาร์ล เบทเก 109 ส�ำเนาบางส่วนของรายงานและเสนอความเห็นในการส�ำรวจเส้นทางสายนครราชสีมา ของนายคาร์ล เบทเก กราบทูลพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงเทวะวงศ์วโรประการ เสนาบดีว่าการต่างประเทศ ลงวันที่ ๒๙ มกราคม ค.ศ. ๑๘๘๙ (พ.ศ. ๒๔๓๒)
110ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ ส�ำเนาสัญญาจ้างนายคาร์ล เบทเก ต�ำแหน่งเจ้ากรมรถไฟ (หน้า ๑)
นายคาร์ล เบทเก 111 ส�ำเนาสัญญาจ้างนายคาร์ล เบทเก ต�ำแหน่งเจ้ากรมรถไฟ (หน้า ๒)
112 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ ผลงานของเจ้ากรมรถไฟคนแรก ในช่วงที่นายคาร์ลเบทเกดำ�รงต�ำแหน่งเจ้ากรมรถไฟ ได้มีการว่าจ้างวิศวกร ชาวเยอรมันที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการสร้างทางรถไฟอีก ๒ คนเข้ามาช่วยงาน ในประเทศไทย ได้แก่ นายแฮร์มันน์เกียร์ทส์(Hermann Gehrts) และนายลูอิส ไวเลอร์(Luis Weiler) ปฏิบัติหน้าที่วิศวกรในกรมรถไฟ โดยได้มีส่วนช่วยในการ สร้างทางรถไฟสายกรุงเทพฯ - นครราชสีมาด้วย นายคาร์ลเบทเกทุ่มเทท�ำงานให้กรมรถไฟอย่างเต็มที่เขารับผิดชอบหน้าที่ วางแผนและควบคุมดูแลการก่อสร้างเส้นทางรถไฟหลวงสายแรก คือ กรุงเทพฯ - นครราชสีมา จนกระทั่งใน พ.ศ. ๒๔๓๙ การสร้างทางรถไฟสายดังกล่าว ช่วง กรุงเทพฯ - อยุธยา ได้ส�ำเร็จเรียบร้อย นับเป็นทางรถไฟสายแรกของรัฐบาลไทย เริ่มเดินรถเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๙ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชด�ำเนินมาทรงประกอบพระราชพิธีเปิดการเดินรถไฟหลวงสาย นครราชสีมา ช่วงกรุงเทพฯ ถึงพระนครศรีอยุธยา เสด็จตรึงหมุดเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๙ ซึ่งมีระยะทาง ๗๑ กิโลเมตร ในการนี้ นายคาร์ล เบทเกได้ถวายรายงานผลสรุปของการก่อสร้างทางรถไฟในครั้งนี้ว่า “...ในที่สุดข้าพระพุทธเจ้า ขอพระราชทานพระบรม ราชวโรกาศแสดงความปรารภอย่างยิ่งของข้าพระพุทธเจ้า ทั้งหลายต่อใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาทว่า การท�ำทางรถไฟซึ่ง ใต้ฝ่าลอองธุลีพระบาทได้ทรงกระท�ำต่อทางรถไฟนครราชสีห์มา นั้น จะเปนการส�ำเร็จไปได้โดยเร็วพลัน แลการเดินรถไฟ ในทางรถไฟสายนี้จะเปนที่เปิดเผยความเจริญแห่งชนทั้งหลาย
นายคาร์ล เบทเก 113 ที่เกี่ยวข้องด้วยทั่วไปแลจะเปนที่ชักน�ำรัฐบาลของใต้ฝ่าลอองธุลี พระบาทถึงการที่จะสร้างทางรถไฟสายแยกต่อไปในพระราช อาณาเขตรเพื่อเปนประโยชน์แห่งพานิชกรรมแลการมัทยัด ต่าง ๆ ของอาณาประชาราษฎรทั่วไป...”15 15 “ค�ำมิสเตอร์เบทเกเจ้ากรมรถไฟ อ่านกราบถวายบังคมทูลพระกรุณาพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู ่หัวแลสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ เมื่อเวลาเสด็จพระราชด�ำเนิน มาเปิดทางรถไฟ วันที่ ๒๖ มีนาคม รัตนโกสินทรศก ๑๑๕” ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๔,ตอนที่ ๑ (๔ เม.ย. ๑๑๕) : ๒๐ - ๒๑. หมอนรถไฟไม้มะริดส�ำหรับพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงตรึงหมุดบนรางทองรางเงิน ในพระราชพิธีเปิดการเดินรถไฟหลวงสายนครราชสีมา ช่วงกรุงเทพฯ ถึงพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๓๙
114 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ การสร้างทางรถไฟหลวงสายแรกนี้นับว่าเป็นงานที่มีอุปสรรคท้าทายและ ยากล�ำบากยิ่ง เนื่องจากในสมัยนั้นการคมนาคมของไทยยังไม ่สะดวกสบาย เหมือนเช่นทุกวันนี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทุรกันดาร โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออก เฉียงเหนือนั้นส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงอีกทั้งต้องเผชิญโรคระบาดที่เป็นอันตรายถึง ชีวิตได้ความส�ำเร็จในครั้งนี้จึงท�ำให้นายเบทเกได้มีผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ และได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์มงกุฎสยามชั้นที่ ๒ จุลสุราภรณ์16 เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๓๙ ในวันเปิดเส้นทางรถไฟหลวงสายแรกด้วย17 นายคาร์ล เบทเกท�ำงานในต�ำแหน ่งเจ้ากรมรถไฟเรื่อยมา กระทรวง โยธาธิการด�ำเนินการต ่อสัญญาว ่าจ้างนายคาร์ล เบทเกให้รับราชการในกรม รถไฟต ่อเนื่องจนกระทั่งถึง พ.ศ. ๒๔๔๒ สัญญาจ้างจึงสิ้นสุดลง นายคาร์ล เบทเกได้ท�ำหนังสือกราบทูลพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการแจ้งว่าท�ำงานมาครบ ๑๐ ปีแล้วและมีความประสงค์ จะรับราชการต่อไป ดังความตอนหนึ่งในหนังสือของนายคาร์ล เบทเกที่กราบทูล เสนาบดีกระทรวงโยธาธิการ ลงวันที่ ๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๒ ว่า 16 ปัจจุบันคือ เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นที่ ๒ ทวีติยาภรณ์ มงกุฎไทย17 “พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์” ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๔, ตอนที่ ๑ (๔ เม.ย. ๑๑๖) : ๒๔.
นายคาร์ล เบทเก 115 “...ด้วยข้าพระพุทธเจ้ามีความยินดีที่จะกราบทูลฝ่าพระบาทว่า วันนี้เปนวันครบก�ำหนด ๑๐ ปีที่ข้าพระพุทธเจ้าได้รับราชการ ของรัฐบาลสยามมา...ข้าพระพุทธเจ้ายินดีที่จะกราบทูลว่า เวลา ๑๑ ปี(ข้าพระพุทธเจ้าได้เข้ามากรุงสยามในเดือน พฤศจิกายน ร.ศ. ๑๐๗) ซึ่งข้าพระพุทธเจ้าได้อยู่ในกรุงสยาม แล้วนั้น เปนสมัยอยู ่ในระหว ่างเวลาดีที่สุดแห ่งอายุของ ข้าพระพุทธเจ้าแลข้าพระพุทธเจ้าจะอิ่มใจเปนที่สุด ที่จะอยู่ ในกรุงสยามให้เนิ่นนานต ่อไปอีกตามแต ่พระเจ้าจะให้ ข้าพระพุทธเจ้ามีชีวิตแลก�ำลังที่จะรับราชการอยู่ได้...”18 18 หอจดหมายเหตุแห่งชาติ.ก-ร.๕ บ/๓๒/๑ เอกสารกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ ๕ เบ็ดเตล็ดเรื่องนายเคเบทเก้(MR. BETHGE) เจ้ากรมรถไฟ (๓๐ ต.ค. ๑๐๘ - ๙ ก.พ. ๑๑๘) อาคารที่ท�ำการกรมรถไฟในอดีต ที่มา: หนังสืองานฉลองรถไฟหลวงครบ ๕๐ ปี
116 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ ต ่อมาพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ เสนาบดี กระทรวงโยธาธิการ เสนอความเห็นไว้ในหนังสือกราบบังคมทูลพระกรุณาฯ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ลงวันที่ ๓๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๔๒ ดังความตอนหนึ่งว ่า “...ข้าพระพุทธเจ้าเห็นด้วยเกล้าว ่ามิศเตอร์เบทเก ได้รับราชการมาช้านานคุ้นเคยแก่ราชการแลบ้านเมืองดีอยู่แล้ว กับทั้งท�ำการก็ แขงแรงเปนประโยชน์ในราชการมากด้วย การรถไฟที่จะท�ำต่อไปก็ยังมีมาก จะไม่เปนการเสียทีที่หากว่าจะจ้างไว้ต่อไป...”19 หลังจากนั้นได้มีหนังสือกรม 19 เรื่องเดียวกัน ตึกบัญชาการการรถไฟแห่งประเทศไทยในปัจจุบัน หรือตึกขาว เดิมเป็นตึก ๒ ชั้น สร้างขึ้นใน พ.ศ. ๒๔๓๓ ในสมัยแรกเรียกว่าตึกเบธเก้ ตามชื่อนายคาร์ล เบทเก (Karl Bethge) เจ้ากรมรถไฟคนแรก ต่อมาจึงมีการต่อเติมอาคารเป็นรูปตัวยู (U) และภายหลังเกิดเหตุไฟไหม้ จึงปรับปรุงเป็นตึก ๓ ชั้นเหมือนกันทั้งหมด
นายคาร์ล เบทเก 117 ราชเลขานุการลงวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๔๒20 ถึงพระเจ้าน้องยาเธอ กรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ ระบุว ่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู ่หัว ทรงอ่านข้อความในรายงานประชุมเสนาบดีซึ่งได้ปรึกษาหารือกันแล้ว ที่ประชุม ตกลงเห็นชอบตามที่พระเจ้าน้องยาเธอกรมขุนนริศรานุวัดติวงศ์ได้ชี้แจงข้อสัญญา และอนุญาตให้ท�ำสัญญาตามที่ได้ปรึกษากันแล้ว21 ช่วงท้ายของชีวิตการรับราชการในประเทศไทย ก ่อนที่งานก ่อสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพฯ - นครราชสีมาจะเสร็จสิ้น สมบูรณ์ตลอดสาย นายคาร์ล เบทเกได้ล้มป่วยลงด้วยอหิวาตกโรค จนกระทั่ง ถึงแก่กรรมที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๓22 สิริอายุรวม ๕๓ ปี หลังจากนั้นเมื่อวันที่ ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า เจ้าอยู่หัวพระราชทานรถวออันเป็นเกียรติยศใหญ่รองหีบศพนายเบทเกไปยัง ที่ฝังศพ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระยาศรีหราชเดโชไชย สมุหราช องครักษ์ไปช่วยส่งสการศพนายคาร์ล เบทเกด้วย บรรดาข้าราชการกรมรถไฟ ล้วนรู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทรงพระมหากรุณาแก่ศพ นายคาร์ล เบทเก เจ้ากรมรถไฟ23 ผู้ซึ่งทุ ่มเทท�ำงานด้วยความวิริยอุตสาหะ ให้กรมรถไฟตราบจนวาระสุดท้ายของชีวิตการรับราชการในประเทศไทย 20 ขณะนั้นประเทศไทยยังไม่ได้ขึ้นปีใหม่ในเดือนมกราคม21 หอจดหมายเหตุแห่งชาติ.ก-ร.๕ บ/๓๒/๑ เอกสารกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ ๕ เบ็ดเตล็ดเรื่องนายเคเบทเก้(MR. BETHGE) เจ้ากรมรถไฟ (๓๐ ต.ค. ๑๐๘ - ๙ ก.พ. ๑๑๘)22 “ข่าวตายในกรุง”ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๗,ตอนที่ ๓ (๑๕ เม.ย. ๑๑๙) : ๒๑.23 หอจดหมายเหตุแห ่งชาติ. ร.๕ ยธ.๕.๑/๑ เอกสารกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ ๕ กระทรวงโยธาธิการ เรื่องเบ็ดเสร็จ กรมรถไฟ (๒๖ ต.ค. ๑๐๙ - ๑ พ.ย. ๑๑๙)
118 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ แม้ว่านายคาร์ลเบทเกจะไม่มีโอกาสได้ควบคุมดูแลการสร้างทางรถไฟสาย กรุงเทพฯ - นครราชสีมาจนโครงการแล้วเสร็จ แต่การก่อสร้างทางรถไฟจาก โครงการดังกล ่าวยังคงด�ำเนินต ่อไปอย ่างต ่อเนื่อง ต่อมาวันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๓ ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้นายแฮร์มันน์ เกียร์ทส์(Hermann Gehrts) นายช่างกลใหญ่ประจ�ำกรมรถไฟมาด�ำรงต�ำแหน่ง เจ้ากรมรถไฟสืบต่อจากนายคาร์ลเบทเก24 พร้อมทั้งรับหน้าที่ด�ำเนินการควบคุม ดูแลการก ่อสร้างทางรถไฟสายกรุงเทพฯ - นครราชสีมาต ่อไปจนแล้วเสร็จ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๔๓ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชด�ำเนิน ไปทรงเปิดทางรถไฟสายกรุงเทพฯ - นครราชสีมาในวันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๔๓ จากพระราชด�ำรัสการเปิดทางรถไฟสายนครราชสีมา มีความ ตอนหนึ่งกล่าวถึงนายคาร์ล เบทเก ด้วยความอาลัยไว้ว่า “เรามีความสลดใจนัก ด้วยอินยิเนียแลพนักงานอื่น ๆ อันมีพยายามมากผู้ซึ่งเราได้เคยเห็นกระท�ำการมา ตั้งแต่แรก โดยความอุสาหะแล้วนั้น ไม่ได้มาอยู่เห็นการงานที่ท�ำไว้ได้ส�ำเร็จ บริบูรณ์ณ ที่นี้ด้วย เรายังมีความระฤกถึงคุณความดีของเขา ทั้งหลายเหล่านี้อยู่ทุก ๆ คน มีเปนต้นคือ มิสเตอร์เบทเก เจ้ากรมรถไฟคนเก่าผู้มีชื่อเสียงอันปรากฏ ผู้มีใจถือแต่สิ่งที่ชอบ แลผู้มีความเพียรยิ่งนัก...”25 24 “ประกาศกระทรวงโยธาธิการ” ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๗, ตอนท ี่ ๑๒ (๑๗ มิ.ย. ๑๑๙) :๑๑๒.25 “พระราชด�ำรัสการเปิดทางรถไฟสายนครราชสีห์มา” ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๗, ตอนที่ ๔๑ (๖ ม.ค. ๑๑๙): ๕๘๙.
นายคาร์ล เบทเก 119 หลังจากการก่อสร้างทางรถไฟสายนครราชสีมาแล้วเสร็จ กิจการรถไฟ ในสมัยนั้นได้ด�ำเนินการขยายเส้นทางรถไฟเรื่อยมา โดยกระทรวงโยธาธิการได้ เปิดการเดินรถไฟสายใต้ เส้นทางจากปากคลองบางกอกน้อยถึงเพชรบุรี รวมระยะทาง ๑๕๐ กิโลเมตร ซึ่งก ่อสร้างแล้วเสร็จและเปิดการเดินรถเมื่อ วันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๔๖ และยังมีการขยายเส้นทางต่อไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๓ อันเป็นช ่วงท้ายของรัชสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู ่หัว ประเทศไทยมีเส้นทางรถไฟรวมทั้งหมด ๙๓๒ กิโลเมตร26 ต่อมาเพื่อให้การพัฒนากิจการรถไฟเป็นไปอย่างคล่องตัว พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้แยกกรมรถไฟออกเป็น ๒ กรม คือกรมรถไฟหลวงสายเหนือและกรมรถไฟหลวงสายใต้27 โดยมี นายลูอิส ไวเลอร์ (Luis Weiler) ชาวเยอรมัน ด�ำรงต�ำแหน ่งเจ้ากรมรถไฟ สายเหนือ และนายเฮนรีกิตตินส์ (Henry Gittins) ชาวอังกฤษ ด�ำรงต�ำแหน่ง เจ้ากรมรถไฟสายใต้และได้พัฒนาการรถไฟจนท�ำให้งานก่อสร้างทางรถไฟ ในประเทศไทยก้าวหน้าไปมาก ครั้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ทรงพิจารณาเห็นว่ากิจการของกรมรถไฟสายเหนือและ กรมรถไฟสายใต้ซึ่งแยกกันอยู่นั้น ท�ำให้บริหารงานไม่สะดวกนักและไม่ประหยัด ค่าใช้จ่าย ดังนั้น จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวมกรมรถไฟทั้ง ๒ กรม เข้าเป็นกรมเดียวกัน เรียกว่า“กรมรถไฟหลวง”เมื่อวันที่๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๐ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระก�ำแพงเพ็ชร 26 การรถไฟแห่งประเทศไทย, ๑๐๐ ปีรถไฟไทย พ.ศ. ๒๔๓๙ - ๒๕๔๐, หน้า๑๒๕ - ๑๒๘.27 อธิศีล ธัญญ์ณ ป้อมเพชร, บรรณาธิการ. จุฬาฯ เพื่อทุกคน (กรุงเทพฯ: ม.ป.ท., ๒๕๖๒), หน้า ๔๙. (จัดพิมพ์เป็นหนังสือที่ระลึกเนื่องในงานปิยมหาราชานุสรณ์๒๕๖๒)
120 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ พระอนุสาวรีย์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระก�ำแพงเพ็ชรอัครโยธิน ผู้บัญชาการรถไฟพระองค์แรก
นายคาร์ล เบทเก 121 อัครโยธิน ด�ำรงต�ำแหน่งผู้บัญชาการกรมรถไฟหลวงพระองค์แรก28 นอกจากน ี้ การก่อสร้างสถานีรถไฟกรุงเทพ29 ที่ด�ำเนินการมาตั้งแต่ช่วงปลายสมัยรัชกาล ที่ ๕ ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการในสมัยรัชกาลที่ ๖ เพื่อเป็นศูนย์กลางการเดินทาง ด้วยรถไฟในสมัยนั้น นับว่าเป็นการพัฒนากิจการรถไฟให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น จากการที่นายคาร์ลเบทเกได้ท�ำงานในต�ำแหน่งเจ้ากรมรถไฟ และบริหาร งานในกรมรถไฟมาเป็นเวลาถึง ๑๐ ปีเขาได้วางรากฐานการบริหารกิจการรถไฟ ไว้เป็นอย่างดียิ่งจะเห็นได้ว่าบรรดาผู้ที่รับหน้าที่บริหารงานของกรมรถไฟต่อจาก เขา ล้วนเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการควบคุมดูแลการก่อสร้างทางรถไฟ สายต่าง ๆ พร้อมทั้งได้ด�ำเนินการพัฒนาและขยายเส้นทางรถไฟอย่างต่อเนื่อง จวบจนถึงปัจจุบันกิจการรถไฟไทยได้พัฒนาเรื่อยมาจนกระทั่งมีการขยายเส้นทาง รถไฟออกไปหลายเส้นทางและยังมีการสร้างสถานีรถไฟหลักแห่งใหม่คือสถานี กลางกรุงเทพอภิวัฒน์ (สถานีกลางบางซื่อ) ซึ่งพัฒนาและยกระดับขึ้นเป็น ศูนย์กลางรถไฟไทยทุกระบบ เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อระบบรางกับระบบขนส่ง มวลชนแบบอื่น ๆ ด้วย ในวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ การรถไฟแห่งประเทศไทยมีอายุครบ ๑๒๖ ปีซึ่งตรงกับวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประกอบ พระราชพิธีเปิดการเดินรถไฟหลวงสายแรก การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ถือว่า วันดังกล่าวเป็นวันสถาปนากิจการรถไฟไทย 28 การรถไฟแห่งประเทศไทย, งานฉลองรถไฟหลวงครบ ๕๐ ปี(กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์กรมรถไฟ, ๒๔๙๐), หน้า ๓.29 หรือที่ในปัจจุบันเรียกกันว่า สถานีรถไฟหัวล�ำโพง ปภัชกร ศรีบุญเรือง
122 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ สถานีรถไฟกรุงเทพในอดีต สถานีรถไฟกรุงเทพในปัจจุบัน
นายคาร์ล เบทเก 123 พิพิธภัณฑ์รถไฟไทย เครื่องมือเครื่องใช้ในกิจการรถไฟในอดีต
124 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ กระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทยจัดนิทรรศการ ‘๑๒๕ ปีรถไฟไทย’ ในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ ๕๐ และสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ ๒๐ ระหว่างวันที่ ๒๖ มีนาคม - ๖ เมษายน ๒๕๖๕ ณ สถานีกลางบางซื่อ กรุงเทพฯ
นายคาร์ล เบทเก 125 บรรณานุกรม การรถไฟแห่งประเทศไทย. งานฉลองรถไฟหลวงครบ ๕๐ ปี. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ กรมรถไฟ, ๒๔๙๐. _________ ___ .การรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๓๙ - ๒๕๑๒ (ที่ระลึกในวันคล้ายวันสถาปนา กิจการรถไฟครบรอบ ๗๒ ปีพ.ศ. ๒๔๓๙ - ๒๕๑๒). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ การรถไฟ, ๒๕๑๓. _________ ___ . ๑๐๐ ปีสถานีรถไฟกรุงเทพ พ.ศ. ๒๔๕๙ - ๒๕๕๙.กรุงเทพฯ: โฟโต้สแควร์แอนด์ กราฟฟิค จ�ำกัด, ๒๕๕๙. _________ ___ . ๑๐๐ ปีรถไฟไทย พ.ศ. ๒๔๓๙ - ๒๕๔๐. กรุงเทพฯ: เวิลด์วิชั่น, ๒๕๔๐. _________ ___ . ๑๒๔ ปีการรถไฟแห่งประเทศไทย ศูนย์กลางระบบรางโครงข่ายอนาคตของ ประเทศ. กรุงเทพฯ: ม.ป.ท., ๒๕๖๔. _________ ___ .ประวัติการรถไฟแห่งประเทศไทย[ออนไลน์].แหล่งที่มา:https://railway.co.th/ AboutUs/Blog_detail?value1=00DE5502B5AA7B42A92BE9FF953D8EB D0100000039966B6F36A7EAD838616560AE62DF167B3DE17855F9F 7B15920EAE3CFE7B0C5&value2=00DE5502B5AA7B42A92BE9FF 953D8EBD01000000856CDF7EFDEA89349B0767812CB70F68AC 8034090DBA108845E2A19173939F25[๕ ตุลาคม ๒๕๖๕]. “การเปิดทางรถไฟนครราชสีมาระหว่างกรุงเทพฯ กับกรุงเก่าและเปิดที่ว่าการข้าหลวง เทศาภิบาลมณฑลกรุงเก่า” ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๔, ตอนท ี่ ๑ (๔ เม.ย. ๑๑๕) : ๑๑ - ๑๔. คณะกรรมการจัดงานสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ๒๐๐ ปี. ประวัติศาสตร์กรุงรัตนโกสินทร์ เล่ม ๒ รัชกาลที่ ๔ - พ.ศ. ๒๔๗๕. กรุงเทพฯ: อมรินทร์การพิมพ์, ๒๕๒๕. (จัดพิมพ์เป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์๒๐๐ ปีพุทธศักราช ๒๕๒๕). “ค�ำมิสเตอร์เบทเก เจ้ากรมรถไฟ อ่านกราบถวายบังคมทูลพระกรุณาพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู ่หัวแลสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ เมื่อเวลาเสด็จ พระราชด�ำเนินมาเปิดทางรถไฟ วันที่ ๒๖ มีนาคม รัตนโกสินทรศก ๑๑๕” ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๔, ตอนที่ ๑ (๔ เม.ย. ๑๑๕) : ๑๕ - ๒๑.
126 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ คัททิยากรศศิธรามาศ. บทบาทของดร.รูดอล์ฟ อาสมีส ทูตเยอรมันประจ�ำกรุงเทพมหานคร กับการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสยามและเยอรมนีพ.ศ. ๒๔๖๘ - ๒๔๗๕. วารสารศิลปศาสตร์ ๑๓, ๑ (มกราคม - มิถุนายน ๒๕๕๖). ชนัดดา ชินะโยธิน. คุยกับทูต ‘เยอรมนี’ ว่าความสัมพันธ์ยาวนานกับไทยในหลายมิติ. มติชนสุดสัปดาห์ฉบับวันที่ ๕ - ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ [ออนไลน์].แหล่งที่มา: https://www.matichonweekly.com/column/article_208849 [๒ กุมภาพันธ์๒๕๖๕]. ไวเลอร์, ลูอิส. ก�ำเนิดการรถไฟในประเทศไทย, แปลโดย ถนอมนวล โอเจริญ และวิลิตา ศรีอุฬารพงศ์, พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพฯ: โครงการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ คณะอักษรศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ๒๕๕๖. สุทธิศักดิ์แสวงศักดิ์. บทบาทของกรมรถไฟหลวงกับการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ พ.ศ. ๒๔๖๔ - ๒๕๐๒. ปริญญานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต,สาขาวิชาประวัติศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, ๒๕๖๑. หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. เอกสารกรมรถไฟ รัชกาลที่ ๕ กระทรวงการต่างประเทศร.๕ กต. ๕.๒/๔ เรื่องนายเบทเก (MR. KARL BETHEGE) เจ้ากรมรถไฟรายงานและ เสนอความเห็นในการส�ำรวจเส้นทางสายนครราชสีมา (พ.ศ. ๒๔๓๑) _________ ___ .เอกสารกรมรถไฟ รัชกาลที่ ๕ กระทรวงการต่างประเทศ ร.๕ กต. ๕/๒ เรื่อง สัญญาจ้างนายเบทเก (MR. KARL BETHGE) วิศวกรชาวเยอรมันรับราชการ เป็นเจ้ากรมรถไฟ (พ.ศ. ๒๔๓๑) _________ ___ .เอกสารกรมรถไฟ รัชกาลที่ ๕ กระทรวงการต่างประเทศ ร.๕ กต. ๕/๑๒ เรื่อง ครบก�ำหนดสัญญาว่าจ้างนายเบทเก (MR. KARL BETHEGE) เจ้ากรมรถไฟ (พ.ศ. ๒๔๓๘) _________ ___ .เอกสารกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ ๕ เบ็ดเตล็ด ก-ร.๕ บ/๓๒/๑ เรื่อง นายเค เบทเก้(MR. BETHGE) เจ้ากรมรถไฟ (๓๐ ต.ค. ๑๐๘ - ๙ ก.พ. ๑๑๘) _________ ___ .เอกสารกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ ๕ กระทรวงโยธาธิการ ร.๕ ยธ.๕.๑/๑ เรื่องเบ็ดเสร็จกรมรถไฟ (๒๖ ต.ค. ๑๐๙ - ๑ พ.ย. ๑๑๙) อธิศีล ธัญญ์ณ ป้อมเพชร, บรรณาธิการ. จุฬาฯ เพื่อทุกคน. กรุงเทพฯ: ม.ป.ท., ๒๕๖๒. (จัดพิมพ์เป็นหนังสือที่ระลึกเนื่องในงานปิยมหาราชานุสรณ์๒๕๖๒).
นายคาร์ล เบทเก 127 อาทิพร ผาจันดา. รถไฟสยามแต่กรุงเทพฯ ถึงเมืองนครราชสีห์มา: รถไฟหลวงสายแรก ในประวัติศาสตร์ไทย. นิตยสารศิลปากร ๕๗ (มีนาคม - เมษายน ๒๕๕๗): ๘๕ - ๙๓. Deutsche Kolonialgesellschaft. Karl Bethge in Deutsche Kolonialzeitung, Volume 17. Frankfurt: Eigentum und Verlagdes Deutschen Kolonialvereins, 1900. Kochherr, Anny. Bethge, Karl in: Neue Deutsche Biographie 2 (1955), p. 186 [Online]. Available from: https://www.deutsche-biographie. de/pnd135546532.html#ndbcontent [2022, December 26] Ramaer, R. The Railways of Thailand. Bangkok : White Lotus, 2009.
นายเออร์เนสต์ ยัง (Ernest Young) ครูชาวอังกฤษ ในสมัยรัชกาลที่ ๕
130ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ แต่เดิมการศึกษาของไทยนับตั้งแต ่สมัยสุโขทัยมีศูนย์กลางอยู ่ที่วัด ทั้งชาวบ้านทั่วไปและขุนนางจะส่งบุตรหลานของตนเข้าไปฝากตัวเป็น ลูกศิษย์กับพระสงฆ์เพื่อเรียนอ่านเขียนภาษาไทยและนับเลข ขณะที่เจ้านายจะได้ รับการศึกษาในราชส�ำนักโดยวิชาที่เล่าเรียนคือการอ่านเขียนภาษาไทย ภาษาบาลี วรรณคดีและรัฐศาสตร์ราชประเพณีเป็นต้น ดังนั้น ในระบบการศึกษาทั้งในระดับ ชาวบ้านและชนชั้นสูงจึงยังไม่มีการเรียนการสอนวิชาความรู้ตามแบบสมัยใหม่ ครั้นพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นครองราชย์พระองค์ ซึ่งทรงมีทั้งความรอบรู้ในวิชาการและมีพระวิสัยทัศน์กว้างไกล ได้เสด็จประพาส ต ่างประเทศและทอดพระเนตรความเจริญก้าวหน้าของชาติเหล ่านั้นแล้ว ทรงตระหนักถึงความส�ำคัญที่จะต้องปฏิรูปการศึกษาของประเทศไทยเพื่อสร้าง ทรัพยากรบุคคลส�ำหรับการพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมและเป็นที่ยอมรับในหมู่ ชาติอารยะทั้งหลายให้จงได้ด้วยเหตุนี้ในช่วงแรกเริ่มของการปฏิรูปการศึกษา ประเทศไทยจึงมีความจ�ำเป็นที่จะต้องว ่าจ้างครูชาวต ่างประเทศให้เข้ามาท�ำ การสอน ตลอดจนช่วยวางระบบและออกแบบหลักสูตรในโรงเรียนที่เปิดสอน วิชาการสมัยใหม่ เช่น คณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์ ภูมิศาสตร์และภาษาอังกฤษ อันเป็นกุญแจส�ำคัญที่จะไขไปสู่การเรียนรู้สรรพวิทยาสมัยใหม่จากโลกตะวันตก ทั้งนี้เพื่อเตรียมบุคลากรภายในประเทศให้มีความรู้เท่าทันวิทยาการจากนานา อารยประเทศและเป็นก�ำลังส�ำคัญของชาติในการพัฒนาประเทศสืบไป นายเออร์เนสต์ ยัง (Ernest Young) ครูชาวอังกฤษที่มีแนวคิดสมัยใหม ่ รักการเดินทาง ใฝ่เรียนรู้และรักการถ่ายทอดความรู้ให้แก่เด็กๆคือหนึ่งในบรรดา ครูชาวต่างชาติที่ได้เดินทางเข้ามารับราชการในประเทศไทยในรัชสมัยพระบาท สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๓๕ - ๒๔๔๐ และมีบทบาท ในฐานะอาจารย์ใหญ่ที่มีส่วนร่วมในช่วงบุกเบิกงานวางระบบและจัดการเรียน การสอนวิชาการสมัยใหม่ในโรงเรียนส�ำคัญ ๆ ของไทยในเวลานั้นถึงสามแห่ง คือ โรงเรียนพระต�ำหนักสวนกุหลาบ โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์และโรงเรียนแผนที่ ของกรมแผนที่
นายเออร์เนสต์ ยัง 131 นายเออร์เนสต์ ยัง ในวัยหนุ่ม
132 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ ประวัติชีวิตและการท�ำงานก่อนเข้ารับราชการในประเทศไทย นายเออร์เนสต์ยัง เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๒ ที่เมืองวูล์ฟแฮมป์ตัน ประเทศ อังกฤษ เป็นบุตรของนายธอมัสจอห์น ยัง (Thomas JohnYoung)ซึ่งประกอบ อาชีพเป็นผู้แทนขายสินค้า(commercial traveler) ในวัยเยาว์เขาได้รับการศึกษา ที่โรงเรียนรัฐบาล สแตฟฟอร์ด สตรีต (Stafford Street Board School) เมืองดัดลีย์เมื่ออายุได้เพียง ๑๕ ปีเขาเริ่มเป็นนักเรียนช่วยสอนที่โรงเรียนดังกล่าว นายเออร์เนสต์ยัง เป็นคนใฝ่รู้ใฝ่เรียน นอกจากการเล่าเรียนตามปกติในชั้นเรียน แล้ว เขายังได้หาโอกาสไปเรียนเสริมในสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ อีกด้วยต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๓๑ ก็สอบชิงทุนเล่าเรียนหลวงของสมเด็จพระราชินีนาถ แห ่งอังกฤษเพื่อเข้าศึกษาที่วิทยาลัยเบอโรโรด (Borough Road Training College)ซึ่งเป็นวิทยาลัยฝึกหัดครูในกรุงลอนดอน ณ ที่นั้นเขาได้รับการฝึกอบรม การเป็นครูสอนวิชาต ่าง ๆ ได้แก่ ภาษาอังกฤษ ภูมิศาสตร์ ประวัติศาสตร์ คณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์การขับร้อง และการวาดภาพ เป็นต้น และขณะก�ำลัง ศึกษาในชั้นปีที่ ๒ นั้นเขายังได้รับรางวัลนักเขียนอีกด้วย นายเออร์เนสต์ยัง ส�ำเร็จการศึกษาใน พ.ศ. ๒๔๓๒ ได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพครูจากวิทยาลัย เบอโรโรด จากนั้นกลับไปเป็นครูที่โรงเรียนสแตฟฟอร์ด สตรีต พร้อม ๆ กับ ศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์ ครั้น พ.ศ. ๒๔๓๓ นายเออร์เนสต์ยัง ในวัย ๒๑ ปีได้ย้ายไปเป็นครูสอน วิชาวิทยาศาสตร์ที่โรงเรียนจอห์น ลีออน (John Lyon) กรุงลอนดอน ซึ่งเป็น โรงเรียนเอกชนแบบโรงเรียนประจ�ำส�ำหรับเด็กชาย เขาได้วางรากฐานการสอน วิชาวิทยาศาสตร์ เริ่มท�ำนิตยสารประจ�ำโรงเรียนชื่อ The Lyonian เพื่อเป็น ช ่องทางการสื่อสารส�ำหรับนักเรียนทุกคนได้แลกเปลี่ยนมุมมองและแสดง
นายเออร์เนสต์ ยัง 133 ความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ และให้มีการจัดงานประชุมประจ�ำปีของศิษย์เก่าของ โรงเรียน นอกเหนือจากความสามารถทางวิชาการแล้ว นายเออร์เนสต์ยัง ยังได้ แสดงความสามารถในด้านการบริหารจัดการโดยเขาได้รับมอบหมายให้รักษาการ ต�ำแหน่งครูใหญ่ของโรงเรียนในช่วงที่โรงเรียนขาดครูใหญ่ด้วย ขณะเดียวกัน ก็ส�ำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีใน พ.ศ. ๒๔๓๔ แต่ยังไม่ได้รับวุฒิอย่างเป็น ทางการ จนกระทั่ง พ.ศ. ๒๔๔๔ จึงได้รับวุฒิวิทยาศาสตรบัณฑิต จาก London School of Economics ขณะอายุ ๓๒ ปี จากประวัติการศึกษาและการท�ำงานในช่วงต้นของชีวิต แสดงให้เห็นว่า นายเออร์เนสต์ ยัง มีความสนใจอย ่างจริงจังในวิชาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เป็นคนหนุ ่มหัวก้าวหน้าคนหนึ่งในช ่วงปลายศตวรรษที่ ๑๙ ทั้งยังมีความ กระตือรือร้นในงานการสอนและจัดการศึกษา นับว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติโดดเด่น ส�ำหรับครูที่จะเข้ามาช ่วยงานบุกเบิกการจัดการศึกษาตามแบบสมัยใหม ่ของ ประเทศไทยในเวลานั้น การรับราชการในประเทศไทยและผลงาน โรงเรียนพระต�ำหนักสวนกุหลาบฝ่ายอังกฤษ ใน พ.ศ. ๒๔๓๕ นายเออร์เนสต์ ยัง ในวัย ๒๓ ปีได้เดินทางมายัง ประเทศไทยเพื่อเข้ามารับราชการเป็นครูที่โรงเรียนพระต�ำหนักสวนกุหลาบ และรับเงินเดือนเดือนละ ๓๐๐ บาท1 อะไรเป็นมูลเหตุให้ครูชาวอังกฤษที่มี 1 หอจดหมายเหตุแห่งชาติ.ก - ร. ๕ บ/๒๙ เอกสารกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ ๕ เบ็ดเตล็ด เรื่อง มร.ยัง (ครูโรงเรียนกรมแผนที่) (๖ มี.ค. ร.ศ. ๑๑๔ - ๗ ก.ย. ร.ศ. ๑๑๕) หน้า๓๖ - ๓๗.
134 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ ความสามารถโดดเด่นเป็นที่ยอมรับและน่าจะมีอนาคตที่ดีต่อไปในโรงเรียนที่ อังกฤษ เลือกที่จะทิ้งครอบครัว เพื่อนฝูง และความสะดวกสบายในแผ่นดินเกิด มาพบกับความท้าทายในการเป็นครูสอนเด็กต่างชาติที่สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ ในประเทศตะวันออกที่อากาศร้อนอบอ้าว มีขนบธรรมเนียมและความเชื่อแตกต่าง อย่างสิ้นเชิงจากวัฒนธรรมอังกฤษ ทั้งระบบสาธารณูปโภคและสาธารณสุขก็ยัง ไม่สู้ดีนักในสายตาของชาวตะวันตกทั่วไป ข้อนี้สันนิษฐานว่าเขาอาจจะได้รับ การจูงใจและทาบทามจากเซอร์ โรเบิร์ต ลอรีมอรันต์ (Sir Robert Laurie Morant)2 ครูชาวอังกฤษซึ่งขณะนั้นรับราชการเป็นพระอาจารย์ถวายพระอักษร ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร และ เป็นที่ปรึกษาของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาด�ำรงราชานุภาพ ซึ่ง ขณะนั้นทรงด�ำรงต�ำแหน่งอธิบดีกรมศึกษาธิการ และทรงด�ำรงพระอิสริยยศเป็น พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นด�ำรงราชานุภาพ ด้วยเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู ่หัว โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งกรมหมื่นด�ำรงราชานุภาพ เป็นราชทูตพิเศษ เสด็จไปเยี่ยมตอบแทนแกรนด์ดุ๊ก ซาร์เรวิช นิโคลัส3 แห่ง รัสเซีย และเสด็จไปยังราชส�ำนักในยุโรปรวม ๘ ประเทศ ได้แก่ อังกฤษ ฝรั่งเศส เดนมาร์ก เยอรมนีรัสเซีย ตุรกีกรีซ และอิตาลีเพื่อถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ แด่พระเจ้าแผ่นดินและเจริญทางพระราชไมตรีรวมทั้งเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับระบบ การศึกษาในประเทศตะวันตกเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๓๔ ในครั้งนั้น เซอร์ โรเบิร์ต มอรันต์ได้ตามเสด็จด้วยในฐานะที่ปรึกษาฝ่ายการศึกษา พร้อมทั้งได้รับ มอบหมายให้สรรหาชาวอังกฤษเพื่อว่าจ้างมาเป็นครูสอนในโรงเรียน ๔ แห่ง 2 Stephen Frost. Ernest Young - He set the world within these walls [ออนไลน์]. แหล่งที่มา: https://www.jeffreymaynard.com/Harrow_County/ Ernest%20Young%20article.doc [๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๔] 3 ต่อมาเสวยราชย์เป็นพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ ๒ แห่งรัสเซีย
นายเออร์เนสต์ ยัง 135 คือ โรงเรียนส�ำหรับพระเจ้าลูกยาเธอ (โรงเรียนราชกุมาร) โรงเรียนส�ำหรับ พระเจ้าลูกเธอ(โรงเรียนราชกุมารี) โรงเรียนพระต�ำหนักสวนกุหลาบ และโรงเรียน ฝึกหัดอาจารย์4 4 หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. ม.ร. ๕ ศ ๑/๓ เอกสารกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ ๕ กระทรวงศึกษาธิการ เบ็ดเสร็จศึกษาธิการ เรื่อง ราชการในกรมศึกษา ปี ๑๒๕๐-๑๐๘-๑๐๙ หน้า ๖๒. และ วิลาส นิรันดร์สุขสิริ, “รอเบิร์ต แอล. มอรันต์ครูฝรั่งที่ประวัติศาสตร์ไทย ไม่อยากเอ่ยถึง (ตอน ๑),” ศิลปวัฒนธรรม ๒๙, ๓ (มกราคม ๒๕๕๑) : ๑๔๘. เซอร์ โรเบิร์ต ลอรี มอรันต์ (Sir Robert Laurie Morant) ที่มา : The National Portrait Gallery, London
136 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ แต่เดิมการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนพระต�ำหนักสวน กุหลาบ5 ให้นักเรียนเรียนปนกันอยู่กับการสอนวิชาหนังสือไทยโดยแบ่งเวลาเรียน ภาษาไทยและภาษาอังกฤษอย่างละครึ่งวัน ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๓๔ (ร.ศ. ๑๑๐) จึงแบ่งนักเรียนออกเป็น ๓ พวก คือพวกที่เรียนหนังสือไทยยังสอบไล่ประโยค ๑ ไม่ได้พวกที่สอบไล่ประโยค ๑ ได้แล้ว และพวกที่สอบไล่ประโยค ๒ ได้แล้ว โดยนักเรียนที่สอบไล่ได้ประโยค ๒ ให้เรียนภาษาอังกฤษเต็มวัน นักเรียนที่สอบไล่ ได้ประโยค ๑ ให้เรียนภาษาอังกฤษครึ่งวัน ส่วนนักเรียนที่ยังสอบไล่ประโยค ๑ ไม่ได้ยังไม่ให้เรียนภาษาอังกฤษ6 ครั้นถึง พ.ศ. ๒๔๓๕ เป็นปีที่นายเออร์เนสต์ยัง เข้ามารับราชการเป็นครูที่โรงเรียนพระต�ำหนักสวนกุหลาบนั้น มีนักเรียนที่เรียน ภาษาอังกฤษ ๑๕ คน และมีครูชาวอังกฤษอยู่แล้ว ๒ คน7 คือ ครูโรล์ฟ (Henry 5 โรงเรียนพระต�ำหนักสวนกุหลาบก่อตั้งใน พ.ศ. ๒๔๒๕ โดยพระราชด�ำริของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่จะจัดตั้งโรงเรียนทหารมหาดเล็กโดยโปรดเกล้าฯ ให้จัดพระต�ำหนักสวนกุหลาบในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นพระต�ำหนักเดิมที่พระองค์ เคยประทับก่อนเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติตั้งเป็นโรงเรียนส�ำหรับพระบรมวงศานุวงศ์และ บุตรหลานของขุนนาง ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๓๕ โรงเรียนได้แยกออกเป็นสองฝ่ายคือ โรงเรียน พระต�ำหนักสวนกุหลาบฝ ่ายไทย และโรงเรียนพระต�ำหนักสวนกุหลาบฝ ่ายอังกฤษ ใน พ.ศ. ๒๔๔๒ นักเรียนมีจ�ำนวนเพิ่มขึ้นมากจนท�ำให้สถานที่เดิมคับแคบ ประกอบกับกรมวัง ต้องการซ่อมแซมพระต�ำหนักสวนกุหลาบเดิมให้เป็นโรงเรียนทหารราบที่ ๑ มหาดเล็กรักษา พระองค์ (จ.ป.ร.) โรงเรียนทั้งสองฝ่ายจึงย้ายออกจากพระบรมมหาราชวัง และในระหว่าง ที่ยังหาสถานที่ตั้งถาวรของโรงเรียนไม่ได้นั้น ก็ได้อาศัยอาคารสถานที่ของพระราชวังบวร สถานมงคล วัด และโรงเรียนอื่น ๆ จนกระทั่งใน พ.ศ. ๒๔๕๔ จึงได้กลับมารวมกันในนาม “โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย” ณ สถานที่ตั้งของโรงเรียนในปัจจุบัน คือบนถนนตรีเพชร ฝั่งตรงข้ามกับวัดราชบุรณ ราชวรวิหาร6 หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. ม.ร. ๕ ศ ๑/๒๔ เอกสารกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ ๕ กระทรวงศึกษาธิการ เบ็ดเสร็จศึกษาธิการ เรื่อง รายงานกรมศึกษาธิการ ร.ศ. ๑๐๙ (พ.ศ. ๒๔๓๓) หน้า ๓๔ - ๓๕. 7 หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. ม.ร. ๕ ศ ๑/๓ หน้า ๖๒.
นายเออร์เนสต์ ยัง 137 WorsleyRolfe)และครูเยม (Joseph Caulfield James)8 ซึ่งภายหลังโอนย้าย ไปเป็นครูโรงเรียนราชกุมารและโรงเรียนราชกุมารีตามล�ำดับ การเรียนการสอน ภาษาอังกฤษแบ่งนักเรียนออกเป็น ๓ ชั้นประโยค (สแตนดาร์ด) เด็กนักเรียนเริ่ม เรียนตั้งแต่เวลา ๙.๐๐ น. ถึง ๑๒.๐๐ น. พักกลางวัน และเรียนต่อภาคบ่ายเวลา ๑๓.๓๐ น. ถึง ๑๕.๓๐ น. เรียนวันจันทร์ถึงวันศุกร์หยุดวันเสาร์และอาทิตย์ 8 หอจดหมายเหตุแห่งชาติ. ม.ร. ๕ ศ ๑/๗ เอกสารกรมราชเลขาธิการ รัชกาลที่ ๕ กระทรวงศึกษาธิการเบ็ดเสร็จศึกษาธิการเรื่องรายงานเวรรายงานจ�ำนวนพนักงานในสังกัด กรมศึกษาธิการ ร.ศ. ๑๐๙ หน้า ๔๕. พระต�ำหนักสวนกุหลาบในพระบรมมหาราชวัง มองเห็นพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาทอยู่ด้านหลัง
138 ประวัติและผลงานของชาวต่างชาติ ในประเทศไทย เล่ม ๔ พระต�ำหนักสวนกุหลาบในพระบรมมหาราชวัง เป็นพระต�ำหนักเดิมของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวก่อนเสวยราชย์ และเป็นที่ตั้งของโรงเรียน พระต�ำหนักสวนกุหลาบเมื่อแรกตั้งโรงเรียนใน พ.ศ. ๒๔๒๕ คณะครูและนักเรียนโรงเรียนพระต�ำหนักสวนกุหลาบ พ.ศ. ๒๔๔๐