หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

149

โครงสรา้ งรายวชิ าเพมิ่ เติม

รหัสวิชา ท 21214 ห้องสมุดกบั การอ่าน กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย
จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต
ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง

ช่ือหนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั ภาระงาน เวลา น้ำหนัก
การเรียนรู้ /ชิ้นงาน (ชั่วโมง) คะแนน

หอ้ งสมุดและ - มีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับ - ระเบยี บการเขา้ - ใบงาน 2

แหลง่ เรยี นรู้ ห้องสมดุ ใชห้ อ้ งสมุด

- วตั ถปุ ระสงค์ของห้องสมดุ - ความหมายและ 2

- ประวตั ิห้องสมดุ ใน ความสำคญั

ประเทศไทย - วตั ถุประสงค์ของ 2

- องค์ประกอบของห้องสมดุ ห้องสมดุ

- แหล่งเรียนร้ภู ายในโรงเรียน - ประวตั ิห้องสมุด 25

และนอกโรงเรียน ในประเทศไทย

- องคป์ ระกอบ 25

ของห้องสมดุ

- แหล่งเรยี นรู้ 4 10

ภายในโรงเรียนและ

นอกโรงเรยี น

หนังสอื กับ - มคี วามรูค้ วามเข้าใจเก่ียวกับ - ส่อื สงิ่ พิมพ์ - ใบงาน 8 5

การศกึ ษา ทรัพยากรสารสนเทศใน - ส่ือโสตทศั นวสั ดุ - ที่คน่ั 4 5

คน้ ควา้ หอ้ งสมุด สามารถจำแนก หนังสอื / 10

ประเภท และการใชง้ านได้ การ

นำเสนอ

ช้นิ งาน

เทคนิคการอ่าน - มีความรเู้ ก่ียวกบั ความหมาย - ความหมายของ - ใบงาน 2

ของการอ่าน การอา่ น - ขอ้ คิด/

- มีความรู้เกี่ยวกบั จุดมุ่งหมาย - จุดมุง่ หมายของ คำคมท่ี 2

ของการอ่าน การอา่ น ได้จาก

- มีความร้คู วามเข้าใจเก่ยี วกับ - ลกั ษณะของการ การอ่าน 3 5

ลกั ษณะของการอา่ น อ่าน

- มคี วามรคู้ วามเข้าใจวิธี - วธิ กี ารอ่าน 35

การอ่านหนงั สือ หนงั สือ

- มคี วามรูเ้ ก่ียวกับประโยชน์ - ประโยชน์ของการ 2 10

ของการอ่าน อา่ น

สอบกลางภาค 20

สอบปลายภาค 20

รวม 40 100

150

โครงสรา้ งรายวชิ าเพมิ่ เติม

รหสั วชิ า ท 21215 Inside library กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย
จำนวน 1.0 หน่วยกิต
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชัว่ โมง

ชอ่ื หน่วยการ ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ ภาระงาน เวลา คะแนน
เรียนรู้ (ชั่วโมง)

1. ความรูท้ ั่วไป - นักเรียนสามารถอธบิ าย และ - ความหมายและ -ใบงานที่ 1 2 5

เกย่ี วกับ สาธิตขั้นตอนการสบื คน้ ความสำคัญของห้องสมุด -ปฏบิ ัติ สาธิต 4 10

หอ้ งสมดุ ทรัพยาการสารสนเทศใน ประวตั แิ ละที่มาของ การสบื คน้

และงานบริการ ระบบหอ้ งสมุดอตั นิมตั ิได้ หอ้ งสมดุ วชั รนารี ใหบ้ ริการตอบ

สารสนเทศ - นักเรียนสามารถใหบ้ อก และ คำถามและ

จำแนกงานบริการสารสนเทศ ชว่ ยการ

ภายในห้องสมุดได้ ค้นควา้

- นกั เรยี นสามารถใหบ้ ริการ -ทดสอบ 2 10

งานยืม-คนื หนังสือได้ - ประเภทของห้องสมุด -ใบงานท่ี 2 2 5

- ความหมายและประเภท -ใบงานท่ี 3 2 5

ของงานบรกิ ารสารสนเทศ -ปฏิบัตยิ มื -คนื 4 10

-ทดสอบ 4 10

2.ทรัพยากร - นกั เรยี นสามารถบอก - ทรัพยากรสารสนเทศใน -ใบงานที่ 4 2 5

สารสนเทศ จำแนก ประเภท และ ห้องสมุดวัชร-นารี

หอ้ งสมุด สัญลกั ษณ์ของหนังสือได้ - ประเภท และสัญลักษณ์ -ใบงานที่ 5 2 5

ของหนงั สือ -สอบจำแนก 4 10

ประเภท

หนงั สอื

3. การจัด - นักเรียนสามารถจดั หมวดหมู่ - การจัดหมวดหมหู่ นงั สือ

หมวดหมหู่ นงั สือ หนงั สือ และสามารถจัดขึ้นชั้น - การจัดหมวดหมรู่ ะบบ -ใบงานท่ี 6 2 5

ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ทศนิยมดิวอี้ (Dewey

DecimalClassification)

- เลขเรยี กหนังสอื -ใบงานท่ี 7 25

- การจัดเกบ็ หนังสือใน -ปฏบิ ัติ 45

ระบบทศนิยมดิวอ้ี (Dewey -สอบการ

Decimal Classification) จัดเกบ็ หนังสือ 4 10

ขึ้นชัน้

รวม 40 100

151

โครงสรา้ งรายวิชาพน้ื ฐาน
กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย
ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

152

โครงสรา้ งรายวิชาพื้นฐาน

รหัสวิชา ท 31101 ชื่อวิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาไทย

ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ชัว่ โมง จำนวน 1 หน่วยกิต

อัตราส่วนคะแนนระหว่างเรียน : ตอ่ ปลายภาค = 70 : 30

ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลาเรียน คะแนน
การเรียนรู้/ตวั ชีว้ ดั (ช่ัวโมง)

1. การอ่านออกเสียง สาระท่ี 1 - การอ่านออกเสยี ง 2

บทร้อยแกว้ และ การอ่าน บทรอ้ ยแกว้ และบทร้อยกรอง ผเู้ รียน
บทร้อยกรอง ท 1.1 ม.4/1 ต้องฝึกอา่ นออกเสยี งให้ชัดเจน
ถูกต้องเหมาะสม ตามรปู แบบของคำ

ประพันธ์

2. การอ่าน สาระท่ี 1 - การอ่านแปลความ ตีความ และ 2 5

แปลความ การอา่ น ขยายความ เปน็ กระบวน
ตีความ และ ท 1.1 ม.4/2 การอ่านที่มีความสัมพันธ์กัน โดย

ขยายความ ม.4/3 เชื่อมโยงความรู้จากการอ่านเข้ากับ

ม.4/7 ประสบการณ์ของตน รวมทั้งขยาย
ความจากการอ่านให้กว้างออกไป

ผู้อ่านต้องอ่านอย่างพิจารณา

ไตร่ตรอง เพื่อให้เข้าใจเจตนาของ
ผู้เขียน ได้รับความรู้จากเรื่องที่อ่าน

อย่างลึกซึ้ง และสามารถนำความรู้

ความคิดไปใชป้ ระโยชน์ในชีวิตได้

3. การเขียนบันทึก สาระที่ 2 - การศกึ ษาคน้ คว้าจากแหลง่ เรียนรทู้ ี่ 2 5
ความรู้ การเขียน หลากหลาย ตอ้ งเขยี นบันทึกความรู้
ท 2.1 ม.4/7 จากการอา่ นและการฟงั เพื่อนำไป
พัฒนาตนเองอย่างสมำ่ เสมอ และมี
ม.4/8 มารยาทในการเขียน

4. คำนมัสการ สาระที่ 1 - การอ่านออกเสียงเรอ่ื ง คำนมสั การ
คณุ านคุ ุณ การอา่ น คุณานุคุณ เป็นวรรณคดีที่มคี ุณค่า
ท 1.1 ม.4/1 จะต้องอา่ นอยา่ งถกู ต้อง ไพเราะ
เหมาะสม วเิ คราะห์และวิจารณ์
ม.4/2 วรรณคดีตามหลักการวิจารณ์
ม.4/7 เบ้ืองต้น วเิ คราะห์และประเมิน
สาระท่ี 5 คณุ ค่าด้านวรรณศิลป์ของวรรณคดี
วรรณคดีและ ในฐานะทเ่ี ปน็ มรดกทางวัฒนธรรม
วรรณกรรม ของชาติ สงั เคราะห์ข้อคิดจาก
ท 5.1 ม.4/1 วรรณคดี เพื่อนำไปประยุกตใ์ ชใ้ น
ม.4/3

ช่ือหน่วยการ มาตรฐาน สาระสำคญั เวลาเรยี น 153
เรยี นรู้ การเรยี นรู้/ (ชัว่ โมง) คะแนน
ตัวชวี้ ัด ชีวติ จรงิ ท่องจำ และบอกคุณค่าบท
5. อิเหนา ตอน อาขยานตามที่กำหนด 5 5
ศึกกะหมงั กหุ นงิ ม.4/4 - การศกึ ษาเร่ือง อเิ หนา ตอน ศกึ
ม.4/6 กะหมังกุหนิง จะตอ้ งฝึกวเิ คราะห์ 5
ตามหลักการวจิ ารณ์เบ้ืองต้น 5
สาระที่ 1 วิเคราะห์ และประเมนิ คุณค่าดา้ น
การอ่าน วรรณศิลป์ของวรรณคดใี นฐานะท่ี
ท 1.1 ม.4/1 เป็นมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ
สังเคราะห์ข้อคิดจากเร่ือง
ม.4/2 เพอื่ นำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ
สาระท่ี 5 รวมท้งั สามารถท่องจำและบอก
วรรณคดีและ คุณค่าบทอาขยานตามท่ีกำหนด
วรรณกรรม
ท 5.1 ม.4/1

ม.4/2
ม.4/3
ม.4/4
ม.4/6

6. การพดู ตอ่ สาระที่ 3 - การพดู ต่อทปี่ ระชมุ ชนในโอกาส 3
ที่ประชุมชน 2
การฟัง การดู และ ต่าง ๆ ผู้พูดจะต้องรู้หลักการพูด
7. การเขียน
อธิบาย การพดู แสดงทรรศนะ โตแ้ ยง้ โน้มน้าวใจ
บรรยายและ
พรรณนา ท 3.1 ม.4/5 และเสนอแนวคิดใหม่ พร้อมกับมี

ม.4/6 มารยาทในการฟัง การดู และการพูด

ด้วยภาษาทถ่ี กู ต้อง เหมาะสมกับ

โอกาสน้ัน ๆ

สาระที่ 2 - การเขยี นอธิบาย บรรยาย และ

การเขยี น พรรณนาใหส้ มั ฤทธผิ์ ลตรงตาม

ท 2.1 ม.4/1 วตั ถปุ ระสงค์ จะต้องใช้ภาษาเรยี บ

ม.4/4 เรยี งไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง มีข้อมลู และ

ม.4/8 สาระสำคญั ชดั เจน และมมี ารยาทใน

การเขยี น

ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลาเรยี น 154
การเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั (ชั่วโมง) คะแนน

8. นิทานเวตาล สาระท่ี 1 - การอา่ นออกเสยี งนทิ านเวตาล 5 5

(เร่ืองที่ 10) การอ่าน เร่อื งที่ 10 จะต้องอ่านอย่างถูกตอ้ ง 2 5
5
ท 1.1 ม.4/1 ไพเราะ เหมาะสม วิเคราะห์และ

สาระท่ี 2 วจิ ารณ์วรรณกรรมตามหลักการ

การเขยี น วิจารณเ์ บื้องตน้ วิเคราะหล์ ักษณะ

เด่นของเรื่องเชื่อมโยงกบั การเรยี นรู้
ท 2.1 ม.4/1 ทางประวัตศิ าสตร์และวถิ ชี วี ิต

สาระที่ 5 วเิ คราะห์และประเมินคณุ คา่ ด้าน
วรรณคดแี ละ วรรณศิลป์ของวรรณกรรมในฐานะท่ี
วรรณกรรม เปน็ มรดกทางวฒั นธรรมของชาติ
ท 5.1 ม.4/1 สงั เคราะหข์ ้อคิดจากวรรณกรรมเพื่อ
นำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจรงิ
ม.4/2

ม.4/3

ม.4/4

9. การเขยี น สาระที่ 2 - การเขียนสือ่ สารในรูปแบบต่าง ๆ
เรียงความ การเขยี น ให้ตรงตามจุดประสงค์ เขียน
ท 2.1 ม.4/1 เรยี งความจากสื่อที่มีรปู แบบและ
เน้อื หาหลากหลาย ใชภ้ าษาเขยี น
ม.4/2 ถูกต้องและมสี าระสำคัญชัดเจน
ม.4/8 รวมถึงมีมารยาทในการเขียน

10. ทุกขข์ อง สาระท่ี 1 - การศกึ ษาเรอ่ื ง ทุกข์ของชาวนาใน 4
ชาวนาในบทกวี การอ่าน บทกวี ต้องฝึกวิเคราะห์และวิจารณ์
ท 1.1 ม.4/7 วรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณ์
สาระที่ 2 เบือ้ งตน้ วเิ คราะหล์ กั ษณะเด่นของ
การเขยี น เร่ือง เช่ือมโยงกบั การเรียนรทู้ าง
ท 2.1 ม.4/1 ประวตั ิศาสตรแ์ ละวิถีชวี ิต วิเคราะห์
สาระท่ี 5 และประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์
วรรณคดแี ละ ของวรรณกรรมในฐานะทีเ่ ปน็ มรดก
วรรณกรรม ทางวัฒนธรรมของชาติ สงั เคราะห์
ท 5.1 ม.4/1 ขอ้ คิดจากเร่ืองเพอ่ื นำไปประยุกต์ใช้
ในชีวิตจรงิ
ม.4/2
ม.4/3
ม.4/4

ชือ่ หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลาเรยี น 155
การเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ัด (ชัว่ โมง) คะแนน

11. ธรรมชาติและ สาระที่ 4 - การเข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาทำให้ 2 50
20
พลงั ของภาษา หลักการใช้ นำไปใชใ้ นการสอื่ สารได้อยา่ งถกู ต้อง 2 30
100
ภาษาไทย ซง่ึ ภาษาสามารถสะท้อนความคดิ

ท 4.1 ม.4/2 ความรู้สึกและทศั นคตขิ องบุคคล

เกดิ เป็นพลงั ของภาษาที่ทำให้ผูร้ ับ

สารเกดิ ความคิดหรือความรสู้ กึ คลอ้ ย

ตาม และแสดงลักษณะเฉพาะของ

บุคคล

12. ลักษณะ สาระที่ 4 - การศกึ ษาเรื่อง ลักษณะของ

ของภาษา หลักการใช้ ภาษาไทย จะต้องมีความรเู้ ก่ียวกับ

ภาษาไทย ลักษณะสำคญั ของภาษาไทย เสียงใน

ท 4.1 ม.4/2 ภาษาและส่วนประกอบของภาษา

และสามารถอธิบายลักษณะของ

ภาษา ตลอดจนการใช้คำและกลมุ่ คำ

สรา้ งประโยค

ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์

คะแนนเก็บและเวลาเรยี นระหวา่ งภาคเรยี น 36
สอบกลางภาคเรยี น 2
สอบปลายภาคเรยี น 2
รวมตลอดภาคเรียน 40

156

โครงสรา้ งรายวิชาพืน้ ฐาน

รหัสวิชา ท 31102 ชือ่ วิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1 หน่วยกิต

อัตราสว่ นคะแนนระหว่างเรียน : ตอ่ ปลายภาค = 70 : 30

มาตรฐาน เวลาเรียน
(ช่วั โมง)
ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ การเรียนร้/ู สาระสำคญั คะแนน
5 5
ตัวช้ีวดั - การอา่ นออกเสียง นิราศนรินทร์คำโคลง
จะต้องอา่ นอยา่ งถกู ต้อง ไพเราะ
1. นิราศนรินทร์ สาระที่ 1 เหมาะสม วเิ คราะหแ์ ละวจิ ารณ์วรรณคดี
ตามหลกั การวจิ ารณ์เบื้องตน้ วิเคราะห์
คำโคลง การอ่าน ลกั ษณะเด่นของเร่ือง เช่อื มโยงกบั การ
เรยี นรทู้ างประวัตศิ าสตรแ์ ละวิถีชีวิต
ท 1.1 ม.4/1 วิเคราะห์และประเมินคณุ คา่ ด้าน
วรรณศลิ ป์ของวรรณคดใี นฐานะทีเ่ ป็น
ม.4/7 มรดกทางวฒั นธรรมของชาติ ท่องจำและ
บอกคณุ ค่าบทอาขยาน
สาระที่ 5

วรรณคดีและ

วรรณกรรม

ท 5.1 ม.4/1

ม.4/2

ม.4/3

ม.4/4

ม.4/6

2. การแต่ง สาระท่ี 4 - การแตง่ บทร้อยกรองประเภทกาพย์ 3 5
คำประพนั ธ์ หลกั การใช้ และโคลง จะต้องมีความร้เู ร่ืองฉนั ท
ประเภทโคลง ภาษา ลักษณ์ และการร้จู กั เลอื กสรรคำมาใชใ้ ห้
ท 4.1 ม.4/4 เหมาะสม

3. หัวใจชายหนุ่ม สาระที่ 1 - การศึกษาเรอื่ ง หวั ใจชายหน่มุ ต้องฝึก 4 5
การอา่ น วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณกรรมตาม
ท 1.1 ม.4/7 หลักการวิจารณ์เบื้องตน้ วิเคราะห์
สาระท่ี 5 ลกั ษณะเดน่ ของเร่ือง เช่อื มโยงกับการ
วรรณคดีและ เรยี นรู้ทางประวตั ศิ าสตร์และวถิ ชี วี ิต
วรรณกรรม วิเคราะห์และประเมนิ คณุ ค่าด้าน
ท 5.1 ม.4/1 วรรณศลิ ป์ในฐานะที่เปน็ มรดกทาง
วัฒนธรรมของชาติ และสงั เคราะหข์ ้อคดิ
ม.4/2 จากเรอ่ื งเพ่ือนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจริง
ม.4/3
ม.4/4

157

มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลาเรยี น คะแนน
ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ การเรียนร/ู้ (ชั่วโมง)
คุณค่าด้านวรรณศิลปใ์ นฐานะท่เี ป็นมรดก
ตวั ช้ีวัด ทางวฒั นธรรมของชาติ และสังเคราะห์
ขอ้ คิดจากเรื่องเพอ่ื นำไปประยกุ ตใ์ ช้ใน
ท 5.1 ม.4/1 ชวี ิตจรงิ
ม.4/2
ม.4/3
ม.4/4

4. การเขยี น สาระที่ 2 - การเขียนยอ่ ความเป็นการเขยี น 2 5
ยอ่ ความ การเขียน สาระสำคญั ของเรื่องโดยนำมาเรยี บเรียง
ท 2.1 ม.4/3 ใหมด่ ้วยภาษาของตนเองโดยท่ี
ความหมายไมเ่ ปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ม.4/8 การยอ่ ความมคี วามจำเปน็ ต่อการศึกษา
ความร้ชู ่วยใหส้ ามารถจดบันทึก
สาระสำคัญของเร่ืองไดถ้ ูกตอ้ ง รวดเร็ว
สามารถนำมาใช้ประโยชนไ์ ด้

5. การเขียน สาระท่ี 2 - การเขียนจดหมายกจิ ธรุ ะเป็นการเขียน 2 5
จดหมาย การเขยี น ติดต่อกับบุคคล หรือองค์กรเพอื่
กิจธุระ ท 2.1 ม.4/1 ประโยชน์ในดา้ นต่างๆ ดังนน้ั ต้องเขยี น
สอื่ สารใหช้ ดั เจน ข้อมลู ครบถ้วนถูกต้อง
ม.4/8 เขยี นโดยใชภ้ าษาสุภาพ ตวั สะกดถกู ต้อง
เพ่อื ให้การสื่อสารเข้าใจถกู ต้องระหวา่ ง
ผูร้ บั และผ้สู ่ง

6. การกรอกแบบ สาระที่ 2 - การกรอกแบบรายการต่างๆ เป็นการ 2 5
รายการ การเขียน เขียนส่ือสารรปู แบบหนึ่ง ต้องเขียนให้
ท 2.1 ม.4/1 ตรงตามวัตถปุ ระสงค์ โดยใช้ภาษาเรยี บ
เรยี งถกู ต้อง มีขอ้ มลู และสาระสำคัญ
ชัดเจน

มาตรฐาน เวลาเรียน 158
(ชัว่ โมง) คะแนน
ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ การเรียนร/ู้ สาระสำคัญ
5 5
ตัวช้วี ดั - การศึกษาเรื่อง มงคลสูตรคำฉนั ท์ ตอ้ ง
ฝึกวิเคราะหแ์ ละวิจารณ์วรรณคดีตาม 4 5
7. มงคลสตู ร สาระท่ี 1 หลักการวจิ ารณเ์ บื้องตน้ วเิ คราะห์
ลกั ษณะเดน่ ของเร่ือง เช่ือมโยงกบั การ
คำฉนั ท์ การอา่ น เรยี นรู้ทางประวตั ศิ าสตร์และวิถชี ีวิต
วเิ คราะหแ์ ละประเมนิ คณุ คา่ ด้าน
ท 1.1 ม.4/6 วรรณศลิ ปข์ องวรรณคดีในฐานะทเ่ี ป็น
มรดกทางวฒั นธรรมของชาติ และ
สาระท่ี 5 สังเคราะหข์ ้อคิดจากเรื่องเพื่อนำไป
ประยุกต์ใช้ในชวี ิตจรงิ
วรรณคดีและ - การศกึ ษาเรื่อง มหาชาตหิ รอื มหา
เวสสนั ดรชาดก ตอ้ งฝึกวเิ คราะห์และ
วรรณกรรม วิจารณ์วรรณกรรมตามหลักการวจิ ารณ์
เบอ้ื งต้น วเิ คราะหล์ ักษณะเด่นของเรื่อง
ท 5.1 ม.4/1 เช่ือมโยงกบั การเรยี นร้ทู างประวตั ิศาสตร์
และวิถีชวี ิต วเิ คราะห์และประเมนิ คุณค่า
ม.4/2 ด้านวรรณศิลปข์ องวรรณกรรมในฐานะท่ี
เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ และ
ม.4/3 สงั เคราะหข์ ้อคิดจากเร่ืองเพือ่ นำไป
ประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจริง
ม.4/4

8. มหาชาติหรือ สาระที่ 1

มหาเวสสันดร การอ่าน

ชาดก ท 1.1 ม.4/7

สาระที่ 5

วรรณคดแี ละ

วรรณกรรม

ท 5.1 ม.4/1

ม.4/2

ม.4/3

ม.4/4

ม.4/5

9.การสรุปความ สาระท่ี 2 - การฟงั และการดูที่ดี ผฟู้ งั จะต้องมี 3 5
จากการฟัง การเขยี น วจิ ารณญาณในการเลือกเรือ่ งทฟ่ี ังและดู
การดู ท 2.1 ม.4/1 สรปุ แนวคิดและแสดงความคิดเหน็ แล้ว
สาระท่ี 3 สามารถประเมินเรือ่ งที่ฟังและดู เพื่อ
การฟงั การดู กำหนดแนวทางนำไปประยุกต์ใชใ้ นชีวติ
การพูด ประจำวนั และมีมารยาทในการฟงั และ
ท 3.1 ม.4/1 การดู

ม.4/3
ม.4/4
ม.4/6

159

มาตรฐานการ เวลาเรียน
(ช่ัวโมง)
ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ เรียนรู/้ ตวั ชวี้ ัด/ สาระสำคัญ คะแนน
2
ผลการเรียนรู้ 5
2 50
10. การอา่ นเพอ่ื สาระที่ 1 - การอา่ นงานเขียนประเภทต่างๆ ต้อง 20
2 30
แสดงความ การอา่ น วิเคราะห์ วจิ ารณ์ แสดงความคิดเห็น 100
36
คดิ เห็น ท 1.1 ม.4/5 เก่ยี วกับเร่ืองทอ่ี ่าน และเสนอความคิด 2
2
ม.4/6 ใหมอ่ ย่างมีเหตุผล ตอบคำถามจาก 40

ม.4/7 การอ่านภายในเวลาท่ีกำหนด เขียน

ม.4/9 กรอบแนวคิด ผงั ความคดิ บนั ทกึ ยอ่

ความ รายงาน และมีมารยาทในการอ่าน

11. การอ่านสื่อ สาระท่ี 1 - การอ่านสื่อส่งิ พิมพ์และสอ่ื

ส่ิงพิมพแ์ ละ การอ่าน อิเลก็ ทรอนกิ ส์จะต้องสังเคราะหค์ วามรู้

อเิ ลคทรอนกิ ส์ ท 1.1 ม.4/6 จากการอ่าน วเิ คราะห์และประเมนิ การ

ม.4/7 ใช้ภาษาจากส่อื สิ่งพิมพแ์ ละส่ือ

ม.4/8 อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ตลอดจนการตอบคำถาม

สาระท่ี 4 จากการอา่ นงานเขยี นประเภทต่างๆ แล้ว

หลกั การใช้ เขยี นกรอบแนวคิด ผงั ความคิด บันทึก

ภาษาไทย ย่อความ และรายงาน รวมถึงการมี

ท 4.1 ม.4/7 มารยาทในการอา่ น

12. คำราชาศพั ท์ สาระท่ี 4 - การใช้ภาษาระดับต่าง ๆ ควรคำนึงถึง

หลกั การใช้ ความสัมพนั ธข์ องผูส้ ง่ สารและผูร้ ับสาร

ภาษาไทย บริบทในการส่ือสาร ท่สี ำคญั ควรแสดง

ท 4.1 ม.4/3 ความสุภาพเสมอ เพ่ือใหก้ ารสือ่ สารมี

ประสิทธิภาพและสมั ฤทธิผล รวมถงึ การ

ใชค้ ำราชาศพั ท์ได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม

คะแนนเก็บและเวลาเรยี นระหว่างภาคเรยี น

สอบกลางภาคเรยี น

สอบปลายภาคเรียน

รวมตลอดภาคเรยี น

160

โครงสรา้ งรายวิชาพ้นื ฐาน

รหสั วิชา ท 32101 ช่ือวิชา ภาษาไทย กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาไทย
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกิต

อัตราส่วนคะแนนระหวา่ งภาค : ต่อปลายภาค = 70 : 30

ชื่อหน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา คะแนน
เรยี นรู้ เรียนรูแ้ ละตวั ชีว้ ดั (ช่วั โมง) 10
สาระท่ี 1 การศึกษาเรื่อง มหาเวสสันดรชาดก
มหาเวสสนั ดร การอา่ น กัณฑ์มัทรี จะต้องเขียนกรอบแนวคดิ 8 5
ชาดก กณั ฑ์มทั รี ท 1.1 ม.5/7 ผังความคิด บันทึก ย่อความ และ
สาระท่ี 4 รายงาน วิเคราะห์และวิจารณ์ 5
การเขยี นเชงิ หลักการใชภ้ าษา ว ร ร ณ ค ด ี ต า ม ห ล ั ก ก า ร ว ิ จ า ร ณ์ 1
วชิ าการ ม.5/2 ม.5/3 เบื้องต้น วิเคราะห์ลักษณะเด่นของ
ม.5/4 ม.5/5 เ ร ื ่ อ ง เ ช ื ่ อ ม โ ย ง ก ั บ ก า ร เ รี ย น ร ู ้ ท า ง
การเขียน ม.5/6 ประวัติศาสตร์และวิถีชีวิต วิเคราะห์
เรยี งความ สาระที่ 5 และประเมินคุณค่าด้านวรรณศิลป์
วรรณคดแี ละ ของวรรณคดีในฐานะท่เี ป็นมรดกทาง
วรรณกรรม วัฒนธรรมของชาติ สังเคราะห์ข้อคิด
ท 5.1 ม.5/1 จากเรื่องเพือ่ นำไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ
จรงิ และรวบรวมวรรณกรรมพ้ืนบ้าน
สาระที่ 2 พร้อมกับท่องจำและบอกคุณค่าบท
การเขียน อาขยานตามทก่ี ำหนดได้
ท 2.1 ม.5/6 การเขียนรายงานเชิงวิชาการ ต้อง
เขยี นให้ถูกตอ้ งตามหลักการเขียน
ม.5/7 และใช้ขอ้ มลู สารสนเทศอ้างอิงอยา่ ง
ม.5/8 ถูกต้องบันทึกการศึกษาค้นคว้าเพื่อ
นำไปพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ
สาระท่ี 2 และมีมารยาทในการเขียน
การเขียน การเขียนเรียงความที่ดี ต้องรู้หลักใน
ท 2.1 ม.5/2 การเขียน และรจู้ ักเลือกใช้ภาษาให้
เหมาะสม

การเขียนสารคดี สาระท่ี 2 การผลิตงานเขยี นของตนเองใน 4 5
การเขียน รูปแบบสารคดี ต้องมีความรู้ความ
ท 2.1 ม.5/4 เข้าใจเกีย่ วกบั หลักการเขียน

ช่ือหน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา 161
เรยี นรู้ เรยี นรแู้ ละ (ชว่ั โมง) คะแนน
ตวั ช้วี ดั การประเมนิ คุณค่างานเขยี นของผอู้ ่ืน เพ่ือ
การประเมิน นำมาพฒั นางานเขียนของตนเอง ตอ้ งมี 3 5
คณุ คา่ สาระที่ 2 ความรคู้ วามเข้าใจในหลกั การประเมิน 10
งานเขียน การเขียน
ท 2.1 ม.5/5 5
5
บทละครพูด สาระที่ 1 การศึกษาบทละครพดู คำฉันท์ เรอ่ื ง มทั นะ 6
คำฉันท์ เรื่อง 5
มทั นะพาธา การอา่ น พาธา จะต้องเขยี นกรอบแนวคดิ ผัง 3
3 50
การอา่ น ท 1.1 ม.5/7 ความคดิ บนั ทึก ย่อความ และรายงาน 20
ออกเสียง 3 30
สาระท่ี 5 วเิ คราะหแ์ ละวิจารณว์ รรณคดีตาม 100
การอ่านเพ่ือ 36
วิเคราะห์ วรรณคดแี ละ หลกั การวิจารณ์เบื้องต้น วเิ คราะหล์ ักษณะ 2
วิจารณ์ 2
วรรณกรรม เดน่ ของเรื่องเชือ่ มโยงกับการเรียนรู้ทาง 40
การฟังและดู
อยา่ งมี ท 5.1 ม.5/1 ประวัตศิ าสตร์ และวถิ ีชวี ิต วิเคราะห์และ

วจิ ารณญาณ ม.5/2 ประเมินคุณค่าดา้ นวรรณศิลป์ของ

ม.5/3 วรรณคดีในฐานะที่เป็นมรดกทาง

ม.5/4 วฒั นธรรมของชาติ สังเคราะห์ข้อคิด จาก

ม.5/6 เรื่องเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง

พร้อมกับท่องจำและบอกคุณค่าบท

อาขยานตามท่ีกำหนดได้

สาระที่ 1 การอา่ นออกเสยี งบทรอ้ ยแก้วและบทร้อย

การอา่ น กรองได้อย่างถกู ต้อง ไพเราะและเหมาะสม
ท 1.1 ม.5/1 กบั เรื่องที่อา่ น ต้องมีความรเู้ กี่ยวกับ
หลักการอา่ นออกเสียง

สาระที่ 1 การอ่านจบั ใจความจากสื่อตา่ งๆ ให้

การอ่าน วิเคราะหแ์ ละวจิ ารณ์เร่ืองท่ีอ่านใน ทุกๆ
ด้าน แสดงความคิดเห็น โต้แย้งเก่ียวกับ
ท 1.1 ม.5/3 เร่ืองท่ีอ่าน และเสนอความคิดใหม่อย่างมี
ม.5/5 เหตุผล

สาระท่ี 3 การฟังและดสู ารประเภทตา่ งๆ ต้องมี

การฟงั การดู วิจารณญาณในการเลอื กเร่อื งท่ีฟังและดู

การพดู และมมี ารยาทในการฟังและการดู

ท 3.1 ม.5/4

ม.5/6

คะแนนเกบ็ และเวลาเรยี นระหวา่ งภาคเรยี น

สอบกลางภาคเรียน

สอบปลายภาคเรียน

รวมตลอดภาคเรียน

162

โครงสรา้ งรายวิชาพืน้ ฐาน

รหสั วชิ า ท 32102 ช่ือวชิ า ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกิต

อตั ราสว่ นคะแนนระหว่างภาค : ต่อปลายภาค = 70 : 30

ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา คะแนน
เรียนรู้ เรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ดั (ชว่ั โมง) 10

โคลนตดิ ลอ้ ตอน สาระท่ี 1 การศึกษาเรื่อง โคลนติดล้อ ตอน ความนิยม 6 5
5
ความนยิ มเป็น การอ่าน เป็นเสมียน จะต้องเขียนกรอบแนวคิด ผัง 3
6 5
เสมียน ท 1.1 ม.5/7 ความคิด บันทึก ย่อความ และรายงาน
2
สาระท่ี 5 วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณกรรม ตาม

วรรณคดีและ หลักการวิจารณ์เบื้องต้น วิเคราะห์ลักษณะ

วรรณกรรม เด่นของเรื่องเชื่อมโยงกับการเรียนรู้ทาง

ท 5.1 ม.5/1 ประวัติศาสตร์และวิถีชีวิต วิเคราะห์ และ

ม.5/2 ประเมินคุณค่าด้านว รรณ ศิลป ์ ข อ ง

ม.5/3 วรรณกรรมในฐานะที่เป็นมรดกทาง

ม.5/4 วัฒนธรรมของชาติ และสงั เคราะหข์ อ้ คิดจาก

เร่ืองเพ่ือนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ จริง

วฒั นธรรมกับ สาระที่ 4 การศกึ ษาหลักภาษาไทย ต้องอธิบาย

ภาษา หลกั การใชภ้ าษา ธรรมชาตขิ องภาษา และวเิ คราะห์อิทธิพล

ท 4.1 ม.5/1 ของภาษาถนิ่

ม.5/5

คมั ภรี ์ฉันทศาสตร์ สาระท่ี 1 การศกึ ษาเร่ือง คมั ภรี ฉ์ นั ทศาสตร์

แพทย์ศาสตร์ การอา่ น แพทย์ศาสตรส์ งเคราะห์ จะต้องเขยี นกรอบ

สงเคราะห์ ท 1.1 ม.5/7 แนวคดิ ผงั ความคิด บนั ทึก ย่อความ และ

สาระที่ 5 รายงาน วิเคราะห์และวจิ ารณ์วรรณคดีตาม

วรรณคดแี ละ หลกั การวิจารณ์เบื้องต้น วเิ คราะห์ลักษณะ

วรรณกรรม เดน่ ของเรื่องเช่ือมโยงกบั การเรยี นร้ทู าง

ท 5.1 ม.5/1 ประวัตศิ าสตรแ์ ละวิถชี วี ติ วเิ คราะห์และ

ม.5/2 ประเมินคุณคา่ ด้านวรรณศลิ ป์ของวรรณคดี

ม.5/3 ในฐานะที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรมของชาติ

ม.5/4 สงั เคราะห์ข้อคิดจากเร่ืองเพ่อื นำไป

ม.5/6 ประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ิตจริง พร้อมกบั ทอ่ งจำและ

บอกคณุ ค่าบทอาขยานตามที่กำหนดได้

การพูด สาระที่ 3 การฟัง การพดู โนม้ น้าวใจประเภทต่างๆ ควรใช้

โน้มนา้ วใจ การดู การพดู ภาษาทถี่ ูกต้องเหมาะสมในการเสนอแนวคดิ

ท 3.1 ม.5/5 ใหม่ และมีมารยาทในการพูด

ม.5/6

163

ชอื่ หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา คะแนน
เรยี นรู้ เรยี นร้แู ละตัวช้วี ดั (ชัว่ โมง) 5
สาระที่ 4 การแตง่ คำประพนั ธ์ประเภทร่ายและฉันท์
การแตง่ คำ หลักการใช้ภาษา ต้องมีความร้เู กยี่ วกับฉนั ทลกั ษณ์และ 3 10
ประพนั ธ์ ท 4.1 ม.5/4 กลวิธีในการแต่ง
ประเภทรา่ ยและ 7
สาระท่ี 1 การอา่ น การศึกษาเรื่อง ลลิ ิตตะเลงพ่าย จะต้อง
ฉนั ท์ ท 1.1 ม.5/7 เขียนกรอบแนวคิด ผงั ความคิด บนั ทึก ย่อ
สาระท่ี 5 ความ และรายงาน วิเคราะห์และวจิ ารณ์
ลิลิตตะเลงพา่ ย วรรณคดแี ละ วรรณคดีตามหลกั การวจิ ารณเ์ บื้องต้น
วรรณกรรม วเิ คราะห์ลกั ษณะเดน่ ของเรื่องเชือ่ มโยงกับ
ท 5.1 ม.5/1 การเรียนรูท้ างประวัตศิ าสตรแ์ ละวถิ ีชวี ิต
วิเคราะหแ์ ละ
ม.5/2
ม.5/3
ม.5/4
ม.5/6

ลกั ษณะของ สาระท่ี 4 การศึกษาหลักภาษาไทย ต้องอธิบาย 7 5
ภาษา หลักการใช้ภาษา ลกั ษณะของภาษา ใชค้ ำและกลุ่มคำสร้าง
ท 4.1 ม.5/1 ประโยคไดต้ รงตามวตั ถปุ ระสงค์ อธบิ าย
และวิเคราะหห์ ลักการสร้างคำใน
ม.5/2 ภาษาไทยได้อย่างถูกต้อง
ม.5/6

หลกั ภาษาไทย สาระท่ี 4 “รา่ ย” เปน็ คำประพันธ์ประเภทรอ้ ยกรอง 2 5

หลักการใช้ภาษา ชนิดหนึง่ จะแต่งยาวเทา่ ไรก็ไดไ้ ม่กำหนด 36 50
2 20
ท4.1 ม.5/4 จำนวนวรรค แต่นยิ มต้ังแต่ 5 วรรคขน้ึ ไป 2 30
40 100
คะแนนเก็บและเวลาเรียนระหว่างภาคเรียน

สอบกลางภาคเรยี น

สอบปลายภาคเรยี น

รวมตลอดภาคเรยี น

164

โครงสร้างรายวิชาพื้นฐาน

รหสั วิชา ท 33101 ชื่อวิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชว่ั โมง จำนวน 1 หน่วยกติ

อัตราสว่ นคะแนนระหว่างเรียน : ต่อปลายภาค = 70 : 30

ชือ่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน สาระสำคญั เวลาเรียน คะแนน
การเรียนร้/ู ตัวชว้ี ดั (ช่วั โมง) 5
1. การอา่ นออกเสียง
บทร้อยแกว้ และ สาระท่ี 1 การอา่ นออกเสยี งบทร้อยแกว้ และ 2
บทร้อยกรอง
การอ่าน บทร้อยกรองประเภทต่าง ๆ ต้อง

ท 1.1 ม.6/1 อา่ นออกเสยี งให้ชัดเจนน้ำเสยี ง

ม.6/9 ไพเราะ นา่ ฟัง รวมท้งั เข้าใจคำศพั ท์

วรรคตอน วิธกี ารอา่ น และ

ความสำคัญของเร่ืองที่อ่านอย่าง

ลึกซง้ึ เพ่ือใหส้ ื่อความหมายได้

ถูกต้องตามเร่ืองทอ่ี า่ น ผู้ฟงั เกิดความ

ซาบซ้งึ เพลดิ เพลินกบั เร่ืองที่ฟัง

2. กาพยเ์ ห่เรื่อ สาระท่ี 5 กาพยเ์ หเ่ รือใช้ในการเห่เรอื หลวง 4 5
วรรณคดแี ละ แตง่ เป็นกาพยห์ ่อโคลง เนื้อเร่ืองผูก
วรรณกรรม สมั พันธก์ ันภายในเวลา 1 วัน ตอน
ท 5.1 ม.6/1 เชา้ ชมเรอื ตอนสายชมปลา ตอนเย็น
ชมนก และตอนคำ่ เห่ครวญถึงนาง
ม.6/2 อันเปน็ ทรี่ กั กาพยเ์ ห่เรอื
ม.6/3 มีคณุ คา่ ดา้ นต่าง ๆ ท้งั ดา้ นเน้ือหา
ม.6/4 วรรณศลิ ป์ และสงั คมและวฒั นธรรม
ม.6/6 โดยเฉพาะด้านวรรณศลิ ป์ท่ีมีความ
งามทางวรรณศลิ ป์และภาพพจนอ์ ยู่
หลายตอน จงึ ควรวิเคราะห์ให้เขา้ ใจ
อย่างชัดเจนจึงจะประเมินคณุ คา่ ดา้ น
ต่าง ๆ ได้ การอา่ นวรรณกรรมทีด่ ีนัน้
ผอู้ ่านควรวเิ คราะหเ์ นื้อหาและคณุ ค่า
ในด้านต่าง ๆ จึงจะคน้ หาข้อคดิ ทีไ่ ด้
จากวรรณกรรมเร่ือง น้นั ๆ และ
นำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ จริงได้

165

ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐาน สาระสำคญั เวลาเรียน คะแนน
การเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ัด (ชว่ั โมง)
3. ลักษณะของ ภาษาไทย เปน็ ภาษาประจำชาติไทย
ภาษาไทย และ สาระที่ 4 มีเอกลักษณ์เฉพาะของตนเองมีความ 2
องคป์ ระกอบของ หลักการใช้ งดงามทางภาษา ซึง่ คนไทยใช้
พยางค์และคำ ภาษาไทย ติดต่อสือ่ สารระหว่างกนั เป็นมรดก
ท 4.1 ม.6/1 ทางภาษา เปน็ ภูมิปญั ญาไทยซงึ่ มี
ลักษณะเฉพาะสะท้อนความเปน็ ไทย
คนไทยทุกคนจึงควรศึกษาภาษาไทย
ใหเ้ ข้าใจอยา่ งถ่องแทแ้ ละใช้
ภาษาไทยให้ถกู ต้องเหมาะสมและมี
ประสิทธิภาพ
ภาษาประกอบจากหนว่ ยเล็กเปน็
หนว่ ยใหญ่ จากเสียงประกอบเปน็
พยางค์ คำ กลุ่มคำ ประโยค และ
ขอ้ ความหรือเร่ืองราวตามลำดบั ทกุ
หนว่ ยของภาษาลว้ นมคี วามสมั พนั ธ์
กันจงึ ควรเรยี นรู้ภาษาไทยใหเ้ ข้าใจ
และใชภ้ าษาอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ

4. อิทธิพล สาระที่ 4 ภาษาไทยรบั คำทม่ี าจาก 2 10
ภาษาตา่ งประเทศใน หลกั การใช้ ภาษาต่างประเทศมาใช้หลายภาษา
ภาษาไทยและภาษา ภาษาไทย ทำใหม้ คี ำใชเ้ พ่ิมมากข้นึ แตบ่ างคำมี
ถน่ิ ท 4.1 ม.6/5 คำภาษาไทยใชอ้ ยู่แลว้ หรือได้คดิ ค้น
คำไทยขึ้นใช้แล้ว จึงควรเลือกใช้
เท่าทีจ่ ำเป็น และใช้คำที่มาจาก
ภาษาต่างประเทศให้ถกู ต้อง
เหมาะสมการศึกษาภาษาถ่ินจะช่วย
ให้สอื่ สารกับคนในถ่นิ นั้น ๆ ได้

166

ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลาเรยี น คะแนน
การเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั (ชว่ั โมง) 5
5. หลกั การสร้างคำใน คำประสมเกดิ จากการนำคำต้ังแต่ 2
ภาษาไทย สาระที่ 4 คำขึน้ ไปมารวมกันแล้วมีความหมาย 3
หลกั การใช้ ใหม่ แต่ยังมีเคา้ ความหมายของคำ
ภาษาไทย เดิม กลมุ่ คำบางกลุ่มคำหรือประโยค
ท 4.1 ม.6/6 บางประโยคมีลักษณะคล้ายคำ
ประสม เม่ือนำไปใช้ควรพจิ ารณา
ความหมายให้ถูกต้อง คำสมาสเกดิ
จากการนำคำบาลหี รือสันสกฤต 2
คำขน้ึ ไปมารวมกนั มีความหมายจาก
คำหลงั มาคำหน้า หรือมีความหมาย
เรยี งคำจากคำหน้าไปคำหลงั ควร
ศึกษาความหมายของคำให้เข้าใจจงึ
จะนำไปใช้ไดถ้ ูกต้อง คำสนธิเกดิ จาก
การนำคำบาลีหรือสันสกฤตมาเชือ่ ม
เสียงใหก้ ลมกลนื กนั โดยเปลยี่ นแปลง
รูปสระ รูปพยญั ชนะ หรือนฤคหติ ให้
รวมกันเป็นคำใหม่ ควรจำแนกและ
ศึกษาความหมายของคำให้เข้าใจจงึ
จะนำไปใช้ไดถ้ ูกต้อง

6. การใชค้ ำและ สาระที่ 4 คำ คือเสียงท่เี ปล่งออกมาแล้วมี 2
กลุ่มคำสร้างประโยค หลักการใช้ ความหมาย ซึ่งคำแตล่ ะคำ
ภาษาไทย ประกอบดว้ ย พยญั ชนะต้น สระ
ท 4.1 ม.6/2 วรรณยุกต์ ตวั สะกด ตวั การันต์ คำใน
ภาษาไทยมีหลายชนดิ มาประกอบ
เปน็ ประโยค กลมุ่ คำเกิดจากการนำ
คำมาเรียงต่อกนั มคี วามหมายเพ่มิ ข้นึ
และต่อเน่ืองเปน็ เรอื่ งเดียวพอเปน็ ที่
เข้าใจ แต่ยงั ไม่มีความบรบิ รู ณต์ ้อง
ประกอบด้วยชนิดของคำตามหนา้ ที่
ตา่ ง ๆ เปน็ ภาคประธานและภาค
แสดงการใชค้ ำกลมุ่ คำสรา้ งประโยค
ตามวัตถปุ ระสงค์

167

ชอื่ หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐาน สาระสำคญั เวลาเรียน คะแนน
การเรียนรู/้ ตวั ชี้วัด (ชว่ั โมง) 5
7. บทเสภาเร่อื งขุน
ชา้ งขนุ แผน ตอน ขนุ สาระที่ 5 บทเสภาเรอ่ื ง ขุนชา้ งขนุ แผน ตอน 5
ชา้ งถวายฎีกา
วรรณคดีและ ขนุ ชา้ งถวายฎกี ามีศลิ ปะการ

วรรณกรรม ประพันธแ์ ละรสวรรณคดที ี่

ท 5.1 ม.6/1 หลากหลาย ซึง่ กวสี อดแทรกอารมณ์

ม.6/2 ความร้สู ึกอันเกิดมาจากมนุษย์ได้

ม.6/3 อยา่ งกลมกลนื ทำให้บทประพันธม์ ี

ม.6/4 ความน่าสนใจรวมทง้ั สร้างความติด

ม.6/5 ตาตรงึ ใจกับคนอา่ น การอ่าน

ม.6/6 วรรณกรรมที่ดีนั้นผู้อา่ นควร

วิเคราะหเ์ นื้อหาและคุณค่าในดา้ น

ต่าง ๆ จึงจะค้นหาขอ้ คิดท่ีได้จาก

วรรณกรรมเรอื่ งนั้น ๆ และนำไป

ประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ จรงิ ได้

8. ระดบั ภาษา สาระท่ี 4 ภาษามรี ะดับภาษา ควรใช้ให้ 2 5
และคำราชาศัพท์ หลักการใช้ เหมาะสมกบั กาลเทศะ โอกาส และ
ภาษาไทย ฐานะของบคุ คลคำราชาศัพทเ์ ดมิ
ท 4.1 ม.6/3 หมายถึงศัพทเ์ ฉพาะพระราชา แต่
ปจั จบุ นั หมายถึงคำที่เรายกย่อง
บุคคล 6 ประเภท คือ
พระมหากษัตรยิ ์ พระบรมราชนิ ีนาถ
พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการ
ผใู้ หญ่ พระสงฆ์ และบุคคลทั่วไป
ควรศึกษาให้เข้าใจและสามารถนำ
ความรไู้ ปใชต้ ามโอกาสต่าง ๆ ได้
ถูกต้องตามฐานะของบุคคล

9. สามก๊ก ตอน กวนอู สาระท่ี 5 สามกก๊ ตอน กวนอูไปรบั ราชการ 4 5
ไปรับราชการกับโจโฉ วรรณคดแี ละ กบั โจโฉสะทอ้ นสภาพสงั คมและ
วัฒนธรรมจนี ในสมัยราชวงศ์ฮั่น
วรรณกรรม ลกั ษณะนิสัยและความรู้สึกนึกคิด
ท 1.1 ม.6/1 ของตัวละครจงึ เป็นไปตามสภาพ
สังคมในสมัยนั้น ตัวละครมีคุณธรรม
ม.6/2 และจรยิ ธรรมท่ีสามารถยึดเป็น
ท 5.1 ม.6/1 ตัวอย่างนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้

ม.6/2
ม.6/3
ม.6/4

168

ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน สาระสำคญั เวลาเรียน คะแนน
การเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด (ชัว่ โมง)
ศิลปะการประพันธ์ในการแต่งสามกก๊
นี้อย่ทู ่ีการดำเนินเรื่องทม่ี ีความฉับไว 2
สร้างความตน่ื เตน้ ให้แก่ผอู้ ่านอยู่
10. การเขยี นโนม้ สาระที่ 2 ตลอดเวลา รวมท้งั การบรรยาย
น้าวใจ การเขยี น การเขียน พฤติกรรมของตวั ละครท่ีมีความ
เชิญชวน ท 2.1 ม.6/1 กระชบั มกี ารใช้ภาษาที่เขา้ ใจง่าย มี
การแฝงคตธิ รรม การอา่ วรรณกรรม
ม.6/4 ที่ดีน้นั ผอู้ า่ นควรวิเคราะห์เนอ้ื หาและ
ม.6/5 คณุ คา่ ในด้านตา่ ง ๆ จึงจะค้นหา
ม.6/8 ขอ้ คิดทไี่ ด้จากวรรณกรรมเรือ่ ง น้นั
ๆ และนำไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตจรงิ ได้

การเขียนโน้มนา้ วใจเปน็ การพยายาม
ทำใหผ้ อู้ น่ื เปลี่ยนพฤติกรรม ทศั นคติ
ความเชื่อ หรอื ค่านยิ ม โดยใช้
ขอ้ ความท่สี รา้ งสรรค์ มเี จตนาดี มี
จุดประสงค์ มีคณุ ธรรมจริยธรรม
และใชภ้ าษาไปในทางเสนอแนะ
ออ้ นวอน ขอร้อง ไม่ขู่เข็ญ คุกคาม
บังคับ หรือหลอกลวง การเขียนเชิญ
ชวนก็เปน็ การโนม้ นา้ วใจอย่างหน่ึงที่
ตอ้ งการเชิญชวนใหผ้ อู้ า่ นปฏบิ ัติตาม

11. การเขียน สาระที่ 2 การเขยี นเพือ่ สื่อสารในรปู แบบ ตา่ ง 2 5
บรรยายโวหาร การเขียน ๆ เชน่ การเขยี นบรรยาย การเขยี น
พรรณนาโวหาร ท 2.1 ม.6/1 พรรณนา ผเู้ ขียนจะต้องเขียนให้ตรง
เทศนาโวหาร ตามวัตถปุ ระสงคข์ องการเขยี น มกี าร
อุปมาโวหาร ม.6/4 ใช้ภาษาท่เี รียบเรยี งอย่างถูกต้อง
ม.6/5 เหมาะสม โดยมีข้อมูล และ
ม.6/8 สาระสำคัญชัดเจน

169

ชือ่ หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐาน สาระสำคญั เวลาเรียน คะแนน
การเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด (ช่วั โมง)
การพูดสรปุ ความคิดและแสดงความ
12. การพูดสรปุ สาระท่ี 3 คิดเหน็ จากเรื่องท่ีฟังและดู ผู้พูดต้อง 2
วเิ คราะห์และประเมนิ เร่อื งท่ีฟงั และดู
ความคดิ เห็นและ การฟัง การดู และ ได้ก่อน จึงจะสามารถพูดสรุป
ความคดิ และแสดงความคดิ เห็นได้
การแสดงความ การพดู อย่างมีเหตุผลและสรา้ งสรรค์

คิดเหน็ จากเร่ืองท่ี ท 3.1 ม.6/1

ฟงั และดู ม.6/6

13. การพดู แสดง สาระท่ี 3 การพดู แสดงทรรศนะเปน็ การพดู เพื่อ 2
ทรรศนะ การฟัง การดู และ แสดงความคิดเห็น
การพดู โดยมีจดุ ประสงคเ์ พอ่ื ประเมนิ คา่ ให้
ท 3.1 ม.6/5 ขอ้ เสนอแนะ ให้ข้อสงั เกต ให้ขอ้
ตดั สินใจ หรือเพื่อแสดงความรู้สึกให้
ม.6/6 ผฟู้ ังได้รบั รู้ ซ่งึ ผู้พูดต้องมีมารยาทใน
การพดู พดู อย่างสร้างสรรค์ น่าสนใจ
เปน็ กันเองกบั ผ้ฟู ัง และพูดในสงิ่ ทท่ี ำ
ใหเ้ กิดประโยชน์ต่อสว่ นรวม

14. การพูดโน้ม สาระที่ 3 การพดู โน้มน้าวใจเป็นการพูดท่ใี ช้ 2 5
น้าวใจ การฟัง การดู และ ศิลปะและกลวิธีการพดู ที่กระทบใจ
การพูด คนฟัง เพอ่ื ใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลง
ท 3.1 ม.6/5 ทัศนคติหรือพฤติกรรมให้เปน็ ไป
ตามที่ผูพ้ ูดต้องการ การโนม้ น้าวใจท่ี
ม.6/6 ดคี วรเป็นการโน้มน้าวใจที่เป็น
ประโยชน์ ไม่ขดั ต่อคุณธรรม
จริยธรรมหรอื การยอมรับของสงั คม

คะแนนเกบ็ และเวลาเรียนระหว่างภาคเรยี น 36 50
สอบกลางภาคเรียน 2 20
สอบปลายภาคเรียน 2 30
รวมตลอดภาคเรียน 40 100

170

โครงสร้างรายวิชาพน้ื ฐาน

รหสั วิชา ท 33102 ช่ือวิชา ภาษาไทย กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาไทย

ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ชวั่ โมง จำนวน 1 หน่วยกิต

อัตราสว่ นคะแนนระหว่างเรียน : ตอ่ ปลายภาค = 70 : 30

ชอื่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน สาระสำคญั เวลาเรยี น คะแนน
การเรยี นรู/้ ตัวช้ีวดั (ช่วั โมง)
1. การแต่งคำประพันธ์ ฉนั ท์เป็นคำประพันธ์ประเภทหนงึ่ ที่มี
ประเภทฉนั ท์ สาระที่ 4 กำหนดคำครุ-ลหุ เปน็ เกณฑ์ในการ 2
หลักการใช้ แตง่ มหี ลายชนดิ ตามลลี าการแต่ง
ภาษาไทย
ท 4.1 ม.6/4

2. สามัคคีเภทคำฉันท์ สาระท่ี 5 สามัคคเี ภทคำฉนั ทช์ ีใ้ ห้เห็นถงึ 3 5
วรรณคดแี ละ ความสำคญั ของการมนี ้ำหน่งึ ใจ 7 10
วรรณกรรม เดยี วกนั เพื่อรักษาปกป้องบ้านเมอื ง
ท 5.1 ม.6/1 ไว้ให้เกดิ ความม่ันคง หากแตกความ
สามัคคจี ะมีโทษต่อตนเองและ
ม.6/2 ส่วนรวมอยา่ งมาก นับเปน็ เร่ืองท่ีเป็น
ม.6/3 คติสอนใจที่ทนั สมัยอย่เู สมอ และมี
ม.6/4 ความงามดา้ นวรรณศลิ ป์ เพราะกวี
ไดใ้ ชฉ้ นั ทช์ นิดตา่ ง ๆ ท่ีมลี ีลาและ
3. การอา่ นจบั ใจความ สาระที่ 1 อารมณ์แตกต่างกนั มาแตง่ อย่าง
การอา่ น หลากหลาย มกี ารใช้โวหารภาพพจน์
ท 1.1 ม.6/2 ตา่ ง ๆ การเล่นเสยี งสัมผสั พยัญชนะ
และใชค้ ำซ้ำทำใหเ้ กิดจังหวะและเห็น
ม.6/3 ภาพความหมายชัดเจน การอ่าน
ม.6/4 วรรณกรรมทีด่ นี ้นั ผู้อ่านควร
ม.6/8 วิเคราะห์เนือ้ หาและคุณค่าในดา้ น
ม.6/9 ต่าง ๆ จงึ จะคน้ หาข้อคิดที่ได้จาก
วรรณกรรมเรือ่ ง นนั้ ๆ และนำไป
ประยุกต์ใช้ในชีวติ จริงได้
การอา่ นจับใจความ เป็นการอ่านเพ่อื
จดจำ ทำความเข้าใจ อ่านเก็บความรู้
ในสาระสำคัญของเรือ่ ง การอ่านควร
หมน่ั ฝกึ ฝนใหเ้ ป็นนิสยั อ่านหนังสือ
ให้ไดท้ ุกชนดิ

171

ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลาเรยี น คะแนน
4. การอา่ นวินจิ สาร การเรยี นรู้/ตัวช้วี ัด (ชว่ั โมง) 10
การอา่ นจับใจความจากสือ่ ตา่ งๆ
สาระที่ 1 ผู้อา่ นต้องตีความ แปลความ ขยาย 2
การอ่าน ความ คาดคะเนเหตุการณ์ ตอบ
ท 1.1 ม.6/2 คำถาม และประเมนิ ค่า เพื่อนำ
ความรู้ ความคิดไปแก้ปัญหาในการ
ม.6/4 ดำเนินชวี ติ
ม.6/6

5. การอ่านใน สาระที่ 1 การอา่ นเรื่องตา่ ง ๆ นนั้ ตอ้ งมกี าร 2 5
ชีวิตประจำวนั การอ่าน สงั เคราะห์ความรู้จากการอ่าน สือ่
ท 1.1 ม.6/7 สงิ่ พมิ พ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ และแหล่ง
เรยี นรตู้ ่างๆ มาพัฒนาตน พัฒนาการ
ม.6/8 เรียน และพฒั นาความรู้ทางอาชีพ
ซ่งึ การอา่ นเร่ืองตา่ ง ๆ จะต้องรู้
วิธีการเขียนกรอบแนวคดิ และผงั
ความคิด

6. ไตรภมู ิพระรว่ ง สาระที่ 5 ไตรภมู พิ ระร่วง ตอน มนุสสภูมิ 4 5
ตอน มนุสสภูมิ วรรณคดีและ กล่าวถงึ การเกดิ ของมนุษย์ มุ่งเน้น 6 5
วรรณกรรม สอนศีลธรรม ใหม้ นษุ ย์กระทำความดี
ท 5.1 ม.6/1 จะได้ไปเกดิ ในภพภูมิที่ดีกว่าน้ี และ
ยังกล่าวถึง โลกนีไ้ ม่เทยี่ งแทแ้ นน่ อน
ม.6/2 ปรวนแปรไปตามสงิ่ ตา่ ง ๆ แตท่ ี่
ม.6/3 แน่นอนคือ การกระทำความดีสะสม
ม.6/4 บุญ ทำสมาธิ เพื่อจะให้บรรลุนพิ พาน
การอ่านวรรณกรรมทดี่ ีนนั้ ผู้อ่านควร
7. การใชภ้ าษาจากสื่อ สาระท่ี 4 วเิ คราะห์เน้ือหาและคุณค่าในด้าน
หลกั การใช้ ตา่ ง ๆ จงึ จะคน้ หาข้อคดิ ท่ีได้จาก
ภาษาไทย วรรณกรรมเรอื่ ง นั้น ๆ และนำไป
ท 4.1 ม.6/7 ประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจรงิ ได้

วเิ คราะห์ ประเมนิ ค่าสื่อสิง่ พิมพ์และ
สือ่ อิเลก็ ทรอนิกส์ เพื่อศึกษา
รายละเอียดในแตล่ ะส่วนให้ถ่องแท้
สามารถแยกใจความสำคัญและ
ใจความรองได้ ระบใุ จความ

172

ชือ่ หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐาน สาระสำคญั เวลาเรยี น คะแนน
การเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัด (ชว่ั โมง)

ข้อเทจ็ จริง พจิ ารณาอยา่ งรอบคอบ

โดยมใี จเป็นกลาง

8. การวิเคราะห์เร่ือง สาระที่ 3 การวิเคราะห์และประเมนิ เรื่องท่ีฟัง 2 5
และประเมนิ เร่อื งที่ฟัง การฟงั การดู และ และดคู วรพจิ ารณาแนวคิด การใช้
และดู การพูด ภาษา ความนา่ เชอ่ื ถอื
ท 3.1 ม.6/1 แนวทางการนำไปประยุกตใ์ ช้ และ
เลือกเรื่องท่ีฟงั และดอู ยา่ งมี
ม.6/2 วจิ ารณญาณ เพ่ือนำความรทู้ ี่ได้รับไป
ม.6/3 ใช้ในชวี ิตประจำวัน

9. การเขยี นโครงการ สาระท่ี 2 การเขยี นโครงการเปน็ การวางแผน 2
กิจกรรมเพอื่ ให้บรรลุตามเป้าหมาย
และรายงานการดำเนนิ การเขียน ทตี่ ้งั ไว้ โดยตัวโครงการต้องระบุช่ือ
โครงการและแผนการดำเนินงาน
โครงการ ท 2.1 ม.6/1 เอาไว้อย่างครบถว้ นชดั เจน เพือ่ จะ
สามารถใชเ้ ปน็ แนวทางในการดำเนิน
ม.6/5 โครงการได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ การ
เขียนรายงานการดำเนนิ โครงการเป็น
ม.6/8 การสรุปกจิ กรรมท่ไี ด้ทำไปแล้วตาม
โครงการที่เขียนไว้ ควรเขยี นให้อยใู่ น
เชงิ วชิ าการ แตก่ ค็ วรใชภ้ าษาท่ีผูอ้ ่าน
เข้าใจได้งา่ ยดว้ ย

10. การเขยี นรายงาน สาระท่ี 2 การเขยี นรายงานการประชมุ ในการ 3
การประชุมและการ การเขียน จดบนั ทกึ ข้อมูลสำคัญตา่ ง ๆ ในการ
กรอกแบบรายการ ท 2.1 ม.6/1 ประชมุ ด้วยรปู แบบเฉพาะ ควรเขยี น
ดว้ ยภาษาสน้ั กระชับ และถูกตอ้ ง
ม.6/5 เทย่ี งตรงตามมติของที่ประชุม การ
ม.6/8 กรอกแบบรายการเป็นการเขียนท่ี
ผู้เขียนต้องให้ข้อเท็จจรงิ หรือ
รายละเอยี ดในเรอ่ื งต่าง ๆแก่
หน่วยงานหรอื องคก์ รธุรกิจเพื่อการ
ดำเนินธรุ กรรม ต่าง ๆ หรือเพ่อื
ผลประโยชนท์ ้งั ของตนเองและผอู้ ่ืน
โดยใช้ภาษาท่ีถูกต้องและชดั เจน

173

ชอ่ื หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลาเรียน คะแนน
การเรียนร้/ู ตวั ชีว้ ัด (ช่วั โมง) 5

11. การเขียน สาระที่ 2 การเขยี นเรยี งความเกี่ยวกับอุดมคติ 3 50
20
เรียงความเก่ียวกับอดุ ม การเขียน เปน็ การเขียนเกีย่ วกบั ความคิดและ 36 30
2 100
คติ การเขียนเรื่องสนั้ ท 2.1 ม.6/2 จนิ ตนาการโดยอยบู่ น พ้ืนฐานของ 2
40
และการประเมินคุณค่า ความดี ความงาม และความจรงิ

ของงานเขียน เปน็ เป้าหมายของชีวติ หรือจาก

ประสบการณ์ที่ผ่านมา โดยใช้ภาษา

ในการเรยี บเรยี งเนื้อหาดว้ ยรูปแบบ

เรียงความ คือ มีคำนำ เน้ือเร่ือง และ

สรปุ เรื่องส้นั เปน็ รอ้ ยแก้วประเภท

บันเทงิ คดี มีขนาดสั้น มีตัวละครนอ้ ย

มีจุดม่งุ หมายเพียงอย่างเดยี ว มโี ครง

เร่อื งไม่ซับซ้อน ดำเนินเร่ืองรวดเร็ว

ไมเ่ ยิ่นเย้อ ใช้ภาษากระชับและรัดกุม

การประเมินคณุ คา่ ของงานเขียนเปน็

ขัน้ ตอนสดุ ท้ายของกระบวนการอ่าน

เพอ่ื วิเคราะห์สารอนั จะนำไปสู่การ

วิจารณแ์ ละตดั สินคุณคา่ ของงาน

เขยี น การประเมนิ คุณค่าของงาน

เขียนท่ีดีควรทำดว้ ยหลกั การและ

เหตผุ ลโดยปราศจากอคตสิ ว่ นตวั แต่

ต้องพจิ ารณาเจตนาของผเู้ ขียนเป็น

สำคัญ

คะแนนเก็บและเวลาเรยี นระหวา่ งภาคเรยี น

สอบกลางภาคเรียน

สอบปลายภาคเรยี น

รวมตลอดภาคเรียน

174

โครงสรา้ งรายวชิ าเพิ่มเติม
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
ระดบั ช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

175

โครงสร้างรายวชิ าเพม่ิ เติม

รหัสวชิ า ท31201 ชอื่ วิชา วเิ คราะห์วรรณคดี กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกิต

อตั ราสว่ นคะแนนระหวา่ งเรียน : ต่อปลายภาค = 70 : 30

ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลาเรียน นำ้ หนกั
เรียนรู้ การเรียนรู้ (ชัว่ โมง) คะแนน
และตัวชี้วดั
1.วรรณคดไี ทย ท 5.1 -ความรู้เบื้องต้นเกีย่ วกับวรรณคดไี ทย 10 10
ม. 4-6/1 -รสในวรรณคดี ซ่งึ มีคุณค่าทาง 15
2.การตคี วาม ม.4-6/3 วรรณศิลป์ และการถ่ายทอดทางอารมณ์ 15 10
การแปลความ ท 2.1
ม.4-6/2 -การอา่ นตีความ แปลความเป็นสิง่ สำคัญ 10
3.วิเคราะห์และ ในการอ่านวรรณคดซี ่ึงจะทำให้ผอู้ า่ น 20
วจิ ารณ์ประเมิน ท 5.1 เข้าใจในวรรณคดมี ากยงิ่ ขน้ึ
คณุ คา่ จาก ม.4-6/1 20
วรรณคดี ม.4-6/3 -คดิ วิเคราะหว์ ิจารณ์ ประเมินค่าอย่างมี 30
เหตผุ ลทง้ั ดา้ นวรรณศิลป์ ดา้ นสงั คม 100
และวฒั นธรรม นำเสนวรรณคดใี น
รปู แบบบทเพลงจากวรรณคดีเปน็ เพลงที่
มีเน้ือร้องตดั ตอนมาจากเนอ้ื หาใน
วรรณคดีต่างๆที่แตง่ ดว้ ยกลอนสภุ าพ
หรอื แตง่ เนื้อร้องทอ่ี ิงเรื่องราวในวรรณคดี
ไทยแล้วนำมาใส่ทำนอง นำเสนอ
วรรณคดใี ห้น่าสนใจดว้ ยรปู แบบที่
หลากหลาย

สอบกลางภาค

สอบปลายภาค

รวม

176

โครงสร้างรายวิชาเพ่ิมเติม

รหสั วิชา ท 31202 ชื่อวิชา ภาษาไทยกา้ วหน้าด้วยหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 เวลา 60 ชั่วโมง จำนวน 1.5 หน่วยกติ

อัตราส่วนคะแนนระหว่างเรยี น: ปลายภาค 80/20

ช่อื หน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคญั เวลา คะแนน
1.ศกึ ษาประวัติ เรียน/ชม. 5
พระราชา ศึกษาพระราชประวัติ พระราชประวัติและ 5
2.นำหลกั 10 10
ปรัชญา และพระจรยิ วตั รของ ร. พระจรยิ วตั ร ร. 9 5
วิเคราะหเ์ ร่ือง 5 10
3.เรยี บเรยี ง 9
กิจวัตร 5 10
ประจำวัน วเิ คราะหเ์ รอ่ื งท่อี า่ น การอ่านวิเคราะห์ดว้ ยหลกั
5 10
4.เขยี น โดยใชห้ ลกั 5 W 1 H 5 W 1 H และหลกั ปรชั ญา
บรรยายเรอ่ื ง 14
ของคนดี และหลักปรัชญาของ ของเศรษฐกิจพอเพยี ง

5.กลา่ ววาที เศรษฐกจิ พอเพียง
ยกยอ่ งชน
เขยี นบันทกึ ประจำวนั การเขยี นบันทึกประจำวนั
6.ฝึกตน มี
จติ สาธารณะ เกยี่ วกบั การทำ

กิจวัตรประจำวันท่ดี ี

ของตนเอง

เขียนเรียงความเล่า การเขยี นเรียงความเล่า

เรอื่ งพฤติกรรม เรือ่ งพฤติกรรมบคุ คล

บุคคลภายใน

โรงเรยี น/ชุมชนท่ี

ใช้ชวี ิตตามหลัก

ปรัชญาของ

เศรษฐกจิ พอเพียง

ได้

พดู เลา่ เร่ือง การพูดเล่าเร่ือง

พฤติกรรมบุคคล พฤติกรรมบุคคล

ภายในโรงเรียน/

ชุมชนทีใ่ ชช้ วี ติ ตาม

หลกั ปรัชญาของ

เศรษฐกิจพอเพียง

ได้

เขียนรายงานการ การเขยี นรายงานการ

ประชมุ และการ ประชมุ และการทำ

ทำกิจกรรมจิต กจิ กรรมจติ อาสา

อาสาภายใน

โรงเรยี น/ชุมชน

และสามารถปฏิบัติ

กจิ กรรมจติ อาสา

ได้จริง

177

ชื่อหน่วย ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา คะแนน
เรยี น/ชม.
7.สร้างสรรค์ เขยี นเรื่องส้นั ท่ีมี การเขยี นเร่ืองสั้นทม่ี ี 10
สาระเรือ่ ง เน้อื หาเกย่ี วกบั เนือ้ หาเกี่ยวกับกจิ กรรม 12
บันเทงิ กิจกรรมจิตอาสา จติ อาสาภายในโรงเรยี น 20
ภายในโรงเรยี นได้ 20
100
สอบกลางภาค

สอบปลายภาค

รวม

178

โครงสร้างรายวชิ าเพิ่มเติม

รหัสวิชา ท31203 ช่อื วิชา การเขียนรายงานเชิงวิชาการ กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกิต

อัตราสว่ นคะแนนระหว่างเรยี น : ต่อปลายภาค = 70 : 30

ชื่อหน่วยการ มาตรฐาน สาระสำคัญ เวลาเรียน น้ำหนกั
เรยี นรู้ การเรียนรู้ (ช่วั โมง) คะแนน
และตวั ชี้วดั การวางโครงร่างถือเป็นส่ิงสำคญั และ
1.เรียนร้หู ลกั การ ท 2.1 จำเป็นอย่างย่งิ ในการเขียนรายงานเพราะ 4 5
เขยี น ม. 4-6/1 จะ ช่วยให้การเรยี บเรยี งและการเขยี น
ม. 4-6/4 ดำเนนิ ไปตามลำดบั ไมส่ บั สนและมเี น้ือหา 9 20
2.ฝึกพากเพียรให้ ม. 4-6/6 ครอบคลุมเน้ือเร่ืองรวมท้ังชว่ ย ให้เขยี นได้
ชำนาญ ม. 4-6/8 ครบถว้ นตามจุดมุ่งหมายโครงเรื่องจงึ มี 10 10
ลกั ษณะคล้ายสารบัญคร่าว ๆ
ท 2.1 สว่ นนำเป็นส่วนแรกของรายงานซ่ึงจะ
ม. 4-6/1 ประกอบไปดว้ ยคำนำ บทคัดย่อ
ม. 4-6/4 กิตติกรรมประกาศ สารบญั
ม. 4-6/6
ม. 4-6/8 สว่ นเนื้อหาประกอบด้วย สว่ นนำทำให้
ท 2.1 ผอู้ า่ นไดส้ มั ผสั กับความคิดและกลวิธกี าร
ม. 4-6/1 เขียนของผเู้ ขยี น สว่ นเน้ือหาเป็นการเรยี บ
ม. 4-6/4 เรยี งเน้อื หาของรายงานเปน็ ไปตาม
ม. 4-6/6 ลกั ษณะของโครงเรื่องที่กำหนด ส่วนสรุป
ม. 4-6/8 การเขียนสรุปชว่ ยใหผ้ ูอ้ า่ นมองเหน็
ประเดน็ ทผี่ เู้ ขียนนำเสนอไดง้ ่ายขนึ้

ท 2.1 ส่วนท้ายประกอบด้วยบรรณานุกรม 4 5
ม. 4-6/1 รายการอ้างองิ รายชื่อหนงั สือ เอกสาร
ม. 4-6/4 ตลอดจนแหลง่ ข้อมูลอ่นื ๆ ทใ่ี ช้ในการ
ม. 4-6/6 ค้นควา้ ทำรายงาน ภาคผนวก
ม. 4-6/8

179

ช่อื หน่วยการ มาตรฐาน สาระสำคญั เวลาเรียน นำ้ หนัก
เรยี นรู้ การเรียนรู้ (ชั่วโมง) คะแนน
และตวั ชี้วดั วธิ กี ารนำเสนอข้อคน้ พบด้วยสื่อเปน็ ตัวชี้
3.รายงานอยา่ ง ท 3.1 ถงึ ประสทิ ธภิ าพของการเรยี นการสอนใน 10 20
สร้างสรรค์ ม.4-6/5 ครงั้ นั้นๆ วิธีหน่งึ เพราะส่ือจะเปน็ ตัวการ
ม.4-6/6 สำคญั ทีจ่ ะถ่ายทอดความรู้ ความเขา้ ใจ 20
2. รกั สถาบนั เดก็ ดี และประสบการณ์ของผเู้ รียน ซ่ึงควรมี 30
ลูก ก.พ. คุณลักษณะอัน ทางเลอื กหลายชอ่ งทางในการนำเสนอ 100
พงึ ประสงค์ ข้อมูลที่เหมาะสมและมปี ระสิทธิภาพ
ข้อปฏิบัตติ ามท่ีตกลงที่สะทอ้ นถงึ
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 8 ประการ
สอบกลางภาค
สอบปลายภาค

รวม

180

โครงสรา้ งรายวชิ าเพิม่ เติม

รหสั วชิ า ท31213 ช่ือวชิ า ภาษาเชิงสรา้ งสรรค์ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หน่วยกิต

อัตราสว่ นคะแนนระหวา่ งเรียน : ตอ่ ปลายภาค = 70 : 30

ชอื่ หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคัญ ภาระงาน เวลาเรียน นำ้ หนกั
เรียนรู้ เรียนร/ู้ ตัวชีว้ ัด/ผล (ช่วั โมง) คะแนน

การเรียนรู้ 10

1. ร้จู กั กันอยา่ ง ท 3.1 การแนะนำตนเอง คือ การ -พูดเล่าประวตั ิ 10 10

สรา้ งสรรค์ ม.4-6 กล่าวถงึ ตนเองให้ผอู้ นื่ รู้จัก ตัง้ แต่ ของตนเอง
ชื่อ นามสกลุ ช่อื เล่น ท่มี าของชือ่ (งานเดย่ี ว เขยี น
หรือความหมาย ถนิ่ กำเนิด ท่อี ยู่ ร่าง /พูด)
ปัจจุบันการศึกษา. ความรู้

ความสามารถพิเศษ งานอดเิ รก ผังมโนทัศน์
คติประจำใจ และการศึกษา นำเสนออาชีพท่ี
อาชพี ที่สนใจและพูดนำเสนอ สนใจ
เพือ่ ใหค้ รแู ละเพ่ือนรู้จักและ นำเสนอ PPT
เข้าใจกันไดด้ ีและฝึกทักษะการ (งานคูบ่ ัดด้ีทเี่ ลอื ก
พูดและการนำเสนอและการ อาชีพเดียวกัน)
วางแผนเก่ยี วกบั อาชพี ในอนาคต

2. เรยี นรู้หลกั การ ท 4.1 คำท่ีใชใ้ นภาษาไทยดัง้ เดิม การตอบคำถาม 18 20
ส่วนมากจะเปน็ คำพยางค์เดียว ใบงานและ
สรา้ งคำไทย ม. 4-6 เชน่ พ่อ แม่ พี่ น้อง กนิ นอน แบบทดสอบ
เมือ่ มีการส่อื สารทม่ี ากขึ้น
ภาษาไทยกจ็ ะต้องพัฒนาทั้งรูปคำ
และการเพิ่มจำนวนคำ เพ่ือให้คำ
เพียงพอต่อการใช้สือ่ สาร คำไทย
ท่ใี ชอ้ ยปู่ จั จบุ นั มีทง้ั คำที่เปน็ คำ
ไทยดั้งเดิม คำที่มาจาก
ภาษาต่างประเทศ คำศัพท์เฉพาะ
ทางวิชาการคำท่ใี ชเ้ ฉพาะใน
ภาษาพูด คำชนิดต่าง ๆ เหลา่ นมี้ ี
ชื่อเรียกตามลักษณะและแบบ
สร้างของคำ โดยรปู แบบของการ
สรา้ งคำน้นั เชน่ คำมูล คำประสม
คำซำ้ คำซ้อน คำสมาส

ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั ภาระงาน 181
เรียนรู้ เรยี นรู/้ ตัวชว้ี ดั /ผล
สอบกลางภาคเรียน ใบงานและ เวลาเรยี น นำ้ หนกั
3.ฝึกฝนไวค้ ำไทย การเรียนรู้ สอบปลายภาคเรียน แบบทดสอบ (ชวั่ โมง) คะแนน
ใช้ใหถ้ ูก
ท 4.1 รวม 8 10
ม. 4-6
2 20
2 30

100

182

โครงสรา้ งรายวชิ าเพ่มิ เติม

รหสั วชิ า ท 31214 ชื่อวิชา ประวตั ิวรรณคดี 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หนว่ ยกิต

อตั ราส่วนคะแนนระหว่างเรียน : ปลายภาค 70 : 30

ชอื่ หน่วยการ มาตรฐาน สาระสำคญั คะแนน เวลา
เรียนรู้ /ตวั ช้ีวัด (ชว่ั โมง)
ความรู้เบื้องตน้ และประวัติเบื้องตน้ ของ - 3 ชั่วโมง
ประวัติ และ มาตรฐาน ท 5 วรรณกรรมและวรรณคดีไทย รวมถึงผู้ 5
ววิ ัฒนาการ วรรณคดีและ แต่งวรรณกรรม และวรรณคดีใน แต่ละ 5 3 ชว่ั โมง
ของวรรณคดี วรรณกรรม ช่วงสมัยของวงการวรรณกรรมได้ และ 5
ไทย -ท 5.2 / ม.4-6 - เมื่อวรรณกรรมทางลายลักษณ์อักษร 3 ช่ัวโมง
ปรากฏขึ้น ตั้งแต่สมัยสุโขทัย สมัย
-ท 5.3 / ม.4-6 - อยุธยา สมัยธนบุรี มาจนถึงสมัย 2 ชวั่ โมง
ท 5.4 / ม.4-6 รัตนโกสินทร์ เข้าใจถึงจุดเด่น และ
-ท 5.5 / ม.4-6 เอกลักษณ์ของวรรณกรรมและวรรณคดี
ท 5.6 / ม.4-6 ไทยแต่ละสมัยได้

วรรณกรรม มาตรฐาน ท 5 ประวัติกษัตริย์ราชวงศ์พระร่วงเจ้า สมัย
พระร่วงเจ้า วรรณคดแี ละ สุโขทัย อาณาจักรสุโขทัย ความสำคัญ
(สมัยสโุ ขทัย) วรรณกรรม ของวรรณกรรมที่ปรากฏในสมัยสุโขทัย
-ท 5.2 / ม.4-6 ที่ได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมของ
ไตรภูมพิ ระ -ท 5.3 / ม.4-6 - ประเทศเพื่อนบ้าน เข้าใจถึงวรรณกรรม
รว่ ง ท 5.4 / ม.4-6 เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ของวรรณกรรม รู้
-ท 5.5 / ม.4-6 - ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม และ
วรรณกรรม ท 5.6 / ม.4-6 ประเพณีในสมยั สุโขทัยได้
นครอารย
ธรรม มาตรฐาน ท 5 เข้าใจ ศึกษาคุณค่าที่ได้จากเรื่องไตรภูมิ
(สมยั อยุธยา) วรรณคดีและ พระร่วง ทั้ง 3 ภูมิ และสามารถนำมา
วรรณกรรม ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ได้รับ
-ท 5.1 / ม.4-6 คุณคา่ จากการศึกษาวรรณกรรม มาปรับ
-ท 5.2 / ม.4-6 ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทั้งการอ่านออก
-ท 5.3 / ม.4-6 - เสียงจากเรื่องไตรภูมิพระร่วงได้อย่าง
ท 5.4 / ม.4-6 ถูกต้อง และเข้าใจวัฒนธรรมที่ปรากฏ
-ท 5.6 / ม.4-6 และคำสอนที่ปรากฏในเร่ืองได้

มาตรฐาน ท 5 เข้าใจ และซึมซับวัฒนธรรม อารยธรรม
วรรณคดแี ละ ที่รุ่งเรืองของวงการวรรณกรรม และ
วรรณกรรม วรรณคดีในสมัยอยุธยาทั้ง 3 ช่วงได้
-ท 5.2 / ม.4-6 รวมถงึ ความรู้ อัตลกั ษณ์ และเอกลักษณ์
ของวรรณกรรมที่หลากหลายรูปแบบ ทัง้

-ท 5.3 / ม.4-6 - ลิลิต โคลง บทเห่ คำฉันท์ และนิทาน 5 183
ท 5.4 / ม.4-6 ร้องโดยทั่วไป อีกทั้งสามารถนำข้อคิด 5 4 ชัว่ โมง
-ท 5.5 / ม.4-6 5 2 ชั่วโมง
ท 5.6 / ม.4-6 - และคุณค่าที่ได้จากวรรณกรรมเหล่านั้น 5 2 ชวั่ โมง
มาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวันได้อย่าง 5 4 ชว่ั โมง
ลิลติ โองการ มาตรฐาน ท 5 ถกู ต้อง และเหมาะสม 5 ชว่ั โมง
แช่งนำ้ และ วรรณคดีและ เขา้ ใจ และรูถ้ ึงขนบธรรมเนียมข้อปฏิบัติ
เหล่าลิลิตท่ีนา่ วรรณกรรม ของกระบวนทางทางราชการในสมัยน้ัน
รู้ -ท 5.1 / ม.4-6 และค่านิยมเรือ่ งการเป็นขา้ ราชการ พระ
ราชพิธีที่เกี่ยวข้องกับวรรณกรรมในสมัย
-ท 5.2 / ม.4-6 นี้ได้ และลิลิตอีกหลายเรื่องที่เป็ฯต้อย
-ท 5.3 / ม.4-6
ท 5.4 / ม.4-6 - กำเนิดของงานเขียนในสมัยต่อๆ มา
-ท 5.6 / ม.4-6 และยอดของงานเขียนลลิ ติ
คำฉันท์ดุษฎี มาตรฐาน ท 5
สังเวย วรรณคดแี ละ เรียนรู้ และเข้าใจวัฒนธรรมธรรมเนียม
“กลอ่ มชา้ ง” วรรณกรรม ปฏิบัติ รวมถึงวรรณกรรมต่าง ๆ ที่
-ท 5.1 / ม.4-6 กล่าวถึงพระราชจริยวัตรที่น่ารู้ของ
-ท 5.2 / ม.4-6 พระมหากษัตริย์ในสมัยอยุธยาได้ และ
-ท 5.3 / ม.4-6 สามารถนำความรู้ที่ได้จากการอ่านคำ
ท 5.4 / ม.4-6 - ฉันท์นี้ ทั้งเรื่องการอ่าน การแต่งฉันท์
-ท 5.6 / ม.4-6 และออกเสียงของในการอ่านวรรณกรรม
ราชาพลิ าปคำ มาตรฐาน ท 5 ไดถ้ ูกต้องตามหลกั ฉนั ทลักษณ์ได้
ฉนั ท์ วรรณคดแี ละ ความรู้เบื้องต้นของวรรณคดีและ
วรรณกรรม วรรณกรรมที่ได้รับอิทธิพลมาจาก
-ท 5.1 / ม.4-6 พงศาวดารอินเดีย เรื่อง รามเกียรติ์บาง
-ท 5.2 / ม.4-6 ตอน ความสำคัญของราชาพลิ าปคำฉันท์
-ท 5.3 / ม.4-6 ที่เกี่ยวข้องกับชีวิต ความเชื่อ และภูมิ
ท 5.4 / ม.4-6 - ปญั ญาของของมนุษย์
-ท 5.6 / ม.4-6
จินดามณี มาตรฐาน ท 5 ความรู้ และความแตกตา่ งของแบบเรียน
แบบเรยี น 3 วรรณคดีและ เล่มแรกของโลก ทั้ง 3 เล่ม ความ
ฉบับ วรรณกรรม แตกต่าง เนื้อหา คุณค่าที่ได้ และต้น
-ท 5.1 / ม.4-6 กำเนิดของแบบเรียนการอ่านออกเสียง
-ท 5.2 / ม.4-6 และวรรณกรรมอีกหลากหลายเรื่องที่มี
-ท 5.3 / ม.4-6 - จินดามณเี ป็นแมแ่ บบ
ท 5.4 / ม.4-6
อเิ หนาเลก็ มาตรฐาน ท 5 ความรู้เบื้องต้นของพงศาวดารชวา-
อเิ หนาใหญ่ วรรณคดแี ละ มลายูที่ได้รับอิทธิพลมาในช่วงสมัยกรุง
วรรณกรรม ศรีอยุธยารุ่งเรือง ประวัติผู้แต่งอิเหนา

-ท 5.1 / ม.4-6 เล็ก และอิเหนาใหญท่ ่ีเจ้าฟ้าหญิงได้ทรง 184

-ท 5.2 / ม.4-6 แปลและดัดแปลงเนื้อหาเพื่อง่ายต่อการ 4 ช่วั โมง

-ท 5.3 / ม.4-6 - เรียนรู้ และทำความเข้าใจเพื่อศึกษาถึง 7 ชั่วโมง

ท 5.4 / ม.4-6 คุณค่าทางวรรณกรรมเรื่องนี้ได้ และ 1
1
-ท 5.6 / ม.4-6 นำมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวันได้ 40

บทเหฯ่ 4 คำ มาตรฐาน ท 5 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับบทเห่ ต้น 5

เห่ พระนิพนธ์ วรรณคดแี ละ กำเหนิดบทเห่พระราชนพิ นธ์ จากเจ้าฟ้า 5

เจา้ ฟา้ ธรรมธิ วรรณกรรม ธรรมธิเบศทั้ง 4 เรื่อง และเป็นแม่แบบ 20
30
เบศ -ท 5.1 / ม.4-6 ของบทเห่ตา่ งๆ ในชว่ งหลงั ๆ สืบต่อมา 100

-ท 5.2 / ม.4-6

-ท 5.3 / ม.4-6 -

ท 5.4 / ม.4-6

-ท 5.6 / ม.4-6

วรรณกรรม มาตรฐาน ท 5 ความรู้เบื้องต้น ประวัติ ความแตกต่าง

แผน่ ดินพระ วรรณคดีและ เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ของวรรณกรรมใน

เจ้ากรุงธนบุรี วรรณกรรม สมัยกรุงธนบุรีที่มีวรรณกรรมโดดเด่นอยู่

(สมยั ธนบรุ )ี -ท 5.2 / ม.4-6 ราว 6 เรื่องที่พึงรู้ ประวัติผู้ประพันธ์

-ท 5.3 / ม.4-6 - นพิ นธ์ และคุณค่าทจ่ี ะได้จากการศึกษา

ท 5.4 / ม.4-6

-ท 5.5 / ม.4-6 -

ท 5.6 / ม.4-6

สอบกลางภาคเรียน

สอบปลายภาคเรยี น

รวม

185

โครงสร้างรายวชิ าเพิ่มเติม

รหสั วชิ า ท31215 ช่อื วิชา ภาษาเชงิ สร้างสรรค์ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หน่วยกิต

อัตราส่วนคะแนนระหว่างเรยี น : ตอ่ ปลายภาค = 70 : 30

ชอื่ หน่วยการ มาตรฐาน สาระสำคญั ช้ินงาน/ภาระ เวลา นำ้ หนั
เรียนรู้ การเรียนรู้ งาน เรยี น ก
และตวั ชี้วดั (ช่วั โมง)
6 คะแน
1.รู้จกั คดิ อยา่ งมี ท 5.1 การอ่านอย่างมีวจิ ารณญาณ หมายถงึ ปฏบิ ตั ิตาม น
การอ่านอยา่ งพินจิ พิเคราะห์ โดยผอู้ า่ น ชุดกจิ กรรม 10 15
จารณญาณ ม. 4-6/1 สามารถ
จับใจความสำคญั ตีความ ใช้สตปิ ญั ญา ปฏบิ ัตติ าม 10 10
ม.4-6/3 คดิ หาเหตุผลและนำความรตู้ ลอดจน ชุดกิจกรรม
ประสบการณ์ของตนไปไตร่ตรอง 10
2.ฟัง ดใู หด้ ีอย่างมี ท 2.1 วิเคราะห์ แยกแยะข้อเท็จจรงิ ปฏบิ ตั ติ าม
ข้อคิดเห็น จากสิ่งที่อ่านโดยละเอยี ด ชดุ กิจกรรม
จารญาณ ม.4-6/2 เพอื่ นำไปสกู่ ารตัดสนิ หรอื ประเมนิ ค่าส่ิง
ที่อ่านได้
3.อา่ นบทกวีอยา่ ง ท 5.1
มีวิจารณญาณ ม.4-6/1 การฟังและดขู า่ วสาร โฆษณา เป็นการ
สื่อสารทางเดยี วมแี ต่รบั ฟังเท่าน้ัน
ม.4-6/3 จะต้องใช้ความคิดพจิ ารณาไตร่ตรอง
อย่างละเอียด รอบคอบด้วยเหตุผล
กอ่ นตดั สนิ ใจว่าเปน็ จรงิ หรือเป็นเท็จ
เช่ือถือไดม้ ากน้อยเพียงใด มีข้อดี
ข้อเสยี มปี ระโยชน์มโี ทษอย่างไร

การคิดวจิ ารณญาณ หมายถึง
กระบวนการคดิ ทีใ่ ช้เหตุใชผ้ ลพิจารณา
ไตรต่ รองอย่างรอบคอบ โดยการศึกษา
ข้อมูล หลักฐาน แยกแยะข้อมลู ว่า
ข้อมลู ใดคือ ข้อเท็จจรงิ ขอ้ มูลใดคอื
ความคิดเห็น ตลอดจนพิจารณาความ
น่าเชอื่ ถอื ของข้อมูล แล้วตง้ั สมมตฐิ าน
เพือ่ หาสาเหตุของปญั หา และสามารถ
หาแนวทางแก้ไขปัญหาน้นั ๆ ได้ การ
คดิ วิจารณญาณมี 5 ด้าน ดงั น้ี
1. ความสามารถในการระบปุ ระเด็น 2.
ความสามารถในการรวบรวมขอ้ มลู 3.

ความสามารถในการระบขุ ้อตกลง 186

เบ้อื งต้น4. ความสามารถในการตัง้ 10 15

สมมตุ ิฐาน5. ความสามารถในการสรุป 20
30
อย่างสมเหตสุ มผล 100

4. ฝกึ อา่ นจับ การจับใจความสำคัญตามเทคนิคบันได ปฏิบตั ติ าม
ใจความโดยใช้
เทคนิคบนั ได 6 ขน้ั มีดังน้ี ชุดกจิ กรรม
6 ข้นั
1 การอ่านเร่ืองให้จบตั้งคำถาม 5W1H

2 การหาคำสำคัญ (Key Words)

3 การตัดสว่ นขยายใจความสำคญั

4 การเติมคำเชอ่ื มหาส่วนขยายใจความ

สำคัญ

5 การสังเกตคำเชื่อมแสดงความขดั แยง้

6 การหาใจความสำคัญได้ทกุ บทอ่าน

สอบกลางภาคเรยี น 2

สอบปลายภาคเรยี น 2

รวม 40

187

โครงสรา้ งรายวิชาเพมิ่ เติม

รหัสวิชา ท 31216 ชื่อวิชา ประวตั วิ รรณคดี 2 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย

ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกติ

อตั ราส่วนคะแนนระหวา่ งเรียน : ปลายภาค 70 : 30

ชอื่ หน่วยการ มาตรฐาน สาระสำคญั คะแนน เวลา
เรียนรู้ /ตวั ชว้ี ดั (ช่ัวโมง)

วรรณกรรม มาตรฐาน ท 5 ศึกษา รวบรวม และเรียนรู้วรรณกรรม - 2 ชัว่ โมง
และวรรณคดี วรรณคดแี ละ และวรรณคดีที่มีสำคัญในบางเรื่องราว

ในช่วงสมัย วรรณกรรม ของช่วงสมัยรัตนโกสินทร์ จำแนก และ
รตั นโกสนิ ทร์ -ท 5.2 / ม.4-6 สามารถแบ่งช่วงเวลา ลักษณะ ผู้แต่ง
และประเภทของวรรณกรรม และผู้แต่ง
-ท 5.3 / ม.4-6

- ท 5.4 / ม.4-6 ทสี่ ำคัญในสมยั รัตนโกสนิ ทรไ์ ด้
-ท 5.5 / ม.4-6
-ท 5.6 / ม.4-6

มหาสงคราม มาตรฐาน ท 5 ศึกษาถึงต้นกำเนิด เหตุ และ ผล ของ 5 4 ชว่ั โมง
ภารตะ ใน วรรณคดีและ มหาสงครามคร้ังยิง่ ใหญ่ จากมหาภารตะ

วรรณคดไี ทย วรรณกรรม อินเดีย สู่วรรณกรรมแปลของไทย เรื่อง
-ท 5.2 / ม.4-6 “รามเกียรต”์ิ พระราชนพิ นธืในรัชกาลที่
-ท 5.3 / ม.4-6 1 และ 2 เข้าใจและสามารถนำความรู้ท่ี

-ท 5.4 / ม.4-6 ไดม้ าปรบั ใชไ้ ด้ในชวี ิตจริง
-ท 5.5 / ม.4-6
-ท 5.6 / ม.4-6

กฎหมายตรา มาตรฐาน ท 5 รอบรู้เรื่องกฎหมายของวรรณกรรม 5 3 ชัว่ โมง
สามดวง วรรณคดแี ละ กฎหมายฉบับแรก ที่เป็นรูปแบบของ

วรรณกรรม วรรณกรรมไทย ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับ
-ท 5.1 / ม.4-6 กฎหมายไทย เข้าใจและสามารถ
-ท 5.2 / ม.4-6 วเิ คราะห์คุณค่าจากวรรณกรรมได้

-ท 5.3 / ม.4-6
-ท 5.4 / ม.4-6
-ท 5.6 / ม.4-6

พงศาวดาร มาตรฐาน ท 5 รอบรูว้ รรณกรรมแปลจากตะวันตก และ 5 4 ชั่วโมง
แปลในวงการ วรรณคดแี ละ จากพงศาวดารจากประเทศต่างๆ ก่อน

วรรณกรรม วรรณกรรม จะเป็นวรรณกรรมแปลของไทย ด้วย
ของไทย -ท 5.2 / ม.4-6 พระปรีชาของกษัตริย์ และผู้ที่มี
-ท 5.3 / ม.4-6 ความสามารถด้านภาษา ทั้งเข้าใจถึง

-ท 5.4 / ม.4-6 วัฒนธรรมและอิทธิพลของวรรณกรรม
-ท 5.5 / ม.4-6 ไทย ว่ามีที่มาจากอะไร และเพราะเหตุ
-ท 5.6 / ม.4-6

ละครใน มาตรฐาน ท 5 ใดจึงได้รับยกย่องว่าเป็ฯงานเขียนที่ดี 5 188
(สำนักราชวงั ) วรรณคดีและ สำหรับวงการวรรณกรรมไทย 5 3 ชวั่ โมง
และเรือ่ งราวที่ วรรณกรรม 5 4 ชว่ั โมง
น่ารู้ -ท 5.1 / ม.4-6 ศึกษาวรรณคดีไทย ที่ได้รับการยกย่อง 5
และได้ใช้เนื้อเรื่องในการแสดงในพระ 3 ชว่ั โมง
-ท 5.2 / ม.4-6 ราชพิธีต่างๆ ในราชวัง จนกลายเป็น
-ท 5.3 / ม.4-6 ละครใน และเข้าใจถึงละครนอกหรือ 3 ชั่วโมง
ท 5.4 / ม.4-6 ละครชาตรีที่เรียกกันว่า “ลครข้าถนน”
-ท 5.6 / ม.4-6 - ของชาวบ้าน และสามารถวิเคราะห์
สังเคราะห์ความรู้ที่ได้จากวรรณกรรม
“สนุ ทรภู่” มาตรฐาน ท 5 นั้นๆ มาปรับเข้ากับการดำเนินชีวิตได้
กบั ชื่อเสยี ง วรรณคดีและ อย่างเหมาะสม
ระดับโลก วรรณกรรม
-ท 5.1 / ม.4-6 ศึกษาประวัติความเป็นมาอย่างลึกซ้ึง
-ท 5.2 / ม.4-6 ความเกี่ยวข้องกับองค์กร UNESCO ท่ี
-ท 5.3 / ม.4-6 ยกย่องและให้สุทรภู่เป็นกวีเอกของโลก
ท 5.4 / ม.4-6 ศึกษาและรวบรวมผลงานของสุนทรภู่
-ท 5.6 / ม.4-6 และเรื่องราวอย่างย่อของงานเขียน
- เรื่องๆต่างๆ ของสุนทรภู่ และสามารถ
บทพากย์ มาตรฐาน ท 5 วิเคราะห์คุณค่าที่ได้จากงานเขียน
รามเกยี รต์ิที่ วรรณคดีและ เ ห ล ่ า น ั ้ น เ พ ื ่ อ น ำ ม า ป ร ะ ยุ ก ต ์ ใ ช ้ กั บ
เป็น วรรณกรรม ชีวิตประจำวันได้อย่างรู้คุณค่า และ
เอกลกั ษณ์ -ท 5.1 / ม.4-6 เข้าใจถึงคุณค่าของภาษาไทยจาก
-ท 5.2 / ม.4-6 วรรณกรรม หรืองานเขียนต่างๆ ได้
-ท 5.3 / ม.4-6
ท 5.4 / ม.4-6 เข้าใจ และเรียนรู้เรื่องราวของงานพระ
-ท 5.6 / ม.4-6 ราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 2 ผลงานเรื่อง
ต่างๆ และบทพากย์ที่สำคัญในการ
วรรณกรรม มาตรฐาน ท 5 นำไปใช้ในการแสดงโขนหลวงในราชวัง
ร้อยแก้ว วรรณคดีและ และการแสดงหุ่นละครเล็ก หุ่นกระบอก
“ไกลบา้ น” วรรณกรรม - และได้รับคุณค่าในด้านต่างๆ เช่น ด้าน
-ท 5.1 / ม.4-6 วรรณศิลป์ วัฒนธรรม สังคม วัฒนธรรม
-ท 5.2 / ม.4-6 เอกลกั ษณ์ และความเป็นประเทศได้จาก
บทพากย์เหล่านี้ ทั้งยังได้รับความรู้อีก
หลายด้านทางภาษาไทยในบทพากย์
รามเกยี รตท์ิ ัง้ 4 ตอนน้อี ีกดว้ ย

ไดร้ ับความรู้เบ้ืองตน้ เกี่ยวกบั วรรณกรรม
ที่เป็นงานเขียนประเภท นิยาย หรือร้อย
แก้วเรื่องที่โดดเด่น เป็น 1 ในพระราช
นิพนธ์ที่ได้รับความนิยมในสมัยนั้น ท้ัง
ความรู้ทางภาษาที่ใช้ คุณค่า คำสอนที่
สอดแทรกไว้อย่างแนบเนียน ทั้งยัง

-ท 5.3 / ม.4-6 - สามารถนำคำสอนเหล่านั้นมาใช้ใน 189
5 ช่ัวโมง
ท 5.4 / ม.4-6 ชีวิตประจำวันได้อย่างเหมาะสม และ
4 ชั่วโมง
เหมาะกับยุกต์สมัยได้
3 ชัว่ โมง
นทิ าน มาตรฐาน ท 5 เข้าใจและศึกษานิทานท่ีมีเนื้อเรื่องท่ีเป็ฯ 5
2
โบราณคดี วรรณคดแี ละ ร้อยแก้ว และมีความยาว ทั้งยังมีความรู้ 5
1
เรือ่ งดีๆ ที่น่ารู้ วรรณกรรม มากมายสอดแทรกไว้ในเรื่องราว 5 1
40
-ท 5.1 / ม.4-6 เหลา่ นน้ั ตำนาน ความเช่อื ความศรทั ธา -

-ท 5.2 / ม.4-6 วัฒนธรรม และขนบธรรมเนียมปฏิบัติ 20
30
-ท 5.3 / ม.4-6 - หลากหลายด้านที่มีคุณค่า และสามารถ 100

ท 5.4 / ม.4-6 นำความรทู้ ่ีได้มาปรบั ใชใ้ นชวี ิตได้

-ท 5.6 / ม.4-6

นทิ านเวตาล มาตรฐาน ท 5 นักเรียนสามารถเข้าใจเรื่องราวท่ี

และตำนาน วรรณคดีและ แตกต่างจากงานแปล และงานแปล

เร่อื งเล่าอนื่ ๆ วรรณกรรม ประเภทนิทานภารตะ หรือ หนึ่งพันหึ่ง

-ท 5.1 / ม.4-6 ราตรี ที่มีความเป็นต่างประเทศ อัน

-ท 5.2 / ม.4-6 แตกต่างไปจากนิทานไทย และนิทาน

-ท 5.3 / ม.4-6 - ตะวันตก ทั้งยังได้แง่คิด ความรู้ และ

ท 5.4 / ม.4-6 สามารถนำความรู้ที่ได้เหล่านั้นมา

-ท 5.6 / ม.4-6 ป้องกนั ตนเองจากความประมาท ให้ชีวติ

สามารถดำเนินไปได้อย่างมีเหตุและผล

ในการดำเนินชวี ิต

กามนติ และ มาตรฐาน ท 5 นักเรียนเข้าใจ และเรียนรู้นิทานแปล

หิโตปเทศ วรรณคดีและ อีกประเภท ที่เป็นนิทานรูปแบบงาน

ปกรณำแปล วรรณกรรม เขยี น และงานแปลจากตะวนั ตก มีความ

-ท 5.2 / ม.4-6 คล้ายคลึงกับนิทานอิสป แต่มีเนื้อเรื่อง

-ท 5.3 / ม.4-6 - ที่ ยาวกว่า ทั้งยังได้รับความรู้ที่ต่าง

ท 5.4 / ม.4-6 ออกไปจากงานเขียนนิทานแบบเดียวกนั

-ท 5.5 / ม.4-6 - แต่ต่างกันจากทีม่ า และคณุ ค่าทจี่ ะไดร้ บั

ท 5.6 / ม.4-6

สโมสร มาตรฐาน ท 5 ได้รับความรู้ และความสำคัญของวรรณ

วรรณคดี วรรณคดแี ละ ดีสโมสร และวรรณกรรมที่ได้รับการ

และยอดของ วรรณกรรม ยกย่องในแต่ละด้านของงานเขียนแต่ละ

วรรณกรรม -ท 5.2 / ม.4-6 ประเภท

ไทยแตล่ ะ -ท 5.3 / ม.4-6 -

ประเภท ท 5.4 / ม.4-6

-ท 5.5 / ม.4-6

สอบกลางภาคเรียน

สอบปลายภาคเรยี น

รวม

190

โครงสร้างรายวิชาเพม่ิ เติม

รหัสวิชา ท 32205 ช่ือวชิ า การเขยี นสารคดี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หนว่ ยกติ

อัตราสว่ นคะแนนระหวา่ งเรยี น : ตอ่ ปลายภาค 70 : 30

ช่ือหนว่ ย ผลการเรยี นรู้ท่ีคาดหวงั สาระสำคัญ เวลา คะแนน
การเรียนรู้ ชวั่ โมง
10
สารคดคี อื อะไร บอกความหมายและ - ความหมาย 4

จดุ หมายใน ของสารคดี 6
2
การเขยี นสารคดีได้ - จุดหมายและความสำคญั ใน
3
ถกู ต้อง การเขยี นสารคดี

- บทบาทการเขยี นในชวี ิต

ประจำวัน

หลากหลายงาน อธิบายความแตกตา่ ง ความแตกต่างของสารคดีใน

เขยี นสารคดี ของสารคดปี ระเภท รปู แบบตา่ งๆ เชน่ การท่องเที่ยว

ตา่ งๆได้ ชีวประวตั ิ การสัมภาษณ์ ฯลฯ

องค์ประกอบสาร อธิบายองค์ประกอบ องคป์ ระกอบการเขียนสารคดีใหม้ ี

คดี ของสารคดีได้ คณุ ภาพคือ

- เร่ืองทเ่ี ขยี นต้องเปน็ จริง

- มศี ลิ ปะในการเล่าเร่อื ง ฯลฯ

อภปิ รายถึงคุณลกั ษณะ คุณลักษณะท่ีดขี องสารคดีจะ

สารคดีท่ีดี ของสารคดที ด่ี ีได้ พิจารณาจากความเป็น

- เอกภาพ

- สัมพนั ธภาพ

- สารัตถภาพ

ชื่อหน่วย ผลการเรียนร้ทู ่คี าดหวัง สาระสำคญั เวลา 191
การเรยี นรู้ ชั่วโมง
เลือกใช้โวหารในการ โวหารทีน่ ำมาเขียนสารคดีสามารถ คะแนน
โวหารการเขียน เขยี นสารคดไี ด้อย่าง เลือกใช้โวหารต่อไปนีค้ ือ 6
เหมาะสม - บรรยายโวหาร 10
- อธิบายโวหาร
- พรรณนาโวหาร 30
- อภปิ รายโวหาร
20
โครงสร้าง จดั วางโครงเร่อื งในการ - โครงสร้างของสารคดีประกอบด้วย 6 30
สารคดี 13 100
เขียนได้อยา่ งมี สว่ นต่างๆคือ บทนำหรอื ความนำ
รวมเล่มสารคดี
หลักเกณฑ์ บทเน้ือเร่ือง

บทสรปุ

- กลวธิ ใี นการเขยี นสารคดีชวี ประวตั ิ

สารคดที อ่ งเทยี่ ว

สารคดีทว่ั ไป สารคดีปกณิ กะ

เขียนสารคดไี ดถ้ ูกต้อง รูปแบบหรือรปู เลม่ ของสารคดี

ตามรูปแบบ ประกอบด้วย

- สว่ นหน้าหนงั สือ

- สว่ นเนือ้ หา

- สว่ นท้ายของหนังสือ

สอบกลางภาค

สอบปลายภาค

รวม

192

โครงสรา้ งรายวชิ าเพ่ิมเติม

รายวิชา การเขยี น 2 กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 5
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5
ภาคเรยี นท่ี 1 เวลา 60 ชัว่ โมง จำนวน 1.5 หน่วยกิต

อตั ราสว่ นคะแนนระหว่างเรียน : ตอ่ ปลายภาค = 80/20

ชื่อหนว่ ยการ ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา คะแนน
เรียนรู้ (ชั่วโมง) 15
เขยี นกรอบแนวคดิ การวางโครงเร่อื งเปน็ การคิดเบอ้ื งต้นก่อน
1. การวาง ผงั ความคิด โครง เขยี นช่วยให้การเขยี นเปน็ ระบบ 9
โครงเรื่อง เร่ือง
เขียนขยายโครงเรื่อง การเขียนขยายโครงเร่ืองเป็นการนำโครง 11 15
2. การขยาย ได้ เรอ่ื งมาขยายความใหม้ ีรายละเอียด

โครงเร่อื ง

3. การเขียน การเขยี นอธบิ าย การเขยี นอธบิ ายเป็นการเขียนบอกขน้ั ตอน 11 10
อธบิ าย ให้ชดั เจน 15 10

4. การเขียน การเขียนบรรยาย การเขยี นบรรยายเปน็ การเขียนใหเ้ ขา้ ใจ
บรรยาย เหตกุ ารณ์อย่างคร่าวๆ

5. การเขยี น การเขยี นพรรณนา การเขยี นพรรณนาเปน็ การเขียน 14 10
พรรณนา รายละเอยี ดทำให้มองเหน็ ภาพหรือเกดิ
จนิ ตนาการ 20
20
สอบกลางภาคเรยี น 100

สอบปลายภาคเรยี น
รวม

193

โครงสร้างรายวชิ าเพิ่มเติม

รหัสวิชา ท 32207 ชอ่ื วิชา ภาษาวาทศลิ ป์ กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย

ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 2 เวลา 40 ช่วั โมง จำนวน 1 หนว่ ยกิต

อัตราส่วนคะแนนระหว่างเรียน : ตอ่ ปลายภาค = 70 : 30

ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา คะแนน
(ชั่วโมง) 10
ความหมายและ บอกความหมาย -ความหมายและความสำคัญ
4 10
ความสำคญั และความสำคญั ของ ของการพูด
6 10
ของการพูด การพูดได้ -วธิ กี ารพูดให้สัมฤทธิผล
4
-บทบาทการพูดใน

ชีวิตประจำวัน

รูปแบบของการพูด อธบิ ายรูปแบบและ -การพูดสนทนา

ความแตกตา่ งของ -การพดู แนะนำ

การพดู ประเภท -การสัมภาษณ์

ตา่ งๆได้ -การพูดในโอกาสต่างๆ

-การพดู อภิปราย

การเรยี บเรียงคำพูด เรยี บเรยี งคำพูดและ -การใช้สายตาในการพดู

ถ้อยคำสำนวนจาก -การใชน้ ้ำเสยี ง

การพูดแบบตา่ งๆ -การใชก้ รยิ าทา่ ทาง

ไดอ้ ยา่ งสละสลวย -การเรยี บเรยี งถ้อยคำสำนวน

และถูกต้องตาม ภาษา

ประเดน็

การพูด พดู ต่อท่ปี ระชมุ ชน -การพดู แนะนำตนเอง 10 40
ตอ่ ทปี่ ระชุมชน ไดท้ ง้ั ในกลมุ่ เลก็ -การเล่านิทาน
และกล่มุ ใหญเ่ พื่อ -การเลา่ เรื่องตืน่ เต้น
แสดงความรู้ -การพดู แบบเตรยี มตวั
-การพูดแบบฉับพลัน

194

ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ ผลการเรยี นรู้ สาระสำคัญ เวลา คะแนน
(ชวั่ โมง)
ความคดิ และ -การอภปิ ราย 10
4
ขอ้ เสนอแนะต่างๆตาม -การเป็นมัคคุเทศก์ 10
6 10
หวั ข้อทเ่ี ลอื กเอง หรอื 6
20
ตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย คน 30
50
ละ 3-5 นาที

หลกั ในการสัมภาษณ์ บอกหลักเกณฑก์ าร -วิธกี ารสัมภาษณ์

สมั ภาษณแ์ ละการให้ -มารยาทในการสมั ภาษณ์

สมั ภาษณ์ -การตั้งคำถามเพ่อื การ

สมั ภาษณ์

การสัมภาษณบ์ ุคคล สมั ภาษณ์บุคคลเพื่อใหไ้ ด้ -การเขยี นรายงานการ

ขอ้ มูลต่างๆ สัมภาษณ์บคุ คล

การอา่ นบทร้อยแก้ว อา่ นบทร้อยแกว้ ร้อย -วธิ ีการอ่านออกเสียง

รอ้ ยกรองในลกั ษณะ กรองในลักษณะของการ -ลกั ษณะการพดู อย่าง

ของการพดู พดู ได้อยา่ งถูกต้องและนา่ ไพเราะ

ฟงั -การวางมือ การจบั

หนังสือ

-บคุ ลกิ ภาพการใช้สายตา

สอบกลางภาคเรียน

สอบปลายภาคเรยี น

รวม

195

โครงสร้างรายวชิ าเพิม่ เติม

รหัสวชิ า ท 32208 ช่ือวิชา การอา่ นและพจิ ารณาวรรณกรรม กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาไทย

ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

อตั ราสว่ นคะแนนระหว่างเรียน : ต่อปลายภาค = 80/20

ชอ่ื หนว่ ย ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา คะแนน
การเรยี นรู้ (ชวั่ โมง)

1. ขอ้ เทจ็ จริง 1. พจิ ารณา วรรณกรรมมกี ลวธิ ี การใชภ้ าษา 10 5
และข้อคดิ เห็น แยกข้อเท็จจรงิ วตั ถปุ ระสงค์ทแ่ี ตกต่างกัน ผู้อ่านจึง

ของสารที่อ่าน และข้อคิดเห็น ควรพิจารณาแยกข้อเทจ็ จรงิ และ 10
ของสารท่ีอ่าน ข้อคิดเหน็ ของสารที่อ่านได้
ได้

2. 1. วิเคราะห์ วรรณกรรมมีองคป์ ระกอบหลายส่วนที่ 10 5
องคป์ ระกอบ องคป์ ระกอบ มคี วามสัมพนั ธ์กนั อย่างมีเหตุผล 10
ของวรรณกรรม ของวรรณกรรม การวเิ คราะห์องค์ประกอบของ

ได้ วรรณกรรมจะสง่ เสรมิ ให้ผอู้ า่ นเขา้ ใจ
ลกั ษณะวิธีการแตง่ วรรณกรรม และมี
อรรถรสในการอ่านมากขน้ึ

3. สาระสำคัญ 1. อธบิ าย การอ่านท่ีมปี ระสทิ ธิภาพผูอ้ า่ นควร 10 5
10 5
ของวรรณกรรม สาระสำคญั ของ วิเคราะหไ์ ดว้ า่ ส่วนใดเปน็ ส่วนหลัก 5
15
วรรณกรรมได้ และส่วนขยาย เพ่ือสามารถสรุป

สาระสำคัญของวรรณกรรมท่ีอา่ นได้

อย่างถูกต้องบริบรู ณ์ และอธิบาย

สาระสำคัญไดช้ ัดเจน

4. การ 1. วิเคราะห์ การวจิ ารณว์ รรณกรรมต้องอาศยั การ

วเิ คราะหแ์ ละ และแสดงความ อา่ นอยา่ งละเอยี ด ความสามารถใน

วจิ ารณ์ คิดเหน็ เชงิ การวเิ คราะห์องค์ประกอบของ

วรรณกรรม วิจารณ์ วรรณกรรม และการตคี วามเนอื้ หา

วรรณกรรมท่ี เพือ่ นำไปสกู ารแสดงความคิดเห็นเชิง

อ่านได้ วจิ ารณ์อย่างมเี หตุผล

สอบกลางภาคเรยี น 20
สอบปลายภาคเรยี น 20
100
รวม

196

โครงสร้างรายวชิ าเพมิ่ เติม

รหสั วิชา ท32217 ช่ือวชิ า ลิขิตวรรณสาร กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 40 ชั่วโมง จำนวน 1 หนว่ ยกติ

อัตราส่วนคะแนนระหว่างเรียน : ต่อปลายภาค 70 : 30

ชื่อหน่วย ผลการเรียนรูท้ ่คี าดหวงั สาระสำคัญ เวลา คะแนน
การเรยี นรู้ ช่ัวโมง
10
เรยี นร้หู ลักการ บอกความหมายและ - ความหมาย 4

เขียน จดุ หมายใน ของการเขียน 6

การเขยี นได้ถูกต้อง - จุดหมายและความสำคัญใน 2

การเขยี น 3

- บทบาทการเขยี นในชีวิต

ประจำวนั

หลากหลายงาน อธิบายความแตกตา่ ง ความแตกตา่ งของการเขยี นใน

เขียน ของงานเขยี นประเภท รูปแบบตา่ งๆ เชน่ การเขยี น

ตา่ งๆได้ โฆษณา การเขียนแนะนำ เขยี น

แสดงความรู้สึก การวิเคราะห์และ

ประเมินคุณคา่ การเขียน

องคป์ ระกอบของ อธิบายองค์ประกอบ องค์ประกอบการเขียนประเภท

การเขยี น ของการเขยี นประเภท ตา่ ง ๆใหม้ คี ุณภาพคือ

ประเภทต่างๆ ต่างๆได้ - เร่ืองทเี่ ขียนต้องเปน็ จริง

- มศี ลิ ปะในการเล่าเรอ่ื ง ฯลฯ

อภิปรายถึงคุณลกั ษณะ คุณลกั ษณะทด่ี ขี องการเขยี นจะ

หลกั การเขยี นท่ดี ี ทีด่ ขี องการเขยี น พิจารณาจากความเปน็

ประเภทต่าง ๆ ได้ - เอกภาพ

- สมั พันธภาพ

- สารัตถภาพ

ช่ือหนว่ ย ผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวัง สาระสำคัญ เวลา 197
การเรียนรู้ ชัว่ โมง
เลือกใช้โวหารในการ โวหารทน่ี ำมาเขยี นสารคดสี ามารถ คะแนน
โวหารการเขยี น เขยี นประเภทต่าง ๆได้ เลอื กใช้โวหารต่อไปนค้ี ือ 6
อย่างเหมาะสม - บรรยายโวหาร 10
- อธิบายโวหาร 6
- พรรณนาโวหาร 30
- อภิปรายโวหาร 13
20
โครงสร้าง จดั วางโครงเรอื่ งในการ - โครงสรา้ งของการเขยี นแต่ละ 30
การเขียนแตล่ ะ 100
เขียนได้อย่างมี ประเภทประกอบดว้ ยส่วนตา่ งๆคือ
ประเภท
หลกั เกณฑ์ บทนำหรอื ความนำ
สร้างสรรค์สาระ
การเขยี น บทเนอ้ื เร่ือง

บทสรปุ

- กลวิธีในการเขยี นประเภทต่าง ๆ

- การเขียนบรรยาย

- การเขยี นพรรณนา

เขียนสรา้ งสรรค์ได้ รูปแบบหรอื รูปเล่มของสารคดี

ถกู ต้องตามรูปแบบของ ประกอบดว้ ย

งานเขยี นแต่ละประเภท - ส่วนหน้าหนงั สอื

- ส่วนเน้อื หา

- ส่วนทา้ ยของหนังสอื

สอบกลางภาค

สอบปลายภาค

รวม

198

โครงสรา้ งรายวชิ าเพม่ิ เติม

รหสั วชิ า ท32217 ชื่อวิชา รงั สรรค์ประพันธ์สาร กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย

ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 40 ช่ัวโมง จำนวน 1 หน่วยกิต

อตั ราสว่ นคะแนนระหวา่ งเรยี น : ตอ่ ปลายภาค 70 : 30

ชอ่ื หน่วย ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั สาระสำคัญ เวลา คะแนน
การเรียนรู้ ช่วั โมง

เรียนรู้ลกั ษณะคำ อธิบายความหมายของ - ความหมาย 4 10

ประพันธ์ การประพันธ์แต่ละ ของการประพนั ธ์

ประเภทได้ - คณุ คา่ และความสำคัญของบท

ประพนั ธ์

คำประพันธ์ บอกความหมาย ความแตกต่างของคำประพันธ์ใน 4 8
2 8
ประเภทรอ้ ยแกว้ ประเภทตา่ งๆของรอ้ ย รูปแบบตา่ งๆ เช่น โคลง ฉันท์ 4 8
6 8
แก้ว และอ่านออกเสยี ง กาพย์ กลอน รา่ ย 4 10
4 11
ได้ 3 9

คำประพันธ์ บอกความหมายและ ความหมายและประเภทต่างๆของ
ประเภทรอ้ ย ประเภทตา่ งๆของร้อย ร้อยกรองตามรปู แบบ
กรองได้
กรอง
โคลง บอกความหมายของ ความหมายของโคลง ฉนั ทลักษณ์
โคลง ฉันทลักษณ์ของ ของโคลงชนดิ ตา่ งๆและอา่ นออก
ฉนั ท์ โคลงชนิดตา่ งๆและ เสยี ง
อ่านออกเสยี งได้ถกู ต้อง
กาพย์
บอกความหมายของ บอกความหมายของฉันท์ ฉันท
กลอน ฉนั ท์ ฉนั ทลักษณ์ของ ลกั ษณ์ของฉนั ท์ชนดิ ตา่ งๆและอ่าน
ฉนั ทช์ นิดตา่ งๆและอ่าน ออกเสยี ง
รา่ ย ออกเสยี งได้

บอกความหมายของ บอกความหมายของกาพย์ ฉันท
กาพย์ ฉนั ทลักษณ์ของ ลักษณข์ องกาพยช์ นิดตา่ งๆ และ
กาพย์ชนดิ ต่างๆ และ อา่ นออกเสยี ง
อ่านออกเสียงได้

บอกความหมายของ บอกความหมายของกลอน
กลอน ประเภทต่างๆ ประเภทตา่ งๆ และอ่านออกเสยี ง
และอ่านออกเสยี งได้

บอกความหมายของ บอกความหมายของร่าย ฉันท
ร่าย ฉันทลักษณ์ของ ลักษณข์ องร่ายชนดิ ต่างๆ และอ่าน
ร่ายชนิดต่างๆ และอา่ น ออกเสยี งได้
ออกเสียงได้อยา่ ง
ถูกต้อง