แบบทดสอบก่อนเรียนเร่ืองหินอคั นี
2. จำกชุดปฏิกิริยำของโบเวน ในชุดปฏิกิริยำท่ีต่อเน่ืองจะตกผลกได้ แร่
ชนิดใด
ก. แร่โอลิวนี
ข. แร่ไบโอไทต์
ค. แร่แอมฟิ โบล
ง. แร่แพลจโิ อเคลส
3. หินท่ีเกิดจำกกำรแข็งตัวของหินหนืดที่หลอมละลำยอยู่ใต้เปลือก
โลกและลำวำ คือ
ก. หินแปร ข. หินอคั นี
ค. หินช้ัน ง. หินตะกอน
แบบทดสอบก่อนเรียนเร่ืองหินอคั นี
4. ลักษณะทั่วไปของหินอคั นีเป็ นอย่ำงไร
ก. มรี ิ้วขนำน
ข. มวี ตั ถุประสำน
ค. มีร่องรอยของซำกสิ่งมชี ีวติ
ง. มีผลกึ กระจำยอยู่ท่ัวไปในเนื้อหิน
5. ข้อใดไม่ใช่ชนิดของหินอคั นี
ก. หินแกรนิต
ข. หินดินดำน
ค. หินบะซอลล์
ง. หินพมั มิซ
แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องหินอคั นี
6. ข้อใดไม่ใช้ลักษณะของหินอคั นีท่ีมซี ิลกิ ำสูง
ก. มีสีเข้ม
ข. มีนำ้ หนักเบำ
ค. มีควำมถ่วงจำเพำะต่ำ
ง. พบเห็นท่ัวไปบนพืน้ ทวปี
7. กำรแทรกซอนของหินหนืดในลักษณะรูปร่ำงเป็ นแผ่นกระดำนแผ่
กว้ำงออก ระหว่ำงช้ันของโครงสร้ำงหินเดมิ เรียกว่ำอะไร
ก. พนัง (dike)
ข. หินอคั นีรูปเห็ด
ค. หลังคำหินอคั นี
ง. พนังแทรกซ้ัน (sill)
แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องหินอคั นี
8. หินในข้อใดไม่ได้จัดอยู่ในหินอคั นีแทรกซอน
ก. หินแกรนิต
ข. หินพมั มสิ
ค. หินแกบโบร
ง. หินเพริโอไทต์
9. เพรำะเหตุใดหินอัคนีบำงชนิดจึงสำมำรถลอยนำ้ ได้
ก. มีมวลน้อยมำก
ข. มคี วำมหนำแน่นเท่ำกับน้ำ
ค. เนื้อละเอียดไม่ดูดหรืออมนำ้
ง. เนื้อหินมคี วำมพรุนอำกำศเข้ำไปแทรกตัวได้
แบบทดสอบก่อนเรียนเร่ืองหินอคั นี
10. หินแกรนิตมีลกั ษณะตรงกบั ข้อใด
ก. มีเนื้อหินเรียบคล้ำยแก้ว มีสีดำ เมื่อแตกออกรอยแตกจะคม
เหมือนแก้วแตก
ข. มีเนื้อละเอียดและมีเนื้อแน่น ส่วนใหญ่มีรูพรุน ทนทำนต่อกำรสึก
กร่อน
ค. มีเนื้อหินแข็งและสำกเหมือนกระดำษทรำย มีรูพรุน เปรำะ ไม่
แข็ง
ง. มีผลึกขนำดใหญ่ มีควำมแวววำวสวยงำม เนื้อแข็งทนต่อกำร
สึกกร่อน
เฉลย
ถูกต้อง นะคะ
ยนิ ดดี ้วยค่ะ..
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
เฉลย
ผดิ ค่ะ
สู้ๆ นะคะT_T
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
ทำข้อสอบเสร็จแล้วกอ็ ย่ำลืมไปทำ
กจิ กรรมท้ำยบทเรียนด้วยนะค่ะ
……
ค่ะ คุณครู…
กจิ กรรมทา้ ยบท เรื่องหนิ อคั นี
คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถำมต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง
1. ชุดปฏิกริ ิยำของโบเวน เป็ นกำรศึกษำเกี่ยวกับอะไร
2. จำกแผนภำพแสดงชุดปฏิกิริยำของโบเวน ในชุดปฏิกิริยำที่ต่อเน่ือง
เป็ นกำรตกผลึกของแร่ก่ชี นิด อะไรบ้ำง
3. หินอคั นีชนิดใดบ้ำงที่อยู่ในกลุ่มหินอคั นีแทรกซอนร่วมแนว
4. ลกั ษณะเด่นของพนัง คืออะไร
5. ปริมำณซิลิกำในหินมีผลต่อหินอัคนีหรือไม่ อย่ำงไร
ทำลงในสมุดส่ งคุณครู
ด้วยนะครับ เพ่ือนๆ…
แบหบินทดตสะอกบอกน่อนเรียนเร่ืองหินตะกอน
คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้อง นักเรียน ใช้เมำส์คลิกไปยัง
ท่ีสุด คำตอบท่ีคดิ ว่ำถูกที่สุด แล้วรอ
1. หินท่ีเกดิ จำกกำรสะสมตวั ของตะกอนที่
ดูเฉลยได้เลยค่ะ
ถูกพดั พำมำด้วย น้ำ และลม และเกิดกำร
แข็งตัว คือ
ก. หินช้ัน
ข. หินอัคนี
ค. หินตะกอน
ง. ข้อ ก และ ค ถูก
แบหบินทดตสะอกบอกน่อนเรียนเรื่องหินตะกอน
2. ข้อใดไม่ใช้กฎในกำรศึกษำหิน 4. หินชนิดใดต่อไปนี้ท่ีจัดว่ำเป็ นหิน
ตะกอน เนื้อผสม
ก. กฎกำรลำดับช้ัน ก. หินดินดำน
ข. หลกั กำรร่วมกลุ่ม ข. หินปูน
ค. หลกั กำรแนวรำบเดิม ค. หินเกลือ
ง. หลกั ควำมเป็ นเอกภำพ ง. หินโดโลไมต์
3. ข้อใดต่อไปนี้ เป็ นหินตะกอนท่ีเกดิ
จำกำรสะสมตัวทำงกำยภำพท้ังหมด
ก. หินดินดำน หินปูน หินทรำย
ข. หินปูน หินโดโลไมต์ เกลือหิน
ค. หินดินดำน หินทรำย หินกรวดมน
ง. หินทรำย หินทรำยแป้ง หินปูน
แบหบินทดตสะอกบอกน่อนเรียนเร่ืองหินตะกอน
5. หินตะกอนส่วนใหญ่เกิดในน้ำหรือ 7. หินชนิดใดท่ีนำมำใช้เป็ นเชื้อเพลิง ใน
ทะเล แต่มีหินตะกอนท่ีเกิดบนบกคือ กำรผลติ กระแสไฟฟ้ำ
หินชนิดใด ก. หินอัคนี
ก. ศิลำแลง ข. ถ่ำนหิน
ข. หินทรำย ค. หินแกรนิต
ค. หินปูน ง. หินอ่อน
ง. หินดนิ ดำน
6. สิ่งใดท่ียึดหินตะกอนไว้ด้วยกัน
ก. ทรำยแป้ง
ข. ฟอสซิล
ค. น้ำในรูท่ีเป็ นช่องว่ำง
ง. วตั ถุประสำน
แบหบินทดตสะอกบอกน่อนเรียนเร่ืองหินตะกอน
8. กำรตกตะกอนของดินเหนียวจะ 10. หินตะกอนชนิดใดที่อำจเกดิ มำจำก
แข็งตัวกลำยเป็ น
ก. หินปูน กำรทับถมของซำกพืชซำกสัตว์
ข. หินทรำย
ค. หินดินดำน ก. หินปูน
ง. หินกรวด
ข. หินดนิ ดำน
9. หินท่ีเปรำะเบำ มรี ูพรุน ลอยนำ้ ได้ ไม่
ทนทำนต่อกำรกร่อน จงึ ไม่เหมำะท่ีจะใช้ ค. หินทรำย นักเรียนทำข้อสอบ
ในงำนก่อสร้ำงคือหินชนิดใด ง. หินแกรนิต ก่อนเรียนได้ไม่ค่ะ ??
ก. หินปูน
ข. หินไนส์
ค. หินสครอเรีย
ง. หินออบซิเดยี น
เฉลย
ถูกต้อง นะคะ
ยนิ ดดี ้วยค่ะ..
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
เฉลย
ผดิ ค่ะ
สู้ๆ นะคะT_T
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
หินตะกอน
หินตะกอน 1. กฎในกำรศึกษำหิน
ตะกอน
2. กำเนิดหินตะกอน
3. เนื้อหินตะกอน
4. กำรจำแนกหินตะกอน
หินตะกอน
หินตะกอน (Sedimentary Rock) ต้งั ใจเรียน
นะคะ หนูๆ
หินท่ีโผล่อยู่บนพื้นผิวโลกจะเกิดกำรผุพังอยู่กับ
ท่ี กลำยเป็ นเศษหินชิ้นเล็กชิ้นน้อยหรือ ตะกอนหรืออำจจะ
ละลำยไปในสำรละลำยถัดมำมีตัวกลำงน้ำธำรน้ำเข็งและ
ลม พัดพำไปจำกท่ีเดิม ลงสู่ แอ่งน้ำ ทะเลหรือมหำสมุทร
แล้วสะสมตัวอยู่ที่น้ัน ระหว่ำงท่ีสะสมตัวอำจมีส่ิงมีชีวิตที่
ตำยแล้วถูกทับ ถมอยู่ด้วย เม่ือกำลเวลำผ่ำนไปนำนเข้ำ ช้ัน
ของเศษหินหรือตะกอนท่ีสะสมทับถมกันมำก ๆ เข้ำก็จะ
แข็ง ตัวกลำยเป็ น หินตะกอน หรือ หินช้ัน (sedimentary
rocks)
หินตะกอน
1. กฎในกำรศึกษำหินตะกอน
หลักในกำรศึกษำเกี่ยวกับหินตะกอนที่สำคัญๆ เพ่ือให้เข้ำใจถึงกำรกำเนิด
ของหิน ตะกอนและควำมเป็ นมำของช้ันหิน ได้แก่
1) หลักควำมเป็ นเอกภำพ (principle of uniformitarianism) กฎนี้ James
Hutton (1795) เป็ นผู้เขียนไว้ว่ำ “ปัจจุบันคือกุญแจไขไปสู่อดีต” (The present is the
key to the past) เป็ นหลกั กำรท่ีเชื่อถือกันมำกในทำงธรณีวิทยำ มีควำมหมำยว่ำ กำร
เกิดเหตุกำรณ์ต่ำง ๆ ในทำงธรณีวทิ ยำ ซึ่งต้องใช้เวลำอัน ยำวนำนในอดีตน้ัน สำมำรถ
จะอธิบำยได้จำกกระบวนกำรต่ำง ๆท่ีเกิดขึ้นในปัจจุบัน นั่นคือ เหตุกำรณ์ปัจจุบัน
สะท้อนถงึ ควำมลีล้ ับและซับซ้อนท่ีเกดิ ขึน้ ในอดตี กำลได้
หินตะกอน
1. กฎในกำรศึกษำหินตะกอน
2) หลักกำรแนวรำบเดิม (original horizontally) มีว่ำ “ช้ันของหิน
ตะกอนจะสะสมตัวอยู่ ในแนวรำบ” หำกพบช้ันท่ีเอียงเท ก็แสดงว่ำเกิดจำกกำร
เคลื่อนไหวของเปลือกโลกซ่ึงเกิดขนึ้ ภำยหลังท่ีมี กำรสะสมตัวแล้ว
3) กฎกำรลำดับช้ัน (law of superposition) กฎนี้ Nicholas Steno (1669)
เป็ นผู้ให้ไว้ว่ำ ในช้ันหินตะกอนท่ีไม่เคยได้รับแรงมำกระทำให้คดโค้งหรือเอียงไป
ช้ันหินที่วำงตัวอยู่ข้ำงบนสุดจะเป็ น ช้ันหินที่เกิดขึ้นหลังสุด (อำยุอ่อนท่ีสุด) และ
ช้ันหินที่อยู่ล่ำงสุดจะเป็ นช้ันหินเกดิ แรกสุด (อำยุแก่ที่สุด)
หินตะกอน ต่อไปเรำไปดูกำรกำเนิด
หินตะกอนว่ำเกดิ ขนึ้ ได้
2. กำเนิดหินตะกอน
อย่ำงไรบ้ำง…
อ ำ ศั ย ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง หิ น
ตะกอนอำจแบ่งกำรกำเนิดออกได้
เป็ น 3 วิธีด้วยกันคือ กำรสะสม
ทำงกำยภำพหรื อเชิงกล กำร
สะสมตัวทำงเคมีและกำรสะสม
ตวั ทำงชีวภำพ
หินตะกอน 1.ก ำ ร ส ะ ส ม ตั ว ท ำ ง
กำเนิดหินตะกอน กำยภำพ (Detrital origin) เกิดจำก
ก ำ ร ผุ พั ง แ ล ะ ก ำ ร กั ด เ ซ ำ ะ
(weathering and erosion) ของ
หินเดิม ซ่ึงจะเป็ นหินชนิดอะไรก็
ได้ กลำยเป็ นเม็ดกรวด ทรำย หรือ
ดิน แล้วโดนพัดพำมำทับถมกัน
เมื่อแขง็ ตัวจะได้หิน อำทิ หินทรำย
(sandstone) เป็ นต้น
หินตะกอน
กำเนิดหินตะกอน 2. กำรสะสมตัว
ท ำ ง เ ค มี (Chemical
origin) เกิดจำกตกตะกอน
(precipitation) ในแหล่ง
น้ำธรรมชำติ โดยกรรมวิธี
ท ำ ง เ ค มี เ ช่ น หิ น ปู น
(limestone) เป็ นต้น
หินตะกอน 3. กำรสะสมตัวทำง
กำเนิดหินตะกอน ชีวภำพ (Biochemical origin)
เกิดจำกกำรทับถมของซำกพืช
แ ล ะ สั ต ว์ แ ล้ ว เ กิ ด ก ำ ร
เปล่ียนแปลงจนกลำยเป็ นหิน
เช่ น ถ่ำนหิน หรือมีตะกอน
ชนิดอื่นมำเชื่อมประสำนซำก
เ ห ล่ ำ น้ั น จ น เ ป็ น หิ น เ ช่ น
โคควนิ ยำ (coquina)
หินตะกอน
นักเรียนสำมำรถไปดูกำร
กำเนิดหินตะกอนเพ่ิมเติม
หน้ำ 31-32 ได้นะคะ
หินตะกอน
3. เนื้อหินตะกอน
หินตะกอน หมำยถึง ขนำด
กำรคดั ขนำด รูปร่ำง และกำรเรียงตัวของ
เม็ดแร่ หรื อเศษหินในตะกอน แบ่ ง
ออกเป็ น 2 พวก คือ เนื้อเศษหิน ซ่ึงเกิด
มำจำกกระบวนกำรทำงกำยภำพ และเนื้อ
ผลกึ ที่เกิดขนึ้ จำก กระบวนกำรทำงเคมี
หินตะกอน
3. เนื้อหินตะกอน
1. เนื้อเม็ดหรือเศษหิน (Clastic texture)
คือ เนื้อท่ีประกอบด้วยเศษหิน และเม็ดแร่ ซ่ึงแตก หรือผุพงั มำจำกหิน
เดิม หินที่มีเนื้อชนิดนี้ เรำเรียกชื่อ โดยอำศัยขนำดของเม็ดแร่ (grain size) เป็ นหลัก
เรำแบ่งขนำดตะกอนตำม Wentworths Scale ได้ดังนี้
หินตะกอน
3. เนื้อหินตะกอน
2. เนื้อผลึก (Nonclastic texture or
crystalline texture)
คือ เนื้อที่มีลักษณะเป็ นผลึกขนำด
เล็กยดึ เกี่ยวกัน ผลึกท่ีขนำดไล่เลี่ยกันทำให้เนื้อ
แน่นมำก ลักษณะกำรยึดเกี่ยวของผลึกคล้ำย
กับในหินอัคนี แต่ส่ วนมำกจะมีแร่เด่นเพียง
ชนิดเดียว หินท่ีมีเนื้อชนิดนี้เกิดจำกกำร
ตกตะกอนทำงเคมีในนำ้
หินตะกอน
4. กำรจำแนกหินตะกอน
หินตะกอนจำแนกโดยทั่วไปได้ 2
แบบคือ หินตะกอนเนื้อประสม (clastic
sedimentary rocks) และหินตะกอนเคมี
(chemical sedimentary rocks) โดย
จำแนกตำมแหล่งวสั ดุก่อกำเนิด
หินตะกอน
4. กำรจำแนกหินตะกอน
1. หินตะกอนเนื้อประสม (clastic sedimentary rock)
หมำยถึง หินตะกอนท่ีประกอบด้วยเศษหินที่มำจำกกำรสลำยตัว
หรือแตกสลำยของหินอัคนี หินตะกอน หินแปร และซำกส่ิงมีชีวิต
เน่ืองจำกตะกอนที่เกิดเป็ นหินชนิดนีถ้ ูกพัดมำด้วยเชิงกลของน้ำ
ลม ธำรน้ำแข็ง จึงเป็ นกำรคัดขนำดโดยทำงธรรมชำติ ดังน้ันหินตะกอน
เนื้อประสมจึงประกอบด้วยเศษหินหลำกหลำยชนิด และมีขนำดแตกต่ ำง
กนั จึงใช้เป็ นบรรทัดฐำนในกำรจำแนก
หินตะกอน
4. กำรจำแนกหินตะกอน
หินตะกอนเนื้อประสม (clastic sedimentary rock)
- หินกรวดมน (Conglomerate)
ประกอบด้วยกรวดมนหลำยขนำดท่ีผสมกับทรำยและยึดประสำนกัน
ด้วยซีเมนต์ธรรมชำติ เมืองไทยพบไม่มำกนักอำจมีบ้ำงเช่นท่ีจังหวัดกำญจนบุรี
ระยอง และลพบุรี
หินตะกอน
4. กำรจำแนกหินตะกอน
หินตะกอนเนื้อประสม (clastic sedimentary rock)
- หินกรวดเหลยี่ ม (Breccia)
ประกอบด้ วยกรวดเหล่ียมหลำยขนำดท่ีผสมกับทรำยและยึด
ประสำนกนั ด้วยซีเมนต์ธรรมชำติ
หินตะกอน
4. กำรจำแนกหินตะกอน
หินตะกอนเนื้อประสม (clastic sedimentary rock)
- หินทรำย (Sandstone)
องค์ประกอบหลักเป็ นเม็ดทรำยที่ประสำนติดกัน จงึ มเี นื้อหินแบบเม็ด เป็ น
หินตะกอนท่ีแพร่ หลำยเป็ นอันดับสอง นอกจำกแร่ ควอตซ์ แล้วหินทรำยอำ จ
ประกอบด้วยแร่แคลไซต์ ยิปซัมหรือสำรประกอบเหล็กต่ำงๆ ท่ีมีขนำดเม็ดทรำย
เมืองไทยพบแทบทุกจังหวดั ในภำคอสี ำน
หินตะกอน
4. กำรจำแนกหินตะกอน
หินตะกอนเนื้อประสม (clastic sedimentary rock)
- หินดนิ ดำน (Shale)
เป็ นหินที่แพร่หลำยมำกที่สุด เกิดมำจำกทรำยแป้งและดินเหนียวที่แข็งตัว
เป็ นหิน เม็ดละเอียด ช้ันบำง และแซะออกได้ง่ำยตำมระนำบช้ันหิน หินดินดำนเนื้อ
ถ่ำน สีดำและมสี ำรอินทรีย์สูง อำจให้ปิ โตรเลียมหรือ
หินตะกอน
4. กำรจำแนกหินตะกอน
หินตะกอนเคมี (chemical หรือ nonclastic sedimentary rock)
หมำยถึงหินท่ีเกิดจำกกำรตกผลึกหรือตกตะกอนจำกสำรละลำยที่
พดั พำมำโดยนำ้ หรือตะกอนทับถมโดยร่วมกับซำกพืชหรือสัตว์แบ่งออกเป็ น
2 กลุ่ม คือ
1. หินตะกอนเคมอี นินทรีย์
2. หินตะกอนชีวเคมหี รืออนิ ทรีย์
หินตะกอน
4. กำรจำแนกหินตะกอน
หินตะกอนเคมีอนินทรีย์
- หินปูน (Limestone)
ประกอบด้วยแร่เบื้องต้นเดียว คือ แคลไซต์ หินปูนซึ่งก่อตัวเป็ นหินงอก
(stalagmite) หินย้อย (stalactite) ภำยในถ้ำ เป็ นเนื้อผลึก เรียกว่ำ ครำบหินปูน
(travertine) ส่วนที่มีรูพรุนแบบฟองน้ำ อยู่บริเวณน้ำพุ ทะเลสำบ หรือจำกกำรซึม
ผ่ำนของนำ้ บำดำล เรียกว่ำ ครำบหินพรุน (tufa)
หินตะกอน
4. กำรจำแนกหินตะกอน
หินตะกอนเคมีอนินทรีย์
- หินโดโลไมต์ (Dolomite)
คือ หินปูนแมกนีเซียม เกิดขึ้นเม่ือแคลเซียมในหินปูนถูกแทนท่ีด้วย
แมกนีเซียม มผี ิวแตกลำยหนังช้ำง และเกดิ เป็ นสะเกด็ แหลม
หินตะกอน
4. กำรจำแนกหินตะกอน
หินตะกอนเคมอี นินทรีย์
- หินเกลือ (Rock Salt)
เกิดขึ้นจำกแร่ที่ตกตะกอนจำกกำรระเหยของน้ำทะเล ประกอบด้วยแร่
เกลือหิน (halite) โดยปกติมีเนื้อเนียน มสี ีขำวใส หรือไม่มีสี แต่อำจมีสีต่ำงๆ ได้ เช่น
สีส้ม เหลือง แดง เนื่องจำกมีมลทินของสำรจำพวกเหล็ก พบมำกในจังหวัดต่ำงๆ
ทำงภำคอสี ำน
หินตะกอน
4. กำรจำแนกหินตะกอน
หินตะกอนชีวเคมหี รืออินทรีย์
- หินปูน (Limestone)
เกิดขนึ้ จำกกำรทับถมของเปลือกหอย ปะกำรัง และสำหร่ำย
หินตะกอน
4. กำรจำแนกหินตะกอน
หินตะกอนชีวเคมีหรืออินทรีย์
- ถ่ำนหิน (Coal)
ประกอบด้วยส่วนต่ำงๆ ของพืชท่ีอัดกันแน่นจนกลำยเป็ นสภำพหิน สี
ดำ มันวำว ทึบแสง และไม่เป็ นผลึก
แบหบทินดตสะอกบอหนลงั เรียนเร่ืองหินตะกอน
คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้อง นักเรียน ใช้เมำส์คลิกไปยัง
ที่สุด คำตอบท่ีคดิ ว่ำถูกที่สุด แล้วรอ
1. หินที่เกิดจำกกำรสะสมตัวของตะกอนท่ี
ดูเฉลยได้เลยค่ะ
ถูกพดั พำมำด้วย นำ้ และลม และเกิดกำร
แขง็ ตัว คือ
ก. หินช้ัน
ข. หินอคั นี
ค. หินตะกอน
ง. ข้อ ก และ ค ถูก
แบหบทินดตสะอกบอหนลงั เรียนเร่ืองหินตะกอน
2. ข้อใดไม่ใช้กฎในกำรศึกษำหิน 4. หินชนิดใดต่อไปนี้ท่ีจัดว่ำเป็ นหิน
ตะกอน เนื้อผสม
ก. กฎกำรลำดบั ช้ัน ก. หินดินดำน
ข. หลกั กำรร่วมกลุ่ม ข. หินปูน
ค. หลกั กำรแนวรำบเดมิ ค. หินเกลือ
ง. หลกั ควำมเป็ นเอกภำพ ง. หินโดโลไมต์
3. ข้อใดต่อไปนี้ เป็ นหินตะกอนท่ีเกดิ
จำกำรสะสมตัวทำงกำยภำพท้ังหมด
ก. หินดินดำน หินปูน หินทรำย
ข. หินปูน หินโดโลไมต์ เกลือหิน
ค. หินดินดำน หินทรำย หินกรวดมน
ง. หินทรำย หินทรำยแป้ง หินปูน
แบหบทินดตสะอกบอหนลงั เรียนเร่ืองหินตะกอน
5. หินตะกอนส่วนใหญ่เกิดในน้ำหรือ 7. หินชนิดใดท่ีนำมำใช้เป็ นเชื้อเพลิง ใน
ทะเล แต่มีหินตะกอนที่เกิดบนบกคือ กำรผลติ กระแสไฟฟ้ำ
หินชนิดใด ก. หินอัคนี
ก. ศิลำแลง ข. ถ่ำนหิน
ข. หินทรำย ค. หินแกรนิต
ค. หินปูน ง. หินอ่อน
ง. หินดนิ ดำน
6. สิ่งใดท่ียึดหินตะกอนไว้ด้วยกัน
ก. ทรำยแป้ง
ข. ฟอสซิล
ค. น้ำในรูท่ีเป็ นช่องว่ำง
ง. วตั ถุประสำน
แบหบินทตดะสกอบอนหลงั เรียนเรื่องหินตะกอน
8. กำรตกตะกอนของดนิ เหนียวจะ 10. หินตะกอนชนิดใดที่อำจเกดิ มำจำก
แข็งตัวกลำยเป็ น
ก. หินปูน กำรทับถมของซำกพืชซำกสัตว์
ข. หินทรำย
ค. หินดินดำน ก. หินปูน
ง. หินกรวด
ข. หินดนิ ดำน
9. หินท่ีเปรำะเบำ มีรูพรุน ลอยนำ้ ได้ ไม่
ทนทำนต่อกำรกร่อน จึงไม่เหมำะท่ีจะใช้ ค. หินทรำย นักเรียนทำข้อสอบ
ในงำนก่อสร้ำงคือหินชนิดใด ง. หินแกรนิต ก่อนเรียนได้ไม่ค่ะ ??
ก. หินปูน
ข. หินไนส์
ค. หินสครอเรีย
ง. หินออบซิเดียน
เฉลย
ถูกต้อง นะคะ
ยนิ ดดี ้วยค่ะ..
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
เฉลย
ผดิ ค่ะ
สู้ๆ นะคะT_T
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
หกินิจตกระรกมอทนา้ ยบท เรือ่ งหนิ ตะกอน ทำลงในสมุดส่ งคุณครู
ด้วยนะค่ะ หนูๆ…
คำชี้แจง : ให้นักเรียนตอบคำถำมต่อไปนี้
ให้ถูกต้อง
1. หินตะกอน เกิดจำกอะไร
2. ลักษณะเด่ นของหินตะกอนคือ
อะไร
3. ห ลั ก ส ำ คั ญ ท่ี ผู้ ที่ จ ะ ศึ ก ษ ำ หิ น
ตะกอนควรทรำบมอี ะไรบ้ำง
4. นักเรียนคิดว่ำหินตะกอนท่ีเรำพบ
สำมำรถบอกอะไรแก่เรำบ้ำง
แหบบินทตดะสกออบนก่อนเรียนเรื่องหินแปร
คำชี้แจง : ให้นักเรียนเลือกคำตอบท่ีถูกต้อง นักเรียน ใช้เมำส์คลิกไปยัง
ที่สุด คำตอบที่คิดว่ำถูกท่ีสุด แล้วรอ
1. กำรเกดิ หินแปรบริเวณไพศำล ส่วนใหญ่
ดูเฉลยได้เลยค่ะ
เกดิ ขนึ้ บริเวณใด
ก. เกดิ ในบริเวณที่มีหินหนืดแทรกตัวไปตำม
รอยแตกของหินท้องถิ่น
ข. เกิดบริเวณมุดตัวของแผ่นเปลือกโลก
ค. เกิดบริเวณรอยเลื่อนของแผ่นเปลือกโลก
ง. เกิดบริเวณที่น้ำบำดำลได้รับควำมร้อน
จำกหินหนืดใต้ผิวโลก
แหบบินทตดะสกออบนก่อนเรียนเร่ืองหินแปร
2. ข้อใดจบั คู่กำรแปรสภำพไม่ถูกต้อง 3. หินลำยเม็ดหยำบที่เกิดจำกกำรแปร
ก. หินปูน แปรสภำพ เป็ นหินอ่อน สภำพอย่ำงรุ่นแรงมำก มลี กั ษณะแร่
ข. หินแกรนิต แปรสภำพเป็ น หินไนส์ สีอ่อน ” ข้อดงั กล่ำวตรงกับหินชนิดใด
ค. หินทรำย แปรสภำพเป็ น หินชนวน ก. หินชิสต์
ง. หินดินดำน แปรสภำพเป็ น หินชิสต์ ข. หินไนส์
ค. หินชนวน
ง. หินฟิ ลไลต์
แหบบินทตดะสกออบนก่อนเรียนเรื่องหินแปร
4. หินชนิดใดต่อไปนีเ้ ป็ นหินแปรท้ังหมด 5. ข้อใดเป็ นลักษณะของหินอ่อน
ก. หินอ่อน หินปูน หินไนส์ ก. ผลกึ เรียงเป็ นริ้วขนำน
ข. หินชนวน หินดินดำน หินไนส์ ข. แขง็ ทนทำนต่อของมคี ม
ค. หินควอร์ตไซต์ หินไนส์ หินชนวน ค. ผิวหน้ำเป็ นมันวำวเม่ือถูกขัด
ง. หินออบซิเดียน หินสคอเรีย หินอ่อน ง. เนื้อแน่นละเอียด แยกออกได้เป็ น
แผ่น
เฉลย
ถูกต้อง นะคะ
ยนิ ดีด้วยค่ะ..
12345