The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้คำถาม R-C-A เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต(โรงเรียนบ้านเปา)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by juthamassrijai, 2023-06-14 11:30:17

แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้คำถาม R-C-A เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต

แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้คำถาม R-C-A เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต(โรงเรียนบ้านเปา)

แผนการจัดการเรียนรู้ คอมพิวเตอร์ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปีการศึกษา 2565 ภาคเรียนที่ 2 นางสาววันวิสาข์ สาบุญมา ต าแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูช านาญการ (ครูผู้สอน) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านเปา ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถามศึกษาน่าน เขต 1 แผนจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต


1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ สาระที่ 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจ และใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็น ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่าง มีประสิทธิภาพ รู้เท่าทัน และมีจริยธรรม ผลการเรียนรู้ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ใช้สื่อและแหล่งข้อมูลตามข้อกำหนดและข้อตกลง 2. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย ทำได้โดยรักษาข้อมูลส่วนตัว ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว ของผู้อื่น ให้ตระหนักถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตนเองและผู้อื่น การป้องกันการเข้าถึงข้อมูลจากผู้อื่นโดยตั้งค่า ความเป็นส่วนตัวหรือรหัสผ่านที่ผู้อื่นไม่สามารถคาดเดาได้ง่าย แต่ตนเองจะต้องจดจำได้ง่ายด้วย 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนอธิบายความปลอดภัยของระบบสารสนเทศได้ (K) 2. นักเรียนสามารถตั้งรหัสผ่านปกป้องข้อมูลส่วนตัวเพื่อป้องกันภัยคุกคามทางเทคโนโลยีสารสนเทศได้ (P) 3. นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ (A) 4. นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์ตัดสินใจและแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ 4. สาระการเรียนรู้ ภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการป้องกัน วิธีการคุกคาม เช่น การคุกคามโดยใช้ หลักจิตวิทยา การคุกคามด้วยเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และการคุกคามโดยใช้โปรแกรม รูปแบบการป้องกันภัยคุกคาม การตรวจสอบเพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้งานสามารถดำเนินการได้3 รูปแบบ คือ การตรวจสอบจากสิ่งที่ผู้ใช้รู้ ตรวจสอบจากสิ่งที่ผู้ใช้มี และตรวจสอบจากสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของผู้ใช้ ข้อแนะนำในการตั้งและใช้งานรหัสผ่าน แผนจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชา คอมพิวเตอร์2 รหัสวิชา ว 21204 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2/2565 หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย เวลาเรียนทั้งหมด 4 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง ภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยีสนเทศแลการป้องกัน เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาววันวิสาข์ สาบุญมา วันที่สอน...............


5. องค์ประกอบทักษะชีวิต : การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ - เลือกรับข้อมูลข่าวสารอย่างไตร่ตรองและ รู้เท่าทันสังคมที่เปลี่ยนแปลง ตัวชี้วัดที่ 1 เลือกรับข้อมูลข่าวสารอย่างไตร่ตรองและ รู้เท่าทันสังคมที่เปลี่ยนแปลง - ตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เผชิญ อย่างมีเหตุผลและรอบคอบ ตัวชี้วัดที่ 2 ตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เผชิญ อย่างมีเหตุผลและรอบคอบ 6. สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ใฝ่เรียนรู้ 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ 1 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน นักเรียนชมคลิปข่าว “จับแฮกเกอร์ ป.6 แก๊งPhishingตกเหยื่อออนไลน์” https://www.youtube.com/watch?v=JBB0WPl5zR8 ผู้สอนตั้งคำถามกับผู้เรียน “นักเรียนมีความรู้สึก อย่างไรและวิธีการป้องกันอย่างไร ให้ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย” 2) ขั้นสอน โดยใช้กระบวนการสร้างความตระหนัก 1. สังเกต ผู้สอนให้ผู้เรียนเขียนเครื่องหมาย หน้าข้อความที่ถูกต้อง ในหนังสือเรียน ข้อมูลชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์ของนักเรียนเปิดเผยในสื่อสังคมออนไลน์ได้ แชร์รหัสผ่านของอีเมลให้เพื่อนสนิทเพื่อป้องกันการลืมรหัสผ่าน ออกจากระบบเมื่อเลิกใช้งานคอมพิวเตอร์สาธารณะ 2. วิจารณ์ ผู้สอนให้ผู้เรียนศึกษาหัวข้อ 6.1 ภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยี และผู้สอนตั้งคำถามชวนคิดกับผู้เรียน - การหลอกลวงแบบฟิชชิง (phishing) มีลักษณะเป็นอย่างไร และนักเรียนมีวิธีการตรวจสอบ และป้องกันอย่างไร - หากมีเพื่อนแชร์ข้อมูลของนักเรียนในทางเสียหายและไม่เป็นความจริงนักเรียนคิดว่ามี ผลกระทบกับตัวนักเรียนหรือไม่อย่างไร และนักเรียนจะแก้ปัญหานี้อย่างไร - นักเรียนเห็นเพื่อนนำเสนอข้อมูลของผู้อื่นทางเครือข่ายสังคมออนไลน์แล้วนักเรียนแชร์ต่อโดย ไม่ได้ตรวจสอบข้อมูล นักเรียนคิดว่ามีผลกระทบกับตัวนักเรียน เพื่อนของนักเรียน และผู้เสียหายหรือไม่อย่างไร นักเรียนมีวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ณืดังกล่าวอย่างไร


3. สรุป ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเนื้อหาภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยีรูปแบบการคุกคามแบบฟิชชิง เป็น หนึ่งในการหลอกลวงทางโลกออนไลน์ที่พบได้บ่อยที่สุด ฟิชชิงมีหลายรูปแบบ การหลอกลวงประเภทนี้มักจะ เกี่ยวข้องกับการใช้กลอุบายหลอกล่อผู้ใช้งาน และการแอบอ้างเป็นเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ 3) ขั้นสรุป ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันอภิปรายเนื้อหาภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยี - การเรียรรู้การใช้งานไอทีอย่างเหมาะสมและปลอดภัยจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง วิธีการคุกคาม การคุกคามโดยใช้หลักจิตวิทยา การคุกคามด้วยเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม และการคุกคามโดย ใช้โปรแกรม รูปแบบการป้องกันภัยคุกคามสามารพดำเนินการได้ 3 รูปแบบคือ ตรวจสอบจากสิ่งที่ผู้ใช้รู้ ตรวจสอบจากสิ่งที่ผู้ใช้มี และตรวจสอบจากสิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของผู้ใช้ ชั่วโมงที่ 2 1) ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ผู้สอนทบทวนบทเรียนเรื่อง ภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยี 2) ขั้นสอน โดยใช้กระบวนการสร้างความตระหนัก 1. สังเกต ผู้สอนให้ผู้เรียนสังเกตรูปแบบภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยีมีอะไรบ้าง จากคลิปวิดีโอ https://www.youtube.com/watch?v=A0mJC_ArxHk สอบถามผู้เรียนรู้สึกอย่างไรหลังจากที่ได้ดูคลิปวีดีโอ ภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยีแล้ว นักเรียนเคยได้รับข้อมูลที่เป็นภัยคุกคามในรูปแบบใดบ้าง และนักเรียนมี วิธีการจัดการอย่างไร 2. วิจารณ์ ผู้สอนให้ผู้เรียนตั้งรหัสผ่าน ในรูปแบบต่างๆ แล้วให้ใช้เว็บไซต์ที่ใช้ตรวจสอบรหัสผ่าน https://www.security.org/how-secure-is-my-password/ (ผู้สอนให้ข้อแนะนำในการตั้งและใช้งาน รหัสผ่าน) หลังจากนั้นสุ่มผู้เรียนนำเสนอคำตอบ 3. สรุป ผู้สอนให้ผู้เรียนทำใบงานที่ 6.1 ภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยีและการป้องกัน 3) ขั้นสรุป ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันอภิปราย เรื่อง การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการป้องกัน การกำหนดรหัสผ่าน เป็นวิธีการตรวจสอบตัวตนที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากเป็นวิธีที่ง่ายและค่าใช้จ่ายต่ำ ส่งที่ควรคำนึงถึงในการกำหนด รหัสผ่านเป็นสิ่งสำคัญในเรื่องความปลอดภัย และหากนักเรียนได้รับภัยที่เป็นภัยคุกคามทางเทคโนโลยีอีก นักเรียน จะมีวิธีการจัดการอย่างไร


9. สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R-C-A เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต คำถามเพื่อการสะท้อน(R) - หลักจากที่นักเรียนได้เรียนเรื่องภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยีแล้วนั้นนักเรียนรู้สึกอย่างไร คำถามเพื่อการเชื่อมโยง(C) - นักเรียนเคยได้รับข้อมูลที่เป็นภัยคุกคามในรูปแบบใดบ้าง และนักเรียนมีวิธีการจัดการอย่างไร คำถามเพื่อการปรับใช้(A) - หลังจากที่นักเรียนได้เรียนเรื่องภัยคุกคามจาการใช้เทคโนโลยีแล้ว หากนักเรียนได้รับภัยที่เป็น ภัยคุกคามทางเทคโนโลยีอีก นักเรียนจะมีวิธีการจัดการอย่างไร 10. สื่อ และแหล่งเรียนรู้ 1. หนังสือเรียน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) 2. สไลด์สื่อประกอบการสอน 3. ใบงานที่ 6.1 ภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยีและการป้องกัน 4. คลิปข่าวจับแฮกเกอร์ ป.6 แก๊งPhishingตกเหยื่อออนไลน์ https://www.youtube.com/watch?v=JBB0WPl5zR8 5. คลิปภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยี https://www.youtube.com/watch?v=A0mJC_ArxHk 11. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์การวัด 1.นักเรียนอธิบายความปลอดภัยของ ระบบสารสนเทศได้ (K) 1.การตอบคำถามในใบ งาน 1.แบบใบงาน 1.สามารถตอบคำถามในใบ งานได้ถูกต้องตามหลักการ 80 % ขึ้นไป 2.นักเรียนสามารถตั้งรหัสผ่านเพื่อ ป้องกันภัยคุกคามทางเทคโนโลยี สารสนเทศได้ (P) 2.ตรวจผลการตั้ง รหัสผ่าน 2.แบบประเมินผล การตรวจตั้ง รหัสผ่าน 2.สามารถตั้งรหัสผ่านได้ ถูกต้อง 80 % ขึ้นไป 3.นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้(A) 3.สังเกตพฤติกรรมใน การทำแบบฝึกหัด 3.แบบประเมิน พฤติกรรม 3.นักเรียนมีคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ ได้ 85% ขึ้นไป 4.นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์ตัดสินใจ และแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ 4. สังเกตแบบประเมิน ทักษะชีวิต 4.แบบประเมิน ทักษะชีวิต 4.นักเรียนมีทักษะชีวิต ได้ คะแนน 8 - 10 คะแนน ระดับ ดี


12. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาที่พบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะและแนวทาการแก้ปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… (นางสาววันวิสาข์ สาบุญมา) ครูผู้สอน 13. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… (นายพิเชษฐ์ ปัญญาอุด) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเปา


ชื่อ – สกุล ...................................................................................... เลขที่ ................. ชั้น ม. 1............................ ใบงานที่ 6.1 ภัยคุกคามจากการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการป้องกัน คำสั่ง ให้นักเรียนเขียนคำตอบลงในช่องว่างให้ถูกต้อง (ข้อละ 5 คะแนน) 1. วิเคราะห์ และยกตัวอย่างวิธีการที่ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถหลอกลวงเพื่อให้ได้ข้อมูลส่วนตัวของนักเรียนและ บุคคลใกล้ชิด หรือทำลายข้อมูลของนักเรียน พร้อมทั้งระบุวิธีป้องกัน 2. ตั้งรหัสผ่านของตนเองโดยมีความยาว 8-12 ตัวอักษร แล้วทดสอบรหัสผ่านที่ตั้งขึ้น กับเว็บไซต์ที่ให้บริการ ตรวจสอบ หากผลลัพธ์ในการตรวจสอบ ได้ระดับน้อยซึ่งเป็นรหัสผ่านที่ง่ายต่อการคาดเดา ให้นักเรียนเปลี่ยน รหัสผ่านและทดลองใหม่จนกว่ารหัสผ่านของนักเรียนจะได้ระดับปานกลาง – มาก 3. ค้นหาและบอกวิธีการอัปเดตระบบปฏิบัติการในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือที่นักเรียนใช้ .................................................................... .................................................................... .................................................................... .................................................................... .................................................................... ................................ ............................................................ ............................................................ ............................................................ ............................................................ ............................................................ ............................................................ ............ ......................................................................... ......................................................................... ......................................................................... ......................................................................... ......................................................................... ........................................


เกณฑ์การประเมินด้านความรู้ รายการประเมิน ระดับคะแนน 5 4 3 2 1 ใบงานที่ 6.1 ภัย คุกคามจากการใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศ และการป้องกัน ถูกต้อง ชัดเจน ครอบคลุมและมี การเชื่อมโยงให้ เห็นเป็นภาพรวม สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์ ถูกต้อง ชัดเจน ครอบคลุม สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์ ถูกต้อง ชัดเจน สอดคล้องกับ วัตถุประสงค์ แต่ยังไม่ ครอบคลุม ถูกต้อง ชัดเจน แต่ยัง ไม่ครอบคลุม ถูกต้อง ไม่ชัดเจน และยังไม่ ครอบคลุม เกณฑ์การประเมินผลจากการทำใบงาน ใช้เกณฑ์ดังนี้ 5 หมายถึง ดีมาก 4 หมายถึง ดี 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรุง เกณฑ์การประเมินด้านทักษะกระบวนการ รายการประเมิน ระดับคะแนน 5 4 3 2 1 นักเรียนสามารถตั้ง รหัสผ่านเพื่อป้องกัน ภัยคุกคามทาง เทคโนโลยีสารสนเทศ ได้ ถูกต้อง ชัดเจน ครบองค์ประกอบ 100% ถูกต้อง ชัดเจน ครบองค์ประกอบ 90% ถูกต้อง ชัดเจน ครบองค์ประกอบ 80% ถูกต้อง ชัดเจน ครบ องค์ประกอบ50% ไม่ถูกต้อง ไม่ครบ องค์ประกอบ เกณฑ์การประเมินผลจากการทำใบงาน ใช้เกณฑ์ดังนี้ 5 หมายถึง ดีมาก 4 หมายถึง ดี 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรุง


เกณฑ์การประเมินด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รายการประเมิน ระดับคะแนน 5 4 3 2 1 มีความใฝ่เรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจ ใส่และมีความ เพียรพยายามใน การเรียนรู้ มีส่วน ร่วมในการเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมต่าง ๆ ดีมาก ตั้งใจเรียน เอาใจ ใส่และมีความเพียร พยายามในการ เรียนรู้ มีส่วนร่วมใน การเรียนรู้และเข้า ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ดี ตั้งใจเรียน เอาใจ ใส่และมีความเพียร พยายามในการ เรียนรู้ มีส่วนร่วมใน การเรียนรู้และเข้า ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ปานกลาง ตั้งใจเรียน เอาใจ ใส่และมีความ เพียรพยายามใน การเรียนรู้ มีส่วน ร่วมในการเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมต่าง ๆ พอใช้ ไม่ตั้งใจเรียน ไม่มี ส่วนร่วมในการ เรียนรู้หรือไม่ เข้าร่วมกิจกรรม ต่าง ๆ 5 หมายถึง ดีมาก 4 หมายถึง ดี 3 หมายถึง ปานกลาง 2 หมายถึง พอใช้ 1 หมายถึง ปรับปรุง


แบบประเมินทักษะชีวิต ชื่อ......................................................ชั้น....................................เลขที่.................. องค์ประกอบ พฤติกรรม ตัวชี้วัด ระดับการประเมิน 0 1 2 3 4 5 สรุป ระดับ การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และ แก้ปัญหาอย่าง สร้างสรรค์ 1. เลือกรับข้อมูล ข่าวสารอย่างไตร่ตรอง และ รู้เท่าทันสังคมที่ เปลี่ยนแปลง 2.1 วิเคราะห์ประโยชน์และ คุณค่าของข้อมูลข่าวสาร เลือกใช้ข้อมูล ข่าวสารเพื่อ สร้างภูมิความรู้และการ ตัดสินใจเมื่อเผชิญ สถานการณ์รอบตัว 2.ตัดสินใจใน สถานการณ์ต่าง ๆ ที่ เผชิญ อย่างมีเหตุผลและ รอบคอบ 2.2 ตัดสินใจในสถานการณ์ ต่าง ๆ ที่เผชิญด้วยทางเลือก ที่เหมาะสมและไม่เกิดผล กระทบต่อตนเองและผู้อื่น รวม เกณฑ์รายองค์ประกอบ ให้นับคะแนนรายตัวชี้วัดนำมารวมกันแล้วเทียบกับเกณฑ์ดังนี้ 8 - 10 คะแนน ระดับ ดี 5 - 7 คะแนน ระดับ พอใช้ 1 - 4 คะแนน ระดับ ปรับปรุง


ผลการประเมินทักษะชีวิต เลขที่ ชื่อ-สกุล การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ สรุป รวม เกณฑ์รายองค์ประกอบ ให้นับคะแนนรายตัวชี้วัดนำมารวมกันแล้วเทียบกับเกณฑ์ดังนี้ 8 - 10 คะแนน ระดับ ดี 5 - 7 คะแนน ระดับ พอใช้ 1 - 4 คะแนน ระดับ ปรับปรุง เกณฑ์ผลการประเมิน รวมทุกองค์ประกอบ ใช้เกณฑ์ดังนี้ 8 - 10 คะแนน ระดับ ดี 5 - 7 คะแนน ระดับ พอใช้ 1 - 4 คะแนน ระดับ ปรับปรุง


รายงานผลการประเมินทักษะชีวิต ชั้น..............................................โรงเรียน........................................................... เกณฑ์การตัดสินภาพรวมทั้งห้องใช้คะแนนในช่องสรุปรวมกัน หารด้วยจำนวนนักเรียนแล้วเทียบกับเกณฑ์ดังนี้ 8 - 10 คะแนน ระดับ ดี 5 - 7 คะแนน ระดับ พอใช้ 1 - 4 คะแนน ระดับ ปรับปรุง ชื่อ ระดับคุณภาพทักษะชีวิต สรุป 1. การตระหนักรู้ และเห็นคุณค่าใน ตนเองและผู้อื่น 2. การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และ แก้ปัญหาอย่าง สร้างสรรค์ 3. การจัดการกับ อารมณ์และ ความเครียด 4. การสร้าง สัมพันธภาพที่ดี กับผู้อื่น รวม


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปีการศึกษา 2565 ภาคเรียนที่ 2 นางสาวขวัญกมล สีธิ ต าแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูช านาญการพิเศษ (ครูผู้สอน) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านเปา ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถามศึกษาน่าน เขต 1 แผนจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต


มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ - มาตรฐานการเรียนรู้ สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจหน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิตความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวิตที่ท างานสัมพันธ์กัน มีกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้ และน าความรู้ไปใช้ในการ ด ารงชีวิตของตนเองและดูแลสิ่งมีชีวิต - ตัวชี้วัด ว 1.2 ม.2/16 เลือกวิธีการคุมก าเนิดที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ก าหนด ว 1.2 ม.2/17 ตระหนักถึงผลกระทบของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร โดยการประพฤติตนให้เหมาะสม 2. สาระส าคัญ/ความคิดรวบยอด การคุมก าเนิดเป็นวิธีป้องกัน ไม่ให้เกิดการป้องครรภ์โดยป้องกันไม่ให้เกิดการปฏิสนธิหรือไม่ให้มีการฝังตัว ของเอ็มบริโอ ซึ่งมีหลายวิธี เช่น การใช้ถุงยางอนามัย การกินยาคุมก าเนิด ฯลฯ ผลกระทบของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร เช่น มีผลกระทบด้านสุขภาพ ร่างกายและจิตใจ สังคม และส่งผลต่อบุตรที่เกิดใหม่อีกด้วย 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการคุมก าเนิดและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับสถานการณ์ที่ก าหนดได้ (K) 2. นักเรียนสามารถอธิบายผลกระทบของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร โดยจัดท าเป็นแผนผังความคิด เกี่ยวกับผลกระทบของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรได้(P) 3.นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นในการท างาน(A) 4.นักเรียนมีความตระหนักรู้และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น(ทักษะชีวิต) 5. นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์ตัดสินใจและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์(ทักษะชีวิต) 6.นักเรียนสามารถการจัดการกับอารมณ์และความเครียด(ทักษะชีวิต) 7.นักเรียนสามารถการสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น(ทักษะชีวิต) 8. นักเรียนสามารถปฏิบัติตนในการป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยเรียนได้อย่างเหมาะสม (ทักษะชีวิต) แผนจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ รายวิชา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4 รหัสวิชา ว 22102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ระบบอวัยวะในร่างกายของเรา เวลาเรียนทั้งหมด 21 ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การคุมก าเนิด เวลาเรียน 2 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวขวัญกมล สีธิ วันที่สอน...............


4. สาระการเรียนรู้ การคุมก าเนิด แบ่งเป็น 2 ประเภท 1.การคุมก าเนิดแบบชั่วคราว ได้แก่ ยากินคุมก าเนิด ยาฉีดคุมก าเนิด การใส่ถุงยาอนามัย การใส่ห่วงอนามัย ยาฝังคุมก าเนิด การนับระยะปลอดภัย 2.การคุมก าเนิดแบบถาวร ได้แก่ ท าหมันหญิง ท าหมันชาย ผลกระทบของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร เช่น มีผลกระทบด้านสุขภาพ ร่างกายและจิตใจ ส่งผลต่อไปยัง ลูกที่เกิดใหม่ มีผลกระทบด้านสังคม ท าให้เกิดแม่เลี้ยงเดี่ยว ก้าวสู่การเป็นแม่ก่อนวัยอันควร ไม่มีความพร้อมรับ สภาพการเป็นแม่วัยรุ่น อาจติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ 5. องค์ประกอบทักษะชีวิต 1.ตระหนักรู้และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น ยอมรับความแตกต่างระหว่างตนเองและผู้อื่น ตัวชี้วัดที่1 ยอมรับในความแตกต่างทางความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรม ของตนเองและ ผู้อื่นได้อย่างมีเหตุผล 2. คิดวิเคราะห์ตัดสินใจและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เผชิญ อย่างมีเหตุผลและรอบคอบ ตัวชี้วัดที่1 ตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เผชิญด้วยทางเลือก ที่เหมาะสมและไม่เกิดผล กระทบต่อตนเองและผู้อื่น 3.การจัดการกับอารมณ์และความเครียด ประเมินและรู้เท่าทันอารมณ์ ตัวชี้วัดที่1 จ าแนกอารมณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตนเองได้ 4.การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น รู้จักปฏิเสธเพื่อนในสถานการณ์เสี่ยงและ รู้จักเตือนเพื่อนให้หลีกเลี่ยงความเสี่ยงหรือเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมไปในทาง ที่ถูกต้อง ตัวชี้วัดที่1 ปฏิเสธเพื่อนในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ถูกต้องตามขั้นตอนการปฏิเสธ 6. สมรรถนะส าคัญ - ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 7. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้ 2.นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการท างาน 8. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นน า 1.ทบทวนความรู้เกี่ยวกับการปฏิสนธิ เกิดขึ้นได้อย่างไร (เกิดจากการรวมตัวกันของเซลล์ไข่และเซลล์ อสุจิได้ไซโกต) หลังจากปฏิสนธิแล้ว ไซโกตที่พัฒนาเป็นเอ็มบริโอจะไปฝังตัวอยู่ที่ต าแหน่งใด (ผนังมดลูก) 2. ครูน าสนทนาเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ สังคม รายได้ ท าให้หลายครอบครัวยังไม่พร้อมที่จะดูแลบุตร นักเรียนคิดว่าจะมีวิธีการคุมก าเนิดอย่างไร (การใส่ถุงยางอนามัย การกินยาคุมก าเนิด ฯลฯ)


ขั้นสอน 3.นักเรียนแบ่งกลุ่มตามความสมัครใจ แล้วให้นักเรียน ดูตัวอย่างคลิปวีดีโอ เรื่อง ท้องในวัยเรียน https://www.youtube.com/watch?v=PRbbCTQNmhA https://www.youtube.com/watch?v=LyCHk2OzSyw จากนั้นครูให้นักเรียน สะท้อนเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากความไม่พร้อมในการตั้งครรภ์ ค าถามเพื่อการสะท้อน (R) พฤติกรรมของบุคคลในคลิปเป็นอย่างไร นักเรียนรู้สึกอย่างไร เมื่อดูคลิปวีดีโอ และท าไมจึงเป็นเช่นนั้น ค าถามเพื่อการเชื่อมโยง (C) นักเรียนเคยเจอ หรือเคยอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้หรือไม่ อย่างไร ค าถามเพื่อการปรับใช้ (A) นักเรียนคิดว่าจะใช้แนวทางใด ที่จะช่วยให้สถานการณ์แบบนี้เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ในอนาคตนักเรียนจะมีวิธีใด ที่จะป้องกันไม่ให้เกิดสถานการณ์ หรือพฤติกรรมในลักษณะนี้เกิดขึ้น ถ้าหากเกิดสถานการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนหรือคนใกล้ตัวของนักเรียน นักเรียนจะมีวิธีแนะน า เพื่อนอย่างไร รวมถึงนักเรียนจะมีวิธีการป้องกันตนเองอย่างไร 4. นักเรียนอ่านใบความรู้ที่ 2 เพิ่มเติม เกี่ยวกับผลกระทบของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร 5. นักเรียนท าแผนผังความคิด เกี่ยวกับผลกระทบของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร 6. นักเรียนท าแบบวัดความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ส าหรับสตรีไทย วัยรุ่น อายุ 15-21 ปี ระดับมัธยมปลายและนักศึกษา จาก กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวง สาธารณสุข เพื่อประเมินตนเอง 7. ครูก าหนดสถานการณ์ผลจากการไม่พร้อมในการมีบุตร โดยดูคลิปวีดีโอ“เรื่องเล่าเช้านี้ แม่ลูกดกชาว ตรัง มีลูก 15 คน โอดฐานะทางบ้านยากจน วอนขอความช่วยเหลือ” https://www.youtube.com/watch?v=DdkGjEi2KwM จากนั้นให้นักเรียนใด้วิเคราะห์ว่า ควรใช้วิธีการคุมก าเนิดแบบใดจึงจะเหมาะสม โดยวิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย ในการคุมก าเนิดแบบต่าง ๆ ค าถามเพื่อการสะท้อน (R) นักเรียนดูข่าวนี้แล้วรู้สึกอย่างไร ค าถามเพื่อการเชื่อมโยง (C) นักเรียนได้เรียนรู้อะไรจากคลิปวีดีโอข่าวสารที่ได้ดู ที่ผ่านมานักเรียนเคยเจอหรือเคยได้ยินข่าวในลักษณะนี้อีกบ้างไหม นักเรียนคิดว่าเป็นเรื่องใกล้ตัว หรือพบเจอในชีวิตหรือไม่ ถ้านักเรียนเคยพบเจอสถานการณ์แบบในคลิปวีดีโอ นักเรียนต้องด าเนินการอย่างไร ค าถามเพื่อการปรับใช้ (A) ถ้าไม่อยากให้เกิดผลกระทบตามข่าวที่ดู นักเรียนคิดว่าควรต้องท าอย่างไรและจะสื่อสาร ให้เขาเข้าใจได้อย่างไร


8.นักเรียนร่วมกันศึกษาใบความรู้ที่ 1 การคุมก าเนิด แล้วท าใบกิจกรรมที่ 1 เลือกคุมก าเนิดอย่างไรให้ เหมาะสม ขั้นสรุป 9.นักเรียนและครูร่วมกันสรุปและอภิปรายเพื่อให้ได้ข้อสรุปตามความเข้าใจว่า การคุมก าเนิดเป็นวิธีการ ป้องกันการตั้งครรภ์มี 2 ประเภท คือการคุมก าเนิดแบบชั่วคราวและการคุมก าเนิดแบบถาวร แต่ละวิธีการป้องกัน ก็มีข้อดีและข้อจ ากัดแตกต่างกันไป ควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับร่างกายของผู้คุมก าเนิดและสถานการณ์ 10.นักเรียนน าแผนผังความคิด เกี่ยวกับผลกระทบของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ไปติดป้ายนิเทศให้ ผู้สนใจได้อ่าน 9. สนทนาด้วยเทคนิคค าถาม R-C-A เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต ค าถามเพื่อการสะท้อน(R) แทรกอยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ค าถามเพื่อการเชื่อมโยง(C) แทรกอยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ ค าถามเพื่อการปรับใช้(A) แทรกอยู่ในกระบวนการจัดการเรียนรู้ 10. สื่อ และแหล่งเรียนรู้ -ใบความรู้ที่ 1 การคุมก าเนิด -ใบความรู้ที่ 2 เกี่ยวกับผลกระทบของการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร -ใบบันทึกกิจกรรมที่ 1 เลือกคุมก าเนิดอย่างไรให้เหมาะสม -อินเตอร์เน็ต https://www.youtube.com/watch?v=PRbbCTQNmhA https://www.youtube.com/watch?v=LyCHk2OzSyw https://www.youtube.com/watch?v=DdkGjEi2KwM -หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้น ม.2 ของสสวท.


11. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการ เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1. นักเรียนสามารถอธิบายวิธีการ คุมก าเนิดและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับ สถานการณ์ที่ก าหนดได้ (K) ท าใบบันทึกกิจกรรม ที่ 1 เลือกคุมก าเนิด อย่างไร ให้เหมาะสม ใบบันทึก กิจกรรมที่ 1 เลือกคุมก าเนิด อย่างไรให้ เหมาะสม นักเรียนเขียนตอบใบบันทึก กิจกรรมที่ 1 เลือกคุมก าเนิดอย่างไรให้ เหมาะสม ได้ถูกต้องผ่าน เกณฑ์ ร้อยละ 80 ขึ้นไปถือ ว่าผ่าน 2. นักเรียนสามารถอธิบายผลกระทบของ การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร โดยจัดท าเป็น แผนผังความคิดเกี่ยวกับผลกระทบของ การตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรได้(P) ท าแผนผังความคิด เรื่องผลกระทบของ การตั้งครรภ์ก่อนวัย อันควร แผนผังความคิด เรื่องผลกระทบ ของการตั้งครรภ์ ก่อนวัยอันควร นักเรียนเขียนแผนผังความคิด ได้ถูกต้องผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 ขึ้นไปถือว่าผ่าน 3.นักเรียนมีความใฝ่เรียนรู้และมุ่งมั่นใน การท างาน(A) สังเกตพฤติกรรม นักเรียนมีความใฝ่ เรียนรู้และมุ่งมั่นใน การท างาน -แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียน นักเรียนมีพฤติกรรมตั้งแต่ ระดับ ดีขึ้นไป ถือว่าผ่าน 4.นักเรียนมีความตระหนักรู้และเห็น คุณค่าในตนเองและผู้อื่น(ทักษะชีวิต) 5. นักเรียนสามารถคิดวิเคราะห์ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์(ทักษะชีวิต) 6.นักเรียนสามารถการจัดการกับอารมณ์ และความเครียด(ทักษะชีวิต) 7.นักเรียนสามารถการสร้างสัมพันธภาพที่ ดีกับผู้อื่น(ทักษะชีวิต) 8. นักเรียนสามารถปฏิบัติตนในการ ป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยเรียนได้อย่าง เหมาะสม (ทักษะชีวิต) 8. นักเรียนสามารถปฏิบัติตนในการ ป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยเรียนได้อย่าง เหมาะสม (ทักษะชีวิต) สังเกตพฤติกรรม นักเรียน สังเกตพฤติกรรม นักเรียนสามารถ ปฏิบัติตนในการ ป้องกันการตั้งครรภ์ ในวัยเรียนได้อย่าง เหมาะสม แบบสังเกต พฤติกรรม นักเรียน แบบประเมิน พฤติกรรมของ ตนเอง นักเรียนมีพฤติกรรมตั้งแต่ ระดับ ดีขึ้นไป ถือว่าผ่าน


12. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาที่พบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะและแนวทาการแก้ปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… (นางสาวขวัญกมล สีธิ) ครูผู้สอน 13. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… (นายพิเชษฐ์ ปัญญาอุด) ผู้อ านวยการโรงเรียนบ้านเปา


ตารางเกณฑ์การให้คะแนน ด้านความรู้ ระดับคะแนน รายการประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) ใบบันทึกกิจกรรม ตอบค าถามได้ถูกต้อง ช่วง 10-12 คะแนน ตอบค าถามได้ถูกต้อง ช่วง 7-9 คะแนน ตอบค าถามได้ถูกต้อง ช่วง 4-6 คะแนน ตอบค าถามได้ถูกต้อง ช่วง 0-3 คะแนน เกณฑ์การประเมิน คะแนน 10 – 12 หมายถึง ดีมาก คะแนน 7 – 9 หมายถึง ดี คะแนน 4 – 6 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถึง ปรับปรุง ด้านทักษะกระบวนการ ระดับคะแนน รายการประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) แผนผังความคิด แตกประเด็นเกี่ยวกับ ผลกระทบของการ ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร แสดงผลกระทบของการ ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร ได้ 4 ประเด็นขึ้นไป แสดงผลกระทบของ การตั้งครรภ์ก่อนวัยอัน ควรได้ 3 ประเด็น แสดงผลกระทบของ การตั้งครรภ์ก่อนวัยอัน ควรได้ 2 ประเด็นขึ้น แสดงผลกระทบของ การตั้งครรภ์ก่อนวัย อันควรได้ 1 ประเด็น การจัดล าดับความคิด เรียงล าดับประเด็นใหญ่ ประเด็นย่อย มีความ ต่อเนื่องสัมพันธ์กัน ดีมาก เรียงล าดับประเด็นใหญ่ ประเด็นย่อย มีความ ต่อเนื่องสัมพันธ์กันดี เรียงล าดับประเด็นใหญ่ ประเด็นย่อย มีความ ต่อเนื่องสัมพันธ์กันดี มากพอใช้ ไม่มีการเรียงล าดับ ประเด็นใหญ่ ประเด็น ย่อย ไม่มีความ ต่อเนื่องสัมพันธ์กัน การออกแบบตกแต่ง อย่างมีความคิด สร้างสรรค์ มีการสร้างสรรค์ ออกแบบแผนผัง ความคิดได้สวยงาม มีการสร้างสรรค์ ออกแบบแผนผัง ความคิดได้ มีการสร้างสรรค์ ออกแบบแผนผัง ความคิดได้เพียง เล็กน้อย ไม่มีการสร้างสรรค์ ออกแบบแผนผัง ความคิด เกณฑ์การประเมิน คะแนน 10 – 12 หมายถึง ดีมาก คะแนน 7 – 9 หมายถึง ดี คะแนน 4 – 6 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 3 หมายถึง ปรับปรุง


ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดับคะแนน รายการประเมิน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) มีความใฝ่เรียนรู้ ตั้งใจเรียน เอาใจ ใส่และมีความเพียร พยายามในการเรียนรู้ มี ส่วนร่วมในการเรียนรู้ และเข้าร่วมกิจกรรม ต่าง ๆ ดีมาก ตั้งใจเรียน เอาใจ ใส่และมีความเพียร พยายามในการเรียนรู้ มี ส่วนร่วมในการเรียนรู้ และเข้าร่วมกิจกรรม ต่าง ๆ ดี ตั้งใจเรียน เอาใจใส่และ มีความเพียรพยายามใน การเรียนรู้ มีส่วนร่วมใน การเรียนรู้และเข้าร่วม กิจกรรมต่าง ๆ พอใช้ ไม่ตั้งใจเรียน ไม่มีส่วน ร่วมในการเรียนรู้หรือ ไม่เข้าร่วมกิจกรรม ต่าง ๆ มุ่งมั่นในการท างาน ตั้งใจท างานที่ ได้รับ มอบหมาย พยายามหา ค าตอบจากการค้นคว้า แหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ดีมาก ตั้งใจท างานที่ ได้รับ มอบหมาย พยายาม หาค าตอบ จากการ ค้นคว้าแหล่งเรียนรู้ ต่าง ๆ ดี ตั้งใจท างานที่ ได้รับ มอบหมาย พยายาม หาค าตอบจากการ ค้นคว้าแหล่งเรียนรู้เป็น บางครั้ง ไม่ตั้งใจท างานที่ ได้รับ มอบหมาย เกณฑ์การประเมิน คะแนน 7 – 8 หมายถึง ดีมาก คะแนน 5 – 6 หมายถึง ดี คะแนน 3 – 4 หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 – 2 หมายถึง ปรับปรุง


แบบประเมินทักษะชีวิต ชื่อ......................................................ชั้น....................................เลขที่.................. องค์ประกอบที่ พฤติกรรม ตัวชี้วัด ระดับการประเมิน 0 1 2 3 4 5 สรุป ระดับ 1. การตระหนักรู้ และเห็นคุณค่าใน ตนเองและผู้อื่น 1. ยอมรับความ แตกต่างระหว่างตนเอง และ ผู้อื่น ยอมรับในความแตกต่างทาง ความคิด ความรู้สึก และ พฤติกรรม ของตนเองและ ผู้อื่นได้อย่างมีเหตุผล 2. การคิด วิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหา อย่างสร้างสรรค์ 1.ตัดสินใจใน สถานการณ์ต่าง ๆ ที่ เผชิญ อย่างมีเหตุผล และรอบคอบ ตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เผชิญด้วยทางเลือก ที่ เหมาะสมและไม่เกิดผล กระทบต่อตนเองและผู้อื่น 3. การจัดการกับ อารมณ์และ ความเครียด 1. รู้เท่าทันอารมณ์ ตนเอง จ าแนกอารมณ์ต่างๆ ที่ เกิดขึ้นกับตนเองได้ 4. การสร้าง สัมพันธภาพที่ดี กับผู้อื่น 1. รู้จักปฏิเสธเพื่อนใน สถานการณ์เสี่ยงและ รู้จักเตือนเพื่อนให้ หลีกเลี่ยงความเสี่ยง หรือเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมไปในทาง ที่ ถูกต้อง ปฏิเสธเพื่อนในสถานการณ์ ต่าง ๆ ได้ถูกต้องตาม ขั้นตอน การปฏิเสธ รวม


ผลการประเมินทักษะชีวิต เลขที่ ชื่อ-สกุล ระดับคุณภาพทักษะชีวิต สรุป 1. การตระหนักรู้และเห็น คุณค่าในตนเองและผู้อื่น 2. การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหา อย่างสร้างสรรค์ 3. การจัดการกับอารมณ์ และความเครียด 4. การสร้างสัมพันธภาพที่ดี กับผู้อื่น เกณฑ์ผลการประเมิน รวมทุกองค์ประกอบ ใช้เกณฑ์ดังนี้ 16 - 20 คะแนน ระดับ ดี 10 - 15 คะแนน ระดับ พอใช้ 0 - 14 คะแนน ระดับ ปรับปรุง


รายงานผลการประเมินทักษะชีวิต ชั้น..............................................โรงเรียน........................................................... เลขที่ ชื่อ ระดับคุณภาพทักษะชีวิต สรุป 1. การตระหนักรู้และเห็นคุณค่า ในตนเองและผู้อื่น 2. การคิดวิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ 3. การจัดการกับอารมณ์และ ความเครียด 4. การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับ ผู้อื่น ด.ช. ก..... พอใช้ ดี พอใช้ ดี พอใช้ รวม เกณฑ์การตัดสินภาพรวมทั้งห้องใช้คะแนนในช่องสรุปรวมกัน หารด้วยจ านวนนักเรียนแล้วเทียบกับเกณฑ์ ดังนี้ 31.00 – 40.00 คะแนน ระดับ ดี 20.00 – 30.99 คะแนน ระดับ พอใช้ 1.00 – 19.99 คะแนน ระดับ ปรับปรุง


ยาคุม และข้อดีข้อเสียของวิธีคุมก าเนิดแบบต่าง ๆ ในปัจจุบัน มีวิธีคุมก าเนิดให้เลือกหลากหลาย ทั้งการใช้ยาคุมและการคุมก าเนิดรูปแบบต่าง ๆ การเลือกวิธี คุมก าเนิดที่เหมาะสมนับเป็นสิ่งส าคัญ เพราะจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่กระทบต่อ สุขภาพหรือการวางแผนครอบครัวในอนาคต ทั้งนี้ควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งระยะเวลาในการคุมก าเนิด ข้อดีและข้อเสียของการคุมก าเนิดแต่ละวิธีและความสะดวกในการเลือกวิธีคุมก าเนิด การเลือกใช้ยาคุมหรือการคุมก าเนิดแต่ละวิธีอาจพิจารณาจากคุณสมบัติและข้อดีข้อเสีย ดังต่อไปนี้ ยาคุมก าเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสติน ท าหน้าที่ยับยั้งการตกไข่ ท าให้ มูกช่องคลอดข้นขึ้น ป้องกันอสุจิเคลื่อนตัวผ่านปากมดลูก และท าให้ผนังมดลูกไม่เหมาะกับการฝังตัว ข้อดีเหมาะส าหรับผู้หญิงที่ไม่ชอบวิธีการคุมก าเนิดที่ต้องใส่หรือฝังภายในร่างกาย และช่วยบรรเทาความรุนแรง ของกลุ่มอาการประจ าเดือนได้ด้วย ข้อเสีย จ าเป็นต้องรับประทานยาเม็ดคุมก าเนิดตรงเวลาและเป็นประจ าทุกวัน หากลืมรับประทานยา ต้องใช้ วิธีการคุมก าเนิดรูปแบบอื่นร่วมด้วย และอาจมีอาการข้างเคียงจากการใช้ยา เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง ประจ าเดือนมาไม่ปกติความดันโลหิตสูง น้ าหนักขึ้น แม้มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมาก แต่อาจเสี่ยงเกิดลิ่มเลือด โรค หลอดเลือดสมอง และภาวะหัวใจวาย โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่หรือมีอายุ35 ปีขึ้นไป อาจเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงได้มาก ขึ้น ประสิทธิภาพของการคุมก าเนิด 90-95 เปอร์เซ็นต์แต่หากใช้ถูกวิธีและใช้อย่างต่อเนื่อง อาจช่วยคุมก าเนิดได้ มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ ยาคุมก าเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว เป็นยาคุมที่มีฮอร์โมนโปรเจสตินเพียงอย่างเดียว โดยยาคุมชนิดนี้จะส่งผลต่อการ ตกไข่ช่วยให้มูกช่องคลอดข้นขึ้น ป้องกันห้อสุจิเคลื่อนตัวผ่านปากมดลูก และท าให้ผนังมดลูกไม่เหมาะแก่การฝัง ตัว ข้อดีเหมาะส าหรับผู้ที่ไม่ชอบวิธีการคุมก าเนิดที่ต้องใส่หรือฝังภายในร่างกาย ข้อเสีย มีประสิทธิภาพน้อยกว่ายาคุมก าเนิดชนิดฮอร์โมนรวม ต้องรับประทานยาเม็ดคุมก าเนิดตรงเวลาเป็น ประจ าทุกวัน หากลืมรับประทานต้องใช้วิธีการคุมก าเนิดรูปแบบอื่นร่วมด้วย และอาจท าให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก น้ าหนักขึ้น เป็นต้น ประสิทธิภาพของการคุมก าเนิด 90-95 เปอร์เซ็นต์แต่หากใช้ถูกวิธีและใช้อย่างต่อเนื่อง อาจช่วยคุมก าเนิดได้ มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ มีการศึกษาค้นคว้าที่แนะน าว่า การรับประทานยาคุมก าเนิดชนิดฮอร์โมนทั้ง 2 แบบ อาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการ เกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกและมะเร็งรังไข่ได้เล็กน้อย แต่ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก ใบความรู้ที่ 1 การคุมก าเนิด


และมะเร็งตับได้เล็กน้อยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม นอกจากยาคุมก าเนิดเหล่านี้อาจมีปัจจัยอื่นอีกมากมายที่ท าให้เกิด มะเร็งได้ ยาคุมฉุกเฉิน เป็นวิธีป้องกันการตั้งครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน รวมถึงเมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น ถุงยางรั่ว ถูกข่มขืน หรือลืมรับประทานยาคุมก าเนิดตามปกติเป็นต้น โดยยาคุมฉุกเฉินมี2 ชนิด คือ ลีโวนอร์ เจสเตรล 1.5 มิลลิกรัม และอัลลิพริสตัล อซิเตท 30 มิลลิกรัม ซึ่งอาจป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยการยับยั้งการตกไข่ ชั่วคราว ป้องกันการปฏิสนธิหรือไม่ให้ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วฝังตัวในมดลูก ข้อดียาคุมฉุกเฉินลีโวนอร์เจสเตรลสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป และออกฤทธิ์ป้องกันได้สูงสุด 3 วัน หลัง มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ส่วนยาคุมฉุกเฉินอัลลิพริสตัล อซิเตท ออกฤทธิ์ป้องกันได้สูงสุด 5 วัน หลังมี เพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน ข้อเสีย อาจท าให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้อาเจียน เจ็บเต้านม ปวดศีรษะ วิงเวียน ปวดท้อง เมื่อยล้าหรือ ประจ าเดือนมาไม่ปกติประมาณ 1-2 รอบเดือน ประสิทธิภาพของการคุมก าเนิด เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการใช้ยาหลังมีเพศสัมพันธ์ ยาคุมแบบฉีด แพทย์จะฉีดฮอร์โมนโปรเจสตินให้ทุก ๆ 3 เดือน ยาฉีดคุมก าเนิดจะส่งผลต่อการตกไข่ เยื่อบุโพรง มดลูก และเพิ่มความข้นให้แก่มูกช่องคลอด เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ข้อดีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เพียงไปตามก าหนดที่แพทย์นัดหมาย อาจช่วยคุมก าเนิดได้สูงสุด 1 ปีนับจากการฉีดยา คุมก าเนิดครั้งสุดท้าย ขึ้นอยู่กับชนิดของยาคุมก าเนิดที่ใช้ ข้อเสีย อาจท าให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ประจ าเดือนมาไม่ปกติมีเลือดออกระหว่างรอบเดือน คลื่นไส้ปวดศีรษะ รู้สึกซึมเศร้า โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่อาจพบผลข้างเคียงได้มากขึ้น หากใช้ยาฉีดคุมก าเนิดเป็นเวลานาน อาจส่งผลลบ ต่อความหนาแน่นของกระดูก ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของโรคกระดูกพรุนได้ ประสิทธิภาพของการคุมก าเนิด 97 เปอร์เซ็นต์แต่หากใช้ถูกวิธีและใช้อย่างต่อเนื่อง อาจช่วยคุมก าเนิดได้ มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ ยาฝังคุมก าเนิด มีลักษณะเป็นหลอดยาขนาดเล็ก ภายในบรรจุฮอร์โมนโปรเจสตินไว้ใช้ฝังเข้าไปใต้ผิวหนัง โดยยา ฝังคุมก าเนิดจะส่งผลต่อการตกไข่และเพิ่มความข้นให้กับมูกช่องคลอด เพื่อขัดขวางการเคลื่อนตัวของอสุจิเข้าสู่ มดลูก ข้อดีเป็นวิธีการคุมก าเนิดรูปแบบหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูง ออกฤทธิ์นานสูงสุด 3 ปีขึ้นอยู่กับชนิดของยาคุมก าเนิด ที่ใช้และถอดออกได้เมื่อต้องการ ข้อเสีย อาจไม่สะดวกเหมือนวิธีการอื่น ๆ เพราะการใส่และถอดยาที่ฝังต้องท าโดยแพทย์ในสถานพยาบาลเท่านั้น และอาจท าให้เกิดผลข้างเคียงได้เช่น ประจ าเดือนมาไม่ปกติปวดศีรษะ น้ าหนักขึ้น เจ็บหน้าอก เป็นต้น ประสิทธิภาพของการคุมก าเนิด มากกว่า 97 เปอร์เซ็นต์


ถุงยางอนามัยส าหรับผู้ชาย ท าจากยางหรือวัสดุอื่น ๆ ใช้สวมที่อวัยวะเพศชายขณะมีเพศสัมพันธ์เพื่อไม่ให้อสุจิ ผ่านเข้าไปในช่องคลอดจนเกิดการตั้งครรภ์ ข้อดีช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้นิยมใช้แพร่หลาย เซื้อได้ง่าย มีขายตามร้านสะดวกซื้อและร้านขาย ยาทั่วไป ข้อเสีย บางคนเชื่อว่าการใช้ถุงยางอนามัยอาจท าให้ความรู้สึกในขณะร่วมเพศลดลง หรือถุงยางอาจรั่ว แตก และ อาจเกิดอาการแพ้จากวัสดุที่ใช้ผลิตถุงยางอนามัยได้ ประสิทธิภาพของการคุมก าเนิด 85 เปอร์เซ็นต์แต่หากใช้ถูกวิธีอาจช่วยคุมก าเนิดได้ถึง 98 เปอร์เซ็นต์ ถุงยางอนามัยส าหรับผู้หญิง มีลักษณะบาง ท าจากยางหรือวัสดุอื่น ๆ คล้ายกับถุงยางอนามัยส าหรับผู้ชาย แต่มีวง แหวน 2 ด้าน ใส่ด้านที่เป็นวงแหวนปลายปิดเข้าไปในช่องคลอด เพื่อป้องกันไม่ให้อสุจิผ่านเข้าไป ข้อดีอาจช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้สวมใส่ก่อนมีเพศสัมพันธ์ได้นานถึง 8 ชั่วโมง ข้อเสีย หาซื้อได้ไม่สะดวกเท่าถุงยางอนามัยส าหรับผู้ชาย อีกทั้งผู้ใช้บางส่วนเชื่อว่าการใช้ถุงยางอนามัยอาจท าให้ ความรู้สึกในขณะร่วมเพศลดลง ถุงยางอาจรั่ว แตก หรือท าให้เกิดอาการแพ้จากวัสดุที่ใช้ผลิตถุงยางอนามัยได้ ประสิทธิภาพของการคุมก าเนิด 79 เปอร์เซ็นต์แต่หากใช้ถูกวิธีอาจช่วยคุมก าเนิดได้มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ฟองน้ าคุมก าเนิด เป็นฟองน้ าทรงกลม ท าจากพลาสติกอาบด้วยน้ ายาฆ่าอสุจิใส่ภายในช่องคลอด เพื่อป้องกัน อสุจิเคลื่อนตัวเข้าไปยังมดลูก ข้อดีช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงสุด 24 ชั่วโมง แม้มีเพศสัมพันธ์หลายครั้ง


ข้อเสีย หากใช้งานเกินกว่า 24 ชั่วโมง อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย และอาจท าให้เกิดกลุ่มอาการท็อกสิกช็อก (Toxic Shock Syndrome) แม้จะพบได้น้อยแต่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้อีกทั้งน้ ายาฆ่าอสุจิอาจท าให้เกิด อาการแพ้ในผู้ใช้บางราย และหากใช้บ่อยครั้ง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีได้เช่นเดียวกัน ประสิทธิภาพของการคุมก าเนิด 76-88 เปอร์เซ็นต์ ห่วงอนามัยชนิดฮอร์โมน มีลักษณะเป็นรูปตัวที(T) ขนาดเล็ก แพทย์จะใส่ห่วงอนามัยบริเวณมดลูก จากนั้น ห่วง อนามัยจะปล่อยฮอร์โมนโปรเจสตินออกมา ส่งผลต่อการตกไข่และเพิ่มความข้นให้แก่มูกช่องคลอด เพื่อขัดขวาง การเคลื่อนตัวของอสุจิเข้าสู่มดลูก ข้อดีการใส่ห่วงอนามัยในแต่ละครั้งจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้สูงสุดประมาณ 3-5 ปี ข้อเสีย อาจไม่สะดวกเหมือนวิธีการอื่น ๆ เพราะการใส่และถอดห่วงอนามัยต้องท าโดยแพทย์ในสถานพยาบาล เท่านั้น รวมทั้งอาจท าให้ประจ าเดือนไม่มาหรือประจ าเดือนมาน้อยกว่าปกติเสี่ยงต่อการเกิดซีสต์รังไข่ นอกจากนี้ แม้เกิดขึ้นได้ยาก แต่ห่วงอนามัยอาจหลุดออกหรือทะลุเข้าไปยังผนังมดลูก และอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อในอุ้งเชิง กรานได้ ประสิทธิภาพของการคุมก าเนิด มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ แผ่นแปะคุมก าเนิด มีลักษณะเป็นแผ่นขนาดประมาณ 2 ตารางนิ้ว แปะลงบนผิวหนัง โดยแผ่นแปะคุมก าเนิดจะ ปล่อยฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสตินออกมา ส่งผลต่อการตกไข่และประสิทธิภาพในการฝังตัวของไข่ รวมถึงท า ให้มูกช่องคลอดข้นขึ้นจนอสุจิเคลื่อนตัวเข้าไปได้ยาก ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนแผ่นแปะคุมก าเนิดใหม่ทุกสัปดาห์อย่าง ต่อเนื่องนาน 3 สัปดาห์และหยุดใช้แผ่นแปะ 1 สัปดาห์ในระหว่างที่ประจ าเดือนมา ข้อดีผู้ใช้ส่วนใหญ่ไม่พบผลข้างเคียงจากการใช้แผ่นแปะคุมก าเนิด แต่ต้องเปลี่ยนแผ่นแปะคุมก าเนิดใหม่ทุก สัปดาห์ ข้อเสีย แม้ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะไม่พบผลข้างเคียง แต่อาจเกิดผลข้างเคียงได้เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง อารมณ์ แปรปรวน ประจ าเดือนมาไม่ปกติความดันโลหิตสูง น้ าหนักขึ้น นอกจากนี้แม้มีโอกาสไม่มาก แต่อาจเสี่ยงต่อการ เกิดลิ่มเลือด โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะหัวใจวาย โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่หรือมีอายุ35 ปีขึ้นไป อาจเสี่ยงพบ


ผลข้างเคียงได้มากขึ้น และประสิทธิภาพของแผ่นแปะคุมก าเนิดอาจลดลง หากผู้ใช้มีน้ าหนักตัวตั้งแต่ 89 กิโลกรัม ขึ้นไป ประสิทธิภาพของการคุมก าเนิด เป็นการคุมก าเนิดรูปแบบใหม่และยังมีงานวิจัยเกี่ยวกับประสิทธิภาพในการ คุมก าเนิดไม่เพียงพอ มีเพียงการศึกษาที่พบว่า แผ่นแปะคุมก าเนิดอาจมีประสิทธิภาพสูงกว่ายาคุมก าเนิดชนิด ฮอร์โมนรวม การนับระยะปลอดภัย หรือวิธีหน้า 7 หลัง 7 เป็นการนับวันเพื่อให้ทราบว่าช่วงเวลาใดของเดือนที่มีโอกาสตั้งครรภ์ น้อยที่สุด ข้อดีเป็นการคุมก าเนิดด้วยวิธีธรรมชาติไม่ต้องใช้ยาหรืออุปกรณ์คุมก าเนิดใด ๆ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และไม่ ก่อให้เกิดผลข้างเคียง ข้อเสีย ยากที่จะทราบได้แน่นอนว่าเมื่อไหร่ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์เพื่อลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์มี ประสิทธิภาพน้อยกว่าวิธีการคุมก าเนิดรูปแบบอื่น ๆ ต้องอาศัยความแม่นย า และเสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อทาง เพศสัมพันธ์ ประสิทธิภาพของการคุมก าเนิด 75 เปอร์เซ็นต์แต่หากนับระยะปลอดภัยได้ถูกวิธีอาจช่วยคุมก าเนิดได้ถึง 91 เปอร์เซ็นต์ การท าหมันชาย เป็นการตัดและผูกท่อน าอสุจิเพื่อไม่ให้อสุจิถูกปล่อยออกมาเมื่อมีการหลั่ง ข้อดีเป็นวิธีการคุมก าเนิดถาวรรูปแบบหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูง หลังการผ่าตัดแล้วกลับบ้านได้ทันทีไม่จ าเป็นต้อง นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล


ข้อเสีย ป้องกันการตั้งครรภ์ได้หลังผ่าตัดไปแล้ว 3 เดือน และต้องให้แพทย์ตรวจสอบก่อนว่าไม่มีอสุจิเล็ดรอด ออกมาเมื่อมีการหลั่ง อาจรู้สึกปวดในช่วงฟักฟื้น หรืออาจเกิดผลข้างเคียงจากการผ่าตัดได้ ประสิทธิภาพของการคุมก าเนิด 97-98 เปอร์เซ็นต์หากยังไม่ได้รับการตรวจสอบจากแพทย์ว่ามีอสุจิเล็ดรอด ออกมาหรือไม่แต่อาจช่วยคุมก าเนิดได้มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์หลังผ่าตัดไปแล้ว 3 เดือน การท าหมันหญิง เป็นการผูกท่อการท าหมันหญิง เป็นการผูกท่อน าไข่ ท าให้อสุจิไม่สามารถเคลื่อนตัวเข้าสู่มดลูก ได้ ข้อดีเป็นวิธีการคุมก าเนิดถาวรรูปแบบหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูง ไม่ส่งผลต่อฮอร์โมนเอสโตรเจนหรือโปรเจสตินใน ร่างกาย เมื่อเทียบกับการคุมก าเนิดรูปแบบอื่น ๆ ยังคงมีอารมณ์ทางเพศได้เหมือนเดิม อารมณ์ไม่แปรปรวน และ ประจ าเดือนยังคงมาตามปกติ ข้อเสีย เนื่องจากเป็นการคุมก าเนิดแบบถาวร จึงต้องตัดสินใจให้ดีก่อน เมื่อท าหมันไปแล้ว หากเปลี่ยนใจอาจต้อง แก้ไขโดยการผ่าตัดเพื่อเปิดท่อน าไข่ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง และอัตราความส าเร็จในการผ่าตัดเปิดท่อรังไข่ยังขึ้นอยู่กับ อายุและระยะเวลาที่ท าหมันไปแล้ว แม้จะเป็นขั้นตอนทางการแพทย์ที่ปลอดภัย แต่บางครั้งอาจเสี่ยงมีเลือดออก หรือเกิดการบาดเจ็บที่หลอดเลือด ล าไส้หรือกระเพาะปัสสาวะได้ ประสิทธิภาพของการคุมก าเนิด มากกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ ที่มา :https://shop.posvision.co/rakyasr/article/detail/


ผลกระทบที่เกิดจากสถานการณ์การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น ผลกระทบด้านสุขภาพ การตั้งครรภ์ขณะที่ร่างกายยังเติบโตไม่เต็มที่ ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตจากภาวะครรภ์เป็นพิษ โลหิตจาง ภาวะตกเลือดหลังคลอด เยื่อบุมดลูกอักเสบ ตลอดจนการเสียชีวิตจากการคลอดบุตร อาการแทรกซ้อนจากการยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย เป็นต้น ทารกที่เกิดจากแม่วัยรุ่น มักมีน้ าหนักแรกเกิดต่ ากว่าเกณฑ์ปกติ อัตราการเสียชีวิตของทารกในครรภ์และเด็กแรกเกิดจากแม่วัยรุ่นมีจ านวนมากกว่าแม่อายุระหว่าง 20-29 ปี ถึงร้อยละ 50 ในระยะยาวพบว่าเด็กที่เกิดจากแม่วัยรุ่นมีแนวโน้มถูกเลี้ยงดูอย่างไม่สอดคล้องกับพัฒนาการและมี ภาวะทุพโภชนาการ ผลกระทบด้านจิตใจ มีความเสี่ยงต่อภาวะความเครียดและโรคซึมเศร้าสูง เนื่องจากมักขาดการเตรียมตัวเพื่อมีภาระครอบครัว ผลกระทบด้านการศึกษา อัตราการออกจากโรงเรียนกลางคันเพราะการสมรสมีสูงถึงร้อยละ 14 หรือ 19,178 คนในจ านวน 135,342 คนต่อปี เป็นข้อมูลเฉพาะสถานศึกษาของรัฐในสังกัดส านักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ ยังไม่รวมข้อมูลจากสถานศึกษาภาคเอกชน อาชีวศึกษา และสถานศึกษาบางประเภท


ผลกระทบด้านครอบครัวและการด ารงชีพ เนื่องจากผู้ปกครองนิยมแก้ปัญหาด้วยการให้นักเรียนที่ตั้งครรภ์ลาออกจากโรงเรียนและให้แต่งงานเพื่อสร้าง ครอบครัว และลดแรงเสียดทานจากสังคมที่ตีตรา ส่งผลต่อเนื่องให้ชีวิตครอบครัวของวัยรุ่นที่ไม่มีความพร้อม มักประสบปัญหาในการด าเนินชีวิต และการเลี้ยงดูบุตร สืบเนื่องจากมีระดับการศึกษาต่ า ส่งผลให้ไม่สามารถหางานที่มีรายได้เพียงพอให้เลี้ยงดูตนเองและครอบครัว อย่างมีคุณภาพ และมักไม่ได้รับความช่วยเหลือหรือร่วมรับผิดชอบจากฝ่ายชาย ตลอดจนครอบครัวและเครือ ญาติอันเนื่องมาจากการตีตราทางสังคม ผลกระทบต่อสังคม/ประเทศโดยรวม ยังไม่มีการศึกษาของไทยที่สะท้อนถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมโดยรวมจากสถานการณ์ปัญหาการ ตั้งครรภ์ในวัยรุ่น มีรายงานของธนาคารโลกที่ศึกษา “ต้นทุนการเสียโอกาส” ที่เกิดจากการตั้งครรภ์และออกจากโรงเรียน กลางคันของวัยรุ่น พบว่ามีผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมหาศาล ยกตัวอย่างประเทศบราซิล ซึ่งมีระดับการพัฒนาประเทศคล้ายคลึงประเทศไทย พบว่าบราซิลจะมีผลผลิตเพิ่มขึ้นอีก 3.5 พันล้านเหรียญ หากหญิงวัยรุ่นทุกคน ไม่ประสบปัญหาตั้งครรภ์ก่อนอายุ 20 ปี ยิ่งมีเด็กหญิง/วัยรุ่นตั้งครรภ์จ านวนมาก ต้นทุนการเสียโอกาสทางเศรษฐกิจจะยิ่งส่งผลกระทบต่อชุมชน และ ประเทศมากกว่าต่อตัวบุคคล อีกทั้งต้นทุนค่าใช้จ่ายที่ประเทศต้องสูญเสียในการดูแลแม่และเด็กในกลุ่ม นับว่า มีมูลค่าไม่น้อย ยกตัวอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา ในปึ พ.ศ. 2551 พบว่าเกิดต้นทุนค่าใช้จ่ายประมาณ 11 พันล้านเหรียญต่อปี เพื่อรองรับการดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตของแม่และเด็กในกลุ่มนี้ ขอขอบคุณข้อมูล : กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติประจ าประเทศไทย 2557


ข้อละ 2 คะแนน รวมทั้งหมด 12 คะแนน 2. 1.


แบบวัดความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรส าหรับสตรีไทยวัยรุ่น อายุ 15-21 ปี ระดับมัธยมปลายและนักศึกษา จาก กองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อประเมินตนเอง 31032015154754104 _linkhed.pdf


แผนการจัดการเรียนรู้ วิชา ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ภาคเรียนที่ ๒ นายปรีชา ก้อนค า ต าแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูช านาญการพิเศษ (ครูผู้สอน) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนบ้านเปา ส านักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถามศึกษาน่าน เขต ๑ แผนจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต


๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดหรือผลการเรียนรู้ สาระที่ ๓ การฟัง การดูและการพูด มาตรฐานการเรียนรู้ : ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิดและ ความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อย่างมีวิจารณญาณและสร้างสรรค์ ตัวชี้วัด ท ๓.๑ ม ๓/๑ แสดงความคิดเห็นและประเมินเรื่องจากการฟังและการดู ท ๓.๑ ม ๓/๒ วิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่ฟังและดูเพื่อนำข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ท ๓.๑ ม ๓/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๒. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด การฟังเชิงวิเคราะห์ วิจารณ์ หมายถึง การฟังสารด้วยความเอาใจใส่พิจารณาไตร่ตรอง แยกแยะสารออกเป็นส่วน ๆ อย่างถี่ถ้วน เพื่อให้เข้าใจเรื่องในหลายแง่หลายมุมโดยแยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็นออกจากกันแล้วติ – ชม หรือประเมินค่าสิ่งที่ ได้ฟังนั้น เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ๓. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๓.๑ ด้านความรู้ - นักเรียนสามารถบอกหลักในการฟัง แสดงความคิดเห็น และประเมินเรื่องจากการฟังและดูที่ถูกต้องได้ ๓.๒ ด้านทักษะและกระบวนการ - นักเรียนสามารถวิเคราะห์และวิจารณ์เรื่องที่ฟังและดูเพื่อนำข้อคิดมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้อย่างมี เหตุผล ๓.๓ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ - นักเรียนมีมารยาทในการฟัง แผนจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย รายวิชาภาษาไทย รหัสวิชา ท. ๒๓๑๐๒ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เช้าฮาเย็นเฮ เรื่อง การฟัง การดูและการพูด เวลาเรียนทั้งหมด.......๖........ชั่วโมง แผนการเรียนรู้ที่.......เรื่อง...................... เวลาเรียน........๑.........ชั่วโมง ครูผู้สอน นายปรีชา ก้อนคำ วันที่สอน...............


๔. สาระการเรียนรู้ - การพูดแสดงความคิดเห็น และประเมินเรื่องจาก การฟังและการดู - การพูดวิเคราะห์วิจารณ์จากเรื่องที่ฟังและดู ๕. องค์ประกอบทักษะชีวิต - การตระหนักรู้และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น - การคิดวิเคราะห์ตัดสินใจและแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ - การจัดการอารมณ์และความเครียด - การสร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้อื่น ๖. สมรรถนะสำคัญ - ความสามารถในการสื่อสาร - ความสามารถในการคิด - ความสามารถในการแก้ปัญหา - ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต ๗. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ - ซื่อสัตย์สุจริต - ใฝ่เรียนรู้ - มุ่งมั่นในการทำงาน ๘. กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ๑. นักเรียนชมโฆษณา“จน..เครียด..กินเหล้า https://www.youtube.com/watch?v=wYyGNtePSDI และโฆษณา “ เมาไม่ขับ” https://www.youtube.com/watch?v=kS๓hVyu๑IpY ๒. นักเรียนตอบคำถามครู นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไรที่ได้ดูโฆษณา“จน...เครียด...กินเหล้า ” และ โฆษณา “ เมาไม่ขับ” ในวันนี้


ขั้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๓. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๓ กลุ่ม ให้ออกมาอ่านเรื่อง “เช้าฮาเย็นเฮ” จากหนังสือวิวิธภาษา โดยให้ กลุ่ม ๑ อ่านบทบรรยาย กลุ่ม ๒ อ่านบทของสุพจน์ และกลุ่ม ๓ อ่านบทของศรัณย์ ๔. นักเรียนตอบคำถามครูนักเรียนมีความรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับพฤติกรรมของบุคคลในเรื่องเช้าฮาเย็นเฮ ๕. นักเรียนตอบคำถามครู จากเหตุการณ์ในเรื่อง เช้าฮาเย็นเฮ นักเรียนเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้าง หรือไม่ อย่างไร และนักเรียนมีทักษะในการปฏิเสธอย่างไรบ้าง ๖. นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๓ กลุ่ม ทำใบงาน อภิปรายแสดงความคิดเห็นจากเรื่อง เช้าฮาเย็นเฮ ขั้นสรุปความรู้ ๗. นักเรียนและครูร่วมสรุป ใจความสำคัญของเรื่อง สรุปเกี่ยวกับพฤติกรรมของบุคคลในเรื่อง เช้าฮาเย็นเฮ ๘. นักเรียนตอบคำถาม ในอนาคตนักเรียนสามารถนำเหตุการณ์จากเรื่องเช้าฮาเย็นเฮไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง จากนั้นให้นักเรียนตอบคำถามจากกิจกรรมใบงาน ๙. นักเรียนนำเสนอ ถ้าข้อใดทำผิดให้แก้ไขแล้วนำมาส่งครูตรวจอีกครั้ง ๙. สนทนาด้วยเทคนิคคำถาม R-C-A เพื่อพัฒนาทักษะชีวิต คำถามเพื่อการสะท้อน ( R ) - นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไรที่ได้ดูโฆษณา“จน...เครียด...กินเหล้า ” และโฆษณา “ เมาไม่ ขับ”ในวันนี้ - นักเรียนมีความรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับพฤติกรรมของบุคคลในเรื่องเช้าฮาเย็นเฮ คำถามเพื่อการเชื่อมโยง ( C ) - จากเหตุการณ์ในเรื่อง เช้าฮาเย็นเฮ นักเรียนเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ้างหรือไม่ อย่างไร และนักเรียนมีทักษะในการปฏิเสธอย่างไรบ้าง คำถามเพื่อการปรับใช้ ( A ) - ในอนาคตนักเรียนสามารถนำเหตุการณ์จากเรื่องเช้าฮาเย็นเฮไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง


๑๐. สื่อ และแหล่งเรียนรู้ - คลิปโฆษณา จนเครียด กินเหล้า https://www.youtube.com/watch?v=wYyGNtePSDI - คลิปโฆษณา เมาไม่ขับ https://www.youtube.com/watch?v=kS๓hVyu๑IpY - ใบความรู้ - หนังสือภาษาไทย วิวิธภาษา ชั้นมัธยมยมศึกษาปีที่ ๓ - ใบงาน - แบบฝึกหัดภาษาไทย ๑๑. การวัดและประเมินผล จุดประสงค์การเรียนรู้ หลักฐาน เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน ด้านความรู้ - นักเรียนสามารถบอกหลักในการ ฟังและประเมินเรื่องจากการฟังและ ดูที่ถูกต้องได้ -ใบงาน -ความสามารถใน การตอบคำถาม -ใบงาน -แบบบันทึกการตอบ คำถาม นักเรียนผ่านเกณฑ์ ๖๐% ขึ้นไป ด้านทักษะ - นักเรียนสามารถวิเคราะห์และ วิจารณ์เรื่องที่ฟังและดูเพื่อนำข้อคิด มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้ อย่างมี - ฟังการตอบ คำถามถามและ สดงความคิดเห็น -แบบบันทึก -แบบประเมิน นักเรียนผ่านเกณฑ์ ๖๐% ขึ้นไป ด้านคุณลักษณะ -นักเรียนมีมารยาทในการฟัง -นักเรียนมีความสามารถในการ สื่อสาร -นักเรียนมีความสามารถในการคิด -นักเรียนมีความสามารถในการ แก้ปัญหา -ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต - แบบประเมิน - แบบสังเกต -แบบบันทึก -แบบประเมิน -แบบสังเกต นักเรียนผ่านเกณฑ์ ๖๐% ขึ้นไป


๑๒. บันทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ผลการจัดกิจกรรม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ปัญหาที่พบ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………… ข้อเสนอแนะและแนวทาการแก้ปัญหา ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… (………………………………………………………. ) (นายปรีชา ก้อนคำ) ครูผู้สอน ๑๓. ความคิดเห็นของผู้บริหาร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………..…………………………………………………………………………………………………………………………………… (นายพิเชษฐ์ ปัญญาอุด) ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านเปา


แบบประเมินทักษะชีวิต ชื่อ......................................................ชั้น....................................เลขที่.................. องค์ประกอบที่ พฤติกรรม ตัวชี้วัด ระดับการประเมิน 0 1 2 3 4 5 สรุป ระดับ 1. การตระหนักรู้ และเห็นคุณค่าใน ตนเองและผู้อื่น 1. ยอมรับความ แตกต่างระหว่างตนเอง และ ผู้อื่น 2. มีความความเชื่อมั่น ในตนเองและผู้อื่น 1.1ยอมรับในความ แตกต่างทางความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรม ของตนเองและผู้อื่นได้ อย่างมีเหตุผล 1.2 กล้าแสดงออกทาง ความคิด ความรู้สึกและ การกระทำของ ตนเองด้วย ความมั่นใจ 2. การคิด วิเคราะห์ ตัดสินใจ และแก้ปัญหา อย่างสร้างสรรค์ 1. เลือกรับข้อมูล ข่าวสารอย่างไตร่ตรอง และ รู้เท่าทันสังคมที่ เปลี่ยนแปลง 2.ตัดสินใจใน สถานการณ์ต่าง ๆ ที่ เผชิญ อย่างมีเหตุผล และรอบคอบ 2.1 วิเคราะห์ประโยชน์ และคุณค่าของข้อมูล ข่าวสารเลือกใช้ข้อมูล ข่าวสารเพื่อสร้างภูมิ ความรู้และการตัดสินใจ เมื่อเผชิญ สถานการณ์ รอบตัว 2.2 ตัดสินใจใน สถานการณ์ต่าง ๆ ที่เผชิญ


ด้วยทางเลือก ที่เหมาะสม และไม่เกิดผลกระทบต่อ ตนเองและผู้อื่น 3. การจัดการกับ อารมณ์และ ความเครียด 1. รู้เท่าทันอารมณ์ ตนเอง 3.1 จำแนกอารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตนเองได้ 3.2 แสดงอารมณ์ ความรู้สึกของ ตนเองได้เหมาะสม 4. การสร้าง สัมพันธภาพที่ดีกับ ผู้อื่น 1. เป็นผู้ฟังที่ดี 2. รู้จักปฏิเสธเพื่อนใน สถานการณ์เสี่ยงและ รู้จักเตือนเพื่อนให้ หลีกเลี่ยงความเสี่ยง หรือเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมไปในทาง ที่ ถูกต้อง 4.1 ฟังผู้อื่นอย่างตั้งใจและ รับรู้ถึงความรู้สึกและความ ต้องการของผู้พูด 4.2 ปฏิเสธเพื่อนใน สถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ถูกต้องตามขั้นตอน การ ปฏิเสธ รวม


ผลการประเมินทักษะชีวิต ชื่อ-สกุล ระดับคุณภาพทักษะชีวิต สรุป 1. การ ตระหนักรู้และ เห็นคุณค่าใน ตนเองและ ผู้อื่น 2. การคิด วิเคราะห์ ตัดสินใจ และ แก้ปัญหา อย่าง สร้างสรรค์ 3. การจัดการ กับอารมณ์และ ความเครียด 4. การสร้าง สัมพันธภาพที่ ดีกับผู้อื่น รวม


ใบงาน หน่วยการเรียนรู้ เช้าฮาเย็นเฮ ชื่อ………………………………………….……………เลขที่……..ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ************************************************************************************* คำชี้แจง .ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ๑. นักเรียนคิดว่า เช้าฮาเย็นเฮ หมายถึงสิ่งใด ………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………………….….. …..…………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………… ๒. นักเรียนคิดว่า“ผลของการดื่มสุรา” จะเป็นอย่างไรบ้าง ………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………… …..…………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………… ………………………………………..……………………………………………………….…………………………………………….……………….. …..…………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………… ………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………..………….. …..…………………………………………………………………..………………………………………………………………………..……………… ๓. นักเรียนคิดว่า เรื่องนี้ ให้ข้อคิดอย่างไร ………………………………………..………………………………………………………………………………………………………………………… …..…………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………… ………………………………………..……………………………………………………….…………………………………………….……………….. …..…………………………………………………………………..………………………………………………………………………………………… ………………………………………..…………………………………………………………………………………………………………..………….. …..…………………………………………………………………..………………………………………………………………………..………………


เฉลยใบงาน ******************************************************** คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง ๑. นักเรียนคิดว่า เช้าฮาเย็นเฮ หมายถึงสิ่งใด การดื่มสุรา ๒. นักเรียนคิดว่า“ผลของการดื่มสุรา” จะเป็นอย่างไรบ้าง -ทำให้เสียเงิน -เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง -ทำให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคตับแข็ง กล้ามเนื้อหัวใจฝ่อ ความดันโลหิตสูง ประสาทตาเสีย -ผิดศีลข้อ ๕ ๓. นักเรียนคิดว่า เรื่องนี้ ให้ข้อคิดอย่างไร -การดื่มสุรามีผลเสียต่อตนเองและผู้อื่น -เป็นเหตุให้เสียทรัพย์ -เป็นอันตรายต่อสุขภาพ - เป็นเหตุของการทะเลาะวิวาท -ก่อให้เกิดอุบัติเหตุจนเป็นอันตราต่อตนเองและผู้อื่น


แบบสังเกตพฤติกรรมการฟังและการดู - คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย / ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่กำหนด ชั้นมัธยมศึกษาปีที่…………โรงเรียน…………………………ภาคเรียนที่…………… เลขที่ ชื่อ – สกุล รายการสังเกต ความสนในเรื่อง ที่ฟัง ดู มีมารยาทใน เรื่องที่ฟัง ดู มีสมาธิในการ ฟัง ดู แสดงความ คิดเห็นจากเรื่อง ที่ดูและฟัง สรุปผลการ ประเมินผ่าน / ไม่ผ่าน ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๒ ๑ ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖ ๗ ๘ เกณฑ์การให้คะแนน ๒= ดี, ๑ = ปานกลาง, ๐ = ต้องปรับปรุงแก้ไข (ลงชื่อ)……………………………………….ผู้ประเมิน (นายปรีชา ก้อนคำ) วันที่……….เดือน…………………….พ.ศ………………


Click to View FlipBook Version