๔๐
แบบประเมินช้ินงาน เรือ่ ง การวิเคราะหภ์ าวะการเจรญิ เตบิ โตของตนเอง
รายการการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมนิ
432 1
การวเิ คราะหภ์ าวะ
การเจรญิ เติบโต เขียนผลการวิเคราะห์ เขยี นผลการวิเคราะห์ เขียนผลการวเิ คราะห์ เขียนผลการวิเคราะห์
ของตนเอง ขอ้ มลู ของตนเอง
ข้อมูลของตนเองได้ ขอ้ มลู ของตนเองได้ ขอ้ มูลของตนเองได้ ไดถ้ กู ต้อง
ถกู ตอ้ ง ละเอียด ถูกตอ้ ง ละเอยี ด ถูกต้อง ละเอียด
เข้าใจงา่ ย เสนอแนวทาง เข้าใจงา่ ย เสนอแนวทาง เข้าใจงา่ ย
การพัฒนาตนเอง การพฒั นาตนเอง
ให้เจรญิ เติบโตสมวยั ได้ ใหเ้ จริญเตบิ โตสมวัยได้
และสามารถแนะนำผูอ้ นื่
ได้
แบบประเมินช้นิ งาน เรื่อง แนวทางการพฒั นาตนเองให้เจรญิ เติบโตสมวัย
รายการการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมนิ 4 3 2 1
แนวทางการพัฒนา เสนอแนวทางการพัฒนา เสนอแนวทางการพฒั นา เสนอแนวทางการพฒั นา เสนอแนวทางการพฒั นา
ตนเองให้เจรญิ เตบิ โต ตนเองใหเ้ จรญิ เตบิ โต ตนเองให้เจรญิ เตบิ โต ตนเองใหเ้ จรญิ เตบิ โต
ตนเองให้ สมวยั ได้เหมาะสม สมวัยได้เหมาะสม สมวยั ได้เหมาะสม
สมวัยได้เหมาะสม เชือ่ มโยงใหเ้ ห็นถงึ เช่อื มโยงให้เห็นถงึ
เจรญิ เติบโตสมวยั เชื่อมโยงให้เห็นถึง
ความสัมพนั ธ์กัน ความสมั พนั ธ์กนั ความสัมพนั ธ์กนั
อย่างมเี หตผุ ล อย่างมเี หตผุ ล อย่างมีเหตผุ ล
เปน็ แบบอย่างในการ เป็นแบบอย่างในการ
ปฏบิ ัตไิ ด้ และสามารถให้ ปฏิบัติได้
คำแนะนำผ้อู ื่นได้
๔๑
แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
มวี นิ ัย
ตวั ชี้วดั ที่ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครวั โรงเรยี น และสังคม
พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ย่ยี ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผ่าน (0)
3.1.1 ปฏบิ ตั ติ น ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง ปฏบิ ัติตามขอ้ ตกลง ไม่ปฏิบตั ิตนตามขอ้ ตกลง
ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั ข้อบังคบั ของ ข้อบงั คบั ของ ข้อบังคบั ของครอบครัว
ครอบครวั โรงเรียน โรงเรยี นและสงั คม ไม่ ครอบครัวและโรงเรียน ครอบครัวและโรงเรียน และโรงเรียน
และสงั คม ไมล่ ะเมิด ละเมดิ สทิ ธขิ องผอู้ น่ื ตรงตอ่ เวลา ตรงตอ่ เวลา
สิทธิของผู้อืน่ ตรงต่อเวลา ในการปฏิบตั ิ ในการปฏบิ ัติ
3.1.2 ตรงตอ่ เวลา ในการปฏบิ ัติ กจิ กรรมต่าง ๆ กจิ กรรมตา่ ง ๆ
ในการปฏิบตั ิ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ในชวี ติ ประจำวนั ในชวี ิตประจำวนั
กิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวิตประจำวนั และรบั ผิดชอบ
ในชีวติ ประจำวนั และรบั ผิดชอบ ในการทำงาน
และรับผดิ ชอบ ในการทำงาน
ในการทำงาน
ใฝ่เรยี นรู้
ตัวชว้ี ัดที่ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหลง่ เรียนรูต้ ่าง ๆ ท้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น
ด้วยการเลอื กใช้สอื่ อย่างเหมาะสม บนั ทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้
สามารถนำไปใช้ในชีวติ ประจำวันได้
พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดเี ย่ียม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไม่ผา่ น (0)
4.2.1 ศึกษาค้นคว้า ศกึ ษาคน้ คว้า ศึกษาค้นคว้า ศกึ ษาค้นคว้า ไม่ศกึ ษาคน้ คว้า
หาความร้จู ากหนังสือ หาความรู้จากหนังสือ หาความรู้
หาความรจู้ ากหนังสือ หาความรจู้ ากหนงั สอื เอกสาร สิง่ พิมพ์ เอกสาร สิ่งพมิ พ์
สอ่ื เทคโนโลยี ส่ือเทคโนโลยี
เอกสาร ส่ิงพิมพ์ เอกสาร สงิ่ พิมพ์ และสารสนเทศ แหลง่ เรียนรู้
แหล่งเรียนรู้ทั้งภายใน ทง้ั ภายในและภายนอก
สอื่ เทคโนโลยตี า่ ง ๆ สื่อเทคโนโลยี และภายนอกโรงเรยี น โรงเรยี น เลือกใชส้ อ่ื
และเลือกใช้สื่อ ได้อย่างเหมาะสม
แหล่งเรยี นรทู้ ้ังภายใน และสารสนเทศ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มกี ารบนั ทกึ ความรู้
มีการบนั ทกึ ความรู้
และภายนอกโรงเรยี น แหล่งเรยี นรทู้ ง้ั ภายใน วเิ คราะห์ข้อมูล
สรุปเป็นองคค์ วามรู้
และเลอื กใช้สือ่ ไดอ้ ยา่ ง และภายนอกโรงเรยี น แลกเปลย่ี นเรยี นรู้
กบั ผ้อู ่นื ได้
เหมาะสม เลือกใช้ส่อื
4.2.2 บันทกึ ความรู้ ได้อยา่ งเหมาะสม
วเิ คราะห์ ตรวจสอบ มกี ารบนั ทกึ ความรู้
จากสง่ิ ที่เรยี นรู้ วเิ คราะห์ข้อมูล
สรุปเปน็ องคค์ วามรู้ สรปุ เป็นองคค์ วามรู้
4.2.3 แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ แลกเปลย่ี นเรยี นรู้
ดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ ดว้ ยวธิ กี ารท่หี ลากหลาย
และนำไปใช้ และนำไปใช้
ในชวี ิตประจำวัน ในชวี ติ ประจำวันได้
๔๒
อยู่อยา่ งพอเพยี ง
ตวั ชว้ี ัดท่ี 5.1 ดำเนินชวี ติ อย่างพอประมาณ มเี หตุผล รอบคอบ มีคุณธรรม
พฤติกรรมบ่งชี้ ดเี ยีย่ ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผา่ น (0)
5.1.1 ใช้ทรัพย์สิน ใชท้ รัพยส์ นิ ของตนเอง ใช้ทรพั ย์สนิ ของตนเอง ใช้ทรพั ยส์ ินของตนเอง ใช้เงินและของใชส้ ว่ นตัว
ของตนเอง เชน่ เงิน และทรพั ยากร และทรัพยากร และทรัพยากร อย่างไมป่ ระหยดั
สง่ิ ของ เครื่องใช้ ฯลฯ ของสว่ นรวม ของส่วนรวม ของสว่ นรวม
อยา่ งประหยดั คุ้มคา่ อย่างประหยดั ค้มุ ค่า อยา่ งประหยดั คมุ้ ค่า อย่างประหยดั คมุ้ ค่า
และเก็บรักษาดูแล เก็บรกั ษาดแู ลอย่างดี เกบ็ รักษาดแู ลอย่างดี เก็บรกั ษาดูแลอยา่ งดี
อย่างดี รวมทง้ั การใช้ ตัดสินใจอย่างรอบคอบ ตัดสินใจอย่างรอบคอบ ตดั สินใจอย่างรอบคอบ
เวลาอย่างเหมาะสม มีเหตผุ ล มีเหตผุ ล มเี หตผุ ล
5.1.2 ใชท้ รพั ยากร ไม่เอาเปรยี บผู้อืน่ ไม่เอาเปรียบผอู้ ่นื
ของส่วนรวมอยา่ ง ไมท่ ำใหผ้ ู้อืน่ เดอื ดรอ้ น และไมท่ ำใหผ้ ู้อน่ื
ประหยดั ค้มุ คา่ และ และใหอ้ ภัยเม่อื ผอู้ นื่ เดอื ดร้อน
เก็บรกั ษาดแู ลอยา่ งดี กระทำผดิ พลาด
5.1.3 ปฏิบตั ติ นและ
ตดั สินใจดว้ ยความ
รอบคอบ มเี หตผุ ล
5.1.4 ไม่เอาเปรียบ
ผู้อ่นื และไมท่ ำให้
ผู้อืน่ เดือดรอ้ น
พร้อมใหอ้ ภยั
เมอื่ ผู้อน่ื
กระทำผดิ พลาด
มุ่งมน่ั ในการทำงาน
ตวั ชว้ี ัดที่ 6.1 ตัง้ ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบตั หิ น้าทีก่ ารงาน
พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดีเย่ยี ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไม่ผา่ น (0)
6.1.1 เอาใจใส่ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบ ตง้ั ใจและรบั ผดิ ชอบ ตัง้ ใจและรบั ผิดชอบ ไมต่ ้ังใจปฏบิ ตั ิ
ตอ่ การปฏิบตั ิหน้าท่ี ในการปฏบิ ตั ิหนา้ ที่ ในการปฏิบตั หิ นา้ ท่ี ในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ หนา้ ทีก่ ารงาน
ที่ได้รบั มอบหมาย ที่ได้รับมอบหมาย ทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย ที่ไดร้ บั มอบหมาย
6.1.2 ตั้งใจ ให้สำเรจ็ มกี ารปรับปรงุ ใหส้ ำเรจ็ มกี ารปรบั ปรุง ใหส้ ำเรจ็
และรบั ผิดชอบ และพฒั นาการทำงาน และพฒั นาการทำงาน
ในการทำงานให้สำเรจ็ ใหด้ ีขึ้นดว้ ยตนเอง ให้ดขี ้นึ
6.1.3 ปรบั ปรงุ
และพฒั นาการทำงาน
ด้วยตนเอง
๔๓ ๔๓
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 การพฒั นาตนเองให้เจริญเตบิ โตสมวัย
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1
เรื่อง การวเิ คราะหภ์ าวการณเ์ จรญิ เตบิ โตทางร่างกายของตนเองกบั เกณฑม์ าตรฐาน
รายวิชาสุขศกึ ษา รหสั วชิ า พ๒๑๑๐๑ ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์
ตวั ชว้ี ัด
พ 1.1 ม.1/3 วิเคราะห์ภาวะการเจริญเตบิ โตทางร่างกายของตนเองกบั เกณฑ์มาตรฐาน
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. วิเคราะห์ภาวะการเจริญเตบิ โตทางรา่ งกายกบั เกณฑม์ าตรฐาน (K)
2. เขยี นผลการวิเคราะห์ภาวะการเจรญิ เติบโตของตนเองกบั เกณฑม์ าตรฐาน (P)
3. เหน็ ประโยชน์ของการวิเคราะห์ภาวะการเจริญเติบโตของตนเองกับเกณฑ์มาตรฐาน (A)
สาระสาคญั
การวเิ คราะห์ภาวะการเจรญิ เตบิ โตทางรา่ งกายของตนเองกับเกณฑ์มาตรฐานเปน็ การสำรวจ
การเจรญิ เติบโตและพัฒนาการของตนเอง โดยการสังเกต รับฟังความคิดเห็นของผู้อนื่ และการประเมิน
ตนเอง ทำใหท้ ราบว่าตนเองมีการเจริญเตบิ โตที่สมวยั หรือไม่ อย่างไร เพื่อหาแนวทางในการพฒั นาตนเอง
ให้เจรญิ เตบิ โตตามเกณฑ์มาตรฐาน
สาระการเรียนรู้
การวิเคราะหภ์ าวการณ์เจรญิ เติบโตทางร่างกายของตนเองกับเกณฑ์มาตรฐาน
๔๔
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวินัย
2. ใฝ่เรียนรู้
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั น•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นักเรียนชงั่ นำ้ หนกั และวดั ส่วนสูง จากนัน้ รว่ มกนั สนทนาเก่ียวกบั การเจรญิ เตบิ โต
และพฒั นาการของตนเอง โดยตอบคำถาม ดงั นี้
• นักเรียนคดิ วา่ ตนเองมีการเจริญเตบิ โตและมีพัฒนาการเปลย่ี นแปลงไปจากปที ีแ่ ลว้
อย่างไรบ้าง
• นักเรยี นรูไ้ ด้อยา่ งไรวา่ ตนเองมีการเจริญเตบิ โตและมีพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
• ถ้านกั เรยี นต้องการวิเคราะห์การเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการท่ีเปล่ียนแปลงไปของตนเองและ
เพ่อื น นักเรียนจะวเิ คราะหจ์ ากอะไรบา้ ง
2. นกั เรียนบนั ทึกน้ำหนักและสว่ นสงู ของตนเอง ต้ังแต่ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5 ถึงปัจจบุ ันลงใน
แผนภาพความคิดเส้นเวลา และร่วมกนั สนทนา แล้วตอบคำถาม ดังนี้ (ตวั อย่าง)
ชื่อ-นามสกุล (นลินดา มหาไพบลู ยเ์ กียรติ) เพศโดยกาเนิด (หญิง)
อายุ (11) ปี อายุ (12) ปี อายุ (13) ปี
น้าหนกั (35) กิโลกรัม น้าหนกั (37) กิโลกรัม น้าหนกั (40) กิโลกรัม
ส่วนสูง (143) เซนติเมตร ส่วนสูง (145) เซนติเมตร ส่วนสูง (148) เซนติเมตร
อดีต ป.5 ป.6 ม.1 อนาคต
ปัจจุบนั
๔๕
• จากข้อมลู น้ำหนักและส่วนสงู ตง้ั แต่ชัน้ ป.5–ม.1 นักเรยี นมภี าวะการเจรญิ เติบโตเป็นอยา่ งไร
• นกั เรยี นคิดวา่ ภาวะการเจริญเติบโตของนักเรียนในอนาคตจะเป็นอยา่ งไร
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
3. นักเรียนร่วมกนั ฟงั การอธิบายเกยี่ วกับการวิเคราะหภ์ าวะการเจริญเติบโตทางรา่ งกายของตนเอง
กบั เกณฑ์มาตรฐานวา่ สามารถทำไดโ้ ดยนำคา่ น้ำหนัก ส่วนสงู และอายุไปเปรยี บเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน ท้ัง
แบบข้อมลู ตัวเลขและแบบกราฟการเจริญเติบโต โดยมีการประเมินการเจริญเตบิ โตทางร่างกาย 3 รูปแบบ คือ
การประเมินนำ้ หนกั ตามเกณฑ์อายุ การประเมนิ สว่ นสงู ตามเกณฑ์อายุ และการประเมินน้ำหนัก
ตามเกณฑ์ส่วนสูง
4. นักเรียนศกึ ษาความรู้และรวบรวมขอ้ มูลเกย่ี วกับการวิเคราะห์การเจริญเติบโตทางร่างกายของ
ตนเองกับเกณฑม์ าตรฐาน จากแหลง่ การเรยี นรู้ต่าง ๆ เชน่ หนงั สือเรียน อินเทอร์เน็ต
5. นักเรียนร่วมกนั เปรียบเทยี บส่วนสูงและนำ้ หนกั กบั กราฟอา้ งองิ การเจริญเตบิ โต โดยอ่านตัวอยา่ ง
ขอ้ มลู ดังนี้
คนท่ี 1 เพศชายอายุ 12 ปี สว่ นสงู 160 เซนตเิ มตร หนกั 55 กโิ ลกรมั
คนที่ 2 เพศชายอายุ 13 ปี ส่วนสงู 155 เซนติเมตร หนกั 50 กโิ ลกรัม
คนท่ี 3 เพศหญงิ อายุ 12 ปี สว่ นสงู 135 เซนติเมตร หนัก 30 กิโลกรัม
คนท่ี 4 เพศหญงิ อายุ 13 ปี ส่วนสูง 160 เซนติเมตร หนกั 40 กิโลกรัม
จากนน้ั ตอบคำถาม ดงั น้ี
• คนที่ 1 มีส่วนสูงตามเกณฑอ์ ายเุ ปน็ อย่างไร (ค่อนขา้ งสูง)
• คนที่ 2 มีส่วนสงู ตามเกณฑ์อายเุ ปน็ อยา่ งไร (ส่วนสูงตามเกณฑ์)
• คนที่ 3 มีส่วนสงู ตามเกณฑอ์ ายุเป็นอยา่ งไร (ค่อนข้างเตยี้ )
• คนที่ 4 มีส่วนสูงตามเกณฑอ์ ายุเป็นอย่างไร (ค่อนขา้ งสูง)
• คนท่ี 1 มีนำ้ หนักตามเกณฑ์อายเุ ปน็ อย่างไร (น้ำหนกั มากเกินเกณฑ์)
• คนท่ี 2 มนี ้ำหนักตามเกณฑ์อายเุ ปน็ อยา่ งไร (นำ้ หนกั ค่อนขา้ งมาก)
• คนท่ี 3 มนี ้ำหนักตามเกณฑ์อายุเปน็ อยา่ งไร (นำ้ หนกั ตามเกณฑ์)
• คนท่ี 4 มีนำ้ หนักตามเกณฑ์อายุเป็นอยา่ งไร (นำ้ หนักตามเกณฑ์)
• คนที่ 1 มนี ำ้ หนักตามเกณฑ์ส่วนสูงเป็นอย่างไร (สมส่วน)
• คนท่ี 2 มนี ้ำหนักตามเกณฑส์ ่วนสูงเปน็ อย่างไร (สมส่วน)
• คนท่ี 3 มนี ำ้ หนกั ตามเกณฑ์ส่วนสูงเป็นอย่างไร (สมส่วน)
• คนที่ 4 มีน้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสงู เปน็ อยา่ งไร (คอ่ นขา้ งผอม)
6. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม 4 กลมุ่ กลุ่มละเทา่ ๆ กัน แตล่ ะกลุ่มร่วมกนั วเิ คราะห์และแสดงความคิดเหน็
เกี่ยวกบั ประโยชน์ของการวิเคราะหภ์ าวะการเจริญเตบิ โตของตนเองกับเกณฑม์ าตรฐานเป็นแผนภาพความคิด
ดงั นี้
๔๖
ฝึกสังเกตพฒั นาการ ประโยชน์ของการวิเคราะห์ ทาใหท้ ราบวา่ ตนเอง
และการเจริญเติบโต ภาวะการเจริญเตบิ โตของ มีการเจริญเติบโตที่สมวยั
ตนเองกบั เกณฑ์มาตรฐาน
ของตนเอง หรือไม่
สามารถนาไปใชใ้ นการ ทาใหท้ ราบความแตกตา่ ง
กาหนดแนวทางการดูแล ของตนเองและเพื่อน
ตนเองได้
7. นักเรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ดังนี้
• หากเดก็ และเยาวชนไทยมีร่างกายแคระแกรน็ จะสง่ ผลกระทบต่อประเทศชาติอยา่ งไร
• •ข้ัน•ป•ฏิบ•ตั •แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•8.• นักเรยี นเปรียบเทยี บสว่ นสูงและน้ำหนักของตนเองกับกราฟแสดงเกณฑ์อ้างองิ การเจรญิ เติบโต
ส่วนสูงและน้ำหนกั ตามเกณฑ์อายุ และกราฟแสดงเกณฑ์อา้ งอิงการเจรญิ เตบิ โตน้ำหนกั ตามเกณฑ์สว่ นสงู และ
บนั ทึกข้อมลู ลงในช้นิ งานที่ 3 เร่อื ง การวเิ คราะห์ภาวะการเจริญเตบิ โตของตนเอง
9. นกั เรยี นร่วมกนั สรุปสงิ่ ท่ีเขา้ ใจเปน็ ความรู้รว่ มกัน ดังน้ี
การวเิ คราะห์ภาวะการเจริญเติบโตทางรา่ งกายของตนเองกับเกณฑ์มาตรฐานเปน็ การสำรวจ
การเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการของตนเอง โดยการสงั เกต รับฟังความคิดเหน็ ของผู้อ่นื และการประเมินตนเอง
ทำให้ทราบวา่ ตนเองมีการเจริญเติบโตท่สี มวัยหรอื ไม่ อยา่ งไร เพ่ือหาแนวทางในการพัฒนาตนเองให้
เจริญเตบิ โตตามเกณฑ์มาตรฐาน
ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.)
2. กราฟแสดงเกณฑ์อ้างองิ การเจริญเติบโต 3 รูปแบบ
• น้ำหนักตามเกณฑ์อายุ
• สว่ นสูงตามเกณฑ์อายุ
• นำ้ หนักตามเกณฑส์ ่วนสูง
3. แหลง่ การเรียนรูท้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน
๔๗
การประเมินการเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เรอ่ื ง การวิเคราะหภ์ าวะการเจรญิ เติบโตทางรา่ งกายของตนเองกับเกณฑม์ าตรฐาน
(K) ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมนิ ช้นิ งาน เรื่อง การวเิ คราะหภ์ าวะการเจรญิ เติบโตของตนเอง (P) ดว้ ยแบบประเมิน
4. ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ด้านมีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมนิ
แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมนิ ช้ินงาน เร่อื ง การวิเคราะหภ์ าวะการเจริญเตบิ โตของตนเอง
รายการการ ระดบั คณุ ภาพ
ประเมิน 4 3 2 1
การวิเคราะหภ์ าวะ เขียนผลการวเิ คราะห์ เขยี นผลการวเิ คราะห์ เขยี นผลการวเิ คราะห์ เขียนผลการวิเคราะห์
การเจริญเตบิ โต ข้อมลู ของตนเองได้ ข้อมลู ของตนเองได้ ขอ้ มูลของตนเองได้ ข้อมลู ของตนเอง
ของตนเอง ถูกต้อง ละเอียด ถูกต้อง ละเอยี ด ถกู ต้อง ละเอียด ไดถ้ ูกตอ้ ง
เข้าใจงา่ ย เสนอ เข้าใจง่าย เสนอ เขา้ ใจง่าย
แนวทางการพฒั นา แนวทางการพัฒนา
ตนเอง ตนเอง
ใหเ้ จรญิ เตบิ โตสมวัยได้ ใหเ้ จรญิ เตบิ โตสมวยั
และสามารถแนะนำ ได้
ผอู้ ืน่ ได้
ความคิดเห็นของผูบ้ ังคับบัญชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชอื่ .....................................................
(นายสมพร คลา้ ยวงษ์)
ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นโคกแสมสาร
๔๘ ๔๘
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 2 การพฒั นาตนเองให้เจรญิ เตบิ โตสมวัย
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 2
เรอื่ ง ปจั จยั ทีเ่ ก่ียวขอ้ งกบั การพัฒนาตนเองให้เจริญเตบิ โตสมวยั
รายวชิ าสุขศึกษา รหสั วิชา พ๒๑๑๐๑ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วัด
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์
ตวั ชว้ี ดั
พ 1.1 ม.1/4 แสวงหาแนวทางในการพัฒนาตนเองให้เจรญิ เติบโตสมวัย
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายปัจจัยที่เก่ยี วข้องกบั การพัฒนาตนเองใหเ้ จริญเตบิ โตสมวัย (K)
2. เขยี นแผนภาพสรุปปจั จัยทเี่ กี่ยวขอ้ งกบั การพัฒนาตนเองในเจริญเติบโตสมวยั (P)
3. ตระหนักและเหน็ ความสำคัญของปัจจยั ต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกับการพฒั นาตนเองใหเ้ จริญเติบโตสมวัย (A)
สาระสาคญั
การพฒั นาตนเองไปสู่เป้าหมายของการมสี ขุ ภาพดีตามเกณฑ์มาตรฐานย่อมต้องมปี ัจจยั หลายอยา่ ง
ท่เี ก่ียวข้อง ซ่ึงหากได้รับปจั จัยตา่ ง ๆ อย่างถูกต้องเหมาะสมก็จะทำให้มีพฒั นาการท่ดี ี
สาระการเรียนรู้
ปจั จยั ท่เี กย่ี วข้องกบั การพัฒนาตนเองใหเ้ จริญเตบิ โตสมวัย
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
๔๙
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรียนรู้
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั น•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. ตวั แทนนักเรยี นทีผ่ อม สมส่วน และอว้ นออกมายนื หนา้ ชน้ั เรียน จากนัน้ เพื่อน ๆ
ร่วมกนั สนทนาเก่ยี วกับตวั แทนนักเรียนในหัวข้อดงั ตอ่ ไปน้ี
• รูปรา่ ง น้ำหนกั สว่ นสูง
• บคุ ลิกภาพ
• ภาวะสุขภาพ
• สภาพจิตใจและอารมณ์
• ระดบั สติปัญญา
2. นักเรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการวเิ คราะห์การเจริญเตบิ โตและพัฒนาการว่ามีความสำคัญ
อย่างไร
3. นกั เรียนศึกษาความรู้และรวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกบั ปัจจยั ท่เี กยี่ วขอ้ งกับการพฒั นาตนเอง
ให้เจรญิ เติบโตสมวยั จากแหลง่ การเรียนร้ตู ่าง ๆ เช่น หนังสอื เรียน อนิ เทอรเ์ นต็
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
4. ตัวแทนนักเรียนออกมาอ่านแถบขอ้ ความเก่ยี วกับพฤติกรรมท่เี กี่ยวข้องกับการพฒั นาตนเองให้
เจรญิ เติบโตสมวยั จากนน้ั นกั เรยี นแตล่ ะคนแสดงความคิดเห็นว่าตนเองปฏิบัตเิ ปน็ ประจำ บางครงั้
หรือไมเ่ คยปฏิบัติเลย โดยการยกมือ ดังน้ี
พฤติกรรม ประจำ บางครง้ั ไมเ่ คย
รบั ประทานอาหารที่มีประโยชน์ สะอาด ปลอดภัยและปริมาณเพียงพอ
ออกกำลงั กายเป็นประจำสม่ำเสมอ อย่างนอ้ ยครง้ั ละ 30 นาที
นอนหลับอยา่ งน้อยวันละ 8 ชว่ั โมง
รเู้ ท่าทัน ไม่ตกเป็นทาสสารเสพติด
ตรวจสุขภาพอยา่ งน้อยปลี ะ 1 คร้งั
จากนั้นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยตอบคำถาม ดังนี้
๕๐
• ถา้ ในแต่ละวันร่างกายของนักเรยี นได้รบั อาหารและโภชนาการไม่ครบถ้วนจะส่งผลเสยี
ตอ่ ร่างกายอยา่ งไร
• นกั เรยี นคิดวา่ การออกกำลังกายอย่างสมำ่ เสมอและพกั ผ่อนนอนหลบั อยา่ งเพยี งพอ
จะสง่ ผลอยา่ งไรตอ่ การเจรญิ เติบโตของนักเรยี น
• นักเรียนคดิ ว่าผลจากการสำรวจในตาราง พฤติกรรมใดทีน่ ักเรยี นควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข
5. นักเรยี นแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสม แตล่ ะกลุ่มวเิ คราะหเ์ ก่ียวกับการเจรญิ เตบิ โตท่ไี มส่ มวยั
และบอกสาเหตุ ผลทเ่ี กดิ ขึ้น และแนวทางป้องกันและแก้ไขเป็นแผนภาพความคดิ ดงั นี้
รับประทานอาหารหวาน การเจริญเตบิ โต ผลท่ีเกดิ ขึน้
มนั มากเกินไป สาเหตุ ทไ่ี ม่สมวยั
• ทากิจกรรมต่าง ๆ
ไมอ่ อกกาลงั กาย อว้ น ในชีวติ ประจาวนั ไดย้ าก
• เกิดโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน
แนวทางป้องกนั และแก้ไข
รับประทานอาหารท่ีเป็นประโยชน์ ออกกาลงั กาย
อยา่ งสม่าเสมอ
6. นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ดงั นี้
• นกั เรียนจะมีแนวทางหรือวธิ กี ารเพือ่ ใหว้ ยั รนุ่ ไทยหันมาใสใ่ จสขุ ภาพได้อยา่ งไร
๕๑
• •ข้ัน•ป•ฏิบ•ตั •ิแล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•7.• นักเรยี นแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แต่ละกลุ่มรว่ มกันสรุปเก่ียวกับปจั จยั ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับ
การพฒั นาตนเองให้เจริญเตบิ โตสมวยั โดยเขยี นเปน็ แผนภาพความคิด ดังน้ี
(ตัวอย่างคำตอบ)
อาหารและโภชนาการ การออกกาลงั กาย ตอ้ งปฏิบตั ิ การพกั ผ่อนนอนหลับ ควรพกั ผอ่ น
รับประทานอาหารท่ีมีประโยชน์ เป็นประจาสม่าเสมอ อยา่ งนอ้ ย และนอนหลบั ใหเ้ พยี งพอกบั ความ
สะอาด ปลอดภยั และปริมาณ สัปดาห์ละ 3 วนั วนั ละ 30 นาที ตอ้ งการของร่างกาย ควรนอนหลบั
เพยี งพอ อยา่ งนอ้ ยวนั ละ 8 ชว่ั โมง
พฤติกรรมทางเพศ วางตวั สารเสพติด รู้เทา่ ทนั
ใหเ้ หมาะสมกบั เพศของตนเอง ไม่ตกเป็ นทาสสารเสพติด
อนามยั ส่วนบุคคล หมน่ั ดูแล ปัจจัยท่ีเกยี่ วข้องกบั การตรวจสุขภาพประจาปี ตรวจสุขภาพ
สารวจตนเองอยา่ งสม่าเสมอ การพฒั นาตนเอง อยา่ งนอ้ ยปี ละคร้ัง เพอ่ื สารวจความผดิ ปกติ
ให้เจริญเตบิ โต ของร่างกาย
ระดบั สติปญั ญา ส่งเสริมและ
ปรับปรุงตนเองใหม้ คี วาม สมวยั อุบัตภิ ยั ตอ้ งรูจ้ กั ป้องกนั และหลกี เล่ียง
เจริญกา้ วหนา้ ศึกษาหาความรู้ ใหร้ อดพน้ จากอนั ตราย
พฒั นาความสามารถตนเอง สภาพจิตใจและอารมณ์ สารวจ
อยเู่ สมอ สภาพจิตใจและอารมณ์ของตนเอง สภาพร่างกาย สงั เกตรูปร่าง ผวิ พรรณ
และหาทางปรับปรุงแกไ้ ขใหด้ ีข้นึ บุคลิกภาพ และภาวะสุขภาพของตนเอง
สภาพสังคม ใหค้ วามสาคญั อยเู่ สมอ
กบั ความสัมพนั ธใ์ นครอบครัว
รู้จกั ประมาณตน รู้จกั เลือกคบ
เพ่อื นท่ีดี มีส่วนร่วมพฒั นา
สังคม
8. นักเรยี นร่วมกันสรุปสง่ิ ที่เขา้ ใจเป็นความรู้ร่วมกัน ดงั นี้
การพัฒนาตนเองไปสเู่ ป้าหมายของการมสี ุขภาพดตี ามเกณฑ์มาตรฐานยอ่ มต้องมีปจั จัย
หลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ซงึ่ หากได้รับปัจจัยต่าง ๆ อย่างถกู ต้องเหมาะสมก็จะทำใหม้ ีพัฒนาการทีด่ ี
๕๒
สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรยี น รายวิชาพื้นฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 1
ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)
2. แถบข้อความเกย่ี วกับพฤติกรรมท่เี กี่ยวข้องกับการพัฒนาตนเองใหเ้ จรญิ เติบโตสมวัย
3. แหลง่ การเรียนรู้ทงั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น
การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมินความรู้ เรอ่ื ง ปัจจยั ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การพฒั นาตนเองใหเ้ จรญิ เติบโตสมวัย (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกล่มุ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
3. ประเมินคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ด้านมีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมนิ
ความคดิ เหน็ ของผู้บังคบั บญั ชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื .....................................................
(นายสมพร คล้ายวงษ์)
ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านโคกแสมสาร
๕๓ ๕๓
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 การพฒั นาตนเองให้เจริญเตบิ โตสมวัย
แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 3
เร่อื ง แนวทางการพฒั นาตนเองให้เจรญิ เติบโตสมวัย
รายวิชาสุขศกึ ษา รหสั วชิ า พ๒๑๑๐๑ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 เวลาเรียน 1 ช่วั โมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ัด
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน พ 1.1 เข้าใจธรรมชาตขิ องการเจริญเตบิ โตและพัฒนาการของมนุษย์
ตวั ชี้วดั
พ 1.1 ม.1/4 แสวงหาแนวทางในการพฒั นาตนเองใหเ้ จรญิ เติบโตสมวยั
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายแนวทางการพฒั นาตนเองให้เจรญิ เติบโตสมวยั (K)
2. เขียนวธิ กี ารในการพัฒนาตนเองให้เจริญเติบโตสมวยั (P)
3. เหน็ ประโยชน์และแสดงความสำคญั ของการพฒั นาตนเองใหเ้ จรญิ เตบิ โตสมวยั (A)
สาระสาคญั
การเจรญิ เติบโตสมวัย คอื การมีสุขภาพกายและสุขภาพจติ ทเี่ หมาะสมกบั วยั ของตนเอง และการดำรงชวี ิต
ในสังคมไดอ้ ยา่ งปกติสุข ซง่ึ เป็นหน้าทขี่ องทุกคนท่จี ะต้องร้จู ักดแู ลและพัฒนาตนเองให้เจริญเตบิ โต
สมวยั
สาระการเรียนรู้
แนวทางการพฒั นาตนเองให้เจริญเตบิ โตสมวยั
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
๕๔
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
๑. ใฝ่เรยี นรู้
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั น•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาเกี่ยวกับความหมายของการเจริญเติบโตสมวยั โดยตอบคำถาม ดังน้ี
• นกั เรียนคิดว่า การเจรญิ เติบโตสมวยั คอื อะไร
จากนน้ั นกั เรยี นรว่ มกนั รับฟังเกี่ยวกับความหมายของการเจรญิ เติบโตสมวยั ดังนี้
การเจริญเตบิ โตสมวัย คือ การมีสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตท่ีเหมาะสมกบั วยั ตนเอง
2. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน สำรวจขอ้ มลู การเจริญเติบโต จากนน้ั บันทึกลงในตาราง
แล้วตอบคำถาม ดงั น้ี
ลำดบั ชอ่ื เพศ อายุ นำ้ หนกั สว่ นสูง ส่วนสูง นำ้ หนกั น้ำหนัก
(ป)ี (กก.) (ซม.) ตามเกณฑ์ ตามเกณฑ์ ตามเกณฑ์
1 อายุ อายุ ส่วนสงู
2 อย่ใู นเกณฑ์ อยู่ในเกณฑ์ อย่ใู นเกณฑ์
3
4
5
สรุปการเจริญเตบิ โต
• ส่วนสูงตามเกณฑอ์ ายุ อยใู่ นเกณฑ์ ค่อนขา้ งสูง คน ส่วนสูงตามเกณฑ์ คน
คอ่ นขา้ งเต้ีย คน เต้ีย คน
• น้าหนกั ตามเกณฑอ์ ายุ อยใู่ นเกณฑ์ น้าหนกั มากเกินเกณฑ์ คน น้าหนกั ค่อนขา้ งมาก คน
น้าหนกั ตามเกณฑ์ คน คอ่ นขา้ งนอ้ ย คน
นอ้ ยเกินเกณฑ์
คน
• น้าหนกั ต•ามเกกลณุม่ ฑขส์อ่งวนนักสเูงรยี นอมยีกใู่ านรเเกจณรญิ ฑเ์ตบิอวโ้ ตนเปน็ อย่างไร คน เร่ิมอว้ น คน ทว้ ม คน
(นกั เรยี นในกลุ่มมีการเจรญิ เติบโตทส่ีดมีสส่วว่ นนใหญ่มีสว่คนนสูงแคลอ่ ะนนข้ำหา้ งนผักอตมามเกณฑค์ น ผอม คน
๕๕
3. นกั เรียนศกึ ษาความรู้และรวบรวมข้อมูลเก่ยี วกบั แนวทางการพฒั นาตนเองให้เจริญเติบโตสมวยั
จากแหลง่ การเรยี นรูต้ ่าง ๆ เช่น หนังสอื เรียน อินเทอร์เนต็
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
4. นกั เรียนร่วมกนั วิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นเก่ยี วกับหลักในการพัฒนาตนเองใหเ้ จริญเติบโต
สมวัย โดยตอบคำถาม ดงั น้ี
• นกั เรยี นคิดวา่ การจะพฒั นาตนเองใหเ้ จริญเติบโตสมวยั ต้องอาศยั ปัจจยั หลักอะไรบ้าง
• นักเรยี นคิดว่าอาหารมีความสำคญั ต่อการเจริญเตบิ โตหรือไม่ อย่างไร
• นักเรียนคิดว่าการออกกำลงั กายมีความสำคัญต่อการเจริญเตบิ โตหรือไม่ อยา่ งไร
• นักเรยี นคิดว่าการพักผ่อนและนอนหลับมีความสำคญั ต่อการเจรญิ เติบโตหรอื ไม่ อยา่ งไร
• นักเรยี นคิดว่าการหลีกเลีย่ งอุบัตเิ หตุมคี วามสำคญั ต่อการเจริญเติบโตหรือไม่ อย่างไร
• นกั เรียนคดิ ว่าการตรวจสุขภาพประจำปีมีความสำคญั ต่อการเจริญเติบโตหรือไม่ อยา่ งไร
5. นกั เรยี นวิเคราะห์การเจริญเติบโตของตนเองเก่ียวกับผลท่ีเกิดขึ้น ถา้ ปฏิบตั ิและไม่ปฏบิ ตั ิตาม
แนวทางการปฏบิ ตั ิตนทีช่ ว่ ยพัฒนาตนเองให้เจริญเติบโตสมวยั ลงในแผนภาพความคิด
เมื่อปฏบิ ัติ แนวทางการปฏิบัติตนที่ช่วย เมอื่ ไม่ปฏิบัติ
ผลที่เกิดขน้ึ พัฒนาตนเองใหเ้ จริญเติบโต
ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ
• รา่ งกายแขง็ แรง ผิวพรรณสดใส สมวัย
• จติ ใจเบกิ บาน อารมณด์ ี • รา่ งกายอ่อนแอ เปน็ โรคง่าย
• จิตใจเศร้าหมอง
อารมณ์แปรปรวน
6. นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ ดงั น้ี
• คนที่มีการเจรญิ เตบิ โตสมวยั มีลักษณะอยา่ งไรบ้าง
• •ข้นั •ป•ฏิบ•ตั •แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•7.• นักเรียนจบั คกู่ ับเพ่ือน ศกึ ษาปัจจัยทีเ่ กย่ี วข้องกับการพฒั นาตนเองให้เจรญิ เติบโตสมวัย
จากนั้นเสนอวิธีการพัฒนาตนเองให้เจริญเตบิ โตสมวัยในหวั ข้อที่คู่ตนเองได้ ดังนี้
1. อาหารและโภชนาการ
2. การออกกำลงั กาย
3. การพักผ่อนนอนหลับ
4. สารเสพติด
5. การตรวจสุขภาพประจำปี
6. อุบัตภิ ัย
๕๖
7. สภาพร่างกาย
8. สภาพจิตใจและอารมณ์
9. สภาพสงั คม
10.ระดับสติปญั ญา
11.อนามัยสว่ นบคุ คล
12.พฤติกรรมทางเพศ
8. นักเรยี นร่วมกันสรปุ สง่ิ ท่ีเข้าใจเป็นความรูร้ ว่ มกนั ดงั นี้
การเจริญเตบิ โตสมวยั คอื การมสี ุขภาพกายและสขุ ภาพจติ ท่ีเหมาะสมกับวยั ของตนเอง
และการดำรงชวี ติ ในสังคมได้อย่างเป็นปกติสุข ซง่ึ เป็นหนา้ ท่ขี องทกุ คนทจี่ ะต้องรจู้ กั ดูแลและพัฒนาตนเอง
ให้เจรญิ เติบโตสมวยั
สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพื้นฐาน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1
ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.)
2. สลากปัจจัยท่เี กย่ี วข้องกบั การพัฒนาตนเองใหเ้ จรญิ เติบโตสมวัย
3. แหล่งการเรียนรทู้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน
การประเมินการเรียนรู้
1. ประเมินความรู้ เรอ่ื ง แนวทางการพฒั นาตนเองให้เจริญเติบโตสมวยั (K) ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้ (A) ด้วยแบบประเมิน
ความคิดเห็นของผูบ้ ังคบั บญั ชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงช่ือ.....................................................
(นายสมพร คลา้ ยวงษ์)
ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบ้านโคกแสมสาร
๕๗ ๕๗
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 การพฒั นาตนเองใหเ้ จรญิ เตบิ โตสมวยั
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4
เรอ่ื ง การพฒั นาตนเองให้เจริญเตบิ โตสมวยั
รายวชิ าสขุ ศกึ ษา รหสั วิชา พ๒๑๑๐๑ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลาเรียน 1 ชั่วโมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วัด
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน พ 1.1 เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์
ตวั ชว้ี ดั
พ 1.1 ม.1/4 แสวงหาแนวทางในการพฒั นาตนเองให้เจริญเตบิ โตสมวัย
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายแนวทางการพฒั นาตนเองใหเ้ จริญเตบิ โตสมวัย (K)
2. เขียนวิธกี ารปฏบิ ตั ิตนตามแนวทางการพัฒนาตนเองใหเ้ จริญเตบิ โตสมวัย (P)
3. เห็นประโยชนแ์ ละความสำคัญของการพฒั นาตนเองให้เจริญเตบิ โตสมวยั (A)
สาระสาคญั
การร้จู ักแสวงหาแนวทางในการพฒั นาตนเองให้มีการเจรญิ เติบโตสมวยั มีสุขภาพกาย
และสขุ ภาพจติ ทดี่ ีเหมาะสมกับวยั ของตนเองจะทำใหด้ ำรงชีวติ ในสังคมได้อยา่ งปกตสิ ุข
สาระการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนาตนเองใหเ้ จริญเติบโตสมวยั
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแก้ปัญหา
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
๕๘
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มงุ่ มั่นในการทำงาน
2. อย่อู ยา่ งพอเพียง
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•ันน•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นกั เรียนร่วมกันสนทนาเก่ยี วกับการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวนั โดยยึดหลกั สขุ บญั ญตั แิ ห่งชาติ 10
ประการ โดยตอบคำถาม ดงั น้ี
• นักเรียนรจู้ ักหลกั สขุ บัญญัติแหง่ ชาติหรือไม่
• นักเรียนปฏบิ ัตติ ามหลักสขุ บัญญัติแหง่ ชาติหรือไม่
นักเรียนท่ีปฏิบัติตามหลักสขุ บัญญัติแห่งชาติ 2 คน ออกมาเลา่ การปฏบิ ตั ขิ องตนเองใหเ้ พื่อนฟัง
2. นกั เรียนรว่ มกนั สนทนาเกีย่ วกับการปฏิบตั ิตามหลกั สุขบัญญัตแิ ห่งชาติว่ามคี วามสัมพนั ธ์
กบั การพฒั นาตนเองให้เจริญเตบิ โตสมวยั อยา่ งไรบ้าง
3. นกั เรยี นศึกษาความรู้และรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับแนวทางการพฒั นาตนเองให้เจริญเตบิ โตสมวยั
จากแหลง่ การเรียนร้ตู ่าง ๆ เชน่ หนังสือเรยี น อินเทอรเ์ น็ต
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
4. ตวั แทนนักเรียนออกมาอ่านข่าวเกย่ี วกบั ปัญหาการเจรญิ เติบโตทีก่ ำหนดให้ จากนั้นรว่ มกัน
วเิ คราะห์และแสดงความคิดเหน็ โดยตอบคำถาม ดงั นี้
• จากบทความเปน็ ปญั หาที่เกีย่ วขอ้ งกบั การเจรญิ เติบโตอย่างไร
• ปญั หาการเจริญเตบิ โตจากบทความเกิดจากสาเหตุใด
• ปัญหาการเจรญิ เติบโตจากบทความส่งผลกระทบต่อสุขภาพอยา่ งไร
• จากบทความมีแนวทางการปฏบิ ัตติ นเพ่ือป้องกนั ปัญหาการเจริญเตบิ โตอย่างไร
๕๙
๕. นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม กลุม่ ละ 4 คน แต่ละกลุ่มเขยี นเสนอแนวทางการพฒั นาตนเองให้เจริญเตบิ โต
สมวยั เปน็ แผนภาพความคิด
ออกกาลงั กาย
อยา่ งนอ้ ยสัปดาห์ละ 3 วนั
นอนหลบั พกั ผอ่ น วนั ละ 30 นาที หลีกเล่ียงจากการใช้
ใหค้ รบ 8 ชวั่ โมง
สารเสพติด
รับประทานอาหาร
3 ม้ือใหค้ รบ 5 หมู่ การพฒั นาตนเอง
ให้เจริญเติบโต
สมวยั ไม่มีเพศสมั พนั ธ์
ตรวจสุขภาพ ก่อนวยั อนั ควร
เพอื่ หาความผิดปกติ
อยา่ งนอ้ ยปี ละคร้ัง
๖. นักเรยี นเขียนแนวทางการพัฒนาตนเองใหเ้ จริญเตบิ โตสมวยั ท่ตี นเองสามารถปฏิบตั ิได้
เปน็ ประจำลงในชนิ้ งานที่ 4 เร่อื ง แนวทางการพัฒนาตนเองให้เจรญิ เติบโตสมวัย
• •ข้ัน•ป•ฏิบ• ตั •ิแล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ห•ล•งั ก•าร•ปฏ• บิ •ตั •ิ (A•p•ply•in•g a•nd• C•o•ns•tru•ct•in•g t•he• K•no•w•le•dg•e)•
•๗.• นกั เรยี นร่วมกนั สรุปสิ่งทเ่ี ขา้ ใจเป็นความรรู้ ว่ มกัน ดงั น้ี
การรจู้ กั แสวงหาแนวทางในการพัฒนาตนเองให้มีการเจรญิ เตบิ โตสมวยั มสี ขุ ภาพกาย
และสุขภาพจิตท่ีดเี หมาะสมกับวยั ของตนเองจะทำใหด้ ำรงชีวิตในสังคมได้อย่างเป็นปกติสขุ
ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.)
2. ขา่ วเกยี่ วกบั ปญั หาการเจรญิ เตบิ โต
3. แหล่งการเรยี นร้ทู ั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
๖๐
การประเมินการเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เรอื่ ง แนวทางการพัฒนาตนเองใหเ้ จริญเติบโตสมวยั (K) ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ด้วยแบบประเมนิ
3. ประเมินชน้ิ งาน เร่อื ง แนวทางการพัฒนาตนเองให้เจรญิ เติบโตสมวยั (P) ดว้ ยแบบประเมิน
4. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ดา้ นมุ่งมนั่ ในการทำงาน อยู่อยา่ งพอเพยี ง (A) ด้วยแบบประเมิน
แบบประเมินตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมนิ ช้ินงาน เร่ือง แนวทางการพฒั นาตนเองให้เจรญิ เตบิ โตสมวยั
รายการการ ระดบั คณุ ภาพ
ประเมนิ 4 3 2 1
แนวทางการพัฒนา เสนอแนวทางการพัฒนา เสนอแนวทางการพฒั นา เสนอแนวทางการพฒั นา เสนอแนวทางการพฒั นา
ตนเองให้เจรญิ เติบโต ตนเองใหเ้ จรญิ เติบโต ตนเองใหเ้ จรญิ เตบิ โต ตนเองให้เจรญิ เติบโต
ตนเองให้ สมวยั ได้เหมาะสม สมวยั ได้เหมาะสม สมวยั ได้เหมาะสม
สมวัยไดเ้ หมาะสม เชอ่ื มโยงใหเ้ ห็นถงึ และเช่ือมโยงใหเ้ ห็นถึง
เจรญิ เติบโตสมวัย เชื่อมโยงให้เหน็ ถึง
ความสมั พันธก์ ัน ความสัมพันธ์กนั ความสมั พนั ธ์กัน
อย่างมีเหตผุ ล อยา่ งมีเหตผุ ล อย่างมเี หตผุ ล
เป็นแบบอย่างในการ เป็นแบบอย่างในการ
ปฏิบัตไิ ด้ และสามารถให้ ปฏิบตั ไิ ด้
คำแนะนำผูอ้ น่ื ได้
ความคดิ เห็นของผูบ้ ังคบั บญั ชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชอื่ .....................................................
(นายสมพร คล้ายวงษ์)
ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบา้ นโคกแสมสาร
๖๑ ๖๑
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 3 การเปลย่ี นแปลงทางร่างกาย จติ ใจ อารมณ์
และพฒั นาการทางเพศ
รหสั -ชอื่ รายวิชา พ 21101 สุขศึกษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศกึ ษา
เวลาเรียน 6 ชวั่ โมง
ช้ัน มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 1 โรงเรียน บ้านโคกแสมสาร
ผสู้ อน นายกวนิ พัฒน์ อชิรศิรโรจน์
เป้าหมายหลักของการเรียนรู้
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน พ 2.1 เขา้ ใจและเหน็ คุณคา่ ตนเอง ครอบครัว เพศศกึ ษา และมที ักษะในการดำเนนิ ชวี ิต
ตวั ชว้ี ดั
พ 2.1 ม.1/1 อธบิ ายวิธีการปรบั ตัวต่อการเปลีย่ นแปลงทางรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ และพัฒนาการ
ทางเพศอยา่ งเหมาะสม
พ 2.1 ม.1/2 แสดงทักษะการปฏเิ สธเพอ่ื ป้องกันตนเองจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
ความรู้ฝังแน่น ความเข้าใจท่คี งทน (Enduring Understanding)
นักเรยี นเข้าใจว่า การยอมรบั และปรับตัวต่อการเปลย่ี นแปลงตามธรรมชาตขิ องการเจริญเติบโต
จะช่วยใหว้ ัยรนุ่ ปฏิบัติตนต่อการเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศได้อยา่ ง
เหมาะสม
ควรสังเกตสถานการณ์รอบตัวและฝกึ ใช้ทักษะปฏเิ สธอยเู่ สมอเมื่อเกิดเหตุการณ์หรือตกอยู่
ในสถานการณ์ทเี่ สยี่ งต่อการล่วงละเมดิ ทางเพศจะชว่ ยปอ้ งกันการล่วงละเมิดทางเพศได้
สาระการเรียนรู้
1. การยอมรบั และการปรบั ตวั ต่อการเปลย่ี นแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ และพัฒนาการทางเพศ
2. การปอ้ งกนั การลว่ งละเมดิ ทางเพศ
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
๖๒
3. ความสามารถในการแก้ปญั หา
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ซื่อสตั ยส์ จุ รติ
2. มีวินัย
3. ใฝเ่ รยี นรู้
4. ม่งุ ม่ันในการทำงาน
ภาระงาน : ชิน้ งาน/การแสดงออกของผ้เู รียน
• ใบงานที่ 5 เร่อื ง การปรับตัวตอ่ การเปลยี่ นแปลงทางเพศ
• ใบงานท่ี 6 เร่ือง การป้องกนั ตนเองจากการลว่ งละเมิดทางเพศ
การประเมินการเรียนรู้
1. ประเมินความรู้ เร่อื ง การยอมรับและการปรับตวั ตอ่ การเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์
และพฒั นาการทางเพศ การป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศ (K) ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ด้วยแบบประเมิน
3. ประเมนิ ช้นิ งาน เร่ือง การปรับตวั ตอ่ การเปลย่ี นแปลงทางเพศ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
4. ประเมินชิน้ งาน เร่ือง การป้องกันตนเองจากการลว่ งละเมดิ ทางเพศ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
5. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นซ่ือสัตย์สุจรติ มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
รกั ความเป็นไทย มจี ิตสาธารณะ (A) ดว้ ยแบบประเมิน
แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่
รายการการ ระดบั คณุ ภาพ
ประเมิน
432 1
กระบวนการ
ทำงานกลุ่ม มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท ไมม่ ีการกำหนด
บทบาทสมาชกิ
สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหัวหนา้ และไมม่ กี ารชแี้ จง
เปา้ หมาย สมาชกิ
และมีการชีแ้ จงเปา้ หมาย มีการชแ้ี จงเป้าหมาย ไมม่ กี ารช้ีแจงเปา้ หมาย ตา่ งคนต่างทำงาน
การทำงาน อย่างชดั เจนและ อยา่ งชัดเจน
มกี ารปฏบิ ตั ิงานรว่ มกัน ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั ปฏิบัติงานร่วมกนั
อยา่ งรว่ มมอื รว่ มใจ แต่ไมม่ ีการประเมนิ ไมค่ รบทกุ คน
พร้อมกับการประเมินเป็น เปน็ ระยะ ๆ
ระยะ ๆ
๖๓
แบบประเมินช้นิ งาน เรอื่ ง การปรบั ตวั ต่อการเปลย่ี นแปลงทางเพศ
รายการการ ระดบั คุณภาพ
ประเมิน 4 32 1
การเขียนอธิบาย เขียนอธิบาย เขยี นอธบิ าย เขียนอธิบาย เขียนอธิบาย
การเปลย่ี นแปลง
การเปลย่ี นแปลง การเปลย่ี นแปลง การเปลย่ี นแปลง การเปลย่ี นแปลง ทางรา่ งกาย จติ ใจ
อารมณ์ และพฒั นาการ
ทางร่างกาย จิตใจ ทางรา่ งกาย จติ ใจ ทางรา่ งกาย จติ ใจ ทางร่างกาย จิตใจ ทางเพศ และวิธีการ
ปรบั ตัวท่ีเหมาะสม
อารมณ์ และพัฒนาการ อารมณ์ และพฒั นาการ อารมณ์ และพัฒนาการ อารมณ์ และพัฒนาการ รวมทัง้ ผลที่เกดิ ขึ้นไดแ้ ต่
ไมส่ อดคล้องกนั เขียน
ทางเพศ และวิธกี าร ทางเพศ และวิธกี าร ทางเพศ และวิธกี าร ทางเพศ และวิธีการ ตามข้อมูลที่อา่ นไมม่ ีการ
อธิบายเพ่ิมเตมิ
ปรบั ตวั ทเ่ี หมาะสม ปรับตัวทเี่ หมาะสม ปรบั ตวั ที่เหมาะสม ปรับตวั ท่เี หมาะสม
รวมท้งั ผลท่เี กดิ ขน้ึ รวมทง้ั ผลท่เี กดิ ขึน้ รวมท้งั ผลทเ่ี กดิ ขึ้นได้ รวมทง้ั ผลท่ีเกดิ ขึน้
ไดส้ มั พันธก์ นั มกี ารจำแนกขอ้ มลู หรือ ไดส้ อดคลอ้ งกัน
มกี ารเชื่อมโยงให้เห็น อธบิ ายให้เห็นถึง มกี ารเขยี นขยายความ
เปน็ ภาพรวม แสดงให้ ความสมั พนั ธ์กบั ตนเอง เพ่ือใหเ้ ข้าใจง่าย
เหน็ ถึงความสมั พันธ์ อย่างเป็นเหตเุ ป็นผล
กับตนเองและผู้อน่ื
แบบประเมินช้นิ งาน เรอื่ ง การป้องกนั ตนเองจากการล่วงละเมิดทางเพศ
รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมนิ 4 3 2 1
การแสดงทกั ษะ แสดงทกั ษะการปฏเิ สธ แสดงทักษะการปฏเิ สธ แสดงทักษะการปฏเิ สธ แสดงทกั ษะการ
การปฏเิ สธเพ่ือปอ้ งกนั เพอ่ื ป้องกนั ตนเอง เพ่อื ป้องกนั ตนเอง เพือ่ ปอ้ งกันตนเอง
ปฏิเสธเพื่อป้องกนั
ตนเองจากการ จากการลว่ งละเมดิ ทาง จากการลว่ งละเมิดทาง จากการลว่ งละเมดิ ทาง
เพศไดอ้ ยา่ งเหมาะสม เพศได้อยา่ งเหมาะสม ตนเอง
ลว่ งละเมิดทางเพศ เพศได้อยา่ งถกู ต้อง โดยมคี รูหรอื เพือ่ นแนะนำ โดยมคี รูหรือเพือ่ นแนะนำ จากการลว่ งละเมดิ
บ้างและสามารถแกไ้ ข บา้ งและอธบิ ายผลท่ี ทางเพศได้ แต่ต้องให้
และอธิบายผลท่เี กดิ ขนึ้ เหมาะสม สามารถแก้ไข
ลงในแผนภาพความคดิ ปัญหาในระหวา่ งปฏบิ ัติ ครหู รอื เพ่ือนแนะนำ
ได้ และอธิบายผลท่ี ปัญหาระหวา่ งปฏบิ ตั ไิ ด้ เกดิ ขน้ึ ต่อตนเอง วธิ ปี ฏิบัติ และอธิบาย
เกดิ ขนึ้ เชื่อมโยง อธิบายผล ครอบครัว สังคม
ให้เห็นเปน็ ภาพรวม ที่เกดิ ข้นึ ตอ่ ตนเอง และโลกได้สอดคล้องกนั ผลทีเ่ กดิ ขน้ึ ต่อตนเอง
แสดงความสมั พันธก์ บั ครอบครวั สงั คม
ครอบครวั สงั คม
ตนเอง ครอบครัว สังคม และโลกคอ่ นข้างเชอื่ มโยง และโลกได้
แต่ไมส่ อดคล้องกนั
และโลก กัน
๖๔
แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ซื่อสัตย์สุจรติ
ตัวชวี้ ดั ท่ี 2.1 ประพฤติตรงตามความเป็นจริงตอ่ ตนเองท้งั ทางกาย วาจา ใจ
พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดีเย่ียม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไม่ผา่ น (0)
2.1.1 ให้ข้อมูล ให้ขอ้ มูลทถี่ ูกตอ้ ง ใหข้ อ้ มลู ที่ถูกตอ้ ง ใหข้ ้อมูลท่ถี ูกตอ้ ง ไม่ให้ข้อมูลทถ่ี ูกตอ้ ง
ทถี่ ูกต้องและเปน็ จรงิ และเปน็ จริง และเปน็ จรงิ และเปน็ จรงิ และเป็นจริง
2.1.2 ปฏบิ ตั ิตน ปฏบิ ตั ิในสิง่ ท่ถี กู ต้อง ปฏบิ ัตใิ นสิ่งที่ถกู ต้อง ปฏบิ ัตใิ นส่งิ ที่ถูกต้อง
โดยคำนึงถงึ ละอายและเกรงกลวั ละอายและเกรงกลัว ทำตามสญั ญาท่ีตนให้
ความถกู ต้อง ละอาย ที่จะทำความผดิ ท่ีจะทำความผดิ ไว้กับเพือ่ น พอ่ แม่
และเกรงกลวั ทำตามสัญญาที่ตนให้ ทำตามสัญญาท่ีตนให้ หรอื ผู้ปกครอง และ
ตอ่ การกระทำผิด ไว้กบั เพ่อื น พอ่ แม่ ไว้กบั เพ่ือน พ่อแม่ ครู
2.1.3 ปฏิบัติตาม หรอื ผู้ปกครอง และ หรอื ผปู้ กครอง และ
คำมนั่ สัญญา ครู ครู
เป็นแบบอยา่ งทีด่ ี
ด้านความซ่ือสตั ย์
มีวนิ ัย
ตัวชว้ี ดั ท่ี 3.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคบั ของครอบครัว โรงเรยี น และสังคม
พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดเี ยย่ี ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไม่ผา่ น (0)
3.1.1 ปฏบิ ัตติ น ปฏิบัตติ ามข้อตกลง ปฏิบตั ิตามข้อตกลง ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง ไม่ปฏบิ ัติตนตาม
ตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบียบ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์
กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของ ข้อบงั คบั ของ ขอ้ บงั คบั ของ ระเบียบ ข้อบงั คบั
ข้อบงั คบั ของ ครอบครัว โรงเรียน ครอบครัวและโรงเรียน ครอบครัวและ ของครอบครัวและ
ครอบครัว โรงเรยี น และสังคม ตรงตอ่ เวลา โรงเรียน ตรงตอ่ เวลา โรงเรียน
และสังคม ไม่ละเมดิ ไม่ละเมดิ สิทธขิ อง ในการปฏบิ ตั ิ ในการปฏบิ ตั ิ
สิทธขิ องผู้อ่ืน ผอู้ น่ื กิจกรรมต่าง ๆ กิจกรรมต่าง ๆ
3.1.2 ตรงตอ่ เวลา ตรงต่อเวลา ในชวี ิตประจำวัน ในชีวติ ประจำวัน
ในการปฏบิ ตั ิ ในการปฏบิ ัติ และรบั ผดิ ชอบ
กิจกรรมตา่ ง ๆ กจิ กรรมตา่ ง ๆ ในการทำงาน
ในชีวติ ประจำวนั ในชวี ิตประจำวนั
และรับผิดชอบ และรบั ผิดชอบ
ในการทำงาน ในการทำงาน
๖๕
ใฝเ่ รียนรู้
ตวั ช้วี ดั ท่ี 4.1 ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเขา้ ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
พฤติกรรมบ่งช้ี ดีเยย่ี ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไม่ผา่ น (0)
ไมต่ ั้งใจเรียน
4.1.1 ตงั้ ใจเรียน เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา
4.1.2 เอาใจใส่ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ ต้ังใจเรยี น เอาใจใส่ ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่
และมคี วามเพียร และมคี วามเพียร และมีความเพียร ในการเรียนรู้ มสี ่วน
พยายาม พยายามในการเรยี นรู้ พยายามในการเรียนรู้ ร่วมในการเรียนรู้
ในการเรียนรู้ มสี ว่ นรว่ มในการเรยี นรู้ มีสว่ นรว่ มในการเรียนรู้ และเข้าร่วมกิจกรรม
4.1.3 สนใจเขา้ รว่ ม และเขา้ ร่วมกจิ กรรม และเขา้ ร่วมกิจกรรม การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ
กิจกรรมการเรยี นรู้ การเรียนรตู้ า่ ง ๆ การเรียนรตู้ ่าง ๆ เปน็ บางคร้งั
ตา่ ง ๆ ท้งั ภายในและภายนอก บ่อยคร้ัง
โรงเรียนเปน็ ประจำ
ตวั ชว้ี ัดท่ี 4.2 แสวงหาความรจู้ ากแหลง่ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน
ดว้ ยการเลือกใชส้ ่อื อย่างเหมาะสม บันทกึ ความรู้ วเิ คราะห์ สรปุ เป็นองค์ความรู้
สามารถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวันได้
พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดีเยยี่ ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ ่าน (0)
4.2.1 ศึกษาคน้ ควา้ ศึกษาคน้ คว้า ศกึ ษาค้นคว้า ศกึ ษาคน้ คว้า ไม่ศึกษาค้นคว้า
หาความรู้จากหนังสือ หาความรู้จากหนังสือ หาความรู้จากหนังสือ หาความรจู้ ากหนงั สือ หาความรู้
เอกสาร ส่ิงพิมพ์ เอกสาร สง่ิ พิมพ์ เอกสาร สงิ่ พิมพ์ เอกสาร สิง่ พิมพ์
สอื่ เทคโนโลยตี ่าง ๆ สื่อเทคโนโลยี สอื่ เทคโนโลยี สื่อเทคโนโลยี
แหลง่ เรยี นรูท้ ้งั ภายใน และสารสนเทศ และสารสนเทศ แหลง่ เรยี นรู้
และภายนอกโรงเรียน แหลง่ เรียนรู้ท้งั แหล่งเรียนรทู้ ั้งภายใน ท้งั ภายในและ
และเลือกใชส้ อ่ื ได้ ภายใน และภายนอกโรงเรียน ภายนอกโรงเรียน
อย่างเหมาะสม และภายนอกโรงเรียน และเลอื กใช้สอื่ เลือกใช้สือ่
4.2.2 บนั ทกึ ความรู้ เลอื กใช้ส่ือ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
วิเคราะห์ ตรวจสอบ ได้อย่างเหมาะสม มีการบันทึกความรู้ มกี ารบันทึกความรู้
จากส่งิ ทเ่ี รยี นรู้ มกี ารบันทึกความรู้ วเิ คราะหข์ ้อมลู
สรปุ เปน็ องค์ความรู้ วเิ คราะห์ข้อมูล สรุปเปน็ องค์ความรู้
4.2.3 แลกเปลย่ี น สรปุ เป็นองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนเรียนรู้
เรียนรู้ แลกเปล่ียนเรยี นรู้ กบั ผู้อน่ื ได้
ด้วยวธิ กี ารตา่ ง ๆ ดว้ ยวิธกี ารท่ี
และนำไปใช้ หลากหลาย
ในชวี ิตประจำวัน และนำไปใช้
ในชวี ิตประจำวันได้
๖๖
มุง่ มน่ั ในการทำงาน
ตัวช้วี ัดที่ 6.1 ตั้งใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏิบัตหิ นา้ ท่กี ารงาน
พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดีเยยี่ ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ า่ น (0)
6.1.1 เอาใจใส่ ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ต้ังใจและรบั ผิดชอบ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบ ไมต่ ัง้ ใจปฏิบตั ิ
ในการปฏิบัตหิ น้าที่ ในการปฏิบตั ิหนา้ ท่ี หน้าทก่ี ารงาน
ตอ่ การปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ท่ีได้รับมอบหมาย
ใหส้ ำเรจ็ มกี าร ให้สำเร็จ
ที่ได้รบั มอบหมาย ท่ไี ด้รบั มอบหมาย ปรบั ปรุงและ
พฒั นาการทำงาน
6.1.2 ตั้งใจ ให้สำเร็จ มีการ ให้ดีขนึ้
และรับผิดชอบ ปรบั ปรุงและ
ในการทำงานใหส้ ำเรจ็ พัฒนาการทำงาน
6.1.3 ปรับปรงุ ให้ดขี ึน้ ด้วยตนเอง
และพฒั นาการทำงาน
ดว้ ยตนเอง
๖๗ ๖๗
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3 การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศ
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1
เรือ่ ง ลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย
รายวิชาสุขศกึ ษา รหัสวชิ า พ๒๑๑๐๑ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน พ 2.1 เขา้ ใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครวั เพศศกึ ษา และมที ักษะในการดำเนนิ ชีวติ
ตัวชี้วัด
พ 2.1 ม.1/1 อธิบายวธิ กี ารปรับตัวตอ่ การเปลย่ี นแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ และพฒั นาการ
ทางเพศอยา่ งเหมาะสม
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย (K)
2. เขียนสรปุ การเปล่ยี นแปลงทางรา่ งกาย (P)
3. ตระหนักถึงการเปลย่ี นแปลงทางรา่ งกาย (A)
สาระสาคญั
การเปลยี่ นแปลงทางร่างกายของวยั รุ่นจะเป็นไปตามธรรมชาติของการเจรญิ เตบิ โต ซึ่งแสดงถงึ
ความแตกต่างระหว่างเพศชายโดยกำเนิดและเพศหญิงโดยกำเนดิ ท่ีมลี กั ษณะเฉพาะของตนเองอย่างชดั เจน
สาระการเรียนรู้
ลักษณะการเปลย่ี นแปลงทางร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ และพัฒนาการทางเพศ
• ลักษณะการเปลีย่ นแปลงทางร่างกาย
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
๖๘
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวนิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั น•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นกั เรียนสังเกตภาพวัยเด็กและภาพวยั รนุ่ จากนัน้ ร่วมกันสนทนาเกีย่ วกบั การเปลย่ี นแปลง
ทางรา่ งกายของวัยรุน่ โดยตอบคำถาม ดังน้ี
ภาพท่ี 1 ภาพที่ 2
• ภาพที่ 1 เปน็ ภาพวัยใด สังเกตจากอะไร
• ภาพท่ี 2 เปน็ ภาพวยั ใด สังเกตจากอะไร
2. นกั เรยี นศกึ ษาความรู้และรวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกับลักษณะการเปลย่ี นแปลงทางรา่ งกาย
จากแหล่งการเรียนรตู้ ่าง ๆ เชน่ หนังสือเรียน อนิ เทอรเ์ น็ต
๖๙
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
3. นักเรยี นจบั คกู่ ับเพื่อนทม่ี เี พศโดยกำเนดิ ต่างจากตนเอง และเปรยี บเทยี บการเปลี่ยนแปลง
ทางร่างกายของตนเองกบั เพ่ือนเปน็ แผนภาพความคิด ดังนี้
ชื่อ ..................... ชื่อ .....................
เพศโดยกาเนิด : ........ สิ่งท่ีเหมือนกนั เพศโดยกาเนิด : ........
การเปล่ียนแปลงทางร่างกาย : น้าหนกั และส่วนสูงเพมิ่ ข้นึ การเปล่ียนแปลงทางร่างกาย :
...................................................... ......................................................
..
4. นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น โดยตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ดังนี้
• นักเรียนคิดวา่ สิ่งใดทำใหเ้ กิดการเปลย่ี นแปลงทางดา้ นรา่ งกาย
• •ข้ัน•ป•ฏบิ•ตั •ิแล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•5.• นักเรยี นแบง่ กลุ่ม 4 กลุ่ม แต่ละกลมุ่ สบื คน้ ขอ้ มลู เกีย่ วกับการเปลีย่ นแปลงทางร่างกาย
จากนั้นสรุปเป็นแบบแผนความคิด
มีหนวดเครา เสียงแตกหา้ ว หนา้ อก
ขยายใหญ่ข้นึ
การเปลย่ี นแปลง
ทางร่างกาย
ช่วงไหล่กวา้ งข้ึน มีขนที่รักแร้
เสียงเลก็ แหลม
6. นักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ีเข้าใจเปน็ ความรู้ร่วมกนั ดงั น้ี
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของวยั รุ่นจะเป็นไปตามธรรมชาติของการเจริญเติบโต ซึ่งแสดงถึง
ความแตกตา่ งระหว่างเพศชายโดยกำเนดิ และเพศหญิงโดยกำเนิด ทม่ี ีลักษณะเฉพาะของตนเองอยา่ งชัดเจน
๗๐
สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสอื เรียน รายวชิ าพื้นฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 1
ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.)
2. ภาพวยั เด็กและวยั รุ่น
3. แหลง่ การเรยี นรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น
การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมินความรู้ เร่อื ง ลักษณะการเปลยี่ นแปลงทางรา่ งกาย (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุม่ (P) ด้วยแบบประเมิน
3. ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นมีวนิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมนิ
ความคดิ เห็นของผูบ้ ังคับบญั ชา
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
ลงช่ือ.....................................................
(นายสมพร คล้ายวงษ์)
ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นโคกแสมสาร
๗๑ ๗๑
หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 การเปลีย่ นแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศ
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 2
เร่อื ง ลกั ษณะการเปล่ียนแปลงทางจิตใจและอารมณ์
รายวิชาสขุ ศกึ ษา รหัสวิชา พ๒๑๑๐๑ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน พ 2.1 เขา้ ใจและเห็นคณุ ค่าตนเอง ครอบครวั เพศศึกษา และมีทักษะในการดำเนินชีวิต
ตวั ชี้วดั
พ 2.1 ม.1/1 อธิบายวิธีการปรบั ตวั ต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และพัฒนาการ
ทางเพศอย่างเหมาะสม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายการเปล่ียนแปลงทางจิตใจและอารมณ์ (K)
2. เขียนสรุปการเปล่ยี นแปลงทางจิตใจและอารมณ์ (P)
3. ตระหนักถึงการเปลยี่ นแปลงทางจิตใจและอารมณ์ (A)
สาระสาคญั
การเปลีย่ นแปลงทางจิตใจและอารมณ์ของวยั ร่นุ มักจะแสดงภาวะอารมณ์ทัง้ ทางบวกและทางลบ
ตามสถานการณ์และสภาพแวดล้อมท่เี ปน็ อยู่ และสามารถเกิดขน้ึ ได้ทกุ คนไม่วา่ เพศใด
สาระการเรียนรู้
ลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ และพัฒนาการทางเพศ
• ลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางจติ ใจและอารมณ์
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
๗๒
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รียนรู้
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั น•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นกั เรียนสงั เกตภาพเดก็ หวั เราะและภาพเด็กโมโห จากนัน้ ร่วมกันสนทนาเกย่ี วกับ
การเปล่ียนแปลงทางจิตใจและอารมณข์ องวยั รนุ่ โดยตอบคำถาม
ภาพท่ี 1 ภาพท่ี 2
• ภาพทัง้ 2 ภาพ เป็นภาพเก่ียวกบั อะไร
• ภาพที่ 1 แสดงอารมณ์อย่างไร
• ภาพที่ 2 แสดงอารมณ์อยา่ งไร
• ภาพใดแสดงภาวะอารมณท์ างบวก และภาพใดแสดงภาวะอารมณ์ทางลบ
• นอกจากอารมณ์ในภาพแลว้ นักเรยี นยังแสดงอารมณ์ใดอีกบ้าง
2. นักเรียนศึกษาความรู้และรวบรวมข้อมูลเก่ยี วกับลักษณะการเปลย่ี นแปลงทางจติ ใจและอารมณ์
จากแหลง่ การเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น หนังสือเรียน อนิ เทอรเ์ น็ต
๗๓
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
3. ขีดเสน้ แบ่งกระดานออกเปน็ 2 ฝง่ั แลว้ เขยี นหัวขอ้ จิตใจและอารมณ์ทางบวกทีฝ่ ่ังซา้ ย และเขยี น
หวั ข้อจิตใจและอารมณท์ างลบทฝี่ ่งั ขวา จากนั้นตวั แทนนักเรยี นคร้ังละ 1 คน ออกมาสุ่มหยิบบตั รคำ
ลกั ษณะจิตใจและอารมณต์ ่าง ๆ ของวัยรุ่น แลว้ อ่านใหเ้ พอื่ นฟงั จากนน้ั นำไปตดิ บนกระดานใหส้ มั พันธ์
กบั หัวข้อ
จิตใจและอารมณ์ทางบวก จิตใจและอารมณ์ทางลบ
ดีใจ ชอบใจ เขม้ แขง็ โกรธ อิจฉาริษยา
ชื่นชม สุขสบาย สนุกสนาน เสียใจ เศร้าใจ
กลา้ หาญ งอแง เครียด
4. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น โดยตอบคำถามกระต้นุ ความคิด ดงั นี้
• นกั เรยี นมีแนวทางทำใหต้ นเองมจี ติ ใจและอารมณท์ างบวกอย่เู สมอได้อยา่ งไร
• •ข้นั •ป•ฏิบ•ตั •ิแล•ะส• ร•ุป• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•5.• นักเรยี นแบ่งกลุ่ม 4 กลุม่ แต่ละกล่มุ สืบคน้ ข้อมูลเกย่ี วกบั การเปล่ียนแปลงทางจติ ใจและอารมณ์
จากนั้นสรปุ เปน็ แผนภาพความคดิ
เสียสละ
ออ่ นโยน กลา้ หาญ
งอแง การเปลยี่ นแปลง เขม้ แขง็
ซึมเศร้า ทางจติ ใจ
และอารมณ์
หงดุ หงิดง่าย
๗๔
6. นักเรียนรว่ มกนั สรุปสง่ิ ท่ีเขา้ ใจเป็นความรรู้ ่วมกนั ดังน้ี
การเปลี่ยนแปลงทางจติ ใจและอารมณข์ องวยั รุ่น มักจะแสดงภาวะอารมณ์ท้งั ทางบวก
และทางลบตามสถานการณแ์ ละสภาพแวดล้อมทีเ่ ป็นอยู่ และสามารถเกดิ ขึน้ ไดท้ ุกคนไม่วา่ เพศใด
ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพนื้ ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.)
2. ภาพเด็กหัวเราะและเด็กโมโห
3. บัตรคำลกั ษณะจติ ใจและอารมณข์ องวัยร่นุ
4. แหล่งการเรียนรทู้ ้ังภายในและภายนอกโรงเรียน
การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง ลักษณะการเปลย่ี นแปลงทางจติ ใจและอารมณ์ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม่ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
3. ประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นมวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ (A) ด้วยแบบประเมนิ
ความคดิ เหน็ ของผู้บังคับบัญชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชอื่ .....................................................
(นายสมพร คลา้ ยวงษ์)
ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านโคกแสมสาร
๗๕ ๗๕
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 การเปลย่ี นแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศ
แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 3
เร่ือง พัฒนาการทางเพศ
รายวิชาสขุ ศกึ ษา รหสั วิชา พ๒๑๑๐๑ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลาเรียน 1 ช่วั โมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน พ 2.1 เข้าใจและเห็นคุณค่าตนเอง ครอบครวั เพศศึกษา และมที ักษะในการดำเนนิ ชีวิต
ตัวชวี้ ดั
พ 2.1 ม.1/1 อธบิ ายวธิ ีการปรับตัวตอ่ การเปล่ียนแปลงทางร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ และพัฒนาการ
ทางเพศอย่างเหมาะสม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายพัฒนาการทางเพศ (K)
2. เขียนสรุปพัฒนาการทางเพศ (P)
3. เข้าใจถงึ พัฒนาการทางเพศ (A)
สาระสาคญั
เมอื่ เข้าสวู่ ัยรุ่นจะมีการเปลีย่ นแปลงของฮอร์โมน ซ่งึ มผี ลต่อพฒั นาการทางเพศอยา่ งชดั เจน เราจึงต้องรจู้ ัก
และเขา้ ใจตนเองอยา่ งถูกต้อง พร้อมที่จะยอมรับการเปล่ยี นแปลง และพัฒนาตนเองให้มีความสมบรู ณ์
เกดิ ความพร้อมในทุกดา้ น
สาระการเรียนรู้
ลักษณะการเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ และพัฒนาการทางเพศ
• พัฒนาการทางเพศ
๗๖
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั น•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นักเรียนร่วมกนั ฟังการอธบิ ายเก่ยี วกับการเปลย่ี นแปลงของฮอร์โมนในวัยรุน่ ว่า เม่ือเข้าสู่
ช่วงวัยรุ่นรา่ งกายจะมีการเปลย่ี นแปลงของฮอรโ์ มน โดยเพศหญงิ คือ ฮอรโ์ มนเอสโทรเจน ทจี่ ะทำให้
เพศหญิงมพี ัฒนาการทางเพศท่ีสำคัญ คือ การมปี ระจำเดือน สว่ นเพศชาย คอื ฮอร์โมนเทสทอสเทอโรน
ซ่ึงจะทำให้มีการสรา้ งอสุจิ และขับออกมาขณะนอนหลบั เรียกวา่ “ฝนั เปยี ก”
2. นกั เรยี นร่วมกันสนทนาเกย่ี วกับพฒั นาการทางเพศ โดยตอบคำถาม ดังน้ี
ถามนกั เรียนเพศหญิงโดยกำเนิด
• นักเรียนมปี ระจำเดอื นแลว้ หรอื ยัง
• ขณะมปี ระจำเดอื นนักเรยี นมีอาการอย่างไร
ถามนกั เรียนเพศชายโดยกำเนิด
• นกั เรยี นเคยมฝี นั เปียกแล้วหรอื ยัง
• นักเรียนพบวา่ มีฝนั เปยี กในชว่ งใด
3. นักเรยี นศึกษาความรู้และรวบรวมขอ้ มลู เก่ยี วกับพัฒนาการทางเพศ จากแหล่งการเรียนรู้ตา่ ง ๆ
เช่น หนังสอื เรยี น อินเทอร์เน็ต
๗๗
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
4. นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์เกีย่ วกับพัฒนาการทางเพศของเพศชายโดยกำเนดิ และเพศหญิง
โดยกำเนดิ เป็นแผนภาพความคิด ดงั น้ี
พฒั นาการทางเพศ ส่ิงท่ี พฒั นาการทางเพศ
ของ เหมือนกัน ของ
(มีการฝัเนพเปศี ชยกาย)โดยกาเนิด (มีความสนใจ เพศห(ญเรงิ่มโมดีปยกราะเจนาดิเดือน)
ในเร่ืองเพศ)
5. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น โดยตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ดังน้ี
• มสี ง่ิ ใดบ้างท่ีแสดงให้เหน็ วา่ นักเรยี นเขา้ สวู่ ยั หนุ่มสาวแล้ว
• •ข้ัน•ป•ฏิบ•ตั •แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•6.• นกั เรยี นแบ่งกลุ่ม 2 กลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กนั ตัวแทนกลุ่มจับสลากเลอื กหัวข้อ เพื่อสรปุ ข้อมูล
เป็นความเรยี ง ดงั นี้
กลมุ่ ท่ี 1 พฒั นาการทางเพศของเพศหญิงโดยกำเนิด
กลุ่มท่ี 2 พัฒนาการทางเพศของเพศชายโดยกำเนดิ
พฒั นาการทางเพศของเพศหญิง พฒั นาการทางเพศของเพศชาย
โดยกาเนิด ฮอร์โมนเพศหญิง ผลิตจาก
รังไขท่ าใหม้ ีประจาเดือน ซ่ึงมี โดยกาเนดิ ฮอร์โมนเพศชาย จะสร้าง
ทุก 1 รอบเดือน ประมาณ 28 วนั น้าอสุจิ ถา้ เก็บไวม้ าก ๆ จะถูก
ขบั ออกมาเวลานอนหลบั เรียกวา่
ฝันเปี ยก
๗๘
7. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ สิ่งท่ีเขา้ ใจเปน็ ความรู้รว่ มกนั ดังนี้
เมอ่ื เข้าส่วู ยั รุ่นจะมีการเปล่ยี นแปลงของฮอร์โมน ซง่ึ มีผลต่อพฒั นาการทางเพศอย่างชดั เจน
เราจงึ ตอ้ งรู้จักและเข้าใจตนเองอยา่ งถูกต้อง พร้อมที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลง และพัฒนาตนเองให้
มีความสมบูรณ์เกิดความพร้อมในทกุ ดา้ น
สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรยี น รายวิชาพืน้ ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)
2. แหลง่ การเรยี นรทู้ ้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น
การประเมินการเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เรอื่ ง พัฒนาการทางเพศ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ด้วยแบบประเมนิ
3. ประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นมีวินัย ใฝ่เรยี นรู้ (A) ด้วยแบบประเมนิ
ความคิดเหน็ ของผบู้ ังคบั บัญชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงช่อื .....................................................
(นายสมพร คล้ายวงษ์)
ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นโคกแสมสาร
๗๙ ๗๙
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศ
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4
เรื่อง การยอมรบั และการปรับตัวต่อการเปล่ยี นแปลงทางเพศ
รายวชิ าสขุ ศึกษา รหัสวิชา พ๒๑๑๐๑ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 1 เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ดั
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน พ 2.1 เข้าใจและเหน็ คณุ ค่าตนเอง ครอบครวั เพศศกึ ษา และมีทักษะในการดำเนนิ ชวี ิต
ตวั ชว้ี ดั
พ 2.1 ม.1/1 อธิบายวธิ ีการปรบั ตวั ตอ่ การเปล่ยี นแปลงทางร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ และพัฒนาการ
ทางเพศอยา่ งเหมาะสม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายวธิ กี ารปรบั ตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ และพัฒนาการทางเพศ (K)
2. เขียนวิธกี ารปฏบิ ตั ิตนในการปรับตัวต่อการเปล่ยี นแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์
และพฒั นาการทางเพศ (P)
3. เหน็ ความสำคัญของการปรบั ตัวตอ่ การเปล่ียนแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์
และพฒั นาการทางเพศ (A)
สาระสาคญั
การยอมรับและการปรบั ตวั ต่อการเปลีย่ นแปลงตามธรรมชาตขิ องการเจรญิ เติบโต จะช่วยใหว้ ยั รนุ่
ปฏบิ ตั ติ นต่อการเปลยี่ นแปลงทางร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ และพัฒนาการทางเพศได้อย่างเหมาะสม
สาระการเรียนรู้
การยอมรบั และการปรับตวั ต่อการเปลยี่ นแปลงทางรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ และพัฒนาการทางเพศ
๘๐
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ซอื่ สัตย์สุจรติ
2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั น•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นกั เรียนร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับการเปล่ยี นแปลงทางรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ และพัฒนาการ
ทางเพศของตนเอง โดยตอบคำถาม ดงั นี้
• นกั เรียนมีการเปลีย่ นแปลงทางเพศจากช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 6 หรือไม่
• นักเรยี นคิดว่าตนเองมีการเปลยี่ นแปลงทางดา้ นใดมากท่ีสุด
2. นกั เรียนสำรวจการเปลีย่ นแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศของตนเอง
3. นกั เรยี นศึกษาความรู้และรวบรวมขอ้ มูลเก่ยี วกับการยอมรับและการปรบั ตัวต่อการเปลยี่ นแปลง
ทางร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ และพัฒนาการทางเพศ จากแหล่งการเรยี นรู้ตา่ ง ๆ เช่น หนังสอื เรียน อนิ เทอร์เนต็
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
4. นกั เรยี นอ่านสถานการณเ์ กย่ี วกบั การเปลยี่ นแปลงทางเพศด้านตา่ ง ๆ จากนั้นรว่ มกันวเิ คราะห์
สถานการณ์และเสนอวธิ ีการปรับตวั ทีเ่ หมาะสม
5. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ดงั นี้
• นักเรยี นมคี วามกังวลกบั การเปลยี่ นแปลงทางเพศในเร่ืองใดบ้าง และจะปฏิบัติอย่างไร
• •ข้นั •ป•ฏิบ•ตั •แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•6.• นักเรียนแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แต่ละกลุ่มเสนอวธิ ีการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง
ทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศ เป็นแผนภาพความคดิ ดังน้ี
๘๑
ทาความเขา้ ใจกบั การ
เปลี่ยนแปลงของตนเอง
หลีกเล่ียง การมี วธิ ีการปรับตัว ดูแลรักษาความสะอาด
เพศสมั พนั ธก์ ่อนวยั อนั ควร ต่อการเปลย่ี นแปลง ร่างกายอยเู่ สมอ
ทางร่างกาย จติ ใจ
ปฏิบตั ิตนอยใู่ น อารมณ์ และพฒั นาการ รับผดิ ชอบต่อหนา้ ท่ี
ขนบธรรมเนียมประเพณี ไมท่ าให้ผอู้ น่ื เดือดร้อน
ทางเพศ
และวฒั นธรรมไทย
ดูแลรักษาความสะอาด
ของอวยั วะเพศอยา่ งถกู ตอ้ ง
7. นักเรยี นเสนอวิธกี ารปรับตวั ท่ีเหมาะสมเมือ่ มกี ารเปล่ียนแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์
และพฒั นาการทางเพศ พร้อมอธิบายผลท่ีเกิดข้ึนลงในช้ินงานท่ี 5 เรื่อง การปรบั ตวั ต่อการเปลย่ี นแปลง
ทางเพศ
8. นกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ส่ิงท่ีเข้าใจเปน็ ความร้รู ่วมกัน ดังน้ี
การยอมรับและการปรบั ตัวต่อการเปลย่ี นแปลงตามธรรมชาติของการเจรญิ เตบิ โต จะชว่ ยใหว้ ยั รุน่
ปฏิบตั ิตนต่อการเปลย่ี นแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และพฒั นาการทางเพศได้อยา่ งเหมาะสม
ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้ืนฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
ของสถาบนั พฒั นาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)
2. แบบบันทกึ การเปลี่ยนแปลงทางเพศดา้ นต่าง ๆ
3. สถานการณเ์ ก่ยี วกบั การเปลีย่ นแปลงทางเพศดา้ นตา่ ง ๆ
4. แหล่งการเรียนรทู้ ้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น
การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เรอ่ื ง การยอมรับและการปรับตวั ต่อการเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์
และพฒั นาการทางเพศ (K) ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
๘๒
3. ประเมินชน้ิ งาน เร่ือง การปรับตัวต่อการเปลย่ี นแปลงทางเพศ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
4. ประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นซื่อสตั ย์สจุ ริต มุ่งมั่นในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมนิ
แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมินช้ินงาน เรอ่ื ง การปรบั ตวั ตอ่ การเปลย่ี นแปลงทางเพศ
รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมนิ 4 32 1
การเขียนอธบิ าย เขยี นอธิบาย เขียนอธิบาย เขยี นอธบิ าย เขยี นอธิบาย
การเปลย่ี นแปลง
การเปลี่ยนแปลง การเปลย่ี นแปลง การเปลย่ี นแปลง การเปลยี่ นแปลง ทางร่างกาย จิตใจ
อารมณ์ และพัฒนาการ
ทางร่างกาย จติ ใจ ทางรา่ งกาย จิตใจ ทางรา่ งกาย จิตใจ ทางรา่ งกาย จติ ใจ ทางเพศ และวธิ กี าร
อารมณ์ และ อารมณ์ และพัฒนาการ ปรับตวั ทเ่ี หมาะสม
พัฒนาการทางเพศ ทางเพศ และวธิ กี าร อารมณ์ และพฒั นาการ อารมณ์ และพฒั นาการ รวมทั้งผลท่ีเกดิ ข้นึ ได้แต่
ปรบั ตัวท่ีเหมาะสม ไม่สอดคลอ้ งกนั เขียน
ทางเพศ และวิธกี าร ทางเพศ และวธิ กี าร ตามขอ้ มลู ทอี่ ่านไมม่ กี าร
อธบิ ายเพิม่ เตมิ
และวิธกี ารปรับตวั ที่ รวมท้ังผลท่ีเกดิ ขึ้น ปรับตัวที่เหมาะสม ปรับตัวที่เหมาะสม
เหมาะสมรวมท้ังผล ไดส้ มั พันธก์ ัน รวมท้ังผลท่ีเกดิ ข้ึนได้ รวมทัง้ ผลทเี่ กดิ ขึน้
มกี ารจำแนกข้อมลู หรอื ไดส้ อดคล้องกัน
ท่ีเกิดข้นึ มีการเชื่อมโยงให้เห็น อธบิ ายให้เห็นถงึ มีการเขยี นขยายความ
เปน็ ภาพรวม แสดงให้ ความสัมพนั ธ์กบั ตนเอง เพอื่ ให้เข้าใจงา่ ย
เห็นถึงความสมั พันธ์ อยา่ งเปน็ เหตุเปน็ ผล
กบั ตนเองและผู้อ่ืน
ความคดิ เห็นของผ้บู ังคบั บัญชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .....................................................
(นายสมพร คลา้ ยวงษ์)
ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นโคกแสมสาร
๘๓
ช้ินงานที่ 5 เร่ือง การปรับตัวตอ่ การเปล่ียนแปลงทางเพศ ได_้ _________
วนั ท่ี________เดือน_______________พ.ศ.___________ คะแนน
ช่อื _____________________________เลขท_ี่ _____ชน้ั __________ คะแนนเตม็ 10
นักเรียนเสนอวธิ ีการปรบั ตวั ท่ีเหมาะสมเม่อื มีการเปลี่ยนแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ คะแนน
และพฒั นาการทางเพศ พร้อมเขียนอธบิ ายผลทเ่ี กดิ ขึ้นลงในตาราง จากนั้นนำเสนอหนา้ ชัน้ เรียน
วธิ ีการปรับตวั ท่ีเหมาะสม ผลที่เกิดข้นึ
การเปลยี่ นแปลงทางร่างกาย
การเปลยี่ นแปลงทางจติ ใจ อารมณ์
พฒั นาการทางเพศ
๘๔ ๘๔
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 3 การเปลย่ี นแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ และพัฒนาการทางเพศ
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 5
เรอื่ ง สถานการณ์เสีย่ งและแนวทางการปอ้ งกันการลว่ งละเมิดทางเพศ
รายวิชาสขุ ศึกษา รหสั วชิ า พ๒๑๑๐๑ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน พ 2.1 เขา้ ใจและเหน็ คณุ คา่ ตนเอง ครอบครวั เพศศึกษา และมีทักษะในการดำเนินชวี ติ
ตวั ชี้วดั
พ 2.1 ม.1/2 แสดงทักษะการปฏิเสธเพือ่ ป้องกนั ตนเองจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. วิเคราะห์เหตกุ ารณ์ทน่ี ำไปสู่การลว่ งละเมดิ ทางเพศ (K)
2. ยกตัวอย่างสถานการณเ์ สยี งต่อการล่วงละเมิดทางเพศ (P)
3. ตระหนักถึงความสำคญั ของการป้องกนั ตนเองจากการเกิดการล่วงละเมิดทางเพศ (A)
สาระสาคญั
การรู้จกั สถานการณ์เสยี่ งต่อการลว่ งละเมิดทางเพศ ทำให้รู้จักการปฏิบัตติ นท่ีเหมาะสมเพอื่ ป้องกันตนเอง
อย่างถูกต้อง และจะทำใหป้ ลอดภัยจากการเกดิ การล่วงละเมดิ ทางเพศ
สาระการเรียนรู้
การป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศ
• แนวทางการป้องกนั การลว่ งละเมดิ ทางเพศ
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๘๕
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั น•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นักเรยี นร่วมกันฟังการอธบิ ายเกี่ยวกบั การลว่ งละเมิดทางเพศ ดังนี้
การล่วงละเมิดทางเพศ หมายถึง พฤตกิ รรมทลี่ ว่ งละเมิดสทิ ธิของผู้อื่นในเรื่องเพศ ไมว่ า่ จะเปน็
คำพดู สายตา และการใช้ทา่ ที รวมถึงการบงั คับให้มีเพศสมั พันธ์ การข่มขืน ซงึ่ วัยรุ่นเป็นวัยท่ีเกดิ การ
เปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างในเวลาเดยี วกัน ไมว่ า่ จะทางรา่ งกาย จติ ใจ และอารมณ์ จนบางคร้งั ทำให้เกิด
ความสับสน เม่อื เกดิ ปญั หาไม่กล้าตัดสินใจ ถา้ วยั รนุ่ ไม่รูจ้ กั ระวงั ตัวหรอื ควบคุมตนเองให้แสดงพฤตกิ รรม
ทเ่ี หมาะสม ก็จะเกดิ ปญั หาการล่วงละเมดิ ทางเพศได้ วยั ร่นุ จงึ ควรรู้จักปอ้ งกันตนเองและใช้ทกั ษะชวี ิต
ในการปอ้ งกันการถูกลว่ งละเมิดทางเพศ และแก้ไขปัญหาอย่างชาญฉลาด
จากนนั้ ร่วมกนั สนทนา แล้วตอบคำถาม ดังนี้
• การล่วงละเมดิ ทางเพศ คืออะไร
• พฤติกรรมใดของวัยรุ่นทเ่ี สยี งตอ่ การเกดิ การลว่ งละเมิดทางเพศ
2. นักเรยี นศึกษาความรู้และรวบรวมข้อมูลเกีย่ วกบั แนวทางการป้องกันการล่วงละเมดิ ทางเพศ
จากแหลง่ การเรียนรู้ต่าง ๆ เชน่ หนังสอื เรยี น อินเทอรเ์ น็ต
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
3. นกั เรยี นสังเกตภาพสถานการณเ์ สี่ยง จากนน้ั วเิ คราะหแ์ ละรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็
โดยตอบคำถาม ดังนี้
• เด็กในภาพกาลงั ทาอะไร (เดินจบั มือกนั
ในท่ีสาธารณะ)
• การกระทาของเดก็ ในภาพมีความเสี่ยงใหเ้ กิด
ปัญหาทางเพศอยา่ งไร (ความใกลช้ ิดกนั
มากเกินไปอาจนาไปสู่การล่วงละเมิดทางเพศได)้
• นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรต่อการกระทาของเด็กในภาพ
(แสดงพฤติกรรมท่ีไมเ่ หมาะสม)
• เดก็ ในภาพกาลงั ทาอะไร (นง่ั ใกลช้ ิดกนั ๘๖
ในหอ้ งนอนสองตอ่ สอง)
• การกระทาของเดก็ ในภาพมีความเส่ียงใหเ้ กิด
ปัญหาทางเพศอยา่ งไร (อาจเกินเลย จนมี
เพศสมั พนั ธ์กนั และเกิดการต้งั ครรภไ์ ม่พร้อม)
• นกั เรียนรู้สึกอยา่ งไรต่อการกระทาของเดก็ ในภาพ
(แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม)
4. นักเรียนแบง่ กลุ่ม 5 กลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กนั แตล่ ะกลมุ่ สืบคน้ การล่วงละเมิดทางเพศ จากนัน้
วเิ คราะหส์ าเหตุและวิธกี ารป้องกันการลว่ งละเมดิ ทางเพศเป็นแผนภาพความคดิ
5. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยตอบคำถามกระต้นุ ความคดิ ดงั นี้
• ถ้านกั เรียนตกอยู่ในสถานการณ์ทเี่ สย่ี งต่อการล่วงละเมดิ ทางเพศ นักเรยี นจะทำอย่างไร
• •ข้ัน•ป•ฏิบ•ตั •แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•6.• นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ยกตัวอยา่ งสถานการณ์เส่ยี งต่อการเกิดการลว่ งละเมิดทางเพศ
มา 5 สถานการณ์ เป็นแผนภาพความคดิ ดังนี้
ดื่มเครื่องด่ืม ไปเที่ยวกบั คนที่รู้จกั อยใู่ นหอ้ งสองตอ่
แอลกอฮอลใ์ นงานเล้ียง ทางอินเทอร์เน็ต สอง
กบั ผอู้ ื่น
สังสรรคก์ บั เพ่อื น สถานการณ์เสี่ยง
ต่อการเกดิ การ
ล่วงละเมดิ ทางเพศ
กลบั บา้ นดึกเพยี งลาพงั แตง่ กายลอ่ แหลม
ไปเที่ยวกลางคนื
7. นกั เรยี นกลมุ่ เดิมชว่ ยกันเสนอแนวทางปอ้ งกันตนเองจากการลว่ งละเมดิ ทางเพศเปน็ ข้อ ๆ ดงั นี้
8. นักเรียนรว่ มกนั สรุปสิง่ ท่ีเขา้ ใจเป็นความรู้รว่ มกนั ดงั น้ี
การร้จู กั สถานการณเ์ ส่ียงต่อการล่วงละเมดิ ทางเพศ ทำให้รู้จักการปฏบิ ัติตนที่เหมาะสม
เพือ่ ป้องกันตนเองอยา่ งถกู ตอ้ ง และจะทำให้ปลอดภยั จากการเกิดการล่วงละเมดิ ทางเพศ
๘๗
ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน รายวิชาพนื้ ฐาน สขุ ศึกษาและพลศึกษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.)
2. ภาพสถานการณเ์ สีย่ ง
3. แหลง่ การเรียนร้ทู ้ังภายในและภายนอกโรงเรียน
การประเมินการเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เรือ่ ง แนวทางการป้องกันการลว่ งละเมิดทางเพศ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ รักความเป็นไทย (A) ดว้ ยแบบประเมนิ
ความคดิ เหน็ ของผบู้ ังคบั บญั ชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงช่ือ.....................................................
(นายสมพร คลา้ ยวงษ์)
ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นโคกแสมสาร
๘๘ ๘๘
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 3 การเปล่ียนแปลงทางรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ และพัฒนาการทางเพศ
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 6
เร่อื ง การใชท้ กั ษะในการป้องกันตนเองจากการล่วงละเมดิ ทางเพศ
รายวชิ าสุขศกึ ษา รหสั วชิ า พ๒๑๑๐๑ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 1 เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน พ 2.1 เขา้ ใจและเหน็ คุณค่าตนเอง ครอบครวั เพศศึกษา และมที ักษะในการดำเนินชีวิต
ตวั ช้ีวัด
พ 2.1 ม.1/2 แสดงทกั ษะการปฏิเสธเพ่ือป้องกนั ตนเองจากการถูกลว่ งละเมิดทางเพศ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. วิเคราะห์สถานการณท์ ่ีเสี่ยงต่อการลว่ งละเมิดทางเพศ (K)
2. แสดงทักษะการปฏเิ สธเพอื่ ป้องกนั ตนเองจากการลว่ งละเมิดทางเพศ (P)
3. ตระหนกั ถึงความสำคัญของการปอ้ งกันตนเองจากการล่วงละเมิดทางเพศ (A)
สาระสาคญั
การรู้จกั ใชท้ ักษะการปฏิเสธเมื่ออย่ใู นสถานการณ์ท่ีเสย่ี งต่อการล่วงละเมดิ ทางเพศ จะช่วยป้องกนั
การลว่ งละเมิดทางเพศได้
สาระการเรียนรู้
การป้องกนั การล่วงละเมดิ ทางเพศ
• การใชท้ กั ษะในการป้องกนั ตนเองจากการล่วงละเมิดทางเพศ
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
๘๙
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
๒. ใฝเ่ รยี นรู้
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั ส•ังเ•กต• ร•วบ•ร•วม•ข้•อม•ูล•(G•at•he•ri•ng•)
1. นกั เรียนร่วมกนั ฟังการอธิบายเกยี่ วกับการใช้ทักษะการปฏเิ สธ ดังนี้
การใช้ทกั ษะการปฏเิ สธ เปน็ ทักษะทท่ี ุกคนสามารถนำมาใชเ้ พ่ือป้องกนั ตนเอง
ให้มคี วามปลอดภัย เม่ือเหน็ ว่าสถานการณ์มแี นวโน้มท่จี ะมีพฤติกรรมเส่ยี งเกิดขึ้น
2. นักเรียนสังเกตภาพการใช้ทักษะการปฏิเสธ ดงั นี้
เยน็ น้ีไปดูหนงั อยา่ ดีกว่า พ่อแม่ ขอบใจ วนั หยดุ น้ี
กนั ม้ยั เด๋ียวพ่อแม่ ไมอ่ ยู่ นะท่ีชวน ไปต่าง
รู้เขาจะว่า ใหเ้ รา แตเ่ รา จงั หวดั
เรา ไปอยู่ คงไป กนั ม้ยั
ไปไมไ่ ด้ เราได้ เป็นเพอื่ น ไมไ่ ด้
ม้ยั
วนั น้ี
มีธุระ
ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพที่ 3
จากนั้นร่วมกนั สนทนา โดยตอบคำถาม ดังนี้
• จากภาพผู้ชายและผหู้ ญิงทำอะไรกนั
• จากทงั้ 3 เหตุการณ์ ถ้าไม่ใช้ทักษะการปฏเิ สธ จะเปน็ อย่างไร
• นักเรียนคิดวา่ ยงั มีทกั ษะท่สี ามารถป้องกนั การล่วงละเมดิ ทางเพศอะไรอกี บา้ ง
3. นกั เรียนศกึ ษาความรู้และรวบรวมข้อมลู เกี่ยวกับการใชท้ ักษะในการป้องกันตนเอง
จากการล่วงละเมิดทางเพศ จากแหล่งการเรียนรตู้ ่าง ๆ เช่น หนงั สอื เรยี น อินเทอร์เน็ต
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
4. ตัวแทนนกั เรยี นออกมาหยบิ บัตรคำทกั ษะการปฏิเสธแบบต่าง ๆ และอ่านหนังสอื เรยี น จากนั้น
แสดงความคิดเหน็ โดยการพูดปฏิเสธให้สัมพนั ธก์ บั ทักษะการปฏเิ สธแบบต่าง ๆ