๑๙๐
เพอื่ ไมใ่ หอ้ าการ
ของผปู้ ่ วยมีความรุนแรง
มากข้ึนกวา่ เดิม
ลดอตั ราการเสียชีวติ ได้ ประโยชน์ของการ เกิดความปลอดภยั
เคลื่อนย้ายผู้ป่ วย ในการเคล่ือนยา้ ย
อย่างถูกวิธี
10.นกั เรียนรว่ มกันสรปุ สงิ่ ท่เี ข้าใจเป็นความร้รู ว่ มกัน ดังน้ี
การเคลอื่ นย้ายผปู้ ว่ ยสามารถทำไดห้ ลายวิธี เราควรฝึกฝนการช่วยเหลอื ทุกวิธี และเลือกใชอ้ ุปกรณ์
ในการชว่ ยเหลอื ให้เหมาะสมกบั อาการของผูป้ ่วยแต่ละลักษณะ เพื่อให้เคลื่อนย้ายผู้ปว่ ยได้
อยา่ งรวดเร็ว และเกิดความปลอดภยั
สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 1
ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.)
2. ภาพการเคลื่อนย้ายผู้ปว่ ยโดยใชอ้ ปุ กรณ์ (เช่น เก้าอ้ี ผา้ ห่ม เปลหาม)
3. อปุ กรณ์การเคล่ือนย้ายผ้ปู ่วยโดยใชอ้ ุปกรณ์ต่าง ๆ (เชน่ เก้าอี้ เปลหาม ผ้าหม่ เสื้อ ผ้าขาวม้า)
4. กระดาษสำหรับทำกจิ กรรม
5. แหลง่ การเรยี นรทู้ ั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง การเคล่ือนย้ายผปู้ ่วยโดยใช้อปุ กรณ์ (K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
3. ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านมีวนิ ัย มงุ่ มั่นในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมิน
๑๙๑
แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมนิ ช้นิ งาน เร่ือง การเคล่อื นย้ายผปู้ ่วย
รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมิน
432 1
การแสดงวิธกี าร
เคลื่อนยา้ ยผู้ปว่ ย แสดงวธิ ีการเคลื่อนยา้ ย แสดงวิธีการเคล่อื นยา้ ย แสดงวธิ กี ารเคลือ่ นยา้ ย แสดงวธิ กี ารเคลอื่ นย้าย
ตามสถานการณ์ ผูป้ ว่ ยตามสถานการณ์
สมมตุ ิและบนั ทกึ ผ้ปู ว่ ยตามสถานการณ์ ผปู้ ว่ ยตามสถานการณ์ ผ้ปู ่วยตามสถานการณ์ สมมตุ ิและบันทกึ ข้อมูล
ขอ้ มลู ลงในแบบบนั ทกึ ได้
ลงในแบบบนั ทึก สมมตุ ิและบันทึกข้อมูลลง สมมตุ แิ ละบันทึกขอ้ มูลลง สมมตุ ิและบนั ทกึ ข้อมลู ถกู ต้องสอดคลอ้ งกับ
สถานการณ์ แต่ยังไม่
ในแบบบันทึกได้ถูกตอ้ ง ในแบบบนั ทึกได้ถูกตอ้ ง ลงในแบบบันทกึ ได้ สามารถแกไ้ ขปญั หา
ระหว่างปฏิบตั ิได้
สอดคลอ้ งกบั สถานการณ์ สอดคล้องกบั สถานการณ์ ถูกตอ้ งสอดคล้องกบั ต้องอาศัยคำแนะนำ
จากเพอ่ื นหรือครู
สามารถแกไ้ ขปัญหาใน สามารถแกไ้ ขปญั หาใน สถานการณ์ สามารถ ข้อมูลในแบบบันทกึ
มคี วามสมั พันธ์กนั
ระหวา่ งปฏบิ ตั ิได้ ขอ้ มลู ระหว่างปฏบิ ตั ิได้ โดย แกไ้ ขปญั หาในระหว่าง
ใน อาศยั แบบอยา่ งจากครู ปฏบิ ตั ไิ ด้ โดยอาศัย
แบบบันทกึ มคี วาม ขอ้ มลู ในแบบบันทกึ คำแนะนำจากครู
เช่อื มโยงสัมพันธก์ ัน มคี วามสมั พันธ์กัน หรอื เพือ่ นบา้ ง
ทงั้ ระบบ ขอ้ มลู ในแบบบันทกึ
มีความสมั พนั ธ์กัน
ความคดิ เห็นของผบู้ ังคบั บญั ชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงช่ือ.....................................................
(นายสมพร คล้ายวงษ์)
ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นโคกแสมสาร
๑๙๒
ชน้ิ งานที่ 10 เร่ือง การเคลอ่ื นยา้ ยผ้ปู ่วย ได_้ _________
วนั ท่ี________เดือน_______________พ.ศ.___________ คะแนน
ช่อื _____________________________เลขท_ี่ _____ชน้ั __________ คะแนนเตม็ 10
นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 4-6 คน คิดสถานการณส์ มมตุ ิการเกิดอบุ ัติเหตทุ ตี่ ้องมีการเคละ่ือแนยนา้ ยผปู้ ่วย
และแสดงการเคล่ือนย้ายผู้ป่วยอยา่ งถูกวิธี โดยรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง แลว้ เขียนลงในแบบบนั ทึก จากนน้ั
นำเสนอหน้าชนั้ เรยี น
แบบบันทกึ การแสดงวธิ กี ารเคลื่อนย้ายผ้ปู ่ วย
อบุ ตั ิเหตุท่ีเกิดข้นึ คือ
ลกั ษณะของผปู้ ่ วย คือ
วธิ ีการเคล่ือนยา้ ยผปู้ ่ วย คือ
ลกั ษณะวธิ ีการเคล่ือนยา้ ย (อธิบายพอสงั เขป)
กลมุ่ ของนกั เรียนปฏิบตั ิการเคล่ือนยา้ ยผปู้ ่ วยถกู ตอ้ งหรือไม่ เพราะเหตุใด
การเคล่ือนยา้ ยผปู้ ่ วยอยา่ งถกู วธิ ีจะส่งผลอยา่ งไร
๑๙๓ ๑๙๓
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 สารเสพติด
รหสั -ชื่อรายวชิ า พ 2110๓ สขุ ศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 เวลาเรยี น 8 ชวั่ โมง
โรงเรียน บ้านโคกแสมสาร
ผูส้ อน นายกวินพฒั น์ อชิรศิรโรจน์
เปา้ หมายหลกั ของการเรียนรู้
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน พ 5.1 ปอ้ งกนั และหลกี เลยี่ งปจั จยั เส่ียง พฤติกรรมเส่ียงต่อสุขภาพ อุบัตเิ หตุ การใช้ยา
สารเสพติด และความรุนแรง
ตวั ชวี้ ดั
พ 5.1 ม.1/2 อธบิ ายลกั ษณะอาการของผตู้ ิดสารเสพตดิ และการป้องกันการตดิ สารเสพตดิ
พ 5.1 ม.1/3 อธิบายความสัมพันธ์ของการใชส้ ารเสพตดิ กบั การเกิดโรคและอุบัติเหตุ
พ 5.1 ม.1/4 แสดงวธิ กี ารชกั ชวนผู้อ่นื ใหล้ ด ละ เลิกสารเสพติด โดยใช้ทักษะตา่ ง ๆ
ความรู้ฝังแน่น ความเข้าใจท่ีคงทน (Enduring Understanding)
นกั เรยี นเขา้ ใจวา่ ผู้ตดิ สารเสพติดมลี กั ษณะทางพฤติกรรม ความคดิ ความรสู้ ึก บคุ ลิกภาพ
และโลกทัศน์สว่ นตวั เปล่ียนไปจากเดิมในดา้ นลบ ซ่งึ ลกั ษณะอาการท่ีแสดงออกนัน้ ขนึ้ อยกู่ บั
การออกฤทธขิ์ องสารเสพติดแตล่ ะชนดิ สารเสพติดสง่ ผลกระทบต่อรา่ งกายทำให้ผ้เู สพเกิดโรคตา่ ง ๆ
และส่งผลกระทบตอ่ จิตใจด้วย โดยสภาพจติ ใจของผเู้ สพจะเปลีย่ นไปในทางที่แย่ลงและขาดสติ จงึ ส่งผล
ใหเ้ กดิ อุบตั เิ หตใุ นชวี ิตประจำวันได้
การชกั ชวนและโนม้ นา้ วจิตใจให้ผอู้ ื่นลด ละ เลิกสารเสพติดได้ จะทำใหค้ นในสังคมอยู่รว่ มกนั
อย่างมีความสุข
สาระการเรียนรู้
1. ลกั ษณะอาการของผู้ติดสารเสพติดและการป้องกนั สารเสพติด
2. ความสมั พนั ธ์ของการใช้สารเสพตดิ กบั การเกิดโรคและอุบัติเหตุ
3. ทักษะการชักชวนผ้อู น่ื ให้ลด ละ เลกิ สารเสพติด
๑๙๔
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการส่อื สาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มีวนิ ยั
3. ใฝ่เรยี นรู้
4. ม่งุ ม่ันในการทำงาน
5. มจี ติ สาธารณะ
ภาระงาน : ชิน้ งาน/การแสดงออกของผ้เู รียน
• ช้ินงานที่ 11 เรอ่ื ง ลกั ษณะอาการของผ้ตู ดิ สารเสพติดและการปอ้ งกันสารเสพติด
• ชน้ิ งานท่ี 12 เร่ือง ความสัมพันธข์ องการใช้สารเสพติดกบั การเกดิ โรคและอุบัติเหตุ
• ชิ้นงานท่ี 13 เร่ือง ทกั ษะการชกั ชวนผอู้ น่ื ใหล้ ด ละ เลิกสารเสพติด
การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมินความรู้ เร่ือง ลักษณะอาการของผูต้ ดิ สารเสพตดิ และการป้องกันสารเสพตดิ ความสัมพันธข์ อง
การใชส้ ารเสพตดิ กบั การเกดิ โรคและอุบตั ิเหตุ ทักษะการชกั ชวนผอู้ ืน่ ใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพตดิ (K)
ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
3. ประเมนิ ช้นิ งาน เรือ่ ง ลกั ษณะอาการของผู้ติดสารเสพติดและการป้องกันสารเสพตดิ (P)
ด้วยแบบประเมิน
4. ประเมินชน้ิ งาน เรอ่ื ง ความสัมพันธข์ องการใช้สารเสพตดิ กับการเกิดโรคและอุบตั ิเหตุ (P)
ดว้ ยแบบประเมิน
5. ประเมนิ ชิน้ งาน เร่ือง ทักษะการชักชวนผูอ้ นื่ ใหล้ ด ละ เลิกสารเสพติด (P) ด้วยแบบประเมนิ
6. ประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ มุง่ มั่นในการทำงาน
มจี ติ สาธารณะ (A) ด้วยแบบประเมนิ
๑๙๕
แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ
รายการการ ระดบั คุณภาพ
ประเมิน
432 1
กระบวนการ
ทำงานกลุม่ มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท ไม่มีการกำหนด
บทบาทสมาชิก
สมาชิกชัดเจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หน้า และไมม่ ีการช้แี จง
เปา้ หมาย สมาชกิ
และมีการชแี้ จงเปา้ หมาย มกี ารชแ้ี จงเป้าหมาย ไมม่ กี ารช้ีแจงเป้าหมาย ต่างคนตา่ งทำงาน
การทำงาน อยา่ งชัดเจนและ อย่างชดั เจน
มกี ารปฏบิ ตั งิ านร่วมกนั ปฏิบตั งิ านร่วมกนั ปฏบิ ตั งิ านร่วมกนั
อย่างรว่ มมอื รว่ มใจ แตไ่ มม่ กี ารประเมนิ ไมค่ รบทกุ คน
พรอ้ มกบั การประเมนิ เป็น เป็นระยะ ๆ
ระยะ ๆ
แบบประเมนิ ช้ินงาน เรอ่ื ง ลักษณะอาการของผ้ตู ดิ สารเสพติดและการปอ้ งกนั สารเสพติด
รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมนิ
4321
การวิเคราะห์
สาเหตุ วเิ คราะหส์ าเหตุ วเิ คราะหส์ าเหตุ วเิ คราะห์สาเหตุ วเิ คราะหส์ าเหตุ
การติดสารเสพตดิ
ลกั ษณะอาการ การตดิ สารเสพตดิ การตดิ สารเสพตดิ การตดิ สารเสพติด การตดิ สารเสพตดิ
ของผู้เสพ และ
เสนอแนวทางการ ลักษณะอาการของผู้เสพ ลกั ษณะอาการของผู้เสพ ลกั ษณะอาการของผู้ ลักษณะอาการของผเู้ สพ
ป้องกนั สารเสพติด และเสนอแนวทาง และเสนอแนวทาง เสพ และเสนอ และเสนอแนวทาง
ลงในแผนภาพ การปอ้ งกันสารเสพตดิ การป้องกนั สารเสพตดิ แนวทาง การปอ้ งกันสารเสพตดิ
ความคิด ลงในแผนภาพความคดิ ได้ ลงในแผนภาพความคิดได้ ลงในแผนภาพความคดิ ได้
การป้องกนั สารเสพติด แตข่ อ้ มูลยงั ไม่สอดคลอ้ ง
สัมพันธก์ นั สมั พนั ธก์ ัน
มีการเชือ่ มโยงใหเ้ ห็นเป็น มกี ารอธิบายให้เหน็ ถงึ ลงในแผนภาพ
กนั ตอ้ งมี
ภาพรวม แสดง ความสัมพนั ธ์กบั ตนเอง ความคิดได้ถูกตอ้ ง มี การเขียนขยายความ
ใหเ้ หน็ ถงึ ความสัมพันธ์กับ อยา่ งเปน็ เหตุเปน็ ผล การเขยี นขยายความ เพิ่มเตมิ
ตนเองและผูอ้ น่ื อา่ นเขา้ ใจง่าย
๑๙๖
แบบประเมนิ ชนิ้ งาน เรื่อง ความสมั พันธ์ของการใชส้ ารเสพติดกบั การเกดิ โรคและอุบตั เิ หตุ
รายการการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมิน 4 3 2 1
การเขียน เขยี นความสมั พนั ธ์ เขียนความสัมพนั ธ์ เขยี นความสัมพนั ธ์ เขยี นความสมั พนั ธ์
ความสัมพันธข์ อง ของการใชส้ ารเสพตดิ ของการใชส้ ารเสพติด ของการใช้สารเสพติด ของการใช้สารเสพตดิ
1 ชนิดกับการเกดิ โรค 1 ชนิดกบั การเกดิ โรค 1 ชนิดกับการเกดิ โรค
การใชส้ ารเสพตดิ 1 และอุบตั เิ หตุ และอบุ ตั เิ หตุ 1 ชนดิ กบั การเกดิ โรค และอุบัตเิ หตุ
ชนิดกบั การเกิดโรค ลงในแผนความคดิ ลงในแผนความคดิ และอบุ ัติเหตุ ลงในแผนความคดิ ได้
และอบุ ัติเหตุ ได้ถกู ต้องสมั พนั ธ์กัน ไดถ้ กู ตอ้ ง มีการอธบิ ายให้ ลงในแผนความคดิ แตข่ อ้ มลู ยงั ไม่สอดคลอ้ ง
ลงในแผนความคดิ มกี ารเชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ เปน็ เห็นถึงความสมั พนั ธก์ ับ ได้ถูกตอ้ ง สอดคล้อง สัมพนั ธก์ นั ไมม่ กี าร
ตนเองอยา่ งเปน็ เหตเุ ปน็ กันมกี ารเขียนขยาย อธบิ ายขยายความ
ภาพรวม แสดง
ความสมั พันธ์กับตนเอง ผล ความ เพิม่ เตมิ
และผอู้ ่ืน ให้เขา้ ใจงา่ ย
แบบประเมินชิน้ งาน เรอื่ ง ทักษะการชักชวนผู้อืน่ ใหล้ ด ละ เลิกสารเสพตดิ
รายการการ ระดับคุณภาพ
ประเมิน
4321
การแสดง
สถานการณส์ มมุติ แสดงสถานการณส์ มมุติ แสดงสถานการณส์ มมุติ แสดงสถานการณ์ แสดงสถานการณส์ มมตุ ิ
โดยเลือกใช้ทกั ษะ โดยเลือกใชท้ กั ษะชีวติ ใน โดยเลอื กใชท้ กั ษะชวี ติ ใน สมมตุ ิ โดยเลอื กใช้ โดยเลอื กใชท้ ักษะชวี ิตใน
ชวี ิตในการชกั ชวน การชักชวนผอู้ ่นื ให้ การชกั ชวนผู้อน่ื ให้ การชกั ชวนผูอ้ ่ืนให้
ผู้อื่นให้ลด ละ เลกิ ลด ละ เลิกสารเสพตดิ ลด ละ เลิกสารเสพตดิ ทกั ษะชวี ติ ในการ ลด ละ เลิกสารเสพตดิ
สารเสพตดิ ได้สอดคลอ้ งกับเรอื่ งราว ได้สอดคล้องกบั เรอื่ งราว ชกั ชวนผู้อนื่ ให้ ลด ละ ไดส้ อดคล้องกับเรื่องราว
ได้ด้วยตนเอง ไดด้ ้วยตนเอง เลกิ สารเสพติด โดยอาศัยคำแนะนำ
มกี ารเชอ่ื มโยงใหเ้ ห็นถงึ มกี ารเช่อื มโยงใหเ้ หน็ ถงึ
ไดส้ อดคลอ้ งกบั จากครูหรือผู้อนื่
ประโยชน์ทเี่ กดิ ข้ึน ประโยชน์ที่เกดิ ข้ึน เรอื่ งราวได้ด้วยตนเอง
ต่อส่วนรวมและสามารถ ต่อสว่ นรวม
แกไ้ ขปญั หาระหวา่ ง
การแสดงได้
๑๙๗
แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
มวี นิ ยั
ตวั ชว้ี ดั ที่ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว โรงเรียน และสงั คม
พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดเี ย่ียม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ า่ น (0)
3.1.1 ปฏิบัตติ น ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง ปฏิบัติตามข้อตกลง ปฏิบัติตามข้อตกลง ไม่ปฏบิ ตั ติ นตามขอ้ ตกลง
ตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ
ระเบียบ ข้อบังคบั ของ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั ขอ้ บังคบั ของ ขอ้ บงั คบั ของ ข้อบังคับของครอบครัว
ครอบครัว โรงเรยี น โรงเรยี นและสงั คม ไม่ ครอบครัวและโรงเรยี น ครอบครวั และโรงเรียน และโรงเรยี น
และสังคม ไมล่ ะเมดิ ละเมิดสทิ ธขิ องผู้อืน่ ตรงต่อเวลา ตรงตอ่ เวลา
สิทธขิ องผูอ้ น่ื ตรงต่อเวลา ในการปฏิบัติ ในการปฏบิ ัติ
3.1.2 ตรงต่อเวลา ในการปฏบิ ตั ิ กิจกรรมต่าง ๆ กจิ กรรมตา่ ง ๆ
ในการปฏิบตั ิ กิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวิตประจำวัน ในชีวติ ประจำวนั
กจิ กรรมต่าง ๆ ในชวี ิตประจำวัน และรับผดิ ชอบ
ในชวี ติ ประจำวัน และรับผดิ ชอบ ในการทำงาน
และรบั ผดิ ชอบ ในการทำงาน
ในการทำงาน
ใฝ่เรียนรู้
ตวั ชีว้ ดั ที่ 4.1 ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกจิ กรรมการเรยี นรู้
พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเย่ยี ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ า่ น (0)
4.1.1 ตงั้ ใจเรยี น เขา้ เรยี นตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา ไม่ตั้งใจเรียน
4.1.2 เอาใจใส่ ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ ตั้งใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่
และมีความเพยี รพยายาม และมีความเพียรพยายาม และมีความเพียรพยายามใน ในการเรยี นรู้ มสี ว่ นรว่ มใน
ในการเรยี นรู้ ในการเรยี นรู้ มีสว่ นร่วมใน การเรยี นรู้ มสี ่วนรว่ มใน การเรยี นรู้
4.1.3 สนใจเข้าร่วม การเรยี นรู้ การเรยี นรู้ และเขา้ ร่วมกิจกรรม
กจิ กรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ และเขา้ ร่วมกจิ กรรม และเข้าร่วมกิจกรรม การเรยี นรตู้ ่าง ๆ
การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ เปน็ บางครั้ง
ทงั้ ภายในและภายนอก บอ่ ยครงั้
โรงเรยี นเป็นประจำ
๑๙๘
ตัวช้วี ดั ที่ 4.2 แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรตู้ า่ ง ๆ ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน
ด้วยการเลือกใช้ส่ืออย่างเหมาะสม บนั ทึกความรู้ วิเคราะห์ สรปุ เปน็ องค์ความรู้
สามารถนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้
พฤติกรรมบ่งช้ี ดเี ยีย่ ม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไมผ่ า่ น (0)
4.2.1 ศึกษาคน้ ควา้ ศึกษาคน้ คว้า ศกึ ษาคน้ ควา้ ศึกษาค้นควา้ ไมศ่ กึ ษาคน้ ควา้
หาความรจู้ ากหนังสอื หาความรู้จากหนังสอื หาความรู้
หาความรู้จากหนงั สือ หาความรจู้ ากหนังสือ เอกสาร สง่ิ พิมพ์ เอกสาร สิ่งพมิ พ์
สื่อเทคโนโลยี ส่ือเทคโนโลยี
เอกสาร สง่ิ พิมพ์ เอกสาร สิง่ พมิ พ์ และสารสนเทศ แหลง่ เรยี นรู้
แหล่งเรยี นรทู้ ้ังภายใน ท้งั ภายในและภายนอก
ส่อื เทคโนโลยตี ่าง ๆ ส่ือเทคโนโลยี และภายนอกโรงเรียน โรงเรียน เลอื กใช้ส่อื
และเลือกใชส้ ื่อ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
แหล่งเรียนรทู้ ง้ั ภายใน และสารสนเทศ ได้อย่างเหมาะสม มกี ารบันทกึ ความรู้
มกี ารบันทึกความรู้
และภายนอกโรงเรียน แหลง่ เรียนรูท้ ง้ั ภายใน วเิ คราะห์ขอ้ มูล
สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้
และเลอื กใชส้ ่อื ไดอ้ ยา่ ง และภายนอกโรงเรยี น แลกเปลยี่ นเรยี นรู้
กบั ผ้อู ่นื ได้
เหมาะสม เลือกใช้ส่อื
4.2.2 บันทึกความรู้ ได้อยา่ งเหมาะสม
วเิ คราะห์ ตรวจสอบ มีการบันทึกความรู้
จากส่ิงทเ่ี รยี นรู้ วิเคราะห์ข้อมูล
สรปุ เป็นองคค์ วามรู้ สรปุ เปน็ องคค์ วามรู้
4.2.3 แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้
ดว้ ยวธิ ีการต่าง ๆ ดว้ ยวิธกี ารทหี่ ลากหลาย
และนำไปใช้ และนำไปใช้
ในชีวติ ประจำวัน ในชวี ติ ประจำวนั ได้
ม่งุ ม่ันในการทำงาน
ตวั ชีว้ ัดที่ 6.1 ต้งั ใจและรับผดิ ชอบในการปฏิบตั ิหน้าทก่ี ารงาน
พฤติกรรมบ่งช้ี ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผ่าน (0)
6.1.1 เอาใจใส่ ตัง้ ใจและรับผิดชอบ ตงั้ ใจและรับผิดชอบ ตั้งใจและรบั ผดิ ชอบ ไมต่ ั้งใจปฏบิ ตั ิ
ต่อการปฏบิ ตั ิหน้าท่ี ในการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี ในการปฏิบัตหิ นา้ ที่ ในการปฏิบัตหิ นา้ ที่ หนา้ ทกี่ ารงาน
ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย ท่ีได้รับมอบหมาย ท่ีไดร้ ับมอบหมาย ทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
6.1.2 ตัง้ ใจ ให้สำเรจ็ มีการปรับปรุง ให้สำเรจ็ มีการปรบั ปรงุ ใหส้ ำเรจ็
และรบั ผิดชอบ และพฒั นาการทำงาน และพฒั นาการทำงาน
ในการทำงานใหส้ ำเรจ็ ใหด้ ขี ้ึนดว้ ยตนเอง ใหด้ ีข้ึน
6.1.3 ปรบั ปรงุ
และพฒั นาการทำงาน
ด้วยตนเอง
๑๙๙
มีจิตสาธารณะ
ตัวช้ีวดั ที่ 8.1 ช่วยเหลือผอู้ ่นื ด้วยความเต็มใจและพงึ พอใจ โดยไม่หวังสิง่ ตอบแทน
พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยีย่ ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผ่าน (0)
8.1.1 ช่วยพ่อแม่ ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง ชว่ ยพ่อแม่ ผูป้ กครอง ช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง ไมช่ ่วยเหลือพ่อแม่
ผปู้ กครอง ครูทำงาน และครทู ำงาน อาสา ผ้ปู กครอง และครู
ดว้ ยความเต็มใจ ทำงาน ช่วยคิด ชว่ ยทำ และครูทำงาน อาสา และครทู ำงาน อาสา
8.1.2 อาสาทำงาน แบง่ ปนั สง่ิ ของ และชว่ ย
ใหผ้ ูอ้ น่ื ดว้ ยกำลังกาย แก้ปญั หาใหผ้ ู้อ่นื ทำงาน ชว่ ยคิด ชว่ ยทำ ทำงาน และแบ่งปัน
กำลังใจ และ ดว้ ยความเตม็ ใจ
กำลงั สตปิ ญั ญา และแบง่ ปนั สง่ิ ของใหผ้ ู้อน่ื ส่งิ ของให้ผู้อนื่
ดว้ ยความสมัครใจ
8.1.3 แบ่งปันสิ่งของ ดว้ ยความเตม็ ใจ ด้วยความเตม็ ใจ
ทรัพยส์ ินและอ่ืน ๆ
และช่วยแกป้ ัญหาหรือ
สรา้ งความสุขให้กบั ผู้อ่นื
๒๐๐ ๒๐๐
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 7 สารเสพติด
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1
เร่ือง ลกั ษณะอาการของผตู้ ิดสารเสพติดและการปอ้ งกนั สารเสพตดิ
รายวิชาสขุ ศึกษา รหสั วชิ า พ๒๑๑๐๓ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 1 เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน พ 5.1 ปอ้ งกนั และหลกี เลยี่ งปัจจยั เสี่ยง พฤติกรรมเสีย่ งต่อสขุ ภาพ อุบตั เิ หตุ การใช้ยา
สารเสพตดิ และความรนุ แรง
ตวั ชีว้ ัด
พ 5.1 ม.1/2 อธิบายลกั ษณะอาการของผ้ตู ิดสารเสพติดและการป้องกนั การตดิ สารเสพตดิ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายลักษณะอาการของผ้ตู ิดสารเสพติดและการป้องกันสารเสพติด (K)
2. เขยี นแผนภาพความคิดสรุปลักษณะอาการของผู้ติดสารเสพติดและการป้องกนั สารเสพติด (P)
3. เห็นประโยชนข์ องการเรียนรูเ้ ร่ือง ลักษณะอาการของผตู้ ดิ สารเสพตดิ และการป้องกนั สารเสพตดิ (A)
สาระสาคญั
ผตู้ ิดสารเสพตดิ สว่ นใหญ่ จะมีลกั ษณะทางพฤติกรรม ลกั ษณะทางความคิด ลักษณะทางความร้สู กึ
ลกั ษณะทางบุคลกิ ภาพ และโลกทศั นส์ ่วนตวั เปล่ียนไปจากเดิมในด้านลบ และแสดงอาการแตกต่างกนั ไป
ตามการออกฤทธ์ิของสารเสพตดิ ทีเ่ สพ การเรียนรู้วิธีป้องกันสารเสพติด จะชว่ ยใหห้ า่ งไกลจากสารเสพติด
สามารถใช้ชวี ติ ในสงั คมไดอ้ ย่างมคี วามสขุ
สาระการเรียนรู้
ลักษณะอาการของผู้ตดิ สารเสพตดิ และการป้องกนั สารเสพติด
• ลกั ษณะของผู้ตดิ สารเสพติด
• อาการของผู้ติดสารเสพตดิ
• การป้องกนั การตดิ สารเสพตดิ
๒๐๑
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มจี ติ สาธารณะ
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั น•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นักเรียนรว่ มกนั สนทนา โดยตอบคำถามกระตุน้ ความสนใจ ดังนี้
• นกั เรยี นคิดวา่ ผู้ท่ีติดสารเสพติดมีลักษณะอย่างไร
2. นกั เรยี นอา่ นขา่ วทก่ี ำหนด แล้วตอบคำถาม ดังนี้
รวบลกู เมาสุราและยาบ้าก่อเหตทุ าร้ายร่างกายแม่ของตนเองจนเสียชีวิต
จากการสอบสวนผตู้ อ้ งหารับสารภาพทุกขอ้ กลา่ วหาท้งั น้าตา พร้อมสวมกอดผเู้ ป็นพ่อ
วยั 62 ปี เป็นคร้ังสุดทา้ ย พร้อมขอใหพ้ ่อใหอ้ ภยั กบั ส่ิงที่ทาลงไป ก่อนกราบขอขมาภาพแมข่ องตนเอง
ผตู้ อ้ งหากล่าววา่ รู้สึกเสียใจและสานึกผิดตอ่ เหตกุ ารณ์ท่ีเกิดข้ึน ยอมรับวา่ เครียดสะสมเรื่องท่ีพ่อแม่
รักพ่ชี ายมากกวา่ และพอ่ แม่ไม่ยอมรับแฟนสาวชาวเวียดนาม ประกอบกนั ในวนั เกิดเหตุเมาสุราและ
เสพยาบา้ มาก่อน ทาใหข้ าดสติพล้งั มือทาร้ายแม่จนเสียชีวิต
• จากข่าวเก่ยี วข้องกบั สารเสพติดชนิดใดบ้าง
• การตดิ สารเสพติดจากข่าว ทำให้ผู้เสพมีลกั ษณะอาการอย่างไร
• จากเหตุการณ์ทเ่ี กิดขน้ึ ส่งผลกระทบตอ่ ตนเองและบคุ คลอ่ืนอย่างไร
๒๐๒
3. นกั เรยี นรว่ มกันสนทนาเกยี่ วกับลกั ษณะของผ้ตู ิดสารเสพติด โดยตวั แทนนักเรียน 1 คน
ออกมาเขียนแผนภาพความคิดสรปุ ความรู้เร่อื ง ลกั ษณะของผูต้ ดิ สารเสพติดลงบนกระดานหนา้ ชั้นเรยี น
หวาดระแวง
ขาดสติ ร่างกายซูบผอม
ลกั ษณะของ
ผ้ตู ดิ สารเสพตดิ
มีพฤติกรรมรุนแรง โมโหร้าย
เห็นภาพหลอน
4. นกั เรียนศึกษาความรู้และรวบรวมขอ้ มลู เก่ยี วกับลักษณะของทต่ี ดิ สารเสพติด อาการของ
ผู้ติดสารเสพตดิ และป้องกันสารเสพติด จากแหลง่ การเรียนร้ตู า่ ง ๆ เช่น หนงั สือเรยี น อินเทอรเ์ น็ต
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
5. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม 3 กลมุ่ ร่วมกันวเิ คราะหอ์ าการของผูต้ ิดสารเสพติดในหัวข้อต่อไปน้ี
กลมุ่ ท่ี 1 อาการผดิ ปกติทางร่างกายของผเู้ สพสารเสพตดิ
กลุ่มที่ 2 อาการผดิ ปกติทางจิตใจ อารมณ์ และพฤติกรรมของผู้เสพสารเสพติด
กลุ่มที่ 3 อาการของผตู้ ิดสารเสพตดิ จำแนกตามชนิดของสารเสพติด
6. นกั เรียนแต่ละกลุม่ รว่ มกนั วางแผนและเตรยี มการนำเสนอท่ีน่าสนใจและเข้าใจง่าย แลว้ เขียน
ส่ิงทไี่ ด้เรยี นรู้ลงในกระดาษ จากน้นั ส่งตวั แทนนักเรียนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรยี น
๒๐๓
7. นักเรยี นยกตัวอย่างสารเสพติด 2 ชนิด แลว้ เปรียบเทยี บลกั ษณะและอาการของผูท้ ่ตี ิดสารเสพติด
บันทึกลงในแผนภาพความคิดเปรียบเทียบบนกระดานรว่ มกัน
ช่ือสารเสพติด ลกั ษณะ ช่ือสารเสพตดิ
ทีเ่ หมือนกนั
(สุรา) (กญั ชา)
ลกั ษณะและอาการของ (ตาแดง ลกั ษณะและอาการของ
ผทู้ ่ีติดสารเสพติด ควบคมุ ตนเองไม่ได้ ผทู้ ี่ติดสารเสพติด
(หนา้ แดง ผิวหนงั คล้า สติปัญญาเสื่อม (หวั ใจเตน้ เร็ว ความดนั
มือส่นั ) โลหิตลดลง มีความอยาก
ลมหายใจมีกลิ่น อาหารมากข้ึน
แอลกอฮอล)์ กระหายน้า)
• •ข้ัน•ป•ฏบิ•ตั •แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•8.• นักเรียนแบง่ กลุ่มร่วมกนั หาข่าวทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั สารเสพตดิ กลมุ่ ละ 1 ขา่ ว จากอนิ เทอรเ์ นต็
แลว้ สรุปสาเหตุการตดิ สารเสพติด ลักษณะอาการของผ้เู สพ พร้อมเสนอแนวทางการป้องกนั การติด
สารเสพตดิ ลงในแผนภาพความคดิ ในชิน้ งานที่ 11 เรอ่ื ง ลักษณะอาการของผตู้ ิดสารเสพตดิ และการป้องกนั
สารเสพติด
9. นักเรียนรว่ มกนั เสนอแนวทางการป้องกันสารเสพติดมา 2 แนวทาง พร้อมอธบิ ายผลที่เกิดข้ึน
ต่อตนเอง ตอ่ ครอบครวั ตอ่ สังคม ตอ่ โลก เปน็ แผนภาพความคิดบนกระดาน
แนวทางการป้องกนั ผลท่ีเกิดข้ึน ต่อตนเอง ต่อครอบครัว
การติดสารเสพติด (มีสุขภาพแขง็ แรง ห่างไกล (เกิดความภาคภมู ิใจ
สารเสพติด) มีความสุข)
1. (ไมห่ ลงเช่ือคาชกั ชวน
ของเพอ่ื นที่ติดสารเสพติด)
2. (ไม่ทดลองเสพสารเสพติด)
ต่อโลก ต่อสังคม
(ลดปัญหาการเจ็บป่ วย (ทุกคนอยอู่ ยา่ งสงบสุข)
และปัญหาอาชญากรรม
บนโลก)
๒๐๔
10.นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ สิง่ ทเี่ ขา้ ใจเป็นความรู้รว่ มกนั ดงั น้ี
ผู้ติดสารเสพตดิ ส่วนใหญ่ จะมีลักษณะทางพฤติกรรม ลักษณะทางความคดิ ลกั ษณะทางความรสู้ กึ
ลักษณะทางบุคลกิ ภาพ และโลกทัศนส์ ่วนตวั เปล่ยี นไปจากเดมิ ในด้านลบ และแสดงอาการแตกต่างกันไปตาม
การออกฤทธขิ์ องสารเสพติดท่ีเสพ การเรยี นรวู้ ิธปี อ้ งกนั สารเสพติด จะช่วยใหห้ ่างไกลจากสารเสพติด สามารถ
ใช้ชวี ติ ในสังคมได้อย่างมีความสขุ
สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 1
ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.)
2. ตวั อย่างขา่ วเก่ียวกบั สารเสพติด
3. กระดาษสำหรบั ทำกจิ กรรม
4. แหล่งการเรียนรูท้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรยี น
การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง ลกั ษณะของผตู้ ิดสารเสพตดิ อาการของผู้ติดสารเสพติด การป้องกันสารเสพตดิ
(K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
3. ประเมนิ ชิ้นงาน เร่อื ง ลักษณะอาการของผ้ตู ดิ สารเสพติด และการป้องกันสารเสพตดิ (P)
ดว้ ยแบบประเมนิ
4. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ มีจติ สาธารณะ (A) ด้วยแบบประเมนิ
๒๐๕
แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมินชิ้นงาน เรื่อง ลักษณะอาการของผู้ตดิ สารเสพตดิ และการปอ้ งกนั สารเสพตดิ
รายการการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมิน
4321
การวเิ คราะห์
สาเหตุ วิเคราะหส์ าเหตุ วเิ คราะหส์ าเหตุ วิเคราะหส์ าเหตุ วิเคราะหส์ าเหตุ
การติดสารเสพตดิ
ลกั ษณะอาการ การติดสารเสพตดิ การตดิ สารเสพตดิ การตดิ สารเสพตดิ การติดสารเสพตดิ
ของผเู้ สพ และ
เสนอแนวทางการ ลกั ษณะอาการของผูเ้ สพ ลักษณะอาการของผ้เู สพ ลักษณะอาการของผ้เู สพ ลกั ษณะอาการของผู้เสพ
ป้องกันสารเสพตดิ
ลงในแผนภาพ และเสนอแนวทาง และเสนอแนวทาง และเสนอแนวทาง และเสนอแนวทาง
ความคิด
การป้องกนั สารเสพตดิ การป้องกนั สารเสพตดิ การป้องกันสารเสพตดิ การปอ้ งกันสารเสพตดิ
ลงในแผนภาพความคดิ ได้ ลงในแผนภาพความคิดได้ ลงในแผนภาพความคดิ ได้ ลงในแผนภาพความคดิ ได้
สัมพนั ธก์ ัน สมั พันธ์กัน ถกู ต้อง มกี ารเขยี นขยาย แต่ข้อมูลยังไมส่ อดคล้อง
มกี ารเชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ เปน็ มีการอธิบายใหเ้ หน็ ถึง ความ อ่านเขา้ ใจงา่ ย กัน ต้องมี
ภาพรวม แสดง ความสัมพันธ์กบั ตนเอง การเขยี นขยายความ
ให้เหน็ ถึงความสัมพนั ธก์ ับ อยา่ งเป็นเหตุเปน็ ผล เพิม่ เตมิ
ตนเองและผู้อ่นื
ความคดิ เหน็ ของผ้บู ังคับบัญชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงช่ือ.....................................................
(นายสมพร คล้ายวงษ์)
ตำแหนง่ ผ้อู ำนวยการโรงเรียนบ้านโคกแสมสาร
๒๐๖
ชน้ิ งานท่ี 11 เรอ่ื ง ลักษณะอาการของผ้ตู ดิ สารเสพติดและการป้องกันสารเสพตดิ
ได_้ _________
วนั ที่________เดือน_______________พ.ศ.___________ คะแนน
ชอ่ื _____________________________เลขท_ี่ _____ชน้ั __________ คะแนนเตม็ 10
นกั เรยี นวิเคราะห์ข่าวจากกิจกรรมในข้อ 1 สรุปสาเหตุการตดิ สารเสพติด ลักษณะอาการขอคงะผแู้เสนพนและ
เสนอแนวทางการปอ้ งกันการตดิ สารเสพติด เขยี นลงในแผนภาพความคิด
สารเสพตดิ ลกั ษณะอาการของผู้เสพ
สาเหตุ
แนวทางการป้องกนั การติดสารเสพติด
๒๐๗ ๒๐๗
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 สารเสพติด
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2
เรื่อง พิษภยั สารเสพติดทมี่ ีต่อรา่ งกายและจิตประสาทของผ้เู สพ
รายวิชาสุขศกึ ษา รหัสวชิ า พ๒๑๑๐๓ ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 1 เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน พ 5.1 ปอ้ งกันและหลีกเล่ียงปัจจยั เสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสขุ ภาพ อุบัตเิ หตุ การใชย้ า
สารเสพตดิ และความรุนแรง
ตวั ช้ีวัด
พ 5.1 ม.1/3 อธิบายความสมั พันธ์ของการใชส้ ารเสพติดกบั การเกดิ โรคและอบุ ัตเิ หตุ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายพิษภัยของสารเสพตดิ ทีม่ ตี ่อรา่ งกายและจิตประสาทของผ้เู สพ (K)
2. เขยี นแผนภาพความคิดสรปุ พิษภยั ของสารเสพตดิ ท่ีมตี ่อรา่ งกายและจติ ประสาทของผู้เสพ (P)
3. ตระหนกั ในพษิ ภัยของสารเสพตดิ ที่มีตอ่ ร่างกายและจิตประสาท (A)
สาระสาคญั
สารเสพตดิ ไม่วา่ จะเสพดว้ ยวธิ ีใด เมอ่ื เข้าสรู่ า่ งกายจะออกฤทธิ์ตอ่ จิตประสาทและร่างกายของผเู้ สพ
ทำให้เกดิ โรคภัยไข้เจ็บตา่ ง ๆ และก่อใหเ้ กิดอุบตั ิเหตขุ นึ้ ได้
สาระการเรียนรู้
ลกั ษณะอาการของผตู้ ิดสารเสพติดและการป้องกันสารเสพตดิ
• พษิ ภัยของสารเสพติดท่มี ีต่อร่างกาย
• พิษภัยของสารเสพติดทีม่ ตี ่อจิตประสาท
๒๐๘
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. มีจิตสาธารณะ
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั น•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นกั เรยี นรว่ มกนั สนทนา โดยตอบคำถามกระตนุ้ ความสนใจ ดังนี้
• นกั เรียนคดิ ว่ามสี าเหตุใดบา้ งท่ีทำให้คนเสพสารเสพติด
• สารเสพติดเข้าสรู่ า่ งกายได้ดว้ ยวธิ ีใดบา้ ง
• นกั เรยี นเคยพบเจอบุคคลทต่ี ิดสารเสพติดหรอื ไม่
• ถา้ เคย ลักษณะอาการที่พบเป็นอย่างไร
2. นกั เรียนรว่ มกันทบทวนเรอ่ื งลักษณะอาการของผู้ติดสารเสพติดในช่ัวโมงเรียนท่ผี า่ นมา โดยส่มุ
ตัวแทนนักเรยี นออกมาเขยี นลกั ษณะผู้ทต่ี ดิ สารเสพติด และอาการผู้ทีต่ ิดสารเสพตดิ เปน็ แผนภาพความคิด
บนกระดาน
ลกั ษณะ
ทางพฤติกรรม
โลกทศั น์ของ ลกั ษณะทางความคิด
ผตู้ ิดสารเสพติด
ลกั ษณะ ลกั ษณะของ
ทางบุคลิกภาพ ผ้ตู ดิ สารเสพติด
ลกั ษณะทางความรู้สึก
โกหก ตาโรย ๒๐๙
พูดจาสับสน เซื่องซึม
อาการของ
ผ้ตู ิดสารเสพตดิ มีรอยเขม็ ฉีดยา
นอนไมห่ ลบั ผอมโซ ประสาทหลอน
3. นกั เรียนศึกษาความรู้และรวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกับพิษภยั ของสารเสพตดิ ที่ส่งผลต่อร่างกาย
และจติ ประสาทของผ้เู สพ จากแหลง่ การเรียนร้ตู ่าง ๆ เชน่ หนังสือเรียน อนิ เทอรเ์ น็ต
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
4. นกั เรียนรว่ มกันสงั เกตภาพสารเสพตดิ แตล่ ะชนดิ จากบัตรภาพทเ่ี ตรียมมา จากน้นั นักเรียนรว่ มกัน
อภิปรายและแสดงความคิดเห็นรว่ มกันวา่ ภาพสารเสพตดิ แต่ละภาพเปน็ สารเสพติดชนดิ ใด
และพิษภยั ของสารเสพติดนน้ั จะส่งผลต่อรา่ งกายและจิตประสาทของผ้เู สพอยา่ งไร
5. นักเรยี นแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม จากนั้นอ่านบทความเรอ่ื ง สมองติดยา แล้วร่วมกันวิเคราะห์
สาเหตุและผลกระทบต่อสุขภาพจากภาวะสมองติดยาเปน็ แผนภาพความคิดลงในกระดาษ
ภาวะ “สมองติดยา” คือ ช่วงเวลาท่ีสมองในส่วนท่ีคิดดว้ ยสติปัญญา คิดดว้ ยความมีเหตุผล
เกิดความสมดุลกบั สมองส่วนอยากที่ทาหนา้ ท่ีควบคมุ อารมณ์และความอยาก ก่อใหเ้ กิดแรงกระตนุ้
จนนาไปสู่ความอยากยา จึงจาเป็นตอ้ งหาทางเพ่ือนามาเสพ เมื่อเสพแลว้ จะมีความสุข ถือวา่ เป็นอาการ
ป่ วยทางจิตอยา่ งรุนแรง เพราะสารเสพติดจะไปกระตุน้ สมองแบบเร้ือรัง ทาใหส้ มองส่วนอยากจะด้ือ
ต่อส่ิงกระตุน้ ที่ใหค้ วามสุขใจตามธรรมชาติ ทาใหผ้ เู้ สพติดยาเกิดความเบื่อหน่าย แตส่ มองส่วนอยากน้ี
ไวต่อสารเสพติด ทาให้เกิดพฤติกรรมหมกมุ่นต่อการเสพยา ผลที่ตามมาคือ สมองส่วนคดิ แยล่ ง
ทาอะไรไปตามความอยาก ขาดความยบั ย้งั ชง่ั ใจ ซึมเศร้า แปรปรวน เซลลส์ มองฝ่อ สติปัญญาแยล่ ง
กลายเป็ นโรคสมองเส่ือมในที่สุด
6. นกั เรยี นรว่ มกนั จำแนกสารเสพตดิ ที่กำหนดลงในตารางประเภทพิษภยั ของสารเสพติด
๒๑๐
ทม่ี ีต่อจิตประสาทบนกระดาน แล้วสรุปเป็นความคิดรวบยอด
สารเสพตดิ
• เฮโรอนี • ยานอนหลับ
• ทนิ เนอร์ • ยาบ้า
• โคเคน • ยาอี
• ยาเค • แอลเอสดี
• กญั ชา • กระท่อม
ประเภท ช่ือสารเสพติด
1. กดประสาท (เฮโรอนี ยานอนหลบั ทนิ เนอร)์
2. กระตุ้นประสาท (ยาบ้า กระทอ่ ม โคเคน ยาอ)ี
3. หลอนประสาท (ยาเค แอลเอสด)ี
4. ออกฤทธผ์ิ สมผสาน (กัญชา)
• •ข้ัน•ป•ฏิบ•ตั •แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•7.• นกั เรียนแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แตล่ ะกลุ่มสง่ ตัวแทน 1 คน ออกมารับซองกระดาษ
หน้าช้นั เรียน กลุ่มละ 1 ซอง ภายในซองจะมแี ถบประโยคพิษภยั ของสารเสพติดที่มีผลต่อรา่ งกายกบั บัตรคำ
ชื่อสารเสพตดิ โดยแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั จับคู่แถบประโยคกับบัตรคำให้ถูกต้อง กลุม่ ใดทำเสร็จก่อนใหย้ กมือขนึ้
แลว้ รว่ มตรวจสอบความถกู ต้อง
แถบประโยคพษิ ภัยของสารเสพติดทมี่ ีต่อร่างกาย
เป็นโรคหวั ใจ ทาลายภมู ิคุม้ กนั โรค ตาบอดสี ระบบไหลเวียนโลหิตลม้ เหลว
ริ มฝี ปากเขียว ความดนั โลหิตต่า อยากอาหาร กระหายน้า มีอารมณ์สนุกสนานร่าเริง
บตั รคำชื่อสารเสพติด ยานอนหลบั มอร์ฟี น แอลเอสดี
เฮโรอีน ฝิ่ น กญั ชา ยาไอซ์
โคเคน
๒๑๑
8. นักเรียนร่วมกนั สรปุ สงิ่ ทเ่ี ข้าใจเปน็ ความร้รู ว่ มกนั ดังนี้
สารเสพตดิ ไมว่ ่าจะเสพดว้ ยวิธีใดก็ตาม เมอ่ื เข้าสู่รา่ งกายจะออกฤทธิต์ ่อจติ ประสาทของผู้เสพ
ทำใหเ้ กิดโรคภัยไขเ้ จบ็ ตา่ ง ๆ และก่อให้เกิดอุบตั ิเหตุขนึ้ ได้
สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศึกษาและพลศึกษา ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1
ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวิชาการ (พว.)
2. บตั รภาพสารเสพตดิ ตา่ ง ๆ
3. บทความเร่ือง สมองติดยา
4. ซองกระดาษ แถบประโยคและบตั รคำพิษภัยของสารเสพติด
5. แหล่งการเรยี นร้ทู ้ังภายในและภายนอกโรงเรียน
การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมินความรู้ เร่อื ง พิษภัยของสารเสพติดทีม่ ีต่อรา่ งกาย พษิ ภัยของสารเสพติดท่มี ีต่อจิตประสาท
(K) ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
3. ประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝเ่ รยี นรู้ มีจิตสาธารณะ (A) ด้วยแบบประเมนิ
ความคดิ เห็นของผู้บังคบั บญั ชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื .....................................................
(นายสมพร คลา้ ยวงษ์)
ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านโคกแสมสาร
๒๑๒ ๒๑๒
หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 7 สารเสพติด
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3
เรือ่ ง ความสมั พนั ธข์ องการใชส้ ารเสพติดกบั การเกิดโรค
รายวิชาสขุ ศกึ ษา รหสั วิชา พ๒๑๑๐๓ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 1 เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน พ 5.1 ปอ้ งกันและหลีกเลยี่ งปัจจัยเส่ียง พฤติกรรมเสย่ี งต่อสุขภาพ อบุ ตั เิ หตุ การใช้ยา
สารเสพติด และความรุนแรง
ตัวชี้วดั
พ 5.1 ม.1/3 อธิบายความสมั พันธข์ องการใช้สารเสพติดกับการเกิดโรคและอบุ ตั ิเหตุ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายความสัมพนั ธ์ของการใชส้ ารเสพตดิ กบั การเกิดโรคและอบุ ัตเิ หตุ (K)
2. เขียนแผนภาพความคดิ ความสมั พันธข์ องการใช้สารเสพตดิ กบั การเกดิ โรคและอุบตั ิเหตุ (P)
3. ตระหนักในพิษภยั ของสารเสพตดิ (A)
สาระสาคญั
สารเสพติดมีสารพิษท่ีทำให้รา่ งกายทรดุ โทรม เกิดโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ และยงั ส่งผลกระทบต่อระบบ
ประสาท ทำให้ขาดสติสัมปชัญญะและเกิดอบุ ตั ิเหตุในชวี ิตประจำวันได้
สาระการเรียนรู้
ความสมั พันธ์ของการใช้สารเสพติดกับการเกดิ โรคและอบุ ัติเหตุ
• ความสัมพันธข์ องการใช้สารเสพติดกับการเกดิ โรค
• ความสมั พนั ธข์ องการใชส้ ารเสพติดกบั การเกดิ อุบัติเหตุ
๒๑๓
สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั น•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นักเรียนรว่ มกนั สังเกตภาพสารเสพตดิ แต่ละชนดิ เช่น บหุ รี่ สรุ า โคเคน ยาบ้า กญั ชา สารระเหย
เฮโรอีน ยาอี จากนั้นร่วมกันสนทนาเกย่ี วกับความสมั พันธข์ องการใชส้ ารเสพติดแตล่ ะชนิดกับการเกิดโรค
2. ตัวแทนนักเรียนทีเ่ คยพบเหน็ อบุ ตั เิ หตุทเี่ กิดจากการดื่มสุราออกมาเล่าประสบการณใ์ หเ้ พื่อนฟงั
จากนนั้ รว่ มกนั สนทนาว่านอกจากการดื่มสุราแลว้ การใช้สารเสพตดิ ชนิดใดอีกบ้างท่ีมีแนวโน้มในการเกดิ
อบุ ัติเหตุไดง้ า่ ย และอุบัติเหตุทเ่ี กิดขน้ึ จากการใชส้ ารเสพติดเหลา่ นั้นคืออะไร
3. ตวั แทนนกั เรียน 1 คน ออกมาอ่านขา่ วที่กำหนด แลว้ ร่วมกันสนทนาโดยตอบคำถาม ดงั น้ี
7 วนั อนั ตราย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 สถติ ิเมาแล้วขับพุ่งกว่า 6 พนั คดี
วนั ที่ 5 ของ 7 วนั อนั ตราย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2561 สาหรับสถิติคดีที่เขา้ สู่
กระบวนการคมุ ประพฤติจากสานกั งานคมุ ประพฤติทวั่ ประเทศ วนั ท่ี 15 เม.ย. น้ี จานวน
3,460 คดี แบง่ เป็น ขบั รถขณะเมาสุรา 3,456 คดี ขบั รถประมาท 4 คดี ยอดสะสม 5 วนั
(11-15 เม.ย. 2561) มีคดีท้งั หมด 6,707 คดี จาแนกเป็น คดีขบั รถขณะเมาสุรา 6,541 คดี
หรือคิดเป็นร้อยละ 97.5 ขบั รถประมาท 21 คดี หรือคิดเป็นร้อยละ 0.31 แขง่ รถหรือขบั ซิ่ง
2 คดี หรือร้อยละ 0.02 ขบั เสพ 143 คดี หรือคดิ เป็นร้อยละ 2.13 ส่วนจงั หวดั ท่ีมีสถิติคดีเมา
แลว้ ขบั สะสมสูงสุด 3 อนั ดบั ไดแ้ ก่ สานกั งานคมุ ประพฤติจงั หวดั เชียงราย 455 คดี จงั หวดั
มหาสารคาม 394 คดี และจงั หวดั สุรินทร์ 313 คดี ยอดสะสม 4 วนั (11-14 เม.ย. 2561)
จานวนคร้ังอบุ ตั ิเหตุสะสม รวม 2,449 คร้ัง ผเู้ สียชีวิตสะสม 248 คน ผบู้ าดเจ็บสะสม
2,557 คน ซ่ึงมีสาเหตุการเกิดอบุ ตั ิเหตุอนั ดบั หน่ึง คือ ด่ืมแลว้ ขบั
ที่มา : https://www.thairath.co.th
๒๑๔
• สาเหตุสำคัญของอุบตั ิเหตเุ กดิ จากสาเหตใุ ดบ้าง
• สาเหตกุ ารเกดิ อบุ ตั ิเหตุอนั ดบั หนึง่ คืออะไร
4. นักเรยี นศึกษาความรู้และรวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกับความสัมพันธ์ของการใช้สารเสพติดกับการ
เกดิ โรค จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น หนงั สือเรยี น อินเทอร์เนต็
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
5. นักเรียนรว่ มกันยกตวั อยา่ งโรคทเ่ี กดิ จากสารเสพติดที่กำหนด แล้วส่งผู้แทนนกั เรียนออกมา
เขียนคำตอบเปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน แล้วสรปุ ความรู้ร่วมกัน
โรคถงุ ลมโป่ งพอง โรคตบั แขง็
โรคแผลใน บหุ รี่ โรคหวั ใจขาดเลือด โรคสมองเสื่อม สุรา โรคมะเร็งตบั
กระเพาะอาหาร
โรคมะเร็งปอด โรคความดนั โลหิตสูง
6. นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น โดยตอบคำถามกระตุ้นความคดิ ดังน้ี
• สารเสพติดมีความสัมพนั ธ์กับการเกดิ อุบตั เิ หตุอย่างไร
• •ข้ัน•ป•ฏบิ•ตั •แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•7.• นักเรยี นแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน ส่งตัวแทนกลุม่ 1 คน ออกมาจบั สลากหวั ข้อประเด็นการใช้
สารเสพติด 1 ชนิด แลว้ รว่ มกนั คน้ คว้าข้อมลู เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของการใชส้ สารเสพติดกับการเกดิ โรคและ
อุบตั เิ หตุ และสรปุ ข้อมูลลงในแผนภาพความคิดในชิ้นงานที่ 12 เรื่อง ความสัมพนั ธข์ องการใช้
สารเสพติดกับการเกดิ โรคและอบุ ตั ิเหตุ
8. นกั เรยี นสรุปสิง่ ท่เี ข้าใจเป็นความรรู้ ่วมกัน ดงั น้ี
• สารเสพตดิ มสี ารพิษท่ีทำให้ร่างกายทรดุ โทรม เกดิ โรคภยั ไข้เจ็บตา่ ง ๆ และยังส่งผลกระทบตอ่
ระบบประสาท ทำใหข้ าดสติสัมปชัญญะและเกิดอบุ ัติเหตุในชวี ิตประจำวนั ได้
๒๑๕
ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 1
ของสถาบนั พัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)
2. ภาพสารเสพตดิ
3. ตวั อยา่ งขา่ วการเมาแล้วขับ
4. แหล่งการเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียน
การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมินความรู้ เร่ือง ความสัมพนั ธ์ของการใช้สารเสพติดกับการเกดิ โรค ความสัมพันธ์ของการใชส้ าร
เสพตดิ กบั การเกิดอุบตเิ หตุ (K) ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม่ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ
3. ประเมินชน้ิ งาน เร่อื ง ความสัมพันธ์ของการใช้สารเสพตดิ กับการเกิดโรคและอบุ ัตเิ หตุ (P)
ด้วยแบบประเมิน
4. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝ่เรียนรู้ มุง่ มัน่ ในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมิน
แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมินชิ้นงาน เร่อื ง ความสัมพันธข์ องการใช้สารเสพติดกบั การเกิดโรคและอบุ ัติเหตุ
รายการการ ระดับคณุ ภาพ
ประเมิน 4 3 2 1
การเขยี น การเขียนความสมั พนั ธ์ การเขยี นความสมั พันธ์ การเขยี นความสัมพนั ธ์ การเขยี นความสัมพนั ธ์
ความสมั พันธ์ของ ของการใช้สารเสพตดิ 1 ของการใช้สารเสพตดิ 1 ของการใช้สารเสพตดิ 1 ของการใชส้ ารเสพตดิ 1
การใช้สารเสพตดิ ชนิดกับการเกดิ โรคและ ชนิดกับการเกดิ โรคและ ชนดิ กับการเกิดโรคและ ชนิดกบั การเกดิ โรคและ
1 ชนดิ กบั การเกดิ อบุ ัตเิ หตลุ งในแผนภาพ อุบตั ิเหตลุ งในแผนภาพ อบุ ตั เิ หตลุ งในแผนภาพ อบุ ัตเิ หตลุ งในแผนภาพ
โรคและอุบัตเิ หตุลง ความคดิ ได้ถกู ตอ้ ง ความคดิ ไดถ้ ูกตอ้ ง มี ความคดิ ไดถ้ กู ต้อง ความคดิ ได้ แตข่ ้อมูลยัง
ในแผนภาพ สัมพนั ธ์กัน มีการ การอธบิ ายให้เหน็ ถึง สอดคล้องกัน มีการ ไมส่ อดคล้องสมั พนั ธก์ ัน
ความคิด เชอื่ มโยงใหเ้ หน็ เปน็ ความสัมพนั ธก์ ับตนเอง เขียนขยายความ ไมม่ ีการอธิบายขยาย
ภาพรวม แสดง อยา่ งเปน็ เหตเุ ป็นผล ใหเ้ ขา้ ใจง่าย ความเพิ่มเติม
ความสมั พันธก์ ับตนเอง
และผอู้ ื่น
ความคิดเหน็ ของผ้บู ังคับบญั ชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื .....................................................
(นายสมพร คลา้ ยวงษ์)
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านโคกแสมสาร
๒๑๖
ช้นิ งานที่ 12 เรือ่ ง ความสมั พันธ์ของการใชส้ ารเสพติดกบั การเกิดโรคและอบุ ัติเหตุ
วนั ท่ี________เดอื น_______________พ.ศ.___________
ชือ่ _____________________________เลขท_ี่ _____ชนั้ __________
นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละ 3-4 คน จบั สลากสารเสพตดิ ที่กำหนด 1 ชนดิ แล้วรว่ มกันคน้ ควา้ ข้อมลู
เกีย่ วกบั ความสัมพนั ธข์ องการใชส้ ารเสพตดิ กบั การเกดิ โรคและอุบัตเิ หตุ และสรปุ ข้อมลู ลงในแผนภาพความคิด
ฝ่ิน ยาบา้ สารระเหย สุรา บุหรี่
เฮโรอีน กญั ชา ใบกระทอ่ ม ยากลอ่ มประสาท
สารเสพติด การเกดิ โรค
(โรคทางจิตเวช โรค
ลมบา้ หมู โรคหัวใจ เป็น
โรคติดเช้ือไดง้ ่าย เพราะ
ร่างกายไม่แขง็ แรง
การเกดิ อบุ ัติเหตุ
(มีความเสี่ยงตอ่ การเกิด
อบุ ตั ิเหตทุ างรถยนตเ์ พราะ
ขาดสติสัมปชญั ญะ
การคาดคะเนผิดพลาด
๒๑๗ ๒๑๗
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7 สารเสพตดิ
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4
เร่อื ง ทกั ษะการชกั ชวนผู้อืน่ ให้ลด ละ เลิกสารเสพติด : ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์
รายวชิ าสขุ ศกึ ษา รหสั วชิ า พ๒๑๑๐๓ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน พ 5.1 ปอ้ งกนั และหลีกเลีย่ งปจั จัยเส่ียง พฤติกรรมเสีย่ งต่อสขุ ภาพ อบุ ตั ิเหตุ การใชย้ า
สารเสพตดิ และความรนุ แรง
ตวั ชว้ี ดั
พ 5.1 ม.1/4 แสดงวธิ กี ารชักชวนผู้อน่ื ให้ลด ละ เลิกสารเสพตดิ โดยใชท้ กั ษะต่าง ๆ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ เพอ่ื ชกั ชวนผอู้ ่ืนให้ลด ละ เลิกสารเสพตดิ (K)
2. แสดงวธิ กี ารใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์ เพ่อื ชกั ชวนผูอ้ น่ื ให้ลด ละ เลิกสารเสพตดิ (P)
3. เห็นความสำคญั ของวธิ ีการใช้ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ เพื่อชักชวนผอู้ นื่ ใหล้ ด ละ เลิกสารเสพตดิ (A)
สาระสาคญั
ทักษะการคดิ วเิ คราะห์ เปน็ การคดิ อยา่ งมเี หตุผล การนำไปใช้ชักชวนผู้อนื่ ใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพติด
ทำได้โดยแสดงใหผ้ เู้ สพเห็นถึงโทษของสารเสพตดิ ทม่ี ตี ่อตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ
สาระการเรียนรู้
ทักษะการชักชวนผอู้ น่ื ใหล้ ด ละ เลิกสารเสพตดิ
• ทักษะการคดิ วิเคราะห์
๒๑๘
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแก้ปญั หา
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
2. ใฝเ่ รยี นรู้
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั น•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นกั เรียนร่วมกนั ทบทวนความรู้เกี่ยวกบั โทษและพิษภัยของสารเสพติด โดยนักเรยี นบอกโทษและ
พิษภัยของสารเสพติด คนละ 1 อยา่ ง จากนั้นร่วมกนั สนทนา โดยตอบคำถาม ดังนี้
• นกั เรยี นมีเพ่ือนหรือคนรจู้ ักติดสารเสพติดหรอื ไม่
• ปัจจุบันคนท่ีนกั เรียนรู้จักคนน้นั ยังเสพสารเสพตดิ อย่หู รอื ไม่
• ถ้านักเรยี นต้องการช่วยให้คนท่รี ้จู ักลด ละ เลิกสารเสพติด นักเรียนควรทำอยา่ งไร
2. นกั เรยี นรว่ มกนั ฟงั คำอธบิ ายเก่ียวกับการใช้ทักษะการคิดวเิ คราะห์ในการชกั ชวนผ้อู ืน่ ให้ลด ละ
เลกิ สารเสพติดว่า
การคิดวเิ คราะห์ เปน็ การคิดอยา่ งมีเหตมุ ผี ล มกี ารแยกแยะรายละเอยี ด โดยใชข้ ้อมูลต่าง ๆ จาก
การคน้ คว้าและจากองค์ความรู้ท่ตี นเองมอี ยู่มาชว่ ยในการคิดจะทำให้ข้อความหรอื คำพูดท่ีผ่านการวเิ คราะห์
มาแลว้ มีความน่าเช่ือถือ
การนำไปใช้ในการชกั ชวนให้ผู้อ่นื ลด ละ เลกิ สารเสพติด อาจทำไดโ้ ดยวิเคราะห์ใหเ้ ห็นถึงผลเสยี
ของสารเสพติดท่ีมีต่อตนเอง ต่อครอบครวั ตอ่ สงั คม และต่อประเทศชาติ โดยเฉพาะต่อตนเองนน้ั ต้องเน้นให้ผู้
เสพเหน็ ถึงโทษตา่ ง ๆ ของสารเสพติดท่ีเกดิ ข้นึ กับตนเอง พยายามอ้างเหตุผลวเิ คราะห์ให้เหน็ ถึงความสำคัญ
หรือผลดีของการลด ละ เลกิ สารเสพตดิ ได้
3. นกั เรียนศกึ ษาความรู้และรวบรวมขอ้ มูลเกย่ี วกบั ทักษะการชกั ชวนให้ผอู้ ื่นลด ละ เลกิ สารเสพติด
จากแหล่งการเรยี นรตู้ ่าง ๆ เช่น หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต
๒๑๙
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
4. นกั เรียนแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แตล่ ะกลุ่มอ่านสถานการณท์ ี่กำหนด แล้วร่วมกนั วเิ คราะห์
สถานการณ์และตอบคำถาม โดยเขียนบนั ทึกคำตอบลงในกระดาษที่แจก ดังน้ี
บุง้ ก๋ีเป็นนกั เรียนช้นั ม.1 เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวท่ีมีฐานะดี แตบ่ งุ้ กี๋ติดสารเสพติด
ซ่ึงเขาเคยเลิกเสพแลว้ แต่กลบั ไปเสพอีก บุง้ กี๋มกั บ่นนอ้ ยใจผปู้ กครองไมม่ ีเวลาให้
• จากสถานการณ์ เพราะเหตใุ ดบงุ้ กจี๋ งึ กลับไปใช้สารเสพตดิ อีก
• ถา้ นกั เรียนเปน็ เพื่อนบงุ้ ก๋ี นักเรยี นจะเลอื กใช้ทกั ษะใดในการชักชวนให้บ้งุ กี๋ลด ละ
เลิกสารเสพตดิ เพราะเหตุใด
• นักเรียนจะมวี ิธชี กั ชวนบงุ้ กีใ๋ ห้ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ โดยใช้ทกั ษะทเี่ ลือกได้อย่างไร
5. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ ร่วมกันวิเคราะห์และอภปิ รายสถานการณท์ ่กี ำหนด แล้วสรุปเป็นความรู้ร่วมกนั
6. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นโดยตอบคำถามกระตนุ้ ความคิด ดงั นี้
• ถา้ เพ่ือนของนักเรยี นติดสารเสพติด นักเรยี นจะมวี ิธกี ารช่วยใหเ้ พอ่ื นลด ละ เลิกสารเสพติด
ดว้ ยวธิ ีการใด
• •ข้ัน•ป•ฏบิ•ัต•แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•7.• นักเรยี นรว่ มกันใช้ทักษะการคิดวเิ คราะห์ วิเคราะหส์ ถานการณ์ท่ีกำหนด ในแผ่นป้ายหน้าช้ันเรียน
สมุ่ ตัวแทนนกั เรียน 1 คน ออกมาอา่ นสถานการณใ์ ห้เพื่อนฟงั แลว้ เขียนบันทึกคำตอบลงในแผนภาพความคดิ
ลงสมดุ
เดก็ ชายเออยใู่ นครอบครวั ท่ีพ่อแม่มักทะเลาะเบาะแวง้ กนั เป็นประจำ ทำให้เด็กชายเอ
ไมอ่ ยากอยบู่ า้ น จงึ หนีออกไปอยู่กบั เพ่อื นซง่ึ ตดิ สารเสพติดและชักชวนใหเ้ ดก็ ชายเอเสพด้วย
จนเด็กชายเอติดสารเสพตดิ และไม่กลบั บ้านอีกเลย
๒๒๐
(ตัวอย่างแผนภาพความคดิ )
(เกิดความเครียด) (พอ่ แม่ทะเลาะกนั ) ผลที่เกดิ ขึน้
ตอ่ เด็กชายเอ
สาเหตุ เด็กชายเอติด (ติดสารเสพติด)
(ถูกเพอ่ื นชกั ชวน) สารเสพตดิ ต่อครอบครัวเด็กชายเอ
(เด็กชายเอไมก่ ลบั บา้ นอีกเลย)
ตอ่ ประเทศชาติ
(สูญเสียบคุ ลากรมาพฒั นา
การใช้ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ ในการชักชวนให้ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ ประเทศชาติ)
วธิ ีการ คือ (หาแนวทางใหเ้ ด็กชายเอเลิกสารเสพติดใหไ้ ดโ้ ดยวเิ คราะหผ์ ลดี ผลเสียของ
แตล่ ะวิธี แลว้ เลือกวธิ ีการท่ีดีที่สุด คือ การพาเดก็ ชายเอไปบาบดั และอธิบายเหตุผลใหพ้ ่อแม่
เดก็ ชายเอเขา้ ใจสาเหตุของปัญหา)
8. นกั เรียนแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม รว่ มกนั คิดวธิ ชี ักชวนผอู้ น่ื ใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพตดิ โดยใช้
ทักษะการคดิ วเิ คราะห์แล้วเตรียมความพร้อมเพ่ือออกมาแสดงหนา้ ชนั้ เรียน
9. นกั เรยี นสรปุ ส่ิงทเี่ ขา้ ใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกัน ดังน้ี
• ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ เปน็ การคดิ อย่างมีเหตผุ ล การนำไปใชช้ กั ชวนผอู้ ่นื ให้ลด ละ เลิก
สารเสพติด ทำได้โดยแสดงให้ผู้เสพเห็นถึงโทษของสารเสพตดิ ท่มี ีต่อตนเอง ครอบครวั สังคม
และประเทศชาติ
๒๒๑
ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสอื เรยี น รายวิชาพื้นฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 1
ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.)
2. ตวั อย่างการใช้ทักษะการคดิ วิเคราะห์
3. ตวั อยา่ งสถานการณ์การใช้สารเสพตดิ
4. กระดาษสำหรบั ทำกิจกรรม
5. แหลง่ การเรยี นร้ทู งั้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น
การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เร่อื ง ทักษะการชกั ชวนผ้อู น่ื ให้ลด ละ เลิกสารเสพติด ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ K)
ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุม่ (P) ด้วยแบบประเมิน
3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ด้านรักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ใฝเ่ รียนรู้ (A) ด้วยแบบประเมนิ
ความคดิ เห็นของผบู้ ังคบั บัญชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชือ่ .....................................................
(นายสมพร คล้ายวงษ์)
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นบ้านโคกแสมสาร
๒๒๒ ๒๒๒
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 7 สารเสพตดิ
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5
เรอ่ื ง ทกั ษะการชักชวนผู้อ่ืนให้ลด ละ เลกิ สารเสพติด : ทกั ษะการสอ่ื สาร
รายวชิ าสุขศึกษา รหสั วชิ า พ๒๑๑๐๓ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลาเรียน 1 ชั่วโมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน พ 5.1 ป้องกนั และหลีกเลีย่ งปจั จัยเส่ียง พฤติกรรมเสยี่ งต่อสุขภาพ อุบตั ิเหตุ การใชย้ า
สารเสพตดิ และความรุนแรง
ตวั ชี้วัด
พ 5.1 ม.1/4 แสดงวิธีการชกั ชวนผูอ้ น่ื ให้ลด ละ เลกิ สารเสพติด โดยใชท้ ักษะตา่ ง ๆ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายทักษะการสอื่ สาร เพือ่ ชกั ชวนผู้อื่นให้ลด ละ เลิกสารเสพติด (K)
2. แสดงวิธกี ารใช้ทกั ษะการสื่อสาร เพ่ือชักชวนผูอ้ ืน่ ใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพติด (P)
3. เห็นความสำคญั ของวิธีการใช้ทกั ษะการสื่อสาร เพ่ือชกั ชวนผ้อู น่ื ใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพติด (A)
สาระสาคญั
การใช้ทกั ษะการสือ่ สาร เปน็ การใชค้ ำพดู และภาษาทา่ ทาง เพอื่ ชกั ชวนผอู้ ่ืนให้ลด ละ เลิกสารเสพตดิ
ซ่งึ จะส่งผลให้เกดิ ผลดีทง้ั ต่อตัวผเู้ สพ ครอบครวั และสงั คม
สาระการเรียนรู้
ทกั ษะการชักชวนผู้อืน่ ให้ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ
• ทกั ษะการสื่อสาร
๒๒๓
สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. มุง่ ม่ันในการทำงาน
2. มจี ิตสาธารณะ
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•ันน•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นักเรยี นร่วมกันสนทนา โดยตอบคำถามว่านักเรยี นจะทำให้ผ้อู ่นื เหน็ โทษของสารเสพติดอยา่ งไร
2. ตัวแทนนักเรยี น 2 คน ออกมาแสดงบทบาทสมมุติเก่ยี วกบั การใช้ทักษะการสือ่ สาร ดังน้ี
นอ้ งสาวเข้าไปจบั มือพชี่ ายพร้อมกับพดู ว่า : “พี่ชายคะ เลกิ สูบบหุ ร่นี ะคะ น้องเปน็ หว่ งสุขภาพของ
พี่ชาย ถา้ พี่ชายเลิกสูบบหุ ร่ี พ่อแมแ่ ละนอ้ งคงจะมีความสขุ มาก”
พีช่ ายจึงจับมือน้องสาวและสัญญาว่าจะเลิกสูบบหุ รี่ : “ได้จ้ะ พี่จะเลกิ บหุ รีเ่ พื่อน้อง”
จากนนั้ ใหน้ ักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เห็น
3. นกั เรยี นร่วมกนั ฟงั คำอธบิ ายเพม่ิ เตมิ ว่า จากตัวอยา่ งสถานการณส์ มมุติเป็นการใช้ทักษะ
การสอ่ื สาร เพื่อชกั ชวนผ้อู ่ืนให้ลด ละ เลิกสารเสพตดิ ซ่ึงทักษะการสื่อสารเปน็ ความสามารถในการใชค้ ำพูด
และภาษาทา่ ทาง เพอ่ื แสดงความรู้สึกนกึ คิดของตนอย่างเหมาะสมกบั สภาพวฒั นธรรมและสถานการณ์
ตา่ ง ๆ โดยสามารถท่ีจะแสดงความคิดเห็น ความปรารถนา ความตอ้ งการ การขอร้อง การเตอื น และการขอ
ความช่วยเหลอื ได้
การนำไปใชใ้ นการชักชวนผูอ้ ่ืนใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพตดิ อาจทำไดโ้ ดยพยายามใช้คำพูดท่ี
เข้าใจงา่ ยและโดนใจผูท้ ีเ่ ราจะชว่ ยเหลือ นอกจากภาษาพูดแล้ว จะต้องสอ่ื สารดว้ ยภาษาทา่ ทางเพ่อื ใหเ้ ขาเกิด
ความเขา้ ใจ เกดิ ความเชื่อถือมากยงิ่ ข้นึ และแสดงสหี นา้ ตลอดจนน้ำเสียงท่ีจะเพ่ิมความน่าเชอื่ ถอื
และโนม้ น้าวจิตใจเขาให้เช่ือเราและทำตามอย่างท่เี ราบอก
4. นกั เรียนศึกษาความรู้และรวบรวมข้อมลู เกีย่ วกบั ทักษะการชักชวนผูอ้ ื่นให้ลด ละ เลิกสารเสพติด
โดยใช้ทักษะการสอ่ื สาร จากแหล่งการเรยี นรตู้ ่าง ๆ เช่น หนงั สอื เรียน อนิ เทอรเ์ น็ต
๒๒๔
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
5. นกั เรยี นแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แต่ละกลมุ่ ใชท้ กั ษะการสือ่ สาร วเิ คราะหส์ ถานการณ์
ท่ีกำหนด หาสาเหตุ ผลทเี่ กดิ ขึ้น ทักษะท่ีใช้ในการแก้ไข แลว้ บันทกึ ขอ้ มลู เป็นแผนภาพความคิด
ลงในกระดาษสำหรบั ทำกิจกรรม ดังนี้
น้ำตาลเป็นเด็กเรยี นดี สอบได้ลำดบั ที่ 1 ของชั้นเสมอ ๆ เป็นท่ีช่นื ชมของเพื่อน ๆ คณุ ครู และ
พ่อแม่ แตป่ นี ้นี ำ้ ตาลทำผลสอบออกมาไดอ้ นั ดับที่ 3 ของชั้น จึงโดนแมต่ ำหนทิ ่ีทำคะแนนไดน้ อ้ ยลง ทำให้
นำ้ ตาลเกิดความเครียด กดดันตนเอง เก็บตวั อยู่ในห้องท้ังวัน อย่มู าวนั หนงึ่ นำ้ ตาลตดั สนิ ใจปรกึ ษาเพ่ือนรนุ่ พ่ี
เกี่ยวกับปัญหาของตนเอง เพ่ือนร่นุ พี่จึงชกั ชวนใหล้ องเสพยาบา้ แลว้ อ้างว่าช่วยคลายเครียดได้ น้ำตาลหลงเชื่อ
จงึ ลองเสพเรื่อยมา แต่ผลกลบั กลายเปน็ วา่ นอกจากผลการเรียนจะไม่ดขี นึ้ นำ้ ตาลยงั ติดสารเสพตดิ จนถงึ ขน้ั
แอบขโมยเงินของแม่ไปซ้ือยาบ้าอกี ด้วย
(ตวั อยา่ งแผนภาพความคดิ ) ผลท่เี กดิ ขึน้
(เกิดความเครียด) (กดดนั ตนเอง)
ต่อน้าตาล
สาเหตุ นา้ ตาลติด (ร่างกายทรุดโทรมจากการเสพ
สารเสพติด สารเสพติด)
(ถูกรุ่นพ่ชี กั ชวน) (โดนแม่ตาหนิ) ตอ่ ครอบครัวน้าตาล
(ขโมยเงินของแม่)
ต่อประเทศชาติ
(สูญเสียบคุ ลากรในการพฒั นา
ประเทศชาติ)
ทกั ษะท่ีใช้ (ทกั ษะการส่ือสาร)
วธิ ีการ คือ (แม่ควรใชว้ ิธีการใหก้ าลงั ใจน้าตาลแทนการตาหนิ พูดโนม้ นา้ ว
ความคิดของน้าตาลใหร้ ู้ถึงผลเสียของสารเสพติด อธิบายเหตุผลที่แมค่ าดหวงั
จากน้าตาล เพราะอยากใหน้ ้าตาลประสบความสาเร็จในการเรียน แลว้ พา
น้าตาลไปบาบดั เพอ่ื ใหก้ ลบั มาใชช้ ีวติ ไดต้ ามปกติ โดยมีแม่คอยให้
กาลงั ใจอยขู่ า้ ง ๆ)
6. นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายผลและสรปุ เปน็ ความร้รู ่วมกัน
๒๒๕
• •ข้นั •ป•ฏบิ•ตั •ิแล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•7.• นักเรยี นจับค่กู บั เพ่ือนคิดคำพูดทเ่ี หมาะสมในการชักชวนผู้อ่ืนให้ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ
คลู่ ะ 1 สถานการณ์ แลว้ เตรียมตัวนำเสนอหนา้ ช้ันเรียน
8. นักเรยี นรว่ มกันสรุปส่ิงทเี่ ขา้ ใจเปน็ ความรู้ร่วมกัน ดงั นี้
การใชท้ ักษะการส่อื สาร เป็นการใช้คำพดู และภาษาทา่ ทาง เพอ่ื ชักชวนผู้อน่ื ให้ลด ละ
เลกิ สารเสพตดิ ซึ่งจะสง่ ผลให้เกดิ ผลดีท้งั ต่อตัวผู้เสพ ครอบครวั และสงั คม
ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน สุขศกึ ษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.)
2. กระดาษสำหรับทำกจิ กรรม
๓. แหล่งการเรยี นรู้ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน
การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง ทักษะการชกั ชวนผู้อ่นื ให้ลด ละ เลิกสารเสพตดิ : ทักษะการสื่อสาร K)
ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ดว้ ยแบบทดสอบ
3. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านมุ่งมน่ั ในการทำงาน มจี ิตสาธารณะ (A) ด้วยแบบประเมนิ
ความคดิ เห็นของผบู้ ังคบั บญั ชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื .....................................................
(นายสมพร คลา้ ยวงษ์)
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรยี นบา้ นโคกแสมสาร
๒๒๖ ๒๒๖
หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 7 สารเสพตดิ
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 6
เรอ่ื ง ทกั ษะการชักชวนผู้อ่ืนใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพตดิ : ทกั ษะการตดั สนิ ใจ
รายวชิ าสุขศกึ ษา รหสั วชิ า พ๒๑๑๐๓ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน พ 5.1 ปอ้ งกนั และหลีกเลี่ยงปจั จัยเสี่ยง พฤติกรรมเสยี่ งต่อสุขภาพ อบุ ัติเหตุ การใชย้ า
สารเสพติด และความรุนแรง
ตวั ช้วี ดั
พ 5.1 ม.1/4 แสดงวธิ กี ารชกั ชวนผูอ้ ืน่ ใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพติด โดยใชท้ กั ษะต่าง ๆ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายทักษะการตดั สินใจ เพื่อชักชวนผูอ้ ืน่ ให้ลด ละ เลิกสารเสพตดิ (K)
2. แสดงวิธีการใช้ทักษะการตัดสินใจ เพื่อชักชวนผอู้ ืน่ ใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพตดิ (P)
3. เหน็ ความสำคญั ของวิธกี ารใช้ทักษะการตัดสนิ ใจ เพ่ือชกั ชวนผู้อ่ืนให้ลด ละ เลกิ สารเสพติด (A)
สาระสาคญั
การใชท้ กั ษะการตัดสนิ ใจเลือกทางเลือกท่ีดีทีส่ ุด เพ่ือชักชวนผอู้ ่นื ให้ลด ละ เลิกสารเสพติด จะทำให้ได้
ทางเลอื กทมี่ ีประสทิ ธิภาพ การชักชวนประสบผลสำเร็จ ผเู้ สพสารเสพติดสามารถเลกิ เสพได้ ซง่ึ สง่ ผลดีตอ่ ผู้
เสพครอบครวั และสงั คม
สาระการเรียนรู้
ทกั ษะการชกั ชวนผู้อน่ื ใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพติด
• ทักษะการตัดสนิ ใจ
๒๒๗
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
2. ใฝเ่ รียนรู้
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั น•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นักเรียนรว่ มกันสนทนาเก่ยี วกับสารเสพตดิ โดยตอบคำถาม ดังน้ี
• ในครอบครัวของนักเรยี นมีคนท่ีติดสารเสพตดิ หรือไม่
• นักเรียนรู้จกั วธิ กี ารเลิกสารเสพตดิ วิธีใดบ้าง
2. นักเรยี นรว่ มกนั ฟงั คำอธบิ ายว่า การชักชวนผู้อ่ืนใหล้ ด ละ เลิกสารเสพติดนั้นมีหลายวธิ ี ซงึ่ เราต้อง
เลอื กวิธที ่ดี ีทส่ี ดุ โดยใชท้ ักษะการตัดสินใจ ซึง่ การตัดสนิ ใจเปน็ สงิ่ ทีน่ ำไปสู่พฤติกรรมตา่ ง ๆ ในชวี ติ
ถา้ เรามกี ารตัดสนิ ใจท่ีดีในการกระทำต่าง ๆ ท่ีเกยี่ วขอ้ งกบั สุขภาพ โดยมกี ารประเมินทางเลือก ผลจากการ
ตัดสินใจเลอื กทางเลอื กนั้น ๆ ก็จะมผี ลต่อสขุ ภาพอนามยั ของเรา
การนำไปใชใ้ นการชักชวนผอู้ ่ืนให้ลด ละ เลกิ สารเสพติด อาจทำได้โดยคดิ ให้รอบคอบว่าจะ
ตดั สินใจชว่ ยอยา่ งไร อาจสร้างทางเลือกในการท่ีจะชว่ ยผูเ้ สพหลาย ๆ ทาง แล้วพจิ ารณาถึงผลดีหรอื ผลบวก
และผลเสยี หรอื ผลลบว่ามีกี่ทาง มีผลอยา่ งไรบา้ ง
เร่ืองท่ีจะตอ้ งตดั สินใจช่วยเหลือ
ทางเลือกท่ี 1 ทางเลือกท่ี 2 ทางเลือกที่ 3
ผลดี ผลเสีย ผลดี ผลเสีย ผลดี ผลเสีย
แผนภูมแิ สดงทางเลือกเพอ่ื การตัดสินใจ
3. นักเรียนศกึ ษาความรู้และรวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกบั ทักษะการชกั ชวนผู้อน่ื ใหล้ ด ละ เลกิ
สารเสพติด โดยใช้ทกั ษะการตัดสินใจ จากแหลง่ การเรยี นรู้ต่าง ๆ เช่น หนงั สือเรียน อนิ เทอร์เน็ต
๒๒๘
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
4. นักเรยี นรว่ มกันวเิ คราะห์และอภิปรายเกยี่ วกับการใช้ทักษะการตัดสินใจเพ่ือชกั ชวนใหเ้ พ่ือนเลกิ
ติดสารเสพตดิ จากตวั อย่างท่ีกำหนดบนกระดาน จากนน้ั นักเรยี นวเิ คราะห์ผลดีและผลเสียของวธิ ีการดังกล่าว
แลว้ พิจารณาทางเลอื กท่ีคิดว่าเป็นทางเลอื กทีเ่ หมาะสมท่สี ุดในการชกั ชวนให้เพ่ือนเลกิ ติดสารเสพตดิ
โดยสง่ ตวั แทนออกมาเขียนบันทกึ คำตอบลงในแผนภาพความคดิ บนกระดาน ดังนี้
การชักชวนให้เพ่ือนเลกิ เสพยาบ้า
พาไปสถานบาบดั ค่อย ๆ ลดปริมาณการเสพ
ผลดี ผลเสีย ผลดี ผลเสีย
(•ไดร้ ับการรักษา
บาบดั อยา่ งถกู ตอ้ ง (• เสียค่าใชจ้ ่ายใน (• ไมต่ อ้ งเสียคา่ ใชจ้ ่าย (• อาจเลิกเสพไมไ่ ด้
จากแพทย์ การบาบดั ) • เลิกเสพยาไดด้ ว้ ย • ร่างกายทรุดโทรม
• ไดฝ้ ึกอาชีพ ตนเอง) จากการเสพยา
• เรียนรู้การกลบั มาใช้ เสียเงินในการซ้ือยา
ชีวติ ในสงั คมใหม่ หกั ดบิ ด้วยตนเอง มาเสพ)
• ไม่มีอาการอยากยา)
ผลดี ผลเสีย
(• ไมต่ อ้ งเสียคา่ ใชจ้ ่าย (• มีความทรมานใน
• เลิกเสพยาไดด้ ว้ ย การปฏิบตั ิ
ตนเอง) • อาจมีอาการอยากยา
และกลบั ไปเสพอีก)
• นักเรียนพิจารณาทางเลือกใดทีค่ ิดว่าเป็นทางเลอื กทเี่ หมาะสมทส่ี ุด เพราะเหตใุ ด
5. นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น โดยตอบคำถามกระตุ้นความคดิ ดงั น้ี
• การใช้ทกั ษะการตดั สินใจในเรื่องสารเสพติด มปี ระโยชนต์ อ่ ตนเองอย่างไร
๒๒๙
• •ข้ัน•ป•ฏบิ•ตั •แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•6.• นักเรียนแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แตล่ ะกลุ่มร่วมกันแสดงบทบาทสมมตุ ิ และยกตวั อยา่ ง
วธิ ีการใชท้ กั ษะการตัดสนิ ใจในการชกั ชวนใหเ้ พ่ือนเลิกสูบบุหร่ี โดยยกตวั อย่างแนวทางการชกั ชวนมา
2 แนวทาง พรอ้ มวเิ คราะห์ข้อดีและขอ้ เสียของแต่ละแนวทาง แล้วตดั สนิ ใจเลอื กแนวทางทเี่ หมาะสม
บันทึกลงในตารางท่ีแจกให้ ดังนี้
การใช้ทักษะการตดั สนิ ใจในการชกั ชวนให้เพ่ือนเลิกสูบบุหร่ี
แนวทางการชักชวน วเิ คราะห์ขอ้ ดี ข้อเสีย แนวทางท่ีเลือก/เหตุผล
ขอ้ ดี ขอ้ เสยี
1. (บอกใหเ้ พ่ือนเลิก (• เพอื่ นเหน็ ถงึ (• เพื่อนอาจไม่ แนวทางทีเ่ ลอื ก
สบู บุหร่ี โดยอธิบายว่า อนั ตรายและโทษ สนใจคำพูดเรา (• บอกใหเ้ พื่อนเลิก
ทำใหส้ ุขภาพทรดุ โทรมลงมี ของบหุ รี่ หากเราไม่แสดง สบู บหุ รี่ โดยอธิบายว่า
กล่นิ ปาก เสียบคุ ลิกภาพ) • เพอ่ื นเหน็ ทา่ ทางจรงิ ใจ) ทำให้สุขภาพทรุดโทรมลง
1. (บอกใหเ้ พ่ือนเลกิ ความหวงั ดขี องเรา มกี ล่นิ ปาก เสียบคุ ลิกภาพ)
สูบบหุ ร่ี โดยอธิบายว่า • เพอ่ื นคำนึงถึง (• เพอ่ื นอาจไม่กลวั 1. (บอกใหเ้ พ่ือนเลกิ
ทำให้สขุ ภาพทรดุ โทรมลงมี บคุ ลกิ ภาพซ่ึงเป็นสิ่ง การถกู ลงโทษ หาก สูบบุหรี่ โดยอธบิ ายว่า
กล่นิ ปาก เสียบุคลิกภาพ) สำคัญของวัยรุ่นท่ี แอบสูบบุหร่ี ทำให้สขุ ภาพทรุดโทรมลงมี
1. (บอกใหเ้ พ่ือนเลกิ ต้องการใหต้ นดูดี) กลนิ่ ปาก เสยี บคุ ลกิ ภาพ)
สบู บหุ รี่ โดยอธิบายวา่ 1. (บอกให้เพื่อนเลิก
2. (บอกใหเ้ พื่อนเลกิ สูบ (• เพือ่ นกลวั ถูก • เพ่ือนไมเ่ หน็ ถงึ มกี ลิน่ ปาก เสยี บุคลิกภาพ)
บุหร่ี เพราะว่าผิดกฎ ทำโทษ เพราะผิด โทษของบุหรี)่ 1. (บอกให้เพื่อนเลกิ
โรงเรียนอาจถูกครูทำโทษ) กฎโรงเรียน เหตุผล
• เพอ่ื นเห็น (• ทำให้เพื่อนเห็นถึงโทษ
ความหวงั ดีของเรา) ของบหุ ร่ที ั้งต่อสุขภาพ
บุคลิกภาพ ซง่ึ วยั รุน่ ทุกคน
ต้องการดดู ใี นสายตาผู้อน่ื )
7. นกั เรยี นร่วมกันสรปุ ส่งิ ทเี่ ข้าใจเปน็ ความร้รู ่วมกนั ดงั น้ี
การใชท้ กั ษะการตดั สินใจเลือกทางเลือกที่ดีท่สี ดุ เพื่อชักชวนผู้อน่ื ให้ลด ละ เลกิ สารเสพติด
จะทำให้ได้ทางเลอื กที่มีประสิทธภิ าพ การชักชวนประสบผลสำเรจ็ ผ้เู สพสารเสพตดิ สามารถเลิกเสพได้
ซ่งึ ส่งผลดตี ่อผู้เสพ ครอบครวั และสังคม
๒๓๐
สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรียน รายวชิ าพนื้ ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1
ของสถาบันพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)
2. แผนภูมิแสดงทางเลือกเพอ่ื การตัดสินใจ
3. ตวั อย่างการชกั ชวนให้เพือ่ นเลกิ สารเสพตดิ
4. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน
การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมินความรู้ เร่อื ง ทักษะการชกั ชวนผู้อื่นใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพติด : ทกั ษะการตัดสนิ ใจ (K)
ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
3. ประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ใฝเ่ รียนรู้ (A) ดว้ ยแบบประเมิน
ความคิดเห็นของผูบ้ ังคบั บญั ชา
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
ลงช่ือ.....................................................
(นายสมพร คลา้ ยวงษ์)
ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนบา้ นโคกแสมสาร
๒๓๑ ๒๓๑
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 7 สารเสพติด
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7
เรื่อง ทักษะการชกั ชวนผ้อู ่ืนให้ลด ละ เลิกสารเสพติด : ทกั ษะการแก้ปัญหา
รายวชิ าสุขศึกษา รหัสวิชา พ๒๑๑๐๓ ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1 เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน พ 5.1 ป้องกันและหลกี เล่ยี งปัจจยั เส่ียง พฤติกรรมเส่ยี งต่อสุขภาพ อุบัตเิ หตุ การใช้ยา
สารเสพติด และความรุนแรง
ตวั ชวี้ ัด
พ 5.1 ม.1/4 แสดงวิธกี ารชักชวนผอู้ ื่นให้ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ โดยใชท้ กั ษะต่าง ๆ
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายทกั ษะการแกป้ ัญหา เพอ่ื ชกั ชวนผ้อู ื่นใหล้ ด ละ เลิกสารเสพตดิ (K)
2. แสดงวิธีการใชท้ กั ษะการแก้ปัญหา เพื่อชักชวนผอู้ ่นื ใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพตดิ (P)
3. เหน็ ความสำคญั ของวิธกี ารใช้ทักษะการแก้ปัญหา เพ่ือชกั ชวนผู้อ่ืนให้ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ (A)
สาระสาคญั
ผ้ทู ่มี ที กั ษะชีวิตท่ดี ีจะทำให้อยู่ในสงั คมได้อย่างมคี วามสขุ การใช้ทกั ษะชวี ิตในการแกป้ ัญหา
เพือ่ การชักชวนผู้อนื่ ให้ลด ละ เลิกสารเสพติด จงึ เป็นสิง่ ท่จี ะทำใหเ้ กดิ ผลดีตอ่ ผู้ใชส้ ารเสพตดิ และสงั คม
สาระการเรียนรู้
ทักษะการชักชวนผู้อืน่ ให้ลด ละ เลิกสารเสพตดิ
• ทกั ษะการแกป้ ัญหา
๒๓๒
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝ่เรียนรู้
2. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•ันน•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นักเรียนร่วมกนั สนทนา โดยตอบคำถามกระตุ้นความสนใจ ดงั น้ี
• ถ้าเพื่อนของนกั เรียนกำลงั มีปัญหาและเกิดความเครียดอยา่ งมากจนต้องหันไปใช้สารเสพติด
นักเรยี นจะมีวธิ ชี ว่ ยเหลือใหเ้ พ่ือนลด ละ เลกิ สารเสพตดิ ได้อย่างไร
2. นกั เรียนร่วมกันทบทวนประสบการณเ์ ดิมเกีย่ วกับสาเหตุของการใช้สารเสพติดของ
ผู้ตดิ สารเสพติด โดยตอบคำถาม ดังน้ี
• นักเรียนคิดวา่ สาเหตุหลกั ที่ทำใหค้ นใช้สารเสพตดิ คืออะไร
• นักเรยี นคิดวา่ การมีปัญหา อารมณ์แปรปรวน และการเกิดความเครียดของวัยรนุ่ เก่ียวข้องกบั
การตดิ สารเสพตดิ อยา่ งไร
• เม่ือนักเรียนมีปัญหา อารมณ์แปรปรวน หงุดหงดิ งา่ ย และเกดิ ความเครยี ดขึน้ นกั เรียนจะมี
วธิ กี ารจดั การกับปัญหา อารมณ์ และความเครียดเหล่านน้ั อยา่ งไร
3. นกั เรียนรว่ มกันฟงั คำอธบิ ายเพม่ิ เติมเกีย่ วกับการใช้ทักษะการแก้ปญั หา เพื่อชักชวนผู้อนื่ ให้ลด ละ
เลกิ สารเสพติดวา่ การใชท้ ักษะการแก้ปญั หาในการชกั ชวนผ้อู ่นื ให้ลด ละ เลิกสารเสพติดจะต้องใช้
ความสามารถในการใชท้ ักษะการคิดวเิ คราะหแ์ ละทกั ษะการตัดสนิ ใจเข้ามารว่ มด้วย โดยมีกระบวนการ
ข้นั ตอนมาใช้ในการแก้ไขปัญหา
4. นักเรยี นศึกษาความรู้และรวบรวมข้อมลู เกีย่ วกับทักษะการชักชวนผู้อนื่ ให้ลด ละ เลิกสารเสพติด
โดยใชท้ ักษะการแกป้ ัญหา จากแหล่งการเรียนร้ตู า่ ง ๆ เช่น หนงั สือเรียน อินเทอร์เน็ต
๒๓๓
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
5. นักเรยี นสังเกตแถบประโยคเก่ียวกบั กระบวนการแก้ไขปญั หาทตี่ ดิ บนกระดาน แลว้ รว่ มกัน
วิเคราะหจ์ ัดลำดบั ขั้นตอนของกระบวนการแก้ไขปญั หา โดยสง่ ตวั แทนนกั เรยี น 1 คน ออกมาจดั ลำดับขั้นตอน
ทก่ี ำหนดให้ถกู ต้องบนกระดาน แลว้ ตอบคำถาม
การวิเคราะห์ขอ้ ดี-ขอ้ เสีย และตดั สินใจเลือกทางเลือก การลงมือแกไ้ ขปัญหา
กาหนดทางเลือกในการแกไ้ ขปัญหา การหาสาเหตุของปัญหา การกาหนดปัญหา
• ถา้ การแกป้ ัญหายงั ไมบ่ รรลุผล นักเรยี นจะดำเนินการแก้ไขปญั หาอย่างไร
• •ข้นั •ป•ฏิบ•ตั •แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•6.• นักเรยี นแบ่งกลุ่มตามความเหมาะสม แต่ละกลุ่มยกตวั อยา่ งปญั หาทีเ่ กี่ยวข้องกับสารเสพติดมา
กลมุ่ ละ 1 ปญั หา แสดงวิธีการใช้กระบวนการแก้ปญั หาในการชักชวนผู้อื่นใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพตดิ จัดทำเปน็
แผนภาพความคิดหรอื แผนภาพความคิดแบบขน้ั บันได แล้วตัดสนิ ใจเลอื กแนวทางการแก้ปัญหา
ลงในกระดาษสำหรับทำกจิ กรรม
7. นักเรยี นรว่ มกันสรุปส่ิงทเ่ี ข้าใจเปน็ ความรู้ร่วมกัน ดังน้ี
ผทู้ ่มี ีทักษะชวี ติ ที่ดีจะทำใหอ้ ยู่ในสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสขุ การใช้ทักษะชีวิตในการแกป้ ัญหา เพ่ือ
การชักชวนผู้อืน่ ให้ลด ละ เลกิ สารเสพติด จึงเปน็ สิง่ ท่ีจะทำให้เกดิ ผลดีต่อผู้ใช้สารเสพติดและสงั คม
๒๓๔
สื่อการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนงั สอื เรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
ของสถาบันพัฒนาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)
2. แถบประโยคเกี่ยวกบั กระบวนการแก้ปัญหา
3. กระดาษสำหรับทำกจิ กรรม
4. แหลง่ การเรยี นร้ทู ้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น
การประเมินการเรียนรู้
1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง ทักษะการชักชวนผ้อู น่ื ให้ลด ละ เลกิ สารเสพติด : ทักษะการแกป้ ัญหา (K)
ดว้ ยแบบทดสอบ
2. ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ด้วยแบบประเมนิ
3. ประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มุง่ ม่ันในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมนิ
ความคิดเห็นของผบู้ ังคับบัญชา
............................................................................................................................. .................................................
............................................................................................................................. .................................................
ลงชื่อ.....................................................
(นายสมพร คลา้ ยวงษ์)
ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นบ้านโคกแสมสาร
๒๓๕ ๒๓๕
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7 สารเสพติด
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 8
เรอ่ื ง ทักษะการชักชวนผู้อื่นให้ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ : ทกั ษะการปฏิเสธ
รายวชิ าสุขศึกษา รหัสวชิ า พ๒๑๑๐๓ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1 เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชีว้ ดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน พ 5.1 ปอ้ งกันและหลีกเลย่ี งปัจจัยเส่ียง พฤติกรรมเสย่ี งต่อสขุ ภาพ อุบัติเหตุ การใชย้ า
สารเสพติด และความรุนแรง
ตวั ชว้ี ดั
พ 5.1 ม.1/4 แสดงวิธกี ารชักชวนผ้อู ่ืนให้ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ โดยใช้ทกั ษะต่าง ๆ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. อธบิ ายทักษะการปฏเิ สธ เพ่อื ชกั ชวนผ้อู ่ืนใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพตดิ (K)
2. แสดงวธิ ีการใชท้ กั ษะการปฏเิ สธ เพ่อื ชกั ชวนผู้อื่นให้ลด ละ เลิกสารเสพตดิ (P)
3. เห็นความสำคญั ของวธิ กี ารใช้ทักษะการปฏิเสธ เพื่อชักชวนผู้อ่นื ใหล้ ด ละ เลิกสารเสพติด (A)
สาระสาคญั
ผู้ทีม่ ที ักษะชวี ิตที่ดีจะทำให้อยู่ในสังคมได้อย่างมีความสขุ การใช้ทักษะการปฏเิ สธ เพื่อการชกั ชวน
ผู้อน่ื ใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพติด จงึ เปน็ สงิ่ ทจี่ ะทำใหเ้ กดิ ผลดีต่อผใู้ ชส้ ารเสพติดและสงั คม
สาระการเรียนรู้
ทักษะการชกั ชวนผูอ้ น่ื ให้ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ
• ทกั ษะการปฏิเสธ
๒๓๖
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคิด
3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1. ใฝเ่ รยี นรู้
2. ม่งุ มั่นในการทำงาน
การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้
•ข้•นั น•าเ•ข้า•สู่บ• ท•เร•ียน• • • • • • • • •
1. นักเรียนทบทวนการใชท้ กั ษะการคิดวเิ คราะห์ ทกั ษะการสื่อสาร ทักษะการตดั สนิ ใจ และทกั ษะ
การแกป้ ัญหา โดยสมุ่ เลือกตวั แทนนักเรียน 4 คน ออกมาอธิบายวธิ ีการใช้ทักษะการชักชวนผู้อน่ื ใหล้ ด ละ
เลกิ สารเสพติดทัง้ 4 ทักษะ
2. นกั เรยี นรว่ มกนั ฟังคำอธบิ ายเพมิ่ เตมิ เกย่ี วกบั การใช้ทักษะการปฏิเสธ เพอ่ื ชักชวนผูอ้ ่นื ให้หลกี เล่ยี ง
สารเสพตดิ ดงั นี้
การปฏิเสธเปน็ การบอกปดั บอกไม่ชอบ บอกไมท่ ำ เพื่อท่จี ะไม่กระทำหรอื ยุ่งเกยี่ วกบั
สิ่งเหล่าน้ัน การนำไปใช้ชักชวนผอู้ ืน่ ให้ลด ละ เลิกสารเสพติด อาจทำไดโ้ ดยเมื่อผเู้ สพขอใหช้ ว่ ยเกี่ยวกับเรอื่ ง
การใช้สารเสพติดของเขา เราก็ใช้วธิ ปี ฏเิ สธเพ่ือให้ผ้เู สพรูว้ ่าเรื่องแบบน้เี ราไมร่ ว่ มมือกับเขาแน่ ซงึ่ การปฏเิ สธ
ของเรานัน้ จะต้องใชค้ วามรูส้ ึกและมีเหตุผลพอที่จะทำใหผ้ ้เู สพได้ฉุกคิดวา่ การใช้สารเสพติดนนั้ ไมด่ ี และการ
ปฏิเสธนั้นจะตอ้ งคำนึงถงึ ความนุม่ นวล การถนอมน้ำใจกนั จากน้ันคดั เลือกตัวแทนนักเรียน 2 คน ออกมา
แสดงบทบาทสมมุติการใชท้ กั ษะการปฏเิ สธชกั ชวนผ้อู ่ืนให้ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ
3. นกั เรียนส่งตวั แทนนกั เรยี น 2 คน ออกมาหนา้ ชั้นเรยี น เพ่ือแสดงบทบาทสถานการณ์สมมุตทิ ี่
กำหนด แล้วตอบคำถามรว่ มกัน ดังน้ี
ตวั อย่างการใชท้ กั ษะการปฏิเสธ
รนุ่ พ่ี : “เอ ไปซื้อบุหร่ีใหพ้ ีห่ น่อยสิ แล้วเดีย๋ วพแ่ี บ่งให้ลองสูบด้วย”
เอ : “ไม่ไดห้ รอกครับพี่ ถ้าอาจารย์หรอื พ่อแม่ผมทราบ ผมตอ้ งโดนดแุ น่ ๆ และผมวา่ กล่ินบุหรม่ี ัน
เหม็นตดิ ตวั คนอื่น ๆ จะไม่อยากใกลเ้ รา พีก่ น็ า่ จะเลกิ สบู มันนะครับ”
• เอใช้ทักษะใดในการหลีกเลีย่ งจากสถานการณด์ ังกล่าว
4. นกั เรียนศกึ ษาความรู้และรวบรวมข้อมูลเก่ียวกบั ทักษะการชกั ชวนผอู้ ืน่ ให้ลด ละ เลิกสารเสพติด
โดยใชท้ กั ษะการปฏิเสธ จากแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ ง ๆ เชน่ หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต
๒๓๗
•ข•้นั ก•ร•ะบ•วน• ก•าร•เร•ียน•รู้• • • • • • • • • •
5. นกั เรียนแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสม จากนนั้ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั วเิ คราะหส์ ถานการณ์ท่เี ก่ียวขอ้ ง
กบั สารเสพตดิ โดยใชท้ กั ษะการปฏิเสธ แลว้ แต่ละกลุ่มอภปิ รายสรปุ เปน็ ความรู้รว่ มกนั
สถานการณ์ท่ี 1 สถานการณ์ท่ี 2
เตช้ วนนดั ไปดื่มสุราท่ีบา้ นของรุ่นพี่ ถา้ เป็น พมิ เขา้ หอ้ งน้าชายในโรงเรียน พบเพ่อื นต่างหอ้ ง
นกั เรียนจะใชว้ ิธีการปฏิเสธวา่ แอบยนื สูบบหุ รี่อยใู่ นหอ้ งน้า จึงถูกชกั ชวนให้
(ตวั อยา่ งคาตอบ ไปดีกวา่ พ่อแม่เราไมใ่ ห้ ลองสูบ ถา้ นกั เรียนเป็นพิม จะใชว้ ิธีการปฏิเสธวา่
ดื่มสุรา มนั ไมด่ ีตอ่ สุขภาพ) (ตวั อยา่ งคาตอบ ไม่ละ่ เราไม่สูบ ถา้ ครูจบั ไดต้ อ้ ง
โดนเรียกพบผปู้ กครองแน่ ๆ)
สถานการณ์ท่ี 3 สถานการณ์ท่ี 4
ภพมีความเครียดเพือ่ นจึงแนะนาใหภ้ พ ฟรอยดก์ าลงั เดินเขา้ ซอยบา้ น พบเจอวยั รุ่น
เสพยาเค เพ่ือใหห้ ายเครียด ถา้ นกั เรียนเป็น ขา้ งทางชกั ชวนใหท้ ดลองเสพยาบา้ ถา้ นกั เรียน
ภพจะใชว้ ิธีการปฏิเสธวา่ เป็นฟรอยดจ์ ะมีวิธีการปฏิเสธวา่
(ตวั อยา่ งคาตอบ ไม่เป็นไร เดี๋ยวหาวิธีอื่น (ตวั อยา่ งคาตอบ ขอโทษนะ อยา่ ดีกวา่ พอดีเรา
แกเ้ ครียดดีกวา่ เราวา่ จะไปเล่นกีฬาอยพู่ อดี) ไม่เสพยา ขอตวั ก่อนนะ)
6. นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ โดยตอบคำถามกระตุ้นความคิด ดังน้ี
• จากทกั ษะทัง้ 5 ทักษะ นักเรียนคดิ วา่ ทกั ษะใดน่าจะใชไ้ ดผ้ ลมากทสี่ ุด และทักษะใดน่าจะใช้
ไดผ้ ลนอ้ ยท่สี ุด เพราะเหตุใด
• •ข้นั •ป•ฏิบ•ตั •แิ ล•ะส• ร•ุปค•ว•าม•รู้ • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •
•7.• นกั เรยี นจบั คูก่ ับเพื่อนคดิ การแสดงบทบาทสมมุตเิ พื่อชกั ชวนหรือชว่ ยผอู้ ืน่ ให้ลด ละ
เลกิ สารเสพตดิ โดยใชท้ กั ษะการปฏิเสธคู่ละ 1 สถานการณ์ แลว้ ออกมาแสดงหน้าชน้ั เรยี น
8. นกั เรยี นจบั คกู่ บั เพ่ือนแสดงสถานการณ์สมมตุ ิ โดยเลือกใช้ทักษะในการชักชวนผู้อน่ื ใหล้ ด ละ เลิก
สารเสพติด โดยศกึ ษาค้นคว้าเกีย่ วกบั การนำทักษะชวี ิตมาใช้ (ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ ทกั ษะการส่อื สาร ทักษะ
การตดั สินใจ ทักษะการแกป้ ัญหา ทกั ษะการปฏิเสธ) ลงในชิน้ งานที่ 13 เรอื่ ง ทกั ษะการชักชวนผอู้ ่ืนใหล้ ด ละ
เลิกสารเสพตดิ
9. นักเรียนรว่ มกันสรุปสิ่งทเ่ี ข้าใจเป็นความรูร้ ว่ มกนั ดงั น้ี
ผทู้ มี่ ีทกั ษะชวี ิตท่ดี จี ะทำใหอ้ ยู่ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสุข การใชท้ ักษะการปฏเิ สธ เพื่อการชักชวน
ผู้อน่ื ใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพติด จึงเป็นส่งิ ที่จะทำใหเ้ กิดผลดีตอ่ ผใู้ ช้สารเสพติดและสงั คม
๒๓๘
ส่ือการเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
1. หนังสือเรียน รายวชิ าพน้ื ฐาน สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1
ของสถาบันพฒั นาคณุ ภาพวชิ าการ (พว.)
2. ตวั อย่างการใช้ทักษะปฏเิ สธ
3. สถานการณ์ทีเ่ กี่ยวข้องกับสารเสพติด
4. แหลง่ การเรยี นรทู้ ง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน
การประเมนิ การเรียนรู้
1. ประเมินความรู้ เรื่อง ทักษะการชักชวนผูอ้ ื่นให้ลด ละ เลิกสารเสพติด : ทกั ษะการปฏเิ สธ (K)
ด้วยแบบทดสอบ
2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ด้วยแบบประเมนิ
3. ประเมินชิน้ งาน เรื่อง ทักษะการชักชวนผอู้ ื่นให้ลด ละ เลิกสารเสพตดิ (P) ดว้ ยแบบประเมิน
4. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ด้านใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมนิ
แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics)
แบบประเมนิ ชิน้ งาน เรอื่ ง ทักษะการชักชวนผู้อนื่ ให้ลด ละ เลิกสารเสพติด
รายการการ ระดบั คุณภาพ
ประเมิน 4 3 2 1
การแสดง แสดงสถานการณส์ มมุติ แสดงสถานการณส์ มมตุ ิ แสดงสถานการณส์ มมุติ แสดงสถานการณส์ มมุติ
สถานการณ์สมมุติ โดยเลือกใชท้ กั ษะชีวิตใน โดยเลอื กใช้ทกั ษะชีวติ ใน โดยเลอื กใช้ทักษะชวี ติ ใน โดยเลอื กใชท้ กั ษะชวี ติ ใน
โดยเลอื กใชท้ ักษะ
ชีวติ ในการชกั ชวน การชักชวนผูอ้ น่ื ให้ การชกั ชวนผูอ้ น่ื ให้ การชักชวนผู้อ่ืนให้ ลด การชกั ชวนผ้อู ื่นให้
ผ้อู น่ื ใหล้ ด ละ เลิก
สารเสพติด ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ ลด ละ เลกิ สารเสพตดิ ละ เลกิ สารเสพตดิ ลด ละ เลิกสารเสพตดิ
ไดส้ อดคล้องกบั เรอื่ งราว ได้สอดคลอ้ งกบั เรอื่ งราว ไดส้ อดคล้องกบั เรื่องราว ได้สอดคล้องกบั เรอ่ื งราว
ไดด้ ว้ ยตนเอง ไดด้ ว้ ยตนเอง ไดด้ ว้ ยตนเอง โดยอาศยั คำแนะนำ
มีการเชือ่ มโยงให้เห็นถึง มีการเชอ่ื มโยงใหเ้ หน็ ถงึ จากครหู รือผ้อู นื่
ประโยชนท์ ี่เกดิ ข้นึ ประโยชนท์ ่เี กดิ ขนึ้
ตอ่ สว่ นรวมและสามารถ ตอ่ ส่วนรวม
แก้ไขปญั หาระหวา่ ง
การแสดงได้
ความคิดเหน็ ของผ้บู ังคบั บัญชา
............................................................................................................................. .................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงช่ือ.....................................................
(นายสมพร คลา้ ยวงษ์)
ตำแหนง่ ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นบา้ นโคกแสมสาร
๒๓๙
ช้นิ งานท่ี 13 เรื่อง ทักษะการชักชวนผ้อู น่ื ใหล้ ด ละ เลกิ สารเสพติด ได_้ _________
วันที่________เดือน_______________พ.ศ.___________ คะแนน
ชือ่ _____________________________เลขท_่ี _____ชน้ั __________ คะแนนเตม็ 10
นกั เรยี นจบั คกู่ ับเพื่อนคิดการแสดงสถานการณ์สมมตุ ิการใช้ทักษะชวี ิตในการชกั ชวนผคอู้ะื่นแนใหนล้ ด ละ เลิก
สารเสพตดิ โดยศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกบั การนำทักษะชวี ติ มาใช้ (ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการส่อื สาร ทักษะ
การตดั สนิ ใจ ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะการปฏิเสธ) แล้วออกมาแสดงหนา้ ช้ันเรียน สรปุ ขอ้ มลู
จากการศึกษาทกั ษะชีวติ และเขียนสรุปผลการทำกิจกรรม
สถานการณ์สมมุติ การใช้ทกั ษะชีวติ ผลท่เี กดิ ขึน้
(เพอ่ื นชวนสูบกญั ชา ทกั ษะท่ีใช้ (เพือ่ นเลิกสูบกญั ชาและหาวิธี
เพอ่ื ผ่อนคลาย (ทกั ษะการสื่อสาร) ผอ่ นคลายความเครียดดว้ ยการ
ความเครียดก่อนอา่ น วิธีการ คือ ออกกาลงั กาย หรือฟังเพลง
หนงั สือสอบ (บอกเพอื่ นวา่ กญั ชาเป็นสิ่งท่ี แทน)
ผดิ กฎหมายและทาลาย
สุขภาพควรทาลายทิ้งเสีย
เพราะหากถูกจบั ไดว้ า่ สูบ
กญั ชาจะทาใหเ้ สียประวตั ิดว้ ย
สรุปการใชท้ กั ษะชีวิต (ทกั ษะการส่ือสารเป็นความสามารถในการใชค้ าพดู และภาษาทา่ ทาง
เพือ่ แสดงความรู้สึกนึกคิดของตนอยา่ งเหมาะสมกบั บคุ คลและสถานการณ์ตา่ ง ๆ โดยสามารถที่
จะแสดงความคดิ เห็น ความปรารถนา ความตอ้ งการขอร้องการเตือน และขอความช่วยเหลือได)้