แผนการสอน - ภาษาอังกฤษ ม.1 1/2565

- ครูให้นักเรียนดูภาพอาหารในกิจกรรม Reading ในหนังสือเรียน หน้า 37 และให้นักเรียนพูดเกี่ยวกับ
อาหารที่นักเรียนเหน็ ในภาพว่าเปน็ อาหารของประเทศใดบ้าง โดยให้นักเรียนค้นหาคำตอบจากเนื้อหาบท
อา่ น เชน่
- tacos – Mexico
- sushi – Japan
- curry – India

- ครใู ห้นกั เรยี นทำความเข้าใจคำถามในกิจกรรม About the Reading ในหนังสือเรียน หน้า 37
- ครูให้เวลานักเรียนประมาณ 2-3 นาที อ่านเนอื้ หาบทอ่าน เรื่อง ETHNIC FOODS ในกิจกรรม Reading

หลังจากนั้นครเู ปิดซีดีบนั ทึกเสียง CD 1 Track 36 ให้นักเรยี นอ่านไปพร้อมกบั ซีดีบนั ทึกเสียง เสร็จแล้วครู
ถามนักเรยี นวา่ บทอา่ นท่ฟี ังเกี่ยวกับอะไร โดยใช้คำถาม What is the reading about?
- ครูเปิดซีดีบนั ทึกเสียง CD 1 Track 36 ให้นกั เรยี นฟังและนกั เรียนอ่านไปพร้อม ๆ กบั ซีดีบันทกึ เสียงอีกคร้ัง
- ครใู ห้นกั เรยี นอ่านคำถามในกิจกรรม About the Reading ในหนงั สือเรียน หน้า 37 อีกครั้ง แลว้ ให้นกั เรยี น
จับคชู่ ่วยกันตอบคำถาม เสรจ็ แล้วให้นักเรยี นตรวจสอบคำตอบรว่ มกนั โดยครูอ่านคำถามทีละขอ้ และให้
นกั เรยี นตอบปากเปลา่ เป็นรายบคุ คล ครูฟังคำตอบของนกั เรยี นและรบั รองความถกู ต้อง ถ้านกั เรยี นตอบ
ไม่ถูกต้อง ครูอนุญาตให้นักเรยี นอา่ นเนอื้ หาบทอ่านใหมแ่ ละค้นหาคำตอบจนเจอ เสรจ็ แล้วให้นกั เรยี นบอก
ว่า คำตอบอย่ตู รงส่วนใดของบทอา่ น (ดูเฉลยท้ายเลม่ )
- ครูประเมินความเข้าใจจากจำนวนคำตอบทีถ่ ูกต้องโดยใช้เกณฑผ์ ่านร้อยละ 80
- ครใู ห้นักเรยี นอ่านบทอา่ นอีกครั้ง และให้นกั เรยี นวงรอบคำศัพทท์ ีเ่ ปน็ ชือ่ ของอาหาร เชน่
- beef, chicken, corn, chili, stew, beans, tomatoes, fish, rice, soy sauce, sauce, pizza
- ครูถามความหมายของคำศัพทท์ ีเ่ กีย่ วกับอาหารเพิ่มเตมิ จำนวน 3 คำ คือ ethnic, ingredient และ deliver
โดยครูเขียนคำศัพทพ์ ร้อมความหมายบนกระดาน และถ้านักเรยี นยงั ไม่เข้าใจกอ็ นญุ าตให้เปิดพจนานุกรม
ได้
- ครูให้นกั เรยี นบอกชื่ออาหารทีป่ รากฏในบทอา่ นท่นี ักเรยี นเคยรับประทานหรอื อาหารต่างประเทศอื่นที่มีอยู่
ทว่ั ไปในประเทศไทย หรือเป็นที่นิยมในประเทศไทย

กจิ กรรมเสริมทักษะ/ประสบการณ์ทางภาษา

- ครูใหน้ กั เรยี นทากิจกรรมคน้ ควา้ ขอ้ มลู รวบรวมอาหารประเภทต่าง ๆ ของประเทศ
อน่ื ๆ ในประเทศกลมุ่ อาเซียนและนาเสนอไวท้ ี่ ASEAN CORNER ในหอ้ งเรยี นเพอื่ แลกเปลยี่ นเรยี นรู้

สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

1. หนังสือเรียน New World 2 หน้า 37
2. ซีดีบนั ทึกเสียง
3. เคร่อื งเล่นซีดี
4. พจนานุกรมอังกฤษ-ไทย

ช่ัวโมงที่ 9 : เรือ่ ง Foods and Drinks

1. เป้าหมายการเรยี นรู้/หลกั ฐานการเรยี นร/ู้ การวดั ผลและประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สิง่ ที่ต้องรูแ้ ละปฏิบัตไิ ด้ ผลงาน/ชิน้ งาน การวัดผลและ
ประเมินผล
และตวั ชี้วัด ประเมินผลงานโดยใช้
เกณฑ์การประเมินผล
ต 1.3 ม.1/2, ใช้ภาษาอังกฤษค้นคว้า แผ่นพับเกี่ยวกบั งานและการนำเสนอ
ผลงาน และใช้เกณฑ์
ต 3.1 ม.1/1, เกีย่ วกับอาหารที่ชอบ รายการอาหารที่ ผา่ นระดบั พอใช้

ต 4.2 ม.1/1 และนำเสนอผลงานที่ ค้นคว้า

เปน็ ภาษาอังกฤษ และ

ให้เหตุผล

สน้ั ๆ ประกอบ

2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

ความรู้

- คำศพั ท์
-

- สำนวนภาษา
-

- หนา้ ทีภ่ าษา
- To present a menu to the class

- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
-

3. กิจกรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรม World Link

1. นำเข้าสู่บทเรียน
- ครูนำนักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับอาหารทั้งที่เป็นของไทยและต่างชาติ และถามนักเรียนเกี่ยวกับอาหารที่
นักเรียนชอบทั้งของไทยและต่างชาติ และถามว่านักเรียนรับประทานอาหารที่นักเรียนชอบบ่อยเพียงใด
และถามว่าทำไมจงึ ชอบรับประทานอาหารชนิดนั้น โดยครูใช้คำถาม ดังนี้
- What is your favorite food?
- What is your favorite ethnic food?
- Which food do you like, Thai food or foreign food?
- How often do you eat it?
- ครแู สดงภาพอาหารที่หลากหลายให้นักเรียนดูและให้นักเรียนบอกชื่ออาหารในภาพทีน่ ักเรียนรู้จกั ให้ครแู ละ
เพือ่ นฟัง

2. แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้

- ครูบอกนกั เรียนวา่ ในหน่วยการเรียนรู้นี้นักเรียนจะต้องค้นคว้าหาข้อมลู ความรู้เกี่ยวกบั อาหารทีน่ ักเรียน

ชอบของประเทศตา่ ง ๆ จากสื่ออินเทอร์เนต็ หรือแหลง่ เรียนรู้อื่น ๆ แล้วนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษให้เพื่อน

และครูในช้ันเรียน

3. ค้นคว้าขอ้ มลู เกีย่ วกับอาหารที่ชอบ

- ครอู ่านคำสงั่ ในกิจกรรม World Link ในหนงั สือเรียน หน้า 37 ให้นักเรยี นฟัง ถ้านักเรยี นสงสัยหรือไม่เข้าใจ

ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นถาม

- ครใู ห้นักเรยี นจบั คู่ ค้นคว้าขอ้ มลู รายการอาหารเปน็ ภาษาอังกฤษโดยครแู นะนำให้นกั เรยี นใช้สือ่

อินเทอร์เน็ตในการค้นคว้า ถ้านกั เรยี นมีปญั หาเรือ่ งคำศัพทห์ รือสงสยั และไม่แนใ่ จเกีย่ วกับความหมาย ครู

ให้นักเรยี นใช้พจนานุกรม หรือค้นหาความหมายจากอินเทอร์เนต็ ได้

- ครูให้นกั เรยี นทำแผน่ พบั เกีย่ วกบั รายการอาหารทีน่ ักเรยี นค้นคว้า

- ครูให้นกั เรยี นแตล่ ะคูน่ ำเสนอผลงานการค้นคว้า และให้บอกเหตุผลด้วยวา่ ทำไมนกั เรียนจึงชอบหรือสนใจ

อาหารเหลา่ น้ัน โดยครใู ช้คำถาม ดงั นี้

- Why does a menu interest you?

- ครูประเมินผลงานของนกั เรียนโดยใช้เกณฑ์การประเมินผลงานและการนำเสนอผลงานและใช้เกณฑ์ผ่าน

ระดับพอใช้

นกั เรยี นประเมินตนเอง

- นักเรียนทำแบบประเมิน Self-Evaluation เพื่อประเมินตนเองเกี่ยวกับเนอื้ หาทีไ่ ด้เรียนไปแล้ว (แบบ
ประเมิน Unit 5 Self-Evaluation ท้ายคูม่ ือครู/ท้ายหนงั สือแบบฝึกหัด)

กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา

- ครูให้นักเรยี นทำแบบฝึกหัด ข้อ H, I และ J ในหนงั สือแบบฝึกหัด New World 2 หน้า 24

1ส.ือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้

2. หนังสือเรียน New World 2 หน้า 37
3. หนังสือแบบฝึกหดั New World 2 หน้า 24
3. พจนานกุ รมองั กฤษ-ไทย

การวดั และการประเมินผล ( Evaluation )

สง่ิ ที่วัดผล วิธีวัดผล เครอ่ื งมือวดั ผล เกณฑ์การประเมิน
ดา้ นความรู้ (K)
ประเมินความรู้ แบบประเมินความรู้ ร้อยละ 60
เรือ่ ง Foods and Drinks

ดว้ ยแบบทดสอบ

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) ประเมินกระบวนการ แบบประเมินกระบวนการ ระดบั คุณภาพ
ทำงานกล่มุ ด้วยแบบ ทำงานกล่มุ 4 = ดมี าก
3 = ดี
ประเมิน 2 = พอใช้
1 = ควรปรบั ปรงุ

เจตคต/ิ คุณลกั ษณะ (A) ประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึง แบบประเมินคณุ ลักษณะอัน ร้อยละ 80
ประสงค์ ดว้ ยแบบ พึงประสงค์
ประเมิน

สมรรถนะของผู้เรยี น (C) ประเมินสมรรถนะของ แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คุณภาพ
ผู้เรยี นแบบประเมิน ของผู้เรยี น 4 = ดมี าก
3 = ดี
2 = พอใช้
1 = ควรปรับปรุง

กระบวนการการจัดกจิ กรรม / รูปแบบการจดั กจิ กรรม ( Learning Process )
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้/แนวทางการเสริมแรงหรือช่วยเหลอื นกั เรยี น
- การใช้ดาวเปน็ สญั ลกั ษณแ์ ทนการชื่นชมหรือแทนรางวลั ของการทำดี การกระตนุ้ ให้นักเรยี นสะสม
ดาวเพือ่ กระตนุ้ ให้นักเรยี นทำสง่ิ ที่ดแี สดงพฤติกรรมทีด่ ี
- การใช้ลูกอม ขนม รวมท้ังการเลอื กใช้สติ๊กเกอร์สี และสติก๊ เกอรร์ ูปร่างลกั ษณะตา่ งๆ เพือ่ แสดงออก
ถึงการชมเชย ยกยอ่ ง ให้กำลังใจนักเรียนในการทำพฤติกรรมทีด่ ตี ่อไป

บนั ทึกผลหลงั แผนการจดั การเรยี นรู้

1. ผลการเรยี นรู้

1.1 ดา้ นความรู้ (K)

ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ...................................................

ระดับผลสัมฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรบั ปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 1 พบว่านักเรียนผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ................อยใู่ นระดบั ..........และ
รองลงมารอ้ ยละ.................อย่ใู นระดับ...............และพบวา่ นกั เรียน....................................................
............................................................................................................................................................

1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P )

ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น เรือ่ ง ..................................................

ระดับผลสัมฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น รอ้ ยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรับปรุง (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 2 พบว่านักเรียนผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น ร้อยละ................อย่ใู นระดับ..........และ

รองลงมารอ้ ยละ.................อย่ใู นระดบั ................และพบว่านกั เรียน

.............................................................................................................................................................

1.3 ดา้ นเจตคติ / คุณลกั ษณะฯ (A)/ สมรรถนะ (C) เชื่อมโยงกบั มาตรฐานหลักสตู ร

ตารางที่ 3 แสดงคา่ ร้อยละคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เรือ่ ง ............................................

ระดบั ผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรับปรุง (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 3 พบว่านักเรียนคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ร้อยละ..............อยู่ในระดบั ............
และรองลงมารอ้ ยละ.................อยใู่ นระดับ...............และพบวา่ นักเรียน.....................................................
..................................................................................................................................................................

สรุป ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ …………………………..
13) นกั เรยี นมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนอยใู่ นระดบั ...................
14) นักเรยี นมีทกั ษะในระดบั ..................
15) นักเรยี นมีคณุ ลกั ษณะในระดบั ...............

2. บรรยากาศการเรยี นรู้

............................................................................................................................. .....................................................................
..................................................................................................................................................................................................

3. การปรับเปลีย่ นแผนการจัดการเรยี นรู้ (ถา้ มี)

..................................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................................

4. ข้อค้นพบด้านพฤติกรรมการจดั การเรยี นรู้

............................................................................................................................. .....................................................................
..................................................................................................................................................................................................

5. อื่นๆ....................................................................................................................................................

ปัญหา/สิง่ ที่พฒั นา / แนวทางแก้ปัญหา / แนวทางการพฒั นา

ปัญหา/สิ่งที่พัฒนา สาเหตุของปัญหา/ แนวทางแก้ไข/ วิธีแก้ไข/พัฒนา ผลการแก้ไข/พัฒนา
ส่งิ ที่พฒั นา พัฒนา

รับทราบผลการดำเนนิ การ ลงชื่อ............................................. ผู้สอน
(นางสาวองั คณา ทบั ลอ้ ม)

ลงชือ่ .................................................
(นางสาวอังคณา ทบั ลอ้ ม)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ลงชื่อ............................................
( นายชาญยทุ ธ สทุ ธธิ รานนท์ )

รองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ

ลงชื่อ...........................................
( นายวีระ แก้วกลั ยา )

ผู้อำนวยการโรงเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 จังหวดั เพชรบุรี

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 แผน เรอ่ื ง Day after Day จำนวน 7 ช่วั โมง

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ช้ัน ม.1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

รายวิชา ภาษาองั กฤษ รหสั วิชา อ 21101 ครูผู้สอน นางสาวอังคณา ทบั ลอ้ ม

_________________________________________________________

สาระสำคัญ / ความคดิ รวบยอด (Learning Concepts)

ให้นกั เรยี นฟงั คำพดู ของบคุ คลเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวนั อ่านข้อความบรรยายเกี่ยวกับวิธีการเดินทางไป

โรงเรียนโดยจักรยาน พูดโต้ตอบเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน และเขียนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (email) ถึงเพื่อน

เพื่อบอกเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทำในวันหยุดสุดสัปดาห์ ค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการเดินทางไปโรงเรียน และ

นำเสนอเปน็ ภาษาอังกฤษ

มาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชีว้ ัด

สาระที่ 1: ภาษาเพือ่ การสือ่ สาร

มาตรฐาน ต 1.1 ม.1/2, ต 1.1 ม.1/4, ต 1.2 ม.1/1, ต 1.2 ม.1/5, ต 1.3 ม.1/1, ต 1.3 ม.1/2

สาระที่ 2 : ภาษาและวฒั นธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 ม.1/1

สาระที่ 3 : ภาษากับความสัมพนั ธ์กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น

มาตรฐาน ต 3.1 ม.1/1

สาระที่ 4 : ภาษากบั ความสมั พันธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.2 ม.1/1, ต 4.2 ม.1/2

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ( Competency ) คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ( Desired Characteristics )

ความสามารถในการสอ่ื สาร การคิด การใช้ มีวินยั : รู้จกั หนา้ ที่ ทำกิจวตั รอยา่ งมีระเบียบ

เทคโนโลยี มีความคิดสร้างสรรค์ : รู้จกั คิดค้นประดิษฐ์ส่งิ ต่าง ๆ

ทกั ษะ / กระบวนการ ( Skill during the process ) ทกั ษะการคิด
-ระดมพลงั สมอง
ทกั ษะเฉพาะวิชา -การระบุ
การฟัง : ระบุรายละเอียด -การสังเกต
การพดู : สนทนาแลกเปลย่ี นข้อมูล
การอา่ น : อา่ นออกเสยี งและระบุรายละเอียด
การเขียน : เขียนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (email)

ความเขา้ ใจที่ยงั่ ยืน
นกั เรยี นเข้าใจและรู้วิธกี ารใช้โครงสร้างประโยคคำถาม บอกเล่าเกี่ยวกบั กิจวตั รประจำวัน บอกความถี่

ของการกระทำและลำดบั เวลาของการทำกิจกรรมตา่ ง ๆ ในชีวิตประจำวนั
ความสัมพันธ์กบั กลมุ่ สาระการเรยี นรอู้ ื่น

สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม; สุขศึกษาและพลศึกษา

ชว่ั โมงที่ 1 : เร่อื ง Daily Routine
1. เปา้ หมายการเรยี นรู/้ หลกั ฐานการเรยี นรู้/การวดั ผลและประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สิ่งทีต่ อ้ งรแู้ ละปฏิบัตไิ ด้ ผลงาน/ชิ้นงาน การวดั ผลและ

และตวั ชี้วัด ประเมินผล

ต 1.1 ม.1/4 ตอบคำถามเกี่ยวกบั คำตอบทีไ่ ดจ้ ากการทำ ประเมินผลจากจำนวน

ข้อมลู ทีฟ่ ังและอ่าน กิจกรรม Language คำตอบที่ถกู ต้อง โดย

Check ใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ

80

2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

ความรู้

- คำศัพท์

กิจกรรม New Language

- habit (n.): something that you do regularly, often without thinking about it

(นิสัย, กิจวตั ร)

- สำนวนภาษา

-

- หน้าทีภ่ าษา

- To talk about daily routines

- To talk about how often one does actions

- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์

- Simple Present Tense

- Adverbs of Frequency: always, usually, sometimes, never

- Time Expressions: every day, before, after, then

3. กิจกรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรม New Language

1. นำเข้าสบู่ ทเรียน
- ครูให้นักเรียนระดมพลังสมองเกี่ยวกับกิจกรรมที่นักเรียนทำทุกวัน โดยใช้คำถามกระตุ้นให้นักเรียน
พูด และครูเขียนตวั อย่างประโยคคำตอบบนกระดาน ดังนี้
Q: What do you usually do every day?
A: I eat breakfast and I take a shower.
- ครูให้นักเรียนช่วยกันคิดเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทำทุกวันให้ได้มากที่สุด โดยครูอนุญาตให้นักเรียนพูดเป็น
ภาษาไทยได้ แต่ครูพูดซ้ำเปน็ ภาษาอังกฤษ และครเู ขียนสง่ิ ที่นกั เรยี นบอกบนกระดาน

2. แจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้
- ครบู อกนักเรียนวา่ ในหนว่ ยการเรียนรู้นี้นกั เรียนจะได้ฟังและอ่านข้อมูลเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวนั ของบคุ คล
สามารถพดู บรรยายเกีย่ วกบั กิจวตั รประจำวนั ของบคุ คล และตอบคำถามเกีย่ วกับข้อมลู ที่ฟงั และอ่านได้

3. ฟังและอา่ นข้อมลู เกี่ยวกบั กิจวตั รประจำวนั และสง่ิ ทีท่ ำจนติดเป็นนิสัยของบุคคล

- ครูอา่ นออกเสียงคำส่ังในกิจกรรม New Language ในหนงั สือเรียน หน้า 38 แล้วให้นักเรยี นทำเคร่อื งหมาย

ถูก (✓) ลงในภาพกิจกรรมทีน่ ักเรียนทำอยเู่ ปน็ ประจำ

- ครูให้นกั เรยี นเปรยี บเทียบกิจกรรมที่นกั เรยี นทำกับของเพื่อน

- ครใู ห้นักเรยี นดูรูปภาพเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ในหนังสือเรียน หน้า 38 และครูบอกให้นกั เรยี นพูดส่งิ ที่

นักเรยี นเห็นในภาพ โดยครใู ห้ความชว่ ยเหลอื นกั เรยี นเรือ่ งคำศพั ทถ์ ้านกั เรียนไมท่ ราบ

- ครูใช้คำถามกระตนุ้ ให้นักเรยี นพดู ดังนี้

- Where is the girl? - Where is the boy?

- What is the girl doing? - What is the boy doing?

- ครูบอกนักเรยี นว่าเดก็ ผู้หญงิ ในภาพคือ Liz และเดก็ ผู้ชายคือ Josh ครอู ่านออกเสียงเกีย่ วกบั เวลาในชว่ ง

ต่าง ๆ ของแต่ละวนั ที่ปรากฏในกิจกรรม New Language ในหนงั สือเรียน หน้า 38 และให้นักเรยี นอา่ นซ้ำ

ตามครู ดงั ตอ่ ไปนี้

- in the morning

- in the afternoon

- in the evening

- at night

- ครเู ปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 37 ในกิจกรรม New Language ในหนงั สือเรียน หน้า 38 ให้นกั เรยี น

ฟงั และให้นักเรยี นชีไ้ ปทีภ่ าพคนทีต่ รงกับที่นักเรียนได้ยิน

- ครเู ปิดซีดีบนั ทึกเสียง CD 1 Track 37 อีกครั้ง และให้นักเรยี นกลา่ วซ้ำทุกประโยค

- ครูถามให้นกั เรยี นตอบเกีย่ วกับกิจวัตรประจำวันที่ Liz และ Josh ทำ โดยครใู ช้คำถาม ดังนี้

- What time does Liz get up?

- Does Josh have a big or small breakfast?

- ครใู ห้นักเรียนอาสาสมคั รตอบคำถาม ครูรับรองความถูกต้องและกลา่ วชมนักเรียนอาสาสมัคร หลงั จากน้ัน

ให้นกั เรียนที่เหลอื กล่าวซ้ำคำตอบ

- ครูใช้กิจกรรมเดิมกับภาพทุกภาพในหนังสือเรียน หน้า 38 ครูให้นักเรียนจับคู่ถาม-ตอบ และครูคอยให้

ความช่วยเหลอื ถ้านักเรยี นมีปัญหาหรือตอบไมถ่ กู ต้อง

- ครูให้นกั เรยี นแต่ละคผู่ ลัดกนั อา่ นออกเสียงและชภี้ าพกิจกรรม

- ครูให้นักเรียนพูดบรรยายเกี่ยวกับกิจกรรมที่ Liz และ Josh ทำในแต่ละวัน โดยครูใช้คำถามในการช่วยให้

นักเรียนพดู และครเู ขียนคำถามบนกระดาน ดังนี้

- What does Liz do during a typical day?

- What does Josh do during a typical day?

(in the morning / in the afternoon / in the evening / at night)

- ครพู ดู เป็นตัวอยา่ งประมาณ 2-3 ประโยค เช่น

- Liz usually gets up early in the morning.

- Josh takes a shower in the morning.

หลังจากน้ันครใู ห้นักเรยี นพดู ตามตวั อย่าง ครเู ดนิ สงั เกตการพูดของนักเรยี นและให้ความช่วยเหลอื นกั เรียน

เกีย่ วกบั การออกเสียง และเสยี งสูง-ต่ำ ตามความจำเปน็

- ครูทบทวนความรู้เดิมของนักเรียนเรื่องการเติม s/es และไม่เติม s/es หลังคำกริยา โดยครูให้นักเรียนหา

ประโยคใต้ภาพแต่ละภาพในหนงั สือเรียน หน้า 38 ที่มีคำกริยาที่เติม s หรือ es แล้วให้นกั เรียนอ่านออก

เสยี งคำกริยาเหล่าน้ัน

- ครูให้นักเรยี นหาประโยคทีม่ คี ำกริยาไมเ่ ตมิ s หรือ es และให้นกั เรยี นอ่านออกเสียงประโยคที่มีคำกรยิ านน้ั

- ครูให้นกั เรยี นทายว่า เราสามารถเตมิ s หรือ es เมือ่ ใด แล้วครูเฉลยวา่ เราสามารถเตมิ s หรือ es เมือ่

ประธานของประโยคเปน็ ชื่อของคน 1 คนหรือเปน็ คำนามเอกพจน์

- ครใู ห้นกั เรยี นดภู าพในหัวข้อ Good and Bad Habits ในหนังสือเรียน หน้า 39
- ครใู ห้นักเรยี นพูดเกี่ยวกับส่ิงที่นักเรียนเห็นในภาพ นกั เรยี นสามารถพูดเป็นภาษาไทยได้และครูพูดซ้ำส่ิงที่

นกั เรยี นพูดเปน็ ภาษาองั กฤษ โดยครใู ช้คำถามในการกระตนุ้ ให้นักเรยี นพดู ดังนี้
- Where are the man and the woman?
- What are they doing?
- What is the other woman doing?
- ครูอธิบายความหมายของคำศัพท์ habit ว่าหมายถึง กิจกรรมที่คนเราทำเป็นประจำทุกวันหรือกิจวัตร
ประจำวนั หรือนิสัยทีต่ ิดตัวซึง่ มีท้ังดีและไม่ดี
- ครถู ามเกีย่ วกับภาพในหนังสือเรียน หน้า 39 และเขียนประโยคคำถามบนกระดาน ดงั นี้
- Which picture shows a good habit?
- Which picture shows a bad habit?
- ครูเปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 38 เนือ้ หาในกิจกรรม Good and Bad Habits ในหนงั สือเรียน หน้า 39
ให้นกั เรยี นฟังและครูบอกให้นักเรยี นชีภ้ าพตามที่นักเรยี นได้ยิน
- ครูเปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 38 อีกครั้ง และครั้งนี้ครูให้นักเรียนกล่าวซ้ำตามทุกประโยค รวมทั้ง
ประโยคในหวั ข้อ Daily Habits
- ครูเขียนคำว่า Daily Habits บนกระดาน และให้นักเรียนอ่านข้อมูลของ Daily Habits พร้อมกันอีกครั้งและ
หลังจากน้ันครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นถามถ้านักเรยี นไมเ่ ข้าใจ
- ครใู ห้นักเรยี นทำกิจกรรม Daily Habits โดยให้นกั เรียนทำเครือ่ งหมายถูก (✓) หน้ากจิ กรรมที่นักเรียนคิด
วา่ เป็น Good Habits และเคร่อื งหมายผดิ () หน้ากจิ กรรมที่นักเรยี นคิดวา่ เป็น Bad Habits
- ครแู ละนกั เรยี นเฉลยคำตอบร่วมกัน โดยครูวาดตารางพร้อมกบั ประเด็นหวั ข้อบนกระดาน
- ครูให้นกั เรยี นอาสาสมัครออกไปเขียนข้อมลู ตรงตามประเด็น ดังนี้

Good Habits Bad Habits

(ดูเฉลยท้ายเลม่ )
- ครทู ำกิจกรรมสำรวจเกีย่ วกับหวั ข้อ Good and Bad Habits โดยครอู ่านทีละกิจกรรมและให้นักเรยี นยกมอื

ขนึ้ ถ้านักเรยี นทำกิจกรรมน้ัน ๆ
- ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม Language Check ในหนังสือเรียน หน้า 39 โดยครูและนักเรียนอ่านประโยค

บอกเล่าในกิจกรรม Language Check พร้อมกัน และครูเปิดโอกาสให้นักเรียนถามถ้านักเรียนไม่เข้าใจ
ประโยคทั้งหมด
- ครใู ห้นักเรยี นอา่ นข้อมูลในหนังสือเรียน หน้า 38-39 อีกครั้ง เสรจ็ แล้วให้นักเรยี นทำกิจกรรม Language
Check โดยเขียนคำว่า true หรือ false หน้าประโยคบอกเล่า
- ครูและนักเรียนตรวจคำตอบร่วมกัน โดยครูอ่านประโยคบอกเล่าและให้นักเรียนตอบว่า true หรือ false
ครรู บั รองความถกู ต้องและให้นักเรยี นแก้ไขขอ้ false ให้ถูกต้องดว้ ย (ดูเฉลยท้ายเลม่ )
- ครูประเมินความเข้าใจจากจำนวนคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 80

กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณ์ทางภาษา

- ครูให้นักเรียนอาสาสมัครออกไปแสดงท่าทางเกี่ยวกับ Daily Routines ให้เพื่อนในชั้นเรียนทายว่าเป็น
กิจกรรมอะไร เพื่อทบทวนคำศัพท์เกี่ยวกับกิจวตั รประจำวนั

สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสือเรียน New World 2 หน้า 38-39
2. ซีดีบันทึกเสียง
3. เครอ่ื งเล่นซีดี

ชว่ั โมงที่ 2 : เรอ่ื ง Daily Routine
1. เป้าหมายการเรยี นรู้/หลักฐานการเรยี นร/ู้ การวัดผลและประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สิ่งทีต่ ้องรูแ้ ละปฏิบตั ไิ ด้ ผลงาน/ชิน้ งาน การวัดผลและ
ประเมินผล
และตัวชีว้ ดั ประเมินการพดู ถาม-
ตอบโดยใช้แบบ
ต 1.2 ม.1/1 พดู ถาม-ตอบ ถ้อยคำ น้ำเสียง สหี น้า ประเมินการสนทนา
กิจกรรมคู่ และใช้
แลกเปล่ยี นข้อมลู และอากปั กิริยาที่ใช้ใน เกณฑผ์ ่านระดับพอใช้

เกี่ยวกับกิจวตั ร การถาม-ตอบ

ประจำวนั

2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

ความรู้

- คำศัพท์
-

- สำนวนภาษา
-

- หนา้ ที่ภาษา
- To talk about daily routines

- โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์
- Simple Present Tense
- Adverbs of Frequency: always, usually, sometimes, never

3. กจิ กรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรม Pronunciation and Practice

1. นำเข้าสู่บทเรียน
- ครูเขียนคำกริยาทีล่ งท้ายดว้ ย s หรือ es จำนวน 6 คำ บนกระดาน หลงั จากนั้นครวู าดตารางการออกเสียง
/s/, /z/, /Ιz/ บนกระดาน ดงั นี้
- works - plays - teaches - watches - walks - stays

/s/ /z/ /Ιz/

- ครูอธิบายนักเรยี นวา่ ตารางบนกระดานเป็นตารางเกี่ยวกบั การออกเสียงคำกริยาที่ลงท้ายด้วย s หรือ es
ซึง่ เราสามารถออกเสียงคำกริยาดงั กล่าวได้ 3 แบบ ดงั ปรากฏในตาราง

- ครูให้นกั เรยี นในห้องช่วยกันบอกว่าคำกริยาบนกระดานทั้ง 6 คำ จะออกเสียงอยา่ งไรบ้าง
- ครูออกเสียงคำกริยาทีละคำ และให้นกั เรยี นอาสาสมคั รออกไปเขียนจนครบหมดทกุ คำ
2. แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้
- ครบู อกนักเรยี นวา่ ในหน่วยการเรียนรู้นนี้ ักเรียนจะต้องเรียนรู้เกี่ยวกบั การออกเสียงคำกริยาทีล่ งท้ายดว้ ย

s หรือ es และฝึกถาม-ตอบเกีย่ วกับกิจวัตรประจำวัน แล้วสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ได้

3. เข้าใจและออกเสียงคำทีล่ งท้ายดว้ ย s หรือ es หลังคำกริยา
- ครูให้นกั เรยี นดูกิจกรรม Pronunciation ในหนังสอื เรียน หน้า 39 และทำความเข้าใจคำสั่ง
- ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนถามถ้านักเรียนไม่เข้าใจ หลังจากนั้นครูเปิดซีดีบันทึกสียง CD 1 Track 39 ให้
นกั เรยี นฟังและบอกให้นกั เรยี นชีต้ ามประโยคทีน่ ักเรยี นได้ยิน
- ครูเปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 39 อีกครั้ง และบอกนักเรียนวา่ ครั้งนี้ให้นักเรียนอ่านไปพร้อม ๆ กับซีดี
บนั ทึกเสยี ง ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงเบา ๆ และลดเสยี ง เพือ่ สังเกตการอา่ นออกเสียงของนักเรยี น
- ครใู ห้นักเรียนจับคผู่ ลัดเปล่ียนกันอ่านออกเสียงประโยคทั้งหมดและครเู ดินไปรอบห้องเรียน สังเกตการออก
เสยี งของนกั เรยี น
- ครูให้นักเรยี นดูตารางคำกริยาบนกระดานอีกคร้ัง และครอู ธิบายนกั เรยี นวา่ การออกเสียง s หรือ es หลัง
คำกริยา มีทั้งหมด 3 วิธีด้วยกนั คือ
1. ถ้าคำกริยาลงท้ายดว้ ย f, k, p, t ใหอ้ อกเสียง /s/
2. ถ้าคำกริยาลงท้ายดว้ ย b, d, g, l, m, n, r, และ y ใหอ้ อกเสียง /z/
3. ถ้าคำกริยาลงท้ายดว้ ย s, z, sh, และ ch ให้ออกเสียง /Ιz/
- ครูอธิบายนักเรียนเพิ่มเติมว่า หลักการออกเสียง s หรือ es ท้ายคำกริยาจะเหมือนกันกับหลักการออก
เสยี งคำนามทีเ่ ปน็ พหูพจน์
- ครูให้นักเรียนอ่านออกเสียงประโยคพร้อมกันอีกครั้ง หลังจากนั้นครูให้นักเรียนจับคู่ช่วยกันคิดประโยค
เพิม่ เตมิ จากประโยคตัวอย่าง โดยครูเขียนเปน็ ตัวอยา่ งกอ่ น พร้อมกบั อ่านออกเสียงให้นกั เรยี นฟงั เช่น
- My sister watches TV every day.
- My aunt cooks food by herself.
- Suda washes her hands before eating.
- นกั เรยี นอ่านออกเสียงประโยคของครูพร้อมกัน และหลังจากนั้นอา่ นประโยคที่นักเรยี นแตง่ เอง

4. พดู ถาม-ตอบเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน
- ครใู ห้นักเรยี นดูกิจกรรม Practice ในหนังสือเรียน หน้า 39 และครเู ปิดซีดีบนั ทึกเสียง CD 1 Track 40 ให้
นกั เรยี นฟงั และบอกให้นักเรยี นชีต้ ามประโยคที่ไดย้ ินพร้อมกับอ่านออกเสียงไปพร้อม ๆ กบั ซีดีบนั ทึกเสียง
- ครูให้นักเรยี นดูบทสนทนาที่ 1 ครเู รยี กนกั เรยี นอาสาสมัคร 1 คน อ่านบทสนทนากบั ครู ให้นักเรยี นรับบท
เป็น A และครเู ป็น B
- ครูกบั นักเรยี นอ่านบทสนทนาอีกครง้ั และคร้ังนคี้ รูตอบโดยใช้ขอ้ มลู เปน็ ของครเู อง
- ครใู ห้นกั เรยี นจบั คู่รับบทบาทเป็น A และ B ฝึกสนทนา และในการตอบให้นกั เรียนใช้ขอ้ มูลของนกั เรยี นเอง
- ครูใช้กจิ กรรมรูปแบบเดมิ กับบทสนทนาที่ 2, 3 และ 4
- ครใู ห้นกั เรยี นจบั คถู่ าม-ตอบเกีย่ วกับกิจวตั รประจำวันให้ครูและเพอ่ื นฟงั
- ครูประเมินการพูดถาม-ตอบของนักเรียนโดยใช้แบบประเมินในการสนทนากิจกรรมคู่ และใช้เกณฑ์ผ่าน
ระดบั พอใช้

กจิ กรรมเสริมทักษะ/ประสบการณ์ทางภาษา

- ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหัดข้อ A และ B ในหนังสือแบบฝึกหัด New World 2 หน้า 25 เพื่อฝึกทักษะด้าน
คำศัพท์เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน และการเติม s หรือ es หลังคำกริยา (ดูเฉลยท้ายเล่ม)

สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสือเรียน New World 2 หน้า 39
2. หนังสือแบบฝึกหัด New World 2 หน้า 25
3. ซีดีบันทึกเสียง
4. เคร่อื งเลน่ ซีดี

ช่วั โมงที่ 3 : เรอ่ื ง Daily Routine
1. เปา้ หมายการเรยี นร/ู้ หลกั ฐานการเรยี นร/ู้ การวดั ผลและประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สิง่ ที่ต้องร้แู ละปฏิบัตไิ ด้ ผลงาน/ชิน้ งาน การวัดผลและ

และตวั ชีว้ ัด ประเมินผล

ต 1.1 ม.1/4 ตอบคำถามจากบท คำตอบที่ไดจ้ ากการทำ ประเมินผลจากจำนวน

สนทนาที่ฟงั และอ่านได้ กิจกรรม About the คำตอบทีถ่ ูกต้องโดยใช้

Conversation เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 80

ต 1.1 ม.1/2 อา่ นออกเสียงบท การอ่านออกเสียง ประเมินการอ่านออก
สนทนา บทสนทนาในกิจกรรม เสยี ง
ถูกต้องตามหลักการ Conversation โดยใช้แบบประเมินการ
อา่ น อ่านออกเสียง และใช้
เกณฑผ์ ่านระดับพอใช้

2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

ความรู้

- คำศัพท์
-

- สำนวนภาษา
-

- หน้าที่ภาษา
-

- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
- Simple Present Tense
- Adverbs of Frequency: always, usually, sometimes, never

3. กิจกรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรม Conversation

1. นำเข้าสบู่ ทเรียน
- ครูให้นักเรียนดูภาพในกิจกรรม Conversation ในหนังสือเรียน หน้า 40 แล้วให้นักเรียนอธิบายสิ่งที่
นักเรยี นเหน็ ในภาพ ครถู ามวา่ เดก็ ผู้หญงิ ในภาพกำลังทำอะไรและนกั เรียนคิดวา่ บทสนทนานเี้ กี่ยวกับอะไร
โดยครูใช้คำถามเพือ่ กระตนุ้ ให้นักเรยี นพดู ดงั นี้
- What is the young woman in each picture doing?
- What do you think the conversation will be about?
ครูอนุญาตให้นักเรยี นพูดเปน็ ภาษาไทยได้ ถ้านักเรยี นไม่ทราบคำศพั ทท์ ี่เปน็ ภาษาองั กฤษแล้วครพู ูดซ้ำเป็น
ภาษาอังกฤษ

2. แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้

- ครบู อกนักเรียนว่า ในหน่วยการเรียนรู้นี้นักเรียนจะได้ฟังและอ่านบทสนทนาเกี่ยวกบั การสัมภาษณ์บุคคลที่
มีชื่อเสยี ง เข้าใจแล้วสามารถตอบคำถามจากบทสนทนาที่ฟงั และอา่ น และอา่ นออกเสียงบทสนทนาได้

3. ฟังและอา่ นบทสนทนา
- ครูชวนนักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับบุคลที่มีชื่อเสียงหรือดาราที่นักเรียนชอบ โดยเฉพาะเป็นบุคคลที่มีอายุรนุ่
ราวคราวเดยี วกันกับนกั เรียนว่าบุคคลเหล่าน้ันทำอะไรกันบ้างในแต่ละวนั ในขณะทีย่ งั ต้องไปโรงเรียนดว้ ย
- ครูเปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 41 ให้นักเรียนฟังและบอกให้นักเรียนปิดหนังสือเรียน หลังจากนั้นครู
ถามนกั เรียนวา่ บทสนทนาที่นักเรยี นฟังเกี่ยวกบั อะไร โดยใช้คำถาม
- What is the conversation about?
- ครเู ปิดซีดีบนั ทึกเสียง CD 1 Track 41 อีกครั้ง และครั้งนคี้ รใู ห้นักเรยี นเปิดหนงั สือเรียน หน้า 40 ดบู ท
สนทนาในกิจกรรม Conversation ไปด้วย ครูบอกให้นักเรยี นอา่ นบทสนทนาไปพร้อม ๆ กับซดี บี ันทึกเสยี ง
- ครใู ห้นกั เรยี นอ่านบทสนทนาและเปิดโอกาสให้นักเรยี นถามความหมายของคำศัพท์ที่นกั เรยี นไม่ทราบ และ
อนญุ าตให้เปิดพจนานุกรมได้
- ครูให้นักเรียนทำกิจกรรม About the Conversation ในหนังสือเรียน หน้า 40 โดยครูให้นกั เรียนอ่านประโยค
บอกเลา่ และทำความเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจครเู ปิดโอกาสให้ถามและอนุญาตให้ใช้พจนานุกรม
- ครูให้นกั เรยี นเขียน true หรือ false หน้าประโยคบอกเล่าและให้นักเรยี นตรวจคำตอบรว่ มกนั
- ครูอ่านประโยคบอกเล่าและให้นักเรียนตอบว่า true หรือ false ครูให้นักเรียนแก้ไขประโยคที่ false ให้
ถูกต้องดว้ ย (ดูเฉลยท้ายเล่ม)
- ครูประเมินผลจากจำนวนคำตอบทีถ่ ูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 80
- ครใู ห้นกั เรยี นจบั ค่อู ่านบทสนทนาหน้าช้ันเรียน
- ครปู ระเมินการอ่านออกเสียงของนักเรยี นโดยใช้แบบประเมินการอา่ นออกเสียง และใช้เกณฑ์ผา่ นระดับ
พอใช้

กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณ์ทางภาษา

- ครูให้นักเรียนอภิปรายเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในแต่ละวันของนักเรียนว่านักเรียนต้องการที่จะใช้ชีวิต
เหมือนกับ celebrity ในบทสนทนาหรือไม่ โดยครูใช้คำถามนำในการอภิปราย ดงั นี้
- Would you like to trade your life for that of a celebrity? Why or why not?

- ครูให้นักเรียนแบ่งกลุม่ กลุ่มละ 3-4 คน ให้แต่ละกลุม่ จัดทำปฏิทินเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของ Alyssa
หลงั จากนั้นให้นกั เรียนแลกเปลย่ี นเรียนรู้ซง่ึ กันและกนั

สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสือเรียน New World 2 หน้า 40
2. ซีดีบันทึกเสียง
3. เครอ่ื งเลน่ ซีดี
4. พจนานุกรมองั กฤษ-ไทย

ชั่วโมงที่ 4 : เรอ่ื ง Daily Routine
1. เปา้ หมายการเรยี นรู/้ หลกั ฐานการเรยี นรู/้ การวัดผลและประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สิ่งที่ต้องรแู้ ละปฏิบตั ไิ ด้ ผลงาน/ชิ้นงาน การวดั ผลและ
และตัวชี้วัด ประเมินผล
จดั ลำดบั เหตุการณ์ คำตอบทีไ่ ดจ้ ากการทำ ประเมินผลจากจำนวน
ต 1.1 ม.1/4 จากสิง่ ทีฟ่ ังได้ กิจกรรม Listening คำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้
เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 80
ต 1.3 ม.1/2 เขียนสรุปใจความสำคัญ งานเขียนสรุปใจความ
ประเมินงานเขียนโดยใช้
จากสิ่งทีฟ่ ังได้ สำคัญจากสิง่ ทีฟ่ ัง เกณฑ์การประเมินการ
เขียน และใช้เกณฑผ์ ่าน
ระดับพอใช้

2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

ความรู้

- คำศพั ท์
-

- สำนวนภาษา
-

- หน้าที่ภาษา
-

- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
- Simple Present Tense
- Adverbs of Frequency: always, usually, sometimes, never
- Time Expressions: every day, before, after, then

3. กิจกรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรม Listening

1. นำเข้าส่บู ทเรียน
- ครูให้นักเรยี นดกู ิจกรรม Listening ในหนังสือเรียน หน้า 40 พร้อมกบั ชแี้ จงเกีย่ วกับคำสงั่ ในกิจกรรม
- ครใู ห้นักเรยี นอา่ นออกเสียงประโยคทุกประโยค เสร็จแล้วครอู า่ นออกเสียงและให้นักเรยี นอา่ นตามครอู ีก
ครงั้
- ครูตรวจสอบความเข้าใจของนกั เรยี น โดยการเปิดโอกาสให้นกั เรยี นถามประโยคทีน่ ักเรยี นไม่ทราบหรือไม่
แนใ่ จ จนครูมน่ั ใจวา่ นกั เรยี นเข้าใจ

2. แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้
- ครบู อกนักเรียนว่า ในหน่วยการเรียนรู้นี้นักเรียนจะไดฟ้ ังบทพูดเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
ชือ่ Steve แล้วสามารถจัดลำดบั กิจกรรมในแตล่ ะวันของ Steve และเขียนสรปุ ใจความสำคัญจากการที่ฟัง
ได้

3. ฟงั ขอ้ มลู เกีย่ วกับบคุ คล
- ครเู ปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 42 ให้นักเรียนฟงั และบอกให้นักเรียนตั้งใจฟงั
- ครเู ปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 42 อีกครั้ง ให้นักเรยี นฟงั และเขียนตวั เลขหน้าประโยคในกิจกรรม
Listening ตามลำดบั ก่อน-หลัง ตามเหตุการณ์ทีน่ กั เรยี นได้ยิน
- นักเรยี นแลกเปลย่ี นกันตรวจกบั เพื่อน
- ครูเปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 42 ให้นักเรียนฟังอีกครั้ง ครั้งนี้ครูหยุดซีดีบันทึกเสียงเป็นช่วง ๆ เพื่อ
ตรวจคำตอบ (ดเู ฉลยท้ายเล่ม)
- ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี น โดยให้นักเรยี นอาสาสมคั รอา่ นประโยคตามลำดับ
- ครปู ระเมินผลจากจำนวนคำตอบที่ถูกต้อง โดยใช้เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 80
- ครูให้นักเรยี นแต่ละคนเขียนสรปุ ใจความสำคญั เกีย่ วกบั กิจวัตรประจำวันของ Steve
- ครูเขียนคำศัพท์เกี่ยวกับลำดับบนกระดาน เช่น first, then, next, และ finally ครูแนะนำให้นักเรียนใช้คำ
เหล่านใี้ นการเขียนสรุปใจความ และอนุญาตให้ใช้พจนานุกรมได้
- ครตู รวจงานเขียนของนกั เรียนเกี่ยวกบั ไวยากรณแ์ ละการสะกดคำ ครบู อกนักเรยี นให้ระวังเกี่ยวกับการใช้
คำกริยากบั ประธานเอกพจน์บรุ ษุ ที่ 3 ว่าต้องเติม s หลังคำกริยา เช่น ถ้าประธาน คือ Steve หรือ He
- ครใู ห้นักเรยี นอ่านงานเขียนของนักเรยี นให้ครูและเพ่อื นฟงั
- ครปู ระเมินงานเขียนของนกั เรยี นโดยใช้เกณฑก์ ารประเมินการเขียน และใช้เกณฑผ์ า่ นระดับพอใช้

กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา

- ครูให้นักเรียนเขียนประโยคเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของนักเรียนเอง แลว้ เปรียบเทียบกบั กิจวตั รประจำวัน
ของ Steve ครเู ขียนตัวอยา่ งประโยคให้นกั เรยี นดบู นกระดาน ดังนี้
- I take a shower in the morning. I don’t take a shower at night.
- I walk to school. I don’t go to school by bike.

สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสือเรียน New World 2 หน้า 40
2. ซีดีบันทึกเสียง
3. เครอ่ื งเลน่ ซีดี
4. พจนานกุ รมอังกฤษ-ไทย

ชว่ั โมงที่ 5 : เรอ่ื ง Daily Routine
1. เปา้ หมายการเรยี นร้/ู หลักฐานการเรยี นรู/้ การวดั ผลและประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สิง่ ที่ตอ้ งรแู้ ละปฏิบตั ไิ ด้ ผลงาน/ชิน้ งาน การวดั ผลและ
และตัวชี้วัด ประเมินผล
สนทนาแลกเปล่ยี นข้อมลู ภาษา น้ำเสียง สหี น้า ประเมินการสนทนา
ต 1.2 ม.1/1, เกีย่ วกับกิจวัตรประจำวนั และอากปั กิริยาทีใ่ ช้ใน โดยใช้เกณฑ์การประเมิน
ต 2.1 ม.1/1 ความสามารถในการ
การสนทนา สนทนา และใช้เกณฑผ์ ่าน
ระดับพอใช้

2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

ความรู้

- คำศพั ท์
-

- สำนวนภาษา
-

- หน้าที่ภาษา
-

- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
- Simple Present Tense
- Third Person Ending: –s, –es, –ies
- Adverbs of Frequency: always, usually, sometimes, never
- Time Expressions: every day, before, after, then

3. กิจกรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรม Grammar

1. นำเข้าสบู่ ทเรียน
- ครูแบ่งกลุ่มนักเรยี น กล่มุ ละ 3-4 คน ให้นักเรยี นแข่งขนั กันทำกิจกรรม Ordering the words นักเรยี นแต่
ละกลุ่มรับซองคำศพั ทส์ ำหรับการจัดให้เป็นประโยค กลมุ่ ละ 1 ซอง
- ครูให้เวลานักเรยี น 2 นาที ในการจดั ลำดับคำให้เปน็ ประโยค
- ครูและนักเรียนเฉลยคำตอบร่วมกัน โดยให้แต่ละกลุ่มอ่านประโยคของกลุ่มตนเองให้ครูและเพื่อนฟัง
หลังจากนั้นครเู ขียนประโยคที่สมบรู ณ์บนกระดาน แล้วให้นกั เรยี นตรวจคำตอบใหม่อีกคร้ัง ดงั นี้
1. I brush my teeth after meals.
2. I always go out with my family.
3. Susan usually watches TV after dinner.
4. Noi and Nat sometimes go out by bike.
5. Peter works all day, and he studies at night.
กล่มุ ทีไ่ ด้คะแนนมากทีส่ ุดเป็น The winner

2. แจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้

- ครบู อกนักเรยี นว่า ในหน่วยการเรียนรู้นี้นกั เรียนจะได้เรยี นรู้เกี่ยวกบั โครงสร้างทางไวยากรณเ์ รื่อง Simple

Present Tense, Third Person Ending: –s, –es, –ies และ Adverbs of Frequency แล้วสามารถนำไป

ประยกุ ตใ์ ช้ได้

3. เข้าใจและใช้ Simple Present Tense และ Third Person Ending: –s, –es, –ies

- ครใู ห้นกั เรยี นศึกษาเนือ้ หาเรือ่ ง Simple Present Tense จากกรอบ Grammar ในหนงั สือเรียน หน้า 41 ครู

อธิบายนักเรยี นว่า เราใช้ Simple Present Tense เพือ่ พดู คุยเกีย่ วกบั สง่ิ ทีเ่ ราทำตามปกติ

- ครูอธิบายความหมายของ The Third Person ว่า หมายถึง ชื่อคน 1 คน หรือคำนามที่เป็นเอกพจน์

คำกริยาที่ตามหลัง The Third Person หรือคำนามเอกพจน์ จะต้องเติม –s หรือ –es ในเหตุการณ์ที่เป็น

Simple Present Tense เสมอ

- ครูเขียนประโยคตวั อย่างบนกระดาน และครขู ีดเสน้ ใต้ประธานบรุ ุษที่ 3 และครใู ห้นกั เรียนอาสาสมคั รออกไป

ขีดเสน้ ใต้คำกริยา และวงเล็บ –s, –es ดังนี้

- He work (s) at the airport.

- She get (s) up at 7 a.m.

- Mike eat (s) lunch at school.

- My best friend go (es) to my school.

- ครใู ห้นกั เรยี นศึกษาข้อมูลรายละเอียดเนอื้ หาเรือ่ ง Third Person Ending: –s, –es, –ies จากกรอบ Grammar

ในหนังสือเรียน หน้า 41 ครูนำเสนอกฎของการเติม –s หลังคำกริยา โดยเขียนบนกระดานให้นกั เรียนดู (ครู

บอกนักเรียนวา่ กฎการเติม –s ใน Simple Present Tense เหมือนกับการเตมิ –s หลังคำนามที่เปน็ พหูพจน)์

ดังนี้

1. เติม –s หลังคำกริยาทัว่ ไป เชน่

sleep – sleeps like – likes

2. เติม –es หลงั คำกริยาที่ลงท้ายดว้ ย o เชน่

go – goes do – does

3. เติม –es หลังคำกริยาที่ลงท้ายดว้ ย ch, sh และ s เชน่

watch – watches finish – finishes pass – passes

4. ถ้าคำกริยาลงท้ายดว้ ย –y ให้ตดั y ทิ้ง และเตมิ –ies หลังคำกริยา เช่น

try – tries fry – fries fly – flies

5. ถ้าคำกริยาลงท้ายดว้ ย –y แตห่ น้า y มีสระ คอื a, e, i, o, u ให้เติม –s ได้เลย เชน่

play – plays

- ครเู ขียนคำกริยาบนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนอาสาสมัครออกไปเติม –s, –es โดยใช้ความรู้ที่ครูอธิบายในการ

พิจารณา ดังนี้

- take – brush – watch – stay –

- arrive – drink – wash – teach –

- ครอู า่ นตัวอย่างในกรอบ Grammar แล้วให้นกั เรยี นอ่านตามครู หลงั จากนั้นครใู ห้นักเรียนบันทึกความรู้ลง

ในสมุดของนักเรยี น

4. เข้าใจและใช้ Adverbs of Frequency: always, usually, sometimes, never

- ครใู ห้นกั เรยี นศึกษารายละเอียดเนือ้ หาเรื่อง Adverbs of Frequency: always, usually, sometimes, never

จากกรอบ Grammar ในหนงั สือเรียน หน้า 41

- ครูให้นักเรียนดูตัวอย่างประโยค และครูอธิบายความหมายของ Adverbs of Frequency แต่ละตัว โดยครู

เขียนความถีเ่ ป็นร้อยละของการกระทำ ดงั นี้

always = 100%

usually = 80%

sometimes = 50%
never = 0%
- ครเู ขียนวลีเกีย่ วกับกิจกรรมตา่ ง ๆ บนกระดาน พร้อมกับแสดงรูปภาพประกอบ ดงั นี้
- play soccer
- chat online
- listen to music
- do homework
- ครูใช้คำถาม How often do you ______? (วลที ีค่ รูเขียนบนกระดาน) ครใู ห้นกั เรยี นอาสาสมคั รตอบ โดย
แนะนำให้นักเรยี นใช้ Adverbs of Frequency ดว้ ย เชน่ I never play soccer. ครถู ามโดยใช้โครงสร้างคำถาม
เดมิ แตเ่ ปลย่ี นคำกริยาให้นกั เรยี นตอบ
- ครใู ห้นกั เรยี นเขียนประโยคที่นักเรียนตอบบนกระดาน
5. เข้าใจและใช้ Time Expressions: every day, before, after, then
- ครูให้นักเรยี นศึกษาเนอื้ หารายละเอียดเรือ่ ง Time Expressions: every day, before, after, then จากกรอบ
Grammar ในหนงั สือเรียน หน้า 41
- ครใู ห้นกั เรยี นอา่ นประโยคตัวอย่างในกรอบ Grammar พร้อมกัน
- ครูตรวจสอบความเข้าใจความหมายคำศัพท์ของคำว่า every day โดยบอกนักเรียนว่า หมายถึงวันทั้ง 7
วนั ในหนึง่ สัปดาห์
- ครเู ขียนประโยคคำถามที่นอกเหนือจากกรอบ Grammar เปน็ ตวั อย่างบนกระดาน ดังนี้
- Which comes first : washing my hands or eating, brushing my teeth or eating breakfast, watching

TV or going to bed?
- ครใู ห้นกั เรยี นทำความเข้าใจคำถามของครกู ่อน ครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นถามถ้านกั เรียนไมเ่ ข้าใจ
- ครเู ขียนประโยคเกี่ยวกบั กิจกรรมที่ครูทำบนกระดาน ให้นักเรียนอ่านประโยคที่ครูเขียนและเขียนใหม่ โดยให้

นักเรียนใช้ before, after และ then ในการเขียน ดังนี้
- First: I eat supper. Second: I watch TV.
- I eat supper before I watch TV.
- I watch TV after I eat supper.
- I eat supper, and then I watch TV.
- ครูกำหนดประโยคอื่น ๆ อีกประมาณ 2-3 ประโยค และให้นักเรียนเขียนใหม่ โดยครูแนะนำให้นักเรียน
ใช้ before, after และ then
6. สนทนาเกี่ยวกับกิจวตั รประจำวัน
- ครใู ห้นกั เรยี นทำกิจกรรม Grammar A ในหนังสือเรียน หน้า 41 ครูให้นกั เรยี นทำความเข้าใจคำส่ัง คือให้
นกั เรยี นแตง่ ประโยคคำถามจากคำทีก่ ำหนดให้ และตอบโดยใช้ขอ้ มูลของนักเรยี นเอง
- ครูเขียนตัวอยา่ งบนกระดานเพือ่ ให้นักเรยี นได้ทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กัน
usually / have lunch / twelve o’clock
A: Do you usually have lunch at twelve o’clock?
B: Yes, I do. / No, I don’t. I have lunch at one o’clock.
- ครใู ห้นกั เรยี นจบั คอู่ า่ นออกเสียงประโยคตวั อย่างบนกระดาน และผลัดเปล่ยี นกันถาม-ตอบ
- ครูให้นักเรียนแต่ละคู่ทำกิจกรรม Grammar A ในหนังสือเรียน หน้า 41 โดยให้นักเรียนพูดปากเปล่า
หลังจากน้ันให้พูดให้ครฟู งั โดยสลบั บทบาทกนั เปน็ A และ B
- ครูเดนิ สงั เกตการพูดของนักเรียนทุกคู่ และให้ความช่วยเหลอื นกั เรยี นเรือ่ งไวยากรณ์
- ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะคู่พูดสนทนาให้ครแู ละเพ่อื นฟังหน้าช้ันเรียน
- ครูให้นกั เรยี นทำกิจกรรม Grammar B ในหนงั สือเรียน หน้า 42 ครูให้นกั เรยี นดภู าพ Kate ครอู า่ นประโยค
ตัวอยา่ งท้ังคำถามและคำตอบให้นักเรยี นฟงั พร้อมกับเขียนบนกระดานอีกครั้ง ดังนี้
A: What does Kate do after lunch?
B: She usually studies.

- ครูให้นกั เรยี นจับค่ผู ลดั เปลย่ี นกันอ่านประโยคตัวอย่างและสลับบทบาทกันเป็น A และ B
- ครใู ห้นักเรียนอา่ นข้อมูลใต้ภาพที่เหลอื ทุกภาพ เปิดโอกาสให้นักเรียนถามถ้านักเรียนไม่เข้าใจหรืออนุญาต

ให้นักเรียนใช้พจนานุกรมได้
- ครูให้นักเรยี นแต่ละคู่ทำกิจกรรมถาม-ตอบเกี่ยวกับภาพที่เหลอื ท้ังหมด ครพู ดู ย้ำนักเรยี นวา่ ให้ใช้ Adverbs

of Frequency ในการตอบดว้ ย
- ครูสังเกตการทำกิจกรรมของนักเรียนและคอยให้ความช่วยเหลอื นักเรียนเรือ่ งไวยากรณ์และการออกเสียง

ตามความจำเป็น
- ครูให้นักเรยี นแตล่ ะคู่พดู สนทนาหน้าช้ันเรียนอีกครั้ง
- ครปู ระเมินการสนทนาของนักเรียนโดยใช้เกณฑ์การประเมินความสามารถในการสนทนา และใช้เกณฑผ์ า่ น

ระดับพอใช้

กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา

- ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด ข้อ C, D, E และ F ในหนังสือแบบฝึกหัด New World 2 หน้า 26-27 เพือ่ ฝึก
ทกั ษะ การใช้ Simple Present Tense และ Adverbs of Frequency (ดูเฉลยท้ายเลม่ )

สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้

1. หนงั สือเรียน New World 2 หน้า 41-42
2. หนังสือแบบฝึกหัด New World 2 หน้า 26-27
3. พจนานุกรมอังกฤษ-ไทย
4. ภาพเกี่ยวกบั play soccer, chat online, listen to music, do homework

ชว่ั โมงที่ 6 : เรอ่ื ง Daily Routine
1. เป้าหมายการเรยี นรู/้ หลกั ฐานการเรยี นร/ู้ การวัดผลและประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สิ่งทีต่ อ้ งรแู้ ละปฏิบัตไิ ด้ ผลงาน/ชิ้นงาน การวัดผลและ
และตัวชี้วดั งานเขียน email ประเมินผล
เขียน email ถึงเพือ่ น ประเมินงานเขียน email
ต 1.3 ม.1/1 เกี่ยวกับกิจกรรมทีท่ ำ โดยใช้เกณฑ์การประเมิน
ในวันหยุดสดุ สปั ดาห์ การเขียนจดหมาย/อีเมล
ส่วนตัว และใช้เกณฑผ์ า่ น
ระดบั พอใช้

2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

ความรู้

- คำศัพท์
-

- สำนวนภาษา
-

- หน้าทีภ่ าษา
-

- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
-

3. กิจกรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรม Writing

1. นำเข้าสบู่ ทเรียน
- ครูชวนนักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับการเขียนจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (email) และถามให้นักเรียนตอบเป็น
รายบคุ คลว่านกั เรยี นเขียน email บอ่ ยเพียงใดและส่วนใหญเ่ ขียนถึงใคร โดยใช้คำถาม ดงั นี้
- How often do you write an email?
- Who do you usually write an email to?

2. แจ้งจุดประสงค์การเรียนรู้
- ครบู อกนักเรยี นวา่ ในหนว่ ยการเรียนรู้นีน้ ักเรียนจะต้องเขียนจดหมายอิเลก็ ทรอนิกส์ (email) ถึงเพือ่ น เล่า
เกี่ยวกบั กิจกรรมทีน่ กั เรยี นทำในวันหยุดสุดสัปดาห์ แล้วนำเสนอให้ครแู ละเพอ่ื นในชั้นเรียน

3. เขียน email
- ครูให้นักเรียนดูคำสั่งในกิจกรรม Writing ในหนังสือเรียน หน้า 42 ครูอ่านออกเสียงคำสั่งให้นักเรียนฟังและ
ให้นกั เรียนทำความเข้าใจ ครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นถามถ้านกั เรยี นไมเ่ ข้าใจ
- ครูถามนักเรียนว่าตามปกติในวันหยุดสุดสัปดาห์นักเรียนมักจะทำอะไร หรือตอนวันศุกร์กลางคืนนักเรียนทำ
อะไร ตอนเช้าหรือตอนเย็นวันเสาร์นักเรียนทำอะไร และหรือวันอาทิตย์ตอนเช้านักเรียนทำอะไร โดยครูใช้
คำถามและเขียนบนกระดาน ดงั นี้
- What do you usually do on the weekends?

- What do you do on Friday nights?
- What do you do on Saturday mornings to evenings?
- What do you do on Sunday mornings to evenings?
- ครูให้นกั เรียนฝึกอา่ นคำถามและพดู จนชำนาญ หลังจากน้ันให้นกั เรียนใช้คำถาม ถามเพื่อนโดยครใู ห้นักเรียน
เปลย่ี นคู่ทีน่ กั เรยี นถามให้มากเท่าที่จะมากได้
- ครูสัมภาษณน์ ักเรยี น 1 คน เกีย่ วกบั การทำกิจกรรมในวนั หยุดสดุ สปั ดาห์
- ครเู ขียนตัวอย่าง email บนกระดาน ดงั นี้

My weekends are always very busy. On Friday after school, I have basketball practice.
Then I go home and have supper. I usually relax and use the computer on Friday nights. I
use social media and play video games. On Saturday morning, I always sleep late. Then I
do my household chores and clean my room. I usually go shopping for groceries with my
family on Saturday afternoon. Then we cook supper. After supper, we watch TV or movies.
On Sunday morning, I do homework. In the afternoon, I always meet my friends. We
sometimes go to the park. We often go to the movies. We usually eat out at a café. I
usually go to bed early on Sunday nights. And on Monday, school starts again.

- ครอู า่ น email ให้นักเรยี นฟังและชีไ้ ปที่ Adverbs of Frequency และคำเกีย่ วกับเวลาและบอกนักเรยี นวา่
นักเรยี นอย่าลมื ใช้ Adverbs of Frequency และคำทีใ่ ช้บอกเวลาในการเขียน email ของนักเรยี น

- ครูให้นกั เรยี นอ่านข้อความบนกระดานพร้อมกัน
- ครูให้นักเรียนเขียน email เป็นรายบุคคล โดยให้นักเรียนใช้ตัวอย่างบนกระดานเป็นแนวทางในการเขียน

และอนุญาตให้ใช้พจนานกุ รมได้
- ครูให้นักเรียนแลกเปลี่ยนกันดูผลงานการเขียนของตนเองกับของเพื่อน หลังจากนั้นนำส่งครูและครูเปิด

โอกาสให้นกั เรยี นแก้ไขปรบั ปรุงงานเขียนของตนเอง
- ครูประเมินงานเขียน email ของนักเรียน โดยใช้เกณฑ์การประเมินการเขียนจดหมาย/อีเมลส่วนตัว และใช้

เกณฑผ์ ่านระดบั พอใช้

กจิ กรรมเสริมทักษะ/ประสบการณท์ างภาษา

- ครูให้นักเรียนนำเสนอผลงานเขียน email ที่ทำในกิจกรรม Writing ในหนังสือเรียน หน้า 42 ติดไว้ที่ป้าย
นิเทศหลังห้องเรียน และให้นกั เรยี นเลอื ก email ของเพือ่ นเพือ่ เขียนตอบ 1 ฉบับ

สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

1. หนงั สือเรียน New World 2 หน้า 42

2. พจนานกุ รม

ชว่ั โมงที่ 7 : เร่อื ง Daily Routine
1. เป้าหมายการเรยี นร/ู้ หลกั ฐานการเรยี นรู/้ การวดั ผลและประเมินผล

มาตรฐานการเรยี นรู้ สิ่งที่ตอ้ งร้แู ละปฏิบัตไิ ด้ ผลงาน/ชิน้ งาน การวัดผลและ
ประเมินผล
และตวั ชีว้ ดั ประเมินการพดู
อภิปราย
ต 1.2 ม.1/1, พดู อภิปรายเกีย่ วกบั ถ้อยคำ น้ำเสียง สหี น้า โดยใช้เกณฑ์การ
ประเมินการอภิปราย
ต 1.3 ม.1/1 กิจกรรมที่ทำในแตล่ ะ และอากัปกิริยาที่ใช้ใน กล่มุ และใช้เกณฑ์ผ่าน
ระดับพอใช้
วนั การพูดอภิปราย

2. สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

ความรู้

- คำศัพท์
-

- สำนวนภาษา
-

- หนา้ ทีภ่ าษา
-

- โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์
-

3. กิจกรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรม Speaking

1. นำเข้าสู่บทเรียน
- ครแู สดงทา่ ทางการพดู โทรศพั ท์และให้นักเรยี นทายวา่ ครูกำลงั ทำอะไร โดยใช้คำถาม ดงั นี้
- Guess, what am I doing?
- ครกู ล่าวชมนกั เรียนที่ทายถูกต้อง หลังจากน้ันครูให้นักเรียนแต่ละคนออกไปแสดงทา่ ทางหน้าช้ันเรียนพร้อม
กบั ใช้คำถาม
เหมือนของครู ถามเพื่อนและให้เพือ่ นตอบ

2. แจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้
- ครบู อกนกั เรียนว่า ในหนว่ ยการเรียนรู้นี้นกั เรียนจะต้องพูดอภิปรายเกี่ยวกับกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันกับเพื่อน
ในช้ันเรียน

3. อภิปรายเกี่ยวกบั กิจกรรมที่ทำในแตล่ ะวัน
- ครูให้นักเรยี นดูกิจกรรม Speaking ในหนังสือเรียน หน้า 42 ครอู า่ นออกเสยี งคำสงั่ ให้นักเรยี นฟงั
- ครใู ห้นักเรยี นดูคำถามและทำความเข้าใจคำถามทุกคำถามครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นถามถ้านักเรยี นไม่
เข้าใจ และอนุญาตให้เปิดพจนานุกรมได้

- ครแู บง่ กลุ่มนักเรยี น กลุม่ ละ 3-4 คน ให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มพูดอภิปรายเกี่ยวกับกิจกรรมที่นักเรียนทำใน
แตล่ ะวัน โดยใช้คำถามท้ัง 12 คำถามเป็นแนวทางในการพูดอภิปราย

- ครูให้นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ สรปุ คำตอบที่ได้จากการอภิปรายภายในกลุ่ม โดยสรปุ เป็นคำตอบทีเ่ หมือนกัน
และคำตอบทีแ่ ตกตา่ งกนั

- ครูให้ตัวแทนกลมุ่ รายงานผลการอภิปรายสรุปให้เพื่อนและครูฟัง
- ครปู ระเมินการอภิปรายของนักเรยี นโดยใช้เกณฑ์การประเมินการอภิปรายกลมุ่ และใช้เกณฑผ์ า่ นระดบั

พอใช้

กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณ์ทางภาษา

- ครูให้นักเรียนจัดทำ Profile ส่วนตัวของนักเรียน โดยการเขียนรายงานการทำกิจกรรมในแต่ละวันของ
นักเรียน โดยใช้คำถามในกิจกรรม Speaking ในหนังสือเรียน หน้า 42 เป็นแนวทางในการเขียน เพื่อฝึก
ทกั ษะการเขียน

สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนงั สือเรียน New World 2 หน้า 42
2. พจนานกุ รมอังกฤษ-ไทย

การวดั และการประเมินผล ( Evaluation )

ส่งิ ทีว่ ดั ผล วิธีวดั ผล เครอ่ื งมือวัดผล เกณฑ์การประเมิน

ดา้ นความรู้ (K) ประเมินความรู้ แบบประเมินความรู้ ร้อยละ 60
เรือ่ ง Daily Routine
ดว้ ยแบบทดสอบ

ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P) ประเมินกระบวนการ แบบประเมินกระบวนการ ระดบั คุณภาพ
ทำงานกลมุ่ ด้วยแบบ ทำงานกลุม่ 4 = ดมี าก
3 = ดี
ประเมิน 2 = พอใช้
1 = ควรปรบั ปรงุ

เจตคต/ิ คุณลักษณะ (A) ประเมินคณุ ลักษณะอนั พึง แบบประเมินคุณลักษณะอนั ร้อยละ 80
ประสงค์ ดว้ ยแบบ พึงประสงค์
ประเมิน

สมรรถนะของผู้เรยี น (C) ประเมินสมรรถนะของ แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ
ผู้เรยี นแบบประเมิน ของผู้เรยี น 4 = ดมี าก
3 = ดี
2 = พอใช้
1 = ควรปรับปรงุ

กระบวนการการจัดกจิ กรรม / รปู แบบการจัดกจิ กรรม ( Learning Process )

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้/แนวทางการเสริมแรงหรือชว่ ยเหลอื นักเรยี น

- การใช้ดาวเป็นสัญลักษณ์แทนการชืน่ ชมหรือแทนรางวัลของการทำดี การกระตนุ้ ให้นกั เรยี นสะสม

ดาวเพือ่ กระตนุ้ ให้นักเรยี นทำส่งิ ที่ดแี สดงพฤติกรรมทีด่ ี

- การใช้ลกู อม ขนม รวมท้ังการเลอื กใช้สติ๊กเกอร์สี และสติก๊ เกอรร์ ปู ร่างลกั ษณะตา่ งๆ เพือ่ แสดงออก

ถึงการชมเชย ยกย่อง ให้กำลังใจนักเรียนในการทำพฤติกรรมทีด่ ตี อ่ ไป

บันทึกผลหลังแผนการจดั การเรยี นรู้

1. ผลการเรยี นรู้

1.1 ดา้ นความรู้ (K) ตารางที่ 1 แสดงคา่ รอ้ ยละระดบั ผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น เรื่อง .................................

ระดบั ผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรบั ปรุง (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 1 พบว่านักเรียนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ร้อยละ................อยใู่ นระดับ..........และ

รองลงมารอ้ ยละ.................อยูใ่ นระดบั ...............และพบว่านกั เรียน....................................................

............................................................................................................................................................

1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P )

ตารางที่ 2 แสดงคา่ ร้อยละระดับผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น เรื่อง ..................................................

ระดับผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรับปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 2 พบวา่ นกั เรียนผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น ร้อยละ................อยูใ่ นระดบั ..........และ

รองลงมารอ้ ยละ.................อยูใ่ นระดบั ................และพบว่านักเรียน

.............................................................................................................................................................

1.3 ดา้ นเจตคติ / คณุ ลกั ษณะฯ (A)/ สมรรถนะ (C) เชือ่ มโยงกบั มาตรฐานหลกั สตู ร

ตารางที่ 3 แสดงคา่ ร้อยละคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เรื่อง ............................................

ระดบั ผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนกั เรยี น ร้อยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรบั ปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 3 พบว่านกั เรียนคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ร้อยละ..............อยู่ในระดบั ............และ
รองลงมารอ้ ยละ.................อย่ใู นระดับ...............และพบว่านักเรียน.....................................................

สรุป ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ …………………………..
16) นักเรยี นมีผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ในระดบั ...................
17) นกั เรยี นมีทักษะในระดบั ..................
18) นกั เรยี นมีคุณลกั ษณะในระดับ...............
2. บรรยากาศการเรยี นรู้

............................................................................................................................. .....................................................................
..................................................................................................................................................................................................

3. การปรับเปลีย่ นแผนการจดั การเรยี นรู้ (ถา้ มี)

..................................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................................

4. ข้อค้นพบดา้ นพฤติกรรมการจัดการเรยี นรู้

............................................................................................................................. .....................................................................
..................................................................................................................................................................................................

5. อื่นๆ....................................................................................................................................................

ปัญหา/สิ่งทีพ่ ฒั นา / แนวทางแก้ปัญหา / แนวทางการพฒั นา

ปญั หา/สิ่งที่พฒั นา สาเหตุของปัญหา/ แนวทางแก้ไข/ วิธีแก้ไข/พฒั นา ผลการแก้ไข/พฒั นา
ส่งิ ทีพ่ ัฒนา พัฒนา

รบั ทราบผลการดำเนนิ การ ลงชื่อ............................................. ผู้สอน
(นางสาวองั คณา ทับลอ้ ม)

ลงชื่อ.................................................
(นางสาวอังคณา ทบั ลอ้ ม)

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ลงชือ่ ............................................
( นายชาญยุทธ สทุ ธธิ รานนท์ )

รองผู้อำนวยการกลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ

ลงชื่อ...........................................
( นายวีระ แก้วกัลยา )

ผู้อำนวยการโรงเรียนโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ 47 จังหวดั เพชรบรุ ี

Review 2 (บททบทวนครง้ั ที่ 2) จำนวน 3 ชวั่ โมง

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ ช้ัน ม.1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

รายวิชา ภาษาองั กฤษ รหสั วิชา อ 21101 ครูผู้สอน นางสาวองั คณา ทบั ลอ้ ม

_________________________________________________________

สาระสำคญั / ความคดิ รวบยอด (Learning Concepts)

เพื่อทบทวนและประเมินความสามารถของนักเรียนในการใช้คำศัพท์ หน้าที่ภาษา โครงสร้างประโยค/

ไวยากรณ์ที่เรียนมาแล้วในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4-6 เสริมศักยภาพในการฟัง พูด อ่าน เขียน รวมทั้งการทำ

กิจกรรมทางภาษาอืน่ ๆ ตลอดจนการศึกษาค้นคว้าขอ้ มลู และนำเสนอ

มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวชี้วดั

สาระที่ 1: ภาษาเพื่อการสือ่ สาร

มาตรฐาน ต 1.1 ม.1/1, ต 1.1 ม.1/2, ต 1.1 ม.1/4, ต 1.2 ม.1/1,

ต 1.2 ม.1/5, ต 1.3 ม.1/1, ต 1.3 ม.1/3

สาระที่ 2: ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 ม.1/2, ต 2.1 ม.1/3

สาระที่ 3 : ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อืน่

มาตรฐาน ต 3.1 ม.1/1

สาระที่ 4 : ภาษากับความสมั พนั ธก์ บั ชมุ ชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ม.1/1

สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น ( Competency ) คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ( Desired Characteristics )

ความสามารถในการสอ่ื สาร การคิด การใช้ ใฝ่เรยี นรู้ : ค้นคว้าหาความรู้จากแหลง่ เรียนรู้ตา่ ง ๆ

ทกั ษะชีวิต การใช้เทคโนโลยี หม่นั พฒั นาตนเอง : ทบทวนความรทู้ ีไ่ ด้เรยี นอย่างสมำ่ เสมอ

ทกั ษะ / กระบวนการ ( Skill during the process ) ทกั ษะการคิด
-ทกั ษะการคิดที่ใช้ในการสอ่ื สาร
ทักษะเฉพาะวิชา -การประยกุ ตใ์ ช้ความรู้
การฟัง : จับใจความสำคัญ
การพดู : พดู แสดงความคิดเหน็
การอา่ น : อ่านจับใจความสำคญั
การเขียน : เขียนรายงานการค้นคว้า

ความเขา้ ใจทีย่ ่ังยืน
นกั เรยี นเข้าใจวา่ การฝึกและการทบทวนความรคู้ ำศัพท์ ไวยากรณ์ การฝึกอ่านและเขียน ตลอดจนการ

ทดสอบทางภาษา การได้รบั ข้อมลู ย้อนกลบั จะช่วยทำให้การใช้ภาษาของนักเรยี นมีความคงทน สามารถใช้ภาษา
ในการส่อื สารได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ
ความสมั พนั ธก์ บั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้อืน่

สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม; ศิลปะ

ชั่วโมงที่ 1 : เร่อื ง Review 2

สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

ความรู้

- คำศพั ท์
-

- สำนวนภาษา
-

- หนา้ ทีภ่ าษา
- To talk about occupations
- To talk about future jobs and goals
- To talk about foods
- To order in a restaurant
- To make and respond to offers
- To talk about food preferences
- To talk about daily routines
- To talk about how often one does actions

- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
- Verb want + Infinitive
- Why and Because
- Expressions of quantity: some/any
- Count/Non-count nouns
- Simple Present Tense
- Adverbs of Frequency: always, usually, sometimes, never
- Time Expressions: every day, before, after, then

กจิ กรรมการเรยี นรู้

ทบทวนโครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์

1. ทบทวนการใช้ Verb want + Infinitive และ Count/Non-count nouns
- ครูทบทวนรูปแบบของ Verb want + Infinitive ครูชวนนักเรียนพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งของที่นักเรียนต้องการจะ
ซื้อและสถานที่ต้องการจะไปเที่ยว ครูพูดประโยคตัวอย่างให้นักเรียนฟัง หลังจากนั้นให้นักเรียนพูดโดยใช้
โครงสร้างเดียวกันกบั ของครู ดังนี้
- I want to buy new shoes.
- I want to go to the new museum.
- ครูทบทวนโครงสร้างไวยากรณ์ เรื่อง Verb want + Infinitive ครูให้นักเรียนดูเนือ้ หาของประโยคคำถาม และ
want to จากกรอบ Grammar ในหนงั สือเรียน หน้า 29
- ครูให้นกั เรยี นดูแบบฝึกหัด ข้อ A ในกิจกรรม Review 2 ในหนงั สือเรียน หน้า 44 โดยครูอ่านออกเสียงข้อ
1 พร้อมกบั บอกคำตอบที่ถูกต้อง หลงั จากน้ันครใู ห้นกั เรยี นอ่านบทสนทนาท้ังหมด และชว่ ยเหลือนักเรียน
เรื่องความหมายของคำศัพท์ที่นกั เรยี นไมท่ ราบ
- ครูให้นกั เรยี นอ่านบทสนทนาอีกครั้ง และให้นักเรยี นเติมคำในชอ่ งวา่ งของบทสนทนาด้วยคำที่ถูกต้อง

- ครูให้นักเรียนจบั คู่เพือ่ ตรวจคำตอบ และให้นกั เรียนแต่ละค่อู า่ นออกเสยี งบทสนทนา ถ้านักเรียนไม่เห็นดว้ ย
กับคำตอบที่เพือ่ นอ่าน ครูถามวา่ ทำไมจงึ เลอื กคำนั้นมาเติม ให้นักเรยี นบอกเหตุผล (ดเู ฉลยท้ายเล่ม)

- ครูให้นกั เรยี นจบั คเู่ ขียนบทสนทนาและนำเสนอบทสนทนาเหมือนกับบทสนทนาตัวอย่าง
- ครใู ห้นักเรยี นดแู บบฝึกหัด ข้อ B ในกิจกรรม Review 2 ในหนงั สือเรียน หน้า 44 ครูอ่านออกเสียงคำสั่ง

และอา่ นตวั อยา่ ง ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนถามถ้านกั เรียนไม่เข้าใจคำส่ัง และครูอธิบายเพิ่มเติมวา่ ภาพ
อาหารทีม่ ีเครือ่ งหมายกากบาททับอยู่หมายถึงไม่มอี าหารนั้นอยู่
- ครใู ห้นกั เรยี นดภู าพในหนงั สือเรียน หน้า 36 และให้นกั เรยี นทำงานเป็นคู่ และบอกชื่ออาหารทีน่ กั เรยี นเห็น
ในภาพ หลังจากน้ันครูให้นักเรยี นปิดหนังสือ ครใู ห้เวลานักเรยี นแต่ละคเู่ ขียนคำศัพทเ์ กีย่ วกับอาหารมาก
เท่าที่จะมากได้
- ครหู านักเรียนคู่ที่เขียนรายชือ่ อาหารไดม้ ากทีส่ ดุ ให้ออกไปเขียนบนกระดาน ให้เพื่อนในห้องเรียนช่วยกัน
ตรวจสอบความถูกต้อง
- ครใู ห้นักเรยี นเพิม่ เตมิ คำศัพท์ได้อีกและให้นักเรียนอ่านออกเสียงคำศพั ทต์ ามครู
- ครูทบทวนโครงสร้างไวยากรณ์เรื่อง Count/Non-count nouns ให้นักเรียนทบทวนจากกรอบ Grammar ใน
หนังสอื เรียน หน้า 35 ครูเขียนรายชือ่ อาหารบนกระดาน
- ครใู ห้นักเรยี นจับคู่ และเขียนคำนามที่เปน็ พหพู จน์ของคำนามนับไดบ้ นกระดานที่ครกู ำหนด ดงั นี้
- fry, bread, hamburger, rice, shrimp, cookie, orange
- ครูแบ่งกลุม่ นกั เรียน กลุม่ ละ 3-4 คน ให้นักเรียนแต่ละกลมุ่ ทำแบบฝึกหัด ข้อ B ทีเ่ หลอื อยู่ ตรวจคำตอบโดย
ให้นักเรียนออกไปเขียนคำตอบบนกระดาน และให้เพือ่ นรับรองความถกู ต้อง และช่วยกนั แก้ไขถา้ ไม่ถกู ต้อง
(ดูเฉลยท้ายเล่ม)
- ครูให้นักเรยี นเขียนประโยคเกี่ยวกับอาหารทีน่ ักเรยี นคิดว่ามี และไม่มีอย่ทู ีบ่ ้าน และให้นักเรยี นเปรยี บเทียบ
ผลงานการเขียนกบั เพือ่ นดูว่ามีอาหารอะไรบ้างที่บ้านมีเหมือนกัน
2. ทบทวนการใช้ Present Simple Tense และ Third Person Ending: –s, –es, –ies
- ครใู ห้นักเรยี นทบทวนรปู แบบของโครงสร้างไวยากรณ์ เรือ่ ง Present Simple Tense ทบทวนรปู แบบของ
คำกริยาและประโยคจากกรอบ Grammar ในหนังสือเรียน หน้า 41 ทบทวนประธานเอกพจน์บรุ ุษที่ 3 และ
การเติม –s หลังคำกริยา รวมท้ังประธานที่เปน็ สรรพนาม He/She และคำนามเอกพจน์
- ครูเขียนตารางหวั ข้อและคำกริยาบนกระดาน และให้นักเรียนอาสาสมัครออกไปเขียนคำกริยาที่เหมาะสม
กับประธาน โดยใช้โครงสร้างไวยากรณ์ เรื่อง Present Simple Tense บนกระดานดงั นี้

like eat
1. I___________ shrimp. 1. Paul ___________ eggs for breakfast.
2. Tanya_________ shrimp. 2. We __________ eggs for breakfast.

- ครูให้นักเรยี นคนอืน่ ในห้องช่วยกนั เฉลยวา่ เพือ่ นเขียนถูกต้องหรือไม่
- ครูให้นักเรียนดูแบบฝึกหัด ข้อ C ในกิจกรรม Review 2 ในหนังสือเรียน หน้า 45 ครูอ่านออกเสียง

ประโยคแรกพร้อมกับคำตอบโครงสร้าง Present Simple Tense ทีถ่ กู ต้อง และเขียนบนกระดานให้นักเรียน
ดเู ปน็ ตัวอย่าง ดังนี้
- Jun takes the dog for a walk every evening.
- ครใู ห้นกั เรยี นจับคู่ทำแบบฝึกหัด ข้อ C และตรวจคำตอบโดยให้นักเรยี นอา่ นออกเสียงประโยคที่สมบูรณ์ (ดู
เฉลยท้ายเล่ม)
- ครูให้นักเรยี นดแู บบฝึกหัด ข้อ D ในกิจกรรม Review 2 ในหนงั สือเรียน หน้า 45 ให้นักเรยี นดขู ้อมูลใน
ตาราง ครแู สดงความคิดเห็นเกีย่ วกับข้อมลู ในตาราง
- ครูอ่านออกเสียงคำถามแรกในแบบฝึกหัด ข้อ D พร้อมกบั คำตอบทีถ่ ูกต้อง ครูเขียนคำตอบเปน็ ตัวอยา่ งบน
กระดาน

- ครใู ห้นักเรียนจับคูต่ อบคำถามข้อที่เหลอื โดยใช้ขอ้ มูลในตารางเป็นคำตอบ ตรวจคำตอบพร้อมกนั ใน
ห้องเรียน (ดเู ฉลยท้ายเลม่ )

กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณ์ทางภาษา
- ครูให้นักเรียนจับคู่ฝึกเขียนเหมือนกับแบบฝึกหัด ข้อ B ในกิจกรรม Review 2 ในหนังสือเรียน หน้า 44
แนะนำให้นักเรยี นใช้ประธานทีห่ ลากหลาย เชน่ I, we, they, he, she, คำนามเอกพจน์ และพหูพจน์
- ครใู ห้นกั เรยี นทำแบบฝึกหัด ข้อ A, B และ C ในหนงั สือแบบฝึกหัด New World 2 หน้า 29 เพือ่ ฝึกทักษะ
เกี่ยวกับคำศพั ท์ (ดเู ฉลยท้ายเลม่ )
- ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึกหดั ข้อ D, E และ F ในหนงั สือแบบฝึกหดั New World 2 หน้า 30 เพื่อฝึกเกี่ยวกบั
Simple Present Tense (ดเู ฉลยท้ายเล่ม)

สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสือเรียน New World 2 หน้า 29, 35-36, 41, 44-45
2. หนงั สือแบบฝึกหัด New World 2 หน้า 29-30

ชั่วโมงที่ 2 : เร่อื ง Review 2
สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

ความรู้

- คำศพั ท์

กิจกรรม Focus on the World

- hive (n.): a place where bees live (รงั ผึ้ง)

- nectar (n.): the liquid that collects from flowers (น้ำหวานทีไ่ ด้จากดอกไม้)

- honey (n.): sweet sticky substance made by bees (น้ำผงึ้ )

- colony (n.): a group of animals living together (ฝูง)

- chemical (n.): substance produced by a process (กระบวนการทางเคมี)

- suck out (v.): to pull something out, often into one’s mouth (ดดู )

- pollen (n.): powder produced by the male part of a flower that causes the female part

produce flowers (ละอองเกสรดอกไม)้

- fructose/glucose (n.): a sweet sugar found in honey and many fruits (น้ำตาลจากน้ำผงึ้ และผลไม้)

- immune system (n.): functions and parts of the body in which your body fights illness

(ภูมิต้านทาน)

- remedy (n.): a medicine or action that cures an illness (ยารักษาโรค)

- diabetics (n.): a disease in which the body cannot control the amount of sugar in the

blood (โรคเบาหวาน)

- สำนวนภาษา

กิจกรรม Focus on the World

- As busy as a bee เป็นสำนวนหมายถึง ยงุ่ มาก

- หน้าทีภ่ าษา

-

- โครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์

-

กจิ กรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรม Focus on the World

1. นำเข้าสู่บทเรียน
- ครเู ขียนประโยคคำถาม What do you know about bees? บนกระดาน ให้นักเรยี นอา่ นและทำความเข้าใจ
คำถาม
- ครใู ห้นกั เรยี นจับกลุ่ม ระดมพลังสมองบอกขอ้ มูลที่นักเรยี นทราบเกี่ยวกบั ผึ้ง ครเู ขียนส่งิ ทีน่ กั เรียนบอกบน
กระดาน
- ครูเขียนสำนวนภาษาองั กฤษ “As busy as a bee” และให้นกั เรยี นแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั สำนวน
ดงั กล่าว และถามนกั เรียนว่าทราบความหมายของสำนวนดงั กล่าวหรือไม่ โดยใช้คำถาม
- Do you know what the phrase means? (very busy, always working)
- ครูให้นกั เรยี นเปิดหนงั สือเรียน หน้า 47 ให้นกั เรยี นดูรปู ภาพในกิจกรรม Focus on the World แล้วให้
นักเรยี นพูดแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั ส่งิ ทีน่ กั เรยี นเหน็ ในภาพ เช่น ผึ้งรวบรวมนำ้ หวานจากเกสรดอกไม้
และเกบ็ ไว้ในรังผึ้ง

2. แจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้

- ครูบอกนักเรยี นว่า ในหน่วยการเรียนรู้นีเ้ ป็นการทบทวนเกี่ยวกับความเข้าใจในการอา่ น นกั เรียนจะได้อา่ น
บทอ่านเกีย่ วกับผึ้ง สามารถวิเคราะหข์ ้อมูลของผึ้ง และมคี วามรเู้ กี่ยวกับสารอาหารทีม่ ใี นน้ำผงึ้

3. ฟงั และอา่ นบทอ่าน
- ครูให้เวลานกั เรยี นประมาณ 2-3 นาที สำหรบั อ่านเนือ้ หาบทอา่ นเรือ่ ง As busy as a bee ในหนงั สือเรียน
หน้า 47
- ครเู ปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 44 ให้นกั เรยี นฟงั และนักเรียนอ่านบทอ่านไปพร้อม ๆ กับซีดี
บันทึกเสยี ง
- ครูให้นักเรยี นบอกวา่ เรื่องที่นักเรยี นอ่าน เกีย่ วกับอะไร โดยครูใช้คำถาม
- Do you know what is the text about?
- ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนถามเกีย่ วกบั ความหมายคำศัพท์ที่นกั เรียนไมท่ ราบ และครอู ธิบายความหมาย
คำศพั ท์เพิม่ เติมโดยเขียนคำศพั ท์และความหมายเป็นภาษาองั กฤษบนกระดาน เช่น hive, nectar, honey,
colony, chemical, suck out, pollen เปน็ ต้น (ดขู ้อมูลคำศพั ท์)
- ครอู ธิบายความหมายของคำศัพทท์ ี่มผี ลต่อร่างกาย โดยเขียนบนกระดาน พร้อมกบั ความหมายทีเ่ ป็น
ภาษาองั กฤษ และให้นกั เรยี นเดาความหมายจากบรบิ ท เชน่ fructose/glucose, immune system, remedy,
diabetics เปน็ ต้น (ดขู ้อมูลคำศพั ท)์
- ครูให้นักเรยี นแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกบั ความรทู้ ี่ได้จากบทอา่ น

4. ตอบคำถามเกี่ยวกับบทอ่าน
- ครูและนกั เรยี นอา่ นประโยคในกิจกรรม About the Reading ข้อ A ในกิจกรรม Review 2 ในหนังสือเรียน
หน้า 47 และครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นถามถ้านกั เรยี นไม่เข้าใจความหมาย
- ครูให้นกั เรียนอ่านประโยคพร้อมกนั อีกครั้ง และให้นักเรียนเขียน true หรือ false ในชอ่ งว่างหน้าประโยคแต่ละ
ประโยค
- ครูตรวจคำตอบโดยให้นักเรียนอ่านออกเสียงประโยค และบอกว่า true หรือ false โดยให้นักเรียนชี้ส่วน
เนอื้ หาที่เปน็ คำตอบทีถ่ ูกต้องของคำถามแต่ละข้อ และครูให้นกั เรยี นแก้ไขขอ้ ที่ไม่ถูกต้องให้ถูกต้องด้วย (ดู
เฉลยท้ายเล่ม)
- ครูประเมินความเข้าใจโดยให้นกั เรียนตอบคำถามเพิ่มเติม ครูเขียนคำถามบนกระดาน และให้นักเรียนทำ
ความเข้าใจ ดงั นี้
- What are the three kinds of bees in a hive?
- Why do bees collect nectar?
- Why is honey a healthful food?
- ครูให้นักเรียนทำตารางขั้นตอนกระบวนการการผลิตน้ำผึ้ง ครูเขียนตารางบนกระดานและให้นักเรียนเติม
ข้อมลู ลงในตาราง ดงั นี้

Step 1: (A bee flies to flowers.)
Step 2: (A bee sucks nectar from the flower.)
Step 3: (A bee takes nectar to the hive.)
Step 4: (Bees in the hive change nectar into honey in its body.)

- ครูให้นกั เรยี นทำกิจกรรม About the Reading ข้อ B ในหนังสือเรียน หน้า 47
- ครอู ธิบายความหมายของ Idiomatic Expression ว่า หมายถึงกลุ่มคำที่มคี วามหมายแตกตา่ งไปจาก

ความหมายธรรมดา ตัวอย่างเช่น
- Be a piece of cake means something that is very easy.
- ครูอธิบายวา่ เราไม่สามารถจะแปล Idiomatic Expression ให้ตรงตามตวั อกั ษรได้

- ครใู ห้นักเรยี นอา่ นเนอื้ หาบทอ่านอีกคร้ัง และให้นกั เรยี นหาสำนวนจากบทอ่านท่เี กีย่ วกบั ผึ้งเพิ่มเตมิ อีก
ประมาณ 2 สำนวน (ดเู ฉลยท้ายเล่ม)

กจิ กรรม World Link

- ครูอา่ นคำสงั่ ในกิจกรรม World Link ในกิจกรรม Review 2 ในหนังสือเรียน หน้า 47 ให้นักเรียนฟัง และ
เปิดโอกาสให้นกั เรยี นถามถ้านักเรียนไมเ่ ข้าใจ หรือสงสัย

- ครูให้นักเรียนทำงานเป็นกลุ่ม กลุม่ ละ 3-4 คน และครกู ระตุ้นให้นกั เรียนใช้อินเทอร์เนต็ ในการค้นคว้าข้อมลู
ข้อเทจ็ จริงเกี่ยวกบั ผึ้ง และใช้หัวข้อ “Facts about bees” ในการค้นคว้า หรือนกั เรียนสามารถค้นคว้าข้อมูล
จากหนังสือทีเ่ ป็นภาษาไทยและภาษาองั กฤษ

- ครใู ห้แต่ละกลุ่มทำรายการข้อมลู ขอ้ เทจ็ จรงิ ที่นา่ สนใจเกี่ยวกับผึ้ง ให้นกั เรยี นแต่ละกลุม่ รายงานผลงาน
การค้นคว้าแก่ครูและเพือ่ นในห้องเรียน และให้นักเรยี นกลมุ่ อืน่ ถามข้อมูลเพ่มิ เติมได้

กจิ กรรม Speaking

- ครูให้นักเรียนทำความเข้าใจคำถามในกิจกรรม Speaking ในกิจกรรม Review 2 ในหนังสือเรยี น หน้า 47
- ครูแบง่ กล่มุ นักเรยี น กลมุ่ ละ 3-4 คน ครพู ยายามกระตนุ้ ให้นกั เรียนตอบคำถามจากข้อมลู ที่นกั เรยี น

ทราบ โดยใช้คำถามและประโยค ดงั นี้
- Do bees help many flowers and plants reproduce, or make more flowers?
- They take pollen from one flower to another, which helps flowers reproduce.
- Bees are important because we need plants with flowers.

กจิ กรรม Time for a Song

1. ฟังและอา่ นบทเพลง
- ครูให้นกั เรยี นดูกิจกรรม Time for a Song ในกิจกรรม Review 2 ในหนังสือเรียน หน้า 48 ครูบอกนักเรยี น
ว่านกั เรยี นจะได้ฟังเพลง A Day in My Life ครใู ห้นักเรยี นทายว่าในเนอื้ เพลงทีน่ กั เรยี นจะได้ฟงั น่าจะ
ประกอบไปด้วยข้อมลู และกจิ กรรมอะไรบ้าง
- ครใู ห้นักเรยี นดูรูปภาพในกิจกรรม Time for a Song และถามนักเรียนวา่ เด็กผู้หญงิ ในภาพกำลังทำอะไร
โดยใช้คำถาม
- What is the teen doing? (She’s waking up.)
- ครูอา่ นออกเสียงเนอื้ เพลงให้นกั เรยี นฟัง ครอู ธิบายความหมายของคำศัพทใ์ หม่ และสำนวนภาษา เชน่
- tub = a large container that people fill with water and wash themselves in (อ่างอาบนำ้ )
- turn off the light = stop the supply of electricity so that the light no longer shines (ปิดไฟ)
- ครเู นน้ ย้ำให้นกั เรยี นใช้ Simple Present Tense ในการอธิบาย เกีย่ วกับอปุ นิสัย และกิจวตั รประจำวนั
- ครเู ปิดซีดีบันทึกเสียง CD 1 Track 45 เนอื้ หาเพลง A Day in My Life ให้นักเรยี นฟงั 2 เทีย่ ว เพื่อให้นักเรยี น
เรียนรู้จงั หวะและทำนองเพลง
- ครเู ปิดซีดีบนั ทึกเสียงให้นักเรยี นฟงั อีกคร้ัง และคร้ังนคี้ รใู ห้นักเรยี นแสดงทา่ ทางที่ปรากฏในเนื้อเพลง
- ครเู ปิดซีดีบันทึกเสียงอีกครั้ง ให้นักเรยี นร้องเพลงและแสดงทา่ ทางประกอบไปพร้อม ๆ กัน
- ครูเปิดซีดีบันทึกเสียงอีกครั้ง และครเู ชิญชวนให้นักเรยี นทุกคนร้องเพลง
- ครใู ห้นกั เรยี นลองแต่งเนอื้ เพลงที่ใช้ทำนองเหมือนเพลงตวั อย่าง เกีย่ วกบั กิจกรรมในแต่ละวันของนักเรียน
และให้นักเรยี นอา่ นเนือ้ เพลงที่นักเรยี นแต่งให้เพือ่ นในชั้นเรียนฟงั

2. ตอบคำถามเกีย่ วกบั บทเพลง
- ครูให้นกั เรยี นดูแบบฝึกหัด ข้อ A ในกิจกรรม Review 2 ในหนังสือเรียน หน้า 48 ครอู า่ นทกุ คำ และเปิด
โอกาสให้นักเรยี นถามถ้านกั เรียนไม่เข้าใจ หลังจากนั้นครใู ห้นักเรยี นอ่านเนอื้ เพลงอีกคร้ัง และให้นกั เรยี น
หาคำในเนือ้ เพลง
ทีม่ ีความหมายเหมือนกับแตล่ ะคำในแบบฝึกหดั ข้อ A

- ครูตรวจคำตอบโดยให้นักเรียนอ่านคำที่นกั เรียนค้นพบ ถ้านักเรียนไม่สามารถหาคำทีม่ ีความหมายเหมือน ครู
ชว่ ยเหลอื โดยการบอกตำแหนง่ ที่คำ หรือประโยคบริบทที่ปรากฏอย่ใู นเนือ้ เพลง

- ครูให้นักเรยี นดูเนอื้ เพลง และให้นักเรียนหากิจกรรมประจำวันทีป่ รากฏอยใู่ นเนือ้ เพลง ครเู ขียนกิจกรรมบน
กระดาน

- ครใู ห้นักเรยี นแสดงความคิดเหน็ เกีย่ วกบั กิจกรรมท้ังหมด ให้นักเรยี นบอกกจิ กรรมอะไรเปน็ กิจกรรมที่ดี
ที่สุด

- ครูให้นกั เรยี นดแู บบฝึกหดั ข้อ B ในกิจกรรม Review 2 ในหนังสือเรียน หน้า 48 ครูและนักเรียนอา่ นออก
เสยี งประโยคทกุ ขอ้ และครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นถามถ้านักเรยี นไมเ่ ข้าใจ

- ครูให้นกั เรยี นอา่ นประโยคเองอีกครั้ง และให้นกั เรยี นเขียน true หรือ false ในชอ่ งว่างแต่ละประโยค
- ตรวจคำตอบร่วมกันท้ังช้ัน และครใู ห้นกั เรยี นแก้ไขขอ้ ทีผ่ ิดให้ถูกต้อง

กจิ กรรมเสริมทกั ษะ/ประสบการณท์ างภาษา

- ครใู ห้นักเรยี นทำแบบฝึกหดั ข้อ G ในหนังสือแบบฝึกหดั หน้า 31 เพือ่ ฝึกเกีย่ วกับคำศพั ท์เพิ่มเตมิ
- ครูให้นกั เรยี นทำแบบฝึกหดั ข้อ H และ I ในหนังสือแบบฝึกหดั New World 2 หน้า 32 เพอื่ ฝึกเกี่ยวกับ

Simple Present Tense และ Adverbs of Frequency

สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้

1. หนังสือเรียน New World 2 หน้า 47-48
2. หนังสือแบบฝึกหัด New World 2 หน้า 31-32
3. ซีดีบนั ทึกเสียง
4. เคร่อื งเลน่ ซีดี

ช่ัวโมงที่ 3 : เรอ่ื ง Review 2

สาระการเรยี นรู้ (Learning Contents)

ความรู้

- คำศัพท์
-

- สำนวนภาษา
-

- หน้าที่ภาษา
-

- โครงสรา้ งประโยค/ไวยากรณ์
-

กจิ กรรมการเรยี นรู้

กจิ กรรม Vocabulary Builder

1. ทบทวนคำศพั ท์
- ครใู ห้นักเรยี นทบทวนคำศพั ท์เกี่ยวกบั กิจกรรมที่ทำทุกวนั เช่น study, talk on the phone, do the laundry
เป็นต้น
- ครบู อกนกั เรยี นให้ดรู ูปภาพและกลุ่มคำเกี่ยวกบั กิจกรรมในแบบฝึกหดั ข้อ A ในกิจกรรม Review 2 ใน
หนังสือเรียน หน้า 46 แล้วให้นกั เรยี นใสห่ มายเลขของรปู ภาพให้ตรงกบั กิจกรรมเหลา่ นั้น
- ครูตรวจคำตอบโดยให้นกั เรียนอาสาสมัครตอบคำถามบอกว่าภาพใดตรงกับกิจกรรมใด (ดเู ฉลยท้ายเล่ม)
- ครูให้นักเรียนเขียนกิจกรรมที่ตนทำในแต่ละวัน โดยดูจากรูปภาพเปน็ แนวทาง หลังจากนั้นให้นกั เรียน
รวบรวมจำนวนกิจกรรมวา่ ใครมีกจิ กรรมที่ต้องทำในแต่ละวนั มากทีส่ ุด
- ครใู ห้นกั เรยี นดแู บบฝึกหัด ข้อ B ในกิจกรรม Review 2 ในหนงั สือเรียน หน้า 46
- ครใู ห้นักเรยี นดูรูปภาพกิจกรรมในแบบฝึกหัด ข้อ A เพื่อเป็นแนวทางเพือ่ เรียงลำดับกิจกรรมทีต่ นเองทำใน
1 วนั
- ครใู ห้นกั เรยี นระบุชว่ งเวลาในการทำกิจกรรมนั้น ๆ ดว้ ย คือ morning, afternoon หรือ night

กจิ กรรม Self-Test

1. ทดสอบความรู้ในหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4-6
- ครูบอกให้นักเรยี นทบทวนเกี่ยวกับเนอื้ หาที่เรยี น ถามนกั เรยี นว่านักเรยี นได้เรียนอะไรบ้างในหน่วยการ
เรียนรู้ที่ 4-6 แล้วให้นกั เรยี นเปิดหนงั สือเรียนเพื่อตรวจสอบคำตอบ
- ครูบอกนกั เรยี นวา่ จะทดสอบความรู้ในบทเรียนที่เรียนแล้วเพื่อนักเรียนจะได้ทราบความก้าวหน้าของ
ตนเอง นกั เรยี นต้องการจะทบทวนเรอ่ื งใดกอ่ นทดสอบบ้าง
- ครูให้นกั เรยี นเปิดหนงั สือเรียนเพื่อทบทวนบทเรียนในหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 ถึง 6 ดงั นี้
- ทบทวนคำศัพทแ์ ละสำนวนโดยดูจากกิจกรรม New Language ในตอนเริ่มต้นของแต่ละหนว่ ยการเรียนรู้
และ Vocabulary List ในตอนท้ายของหนงั สือเรียน หน้า 106-107
- ทบทวน Useful Language โดยดจู ากคำถามและคำตอบในกิจกรรม Practice
- ทบทวนไวยากรณโ์ ดยดูจากกรอบ Grammar ในแตล่ ะหน่วยการเรียนรู้
- ทบทวนคำพดู ท่ใี ช้ในการสนทนาจากกจิ กรรม Conversation
- ครใู ห้นกั เรียนทำกิจกรรม Self-Test ในหนงั สอื เรียน หน้า 49 โดยให้เวลานักเรียน 10-15 นาที ตามระดับ
ความสามารถของนักเรยี น

- ครูให้นักเรียนตรวจให้คะแนนตนเองโดยตรวจจากเฉลยคำตอบในตอนท้ายของหนงั สอื เรียน หน้า 108 และ
ให้นกั เรียนดูเกณฑข์ องผลคะแนนทีไ่ ดโ้ ดยเปรียบเทียบกบั เกณฑใ์ นหนังสือเรียน หน้า 49 ตอนลา่ ง

- ให้นักเรยี นทบทวนเพือ่ ทำความเข้าใจให้ถูกต้องในกรณีตอ่ ไปนี้
- Self-Test A เมื่อนักเรียนตอบผิดตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป ให้กลับไปทบทวนโครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ใน
กรอบ Grammar ในหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6
- Self-Test B เมื่อนักเรียนตอบผิดตั้งแต่ 2 ข้อขึ้นไป ให้กลับไปทบทวนโครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ใน
กรอบ Grammar ในหน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรื่อง Simple Present Tense, Adverbs of Frequency
- Self-Test C เมื่อนกั เรียนตอบผิดต้ังแต่ 2 ข้อขนึ้ ไป ให้กลับไปทบทวนคำศัพท์ในหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 และ
ทบทวนโครงสร้างประโยค/ไวยากรณ์ ในกรอบ Grammar ในหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 และ 5

กจิ กรรมเสริมทักษะ/ประสบการณ์ทางภาษา

-

สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้

1. หนงั สือเรียน New World 2 หน้า 46, 49

บนั ทึกผลหลงั แผนการจัดการเรยี นรู้

1. ผลการเรยี นรู้

1.1 ดา้ นความรู้ (K)

ตารางที่ 1 แสดงคา่ ร้อยละระดับผลสมั ฤทธิท์ างการเรียน เรื่อง ...................................................

ระดับผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนกั เรยี น รอ้ ยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรบั ปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 1 พบวา่ นักเรียนผลสัมฤทธิท์ างการเรียน ร้อยละ................อยใู่ นระดบั ..........และ
รองลงมารอ้ ยละ.................อยูใ่ นระดบั ...............และพบว่านกั เรียน....................................................
............................................................................................................................................................

1.2 ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P )

ตารางที่ 2 แสดงคา่ ร้อยละระดับผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น เรื่อง ..................................................

ระดับผลสัมฤทธิ์ จำนวนนักเรยี น ร้อยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรับปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 2 พบว่านักเรียนผลสมั ฤทธิท์ างการเรยี น ร้อยละ................อยูใ่ นระดบั ..........และ

รองลงมารอ้ ยละ.................อยใู่ นระดบั ................และพบว่านกั เรียน

.............................................................................................................................................................

1.3 ดา้ นเจตคติ / คณุ ลักษณะฯ (A)/ สมรรถนะ (C) เชื่อมโยงกบั มาตรฐานหลกั สูตร

ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เรือ่ ง ............................................

ระดับผลสมั ฤทธิ์ จำนวนนกั เรยี น รอ้ ยละ

ดมี าก (80-100 คะแนน)

ดี (70-79 คะแนน)

พอใช้ (60-69 คะแนน)

ปรบั ปรงุ (50-59 คะแนน)

จากตารางที่ 3 พบวา่ นักเรียนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ร้อยละ..............อยู่ในระดับ............
และรองลงมารอ้ ยละ.................อยูใ่ นระดับ...............และพบว่านกั เรียน.....................................................
..................................................................................................................................................................

สรุป ผลการใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่ …………………………..
1) นักเรยี นมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอย่ใู นระดบั ...................
2) นกั เรยี นมีทักษะในระดับ..................
3) นักเรยี นมีคณุ ลักษณะในระดบั ...............

2. บรรยากาศการเรยี นรู้

............................................................................................................................... ...................................................................
..................................................................................................................................................................................................

3. การปรับเปลีย่ นแผนการจัดการเรยี นรู้ (ถ้ามี)

............................................................................................................................. .....................................................................
..................................................................................................................................................................................................

4. ข้อค้นพบด้านพฤติกรรมการจัดการเรยี นรู้

............................................................................................................................. .....................................................................
..................................................................................................................................................................................................

5. อืน่ ๆ....................................................................................................................................................

ปญั หา/สิ่งทีพ่ ัฒนา / แนวทางแกป้ ญั หา / แนวทางการพัฒนา

ปญั หา/สิง่ ที่พฒั นา สาเหตุของปญั หา/ แนวทางแก้ไข/ วิธีแก้ไข/พฒั นา ผลการแก้ไข/พัฒนา
สง่ิ ทีพ่ ัฒนา พัฒนา

รับทราบผลการดำเนนิ การ ลงชื่อ............................................. ผู้สอน
(นางสาวอังคณา ทับลอ้ ม)

ลงชื่อ.................................................
(นางสาวองั คณา ทบั ลอ้ ม)

หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ

ลงชื่อ............................................
( นายชาญยุทธ สุทธธิ รานนท์ )

รองผู้อำนวยการกลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ

ลงชื่อ...........................................
( นายวีระ แก้วกัลยา )

ผู้อำนวยการโรงเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 จังหวัดเพชรบุรี