สรุปผลการดำ เนินงาน คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำ และติดตามการบริหารงบประมาณ สมัย นายไชยา พรหมา ระหว่างปีพ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๖ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดทำ และติดตามการบริหารงบประมาณ สำ นักกรรมาธิการ ๑ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕
รายงานสรุปผลการด าเนินงาน คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖ ปีที่จัดพิมพ์ มิถุนายน ๒๕๖๖ พิมพ์ที่ ส านักการพิมพ์ ส านักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จ านวนหน้า ๑๗๓ หน้า รวบรวมและจัดท าโดย กลุ่มงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ ส านักกรรมาธิการ ๑ ตรวจทานโดย นายวิทยา จิตบุญ ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานคณะกรรมาธิการ ศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ โทร. ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ ต่อ ๖๑๖๑ เลขที่ ๑๑๑๑ ส านักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร ๑๐๓๐๐
ก ตามที่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๒๑ (สมัยสามัญประจ าปี ครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๒ ประกอบข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อที่ ๙๐ ซึ่งที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงมติตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตาม การบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร อันประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ านวน ๑๕ คน เพื่อพิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลในด้านงบประมาณ การจัดท างบประมาณ ติดตามและประเมินผลการรับ การใช้จ่ายเงินงบประมาณประจ าปี ของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ นั้น จากหน้าที่และอ านาจดังกล่าว คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหาร งบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ได้มีการด าเนินการตามหน้าที่และอ านาจ นับตั้งแต่วันพุธที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๒ โดยได้ด าเนินการภารกิจส าคัญ ได้แก่ การประชุมคณะกรรมาธิการ การจัดสัมมนา และการเดินทางศึกษาดูงานทั้งในประเทศและในต่างประเทศ โดยได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ประชุมเพื่อรับทราบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แล้วน ามาศึกษารวบรวม จัดท าเป็นรายงานพร้อม ข้อสังเกตและข้อเสนอแนะเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรและรัฐบาล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบและ พิจารณาด าเนินการต่อไป จากการด าเนินงานของคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหาร งบประมาณที่ผ่านมา กลุ่มงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ ได้รวบรวมและจัดท าเป็นรายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง สรุปผลการด าเนินงานของ คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร และหวังว่า รายงานผลการพิจารณาศึกษาเล่มนี้จะเกิดประโยชน์ต่อการศึกษา ค้นคว้า ส าหรับผู้สนใจเกี่ยวกับ การด าเนินงานตามภารกิจของคณะกรรมาธิการสืบไป กลุ่มงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ ส านักกรรมาธิการ ๑ ส านักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ค ำน ำ
ข หน้า ค าน า ก สารบัญ ข รายนามคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ ค – ฉ สรุปผลการด าเนินงานของคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและ ติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ๑ ๑.การประชุมคณะกรรมาธิการ ๑ ๒.การเดินทางไปศึกษาดูงานและการจัดสัมมนาของคณะกรรมาธิการ ๑๕๙ ๓.คณะอนุกรรมาธิการและคณะท างาน ๑๖๙ ๔. หนังสือที่คณะกรรมาธิการมีมติเสนอข้อสังเกตถึงหน่วยงานต่าง ๆ ๑๗๑ ภาคผนวก ภาคผนวก ก หนังสือตั้งคณะกรรมาธิการสามัญประจ าสภา โดยตั้งคณะกรรมาธิการ ศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ภาคผนวก ข รายนามคณะอนุกรรมาธิการ ภาคผนวก ค รายนามคณะที่ปรึกษาของคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและ ติดตามการบริหารงบประมาณ ภาคผนวก ง รายนามฝ่ายเลขานุการคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและ ติดตามการบริหารงบประมาณ สารบัญ
ค สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ รายนาม คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร สมัย นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการ นายไชยา พรหมา ประธานคณะกรรมาธิการ นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สี่ พลต ารวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ นายธีระ วงศ์สมุทร รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ห้า ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ
ง สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ นายสุภดิช อากาศฤกษ์ นายนิยม เวชกามา ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ เลขานุการคณะกรรมาธิการ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ กรรมาธิการ โฆษกคณะกรรมาธิการ สรุปผลการด าเนินงานของคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร (สมัย นายไชยา พรหมา) ระหว่างปี ๒๕๖๒ – ๒๕๖๖ ตามที่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๒๑ (สมัยสามัญประจ าปี ครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๖๒ ที่ประชุมได้มีมติตั้งคณะกรรมาธิการสามัญ ประจ าสภา ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๐ และ ได้มีกรรมาธิการคณะนี้ ประกอบด้วย ๑) นายประสงค์ บูรณ์พงศ์ ๒) พลต ารวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ ๓) นายธีระ วงศ์สมุทร ๔) นายนิยม เวชกามา
จ สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ๕) พันต ารวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ ๖) นายสุรทิน พิจารณ์ ๗) นายไชยา พรหมา ๘) นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช ๙) นายทายาท เกียรติชูศักดิ์ ๑๐) นายสมพงษ์ โสภณ ๑๑) นายสุภดิช อากาศฤกษ์ ๑๒) นายการุณ โหสกุล ๑๓) นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ๑๔) นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ๑๕) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการได้มีการประชุมครั้งแรก ในวันพฤหัสบดีที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๒ อนึ่ง พันต ารวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ได้พ้นจากกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการ ศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ เพราะสมาชิกภาพสิ้นสุดลง เป็นผลให้ ต าแหน่งกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการว่างลง ในคราวประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๒๕ (สมัยสามัญประจ าปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ ได้มีมติเห็นชอบ ให้ตั้ง นายมณเฑียร สงฆ์ประชา เป็นกรรมาธิการแทนต าแหน่งที่ว่างลง นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ได้พ้นจากกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการศึกษา การจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ เพราะสมาชิกภาพสิ้นสุดลง เป็นผลให้ต าแหน่ง กรรมาธิการในคณะกรรมาธิการว่างลง ในคราวประชุม สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๔ ครั้งที่ ๑๐ (สมัยสามัญประจ าปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๕ ได้มีมติเห็นชอบ ให้ตั้ง นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ เป็นกรรมาธิการแทนต าแหน่งที่ว่างลง นายทายาท เกียรติชูศักดิ์ ได้พ้นจากกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการศึกษา การจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ เพราะสมาชิกภาพสิ้นสุดลง เป็นผลให้ต าแหน่ง กรรมาธิการในคณะกรรมาธิการว่างลง ในคราวประชุม สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๔ ครั้ง ที่ ๑๕ (สมัยสามัญประจ าปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ ได้มีมติเห็นชอบ ให้ตั้ง นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เป็นกรรมาธิการแทนต าแหน่งที่ว่างลง นายการุณ โหสกุล ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๖ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๐๑ (๓) ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ จึงมีผลให้พ้นจากต าแหน่งกรรมาธิการ นายมณเฑียร สงฆ์ประชา ได้พ้นจากกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการศึกษา การจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ เพราะสมาชิกภาพสิ้นสุดลง เป็นผลให้ต าแหน่ง กรรมาธิการในคณะกรรมาธิการว่างลง ในคราวประชุม สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๔
ฉ สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ครั้งที่ ๒๓ (สมัยสามัญประจ าปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๖ ได้มีมติเห็นชอบ ให้ตั้ง นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล เป็นกรรมาธิการแทนต าแหน่งที่ว่างลง นายสุรทิน พิจารณ์ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๐๑ (๓) ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ จึงมีผลให้พ้นจากต าแหน่งกรรมาธิการ นายประสงค์ บูรณ์พงศ์ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๐๑ (๓) ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ จึงมีผลให้พ้นจากต าแหน่งกรรมาธิการ นายสมพงษ์ โสภณ ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๐๑ (๓) ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ จึงมีผลให้พ้นจากต าแหน่งกรรมาธิการ นายชัยทิพย์ กมลพันธ์ทิพย์ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่ วันที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๖ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๐๑ (๓) ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ จึงมีผลให้พ้นจากต าแหน่งกรรมาธิการ นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่ วันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๖๖ เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๐๑ (๓) ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ จึงมีผลให้พ้นจากต าแหน่งกรรมาธิการ บัดนี้ คณะกรรมาธิการได้กระท ากิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษา เรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลในด้านงบประมาณ การจัดท างบประมาณ ติดตามและ ประเมินผลการรับ การใช้จ่ายเงินงบประมาณประจ าปีของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และ รัฐวิสาหกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงขอรายงานผลการพิจารณาศึกษาดังกล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎร ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๑๐๔ และข้อ ๑๐๕ ดังนี้
การประชุม คณะกรรมาธิก ธิ าร ชุดที่ 25
คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ได้กระท ากิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับนโยบายของ รัฐบาลในด้านงบประมาณ การจัดท างบประมาณ ติดตามและประเมินผลการรับ การใช้จ่ายเงิน งบประมาณประจ าปีของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖ จ านวน ๑๒๗ ครั้ง โดยมีเรื่องที่ผ่านการพิจารณา ของคณะกรรมาธิการ ดังนี้ ครั้งที่ ๑ วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ กันยายน ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาเลือกตั้งต าแหน่งต่าง ๆ ในคณะกรรมาธิการ และพิจารณาก าหนดวัน เวลา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ” นางอารยะหญิง จอมพลาพล ต าแหน่ง ผู้อ านวยการส านักกรรมาธิการ ๑ ซึ่งได้รับมอบหมาย จากเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรให้ปฏิบัติหน้าที่แทน ได้กล่าวเชิญ นายประสงค์ บูรณพงศ์ กรรมาธิการ ผู้มีอายุสูงสุดซึ่งมาประชุม เข้าปฏิบัติหน้าที่ประธานชั่วคราวของที่ประชุม เพื่อด าเนินการประชุม เลือกตั้งต าแหน่งต่าง ๆ ในคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ ดังนี้ ๑. พิจารณาเลือกตั้งต าแหน่งต่าง ๆ ในคณะกรรมาธิการ ๑) นายไชยา พรหมา เป็นประธานคณะกรรมาธิการ ๒) พันต ารวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนึ่ง ๓) นายการุณ โหสกุล เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สอง ๔) นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สาม ๕) นางสาวมัลลิกา จิระพันธุ์วาณิช เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สี่ ๖) พลต ารวจตรี สุรินทร์ ปาลาเร่ เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ห้า ๗) นายนิยม เวชกามา เป็นเลขานุการคณะกรรมาธิการ ๘) นายสมพงษ์ โสภณ เป็นผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมาธิการ ๙) นายทายาท เกียรติชูศักดิ์ เป็นโฆษกคณะกรรมาธิการ ๑๐) นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นโฆษกคณะกรรมาธิการ ๑๑) นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ เป็นโฆษกคณะกรรมาธิการ ๑๒) นายประสงค์ บูรณพงศ์ เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ๑๓) นายธีระ วงศ์สมุทร เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ๑๔) นายสุภดิช อากาศฤกษ์ เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ๑๕) นายสุรทิน พิจารณ์ เป็นที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ การประชุมคณะกรรมาธิการ
- ๒ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ๒. พิจารณาก าหนดวัน เวลา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ ที่ประชุมได้มีมติให้มีการประชุมคณะกรรมาธิการเป็นประจ าทุกวันพุธ ของสัปดาห์ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา ครั้งที่ ๒ วันศุกร์ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “งบประมาณของคณะกรรมาธิการประจ าปี พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อด าเนินกิจการ ของคณะกรรมาธิการก่อนสิ้นปีงบประมาณ เดือนกันยายน ๒๕๖๒” ที่ประชุมได้มีการพิจารณางบประมาณของคณะกรรมาธิการประจ าปี พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อด าเนินกิจการของคณะกรรมาธิการ ประชุมพิจารณาเห็นควรบริหารจัดการงบประมาณของ คณะกรรมาธิการให้เกิดประโยชน์มีความคุ้มค่า เหมาะสมตามหน้าที่และอ านาจของ คณะกรรมาธิการตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๐ (๑๔) ซึ่งก าหนดให้คณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ มีหน้าที่และ อ านาจกระท ากิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับนโยบาย
- ๓ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ รัฐบาลในด้านงบประมาณ การจัดท างบประมาณ ติดตามและประเมินผลการรับ การใช้จ่าย งบประมาณประจ าปีของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจ ภารกิจของ คณะกรรมาธิการ ในการศึกษาดูงานและจัดสัมมนาเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับภายใต้อ านาจ หน้ าที่ของคณ ะก รรม าธิการศึกษ าก ารจัดท าและติดต ามการบ ริห ารงบป ระม าณ สภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาหลักเกณฑ์ในการด าเนินภารกิจของ คณะกรรมาธิการ โดยในการศึกษาดูงานจะด าเนินการติดตามการบริหารงบประมาณของ หน่วยงานของรัฐ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ – ๒๕๖๓ ส าหรับในการจัดสัมมนาควร เป็นการสร้างความรู้ ความเข้าใจที่ดี ให้แก่กลุ่มเป้าหมายเกี่ยวกับการจัดท างบประมาณ และการติดตามการบริหารงบประมาณ ครั้งที่ ๓ วันพุธที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “กรอบแนวทางในการด าเนินกิจการของคณะกรรมาธิการ” ที่ประชุมได้พิจารณากรอบแนวทางในการด าเนินกิจการของคณะกรรมาธิการศึกษา การจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สรุปรายละเอียดว่า ควรก าหนดกรอบ การด าเนินการให้ชัดเจน ในเบื้องต้นคณะกรรมาธิการควรจะพิจารณาศึกษาตามหน้าที่และอ านาจ ของคณะกรรมาธิการเพื่อเป็นการขับเคลื่อนภารกิจของคณะกรรมาธิการให้ครอบคลุมทุกมิติ ส าหรับการแต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการจะแต่งตั้งตามภารกิจ เพื่อให้เกิดความคล่องตัว ในการด าเนินงานจะก าหนดระยะเวลาในการพิจารณาศึกษาของคณะอนุกรรมาธิการ และเมื่อ คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาแล้วเสร็จจะต้องรายงานผลการศึกษาต่อคณะกรรมาธิการ นอกจากนั้น ในการด าเนินกิจการของคณะกรรมาธิการจะต้องตรวจสอบการใช้งบประมาณ อย่างโปร่งใส คุ้มค่า ไม่ซ้ าซ้อน ผลักดันความเป็นรัฐโปร่งใส โดยติดตามให้หน่วยงานเปิดเผย ข้อมูลเป็นปกติปกปิดเป็นข้อยกเว้น ในรูปแบบที่ประชาชนน าไปใช้ประโยชน์ได้ง่าย ครั้งที่ ๔ วันพุธที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “ประมาณการรายได้ ก าหนดนโยบาย วงเงินงบประมาณรายจ่าย และ โครงการงบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓” ที่ประชุมได้พิจารณาสรุปที่มาของรายได้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ รวมรายได้จัดเก็บประมาณการรายได้ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ เป็นเงิน ๓,๒๓๗,๕๐๐ ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จ านวน ๒๐๔,๙๐๐ ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๖.๘ และ เมื่อรวมรายได้จากการคืนภาษีของกรมสรรพากร อากรถอนคืนกรมศุลกากร การจัดสรรรายได้ จากภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด และเงินกันชดเชยภาษีส าหรับสินค้าส่งออก รวมรายได้สุทธิ ประมาณการในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จ านวน ๒,๖๗๓,๐๐๐ ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จ านวน ๒,๘๖๒,๐๐๐ บาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จ านวน ๑๘๙,๐๐๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๗.๑ ซึ่งที่ประชุมขอทราบวิธีการ
- ๔ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ประมาณการ รายละเอียดเกี่ยวกับการประมาณการรายได้รายได้ที่จัดเก็บได้จริงย้อนหลัง ๕ ปี ข้อมูลรายละเอียดการจัดเก็บของแต่ละหน่วยงาน ขั้นตอนการจัดท าร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจ าปี การจ าแนกตามประเภทภาษี รายละเอียดปัญหาหนี้ครัวเรือนและ แนวนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย นอกจากนั้น คณะกรรมาธิการยังให้ความสนใจศึกษา และติดตามการบริหารงบประมาณของกองทุน และงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ทั้งนี้ พบว่าการบริหารงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดก่อนสิ้นปีงบประมาณมีการเร่งรัด ด าเนินการในระยะเวลาที่จ ากัด งบประมาณจ านวนมากไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันเกิดปัญหา ในการบริหารงบประมาณ ครั้งที่ ๕ วันพุธที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาการจัดท างบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ รายละเอียดแผนงาน/โครงการ และงบกลาง รายการส ารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจ าเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ จ านวน ๑๕,๘๐๐ ล้านบาท รายจังหวัด ๗๔ จังหวัด” ที่ประชุมพิจารณาได้ข้อมูลว่ากระทรวงมหาดไทยมีงบประมาณที่ขอรับ การจัดสรรงบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จ านวน ๔๑๒,๐๐๐ ล้านบาทเศษ ซึ่งแบ่งเป็น ๑. กระทรวงมหาดไทย จ านวน ๓๕๓,๐๐๐ ล้านบาทเศษ ประกอบด้วย ๑.๑ ส านักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ๑.๒ กรมการปกครอง ๑.๓ กรมการพัฒนาชุมชน ๑.๔ กรมที่ดิน ๑.๕ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ๑.๖ กรมโยธาธิการและผังเมือง ๑.๗ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ๒. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ านวน ๕๕,๐๐๐ ล้านบาทเศษ ประกอบด้วย ๒.๑ กรุงเทพมหานคร ๒.๒ เมืองพัทยา ๒.๓ องค์การบริหารส่วนจังหวัด ๗๖ แห่ง ๓. รัฐวิสาหกิจ จ านวน ๔,๐๐๐ ล้านบาทเศษ ประกอบด้วย ๓.๑ การประปาส่วนภูมิภาค ๓.๒ องค์การจัดการน้ าเสีย ๓.๓ องค์การตลาด ๔. กองทุนหมุนเวียนเพื่อการพัฒนา จ านวน ๔๐ ล้านบาท ประกอบด้วย ๔.๑ กองทุนสตรี ๔.๒ กองทุนจัดรูปที่ดินเพื่อการพัฒนาพื้นที่ ส่วนแผนงาน/โครงการ งบกลางรายการส ารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและจ าเป็น พ.ศ. ๒๕๖๒ จ านวน ๑๕,๘๐๐ ล้านบาท เพื่อด าเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ของประชาชนในพื้นที่อันเนื่องมาจากปัญหาภัยพิบัติแล้งและอุทกภัยในจังหวัด สรุปวงเงินค าขอที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริหารจังหวัดแบบบูรณาการ จ านวน ๑๘,๙๕๔ โครงการ วงเงินทั้งสิ้น ๑๓,๗๕๗.๐๐๐๙ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๗.๐๗ ของกรอบวงเงินที่ได้รับจัดสรร ยังมีวงเงินคงเหลือคืนส านักงบประมาณ จ านวน ๒,๐๔๒.๙๙๙๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๒.๙๓ ของกรอบวงเงินที่ได้รับจัดสรร ที่ประชุมพิจารณารายละเอียดหลักเกณฑ์ในการเบิกจ่าย และการตรวจสอบ การบริหารงบประมาณ รายละเอียดค าขอรับการจัดสรรงบประมาณของการประปาส่วนภูมิภาค ซึ่งมีจ านวนน้อยลง การสนับสนุนงบประมาณให้กับองค์กรปกครองท้องถิ่นในภารกิจ
- ๕ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ที่ถ่ายโอนความรับผิดชอบ กรณีการจัดซื้อจัดจ้าง วงเงินไม่เกิน ๕๐๐,๐๐๐ บาทต่อโครงการ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการ e-bidding ครั้งที่ ๖ วันพุธที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาขอให้ตรวจหาข้อเท็จจริงต่อกรณีกรุงเทพมหานครจัดสรร งบประมาณเพื่อด าเนินการในการจ้างเหมาเอกชนก าจัดขยะมูลฝอย จ านวน ๒ โครงการ วงเงินงบประมาณโครงการละ ๖,๖๐๐ ล้านบาท” ที่ประชุมพิจารณ ารายละเอียดกรณีกรุงเทพมหานครจัดสรรงบประมาณ เพื่อด าเนินการในการจ้างเหมาเอกชนก าจัดขยะมูลฝอย จ านวน ๒ โครงการ วงเงินงบประมาณ โครงการละ ๖,๖๐๐ ล้านบาท ในประเด็นมีการยื่นขอเปลี่ยนแปลงเพิ่มวัตถุประสงค์การผลิต กระแสไฟฟ้าและก าจัดขยะในหนังสือบริคณห์สนธิ ๑ เดือนก่อนการพิจารณาบริษัทยื่นซอง ประกวดราคาโดยไม่ปรากฏผลงานด าเนินการที่ผ่านมา การพิจารณาเปรียบเทียบการด าเนิน โครงการลักษณะเดียวกันในพื้นที่อื่น การด าเนินการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) การจัดท าร่างขอบเขตการจ้างตามสัญญาจ้าง (TOR) การเปิดประกวดราคา รายละเอียดวิธีการ งบประมาณการด าเนินโครงการของกรุงเทพมหานคร รายละเอียดการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พิจารณาเรื่อง “สอบหาข้อเท็จจริงหรือ ศึกษา ติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของส านักงาน ปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร” ที่ป ระชุมพิจารณ าการบ ริห ารงบป ระมาณ ของปศุสัตว์จังห วัดสกลนค ร ประกอบด้วย โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโคขุนคุณภาพกลุ่มจังหวัดสนุก งบประมาณ
- ๖ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ๙๐,๑๗๕,๐๐๐ บาท โครงการก าหนดให้มีการจัดท าโคเนื้อต้นแบบ จ านวน ๕๔ ฟาร์ม งบประมาณ ๑๓,๖๐๐,๐๐ บาท โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การแปรรูป การตลาด โคเนื้อคุณภาพสู่อาเซียน งบประมาณ ๔๕,๘๖๔,๕๐๐ บาท และโครงการก าหนดให้จัดตั้ง ศูนย์สาธิตกลุ่มผู้เลี้ยงแม่โคพันธุ์ลูกผสม จ านวน ๖ ฟาร์ม ฟาร์มละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท รวม ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งที่ประชุมพิจารณาว่าเหตุใดเกษตรกรทั้ง ๓ รายไม่ได้เป็นสมาชิก สหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์ กรป.กลางโพนยางค า จ ากัด จึงได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ รายละเอียดเกี่ยวกับบันทึกการประชุมการประชาคม ระยะเวลาเริ่มต้นการใช้เกณฑ์คัดเลือก และผลการคัดเลือก และขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนครรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการไป พิจารณาด าเนินการ ครั้งที่ ๗ วันศุกร์ที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาขอให้ตรวจหาข้อเท็จจริงต่อกรณีกรุงเทพมหานครจัดสรรงบประมาณ เพื่อด าเนินการในการจ้างเหมาเอกชนก าจัดขยะมูลฝอย จ านวน ๒ โครงการ วงเงิน งบประมาณโครงการละ ๖,๖๐๐ ล้านบาท” ที่ประชุมมีมติ เลื่อนการพิจารณ า เรื่อง ขอให้ตรวจหาข้อเท็จจริงต่อกรณี กรุงเทพมหานครจัดสรรงบประมาณเพื่อด าเนินการในการจ้างเหมาเอกชนก าจัดขยะมูลฝอย จ านวน ๒ โครงการ วงเงินงบประมาณโครงการละ ๖,๖๐๐ ล้านบาท เป็นสัปดาห์หน้า ในวันพุธ ที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๒ ให้บรรจุระเบียบวาระการประชุมในช่วงบ่าย โดยเชิญ ผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานครมาร่วมประชุมด้วยตนเอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเอกสารเพิ่มเติม ที่ครบถ้วนสมบูรณ์เพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมาธิการ
- ๗ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการใช้งบประมาณก่อสร้าง ทางเดินและทางจักรยานริมคลองแสนแสบในเขตกรุงเทพมหานคร” ที่ประชุมมีมติ เลื่อนการพิจารณ าขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการใช้ งบประมาณก่อสร้างทางเดินและทางจักรยานริมคลองแสนแสบในเขตกรุงเทพมหานครเป็น สัปดาห์หน้า ในวันพุธที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๒ ครั้งที่ ๘ วันพุธที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “ภาพรวมการจัดท างบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ รายละเอียดแผนงาน/โครงการ เกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ า และแนวทาง/หลักเกณฑ์การ จัดท างบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔” ที่ประชุมได้รับข้อมูลว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้รับ จัดสรรงบประมาณในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จ านวน ๕,๒๑๒.๐๔๔๙ ล้านบาท งบประมาณตามร่างพระราชบัญญัติงบประมาณประจ าปี พ.ศ. ๒๕๖๓ จ านวน ๔,๗๓๗.๒๕๐๒ ล้านบาท ปรับลดจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ร้อยละ ๙.๑๑ กรมทรัพยากรน้ า ขอรับจัดสรรงบประมาณตามร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ ประจ าปี พ.ศ. ๒๕๖๓ จ านวน ๓,๑๕๔.๖๕๖๖ ล้านบาท ปรับลดจากงบประมาณประจ าปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ร้อยละ ๕.๘๙ เป็นโครงการอนุรักษ์ ฟื้นฟูพัฒนาแหล่งน้ าและบริหาร จัดการน้ าเป็นงบประมาณตามร่างพระราชบัญญัติงบประมาณประจ าปี พ.ศ. ๒๕๖๓ จ านวน ๑,๒๗๓.๗๑๐๑ ล้านบาท ปรับลดจากงบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ร้อยละ ๖๑.๕๗ กรมทรัพยากรน้ าบาดาล ขอรับจัดสรรงบประมาณตามร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณประจ าปี พ.ศ. ๒๕๖๓ จ านวน ๑,๓๔๒.๐๙๘๓ ล้านบาท ปรับลดจากงบประมาณ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ร้อยละ ๑๒.๓๖
- ๘ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ส านักงานทรัพยากรน้ าแห่งชาติ จัดท างบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ มีแผนงาน/โครงการขับเคลื่อนแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ า ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ วงเงินงบประมาณ ๑๐๖,๗๘๙ ล้านบาท แบ่งเป็นภารกิจพื้นฐาน (Function) จ านวน ๑๘,๓๖๐ ล้านบาท ภารกิจตามแผนแม่บท นโยบายเร่งด่วน แนวทางปฏิรูปภาครัฐ งบประมาณบูรณาการ (Agenda) จ านวน ๖๒,๙๕๗ ล้านบาท เป็นงบประมาณแผนงานบูรณาการ ทรัพยากรน้ า ประกอบด้วย ๑๘ หน่วยงาน เป็นงบประมาณ จ านวน ๕๙,๔๓๑.๐๗๒๕ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๕๕.๖๕ และภารกิจพื้นที่ ท้องถิ่น ภูมิภาค จังหวัด กลุ่มจังหวัด จ านวน ๒๕,๔๗๒ ล้านบาท กรมชลประทาน มีงบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จ าแนกตามประเภทงบรายจ่ายได้ ดังนี้ งบบุคลากร จ านวน ๖,๓๕๓.๔๒๐๔ ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ ๙.๒๐๓๖ งบด าเนินงาน จ านวน ๑,๓๗๙.๘๑๕๓ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑.๙๙๘๘ งบ ลงทุน จ านวน ๖๑,๐๘๙.๘๘๖๘ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๘.๔๙๕๖ งบเงินอุดหนุน จ านวน ๐.๔๗๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๐.๐๐๐๗ และงบรายจ่ายอื่น จ านวน ๒๐๗.๙๗๑๘ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๐.๓๐๑๓ รวมเป็นงบประมาณทั้งสิ้น ๖๙,๐๓๑.๕๖๔๓ ล้านบาท ที่ประชุมพิจารณารายละเอียดแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ า ๒๐ ปีการบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เป็นไปตามแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ า ๒๐ ปีรายละเอียดวิธีการด าเนินการ การพิจารณาความซ้ าซ้อนของแผนงานโครงการขับเคลื่อน แผนแม่บทการบริหารจัดการน้ า ความคืบหน้าในการด าเนินโครงการโขง ชี มูล โครงการ ขุดลอกห้วยร่องช้างเผือก โครงการพัฒนาแหล่งน้ าบาดาลเพื่อสนับสนุนน้ าดื่มสะอาดให้กับ โรงเรียนทั่วประเทศ ตลอดจนปัญหาอุปสรรคการด าเนินการ กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ ๙ วันพุธที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “ขอให้ตรวจหาข้อเท็จจริงต่อกรณีกรุงเทพมหานครจัดสรรงบประมาณ เพื่อด าเนินการในการจ้างเหมาเอกชนก าจัดขยะมูลฝอย จ านวน ๒ โครงการ ฯ วงเงิน งบประมาณจ านวน ๖,๖๐๐ ล้านบาท”
- ๙ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ที่ประชุมได้รับข้อมูลว่าศูนย์ก าจัดขยะมูลฝอยหนองแขมและอ่อนนุช กรุงเทพมหานครได้ด าเนินโครงการนี้ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๕) โดยการร่วมลงทุนของภาคเอกชนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ การจัดการขยะมูลฝอยอย่างครบวงจรและแปรรูปขยะมูลฝอยเป็นพลังงาน ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ คาดการณ์ว่าหากมีโครงการก าจัดขยะเกิดขึ้นตามนโยบายของผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ครบสมบูรณ์แล้ว ปริมาณขยะในกรุงเทพมหานครที่มีการก าจัดโดยวิธีฝังกลบประมาณร้อยละ ๘๐ ของขยะทั้งหมด จะลดลงเหลือเพียงร้อยละ ๓๓ ซึ่งเป็นไปตามแผนของกรุงเทพมหานครที่ จะลดปริมาณขยะให้ได้ปริมาณการฝังกลบขยะให้ได้มากกว่าร้อยละ ๕๐ และมีการเพิ่มโครงการ ที่จะน าขยะมาแปรรูปเป็นพลังงานโดยเตาเผาขยะมูลฝอยให้มากขึ้นที่จากเดิมมีเพียง ๕๐๐ ตัน ต่อวัน หรือประมาณร้อยละ ๕ ซึ่งหากในปี ๒๕๖๕ มีโรงงานเตาเผาขยะมูลฝอยและเดิน เครื่องจักรแล้ว ขยะที่น ามาแปรรูปเป็นพลังงานจะมีประมาณ ๒,๕๐๐ ตันต่อวัน หรือประมาณ ร้อยละ ๒๓ ส่วนระบบบ าบัดขยะด้วยวิธีเชิงกลและชีวภาพ หรือระบบการหมักปุ๋ยจากขยะเป็น โครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้น จึงส่งผลให้มีขยะที่จะสามารถท าประโยชน์ได้อีกประมาณ ๓,๑๐๐ ตันต่อวัน หรือร้อยละ ๒๙ ดังนั้น ในภาพรวมจะสามารถลดการก าจัดขยะโดยฝังกลบได้ร้อยละ ๘๐ เหลือร้อยละ ๓๓ โดยการใช้เทคโนโลยีผสมผสานร้อยละ ๒๙ เตาเผามูลฝอยร้อยละ ๒๓ และการหมักเพื่อท าปุ๋ยอีกร้อยละ ๑๕ ที่ประชุมพิจารณ ารายละเอียดการด าเนิน กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง รายละเอียดการเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างคุณสมบัติ เหตุผลการให้คะแนนระหว่าง บริษัทผู้ที่ชนะการประกวดราคาและบริษัทต่าง ๆ รายละเอียดการก าหนดราคากลาง การก าหนดสัดส่วนการให้คะแนนด้านเทคนิค พิจารณาเรื่อง “ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อกรณีการใช้งบประมาณก่อสร้างทางเดินและ ทางจักรยานริมคลองแสนแสบในเขตกรุงเทพมหานคร” ที่ประชุมได้รับข้อมูลว่าโครงการที่กรุงเทพมหานครด าเนินการจัดท าเขื่อน พร้อมทางเดินเท้าและทางจักรยานริมคลองแสนแสบ ได้มีการด าเนินการผ่านเข้ามาในพื้นที่ ต่าง ๆ เช่น บางกะปิ ช่วงวัดศรีบุญเรืองโดยสิ้นสุดที่เขตมีนบุรี มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันตลิ่งพัง น้ ากัดเซาะ เนื่องจากขณะนั้นกรุงเทพมหานครต้องการจะแก้ปัญหาการจราจรติดขัด จึงให้มี การเดินเรือช่วงวัดศรีบุญเรืองและผ่านเข้าไปถึงมีนบุรี ซึ่งการเดินเรือก่อให้เกิดปัญหาตลิ่งพัง กรุงเทพมหานครจึงได้มีการด าเนินการจัดท าเขื่อนริมคลองแสนแสบ ซึ่งในบางช่วงได้มีการ ก่อสร้างเชื่อนอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งในบางช่วงได้มีการก่อสร้างเชื่อนอยู่ก่อนแล้ว โดยโครงการดังกล่าว ไม่ได้มีการจัดท าประชาพิจารณ์ ไม่ได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างทั่วถึงอีกทั้งการ ก่อสร้างทางเดินเท้าที่ยื่นเข้าไปในคลองประมาณ ๒.๕๐ เมตร ก่อให้เกิดปัญหาในการขุดลอก คลองโดยเครื่องจักร(รถขุด) ไม่สามารถด าเนินการได้ ซึ่งที่ประชุมได้รับค าชี้แจงว่า จุดเริ่มต้น ของโครงการการก่อสร้างเขื่อนพร้อมทางเดิน เริ่มตั้งแต่ถนนกาญจนาภิเษกไปจนถึงบริเวณ
- ๑๐ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ป ระตู ระบ ายน้ ามีนบุ รี ซึ่งมีปัญ ห าใน ๘ จุด รวมความยาวป ระม าณ ๑๒๘ เมต ร ในส่วนโครงการนี้จะด าเนินการก่อสร้างเขื่อนความยาวรวมประมาณ ๑๐ กิโลเมตร เนื่องจาก นโยบายของผู้บริหารในสมัยนั้นมีแนวคิดที่จะแก้ไขปัญหาจราจรและเพิ่มช่องทางการเดินทาง ของประชาชนที่อยู่ในพื้นที่จึงมีแนวคิดที่จะขยายเส้นทางเดินเรือจากช่วงวัดศรีบุญเรืองไปจนถึง ประตูระบายน้ ามีนบุรี แต่มีปัญหาในเรื่องของการกัดเซาะของตลิ่ง ประชาชนได้รับความ เดือดร้อน จึงได้มีการจัดท าโครงการก่อสร้างเขื่อนในคลองแสนแสบจากถนนวงแหวนตะวันออก หรือถนนกาญจนาภิเษกถึงประตูระบายน้ ามีนบุรีและได้รับงบจัดสรรเมื่อปี ๒๕๕๗ – ๒๕๕๙ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อป้องกันการกัดเซาะตลิ่งกรุงเทพมหานครได้มีการจัดท าประชาพิจารณ์ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ปี ๒๕๕๖ ซึ่งมีช่องทางประชาพิจารณ์ ๒ ช่องทาง คือ ทางหมายเลข โทรศัพท์และเว็บไซต์ที่ให้ประชาชนได้ให้ข้อแนะน าหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการ ที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังมีการติดป้ายเพื่อประชาสัมพันธ์รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งบประมาณและ การจัดซื้อจัดจ้างนั้น ส านักการระบายน้ า กรุงเทพมหานคร ได้พิจารณาขอจัดสรรงบประมาณ ปี พ.ศ. ๒๕๕๗ ถึงช่วงปี พ.ศ. ๒๕๕๙ วงเงินงบประมาณ ๒๕๓,๑๙๒,๐๐๐ บาท ระยะเวลา ด าเนินการ ๙๐๐ วัน โดยวิธีประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ มีบริษัท ริเวอร์ เอนจิเนียริ่ง จ ากัด เป็นผู้ชนะการประกวดราคาด้วยงบประมาณ ๕๑๙,๘๐๐,๐๐๐ บาท สัญญาเริ่มต้นเมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๘ สิ้นสุดสัญญาวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ ซึ่งปัจจุบันทางผู้รับจ้างได้เบิก ค่าก่อสร้างแล้วจ านวน ๒๘ งวด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น๔๕๐,๔๔๖,๕๐๖ บาท คิดเป็นร้อยละ ๘๖.๖๐ คงเหลือวงเงิน ๙ ล้านกว่าบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๓.๓๔ ที่ประชุมพิจารณาว่าการใช้งบประมาณของกรุงเทพมหานครต้องค านึงถึง ความคุ้มค่าและก่อให้เกิดประโยชน์มากที่สุด การด าเนินการควรคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์อันงดงาม ของวัดและชุมชน แต่ในปัจจุบันบ้านที่อยู่ติดแนวริมคลองต้องมีการสร้างรั้วเพื่อป้องภัยอันตราย ตามแนวริมคลองที่มีการสร้างทางเท้า ส่วนการด าเนินคดีของกรุงเทพมหานครต่อกรณีผู้คัดค้าน โครงการ ควรมีการทบทวนความเหมาะสมของการด าเนินคดี คณะกรรมาธิการมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการบริหารงบประมาณ ของกรุงเทพมหานคร ต่อกรณีศึกษาโครงการจ้างเหมาเอกชนก าจัดขยะมูลฝอยที่ศูนย์ก าจัดขยะ มูลฝอยหนองแขมและอ่อนนุช โดยก าหนดระยะเวลาด าเนินพิจารณาศึกษาและรายงานผล การพิจารณาศึกษาต่อคณะกรรมาธิการภายใน ๖๐ วัน
- ๑๑ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ครั้งที่ ๑๐ วันพุธที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “ภาพรวมการจัดท างบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ รายละเอียดแผนงาน/โครงการ เกี่ยวกับการจัดท างบประมาณด้านคมนาคมในการพัฒนา ระบบขนส่งอย่างบูรณาการ และแนวทาง/หลักเกณฑ์การจัดท างบประมาณรายจ่าย ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔” ที่ประชุมพิจารณาภาพรวมการจัดท างบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ รายละเอียดแผนงาน/โครงการ เกี่ยวกับการจัดท างบประมาณด้านคมนาคม ในการพัฒนาระบบขนส่งอย่างบูรณาการ และแนวทาง/หลักเกณฑ์การจัดท างบประมาณ รายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ได้รับข้อมูลว่างบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ กระทรวงคมนาคมได้รับจัดสรรงบประมาณ จ านวน ๒๐๕,๐๐๕.๔๖ ล้านบาท งบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ กระทรวงคมนาคมขอรับจัดสรรงบประมาณ จ านวน ๒๑๑,๓๘๔.๒๔ ล้านบาท ทั้งนี้ งบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ กระทรวงคมนาคมขอรับจัดสรรงบประมาณเพิ่มขึ้นจากงบประมาณปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เพิ่มขึ้นร้อยละ ๓.๑๑ ประกอบด้วย งบประมาณที่จัดสรรให้ส่วนราชการ จ านวน ๑๗๘,๘๔๐.๐๘ ล้าน บาท และงบประมาณที่จัดสรรให้รัฐวิสาหกิจ จ านวน ๓๒,๕๔๔.๑๖ ล้านบาท ผลการเบิกจ่าย งบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒ งบประมาณ จ านวน ๒๐๕,๐๐๕.๔๕๖๓ ล้านบาท ก าหนดเป้าหมายการเบิกจ่าย จ านวน ๑๖๔,๔๖๙.๙๙๓๖ ล้านบาท ผลการเบิกจ่าย ๑๖๓,๓๘๑.๐๑๔๓ ล้านบาท ที่ประชุมพิจารณาประเด็นการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินในการด าเนินการก่อสร้าง ของกรมทางหลวง การด าเนินการของกระทรวงคมนาคมกรณีผู้รับจ้างทิ้งงาน ความคืบหน้าการด าเนิน โครงการก่อสร้างถนน เส้นทางอินทร์บุรี –สากเหล็ก ความคืบหน้าการด าเนินโครงการ มอเตอร์เวย์ บางปะอิน – นครราชสีมา การซ้ าซ้อนของการด าเนินโครงการขนาดใหญ่ด้านคมนาคม เหตุผลความ จ าเป็นในการโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณในการพัฒนาท่าอากาศยานจังหวัดสกลนคร ท่าอากาศยาน จังหวัดนครพนม ไปด าเนินการในท่าอากาศยานจังหวัดบุรีรัมย์ การด าเนินการโครงการก่อสร้าง ถนนในกรุงเทพมหานครซึ่งก่อให้เกิดฝุ่นปริมาณมาก ปัญหาการถ่ายโอนภารกิจให้กับองค์ปกครอง ส่วนท้องถิ่นที่ขาดศักยภาพ การทบทวนข้อมูลผลการศึกษาการก่อสร้างท่าอากาศยานจังหวัด มุกดาหาร ที่ประชุมมีมติให้ กระทรวงคมนาคม กรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท กรมเจ้าท่า กรมการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางราง กรมท่าอากาศยาน และส านักนโยบายและ แผนการขนส่งและจราจร รับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาประกอบการ ด าเนินการ
- ๑๒ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ครั้งที่ ๑๑ วันพุธที่ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาแผนยุทธศาสตร์และแผนบูรณาการการขนส่งระบบรางในการ พัฒนาประเทศ ภายใต้การจัดท างบประมาณรายจ่ายประจ า ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ – ๒๕๖๔” ที่ประชุมพิจารณาแผนยุทธศาสตร์และแผนบูรณาการการขนส่งระบบราง ในการพัฒนาประเทศ ภายใต้การจัดท างบประมาณรายจ่ายประจ า ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ – ๒๕๖๔ ได้รับทราบข้อมูลว่า ยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๘๐) ก าหนดยุทธศาสตร์ไว้ ๕ ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ๑. การบริการของภาคคมนาคม ๒. การพัฒนาบุคลากร ๓. การบูรณาการระบบคมนาคมขนส่ง ๔. การพัฒนาระบบกฎหมาย ปฏิรูปองค์กร ๕. การน าเทคโนโลยี นวัตกรรมใช้ในการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง แนวคิดใน การระบบคมนาคมขนส่งที่มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย ๑. ในเมือง มีเป้าหมายเปลี่ยนแปลง รถยนต์ส่วนบุคคลเป็นระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรและมลพิษ ๒. ระหว่างเมือง มีเป้าหมายเปลี่ยนระบบขนส่งทางถนนเป็นการขนส่งทางรางหรือทางน้ า เพื่อแก้ปัญหาในการ ลดต้นทุนการขนส่งและเพิ่มความตรงต่อเวลา โดยในเมือง ประกอบด้วย ๑. แผนพัฒนาระบบ รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ๒. แผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเมืองหลักในภูมิภาค แผนพัฒนา ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนจะปรับรูปแบบการเดินทางจากการเดินทางระบบส่วนตัวเป็นระบบ สาธารณะ ส่วนแผนพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเมืองหลักในภูมิภาคได้ด าเนินการศึกษา เป็นแผนแม่บทในจังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดภูเก็ต จังหวัดอุดรธานี จังหวัดขอนแก่น จังหวัดนครราชสีมา และอ าเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา เป็นผู้ด าเนินการศึกษาเอง แผนการพัฒนารถไฟทางคู่ จะเพิ่ม จากเดิม ๔๗ จังหวัด เป็น ๖๒ จังหวัด ส่วนแผนพัฒนารถไฟความเร็วสูง อยู่ในระหว่างการจัดท าแผน โดยมีแผนระยะเร่งด่วน ประกอบด้วย ๔ เส้นทาง ได้แก่ ๑. กรุงเทพ ฯ – นครราชสีมา ๒. กรุงเทพ ฯ –ระยอง ๓. กรุงเทพ ฯ – พิษณุโลก ๔. นครราชสีมา – หนองคาย แผนระยะกลาง จ านวน ๒ เส้นทาง ได้แก่ ๑. กรุงเทพ ฯ – หัวหิน ๒. พิษณุโลก – เชียงใหม่ แผนระยะยาว จ านวน ๒ เส้นทาง ได้แก่ ๑. หัวหิน – สุราษฏร์ธานี ๒. สุราษฏร์ธานี - ปาดังเบซาร์ ส่ ว น ร า ย ล ะ เอี ย ด แ ผ นง าน / โครงการ ของการจัดท างบประมาณ
- ๑๓ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ด้านการพัฒนาการขนส่งระบบรางในงบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ โดยมีหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณทางราง ประกอบด้วย ๑. การรถไฟ แห่งประเทศไทย ๒. การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ๓. ส านักงานนโยบายและ แผนการขนส่งและจราจร ๔. กรมการขนส่งทางราง ที่ประชุมพิจารณารายละเอียดแผนพัฒนาระบบรางหรือแผนพัฒนารถไฟทางคู่ ไม่มีเส้นทางหาดใหญ่ – สุไหงโก-ลก ประเด็นการลงทุนที่ซ้ าซ้อนตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ ความซ้ าซ้อนของโครงการพัฒนาระบบรางกับโครงการพัฒนารถไฟความเร็วสูง กรณีแผนการ พัฒนารถไฟทางคู่ในเส้นทางรถไฟสายใหม่ ประกอบด้วย ๑. เด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ๒. บ้านไผ่ – มุกดาหาร – นครพนม กรณีการบริหารการจัดการหนี้สินของการรถไฟแห่งประเทศ ไทย และที่ประชุมขอให้กระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางราง ส านักนโยบายและแผนการ ขนส่งและจราจร การรถไฟแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยและ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จ ากัด (มหาชน) รับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ ของคณะกรรมาธิการในการพิจารณาประกอบการด าเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอ านาจ หน้าที่ของส่วนราชการ ครั้งที่ ๑๒ วันพุธที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “ติดตามการบริหารงบประมาณและการด าเนินโครงการก่อสร้างอาคาร ผู้โดยสารหลังที่สอง (เทอร์มินัล ๒) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ที่ประชุมพิจารณารายละเอียดโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่สอง (เทอร์มินัล ๒) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิโดยได้รับค าชี้แจงว่า โครงการพัฒนาท่าอากาศยาน สุวรรณภูมิ สนามบินระยะที่ ๒ ซึ่งประกอบด้วย อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ ๑ ส่วนต่อขยาย อาคารผู้โดยสาร ระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) ส่วนต่อขยายอุโมงค์เชื่อมระหว่างอาคาร ผู้โดยสารและอาคารเทียบเครื่องบิน รวมถึงระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ได้ปรับกรอบระยะเวลา การก่อสร้างใหม่เป็น ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๙ – ๒๕๖๓ ในระหว่างที่การก่อสร้างอาคารเทียบ เครื่องบินรองหลังที่ ๑ (Satellite 1) จะมีการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ ๒ (Satellite 2) ต่อเนื่องไปด้านทิศใต้ ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๖๔ – ๒๕๖๙ ตามโครงการพัฒนาท่า อากาศยานสุวรรณ ระยะที่ ๔ แต่เนื่องด้วยจ านวนผู้โดยสารผู้ใช้บริการมีปริมาณมากเกินศักยภาพ ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะรองรับได้ ดังนั้น จึงต้องหาพื้นที่เพื่อขยายศักยภาพของท่าอากาศ ยานโดยไม่ต้องรอการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ ๑ แล้วเสร็จ อันน ามาซึ่งการเพิ่ม การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ ๒ (Terminal 2) ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพในการรองรับผู้โดยสาร เพิ่มขึ้นอีก จ านวน ๓๐ ล้านคนต่อปี อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคาร ผู้โดยสารทั้ง ๒ ฝั่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพได้อีกฝั่งละ ๑๕ ล้านคน แต่การก่อสร้างส่วนต่อขยายทั้ง ๒ ฝั่งพร้อมกันนั้น จะท าให้เสียพื้นที่บริเวณเคาน์เตอร์เช็คอินของสายการบิน และจะส่งผลกระทบ ต่อการให้บริการอย่างมากและเป็นระยะเวลานาน ปัจจุบันท่าอากาศยานสุวรรณภูมิรองรับ
- ๑๔ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ผู้โดยสารได้ปีละ ๖๐ ล้านคน ซึ่งเกินศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารที่ ๔๕ ล้านคนต่อปี และคาดว่าเมื่อโครงการพัฒนาระยะที่ ๒ แล้วเสร็จ และเปิดให้บริการในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ จะท าให้ ศักยภาพในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ ในแผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะเป็นการ เพิ่มพื้นที่เขตการบิน (Airside) และเขตนอกการบิน (Landside) ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์สากล ที่ประชุมพิจารณารายละเอียดขอบเขตพื้นที่ รายละเอียดการด าเนินการขยาย อาคารผู้โดยสารฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก การทบทวนและเปลี่ยนแปลงแผนแม่บท ความเป็นไปได้ในการก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ ๓ ความปลอดภัยในการก่อสร้างถนนลอดตัวอาคาร และระยะเวลาในการก่อสร้าง ที่ประชุมมีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการเพื่อพิจารณาติดตามการบริหาร งบประมาณท่าอากาศยานสุวรรณ ในการด าเนินโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ ๒ และ มีมติให้ นายไชยา พรหมา เป็นประธานคณะอนุกรรมาธิการ ครั้งที่ ๑๓ วันพุธที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “งบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของจังหวัด และองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ในส่วนของจังหวัดหนองบัวล าภู จังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดเลย” ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่า งบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จังหวัดเลย ได้น ายุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๑ – ๒๕๘๐) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ วิสัยทัศน์ของประเทศไทย และแผนของกลุ่มจังหวัดมาจัดท า โครงการ ซึ่งสอดรับกับยุทธศาสตร์ชาติในด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคและ ความเท่าเทียมกันทางสังคม มีโครงการประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จ านวน ๑๕ โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น จ านวน ๒๒๐,๓๘๖,๕๐๐ บาท ต่ ากว่าปีที่แล้ว ๕.๒ ล้านบาท เศษ โดยแยกเป็นผลผลิตที่ส านักงบประมาณก าหนด จ านวน ๕ ผลผลิต องค์การบริหารส่วน จังหวัดเลยได้ขอรับรับจัดสรรงบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ขอรับจัดสรร จ านวน ๕๓๐,๓๕๒,๓๐๐ บาท ประกอบด้วย แผนงานยุทธศาสตร์ส่งเสริมการกระจายอ านาจ
- ๑๕ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จ านวน ๓๕๐,๓๕๒,๓๐๐ บาท และแผนงานบูรณาการ การพัฒนาพื้นที่ระดับภาค จ านวน ๑๘๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ที่ประชุมพิจารณาว่าแผนพัฒนาจังหวัดยังไม่เข้าถึงความต้องการประชาชนในพื้นที่ อย่างแท้จริง ดังนั้น ก่อนท าแผนพัฒนาจังหวัด ในปีงบประมาณครั้งต่อไป ควรมีการบูรณาการ ร่วมกันทุกภาคส่วน รายละเอียดการด าเนินโครงการกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง และปัญหา เกี่ยวกับผู้ค้าฉลาก วิธีการในการแก้ไขปัญหาการเผาไร่อ้อยในจังหวัดเลย ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่า งบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จังหวัดหนองบัวล าภู ขอรับการจัดสรรงบประมาณ จ านวน ๒๐๓,๗๔๙,๑๐๐ บาท วงเงิน ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ที่ได้รับลดลงเมื่อเทียบกับงบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ โดยงบประมาณประจ าปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จ าแนกตาม ป ร ะ เด็ น ก า ร พั ฒ น า จังห วั ด ต า ม ยุทธศาสตร์องค์การบริหารส่วนจังหวัด หนองบัวล าภูมีคณะกรรมการด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการประชาคม การประสาน แผน เป็นต้น จากนั้น จะน าแผนทั้งหลาย ม า ลง ร า ย ล ะ เอี ย ด ใน ก า ร จั ด ท า งบประมาณท้องถิ่น ตามภารกิจ หน้าที่ ตามกฎหมายก าหนด ประกอบด้วย การ บริการสาธารณะ และกระท าภารกิจที่รับถ่ายโอน เมื่อได้แผนมาแล้ว จะน ามาจัดท า งบประมาณ โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวล าภูมีรายได้มาจาก การหาเองเป็นรายได้ เช่น ภาษียาสูบ เป็นต้น มากน้อยขึ้นอยู่กับขนาดเศรษฐกิจของจังหวัดนั้น ๆ เงินอุดหนุน (เงิน งบประมาณ) โดยในปีงบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ขอรับการจัดสรร งบประมาณ จ านวน ๒๒๘,๐๙๖,๔๐๐ บาท ประกอบด้วย เงินอุดหนุนทั่วไป จ านวน ๑๘๕,๗๘๗,๘๐๐ บาท และเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ จ านวน ๔๒,๓๐๘,๕๐๐ บาท ที่ประชุมพิจารณากระบวนการจัดท างบประมาณของจังหวัด การพิจารณา จัดล าดับความส าคัญและความเร่งด่วน ซึ่งการจัดท างบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ควรสอบถามความเห็นจากทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกัน เพื่อให้ตรงกับ ความต้องการ หรือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่าในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ จังหวัดชัยภูมิ ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จ านวน ๒๕๙,๕๖๙,๔๐๐ บาท จ านวน ๑๘ โครงการ ๓๙ กิจกรรม ผลการเบิกจ่ายและก่อหนี้ผูกพันงบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ รวมทั้งสิ้น ๒๔๙,๒๔๗,๓๐๐ บาท คิดเป็นร้อยละ ๙๖.๐๓ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จังหวัดชัยภูมิ ขอรับจัดสรรเงินงบประมาณตามแผนปฏิบัติการประจ าปีของจังหวัดจ านวน ๕ ผลผลิต ๑๒ โครงการ
- ๑๖ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ วงเงินงบประมาณ ๒๔๙,๙๑๖,๘๐๐ บาท ซึ่งแบ่งเป็น งบลงทุน จ านวน ๑๘๘ ล้านบาทเศษ งบประจ า จ านวน ๖๑ ล้านบาทเศษ คณะกรรมาธิการมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะว่า การจัดท าแผน/โครงการ งบประมาณจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และแนวทางหลักเกณฑ์การจัดท างบประมาณ รายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ควรเชิญทุกภาคส่วน รวมทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในจังหวัดนั้น ๆ เข้าร่วมประชุมเพื่อปรึกษา หารือร่วมฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน เพื่อให้ เกิดการบูรณาการ การบริหารจัดการในจังหวัดร่วมกัน หรือหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ ตรงกับความต้องการหรือความเดือดร้อนของประชาชนอย่างแท้จริง งบป ระมาณ ควรกระจายงบประมาณให้ครอบคลุมทั่วถึง ไม่กระจุกอยู่ที่ใดที่หนึ่ง การด าเนินงานที่ล้าช้า ไม่เป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ส านักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง ส านักงบประมาณแผ่นดิน ร่วมกันรับฟังปัญหา อุปสรรคในการด าเนินงาน และหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน การแก้ไขปัญหาการเผาไร่อ้อย ควรน าวิธีการ การแก้ไขปัญหาของจังหวัดเลยเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาการเผาไร่อ้อย เพื่อลดมลภาวะ เป็นพิษ และคณะกรรมาธิการขอให้ จังหวัดเลย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเลย จังหวัด หนองบัวล าภู องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวล าภู จังหวัดชัยภูมิ รับข้อสังเกตและ ข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาประกอบการด าเนินการ ครั้งที่ ๑๔ วันพุธที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “ศึกษามาตรการการจัดสรรและการบริหารงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาลในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน” ที่ประชุมพิจารณามาตรการการจัดสรรและการบริหารงบประมาณในการ กระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความเดือนร้อนของประชาชน ซึ่งได้รับข้อมูลว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๒ ที่ประชุมจึงมีมติ เห็นชอบหลักการของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปี ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีสาระส าคัญ ดังนี้
- ๑๗ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ๑) มาตรการเพื่อบรรเทาค่าครองชีพส าหรับเกษตรกรที่ประสบภัยแล้งและ ช่วยเหลือเกษตรกรรายจ่าย ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากภาระหนี้สิน ๒) มาตรการเพื่อกระตุ้นการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศซึ่งจะช่วย สนับสนุนภาคการท่องเที่ยว การลงทุนของภาคธุรกิจ และการเข้าถึงแหล่งทุนของธุรกิจ ขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัย ๓) มาตรการบรรเทาค่าครองชีพผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้มีรายได้น้อย รักษาก าลังซื้อ และเพิ่มสภาพคล่อง ทางด้านการเงินให้แก่เศรษฐกิจฐานราก ช าระหนี้เงินต้นของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ที่คงค้างกับสถาบันการเงิน ๔)การแต่งตั้งคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและงบลงทุนของส่วน ราชการ รัฐวิสาหกิจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งเร่งรัดติดตามมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจให้เป็นไปตามเป้าหมาย โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธานกรรมการ ในระยะที่ ๒ มีการด าเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” ส าหรับบุคคลที่ไม่เคยได้รับสิทธิจ านวน ๓ ล้านคน มีการด าเนินโครงการลดภาระและให้สินเชื่อ ผู้ซื้อที่อยู่อาศัย และมีการเร่งรัดการเบิกจ่ายในการอบรมสัมมนาของภาครัฐ ระหว่างเดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ และต่อมาได้มีการด าเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยว ในประเทศ “ชิมช้อปใช้”เพิ่มเติม และมุ่งเน้นการลงทุนผ่านกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย พักช าระหนี้กองทุนหมู่บ้านและด าเนินมาตรการลดภาระผู้อยู่อาศัย คือ โครงการบ้านดีมีดาวน์ ที่ประชุมพิจารณามาตรการการก ากับติดตามและตัวชี้วัดของในการก ากับ รัฐวิสาหกิจ มาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความ เดือดร้อนของประชาชนผ่านธนาคารต่าง ๆ ผลกระทบต่อปัญหาหนี้ครัวเรือน การบูรณาการ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการด าเนินการ การพัฒนากองทุนหมู่บ้าน วิสาหกิจชุมชน เป็นสถาบันการเงินเพื่อเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อแก่ประชาชน การขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ผ่านตลาดเงินและตลาดทุน ที่ประชุมมีมติให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ส านักงานเศรษฐกิจการคลัง ส านักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ ธนาคารกรุงไทย จ ากัด (มหาชน) ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศ ไทย ธนาคารเพื่อการส่งออกและน าเข้าแห่งประเทศไทย และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาด กลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย รับข้อพิจารณาและความคิดเห็นของคณะกรรมาธิการเพื่อ พิจารณาประกอบการด าเนินการ
- ๑๘ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ครั้งที่ ๑๕ วันพุธที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “ศึกษามาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาความ เดือดร้อนของประชาชน” ที่ประชุมพิจารณารายละเอียดมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในความรับผิดชอบของสมาคมธนาคารไทย ซึ่งได้รับ ข้อมูลว่า สมาคมได้ก าหนดแผนยุทธศาสตร์เป็น ๗ ด้าน โดยมียุทธศาสตร์ที่ส าคัญ คือ การเข้าถึงแหล่งเงินและบริการของธนาคาร การให้ความรู้ด้านการเงินแก่ประชาชนเพื่อให้ การบริการจัดการทางการเงินส่วนบุคคลดีขึ้น และยกระดับความปลอดภัยด้าน Cyber พัฒนา ระบบตลอดจนส่งเสริมการใช้บริการ Digital Banking ระบบ E-payment เพื่อเชื่อมโยงกับ ประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้บูรณาการการท างานร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ๓ สภาบัน (กกร.) และสภาหอการค้าแห่ประเทศไทย เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๒ ในการลดต้นทุนการท าธุรกรรมระหว่างประเทศของธุรกิจขนาดกลางและ ขนาดเล็ก ธนาคารพาณิชย์ที่เป็นสมาชิกสมาคมธนาคารไทย จ านวน ๑๔ แห่ง ได้ร่วมกับ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ลงนามในบันทึกความ ตกลงความร่วมมือ การให้บริการบัญชีเงินฝากเพื่อการเข้าถึงบริการทางเงินขั้นพื้นฐาน (Basic Banking Account) เพื่อเป็นกลไกในการส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงและใช้บริการ ทางการเงินมากขึ้น โดยเฉพาะ ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีอายุมากกว่า ๖๕ ปี และมีแผน ในการขยายสู่กลุ่มอื่น ๆ โครงการคลินิกแก้หนี้ เป็นความร่วมมือของสมาคมธนาคาร ไทยร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยที่มีหนี้ บัตรเครดิตหรือสินเชื่อส่วนบุคคลกับ เจ้าหนี้หลายราย ที่ค้างช าระ ๙๐ วัน หรือถูกจัดเป็นหนี้เสีย ให้มีโอกาส แก้ไขปัญหาหนี้ของตนเองได้ และ สมาคมธนาคารไทยยังมีบริการทาง การเงินให้กับผู้บกพร่องด้านการ มองเห็นให้เป็นมาตรฐานเดียวกันใน ทุกธนาคาร นอกจากนั้น ยังอยู่ระหว่างการร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดให้มีโครงการ ในการให้ความรู้ด้านอัตราแลกเปลี่ยนกับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
- ๑๙ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ สภาหอการค้าให้ข้อมูลว่าในระยะสั้นภาคเอกชนอยากให้รัฐเร่งรัดการเบิกจ่าย งบประมาณเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ในด้านการเกษตรควรสร้างอุปสงค์เทียมเพื่อเป็น การกระตุ้นด้านจิตวิทยาท าให้ราคาสินค้าการเกษตรมีราคาสูงขึ้น ด้านการท่องเที่ยวควรลด อุปสรรคในการการเดินทางและอ านวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว เช่น การยกเลิก การกรอก แบบ ตม.๖ ภาคอุตสาหกรรม หน่วยงานที่รัฐที่เกี่ยวข้องควรบูรณาการการท างาน ก าหนดแนวทางในการดูแลค่าเงินบาท ทั้งนี้ ควรสนับสนุนการค้าชายแดน ในระยะยาวภาครัฐจะต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและลงทุนโครงสร้าง พื้นฐานอย่างต่อเนื่องในกรอบหนี้สาธารณะ ด้านการเกษตรรัฐอาจชี้น าและปรับเปลี่ยนการผลิต สินค้าการเกษตรให้เหมาะสม ตลอดจนศึกษาและช่วยเหลือด้วยวิธีการที่เหมาะสม ด้านการท่องเที่ยวจะต้องสนับสนุนการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน สนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองรอง พร้อมพัฒนาสิ่งอ านวยความสะดวกเพื่อรองรับ และภาครัฐก าหนดมาตรการในการสนับสนุน สินค้าที่ผลิตในประเทศไทย ที่ประชุมพิจารณาการด าเนินโครงการมาตรการบรรเทาค่าครองชีพผ่านบัตร สวัสดิการแห่งรัฐ และมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ “ชิมช้อปใช้” ประเด็นส่วนต่าง ของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้การกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว การขายค้า Online และการค้าปลีก ปัญหาการขอสินเชื่อ ที่ประชุมมีมติให้ธนาคารแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย บริษัท ข้อมูลบัตรเครดิตแห่งชาติ จ ากัด และสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย รับข้อเสนอและความเห็นของคณะกรรมาธิการเพื่อ พิจารณาประกอบการด าเนินการ ครั้งที่ ๑๖ วันพุธที่ ๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๒ พิจารณาเรื่อง “ยุทธศาสตร์การจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประจ าปี งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรากหญ้า” ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่ากองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ได้รับ งบประมาณจากการส่งเงินเข้ากองทุนจากน้ ามันเชื้อเพลิงในอัตราลิตรละ ๑๐ สตางค์ เพื่อบริหารจัดสรรในการอนุรักษ์พลังงาน พลังงานทดแทน แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการ อนุรักษ์พลังงาน โดยได้รับจัดสรรงบประมาณปีละประมาณ ๑๐,๐๐๐ ล้านบาท พึ่งประสบ ปัญหางบประมาณไม่เพียงพอในการด าเนินการ การบริหารงบประมาณเป็นการบริหาร ในรูปแบบคณะกรรมการ โดยมีคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานเป็น คณะกรรมการบริหาร การเสนอโครงการ ผู้เสนอโครงการจะต้องยื่นผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งส านักงานกองทุนจะได้แยกตามกลุ่มยุทธศาสตร์เพื่อรวบรวมเสนอต่อคณะอนุกรรมการ กลั่นกรองโครงการเพื่อพิจารณาให้คะแนนและจัดล าดับความส าคัญ เพื่อเสนอให้คณะกรรมการ กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน มีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธานคณะกรรมการ
- ๒๐ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ พิจารณา โดยกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานพิจารณาจัดสรรเงินกองทุน ๒ ครั้งต่อปี ทั้งนี้ การบริหารจัดการกองทุนได้รับการตรวจสอบจาก ส านักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง ส านักงานการตรวจเงินแผ่นดิน และคณะอนุกรรมการติดตามและประเมินผลโครงการ อนึ่ง โครงการ “ไฟฟ้าชุมชน” มีวัตถุประสงค์ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการก่อสร้าง การบริหาร จัดการ และได้รับประโยชน์จากการผลิต ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่างรัฐกับเอกชน ที่ประชุมพิจารณาการบริหารงบประมาณของกองทุน รายละเอียดหลักเกณฑ์ ในการขอรับสนับสนุนเงินทุน ก าหนดระยะเวลาขอรับทุน การด าเนินโครงการมีการก าหนด คุณลักษณะครุภัณฑ์ในลักษณะเดียวกันท าให้ไม่สอดคล้องและไม่เกิดประสิทธิภาพเท่าที่ควร ในการใช้งาน การก าหนดเกณฑ์เข้าร่วมโครงการส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถเข้าร่วมโครงการ ได้มีประสิทธิภาพ ประชาชนทั่วไปและหน่วยงานยังขาดความรู้ความเข้าใจในการขอรับ สนับสนุนเงินจากกองทุน ที่ประชุมมีมติให้ส านักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ส านักนโยบายและแผนพลังงาน และกรมพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน รับทราบข้อเสนอ ความเห็นของคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาประกอบการด าเนินการ ครั้งที่ ๑๗ วันพุธที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “ศึกษาปัญหา และอุปสรรคในการจัดสรรงบประมาณให้แก่องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่น” ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่า พระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการกระจาย อ านาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ ก าหนดให้คณะกรรมการมีอ านาจหน้าที่ ที่ส าคัญในด้านก ารเงินก ารคลังและงบป ระม าณ ขององค์ก รปกครองส่วนท้องถิ่น โดยคณะกรรมการการกระจายอ านาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีอ านาจหน้าที่ก าหนด รายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อรายได้ของรัฐบาลว่าแต่ละปีแม้คณะกรรมการ การกระจายอ านาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะก าหนดหลักเกณฑ์และแนวทางในการ ที่จะจัดสรรงบประมาณ แต่ก็ยังมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับในการพิจารณาการตั้งงบประมาณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ คือ กระทรวงการคลัง ส านักงบประมาณ สภาพัฒน าเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และธน าคารแห่งประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานที่เสนอตั้งงบประมาณให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ กรมส่งเสริมการ ปกครองท้องถิ่น ส านักงานปลัดส านักน ายกรัฐมนตรี ส านักงานนโยบ ายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เป็นไปตามที่กฎหมายก าหนดไว้ คณะกรรมการกระจายอ านาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จึงก าหนดหลักเกณฑ์การตั้ง งบประมาณเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการบริหารจัดการที่ดี โดยมีกรอบในการจัดสรร ควรจะต้องประกอบด้วยรายการใดบ้าง แต่จะไม่ก าหนดรายละเอียดลึกลงให้เป็นหน้าที่ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นผู้ก าหนด
- ๒๑ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ที่ประชุมพิจารณ าอุปสรรคและปัญห าภายหลังเมื่อมีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติแผนและขั้นตอนการกระจายอ านาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๒ ปัญหาในการจัดเก็บภาษีขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป้าหมายการจัดสรร งบประมาณให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การจัดสรรงบประมาณในภารกิจที่ถ่ายโอน ให้กับท้องถิ่น ปัญหาความพร้อมของความรู้ความสามารถของบุคลากรภายหลังการถ่ายโอน ภารกิจ ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงมหาดไทย ส านักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมชลประทาน กรมทางหลวงชนบท ส านักงาน คณะกรรมการการกระจายอ านาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส านักงานคณะกรรมการ กฤษฎีกา ส านักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และส านักงานการตรวจเงินแผ่นดิน รับข้อเสนอแนะ และความคิดเห็นของคณะกรรมาธิการในครั้งนี้ เพื่อพิจารณาประกอบการด าเนินการ ของส่วนราชการ ครั้งที่ ๑๘ วันพุธที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “ศึกษาการจัดท าและการบริหารงบประมาณในการแก้ปัญหาภัยแล้ง จ านวน ๓,๐๗๙,๔๗๒,๔๘๒ บาท ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๓” ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่าคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๒ ให้ส านักงานทรัพยากรน้ าแห่งชาติได้บูรณาการท างานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมชลประทาน กรมอุตุนิยมวิทยา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ในการบริหารจัดการน้ า ให้เหมาะสมและเพียงพอในแต่ละพื้นที่ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง เพื่อไม่ให้กระทบต่อ การจัดสรรน้ าเพื่ออุปโภคบริโภค รวมทั้งผลกระทบจากความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชน ตามที่ส านักงานทรัพยากรน้ าแห่งชาติคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง ปี ๒๕๖๒/๒๕๖๓ ส านักงานทรัพยากรน้ าแห่งชาติได้รายงานผลจัดท าแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหา ภัยแล้งปี ๒๕๖๒/๒๕๖๓ ในการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ าแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๒ เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๒ เพื่อทราบและเห็นชอบ ในเขตพื้นที่บริการการประปานคร หลวงได้จัดท าแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการ ขาดแคลนน้ าในช่วงฤดูแล้ง จ านวน ๔ โครงการ วงเงิน ๓๒,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยการขุดเจาะบ่อน้ าบาดาล ประกอบด้วย สถานีสูบจ่ายน้ าส าโรง สถานีสูบจ่ายน้ ามีนบุรี สถานีสูบจ่ายน้ าบางเขน และสถานีสูบจ่ายน้ าลาดกระบัง ในเขตพื้นที่ บริการของการประปาส่วนภูมิภาค ได้ประเมินพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ าในเขต รวม ๖๑ สาขา ๓๑ จังหวัด ครอบคลุมโรงพยาบาล ในพื้นที่เสี่ยง จ านวน ๒๒๔ แห่ง โดยมีแผนปฏิบัติการแก้ไข ปัญหาการขาดแคลนน้ าในช่วงฤดูแล้ง จ านวน ๒๒๓ โครงการ วงเงิน ๑,๘๑๒,๐๕๐,๐๐๐ บาท โดยการประปาส่วนภูมิภาคปรับแผนของตนเอง จ านวน ๑๗๓ โครงการ วงเงิน ๖๕๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท และเสนอขอรับก ารสนับสนุนงบป ระม าณ เพิ่มเติม จ าน วน ๕๐ โค รงก าร วงเงิน
- ๒๒ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ๑,๑๕๙,๐๕๐,๐๐๐ บาท ส่วนพื้นที่นอกเหนือจากนั้น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ส ารวจ พื้นที่ขาดแคลนน้ าครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง ๔๓ จังหวัด ๔๒,๔๕๒ หมู่บ้าน ส านักงานทรัพยากรน้ าแห่งชาติจึงเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติงบ กลาง รายการเงินส ารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินจ าเป็น ปี ๒๕๖๒ ไปพลางก่อน เป็นโครงการ จ านวน ๒,๐๔๑ โครงการ งบประมาณ จ านวน ๓,๐๗๙,๔๗๒,๔๘๒ บาท ส าหรับใช้เป็น ค่าใช้จ่ายในโครงการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ าในช่วงฤดูแล้ง ปี ๒๕๖๒/๒๕๖๓ คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษา เมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๓ มีมติอนุมัติตามที่ ส านักงานทรัพยากรน้ าแห่งชาติเสนอ โดยให้ส านักงานทรัพยากรน้ าแห่งชาติและหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของส านักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณา ด าเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ที่ประชุมพิจารณารายละเอียดจังหวัดที่อยู่ในแผนปฏิบัติการ ความจ าเป็น ฉุกเฉินในการด าเนินการ การบูรณาการการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รายละเอียดการจัดสรร งบประมาณ และขอให้ส านักงบประมาณเร่งรัดพิจารณาจัดสรรงบโดยไม่ให้กระทบต่อ การจัดสรรงบประมาณตามร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจ าปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ส านักงานทรัพยากรน้ าแห่งชาติจะต้องบูรณาการแผนและข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก าหนดแผนงานให้ชัดเจนและเร่งรัดการจัดสรรงบประมาณ และใช้งบประมาณแบบบูรณาการ ตามงบประมาณรายจ่ายประจ าปีเพื่อแก้ไขปัญหา และควรจะได้จัดท าแผนแม่บทและน าเสนอ โครงการขนาดใหญ่เพื่อแก้ไขปัญหาและก าหนดทิศทางการจัดการน้ าอย่างเป็นระบบและยั่งยืน และกรมทรัพยากรน้ าและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรบูรณาการการท างานร่วมกับกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ครั้งที่ ๑๙ วันพุธที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “ศึกษาภาพรวมการจัดท าและการบริหารงบประมาณเพื่อพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐาน ในโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก และโครงการ รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน” ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๑ โดยสาระส าคัญเป็นการอนุมัติหลักการโครงการรถไฟความเร็วสูง เป็นการร่วมทุนระหว่าง ภาครัฐกับภาคเอกชน เป็นระยะเวลา ๕๐ ปี โดยมีระยะเวลาออกแบบก่อสร้าง ๕ ปี และมีการ ก าหนดระยะเวลาการให้บริการของเอกชนจ านวน ๔๕ ปี มูลค่ารวมของโครงการรถไฟความเร็ว สูงเชื่อมสามสนามบินตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการคือ ๒๒๔,๐๐๐ ล้านบาท เป็นเงินส่วน ที่รัฐจะร่วมลงทุนกับเอกชนไม่เกินวงเงินค่าก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานมูลค่าประมาณ ๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๕๔ ของเงินงบประมาณ ๒๒๔,๐๐๐ ล้านบาท รายละเอียดของโครงการจะ ประกอบไปด้วยโครงการรถไฟมูลค่าโครงการประมาณ ๑๖๘,๗๑๘ ล้านบาท และโครงการ พัฒนาพื้นที่เพื่อสนับสนุนบริการรถไฟ รวมมูลค่าประมาณ ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งในส่วนวงเงิน ที่รัฐร่วมลงทุนคิดเป็นร้อยละ ๗๑ ของวงเงินโครงการรถไฟ ในหลักการจะให้เอกชนผู้ด าเนิน
- ๒๓ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ โครงการเป็นผู้รับผิดชอบความเสี่ยงในการด าเนินการก่อสร้างรวมถึงการให้บริการและการรับรายได้ หลังจากที่เอกชนก่อสร้างแล้วเสร็จภาครัฐจะเริ่มจ่ายเงินอันเป็นการร่วมลงทุนกับภาคเอกชน โดยจะมีการแบ่งช าระเงินเป็นจ านวนเท่า ๆ กันในระยะเวลา ๑๐ ปี ทั้งนี้มติคณะรัฐมนตรี ดังกล่าวข้างต้นได้มีการรับฟังความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มี มติดังกล่าวข้างต้นการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ด าเนินการประกาศเชิญชวนให้เอกชนยื่น ประกวดราคาและปรากฏว่ามีเอกชนผู้สนใจร่วมลงทุนจ านวน ๒ ราย คือ กิจการร่วมค้า บีเอสอาร์และกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จ ากัด และพันธมิตร โดยผลการ ประกวดราคาปรากฏว่ากิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จ ากัด และพันธมิตร เป็นผู้ชนะการประมูล ซึ่งผู้ชนะได้ยื่นข้อเสนอให้รัฐร่วมลงทุนต่ าที่สุด จ านวนเงิน ๑๔๙,๖๕๐ ล้านบาท และหลังจากที่ได้มีการเจรจาเกี่ยวกับข้อสัญญาและส านักงานอัยการสูงสุดได้มีการตรวจร่าง สัญญาแล้วเสร็จ ก็มีการเสนอไปที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่ออนุมัติ หลังจากนั้นได้มีการเสนอผลการคัดเลือก ผลการเจรจาและร่างสัญญาดังกล่าว ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา คณะรัฐมนตรีได้มีมติ อนุมัติให้การรถไฟแห่งประเทศไทยก่อหนี้ ผูกพันข้ามปีงบประมาณได้ในวงเงิน ๑๔๖,๙๖๐ ล้านบาท ตามมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติ วิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทยช าระเงินที่ร่วมลงทุนเป็นราย ปี ปีละไม่เกินวงเงิน ๑๔,๙๖๕ ล้านบาทเป็นเวลา ๑๐ ปีหลังจากที่เอกชนมีการเปิดบริการ ให้เดินรถ และให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ เรื่อง หลักเกณฑ์การก่อหนี้ผูกพันเพื่อให้การรถไฟแห่งประเทศไทยสามารถก่อหนี้ผูกพันข้าม ปีงบประมาณเกินกว่า ๕ ปีเนื่องจากการร่วมลงทุนดังกล่าวมีการก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าที่ก าหนด ไว้ในกฎหมายปัญหาอุปสรรคในการด าเนินโครงการ เรื่องของการส่งมอบพื้นที่ประมาณ ๔,๐๐๐ กว่าไร่ ตลอดระยะทาง ๒๒๐ กิโลเมตร เนื่องจากมีระบบสาธารณูปโภคบางส่วนขอใช้ พื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่ประชุมพิจารณาการส่งมอบพื้นที่โดยด าเนินการโยกย้ายผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ของ การรถไฟแห่งประเทศไทย รายละเอียดการบริหารจัดการ การอนุมัติ และวิธีการอนุมัติ รายละเอียดของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก รายละเอียด เกี่ยวกับการด าเนินโครงการในช่วงระยะเวลาต่าง ๆ การยื่นซองประมูล ครั้งที่ ๒๐ วันพุธที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาศึกษาภาพรวมการจัดท า และบริหารงบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔” ที่ประชุมพิจารณาได้รับทราบแนวทางการจัดท า งบป ระมาณ รายจ่ายประจ าปีงบป ระมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ รายการซึ่งจะต้องมีการก่อหนี้
- ๒๔ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ผูกพันงบประมาณมากกว่าหนึ่งปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป กระบวนการทบทวนและวางแผนงบประมาณ กระบวนการจัดท างบประมาณ กระบวนการ อนุมัติงบประมาณ ยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่าย ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ โครงสร้างยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบประมาณแบบบูรณาการ หลักเกณฑ์การก าหนดแผนแบบบูรณาการ การจัดท า งบประมาณรายจ่ายบูรณาการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ จ าแนกตามยุทธศาสตร์ จัดสรร ทั้งนี้ วงเงินและโครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ มีวงเงินงบประมาณ ๓,๓๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เป็นรายได้ ๒,๗๗๗,๐๐๐ ล้านบาท และเงินกู้ ๕๒๓,๐๐๐ ล้านบาท และจ าแนกตามรายจ่าย เป็นรายจ่ายประจ า ๒,๕๐๘,๐๐๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๗๖ รายจ่ายลงทุน ๖๙๓,๐๐๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๒๑ และเป็นรายจ่าย ช าระคืนเงินต้นเงินกู้ ๙๙,๐๐๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๓ ที่ประชุมพิจารณาผลกระทบจากการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ล่าช้ากว่าก าหนด และผลกระทบต่อการพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ รายละเอียดการ ขยายฐานภาษี และการด าเนินการให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษี รายละเอียดอัตราจัดเก็บ รายได้ที่ราชพัสดุ การแบ่งประเภทที่ดินที่ก าหนดให้เป็นที่ดินราชพัสดุ รายละเอียดผลการ ด าเนินการของส านักงบประมาณตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการ ที่ประชุมมีมติให้ส านักงบประมาณ ธนาคารแห่งประเทศไทย ส านักงาน สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ส านักงานเศรษฐกิจการคลัง กรมสรรพกร กรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กรมธนารักษ์ กรมบัญชีกลาง และส านักงานบริหารหนี้สาธารณะ รับทราบการเสนอความเห็นของคณะกรรมาธิการเพื่อพิจารณาประกอบการด าเนินการ ครั้งที่ ๒๑ วันพุธที่ ๑๒ กุมภาพันธ์๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาศึกษาติดตามการแก้ไขปัญหาและป้องกันปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๓ และศึกษาการจัดท าการบริหารงบประมาณในการแก้ไข ปัญหาและการป้องกันปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ” ที่ประชุมพิจารณาการบริหารงบประมาณในการแก้ไขปัญหาและการป้องกัน ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ซึ่งได้รับข้อมูลว่า สถานการณ์ ฝุ่นละออง PM 2.5 เฉลี่ย ๒๔ ชั่วโมงในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จะพบฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในช่วงปลายปี คือ เดือนพฤศจิกายน ธันวาคม มกราคมและกุมภาพันธ์ ถ้าพ้นจากช่วงเดือนนี้ไป แล้วจะเข้าสู่ฤดูฝน จะช่วยท าให้ปัญหาฝุ่นระอองขนาดเล็กลดน้อยลง เรื่องปัจจัยที่ไม่สภาพ ควบคุมได้ คือ สภาวะอุตุนิยมวิทยา เนื่องจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง ส่งผลให้อากาศนิ่ง และปัจจัยที่สามารถควบคุมได้เช่น การจราจร ภาคอุตสาหกรรม การเผาในที่โล่ง เนื่องจาก จังหวัดปริมณฑลล้อมรอบกรุงเทพมหานครยังมีการท าอาชีพเกษตรกรและมีการเผาในที่โล่ง
- ๒๕ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ส่งผลกระทบมายังกรุงเทพมหานคร ซึ่งเราต้องมีมาตรการในการควบคุมพื้นที่บริเวณรอบ ๆ กรุงเทพ ฯ ด้วย ส่วนแหล่งก าเนิด PM 2.5 ในพื้นที่อื่น ประกอบด้วย ภาคเหนือ ๙ จังหวัด เกิด จากการเผาในที่โล่งและหมอกควันข้ามแดน ภาคกลาง ภาคตะวันตก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เกิดจาก การเผาวัสดุการเกษตร การเผาริมทาง หมอกควันข้ามแดนต าบลหน้าพระลาน จังหวัด สระบุรี เกิดจาก ถนนและการจราจร อุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ และปูนขาว โรงโม่บดหรือย่อยหิน การท าเหมืองแร่ และภาคใต้ เกิดจาก ไฟในป่าพรุ และหมอกควันข้ามแดน แผนปฏิบัติการ ขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ “การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” โดยมี ๓ มาตรการ คือ การเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นที่ การแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนและในช่วง วิกฤต คือ ในสถานการณ์ที่มีปัญหาในลักษณะนี้จะต้องมีกิจกรรมหรือมีการด าเนินการอะไรบ้าง การป้องกันและลดการเกิดมลพิษที่ต้นทาง แหล่งก าเนิด การแก้ไขปัญหาในระยะสั้น ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ และระยะยาว ปี พ.ศ. ๒๕๖๕- ๒๕๖๗ คือ ควบคุมแหล่งก าเนิดที่เป็นปัญหา ในแต่ละพื้นที่ เช่น ในกรุงเทพมหานคร เป็นเรื่องการจราจร โรงงานอุตสาหกรรมเกี่ยวกับ เรื่องการเผาในที่โล่ง ซึ่งจะมีการบูรณาการหน่วยงานที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน และการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ การแก้ไขปัญหาในระยะสั้นปี พ.ศ. ๒๕๖๒ – ๒๕๖๔ และระยะยาว ปี พ.ศ. ๒๕๖๕ – ๒๕๖๗ เช่น เรื่องการแก้ไขกฎหมาย มาตรการ การก ากับดูแล การเพิ่มเติมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ประชุมพิจารณารายละเอียดแหล่งเกิดมลภาวะ งบประมาณในการติดตั้ง สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ แนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันในเขตภาคเหนือ การขาด การประชาสัมพันธ์ของภาครัฐในการสื่อสารกับประชาชนในเรื่องมลพิษ การปรับปรุง แก้ไขเรื่อง กฎหมายของกรมโรงงานอุตสาหกรรมให้ทันสมัย ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และบริบทสังคม ที่เปลี่ยนไป การบูรณาการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ครั้งที่ ๒๒ วันพุธที่ ๑๙ กุมภาพันธ์๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาศึกษาภาพรวมกระบวนการจัดท างบประมาณรายจ่ายประจ าปี พ.ศ. ๒๕๖๔” ที่ประชุมพิจารณาภาพรวมกระบวนการจัดท างบประมาณรายจ่ายประจ าปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ได้รับข้อมูลว่า วงเงินและโครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ มีวงเงินงบประมาณ ๓,๓๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เป็นรายได้ ๒,๗๗๗,๐๐๐ ล้านบาท และเงินกู้ ๕๒๓,๐๐๐ ล้านบาท จ าแนกตามรายจ่าย เป็นรายจ่ายประจ า ๒,๕๐๘,๐๐๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๗๖ รายจ่ายลงทุน ๖๙๓,๐๐๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๒๑ และเป็นรายจ่าย ช าระคืนเงินต้นเงินกู้ ๙๙,๐๐๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๓ รายละเอียดกระบวนการทบทวน และวางแผนงบประมาณ กระบวนการจัดท างบประมาณ กระบวนการอนุมัติงบประมาณ ปัญหาอุปสรรคในการจัดท างบประมาณ
- ๒๖ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ที่ป ระชุมพิ จารณ าถึงป ระเด็นก ารสนับสนุนข้อมูลในก ารพิจ ารณ าร่าง พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจ าปี รูปแบบการจัดเก็บข้อมูล รายละเอียดการติดตาม บริหารเงินนอกงบประมาณ รายละเอียดอ านาจหน้าที่และกรอบการท างานของส านักงบประมาณ ในพื้นที่ ที่ประชุมมีมติให้รวบรวมสรุปประเด็นการการพิจารณาตลอดจนแนวทางการแก้ไข มาตรา ๑๔๔ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เพื่อมีหนังสือกราบเรียน นายกรัฐมนตรีโดยมอบหมายให้ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการพิจารณายกร่าง ครั้งที่ ๒๓ วันพุธที่ ๔ มีนาคม ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาศึกษาภาพรวมเงินนอกงบประมาณ” ที่ป ระชุม พิ จ ารณ าได้ รับ ข้ อมู ล ว่ าม าต รก ารก ระตุ้น เศ รษ ฐกิ จ ของ กระทรวงการคลัง แบ่งออกเป็น กลุ่มของเกษตรกร และกลุ่มของผู้ที่ได้รับผลกระทบจาก เศรษฐกิจชะลอตัว ส่วนเงินนอกงบประมาณ ประกอบด้วยเงินนอกงบประมาณ และทุน หมุนเวียนกองทุน ซึ่งทุนหมุนเวียนกองทุนประกอบด้วย การกู้ยืม การจ าหน่ายและผลิต การบริการ การสงเคราะห์และสวัสดิการ และการสนับสนุนส่งเสริม ส่วนการเบิกจ่ายงบลงทุน ของรัฐวิสาหกิจ ข้อมูลผลการเบิกจ่าย ณ มกราคม ๒๕๖๓ จ านวน ๔๕ แห่ง ประกอบด้วย กรอบลงทุนทั้งปี จ านวน ๓๑๗,๘๔๘ ล้านบาท แผนสะสม จ านวน ๓๖,๘๕๕ ล้านบาท และเบิกจ่ายจริง จ านวน ๓๗,๔๐๑ ล้านบาท ๔. ร้อยละเบิกจ่ายจริงสะสม/แผนเบิกจ่ายสะสม ร้อยละ ๑๐๑ ที่ประชุมพิจารณาการจัดเก็บเงินนอกงบประมาณ การก่อหนี้สาธารณะ ล่วงหน้าโดยไม่ผ่านสภาผู้แทนราษฎร หลักเกณฑ์การจัดเก็บเงินนอกงบประมาณในแต่ละ หน่วยงานซึ่งยังปฏิบัติไม่สอดคล้องตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลัง พ.ศ. ๒๕๖๑ พระราชบัญญัติวิธีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ และพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ. ๒๔๙๑ และ ที่แก้ไขเพิ่มเติม การตรวจสอบเงินนอกงบประมาณ นโยบายของรัฐบาลในการที่จะดูแลเรื่อง การปลูกข้าวประชาชน การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รัฐควรที่จะก าหนดหลักเกณฑ์ ให้มีความชัดเจนถึงหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่ประชุมมีมติให้กระทรวงการคลังและส่วนราชการภายในกระทรวงรับ ข้อความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ เพื่อน าไปพิจารณาในการน าไปปรับใช้ใน การด าเนินงานของส่วนราชการในกระทรวง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสูดในการช่วยเหลือ ประชาชน
- ๒๗ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ครั้งที่ ๒๔ วันพฤหัสบดีที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาข้อจ ากัดและข้อควรปฏิบัติที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการประชุม ตลอดจนข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการประชุมของคณะกรรมาธิการ ภายใต้ สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID – 19)” ที่ประชุมมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการก าหนดเจ้าหน้าที่รับผิดชอบเพื่อรองรับ การประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และจัดซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งคาดว่าจะมีการประชุมผ่าน สื่ออิเล็กทรอนิกส์เป็นระยะเวลาอีกประมาณ ๒ เดือน ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมาธิการครั้ง ต่อไปให้เชิญที่ปรึกษาประจ าคณะกรรมาธิการจากส านักงบประมาณ กรมบัญชีกลาง และ ส านักงานตรวจเงินแผ่นดินเข้าร่วมประชุมที่สภาผู้แทนราษฎร จากนั้นได้หารือแนวทางการ ด าเนินการของคณะกรรมาธิการ โดยเสนอให้คณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาพระราชก าหนด ให้อ านาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับ ผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ พระราชก าหนด การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ พระราชก าหนดการรักษาเสถียรภาพของระบบ การเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตลอดจนร่างพระราชบัญญัติ โอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... การจัดท างบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ติดตามการบริหารงบประมาณเงินนอกงบประมาณ ที่ประชุมมีมติจัดสัมมนาและเดินทางศึกษาดูงานทุกภูมิภาคเพื่อพิจารณาศึกษา การจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณงบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ การจัดท างบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบประมาณตาม พระราชก าหนดให้อ านาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ พระราชก าหนดการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบวิสาหกิจที่ได้รับผลกระทบจาก การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ พระราชก าหนดการรักษา เสถียรภาพของระบบการเงินและความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๓ ตลอดจน ร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. .... ครั้งที่ ๒๕ วันพุธที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “ภาพรวมการจัดท าพระราชก าหนดให้อ านาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓” ที่ประชุมพิจารณาได้ข้อมูลว่า สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สคช.) รับผิดชอบเกี่ยวกับเงินกู้เพื่อการฟื้นฟู วงเงินงบประมาณ จ านวน ๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งของพระราชก าหนดเงินกู้ ๑ ล้านล้านบาท โดยแบ่งเป็น แผนงานหรือโครงการที่มี
- ๒๘ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ วัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อแก้ปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 วงเงินงบประมาณ จ านวน ๔๕,๐๐๐ ล้านบาท และแผนงานหรือโครงการที่มี วัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา ชดเชยให้กับภาคประชาชน เกษตรกร และผู้ประกอบการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรอบวงเงิน ๕๕๕,๐๐๐ ล้านบาท หน่วยงานเจ้าของโครงการจัดท าข้อเสนอโครงการตามวิธีการที่คณะกรรมการก าหนดจะต้องมี การกลั่นกรองอย่างจริงจังและเข้มงวด โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ มีการตั้ง คณะอนุกรรมการและคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ฯ เพื่อพิจารณาแผนงาน/โครงการ ฯ กลุ่มที่ ๓ เมื่อมีการพิจารณาแผนงาน/โครงการแล้ว ส่งไปที่คณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ซึ่งมีเลขาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เป็นประธาน เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการ เมื่อคณะกรรมการกลั่นกรองและมีมติอย่างไร จะเสนอต่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบต่อไป ในขั้นตอนสุดท้าย การน าเสนอโครงการและการจัดสรรงบประมาณ ตามกฎหมายพระราชก าหนดให้ อ านาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับ ผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ ๒๕๖๓ การเสนอโครงการ ต้องมาจากหน่วยงานผู้รับงบประมาณเท่านั้น ในขั้นตอนการน าเสนอ โครงการเป็นนโยบายว่าจะต้องผ่านการ แสดงความคิดเห็นรูปแบบใดรูปแบบ หนึ่งจากหน่วยงาน ประชาชน หรือส่วน งานที่เกี่ยวข้อง เมื่อมีข้อเสนอโครงการ เข้ามา วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ ที่ผ่าน มา สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ได้รวบรวมแผนงาน โครงการที่ หน่วยงานทั้งหมดที่เสนอโครงการ รวม ทั้งสิ้น จ านวน ๒๘,๑๙๖ โครงการ วงเงินรวม ๓๗๒,๕๓๒.๖๕ ล้านบาท โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก าลังรวบรวม แผนงาน โครงการขึ้นเว็บไซต์ของสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและเปิดโอกาส ให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้าไปให้ความเห็นโดยแต่ละโครงการจะเป็นรายละเอียดเบื้องต้น และ เปิดรับฟังความคิดเห็นถึงวันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ หลังจากนั้น ทางสภาพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ จะด าเนินการร่วมกระบวนการกลั่นกรองร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่ สามารถให้ข้อมูลได้ และจะหยิบโครงการขึ้นมาบางส่วนที่คิดว่าเป็นโครงการที่มีคุณภาพและ แจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบให้จัดท ารายละเอียดโครงการส่งมาใหม่ เมื่อส่งมาแล้วจะน าเสนอ ต่อคณะอนุกรรมการที่รับผิดชอบเพื่อพิจารณากลั่นกรอง จากนั้นส่งไปที่คณะกรรมการ กลั่นกรองเงินกู้ชุดใหญ่ โดยมีการก าหนดระยะเวลาการพิจารณาที่แน่นอนประมาณ ๑๐ – ๒๐ วัน
- ๒๙ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ทั้งนี้ มีหน่วยงานทั้งหมดที่เสนอโครงการ รวมจ านวน ๒๘,๓๓๑ โครงการ วงเงิน รวม ๓๗๒,๕๓๒.๖๓ ล้านบาท ที่ประชุมพิจารณา เกี่ยวกับการโอนงบประมาณรายจ่ายประจ าปี ๒๕๖๓ และ การกู้ยืมเงิน เพื่อน ามาแก้ไขปัญหาและเยียวยา ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 รายละเอียดขั้นตอนการเสนอโครงการ การพิจารณากลั่นกรอง และการอนุมัติโครงการ และ มีข้อเสนอแนะว่า ควรมีตัวแทนในส่วนของภาคประชาชน หรือจังหวัด เข้าไปมีส่วนร่วมในการ พิจารณา กลั่นกรองเงินกู้เพราะมีความเข้าใจในพื้นที่อย่างแท้จริง มากกว่าคณะอนุกรรมการ คณะกรรมการที่คัดสรรมาจากส่วนกลางแต่เพียงอย่างเดียว การใช้จ่ายเงินกู้ต้องน าไปใช้กับ โครงการที่แตกต่างจากโครงการปกติที่เป็นงบประมาณรายจ่ายประจ าปี และควรใช้จ่ายเงินกู้ อย่างคุ้มค่า หลักเกณฑ์การใช้งบประมาณ ควรสอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงในพื้นที่และ สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง โครงการต้องไม่มี การซ้ าซ้อนและมีความแตกต่างกับงบประมาณรายจ่ายประจ าปีปกติการเสนอโครงการต้องมี การเรียงค าขอจัดล าดับความส าคัญของโครงการอย่างชัดเจน พิจารณาเรื่อง “ศึกษาติดตามการบริหารงบประมาณของกรมทางหลวง และกรมทางหลวง ชนบท งบประมาณรายจ่ายปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ศึกษาการจัดท างบประมาณรายจ่าย ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ และพระราชก าหนดให้อ านาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของจังหวัดมหาสารคาม” ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่า แผนปฏิบัติราชการประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของจังหวัดมหาสารคาม ได้รับการจัดสรรงบประมาณทั้งสิ้น ๒๔๖,๑๑๓,๐๐๐ บาท เป็นงบลงทุน ๒๐๔,๑๖๖,๐๐๐ บาท เป็นงบด าเนินงาน ๔๑,๙๔๗,๐๐๐ บาท ได้มีการปรับลด ตามมติคณะรัฐมนตรี เป็นเงิน ๒๓,๙๘๑,๑๐๐ บาท โดยสรุปได้รับงบประมาณหลังปรับลด จ านวน ๒๒๒,๑๓๑,๙๐๐ บาท เป็นงบลงทุน จ านวน ๒๐๔,๑๖๖,๐๐๐ บาท งบด าเนินงาน จ านวน ๑๗,๙๖๕,๙๐๐ บาท ในส่วนของงบลงทุนที่มี ๕ รายการเป็นงบของแขวงทางหลวง ชนบท จ านวน ๑ รายการ เป็นเงิน ๑๔ ล้านบาท เป็นงบของแขวงทางหลวงจังหวัด จ านวน ๔ รายการคือ การปรับปรุงถนนทั้งหมด ๔ เส้น เส้นละ ๕๐ ล้านบาท จ านวน ๓ เส้น และเส้นละ ๔๐ ล้านบาท จ านวน ๑ เส้น ผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ในงบลงทุน ๒๐๔,๑๖๖,๐๐๐ บาท ได้ท าสัญญาก่อหนี้ผูกพันแล้ว จ านวน ๒๐๒,๙๖๗,๒๐๐ บาท คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๔๑ ส่วนงบ ด าเนินงาน จ านวน ๑๗,๙๖๕,๙๐๐ บาท ได้เบิกจ่ายแล้ว จ านวน ๘,๑๕๖,๔๐๒.๓๕ บาท คิดเป็นร้อยละ ๔๕.๓๙ เมื่อรวมงบประมาณที่ได้รับทั้งสิ้น จ านวน ๒๔๖,๑๑๓,๐๐๐ บาท ใช้ จ่ายงบประมาณแล้ว คิดเป็นร้อยละ ๙๕.๐๔ แผนปฏิบัติราชการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ได้รับกรอบวงเงินงบประมาณ จ านวน ๒๔๖,๑๕๒,๐๐๐ บาท มีทั้งหมด ๒๕ รายการ เป็นงบลงทุน ๒๐๔,๓๕๕,๐๐๐ บาท เป็นงบด าเนินงาน ๔๑,๗๙๗,๐๐๐ บาท
- ๓๐ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ มีทั้งหมด ๑๗ รายการ โดยงบด าเนินงานปรับลดตามมติคณะรัฐมนตรี จ านวน ๘,๒๐๐,๐๐๐ บาท คิดเป็นร้อยละ ๒๕ งบประมาณหลังปรับลด สรุปได้ดังนี้ งบลงทุน จ านวน ๒๐๔,๓๕๕,๐๐๐ บาท งบด าเนินงาน ๓๓,๕๙๗,๐๐๐ บาท รวมทั้งสิ้น ๒๓๗,๙๕๒,๐๐๐ บาท โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และสังคม ทางจังหวัดมหาสารคามได้ประชุมคณะกรรมการบริหารงานจังหวัดแบบบูรณาการ (ก.บ.จ.) เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ ได้พิจารณางบประมาณตามกรอบที่ทางส่วนกลาง ก าหนดไว้ให้มีทั้งหมด ๖ ด้าน หลังจากนั้นได้ประมวลรวบรวม แผนงาน โครงการ แยกเป็น งบ Function งบจังหวัด งบท้องถิ่น มีทั้งหมด ๒,๒๖๔ โครงการ งบประมาณรวมทั้งสิ้น ๕,๒๐๒,๓๐๗,๕๘๔ บาท และส่งรายการให้ส านักพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเรียบร้อย แล้ว เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งคาดว่าจะส่งคืนให้ ทางจังหวัดในการปรับปรุงให้เสร็จสมบูรณ์และเสร็จสมบูรณ์และส่งคืนให้กระทรวงมหาดไทย ภายในวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ เพื่อผ่านความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผ่านการพิจารณาอนุกรรมการและคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้และเข้าคณะรัฐมนตรีต่อไป ที่ประชุมพิจารณาว่ากระบวนการจัดท างบประมาณควรมีกระบวนการการมี ส่วนร่วมของประชาชน เพื่อแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน พิจารณาการก าหนด ร่างขอบเขตงานในโครงการซึ่งอาจเอื้อประโยชน์ต่อเอกชน ครั้งที่ ๒๖ วันพุธที่ ๑๗ มิถุนายน ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาติดตามการบริหารงบประมาณโครงการยกระดับมาตรฐานและเพิ่ม ประสิทธิภาพทางหลวง งบจังหวัดมหาสารคาม ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จ านวน ๔ โครงการ คือ ทางหลวงหมายเลข ๒๓๘๑ ตอน นาเชือก-โพธิ์ทอง ทางหลวงหมายเลข ๒๐๔๕ ตอนหนองคูโคก-วาปีปทุม ทางหลวงหมายเลข ๒๐๔๐ ตอน มหาสารคาม-วาปีปทุม และ ทางหลวงหมายเลข ๒๐๔๐ ตอน วาปีปทุม-พยัคภูมิพิสัย” ที่ประชุมได้พิจารณาได้รับทราบข้อมูลว่า โครงการยกระดับมาตรฐานและ เพิ่มประสิทธิภาพทางหลวง งบจังหวัดมหาสารคาม ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จ านวน ๔ โครงการ คือ ทางหลวงหมายเลข ๒๓๘๑ ตอน นาเชือก-โพธิ์ทอง ทางหลวงหมายเลข ๒๐๔๕ ตอน หนองคูโคก-วาปีปทุม ทางหลวงหมายเลข ๒๐๔๐ ตอน มหาสารคาม-วาปีปทุม และทางหลวง หมายเลข ๒๐๔๐ ตอน วาปีปทุม-พยัคภูมิพิสัย จากการด าเนินการพบว่า ทั้ง ๔ โครงการมีผู้มี คุณสมบัติขอซื้อซองประกวดราคา โครงการละ ๕-๖ ราย ซึ่งจากการตรวจสอบวิเคราะห์สภาพ ผิวทางเดิมพบว่าทั้ง ๔ เส้นทาง มีความเหมาะสมที่จะบ ารุงทางแบบ Hot Mix In – Place Recycling ซึ่งการก าหนดคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอต้องจดทะเบียนผู้รับเหมาเนื่องจากการบ ารุง ทางแบบ Hot Mix In – Place Recycling จะต้องใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่และซับซ้อน การก าหนดแผนที่ตั้งโรงงงานผสมแอสฟัลต์คอนกรีตและเส้นทางขนส่งจากโรงงานผสมถึง กึ่งกลางของโครงการก่อสร้าง มีระยะทางขนส่งไม่เกิน ๑๐๐ กิโลเมตร เป็นการก าหนด ตามมาตรฐาน ทล.ม.๔๐๙/๒๕๔๙ ซึ่งเห็นควรให้ใช้ระยะทางขนส่งเฉลี่ยส่วนผสมแอสฟัลต์
- ๓๑ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ คอนกรีตไม่เกิน ๑๐๐ กิโลเมตร จากเดิมระยะขนส่งเฉลี่ยไม่เกิน ๘๐ กิโลเมตร ทั้งนี้ มาตรฐาน ดังกล่าวได้มีการแจ้งให้ผู้รับจ้างทราบล่วงหน้า และเปิดโอกาสให้ผู้รับจ้างสามารถจดทะเบียนตั้ง โรงงานผสมได้ และยังก าหนดให้ ผู้ยื่นข้อเสนอสามารถใช้โรงงานผสมแอสฟัลต์คอนกรีตแบบ เคลื่อนที่ได้ซึ่งการก าหนดในลักษณ ะดังกล่าวเพื่อให้การด าเนินการมีคุณภาพ ทั้งนี้ กรมทางหลวงมีกระบวนการที่เข้มงวดในการตรวจสอบคุณภาพในการด าเนินการ อย่างไรก็ตาม แม้การด าเนินโครงการดังกล่าวเป็นไปตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ แต่ก็มีข้อน่าสังเกต คือ มีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว และมีราคาต่ ากว่า ราคากลางเพียง ๑๕,๐๐๐ บาท ที่ประชุมพิจารณา ประเด็นการก าหนดคุณสมบัติผู้ยื่นข้อเสนอ การด าเนิน ภารกิจที่มีรูปแบบในลักษณะเดียวกันไม่ว่าจะเป็นงบประมาณของจังหวัดหรืองบประมาณของ กรมทางหลวง อ านาจในการลงนามของผู้อ านวยการแขวงทางหลวงแทนผู้ว่าราชการจังหวัด การก าหนดคุณสมบัติเพื่อเอื้อผู้ยื่นข้อเสนอบางราย ที่ประชุมมีมติให้กรมทางหลวงรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการไปปรับใช้ ในการด าเนินโครงการตลอดจนก าหนดแนวทางเพื่อเตรียมความพร้อมในการด าเนินงาน งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ และการด าเนินงานตามงบประมาณตามพระราชก าหนดให้อ านาจ กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบ จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ครั้งที่ ๒๗ วันพุธที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “ศึกษาการจัดท างบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ และ แผนงาน/โครงการ ตามพระราชก าหนดให้อ านาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส โคโรนา ๒๐๑๙ ของจังหวัดนนทบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยา” ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่า งบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ กรอบวงเงินที่ส านัก งบประมาณจัดสรรให้แก่จังหวัดนนทบุรี วงเงิน ๒๗๑,๘๐๖,๕๐๐ บาท ต่อมามีสถานการณ์ โควิด ๑๙ คณะรัฐมนตรีได้มีมติ เมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๖๓ ปรับลดกรอบวงเงินงบประมาณ คงเหลือ ๑๗๑,๕๑๒,๘๐๐ บาท แบ่งเป็นงบลงทุน ๑๓๖,๓๓๙,๐๐๐ บาท งบรายจ่ายประจ า ๒๖,๑๗๓,๘๐๐ บาท โดยงบลงทุนมีแผนงานพัฒนาเมืองน่าอยู่ จ านวน ๓ โครงการ ๑๗ กิจกรรม วงเงินงบประมาณ ๑๔๘,๔๘๘,๘๐๐ ล้าน ร้อยละ ๘๖ แยกเป็นกิจกรรมด้านการ พัฒนาโครงสร้างการขนส่งสาธารณะและระบบสาธารณูปโภค จ านวน ๓ กิจกรรม วงเงิน ๙,๕๐๐,๐๐๐ บาท กิจกรรมความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จ านวน ๑๒ กิจกรรม งบประมาณ ๑๓๒,๗๐๐,๐๐๐ บาทเศษ กิจกรรมพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน จ านวน ๒ กิจกรรม วงเงินงบประมาณ ๖ ล้านบาทเศษ แผนพัฒนาเมืองเศรษฐกิจสร้างสรรค์จ านวน ๓ โครงการ ๔ กิจกรรม วงเงินงบประมาณ ๑๔ ล้านบาทเศษ คิดเป็นร้อยละ ๘.๑๘ แบ่งเป็น
- ๓๒ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ กิจกรรมส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนและเศรษฐกิจฐานราก จ านวน ๑ กิจกรรม งบประมาณ ๒,๖๐๐,๐๐๐ บาทเศษ กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ จ านวน ๑ กิจกรรม งบประมาณ ๖ ล้านบาทเศษ กิจกรรมการพัฒนาแหล่งผลิตภาคการเกษตร จ านวน ๒ กิจกรรม งบประมาณ ๔,๕๐๐,๐๐๐ บาทเศษ งบบริหารในกลุ่มขนาดกลาง จ านวน ๙ ล้านบาท ค าขอ งบประมาณในโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า ๒๐๑๙ โดยส านักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ร่วมประชุมกับกระทรวงมหาดไทยมีข้อสั่งการว่าโครงการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยส านักงาน สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นผู้ก าหนดหลักเกณฑ์ว่าโครงการใดท าได้หรือ ไม่ได้โดยงบประมาณที่อยู่ในพื้นที่เป็นจังหวัดเป็นหน่วยรับงบประมาณ วงเงิน ๘๐ ล้านบาท ค าของบประมาณที่เสนอผ่านกระทรวง กรมต่าง ๆ ตามกรอบที่ส านักงานสภาพัฒนา การเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ วงเงิน ๓๑๗ ล้านบาท ส าหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เสนอไปที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น วงเงิน ๗๒๘ ล้านบาท จ านวน ๑๐๑ โครงการ ส านักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้พิจารณาคัดเลือกโครงการแล้ว ให้จังหวัดซึ่งเป็นหน่วยรับงบประมาณได้รับ วงเงิน ๔๑ ล้านบาท แยกเป็นการเกษตร ๕ ล้าน บาท การท่องเที่ยวชุมชน ๑๙ ล้านบาท และอื่น ๆ ๑๖ ล้านบาท ส าหรับงบประมาณที่ผ่าน จังหวัดไปที่หน่วยอื่นเป็นหน่วยรับงบประมาณ วงเงินรวมทั้งสิ้น ๒๘ ล้านบาท เป็นด้าน การเกษตร ๘ ล้านบาท การท่องเที่ยวชุมชน ๔ ล้านบาท และด้านอื่น ๆ ๔๕ ล้านบาท จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภาพรวมงบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ที่ได้รับจากสรรเป็น ๒๕๕ ล้านบาท ก่อหนี้ผูกพันแล้ว ๒๐๒ ล้านบาท เบิกจ่าย ๗.๐๘ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๒.๗๗ เปอร์เซ็นต์ ผลการเบิกจ่ายงบประมาณ แบ่งเป็น งบด าเนินงาน ได้รับจัดสรร ๕๖ ล้านบาท ก่อหนี้ผูกพันแล้ว ๑๔ ล้านบาท เบิกจ่าย ๔.๓๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๗.๖๒ งบลงทุน ได้รับการจัดสรร ๑๙๙ ล้านบาท ก่อหนี้ผูกพันแล้ว ๑๘๘ ล้านบาท เบิกจ่าย ๒.๗๘ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑.๔๐ วงเงินที่เสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ในร่างงบประมาณรายจ่ายประจ าปี พ.ศ. ๒๕๖๔ งบประมาณรวม ๒๗๔.๑๒๕๘ ล้านบาท จ านวน ๘ โครงการ ๒๒ กิจกรรม จ าแนกงบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ จ านวน ๒๗๔.๑๒๕๘ ล้าน บาท แยกเป็นด้านสังคม ๒๒๙.๖๒๗ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๘๓.๗๗ ด้านเกษตร ๔.๒๕๐๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑.๕๕ ด้านอุตสาหกรรม ๕.๓๔๓๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑.๙๕ ด้านการท่องเที่ยว ๒๕.๙๐๕๗ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๙.๔๕ งบบริหาร ๙ ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ ๓.๘ สรุปงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ จ านวนโครงการทั้งหมด ๑๒ โครงการ ๕๗ กิจกรรม งบประมาณทั้งสิ้น ๔๘๕.๙๘๐ ล้านบาท ส านักงบประมาณพิจารณาเบื้องต้น จ านวน ๙ โครงการ ๒๗ กิจกรรม งบประมาณ ๒๘๕.๙๕๘๘ ล้านบาท ปรับปรุงงบประมาณ
- ๓๓ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ โดยปรับลด จ านวน ๑ โครงการ ๕ กิจกรรม งบประมาณ ๑๑.๘๓๓ ล้านบาท คงเหลือ ๘ โครงการ ๒๒ กิจกรรม งบประมาณ ๒๗๔.๑๒๕๘ ล้านบาท แผนงาน/โครงการ ตามพระราชก าหนด ฯ (งบ ๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาท) ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ขอรับการสนับสนุน ๕๘๒ โครงการ งบประมาณ ๓,๖๕๖.๒๐๙ ล้านบาท ประกอบด้วย หน่วยรับงบประมาณ ๗๗ โครงการ งบประมาณ ๗๔๒.๓๙๘ ล้านบาท Function จ านวน ๘ โครงการ งบประมาณ ๙๔.๖๑๔ ล้านบาท องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ๔๙๗ โครงการ งบประมาณ ๒,๘๑๙.๑๙๗ ล้านบาท ผลการพิจารณาของส านักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับจัดสรร ๑๓ โครงการ งบประมาณ ๕๙.๙๐๐ ล้านบาท ประกอบด้วย จังหวัดเป็นหน่วยรับงบประมาณ ๑๒ โครงการ งบประมาณ ๕๘.๑๐๐ ล้านบาท และมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา ๑ โครงการ งบประมาณ ๑.๘๐๐ ล้านบาท ส่วนโครงการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แจ้งให้จังหวัดทบทวนและ จัดล าดับความส าคัญของโครงการ ซึ่งองค์ประชุมของคณะกรรมการ (ก.บ.จ.) พิจารณาโครงการ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีมติเห็นชอบ จ านวน ๔๙๗ โครงการ งบประมาณ ๒,๘๑๙ ล้านบาท ขณะนี้รอผลการพิจารณาจากส านักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ และจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเสนอขอโครงการเพิ่มเติมอีก จ านวน ๘ โครงการ งบประมาณ ๒๒.๕๐๑ ล้านบาท ขณะนี้รอผลการพิจารณาจากส านักงานสภาพัฒนาการ เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ประชุมพิจารณากระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการจัดท าแผน งบประมาณในแต่ละจังหวัด การเสนอขอรับจัดสรรงบประมาณ รายละเอียดกระบวนการ อนุมัติงบประมาณ รายละเอียดแผนงานโครงการที่ขอรับจัดสรรงบประมาณ พิจารณาเรื่อง “พิจารณากระบวนการและวิธีการในการกลั่นกรองแผนงาน/โครงการ ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ภายใต้กรอบวงเงิน ๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาท” ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่า มาตรการ แผนงาน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ในส่วนของพระราชก าหนดให้อ านาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟู เศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยการพิจารณากลั่นกรองโครงการแผนงานที่ ๓ วงเงิน ๔๐๐,๐๐๐ ล้านบาท มีหลักการเพื่อเน้นฟื้นฟูและสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศหลัง Covid – 19 โดยให้ ความส าคัญต่อสาขาเศรษฐกิจของประเทศที่ยังคงมีความได้เปรียบและต่างประเทศยังมีความ ต้องการ เน้นกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการสร้างงานและสร้างอาชีพ สามารถรองรับแรงงานส่วนเกินที่ อพยพกลับท้องถิ่นและชุมชน โดยโครงการต้องเป็นโครงการที่มีขนาดเล็กหรืขนาดกลางที่ สามารถด าเนินการให้เสร็จสิ้นภายในกรอบระยะเวลาสิ้นสุดภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๔ โดยโครงการนั้นต้องไม่ซ้ าซ้อนกับโครงการที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณปีงบประมาณ
- ๓๔ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ พ.ศ. ๒๕๖๔ ต้องไม่เป็นโครงการที่หน่วยงานไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ และต้องไม่ใช้ โครงการที่หน่วยงานรวบรวมเป็นแผนงานที่ไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการใช้เงินกู้ ขั้นตอนการเสนอและการอนุมัติแผนงาน/โครงการ กลุ่มที่ ๓ โดยหน่วยงาน เจ้าของโครงการจัดท าข้อเสนอโครงการตามวิธีการที่คณะกรรมการก าหนดโดยความเห็นชอบ ของรัฐมนตรีเจ้าสังกัดส่งต่อให้ส านักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติพิจารณา ให้ความเห็นชอบ เมื่อผ่านว่าเห็นชอบแล้ว ก็น าเสนอต่อคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนงาน/ โครงการ ฯ กลุ่มที่ ๓ เมื่อผ่านความเห็นชอบ ก็น าเสนอต่อคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ เมื่อผ่าน ความเห็นชอบคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ก็น าเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติ ในกระบวนการสุดท้าย ที่ประชุมพิจารณาว่าแผนงานกระตุ้นการบริโภคภาคครัวเรือนและเอกชน ที่ยังไม่ปรากฏตัวเลขการใช้เงินกู้และเสนอแนะให้ก าหนดแผนงานโครงการเพื่อส่งเสริมการ ท่องเที่ยว ครั้งที่ ๒๘ วันพุธที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “พิจารณารายงานที่คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาแล้วเสร็จ และพิจารณาผล การด าเนินงานที่ผ่านมาของคณะกรรมาธิการ” ที่ประชุมรายละเอียดรายงานที่คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาแล้วเสร็จ คือ คณะอนุกรรมาธิการบริหารงบประมาณการด าเนินโครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ ๒ ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการบริหารงบประมาณของ กรุงเทพมหานคร ต่อกรณีศึกษาโครงการจ้างเหมาเอกชนก าจัดขยะมูลฝอย ที่ศูนย์ก าจัดมูลฝอย หนองแขมและอ่อนนุช ที่ประชุมมีมติ จัดส่งรายงานคณะอนุกรรมาธิการบริหารงบประมาณการด าเนิน โครงการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ ๒ ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิกราบเรียน นายกรัฐมนตรีและส่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จ ากัด (มหาชน) และ ส านักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ พิจารณาด าเนินการต่อไป และจัดส่งรายงานคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการบริหารงบประมาณของกรุงเทพมหานคร ต่อกรณีศึกษาโครงการจ้างเหมาเอกชนก าจัดขยะมูลฝอย ที่ศูนย์ก าจัดมูลฝอยหนองแขมและ อ่อนนุช ให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ ส านักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม การทุจริตแห่งชาติ ส านักงานการตรวจเงินแผ่นดิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ส านักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ พิจารณาด าเนินการต่อไป
- ๓๕ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ครั้งที่ ๒๙ วันพุธที่ ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาศึกษาการจัดท างบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ และ แผนงาน/โครงการ ตามพระราชก าหนดให้อ านาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไข ปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ของจังหวัดชัยภูมิ” ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่า โครงการ แผนงาน ค าของบประมาณรายจ่าย ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ของจังหวัดชัยภูมิ เกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ไม่ว่า จะเป็นเกษตรกร ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการกระจาย ครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยขอรับการจัดสรรงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจ าปีของจังหวัด ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔ จ านวน ๙ โครงการ ๑๘ กิจกรรม งบประมาณ ๒๔๗,๕๑๖,๕๐๐ บาท แบ่งเป็น งบลงทุน จ านวน ๒๐๓,๔๖๐,๐๐๐ บาท งบประจ า จ านวน ๔๔,๐๕๖,๕๐๐ บาท (งบด าเนินงาน ๓๔,๐๕๖,๕๐๐ บาท และงบรายจ่ายอื่น ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ใน ๙ โครงการ ๑๘ กิจกรรมส าหรับข้อมูลโครงการภายใต้กรอบนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ภายใต้แผนงาน ๓.๒ ทางจังหวัดได้ท าค าของบประมาณ รวมทั้งสิ้น ๑,๔๕๕ โครงการ งบประมาณ ๗,๑๐๗,๐๓๗,๐๐๐ บาท เป็นโครงการเกี่ยวกับเรื่องการพัฒนารายได้ การกระจาย รายได้ การเกษตรสมัยใหม่ โดยเสนอผ่านจังหวัด รวมทั้งสิ้น ๘ โครงการ งบประมาณ ๔๘๗,๓๓๙,๖๐๐ บาท เสนอผ่านกรม รวมทั้งสิ้น ๖๙ โครงการ งบประมาณ ๑,๗๔๖,๕๒๐,๐๐๐ บาท และเสนอผ่านกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รวมทั้งสิ้น ๑,๓๗๘ โครงการ งบประมาณ ๔,๘๗๓,๑๗๗,๔๐๐ บาท .โดยสรุปผลการพิจารณาเบื้องต้นโครงการภายใต้แผนงาน ๓.๒ ได้งบประมาณ จ านวน ๕๗,๙๕๐,๓๐๐ บาท จ านวน ๑๔ โครงการ ส่วนใหญ่เป็นโครงการ เกี่ยวกับการพัฒนาการสร้างงาน การสร้างอาชีพ โดยเน้นเรื่องนวัตกรรมใหม่ ๆ ซึ่งโครงการ ภายใต้โครงการกรอบนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ภายใต้แผนงาน ๓.๒ ปี ๒๕๖๓ ที่ก าลังด าเนินการอยู่ และค าของบประมาณประจ าปีงบประมาณ พ.ศ ๒๕๖๔ รวมทั้ง โครงการเงินกู้ต่าง ๆ ทางจังหวัดโดยหน่วยงานไม่ได้ด าเนินการตามล าพัง ได้พิจารณาภายใต้ พื้นฐานการให้ความส าคัญในความเดือดร้อนและความต้องการของราษฎรผ่านเวทีข้อคิดเห็น จากผู้แทนภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าภาคสังคม ภาคประชาชน ภาคผู้แทนประชาชน ที่ประชุมพิจารณาเกี่ยวกับการเบิกจ่ายงบประมาณไม่ทันปีงบประมาณ ผลกระทบ จากการไม่ได้รับจัดสรรงบประมาณตามที่ขอรับจัดสรร รายละเอียดโครงการเทคโนโลยีเกษตร อัจฉริยะเพิ่มผลผลิตส าหรับผู้เลี้ยงปลา ที่ประชุมเห็นควรให้จังหวัดเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณโดยเฉพาะงบลงทุน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะการแบ่งงวดงาน ส่งมอบงานให้เป็นระยะๆ เพื่อให้เงิน ไหลเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ในกรณีปัญหาผู้รับจ้างทิ้งงาน กรมบัญชีกลาง ควรหาวิธีปรับปรุงแก้ไข ระบบการประมูลงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (e-bidding)
- ๓๖ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาศึกษาการจัดท างบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ และ แผนงาน/โครงการ ตามพระราชก าหนดให้อ านาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ของจังหวัดสุรินทร์” ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่า ในปีงบประมาณประจ าปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ได้จัดท าค าขอเสนอไป จ านวน ๓๒๐,๑๔๘,๗๐๐ บาท ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายในการ บริหารงานจังหวัด/กลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ จ านวน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และโครงการ จ านวน ๖ ด้าน คือ ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ านวน ๔๗,๔๗๔,๕๐๐บาท ด้านการท่องเที่ยวและบริการ จ านวน ๑๘,๙๘๖,๓๐๐ บาท ด้านการพัฒนาด้านเกษตร จ านวน ๗๙,๖๗๐,๕๐๐ บาท ด้ านก ารพัฒ น าสังคม จ าน วน ๑๖,๑๑๔,๐๐๐ บ าท ด้านอุตสาหกรรม การค้าและการลงทุน จ านวน ๑๕๔,๔๐๐,๐๐๐ บาท และด้านการรักษา ความมั่นคงและความสงบ จ านวน ๓,๕๐๓,๔๐๐ บาท สรุปบัญชีข้อเสนอโครงการภายใต้แผนงาน/โครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟู เศรษฐกิจและสังคม (แผนงาน ๓.๒) จังหวัดสุรินทร์ หน่วยงานที่ขอรับงบประมาณมี ๓ หน่วยงาน คือ ๑) หน่วยงานภูมิภาค คือ จังหวัด ขอรับการจัดสรร จ านวน ๑๑๗ โครงการ งบประมาณ ๙๗๘,๕๑๘,๒๐๐ บาท ๒) หน่วยงานส่วนกลาง คือ กระทรวง กรม ขอรับการ การจัดสรร ๑๓๐ โครงการ งบประมาณ ๓,๖๒๔,๒๙๔,๘๐๐ บาท ๓) หน่วยงานองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นคือ องค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลเมือง เทศบาลต าบล และองค์การบริหาร ส่วนต าบล ขอรับการจัดสรร จ านวน ๑,๒๙๖ โครงการงบประมาณ ๖,๐๗๓,๘๑๙,๓๙๐ บาท รวมทั้งสิ้น ๑,๕๔๔ โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น ๑๐,๖๗๖,๖๓๒,๓๙๐ บาท ผลการพิจารณา ชื่อโครงการ หลักการและเหตุผล (Project Brief) ขณะนี้ผ่านพิจารณาแล้วทั้งหมด ๖ โครงการ งบประมาณ จ านวน ๓๐,๘๐๐,๐๐๐ บาท โดยส่วนที่เหลือยังไม่ได้รับการพิจารณา ที่ประชุมพิจารณาว่าในการบริหารงบประมาณรัฐบาลควรจะได้ก าหนด เป้าหมายให้ชัดเจน รอบคอบ โดยในการจัดท าแผนงาน/โครงการ จังหวัดต้องเชิญตัวแทนจาก ทุกภาคส่วนมาร่วมประชุมวางแผนงานโครงการ ก าหนดยุทธศาสตร์ร่วมกัน เพื่อจะได้โครงการ ที่ตรงกับความต้องการและแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง ครั้งที่ ๓๐ วันพุธที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาเรื่องร้องเรียนกรณีขอให้ติดตามตรวจสอบการใช้งบประมาณใน โครงการขุดเจาะบ่อบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์ของจังหวัดขอนแก่น” ที่ประชุมได้รับเรื่องร้องเรียนว่า มีการเรียกรับค่าขุดเจาะบ่อบาดาลพลังงาน แสงอาทิตย์ได้แอบอ้างว่ามีโครงการดังกล่าวและให้ประชาชนที่สนใจจ่ายเงินสมทบ โดยจะ อ านวยความสะดวกลดขั้นตอนในการด าเนินโครงการ ซึ่งพบว่ามีประชาชนในเขตอ าเภอภูเวียง อ าเภอเวียงเก่า อ าเภอหนองนาค า อ าเภอหนองนาค า อ าเภอสีชมพู หลงเชื่อ มีการกู้ยืมเงินมา
- ๓๗ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ จ่ายเงินเพื่อร่วมโครงการ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ชี้แจงว่า โครงการเจาะบ่อบาดาล โดยใช้พลังงานโซล่าเซลล์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่มีแผนงานโครงการให้ความช่วยเหลือ เกษตรกรตามที่ตามที่ข้าราชการผู้ต้องหากล่าวอ้าง เนื่องจากไม่ใช่ภารกิจหลักของหน่วยงาน ทั้งนี้ ข้าราชการคนดังกล่าวได้ลาออกจากราชการ ตามค าสั่ง ส านักงานปลัดกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ที่ ๗๖๙/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๓ มีผลวันที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๖๓ ส่วนกระบวนการสอบวินัยร้ายแรง ยังคงด าเนินการต่อไปจนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาศึกษาการบริหารงบประมาณของกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์ พลังงานเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งให้แก่ประชาชน” ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่า ขั้นตอนการจัดสรรเงินกองทุนเพื่อส่งเสริม การอนุรักษ์พลังงานมีขั้นตอน คือ ส านักงานบริหารกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ประกาศยุทธศาสตร์จัดสรรเงิน ในเดือนเมษายน ประกาศรับข้อเสนอโครงการในเดือน พฤษภาคม คณะท างานด าเนินการกลั่นกรองโครงการเบื้องต้นเพื่อเสนอคณะอนุกรรมการ กลั่นกรองเพื่อให้ความเห็น และเสนอให้คณะกรรมการกองทุนอนุมัติโครงการพร้อมกับส่ง แผนการเบิกจ่ายยังกระทรวงการคลัง แล้วจึงแจ้งมติผู้ขอรับการสนับสนุน และลงนามในสัญญา ทั้งนี้ ผู้ขอรับการสนับสนุนเมื่อได้รับแจ้งหนังสือมติคณะกรรมการกองทุน จะต้องลงนามหรือท า หนังสือยินยัน ด าเนินการจัดซื้อจัดจ้าง ลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างให้ทันภายในก าหนด ๙๐ วันนับจากวันเริ่มต้นโครงการ จากนั้นจึงด าเนินการตามสัญญาหรือหนังสือยืนยัน ที่ประชุมพิจารณาสอบถามวิธีการในการขอรับการสนับสนุนเงินจากกองทุน เพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน รายละเอียดผู้ขอรับการสนับสนุน และหาแนวทางการแก้ไข ปัญหาการแสวงหาประโยชน์จากการขอรับเงินจากกองทุน และเสนอให้กองทุนเพื่อส่งเสริม การอนุรักษ์พลังงานควรจะได้ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในการเข้าถึงเงินสนับสนุน ครั้งที่ ๓๑ วันพุธที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาศึกษาการจัดท าแผนงาน/โครงการและการบริหารงบประมาณใน โครงการพัฒนาหนองหาร จังหวัดสกลนคร” ที่ประชุมพิจารณาได้รับทราบข้อมูลว่า หนองหารเป็นบึงน้ าจืดขนาดใหญ่ที่สุด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๔๗ กรมประมงได้เข้าส ารวจและปรับปรุงให้เป็น สถานที่บ ารุงพันธุ์สัตว์น้ าของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในปี พ.ศ. ๒๕๔๘ ได้มีการออก พระราชกฤษฎีกา ๒ ฉบับ ก าหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน และก าหนดเขตหวงห้ามที่ดินรกร้าง ว่างเปล่าพื้นที่ ๑๑๐,๐๐๐ ไร่ รอบหนองหาร เพื่อประโยชน์ในการบ ารุงพันธุ์สัตว์น้ า ตั้งสถานี ประมงขึ้นที่หนองหารในปี พ.ศ. ๒๔๘๕ และในช่วงปี ๒๔๘๕ - ๒๔๙๖ กรมประมงได้ก่อสร้าง ประตูกั้นน้ าแววพยัคฆ์คัน แต่ประตูกั้นน้ าดังกล่าวมีประสิทธิภาพการระบายน้ าไม่เพียงพอ
- ๓๘ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ท าให้น้ าในหนองหารเอ่อเข้าท่วมพื้นที่โดยรอบ กรมประมงจึงได้ก่อสร้างประตูระบายน้ า แห่งใหม่ในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ชื่อว่าประตูระบายน้ าสุรัสวดี และจากการก าหนดเขตที่ดินที่เวนคืน และก าหนดเขตหวงห้ ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าพื้นที่ ๑๑๐,๐๐๐ ไร่ รอบหนองหารตาม พระราชกฤษฎีกา พ.ศ. ๒๔๘๔ รัฐไม่ได้ท าการเวนคืนที่ดินของประชาชนที่อาศัยท ากินอยู่ก่อน ปัจจุบันมีชุมชนรอบ ๆ หนองหารขยายตัวยากแก่การควบคุม เนื่องจากขาดความจัดเจนของ แนวเขตหวงห้ามในพื้นที่จริง เพื่อแก้ไขปัญหาการขยายตัวของชุมชนเข้าไปในเขตหนองหาร ในปี พ.ศ. ๒๕๔๐ จังหวัดสกลนครจึงได้ส ารวจปักหมุดและออกหนังสือส าคัญที่หลวง (น.ส.ล.) ส าหรับสาธารณะสมบัติของแผ่นดินประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน มีเนื้อที่รวม ๗๗,๐๑๖ ไร่ ทั้งนี้ แม้จะมีการออก น.ส.ล. และมีการปักหมุดเขตพื้นที่แล้ว แต่ก็ยังมีการบุกรุกพื้นที่เขตต้องห้าม อย่างต่อเนื่อง และจังหวัดอาจด าเนินเนินการจัดท ารั้วขอบเขตที่ชัดเจน เพื่อป้องกันปัญหาการ บุกรุกดังกล่าวผลจากการขยายตัวของชุมชนรอบหนองหาร ปัจจุบันมีการใช้ประโยชน์จากหนอง หารในด้านต่าง ๆ นอกเหนือจากบ ารุงพันธุ์สัตว์น้ า เป็นแหล่งน้ าดิบเพื่อการอุปโภค บริโภค การเกษตร จับสัตว์น้ า แหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ กิจกรรมประเพณีและกีฬาทางน้ า เป็นต้น สภาพหนองหารในปัจจุบันเริ่มประสบปัญหาน้ าทิ้งจากชุมชน ปัญหาการขยายตัวของ วัชพืชผิวน้ าและใต้น้ า ปัญหาการตกตะกอนทับถมของตะกอนดิน ก่อให้เกิดความตื้นเขิน คุณภาพน้ าเริ่มเสื่อมโทรม มีผลกระทบต่อน้ าดิบเพื่อการอุปโภค บริโภค ความอุดมสมบูรณ์ ของสัตว์น้ าลดลง ปัญหาน้ าท่วม ปัญหาน้ าแล้ง ตลอดจนปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์การถือครองที่ดิน ที่ผ่านมาหน่วยงานต่าง ๆ ก าหนดการแก้ไขปัญหาเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้อง ขาดทิศทางการแก้ไข ปัญหาแบบบูรณาการ จึงมีความจ าเป็นต้องมีการศึกษาและจัดท าแผนหลักการพัฒนา หนองหาร จังหวัดสกลนคร เพื่อเป็นกรอบแนวทางการพัฒนาและฟื้นฟูหนองหาร ที่ประชุมพิจารณารายละเอียดแผนแม่บทในการบริหารจัดการหนองหาร รายละเอียดแผนงานและการด าเนินการในแต่ละปี รายละเอียดการด าเนินโครงการประตู ระบายน้ าล าน้ าพุ-ล าน้ าก่ า อันเนื่องมาจากพระราชด าริ และเสนอแนะให้ส านักงานทรัพยากร น้ าแห่งชาติมุ่งด าเนินการแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนเป็นหลัก ควรให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่บริเวณหนองหารได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่หนองหาร ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติให้ส านักงาน ทรัพยากรน้ าแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการด าเนินการตามแผนหลักการพัฒนาหนองหาร จังหวัดสกลนคร รับข้อสังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการไปพิจารณาด าเนินการ ต่อไป
- ๓๙ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ครั้งที่ ๓๒ วันพุธที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาศึกษาการบริหารงบประมาณในโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภา แห่งใหม่และการด าเนินงานของส านักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร” ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่า ปัจจุบันการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ มีความคืบหน้าร้อยละ ๘๕ โดยมีก าหนดสิ้นสุดตามสัญญา วันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๓ มีการขอขยาย ระยะเวลาการก่อสร้างแล้ว ๔ ครั้ง โดยประธานสภาผู้แทนราษฎรมีนโยบายไม่ขยายระยะเวลา การก่อสร้างเพิ่มเติม ซึ่งผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบหากไม่สามารถด าเนินการก่อสร้างได้แล้วเสร็จ เว้นแต่ในกรณีมีการขอขยายระยะเวลาการก่อสร้างตามมติคณะรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม ผู้รับจ้าง จะต้องรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายทั้งหมด เดิมโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่มีการคัดเลือก พื้นที่เพื่อก่อสร้าง อยู่ ๖-๗ แห่ง คณะกรรมการก่อสร้างได้เลือกพื้นที่เกียกกาย พื้นที่ ๑๒๓ ไร่ ซึ่งพื้นที่เกียกกายประกอบด้วย โรงเรียน ค่ายทหาร สาธารณสุขกรุงเทพมหานคร และชุมชม ต่าง ๆ โดยมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพื้นที่เป็นเงินกว่า ๖,๕๐๐ ล้านบาท เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๙ พบว่าไม่มี ความคืบหน้าในการรื้อย้ายสิ่งก่อสร้างและชุมชนเดิมซึ่งมีผลกระทบต่อการส่งมอบพื้นที่ เป็นเหตุ ให้ผู้รับจ้างขอขยายระยะเวลาการก่อสร้าง ต่อมาประสบปัญหาไม่สามารถจัดหาพื้นที่ในการทิ้ง ดินที่เกิดจากการก่อสร้างได้ ซึ่งที่ทิ้งดินที่หาได้มีระยะทางไกลและมีค่าขนส่งแพง ผู้รับจ้าง จึงขอขยายระยะเวลาการก่อสร้างเป็นครั้งที่ ๒ ต่อมาประสบปัญหาโรงเรียนโยธินบูรณะและ ชุมชนไม่ย้ายออกจากพื้นที่ ซึ่งโรงเรียนโยธินบูรณะได้ขอรับงบประมาณเพิ่มเติมอีก ๒๐๐ ล้านบาท และย้ายช้ากว่าก าหนดกว่า ๓ เดือน เมื่อย้ายแล้วได้มีการว่าจ้างให้มีรื้ออาคาร โดยระหว่างนั้น โรงเรียนโยธินบูรณะก็ยังคงรื้อย้ายวัสดุอุปกรณ์ท าให้เกิดข้อพิพาทกับผู้รับจ้างรื้ออาคาร ในขั้นตอนการประกวดแบบก่อสร้างมีการยื่นแบบมากว่า ๑๓๐ แบบ โดยคณะกรรมการ ได้คัดเลือกแบบซึ่งใช้งบประมาณ ๑๗,๐๐๐-๑๘,๐๐๐ ล้านบาท โดยคณะรัฐมนตรีได้อนุมัติ งบประมาณเพียง ๑๒,๐๐๐ ล้านบาท อย่างไรก็ตาม คณ ะกรรมการได้มีการยืนยัน เพื่อด าเนินการตามแบบเดิมโดยปรับให้เหลือแต่ตัวโครงสร้าง ปรับลดในส่วนระบบเทคโนโลยี สารสนเทศและส่วนสาธารณูปโภคอื่นลง ซึ่งเมื่อขอรับจัดสรรงบประมาณระบบเทคโนโลยี สารสนเทศและสาธารณูปโภคภายหลังก็ได้รับจัดสรรงบประมาณเพียง ๓,๔๐๐ ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ในลักษณะเดียวกันปกติจะก าหนดระยะเวลา การก่อสร้างขั้นต่ าไว้ ๑,๐๐๐ วัน โดยในระยะแรกบริษัทที่ปรึกษาซึ่งเข้ามาด าเนินการภายหลังการจัดหาสถานที่และ ผู้รับจ้างไม่ทราบข้อมูลระยะเวลาการก่อสร้างดังกล่าว ที่ประชุมพิจารณารายละเอียดการด าเนินการของบริษัทที่ปรึกษา ค่าจ้างบริษัท ที่ปรึกษา รายละเอียดงบประมาณว่าจ้าง การเบิกจ่ายงบประมาณ ระยะเวลาในการด าเนินการ ทั้งหมด สาเหตุการขยายระยะเวลาตามสัญญา กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และที่ประชุมมีมติ ให้ส านักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการไปปรับใช้ ในการด าเนินงานของส านักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
- ๔๐ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ครั้งที่ ๓๓ วันพฤหัสบดีที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาปรึกษาหารือเกี่ยวกับการจัดสัมมนา เรื่อง “กรุงเทพฯ ในฝัน กับงบประมาณปี ๒๕๖๔” ที่ประชุมพิจารณาคณะกรรมาธิการจะมีการจัดสัมมนาในโครงการนิทรรศการ กรุงเทพในฝัน กับงบประมาณปี ๒๕๖๔ ซึ่งจะจัดในวันที่ ๘ - ๑๓ กันยายน ๒๕๖๓ คณะกรรมาธิการได้ท าการจองวันและเวลากับทางหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครแล้ว โซนนิทรรศการหลักจะจัดบริเวณชั้น L และในส่วนของวันที่ ๑๓ จะใช้ห้องเอนกประสงค์บริเวณ ชั้น ๑ เป็นห้องขนาดใหญ่พอสมควรในการจัดงานเสวนาปิด และจัดงาน Data thon วันสุดท้าย วัตถุประสงค์ของคณะกรรมาธิการเพื่อศึกษาและติดตามการใช้งบประมาณที่เกี่ยวข้องกับ กรุงเทพมหานคร เพื่อช่วยเผยแพร่ และสร้างความเข้าใจ ความรู้ให้กับประชาชนเกี่ยวกับ การใช้งบประมาณ ปี ๒๕๖๔ ของกรุงเทพมหานคร และเพิ่มความมีส่วนร่วมกับประชาชน ซึ่งวัตถุประสงค์การศึกษาและติดตามการใช้งบประมาณนั้น จะมีกิจกรรม คือ การจัด นิทรรศการจะมีซุ้มต่าง ๆ เช่น การจัดท าและติดตามการใช้งบประมาณของหน่วยงานราชการ ต่าง ๆ เป็นต้น การเผยแพร่ความรู้ให้กับประชาชน โดยรูปแบบการจัดงานเสวนา และการจัดท า งบป ระม าณ อย่ างมีส่วน ร่วมของป ระชาชน ซึ่งจะสอดคล้องของการจัดโค รงก าร ที่กรุงเทพมหานครจัดท างบประมาณ ปี ๒๕๖๔ ในส่วนสุดท้ายของงาน Data thon ว่างบประมาณของการจัดท าของกรุงเทพมหานคร รวมถึงรัฐสภา ตอบโจทย์กรุงเทพในฝัน ของประชาชนหรือไม่ ที่ประชุมมีมติมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมาธิการด าเนินการ ป ระสานงานใน รายละเอียดการจัดโครงการจัดสัมมน ากับก รุงเทพมห านคร และ ให้กรุงเทพมหานครเป็นที่ปรึกษาในการด าเนินงานตามโครงการสัมมนาให้ส าเร็จตาม วัตถุประสงค์ของคณะกรรมาธิการ ครั้งที่ ๓๔ วันศุกร์ที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “พิจารณาปรึกษาหารือเกี่ยวกับการจัดสัมมนาและศึกษาดูงานของ คณ ะกรรม าธิการ เรื่อ ง “คว ามคืบหน้ าในการจัดสัมมน าแล ะศึกษ าดู งานขอ ง คณะกรรมาธิการ” ที่ประชุมได้รับรายงานว่าการจัดสัมมนาและศึกษาดูงานของคณะกรรมาธิการ ได้ด าเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว คือ การเดินทางศึกษาดูงานของคณะกรรมาธิการ ณ จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันพฤหัสบดีที่ ๙ ถึงวันศุกร์ที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๓ และการศึกษาดูงานของ คณะกรรมาธิการ ณ จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันศุกร์ที่ ๗ ถึงวันเสาร์ที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๓ และ มีมติเดินทางไปศึกษาดูงานและจัดสัมมนา ดังนี้ ๑. คณะกรรมาธิการมีก าหนดการเดินทางศึกษาดูงานระหว่างวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ และวันศุกร์ที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ จังหวัดนครสวรรค์
- ๔๑ - สรุปผลการด าเนินงานคณะกรรมาธิการศึกษาการจัดท าและติดตามการบริหารงบประมาณ สภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ๒. คณะกรรมาธิการมีก าหนดการเดินทางศึกษาดูงานระหว่างวันอาทิตย์ที่ ๒๓ และวันจันทร์ที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดหนองบัวล าภู ๓. คณะกรรมาธิการมีก าหนดการสัมมนาในวันศุกร์ที่ ๒๘ และวันเสาร์ที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ จังหวัดศรีสะเกษ ๔. คณะกรรมาธิการมีก าหนดการสัมมนาในวันพฤหัสบดีที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๓ ณ กรุงเทพมหานคร ๕. คณะกรรมาธิการมีก าหนดการเดินทางศึกษาดูงานและสัมมนาระหว่าง วันอาทิตย์ที่ ๖ และวันจันทร์ที่ ๗ กันยายน ๒๕๖๓ ณ จังหวัดสกลนคร ๖. คณะกรรมาธิการมีก าหนดการเดินทางศึกษาดูงานและสัมมนาระหว่าง วันเสาร์ที่ ๑๒ และวันอาทิตย์ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๓ ณ หนองบัวล าภู ๗. คณะกรรมาธิการมีก าหนดการจัดนิทรรศการระหว่างวันอังคารที่ ๘ ถึงวันอาทิตย์ที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๓ ณ กรุงเทพมหานคร ๘. คณะกรรมาธิการมีก าหนดการสัมมนาระหว่างวันจันทร์ที่ ๒๑ และ วันอังคารที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๖๓ ณ จังหวัดลพบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี ๙. คณะกรรมาธิการมีก าหนดการเดินทางศึกษาดูงานและสัมมนาระหว่าง วันศุกร์ที่ ๒๕ และวันเสาร์ที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๓ ณ จังหวัดระยอง ๑๐. คณะกรรมาธิการมีก าหนดการสัมมนาในวันพุธที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ถึง วันศุกร์ที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๓ ณ กรุงเทพมหานคร ๑๑. คณะกรรมาธิการมีก าหนดการเดินทางศึกษาดูงานและสัมมนาระหว่าง วันศุกร์ที่ ๒๘ และวันอาทิตย์ที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๓ ณ จังหวัดสงขลา ๑๒. คณะกรรมาธิการมีก าหนดการเดินทางสัมมนาการบริหารงบประมาณโขง เลย ชี มูล แบบบูรณาการ เพื่อความสมบูรณ์คนอีสาน ณ จังหวัดหนองบัวล าภู ครั้งที่ ๓๕ วันพุธที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๓ พิจารณาเรื่อง “การจัดท าและบริหารงบประมาณของกองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคมในการสนับสนุนภารกิจช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙” ที่ประชุมพิจารณาได้รับข้อมูลว่า กองทุนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นกองทุนที่ด าเนินการตามกฎหมายพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ตามกฎหมายในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๒๓ ถึงมาตรา ๓๓ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้จ่ายเกี่ยวกับ การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นไปตามนโยบายและแผนชาติว่าด้วยการพัฒนา ดิจิทัลและแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล มาตราที่เกี่ยวข้อง คือ มาตรา ๒๒ เกี่ยวกับที่มาของเงินทุน ดังนี้ (๑) ทุนประเดิมที่ไม่ได้มาจากรัฐบาล (๒) เงินอุดหนุนจากรัฐบาล จัดให้แต่ไม่เคยได้ เงินที่ได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่เป็นเงินรายได้ของส านักงานคณะกรรมการ กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ร้อยละ ๑๕