แผนการจดั การเรยี นรู้ประจำหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่อง ทศนยิ ม
โดย นางสาวกมลชนก เทยี นอินทร์
การฝึกประสบการณว์ ชิ าชีพครู ชุดวิชา “การปฏิบตั ิการสอนในสถานศึกษา 1
ฝกึ ทโี่ รงเรียนวัดศรวี ิสุทธาราม (วไิ ลราษฎรอปุ ถัมภ์) อำเภอเมือง จังหวัดพิษณโุ ลก
คณะครศุ าสตร์มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั พบิ ลู สงครามภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
[email protected]
แผนการจดั การเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนร้วู ิชาคณิตศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 15101
ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 ชื่อหน่วย ทศนยิ ม เวลา 34 ช่ัวโมง
แผนท่ี 1 เรื่อง การเตรียมความพร้อมการเขยี นเศษส่วนและทศนิยม เวลา 1 ช่ัวโมง
ผ้สู อน นางสาวกมลชนก เทยี นอินทร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์
วันที่สอน..............................................................................................................................................
สาระสำคัญ
ทศนิยมหนงึ่ ตำแหนง่ สองตำแหนง่ และสามตำแหน่ง สามารถเขยี นให้อยูใ่ นรปู เศษส่วนได้
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ
จำนวน ผลทีเ่ กิดขึ้นจากการดำเนนิ การ สมบัตขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้
ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 ป.5/1 เขยี นเศษส่วนทม่ี ีตวั สว่ นเปน็ ตวั ประกอบของ 10 หรือ 100 หรือ 1,000
ในรูปทศนยิ ม
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. นักเรียนสามารถอธิบายเกยี่ วกับทศนยิ มและเศษส่วนได้ (K)
2. นกั เรียนมคี วามสามารถในการส่อื สารและสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ (P)
3. นกั เรยี นมีความมวี ินยั มีความใฝ่เรยี นรู้ และมคี วามมงุ่ มนั่ ในการทำงาน (A)
สาระการเรียนรู้
การเขยี นเศษส่วนและทศนิยม
ทักษะในศตวรรษท่ี 21
3R
− Reading (อ่านออก)
− (W) Riting (เขียนได)้
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มีทกั ษะในการคดิ วเิ คราะห์ การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทักษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการส่ือสาร
2. ความสามารถในการคดิ
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1. มวี ินยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ ม่ันในการทำงาน
กระบวนการจัดการเรียนรู้
ข้นั ที่ 1 ขัน้ นำเข้าสบู่ ทเรยี น (10 นาที)
1. ครกู ลา่ วทักทายนักเรียนและทบทวนความรูเ้ ร่ืองเศษส่วนและทศนยิ มที่นกั เรียนเคยเรยี น
มาแลว้ ในชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 โดยการถาม-ตอบ ดังน้ี
o เศษสว่ นแท้มลี ักษณะอย่างไร (ตวั เศษน้อยกว่าตวั ส่วน)
o เศษเกนิ มีลักษณะอย่างไร (ตัวเศษเท่ากับหรอื มากกว่าตัวส่วน)
o จำนวนคละมลี กั ษณะอยา่ งไร (เขยี นในรูปจำนวนนับกบั เศษส่วนแท้)
o เศษสว่ นอยา่ งต่ำมลี ักษณะอย่างไร (เศษส่วนที่ไม่มจี ำนวนนับใดท่ีมากกวา่ 1 หาร
ท้งั ตัวเศษและตวั ส่วนไดล้ งตัว)
o นกั เรยี นสามารถอา่ นทศนยิ มไดอ้ ย่างไร (การอา่ นทศนิยม เร่ิมอา่ นจากตวั เลขท่ีอยู่
หนา้ จุดทศนิยมโดยอ่านเหมือนจำนวนนบั และตัวเลขที่อยู่หลงั จุดทศนิยมให้อา่ นเรยี งตวั จากซา้ ยไปขวา)
o ทศนิยมหนงึ่ ตำแหนง่ มลี ักษณะอย่างไร (มีตัวเลขหลังจดุ ทศนิยม 1 ตัว หรือ 1 สว่ น
ใน 10 ส่วน)
o ทศนยิ มสองตำแหน่งมลี ักษณะอย่างไร (มีตวั เลขหลงั จดุ ทศนยิ ม 2 ตวั หรือ 1 สว่ น
ใน 100 สว่ น)
o ทศนยิ มสามตำแหน่งมลี ักษณะอยา่ งไร (มีตวั เลขหลังจุดทศนยิ ม 3 ตัว หรอื 1 ส่วน
ใน 1,000 สว่ น)
2. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยใชค้ ำถามกระต้นุ ความคิด ดงั นี้
o นกั เรียนจะนำความร้เู รอ่ื ง ทศนิยมและเศษส่วนไปใชใ้ นเรื่องใดได้อกี บา้ ง
3. นักเรียนศกึ ษา รวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกับการเขียนเศษสว่ นและทศนยิ ม เชน่ การสังเกต การ
รว่ มกันสนทนากบั เพื่อนในชน้ั เรยี น จากหนังสือเรียนหรอื จากอินเทอรเ์ น็ตครใู ช้
ข้นั ท่ี 2 ข้นั การจัดการเรียนรู้ (45 นาท)ี
1. ครตู ดิ ตารางสิบบนกระดาน ดังนี้
ให้ผแู้ ทนนกั เรยี นออกมาเขียนทศนิยมแสดงส่วนท่ีระบายสีบนกระดาน (0.1) และใหผ้ แู้ ทนนักเรียนอีก 1
คน อา่ นทศนิยมดงั กล่าว (ศูนย์จดุ หนึ่ง) จากน้นั ครูถามคำถามนักเรยี นเพิ่มเติม ดังน้ี
o ตารางนแ้ี บ่งออกเป็นกี่ส่วน (10 สว่ น)
o แต่ละสว่ นมีขนาดเทา่ กนั หรือไม่ (เท่ากนั )
o ภาพทีร่ ะบายสีมกี ี่สว่ น (1 ส่วน) ในท้ังหมดกีส่ ่วน (10 สว่ น)
o ถ้าระบายสี 3 ช่อง แสดงว่าภาพท่รี ะบายสีมีกส่ี ว่ น (3 สว่ นใน 10 ส่วน)
o เขยี นเปน็ ทศนิยมได้อย่างไร (0.3) อ่านได้อยา่ งไร (ศูนยจ์ ุดสาม)
o ถ้าระบายสี 10 ช่อง แสดงวา่ ภาพที่ระบายสีมกี ี่ส่วน (10 ส่วนใน 10 สว่ น)
o เขยี นเปน็ ทศนยิ มได้อย่างไร (1.0) อา่ นไดอ้ ยา่ งไร (หน่ึงจุดศูนย์)
o ตัวเลขทอ่ี ยหู่ ลงั จดุ ทศนยิ มในตำแหน่งท่หี นึง่ เปน็ ตวั เลขในหลักใด (หลักสว่ นสบิ )
o มีค่าประจำหลกั เท่าไร ( 1 หรอื 0.1)
10
นกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
2. ครตู ิดตารางร้อยบนกระดาน ดังน้ี
ให้ผู้แทนนักเรียนออกมาเขยี นทศนยิ มแสดงส่วนท่รี ะบายสีบนกระดาน (0.02) และใหผ้ ู้แทนนักเรยี นอีก
1 คน ออกมาอ่านทศนิยมดังกลา่ ว (ศูนยจ์ ุดศูนย์สอง) จากน้นั ครูถามคำถามเพ่ิมเตมิ เพือ่ กระตนุ้ ความคิด
ของนักเรียน ดังนี้
o ตารางนแี้ บง่ ออกเป็นกส่ี ว่ น (100 ส่วน)
o แตล่ ะสว่ นมขี นาดเทา่ กันหรือไม่ (เท่ากัน)
o ภาพที่ระบายสีมีกี่สว่ น (2 ส่วน) ในทัง้ หมดกี่ส่วน (100 สว่ น)
o ถา้ ระบายสี 22 ช่อง แสดงวา่ ภาพทร่ี ะบายสีมกี ส่ี ่วน (22 ส่วนใน 100 สว่ น)
o เขยี นเป็นทศนิยมได้อย่างไร (0.22) อ่านวา่ อยา่ งไร (ศนู ย์จุดสองสอง)
o ถา้ ระบายสี 100 ชอ่ ง แสดงว่าภาพท่ีระบายสมี กี ่สี ว่ น (100 สว่ นใน 100 ส่วน)
o เขยี นเป็นทศนิยมได้อยา่ งไร (1.00) อ่านได้วา่ อย่างไร (หนง่ึ จดุ ศนู ย์ศูนย์)
o ตวั เลขหลงั จุดทศนิยมในตำแหน่งท่สี องเปน็ ตัวเลขในหลกั ใด (หลกั ส่วนร้อย)
o มคี า่ ประจำหลักเท่าไร ( 1 หรือ 0.01)
100
นกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง
3. ครตู ิดตารางพนั บนกระดาน ดังน้ี
ให้ผูแ้ ทนนักเรยี นออกมาเขยี นทศนยิ มแสดงส่วนทร่ี ะบายสบี นกระดาน (0.005) และให้นักเรียนอีก 1 คน
ออกมาอ่านทศนยิ มดงั กลา่ ว (ศูนย์จุดศนู ย์ศนู ย์ห้า) จากนั้นครใู ชค้ ำถามกระต้นุ ความคิดของนกั เรียน ดังน้ี
o ตารางนแี้ บง่ ออกเป็นกี่สว่ น (1,000 สว่ น)
o แตล่ ะสว่ นมีขนาดเท่ากนั หรือไม่ (เท่ากัน)
o ภาพท่ีระบายสีมกี สี่ ่วน (5 ส่วน) ในท้ังหมดก่ีสว่ น (1,000 ส่วน)
o ถ้าระบายสี 25 ช่อง แสดงว่าภาพที่ระบายสีมกี ีส่ ่วน (25 ส่วนใน 1,000 ส่วน)
o เขียนเป็นทศนิยมได้อย่างไร (0.025) อ่านว่าอยา่ งไร (ศนู ย์จดุ ศนู ย์สองห้า)
o ถา้ ระบายสี 85 ช่อง แสดงวา่ ภาพทร่ี ะบายสีมีกส่ี ว่ น (85 ส่วนใน 1,000 สว่ น)
o เขยี นเป็นทศนยิ มได้อยา่ งไร (0.085) อ่านได้ว่าอยา่ งไร (ศูนย์จุดศูนยแ์ ปดหา้ )
o ถ้าระบายสี 271 ช่อง แสดงว่าภาพท่รี ะบายสมี กี ี่สว่ น (271 ส่วนใน 1,000 ส่วน)
o เขยี นเปน็ ทศนยิ มได้อยา่ งไร (0.271) อ่านได้วา่ อย่างไร (ศนู ย์จุดสองเจด็ หนึง่ )
o ถ้าระบายสีรปู ท่ี 1 เตม็ รปู และรปู ทสี่ องระบายสี 59 ส่วนใน 1,000 สว่ น เขียนเป็น
ทศนยิ มได้อยา่ งไร (1.059) อ่านว่าอย่างไร (หน่ึงจดุ ศนู ย์หา้ เก้า)
o ตัวเลขท่ีอยหู่ ลงั จุดทศนิยมในตำแหนง่ ทสี่ ามเปน็ ตัวเลขในหลักใด (หลักส่วนพนั )
o มคี ่าประจำหลกั เทา่ ไร ( 1 หรอื 0.001)
1000
นักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง
4. ครแู บ่งนักเรยี นเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 3-4 คน แจกตารางสบิ ตารางรอ้ ย ตารางพัน ใหค้ นละ 1
ตารางแล้วให้แตล่ ะคนอ่านและเขียนทศนยิ มส่วนที่ระบายสี นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มชตู ารางของตนเอง แล้วให้
อีกกล่มุ ออกไปเขยี นและอา่ นให้เพือ่ นในชน้ั เรียนฟัง จากนัน้ ให้แต่ละกลุ่มสลับกันเขยี นและอา่ นจนครบทุก
กลมุ่ ครูและนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง
5. ใหน้ ักเรียนทำใบงานท่ี 2.1 เร่ือง การเขยี นเศษส่วนและทศนยิ ม และแบบฝึกหัด 2.1 หนา้
66 เพื่อตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจเปน็ รายบุคคล
ข้นั ที่ 3 ข้ันสรุป (5 นาที)
1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกันสรุปวา่ ทศนยิ มหนงึ่ ตำแหน่ง สองตำแหน่ง และสามตำแหน่ง
สามารถเขียนให้อยใู่ นรปู เศษสว่ นได้
สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1. แถบตารางสิบ ร้อย และพัน
2. หนังสือเรยี นรายวิชาคณติ ศาสตร์ ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 เลม่ 1 (สสวท., 2560)
3. หนังสือแบบฝึกหดั รายวชิ ารายวิชาคณิตศาสตรพ์ นื้ ฐาน ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 เล่ม 1
(สสวท., 2560)
4. ใบงานท่ี 2.1 เรือ่ ง การเขยี นเศษสว่ นและทศนิยม
การวัดและประเมินผล
วิธีการและการประเมินผล เครอ่ื งมือวัด และประเมินผล เกณฑก์ ารวัด
ผา่ นเกณฑ์
ความรู้ (K) รอ้ ยละ 60
นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเกี่ยวกบั - ใบงานท่ี 2.1 เรื่อง การเขยี นเศษส่วนและ ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60
ทศนิยมและเศษสว่ นได้ ทศนยิ ม
ระดับคุณภาพ
- แบบฝกึ หัด 2.1 ในแบบฝกึ คณติ ศาสตร์ ป.5 2 ผา่ นเกณฑ์
เลม่ 1 สสวท.
ทกั ษะและกระบวนการ (P)
นกั เรียนมีความสามารถในการสื่อสาร - ใบงานที่ 2.1 เร่อื ง การเขยี นเศษส่วนและ
และสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ ทศนิยม
- แบบฝึกหัด 2.1 ในแบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.5
เลม่ 1 สสวท.
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
นักเรียนมคี วามมีวนิ ัย มคี วามใฝ่เรียนรู้ - แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรยี นการทำงานเป็น
และม่งุ มนั่ ในการทำงาน รายบคุ คล
แผนการจัดการเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาคณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 15101
ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ช่ือหน่วย ทศนิยม เวลา 34 ช่วั โมง
แผนที่ 2 เรอื่ ง การเขียนทศนิยมไม่เกนิ 3 ตำแหน่ง ในรูปเศษสว่ น เวลา 1 ช่ัวโมง
ผสู้ อน นางสาวกมลชนก เทียนอนิ ทร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์
วันทีส่ อน..............................................................................................................................................
สาระสำคัญ
ทศนิยม เขยี นในรปู เศษส่วนทมี่ ีสว่ นเปน็ 10, 100, 1,000,… ได้
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ
จำนวน ผลทีเ่ กดิ ขึน้ จากการดำเนินการ สมบตั ิของการดำเนินการ และนำไปใช้
ตัวชว้ี ัด/ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 ป.5/1 เขยี นเศษส่วนท่มี ีตวั สว่ นเปน็ ตวั ประกอบของ 10 หรือ 100 หรอื 1,000
ในรปู ทศนิยม
จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นกั เรียนสามารถอธบิ ายเกยี่ วกับการเขยี นทศนิยมไมเ่ กิน 3 ตำแหนง่ ในรูปเศษส่วนได้ (K)
2. นกั เรียนมคี วามสามารถในการสอ่ื สารและส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ (P)
3. นักเรยี นมคี วามมีวินัย มีความใฝ่เรียนรู้ และมีความมงุ่ มั่นในการทำงาน (A)
สาระการเรียนรู้
การเขยี นทศนยิ มไม่เกิน 3 ตำแหน่งในรปู เศษสว่ น
ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21
3R
− Reading (อ่านออก)
− (W) Riting (เขยี นได้)
− (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น)
8C
− มที กั ษะในการคดิ วิเคราะห์ การคิดอย่างมวี ิจารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผู้นำ
สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น
1. ความสามารถในการสื่อสาร
2. ความสามารถในการคดิ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. มวี นิ ัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
กระบวนการจดั การเรียนรู้
ข้นั ท่ี 1 ข้นั นำเขา้ สบู่ ทเรยี น (10 นาที)
1. ครทู บทวนความรู้ เรื่อง การเขยี นเศษสว่ นและทศนยิ ม โดยส่มุ นักเรยี นตอบคำถามจากครู
ดังน้ี
o ถ้าระบายสี 3 ส่วนใน 10 สว่ น จะเขียนเป็นทศนิยมได้อย่างไร (0.3) และอา่ นได้
อยา่ งไร (ศูนย์จุดสาม)
o ถ้าระบายสี 75 สว่ นใน 100 ส่วน จะเขียนเป็นทศนยิ มได้อย่างไร (0.75) และอา่ นได้
อยา่ งไร (ศนู ยจ์ ดุ เจ็ดห้า)
o ถา้ ระบายสี 458 สว่ นใน 1,000 ส่วน จะเขียนเป็นทศนยิ มไดอ้ ย่างไร (0.458) และ
อา่ นได้อย่างไร (ศนู ยจ์ ดุ สี่ห้าแปด)
ครูถาม-ตอบนกั เรยี นอีก 2-3 ครัง้
2. ครูใหน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เห็น โดยใช้คำถามกระตุ้นความคิด ดงั นี้
o นักเรยี นสามารถนำความร้เู รือ่ ง การเขยี นทศนิยมไม่เกนิ 3 ตำแหนง่ ในรูปเศษส่วน
ไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั เร่อื งใดบ้าง
3. นกั เรยี นศึกษารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกบั การเขียนทศนยิ มไมเ่ กิน 3 ตำแหน่งในรูปเศษสว่ น
เชน่ การสงั เกต การรว่ มกันสนทนากับเพอื่ นในชั้นเรยี น จากหนังสอื เรยี นหรือจากอนิ เทอร์เนต็ ครใู ช้
ข้นั ท่ี 2 ขัน้ การจดั การเรียนรู้ (45 นาที)
6. ครูใหน้ กั เรียนสังเกตและแสดงความคิดเห็นเก่ยี วกับตารางสิบที่ตดิ บนกระดาน แลว้ ถาม
คำถามกบั นักเรยี น ดังน้ี
o รปู สเ่ี หล่ยี มแบง่ ออกเป็นกีส่ ่วน (10 สว่ น)
o ระบายสีกี่สว่ น (9 ส่วน)
o เขียนเศษสว่ นแสดงส่วนท่ีระบายสไี ด้อยา่ งไร (ส่วนทร่ี ะบายสมี ี 9 สว่ นใน 10 สว่ น
ดงั นนั้ เขียนแทนในรปู เศษสว่ นไดเ้ ปน็ 9 )
10
o เขยี นทศนยิ มแสดงสว่ นทรี่ ะบายสไี ด้อย่างไร (0.9)
o ถา้ เพิ่มตารางสิบทรี่ ะบายสีทัง้ หมด 1 รปู กบั จำนวนส่วนท่รี ะบายสี จากทั้ง 2 รูป
เขียนแทนด้วยทศนิยมและเศษส่วนไดอ้ ย่างไร (1.9 และ 1 9 )
10
นักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
7. ครตู ดิ ตารางร้อยบนกระดาน
ให้นักเรียนร่วมกนั พจิ ารณาและสังเกตตารางร้อยเพ่อื รว่ มกันเขยี นทศนิยมและเศษส่วน โดยครถู ามคำถาม
กบั นกั เรยี น ดังนี้
o ตารางนี้ถกู แบง่ ออกเป็นกี่ส่วน (100 สว่ น)
o ระบายสกี ส่ี ่วน (58 สว่ น)
o เขยี นเศษสว่ นแสดงสว่ นทร่ี ะบายสไี ดอ้ ย่างไร (ส่วนท่รี ะบายสมี ี 58 ส่วนใน 100
ส่วน ดังนั้น เขียนแทนในรปู เศษสว่ นไดเ้ ปน็ 58 )
100
o เขยี นทศนิยมแสดงสว่ นทีร่ ะบายสีได้อยา่ งไร (0.58)
o ถ้าเพิ่มตารางร้อยที่ระบายสีท้ังหมด 1 รูปกับจำนวนส่วนทร่ี ะบายสี จากทั้ง 2 รูป
เขียนแทนดว้ ยทศนิยมและเศษสว่ นไดอ้ ยา่ งไร (1.58 และ 1 58 )
100
นกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
8. ครตู ดิ ตารางพันบนกระดาน
ให้นกั เรียนรว่ มกันพิจารณาและสงั เกตตารางพนั เพ่ือรว่ มกันเขียนทศนิยมและเศษสว่ น โดยครูถามคำถาม
กับนกั เรียน ดังน้ี
o ตารางนีถ้ ูกแบง่ ออกเป็นกี่สว่ น (1,000 ส่วน)
o ระบายสีก่สี ว่ น (127 ส่วน)
o เขยี นเศษส่วนแสดงส่วนทร่ี ะบายสีไดอ้ ย่างไร (สว่ นทร่ี ะบายสมี ี 127 สว่ นใน 1,000
สว่ น ดงั นน้ั เขียนแทนในรูปเศษส่วนได้เปน็ 127 )
1000
o เขียนทศนิยมแสดงส่วนทีร่ ะบายสีได้อย่างไร (0.127)
o ถา้ เพ่ิมตารางพันทร่ี ะบายสีทั้งหมด 1 รูปกบั จำนวนสว่ นทร่ี ะบายสี จากทัง้ 2 รูป
เขียนแทนดว้ ยทศนิยมและเศษสว่ นได้อย่างไร (1.127 และ 1 127 )
1000
นักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
9. ครูใหน้ ักเรียนทำกิจกรรม “พิซซ่า หน้าเดียว” โดยครูอธิบายกตกิ าการเลน่ เกมให้นกั เรียนฟงั
ว่า นักเรียนแตล่ ะคนจะไดห้ ยิบรปู พิซซ่าทแี่ สดงเศษส่วน ทศนิยม และรปู ภาพ คนละ 1 ชน้ิ เมอ่ื ไดย้ นิ เสยี ง
สญั ญาณให้นกั เรยี นหาพซิ ซาทม่ี คี า่ เท่ากันทีแ่ สดงด้วยเศษส่วน ทศนิยม และรูปภาพมาวางประกอบกัน
เป็นพซิ ซา่ ถาดใหญ่ทสี่ มบรู ณ์ เม่อื ได้ยนิ เสยี งสญั ญาณอีกคร้ังใหน้ กั เรยี นพลิกหนา้ พิซซา่ ดู หากหน้าพซิ ซา่
เหมือนกันแสดงวา่ เศษสว่ น ทศนยิ ม และรูปภาพน้นั ๆ มีค่าเทา่ กนั ครใู ห้นักเรียนสลบั รูปชิ้นสว่ นพิซซ่า
แลว้ ทำกิจกรรมนี้อกี 3-4 รอบ
10. ครใู ห้นกั เรียนทำใบงานที่ 2.2 เร่ือง การเขยี นทศนิยมไมเ่ กิน 3 ตำแหนง่ และแบบฝึกหดั 2.1
หน้า 66 เพอื่ ตรวจสอบความรู้ความเขา้ ใจเปน็ รายบคุ คล
ขัน้ ที่ 3 ข้นั สรุป (5 นาที)
1. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ วา่ ทศนยิ ม เขยี นในรปู เศษส่วนทีม่ สี ว่ นเป็น 10, 100,
1,000, … ได้
สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้
1. แถบตารางสิบ ร้อย และพัน
2. สื่อชดุ พซิ ซา่ หน้าเดียว
3. หนังสอื เรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เลม่ 1 (สสวท., 2560)
4. หนงั สือแบบฝึกหัดรายวชิ ารายวชิ าคณิตศาสตรพ์ นื้ ฐาน ระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ 5 เลม่ 1
(สสวท., 2560)
5. ใบงานที่ 2.2 เร่อื ง การเขียนทศนิยมไมเ่ กนิ 3 ตำแหนง่
การวดั และประเมนิ ผล เคร่ืองมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั
วธิ ีการและการประเมินผล ผา่ นเกณฑ์
- ใบงานที่ 2.2 เรื่อง การเขียนทศนิยมไม่เกนิ 3 รอ้ ยละ 60
ความรู้ (K) ตำแหน่ง
นักเรยี นสามารถอธบิ ายเกย่ี วกบั การ - แบบฝึกหดั 2.1 หน้า 66 ในแบบฝึก ผา่ นเกณฑ์
เขยี นทศนิยมไม่เกนิ 3 ตำแหน่งในรปู คณติ ศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท. รอ้ ยละ 60
เศษส่วนได้
- - ใบงานท่ี 2.2 เร่อื ง การเขียนทศนิยมไมเ่ กิน 3 ระดับคุณภาพ
ทักษะและกระบวนการ (P) ตำแหน่ง 2 ผา่ นเกณฑ์
นักเรยี นมีความสามารถในการส่อื สาร - แบบฝึกหดั 2.1 หนา้ 66 ในแบบฝึก
และส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 สสวท.
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A) - แบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียนการทำงานเป็น
นักเรยี นมีความมวี นิ ัย มคี วามใฝเ่ รียนรู้ รายบุคคล
และมงุ่ มนั่ ในการทำงาน
แผนการจัดการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิชาคณิตศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 15101
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 ชื่อหน่วย ทศนิยม เวลา 34 ชั่วโมง
แผนที่ 3 เรอื่ ง การเขียนเศษส่วนในรูปทศนยิ ม (1) เวลา 1 ช่ัวโมง
ผ้สู อน นางสาวกมลชนก เทียนอนิ ทร์ สาขาวชิ าคณติ ศาสตร์
วันทส่ี อน..............................................................................................................................................
สาระสำคัญ
เศษสว่ นที่มีตัวส่วนเป็น 10, 100, 1,000,… เขยี นในรปู ทศนิยมได้
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลทีเ่ กิดขนึ้ จากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้
ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 ป.5/1 เขียนเศษส่วนทมี่ ตี ัวสว่ นเปน็ ตวั ประกอบของ 10 หรือ 100 หรอื 1,000
ในรูปทศนยิ ม
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
4. นักเรยี นสามารถอธิบายเกีย่ วกับการเขียนเศษสว่ นในรูปทศนยิ มได้ (K)
5. นักเรยี นมคี วามสามารถในการสื่อสารและส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์(P)
6. นักเรียนมคี วามมีวินยั มีความใฝ่เรียนรู้ และมคี วามมุ่งมน่ั ในการทำงาน (A)
สาระการเรยี นรู้
การเขยี นเศษสว่ นและทศนยิ ม
ทักษะในศตวรรษท่ี 21
3R
− Reading (อา่ นออก)
− (W) Riting (เขียนได้)
− (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น)
8C
− มีทกั ษะในการคิดวิเคราะห์ การคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผูน้ ำ
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
3. ความสามารถในการส่ือสาร
4. ความสามารถในการคิด
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
4. มวี ินัย
5. ใฝเ่ รียนรู้
6. มุ่งม่ันในการทำงาน
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขั้นที่ 1 ขน้ั นำเข้าสบู่ ทเรยี น (10 นาที)
4. ครทู บทวนความรู้ เร่ือง การเขยี นทศนิยมใหอ้ ยู่ในรูปเศษส่วน โดยตดิ บตั รทศนิยมบน
กระดาน แล้วให้ผ้แู ทนนักเรียนครัง้ ละ 3 คน ออกมาแข่งขันกันเขยี นให้อยใู่ นรูปเศษสว่ นบนกระดาน
ดงั ตวั อยา่ ง
0.5 3.78 0.099
5 378 99
= 10 = 100 = 1000
ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
5. นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยใชค้ ำถามกระตนุ้ ความคิด ดังนี้
o มีเร่อื งใดอีกบ้างท่ีต้องใชค้ วามรเู้ รอ่ื ง การเขยี นเศษสว่ นในรูปทศนยิ ม
6. นักเรยี นศึกษา รวบรวมข้อมูลเกย่ี วกบั การเขียนเศษส่วนในรูปทศนิยม เช่น การสังเกต การ
รว่ มกันสนทนากับเพ่ือนในชนั้ เรียน จากหนังสอื เรียนหรือจากอนิ เทอร์เนต็
ข้ันท่ี 2 ข้ันการจัดการเรยี นรู้ (45 นาที)
1. ครเู ขียนโจทย์เศษสว่ น 5 บนกระดาน แลว้ ให้นักเรยี นรว่ มกนั พิจารณาและอภิปรายวา่ จะ
10
เขยี นเศษส่วนดังกลา่ วในรูปทศนยิ มได้อยา่ งไร โดยครูใช้การถามคำถาม ดังนี้
o เศษส่วนนี้มตี วั สว่ นเปน็ เท่าไร (10)
o เขยี นเป็นทศนยิ มได้กี่ตำแหน่ง (หนง่ึ ตำแหน่ง)
o เขียนเป็นทศนยิ มได้อยา่ งไร ให้ผู้แทนนกั เรียนออกมาเขยี นบนกระดาน (= 0.5)
นกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั ดำเนนิ กจิ กรรมนอี้ กี 2-3 ขอ้
2. ครเู ขียนโจทย์เศษสว่ น 85 บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรียนรว่ มกันพจิ ารณาและอภปิ รายว่า
100
จะเขยี นเศษสว่ นดงั กล่าวในรูปทศนิยมได้อย่างไร โดยครูใช้การถามคำถาม ดังน้ี
o เศษสว่ นน้ีมตี ัวสว่ นเปน็ เทา่ ไร (100)
o เขียนเป็นทศนิยมได้กตี่ ำแหน่ง (สองตำแหน่ง)
o เขียนเป็นทศนยิ มได้อย่างไร ใหผ้ แู้ ทนนกั เรยี นออกมาเขียนบนกระดาน (= 0.85)
นกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนัน้ ดำเนินกิจกรรมน้อี ีก 2-3 ขอ้
3. ครเู ขยี นโจทย์เศษส่วน 701 บนกระดาน แลว้ ให้นกั เรยี นร่วมกันพิจารณาและอภิปรายวา่
1000
จะเขียนเศษส่วนดังกลา่ วในรูปทศนยิ มได้อย่างไร โดยถามคำถาม ดังนี้
o เศษสว่ นนี้มตี ัวส่วนเปน็ เทา่ ไร (1000)
o เขยี นเป็นทศนิยมได้ก่ีตำแหน่ง (สามตำแหนง่ )
o เขียนเปน็ ทศนยิ มได้อยา่ งไร ใหผ้ ู้แทนนกั เรยี นออกมาเขยี นบนกระดาน (= 0.701)
นักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากน้ันดำเนินกิจกรรมนีอ้ กี 2-3 ข้อ
4. ครใู ห้นกั เรยี นจับคู่ แลว้ แจกกระดาษเปลา่ ให้นกั เรียนคลู่ ะ 1 แผ่น จากนัน้ ครูติดบตั รเศษส่วน
บนกระดาน ครงั้ ละ 1 บัตร ให้นักเรียนแต่ละคชู่ ่วยกนั เขียนใหอ้ ยู่ในรูปทศนยิ ม ดำเนินกิจกรรมนี้จนครบ
10 ขอ้ จากนน้ั รว่ มกันเฉลย และตรวจสอบความถูกต้อง คใู่ ดตอบถูกต้องมากท่สี ดุ เปน็ ผู้ชนะ
5. ครใู หน้ ักเรียนทำใบงานที่ 2.3 เรอ่ื ง การเขยี นเศษส่วนในรปู ทศนยิ ม และแบบฝกึ หัด 2.3
เพ่อื ตรวจสอบความรู้ความเข้าใจเป็นรายบุคคล
ข้ันที่ 3 ข้นั สรุป (5 นาท)ี
2. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรุปวา่ เศษสว่ นทม่ี ีตัวส่วนเปน็ 10, 100, 1,000,… เขียนในรูป
ทศนิยมได้
สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้
6. บัตรทศนยิ มและบตั รเศษสว่ น
7. หนงั สือเรยี นรายวิชาคณติ ศาสตร์ ระดับช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เลม่ 1 (สสวท., 2560)
8. หนังสอื แบบฝึกหดั รายวิชารายวชิ าคณิตศาสตรพ์ น้ื ฐาน ระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 เล่ม 1
(สสวท., 2560)
9. ใบงานท่ี 2.3 เร่ือง การเขียนเศษส่วนในรูปทศนิยม
การวดั และประเมนิ ผล
วิธีการและการประเมนิ ผล เครือ่ งมือวัด และประเมินผล เกณฑก์ ารวัด
ผา่ นเกณฑ์
ความรู้ (K) ร้อยละ 60
นกั เรียนสามารถอธบิ ายเกยี่ วกับการ - ใบงานที่ 2.3 เรือ่ ง การเขยี นเศษส่วนในรปู ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 60
เขยี นเศษส่วนในรูปทศนิยมได้ ทศนยิ ม
ระดบั คุณภาพ
- แบบฝึกหดั 2.3 ในแบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.5 2 ผ่านเกณฑ์
เล่ม 1 สสวท.
ทักษะและกระบวนการ (P)
นักเรยี นมีความสามารถในการส่อื สาร - ใบงานที่ 2.3 เรอ่ื ง การเขยี นเศษสว่ นในรปู
และส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ ทศนยิ ม
- แบบฝึกหัด 2.3 ในแบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.5
เล่ม 1 สสวท.
คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
นักเรียนมคี วามมวี ินยั มคี วามใฝเ่ รยี นรู้ - แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียนการทำงานเป็น
และมงุ่ มนั่ ในการทำงาน รายบคุ คล
แผนการจดั การเรยี นรู้
กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิชาคณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 15101
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ช่ือหน่วย ทศนิยม เวลา 34 ชวั่ โมง
แผนท่ี 4 เร่ือง การเขยี นเศษสว่ นในรูปทศนิยม (2) เวลา 1 ชั่วโมง
ผู้สอน นางสาวกมลชนก เทยี นอินทร์ สาขาวิชาคณติ ศาสตร์
วนั ที่สอน..............................................................................................................................................
สาระสำคัญ
การเขยี นเศษส่วนที่มีตวั สว่ นหาร 10 หรือ 100 หรือ 1,000 ลงตวั ในรปู ทศนยิ มต้องทำเศษส่วน
ใหเ้ ป็นเศษส่วนท่มี ีตัวส่วนเปน็ 10 หรือ 100 หรือ 1,000 จากนัน้ เขยี นเปน็ ทศนิยมหนึ่งตำแหนง่ ทศนิยม
สองตำแหนง่ หรือทศนิยมสามตำแหนง่
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลทเ่ี กดิ ขึ้นจากการดำเนนิ การ สมบตั ิของการดำเนินการ และนำไปใช้
ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 ป.5/1 เขียนเศษสว่ นทมี่ ีตวั ส่วนเปน็ ตัวประกอบของ 10 หรือ 100 หรอื 1,000
ในรูปทศนิยม
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
7. นกั เรียนสามารถอธิบายเกย่ี วกบั การเขยี นเศษส่วนในรปู ทศนิยมได้ (K)
8. นกั เรยี นมคี วามสามารถในการสือ่ สารและส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์(P)
9. นกั เรียนมีความมีวนิ ัย มคี วามใฝ่เรียนรู้ และมีความมงุ่ มั่นในการทำงาน (A)
สาระการเรยี นรู้
การเขยี นเศษสว่ นและทศนยิ ม
ทกั ษะในศตวรรษที่ 21
3R
− Reading (อา่ นออก)
− (W) Riting (เขยี นได้)
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มที ักษะในการคดิ วิเคราะห์ การคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
5. ความสามารถในการสื่อสาร
6. ความสามารถในการคิด
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7. มีวนิ ัย
8. ใฝเ่ รยี นรู้
9. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขนั้ ท่ี 1 ข้ันนำเขา้ สูบ่ ทเรยี น (10 นาที)
7. ครทู บทวนความรู้ เรื่อง การเขยี นทศนิยมใหอ้ ยู่ในรูปเศษส่วน โดยติดบตั รทศนิยมบน
กระดาน แล้วใหผ้ ู้แทนนักเรียนครง้ั ละ 3 คน ออกมาแข่งขันกันเขียนให้อยใู่ นรูปเศษสว่ นบนกระดาน
ดงั ตัวอย่าง
0.5 3.78 0.099
5 378 99
= 10 = 100 = 1000
ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
8. นกั เรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยใชค้ ำถามกระตุน้ ความคดิ ดังน้ี
o มเี ร่อื งใดอีกบ้างที่ตอ้ งใช้ความรู้เร่อื ง การเขียนเศษสว่ นที่มีตัวสว่ นหาร 10 100 หรอื
1,000 ลงตัวในรูปทศนยิ ม
9. นักเรยี นศกึ ษา รวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกับการเขยี นเศษส่วนในรปู ทศนยิ ม เช่น การสังเกต การ
ร่วมกันสนทนากบั เพื่อนในชั้นเรยี น จากหนังสอื เรยี นหรือจากอินเทอรเ์ นต็
ขั้นท่ี 2 ขน้ั การจดั การเรียนรู้ (45 นาที)
6. ครเู ขียนโจทย์เศษส่วน 1 บนกระดาน แล้วให้นักเรยี นร่วมกันพิจารณาและอภิปรายว่า จะ
2
เขยี นเศษสว่ นดังกล่าวในรปู ทศนิยมได้อย่างไร โดยครใู ชก้ ารถาม-ตอบเพื่อกระต้นุ ความคิดของนักเรยี น
ดงั นี้
o จะเขยี น 1 ให้อยใู่ นรปู ทศนิยมควรทำอย่างไร (ทำ 1 ให้เปน็ เศษส่วนทมี่ ีตัวส่วนเป็น
22
10 เสียกอ่ น แลว้ จึงเขยี นในรูปทศนิยม)
o จาก 1 ทำอยา่ งไรจึงจะได้เศษส่วนทม่ี คี า่ เทา่ เดิมแต่มตี วั ส่วนเปน็ 10 (นักเรียนใช้
2
ความรู้เรื่อง การทำเศษส่วนให้เท่ากนั โดยหาจำนวนนับมาคูณท้ังตัวเศษและตวั
สว่ น)
o จำนวนนบั ใดทคี่ ณู กับ 2 แลว้ ได้ 10 (5) ดงั น้ัน จะเขยี นวิธีทำอยา่ งไร
ครใู หผ้ ู้แทนนักเรียน 1 คนออกมาเขียนแสดงวิธีทำบนกระดาน ดงั นี้
1) 1
2
วธิ ีทำ 1 = 1×5 = 5 = 0.5
2 2×5 10
ตอบ 0.5
ครแู ละนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
7. ครเู ขยี นโจทย์เศษส่วน 6 บนกระดาน แลว้ ถามนักเรียนว่า จะเขยี นเศษสว่ นใหอ้ ยู่ในรปู
12
ทศนิยมได้อย่างไร นักเรียนรว่ มกนั อภปิ รายจนได้ข้อสรปุ ดังน้ี
2) 6
12
วธิ ที ำ 6 = 6÷6 = 1 = 1×5 = 0.5
12 12÷6 2 2×5
ตอบ 0.5
8. ครใู หน้ ักเรยี นศึกษาในหนงั สือเรียนหน้าที่ 70 จากนนั้ ครูอธบิ ายให้นักเรยี นฟงั อีกรอบ
9. ครใู หน้ ักเรียนฝกึ ทักษะการเขยี นเศษสว่ นเม่อื ตวั ส่วนหาร 10 หรอื 100 หรือ 1,000 ลงตวั ในรปู
ทศนยิ ม โดยตดิ บตั รเศษส่วนบนกระดาน และให้นักเรียนครั้งละ 3 คน แขง่ ขันกนั ออกมาเขยี นวิธที ำจากบัตร
เศษส่วน ดังตวั อยา่ ง
8 93
16 25 8
=1.6 =0.36 =0.375
10. ครใู ห้นกั เรียนทำใบงานท่ี 2.3 เร่อื ง การเขียนเศษส่วนในรปู ทศนิยม (2) และแบบฝกึ หัด 2.3
เพื่อตรวจสอบความรูค้ วามเข้าใจเปน็ รายบุคคล
ข้นั ที่ 3 ขั้นสรุป (5 นาที)
3. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั สรปุ วา่ การเขียนเศษสว่ นทีม่ ตี ัวส่วนหาร 10 หรือ 100 หรือ 1,000
ลงตวั ในรูปทศนิยมตอ้ งทำเศษส่วนให้เปน็ เศษส่วนทีม่ ีตัวส่วนเปน็ 10 หรอื 100 หรอื 1,000 จากนัน้
เขียนเปน็ ทศนยิ มหน่ึงตำแหน่ง ทศนยิ มสองตำแหนง่ หรอื ทศนยิ มสามตำแหนง่
ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
10. บัตรทศนิยมและบัตรเศษส่วน
11. หนงั สือเรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์ ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เล่ม 1 (สสวท., 2560)
12. หนังสอื แบบฝกึ หัดรายวิชารายวิชาคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เล่ม 1
(สสวท., 2560)
13. ใบงานท่ี 2.3 เรื่อง การเขยี นเศษส่วนในรูปทศนยิ ม (2)
การวัดและประเมนิ ผล
วิธกี ารและการประเมินผล เครอื่ งมอื วัด และประเมินผล เกณฑก์ ารวดั
ผา่ นเกณฑ์
ความรู้ (K) ร้อยละ 60
นักเรียนสามารถอธิบายเกย่ี วกับการ - ใบงานที่ 2.3 เร่ือง การเขียนเศษสว่ นในรูป ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60
เขยี นเศษสว่ นในรปู ทศนิยมได้ ทศนยิ ม (2)
ระดับคุณภาพ
- แบบฝกึ หัด 2.3 ในแบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.5 2 ผา่ นเกณฑ์
เล่ม 1 สสวท.
ทักษะและกระบวนการ (P)
นกั เรียนมีความสามารถในการสือ่ สาร - ใบงานท่ี 2.3 เรื่อง การเขยี นเศษสว่ นในรปู
และสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ ทศนยิ ม (2)
- แบบฝกึ หดั 2.3 ในแบบฝึกคณติ ศาสตร์ ป.5
เลม่ 1 สสวท.
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
นักเรียนมีความมวี นิ ยั มีความใฝเ่ รียนรู้ - แบบสังเกตพฤติกรรมนกั เรียนการทำงานเป็น
และมงุ่ มัน่ ในการทำงาน รายบคุ คล
แผนการจดั การเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิชาคณิตศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 15101
ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 2 ชื่อหน่วย ทศนิยม เวลา 34 ช่ัวโมง
แผนที่ 5 เร่อื ง การเขยี นจำนวนคละในรปู ทศนยิ ม เวลา 1 ชั่วโมง
ผ้สู อน นางสาวกมลชนก เทียนอนิ ทร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์
วนั ทีส่ อน..............................................................................................................................................
สาระสำคัญ
การเขยี นจำนวนคละทีม่ ตี ัวส่วนเปน็ พหคุ ณู ของ 10, 100 และ 1,000 ในรปู ทศนิยมใหเ้ ขียน
จำนวนคละ ในรปู จำนวนนบั กบั เศษสว่ นอย่างตำ่ แล้วทำเศษสว่ นอยา่ งต่ำใหม้ ตี ัวสว่ นเป็น 10 หรอื 100
หรือ 1,000 และเขียนเป็นจำนวนนับกับทศนิยม
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ
จำนวน ผลทเ่ี กดิ ขึ้นจากการดำเนนิ การ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้
ตวั ชี้วัด/ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 ป.5/1 เขียนเศษส่วนที่มตี ัวส่วนเป็นตัวประกอบของ 10 หรือ 100 หรือ 1,000
ในรูปทศนยิ ม
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
10. นกั เรยี นสามารถอธิบายเก่ียวกับการเขียนจำนวนคละในรปู ทศนยิ มได้ (K)
11. นักเรยี นมีความสามารถในการสือ่ สารและส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์(P)
12. นกั เรียนมีความมวี นิ ยั มคี วามใฝเ่ รยี นรู้ และมีความม่งุ มน่ั ในการทำงาน (A)
สาระการเรียนรู้
การเขียนจำนวนคละในรปู ทศนิยม
ทักษะในศตวรรษที่ 21
3R
− Reading (อ่านออก)
− (W) Riting (เขียนได้)
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มที ักษะในการคิดวเิ คราะห์ การคดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทักษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ
สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
7. ความสามารถในการส่ือสาร
8. ความสามารถในการคิด
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
10. มวี ินัย
11. ใฝ่เรยี นรู้
12. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขน้ั ท่ี 1 ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน (10 นาที)
10. ครใู ห้นักเรยี นทบทวนการเขียนเศษส่วนในรูปทศนิยม โดยครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกันตอบและ
แสดงวิธที ำจากบตั รเศษส่วน ดงั ตอ่ ไปน้ี
7 20 เป็นตัวประกอบของ 100 1 125 เป็นตัวประกอบของ 1000
20 เพราะ 100 ÷ 20 = 5 8 เพราะ 1000 ÷ 8 = 125
วิธที ำ 7 = 7×5 = 35 = 0.35 วิธีทำ 1 = 1×125 = 125 = 0.125
20 20×5 100 8 8×125 1000
ตอบ 0.35 ตอบ 0.125
ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
11. นักเรียนรว่ มกันแสดงความคดิ เห็น โดยใช้คำถามกระตุ้นความคดิ ดังนี้
o นักเรียนจะนำความรูเ้ รื่อง การเขยี นจำนวนคละในรูปทศนิยมไปใชใ้ นเรื่องใดไดบ้ า้ ง
12. นกั เรยี นศกึ ษา รวบรวมข้อมลู เกยี่ วกับการเขยี นเศษส่วนในรูปทศนิยม เชน่ การสงั เกต การ
ร่วมกันสนทนากับเพื่อนในช้ันเรียน จากหนงั สอื เรยี นหรอื จากอนิ เทอร์เนต็
ขนั้ ท่ี 2 ข้นั การจัดการเรยี นรู้ (45 นาท)ี
11. ครเู ขียนโจทย์ 2 1 บนกระดาน แลว้ ให้นักเรยี นร่วมกันพจิ ารณาและอภิปรายวา่ จะเขียน
2
จำนวนคละดงั กล่าวในรูปทศนิยมได้อยา่ งไร โดยครูใชก้ ารถาม-ตอบเพ่ือกระตุ้นความคิดของนักเรยี น ดังน้ี
o จะเขียน 2 1 ให้อยูใ่ นรูปทศนยิ มควรทำอย่างไร (ทำ 2 1 ใหเ้ ป็นเศษส่วนทีม่ ีตวั
22
ส่วนเปน็ 10 เสียกอ่ น แลว้ จงึ เขยี นในรูปทศนิยม)
o จาก 2 1 ทำอยา่ งไรจึงจะได้จำนวนคละทมี่ ีคา่ เท่าเดิมแตม่ ีตวั สว่ นเป็น 10 (นักเรียน
2
ใชค้ วามร้เู รอื่ ง การทำเศษสว่ นใหเ้ ทา่ กนั โดยหาจำนวนนบั มาคณู ท้งั ตวั เศษและตัว
สว่ น)
o จำนวนนบั ใดทีค่ ูณกับ 2 แลว้ ได้ 10 (5) ดงั นัน้ จะเขียนวธิ ที ำอย่างไร
จากน้ัน ครแู สดงการเขียนวธิ ีทำให้นักเรยี นดเู ป็นตวั อย่าง ดงั น้ี
1) 2 1 1 1 1 5
2 2 2 2
2
วธิ ที ำ 1 2 = 2 + วิธที ำ 2 2 =
= 2 + 1×5 = 5×5
2×5 2×5
5 25
= 2 + 10 = 10
= 2 + 0.5 = 2.5
= 2.5
ตอบ 2.5 ตอบ 2.5
ครูและนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
12. ครดู ำเนนิ กิจกรรมตามข้อ 1. อีกคร้ัง โดยเขียนโจทย์ 6 8 บนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรียน
25
รว่ มกันอภปิ รายถึงวิธกี ารเขยี นจำนวนคละดงั กล่าวให้อยใู่ นรูปทศนิยม จากนัน้ ให้ผู้แทนนักเรยี นออกมา
เขียนแสดงวิธที ำบนกระดาน ดงั นี้
2) 6 8 วธิ ที ำ 2 6 8 = 158
25 25 25
วธิ ีทำ 1 6 8 = 6 + 8 = 158×4
25 25 25×4
= 6 + 8×4 = 632
25×4 100
= 6 + 32 = 6.32
100 ตอบ 6.32
= 6 + 0.32
= 6.32
ตอบ 6.32
13. ครูใหน้ กั เรียนแบ่งกลมุ่ กลุ่มละ 5-6 คน แตล่ ะกลมุ่ ส่งผูแ้ ทนกลุม่ ครัง้ ละ 2 คนออกมาเขียน
แสดงวิธีทำจากบตั รจำนวนคละท่ีติดบนกระดานครง้ั ละ 1 ข้อแลว้ รว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง ดำเนิน
กิจกรรมนี้ 4-5 ข้อ เพอื่ ใหน้ ักเรียนมีความเข้าใจเร่อื ง การเขียนจำนวนคละในรูปทศนิยม
14. ครูใหน้ ักเรียนทำใบงานที่ 2.4 เรอื่ ง การเขยี นจำนวนคละในรูปทศนยิ ม และแบบฝกึ หดั 2.2
หนา้ 69 เพอ่ื ตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจเป็นรายบุคคล
ขั้นที่ 3 ข้ันสรุป (5 นาที)
4. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ วา่ การเขียนจำนวนคละที่มตี ัวสว่ นเป็นพหุคูณของ 10, 100
และ 1,000 ในรปู ทศนยิ มให้เขยี นจำนวนคละในรูปจำนวนนบั กบั เศษสว่ นอยา่ งตำ่ แล้วทำเศษส่วน
อยา่ งต่ำให้มีตัวส่วนเป็น 10 หรอื 100 หรอื 1,000 และเขยี นเปน็ จำนวนนับกบั ทศนยิ ม
ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้
14. บัตรจำนวนคละและบัตรเศษส่วน
15. หนังสือเรยี นรายวิชาคณิตศาสตร์ ระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 เล่ม 1 (สสวท., 2560)
16. หนังสือแบบฝึกหดั รายวชิ ารายวิชาคณิตศาสตรพ์ ้ืนฐาน ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5 เล่ม 1
(สสวท., 2560)
17. ใบงานท่ี 2.4 เร่ือง การเขียนจำนวนคละในรปู ทศนยิ ม
การวดั และประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื วดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวัด
วิธีการและการประเมินผล ผา่ นเกณฑ์
- ใบงานท่ี 2.4 เรือ่ ง การเขียนจำนวนคละในรปู รอ้ ยละ 60
ความรู้ (K) ทศนยิ ม
นักเรียนสามารถอธิบายเกย่ี วกบั การ - แบบฝึกหดั 2.2 หนา้ 69ในแบบฝึกคณิตศาสตร์ ผ่านเกณฑ์
เขยี นจำนวนคละในรูปทศนิยมได้ ป.5 เล่ม 1 สสวท. รอ้ ยละ 60
ทักษะและกระบวนการ (P) - ใบงานที่ 2.4 เรือ่ ง การเขียนจำนวนคละในรูป ระดับคุณภาพ
นกั เรยี นมีความสามารถในการสอื่ สาร ทศนิยม 2 ผา่ นเกณฑ์
และส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ - แบบฝึกหดั 2.2 หน้า 69 ในแบบฝึก
คณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท.
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
นักเรยี นมีความมีวนิ ยั มคี วามใฝ่เรยี นรู้ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรมนักเรยี นการทำงานเป็น
และมงุ่ มนั่ ในการทำงาน รายบุคคล
แผนการจดั การเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิชาคณิตศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 15101
ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ชื่อหน่วย ทศนยิ ม เวลา 34 ช่ัวโมง
แผนที่ 6 เร่ือง การหาค่าประมาณเป็นจำนวนเต็มหน่วย เวลา 1 ช่ัวโมง
ผสู้ อน นางสาวกมลชนก เทียนอนิ ทร์ สาขาวชิ าคณิตศาสตร์
วนั ท่ีสอน..............................................................................................................................................
สาระสำคัญ
การหาค่าประมาณของทศนิยมเป็นจำนวนเต็มหน่วย ต้องพิจารณาว่า ทศนิยมที่ต้องการหา
ค่าประมาณนนั้ อยู่ระหว่างจำนวนเตม็ ใด แลว้ จึงพิจารณาเลขโดดในหลกั สว่ นสบิ
− ถา้ เลขโดดในหลกั สว่ นสิบเป็น 0 1 2 3 หรือ 4 จะประมาณเป็นจำนวนเต็มหน่วยท่ีนอ้ ยกว่า
− ถา้ เลขโดดในหลักส่วนสิบเป็น 5 6 7 8 หรือ 9 จะประมาณเปน็ จำนวนเต็มหน่วยท่ีมากกว่า
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลท่เี กิดข้นึ จากการดำเนินการ สมบัตขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้
ตวั ช้ีวดั /ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 ป.5/1 เขียนเศษสว่ นทมี่ ตี วั ส่วนเปน็ ตวั ประกอบของ 10 หรือ 100 หรอื 1,000
ในรูปทศนิยม
จุดประสงค์การเรียนรู้
13. นักเรียนสามารถอธบิ ายเกยี่ วกับการหาค่าประมาณเป็นจำนวนเต็มหนว่ ยได้ (K)
14. นักเรยี นมคี วามสามารถในการสอ่ื สารและสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์(P)
15. นกั เรียนมคี วามมีวนิ ัย มีความใฝเ่ รยี นรู้ และมีความมงุ่ ม่นั ในการทำงาน (A)
สาระการเรยี นรู้
การหาคา่ ประมาณเปน็ จำนวนเตม็ หนว่ ย
ทักษะในศตวรรษท่ี 21
3R
− Reading (อ่านออก)
− (W) Riting (เขียนได)้
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มที กั ษะในการคดิ วเิ คราะห์ การคดิ อย่างมีวิจารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผนู้ ำ
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
9. ความสามารถในการสื่อสาร
10. ความสามารถในการคิด
คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
13. มวี ินยั
14. ใฝ่เรียนรู้
15. มุ่งมัน่ ในการทำงาน
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขน้ั ท่ี 1 ข้ันนำเข้าสบู่ ทเรียน (10 นาที)
13. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สนทนาทบทวนความรเู้ ก่ยี วกบั การหาคา่ ประมาณใกลเ้ คยี งจำนวน
เต็มสบิ โดยใชบ้ ตั รตัวเลขชใู ห้นักเรียนดู และร่วมกนั บอกค่าประมาณใกลเ้ คียงจำนวนเต็มสบิ 6-8 จำนวน
เชน่
o 38 ค่าประมาณใกลเ้ คยี งจำนวนเตม็ สบิ คือจำนวนใด (40)
o 91 ค่าประมาณใกล้เคียงจำนวนเตม็ สบิ คือจำนวนใด (90)
o 246 คา่ ประมาณใกลเ้ คยี งจำนวนเต็มสิบคือจำนวนใด (250)
o 589 ค่าประมาณใกลเ้ คียงจำนวนเตม็ สิบคอื จำนวนใด (590)
o 975 ค่าประมาณใกลเ้ คยี งจำนวนเต็มสิบคือจำนวนใด (980)
o 1,277 ค่าประมาณใกลเ้ คยี งจำนวนเตม็ สบิ คือจำนวนใด (1,280)
o 2,644 คา่ ประมาณใกล้เคียงจำนวนเต็มสบิ คือจำนวนใด (2,640)
o 7,102 ค่าประมาณใกลเ้ คียงจำนวนเตม็ สบิ คือจำนวนใด (7,100)
14. นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยใช้คำถามกระตุน้ ความคิด ดังน้ี
o นกั เรียนมีวธิ หี รอื ข้นั ตอนใดอีกบา้ งทีช่ ว่ ยให้หาค่าประมาณเปน็ จำนวนเตม็ หนว่ ย
ได้รวดเรว็ ขน้ึ
15. นักเรียนศึกษา รวบรวมข้อมลู เก่ยี วกบั การหาค่าประมาณเป็นจำนวนเตม็ หนว่ ย เช่น
การสงั เกต การรว่ มกันสนทนากบั เพ่ือนในชน้ั เรยี น จากหนังสอื เรียนหรอื จากอินเทอร์เน็ต
ขนั้ ที่ 2 ขนั้ การจัดการเรียนรู้ (45 นาที)
15. ครใู ห้นกั เรยี นพิจารณาแถบเส้นจำนวนบนกระดาน ดงั น้ี
4.0 4.1 4.2 4.3 4.4 4.5 4.6 4.7 4.8 4.9 5.0
จากนัน้ ร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยใช้คำถามกระตุ้นความคิด ดงั น้ี
o คา่ ประมาณจำนวนเต็มของ 4.6 ใกล้เคยี งจำนวนใด (5.0) เพราะเหตุใด (เพราะ 4.6
มคี า่ ใกล้เคียง 5.0 มากกวา่ 4.0)
o การหาคา่ ประมาณจำนวนเต็มของ 4.6 พจิ ารณาตัวเลขใด (6) อยู่ในหลักใด (หลัก
สว่ นสิบ)
o การหาคา่ ประมาณจำนวนเต็มของ 4.6 เขยี นเป็นสัญลักษณไ์ ด้อยา่ งไร (4.6 ≈ 5)
ครดู ำเนนิ กจิ กรรมนอ้ี ีก 2-3 ครงั้ โดยเปลีย่ นแถบเสน้ จำนวน ดังตัวอย่าง
7.0 7.1 7.2 7.3 7.4 7.5 7.6 7.7 7.8 7.9 8.0
o ค่าประมาณจำนวนเตม็ ของ 7.4 ใกล้เคียงจำนวนใด (7.0) เพราะเหตุใด (เพราะ 7.4
มีค่าใกล้เคยี ง 7.0 มากกว่า 8.0)
o การหาคา่ ประมาณจำนวนเต็มของ 7.4 พิจารณาตัวเลขใด (4) อยู่ในหลกั ใด (หลัก
สว่ นสบิ )
o การหาคา่ ประมาณจำนวนเต็มของ 7.4 เขยี นเป็นสัญลักษณ์ได้อย่างไร (7.4 ≈ 7)
ครนู ักเรียนและครรู ว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง
16. นกั เรียนแบง่ กลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน รับบตั รทศนิยม 1 ตำแหน่ง กลุม่ ละ 10 ใบ แล้วร่วมกนั
หาคา่ ประมาณเปน็ จำนวนเต็มหนว่ ยเขยี นลงในกระดาษเปล่า จากนน้ั ส่งผแู้ ทนกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงาน
หน้าชั้นเรียน โดยมนี กั เรยี นและครรู ว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
17. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึกหดั ในหนังสือคณิตศาสตรช์ น้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 เล่ม 1 หนา้ 73 ขอ้
1 – 5 เพอื่ ตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจเปน็ รายบุคคล
ข้นั ที่ 3 ขั้นสรุป (5 นาที)
5. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปวา่ การหาค่าประมาณของทศนิยมเปน็ จำนวนเต็มหน่วย ต้อง
พจิ ารณาวา่ ทศนิยมที่ต้องการหาค่าประมาณนั้น อยู่ระหวา่ งจำนวนเต็มใด แล้วจึงพิจารณาเลขโดด
ในหลักส่วนสิบ
− ถา้ เลขโดดในหลักสว่ นสบิ เป็น 0 1 2 3 หรือ 4 จะประมาณเป็นจำนวนเต็มหน่วยท่ี
นอ้ ยกวา่
− ถ้าเลขโดดในหลกั ส่วนสบิ เป็น 5 6 7 8 หรือ 9 จะประมาณเปน็ จำนวนเต็มหนว่ ยท่ี
มากกว่า
เครอื่ งหมาย ≈ แสดงการประมาณ
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
18. บัตรตวั เลข
19. บัตรทศนิยม 1 ตำแหนง่
20. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าคณติ ศาสตร์ ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 เล่ม 1 (สสวท., 2560)
21. หนงั สือแบบฝึกหดั รายวิชารายวิชาคณิตศาสตรพ์ นื้ ฐาน ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เลม่ 1
(สสวท., 2560)
การวัดและประเมินผล
วิธกี ารและการประเมินผล เครอ่ื งมอื วดั และประเมนิ ผล เกณฑ์การวัด
ความรู้ (K) ผ่านเกณฑ์
รอ้ ยละ 60
นักเรยี นสามารถอธบิ ายเก่ียวกับการ - แบบฝกึ หดั หน้า 73 ข้อ 1 – 5 ในแบบฝึก
ผ่านเกณฑ์
หาคา่ ประมาณเป็นจำนวนเต็มหน่วยได้ คณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 สสวท. รอ้ ยละ 60
ทักษะและกระบวนการ (P) ระดับคุณภาพ
2 ผา่ นเกณฑ์
นกั เรยี นมีความสามารถในการสอื่ สาร - แบบฝกึ หดั หน้า 73 ข้อ 1 – 5 ในแบบฝึก
และส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 สสวท.
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
นกั เรียนมีความมวี นิ ัย มคี วามใฝ่เรยี นรู้ - แบบสงั เกตประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
และม่งุ มัน่ ในการทำงาน
แผนการจัดการเรียนรู้
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิชาคณิตศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 15101
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ชื่อหน่วย ทศนิยม เวลา 34 ช่วั โมง
แผนท่ี 7 เรอ่ื ง การหาคา่ ประมาณเปน็ ทศนยิ ม 1 ตำแหนง่ เวลา 1 ช่ัวโมง
ผู้สอน นางสาวกมลชนก เทยี นอนิ ทร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์
วนั ทสี่ อน..............................................................................................................................................
สาระสำคญั
การหาค่าประมาณเป็นทศนิยม 1 ตำแหนง่ ต้องพิจารณาวา่ ทศนิยมท่ตี อ้ งการหาคา่ ประมาณน้ัน
อยู่ระหวา่ งทศนยิ ม 1 ตำแหน่งใด แล้วจงึ พิจารณาเลขโดดในหลักสว่ นร้อย
− ถ้าเลขโดดในหลกั ส่วนสิบเปน็ 0 1 2 3 หรอื 4
จะประมาณเปน็ ทศนิยม 1 ตำแหนง่ ทน่ี ้อยกว่า
− ถา้ เลขโดดในหลกั ส่วนสิบเปน็ 5 6 7 8 หรอื 9
จะประมาณเป็นทศนยิ ม 1 ตำแหน่งทมี่ ากกว่า
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ
จำนวน ผลทเี่ กดิ ขน้ึ จากการดำเนนิ การ สมบตั ิของการดำเนินการ และนำไปใช้
ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 ป.5/1 เขียนเศษส่วนทมี่ ีตวั สว่ นเปน็ ตัวประกอบของ 10 หรือ 100 หรอื 1,000
ในรูปทศนิยม
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
16. นักเรยี นสามารถอธบิ ายเกี่ยวกบั การหาค่าประมาณเปน็ ทศนิยม 1 ตำแหนง่ ได้ (K)
17. นกั เรียนมีความสามารถในการสื่อสารและสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์(P)
18. นกั เรยี นมคี วามมีวนิ ัย มีความใฝเ่ รียนรู้ และมีความมุ่งม่นั ในการทำงาน (A)
สาระการเรยี นรู้
การหาค่าประมาณเปน็ ทศนิยม 1 ตำแหน่ง
ทกั ษะในศตวรรษที่ 21
3R
− Reading (อ่านออก)
− (W) Riting (เขยี นได้)
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มีทักษะในการคดิ วเิ คราะห์ การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน
11. ความสามารถในการสื่อสาร
12. ความสามารถในการคดิ
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
16. มีวินัย
17. ใฝ่เรยี นรู้
18. มุ่งมัน่ ในการทำงาน
กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขั้นท่ี 1 ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรียน (10 นาที)
16. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สนทนาทบทวนความรู้เก่ยี วกบั การหาค่าประมาณของทศนยิ ม 2
ตำแหนง่ และ 3 ตำแหน่ง โดยใชบ้ ตั รตัวเลขชูใหน้ กั เรยี นดู และรว่ มกนั บอกค่าประมาณจำนวนเต็มของ
ทศนิยมหนง่ึ ตำแหนง่ 3 – 4 จำนวน เชน่
o 4.77 ค่าประมาณจำนวนเต็ม คอื จำนวนใด (5)
o 8.531 ค่าประมาณจำนวนเต็ม คอื จำนวนใด (9)
o 255.369 ค่าประมาณจำนวนเตม็ คอื จำนวนใด (255)
17. นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยใช้คำถามกระตุ้นความคดิ ดังนี้
o นกั เรยี นสามารถนำความรูเ้ รอ่ื ง การหาคา่ ประมาณเป็นทศนิยม 1 ตำแหนง่ ไปใชใ้ น
สถานการณ์ใดไดบ้ ้าง
18. นักเรยี นศกึ ษา รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการหาคา่ ประมาณเป็นทศนยิ ม 1 ตำแหนง่ เชน่ การ
สงั เกต การรว่ มกนั สนทนากับเพือ่ นในชนั้ เรยี น จากหนังสอื เรียนหรือจากอินเทอร์เนต็
ข้ันท่ี 2 ขั้นการจดั การเรียนรู้ (45 นาท)ี
18. ครูใหน้ กั เรยี นพิจารณาแถบเส้นจำนวนบนกระดาน ดังนี้
3.20 3.21 3.22 3.23 3.24 3.25 3.26 3.27 3.28 3.29 3.30
จากนน้ั รว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยใชค้ ำถามกระตุ้นความคิด ดงั น้ี
o ค่าประมาณจำนวนเต็มของ 3.24 ใกลเ้ คยี งจำนวนใด (3.20) เพราะเหตุใด (เพราะ
3.24 มีค่าใกลเ้ คียง 3.20 มากกวา่ 3.30)
o การหาคา่ ประมาณจำนวนเต็มของ 3.24 พิจารณาตัวเลขใด (4) อยู่ในหลกั ใด (หลัก
ส่วนรอ้ ย)
o การหาค่าประมาณจำนวนเต็มของ 3.24 เขียนเป็นสญั ลักษณ์ได้อยา่ งไร
(3.24 ≈ 3.20)
ครดู ำเนนิ กิจกรรมนีอ้ ีก 2-3 ครงั้ โดยเปลี่ยนแถบเสน้ จำนวน ดงั ตวั อย่าง
8.50 8.51 8.52 8.53 8.54 8.55 8.56 8.57 8.58 8.59 8.60
o คา่ ประมาณจำนวนเตม็ ของ 8.56 ใกลเ้ คียงจำนวนใด (8.60) เพราะเหตุใด (เพราะ
8.56 มคี า่ ใกล้เคียง 8.60 มากกวา่ 8.50)
o การหาคา่ ประมาณจำนวนเต็มของ 8.56 พิจารณาตัวเลขใด (6) อยู่ในหลักใด (หลัก
ส่วนร้อย)
o การหาคา่ ประมาณจำนวนเต็มของ 8.56 เขยี นเป็นสัญลกั ษณไ์ ด้อยา่ งไร
(8.56 ≈ 8.60)
ครนู กั เรยี นและครูรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง
19. ครตู ิดบัตรทศนิยมบนกระดาน ดงั นี้
5.462 และ 5.347
ให้นักเรียนรว่ มกนั หาคา่ ประมาณทศนยิ มหนงึ่ ตำแหนง่ ดังน้ี
5.462 เขียนค่าประมาณทศนิยมหนงึ่ ตำแหนง่ ได้ 5.5 หรือ 5.462 ≈ 5.5
5.347 เขียนคา่ ประมาณทศนิยมหนึง่ ตำแหน่งได้ 5.3 หรือ 5.347 ≈ 5.3
นกั เรียนและครรู ว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
20. นกั เรียนแบ่งกลุ่ม กลมุ่ ละ 5 – 6 คน แตล่ ะกลมุ่ จะสง่ ผูแ้ ทนกลมุ่ คร้ังละ 1 คนออกมาเขียน
ตวั ไมท่ ราบค่าจากแถบโจทย์ท่ีตดิ บนกระดานคร้ังละ 1 ขอ้ แลว้ ร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
ดังตวั อยา่ ง
1.511≈ A 10.48 ≈ B 18.834 ≈ C
ดำเนนิ กิจกรรมน้ีอีก 4 – 5 ข้อ เพื่อให้นักเรยี นมีความเขา้ ใจ เรือ่ ง การหาคา่ ประมาณเป็นทศนิยม 1
ตำแหน่ง
21. ครูให้นกั เรียนทำแบบฝึกหัดในหนงั สือคณิตศาสตรช์ นั้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 เลม่ 1 หน้า 75 ข้อ
1 – 5 เพอ่ื ตรวจสอบความรู้ ความเขา้ ใจเปน็ รายบุคคล
ข้ันที่ 3 ข้นั สรุป (5 นาท)ี
6. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรุปวา่ การหาค่าประมาณเป็นทศนยิ ม 1 ตำแหนง่ ตอ้ งพิจารณา
ว่า ทศนิยมท่ีตอ้ งการหาค่าประมาณนั้น อยูร่ ะหว่างทศนิยม 1 ตำแหน่งใด แล้วจงึ พจิ ารณาเลขโดดใน
หลกั สว่ นร้อย
− ถา้ เลขโดดในหลักสว่ นสบิ เป็น 0 1 2 3 หรือ 4
จะประมาณเป็นทศนยิ ม 1 ตำแหนง่ ท่นี อ้ ยกวา่
− ถ้าเลขโดดในหลักส่วนสิบเป็น 5 6 7 8 หรือ 9
จะประมาณเปน็ ทศนยิ ม 1 ตำแหน่งท่ีมากกวา่
ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
22. บัตรทศนยิ ม
23. หนงั สอื เรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 เลม่ 1 (สสวท., 2560)
24. หนงั สอื แบบฝกึ หัดรายวชิ ารายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐาน ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เล่ม 1
(สสวท., 2560)
การวัดและประเมนิ ผล
วิธกี ารและการประเมินผล เครือ่ งมือวัด และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั
ความรู้ (K) ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 60
นักเรียนสามารถอธบิ ายเก่ยี วกบั การ - แบบฝึกหัดหนา้ 75 ข้อ 1 – 5 ในแบบฝึก
ผ่านเกณฑ์
หาค่าประมาณเปน็ ทศนิยม 1 ตำแหน่ง คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 สสวท. รอ้ ยละ 60
ได้ ระดบั คุณภาพ
2 ผา่ นเกณฑ์
ทักษะและกระบวนการ (P)
นกั เรยี นมีความสามารถในการสือ่ สาร - แบบฝกึ หดั หนา้ 75 ข้อ 1 – 5 ในแบบฝึก
และส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท.
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
นักเรียนมีความมีวนิ ยั มีความใฝ่เรยี นรู้ - แบบสงั เกตประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
และมุง่ มนั่ ในการทำงาน
แผนการจัดการเรียนรู้
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิชาคณิตศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 15101
ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ชื่อหน่วย ทศนิยม เวลา 34 ช่วั โมง
แผนท่ี 8 เรอ่ื ง การหาคา่ ประมาณเปน็ ทศนยิ ม 2 ตำแหนง่ เวลา 1 ช่ัวโมง
ผู้สอน นางสาวกมลชนก เทยี นอนิ ทร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์
วนั ทสี่ อน..............................................................................................................................................
สาระสำคญั
การหาค่าประมาณเป็นทศนิยม 2 ตำแหนง่ ต้องพิจารณาวา่ ทศนิยมท่ตี อ้ งการหาคา่ ประมาณน้ัน
อยู่ระหวา่ งทศนยิ ม 2 ตำแหน่งใด แล้วจงึ พิจารณาเลขโดดในหลักสว่ นร้อย
− ถ้าเลขโดดในหลกั ส่วนสิบเปน็ 0 1 2 3 หรอื 4
จะประมาณเปน็ ทศนิยม 2 ตำแหน่งทน่ี ้อยกว่า
− ถา้ เลขโดดในหลกั ส่วนสิบเปน็ 5 6 7 8 หรอื 9
จะประมาณเป็นทศนยิ ม 2 ตำแหน่งทมี่ ากกว่า
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ
จำนวน ผลทเี่ กดิ ขน้ึ จากการดำเนนิ การ สมบตั ิของการดำเนินการ และนำไปใช้
ตัวช้วี ัด/ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 ป.5/1 เขียนเศษส่วนทีม่ ตี วั สว่ นเปน็ ตัวประกอบของ 10 หรือ 100 หรอื 1,000
ในรูปทศนิยม
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
19. นักเรยี นสามารถอธบิ ายเกี่ยวกบั การหาคา่ ประมาณเปน็ ทศนิยม 2 ตำแหนง่ ได้ (K)
20. นกั เรียนมีความสามารถในการสื่อสารและสือ่ ความหมายทางคณติ ศาสตร์(P)
21. นกั เรยี นมคี วามมีวนิ ัย มีความใฝเ่ รียนรู้ และมีความมุ่งม่นั ในการทำงาน (A)
สาระการเรยี นรู้
การหาค่าประมาณเปน็ ทศนิยม 2 ตำแหน่ง
ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21
3R
− Reading (อ่านออก)
− (W) Riting (เขยี นได้)
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มที กั ษะในการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผู้นำ
สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
13. ความสามารถในการส่ือสาร
14. ความสามารถในการคิด
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
19. มวี ินยั
20. ใฝ่เรยี นรู้
21. มุ่งมน่ั ในการทำงาน
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขน้ั ที่ 1 ขนั้ นำเขา้ สบู่ ทเรียน (10 นาที)
19. ครูและนักเรียนรว่ มกนั สนทนาทบทวนความรูเ้ กี่ยวกับการหาคา่ ประมาณของทศนิยม 2
ตำแหนง่ และ 3 ตำแหน่ง โดยใชบ้ ัตรตวั เลขชูให้นักเรียนดู และรว่ มกนั บอกคา่ ประมาณจำนวนเต็มของ
ทศนยิ มหน่งึ ตำแหนง่ 3 – 4 จำนวน เช่น
o 5.77 คา่ ประมาณจำนวนเต็ม คือจำนวนใด (6)
o 8.531 ค่าประมาณจำนวนเต็ม คือจำนวนใด (9)
o 255.369 ค่าประมาณจำนวนเต็ม คอื จำนวนใด (255)
20. นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยใชค้ ำถามกระตนุ้ ความคิด ดังนี้
o นักเรียนสามารถนำความรเู้ รอื่ ง การหาค่าประมาณเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง ไปใชใ้ น
สถานการณ์ใดไดบ้ ้าง
21. นักเรยี นศึกษา รวบรวมข้อมลู เก่ียวกับการหาคา่ ประมาณเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง เช่น การ
สังเกต การร่วมกันสนทนากับเพื่อนในชน้ั เรยี น จากหนังสอื เรียนหรือจากอนิ เทอรเ์ น็ต
ขั้นท่ี 2 ข้ันการจดั การเรียนรู้ (45 นาที)
22. ครูใหน้ ักเรยี นพจิ ารณาแถบเส้นจำนวนบนกระดาน ดงั นี้
3.510 3.511 3.512 3.513 3.514 3.515 3.516 3.517 3.518 3.519 3.520
จากนนั้ รว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยใช้คำถามกระตุน้ ความคิด ดังน้ี
o 3.514 อยรู่ ะหว่างจำนวนใด (3.51 และ 3.52)
o ค่าประมาณจำนวนเตม็ ของ 3.514 ใกลเ้ คยี งจำนวนใด (3.51) เพราะเหตุใด
(เพราะ 3.514 มีคา่ ใกลเ้ คียง 3.51 มากกวา่ 3.52)
o การหาค่าประมาณจำนวนเต็มของ 3.514 พิจารณาตัวเลขใด (4) อยใู่ นหลกั ใด
(หลกั ส่วนพัน)
o การหาคา่ ประมาณจำนวนเต็มของ 3.24 เขยี นเป็นสัญลักษณ์ได้อย่างไร
(3.514 ≈ 3.51)
ครดู ำเนนิ กิจกรรมนอ้ี ีก 2-3 ครัง้ โดยเปลยี่ นแถบเส้นจำนวน ดงั ตัวอยา่ ง
8.970 8.971 8.972 8.973 8.974 8.975 8.976 8.977 8.978 8.979 8.980
o 8.976 อยรู่ ะหวา่ งจำนวนใด (8.97 และ 8.98)
o คา่ ประมาณจำนวนเตม็ ของ 8.976 ใกล้เคียงจำนวนใด (8.98) เพราะเหตใุ ด
(เพราะ 8.976 มีค่าใกล้เคียง 8.98 มากกว่า 8.97)
o การหาคา่ ประมาณจำนวนเต็มของ 8.976 พิจารณาตวั เลขใด (6) อยใู่ นหลักใด
(หลกั สว่ นพัน)
o การหาคา่ ประมาณจำนวนเต็มของ 8.976 เขยี นเป็นสญั ลักษณไ์ ด้อยา่ งไร
(8.976 ≈ 8.98)
ครนู ักเรียนและครูร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
23. ครตู ิดบัตรทศนิยมบนกระดาน ดงั น้ี
5.462 5.347
ใหน้ กั เรยี นร่วมกนั หาค่าประมาณทศนิยมสองตำแหน่ง ดังน้ี
5.462 เขยี นคา่ ประมาณทศนิยมสองตำแหน่งได้ 5.46 หรือ 5.462 ≈ 5.46
5.347 เขยี นค่าประมาณทศนิยมสองตำแหน่งได้ 5.35 หรอื 5.347 ≈ 5.35
นักเรยี นและครูรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง
24. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กล่มุ ละ 5 – 6 คน แต่ละกลุ่มจะส่งผแู้ ทนกลมุ่ คร้ังละ 1 คนออกมาเขียน
ตัวไม่ทราบคา่ จากแถบโจทยท์ ่ีตดิ บนกระดานครั้งละ 1 ขอ้ แล้วรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ดงั ตวั อย่าง
0.085 ≈ C 12.567 ≈ S 20.144 ≈ Y
ดำเนนิ กิจกรรมน้ีอีก 4 – 5 ข้อ เพ่ือให้นักเรยี นมคี วามเข้าใจ เรอ่ื ง การหาคา่ ประมาณเป็นทศนยิ ม 1
ตำแหน่ง
25. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝึกหดั ในหนงั สอื คณิตศาสตร์ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 หน้า 76 ขอ้
1 – 5 เพือ่ ตรวจสอบความรู้ ความเขา้ ใจเป็นรายบุคคล
ขนั้ ท่ี 3 ขั้นสรุป (5 นาที)
7. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปวา่ การหาคา่ ประมาณเป็นทศนยิ ม 2 ตำแหน่ง ต้องพิจารณา
วา่ ทศนยิ มที่ตอ้ งการหาคา่ ประมาณนนั้ อยู่ระหว่างทศนิยม 2 ตำแหน่งใด แล้วจึงพจิ ารณาเลขโดดใน
หลกั ส่วนร้อย
− ถ้าเลขโดดในหลกั สว่ นสิบเป็น 0 1 2 3 หรือ 4
จะประมาณเป็นทศนยิ ม 2 ตำแหน่งที่นอ้ ยกว่า
− ถา้ เลขโดดในหลักสว่ นสิบเป็น 5 6 7 8 หรือ 9
จะประมาณเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่งทม่ี ากกวา่
สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
25. บตั รทศนิยม
26. หนังสอื เรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 เล่ม 1 (สสวท., 2560)
27. หนังสอื แบบฝกึ หดั รายวิชารายวชิ าคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 เล่ม 1
(สสวท., 2560)
การวัดและประเมนิ ผล
วิธกี ารและการประเมินผล เครือ่ งมือวัด และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวดั
ความรู้ (K) ผ่านเกณฑ์
ร้อยละ 60
นักเรียนสามารถอธบิ ายเก่ยี วกบั การ - แบบฝึกหัดหนา้ 76 ข้อ 1 – 5 ในแบบฝึก
ผ่านเกณฑ์
หาค่าประมาณเปน็ ทศนิยม 2 ตำแหน่ง คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 สสวท. รอ้ ยละ 60
ได้ ระดบั คุณภาพ
2 ผา่ นเกณฑ์
ทักษะและกระบวนการ (P)
นกั เรยี นมีความสามารถในการสือ่ สาร - แบบฝกึ หดั หนา้ 76 ข้อ 1 – 5 ในแบบฝึก
และส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท.
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
นักเรียนมีความมีวนิ ยั มีความใฝ่เรยี นรู้ - แบบสงั เกตประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
และมุง่ มนั่ ในการทำงาน
แผนการจดั การเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิชาคณิตศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 15101
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ชื่อหน่วย ทศนยิ ม เวลา 34 ชว่ั โมง
แผนที่ 9 เร่อื ง การคูณจำนวนนบั กับทศนยิ ม (1) เวลา 1 ชั่วโมง
ผูส้ อน นางสาวกมลชนก เทยี นอินทร์ สาขาวิชาคณติ ศาสตร์
วนั ท่ีสอน..............................................................................................................................................
สาระสำคญั
การคูณจำนวนนับกับทศนิยม อาจทำได้โดยการบวกทศนิยมซ้ำ ๆ กันและจำนวนของทศนิยมท่ี
นำมาบวกกันตอ้ งเทา่ กับจำนวนนบั นน้ั
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลท่ีเกิดข้ึนจากการดำเนินการ สมบตั ขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้
ตวั ช้วี ดั /ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ค1.1 ป.5/6 หาผลคณู ของทศนิยมท่ผี ลคูณเป็นทศนิยมไมเ่ กิน 3 ตำแหน่ง
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
22. นักเรียนสามารถอธิบายเกยี่ วกบั การคูณจำนวนนับกับทศนิยมได้ (K)
23. นักเรียนมีความสามารถในการสื่อสารและสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการใหเ้ หตุผล
(P)
24. นักเรยี นมคี วามมีวินัย มคี วามใฝเ่ รยี นรู้ และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน (A)
สาระการเรยี นรู้
การคูณจำนวนนับกบั ทศนยิ ม
ทักษะในศตวรรษที่ 21
3R
− Reading (อา่ นออก)
− (W) Riting (เขยี นได้)
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มที กั ษะในการคดิ วเิ คราะห์ การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผูน้ ำ
สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
15. ความสามารถในการสื่อสาร
16. ความสามารถในการคดิ
17. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
18. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
22. มวี นิ ยั
23. ใฝ่เรยี นรู้
24. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขนั้ ท่ี 1 ขั้นนำเข้าสู่บทเรยี น (10 นาที)
22. ครทู บทวนความรู้ เร่ือง การคูณจำนวนนับให้กับนกั เรยี น โดยเขียนโจทย์การคูณบน
กระดานและให้ผแู้ ทนนักเรยี นออกมาแสดงวิธีทำบนกระดาน ดงั น้ี
1) 5 x 19 =
19 x
5
95
นักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
23. นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยใช้คำถามกระตนุ้ ความคดิ ดังนี้
o ถ้านกั เรียนไม่มีความรเู้ ร่อื ง การคูณจำนวนนับกับทศนิยมจะเกิดผลอย่างไรบ้าง
24. นกั เรียนศึกษา รวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกบั การคณู จำนวนนับกับทศนยิ ม เช่น การสงั เกต
การรว่ มกันสนทนากบั เพื่อนในชั้นเรียน จากหนงั สอื เรียนหรือจากอินเทอรเ์ น็ต
ขั้นท่ี 2 ขั้นการจดั การเรยี นรู้ (45 นาที)
26. ครใู หน้ ักเรียนพจิ ารณาโจทยบ์ นกระดาน 5 × 1.37 = ใหผ้ ู้แทนนักเรยี นออกมา
แสดงวิธีหาคำตอบบนกระดาน โดยใช้วิธีการบวกทศนยิ มซ้ำ ๆ กนั ดงั นี้
วิธที ำ ใชว้ ธิ ีการบวกทศนยิ มนยิ มซ้ำ ๆ กัน
5 × 1.37 = 1.37 + 1.37 + 1.37 + 1.37 + 1.37 = 6.85
ตอบ 6.85
นักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้องและรว่ มกนั อภปิ รายวา่ การหาผลคณู ของทศนยิ มกับจำนวนนับ
นอกจากใช้วธิ ดี ังกลา่ วขา้ งตน้ แลว้ จะมีวธิ ีการใดหาคำตอบไดอ้ ีก (นกั เรียนแสดงความคดิ เหน็ ได้
หลากหลายตามประสบการณแ์ ละความสามารถของตนเอง)
27. ครใู ห้นักเรยี นพิจารณาโจทยบ์ นกระดาน 2 × 0.245 = ให้ผู้แทนนักเรยี นออกมา
แสดงวธิ ีหาคำตอบบนกระดานโดยใชว้ ธิ ีการบวกทศนิยมซำ้ ๆ กัน ดังนี้
วธิ ที ำ ใชว้ ธิ ีการบวกทศนยิ มนยิ มซ้ำ ๆ กัน
2 × 0.245 = 0.245 + 0.245 = 0.490
ตอบ 0.49
28. ครแู บ่งนกั เรยี นออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5 – 6 คน แจกแถบโจทยก์ ารคูณให้กลุม่ ละ 2 แผ่น
ใหน้ ักเรียนร่วมกันหาผลคูณลงในกระดาษท่ีครแู จกให้
ตวั อย่างโจทย์
7 × 7.21 = 5 × 8.3 =
จากนัน้ ให้ผู้แทนกลมุ่ ออกมานำเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรยี น นักเรียนกลุ่มอน่ื ๆ ร่วมกนั ตรวจสอบความ
ถกู ต้องและรว่ มกนั อภิปราย
29. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบฝกึ หัด 2.4 หนา้ 71 เพ่อื ตรวจสอบความรู้ ความเขา้ ใจเปน็ รายบุคคล
ข้ันท่ี 3 ขนั้ สรุป (5 นาท)ี
1. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปวา่ การคณู จำนวนนับกับทศนยิ ม อาจทำได้โดยการบวก
ทศนยิ มซำ้ ๆ กนั และจำนวนของทศนยิ มทนี่ ำมาบวกกนั ต้องเท่ากับจำนวนนบั น้นั
ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
28. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าคณิตศาสตร์ ระดับช้นั ประถมศึกษาปีที่ 5 เลม่ 1 (สสวท., 2560)
29. หนังสอื แบบฝึกหัดรายวิชารายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ ืน้ ฐาน ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1
(สสวท., 2560)
การวัดและประเมนิ ผล
วิธีการและการประเมนิ ผล เครอ่ื งมอื วัด และประเมินผล เกณฑ์การวดั
ความรู้ (K) ผา่ นเกณฑ์
ร้อยละ 60
นกั เรียนสามารถอธิบายเกยี่ วกับการ - แบบฝกึ หัด 2.4 หนา้ 71 ในแบบฝึก
ผา่ นเกณฑ์
คณู จำนวนนบั กบั ทศนยิ มได้ คณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 สสวท. รอ้ ยละ 60
ทักษะและกระบวนการ (P) ระดับคุณภาพ
2 ผา่ นเกณฑ์
นักเรยี นมีความสามารถในการส่ือสาร - แบบฝึกหัด 2.4 หนา้ 71 ในแบบฝึก
และส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ คณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท.
และการให้เหตุผล
คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
นักเรียนมคี วามมวี นิ ยั มคี วามใฝ่เรยี นรู้ - แบบสงั เกตประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
และมุ่งมั่นในการทำงาน
แผนการจดั การเรียนรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิชาคณติ ศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 15101
ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 2 ช่ือหน่วย ทศนิยม เวลา 34 ชัว่ โมง
แผนท่ี 10 เรื่อง การคณู จำนวนนับกบั ทศนยิ ม (2) เวลา 1 ชั่วโมง
ผสู้ อน นางสาวกมลชนก เทยี นอินทร์ สาขาวชิ าคณิตศาสตร์
วนั ทีส่ อน..............................................................................................................................................
สาระสำคญั
การคูณจำนวนนับกับทศนิยม หาผลคูณเช่นเดียวกับการคูณจำนวนนับ และผลคูณที่ได้
จะเป็นทศนิยมทม่ี จี ำนวนตำแหน่งทศนิยมทโ่ี จทย์กำหนด
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ
จำนวน ผลทเี่ กิดขึ้นจากการดำเนนิ การ สมบัตขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้
ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ค1.1 ป.5/6 หาผลคณู ของทศนิยมท่ีผลคูณเป็นทศนิยมไมเ่ กิน 3 ตำแหน่ง
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
25. นักเรยี นสามารถอธิบายเกีย่ วกบั การคูณจำนวนนบั กบั ทศนิยมได้ (K)
26. นักเรยี นมีความสามารถในการสอ่ื สารและสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ และการให้เหตผุ ล
(P)
27. นักเรียนมีความมวี ินัย มคี วามใฝเ่ รยี นรู้ และมคี วามม่งุ มั่นในการทำงาน (A)
สาระการเรียนรู้
การคณู จำนวนนับกับทศนยิ ม
ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21
3R
− Reading (อา่ นออก)
− (W) Riting (เขียนได้)
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มีทกั ษะในการคดิ วิเคราะห์ การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ
สมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รยี น
19. ความสามารถในการส่ือสาร
20. ความสามารถในการคิด
21. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
22. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
25. มวี นิ ยั
26. ใฝเ่ รียนรู้
27. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ข้ันที่ 1 ขัน้ นำเข้าส่บู ทเรยี น (10 นาที)
25. ครทู บทวนความรู้ เร่ือง การคูณจำนวนนับกับทศนยิ มโดยใช้วิธกี ารบวกซ้ำใหก้ ับนกั เรียน
โดยเขยี นโจทย์การคณู บนกระดาน แล้วใหผ้ แู้ ทนนกั เรียนออกมาแสดงวธิ ีทำบนกระดาน ดงั นี้
2) 2 x 0.35 เขยี นในรปู การณ์บวกได้ 0.35 + 0.35 = 0.70
ดงั นน้ั 2 x 0.35 = 0.7
นกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง
26. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยใชค้ ำถามกระตุ้นความคดิ ดังนี้
o นกั เรียนมีวธิ ีการหรอื ขน้ั ตอนใดอกี บ้างทช่ี ่วยใหห้ าคำตอบของการคณู จำนวนนบั กับ
เศษสว่ นได้ถูกต้องและรวดเรว็ ทส่ี ดุ
27. นักเรียนศึกษา รวบรวมขอ้ มลู เกี่ยวกับการคูณจำนวนนบั กับทศนิยม เชน่ การสังเกต
การร่วมกนั สนทนากบั เพื่อนในช้ันเรียน จากหนังสือเรยี นหรอื จากอินเทอรเ์ น็ต
ขน้ั ท่ี 2 ขน้ั การจัดการเรียนรู้ (45 นาท)ี
30. ครใู ห้นกั เรียนพิจารณาโจทยบ์ นกระดาน 3 × 0.7 = ให้ผแู้ ทนนกั เรียนออกมา
แสดงวิธีหาคำตอบบนกระดาน โดยใชว้ ิธีการใช้ความสัมพนั ธ์ของทศนยิ มและเศษส่วน ดังน้ี
3 × 0.7 = 3 × 7
10
= 3×7
10
= 21
10
= 2.1
นักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้องและร่วมกนั อภปิ รายวา่ การหาผลคณู ของทศนิยมกับจำนวนนับ
นอกจากใชว้ ิธดี งั กล่าวขา้ งต้นแล้วจะมีวธิ ีการใดหาคำตอบได้อีก (นกั เรยี นแสดงความคดิ เห็นได้
หลากหลายตามประสบการณ์และความสามารถของตนเอง)
31. ครใู ห้นักเรยี นพิจารณาโจทยบ์ นกระดาน 2 × 1.58 = ใหผ้ ้แู ทนนกั เรยี นออกมา
แสดงวิธีหาคำตอบบนกระดาน โดยใช้วธิ กี ารใช้ความสัมพนั ธข์ องทศนิยมและเศษส่วน ดงั น้ี
2 × 1.58 = 2 × 158
100
= 2×158
100
= 316
100
= 3.16
นักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
32. ครใู ห้นกั เรียนพจิ ารณาโจทยบ์ นกระดาน 4 × 2.732 = ให้ผแู้ ทนนักเรียนออกมา
แสดงวธิ ีหาคำตอบบนกระดาน โดยใช้วธิ ีการใชค้ วามสมั พนั ธข์ องทศนิยมและเศษสว่ น ดงั นี้
4 × 2.732 = 4 × 2732
1000
= 4×2732
1000
= 10928
1000
= 10.928
นักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง
33. ครแู บ่งนกั เรียนออกเป็นกลมุ่ กลุม่ ละ 5 – 6 คน แจกแถบโจทยก์ ารคูณให้กลมุ่ ละ 2 แผ่น
ใหน้ ักเรยี นร่วมกันหาผลคูณลงในกระดาษท่ีครูแจกให้
ตวั อย่างโจทย์
3 × 3.872 = 8 × 0.411 =
จากนน้ั ให้ผแู้ ทนกล่มุ ออกมานำเสนอผลงานหน้าชั้นเรยี น นกั เรียนกลมุ่ อื่น ๆ รว่ มกนั ตรวจสอบความ
ถกู ต้องและรว่ มกนั อภปิ ราย และแสดงความคดิ เห็นวา่ ในการหาผลคูณของทศนยิ มกับจำนวนนบั นกั เรียน
คิดวา่ จะเลอื กวธิ ีการใดหาคำตอบ เพราะเหตใุ ด
34. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หัด 2.5 หนา้ 72 – 73 เพื่อตรวจสอบความรู้ ความเขา้ ใจเปน็
รายบุคคล
ขนั้ ท่ี 3 ขนั้ สรุป (5 นาที)
2. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ วา่ การคณู จำนวนนบั กบั ทศนิยม หาผลคณู เชน่ เดยี วกบั การ
คณู จำนวนนบั และผลคูณท่ีได้ จะเปน็ ทศนยิ มท่ีมีจำนวนตำแหน่งทศนิยมที่โจทยก์ ำหนด
ส่อื และแหล่งการเรยี นรู้
30. หนังสอื เรยี นรายวิชาคณิตศาสตร์ ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 เลม่ 1 (สสวท., 2560)
31. หนังสอื แบบฝึกหดั รายวชิ ารายวชิ าคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1
(สสวท., 2560)
การวดั และประเมนิ ผล
วิธกี ารและการประเมนิ ผล เครื่องมือวัด และประเมินผล เกณฑ์การวัด
ความรู้ (K) ผ่านเกณฑ์
รอ้ ยละ 60
นกั เรยี นสามารถอธิบายเกี่ยวกับการ - แบบฝกึ หัด 2.5 หนา้ 72 – 73 ในแบบฝึก
ผา่ นเกณฑ์
คูณจำนวนนบั กบั ทศนยิ มได้ คณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท. ร้อยละ 60
ทกั ษะและกระบวนการ (P) ระดบั คุณภาพ
2 ผา่ นเกณฑ์
นักเรียนมีความสามารถในการสอื่ สาร - แบบฝกึ หดั 2.5 หน้า 72 – 73 ในแบบฝึก
และส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ คณติ ศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท.
และการให้เหตุผล
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
นักเรียนมคี วามมีวนิ ัย มีความใฝ่เรียนรู้ - แบบสังเกตประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
และมุ่งมน่ั ในการทำงาน