The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ประจำหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ทศนิยม ของ นางสาวกมลชนก เทียนอินทร์ รหัส 6013106001 สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pje72.bew, 2021-10-21 08:31:29

บทที่ 2 ทศนิยม

แผนการจัดการเรียนรู้ประจำหน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ทศนิยม ของ นางสาวกมลชนก เทียนอินทร์ รหัส 6013106001 สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

แผนการจดั การเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิชาคณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 15101

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564

หนว่ ยการเรียนรูท้ ี่ 2 ช่ือหน่วย ทศนิยม เวลา 34 ชัว่ โมง

แผนท่ี 21 เรื่อง ค่าประมาณของผลลัพธข์ องการหารทศนยิ ม เวลา 1 ช่ัวโมง

ผูส้ อน นางสาวกมลชนก เทียนอนิ ทร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์

วนั ที่สอน..............................................................................................................................................

สาระสำคญั
การหาคา่ ประมาณของผลลัพธ์ของการหารทศนยิ ม ทำไดโ้ ดยประมาณแต่ละจำนวนทีเ่ กี่ยวขอ้ ง

เป็นทศนยิ ม1 ตำแหนง่ และ 2 ตำแหนง่

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ

จำนวน ผลที่เกดิ ขน้ึ จากการดำเนนิ การ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้

ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 ป.5/7 หาผลหารทีต่ ัวตั้งเปน็ จำนวนนับหรอื ทศนยิ มไม่เกนิ 3 ตำแหน่งและ

ตวั หารเป็นจำนวนนบั ผลหารเป็นทศนยิ มไม่เกิน 3 ตำแหน่ง

จุดประสงค์การเรยี นรู้
58. นกั เรียนสามารถหาคา่ ประมาณของผลลัพธ์ของการหารทศนยิ มได้ (K)
59. นกั เรยี นมีความสามารถในการสือ่ สารและสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ และการใหเ้ หตุผล
(P)
60. นกั เรยี นมีความมีวนิ ยั มคี วามใฝ่เรยี นรู้ และมีความมงุ่ มั่นในการทำงาน (A)

สาระการเรียนรู้
ค่าประมาณของผลลัพธ์ของการหารทศนยิ ม

ทักษะในศตวรรษท่ี 21
3R
− Reading (อ่านออก)
− (W) Riting (เขียนได้)
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มีทักษะในการคดิ วเิ คราะห์ การคดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทักษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผนู้ ำ

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
63. ความสามารถในการสื่อสาร
64. ความสามารถในการคิด
65. ความสามารถในการแก้ปัญหา
66. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
58. มวี นิ ัย
59. ใฝ่เรยี นรู้
60. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน

กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขนั้ ท่ี 1 ข้ันนำเขา้ สู่บทเรยี น (10 นาที)
1. ครทู บทวนความร้เู ร่ือง การหารทศนยิ มเมอ่ื ตวั หารเป็นจำนวนนับโดยครูตดิ แถบ

โจทย์การหารบนกระดานแลว้ ให้ผแู้ ทนนักเรยี น 2 คน แข่งขันกันออกมาแสดงวิธีการหารยาวบนกระดาน
ดังนี้ 1.42

4 5.68

4

1.6

1.6

0.08

0.08

0

นกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
2. นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยใช้คำถามกระต้นุ ความคดิ ดังนี้
o นักเรียนจะมีวิธีหาคา่ ประมาณของผลลพั ธ์ของการหารทศนยิ มได้อยา่ งไรบ้าง
3. นกั เรยี นศกึ ษา รวบรวมข้อมูลเก่ียวกับค่าประมาณของผลลัพธข์ องการหารทศนยิ ม เชน่ การ

สังเกต การร่วมกันสนทนากบั เพ่อื นในชัน้ เรียน จากหนงั สอื เรียนหรอื จากอินเทอร์เนต็

ขนั้ ท่ี 2 ข้นั การจัดการเรียนรู้ (45 นาท)ี
1. ครตู ิดแถบโจทย์การหารทศนิยมบนกระดาน

8.076 ÷ 12 (คา่ ประมาณของผลหารเป็นทศนยิ ม 2 ตำแหน่ง)

ให้ผู้แทนนักเรยี น 1 คน ออกมาเขยี นแสดงวธิ ที ำบนกระดานดังน้ี

0.673
12 8.076

7.2

0.87

0.84

0.036

0.036

0

ดังนนั้ 8.076 ÷ 12 = 0.673
ครใู ช้คำถามกระตนุ้ ความคดิ ของนกั เรียน ดังน้ี

o ใช้หลกั การใดในการพจิ ารณา (นักเรียนใช้ความร้จู ากประสบการณ์เดมิ ใช้การ
ประมาณค่าใกล้เคียงทศนิยมตำแหน่งต่าง ๆ โดยพิจารณาตัวเลขหลักถัดไปที่อยู่ทางขวาของตำแหน่ง
ทศนยิ มทป่ี ระมาณคำตอบถ้าตัวเลขดังกล่าวมีค่าต้ังแต่ 5 ข้นึ ไปให้ปดั ขึ้น 0.1 แลว้ ตดั ทศนิยมท่ีเหลือท้ิงไป
และถ้าน้อยกว่าให้ประมาณคำตอบเป็นตัวเลขตามทศนิยมตำแหน่งนั้นแล้วตัดตัวเลขของทศนิยมที่เหลือ
ทิง้ ไป)

o ถ้ากำหนดให้คำตอบเปน็ จำนวนเต็มหน่วย การพจิ ารณาการประมาณคำตอบต้อง
พิจารณาตำแหนง่ ใด (ทศนิยมตำแหน่งท่ี 1 หรอื หลักส่วนสบิ )

o นน่ั คอื 8.076  12 มคี ำตอบเปน็ จำนวนเต็มหนว่ ย เทา่ กับเทา่ ไร (1)
o ถ้ากำหนดใหค้ ำตอบเป็นทศนยิ ม 1 ตำแหน่ง การพจิ ารณาการประมาณคำตอบต้อง
พจิ ารณาตำแหนง่ ใด (ทศนิยมตำแหน่งที่ 2 หรอื หลกั ส่วนร้อย)
o นั่นคือ 8.076  12 มีคำตอบเปน็ ทศนิยม 1 ตำแหน่งเทา่ กับเทา่ ไร (0.7)
o ถ้ากำหนดให้คำตอบเปน็ ทศนิยม 2 ตำแหน่งการพจิ ารณาการประมาณคำตอบ

ต้องพิจารณาตำแหน่งใด (ทศนิยมตำแหนง่ ท่ี 3 หรือหลกั ส่วนพัน)
o น่ันคอื 8.076  12 มคี ำตอบเปน็ ทศนยิ ม 1 ตำแหนง่ เท่ากับเทา่ ไร (0.67)

นกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง
2. ให้นักเรยี นจับคู่ 2 คน แจกแถบโจทยก์ ารหารทศนิยมให้กลุ่มละ 3 แถบนักเรียนช่วยกนั แสดง

วธิ กี ารหารทศนยิ มและหาค่าประมาณของผลลพั ธ์เป็นจำนวนเต็มหน่วย ทศนยิ ม 1 ตำแหน่งทศนิยม 2
ตำแหน่ง ลงในกระดาษเปล่า เมือ่ ทำเสร็จแล้วครูจะสุ่มออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรียน
ครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้อง

3. ครูใหน้ ักเรียนทำแบบฝกึ หดั ที่ 2.11 หน้า 82 – 83 เพ่ือตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจเปน็
รายบุคคล

ข้นั ที่ 3 ข้ันสรุป (5 นาที)
5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปวา่ การหาค่าประมาณผลลัพธ์การคณู และการหารทศนิยม ทำ
ได้โดยประมาณแต่ละจำนวนทเ่ี กีย่ วข้องเป็นทศนิยม 1 ตำแหนง่ และ 2 ตำแหนง่

สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
54. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าคณติ ศาสตร์ ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เลม่ 1 (สสวท., 2560)
55. หนงั สือแบบฝกึ หัดรายวชิ ารายวิชาคณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 5 เล่ม 1

(สสวท., 2560)

การวัดและประเมินผล

วิธกี ารและการประเมินผล เครือ่ งมือวัด และประเมนิ ผล เกณฑ์การวัด

ความรู้ (K) ผ่านเกณฑ์ร้อยละ
60
นักเรียนสามารถหาคา่ ประมาณของ - แบบฝึกหดั 2.11 หน้า 82 – 83 ใน
ผ่านเกณฑ์ร้อยละ
ผลลัพธ์ของการหารทศนยิ มได้ แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60

สสวท. ระดบั คุณภาพ 2
ผ่านเกณฑ์
ทักษะและกระบวนการ (P)

นักเรียนมีความสามารถในการสื่อสาร - แบบฝกึ หดั 2.11 หน้า 82 – 83 ใน

และสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์ แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 1

และการให้เหตุผล สสวท.

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)

นกั เรยี นมคี วามมวี นิ ยั มคี วามใฝเ่ รยี นรู้ - แบบสงั เกตประเมินคุณลกั ษณะอัน

และม่งุ ม่ันในการทำงาน พึงประสงค์

แผนการจดั การเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิชาคณิตศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 15101

ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 2 ช่ือหน่วย ทศนยิ ม เวลา 34 ช่วั โมง

แผนท่ี 22 เร่อื ง การหาคา่ ประมาณของผลหาร เวลา 1 ชั่วโมง

ผูส้ อน นางสาวกมลชนก เทียนอินทร์ สาขาวชิ าคณติ ศาสตร์

วันทสี่ อน..............................................................................................................................................

สาระสำคญั
ในการหารจำนวนนบั ใด ๆ ถ้าหาผลหารไปไดเ้ รื่อย ๆ เราใชก้ ารประมาณคำตอบเป็นคา่ ใกลเ้ คียง

ทศนยิ มตามทโ่ี จทยก์ ำหนด

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ

จำนวน ผลท่เี กดิ ขึน้ จากการดำเนินการ สมบัตขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้

ตวั ช้ีวัด/ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 ป.5/7 หาผลหารทต่ี ัวตัง้ เปน็ จำนวนนับหรอื ทศนิยมไม่เกิน 3 ตำแหน่งและ

ตัวหารเปน็ จำนวนนับ ผลหารเปน็ ทศนยิ มไมเ่ กิน 3 ตำแหน่ง

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
61. นักเรียนสามารถอธบิ ายเกย่ี วกบั การหาคา่ ประมาณของผลหารได้ (K)
62. นกั เรยี นมีความสามารถในการสอ่ื สารและส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ และการให้เหตุผล
(P)
63. นักเรียนมคี วามมวี ินยั มีความใฝเ่ รียนรู้ และมคี วามมุง่ ม่นั ในการทำงาน (A)

สาระการเรยี นรู้
การหาค่าประมาณของผลหาร

ทักษะในศตวรรษที่ 21
3R
− Reading (อ่านออก)
− (W) Riting (เขียนได)้
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มีทกั ษะในการคดิ วิเคราะห์ การคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผ้นู ำ

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
67. ความสามารถในการสื่อสาร
68. ความสามารถในการคดิ
69. ความสามารถในการแก้ปัญหา
70. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
61. มวี นิ ยั
62. ใฝ่เรียนรู้
63. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน

กระบวนการจดั การเรียนรู้
ข้นั ท่ี 1 ข้นั นำเข้าสู่บทเรยี น (10 นาที)
1. ครทู บทวนทบทวนความรู้เรือ่ ง การหารทศนิยมเม่อื ตัวหารเป็นจำนวนนับโดยครูตดิ แถบ

โจทยก์ ารหารบนกระดานแลว้ ใหผ้ แู้ ทนนักเรียน 2 คน แข่งขันกันออกมาแสดงวิธกี ารหารยาวบนกระดาน
ดังน้ี

3.426 ÷ 3 = 

วธิ ีทำ 1.142
3 3.426

3

0.4

0.3

0.12

0.12

0.006

0.006

0

ดงั นน้ั 3.426 ÷ 3 = 1.142
นกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง
2. นักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเหน็ โดยใช้คำถามกระต้นุ ความคดิ ดงั น้ี

o นกั เรยี นสามารถนำความรู้เร่อื ง การหาค่าประมาณของผลหาร ไปใช้ในเร่ืองใดไดอ้ ีก
บา้ ง

3. นักเรยี นศึกษา รวบรวมขอ้ มูลเกยี่ วกบั การหาคา่ ประมาณของผลหาร เชน่ การสังเกต
การรว่ มกันสนทนากบั เพื่อนในชั้นเรียน จากหนงั สอื เรยี นหรอื จากอนิ เทอร์เนต็

ขัน้ ท่ี 2 ข้ันการจัดการเรยี นรู้ (45 นาท)ี ให้ผแู้ ทนนักเรยี น 1 คน
1. ครตู ิดแถบโจทย์การหารทศนิยมบนกระดาน 0.37 =
ออกมาแสดงวิธีการหารยาวบนกระดาน ดังน้ี

0.04285
7 0.3

0.28

0.020

0.014

0.0060

0.0056

0.00040

0.00035

0.00005

.
.

ครูใชก้ ามถาม-ตอบ เพ่ือกระตุ้นความคดิ ของนักเรียน ดงั นี้
o การหารน้หี าคำตอบได้ต่อไปเรอื่ ย ๆ หรอื ไม่ (ได)้
o จะหาคำตอบจากการหารได้อยา่ งไร (แนะนำนกั เรยี นว่าถ้าการหารต่อไปเรอ่ื ย ๆ เรา

ใช้การประมาณคำตอบเป็นค่าใกล้เคยี งทศนยิ มตามโจทยต์ ้องการ)
o ใช้หลกั การใดในการพจิ ารณา (นกั เรียนใช้ความรจู้ ากประสบการณเ์ ดมิ ใช้การ

ประมาณค่าใกล้เคียงทศนิยมตำแหน่งต่าง ๆ โดยพิจารณาตัวเลขหลักถัดไปที่อยู่ทางขวาของตำแหน่ง
ทศนิยมทป่ี ระมาณคำตอบถ้าตัวเลขดังกล่าวมีค่าตั้งแต่ 5 ข้นึ ไปให้ปดั ข้ึน 0.1 แลว้ ตัดทศนิยมท่ีเหลือท้ิงไป
และถ้าน้อยกว่าให้ประมาณคำตอบเป็นตัวเลขตามทศนิยมตำแหน่งนั้นแล้วตัดตัวเลขของทศนิยมที่ เหลือ
ท้งิ ไป)

o ถา้ กำหนดให้คำตอบเป็นจำนวนเต็มหนว่ ย การพจิ ารณาการประมาณคำตอบต้อง
พิจารณาตำแหนง่ ใด (ทศนยิ มตำแหน่งท่ี 1 หรอื หลกั สว่ นสบิ )

o นนั่ คอื 0.3  7 มคี ำตอบเป็นจำนวนเต็มหนว่ ย เทา่ กบั เทา่ ไร (0)
o ถ้ากำหนดให้คำตอบเปน็ ทศนิยม 1 ตำแหน่ง การพจิ ารณาการประมาณคำตอบต้อง
พจิ ารณาตำแหน่งใด (ทศนิยมตำแหนง่ ที่ 2 หรือหลักสว่ นร้อย)
o น่ันคือ 0.3  7 มีคำตอบเปน็ ทศนยิ ม 1 ตำแหน่งเท่ากบั เท่าไร (0.0)
o ถา้ กำหนดให้คำตอบเปน็ ทศนิยม 2 ตำแหนง่ การพจิ ารณาการประมาณคำตอบตอ้ ง
พจิ ารณาตำแหน่งใด (ทศนยิ มตำแหนง่ ที่ 3 หรือหลักสว่ นพนั )
o น่นั คอื 0.3  7 มีคำตอบเป็นทศนยิ ม 1 ตำแหนง่ เทา่ กับเทา่ ไร (0.04)
ครแู ละนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง
2. ครตู ิดแถบโจทย์การหารบนกระดานและดำเนินกจิ กรรมเหมือนกับข้อ 2 อีก 2 ครง้ั โดยให้
ผู้แทนนักเรียนออกมาแสดงวิธีการหารและหาคำตอบเป็นจำนวนเต็มหน่วย ทศนิยม 1 ตำแหน่ง และ

ทศนิยม 2 ตำแหน่ง

1) 3.12 9 = 2) 18.400  7 =

วธิ ีทำ 0.346 วิธีทำ 2.628
9 3.120 7 18.400

2.7 14

0.42 0.44

0.36 0.42

0.060 0.020

0.054 0.014

0.006 0.0060

. 0.0056
.
0.0004

.
.

ค่าประมาณเป็นจำนวนเต็ม 0.346  0 คา่ ประมาณเป็นจำนวนเตม็ 2.628  3

ค่าประมาณเป็นทศนิยม 1 ตำแหนง่ 0.346  0.3 คา่ ประมาณเป็นทศนิยม 1 ตำแหน่ง 2.628  2.6

ค่าประมาณเป็นทศนิยม 2 ตำแหน่ง 0.346  0.35 ค่าประมาณเป็นทศนยิ ม 2 ตำแหนง่ 2.628  2.63

ครูและนกั เรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง
3. แบง่ กล่มุ นกั เรียนออกเป็นกลุม่ ละ 3-4 คน แจกแถบโจทยก์ ารหารทศนยิ มให้กลุม่ ละ 1 แถบ

ให้นักเรียนในกลุ่มช่วยกันเขียนคำตอบเป็นจำนวนเต็ม ทศนิยม 1 ตำแหน่ง และ 2 ตำแหน่ง จากนั้นให้
สลับโจทย์กับกลุ่มอื่นไปเรื่อย ๆ จนครบแล้วเลือกผู้แทนนักเรียนทีละกลุ่มออกมานำเสนอผลงานหน้าช้ัน
เรียนนักเรยี นในกล่มุ อนื่ ๆ รว่ มกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง

4. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝกึ หดั ท่ี 2.12 หน้า 84 เพ่ือตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจเปน็
รายบุคคล

ขนั้ ที่ 3 ข้นั สรุป (5 นาที)
6. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปวา่ ในการหารจำนวนนบั ใด ๆ ถ้าหาผลหารไปได้เรือ่ ย ๆ เราใช้
การประมาณคำตอบเป็นค่าใกล้เคยี งทศนยิ มตามท่โี จทย์กำหนด

สือ่ และแหล่งการเรียนรู้
56. หนังสือเรียนรายวชิ าคณิตศาสตร์ ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เล่ม 1 (สสวท., 2560)
57. หนงั สอื แบบฝึกหัดรายวชิ ารายวชิ าคณิตศาสตร์พ้นื ฐาน ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เลม่ 1

(สสวท., 2560)

การวดั และประเมินผล เครอ่ื งมอื วัด และประเมินผล เกณฑก์ ารวัด

วิธกี ารและการประเมนิ ผล - แบบฝกึ หัด 2.12 หน้า 84 ในแบบฝึก ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
ความรู้ (K) คณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 สสวท. 60
นักเรียนสามารถอธบิ ายเก่ยี วกบั การ
หารทศนิยมเมื่อตวั ตงั้ เป็นทศนยิ มและ - แบบฝึกหดั 2.12 หน้า 84 ในแบบฝึก ผ่านเกณฑ์ร้อยละ
ตวั หารเปน็ จำนวนนับได้ คณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 สสวท. 60
ทกั ษะและกระบวนการ (P)
นกั เรยี นมีความสามารถในการสื่อสาร - แบบสงั เกตประเมินคุณลกั ษณะอัน ระดบั คุณภาพ 2
และส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ พงึ ประสงค์ ผา่ นเกณฑ์
และการให้เหตุผล
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
นักเรยี นมีความมีวนิ ยั มคี วามใฝ่เรยี นรู้
และมงุ่ มั่นในการทำงาน

แผนการจัดการเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิชาคณิตศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวชิ า ค 15101

ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 ชื่อหน่วย ทศนยิ ม เวลา 34 ชว่ั โมง

แผนที่ 23 เรอ่ื ง ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยความยาว เวลา 1 ช่ัวโมง

ผู้สอน นางสาวกมลชนก เทยี นอินทร์ สาขาวชิ าคณติ ศาสตร์

วันท่สี อน..............................................................................................................................................

สาระสำคัญ
การบอกความยาวมีหน่วยเป็นมิลลิเมตร เซนติเมตร เมตร และกิโลเมตร ซึ่งหน่วยของความยาว

มีความสัมพนั ธ์กนั ดงั นี้
1 เซนตเิ มตร เท่ากับ 10 มิลลเิ มตร
1 เมตร เทา่ กับ 100 เซนติเมตร
1 กโิ ลเมตร เท่ากับ 1,000 เมตร

การเปล่ยี นหน่วยความยาวจากหน่วยใหญเ่ ป็นหน่วยยอ่ ย

− เปลี่ยนจากหน่วยเซนตเิ มตรเป็นหน่วยมิลลเิ มตรให้คูณด้วย 10

− เปลี่ยนจากหนว่ ยเมตรเปน็ หน่วยเซนตเิ มตรใหค้ ูณดว้ ย 100

− เปลี่ยนจากหน่วยกโิ ลเมตรเป็นหนว่ ยเมตรใหค้ ณู ด้วย 1,000
การเปลี่ยนหน่วยความยาวจากหนว่ ยยอ่ ยเป็นหน่วยใหญ่

− เปลย่ี นจากหนว่ ยมิลลเิ มตรเปน็ หนว่ ยเซนติเมตรให้หารดว้ ย 10

− เปล่ียนจากหน่วยเซนติเมตรเป็นหนว่ ยเมตรให้หารด้วย 100

− เปลย่ี นจากหน่วยเมตรเป็นหน่วยกโิ ลเมตรให้หารดว้ ย 1,000

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้นื ฐานเกย่ี วกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสงิ่ ทีต่ ้องการวัดและ

นำไปใช้

ตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 2.1 ป.5/1 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาเก่ยี วกับความยาวท่มี กี ารเปล่ยี น

หนว่ ยและเขยี นในรปู ทศนิยม

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
64. นกั เรยี นสามารถหาความสมั พันธ์ระหว่างหนว่ ยความยาวท่ีกำหนดให้ได้ (K)
65. นกั เรยี นมคี วามสามารถในการแกป้ ัญหา การสื่อสารและสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ และ
การให้เหตผุ ล(P)
66. นกั เรยี นมีความมวี นิ ยั มคี วามใฝเ่ รียนรู้ และมีความมุ่งม่ันในการทำงาน (A)

สาระการเรียนรู้
ความสมั พันธร์ ะหว่างหน่วยความยาว

ทักษะในศตวรรษท่ี 21
3R
− Reading (อา่ นออก)
− (W) Riting (เขยี นได้)
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มีทักษะในการคดิ วเิ คราะห์ การคิดอยา่ งมวี ิจารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผนู้ ำ

สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
71. ความสามารถในการสื่อสาร
72. ความสามารถในการคิด
73. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
74. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
64. มวี นิ ยั
65. ใฝเ่ รียนรู้
66. มุง่ มัน่ ในการทำงาน

กระบวนการจัดการเรยี นรู้

ขน้ั ท่ี 1 ขนั้ นำเขา้ ส่บู ทเรียน (10 นาที)
1. ครทู บทวนความรเู้ รื่อง การวดั ความยาว โดยให้นกั เรียนรว่ มกนั ยกตัวอยา่ งเครอื่ งมือวดั และ
หน่วยวดั ความยาวท่ีนกั เรยี นรจู้ ัก เชน่ ไม้บรรทดั วัดความยาวบอกหนว่ ยเป็นมลิ ลิเมตรหรือเซนติเมตร และ
ไมเ้ มตรวดั ความยาวบอกหน่วยเปน็ เมตร
2. ครูแบง่ นกั เรียนออกเป็น 4 กลุ่ม จากน้ันครูแบ่งกระดานออกเปน็ 4 ส่วน ส่วนละเท่า ๆ
กัน และอธิบายกติกาการเล่นเกมให้นักเรียนฟังว่า “ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มแข่งขันกันวัดความยาวของสิ่ง
ต่าง ๆ ภายในห้องเรียน โดยใชไ้ ม้บรรทดั และสายวดั ชนิดตลบั ซ่งึ กำหนดหนว่ ยการวดั เป็นเซนตเิ มตร แล้ว
นำความยาวที่วัดได้มาเขียนบนกระดาน และสิ่งต่าง ๆ ที่วัดห้ามซำ้ กัน หากกลุ่มใดวัดความยาวได้ถูกต้อง
และมีความยาวรวมกันมากทส่ี ุด กลุ่มน้นั จะเปน็ กลุ่มชนะ” กำหนดเวลา 10 นาที ในการวัดความยาวของ
สง่ิ ต่าง ๆ และนำมาเขียนบนกระดาน
3. ครูเน้นย้ำวิธีการวัดความยาวที่ถูกต้องให้กับนักเรียน จากนั้นครูสุ่มนักเรียนออกมาวัดความ
ยาวของส่งิ ต่าง ๆ เพอื่ เปน็ การตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

ขน้ั ท่ี 2 ขน้ั การจัดการเรียนรู้ (45 นาที)
1. ครใู ห้นกั เรยี นจับครู่ ่วมกนั ศึกษาในหนงั สือเรียน คณติ ศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 หนา้ 106-107
จากน้ันครใู หน้ ักเรยี นรว่ มกันอภปิ รายวธิ ีการเปล่ียนหน่วยความยาวจากหนว่ ยใหญ่เป็นหน่วยยอ่ ย
และหนว่ ยย่อยเปน็ หนว่ ยใหญ่ โดยครูใช้การถาม-ตอบ พร้อมทัง้ เขียนคำตอบของนกั เรียนบนกระดาน
ดงั น้ี

o ให้นักเรียนเรยี งลำดบั หนว่ ยวัดความยาวจากหนว่ ยใหญ่ไปหนว่ ยย่อย (แนวตอบ
กิโลเมตร เมตร เซนตเิ มตร และมิลลเิ มตร)

o 1 กโิ ลเมตร เท่ากบั กี่เมตร (แนวตอบ 1 กโิ ลเมตร เทา่ กับ 1,000 เมตร)
o ดงั น้ัน 1 กโิ ลเมตร × _________ จงึ มคี า่ เทา่ กบั 1,000 เมตร (แนวตอบ 1

กโิ ลเมตร × 1,000 จงึ มีคา่ เท่ากบั 1,000 เมตร)
จากนนั้ ครูเขียนแผนภาพบนกระดาน ดังนี้

× 1,000

กิโลเมตร เมตร เซนตเิ มตร มลิ ลเิ มตร

o 1 เมตร เท่ากับกีเ่ ซนตเิ มตร (แนวตอบ 1 เมตร เท่ากับ 100 เซนตเิ มตร)
o ดงั น้ัน 1 เมตร × _________ จงึ มีค่าเท่ากบั 100 เซนตเิ มตร (แนวตอบ 1 เมตร ×

100 จงึ มีค่าเท่ากบั 100 เซนตเิ มตร)

จากนน้ั ครูเขยี นแผนภาพบนกระดาน ดงั น้ี × 100
× 1,000

กิโลเมตร เมตร เซนตเิ มตร มลิ ลเิ มตร

o 1 เซนตเิ มตร เทา่ กบั ก่ีมิลลเิ มตร (แนวตอบ 1 เซนตเิ มตร เทา่ กบั 10 มลิ ลเิ มตร)
o ดังน้นั 1 เซนตเิ มตร × _________ จงึ มคี ่าเทา่ กับ 10 มิลลิเมตร (แนวตอบ 1

เซนตเิ มตร × 10 จงึ มีคา่ เทา่ กับ 10 มลิ ลเิ มตร)

จากนน้ั ครูเขียนแผนภาพบนกระดาน ดงั น้ี × 100 × 10
× 1,000

กิโลเมตร เมตร เซนติเมตร มลิ ลิเมตร

ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ว่า “การเปลยี่ นหน่วยใหญ่เป็นหน่วยยอ่ ยใชว้ ิธกี ารคูณ”
2. ครูใหน้ ักเรยี นแตล่ ะครู่ ่วมกันอภปิ รายวธิ กี ารเปล่ียนหนว่ ยความยาวจากหนว่ ยยอ่ ยเป็นหน่วย

ใหญ่ โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที จากนัน้ ครูถามนักเรียนว่า “วธิ ีการเปลีย่ นหนว่ ยความยาวจากหนว่ ย
ยอ่ ยเป็นหนว่ ยใหญ่ทำได้อยา่ งไร” (แนวตอบ วธิ กี ารเปล่ียนหน่วยความยาวจากหนว่ ยย่อยเป็นหนว่ ยใหญ่
ใช้วิธีการหาร)

จากนัน้ ครูเขียนแผนภาพการเปลีย่ นหน่วยความยาวจากหนว่ ยใหญ่เปน็ หน่วยยอ่ ย และจากหนว่ ยย่อยเป็น
หนว่ ยใหญบ่ นกระดาน ดังน้ี

จากหนว่ ยใหญเ่ ป็นหนว่ ยยอ่ ย × 100 × 10
× 1,000

กโิ ลเมตร เมตร เซนติเมตร มิลลเิ มตร

÷ 1,000 ÷ 100 ÷ 10
จากหน่วยยอ่ ยเปน็ หนว่ ยใหญ่

3. จากนนั้ ครูอธบิ ายพร้อมกับยกตวั อย่างวิธคี ดิ อย่างละเอยี ด ในหนังสือเรยี น คณิตศาสตร์
ป.5 เล่ม 1 หน้า 106-107

4. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝกึ หดั ในแบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หนา้ 106 ข้อ 1-4 และหนา้
107 ข้อ 1-5 เพ่ือตรวจสอบความรู้ ความเขา้ ใจเป็นรายบุคคล

ขนั้ ท่ี 3 ข้นั สรุป (5 นาที)

7. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปว่า การบอกความยาวมหี นว่ ยเปน็ มิลลิเมตร เซนตเิ มตร เมตร

และกโิ ลเมตร ซ่ึงหน่วยของความยาวมีความสัมพนั ธก์ ัน ดังน้ี

1 เซนตเิ มตร เทา่ กบั 10 มลิ ลเิ มตร

1 เมตร เทา่ กับ 100 เซนตเิ มตร

1 กิโลเมตร เทา่ กับ 1,000 เมตร

การเปล่ยี นหนว่ ยความยาวจากหน่วยใหญ่เปน็ หนว่ ยย่อย

o เปลย่ี นจากหน่วยเซนติเมตรเปน็ หนว่ ยมลิ ลิเมตรให้คูณดว้ ย 10

o เปลีย่ นจากหนว่ ยเมตรเปน็ หนว่ ยเซนติเมตรใหค้ ณู ด้วย 100

o เปล่ียนจากหน่วยกโิ ลเมตรเป็นหน่วยเมตรใหค้ ณู ดว้ ย 1,000

การเปลี่ยนหนว่ ยความยาวจากหน่วยย่อยเป็นหนว่ ยใหญ่

o เปล่ยี นจากหน่วยมลิ ลิเมตรเปน็ หน่วยเซนตเิ มตรให้หารด้วย 10

o เปล่ยี นจากหนว่ ยเซนตเิ มตรเป็นหน่วยเมตรใหห้ ารด้วย 100

o เปลีย่ นจากหน่วยเมตรเปน็ หน่วยกโิ ลเมตรให้หารดว้ ย 1,000

สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้
58. หนงั สือเรยี นรายวิชาคณิตศาสตร์ ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 เลม่ 1 (สสวท., 2560)
59. หนังสอื แบบฝกึ หัดรายวชิ ารายวิชาคณิตศาสตร์พืน้ ฐาน ระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 เลม่ 1

(สสวท., 2560)

การวดั และประเมินผล เครื่องมอื วดั และประเมินผล เกณฑ์การวัด
วธิ ีการและการประเมินผล
- แบบฝึกหัดหน้า 106 ข้อ 1-4 ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
ความรู้ (K) และหนา้ 107 ข้อ 1-5 ในแบบฝึก 60
นกั เรียนสามารถหาความสมั พันธ์ระหว่าง คณติ ศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท.
หนว่ ยความยาวท่กี ำหนดให้ได้ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
- แบบฝึกหัดหน้า 106 ข้อ 1-4 60
ทกั ษะและกระบวนการ (P) และหน้า 107 ขอ้ 1-5 ในแบบฝึก
นักเรียนมีความสามารถในการแกป้ ัญหา คณติ ศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 สสวท. ระดบั คุณภาพ 2
การส่อื สารและส่ือความหมายทาง ผ่านเกณฑ์
คณิตศาสตร์ และการให้เหตผุ ล - แบบสงั เกตประเมนิ คุณลักษณะ
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A) อนั พึงประสงค์
นกั เรยี นมคี วามมีวนิ ยั มคี วามใฝ่เรยี นรู้
และมงุ่ มน่ั ในการทำงาน

แผนการจดั การเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิชาคณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 15101

ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 2 ชื่อหน่วย ทศนยิ ม เวลา 34 ชว่ั โมง

แผนท่ี 24 เรอื่ ง ความสมั พันธร์ ะหว่างหน่วยนำ้ หนกั เวลา 1 ช่ัวโมง

ผสู้ อน นางสาวกมลชนก เทยี นอินทร์ สาขาวชิ าคณติ ศาสตร์

วันทสี่ อน..............................................................................................................................................

สาระสำคญั
การบอกหน่วยน้ำหนักมีหน่วยเปน็ กิโลกรมั กรมั ตัน ซึง่ หนว่ ยนำ้ หนกั มีความสัมพันธก์ ัน ดงั นี้
1 กิโลกรัม เท่ากบั 1,000 กรมั
1 ตนั เท่ากับ 1,000 กิโลกรัม
การเปล่ยี นหน่วยความนำ้ หนกั จากหน่วยใหญเ่ ปน็ หนว่ ยย่อย

− เปลี่ยนจากหน่วยกิโลกรมั เปน็ หนว่ ยกรัมให้คณู ดว้ ย 1,000

− เปล่ียนจากหน่วยตันเปน็ หนว่ ยกิโลกรัมใหค้ ูณด้วย 1,000
การเปลี่ยนหน่วยความนำ้ หนักจากหน่วยยอ่ ยเป็นหน่วยใหญ่

− เปลี่ยนจากหน่วยกรมั เป็นหนว่ ยกิโลกรมั ให้หารด้วย 1,000

− เปล่ยี นจากหน่วยกิโลกรัมเป็นหน่วยตนั ใหห้ ารด้วย 1,000

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพน้ื ฐานเก่ยี วกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของส่งิ ทตี่ ้องการวัดและ

นำไปใช้

ตวั ชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 2.1 ป.5/2 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกี่ยวกบั น้ำหนักทมี่ ีการเปลีย่ นหน่วย

และเขยี นในรูปทศนยิ ม

จดุ ประสงค์การเรียนรู้
67. นักเรยี นสามารถหาความสัมพันธ์ระหว่างหนว่ ยน้ำหนกั ทกี่ ำหนดให้ได้ (K)
68. นกั เรยี นมีความสามารถในการแกป้ ญั หา การส่ือสารและส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ และ
การใหเ้ หตผุ ล(P)
69. นักเรียนมีความมีวินัย มคี วามใฝเ่ รียนรู้ และมีความมงุ่ ม่นั ในการทำงาน (A)

สาระการเรยี นรู้
ความสัมพันธ์ระหวา่ งหนว่ ยน้ำหนกั

ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21
3R
− Reading (อา่ นออก)
− (W) Riting (เขยี นได)้
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มีทักษะในการคดิ วเิ คราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผนู้ ำ

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
75. ความสามารถในการส่ือสาร
76. ความสามารถในการคิด
77. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
78. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
67. มวี นิ ยั
68. ใฝ่เรียนรู้
69. มุ่งมนั่ ในการทำงาน

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขนั้ ท่ี 1 ข้นั นำเข้าสูบ่ ทเรียน (10 นาที)
1. ครทู บทวนความรเู้ รอ่ื ง การวัดนำ้ หนกั โดยใหน้ กั เรียนร่วมกนั ยกตวั อยา่ งเครอ่ื งชัง่ นำ้ หนักที่

นักเรียนรู้จัก เช่น เครื่องชั่งสปริง เครื่องชั่งแบบตุ้มเลื่อน เครื่องชั่งน้ำหนักตัว เครื่องชั่งสองแขน และ
เครื่องช่ังดิจทิ ลั

2. ครใู หน้ ักเรียนแบง่ กล่มุ กลมุ่ ละ 4-5 คน จากนน้ั ครูอธบิ ายให้นักเรียนฟงั วา่ ใหแ้ ตล่ ะ
กลุ่มชัง่ นำ้ หนกั ส่งิ ของทค่ี รเู ตรยี มไวใ้ ห้ เชน่ น้ำตาลทราย นมผง และขา้ วสาร โดยใชเ้ คร่อื งช่ังสปริง และให้
นักเรียนคาดคะเนน้ำหนักกองทรายที่อยู่สนามบอลว่าหนักประมาณกี่ตัน จากนั้นให้แต่ละกลุ่มบันทึก

ข้อมูลลงในแบบบันทึกในระหว่างนักเรียนปฏิบัติงาน ครูคอยสังเกตและให้คำแนะนำกับนักเรียน เพื่อให้
นกั เรยี นสามารถช่ังน้ำหนักสิง่ ของและบันทกึ การช่ังได้ถูกต้อง

สิง่ ของ ตวั อย่าง แบบบนั ทึก
นำ้ ตาลทราย น้ำหนักทีช่ ่งั ได้
ขา้ วสาร
นมผง 1 กิโลกรมั
กองกระสอบทราย 4 กโิ ลกรัม
500 กรมั
1 ตนั

เมอ่ื นกั เรยี นทำเสร็จแล้ว ครสู ุ่มนกั เรยี นออกมานำเสนอข้อมลู หน้าชนั้ เรยี น โดยครูและเพ่ือนนักเรียน
รว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง

ข้นั ท่ี 2 ขั้นการจัดการเรียนรู้ (45 นาที)
1. ครใู หน้ ักเรียนศึกษาความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งหนว่ ยนำ้ หนักในหนังสือเรียน คณติ ศาสตร์ ป.5
เล่ม 1 หน้า 108 จากนั้นครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายวิธีการเปลี่ยนหน่วยน้ำหนักจากหน่วยใหญ่เป็น
หน่วยย่อยและหน่วยย่อยเป็นหน่วยใหญ่ โดยครูใช้การถาม-ตอบ พร้อมทั้งเขียนคำตอบของนักเรียนบน
กระดาน ดงั นี้

o ให้นักเรียนเรียงลำดับหน่วยวัดความยาวจากหน่วยใหญ่ไปหน่วยย่อยและหน่วยย่อย
เป็นหนว่ ยใหญ่ (แนวตอบ หน่วยใหญไ่ ปหนว่ ยย่อย (จากกโิ ลกรมั ไปกรัม) และ (จากตัน
ไปกโิ ลกรมั ) หน่วยย่อยไปหน่วยใหญ่ (จากกรัมไปกโิ ลกรัม) และ (จากกิโลกรัมไปตัน)

o 1 กโิ ลกรมั เท่ากับก่กี รัม (แนวตอบ 1 กโิ ลกรัม เท่ากับ 1 × 1,000 = 1,000 กรัม)

o 1,000 กรัม เท่ากับกี่กิโลกรัม (แนวตอบ 1,000 กรัม เท่ากับ 1,000 ÷ 1,000 = 1
กิโลกรมั )

จากนนั้ ครเู ขยี นแผนภาพบนกระดาน ดงั น้ี

จากหน่วยใหญ่เปน็ หน่วยย่อย กรมั
× 1,000

กโิ ลเมตร

÷ 1,000 จากหนว่ ยย่อยเป็นหน่วยใหญ่

o 1 ตัน เทา่ กับก่กี ิโลกรัม (แนวตอบ 1 ตัน เท่ากบั 1 × 1,000 = 1,000 กิโลกรมั )
o 1,000 กโิ ลกรมั เทา่ กับก่ีตนั (แนวตอบ 1,000 กิโลกรมั เท่ากบั 1,000 ÷ 1,000 =

1 ตัน)

จากนนั้ ครูเขยี นแผนภาพบนกระดาน ดังน้ี

จากหนว่ ยใหญ่เปน็ หน่วยยอ่ ย
× 1,000

ตนั กิโลกรัม

÷ 1,000 จากหน่วยย่อยเป็นหน่วยใหญ่

2. จากนนั้ ครูอธบิ ายพร้อมกบั ยกตวั อย่างวิธีคิดอยา่ งละเอยี ด ในหนงั สือเรียน คณติ ศาสตร์
ป.5 เล่ม 1 หน้า 108

3. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบฝึกหดั ในแบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 หนา้ 108 ข้อ 1-4 เพื่อ
ตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจเป็นรายบุคคล

ขนั้ ที่ 3 ขั้นสรุป (5 นาที)
8. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ ว่า การบอกหนว่ ยน้ำหนักมีหน่วยเป็นกโิ ลกรัม กรัม ตนั ซง่ึ
หนว่ ยน้ำหนักมคี วามสัมพนั ธก์ นั ดงั น้ี

1 กโิ ลกรัมเท่ากับ 1,000 กรมั
1 ตนั เทา่ กับ 1,000 กิโลกรัม
การเปล่ยี นหน่วยความน้ำหนกั จากหนว่ ยใหญเ่ ป็นหน่วยยอ่ ย
o เปลยี่ นจากหนว่ ยกิโลกรมั เป็นหน่วยกรมั ให้คูณดว้ ย 1,000
o เปลย่ี นจากหน่วยตนั เปน็ หนว่ ยกิโลกรัมให้คณู ด้วย 1,000
การเปล่ียนหนว่ ยความน้ำหนักจากหนว่ ยย่อยเป็นหนว่ ยใหญ่
o เปลี่ยนจากหน่วยกรัมเป็นหนว่ ยกโิ ลกรมั ใหห้ ารด้วย 1,000
o เปล่ยี นจากหนว่ ยกิโลกรัมเป็นหน่วยตนั ให้หารด้วย 1,000

สื่อและแหล่งการเรียนรู้
60. หนงั สอื เรียนรายวชิ าคณติ ศาสตร์ ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 (สสวท., 2560)
61. หนังสือแบบฝกึ หดั รายวิชารายวชิ าคณิตศาสตรพ์ ้นื ฐาน ระดบั ชนั้ ประถมศึกษาปีที่ 5 เลม่ 1

(สสวท., 2560)

การวดั และประเมินผล เครือ่ งมือวดั และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัด
วธิ กี ารและการประเมินผล
- แบบฝึกหดั หนา้ 108 ข้อ 1-4 ใน ผ่านเกณฑร์ ้อยละ
ความรู้ (K) แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60
นักเรียนสามารถหาความสัมพันธ์ระหว่าง สสวท.
หน่วยนำ้ หนักท่กี ำหนดให้ได้ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
- แบบฝึกหดั หน้า 108 ข้อ 1-4 ใน 60
ทักษะและกระบวนการ (P) แบบฝึกคณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 1
นักเรยี นมีความสามารถในการแกป้ ญั หา สสวท. ระดับคุณภาพ 2
การสอ่ื สารและส่ือความหมายทาง ผา่ นเกณฑ์
คณติ ศาสตร์ และการใหเ้ หตุผล - แบบสังเกตประเมนิ คุณลักษณะ
คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (A) อันพึงประสงค์
นักเรยี นมีความมีวนิ ยั มคี วามใฝเ่ รียนรู้
และมุง่ ม่นั ในการทำงาน

แผนการจดั การเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ิชาคณติ ศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 15101

ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ชื่อหน่วย ทศนยิ ม เวลา 34 ช่วั โมง

แผนท่ี 25 เรอ่ื ง ความสัมพันธ์ระหวา่ งหน่วยปรมิ าตร เวลา 1 ชั่วโมง

ผูส้ อน นางสาวกมลชนก เทียนอนิ ทร์ สาขาวิชาคณติ ศาสตร์

วันทีส่ อน..............................................................................................................................................

สาระสำคญั
การบอกความยาวมหี นว่ ยเป็นลติ ร และมลิ ลเิ มตร ซึ่งหน่วยปริมาตร มีความสัมพันธก์ ัน ดงั นี้
1 ลติ ร เท่ากับ 1,000 มิลลลิ ติ ร
การเปลีย่ นหน่วยความยาวจากหน่วยใหญเ่ ป็นหนว่ ยยอ่ ย

− เปลยี่ นจากหนว่ ยลติ รเปน็ หน่วยมิลลิลิตรใหค้ ณู ดว้ ย 1,000
การเปลีย่ นหน่วยความยาวจากหน่วยยอ่ ยเป็นหน่วยใหญ่

− เปลี่ยนจากหน่วยมิลลิลติ รเป็นหนว่ ยลิตรให้หารด้วย 1,000

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพืน้ ฐานเกย่ี วกบั การวัด วดั และคาดคะเนขนาดของส่งิ ทีต่ ้องการวัดและ

นำไปใช้

ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 2.1 ป.5/2 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเกีย่ วกบั น้ำหนกั ท่ีมีการเปล่ียนหนว่ ย

และเขียนในรปู ทศนิยม

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
70. นักเรียนสามารถหาความสัมพันธร์ ะหว่างหนว่ ยปรมิ าตรท่ีกำหนดให้ได้ (K)
71. นักเรียนมีความสามารถในการแกป้ ัญหา การสื่อสารและส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ และ
การใหเ้ หตผุ ล(P)
72. นักเรียนมีความมวี นิ ัย มีความใฝ่เรยี นรู้ และมคี วามมุ่งมนั่ ในการทำงาน (A)

สาระการเรยี นรู้
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งหนว่ ยปรมิ าตร

ทกั ษะในศตวรรษที่ 21
3R
− Reading (อ่านออก)
− (W) Riting (เขยี นได)้
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มีทกั ษะในการคดิ วิเคราะห์ การคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
79. ความสามารถในการส่ือสาร
80. ความสามารถในการคิด
81. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
82. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
70. มวี นิ ยั
71. ใฝ่เรียนรู้
72. มุ่งมั่นในการทำงาน

กระบวนการจัดการเรียนรู้
ข้ันที่ 1 ขัน้ นำเข้าสู่บทเรียน (10 นาที)
1. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คำถาม เพ่ือกระตนุ้ ความคิดของนักเรียน

ดงั น้ี
o นักเรยี นสามารถนำความรู้เร่ือง ความสัมพันธ์ของหน่วยปริมาตรไปใชใ้ นเร่ืองใดได้อีก

บ้าง
2. นกั เรยี นศกึ ษา รวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกบั ความสมั พนั ธข์ องหน่วยการวัดปรมิ าตรหรอื ความจุ

เชน่ การสงั เกต การร่วมกนั สนทนากับเพอ่ื นในช้ันเรยี น จากหนงั สอื เรียนหรือจากอินเทอรเ์ น็ต

ขน้ั ที่ 2 ขน้ั การจัดการเรียนรู้ (45 นาที)
1. ครใู หน้ ักเรยี นศึกษาความสัมพนั ธ์ระหวา่ งหน่วยปริมาตรในหนังสอื เรียน คณติ ศาสตร์ ป.5
เล่ม 1 หน้า 109 จากนั้นครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปรายวิธีการเปลี่ยนหน่วยปริมาตรจากหน่วยใหญ่เป็น
หน่วยย่อยและหน่วยย่อยเป็นหน่วยใหญ่ โดยครูใช้การถาม-ตอบ พร้อมทั้งเขียนคำตอบของนักเรียนบน
กระดานดงั น้ี

o ให้นักเรียนเรียงลำดับหน่วยวัดความยาวจากหน่วยใหญ่ไปหน่วยย่อยและหน่วยย่อย
เป็นหน่วยใหญ่ (แนวตอบ หน่วยใหญ่ไปหน่วยย่อย (ลิตร มิลลิลิตร) หน่วยย่อยไป
หน่วยใหญ่ (มลิ ลลิ ติ ร ลติ ร))

o 1 ลติ ร เทา่ กบั ก่ีมลิ ลลิ ติ ร (แนวตอบ 1 ลิตร เทา่ กบั 1 × 1,000 = 1,000 มิลลลิ ติ ร)

o 1,000 มิลลลิ ติ ร เท่ากบั ก่ลี ิตร (แนวตอบ 1,000 มลิ ลลิ ติ ร เท่ากบั 1,000 ÷ 1,000 =
1 ลติ ร)

จากนนั้ ครูเขยี นแผนภาพบนกระดาน ดังน้ี

จากหน่วยใหญ่เป็นหน่วยยอ่ ย มลิ ลิลติ ร
× 1,000 จากหน่วยยอ่ ยเปน็ หนว่ ยใหญ่

ลติ ร
÷ 1,000

2. จากนนั้ ครูอธิบายพรอ้ มกับยกตวั อย่างวธิ ีคิดอยา่ งละเอยี ด ในหนังสือเรยี น คณิตศาสตร์
ป.5 เล่ม 1 หน้า 108

3. จากน้ันแบ่งนักเรยี นออกเปน็ 2 ฝ่าย ให้ตวั แทนหนึง่ ฝ่ายออกมาเขียนโจทย์หาความสมั พันธ์
ระหว่างหนว่ ยปรมิ าตรบนกระดาน แล้วเลอื กเพื่อนฝ่ายตรงขา้ ม 1 คน ออกมาเขียนแสดงวิธีทำอยา่ ง
ละเอียด โดยครูใหน้ ักเรียนในช้ันเรยี นรว่ มกนั ตรวจคำตอบ

4. ครูใหน้ กั เรียนทำแบบฝึกทักษะในหนงั สือเรียนคณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 หนา้ 109 ขอ้ 1-4
แสดงวิธที ำอยา่ งละเอยี ดลงในสมดุ เพอื่ ตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจเป็นรายบุคคล

ข้ันท่ี 3 ข้ันสรุป (5 นาท)ี
9. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ วา่ การบอกความยาวมีหน่วยเปน็ ลิตร และมิลลิเมตร ซ่ึงหนว่ ย
ปริมาตร มคี วามสัมพนั ธก์ นั ดังน้ี

1 ลติ ร เทา่ กบั 1,000 มิลลลิ ติ ร
การเปล่ียนหน่วยความยาวจากหนว่ ยใหญเ่ ป็นหนว่ ยย่อย

o เปล่ียนจากหน่วยลิตรเปน็ หนว่ ยมิลลิลิตรให้คูณด้วย 1,000
การเปลย่ี นหน่วยความยาวจากหนว่ ยย่อยเปน็ หนว่ ยใหญ่

o เปลย่ี นจากหนว่ ยมลิ ลลิ ติ รเป็นหน่วยลติ รให้หารด้วย 1,000

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
62. หนงั สือเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เลม่ 1 (สสวท., 2560)
63. หนังสือแบบฝึกหดั รายวิชารายวชิ าคณติ ศาสตร์พ้นื ฐาน ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 5 เลม่ 1

(สสวท., 2560)

การวัดและประเมินผล เคร่อื งมือวดั และประเมินผล เกณฑก์ ารวัด
วิธีการและการประเมนิ ผล
- แบบฝกึ ทักษะหน้า 109 ข้อ 1-4 ผ่านเกณฑ์ร้อยละ
ความรู้ (K) ในหนงั สือคณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60
นักเรียนสามารถหาความสมั พันธ์ระหวา่ ง สสวท.
หนว่ ยปริมาตรที่กำหนดให้ได้ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
- แบบฝึกทักษะหนา้ 109 ข้อ 1-4 60
ทักษะและกระบวนการ (P) ในหนังสือคณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 1
นักเรียนมีความสามารถในการแกป้ ญั หา สสวท. ระดบั คุณภาพ 2
การสื่อสารและสื่อความหมายทาง ผ่านเกณฑ์
คณติ ศาสตร์ และการให้เหตผุ ล - แบบสังเกตประเมินคุณลักษณะ
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A) อนั พงึ ประสงค์
นักเรยี นมีความมีวินยั มีความใฝเ่ รียนรู้
และมุ่งมั่นในการทำงาน

แผนการจัดการเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิชาคณิตศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 15101

ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ชื่อหน่วย ทศนยิ ม เวลา 34 ช่ัวโมง

แผนที่ 26 เรอ่ื ง โจทย์ปญั หา (1) เวลา 1 ช่ัวโมง

ผู้สอน นางสาวกมลชนก เทียนอนิ ทร์ สาขาวิชาคณติ ศาสตร์

วนั ที่สอน..............................................................................................................................................

สาระสำคัญ
การแกโ้ จทย์ปญั หาเร่ิมจากการทำความเข้าใจปญั หา วางแผนแกป้ ัญหา ดำเนนิ การแก้ปัญหา

และตรวจสอบความถูกต้องหรือความสมเหตุสมผล

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้นื ฐานเกีย่ วกับการวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการวดั และ

นำไปใช้

ตวั ชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 2.1 ป.5/1 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั ความยาวทมี่ กี ารเปลี่ยน

หน่วยและเขยี นในรูปทศนยิ ม

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
73. นักเรยี นสามารถอธบิ ายเก่ยี วกับโจทย์ปญั หาทศนยิ มได้ (K)
74. นกั เรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา การส่ือสารและส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ และ
การใหเ้ หตผุ ล(P)
75. นักเรยี นมคี วามมวี ินัย มีความใฝ่เรียนรู้ และมคี วามมงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A)

สาระการเรยี นรู้
โจทย์ปญั หาทศนยิ ม

ทกั ษะในศตวรรษที่ 21
3R

− Reading (อ่านออก)

− (W) Riting (เขียนได้)

− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มีทกั ษะในการคดิ วิเคราะห์ การคดิ อย่างมีวจิ ารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทักษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผนู้ ำ

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
83. ความสามารถในการส่ือสาร
84. ความสามารถในการคดิ
85. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
86. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
73. มีวินัย
74. ใฝเ่ รียนรู้
75. มุ่งมั่นในการทำงาน

กระบวนการจัดการเรยี นรู้

ขัน้ ท่ี 1 ขัน้ นำเขา้ สู่บทเรียน (10 นาที)
1. ครทู บทวนความรเู้ รื่อง การคูณและการหารทศนิยม โดยครตู ดิ แถบโจทยบ์ นกระดานแล้วให้
ผู้แทนนักเรยี น 2 คนออกมาหาคำตอบ ดังนี้

2.81 x 7 =  (19.67) 5.8 ÷ 4 =  (1.45)

ครูและนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง

2. ครใู หน้ กั เรยี นรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยใช้คำถาม เพื่อกระตุ้นความคิด ดังนี้

o ถา้ นกั เรยี นไม่มีความรู้ เร่ือง การแกโ้ จทย์ปัญหาจะส่งผลอย่างไรต่อการดำเนนิ

ชวี ิตประจำวนั

3. นักเรียนศกึ ษา รวบรวมข้อมูลเก่ยี วกับการแก้โจทย์ปญั หาเชน่ การสงั เกต การรว่ มกันสนทนา

กบั เพ่ือนในชัน้ เรียน จากหนงั สอื เรยี นหรือจากอนิ เทอร์เนต็

ขนั้ ที่ 2 ขั้นการจดั การเรยี นรู้ (45 นาท)ี
1. ครตู ิดแถบโจทยป์ ัญหาบนกระดานและใหน้ กั เรยี นอ่านโจทย์พรอ้ มกันดังน้ี

วาฬหลงั ค่อมวา่ ยน้ำไดร้ ะยะทางเฉล่ยี ชัว่ โมงละ 14.5 กโิ ลเมตร ใน 1 วัน
วาฬหลังค่อมจะวา่ ยน้ำไดร้ ะยะทางเฉลีย่ กี่กโิ ลเมตร

ครใู ช้คำถาม เพื่อกระตนุ้ ความคดิ ของนักเรยี นดงั น้ี
o ส่งิ ท่โี จทยถ์ ามคืออะไร (ระยะทางเฉล่ียที่วาฬหลงั ค่อมวา่ ยน้ำใน 1 วัน)
o ส่ิงทโ่ี จทยบ์ อกคืออะไร (วาฬหลงั คอ่ มว่ายน้ำไดร้ ะยะทางเฉลย่ี ชั่วโมงละ 14.5

กโิ ลเมตร)
o หาคำตอบไดอ้ ยา่ งไร (นำจำนวนชัว่ โมงใน 1 วนั คณู กบั ระยะทางเฉลี่ยทวี่ าฬหลงั ค่อม

วา่ ยน้ำได้ใน 1 ชั่วโมง)
o หาคำตอบอย่างไรต่อไป (จะได้ 24 × 14.5 = 348 กิโลเมตร)
o สรปุ คำตอบได้อยา่ งไร (ใน 1 วนั วาฬหลังค่อมจะวา่ ยนำ้ ไดร้ ะยะทางเฉลี่ย 348

กิโลเมตร)
o ตรวจสอบได้อยา่ งไรว่า 348 กโิ ลเมตร เปน็ คำตอบทถ่ี ูกตอ้ ง (ต้องหาว่าใน 1 ชวั่ โมง

วาฬว่ายน้ำได้ระยะทางเฉลี่ยเท่าใด ซึ่งหาได้จาก 348  24 = 14.5 กิโลกรัม พบว่าสอดคล้องกับโจทย์
แสดงว่า 348 กโิ ลเมตร เปน็ คำตอบทีถ่ กู ตอ้ ง)

2. ครดู ำเนนิ กจิ กรรมนอี้ กี 1 ครงั้ โดยติดแถบโจทยป์ ัญหาบนกระดานดงั ตวั อย่าง

เชือกยาว 4.5 เมตร ปนู ำเชือกมาตดั เป็นเส้น เสน้ ละเท่า ๆ กัน ได้ 9 เส้น
เชอื กแตล่ ะเสน้ ยาวกี่เมตร

3. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝกึ หัดท่ี 2.13 หน้า 86 เพ่ือตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจเป็น
รายบุคคล

ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั สรุป (5 นาท)ี
10. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปวา่ การแกโ้ จทย์ปญั หาเรม่ิ จากการทำความเขา้ ใจปญั หา
วางแผนแกป้ ญั หา ดำเนินการแกป้ ัญหา และตรวจสอบความถกู ต้องหรอื ความสมเหตุสมผล

สื่อและแหล่งการเรียนรู้
64. หนงั สอื เรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์ ระดับช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เลม่ 1 (สสวท., 2560)
65. หนังสือแบบฝึกหัดรายวิชารายวิชาคณิตศาสตร์พืน้ ฐาน ระดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1

(สสวท., 2560)

การวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื วัด และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัด
วธิ กี ารและการประเมินผล
- แบบฝกึ หัด 2.13 หน้า 86 ใน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
ความรู้ (K) แบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60
นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเกีย่ วกับโจทย์ สสวท.
ปญั หาทศนิยมได้
- แบบฝกึ หดั 2.13 หน้า 86 ใน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ
ทักษะและกระบวนการ (P) แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60
นักเรียนมีความสามารถในการแกป้ ัญหา สสวท.
การส่ือสารและส่ือความหมายทาง
คณิตศาสตร์ และการใหเ้ หตุผล - แบบสังเกตประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ 2
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
นักเรียนมคี วามมวี ินัย มีความใฝเ่ รียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
และมุง่ ม่นั ในการทำงาน

แผนการจัดการเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิชาคณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 15101

ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 ช่ือหน่วย ทศนิยม เวลา 34 ชั่วโมง

แผนท่ี 27 เรือ่ ง โจทย์ปัญหา (2) เวลา 1 ชั่วโมง

ผูส้ อน นางสาวกมลชนก เทยี นอินทร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์

วันทสี่ อน..............................................................................................................................................

สาระสำคัญ
การแก้โจทย์ปญั หาเริม่ จากการทำความเข้าใจปญั หา วางแผนแก้ปญั หา ดำเนนิ การแกป้ ญั หา

และตรวจสอบความถกู ต้องหรือความสมเหตสุ มผล

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้นื ฐานเกีย่ วกบั การวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสงิ่ ทีต่ ้องการวดั และ

นำไปใช้

ตวั ช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 2.1 ป.5/1 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกยี่ วกับความยาวท่ีมกี ารเปลยี่ น

หนว่ ยและเขียนในรูปทศนิยม
มาตรฐาน ค 2.1 ป.5/2 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั นำ้ หนักที่มีการเปล่ยี นหนว่ ย

และเขียนในรูปทศนยิ ม

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
76. นักเรยี นสามารถอธิบายเกีย่ วกบั โจทย์ปัญหาทศนยิ มได้ (K)
77. นกั เรียนมคี วามสามารถในการแกป้ ัญหา การส่ือสารและส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ และ
การให้เหตุผล(P)
78. นักเรยี นมคี วามมีวนิ ยั มคี วามใฝเ่ รียนรู้ และมีความมุ่งม่นั ในการทำงาน (A)

สาระการเรยี นรู้
โจทย์ปญั หาทศนิยม

ทกั ษะในศตวรรษที่ 21
3R
− Reading (อ่านออก)
− (W) Riting (เขยี นได้)
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทักษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
87. ความสามารถในการส่ือสาร
88. ความสามารถในการคิด
89. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
90. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
76. มวี นิ ยั
77. ใฝเ่ รยี นรู้
78. มุ่งม่ันในการทำงาน

กระบวนการจัดการเรียนรู้

ขั้นท่ี 1 ขน้ั นำเข้าสูบ่ ทเรียน (10 นาที)
4. ครทู บทวนความรเู้ รื่อง การคูณและการหารทศนิยม โดยครตู ดิ แถบโจทย์บนกระดานแล้วให้
ผู้แทนนกั เรียน 2 คนออกมาหาคำตอบ ดังน้ี

8 x 1.52 =  (12.16) 0.9 ÷ 3 =  (0.3)

ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง

5. ครูใหน้ ักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยใช้คำถาม เพ่ือกระตุ้นความคดิ ดงั นี้

o ถา้ นกั เรียนไม่มีความรู้ เรือ่ ง การแก้โจทยป์ ัญหาจะสง่ ผลอย่างไรต่อการดำเนนิ

ชวี ติ ประจำวัน

6. นกั เรยี นศึกษา รวบรวมข้อมูลเก่ยี วกบั การแกโ้ จทย์ปัญหาเชน่ การสงั เกต การรว่ มกันสนทนา

กับเพ่ือนในช้ันเรยี น จากหนงั สอื เรยี นหรือจากอินเทอรเ์ นต็

ขน้ั ที่ 2 ข้นั การจัดการเรียนรู้ (45 นาท)ี
4. ครใู ห้นกั เรยี นศกึ ษาโจทยป์ ญั หาในหนงั สือเรยี น คณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 หน้า 112
5. ครแู บง่ นกั เรียนออกเป็น 4 กล่มุ จากนนั้ ขอตวั แทนกลุ่มละ 1 คน ออกมาแสดงวิธที ำ
บนกระดาน จากแถบโจทย์ที่ครูติดให้บนกระดาน แข่งขันกันระหวา่ ง 4 กลุ่ม เมื่อแสดงวิธีทำเสร็จแลว้ ครู
และนักเรียนร่วมกันเฉลยความถูกต้อง ครูดำเนินกิจกรรมน้ี 3 ครั้ง เพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจ เรื่อง
โจทย์ปญั หาทศนยิ มมากข้นึ
ตัวอย่างแถบโจทย์

1. แยมโรลชนิ้ หนึง่ ยาว 26.4 เซนตเิ มตร นา้ หน่อยแบ่งแยมโรลเป็น 8 ชน้ิ
ชิ้นละเทา่ ๆ กัน แยมโรลแต่ละชิน้ หนาก่ีเซนติเมตร

2. ยาพาราเซตามอล 1 เม็ด มปี ริมาณยา 0.325 กรมั ถ้าโรงงานผลิตยางพาราเซตา
มอล 500,000 เมด็ จะต้องใชป้ รมิ าณยากี่กโิ ลกรัม

3. นำ้ ยาซักผา้ 750 มลิ ลิลิตร ใช้ซักผา้ ครั้งละเทา่ ๆ กัน ได้ 20 ครัง้ แต่ละคร้งั ใช้
น้ำยาซักผ้าเท่าใด

6. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ 2.13 หนา้ 87 เพ่ือตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจเป็นรายบุคคล

ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั สรุป (5 นาที)
11. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ว่า การแกโ้ จทยป์ ญั หาเริม่ จากการทำความเข้าใจปญั หา
วางแผนแกป้ ญั หา ดำเนนิ การแกป้ ัญหา และตรวจสอบความถกู ต้องหรอื ความสมเหตุสมผล

สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
66. หนงั สือเรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์ ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 เล่ม 1 (สสวท., 2560)
67. หนังสอื แบบฝึกหดั รายวชิ ารายวิชาคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เล่ม 1

(สสวท., 2560)

การวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื วัด และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัด
วธิ กี ารและการประเมินผล
- แบบฝกึ หัด 2.13 หน้า 87 ใน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
ความรู้ (K) แบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60
นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเกีย่ วกับโจทย์ สสวท.
ปญั หาทศนิยมได้
- แบบฝกึ หดั 2.13 หน้า 87 ใน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ
ทักษะและกระบวนการ (P) แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60
นักเรียนมีความสามารถในการแกป้ ัญหา สสวท.
การส่ือสารและส่ือความหมายทาง
คณิตศาสตร์ และการใหเ้ หตุผล - แบบสังเกตประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ 2
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
นักเรียนมคี วามมวี ินัย มีความใฝเ่ รียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
และมุง่ ม่นั ในการทำงาน

แผนการจัดการเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิชาคณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 15101

ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 2 ช่ือหน่วย ทศนิยม เวลา 34 ชั่วโมง

แผนท่ี 27 เรือ่ ง โจทย์ปัญหา (2) เวลา 1 ชั่วโมง

ผูส้ อน นางสาวกมลชนก เทยี นอินทร์ สาขาวิชาคณิตศาสตร์

วันทสี่ อน..............................................................................................................................................

สาระสำคัญ
การแก้โจทย์ปญั หาเริม่ จากการทำความเข้าใจปญั หา วางแผนแก้ปญั หา ดำเนนิ การแกป้ ญั หา

และตรวจสอบความถกู ต้องหรือความสมเหตสุ มผล

มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้นื ฐานเกีย่ วกบั การวดั วดั และคาดคะเนขนาดของสงิ่ ทีต่ ้องการวดั และ

นำไปใช้

ตวั ช้วี ัด/ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 2.1 ป.5/1 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาเกยี่ วกับความยาวท่ีมกี ารเปลยี่ น

หนว่ ยและเขียนในรูปทศนิยม
มาตรฐาน ค 2.1 ป.5/2 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั นำ้ หนักที่มีการเปล่ยี นหนว่ ย

และเขียนในรูปทศนยิ ม

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
79. นักเรยี นสามารถอธิบายเกีย่ วกบั โจทย์ปัญหาทศนยิ มได้ (K)
80. นกั เรียนมคี วามสามารถในการแกป้ ัญหา การส่ือสารและส่ือความหมายทางคณติ ศาสตร์ และ
การให้เหตุผล(P)
81. นักเรยี นมคี วามมีวนิ ยั มคี วามใฝเ่ รียนรู้ และมีความมุ่งม่นั ในการทำงาน (A)

สาระการเรยี นรู้
โจทย์ปญั หาทศนิยม

ทกั ษะในศตวรรษที่ 21
3R
− Reading (อ่านออก)
− (W) Riting (เขยี นได้)
− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มีทักษะในการคิดวิเคราะห์ การคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทักษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ

สมรรถนะสำคัญของผ้เู รียน
91. ความสามารถในการส่ือสาร
92. ความสามารถในการคิด
93. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
94. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
79. มวี นิ ยั
80. ใฝเ่ รยี นรู้
81. มุ่งม่ันในการทำงาน

กระบวนการจัดการเรียนรู้

ขั้นท่ี 1 ขน้ั นำเข้าสูบ่ ทเรียน (10 นาที)
7. ครทู บทวนความรเู้ รื่อง การคูณและการหารทศนิยม โดยครตู ดิ แถบโจทย์บนกระดานแล้วให้
ผู้แทนนกั เรียน 2 คนออกมาหาคำตอบ ดังน้ี

8 x 1.52 =  (12.16) 0.9 ÷ 3 =  (0.3)

ครูและนักเรยี นรว่ มกนั ตรวจสอบความถูกต้อง

8. ครูใหน้ ักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยใช้คำถาม เพ่ือกระตุ้นความคดิ ดงั นี้

o ถา้ นกั เรียนไม่มีความรู้ เรือ่ ง การแก้โจทยป์ ัญหาจะสง่ ผลอย่างไรต่อการดำเนนิ

ชวี ติ ประจำวัน

9. นกั เรยี นศึกษา รวบรวมข้อมูลเก่ยี วกบั การแกโ้ จทย์ปัญหาเชน่ การสงั เกต การรว่ มกันสนทนา

กับเพ่ือนในช้ันเรยี น จากหนงั สอื เรยี นหรือจากอินเทอรเ์ นต็

ขน้ั ที่ 2 ข้นั การจัดการเรียนรู้ (45 นาท)ี
7. ครใู ห้นกั เรยี นศกึ ษาโจทยป์ ญั หาในหนงั สือเรยี น คณิตศาสตร์ ป.5 เลม่ 1 หน้า 112
8. ครแู บง่ นกั เรียนออกเป็น 4 กล่มุ จากนนั้ ขอตวั แทนกลุ่มละ 1 คน ออกมาแสดงวิธที ำ
บนกระดาน จากแถบโจทย์ที่ครูติดให้บนกระดาน แข่งขันกันระหวา่ ง 4 กลุ่ม เมื่อแสดงวิธีทำเสร็จแลว้ ครู
และนักเรียนร่วมกันเฉลยความถูกต้อง ครูดำเนินกิจกรรมน้ี 3 ครั้ง เพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจ เรื่อง
โจทย์ปญั หาทศนยิ มมากข้นึ
ตัวอย่างแถบโจทย์

2. แยมโรลชนิ้ หนึง่ ยาว 26.4 เซนตเิ มตร นา้ หน่อยแบ่งแยมโรลเป็น 8 ชน้ิ
ชิ้นละเทา่ ๆ กัน แยมโรลแต่ละชิน้ หนาก่ีเซนติเมตร

2. ยาพาราเซตามอล 1 เม็ด มปี ริมาณยา 0.325 กรมั ถ้าโรงงานผลิตยางพาราเซตา
มอล 500,000 เมด็ จะต้องใชป้ รมิ าณยากี่กโิ ลกรัม

3. นำ้ ยาซักผา้ 750 มลิ ลิลิตร ใช้ซักผา้ ครั้งละเทา่ ๆ กัน ได้ 20 ครัง้ แต่ละคร้งั ใช้
น้ำยาซักผ้าเท่าใด

9. ครใู ห้นักเรียนทำแบบฝึกหัดที่ 2.13 หนา้ 87 เพ่ือตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจเป็นรายบุคคล

ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั สรุป (5 นาที)
12. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ว่า การแกโ้ จทยป์ ญั หาเริม่ จากการทำความเข้าใจปญั หา
วางแผนแกป้ ญั หา ดำเนนิ การแกป้ ัญหา และตรวจสอบความถกู ต้องหรอื ความสมเหตุสมผล

สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
68. หนงั สือเรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์ ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 5 เล่ม 1 (สสวท., 2560)
69. หนังสอื แบบฝึกหดั รายวชิ ารายวิชาคณติ ศาสตร์พ้ืนฐาน ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 5 เล่ม 1

(สสวท., 2560)

การวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื วัด และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัด
วธิ กี ารและการประเมินผล
- แบบฝกึ หัด 2.13 หน้า 87 ใน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
ความรู้ (K) แบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60
นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเกีย่ วกับโจทย์ สสวท.
ปญั หาทศนิยมได้
- แบบฝกึ หดั 2.13 หน้า 87 ใน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ
ทักษะและกระบวนการ (P) แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60
นักเรียนมีความสามารถในการแกป้ ัญหา สสวท.
การส่ือสารและส่ือความหมายทาง
คณิตศาสตร์ และการใหเ้ หตุผล - แบบสังเกตประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ 2
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
นักเรียนมคี วามมวี ินัย มีความใฝเ่ รียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
และมุง่ ม่นั ในการทำงาน

แผนการจัดการเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิชาคณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 15101

ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ช่ือหน่วย ทศนยิ ม เวลา 34 ชว่ั โมง

แผนท่ี 28 เร่อื ง โจทย์ปญั หา (3) เวลา 1 ชั่วโมง

ผสู้ อน นางสาวกมลชนก เทียนอินทร์ สาขาวชิ าคณติ ศาสตร์

วนั ทส่ี อน..............................................................................................................................................

สาระสำคัญ
การแกโ้ จทยป์ ัญหาเริ่มจากการทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา ดำเนนิ การแก้ปญั หา

และตรวจสอบความถูกต้องหรือความสมเหตสุ มผล

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพน้ื ฐานเก่ยี วกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาดของส่งิ ทต่ี ้องการวดั และ

นำไปใช้

ตวั ชี้วดั /ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 2.1 ป.5/2 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเกยี่ วกับนำ้ หนกั ท่ีมีการเปลย่ี นหนว่ ย

และเขียนในรูปทศนิยม

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
82. นกั เรยี นสามารถอธิบายเก่ียวกบั โจทย์ปญั หาทศนิยมได้ (K)
83. นกั เรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา การส่ือสารและสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ และ
การให้เหตผุ ล(P)
84. นักเรียนมีความมีวนิ ัย มีความใฝ่เรยี นรู้ และมีความม่งุ มั่นในการทำงาน (A)

สาระการเรียนรู้
โจทย์ปัญหาทศนยิ ม

ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21
3R

− Reading (อ่านออก)

− (W) Riting (เขยี นได้)

− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มที กั ษะในการคิดวเิ คราะห์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทกั ษะด้านความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผนู้ ำ

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
95. ความสามารถในการส่ือสาร
96. ความสามารถในการคดิ
97. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
98. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
82. มีวนิ ัย
83. ใฝเ่ รยี นรู้
84. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขนั้ ที่ 1 ข้ันนำเข้าส่บู ทเรียน (10 นาที)
10. ครทู บทวนความรเู้ รื่อง การคูณและการหารทศนยิ ม โดยครูติดแถบโจทยบ์ นกระดานแล้วให้

ผ้แู ทนนกั เรยี น 2 คนออกมาหาคำตอบ ดังน้ี

3.752 x 2 =  (7.504) 44.85 ÷ 3 =  (14.95)
ครูและนักเรยี นรว่ มกันตรวจสอบความถกู ต้อง

11. ครูใหน้ ักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยใชค้ ำถาม เพ่ือกระตุ้นความคดิ ดังน้ี
o ถา้ นกั เรยี นไมม่ ีความรู้ เรื่อง การแกโ้ จทย์ปญั หาจะส่งผลอย่างไรต่อการดำเนนิ

ชวี ิตประจำวัน
12. นักเรียนศึกษา รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกบั การแก้โจทยป์ ญั หาเช่น การสงั เกต การรว่ มกัน
สนทนา

กบั เพื่อนในชน้ั เรยี น จากหนงั สือเรียนหรือจากอนิ เทอรเ์ น็ต

ขัน้ ท่ี 2 ขั้นการจดั การเรยี นรู้ (45 นาท)ี
10. ครใู ห้นักเรียนศกึ ษาโจทยป์ ัญหาในหนงั สอื เรยี น คณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หนา้ 113

11. ครูแบง่ นกั เรียนออกเปน็ 2 กลุม่ จากนนั้ ขอตัวแทนกลมุ่ ละ 2 คน ออกมาแสดงวธิ ที ำ
บนกระดาน จากแถบโจทย์ที่ครูติดให้บนกระดาน แข่งขันกันระหว่าง 2 กลุ่ม เมื่อแสดงวิธีทำเสร็จแลว้ ครู
และนักเรียนร่วมกันเฉลยความถูกต้อง ครูดำเนินกิจกรรมนี้ 2 ครั้ง เพื่อให้นักเรียนมีความเข้าใจ เรื่อง
โจทยป์ ัญหาทศนิยมมากขน้ึ
ตัวอยา่ งแถบโจทย์

3. แปม๋ ปลกู ข้าว 21.7 ไร่ ใชเ้ มล็ดพนั ธเ์ ฉล่ยี ไร่ละ 15.3 กโิ ลกรัม
แป๋มต้องใช้เมล็ดพนั ธ์ก่ีกโิ ลกรัม

2. นำ้ จ้มิ ไก่ 1 ขวด มปี ริมาตร 625 มลิ ลลิ ิตร
ถ้าซอ้ื นำ้ จ้ิมไก่ 1 โหล จะไดน้ ้ำจ้มิ ไก่กี่ลิตร

12. ครใู หน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั ท่ี 2.13 หนา้ 88 เพื่อตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจเป็น
รายบุคคล

ขนั้ ที่ 3 ขั้นสรุป (5 นาท)ี
13. ครูและนกั เรียนรว่ มกันสรุปว่า การแกโ้ จทยป์ ญั หาเรม่ิ จากการทำความเขา้ ใจปัญหา
วางแผนแกป้ ญั หา ดำเนินการแกป้ ญั หา และตรวจสอบความถูกต้องหรือความสมเหตุสมผล

สื่อและแหล่งการเรยี นรู้
70. หนังสือเรียนรายวิชาคณติ ศาสตร์ ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 5 เล่ม 1 (สสวท., 2560)
71. หนังสอื แบบฝึกหัดรายวิชารายวิชาคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เล่ม 1

(สสวท., 2560)

การวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื วัด และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัด
วธิ กี ารและการประเมินผล
- แบบฝกึ หัด 2.13 หน้า 88 ใน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
ความรู้ (K) แบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60
นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเกีย่ วกับโจทย์ สสวท.
ปญั หาทศนิยมได้
- แบบฝกึ หดั 2.13 หน้า 88 ใน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ
ทักษะและกระบวนการ (P) แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60
นักเรียนมีความสามารถในการแกป้ ัญหา สสวท.
การส่ือสารและส่ือความหมายทาง
คณิตศาสตร์ และการใหเ้ หตุผล - แบบสังเกตประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ 2
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
นักเรียนมคี วามมวี ินัย มีความใฝเ่ รียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
และมุง่ ม่นั ในการทำงาน

แผนการจัดการเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิชาคณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 15101

ช้นั ประถมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 2 ช่ือหน่วย ทศนยิ ม เวลา 34 ชว่ั โมง

แผนท่ี 29 เร่อื ง โจทย์ปญั หา (4) เวลา 1 ชั่วโมง

ผสู้ อน นางสาวกมลชนก เทียนอินทร์ สาขาวชิ าคณติ ศาสตร์

วนั ทส่ี อน..............................................................................................................................................

สาระสำคัญ
การแกโ้ จทยป์ ัญหาเริ่มจากการทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแกป้ ัญหา ดำเนนิ การแก้ปญั หา

และตรวจสอบความถูกต้องหรือความสมเหตสุ มผล

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพน้ื ฐานเก่ยี วกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาดของส่งิ ทต่ี ้องการวดั และ

นำไปใช้

ตวั ชี้วดั /ผลการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 2.1 ป.5/2 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเกยี่ วกับนำ้ หนกั ท่ีมีการเปลย่ี นหนว่ ย

และเขียนในรูปทศนิยม

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
85. นกั เรยี นสามารถอธิบายเก่ียวกบั โจทย์ปญั หาทศนิยมได้ (K)
86. นกั เรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา การส่ือสารและสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ และ
การให้เหตผุ ล(P)
87. นักเรียนมีความมีวนิ ัย มีความใฝ่เรยี นรู้ และมีความม่งุ มั่นในการทำงาน (A)

สาระการเรียนรู้
โจทย์ปัญหาทศนยิ ม

ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21
3R

− Reading (อ่านออก)

− (W) Riting (เขยี นได้)

− (A) Rithemetics (คิดเลขเป็น)
8C
− มีทกั ษะในการคิดวิเคราะห์ การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น
99. ความสามารถในการสื่อสาร
100. ความสามารถในการคดิ
101. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
102. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
85. มวี นิ ัย
86. ใฝเ่ รียนรู้
87. มุ่งม่นั ในการทำงาน

กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขน้ั ที่ 1 ขัน้ นำเขา้ สูบ่ ทเรียน (10 นาที)
1. ครทู บทวนความรู้เร่ือง การชัง่ โดยผูแ้ ทนนักเรยี นเลา่ ประสบการณ์ในการชงั่ น้ำหนกั โดย

นักเรียนออกมาเล่าประสบการณ์หน้าชน้ั เรียนประมาณ 2-3 คน จากน้ันนกั เรียนในชนั้ ร่วมกันอภิปรายว่า
ในชีวิตประจำวันของนกั เรียนจะเกี่ยวข้องกับการวัดเกือบทุกวัน จึงต้องศึกษาการแก้ปัญหาการวดั เพือ่ ให้
ทราบการวัดอย่างถูกตอ้ ง

2. นกั เรยี นรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยใชค้ ำถามกระตุ้นความคดิ ดังนี้
o นกั เรยี นเคยนำความรูเ้ ร่อื ง การแกโ้ จทยป์ ญั หาเกยี่ วกบั ความยาว ไปใชใ้ น

ชีวิตประจำวนั หรอื ไม่ อยา่ งไร
3. นักเรยี นศึกษา รวบรวมขอ้ มูลเก่ียวกับโจทย์ปัญหาเก่ียวกบั ความยาว เชน่ การสังเกต

การร่วมกันสนทนากับเพ่ือนในชั้นเรียน จากหนงั สอื เรยี นหรือจากอนิ เทอร์เนต็

ข้ันท่ี 2 ขัน้ การจัดการเรยี นรู้ (45 นาท)ี
1. ครตู ดิ แถบโจทย์ปัญหาบนกระดาน แล้วให้นกั เรียนอ่านโจทย์พร้อมกันดังน้ี

ลุงจับปลานิลได้ 3 ตวั หนกั 0.9 กิโลกรมั 1.27 กโิ ลกรมั และ 1.58 กโิ ลกรมั นำไป
ขายกิโลกรัมละ 80 บาท ลุงขายปลานลิ ไดเ้ งินกบ่ี าท

ครใู ช้คำถาม เพื่อกระตุ้นความคดิ ของนักเรียนดงั น้ี
o สิง่ ท่โี จทย์ถามคืออะไร (จำนวนเงนิ ที่ลงุ ขายปลานิลได)้
o สิ่งทโี่ จทยบ์ อกคอื อะไร (ลงุ จับปลานิล 3 ตวั หนกั 0.9 กโิ ลกรมั 1.27 กิโลกรมั และ

1.58 กิโลกรมั ) และขายปลากโิ ลกรมั ละ 80 บาท)
o หาคำตอบไดอ้ ย่างไร (นำน้ำหนกั ปลาทง้ั สามตวั รวมกนั ได้ 0.9 + 1.27 + 158 =

3.75 กโิ ลกรมั )
o หาคำตอบอย่างไรต่อไป (ขายกโิ ลกรมั ละ 80 บาท ไดเ้ งินทงั้ หมด 3.75× 80 = 300

บาท)
o สรุปคำตอบได้อย่างไร (ลุงขายปลานลิ ไดเ้ งนิ 300 บาท)
o ตรวจสอบไดอ้ ยา่ งไรวา่ 300 บาท เปน็ คำตอบทถี่ กู ต้อง (ปลา 3 ตัว หนักประมาณ 1

กก. 1 กก. และ 2 กก. จะได้ว่า ลุงขายปลาประมาณ 1+1+ 2 = 4 กก. ขายกิโลกรัมละ 80 บาท ได้เงิน
ประมาณ 480 = 320 ซึง่ ใกลเ้ คียงกับ 300 แสดงวา่ 300 บาท เปน็ คำตอบทส่ี มเหตุสมผล)

2. ครูใหน้ ักเรียนแบ่งกล่มุ กลุ่มละ 4-5 คน แจกแถบโจทย์ให้นกั เรียนกลุ่มละ 1 โจทย์ นกั เรียน
ชว่ ยกันแกโ้ จทย์ปัญหาเพ่ือหาคำตอบ โดยแสดงวิธีคิดและวาดภาพประกอบ จากนนั้ นำเสนอผลงานหน้า
ชั้นเรียน และร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
ตวั อยา่ งโจทยป์ ญั หา

วศนิ ทำน้ำพริกปลาย่างหนัก 21 กโิ ลกรัม แลว้ นำมาแบง่ ใส่ขวดหนกั
ขวดละ 350 กรัม จะได้น้ำพริกปลายา่ งกี่ขวด

3. ครใู ห้นกั เรียนทำแบบฝึกหดั ที่ 2.13 หน้า 89 เพื่อตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจเป็น
รายบุคคล

ขน้ั ที่ 3 ขั้นสรุป (5 นาท)ี
14. ครแู ละนักเรียนร่วมกันสรุปว่า การแกโ้ จทย์ปัญหาเรมิ่ จากการทำความเข้าใจปัญหา
วางแผนแก้ปัญหา ดำเนนิ การแก้ปัญหา และตรวจสอบความถูกต้องหรือความสมเหตุสมผล

สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
72. หนังสือเรยี นรายวชิ าคณิตศาสตร์ ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 เล่ม 1 (สสวท., 2560)
73. หนังสือแบบฝึกหัดรายวิชารายวชิ าคณติ ศาสตรพ์ ื้นฐาน ระดับชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 5 เล่ม 1

(สสวท., 2560)

การวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื วัด และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัด
วธิ กี ารและการประเมินผล
- แบบฝกึ หัด 2.13 หน้า 89 ใน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
ความรู้ (K) แบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60
นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเกีย่ วกับโจทย์ สสวท.
ปญั หาทศนิยมได้
- แบบฝกึ หดั 2.13 หน้า 89 ใน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ
ทักษะและกระบวนการ (P) แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60
นักเรียนมีความสามารถในการแกป้ ัญหา สสวท.
การส่ือสารและส่ือความหมายทาง
คณิตศาสตร์ และการใหเ้ หตุผล - แบบสังเกตประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ 2
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
นักเรียนมคี วามมวี ินัย มีความใฝเ่ รียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
และมุง่ ม่นั ในการทำงาน

แผนการจัดการเรยี นรู้

กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิชาคณติ ศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์ รหสั วชิ า ค 15101

ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 ช่ือหน่วย ทศนยิ ม เวลา 34 ช่วั โมง

แผนที่ 30 เร่ือง โจทย์ปัญหา (5) เวลา 1 ชั่วโมง

ผสู้ อน นางสาวกมลชนก เทียนอนิ ทร์ สาขาวิชาคณติ ศาสตร์

วันทส่ี อน..............................................................................................................................................

สาระสำคัญ
การแกโ้ จทย์ปญั หาเริ่มจากการทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปญั หา ดำเนินการแก้ปัญหา

และตรวจสอบความถกู ต้องหรือความสมเหตุสมผล

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกยี่ วกับการวัด วดั และคาดคะเนขนาดของสง่ิ ที่ต้องการวัดและ

นำไปใช้

ตวั ชี้วดั /ผลการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 2.1 ป.5/1 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปญั หาเกย่ี วกบั ความยาวท่มี กี าร

เปลย่ี นหนว่ ยและเขยี นในรปู ทศนิยม

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
88. นักเรียนสามารถอธิบายเก่ยี วกบั โจทย์ปัญหาทศนิยมได้ (K)
89. นกั เรียนมีความสามารถในการแก้ปัญหา การสื่อสารและสื่อความหมายทางคณติ ศาสตร์ และ
การใหเ้ หตผุ ล(P)
90. นกั เรยี นมคี วามมีวินัย มคี วามใฝเ่ รยี นรู้ และมคี วามมงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A)

สาระการเรยี นรู้
โจทยป์ ญั หาทศนยิ ม

ทกั ษะในศตวรรษที่ 21
3R

− Reading (อ่านออก)

− (W) Riting (เขยี นได้)

− (A) Rithemetics (คดิ เลขเป็น)
8C
− มที กั ษะในการคิดวเิ คราะห์ การคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ และแก้ไขปัญหาได้
− ทกั ษะดา้ นความรว่ มมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผ้นู ำ

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
103. ความสามารถในการสื่อสาร
104. ความสามารถในการคิด
105. ความสามารถในการแก้ปญั หา
106. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
88. มีวนิ ยั
89. ใฝเ่ รียนรู้
90. ม่งุ มัน่ ในการทำงาน

กระบวนการจดั การเรยี นรู้
ขัน้ ท่ี 1 ขั้นนำเขา้ ส่บู ทเรยี น (10 นาที)
1. ครทู บทวนทบทวนความรู้ เร่อื ง การบอกความยาวมีหน่วยเปน็ มิลลเิ มตร เซนติเมตร เมตร

และกโิ ลเมตร ซึ่งหนว่ ยของความยาวมคี วามสมั พนั ธ์กัน โดยใชค้ ำถามกระต้นุ ความคดิ ดงั น้ี
o 1 เซนติเมตร มีคา่ เทา่ กับกี่มลิ ลิเมตร (10 มลิ ลเิ มตร)
o 1 เมตร มีค่าเทา่ กบั กี่เซนตเิ มตร (100 เซนตเิ มตร)
o 1 กโิ ลเมตร มคี ่าเท่ากบั กเ่ี มตร (1,000 เมตร)

นักเรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
2. นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยใช้คำถามกระตุ้นความคิด ดงั น้ี
o นักเรยี นสามารถนำความรู้เรื่อง การแก้โจทย์ปญั หาไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั
3. นักเรียนศึกษา รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโจทย์ปัญหา เช่น การสังเกตการร่วมกันสนทนากับ

เพ่อื นในช้นั เรยี น จากหนังสอื เรยี นหรอื จากอินเทอรเ์ นต็

ขัน้ ท่ี 2 ขน้ั การจดั การเรยี นรู้ (45 นาที)
1. ครใู หน้ ักเรียนศึกษาโจทยป์ ญั หาในหนังสือเรียน คณติ ศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 หน้า 116 พรอ้ ม

กับครูเขียนประกอบการอภิปรายไปด้วย และใช้การถาม-ตอบเพื่อเป็นการกระตุ้นให้นักเรียนได้ใช้
ความคดิ เป็นการตรวจสอบความเขา้ ใจ

2. ครูให้นกั เรยี นรว่ มเล่น “เกมกะหลำ่ ปลี” ครจู ะใหน้ กั เรยี นสง่ กะหลำ่ ปลี ในกะหลำ่ ปลีจะมี
โจทย์ปัญหา ส่งกะหล่ำปลีจากคนแรกไปถึงคนสุดท้าย และเปิดเพลงประกอบ เมื่อเพลงหยุดที่ใครให้
นกั เรยี นแกะกะหลำ่ ปลจี ากนนั้ ออกมาหน้าหอ้ งเรยี น ครเู ปิดโอกาสให้เรยี กเพอ่ื นมาช่วยตอบคำถามจากครู
และหาคำตอบให้ถูกต้อง 1 คน จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยความถูกต้อง ครูดำเนินกิจกรรมนี้อกี
1 ครั้ง
ตวั อย่างโจทยป์ ญั หา

ถนนสายหนึ่งยาว 58 กโิ ลเมตร 450 เมตร ราดยางไปแล้ว 27 กโิ ลเมตร 85 เมตร เหลือ
ถนนที่ยังไมไ่ ด้ราดยางอกี กก่ี ิโลเมตร (31.365 กิโลเมตร)

3. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัดที่ 2.13 หน้า 90 เพื่อตรวจสอบความรู้ ความเข้าใจเป็น
รายบุคคล

ขั้นท่ี 3 ข้นั สรุป (5 นาท)ี
15. ครูและนักเรียนร่วมกันสรปุ วา่ การแก้โจทย์ปัญหาเริม่ จากการทำความเข้าใจปัญหา
วางแผนแก้ปัญหา ดำเนินการแกป้ ญั หา และตรวจสอบความถูกต้องหรอื ความสมเหตุสมผล

สอ่ื และแหล่งการเรยี นรู้
74. หนังสอื เรียนรายวชิ าคณิตศาสตร์ ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 5 เล่ม 1 (สสวท., 2560)
75. หนงั สือแบบฝกึ หัดรายวิชารายวชิ าคณิตศาสตรพ์ ื้นฐาน ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เล่ม 1

(สสวท., 2560)

การวัดและประเมินผล เคร่อื งมอื วัด และประเมนิ ผล เกณฑก์ ารวัด
วธิ กี ารและการประเมินผล
- แบบฝกึ หัด 2.13 หน้า 90 ใน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ
ความรู้ (K) แบบฝกึ หดั คณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60
นกั เรยี นสามารถอธบิ ายเกีย่ วกับโจทย์ สสวท.
ปญั หาทศนิยมได้
- แบบฝกึ หดั 2.13 หน้า 90 ใน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ
ทักษะและกระบวนการ (P) แบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ ป.5 เล่ม 1 60
นักเรียนมีความสามารถในการแกป้ ัญหา สสวท.
การส่ือสารและส่ือความหมายทาง
คณิตศาสตร์ และการใหเ้ หตุผล - แบบสังเกตประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ 2
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
นักเรียนมคี วามมวี ินัย มีความใฝเ่ รียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ ผ่านเกณฑ์
และมุง่ ม่นั ในการทำงาน


Click to View FlipBook Version