SHDB5

บทท่ี 2
ศาสนสถานของศาสนาพทุ ธ

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยโุ รป ทวปี อเมรกิ าเหนอื ทวปี อเมรกิ าใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวปี แอฟริกาใต้

ส่วนนำ

ศาสนาพทุ ธเป็นศาสนาที่มีพระพุทธเจ้าเป็นพระศาสดามีพระธรรมทพ่ี ระองค์ทรงตรสั ร้ชู อบด้วยพระองค์เอง
และตรัสสอนไว้เป็นหลักคำสอนสำคัญศาสนาพุทธเป็นศาสนาอเทวนิยม ปฏิเสธการมีอยู่ของพระเป็นเจ้าหรือ
พระผู้สร้าง และเชื่อในศักยภาพของมนุษย์ ว่าทุกคนสามารถพัฒนาจิตใจ ไปสู่ความเป็นมนุษย์ท่ีสมบูรณ์ได้
ด้วยความเพียรของตน กล่าวคอื ศาสนาพุทธ สอนให้มนษุ ยบ์ ันดาลชีวิตของตนเอง ด้วยผลแห่งการกระทำของ
ตน ตาม กฎแห่งกรรม มไิ ดม้ าจากการอ้อนวอนขอจากพระเป็นเจ้าและสิ่งศกั ด์สิ ิทธน์ิ อกกายอกี ท้ังยังมีการออก
เผยแผศ่ าสนาและคำสอนไปยงั ทวีปตา่ ง ๆ เช่น ทวปี ยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือ ทวปี อเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลีย
ทวีปแอฟรกิ าใต้ จนทำใหม้ ีการเกดิ ศาสนสถานของศาสนาพุทธเกิดขึ้นในทวปี นัน้ ๆ ในทวีปยุโรปแสวงหาอาณา
นิคม ประเทศในทวีปเอเชียตกเป็นอาณานิคมของประเทศในทวีปยุโรปบางส่วนได้อพยพเข้าไปอยู่ในประเทศ
ยุโรป ซ่ึงคนเหล่าน้ีนับถือพระพุทธศาสนา เมื่อไปอยู่ประเทศใด ก็คงประพฤติปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนใน
พระพทุ ธศาสนา ทำให้ชาวยโุ รปเกิดความสนใจ ศึกษาคน้ คว้าพระไตรปิฎกและคัมภีร์ตา่ ง ๆ เพิ่มเตมิ เมอื่ พบว่า
พระพุทธศาสนาได้ศาสนาที่ต้ังอย่บู นหลักเหตผุ ล นำไปใช้ดำเนินชีวิตได้อย่างดีจึงเกิดความเลอ่ื มใสหนั มานับถือ
พระพุทธศาสนา ทวีปอเมริกาเหนือพระพุทธศาสนาเผยแผ่เข้าไปโดยชาวเอเชียที่อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานอยู่ใน
สหรัฐอเมริกาและแคนาดา เม่ืออพยพไปอยู่ทใ่ี ดก็ได้นำเอาหลักธรรมของพระพุทธศาสนาตดิ ตัวไป และทำการ
เผยแผ่ในทวีปอเมริกาเหนือด้วย การเผยแผ่พระพุทธศาสนาจึงเริ่มดำเนินการอย่างมีระเบียบแบบแผน เช่น มี
การจัดต้ังองค์การ ตั้งพุทธสมาคม และมีการสร้างวัดหรือวิหารข้ึนทวีปอเมริกาใต้ประเทศบราซิล ชาวเอเชีย
จากประเทศจีน เกาหลี ญี่ปุ่น เป็นบุคลกลุ่มแรกท่ีนำพระพุทธศาสนาไปเผยแผ่เข้ามาในประเทศบราซิล
ตงั้ แต่กอ่ นสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวพทุ ธเหลา่ นส้ี ่วนใหญ่จะอาศยั อยู่ในเมอื งเซาเปาลู และรีโอเดจาเนโร

42

ปจั จุบนั มีการสร้างวัดทางพระพุทธศาสนานิกายมหายานตามเมืองต่าง ๆ ทางชายฝ่ังทะเลด้านตะวันออกของ
ประเทศประมาน 30 แห่ง รวมทั้งมีการจัดต้ังองค์การทางพระพุทธศาสนาขึ้นด้วย เช่น สมาคมสหาย
พระพุทธศาสนา สหพันธ์พระพุทธศาสนาแห่งบราซิล และชมรมชาวพุทธญ่ีปุ่น เป็นต้น อย่างไรก็ตามการ
นับถือพระพุทธศาสนาในประเทศบราซิลก็ยังจำกัดอยู่แต่เฉพาะในกลุ่มเอเชียเท่าน้ันพระพุทธศาสนาไดเ้ ผยแผ่
เข้ามาในทวปี ออสเตรเลยี ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๕๓ โดยพระภิกษุชาวอังกฤษ (มร.อ.ี สตีเวนสัน) ท่านผู้น้ีได้อุปสมบทที่
ประเทศพม่า ท่านได้เดินทางเข้าสู่ประเทศออสเตรเลีย และเผยแผ่พระพุทธศาสนาแก่ชาวออสเตรเลียโดย
แนะนำแต่เพียงว่าพระพุทธศาสนาเน้นการพัฒนาจิตใจหลังสงครามโ,กคร้ังท่ี ๒ เป็นต้นมา พระพุทธศาสนาใน
ประเทศออสเตรเลียก็มีการเคล่ืนไหวอย่างคึกคักทวีปแอฟริกาใต้เกิดจากการท่ีมีชาวพุทธโดยเฉพาะชาวญ่ีปุ่น
เกาหลี ไทย ศรีลังกาอินเดียเดินทางเขาไปทำงาน ศึกษา ท่องเท่ียงในอียิปต์ แล้วบุคคลเหล่านี้ก็ค่อยๆ
ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับพระพุทธศาสนาให้กับชาวอียิปต์รุ่นใหม่ ซึ่งไม่ใคร่ยึดติดกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของตน
มากนักให้ยอมรับนับถือพระพุทธศาสนาด้วยจากการเผยแพร่ศาสนาที่เกิดขึ้นจึงทำให้เกิดศาสนสถานขึ้นใน
ทวีปต่าง ๆ โดยเราจะยกตัวอย่างศาสนสถานในแต่ละทวปี มาสองสถานทีไ่ ดแ้ ก่ ทวปี ยุโรปวัดพทุ ธปทีปและวัด
ศรีนครินทรวราราม ทวีปอเมริกาเหนือวัดมงคลรัตนารามและวัดนวมินทรราชูทิศ ทวีปอเมริกาใต้วัดวัดจูลาย
(Zu Lai) และวัดพุทธในฟอส โด อีกวาซู ทวีปออสเตรเลียวัดธัมมธโรและวัดพุทธรังษี ทวีปแอฟริกาใต้
nizamiye mosqueและวัดน่านหัว โดยเราจะกล่าวถึงความเป็นมา คุณค่าทางสังคมของและความสำคัญ
ของศาสนสถานที่กลา่ วยกตวั อย่างมา

ศาสนสถานในดินแดนทวปี ยโุ รป ทวีปอเมรกิ าเหนือ ทวปี อเมริกาใต้ ทวปี ออสเตรเลีย ทวปี แอฟรกิ าใต้

ทวีปยโุ รป

วดั ศรีนครินทรวราราม
ท่มี า : https://www.saulbellow.org/

44

วัดศรนี ครินทรวราราม

ตงั้ อยทู่ ี่บริเวณเขตกง่ึ อุตสาหกรรมกงึ่ ท่ีพักอาศยั ของหมู่บ้านเกรทเซ่นบาค รัฐโซโลธูรน์ ใจกลางประเทศ
สวิตเซอร์แลนด์ตอนเหนือ แต่เดิมวัดศรีนครินทรวรารามมีช่ือว่า วัดไทยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถือว่า
เป็นชื่อซ่ึงประชาชนรู้จักกันเป็นอย่างดี มีการเร่ิมก่อตั้งในรูปแบบของสมาคมวัดไทย ต่อมาวันท่ี 18
พฤศจิกายน 2527 ด้วยอาศัยกงสุลกิตติมศักด์ิของไทย ในนครซูริก เป็นสถานท่ีทำการ มีอดีตกงสุล
กิตติมศักดิ์คือ นายเฮนร่ี สไตเนอร์ เป็นประธานสมาคมคนแรก ได้มีการนำขึ้นกราบบังคมทูลล้นเกล้าฯ ต่อ
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวง
นราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อให้ทรงทราบเก่ียวกับความเป็นไปทุกประการ ทางสมเด็จพระศรีนครินทราบรม
ราชชนนีเองก็ทรงสนพระทัยด้านการปฏิบัตศิ าสนกจิ ของสงฆ์อย่างมากและพระราชทานพระราชทรพั ยส์ ่วน
พระองคแ์ ด่วัดไทย เปน็ การอุปถัมภ์วัดไทยทำให้มกี ารเปลีย่ นชือ่ วัดเปน็ วดั ศรีนครินทรวราราม ปี 2536

คณุ คา่ ทางสังคม
1. เป็นศนู ยเ์ ผยแพรแ่ ละศกึ ษาพระพทุ ธศาสนา ทั้งในดา้ น ปริยตั แิ ละปฏิบตั ิ
2. เปน็ ศูนย์รวมจติ ใจ และเปน็ สถานท่ีประกอบพิธกี รรมทาง ศาสนาของพทุ ธศาสนกิ ชนทง้ั ไทยและเทศ
3. เปน็ ศูนย์ศึกษาและเผยแพรป่ ระเพณี วัฒนธรรมไทย ใหบ้ ตุ รหลานไทยและผู้สนใจ
4. เปน็ ท่ีจัดการเรยี นการสอนวิชาการด้านธรรมะให้แก่เยาวชน และการจัดค่ายธรรมะเยาวชน รวมท้ัง การ
สอนภาษาไทยและศลิ ปวฒั นธรรมไทย
เอกสารอ้างอิง
วัดศรนี ครนิ ทรวราราม, สวติ เซอร์แลนด์ วดั ไทยใจกลางประเทศ . สืบคน้ เม่ือ 19 กุมภาพันธ์ 2565,จาก
https://www.saulbellow.org/

ศาสนสถานในดินแดนทวปี ยโุ รป ทวีปอเมรกิ าเหนือ ทวปี อเมรกิ าใต้ ทวปี ออสเตรเลีย ทวปี แอฟรกิ าใต้

วัดพทุ ธปทีป
ทม่ี า : https://th.wikipedia.org

46

วดั พทุ ธปทปี

วัดพุทธปทีป เป็นวัดไทยในต่างประเทศ ตั้งอยู่ในเมืองวิมเบิลทัน ลอนดอน ถือเป็นวัดไทยแห่งแรกท่ีสร้าง
ในสหราชอาณาจักร ในปี พ.ศ. 2507 เป็นพระอุโบสถไทยแห่งแรกในทวีปยุโรปและกลายเป็นสถานท่ี
ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของชาวไทยในสหราชอาณาจักร รวมทั้งเปิดต้อนรับผู้มาเยือนต่างศาสนาท่ี
ต้องการศึกษาศาสนาและวัฒนธรรมของไทย วัดแห่งน้ีเร่ิมจากการท่ี พระราชสิทธิมุนี และ พระมหาวิจิตร
ติสฺสทตฺโต วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎ์ิ ได้รับอาราธนาให้เดินทางไปทำการสอนวิปัสสนากรรมฐาน ณ พุทธ
วหิ ารแฮมสเตท (Hampstead Buddhist Vihara) กรุงลอนดอน โดยสังฆสมาคมแห่งประเทศอังกฤษ ส่งผล
ให้เป็นคร้ังแรกที่พระพุทธศาสนาสายปฏิบัติได้ประดิษฐานในทวีปยุโรป ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน จึงได้มี
การประชุมกลุ่มชาวไทยและนักเรียนไทยในกรุงลอนดอนถึงเรื่องการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของไทยใน
ประเทศอังกฤษซึ่งมีมติให้ต้ังวัดไทยขึน้ ท่กี รงุ ลอนดอน โดยได้รับความร่วมมือจากมหาเถรสมาคมและรัฐบาล
ไทยด้วยพระอุโบสถทรงไทยซึ่งเป็นหลังแรกในทวีปยุโรป ลักษณะเป็นอาคารจตุรมุขแบบกึ่งตรีมุขตามอย่าง
ศิลปะสถาปัตยกรรมไทย ล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว มีห้องใต้ดินเป็นโถงห้องสมุดและประกอบพิธีกรรมทาง
ศาสนาซ่ึงพระอโุ บสถนน้ั ออกแบบโดยนายประเวศ ลิมปรังษี ภายในพระอุโบสถประกอบด้วยภาพจิตรกรรม
ฝาผนงั ท่ีมีศิลปินท่ีมีชื่อเสยี งของไทยร่วมสร้างขึ้น ได้แก่ อาจารย์เฉลมิ ชัย โฆษิตพพิ ัฒน์, ปัญญา วิจนิ ธนสาร,
สมภพ บุตรราช และ ปาง ชินสายวัดแห่งนี้เคยปรากฏในรายการ ดิ เอ็ฟ เวอร์ด (The F Word) ซึ่งเชฟกอร์
ดอน แรมซีย์ เดินทางมาเข้าชมการประกอบอาหารไทยและทดลองทำอาหารไทยถวายเพลพระสงฆ์ ในปี
พ.ศ. 2554 รางวัลท่ีได้รับ จิตรกรรมท่ีวัดพุทธปทีป ได้กลายเป็นหนึ่งในผลงานที่สร้างช่ือเสียง และส่ง
อิทธิพลต่อการสร้างสรรคผ์ ลงาน ในแนวทาง ‘พทุ ธศลิ ป์’
เอกสารอ้างอิง
คุณค่า งานศลิ ป์, สืบค้นเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2565 , จาก https://www.bot.or.th
วัดพุทธปทปี , สืบคน้ เมื่อวันท่ี 20 กุมภาพันธ์ 26565 , จาก https://th.wikipedia.org

ศาสนสถานในดินแดนทวปี ยุโรป ทวปี อเมรกิ าเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวปี แอฟริกาใต้

ทวปี อเมรกิ าเหนอื

วัดมงคลรตั นาราม ฟลอริดา
ทมี่ า : http://tbdtinusa.blogspot.com/p/blog-page_27.html

48

วัดมงคลรัตนาราม ฟลอริดา

วัดมงคลรัตนาราม ต้ังอยู่ท่ีเมืองเทมป้า รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา จุดเริ่มต้นของการสร้างวัดนี้มาจาก
เม่ือปี 2524 พระมงคลเทพโมลี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม เจ้าคณะ 3 มีจุดประสงค์ในการ
เดินทางมาเพอ่ื ประชุมร่วมกับพุทธศาสนิกชนตามเมืองต่าง ๆ ท่ีรัฐฟลอริดา ก่อนจะมีมติให้สร้างวัดแห่งแรก
ที่เมืองนี้รว่ มกันเพื่อเป็นจุดศูนยก์ ลางให้กับพุทธศาสนิกชนจำนวนมากของชาวไทยท่ีอาศัยอยู่ในเมืองน้ี มีไว้
เพื่อทำบุญ ก่อนจะมีการได้รับอนุญาตให้สร้างวัดขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมายของฟลอริดา ถือว่าเป็นวัด
ลำดับที่ 6 ในสังกัดสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกาเม่ือใครที่มายังวัดนี้จะต้องเข้ามาสักการบูชาพระ
ประธานภายในพระอโุ บสถ คือ พระพทุ ธมงคลรัตนภ์ ูมิพัฒนม์ หามุนี เป็นองคป์ ระธานท่ีพระบาทสมเดจ็ พระ
ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี 9 ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามปรมาภิไธยย่อ ภ.ป.ร.
ประดิษฐานที่ผ้าทิพย์ และทรงเททองหล่อเมื่อวนั ที่ 5 กรกฎาคม 2522 ก่อนที่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ใหค้ ณะกรรมการอัญเชิญไปสพู่ ระตำหนกั จิตรลดารโหฐานเพื่อทรงพระสุหรา่ ย ทรงเจมิ เมือ่ วนั ท่ี 8 เมษายน
2523 จากน้ันได้อัญเชิญไปประดิษฐานยังวัดมงคลรัตนาราม ฟลอริดา สหรัฐฯ พ้ืนที่วัดแห่งน้ีกว้างใหญ่กว่า
19 ไร่ ซึ่งมีส่ิงปลูกสร้างอ่ืน ๆ ภายในวัดอีกมากมาย อาทิ ศาลาเอนกประสงค์, อาคารโรงเรียนภาคฤดูร้อน,
กุฏิสงฆ์, ศูนย์ปฏิบัติธรรม เมืองแพลนซิต้ี เป็นต้นวัดมงคลรัตนาราม เป็นวัดไทยที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา เป็น
สถานท่ียึดเหน่ียวจิตใจของคนไทยท่ีสหรัฐอเมริกาท่ีช่วยทำให้คนไทยรู้สึกอุ่นใจเมื่อได้มีโอกาสเข้ามา
ประกอบพิธกี รรมทางศาสนา เหมือนร้สู ึกวา่ ตวั เองไดอ้ ยเู่ มอื งไทย
เอกสารอา้ งอิง
วัดมงคลรัตนาราม ฟลอริดา สหรัฐอเมรกิ า. สืบค้น 19 กุมภาพันธ์ 2565,
จาก HTTPS://WWW.SAULBELLOW.ORG/

ศาสนสถานในดินแดนทวีปยโุ รป ทวีปอเมริกาเหนือ ทวปี อเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวปี แอฟริกาใต้

วัดนวมินทรราชทู ิศ
ที่มา : https://thaitempleusa.blogspot.com/p/blog-page_49.html

50

วดั นวมินทรราชทู ศิ

พระพรหมวชริ ญาณ (ปสฤทธิ์ เขมงฺกโร) เจา้ อาวาสวดั ยานนาวา กรรมการมหาเถรสมาคม กล่าวว่า การ
จดั สร้างวัดนวมนิ ทรราชทู ิศ ก็เพอื่ เฉลมิ พระเกยี รติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนอื่ งในโอกาสฉลองสิริราช
สมบัติครบ 60 ปี และเป็นอนุสรณ์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชสมภพที่เมืองบอสตัน โดยได้มี
การสรา้ งอุโบสถและตัววัดต้ังแต่ปี พ.ศ. 2554 บนเนื้อที่ 233 ไร่ ดว้ ยงบประมาณกวา่ 2,000 ล้านบาท และ
ได้รับเงินสนับสนนุ จากรัฐบาลไทยกว่า 500 ล้านบาท ทำให้วดั นวมนิ ทรราชูทิศ เป็นวดั ไทยในต่างประเทศท่ี
ใหญ่ท่สี ุดในโลก และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ ัว ไดพ้ ระราชทานพระบรมรูปของพระองค์ มาประดษิ ฐาน
ทีโ่ ถงทางเข้า และภายในวัดยังมีการจัดนิทรรศการแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ ขณะที่พระองค์
ทรงมีพระราชสมภพในเมืองบอสตัน อีกทั้งยังมีการจัดตั้งสถาบันการศึกษาทางพระพุทธศาสนา และศูนย์
วปิ สั นาขนาดใหญ่ วัดนวมินทรราชูทศิ เป็นการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออกและตะวนั ตก คือ
สถาปัตยกรรมแบบนิวอิงแลนด์และไทยเข้าด้วยกัน เพื่อให้ขัดกับสภาพแวดล้อมของเมือง ขณะเดียวกันก็
สามารถรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทยเอาไว้ วัดนวมินทรราชูทิศ เฉลิมพระเกียรติฯ แห่งนี้ จะเป็นศูนย์
การศึกษาพระธรรมวินัย ศูนย์การเผยแผ่พระพุทธศาสนา และศูนย์การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานใน
สหรฐั อเมรกิ า ที่สามารถจะรองรับผูม้ าในศาสนกิจต่าง ๆ โดยเฉพาะในด้านการปฏิบตั ิกรรมฐานได้ครัง้ ละไม่
นอ้ ยกว่า 1,000 คน

เอกสารอา้ งองิ
Posttoday. (2557). วดั นวมินทรราชูทิศ วัดไทยใหญท่ ส่ี ุดใน U.S.A.. สบื ค้น 19 กมุ ภาพันธ์ 2565, จาก
https://www.posttoday.com/dhamma/300765

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยโุ รป ทวีปอเมรกิ าเหนือ ทวีปอเมรกิ าใต้ ทวปี ออสเตรเลยี ทวปี แอฟรกิ าใต้

ทวีปอเมรกิ าใต้

วัดจูลาย (Zu Lai)
ที่มา : https://siampongsnews.blogspot.com/2018/06/150000.html?m=1

52

วดั จลู าย (Zu Lai)

วดั จูลาย (Zu Lai) เปน็ วดั พุทธท่ีใหญ่ทส่ี ดุ ในทวีปอเมรกิ าใต้ซ่งึ เปน็ วัดในพระพุทธศาสนา ในเมอื งโคเทยี
ประเทศบราซิล มพี ื้นทีส่ ร้าง 10,000 ตารางเมตร ภายในพ้ืนทีป่ ระมาณ 150,000 ตารางเมตร มคี วาม
ร่วมมือกบั โฝกวงซานปฏิบัติมหายานสาขาพระพุทธศาสนา วัด Zu Lai ระบวุ ัตถปุ ระสงค์การเผยแพร่
วัฒนธรรมและศาสนาหลักของประเพณีทางพุทธศาสนาในขณะที่พยายามท่ีจะเข้าถงึ กบั ประชากรทัว่ ไปคำ
สอนของพุทธศาสนาแบบดั้งเดมิ การศึกษา , วัฒนธรรมและการทำสมาธิ
คุณค่าทางสังคม
ในปี 1992 อาจารย์ชาวพุทธศาสนาHsing Yunมาถึงบราซิลโดยคำเชญิ ของวัดพทุ ธในเซาเปาโลเพ่อื ทำพธิ ี
พระภกิ ษทุ ี่ร่วมเดินทางจือเฉิงตัดสินใจทจ่ี ะอยใู่ นประเทศและเริ่มโครงการใหม่โดยมีวตั ถุประสงค์เพ่อื
เผยแพรป่ ระเพณีทางพุทธศาสนาในประเทศคาทอลิกสว่ นใหญ่ มันเร่ิมตน้ จากวดั ที่ค่อนข้างเลก็ และเตบิ โต
ขนึ้ เป็นสดั สว่ นเมอ่ื เวลาผ่านไปและความสนใจในพระพุทธศาสนาในท้องถน่ิ กเ็ พ่ิมขึน้

เอกสารอา้ งอิง
Sawadee.วัดจูลาย.สบื ค้น 19 กมุ ภาพนั ธ์ 2565,
จาก https://sawadee.wiki/wiki/Zu_Lai_Temple

ศาสนสถานในดินแดนทวปี ยโุ รป ทวีปอเมรกิ าเหนอื ทวีปอเมรกิ าใต้ ทวปี ออสเตรเลีย ทวีปแอฟรกิ าใต้

วดั พุทธในฟอส โด อกี วาซู
ทมี่ า : https://www.expedia.co.th/Buddhist-Temple-Foz-do-Iguacu.d6242253.Place-To-
Visit?pwaDialog=mediaGallery

54

วดั พทุ ธในฟอส โด อีกวาซู

วัดพุทธในฟอส โด อีกวาซูตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำปารานา มีสถาปัตยกรรมที่งดงามตามแบบเอเชียและชาว
พุทธ ตั้งอยูใ่ นสวนขนาด 100 ไร่ และเปน็ วดั พุทธที่ใหญท่ ี่สุดแหง่ หนึ่งในลาตินอเมริกาใต้ สร้างขน้ึ โดยชุมชน
ชาวเอเชยี ในปี 1996 เป็นวดั ทเี่ งยี บสงบและสรา้ งความหลากหลายใหแ้ ก่วัฒนธรรมของบราซลิ

จุดเด่นของวดั คือพระพุทธรูปที่มีมากกว่า 120 องค์ องค์ที่น่าประทับใจท่ีสุดคือพระพุทธรูปปางสมาธิที่มี
ความสูงถึง 7 เมตรหันหน้าไปทางแม่น้ำ และยังมีพระพุทธรูปสีทองอีก 108 องค์ในพระอิริยาบทยืนสูง 2
เมตรอยูบ่ ริเวณลานหนา้ วัด แตล่ ะองค์เปรียบเสมือนตวั แทนของพระพุทธเจ้าทีก่ ลับชาติมาเกิดบนโลกมนุษย์
โดยทัง้ หมดจะหนั หนา้ ไปทางทศิ ตะวนั ตก

ประติมากรรมอีกช้ินหนงึ่ ท่ีควรค่าแก่การเย่ยี มชม คือ รูปปั้นพระโพธสิ ัตว์สีสนั สดใสทรงช้างและมังกร ซึ่ง
ทำหน้าท่ีปกป้องพระพุทธรูป 108 องค์ท่ีใช้พระหัตถ์เป็นสัญลักษณ์ของการต้อนรับและพลังงานเชิงบวก
พระอุโบสถเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของงานสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาและใช้เป็นสถานท่ีทำสมาธิ
ภายในมีประติมากรรม 5 อย่างท่ีแสดงถึงความสุขและสุขภาพ หลังจากชื่นชมพระพุทธรูปเสร็จแล้ว มาน่ัง
ผ่อนคลายในสวนท่ีเงียบสงบของวัด สามารถมองเห็นวิวเมืองและไกลไปถึงเมือง Ciudad del Este ซ่ึงอยู่
อกี ฝงั่ ของแม่น้ำปารานาในประเทศปารากวยั

เอกสารอา้ งอิง
Expedia(2563). วัดพุทธในฟอส โด อีกวาซ.ู สบื คน้ 20 กมุ ภาพันธ์ 2565,

ศาสนสถานในดินแดนทวีปยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมรกิ าใต้ ทวปี ออสเตรเลยี ทวปี แอฟริกาใต้

ทวีปออสเตรเลีย

วัดพทุ ธรงั ษี แอนนนั เดล
ทม่ี า : http://tibetanbuddhistencyclopedia.com/en/index.php/Wat_Buddharangsee_Annand
ale

56

วดั พทุ ธรังสี แอนนันเดล

วัดพุทธรังษี มสี ถานท่ีต้ังวัดอยู่ที่นครซดิ นีย์ ประเทศออสเตรเลีย มีอยสู่ ามแห่งด้วยกัน คือ ที่สแตนมอร์
ซ่งึ เรามักจะเรียกกันด้วยคำส้ัน ๆ วา่ วัดสแตนมอร์ ช่ือเรียกเป็นทางการคือ วัดพุทธรังษี สแตนมอร์ เป็นวัด
แห่งแรกและเป็นวัดต้นแบบของพุทธศาสนาแบบเถรวาทในประเทศออสเตรเลีย แห่งทสี่ องคือ วัดป่าลูเมยี ห์
มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า วัดป่าพุทธรังษี ลูเมียห์ต้ังอยู่ที่เมืองแคมเบลล์ทาวน์ และแห่งท่ีสามคือ วัด
แอนนันเดล ซึ่งมีชื่อเรียกเป็นทางการว่า วัดพุทธรังษี แอนนันเดล มีสถานท่ีตงั้ อยใู่ นเขตแอนนนั เดล จึงเรียก
ขานนามกันตามสถานที่ตั้งอยู่ของวัด เพ่ือให้จำง่าย และเรียกช่ือให้สั้นข้ึนของคนทั่วไป ได้ทำการเปิดวัด
อย่างเป็นทางการเมื่อวันวิสาขบูชา วันอาทิตย์ที่ 25 พฤษภาคม พุทธศักราช 2518 โดยมีเจ้าพระคุณฯ
สมเด็จพระญาณสังวร ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฏราชกุมาร ทรง
เป็นประธานฝ่ายฆราวาส
วัดพุทธรังษี แอนนันเดล เป็นวัดไทยนิกายเถรวาท ท่ีเป็นที่ยึดเหน่ียวจิตใจของคนไทยในซิดนีย์ เพ่ือเผยแผ่
พระพุทธศาสนา และช่วยเหลือสาธารณสงเคราะห์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับศาสนา วัดพุทธรังษี แอนนันเดล
ลักษณะภายในวัดสวยงามกว้างขวาง เหมาะที่จะประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ ได้ตามความเหมาะสม อีกทั้งตัว
วัดกไ็ ม่ไกลจากกลางเมอื งซดิ นยี ม์ ากนัก ทำใหก้ ารเดนิ ทางคมนาคมมีความสะดวกสบาย

เอกสารอา้ งองิ
Wat Buddharangsee. (2013). วดั พุทธรังษี. สืบคน้ 17 กุมภาพันธ์ 2565,
จาก https://www.sydney4thai.com/ไลฟ์สไตล/์ วัดพุทธรงั ษี-แอนนนั เดล

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมรกิ าใต้ ทวปี ออสเตรเลีย ทวปี แอฟรกิ าใต้

วดั ธมั มธโร
ที่มา : http://m.mfa.go.th/main/th/media-center/30/63888

58

วัดธัมมธโร

วัดธมั มธโร เป็นวดั พุทธศาสนาแบบไทย นิกายเถรวาท เพียงวัดเดยี ว ตัง้ อยู่ที่กรงุ แคนเบอรร์ า นครหลวงของ
ประเทศออสเตรเลีย มีพระสงฆ์เป็นพระไทย ก่อต้ังข้ึนเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๖ โดยอาศัยแรงศรัทธาร่วมกันจาก
ชาวไทยและชาวพุทธที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและชาวไทยในประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ภายใต้การ
อุปถัมภ์ของมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีพระสมเด็จญาณสังวร สมเด็จ
พระสงั ฆราช สกลมหาสงั ฆปรนิ ายก เป็นองค์นายกกรรมการมูลนธิ ิฯ มพี ระปรีชาญาณวิเทศ (พระมหาศุภชัย
ติกขฺ วีโร) เปน็ เจ้าอาวาส
คุณค่าทางสังคม
-ชว่ ยจัดหาหนงั สือเกีย่ วกับพระพุทธศาสนามอบให้แก่สถานศึกษารวมทั้งการจัดสง่ ผู้ท่ีมคี วามรู้ความสามารถ
เกีย่ วกับพระพทุ ธศาสนาไปบรรยายตามโรงเรียนท่ีเสนอขอมา-ได้ใหค้ วามร่วมมือในงาน Multicultural โดย
ส่งตัวแทนของวัดเข้าร่วมประชุมวางแผนจัดงานร่วมออกร้านจำหน่ายอาหารไทย และการแสดงเก่ียวกับ
วฒั นธรรมไทยทกุ ปี
จะเห็นได้ว่าพระธรรมทตู โดยการนำของท่านพระมหาศุภชัย ติกขฺ วโี ร เจ้าอาวาสวดั ธมั มธโรและคณะสงฆ์ ได้
ปฏิบัติหน้าท่ีได้สำเร็จผลเป็นอย่างดี ไม่เพียงแต่เป็นที่พ่ึงทางใจของพระพุทธศาสนิกชนชาวไทยเท่านั้น ยังมี
ชาวพม่า ลาว เวียดนาม ศรีลังกา ออสเตรเลีย และผู้สนใจพระพุทธศาสนาหล่ังไหลกันเข้ามาหาท่ีพึ่งทางใจ
มากข้นึ ทุกวนั นับว่าวัดธัมมธโรประสบความสำเรจ็ เปน็ อยา่ งย่ิงในชั่วระยะเวลาอันสนั้ ท้ังน้กี ็เพราะพระธรรม
ทูตทกุ รปู และคณะกรรมการ ทม่ี ีความเสยี สละ อดทนตอ่ ความยากลำบาก และมคี วามสามัคคี
เอกสารอา้ งอิง
ทา่ นคมสรณ.์ (2552). ความเป็นมาของวัดธมั มธโร. สบื ค้น 20 กมุ ภาพนั ธ์ 2565,
จาก http://oknation.nationtv.tv/blog/mylifeandwork/2009/06/06/entry-1

ศาสนสถานในดนิ แดนทวีปยุโรป ทวีปอเมรกิ าเหนอื ทวีปอเมรกิ าใต้ ทวปี ออสเตรเลีย ทวีปแอฟริกาใต้

ทวีปแอฟรกิ าใต้

วดั น่านหัว
ที่มา : https://th.tripadvisor.com/Attraction_Review-g1647204-d7602107-Reviews-
Nan_Hua_Temple-Bronkhorstspruit_Gauteng.html

60

วัดนา่ นหวั

เป็นวัดท่ีใหญ่ท่ีสุดของชาวพุทธ ตั้งอยู่ในสวน Cultura ชานเมืองของ Bronkhorstspruit แอฟริกาใต้
เป็นสำนักงานใหญ่ของแอฟริกาของคณะ Fo Guang Shan (ภูเขาแห่งแสงของพระพุทธเจ้า) ก่อต้ังข้ึนในปี
1967 โดยหลวงโทสิงยูนและเป็นมหายานจีนพุทธศาสนาวัดเพื่อ วัดเหมือนแม่ในไต้หวันตามโรงเรียน Linji
Chan ของพระพุทธศาสนาเช่นเดียวกับโรงเรียน Pure Land วัดสามารถสืบย้อนไปถึงรากเหง้าของวัด
ย้อนหลังไปถึง 8 มีนาคม 1992 เมื่อสภาเมือง Bronkhorstspruit ภายใต้ผู้บริหารระดับสูงและอดีต
รัฐมนตรีกระทรวงคริสตจักร ดร. เฮนน่ี เซเนกัล ซึ่งเคยไปเยือนไต้หวันก่อนหน้านี้เพ่ือส่งเสริมโอกาสการ
ลงทุนในเมืองของเขา ได้บริจาคท่ีดินหกเฮกตาร์ให้กับ นิกาย Fo Guang Shan สำหรับศูนย์วัฒนธรรมและ
การศึกษาทาง พุทธศาสนาของจีน วัดน่านหัวได้เปิดสาขาในเมืองอ่ืน ๆ ของแอฟริกาใต้ในโจฮันเน , ฟอน
เทน , นิวคาสเซิเดอร์บันและเคปทาวน์ พวกเขายงั มสี ่วนร่วมอย่างมากในโครงการช่วยเหลอื ชุมชน การกุศล
วัฒนธรรม และเรือนจำ วัดยังมีศูนย์ฝึกสมาธิ ศูนย์วิปัสสนาเปิดกว้างสำหรบั ทุกคน ท้ังสงฆ์และฆราวาสและ
ไม่เลือกปฏิบัติบนพื้นฐานของศาสนา สัญชาติ เพศ หรือปัจจัยอื่น สุดเด่นของวัดน่านหัวจะเป็นสถานท่ี
เยน็ สบาย เหมาะสำหรบั นง่ั สมาธิ ตง้ั สติ ผอ่ นคลาย

เอกสารอ้างอิง
วดั น่านหัว แอฟรกิ าใต้. สืบค้น 19 กมุ ภาพนั ธ์ 2565, จาก
https://hmong.in.th/wiki/Nan_Hua_Temple

ศาสนสถานในดนิ แดนทวีปยุโรป ทวปี อเมรกิ าเหนือ ทวปี อเมรกิ าใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวีปแอฟริกาใต้

Nizamiye Masjid
ท่ีมา : https://www.islamicthai.com/?p=4212

62

Nizamiye Masjid

มัสยิดดังกล่าวมีหออะซานสูง 55 เมตร และมีโดมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 24 เมตร มแบบมัสยิด
Selimiye ในเมือง Edirne ของตุรกีซึ่งสร้างในสมัยศตวรรษที่ 16 เป็นอาคารสีเหลือง ประดับด้วยกระเบื้อง
lznik สีครามนำเข้าจากประเทศตรุกี ต้ังอยู่บนเส้นทางหลวงหลักระหว่างเมืองหลวงปรีโตเรีย และเมืองโจ
ฮันเนสเบิร์กซ่ึงเป็นเมืองหลักทางด้านเศรษฐกิจ ใช้เวลาสร้าง 3 ปี ในโอกาสพิเศษ มัสยิดจะสว่างไสวด้วย
แสงสีเขียวและสีมว่ งในตอนกลางคืน
คุณคา่ ทางสังคม
มัสยิดเป็นศูนย์กลางแห่งวัฒนธรรมอิสลาม เป็นเอกลักษณ์ แห่งความเป็นเอกภาพของอัลลอฮฺ ท่ีใช้สำหรับ
แสดงความภักดีต่อพระเจ้าร่วมกันตามแนวทิศทางกิบละฮ์ มีความสะอาด สงบ เป็นสัดเป็นส่วน และ
ปลอดภัยจากส่ิงรบกวนตา่ ง ๆ

เอกสารอ้างองิ
Islamic thai(2565) ,Nizamiye Masjid มัสยิดที่ใหญใ่ นประเทศแอฟริกาใต้ สบื ค้น 20 กุมภาพนั ธ์ 2565,
จาก https://www.islamicthai.com/?p=42122

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยโุ รป ทวปี อเมรกิ าเหนอื ทวปี อเมรกิ าใต้ ทวปี ออสเตรเลยี ทวีปแอฟริกาใต้

สรุป

ศาสนาพระพุทธ มีศาสนสถานเป็นสถานท่ีประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เช่น วัด โบสถ์ ศาลาการเปรียญ
มีพระสงฆ์เป็นศาสนบุคคลทำหน้าท่ีสืบต่อพระพุทธศาสนาอีกท้ังศาสนาพระพุทธยังได้มีการเผยแพ่ไปยังทวีป
ต่าง ๆ จนมีศาสนสถานของศาสนาพุทธในทวีปต่าง ๆ โดยเราจะยกตัวอย่างทวีปและศาสนสถานของศาสนา
พทุ ธทอี่ ยใู่ นทวีปนน้ั ๆ ดงั น้ี ทวปี ยโุ รป วดั ศรนี ครนิ ทรวรารามวัดไทยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่ถอื วา่ เป็นช่ือ
ซ่ึงประชาชนรู้จักกันเป็นอย่างดี มีการเริ่มก่อต้ังในรูปแบบของสมาคมวัดไทยเป็นศูนย์เผยแพร่และศึกษา
พระพุทธศาสนา วัดพุทธปทปี เป็นพระอุโบสถไทยแห่งแรกในทวปี ยุโรปและกลายเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรม
ทางศาสนาของชาวไทยในสหราชอาณาจักรและยังเคยได้รับรางวัล จิตรกรรม วัดพุทธปทีป ได้กลายเป็นหน่ึง
ในผลงานที่สรา้ งชื่อเสียง และสง่ อิทธิพลต่อการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน ในแนวทาง ‘พุทธศิลป์ ทวีปอเมริกาเหนือวัด
มงคลรัตนารามวัดแหง่ แรกท่เี มอื งนรี้ ่วมกันเพอ่ื เป็นจุดศูนยก์ ลางใหก้ บั พุทธศาสนิกชนจำนวนมากของชาวไทยท่ี
อาศัยอยู่ในเมืองนี้ มีไว้เพื่อทำบุญ ก่อนจะมีการได้รับอนุญาตให้สร้างวัดขึ้นอย่างถูกต้องตามกฎหมายของ
ฟลอรดิ า ถือว่าเป็นวัดลำดับท่ี 6 ในสงั กัดสมชั ชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมรกิ าและวัดนวมนิ ทรราชูทิศจัดสร้างวดั นว
มนิ ทรราชูทิศ ก็เพ่อื เฉลิมพระเกยี รติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั เนอ่ื งในโอกาสฉลองสริ ริ าชสมบัตคิ รบ 60 ปี
และเป็นอนุสรณ์ท่ีพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว มีพระราชสมภพที่เมืองบอสตัน โดยได้มีการสร้างอุโบสถและ
ตัววัดตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554เปน็ วัดไทยในต่างประเทศท่ใี หญ่ท่ีสดุ ในโลก ทวีปอเมริกาใต้วดั วัดจูลาย (Zu Lai)เป็น
วัดพุทธที่ใหญ่ท่ีสุดในทวีปอเมริกาใต้ซึ่งเป็นวัดในพระพุทธศาสนา ในเมืองโคเทีย ประเทศบราซิลในปี 1992
อาจารย์ชาวพุทธศาสนาHsing Yunมาถึงบราซิลโดยคำเชญิ ของวดั พุทธในเซาเปาโลเพ่ือทำพิธี พระภิกษุที่ร่วม
เดินทางจือเฉิงตัดสินใจที่จะอยู่ในประเทศและเริ่มโครงการใหม่โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือเผยแพร่ประเพณีทาง
พุทธศาสนาวัดพุทธในฟอส โด อีกวาซูตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำปารานา มีสถาปัตยกรรมท่ีงดงามตามแบบเอเชียและ

64

ชาวพุทธ ต้ังอยู่ในสวนขนาด 100 ไร่ และเป็นวัดพุทธที่ใหญ่ท่ีสุดแห่งหนึ่งในลาตินอเมริกาใต้ สร้างข้ึนโดย
ชุมชนชาวเอเชียในปี 1996 เป็นวัดที่เงียบสงบและสร้างความหลากหลายให้แก่วัฒนธรรมของบราซิลจุดเด่น
ของวัดคือพระพุทธรูปท่ีมีมากกว่า 120 องค์ประติมากรรมอีกชิ้นหนึ่งท่ีควรค่าแก่การเย่ียมชม คือ รูปป้ันพระ
โพธิสัตว์สีสันสดใสทรงช้างและมังกร ซึ่งทำหน้าท่ีปกป้องพระพุทธรูป 108 องค์ท่ีใช้พระหัตถ์เป็นสัญลักษณ์
ของการต้อนรับและพลังงานเชิงบวก พระอุโบสถเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของงานสถาปัตยกรรมทางพุทธ
ศาสนาและใช้เป็นสถานท่ีทำสมาธิ ทวีปออสเตรเลียวัดพุทธรังษีเป็นวัดไทยนิกายเถรวาท ที่เป็นที่ยึดเหนี่ยว
จิตใจของคนไทยในซิดนีย์ เพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา และช่วยเหลือสาธารณสงเคราะห์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับ
ศาสนา วัดพุทธรังษี แอนนันเดล ลักษณะภายในวัดสวยงามกว้างขวาง เหมาะที่จะประกอบพิธีกรรมต่างๆ ได้
ตามความเหมาะสม อีกทั้งตัววัดก็ไม่ไกลจากกลางเมืองซิดนีย์มากนัก ทำให้การเดินทางคมนาคมมีความ
สะดวกสบายและวัดธัมมธโรเป็นวัดไทยในบวรพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท สังกัดคณะธรรมยุต และอยู่ใน
ความอุปถัมภ์ของมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นอารามแห่งแรกและมีอยู่วัดเดียวใน
กรุงแคนเบอร์รา เร่ิมก่อต้ังเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๓๖ ด้วยกุศลจิตศรัทธาอันแรงกล้า ของคณะกรรมการ
มูลนิธิธรรมธารา พร้อมทั้งพุทธศาสนิกชน จากหลายเชื้อชาติ ร่วมกันดำเนินการก่อสร้างวัดธัมมธโร โดย
ความเห็นชอบ และสนับสนุน จากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงแคนเบอร์ราทวีปแอฟริกาใต้วัดน่านหัว
เป็นวัดที่ใหญ่ท่ีสุดของชาวพุทธเป็นสำนักงานใหญ่ของแอฟริกาและ nizamiye mosqueมัสยิดเป็นศูนย์กลาง
แห่งวัฒนธรรมอิสลาม เป็นเอกลักษณ์ แห่งความเป็นเอกภาพของอัลลอฮฺ ที่ใช้สำหรับแสดงความภักดีต่อพระ
เจา้ ร่วมกันตามแนวทศิ ทางกิบละฮ์ มคี วามสะอาด สงบ เป็นสัดเปน็ สว่ น และปลอดภยั จากสงิ่ รบกวนต่าง ๆ ใน
ส่วนของมศาสนสถานของศาสนาพุทธในทวีปตา่ ง ๆ ที่เรานำมาใหด้ ูน้ันจะมีเพียงศาสนสถานวัดพุทธปทีปเพียง
ท่ีเดยี วท่ไี ดร้ บั รางวลั

ศาสนสถานในดินแดนทวปี ยุโรป ทวปี อเมรกิ าเหนือ ทวปี อเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลยี ทวปี แอฟรกิ าใต้

66

บทท่ี 3
ศาสนสถานของศาสนาคริสต์
แทรกรูปได้ให้มรี ปู แบบเดยี วกนั ทกุ บท

แทรกรูปได้ใหม้ รี ปู แบบเดียวกันทกุ บท

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยโุ รป ทวปี อเมรกิ าเหนอื ทวีปอเมริกาใต้ ทวปี ออสเตรเลีย ทวปี แอฟรกิ าใต้

ส่วนนำ

ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาที่ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียว เชื่อว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกและทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่ง
ศาสนาคริสต์มีวิวัฒนาการมาจากศาสนายูดาย (ฮิบบรู) หรือศาสนายิว ซึ่งมีโมเสสเป็นศาสดา โดยมีความเชื่อ
บางส่วนเหมือนกันโดยเฉพาะคัมภีร์ไบเบิลฮิบรู ซึ่งคริสต์ศาสนิกชนเรียกว่า พันธสัญญาเดิม
(The Old teatament)

ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาประเภทเทวนิยม นับถือพระเจ้าพระองค์เดียว (เอกเทวนิยม) คือ เมสสิอาห์
หรือพระยะโฮวาร์ หรือที่คริสต์ศาสนิกชนเชื่อว่า คือ พระเยซู กำเนิดหลังพระพุทธศาสนา 543 ปี (พ.ศ. 542)
โดยคริสต์ศาสนิกชนเชื่อว่าพระเยซูเป็นบุตรของพระเจ้าที่มาบังเกิดเป็นมนุษย์จากหญิงพรหมจรรย์ โดยฤทธิ์
อำนาจของพระเจ้าเพื่อไถ่มนุษย์ให้พ้นจากความบาปโดยการสิ้นพระชนม์ที่กางเขน และทรงฟื้นขึ้นจากความ
ตาย เสด็จสู่สวรรค์ โดยผู้ที่เช่ือใจและไว้วางใจในพระองค์จะได้รับการอภัยโทษบาปและจะรอดพ้นจากการถกู
พิพากษาให้ตกนรก และพิพากษาให้ได้รับบำเหน็จรางวัลในวันสิ้นโลก (Amagadon) แต่ถ้าผู้ใดไม่เชื่อจะถูก
ปรับโทษหลังความตาย จากความเชื่อดังกล่าวทำให้เกิดพิธีกรรมในคริสต์ศาสนาเรียกว่า "ศีลศักดิ์สิทธิ์"
หมายถึงเครื่องหมายภายนอกที่พระเยซูคริสต์ทรงตั้งขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยใ ห้คนไปสู่ความหลุดพ้นจาก
ความทกุ ข์

เมือ่ เกิดพิธีกรรมทำให้มศี าสนสถานเกิดขนึ้ เพอื่ เป็นศูนย์กลางของผู้คนในศาสนาคริสต์ที่จะไถ่บาปหรือร่วม
ทำพิธีกรรม ส่วนในเรือ่ งของความเชือ่ ได้สือ่ ออกมาในรูปแบบของงานสถาปัตยกรรมตามความเช่ือทางศาสนา
และงานจิตรกรรมภายในโบสถ์อย่างสวยงาม ในทางคริสตศ์ าสนา โบสถ์ หมายถึง อาคารหรือสถานที่ที่ผู้นับถือ
ศาสนาคริสต์มารวมกันเพื่อประกอบพิธีหรือทำศาสนกิจร่วมกัน คำว่าโบสถ์ในภาษาอังกฤษ หรือ " church"

69

อาจมีความหมายกว้างขึ้นหมายถึง คริสตจักร ซึ่งคริสตจักรในความหมายตามพระคัมภีร์ หมายถึง ประชากร
หรอื ชุมชนของพระเจ้า พระคมั ภรี ์เดิมฉบับแปลกรกี (เซปทวั จินต์) ใช้คำกรีกคำน้เี พอ่ื แปลคำว่า "ชุมชน"

ความเจริญของศาสนาคริสต์ได้มีมายาวนานจนถึงยุคล่าอาณานิคมของพวกจักรวรรดินิยมชาวยุโรปและ
อเมริกัน ซึ่งอยู่ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 15 – 16 ศาสนาคริสต์ได้ถูกนำไปเผยแพร่ในประเทศต่าง ๆ ที่นักล่า
อาณานิคมเหล่านี้ไปถึง ทำให้คริสต์ศาสนิกชนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทั้งในทวีปยุโรป แอฟริกา อเมริกา เอเชีย
และออสเตรเลีย

ศาสนาคริสตแ์ บ่งออกเป็น 3 นิกายใหญ่ ๆ ไดแ้ ก่ นกิ ายออรท์ อดอกซ์ แปลวา่ ถูกตอ้ งและดั้งเดมิ ปฏิบัติตาม
หลักการของศาสนาคริสต์ในยุคแรกเริ่มโดยถือว่าคริสตจักรออร์ทอดอกซ์เป็นคริสตจักรแท้จริงเพียงหนึ่งเดียว
ที่ก่อตั้งโดยพระเยซู โดยสืบเนื่องมาจากลูกศิษย์ชุดแรกของพระเยซูคริสต์ คริสตจักรออร์ทอดอกซ์แบ่งการ
ปกครองเป็นครสิ ตจักรส่วน ๆ แต่ละคริสตจักรมีสังฆราชคนหน่ึงเปน็ ประมุข ส่วนนิกายโรมันคาทอลิก แปลวา่
สากลเดมิ เปน็ สว่ นหนึ่งของนิกายออร์ทอดอกซ์ท่ียึดมั่นในหลักคำสอนของพระเยซคู รสิ ต์ เคารพพระนางมารีย์
และนักบุญต่าง ๆ มีศูนย์กลางการปกครองอยู่ที่นครรัฐวาติกัน มีพระสันตะปาปาเป็นประมุข และนิกาย
โปรเตสแตนต์ แปลวา่ คดั คา้ น แยกตัวมาจากนิกายโรมันคาทอลิก เปน็ นิกายท่ถี ือว่าศรทั ธาของแต่ละคนที่มีต่อ
พระเจา้ สำคญั กว่าพธิ ีกรรม นกิ ายนี้ไม่มีนักบวชเพราะเช่ือวา่ ทุกคนสามารถเข้าถึงพระเจ้าได้โดยไม่ต้องอาศัย
บาทหลวง มีเพยี งคนธรรมดาทีเ่ ปน็ นกั เทศน์คอยให้คำปรึกษากบั ผ้ทู ีเ่ ชอื่ ในศาสนา

นำเสนอศาสนสถานที่สำคัญของศาสนาคริสต์ในทวีปยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ ทวีป
ออสเตรเลยี ทวีปแอฟริกาใต้ ดงั รายละเอยี ดต่อไปน้ี

ศาสนสถานในดนิ แดนทวีปยโุ รป ทวปี อเมรกิ าเหนือ ทวปี อเมริกาใต้ ทวปี ออสเตรเลีย ทวปี แอฟริกาใต้

ทวีปยุโรป

ใส่รปู ภาพเตม็ หนา้

หอศีลจุ่มเนโอเนียน
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/หอศีลจุ่มเนโอเนียน#/media/ไฟล์:
Ravenna_Baptistry_of_Neon.jpg

71

หอศีลจ่มุ เนโอเนียน

หอศีลจุ่มเนโอเนียน (Baptistry of Neon) เป็นศาสนสถานของศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกที่
ตั้งอยู่ในเมืองราเวนนา แคว้นพีดมอนต์ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ซึ่งเมืองราเวนนาเป็นเมืองที่ได้รับ
เลอื กจากองค์การยูเนสโกใหข้ ึ้นทะเบียนเปน็ มรดกโลกทางวฒั นธรรมในปคี รสิ ต์ศักราช 1996

หอศีลจุ่มเนโอเนียนเป็นสิง่ ก่อสร้างที่เก่าท่ีสุดแหง่ หน่ึงในเมืองราเวนนา สร้างขึน้ โดยสังฆราชเออร์ซัสใน
ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 4 ถึงต้นศริสต์ศตวรรษที่ 5 สร้างหอศีลจุ่มเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยม มีการตกแต่งด้วย
โมเสก การสร้างเป็นทรงแปดเหลี่ยมเนื่องจากตรงกับลักษณะของการสร้างหอศีลจุ่มโดยทั่วไปในสมัยการ
ก่อสร้างสถาปัตยกรรมคริสเตียนตอนต้น ซึ่งเป็นลักษณ์ของเวลาเจ็ดวันบวกกับอีกหนึ่งวันที่เป็นวันคืนชีพ
และวันแห่งชีวิตอันเป็นอมตะ จอศีลจุ่มเนโอเนียนเป็นสิ่งก่อสร้างที่สมบูรณ์และอยู่ในสภาพที่ดีที่สุดที่ยัง
เหลือให้เห็นเป็นตัวอย่างของหอศีลจุ่มของคริสเตียนตอนต้นที่ยังรักษาความงดงามของรูปทรงในศิลปะที่มี
อิทธพิ ลมาจากกรกี และโรมนั

เอกสารอ้างองิ
abroad tour. (ม.ป.ป.). หอศีลจมุ่ เนโอเนียน มรดกโลก ประเทศอติ าล.ี สบื คน้ 19 กุมภาพนั ธ์ 2565,

จาก http://www.abroad-tour.com/italy/world_heritage/baptistry_of_neon

ศาสนสถานในดนิ แดนทวีปยโุ รป ทวีปอเมรกิ าเหนือ ทวปี อเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวปี แอฟรกิ าใต้

ใส่รูปภาพเต็มหนา้

อาสนวิหารกลอสเตอร์
ทีม่ า : https://th.stuklopechat.com/puteshestviya/100388-glosterskiy-sobor-volshebnyy-
ugolok-velikobritanii.html

73

อาสนวหิ ารกลอสเตอร์

อาสนวิหารกลอสเตอร์ (Gloucester Cathedral) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเมืองกลอสเตอร์ ประเทศ
อังกฤษ แต่เดิมเป็นแอบบีย์ที่อุทิศให้กับนักบุญเปโตร เมื่อประมาณปีคริสต์ศกั ราช 678-679 มาเปลี่ยนเป็น
อาสนวิหาร เมื่อปีคริสต์ศักราช 1541 เมื่อปีคริสต์ศกั ราช 1072 พระเจ้าวิลเลียมที่1 แห่งอังกฤษ แต่งตั้งให้
อธกิ ารแซรล์ อ จากประเทศอังกฤษมาปกครองอาสนวหิ ารน้ี ในตอนน้ันอาสนวิหารกลอสเตอร์อยู่ในสภาพที่
เสือ่ มโทรมเปน็ อยา่ งมาก แซรล์ อได้พัฒนาปรับปรงุ สร้างขึ้นมาใหม่จนเปน็ อยา่ งทีเ่ ห็นกนั ในปัจจบุ ัน

อาสนวิหารกลอสเตอร์เป็นอาสนวิหารที่สร้างขึ้นมาแบบโรมาเนสก์ต่อมาได้ต่อเติมเป็นแบบกอทิกที่
สวยงามมาก ภายในมบี านหน้าต่างประดับกระจกสี ในชอ่ งเล็ก ๆ ของบานหน่ึงซงึ่ ทำเม่ือปี ค.ศ. 1350 มีรูป
คล้ายคนเล่นกอล์ฟ เชื่อกันว่าเป็นหลักฐานชิ้นแรกที่กล่าวถึงกีฬาเล่นกอล์ฟ รูปนี้ทำขึ้นก่อนรูปที่พบ
สกอตแลนด์ ประมาณ 300 ปีนอกจากน้นั ก็ยังมรี ปู คนเลน่ ฟุตบอลซึ่งเช่ือกันว่าเปน็ รูปการเล่นฟุตบอลท่ีเป็น
หลักฐานเก่าที่สุดจากยุคกลาง ตัวโบสถ์ด้านในเป็นเพดานสมัยอังกฤษตอนต้น มีห้องใต้ดินสำหรับเก็บศพ
แบบโรมาเนสก์อยู่ภายใต้บริเวณที่ร้องเพลงสวด ห้องใตด้ ินของอาสนวิหารน้ีเป็นเพียงหน่ึงในส่ีของสถานที่ท่ี
หลงเหลอื อยูใ่ นประเทศอังกฤษ ซึ่งอาสนวิหารนี้เป็นทีต่ ้ังของหลุมพระศพพระเจา้ เอ็ดเวริ ์ดที่2 อาสนวิหารน้ี
มั่งคั่งขึ้นมาด้วยรายได้จากนักแสวงบุญที่มาถวายความเคารพที่ฝังพระศพ อาสนวิหารนี้ยังเป็นสถานที่
ประกอบพิธรี าชาภิเษกของพระเจ้าเฮนรที ี่3 และยังเป็นโลเคชนั่ ท่ีถ่ายทำภาพยนตร์เรือ่ งแฮรร์ ี่ พอตเตอรด์ ้วย
เอกสารอา้ งอิง
สำรวจโลก. (2556.). มหาวิหารกลอสเตอร์ : Gloucester Cathedral. สืบค้น 19 กมุ ภาพันธ์ 2565

จาก http://www.nextsteptv.com/มหาวหิ ารกลอสเตอร์-gloucester-cathedral/

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวปี อเมริกาเหนอื ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวปี แอฟรกิ าใต้

ทวีปอเมริกาเหนอื

ใส่รปู ภาพเต็มหนา้

Mexico City Metropolitan Cathedral
ทีม่ า : https://en.wikipedia.org/wiki/Mexico_City_Metropolitan_Cathedral

75

Mexico City Metropolitan Cathedral

มหาวิหารเม็กซิโกซิตี้เป็นโบสถ์คริสตจักรของอัครสังฆมณฑลคาทอลิกของประเทศเม็กซิโก ตั้งอยู่บนพื้นท่ี
ศักดิ์สิทธิ์ใกล้กับ Templo Mayor วิหารหลวงของประเทศเทศเม็กซิโก โบสถ์ถูกสร้างขึ้นโดยสถาปนิกชาว
สเปน ใชร้ ะยะเวลาในการสร้างตง้ั แตป่ ีคริสต์ ศักราช 1573-1813 เปน็ เวลา 240 ปี โดยสถาปัตยกรรมมีการ
ผสมผสานรูปแบบระหว่างบาร็อค นโี อคลาสสกิ และนโี อเรอเนซองส์ และได้รับแรงบนั ดาลใจในการสร้างมา
จากมหาวิหารแบบโกธกิ ในประเทศสเปน

มหาวิหารแห่งนี้เคยถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับพิธีราชาภิเษกของ Agustín de Iturbide สมเด็จพระ
จักรพรรดิแห่งเม็กซโิ ก อีกทั้งยังใช้สำหรับเก็บพระบรมศพของสมเด็จพระจักรพรรดกิ ับพระมเหสี รวมถึงใช้
เก็บพระศพของวีรบุรุษผู้ประกาศอิสรภาพหลายคน ทำให้มหาวิหารเม็กซิโกซิตี้ถือเป็นสถานที่ที่สำคัญทาง
ประวตั ศิ าสตร์ และใชส้ ถานท่แี หง่ นใี้ หเ้ ปน็ สถานทีใ่ นการทำกิจกรรมทางด้านสงั คมเช่น การประทว้ งเกี่ยวกับ
ปัญหาของสตรี การประท้วงต่อต้านการลักพาตัวในประเทศเม็กซิโก และการประท้วงการต่อต้านการทำ
แทง้ อย่างถูกกฎหมาย

เอกสารอา้ งอิง
Wikipedia. (2022). Mexico City Metropolitan Cathedral. สืบค้น 17 กุมภาพนั ธ์ 2565,

จาก https://en.wikipedia.org/wiki/Mexico_City_Metropolitan_Cathedra

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวปี อเมรกิ าเหนอื ทวปี อเมรกิ าใต้ ทวปี ออสเตรเลีย ทวปี แอฟริกาใต้

ใส่รปู ภาพเตม็ หนา้

Notre-Dame Basilica of Montreal
ทีม่ า : https://www.cntraveler.com/activities/montreal/notre-dame-basilica-of-montreal

77

Notre-Dame Basilica of Montreal

มหาวิหารนอเทรอดามเดอมอนทรีออลเป็นโบสถ์หลักของเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ในปี
1989 ถูกกำหนดให้เป็นโบราณสถานแห่งชาติของประเทศแคนาดา ถือเป็นสถานที่แห่งแรกในประเทศ
แคนาดาทใ่ี ชส้ ถาปัตยกรรมรูปแบบนโี อกอธิค สมาคมนักบวชแห่ง Saint Sulpice ไดส้ ร้างกฎหมายขึ้น โดย
มีการกำหนดใหม้ หาวิหารนอเทรอดามเดอมอนทรีออลไมส่ ามารถแยกออกจากเมืองมอนทรีออลได้

มหาวหิ ารนอเทรอดามเดอมอนทรอี ออลมีความสำคัญอย่างมากทางดา้ นศาสนา เนื่องจากเป็นสถานที่ใช้
สำหรับการละหมาดและเฉลิมฉลองการสักการะของนิกายคาทอลิก อีกทั้งสถานที่แห่งนี้ยังมีวัฒนธรรมที่
สำคัญ คอื การเฉลิมฉลองการก่อตั้งเมอื งประจำปี
ในแต่ละปจี ะมีการจัดนทิ รรศการและการแสดง ซึ่งสามารถดึงดูดนักทอ่ งเทีย่ วจากทัว่ ทุกมุมโลก อีกทั้งผูท้ ี่
เข้าเยี่ยมชมมีโอกาสได้สัมผัสกับความสวยงามของสถาปัตยกรรมภายในตัวมหาวิหารและได้เรียนรู้เกีย่ วกบั
ประวตั ศิ าสตรท์ างศาสนาของรฐั ควิเบก

เอกสารอ้างองิ
BASILIQUE NOTRE-DAME DE MONTREAL. Histoire. สืบคน้ 17 กุมภาพันธ์ 2565, จาก

https://www.basiliquenotredame.ca/fr/a-propos/histoire

ศาสนสถานในดนิ แดนทวีปยโุ รป ทวปี อเมรกิ าเหนอื ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลยี ทวปี แอฟริกาใต้

ทวปี อเมรกิ าใต้

ใส่รปู ภาพเตม็ หนา้

วิหาร San Carlos Borromeo
ที่มา : https://hmong.in.th/wiki/Cathedral_of_San_Carlos_Borromeo_%28Monterey,_
California%29

79

วิหาร San Carlos Borromeo

โบสถแ์ หง่ น้กี อ่ ต้งั โดยนักบญุ ฟรานซิสกันนกั บุญJunípero Serraเปน็ โบสถข์ องมชิ ชน่ั ซานคารล์ อส
บอรโ์ รเมโอ เด คาร์เมโลเมื่อวันที่ 3 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2313 คุณพ่อเซอรร์ าได้ก่อต้งั ภารกิจเดิมในมอนเทอร์เรย์
ที่สถานทนี่ ้ีเมือ่ วนั ท่ี 3 มิถนุ ายน พ.ศ. 2313 ใกล้หมบู่ ้านพ้นื เมอื งของทาโม อยา่ งไรก็ตาม คุณพอ่ เซอร์ราเร่ิม
ต่อสู้แย่งชิงอำนาจอย่างดุเดือดกับผู้ว่าการทหารเปโดร ฟาเกสซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เป รซิดิโอแห่งมอน
เทอร์เรยแ์ ละทำหน้าท่ีเป็นผ้วู ่าการอลั ตาแคลิฟอรเ์ นยี ระหว่างปี ค.ศ. 1770 ถงึ พ.ศ. 2317 เซอร์ราตัดสินใจ
ย้ายภารกิจออกจากเพรสซิดิโอ และในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2314 อุปราชของสเปนได้อนุมัติคำร้องของ
เซอร์ราให้ย้ายภารกิจไปยังตำแหน่งปัจจุบันใกล้ปากแม่น้ำคาร์เมลและเมืองคาร์เมลบายเดอะซี รัฐ
แคลิฟอรเ์ นียในปจั จบุ นั

เมื่อภารกิจถูกย้ายไม้ที่มีอยู่และAdobeอาคารกลายเปน็ ซานโฮเซ่ชาเปลสำหรับPresidio เนยแข็ง มอน
เทอร์กลายเป็นเมืองหลวงของจังหวัด Californiasใน 1777 และโบสถ์ถูกเปลี่ยนชื่อรอยัล Presidio โบสถ์
โบสถเ์ ดิมในปี ค.ศ. 1770-71 พร้อมด้วยอาคารอื่นๆ ใน presido ถูกทำลายดว้ ยไฟท่เี กดิ จากปืนคารวะในปี
ค.ศ. 1789 และถูกแทนที่ด้วยโครงสร้างหินทรายในปัจจุบันที่สร้างข้ึนระหว่างปี ค.ศ. 1791 ถึง ค.ศ. 1795
เสร็จสมบูรณใ์ นปี พ.ศ. 2337 โดยแรงงานชาวอินเดยี ใน 1840 โบสถ์ rededicated การอุปถมั ภ์ของSaint
Charles Borromeo
เอกสารอา้ งอิง
Hmong. (2020). "โบสถ์ Royal Presidio แหง่ San Carlos Borromeo". สบื ค้น 21 กมุ ภาพนั ธ์

2565, จาก https://hmong.in.th/wiki/Cathedral_of_San_Carlos_Borromeo

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวีปอเมรกิ าเหนอื ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวีปแอฟริกาใต้

ใส่รปู ภาพเตม็ หนา้

วิหาร Buenos Aires Metropolitan
ทีม่ า : https://www.yingpook.com/blogs/world/10-best-in-argentina

81

วิหาร Buenos Aires Metropolitan

มหาวิหาร Buenos Aires Metropolitan เป็นผลงานสถาปัตยกรรรมชิ้นเอกและเป็นโบสถ์คาทอลิก
หลักในเมืองหลวงของอาร์เจนตินา ที่นี่จะได้ชมหลุมศพนายพลชาวอาร์เจนตนิ าที่มีชื่อเสียงที่เป็นทีร่ ู้จักและ
ช่ืนชมงานศิลปล์ ะเอยี ดประณตี

ในปี 1580 ผู้ก่อตั้งกรุงบัวโนสไอเรส Juan de Garay ที่ได้กำหนดที่ดินผืนหนึ่งให้เป็นที่ตั้งโบสถ์หลัก
แห่งแรกของเมือง มหาวิหารในปัจจุบันตั้งอยู่บนที่ดินผืนนั้น สถาปนิกชาวยุโรปได้สร้างมหาวิหารนี้ขึ้นโดย
ผสมผสานสไตล์สถาปัตยกรรมยุคศตวรรษที่ 18 และ 19 เข้าด้วยกัน ส่วนหน้าของโบสถ์ประกอบด้วยเสา
แบบกรกี โบราณ 12 ช้นิ ซ่งึ ส่ือถึงสาวกทัง้ 12 ทา่ น เหนือเสาขึ้นไปเปน็ จติ รกรรมฝาผนังแบบแกะสลักแสดง
ถึงเหตกุ ารณท์ โ่ี ยเซฟกลบั มาพบกับพนี่ ้องและบดิ าคือยาโคบ

เมื่อเข้ามาภายในโบสถ์จะได้ชื่นชมช่องทางเดินที่มีซุ้มโค้งสูงอยู่เบื้องบน และพบกับหลุมศพ ภาพปูน
เปียก รวมถึงของประดับตกแต่งต่าง ๆ รวมถึงชมสุสานหินอ่อนอันละเอียดงดงามของนายพลโฮเซ เด ซาน
มาร์ติน วีรบุรุษของชาติผู้นำการปฏิวัติต่อต้านการครอบครองของสเปนในอาร์เจนตินาและชาติอื่นๆ ใน
อเมริกาใต้ นอกจากนี้ หลุมศพดังกล่าวยังเป็นทีบ่ รรจุร่างของ Juan Gregorio de las Heras และ Tomás
Guido นายพลที่โดดเด่นสองท่านจากสงครามปลดปล่อยอาร์เจนตินาและในคืนวันคริสต์มาสอีฟ ที่นี่ก็เป็น
สถานท่จี ัด Noche Buena หรือพิธีมิสซาเที่ยงคนื ท่ีสำคญั ทส่ี ุดของอารเ์ จนตนิ าอีกดว้ ย
เอกสารอ้างองิ
Expedia. (2019). วหิ าร Buenos Aires Metropolitan. สบื คน้ 20 กุมภาพันธ์ 2565,จาก

https://www.expedia.co.th/Buenos-Aires-Metropolitan-Cathedral-Buenos-
Aires.d6060881.Place-To-Visit

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวปี อเมรกิ าเหนอื ทวปี อเมริกาใต้ ทวปี ออสเตรเลยี ทวปี แอฟรกิ าใต้

ทวีปออสเตรเลยี

ใส่รปู ภาพเตม็ หนา้

โบสถ์เซนต์ชาร์ลส์
ท่มี า : https://www.expedia.co.th/St-Charles-Church-Wieden.d6070467.Place-To-Visit

83

โบสถเ์ ซนตช์ าร์ลส์

โบสถเ์ ซนต์ชาร์ลส์ (St. Charles's Church) หรอื ที่ภาษาท้องถิน่ เรียกว่า “คาร์ลเคยี ร์เชอ” (Karlkirche)
เปน็ โบสถบ์ ารอกท่ผี สมผสานหนา้ มุขแบบกรีกและเสาแบบโรมาเนสก์แกะสลกั สวยงาม โบสถ์แห่งนี้สร้างขึ้น
เพื่ออุทิศแด่ Saint Charles Borromeo เนื่องจากราวปี ค.ศ. 1713 ได้เกิดโรคระบาดใหญ่ลุกลามไปทั่ว
ยุโรป ส่งผลให้ผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก สมเด็จจักรพรรดิชาร์ลส์ที่ 6 แห่งจักรวรรดิโรมันจึงได้ทรง
อธิษฐานว่าหากโรคระบาดสงบลงจะสร้างโบสถ์เป็นการอุทิศ ภายหลังจากที่กรุงเวียนนารอดพ้นจากโรค
ระบาดพระองคจ์ งึ ทรงโปรดใหส้ รา้ งโบสถ์แห่งนี้จนกระทงั่ มาแลว้ เสร็จในปี ค.ศ.1739

สิ่งที่โดดเด่นคืออาคารจะมีเสา Trojan 2 ต้น จำลองต้นแบบมาจากอาคาร Pantheon ของโรมัน
โบราณในกรุงโรม แกะสลักเป็นเรื่องราวของเซนต์ชาลส์ ที่ช่วยรักษาผู้ป่วยจากโรคระบาดจนได้รับการยก
ย่องให้เป็นนักบุญ ภายในอาคาร บนโดมเพดานประดับตกตกแต่งด้วยภาพปูนเปียกงดงามมีมิติ บอกเล่า
เรือ่ งราวและดงึ ดดู ชวนให้หลงใหลเม่ือแหงนมองข้นึ ไป บรเิ วณด้านนอกโบสถเ์ ป็นสวนสาธารณะ สามารถนั่ง
พกั ผ่อน หรอื ปกิ นกิ บรเิ วณน้ไี ด้ด้วย

เอกสารอา้ งองิ
PALANLA. (2017).โบสถเ์ ซนต์ชารล์ ส.์ สืบค้น 20 กุมภาพันธ์ 2565,จาก

https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=634

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยโุ รป ทวีปอเมริกาเหนอื ทวีปอเมรกิ าใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวปี แอฟรกิ าใต้

ใสร่ ปู ภาพเตม็ หนา้

มหาวิหารเซนตแ์ มร่ี
ท่มี า : https://www.google.com/maps/contrib/114479569581682967615

85

มหาวิหารเซนต์แมรี่ (St. Mary’s Cathedral)

มหาวหิ ารเซนต์แมรี่ (St. Mary’s Cathedral) เปน็ มหาวิหารทใ่ี หญ่ทีส่ ุดในนครซิดนียแ์ ละเป็นมหาวิหาร
ที่สูงที่สุดในออสเตรเลียโดยมีจุดเด่นท่ีเปน็ เอกลักษณ์คือส่วนยอดตรงทางเข้าของโบสถ์สองมุมที่สูงเสยี ดข้นึ
ไปบนท้องฟ้าทำให้สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล เป็นโบสถ์ขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามทาง
สถาปัตยกรรมด้วยศิลปะแบบโกธิกสีปูนเข้ม ภายในถูกออกแบบอย่างสวยงาม วิจิตร และประณีตและออ
แบบโดยออกแบบโดยวิลเลียม วาร์เดล (William Wardell) โดยใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 132 ปีทีเดียว
โดยเริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ.1868 คือหลังจากที่ของเก่าได้ถูกไฟไหม้ไปเมื่อสามปีก่อนหน้านี้ การ
บูรณปฏิสังขรณ์เสร็จสมบูรณ์ในปี ค.ศ.1928 และมีการสร้างส่วนของอาคารที่มียอดแหลมของโบสถ์อีก 2
อาคารทางทศิ ใต้ ซ่งึ เพิง่ จะแลว้ เสรจ็ เมื่อปี ค.ศ.2000 นเ่ี อง

เมื่อผ่านประตูไม้รูปโค้งบานใหญ่ด้านข้างของโบสถ์เข้าไป (ด้านในไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ) จะพบรูป
แกะสลักด้วยหินอ่อนสีขาวเลียนแบบรูป La Pieta ของไมเคิล แอนเจโล (Michel Angelo) ยอดศิลปินชาว
อิตาลี บอกเรื่องราวของพระบตุ รที่อยู่ภายในอ้อมกอดของพระแมม่ ารีหลังการตรงึ ไม้กางเขน ความอ่อนช้อย
ของรปู สะท้อนให้เห็นถึงความละเมยี ดละไม วถิ ีแหง่ ความเชอื่ และสายธารแห่งศรทั ธาอยา่ งแทจ้ รงิ

เอกสารอ้างองิ
PALANLA. (2017) .มหาวิหารเซนต์แมรี.่ สืบคน้ 20 กุมภาพนั ธ์ 2565 จาก,

https://palanla.com/index.php?op=abroadLocation-detail&id=80

ศาสนสถานในดนิ แดนทวีปยโุ รป ทวปี อเมรกิ าเหนือ ทวปี อเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลยี ทวีปแอฟรกิ าใต้

ทวีปแอฟริกาใต้

ใสร่ ูปภาพเตม็ หนา้

โบสถ์คาทอลิก (Regina Mundi)
ที่มา : https://hmong.in.th/wiki/Regina_Mundi_Day

87

โบสถ์คาทอลิก (Regina Mundi)

โบสถ์แห่งนี้ตั้งอยู่กลาง Soweto ใน Rockville ในย่าน Moroka แอฟริกาใต้ สร้างขึ้นในปีพ. ศ. 2507
แทนที่โบสถ์ประจำตำบลในอดีตของโมโรกะ ในขณะที่รูปลักษณ์ภายนอกของอาคารมีการออกแบบท่ี
ค่อนข้างธรรมดา แต่คุณสมบัติหลักคือการตกแต่งภายในที่กว้างขวางซึ่งสามารถรองรับได้มากถึง 5,000 -
7,000 คน หนา้ ต่างกระจกสตี กแต่งดว้ ยฉากของแมรีช่ ีวติ และได้รบั การบริจาคมาจากโปแลนดใ์ นปี 1998

สิ่งประดิษฐ์ที่โดดเด่นที่สุดชิน้ หนึ่งในโบสถ์คือภาพวาดชื่อ"พระแม่มารีและบุตรแห่งโซเวโต"ซึ่งสว่ นใหญ่
เรียกว่า "พระแม่มารีสีดำ" เป็นภาพพระแม่มารีสีดำอุ้มพระกุมารเยซู (สีดำด้วย) ภาพวาดที่ถูกสร้างขึ้นโดย
ศิลปินลาร์รีสกัลลีในปี 1973 เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์เพื่อเงินเพิ่มสำหรับการศึก ษาของสีดำท่ี
แอฟรกิ าใต้ ภาพวาดดงั กลา่ วถกู ซ้ือโดยผูม้ ีพระคุณและบริจาคให้กับคริสตจักร องคป์ ระกอบทีเ่ ป็นสัญลักษณ์
อย่างยิ่งของภาพวาดคือดวงตาขนาดใหญ่ที่อยู่ใต้พระแม่มารีสีดำ ตามที่นักข่าว Mpho Lukoto ของ
หนังสือพิมพ์เดอะสตาร์บอกว่าลูกศิษย์ของตาเป็นตัวแทนของเมืองโซเวโต; ส้อมสองอันที่มุ่งตรงไปยังลูก
ศิษย์จากด้านข้างแสดงถึงความรุนแรงที่ใช้กับผู้คนในโซเวโตในยุคแบ่งแยกสีผิวและไม้กางเขนตรงกลางรู
ม่านตาหมายถึงศาสนจักรที่ส่องสว่างผู้คนด้วยความหวัง หลังจากสิ้นสุดการแบ่งแยกสีผิวได้มีการสร้าง
สวนสาธารณะขนาดใหญ่หน้าโบสถ์โดยมีน้ำพุและอนุสรณ์รวมถึง "เสาสันติภาพ" ที่ชาวคริสต์ญี่ปุ่นบริจาค
ใหก้ บั คริสตจกั ร คริสตจกั รยงั คงเป็นสถานท่ยี อดนิยมสำหรับชาวโซเวโตและยังกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวท่ี
โดดเดน่ ในพื้นท่ี
เอกสารอา้ งองิ
Hmong. (2020). คริสจกั รคาทอลิกในแอฟรกิ า. สืบค้น 20 กมุ ภาพันธ์ 2565, จาก

https://hmong.in.th/wiki/Regina_Mundi_Day

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวปี อเมรกิ าเหนอื ทวปี อเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวีปแอฟรกิ าใต้

ใส่รูปภาพเตม็ หนา้

ศาสนจักรเมธอดสิ ต์
ทมี่ า : shttps://th.eferrit.com/%E0%B8%A8%E0%B8

89