The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ศาสนาในดินแดนทวีปยุโรป,อเมริกาเหนือ,อเมริกาใต้,ออสเตรเลีย,แอฟริกาใต้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ausmee.passadu, 2022-03-19 08:47:37

SHDB5

ศาสนาในดินแดนทวีปยุโรป,อเมริกาเหนือ,อเมริกาใต้,ออสเตรเลีย,แอฟริกาใต้

โบสถ์เมธอดสิ ต์แหง่ อัฟริกาใต้

Methodism มาถึงแอฟริกาใต้พร้อมกับทหารอังกฤษในปี 1806 แต่ภารกิจเริ่มขึ้นในปี 1816 เม่ือ
มิชชันนารีเดินทางข้ามแม่น้ำออเรนจ์ไปยังนามิเบียในปัจจุบัน เมธอดิสม์ในอัฟริกาเริ่มต้นจากงานฆราวาส
ของฆราวาสโดยทหารไอริชแห่งกรมทหารอังกฤษ จอห์น เออร์วิน ซึ่งประจำการอยู่ที่แหลมและเร่ิมจัดการ
ประชุมอธิษฐานเรว็ เท่าปี ค.ศ. 1795 เมธอดิสตค์ นแรกวางนักเทศน์ท่ี แหลมจอรจ์ มดิ เดลิ มสิ เป็นทหารของ
กรมทหารที่ 72 แห่งกองทัพอังกฤษประจำการอยู่ที่แหลมในปี ค.ศ. 1805 มูลนิธินี้ปูทางให้คณะมิชชันนารี
เมโธดสิ ทจ์ ากบรเิ ตนใหญส่ ่งมิชชันนารีไปพร้อมกบั ผตู้ ้ังถิ่นฐานชาวอังกฤษ พ.ศ. 2363 ไปทางตะวันตกและ
ตะวันออก มิชชันนารียุคแรก ๆ ที่โดดเด่นที่สุดคือบาร์นาบัส ชอว์และวิลเลียม ชอว์ กลุ่มที่ใหญ่ที่สุดคือ
Wesleyan Methodist Churchแต่มีอีกหลายคนที่รวมตัวกันเพื่อสร้างโบสถ์เมธอดิสต์แห่งแอฟริกาใต้ซ่ึง
ตอ่ มารจู้ ักกันในชอื่ ว่าMethodist Church of Southern

เอกสารอา้ งอิง
Hmong. (2020). คริสจกั รคาทอลกิ ในแอฟริกา. สบื ค้น 20 กมุ ภาพันธ์ 2565, จาก

https://hmong.in.th/wiki/Regina_Mundi_Day

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวปี อเมริกาเหนือ ทวปี อเมรกิ าใต้ ทวปี ออสเตรเลีย ทวปี แอฟริกาใต้

สรุป

ชาวคริสต์มีความเชื่อว่าพระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้าที่มาบังเกิดเป็นมนุษย์ จากหญิงสาว
บริสุทธิ์ โดยอำนาจของพระเจ้า เพื่อไถ่มนุษย์ให้พ้นจากบาปโดยการสิ้นพระชนม์ที่ไม้กางเขน และทรงฟื้น
ขึ้นมาจากความตายในสามวันหลังจากนั้น และเสด็จสู่สวรรค์ประทับเบื้องขวาพระหัตถ์ของพระบิดา ผู้ท่ีเชื่อ
และไว้วางใจในพระองค์จะได้รับการอภัยโทษบาป และจะเข้าสู่การพิพากษาในวันสุดท้ายเหมือนทุกคน แต่จะ
รอดพ้นจากการถูกพิพากษาให้ตกนรกแต่จะเป็นการพิพากษาเพื่อรับบำเหน็จรางวัลแทนในวันสิ้นโลก
(Armageddon) และไดเ้ ขา้ สู่พระราชยั สวรรค์ แต่ถา้ คนใดไมเ่ ชื่อจะถกู ปรับโทษหลังความตาย สิ่งเหล่านี้ทำให้
เกิดพธิ ีกรรมในคริสต์ศาสนาเรยี กว่า "ศีลศกั ดสิ์ ิทธ"์ิ หมายถึงเคร่ืองหมายภายนอก ทพี่ ระเยซูทรงตง้ั ขึ้นเพอื่ เป็น
เคร่ืองมือชว่ ยใหค้ นไปส่คู วามหลุดพน้ จากความทกุ ข์

เม่ือเกิดพิธีกรรมก็ต้องมีศาสนสถานเกิดขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางของผู้คนในศาสนาคริสต์ที่จะไถ่บาป
หรือรว่ มทำพธิ ีกรรม ส่วนในเรือ่ งของความเช่ือก็ได้ส่ือออกมาในรปู แบบของงานสถาปัตยกรรมตามความเช่ือ
ทางศาสนาและงานจิตรกรรมภายในโบสถ์อย่างสวยงามในทางคริสต์ศาสนา โบสถ์ หมายถึง อาคารหรือ
สถานที่ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์มารวมกันเพื่อประกอบพิธีหรือทำศาสนกิจร่วมกัน โดยได้ทำการยกตัวอย่าง
โบสถ์ในศาสนาคริสตซ์ ่ึงอยูใ่ นทวีปยุโรป ได้แก่ อาสนวิหารกลอสเตอร์ของประเทศอังกฤษ และหอศีลจุ่มเนโอ
เนียนของประเทศอิตาลี ทวีปอเมริกาเหนือ ได้แก่ มหาวิหารเมก็ ซิโกซติ ีของประเทศเม็กซิโก และมหาวิหารนอ
เทรอดามเดอมอนทรีออลของประเทศแคนาดา ทวีปอเมริกาใต้ ได้แก่ วิหาร Buenos Aires Metropolitan
ของประเทศอาร์เจนตินา และวิหาร San Carlos Borromeo ของประเทศแคลิฟอร์เนีย ทวีปออสเตรเลีย
ได้แก่ มหาวิหารเซนต์แมรี่ (St. Mary’s Cathedral)ของประเทศออสเตรเลีย และโบสถ์เซนต์ชาร์ลส์ Charles
Church ของประเทศออสเตรยี และสุดท้ายทวปี แอฟริกาใต้ ได้แก่ โบสถค์ าทอลกิ (Regina Mundi) และโบสถ์
เมธอดิสต์

91

โบสถข์ องแตล่ ะนิกายในแงข่ องอาคารอาจเหมือนหรือแตกต่างกันก็ได้ นกิ ายโรมันคาทอลิก เรยี กโบสถ์ของตน
ว่า "วัด" เช่น วัดพระแม่มารี วัดเซนต์หลุยส์ วัดกาลหว่าร์ วัดแม่พระประจักเมืองลูร์ด วัดนักบุญยอแซฟ ฯลฯ
โดยทั่วไป อาคารของโบสถ์มักมีลักษณะของสถาปัตยกรรมยุโรป ที่ต่างจากอาคารที่พักอาศัย เน้นความศิลปะ
และยิ่งใหญ่ ประดับด้วยรูปปั้นต่าง ๆ อย่างไรก็ตามในท้องถิ่นทุรกันดารอาจสร้างแบบเรียบง่าย นิกาย
โปรเตสแตนต์ เรียกโบสถ์ของตนว่า "คริสตจักร" เช่น คริสตจักรพระสัญญา ฯลฯ อาคารของโบสถ์เน้นความ
เรียบง่าย ดูเหมือนอาคารทั่วไป ไม่เน้นรูปปั้นรูปสลัก มีไม้กางเขนประดับเป็นเครื่องหมายถึงอาคารทาง
ศาสนกิจเท่าน้นั

ศาสนสถานของศาสนาคริสต์ก็ถือเป็นสิ่งสำคัญและเป็นศูนย์ร่วมของศาสนาคริสต์ในทุกเรื่อง มี
ความหมายสำหรับทุกคนและเป็นสถานที่เผยแผ่ เก็บรักษาพระคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งเป็นหนังสืออันศักดิ์สิทธิ์ของ
ศาสนายวิ และครสิ ตศ์ าสนา และสบื ทอดศาสนาคริสตต์ อ่ ไป

ศาสนสถานในดนิ แดนทวีปยโุ รป ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลยี ทวปี แอฟรกิ าใต้

แทรกรูปไดใ้ ห้มรี ปู แบบเดยี วกนั ทกุ บท

93

บทท่ี 4
ศาสนสถานของศาสนาพราหมณ์-ฮนิ ดู

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยโุ รป ทวปี อเมรกิ าเหนอื ทวปี อเมรกิ าใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวปี แอฟริกาใต้

สว่ นนำ

ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นศาสนาที่เก่าแก่ของชาวอารยัน มีแหล่งกำเนิดในเอเชียใต้ คือ ประเทศ
อินเดีย โดยศาสนาพราหมณ์-ฮินดเู ป็นศาสนาหนึ่งที่มคี วามเก่าแก่มากที่สุดในโลก มีอายุราว 3500 กว่าปี การ
ที่ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มีชื่อเรียกควบคู่กัน 2 ชื่อ เพราะผู้ให้กำเนิดศาสนานี้ ในตอนแรกเริ่มเรียกตัวเองว่า
พราหมณ์ เมือ่ ตอ่ มาศาสนาไดเ้ ส่ือมลงระยะหน่ึงและได้ฟื้นฟูปรบั ปรุงให้เป็นศาสนาฮินดู มีการปรับปรุงเน้ือหา
หลักธรรมคำสอนให้ดีขึ้น คำว่า ฮินดู เป็นคำที่ใช้เรียกชื่อของชาวอารยันที่อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในลุ่มแม่น้ำ
สินธุ จนกลายเป็นคำทใี่ ชเ้ รียกผสมของชาวอารยนั กบั ชาวพืน้ เมอื งในชมพูทวปี

เทพเจ้าศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ศาสนิกชนมีอสิ รภาพเสรีในการนับถือและจินตนาการทางเทวรปู แต่มี
หลกั วา่ เทพเจา้ ท่เี ราได้รแู้ ลว้ หรือจะไดร้ ู้ในอนาคตเป็นสว่ นของพระปรมาตมนั จงึ ถอื วา่ มีเอกภาพในพหภุ าพ คือ
มีเทพเจ้าองค์เดียวในรูปร่างต่าง ๆ และในแต่ละสถานที่ในแต่ละประเทศที่นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู จะมี
เทพเจา้ แต่ละองคท์ ่ีดไู ม่ออกว่าองค์ไหนสำคัญกว่าหรือสูงกว่า บางทีในครอบครัวเดียวกนั แต่ละคนในครอบครัว
ก็นบั ถือเทพเจ้าทแี่ ตกตา่ งกัน

เทพเจ้าและเทวีในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ชาวฮินดูเชื่อว่ามีพระเจ้าเพียงองค์เดียว เทพเจ้าที่สำคัญ 3
องค์ ได้แก่ พระศิวะ เป็นผู้เป็นผู้ทำลายทุกชีวิตแต่ก็เป็นผู้ให้ชีวิตใหม่เช่นกัน พระวิษณุ เป็นผู้ปกป้องโลก
ควบคุมโชคชะตาของมนุษย์ และพระพรหม เป็นผสู้ ร้างและควบคุมทุกอยา่ งที่พระเจา้ สรา้ งข้ึน การบชู าสักการ
เทพเจ้า ชาวฮินดสู ่วนมากจะมสี ถานที่บชู าท่ีบา้ น ในการบูชาจะประกอบไปดว้ ย ดอกไม้ อาหาร และนม มีการ
จุดเทียนและธูปพร้อมทั้งสวดมนต์และขอพร หลังจากทำการบูชาเทพเจ้าเสร็จ ผู้ที่ร่วมพิธีกรรมจะร่วมกัน
รบั ประทานอาหารทีบ่ ูชาเทพเจ้าร่วมกัน

96

ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นศาสนาที่ใหญ่เป็นอันดับสามของศาสนาโลก ชาวฮินดูส่วนมากอาศัยอยู่
กลุม่ ประเทศอนิ เดยี เนปาล ศรลี งั กา มาเลเซยี อนิ โดนีเซยี บังคลาเทศ และมอริเชียส ในประเทศเนปาลศาสนา
พราหมณ-์ ฮนิ ดเู ป็นศาสนาประจำชาติ นอกจากนีย้ งั มีชาวฮินดทู ่ีอาศยั อยู่ในทวีปต่าง ๆ ในประเทศนอรเ์ วย์ส่วน
ใหญ่มาจากประเทศศรีลังกาและบางส่วนมาจากประเทศอินเดีย จึงทำให้นอร์เวยม์ ีชาวฮินดูอาศัยอยู่ประมาณ
15000 คน ส่วนมากจะอาศัยอยู่รอบ ๆ ออสโล ดังนั้นการนับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในแต่ละทวีปจะมีชาว
ฮนิ ดูอาศยั อยทู่ ั่วทวปี ในจำนวนท่แี ตกต่างกนั ไป

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้ที่นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มักจะเป็นบริเวณ ยอดเขา แม่น้ำ นอกจากน้ี
สถานที่ที่ชาวฮินดูนับถือ คือ วัด ซึ่งวัดจะถูกสร้างขึ้นในทุกทวีปที่มีชาวฮินดูอาศัยอยู่ โดย วัดจะเป็นสถานท่ี
ศักดิ์สิทธ์ิแหง่ หนงึ่ ท่สี รา้ งเพือ่ เคารพนบั ถอื และศรัทธาในเทพเจ้าองค์ใดองค์หน่งึ การสวดมนต์ขอพรเทพเจ้าถือ
เป็นเรื่องสำคญั ของชาวฮนิ ดู สิ่งสำคญั อีกอยา่ งหนงึ่ คอื การปฏบิ ตั ติ วั ก่อนทำความเคารพบชู าเทพเจ้า โดยก่อน
เข้าศาสนสถาน ชาวฮินดูจะชำระร่างกายให้สะอาดก่อนข้าวัด ทั้งนี้การทานมังสวิรัติก็เป็นวิธีหนึ่งในการชำระ
ร่างกาย เม่ือเข้าไปในวัดจะต้องโคง้ ศรี ษะต่อหน้าเทพหรือเทวี เพ่ือแสดงความนับถือและเป็นผรู้ ับใช้ต่อเทพเทวี
นั้น ในการบูชาพราหมณ์จะเป็นผู้นำพิธีกรรมบูชาที่วัด ดังนั้นทุกคนต้องแต่งกายให้สุภาพเรียบร้อยทั้งผู้หญิง
ผ้ชู ายและตอ้ งถอดรองเท้ากอ่ นเข้าวัดทุกคร้ัง

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวีปอเมริกาเหนอื ทวปี อเมริกาใต้ ทวปี ออสเตรเลยี ทวีปแอฟรกิ าใต้

ทวปี ยโุ รป

BAPS Shri Swaminarayan Mandir
ทมี่ า : https://www.baps.org/Global-Network/UK-and-Europe/London.aspx

98

BAPS Shri Swaminarayan Mandir (Neasden Temple)
BAPS Shri Swaminarayan Mandir (หรือทร่ี ู้จกั กนั ท่วั ไปในช่ือ Neasden Temple ) เป็นวัดฮินดู

ในเมอื งนีสเดนของกรงุ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นวัดฮินดูท่ใี หญท่ ี่สุดนอกประเทศอนิ เดีย เปน็ วดั ฮินดู
แท้ ๆ แหง่ แรกของอังกฤษและเปน็ วัดฮินดูแบบดั้งเดมิ แห่งแรกของยุโรป มีลักษณะเป็นสีขาวราวหิมะ สร้าง
ขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2536 สร้างจากหินอ่อนจากบัลแกเรียและหินปูนจากตุรกีจำนวน 33,000 ก้อน ไม่มีการใช้
เหล็กหรอื เหล็กกลา้ ในการก่อสรา้ งซึ่งเปน็ คุณลักษณะเฉพาะสำหรับอาคารสมัยใหม่ในสหราชอาณาจักรจาก
การออกแบบตามแนวคิดและวิสัยทัศน์ของประมุขสวามีมหาราช และเช่อื กนั ว่าเป็นสถาปตั ยกรรมแห่งเดียว
ในอังกฤษทไี่ ม่ใชเ้ หล็กหรอื ตะก่ัว

วัดแห่งนี้ใช้งบประมาณในการสร้าง 12ล้านปอนด์ ประมาณ 525 ล้านบาท และเปิดให้ประชาชน
สามารถเข้าชมไดท้ ัง้ ในบริเวณวดั และอาคารภายใน โดยไม่เสียคา่ ใช้จา่ ย ยกเว้นค่าธรรมเนียม 2 ปอนด์เพ่ือ
ชมนิทรรศการทำความเข้าใจเกี่ยวกบั ศาสนาฮินดู ซึ่งเป็นนิทรรศการถาวรณ์ ภายในวัดจะมีผลงานมากมาย
เชน่ ภาพวาดรูปเคารพ งานหินออ่ นของอติ าลี และนิทรรศการเก่ยี วกบั ประวิติศาสตร์ของศาสนา

วันฮนิ ดูแหง่ นี้ได้รับรางวัล UK Pride of และไดร้ บั การยอมรับใหเ้ ปน็ เจ็ดสิ่งมหัศจรรยข์ องลอนดอน
(Seven Wonders of London) เพอื่ ยกย่องเป็นสถานท่สี ำคญั ทสี่ ดุ แห่งหน่งึ ของเมืองหลวง

เอกสารอา้ งองิ Cody Swann. (2562). BAPS Shri Swaminarayan Mandir. สืบคน้ เม่อื 19 กุมภาพันธ์
2565, จากhttps://hmong.in.th/wiki/BAPS_Shri_Swaminarayan_Mandir_London

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวปี อเมรกิ าเหนือ ทวปี อเมริกาใต้ ทวปี ออสเตรเลีย ทวีปแอฟริกาใต้

Sri Kamakshi Ambal Temple
ท่มี า : https://www.geograph.org.uk/photo/4777022

100

Sri Kamakshi Ambal Temple
วัด Sri Kamadchi Ampal หรอื ศูนย์ภาษาทมิฬฮินดู ในเมอื งฮารม์ ประเทศเยอรมนี เปน็ วดั ที่ใหญ่

ที่สุดในยุโรป สร้างเสร็จและอุทิศให้เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2002 และเป็นวัดฮินดูที่ใหญ่เป็นอันดับสองรอง
จากวัด Neasden ในลอนดอน กอ่ ตั้งขึ้นในปี 1989 เปน็ วัดเดียวของเทพธดิ า Kamadchi อินเดยี และเอเชีย
ใต้ วดั นีไ้ ม่ได้เปน็ เพยี งศูนย์กลางทางศาสนาของชาวทมิฬฮนิ ดเู ทา่ นั้น แต่ยงั เป็นสถานทน่ี ัดพบศูนย์กลางของ
ชาวฮินดูในเยอรมันอีกด้วย เทศกาลประจำปีของวัดซึ่งมีรูปปั้นของเทพธิดา Kamadchi วนรอบวัดเป็น
ขบวนและในขณะเดียวกันได้ให้พรแก่เมืองและผู้คนที่อาศัยอยู่ในนั้น มีผู้ศรัทธาและผู้มาเยือนกว่า 25,000
คนจากท่วั ทกุ มุมโลก

อาคารวัดมีมูลค่าประมาณ 1.5 ถึง 1.7 ล้านยูโร ถูกออกแบบโดยสถาปนิก Hammer Heinz-
Rainer Eichhorst ตามรูปแบบของวัด Kamakshi ใน Kanchipuram ทางตอนใต้ของอินเดีย ก่อสร้างโดย
ช่างจากประเทศอินเดียหลายคนในการก่อสร้าง โดยเฉพาะงานประติมากรรมและของประดับตกแต่ง
มากมาย ภายนอกอาคารมีลักษณะเป็นแถบแนวตั้งสีแดงและสีขาว พอร์ทัลที่น่าประทับใจของ gopuram
(หอวัด) มีความสูง 17 เมตร วดั แห่งนี้ประดบั รปู ปนั้ หนิ แกรนิตขนาดใหญ่ของเทพธิดา และบรเิ วณรอบ ๆ ยงั
มีรปู ป้ันเทพเจ้าอน่ื ๆ อีกกวา่ 200 ร่าง

เอกสารอา้ งอิง ชุมชนชาวฮินดูในเยอรมนี.(2564). Sri Kamakshi Ambal Temple .
สืบค้นเมอ่ื 19 กุมภาพนั ธ์ 2565, จาก https://prasathr1.sg-host.com/hgd/de/aktuelles/

ศาสนสถานในดนิ แดนทวีปยุโรป ทวีปอเมรกิ าเหนอื ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลยี ทวปี แอฟริกาใต้

ทวีปอเมรกิ าเหนอื

BAPS Shri Swaminarayan Mandir
ที่มา : https://www.bloggang.com/m/viewdiary.

102

BAPS Shri Swaminarayan Mandir
วัด BAPS Shri Swaminarayan Mandir เป็นวัดฮินดูแบบดั้งเดิม ตั้งอยู่ที่เมืองบาร์ตเล็ตของชิคา

โก เปิดโดยนายปราโมชสวามีมหาราช สมาชิกสภาคองเกรสเฮนรี่ไฮด์ และผู้แทนรัฐอิลลินอยส์จอห์นมิล
เลอร์เม่ือวนั ท่ี 7 สิงหาคม 2004 วดั แหง่ นถี้ ูกสรา้ งข้ึนตามแบบสถาปัตยกรรมแบบฮินดูโบราณโดยใช้หินอ่อน
จากอินตาลีและหินปูนจากตุรกีนำมาแกะสลักโดยช่างฝีมือถึง 2,000 คน ออกแบบเป็นลวดลายที่
สลับซับซ้อนแล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกันเหมือนกับจิ๊กซอว์สามมิติ มีพื้นที่รวมทั้งหมด 27 เอเคอร์ ในปี
เดียวกันวัดแห่งนี้ได้รับรางวัล Chicago Building Congress Merit Award อันเนื่องมาจากความเป็น
เอกลกั ษณข์ องสถาปตั ยกรรมและวิศวกรรมแบบอินเดียซึ่งเป็นการแสดงออกทางวัฒนธรรมได้ชัดเจนอย่างดี
ตอ่ มาในปี 2005 ได้รับการยอมรับจากนิตยสาร Stone World ว่าเปน็ สัญลักษณ์ของมรดกโลกโบราณ และ
ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึง่ ใน 150 สถานท่ีที่ยอดเยีย่ มในรัฐอลิ ลินอยส์ สหรัฐอเมรกิ าจากสถาบันสถาปนิก
อเมรกิ นั

วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่สำหรับการทำกิจกรรมชุมนุมขนาดเล็กในทุก ๆ สัปดาห์โดยการร้องเพลง
และสวดมนต์ตามคำสอนของพระคัมภีร์ฮินดู นอกจากนี้แล้วยังมีกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่เยาวชน
สามารถเข้าร่วมด้วยได้ เช่น การเข้าร่วมชั้นเรียนของศาสนาฮินดู การเรียนดนตรีแบบอินเดีย การฝึกพูด
ภาษาคุชราต การสัมมนาและการประชุมที่ช่วยส่งเสริมให้เยาวชนมีบทบาทในการฉลองเทศกาลสำคัญทาง
ศาสนาโดยการช่วยจัดทำกิจกรรม ร้องเพลงและสวดมนต์บูชา การแสดงรำตามประเพณี และการกล่าว
สุนทรพจณใ์ นงานชุมนมุ

เอกสารอ้างองิ hmonginth.(2557). BAPS Shri Swaminarayan Mandir.สืบค้นเมอื่ วันที่ 18
กมุ ภาพันธ์ 2022, จาก https://hmong.in.th/wiki/BAPS_Shri_Swaminarayan_Mandir_Chicag

ศาสนสถานในดินแดนทวีปยุโรป ทวีปอเมรกิ าเหนอื ทวปี อเมรกิ าใต้ ทวปี ออสเตรเลีย ทวปี แอฟริกาใต้

Malibu Hindu Temple
ทมี่ า : http://ttdseva.in/malibu-sri-venkateswara-hindu-temple-california/

104

Malibu Hindu Temple
วัดมาลิบูเป็นวัดบูชาเทพเจ้าของศาสนาฮินดู สร้างขึ้นเมื่อปี 1981 ณ เมืองคาลาบาซัสของ

แคลิฟอร์เนีย โดยวสนั ต์ ศรีนิวาสนั ประกอบอาชพี วิศวกรโยธาอยทู่ ่ีเมืองลองแองเจลสิ เขาใช้สถาปัตยกรรม
แบบด้ังเดมิ ของอนิ เดียใต้ในการออกแบบ ภายในบริเวณวัดมีพระสงฆ์อาศัยอยู่ มกี ารชุมนุมสำหรับพิธีกรรม
ตา่ ง ๆ ในพนื้ ที่ เช่น นั่งสมาธิ มีโบสถ์สำหรบั บูชาพระเวงกเฏศวรซึ่งอยชู่ น้ั บนสุดเป็นเทพเจ้าประธานและช้ัน
ล่างสุดเป็นพระศิวะ ที่แห่งนี้มีความเชื่อว่าจะมีมัสยา ซึ่งเป็นร่างอวตารปางแรกของพระวิษณุคอยปกป้อง
คุ้มครองมนุษยจ์ ากปัญหารวมท้ังภัยอนั ตรายใด ๆ ทัง้ ปวง นับว่าเป็นอีกหน่ึงสถานทท่ี ี่ยิ่งใหญ่ท่ีสุดอีกแห่งใน
ซกี โลกตะวนั ตก

ในปี 1997 เคยใช้เป็นฉากประกอบในหนังเรื่อง Beverly Hills Ninja หลังจากนั้นในปีต่อมาถูกใช้
เป็นสถานที่ถ่ายทำเพลง Tamil film Jeans นอกจากนี้ยังเคยออกสื่อในรายการ The Big Bang Theory
ซีซั่น 8 ตอนที่ 12 จนกระทั่งปี 2006 บริตนีย์ สเปียส์ (Britney Spears) นักร้องสาวชื่อดังได้จัดพิธีรับพร
ขนาดใหญ่โดยนกั บวชให้ลกู ชายวัย 4 ขวบของเธอ ณ วัดแหง่ นี้ เหตุการณ์ทงั้ หมดน้ีถูกบนั ทึกลงในสื่อต่าง ๆ
มากมาย

เอกสารอ้างอิง hmonginth.(2559).วดั ฮนิ ดูมาลบิ ู.สบื ค้นเม่อื วันที่ 18 กมุ ภาพนั ธ์ 2565,จาก
https://hmong.in.th/wiki/Malibu_Hindu_Temple

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยโุ รป ทวปี อเมรกิ าเหนอื ทวีปอเมรกิ าใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวปี แอฟรกิ าใต้

ทวปี อเมรกิ าใต้

วดั ISKCON กาโบโรเน
ทีม่ า : https://th.tripadvisor.com/Attraction_Review

106

วดั ISKCON กาโบโรเน
วัด ISKCON บอตสวานาตั้งอยู่ใน Gaborone West Phase 2 ตรงข้ามโรงเรียนประถม Baobab

เป็นวิหารสีส้มและสีแดงเข้มที่ดึงดูดผู้คนจำนวนมากจากทั่วทุกมุมของประเทศให้มาชมผลงานศิลปะอัน
งดงามที่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านในวัดนี้ทางเข้าห้องโถงฮินดูเป็นที่ตั้งของ
'วิหาร Navagraha' ซึ่งมีเทพแหง่ ดาวเคราะห์ทงั้ 9 ทอ่ี ยู่ติดกันทันทคี ือ วิหารพระศวิ ะ ท่มี ี ศวิ ะลิงกมั อยู่ตรง
กลางซ่ึงล้อมรอบดา้ นข้างดว้ ยรูปเคารพของลอร์ด Subrahmanya พระแมป่ ารวตแี ละพระพิฆเนศ

ด้านในของกำแพงวัดพระอิศวรมีถำ้ เล็ก ๆ ซ่งึ มีรูปเคารพองคห์ นึง่ ของพระศวิ ะ พระแม่ปาราวตี โดย
มีพระพิฆเนศพระกุมารและพระกุมาร Subrahmanya อยู่บนตักนอกจากนี้ยังมี 'Nandi' ที่หันหน้าไปทาง
Shiva Lingamภายในมีห้องโถงขนาดใหญ่ที่วัดวาดชื่อ บนเวทีมีรูปเคารพของพระรามพระมารดาสีดาพระ
ลักษมีและหนุมาน นอกจากนี้ยังมีรูปเคารพของพระศิวะ วัดนี้เป็นวัดแห่งหนึ่งในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้
และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในกาโบโรเนหลังจากได้รับความชื่นชมจากผู้คนใน
สถาปัตยกรรมและความงดงามของประติมากรรม

เอกสารอ้างอิง ศาสนาฮินดูในบอตสวานา.(2565).Himantopterus nox.สบื คน้ 20 กมุ ภาพันธ์ 2565,
จาก https://isecosmetic.com/wiki/Hinduism_in_Botswana

ศาสนสถานในดนิ แดนทวีปยโุ รป ทวีปอเมริกาเหนอื ทวปี อเมริกาใต้ ทวปี ออสเตรเลีย ทวปี แอฟริกาใต้

Arya Dewaker temple
ที่มา : https://th.trip.com/travel-guide/arya-dewaker-hindu-temple

108

Arya Dewaker temple
ประเทศซูรินาเมเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางด้านชาติพันธุ์ ศาสนา และเชื้อชาติ ซึ่งใน

ด้านศาสนานั้นในประเทศแหง่ น้ีมชี าวฮินดอู าศัยอย่เู ป็นจำนวนมากจงึ มีแหลง่ ศาสนสถานท่สี ำคญั อย่าง Arya
Dewaker วัดฮินดูทเ่ี ป็นสถานท่ีทีผ่ คู้ นท้งั ผู้นบั ถอื ศาสนาฮินดูและคนต่างศาสนานิยมเดนิ ทางมาเพื่อประกอบ
พิธีกรรมและมาท่องเที่ยว เนื่องจากวัดแห่งนี้มีสถาปัตยกรรม จิตรกรรมที่งดงามตระการตาที่สะท้อนถึง
ความเชื่อของชาวฮินดู วัด Arya Dewaker ก่อตั้งเมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2472 เปิดอย่างเป็นทางการ
ในวนั ที่ 11 กมุ ภาพันธ์ พ.ศ. 2544

รูปแบบการตกแต่งอาคารของวัด Arya Dewaker ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ขบวนการ
ปฏิรูปศาสนาฮินดูตามแนวคิดของ Swami Dayananda Sarasvati (ค.ศ.1823-1883) ซึ่งเป็นนักปรัชญา
ชาวอินเดีย ผู้นำทางสังคมและผู้ก่อตั้ง Arya Samaj ซึ่งเป็นขบวนการปฏิรูปพระเวท และเขาเป็นคนแรกท่ี
ถือว่าเป็น "ผู้สร้างแนวคิดอินเดียแบบสมัยใหม่" ในส่วนของการก่อสร้างอาคารวัดที่มีลักษณะทรงอาคารท่ี
เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเน่ืองจากอาคารมีรูปทรงแปดเหลี่ยม 2 ชั้นที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวดัตช์ชื่อ อาร์
เธอร์ อี เดอ กรูท กับทางคณะ ซึ่งเมื่อตัวคารมีการประดับด้วยโคมไฟ ทำให้รู้สึกถึงแสงสว่างที่สะท้อนเงา
ออกมามีลักษณะเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก บริเวณด้านข้างอาคารแปดเหลี่ยม มีหอคอย
ขนาดเล็กท่ีมลี ักษณะคล้ายโดมภายในตกแตง่ ดว้ ยลวดลายตัวเลขของพระเวท และทสี่ ำคญั ภายในตัวอาคาร
ท้ังหมดจะไมม่ ีการบูชารูปเคารพใด ๆ

เอกสารอ้างอิง Wikipedia.(2565).Clairwood Shree Siva Soobramoniar Temple.สบื ค้น 19
กุมภาพันธ์ 2565 จาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Clairwood_Shree_Siva_Soobramoniar_Temple

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวปี อเมรกิ าเหนอื ทวปี อเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลยี ทวีปแอฟริกาใต้

ทวีปออสเตรเลยี

Sydney Murukan Temple
ที่มา : https://dlink.me/GuBFH

110

Sydney Murukan Temple
วดั ถกู สรา้ งขึน้ โดย Sivajoti Danikai Skandakumar ชายศรีลงั กา โดยการนำรูปป้ัน

พระขันธะกุมารจากเมืองจาฟนา ประเทศศรีลังกา มาเคารพบูชาที่บ้านของตนเองในเมืองซิดนีย์ ในปี ค.ศ.
1985 คนในสังคมฮินดู Saiva Manram ได้รวมตัวกันเพื่อสร้างวัดสำหรับพระมุรุกัน นับตั้งแต่ก่อตั้งพระมุรุ
กัน ถูกเรียกว่า Sydney Murukan Saiva Manram เพราะนาย Saiva Manram ทำงานอย่างหนักเพ่ือ
สร้างวดั นขี้ ้ึน

ในปี 1996 นาย Saiva Manram ได้ซื้อที่ดินจาก Roads and Traffic Authority อยู่ระหว่างทาง
หลวง 2 สายและไม่มีที่อยู่อาศัยทั้ง3 ด้าน อยู่เขตชานเมืองห่าง Strathfield ประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อ
สรา้ งวัด Sydney Murukan และศูนยว์ ัฒนธรรม แถวบรเิ วณ Mays Hill ศูนยว์ ัฒนธรรมและวัดไดเ้ รมิ่ เปิด
เมอ่ื วันที่ 23 มกราคม ค.ศ.1996 สถาปัตยกรรม ประตมิ ากรรมและสาขาศิลปะอืน่ ๆ ถูกสร้างอยา่ งเคร่งครัด
ตามแบบ Akama Cattiram ซึ่งเป็นงานศักดิ์สิทธิ์ โครงสร้างและรูปลักษณ์ของวัดมีความหมายลึกซึ่ง วัดมี
ขนาดปานกลาง ศลิ ปะของวัด คอื การแกะสลกั รปู ปน้ั และการตกแต่งลวดลายยางรอบ ๆ นอกจากน้ีวัดยัง
เป็นสถานท่ีสำหรับกิจกรรมทางวฒั นธรรมทุกประเภท เปน็ สถานที่รวมตัวกันของผู้คนโดยไม่มีความแตกต่าง
ระหว่างเพศ ฐานะทางสังคม หรือระดับการศึกษา ไม่มีการแสวงหาประโยชน์ทางความรู้สึก การเมืองหรือ
นกิ าย บรรยากาศของวดั เออ้ื ใหเ้ กดิ ความสงบและความสามัคคี

เอกสารอา้ งอิง Dr. Arumugam Kandiah.(2565).Murukan worship in Australia. สืบคน้
17 กมุ ภาพนั ธ์ 2565,จาก http://murugan.org/research/kandiah.htm

ศาสนสถานในดินแดนทวปี ยุโรป ทวีปอเมริกาเหนอื ทวีปอเมรกิ าใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวปี แอฟริกาใต้

วดั Sri Venkateswara ใน Helensburgh NSW
ท่ีมา : https://th.tripadvisor.com

112

วัด Sri Venkateswara ใน Helensburgh NSW
เป็นวัดฮินดูแห่งแรกของออสเตรเลียเป็นหนึ่งในวัดฮินดูที่มีชื่อเสียงในซีกโลกใต้และเป็นที่เคารพ

สักการะของผศู้ รัทธาทกุ คน วดั นส้ี ร้างขนึ้ บนพ้ืนทีท่ ี่เป็นเนินเขาสงู จากระดบั นำ้ ทะเล 400 ฟุตมีพระราม4รูป
ลอ้ มรอบทางเดินทส่ี ร้างขึน้ ในรปู แบบสถาปตั ยกรรมวัดฮินดแู บบด้งั เดิม เปน็ ตวั อยา่ งทโี่ ดดเด่นของความเป็น
เลศิ ทางสถาปัตยกรรมของวดั ฮินดู เปน็ สถานทส่ี ำคัญในทอ้ งถ่ินที่นา่ ประทบั ใจ

วัดน้ีได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโดยสำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ มรดกทาง
ประวัติศาสตร์ สุนทรียศาสตร์ สังคม และสาเหตุของความหายากแล ะการเป็นตัวแทนในเขตวุล
ลองกอง Helensburgh ตั้งอยู่บนเส้นทาง Grand Pacific Drive Sydney ไปยัง Wollongong และไกล
ออกไป โดยใชเ้ วลาขบั รถรมิ ชายฝง่ั เป็นระยะทาง 140 กิโลเมตร

วัดแห่งนี้เป็นวัดที่ใช้เคารพบูชามาตั้งแต่ปี 1985 แม้ว่าจะเป็นสถานที่ทางศาสนาและศักดิ์สิทธิ์ท่ี
สำคัญสำหรับชาวฮินดูที่อาศัยและมาเยือนออสเตรเลีย ผู้มาเยือนและนักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ชาวฮินดูจำนวน
มากก็ถูกดึงดูดเนื่องจากความสำคัญทางสถาปัตยกรรมของวัดฮินดูที่เป็นเอกลักษณ์ของอาคารและ
สญั ลกั ษณ์ สถานะทางวฒั นธรรม

เอกสารอ้างอิง visitnsw.(2565).Sri Venkateswara Temple Helensburgh. สบื ค้น
20 กมุ ภาพันธ์ 2565,จาก https://www.visitnsw.com/destinations/south-coast

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวปี อเมริกาเหนอื ทวีปอเมรกิ าใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวปี แอฟริกาใต้

ทวปี แอฟรกิ าใต้

Umbilo Shree Ambalavaanar Alayam
ทมี่ า : https://hindutemplesofsouthafrica.blogspot.com

114

Umbilo Shree Ambalavaanar Alayam
Umbilo Shree Ambalavaanar Alayam เป็นวัดฮินดูสาธารณะแห่งแรกในทวีปแอฟริกาใต้

จุดเรมิ่ ต้นในการสร้างวัดเนื่องจากในปี พ.ศ. 2403 แรงงานจากอนิ เดยี ได้รับการแนะนำใหร้ ูจ้ ักกับอาณานิคม
นาตาลของอังกฤษ เพื่อทำงานในอุตสาหกรรมน้ำตาลรวมกับผู้คนที่อพยพมาจากอนุทวีป จนกลายเป็น
ชุมชนอินเดียขนาดใหญ่ โดยวัดและศาสนามบี ทบาทสำคญั ในชวี ิตของชาวฮนิ ดู จงึ สร้างพระวหิ ารทุกท่ีท่ีชาว
ฮินดูอาศยั อยู่ ในชว่ งต้นทศวรรษที่ 19 ไดส้ ร้างวัด Umbilo Shree Ambalavaanar Alayam ปลายล่างสุด
ของริมฝั่งแม่น้ำ Umkumbaan หรือที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในชื่อแม่นำ้ สายแรก เมื่อ พ.ศ. 2448 ได้เกิด
นำ้ ท่วมวดั ได้ถลม่ และถูกพดั จนพังทลาย

ทั้งน้วี ดั Umbilo Shree Ambalavaanar Alayam ได้ถูกบนั ทกึ ไวว้ า่ สร้างข้นึ ในปี พ.ศ. 2418 และ
ได้รับการประกาศให้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ภายใต้กฎหมาย NMC ฉบับเก่าเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์
พ.ศ. 2523 มากกว่าหนึ่งศตวรรษที่ผ่านมา วัดนี้เป็นที่ตั้งของประติมากรรมทางศาสนาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งใน
เมืองเดอร์บัน ลักษณะที่น่าสนใจของประติมากรรมคือการรวมของตระกูลผู้บริจาควัด ท่ามกลางรูป
ศกั ดส์ิ ทิ ธ์ิ บริเวณโดยรอบวัดมีโครงสร้างตา่ ง ๆ ทป่ี ระดับประดาอย่างวิจิตรงดงาม และวัด Umbilo Shree
Ambalavaanar Alayam ได้รบั การกลา่ วขานว่าเป็นวดั ท่นี า่ สนใจและมีบรรยากาศดีมากทส่ี ดุ

เอกสารอ้างองิ Thesaunter.(2565).Temple Umbilo Shree Ambalavaanar Alayam.สืบค้น 18
กุมภาพนั ธ์ 2565,จาก https://www.thesaunter.co.za/listing/temple-umbilo-shree-
ambalavaanar-alayam/

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวปี อเมริกาเหนอื ทวปี อเมริกาใต้ ทวปี ออสเตรเลีย ทวีปแอฟรกิ าใต้

Clairwood Shree Siva Soobramoniar Temple
ทม่ี า : https://en.wikipedia.org/wiki/Clairwood_Shree_Siva_Soobramoniar_Temple

116

Clairwood Shree Siva Soobramoniar Temple
Clairwood Shree Siva Soobramoniar Temple รู้จักกันในชื่อ C.S.S.S.T วัดแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นใน

ปีพ.ศ. 2432 เสร็จสมบูรณ์เมื่อ พ.ศ. 2464 เป็นวัดฮินดูที่อุทิศให้กับเทพเจ้า Muruga ตั้งอยู่ในเมือง
Clairwood ในเมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้ Muruga บูชาเป็นพระอิศวร Arumuga Soobramoney
Paradassi ได้ก่อตั้งVel(หอก)เพื่อระบุอาวุธของMurugaทำบนพื้นที่เปิดโล่ง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เป็น
สกั การะบชู า คนท่นี บั ถอื ศาสนาฮินดูมีการดำเนินพธิ ีการและพิธที างศาสนา ในปี พ.ศ. 2458 ได้มีการจัดตั้ง
คณะกรรมการข้ึนและได้รับเลือกใหเ้ ปน็ ผู้บริหารสำนักงานเพ่ือเปน็ แรงผลักดันและพัฒนาอุดมการณ์ของวัด
พวกเขาสามารถหาท่ีดินในปี 1919 บนถนน sirdar ภายใตช้ ื่อ Madras temple แต่ในชว่ งเวลานี้ไม่มีความ
คืบหน้าในการก่อสร้างไม่มีมุมมองเกี่ยวกับการพัฒนาในอนาคต จึงมีความกระตือรือร้นและร่วมมือในการ
ปรบั ปรุงและเพื่อวางแผนการสรา้ งอาคาร

ในปี พ.ศ. 2462 ย้ายวัดไปยังบนถนนSirdar และเปลี่ยนชื่อวดั เปน็ Shree Siva Soobramoniar
Temple มีการดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อระดมทุนให้เงินเพียงพอและพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้าง
การบริจาคและเงินความพยายามของประชาชนทำให้วัดเสร็จสมบูรณ์ ไม่นานหลังจากนั้นบุคคลสำคัญต่าง
ๆ เหล่านี้ในเขตแคลร์วูดไดบ้ ริจาครปู ที่เคารพซึ่งยังคงอยู่ในวัดมาจนถึงทุกวนั นี้ และได้ดำเนินการสร้างห้อง
โถงขนาดใหญเ่ พ่อื จดั งานทางสงั คมและเพ่ือประโยชน์ของผ้นู บั ถอื ศรทั ธา

เอกสารอ้างองิ Wikipedia.(2565).Clairwood Shree Siva Soobramoniar Temple.สบื คน้
19 กมุ ภาพันธ์ 2565 จากhttps://en.wikipedia.org/wiki/Clairwood

ศาสนสถานในดนิ แดนทวีปยโุ รป ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมรกิ าใต้ ทวปี ออสเตรเลยี ทวีปแอฟรกิ าใต้

สรุป

ศาสนาพราหมณ-์ ฮินดู ถือกำเนิดขึ้นเมอ่ื หลายพันปีก่อนรมิ ฝัง่ แม่น้ำสนิ ธุของอินเดีย ประกอบดว้ ยการ
ผสมผสานระหว่างมมุ มองทางปัญญาและปรัชญาท่ีหลากหลาย เป็นศาสนาทีใ่ หญเ่ ป็นอันดับสามของโลกและ
เป็นศาสนาที่เก่าแก่ที่สุด ศาสนาพราหมณ์-ฮินดูจะแตกต่างจากศาสนาพุทธ ศาสนาคริสต์ และศาสนาอิสลาม
ในด้านท่ีศาสนาพราหมณ์-ฮินดูไม่มีศาสดา หลักธรรมคำสอนต่าง ๆ ที่เกดิ ขึ้น เกิดจากมีผู้รวบรวมลัทธิเดิมของ
ชาวชมพูทวีป เข้าเป็นรูปของศาสนาและมีการดัดแปลงแก้ไขอยู่เสมอ เพื่อให้เข้ากับความเชื่อของประชาชน
และเช่อื ว่าทกุ สิ่งทุกอยา่ งในจักวาลมีสว่ นทส่ี ัมพนั ธเ์ กี่ยวข้องกนั จึงทำให้ประเพณีฮินดูมีความหลากหลาย และ
ทำให้ขอ้ เท็จจริงทส่ี ะท้อนใหเ้ ห็นในการออกแบบวดั ทีห่ ลากหลาย

ศาสนาสถานของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ในทวีปตา่ ง ๆ ทมี่ ีการสร้างขน้ึ เพื่อทำการเคารพบูชาของผู้คน
ที่ต่างประเทศโดยบริเวณนั้นมีชาวฮินดูอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และศาสนสถานที่สร้างขึ้นในแต่ละทวีปมี
ลักษณะ เอกลักษณ์ ประตมิ ากรรมที่แตกต่างกนั และในบางทวีปมีศาสนสถานที่ได้รบั รางวัลต่าง ๆ ดังนี้

ทวีปยุโรป มีผู้นับถือศาสนาพราหมณ์-ฮินดูเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ชาวฮินดูที่มาอาศัยในยุโรปมา
จากการอพยพของชาวอินเดยี และผู้ลี้ภัยของชาวทมิฬจากประเทศศรลี ังกา ทั้งนี้การรวมกลุ่มของชาวฮนิ ดูเมอื่
อาศัยอยูร่วมกันจะสร้างศาสนสถานในการเคารพบูชาเทพเจ้า เช่น Neasden Temple เป็นวัดฮินดูในเมืองนี
สเดนของกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไดร้ บั รางวลั UK Pride of และไดร้ บั การยกยอ่ งเป็นสถานทสี่ ําคัญแห่ง
หน่งึ ของเมอื งหลวง

ทวีปอเมริกาใต้ ศาสนสถานที่สร้างขึ้นในชุมชนของชาวฮินดูในอเมริกาใต้ เช่น Arya Dewaker
temple เป็นวดั ที่มีการประดบั ดว้ ยโคมไฟ ทาํ ใหร้ ้สู ึกถงึ แสงสว่างทีส่ ะท้อนเงาออกมามีลักษณะเป็นเหมือนดวง

118

อาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก บริเวณด้านข้างอาคารแปดเหลี่ยม มีหอคอย ขนาดเล็กท่ีมีลักษณะคล้ายโดม
ภายในตกแตง่ ดว้ ยลวดลายตวั เลขของพระเวท

ทวีปอเมริกาเหนือ ในศตวรรษที่ 20 ชาวฮินดูที่อพยพจากอินเดียย้ายไปยังสหรัฐอเมริกา ชาวฮินดูได้
สรา้ งชมุ ชน เพอื่ ก่อต้ังวดั และองค์กรณ์ทางศาสนา นอกจากนี้ชุมชนของชาวฮินดูยงั มุ่งเนน้ การจัดหาทรัพยากร
ให้กับชุมชน เช่น การสอนภาษาและพระคัมภีร์ จัดกิจกรรมและเทศกาลต่าง ๆ โดยวัดของชาวฮินดูที่สรา้ งข้ึน
ในอเมริกาเหนือ เช่น BAPS Shri Swaminarayan Mandir ตั้งอยู่ที่เมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็น
วัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบอินเดีย แสดงถึงของวัฒนธรรมได้ชัดเจนอย่างดี ในปี 2005 ได้รับการยอมรับจาก
นิตยสารStone world ใหเ้ ป็นสญั ลกั ษณ์ของมรดกโลกแบบโบราณ

ทวีปออสเตรเลีย ในศตวรรษท่ี 29 ชาวอังกฤษได้นำชาวอินดูจากอินเดียมาที่ออสเตรเลีย เพื่อมา
ทำงานเกี่ยวกับสวนฝ้ายและน้ำตาล ปัจจุบันชาวฮินดูมีอาชีพและการศึกษาที่ดีขึ้น โดยสาขาที่เรียน เช่ น
การแพทย์ วิศวกรรม และพาณิชยศาสตร์ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เป็นศาสนที่เติบโตเร็วในทวีปออสเตรเลีย
และมศี านสถานท่ีสรา้ งไว้เพ่ือเคารพเทพเจ้า เชน่ Sri Venkateswara ใน Helensburgh เปน็ วดั ทไ่ี ดร้ ับการข้ึน
ทะเบียนเป็นมรดกโดยสํานักงานสิ่งแวดล้อมแห่งรัฐนิวเซาท์เวลส์ มรดกทางประวัติศาสตร์ สุนทรียศาสตร์
สังคม

ทวีปแอฟริกาใต้ ชาวฮินดูจำนวนมากที่มาอาศัยในทวีปนี้ อพยพมาจากอินเดียและเนปาล โดยมีการ
สร้างชุมชนขนาดใหญ่และสร้างศาสนสถานเพื่อเคารพบูชาในชุมชนชาวฮินดู เช่นUmbilo Shree
Ambalavaanar Alayam เป็นวดั ฮนิ ดสู าธารณะแห่งแรกในทวีปแอฟริกาใต้ ไดร้ บั การประกาศให้เป็นอนุสรณ์
สถานแห่งชาติ ภายใต้กฎหมาย NMC และวัดนี้เป็นที่ตั้งของประติมากรรม ทางศาสนาที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งใน
แอฟรกิ าใต้

ศาสนสถานในดินแดนทวปี ยโุ รป ทวีปอเมริกาเหนอื ทวีปอเมริกาใต้ ทวปี ออสเตรเลีย ทวีปแอฟริกาใต้

120

บทท่ี 5
ศาสนสถานของศาสนาซกิ ข์

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยโุ รป ทวปี อเมรกิ าเหนอื ทวปี อเมรกิ าใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวปี แอฟริกาใต้

สว่ นนำ

ศาสนาซิกข์เริม่ ต้นขึ้นเม่ือคริสต์ศตวรรษท่ี 15 โดยคุรุนานกั เทพจิ ซง่ึ เป็นคุรุศาสดาคนแรกของศาสนา
ซกิ ข์ เริ่มขึ้นในภูมิภาคปัญจาบทางตอนเหนือของอนทุ วีปอินเดีย เมื่อเวลาผ่านไป การปฏิบัติตนในศาสนาซิกข์
ได้ถูกทำให้เป็นระบบระเบียบแบบแผนมากขึ้น โดยเฉพาะเม่ือปี 1699 ครุ ุโควินทสงิ ห์ ศาสนิกชนกลุ่มแรกที่มา
จากภูมิหลังทางสังคมที่แตกต่างกันรวมกันเป็นขาลสา โดย 5 คนแรกท่ีได้เปล่ียนศาสนาเข้ามาน้ั นเรียก
“ปัญจเปียร์” เป็นผู้เปลี่ยนศาสนาและรับคุรุโควินทสิงห์เข้ามาในสังคมขาลสา ศาสนาซิกข์ยังถูกนิยามว่าเป็น
ท้ังศาสนาเอกเทวนิยมและพหุเทวนิยม ซึ่งเช่ือ ว่าพระเจ้าสร้างโลกมีอำนาจย่ิงใหญ่และมีองค์เดียวและยังเป็น
ศาสนาทมี่ ีอายนุ ้อยทีส่ ดุ ในศาสนาของโลกทง้ั 11 ศาสนา

ศาสนาซิกข์ถือเปน็ ศาสนาของชาวอินเดีย ทุกคนที่นับถือซิกข์ ถือเป็นพวกเดียวกัน เป็นพ่ีน้องกันโดย
ศาสนาและขนบธรรมเนียมประเพณี ชาวซิกข์นิยมเรียกพระเจ้าว่า ”พระนาม” ในศาสนาซิกข์มีนิกายของ
ศาสนาสิกข์ทสี่ ำคัญมีอยู่ 2 นิกาย คือนกิ ายนิกายนิลิมเล แปลว่านักพรตผูป้ ราศจากมลทิน บางแห่งเรยี กนิกาย
นี้ว่า นิกายขาลสาหรือนิกายสิงห์ เป็นนิกายที่ดำเนินตามคำสอนของท่านคุรุโควินทร์สิงห์ โดยเฉพาะในเร่ือง
ปากุลหรือล้างชำระล้างบาปให้ตนเป็นผู้บริสุทธ์ิ และนิกายนานักปันถิ แปลว่า ผ้ปู ฏบิ ัตติ ามธรรมของท่านคุรุนา
นกั หรือศาสดาองคแ์ รก ผนู้ บั ถือนิกายนีจ้ ะไม่เขา้ ปาหลุ หรือพิธีล้างบาป

นอกจากนั้นยังมีพธิ กี รรมที่สำคญั อย่างพธิ กี รรมระลกึ ถึงพระกรตาปุรุษ โดยการตื่นแตก่ อ่ นรุ่งสาง
อาบน้ำชำระกายแลว้ เขา้ สมาธเิ พอื่ ทบทวนการปฏิบตั ติ ามเทวโองการของพระองค์ในแต่ละวนั วนั ละ 3 เวลา
เช้า เยน็ และกลางคนื และพิธกี รรมฉลองวันคลา้ ยวันประสตู ิ วนั สถาปนาศาสนา และวันมรณภาพของศาสดา
ทั้ง 10 องค์ ศาสนาซิกขย์ ังมีคำสอนวา่ พระเจ้าเปน็ ผู้ฉลาด มพี ระกรุณา มพี ระหฤทัยเผื่อแผ่ โอบออ้ มอารี

123

ศาสนาซิกข์ยังเป็นศาสนาท่ีเน้นในหลักของการปฎิบตั เิ ปน็ ศาสนาแห่งความเชอ่ื ม่ันและศรทั ธาการมอง
โลกในแง่ดีและมีความหวังด้วยเหตุและผล ศาสนาซิกข์ ยังเชื่อในเรื่องของการกับชาติมาเกิด ชีวิตท่ีได้เกิดมา
เป็นมนุษย์นั้นถือว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการที่จะมีโอกาสระลึกถึงพระเจ้า แต่การท่ีมนุษย์จะเข้าถึงพระเจ้า
ได้นั้นจะต้องตัดกิเลสต่าง ๆ ท้ังห้าให้หมดสนิ้ เสียก่อน คอื ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความหย่ิงยโสและ
ความเห็นแก่ตวั ถา้ ละเว้นจากกิเลสเหล่าน้ีไดถ้ ือว่าเป็นผู้ท่ีไดด้ ำรงตามสัจธรรมและไดเ้ ข้าถึงพระเจา้ นอกจากน้ี
การสอนและหลักปฏิบัติของศาสนาซิกข์มีความเก่ียวพันกับประวัติศาสตร์ สังคม และวัฒนธรรมของ
ภูมิภาคปัญจาบในลักษณะต่าง ๆ กัน ในสมัยจักรวรรดิโมกุล(1556 - 1707) ศาสนาซิกข์เกิดความไม่ลงรอย
กับกฎหมายจักรวรรดิซ่ึงเป็นมุสลิม ด้วยปัญหาท้ังทางการเมืองและความเช่ือของซิกข์ท่ีเพิ่มเติมนักบุญจากทั้ง
ฮินดูและอิสลามเข้ามา ทำให้คุรุซิกข์คนสำคัญถูกประหาร เพราะปฏิเสธที่จะเปล่ียนศาสนาเป็นอิสลาม ทำให้
ศาสนาซิกข์จึงจัดต้ังกองทัพซิกข์ขึ้นเพ่ือป้องกันการรุกรานของจักรวรรดิโมกุลร่วมกับชาวคริสต์ ฮินดู และ
มุสลิม ในตำแหน่งของอำนาจ การก่อตั้งอาณาจักรซิกข์น้ันถือเป็นจุดสูงสุดของศาสนาซิกข์ในเชิงการเมือง
ขยายอาณาเขตของอาณาจักรซิกข์ให้กว้างข้ึนทำให้มีศาสนิกชนเปล่ี ยนศาสนามาเป็นซิกข์เป็นจำนวนมาก

ซ่ึงในปัจจบุ นั นศ้ี าสนาซกิ ข์ไดเ้ ผยแพรใ่ นหลายทวปี มากข้ึน เกิดศาสนสถานข้ึนมากมายหลายแหง่ โดย
ได้ยกตัวอย่างมา 5 ทวีป เริ่มจากทวีปยุโรป ได้แก่ ทวีปอเมริกาเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวีป
แอฟริกาใต้

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยโุ รป ทวปี อเมรกิ าเหนอื ทวีปอเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวีปแอฟรกิ าใต้

ทวปี ยุโรป

Gurdwara Sri Guru Singh Sabha Southall (SGSS)

ทม่ี า : https://www.worldgurudwaras.com/gurudwaras/sri-guru-singh-sabha-2/

125

Gurdwara Sri Guru Singh Sabha Southall (SGSS)

SGSSS มีส่วนเกี่ยวข้องในประเด็นส่วนใหญ่เกี่ยวกับชาวซิกข์ เช่น การเร่งรัดการตอบสนองอย่าง
ทว่ มท้นต่อโครงการเหยียดผิวในปี พ.ศ.2513 ในสหราชอาณาจักร เพื่อให้แน่ใจว่าผ้าโพกหัวและแนวปฏิบัติ
ของชาวซิกข์อ่ืน ๆ จะได้รับอนุญาตในท่ีทำงานและสถานที่ทางสังคม ชาวซิกข์ในสหราชอาณาจักรประสบ
ความสำเร็จในการก่อต้ังตัวเองในหลายสาขาและใฝ่ฝันท่ีจะสร้างสถาบันเพ่ือสะท้อนอิทธิพลเพ่ิมข้ึน เพ่ือ
ปกป้องอนาคตของลูกหลานและรองรบั จำนวนการชมุ นมุ ทเี่ พิม่ ข้นึ

ปจั จุบันกรู ์ดวาราทั้ง 2 แห่งทำหน้าที่เป็นศูนยก์ ลางของชุมชนทั้งชาวซิกข์และผูท้ ี่ไม่ใช่ชาวซิกข์ โดย
มผี ู้มาสักการะและผมู้ าเยือนมากกวา่ 15,000 คน เขา้ มาท่ปี ระตขู องคุรุทกุ สัปดาห์ นอกจากการสืบสานและ
เสรมิ แต่งโปรแกรมทางศาสนาให้ม่ันคงแลว้ อาคารหลังใหม่ยังสามารถรองรับการชุมนุมขนาดใหญ่ทงั้ ในห้อง
โถงใหญ่ (จุได้มากถึง 3,000 คน) ล้อมรอบด้วยแกลเลอร่ีเพื่อให้ผู้มาสักการะได้นั่งสมาธิหรือสวดมนต์ใน
บรเิ วณทีส่ ันโดษ

เอกสารอา้ งอิง SGSSS. (2564). HISTORY OF SRI GURU SINGH SABHA SOUTHALL. สืบค้น
17 กุมภาพันธ์ 2565, จาก HTTPS://SGSSS.ORG/ABOUT_US/

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวปี อเมริกาเหนอื ทวปี อเมรกิ าใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวปี แอฟริกาใต้

Gurdwara Guru Singh Sabba-Mannheim-World Gurudwaras
ที่มา : https://www.worldgurudwaras.com/gurudwaras/gurdwara-guru-singh-sabha-mannheim/
Gurdwara Sri Guru Singh Sabha, มันไฮม,์ บาเดน เวิร์ทเทมเบิร์ก, เยอรมนี

127

Gurdwara Guru Singh Sabba-Mannheim-World Gurudwaras

Gurdwara Sri Guru Singh Sabha ในเมืองมันไฮม์เป็นศูนย์กลางสำหรับทกุ คน มันถูกสร้างขึ้น
ในปี 1990 และต่อมาถูกย้ายไปท่ีมันไฮม์ในปี 1993 และต้ังแต่นั้นมาด้วยความสง่างามของพระเจ้าก็ช่วยให้
ทุกคนได้รับความสงบสุขและจิตวิญญาณ ปัจจุบันกุร์ดวาราเป็นสถานท่ีแสวงบุญของชาวซิกข์ ฮินดู และ
เยอรมันทั้งหมด Gurdwara Sahib ใน Mannheim เปิดออกสู่ห้องโถง Langar ขนาดใหญ่ซ่ึงมุ่งหน้าไปยัง
ห้องโถงใหญ่ซ่งึ อย่ทู างดา้ นขวามือ Guru Granth Sahib หนงั สือศกั ด์ิสทิ ธ์ิของชาวซิกข์วางอยู่ทโี่ ดมซึง่ มีแผ่น
ผ้าไหมแผ่ออกและปกคลุมไปด้วยดอกไม้ คอมเพล็กซ์คุรุดวาราประกอบด้วย: ห้องสำหรับเด็กที่จะเรียนรู้
ภาษาปัญจาบ ห้องครัว ลักษณะสำคัญสองประการของวัดนี้คือการชุมนุม Sangat และ Pangat หรือครัว
ของชุมชนท่ีเรียกว่า Guru-ka-langar เช่นเดียวกับชาวซิกข์ Gurdwaras แนวความคิดของ langar ได้รับ
การฝึกฝน และทุกคนโดยไมค่ ำนึงถึงเช้ือชาติหรือศาสนาสามารถรบั ประทานไดใ้ นครัว Gurdwara ที่กุรด์ วา
รา ผู้เข้าชมจะได้รับการเตือนให้คลุมผมและไม่สวมรองเท้า มีผ้าคลุมศีรษะและบริการดูแลรองเท้าภายใน
บริเวณโรงแรมและมีบรกิ ารฟรี

การเยีย่ มชม Gurdwara Sahib ในเมืองมานไฮม์จะเป็นการรำลึกถึงศรัทธา ความเชอ่ื และการ
ตอ้ นรับที่อบอุ่นของชุมชนซกิ ข์ รบั พรจากนักบวชเมอ่ื คณุ เยี่ยมชม Gurdwara Sahib ในเมอื งมนั ไฮม์
เอกสารอ้างอิง Gurdwaar.(2564).Gurdwara Sri Guru Singh Sabha, Mannheim, Baden
Wurttemberg, Germany.สบื ค้น 17 กมุ ภาพนั ธ์ 2565, จาก
https://gurdwaar.com/Gurdwara+Sri+Guru+Singh+Sabha/20674907

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวีปอเมรกิ าเหนือ ทวปี อเมรกิ าใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวีปแอฟรกิ าใต้

ทวปี อเมริกาเหนอื

วัดกูรซ์ ิกข์และพพิ ธิ ภัณฑ์มรดกซกิ ข์
ทีม่ า : https://tourismabbotsford.ca/the-gur-sikh-temple-and-sikh-heritage-museum/

129

วัดกรู ์ซกิ ข์และพพิ ธิ ภัณฑม์ รดกซิกข์

โบราณสถานแห่งชาติวัด Gur Sikhเป็นสถานที่สักการะของชาวซิกข์ต้ังแต่ปี 1912 สร้างข้ึนโดย
ชุมชนของผู้ตั้งถ่ินฐานชาวซิกข์ เป็นที่รู้กันว่าเป็นวัดซิกข์ที่เก่าแก่ที่สุดท่ีมีอยู่ในอเมริกาเหนือ อาคารท่ีได้รับ
การบูรณะแห่งน้ีได้รับการจัดการโดยสมาคม Khalsa Diwan Societyที่ไม่แสวงหาผลกำไรซึ่งบริหารงาน
ประจำวัน ที่ช้ันล่างเป็นพิพิธภัณฑ์มรดกซิกข์ซึ่งเปิดให้ประชาชนท่ัวไปได้เข้าชม ชั้นสองยังคงเป็นห้องสวด
มนต์ ในปี 2011 สถาบันเอเชียใต้ศึกษา (South Asian Studies Institute) เน่ืองจากมีประวัติอันยาวนาน
ของ Fraser Valley โดยมีความเชื่อมโยงกับคริสตศักราชท่ีใหญ่กว่าและประวัติศาสตร์ของแคนาดา และ
สถาบันเอเชียใต้ศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยFraser Valleyเป็นพันธมิตรที่น่าภาคภูมิใจในการทำงานและการมี
สว่ นร่วมของชุมชนในพิพธิ ภัณฑม์ รดกซกิ ข์

รางวัล ในปี 2017 พิพิธภัณฑ์มรดกซิกข์ได้รับรางวัล'Award of Merit' ของสมาคมพิพิธภัณฑ์ BC
สำหรับนิทรรศการที่ระลึกถึงแคนาดา 150 และมีชื่อว่า: (Dis) Enfranchisement 1907-1947: การต่อสู้ส่ี
สิบปีเพ่ือการโหวต ในปี 2019 พิพิธภัณฑ์มรดกซิกข์ได้รับรางวัล Heritage BC Award for 'Education
and Awareness' สำหรบั การจดั แสดงเดียวกัน

เอกสารอ้างองิ TOURISM ABBOTSFORD . (2020) . THE GUR SIKH TEMPLE AND SIKH HERITAGE
MUSEUM. สบื คน้ วนั ที่ 18.กมุ พาพนั ธ์ 2565 จาก https://tourismabbotsford.ca/the-gur-sikh-
temple-and-sikh-heritage-museum/

ศาสนสถานในดินแดนทวีปยุโรป ทวปี อเมรกิ าเหนือ ทวีปอเมริกาใต้ ทวปี ออสเตรเลยี ทวปี แอฟรกิ าใต้

วัดซกิ กดุ วารา หรือ Sikh Gurdwara Sahib Temple
ท่มี า : https://pin.it/1BJG45A

131

วัดซิกกดุ วารา หรือ Sikh Gurdwara Sahib Temple

Sikh Gurdwara Sahib Temple ถูกก่อตั้งขน้ึ ในปพี .ศ. 2527 ตง้ั อยบู่ นพ้นื ท่ีส่ีสบิ เอเคอรใ์ นย่าน
Evergreen ท่ีมองเห็น Silicon Valley พร้อมทิวทัศน์ที่สวยงามเพราะอยู่บริเวณเชิงเขาของเทือกเขา
Mount Diablo มองเห็นแสงไฟของเมืองซานโฮเซในยามค่ำคืนเป็นหน่ึงในวัดซิกข์หรอื กุร์ดวาราท่ีใหญ่ที่สุด
ใน อ เม ริ ก า เห นื อ แ ล ะ เป็ น ศู น ย์ ก ล า ง ก า ร สั ก ก า ร ะ ข อ ง ช า ว ซิ ก ข์ ท่ี ให ญ่ ท่ี สุ ด น อ ก วั ด ท อ ง ข อ ง อิ น เดี ย
สถาปัตยกรรมเป็นแบบอินโด-เปอร์เซีย ซ่ึงเป็นการผสมผสานระหว่างองค์ประกอบฮินดูและอิสลาม โดย
Sikh Gurdwara Sahib Temple จะมีโดมหัวหอม ซุ้มประตูโค้ง น้ำพุ และทัศนียภาพรอบด้านเป็นกุร์ดวา
ราทใี่ หญ่ที่สุดในอเมริกาเหนอื และเปน็ ศูนยก์ ลางการสักการะของชาวซกิ ข์ท่ใี หญท่ ีส่ ดุ นอกวัดทองของอนิ เดยี

เอกสารอา้ งองิ Hank Pellissier . 19 June 2020 . Sikh Gurdwara Sahib Temple . สืบคน้ วันที่ 18
กุมภาพันธ์ 2565 จาก https://www.nytimes.com/2010/06/20/us/20bcintel.html

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวีปอเมริกาเหนอื ทวปี อเมริกาใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวปี แอฟรกิ าใต้

ทวปี อเมรกิ าใต้

Gurdwara
ท่มี า : https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/8/86/Gurdwara_Sahib
_Melbourne%2C_Australia.jpg

133

Gurdwara

คุรุดวารา (gurdwara ความหมาย "ประตูสู่ กูรู ") ตั้งอยู่ที่เมืองในนิวเซาท์เวลส์ประเทศ
ออสเตรเลีย ถูกสร้างขึ้นเพ่ือเป็นสถานที่ท่ีชาวซิกข์สามารถมารวมตัวกันเพื่อฟังปรมาจารย์พูดเร่ืองจิต
วญิ ญาณ ร้องเพลงสวด ประกอบพิธีและนมัสการทางศาสนา เพื่อสรรเสริญ Waheguru คุรุดวาราแห่งน้ีถูก
สร้างขึ้นเป็นเเห่งท่ีสอง คุรุดวาราแห่งแรกถูกสร้างขึ้นใน คาร์ทาร์ปูร์ ริมฝั่งแม่น้ำราวีในแคว้นปัญจาบ โดย
ปราชญ์ชาวซิกข์คนแรกคุรุนานักสร้างในปี 1521 ปัจจุบันตั้งอยู่ใน เขต Narowal ทางตะวันตกของ
รัฐปัญจาบ ประเทศปากีสถาน โดยคุรุดวาราทั้งหมดมีห้องโถง ภาษา ซ่ึงผู้คนสามารถรับประทานอาหาร
มงั สวิรตั ไิ ดฟ้ รโี ดยอาสาสมัครที่คุรุดวาราคอยเปน็ ผู้ดแู ล

นอกจากนี้ยังอาจมีห้องสถานพยาบาล ห้องสมุด สถานรับเล้ียงเด็ก ห้องเรียน ห้องประชุม สนาม
เด็กเล่น สนามกีฬาร้านขายของชำ และรา้ นซ่อมตา่ ง ๆ gurdwara สามารถมองเห็นได้จากระยะไกลเพราะมี
เสาธงสงู ทม่ี ี Nishan Sahib ซ่งึ เปน็ ธงซิกข์ เป็นสัญลกั ษณโ์ ดดเดน่

เอกสารอ้างอิง Encyclopaedia Britannica (2014) . Wikipedia . สบื คน้ 18 กุมภาพันธ์ 2565 ,จาก
https://isecosmetic.com/wiki/Gurdwara

ศาสนสถานในดนิ แดนทวีปยโุ รป ทวปี อเมรกิ าเหนือ ทวีปอเมรกิ าใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวีปแอฟรกิ าใต้

Shri Arjun Dev Sahib Gurdwara, Brazil
ท่ีมา : Gurudwara แห่งแรกของบราซลิ
https://gurdwaar.com/images/Shri+Arjun+Dev+Sahib+Gurdwara/df3d16d4565437ec68d46b18
5cb74838

135

Shri Arjun Dev Sahib Gurdwara, Brazil

Gurdwara แห่งน้ีเป็นเคร่ืองเตือนใจให้กับการทำงานหนักและการอุทิศตนของชาวซิกข์ในบราซิล
และโดยเฉพาะอย่างย่งิ Mata Subagh Kaur Khalsa และ Bhai Gurusewak Singh Khalsa สามีภรรยาท่ี
ใช้เวลา 20 ปีในการวางแผนต้ังครรภ์ และสร้าง Gurdwara ขนาดใหญ่ เพื่อประโยชน์ของพระสังฆราชใน
บราซลิ

Subhag Kaur Khalsa ชาวอเมริกันและสามีผู้ล่วงลับของเธอ Gurusewak Singh Khalsa ชาว
บราซิลย้ายไปเซาเปาโลในปี 2530 โดยนำพระคัมภีร์ศักด์ิสิทธ์ิของซิกข์ Sri Guru Granth Sahib มาด้วย
ทั้งคู่ได้ต้ังศูนย์ yoga ในอพาร์ตเมนต์ของพวกเขา และต่อมาก็แยกเป็น Gurdwara ในปี 2547 มีผู้ติดตาม
พวกเขาท่ีสวมผ้าโพกหัวสองสามคนในบราซิล เป็นประสบการณ์ท่ีได้เห็นพวกเขาทำ “ Ardas ” ในภาษา
ปัญจาบ

เอกสารอา้ งองิ Shri Arjun Dev Sahib Gurdwara, Brazil(2014). สกิ ขิวิก.ิ สืบค้น 18 กมุ ภาพนั ธ์ 2565,
จาก
https://www.sikhiwiki.org/index.php?title=Shri_Arjun_Dev_Sahib_Gurdwara,_Brazil&oldid
=110297

ศาสนสถานในดินแดนทวปี ยโุ รป ทวปี อเมรกิ าเหนือ ทวปี อเมรกิ าใต้ ทวปี ออสเตรเลยี ทวปี แอฟรกิ าใต้

ทวีปออสเตรเลยี

The First Sikh Temple Woolgoolga
ท่ีมา : https://www.worldgurudwaras.com/gurudwaras/the-first-sikh-temple-woolgoolga/
วัดซกิ ข์แหง่ แรก

137

วดั ซิกข์แห่งแรก วลู กูลกา (The First Sikh Temple Woolgoolga)

วลู กูลกา เป็นศูนย์กลางของการอพยพของชาวซิกข์ท่ีไปตั้งถึงฐานในนิวเซาท์เวลส์ออสเตรเลียในปี
1870 พื้นที่นี้เป็นที่อยู่อาศัยของชนเผ่าอะบอริจนิ กัมแบงกีร์ พวกเขาใช้ชีวิตอยา่ งประหยัดและเคร่งครัดและ
ต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมาย แต่สำหรับการต้อนรับความอดทนและกำลังใจของชาวออสเตรเลีย
การจัดตั้งชาวซิกข์ในออสเตรเลียคงเป็นไปไม่ได้ มีส่วนน้อยในชุมชนเจ้าบ้านที่ช่วยเหลือผู้อพยบชาวซิกข์ใน
ด้านทางธุรกิจ การเงิน การสื่อสาร และยังสนับสนุนในการรักษาวัฒนธรรมและศาสนาของพวกเขา ซึ่งได้
สรา้ งวดั ซิกข์แหง่ แรกของออสเตรเลียขน้ึ มาในวลู กูลกา

ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวซิกข์ในยุคแรก ๆ มาจากชุมชนเกษตรกรรมมาต้ังรกร้างทางเหนือของนิวเซาท์
เวลส์และควีนแลนด์ พวกเคา้ ใช้ชีวิตอย่างประหยัดและเคร่งครดั ตอ้ งเผชิญกับความยากลำบากมากมาย การ
ก่อตั้งชุมชนซิกข์นั้นจะเกิดข้ึนไม่ได้หากปราศจากการต้อนรับจากชุมชนเจ้าภาพที่คอยช่วยเหลือในด้านต่าง
ๆ และยังสนับสนุนวฒั นธรรมและศาสนาของพวกเขา ด้วยการสร้างวัดซิกข์แห่งแรกข้ึนในออสเตรเลีย และ
ยังมีส่วนสนับสนุนเศรษฐกิจในท้องถ่ินซงึ่ ของไว้ด้วยศาสนาวัฒนธรรมและมรดกของพวกเขา มีเสรีภาพส่วน
บุคคลการเมืองศาสนาความเท่าเทียมกันทางสังคมและวัฒนธรรม วูลกูลกาจงึ เป็นที่มีความหลากหลายทาง
วฒั นธรรมของออสเตรเลียในปัจจบุ นั และในปี พ.ศ.2556 ยงั ไดร้ บั การข้นึ ทะเบยี นเป็นมรดกอกี ด้วย

เอกสารอา้ งอิง SikhiWiki.(2555). The First Sikh Temple Woolgoolga.สบื คน้ 17 กุมภาพนั ธ์ 2565,
จาก https://www.sikhiwiki.org/index.php/The_First_Sikh_Temple_Woolgoolga

ศาสนสถานในดนิ แดนทวปี ยุโรป ทวีปอเมริกาเหนือ ทวปี อเมรกิ าใต้ ทวีปออสเตรเลีย ทวปี แอฟรกิ าใต้

Gurdwara Sahib Glenwood,Australia
ท่ีมา : https://images.app.goo.gl/YkbvPg3nXoeoexxq7

139


Click to View FlipBook Version