วิจัยในชั้นเรียนเรื่อง ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนออนไลน์

43

ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรยี นต่อการจัดการเรยี นการสอนออนไลน์ภายใต้

สถานการณ์โควดิ -19 รายวิชาภาษาไทยพืน้ ฐาน 3 (ท 21101)

ผ ล ก ำ ร วิ เค ร ำ ะ ห์ ค ว ำ ม พึ ง พ อ ใ จ ต่ อ ก ำ ร จั ด ก ำ ร เรี ย น ก ำ ร ส อ น อ อ น ไ ล น์ ภ ำ ย ใ ต้

สถำนกำรณ์โควิด-19 ของนักเรียนรำยวิชำภำษำไทยพื้นฐำน 3 (ท 21101) โรงเรียนสำธิต

มหำวิทยำลัยพะเยำ ผู้วิจยั แบ่งเป็น 3 สว่ น ได้แก่ 1) ผลกำรวิเครำะห์ควำมพึงพอใจของนักเรียน

ต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้สถำนกำรณ์โควิด-19 2) ผลกำรวิเครำะห์ควำมพึงพอใจ

ต่อรูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้สถำนกำรณ์โควิด-19 และ 3) ข้อเสนอแนะ

เพิ่มเติมของนักเรียนต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้สถำนกำรณ์โควิด-19 โดย

แตล่ ะสว่ นมีรำยละเอียด ดงั น้ี

1. ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนการสอน

ออนไลนภ์ ายใต้สถานการณ์โควดิ -19

ผลกำรวิเครำะห์ควำมพึงพอใจของนักเรียนต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์

ภำยใต้สถำนกำรณ์ โควิด-19 รำยวิชำภำษำไทยพื้นฐำน 3 (ท 21101) โรงเรียนสำธิต

มหำวิทยำลัยพะเยำ ซึ่งแบ่งรำยกำรประเมินเป็น 3 ด้ำน ได้แก่ 1) ด้ำนเนื้อหำสำระ 5 ข้อ 2) ด้ำน
รูปแบบและกำรนำเสนอ 4 ข้อ และ 3) ด้ำนประโยชน์ที่ได้รับ 2 ข้อ โดยแสดงรำยละเอียดตำม

ตำรำง 2 ดังนี้

ตาราง 2 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ความพึงพอใจของนักเรียน

ตอ่ การจัดการเรยี นการสอนออนไลน์ภายใต้สถานการณโ์ ควิด-19

รายการประเมิน S.D. แปลผล

ด้านเนื้อหาสาระ

1. กำรเรียบเรียงเน้ือหำเป็นระบบชดั เจน 4.11 0.662 พึงพอใจมำก
2. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรสู้ อดคล้องกับเนื้อหำ 4.19 0.628 พึงพอใจมำก
3. กำรนำเสนอน่ำสนใจ 3.92 0.796 พึงพอใจมำก
4. กำรลำดับของเน้ือหำสำระในบทเรียนเหมำะสม 4.17 0.694 พึงพอใจมำก

5. นักเรียนสำมำรถเรียนซ้ำในเร่ืองที่ไม่เข้ำใจได้ด้วย 4.10 0.806 พึงพอใจมำก
ตนเอง

คา่ เฉลีย่ รวม ( ) ดา้ นเนือ้ หาสาระ 4.10 0.717 พึงพอใจมาก

44

ตาราง 2 (ตอ่ )

รายการประเมิน S.D. แปลผล
0.808
ด้านรปู แบบและการนาเสนอ พึงพอใจมำก
0.646
6. กำรจดั กำรเรียนกำรสอนผำ่ นออนไลน์ 4.13 0.643 พึงพอใจมำก
ด้วยโปรแกรม Microsoft Teams โดยมีสอ่ื เติม คือ 0.865 ทีส่ ุด

Google Site ที่ผู้วจิ ยั 0.740 พึงพอใจมำก
ได้พัฒนำขึน้ งำ่ ยต่อกำรอ่ำนและกำรใชง้ ำน ที่สดุ
0.965
7. รปู แบบของเน้ือหำประกอบกำรบรรยำย 4.23 พึงพอใจมำก
ใช้ตวั อกั ษรและภำพประกอบอย่ำงเหมำะสม 0.932 พึงพอใจมาก

8. วีดิทศั นป์ ระกอบกำรสอนเหมำะสมและสอดคล้อง 4.26 0.949 พึงพอใจมำก

กับเนือ้ หำ 0.768 พึงพอใจมำก

9. ฟอร์มออนไลน์ (Google Forms) สะดวกและเข้ำถึงง่ำย 4.15 พึงพอใจมาก
พึงพอใจมาก
ค่าเฉลี่ยรวม ( ) ด้านรูปแบบและการนาเสนอ 4.19

ดา้ นประโยชนท์ ่ไี ด้รับ

10. กำรจดั กำรเรียนกำรสอนผ่ำนออนไลน์ 3.64

ช่วยสร้ำงควำมเข้ำใจเพิ่มเตมิ จำกกิจกรรม

กำรเรียนรไู้ ด้เป็นอย่ำงดี

11. ควำมรู้ที่ได้รับจำกกำรจัดกำรเรียนกำรสอน 3.65
ออนไลน์ สำมำรถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวติ ประจำวันได้

ค่าเฉลี่ยรวม ( ) ดา้ นประโยชน์ท่ไี ดร้ ับ 3.65

คา่ เฉลี่ยรวม ( ) ทงั้ หมด 4.05

จำกตำรำง 2 ควำมพึงพอใจต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้สถำนกำรณ์
โควิด-19 ของนกั เรียนรำยวิชำภำษำไทยพื้นฐำน 3 (ท22101) โรงเรียนสำธิตมหำวิทยำลัยพะเยำ
แบ่งเป็น 3 ด้ำน เม่ือเปรียบเทียบโดยเรียงลำดับตำมค่ำเฉลี่ยรวม ( ) ระดับควำมพึงพอใจของ
นักเรียนจำกมำกไปหำน้อย พบว่ำ ด้ำนรูปแบบและกำรนำเสนอ มีค่ำเฉลี่ยรวม ( ) เท่ำกับ 4.19
อยู่ในระดับพึงพอใจมำก รองลงมำเป็น ด้ำนเนื้อหำสำระ มีค่ำเฉลี่ยรวม ( ) เท่ำกับ 4.10 อยู่ใน
ระดับพึงพอใจมำก และลำดับสุดท้ำยเป็น ด้ำนประโยชน์ทีไ่ ด้รับ มีค่ำเฉลี่ยรวม ( ) เท่ำกบั 3.65

45

อยู่ในระดับพึงพอใจมำก ทั้งนี้ ค่ำเฉลี่ยรวม ( ) ระดับควำมพึงพอใจของนักเรียนโดยภำพรวม มีค่ำ
เท่ำกบั 4.05 อยู่ในระดบั พึงพอใจมำก

2. ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดการเรียนการสอนออนไลน์
ภายใตส้ ถานการณโ์ ควดิ -19

ผลกำรวิเครำะห์ควำมพึงพอใจต่อรูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้
สถำนกำรณ์โควิด-19 ของนักเรียนรำยวิชำภำษำไทยพื้นฐำน 3 (ท 21101) โรงเรียนสำธิต
มหำวิทยำลัยพะเยำ ซึง่ แบ่งรำยกำรประเมินเป็น 4 รูปแบบกำรสอน ได้แก่ รูปแบบที่ 1 บรรยำย
เนื้อหำโดยใช้สื่อ PowerPoint รูปแบบที่ 2 บรรยำยเนื้อหำโดยใช้สื่อ PowerPoint และทดสอบ
หรือทำใบงำนหลังเรียนผ่ำนระบบ Google Forms รูปแบบที่ 3 เปิดคลิปวิดีโอกำรสอนผ่ำน
Windows Media Player และทดสอบหลังเรียนผ่ำนระบบ Google Forms และรูปแบบที่ 4 เปิด
คลิปวิดโี อกำรสอนผ่ำน Windows Media Player โดยแสดงรำยละเอียดตำมตำรำง 3 ดงั นี้

ตาราง 3 แสดงค่าเฉลี่ย ( ) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ความพึงพอใจของนักเรียน

ตอ่ รปู แบบการจัดการเรยี นการสอนออนไลนภ์ ายใต้สถานการณ์โควิด-19

รปู แบบการสอน S.D. แปลผล

รูปแบบท่ี 1 4.09 0.618 พึงพอใจมำก
บรรยำยเนือ้ หำโดยใช้ส่อื PowerPoint

รปู แบบท่ี 2

บรรยำยเน้ือหำโดยใช้ส่อื PowerPoint และทดสอบ 4.11 0.720 พึงพอใจมำก
หรอื ทำใบงำนหลังเรียนผ่ำนระบบ Google Forms

รปู แบบท่ี 3 4.04 0.720 พึงพอใจมำก
เปิดคลิปวิดีโอกำรสอนผ่ำน Windows Media

Player และทดสอบหลังเรียนผำ่ นระบบ Google Forms

รปู แบบท่ี 4 3.94 0.732 พึงพอใจมำก
เปิดคลปิ วิดีโอกำรสอนผ่ำน Windows Media

Player

46

จำกตำรำง 3 ควำมพึงพอใจต่อรูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้
สถำนกำรณ์โควิด-19 ของนักเรียนรำยวิชำภำษำไทยพื้นฐำน 3 (ท 22101) โรงเรียนสำธิต
มหำวิทยำลัยพะเยำ จำนวน 4 รูปแบบ เม่ือเปรียบเทียบโดยเรียงลำดับตำมค่ำเฉลี่ย ( ) ระดับ
ควำมพึงพอใจของนักเรียนจำกมำกไปหำน้อย พบว่ำ รูปแบบที่ 2 (บรรยำยเนื้อหำโดยใช้สื่อ
PowerPoint และทดสอบหรอื ทำใบงำนหลังเรียนผ่ำนระบบ Google Forms) มคี ่ำเฉลี่ย ( ) เท่ำกับ
4.11 อยู่ในระดับพึงพอใจมำก รองลงมำเป็น รูปแบบที่ 1 (บรรยำยเน้ือหำโดยใช้สื่อ PowerPoint)
มีค่ำเฉลี่ย ( ) เท่ำกับ 4.09 อยู่ในระดับพึงพอใจมำก รองลงมำเป็น รูปแบบที่ 3 (เปิดคลิปวิดีโอ
กำรสอนผ่ำน Windows Media Player และทดสอบหลังเรียนผ่ำนระบบ Google Forms) มีค่ำเฉลี่ย
( ) เท่ำกับ 4.04 อยู่ในระดับพึงพอใจมำก และลำดับสุดท้ำยเป็น รูปแบบที่ 4 (เปิดคลิปวิดีโอกำร
สอนผำ่ น Windows Media Player) มคี ่ำเฉลีย่ ( ) เท่ำกบั 3.94 อยู่ในระดบั พึงพอใจมำก

3. ผลการวิเคราะห์ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของนักเรียนต่อการจัดการเรียนการ
สอนออนไลน์ภายใตส้ ถานการณ์โควดิ -19

จำกคำถำมปลำยเปิดให้นักเรียนแสดงควำมคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอแนะเพิ่มเติมตรง
ส่วนท้ำยของแบบประเมินควำมพึงพอใจต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้
สถำนกำรณ์โควิด-19 รำยวิชำภำษำไทยพื้นฐำน 3 (ท 21101) ของนักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษำปีที่ 2
โรงเรียนสำธิตมหำวิทยำลัยพะเยำ ทั้งหมด 101 คน พบว่ำ นักเรียนให้ข้อเสนอแนะ จำนวน 22
คน คิดเป็นร้อยละ 21.78 และนักเรียนไม่ให้ข้อเสนอแนะ จำนวน 79 คน คิดเป็นร้อยละ 78.21
ท้ังนี้ผู้วิจัยได้แบ่งข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของนักเรียนเปน็ 2 รูปแบบ ได้แก่ ข้อเสนอแนะที่พึงพอใจ
และข้อเสนอแนะที่ควรปรับปรุงเพิ่มเติม โดยแต่ละรูปแบบแบ่งย่อยเป็น 3 ด้ำน ได้แก่ 1) ด้ำน
เนือ้ หำบทเรียน 2) ดำ้ นรูปแบบกำรสอน และ 3) ดำ้ นตัวผสู้ อน ตำมรำยละเอียดดงั ต่อไปนี้

3.1 ข้อเสนอแนะทีพ่ งึ พอใจ
1) ด้ำนเนื้อหำบทเรียน นักเรียนมีควำมพึงพอใจที่ผู้วิจัยใช้เนื้อหำบทเรียน

กล่ำวคือ เรียบเรียงเน้ือหำเป็นระบบชัดเจน ตัวหนังสือไม่มำกเกินไป และกำรลำดับของเน้ือหำสำระ
ในบทเรียนเหมำะสม ใช้ตวั อกั ษรและภำพประกอบกำรบรรยำยเนื้อหำเหมำะสมและมีสสี ันสวยงำม
ช่วยดึงดดู ควำมสนใจ

2) ด้ำนรูปแบบกำรสอน นักเรียนมีควำมพึงพอใจโดยภำพรวมต่อรูปแบบกำร
จัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ กล่ำวคือ นักเรียนสะดวกต่อกำรเข้ำถึงเนื้อหำรำยวิชำภำษำไทย
พื้นฐำน 3 ผ่ำน Google Site ที่ผู้วิจัยได้พัฒนำขึ้น สำมำรถตรวจสอบกำรเข้ำเรียน ดำวน์โหลด
เนือ้ หำกำรเรียนรู้และสำมำรถทบทวนเนื้อหำของบทเรียนย้อนหลังได้ รวมถึงมีควำมพึงพอใจใน
รูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่ 2 โดยมีกำรบรรยำยเน้ือหำโดยใช้สื่อ PowerPoint และ

47

ทดสอบหรือทำใบงำนหลังเรียนผ่ำนระบบ Google Forms ที่เข้ำถึงงำ่ ย และกำรเรียนรู้โดยผสู้ อน
บรรยำยทำให้นกั เรียนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจสำมำรถซักถำมข้อสงสัยได้โดยตรง นักเรียนทุกคนมี
ส่วนรว่ มในกำรตอบคำถำมมำกกว่ำกำรดคู ลิปกำรสอน

3) ด้ำนตัวผู้สอน นักเรียนมีควำมพึงพอใจต่อผู้สอนในกำรจัดกำรเรียนกำร
สอน กล่ำวคือ ผู้สอนมีกำรจัดกำรเรียนกำรสอนอย่ำงเป็นระบบ มีมนุษยสัมพันธ์ดี และมีกำร
ปรับบุคลิกของตนเองเพื่อเร้ำควำมสนใจให้กับชั้นเรียน ได้แก่ กำรสนทนำกับนักเรียนอย่ำงเป็น
มิตร และมีกำรใชน้ ้ำเสียงสูงตำ่ ขณะบรรยำยเนือ้ หำ

3.2 ขอ้ เสนอแนะทีค่ วรปรบั ปรุงเพิ่มเติม
1) ด้ำนเนื้อหำบทเรียน บทเรียนที่ใช้สอนมีเน้ือหำบำงเร่ืองมีควำมกระชับมำก

เกินไป จนทำใหน้ ักเรียนบำงส่วนรู้สึกว่ำมีควำมยำกต่อกำรทำควำมเข้ำใจในเนื้อหำของ
2) ด้ำนรูปแบบกำรสอน ผู้สอนควรพัฒนำรูปแบบกำรสอนให้มีควำมน่ำสนใจ

มำกขึ้น เช่น ให้นักเรียนทบทวนเน้ือหำหรือมีส่วนร่วมผ่ำนเกมหรือทำกิจกรรม เช่น Kahoot ซึ่งเป็น
เกมทีต่ อบสนองต่อกำรเรียนกำรสอน ช่วยให้นักเรียนสนุกกับกำรเรียนโดยเป็นเคร่ืองมือช่วยใน
กำรประเมนิ ผลผำ่ นกำรตอบคำถำม กำรอภิปรำย หรอื กำรสำรวจควำมคิดเห็น

3) ดำ้ นตัวผสู้ อน ผวู้ ิจัยควรเพิ่มทักษะกำรพูดเร้ำอำรมณ์และบรรยำยเน้ือหำ
บทเรียนให้ดูน่ำสนใจ รวมถึงกำรหม่ันใช้ถำมคำถำมกระตุ้นกำรเรียนรู้ของผู้เรียน เพื่อให้กำร
ดำเนนิ กิจกรรมกำรเรยี นกำรสอนออนไลน์มีประสิทธิภำพมำกขึ้น

48

บทที่ 5

บทสรปุ

กำรศึกษำเร่ือง “ควำมพึงพอใจต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้
สถำนกำรณ์โควิด-19 รำยวิชำภำษำไทยพื้นฐำน 3 (ท 21101) โรงเรียนสำธิตมหำวิทยำลัย
พะเยำ” มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดรูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้สถำนกำรณ์โค
วิด-19 และเพื่อวัดควำมพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้
สถำนกำรณ์โควิด-19

โดยกลุ่มตัวอย่ำงในกำรวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษำปีที่ 2 โรงเรียน
สำธิตมหำวิทยำลัยพะเยำ อำเภอเมืองพะเยำ จังหวัดพะเยำ ภำคเรียนที่ 1 ปีกำรศึกษำ 2564
จำนวนนักเรียน 101 คน ทำกำรสุ่มตัวอย่ำงแบบเจำะจง (Purposive Sampling) โดยให้นักเรียน
ทำแบบประเมินทั้งสิ้น จำนวน 101 ชุด ได้รับกำรตอบกลบั แบบประเมิน จำนวน 101 ชุด คิดเป็น
ร้อยละ 100 ของจำนวนแบบประเมินท้ังหมด ทำกำรวิเครำะห์ผลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูปทำง
สถิติโดยสถิติเชิงพรรณนำ ได้แก่ ค่ำเฉลี่ย (Mean) และค่ำส่วนเบี่ยงเบนมำตรฐำน (Standard
Deviation) โดยมีเนอื้ หำ ดังน้ี

1. สรปุ ผลกำรวิจัย
2. อภปิ รำยผล
3. ข้อเสนอแนะ
สรุปผลการวิจัย
กำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้สถำนกำรณ์โควิด-19 รำยวิชำภำษำไทย
พื้นฐำน 3 (ท 21101) โรงเรียนสำธิตมหำวิทยำลัยพะเยำ ผู้วิจัยสรุปผลกำรวิจัยแบ่งเป็น 3 ประเด็น
ดงั ต่อไปนี้
1. รูปแบบการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 รายวิชา

ภาษาไทยพื้นฐาน 3 (ท 21101)
ผวู้ ิจัยจดั รูปแบบกำรเรียนกำรสอนออนไลน์แบ่งเป็น 4 รูปแบบ ดังนี้
1.1 รูปแบบที่ 1 บรรยำยเนื้อหำโดยใช้สื่อ PowerPoint) ซึ่งสัปดำห์กำรจัดกำรเรียน

กำรสอนทีเ่ ข้ำข่ำยรูปแบบดงั กล่ำว มีจำนวน 1 สปั ดำห์ คือ
สปั ดำหท์ ี่ 1 เรอ่ื ง แนะนำรำยวิชำและควำมรู้พ้ืนฐำนวรรณคดีและวรรณกรรม

49

1.2 รูปแบบที่ 2 (บรรยำยเนื้อหำโดยใช้สื่อ PowerPoint และทดสอบหรือทำใบงำน
หลังเรียนผ่ำนระบบ Google Forms) ซึ่งสัปดำห์กำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่เข้ำข่ำยรูปแบบ
ดังกล่ำว มีจำนวน 4 สปั ดำห์ คือ

สัปดำห์ที่ 2 เรื่อง โวหำรภำพพจน์ รสวรรณคดี และทดสอบหลังเรียน เร่ือง
พืน้ ฐำนวรรณคดีและวรรณกรรม โวหำรภำพพจน์

สัปดำห์ที่ 5 เรื่อง สรุปเนื้อหำ โคลงภำพพระรำชพงศำวดำรและคำรำชำศัพท์
และทดสอบหลงั เรียน เร่อื ง โคลงภำพพระรำชพงศำวดำรและคำรำชำศัพท์

สัปดำห์ที่ 7 เร่ือง บทเสภำสำมัคคีเสวก ตอน สำมัคคีเสวก และทดสอบหลังเรียน
เรอ่ื ง บทเสภำสำมัคคีเสวก ตอน สำมคั คีเสวก

สปั ดำหท์ ี่ 8 เร่อื ง กำรเขียนจดหมำยกิจธุระ และจับผดิ ภำพจดหมำยกิจธรุ ะ
1.3 รปู แบบที่ 3 (เปิดคลิปวิดีโอกำรสอนผ่ำน Windows Media Player และทดสอบ
หลังเรียนผ่ำนระบบ Google Forms) ซึ่งสัปดำห์กำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่เข้ำข่ำยรูปแบบ
ดงั กล่ำว มีจำนวน 1 สัปดำห์ คือ

สัปดำห์ที่ 6 เร่ือง บทเสภำสำมัคคีเสวก ตอน วิศวกรรมำ และทดสอบหลังเรียน
เร่อื ง บทเสภำสำมคั คีเสวก ตอน วศิ วกรรมำ

1.4 รูปแบบที่ 4 (เปิดคลิปวิดีโอกำรสอนผ่ำน Windows Media Player) ซึ่งสัปดำห์
กำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่เข้ำข่ำยรูปแบบดังกล่ำว มีจำนวน 2 สัปดำห์ คือ

สัปดำห์ที่ 3 เร่ือง โคลงภำพพระรำชพงศำวดำร ตอน พันท้ำยนรสิงห์ และตอน
สมเดจ็ พระสรุ ิโยทยั ขำดคอช้ำง

สปั ดำหท์ ี่ 4 เรอ่ื ง คำรำชำศพั ท์
2. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ภายใต้
สถานการณ์โควิด-19 รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน 3 (ท 21101) โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัย
พะเยา

สรุปผลกำรวิเครำะห์ควำมพึงพอใจของนักเรียนต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอน
ออนไลน์แบ่งเป็น 3 ส่วน ดงั น้ี

2.1 ผลกำรวิเครำะห์ควำมพึงพอใจต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้
สถำนกำรณ์โควิด-19 ของนักเรียนรำยวิชำภำษำไทยพื้นฐำน 3 (ท 21101) โรงเรียนสำธิต
มหำวิทยำลัยพะเยำ แบ่งเป็น 3 ด้ำน เม่ือเปรียบเทียบโดยเรียงลำดบั ตำมค่ำเฉลี่ยรวม ( ) ระดับ
ควำมพึงพอใจของนักเรียนจำกมำกไปหำน้อย พบว่ำ ด้ำนรูปแบบและกำรนำเสนอ มีค่ำเฉลี่ย
รวม ( ) เท่ำกบั 4.19 อยู่ในระดับพึงพอใจมำก รองลงมำเป็น ดำ้ นเนื้อหำสำระ มีค่ำเฉลีย่ รวม ( )

50

เท่ำกับ 4.10 อยู่ในระดับพึงพอใจมำก และลำดับสุดท้ำยเป็น ด้ำนประโยชน์ที่ได้รับ มีค่ำเฉลี่ย
รวม ( ) เท่ำกับ 3.65 อยู่ในระดับพึงพอใจมำก ท้ังนี้ ค่ำเฉลี่ยรวม ( ) ระดับควำมพึงพอใจของ
นกั เรียนโดยภำพรวม มีคำ่ เท่ำกบั 4.05 อยู่ในระดับพึงพอใจมำก

2.2 ผลกำรวิเครำะห์ควำมพึงพอใจต่อรูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์
ภำยใต้สถำนกำรณ์โควิด-19 ของนักเรียนรำยวิชำภำษำไทยพื้นฐำน 3 (ท 211101) โรงเรียน
สำธิตมหำวิทยำลัยพะเยำ จำนวน 4 รูปแบบ เม่ือเปรียบเทียบโดยเรียงลำดับตำมค่ำเฉลี่ย ( )
ระดับควำมพึงพอใจของนักเรียนจำกมำกไปหำน้อย พบว่ำ รูปแบบที่ 2 (บรรยำยเนื้อหำโดยใช้
สื่อ PowerPoint และทดสอบหรือทำใบงำนหลังเรียนผ่ำนระบบ Google Forms) มีค่ำเฉลี่ย ( )
เท่ำกับ 4.11 อยู่ในระดับพึงพอใจมำก รองลงมำเป็น รูปแบบที่ 1 (บรรยำยเน้ือหำโดยใช้สื่อ
PowerPoint) มีค่ำเฉลี่ย ( ) เท่ำกับ 4.09 อยู่ในระดับพึงพอใจมำก รองลงมำเป็น รูปแบบที่ 3
(เปิดคลิปวิดีโอกำรสอนผ่ำน Windows Media Player และทดสอบหลังเรียนผ่ำนระบบ Google
Forms) มีค่ำเฉลี่ย ( ) เท่ำกับ 4.04 อยู่ในระดับพึงพอใจมำก และลำดับสุดท้ำยเป็น รูปแบบที่ 4
(เปิดคลิปวิดีโอกำรสอนผ่ำน Windows Media Player) มีค่ำเฉลี่ย ( ) เท่ำกับ 3.94 อยู่ในระดับพึง
พอใจมำก

2.3 ผลกำรวิเครำะหข์ ้อเสนอแนะเพิ่มเติมของนักเรียนต่อกำรจดั กำรเรียนกำรสอน
ออนไลน์ภำยใต้สถำนกำรณ์โควิด-19 รำยวิชำภำษำไทยพื้นฐำน 3 (ท 211101) ของนักเรียนชั้น
มธั ยมศกึ ษำปีที่ 2 โรงเรียนสำธิตมหำวิทยำลยั พะเยำ

2.3.1 ข้อเสนอแนะที่พึงพอใจต่อด้ำนเน้ือหำบทเรียน นักเรียนมีควำมพึงพอใจ
ที่ผู้วิจัยใช้เนื้อหำบทเรียน กล่ำวคือ เรียบเรียงเน้ือหำเป็นระบบชัดเจน ตัวหนังสือไม่มำกเกินไป
และกำรลำดับของเนื้อหำสำระในบทเรียนเหมำะสม ใช้ตัวอักษรและภำพประกอบกำรบรรยำย
เนือ้ หำเหมำะสมและมีสีสนั สวยงำมชว่ ยดึงดูดควำมสนใจ ด้ำนรปู แบบกำรสอน นักเรียนมีควำมพึง
พอใจโดยภำพรวมต่อรูปแบบกำรจัด กำรเรียนกำรสอนออนไลน์ กล่ำวคือ นักเรียนสะดวกต่อ
กำรเข้ำถึงเนื้อหำรำยวิชำภำษำไทยพื้นฐำน 3 ผ่ำน Google Site ที่ผู้วิจัยได้พัฒนำขึ้น สำมำรถ
ตรวจสอบกำรเข้ำเรียน ดำวน์โหลดเนื้อหำกำรเรียนรู้และสำมำรถทบทวนเนื้อหำของบทเรียน
ย้อนหลังได้ รวมถึงมีควำมพึงพอใจในรูปแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอนที่ 2 โดยมีกำรบรรยำย
เนื้อหำโดยใช้สื่อ PowerPoint และทดสอบหรือทำใบงำนหลังเรียนผ่ำนระบบ Google Forms ที่
เข้ำถึงง่ำย และกำรเรียนรู้โดยผู้สอนบรรยำยทำให้นักเรียนมีควำมรู้ควำมเข้ำใจสำมำรถซักถำม
ข้อสงสัยได้โดยตรง นักเรียนทุกคน มีส่วนร่วมในกำรตอบคำถำมมำกกว่ำกำรดูคลิปกำรสอน ด้ำน
ตัวผู้สอน นักเรียนมีควำมพึงพอใจ ต่อผู้สอนในกำรจัดกำรเรียนกำรสอน กล่ำวคือ ผู้สอนมีกำร
จัดกำรเรียนกำรสอนอย่ำงเป็นระบบ มีมนุษยสัมพันธ์ดี และมีกำรปรับบุคลิกของตนเองเพื่อเร้ำ

51

ควำมสนใจให้กับช้ันเรียน ได้แก่ กำรสนทนำกับนักเรียนอย่ำงเป็นมิตร มีกำรใช้น้ำเสียงสูงตำ่ ขณะ
บรรยำยเน้ือหำ

2.3.2 ข้อเสนอแนะที่ควรปรับปรุงเพิ่มเติม ด้ำนเนื้อหำบทเรียน บทเรียนที่ใช้
สอนมีเนื้อหำบำงเรื่องมีควำมกระชับมำกเกินไป จนทำให้นักเรียนบำงส่วนรู้สึกว่ำมีควำมยำกต่อ
กำรทำควำมเข้ำใจในเนื้อหำของ ด้ำนรูปแบบกำรสอน ผู้สอนควรพัฒนำรูปแบบกำรสอนให้มี
ควำมน่ำสนใจมำกขึ้น เช่น ให้นักเรียนทบทวนเน้ือหำหรือมีส่วนร่วมผ่ำนเกมหรือทำกิจกรรม
เช่น Kahoot ซึ่งเป็นเกมที่ตอบสนองต่อกำรเรียนกำรสอน ช่วยให้นักเรียนสนุกกับกำรเรียนโดย
เป็นเคร่ืองมือช่วยในกำรประเมินผลผ่ำนกำรตอบคำถำม กำรอภิปรำย หรือกำรสำรวจควำม
คิดเห็น ด้ำนตัวผู้สอน ผู้วิจัยควรเพิ่มทักษะกำรพูดเร้ำอำรมณ์และบรรยำยเนื้อหำบทเรียนให้ดู
น่ำสนใจ รวมถึงกำรหมั่นใช้ถำมคำถำมกระตุ้นกำรเรียนรู้ของผู้เรียน เพื่อใหก้ ำรดำเนินกิจกรรม
กำรเรียนกำรสอนออนไลน์มปี ระสิทธิภำพมำกขึน้

อภิปรายผลการวิจัย
กำรวิจยั วิจัยพบว่ำควำมพึงพอใจของนกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษำปีที่ 2 โดยรวมต่อกำร

จัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้สถำนกำรณ์โควิด-19 รำยวิชำภำษำไทยพื้นฐำน 3 (ท 21101)
โรงเรียนสำธิตมหำวิทยำลัยพะเยำ มีผลควำมพึงพอใจอยู่ในระดับมำก สอดคล้องกับงำนวิจัย
ของ พัฒนำ พรหมณี, ยุพิน พิทยำวัฒนชัย และจีระศักดิ์ ทัพผำ (2563) ที่มุ่งเสนอว่ำควำมพึง
พอใจมีควำมสำคัญต่อกำรดำเนินงำนขององค์กรต่ำง ๆ โดยนำควำมรู้สึกควำมคิดและ
พฤติกรรมจำกกำรประเมินนำไปใช้ประโยชน์ในกำรดำเนินงำนตำมควำมต้องกำรต่อไป ชี้ให้เห็น
ว่ำควำมพึงพอใจน้ันมีควำมสำคัญต่อกำรดำเนินกำรต่ำง ๆ ให้ไปด้วยควำมรำบร่ืนเรียบร้อย
และสอดคล้องกับงำนวิจัยของ สุณิสำ สำเร็จดี (2559) ได้ศึกษำกำรพัฒนำระบบจัดกำรเรียน
กำรสอนออนไลน์สำหรับวิทยำลัยพยำบำลบรม มีผลควำมพึงพอใจของนักศึกษำอยู่ในระดับ
มำก ซึ่งแสดงให้เห็นว่ำผู้เรียนส่วนมำกสนับสนุนและพึงพอใจต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอน
ออนไลน์ แต่ในขณะเดียวกันยังมีผู้เรียนอีกส่วนหนึ่งไม่เห็นด้วยต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอน
ออนไลน์จำกที่ผู้วิจัยได้วิเครำะห์ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม อำจมีสำเหตุมำจำกกำรจัดกำรเรียนกำร
สอนออนไลน์ทำให้เกิดอปุ สรรคต่อกำรมีปฏิสมั พนั ธ์และกำรสร้ำงควำมคุ้นเคยระหว่ำงผู้สอนกับ
ผู้เรียน อีกทั้งควำมไม่สะดวกจำกปัญหำสภำพแวดล้อมทำงบ้ำนหรือปัญหำจำกตัวผู้เรียนเอง
เช่น อุปกรณ์สำหรับเรียนออนไลน์ไม่พร้อม สัญญำณอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร เป็นต้น จนทำให้
ผู้เรียนบำงคนไม่สำมำรถเปิดกล้องหรือเปิดไมโครโฟนโต้ตอบกับผู้สอนได้ ท้ังที่ผู้เรียนยัง
ต้องกำรจะมีสว่ นร่วมในชน้ั เรียนอยู่กต็ ำม

52

ผู้วิจัยมีควำมคิดเห็นว่ำ ในขณะเดียวกันปัญหำของผู้เรียนข้ำงต้นอำจส่งผลดีไปยัง
ควำมพึงพอใจต่อรูปแบบที่ 2 (บรรยำยเนื้อหำโดยใช้ส่ือ PowerPoint และทดสอบหรอื ทำใบงำน
หลังเรียนผ่ำนระบบ Google Forms) ที่มีระดับควำมพึงพอใจสูงที่สุดมำกกว่ำรูปแบบอื่น อำจ
เน่ืองจำกขั้นตอนกำรบรรยำยเนื้อหำโดยใช้สื่อ PowerPoint เป็นทำงเลือกหนึ่งที่เปิดโอกำสให้
ผเู้ รียนที่มีปัญหำดงั กล่ำวมีปฏิสมั พันธ์หรือโต้ตอบกับผู้สอนในระหว่ำงกำรเรียนกำรสอนได้ โดย
สำมำรถส่งข้อควำมตอบคำถำมหรือถำมข้อสงสัยผ่ำน Ms teams ขณะผู้สอนบรรยำยเน้ือหำ
แบบไม่ต้องเปิดกล้องหรอื เปิดไมโครโฟนโต้ตอบ นอกจำกนี้จำกที่ผู้วิจัยได้วิเครำะห์ข้อเสนอแนะ
เพิ่มเติมและเล็งเห็นว่ำผู้เรียนอีกบำงส่วนต้องกำรให้ผู้สอนจัดกำรเรียนกำรสอนให้น่ำสนใจ
มำกกว่ำนี้ เช่น นำ Kahoot มำใช้เป็นสื่อเติมซึง่ เป็นเกมที่ตอบสนองต่อกำรเรียนกำรสอนอันเป็น
เครื่องมือที่จะช่วยให้นกั เรียนสนกุ กับกำรเรียน ท้ังน้ีผวู้ ิจยั มีควำมคิดเห็นว่ำควรนำสื่อกำรเรียนรู้
Electronic learning (สื่อกำรเรียนรู้ผ่ำนสื่อเทคโนโลยีหรือสื่อออนไลน์) ที่หลำกหลำยและ
เหมำะสมกับผู้เรียน เช่น บทเรียน CAI, E-Books, Padlet เป็นต้น มำใช้เป็นสื่อกับผู้เรียนเพื่อ
สร้ำงควำมน่ำสนใจและเพิม่ ประสิทธิภำพต่อกำรจัดเรียนกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ครั้งต่อไป

ข้อเสนอแนะ
ผลกำรวิจัยเร่ือง ควำมพึงพอใจต่อกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้

สถำนกำรณ์โควิด-19 รำยวิชำภำษำไทยพื้นฐำน 3 (ท 21101) ระดับชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 2
โรงเรียนสำธิตมหำวิทยำลัยพะเยำ ผวู้ ิจัยมขี ้อเสนอแนะ ดงั น้ี

1. ข้อเสนอแนะในการนาผลการวิจัยไปใช้
1.1 แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ควรพัฒนำด้ำนรูปแบบกำรนำเสนอให้ดึงดูดควำมสนใจ

กระตนุ้ กำรเรียนรขู้ องผู้เรยี น เพื่อให้ผู้เรยี นมีปฏิสัมพนั ธ์ต่อกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนมำกยิง่ ขึ้น
1.2 รปู แบบกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ออนไลน์ควรจัดให้สอดคล้องกับควำมต้องกำร

ของผเู้ รียน โดยเปิดโอกำสใหผ้ เู้ รียนได้มสี ่วนร่วมในกำรออกแบบกำรจัดกำรเรียนกำรสอน
1.3 ผู้สอนควรพัฒนำทักษะกำรจัดกำรเรียนกำรสอนของตนเอง พร้อมนำข้อเสนอแนะ

ที่ได้จำกนักเรียนไปปรับใช้ใหก้ ำรจัดกำรเรียนกำรสอนมีประสิทธิภำพมำกยิ่งขึ้น

53

2. ข้อเสนอแนะสาหรบั การศึกษาครั้งตอ่ ไป
2.1 ควรมีกำรศึกษำค้นคว้ำเกี่ยวกับกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ภำยใต้

สถำนกำรณโ์ ควิด-19 ในเนื้อหำสำระระดับอื่น ๆ
2.2 ควรมีกำรใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Learning) ที่หลำกหลำย เช่น CAI, Google

classroom, Padlet, E-book เป็นต้น
2.3 ควรมีกำรศึกษำเชิงเปรียบเทียบระหว่ำงวิธีกำรจัดกำรเรียนกำรสอนออนไลน์

กับกำรจัดกำรเรียนกำรสอนในชนั้ เรียนปกติ

54

บรรณานกุ รม

55

บรรณานุกรม

กรมควบคุมโรค กระทรวงสำธำรณสุข. (2563ก). คูม่ ือการป้องกันและควบคุมโรคติดเชือ้
ไวรัสโคโรนา 2019 สาหรับประชาชน. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชมุ ชนสหกรณ์กำรเกษตร
แหง่ ประเทศไทย.

กรมควบคุมโรค กระทรวงสำธำรณสุข. (2563ข). รายงานโรคติดเชือ้ ไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์กำรเกษตรแห่งประเทศไทย.

กฤษณำ สกิ ขมำน. (2554). การศึกษาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาการสื่อสาร
ภาษาองั กฤษธุรกิจ โดยการใชก้ ารสอนแบบ E-Learning. กรุงเทพฯ: รำยงำน
กำรวิจยั มหำวิทยำลัยศรีปทมุ .

กำญจนำ อรุณสุขรจุ .ี (2546). ความพึงพอใจของสมาชิกสหกรณตอการดาเนินงานของ
สหกรณการเกษตรไชยปราการจากดั อาเภอไชยปราการ จงั หวดเชียงใหม่.
วิทยำนิพนธ์ วท.ม. (สงเสริมกำรเกษตร), มหำวิทยำลัยเชียงใหม่, เชยี งใหม.่

กำรเรียนกำรสอนยุคโควิด-19 ป่วนเมือง. ไทยรัฐออนไลน์. สบื ค้นเมอ่ื 25 มิถุนำยน
2564, จำก https://www.thairath.co.th/news/local/2100016

เกวลี ผงั ดี และพิมพ์รดำ ครองยตุ .ิ (2556). ความพึงพอใจท่มี ีต่อการจดั การเรียนการสอน
ในหลักสูตรของภาควิชาสถติ ิคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
กำรศกึ ษำค้นคว้ำ วท.บ., มหำวิทยำลัยขอนแก่น, ขอนแก่น.

งำนประชำสัมพันธ์โรงเรียนสำธิตมหำวิทยำลยั พะเยำ. (2564). มาตรการการจัดการเรียน
การสอนในชว่ งสถานการณ์แพรร่ ะบาดเชือ้ โคโรน่าไวรสั 2019 (Covid-19).
สืบค้นเมือ่ 23 เมษำยน 2564, จำก
https://www.facebook.com/desup.official/posts/925719204844

จริ ำพร กำจัดทกุ ข์. (2552). ความพึงพอใจหลังการตัดสินใจซือ้ คอนโดมิเนยี มในเขต
กรงุ เทพมหานคร. วทิ ยำนิพนธ์ วท.ม. (วิทยำศำสตร์),
สถำบันบัณฑิตพฒั นบริหำรศำสตร์, กรุงเทพฯ.

ชนะดำ วรี ะพันธ์. (2555). ความพึงพอใจของประชาชนตอ่ การใหบ้ รกิ ารของ
องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลบ้านเกา่ อาเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี.
วิทยำนิพนธ์ รป.ม. (กำรจดั กำรภำครฐั และเอกชน), มหำวิทยำลัยบรู พำ, ชลบุรี.

56

ชลธิชำ มำตย์นอก. (2562). การศึกษาเปรียบเทยี บการเรียนการสอนออนไลน์ระหวา่ ง
มหาวิทยาลยั ทม่ี ีระบบการเรียนการสอนแบบปิดและมหาวิทยาลยั ท่มี ีระบบการ
เรยี นการสอนแบบเปิด กรณีศึกษาช่วงการแพรร่ ะบาดของไวรสั โคโรน่า 2019.
กำรค้นคว้ำอิสระ ว.ม., มหำวิทยำลัยธรรมศำสตร์, กรุงเทพฯ.

ฐำปนีย์ ธรรมเมธำ. (2557). อีเลิรน์ นิง: จากทฤษฎีสกู่ ารปฏิบตั ิ E-Learning: from theory
to practice. กรุงเทพฯ: โครงกำรมหำวิทยำลยั ไซเบอร์ไทย สำนักคณะกรรมกำร
อุดมศกึ ษำ.

ฐิติมำ ชำลีกลุ . (2564). สพฐ. ประชุมทางไกลชี้แจงแนวทางปฏิบตั ิภายใต้สถานการณ์
โควดิ -19 สาหรับโรงเรยี นและเขตพืน้ ท่กี ารศึกษา. สืบค้นเม่ือ 6 มกรำคม 2564,
จำก https://www.obec.go.th/archives/363188

ณฎั ธวรรณ คำแสน. (2564). ควำมรู้ ทัศนคติ และพฤติกรรมในกำรป้องกนั ตนเองจำกกำรตดิ
เช้อื ไวรสั โควิด-19 ของประชำชนในเขตอำเภออู่ทอง จงั หวดั สุพรรณบุรี. วารสาร
วิทยาลัยพยาบาลพระจอมเกลา้ จงั หวดั สุพรรณบุรี. 4(1), 33-47.

ตำมพงศ์ สเลลำนนท์. (2555). กำรพัฒนำแนวทำงกำรเรียนกำรสอนออนไลน์เชงิ รุกสำหรบั
มหำวิทยำลยั รังสติ . รังสิตสารสนเทศ, 2(19), 39-53.

ถนอมพร เลำหจรัสแสง. (2545). Designing E-Learning: หลักการออกแบบและการสร้าง
เวบ็ เพือ่ การเรียนการสอน. เชยี งใหม่: มหำวิทยำลัยเชียงใหม่.

เทศบำลตำบลนำจอมเทียน. (2560). รายงานผลการสารวจความพึงพอใจในคุณภาพ
การบรหิ ารของเทศบาลตาบลนาจอมเทยี น อาเภอสตั หบี จังหวัดชลบุรี
ในการให้บริการของส่วนราชการ (รำยงำนกำรวิจัย).
มหำวิทยำลยั บรู พำ, ชลบรุ ี.

นภำรัตน์ เสือจงพรู. (2544). ปัจจัยทม่ี ีผลประสิทธิผลในการใหบ้ ริการของพนกั งานประจา
สานกั งานบริการโทรศพั ท์. วิทยำนิพนธ์ บธ.ม. (กำรจัดกำรทวั่ ไป),
มหำวิทยำลยั ศรปี ทุม, กรงุ เทพฯ.

แนง่ นอ้ ย พงษ์สำมำรถ. (2557). พฤติกรรมผ้บู ริโภค. กรุงเทพฯ: ธีระฟิล์มและไซแทก็ ซ์.
บญุ ใจ ศรสี ถิตย์นรำกูร. (2555). การพัฒนาและตรวจสอบคณุ ภาพเครือ่ งมือวิจัย:

คุณสมบัติการวัดเชิงจิตวิทยา. กรงุ เทพฯ: โรงพิมพ์แหง่ จฬุ ำลงกรณ์มหำวิทยำลัย.
บุญเรียง ขจรศิลป. (2529). วิธีวิจยั ทางการศึกษา. กรงุ เทพฯ: มหำวิทยำลัยเกษตรศำสตร.์

57

ปริญญำ จเรรัชต์และคณะ. (2546). ความพึงพอใจของเกษตรกรผู้ผลิตและผู้ใช้
เสบียงสตั ว์จงั หวัดสพุ รรณบรุ ี (รำยงำนกำรวิจัย) ใน กำรฝกึ อบรมหลกั สูตร
พัฒนำนักวิจัยกรมปศสุ ตั ว์เบือ้ งตน้ รุ่นที่ 1 กรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กำรเกษตร แผนพัฒนำสำมปี (2559-2561). เทศบำลเมืองรอ้ ยเอด็ , ร้อยเอด็ .

พงษ์พนั ธุ์ พรรณบัวหลวง, ธนำบดี ซอหะซนั , วรินธรณ์ ปิ่นเทศ, วชั รกิตติ จันทร์อุดร และ
ณัชพล ศิริเสรวี รรณ. (ม.ป.ป.). เทคโนโลยีสารสนเทศคอื อะไร. สืบค้นเมอ่ื 6
มกรำคม 2564, จำก http://5711011802036.msci.dusit.ac.th/?page_id=283

พฒั นำ พรหมณ,ี ยพุ ิน พิทยำวัฒนชัย และจรี ะศักดิ์ ทัพผำ. (2563). แนวคิดเกีย่ วกับควำมพึง
พอใจและกำรสร้ำงแบบสอบถำมควำมพึงพอใจในงำน. วารสารวิชาการสมาคม
สถาบนั อุดมศึกษาเอกชนแหง่ ประเทศไทย (สสอท.). 26(1), 59-66.

พิณ ทองพูน. (2549). การเมืองและการปกครอง. กรุงเทพฯ: เอมพนั ธ์.
พิทกั ษ์ ตรษุ ทิบ. (2551). ความพึงพอใจของประชาชนต่อระบบและกระบวนการ

ใหบ้ รกิ ารของกรุงเทพมหานคร: ศึกษากรณสี านกั งานเขตยานนาวา.
วิทยำนิพนธ์ ศศ.ม., สถำบันบัณฑติ พัฒนบริหำรศำสตร์, กรุงเทพฯ.
ภณดิ ำ ชยั ปญั ญำ. (2541). ความพึงพอใจของเกษตรกรต่อกิจการไร่นาสวนผสมภายใต้
โครงการปรับโครงสรา้ งและระบบการผลิตการเกษตรของจงั หวดั เชียงราย.
วิทยำนิพนธ์ วท.ม., มหำวิทยำลัยเชียงใหม่, เชียงใหม.่
ภำสกร เกิดอ่อน และคณะ. (2545). หนังสือเรยี น รายวิชาพื้นฐานภาษาไทย วรรณคดแี ละ
วรรณกรรม (พิมพ์ครง้ั ที่ 10). กรุงเทพฯ: อกั ษรเจรญิ ทศั น์.
มหำวิทยำลัยรำชภฏั อุบลรำชธำนี. วารสารมหาวิทยาลยั ราชภฏั อบุ ลราชธานี,
9(4), 122-136.
รำชบัณฑติ ยสภำ. (2556). พจนานุกรม ฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ. 2554 (พิมพ์ครง้ั ที่ 2).
กรงุ เทพฯ: นำนมบี ุ๊คส์.
วิชชุดำ คัมภรี ์เวช. (2556). ความพึงพอใจของนักเรยี นระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
ท่มี ีต่อการจดั การสถานศึกษาของโรงเรียนสงั กดั สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศึกษา
มธั ยมศกึ ษาในเขตกรุงเทพมหานคร. วิทยำนิพนธ์ วท.ม. (สถิตปิ ระยุกต์และ
เทคโนโลยีสำรสนเทศ), สถำบันบัณฑิตพัฒนบริหำรศำสตร์, กรงุ เทพฯ.

58

วิญญ์ทัญญู บญุ ทัน และคณะ. (2563). ปัจจยั ทีม่ อี ิทธิพลต่อพฤติกรรมกำรสร้ำงเสริมสขุ ภพใน
กำรป้องกันกำรติดเชอื้ ไวรสั โคโรนำ 2019 (โควิด 19) ของผู้สูงอำยุ. วารสารพยาบาล
ตารวจ, 12(2), 323-337.

วิทยำ วำโย, อภริ ดี เจรญิ นุกูล, ฉตั รสุดำ กำนกำยันต์ และจรรยำ คนใหญ่. (2563). กำรเรียน
กำรสอนแบบออนไลน์ภำยใต้สถำนกำรณ์แพร่ระบำดของไวรสั COVID-19 : แนวคิด
และกำรประยกุ ต์ใชจ้ ัดกำรเรียนกำรสอน, วารสารศูนย์อนามัยท่ี 9, 14(34), 285-
298.

วิมลสิทธิ์ หรยำงกูล. (2549). พฤติกรรมมนุษย์กับสภาพแวดล้อม: มูลฐานทางพฤติกรรม
เพื่อการออกแบบและวางแผน (พิมพ์ครงั้ ที่ 6). กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์แหง่ จุฬำลงกรณ์
มหำวิทยำลัย.

วีระ ไทยพำนิช. (2557). โสตทัศนเบื้องตน้ . กรงุ เทพฯ: ภำควิชำเทคโนโลยีกำรศกึ ษำ คณะ
ศกึ ษำศำสตรม์ หำวิทยำลัยเกษตรศำสตร์.

ศุภชัย สุขะนินทร์. (2545). เปิดโลก E-Learning การเรียนการสอนบนอินเทอร์เนต็ .
กรงุ เทพฯ: สำนกั พิมพซ์ ีเอด็ ยูเคช่นั .

สมบตั ร บำรมี. (2551). ปจั จัยทมี ีผลต่อความพึงพอใจในการปฏิบตั ิงานของพนกั งาน
บริษทั มหพันธไ์ ฟเบอร์ซเี มนต์ จากดั (มหาชน) (รำยงำนกำรวิจยั ).
สถำบนั บณั ฑิตพัฒนบริหำรศำสตร,์ กรุงเทพฯ.

สมหมำย เปียถนอม. (2551). รายงานการวิจยั เร่อื ง ความพึงพอใจของนกั ศกึ ษาในการได
รบั การบรกิ ารจากมหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม (รำยงำนผลกำรวิจัย).
มหำวิทยำลัยรำชภฏั นครปฐม, นครปฐม.

สำโรช ไสยสมบตั ิ. (2533). ความพึงพอใจในการทางานของครูอาจารยโรงเรียน
มธั ยมศกึ ษา สังกัดกรมสามัญศึกษา จังหวัดรอ้ ยเอด็ .
วิทยำนิพนธ์ ศษ.ม. (บริหำรกำรศกึ ษำ), มหำวิทยำลัยศรีนครินทรวิโรฒ,
มหำสำรคำม.

สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศกึ ษำขนึ้ พืน้ ฐำน. (6 มกรำคม 2564). สพฐ. ประชมุ ทางไกล
ชี้แจงแนวทางปฏิบัติภายใตส้ ถานการณ์โควิด-19 สาหรับโรงเรยี นและเขตพื้นท่ี
การศึกษา. สืบค้นเมอ่ื 25 มิถนุ ำยน 2564, จำก
https://www.obec.go.th/archives/363188

59

สำนักงำนสถิตแิ ห่งชำติ, (2563). โครงการสารวจผลกระทบจากสถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคโควดิ -19. สืบค้นเมื่อ 25 มิถุนำยน 2564,
จำก http://ittdashboard.nso.go.th/covid19survey.php

สิรพิ ร อนิ ทสนธิ์. (2563). โควิด-19: กับกำรเรียนกำรสอนออนไลน์ กรณีศกึ ษำ รำยวิชำกำร
เขียนโปรแกรมเวบ็ . วารสารวิทยาการจดั การปริทศั น์, 22(2), 203-213.

สณุ ิสำ สำเรจ็ ดี. (2559). การพัฒนาระบบจัดการเรียนการสอนออนไลน์สาหรบั วิทยาลัย
พยาบาลบรมราชชนนี สรุ ินทร์. วิทยำนิพนธ์ วท.ม., มหำวิทยำลัยสำรคำม,
มหำสำรคำม.

สนุ ิสำ แช่มช้อย. (ม.ป.ป.). ประเภทของสื่ออิเลก็ ทรอนิกส์. สืบค้นเม่ือ 6 มกรำคม 2564,
จำกhttps://sites.google.com/site/sunisaeduku/phl-ngan-phakh-brryay/ngan

สพุ ณั ณดำ ภำรำม. (2557). ความพึงพอใจของประชาชนจากการชาระภาษี
บารงุ ท้องที่ขององคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลเทพมงคล อาเภอบางซ้าย
จังหวัดพระนครศีอยธุ ยา. วิทยำนิพนธ์ รป.ม. (กำรจัดกำร),
มหำวิทยำลัยศรปี ทุม, กรุงเทพฯ.

สุพัตรำ รุ่งรตั น,์ ซลู ฟีเกอร์ มำโซ และยทุ ธนำ กำเด็ม. (2563). ผลกระทบทางเศรษฐกิจและ
สงั คมจากสถานการณ์โควิด-19 ของประชาชนในเขตเทศบาลเมืองยะลา
จงั หวัดยะลา. ยะลำ: มหำวิทยำลัยรำชภฏั ยะลำ.

สุรัตน์ ทองหร่ี. (2564). ดิจิทัล เอ็นเตอร์เทนเมนท์ ภูมิทัศนส์ ือ่ ในสังคม New Normal.
สารรังสิตONLINE. สืบค้นเมือ่ 25 มิถนุ ำยน 2564, จำก
https://www2.rsu.ac.th/sarnrangsit-online-detail/CommArts-Article17

สวุ ัฒน์ บรรลอื . (2559). รูปแบบกำรจดั กำรเรียนกำรสอนออนไลน์ทีเ่ หมำะสมสำหรับ
มหำวิทยำลยั รำชภฏั อบุ ลรำชธำนี. วารสารมหาวิทยาลยั ราชภฏั อุบลราชธานี,
9(4), 122-136.

อญั ชลี ดสุ ิตสทุ ธิรตั น์, ธรรมรตั น์ ศัลยวุฒิ และสุวมิ ล นภำผ่องกุล. (2559). รายงานการวิจัย
ความพึงพอใจของประชาชนต่อการให้บริการขององค์การบริหารส่วนตาบล
บางโปรง อาเภอเมือง จงั หวดั สมุทรปราการ (รำยงำนผลกำรวิจยั ). มหำวิทยำลยั
เทคโนโลยีรำชมงคลกรุงเทพ, สมุทรปรำกำร.

โอภำส เกำไศยำภรณ์, วสันต์ อติศัพท์ และอนชุ ิต งำมขจรววิ ัฒน์. (2560). การออกแบบ
การเรียนการสอน อีเลิร์นนิ่ง: รายการตรวจสอบ. กรุงเทพฯ: บริษทั นโี อพ้อยท์..

60

ภาคผนวก

61
ภาคผนวก ก แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน 3 (ท 22101) 8 สัปดาห์

กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 1 ปีการศึกษา ๒๕๖4
รายวิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน 3 ภาคเรยี นท่ี ๑ ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
เรอ่ื งทีส่ อน แนะนารายวิชา
รหัสวิชา ท 2๒๑๐๑ จานวน 1 ชัว่ โมง

๑) สาระ/มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ดั
-

๒) สาระสาคญั (องคค์ วามร)ู้
การปฐมนิเทศเป็นการสร้างความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างครูและนักเรียน เป็นการตกลงใน

เบื้องต้นก่อนที่จะเริ่มการเรียนการสอน ทาใหค้ รูได้รู้จักนักเรียนดียิ่งขึ้น ทราบความต้องการ ความรู้สึก
และทัศนคติที่มีต่อวิชาที่เรียน ในขณะเดียวกันครูต้องแจ้งให้นักเรียนรู้ถึงจุดประสงค์การเรียนรู้ รู้แหล่ง
การเรียนรู้ และรู้เกณฑ์การวัดและประเมินผล เพื่อใหน้ ักเรียนได้เตรียมพร้อมและเข้าใจถึงกระบวนการ
จัดการเรยี นรู้ ตระหนักถึงคุณค่าและความสาคญั ในการเรียนรวู้ ิชาภาษาไทย

๓) จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
๓.๑ ดา้ นความรู้ (K)
- นักเรียนมคี วามรคู้ วามเข้าใจถึงคาอธิบายรายวิชา จุดประสงค์การเรียนรู้ แนวทางการ

จดั การเรยี นรู้ แนวทางการวดั และประเมินผลการเรียนรู้วชิ าภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2
๓.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- นักเรียนสามรถบอกถึงความสาคญั ของวิชาภาษาไทย
๓.๓ ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
- นกั เรียนเหน็ คุณค่า ความสาคัญของภาษาไทย

62

๔) ชิ้นงาน/ภาระงาน

-

๕) การวัดและประเมินผล

วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์

ใช้คาถาม คาถาม นักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจถึงคาอธิบาย
รายวิชา จุดประสงค์การเรียนรู้ แนวทางการ
จั ด ก า ร เรี ย น รู้ แ น ว ท า ง ก า ร วั ด แ ล ะ
ประเมินผลการเรียนรู้วิชาภาษาไทย ชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 2 และบอกถึงความสาคัญ
ของวิชาภาษาไทย

๖) สือ่ /อุปกรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้
-สือ่ ภาพเลื่อน เรอ่ื ง ข้อตกลงเบือ้ งตน้ ในการเรียน

-ระบบ DESUP e-Learning (LMS)
-Google Site: https://sites.google.com/view/pasathaibykruall/

๗) กิจกรรมการเรียนรู้
ขนั้ นา (๑๐ นาท)ี
๑. ครูนานกั เรียนเข้าร่วมห้องเรียนออนไลน์ผ่านโปรแกรม Microsoft team
2. ครูกล่าวทักทายนักเรียน และแนะนาตัวผสู้ อน

ข้นั สอน (40 นาที)
๑. ครูแนะนารายวิชา โดยใช้สื่อภาพเลื่อนซึ่งรายละเอียดมีดังต่อไปนี้ แนะนาตัวผู้สอน
ช่องทางในการติดต่อ ข้อตกลงเบื้องต้น เกณฑ์การให้คะแนน จุดประสงค์การเรียนรู้ แนว

ทางการจัดการเรียนรู้ แนะนาระบ บ DESUP e-Learning (LMS) และ Google Site:
https://sites.google.com/view/pasathaibykruall/

๒. ครูเรียกชื่อนักเรียนที่ยังไม่ได้ลงชื่อเข้าสู่ระบบ DESUP e-Learning (LMS) และนานักเรียน
เข้าสู่ระบบ
ขัน้ สรุป (๑๐ นาท)ี
๑. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปข้อตกลงเบือ้ งตน้ ในการเรียนวิชาภาษาไทยพืน้ ฐาน 3

63

บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี 1 โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลยั พะเยา

รายวิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน 3 ท 22101 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ปีการศึกษา ๒๕๖4

หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 1 พินิจสมบตั ิวรรณคดี

แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง แนะนารายวิชา จานวน ๑ ชัว่ โมง

สอนวนั ที่ห นว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เรยี นรหู้ ลกั ป

สรุปผลหลังการจดั กิจกรรมการเรียนรู้
.............................................................................................................................................

............................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข

.............................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

ลงชอ่ื
(นางสาวศศิธร พิลึก)

ผู้สอน

ข้อเสนอแนะครพู เ่ี ลี้ยง
.............................................................................................................................................

............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................

ลงช่อื
(นางสาวไพลิน อินคา)
อาจารยพ์ ี่เลี้ยง

64

ภาคผนวก

ภาพ สื่อภาพเลือ่ นประกอบการสอน

หน้าปก เรอ่ื ง ข้อตกลงเบื้อตน้ ในการเรียน

แนะนาผสู้ อน

65
แนะนาผชู้ ่วยผู้สอน
ขอ้ ตกลงเบือ้ งต้น

66
เกณฑ์การให้คะแนน

เวบ็ ไซต์

67

แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 1

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖4
ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2
รายวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน 3 รหสั วิชา ท 2๒๑๐๑
จานวน 2 ชวั่ โมง
เรอ่ื งที่สอน ความรู้พื้นฐานวรรณคดีและวรรณกรรม

๑) สาระ/มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชี้วัด
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม

มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น
คุณค่าและนามาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ

ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.2/2 วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีวรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่นที่
อ่าน พร้อมยกเหตผุ ลประกอบ

ตัวชีว้ ดั ท 5.1 ม.2/3 อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมทีอ่ า่ น
ตัวชี้วดั ท 5.1 ม.2/4 สรปุ ความรแู้ ละข้อคิดจากการอ่าน ไปประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ

๒) สาระสาคัญ (องค์ความร้)ู
วรร ณ ค ดี เป็ น ศิ ล ป ะ แข น งห นึ่ งที่ ให้ คุ ณ ค่ า ท างด้ าน ภ า ษ า ส ติ ปั ญ ญ าแ ล ะอ าร ม ณ์ ก าร พิ นิ จ

วรรณคดีและวรรณกรรม คอื การศกึ ษาพิจารณาองค์ประกอบของวรรณคดีและวรรณกรรมในด้านต่าง
ๆ ทั้งเนือ้ หารูปแบบและภาษา ซึง่ จะทาให้ผู้ที่พินิจวรรณคดีและวรรณกรรมได้ซาบซึง้ ในสุนทรียภาพของ
วรรณคดีและวรรณกรรม และเข้าใจคุณค่าของศิลปะทางภาษา ซึ่งเป็นแนวทางส่งเสริมให้มีพัฒนาการ
ทางดา้ นจติ ใจและเกิดความรู้สกึ ทีจ่ ะเชดิ ชูทานุบารุงภาษาไทยอนั เปน็ ภาษาประจาชาติไว้สบื ไป

๓) จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๓.๑ ดา้ นความรู้ (K)
-นกั เรียนอธิบายถึงความสาคัญ สรุปความและอธิบายรายละเอียดจากเรอ่ื งทีอ่ ่าน

68

๓.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
-นกั เรียนสามารถบอกถึงความสาคญั ของวิชาภาษาไทย

๓.๓ ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
- นกั เรียนเหน็ คุณค่า ความสาคญั ของภาษาไทย และรักภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ

๔) ชิน้ งาน/ภาระงาน
-

๕) การวัดและประเมินผล

วิธีการ เครือ่ งมือ เกณฑ์

ใช้คาถาม คาถาม บอกถึงความสาคัญของวิชา สรุปความและ
อธิบายรายละเอียดจากเร่อื งทีอ่ ่านได้
สงั เกตพฤติกรรม แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนส่วนใหญ่ปฏิบัติประพฤติตามรายการ
นักเรียน ประเมินเกิน ๗๐ % ถือว่า ผา่ น

๖) สื่อ/อุปกรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้
- สื่อภาพเลือ่ น เรือ่ ง สมบัติวรรณคดี

๗) กิจกรรมการเรียนรู้
ชั่วโมงที่ 1

ขั้นนา (๑๐ นาท)ี
๑. ครูนานกั เรียนเข้าร่วมห้องเรียนออนไลน์ผ่านโปรแกรม Microsoft team
2. ครูกล่าวทักทายนักเรียน และเกริ่นนาการจดั การเรียนการสอนในคาบนี้โดยตั้งคาถาม

ครตู ้ังคาถาม : นกั เรียนชอบอ่านวรรณกรรมและวรรณคดีเรื่องใดบ้าง
: วรรณกรรมและวรรณคดีแตกต่างกันหรอื ไม่

ข้นั สอน (40 นาท)ี

69

๑. ครูอธิบายเนื้อหา วรรณคดีและวรรณกรรม โดยใช้สื่อภาพเลื่อนประกอบการสอน
รายละเอียดของเน้ือหามีดังต่อไปนี้ ความหมายและความแตกต่างของวรรณคดีแล ะ
วรรณกรรม การจาแนกวรรณคดี ยอดแหง่ วรรณคดี คุณค่าของวรรณคดี ศลิ ปะการประพันธ์
ในวรรณคดีไทย
๒. ครูถามข้อสงสยั ของนกั เรียน และเสริมเนื้อหาตลอดการนาเสนอนักเรียน
ข้ันสรปุ (๑๐ นาท)ี
๑. ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปเนือ้ หาการเรียนการสอนในคาบนี้

บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ภาคเรยี นท่ี 1 โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัยพะเยา

70

รายวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน 3 ท 22101 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ปีการศึกษา ๒๕๖4

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 พินิจสมบัติวรรณคดี

แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง แนะนารายวิชา จานวน ๑ ช่วั โมง

สอนวันที่ห น่วยการเรยี นร้ทู ่ี ๑ เรยี นรู้หลักป

สรุปผลหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้

.............................................................................................................................................

............................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข

.............................................................................................................................................

............................................................................................................................................................

..........................................................................................................................................................

ลงช่อื
(นางสาวศศิธร พิลึก)

ผูส้ อน

ข้อเสนอแนะครพู ่เี ลีย้ ง
.............................................................................................................................................

............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................

ลงชอ่ื
(นางสาวไพลิน อินคา)
อาจารยพ์ ี่เลีย้ ง

แบบสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี น
รายวิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน 3 รหัสวิชา ท 2๒๑๐๑

71

ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2/..... จานวน..............คน
สงั เกตพฤติกรรมระหว่างเรียนวนั ที่ ..........เดือน................................ พ.ศ. ........................

คาชี้แจง ให้ทาเครื่องหมาย ✓ ในช่องรายการสงั เกตพฤติกรรมทีน่ กั เรียนปฏิบตั ิ หมายเหตุ

ที่ รายการประเมิน ผลการประเมนิ
ผ่าน ไมผ่ า่ น

๑ ตงั้ ใจเอาใจใส่และมีความเพยี รพยายามในการเรียนรู้
๒ มปี ฏสิ ัมพนั ธ์ต่อผู้สอนอยา่ งเหมาะสม
๓ ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ส่ือ เทคโนโลยี

แหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน และเลือกใช้ส่ือได้อย่าง
เหมาะสม
๔ สามารถบนั ทึกสรุปความรู้ วเิ คราะห์ ข้อมลู จากสิ่งที่เรียนรู้สรปุ เป็นองค์
ความรู้
๕ แลกเปลีย่ นเรียนรู้ ด้วยวิธีการต่าง ๆ และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้
๖ เคารพต่อความคิดเหน็ ทีแ่ ตกต่างกัน
๗ มคี าถามทีด่ ี ตอบคาถามถกู ต้อง ทางานสง่ ครบตรงเวลา
๘ มมี นุษยส์ ัมพนั ธ์ที่ดี และให้ความร่วมมอื ในการเรียน
๙ กล้าแสดงความคิดเห็นอยา่ งมีเหตุผล
๑๐ ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบ ข้อบังคบั และข้อตกลงตา่ ง ๆ ของชั้นเรียน

ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมิน
(.................................................)

วันที.่ ................................................

หมายเหตุ นักเรียนปฏิบตั ิประพฤติตามรายการประเมินเกิน ๗๐ % ถือว่า ผา่ น
นกั เรียนไม่ปฏิบตั ิประพฤติตามรายการประเมินไม่ถึง ๗๐ % ถือว่า ไม่ผ่าน

ภาคผนวก

72

ภาพ สื่อภาพเลื่อนประกอบการสอน

หน้าปก เรอ่ื ง สมบัติวรรณคดี

ความหมายและความแตกตา่ งของวรรณคดแี ละวรรณกรรม

73
การจาแนกวรรณคดี
ยอดแหง่ วรรณคดี

74
คณุ ค่าของวรรณคดี
ศิลปะการประพันธ์ในวรรณคดีไทย

75

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖4

รายวิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน 3 รหัสวิชา ท 2๒๑๐๑ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2

เร่อื งที่สอน โวหารภาพพจน์ และทดสอบหลังเรียนเรอ่ื ง สมบัติวรรณคดี จานวน 1 ชว่ั โมง

๑) สาระ/มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชีว้ ัด
สาระท่ี ๑ การอ่าน

มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนาไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหา
ในการดาเนินชีวติ และมีนิสัยรกั การอ่าน

ตัวชี้วัด ท ๑.๑ ม.๒/5 วิเคราะห์และจาแนกข้อเท็จจริง ข้อมูลสนับสนุน และข้อคิดเห็นจาก
บทความที่อ่าน
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม

มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น
คณุ ค่าและนามาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ

ตวั ชีว้ ัด ท 5.1 ม.2/1 สรปุ เนือ้ หาวรรณคดีและวรรณกรรมทีอ่ า่ นในระดับทีย่ ากขึ้น
ตวั ชีว้ ดั ท 5.1 ม.2/3 อธิบายคณุ ค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมทีอ่ า่ น

๒) สาระสาคัญ (องค์ความร้)ู

โวหารภาพพจน์ คือ กลวิธีการนาเสนอสารโดยการพลิกแพลงภาษาที่ใช้พูด หรือเขียนให้
แปลกออกไปจากภาษาตามตัวอักษรทาให้ผู้อ่านเกิดภาพในใจ เกิดความประทับใจ เกิดความรู้สึก
สะเทือนใจ เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างชัดเจน

๓) จดุ ประสงค์การเรียนรู้

76

๓.๑ ดา้ นความรู้ (K)

- นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในเร่ือง ความรู้พื้นฐานวรรณคดีละวรรณกรรม โวหาร
ภาพพจน์

๓.๒ ด้านทกั ษะ/กระบวนการ (P)
- นกั เรียนสามารถระบถุ ึงลักษณะของโวหารชนิดต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง

๓.๓ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
- นักเรียนเห็นความสาคญั ของของวรรณคดีและวรรณกรรมไทย
- นกั เรียนเหน็ ถึงความสาคัญของภาษาไทย และรกั ภาษาไทยไว้เปน็ สมบัติของชาติ

๔) ชิ้นงาน/ภาระงาน
-

๕) การวัดและประเมินผล

วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์

สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรียนส่วนใหญ่ ปฏิบั ติประพฤติตาม
รายการประเมินเกิน ๗๐ % ถือว่า ผา่ น
นักเรียน นักเรียน นักเรียนทาคะแนนได้ตามเกณฑ์ร้อยละ ๖๐
ขนึ้ ไปของคะแนนเตม็ ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
แบบทดสอบออนไลน์ แบบทดสอบออนไลน์ เร่อื ง

เรื่อง ความรพู้ ืน้ ฐาน ความรพู้ ืน้ ฐานวรรณคดีและ

วรรณคดีและ วรรณกรรม โวหารภาพพจน์

วรรณกรรม โวหาร

ภาพพจน์

๖) สื่อ/อุปกรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้
- สื่อภาพเลือ่ น เรอ่ื ง โวหารการเขียน
- ฟอร์มแบบทดสอบออนไลน์ เร่อื ง ความรู้พืน้ ฐานวรรณคดีและวรรณกรรม โวหารภาพพจน์

(https://forms.gle/skvWnLgaZtHSZmfXA)

๗) กิจกรรมการเรียนรู้

77

ข้นั นา (๑๐ นาท)ี
๑. ครูนานักเรียนเข้าร่วมห้องเรียนออนไลน์ผ่านโปรแกรม Microsoft team
2. ครกู ล่าวทกั ทายนกั เรียน และเกริ่นนาการจัดการเรียนการสอนในคาบนี้โดยต้ังคาถาม

ครตู ้ังคาถาม : นักเรียนคิดว่าการใชถ้ ้อยคาอย่างมชี ้ันเชิงมีลกั ษณะอย่างไร
: กลวิธีการนาเสนอเนือ้ หาโดยการพลิกแพลงภาษา ทาให้เกิดภาพขึ้นในใจ

สามารถทาได้หรอื ไม่
ขน้ั สอน (40 นาท)ี
๑. ครูอธิบายเนื้อหา โวหารภาพพจน์ โดยใช้ส่ือภาพเลือ่ น เร่ือง โวหารการเขียน รายละเอียด
ของเนื้อหามีดังต่อไปนี้ ความหมายของโวหารและโวหารภาพพจน์ ชนิดของโวหาร หลักการ
เขียนบรรยายโวหาร หลกั การเขียนพรรณนาโวหาร ตวั อย่างโวหาร
๒. ครถู ามข้อสงสยั ของนกั เรียน และเสริมเนื้อหาตลอดการนาเสนอนักเรียน
3. ครทู บทวน เร่อื ง ความรพู้ ืน้ ฐานวรรณคดแี ละวรรณกรรม โวหารภาพพจน์
4. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบโดยใช้ ฟอร์มแบบทดสอบออนไลน์ เร่ือง ความรู้พื้นฐาน
วรรณคดีและวรรณกรรม โวหารภาพพจน์ (https://forms.gle/skvWnLgaZtHSZmfXA)
ข้ันสรุป (๑๐ นาท)ี
๑. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรุปเนื้อหาการเรียนการสอนในคาบนี้

บนั ทึกหลังการจดั การเรียนรู้

78

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย ภาคเรยี นท่ี 1 โรงเรยี นสาธิตมหาวิทยาลัยพะเยา

รายวิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน 3 ท 22101 ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 ปีการศึกษา ๒๕๖4

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 พินิจสมบตั ิวรรณคดี

แผนการจดั การเรียนรู้ เรื่อง ความรู้พืน้ ฐานวรรณคดีและวรรณกรรม จานวน ๑ ชว่ั โมง

สอนวนั ที่ห น่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๑ เรยี นร้หู ลักป

สรปุ ผลหลงั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
.............................................................................................................................................

............................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข

.............................................................................................................................................
............................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................

ลงชอ่ื
(นางสาวศศิธร พิลึก)

ผ้สู อน

ข้อเสนอแนะครพู ่เี ลี้ยง
.............................................................................................................................................

............................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................

ลงชอ่ื
(นางสาวไพลิน อินคา)
อาจารยพ์ ีเ่ ลี้ยง

แบบสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี น

79

รายวิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน 3 รหัสวิชา ท 2๒๑๐๑
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2/..... จานวน..............คน

สังเกตพฤติกรรมระหว่างเรียนวนั ที่ ..........เดือน................................ พ.ศ. ........................

คาชี้แจง ให้ทาเครื่องหมาย ✓ ในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่นกั เรียนปฏิบัติ หมายเหตุ

ที่ รายการประเมิน ผลการประเมนิ
ผ่าน ไม่ผา่ น

๑ ตงั้ ใจเอาใจใส่และมีความเพยี รพยายามในการเรียนรู้
๒ มปี ฏสิ ัมพนั ธ์ต่อผู้สอนอยา่ งเหมาะสม
๓ ศึกษาค้นคว้าหาความรู้จากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ส่ือ เทคโนโลยี

แหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกโรงเรียน และเลือกใช้ส่ือได้อย่าง
เหมาะสม
๔ สามารถบนั ทึกสรุปความรู้ วิเคราะห์ ข้อมูลจากสิ่งทีเ่ รียนรู้สรุปเป็นองค์
ความรู้
๕ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้วยวิธีการต่าง ๆ และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้
๖ เคารพต่อความคิดเห็น ที่แตกต่างกัน
๗ มคี าถามที่ดี ตอบคาถามถกู ต้อง ทางานสง่ ครบตรงเวลา
๘ มมี นษุ ยส์ ัมพนั ธ์ที่ดี และให้ความร่วมมอื ในการเรียน
๙ กล้าแสดงความคิดเหน็ อยา่ งมีเหตผุ ล
๑๐ ปฏบิ ัตติ ามกฎระเบียบ ข้อบงั คับ และข้อตกลงตา่ ง ๆ ของชั้นเรียน

ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมิน
(.................................................)

วนั ที่.................................................

หมายเหตุ นกั เรียนปฏิบตั ิประพฤติตามรายการประเมินเกิน ๗๐ % ถือว่า ผ่าน
นักเรียนไม่ปฏิบตั ิประพฤติตามรายการประเมินไม่ถึง ๗๐ % ถือว่า ไม่ผา่ น

ภาคผนวก

80

ภาพ สือ่ ภาพเลื่อนประกอบการสอน

หน้าปก เร่อื ง โวหารการเขียน

ความหมายของโวหารและโวหารภาพพจน์

81
ชนิดของโวหาร
ชนิดของโวหาร

82
หลกั การเขียนบรรยายโวหาร
หลักการเขียนพรรณนาโวหาร

83
หลกั การเขียนบรรยายโวหาร
หลักการเขียนพรรณนาโวหาร

84

ภาพ ฟอร์มแบบทดสอบออนไลน์
เร่อื ง ความรู้พื้นฐานวรรณคดีและวรรณกรรม โวหารภาพพจน์

หน้าปก ฟอร์มแบบทดสอบออนไลน์
เร่อื ง ความรู้พืน้ ฐานวรรณคดีและวรรณกรรม โวหารภาพพจน์

85

ฟอร์มแบบทดสอบออนไลน์
เร่อื ง ความรู้พื้นฐานวรรณคดีและวรรณกรรม โวหารภาพพจน์

86

ฟอร์มแบบทดสอบออนไลน์
เร่อื ง ความรู้พื้นฐานวรรณคดีและวรรณกรรม โวหารภาพพจน์

87

ขอ้ สอบวัดผล

เรื่อง ความรพู้ ืน้ ฐานวรรณคดีและวรรณกรรม โวหารการสร้างภาพพจน์

รหสั วิชา ท 22101 รายวิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน 3 ระดับชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2

จานวน 20 ข้อ คะแนน 5 คะแนน เวลา 30 นาที

คาสั่ง ให้นักเรียนเลือกคาตอบที่ถกู ต้องทีส่ ุด

1. จากคาจากดั ความของคาว่าวรรณกรรมไมไ่ ด้หมายถึงขอ้ ใด

ก. งานประพันธ์ทุกชนิดทีเ่ ป็นรอ้ ยแก้วและร้อยกรอง

ข. งานที่ประพนั ธ์ข้ึนเฉพาะช่วงรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 4 เท่านั้น

ค. งานประพันธ์ที่เป็นสิง่ พิมพ์ เช่น หนังสือ จุลสาร ส่ิงเขียน ฯลฯ

ง. งานประพันธ์ที่ได้รับรางวัลซีไรต์ ประจาปีพุทธศักราช 2562

2. ผู้ก่อต้ังวรรณคดีสโมสรคือใคร

ก. พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หวั

ข. พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั

ค. พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หวั

ง. พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล

3. งานเขียนที่ได้รับการยกย่องให้เป็นวรรณคดี จะต้องได้รับการประทับตราพระราชลัญจกรอะไร

ก. พระคเณศร์ ข. พระศิวะ

ค. พระพรหม ง. พระนารายณ์

4. ขอ้ ใดเปน็ การแบ่งวรรณคดีไทยตามลักษณะการประพนั ธ์

ก. ร้อยแก้ว ร้อยกรอง ข. กาพย์ ฉันท์

ค. ความเรียง เรียงความ ง. บริสุทธิ์ ประยกุ ต์

5. ขอ้ ใดเป็นการแบ่งวรรณคดีไทยตามลักษณะเนือ้ หา

ก. ร้อยแก้ว ร้อยกรอง

ข. กาพย์ ฉนั ท์

ค. บริสุทธิ์ ประยกุ ต์

ง. ศาสนา คาสอน ประเพณีและพิธีกรรม

88

6. หนังสอื เล่มใดเป็นวรรณกรรม

ก. กรงกรรม ข. ราชาธิราช

ค. ขุนช้างขุนแผน ง. นิราศภูเขาทอง

7. วรรณคดเี รื่องใดมีเนื้อหาเสนอแนวทางในการประพฤติอันดีงาม

ก. นิราศภเู ขาทอง

ข. อเิ หนา

ค. สภุ าษิตสอนหญิง

ง. มหาเวสสันดรชาดก

8. ขอ้ ใดจัดเป็นยอดวรรณคดีประเภทความเรียงอธิบาย

ก. ขุนช้างขนุ แผน ข. พระราชพิธีสิบสองเดือน

ค. มหาชาติกลอนเทศน์ ง. สมุทรโฆษคาฉันท์

9. ข้อใดจดั เปน็ ยอดวรรณคดีประเภทลิลิต

ก. ลิลิตพระลอ ข. ลลิ ิตเพชรมงกฎุ

ค. ลิลติ โองการแช่งน้า ง. ลิลิตตะเลงพ่าย

10. ขอ้ ใดจัดเปน็ ยอดวรรณคดีประเภทความเรียงนทิ าน

ก. พระราชพิธีสิบสองเดือน ข. มหาชาติกลอนเทศน์

ค. สามก๊ก ง. หวั ใจนักรบ

11. “น้าเซาะหนิ รินรินไหล ไม่หลบั เลยชั่วฟ้าดินหาย

สรรพสตั ว์พอฟืน้ กว็ อดวาย สลายซากเป็นกากผงธลุ ี”

จากบทร้อยกรองข้างต้นใชโ้ วหารภาพพจนใ์ ด

ก. อุปลักษณ์ ข. ปฎิพากย์

ค. สัญลกั ษณ์ ง. บุคลาธิษฐาน

12. “นางนวลจับนางนวลนอน เหมอื นพีแ่ นบนวลสมรจนิ ตะหรา” จากข้อความเปน็ การใช้โวหารภาพพจน์ใด

ก. อุปมา ข. อุปลกั ษณ์

ค. อตพิ จน์ ง. สัญลักษณ์

89

13. คาประพนั ธ์ในข้อใดใช้คาให้เหน็ ภาพการเคลื่อนไหวอย่างชัดเจน

ก. สองกษตั รยิ ์สนานกายา

สุคนธาหอมฟุ้งจรุงกลิ่น

สนบั เพลารายพลอยโกมิน

เชงิ งอนเครื่องกินรรี า

ข. โยธาวานรโห่ร้อง

กึกก้องสะเทือนเลือนลน่ั

ผลคลีมืดคลุ้มชอุ่มควัน

ขบั พวกพลขนั ธ์รบี ไป

ค. รถเอยรถทรง

เทเวศร์จานงนาถวาย

ดุมวงล้อมด้วยแก้วลาย

บลั ลงั ก์เกจ็ เพชรพรายสลบั พลอย

ง. กองหลังเจด็ สมุดโยธี

นายใหญ่กระบี่นิลขันธ์

ปีกซ้ายปีกขวาครบครัน

เลือกสรรตวั ดีมีฤทธิ์

14. “ความพยายามและความต้ังใจที่จะก้าวหน้า เป็นพลังสาคัญสาหรับต่อสู้อุปสรรค และส่งเสริมบุคคล

ให้ทาการต่าง ๆ ได้สาเร็จ ยิ่งผู้นั้นมีความรู้สูง มีจิตใจดีเป็นพื้นฐาน ผลงานที่ทายิ่งมีผลกว้างขวาง

ปราศจากโทษและอานวยประโยชน์แก่ตนและส่วนรวมเปน็ อย่างยิ่ง” จากข้อความข้างต้นเปน็ โวหารชนิดใด

ก. บรรยายโวหาร ข. เทศนาโวหาร

ค. พรรณนาโวหาร ง. สาธกโวหาร

15. “เปรยี้ งเปรยี้ งเสียงฟ้าร้อง กึกก้องทว่ั ทศทิศา

ต้องอกทศกัณฐ์อสุรา ตกจากรถาอลงกรณ์”

จากบทรอ้ ยกรองขา้ งต้นใชโ้ วหารภาพพจน์ใด

ก. การกล่าวเกินจริง ข. การใชส้ ญั ลกั ษณ์

ค. การเลียนเสียงธรรมชาติ ง. การใช้คาแสดงการเคลือ่ นไหว

90

16. “เจา้ พลายงามคร้ามพรัน่ ขย้ันหยุด

ความกลัวสุดแสนกลวั ตวั เป็นหนู

จงึ ว่าฉานหลายดอกบอกใหร้ ู้

อันอยู่ที่เมืองสพุ รรณบ้านวันทอง”

จากบทร้อยกรองข้างตน้ “ความกลัวสุดแสนกลวั ตวั เป็นหนู” ใช้โวหารภาพพจนใ์ ด

ก. อปุ มา ข. อุปลักษณ์

ค. สัญลักษณ์ ง. บุคลาธิษฐาน

17. “ชีวติ คือการตอ่ สู้ ศตั รูคือยากาลัง” จากข้อความเป็นการใชโ้ วหารภาพพจนใ์ ด

ก. นามนยั ข. อุปมา

ค. สญั ลกั ษณ์ ง. อุปลักษณ์

18. “เบญจวรรณจับวลั ย์มาลี เหมือนเจ้าวอนพี่ให้ตามกวาง”

จากข้อความข้างต้นมีการเล่นคาประเภทใดเด่นชัดทีส่ ุด

ก. การเล่นคาซ้า ข. การเล่นคาซ้อน

ค. การเล่นคาพ้อง ง. การเล่นคาเชิงถาม

19. “เธอเป็นหงส์ทีส่ ูงศกั ดิ์ สว่ นฉนั เป็นหมาวดั ตา่ ศกั ดิ์ศรี” จากข้อความเปน็ การใช้โวหารภาพพจนใ์ ด

ก. อุปลกั ษณ์ ข. สทั พจน์

ค. บุคลาธิษฐาน ง. อุปมา

20. “ปญั ญาประดุจดังอาวุธ” จากข้อความเปน็ การใชโ้ วหารภาพพจน์ใด

ก. อุปลกั ษณ์ ข. บคุ ลาธิษฐาน

ค. อปุ มา ง. สทั พจน์

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน

ข้อ ๑. ข ข้อ ๒. ก ข้อ ๓ ก ข้อ ๔ ก
ข้อ ๕. ง ข้อ ๖. ก ข้อ ๗ ค ข้อ ๘ ข
ข้อ ๙. ก ข้อ ๑๐. ค ข้อ ๑๑. ง ข้อ ๑๒. ก
ข้อ ๑๓. ข ข้อ ๑๔. ข ข้อ ๑๕. ค ข้อ ๑๖. ข
ข้อ ๑๗. ง ข้อ ๑๘. ค ข้อ ๑๙. ก ข้อ ๒๐. ค

91

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 1 ปีการศึกษา ๒๕๖4
รายวิชา ภาษาไทยพืน้ ฐาน 3 ภาคเรยี นท่ี ๑ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2
เร่อื งทีส่ อน รสในวรรณคดี
รหสั วิชา ท 2๒๑๐๑ จานวน 1 ชวั่ โมง

๑) สาระ/มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตัวชี้วัด
สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม

มาตรฐาน ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็น
คุณค่าและนามาประยุกต์ใชใ้ นชีวติ จรงิ

ตัวชี้วัด ท 5.1 ม.2/2 วิเคราะห์และวิจารณ์วรรณคดีวรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิ่นที่
อ่าน พร้อมยกเหตผุ ลประกอบ

ตวั ชีว้ ดั ท 5.1 ม.2/3 อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อา่ น

๒) สาระสาคัญ (องค์ความรู้)
รสวรรณคดี (กวีโวหารที่เน้นเนื้อความเป็นหลัก) คือ คุณลักษณะของวรรณกรรมที่สามารถ

ทาให้ผู้อ่านมีอารมณ์ ความคิดตอบสนองได้ เปรียบเหมือนกับอาหารที่มีรสชาติต่าง ๆ เช่น เปรี้ยว
หวาน เป็นต้น รสวรรณคดีไทย แบ่งออกเป็น 4 รส ได้แก่ เสาวรจนี นารีปราโมทย์ พิโรธวาทัง และ
สลั ลาปังคพิสยั

๓) จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๓.๑ ดา้ นความรู้ (K)
- นักเรียนระบหุ ลักการวิเคราะหว์ รรณคดีและวรรณกรรมได้
๓.๒ ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
- นกั เรียนสามารถบอกคณุ ค่าของวรรณคดีวรรณกรรมที่ได้

92

๓.๓ ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
- นกั เรียนเห็นคุณค่า ความสาคัญของของวรรณคดีและวรรณกรรม

๔) ชิ้นงาน/ภาระงาน
-

๕) การวัดและประเมินผล

วิธีการ เครื่องมือ เกณฑ์
นักเรียนส่วนใหญ่ ปฏิบั ติประพฤติตาม
สังเกตพฤติกรรมนักเรียน แบบสงั เกตพฤติกรรม รายการประเมินเกิน ๗๐ % ถือว่า ผา่ น

นักเรียน

๖) สื่อ/อุปกรณ/์ แหล่งการเรยี นรู้
- สื่อภาพเลื่อน เร่อื ง รสในวรรณคดี

๗) กิจกรรมการเรียนรู้
ขัน้ นา (๑๐ นาท)ี
๑. ครนู านักเรียนเข้าร่วมห้องเรียนออนไลน์ผ่านโปรแกรม Microsoft team
2. ครูกล่าวทกั ทายนักเรียน
๓. ครเู กริ่นนาการจดั การเรียนการสอนในคาบนโี้ ดยตั้งคาถาม
ครูตั้งคาถาม : คุณลักษณะของวรรณกรรมที่สามารถทาให้ผอู้ ่านมีอารมณ์คล้อยตาม
และความคิดตอบสนองตามได้นนั้ สามารถเปรียบว่าเหมอื นกับอาหารที่มีรสชาติต่าง ๆ ได้
หรอื ไม่
: เนือ้ ความของวรรณกรรมและวรรณคดีสามารถบ่งบอกถึงอารมณ์
ความรสู้ ึกรปู แบบต่าง ๆ ได้หรอื ไม่

ขน้ั สอน (40 นาท)ี
๑. ครูอธิบายเน้ือหา รสในวรรณคดี โดยใช้สื่อภาพเลื่อน เร่ือง รสวรรณคดี รายละเอียดของ
เนือ้ หามีดังต่อไปนี้ ความหมายของรสวรรณคดี ชนิดของรสในวรรณคดีไทย
๒. ครถู ามข้อสงสยั ของนกั เรียน และเสริมเน้ือหาตลอดการนาเสนอนกั เรียน