The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Academic Administration, 2019-12-11 11:10:42

pae2562

pae2562

ห น้ า | 98

แนวทางในการเรยี นวชิ าชีววิทยาให้ประสบความสาเรจ็
1. นกั เรยี นควรมพี ืน้ ฐานดา้ นชีววิทยาในระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ เปน็ อย่างดี เนอ่ื งจากการศกึ ษาเน้ือหา
ด้านชีววิทยาในระดับช้ันม.ปลายจะเป็นการลงรายละเอียดและขยายความรู้ท่ีนักเรียนได้รับทราบ
มาแลว้ ในระดบั มธั ยมศึกษาต้นใหล้ กึ ขึน้
2. ควรทาความเข้าใจในสภาพความจริงของวิชาชีววิทยาว่า “เป็นการเรียนรู้ตัวเราและส่ิงมีชีวิตท่ี
เกี่ยวข้องกับตัวเรา” การเรียนวิชาชีววิทยาไม่ใช่เป็นการเรียนด้วยการท่องจา แต่เป็นการสร้างความ
เข้าใจกบั ตัวของเราเองใหม้ ากขึน้
3. การอ่านหนังสืออย่างต่อเน่ืองและทาความเข้าใจหลังเรียนในแต่ละคร้ังจะช่วยให้นักเรียนสามารถทา
คะแนนได้ดี
4. เนื้อหาชีววิทยาในแต่ละเรื่องมีความเก่ียวเนื่องและโยงใยซึ่งกันและกัน ดังนั้นหากทาความเข้าใจใน
เบอ้ื งต้นได้ เน้ือหาเรอ่ื งอ่นื ๆจะสามารถทาความเข้าใจตอ่ เน่ืองกนั ได้
5. โดยท่ัวไปแล้วเนื้อหาวิชาชีววิทยาที่ค่อนข้างทาความเข้าใจได้ยากคือเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับวิชาเคมี ท่ี
เรยี กว่า biochemistry ได้แกเ่ รือ่ งการหายใจระดบั เซลล์ และเร่อื งการสงั เคราะห์แสง จงึ เปน็ เนอ้ื หา
ท่นี ักเรยี นตอ้ งอาศยั การอ่านและทาความเข้าใจให้มาก
6. การทากิจกรรม ใบงาน งานที่ครูมอบหมายอย่างต่อเนื่องและตรงเวลา รวมทั้งการมาเรียนอย่าง
สม่าเสมอจะทาให้คะแนนเกบ็ ของนักเรยี นดีและได้ผลการเรียนอยู่ในระดบั ท่ีดี

เอกสารการสอน
ชวี วิทยาทุกระดบั ชั้นใชห้ นังสือเรยี นวทิ ยาศาสตร์สาระการเรยี นรู้เพิ่มเตมิ (ชวี วทิ ยา) ของสสวท. และ

เอกสารที่คณะครผู ู้สอนแต่ละระดับชั้นจดั ทาขึน้ นักเรยี นสามารถสอบถามจากครูผู้สอนประจาวิชา

ส่ิงท่ีเป็นปญั หาและอุปสรรคในการเกบ็ คะแนน
4. นักเรียนตอ้ งรบั ผิดชอบการส่งงานที่ได้รบั มอบหมายใหต้ รงเวลาและครบถ้วนตามงานนนั้ ๆ
5. ครผู ู้สอนแตล่ ะระดับช้ันสามารถใหค้ าปรึกษานักเรียนทางด้านเน้ือหาวชิ าการได้ ขอใหน้ ักเรยี น
สอบถามครูผ้สู อนถึงสถานทตี่ ิดต่อวา่ อยู่ห้องใด ตึกใด เนื่องจากครูกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์
จะกระจายอย่ตู ามตกึ ต่างๆ

เอกสารเพ่มิ เตมิ
5. CAMPBELL BIOLOGY ควรศกึ ษาจาก edition ท่ีไมเ่ ก่าเกินไป
6. หนังสือชีววิทยาของกระทรวง หรือ มหาวิทยาลยั ต่างๆ

รางวลั สาหรบั ผทู้ าคะแนนยอดเยย่ี ม
นักเรียนที่สอบได้คะแนนปลายภาคสูงสุดในแต่ละรายวิชาของแต่ละระดับชั้นใน 1 ปีการศึกษา
(2 ภาคเรียน)จะได้รบั โลค่ ะแนนสงู สุดของวิชานนั้ และระดับช้นั น้ัน

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรม์ ีโครงการสง่ เสรมิ ความเปน็ เลศิ ด้านวิชาการทุกสาขาวิชา
นกั เรยี นทส่ี นใจวิชาชวี วทิ ยา สามารถสมัครเข้ารับการคัดเลือกเพือ่ เข้าอบรม สอวน. คา่ ย 1 ค่าย 2 และ
คัดเลือกเป็นตวั แทนไปแข่งขันระดบั ชาติ และระดับโลกตามลาดบั

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มสคู่ วามเปน็ เลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 99

แบบฝกึ หดั วชิ าชีววิทยา

1. ขอ้ ใดคือวธิ ีการลาเลียงสารผา่ นเย่อื เลือกผ่านแบบไม่อาศัยพลงั งานแต่อาศัยสารตวั พา
1. Osmosis
2. Active transport
3. Simple diffusion
4. Facilitate diffusion

2. สาขาชวี วิทยาในข้อใดทศ่ี ึกษาเก่ียวกับโครงสร้างของลาตน้ จามจุรี

1. กายวภิ าคศาสตร์ 2. คพั ภะวิทยา 3. กีฏวิทยา 4. สรรี วทิ ยา

3. ออร์แกเนลล์ข้อใดต่อไปนี้ มเี ย่อื หุ้มสองช้นั ทงั้ หมด

A. ไมโทคอนเดรีย B. เซนทริโอล C. คลอโรพลาสต์ D. ไรโบโซม

1. A,B 2. A,C 3. B,C 4. C,D

4. ข้อใดเป็นการใชก้ ล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสง(Compound light microscope)ไม่ถกู ต้อง

1. การใชเ้ ลนส์ใกล้วัตถุกาลังขยาย 100X ต้องใชน้ า้ เปน็ ส่ือกลางในการสอ่ งผ่าน

2. การเปลี่ยนเลนสใ์ กล้วัตถุ ควรหมนุ ทีจ่ านหมุนเลนสท์ กุ ครั้ง

3. การปรบั ความเขม้ แสง สามารถเพิม่ ลดไดเ้ มื่อปรับไดอะเฟรม

4. เม่ือต้องการเห็นภาพท่ีละเอยี ดขึ้น ตอ้ งหมุนปุ่มปรบั ภาพละเอียด

5. การแบ่งเซลลข์ องปลายรากต้นทานตะวัน ระยะใดมีกระบวนการจาลองดเี อน็ เอเกดิ ขน้ึ

1. เทโลเฟส 2. แอนาเฟส 3. เมทาเฟส 4. อนิ เตอร์เฟส

6. ข้อใดไม่ใชเ่ กณฑ์ที่กาหนดคุณสมบัติของสง่ิ มชี วี ิต

1. การสบื พนั ธ์ุ 2. การตอบสนองตอ่ สง่ิ เร้า

3. การเคลือ่ นท่ี 4. การมีลกั ษณะท่ีจาเพาะ

7. ขอ้ ใดเรยี งลาดับความสมั พนั ธ์จากเลก็ ไปใหญ่ให้ถูกต้อง

1. ส่งิ มชี วี ิต ประชากร กลุม่ สง่ิ มีชีวิต ระบบนเิ วศ โลกของสิ่งมชี ีวติ

2. สงิ่ มีชวี ิต ประชากร กลมุ่ ส่ิงมชี วี ิต โลกของสิง่ มีชวี ิต ระบบนิเวศ

3. สิ่งมีชีวิต กลุ่มสิง่ มชี ีวิต ประชากร ระบบนิเวศ โลกของสิ่งมีชีวติ

4. สง่ิ มชี วี ติ กลมุ่ สิ่งมชี วี ิต ประชากร โลกของส่งิ มีชีวติ ระบบนิเวศ

8. สารในข้อใดท่ีไม่พบในปัสสาวะของคนปกติ

1. โซเดยี ม 2. กลโู คส 3. โปรตนี 4. ยูเรยี

1. 1 และ 2 2. 2 และ 3 3. 3 และ 4 4. 1 และ 4

9. เมื่อนาเซลลเ์ ม็ดเลอื ดแดงของสัตว์เล้ยี งลูกดว้ ยน้านม ไปแช่ในสารละลายทม่ี ีความเขม้ ข้นมากกว่าภายใน

เซลล์จะเกดิ การเปล่ียนแปลงของเซลล์อยา่ งไร

1. เซลลเ์ ห่ยี ว 2. เซลลเ์ ต่ง 3. เซลลแ์ ตก 4. ไมเ่ ปล่ยี นแปลง

10. ปรากฏการณ์ข้ปี ลาวาฬ (red tide) เกิดจากการเจรญิ ของส่ิงมีชวี ิตในข้อใด

1. ไตรโคโมแนส 2. ไดโนแฟลกเจลเลต 3. ยกู ลโี นซัว 4. วอลติเซลลา

11. ความเร็วของการนากระแสประสาทผ่านแอกซอนเกย่ี วข้องกับข้อใด เฉลย 1

ก) ขนาดเสน้ ผ่าศูนย์กลางของแอกซอน ข) การมเี ยื่อไมอลิ ินหมุ้ ค) จานวนเดนไดรต์

1. ก) ข) 2. ก) ค) 3. ข) ค) 4. ก) ข) ค)

โครงการอบรมเตรยี มความพร้อมสคู่ วามเปน็ เลิศทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 100

12. ถงุ บรรจุสารสอ่ื ประสาทพบมากท่ใี ด 3เฉลย 3

1. ปลายเดนไดรต์ 2. ตัวเซลลป์ ระสาท 3. ปลายแอกซอน 4. บรเิ วณไซแนปส์

13. ฮอร์โมนในข้อใดเป็นสารเคมกี ล่มุ เดียวกบั ฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน เฉลย 1

1. แอลโดสเตอโรน คอรต์ ิโซน 2. อีสโตรเจน กลคู ากอน

3. ไทรอกซนิ ลตู ิไนซงิ ฮอร์โมน 4. โพรเจสเตอโรน แคลซิโตนนิ

14. ขอ้ ใดถูกต้องเกยี่ วกับตอ่ มใตส้ มองสว่ นหลงั เฉลย 2

ก. หลั่งแอนติไดยูเรติกฮอร์โมน และโพรแลกติน

ข. ฮอรโ์ มนสรา้ งจากนวิ โรซีครีทอรีเซลล์ในไฮโพทาลามสั

ค. ฮอรโ์ มนถูกลาเลียงจากไฮโพทาลามัสมาตามกระแสเลอื ดไปยังต่อมใตส้ มองส่วนหลงั

1. ก 2. ข 3. ก และ ข 4. ก ข และ ค

15. สตั ว์ในขอ้ ใดเคลอ่ื นทีโ่ ดยการใช้แรงดนั นา้ บบี พ่นออกมาจากรา่ งกาย เฉลย 3

1. ไส้เดอื นดิน ทากทะเล พลานาเรยี 2. ปลงิ ทะเล พยาธติ ัวตดื ไฮดรา

3. นอตลิ ุส หมกึ แมงกะพรุน 4. ไส้เดือนดนิ หนอนตัวกลม หอยเชลล์

16. สามีภรรยาคู่หนงึ่ มีบตุ ร 4 คน และมจี โี นไทปเ์ ป็น aaBBCc , AaBbcc , aaBBcc และ AabbCC

จีโนไทป์ของสามีภรรยาคนู่ คี้ ือข้อใด เฉลย 2

1. aaBBCc และ AabbCc 2. AaBbCc และ aaBbCc

3. AaBBCc และ AabbCc 4. AabbCc และ AabbCc

17. เบสคูห่ น่งึ ของ DNA จะอยูห่ ่างจากคู่ถัดไปประมาณ 3.4 องั สตรอม จงหาว่า DNA แผนภาพน้ีจะมี

ความยาวประมาณกี่อังสตรอม (3)เฉลย 3

1. 17 2. 34

3. 51 4. 120

18. ในกระบวนการ DNA replication สายพอลินิวคลีโอไทด์ ทง้ั สองสายจะแยกกนั ตรงพนั ธะเคมรี ะหว่าง

สารใด เฉลย 1

1. เบส – เบส 2. ฟอสเฟต – ฟอสเฟต 3. นา้ ตาล – ฟอสเฟต 4. นา้ ตาล – เบส

19. ข้อใดคอื สงิ่ ที่ตอ้ งคานงึ ถึงความปลอดภัยของเทคโนโลยีทาง DNA ท่มี ีตอ่ มนุษย์มากทีส่ ุด เฉลย 3

1. การผลติ วิตามนิ ทข่ี าดแคลนโดยพชื 2. การสร้างสารพิษสาหรับแมลงศตั รูพชื

3. การถ่ายยีนตา้ นยาปฏิชวี นะไปยังเชื้อโรคอน่ื ๆ 4. การติดเครื่องหมายทางพันธุกรรมในสง่ิ มีชีวิต

20. อวยั วะใดท่เี หมือนกนั ในหนา้ ท่กี ารทางานแต่มโี ครงสรา้ งจากตน้ กาเนดิ แตกต่างกัน เฉลย 4

1. แขนคน – ฟลปิ เปอรเ์ ตา่ ทะเล 2. ขาหนา้ จิ้งจก – ขาหน้ากบ

3. ปกี คา้ งคาว – ปีกไก่ 4. ปีกแมลง - ปกี นก



โครงการอบรมเตรียมความพร้อมส่คู วามเป็นเลิศทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 101

หลกั สูตรรายวิชา ว30281 พน้ื ฐานเมแคนกิ ส์และหนุ่ ยนต์

วิชาพ้ืนฐานเมแคนิกส์และหุ่นยนต์เป็นวิชาเพ่ิมเติมตามความสนใจที่จัดให้กับนักเรียนระดับ
ชั้นมัธยมศึกษา ปีท่ี 5 สายวิทย์ – คณิต ที่มีความสนใจด้านพ้ืนฐานวิศวกรรม โดยมุ่งหวังให้นักเรียนมีความรู้
ความเข้าใจในเรื่องพื้นฐานของโครงสร้างและส่ิงก่อสร้าง ด้านการรองรับน้าหนัก ความคงรูป ความม่ันคง
พื้นฐานและประโยชน์ของเครื่องกลท่ีใช้ในด้านการผ่อนแรง การเคลือ่ นที่ การเปล่ียนความเร็ว โดยใชอ้ ุปกรณ์
ต่างๆของเครื่องกลเช่น เฟือง เพลา คาน รอก ลูกเบ้ียว ดอกจอก และกว้าน การควบคุมการทางาน
ของเคร่ืองกลโดยการเขยี นคาส่ังผ่านระบบคอมพวิ เตอรภ์ ายใตโ้ ปรแกรม Robopro สามารถนาความรู้ท่ีได้รับ
มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ พัฒนา และประกอบแบบจาลองเคร่ืองกลต่างๆอย่างเป็นระบบ สามารถใช้
ความคิดสร้างสรรค์ในการจินตนาการแบบจาลอง และสร้างแบบจาลองเคร่ืองกล ระบบเมแคโทรนิกส์
หรอื หุน่ ยนตท์ ที่ างานไดเ้ สมอื นจรงิ
หัวข้อวิชา (Course outline)

หน่วยที่ 1 พ้นื ฐานด้านโครงสรา้ ง

หน่วยท่ี 2 เครอ่ื งกล

หนว่ ยท่ี 3 ระบบไฟฟ้ากับเคร่ืองกล

หน่วยท่ี 4 การออกแบบและสรา้ งระบบควบคุมด้วยคอมพวิ เตอร์

จุดประสงค์ของรายวชิ า (Objective)

1. ระบุความสาคญั ของโครงสร้าง

2. อธบิ ายความสาคญั ของความคงรูปและความมั่นคงของโครงสร้าง

3. อธบิ ายผลของน้าหนกั และแรงกดทีก่ ระทาต่อโครงสร้าง
4. สรา้ งแบบจาลองและอธิบายกลไกการเคลอ่ื นที่แบบหมุนโดยใชเ้ ฟืองแบบตา่ งๆ
5. สรา้ งแบบจาลองและอธบิ ายกลไกการเปลีย่ นลกั ษณะการเคลื่อนทไ่ี ด้

6. สร้างแบบจาลองและอธิบายการทางานของรอก สายพาน กว้าน คานงัด และเฟอื งทด

7. สร้างแบบจาลองและอธบิ ายการทางานของสวิตซ์ มอเตอร์ และวงจรสวติ ซ์

8. สรา้ งแบบจาลองและอธบิ ายการทางานของระบบไฟฟ้าท่ีควบคุมการทางานของเครือ่ งกล

9. สร้างแบบจาลองและอธิบายกลไกการใช้ โฟโตทรานซิสเตอร์ สวิตซ์กด ตัวอ่านแม่เหล็ก

สาหรบั งานควบคมุ

10. เขยี นโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพ่อื ควบคุมระบบงานได้

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มสคู่ วามเป็นเลิศทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 102

วิธีการสอน

1. จัดการเรียนการสอนแบบ STE(A)M โดยเร่ิมต้นให้ความรพู้ ืน้ ฐานด้าน โครงสรา้ ง ระบบเครอื่ งกล

ระบบควบคมุ ด้วยการบรรยายพรอ้ มส่ือ power point และตวั อย่างการประกอบเครื่องกลบางช้ิน

2. นกั เรียนประกอบแบบจาลองตามใบกจิ กรรม โดยใชก้ ิจกรรมการเรยี นรูด้ ้วยตนเองอยา่ งหลากหลาย

เชน่

- การเรียนรู้เปน็ กลุ่ม (small group)

- การเรียนรโู้ ดยการแกป้ ัญหา (problem based learning)

- การอภปิ รายภายในกลมุ่ (discussion)

- การเรียนแบบรว่ มมือ (cooperative learning)

3. การนาเสนอแบบจาลองเพ่อื การประเมินและปรบั ปรงุ แกไ้ ข

4. บันทึกผลงานท่ที าข้นึ ลงในใบกจิ กรรมรายสัปดาห์

กาหนดการสอน

กาหนดการสอนมีความชดั เจนในแต่ละสัปดาห์ ตามตวั อย่างดังนี้

สปั ดาห์ วัน/เดอื น/ปี เนื้อหาการเรียนการสอนโดยสังเขป การประเมินผล คะแนน

ที่ (หอ้ งทเี่ รียน)

1 4 พ.ย.57 (813) ความแข็งแรงของโครงสรา้ ง 1. แบบจาลองท่ี 4

6 พ.ย.57 (931) เครื่องกลอย่างง่าย ประกอบขนึ้ ใน

- เฟอื งแบบต่างๆ เชน่ เฟืองทด เฟืองตัวหนอน แตล่ ะสปั ดาห์

เฟืองมงกฎุ เฟอื งราง ดอกจอก 2. ใบงาน

2 11 พ.ย.57 (813) เครอ่ื งกลอยา่ งง่าย 1. แบบจาลองที่ 4

13 พ.ย.57 (931) - เฟอื งแบบต่างๆ เชน่ เฟืองทด เฟืองตวั หนอน ประกอบข้ึนใน

เฟืองมงกุฎ เฟืองราง ดอกจอก (ต่อ) แตล่ ะสัปดาห์

- การผ่อนแรงและการเปลย่ี นความเรว็ โดยใช้ 2. ใบงาน

เครอ่ื งกลบางชนดิ เช่น คาน รอก เปน็ ตน้

อปุ กรณส์ ื่อการสอน

เอกสารประกอบการเรียนการสอนพ้นื ฐานเมแคนกิ ส์และหุ่นยนต์ power point ประกอบการสอน

อปุ กรณ์การเรียนรู้ของ Fischertechnik

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มสู่ความเปน็ เลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 103

การวัดผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น

- คะแนนจากการประเมนิ ตามสภาพจรงิ 45 คะแนน

แบ่งเปน็ คะแนนใบงานระหวา่ งเรียนก่อนการสอบกลางภาค

คะแนนสอบภาคปฏิบัติ (formative 1)

คะแนนใบงานระหวา่ งเรยี นหลงั การสอบกลางภาค

คะแนนสอบภาคปฏิบตั ิ (formative 2)

- คะแนนจากโครงงานปลายภาค 45 คะแนน

- คะแนนคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 10 คะแนน

รวมคะแนนทั้งส้ิน 100 คะแนน

การประเมินผลการเรยี น

เป็นการประเมินตามสภาพจริงรอบด้าน โดยประเมินจากผลงานของนักเรียน ผู้ประเมินได้แก่

ครูผู้สอน บุคคลภายนอกท่ีเชิญมาเป็นผู้ประเมิน นักเรียนกลุ่มอื่นในห้องเดียวกัน และ ประเมินตนเอง

สว่ นระดบั ผลการเรยี นเป็นไปตามเกณฑก์ ารวัดประเมนิ ผลของโรงเรียน

เอกสารประกอบการเรยี นการสอน

นกั เรียนสามารถหาความร้เู พม่ิ เตมิ ได้จากการศึกษาผ่านทางเว็บไซตท์ ่รี ะบไุ วใ้ ต้ภาพ หรอื บรรณานุกรม

ท้ายเอกสารประกอบการเรียนการสอนพื้นฐาน เมแคนิกส์และหุ่นยนต์ ตัวอย่างเช่นเว็บไซต์

http://science.howstuffworks.com/transport/engines-equipment/gear-ratio.htm

หรือ http://www.technologystudent.com/index.htm เปน็ ต้น

นอกจากนกี้ ารทาโครงงานกลางภาคและปลายภาคนักเรยี นต้องสืบค้นข้อมูลทีเ่ กี่ยวข้องกับแบบจาลอง

ที่นกั เรียนประดษิ ฐเ์ พื่อเป็นการอ้างอิงการทางานของแบบจาลองว่าดกี ว่า หรอื แตกตา่ งจากส่ิงท่ีมีอยู่ในปัจจุบัน

อย่างไร ตัวอย่างเช่น หากนักเรียนต้องการทารถเข็นเดินตามอัตโนมัติ นักเรียนต้องหาข้อมูลของรถเข็น

และประกอบแบบจาลองท่สี ามารถทางานไดจ้ รงิ ที่แตกตา่ งจากรถเข็นที่มอี ยู่ทว่ั ๆไป เป็นต้น

โครงการอบรมเตรยี มความพรอ้ มส่คู วามเปน็ เลศิ ทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 104

หลกั สูตรเพ่มิ พนู ประสบการณส์ าหรบั นักเรียนในโครงการพัฒนาศักยภาพนักเรยี นท่มี ีความสามารถพเิ ศษ
ด้านวทิ ยาศาสตร์ สาขาวิชาฟิสิกส์

รายวิชา เนื้อหา ความรู้พืน้ ฐาน รูปแบบการประเมิน
1. Mathematics for physics - คณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน
ม. 4 2. Mechanics - เวกเตอร์ อตั ราสว่ นคะแนนระหวา่ งภาค : ปลาย
ภาคเรยี นท่ี 1 - การเคลือ่ นที่ ภาค = 60 : 40
Properties of Matter - กฎการเคล่ือนท่ีของนวิ ตัน Formative 1 (15 คะแนน)
ว 30216 - การเขียนแผนภาพแรง - แบบทดสอบอัตนัย
พัฒนาศักยภาพ - ช้นิ งาน
ทางฟิสิกส์ 1 - คณิตศาสตร์พื้นฐาน Summative (20 คะแนน)
- เวกเตอร์ - แบบทดสอบอัตนยั
1 หนว่ ยกิต - Mechanics Formative 2 (15 คะแนน)
- แบบทดสอบอตั นยั
ม. 4 - คณติ ศาสตรพ์ น้ื ฐาน - ช้ินงาน
ภาคเรยี นท่ี 1 - เวกเตอร์ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
(10 คะแนน)
ว 30217 สอบปลายภาค (40 คะแนน)
พฒั นาศักยภาพ - แบบทดสอบปรนัย
ทางฟสิ กิ ส์ 2

1 หน่วยกติ

ม. 5 Electricity and magnetism
ภาคเรยี นที่ 1

ว 30218
พฒั นาศกั ยภาพ
ทางฟิสิกส์ 3

1 หน่วยกิต

ม. 5 1. Waves - คณติ ศาสตร์พืน้ ฐาน
ภาคเรยี นท่ี 1 2. Optics - เวกเตอร์
3. Modern Physics
ว 30219 - Mechanics
พฒั นาศักยภาพ - Oscillations
ทางฟสิ ิกส์ 4

1 หน่วยกิต

**อาจปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม**

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มส่คู วามเป็นเลิศทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 105

หลักสูตรเพิ่มพนู ประสบการณส์ าหรับนกั เรียนในโครงการพฒั นาศกั ยภาพนักเรยี น

ทมี่ ีความสามารถพิเศษดา้ นวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี

รายวชิ าพัฒนาศกั ยภาพทางเคมี 1 ( ว30236 ) จานวน 1.0 หน่วยการเรยี น

เนอื้ หา ความรู้พื้นฐาน รูปแบบการประเมิน

หน่วยที่ 1 อะตอมและพันธะเคมี - ความรเู้ รือ่ งแบบจาลองอะตอม อัตราสว่ นคะแนนระหวา่ ภาค :
ศึกษาแบบจาลองอะตอมของโบร์ - ความร้เู ร่ืองตารางธาตุ ปลายภาค = 60 : 40

สเปกตรมั ของอะตอม กลศาสตรค์ วอนตมั

ทฤษฎพี ันธะเวเลนซ์ ทฤษฎีไฮบรดิ ออร์บิทลั - ทกั ษะการสบื ค้นขอ้ มูล สรปุ และ Formative 1 ( 15 คะแนน )
และทฤษฎอี อร์บทิ ัลโมเลกลุ อภิปรายผล - แบบทดสอบอตั นยั
- ทักษะการคานวณทางคณิตศาสตร์ - ชิ้นงาน

หนว่ ยท่ี 2 ปรมิ าณสารสัมพันธ์และ - ความร้เู รอื่ งอะตอมและตารางธาตุ Summative ( 20 คะแนน )
อตั ราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี - ทกั ษะการคานวณทางคณติ ศาสตร์ - แบบทดสอบอตั นยั
- ทักษะการสืบคน้ ข้อมูล สรปุ และ
ศกี ษาการวัดทางวทิ ยาศาสตร์ เลขนัยสาคัญ อภิปรายผล Formative 2 ( 15 คะแนน )
การคานวณปริมาณสารในหน่วยตา่ งๆ - แบบฝึกหัด
การคานวณปริมาณสารจากสมการเคมี - ความรเู้ รอ่ื งการวดั และเลขนัยสาคญั - ชนิ้ งาน
การดุลสมการรดี อกซโ์ ดยวิธเี ลขออกซเิ ดชันและ - ทกั ษะการสบื คน้ ข้อมลู สรปุ และ
วิธคี รึ่งปฏกิ ิริยา กฎอตั ราแบบดฟิ เฟอเรนเชยี ล อภิปรายผล คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
และแบบอนิ ทเิ กรต - ทกั ษะการคานวณทางคณติ ศาสตร์ ( 10 คะแนน )
- ทักษะการทาปฏิบตั ิการเคมี
หนว่ ยที่ 3 สมดุลเคมแี ละกรด-เบส สอบปลายภาค ( 40 คะแนน )
ศึกษาสภาวะสมดลุ คา่ คงที่สมดลุ ประเภท - แบบทดสอบอัตนัย
- แบบฝึกหดั
ของภาวะสมดลุ ปฏิกิรยิ าของกรดและเบส - รายงานปฏิบตั ิการเคมี
การไทเทรตกรด-เบส ปฏิกิริยาไฮโดรลซิ ิสของ
กรดและเบส สารละลายบัฟเฟอร์ และ
เทคนิคพน้ื ฐานสาหรบั ปฏบิ ตั ิการทางเคมี

โครงการอบรมเตรียมความพร้อมสคู่ วามเป็นเลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 106

หลกั สูตรเพิ่มพนู ประสบการณ์สาหรบั นกั เรยี นในโครงการพฒั นาศักยภาพนักเรียน

ทม่ี คี วามสามารถพิเศษดา้ นวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี

รายวิชาพัฒนาศักยภาพทางเคมี 2 ( ว30237 ) จานวน 1.0 หนว่ ยการเรียน

เนือ้ หา ความร้พู ้นื ฐาน รปู แบบการประเมิน

หนว่ ยที่ 1 เคมีอินทรีย์เบือ้ งต้น - ความรเู้ ร่อื งพันธะเคมี อตั ราสว่ นคะแนนระหว่าภาค :
ศกึ ษาสูตรโครงสร้างลวิ อิสของสารอินทรีย์ - ทกั ษะการสบื คน้ ข้อมูล สรุปและ ปลายภาค = 60 : 40

หมู่ฟงั ก์ชนั ของสารอินทรยี ป์ ระเภทตา่ งๆ

การอา่ นชื่อสารประกอบอนิ ทรีย์ อภปิ รายผล Formative 1 ( 15 คะแนน )
- แบบทดสอบอตั นยั
หน่วยท่ี 2 สเตอรโิ อเคมี - ทักษะการสบื คน้ ข้อมลู สรุปและ - ชิ้นงาน
ศกี ษาการจัดอะตอมของโมเลกลุ ใน 3 มิติ อภปิ รายผล
Summative ( 20 คะแนน )
โดยเขยี นสูตรโครงสรา้ งแบบนิวแมน - แบบทดสอบอัตนัย
แบบเส้นประและรูปลิ่ม แบบฟิชเชอร์ และ
แบบซอวฮ์ อร์ส ความเสถียรของโมเลกลุ จาก Formative 2 ( 15 คะแนน )
สตู รโครงสร้าง อแี นนทิโอเมอร์ - แบบฝึกหัด
ไดแอสสเตอริโอเมอร์ สมบัติการหมุนระนาบ - ชน้ิ งาน
แสงของโมเลกลุ

หน่วยท่ี 3 ปฏกิ ิรยิ าเคมอี นิ ทรีย์ - ทักษะการสืบคน้ ข้อมูล สรปุ และ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
ศึกษากลไกการเกิดปฏิกริ ิยาเคมีของ อภิปรายผล ( 10 คะแนน )

แอลคลิ แฮไลด์ สารประกอบอะโรมาติก สอบปลายภาค ( 40 คะแนน )
แอลเคน แอลคนี แอลไคน์ แอลกอฮอล์ - แบบทดสอบอตั นยั
อเี ทอร์ แอลดีไฮด์ คีโตน เอมีน คาร์บอกซิลิ - แบบฝึกหดั
กและอนุพนั ธ์

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มสูค่ วามเปน็ เลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 107

หลกั สตู รเพม่ิ พนู ประสบการณ์สาหรับนกั เรยี นในโครงการพฒั นาศกั ยภาพนกั เรียน

ที่มคี วามสามารถพเิ ศษด้านวิทยาศาสตร์ สาขาวชิ าเคมี

รายวชิ าพัฒนาศักยภาพทางเคมี 3 ( ว30238 ) จานวน 1.0 หน่วยการเรียน

เนอื้ หา ความร้พู ้ืนฐาน รูปแบบการประเมิน

หนว่ ยท่ี 1 ศึกษาและฝกึ ทักษะปฏบิ ัติการเคมี อัตราสว่ นคะแนนระหวา่ ภาค :
ศกึ ษาและฝกึ ทกั ษะปฏบิ ตั ิการเคมี ในหวั ข้อ - ความรเู้ ร่ืองปริมาณสารสมั พันธ์ ปลายภาค = 60 : 40
ตอ่ ไปนี้ - ความรเู้ ก่ยี วกับการช่ัง ตวง วดั

- การไทเทรตสารละลายมาตรฐานกรดและเบส และเลขนยั สาคัญ Formative 1 ( 15 คะแนน )
- ทกั ษะปฏบิ ัติการเคมี
- การไทเทรตหาปรมิ าณกรดในน้าสม้ สายชู - ความรแู้ ละความตระหนักเรื่อง - รายงานการทดลอง

- การไทเทรตหาปรมิ าณคาร์บอเนตและ ความปลอดภยั ในหอ้ งทดลอง

ไฮดรอกไซดใ์ นของผสม - ทักษะการสบื ค้นข้อมูล สรปุ และ Summative ( 20 คะแนน )
- การไทเทรตแบบตกตะกอนและ อภิปรายผล - สอบปฏิบัติการเคมี

การหาปริมาณคลอไรด์

- การไทเทรตแบบสารประกอบเชงิ ซ้อน - รายงานการทดลอง
- แบบทดสอบอัตนยั

Formative 2 ( 15 คะแนน )
- รายงานการทดลอง

คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
( 10 คะแนน )

สอบปลายภาค ( 40 คะแนน )
- แบบทดสอบอตั นยั
- สอบปฏบิ ตั ิการเคมี
- รายงานการทดลอง

โครงการอบรมเตรยี มความพร้อมส่คู วามเป็นเลิศทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 108

หลกั สูตรเพ่มิ พูนประสบการณส์ าหรบั นักเรยี นในโครงการพฒั นาศกั ยภาพนักเรยี น

ที่มีความสามารถพเิ ศษด้านวทิ ยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี

รายวิชาพัฒนาศักยภาพทางเคมี 4 ( ว30239 ) จานวน 1.0 หน่วยการเรยี น

เนือ้ หา ความรูพ้ ้ืนฐาน รูปแบบการประเมิน

หน่วยท่ี 1 ศึกษาบทความและตาราวิชาการ

ศกึ ษาบทความและตาราวชิ าการซ่งึ เกี่ยวกับ - ทักษะการสบื ค้นข้อมูล สรปุ และ อตั ราสว่ นคะแนนระหว่าภาค :

ความรู้ด้านเคมที ีน่ ่าสนใจ และเตรียมพรอ้ มเพื่อ อภิปรายผล ปลายภาค = 60 : 40

นาเสนอความรู้ที่ไดจ้ ากการศึกษา - ความรู้เร่อื งการเขยี นบทความและ Formative 1 ( 15 คะแนน )

การอา้ งอิง - ชน้ิ งาน / Powerpoint

หนว่ ยท่ี 2 การนาเสนอจากการศกึ ษาค้นคว้า - ทกั ษะการพูดในท่ชี มุ ชน Summative ( 20 คะแนน )
นาเสนอความรทู้ างเคมีท่ีได้จากการศึกษา - ทักษะและมารยาทในการฟัง - ชิน้ งาน / Powerpoint
- ทกั ษะการใช้อุปกรณ์อิเลก็ ทรอนกิ ส์ - สงั เกตความก้าวหนา้
ตอ่ หนา้ ชน้ั เรยี นและคณะกรรมการประเมนิ ผล และเทคโนโลยีสารสนเทศ จากการเตรียมความพร้อม
เพ่อื นาเสนอ

Formative 2 ( 15 คะแนน )
- ช้นิ งาน/ Powerpoint/
สอื่ ตา่ งๆ

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
( 10 คะแนน )

สอบปลายภาค ( 40 คะแนน )
- การนาเสนอในช้ันเรียน
- การเขา้ ฟังการสัมมนา

โครงการอบรมเตรียมความพร้อมส่คู วามเป็นเลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 109

หลักสตู รเพมิ่ พูนประสบการณ์สาหรบั นกั เรยี นในโครงการพฒั นาศักยภาพนกั เรียน

ทีม่ ีความสามารถพเิ ศษดา้ นวทิ ยาศาสตร์ สาขาชวี วทิ ยา

รายวชิ าพัฒนาศักยภาพทางชวี วิทยา 1 (ว30256) จานวน 1.0 หนว่ ยการเรียน

เนื้อหา ความรู้พ้ืนฐาน รปู แบบการประเมนิ

หนว่ ยท่ี 1 ความรู้พ้นื ฐานเก่ียวกบั อัตราส่วนคะแนนระหว่างภาค :

เทคนคิ ปฏบิ ตั ิการกล้องจุลทรรศน์ - โครงสรา้ งของกลอ้ ง ปลายภาค = 60 : 40

ศกึ ษากลไกการทางานของกล้องจลุ ทรรศนใ์ ช้ จุลทรรศน์ Formative 1 (15 คะแนน)

แสงแบบเชงิ ประกอบ กล้องจุลทรรศนใ์ ช้แสง - วิธกี ารใช้กล้อง - ข้อสอบแบบ

แบบสเตรโิ อ กล้องจลุ ทรรศน์อิเล็กตรอนแบบ จลุ ทรรศน์ - รายงานปฏบิ ตั ิการ

ส่องกราดและแบบส่องผา่ น - หลักการทางานของ ทดลอง

กลอ้ งจุลทรรศน์ - การนาเสนอหน้าช้นั

หน่วยท่ี 2 ความรพู้ ื้นฐานเกี่ยวกบั เรียน

วิวฒั นาการของเซลลซ์ ึ่งหนว่ ยพน้ื ฐานทเ่ี ลก็ ทส่ี ุด โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์ - การทัศนศึกษากล้อง

ของสิ่งมีชีวติ โครงสร้างพื้นฐานของเซลล์ - สว่ นทห่ี อ่ ห้มุ เซลล์ จลุ ทรรศน์อเิ ลค็ ตรอน

ประกอบด้วยสว่ นที่หอ่ หมุ้ เซลล์ ไซโตพลาสซึม - ไซโตพลาสซึม Summative (20 คะแนน)

และนิวเคลยี ส เซลล์ทัว่ ไปมีขนาดและรปู ร่าง -ออร์แกเนลล์ - ข้อสอบแบบอัตนัยและ

ต่างกนั สว่ นมากมองไมเ่ ปน็ ด้วยตาเปลา่ จงึ ต้อง - นวิ เคลียส ปรนยั

อาศยั กลอ้ งจลุ ทรรศน์ช่วยในการศกึ ษา Formative 2 (15 คะแนน)

รายละเอียดต่างๆ ของโครงสร้างของเซลล์ทีท่ า - ขอ้ สอบแบบปรนยั

หนา้ ทีต่ ่างกัน - งานทม่ี อบหมาย /

หนว่ ยท่ี 3 ความรพู้ น้ื ฐานเกี่ยวกับ รายงานปฏบิ ัติการ

-การขนส่งโปรตนี ภายในเซลล์ - โครงสรา้ งของเย่ือหุ้ม ทดลอง

(Intracellular protein targeting and เซลล์ - กจิ กรรมทัศนศึกษา

Vesicular trafficking) - การลาเลยี งสารผา่ นเขา้ พิพธิ ภัณฑ์ธรรมชาติ

-การขนสง่ ผา่ นเยอื่ หุ้มเซลล์ (Membrane และออกจากเซลล์ วทิ ยา

transport) - การแพร่ คณะวิทยาศาสตร์

-ศกั ย์ไฟฟ้าของผนังเซลล์ (Membrane - ออสโมซสิ จุฬาลงกรณ์

potential) มหาวิทยาลยั
- การแพร่แบบฟาซิลเิ ทต คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
-โครงสร้างและการเคลอื่ นไหวของเซลล์ - กระบวนการเอนโดไซโต (10 คะแนน)

(Cytoskeleton and cell motility) ซสิ ปลายภาค (40 คะแนน)

-การสอ่ื สารและส่งสัญญาณของเซลล์ (Cell - กระบวนการเอกโซไซโต - ขอ้ สอบแบบปรนัย
signaling and Communication) ซสิ

-การตายของเซลล์ (Cell death and

Apoptosis)

โครงการอบรมเตรยี มความพรอ้ มส่คู วามเปน็ เลศิ ทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

เนอ้ื หา ความรู้พ้นื ฐาน ห น้ า | 110
รูปแบบการประเมิน
หน่วยที่ 4 กระบวนการเกิดความ
หลักอนุกรมวธิ าน หลากหลายทางชีวภาพ
-การจดั จาแนกสิ่งมชี วี ติ ประกอบดว้ ย
-การสร้างและใช้ไดโคโตมัสคีย์ -ความหลากหลายทาง
-การตั้งช่ือวิทยาศาสตรข์ องส่ิงมชี วี ิต พนั ธุกรรม
อาณาจักสิง่ มชี วี ิต -ความหลากหลายของสปีชีส์
-ปฏบิ ัติการอาณาจกั รมอเนอรา -ความหลากหลายของระบบ
-ปฏิบตั กิ ารอาณาจกั รโปรตสิ ตา นเิ วศ
-ปฏบิ ัตกิ ารอาณาจักรพชื วิธีการศึกษาความหลากหลาย
-ปฏบิ ตั ิการอาณาจกั รฟงั ไจ ทางชีวภาพ
-ปฏิบตั กิ ารอาณาจกั รสตั ว์ -การจาแนกและการสรา้ งได
โคโตมัสคียอ์ ย่างง่าย
-การต้ังชือ่ ส่งิ มีชวี ติ
-อาณาจกั รสิ่งมีชวี ติ

หมายเหตุ : กิจกรรมการเรียนการสอนและภาระงานสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม โดยเนน้
ประโยชนข์ องผู้เรยี นเป็นสาคัญ

โครงการอบรมเตรยี มความพรอ้ มสู่ความเปน็ เลศิ ทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 111

หลักสูตรเพมิ่ พนู ประสบการณ์สาหรบั นักเรียนในโครงการพฒั นาศกั ยภาพนักเรียน

ทีม่ ีความสามารถพิเศษดา้ นวิทยาศาสตร์ สาขาชีววทิ ยา

รายวิชาพัฒนาศกั ยภาพทางชีววิทยา 2 (ว30257) จานวน 1.0 หนว่ ยการเรียน

เน้อื หา ความรู้พนื้ ฐาน รปู แบบการประเมนิ

หน่วยที่ 1 ความรพู้ ้นื ฐานเก่ียวกบั อัตราส่วนคะแนนระหวา่ งภาค :

ศึกษา วเิ คราะห์ปฏิกริ ิยาเคมีภายในเซลล์ - ธาตุและสารประกอบ ปลายภาค = 60 : 40

ศึกษาพลังงานที่เซลลใ์ ช้ในกจิ กรรมตา่ งๆ - Macromolecule Formative 1 (15 คะแนน)

ปฏกิ ริ ิยาเคมีภายในเซลล์ ไดแ้ ก่ ปฏกิ ิริยาเคมี - สารอนินทรีย์ - ข้อสอบแบบ

แบบดูดพลงั งาน ปฏกิ ริ ิยาเคมีแบบคายพลงั งาน - สารอนิ ทรีย์ - รายงานปฏบิ ัตกิ าร

- ชวี โมเลกุล ทดลอง

Summative (20 คะแนน)

หน่วยท่ี 2 ความรพู้ ื้นฐานเก่ียวกับ - ขอ้ สอบแบบอัตนยั และ
ศึกษา วิเคราะห์การทางานของเอนไซม์ ผลของ - เอนไซมใ์ นส่งิ มีชีวิต ปรนัย
อุณหภูมทิ ่ีมตี ่อการทางานของเอนไซม์ ผลของ - โครงสร้างของเอนไซม์
pH ท่มี ีต่อการทางานของเอนไซม์ ศึกษาความ - Coenzyme Formative 2 (15 คะแนน)
เขม้ ขน้ ของสารต้ังต้นและความเข้มข้นของ - Cofactor - ข้อสอบแบบปรนัย
เอนไซมท์ ม่ี ีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกริ ยิ าเคมี - Endergonic - งานท่มี อบหมาย /
และลาดับขัน้ ของปฏกิ ริ ยิ า reaction รายงานปฏิบตั กิ าร
- Exergonic reaction ทดลอง
หน่วยท่ี 3 - กิจกรรมทัศนศึกษากาย
ความรู้พน้ื ฐาน วิภาครา่ งกายมนุษย์
คณะแพทยศาสตร์
ศกึ ษา วเิ คราะห์ สัณฐาน กายวภิ าค หลกั - การย่อยอาหาร
จุฬาลงกรณ์
สรีรวิทยา การเจริญของระบบย่อยอาหาร - การลาเลียงในสตั ว์
มหาวิทยาลยั
ระบบไหลเวียนเลือด ระบบน้าเหลอื งและ - การหายใจ
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
ภมู คิ ุ้มกนั ระบบหายใจ ระบบขบั ถ่ายและการ - การขับถ่ายและการ (10 คะแนน)
รกั ษาดลุ ยภาพของร่างกายมนษุ ย์ รกั ษาดุลยภาพ ปลายภาค (40 คะแนน)

- ขอ้ สอบแบบปรนัย

หมายเหตุ : กิจกรรมการเรียนการสอนและภาระงานสามารถเปลี่ยนแปลงไดต้ ามความเหมาะสม โดยเน้น
ประโยชน์ของผเู้ รียนเป็นสาคัญ

โครงการอบรมเตรยี มความพรอ้ มสคู่ วามเปน็ เลศิ ทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 112

หลักสตู รเพม่ิ พูนประสบการณส์ าหรับนกั เรียนในโครงการพฒั นาศกั ยภาพนักเรยี น

ทม่ี คี วามสามารถพเิ ศษดา้ นวิทยาศาสตร์ สาขาชวี วิทยา

รายวชิ าพัฒนาศักยภาพทางชวี วิทยา 3 (ว30258) จานวน 1.0 หนว่ ยการเรยี น

เน้อื หา ความรพู้ ืน้ ฐาน รูปแบบการประเมิน

หนว่ ยท่ี 1 ความรูพ้ ื้นฐานเกี่ยวกบั อตั ราสว่ นคะแนนระหว่างภาค :

พฤกษศาสตร์ของพชื ศึกษาโครงสรา้ งกายวภิ าค - ชนดิ และลกั ษณะของ ปลายภาค = 60 : 40

ของราก ลาต้น ใบ ดอก ผล และเมลด็ ของพืช เน้อื เย่ือพชื Formative 1 (15 คะแนน)

ใบเลี้ยงเด่ียวและพืชใบเล้ียงคู่ จากการตัดตาม - โครงสรา้ งภายในของราก - ขอ้ สอบแบบ

ขวาง ลาต้น ใบ ดอก ผล และ - รายงานปฏบิ ตั กิ าร

เมลด็ ของพชื ใบเลี้ยงเดยี่ ว ทดลอง

และรากพชื ใบเลยี้ งคู่จาก - การนาเสนอหนา้ ช้นั

การตัดตามขวาง เรยี น

หนว่ ยที่ 2 ความร้พู ้ืนฐานเก่ียวกบั Summative (20 คะแนน)

บทบาทและหน้าที่ของฮอร์โมน ออกซินไซโทไค - บทบาทและหน้าที่ของ - ขอ้ สอบแบบอัตนัยและ

นิน จิบเบอเรลลินเอทิลีนและกรดแอบไซซิก ออกซนิ ไซโทไคนิน ปรนยั

และการนาไปใช้ประโยชน์ ทางการเกษตร จบิ เบอเรลลนิ เอทิลนี Formative 2 (15 คะแนน)
- ข้อสอบแบบปรนัย
รวมถึงปัจจัย ส่ิงเร้าภายนอกที่มีผลต่อการ กรดแอบไซซกิ และ
การนาไปใช้ประโยชนท์ าง - งานทีม่ อบหมาย /
เจรญิ เตบิ โตของพชื

การเกษตร รายงานปฏิบตั ิการ

หน่วยที่ 3 ความรู้พนื้ ฐานเก่ียวกบั ทดลอง

โครงสร้างและหน้าที่ของระบบประสาทของ - โครงสรา้ งและหนา้ ท่ขี อง คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังและสัตว์มีกระดูกสัน ระบบประสาทของไฮดรา (10 คะแนน)
หลังโครงสร้างและหน้าท่ีของเซลล์ประสาท พลานาเรยี ไสเ้ ดอื นดนิ กุ้ง ปลายภาค (40 คะแนน)
- ขอ้ สอบแบบปรนยั
การเปล่ียนแปลงของศักย์ไฟฟ้า ท่ีเยื่อหุ้มเซลล์ หอย แมลงและสัตวม์ ี

ของเซลล์ประสาทและกลไกการถ่ายทอด กระดูกสนั หลงั

กระแสประสาท ระบบ ประสาทส่วนกลางและ - โครงสร้างและหน้าที่ของ

ระบบประสาทรอบนอก เซลล์ประสาท

- การเปลีย่ นแปลงของ

ศักยไ์ ฟฟา้ ท่ีเยอ่ื ห้มุ เซลล์

ของเซลล์ประสาท และ

กลไกการถา่ ยทอดกระแส

ประสาท

- โครงสรา้ งของระบบ

ประสาทส่วนกลางและ

ระบบประสาทรอบนอก

- โครงสร้างและหนา้ ที่ของ

โครงการอบรมเตรยี มความพร้อมสูค่ วามเป็นเลิศทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 113

เน้อื หา ความรพู้ ืน้ ฐาน รูปแบบการประเมิน

หน่วยที่ 4 สว่ นตา่ ง ๆ ในสมองส่วน
การเปรียบเทยี บพฤติกรรมทเ่ี ปน็ มาแตก่ าเนดิ หน้า สมองส่วนกลางสมอง
และพฤตกิ รรมทีเ่ กิดจากการเรยี นรูข้ องสัตว์ สว่ นหลงั และไขสันหลงั
ความสมั พนั ธ์ระหว่างพฤตกิ รรมกับวิวัฒนาการ
ของระบบประสาท การสื่อสารระหว่างสัตว์ท่ี ความรูพ้ ืน้ ฐานเก่ียวกบั
ทาใหส้ ตั ว์แสดงพฤติกรรม -พฤติกรรมทเี่ ปน็ มาแตก่ าเนิด

และพฤติกรรมท่ีเกดิ จาก
การเรยี นร้ขู องสตั ว์
- สืบคน้ ขอ้ มลู อธบิ าย และ
ยกตวั อย่างความสมั พันธ์
ระหวา่ งพฤติกรรมกบั
ววิ ฒั นาการของระบบ
ประสาท
- สืบค้นข้อมูล อธบิ าย และ
ยกตวั อย่างการสื่อสาร
ระหวา่ งสตั ว์ที่ทาให้สตั ว์
แสดงพฤติกรรม

หมายเหตุ : กิจกรรมการเรยี นการสอนและภาระงานสามารถเปลยี่ นแปลงไดต้ ามความเหมาะสม โดยเน้น
ประโยชนข์ องผ้เู รียนเป็นสาคัญ

โครงการอบรมเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นเลศิ ทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 114

หลกั สูตรเพมิ่ พูนประสบการณส์ าหรับนักเรียนในโครงการพฒั นาศกั ยภาพนกั เรยี น

ทม่ี คี วามสามารถพเิ ศษดา้ นวิทยาศาสตร์ สาขาชวี วิทยา

รายวิชาพัฒนาศกั ยภาพทางชวี วิทยา 4 (ว30259) จานวน 1.0 หน่วยการเรียน

เนื้อหา ความรพู้ ื้นฐาน รูปแบบการประเมิน

หน่วยท่ี 1 ความรพู้ ้นื ฐานเก่ียวกับ อตั ราส่วนคะแนนระหวา่ งภาค :

สิ่งมชี ีวติ กลมุ่ โพรทสิ ต์ กลมุ่ พืชและกลมุ่ สตั ว์ - สิ่งมีชีวิตกลุ่มโพรทสิ ต์ ปลายภาค = 60 : 40

โดยการสารวจผวิ หน้าดนิ และเกบ็ ตัวอย่างสัตว์ (แพลงก์ตอนระดบั ผวิ นา้ ) Formative 1 (15 คะแนน)

ในดินและสตั วห์ นา้ ดิน และการศกึ ษาระบบ - สงิ่ มีชวี ติ กลุ่มสัตว์ (สตั ว์หน้า - ขอ้ สอบแบบ

นเิ วศในนา้ โดยการเกบ็ ตัวอย่างดว้ ยวธิ ีการลาก ดินและสตั วใ์ นดนิ ) - รายงานปฏิบตั ิการ

ตาข่ายแพลงกต์ อนบรเิ วณผิวน้า ทดลอง

หน่วยที่ 2 ความรพู้ น้ื ฐานเกี่ยวกบั Summative (20 คะแนน)
การจาแนกสง่ิ มชี ีวติ จากหมวดหม่ใู หญ่จนถงึ - ลักษณะสาคญั และ - ข้อสอบแบบอัตนยั และ
หมวดหม่เู ล็กและวิธีการเขยี นชอื่ วทิ ยาศาสตร์ ปรนัย
ในลาดับขน้ั สปีชีส์ รวมถึงสร้างไดโคโทมัสคยี ์ ยกตัวอย่างสง่ิ มีชวี ิตกลุ่ม
ในการระบุสง่ิ มีชวี ติ หรอื ตวั อย่างทีก่ าหนด สัตว์ (แมลง) Formative 2 (15 คะแนน)
ออกเปน็ หมวดหมู่ โดยเน้นท่ีกายวภิ าคของ - หลักการสตาฟแมลง และ - ข้อสอบแบบปรนยั
แมลง หลกั การสตาฟแมลง และการจัดเก็บ การจัดเกบ็ ดแู ลรักษา - งานท่ีมอบหมาย /
รักษาดแู ล รายงานปฏบิ ตั ิการ
ทดลอง
- กิจกรรมทัศนศึกษา

หนว่ ยที่ 3 ความรูพ้ ืน้ ฐาน คณะแพทยศาสตร์

การสกัด DNA อย่างง่ายจากพืช และสัตว์ - การสกัด DNA อยา่ งงา่ ย จฬุ าลงกรณ์

และฝึกการย้อมโครโมโซมจากเซลล์สัตว์ จากพชื และสัตว์ มหาวทิ ยาลยั

การเกิดมิวเทชันระดับยีนและระดับโครโมโซม - การย้อมโครโมโซมจาก คุณลักษณะอันพึงประสงค์

รวมท้ังตัวอย่างโรคและกลุ่มอาการ ท่ีเป็นผล เซลลส์ ัตว์ (10 คะแนน)

ของการเกิดมิวเทชัน รวมถึงการนาเทคโนโลยี - การเกิดมิวเทชนั ระดับยนี ปลายภาค (40 คะแนน)

ทางดีเอ็นเอไปประยกุ ต์ใช้ท้ังในด้านส่งิ แวดล้อม และระดับโครโมโซม - ขอ้ สอบแบบปรนัย

นิติวิทยาศาสตร์การแพทย์การเกษตรและ สาเหตุการเกิดมวิ เทชัน

อุตสาหกรรมและข้อควรคานึง ถึงด้านชีวจริย และกลุ่มอาการที่เป็นผล

ธรรม ของการเกดิ มวิ เทชนั

หน่วยท่ี 4 ความรพู้ ้นื ฐาน
หลกั ฐานทีส่ นบั สนนุ และข้อมูลทใี่ ช้อธบิ ายการ - การเกดิ วิวัฒนาการของ
เกดิ วิวฒั นาการของสง่ิ มีชวี ติ แนวคิดเกย่ี วกับ
วิวฒั นาการของสงิ่ มชี วี ิตของฌอง ลามาร์กและ สิ่งมีชวี ิต
ทฤษฎเี กีย่ วกับวิวฒั นาการของส่งิ มีชีวิตของ - ความสาคัญของความ
ชาลส์ ดาร์วนิ หลากหลายทางชวี ภาพ และ
ความเชือ่ มโยงระหว่างความ
หลากหลายทางพนั ธกุ รรม

โครงการอบรมเตรียมความพร้อมสคู่ วามเปน็ เลศิ ทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 115

เน้อื หา ความรพู้ ้นื ฐาน รปู แบบการประเมนิ

ความหลากหลายของสปชี ีส์

และความหลากหลายของ

ระบบนเิ วศ

- การเกดิ เซลลเ์ ร่มิ แรกของ

สิ่งมชี วี ิตและววิ ฒั นาการ

ของสงิ่ มชี วี ติ เซลลเ์ ดยี ว

หมายเหตุ : กจิ กรรมการเรียนการสอนและภาระงานสามารถเปล่ยี นแปลงไดต้ ามความเหมาะสม โดยเน้น

ประโยชน์ของผ้เู รยี นเป็นสาคัญ

โครงการอบรมเตรยี มความพร้อมส่คู วามเปน็ เลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 116

หลกั สตู รเพิม่ พนู ประสบการณ์สาหรับนักเรยี นในโครงการพัฒนาศกั ยภาพนักเรยี น

ทมี่ คี วามสามารถพิเศษด้านวทิ ยาศาสตร์ สาขาวชิ าโครงงานวิทยาศาสตร์

รายวิชาวชิ าพฒั นาศักยภาพทางโครงงานวิทยาศาสตร์ 1 (ว 30294) ปีการศึกษา 2562 จานวน 1.0 หน่วยการ

เรียน

เนอ้ื หา ความรู้พน้ื ฐาน รปู แบบการประเมิน

หนว่ ยที่ 1 อัตราส่วนคะแนนระหวา่ งภาค :

การศึกษาพื้นฐานทักษะกระบวนการศึกษาทางด้าน - ทกั ษะกระบวนการศึกษาทางด้าน ปลายภาค = 60 : 40

วิทยาศาสตร์ ความหมายและความสาคัญของการทา วทิ ยาศาสตร์ Formative 1 (15 คะแนน)

โครงงานวิทยาศาสตร์ การจัดประเภทของโครงงาน - ความหมายและความสาคญั ของ - แบบทดสอบอตั นัย

วิทยาศาสตร์ โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภทสารวจ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ - ชิ้นงาน

โครงงานวิทยาศาสตร์ประเภททดลอง โครงงาน - การจาแนกประเภทและตวั อยา่ ง

วิทยาศาสตร์ประเภทส่ิงประดิษฐ์ โครงงานวิทยาศาสตร์ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ Summative (20 คะแนน)

ประเภททฤษฎี ข้ันตอนการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ - ข้นั ตอนและกระบวนการทา - แบบทดสอบอัตนยั

การศึกษาตัวอย่างสาคัญท่ีเกี่ยวข้องกับโครงงาน โครงงานวิทยาศาสตร์ - ชิ้นงาน

วิทยาศาสตร์ การศึกษาความหมายและความสาคัญของ - ความหมายและความสาคัญของ

การสังเกตและการกาหนดปัญหาโครงงานวิทยาศาสตร์ การสงั เกตและต้ังปญั หาโครงงาน Formative 2 (15 คะแนน)

รูปแบบและกระบวนการของการสังเกตและการกาหนด - รปู แบบการสงั เกตและการกาหนด - บรู ณาการสวนพฤกษศาสตร์

ปญั หาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ ลกั ษณะและตวั อยา่ งของการ ปญั หาโครงงานวทิ ยาศาสตร์ - สอบปฏิบัติการโครงงาน

สงั เกตและการกาหนดปญั หาโครงงานวิทยาศาสตรท์ ี่ดี - แบบฝกึ หดั

หนว่ ยท่ี 2 - ชิน้ งาน

ปฏบิ ัตกิ ารโครงงานท่ี 1 ทกั ษะกระบวนการศึกษาทางด้าน - ทกั ษะการใชว้ สั ดุอุปกรณ์การ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
(10 คะแนน)
วทิ ยาศาสตร์ ทดลองพืน้ ฐานทเี่ ก่ยี วขอ้ งกบั

ปฏิบัติการโครงงานที่ 2 การจาแนกประเภทและตัวอย่าง โครงงานวทิ ยาศาสตร์

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สอบปลายภาค (40 คะแนน)
- การนาเสนอผลงาน
ปฏิบัติการโครงงานท่ี 3 การออกแบบขั้นตอนและ
กระบวนการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ - ชิ้นงาน

ปฏิบัติการโครงงานที่ 4 การระบุรูปแบบการสังเกตและ

การกาหนดปัญหาโครงงานวิทยาศาสตร์ - แบบทดสอบปรนยั

ปฏิบัติการโครงงานที่ 5 การเปรียบเทียบลักษณะการ

สังเกตและต้งั ปัญหาโครงงานทเี่ หมาะสมและไมเ่ หมาะสม

ปฏิบัติการโครงงานที่ 6 การเขียนขั้นตอนกระบวนการ

สงั เกตและการกาหนดปญั หาโครงงานวิทยาศาสตร์

สอบปฏบิ ตั กิ ารโครงงานวทิ ยาศาสตร์

หนว่ ยท่ี 3

ศึกษาค้นคว้างานวิจัย โครงงานหรือเรื่องที่น่าสนใจด้าน - ทักษะการค้นคว้าหาขอ้ มลู การ

วิทยาศาสตร์ทั้งภาษาไทยและภาษาตา่ งประเทศ วิเคราะห์ วิเคราะห์ สังเคราะห์ข้อมูล

สังเคราะหป์ ระเด็นท่ีสาคัญ จากน้นั เรยี บเรียงและนาเสนอ - ทกั ษะการนาเสนอขอ้ มลู
ผลการค้นคว้าโดยวิธีการสัมมนาผ่านส่ือมัลติมเี ดยี

โครงการอบรมเตรยี มความพรอ้ มสู่ความเปน็ เลิศทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 117

หลกั สตู รเพมิ่ พนู ประสบการณ์สาหรบั นักเรยี นในโครงการพฒั นาศกั ยภาพนักเรียน

ที่มีความสามารถพิเศษดา้ นวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์

รายวชิ าพัฒนาศักยภาพทางโครงงานวทิ ยาศาสตร์ 2 (ว 30295) ปีการศกึ ษา 2562 จานวน 1.0 หนว่ ยการเรียน

เนอ้ื หา ความรู้พน้ื ฐาน รูปแบบการประเมนิ

หนว่ ยท่ี 1 อตั ราส่วนคะแนนระหวา่ งภาค :

การศึกษาความหมายและความสาคัญของการศึกษา - ความหมายและความสาคัญของ ปลายภาค = 60 : 40

เอกสารและงานวิจัยท่ีเกี่ยวข้องกับโครงงานวิทยาศาสตร์ การศึกษาเอกสารและงานวจิ ัยท่ี Formative 1 (15 คะแนน)

การจัดจาแนกประเภทของแหล่งเอกสารและงานวิจัยที่ เกี่ยวขอ้ ง - แบบทดสอบอัตนัย

เกี่ยวข้อง แหล่งข้อมูลจากเอกสารและงานวิจัยท่ีเก่ียวขอ้ ง - จาแนกประเภทของแหล่งเอกสาร - ชิ้นงาน

แบบปฐมภูมิ แหล่งข้อมูลจากเอกสารและงานวิจัยท่ี และงานวิจัยท่เี กย่ี วข้อง

เกี่ยวข้องแบบทุติยภูมิ การสืบค้นและการเขียนอ้างอิง - สบื คน้ และเขียนอา้ งองิ แหล่ง Summative (20 คะแนน)

แหล่งเอกสารและงานวิจัยที่เก่ียวข้องกับโครงงาน เอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง - แบบทดสอบอัตนยั

วิทยาศาสตร์ การศึกษาความหมายและความสาคัญของ - ความหมายและความสาคัญของ - ชน้ิ งาน

การเขียนเค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์ หลักการและ เค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์

องค์ประกอบของการเขียนเค้าโครง ข้ันตอนและตัวอย่าง - หลักการและองค์ประกอบของ Formative 2 (15 คะแนน)

ของการเขยี นเคา้ โครงโครงงานวทิ ยาศาสตร์ การเขียนเคา้ โครงโครงงาน - บรู ณาการสวนพฤกษศาสตร์

วทิ ยาศาสตร์ - สอบปฏบิ ตั ิการโครงงาน

- ขน้ั ตอนการเขียนเคา้ โครง - แบบฝึกหัด

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ - ช้ินงาน

หน่วยที่ 2 - ทักษะการใชว้ สั ดุอปุ กรณ์การ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ปฏบิ ตั กิ ารโครงงานที่ 1 การจาแนกประเภทของแหล่ง ทดลองพ้นื ฐานทีเ่ กยี่ วข้องกบั (10 คะแนน)
เอกสารและงานวจิ ัยที่เก่ียวขอ้ ง

ปฏิบตั กิ ารโครงงานท่ี 2 การสืบคน้ และเขียนอ้างองิ แหล่ง โครงงานวทิ ยาศาสตร์ สอบปลายภาค (40 คะแนน)
เอกสารและงานวจิ ยั ที่เกย่ี วขอ้ ง - การนาเสนอผลงาน
ปฏิบตั ิการโครงงานที่ 3 หลกั การและองคป์ ระกอบของ - ช้ินงาน
การเขยี นเค้าโครงโครงงานวิทยาศาสตร์ - แบบทดสอบปรนยั
ปฏบิ ัติการโครงงานท่ี 4 ข้ันตอนการเขียนเค้าโครง

โครงงานวทิ ยาศาสตร์

ปฏบิ ตั ิการโครงงานท่ี 5 การเขยี นเค้าโครงของโครงงาน

วิทยาศาสตร์

สอบปฏิบัตกิ ารโครงงานวิทยาศาสตร์

หนว่ ยท่ี 3
ศึกษาค้นคว้างานวิจัย โครงงานหรือเร่ืองที่น่าสนใจด้าน - ทกั ษะการคน้ คว้าหาข้อมลู การ

วทิ ยาศาสตร์ทงั้ ภาษาไทยและภาษาตา่ งประเทศ วเิ คราะห์ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ขอ้ มูล

สงั เคราะห์ประเด็นท่สี าคัญ จากน้นั เรียบเรียงและนาเสนอ - ทักษะการนาเสนอขอ้ มูล

ผลการค้นควา้ โดยวิธกี ารสมั มนาผ่านส่อื มลั ติมเี ดยี

โครงการอบรมเตรยี มความพรอ้ มส่คู วามเปน็ เลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 118

หลกั สตู รเพ่มิ พูนประสบการณ์สาหรับนกั เรียนในโครงการพฒั นาศักยภาพนักเรยี น

ทมี่ ีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ สาขาวชิ าโครงงานวิทยาศาสตร์

รายวชิ าพัฒนาศักยภาพทางโครงงานวิทยาศาสตร์ 3 (ว 30296) ปีการศึกษา 2563 จานวน 1.0 หน่วยการเรียน

เนอ้ื หา ความรูพ้ นื้ ฐาน รปู แบบการประเมิน

หน่วยท่ี 1 อตั ราส่วนคะแนนระหวา่ งภาค :

การศึกษาเทคนิคและเคร่ืองมือท่ีใช้ในการทาโครงงาน - ความหมายและความสาคัญของ ปลายภาค = 60 : 40

วิทยาศาสตร์ ความหมายและความสาคัญของเทคนคิ และ เทคนิคและเคร่อื งมอื ทีใ่ ชใ้ น Formative 1 (15 คะแนน)

เครื่องมือท่ีใช้ในการทาโครงงานวิทยาศาสตร์ การ โครงงานวทิ ยาศาสตร์ - แบบทดสอบอตั นัย
ยกตัวอย่างเทคนิคและเครื่องมือสาคัญท่ีใช้ในการทา - ตวั อยา่ งเทคนคิ และเครอ่ื งมอื - ชนิ้ งาน

โครงงานวิทยาศาสตร์ การประยุกต์ใช้เทคนิคและ สาคญั ทใ่ี ช้ในการทาโครงงาน

เคร่อื งมอื ในโครงงานวิทยาศาสตรแ์ ต่ละประเภททีแ่ ตกตา่ ง วทิ ยาศาสตร์ Summative (20 คะแนน)

กนั การวเิ คราะหข์ ้อมูลโดยใช้สถิติบรรยายและสถิติอ้างอิง - การประยุกต์ใชเ้ ทคนคิ และ - แบบทดสอบอตั นัย

เพื่อใช้ในโครงงานวิทยาศาสตร์ ความหมายและ เครอ่ื งมอื ในโครงงานวิทยาศาสตร์ - ชิน้ งาน

ความสาคัญของการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยาย แต่ละประเภท

และสถิติอ้างอิง เทคนิคและการประยุกต์ใช้การวิเคราะห์ - ความหมายและความสาคญั การ Formative 2 (15 คะแนน)

ข้อมูลโดยใช้สถิติบรรยายและสถิติอ้างอิงในโครงงาน วิเคราะห์ข้อมลู โดยใชส้ ถิตบิ รรยาย - บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์

วทิ ยาศาสตร์ ตวั อยา่ งการเลือกเทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูล และสถิตอิ ้างอิง - สอบปฏบิ ตั กิ ารโครงงาน

โดยใช้สถิติบรรยายและสถิติอ้างอิงกับข้อมูลอย่าง - การประยกุ ตก์ ารวเิ คราะห์ขอ้ มูล - แบบฝกึ หัด

เหมาะสม โดยใชส้ ถิตบิ รรยายและสถิติอา้ งองิ - ชน้ิ งาน

ในโครงงานวิทยาศาสตร์

หนว่ ยท่ี 2 - ทักษะการใช้วสั ดุอปุ กรณ์การ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
ปฏิบตั กิ ารโครงงานท่ี 1 การประยกุ ต์ใชเ้ ทคนคิ และ (10 คะแนน)

เครือ่ งมอื ในโครงงานวทิ ยาศาสตร์แต่ละประเภท ทดลองพ้ืนฐานทีเ่ กยี่ วข้องกับ สอบปลายภาค (40 คะแนน)
ปฏบิ ัตกิ ารโครงงานที่ 2 การประยุกตก์ ารวเิ คราะห์ข้อมลู โครงงานวิทยาศาสตร์ - การนาเสนอผลงาน
โดยใชส้ ถติ บิ รรยายและสถติ อิ ้างอิงในโครงงาน - ชน้ิ งาน
วทิ ยาศาสตร์ - แบบทดสอบปรนยั
ปฏิบัตกิ ารโครงงานที่ 3 การเลอื กเทคนคิ การวเิ คราะห์

ข้อมลู โดยใช้สถิตบิ รรยายและสถิตอิ ้างองิ ในโครงงาน

วทิ ยาศาสตร์ทีเ่ หมาะสม

ปฏิบตั กิ ารโครงงานที่ 4 การยกตวั อย่างการเลอื กเทคนิค

การวิเคราะห์ขอ้ มลู โดยใชส้ ถติ ิบรรยายและสถติ อิ ้างองิ กบั

ขอ้ มูลอย่างเหมาะสม

สอบปฏิบตั กิ ารโครงงานวทิ ยาศาสตร์

หนว่ ยท่ี 3

ศึกษาค้นคว้างานวิจัย โครงงานหรือเร่ืองท่ีน่าสนใจด้าน - ทักษะการคน้ คว้าหาขอ้ มูล การ

วิทยาศาสตร์ทงั้ ภาษาไทยและภาษาตา่ งประเทศ วิเคราะห์ วิเคราะห์ สังเคราะห์ขอ้ มูล

สงั เคราะห์ประเดน็ ท่ีสาคญั จากนั้นเรยี บเรยี งและนาเสนอ - ทกั ษะการนาเสนอข้อมูล

ผลการค้นควา้ โดยวธิ กี ารสมั มนาผา่ นส่ือมัลตมิ เี ดีย

โครงการอบรมเตรียมความพร้อมสู่ความเปน็ เลิศทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 119

หลักสตู รเพิ่มพนู ประสบการณ์สาหรับนักเรยี นในโครงการพัฒนาศักยภาพนักเรียน

ทมี่ ีความสามารถพเิ ศษด้านวิทยาศาสตร์ สาขาวชิ าโครงงานวทิ ยาศาสตร์

รายวชิ าพฒั นาศักยภาพทางโครงงานวิทยาศาสตร์ 4 (ว 30297) ปกี ารศกึ ษา 2563 จานวน 1.0 หนว่ ยการเรียน

เนอ้ื หา ความรู้พ้ืนฐาน รูปแบบการประเมิน

หน่วยท่ี 1 อตั ราส่วนคะแนนระหว่างภาค :

การศึกษากระบวนการเขียนรายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ - ความหมายและความสาคญั ของ ปลายภาค = 60 : 40

ฉบับสมบูรณ์ ความหมายและความสาคัญของการเขียน การเขียนรายงานโครงงาน Formative 1 (15 คะแนน)

รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ฉบับสมบูรณ์ หลักการและ วทิ ยาศาสตรฉ์ บบั สมบรู ณ์ - แบบทดสอบอตั นยั

องค์ประกอบของการเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตร์ - หลกั การและองคป์ ระกอบของ - ช้นิ งาน

ฉบับสมบูรณ์ ข้ันตอนของการเขียนรายงานโครงงาน การเขียนรายงานโครงงาน

วิทยาศาสตร์ฉบับสมบูรณ์พร้อมยกตัวอย่างของการเขียน วทิ ยาศาสตร์ฉบับสมบรู ณ์ Summative (20 คะแนน)

รายงานอย่างถูกต้อง การศึกษากระบวนการนาเสนองาน - ขน้ั ตอนของการเขียนรายงาน - แบบทดสอบอตั นยั

โครงงานวิทยาศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ ความหมาย โครงงานวิทยาศาสตรฉ์ บบั สมบรู ณ์ - ชน้ิ งาน

และความสาคัญของ การนา เสน องานโ คร ง ง า น พรอ้ มยกตัวอย่างของการเขียน

วิทยาศาสตร์ หลักการและข้ันตอนของการนาเสนองาน รายงานอยา่ งถกู ต้อง Formative 2 (15 คะแนน)

โครงงานวทิ ยาศาสตร์ เทคนิควธิ กี ารนาเสนองานโครงงาน - ความหมายและความสาคัญของ - บูรณาการสวนพฤกษศาสตร์

วิทยาศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมยกตัวอย่างของ การนาเสนองานโครงงาน - สอบปฏบิ ัติการโครงงาน

การนาเสนองานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้อยา่ งเหมาะสม วทิ ยาศาสตร์ - แบบฝกึ หดั

- หลักการและขั้นตอนของการ - ชน้ิ งาน

นาเสนองานโครงงานวทิ ยาศาสตร์ที่

มปี ระสทิ ธิภาพ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

หนว่ ยท่ี 2 (10 คะแนน)

ปฏบิ ตั กิ ารโครงงานที่ 1 หลักการและองค์ประกอบของ - ทกั ษะการใชว้ สั ดอุ ุปกรณ์การ สอบปลายภาค (40 คะแนน)
การเขียนรายงานโครงงานวิทยาศาสตรฉ์ บับสมบูรณ์ ทดลองพื้นฐานทเ่ี กย่ี วข้องกับ - การนาเสนอผลงาน
ปฏบิ ัติการโครงงานท่ี 2 เขียนข้ันตอนของการเขียน โครงงานวิทยาศาสตร์ - ชิ้นงาน
รายงานโครงงานวทิ ยาศาสตรฉ์ บบั สมบูรณพ์ รอ้ ม - แบบทดสอบปรนยั
ยกตวั อยา่ งของการเขยี นรายงานอย่างถกู ต้อง

ปฏบิ ัตกิ ารโครงงานท่ี 3 หลักการและข้ันตอนของการ

นาเสนองานโครงงานวทิ ยาศาสตรท์ ่ีมีประสิทธิภาพ

ปฏบิ ตั ิการโครงงานที่ 4 ยกตัวอย่างเทคนคิ วธิ กี ารนาเสนอ

งานโครงงานวิทยาศาสตรอ์ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ

ปฏบิ ัตกิ ารโครงงานที่ 5 การเลอื กเทคนิควธิ ีการนาเสนอ

งานโครงงานวิทยาศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพ

สอบปฏิบตั ิการโครงงานวิทยาศาสตร์

หนว่ ยท่ี 3

ศึกษาค้นคว้างานวิจัย โครงงานหรือเรื่องท่ีน่าสนใจด้าน - ทักษะการคน้ คว้าหาข้อมลู การ

วิทยาศาสตร์ท้ังภาษาไทยและภาษาตา่ งประเทศ วิเคราะห์ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ขอ้ มูล

สงั เคราะห์ประเดน็ ทีส่ าคัญ จากนนั้ เรียบเรียงและนาเสนอ - ทกั ษะการนาเสนอข้อมูล
ผลการคน้ คว้าโดยวธิ กี ารสัมมนาผา่ นส่ือมัลติมีเดีย

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มสคู่ วามเป็นเลิศทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 120

กล่มุ สาระการเรียนรู้
ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาอังกฤษ)

โครงการอบรมเตรียมความพร้อมส่คู วามเปน็ เลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 121

แนวทางการเรยี นมุ่งสู่ความเป็นเลศิ ทางด้านวิชาการ

PAE (Preparation for Academic Excellence)
กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ)

ส่ิงท่ีนกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 ควรทราบ

1. การบริหารงานกลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) และหอ้ งกล่มุ สาระฯ
2. การติดต่อรบั ข้อมูลข่าวสารของกลุ่มสาระฯ
3. หลักสูตรวิชาภาษาองั กฤษ ทุกระดับชัน้
4. หนังสอื ประกอบการเรียน
5. ลักษณะการประเมนิ ผลการเรียน และรางวัลคะแนนยอดเยี่ยม
6. ชมรมภาษาองั กฤษ รวมถงึ กลุ่มย่อย และชมรมในเครือข่าย
7. โครงการแลกเปลี่ยน และโครงการพิเศษต่างๆ
8. กจิ กรรมเสรมิ ทักษะภาษาอังกฤษ
9. ลกั ษณะขอ้ สอบ และตัวอยา่ งขอ้ สอบ

1. การบรหิ ารงานกลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ)

หวั หน้ากลมุ่ สาระฯ

รองหวั หน้ากลมุ่ สาระฯ รองหัวหน้ากลุ่มสาระฯ รองหวั หนา้ กลมุ่ สาระฯ รองหัวหน้ากลุ่มสาระฯ
ฝา่ ยวชิ าการ ฝ่ายกิจกรรม ฝา่ ยธุรการ ฝ่ายแผนงาน

หัวหนา้ รายวชิ าระดับชัน้ ประธานทปี่ รกึ ษาชมรม สารสนเทศ หัวหน้าโครงการตา่ งๆ

ครูผสู้ อนในแตล่ ะรายวชิ า ครทู ี่ปรึกษาชมรม ประชาสมั พันธ์
และแตล่ ะในระดับช้นั

2. การตดิ ตอ่ รับข้อมลู ข่าวสารของกลุ่มสาระฯ
สถานทีร่ บั ขอ้ มลู ขา่ วสารและติดตอ่ กลุม่ สาระฯ

กลุ่มสาระการเรียนเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ห้อง 263 ตกึ 3 ชน้ั 2

นกั เรยี นสามารถรบั ขอ้ มลู ขา่ วสารตา่ งๆ นอกเหนือจากการประกาศอนิ เตอร์คอมของโรงเรยี นได้ท่ี
1. ปา้ ยประชาสมั พันธ์หนา้ ห้องกลมุ่ สาระฯห้อง 263 ตกึ 3 ช้ัน 2
2. ป้ายประกาศตามบอรด์ ตกึ โรงอาหาร และห้องแนะแนว

โครงการอบรมเตรยี มความพรอ้ มสูค่ วามเปน็ เลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 122

ท้ังนี้ การสมัครเข้าร่วมโครงการพิเศษ หรือการแข่งขันต่างๆเป็นการเร่งด่วน ขอให้นักเรียนฟัง
ประกาศอินเตอร์คอมช่วงเช้าหลังเคารพธงชาติ และจดช่ือครูผู้รับผิดชอบตลอดจนสถานท่ีติดต่อให้แม่นยา
เพราะนักเรยี นอาจจะตอ้ งตดิ ตอ่ คุณครผู รู้ บั ผดิ ชอบโดยตรงทหี่ ้องพกั ของคุณครูท่านนน้ั

Website และ e-mail สาคัญ ในการรับข้อมูลข่าวสารของกลุ่มสาระ และข้อมูลเก่ียวกับการ

เข้าร่วมกิจกรรมทางภาษา มดี งั ตอ่ ไปนี้
1) www.triamudom.ac.th ปกติกลุ่มสาระฯเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทางเว็บไซต์โรงเรียน
เช่นท่ีผ่านมาแล้ว คือประกาศรายชื่อนักเรียนผู้ผ่านการคัดกรองเข้าร่วมโครงการพัฒนา
ความสามารถพิเศษดา้ นภาษาองั กฤษ
2) อีเมล์กลุ่มสาระฯ [email protected] ปกติอีเมล์น้ียังใช้รับสมัคร
ครูผู้สอนท้ังครูไทย และครูต่างชาติ นักเรยี นใช้อเี มลน์ ตี้ ดิ ตอ่ กับกลุ่มสาระฯได้ถา้ มีคาถามท่ัวๆไป
ที่ไม่ใช้เร่ืองเร่งด่วน สาหรับการสมัครเข้าร่วมโครงการพิเศษ หรือการแข่งขันต่างๆซึ่งต้องการ
ความถูกตอ้ งชัดเจน ขอใหน้ กั เรยี นตดิ ต่อคณุ ครผู ูร้ ับผดิ ชอบโดยตรงทห่ี ้องพักของคุณครู
3) เว็บไซต์ในสังกัดของ สพฐ.
www.obec.go.th เว็บไซต์สานักงานการศึกษาข้ันพื้นฐาน (สพฐ) มีข่าวสารท่ีเป็นประโยชน์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการสมัครเข้าร่วมโครงการแลกเปล่ียนท่ีกระทรวงศึกษาธิการรับรอง
และกิจกรรมการแขง่ ขันประเภทตา่ งๆในระดบั เขตพ้นื ท่ี ระดบั ชาติ และระดบั สากล
www.english.obec.go.th เว็บไซต์สถาบันภาษาอังกฤษ สานักงานการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
มีข้อมูลที่น่าสนใจ เก่ียวกับกิจกรรมภาษาอังกฤษของ สพฐ. เช่นละครประจาปี การแข่งขันพูด
สนุ ทรพจน์ ฯลฯ
www.sesao1.go.th เว็บไซตข์ องสานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษา กรงุ เทพมหานคร เขต1
4) http://www.njdigital.net/ เว็บไซต์ของบริษัท The Nation ผู้จัดกิจกรรม NJ Spelling Bee
และ การเขยี นเรียงความเชิงสร้างสรรค์ระดับชาติ ซึ่งเรารว่ มกิจกรรมด้วยอย่างสม่าเสมอ
5) เวบ็ ไซต์ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตนเองเชน่ www.britishcouncil.org, www.englishclub.com,
www.englishpage.com, www.bangkokpost.com, www.bangkokpost.com/learning/
www.student-weekly.com/200415/
www. englishforeveryone. org/ topics/ reading comprehension. htm มี แ บ บ ฝึ ก หั ด
reading comprehension ระดบั ยาก และเฉลยละเอียดให้ฝึกทา
6) เวบ็ ไซดฝ์ กึ การเขยี นภาษาองั กฤษ
http://www.englishforeveryone.org/Topics/Writing-Practice.htm
http://www.actstudent.org/writing/sample/six.html
http://www.essaybuilder.net/Graphs.html ในการสอบชิงทุนรัฐบาล นกั เรียนควรฝกึ เขยี น
เรียงความให้คล่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรฝึกเขียน academic writing ควรฝึกเขียนบรรยาย
ตารางข้อมูล ซึง่ มกั ใช้ในการเรียนต่อขัน้ สูง หรือเขียนงานวิจยั ตอ่ ไปในอนาคต
http://www.oknation.net/blog/EnglishClass4You/2014/01/04/entry-2 รวมเว็บไซต์
การฝกึ เขียนเรียงความให้ประสบความสาเร็จ มีหลายเว็บไซต์ที่น่าสนใจ

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มสูค่ วามเปน็ เลิศทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 123

หมายเหตุ กิจกรรมภาษาองั กฤษ หรอื การแขง่ ขันทักษะภาษาอังกฤษบางประเภท นกั เรียนสามารถสมัคร
ไดด้ ว้ ยตนเองทางเว็บไซต์ แต่ส่วนใหญจ่ ะต้องสมัครผา่ นโรงเรียน กล่าวคือ กลุ่มสาระฯคดั เลือกนักเรียนเปน็
ผ้แู ทนโรงเรียนเขา้ ร่วมกจิ กรรมนน้ั ๆ สาหรับกิจกรรมท่นี ักเรยี นตอ้ งสมัครผ่านโรงเรยี น หลงั จากทน่ี ักเรยี น
ศกึ ษาข้อมลู แล้ว ขอให้ตดิ ตอ่ กลุม่ สาระฯ ตึก 3 ชัน้ 2 เพือ่ กลมุ่ สาระฯบนั ทึกขออนุญาตโรงเรียนเขา้ แข่งขัน
อย่างเป็นทางการต่อไป

3. หลักสตู รวชิ าภาษาองั กฤษ

ระดบั ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 4 ตารางแสดงวิชาเรยี น หน่วยกิต และจานวนคาบเรยี น

สาระการเรยี นรู้ แผนการเรียน แผนการ Gifted จานวนคาบ/
English สปั ดาห์
วิทย์-คณติ เรยี นภาษา Program
2
สาระการเรียนรูพ้ ื้นฐาน 2

1.อ 31101 ภาษาอังกฤษ 1 (ภาคเรยี นที่ 1) 1.0 1.0 1.0 3
3
2.อ 31102 ภาษาอังกฤษ 2 (ภาคเรยี นที่ 2) 1.0 1.0 1.0
1
สาระการเรียนรูเ้ พิ่มเติม 1
กจิ กรรม
3.อ 31201 ภาษาองั กฤษอ่าน-เขียนเบอื้ งต้น 1 1.5 1.5 1.5 นอกตาราง
เรยี น
(ภาค 1) 1.5 1.5 1.5
จานวนคาบ/
4.อ 31202 ภาษาองั กฤษอา่ น-เขียนเบอื้ งตน้ 2 สัปดาห์

(ภาค 2) 2
2
5.อ 30201 ภาษาอังกฤษฟัง-พูด 1 (ภาค 1) - 0.5 0.5
2
6.อ 30202 ภาษาอังกฤษฟัง-พูด 2 (ภาค 2) - 0.5 0.5 2

7.อ 30291 ภาษาองั กฤษเพิ่มพนู ประสบการณ์ 1 - - 0.5

(ประเมินผลจากการรว่ มกิจกรรมเสรมิ หลักสตู รเมือ่

สนิ้ ปีการศกึ ษาคร้งั เดยี ว)

ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ตารางแสดงวิชาเรียน หนว่ ยกิต และจานวนคาบเรยี น

สาระการเรียนรู้ แผนการเรยี น แผนการเรียน Gifted
English
วทิ ย์-คณติ ภาษา Program

สาระการเรียนรพู้ ืน้ ฐาน

1.อ 32101 ภาษาอังกฤษ 3 (ภาคเรียนท่ี 1) 1.0 1.0 1.0

2.อ 32102 ภาษาองั กฤษ 4 (ภาคเรียนที่ 2) 1.0 1.0 1.0

สาระการเรียนรเู้ พ่มิ เติม

3.อ 32201 ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน 1 (ภาค 1) 1.0 1.0 1.0

4.อ 32202 ภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 2 (ภาค 2) 1.0 1.0 1.0

โครงการอบรมเตรยี มความพร้อมสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 124

สาระการเรียนรู้ แผนการเรียน แผนการเรยี น Gifted จานวนคาบ/
English สปั ดาห์
5.อ 30203 ภาษาองั กฤษฟงั -พดู 3 (ภาค 1) วทิ ย์-คณติ ภาษา Program
6.อ 30204 ภาษาองั กฤษฟัง-พดู 4 (ภาค 2) 1
- 0.5 0.5 1
- 0.5 0.5

7.อ 30292 ภาษาอังกฤษเพิ่มพูนประสบการณ์ 2 - - 0.5 กจิ กรรม
นอกตาราง
(ประเมินผลจากการรว่ มกิจกรรมเสรมิ หลกั สตู รเมอื่
ส้ินปีการศกึ ษาครงั้ เดียว) เรยี น

ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ตารางแสดงวชิ าเรียน หนว่ ยกติ และจานวนคาบเรียน จานวนคาบ/
สปั ดาห์
สาระการเรียนรู้ แผนการเรียน แผนการ Gifted
เรยี นภาษา English 2
วทิ ย์-คณติ Program 2
*วทิ ย์-ศิลป์
2
สาระการเรยี นรูพ้ ืน้ ฐาน 2
1
1.อ 33101 ภาษาอังกฤษ 5 (ภาคเรยี นท่ี 1) 1.0 1.0 1.0 1
กิจกรรม
2.อ 33102 ภาษาองั กฤษ 6 (ภาคเรียนท่ี 2) 1.0 1.0 1.0 นอกตาราง
เรียน
3.

สาระการเรยี นรู้เพิ่มเตมิ

3.อ 33201 ภาษาอังกฤษอ่าน-เขยี น 3 (ภาค 1) 1.0 1.0 1.0

4.อ 33202 ภาษาองั กฤษอ่าน-เขียน 4 (ภาค 2) 1.0 1.0 1.0

5.อ 30205 ภาษาอังกฤษฟงั -พูด 5 (ภาค 1) - 0.5 0.5

6.อ 30206 ภาษาองั กฤษฟัง-พูด 6 (ภาค 2) - 0.5 0.5

7.อ 30293 ภาษาองั กฤษโครงงาน - - 0.5

(ประเมินผลจากการรว่ มกจิ กรรมเสรมิ หลักสตู รเมอ่ื

สน้ิ ปีการศกึ ษาคร้งั เดยี ว)

หมายเหตุ
1)*วทิ ย์-ศลิ ป์ คือนักเรยี นแผนวิทย์-คณิต ระดับชัน้ ม.6 ท่ไี มต่ อ้ งการเรยี นวชิ าวิทยาศาสตร์ แต่วางแผนทจ่ี ะสอบเข้า
เรียนต่อในเส้นทางเดียวกับแผนการเรียนภาษา-คณิต ปกติจะเปิดตามความต้องการของนักเรียนเมื่อนักเรยี น
เรยี นจบช้ันม.5 เปดิ ไม่เกนิ 2 ห้องเรียน นกั เรียนชน้ั ม.6 แผนการเรียนนี้ ไมต่ อ้ งเรยี นวชิ าภาษาองั กฤษฟัง-พดู
2) นักเรยี นโครงการพัฒนาความสามารถพเิ ศษด้านภาษาอังกฤษจะแยกจากเพื่อนร่วมชน้ั มาเรียนท่ี ห้อง 262 หรือ

272 ตึก 3 ในคาบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ และภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน สาหรับวิชาภาษาอังกฤษฟัง-พูด
นกั เรียน โครงการฯจะเรยี นท่ีห้องเรยี นเดิมกับเพื่อนรว่ มช้นั กลา่ วคือ ไมต่ อ้ งยา้ ยมาจากหอ้ งเดิม

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มสคู่ วามเป็นเลิศทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 125

3) วิชาภาษาองั กฤษ 1 สอนโดยครไู ทย วิชาภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน 1 ในจานวน 3 คาบของวิชานี้
สอนโดยครูไทยท่านเดียวกันสองคาบเรยี น อีก 1 คาบเรียนของวิชาน้ี ครชู าวต่างประเทศเปน็ ผสู้ อน ซงึ่ จะ
เน้นสนทนาภาษาอังกฤษ และฝกึ เขียนเปน็ ครงั้ คราว ครชู าวตา่ งประเทศจะประเมนิ ผลนกั เรียนรว่ มกับครู
ไทย สาหรับรายวิชาภาษาอังกฤษฟัง-พูด 1 ของแผนการเรียนภาษา ครชู าวต่างประเทศเป็นผสู้ อน

4. หนังสือเรยี นของทุกระดบั ช้ัน
มัธยมศกึ ษาปีที่ 4

อ 31101 ภาษาอังกฤษ 1 (ภาคเรยี นท่ี 1)
อ 31102 ภาษาอังกฤษ 2 (ภาคเรยี นที่ 2)
หนังสือประกอบการเรยี นการสอน
1. Achievers B1+
2. แบบฝกึ หดั ทีร่ ะดบั ช้ันม.4 จัดทาขน้ึ ใช้ประกอบ
3. หนังสอื อา่ นนอกเวลารายวิชาละ 1 เลม่ ต่อ 1 ภาคเรยี น
หมายเหต:ุ นักเรียนโครงการพัฒนาความสามารถพเิ ศษดา้ นภาษาอังกฤษ ชั้นม. 4 ใชเ้ อกสาร
ประกอบการสอนจดั ทาโดยคณะครผู ู้สอนของโครงการ และหนงั สืออ่านประกอบซง่ึ ครูผูส้ อนจะแจ้งให้
ทราบ
อ 31201 ภาษาอังกฤษอา่ น-เขียนเบอื้ งต้น 1 (ภาคเรยี นท่ี 1)
อ 31202 ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียนเบื้องตน้ 2 (ภาคเรียนท่ี 2)
1. หนังสือ Achievers B2
2. หนังสอื อ่านนอกเวลารายวิชาละ 1 เล่ม ตอ่ 1 ภาคเรยี น
หมายเหตุ: นักเรยี นโครงการพฒั นาความสามารถพิเศษด้านภาษาอังกฤษ ช้ันม. 4 ใช้ เอกสารท่ีกลุ่มสาระฯ
จดั ทาข้ึนประกอบท้ังสองภาคเรยี น ส่วนหนงั สอื อ่านประกอบจะแจ้งใหน้ กั เรยี นทราบภายหลงั

อ 30201 ภาษาอังกฤษฟัง-พูด 1 (ภาคเรียนที่ 1)
อ 30202 ภาษาอังกฤษฟัง-พูด 2 (ภาคเรียนท่ี 2)
ใชเ้ อกสารประกอบการสอนทคี่ ณะครูจดั ทาข้ึน

โครงการอบรมเตรียมความพร้อมสคู่ วามเป็นเลิศทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 126

มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5

อ 32101 ภาษาอังกฤษ 3 (ภาคเรียนท่ี 1)
อ 32102 ภาษาองั กฤษ 4 (ภาคเรียนท่ี 2)
หนังสือประกอบการเรยี นการสอน:
1. Achievers B2
2. แบบฝกึ หดั ที่ระดบั ชัน้ ม.5 จดั ทาขึ้น
3. หนงั สืออ่านนอกเวลารายวิชาละ 1 เล่ม ต่อ 1 ภาคเรียน

หมายเหตุ: นักเรยี นโครงการพฒั นาความสามารถพเิ ศษด้านภาษาองั กฤษ ชน้ั ม. 4 ใช้เอกสาร
ประกอบการสอนจดั ทาโดยคณะครูผสู้ อนของโครงการ และหนงั สอื อา่ นประกอบซง่ึ ครูผู้สอนจะแจ้งให้
ทราบ

อ ภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน 1 (ภาคเรียนที่ 1)
อ ภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน 2 (ภาคเรียนที่ 2)
หนังสอื ประกอบการเรียนการสอน: Achievers B2
และแบบฝึกหัดท่รี ะดับชั้น ม.5 จัดทาขนึ้ ใชป้ ระกอบ
2. หนังสอื อา่ นนอกเวลารายวิชาละ 1 เลม่ ตอ่ 1 ภาคเรียน
หมายเหต:ุ นักเรยี นโครงการพฒั นาความสามารถพเิ ศษดา้ นภาษาอังกฤษ ชั้นม. 5 ใช้ เอกสารทค่ี รผู สู้ อน
จัดทาขึ้นประกอบทัง้ สองภาคเรยี น ส่วนหนังสอื อา่ นประกอบจะแจ้งใหน้ ักเรยี นทราบภายหลงั

อ 30203 ภาษาอังกฤษฟัง-พูด 3 (ภาคเรยี นที่ 1)
อ 30204 ภาษาอังกฤษฟัง-พดู 4 (ภาคเรยี นที่ 2)
หนังสอื ประกอบการเรียนการสอนใชเ้ อกสารท่คี รูผูส้ อนจดั ทาข้ึน

มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

อ 33101 ภาษาอังกฤษ 5 (ภาคเรยี นท่ี 1)
อ 33102 ภาษาอังกฤษ 6 (ภาคเรยี นที่ 2)
หนงั สือประกอบการเรยี นการสอน:
1. เอกสารที่คณะผูส้ อนจดั ทาขึน้
2. Supplementary exercise
3. ภาคเรยี นท่ี 1 ใชห้ นงั สืออ่านนอกเวลารายวิชาละ 1 เลม่

อ ภาษาอังกฤษอา่ น-เขยี น 3 (ภาคเรียนท่ี 1)
อ ภาษาอังกฤษอ่าน-เขยี น 4 (ภาคเรยี นที่ 2)

โครงการอบรมเตรยี มความพรอ้ มสู่ความเปน็ เลศิ ทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 127

หนงั สอื ประกอบการเรยี นการสอน:
1. หนังสอื ท่รี ะดบั ชัน้ ม.6 จดั ทาขึ้นโดยผูส้ อน
2) หนงั สอื อ่านนอกเวลารายวิชาละ 1 เล่ม

อ 30205 ภาษาองั กฤษฟงั -พูด 5 (ภาคเรยี นท่ี 1)
อ 30206 ภาษาอังกฤษฟงั -พูด 6 (ภาคเรียนท่ี 2)
ใชเ้ อกสารประกอบการเรียนการสอนท่ีครูผสู้ อนจดั ทาข้ึน

5. การประเมนิ ผลการเรียน

คาบเรยี นท่ี 1 ครูผูส้ อนจะแจ้งการแบ่งบทเรยี น และการประเมนิ ผลการเรยี นซึง่ นกั เรียนควรจดบนั ทึกไว้
การประเมินผลวชิ าภาษาองั กฤษ (1-6) เป็นการประเมินครบทุกทักษะวิชาเดียว

ในท่นี ี้ จะกล่าวถึงการเกบ็ คะแนนของทุกวิชามีลกั ษณะทเี่ หมอื นกันดงั น้ี
1. การเกบ็ คะแนนกอ่ นการสอบกลางภาค (Formative 1) – 10 คะแนน

ไม่ใช่การสอบตามตารางสอบของโรงเรียน แต่เป็นการมอบหมายงานเขียน ให้ส่งภายในระยะเวลา
ท่ีกาหนด หรือนัดหมายสอบเก็บคะแนนย่อย ระดับช้ันม.4 ท่ีผ่านมาได้มอบหมายให้นักเรียน
ทา Scrapbook สาหรบั ปีการศึกษาน้ี คุณครปู ระจาวิชาจะแจ้งรายละเอยี ดให้ทราบภายหลงั
วิชาภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน ห้องที่ครูต่างชาติสอน (แผนการเรียนวิทย์-คณิต) จะได้รับการประเมิน
โดยครตู า่ งชาตติ ามขอ้ ตกลงรว่ มกนั กับคณุ ครู
1. การสอบกลางภาค – 30 คะแนน (คะแนนน้ีไมร่ วมคะแนนสอบหนงั สอื นอกเวลา)
ลักษณะ เป็นการสอบตามตารางสอบของโรงเรียน ทดสอบเรื่องที่เรียนไปแล้ว มักเน้นความเข้าใจ
การนาไปใช้ มากกว่าความจา ก่อนวันสอบประมาณ 1 สัปดาห์ หัวหน้าระดับจะแจง้ ลกั ษณะข้อสอบ
ให้ครูผู้สอนแจ้งนักเรียนให้ทราบทั่วกัน นักเรียนจะทราบจานวนข้อ คะแนนของแต่ละส่วน
และทราบลักษณะขอ้ สอบเชน่ เปน็ แบบอ่านข้อความแลว้ เลอื กข้อทถ่ี ูกตอ้ งจากตัวเลือก 4 ตวั หรอื ใหห้ า
ข้อความที่ใช้ไวยากรณ์ผิด เป็นต้น นอกจากน้ันหัวหน้าระดับจะแจ้งขอบข่ายของเนื้อหาว่าครอบคลุม
บทเรียนท่ีเรียนไปแล้วเร่ืองใดบ้าง ข้อสอบกลางภาคมักจะมีส่วนที่นักเรียนต้องเขียนบรรยายบ้าง
เลก็ นอ้ ย
เวลาสอบ
- การสอบวชิ าภาษาองั กฤษ 1-6 ใชเ้ วลา 75 นาที
- การสอบวชิ าภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน 1-6 ใชเ้ วลา 75 นาที
- การสอบวิชาภาษาองั กฤษฟัง-พดู 1-6 ใช้เวลา 30 นาที
- การสอบหนงั สอื นอกเวลา ใช้เวลา 30 นาที
- นกั เรียนโครงการพฒั นาความสามารถพเิ ศษดา้ นภาษาองั กฤษ จะสอบนอกตาราง ขนึ้ อยูก่ ับ
การนัดหมายของครผู ้สู อน

โครงการอบรมเตรียมความพร้อมสคู่ วามเป็นเลิศทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 128

การสอบหนงั สอื นอกเวลา
แตล่ ะภาคเรียนช่วงการสอบกลางภาคจะมีการสอบหนงั สือนอกเวลา 2 เลม่ (ไมไ่ ดส้ อบวันเดยี วกัน)
ใช้เวลาทาข้อสอบ 30 นาที นักเรียนจะต้องจดบันทึกให้ดีว่าเล่มใดประกอบการประเมินผลวิชาภาษา
อังกฤษเล่มใดประกอบการประเมินผลวิชาภาษาอังกฤษอ่าน-เขียน นักเรียนควรแบ่งเวลาในการอ่าน
ให้ดีเพ่ืออ่านให้ทันสอบ โดยสรุป ในแต่ละปีการศึกษา นักเรียนจะได้อ่าน นวนิยายท่ีมีคาศัพท์
และสานวนเหมาะสมกับระดับชั้น 4 เล่ม บางเล่มปรับปรุงจากวรรณกรรมอมตะ บางเล่ม
จากวรรณกรรมร่วมสมัยหลายเลม่ เคยทาเปน็ ภาพยนตร์แลว้

จะไม่มีการสอนหนังสือนอกเวลาในห้องเรียน แต่ชมรมภาษาอังกฤษอาจจะจัดละคร
จัดกิจกรรมพิเศษเช่นเสวนา หรือตอบปัญหาจากเรื่อง เพื่อฝึกให้นักเรียนวิเคราะห์หนังสือนอกเวลา
ได้ ก่อนสอบหัวหน้าระดับอาจแจ้งลักษณะพิเศษของข้อสอบหนังสือนอกเวลา บอกแนวทางการ
วเิ คราะห์เรื่องให้นกั เรียนทราบกอ่ นสอบ ผ่านครผู ูส้ อนทุกคนได้บ้าง

จดุ ประสงค์ของการจัดให้มีการอ่าน และการสอบหนังสอื นอกเวลา คือปลูกฝังใหน้ ักเรียนมี
นิสัยรักการอ่าน และได้อ่านเร่ืองหลากหลายประเภท ได้ฝึกวิเคราะห์แก่นเร่ือง (theme) วิเคราะห์
เน้ือเรือ่ ง (plot) ตวั ละคร (character) การกระทา การตดั สินใจของตัวละคร หาขอ้ ขัดแย้ง (conflict)
หาความเชื่อมโยงระหว่างตัวละคร ระหว่างเหตุการณ์และระยะเวลาต่างๆ ดูอิทธิพลของเวลายุคสมัย
และสถานที่ที่มีต่อการใช้ชีวิตของตัวละคร หรือการตัดสินใจของตัวละคร ฯลฯ สาหรับช้ันม.4
การวิเคราะหไ์ ม่ซับซ้อนนกั

แต่จุดประสงค์หลักของการอ่านหนังสือนอกเวลาคือเพื่อเพิ่มพูนทักษะการอ่าน ซึ่งจะส่งผล
ดีให้นักเรียนเกิดความสามารถในการใช้ทักษะอื่นๆอย่างคล่องแคล่วต่อไป เพราะฉะน้ัน นักเรียนจึง
ควรอ่านฉบับที่ได้รับจากโรงเรียน ไม่ควรไปหาบทแปล หรืออ่านเฉพาะบทคัดย่อ เพราะจะไม่ได้รับ
ประโยชนแ์ ต่อย่างใด นักเรยี นควรฝึกตนเองให้มวี นิ ยั ในการอ่านใหส้ ม่าเสมอ

ลักษณะข้อสอบของหนงั สือนอกเวลา มักจะเปน็ ประเภท
1) Multiple choice เลอื กคาตอบทถี่ กู ต้องจาก 4 ตวั เลือก
2) ยกข้อความเดน่ ๆจากเร่ืองถามตัวละคร สถานที่
3) True – false เลอื กคาตอบทีถ่ ูกหรอื ผดิ
4) เขียนตอบคาถามสน้ั ๆ
5) เลือกคาหรอื ข้อความทถ่ี กู ตอ้ งมาเติม passage เปน็ การสรุปบทคัดยอ่ เน้ือเรื่อง
จานวนข้อหนังสือนอกเวลา ประมาณ 30 ข้อ แล้วทอนคะแนนเหลือ 10 คะแนน
เก็บในชอ่ งคะแนน formative 2 (โปรดอา่ นขอ้ 3 ขา้ งลา่ ง)

โครงการอบรมเตรียมความพร้อมสคู่ วามเป็นเลิศทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 129

2. การเกบ็ คะแนนหลังการสอบกลางภาค (Formative 2) – 20 คะแนน
ลักษณะ การเก็บคะแนนหลังการสอบกลางภาค ไม่จัดเข้าตารางสอบ การเก็บคะแนนช่วงน้ีมักเป็น
การบูรณาการคะแนนระหว่างวิชาภาษาอังกฤษกับกลุ่มสาระฯอื่น หรือบูรณาการกับกิจกรรมต่างๆ
เช่น ให้นักเรียนเขียนบรรยายบทบาทและหน้าที่ของตนในช่วงกิจกรรมกีฬาสี (บูรณาการ
กบั กสร.สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา) เป็นตน้
อยา่ งไรกต็ าม อาจเปน็ การเกบ็ คะแนนในลกั ษณะอื่นรวมอยู่บ้าง เชน่ ทดสอบทกั ษะฟัง ทดสอบศัพท์
สานวน หากเปน็ การส่งงานเขยี นนักเรยี นต้องวางแผนการทางาน เพอ่ื ส่งงานให้ทัน เพราะหลังการสอบ
กลางภาค นักเรียนอาจจะเหลอื เวลาเรยี นไม่ถงึ 1 เดือน นกั เรยี นตอ้ งสอบปลายภาคต่อไป
สัดส่วนคะแนน การเก็บคะแนน Formative 2 แบ่งออกเป็น การเก็บคะแนนงานที่ครูมอบหมาย
10 คะแนนรวมกับคะแนนสอบหนังสือนอกเวลา (ซ่ึงนักเรียนสอบไว้แล้วเม่ือตอนสอบกลางภาค)
10 คะแนน เปน็ คะแนนเกบ็ formative 2 ที่จะบันทกึ ไวจ้ านวน 20 คะแนน

3. การเก็บคะแนนคุณลักษณะ 10 คะแนน ลักษณะการเก็บคะแนนจะเหมือนกับรายวิชาอื่นๆ

ของกลมุ่ สาระฯ อ่ืนคะแนนคุณลักษณะ 10 คะแนน แบง่ เปน็ 10 หัวขอ้ ๆ ละ 1 คะแนน ดงั น้ี

1)รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 5) อยู่อย่างพอเพียง 8) มจี ติ สาธารณะ

2) ซื่อสัตย์ สุจรติ 6) มงุ่ มัน่ ในการทางาน 9) รู้จกั ปรบั ตวั

3) มีวินัย 7) รักความเปน็ ไทย 10) เปน็ ผู้นา

4) ใฝเ่ รยี นรู้

4. การสอบปลายภาค - 30 คะแนน
ลักษณะ เป็นการสอบตามตารางสอบของโรงเรียน ลักษณะเหมือนกับการสอบกลางภาค แตจ่ ะไม่มี
การเขียนตอบ หรือเขยี นบรรยาย ขอ้ สอบปลายภาคของทกุ รายวชิ ามลี ักษณะเดียวคือเปน็ แบบเลือก
คาตอบท่ีถูกต้อง มีตัวเลือก 2 – 4 ตัวเลือก หรืออาจจะมีถึง 5 ตัวเลือก ยกเว้นข้อสอบ Oral

paper ซง่ึ จะกลา่ วถงึ ต่อไป
ขอ้ สอบปลายภาคของวชิ าภาษาองั กฤษ (1-6) แบง่ ออกเปน็ 2 ส่วน คือ
1. Written Paper 60 ข้อ75 นาที (เป็นการสอบวัดความสามารถทางภาษาของวิชาน้ันๆ
เหมือนข้อสอบกลางภาคท่ีกล่าวไปแล้วขา้ งต้น)
2. Oral Paper 40 ขอ้ 30 นาที (ขอให้อ่านหัวขอ้ ต่อไปดา้ นล่าง)

เวลาสอบ
- การสอบวชิ าภาษาอังกฤษ 1-6 ใช้เวลา 75 นาที
- การสอบวิชาภาษาอังกฤษอา่ น-เขียน 1-6 ใชเ้ วลา 75 นาที
- การสอบวชิ าภาษาอังกฤษฟัง-พดู 1-6 ใชเ้ วลา 40 นาที
- การสอบ Oral paper ซ่งึ เป็นส่วนหนง่ึ ของวิชาภาษาองั กฤษ (1-6) ใช้เวลา 30 นาที
- สาหรับนักเรียนโครงการพัฒนาความสามารถพิเศษด้านภาษาอังกฤษ จะเป็นการสอบนอกตาราง
ขน้ึ อยกู่ ับการนดั หมายของครูผสู้ อน

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มสคู่ วามเปน็ เลิศทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 130

การสอบ Oral Paper – 10 คะแนน
ลักษณะ นักเรียนฟังข้อความท่ีครูต่างชาติอ่านสด หรือบันทึกเทปไว้ ฟังคาถาม แล้วเลือกคาตอบ
ที่ถูกต้อง เนื่องจากแต่ละระดับชั้นมีครูต่างชาติสอน 2 คนเป็นอย่างน้อย ตามปกติ ก่อนวันสอบครูผู้อ่าน
จะบันทึกเทป ทา ‘mock test’ ข้อสอบเลียนแบบของจริง ให้นักเรียนชั้น ม.4 ฝึกทาก่อนสอบปลายภาค
ในภาคเรยี นที่ 1
สดั สว่ นคะแนนสอบปลายภาค 30 คะแนน

1. คะแนนสอบปลายภาค written paper 20 คะแนน
2. คะแนนสอบ oral paper 10 คะแนน คาช้ีแจง สาหรับม.6 การเก็บคะแนนที่รวมอยู่ในคะแนน

Oral paper อาจเปน็ การประเมนิ ผลจากการนาเสนองาน (presentation) สอบอา่ นและสนทนา
กับครูผู้สอน (conversation), การประชุมระดมพลังสมอง (brainstorming/ discussion) หรือเล่า
เร่อื งทตี่ นสนใจ

หลังการสอบกลางภาค ครูผู้สอนจะนัดหมายนักเรียนให้มาสอบอ่านหรือเก็บคะแนนปาก
เปล่าตามสถานท่ีท่ีตกลงกัน
รวมคะแนนสอบ 100 คะแนน ทุกวชิ า
รางวัลคะแนนยอดเย่ียม
เช่นเดียวกับวิชาอื่นๆ นักเรียนท่ีมีผลการเรียนยอดเยี่ยมในวิชาภาษาอังกฤษแต่ละรายวิชา
โดยพิจารณาจากคะแนนสอบกลางภาคและคะแนนสอบปลายภาคของทั้งสองภาคเรียน จะได้รับโล่รางวัล
ในพิธไี หวค้ รู วิชาละ 1 โล่เปน็ อยา่ งนอ้ ย ขน้ึ อยกู่ ับจานวนผไู้ ด้คะแนนสงู สดุ
สาหรับนักเรียนโครงการพัฒนาความสามารถพิเศษด้านภาษาอังกฤษ นักเรียนมีสิทธิ์ได้รับโล่จากผล
การแข่งขันกิจกรรมภาษาอังกฤษยอดเยี่ยมซึ่งจัดโดยหน่วยงานภายนอก เช่นเดียวกับนักเรียนภาคปกติ
นักเรียนมสี ิทธิ์ไดร้ ับการพิจารณารับโล่จากรายวชิ าภาษาองั กฤษฟัง-พูดรว่ มกับนักเรยี นภาคปกติ แตส่ าหรับโล่
ผลการเรียนภาษาอังกฤษยอดเยี่ยม จะได้รับในปีสุดท้ายเท่านั้น เพราะจะพิจารณาจากผลการเรียนวิชา
ภาษาองั กฤษและผลการเขา้ ร่วมกิจกรรมภาษาองั กฤษโดยภาพรวมตลอด 3 ปี

6. ชมรมของกลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาภาษาองั กฤษ

การรับสมัครสมาชกิ ชมรมเพื่อเข้าพบกลุม่ ทากิจกรรมในคาบเรยี นที่ 8 วันจันทร์ จะเริ่มในสัปดาหท์ ี่ 1
หรือ 2 หลังเปิดภาคเรียน หากชมรมใดมีการคัดเลือกก่อน (audition) ขอให้นักเรียนฟังประกาศตอนเช้า
และเข้าร่วมการคัดเลือกตามนัดหมาย การคัดเลือกจะดาเนินการร่วมกันโดยครูที่ปรึกษาชมรม และนักเรียน
รุ่นพี่ สถานทีพ่ บกลมุ่ ชมรมภาษาอังกฤษคือตกึ ศลิ ปะ ตึก 3 และ ตึก 60 ปี

รายละเอียดของชมรมภาษาอังกฤษ และชมรมทคี่ รูในกล่มุ สาระฯ รับผิดชอบมีดังนี้
1) ชมรมภาษาอังกฤษ - ฝกึ ทักษะภาษาองั กฤษทั่วไป รบั นกั เรียนประมาณ 300 คน จากทุกระดบั ช้ัน

ประธานครทู ี่ปรกึ ษาชมรมภาษาอังกฤษคือ ครอู ังคณา อนิ ทรกั ษา (พกั ทตี่ กึ คณุ หญิงหร่ังฯ)
2) ชมรมภาษาอังกฤษกลุ่มย่อย - ฝึกทักษะภาษาอังกฤษเฉพาะทาง บางกลมุ่ มีการคดั เลอื ก

(audition) ก่อนล่วงหนา้ กลุ่มยอ่ ยของชมรมภาษาอังกฤษมีดังนี้

โครงการอบรมเตรียมความพร้อมส่คู วามเป็นเลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 131

2.1 กลุ่ม English Quiz รับไม่เกิน 20 คน มี audition ขอแนะนาให้นักเรียนท่ีมีความสนใจเข้า
แขง่ ขันตอบปญั หาภาษาองั กฤษรายการสาคัญๆมาสมคั รคัดเลอื ก
2.2 กลุ่ม English for Tourism รบั 30 คน
2.3 กลุ่ม English Drama รับ 20 – 25 คน กลุ่มนี้ได้รับความคาดหวังกับการทางานสูง
จึงมaี udition เชน่ กนั
2.4 กลมุ่ English Debate รบั 30 คน (พบกล่มุ ท่หี ้อง 262 ตึก 3) เป็นอกี กลุ่มทไ่ี ด้รบั ความคาดหวัง
กับการทางานสงู จึงมีaudition
2.5 กลุ่ม Public speaking รบั 20 – 25 คน มีaudition
2.6 กลุ่ม Spelling Bee รบั 30 คน
2.7 กลุ่ม The Oracle ทาวารสารภาษาอังกฤษ รับ 15 - 20 คน
2.8 ชมรมขบั รอ้ งประสานเสียง อีพี คอรัส รับนกั เรียนประมาณ 50 คน มี audition
4) ชมรม crossword
5) ชมรมแลกเปลย่ี นวัฒนธรรม

7. โครงการแลกเปล่ยี น และโครงการพิเศษตา่ งๆ

นักเรยี นจะทราบจากประกาศชว่ งเชา้ และทางเว็บไซตโ์ รงเรยี น โครงการภายใน ร.ร.มีดงั นี้
1. โครงการแลกเปลี่ยนกับ ร.ร.Swiss Cottage และร.ร. St. Andrew College ประเทศสิงคโปร์
ประมาณ 4 -5 วนั
2. โครงการ English Week พบกับกิจกรรมท้าทายต่างๆในสัปดาห์ภาษาอังกฤษประมาณเดือน
มิถุนายนหรือกรกฎาคมของทกุ ปี
3. โครงการ English Camp สาหรับนักเรยี นโครงการพัฒนาความสามารถพิเศษด้านภาษาอังกฤษ
ภาคเรียนที่ 1 เดอื นมถิ ุนายนหรือกรกฎาคม
4. โครงการ English Camp สาหรับนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาทุกแผนการเรียน
ทุกระดับช้ัน จัดให้เข้าร่วมตามความสมัครใจ ผู้จัดคือกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
(ภาษาองั กฤษ) กจิ กรรมบางส่วนเปน็ หน้าท่ีของนักเรียนโครงการพัฒนาความสามารถพิเศษด้าน
ภาษาองั กฤษ จะจดั ในภาคเรยี นท่ี 2 (ระหว่างเดือนมกราคม - มนี าคม)
5. การสอนเสรมิ วนั เสาร์ คอรส์ เรียนทีเ่ ปิดสอนคอื ภาษาอังกฤษสาหรับ นร.ชน้ั ม.4 การเตรียมตัว
สอบเข้ามหาวิทยาลัยสาหรับนักเรียนชั้นม.5 และ ม.6 สนทนาภาษาอังกฤษและการเขียน
สาหรบั นกั เรยี นทกุ ระดบั ชนั้
6. โครงการพฒั นาศักยภาพนักเรียน กิจกรรมตามโครงการนี้จัดโดยหนว่ ยงานภายนอกกลุ่มสาระฯ
อานวยความสะดวกใหน้ กั เรียนไดเ้ ขา้ รว่ ม โดยการรบั สมคั ร แจ้งข่าว และนานักเรยี นเขา้ แขง่ ขัน
ตลอดจนจัดการฝึกซ้อมให้ ผู้เข้าร่วมเป็นนักเรียน ร.ร.เตรียมอุดมศึกษาทุกคนท่ีสนใจกิจกรรม
พฒั นาตนเอง
หมายเหตุ สาหรบั โครงการแลกเปลยี่ นอน่ื ๆ กลุม่ สาระฯขอให้นักเรียนปรึกษางานแนะแนว
ของโรงเรียน ในการเลือกโครงการแลกเปลี่ยนท่นี ่าเชือ่ ถือ สาหรบั โครงการแลกเปล่ยี นท่ีร่วมมือกบั

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มส่คู วามเป็นเลิศทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 132

คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน (สพฐ) เช่นแลกเปลี่ยนกับโรงเรียนในรัฐวิสคอนซิน
สหรัฐอเมริกาขอให้นักเรยี นตรวจดเู วบ็ ไซดข์ องสพฐ.ทแี่ จง้ ไว้ในหวั ข้อที่ 2

8. กจิ กรรมเสรมิ ทกั ษะภาษาอังกฤษตามโครงการพัฒนาศกั ยภาพนักเรยี น

กลุ่มสาระฯยินดีสนับสนุนให้นักเรียนทุกแผนการเรียน เข้าร่วมกิจกรรมสาคัญๆซ่ึงจัดโดยหน่วยงาน
ภายนอกโดยเสมอภาค เพื่อพัฒนาศักยภาพทางภาษาอังกฤษของตน และฝึกฝนการทางานร่วมกัน
ฝีกการใช้ทักษะการจัดการ บางกิจกรรมนักเรียนเข้าร่วมได้โดยไม่ต้องมีการคัดเลือก แต่กิจกรรมที่มีผู้สนใจ
มาก และเป็นงานระดับประเทศ จาเป็นต้องมีการคัดเลือกโดยกลุ่มสาระฯ ผู้สนใจขอให้ต้ังใจฟังประกาศ
จากโรงเรียนตอนเช้า ดูประกาศทางเวปไซต์ ร.ร. เว็บไซต์ สพฐ ดูประกาศหน้ากลุ่มสาระฯ ขอให้มาสมัคร
และมาฝึกฝนพัฒนาตนเองกับกลุ่มสาระฯตามนัดหมาย บางกิจกรรมมีวิทยากรรับเชิญ บางกิจกรรม
อานวยการฝกึ ซอ้ มโดยคณุ ครใู นกล่มุ สาระฯ กิจกรรมดงั กลา่ วมดี ังนี้

1) กิจกรรมการแข่งขันโตส้ าระวาที ผสู้ นใจจากทกุ แผนการเรยี น ควรสมัครชมรมภาษาองั กฤษกลุ่ม
English Debate มีการโต้สาระวาทีระดับมัธยมศึกษาประเภทที่แข่งขันร่วมกับโรงเรียนเอกชน
โรงเรียนนานาชาติ และโรงเรียนต่างประเทศท่ีเดินทางมาเข้าร่วม รายการสาคัญจัดอาทิ เช่น
การแข่งขันโต้สาระวาทีจัดโดย สพฐ. มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น ท้ังนี้นักเรียนท่ีชนะเลิศการแข่งขันจะมีผลงานดีเด่นใน
แฟ้มสะสมงาน ได้รับการคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยช้ันนาในต่างประเทศ ได้รับทุนเล่าเรียนหลวง
ตลอดจนทนุ รัฐบาลตา่ งๆ

2) กิจกรรมการแข่งขันเพชรยอดมงกุฎ เป็นกิจกรรมระดับประเทศท่ีสาคัญ และนักเรียนรอคอย
ประเภทหนึ่ง ผู้เข้าร่วมเป็นนักเรียนชั้นเยี่ยมของแต่ละร.ร.ท่ัวประเทศ ทั้งโรงเรียนรัฐบาล
โรงเรียนเอกชน และโรงเรียนนานาชาติ นักเรียนเตรียมอุดมศึกษามีสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือก
จาก ร.ร. เม่ือเรียนชั้นม.5 และ ม.6เท่านั้น ส่วน นร.ช้ัน ม.4 ที่สนใจขอให้นักเรียนสมัครเอง
ประเภทที่สมัครโดยไม่ผ่าน ร.ร. เพื่อทดสอบความสามารถ ท้ังน้ีการแข่งขันเพชรยอดมงกุฎ
ภาษาอังกฤษในปีท่ีผ่านมา นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาสามารถได้รับรางวัลชนะเลิศ
เหรยี ญทอง เหรยี ญเงิน เหรยี ญทองแดง และรางวลั ชมเชย

3) กิ จ ก ร ร ม ก า ร แ ข่ ง ขั น ล ะ ค ร ป ร ะ จ า ปี ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ จั ด โ ด ย ส ถ า บั น ภ า ษ า อั ง ก ฤ ษ
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ร.ร.เตรียมอุดมศึกษา
เคยได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ และได้รับรางวัลในอันดับดีทุกปีในระดับภาค
และระดบั ประเทศ

4) กิจกรรมการแข่งขัน Spelling Bee นกั เรียนเข้าร่วมกจิ กรรมจัดโดยบริษทั The Nation ทุกปี
นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาได้รับรางวัลชนะเลิศท้ังระดับภาคและระดับประเทศ
ได้รับทุนการศึกษาและทัศนศึกษา ณ ประเทศต่างๆ นักเรียนท่ีผ่านเข้ารอบต่างๆจะได้รับเกียรติ
บัตรทาแฟ้มสะสมงานสว่ นตน กิจกรรมน้ีมิใช่เป็นเพียงการฝึกสะกดคาศัพท์ แต่เน้นความหมาย
ของศัพท์ ความรู้เร่ืองคาพ้องรูปพ้องเสียง และที่สาคัญคือการออกเสียงคา (Pronunciation)
เป็นกจิ กรรมท่ีใหท้ ั้งสาระ และความบนั เทงิ แกน่ กั เรยี นอกี ด้วย

โครงการอบรมเตรยี มความพร้อมสู่ความเปน็ เลิศทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 133

5) กิจกรรมแข่งขนั ทักษะภาษาองั กฤษตา่ งๆ เชน่ ตอบปญั หาภาษาอังกฤษ นาเสนองานภาษาอังกฤษ
แนะนาสถานที่ท่องเทียว เป็นกิจกรรมซึ่งจัดโดยหน่วยงานต่างๆ เช่น British Council,
หรือมหาวิทยาลัยต่างๆ ปีที่ผ่านมานักเรียนได้รับรางวัลชนะเลิศ และรางวัลต่างๆ ผลการเข้า
ร่วมกิจกรรมอยู่ในเกณฑ์ดี สาหรับนักเรียนท่ีสนใจการตอบปัญหาภาษาอังกฤษควรมา audition
เข้ากลุ่ม English Quiz เพือ่ จะไดม้ โี อกาสฝกึ ซอ้ มเปน็ ประจาในคาบกจิ กรรมชมรม

6) กิจกรรม Impromptu Speech ระดับประเทศ จัดโดย สพฐ. และสถาบันการศึกษาต่างๆ
นักเรียนท่ีสนใจสมัครเป็นผู้แทนโรงเรียนเข้าร่วมกิจกรรมแข่งขันพูดสุนทรพจน์ ควรเป็นสมาชิกกลุ่ม
Public Speaking ของชมรมภาษาอังกฤษเพื่อที่จะได้ฝึกฝนเป็นประจาในคาบเรียนกิจกรรม
ชมรม

7) กิจกรรมประกวดเรียงความ รายการใหญ่ระดับประเทศท่ีนักเรียนเคยเข้าร่วม จัดโดยกระทรวง
ต่างประเทศ และอกี หลายสถาบนั การศึกษา ส่วนการแขง่ ขนั ทกี่ ลุ่มสาระฯแนะนาใหเ้ ข้าร่วมเป็น
ประจาทุกปีคือ Junior Dublin Literary Awards for Thailand จัดโดย บริษัทThe Nation
และ สถานทูต Ireland นักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเคยได้รับรางวัลชนะเลิศ 3 ปี
เคยได้รางวัลเป็นการเดินทางไปประเทศ Ireland เพื่อร่วมงานนักเขียนโลกด้วย กิจกรรมน้ีเป็น
การเขียนเรียงความ 800 - 1,200 คา น่าสนใจมากเพราะเป็นการฝึกให้นักเรียนถ่ายทอด
ความคิด และจินตนาการเขียนเรียงความเชิงสร้างสรรค์ (Creative writing) นักเรียนทุกคนมี
สิทธิ์ส่งผลงานได้เองโดยไม่ต้องผ่านกลุ่มสาระฯ แต่ส่งผ่านเว็บไซต์ www.247friend.net
หัวข้อเรียงความจะแจ้งให้ทราบประมาณเดือน ต.ค- ธ.ค.ของทุกปี ทั้งน้ีคุณครูในกลุ่มสาระฯ
ยินดีช่วยวจิ ารณเ์ รียงความของนกั เรยี นเพ่อื ไดป้ รบั ปรงุ ผลงานของตนกอ่ นส่ง

8) กิจกรรมประกวดการแปลภาษาอังกฤษ-ไทย จัดร่วมกันระหว่างศูนย์การแปลและล่าม
เฉลิมพระเกียรติ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท Cyber-Dict
นกั เรยี นเคยไดร้ างวัลชนะเลศิ ได้ลิขสิทธ์กิ ารแปลการ์ตนู กับสานักพิมพ์ และทุนการศึกษา

9) กิจกรรมการนาเสนองาน จัดโดยมหาวิทยาลัยต่างๆเช่น มหาวิทยาลัยศิลปากร
มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือประเทศต่างๆ เช่น ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือประเทศอินโดนีเซีย
เป็นต้น

10) กิจกรรมคา่ ยอาเซยี น เป็นกิจกรรมทจี่ ัดเป็นครง้ั คราวโดยหน่วยงานตา่ งๆ คร้ังที่ผา่ นมานกั เรียน
ได้ร่วมค่ายอาเซียนที่มหาวิทยาลัยมหิดล นอกจากนั้น ในปีเดียวกันนักเรียนเคยได้รับทุ น
จากสถานทูตสหรัฐอเมริกาเดินทางไปค่ายผู้นาอาเซียน 1 เดือนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา บางคร้ัง
กลุ่มสาระฯ ดาเนนิ งานร่วมกนั กบั งานแนะแนวของโรงเรียนในการคัดเลือกนักเรยี น

11) กิจกรรมวางแผนธุรกิจ นักเรียนทีมละ 2 คนนาเสนอแผนธุรกิจ ก่อนเข้าแข่งขันนักเรียน
ต้องผ่านการประชุมเชิงปฏิบัติการ (workshop) ผ่านการสัมภาษณ์ และคัดเลือก คู่ที่ผ่าน
การคัดเลือกได้ไปแข่งขันท่ี ฮ่องกง จัดโดยโรงเรียนนานาชาติ ซ่ึงนักเรียนโรงเรียน
เตรียมอุดมศึกษาได้เป็นผู้แทนประเทศไทยเดินทางไปฮ่องกง กิจกรรมน้ีไม่ต้องมีการคัดเลือก
นกั เรยี น สามารถสมคั รได้ตามตอ้ งการ

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 134

9. ลักษณะขอ้ สอบวิชาภาษาองั กฤษ

ข้อสอบวิชาภาษาอังกฤษรายวิชาตา่ งๆ จะมีลักษณะร่วมกันดังนี้ ขอให้นักเรียนอ่านลักษณะข้อสอบ
ด้านล่าง แลว้ คดิ ว่านกั เรยี นจะพบในขอ้ สอบวิชาใด

1. Multiple choice cloze passageมีลักษณะเป็นข้อความ 1-3 ย่อหน้า ซ่ึงเว้นที่ว่างตามท่ีผู้
ออกข้อสอบต้องการทดสอบ ให้นกั เรียนเลือกคาตอบท่ีถูกต้องจาก 4 ตวั เลือกไปเติม เปน็ การวดั ความรู้ทาง
โครงสร้างไวยากรณ์หรือคาศัพท์อย่างใดอย่างหน่ึง ( มักจะไม่เป็นการทดสอบทั้งสองเรื่องใน passage
เดียวกัน)
EXAMPLE 1

Choose the correct answer
A wise man was traveling through a forest one night when he suddenly came face to
face 1) ________ giant, The giant told him that he 2) ________ destroy him. The wise man
calmly said, “Very well, try if you may, but I can defeat you, for I am more powerful than you
think.”
“ Nonsense! ” said the giant. “ You cannot defeat me because I am 3) _________ larger than
you. ” “If you want a test of strength, take this stone and squeeze liquid out of it,” said the
wise man as he 4)__________ a small piece of rock and handed it to the giant. The giant tried
5) __________ but he could not. “ It is impossible; there is 6) _________ water in this stone.
Show me 7) __________. ” In the darkness, the wise man took an egg out of his pocket, and
squeezed the stone and the egg together, 8) _____________ his hand over them. The giant
9)__________ when he saw liquid 10)___________ out of the stone. “I must think this over”
the giant said. “ Come to my cave and you can spend the night there. ” The wise man
accompanied him to a huge cave. The giant told him 11) ___________ to sleep and
immediately, he 12)__________ himself. As soon as the giant was sleeping, the wise man got
up. He knew the giant 13) __________ him in the night. Quietly, he arranged his bed to give
the impression that he was still in it. After doing so, he hid himself at a place some distance
from the giant. No sooner 14)________ himself than the giant woke up. He picked up a tree
trunk with one hand and struck seven heavy blows on the dummy in the wise man’ s bed.
Then he lay down again and went to sleep. The wise man returned to his bed, lay down, and
15) ____________ out to the giant, “ Oh giant! This 16) __________ is comfortable but I
17) __________ seven times by a mosquito. You really should do something about it. “ This
18)__________ the giant so much that he dared not attempt a further attack.

โครงการอบรมเตรยี มความพร้อมสูค่ วามเป็นเลศิ ทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 135

1. a) with a terror b) with a terrible c) by a terror d) by a terrible
d) must
2. a) was going to b) is going to c) should d) sure
d) picking off
3. a) more b) much more c) ten times d) very hard
d) no
4. a) picked off b) picked up c) picking up d) where it was
d) having held
5. a) much hard b) very hardly c) more hard d) was impressing
d) being oozed
6. a) not b) any c) some d) where
d) feel asleep
7. a) how b) what c) which was it d) must kill
d) he had hidden
8. a) held b) being held c) holding d) would call
d) cave of your
9. a) impressed b) was impressed c) had impressed d) have bitten
d) shocking
10. a) oozed b) oozing c) ooze

11. a) that b) which c) in where

12. a) fell asleep b) fell sleepy c) feel sleepy

13. a) will kill b) is going to kill c) would kill

14. a) did he hid b) he hid c) had he hidden

15. a) called b) call c) had called

16. a) cave of you b) cave of yours c) your cave

17. a) was being bitten b) have been bitten c) am being bitten

18. a) was shocked b) was shocking c) shocked

EXAMPLE 2

Fill in the blanks with correct words.

Khao Yai 1)_______ 400 meters above sea level, meaning the park is cool and 2)_______

all years round, with temperatures dropping as low as 4 - 5 degrees 3)_______ a national park in

September 1962, KhaoYai proved popular among nature lovers and hikers who spent 4)_______

time exploring and mapping the park’s best features and routes. This popularity led to bungalows

5)_______ in the park, even a golf course. 6)_______, in 1991 the Government closed the park

7)_______ the habitat and protect the wildlife. The golf course shut down, and tourists 8)_______

to spend days but not nights, in the park. Nevertheless, KhaoYai remains as popular today as it

ever was, with the major rivers of Lam Takhong and Nakhon Nayok 9)_______ through it, over 20

waterfalls, marshes and 10)_______ hiking trails.

1. a. located b. is located c. localized d. location

2. a. pleasant b. pleased c. pleasure d. more pleasantly

3. a. Declared b. Declaring c. Declare d. Having declared

4. a. a lot b. a large amount of c. a good deal d. a large number of

โครงการอบรมเตรยี มความพรอ้ มสูค่ วามเปน็ เลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 136

5. a. were built b. building c. build d. being built
6. a. As a result b. In contrast
7. a. preserving b. preserved c. Still d. However
8. a. allowed only b. allowing only
9. a. ran b. running c. to preserve d. to be preserved
10. a. a lot b. a large number
c. were only allowed d. only were allowed

c. run d. to run

c. much d. plenty of

2. Sentence Completion/ Dialogue Completionเลือกคาตอบจากตัวเลือก เติมลงใน
ชอ่ งวา่ งใหถ้ กู ต้อง
EXAMPLE 1

particular balance examining case effect

treatment discovered increase progress result

Our blood is necessary to life. And there are many different substances and cells in
the blood, each with a job to do. But sometimes something goes wrong with the
1)___________ of things in the blood. One such disorder of the blood is called “Leukaemia”.
When a person has Leukaemia, the white cells may 2)___________ as much as 50 or 60 times.
This condition is very serious, because it is the 3) ___________ of a disorder in the blood
producing part of the body. Years ago, a person with Leukaemia was considered to be
hopeless. And while we still do not have a cure for it, a great deal of 4)___________ is being
made, especially in helping such a person live longer and more comfortably.

There are several different kinds of Leukaemia. Each of which has a different symptom
and a different 5)___________ on the life expectancy of person. That is why the 6)___________
of a person with Leukaemia varies in each 7) ___________. In general, Leukaemia can be
divided into two forms: acute or chronic. Acute Leukaemia seems to come on suddenly and
may progress very quickly. This type is seldom 8) ___________ until it has become well
advanced. Acute Leukaemia occurs in persons over 35 years of age. Leukaemia according to
the 9) ___________ type of white cell that is involved. Even though there are many kinds of
Leukaemia, the early symptoms may be quite alike. This is why it is important to have a
diagnosis as quickly as possible. The diagnosis of Leukaemia is made by 10) ___________ the
bone marrow and blood under a microscope.

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มสคู่ วามเป็นเลศิ ทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 137

EXAMPLE 2

Choose the best answer.

1. He denied __________ in the crime but the police are sure he did it.

a. to involve b. involve c. being involved d. be involving

2. __________ being hungry, she __________ much.

a. Despite of, didn’t eat b. In spite of, didn’t eat

c. Although, didn’t eat d. Unless, ate

3. Nobody was on board but a ___________ meal was waiting __________.

a. freshly-cooked, to eat b. fresh-cooked, to eat

c. freshly-cooked, to be eaten d. fresh-cooking, to be eaten

4. The teacher won’t punish Nattanai this time; she is going to let him __________.

a. out b. off c. over d. away

5. Wongsatorn __________ his watch.

a. was stolen of b. was robbed c. was robbed of d. robbed of

6. Kawin is not used __________ to school early.

a. to come b. to coming c. coming d. with coming

7. Did the teacher approve __________ your plan?

a. at b. on c. about d. of

8. Where __________ the fire __________ last night?

a. was, broken out b. did, break out c. was, broken up d. did, break up

9. Arnold watched the flying saucers __________.

a. amazing b. with amazement c. with amazing d. in amazement

10. We couldn’t understand the word __________ the wrong spelling.

a. because b. since c. owing to d. as

3. Error Recognitionวดั ความเขา้ ใจเร่ืองคาศัพท์และไวยากรณ์ โดยใหเ้ ลอื กหาสว่ นทีผ่ ดิ

EXAMPLE

Find the incorrect part. I enjoyed
1. TWhheaepnlathntes pthlaantethaweaybsbdeelolbanygetdo, the family sopf efcenrdnisngacrteimqeuitfeorvdsahrieodppinintghd. eir
2. size and structure.

3. Jade and Britney studied all afternoon. They were too busy studying that they couldn’t
a bc d
go to the restaurant with us.
4. Bangkok, which is so very densely – populated city that there is no city comparable to it,
ab c

โครงการอบรมเตรียมความพร้อมสู่ความเป็นเลศิ ทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 138

is his home town.
d
5. It is found that many mothers haad all but abanbdoned the strucggle to get their children eadt
6. BveogthettahbeleTse. sco and Sainsbury chains are also developing vegetables with sauces and
ab
coatings aiming at children.
cd
7. Michael was very thrilled with his present that he rang us up to thank us immediately.
ttohaeknfrouwit swtahllyaytoatuhenceboerndetrwaos tshmcearellbisfaamlwilayylsickcehyedoapurdasn. d
8. She wanted huge cars for a fresh.
9. We frequent the fruit selling
a bc d
10. When he saw a shard of glass on the floor, he was trying to free himself from the ropes.
ab cd
11. HEveerrbyaegfsfonratatcwhielldtabakyeatotheienfbswuhreo tzhoaotmbeeacdhpoacsfttchoen chhisilmdroetnorgceytcsleincdodidvstidsuhaelr a lot of money.
12. attention.

13. The staff who work in various departments gather himself at the open area outside for a
a bc
group photograph.
d
14. TBhilledniselaxikteednbclrooscucroelihbaeasctabousbeeitwshreorueghthbleeacmfyontekxetyusrearaensdintchee wbeittcearcnafhteeratrasthteeiirt ggiabddvbee.ring.
15.

16. The orphan’s face gleamed with amusement when he saw a clown performed a juggling
a bc
act.
d

4.Sentence rewriting คอื คาสั่งใหเ้ ขยี นประโยคใหม่ (Rewrite the following sentences)
ใหม้ ีความหมายเหมือนเดมิ แตต่ ้องเขยี นรูปประโยคใหมใ่ ชไ้ วยากรณใ์ หถ้ ูกต้อง เช่น

EXAMPLE: Storm cause widespread damage.
Widespread ……………………………………………..

คาตอบท่ถี ูกตอ้ งคอื Widespread damage is caused by storm.
เปน็ การเปลีย่ นประโยคจาก active เป็น passive voice

She sings very well. Everyone likes her. (so…..that)
……………………………………………………………………………………………………………
คาตอบท่ีถกู ตอ้ งคอื She sings so well that everyone likes her.

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มสคู่ วามเป็นเลศิ ทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 139

5. Word formation ในข้อสอบแตล่ ะครั้ง มีจะมีขอ้ สอบเรอื่ งนี้ 5-10 ขอ้ แบบมี 4 ตวั เลือก หรือไม่
มีตัวเลือก แต่ใหเ้ ขียนเอง ใหค้ าในวงเล็บมาแลว้ ให้นกั เรยี นเขียนคาใหม่ใหถ้ กู ตอ้ ง เช่น
1) I’ll ride over on horseback to (able)____________a quick escape if needed.
2) It’s more (economy)______________to travel by bus than by taxi.

คาอธบิ าย
1. คาตอบคือ ‘enable’ (verb) นกั เรียนควรมีความรเู้ กย่ี วกบั prefix, suffix บ้าง

prefix คือส่วนประกอบคาที่เติมหน้าคา เช่น en = ทาให้ (able, large - adj. แต่
enable, enlarge - เปน็ คากริยา)

prefix ส่วนใหญ่ทาให้คามีความหมายต่างจากเดิม เช่น unable (ไม่สามารถ), defrost
(frost = แข็ง defrost = ละลาย)
2. คาตอบท่ีถูกต้องคือ ‘economical’ (adj.) แปลว่า ประหยัด (ดูจากตาแหน่งที่ว่างหลัง verb
to be ต้องใช้คาคุณศัพท์ (adjective) แต่ economy เป็น คานาม คาคุณศัพท์ของeconomy
มี 2 ตัวคือ economic (=เกี่ยวกับเศรษฐกิจ) และ economical (=ประหยัด) นักเรียนต้อง
เลือกคาตอบโดยพิจารณาความหมายท่ีเหมาะกับบริบทด้วย ตัวอย่างท่ี 2 น้ีจัดเป็นข้อยาก เพราะ
คาคุณศพั ท์ของeconomy มหี ลายคา ทาใหเ้ ราตอ้ งมคี วามแม่นยาในกลุม่ คาศัพท์ท่มี กั ใชส้ บั สน

ข้อสอบส่วนของ word formation ในการสอบกลางภาค มักจะให้เขียนเองในขณะที่การ
สอบปลายภาคจะมีตัวเลือกให้ ข้อสอบตอนน้ีนักเรียนมักจะบอกว่ายาก เพราะต้องใช้ความรู้หลาย
เร่ืองมาประกอบ แต่ถ้านักเรียนมีความแม่นยามากข้ึน ทักษะเขียนของนักเรียนและการเลือกใช้คา
จะดีข้ึน ทาใหน้ กั เรียนสามารถตรวจสอบความผดิ พลาดได้ดว้ ยตนเอง

EXAMPLE 1

Choose the correct form of word.

1. Bomb disposal experts have carried out a series of __________ explosions.

a. controlling b. controller c. controlled d. control

2. A motorcycling accident left her severely __________.

a. disable b. disabled c. unable d. inability

3. An __________ can predict your future by calculating the movements of the stars that

influence your life.

a. astronomy b. astronomer c. astrologer d. astrology

4. I found his talk on Egypt absolutely __________.

a. fascinate b. fascination c. fascinated d. fascinating

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มสคู่ วามเปน็ เลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 140

5. No one has ever seen an alien so I think it’s only an __________ creature.

a. image b. imaginative c. imaginary d. imagination

6. Ben is interested in __________, so he will attend the engineering school next year.

a. robot b. roboting c. robots d. robotics

7. Ploy always makes her friends laugh. She is _____________ .

a. humorous b. humorist c. humor d. humorless

8. You can see the new star with the new Hubble Telescope, __________ in space.

a. locate b. locating c. located d. to locate

9. I don’t like this __________ weather because it makes me catch cold.

a. change b. changes c. changeable d. changable

10. Kajornpun is a master in __________ so she is wanted by a lot of her friends when doing

the exercises of mathematics.

a. compute b. computerize c. computing d. computerized

EXAMPLE 2
Complete each sentence with the correct form of the word give in bracket:
1. Parents always worry about the _______________ of music on their adolescent’s behavior.

(effective)
2. In _______________, walking is a cheap, safe, enjoyable and readily available form of

exercise. (conclude)
3. I can say with _______________ that such rumours were totally groundless. (confide)
4. His mother’s sudden _______________ was a great shock to him. (die)
5. Our boss’s temper’s been very _______________ this week so don’t annoy him. (change)
6. After the sudden accident, John was too _______________ and distressed to talk for a few

hours. (exhaust)
7. This film earned this actor international _______________. (famous)
8. While questioned by the police, Pat refused to give them any _______________ about

Sara. (inform)
9. Knowing you are happy gives me more _______________ than anything else. (please)
10. She nursed him and watched the muscles of his arms hardening and _____________. (relax)
11. What are the criteria for _______________ whether somebody should be promoted?

(decision)
12. Chart hates these _______________ arguments with his colleague. (continue)
13. It’s common that men are _______________ different from women. (biology)

โครงการอบรมเตรียมความพร้อมส่คู วามเป็นเลศิ ทางวิชาการ

(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 141

14. The man who experienced _______________ in breathing was rushed to the hospital on
suspicion that he might be suffering from a heart attack. (difficult)

15. The organizers of the mass exercise event were surprised by the high turn up of
_______________. (participate)

16. To live on borrowed money without any attempt to get a job is not socially or morally
_______________ (accept)

17. It takes a _______________ person to speak up against the injustice of the system.
(courage)

18. A pediatrician is a doctor who _______________ in the treatment of children’ s illnesses.
(special)

19. The recipe for this delicacy _______________ from the early Ming Dynasty. (origin)
20. My brother, who is _______________ to pollen, sneezes non- stop if there are flowers in

the house. (sense)
21. Uncle John says that he is nearly 80, but he is still _______________ fit. (physical)
22. Most children don’t realize their parents love them _______________. (condition)

6. Interpretation ข้อสอบตีความ ในการทดสอบจะนาขอ้ ความมาจากreading passage ท่เี รียน
ในช้ันเรียนมาทดสอบ เพราะฉะน้ันนักเรียนต้องเข้าใจสิ่งที่เรียน ถ้าสงสัยไม่แน่ใจต้องสอบถามคุณครูผู้สอน
เชน่
EXAMPLE One of the primary advantages of the disposable lenses is that they allow more
water

to lubricate the eyes.
a) Cleaned lenses let water pass more thoroughly than the unused ones.
b) Lenses that can be used once only allow water to pass the eyes more easily.
คาตอบทถี่ กู ตอ้ งคอื ข้อ b key word คอื disposable ซ่งึ มีความหมายว่า ใชแ้ ลว้ ทง้ิ เลย
(เกบ็ ไว้ใชต้ อ่ ไมไ่ ด)้

โครงการอบรมเตรียมความพรอ้ มสู่ความเป็นเลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 142

7. Questions and Answers คือใหอ้ ่านข้อความแล้วเลือกคาตอบท่ีถูกต้อง หรอื เขยี นคาตอบเองให้

ถกู ต้อง เป็นการทดสอบความเขา้ ใจเนื้อเร่ือง

If fire breaks out in your room and you cannot extinguish it, leave your room,
carefully shutting the door and follow the fire exit signs. Do not try to take any
of your personal belongings with you. If the passage or stairs are impracticable
owing to smoke, stay in your room. Show yourself at the window whilst waiting
for the rescue team. A shut door can be made fire-retardant for several hours
with wet towels, blankets or cloths. Use of the elevators is strictly forbidden.
Elevators which have been specially protected are exclusively for the use of
people with motor disability.

1. Where would this notice most likely to be seen?

a) On a train b) In a hotel

c) In a forest d) In an office building

2. What may you do if a fire breaks out, according to the text?

a) Pack your bag. b) Try putting out the fire.

c) Dampen the door. d) Break a window.

3. Who is allowed to use the elevators?

a) People owning motor cars b) Handicapped people

c) The Rescue team d) All the people staying in the building

4. The word ‘impracticable’ (line 3) is likely to be replaced by ________ .

a) impassable b) impassive

c) immobile d) impeccable

โครงการอบรมเตรยี มความพรอ้ มสคู่ วามเป็นเลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 143

8. Table of informationให้นักเรียนอ่านข้อความแล้วหาคาตอบมาเติมตารางข้อมูลให้เหมาะสม
ข้อสอบสว่ นนกี้ ็คอื Answer the question นน่ั เอง แต่เปลย่ี นจากคาถามมาเป็นตารางข้อมูลใหเ้ ตมิ

Hydroelectricity comes from the damming of rivers and utilizing the potential energy stored
in the water. As the water stored behind a dam is released at high pressure, its kinetic
energy is transferred onto turbine blades and used to generate electricity. This system has
enormous costs up front, but has relatively low maintenance costs and provides power
quite cheaply.

1 Kind of renewable energy ……………………………………………………………
2 Advantage ………………………………………………………………………….
3 The construction needed to store the energy source…………………………………..
4 How to control this renewable energy and put to use……………………………….

………………………………………………………………………………………..
5 Its output …………………………………………………………………………….

9. True or False เป็นแบบทดสอบท่ีให้นักเรียนอ่านข้อความแล้วดูประโยคท่ีให้ว่าถูกหรือผิด

ตามเนอ้ื เรอ่ื ง

10. Vocabulary/Idiom matching test จบั คคู่ าศพั ท์ หรอื สานวน

EXAMPLE
convincing provide interrupt attractive evidence

1. When people retire, they receive Social Security checks but they think these checks do

not ____________________ enough money to live on.

2. She’s a very ____________________ speaker, no one doubts her words.

3. At this time I find the idea of traveling around our country very ____________________.

4. She’s studying for an exam tomorrow, so you’d better not ____________________ her.

5. The witness gave the policeman ____________________ in a clear firm voice.

cautious outcry reform relaxed

detect impact device doomed

6. In his leisure time, he ____________________ by going to the movies.
7. The computer has made a great ____________________ on modern life.
8. The dentist couldn’t ____________________ any sign of decay in my daughter’s teeth.

โครงการอบรมเตรียมความพร้อมสคู่ วามเป็นเลศิ ทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 144

9. Don’t you notice that he is always ____________________ not to offend her.

10. There will be a great ______________ if the government tries to construct the Pakmoon Dam.

11. In some countries every young man is _________________ to be a soldier for two years.

12. The cabinet has a plan to ______________ the tax system and make it simpler and fairer.

13. An atomic of hydrogen bomb is an example of a nuclear ____________________.

according concentrate deposit

familiar genetically intellectually

14. You will solve the problem if you ____________________ on it.

15. The shopkeeper promised to keep goods for me if I left a ____________________.

16. You will be praised or blamed ____________________ to your good or bad work.

17. I am not very ______________ with botanical names because they are hard to remember.

18. Studying at Harvard University is very ____________________ challenging.

19. This species of rice plant has been _____________ altered in order to yield higher grain harvests.

prospects authentic relatively

contrast eventually substances

20. Each cigarette which a person smokes does some harm, and _________________ he may
get a serious disease from its effects.

21. I felt jealous of her for she got a job with excellent ____________________.
22. Sea water contains many __________ including minute amount of gold and other metals.
23. Owing to “ the Communication Approach” ____________________ materials should be

used in the teaching of languages.
24. Men do not live so long as some plants. However, compared to some insects, man has a

____________________ long life.
25. The black paint on the door provides a suitable __________________ for the white walls.

โครงการอบรมเตรยี มความพร้อมสคู่ วามเป็นเลศิ ทางวชิ าการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 145

Answer Key 1)Multiple 2) Sentence Completion 2)Sentence 3) Error
1)Multiple choice choice Cloze (Our blood…) Completion Recognition
Cloze passage passage 1) balance (He denied…) (When the
(A wise man…) (Khao Yai…) 2) increase 1)c 2)b 3)c plane..)
1)b 2)a 3)c 1)a 2)a 3)a 3) result 4)b 5)c 6)b 1)d 2)a
4)b 5)d 6)d 4)b 5)d 6)d 4) progress 7)d 8)b 9)d 3)c 4)b
7)a 8)c 9)b 7)c 8)c 9)b 5) effect 10)c 5)d 6)d
10)b 11)d 12)a 10)d 6) treatment 7)a 8)b
13)c 14)c 15)a 5.Word 7) case 9)c 10)c
16)b 17)b 18)c formation 8) discovered 11)d 12)a
EXAMPLE 2 9) particular 13)c 14)a
5.Word formation (Parents 10)examining 15)b 16)c
EXAMPLE 1 always..) 7.Questions 10.Vocabulary 24)relatively
1) a 2)b 1)effect and answers matching test 25)contrast
3)c 4)d 2)conclusion (If fire breaks out..)
5)c 6)d 3)confidence 1)b 2)c 1)provide
7)a 8)c 4)death 3)b 4)a 2)convincing
9)c 10)c 5)changeable 3)attractive
6)exhausted 8Table of 4) interrupt
7)fame Information 5) evidence
8)information (Hydroelectricity) 6) relaxed
9)pleasure 1.waterpower/ 7) impact
10)relaxing hydropower 8) detect
11)deciding 2.low maintenance cost 9) cautious
12)continual The energy obtained is 10) outcry
13)biologically cheap. 11) doomed
14)difficulty 3. The dam 12) reform
15) participants 4. The dam is used to 13) device
16) acceptable store the water. When 14) concentrate
17)courageous the water is released at 15) deposit
18)specializes high pressure, its kinetic is 16) according
19)originated transferred onto turbine 17) familiar
20) sensitive blades. (This is how the 18) intellectually
21) physically electricity is generated.) 19) genetically
22) 5. The electricity 20)eventually
unconditionally 21)prospects
22)substances
23)authentic

โครงการอบรมเตรยี มความพร้อมส่คู วามเปน็ เลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 146

กลุม่ สาระการเรียนรู้
สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

โครงการอบรมเตรียมความพร้อมส่คู วามเปน็ เลิศทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)

ห น้ า | 147

รายนามคณาจารยก์ ลมุ่ สาระสังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม

1. นางสาวเตอื นใจ ใจสิงห์ หัวหนา้ กลุ่มสาระสงั คมศึกษาฯ
2. นายวีระชยั บวั ผัน รองหัวหนา้ กลมุ่ สาระสังคมศึกษาฯ
3. นางมนต์ฤดี จิตรากร รองหวั หน้ากลุ่มสาระสังคมศึกษาฯ
4. นายสยมภู รณชิตพานชิ ยกิจ รองหวั หนา้ กลุม่ สาระสังคมศึกษาฯ
5. นางจินตนา อินทเศยี ร ครูประจาการ
6. นายประพิศ ฝาคา ครูประจาการ
7. นางสมุ นา เสงยี่ มศักด์ิ ครูประจาการ
8. นางสาวโสภิต เปรียญกิจไพศาล ครปู ระจาการ
9. นาวสาวพมิ พพ์ ิร์สุ สุพพิ ิชญ์ ครูประจาการ
10. นายสราวุธ ศรเี กตุ ครปู ระจาการ
11. นางสาวปทั มน เชดิ ชเู กียรติ ครูประจาการ
12. นางสาวนติ ยา พุม่ เพ่ิม ครูประจาการ
13. นายธัณตวธั ทบั จนั ทร์ ครปู ระจาการ
14. นายนาโชค อุ่นเวยี ง ครปู ระจาการ
15. นางสาวสริ นิ าถ พงษธ์ นู ครปู ระจาการ
16. นางสาวจุฑามาศ กันภยั ครปู ระจาการ
17. นายชวลติ แวงวรรณ ครูประจาการ
18. นางสาวปิยะนชุ เนรมติ รพาณชิ ย์ ครปู ระจาการ
19. นายชยั ภทั ร แก้วจรัส ครปู ระจาการ
20. นายธรี ศักดิ์ เหลืองสวุ รรณกลุ ครอู ตั ราจา้ ง
21. นายพัชรพล นิติวัฒนะ ครอู ตั ราจา้ ง

โครงการอบรมเตรยี มความพร้อมสคู่ วามเป็นเลศิ ทางวิชาการ
(PAE = Preparation for Academic Excellence)


Click to View FlipBook Version