The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม.3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by narumon, 2023-06-02 01:04:14

แผนวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม.3

แผนวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม.3

แนวค ำตอบ โอกาสที่รุ่นลูกของชายหญิงแต่ละคู่จะเป็นปกติ พาหะ หรือเป็นโรคธาลัสซีเมียเป็นดังนี้ - คู่แต่งงานคู่ที่ 1 ลูกทุกคน เป็นปกติ - คู่แต่งงานคู่ที่ 2 โอกาสที่รุ่นลูกจะเป็นปกติเท่ากับ 1/2 หรือร้อยละ 50 โอกาสเป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมีย เท่ากับ 1/2 หรือร้อยละ 50 - คู่แต่งงานคู่ที่ 3 โอกาสที่รุ่นลูกจะเป็นปกติเท่ากับ 1/4 หรือร้อยละ 25 โอกาสเป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมีย เท่ากับ 1/2 หรือร้อยละ 50 และโอกาสป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย เท่ากับ 1/4 หรือร้อยละ 25 - คู่แต่งงานคู่ที่ 4 โอกาสที่รุ่นลูกจะเป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมียเท่ากับ 1/2 หรือร้อยละ 50 และโอกาสที่รุ่นลูก จะเป็นโรคธาลัสซีเมียเท่ากับ 1/2 หรือร้อยละ 50 - คู่แต่งงานคู่ที่ 5 ลูกทุกคนเป็นพาหะของโรคธาลัสซีเมีย 2. กำรลดควำมเสี่ยงที่จะมีบุตรซึ่งป่วยเป็นโรคธำลัสซีเมียท ำได้อย่ำงไร แนวค ำตอบ ชายและหญิงก่อนแต่งงานควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจภาวะเสี่ยงที่จะเป็นโรคธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรม เพื่อน าข้อมูลไปตัดสินใจในการแต่งงานหรือมีบุตร 3. จำกกิจกรรมนี้ สรุปได้ว่ำอย่ำงไร แนวค ำตอบ การค านวณโอกาสของการเกิดลูกที่เป็นโรคทางพันธุกรรม สามารถน ามาใช้ในการวางแผน ก่อนตัดสินใจแต่งงานและมีบุตร เพื่อลดความเสี่ยงที่ลูกจะเป็นโรคทางพันธุกรรม แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม รหัสวิชำ ว23101 เวลำ 2 ชั่วโมง หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 ชื่อหน่วยกำรเรียนรู้ พันธุศาสตร์ รวม 15 ชั่วโมง


กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 3 ภำคเรียนที่ 1 สำระที่ 1 ชื่อสำระ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มำตรฐำน ว 1.3 1. มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความส าคัญของการถ ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม การเปลี ่ยนแปลงทางพันธุกรรมที ่มีผลต ่อสิ ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของสิ ่งมีชีวิต รวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ว 1.3 ม.3/7 อธิบายการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม และผลกระทบที่อาจมีต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ 2. สำระส ำคัญ/ควำมคิดรวบยอด 1) มนุษย์เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ เพื่อให้ได้สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะตามต้องการ เรียกสิ่งมีชีวิตนี้ว่า สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม 2) ในปัจจุบันมนุษย์มีการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมเป็นจ านวนมาก เช่น การผลิตอาหาร การผลิตยารักษาโรค การเกษตร อย่างไรก็ดีสังคมยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ซึ่งยังท าการติดตามศึกษาผลกระทบดังกล่าว 3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1) ด้ำนควำมรู้ (K) นักเรียนอธิบายการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมและ ผลกระทบที่อาจมีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม 2) ด้ำนทักษะ (P) นักเรียนใช้ทักษะการลงความเห็นจากข้อมูลที่รวบรวมได้เกี่ยวกับ กระบวนการ สร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ประโยชน์และผลกระทบ ของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม 3) ด้ำนเจตคติ (A) นักเรียนมีระเบียบวินัยในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 4. คุณลักษณะผู้เรียน 4.1 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่นในการท างาน มีวินัย รักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มีจิตสาธารณะ 5. ด้ำนสมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน


ความสามารถในการคิด: นักเรียนสามารถวิเคราะห์การใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม และผลกระทบที่อาจมีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต: นักเรียนสามารถหาสาเหตุการเกิดสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่ อาจส่งผลผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม 6. สำระกำรเรียนรู้ กระบวนการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของสิ ่งมีชีวิตสามารถเกิดขึ้นได้เองตามรรมชาติ โดยอาจมีการ เพิ่มขึ้นหรือลดลงของสารพันธุกรรมในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตชนิดนั้น เช่น การเปลี่ยนแปลงจ านวนโครโมโซมเนื่องจาก เกิดความผิดปกตีในการแบ่งเซลล์ และการได้รับยีนจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ตัวอย่างเช่น พืชใบเลี้ยงคู่ที่มีบาดแผล เมื่อได้รับยีนจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Agrobacterium tumefaciens จะท าให้เซลล์พืชบริเวณนั้นเกิดการแบ่งเซลล์ เพิ่มขึ้นเป็นจ านวนมาก จนเกิดปุ่มปม ซึ่งเป็นที่อยู ่อาศัยของแบคทีเรีย มนุษย์สามารถเลียนแบบกระบวนการ เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ เพื่อประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ตามต้องการ เรียกกระบวนการ ดัดแปรพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตโดยมนุษย์นี้ว่า พันธุวิศวกรรม (genetic engineering) ภำพแสดง ปุ่มปมบนต้นไม้ที่เกิดจำกแบคทีเรีย Agrobacterium tumefaciens (อ้างอิงจาก: หนังสือเรียนชั้นม.3 เล่ม1 (ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2560) สสวท. หน้า 61) พันธุวิศวกรรมใช้เทคนิคการน าชิ้นส่วนดีเอ็นเอ ซึ่งมียีนที่ควบคุมลักษณะที่มนุษย์ต้องการจากสิ่งมีชีวิต ชนิดหนึ่งไปเชื่อมต่อกับดีเอ็นเอในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่งจนเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะตามต้องการ เรียก สิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่นี้ว่า สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมหรือจีเอ็มโอ (genetically modifed organisms หรือ GMOs) เช่น แบคทีเรียดัดแปพันธุกรรมที่ได้รับยีนควบคุมการสร้างอินชูลินของมนุษย์ ท าให้สามารถสร้างอิน ชูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนส าหรับรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ การสร้างแบคทีเรียดัดแปรพันธุกรรมที่สามารถผลิตอินชูลินของมนุษย์ เริ่มจากการน ายีนควบคุมการ สร้างอินซูลินของมนุษย์มาเชื่อมต่อกับดีเอ็นอรูปวงแหวนของแบคทีเรีย จากนั้นใส่ดีเอ็นเอนั้นเข้าไปในเซลล์ของ


แบคทีเรียท าให้แบคทีเรียสามารถสร้างอินซูลินได้ และเมื่อเลี้ยงแบคทีเรียในสภาวะที่เหมาะสม แบคทีเรียจะแบ่ง เซลล์ เพื่อเพิ่มจ านวนเชลส์ท าให้สามารถสร้างอินซูลินปริมาณมากได้ ดังภาพ ภำพแสดง กำรสร้ำงแบคทีเรียดัดแปรพันธุกรรมที่สำมำรถผลิตอินซูลินของมนุษย์ (อ้างอิงจาก: หนังสือเรียนชั้นม.3 เล่ม1 (ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2560) สสวท. หน้า 62) ปัจจุบันมนุษย์มีการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการดัดแปรพันธุกรรมอย่างหลากหลาย เช่น แบคทีเรียที่สามารถลิตอินซูลินของมนุษย์ส าหรับรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน แบคทีเรียที่สามารถย่อยสลายน ้ามัน และพลาสติกเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ข้าวสีทองที่มีวิตามินเอสู งเพื่อป้องกันโรคตาบอดในเด็กเนื่องจากการขาด วิตามินเอ ฝ้ายบีทีที่หนต่อแมลงศัตรูพืช และข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรมที่ทนต่อสารก าจัดวัชพืช มนุษย์มีการใช้ประโยชน์จากสิมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมในหลาย ๆ ด้าน เช่น การผลิตอาหาร การแพทย์ การเกษตร และด้านสิ ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันสิ ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นได้ ตัวอย่างเช่น ข้าวโพดบีที ซึ่งเป็นข้าวโพดที่ได้รับยีนของแบคทีเรียที่ควบคุมการสร้างสารที่เป็นพิษต่อระบบย่อย อาหารของแมลง ท าให้ข้าวโพดบีทีสามารถต้านทานหนอนเจาะฝักข้าวโพด ซึ่งเป็นแมลงศัตรูพืช และยังพบว่าเรณู ของข้าวโพดบีทีนั้นเป็นพิษต่อหนอนผีเสื้อจักรพรรติ ท าให้ผีเสื้อจักรพรรดิซึ่งเป็นแมลงที่ช่วยผสมเกสรให้พืชชนิด อื่นมีจ านวนลดลง ปัจจุบันมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางชีวภาพได้ก าหนดลักษณะที่ใช้ในการประเมิน ความเสี่ยงของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม เพื่อป้องกันผลกระทบที่สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมอาจมีต่อมนุษย์และ สิ่งแวดล้อมดังตาราง


ตำรำงแสดง ตัวอย่ำงกำรประเมินควำมเสี่ยงของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ลักษณะที่ใช้ประเมิน ระดับควำมเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม มำก ปำนกลำง น้อย แหล่งที่มาของสารพันธุกรรม ต่างชนิดพันธุ์กัน ชนิดพันธุ์ใกล้เคียงกัน ชนิดพันธุ์เดียวกัน ความสามารถในการอยู่รอด ในสภาวะที่ไม่เหมาะสม อยู่รอดได้ระยะยาว - อยู่รอดได้ระยะสั้น การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์ได้ด้วยตัวเอง - อาศัยมนุษย์ ที่มา: แนวทางปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยทางชีวภาพ ส าหรับการด าเนินงานด้านเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ คณะกรรมการเทคนิคด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ, 2559 ระดับความเสี่ยงของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรมที่จะเกิดผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมสามารถ ประเมินจากลักษณะต่าง ๆ เช่น แหล่งที่มาของสารพันธุกรรม ถ้าสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรได้รับยีนมาจากสิ่งมีชีวิต ต่างชนิดกันจะมีความเสี่ยงมากกว่ายีนที่มาจากสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน เช่น ความเสี่ยงที่จะเกิดสาร ก่อ ภูมิแพ้หรือสารพิษ เนื ่องจากยืนอาจมีการแสดงออกที ่แตกต ่างกันไปในสิ ่งมีชีวิตต ่างชนิดกัน นอกจากนี้ ถ้าสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมสามารถอยู่รอดได้ในสภาวะที่ไม่เหมาะสมและอยู่ได้เป็นเวลานาน รวมถึงยังสามารถ ขยายพันธุ์ได้เอง จะท าให้ความเสี ่ยงที่สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมนั้นหลุดรอดออกสู่ธรรมชาติและเพิ ่มจ านวน ประชากรได้มากขึ้น ข้อตกลงการใช้ประโยชน์จากสิ ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมนั้นมีความแตกต ่างกันไปในแต ่ละประเทศ บางประเทศยอมรับการผลิตและบริโภคสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม บางประเทศก าหนดให้ผลิตภัณฑ์ต้องติดฉลาก หากมีส่วนผสมจากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม และบางประเทศไม่ยอมรับการใช้สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมรวมถึง ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ประเทศไทยเคยได้รับผลกระทบที่ท าให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจจากกรณีมะละกอของประเทศ ไทยถูกสหภาพยุโรปปฏิเสธและส่งกลับ เนื่องจากตรวจพบว่ามะละกอที่ส่งออกมีมะละกอดัดแปรพันธุกรรมปะปน


อยู่ด้วย จากเหตุการณ์ครั้งนั้นจึงห้ามปลูกพืชดัดแปรพันธุกรรมในแปลงเปิด แต่สามารถปลูกเพื่อทดลองเฉพาะใน พื้นที่ราชการเท่านั้น และต้องท ารายงานวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพให้สาธารณชนได้รับทราบ จากกรณีตัวอย่างดังกล่าวท าให้ทุกคนต้องตระหนักถึงประโยชน์และผลกระทของสิมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่อาจมี ต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม 7. กิจกรรมกำรเรียนรู้ ใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (2 ชั่วโมง; 120นาที) ขั้นที่ 1 กระตุ้นควำมสนใจ (Engagement) (15 นำที) 1) ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียน โดยใช้สื ่อวิดิทัศน์แสดง การดัดแปลงพันธุกรรมของ สิ่งมีชีวิต เป็นเรื่องปกติในธรรมชาติ เพื่อแสดงให้เห็นถึงกลไกการดัดแปลงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต (สืบค้นจาก https://www.youtube.com/watch?v=rZ3aK_jvqy8) 2) ครูและนักเรียนพูดคุยแลกเปลี่ยนถึงการดัดแปลงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้น และพบเห็น ได้ในชีวิตประจ าวัน ขั้นที่2 ขั้นส ำรวจและค้นหำ (Exploration) (20 นำที) 3) ครูทบทวนความรู้ก่อนเรียน โดยร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้ค าตอบที่ถูกต้อง โดยใช้การตอบว่า ถูกต้อง หรือ ไม่ถูกต้อง ในประเด็นค าถามดังนี้ - ความผิดปกติของโครโมโซมส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม (ถูกต้อง) - ความผิดปกติของโครโมโซมเกิดขึ้นเฉพาะกับเซลล์ร่างกาย (ไม่ถูกต้อง เพราะความผิดปกติของ โครโมโซมเกิดขึ้นได้กับเซลล์ร่างกายและเซลล์สืบพันธุ์) - ความผิดปกติของยีนอาจส่งผลให้สิ่งมีชีวิตนั้นมีลักษณะแตกต่างไปจากเดิม (ถูกต้อง) - พันธุวิศวกรรรมมีการท าเฉพาะกับพืชเท่านั้น (ไม่ถูกต้อง เพราะท าทั้งพืชและสัตว์) 4) ให้นักเรียนสังเกตสังเกตภาพ 2.25 ในหนังสือเรียนหน้า 61 เกี่ยวกับลักษณะที่ผิดปกติของพืช เมื่อได้รับยีนของแบคทีเรีย แล้วร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่ำ เมื่อพืชได้รับยีนของแบคทีเรียจะท าให้เกิด การสร้างปุ่มปม ซึ่งท าให้ลักษณะของสิ่งมีชีวิตเปลี่ยนแปลงไป มนุษย์เลียนแบบกระบวนการนี้เพื่อให้ได้สิ่งมีชีวิต ตามที่ต้องการ จากนั้นนักเรียนอ่านเนื้อหาในหนังสือเรียนหน้า 61 เกี่ยวกับกระบวนการพันธุวิศวกรรม จากนั้น ร่วมกันอภิปรายเพื่อให้ได้ข้อสรุปว่ำ พันธุวิศวกรรมเป็นกระบวนการที่ใช้ในการดัดแปรพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต โดย


ใช้เทคนิคการน าชิ้นส่วนดีเอ็นเอซึ่งมียีนที่ควบคุมลักษณะที่มนุษย์ต้องการจากสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งไปเชื่อมต่อกับดี เอ็นเอของสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่งจนเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะตามที่ต้องการ สิ่งมีชีวิตนี้เรียกว่าสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรมหรือจีเอ็มโอ (Genetically Modified Organisms หรือ GMOs) ขั้นที่3 ขั้นอธิบำยและลงข้อสรุป (Explanation) (40 นำที) 5) ครูเชื่อมโยงเข้าสู่กิจกรรมที่ 2.9 ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมเป็น อย่างไร โดยใช้ค าถามว่า ในขณะที่มนุษย์ใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมก็มีข้อโต้แย้งถึงผลกระทบของ สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมเช่นกัน นักเรียนควรน าสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมมาใช้ประโยชน์หรือไม่ 6) นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีด าเนินกิจกรรม ตามหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 63 และครูตรวจสอบความเข้าใจการอ่าน โดย ใช้ค าถามดังต่อไปนี้ - กิจกรรมนี้เกี่ยวกับเรื่องอะไร (การยอมรับหรือไม่ยอมรับการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรม) - กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อย่างไร (อธิบายการใช้ประโยชน์และผลกระทบจากสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรมที่อาจมีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้) - วิธีด าเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (เลือกสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมและสืบค้นข้อมูล เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่เลือก อภิปรายและให้เหตุผลในการตัดสินใจยอมรับหรือไม่ยอมรับ การใช้ ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม) - นักเรียนต้องสังเกตและรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของ สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม รวมถึงประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม) 7) ขณะที่แต่ละกลุ่มท ากิจกรรม ครูควรเดินสังเกตการท ากิจกรรมของนักเรียนแต่ละกลุ่ม และให้ ค าแนะน าถ้านักเรียนมีข้อสงสัยในประเด็นต่าง ๆ เช่น การอภิปรายร่วมกันในประเด็นที่ก าหนดให้ ซึ่งครูควร รวบรวมปัญหาและข้อสงสัยที่พบจากการท ากิจกรรมของนักเรียนเพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการอภิปรายหลัง จาก การท ากิจกรรม ขั้นที่4 ขั้นขยำยควำมรู้ (Elaboration) (30 นำที) 8) นักเรียนบันทึกผลการท ากิจกรรมลงในแบบบันทึกการค้นคว้ากิจกรรมที่ 2.9 ประโยชน์และ ผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมเป็นอย่างไร โดยการตอบค าถามท้ายกิจกรรม และร่วมกันสรุปผลของ กิจกรรมภายในกลุ่ม 9) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผล เพื่อให้ได้ข้อสรุปจำกกิจกรรมว่ำ การจะตัดสินใจยอมรับ หรือไม่ยอมรับการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมขึ้นอยู่กับเหตุผลในการตัดสินใจซึ่งมีทั้งด้านบวกและ


ด้านลบ เช่น แบคทีเรียที่ผลิตอินซูลินส าหรับรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน แบคทีเรียที่สามารถย่อยน ้ามันและพลาสติก ข้าวสีทองที่มีวิตามินเอสูง ฝ้ายที่ทนต่อศัตรูพืช ข้าวโพดที่ทนต่อสารก าจัดวัชพืช เพราะผลจาก ข้อโต้แย้งเกี่ยวกับ ผลกระทบต่าง ๆ ที่มีต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม อีกด้วย ขั้นที่5 ขั้นประเมิน (Evaluation) (15 นำที) 10) นักเรียนตรวจสอบการท าแบบบันทึกการค้นคว้าและส่งตามก าหนดที่วางไว้ 11) ครูตรวจสอบการส่งแบบบันทึกการค้นคว้าของนักเรียนและให้คะแนนประเมินตามเกณฑ์การ ประเมิน (Rubrics Score) 8. สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 8.1 วิดีทัศน์: การดัดแปลงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต เป็นเรื่องปกติในธรรมชาติ 8.2 อุปกรณ์ท ากิจกรรม: อุปกรณ์เครื่องเขียน 8.3 ใบกิจกรรม: ใบกิจกรรมที่ 2.9 ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม เป็นอย่างไร 8.4 แบบบันทึกกิจกรรม: แบบบันทึกการค้นคว้ากิจกรรมที่ 2.9 ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัด แปรพันธุกรรมเป็นอย่างไร 8.5 แหล่งเรียนรู้: หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 เล่ม 1 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9. กำรวัดและกำรประเมิน ตัวชี้วัด/ผลกำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์ที่ใช้ในกำรประเมิน 1. อธิบายการใช้ประโยชน์ จากสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรมและ ผลกระทบที่อาจมีต่อ มนุษย์และสิ่งแวดล้อม (ด้านความรู้: K) - ตรวจการตอบค าถาม ท้ายกิจกรรมที่ 2.9 - ค าถามท้ายกิจกรรมที่ 2.9 ประโยชน์และผลกระทบ ของสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรมเป็นอย่างไร จ านวน 3 ข้อ - ได้ไม่น้อยกว่า 2 คะแนน ระดับคุณภาพดี ถือว่า ผ่านการประเมิน ด้านความรู้


2. การใช้ทักษะการลง ความเห็นจากข้อมูลที่ รวบรวมได้เกี่ยวกับ กระบวนการสร้าง สิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรม ประโยชน์ และผลกระทบของ สิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรมต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม (ด้านกระบวนการ: P) - ตรวจการท าแบบบันทึก การค้นคว้ากิจกรรมที่ 2.9 - แบบบันทึกการค้นคว้า กิจกรรมที่ 2.9 ประโยชน์ และผลกระทบของ สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม เป็นอย่างไร - ได้ไม่น้อยกว่า2 คะแนน ระดับคุณภาพดี ถือว่า ผ่านการประเมิน ด้านกระบวนการ 3. ระเบียบวินัยในการ เรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ (ด้านเจตคติ: A) - สังเกตการได้รับมอบหมาย บทบาทและภาระงาน ภายในชั้นเรียน - เกณฑ์การประเมินระเบียบ วินัยในการเรียนรู้ทาง วิทยาศาสตร์ - ได้ไม่น้อยกว่า2 คะแนน ระดับคุณภาพดี ถือว่า ผ่านการประเมินด้าน เจตคติ 9.1 เกณฑ์กำรประเมินผลนักเรียน เกณฑ์การประเมิน (Rubrics Score) ประเด็นกำรประเมิน ค่ำน ้ำหนัก คะแนน แนวทำงกำรให้คะแนน การให้คะแนนตอบ ค าถามท้าย กิจกรรมที่ 2.9 3 ตอบค าถามท้ายกิจกรรมที่ 2.9 ถูกต้อง จ านวน 3 ข้อ 2 ตอบค าถามท้ายกิจกรรมที่ 2.9 ถูกต้อง จ านวน 2 ข้อ 1 ตอบค าถามท้ายกิจกรรมที่ 2.9 ถูกต้อง จ านวน 1 ข้อ หรือ ไม่ถูกต้อง การให้คะแนนการบันทึก แบบบันทึกการค้นคว้า กิจกรรมที่ 2.9 3 บันทึกผลการท ากิจกรรมที่ 2.9 ในแบบบันทึกการค้นคว้าได้ชัดเจน ถูกต้อง ครบทุกประเด็นสอดคล้องกับเนื้อหาในกิจกรรม และการลง ความเห็นจากข้อมูลที่รวบรวมได้ มีการอธิบายการสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรม เพื่อประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม


ต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้ชัดเจน มีเหตุผล 2 บันทึกผลการท ากิจกรรมที่ 2.9 ในแบบบันทึกการค้นคว้าได้ ครบทุก ประเด็นสอดคล้องกับเนื้อหาในกิจกรรม และการลงความเห็นจากข้อมูล ที่รวบรวมได้ มีการอธิบายการสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม เพื่อประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมได้ 1 บันทึกผลการท ากิจกรรมที่ 2.9 ในแบบบันทึกการค้นคว้าได้ และการลง ความเห็นจากข้อมูลที่รวบรวมได้ มีการอธิบายการสร้างสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรม เพื่อประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมต่อ สังคมและสิ่งแวดล้อมได้บางส่วน มีข้อผิดพลาด การให้คะแนนพฤติกรรม ระเบียบวินัยในการ เรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ 3 ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ภายในชั้นเรียนได้อย่างดี ไม่เกิดปัญหา ส่งภาระงานที่ได้รับตรงต่อเวลา และงานมีความสมบูรณ์ เรียบร้อย 2 ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ภายในชั้นเรียนได้แต่เกิดปัญหา จึงมีการ ปรับปรุงแก้ไข และส่งภาระงานที่ได้รับมอบหมายตรงต่อเวลา หรือ ช้ากว่าก าหนดเวลาไม่นาน 1 ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ภายในชั้นเรียนได้แต่เกิดปัญหา แล้วแก้ไข ไม่ได้ ส่งผลกระทบต่อการส่งภาระงานที่ได้รับมอบหมายตรง ท าให้เกิด ปัญหา ส่งช้ากว่าก าหนดเวลาออกไป 9.2 ระดับคุณภำพ คะแนนรวมเฉลี่ย 3.00 หมายถึง ดีมาก คะแนนรวมเฉลี่ย 2.00 - 2.99 หมายถึง ดี คะแนนรวมเฉลี่ย 0.01 - 1.99 หมายถึง พอใช้ ดังนั้น นักเรียนต้องได้คะแนนเฉลี่ยทุกประเด็นกำรประเมิน ไม่ต ่ำกว่ำ 2.00 แสดงระดับ คุณภำพ ดี ถือว่ำผ่ำนเกณฑ์กำรประเมินในแผนกำรจัดกำรเรียนที่ 11


บันทึกหลังกำรสอน หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 พันธุศาสตร์.... ...... ... ... แผนกำรสอนเรื่อง 11 ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม วันที่...............................เดือน...............................................................พ.ศ. 2566 1. สรุปผลกำรเรียนกำรสอน 1. นักเรียนจ านวน....................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้...........คน คิดเป็นร้อยละ.............


ไม่ผ่านจุดประสงค์.......................คน คิดเป็นร้อยละ............. ได้แก่.................................................................................................. 2. สรุปผลตำมรำยจุดประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ( K) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 นักเรียนมีความรู้เกิดกระบวนการ (P) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 นักเรียนมีเจตคติ (A) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ข้อเสนอแนะหลังกำรจัดกำรเรียนกำรสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ.............................................หัวหน้ำกลุ่มสำระ ( ) ( ) ต าแหน่ง................................................... ลงชื่อ.............................................ผู้ช่วย/รองฯวิชำกำร …………./……………./………… ( ) ลงชื่อ............................................ผู้อ ำนวยกำร ( ) แบบบันทึกกำรประเมินคุณภำพกำรเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 3 รำยวิชำวิทยำศำสตร์พื้นฐำน (ว23101) หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 พันธุศาสตร์ I แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 11 เรื่อง ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม. ค ำชี้แจง: ท าเครื่องหมาย ในช่องค่าน ้าคะแนนแต่ละด้านตามจุดประสงค์การเรียนรู้ โดยประเมินตามเกณฑ์Rubrics Score เลข ชื่อ-นำมสกุล/ ด้ำนควำมรู้ (K) ด้ำนกระบวนกำร (P) ด้ำนเจตคติ(A) ค ะ ระ แดั นบ คุ น ณร ภ ว ำ ม พ


ที่ รหัสนักเรียน ค่ำน ้ำหนักคะแนน ค่ำน ้ำหนักคะแนน ค่ำน ้ำหนักคะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 เกณฑ์กำรพิจำรณำคุณภำพ (โดยน ำคะแนนรวมทุกด้ำน K P A แล้วหำค่ำเฉลี่ย) - คะแนนรวมเฉลี่ย 3.00 หมายถึง ดีมาก - คะแนนรวมเฉลี่ย 2.00 - 2.99 หมายถึง ดี


- คะแนนรวมเฉลี่ย 0.01 - 1.99 หมายถึง พอใช้ ต้องได้คะแนนเฉลี่ยทุกประเด็นกำรประเมิน ไม่ต ่ำกว่ำ 2.00 แสดงระดับคุณภำพ ดี ขึ้นไปเท่ำนั้น ถึงจะผ่ำนกำรเรียนรู้ตำมตัวชี้วัด ผลกำรประเมินกำรเรียนรู้ของนักเรียน ผู้เรียนที่ ผ่าน ตัวชี้วัด มีจ านวน…………………………คน คิดเป็นร้อยละ……………………………………………….. ผู้เรียนที่ ไม่ผ่าน ตัวชี้วัด มีจ านวน…………………………คน คิดเป็นร้อยละ……………………………………………….. 1)………………………………………………........……….สาเหตุ………………......................................................... 2)………………………………………………........……….สาเหตุ………………......................................................... 3)………………………………………………........……….สาเหตุ………………......................................................... 4)………………………………………………........……….สาเหตุ………………......................................................... 5)………………………………………………........……….สาเหตุ………………......................................................... 6)………………………………………………........……….สาเหตุ……………….........................................................


คลิปวิดีทัศน์: กำรดัดแปลงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต เป็นเรื่องปกติในธรรมชำติ การดัดแปลงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต เป็นเรื่องปกติในธรรมชาติ ข้อมูลโดย อาจารย์ ดร.อนงค์ภัทร สุทธางคกูล พันธุศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ Q : การดัดแปลงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต คืออะไร A : คือ การที่สิ่งมีชีวิตได้รับการถ่ายฝากยีนที่มีความสามารถทางพันธุกรรมที่ต้องการเข้าไป ทั้งนี้ การดัดแปลงพันธุกรรม เพื่อปรับปรุงพันธุ์ให้มีคุณสมบัติหรือคุณลักษณะที่ดีขึ้น อาทิ พืชที่ทนต่อโรคและแมลง ดอกไม้ที่บานได้นานขึ้น แหล่งที่มำ: เว็บไซต์อ้างอิง https://www.youtube.com/watch?v=rZ3aK_jvqy8 เผยแพร่เมื่อ 24 ตุลำคม พ.ศ. 2558 (ช่องYouTube: sci find program)


ใบกิจกรรมที่ 2.9 ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมเป็นอย่ำงไร หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 63 กิจกรรมที่ 2.9 ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมเป็นอย่ำงไร? จุดประสงค์ อธิบายการใช้ประโยชน์และผลกระทบจากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่อาจมีต่อ มนุษย์และสิ่งแวดล้อมโดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมได้ วัสดุอุปกรณ์ อุปกรณ์เครื่องเขียน วิธีด ำเนินกิจกรรม 1. ร่วมกันสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตตัดแปร พันธุกรรมที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม กลุ่มละ 1 ชนิด 2 น าข้อมูลมาอภิปรายร่วมกันภายในกลุ่ม เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าจะยอมรับหรือไม่ ยอมรับการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม 3. น าเสนอข้อสรุปของกลุ่มพร้อมบอกเหตุผล และเผยแพร่ความรู้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ค ำถำมท้ำยกิจกรรม 1. เพรำะเหตุใดนักเรียนจึงตัดสินใจยอมรับหรือไม่ยอมรับกำรใช้ประโยชน์จำกสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม 2. สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมมีประโยชน์และผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมอย่ำงไร 3. จำกกิจกรรม สรุปได้ว่ำอย่ำงไร


แบบบันทึกกำรค้นคว้ำกิจกรรมที่ 2.9 ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมเป็นอย่ำงไร ชื่อ-นำมสกุล..........................................................................................ชั้น.................เลขที่...........กลุ่มที่ ............ บันทึกผลกำรค้นคว้ำ เกี่ยวกับ ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ................................................................................................................................................ ..................... ........................................................................................................ ............................................................. ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................................... ...................... ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ .............................................................................................................................................. ....................... ...................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................................. ........................ ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................ ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................ ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................ ..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................


..................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................ ............................................................................................................................. ........................................ แนวทำงกำรบันทึกกำรค้นคว้ำกิจกรมที่ 2.9 ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมเป็นอย่ำงไร บันทึกผลกำรค้นคว้ำ เกี่ยวกับ ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่กลุ่มของนักเรียนเลือก เช่น ข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรม มีข้อมูลดังตัวอย่าง ข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรม เป็นพืชที่มนุษย์ใช้เทคนิคพันธุวิศวกรรมเพื่อให้ข้าวโพดมีความต้านทานโรคและ แมลง ท าให้มีผลผลิตสูง จากงานวิจัยพบว่าเรณูของข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรมเมื่อปลิวไปตกอยู่บนใบของต้นรัก จะท าให้หนอนที่กินใบรักเป็นอาหารเจริญเติบโตช้า และมีอัตราการตายสูงขึ้นเมื่อเทียบกับหนอนที่กินใบรักที่ไม่ มี การปนเปื้อนของเรณูข้าวโพดหรือใบรักที่ปนเปื้อนเรณูของข้าวโพดตามธรรมชาติ หนอนใบรักเมื่อเจริญเป็นตัวเต็มวัยจะเป็นผีเสื้อจักรพรรดิ ซึ่งเป็นแมลงที่มีประโยชน์ เพราะช่วยถ่าย ละอองเรณูให้กับพืชหลายชนิด นักเรียนร่วมกันอภิปรายโดยใช้เหตุผลหรือข้อมูลสนับสนุน เช่น นักเรียนบางคนอาจยอมรับการปลูก ข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรมโดยมีเหตุผลดังนี้ 1. ข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรม เมื่อปลูกแล้วจะท าให้ได้ผลผลิตข้าวโพดสูงขึ้น ช่วยแก้ปัญหาการ ขาดแคลนอาหารของประชากรโลกในอนาคตซึ่งเป็นปัญหาเร่งด่วน ทั้งนี้เนื่องจากทรัพยากรที่ดิน ส าหรับใช้เพาะปลูกมีจ ากัด จึงต้องใช้ข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรมเพื่อเพิ่มผลผลิตให้เพียงพอกับ ความต้องการของประชากรโลก 2. ลดปัญหามลพิษจากสิ่งแวดล้อมอันเกิดจากการใช้สารเคมีก าจัดศัตรูพืช เนื่องจากพืชดัดแปร พันธุกรรมสามารถต้านทานโรคและแมลงได้ ท าให้อัตราการใช้สารเคมีก าจัดศัตรูพืชลดลงหรืออาจ ไม่ต้องใช้เลย นอกจากนี้ช่วยให้เกษตรกรปลอดภัยจากการได้รับสารพิษขณะใช้สารเคมีก าจัด ศัตรูพืช และยังเป็นการลดต้นทุนการผลิต


นักเรียนบางคนอาจมีข้อโต้แย้ง โดยมีเหตุผลดังนี้ 1. สารพิษจากยีนฆ่าหนอนแมลงที่ตัดต่อเข้าสู่ข้าวโพด จะมีผลกระทบต่อแมลงอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ เช่น หนอนผีเสื้อจักรพรรดิ และแมลงที่มีประโยชน์อื่น ๆ 2. เป็นการท าลายระบบนิเวศและเสี่ยงต่อการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ เพราะพืชดัดแปร พันธุกรรม เป็นสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์ใหม่ที่แข็งแรงทนทานกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม สายพันธุ์ที่แข็งแรงกว่า ย่อมมีชีวิตรอดและมีการขยายพันธุ์เพิ่มจ านวนมากขึ้น ในทางกลับกันสายพันธุ์ที่อ่อนแอจะสูญ หายไปในที่สุด นอกจากนี้ยังอาจท าให้สิ่งมีชีวิตที่มีความเหมือนกันทางพันธุกรรมมีมากขึ้นใน อนาคต ซึ่งไม่เป็นผลดีทางวิวัฒนาการ แนวทำงกำรเผยแพร่บันทึกผลกำรค้นคว้ำ จากนั้นนักเรียนร่วมกันตัดสินใจจะว่ายอมรับหรือไม่ยอมรับในการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรม เช่น นักเรียนบางคนยอมรับการใช้ข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรม เพราะปัญหาการขาดแคลนอาหารของ ประชากรโลก เป็นปัญหาส าคัญและเร่งด่วน ควรรีบด าเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ก่อน นอกจากนี้ยังเป็นการลด อันตรายจากสารเคมีก าจัดศัตรูพืช และลดต้นทุนการผลิต ส่วนข้อโต้แย้งเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อแมลงอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ และเป็นการท าลายระบบนิเวศและเสี่ยงต่อการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ อาจคิดหา วิธีการป้องกันได้ ส าหรับการเผยแพร่ข้อมูลอาจจัดท าในรูปป้ายนิเทศ แผ่นพับ หรือเอกสารเผยแพร่อื่น ๆ ซึ่งควรเสนอ ถึงข้อดีและข้อเสียของการใช้สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมทั้งสองด้าน และการตัดสินใจยอมรับ หรือไม่ยอมรับการ ใช้สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมของกลุ่มพร้อมทั้งบอกเหตุผล


เฉลยใบกิจกรรมที่ 2.9 ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมเป็นอย่ำงไร เฉลยค ำถำมท้ำยกิจกรรม 1. เพรำะเหตุใดนักเรียนจึงตัดสินใจยอมรับหรือไม่ยอมรับกำรใช้ประโยชน์จำกสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม แนวค ำตอบ ขึ้นอยู่กับเหตุผลของแต่ละกลุ่ม เช่น ยอมรับเนื่องจากเห็นว่ามนุษย์ควรค านึงถึงความจ าเป็น เร่งด่วนของการใช้สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหารมากกว่าผลกระทบที่ จะได้รับหรือนักเรียนอาจไม่ยอมรับโดยอ้างเหตุผลอื่น ๆ 2. สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมมีประโยชน์และผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมอย่ำงไร แนวค ำตอบ สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมมีประโยชน์ต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ดังนี้ 1. ช่วยลดการใช้สารก าจัดเชื้อโรคพืชและแมลงศัตรูพืช ลดต้นทุนในการท าเกษตรกรรม เพราะพืช ดัดแปรพันธุกรรมมีความต้านทานต่อโรคและแมลงศัตรูพืช เช่น ฝ้ายบีที ข้าวโพดบีที 2. พืชดัดแปรพันธุกรรมที่มีความต้านทานต่อสารก าจัดวัชพืช เช่น ถั่วเหลือง 3. พืชดัดแปรพันธุกรรมที่มีคุณค่าทางอาหารสูงขึ้น เช่น ข้าวที่มีวิตามินเอหรือธาตุเหล็กสูงขึ้น 4. สัตว์มีขนาดใหญ่ขึ้นและใช้เวลาเลี้ยงน้อยลง เช่น ปลาแซลมอน ปลาคาร์ป ท าให้ต้นทุนการผลิต น้อยลง 5. ลดปัญหามลพิษจากสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการใช้สารเคมีก าจัดศัตรูพืช 6. ไม่ต้องตัดไม้ท าลายป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่เพาะปลูก เพราะพืชดัดแปรพันธุกรรมให้ผลผลิตมากกว่าพืชปกติ ผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม มีดังนี้


6.1 สารพิษจากยีนฆ่าหนอนแมลงที่ตัดต่อเข้าสู่ข้าวโพด จะมีผลกระทบต่อแมลงอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ ซึ่งเป็นแมลงที่ไม่ใช่เป้าหมายในการก าจัด 6.2 เกิดการแพร่กระจายของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมสู่สิ่งแวดล้อม เช่น เรณูของพืชดัดแปร พันธุกรรมอาจไปผสมพันธุ์กับวัชพืช ท าให้วัชพืชมีความต้านทานต่อสารก าจัดวัชพืช 6.3 ท าลายระบบนิเวศและเสี่ยงต่อการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ (biodiversity) เนื่องจาก สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม อาจผสมพันธุ์กับสิ่งมีชีวิตต่างชนิดกัน เช่น พืชกับแบคทีเรีย ท าให้ได้ สิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่แข็งแรงทนทานกว่าชนิดเดิม ดังนั้นสิ่งมีชีวิตนี้จึงอยู่รอดได้ ในขณะที่สิ่งมีชีวิต ชนิดเดิมจะอ่อนแอและสูญหายไปในที่สุด 3. จำกกิจกรรมนี้ สรุปได้ว่ำอย่ำงไร แนวค ำตอบ สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมมีทั้งประโยชน์และผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม การจะ ตัดสินใจยอมรับหรือไม่ยอมรับการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมนั้นขึ้นอยู่กับเหตุผลในการตัดสินใจ ซึ่งมีทั้งด้านบวกและด้านลบ แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่12 เรื่อง จริยธรรมด้านพันธุศาสตร์ของนักเรียน รหัสวิชำ ว23101 เวลำ 1 ชั่วโมง หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 ชื่อหน่วยกำรเรียนรู้ พันธุศาสตร์ รวม 15 ชั่วโมง กลุ่มสำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 3 ภำคเรียนที่ 1 สำระที่1 ชื่อสำระ วิทยาศาสตร์ชีวภาพ มำตรฐำน ว 1.3 1. มำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตัวชี้วัด ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความส าคัญของการถ ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม สารพันธุกรรม การเปลี ่ยนแปลงทางพันธุกรรมที ่มีผลต ่อสิ ่งมีชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของสิ ่งมีชีวิต รวมทั้งน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ ตัวชี้วัด ว 1.3 ม.3/8 ตระหนักถึงประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่อาจมีต่อมนุษย์และ สิ่งแวดล้อม โดยการเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการโต้แย้งทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีข้อมูลสนับสนุน 2. สำระส ำคัญ/ควำมคิดรวบยอด


1) มนุษย์เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ เพื่อให้ได้สิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะตามต้องการ เรียกสิ่งมีชีวิตนี้ว่า สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม 2) ในปัจจุบันมนุษย์มีการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมเป็นจ านวนมาก เช่น การผลิตอาหาร การผลิตยารักษาโรค การเกษตร อย่างไรก็ดีสังคมยังมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ซึ่งยังท าการติดตามศึกษาผลกระทบดังกล่าว 3. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 1) ด้ำนควำมรู้ (K) นักเรียนอภิปรายผลของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่มีต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม 2) ด้ำนทักษะ (P) นักเรียนใช้ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยการวิเคราะห์ข้อมูล จากการสืบค้นได้อย่างสมเหตุสมผล 3) ด้ำนเจตคติ (A) นักเรียนตระหนักถึงประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ที่อาจมีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม 4. คุณลักษณะผู้เรียน 4.1 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อยู่อย่างพอเพียง ซื่อสัตย์สุจริต มุ่งมั่นในการท างาน มีวินัย รักความเป็นไทย ใฝ่เรียนรู้ มีจิตสาธารณะ 5. ด้ำนสมรรถนะส ำคัญของผู้เรียน ความสามารถในการคิด: นักเรียนสามารถระบุประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ที่อาจมีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ความสามารถในการแก้ปัญหา: นักเรียนสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจเลือกวิธีการที่ถูกต้อง เหมาะสม และค านึงถึงจริยธรรมจากสถานการณ์เกี่ยวกับพันธุศาสตร์ที่ก าหนดให้ 6. สำระกำรเรียนรู้ กระบวนการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของสิ ่งมีชีวิตสามารถเกิดขึ้นได้เองตามรรมชาติ โดยอาจมีการ เพิ่มขึ้นหรือลดลงของสารพันธุกรรมในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตชนิดนั้น เช่น การเปลี่ยนแปลงจ านวนโครโมโซมเนื่องจาก เกิดความผิดปกตีในการแบ่งเซลล์ และการได้รับยีนจากสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น ตัวอย่างเช่น พืชใบเลี้ยงคู่ที่มีบาดแผล เมื่อได้รับยีนจากแบคทีเรียที่มีชื่อว่า Agrobacterium tumefaciens จะท าให้เซลล์พืชบริเวณนั้นเกิดการแบ่งเซลล์ เพิ่มขึ้นเป็นจ านวนมาก จนเกิดปุ่มปม ซึ่งเป็นที่อยู ่อาศัยของแบคทีเรีย มนุษย์สามารถเลียนแบบกระบวนการ


เปลี่ยนแปลงพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติ เพื่อประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ตามต้องการ เรียกกระบวนการ ดัดแปรพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตโดยมนุษย์นี้ว่า พันธุวิศวกรรม (genetic engineering) ภำพแสดง ปุ่มปมบนต้นไม้ที่เกิดจำกแบคทีเรีย Agrobacterium tumefaciens (อ้างอิงจาก: หนังสือเรียนชั้นม.3 เล่ม1 (ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2560) สสวท. หน้า 61) พันธุวิศวกรรมใช้เทคนิคการน าชิ้นส่วนดีเอ็นเอ ซึ่งมียีนที่ควบคุมลักษณะที่มนุษย์ต้องการจากสิ่งมีชีวิต ชนิดหนึ่งไปเชื่อมต่อกับดีเอ็นเอในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตอีกชนิดหนึ่งจนเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะตามต้องการ เรียก สิ่งมีชีวิตที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่นี้ว่า สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมหรือจีเอ็มโอ (genetically modifed organisms หรือ GMOs) เช่น แบคทีเรียดัดแปพันธุกรรมที่ได้รับยีนควบคุมการสร้างอินชูลินของมนุษย์ ท าให้สามารถสร้างอิน ชูลินซึ่งเป็นฮอร์โมนส าหรับรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ การสร้างแบคทีเรียดัดแปรพันธุกรรมที่สามารถผลิตอินชูลินของมนุษย์ เริ่มจากการน ายีนควบคุมการ สร้างอินซูลินของมนุษย์มาเชื่อมต่อกับดีเอ็นอรูปวงแหวนของแบคทีเรีย จากนั้นใส่ดีเอ็นเอนั้นเข้าไปในเซลล์ของ แบคทีเรียท าให้แบคทีเรียสามารถสร้างอินซูลินได้ และเมื่อเลี้ยงแบคทีเรียในสภาวะที่เหมาะสม แบคทีเรียจะแบ่ง เซลล์ เพื่อเพิ่มจ านวนเชลส์ท าให้สามารถสร้างอินซูลินปริมาณมากได้ ดังภาพ


ภำพแสดง กำรสร้ำงแบคทีเรียดัดแปรพันธุกรรมที่สำมำรถผลิตอินซูลินของมนุษย์ (อ้างอิงจาก: หนังสือเรียนชั้นม.3 เล่ม1 (ฉบับปรับปรุงพ.ศ.2560) สสวท. หน้า 62) ปัจจุบันมนุษย์มีการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตที่เกิดจากการดัดแปรพันธุกรรมอย่างหลากหลาย เช่น แบคทีเรียที่สามารถลิตอินซูลินของมนุษย์ส าหรับรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน แบคทีเรียที่สามารถย่อยสลายน ้ามัน และพลาสติกเพื่อแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม ข้าวสีทองที่มีวิตามินเอสู งเพื่อป้องกันโรคตาบอดในเด็กเนื่องจากการขาด วิตามินเอ ฝ้ายบีทีที่หนต่อแมลงศัตรูพืช และข้าวโพดดัดแปรพันธุกรรมที่ทนต่อสารก าจัดวัชพืช มนุษย์มีการใช้ประโยชน์จากสิมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมในหลาย ๆ ด้าน เช่น การผลิตอาหาร การแพทย์ การเกษตร และด้านสิ ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันสิ ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอื่นได้ ตัวอย่างเช่น ข้าวโพดบีที ซึ่งเป็นข้าวโพดที่ได้รับยีนของแบคทีเรียที่ควบคุมการสร้างสารที่เป็นพิษต่อระบบย่อย อาหารของแมลง ท าให้ข้าวโพดบีทีสามารถต้านทานหนอนเจาะฝักข้าวโพด ซึ่งเป็นแมลงศัตรูพืช และยังพบว่าเรณู ของข้าวโพดบีทีนั้นเป็นพิษต่อหนอนผีเสื้อจักรพรรติ ท าให้ผีเสื้อจักรพรรดิซึ่งเป็นแมลงที่ช่วยผสมเกสรให้พืชชนิด อื่นมีจ านวนลดลง ปัจจุบันมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางชีวภาพได้ก าหนดลักษณะที่ใช้ในการประเมิน ความเสี่ยงของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม เพื่อป้องกันผลกระทบที่สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมอาจมีต่อมนุษย์และ สิ่งแวดล้อมดังตาราง ตำรำงแสดง ตัวอย่ำงกำรประเมินควำมเสี่ยงของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ลักษณะที่ใช้ประเมิน ระดับควำมเสี่ยงที่จะเกิดผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม มำก ปำนกลำง น้อย แหล่งที่มาของสารพันธุกรรม ต่างชนิดพันธุ์กัน ชนิดพันธุ์ใกล้เคียงกัน ชนิดพันธุ์เดียวกัน ความสามารถในการอยู่รอด อยู่รอดได้ระยะยาว - อยู่รอดได้ระยะสั้น


ในสภาวะที่ไม่เหมาะสม การขยายพันธุ์ ขยายพันธุ์ได้ด้วยตัวเอง - อาศัยมนุษย์ ที่มา: แนวทางปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยทางชีวภาพ ส าหรับการด าเนินงานด้านเทคโนโลยีชีวภาพสมัยใหม่ คณะกรรมการเทคนิคด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ, 2559 ระดับความเสี่ยงของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรมที่จะเกิดผลกระทบต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมสามารถ ประเมินจากลักษณะต่าง ๆ เช่น แหล่งที่มาของสารพันธุกรรม ถ้าสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรได้รับยีนมาจากสิ่งมีชีวิต ต่างชนิดกันจะมีความเสี่ยงมากกว่ายีนที่มาจากสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวกัน เช่น ความเสี่ยงที่จะเกิดสาร ก่อ ภูมิแพ้หรือสารพิษ เนื ่องจากยืนอาจมีการแสดงออกที ่แตกต ่างกันไปในสิ ่งมีชีวิตต ่างชนิดกัน นอกจากนี้ ถ้าสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมสามารถอยู่รอดได้ในสภาวะที่ไม่เหมาะสมและอยู่ได้เป็นเวลานาน รวมถึงยังสามารถ ขยายพันธุ์ได้เอง จะท าให้ความเสี ่ยงที่สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมนั้นหลุดรอดออกสู่ธรรมชาติและเพิ ่มจ านวน ประชากรได้มากขึ้น ข้อตกลงการใช้ประโยชน์จากสิ ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมนั้นมีความแตกต ่างกันไปในแต ่ละประเทศ บางประเทศยอมรับการผลิตและบริโภคสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม บางประเทศก าหนดให้ผลิตภัณฑ์ต้องติดฉลาก หากมีส่วนผสมจากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม และบางประเทศไม่ยอมรับการใช้สิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมรวมถึง ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรม ประเทศไทยเคยได้รับผลกระทบที่ท าให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจจากกรณีมะละกอของประเทศ ไทยถูกสหภาพยุโรปปฏิเสธและส่งกลับ เนื่องจากตรวจพบว่ามะละกอที่ส่งออกมีมะละกอดัดแปรพันธุกรรมปะปน อยู่ด้วย จากเหตุการณ์ครั้งนั้นจึงห้ามปลูกพืชดัดแปรพันธุกรรมในแปลงเปิด แต่สามารถปลูกเพื่อทดลองเฉพาะใน พื้นที่ราชการเท่านั้น และต้องท ารายงานวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพให้สาธารณชนได้รับทราบ จากกรณีตัวอย่างดังกล่าวท าให้ทุกคนต้องตระหนักถึงประโยชน์และผลกระทของสิมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่อาจมี ต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม 7. กิจกรรมกำรเรียนรู้ ใช้รูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Cycles: 5Es) (1 ชั่วโมง; 60นาที) ขั้นที่ 1 กระตุ้นควำมสนใจ (Engagement) (10 นำที) 1) ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียน โดยใช้สื่อวิดิทัศน์แสดง ปัญหาพืชจีเอ็มโอ (สืบค้นจาก https://www.youtube.com/watch?v=y5M37w-vyA0) 2) ครูและนักเรียนพูดคุยแลกเปลี่ยนถึงปัญหาและสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากมีการดัดแปลงพันธุกรรม ของสิ่งมีชีวิต ก่อเกิดผลกระทบอย่างไรได้บ้าง


ขั้นที่2 ขั้นส ำรวจและค้นหำ (Exploration) (20 นำที) 3) ครูเชื่อมโยงเข้าสู่กิจกรรมท้ายบท เรื่อง จริยธรรมด้านพันธุศาสตร์ของนักเรียนเป็นอย่างไร 4) นักเรียนอ่านชื่อกิจกรรม จุดประสงค์ และวิธีด าเนินกิจกรรม ตามหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 66 และครูตรวจสอบความเข้าใจการอ่าน โดย ใช้ค าถามดังต่อไปนี้ - กิจกรรมนี้เกี่ยวกับเรื่องอะไร (จริยธรรมด้านพันธุศาสตร์) - กิจกรรมนี้มีจุดประสงค์อย่างไร (วิเคราะห์และตัดสินใจเลือกวิธีการที่ถูกต้อง เหมาะสม และ ค านึงถึงจริยธรรมจากสถานการณ์เกี่ยวกับพันธุศาสตร์ที่ก าหนดให้) - วิธีด าเนินกิจกรรมมีขั้นตอนโดยสรุปอย่างไร (อ่านและวิเคราะห์สถานการณ์ที่ก าหนดให้ ร่วมกัน อภิปรายและตัดสินใจเลือกวิธีการในแต่ละสถานการณ์) - นักเรียนต้องสังเกตและรวบรวมข้อมูลอะไรบ้าง (อภิปรายเกี่ยวกับความถูกต้อง เหมาะสม และ จริยธรรมในการตัดสินใจเลือกวิธีการของแต่ละสถานการณ์) 5) ขณะที่แต่ละกลุ่มท ากิจกรรม ครูควรเดินสังเกตการท ากิจกรรมของนักเรียนแต่ละกลุ่ม และให้ ค าแนะน าถ้านักเรียนมีข้อสงสัยในประเด็นต่าง ๆ ขั้นที่3 ขั้นอธิบำยและลงข้อสรุป (Explanation) (10 นำที) 6) นักเรียนบันทึกผลการท ากิจกรรมลงในแบบบันทึกการค้นคว้ากิจกรรมท้ายบท เรื่อง จริยธรรม ด้านพันธุศาสตร์ของนักเรียนเป็นอย่างไร โดยการตอบค าถามท้ายกิจกรรม และร่วมกันสรุปผลของกิจกรรมภายใน กลุ่ม ขั้นที่4 ขั้นขยำยควำมรู้ (Elaboration) (10 นำที) 7) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปผล เพื่อให้ได้ข้อสรุปจำกกิจกรรมว่ำ การตัดสินใจเลือกวิธีการใด ในแต่ละสถานการณ์เกี่ยวกับจริยธรรมทางพันธุศาสตร์ต้องศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นและไม่ผิดจริยธรรม สร้าง ความเดือดร้อนและปัญหาให้ผู้อื่น ขั้นที่5 ขั้นประเมิน (Evaluation) (10 นำที) 8) นักเรียนตรวจสอบการท าแบบบันทึกการค้นคว้าและส่งตามก าหนดที่วางไว้ 9) ครูตรวจสอบการส่งแบบบันทึกการค้นคว้าของนักเรียนและให้คะแนนประเมินตามเกณฑ์การ ประเมิน (Rubrics Score)


8. สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ 8.1 วิดีทัศน์: ปัญหาพืชจีเอ็มโอ สืบค้นจาก https://www.youtube.com/watch?v=y5M37w-vyA0 8.2 อุปกรณ์ท ากิจกรรม: อุปกรณ์เครื่องเขียน 8.3 ใบกิจกรรม: ใบกิจกรรมท้ายบท จริยธรรมด้านพันธุศาสตร์ของนักเรียนเป็นอย่างไร 8.4 แบบบันทึกกิจกรรม: แบบบันทึกการค้นคว้ากิจกรรมท้ายบท จริยธรรมด้านพันธุศาสตร์ของนักเรียน เป็นอย่างไร 8.5 แหล่งเรียนรู้: หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับ ปรับปรุง พ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ 9. กำรวัดและกำรประเมิน ตัวชี้วัด/ผลกำรเรียนรู้ วิธีกำรวัด เครื่องมือวัด เกณฑ์ที่ใช้ในกำรประเมิน 1. อภิปรายผลของ สิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรมที่มีต่อมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม (ด้านความรู้: K) - ตรวจการท าแบบบันทึก การค้นคว้ากิจกรรม ท้ายบท - แบบบันทึกการค้นคว้า กิจกรรมท้ายบท จริยธรรมด้านพันธุศาสตร์ ของนักเรียนเป็นอย่างไร - ได้ไม่น้อยกว่า 2 คะแนน ระดับคุณภาพดี ถือว่า ผ่านการประเมิน ด้านความรู้ 2. การใช้ทักษะการคิด อย่างมีวิจารณญาณ โดยการวิเคราะห์ข้อมูล จากการสืบค้นได้อย่าง สมเหตุสมผล (ด้านกระบวนการ: P) - ตรวจการท าแบบบันทึก การค้นคว้ากิจกรรม ท้ายบท - แบบบันทึกการค้นคว้า กิจกรรมท้ายบท จริยธรรมด้านพันธุศาสตร์ ของนักเรียนเป็นอย่างไร - ได้ไม่น้อยกว่า 2 คะแนน ระดับคุณภาพดี ถือว่า ผ่านการประเมิน ด้านกระบวนการ 3. ตระหนักถึงประโยชน์ และผลกระทบของ สิ่งมีชีวิตดัดแปร - ตรวจการตอบค าถาม ท้ายกิจกรรมท้ายบท - ค าถามท้ายกิจกรรม - ได้ไม่น้อยกว่า 2 คะแนน ระดับคุณภาพดี ถือว่า ผ่านการประเมิน


พันธุกรรมที่อาจมีต่อ มนุษย์และสิ่งแวดล้อม (ด้านเจตคติ: A) ท้ายบท จริยธรรมด้าน พันธุศาสตร์ของนักเรียน เป็นอย่างไร จ านวน 2 ข้อ ด้านเจตคติ 9.1 เกณฑ์กำรประเมินผลนักเรียน เกณฑ์การประเมิน (Rubrics Score) ประเด็นกำรประเมิน ค่ำน ้ำหนัก คะแนน แนวทำงกำรให้คะแนน การให้คะแนนการบันทึก แบบบันทึกการค้นคว้า กิจกรรมท้ายบท 3 บันทึกผลการท ากิจกรรม ในแบบบันทึกการค้นคว้าได้ชัดเจน ถูกต้อง โดยวิเคราะห์สถานการณ์ครบทั้ง 4 สถานการณ์ มีการอ้างอิงข้อมูลจาก การสืบค้นได้อย่างสมเหตุสมผล เพื่ออภิปรายผลของสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรมที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจน 2 บันทึกผลการท ากิจกรรม ในแบบบันทึกการค้นคว้าได้ โดยวิเคราะห์ สถานการณ์ครบทั้ง 4 สถานการณ์ มีการอ้างอิงข้อมูลจากการสืบค้น เพื่อ อภิปรายผลของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม 1 บันทึกผลการท ากิจกรรม ในแบบบันทึกการค้นคว้าได้ โดยวิเคราะห์ สถานการณ์ไม่ครบทั้ง 4 สถานการณ์ มีการอ้างอิงข้อมูลจากการสืบค้น เป็นบางส่วน และอภิปรายผลได้บางส่วน การให้คะแนนการบันทึก แบบบันทึกการค้นคว้า กิจกรรมท้ายบท 3 บันทึกผลการท ากิจกรรม ในแบบบันทึกการค้นคว้าได้ชัดเจน ถูกต้อง โดย วิเคราะห์สถานการณ์ครบทั้ง 4 สถานการณ์ มีการอ้างอิงข้อมูลจากการ สืบค้นได้อย่างสมเหตุสมผล เพื่ออภิปรายผลของสิ่งมีชีวิตดัดแปร พันธุกรรมที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจน 2 บันทึกผลการท ากิจกรรม ในแบบบันทึกการค้นคว้าได้ โดยวิเคราะห์ สถานการณ์ครบทั้ง 4 สถานการณ์ มีการอ้างอิงข้อมูลจากการสืบค้น เพื่อ อภิปรายผลของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมได้ 1 บันทึกผลการท ากิจกรรม ในแบบบันทึกการค้นคว้าได้ โดยวิเคราะห์ สถานการณ์ไม่ครบทั้ง 4 สถานการณ์ มีการอ้างอิงข้อมูลจากการสืบค้น เป็นบางส่วน และอภิปรายผลได้บางส่วน การให้คะแนนตอบ 3 ตอบค าถามท้ายกิจกรรมท้ายบท ถูกต้อง จ านวน 2 ข้อ


ค าถามท้าย กิจกรรมท้ายบท 2 ตอบค าถามท้ายกิจกรรมท้ายบท ถูกต้อง จ านวน 1 ข้อ 1 มีการตอบค าถามท้ายกิจกรรมท้ายบท แต่ไม่ถูกต้อง 9.2 ระดับคุณภำพ คะแนนรวมเฉลี่ย 3.00 หมายถึง ดีมาก คะแนนรวมเฉลี่ย 2.00 - 2.99 หมายถึง ดี คะแนนรวมเฉลี่ย 0.01 - 1.99 หมายถึง พอใช้ ดังนั้น นักเรียนต้องได้คะแนนเฉลี่ยทุกประเด็นกำรประเมิน ไม่ต ่ำกว่ำ 2.00 แสดงระดับคุณภำพ ดี ถือว่ำผ่ำน เกณฑ์ บันทึกหลังกำรสอน หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 พันธุศาสตร์.... ...... ... ... แผนกำรสอนเรื่อง 12 จริยธรรมด้านพันธุศาสตร์ของนักเรียน วันที่...............................เดือน...............................................................พ.ศ. 2566 1. สรุปผลกำรเรียนกำรสอน 1. นักเรียนจ านวน....................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้...........คน คิดเป็นร้อยละ............. ไม่ผ่านจุดประสงค์.......................คน คิดเป็นร้อยละ............. ได้แก่.................................................................................................. 2. สรุปผลตำมรำยจุดประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1 นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ ( K) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.2 นักเรียนมีความรู้เกิดกระบวนการ (P) …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2.3 นักเรียนมีเจตคติ (A)


…………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. ข้อเสนอแนะหลังกำรจัดกำรเรียนกำรสอน …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ลงชื่อ............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ.............................................หัวหน้ำกลุ่มสำระ ( ) ( ) ต าแหน่ง................................................... ลงชื่อ.............................................ผู้ช่วย/รองฯวิชำกำร …………./……………./………… ( ) ลงชื่อ............................................ผู้อ ำนวยกำร ( ) แบบบันทึกกำรประเมินคุณภำพกำรเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษำปีที่ 3 รำยวิชำวิทยำศำสตร์พื้นฐำน (ว23101) หน่วยกำรเรียนรู้ที่ 2 พันธุศาสตร์ I แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ 12 เรื่อง จริยธรรมด้านพันธุศาสตร์ของนักเรียน. ค ำชี้แจง: ท าเครื่องหมาย ในช่องค่าน ้าคะแนนแต่ละด้านตามจุดประสงค์การเรียนรู้ โดยประเมินตามเกณฑ์Rubrics Score เลข ที่ ชื่อ-นำมสกุล/ รหัสนักเรียน ด้ำนควำมรู้ (K) ด้ำนกระบวนกำร (P) ด้ำนเจตคติ(A) คะแนนรวม ระดับคุณภำพ ค่ำน ้ำหนักคะแนน ค่ำน ้ำหนักคะแนน ค่ำน ้ำหนักคะแนน 3 2 1 3 2 1 3 2 1 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10


11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 เกณฑ์กำรพิจำรณำคุณภำพ (โดยน ำคะแนนรวมทุกด้ำน K P A แล้วหำค่ำเฉลี่ย) - คะแนนรวมเฉลี่ย 3.00 หมายถึง ดีมาก - คะแนนรวมเฉลี่ย 2.00 - 2.99 หมายถึง ดี - คะแนนรวมเฉลี่ย 0.01 - 1.99 หมายถึง พอใช้ ต้องได้คะแนนเฉลี่ยทุกประเด็นกำรประเมิน ไม่ต ่ำกว่ำ 2.00 แสดงระดับคุณภำพ ดี ขึ้นไปเท่ำนั้น ถึงจะผ่ำนกำรเรียนรู้ตำมตัวชี้วัด ผลกำรประเมินกำรเรียนรู้ของนักเรียน ผู้เรียนที่ ผ่าน ตัวชี้วัด มีจ านวน…………………………คน คิดเป็นร้อยละ……………………………………………….. ผู้เรียนที่ ไม่ผ่าน ตัวชี้วัด มีจ านวน…………………………คน คิดเป็นร้อยละ……………………………………………….. 1)………………………………………………........……….สาเหตุ………………......................................................... 2)………………………………………………........……….สาเหตุ………………......................................................... 3)………………………………………………........……….สาเหตุ……………….........................................................


4)………………………………………………........……….สาเหตุ………………......................................................... 5)………………………………………………........……….สาเหตุ………………......................................................... 6)………………………………………………........……….สาเหตุ………………......................................................... คลิปวิดีทัศน์: ปัญหำพืชจีเอ็มโอ


แหล่งที่มำ: เว็บไซต์อ้างอิง https://www.youtube.com/watch?v=y5M37w-vyA0 เผยแพร่เมื่อ 19 กุมภำพันธ์ พ.ศ. 2558 (ช่องYouTube: Siriporn MCOT) ใบกิจกรรมท้ำยบท จริยธรรมทำงด้ำนพันธุศำสตร์ของนักเรียนเป็นอย่ำงไร หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เล่ม 1 ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุงพ.ศ. 2560) สสวท. กระทรวงศึกษาธิการ หน้า 66 กิจกรรมท้ำยบท จริยธรรมทำงด้ำนพันธุศำสตร์ของนักเรียนเป็นอย่ำงไร? จุดประสงค์ วิเคราะห์และตัดสินใจเลือกวิธีการที่ถูกต้อง เหมาะสม และค านึงถึงจริยธรรม จากสถานการณ์เกี่ยวกับพันธุศาสตร์ที่ก าหนดให้ วัสดุอุปกรณ์ อุปกรณ์เครื่องเขียน สถำนกำรณ์ สถำนกำรณ์ที่ 1 ชายคนหนึ่งพบว่าภรรยาของเขาเป็นโรคที่ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ โรคนี้ เป็นโรคทางพันธุกรรมที่สามารถถ่ายทอดจากแม่ไปยังลูกได้ ปัจจุบันโรคดังกล่าวสามา


รถรักษาได้โดยการท ายีนบ าบัด ซึ่งท าได้โดยการเปลี่ยนแปลงยืน แต่การรักษาลักษณะ นี่ยังข้อจ ากัดทางด้านเทคนิค และมีข้อโต้แย้งทางจริยธรรมเกิดขึ้นในสังคมว่า ควร บ าบัดยืนที ่ผิดปกติในเซลล์ตังต้นที ่จะสร้างเซลล์ไข ่และอสุจิหรือไม ่ และถ้ามี การท ายีนบ าบัดจะมีผลต่อความหลากหลายทางพันธุกรรรมในอนาคตหรือไม่ จากสถานการณ์นี่นักเรียนจะเลือกวิธีการใดต่อไปนี่ พร้อมทั้งบอกเหตุผล ก. ให้ลูกเกิดตามธรรมชาติ ถ้าลูกมีอาการของโรคให้รักษาไปตามอาการ ข. รักษาโดยใช้ยืนบ าบัด ค. ยุติการตั้งครรภ์ ถ้าตรวจพบยืนที่ท าให้เกิดโรคนี้ในทารกที่อยู่ในครรภ์ สถำนกำรณ์ที่ 2 ถ้านักเรียนเป็นเจ้าของบริษัทที ่จ าหน ่ายเมล็ดพันธุ์พืช บริษัทหนึ ่งที ่มี การปรับปรุงพันธุ์มะเขือเทศให้มีผลขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม 2 เท่าโดยการใส่ยีนของ พืชชนิดหนึ่งที่มีผลขนาดใหญ่ลงในยีนของมะเขือเทศ จากสถานการณ์นี้ นักเรียนจะขายมะเขือเทศที่เกิดจากการดัดแปรพันธุกรรม นี้ให้ผู้บริโภคหรือไม่ เพราะเหตุใด ก. ขาย เพราะมะเขือเทศมีคุณภาพดีกว่าบริษัทอื่น ข. ขาย เพราะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหาร ค. ไม่ขาย เพราะไม่แน่ใจเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภค กิจกรรมท้ำยบท จริยธรรมทำงด้ำนพันธุศำสตร์ของนักเรียนเป็นอย่ำงไร? สถำนกำรณ์ สถำนกำรณ์ที่ 3 การโคลนเป็นการเพิ่มจ านวนสิ่งมีชีวิตที่มีลักษณะทางพันธุกรรมเหมือนสิ่งมีชีวิต เดิมทุกประการ หากการโคลนสามารถท าได้กับสัตว์เลี้ยงทุกชนิด และนักเรียนเคยมี สุนัขที่รักมากและตายไป นักเรียนจึงท าการคันคว้าและได้ความรู้มาว่าถ้าอยากให้สุนัข ตัวเดิมกลับมา จะต้องน าตัวอย่างเชลล์ที่บริเวณรากของเส้นขนสุนัขไปโคลน จากสถานการณ์นี้ นักเรียนจะเลือกวิธีการใด เพราะเหตุใด ก. พยายามหาตัวอย่างรากเส้นขนของสุนัขแล้วน าไปโคลน เพื่อให้ได้สุนัขตัวเดิม


ข. ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติโดยไม่ท าการโคลน เพราะไม่แน่ใจว่าสุนัขตัว ใหม่ที่ได้จากการโคลนจะเหมือนกับตัวเดิมทุกประการ สถำนกำรณ์ที่ 4 หากมีบริษัทที่น าเสนอว่า สามารถสร้างเด็กหลอดแก้วที่มีลักษณะตามความ ต้องการของพ่อแม่ได้ โดยน ายีนที่ควบคุมลักษณะต่าง ๆ ตามที่ต้องการใส่เข้าไปใน ไชโกต เช่น ยืนควบคุมความฉลาด ความสามารถด้านดนตรี ความสามารถด้านกีฬา จากสถานการณ์นี้ ถ้านักเรียนเป็นพ่อแม่ของเด็ก นักเรียนจะเลือกวิธีการใด เพราะเหตุใด ก. เลือกสร้างเด็กหลอดแก้วที่มีลักษณะตามที่นักเรียนต้องการ เพราะท าให้เด็กที่เกิด มามีความพร้อมทั้งสติปัญญาและความสามารถในด้านต่าง ๆ ข. ไม่เลือกใส่ยืนเข้าไปในไชโกต เพราะต้องการให้ลูกมีลักษณะคล้ายคลึงกับพ่อแม่ วิธีด ำเนินกิจกรรม 1. อ่านและวิเคราะห์สถานการณ์ที่ก าหนดให้ ร่วมกันอภิปรายและตัดสินใจเลือก วิธีการในแต่ละสถานการณ์ โดยค านึงถึงความเป็นไปได้และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น บันทึกผล และน าเสนอ 2. ร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับความถูกต้อง เหมาะสม และจริยธรรมในการตัดสินใจ เลือกวิธีการของแต่ละสถานการณ์ ค ำถำมท้ำยกิจกรรม 1. ในกำรตัดสินใจเลือกวิธีกำรใดในแต่ละสถำนกำรณ์ นักเรียนมีเหตุผลในกำรตัดสินใจเลือกวิธีกำรนั้น ๆ อย่ำงไร 2. จำกกิจกรรมนี้ สรุปได้ว่ำอย่ำงไร แบบบันทึกกำรค้นคว้ำกิจกรรมท้ำยบท จริยธรรมทำงด้ำนพันธุศำสตร์ของนักเรียนเป็นอย่ำงไร ชื่อ-นำมสกุล..........................................................................................ชั้น.................เลขที่...........กลุ่มที่ ............


บันทึกผลกำรอ่ำนและวิเครำะห์สถำนกำรณ์ที่ก ำหนดให้ แล้วตัดสินใจเลือกวิธีกำรใดวิธีกำรหนึ่งจำกกำร อภิปรำยโต้แย้งโดยใช้เหตุผล ซึ่งกำรเลือกวิธีกำรใดนั้นจะต้องค ำนึงถึงควำมถูกต้อง เหมำะสม และ จริยธรรม สถำนกำรณ์ที่ 1 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สถำนกำรณ์ที่ 2 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สถำนกำรณ์ที่ 3 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… สถำนกำรณ์ที่ 4 …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………


แนวทำงกำรบันทึกกำรค้นคว้ำกิจกรมท้ำยบท จริยธรรมทำงด้ำนพันธุศำสตร์ของนักเรียนเป็นอย่ำงไร บันทึกผลกำรอ่ำนและวิเครำะห์สถำนกำรณ์ที่ก ำหนดให้ แล้วตัดสินใจเลือกวิธีกำรใดวิธีกำรหนึ่งจำกกำร อภิปรำยโต้แย้งโดยใช้เหตุผล ซึ่งกำรเลือกวิธีกำรใดนั้นจะต้องค ำนึงถึงควำมถูกต้อง เหมำะสม และ จริยธรรม สถำนกำรณ์ที่ 1 ข้อ ก. ให้ลูกเกิดตามธรรมชาติ ลูกที่เกิดมาอาจไม่เป็นโรคก็ได้ แต่ถ้าเป็นโรค ลูกจะมีปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งเป็น ภาระของพ่อแม่ สังคม และเศรษฐกิจ ข้อ ข. รักษาโดยใช้ยีนบ าบัด ซึ่งถ้าท าส าเร็จลูกก็จะสร้างภูมิคุ้มกันได้ และในอนาคตจะไม่มีคนที่เป็นโรคนี้ แต่ยีน ที่ใช้ในการบ าบัดอาจมีผลต่อการท างานของยีนอื่น ท าให้ร่างกายเกิดความผิดปกติ เช่น เป็นโรคมะเร็ง และอาจมีข้อโต้แย้งทางด้านจริยธรรม เพราะหากทารกที่เกิดจากการท ายีนบ าบัดเจริญเติบโต สืบพันธุ์ และมีลูกหลาน จะเป็นผลให้ความหลากหลายทางพันธุกรรมของมนุษย์ลดลง ข้อ ค. ข้อนี้ถึงแม้จะแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นทั้งหมดได้ แต่ถ้าพิจารณาถึงด้านจริยธรรม จะเป็นการท าผิดจริยธรรม สถำนกำรณ์ที่ 2 ข้อ ก. ขาย เพราะถ้าลูกค้าได้สินค้าที่มีคุณภาพจะท าให้ลูกค้าพึงพอใจ และจะท าให้บริษัทมีผลก าไรเพิ่มขึ้น ข้อ ข. ขาย เพราะอาหารเป็นสิ่งจ าเป็นต่อการด ารงชีวิตของมนุษย์และเป็นปัญหาเร่งด่วน ข้อ ค. ไม่ขาย เพราะยังจะต้องศึกษาวิจัยต่อไปอีกจนกว่าจะแน่ใจว่าสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมปลอดภัยต่อ ผู้บริโภค สถำนกำรณ์ที่ 3 ข้อ ก. ถ้าสามารถหาเส้นขนของสุนัขได้แล้วน าส่วนรากของเส้นขนไปโคลนอาจไม่ประสบความส าเร็จ หรือถ้า ประสบความส าเร็จอาจท าให้ได้สุนัขที่มีรูปร่างลักษณะเหมือนเดิม แต่อุปนิสัยของสุนัขอาจไม่เหมือน ตัวเดิมที่นักเรียนรัก ข้อ ข. ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติโดยไม่โคลน ข้อนี้อาจเป็นวิธีการที่เหมาะสมและเป็นไปได้ เพราะสิ่งมีชีวิตมี เกิดและตายเป็นเรื่องของธรรมชาติ สถำนกำรณ์ที่ 4 ข้อ ก. เลือกสร้างเด็กหลอดแก้วที่มีลักษณะตามต้องการ การสร้างเด็กหลอดแก้วจะต้องน าเซลล์ไข่จากแม่และ อสุจิจากพ่อมาดัดแปรพันธุกรรมก่อน แล้วจึงน ามาปฏิสนธิเกิดเป็นเอ็มบริโอภายนอกร่างกายของแม่ ซึ่ง กว่าจะประสบความส าเร็จต้องใช้เอ็มบริโอเป็นจ านวนมาก และถ้าประสบความส าเร็จ ลูกที่เกิดมาจะต่าง


จากพ่อแม่ท าให้ลูกอาจถูกล้อเลียน หรือถ้าพ่อแม่คู่ไหนต้องการลูกที่มีลักษณะตามต้องการ ก็จะให้บริษัท สร้างเด็กหลอดแก้วขึ้นมาตามที่ตนเองต้องการ ข้อ ข. ไม่เลือกใส่ยีนเข้าไปในไซโกต เพราะต้องการให้ลูกมีลักษณะคล้ายคลึงกับพ่อแม่ ข้อนี้จะเป็นวิธีการที่ เป็นไปได้ เหมาะสมและไม่ผิดจริยธรรม เพราะลูกจะมีลักษณะคล้ายคลึงกับพ่อแม่ ท าให้ไม่มีปัญหา เฉลยใบกิจกรรมท้ำยบท จริยธรรมทำงด้ำนพันธุศำสตร์ของนักเรียนเป็นอย่ำงไร เฉลยค ำถำมท้ำยกิจกรรม 1. ในกำรตัดสินใจเลือกวิธีกำรใดในแต่ละสถำนกำรณ์ นักเรียนมีเหตุผลในกำรตัดสินใจเลือกวิธีกำรนั้น ๆ อย่ำงไร แนวค ำตอบ ขึ้นอยู่กับเหตุผลของนักเรียนแต่ละกลุ่ม เหตุผลที่เลือกอาจขึ้นอยู่กับความเป็นไปได้ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต สังคม และเศรษฐกิจ 2. จำกกิจกรรมนี้ สรุปได้ว่ำอย่ำงไร แนวค ำตอบ การตัดสินใจเลือกวิธีการใดในแต่ละสถานการณ์เกี่ยวกับจริยธรรมทางพันธุศาสตร์ต้องศึกษา ผลกระทบที่เกิดขึ้นและไม่ผิดจริยธรรม


Click to View FlipBook Version