The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รส.23-14-2 เนเกฟ รวมเล่ม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sasit Pinkaew, 2022-09-29 21:35:33

รส.23-14-2 เนเกฟ รวมเล่ม

รส.23-14-2 เนเกฟ รวมเล่ม

(ร่าง)
รส.๒๓ - ..........

ว่าด้วย
การฝึ ก ปลก.เนเกฟ ขนาด ๕.๕๖ มม.

ค่ายธนะรัชต์ อาํ เภอปราณบรุ ี จังหวัดประจวบครี ีขนั ธ์

คาํ นํา

คู่มือราชการสนามเล่มนี ประกอบดว้ ยขอ้ มูลทางเทคนิค วธิ ีการฝึ ก และแนวทางในการใช้
ปื นเลก็ กล เนเกฟ ในสถานภาพทีเป็นปื นเลก็ ใชท้ าํ การยิงแบบอตั โนมตั ิ หรือทีนิยมเรียกกนั วา่ เป็น
อาวธุ กลประจาํ หมู่ปื นเล็ก (SQUAD AUTOMATIC WEAPON-SAW) เนืองจากคู่มอื ราชการ
สนามเล่มนีไดก้ ลา่ วถึงปื นเลก็ กล เนเกฟ ในรูปแบบของอาวุธกล ซึงแตกต่างกบั ปื นกลเบา หรืออาวุธ
ยิงสนบั สนุนภายในหมวดปื นเลก็ ขอ้ มลู และรายละเอียดภายในเอกสารนีจะเป็นประโยชน์สาํ หรบั
พลยิงและผูบ้ งั คบั หน่วยทีศึกษาอยา่ งถ่องแท้ เพือนาํ ไปใชฝ้ ึ กฝนและปฏิบตั ิการรบ

คู่มือราชการสนามเล่นนี ไดผ้ า่ นกระบวนการ กลนั กรอง จากคณะทาํ งาน และผูท้ รงคุณวฒุ ิ
ในแผนกวชิ าทีเกียวขอ้ ง ซึงกรอบแนวความคิดหลกั นนั นาํ มาจาก รส.๒๓-๑๔ วา่ ดว้ ย ปื นเลก็ กล แบบ
เอม็ .๒๔๙ ขนาด ๕.๕๖ มม.(มินิมิ) พ.ศ. ๒๕๔๑ และการแปลเอกสาร คู่มือซ่อมบาํ รุง ปื นเลก็ กล
เนเกฟ ขนาด ๕.๕๖ มม. ระดบั หนว่ ยใชแ้ ละหน่วยสนบั สนุนโดยตรง Negev 5.56 mm Light

Machine Gun Maintenance Manual for Echelons A&B

ผทู้ ีนาํ คู่มือราชการสนามนีไปใชป้ ระโยชน์ ถา้ พบขอ้ ความใดทีตอ้ งการแกไ้ ขปรับปรุง หรือ
ตอ้ งการแสดงความคิดเห็นประการใด ขอใหท้ ่านส่งขอ้ มูลมายงั กองวิทยาการ ศนู ยก์ ารทหารราบ
ค่ายธนะรัชต์ อ.ปราณบุรี จว.ประจวบคีรีขนั ธ์ ๗๗๑๖๐

ศูนย์การทหารราบ

สารบาญ

บทที ๑ รายละเอยี ดและส่วนประกอบ หน้า

๑ – ๑ กล่าวทวั ไป
๑ – ๒ ชินส่วนประกอบ ๑

๑ – ๓ ศูนยป์ ื นและการปรับศูนย์

๑ – ๔ เครืองนิรภยั ๘

๑ – ๕ อปุ กรณพ์ ิเศษ ๙

๑ – ๖ เครืองป้อนกระสุน ๑๒
๑๕
๑ – ๗ กระสุน ๑๗
๑๗
๑ – ๘ ชุดเครืองช่วยฝึ ก
๒๓
บทที ๒ การปรนนิบัตบิ ํารุง ๒๘
๒๙
๒ – ๑ ขนั ตอนการตรวจอาวธุ ๓๒

๒ – ๒ การถอดปกติ ๓๗
๓๗
๒ – ๓ การตรวจสภาพ ๓๘
๒ – ๔ การทาํ ความสะอาด, การหล่อลืนและการปรนนิบตั ิบาํ รุง ๓๙

๒ – ๕ การประกอบปกติ ๓๙
๓๙
๒ – ๖ การตรวจสอบการทาํ งาน ๔๒

๒ – ๗ ขนั ตอนการปรนนิบตั ิบาํ รุง ๔๒

บทที ๓ ๒ – ๘ การปรนนิบตั ิบาํ รุงภายใตส้ ถานการณ์ นชค. ๔๕
ขันตอนและระบบการทํางาน
๔๘
๓ – ๑ การทาํ งาน ๔๘

๓ – ๒ การบรรจุ ๔๙

๓ – ๓ การเลิกบรรจุ ๕๐
๕๑
๓ – ๔ วงรอบการทาํ งาน

๓ – ๕ การใชข้ าทราย

บทที ๔ การแก้ไขเมือเกิดปัญหาและการทําลาย

๔ – ๑ การไม่ทาํ งานตามหนา้ ที

๔ – ๒ การติดขดั

๔ – ๓ การปฏิบตั ิฉบั พลนั เพอื แกไ้ ข
๔ – ๔ การแกไ้ ขโดยวิธีวเิ คราะหส์ าเหตุ

บทที ๕ ๔–๕ ขนั ตอนและวิธีการทาํ ลาย หน้า
การฝึ กพลแม่นปื น
๕–๑ ๕๑
๕–๒ วตั ถุประสงค์ ๕๓
๕–๓ ขนั ตอนการฝึ ก
๕–๔ ๕๓
๕–๕ แผนการฝึ กระยะยาว ๕๔
๕–๖ การฝึกเพือทาํ การรบ
๕–๗ หลกั พืนฐานของการยิงปื น ๕๔
๕–๘ หลกั การและท่ายิง ๕๗
๕–๙ ๕๘
๕ – ๑๐ หลกั การยงิ ในเวลากลางคืน ๖๐
๕ – ๑๑
๕ – ๑๒ หลกั การยงิ ในสถานการณ์เมือมีการใชอ้ าวธุ นิวเคลียร์,ชีวะ,เคมี ๖๔
๕ – ๑๓ หลกั การยงิ เป้าเคลือนที
๕ – ๑๔ หลกั การยงิ กราดทางขา้ งและการยิงกราดทางลกึ ๖๔
๕ – ๑๕ การวางพืนการยงิ แบบเลง็ ตรง ๖๗
๕ – ๑๖ การใชก้ ารยิง ๖๙
๕ – ๑๗ ๗๐
๕ – ๑๘ การปรับการยงิ ๗๐
๕ – ๑๙ ผลของกระแสลม
๕ – ๒๐ คาํ สงั ยงิ ๗๐
๕ – ๒๑ ๗๑
๕ – ๒๒ การฝึ กยงิ แหง้ ๗๔
๕ – ๒๓ ภาพร่างสนามฝึ กยิงปื นกลแบบอเนกประสงค์
๕ – ๒๔ ๗๕
๕ – ๒๕ เป้าแบบพนื ฐานสาํ หรับปื นกลและปื นเล็กกล ๗๖
๕ – ๒๖ การวเิ คราะห์เป้าหมาย
๕ – ๒๗ ขนั ตอนการบนั ทึกคะแนนในสนามระยะ ๒๕ เมตร ๗๙
๕ – ๒๘ เครืองมอื ทีใชใ้ นการปรับศูนย์ ๘๒
๘๕
การปรับแต่งศูนยส์ าํ หรับพร้อมใชง้ าน ๘๖

การจดั ปรับแนวเสน้ เลง็ ๘๘

วถิ ีกระสุน ปลก.เนเกฟ ๙๐
กฎทางสูงและทางทิศ
๙๗
การคาํ นวณ ๑๐๒
การคาํ นวณหาจาํ นวนคลิก
การปรับศูนยใ์ นสนามระยะไกล ๑๐๓
๑๐๕
๑๑๘

บทที ๖ ๕ – ๒๙ การยิงในระยะ ๒๕ เมตร หน้า
บทที ๗ ๕ – ๓๐ ๑๑๙
๕ – ๓๑ การปฏิบตั ิการยิง ปลก. ในสนามระยะ ๒๕ เมตร
๕ – ๓๒ การยงิ ในระยะ ๒๕ เมตร เพือจดั ชนั คุณวฒุ ิ ๑๒๐
๕ – ๓๓ การยงิ ในขนั สูงต่อไป ๑๒๕
๕ – ๓๔ ๑๒๖
๕ – ๓๕ วธิ ีการปฏิบตั ิในการฝึ กยงิ ขนั สูง
การยงิ ขนั สูง เมือทศั นวสิ ยั จาํ กดั ๑๒๗
๖–๑ เกณฑม์ าตรฐานในการจดั ชนั คุณวุฒิ ๑๓๐
๖–๒ เทคนคิ การยงิ ในการรบ ๑๓๒
๖–๓ ๑๓๔
๖–๔ ลกั ษณะของการยิง
๖–๕ ประเภทของการยิง ๑๓๔
๖–๖ ๑๓๖
๖–๗ ประเภทของเป้าหมาย
๖–๘ การกระจายการยิง, การระดมยิง และอตั ราการยงิ ๑๔๒
๖–๙ การปฏิบตั ิการยงิ ต่อเป้าหมาย ๑๔๓
๖ – ๑๐ การยิงตอ่ เป้าหมายในสภาพทศั นวิสยั จาํ กดั ๑๔๔
๖ – ๑๑ คาํ จาํ กดั ความ ๑๕๑
๖ – ๑๒ แผน่ จดระยะ
๖ – ๑๓ ๑๕๒
๖ – ๑๔ วิธีการควบคุมการยงิ ๑๕๔
๖ – ๑๕ หวั ขอ้ คาํ สงั ยิง
๖ – ๑๖ การกะระยะ ๑๕๙
๖ – ๑๗ การวดั ระยะทางขา้ ง ๑๖๐
การฝึกยงิ ต่อเป้าหมายแบบอตั โนมตั ิในสนามทราบระยะ ๑๗๐
๗–๑ ท่ายิงทาํ นองรบ ๑๗๔
๗–๒ การเคลือนที, ความเร็ว และการรกั ษาแนว ๑๗๔
๗–๓
๗–๔ การบรรจุกระสุนใหม่ ๑๗๖
๗–๕ ๑๘๐
การฝึ กท่ายงิ ทาํ นองรบ
หลกั สูตรการฝึ กครู ๑๘๐
ความมุ่งหมาย
กิจเฉพาะทีเกียวกบั งานการฝึ ก ๑๘๐
การประเมินผลครูฝึ ก ๑๘๒
ครูฝึ ก
๑๘๒
ผลสืบเนืองจากการฝึ ก ๑๘๒
๑๘๒
๑๘๓

๑๘๔

ผนวก ก ๗–๖ ขนั ตอนการฝึ ก หน้า
ผนวก ข ๗–๗ ๑๘๔
ผนวก ค ๗–๘ ขนั ที ๑ การฝึ กเตรียมการเบืองตน้ ๑๘๕
๗–๙ ขนั ที ๒ การฝึ กพลยิงในขนั พืนฐาน ๑๘๘
๗ – ๑๐ ขนั ที ๓ การฝึ กพลยงิ ในขนั สูง ๑๘๙
๗ – ๑๑ ๑๙๐
พืนฐานการฝึ ก ๑๙๑
ก–๑ ขอบเขตของการตรวจสอบ ๑๙๓
ก–๒ หลกั สูตรการฝึ กภายในหน่วย ๑๙๓
ก–๓ ช่วงที ๑ กล่าวนาํ (๓ ชวั โมง) ๑๙๔
ก–๔ ช่วงที ๒ การฝึกเตรียมการเบืองตน้ และการยิงแหง้ (๓ ชวั โมง) ๑๙๔
ช่วงที ๓ การทดสอบการปฏิบตั ิภาคเบืองตน้ (๑ ชวั โมง) ๑๙๔
ก–๕ ช่วงที ๔ การฝึ กยงิ ปรับศูนยใ์ นระยะ ๒๕ เมตร
ก–๖ และการจดั ชนั คุณวุฒิ (๔ ชวั โมง) ๑๙๕
ช่วงที ๕ การฝึ กยงิ ในระยะจริง (๔ ชวั โมง) ๑๙๕
ก–๗ ช่วงที ๖ การยงิ ในระยะจริงเพอื จดั ชนั คุณวฒุ ิ (รวมทงั การยิงใน
๑๙๕
ก–๘ สถานการณ์ นชค.) (๔ ชวั โมง)
ก–๙ ช่วงที ๗ การยิงปรับศูนยใ์ นเวลากลางคืนและการสอนหลกั การ ๑๙๕
๑๙๖
ข–๑ และการฝึ กยงิ ในเวลากลางคืน (๔ ชวั โมง) ๑๙๗
ข–๒ สรุปรวมเวลาการฝึ ก ๑๙๗
ข–๓ สรุปจาํ นวนกระสุนทีใช้ ๑๙๗
ข–๔ การทดสอบภาคปฏิบัติ ๑๙๗
ข–๕ การทดสอบโดยไม่ใชก้ ระสุน ๑๙๘
การปฏิบตั ิการทดสอบ ๑๙๙
ข–๖
ข–๗ สถานีที ๑ : การถอดและการประกอบแบบปกติ ๒๐๐
๒๐๑
ค–๑ สถานีที ๒ : การบรรจุกระสุนและการเลิกบรรจุ ๒๐๓
ค–๒ ๒๐๓
สถานีที ๓ : การแกไ้ ขเหตตุ ิดขดั โดยฉบั พลนั และการแกไ้ ข ๒๐๕

โดยวเิ คราะห์สาเหตุ

สถานีที ๔ : การปรับปื นในสนามระยะไกล
สถานีที ๕ : การยิงต่อเป้าหมายเป็ นแนวและเป้าหมายทางลึก
ปื นเลก็ กล เนเกฟ ในการป้องกนั ภัยทางอากาศ
มาตรการเชิงรับและมาตรการเชิงรุก
การใชก้ ระสุนส่องวถิ ี

ค – ๓ ทีตงั ยงิ และท่ายงิ หน้า
๒๐๕
ผนวก ง การรักษาความปลอดภยั ในสนามยงิ ปื น ๒๐๖
๒๐๖
ง – ๑ มาตรการรักษาความปลอดภยั ๒๐๖
๒๐๙
ง – ๒ ระเบียบปฏิบตั ิในสนามยงิ ปื น
ผนวก จ การใช้ทางยทุ ธวธิ ี ๒๐๙
๒๑๐
จ – ๑ การรบดว้ ยวิธีรุก

จ – ๒ การรบดว้ ยวธิ ีรับ

-๑-

บทที ๑

รายละเอยี ดและส่วนประกอบ

ขอ้ ความในบทนีจะกลา่ วถึงรายละเอียดของ ปลก.เนเกฟ, ชนิดของกระสุนทีใช้ รวมทงั ขอ้ มลู
ทวั ไปเกียวกบั คณุ ลกั ษณะ รายการนาํ หนกั ขีปนวิธี และอตั ราการยิง
๑-๑ กล่าวทัวไป

ปลก.เนเกฟ เป็นอาวธุ กลทาํ การยิงไดท้ งั แบบกึงอตั โนมตั ิและอตั โนมตั ิ ซึงมีขอ้ แตกตา่ งจาก
อาวธุ กลชนิดอืน จดั เป็นปื นทีมีการพฒั นาโดยเนน้ ในเรืองของขนาด การใชง้ านทีรวดเร็ว และมีอาํ นาจ
การยงิ ทีรวดเร็ว มีความแม่นยาํ สูง ตามคุณลกั ษณะของอาวธุ สมยั ใหม่ คือมขี นาดเลก็ ลง อีกทงั มีความ
เป็นสากลกลา่ วคือ สามารถใชก้ ระสุนขนาดเดียวกบั กลุ่มประเทศนาโต้ เป็นปื นทีทาํ งานดว้ ยแกส๊
ระบายความร้อนดว้ ยอากาศ โดยมีกรวยจดั แกส๊ เป็ นเครืองมือช่วยในการจดั ปรับแก๊ส อตั ราความเร็ว

ในการยิงของปื นใหเ้ ป็นไปตามสภาพแวดลอ้ ม ป้อนกระสุนดว้ ยสายกระสุนหรือซองกระสุน ระบาย
ความรอ้ นดว้ ยอากาศ ทาํ การยงิ จากตาํ แหน่งหนา้ ลูกเลือนเปิ ดดว้ ยการประทบั บ่า ประทบั สะโพกหรือ
ทาํ การยิงใตแ้ ขน มีขาทรายแบบพบั ไดต้ ิดอยกู่ บั ลาํ กลอ้ ง ส่ายยงิ ไดแ้ ละสามารถยดึ ติดปื นกลบนรถ
เกราะทหารราบ ปลก.เนเกฟ มีการออกแบบโครงปื นใหม้ ีความเรียบรอ้ ยและน่าเชือถือสูง จึงไม่
จาํ เป็นตอ้ งทาํ การจดั ปรับแกใ้ ด ๆ ในระดบั ผใู้ ช้ รูปที ๑ – ๑ (ก และ ข )

ดา้ มหิวปื น -
ชุดศูนยห์ นา้
ชุดศูนยห์ ลงั

ชุดพานทา้ ย

ชุดขาทราย

ชุดรองลาํ กลอ้ ง ชุดแผน่ เหล็กรองกระสุน

รูปที ๑ – ๑ (ก) ปลก. เนเกฟ ด้านซ้าย

-๒-

ชุดฝาปิ ดห้องลูกเลือน ชุดครอบลาํ กลอ้ ง
และเครืองป้อนกระสุน

ชุดเครืองลนั ไก ชุดลาํ กลอ้ ง
ชุดคนั รังลกู เลือน แท่นติดตงั อปุ กรณ์พเิ ศษ
ชุดโครงปื น

รรูปที ๑ – ๑ ( ข ) ปลก.เนเกฟ ด้านขวา

๑-๒ ชินส่วนประกอบ

ชินส่วนประกอบหลกั , ชือของชินส่วน ปลก.เนเกฟ และความมุ่งหมายในการใชไ้ ดแ้ สดงไว้
ในตาราง ๑- ๑ และรูปที ๑ – ๒ ( ก และ ข ), ขอ้ มลู ทวั ไปจะกลา่ วไวใ้ นตาราง ๑-๒ รายละเอียดของ
ศูนยป์ ื นและป่ มุ หา้ มไก จะอยใู่ นหวั ขอ้ ๑-๓ และรูปที ๑ – ๓ และรูปที ๑- ๔ ตามลาํ ดบั

ตาราง ๑-๑ ชินส่วนประกอบหลกั และความม่งุ หมายในการใช้

ชินส่ วนประกอบหลกั ความมุ่งหมายในการใช้

ชุดลาํ กลอ้ ง และศนู ยห์ นา้ (๑) กาํ หนดทิศทางกระสุนวถิ ีและรองรับชุดกรวยจดั
แก๊ส ศูนยห์ นา้ ปรับทางทิศและทางระยะ

ชุดรองลาํ กลอ้ ง (๒) ป้องกนั ความร้อนจากลาํ กลอ้ งปื นไม่ใหถ้ กู มือของ

พลยิง

ชุดศูนยห์ ลงั (๓) ใชป้ รบั ทางระยะ ๓๐๐ – ๑,๐๐๐ เมตร

ชุดฝาปิ ดหอ้ งลูกเลือนและเครือง ป้อนสายกระสุน,แยกกระสุน,นาํ กระสุนเขา้ รัง

ป้อนกระสุน(๔) เพลิง

ชุดแผน่ เหลก็ รองกระสุน(๕) -๓-
ชุดคนั รังลกู เลือน(๖)
ชุดพานทา้ ย(๗) จดั กระสุนในสายกระสุนเขา้ รังเพลิงเพือทาํ การยงิ
ชุดลูกเลือน(๘) ดึงส่วนเคลือนทีมาขา้ งหลงั เคลือนทีเขา้ ไปในร่อง
นาํ ทางดา้ นขวาของโครงปื น
ชุดโครงนาํ ลูกเลือน(๙) ใชย้ ึดทา้ ยโครงปื นและประทบั บา่ ยิงกางออกและ
ชุดแหนบส่งลูกเลือน(๑๐) พบั เก็บได้
ชุดโครงปื น(๑๑)
ทาํ หนา้ ทีป้อนกระสุน,นาํ กระสุนเขา้ รังเพลิง,เจาะ
ชุดเครืองลนั ไกและดา้ มปื น(๑๒) จานทา้ ย รัง และคดั ปลอกกระสุนโดยอาศยั แกส๊ ที
ขาทราย (๑๓) เกิดจากการเผาไหมข้ องดินส่งกระสุน

เป็นโครงบรรจุเขม็ แทงชนวนและชุดลูกเลือน

ดนั ชุดโครงนาํ ลูกเลือนและลูกเลือนถอยหลงั และ
กลบั ไปขา้ งหนา้
รองรับส่วนประกอบหลกั ทงั หมดของปื นและ
รองรับการปฏิบตั ิงานของชินส่วนรวมทงั ควบคุม
การทาํ งานของปื น

ควบคุมการยิงของปื น

รองรับตวั ปื นในท่านอนยงิ

-๔-





๒ ๕
๔ ๑๑

๑๐ ๓



๘๘

รูปที ๑ – ๒ (ก)ชินส่วนประกอบหลกั ของ ปลก.เนเกฟ

-๕-

๑๒ ๖ ๑๓

รูปที ๑-๒ (ข) ชินส่วนประกอบหลกั ของ ปลก.เนเกฟ

กระสุน............................ ตาราง ๑ – ๒ ข้อมลู ทัวไป
แบบธรรมดาขนาด ๕.๕๖ X ๔๕ มม.นาโต้
(เอสเอส ๑๐๙/เอม็ .๘๕๕ และแบบส่องวถิ ี
(ผสมกนั ) อยใู่ นกลอ่ งกระสุนบรรจุ ๑๕๐ นดั และ

๒๐๐นดั ซองกระสุนบรรจุ ๒๐ นดั และ ๓๐ นดั
กระสุนแบบอืน ๆ ไดแ้ ก่ กระสุนส่องวิถี,

กระสุนซอ้ มรบ และกระสุนหดั บรรจุ
การเผาไหมข้ องกระสุนส่องวิถีไกล...........
คณุ ลกั ษณะของปื น ๙๐๐ เมตร(+)

กวา้ งปากลาํ กลอ้ ง ขนาด............................. ๕.๕๖ มม.

ความยาวของตวั ปื นเมือกางพานทา้ ย.......... ๑,๐๒๐ มม.

ความยาวของตวั ปื นเมือพบั พานทา้ ย........... ๗๘๐ มม.

ความยาวลาํ กลอ้ ง(รวมปลอกลดแสง)......... ๕๐๐ มม.
ความยาวลาํ กลอ้ ง(ไม่รวมปลอกลดแสง).....
๔๖๐ มม.

ความสูงของปื น(พบั ขาทราย)...................... ๒๒๐ มม.
เกลียวภายในลาํ กลอ้ ง จาํ นวน ๖ เกลียวเวียนขวา ความยาว ๑รอบเทา่ กบั ๗ นิว

-๖-

รายการนําหนักและขีปนวธิ ี

ปื นไมม่ ีกระสุน......................................... ๗.๔๕ กก.
ปื นพร้อมกล่องกระสุนรวมกระสุน ๑๕๐ นดั
ซองกระสุนเปล่าขนาด ๓๐ นดั .................. ๑๐.๓๐ กก.

๗ กรัม

ระยะยิงไกลสุด.......................................... ๓,๖๐๐ เมตร

ระยะยิงหวงั ผล........................................... ๓๐๐- ๑,๐๐๐ เมตร

เป้าหมายเป็ นจุด......................................... ๖๐๐ เมตร

เป้าหมายเป็ นพืนที..................................... ๘๐๐ เมตร
การยิงข่ม....................................................
ลกั ษณะการทาํ งาน ๑,๐๐๐ เมตร

ความเร็วตน้ ................................................ ๙๑๕ เมตร/วนิ าที

การยิงต่อเนือง............................................ ๘๕ นดั /นาที

การยิงเร็ว
กรวยจดั แก๊สที ๑ ซองกระสุน.......................... ๘๕๐ – ๑,๐๕๐ นดั /นาที
กรวยจดั แก๊สที ๒ สายกระสุน.......................... ๘๕๐ – ๑,๐๕๐ นดั /นาที
กรวยจดั แก๊สที ๓ สายกระสุน.......................... ๙๕๐ – ๑,๑๕๐ นดั /นาที

อตั รากระสุนมูลฐาน............................................... ๖๐๐ นดั นาํ พาโดยพลยงิ

บรรจุในกล่องกระสุน

๑-๓ ศูนย์ปื นและการปรับศูนย์ ปลก.เนเกฟ มีศูนยเ์ ลง็ ประกอบดว้ ย
ก. ศูนย์หน้า เป็นศูนยแ์ บบแท่ง ติดอยบู่ นชุดลาํ กลอ้ งปื นกึงถาวร ปรับไดท้ งั ทางทิศและทาง

ระยะ ส่วนต่าง ๆ ประกอบดว้ ย แท่นศูนยห์ นา้ แท่งศูนยห์ นา้ (รวมทงั ศูนยเ์ ลง็ กลางคืน) กระเดืองและ
ควงเกลียวจดั ปรับทางทิศ วธิ ีการปรับแกค้ ือ

๑) ปรับแกโ้ ดยใชก้ ารเลือนศูนยห์ นา้ ไปในทิศทางทีผิดพลาด
๒) ยกศูนยห์ นา้ ขึน(UP) หรือเลือนไปทางขวา (R) ตามทิศทางลูกศร ๒ คลิก
ในทางระยะ(ทางสูง)หรือทางทิศ จะทาํ ใหต้ าํ บลกระสุนตกเลือนไป ๑.๔ ซม.ทีระยะ ๒๕ เมตร
ข. ศูนย์หลงั เป็นศูนยร์ ู มีควงปรับระยะจาก ๓๐๐ – ๑,๐๐๐ เมตร (ปรับไดช้ ่วงละ ๑๐๐ เมตร)
อยดู่ า้ นบนของโครงปื นส่วนหลงั ติดตงั บนแท่นศูนยห์ ลงั ประกอบดว้ ย ชุดศูนยห์ ลงั ลอ้ หมนุ ปรับมุม

ทางสูง (ทางระยะ)
ค. ศูนย์กลางคืน มลี กั ษณะเป็นศูนยเ์ รืองแสง จะปรากฏทีศูนยห์ นา้ และทีลอ้ หมุนศูนยห์ ลงั
การจดั ปรับแนวเสน้ เลง็ ปื นทุกกระบอกไดร้ ับการจดั ปรบั แนวเส้นเลง็ มาแลว้ จากโรงงาน

รวมทงั ลาํ กลอ้ งอะไหล่แต่ละอนั ไดร้ ับการตอกหมายเลขเดียวกบั หมายเลขปื น

-๗-
ศูนยห์ นา้

ศูนยห์ ลงั
หรือศูนยร์ ู

ควงเกลียวยดึ ชุด
ศูนยห์ ลงั กบั แท่น
ติดตงั อปุ กรณ์พิเศษ

ชุดศูนยห์ ลงั ควงเกลียวจดั ปรับทาง
ระยะ(ทางสูง)หรือ ลอ้

รูปที ๑ – ๓ ศูนย์ปื น ปลก. เนเกฟ

-๘-

๑-๔ เครืองนริ ภยั ไดแ้ ก่คนั บงั คบั การยงิ อยู่ทางดา้ นซา้ ยเรือนเครืองลนั ไก มีส่วนสาํ คญั คือ
ก. ปรับได้ ๓ ตาํ แหน่งคือ Sหา้ มไก,R กึงอตั โนมตั ิ,A อตั โนมตั ิ
ข. จดั คนั บงั คบั การยิงใหอ้ ยใู่ นตาํ แหน่ง “หา้ มไก”ไดไ้ ม่วา่ จะขึนปื นจะขึนนกหรือไม่
ค. ไม่สามารถขึนนกไดเ้ มือปื นอยตู่ าํ แหน่งหา้ มไก
ง. มีกลไกป้องกนั ชุดคนั รังลูกเลือนเคลือนกลบั และทาํ ใหป้ ื นลนั โดยไมต่ งั ใจในกรณี

การขึนนกดว้ ยมือยงั ไม่สมบูรณ์
จ.ไมส่ ามารถถอดลาํ กลอ้ งไดถ้ า้ ไม่เปิ ดฝาปิ ดหอ้ งลูกเลือน คนั รังลูกเลือนซึงอยทู่ างดา้ น

ขวาของปื นนนั มีไวส้ าํ หรับดึงลูกเลือนไปทางดา้ นหลงั และก่อนทาํ การยิงจะตอ้ งดนั ไปขา้ งหนา้ ให้สุด

เสมอ

S

AR

รูปที ๑ – ๔ ระบบการห้ามไกของ ปลก.เนเกฟ

- คนั บงั คบั การยิงอยู่ที S ในตาํ แหน่งหา้ มไกปื น

- R ตาํ แหน่งการยิงครังละนดั
- A ตาํ แหน่งการยิงอตั โนมตั ิ

-๙-
๑-๕ อุปกรณ์พเิ ศษ ช่วยในการเลง็ สามารถติดตงั บนปื น ประกอบดว้ ย

ก. กลอ้ งเลง็ เทเลสโคป หรือกลอ้ งแสงดาว (SLS) ติดตงั บนแทน่ ติดตงั อุปกรณ์พิเศษ
ข. เครืองชีเป้าดว้ ยแสงเลเซอร์ M 1 ติดตงั บนรางอเนกประสงคท์ ียดึ อยู่ทีดา้ นขวาของ
ลาํ กลอ้ งปื น

รูปที ๑–๕ การติดตังกล้อง SLS ของ LITTON
๑-๖ เครืองป้อนกระสุน ไดแ้ ก่

ก. สายกระสุน ประกอบดว้ ยกระสุนและขอ้ ต่อสายกระสุน(M 27) เป็นแบบแยกออกจากกนั
ไดโ้ ดยมกี ระสุนเป็นตวั เชือมระหว่างขอ้ ต่อสายกระสุนแต่ละอนั (รูปที ๑ – ๖ ก และ ข)

ข. กล่องบรรจุสายกระสุนแบบจู่โจม(DRUM) แบบออ่ นจุกระสุนได้ ๑๕๐ นดั และ ๒๐๐ นดั
ใชย้ ึดติดอยกู่ บั ปืนเช่นเดียวกบั ซองกระสุน (รูปที ๑ – ๗ ก และ ข)

ค. ซองกระสุน มีลกั ษณะเช่นเดียวกบั ของ ปลย.เอม็ ๑๖ และ ปลย.ทาโวร์ ขนาด ๕.๕๖ มม.
สามารถใชร้ ่วมกนั ได้ (รูปที ๑ – ๘ )

- ๑๐ -

สายกระสุน
วางพาดบน
ชุดเหลก็ รอง
กระสุน

สายกระสุน ๑ สาย

รูปที ๑ – ๖(ก) วางพาดสายกระสุนบนชุดแผ่นเหลก็ รองกระสุน

กดปิ ดชุดฝาปิ ดหอ้ งลูก
ลือนและเครืองป้อน

รูปที ๑ – ๖(ข) การป้อนกระสุนด้วยสายกระสุน

สาํ หรับใส่ทีช่อง - ๑๑ -
ใส่ซองกระสุน สายกระสุน

กล่องบรรจสุ ายกระสุนแบบจู่โจม
รูปที ๑-๗(ก) กล่องบรรจุสายกระสุนแบบจู่โจม(DRUM)

รูปที ๑ – ๗ (ข)
การป้อนกระสุนด้วยกล่องบรรจุสายกระสุนแบบจู่โจม(DRUM)

- ๑๒ -

ช่องใส่ซองกระสุน ซองกระสุน

รูปที ๑ – ๘ การป้อนกระสุนด้วยซองกระสุน

๑-๗ กระสุน (รูปที ๑-๙)
ปลก.เนเกฟ สามารถใชก้ บั กระสุนมาตรฐานทางทหารขนาด ๕.๕๖ มม. ไดห้ ลายแบบ ทหาร

จะตอ้ งระมดั ระวงั ใชแ้ ต่กระสุนทีผลติ ขึนตามมาตรฐาน และคุณลกั ษณะของบริษทั ผูผ้ ลติ ประเทศ
อิสลาเอล หรือของกองทพั สหรัฐและนาโต้ เทา่ นนั

รูปที ๑ – ๙ กระสุนสําหรับ ปลก.เนเกฟ

- ๑๓ -

ก. ชนดิ และคณุ ลกั ษณะ ชนิดต่าง ๆ ของกระสุนในรูปที ๑ – ๙ และคุณลกั ษณะเฉพาะมีดงั นี
๑) กระสุน ๕.๕๖ มม. แบบธรรมดา เอ็ม.๘๕๕ (เอ.๐๕๙) กระสุนแบบ เอม็ .๘๕๕ มี

ปลายหวั มนแหลม เคลือบโลหะภายในมีแกนโลหะผสมสาํ หรับเจาะเป้าหมายทีเป็นเหลก็ จานทา้ ย,
ชนวนและปลอกกระสุนกนั นาํ เขา้ ได้ กระสุนแต่ละนดั จะถกู นาํ มาต่อกนั โดยสายกระสุนซึงทาํ ดว้ ย
โลหะ สามารถถอดแยกออกไดเ้ ป็นขอ้ ต่อ สายกระสุนจะถกู บรรจุอยใู่ นกล่องกระสุน DRUM
รูปที ๑ – ๗(ก) ในกรณีฉุกเฉินเร่งด่วน ทหารสามารถใชก้ ระสุนแบบ เอม็ . ๘๕๕ นีบรรจุในซอง
กระสุนแบบ ๒๐ นดั หรือ ๓๐ นดั ของ ปลย.เอม็ . ๑๖ แลว้ ใชซ้ องกระสุนนนั บรรจุกระสุนเขา้ กบั

ปลก.เนเกฟ เพือทาํ การยิงได้ กระสุนแบบนีมขี อ้ สงั เกตคือ ทาสีเขียวไวท้ ีปลายหวั กระสุน, นาํ หนกั
ของหวั กระสุนแต่ละหวั เท่ากบั ๖๒ เกรน มีความยาว ๒.๓ ซม. เป็นแบบมาตรฐาน NATO สามารถใช้
ยิงสังหารหรือทาํ อนั ตรายแก่ทหารขา้ ศึก และเป้าหมายทีบอบบางได้

กระสุนนดั แรก เหลก็ กนั กระสุน

เหลก็ ปลายขอ้
ต่อสายกระสุน

รูปที ๑ – ๑๐ กระสุนแบบ เอ็ม. ๘๕๕ ในสายกระสุนโลหะ

๒) กระสุน ๕.๕๖ มม. ส่องวถิ ี แบบ เอม็ .๘๕๖( เอ.๐๖๔) กระสุนแบบนีมีนาํ
หนกั ของหวั กระสุน ๖๓.๗ เกรน ไม่มแี กนโลหะภายในสาํ หรับเจาะเหลก็ มีทีสงั เกตคือ ปลายหวั
กระสุนทาสีส้ม กระสุนส่องวิถีนีใชส้ าํ หรับเพือชีทีหมาย, ทาํ การปรับการยิงภายหลงั จากตรวจการณ์
เห็นลูกกระสุนกระทบเป้าหมายแลว้ ซึงเมือลูกกระสุนกระทบทีเป้าหมายอาจทาํ ใหเ้ กิดผลในการเผา
ไหม้ ณ เป้าหมายได้ และสามารถใชส้ าํ หรับการส่งสัญญาณ กระสุนแบบนีจะปนอยกู่ บั กระสุน
ธรรมดาในสายกระสุน ในอตั ราส่วนกระสุนธรรมดา ๔ นดั ต่อกระสุนส่องวถิ ี ๑ นดั

- ๑๔ -
ก) กระสุน ขนาด ๕.๕๖ มม. หดั บรรจุแบบ เอม็ . ๑๙๙ (เอ.๐๖๑) กระสุนแบบนีมี
ขอ้ สังเกตก็คือ จะมีร่อง ๖ ร่อง อยทู่ างดา้ นขา้ งของปลอกกระสุน โดยอยหู่ ่างจากปลายปลอกกระสุน
ประมาณครึงนิว ภายในปลอกกระสุนไม่มีดินปื นหรือดินเริม ตรงจานทา้ ยปลอกกระสุนจะเปิ ดไวเ้ พือ
ป้องกนั มิให้เข็มแทงชนวนกระทบและเกิดความเสียหาย กระสุนหดั บรรจุนีจะถูกใชใ้ นระหวา่ ง
การฝึ กอาวุธศึกษา, การฝึ กยิงแหง้ และการฝึ กตรวจสภาพก่อนการใชง้ าน
หมายเหตุ : กระสุนขนาด ๕.๕๖ มม. NATO มีทีสงั เกตทีรูปร่าง, สีทีทาปลายหวั กระสุน, รอย
อกั ษรและตวั เลขทีประทบั ตรงทา้ ยปลอกกระสุน บ่งบอกถึงสถานทีและปี ทีผลิตออกจากโรงงาน และ
เครืองหมายบนหีบใส่กล่องกระสุน ทหารอาจใชก้ ระสุนแบบ เอม็ . ๑๙๓ และ เอม็ . ๑๙๖ ทาํ การยงิ จาก
ปลก.เนเกฟ ได้ แต่ความแมน่ ยาํ จะลดลง ดงั นนั จึงสมควรใชใ้ นกรณีฉุกเฉินหรือเฉพาะในกรณีทีไมม่ ี
กระสุนแบบ เอม็ . ๘๕๕ และ เอม็ .๘๕๖ เทา่ นนั
ข) กระสุน ขนาด ๕.๕๖ มม.ซอ้ มรบ แบบ เอม็ .๒๐๐ (ขอ้ ต่อแบบ เอม็ .๒ ,เอ.๐๗๕)
กระสุนแบบนีไม่มีหัวกระสุน ปลายปลอกกระสุนดา้ นบนจะปิ ด โดยทาํ เป็นหวั จีบ ๗ จีบ และทาสีม่วง
กระสุนตน้ แบบจะทาสีขาวทีปลาย การใชก้ ระสุนทีปลายทาสีขาวจะทาํ ใหเ้ กิดสิงสกปรกสะสมอยู่
ภายในปื น ซึงจะเป็ นสาเหตใุ หเ้ กิดการติดขดั ต่อไป ดงั นนั จึงควรพิจารณาใชเ้ ฉพาะกระสุนซอ้ มรบ
ปลายสีม่วงเท่านนั การใชก้ ระสุนซ้อมรบนีเพือใหส้ ถานการณ์ในการฝึ กสมจริง และเมือใชง้ านจะตอ้ ง
ประกอบเครืองมือแบบ เอม็ .๑๕ เอ ๒ สาํ หรบั กระสุนซอ้ มรบเขา้ กบั ตวั ปื น

อนั ตราย
หา้ มใชก้ ระสุนซอ้ มรบนียงิ ไปทีบุคคลในระยะ ๒๐ ฟตุ ลงมา เพราะเศษวสั ดุจากตวั
กระสุนหรือชินส่วนทีเผาไหมไ้ ม่หมด จะทาํ อนั ตรายใหเ้ กิดการบาดเจบ็ ได้

๓) การเกบ็ ในคลงั กระสุนจะถูกเก็บในคลงั ทีปกปิ ดมิดชิด ถา้ อยใู่ นทีเปิ ดจะตอ้ งวางกอง
กระสุนใหอ้ ยเู่ หนือพืนดิน ๖ นิวเป็ นอยา่ งนอ้ ย และคลุมไวด้ ว้ ยผา้ ใบขนาดหนา ๒ ชนั แต่จะตอ้ งใหม้ ี
การระบายอากาศได้ รอบบริเวณจะตอ้ งมีการขดุ ร่องระบายนาํ เพือป้องกนั มิใหน้ าํ เขา้ ไปขงั อยใู่ ต้
กองกระสุน

๔) การระวังรักษา,การนําพาและการถนอมรักษา ไม่ควรนาํ กระสุนออกจากหีบหรือ
กล่องทีปิ ดมิดชิด จนกวา่ จะตอ้ งการใชง้ าน กระสุนทีถูกนาํ ออกมาถูกความชืนในอากาศนาน ๆ อาจ
เป็ นสนิมได้

ก) จะตอ้ งป้องกนั กระสุนจากโคลน,สิงสกปรกและความชืน หากกระสุนเปี ยก
หรือสกปรก ทหารจะตอ้ งเช็ดและทาํ ความสะอาดก่อนใชง้ าน กระสุนทีมีสนิมจบั บาง ๆ จะตอ้ งถูกทาํ
ความสะอาดในทนั ทีทีตรวจพบ สาํ หรับกระสุนทีมีสนิมจบั หนา, ผดิ รูปร่างหรือหวั กระสุนหลวม
คลอน ไม่ควรนาํ มาใชง้ าน

- ๑๕ -
ข) กระสุนจะตอ้ งถูกป้องกนั จากการถกู แสงแดดส่องโดยตรง ความรอ้ นทีเกิด
สะสมเป็นเวลานาน ๆ อาจก่อใหเ้ กิดการทาํ งานก่อนเวลาของดินเริมทีจานทา้ ย
ค) ไมค่ วรใชน้ าํ มนั หรือสารหล่อลืนทาบนตวั กระสุน เพราะนาํ มนั จะเป็นตวั สะสมฝ่นุ
และเศษสิงสกปรก ซึงอาจทาํ ความเสียหายต่อชินส่วนของปื น
๕) การบรรจุหีบห่อ กระสุนจะถูกบรรจุอยใู่ นกล่องอโลหะ ๒ กล่อง แต่ละกล่องจะ
บรรจุ ๒๐๐ นดั และมีนาํ หนกั ๖.๙๒ ปอนด์ ส่วนกระสุนหดั บรรจุ แบบ เอม็ .๑๙๙ จะบรรจกุ ล่อง ๆ ละ

๒๐ นดั
๑-๘ ชุดเครืองช่วยฝึ ก

ก. ชุดเครืองช่วยฝึ กนี ทาํ ใหป้ ื นสามารถยงิ กระสุนซอ้ มรบ(สัน) แบบสายได้
ข. ชุดเครืองช่วยฝึ กประกอบดว้ ยองคป์ ระกอบ ๒ ส่วน

๑) เครืองทวแี รงถอย (BFA) รูปที ๑-๑๑ ใชป้ ระกอบเขา้ กบั ปลอกลดแสง ประกอบดว้ ย
๒ ส่วน คือ ส่วนตวั เครืองและส่วนตวั ลอ๊ ก ประกอบตวั เครืองทวีแรงถอยเขา้ ในปลอกลดแสง (ใส่ดา้ ม
มีเกลียวเขา้ ไป) ขนั ตวั ลอ็ กจนสุดจากนนั หมุนตวั เครืองทวีแรงถอยใหแ้ น่น

ปลอกลดแสง ตวั ลอ๊ ก

ตวั เครืองทวแี รงถอย
รูปที ๑-๑๑ การติดตังเครืองทวแี รงถอย

- ๑๖ -
๒) แผ่นป้องกนั การบรรจุกระสุนจริง (BLANK RAMP) รูปที ๑-๑๒ ใชต้ ิดตงั บนถาด
ป้อนกระสุนป้องกนั การสอดใส่สายกระสุนจริง ใส่ BLANK RAMP เขา้ ทีกึงกลางของถาดป้อน
โดยใหด้ า้ นขวาโผล่ลงดา้ นล่างในช่องป้อน ดนั BLANK RAMP ไปดา้ นหนา้ จนยนั กบั ผนงั ดา้ นหนา้
ของถาดป้อน ดึงแหนบใหอ้ ยเู่ หนือผนงั ดา้ นหนา้

อนั ตราย
อาจเกดิ อุบตั เิ หตุขึนได้ ถ้ายิงกระสุนจริงขณะติดตังเครืองทวแี รงถอยไว้แล้ว

รูปที ๑ – ๑๒ การติดตังแผ่นป้องกนั การบรรจสุ ายกระสุนจริง

- ๑๗ -

บทที ๒

การปรนนิบตั ิบาํ รุง

การปรนนิบตั ิบาํ รุงทีถูกวธิ ี จะเสริมสรา้ งประสิทธิภาพใหก้ บั อาวธุ เช่นเดียวกบั เสริมสร้าง
ความพร้อมรบใหก้ บั หน่วยทหาร ในบทนีจะกลา่ วถงึ การปรนนิบตั ิบาํ รุงอาวธุ ปลก.เนเกฟ ซึงรวมถึง
การตรวจสภาพ,การทาํ ความสะอาดและการหล่อลืน,การปรนนิบตั ิบาํ รุงอาวธุ ก่อนการยิง ระหวา่ งการ
ยิงและภายหลงั จากการยงิ ตลอดจนการปฏิบตั ิต่ออาวุธในสถานการณ์ นชค. ซึงกิจเฉพาะทงั หมดนีจะ
มงุ่ สู่การปรนนิบตั ิบาํ รุง (การตรวจอาวธุ ,การถอดคุมและการประกอบปกติ และการตรวจการทาํ งาน)
๒-๑ ขันตอนการตรวจอาวธุ ( รูปที ๒ – ๑ ก, ข, ค, ง, จ, ฉ, ช, ซ, ด, ต และ ถ )

ขนั ตอนแรกของการปรนนิบตั ิบาํ รุงก็คือ การตรวจอาวธุ ซึงจะตอ้ งปฏิบตั ิในทุกสถานการณ์
มิใช่เฉพาะหลงั จากการยิง พลยงิ จะตอ้ งถือเสมือนวา่ อาวธุ ปลก.นันบรรจุกระสุนอยตู่ ลอดเวลา
ขนั ตอนการตรวจอาวธุ มีดงั นี

ก. จดั หา้ มไกอยใู่ นท่าพร้อมยงิ จดั คนั บงั คบั การยิงไปตาํ แหน่งยิงทีละนดั (R)
ข. ใชม้ ือขวาหงายขึน(หรือควาํ มือ)แลว้ ดึงคนั รังลูกเลือนไปขา้ งหลงั ยดึ ลูกเลือนใหเ้ ขา้ ที
ค. ในขณะทีคนั รังลูกเลือนอยขู่ า้ งหลงั นนั ใหจ้ ดั คนั บงั คบั การยิงในตาํ แหน่งหา้ มไก(S)
ง. ปลดคนั รังลกู เลือน แลว้ ปล่อยกลบั ไปขา้ งหนา้

คาํ เตือน
เมือเปิ ดฝาปิ ดหอ้ งลูกเลือนและเครืองป้อนกระสุน ใหว้ างอาวุธบนพืนห่าง
จากใบหนา้ ของพลยิง ถา้ หากปฏิบตั ิในขณะทีประทบั อาวธุ อยทู่ ีบ่า, กระสุนที
ตกคา้ งอยภู่ ายในอาจกระเดน็ ออกมาถูกใบหนา้ ทาํ ใหไ้ ดร้ ับบาดเจ็บได้
ถูกใบหน้า ทาํ ให้ได้รับบาดเจ็บได้

จ. ยกฝาปิ ดหอ้ งลูกเลือนและชุดเครืองป้อนกระสุนขึน และปฏิบตั ิตามขนั ตอนการ
ตรวจความปลอดภยั เพือตรวจดูปลอกกระสุน, ขอ้ ตอ่ สายกระสุนหรือกระสุน ดงั นี

๑) ตรวจดูเครืองป้อนกระสุน
๒) ตรวจดูชุดแผน่ เหลก็ รองกระสุน
๓) ยกแผ่นเหลก็ รองกระสุนขึน แลว้ ตรวจดูภายในรังเพลิง
๔) สอดปลายนิว ๒ นิว ของมือซา้ ยเขา้ ไปในช่องใส่ซองกระสุน เพือเขียเอา
กระสุนหรือปลอกกระสุนออกมา
ฉ. ปิ ดฝาปิ ดหอ้ งลูกเลือนแลว้ จดั หา้ มไกกลบั ไปตาํ แหน่งพร้อมยิง ใชม้ ือขวาหงายขึน
ดึงคนั รังลูกเลือนไปขา้ งหลงั เหนียวไกในขณะเดียวกบั ทีปลอ่ ยคนั รังลกู เลือนไปขา้ งหนา้ ในลกั ษณะ
ค่อย ๆ ผอ่ นคืน

- ๑๘ -
ข้อพึงระวงั
คนั รังลูกเลือนจะตอ้ งถูกผอ่ นกลบั ไปขา้ งหนา้ ดว้ ยมือเสมอ และทุกครังทีดึงคนั รัง
ลกู เลือนไปขา้ งหลงั จะตอ้ งยึดคนั รังลูกเลือนอยใู่ นท่าเปิ ดเสมอ

AS

R

รูปที ๒ –๑ (ก)ตาํ แหน่งพร้อมยิง
เลือนคันบงั คบั การยิงไปที ตาํ แหน่ง (A)ยงิ อัตโนมัติ หรือ (R)ยงิ ครังละนดั

ดึงคนั รังลูกเลือนไปขา้ งหลงั
ใหล้ ูกเลือนอย่ใู นทา่ เปิ ด

รูปที ๒ – ๑ (ข) ล๊อคลูกเลือนให้อยู่ในท่าเปิ ด

- ๑๙ -

AS

ดนั คนั บงั คบั การยงิ R

ไปทีตาํ แหน่ง S

รูปที ๒ – ๑(ค) ตาํ แหน่งห้ามไกปื น

รูปที ๒ – ๑(ง) ผ่อนคนั รังลกู เลือนไปข้างหน้า

- ๒๐ -
ลินป้อนกระสุนใตฝ้ าปิ ดหอ้ ง
ลูกเลือน
ฝาปิ ดหอ้ งลูกเลือน

รูปที ๒ – ๑ (จ)ตรวจดลู ินป้อนกระสุน
แผ่นเหลก็ รองกระสุน

คนั ป้อนกระสุน

รูปที ๒ – ๑ (ฉ)ตรวจดแู ผ่นเหลก็ รองกระสุน

- ๒๑ -

แผ่นเหลก็
รองกระสุน

เหลก็ คนั ตรวจดู
ภายในรัง
ป้อนกระสุน
สาํ หรับป้อน เพลิง

กระสุนดว้ ย
สายกระสุน

รูปที ๒ – ๑ (ช)
ยกแผ่นเหลก็ รองกระสุนขึนไปด้านบนเพือตรวจดูรังเพลิง(แขวนลกู เลือนไว้หลังสุด)

ป่ ุมเหลก็ ปลดล๊อคซองกระสุน

ช่องใส่ซองกระสุน
รูปที ๒ – ๑ ( ซ ) ตรวจดชู ่องใส่ซองกระสุน

- ๒๒ -
ป่ ุมกดปลดลอ๊ คฝาหอ้ งลูกเลือน

รูปที ๒ – ๑ ( ด ) กดปิ ดฝาห้องลกู เลือนและเครืองป้อนกระสุน

AS

R

รูปที ๒ –๑ ( ต )
เปิ ดห้ามไกปื นให้อยู่ตาํ แหน่งพร้อมยงิ
เลือนคนั บงั คับการยงิ ไปที ตําแหน่ง (A)ยงิ อตั โนมตั ิ หรือ (R)ยงิ ครังละนดั

- ๒๓ -

รูปที ๒ – ๑( ถ ) ผ่อนคันรังลูกเลือนไปข้างหน้า

๒ – ๒ การถอดปกติ

การถอดปกตินนั คือ การแยกอาวธุ ปื นออกเป็ นชินส่วนตา่ ง ๆ ๖ กลุ่ม ส่วนการถอดพิเศษนนั
เป็นหนา้ ทีของนายสิบช่างอาวธุ การถอดชินส่วนต่าง ๆ ทีมีรายละเอียดนอกเหนือจากที กล่าวไวใ้ น
คู่มือเล่มนีนนั หา้ มปฏิบตั ิโดยเดด็ ขาด เวน้ แต่ผปู้ ฏิบตั ินนั จะเป็นเจา้ หนา้ ทีสรรพาวุธเท่านนั ในระหวา่ ง
การถอดปกตินนั ชินส่วนแต่ละชินจะตอ้ งถูกวางไวบ้ นผา้ ปูรองทีสะอาดหรือบนโตะ๊ เรียงตามลาํ ดบั
ก่อน-หลงั จะตอ้ งดึงขาทรายออกกางในท่าใชข้ าทรายทุกครัง ทงั นีการถอดประกอบใหป้ ฏิบตั ิตามกฎ
ความปลอดภยั และปฏิบตั ติ ามขอ้ แนะนาํ กล่าวคือ ใหเ้ อากระสุนจริงออกจากพืนทีใกลเ้ คียงใหห้ มด
หา้ มใชก้ ระสุนแทนเครืองมือ

ก. การถอดประกอบ
๑) ชุดลาํ กลอ้ ง กดกลอนยดึ ฝาปิ ดหอ้ งลูกเลือน แลว้ เปิ ดฝาปิ ดหอ้ งลูกเลือนแลว้ กด

กลอนยึดลาํ กลอ้ งทางขวา มอื ซา้ ยจบั ดา้ มหิวปื นแลว้ ดนั ลาํ กลอ้ งไปขา้ งหนา้ พร้อมกบั ยกออก
คําเตือน

ปื นไม่สามารถถอดลาํ กลอ้ งได้ ถา้ ไม่เปิ ดฝาปิ ดห้องลูกเลือน

- ๒๔ -

ป่ ุมกดปลดลอ๊ คฝา
ปิ ดห้องลูกเลือน

รูปที ๒ – ๒ กดเปิ ดปิ ดฝาห้องลูกเลือน

มือซา้ ยจบั ทีดา้ มหิวปื น
แลว้ ดนั ไปขา้ งหนา้

นิวหวั แม่มือขวากดทีปุ่ม
ปลดลอ๊ คชุดลาํ กลอ้ งปื น
รูปที ๒- ๓ การถอดลาํ กล้อง
หมายเหตุ : ปื นไม่สามารถขึนนกไดเ้ มืออยใู่ นตาํ แหน่งห้ามไก

- ๒๕ -
๒) ชุดพานทา้ ยปื น รูปที ๒ – ๔ (ก และ ข) ตรวจดูใหม้ นั ใจว่าปื นไม่ไดข้ ึนนก และชุด
โครงนาํ ลูกเลือนอยใู่ นตาํ แหน่งดา้ นหนา้ แลว้ กดกลอนยดึ พานทา้ ยปื นแลว้ ดึงพานทา้ ยขึนดา้ นบน

กลอนยดึ ชุดพานทา้ ย
รูปที ๒ – ๔ (ก)

มือซา้ ยจบั ทีดา้ มชุด
พานทา้ ยแลว้ ยกขึน

มือขวากดทีกลอนปลดลอ๊ คชุดพานทา้ ย
รูปที ๒ - ๔ (ข)การถอดแยกพานท้ายปื น

- ๒๖ -
๓) ชุดแหนบส่งลูกเลือน ใชห้ วั แม่มือดนั ส่วนฐานของชุดแหนบส่งลูกเลือนและดนั
ขึน จากนนั ค่อย ๆผอ่ นใหแ้ หนบเลือนออกจากโครงปื น

ใชน้ ิวหวั แม่มือดา้ นที
ถนดั กดดนั เขา้ ไปทีส่วน
ฐานของชุดแหนบส่งลูก
เลือนแลว้ ดนั ขึนดา้ นบน

รูปที ๒ – ๕ การถอดชุดแหนบส่งลูกเลือน
๔) ชุดโครงนาํ ลูกเลือน รูปที ๒ – ๖ ขนั การถอด คือ ก่อนทีจะถอดชุดโครงนาํ ลูกเลือน
จะตอ้ งตอกสลกั ยดึ ช่องรับซองกระสุนก่อนแลว้ ปฏิบตั ิดงั นี

ก) เลือนคนั บงั คบั การยิงไปที A (ยิงอตั โนมตั ิ)
ข) ขณะเหนียวไกมาดา้ นหลงั ดึงคนั รังลูกเลือนมาดา้ นหลงั อยา่ งเร็วและถอดชุดโครง
นาํ ลูกเลือน
ค) ถา้ ชุดโครงนาํ ลูกเลือนไม่เลือนออกมา ใหส้ อดมือดนั ผ่านทางช่องเปิ ดใตถ้ าดป้อน
กระสุน หรือเอียงปื นใหช้ ุดโครงนาํ ลูกเลือนไหลออกมา

- ๒๗ -

มือซา้ ยรองรบั ชุดโครงนาํ ลูกเลือน มือขวาค่อยๆดึงคนั รัง
ลูกเลือนมาดา้ นหลงั

รูปที ๒- ๖ การถอดชุดโครงนาํ ลกู เลือน
๕) ชุดลูกเลือน รูปที ๒ – ๗ ใชป้ ระแจควบงดั กลอนยึดลกู เลือนขึนแลว้ หมุนลูกเลือนตาม
เขม็ นาฬิกาและดึงออก ระวงั อยา่ ใหแ้ หนบเข็มแทงชนวนหล่น

ใชป้ ระแจควบงดั กลอนยึด มือซา้ ยหมุนลูกเลือนไป
ลกู เบียวใหย้ กตวั ขึนมา ในทิศทางตามเข็มนาฬิกา

แลว้ ดึงออกไปดา้ นหนา้

รูปที ๒ - ๗ การถอดลูกเลือน

- ๒๘ -
๖)ชุดกรวยจดั แกส๊ รูปที ๒ – ๘ ดว้ ยการใชเ้ ครืองมือควบกดกรวยจดั ปรับแก๊สเขา้ ไป
พร้อมกบั หมุนไป ๙๐ องศา แลว้ ถอดป่ ุมกรวยจดั แก๊สและกรวยจดั แกส๊ พร้อมแหนบ

ข้อพงึ ระวงั
อยา่ ทาํ แหนบกรวยจดั แก๊สหาย

รูปที ๒ - ๘ การถอดชุดกรวยจดั แก๊ส
หมายเหตุ : ถา้ ปื นไม่ไดร้ ับการทาํ ความสะอาดและใส่นาํ มนั หล่อลืนภายหลงั การยิงโดย
ต่อเนืองจะทาํ ใหเ้ กิดคราบเขมา่ จะสะสมอยใู่ นกรวยจดั แก๊ส ซึงอาจเป็นเหตุใหก้ ารถอดชุดกรวยจดั
แก๊สทาํ ไดย้ าก ในกรณีนีใหใ้ ชป้ ระแจถอดชุดกรวยจดั ปรับแก๊สขดู ทาํ ความสะอาด โดยหมนุ กรวยจดั
แก๊สหลาย ๆ รอบเพือทาํ ใหค้ ราบเขม่าทีสะสมอยแู่ ตกออก
๒ –๓ การตรวจสภาพ
การตรวจสภาพนนั เริมกระทาํ ไดเ้ มือถอดแยกชินส่วนออกเป็นชุดหลกั ใหญ่ ๆ แลว้ พืนผิวที
สะทอ้ นแสงมิใช่เป็นสิงบอกเหตุวา่ ชินส่วนนนั ๆ ใชก้ ารไม่ได้ หมชู่ ินส่วนใหญ่ ๆ ทีจะกลา่ วถึงต่อไป
และชินส่วนทีทาํ งานสมั พนั ธ์กนั จะไดร้ ับการตรวจสภาพตามเงือนไขและสิงชีสอบส่วนต่าง ๆ ที
ชาํ รุดหรือสูญหายจะตอ้ งถูกซ่อมหรือเปลียนชินส่วน

- ๒๙ -
ก. ชุดลาํ กลอ้ ง ปลอกลดแสงจะตอ้ งไม่แตกร้าว และตอ้ งถูกขนั แน่นอยใู่ นตาํ แหน่งของ
มนั อยา่ งหนาแน่น ศูนยห์ นา้ และแท่นศูนยห์ นา้ ตอ้ งไมค่ ดงอ, ไม่รา้ วหรือแตกหกั ปื นทีไดผ้ า่ นการยิง
ปรับศนู ยม์ าแลว้ จะตอ้ งไมถ่ ูกเปลียนแปลงศูนย์ พลยงิ ตอ้ งตรวจสอบดูฝาครอบลาํ กลอ้ งวา่ มีการ
ชาํ รุด,แตกร้าว, ปากคีบหกั หรือไม,่ ชุดกรวยจดั แกส๊ และปลอกมีรอยแตกร้าวหรือหกั บินหรือไม่,
ลาํ กลอ้ งมีอาการบวม, คดงอ, มรี อยรา้ ว, มีรอยสึกหรอหรือหลุมบ่อ หรือมีสิงแปลกปลอมหรือไม่,
ตรวจดดู า้ มหิววา่ มีการหลวมคลอน แตกร้าวหรือไม,่ ดา้ มหิวตอ้ งเคลือนตวั และถูกพบั ไปทางซา้ ยหรือ
ทางขวาไดอ้ ยา่ งสะดวก และสามารถเก็บอยู่ในท่ายึดติดทางดา้ นขวาได้
ข. ชุดพานทา้ ยปื น ใหต้ รวจดพู านทา้ ยวา่ มีรอยแตกร้าว คดงอหรือมชี ินส่วนสูญหายหรือไม,่
ตรวจดูสภาพการยดึ ติดกบั โครงปื นวา่ มีอาการหลวมคลอนหรือไม่
ค. ชุดแหนบส่งลูกเลือน แกนแหนบส่งกา้ นสูบจะตอ้ งไมค่ ดงอ ไมแ่ ตกร้าวหรือหกั แหนบส่ง
กา้ นสูบจะตอ้ งไม่หกั
ง. ชุดโครงนาํ ลกู เลือน ตรวจดูสภาพความชาํ รุดเสียหายของชุดโครงนาํ ลูกเลือน ลกู เบียว
จะตอ้ งถูกตรวจสอบแรงดึงของแหนบสปริง เมือไดร้ บั การกดและโครงนาํ ลกู เลือนจะตอ้ งถูกยดึ อยใู่ น
ชุดของมนั ร่องบากจะตอ้ งไม่สึกหรอหรือหลวมคลอน
จ. ชุดลกู เลือน ตรวจสภาพของชุดลกู เลือน วา่ มสี ภาพชาํ รุดเสียหายทีมองเห็นหรือไม่ ขอรัง
ปลอกกระสุนจะตอ้ งไม่รา้ วหรือบิน ตรวจดูสภาพของเขม็ แทงชนวนวา่ มีความตรงหรือไม่ มีรอยร้าว
แตกหรือไมป่ ลายเขม็ แทงชนวนจะตอ้ งไม่บิดเบียวหรือสึกหรอ
ฉ. ชุดกรวยจดั แก๊ส ตรวจดูสภาพของกรวยจดั แก๊สใหส้ ามารถหมนุ ไดเ้ ป็นปกติและตรวจดู
แหนบอยา่ ใหส้ ูญหาย
๒ – ๔ การทําความสะอาด, การหล่อลืนและการปรนนบิ ัติบํารุง
การทาํ ความสะอาด ปลก.เนเกฟ ทนั ทีภายหลงั จากจบการยิง ผูย้ งิ จะตอ้ งถอดปื นหม่ชู ินส่วน
หลกั ๆ ก่อนลงมือทาํ ความสะอาดและเมือทาํ ความสะอาดและเชด็ แหง้ แลว้ ใหช้ โลมนาํ มนั
อเนกประสงคไ์ วบ้ าง ๆ ซึงจะช่วยใหห้ ล่อลืนและป้องกนั สนิมใหก้ บั ชินส่วนภายนอกไดส้ ภาวะ
อุณหภูมปิ กติ เมือไม่มีการใชง้ าน ปลก.เนเกฟ ควรไดร้ ับการตรวจสภาพทุกสปั ดาห์ รวมทงั ทาํ ความ
สะอาดและชโลมนาํ มนั ตามความจาํ เป็น
ก. การทําความสะอาด ชินส่วนทุกชินทีเป็นโลหะและมีโอกาสถกู ฝ่ ุนละออง ควรไดร้ ับ
การทาํ ความสะอาดและชโลมดว้ ยนาํ มนั อเนกประสงคบ์ นแผน่ ผา้ ชินเลก็ ๆ การทาํ ความสะอาดและ
ชโลมนาํ มนั โครงปื นคงใชว้ ิธีเดียวกนั

ข้อพงึ ระวงั
เมือใชน้ าํ มนั อเนกประสงคแ์ ลว้ หา้ มใชน้ าํ มนั ทาํ ความสะอาดชนิดอืนกบั ปลก.หา้ มใชน้ าํ มนั
อเนกประสงค์ ปนหรือผสมกบั นาํ มนั ทาํ ความสะอาดชนิดอืน

- ๓๐ -
๑) ตรวจอาวธุ และถอดออกเป็นหมู่ชินส่วนหลกั
๒) ทาํ ความสะอาดลาํ กลอ้ งและรังเพลิงโดยใชน้ าํ มนั อเนกประสงคแ์ ละแปรงกบั เศษผา้
๓) ทาํ ความสะอาดชุดกรวยจดั แก๊ส ดว้ ยเครืองมอื พิเศษ (เครืองมือชุด) ขจดั คราบเขมา่
และฝ่ ุนออก หา้ มใชน้ าํ มนั อเนกประสงคก์ บั ปลอกกรวยจดั แก๊ส เครืองปิ ดกนั ทางเดินแก๊สหรือกระบอก
สูบและกรวยจดั แก๊ส

ก) ทาํ ความสะอาดทอ่ ทางเดินของแก๊สส่วนทีเหมาะสมของเครืองมือขูดเขม่า ใช้
การขูดหรือถตู ามเข็มนาฬิกา และในทิศทางเขา้ – ออกในกรวย รูปที ๒ - ๙

ท่อทางเดินแก๊ส
รูปที ๒ - ๙ การทําความสะอาดท่อทางเดนิ แก๊ส
ข)ใชป้ ลายส่วนทียืนออกมาของเครืองมือทาํ ความสะอาดร่อง ๒ ร่อง ของ
กรวยจดั แก๊ส

ร่องบากกรวยจดั แกส๊
รูปที ๒ - ๑๐ การทาํ ความสะอาดร่องของกรวยจดั แก๊ส

- ๓๑ -
๔) ทาํ ความสะอาดกระบอกสูบและลูกสูบ (รูปที ๒ – ๑๑) ดว้ ยเครืองมือขูดเขมา่ และ
คราบดินปื นอย่าใชน้ าํ มนั อเนกประสงคช์ โลมหรือทากระบอกสูบและลูกสูบ

ก) ทาํ ความสะอาดดา้ นในส่วนหนา้ ของกระบอกสูบ (การประกอบเขา้ กบั โครงปื น
โดยใชข้ าทรายอยใู่ นท่ากางออก) โดยใชป้ ลายแบนเรียบของเครืองมือสอดเขา้ ไปแลว้ หมนุ ปลาย
เครืองมือเป็ นวงรอบ ๓๖๐ องศา

ข) ทาํ ความสะอาดร่องภายในส่วนหนา้ ของกระบอกสูบดว้ ยวิธีเดียวกบั ขอ้ (ก) แต่
ปลายเครืองมือเขา้ ไปใหล้ ึกกวา่

๕) ขจดั คราบเขม่าและสิงสกปรกออกจากส่วนอืน ๆ ตลอดทวั ทงั ปื น
หมายเหตุ : ใชผ้ า้ ชุบนาํ มนั อเนกประสงคช์ โลมภายนอกตวั ปื นบาง ๆ เพือป้องกนั การเกิดสนิม
จบั ตวั ปื น

รูปที ๒ - ๑๑ การทําความสะอาดด้านในส่วนหน้าและร่องภายในกระบอกสูบ
ข. การหล่อลืน ภายหลงั จากการทาํ ความสะอาดและเช็ดแหง้ แลว้ ใหใ้ ชผ้ า้ ชุบนาํ มนั
อเนกประสงคช์ โลมปื นบาง ๆ ซึงจะช่วยหล่อลืนและป้องกนั ผิวภายนอกส่วนทีเป็นโลหะในช่วง
ขณะทีอุณหภูมิเป็นปกติ ส่วนเคลือนทีจะตอ้ งถูกชโลมดว้ ยนาํ มนั อเนกประสงค์ หลงั จากชโลมนาํ มนั
แลว้ ใหท้ าํ การเคลือนทีชินส่วนทีเคลือนทีได้ เพอื ใหส้ ารหลอ่ ลืนกระจายไปทวั ผิวโลหะ

๑) ชุดแหนบส่งลูกเลือน ใชน้ าํ มนั อเนกประสงคช์ โลมบาง ๆ ทีแกนแหนบ,
แหนบ,ชุดโครงนาํ ลกู เลือน ลูกเบียวและเดือยทา้ ยลูกเลือน

๒) ชุดลาํ กลอ้ ง ใชน้ าํ มนั อเนกประสงคช์ โลมบาง ๆ ทีผิวภายนอกลาํ กลอ้ ง ครอบ
ลาํ กลอ้ งและผิวสลกั คนั ยึดลาํ กลอ้ ง

- ๓๒ -
๓) ชุดโครงปื น ใชน้ าํ มนั อเนกประสงคช์ โลมบาง ๆ ทีชินส่วนเคลือนทีทงั ฝาปิ ดหอ้ งลูก
เลือนและร่องคนั เลือนสายกระสุน
ค. การปรนนิบตั ิบาํ รุง อาวุธ ปลก. ทีไมค่ ่อยไดใ้ ชท้ าํ การยงิ หรือถูกเก็บอยใู่ นคลงั เป็น
เวลานาน ๆ ควรจะมีคราบบาง ๆ ของนาํ มนั อเนกประสงคช์ โลมไวท้ ีจุกเกลียวกระบอกสูบ ชุดกรวยจดั
แก๊ส และทีลูกสูบภายหลงั จากการทาํ ความสะอาดหรือรับตรวจแลว้ การปรนนิบตั ิบาํ รุงควรกระทาํ
ทุก ๆ ๙๐ วนั หรือถา้ จากการตรวจสภาพแลว้ พบวา่ จะตอ้ งกระทาํ บ่อยขึนกวา่ นนั ก็ตอ้ งกระทาํ การใช้
นาํ มนั หล่อลืนชโลมส่วนทีเป็นโลหะไว้ มิไดห้ มายความวา่ จะป้องกนั สนิมไดอ้ ยา่ งแน่นอน พลยิง
จะตอ้ งทาํ ความสะอาดบริเวณ กรวยจดั แก๊ส จุกเกลียว กระบอกสูบและลูกสูบ รวมทงั เชด็ คราบนาํ มนั
ออกใหห้ มด ก่อนนาํ อาวธุ ออกใชง้ าน มฉิ ะนันแลว้ จะเกิดเหตุติดขดั ขณะทาํ การยงิ ได้ ขนั ตอนทีจะ
กล่าวต่อไปนีเป็ นวธิ ีการทาํ ความสะอาดและหลอ่ ลืนอาวธุ ปลก.เนเกฟ ในสภาพทีไม่ปกติ
หมายเหตุ : นาํ มนั อเนกประสงคเ์ ป็นสารหลอ่ ลืนชนิดเดียวเท่านนั ทีใชก้ บั ปลก.

๑) สภาพอากาศรอ้ นจดั – จะใชน้ าํ มนั อเนกประสงค์ CLP เกรด ๒
๒) สภาพอากาศชืนและอากาศแถบชายทะเล – จะใชน้ าํ มนั อเนกประสงค์ CLP เกรด ๒
ทาํ ความสะอาดและชโลมบ่อย ๆ
๓)สภาพอากาศทีมีฝ่ นุ มากและภูมิประเทศเป็ นพืนทราย – จะใชน้ าํ มนั อเนกประสงค์
CLP เกรด ๒ ทาํ ความสะอาดและชโลมบ่อย ๆ แลว้ เช็ดนาํ มนั ส่วนเกินออก
๔)ในสภาพอุณหภูมิตาํ กวา่ ๑๘ องศาเซลเซียส (๐ องศาฟาเรนไฮด)์ – จะใชน้ าํ มนั CLP

เกรด ๒ ไดท้ วั ๆ ตวั ปื น ชโลมหนาเลก็ นอ้ ยเพือใหส้ ามารถขยายบริเวณออกไปไดด้ ว้ ยนิวมือ
หมายเหตุ : ถึงแมว้ า่ นาํ มนั อเนกประสงค์ CLP จะใหก้ ารหลอ่ ลืนไดใ้ นสภาพอากาศที

อณุ หภูมิระหวา่ ง ๐ องศาฟาเรนไฮด์ จนถึง ๓๕ องศาฟาเรนไฮด์ แต่นาํ มนั อเนกประสงคน์ ีจะไม่
สามารถไหลออกจากขวดบรรจขุ นาด ๑/๒ ออนซ์ ไดใ้ นอุณหภูมิทีตาํ กวา่ ๐ องศาฟาเรนไฮด์
๒ – ๕ การประกอบปกติ ใหก้ ระทาํ กลบั กนั กบั การถอดปกติ ตามลาํ ดบั คือ

ก. กรวยจดั แก๊ส (รูปที ๒ – ๑๒ ) ดว้ ยการปรับป่ ุมจดั แก๊สไวใ้ นตาํ แหน่งที ๒ หรือสีขาวชีไป

ในทิศขา้ งหนา้ ขนานกบั แนวแกนลาํ กลอ้ ง สอดกรวยจดั แก๊สพร้อมแหนบเขา้ ทางดา้ นขวาลาํ กลอ้ ง
ขนานแนวลาํ กลอ้ ง ใชเ้ ครืองมือควบดนั กรวยจดั แก๊สเขา้ ไปและหมุน ๙๐ องศา หลงั จากประกอบเสร็จ
ตอ้ งตรวจดูใหแ้ น่ใจวา่ ครีบ(LUG) ทีขอบกรวยจดั แกส๊ เขา้ ไปอดั แน่นอยใู่ นร่อง จากนันใหห้ มนุ ปุ่ม
ปรับไปตาํ แหน่งต่าง ๆ เพือตรวจสอบการทาํ งาน

- ๓๓ -

รูปที ๒ - ๑๒ การประกอบชุดกรวยจัดปรับแก๊ส
ข. ชุดลูกเลือน ใชป้ ระแจควบงดั กลอนยึดลูกเลือนเขา้ ไปในชุดโครงนาํ ลกู เลือนขณะกด
แหนบเขม็ แทงชนวนเอาไว้ หมุนลูกเลือนทวนเขม็ นาฬิกา แลว้ ตรวจดูใหม้ นั ใจลูกเลือนถูกยดึ ไวด้ ว้ ย
กลอนยดึ ลูกเลือนเรียบร้อย

รูปที ๒ - ๑๓ การประกอบชุดลูกเลือน

- ๓๔ -
ค.ชุดโครงนําลูกเลือน ใหส้ อดชุดโครงนาํ ลูกเลือนเขา้ ไปในปื นจนสุด ในขณะลูกเลือนอยใู่ น
ตาํ แหน่งปลดกลอน(ยืนไปทางดา้ นหนา้ )

๑) รูปที ๒ - ๑๔ ตาํ แหน่งลูกเลือนขณะสอดชุดโครงนาํ ลูกเลือน
ง.ชุดแหนบส่งลูกเลือน

๑)สอดชุดแหนบส่งลูกเลือนเขา้ ทางดา้ นทา้ ยโครงปื น โดยใหแ้ หนบทงั คู่สอดเขา้ ไปใน
ช่องทีดา้ นขา้ งของชุดโครงนาํ ลกู เลือน จากนนั ใหเ้ หนียวไก (คนั บงั คบั การยิงอย่ทู ตี าํ แห่ง R หรือ A )
แลว้ ดนั ฐานแหนบส่งลูกเลือนพรอ้ มดว้ ยชุดโครงนาํ ลกู เลือนเขา้ ไปในโครงปื น

ช่องดา้ นทา้ ยโครงปื น

ชุดแหนบส่งลกู เลือน
รูปที ๒ – ๑๕
การประกอบชุดโครงนําลูกเลือนและตําแหน่งส่งลูกเลือน-ขันตอนที ๑

- ๓๕ -
๒)ยึดแหนบส่งลูกเลือนไวใ้ นตาํ แหน่งโดยการดนั เขา้ ไป ดา้ นหนา้ แลว้ กดตาํ ลง เพอื ให้
สลกั ทีดา้ นขา้ งของฐานแหนบเขา้ ไปในร่องทีโครงปื น ตอ้ งแน่ใจว่าหลงั จากกดฐานแหนบส่งลูกเลือน
ใหต้ าํ ลงแลว้ ส่วนฐานแหนบไดเ้ ลือนมาทางดา้ นหลงั และถูกยึดอยใู่ นส่วนทา้ ยของโครงปื น

ใชม้ ือขวาดนั ชุดแหนบส่ง
ลกู เลือนเขา้ ไปในช่องดา้ น
ทา้ ยโครงปื นแลว้ กดลง

ระหวา่ งทีดนั ชุดแหนบส่งลูกเลือนใหเ้ หนียวไกปื นตลอดเวลา
รูปที ๒ - ๑๖

การประกอบชุดโครงนําลูกเลือนและตําแหน่งส่งลูกเลือน-ขันตอนที ๒

จ. ชุดพานทา้ ยปื น สอดพานทา้ ยปื นเขา้ ในร่องทีดา้ นหลงั โครงปื น กดลงจนไดย้ ินเสียงดงั คลิก
ไม่จาํ เป็นตอ้ งกดกลอนยดึ พานทา้ ยขณะทาํ การประกอบพานทา้ ยปื นแลว้ ทดลองดึงพานทา้ ยขึนให้
มนั ใจวา่ ถูกยดึ ไวม้ นั คง

ฉ. ชุดลาํ กลอ้ ง ขณะฝาปิ ดทา้ ยลูกเลือนอยใู่ นตาํ แหน่งเปิ ด จบั ดา้ มหิวปื นไวแ้ ลว้ สอดลาํ กลอ้ ง
เขา้ ไปในโครงปื นจนไดย้ นิ เสียงดงั คลิก แลว้ ทดลองดึงลาํ กลอ้ งออกทางดา้ นหนา้ เพือใหม้ นั ใจวา่
ลาํ กลอ้ งยดึ ไวม้ นั คงแลว้

หมายเหตุ
หลงั จากประกอบลาํ กลอ้ ง กลอนยดึ ลาํ กลอ้ งควรอย่ใู นตาํ แหน่งถกู กดไว้
กดกระเดืองปลดกลอนยดึ ลาํ กลอ้ งเพือปล่อยใหม้ นั เป็ นอิสระ

- ๓๖ -

กระเดืองกลอนยึดลาํ กลอ้ ง
รูปที ๒ – ๑๗(ก) กระเดืองกลอนยดึ ลํากล้อง

นิวหวั แม่มือกดไปที
กระเดืองปลดกลอน

ยดึ ลาํ กลอ้ งปื น

รูปที ๒ – ๑๗ (ข)

- ๓๗ -

๒ – ๖ การตรวจสอบการทาํ งาน
การตรวจสอบการทาํ งานนีกระทาํ เพือใหม้ นั ใจวา่ ปลก.เนเกฟ นนั เป็นไปอยา่ งถกู ตอ้ ง

ขนั ตอนในการตรวจสอบการทาํ งานมีดงั นี.-
ก.ใชม้ ือขวาจบั คนั รังลูกเลือนโดยหงายมือ ดึงคนั รังลูกเลือนมาขา้ งหลงั แลว้ ยึดลูกเลือนใหอ้ ยู่

ในท่าเปิ ด
ข.ในขณะทีคนั รังลูกเลือนอยดู่ า้ นหลงั ของปื นนนั ใชม้ ือซา้ ยกดจดั คนั บงั คบั การยงิ ใหอ้ ยใู่ น

ตาํ แหน่งหา้ มไก
ค. ดนั คนั รังลกู เลือนกลบั ไปขา้ งหนา้ จนสุด
ง. เหนียวไกปื น(ปื นจะไม่ลนั ) เป็นการตรวจเครืองนิรภยั
จ. ใชม้ ือขวาจบั คนั รังลกู เลือนโดยหงายมือ แลว้ ดึงคนั รังลูกเลือนมาขา้ งหลงั
ฉ. กดหา้ มไกกลบั ไปอยใู่ นตาํ แหน่งเปิ ดหา้ มไก พร้อมยิง
ช. ในขณะทีออกแรงดึงคนั รังลูกเลือนนนั ใชม้ ือซา้ ยเหนียวไกปื น แลว้ ค่อย ๆ ปลอ่ ยลกู เลือน

กลบั ไปขา้ งหนา้ เพือมิใหก้ ระแทกกบั ทา้ ยรังเพลิงและหนา้ ลูกเลือนอาจเกิดการชาํ รุดได้
ซ. ถา้ อาวธุ ปลก.ไม่ผา่ นการตรวจสอบการทาํ งาน ใหต้ รวจสอบดูวา่ มีชินส่วนใดตกคา้ งยงั

ไม่ไดป้ ระกอบเขา้ กบั ตวั ปื น (ก่อนทาํ การถอดอาวธุ ปื นตอ้ งมนั ใจวา่ ปื นอยใู่ นตาํ แหน่งและท่าทีแกน
แหนบและแหนบส่งกา้ นสูบจะไม่สามารถทาํ อนั ตรายหรือทาํ ใหเ้ กิดการบาดเจบ็ ไดถ้ า้ ลูกเลือนถูกยดึ
อยทู่ างดานหลงั )

ข้อพึงระวงั
ลกู เลือนจะตอ้ งถูกปลอ่ ยกลบั ไปขา้ งหนา้ ในลกั ษณะค่อย ๆ ผอ่ นออกไป เพือ
ป้องกนั มิใหก้ ระทบกบั ชุดฝาปิ ดและเครืองป้อนกระสุน รวมทงั ส่วนเคลือนทีทงั ชุด

หมายเหตุ : ชุดฝาปิ ดและเครืองป้อนกระสุนสามารถปิ ดไดท้ งั ๒ ลกั ษณะ คือ ลูกเลือนเปิ ด
และลูกเลือนปิ ด
๒ – ๗ ขันตอนการปรนนบิ ัติบาํ รุง

มีวธิ ีการปฏิบตั ิทีเป็นกฎตายตวั ทีพลยิงจะตอ้ งปฏิบตั ิก่อน, ระหวา่ งและหลงั จากการยิง เพือให้
การปรนนิบตั ิบาํ รุง ปลก.เนเกฟ เป็นไปอยา่ งถูกตอ้ ง

ก. ก่อนการยงิ
๑) เชด็ ภายในลาํ กลอ้ งใหส้ นิท
๒) ตรวจสภาพของปื นตามทีระบุไวใ้ นคู่มือพลประจาํ ปื น
๓) หล่อลืนส่วนเคลือนที

- ๓๘ -
ข. ระหวา่ งทาํ การยิง

๑) ตรวจดูอาวธุ ตามหว้ งเวลาเป็นหว้ ง ๆ ขณะทาํ การยงิ เพือใหม้ นั ใจวา่ อาวุธปื นยงั ไดร้ ับ
การหล่อลืนอยู่

๒) เมือเกิดเหตตุ ิดขดั หรือการทาํ งานผิดปกติ ใหพ้ ลยิงปฏิบตั ิตามขนั ตอน
ค. ภายหลงั การยงิ

๑) ตรวจอาวธุ เลิกบรรจุและทาํ ความสะอาดทนั ที
๒) ทุก ๙๐ วนั เมือไม่ไดม้ ีการใชง้ าน ใหม้ ีการทาํ ความสะอาดและชโลมนาํ มนั หล่อลืน
ยกเวน้ วา่ มีการตรวจพบสิงบอกเหตุใหต้ อ้ งมกี ารปรนนิบตั ิบาํ รุงมากขึนและบอ่ ยขึนกวา่ ปกติ
๒ – ๘ การปรนนิบตั ิบาํ รุงภายใต้สถานการณ์ นชค.
ถา้ หากอาวธุ ปลก.เนเกฟ ไดถ้ ูกปนเปื อนดว้ ยสารเคมี ชีวะ หรือสารกมั มนั ตรังสี ใหพ้ ลยิง
หรือทหารทีมีหนา้ ทีใชอ้ าวธุ นนั ปฏิบตั ิตามขนั ตอนทีถกู ตอ้ งเพือลดโอกาสทีอาวธุ จะถูกสารเหล่านนั
และซึมซาบเขา้ ไป
ก. สารเคมี ใชช้ ุดผา้ ทาํ ความสะอาดจากชุดเครืองมือทาํ ความสะอาดแบบ เอม็ .๒๕๘

เอ.๑ เช็ดถูสารเคมีออกจากอาวธุ แต่ถา้ หากไม่มีชุดเครืองมือดงั กลา่ วก็ให้ใชก้ ารชาํ ระลา้ งดว้ ยนาํ รอ้ น
นาํ สบู่ แลว้ ลา้ งออกดว้ ยนาํ สะอาด

ข. สารชีวภาพ ใชช้ ุดผา้ ทาํ ความสะอาดหรือนาํ ร้อนและนาํ สบู่ ทาํ ความสะอาดแลว้ ลา้ ง

ออกดว้ ยนาํ สะอาด
ค. สารกมั มันตรังสี ใชแ้ ปรงหรือผา้ เช็ดทาํ ความสะอาดอาวุธหรือชาํ ระลา้ งออกดว้ ยนาํ

และนาํ สะอาด รายละเอียดเพิมเติมใหศ้ ึกษาจากคู่มอื ของ วศ.ทบ.

- ๓๙ -

บทที ๓

ขนั ตอนและระบบการทํางาน

ขอ้ ความในบทนีจะอธิบายถึงขนั ตอนการทาํ งานของ ปลก.เนเกฟ ซึงจะประกอบดว้ ยการ

บรรจกุ ระสุน การเลิกบรรจุ วงรอบการทาํ งาน และการใชข้ าทราย
๓-๑ การทาํ งาน

วธิ ีการทาํ งานของ ปลก.เนเกฟ ไดแ้ ก่ การบรรจุ การยิง การเลิกบรรจุและการใชก้ ระสุนทีต่อกนั
เป็นสายกระสุน หรือการใชซ้ องกระสุนชนิด ๓๐ นดั ของ ปลย.เอม็ .๑๖ ในกรณีเร่งด่วนฉุกเฉิน การ

ทาํ งานของ ปลก.เนเกฟ นี ใชร้ ะบบการทาํ งานดว้ ยแรงดนั ของแกส๊ ผลกั ดนั ใหล้ ูกกระสุนวิงผ่าน
ลาํ กลอ้ งปื นออกไป ปลก.แบบนีใชก้ ารบรรจุ การยิง เลิกบรรจุและตรวจอาวุธในท่าลูกเลือนเปิ ดทงั สิน
การจะดึงคนั รังลูกเลือนไปขา้ งหลงั ไดน้ นั พลยิงจะตอ้ งเลือนคนั บงั คบั การยงิ จากตาํ แหน่งหา้ มไก
(S)มาอยูใ่ นตาํ แหน่งพรอ้ มยิง(R หรือ A)เสียก่อนเท่านนั และก่อนทีจะใชส้ ายกระสุน จะตอ้ งตรวจดู
ใหแ้ น่ใจวา่ ขอ้ ต่อสายกระสุนขอ้ แรกเป็น ๒ ชนั ไม่มีฝ่ นุ คราบสกปรกหรือสนิม เมือจะใชซ้ องกระสุน
จะตอ้ งใส่ซองกระสุนตรงช่องของมนั และภายในตอ้ งไม่มีฝ่ นุ หรือสนิม
๓-๒ การบรรจุ

ก่อนบรรจุกระสุน พลยงิ ตอ้ งตรวจอาวธุ ก่อนทกุ ครัง โดยใหฝ้ าปิ ดหอ้ งลูกเลือนยกขึน อยา่ ให้
ใบหนา้ อยใู่ กลก้ บั รังเพลิงทีเปิ ดขณะบรรจุกระสุน

ดนั คนั รังลกู เลือนไปดา้ นหนา้ สุด เลือนคนั บงั คบั การยิงไปที S

รูปที ๓ – ๑ (ก) การบรรจุกระสุน

- ๔๐ -

บีบกลอนเขา้ เพือเปิ ดฝาครอบหอ้ งลกู เลือน

รูปที ๓ - ๑ (ข) การบรรจุ

ก. การป้อนกระสุนดว้ ยสายกระสุนรูปที ๓-๒
๑) จดั กรวยจดั แก๊สไวใ้ นตาํ แหน่งที ๒
๒) ดึงคนั รังลูกเลือนมาขา้ งหลงั สุดแลว้ เลือนไปขา้ งหนา้ ในตาํ แหน่งทีทาํ ใหเ้ กิดเสียงดงั

คลิก (ในตาํ แหน่งล๊อค)
๓) จดั เลือนคนั บงั คบั การยงิ ไปทีตาํ แหน่งหา้ มไก(s)
๔) สอดกล่องบรรจุสายกระสุนเขา้ ในช่องใส่ซองกระสุนแลว้ ดึงสายกระสุนไปวางไวบ้ น

แผน่ เหลก็ รองกระสุน โดยให้กระสุนนดั แรกอยใู่ นช่องป้อนกระสุน(ภายในเหลก็ กนั กระสุน)
๕) กดปิ ดฝาปิ ดหอ้ งลูกเลือนรูปที ๑-๖(ข)

เหลก็ กนั กระสุน

วางดา้ นขอ้ ต่อปิ ดควาํ ลง

กระสุนนดั แรก
รูปที ๓ - ๒ การป้อนกระสุนด้วยสายกระสุน

- ๔๑ -
ข. การป้อนกระสุนดว้ ยซองกระสุน รูปที ๓ – ๓ (ก และ ข) ใหจ้ ดั กรวยจดั แก๊สไวต้ าํ แหน่งที
๒ บรรจุซองกระสุนชนิด ๓๐ นดั เขา้ กบั ตวั ปื น โดยใส่เขา้ ไปในช่องซองกระสุนทางดา้ นล่างของ

โครงปื น จนกระทงั ซองกระสุนเขา้ ทีและเหลก็ ยดึ ซองกระสุนไดล้ อ๊ คซองกระสุนเรียบร้อย

กาํ จบั รอบซองกระสุนแลว้ ดนั ขึน ป่ ุมปลดซอง
กระสุน

รูปที ๓ – ๓(ก) การบรรจุซองกระสุน

มือจบั กาํ รอบซองกระสุน หวั แม่มือกด
พร้อมนิวหวั แม่มือกดทีป่ ุม ทีป่ ุมปลด
ปลดซองกระสุนแลว้ ดึงลง
ซองกระสุน
รูปที ๓ – ๓ (ข)

- ๔๒ -
หมายเหตุ : ปื นไม่สามารถป้อนกระสุนพรอ้ มกนั ทงั จากสายกระสุนและซองกระสุนได้
เนืองจากปื นจะป้อนกระสุนซอ้ นกนั จาก ๒ ทศิ ทาง เป็นเหตุใหป้ ื นหยุดยงิ หรือเกิดเหตุติดขดั ได้ จึงควร
ใหม้ ีการตรวจสอบอยา่ งรอบครอบ แลว้ บรรจเุ ครืองป้อนกระสุนทีตอ้ งการใชช้ นิดเดียวเท่านนั การใช้
ซองกระสุนชนิด ๓๐ นดั ใหใ้ ชไ้ ดเ้ ฉพาะในกรณีเร่งด่วนฉุกเฉินเมือไมม่ ีสายกระสุนใชเ้ ทา่ นนั
๓-๓ การเลกิ บรรจุ

วธิ ีปฏิบตั ิคือ ใหพ้ ลยงิ ดึงคนั รังเลือนมาขา้ งหลงั และเปิ ดรังเพลิงไวใ้ นท่าลูกเลือนเปิ ด จดั
เลือนคนั บงั คบั การยงิ ใหอ้ ยตู่ าํ แหน่งหา้ มไก(S) ขนั ต่อไปใหป้ ฏิบตั ิแยกกนั สาํ หรับพลยิงทีใชส้ าย
กระสุนและพลยงิ ทีใชซ้ องกระสุน

คําเตือน
ก่อนทีจะยกฝาปิ ดห้องลูกเลือน, ใหเ้ บนปื นออกไปให้พน้ ใบหนา้ เพือให้พน้ จาก
รังเพลิงทีจะถูกเปิ ดออก

ก. เมือใชส้ ายกระสุน ยกฝาปิ ดขึนและนาํ เอากระสุนหรือขอ้ ต่อสายกระสุนออกไปจากแผน่
เหลก็ รองกระสุนแลว้ ตรวจดูภายในรงั เพลิง

ข. เมอื ใชซ้ องกระสุน ใชน้ ิวมือกดทีป่ ุมปลดซองกระสุน แลว้ ดึงซองกระสุนออกมาจากช่อง
ใส่ซองกระสุน ยกฝาปิ ดหอ้ งลูกเลือนขึน แลว้ ตรวจดูภายในรังเพลิง

ค. เปิ ดหา้ มไก แลว้ เหนียวไกปลอ่ ยชุดโครงนาํ ลูกเลือนไปขา้ งหนา้ โดยใชม้ ือประคองคนั รัง
ลกู เลือนไวใ้ หเ้ คลือนทีไปขา้ วหนา้

ง. หา้ มไกปื น
๓-๔ วงรอบการทํางาน

วงรอบการทาํ งานของปื นเริมขึนโดยกระสุนนดั แรกทีถูกใส่ลงไปในร่องของถาดป้อน
กระสุน หรือการใส่ซองกระสุนเขา้ ไปกบั ตวั ปื น เมือเหนียวไกมาขา้ งหลงั กระเดืองไกจะหลุดจากแง่
ยดึ กระเดืองไก หลดุ ออกจากการยดึ กา้ นสูบ ซึงทาํ ใหล้ ูกสูบและลูกเลือนถูกแรงดนั ของแหนบส่งให้
พ่งุ ออกไปขา้ งหนา้ วงรอบการทาํ งานจะหยดุ เมือพลยิงปลอ่ ยไกและกระเดืองไกก็จะกลบั เขา้ ทีเดิม คือ
เขา้ ขดั กบั แง่ยดึ กระเดืองไกทีกา้ นสูบ สาํ หรบั การทาํ งานของปื นแบ่งออกไดด้ งั นี

ก. การป้อนกระสุน รูปที ๓ - ๔ ใหเ้ ลือนคนั บงั คบั การยงิ ไปทีตาํ แหน่งยิงทีละนดั (R)หรือยิง
อตั โนมตั ิ(A)แลว้ เหนียวไก กระเดืองนกปื นจะตาํ ลงหลุดจากการขดั ชุดโครงนาํ ลูกเลือน ทาํ ใหล้ ูกเลือน
และโครงนาํ เลือนไปชนกบั กระสุนและนาํ กระสุนเขา้ ไปในรังเพลิง

- ๔๓ -

รูปที ๓ – ๔ การป้อนกระสุน
ข. การขดั กลอน เกิดจากการทีโครงนาํ ลูกเลือนเลือนไปขา้ งหนา้ ทาํ ใหล้ ูกเลือนหมุนขดั กลอน
กบั โครงต่อทา้ ยลาํ กลอ้ ง
ค. การลนั ไก รูปที ๓ – ๕ เขม็ แทงชนวนซึงติดอยกู่ บั โครงนาํ ลูกเลือนกระแทกเขา้ กบั ชนวน
ทา้ ยปลอกกระสุนทีอยใู่ นรังเพลิง ทาํ ใหเ้ กิดการลุกไหมภ้ ายในลูกกระสุน ดินปื นสลายตวั เป็นแกส๊ เกิด
แรงดนั สูงขึนในรังเพลิงและดนั กระสุนใหว้ ิงออกจากลาํ กลอ้ ง

รูปที ๓ - ๕ การลันไก
ง. การปลดกลอน (รูปที ๓ – ๖) เมอื กระสุนเคลือนทีทีผา่ นช่องแก๊สทาํ ใหแ้ ก๊สแรงดนั สูง ไหล
เขา้ ไปในช่องแก๊สและไหลเขา้ ยงั กระบอกสูบแก๊สทางกรวยจดั แก๊ส แลว้ ดนั ลกู สูบถอยมาดา้ นหลงั
พร้อมกบั ชุดโครงนาํ ลูกเลือนจะถูกปลดกลอน


Click to View FlipBook Version