The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ตำราพระโอสถปราสาททอง_Perfect

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by หนังสือ-ตำรา, 2023-08-18 03:09:37

ตำราพระโอสถปราสาททอง_Perfect

ตำราพระโอสถปราสาททอง_Perfect

ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๖ ให้กิน จำเริญศุขติในที่สุดแห่งเตโช เกิดในกองอากาศวาตะ ซึ่งเปนมันทะธาตุ กระทำให้บริโภกอาหารไม่มีรศ ให้ระหอยหอบหิวหาแรงมิได้ แลจำเริญผลธาตุให้บริบูรณ์ขึ้นทัง ๔ ประการ แก้ในกองอะภิญาณธาตุ มีชาติมีธาตุเปนต้น แลภิณธาตุเปนที่สุด ให้แพทย์พึงพิจารณาโรคนั้น จะบังในธาตุกองใดเปนแท้ ก็ให้แพทยนั้นแปรไปตามประเทศโรคอันนั้นเถิด หายวิเสศนัก ๚ ๖ ยาชื่ออัคนีสุริยกาล เอาโสมสุธารศ การะบูน เกสรบัวหลวง ดอกพริกไท สิ่งละส่วน กานชาเทศ อบเชยเทศ การพลู ไครเครือ เจตมูนฃาว ดอกดีปลี สิ่งละ ๒ ส่วน คำอ่านปัจจุบัน ให้กิน จำเริญสุขติในที่สุดแห่งเตโช เกิดในกองอากาศวาตะ ซึ่งเป็นมันทธาตุ กระทำให้บริโภคอาหารไม่มีรส ให้ระหอยหอบหิวหาแรงมิได้ แลจำเริญผลธาตุให้บริบูรณ์ขึ้นทั้ง ๔ ประการ แก้ในกองอภิญญาณธาตุ มีชาติมีธาตุ เป็นต้น แลภิณธาตุเป็นที่สุด ให้แพทย์พึงพิจารณาโรคนั้น จะบังในธาตุกองใดเป็นแท้ ก็ให้แพทย์นั้นแปรไปตามประเทศโรคอันนั้นเถิด หายวิเศษนัก ๚ ๖ ยาชื่ออัคนีสุริยกาล เอาโสมสุธารส การบูร เกสรบัวหลวง ดอกพริกไทย สิ่งละส่วน กัญชาเทศ อบเชยเทศ กานพลู ไคร้เครือ เจตมูลเพลิงขาว ดอกดีปลี สิ่งละ ๒ ส่วน 45


46 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๗


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๗ ใบกระวาน ขิงแครง เจตมูนเพลิง สิ่งละ ๔ ส่วน รากกะชาย นํ้าตานกรวด สิ่งละ ๖ ส่วน ๑๕ ทำเปนจุณบดลายนํ้าตรีกาลพิศต้ม แทรกพิมเสนให้กิน จำเริญผลธาตุในกองอากาศอภิญาณ ซึ่งหย่อนแล พิกาลนั้นให้กล้าขึ้นเปนปรกติ ตามอาจาริย์กล่าวไว้ ทังจำเริญอาหาร ให้บริบูรณ ให้นอนหลับแลจำเริญกำลังขึ้นวิเสศนัก ๚ ๗ ยาชื่อขนาธารา เอาใบกระวาน ดอกเจตมูนแดง สมอพิเภก ขิงแครง สิ่งละส่วน อบเชยเทศ ผลสค้าน สมอไท ดอกพริกไท สิ่งละ ๒ ส่วน สมูลแวง รากช้าพลู ผลมฃามป้อม ดอกดีปลี รากกะชาย คำอ่านปัจจุบัน ใบกระวาน ขิงแครง เจตมูลเพลิง สิ่งละ ๔ ส่วน รากกระชาย นํ้าตาลกรวด สิ่งละ ๖ ส่วน ๑๕1 ท�ำเป็นจุณบดละลายนํ้าตรีกาลพิศต้ม แทรกพิมเสนให้กิน จ�ำเริญผลธาตุในกองอากาศอภิญญาณ ซึ่งหย่อนแล พิการนั้นให้กล้าขึ้นเป็นปรกติ ตามอาจารย์กล่าวไว้ ทั้งจ�ำเริญอาหาร ให้บริบูรณ์ให้นอนหลับแลจ�ำเริญก�ำลังขึ้นวิเศษนัก ๚ ๗ ยาชื่อขนาธารา เอาใบกระวาน ดอกเจตมูลเพลิงแดง สมอพิเภก ขิงแครง สิ่งละส่วน อบเชยเทศ ผลสะค้าน สมอไทย ดอกพริกไทย สิ่งละ ๒ ส่วน สมุลแว้ง รากช้าพลู ผลมะขามป้อม ดอกดีปลี รากกระชาย ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๑๕ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาอัคนีสุริยกาล 47


48 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๘


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๘ รากตำหรุย สิ่งละ ๓ ส่วน เปราะหอม ไพล จันทังสอง สิ่งละ ๔ ส่วน การพลู ๑๒ ส่วน ๑๘ ทำเปนจุณบดลายนํ้าตรีสาระวะรา ตามพิกัดต้มให้กิน แทรกพิมเสน แก้อาโปอันบังเกิดในกองอากาศอภิญาณ ซึ่งกระทำ ให้กำเริบ หย่อน พิกาล นั้นเปนต้น คือมันทะเตโชในกองอากาศอภิญาณนั้นเปนที่สุด กล่าวคือแก้กำเดาให้เดิรสะดวกเปนปรกติมิให้ขัดขั่งเข้า แลให้ผิวหนังมังษ บริบูรณ์งามวิเสศนัก ๚ ๘ ยาชื่อทิพาวาต เอาการบูนส่วน ๑ โกฎหอม เทียรตักแตน เทียรเยาวะภานี แฝกหอมตะนาว เพศนาศ ไคร้เครือ ใบกระวาน ผลกระวาน การพลู ผลดีปลี คำอ่านปัจจุบัน รากต�ำหรุย สิ่งละ ๓ ส่วน เปราะหอม ไพล จันทน์ทั้งสอง สิ่งละ ๔ ส่วน กานพลู ๑๒ ส่วน ๑๘1 ท�ำเป็นจุณบดละลายนํ้าตรีสาระวะรา ตามพิกัดต้มให้กิน แทรกพิมเสน แก้อาโปอันบังเกิดในกองอากาศอภิญญาณ ซึ่งกระท�ำ ให้ก�ำเริบ หย่อน พิการนั้นเป็นต้น คือมันทเตโชในกองอากาศอภิญญาณนั้นเป็นที่สุด กล่าวคือแก้ก�ำเดาให้เดินสะดวกเป็นปรกติมิให้ขัดแข้งเข่า แลให้ผิวหนังมังสะ บริบูรณ์งามวิเศษนัก ๚ ๘ ยาชื่อทิพาวาต เอาการบูรส่วน ๑ โกฐหอม เทียนตาตั๊กแตน เทียนเยาวพาณี แฝกหอมตะนาว พิษนาศน์ ไคร้เครือ ใบกระวาน ผลกระวาน กานพลู ผลดีปลี ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๑๘ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาขนาธารา 49


50 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๙


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๙ รากเจตมูน รากชะลูด หิงสุทธิ สิ่งละ ๒ ส่วน ขิงแครง เหง่ากะชาย ผลช้าพลู ชเอมเทศ พิมเสน สิ่งละ ๓ ส่วน แก่นสนเทศ รากสค้าน ผลพริกไทอ่อน สิ่งละ ๔ ส่วน รากกะเทียม เปราะหอม โกฎกะดูก สิ่งละ ๑๒ ส่วน ๒๕ ทำเปนจุณบดลายนํ้าตรีสาระวะรา ตามพิกัด ต้มแทรกพิมเสนให้กิน แก้ในกองวาตอะภิญาณอากาศให้บริบูรณ แลจำเริญรูป จำเริญกำลัง แก้นอนมิหลับบริโภกอาหารมิได้ แลจำเริญฉกาละวาตะ ให้วัฒณาขึ้น ในศุขติอากาศธาตุให้บังเกิดอัคนีผลโดยเรวยิ่งนัก ๚ะ๛ ๏ ๙ ยาชื่อธาตุอะชิณคุณ เอาหิงยางโพสุทธิ การบูน เทียรดำ เทียรฃาว คำอ่านปัจจุบัน รากเจตมูลเพลิง รากชะลูด หิงคุ์สุทธิ สิ่งละ ๒ ส่วน ขิงแครง เหง้ากระชาย ผลช้าพลู ชะเอมเทศ พิมเสน สิ่งละ ๓ ส่วน แก่นสนเทศ รากสะค้าน ผลพริกไทยอ่อน สิ่งละ ๔ ส่วน รากกระเทียม เปราะหอม โกฐกระดูก สิ่งละ ๑๒ ส่วน ๒๕1 ท�ำเป็นจุณบดละลายนํ้าตรีสาระวะรา ตามพิกัด ต้มแทรกพิมเสนให้กิน แก้ในกองวาตอภิญญาณอากาศให้บริบูรณ์ แลจ�ำเริญรูป จ�ำเริญก�ำลัง แก้นอนมิหลับบริโภคอาหารมิได้ แลจ�ำเริญฉกาลวาตะ ให้วัฒนาขึ้น ในสุขติอากาศธาตุให้บังเกิดอัคนีผลโดยเร็วยิ่งนัก ๚ะ๛ ๏ ๙ ยาชื่อธาตุอะชิณคุณ เอาหิงคุ์ยางโพธิ์สุทธิ การบูร เทียนด�ำ เทียนขาว ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๒๕ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาทิพาวาต 51


52 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๑๐


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๑๐ ผลผักชีลา พรรผักกาด เจตมูนเพลิง ดอกพริกไท สิ่งละส่วน ใบกระวาน แฝกหอมตะนาว เปราะหอม เหง่ากะชาย ข่าหลวง ลำพันแดง พัดแพวแดง ขิงแครง สิ่งละ ๒ ส่วน จัตุวะลาธิกะสมอ โกฎนํ้าเต้า ทำเปนจุณบดลายนํ้าตรีฉินทะลามะกะวาตา สมอวิลันตา แทรกพิมเสนให้กินตามกำลัง ยางรง แก้ในกองอากาศซึ่งบังเกิดเปนบุพรูปก็ดี แลลมคูธทวารปิดในกองอากาศ ปัถวีก็ดี แลกุชฉิยาวาตเปนมันทะวาโยก็ดี แลเตโชเปนกะติกะธาตุก็ดี ให้แพทยพึงประกอบผ่อนปรน ตามในมหาพิกัดท่านกล่าวไว้ เปนอันสำเร็จ คำอ่านปัจจุบัน ผลผักชีลา พรรณผักกาด เจตมูลเพลิง ดอกพริกไทย สิ่งละส่วน ใบกระวาน แฝกหอมตะนาว เปราะหอม เหง้ากระชาย ข่าหลวง ล�ำพันแดง ผักแพวแดง ขิงแครง สิ่งละ ๒ ส่วน จตุผลาธิกะ สมอไทย สมอเทศ สมอพิเภก มะขามป้อม กานพลู ผลดีปลี สิ่งละ ๔ ส่วน โกฐนํ้ากรดสุทธิ ๒๔ ส่วน ๒1 ท�ำเป็นจุณบดละลายนํ้าพิกัดตรีฉินทลมกา โกฐนํ้าเต้า สมอวิลันตา ยางรง แทรกพิมเสนให้กินตามก�ำลัง แก้ในกองอากาศซึ่งบังเกิดเป็นบุพรูปก็ดี แลลมคูถทวารปิดในกองอากาศ ปัถวีก็ดี แลกุจฉิสยาวาตาเป็นมันทวาโยก็ดี แลเตโชเป็นกติกธาตุก็ดี ให้แพทย์พึงประกอบผ่อนปรน ตามในมหาพิกัดท่านกล่าวไว้ เป็นอันส�ำเร็จ ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๒๑ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาธาตุอะชิณคุณ ไท เทศ พิเภก มฃามป้อม 53


54 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปรา สาททอง หน้าต้นที่ ๑๑


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๑๑ ทุกประการ คือหายโรคดังกล่าวมานี้ ๚ ๑๐ ยาชื่อวิบูรรณาธาตุ เอาหิงสุทธิ์ การะบูน เทียรดำ เทียรฃาว เทียรตักกะแตน ผลผักชีทังสอง พรรผักกาด ดอกพริกไท สิ่งละส่วน เปราะหอม ศีศะเต่าเกียด ทะเวคันธา ราก บุนนาก ข่าหลวง รากขัดมอน ใบสเดา สิ่งละ ๒ ส่วน มทราง มตูมอ่อน ตรีเกษรามาศ เกสรบัวหลวง ว่านนํ้า ไพล เจตมูนเพลิง ขิงแครง เหง่ากะชาย เปลือกฝิ่นต้น ผลกะวาน กะเทียมสดขั้ว ใบกันเตรา ตรีคันธวาต ผลจันเทศ สิ่งละ ๔ ส่วน ผลดีปลี การพลู สมุลแวง ตรีสุระผละ เนื้อไม้ สิ่งละ ๑๒ ส่วน ๓๓ ทำเปนจุณบทลายนํ้าตรีสรรนิปาตะผล เทพทาโร แทรกพิมเสนให้กินตามกำลัง แก้ในกองอากาศปัถวี อันยิ่งไปด้วยเสมหะ คำอ่านปัจจุบัน ทุกประการ คือหายโรคดังกล่าวมานี้ ๚ ๑๐ ยาชื่อวิบูรรณาธาตุ เอาหิงคุ์สุทธิ การบูร เทียนด� ำ เทียนขาว เทียนตาตั๊กแตน ผลผักชีทั้งสอง พรรณผักกาด ดอกพริกไทย สิ่งละส่วน เปราะหอม หัวเต่าเกียด ทเวคันธา รากบุนนาค รากมะซาง ข่าหลวง รากขัดมอน ใบสะเดา สิ่งละ ๒ ส่วน ตรีเกสรมาศ มะตูมอ่อน เกสรบัวหลวง เปลือกฝิ่นต้น ว่านนํ้า ไพล เจตมูลเพลิง ขิงแครง เหง้ากระชาย กระเทียมสดคั่ว ใบกันเกรา ตรีคันธวาต ผลกระวาน ผลจันทน์เทศ กานพลู สิ่งละ ๔ ส่วน ผลดีปลี ตรีสุรผล สมุลแว้ง เนื้อไม้ เทพทาโร สิ่งละ ๑๒ ส่วน ๓๓ 1 ท� ำเป็นจุณบดละลายนํ้าตรีสันนิบาตผล แทรกพิมเสนให้กินตามก� ำลัง แก้ในกองอากาศปัถวี อันยิ่งไปด้วยเสมหะ ๑ ใต้ค� ำว่าส่วนมีเลข ๓๓ หมายถึง จ� ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาวิบูรรณาธาตุ 55


56 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๑๒


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๑๒ เกิดแต่มันทะอากาศก็ดี แลลมโกฐาไสยวาตเปนกะติกะวาโย ให้บังเกิด เพราะพวาตพัดเตโชเปนมันทะธาตุก็ดี แลกุชฉิยาวาตกล้ามิได้หยัดทวารไว้ก็ดี แลอุจาระเปนส่าหยาบแลเลอียดระคนกันหากำหนดมิได้ก็ดี มีกลิ่นอันร้าย ต่างต่างก็ดี ให้พึงพิจารณาประเทศโรคกับโอสถนั้น ให้ต้องกันกับมหา พิกัดท่านกล่าวไว้ จึ่งประกอบขึ้นวางตามสมุถาณโรค โรคนั้นจึ่งจะ เสื่อมหายทุกประการ ดังอาจารย์กล่าวไว้ดังนี้วิเสศนัก ๚ะ๛ ๏ ๑๑ ยาชื่อธาตุพิศดาน เอาชมดเชียง พิมเสน สิ่งละส่วน โกฎทังห้า ผลกระวาน เทียรทังห้า แฝกหอม ใบกระวาน ตรีคันธะวาต ลูกจันเทศ การะบูน การพลู คำอ่านปัจจุบัน เกิดแต่มันทอากาศก็ดี แลลมโกฏฐาสยาวาตาเป็นกติกะวาโย ให้บังเกิด เพราะพวาตพัดเตโชเป็นมันทธาตุก็ดี แลกุจฉิสยาวาตากล้ามิได้หยัดทวารไว้ก็ดี แลอุจจาระเป็นส่าหยาบแลละเอียดระคนกันหากำหนดมิได้ก็ดี มีกลิ่นอันร้าย ต่าง ๆ ก็ดี ให้พึงพิจารณาประเทศโรคกับโอสถนั้น ให้ต้องกันกับมหา พิกัดท่านกล่าวไว้ จึงประกอบขึ้นวางตามสมุฏฐานโรค โรคนั้นจึงจะ เสื่อมหายทุกประการ ดังอาจารย์กล่าวไว้ดังนี้วิเศษนัก ๚ะ๛ ๏ ๑๑ ยาชื่อธาตุพิศดาน เอาชะมดเชียง พิมเสน สิ่งละส่วน โกฐทั้งห้า เทียนทั้งห้า แฝกหอม ใบกระวาน ตรีคันธวาต ผลกระวาน ลูกจันทน์เทศ กานพลู การบูร 57


58 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๑๓


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๑๓ ไครเครือ พริกมูลนก สิ่งละ ๒ ส่วน ผลผักชีลา ว่านร่อนทอง หลวง พริกหอม สิ่งละ ๓ ส่วน เปลือกโมก เบญกูลกุลาผละ สิ่งละ ๔ ส่วน มัน กะเทียมราง เปราะหอม สมูลแวง ผลจันเกาะ สิ่งละ ๖ ส่วน เบญกานี ๘ ส่วน ทำเปนจุณบดลายนํ้าจัตุกาละธาตุ แทรกพิมเสนให้กิน สะกดแก้ในเบญมูลธาตุ มีสัมปัติธาตุเปนต้น วิภาคยะธาตุเปนที่สุด แก้ให้บริบูรณ์ขึ้นมิให้วิปริต แลจำเริญรูปจำเริญกำลังวิเสศนัก ๚ะ๛ ๏ ๑๒ ยาชื่อสมุถาณบันจบ เอาโกฎทังห้า เทียรทังห้า ตรีผลาวะลัง สิ่งละส่วน เพศนาศ ไครเครือ การะบูน ผลผักชีลา สิ่งละ ๒ ส่วน คำอ่านปัจจุบัน ไคร้เครือ พริกมูลนก สิ่งละ ๒ ส่วน ผลผักชีลา ว่านร่อนทอง พริกหอม สิ่งละ ๓ ส่วน เปลือกโมกหลวง เปลือกโมกมัน เบญจกูลกุลาผละ สิ่งละ ๔ ส่วน กระเทียมราง เปราะหอม สมุลแว้ง ผลจันทน์เกาะ สิ่งละ ๖ ส่วน เบญกานี ๘ ส่วน ทำเป็นจุณบดละลายนํ้าจตุกาลธาตุ แทรกพิมเสนให้กิน สะกดแก้ในเบญจมูลธาตุ มีสัมปัติธาตุเป็นต้น วิภาคยะธาตุเป็นที่สุด แก้ให้บริบูรณ์ขึ้นมิให้วิปริต แลจำเริญรูปจำเริญกำลังวิเศษนัก ๚ะ๛ ๏ ๑๒ ยาชื่อสมุถาณบันจบ เอาโกฐทั้งห้า เทียนทั้งห้า ตรีผลาวะลัง สิ่งละส่วน พิษนาศน์ ไคร้เครือ การบูร ผลผักชีลา สิ่งละ ๒ ส่วน 59


60 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปรา สาททอง หน้าต้นที่ ๑๔


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๑๔ กะเทียมราง สมูลแวง เมลดโมกมัน จันทังสอง การพลู ตรีสาระวรา ตรีกตุกา สิ่งละ ๓ ส่วน ผลจันเทศ เบญกานี เนียระภูษี รากกะชาย ใบกวาน เปราะหอม ตรีกาลพิศ รากข่า สิ่งละ ๔ ส่วน ตรีสุคนธ อบเชยเทศ ตรีเกษรา รากกะเพรา รากพิมเสน มตูมอ่อน มาศ เปลือกฝิ่นต้น สิ่งละ ๖ ส่วน ทำเปนจุณบดลายนํ้าตรีศุขติสมุถาณต้ม แทรกพิมเสน เกสรบัวหลวง ให้กิน สะกดในกองตรีกาละสมุถาณให้บริบูรณ์ขึ้น มิให้วิปรีต ในกองเบญมูลธาตุ บำบัดโรคทังปวงหายสิ้นวิเสศนัก ๚ะ๛ ๏ ๑๓ ยาชื่ออะชิณพิกัด เอามหาหิงสุทธิ กะเทียมราง ผิวมกรูด การะบูน สิ่งละ ๒ ส่วน ใบกระวาน การพลู สมูลแวง ตรีกตุกา คำอ่านปัจจุบัน กระเทียมราง สมุลแว้ง เมล็ดโมกมัน จันทน์ทั้งสอง กานพลู ตรีสาระวรา ตรีกฏุก สิ่งละ ๓ ส่วน ผลจันทน์เทศ เบญกานี เนระพูสี เปราะหอม ตรีกาลพิศ รากกระชาย รากข่า รากกะเพรา สิ่งละ ๔ ส่วน ตรีสุคนธ์ ใบกระวาน อบเชยเทศ รากพิมเสน ตรีเกสร มาศ มะตูมอ่อน เปลือกฝิ่นต้น เกสรบัวหลวง สิ่งละ ๖ ส่วน ทำเป็นจุณบดละลายนํ้าตรีสุคติสมุฏฐานต้ม แทรกพิมเสน ให้กิน สะกดในกองตรีกาลสมุฏฐานให้บริบูรณ์ขึ้น มิให้วิปริต ในกองเบญจมูลธาตุ บำบัดโรคทั้งปวงหายสิ้นวิเศษนัก ๚ะ๛ ๏ ๑๓ ยาชื่ออะชิณพิกัด เอามหาหิงคุ์สุทธิ กระเทียมราง ผิวมะกรูด การบูร สิ่งละ ๒ ส่วน ใบกระวาน กานพลู สมุลแว้ง ตรีกฏุก 61


62 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปรา สาททอง หน้าต้นที่ ๑๕


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๑๕ ไท หางตเข้ รงทองสุทธิ สิ่งละ ๔ ส่วน จัตุวะลาธิกะสมอ พิเภก ตรีเพชร์วุท ยางรง โกฎนํ้ากรด เทศ ฝักราชพฤก มขามป้อม สิ่งละ ๘ ส่วน ๑๗ ทำเปนจุณบดลายนํ้าผึ้งให้กินตามกำลัง ตัดอะชิณโรคใน ๑๒ สมุถาณ มิให้บังเกิดขึ้นได้ แลละโลงในกองเบญมูลธาตุ อันเปนกะติกะนั้นให้เปนศุขวิเสศนัก ๏ ๑๔ ยาชื่อวิปติสมุถาณ เอากะเทียมราง ๒ ส่วน เทียรทังห้า มหาหิงสุทธิ หางตะเข้ ตรีเพชร์วุท ยางรง รงทองสุทธิ สิ่งละ ๔ ส่วน ตรีกตุกา เปลือกกุ่มนํ้า ฝักราชพฤก เปลือกกุ่มบก เปลือกมรุม สิ่งละ ๘ ส่วน ๑๕ ทำเปนจุณบดลายนํ้าผึ้ง ให้กินตามกำลัง แก้อะชิณธาตุพิบัดิ กล่าวคือตัดเสียซึ่งสำแลงให้ตก มิให้ธาตุระสํ่าระสาย ให้ตั้งมั่นไว้ซึ่งสมุถาณทังปวงวิเสศนัก ๚ะ๛ คำอ่านปัจจุบัน รงทองสุทธิ สิ่งละ ๔ ส่วน จตุผลาธิกะ สมอไทย สมอพิเภก สมอเทศ มะขามป้อม ตรีเพชรอาวุธ ว่านหางจระเข้ ยางรง ฝักราชพฤกษ์ โกฐนํ้ากรด สิ่งละ ๘ ส่วน ๑๗ 1 ท� ำเป็นจุณบดละลายนํ้าผึ้งให้กินตามก� ำลัง ตัดอชิณโรคใน ๑๒ สมุฏฐาน มิให้บังเกิดขึ้นได้ แลละโลงในกองเบญจมูลธาตุ อันเป็นกติกะนั้นให้เป็นสุขวิเศษนัก ๏ ๑๔ ยาชื่อวิปติสมุถาณ เอากระเทียมราง ๒ ส่วน เทียนทั้งห้า มหาหิงคุ์สุทธิ ตรีเพชรอาวุธ ว่านหางจระเข้ ยางรง ฝักราชพฤกษ์ รงทองสุทธิ สิ่งละ ๔ ส่วน ตรีกฏุก เปลือกกุ่มนํ้า เปลือกกุ่มบก เปลือกมะรุม สิ่งละ ๘ ส่วน ๑๕ 2 ท� ำเป็นจุณบดละลายนํ้าผึ้ง ให้กินตามก� ำลัง แก้อชิณธาตุพิบัติ กล่าวคือตัดเสียซึ่งส� ำแลงให้ตก มิให้ธาตุระสํ่าระสาย ให้ตั้งมั่นไว้ซึ่งสมุฏฐานทั้งปวงวิเศษนัก ๚ะ๛ ๑ ใต้ค� ำว่าส่วนมีเลข ๑๗ หมายถึง จ� ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาอะชิณพิกัด ๒ ใต้ค� ำว่าส่วนมีเลข ๑๕ หมายถึง จ� ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาวิปติสมุถาน 63


64 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๑๖


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๑๖ ๏ ๑๕ ยาชื่อโสฬศอัคนี เอาเกลือเทศ ๑ ขิงแครง ๒ ดีปลี ๓ พริกไทอ่อน ๔ หิงยางโพ ๕ เทียรตักกะแตน ๖ มตูมอ่อน ๗ บรเพช ๘ ตรีเพชร์วุท การพลู ๙ สมอ หางตะเข้ พิเภก ๑๐ มฃามป้อม ๑๑ สมออัพยา ๑๒ ฝักราชพฤก ๑๓ ฃ่าตาแดง ๑๔ รง เจตมูล กะชาย ๑๕ รากกระเพรา ๑๖ ตรีสาระวะรา สค้าน ตามบดลดส่วนต้น ๑๙ ทำเปนจุณ ชาพลู บดลายนํ้าร้อนให้กินตามกำลัง แก้ในกองเบญมูลธาตุ ซึ่งวิปริตเปนกะติกะนั้น ให้อันตะระทาน แลให้จำเริญให้กายเปนศุข ให้รู้รศอาหารทังจำเริญจตุกาลธาตุ ให้บริบูรณ์ขึ้นวิเสศนัก ๚ ๑๖ ยาชื่อประสระกะเทียมน้อย เอาการบูร เบญกานี ลูกจันเทศ ผลจันเกาะ สิ่งละส่วน สีเสียดทังสอง ตรีคันธวาต กระวาน เปลือกเพกา การพลู คำอ่านปัจจุบัน ๏ ๑๕ ยาชื่อโสฬศอัคนี เอาเกลือเทศ ๑ ขิงแครง ๒ ดีปลี ๓ พริกไทยอ่อน ๔ หิงคุ์ยางโพ ๕ เทียนตาตั๊กแตน ๖ มะตูมอ่อน ๗ บอระเพ็ด ๘ ตรีเพชรอาวุธ กานพลู ๙ สมอ พิเภก ๑๐ มะขามป้อม ๑๑ สมออัพยา ๑๒ ว่านหางจระเข้ ฝักราชพฤกษ์ รง ๑๓ ข่าตาแดง ๑๔ กระชาย ๑๕ รากกะเพรา ๑๖ ตรีสาระวะรา เจตมูลเพลิง สะค้าน ช้าพลู ตามบดลดส่วนต้น ๑๙1 ท�ำเป็นจุณ บดละลายนํ้าร้อนให้กินตามก�ำลัง แก้ในกองเบญจมูลธาตุ ซึ่งวิปริตเป็นกติกะนั้น ให้อันตรธาน แลให้จ�ำเริญให้กายเป็นสุข ให้รู้รสอาหารทั้งจ�ำเริญจตุกาลธาตุ ให้บริบูรณ์ขึ้นวิเศษนัก ๚ ๑๖ ยาชื่อประสระกะเทียมน้อย เอาการบูร เบญกานี ผลจันทน์เกาะ สิ่งละส่วน สีเสียดทั้งสอง ตรีคันธวาต ลูกจันทน์เทศ กระวาน กานพลู เปลือกเพกา ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนต้นมีเลข ๑๙ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาโสฬศอัคนี 65


66 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๑๗


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๑๗ เปลือกโมกหลวง แห้วหมู มตูมอ่อน สิ่งละ ๒ ส่วน เปลือกขี้อ้ายนา สค้าน เปลือกหางกราย สิ่งละ ๔ ส่วน กะเทียมราง ๖ ส่วน ตรีสารวะรา ชาพลู เจตมูล ตามพิกัดส่วนต้น ๑๘ ทำเปนจุณบดด้วยนํ้าตรีศุขติสมุถาณ ทำแท่งไว้ลายนํ้าตรีผล สมุถาณก็ได้ นํ้าตรีเกษรามาศก็ได้ ให้กินแก้ลามกชวร อันบังเกิดแต่ กองอะชิณโรค ๔ ประการ แลกระทำให้ประเมหะนั้นเปนปรกติปลุกในกอง เบญมูลธาตุ แลจัตุกาลธาตุนั้น ให้ตั้งขึ้นโดยเรวพลันวิเสศนัก ๚ะ๛ ๏ ๑๗ ยาชื่อประสระกะเทียมใหญ่ เอาจันทังสอง สุพรรณถันแดง สิ่งลส่วน เทียรฃาว ชะลูด สิ่งละ ๒ ส่วน ผลจันเกาะ ดอกจัน กระวาน คำอ่านปัจจุบัน เปลือกโมกหลวง แห้วหมู มะตูมอ่อน สิ่งละ ๒ ส่วน เปลือกขี้อ้ายนา เปลือกหางกราย สิ่งละ ๔ ส่วน กระเทียมราง ๖ ส่วน ตรีสารวะรา สะค้าน ช้าพลู เจตมูลเพลิง ตามพิกัดส่วนต้น ๑๘1 ท�ำเป็นจุณบดด้วยนํ้าตรีสุคติสมุฏฐาน ท�ำแท่งไว้ละลายนํ้าตรีผล สมุฏฐานก็ได้ นํ้าตรีเกสรมาศก็ได้ ให้กินแก้ลามกชวร อันบังเกิดแต่ กองอชิณโรค ๔ ประการ แลกระท�ำให้ปรเมหะนั้นเป็นปรกติปลุกในกอง เบญจมูลธาตุ แลจตุกาลธาตุนั้น ให้ตั้งขึ้นโดยเร็วพลันวิเศษนัก ๚ะ๛ ๏ ๑๗ ยาชื่อประสระกะเทียมใหญ่ เอาจันทน์ทั้งสอง สุพรรณถันแดง สิ่งละส่วน เทียนขาว ชะลูด สิ่งละ ๒ ส่วน ผลจันทน์เกาะ ดอกจันทน์ กระวาน ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนต้นมีเลข ๑๘ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาประสระกะเทียมน้อย 67


68 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๑๘


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๑๘ มัน สิ่งละ ๓ ส่วน แห้วหมู มตูมอ่อน เปลือกโมก สิ่งละ ๔ ส่วน หลวง การะบูน การพลู เปลือกฝิ่นต้น เปลือกช้างน้าว พริกไทอ่อน สิ่งละ ๖ ส่วน กะเทียมราง ๔๗ ส่วน เบญกุลาผละตามพิกัด ๒๓ ทำเปน จุณเอานํ้ามหาหิงสุทธิเปนกระสายบด ทำเปนแท่งไว้ลายนํ้าตรีผละสมุถาณ ปลุกในกองอุจารธาตุ แลคันธลามก อันบังเกิดแต่เบญมูลธาตุนั้น ให้บริบูรณ์วิเสศนัก ๚ ๑๘ ยาชื่อประสระการพลูน้อย เอาเทียรดำ เทียรฃาว การะบูน สุพรรณถัน นํ้าประสารทอง โกฎสอ สิ่งละส่วน กฤษนา กะลำภัก สิ่งละ ๒ ส่วน ไพลเหลือง เปลือกเพกา คำอ่านปัจจุบัน สิ่งละ ๓ ส่วน แห้วหมู มะตูมอ่อน เปลือกโมกมัน เปลือกโมกหลวง สิ่งละ ๔ ส่วน การบูร กานพลู เปลือกฝิ่นต้น เปลือกช้างน้าว พริกไทยอ่อน สิ่งละ ๖ ส่วน กระเทียมราง ๔๗ ส่วน เบญกุลาผละตามพิกัด ๒๓1 ท�ำเป็น จุณเอานํ้ามหาหิงคุ์สุทธิเป็นกระสายบด ท�ำเป็นแท่งไว้ละลายนํ้าตรีผลสมุฏฐาน ปลุกในกองอุจจาระธาตุ แลคันธลามก อันบังเกิดแต่เบญจมูลธาตุนั้น ให้บริบูรณ์วิเศษนัก ๚ ๑๘ ยาชื่อประสระกานพลูน้อย เอาเทียนด�ำ เทียนขาว การบูร สุพรรณถัน นํ้าประสานทอง โกฐสอ สิ่งละส่วน กฤษณา กระล�ำพัก สิ่งละ ๒ ส่วน ไพลเหลือง เปลือกเพกา ๑ ใต้ค�ำว่าพิกัดมีเลข ๒๓ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาประสระกะเทียมใหญ่ 69


70 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๑๙


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๑๙ เปลือกหางกราย สิ่งละ ๔ ส่วน การพลู ๑๒ ส่วน ตรีกตุกาตามกำลัง ๑๕ ทำเปนจุณบดด้วยนํ้าครั่ง ทำแท่งไว้ลายนํ้าตรีผลธาตุ ให้กินแก้ในกองอุจาระ ธาตุแลคันธลามก อันเกิดในกองเบญมูลธาตุนั้นวิเสศนัก ๚ะ๛ ๏ ๑๙ ยาชื่อประสระการพลูใหญ่ เอาผลกระวาน ลำพัน สมูลแวง เปลือกตีนเปด โมกทัง ๓ เปลือกมม่วงพรวน เทียรตักแตน สิ่งละส่วน กฤษนา จันทังสอง กะชาย โกฎกดูก เทียรดำ สิ่งละ ๒ ส่วน เปลือกขี้อ้ายนา ผลจัน ใบกระวาน อบเชย ไพลแห้ง แห้วหมู เปราะหอม แฝกหอมตนาว ผลเร่วใหญ่ คำอ่านปัจจุบัน เปลือกหางกราย สิ่งละ ๔ ส่วน กานพลู ๑๒ ส่วน ตรีกฏุกตามกำลัง ๑๕ ทำเป็นจุณบดด้วยนํ้าครั่ง ทำแท่งไว้ละลายนํ้าตรีผลธาตุ ให้กินแก้ในกองอุจจาระ ธาตุแลคันธลามก อันเกิดในกองเบญจมูลธาตุนั้นวิเศษนัก ๚ะ๛ ๏ ๑๙ ยาชื่อประสระการพลูใหญ่ เอาผลกระวาน ลำพัน สมุลแว้ง เปลือกตีนเป็ด โมกทั้ง ๓ เปลือกมะม่วงพรวน เทียนตาตั๊กแตน สิ่งละส่วน กฤษณา จันทน์ทั้งสอง กระชาย โกฐกระดูก เทียนดำ สิ่งละ ๒ ส่วน เปลือกขี้อ้ายนา ผลจันทน์ ใบกระวาน อบเชย ไพลแห้ง แห้วหมู เปราะหอม แฝกหอมตะนาว ผลเร่วใหญ่ 71


72 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปรา สาททอง หน้าต้นที่ ๒๐


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๒๐ มตูมอ่อน สีเสียดเทศ สิ่งละ ๔ ส่วน ผลตะลุมภุก ผลสแก เปลือกฝิ่นต้น สิ่งละ ๖ ส่วน การพลู ๔๒ ส่วน เบญกุลาผล ตามบดลดส่วนต้น ๓๕ ทำเปนจุณบดด้วยนํ้าเปลือก ฝางเสนต้มด้วยนํ้าปูนใส ตามวิทธี บดทำแท่งไว้ลายนํ้ากระสายตามพิกัดอันควร แก้โรคตาม วิทธีให้กิน ปลุกเบญมูลธาตุให้ตั้ง แก้ลามกชวรพิณธาตุ แลแก้ อะติสาระวัค ๑๑ มารยาดไปดุจไตปลา ระคนด้วยโลหิตชํ้าก็ดี ไปดุจนํ้า สมองเหน้า แตงโมสุ แล ก็ดี แลให้ปวดมวนยิ่งนัก แลบำรุงสมุถาณ เนื้อศีศกุ้งเน่า มิให้วิปริต จำเริญศุขธาตุให้บังเกิดขึ้น เปนปรกติโดยเรวพลันวิเสศนัก ๚ะ๛ คำอ่านปัจจุบัน มะตูมอ่อน สีเสียดเทศ สิ่งละ ๔ ส่วน ผลตะลุมพุก ผลสะแก เปลือกฝิ่นต้น สิ่งละ ๖ ส่วน กานพลู ๔๒ ส่วน เบญกุลาผล ตามบดลดส่วนต้น ๓๕ 1 ท� ำเป็นจุณบดด้วยนํ้าเปลือกแคแดง เปลือกมะกอก เปลือกเพกา เปลือกจิกนา เปลือกกระทุ่ม ฝางเสนต้มด้วยนํ้าปูนใส ตามวิธี บดท� ำแท่งไว้ละลายนํ้ากระสายตามพิกัดอันควร แก้โรคตาม วิธีให้กิน ปลุกเบญจมูลธาตุให้ตั้ง แก้ลามกชวรพิณธาตุ แลแก้ อติสารวรรค ๑๑ มารยาทไปดุจไตปลา ระคนด้วยโลหิตช�้ำก็ดี ไปดุจนํ้า แตงโมสุ แลสมองเหน้าก็ดี เนื้อศีรษะกุ้งเน่าก็ดี แลให้ปวดมวนยิ่งนัก แลบ� ำรุงสมุฏฐาน มิให้วิปริต จ� ำเริญสุขธาตุให้บังเกิดขึ้น เป็นปรกติโดยเร็วพลันวิเศษนัก ๚ะ๛ ๑ ใต้ค� ำว่าส่วนต้นมีเลข ๓๕ หมายถึง จ� ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาประสระการพลูใหญ่ แคแดง มกอก เพกา จิกนา กะทุ่ม 73


74 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๒๑


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๒๑ ๏ พระโอสถ ๑๕ ขนานนี้ ของข้าพระพุทธเจ้าออกพระทิพจักรญาณ ทูลเกล้า ฯ กระหม่อมถวาย เสวยตามสมุถาณพิกัด โดยลักษณพระโรคนั้น ๚ะ๛ ๏ ๒๐ ยาชื่ออำมชาติธารา เอาพิมเสน ชาติก้อน กลำภัก สิ่งละส่วน สีเสียด ทัง ๒ ผลจันเกาะ แก่นสน กรักขี แก่นประดู่ ครั่งดุ้น ดอกคำฝอย ดอกงิ้ว กานชาเทศ สิ่งละ ๒ ส่วน เหง้ามหาหง จันทังสอง เบญกานี สิ่งละ ๔ ส่วน ๑๗ ทำเปนจุณบดด้วยนํ้าตรีศุขติสมุถาณ ทำแท่งไว้ลายนํ้าเบญโลหะต้ม แทรกพิมเสนให้กิน แก้อะมุธาตุอะติสาระโรค ชาติ ซึ่งบังเกิดแต่ จละณะ คืออะหิวาตะกะไภยก็ดี แลกระทำให้ลง อาคันตุกะ คำอ่านปัจจุบัน ๏ พระโอสถ ๑๕ ขนานนี้ ของข้าพระพุทธเจ้าออกพระทิพจักรญาณ ทูลเกล้า ฯ กระหม่อมถวาย เสวยตามสมุฏฐานพิกัด โดยลักษณะพระโรคนั้น ๚ะ๛ ๏ ๒๐ ยาชื่ออ�ำมชาติธารา เอาพิมเสน ชาติก้อน กระล�ำพัก สิ่งละส่วน สีเสียด ทั้ง ๒ ผลจันทน์เกาะ แก่นสน กรักขี แก่นประดู่ ครั่งดุ้น ดอกค�ำฝอย ดอกงิ้ว กัญชาเทศ สิ่งละ ๒ ส่วน เหง้ามหาหงส์ จันทน์ทั้งสอง เบญกานี สิ่งละ ๔ ส่วน ๑๗1 ท�ำเป็นจุณบดด้วยนํ้าตรีสุคติสมุฏฐาน ท�ำแท่งไว้ละลายนํ้าเบญจโลหะต้ม แทรกพิมเสนให้กิน แก้อมุธาตุอติสารโรค ซึ่งบังเกิดแต่ชาติ จลณะ อาคันตุกะ คืออหิวาตกภัยก็ดี แลกระท�ำให้ลง ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๑๗ หมายถึง จ�ำนวนยาทั้งหมดในสูตรยาอ�ำมชาติธารา 75


76 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๒๒


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๒๒ สด เปนเสมหะ ก็ดี ให้แพทยพึงประกอบตามกระสายะพิกัดอันควรแก้โรคให้กิน เหน้า อามา แก้ได้ทัง ติสารหายสิ้นทุกประการวิเสศนัก ๚ ๒๑ ยาชื่อรัดตะธาระธาตุ ปักวา เอาเบญกานี การพลู การบูร ผลจันเทศ ดินแดงเทศ ว่านกีบแรด เนียระภูษี สิ่งละส่วน เปลือกเพกา เปลือกโมกหลวง สีเสียดทั้ง ๒ สิ่งละ ๒ ส่วน เปลือกหางกราย กะเทียมราง สิ่งละ ๖ ส่วน ทำเปนจุณ บดด้วยนํ้าเปลือกมะกอกต้ม ทำแท่งไว้ลายนํ้าสัตโลหะให้กิน แก้ในกองธาตุ อะภิญาณ ๓ ประการ อะสุรินทัณญาณ ๔ ประการ อันบังเกิดขึ้นในกอง อะติสาระวัคเปนต้น ในกองอุจาระธาตุเปนที่สุด นั้นหายสิ้นวิเสศนัก ๚ะ๛ คำอ่านปัจจุบัน เป็นเสมหะสด เน่า ก็ดี ให้แพทย์พึงประกอบตามกระสายพิกัดอันควรแก้โรคให้กิน แก้ได้ทั้งอามาติสาร ปักวาติสารหายสิ้น ทุกประการวิเศษนัก ๚ ๒๑ ยาชื่อรัดตะธาระธาตุ เอาเบญกานี กานพลู การบูร ผลจันทน์เทศ ดินแดงเทศ ว่านกีบแรด เนระพูสี สิ่งละส่วน เปลือกเพกา เปลือกโมกหลวง สีเสียดทั้ง ๒ สิ่งละ ๒ ส่วน เปลือกหางกราย กระเทียมราง สิ่งละ ๖ ส่วน ทำเป็นจุณ บดด้วยนํ้าเปลือกมะกอกต้ม ทำแท่งไว้ละลายนํ้าสัตโลหะให้กิน แก้ในกองธาตุ อภิญญาณ ๓ ประการ อสุริญธัญญาณ ๔ ประการ อันบังเกิดขึ้นในกอง อติสารวรรคเป็นต้น ในกองอุจจาระธาตุเป็นที่สุด นั้นหายสิ้นวิเศษนัก ๚ะ๛ 77


78 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๒๓


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๒๓ ๏ ๒๒ ยาชื่อปฉันณวาตะพิณะ เอาเบญกานี การพลู การบูน โกฎพุงปลา เทียรตักแตน ผลกะดอม บระเพด สิ่งละส่วน จันทังสอง ว่านกีบแรต ว่านร่อนทอง เปราะหอม สิ่งละ ๒ ส่วน เมลดโมกมัน ผลบิด ผลปราย กะเทียมสดขั้ว ผลจันเกาะทาปูนปิ้ง มเดื่อ สิ่งละ ๖ ส่วน เนียระภูษีเทศ ๑๐ ส่วน ๑๘ ทำเปนจุณเอานํ้าเปลือก แคแดง มกอก ต้มเปนกระสายบด ทำแท่งไว้ลายนํ้าเนาวะโลหะเปนต้น แลกระสาย พิกัดในกองสมุถาณเปนที่สุด อันอาจารย์ประกอบไว้นั้นให้กิน แก้ในกอง ปฉันณะวาตะอะติสาร อันบังเกิดแต่อะติสาระวัค ๑๑ แลอุจาระธาตุ ๔ คำอ่านปัจจุบัน ๏ ๒๒ ยาชื่อปฉันณวาตะพิณะ เอาเบญกานี กานพลู การบูร โกฐพุงปลา เทียนตาตั๊กแตน ผลกระดอม บอระเพ็ด สิ่งละส่วน จันทน์ทั้งสอง ว่านกีบแรด ว่านร่อนทอง เปราะหอม สิ่งละ ๒ ส่วน เมล็ดโมกมัน ผลบิด ผลปราย กระเทียมสดคั่ว ผลจันทน์เกาะทาปูนปิ้ง สิ่งละ ๖ ส่วน เนระพูสีเทศ ๑๐ ส่วน ๑๘1 ท�ำเป็นจุณเอานํ้าเปลือกมะเดื่อ เปลือกแคแดง เปลือกมะกอก ต้มเป็นกระสายบด ท�ำแท่งไว้ละลายนํ้าเนาวโลหะเป็นต้น แลกระสาย พิกัดในกองสมุฏฐานเป็นที่สุด อันอาจารย์ประกอบไว้นั้นให้กิน แก้ในกอง ปฉันณวาตอติสาร อันบังเกิดแต่อติสารวรรค ๑๑ แลอุจจาระธาตุ ๔ ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๑๘ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาปฉันณวาตะพิณะ 79


80 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๒๔


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๒๔ อะชิณโรค ๔ บุพรูป ๓๒ ประการ ให้อันตระทานหายสิ้นวิเสศนัก ๚ะ๛ ๏ ๒๓ ยาชื่อมุศกายะประชุม เอาเทียรทังห้า ผลจัน ดอกจัน เบญกานี สีเสียดเทศ เมลดในมะม่วงกะล่อน เมลดในมะทราง เมลดในฝาง เมลดโมกมัน เมลดในสะแก ผลตะบูน สิ่งละส่วน ผลกระวาน การพลู จันทังสอง นํ้าประสารทองสุทธิ ว่านกีบแรต ว่านร่อนทอง สิ่งละ ๒ ส่วน เนียระภูษีเทศ ๔ ส่วน ๒๓ ทำเปนจุณ แล้วใส่ในผลทับทิม เอาดินพอกนอกสุมไฟแกลบให้สุกอย่าให้ไหม้ บดทำแท่งไว้ ละลายนํ้าตรีผละ ดำ สมุถาณให้กินแก้มุศกายะธาตุอะติสาร ซึ่งกระทำให้ลง แดง ระคนกัน เหลือง คำอ่านปัจจุบัน อชิณโรค ๔ บุพรูป ๓๒ ประการ ให้อันตรธานหายสิ้นวิเศษนัก ๚ะ๛ ๏ ๒๓ ยาชื่อมุศกายะประชุม เอาเทียนทั้งห้า ผลจันทน์ ดอกจันทน์ เบญกานี สีเสียดเทศ เมล็ดในมะม่วงกะล่อน เมล็ดในมะซาง เมล็ดในฝาง เมล็ดโมกมัน เมล็ดในสะแก ผลตะบูน สิ่งละส่วน ผลกระวาน กานพลู จันทน์ทั้งสอง นํ้าประสานทองสุทธิ ว่านกีบแรด ว่านร่อนทอง สิ่งละ ๒ ส่วน เนระพูสีเทศ ๔ ส่วน ๒๓1 ท�ำเป็นจุณ แล้วใส่ในผลทับทิม เอาดินพอกนอกสุมไฟแกลบให้สุกอย่าให้ไหม้ บดท�ำแท่งไว้ ละลายนํ้าตรีผล สมุฏฐานให้กินแก้มุศกายธาตุอติสาร ซึ่งกระท�ำให้ลงด�ำ แดง เหลือง ระคนกัน ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๒๓ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยามุศกายะประชุม 81


82 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๒๕


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๒๕ ออกมาเปนมูกเลือดปวดมวน แลเปนนํ้าล้างเนื้อก็ดี อันบังเกิดแต่ในอะติสาระ วัค ๑๑ นั้น ลายนํ้าตรีคันธวาต แลตรีผละธาตุ นํ้าตรีผละสมุถาณก็ได้ หายสิ้นทุกประการวิเสศนัก ๚ ๒๔ ยาชื่อชุมกาลพิศ เอาโกฎสอ โกฎบัว เทียรดำ สมอทังสาม จันทังสาม ดินประสิวฃาว สิ่งละส่วน เกสรบัวหลวง เกสรสารภี เกสรบุนนาก รากบัวหลวง รากมกอก เปลือกโลด ชะลูด รากทองหลางหนาม ใบผักคราด ใบกระเพรา สิ่งละ ๒ ส่วน ดอกฝักทอง ๔ ส่วน สังกระนี ๓๕ ส่วน ๒๓ ทำเปนจุณ บดด้วยนํ้ารากบัวหลวง ทำแท่งไว้ลายนํ้าตรีศุขติสมุถาณต้มให้กิน คำอ่านปัจจุบัน ออกมาเป็นมูกเลือดปวดมวน แลเป็นนํ้าล้างเนื้อก็ดี อันบังเกิดแต่ในอติสาร วรรค ๑๑ นั้น ละลายนํ้าตรีคันธวาต แลตรีผลธาตุ นํ้าตรีผลสมุฏฐานก็ได้ หายสิ้นทุกประการวิเศษนัก ๚ ๒๔ ยาชื่อชุมกาลพิศ เอาโกฐสอ โกฐหัวบัว เทียนด�ำ สมอทั้งสาม จันทน์ทั้งสาม ดินประสิวขาว สิ่งละส่วน เกสรบัวหลวง เกสรสารภี เกสรบุนนาค รากบัวหลวง รากมะกอก เปลือกโลด ชะลูด รากทองหลางหนาม ใบผักคราด ใบกะเพรา สิ่งละ ๒ ส่วน ดอกฟักทอง ๔ ส่วน สังกรณี ๓๕ ส่วน ๒๓1 ท�ำเป็นจุณ บดด้วยนํ้ารากบัวหลวง ท�ำแท่งไว้ละลายนํ้าตรีสุคติสมุฏฐานต้มให้กิน ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๒๓ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาชุมกาลพิศ 83


84 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปรา สาททอง หน้าต้นที่ ๒๖


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๒๖ แก้ในกองเบญกาละอะติสาร อันบังเกิดขึ้นในรวางอะติสาระวัค ๑๑ ประการนั้น แลแก้สรรพอะติสาระพิศม์ก็ได้ หายสิ้นทุกประการวิเสศนัก ๚ะ๛ ๏ ๒๕ ยาชื่อรัตตะวิบูรณ์ เอาเบญกานี ผลจันทังสอง สีเสียดทัง ๒ กฤษนา กลำภัก กำยาน ชันตะเคียน ครั่งดุ้น สุพรรณถัน ดอกพริกไท ดอกดีปลี ดอกขิง สิ่งละส่วน แก่นจันเทศ ๒ ส่วน แก่นจัน ชมด ๔ ส่วน แก่นจันแดงชาตรี ๖ ส่วน ทำเปนจุณบดทำแท่งไว้ ลายนํ้า ดอกคำฝอยต้มให้กิน แทรกนํ้าผึ้งพิมเสนภอสมควร แก้โลหิตอะติสารคือลง ลิ่ม เปนเลือดสดสดออกมานั้นก็ดี ลงเปน คลํ้าดำออกมาก็ดี มีกลิ่นเหมน ก้อน คำอ่านปัจจุบัน แก้ในกองเบญกาลอติสาร อันบังเกิดขึ้นในระวางอติสารวรรค ๑๑ ประการนั้น แลแก้สรรพอติสารพิษก็ได้ หายสิ้นทุกประการวิเศษนัก ๚ะ๛ ๏ ๒๕ ยาชื่อรัตตะวิบูรณ์ เอาเบญกานี ผลจันทน์ทั้งสอง สีเสียดทั้ง ๒ กฤษณา กระลำพัก กำยาน ชันตะเคียน ครั่งดุ้น สุพรรณถัน ดอกพริกไทย ดอกดีปลี ดอกขิง สิ่งละส่วน แก่นจันทน์เทศ ๒ ส่วน แก่นจันทน์ ชะมด ๔ ส่วน แก่นจันทน์แดงชาตรี ๖ ส่วน ทำเป็นจุณบดทำแท่งไว้ ละลายนํ้า ดอกคำฝอยต้มให้กิน แทรกนํ้าผึ้งพิมเสนพอสมควร แก้โลหิตอติสารคือลง เป็นเลือดสด ๆ ออกมานั้นก็ดี ลงเป็นลิ่ม เป็นก้อน คลํ้าดำออกมาก็ดี มีกลิ่นเหม็น 85


86 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๒๗


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๒๗ ฝาง ดังซากอาสพก็ดี หากลิ่นมิได้ก็ดี ลายนํ้า ต้มให้กินก็ได้ หายสิ้นดังกล่าว ครั่ง มานั้นวิเสศนัก ๚ ๒๖ ยาชื่อเนาวคุณ เอาดอกเสนียด รากขิง รากพริกไท ใบสัก ใบผักเสี้ยนผี ใบแมงลัก เมลดในฝาง ยาเข้าเยนเหนือ สิ่งละส่วน รากท้าวยาม่อม ๒ ส่วน ๙ ต้มตามวิทธีให้กิน แก้ตกโลหิตทวารทังเก้า มีรัตตะปิตตะเปนต้น มีอะติสาระโรคเปนที่สุด เปนชาติก็ดี จะละณะก็ดี หายสิ้นทุกประการวิเสศนัก ๚ ๒๗ ยาชื่ออากาศพิกัด เอาโกฎสอจีน โกฎบัว โกฎเชียง เทียรดำ เทียรฃาว เทียรเยาวะภานี ตรีผลาวะลัง จันทังสาม กฤษนา กลำภัก ชะลูด อบเชยเทศ แก่นสน คำอ่านปัจจุบัน ดังซากอาศพก็ดี หากลิ่นมิได้ก็ดี ละลายนํ้าฝาง นํ้าครั่ง ต้มให้กินก็ได้ หายสิ้นดังกล่าว มานั้นวิเศษนัก ๚ ๒๖ ยาชื่อเนาวคุณ เอาดอกเสนียด รากขิง รากพริกไทย ใบสัก ใบผักเสี้ยนผี ใบแมงลัก เมล็ดในฝาง ยาข้าวเย็นเหนือ สิ่งละส่วน รากท้าวยายม่อม ๒ ส่วน ๙1 ต้มตามวิธีให้กิน แก้ตกโลหิตทวารทั้งเก้า มีรัตตะปิตตะเป็นต้น มีอติสารโรคเป็นที่สุด เป็นชาติก็ดี จลณะก็ดี หายสิ้นทุกประการวิเศษนัก ๚ ๒๗ ยาชื่ออากาศพิกัด เอาโกฐสอจีน โกฐหัวบัว โกฐเชียง เทียนด�ำ เทียนขาว เทียนเยาวพาณี ตรีผลาวะลัง จันทน์ทั้งสาม กฤษณา กระล�ำพัก ชะลูด อบเชยเทศ แก่นสน ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๙ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาเนาวคุณ 87


88 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๒๘


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๒๘ ดอกเสนียด ดอกพิกุน เกสรบุนนาก เกสรสาระภี สิ่งละส่วน เกสรบัวหลวง เปราะหอม แฝกหอมตนาว ลำพันแดง สิ่งละ ๒ ส่วน ดอกพริกไท ขิงแครง รากดีปลี มะตูมอ่อน นํ้าเต้าขม สิ่งละ ๔ ส่วน ดอกสเดา ดอกคำฝอย ดอกคัดค้าว สิ่งละ ๘ ส่วน กลีบจำปา ๔๐ ส่วน ๓๔ ทำเปนจุณแล้วจึ่งเอา ชมดเชียง พิมเสน ญ่าฝรั่น อำพันทอง สิ่งละ ๒ เท่า ส่วนต้น ม่าเหมี่ยว กะแจะตะนาว สิ่งละ ๔ เท่าส่วนต้น คุลีการเข้ากับยา บดด้วยนํ้าดอกไม้เทศ ทำแท่งไว้ตากในร่มกว่าจะแห้ง ลายนํ้าเบญมูล ตามพิกัดต้มโดยวิทธีให้กิน แก้อากาศในกองเบญมูลธาตุ ซึ่งบริโภคอาหาร คำอ่านปัจจุบัน ดอกเสนียด ดอกพิกุล เกสรบุนนาค เกสรสารภี สิ่งละส่วน เกสรบัวหลวง เปราะหอม แฝกหอมตะนาว ล�ำพันแดง สิ่งละ ๒ ส่วน ดอกพริกไทย ขิงแครง รากดีปลี มะตูมอ่อน นํ้าเต้าขม สิ่งละ ๔ ส่วน ดอกสะเดา ดอกค�ำฝอย ดอกคัดเค้า สิ่งละ ๘ ส่วน กลีบจ�ำปา ๔๐ ส่วน ๓๔1 ท�ำเป็นจุณแล้วจึงเอา ชะมดเชียง พิมเสน หญ้าฝรั่น อ�ำพันทอง สิ่งละ ๒ เท่า ส่วนต้น มะเหมี่ยว กระแจะตะนาว สิ่งละ ๔ เท่าส่วนต้น คุลีการเข้ากับยา บดด้วยนํ้าดอกไม้เทศ ท�ำแท่งไว้ตากในร่มกว่าจะแห้ง ละลายนํ้าเบญจมูล ตามพิกัดต้มโดยวิธีให้กิน แก้อากาศในกองเบญจมูลธาตุ ซึ่งบริโภคอาหาร ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๓๔ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาอากาศพิกัด 89


90 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปรา สาททอง หน้าต้นที่ ๒๙


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๒๙ วาโย มิได้ไม่มีรศแลนอนมิหลับ อันหาเหตุมิได้นั้น แลแก้พิศ โลหิต ในระวางกำเดา อะชิณธาตุแลสมุถาณ ซึ่งวิปริตนั้นให้ตกสิ้นทุกประการวิเสศนัก อาจารยสรรเสริญ ไว้ดังนี้ ๚ ๒๘ ยาชื่อรัศฆำภร เอาพิมเสน ชมดเชียง อำพันทอง สิ่งละส่วน โกฎบัว โกฎกะดูก โกฎเชียง โกฎสอจีน โกฎก้านพร้าว เทียรดำ เทียรฃาว เทียรเยาวะภานี ใบกระวาน ชเอมเทศ จัตุวะลาธิกะ สมอ จันทัง ๒ กฤษนา ชะลูด ฃอนดอก อบเชยเทศ สมุลแวง แก่นสน เทพทาโร ผลสเดาอ่อน ผลคัดค้าว ผลคำเทศ สิ่งละ ๒ ส่วน แฝกหอมตะนาว ดอกพริกไท ฃิงแครง รากดีปลี เปราะหอม สิ่งละ ๓ ส่วน มะตูมอ่อน คำอ่านปัจจุบัน มิได้ไม่มีรสแลนอนมิหลับ อันหาเหตุมิได้นั้น แลแก้พิษวาโย พิษโลหิต พิษกำเดา ในระวาง อชิณธาตุแลสมุฏฐาน ซึ่งวิปริตนั้นให้ตกสิ้นทุกประการวิเศษนัก อาจารย์สรรเสริญ ไว้ดังนี้ ๚ ๒๘ ยาชื่อรัศฆำภร เอาพิมเสน ชะมดเชียง อำพันทอง สิ่งละส่วน โกฐหัวบัว โกฐกระดูก โกฐเชียง โกฐสอจีน โกฐก้านพร้าว เทียนดำ เทียนขาว เทียนเยาวพาณี ใบกระวาน ชะเอมเทศ จตุผลาธิกะ สมอไทย สมอเทศ สมอพิเภก มะขามป้อม จันทน์ทั้ง ๒ กฤษณา ชะลูด ขอนดอก อบเชยเทศ สมุลแว้ง แก่นสน เทพทาโร ผลสะเดาอ่อน ผลคัดเค้า ผลคำเทศ สิ่งละ ๒ ส่วน แฝกหอมตะนาว ดอกพริกไทย ขิงแครง รากดีปลี เปราะหอม สิ่งละ ๓ ส่วน มะตูมอ่อน ไท เทศ พิเภก มฃามป้อม 91


92 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๓๐


ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๓๐ แห้วหมู ดอกชลูด ดอกคำลาว ลำพันแดง จันชมด ม่าเหมี่ยว สิ่งละ ๔ ส่วน ญ่าฝรั่น กะแจะตะนาว สิ่งละ ๕ ส่วน ปลีจำปา ๓๒ ส่วน ๔๔ ทำเปนจุณบดด้วยนํ้าดอกไม้เทศ ทำแท่งไว้ตากในร่มกว่าจะแห้ง ลายนํ้าเบญมูล ตามพิกัดต้มให้กิน แก้ในกองอากาศ ๑๐ ประการ อันบังเกิดขึ้นในกองธาตุ ทัง ๔ แลสมุถาณทัง ๖ อันเจือระคนกันเปนอะชิรณธาตุก็ดี แลอะชิรณโรคก็ดี ซึ่งหาเหตุมิได้นั้นเปนอันสำเรจ คือ หายโรคทังปวง แลแก้อาคันตุกะจะลณะโรค ซึ่งระคนเข้าในกองธาตุ แลกองสมุถาณนั้นเปนต้น แลพิณธาตุเปนที่สุด ให้สำราญขึ้นโดยศุขติ แลฃับสรรพกำเดาให้บริบูรณ์ดังอาจารย์กล่าวไว้ดังนี้ ๚ะ๛ คำอ่านปัจจุบัน แห้วหมู ดอกชะลูด ดอกค�ำลาว ล�ำพันแดง จันทน์ชะมด มะเหมี่ยว สิ่งละ ๔ ส่วน หญ้าฝรั่น กระแจะตะนาว สิ่งละ ๕ ส่วน ปลีจ�ำปา ๓๒ ส่วน ๔๔1 ท�ำเป็นจุณบดด้วยนํ้าดอกไม้เทศ ท�ำแท่งไว้ตากในร่มกว่าจะแห้ง ละลายนํ้าเบญจมูล ตามพิกัดต้มให้กิน แก้ในกองอากาศ ๑๐ ประการ อันบังเกิดขึ้นในกองธาตุ ทั้ง ๔ แลสมุฏฐานทั้ง ๖ อันเจือระคนกันเป็นอชิรณธาตุก็ดี แลอชิรณโรคก็ดี ซึ่งหาเหตุมิได้นั้นเป็นอันส�ำเร็จ คือ หายโรคทั้งปวง แลแก้อาคันตุกะจลณโรค ซึ่งระคนเข้าในกองธาตุ แลกองสมุฏฐานนั้นเป็นต้น แลพิณธาตุเป็นที่สุด ให้ส�ำราญขึ้นโดยสุขติ แลขับสรรพก�ำเดาให้บริบูรณ์ดังอาจารย์กล่าวไว้ดังนี้ ๚ะ๛ ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๔๔ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยารัศฆ�ำภร 93


94 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๓๑


Click to View FlipBook Version