ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๓๑ ๏ ๒๙ ยาชื่อทิณกอรจำหรัด เอาโกฎสอจีน โกฎบัว โกฎเชียง เทียรดำ เทียรฃาว เทียรเยาวะภานี ตรีผลาวะลัง ตรีกะตุกา สิ่งละส่วน จันทังสาม กฤษนา กะลำภัก ชะลูด อบเชยเทศ แก่นสน กรักขี ดอกจง กลนี ดอกสัตบุต ดอกพิกุน เกสรบุนนาก เกสรสาระภี เกสรบัวหลวง แฝกหอมตะนาว สิ่งละ ๒ ส่วน เลือดช้าง มตูมอ่อน สิ่งละ ๔ ส่วน เมลดราชพฤก ดอกคำลาว สิ่งละ ๘ ส่วน ดอกจำ ปา ๔๙ ส่วน ๓๓ ทำเปนจุณแล้วจึ่งเอา ชมดเชียง พิมเสน ญ่าฝรั่น อำพันเกสร สิ่งละ ๒ เท่าส่วนต้น แล้วจึ่งเอาคุลีการเข้ากับยา บดด้วยนํ้า คำอ่านปัจจุบัน ๏ ๒๙ ยาชื่อทิณกอรจ�ำหรัด เอาโกฐสอจีน โกฐหัวบัว โกฐเชียง เทียนด�ำ เทียนขาว เทียนเยาวพาณี ตรีผลาวะลัง ตรีกฏุก สิ่งละส่วน จันทน์ทั้งสาม กฤษณา กระล�ำพัก ชะลูด อบเชยเทศ แก่นสน กรักขี ดอกจง กลนี ดอกสัตตบุษย์ ดอกพิกุล เกสรบุนนาค เกสรสารภี เกสรบัวหลวง แฝกหอมตะนาว สิ่งละ ๒ ส่วน เลือดช้าง มะตูมอ่อน สิ่งละ ๔ ส่วน เมล็ดราชพฤกษ์ ดอกค�ำลาว สิ่งละ ๘ ส่วน ดอกจ�ำ ปา ๔๙ ส่วน ๓๓1 ท�ำเป็นจุณแล้วจึงเอา ชะมดเชียง พิมเสน หญ้าฝรั่น อ�ำพันเกสร สิ่งละ ๒ เท่าส่วนต้น แล้วจึงเอาคุลีการเข้ากับยา บดด้วยนํ้า ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๓๓ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาทิณกอรจ�ำหรัด 95
96 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปรา สาททอง หน้าต้นที่ ๓๒
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๓๒ ดอกไม้เทศ ทำแท่งตากไว้ในร่มกว่าจะแห้ง ลายนํ้ากระสายอันควรแก่โรคให้กิน พัทธะปิตตะ แก้ในกองอากาศพิกัดในเบญมูลธาตุนั้น อันบังเกิดแต่ อะพัทธะปิตตะ ทังสามประการนี้กำเดา เปนสมุถาณอนึ่งนั้น ให้ตกสิ้นวิเสศนัก ๚ อันว่ายา ๓ ขนานนี้คู่กัน ให้วางตามสมุถาณ พิกัดไว้ แล้วให้แพทยพิจารณาแต่อายุศมได้เดือน ๑ ขึ้นไปจน ๒๕ ปี จัดเปนปถมไวย ตั้งแต่ ๒๕ ปีไปจนถึง ๕๐ ปี จัดเปนมชิมไวย แต่ ๕๐ ปี ไปจนถึง ๘๐ ปี จัดเปนปฉิมไวย ถ้าแลโรคอันใดก็ดี บังเกิดขึ้นเปนพิศม์ ในระวางอันกล่าวมาแล้วนั้น ก็หายสิ้นทุกประการวิเสศนัก อาจารย์สรรเสริญไว้ ดังนี้ อย่าสนเท่เลยได้ใช้แล้ว ๚ ๓๐ ยาชื่อแสงวิเชียรพรรณ เอาโกฎบัว คำอ่านปัจจุบัน ดอกไม้เทศ ทำแท่งตากไว้ในร่มกว่าจะแห้ง ละลายนํ้ากระสายอันควรแก่โรคให้กิน แก้ในกองอากาศพิกัดในเบญจมูลธาตุนั้น อันบังเกิดแต่พัทธะปิตตะ อพัทธะปิตตะ กำเดา ทั้งสามประการนี้ เป็นสมุฏฐานอนึ่งนั้น ให้ตกสิ้นวิเศษนัก ๚ อันว่ายา ๓ ขนานนี้คู่กัน ให้วางตามสมุฏฐาน พิกัดไว้ แล้วให้แพทย์พิจารณาแต่อายุได้เดือน ๑ ขึ้นไปจน ๒๕ ปี จัดเป็นปฐมวัย ตั้งแต่ ๒๕ ปี ไปจนถึง ๕๐ ปี จัดเป็นมัชฉิมวัย แต่ ๕๐ ปี ไปจนถึง ๘๐ ปี จัดเป็นปัจฉิมวัย ถ้าแลโรคอันใดก็ดี บังเกิดขึ้นเป็นพิษ ในระวางอันกล่าวมาแล้วนั้น ก็หายสิ้นทุกประการวิเศษนัก อาจารย์สรรเสริญไว้ ดังนี้ อย่าสนเท่ห์เลยได้ใช้แล้ว ๚ ๓๐ ยาชื่อแสงวิเชียรพรรณ เอาโกฐหัวบัว 97
98 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๓๓
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๓๓ โกฎกะดูก ชะเอมเทศ จันทังสอง กฤษนา กะลำภัก ฃอนดอก อบเชยเทศ เนียระภูษี ระย่อม พิศนาด ฝางเสน สุรามฤทธิ ฃ่าต้น สิ่งละส่วน ดอกพิกุน ดอกคำลาว สิ่งละ ๒ ส่วน ดอกจำปา เกสรบุน นาก เกสรสาระภี สิ่งละ ๓ ส่วน เกสรบัวหลวง ๘ ส่วน ดอกสะ เดา ๑๖ ส่วน ๒๒ ทำเปนจุณแล้วจึ่งเอา ชะมดเชียง พิมเสน ญ่าฝรั่น สิ่งละเท่าส่วนต้น คุลีการเข้ากับยาทังนั้น บดด้วยนํ้าดอกไม้เทศทำแท่งไว้ เสมหะ ร้อน ลายนํ้าจันแลนํ้าดอกไม้ก็ได้ให้กิน แก้พิศ ซึ่งกระทำให้หอบ แล้วให้หิวโหย โลหิต สอึก ระหวย แก้ลิ้นกระด้างคางแฃง แก้ทังดีเดือดเลือดพลุ่งก็ได้ คำอ่านปัจจุบัน โกฐกระดูก ชะเอมเทศ จันทน์ทั้งสอง กฤษณา กระล�ำพัก ขอนดอก อบเชยเทศ เนระพูสี ระย่อม พิษนาศน์ ฝางเสน สุรามฤต ข่าต้น สิ่งละส่วน ดอกพิกุล ดอกค�ำลาว สิ่งละ ๒ ส่วน ดอกจ�ำปา เกสรบุน นาค เกสรสารภี สิ่งละ ๓ ส่วน เกสรบัวหลวง ๘ ส่วน ดอกสะ เดา ๑๖ ส่วน ๒๒1 ท�ำเป็นจุณแล้วจึงเอา ชะมดเชียง พิมเสน หญ้าฝรั่น สิ่งละเท่าส่วนต้น คุลีการเข้ากับยาทั้งนั้น บดด้วยนํ้าดอกไม้เทศท�ำแท่งไว้ ละลายนํ้าจันทน์แลนํ้าดอกไม้ก็ได้ให้กิน แก้พิษเสมหะ พิษโลหิต ซึ่งกระท�ำให้ร้อน หอบ สะอึก แล้วให้หิวโหย ระหวย แก้ลิ้นกระด้างคางแข็ง แก้ทั้งดีเดือดเลือดพลุ่งก็ได้ ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๒๒ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาแสงวิเชียรพรรณ 99
100 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๓๔
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๓๔ แก้ในกองอากาศธาตุ อันบังเกิดแต่ทศกาลพิบัดทังปวงนั้นหายสิ้นวิเสศนัก พึงให้ประกอบกระสายตามกาลโรคนั้นเถิด ๚ ๓๑ ยาชื่อสุวรรณกะมุก เอาโกฎบัว โกฎกะดูก โกฎเชียง เทียรดำ เทียรฃาว จันทังสอง สมุลแวง ชะลูด อบเชย ชะเอม เนียระภูษี เพศนาด ไครเครือ เทพธาโร สุรามฤทธิ์ กำลังโคเถลิง สิ่งละส่วน ฝางเสน ดอกคำลาว ดอกพิกุน เกษรบุนนาก เกสรสาระภี สิ่งละ ๒ ส่วน ดอกจำปา ดอกสะเดา สิ่งละ ๘ ส่วน เกสรบัวหลวง ๑๖ ส่วน ๒๕ ทำเปนจุณแล้วเอา ชมดเชียง พิมเสนเกลด สิ่งละเท่าส่วนต้น ญ่าฝรั่น ๒ ส่วนต้น คุลิการเข้ากับยา คำอ่านปัจจุบัน แก้ในกองอากาศธาตุ อันบังเกิดแต่ทศกาลพิบัติทั้งปวงนั้นหายสิ้นวิเศษนัก พึงให้ประกอบกระสายตามกาลโรคนั้นเถิด ๚ ๓๑ ยาชื่อสุวรรณกะมุก เอาโกฐหัวบัว โกฐกระดูก โกฐเชียง เทียนด�ำ เทียนขาว จันทน์ทั้งสอง สมุลแว้ง ชะลูด อบเชย ชะเอม เนระพูสี พิษนาศน์ ไคร้เครือ เทพทาโร สุรามฤต ก�ำลังโคเถลิง สิ่งละส่วน ฝางเสน ดอกค�ำลาว ดอกพิกุล เกสรบุนนาค เกสรสารภี สิ่งละ ๒ ส่วน ดอกจ�ำปา ดอกสะเดา สิ่งละ ๘ ส่วน เกสรบัวหลวง ๑๖ ส่วน ๒๕1 ท�ำเป็นจุณแล้วเอา ชะมดเชียง พิมเสนเกล็ด สิ่งละเท่าส่วนต้น หญ้าฝรั่น ๒ ส่วนต้น คุลีการเข้ากับยา ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๒๕ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาสุวรรณกะมุก 101
102 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปรา สาททอง หน้าต้นที่ ๓๕
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๓๕ บดด้วยนํ้าดอกไม้เทดทำแท่งไว้ ลายนํ้าตรีรัตตะกุลาให้กิน แก้ในกองโลหิต อันบังเกิดแต่อากาศอะภิญาณธาตุ ซึ่งวิบัดต่างต่างนั้นหายสิ้นวิเสศนัก ๚ะ๛ ๏ ๓๒ ยาชื่อสุทธิรังศรี เอาโกฎทังห้า เทียรทังห้า จัตุวะลาธิกะ สมอ ใบกระวาร ตรีสุคนธ์อบเชยเทศ เปราะหอม ชะเอมเทศ ไครเครือ สุรามฤทธิ์ ฝางเสน รากพิมเสน เกสรสาระภี เกสรบุนนาก เกสรบัวหลวง สิ่งละส่วน ดอกอังกาบ ดอกเสนียด ดอกมะทราง ดอกชลูด ดอกขิง ดอกพริกไท ดอกดีปลี สิ่งละ ๒ ส่วน ดอกพิกุน ดอกจำปา สิ่งละ ๔ ส่วน แก่นจันแดง ดอกคำลาว สิ่งละ ๖ ส่วน จันฃาว จันชมด คำอ่านปัจจุบัน บดด้วยนํ้าดอกไม้เทศทำแท่งไว้ ละลายนํ้าตรีรัตตะกุลาให้กิน แก้ในกองโลหิต อันบังเกิดแต่อากาศอภิญาณธาตุ ซึ่งวิบัติต่าง ๆ นั้นหายสิ้นวิเศษนัก ๚ะ๛ ๏ ๓๒ ยาชื่อสุทธิรังศรี เอาโกฐทั้งห้า เทียนทั้งห้า จตุผลาธิกะ สมอไทย สมอเทศ สมอพิเภก มะขามป้อม ตรีสุคนธ์ ใบกระวาน อบเชยเทศ รากพิมเสน เปราะหอม ชะเอมเทศ ไคร้เครือ สุรามฤต ฝางเสน เกสรสารภี เกสรบุนนาค เกสรบัวหลวง สิ่งละส่วน ดอกอังกาบ ดอกเสนียด ดอกมะซาง ดอกชะลูด ดอกขิง ดอกพริกไทย ดอกดีปลี สิ่งละ ๒ ส่วน ดอกพิกุล ดอกจำปา สิ่งละ ๔ ส่วน แก่นจันทน์แดง ดอกคำลาว สิ่งละ ๖ ส่วน จันทน์ขาว จันทน์ชะมด ไท เทศ พิเภก มฃามป้อม 103
104 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๓๖
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๓๖ สิ่งละ ๘ ส่วน ดอกคัดค้าว ๑๖ ส่วน ๓๙ ทำเปนจุณแล้วจึ่งเอา ชมดเชียง พิมเสนเกลด ญ่าฝรั่น อำพันทอง ม่าเหมี่ยว สิ่งละ ๔ ส่วน เท่าส่วนต้น คุลิการเข้ากับยา บดด้วยนํ้าดอกไม้เทศทำแท่งไว้ ลายนํ้าตรี รัตตะกุลาต้มให้กิน แก้อะภิญาณโลหิต อันบังเกิดแต่กองอากาศกำเดา ซึ่งกระทำให้มึนตึงแลวิงเวียร ให้ร้อนทุรนทุรายกระหายหอบ บริโภคอาหาร มิได้ให้นอนมิหลับ มักเปนเมลดยอดผุดขึ้นทังกาย ดุจเมลดผดกระทำ แสบ ให้ร้อน เปนกำลัง ให้เสโทตกนั้นหายสิ้นวิเสศนัก ๚ ยาทัง ๓ ขนานนี้ คัน แก้ในกองอากาศกำเดา ตลอดจนพัทธะปิตตะสมุถาณ เปนสมุถาณแห่ง คำอ่านปัจจุบัน สิ่งละ ๘ ส่วน ดอกคัดเค้า ๑๖ ส่วน ๓๙1 ท�ำเป็นจุณแล้วจึงเอา ชะมดเชียง พิมเสนเกล็ด หญ้าฝรั่น อ�ำพันทอง มะเหมี่ยว สิ่งละ ๔ ส่วน เท่าส่วนต้น คุลีการเข้ากับยา บดด้วยนํ้าดอกไม้เทศท�ำแท่งไว้ ละลายนํ้าตรี รัตตะกุลาต้มให้กิน แก้อภิญาณโลหิต อันบังเกิดแต่กองอากาศก�ำเดา ซึ่งกระท�ำให้มึนตึงแลวิงเวียน ให้ร้อนทุรนทุรายกระหายหอบ บริโภคอาหาร มิได้ให้นอนมิหลับ มักเป็นเมล็ดยอดผุดขึ้นทั้งกาย ดุจเมล็ดผดกระท�ำ ให้แสบ ร้อน คัน เป็นก�ำลัง ให้เสโทตกนั้นหายสิ้นวิเศษนัก ๚ ยาทั้ง ๓ ขนานนี้ แก้ในกองอากาศก�ำเดา ตลอดจนพัทธะปิตตะสมุฏฐาน เป็นสมุฏฐานแห่ง ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๓๙ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาสุทธิรังศรี 105
106 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๓๗
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๓๗ ศุขติอัคนี อาจารยสรรเสริญไว้ สืบสืบกันมาดังนี้ ๚ ๓๓ ยาชื่อสุคนธหิรัญ เอาชมดสุทธิ กระแจะตะนาว อำพันทอง โกฎกะจุก โกฎผลา สิ่งละส่วน ชะเอมเทศ รากระย่อม รากไครเครือ สะบ้าลิงดำ สบ้าลิงลาย โกฎหอม อบเชยเทศ ใบกระวาน กฤษนา กลำภัก ฃอนดอก พิมเสน ชาติผง ฝุ่นจีน สิ่งละ ๒ ส่วน รากญ่านาง ตุมกาแดง จันทังสอง สิ่งละ ๓ ส่วน ดอกพิกุน ดอกมะลิ เกสรบุนนาก เกสร สาระภี ญ่าฝรั่น สิ่งละ ๔ ส่วน ดอกกะถินพิมาน ๑๖ ส่วน ๒๙ ทำเปนจุณ แล้วจึ่งเอา เขี้ยวปลาพยุน เขี้ยวเสือ เขี้ยวจระเข้ เขากวาง คุลิก่า คำอ่านปัจจุบัน สุขติอัคนี อาจารย์สรรเสริญไว้ สืบ ๆ กันมาดังนี้ ๚ ๓๓ ยาชื่อสุคนธหิรัญ เอาชะมดสุทธิ กระแจะตะนาว อ�ำพันทอง โกฐกะจุก โกฐผลา สิ่งละส่วน ชะเอมเทศ รากระย่อม รากไคร้เครือ สะบ้าลิงด�ำ สะบ้าลิงลาย โกฐหอม อบเชยเทศ ใบกระวาน กฤษณา กระล�ำพัก ขอนดอก พิมเสน ชาดผง ฝุ่นจีน สิ่งละ ๒ ส่วน รากย่านาง ตูมกาแดง จันทน์ทั้งสอง สิ่งละ ๓ ส่วน ดอกพิกุล ดอกมะลิ เกสรบุนนาค เกสร สารภี หญ้าฝรั่น สิ่งละ ๔ ส่วน ดอกกระถินพิมาน ๑๖ ส่วน ๒๙1 ท�ำเป็นจุณ แล้วจึงเอา เขี้ยวปลาพะยูน เขี้ยวเสือ เขี้ยวจระเข้ เขากวาง คุลิก่า ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๒๙ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาสุคนธหิรัญ 107
108 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าต้นที่ ๓๘
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าต้นที่ ๓๘ ฝนด้วยนํ้าดอกไม้ เอาสิ่งละเท่าส่วนต้น นํ้าดีงูเหลือมเปนกระสายบด ทำแท่งไว้ให้ปิดเงินคำเปลวจงทุกแท่ง ลายนํ้ากระสายอันควรแก่โรคให้กิน แก้ในกอง สมุถาณอันบังเกิดแต่อากาศธาตุพิบัด ๑๐ ประการ ซึ่งรคน ด้วยวิทราธิ บังเกิดดุจหม้อเข้าพลวก อันแพทยแลผู้พยาบาล ไปบมิทัน คำอ่านปัจจุบัน ฝนด้วยนํ้าดอกไม้ เอาสิ่งละเท่าส่วนต้น นํ้าดีงูเหลือมเป็นกระสายบด ทำแท่งไว้ให้ปิดเงินคำเปลวจงทุกแท่ง ละลายนํ้ากระสายอันควรแก่โรคให้กิน แก้ในกองเสมหะ ปิตตะ วาตะ สันนิบาต สมุฏฐานอันบังเกิดแต่อากาศธาตุพิบัติ ๑๐ ประการ ซึ่งระคน ด้วยวิทราธิ บังเกิดดุจหม้อเข้าพลวก อันแพทย์แลผู้พยาบาล ไปบ่มิทัน เสมหะ ปิตตะ วาตะ สันนิปาต 109
110 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๑ คำคัดถ่ายถอดและคำอ่านปั จจุบัน พระโอสถปราสาททอง หน้าปลาย
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๑ สังเกดแจ้งนั้นให้เปนอันสำเรจ เมาะวะหายเรวพลันยิ่งนัก อาจารยสรรเสริญ พิกัดไว้แท่งละ ๑ ตำลึง โดยไนยอันกล่าวมาในแต่ก่อนนั้นดังนี้ ๚ะ๛ ๏ ๓๔ ยาชื่อสุวรรณคันธา เอาชมดสุทธิ อำพันทอง กฤษนา กลำภัก ฃอนดอก ชเอมเทศ ไครเครือ ระย่อม ผลปะคำดีกระบือ คำอ่านปัจจุบัน สังเกตแจ้งนั้นให้เป็นอันสำเร็จ เมาะวะหายเร็วพลันยิ่งนัก อาจารย์สรรเสริญ พิกัดไว้แท่งละ ๑ ตำลึง โดยนัยอันกล่าวมาในแต่ก่อนนั้นดังนี้ ๚ะ๛ ๏ ๓๔ ยาชื่อสุวรรณคันธา เอาชะมดสุทธิ อำพันทอง กฤษณา กระลำพัก ขอนดอก ชะเอมเทศ ไคร้เครือ ระย่อม ผลประคำดีควาย 111
112 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๒
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๒ สบ้าใหญ่ กะดูกงูเหลือม ญ่ายอนเพลิง สิ่งละส่วน อบเชยเทศ สมุลแวง พิมเสน ม่าเหมี่ยว สิ่งละ ๒ ส่วน จันทังสอง กะถินแดง ชาตหรคุณจีน ใบกระวาน สิ่งละ ๓ ส่วน เถามวกแดง ดอกคัดค้าว ดอกมทราง ดอกจำปา ญ่าฝ่ารั่น สิ่งละ ๔ ส่วน ดอกไม้แดง ๑๖ ส่วน ทำเปนจุณแล้วจึ่งเอา เขี้ยวปลาพยุน เขี้ยวเสือ เขี้ยวจระเข้ คุลิก่า ฝนด้วยนํ้ามลิสด เอาสิ่งละเท่าส่วนต้น นํ้าดีงูเหลือม เปนกระสายบด ทำแท่งไว้ให้ปิดทองคำเปลวจงทุกแท่ง ลายนํ้ากระสายอันควรแก้โรคให้กิน แก้ในกองกำเดาอันบังเกิดแต่สมุถาณตรีกาลเตโชธาตุพิกัด กล่าวคือแก้โลหิต ๑๐ ประการ คำอ่านปัจจุบัน สะบ้าใหญ่ กระดูกงูเหลือม หญ้ายองไฟ สิ่งละส่วน อบเชยเทศ สมุลแว้ง พิมเสน มะเหมี่ยว สิ่งละ ๒ ส่วน จันทน์ทั้งสอง กระถินแดง ชาดหรคุณจีน ใบกระวาน สิ่งละ ๓ ส่วน เถามวกแดง ดอกคัดเค้า ดอกมะซาง ดอกจำปา หญ้าฝรั่น สิ่งละ ๔ ส่วน ดอกไม้แดง ๑๖ ส่วน ทำเป็นจุณแล้วจึงเอา เขี้ยวปลาพะยูน เขี้ยวเสือ เขี้ยวจระเข้ คุลิก่า ฝนด้วยนํ้ามะลิสด เอาสิ่งละเท่าส่วนต้น นํ้าดีงูเหลือม เป็นกระสายบด ทำแท่งไว้ให้ปิดทองคำเปลวจงทุกแท่ง ละลายนํ้ากระสายอันควรแก้โรคให้กิน แก้ในกองกำเดาอันบังเกิดแต่สมุฏฐานตรีกาลเตโชธาตุพิกัด กล่าวคือแก้โลหิต ๑๐ ประการ 113
114 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๓
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๓ ซึ่งกระทำให้ระหวยหอบกระหาย เชื่อมมึนมัวนั้นเปนต้น ให้ปะทะสอึกแล ผิวเนื้อซีด ก็ดี แลหาสติมิได้นั้นเปนที่สุด จำเริญในกองเบญมูลธาตุ แลเนาวะสมุถาณ ให้แพทย์พึงพิจารณาใน โรค ให้แม่นแท้แล้วก็ให้ ประกอบวางตามมหาพิกัดท่านกล่าวไว้ ให้ต้องกับกาลโรคอันบังเกิดจึ่งจะพลันหาย อาจารยสรรเสริญพิกัดไว้แท่งละ ทองดังนี้ ๚ ๓๕ ยาชื่อหัทยพิสาน เอาชมดเชียง พิมเสน ญ่าฝรั่น โกฎแก้ว โกฎหอม เทียรดำ เทียรฃาว เทียรเฃ้าเปลือก ผลจันเทศ ผลกระวาน ใบกระวาน การพลู จันทังสอง อบเชยเทศ ชลูด แฝกหอม ว่านนํ้า ใบสันพร้าหอม คำอ่านปัจจุบัน ซึ่งกระทำให้ระหวยหอบกระหาย เชื่อมมึนมัวนั้นเป็นต้น ให้ปะทะสะอึกแล ผิวเนื้อซีดดำ แดง ขาว เหลือง ก็ดี แลหาสติมิได้นั้นเป็นที่สุด จำเริญในกองเบญจมูลธาตุ แลเนาวสมุฏฐาน ให้แพทย์พึงพิจารณาในนิทานโรค อาทานโรค ให้แม่นแท้แล้วก็ให้ ประกอบวางตามมหาพิกัดท่านกล่าวไว้ ให้ต้องกับกาลโรคอันบังเกิดจึ่งจะพลันหาย อาจารย์สรรเสริญพิกัดไว้แท่งละ ๑ ตำลึงทองดังนี้ ๚ ๓๕ ยาชื่อหัทยพิสาน เอาชะมดเชียง พิมเสน หญ้าฝรั่น โกฐแก้ว โกฐหอม เทียนดำ เทียนขาว เทียนข้าวเปลือก ผลจันทน์เทศ ผลกระวาน ใบกระวาน กานพลู จันทน์ทั้งสอง อบเชยเทศ ชะลูด แฝกหอม ว่านนํ้า ใบสันพร้าหอม ดำ แดง ฃาว เหลือง นิทาณ อาทาณ ๑ 115
116 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๔
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๔ ใบหนาด สิ่งละส่วน ดอกพิกุน เกสรบุนนาก เกสรสาระภี เกสรบัวหลวง สิ่งละ ๒ ส่วน เปราะหอม ๔ ส่วน กฤษนา ๕ ส่วน ๒๔ ทำเปนจุณบดด้วยนํ้า เนื้อไม้ต้มทำแท่งไว้ ลายนํ้ากระสายอันควรแก่โรคให้กิน แก้วิทราธิวาต ๑๖ จำพวก อันบังเกิดแต่กองธาตุวิปริต ซึ่งเปนมันทะธาตุต่างต่างนั้น คือให้ลงเปนต้น กระทำให้ขุ่นมัวอยู่ในใจแลให้สวิงสวายนั้นหายสิ้นวิเสศนัก ๚ะ๛ ๏ ๓๖ ยาชื่อสำราญนิทรา เอาชมดเชียง พิมเสน ญ่าฝรั่น โกฎหอม โกฎชะ ดามังษี ผลกระวาน ใบกระวาน สิ่งละส่วน จันทังสอง กฤษนา กลำภัก ชลูด ฃอนดอก การบูร การชาเทศ ชะเอมเทศ ผลจันเทศ การพลู คำอ่านปัจจุบัน ใบหนาด สิ่งละส่วน ดอกพิกุล เกสรบุนนาค เกสรสารภี เกสรบัวหลวง สิ่งละ ๒ ส่วน เปราะหอม ๔ ส่วน กฤษณา ๕ ส่วน ๒๔1 ท�ำเป็นจุณบดด้วยนํ้า เนื้อไม้ต้มท�ำแท่งไว้ ละลายนํ้ากระสายอันควรแก่โรคให้กิน แก้วิทราธิวาต ๑๖ จ�ำพวก อันบังเกิดแต่กองธาตุวิปริต ซึ่งเป็นมันทธาตุต่าง ๆ นั้น คือให้ลงเป็นต้น กระท�ำให้ขุ่นมัวอยู่ในใจแลให้สวิงสวายนั้นหายสิ้นวิเศษนัก ๚ะ๛ ๏ ๓๖ ยาชื่อส�ำราญนิทรา เอาชะมดเชียง พิมเสน หญ้าฝรั่น โกฐหอม โกฐช ฎามังสี ผลกระวาน ใบกระวาน สิ่งละส่วน จันทน์ทั้งสอง กฤษณา กระล�ำพัก ชะลูด ขอนดอก การบูร กัญชาเทศ ชะเอมเทศ ผลจันทน์เทศ กานพลู ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๒๔ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาหทัยพิสาน 117
118 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๕
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๕ สิ่งละ ๒ ส่วน อบเชยเทศ ๔ ส่วน เกสรบัวหลวง ๖ ส่วน ๒๐ ทำเปนจุณ บดด้วยนํ้าดอกไม้เทศทำแท่งไว้ ลายนํ้าตรีสุระผละแลนํ้าจันก็ได้ แก้วิทราธิวาต กระทำให้นอนมิหลับให้สวิงสวาย บริโภคอาหารไม่มีรศ อันบังเกิดแต่กองอากาษ วิทธี อันยิ่งไปด้วยพิศนั้นให้ตกสิ้น อาจารย์สรรเสริญไว้ว่าวิเสศนัก ๚ะ๛ ๏ ๓๗ ยาชื่อโอชาอำมฤตย เอาชมดเชียง อำพันทอง โกฎบัว โกฎเชียง สิ่งละส่วน แฝกหอมตนาว ใบกระวาน ผลกระวาน ผลจันเทศ การพลู รากระย่อม รากไครเครือ การชาเทศ ญ่าฝรั่น สิ่งละ ๒ ส่วน เกสรสารภี อบเชยเทศ พิมเสน สิ่งละ ๓ ส่วน กฤษนา ชลูด คำอ่านปัจจุบัน สิ่งละ ๒ ส่วน อบเชยเทศ ๔ ส่วน เกสรบัวหลวง ๖ ส่วน ๒๐1 ท�ำเป็นจุณ บดด้วยนํ้าดอกไม้เทศท�ำแท่งไว้ ละลายนํ้าตรีสุรผลแลนํ้าจันทน์ก็ได้ แก้วิทราธิวาต กระท�ำให้นอนมิหลับให้สวิงสวาย บริโภคอาหารไม่มีรส อันบังเกิดแต่กองอากาศ วิถี อันยิ่งไปด้วยพิษนั้นให้ตกสิ้น อาจารย์สรรเสริญไว้ว่าวิเศษนัก ๚ะ๛ ๏ ๓๗ ยาชื่อโอชาอ�ำมฤตย เอาชะมดเชียง อ�ำพันทอง โกฐหัวบัว โกฐเชียง สิ่งละส่วน แฝกหอมตะนาว ใบกระวาน ผลกระวาน ผลจันทน์เทศ กานพลู รากระย่อม รากไคร้เครือ กัญชาเทศ หญ้าฝรั่น สิ่งละ ๒ ส่วน เกสรสารภี อบเชยเทศ พิมเสน สิ่งละ ๓ ส่วน กฤษณา ชะลูด ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๒๐ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาส�ำราญนิทรา 119
120 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๖
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๖ จันทังสอง ชเอมเทศ สิ่งละ ๔ ส่วน เปราะหอม ดอกพิกุน สิ่งละ ๘ ส่วน ๒๓ ทำเปนจุณบดด้วยนํ้าดอกไม้เทศทำแท่งไว้ ลายนํ้าตรีรัตตะกุลาต้ม ให้กิน แก้ในกองลม ๓ จำพวก คือ วาตะสมุถาณเปนต้น แลโสฬศอากาศ วาตะเปนที่สุด ให้สงบลงเปนปรกติวิเสศนัก ตามอาจารย์สรรเสริญไว้ดังนี้ ๚ะ พระโอสถ ๑๑ ขนานนี้ ฃองฃ้าพระพุทธเจ้าออกญาแพทยพงษา ประกอบทูลเกล้า ฯ กระหม่อมถวาย เสวยตามสมุถาณพิกัดโดยลักษณพระโรคนั้น ๚ะ๛ ยาชื่อประสระมัทธุรศ เอาราก ดอก ดอก ดอก ขิง ๑ ราก พริก ไท ๒ ราก ดีปลี ๓ เกสร เหง้า ผล ผล บุนนาก ๔ สมุลแวง ๕ อบเชยเทศ ๖ เหง้ากะชาย ๗ เทียรตักแตนเทศ ๘ คำอ่านปัจจุบัน จันทน์ทั้งสอง ชะเอมเทศ สิ่งละ ๔ ส่วน เปราะหอม ดอกพิกุล สิ่งละ ๘ ส่วน ๒๓1 ท�ำเป็นจุณบดด้วยนํ้าดอกไม้เทศท�ำแท่งไว้ ละลายนํ้าตรีรัตตะกุลาต้ม ให้กิน แก้ในกองลม ๓ จ�ำพวก คือ วาตะสมุฏฐานเป็นต้น แลโสฬศอากาศ วาตะเป็นที่สุด ให้สงบลงเป็นปรกติวิเศษนัก ตามอาจารย์สรรเสริญไว้ดังนี้ ๚ะ พระโอสถ ๑๑ ขนานนี้ ของข้าพระพุทธเจ้าออกญาแพทยพงษา ประกอบทูลเกล้า ฯ กระหม่อมถวาย เสวยตามสมุฏฐานพิกัดโดยลักษณะพระโรคนั้น ๚ะ๛ ยาชื่อประสระมัทธุรศ เอารากขิง ดอกขิง เหง้าขิง ๑ รากพริกไทย ดอกพริกไทย ผลพริกไทย ๒ รากดีปลี ดอกดีปลี ผลดีปลี ๓ เกสร บุนนาค ๔ สมุลแว้ง ๕ อบเชยเทศ ๖ เหง้ากระชาย ๗ เทียนตาตั๊กแตนเทศ ๘ ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๒๓ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาโอชาอ�ำมฤตย 121
122 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปรา สาททอง หน้าปล ายที่ ๗
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๗ ๑๒ ผลเร่วใหญ่ ๙ ขันทศกอร ก็ได้ ตรีสาระวะรา ตามบทลดส่วนต้น ๓ ๑๖ทำเปนจุณบทแทรกพิมเสนให้กินตามสมควร บำบัดพยาธิ์อันบังเกิดในคูทธทวารก็ดี วิหะกะ แลให้บังเกิดอัคนีผล แก้ลมปัตฆาตอันมีพิศซึ่งบังเกิดในชาติ แก้ทังลม วิตาระ พะหิ วาตอันเปนจะละณะ พึงให้ประกอบกระสายเข้า ตามในกระสายพิกัดท่านกล่าวไว้ อำมพฤก แก้ลมในกอง สุมนา ซึ่งวิปริต มีนิดแลภักเปนต้น กระทำให้สวิงสวายให้ ทัศฎากาศ เหนื่อยเปนกำลังนั้น หายสิ้นทุกประการวิเสศนัก ๚ ๓๙ ยาชื่อโสฬศไตรญาณ ดอก เอาพรรผักกาด ๑ รากชาพลู ๒ รากเจตมูน ๓ รากสค้าน ๔ รากพริกไท ๕ ผล ดอก ดอก รากดีปลี ๖ รากขิง ๗ เทียรตักกะแตนเทศ ๘ แฝกหอม ๙ อบเชยเทศ ๑๐ ผล เหง้า คำอ่านปัจจุบัน ผลเร่วใหญ่ ๙ ขัณฑสกร ๑๒ ๑๖ 1 ก็ได้ ตรีสาระวะรา ตามบดลดส่วนต้น ๓ 2 ท� ำเป็นจุณบดแทรกพิมเสนให้กินตามสมควร บ� ำบัดพยาธิอันบังเกิดในคูถทวารก็ดี แลให้บังเกิดอัคนีผล แก้ลมปัตฆาตอันมีพิษซึ่งบังเกิดในชาติ แก้ทั้งลมวิหกวาต ลมวิตารวาต ลมพหิวาต อันเป็นจลณะ พึงให้ประกอบกระสายเข้า ตามในกระสายพิกัดท่านกล่าวไว้ แก้ลมในกองอัมพฤกษ์ กองสุมนา กองทัศฎากาศ ซึ่งวิปริต มีนิดแลพัก เป็นต้น กระท� ำให้สวิงสวายให้ เหนื่อยเป็นก� ำลังนั้น หายสิ้นทุกประการวิเศษนัก ๚ ๓๙ ยาชื่อโสฬศไตรญาณ เอาพรรณผักกาด ๑ รากช้าพลู ๒ รากเจตมูลเพลิง ๓ รากสะค้าน ๔ ดอกพริกไทย รากพริกไทย ผลพริกไทย ๕ ดอกดีปลี รากดีปลี ผลดีปลี ๖ ดอกขิง รากขิง เหง้าขิง ๗ เทียนตั๊กแตนเทศ ๘ แฝกหอม ๙ อบเชยเทศ ๑๐ ๑ ใต้เลข ๑๒ มีเลข ๑๖ หมายถึง ตัวยา ๑๖ ชนิด ได้แก่ รากขิง ดอกขิง เหง้าขิง รากพริกไทย ดอกพริกไทย ผลพริกไทย รากดีปลี ดอกดีปลี ผลดีปลี เกสรบุนนาค สมุลแว้ง อบเชยเทศ เหง้ากระชาย เทียนตาตั๊กแตนเทศ ผลเร่วใหญ่ ขัณฑสกร ในสูตรยาประสระมัทธุรศ ๒ ใต้ค� ำว่าส่วนต้นมีเลข ๓ หมายถึง ตัวยา ๓ ชนิด ได้แก่ ตรีสาระวะรา ในสูตรยาประสระมัทธุรศ 123
124 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๘
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๘ ใบกระวาน ๑๑ จันเทศ ๑๒ รากกะเพรา ๑๓ รากฃ่า ๑๔ รากกะชาย ๑๕ ขันทศกอร ๑๖ ก็ได้ ตรีผลาวะลัง ตามบดลดส่วนต้น ๑๙ ทำเปนจุณบดให้กิน ๓๖ ตามควร ด้วยนํ้าร้อนแทรก ชมดเชียง แก้ในกองทัศฎากาศวาต อันบังเกิดในเบญ พิมเสม มูลธาตุ ระคนด้วยวิทราธิ กล่าวคือลมใหญ่ ๖ จำพวก คือ วิตะกาวาต ๑ สะติณาวาต ๑ วิหะกะวาต ๑ จะลันตาวาต ๑ วิตาระวาต ๑ ชะวาระวาต ๑ อันบังเกิดแต่กองหัทยวาตเปนต้น สุมะนะวาตเปนที่สุด กระทำให้สะครั่นสะคร่อกาย แลให้หิวหาแรงมิได้ มีอาการต่างต่างดังอาจารย์กล่าวไว้ ในคัมภีร์ทังหลายนั้น แก้ได้ทุกประการให้ตกสิ้น ดังกล่าวมานี้วิเสศนัก ๚ะ๛ คำอ่านปัจจุบัน ใบกระวาน ๑๑ จันทน์เทศ ๑๒ รากกะเพรา ๑๓ รากข่า ๑๔ รากกระชาย ๑๕ ขัณฑสกร ๑๖ ๓๖ ก็ได้ ตรีผลาวะลัง ตามบดลดส่วนต้น ๑๙1 ท�ำเป็นจุณบดให้กิน ตามควร ด้วยนํ้าร้อนแทรกชะมดเชียง พิมเสน แก้ในกองทัศฎากาศวาต อันบังเกิดในเบญ จมูลธาตุ ระคนด้วยวิทราธิ กล่าวคือลมใหญ่ ๖ จ�ำพวก คือ วิตกาวาต ๑ สติณาวาต ๑ วิหกวาต ๑ จลันตาวาต ๑ วิตารวาต ๑ ชวารวาต ๑ อันบังเกิดแต่กองหัทยวาตเป็นต้น สุมนาวาตเป็นที่สุด กระท�ำให้สะครั่นสะคร่อกาย แลให้หิวหาแรงมิได้ มีอาการต่าง ๆ ดังอาจารย์กล่าวไว้ในคัมภีร์ทั้งหลายนั้น แก้ได้ทุกประการให้ตกสิ้น ดังกล่าวมานี้วิเศษนัก ๚ะ๛ ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนต้นมีเลข ๑๙ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาโสฬศไตรญาณ 125
126 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๙
127 ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๙ ๏ ๓๐ ยาชื่อวิรมยคุณ เอาโกฎทังเจด เทียรทังห้า ผลจันเทด ผลสาร สมุลแวง พพิศ สิ่งละ ๒ ส่วน ตรีสุระผละ ตรีสาระวะลัง เนื้อไม้ เกสรบุนนาก เทพธาโร สิ่งละ ๔ ส่วน ดอกชลูด กฤษนา กลำภัก ขอนดอก อบเชยเทด เกสรสารภี ผลพริกไทอ่อน การบูน ชะมดสดสุทธิ กระแจะตะนาว สิ่งละ ๘ ส่วน เปราะหอม จันทังสอง ชะเอมเทด พิเสน ดอกมะลิ สิ่งละ ๑๒ ส่วน ดอกพิกุน ๔๐ ส่วน ๓๘ ทำเปนจุณบดด้วยนํ้า ดอกไม้เทด ทำแท่งไว้ลายนํ้ากระสาย พิกัดอันควรแก่โรคให้กิน วิหะกาวาต แก้ในกอง เกิดแต่หัทยวาต ซึ่งกระทำให้ระสํ่าระสายอยู่ภายใน สะติณาวาต คำอ่านปัจจุบัน ๏ ๓๐1 ยาชื่อวิรมยคุณ เอาโกฐทั้งเจ็ด เทียนทั้งห้า ผลจันทน์เทศ ผลสรรพ พิษ สิ่งละ ๒ ส่วน ตรีสุรผล ตรีสาระวะลัง สมุลแว้ง เนื้อไม้ เทพทาโร เกสรบุนนาค สิ่งละ ๔ ส่วน ดอกชะลูด กฤษณา กระล�ำพัก ขอนดอก อบเชยเทศ เกสรสารภี ผลพริกไทยอ่อน การบูร ชะมดสดสุทธิ กระแจะตะนาว สิ่งละ ๘ ส่วน เปราะหอม จันทน์ทั้งสอง ชะเอมเทศ พิมเสน ดอกมะลิ สิ่งละ ๑๒ ส่วน ดอกพิกุล ๔๐ ส่วน ๓๘2 ท�ำเป็นจุณบดด้วยนํ้า ดอกไม้เทศ ท�ำแท่งไว้ละลายนํ้ากระสาย พิกัดอันควรแก่โรคให้กิน แก้ในกองวิหกวาต กองสติณาวาต เกิดแต่หัทยวาต ซึ่งกระท�ำให้ระสํ่าระสายอยู่ภายใน ๑ ที่ถูกควรเป็นล�ำดับที่ ๔๐ ๒ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๓๘ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาวิรมยคุณ
128 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๑๐
129 ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๑๐ แก้สรรพวิทราธิวาต อันบังเกิดเปนอะวะสารนั้น ให้ตกสิ้นวิเสศนัก ๚ะ๛ ๏ ๓๑ ยาชื่ออะดุลสำราญ เอาเทียรทังห้า โกฎบัว โกฎเชียง ญ่าฝรั่น สิ่งละส่วน ผลจันเทศ เมลดมกรูด เมลดมะนาว เมลดส้มส้า กชาย เมลดมะงั่ว ตรีกาลพิศ ตรีทิพรศ ราก ฃ่า สิ่งละ ๒ ส่วน ตรีสุคนธ์ กเพรา ใบกระวาน อบเชยเทด รากพิมเสน ชเอมเทด จันทังสอง กฤษนา แก่นสน ผลพริกไทอ่อน ผลสเดาอ่อน พริกหอม เกสรสารภี เกสรบุนนาก ดอกชลูด ดอกพิกุน ชมดสดสุทธิ์ สิ่งละ ๔ ส่วน เปราะหอม กระแจะตนาว สิ่งละ ๘ ส่วน ดอกกระเจียง ๒๐ ส่วน ๓๘ ทำเปนจุณบดด้วยนํ้าดอกไม้เทด ทำแท่งไว้ลายนํ้า คำอ่านปัจจุบัน แก้สรรพวิทราธิวาต อันบังเกิดเป็นอวสานนั้น ให้ตกสิ้นวิเศษนัก ๚ะ๛ ๏ ๓๑1 ยาชื่ออะดุลส�ำราญ เอาเทียนทั้งห้า โกฐหัวบัว โกฐเชียง หญ้าฝรั่น สิ่งละส่วน ผลจันทน์เทศ เมล็ดมะกรูด เมล็ดมะนาว เมล็ดส้มซ่า เมล็ดมะงั่ว ตรีกาลพิศ ตรีทิพรส รากกระชาย รากข่า รากกะเพรา สิ่งละ ๒ ส่วน ตรีสุคนธ์ ใบกระวาน อบเชยเทศ รากพิมเสน ชะเอมเทศ จันทน์ทั้งสอง กฤษณา แก่นสน ผลพริกไทยอ่อน ผลสะเดาอ่อน พริกหอม เกสรสารภี เกสรบุนนาค ดอกชะลูด ดอกพิกุล ชะมดสดสุทธิ สิ่งละ ๔ ส่วน เปราะหอม กระแจะตะนาว สิ่งละ ๘ ส่วน ดอกกระเจียง ๒๐ ส่วน ๓๘2 ท�ำเป็นจุณบดด้วยนํ้าดอกไม้เทศ ท�ำแท่งไว้ละลายนํ้า ๑ ที่ถูกควรเป็นล�ำดับที่ ๔๑ ๒ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๓๘ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาอะดุลส�ำราญ
130 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๑๑
131 ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๑๑ ตรีทะเวติคันธาเปนต้น แลกระสายพิกัดต่างต่างอันควรแก่โรคเปนที่สุด ให้กินแก้ในกองมหาวิทราธิวาต ๖ จำพวก คือ วิตะกาวาตเปนอาธิ ชวาระวาต เปนที่สุด มีอาการกระทำให้มืดมัว แลให้สตินั้นลอยไป ให้หนักหลังจักษุ ลืมมิขึ้น จะกระทำสิ่งอันใดก็มักเคลิ้มหาสติมิได้ ให้ระสํ่าระสายในใจยิ่งนัก แลมักโกรธ มักให้จับกระทำให้ตัวร้อน จะบริโภคอาหารก็มิได้ให้อิ่มไปด้วยลม อันว่ายา ๓ ขนานนี้ อาจบำบัดเสียได้สิ้นทุกประการ ตามอาจารย์กล่าว สรรเสริญไว้ดังนี้ ว่าวิเสศนักได้ใช้มามากแล้ว ๚ ๓๒ ยาชื่อสิวาละทิพวาต เอาชมดสดสุทธิ จันแดง จันชะมด ดีงูต้น ชเอมเทด แก่นปรู คำอ่านปัจจุบัน ตรีทเวติคันธา เป็นต้น แลกระสายพิกัดต่าง ๆ อันควรแก่โรคเป็นที่สุด ให้กินแก้ในกองมหาวิทราธิวาต ๖ จ�ำพวก คือ วิตกาวาตเป็นอาทิ ชวารวาต เป็นที่สุด มีอาการกระท�ำให้มืดมัว แลให้สตินั้นลอยไป ให้หนักหลังจักษุ ลืมมิขึ้น จะกระท�ำสิ่งอันใดก็มักเคลิ้มหาสติมิได้ ให้ระสํ่าระสายในใจยิ่งนัก แลมักโกรธ มักให้จับกระท�ำให้ตัวร้อน จะบริโภคอาหารก็มิได้ให้อิ่มไปด้วยลม อันว่ายา ๓ ขนานนี้ อาจบ�ำบัดเสียได้สิ้นทุกประการ ตามอาจารย์กล่าว สรรเสริญไว้ดังนี้ ว่าวิเศษนักได้ใช้มามากแล้ว ๚ ๓๒1 ยาชื่อสิวาละทิพวาต เอาชะมดสดสุทธิ จันทน์แดง จันทน์ชะมด ดีงูต้น ชะเอมเทศ แก่นปรู ๑ ที่ถูกควรเป็นล�ำดับที่ ๔๒
132 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๑๒
133 ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๑๒ ทะเวสุคนธ เจตมูนเพด ผลกระวาน การพลู กฤษนา ขอนดอก อบเชยเทด สิ่งละส่วน พิมเสน ญ่าฝรั่น ขิงแครง ตรีสุคนธ ไบกระวาน สิ่งละ ๒ ส่วน รากพิมเสน เกสรจำปา เกสรสารภี ดอกพิกุน ดอกนํ้าดอกไม้ ดอกไม้แดง สิ่งละ ๔ ส่วน ฃันทศกอร ๑๒ ส่วน ดอกชลูด ๒๘ ส่วน ๒๖ ทำเปนจุณ บดด้วยนํ้าดอกไม้เทด ทำแท่งไว้ลายนํ้าตรีทิพยรศให้กิน แก้ในกองอากาศ วาต ๑๖ จำพวก อันบังเกิดในวิปติธาตุ ๕๒๐ ประการนั้นหายสิ้นดีนัก ให้แพทยพึงรู้โดยวิเสศดังนี้ ๚ ๓๓ ยาชื่อนิลชาติสุวรรณ เอาพิมเสน จุณโคโรค ตรีกะตุก สิ่งละส่วน ชมดสดสุทธิ์ จุณเหลกกรางประสระ คำอ่านปัจจุบัน ทเวสุคนธ์ เจตมูลเพลิง ผลกระวาน กานพลู กฤษณา ขอนดอก สิ่งละส่วน พิมเสน หญ้าฝรั่น ขิงแครง ตรีสุคนธ์ อบเชยเทศ ใบกระวาน รากพิมเสน สิ่งละ ๒ ส่วน เกสรจ�ำปา เกสรสารภี ดอกพิกุล ดอกนํ้าดอกไม้ ดอกไม้แดง สิ่งละ ๔ ส่วน ขัณฑสกร ๑๒ ส่วน ดอกชะลูด ๒๘ ส่วน ๒๖1 ท�ำเป็นจุณ บดด้วยนํ้าดอกไม้เทศ ท�ำแท่งไว้ละลายนํ้าตรีทิพรสให้กิน แก้ในกองอากาศ วาต ๑๖ จ�ำพวก อันบังเกิดในวิปติธาตุ ๕๒๐ ประการนั้นหายสิ้นดีนัก ให้แพทย์พึงรู้โดยวิเศษดังนี้ ๚ ๓๓2 ยาชื่อนิลชาติสุวรรณ เอาพิมเสน จุณโคโรค ตรีกฏุก สิ่งละส่วน ชะมดสดสุทธิ จุณเหล็กกรางประสะ ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๒๖ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาสิวาละทิพวาต ๒ ที่ถูกควรเป็นล�ำดับที่ ๔๓
134 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๑๓
ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๑๓ สิ่งละ ๒ ส่วน จัตุวะลาธิกะ จัตุทิพยคันธา รากพันงูแดง ดองดึง สิ่งละ ๔ ส่วน ญ่ายอนเพลิง ๒๔ ส่วน ๑๘ ทำเปนจุณนํ้าดีงูเหลือมเปนกระสาย บดทำแท่งไว้ ปิดทองคำเปลวจงทุกแท่ง ให้กินแก้เสมหะ ๓ ประการ แลพิศเสมหะกาลรคนกัน บังเกิดในกองโสฬศอากาศ ซึ่งกระทำตีขึ้น ไปในทรวงอกแลลำคอ มีเสียงอันดังพิฦกนั้นตกหายสิ้นวิเสศนัก นํ้ากระสายซึ่งจะละลายยานี้ ให้ประกอบตามกระสายพิกัดอันควรแก่โรคนั้นเถิด ๏ พระโอสถ ๖ ขนานนี้ ฃองฃ้าพระพุทธเจ้าออกพระสิทธิสารประเสริฐ ประกอบ ทูลเกล้าฯ กระหม่อมถวาย เสวยตามสมุถาณพิกัด โดยลักษณพระโรคนั้น ๚ะ๛ คำอ่านปัจจุบัน สิ่งละ ๒ ส่วน จตุผลาธิกะ จตุทิพยคันธา รากพันงูแดง ดองดึง สิ่งละ ๔ ส่วน หญ้ายองไฟ ๒๔ ส่วน ๑๘1 ท�ำเป็นจุณนํ้าดีงูเหลือมเป็นกระสาย บดท�ำแท่งไว้ ปิดทองค�ำเปลวจงทุกแท่ง ให้กินแก้เสมหะ ๓ ประการ แลพิษเสมหะกาลระคนกัน บังเกิดในกองโสฬศอากาศ ซึ่งกระท�ำตีขึ้น ไปในทรวงอกแลล�ำคอ มีเสียงอันดังพิลึกนั้นตกหายสิ้นวิเศษนัก นํ้ากระสายซึ่งจะละลายยานี้ ให้ประกอบตามกระสายพิกัดอันควรแก่โรคนั้นเถิด ๏ พระโอสถ ๖ ขนานนี้ ของข้าพระพุทธเจ้าออกพระสิทธิสารประเสริฐ ประกอบ ทูลเกล้าฯ กระหม่อมถวาย เสวยตามสมุฏฐานพิกัด โดยลักษณะพระโรคนั้น ๚ะ๛ ๑ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๑๘ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยานิลชาติสุวรรณ 135
136 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๑๔
137 ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๑๔ ๏ ๓๔ ยาชื่อมหาวิเสศรศ เอาพิมเสนเกลด อำพันทอง สิ่งละส่วน ชมดเชียง ญ่าฝรั่น สิ่งละ ๒ ส่วน ผลถั่วภูขั้วให้สุก โกฎเชียง โกฎกดูก โกฎบัว สิ่งละ ๔ ส่วน เทียรฃาว จันทังสาม กฤษนา กลำภัก ขิงแครง ชลูด อบเชยเทศ สมุลแวง ดอกพิกุน ดอกมะลิ เกสรสารภี สิ่งละ ๖ ส่วน เข้าตอกเข้าเจ้าสีปัก ๘ ส่วน ๒๒ ทำเปนจุณ บดด้วยนํ้าดอกไม้เทด แก้หิวหาแรงมิได้เพื่อวาโยกระทำ ถ้าจะแก้ลมมีพิศม์ ลายนํ้าตรีกาละพิศให้กิน ถ้าจะแก้โลหิตมีพิศ ลายนํ้าตรีรัตตะกุลาให้กิน ถ้าจะแก้เสมหะมีพิศม์ ลายนํ้าจัตุทิพคันธาให้กิน ๚ะ๛ คำอ่านปัจจุบัน ๏ ๓๔1 ยาชื่อมหาวิเสศรศ เอาพิมเสนเกล็ด อ�ำพันทอง สิ่งละส่วน ชะมดเชียง หญ้าฝรั่น สิ่งละ ๒ ส่วน ผลถั่วพูคั่วให้สุก โกฐเชียง โกฐกระดูก โกฐหัวบัว สิ่งละ ๔ ส่วน เทียนขาว จันทน์ทั้งสาม กฤษณา กระล�ำพัก ขิงแครง ชะลูด อบเชยเทศ สมุลแว้ง ดอกพิกุล ดอกมะลิ เกสรสารภี สิ่งละ ๖ ส่วน ข้าวตอกข้าวเจ้าสีปัก ๘ ส่วน ๒๒2 ท�ำเป็นจุณ บดด้วยนํ้าดอกไม้เทศ แก้หิวหาแรงมิได้เพื่อวาโยกระท�ำ ถ้าจะแก้ลมมีพิษ ละลายนํ้าตรีกาลพิศให้กิน ถ้าจะแก้โลหิตมีพิษ ละลายนํ้าตรีรัตตะกุลาให้กิน ถ้าจะแก้เสมหะมีพิษ ละลายนํ้าจตุทิพยคันธาให้กิน ๚ะ๛ ๑ ที่ถูกควรเป็นล�ำดับที่ ๔๔ ๒ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๒๒ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยามหาวิเสศรศ
138 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๑๕
139 ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๑๕ ถ้าจะแก้จับเจลี่ยง ลายนํ้าตรีสารวะราให้กิน หายสิ้นทุกประการดังกล่าว มานั้นวิเสศนัก ๚ ๓๕ ยาชื่อปสาวะพิศ เอาหิงสุทธิ โหรา ผลราชดัด ผลมะกลํ่าฃาว กำลังโคเถลิง ตรีกะตุกกา รากปริก สิ่งละส่วน เลบเสือ เงี่ยงกะเบน สิ่งละ ๒ ส่วน นํ้าประสารทอง เบี้ยภู่ สิ่งละ ๙ ส่วน ๑๑ ทำเปนจุณบดด้วยนํ้ามนาว ทำแท่งไว้ลายนํ้าสัตโลหะต้ม ให้กินแก้ในทางปสาว แลรศนั้นจืดหาเคมมิได้ มีกลิ่นต่าง ๆ บำรุงในกองอากาศวาตให้รู้รศอาหาร แก้หืดไอแลสรรพพิศมีพิศตะขาบแมลงป่อง เปนต้น พิศสรรนิบาตเปนที่สุด ให้พลันหายสิ้นวิเสศนัก ๚ะ๛ คำอ่านปัจจุบัน ถ้าจะแก้จับเจลียง ละลายนํ้าตรีสารวะราให้กิน หายสิ้นทุกประการดังกล่าว มานั้นวิเศษนัก ๚ ๓๕1 ยาชื่อปสาวะพิศ เอาหิงคุ์สุทธิ โหรา ผลราชดัด ผลมะกล�่ำขาว ก�ำลังวัวเถลิง ตรีกฏุก รากปริก สิ่งละส่วน เล็บเสือ เงี่ยงปลากระเบน สิ่งละ ๒ ส่วน นํ้าประสานทอง เบี้ยผู้ สิ่งละ ๙ ส่วน ๑๑2 ท�ำเป็นจุณบดด้วยนํ้ามะนาว ท�ำแท่งไว้ละลายนํ้าสัตโลหะต้ม ให้กินแก้ในทางปัสสาวะด�ำ แดง ขาว เหลือง แลรสนั้นจืดหาเค็มมิได้ มีกลิ่นต่าง ๆ บ�ำรุงในกองอากาศวาตให้รู้รสอาหาร แก้หืดไอแลสรรพพิษมีพิษตะขาบแมลงป่อง เป็นต้น พิษสันนิบาตเป็นที่สุด ให้พลันหายสิ้นวิเศษนัก ๚ะ๛ ๑ ที่ถูกควรเป็นล�ำดับที่ ๔๕ ๒ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๑๑ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาปสาวะพิศ ดำ แดง ฃาว เหลือง
140 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๑๖
141 ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๑๖ ๏ ๓๖ ยาชื่อมหาปสาวะพิศ เอาตรีกะตุกา หอยสังข์ หอยนางรม หอยมือเสือ หอยแครง หอยโข่ง หอยขม หอยตาโค หอยพิม มการัง สิ่งละส่วน เบี้ยภู่ โกฎทังห้า เทียรดำ เทียรขาว จันทังสอง กฤษนา กลำภัก แก่นสน ผลปักชีล้อม อบเชยเทด การพลู สิ่งละ ๒ ส่วน นํ้าประสารทอง ๑๒ ส่วน ๒๖ ทำเปนจุณบดทำแท่งไว้ ลายเบญโลหะต้มให้กิน แก้ทุราวะสาอันบังเกิดแต่ปถวี มีสันทะฆาตเปนต้น แลกระไสยดานทัง ๔ ประการนั้นเปนที่สุด บังเกิดขึ้นในระวางพิศ เปนโอปักกะมิกาโรคอันใดก็ดี แลเปนชาติก็ดี บำรุงในกองเตโชธาตุ คำอ่านปัจจุบัน ๏ ๓๖1 ยาชื่อมหาปสาวะพิศ เอาตรีกฏุก หอยสังข์ หอยนางรม หอยมือเสือ หอยแครง หอยโข่ง หอยขม หอยตาวัว หอยพิม พการัง สิ่งละส่วน เบี้ยผู้ โกฐทั้งห้า เทียนด�ำ เทียนขาว จันทน์ทั้งสอง กฤษณา กระล�ำพัก แก่นสน ผลผักชีล้อม อบเชยเทศ กานพลู สิ่งละ ๒ ส่วน นํ้าประสานทอง ๑๒ ส่วน ๒๖2 ท�ำเป็นจุณบดท�ำแท่งไว้ ละลายเบญจโลหะต้มให้กิน แก้ทุราวสาอันบังเกิดแต่ปถวี มีสัณฑะฆาตเป็นต้น แลกระษัยดานทั้ง ๔ ประการนั้นเป็นที่สุด บังเกิดขึ้นในระวางพิษ เป็นโอปักกะมิกาโรคอันใดก็ดี แลเป็นชาติก็ดี บ�ำรุงในกองเตโชธาตุ ๑ ที่ถูกควรเป็นล�ำดับที่ ๔๖ ๒ ใต้ค�ำว่าส่วนมีเลข ๒๖ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยามหาปสาวะพิศ
142 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๑๗
143 ค�ำคัดถ่ายถอดและค�ำอ่านปัจจุบัน ต�ำราพระโอสถปราสาททอง คำถ่ายถอด หน้าปลายที่ ๑๗ อันเนื่องกันอยู่ในอากาศธาตุพิบัด แพทยพิจารณาเหนควรแก่โรคแล้ว จึ่งประกอบให้กินตามอาจารยกล่าวไว้ หายสิ้นทุกประการวิเสศนัก ๏ ๓๗ ยาชื่อเนาวะหอยหอม เอาหอยสังข์ หอยมุก หอยพิมมการัง หอยนางรม หอยขม หอยแครง หอยกาบ หอยตาโค หอยมือเสือ ยาทังนี้กระทำให้สุทธิ ผลจัน ดอกจัน ผลกระวาน การพลู แก่นสน จันเทด กฤษนา กลำภัก พริกหอม พริกหาง ขิงแห้ง ดีปลี ชะมด ผลผักชีลา เทียรดำ เอาเสมอภาก ๒๓ ทำเปนจุณบดแทรก ให้กิน พิมเสน ถ้าจะแก้ลงบิดลายนํ้าปูนไส แทรกผลจันเกาะกึ่งยาให้กิน ถ้าจะแก้ลมโฮก คำอ่านปัจจุบัน อันเนื่องกันอยู่ในอากาศธาตุพิบัติ แพทย์พิจารณาเห็นควรแก่โรคแล้ว จึงประกอบให้กินตามอาจารย์กล่าวไว้ หายสิ้นทุกประการวิเศษนัก ๏ ๓๗1 ยาชื่อเนาวะหอยหอม เอาหอยสังข์ หอยมุก หอยพิมพการัง หอยนางรม หอยขม หอยแครง หอยกาบ หอยตาวัว หอยมือเสือ ยาทั้งนี้กระท�ำให้สุทธิ ผลจันทน์ ดอกจันทน์ ผลกระวาน กานพลู แก่นสน จันทน์เทศ กฤษณา กระล�ำพัก พริกหอม พริกหาง ขิงแห้ง ดีปลี ผลผักชีลา เทียนด�ำ เอาเสมอภาค ๒๓2 ท�ำเป็นจุณบดแทรกชะมด พิมเสนให้กิน ถ้าจะแก้ลงบิดละลายนํ้าปูนใส แทรกผลจันทน์เกาะกึ่งยาให้กิน ถ้าจะแก้ลมโฮก ๑ ที่ถูกควรเป็นล�ำดับที่ ๔๗ ๒ ใต้ค�ำว่าเสมอภาคมีเลข ๒๓ หมายถึง จ�ำนวนตัวยาทั้งหมดในสูตรยาเนาวะหอยหอม
144 คำ�อธิบายตำ�ราพระโอสถปราสาททอง หน้าปลายที่ ๑๘