The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แนวโน้มพัฒนาหลักสูตร ของฉัน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Namthip Deebut, 2022-12-20 12:02:03

แนวโน้มพัฒนาหลักสูตร ของฉัน

แนวโน้มพัฒนาหลักสูตร ของฉัน

รายงาน
การพฒั นาหลกั สูตร เร่ือง แนวโนม้ การพฒั นาหลกั สูตรในศตวรรษที่ 21

โดย
นางสาวน้าทิพย์ ดีบุตร
รหสั นกั ศึกษา 6421113015

รายงานน้ีเป็นส่วนหน่ึงของการเรียนวชิ า 119021 การพฒั นาหลกั สูตร
สาขาวิชา ชีววทิ ยา คบ.

มหาวิทยาลยั ราชภฏั บา้ นสมเดจ็ เจา้ พระยา
ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2565


คานา

รายงานฉบบั น้ีจดั ทาข้ึนเพื่อประกอบการเรียนวชิ าพฒั นาหลกั สูตรโดยมีจุดประสงค์
เพ่อื ใหผ้ จู้ ดั ทาไดฝ้ ึกการศึกษาคน้ ควา้ และนาส่ิงที่ไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ มาสร้างเป็ นช้ินงานเก็บไวเ้ ป็น
ประโยชน์ตอ่ การเรียนการสอนของตนเองและครูต่อไป

ท้งั น้ี เน้ือหาไดร้ วบรวมมาจากหนงั สือแบบเรียนโครงสร้างหลกั สูตรและจากหนงั สือ
คู่มือการเรียนอีกหลายเล่ม ผจู้ ดั ทาหวงั วา่ รายงานฉบบั น้ีคงมีประโยชนต์ ่อผทู้ ี่นาไปใชใ้ หเ้ กิดผล
ตามความคาดหวงั

ลงชื่อ น้าทิพย์ ดีบุตร
ผจู้ ดั ทา


สารบญั

1. สภาพปัจจุบนั ของหลกั สูตรไทย หนา้
1.1 หลกั สูตรปฐมวยั พุทธศกั ราช 2560
1.2 หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ปี พทุ ธศกั ราช 2551 1-3
(ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช 2560) 4-11
1.3 หลกั สูตรการอาชีวศึกษา 12-21
1.3.1 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศกั ราช 2562
1.3.2 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) พทุ ธศกั ราช 2563 22-28
1.3.3 หลกั สูตรปริญญาตรีสายเทคโนโลยหี รือสายปฏิบตั ิการ 29-32
1.4 หลกั สูตรอดุ มศึกษา (ภายใตก้ รอบมาตรฐานคุณวุฒิอุดมศึกษา) 33-45
46-67
2. สภาพปัญหาหลกั สูตรในประเทศไทย 68-78
2.1 หลกั สูตรปฐมวยั พุทธศกั ราช 2560 79-83
2.2 หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ปี พุทธศกั ราช 2551 84-91
(ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช 2560) 92-100
2.3 หลกั สูตรการอาชีวศึกษา
2.3.1 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศกั ราช 2562 101-114
2.3.2 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง (ปวส.) พทุ ธศกั ราช 2563 115-119
2.3.3 หลกั สูตรปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบตั ิการ 120-125
2.4 หลกั สูตรอดุ มศึกษา (ภายใตก้ รอบมาตรฐานคณุ วุฒิอุดมศึกษา) 126-129
130-133
3. แนวโนม้ การพฒั นาหลกั สูตรในศตวรรษท่ี 21 134-144
3.1 หลกั สูตรปฐมวยั พทุ ธศกั ราช 2560 145-157
3.2 หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ปี พุทธศกั ราช 2551 158-161
(ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช 2560)
3.3 หลกั สูตรการอาชีวศึกษา 162-165
3.3.1 ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พทุ ธศกั ราช 2562 166-173


3.3.2 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง (ปวส.) พุทธศกั ราช 2563 174-183
3.3.3 หลกั สูตรปริญญาตรีสายเทคโนโลยหี รือสายปฏิบตั ิการ 184-187
3.4 หลกั สูตรอดุ มศึกษา (ภายใตก้ รอบมาตรฐานคุณวุฒิอุดมศึกษา) 188-191
สรุป 192
บรรณานุกร 193-194


แนวโนม้ การพฒั นาหลกั สูตรในศตวรรษท่ี 21

1. สภาพปัจจุบนั ของหลกั สูตรไทย

การศึกษาไทยในปัจจุบนั มีการจดั การศึกษาตามบริบทของการจดั การศึกษาอนั เป็นไป
ตามแผนการศึกษาของชาติคือ พฒั นาคน พฒั นาครูอาจารย์ พฒั นาสงั คม ในหลากหลายรูปแบบที่
เนน้ การมีส่วนร่วมขององคก์ รภาครัฐและเอกชน เป็นการจดั การศึกษาท่ีเนน้ ดา้ นอาชีวศึกษามาก
ข้ึน

การมุ่งเนน้ ใหม้ ีการจดั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานและระดบั ปริญญาตรีเพื่อเนน้ การมีงานทา
โดนอาศยั ปัจจยั หลกั ในองคก์ รหลกั จากภายนอกหลายปัจจยั เช่นปัจจยั ดา้ นเทคโนโลยดี า้ น
เศรษฐกิจดา้ นระบบราชการดา้ นการเมืองการปกครองดา้ นคุณธรรมจริยธรรมซ่ึงส่งผลให้
จดั ระบบบริหารจดั การกระทรวงศึกษาธิการรูปแบบใหมด่ ยบรู ณาการองคก์ รหลกั ของกระทรวง
ท้งั 5 องคก์ รหลกั โดยให้ปลดั กระทรวงศึกษาธิการเป็นผมู้ ีอานาจสูงสุด กระจายอานาจไปสู่ส่วน
ภมู ิภาคไปยงั ศึกษาธิการภาค 1-18 โดยแต่ระภาคจะประกอบไปดว้ ยกลุ่มจงั หวดั ในแตล่ ะจงั หวดั
มีศึกษาธิการจงั หวดั เป็นฝ่ ายกากบั ดูแลหน่วยงานทางการศึกษาในจงั หวดั เขตพ้ืนท่ีและ
สถานศึกษาซ่ึงเป็นการกระจายอานาจโดยใหม้ ีการกากบั ควบคุมดูแลกนั อยา่ งเป็นระบบมากข้ึน

ปรัชญาหลกั ๆ ของแผนการศึกษาแห่งชาติมกั จะเนน้ และยดึ หลกั เศรษฐกิจพอเพียง

หรือกรอบของการบูรณาการร่วมกนั ในเรื่องของการศึกษา ศิลปะวฒั นธรรม และเรื่องอ่ืนไดแ้ ก่

1.การพฒั นาคน จะเนน้ การพฒั นาใหเ้ ป็นคนเก่ง ดีมีความสุข มีความภูมิใจในความเป็นไทย

รวมท้งั มีความศรัทธาเชื่อมนั่ ในระบอบประชาธิปไตย รังเกียจการทุจริต ตอ่ ตา้ นการซ้ือสิทธิขาย
เสียง

2.การพฒั นาครูคณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา จะมุ่งเนน้ ในเรื่องการพฒั นาครูเพ่ือนา

ไปสู่การยกระดบั คุณภาพการศึกษา

3.การพฒั นาสังคม และสิ่งแวดล้อม ใหส้ ังคมไทยเป็นสังคมแห่งคุณธรรมจริยธรรม และส่งเสริม
การเรียนรู้ตลอดชีวิต


4.การพฒั นากาลงั คน ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของผใู้ ช้ ภาคอตุ สาหกรรมบริการ

ภาคเศรษฐกิจและสังคมต่างๆ โดยมีการกาหนดกรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิวชิ าชีพใหเ้ กิดข้ึนอยา่ ง
เป็ นรู ปธรรม

5.การมสี ่วนร่วม ท้งั ในส่วนของภาครัฐเอกชน หน่วยงานองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน และ
สถาบนั อ่ืนๆ ท่ีเก่ียวขอ้ ง เช่น สถาบนั ศาสนา สถาบนั ครอบครัว เป็นตน้

6.การเตรียมประเทศไทยให้เดนิ หน้าไปสู่ความพร้อมในการสร้างประชาคมอาเซียน โดยอยา่ ง

นอ้ ยท่ีสุดที่จะตอ้ งทาในเวลาน้ีคือ ควรจะตอ้ งมีการเร่งรัดกาหนดกรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิ
การศึกษาในระดบั ตา่ งๆซ่ึงในขณะน้ีระดบั อุดมศึกษาไดจ้ ดั ทาและประกาศใชแ้ ลว้ คือ TQF

(Thai Qualifications Frameworkหรือ กรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั อดุ มศึกษาแห่งชาติ) และตอ้ ง
ไปเนน้ ระดบั อาชีวศึกษาต่อไปดว้ ยขณะเดียวกนั ตอ้ งมีการผลกั ดนั ใหก้ ลุ่มประเทศอาเซียนมี
TQF กลางเกิดข้ึนดว้ ย (พติ ติภรณ์สิงคราช,การศึกษาไทยในยคุ ปัจจุบนั , ออนไลน)์

1. การศึกษาในปัจจบุ ัน มีการจดั การศึกษาตามบริบทของการจดั การศึกษาอนั เป็นไปตาม
แผนการศึกษาของชาติคือ พฒั นาคน พฒั นาครูอาจารย์พฒั นาสังคม ในหลากหลายรูปแบบที่
เนน้ การมีส่วนร่วมขององคก์ รภาครัฐและ เอกชน เป็นการจดั การศึกษาท่ีเนน้ ดา้ นอาชีวศึกษามาก
ข้ึน การมุ่งเนน้ ใหม้ ีการจดั การศึกษาข้นั พ้นื ฐานและ ระดบั ปริญญาตรีเพ่อื เนน้ การมีงานทาโดน
อาศยั ปัจจยั หลกั ในองคก์ รหลกั จากภายนอกหลายปัจจยั เช่น ปัจจยั ดา้ นเทคโนโลยดี า้ นเศรษฐกิจ
ดา้ นระบบราชการ ดา้ นการเมืองการปกครอง ดา้ นคุณธรรมจริยธรรมซ่ึงส่ง ผลใหจ้ ดั ระบบ
บริหารจดั การกระทรวงศึกษาธิการรูปแบบใหม่ โดยบูรณาการองคก์ รหลกั ของกระทรวงท้งั 5
องคก์ รหลกั โดยใหป้ ลดั กระทรวงศึกษาธิการเป็ นผมู้ ีอานาจสูงสุด กระจายอานานไปสู่ส่วน
ภูมิภาคไปยงั ศึกษาธิการภาค 1-18 โดยแต่ระภาคจะประกอบไปดว้ ยกล่มุ จงั หวดั ในแต่ละจงั หวดั
มีศึกษาธิการจงั หวดั เป็น ฝ่ ายกากบั ดูแลหน่วยงานทางการศึกษาในจงั หวดั เขตพ้นื ท่ีและ
สถานศึกษาซ่ึงเป็นการกระจายอานาจโดย ใหม้ ีการกากบั ควบคุมดูแลกนั อยา่ งเป็นระบบมากข้ึน

2. แนวโน้มการศึกษาไทย หลงั จากการจดั การศึกษาในรูปแบบการบริหารจดั การปฏิรูป
องคก์ ารศึกษาของกระทรวง ศึกษาธิการแลว้ การจดั การศึกษาไทยมีแนวโนม้ ที่จะกา้ วสู่การเป็น
ประเทศท่ีพฒั นาแลว้ และอาจจะเกิดการ เปลี่ยนแปลงเป็นแนวโนม้ อนาคตทางการศึกษาไทยได้
เป็นดงั น้ี


2.1เกิดการปฏิรูปโครงสร้างการบริหารการจดั การศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
ของไทย

2.2 มีหลกั สูตรใหมเ่ กิดเพ่ิมมากข้ึน

2.3 มีการบูรณาการหลกั สูตรนานาชาติมีความเป็นสากลมากข้ึน

2.4 เกิดการมีส่วนร่วมมากข้ึน

2.5 เพิ่มโอกาสทางการศึกษาและลดความเหล่ือมล้าทางการศึกษา

2.6เกิดการแข่งขนั ทางการศึกษาสูงข้ึน เนน้ ดา้ นคุณภาพและอาจดอ้ ยดา้ คุณธรรม
จริยธรรม

2.7 เกิดววิ ฒั นาการการสืบคน้ ดา้ นเทคโนโลยขี อ้ มลู ขา่ วสารไดร้ วดเร็วและพฒั นา
องคค์ วาม รู้ตลอดเวลา

การจดั การศึกษาในอนาคตของไทยจึงตอ้ งอาศยั เทคโนโลยแี ละการสืบคน้ ดว้ ยตนเอง
มากกวา่ ใชค้ รู และบคุ ลากรทางการศึกษาที่ตอ้ งเปล่ียนบทบาทจากผใู้ หม้ าเป็ นผกู้ ากบั ดูแลและ
ใหค้ าปรึกษาการสืบคน้ ขอ้ มลู การใชข้ อ้ มูลท่ีเหมาะสม การเรียนรู้จะอาศยั การศึกษาเรียนรู้จาก
สภาพจริงของสงั คมและสิ่งแวดลอ้ ม มากกวา่ การเรียนรู้ในช้นั เรียน การวดั และการประเมินผล
การเรียนรู้ใชเ้ ทคโนโลยขี ่าวสารทางอิเลก็ ทรอนิกส์ นวตั กรรม สังคมจะปรับตวั ตามเทคโนโลยี
และนวตั กรรม การศึกษาในอนาคตจึงตอ้ งปรับตวั ตามเพื่อรองรับ การเปล่ียนแปลงเพ่อื เตรียม
ความพร้อมสู่ประเทศไทย 4.0 ตอ่ ไป


1.1หลกั สูตรปฐมวยั พทุ ธศกั ราช 2560


ความสาคญั ของการศึกษาปฐมวยั

ความสาคญั ของการศึกษาปฐมวยั คือการที่ครูจะสอนไดด้ ีน้นั จาเป็นตอ้ งศึกษาเด็ก
ยงิ่ กวา่ น้นั งานวจิ ยั เกี่ยวกบั การพฒั นาการทางสมองมนุษยย์ ้งั เนน้ ความสาคญั ของการศึกษา
ปฐมวยั โดยเฉพาะในช่วงของ 5 ปี แรกของชีวิตวา่ เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดสาหรับการเรียนรู้ และ
เดก็ จาเป็นตอ้ งไดร้ ับการดูแล เอาใจใส่จากพอ่ แม่หรือผดู้ ูแลต้งั แต่แรกเกิดโดยการใหค้ วามรัก
การโอบกอด สมั ผสั พูดคุย และเลน่ กบั เดก็ เพ่ือใหส้ มองของเดก็ ไดร้ ับการพฒั นาอยา่ งเตม็ ท่ี
ตามศกั ยาภาพ การเขา้ ใจพฒั นาเดก็ ส่งผลดีต่อครูผสู้ อนหลายประการ ผลดีประการหน่ึงคือ ช่วย
ใหค้ รูเขา้ ใจกระบวนการเรียนรู้ของเด็กไดด้ ียงิ่ ข้ึน ยงั สามารถวางแผนหลกั สูตร การเรียนการ
สอนไดเ้ หมาะสมกบั เด็กแต่ละคนไดม้ ากข้ึนศกั ยาภาพ การเขา้ ใจพฒั นาเดก็ ส่งผลดีตอ่ ครูผสู้ อน
หลายประการ ผลดีประการหน่ึงคือ ช่วยใหค้ รูเขา้ ใจกระบวนการเรียนรู้ของเด็กไดด้ ียง่ิ ข้ึน ยงั
สามารถวางแผนหลกั สูตร การเรียนการสอนไดเ้ หมาะสมกบั เดก็ แตล่ ะคนไดม้ ากข้ึน

การจดั การศึกษาที่มีจุดมุง่ หมายเพื่อใหเ้ กิดการเปล่ียนแปลงต่อการพฒั นาการในเด็ก
ต้งั แต่แรกเกิดถึง8ขวบหรือช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี3การจดั การเด็กในที่น้ีรวมถึงการจดั การศึกษา
ทางเป็นทางการ (formal group settings )และการจดั การศึกษาแบบไมเ่ ป็นทางการ (informal
group settings)เพราะการเรียนรู้ของเดก็ ในช่วงวยั ด้งั กลา่ วถือเป็นรากฐานของการเรียนรู้ใน
อนาคต

การจดั การศึกษาปฐมวยั ควรมีส่วนช่วยใหเ้ ด็กเกิดพฒั นาการและการเรียนรู้อยา่ งเตม็ ท่ี ซ่ึง
แนวคิดในการจดั การศึกษาสาหรับเดก็ ในวยั น้ีทกุ รูปแบบควรมีส่วนสาคญั ดงั ท่ีมาสโซเกลีย
(Massoglia. ) กล่าวเอาไว้ ดงั น้ี

1. เป็นการส่งเสริมพฒั นาการของเดก็ ทุกดา้ น นบั ต้งั แตแ่ รกเกิดจนถึงเร่ิมเขา้ เรียนใน
ระดบั โรงเรียน

2. วางพ้ืนฐานทางสุขภาพอนามยั ใหก้ บั เดก็ ต้งั แตต่ น้ รวมท้งั เด็กท่ีมีขอ้ บกพร่องตา่ ง ๆ

3. สิ่งแวดลอ้ มทางบา้ นควรมีส่วนช่วยใหเ้ ด็กเจริญเติบโต และพฒั นาในทุก ๆ ดา้ น

4. พอ่ แมค่ วรเป็นครูคนแรกที่มีความสาคญั ต่อลกู

5. อิทธิพลจากทางบา้ นควรมีผลต่อกระบวนการในการพฒั นาเดก็


จุดมุ่งหมายการจัดการศึกษาปฐมวยั
หลกั สูตรสถานศึกษาปฐมวยั มงุ่ ใหเ้ ด็กพฒั นาทางดา้ นร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และ

สติปัญญาท่ีเหมาะสมกบั วยั ความสามารถและความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล จึงกาหนด
จุดม่งุ หมายซ่ึงถือเป็นมาตรฐานคุณลกั ษณะที่พึงประสงคไ์ ด้ ดงั น้ี (กระทรวงศึกษาธิการ)

1. ร่างกายเจริญเติบโตตามวยั และมีสุขนิสัยท่ีดี
2. กลา้ มเน้ือใหญ่และกลา้ มเน้ือเลก็ แขง็ แรง ใชไ้ ดอ้ ยา่ งคลอ่ งแคลว่ และประสานสัมพนั ธ์
กนั
3. มีสุขภาพจิตท่ีดีและมีความสุข
4. มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจดีงาม
5. ช่ืนชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี การเคลื่อนไหว และรักการออกกาลงั กาย
6. ช่วยเหลือตนเองไดเ้ หมาะสมกบั วยั
7. รักธรรมชาติ ส่ิงแวดลอ้ ม วฒั นธรรม และความเป็นไทย
8.อยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นไดอ้ ยา่ งมีความสุขและปฏิบตั ิตนเป็นสมาชิกท่ีดีของสังคมในระบอบ
ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยเ์ ป็นประมขุ
9. ใชภ้ าษาสื่อสารไดเ้ หมาะสมกบั วยั
10. มีความสามารถในการคิดและการแกป้ ัญหาไดเ้ หมาะสมกบั วยั
11. มีจิตนาการและความคิดสร้างสรรค์
12. มีเจตคติท่ีดีตอ่ การเรียนรู้ และมีทกั ษะในการแสวงหาความรู้


ไดก้ าหนดแนวปฏิบตั ิไว้ 6 เร่ืองหลกั ไดแ้ ก่

1. เน้นเดก็ เป็ นสาคญั โดยเปิ ดโอกาสใหเ้ ด็กฝึกใชค้ วามคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ การวางแผนลง
มือทา นาเสนอ และสะทอ้ นความคิดเห็น ฯลฯ โดยครูเป็นผสู้ นบั สนุนและร่วมเรียนรู้ไป
พร้อมกบั เด็ก ท้งั น้ี ใหค้ านึงถึงบริบทของตวั เด็กและสังคมที่เด็กอาศยั

2. จัดประสบการณ์ หรือกิจกรรมการเรียนรู้แบบบูรณาการ ยดื หยนุ่ สอดคลอ้ งกบั
พฒั นาการหรือปรับเปล่ียนตามความสนใจ สถานการณ์ บริบทหรือวิถีชีวิตจริงของเด็ก

3. จดั หาหรือพฒั นาสื่อ วสั ดุ และอปุ กรณ์ รวมถึงแหล่งเรียนรู้ตามธรรมชาติ ใหเ้ ดก็ มีโอกาส
ไดเ้ รียนรู้ผา่ นการเลน่ ท่ีหลากหลาย ท้งั การเล่นอิสระ การเล่นร่วมกนั และการเลน่ ท่ีมี
ขอ้ ตกลง

4. จัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศการเรียนรู้ เชิงบวก อบอ่นุ ปลอดภยั เป็นมิตร มีอิสระ
และทา้ ทาย ใหเ้ อ้ือต่อการเรียนรู้ ส่งเสริมปฏิสมั พนั ธเ์ ชิงบวกระหวา่ งเด็กกบั เดก็ และเดก็
กบั ครู

5. ส่งเสริม สนบั สนุนใหค้ รูไดม้ ีโอกาสในการพฒั นาตนเอง รู้เทา่ ทนั ความกา้ วหนา้ และการ
เปล่ียนแปลงต่าง ๆ การวิจยั และพฒั นาสื่อ รูปแบบ วิธีการหรือนวตั กรรมสาหรับการจดั
การศึกษาปฐมวยั

6. ประสานความร่วมมือและสร้างความรู้ความเข้าใจ ร่วมกนั ระหวา่ งสถานศึกษากบั พอ่ แม่
ครอบครัว และชุมชน ในการดูแล พฒั นาและจดั การเรียนรู้เพื่อการพฒั นาเด็กปฐมวยั

เน่ืองจากการปรับรูปแบบการจดั การศึกษาปฐมวยั คร้ังน้ี ครูมีบทบาทสาคญั และเป็นผนู้ าการ
เปล่ียนแปลง (Change Agent) จากครูผสู้ อนปรับมาเป็นผชู้ ้ีแนะ ช่วยอานวยความสะดวกในการ
เรียนรู้ ผสู้ งั เกต ร่วมเรียนรู้ไปกบั เดก็ และเช่ือมโยงความร่วมมือจากทกุ ภาคส่วนท่ีเกี่ยวขอ้ ง
เพ่อื ใหเ้ ดก็ ไดร้ ับการพฒั นาและเรียนรู้เตม็ ตามศกั ยภาพ

ดงั น้นั แนวปฏิบตั ิท่ีเหมาะสมสาหรับครู ตอ้ งเกิด “5 สิ่งที่มีอยจู่ ริง” ดงั น้ี


1. ครูมีอยจู่ ริง “ครูคุณภาพ ครูเพ่ือศิษย”์ มีจิตวญิ ญาณความเป็นครู ตอ้ งเช่ือมน่ั วา่ เดก็ ทกุ คน
มีศกั ยภาพ มงุ่ มนั่ กลา้ ทาเพ่อื เปล่ียนแปลงใหเ้ กิดสิ่งใหม่ที่ดีกวา่ เป็นแบบอยา่ งท่ีดี เป็นท่ี
พ่ึงทางใจ มีปฏิสัมพนั ธเ์ ชิงบวก

2. เด็กมีอยจู่ ริง “เดก็ ไดค้ ิด วางแผน ทา แกป้ ัญหา ดว้ ยตนเอง และเป็นที่ยอมรับ” พอ่ แมแ่ ละ
ครูตอ้ งส่งเสริมสร้างความมีตวั ตนใหก้ บั เด็กเคารพในความรู้สึกนึกคิดของเด็ก กระตนุ้ ให้
เดก็ อยากเรียนรู้และต้งั เป้าหมายเอง ใหเ้ ดก็ มีโอกาสตดั สินใจและเรียนรู้ผลจากการ
ตดั สินใจ มีความภาคภมู ิใจในตนเอง และส่งเสริมการเรียนรู้ร่วมกนั

3. หลกั สูตรมีอยจู่ ริง “ใหโ้ อกาสการเรียนรู้และความสาเร็จแก่เดก็ ” หลกั สูตรสถานศึกษา
ระดบั ปฐมวยั ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั หลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั ช่วยใหเ้ ด็กมีความพร้อม
พ้ืนฐานสาหรับการเรียนรู้และมีทกั ษะชีวิต

4. ครอบครัวมีอยจู่ ริง “ครอบครัวอบอุน่ ปลอดภยั มีส่วนร่วมพฒั นาเด็ก” เด็กปฐมวยั จะ
ไดร้ ับการพฒั นาจากครอบครัวเป็นลาดบั แรก ดงั น้นั การพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ครอบครัว
และสถานศึกษาตอ้ งร่วมมือใกลช้ ิด สื่อสารเชิงบวกสร้างความรู้ความเขา้ ใจ พฒั นาทกั ษะ
แลกเปล่ียนขอ้ มูลประสบการณ์และใหก้ าลงั ใจกนั และกนั

5. เพื่อนร่วมงานมีอยจู่ ริง “ร่วมคิด ร่วมทา ร่วมแกป้ ัญหาร่วมพฒั นา ร่วมรับผดิ ชอบ” สร้าง
ความร่วมมือท้งั ภายในและนอกสถานศึกษาพฒั นาการจดั การศึกษาและการเรียนรู้ ใหม้ ี
คุณภาพ ครูจะตอ้ งทางานร่วมกบั ผทู้ ี่มีส่วนเกี่ยวขอ้ งโดยการพฒั นาจะเนน้ ที่เดก็ เป็น
สาคญั

การพฒั นาสมองในเดก็ ระดบั ปฐมวยั ตอ้ งเนน้ การสร้างจินตนาการ 4 ระดบั คือ

1.ระดบั จินตลกั ษณ์

2. ระดบั จินตภาพ

3. ระดบั จินตปัญญา

4. ระดบั จินตปัญญาญาณ


โครงสร้างหลกั สูตร

โครงสร้างหลกั สูตรระดับปฐมวัย
หลกั สูตรการจดั การเรียนการสอนระดบั ปฐมวยั เป็นการจดั ประสบการณ์การ เรียนรู้

แบบบูรณาการ (Integration) โดยเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั ตามแนวธรรมชาติ ท้งั ในและนอก
หอ้ งเรียน ซ่ึงได้ จดั เน้ือหาออกเป็นหน่วยยอ่ ย ดงั น้ี

หน่วยการเรียนการสอน ทางโรงเรียนจดั หน่วยการเรียนการสอน โดยเนน้ มวล
ประสบการณ์เรียงลาดบั เน้ือหาจากส่ิงท่ีอยใู่ กลต้ วั จดั กิจกรรมใหเ้ หมาะสมกบั วยั และความ
สนใจของผเู้ รียน ดงั น้ี

อนุบาล1
สาระการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่องราวเก่ียวกบั ตวั เด็ก

หน่วยท่ี 1 สนุกสุขใจฉนั ไปโรงเรียน
หน่วยท่ี 2 น่ีแหละตวั ฉนั
หน่วยที่ 3 อารมณ์ของฉนั
หน่วยท่ี 4 ร่างกายของฉนั
หน่วยท่ี 5 อวยั วะรับสมั ผสั
หน่วยท่ี 6 เด็กนอ้ ยสุขภาพดี
หน่วยที่ 7 เดก็ ดีมีมารยาท

สาระการเรียนรู้ที่ 2 เรื่องราวเกยี่ วกบั บคุ คลและสถานท่ีแวดล้อมเด็ก
หน่วยท่ี 8 ครอบครัวของฉนั
หน่วยท่ี 9 บา้ นแสนรัก
หน่วยท่ี 10 โรงเรียนของฉนั
หน่วยท่ี 11 ชุมชนของฉนั


หน่วยท่ี 12 จงั หวดั ของเรา
หน่วยที่ 13 เรารักประเทศไทย
หน่วยที่ 14 ประเทศเพื่อนบา้ น
สาระการเรียนรู้ท่ี 3 ธรรมชาติรอบตวั
หน่วยที่ 15 สตั วน์ ่ารัก
หน่วยที่ 16 ตน้ ไม้
หน่วยที่ 17 ส่ิงแวดลอ้ มตามธรรมชาติ
หน่วยท่ี 18 กลางวนั กลางคืน
หน่วยที่ 19 ร้อน ฝน หนาว
หน่วยที่ 20 เดก็ นอ้ ยผพู้ ิทกั ษ์
หน่วยที่ 21 อวกาศ
สาระการเรียนรู้ที่ 4 สิ่งต่างๆ รอบตัวเดก็
หน่วยที่ 22 สีสันอนั สดใส
หน่วยที่ 23 รูปทรงและผวิ สมั ผสั
หน่วยที่ 24 ส่ิงของเคร่ืองใช้
หน่วยท่ี 25 เครื่องทุ่นแรง 1
หน่วยท่ี 26 คมนาคม
หน่วยที่ 27 การติดตอ่ ส่ือสาร
หน่วยท่ี 28 เทคโนโลยี
อนุบาล2
สาระการเรียนรู้ท่ี 1 เรื่องราวเกยี่ วกบั ตวั เดก็


หน่วยท่ี 1 เม่ือฉนั ไปโรงเรียน
หน่วยที่ 2 เมื่อฉนั โตข้ึน
หน่วยที่ 3 อารมณ์ของฉนั
หน่วยที่ 4 อวยั วะของฉนั
หน่วยท่ี 5 ประสาทสมั ผสั ท้งั 5
หน่วยท่ี 6 สุขภาพดีมีสุข
หน่วยที่ 7 เดก็ นอ้ ยมารยาทงาม
สาระการเรียนรู้ที่ 2 เรื่องราวเกย่ี วกบั บคคุ ลและสถานที่แวดล้อมเด็ก
หน่วยท่ี 8 ครอบครัวแสนรัก
หน่วยท่ี 9 บา้ นของฉนั
หน่วยท่ี 10 โรงเรียนของเราน่าอยู่
หน่วยที่ 11 เรารักชุมชน
หน่วยท่ี 12 จงั หวดั ของเรา
หน่วยท่ี 13 ฉนั รักประเทศไทย
หน่วยที่ 14 มิตรประเทศของไทย
สาระการเรียนรู้ท่ี 3 ธรรมชาตริ อบตัว
หน่วยท่ี 15 ชีวติ สตั วน์ ่ารู้
หน่วยที่ 16 พืช
หน่วยที่ 17 ธรรมชาติสวยงาม
หน่วยที่ 18 วนั และคืน
หน่วยท่ี 19 ฤดูกาล


หน่วยท่ี 20 เมื่อฉนั รักโลก
หน่วยที่ 21 อวกาศ
สาระการเรียนรู้ที่ 4 ส่ิงต่างๆ รอบตวั เด็ก
หน่วยที่ 22 สีผสมสีสวย
หน่วยที่ 23 รูปทรง รูปร่าง ผวิ สมั ผสั
หน่วยที่ 24 เครื่องมือ เคร่ืองใช้
หน่วยท่ี 25 เคร่ืองทุ่นแรง 2
หน่วยท่ี 26 คมนาคม
หน่วยที่ 27 การติดตอ่ สื่อสาร
หน่วยท่ี 28 เทคโนโลย
อนุบาล3
สาระการเรียนรู้ท่ี 1 เร่ืองราวเกย่ี วกบั ตัวเด็ก
หน่วยท่ี 1 เรามาโรงเรียน
หน่วยท่ี 2 เม่ือฉนั เติบโต
หน่วยท่ี 3 อารมณ์ของฉนั
หน่วยที่ 4 อวยั วะภายในของฉนั
หน่วยที่ 5 อวยั วะรับสมั ผสั
หน่วยที่ 6 อนามยั ดีมีสุข
หน่วยที่ 7 ฉนั มีมารยาทดี
สาระการเรียนรู้ท่ี 2 เร่ืองราวเกย่ี วกบั บคคุ ลและสถานท่แี วดล้อมเด็ก
หน่วยท่ี 8 ครอบครัวของเรา


หน่วยท่ี 9 บา้ นของเรา
หน่วยท่ี 10 โรงเรียนของเรา
หน่วยท่ี 11 ชุมชนของเรา
หน่วยที่ 12 จงั หวดั ของฉนั
หน่วยท่ี 13 ฉนั รักประเทศไทย
หน่วยที่ 14 นานาประเทศ
สาระการเรียนรู้ท่ี 3 ธรรมชาติรอบตวั
หน่วยที่ 15 ชีวติ สตั วโ์ ลก
หน่วยที่ 16 พืชน่ารู้
หน่วยที่ 17 สิ่งแวดลอ้ มตามธรรมชาติ
หน่วยท่ี 18 คืนวนั ที่แปรเปลยี่ น
หน่วยท่ี 19 ฤดูกาลน่ารู้
หน่วยที่ 20 รักโลกกนั เถอะ
หน่วยที่ 21 อวกาศ
สาระการเรียนรู้ที่ 4 ส่ิงต่างๆ รอบตัวเดก็
หน่วยที่ 22 สีกบั สัญลกั ษณ์
หน่วยที่ 23 รูปร่าง รูปทรง
หน่วยที่ 24 เคร่ืองมือ เคร่ืองใช้
หน่วยที่ 25 เคร่ืองทนุ่ แรง 3
หน่วยท่ี 26 การเดินทางแสนสนุก
หน่วยท่ี 27 การติดตอ่ ส่ือสาร


หน่วยท่ี 28 เทคโนโลยี

โครงสร้างหลกั สูตรระดับประถมศึกษา
หลกั สูตรการจดั การเรียนการสอนระดบั ประถมศึกษา เป็นการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ท่ี
มุ่งเนน้ ให้ ผเู้ รียนไดค้ น้ พบความสามารถของตนเอง และพฒั นาความสามารถของตนเอง ไดอ้ ยา่ ง
เตม็ ศกั ยภาพ โดยในช่วงชน้ั ท่ี 1(ป.1- 6) ผเู้ รียนจะไดเ้ รียนรู้เน้ือหาทงั้ 8 กลมุ่ สาระตามท่ีโรงเรียน
กาหนด ตามตารางโครงสร้างหลกั สูตร


1.2 หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ปี
พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช 2560)


วสิ ัยทัศน์

หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน มุ่งพฒั นาผเู้ รียนทุกคน ซ่ึงเป็นกาลงั ของชาติ ให้
เป็นมนุษยท์ ี่มีความสมดุลท้งั ดา้ นร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทย
และเป็นพลโลก ยดึ มน่ั ในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็น
ประมขุ มีความรู้และทกั ษะพ้นื ฐาน รวมท้งั เจตคติที่จาเป็นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และ การศึกษาตลอดชีวิต โดยม่งุ เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั บนพ้ืนฐานความเช่ือวา่ ทกุ คนสามารถ
เรียนรู้ และพฒั นาตนเองไดเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพ

หลกั การ

หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน มีหลกั การที่สาคญั ดงั น้ี เป็นหลกั สูตรการศึกษา
เพอื่ ความเป็นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐาน การเรียนรู้ เป็นเป้าหมายสาหรับพฒั นา
เดก็ และเยาวชนใหม้ ีความรู้ ทกั ษะ เจตคติ และคุณธรรม บนพ้ืนฐานของความเป็นไทยควบคู่กบั

1.ความเป็ นสากล

2. เป็นหลกั สูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ท่ีประชาชนทุกคนมีโอกาสไดร้ ับการศึกษา อยา่ งเสมอภาค
และมีคุณภาพ

3. เป็นหลกั สูตรการศึกษาท่ีสนองการกระจายอานาจ ใหส้ ังคมมีส่วนร่วมในการจดั การศึกษาให้
สอดคลอ้ งกบั สภาพและความตอ้ งการของทอ้ งถิ่น

4. เป็นหลกั สูตรการศึกษาที่มีโครงสร้างยดื หยนุ่ ท้งั ดา้ นสาระการเรียนรู้ เวลาและ การจดั การ
เรียนรู้

5. เป็นหลกั สูตรการศึกษาท่ีเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั

6. เป็นหลกั สูตรการศึกษาสาหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอธั ยาศยั ครอบคลมุ ทุก
กลุ่มเป้าหมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์


จดุ หมาย

หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน มุ่งพฒั นาผเู้ รียนใหเ้ ป็นคนดี มีปัญญา มีความสุข
มีศกั ยภาพในการศึกษาตอ่ และประกอบอาชีพ จึงกาหนดเป็นจุดหมาย เพอื่ ใหเ้ กิดกบั ผเู้ รียน เม่ือ
จบการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ท้งั น้ี

1. มีคุณธรรม จริยธรรม และคา่ นิยมที่พงึ ประสงค์ เห็นคุณคา่ ของตนเอง มีวินยั และปฏิบตั ิตน
ตามหลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนบั ถือ ยดึ หลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจ
พอเพยี ง

2. มคี วามรู้อนั เป็นสากลและมีความสามารถในการส่ือสาร การคิด การแกป้ ัญหา การใช้
เทคโนโลยี และมีทกั ษะชีวติ

3. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตที่ดี มีสุขนิสยั และรักการออกกาลงั กาย

4. มีความรักชาติ มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยดึ มนั่ ในวถิ ีชีวิต และการ
ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข

5. มีจิตสานึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย การอนุรักษแ์ ละพฒั นา ส่ิงแวดลอ้ ม มี
จิตสาธารณะท่ีม่งุ ทาประโยชน์และสร้างสิ่งท่ีดีงามในสังคม และอยรู่ ่วมกนั ในสังคม อยา่ งมี
ความ

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน มุง่ พฒั นาผเู้ รียน ใหม้ ีคุณภาพตามมาตรฐานการ
เรียนรู้ ซ่ึงการพฒั นาผเู้ รียนใหบ้ รรลุ มาตรฐานการเรียนรู้ที่กาหนดน้นั จะช่วยใหผ้ เู้ รียนเกิด
สมรรถนะสาคญั 5 ประการ ดงั น้ี

1. ความสามารถในการส่ือสาร เป็นความสามารถใน การรับและส่งสาร มีวฒั นธรรมในการใช้
ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเขา้ ใจ ความรู้สึก และทศั นะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยน
ขอ้ มูลข่าวสาร และประสบการณ์อนั จะเป็นประโยชน์ตอ่ การพฒั นา ตนเองและสังคม รวมท้งั การ
เจรจาต่อรองเพื่อขจดั และลดปัญหา ความขดั แยง้ ตา่ ง ๆ การเลือกรับหรือไมร่ ับขอ้ มูลข่าวสารดว้ ย


หลกั เหตผุ ล และความถกู ตอ้ ง ตลอดจนการเลือกใชว้ ิธีการส่ือสารท่ีมี ประสิทธิภาพโดยคานึงถึง
ผลกระทบท่ีมีตอ่ ตนเองและสังคม

2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถใน การคิดวเิ คราะห์ การคิดสงั เคราะห์ การคิดอยา่ ง
สร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพอ่ื นาไปสู่ การสร้างองคค์ วามรู้
หรือสารสนเทศเพือ่ การตดั สินใจเก่ียวกบั ตนเอง และสังคมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา เป็นความสามารถใน การแกป้ ัญหาและอุปสรรคตา่ งๆ ที่เผชิญ
ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งเหมาะสม บนพ้ืนฐานของหลกั เหตผุ ล คุณธรรมและขอ้ มลู สารสนเทศ เขา้ ใจ
ความสัมพนั ธ์และการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ตา่ งๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ต์
ความรู้มาใชใ้ นการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา และมีการตดั สินใจที่มีประสิทธิภาพโดยคานึงถึง
ผลกระทบท่ีเกิดข้ึน ตอ่ ตนเอง สังคมและส่ิงแวดลอ้ ม

4. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ เป็นความสามารถ ในการนากระบวนการตา่ งๆ ไปใชใ้ น
การดาเนินชีวิตประจาวนั การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้อยา่ งตอ่ เน่ือง การทางาน และ การอยู่
ร่วมกนั ในสังคมดว้ ยการสร้างเสริมความสัมพนั ธ์อนั ดีระหวา่ ง บคุ คล การจดั การปัญหาและ
ความขดั แยง้ ต่างๆ อยา่ งเหมาะสม การปรับตวั ใหท้ นั กบั การเปลี่ยนแปลงของสงั คมและ
สภาพแวดลอ้ ม และการจกั หลีกพฤติกรรมไมพ่ ึงประสงคท์ ี่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ่ืน

5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เป็นความสามารถ ในการเลือกและใชเ้ ทคโนโลยดี า้ นตา่ งๆ
และมีทกั ษะกระบวนการ ทางเทคโนโลยี เพือ่ การพฒั นาตนเองและสังคม ในดา้ นการเรียนรู้ การ
ส่ือสาร การทางาน การแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกตอ้ งเหมาะสม และมีคุณร


เหตผุ ลความจาเป็ นของการปรับหลกั สูตร

ความเจริญกา้ วหนา้ ทางวิทยาการดา้ นตา่ ง ๆ ของโลกในปัจจุบนั โดยเฉพาะการ

เปลี่ยนแปลงความรู้และเทคโนโลยอี ยา่ งกา้ วกระโดด ท่ีนาไปสู่การเป็นสงั คมดิจิทลั อยา่ งรวดเร็ว

รวมถึงการเกิดปรากฏการณ์สาคญั ของโลก เช่น ภาวะการระบาดของเช้ือไวรัสโคโรนาอยา่ ง

รุนแรงทวั่ โลก ส่งผลใหท้ ุกประเทศรวมท้งั ประเทศไทยเกิดการเปล่ียนแปลงทางสังคม

วฒั นธรรมและเศรษฐกิจที่กระทบวถิ ีชีวิตของผคู้ นอยา่ งไมห่ ยดุ ย้งั เกิดปัญหาความเหลื่อมล้าทาง

เศรษฐกิจและสังคมที่ชดั เจนข้ึนเร่ือย ๆ นอกจากน้นั ผลสมั ฤทธ์ิทางการศึกษายงั ไมส่ ะทอ้ นถึง

ศกั ยภาพของผเู้ รียนท่ีสามารถออกไปสู่สังคมและโลกของการทางานในอนาคตไดอ้ ยา่ งชดั เจน

จึงเป็นความสาคญั จาเป็นท่ีจะตอ้ งปรับปรุงหลกั สูตรการศึกษาของชาติ ซ่ึงเป็นพิมพเ์ ขียวและ

กลไกสาคญั ในการพฒั นาคุณภาพการศึกษาของประเทศ ใหส้ อดคลอ้ งรับกบั ความกา้ วหนา้ ทาง

วิทยาการและการเปลี่ยนแปลงทุกดา้ น เพ่อื สร้างคนไทยใหม้ ีคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ มี

ความสามารถและศกั ยภาพในการดารงชีวิต ปรับตนใหพ้ ร้อม รับการเปล่ียนแปลง พร้อมท่ีจะ

แข่งขนั และร่วมมืออยา่ งสร้างสรรคใ์ นเวทีโลก

หลกั สูตรการศึกษาของชาติที่ใชใ้ นปัจจุบนั คือ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน
พทุ ธศกั ราช 2551 เป็นหลกั สูตรที่กาหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นผลลพั ธ์ท่ีตอ้ งการให้เกิดกบั
ผเู้ รียน และมีตวั ช้ีวดั ช้นั ปี ไวช้ ่วยใหผ้ สู้ อนรู้วา่ จะสอนใหผ้ เู้ รียนรู้อะไรและทาอะไรได้ รวมท้งั
เพอ่ื การตรวจสอบความรู้ความสามารถของผเู้ รียนเป็นระยะจนจบการศึกษาภาคบงั คบั และ
การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ประกอบดว้ ย 8 กลุม่ สาระการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์
วทิ ยาศาสตร์ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและ
เทคโนโลยี และภาษาต่างประเทศ หลกั สูตรฉบบั น้ีพฒั นามาจากหลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน
พุทธศกั ราช 2544 ซ่ึงคงหลกั การและกรอบโครงสร้างหลกั สูตรไว้ ต่อมาในปี พ.ศ. 2560 ได้
ปรับปรุงมาตรฐานการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การงานอาชีพและ
เทคโนโลยี และสาระภมู ิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม กล่าว
ไดว้ า่ หลกั สูตรที่กาหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็นผลลพั ธก์ ารพฒั นาน้ีมีการใชม้ าแลว้ ถึง 20 ปี

สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐานไดต้ ิดตามและประเมินผลการใชห้ ลกั สูตร
รวมท้งั ศึกษาผลงานวิจยั ของหน่วยงาน องคก์ ร และบคุ คลทวั่ ไปที่เก่ียวขอ้ งอยา่ งต่อเนื่อง พบว่า


หลกั สูตรฉบบั ปัจจุบนั แมจ้ ะเปิ ดโอกาสใหส้ ถานศึกษาไดจ้ ดั การศึกษาท่ีสอดคลอ้ งกบั ความ
ตอ้ งการของผเู้ รียน ผปู้ กครอง และความพร้อมของสถานศึกษา ชุมชนมีส่วนร่วมในการจดั
การศึกษา แต่ไดพ้ บประเดน็ สาคญั ยง่ิ คือ หลกั สูตรไมเ่ อ้ือใหส้ งั คมไทยเกิดการพฒั นาและ
ปรับตวั ไดท้ นั ต่อสภาวการณ์และการเปล่ียนแปลงท่ีเกิดข้ึนในขณะน้ี เนื่องจาก

1. มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั มีจานวนมาก ซ้าซอ้ น และอิงเน้ือหาค่อนขา้ งมาก ส่งผล
ใหก้ ารจดั การเรียนรู้ไม่หลากหลาย เนน้ การจาเน้ือหาไปใชเ้ พ่อื การสอบ มากกวา่ การ
สร้างทกั ษะสาคญั จาเป็น เช่น ทกั ษะการแสวงหาความรู้ ทกั ษะกระบวนการ และทกั ษะ
การคิดใหก้ บั ผเู้ รียน

2. การเรียนรู้ในช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี 1 – 3 ซ่ึงเป็นช่วงวยั ที่เช่ือมต่อมาจากระดบั ปฐมวยั และ
เป็นช่วงเร่ิมตน้ ของการวางพ้ืนฐานการเรียนรู้ หลกั สูตรจดั ใหเ้ รียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้
เช่นเดียวกบั ระดบั ช้นั อ่ืน แทนท่ีจะเนน้ ไปท่ีการอ่าน การเขียน และการคิดคานวณ เพื่อ
เป็นเครื่องมือการเรียนรู้สาระอ่ืน ๆ ต่อไป

3. การนาหลกั สูตรไปใช้ โดยเฉพาะการพฒั นาเน้ือหาสาระ สื่อ และการจดั กระบวนการ
เรียนรู้ที่ทนั สมยั สอดคลอ้ งกบั การเปล่ียนแปลงทางวิทยาการและเทคโนโลยี ยงั ไม่
เพียงพอ หรือทนั การที่จะช่วยใหผ้ เู้ รียนมีสมรรถนะที่เพียงพอในการใชค้ วามรู้หรือนา
ความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั หรือช่วยสร้างพ้ืนฐานใหค้ นไทยสามารถเผชิญปัญหา
สังคมและเศรษฐกิจท่ีเปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็วไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ

4. ผลการทดสอบ PISA (Program for International Student Assessment) ท่ีดาเนินการโดย
OECD (The Organisation for Economic Co-operation and Development) พบวา่ นกั เรียน
ไทยมีคา่ เฉล่ียคะแนนทุกดา้ นอยใู่ นกลมุ่ ต่า สะทอ้ นใหเ้ ห็นวา่ นกั เรียนโดยเฉล่ียมีความรู้
และความสามารถในการใชค้ วามรู้ต่ากวา่ เกณฑม์ าตรฐานนานาชาติ

นอกจากน้ี กฎหมายและยทุ ธศาสตร์สาคญั ของประเทศท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การศึกษา และการ
พฒั นาทรัพยากรมนุษยข์ องประเทศท่ีเกิดข้ึนในช่วงตอ่ มา ไดก้ าหนดจุดหมายการพฒั นาคน แนว
การจดั การศึกษาของประเทศท่ีมีการปรับเปล่ียนให้สอดคลอ้ งกบั กระแสการเปล่ียนแปลงของ
โลกและสภาวะของประเทศ ดงั น้ี


รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2560 มาตรา 54 กาหนดใหร้ ัฐตอ้ ง
ดาเนินการใหป้ ระชาชนไดร้ ับการศึกษาตามความตอ้ งการในระบบต่าง ๆ รวมท้งั ส่งเสริมใหม้ ี
การเรียนรู้ตลอดชีวติ และจดั ใหม้ ีการร่วมมือกนั ระหวา่ งรัฐ องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่น และ
ภาคเอกชน ในการจดั การศึกษาทกุ ระดบั โดยรัฐมีหนา้ ที่ดาเนินการ กากบั ส่งเสริม และ
สนบั สนุนใหก้ ารจดั การศึกษามีคุณภาพและไดม้ าตรฐานสากล และมาตรา 71 กาหนดใหร้ ัฐพงึ
ส่งเสริมและพฒั นาทรัพยากรมนุษยใ์ หเ้ ป็นพลเมืองท่ีดี มีคุณภาพและความสามารถสูงข้ึน

แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 เป็นแผนยทุ ธศาสตร์ท่ีกาหนดกรอบและแนวทาง

การพฒั นาการศึกษาและการเรียนรู้สาหรับพลเมืองทุกช่วงวยั ต้งั แตแ่ รกเกิดจนตลอดชีวิต โดย
จุดม่งุ หมาย

ที่สาคญั ของแผนคือ ระบบการศึกษาท่ีมีคุณภาพและประสิทธิภาพ สามารถเป็นกลไกในการ
พฒั นาศกั ยภาพและขีดความสามารถของทนุ มนุษย์ ที่ตอบสนองความตอ้ งการของตลาดแรงงาน
และการพฒั นาประเทศเพ่ือใหป้ ระเทศสามารถกา้ วขา้ มกบั ดกั ของประเทศท่ีมีรายไดป้ านกลาง
ไปสู่ประเทศที่พฒั นาแลว้ อยา่ งยงั่ ยนื ภายใตพ้ ลวตั ของโลกศตวรรษที่ 21 ประชากรทุกช่วงวยั
สามารถเขา้ ถึงโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาและการเรียนรู้ จากระบบการศึกษาท่ีมี
ความยดื หยนุ่ หลากหลาย และตอบสนองความตอ้ งการของผเู้ รียนเพือ่ ยกระดบั ชนช้นั ของสังคม
ภายใตร้ ะบบเศรษฐกิจฐานความรู้ท่ีเอ้ือตอ่ การสร้างสังคมแห่งปัญญาและการสร้าง
สภาพแวดลอ้ มท่ีเอ้ือต่อการเรียนรู้

กระทรวงศึกษาธิการไดก้ าหนดมาตรฐานการศึกษาชาติ พ.ศ. 2561 ในรูปแบบของผลลพั ธท์ ่ี
พึงประสงค์ (Desired Outcomes of Education: DOE) สาหรับผเู้ รียน คือ การเป็นผเู้ รียนรู้ การเป็น
ผรู้ ่วมสร้างสรรคน์ วตั กรรม และการเป็นพลเมืองท่ีเขม้ แขง็ โดยมีค่านิยมร่วมคือ ความเพยี รอนั บ
ริสุทธ์ ความพอเพยี ง วิถีประชาธิปไตย ความเท่าเทียมเสมอภาค และใหม้ ีลกั ษณะนิสัยและ
คุณธรรมพ้ืนฐานท่ีดีงาม เช่น ความมีวินยั ความขยนั ความซื่อสัตย์ ความรับผิดชอบ เป็นตน้

นอกจากน้นั แผนการปฏิรูปประเทศดา้ นการศึกษา พ.ศ. 2564 (ฉบบั ปรับปรุง) ซ่ึงมี
เป้าประสงคเ์ พ่อื ยกระดบั คุณภาพของการจดั การศึกษา ลดความเหลื่อมล้าทางการศึกษา มุง่ ความ
เป็นเลิศและสร้างขีดความสามารถในการแขง่ ขนั ของประเทศ ไดก้ าหนดใหก้ ารพฒั นาการ
จดั การเรียนการสอนสู่การเรียนรู้ฐานสมรรถนะเป็ นหน่ึงในกิจกรรมปฏิรูปประเทศท่ีจะส่งผลให้


เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอยา่ งมีนยั สาคญั (Big Rocks) เพื่อใหป้ ระชาชนและผเู้ รียนทกุ
กลมุ่ วยั ไดร้ ับการศึกษาที่มีคุณภาพสากล มีทกั ษะที่จาเป็นของโลกอนาคต สามารถแกป้ ัญหา
ปรับตวั ส่ือสารและทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิผล มีวนิ ยั มีนิสยั ใฝ่ เรียนรู้อยา่ ง
ต่อเน่ืองตลอดชีวติ รวมท้งั เป็นพลเมืองท่ีรู้สิทธิและหนา้ ที่ มีความรับผิดชอบและมีจิตสาธารณะ
เป็นกาลงั ของประเทศในการขบั เคล่ือนประเทศใหบ้ รรลุเป้าหมายยทุ ธศาสตร์ชาติ

จากแผนแม่บทและนโยบายแห่งรัฐที่แสดงใหเ้ ห็นถึงความเช่ือมน่ั วา่ การศึกษาเป็นเคร่ืองมือ
สาคญั ในการพฒั นาทรัพยากรทนุ มนุษยเ์ พ่ือใหร้ ากฐานของชาติมีความมน่ั คง ดารงชีวิตไดอ้ ยา่ ง
เป็นสุข กา้ วไปสู่การแข่งขนั ในภูมิภาคและโลกไดอ้ ยา่ งสงา่ งามและภาคภูมิ และความจาเป็นที่
จะตอ้ งมีการปรับเปล่ียนหลกั สูตรการศึกษาของชาติ ใหเ้ ป็นหลกั สูตรที่สามารถสร้างและพฒั นา
สมรรถนะท่ีสาคญั จาเป็นของผเู้ รียน กระทรวงศึกษาธิการจึงอาศยั อานาจแห่งพระราชบญั ญตั ิ
การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ท่ีแกไ้ ขเพิม่ เติม พ.ศ. 2545 กาหนดใหป้ รับปรุงหลกั สูตรแกนกลาง
การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 เป็นหลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช…. ใน
ลกั ษณะหลกั สูตรฐานสมรรถนะ (Competency-based Curriculum) ซ่ึงเป็นหลกั สูตรที่มุ่งให้
ผเู้ รียนไดร้ ับการพฒั นาสมรรถนะหลกั ท่ีสาคญั ต่อการใชช้ ีวิต การทางาน และการเรียนรู้ที่จาเป็น
ต่อการดารงชีวติ อยา่ งมีคุณภาพในโลกศตวรรษที่ 21

ท้งั น้ี ท้งั หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 และ (ร่าง) กรอบ
หลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช…. ที่ปรับปรุงหรือพฒั นาข้ึนใหม่ มีลกั ษณะเป็น
หลกั สูตรท่ีเนน้ ผลลพั ธก์ ารเรียนรู้เหมือนกนั ตา่ งกนั ตรงท่ีหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั
พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 เป็นหลกั สูตรอิงมาตรฐานมงุ่ พฒั นาผเู้ รียนทกุ คนใหม้ ีคุณภาพอยา่ ง
นอ้ ยตามที่มาตรฐานกาหนด ส่วน (ร่าง) กรอบหลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช…. น้นั
มีลกั ษณะเป็นหลกั สูตรฐานสมรรถนะ มุ่งพฒั นาผเู้ รียนทกุ คนใหม้ ีสมรรถนะหลกั ท่ีสาคญั จาเป็น
สาหรับผเู้ รียนทกุ คน และส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนไดบ้ ม่ เพาะ พฒั นา และต่อยอด สมรรถนะหลกั และ
สมรรถนะอ่ืนไดเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพของแตล่ ะบุคคล

กรอบหลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้ืนฐานฐานสมรรถนะ จะกาหนดชุดของผลลพั ธ์การเรียนรู้
ตามสมรรถนะหลกั


ท่ีสาคญั จาเป็น (Minimum Requirements) เพื่อการพฒั นาผเู้ รียนจนสาเร็จการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน
กรอบหลกั สูตร

ท่ียดื หยนุ่ จะเอ้ือใหส้ ถานศึกษาที่มีศกั ยภาพแตกต่างกนั สามารถออกแบบหลกั สูตรที่เหมาะสม
กบั ความตอ้ งการและบริบทของตนได้ โดยยดึ สมรรถนะกลางเป็นเกณฑเ์ ทียบเคียง ส่งเสริมให้
เกิดรูปแบบหลกั สูตรสถานศึกษาที่ยดื หยนุ่ และหลากหลาย มีความเฉพาะเจาะจงในการพฒั นา
ผเู้ รียนตามบริบทของสถานศึกษา ชุมชน และความตอ้ งการที่แตกตา่ งกนั ของผเู้ รียน

นอกจากน้นั หลกั สูตรจะช่วยใหผ้ สู้ อนปรับแนวคิดและมมุ มองในการออกแบบและจดั การ
เรียนรู้จาก การเนน้ ท่ีเน้ือหาสาระมาเนน้ สมรรถนะ ซ่ึงจะช่วยใหม้ องเห็นการพฒั นาศกั ยภาพ
ผเู้ รียนเป็นรายบุคคลอยา่ งเป็นองคร์ วม ลดที่จะมงุ่ การสอนเน้ือหาความรู้จานวนมาก ลดภาระ
และเวลาในการสอบตามตวั ช้ีวดั จานวนมาก ทาใหส้ ถานศึกษามีพ้นื ท่ีในการจดั การเรียนรู้ท่ี
สาคญั จาเป็นของบริบทไดม้ ากข้ึน ในการออกแบบหลกั สูตรฐานสมรรถนะไดย้ ดึ หลกั ความเป็น
เอกภาพของชาติในประชาคมโลก บนความแตกตา่ งบริบทเชิงพ้นื ที่ เนน้ การพฒั นาผเู้ รียนเฉพาะ
บคุ คลอยา่ งเป็นองคร์ วมท่ีพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและสามารถฟ้ื นคืนสภาวะสมดุลได้ ดว้ ย
หลกั การสาคญั ของหลกั สูตรฐานสมรรถนะ ดงั ต่อไปน้ี

1. เป็นหลกั สูตรท่ีมีเป้าหมายในการพฒั นาสมรรถนะของผเู้ รียนที่เหมาะสมตามช่วงวยั เนน้
การพฒั นาผเู้ รียนรายบคุ คล (Personalization) อยา่ งเป็นองคร์ วม (Holistic Development)
เพือ่ การเป็นเจา้ ของ การเรียนรู้และพฒั นาตนเองอยา่ งตอ่ เน่ือง (Life-Long Learning)

2. เป็นหลกั สูตรที่เชื่อมโยงระหวา่ งสมรรถนะหลกั และสมรรถนะเฉพาะในการกาหนด
ผลลพั ธ์การเรียนรู้ (Learning Outcome) เพือ่ การพฒั นาผเู้ รียนใหส้ ามารถนาไปใช้
ประโยชนใ์ นชีวติ และการทางาน

3. เป็นหลกั สูตรที่จดั สภาพแวดลอ้ มและเส้นทางการเรียนรู้ (Learning Pathway) ที่
หลากหลาย และระบบสนบั สนุนการเรียนรู้ท่ีสอดคลอ้ งกบั พหุปัญญาและธรรมชาติของ
ผเู้ รียน

4. เป็นหลกั สูตรท่ีมีกระบวนการจดั การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การใชส้ ่ือและ
สถานการณ์การเรียนรู้ร่วมสมยั มีความหลากหลาย และยดื หยนุ่ ตามความสนใจ ความ


ถนดั ของผเู้ รียน (Differentiated Instruction) บริบท จุดเนน้ ของสถานศึกษา และชุมชน
แวดลอ้ ม

5. เป็นหลกั สูตรที่มุ่งใชก้ ารประเมินเพือ่ การพฒั นาและสะทอ้ นสมรรถนะของผเู้ รียนตาม
เกณฑก์ ารปฏิบตั ิ (Performance) ที่เป็นธรรม เชื่อถือได้ เอ้ือตอ่ การถ่ายโยงการเรียนรู้และ
พฒั นาในระดบั ที่สูงข้ึนตามระดบั ความสามารถ

คณะอนุกรรมการจดั ทาและพฒั นา (ร่าง) กรอบหลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช
…. ไดพ้ ฒั นา (ร่าง) กรอบหลกั สูตรฯ ที่มีสาระสาคญั เพียงพอจะใหโ้ รงเรียนแกนนาในพ้ืนที่
นวตั กรรมการศึกษาที่สมคั รใจ จานวน 265 โรงเรียน ใน 8 จงั หวดั ไดแ้ ก่ ระยอง ศรีสะเกษ สตูล
เชียงใหม่ กาญจนบุรี ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส นาไปใช้ ผลที่ไดจ้ ากการใชจ้ ะนามาพฒั นา
(ร่าง) กรอบหลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช…. ใหม้ ีความสมบูรณ์ยงิ่ ข้ึน นอกจากน้ี
การพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษา กิจกรรมการเรียนรู้ และการวดั ผลและประเมิน จะเป็นตวั อยา่ ง
ใหก้ บั สถานศึกษาทว่ั ไปนาไปปรับใชใ้ หส้ อดคลอ้ งกบั ความหลากหลายและความแตกตา่ งของ
บริบทพ้ืนที่ได้


1.3 หลกั สูตรการอาชีวศึกษา


การพฒั นาหลกั สูตรการอาชีวศึกษา

หลกั สูตรการอาชีวศึกษาเป็นกลไกลสาคญั ในการพฒั นาคุณภาพการศึกษาใหส้ อดคลอ้ ง
กบั แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ และแผนการศึกษาแห่งชาติ เพ่อื ผลิตและพฒั นา

กาลงั คนแตล่ ะระดบั ใหม้ ีสมรรถนะ มีคุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ สามารถ
ประกอบอาชีพไดต้ รงตามความตอ้ งการของสถานประกอบการและการประกอบอาชีพอิสระ
เป็นหลกั สูตรที่มีความยดื หยนุ่ มงุ่ เนน้ สมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพและความชานาญเฉพาะดา้ น
ของสถานประกอบการ โดยเปิ ดโอกาสใหส้ ถานศึกษา สถานประกอบการ ชุมชนและทอ้ งถ่ิน มี
ส่วนร่วมในการพฒั นาหลกั สูตรใหต้ รงตามความตอ้ งการและสอดคลอ้ งกบั ยทุ ธศาสตร์ของ
ภมู ิภาค เพอื่ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ

การจดั การศึกษาตามหลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ และหลกั สูตรประกาศนียบตั ร
วิชาชีพช้นั สูงแบง่ เป็น 9 ประเภทวิชา คือ ประเภทวิชาอุตสาหกรรม ประเภทวิชาพาณิชยกรรม/
บริหารธุรกิจ ประเภทวิชาศิลปกรรม ประเภทวชิ าคหกรรม ประเภทวชิ าเกษตรกรรม ประเภท
วชิ าประมง ประเภทวชิ าอุตสาหกรรมทอ่ งเท่ียว ประเภทวิชาอุตสาหกรรมส่ิงทอ และประเภท
วิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร แต่ละประเภทวิชายงั แบ่งเป็นสาขาวิชาและสาขางาน
ตา่ งๆ ท่ีสอดคลอ้ งตามความตอ้ งการของงานอาชีพ ท้งั น้ี โครงสร้างของหลกั สูตร ประกอบดว้ ย 3
หมวดวิชา และกิจกรรมเสริมหลกั สูตร ดงั น้ี

1. หมวดวิชาทักษะชีวิต เป็นกลุม่ วชิ าเพอ่ื พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีทกั ษะในการปรับตวั และด
าเนินชีวิตในสงั คมสมยั ใหม่ เห็นคุณคา่ ของตนและการพฒั นาตน มีความใฝ่ รู้ และแสวงหาและ
พฒั นาความรู้ใหม่มีความสามารถในการใชเ้ หตผุ ล การคิดวเิ คราะห์ การแกป้ ัญหาและการจดั การ
มีทกั ษะในการส่ือสารการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืน มีคุณธรรม
จริยธรรม มีมนุษยส์ มั พนั ธ์ รวมถึงความรับผดิ ชอบต่อตนเองและสงั คม ประกอบดว้ ยกลุม่ วชิ า
ดงั น้ี


1.1 กลมุ่ วชิ าภาษาไทย

1.2 กลุม่ วิชาภาษาตา่ งประเทศ

1.3 กลมุ่ วชิ าวิทยาศาสตร์

1.4 กลมุ่ วชิ าคณิตศาสตร์

1.5 กลุ่มวชิ าสงั คมศาสตร์

1.6 กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา (ในระดบั ปวช.) หรือกลุ่มวชิ ามนุษยศาสตร์ (ใน
ระดบั ปวส.)

2. หมวดวชิ าทักษะวิชาชีพ เป็นกลมุ่ วิชาท่ีพฒั นาผเู้ รียนใหเ้ กิดสมรรถนะวชิ าชีพ มี
ความสามารถ ในการคิด วเิ คราะห์ วางแผน จดั การ ประเมินผล แกป้ ัญหา ควบคุมและสอนงาน
บรู ณาการความรู้และ ทกั ษะในการปฏิบตั ิงาน ประกอบดว้ ย 5 กลุ่ม ดงั น้ี

2.1 กลุม่ ทกั ษะวชิ าชีพพ้นื ฐาน

2.2 กลุ่มทกั ษะวชิ าชีพเฉพาะ

2.3 กลุ่มทกั ษะวิชาชีพเลือก

2.4 ฝึกประสบการณ์ทกั ษะวิชาชีพ

2.5 โครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ

3. หมวดวชิ าเลือกเสรี เป็นวิชาท่ีเกี่ยวกบั ทกั ษะชีวติ และหรือทกั ษะวิชาชีพ เพ่ือเปิ ด
โอกาส ใหผ้ เู้ รียนเลือกเรียนตามความถนดั และความสนใจ เพื่อการประกอบอาชีพหรือการศึกษา
ต่อ

4. กจิ กรรมเสริมหลกั สูตร เป็นส่วนที่ส่งเสริมการพฒั นาทกั ษะชีวิต และหรือทกั ษะ
วชิ าชีพ ผเู้ รียนทุกคนตอ้ งเขา้ ร่วมกิจกรรมอยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ 2 ชวั่ โมงทุกภาคเรียน กิจกรรม
เสริมหลกั สูตรน้ีไม่นบั หน่วยกิต จานวนหน่วยกิตของแตล่ ะหมวดวิชา ใหเ้ ป็นไปตามท่ีกาหนด
ไวใ้ นโครงสร้างของแตล่ ะประเภท วชิ าและสาขาวชิ า โดยจานวนหน่วยกิตรวมตลอดหลกั สูตร


ในระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ อยรู่ ะหวา่ ง 103 - 120 หน่วยกิต และระดบั ประกาศนียบตั ร
วิชาชีพช้นั สูง อยรู่ ะหวา่ ง 83 – 90 หน่วยกิต

การจัดการศึกษาตามหลกั สูตร

การจดั การศึกษาตามหลกั สูตรการอาชีวศึกษา เนน้ การเรียนรู้และฝึกปฏิบตั ิจริงดว้ ย
ตนเองเพื่อใหผ้ เู้ รียนสามารถประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้และทกั ษะในวชิ าการท่ีสัมพนั ธก์ บั วิชาชีพในการ
วางแผน แกป้ ัญหาและดาเนินงานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ผเู้ รียนสามารถเลือกเรียนในประเภทวชิ า
สาขาวิชาและสาขางานตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง รวมท้งั สามารถเลือกวธิ ีการเรียนไดอ้ ยา่ ง
หลากหลายตามศกั ยภาพและโอกาสของผเู้ รียน ท้งั รูปแบบในระบบ นอกระบบ และหรือระบบ
ทวิภาคี ท้งั น้ี จะเนน้ การศึกษาระบบทวิภาคีเป็นสาคญั โดยนาผลการเรียนแต่ละวิธีมาประเมินผล
ร่วมกนั ตลอดจนสามารถเทียบโอนผลการเรียนและขอเทียบความรู้และประสบการณ์เพ่ือ
นบั เป็นส่วนหน่ึงของผลการเรียนรายวชิ าตามหลกั สูตรที่เรียนไดด้ ว้ ย ท าใหใ้ ชร้ ะยะเวลาในการ
เรียนนอ้ ยกวา่ การเรียนในระบบเพยี งอยา่ งเดียว ซ่ึงปกติผเู้ รียนระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ
จะตอ้ งใชร้ ะยะเวลาเรียน3 ปี การศึกษา และผเู้ รียนในระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง ตอ้ งใช้
เวลาเรียน 2 ปี การศึกษา กรณีผสู้ าเร็จการศึกษาหลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) ประเภท
วชิ า หรือสาขาวชิ าอ่ืน หรือมธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม.6)หรือเทียบเท่าจะตอ้ งใชเ้ วลาเรียน
ประมาณ 3 ปี การศึกษา โดยที่แตล่ ะปี การศึกษาจะแบ่งออกเป็น2 ภาคเรียนปกติหรือระบบทวิภาค
ภาคเรียนละ 18 สปั ดาห์ โดยมีเวลาเรียนและจานวน

หน่วยกิตตามท่ีกาหนด และอาจเปิ ดสอนภาคเรียนฤดูร้อนไดอ้ ีกตามท่ีเห็นสมควร ท้งั น้ี การเรียน
ในระบบช้นั เรียนปกติกาหนดใหส้ ถานศึกษาเปิ ดทาการสอนสัปดาห์ละไม่นอ้ ยกวา่ 5 วนั วนั ละ
ไม่เกิน 7 ชว่ั โมงและกาหนดเวลาในการจดั การเรียนการสอนคาบละ 60 นาที


การจัดแผนการเรียนตามหลกั สูตร

การจดั แผนการเรียนเพ่ือกาหนดรายวิชาตามโครงสร้างหลกั สูตรที่จะดาเนินการสอนใน

แตล่ ะภาคเรียนน้นั ข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะหรือกระบวนการจดั การเรียนรู้ของแต่ละสาขาวิชา โดย

พจิ ารณาจดั อตั ราส่วนการเรียนรู้ภาคทฤษฎีตอ่ ภาคปฏิบตั ิในหมวดทกั ษะวิชาชีพ ระดบั

ประกาศนียบตั รวิชาชีพ

ประมาณ 20:80 และระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง ประมาณ 40:60 ท้งั น้ี มีขอ้ เสนอแนะท่ี
สาคญั ในการจดั รายวชิ าแตล่ ะภาคเรียน ดงั น้ี

1. คานึงถึงรายวิชาที่ตอ้ งเรียนตามลาดบั ก่อน-หลงั ความง่าย-ยากของรายวิชา ความต่อเนื่อง

และเช่ือมโยงสมั พนั ธก์ นั ของรายวชิ า รวมท้งั รายวชิ าท่ีสามารถบูรณาการจดั การศึกษาร่วมกนั
เพอื่ เรียนเป็นงานและหรือช้ินงานในแต่ละภาคเรียน

2. รายวิชาทวิภาคีหรือการนารายวชิ าไปเรียนและฝึกในสถานประกอบการ/แหล่งวทิ ยาการ

ใหม้ ีการประสานงาน ร่วมกนั เพ่ือพจิ ารณากาหนด รายวิชาหรือกลมุ่ วิชาที่ตรงกบั ลกั ษณะงาน

ของสถานประกอบการ/แหลง่ วทิ ยาการน้นั ๆ

3. รายวชิ าฝึกงานและรายวชิ าโครงการ สามารถจดั คร้ังเดียวจานวน 4 หน่วยกิต หรือจดั ให้

ลงทะเบียนเรียนเป็น 2 คร้ังๆ ละ 2 หน่วยกิต รวม 4 หน่วยกิต ตามเง่ือนไขของหลกั สูตรน้นั ๆ ได้

4. กิจกรรมเสริมหลกั สูตร ใหก้ าหนดไวใ้ นแตล่ ะภาคเรียน สปั ดาห์ละไมน่ อ้ ยกวา่ 2 ชวั่ โมง

5. จานวนหน่วยกิตในแต่ละภาคเรียนปกติไม่นอ้ ยกวา่ 12 หน่วยกิต และไม่เกิน 22 หน่วยกิต

ส่วนภาคฤดูร้อนไม่เกิน 12 หน่วยกิต ท้งั น้ี เวลาในการจดั การเรียนการสอนโดยเฉลี่ย ไม่ควรเกิน
35 ชวั่ โมงตอ่ สัปดาห์


การจดั การศึกษาและการประเมินผลการเรียน

1.สาระท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั การเป็นนกั เรียน นกั ศึกษา ไดแ้ ก่ การกาหนดพ้นื ความรู้และ
คุณสมบตั ิของผเู้ ขา้ เรียน การรับผเู้ ขา้ เรียน การเป็นนกั เรียน การพน้ สภาพและคืนสภาพนกั เรียน
การพกั การเรียนและการลาออก

2. สาระที่เกี่ยวกบั การจดั การเรียน ไดแ้ ก่ การเปิ ดเรียน การลงทะเบียนรายวิชา การเปล่ียน
การเพิม่ และการถอนรายวิชา การเรียนโดยไม่นบั จานวนหน่วยกิตมารวมเพือ่ การสาเร็จการศึกษา
ตามหลกั สูตร การนบั เวลาเรียนเพอ่ื สิทธิในการประเมินสรุปผลการเรียน และการขออนุญาต
เลื่อนการประเมิน

3. สาระที่เก่ียวกบั การวดั และประเมินผลการเรียน ไดแ้ ก่ หลกั การในการประเมินผลการ
เรียนวธิ ีการประเมินผลการเรียน การตดั สินผลการเรียน และการเทียบโอนผลการเรียนรู้ สาหรับ
ระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง จะก าหนดสาระท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั รายวชิ าปรับพ้ืนฐานวชิ าชีพ
เอกสารการศึกษาท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การจดั การศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามระเบียบ
ดงั กลา่ ว ประกอบดว้ ย

ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพ ได้แก่

1) ระเบียนแสดงผลการเรียนประจาตวั นกั เรียน (รบ. 1 ปวช. 56 )

2) แบบรายงานผลการเรียนฉบบั ภาษาองั กฤษ (Transcript 1 Cert.13)

3) แบบรายงานผลการเรียนของผทู้ ี่สาเร็จการศึกษา (รบ.2 ปวช. 56 )

4) ประกาศนียบตั ร และวฒุ ิบตั ร

5) ใบรับรองสภาพการเป็นนกั เรียนและใบรับรองผลการเรียน

6) สมดุ ประเมินผลรายวชิ า และหลกั ฐานเกี่ยวกบั การประเมินผลการเรียนในแบบอ่ืน


ระดบั ประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้ันสูง ได้แก่
1) ระเบียนแสดงผลการเรียนประจาตวั นกั ศึกษา (รบ. 1 ปวส. 57 )
2) แบบรายงานผลการเรียนฉบบั ภาษาองั กฤษ (Transcript 1 Dip.14)
3) แบบรายงานผลการเรียนของผทู้ ่ีสาเร็จการศึกษา (รบ. 2 ปวส. 57 )
4) ประกาศนียบตั ร และวฒุ ิบตั ร
5) ใบรับรองสภาพการเป็นนกั เรียนและใบรับรองผลการเรียน
6) สมดุ ประเมินผลรายวิชา และหลกั ฐานเก่ียวกบั การประเมินผลการเรียนในแบบอ่ืน


1.3.1 ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) พทุ ธศกั ราช
2562


หลกั การของหลกั สูตร

1. เป็นหลกั สูตรระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพหลงั มธั ยมศึกษาตอนตน้ หรือเทียบเท่าดา้ นวิชาชีพ
ท่ีสอดคลอ้ งกบั แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแผนการศึกษาแห่งชาติเป็นไปตามกรอบ
คุณวฒุ ิแห่งชาติมาตรฐานการศึกษาของชาติ และกรอบคุณวฒุ ิอาชีวศึกษาแห่งชาติ เพอ่ื ผลิตและ
พฒั นากาลงั คนระดบั ฝี มือใหม้ ีสมรรถนะ มีคุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพสามารถ
ประกอบอาชีพไดต้ รงตามความตอ้ งการของสถานประกอบการและการประกอบอาชีพอิสระ

2. เป็นหลกั สูตรท่ีเปิ ดโอกาสใหเ้ ลือกเรียนไดอ้ ยา่ งกวา้ งขวาง เนน้ สมรรถนะเฉพาะดา้ นดว้ ยการ
ปฏิบตั ิจริงสามารถเลือกวิธีการเรียนตามศกั ยภาพและโอกาสของผเู้ รียน เปิ ดโอกาสใหผ้ เู้ รียน
สามารถเทียบโอนผลการเรียน สะสมผลการเรียน เทียบโอนความรู้และประสบการณ์จากแหล่ง
วทิ ยาการ สถานประกอบการและสถานประกอบอาชีพอิสระ

3. เป็นหลกั สูตรทีÉสนบั สนุนการประสานความร่วมมือในการจดั การศึกษาร่วมกนั ระหวา่ ง
หน่วยงานและองคก์ รที่เกี่ยวขอ้ ง ท้งั ภาครัฐและเอกชน

4. เป็นหลกั สูตรที่เปิ ดโอกาสใหส้ ถานศึกษา สถานประกอบการ ชุมชนและทอ้ งถ่ิน มีส่วนร่วม
ในการพฒั นาหลกั สูตรให้ตรงตามความตอ้ งการโดยยดึ โยงกบั มาตรฐานอาชีพ และสอดคลอ้ ง
กบั สภาพยทุ ธศาสตร์ของภูมิภาคเพือ่ เพิม่ ขีดความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ

จุดม่งุ หมายของหลกั สูตร

1. เพอ่ื ใหม้ ีความรู้ทกั ษะและประสบการณ์ในงานอาชีพสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานวิชาชีพ สามารถ
นาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการปฏิบตั ิงานอาชีพไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ เลือกวถิ ีการดารงชีวิต และการ
ประกอบอาชีพไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั ตน สร้างสรรคค์ วามเจริญตอ่ ชุมชน ทอ้ งถิ่นและ
ประเทศชาติ

2. เพ่ือใหเ้ ป็นผมู้ ีปัญญา มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรคใ์ ฝ่ เรียนรู้เพ่อื พฒั นาคุณภาพชีวติ และการ
ประกอบอาชีพ มีทกั ษะการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ ทกั ษะการเรียนรู้ตลอดชีวติ ทกั ษะ
การคิดวิเคราะหแ์ ละการแกป้ ัญหา ทกั ษะดา้ นสุขภาวะและความปลอดภยั ตลอดจนทกั ษะการ
จดั การ สามารถสร้างอาชีพและพฒั นาอาชีพใหก้ า้ วหนา้ อยเู่ สมอ


3. เพือ่ ใหม้ ีเจตคติท่ีดีต่ออาชีพ มีความมนั่ ใจและภาคภูมิใจในวิชาชีพที่เรียน รักงาน รักหน่วยงาน
สามารถทางานเป็นหมคู่ ณะไดด้ ีโดยมีความเคารพในสิทธิและหนา้ ท่ีของตนเองและผอู้ ื่น

4. เพ่อื ใหเ้ ป็นผมู้ ีพฤติกรรมทางสังคมที่ดีงาม ท้งั ในการทางาน การอยรู่ ่วมกนั การต่อตา้ นความ
รุนแรงและสารเสพติด มคี วามรับผิดชอบต่อครอบครัว หน่วยงาน ทอ้ งถ่ินและประเทศชาติดารง
ตนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเขา้ ใจและเห็นคุณค่าของการอนุรักษศ์ ิลปะวฒั นธรรม
และภมู ิปัญญาทอ้ งถ่ินมีจิตสาธารณะและจิตสานึกในการอนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสร้าง
ส่ิงแวดลอ้ มที่ดี

5. เพอื่ ใหม้ ีบุคลิกภาพทีÉดีมีมนุษยส์ มั พนั ธ์มีคุณธรรม จริยธรรม และวินยั ในตนเอง มีสุขภาพ
อนามยั ท่ีสมบูรณ์ท้งั ร่างกายและจิตใจเหมาะสมกบั งานอาชีพ

6. เพื่อใหต้ ระหนกั และมีส่วนร่วมในการแกไ้ ขปัญหาเศรษฐกิจ สงั คม การเมืองของประเทศและ
โลกมีความรักชาติสานึกในความเป็นไทย เสียสละเพือ่ ส่วนรวม ดารงรักษาไวซ้ ่ึงความมน่ั คงของ
ชาติศาสนา พระมหากษตั ริยแ์ ละการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รง
เป็ นประมขุ

หลกั เกณฑ์การใช้

หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2562

1. การเรียนการสอน

1.1การเรียนการสอนตามหลกั สูตรนี่ผเู้ รียนสามารถลงทะเบียนเรียนไดท้ กุ วธิ ีเรียนที่
กาหนด และนาผลการเรียนแต่ละวธิ ีมาประเมินผลร่วมกนั ไดส้ ามารถขอเทียบโอนผล
การเรียน และขอเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ได้

1.2การจดั การเรียนการสอนเนน้ การปฏิบตั ิจริงสามารถจดั การเรียนการสอนได้
หลากหลายรูปแบบ เพือ่ ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจในหลกั การ วิธีการและการ
ดาเนินงาน มีทกั ษะการปฏิบตั ิงานตามแบบแผนในขอบเขตสาคญั และบริบทตา่ ง ๆ ที่
สัมพนั ธก์ นั ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นงานประจา ใหค้ าแนะนาพ้นื ฐานที่ตอ้ งใชใ้ นการตดั สิ นใจ
วางแผนและแกไ้ ขปัญหาโดยไม่อยภู่ ายใตก้ ารควบคุมในบางเร่ือง สามารถประยกุ ตใ์ ช้
ความรู้ทกั ษะทางวชิ าชีพ เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการแกป้ ัญหาและการ


ปฏิบตั ิงานในบริบทใหม่ รวมท้งั รับผิดชอบตอ่ ตนเองและผอู้ ่ืน ตลอดจนมีคุณธรรม
จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ เจตคติและกิจนิสยั ทีÉเหมาะสมในการทางาน

2. การจัดการศึกษาและเวลาเรียน

การจดั การศึกษาในระบบปกติใชร้ ะยะเวลา 3 ปี การศึกษา การจดั เวลาเรียนใหด้ าเนินการ ดงั น้ี

2.1 ในปี การศึกษาหน่ึง ๆ ใหแ้ บง่ ภาคเรียนออกเป็ น 2 ภาคเรียนปกติหรือระบบทวภิ าค
ภาคเรียนละ18 สปั ดาห์ รวมเวลาการวดั ผล โดยมีเวลาเรียนและจานวนหน่วยกิตตามที่
กาหนด และสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั อาจเปิ ดสอนภาคเรียนฤดูร้อนไดอ้ ีก
ตามที่เห็นสมควร

2.2 การเรียนในระบบช้นั เรียน ใหส้ ถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั เปิ ดทาการสอนไม่
นอ้ ยกวา่ สปั ดาหล์ ะ5 วนั ๆ ละไม่เกิน 7 ชว่ั โมง โดยกาหนดใหจ้ ดั การเรียนการสอนคาบ
ละ60 นาที

3. การคดิ หน่วยกติ

ใหม้ ีจานวนหน่วยกิตตลอดหลกั สูตรไมน่ อ้ ยกวา่ 103-110 หน่วยกิต การคิดหน่วยกิตถือเกณฑ์
ดงั น้ี

3.1 รายวชิ าทฤษฎีท่ีใชเ้ วลาในการบรรยายหรืออภิปราย1 ชวั่ โมงต่อสปั ดาห์ หรือ18
ชวั่ โมงตอ่ ภาคเรียนรวมเวลาการวดั ผล มีค่าเท่ากบั 1 หน่วยกิต

3.2 รายวิชาปฏิบตั ิท่ีใชเ้ วลาในการทดลองหรือฝึกปฏิบตั ิในหอ้ งปฏิบตั ิการ 2 ชว่ั โมงตอ่
สปั ดาห์หรือ36 ชวั่ โมงต่อภาคเรียน รวมเวลาการวดั ผล มีค่าเท่ากบั 1 หน่วยกิต

3.3 รายวิชาปฏิบตั ิท่ีใชเ้ วลาในการฝึกปฏิบตั ิในโรงฝึกงานหรือภาคสนาม 3 ชวั่ โมงตอ่
สปั ดาห์ หรือ54 ชวั่ โมงต่อภาคเรียน รวมเวลาการวดั ผล มีค่าเท่ากบั 1 หน่วยกิต


1.3.2 หลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง (ปวส.)
พทุ ธศกั ราช 2563


หลกั การของหลกั สูตร

1. เพอ่ื ใหม้ ีความรู้ทางทฤษฎีและเทคนิคเชิงลึกภายใตข้ อบเขตของงานอาชีพ มีทกั ษะ
ดา้ นเทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารเพ่ือใชใ้ นการดารงชีวิตและงานอาชีพ สามารถศึกษา
คน้ ควา้ เพ่มิ เติมหรือ ศึกษาตอ่ ในระดบั ที่สูงข้ึน

2. เพ่ือใหม้ ีทกั ษะและสมรรถนะในงานอาชีพตามมาตรฐานวิชาชีพ สามารถบรู ณาการ
ความรู้ ทกั ษะจาก ศาสตร์ตา่ ง ๆ ประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานอาชีพ สอดคลอ้ งกบั การเปล่ียนแปลงทาง
เทคโนโลยี

3. เพ่ือใหม้ ีปัญญา มีความคิดสร้างสรรค์ มีความสามารถในการคิด วเิ คราะห์ วางแผน
บริหารจดั การ ตดั สินใจ แกป้ ัญหา ประสานงานและประเมินผลการปฏิบตั ิงานอาชีพ มีทกั ษะการ
เรียนรู้ แสวงหา ความรู้และแนวทางใหม่ ๆ มาพฒั นาตนเองและประยกุ ตใ์ ชใ้ นการสร้างงานให้
สอดคลอ้ งกบั วิชาชีพและ การพฒั นางานอาชีพอยา่ งตอ่ เนื่อง

4. เพอ่ื ใหม้ ีเจตคติท่ีดีตอ่ อาชีพ มีความมน่ั ใจและภาคภมู ิใจในงานอาชีพ รักงาน รัก
หน่วยงาน สามารถทางาน เป็นหมคู่ ณะไดด้ ี มีความภาคภูมิใจในตนเองต่อการเรียนวชิ าชีพ

5. เพอื่ ใหม้ ีบุคลิกภาพที่ดี มีคุณธรรม จริยธรรม ซ่ือสัตย์ มีวินยั มีสุขภาพสมบรู ณ์แขง็ แรง
ท้งั ร่างกายและจิตใจเหมาะสมกบั การปฏิบตั ิในงานน้นั ๆ

6. เพือ่ ใหเ้ ป็นผมู้ ีพฤติกรมทางสงั คมที่ดี แต่เคา้ รุนแรงและสายเสา ท้งั ในแกฟางาน การ
ร่วมกนั มีความรับผิดชอบตอ่ ครอบครัว องคก์ ร ทอ้ งถิ่นและประเทศชาติ อุทิศตนเพอ่ื สงั คม
เขา้ ใจและเห็นคุณคา่ ของศิลปวฒั นธรรมไทย ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่น ตระหนกั ในปัญหาและ
ความสาคญั ของสิ่งแวดลอ้ ม

7. เพอ่ื ใหต้ ระหนกั และมีส่วนร่วมในการพฒั นาและแกไ้ ขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ
โดยเป็นกาลงั สาคญั ในดา้ นการผลิตและใหบ้ ริการ

8. เพ่ือใหเ้ ห็นคุณคา่ และดารงไวซ้ ่ึงสถาบนั ชาติ ศาสนา และพระมหากษตั ริย์ ปฏิบตั ิตน
ในฐานะพลเมืองดี ตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุข


หลกั เกณฑ์การใช้

หลกั สูตรประกาศนยี บตั รวิชาชีพช้ันสูง พทุ ธศักราช 2563

1.การเรียนการสอน

1.1การเรียนการสอนตามหลกั สูตรน้ี ผกู้ ่อนสามารถลงทะเบียนเรียนไดท้ ุกท่ีเรียนที่
กาหนด และ นาผลการเรียนแตล่ ะวิธีมาประเมินผลร่วมกนั ได้ สามารถขอเทียบโอนผลการเรียน
และขอเทียบโอนความรู้ และประสบการณ์ได้

1.2การจดั การเรียนการสอนเนน้ การปฏิบตั ิจริง สามารถจดั การเรียนการสอนได้

หลากหลายรูปแบบ เพื่อใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจในหลกั การ วิธีการและการดาเนินงาน มี

ทกั ษะการปฏิบตั ิงานตามแบบแผน และปรับตวั ไดภ้ ายใตค้ วามเปลี่ยนแปลง สามารถบรู ณาการ

และประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้และทกั ษะทางวิชาการ ที่สัมพนั ธก์ บั วิชาชีพ เทคโนโลยสี ารสนเทศและ

การส่ือสาร ในการตดั สินใจ วางแผน แกป้ ัญหาบริหาร จดั การ ประสานงานและประเมินผลการ

ดาเนินงานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม มีส่วนร่วมในการวางแผนและพฒั นา ริเริ่มส่ิงใหม่ มีความ

รับผดิ ชอบต่อตนเอง ผอู้ ่ืนและหมคู่ ณะ รวมท้งั มีคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพ เจตคติ

และกิจนิสัยที่เหมาะสมในการทางาน

2. การจัดการศึกษาและเวลาเรียน

2.1การจดั การศึกษาในระบบปกติสาหรับผเู้ ขา้ เรียนท่ีสาเร็จการศึกษาระดบั
ประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่าในประเภทวชิ าและสาขาวิชาตามท่ีหลกั สูตร
กาหนด ใชร้ ะยะเวลา 2 ปี การศึกษา ส่วนผเู้ ขา้ เรียนท่ีสาเร็จการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
หรือเทียบเทา่ และผเู้ ขา้ เรียนท่ีสาเร็จการศึกษา ระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) หรือ
เทียบเท่าตา่ งประเภทวชิ าและสาขาวิชาท่ีกาหนด ใชร้ ะยะเวลาไมน่ อ้ ยกวา่ 2 ปี การศึกษา และ
เป็นไปตามเง่ือนไขที่หลกั สูตรกาหนด


2.2 การจดั เวลาเรียนใหด้ าเนินการ ดงั น้ี

2.2.1 ในปี การศึกษาหน่ึง ๆ ใหแ้ บง่ ภาคเรียนออกเป็ น 2 ภาคเรียนปกติหรือระบบ
ทวภิ าค ภาคเรียนละ 18 สัปดาห์ รวมเวลาการวดั ผล โดยมีเวลาเรียนและจานวนหน่วยกิ
ตตามท่ีกาหนด และ สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั อาจเปิ ดสอนภาคเรียนฤดูร้อน
ไดอ้ ีกตามที่เห็นสมควร

2.2.2 การเรียนในระบบช้นั เรียน ใหส้ ถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั เปิ ดทา
การสอนไม่นอ้ ยกวา่ สปั ดาหล์ ะ5วนั ๆ ละไมเ่ กิน 7ชวั่ โมง โดยกาหนดใหจ้ ดั การเรียนการ
สอนคาบละ 60นาที

3. การคดิ หน่วยกติ

ใหม้ ีจานวนหน่วยกิตคลอดหลกั สูตร ไมน่ อ้ ยกวา่ 83 - 90 หน่วยกิต การคิดหน่วยยดึ ถือเกณฑด์ งั น้ี

3.1 รายวิชาทฤษฎีที่ใชเ้ วลาในการบรรยายหรือปราย 1 ชว่ั โมงต่อสัปดาห์ หรือ 18 ชวั่ โมง
ตอ่ ภาคเรียน รวมเวลาการวดั ผล มีค่าเทา่ กบั 1 หน่วยกิต

3.2 รายวชิ าปฏิบตั ิท่ีใชเ้ วลาในการทดลองหรือฝึกปฏิบตั ิในหอ้ งปฏิบตั ิการ 2 ชวั่ โมงตอ่
สัปดาห์ หรือ 36 ชว่ั โมงตอ่ ภาคเรียน รวมเวลาการวดั ผล มีค่าเทา่ กบั 1 หน่วยกิต

3.3 รายวิชาปฏิบตั ิที่ใชเ้ วลาในการฝึกปฏิบตั ิในโรงฝึกงานหรือภาคสนาม 3 ชว่ั โมงตอ่
สปั ดาห์ หรือ 54 ชวั่ โมงตอ่ ภาคเรียน รวมเวลาการวดั ผล มีค่าเท่ากบั 1 หน่วยกิต

3.4 การฝึกอาชีพในการศึกษาระบบทวิภาคี ที่ใชเ้ วลาไมน่ อ้ ยกวา่ 4 ชว่ั โมงตอ่ ภาคเรียน
รวมเวลาการวดั ผล มีค่าเท่ากบั 1 หน่วยกิต

3.5 การฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพในสถานประกอบการท่ีใชเ้ วลาไมน่ อ้ ยกวา่ 4
ชว่ั โมงต่อการเรียน รวมเวลาการวดั ผล มีคา่ เทา่ กบั 1 หน่วยกิต 36 การทาโครงงานพฒั นา
สมรรถนะวชิ าชีพที่ใชเ้ วลาไม่นอ้ ยกวา่ 4 ชวั่ โมงตอ่ ภาคเรียน รวมเวลาการวดั ผล มีค่าเทา่ กบั 1
หน่วยกิต


4. โครงสร้างหลกั สูตร
โครงสร้างของหลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง พทุ ธศกั ราช 2563 แบง่ เป็น 3 หมวดวชิ า
และ กิจกรรมเสริมหลกั สูตร ดงั น้ี ไมน่ อ้ ยกวา่ 21 หน่วยกิต

4.1 หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง
4.1.1 กลุ่มวิชาภาษาไทย
4.1.2 กลุ่มวชิ าภาษาต่างประเทศ
4.1.3 กลมุ่ วชิ าวทิ ยาศาสตร์
4.1.4 กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์
4.1.5 กลมุ่ วิชาสังคมศาสตร์
4.1.6 กลุ่มวชิ ามนุษยศาสตร์ ไม่นอ้ ยกวา่ 56 หน่วยกิต

4.2 หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ
4.2.1 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพ้นื ฐาน
4.2.2 : กลุม่ สมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ
4.2.3 กลมุ่ สมรรถนะวชิ าชีพเลือก
4.2.4 ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ
4.2.5. โครงงานพฒั นาสมรรถนะวชิ าชีพ

4.3 หมวดวิชาเลือกเสรี ไม่นอ้ ยกวา่ 6 หน่วยกิต
4.4 กิจกรรมเสริมหลกั สูตร (2 ชว่ั โมง สปั ดาห์) หน่วยกิต


หมายเหตุ

1) จานวนหน่วยกิตของแตล่ ะหมวดวชิ าและกลมุ่ วชิ าในหลกั สูตร ใหเ้ ป็นไปตามท่ี
กาหนดไว้ ในโครงสร้างของแตล่ ะประเภทวชิ าและสาขาวชิ า

2) การพฒั นารายวิชาในหนุ่มสมรรถนะวิชาชีพพ้นื ฐานและกลมุ่ สมรรถนะวิชาชีพนพระ
จะเป็นรายวชิ าบงั คบั ที่สะทอ้ นความเป็นสาขาวิชาตามมาตรฐานการศึกษาวิชาชีพ ดา้ น
สมรรถนะวชิ าชีพของสาขาวชิ า ซ่ึงยดึ โยง กบั มาตรฐานอาชีพ จึงตอ้ งพฒั นากล่มุ รายวชิ าใหค้ รบ
จานวนหน่วยกิตที่กาหนด และผเู้ รียนตอ้ งเรียนทุกรายวชิ า

3) สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั สามารถจดั รายวชิ าเลือกตามที่กาหนดไวใ้ น
หลกั สูตร และ หรือพฒั นาเพิ่มตามความตอ้ งการเฉพาะดา้ นของสถานประกอบการหรือตาม
ยทุ ธศาสตร์ภมู ิภาค เพ่ือเพ่ิม ขีดความสามารถในการแข่งขนั ของประเทศ ท้งั น้ี ตอ้ งเป็นไปตาม
เงื่อนไขและมาตรฐานการศึกษาวิชาชีพ ที่ประเภทวิชา สาขาวิชาและสาขางานกาหนด

5. การฝึ กประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ

เป็นการจดั กระบวนการเรียนรู้โดยความร่วมมีกระหวา่ งสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือ
สถาบนั กบั การการผลิต และหรือภาคบริการ หลงั จากที่ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้ภาพทฤษฎีและการฝึกหดั
หรือฝึกปฏิบตั ิเบ้ืองตน้ ในสถานศึกษา อาชีวศึกษาหรือสถาบนั แลว้ ระยะเวลาหน่ึง ท้งั น้ี เพอ่ื เปิ ด
โอกาสใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้จากประสบการณ์จริง ไดส้ ัมผสั กบั การปฏิบตั ิงานอาชีพ เคร่ืองมือ
เคร่ืองจกั ร อุปกรณ์ที่ทนั สมยั และบรรยากาศการทางานร่วมกนั ส่งเสริมการฝึกทกั ษะ
กระบวนการคิด การจดั การ การเผชิญสถานการณ์ ซ่ึงจะช่วยใหผ้ เู้ รียนทาได้ คิดเป็น ทาเป็นและ
เกิดการใฝ่รู้อยา่ งต่อเน่ือง ตลอดจนเกิดความมนั่ ใจและเจตคติที่ดีในการทางานและการประกอบ
อาชีพอิสระ โดยการจดั ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวชิ าชีพตอ้ งดาเนินการ ดงั น้ี

5.1สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั ตอ้ งจดั ใหม้ ีการฝึกประสบการณ์สมรรถนะ
วิชาชีพ ในรูปของ การฝึกงานในสถานประกอบการ แหล่งวทิ ยาการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงาน
ของรัฐ ในภาคเรียนท่ี 3 และหรือ ภาคเรียนท่ี 4 โดยใชเ้ วลารวมไม่นอ้ ยกวา่ 30 ชว่ั โมง กาหนดให้
มีค่าเทา่ กบั 4 หน่วยคิด


กรณีสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั ตอ้ งการเพิ่มพูนประสบการณ์สมรรถนะวชิ าชีพ
สามารถนารายวชิ าที่ตรงหรือสัมพนั ธ์กบั ลกั ษณะงานไปเรียนหรือฝึกในสถานประกอบการ
รัฐวิสาหกิจหรือ หน่วยงานของรัฐในภาคเรียนท่ีจดั ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวชิ าชีพได้ รวมไม่
นอ้ ยกวา่ 1 ภาคเรียน

5.2 การตดั สินผลการเรียนและใหร้ ะดบั ผลการเรียน ใหป้ ฏิบตั ิเช่นเดียวกบั รายวชิ าอื่น

6. โครงงานพฒั นาสมรรถนะวิชาชีพ

เป็นรายวชิ าที่เปิ ดโอกาสใหผ้ เู้ รียน ใหศ้ ึกษาคน้ ควา้ บูรณาการความรู้ ทกั ษะและ
ประสบการณ์ จากสิ่งท่ีไดเ้ รียนรู้และฝึกปฏิบตั ิดว้ ยตนเองตามความถนดั และความสนใจ ต้งั แต่
การเลือกหัวขอ้ หรือเร่ือง ท่ีจะศึกษา ทดลอง พฒั นาและเรือประดิษฐค์ ิดคน้ โดยการวางแผน
กาหนดข้นั ตอนกระบวนการ ดาเนินการ ประเมินผล สรุปและจดั ทารายงานเพ่อื นาเสนอ ซ่ึงการ
ทาเป็นรายบคุ คลหรือกลุ่มกไ็ ด้ ท้งั น้ี ข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะของโครงงานน้นั ๆ โดยการจดั ทา
โครงงานพฒั นาสมรรถนะวชิ าชีพดงั กล่าวตอ้ งดาเนินการ ดงั น้ี

6.1 สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั ตอ้ งจดั ใหผ้ เู้ รียนจดั ทาโครงงานพฒั นาสมรรถนะ
วิชาชีพ ท่ีสัมพนั ธ์าเรือสอดคลอ้ งกบั สาขาวชิ า ในภาคเรียนท่ี 1 และหรือภาคเรียนท่ี 4 รวมจานวน
4 หน่วยกิต ใชเ้ วลา ไมน่ อ้ ยกวา่ 216 ชวั่ โมง ท้งั น้ี สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั ตอ้ งจดั ใหม้ ี
ชวั่ โมงเรียน 4 ชวั่ โมงต่อสปั ดาห์ กรณีท่ีกาหนดให้เรียนรายวชิ าโครงงาน 4 หน่วยค จดั ใหเ้ รียน
รายวชิ าโครงงาน 2 หน่วยกิต คือ โครงงาน 1 และโครงงาน 2 ใหส้ ถานศึกษา อาชีวกนาหรือ
สถาบนั จดั ใหม้ ีชวั่ โมงเรียนต่อสัปดาหท์ ่ีเทียบเคียงกบั เกณฑด์ งั กลา่ วขา้ งตน้

6.2. การตดั สินผลการเรียนและใหร้ ะดบั ผลการเรียน ใหป้ ฏิบตั ิเช่นเดียวกบั รายวชิ าอื่น


7. กจิ กรรมเสริมหลกั สูตร

7.1 สถานศึกษาชีวศึกษาหรือสถาบนั ตอ้ งจดั ใหม้ ีกิจกรรมเสริมหลกั สูตร ไม่นอ้ ยกวา่ 2
ชวั่ โมงต่อสัปดาห์ ทุกภาคเรียน เพอ่ื ส่งเสริมสมรรถนะแกนกลางและหรือสมรรถนะวิชาชีพ
ปลกู ฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ระเบียบวินยั การตอ่ ตา้ นความรุนแรง สารเสพติดและการ
ทจุ ริต เสริมสร้างการเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ในดา้ นการรักชาติ เทิดทูนพระมหากษตั ริย์
ส่งเสริมการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ ทรงเป็นประมุข ทะนุบารุง
ศาสนา ศิลปะ วฒั นธรรม ภูมิปัญญาไทย ปลกู ฝังจิตสานึกและจิตอาสาในการอนุรักษ์
ส่ิงแวดลอ้ มและทาประโยชนต์ อ่ ชุมชนและทอ้ งถิ่น ท้งั น้ี โดยใชก้ ระบวนการกล่มุ ในการ
วางแผน ลงมือปฏิบตั ิ ประเมินผล และปรับปรุงการทางาน สาหรับนกั เรียนอาชีวศึกษาระบบทวิ
ภาคี ใหเ้ ขา้ ร่วมกิจกรรมท่ีสถานประกอบการจดั ข้ึน

7.2 การประเมินผลกิจกรรมเสริมหลกั สูตร ใหเ้ ป็ นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ
วา่ ดว้ ยการจดั การศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามหลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง

8. การปรับพืน้ ฐานวิชาชีพ

8.1สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั ตอ้ งจดั ใหผ้ เู้ ขา้ เรียนหลกั สูตรประกาศนียบตั ร
วชิ าชีพช้นั สูง ท่ีสาเร็จการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเทา่ และผเู้ ขา้ เรียนท่ีสาเร็จ
การศึกษาระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า ตา่ งประเภทวิชา และสาขาวชิ าท่ี
กาหนดเรียนรายวชิ าปรับพ้นื ฐาน วชิ าชีพที่กาหนดไวใ้ นหลกั สูตรแต่ละประเภทวิชา สาขาวิชา
เพอื่ ใหม้ ีความรู้และทกั ษะพ้นื ฐานที่จาเป็น สาหรับการเรียนในสาขาวชิ าน้นั

8.2 แห่งการเรียนการสอนและการประเมินผลการเรียนรายวชิ าปรับพ้นื ฐานวชิ าชีพ ให้
เป็นไปตาม ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวา่ ดว้ ยการจดั การศึกษาและการประเมินผลการเรียน
ตามหลกั สูตรประกาศนียบตั ร วชิ าชีพช้นั สูง

8.3 กรณีผเู้ ขา้ เรียนท่ีมีความรู้และประสบการณ์ในรายวชิ าปรับพ้ืนฐานวิชาชีพที่หลกั สูตร

กาหนด มาก่อนเขา้ เรียน สามารถขอเทียบโอนผลการเรียนรู้ได้ โดยปฏิบตั ิตามระเบียบ

กระทรวงศึกษาธิการวา่ ดว้ ย การจดั การศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามหลกั สูตร

ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง


9. การจดั แผนการเรียน

เป็นการกาหนดรายวิชาตามโครงสร้างหลกั สูตรท่ีจะดาเนินการเรียนการสอนในแตล่ ะ
ภาคเรียน โดยจดั อตั ราส่วนการเรียนรู้ภาคทฤษฎีต่อภาคปฏิบตั ิในหมวดวิชาสมรรถนะวชิ าชีพ
ประมาณ 40 - 60 ท้งั น้ี ข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะหรือกระบวนการจดั การเรียนรู้ของแตล่ ะสาขาวชิ า ซ่ึงมี
ขอ้ เสนอแนะดงั น้ี

9.1 จดั รายวชิ าในแตล่ ะภาคเรียน โดยคานึงถึงรายวิชาที่ตอ้ งเรียนตามลาดบั ก่อน-หลงั
ความงา่ ย-อาก ของรายวิชา ความตอ่ เน่ืองและเชื่อมโยงสมั พนั ธ์กนั ของรายวิชา รวมท้งั รายวชิ าท่ี
สามารถบูรณาการจดั การเรียนรู้ ร่วมกนั ในลกั ษณะของงาน โครงงานและหรือช้ินงานในแต่ละ
ภาคเรียน

9.2 จดั ใหผ้ เู้ รียนเรียนรายวชิ าบงั คบั ในหมวดวชิ าสมรรถนะแกนกลาง หมวดวชิ า
สมรรถนะวชิ าชีพ ในกลุม่ สมรรถนะวชิ าชีพพ้นื ฐานและกลุม่ สมรรถนะวชิ าชีพเฉพาะ และ
กิจกรรมเสริมหลกั สูตรใหค้ รบ ตามท่ีกาหนดในโครงสร้างหลกั สูตร

9.2.1 การจดั รายวชิ าในหมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง ควรจดั กระจายทกุ ภาค
เรียน

9.2.2 การจดั รายวชิ าในกลมุ่ สมรรถนะวชิ าชีพพ้ืนฐาน โดยเฉพาะรายวชิ าท่ีเป็น
พ้นื ฐานของ การเรียนวชิ าชีพควรจดั ใหเ้ รียนในภาคเรียนท่ี 2

9.2.3 การจดั รายวิชาในกล่มุ สมรรถนะวชิ าชีพเฉพาะ ควรจดั ใหเ้ รียนก่อนรายวชิ า
ในกล่มุ สมรรถนะ วชิ าชีพเลือกและรายวชิ าในหมวดวชิ าเลือกเสรี

9.3 จดั ใหผ้ เู้ รียนไดเ้ ลือกเรียนรายวชิ าในกล่มุ สมรรถนะวิชาชีพเลือกและหมวดวชิ าเลือก
เสรี ตามความถนดั ความสนใจ เพือ่ สนบั สนุนการประกอบอาชีพหรือศึกษาตอ่ โดยคานึงถึง
ความสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการศึกษาวชิ าชีพดา้ นสมรรถนะวิชาชีพของสาขาวชิ าและสาขา
งาน

9.4 จดั รายวชิ าทวิภาคีท่ีนาไปเรียนและฝึกในสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือ
หน่วยงานของรัฐ โดยประสานงานร่วมกบั สถานประกอบการ รัฐวสิ าหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ
เพอื่ พจิ ารณากาหนดภาคเรียน ที่จดั ฝึกอาชีพ รวมท้งั กาหนดรายวิชาหรือกลุ่มวชิ าท่ีตรงกบั


Click to View FlipBook Version