ลกั ษณะงานของสถานประกอบการ รัฐวสิ าหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐท่ีนาไปร่วมฝึกอาชีพใน
ภาคเรียนน้นั ๆ
9.5 จดั รายวิชาฝึกงานในภาคเรียนท่ี 3 หรือ 4 คร้ังเดียว จานวน 4 หน่วยกิต 320 ชวั่ โมง
(เฉลี่ย 20 ชว่ั โมง ตอ่ สปั ดาหต์ อ่ ภาคเรียน) หรือ จดั ใหล้ งทะเบียนเรียนเป็น 2 คร้ัง คือ ภาคเรียนท่ี
3 จานวน 2 หน่วยกิต และ ภาคเรียนที่ 4 จานวน 2 หน่วยกิตรายวชิ าละ 160 ชวั่ โมง (เฉล่ีย 10
ชวั่ โมงตอ่ สปั ดาหต์ ่อภาคเรียน) ตามเง่ือนไข ของหลกั สูตรสาขาวชิ าน้นั ๆ ในภาคเรียนท่ีจดั
ฝึกงานน้ี ใหส้ ถานศึกษาพจิ ารณากาหนดรายวิชาหรือกลมุ่ วิชาท่ีตรงกบั ลกั ษณะงาน ของสถาน
ประกอบการ รัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ เพือ่ นาไปเรียนและฝึกปฏิบตั ิในภาคเรียนที่จดั
ฝึกงานดว้ ย การจดั ฝึกงานในภาคเรียนฤดูร้อนสามารถทาไดโ้ ดยตอ้ งพิจารณาระยะเวลาในการ
ฝึกใหค้ รบ ตามท่ีหลกั สูตรกาหนด
9.6. จดั รายวิชาโครงงานในภาคเรียนที่ 3 หรือ 4 คร้ังเดียว จานวน 4 หน่วยกิต (12 ชวั่ โมง
ตอ่ สปั ดาห์ ภาคเรียน) หรือ จดั ใหล้ งทะเบียนเรียนเป็น 2 คร้ัง คือ ภาคเรียนท่ี 3 และภาคเรียนท่ี 4
รวม 4 หน่วยกิต (6 ชวั่ โมงตอ่ สปั ดาห์ต่อภาคเรียน) ตามเงื่อนไขของหลกั สูตรสาขาวิชาน้นั ๆ
9.7 จดั จานวนหน่วยกิตรวมในแต่ละภาคเรียน ไมเ่ กิน 22 หน่วยกิต สาหรับการเรียนแบบ
เตม็ เวลา และไมเ่ กิน 12 หน่วยกิต สาหรับการเรียนแบบไม่เตม็ เวลา ส่วนภาคเรียนฤดูร้อนขดั ได้
ไมเ่ กิน 12 หน่วยกิต ท้งั น้ี เวลาในการจดั การเรียนการสอนในภาคเรียนปกติและภาคเรียนฤดูร้อน
โดยเฉล่ียไม่ควรเกิน 35 ชวั่ โมง ตอ่ สปั ดาห์ ส่วนการเรียนแบบไม่เตม็ เวลาไม่ควรเกิน 25 ชว่ั โมง
ต่อสัปดาห์ หากสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั มีเหตุผลและความจาเป็นในการจดั หน่วยคิด
และเวลา ในการจดั การเรียนการสอนแตล่ ะภาคเรียนที่แตกตา่ งไปจากเกณฑข์ า้ งตน้ อาจทาไดแ้ ต่
ตอ้ งไมก่ ระทบต่อ มาตรฐานและคุณภาพการศึกษา
10. การศึกษาระบบทวภิ าคี
เป็นรูปแบบการจดั การศึกษาท่ีเกิดจากขอ้ ตกลงร่วมกนั ระหวา่ งสถานศึกษาอาชีวศึกษา
หรือสถาบนั กบั สถานประกอบการ รัฐวสิ าหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ โดยผเู้ รียนใชเ้ วลาส่วน
หน่ึงในสถานศึกษาชีวศึกษา หรือสถาบนั และเรียนภาคปฏิบตั ิในสถานประกอบการ รัฐวสิ าหกิจ
หรือหน่วยงานของรัฐ เพอื่ ใหก้ ารจดั การศึกษาระบบทวภิ าคีสามารถเพ่มิ ขีดความสามารถดา้ น
การผลิตและพฒั นากาลงั คนตรงตามความตอ้ งการของ ผใู้ ชแ้ ละเป็นไปตามจุดหมายของ
หลกั สูตร ท้งั น้ี สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั ตอ้ งดาเนินการดงั น้ี
10.1 นารายวิชาทวิภาคี ในกลมุ่ สมรรถนะวิชาชีพเลือก รวมไมน่ อ้ ยกวา่ 12 หน่วยกิต ไป
ร่วมกาหนด รายละเอียดของรายวชิ ากบั สถานประกอบการ รัฐวสิ าหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐท่ี
ร่วมจดั การศึกษาระบบทวิภาคี ไดแ้ ก่ จุดประสงคร์ ายวชิ า สมรรถนะรายวิชา คาอธิบายรายวิชา
เวลาท่ีใชฝ้ ึกและจานวนหน่วยกิตใหส้ อดคลอ้ งกนั ลกั ษณะงานของสถานประกอบการ
รัฐวสิ าหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ รวมท้งั สมรรถนะวิชาชีพของสาขางาน ท้งั น้ี การกาหนด
จานวนหน่วยกิตและจานวนชว่ั โมงที่ใชฝ้ ึกอาชีพของแตล่ ะรายวิชาทวิภาคีใหเ้ ป็นไปตามที่
หลกั สูตรกาหนด และใหร้ ายงานการพฒั นารายวิชาดงั กลา่ วใหส้ านกั งานคณะกรรมการการ
อาชีวศึกษาทราบดว้ ย
10.2 ร่วมจดั ทาแผนฝึกอาชีพ พร้อมแนวการวดั และประเมินผลในแต่ละรายวิชากบั สถาน
ประกอบการ รัฐวสิ าหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐท่ีร่วมจดั การศึกษาระบบทวิภาคี เพ่อื นาไปใชใ้ น
การฝึกอาชีพ และดาเนินการ วดั และประเมินผลเป็นรายวิชา
10.3 จดั แผนการเรียนระบบทวิภาคีตามความพร้อมของสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ
หรือหน่วยงานของรัฐ ท่ีจดั การศึกษาระบบทวภิ าคีร่วมกนั โดยอาจนารายวิชาอื่นท่ีสอดคลอ้ งกบั
ลกั ษณะงานของสถานประกอบการ รัฐวสิ าหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐน้นั ๆ ไปขดั ร่วมดว้ ยกไ็ ด้
11.การเข้าเรียน
ตอ้ งสาเร็จการศึกษาไมต่ ่ากวา่ ระดบั ประกาศนียบตั รวชิ าชีพหรือเทียบเท่า หรือระดบั
มธั ยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเทา่ และมีคุณสมบตั ิเป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวา่
ดว้ ยการจดั การศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามหลกั สูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้นั สูง
12. การประเมินผลการเรียน
เนน้ การประเมินสภาพจริง ท้งั น้ี ใหเ้ ป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวา่ ดว้ ยการ
จดั การศึกษา และการประเมินผลการเรียนตามหลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง
13.การสาเร็จการศึกษาตามหลกั สูตร
13.1 ไดร้ ายวิชาและจานวนหน่วยกิตสะสมในทุกหมวดวชิ า ครบถว้ นตามที่กาหนดไวใ้ น
หลกั สูตร แต่ละประเภทวิชาและสาขาวิชา และตามแผนการเรียนท่ีสถานศึกษากาหนด
13.2 ไดค้ ่าระดบั คะแนนเฉล่ียสะสมไม่ต่ากวา่ 2.00
13.3 ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินมาตรฐานวิชาชีพ
13.4 ไดเ้ ขา้ ร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมเสริมหลกั สูตรตามแผนการเรียนที่สถานศึกษากาหนด
และ "ผา่ น" ทกุ ภาคเรียน
14. การพฒั นารายวิชาในหลกั สูตร
14.1 หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั สามารถพฒั นา
รายวชิ าเพิ่มเติม ในแต่ละกลมุ่ วชิ า เพื่อเลือกเรียนนอกเหนือจากรายวิชาที่กาหนดใหเ้ ป็นวิชา
บงั คบั ได้ โดยสามารถพฒั นาเป็นรายวิชา หรือลกั ษณะบูรณาการ ผสมผสานเน้ือหาวิชาท่ี
ครอบคลมุ สาระของกลุ่มวชิ าภาษาไทย กลุ่มวชิ าภาษาต่างประเทศ กลุม่ วิชาวทิ ยาศาสตร์ กลมุ่
วิชาคณิตศาสตร์ กลุ่มวชิ าสงั คมศาสตร์ กลมุ่ วิชามนุษยศาสตร์ ในสดั ส่วนท่ีเหมาะสม โดย
พิจารณาจากมาตรฐานการเรียนรู้ของกลุม่ วชิ าน้นั ๆ เพือ่ ใหบ้ รรลจุ ุดประสงคข์ องหมวดวชิ า
สมรรถนะแกนกลาง
14.2 หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั สามารถเพ่มิ เติม
รายละเอียด ราชาใน เมวิชาในโดยแผนการจดั เรียนรู้ และสามารถพฒั นารายวชิ าเพิม่ เติมในกลุ่ม
สมรณะ วิชาชีพเลือกได้ ตามความตอ้ งการของสถานประกอบการหรือยทุ ธศาสตร์ของภมู ิภาค
เพอื่ เพม่ิ ขีดความสามารถ ในการแขง่ ขนั ของประเทศ ท้งั น้ี ตอ้ งพิจารณาใหส้ อดคลอ้ งกบั
จุดประสงคส์ าขาวิชาและสมรรถนะวิชาชีพสาขางานดว้ ย
14.3 หมวดวชิ าเลือกเสรี สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั สามารถพฒั นารายวชิ า
เพม่ิ เติมได้ ตามความตอ้ งการของสถานประกอบการ ชุมชน ทอ้ งถิ่น หรือยทุ ธศาสตร์ของภูมิภาค
เพื่อเพ่มิ ขีดความสามารถ ในการแข่งขนั ของประเทศ และหรือเพ่ือการศึกษาตอ่ ท้งั น้ี การกาหนด
รหสั วชิ า จานวนหน่วยกิตและจานวนชว่ั โมงเรียนของรายวชิ าที่พฒั นาเพิ่มเติม ใหเ้ ป็นไปตามท่ี
หลกั สูตรกาหนด
15.การปรับปรุง
นายวิชา กลุ่มวชิ าและการสนุนมีหลกั สูตร
15.1 การพฒั นาหลกั สูตรหรือการปรับปรุงสาระสาคญั ของหลกั สูตรตามเกณฑม์ าตรฐาน
คุณวฒุ ิอาชีวศึกษา การอาชีวศึกษา ระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพช้นั สูง ใหเ้ ป็นหนา้ ท่ีของ
สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สถาบนั และสถานศึกษา โดยความเห็นชอบของ
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา
15.2 การอนุมตั ิหลกั สูตร ใหเ้ ป็นหนา้ ที่ของสานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดย
ความเห็นชอบ ของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
15.3 การประกาศใชห้ ลกั สูตร ใหท้ า้ เป็นประกาศกระทรวงศึกษาธิการ
15.4 การพฒั นารายวชิ าหรือกลุม่ วชิ าเพ่ิมเติม สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบนั
สามารถดาเนินการได้ โดยตอ้ งรายงานใหส้ านกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาทราบ
16. การประกนั คุณภาพของหลกั สูตรและการจัดการเรียนการสอน
ใหท้ ุกหลกั สูตรกาหนดระบบประกนั คุณภาพของหลกั สูตรและการจดั การเรียนการสอนไวใ้ ห้
ชดั เจน อยา่ งนอ้ ยประกอบดว้ ย 4 ดา้ น คือ
16.1 หลกั สูตรที่ยดึ โยงกบั มาตรฐานอาชีพ
16.2 ครูทรัพยากรและการสนบั สนุน
16.3 วธิ ีการจดั การเรียนรู้ การวดั และประเมินผล
16.4ผสู้ าเร็จการศึกษา ใหส้ านกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สถาบนั การ
อาชีวศึกษาและสถานศึกษาจดั ใหม้ ีการประเมิน และรายงานผลการดาเนินการหลกั สูตร เพ่อื
พฒั นาหรือปรับปรุงหลกั สูตรท่ีอยใู่ นความรับผดิ ชอบอยา่ งตอ่ เนื่อง อยา่ งนอ้ ยทุก 5 ปี
1.3.3 หลกั สูตรปริญญาตรีสายเทคโนโลยหี รือสายปฏิบตั ิการ
การพฒั นาและปรับปรุงหลกั สูตร
การพฒั นาและการปรับปรุงหลกั สูตรจะประสบความสาเร็จไดจ้ าเป็นตอ้ งอาศยั การ
บริหารจดั การหลกั สูตรที่มีประสิทธิภาพ ผเู้ ก่ียวขอ้ งทกุ ฝ่ ายจะตอ้ งมีความเขา้ ใจเกี่ยวกบั หลกั สูตร
บทบาทหนา้ ท่ีของตนเองและสามารถปฏิบตั ิหนา้ ท่ีไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพก่อใหเ้ กิดประโยชน์
สูงสุดต่อการพฒั นาคุณภาพผเู้ รียน ปัจจุบนั การบริหารจดั การหลกั สูตรมีการส่งเสริมใหท้ อ้ งถิ่น
และสถานศึกษาคิดตดั สินใจใหส้ อดคลอ้ งกบั บริบทของตนเอง ดงั น้นั ผพู้ ฒั นาหลกั สูตรจะตอ้ ง
เปลี่ยนแปลงแนวคิด วิธีการรูปแบบ และปรับเปลี่ยนกระบวนทศั น์(Paradigm Shift) จากกรอบ
แนวคิดเดิม สู่แนวคิดใหม่ ความรู้ใหม่ วธิ ีการบริหารจดั การและแนวปฏิบตั ิใหม่ ๆ ซ่ึงตอ้ งมีความ
เก่ียวเนื่องสมั พนั ธ์กนั หลายระดบั ต้งั แตร่ ะดบั ชาติ ระดบั ทอ้ งถ่ิน ระดบั สถานประกอบการ และ
ระดบั สถานศึกษา อีกท้งั การบริหารจดั การหลกั สูตร (Curriculum Administration ) เป็นการ
บริหารงานท่ีกวา้ งขวางครอบคลมุ หลายมิติและตอ้ งอาศยั ปัจจยั เก้ือหนุนต่างๆ จานวนมาก เป็น
การบริหารทุกกิจกรรมในสถานศึกษาที่เก่ียวขอ้ งกบั การปรับปรุงพฒั นาการเรียนการสอนให้
ไดผ้ ลดีและมีประสิทธิภาพสูงสุด
สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา มีหนา้ ที่นานโยบายการศึกษาของชาติสู่การ
ปฏิบตั ิโดยการกาหนดนโยบาย กากบั ติดตาม ประเมินมาตรฐานการจดั การดา้ นอาชีวศึกษาและ
ส่งเสริมการดาเนินการของสถาบนั อาชีวศึกษา โดยใชก้ รอบมาตรฐานคุณวฒุ ิอาชีวศึกษาระดบั
ปริญญาตรีสายเทคโนโลยหี รือสายปฏิบตั ิการ (Thai Qualifications Framework for Vocational
Education ;TQF : VEd)1เป็นเคร่ืองมือสู่การปฏิบตั ิในสถาบนั อาชีวศึกษาอยา่ งเป็นนรูปธรรม
มุ่งเนน้ การจดั การศึกษาที่ผลลพั ธ์การเรียนรู้(Learning Outcomes) ของนกั ศึกษาเป็นการประกนั
คุณภาพบณั ฑิตใหส้ งั คมชุมชนสถานประกอบการ มีความเขา้ ใจตรงกนั และเช่ือมน่ั ถึงคุณภาพ
ของบณั ฑิตวา่ มีมาตรฐานเดียวกบั สถาบนั อาชีวศึกษาท้งั ในและตา่ งประเทศ
สานกั มาตรฐานการอาชีวศึกษาและวชิ าชีพดาเนินการจดั ทาคูม่ ือการบริหารหลกั สูตร
เพือ่ ใหอ้ าจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลกั สูตร สาขาวิชาวทิ ยาลยั ในสังกดั สถาบนั อาชีวศึกษาบณั ฑิต และ
สถาบนั ใชช้ เป็นแนวทางในการพฒั นาหลกั สูตร การนาเสนอหลกั สูตร การพฒั นาคณาจารย์ และ
การประกนั คุณภาพหลกั สูตร ท้งั น้ีในการประสานงาน การดาเนินการเกี่ยวกบั หลกั สูตร การให้
คาปรึกษา และการดูและหลกั สูตรใหม้ ีมาตรฐานตามที่สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
และกระทรวงศึกษาธิการไดก้ าหนด ดงั น้นั การพฒั นาและปรับปรุงหลกั สูตรระดบั ปริญญาตรี
สายเทคโนโลยหี รือสายปฏิบตั ิการจึงไดก้ าหนดกระบวนการ ดงั แสดงในภาพท่ี 1-1
ภาพที่ 1-1 กระบวนการพฒั นาและปรับปรุงหลกั สูตรระดบั ปริญญาตรีสายเทคโนโลยี
หรือสายปฏิบตั ิการ
จากภาพท่ี 1-1 แสดงกระบวนการพฒั นาและปรับปรุงหลกั สูตรระดบั ปริญญาตรีสาย
เทคโนโลยหี รือสายปฏิบตั ิการ ซ่ึงแบง่ ความรับผิดชอบเป็น 4 ส่วน ประกอบดว้ ย
1) สถานศึกษาสังกดั สถาบนั
2) สถาบนั
3) สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
4) คณะกรรมการการอดุ มศึกษาและสานกั งานขา้ ราชการพลเรือนโดยมีรายละเอียดดงั น้ี
ส่วนที่ 1 สถานศึกษาสังกดั สถาบัน โดยสาชาวชิ าทม่ี ีความพร้อมในการจดั การศึกษาระดบั
ปริญญาตรีดาเนินการศึกษาบริบทตา่ งๆ เช่น ความตอ้ งการกาลงั คนของสถาน
ประกอบการ แผนยทุ ธศาสตร์สถานศึกษา สถาบนั กลุ่มจงั หวดั และแผนยทุ ธศาสตร์ชาติ รวมท้งั
กฎ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ต่าง ๆ ร่วมกบั อาชีวศึกษาบณั ฑิตเพื่อจดั ทาแผนการเปิ ดหลกั สูตรและ
รายละเอียดหลกั สูตร
ส่วนท่ี 2 สถาบัน โดยอาชีวศึกษาบณั ฑิตดาเนินการใหส้ ถานศึกษาน าเสนอความพร้อมในการ
เปิ ดหลกั สูตรและรายละเอียดหลกั สูตรเพ่ือใหค้ ณะอนุกรรมการวิชาการและสภาสถาบนั
ใหค้ วามเห็นชอบหลกั สูตรเทคโนโลยบี ณั ฑิตตามลาดบั
ส่วนท่ี 3 สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยสานกั มาตรฐานอาชีวศึกษาและ
วิชาชีพ ดาเนินการใหส้ ถาบนั นาเสนอความพร้อมในการเปิ ดหลกั สูตรและรายละเอียด
หลกั สูตรเพอื่ ใหค้ ณะอนุกรรมการดา้ นหลกั สูตรพิจารณาใหค้ วามเห็นชอบและนาเสนอให้
คณะกรรมการการอาชีวศึกษาอนุมตั ิการเปิ ดหลกั สูตรและประกาศใชห้ ลกั สูตรเทคโนโลยี
บณั ฑิตตอ่ ไป
ส่วนที่ 4 สานกั งานคณะกรรมการการอุดมศึกษา ดาเนินการตรวจสอบรายละเอียดหลกั สูตร
ท่ีสานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาอนุมตั ิ เพื่อเสนอใหค้ ณะกรรมการการ
อุดมศึกษารับทราบและจดั ส่งใหส้ านกั งานคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรือน (สานกั งาน ก.พ.)
และสานกั งานคณะกรรมการขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) รับรองคุณวฒุ ิ
การศึกษาการพฒั นาและการปรับปรุงหลกั สูตรระดบั ปริญญาตรีสายเทคโนโลยหี รือสาย
ปฏิบตั ิการหลกั สูตรเทคโนโลยบี ณั ฑิตของสถาบนั มีข้นั ตอนในการดาเนินการ ประกอบดว้ ย
1. การเตรียมเพอ่ื ขอเปิ ดหลกั สูตรใหม่
2. การจดั ท ารายละเอียดของหลกั สูตร
3. การขอความเห็นชอบสภาสถาบนั เพือ่ การพฒั นาหลกั สูตรและปรับปรุงหลกั สูตร
4. การปรับปรุงหลกั สูตร (ตามรอบ/ปรับปรุงเลก็ นอ้ ย)
5. การขอปิ ดหลกั สูตร
1.1 การเตรียมเพื่อขอเปิ ดหลกั สูตรใหม่
การขอเปิ ดหลกั สูตรใหม่ใหส้ ถาบนั ดาเนินการตามข้นั ตอน ดงั แสดงในภาพที่ 1-2
ภาพที่ 1-2 ข้ันตอนการเตรียมการเปิ ดหลกั สูตรใหม่
จากภาพที่ 1-2 แสดงข้นั ตอนการเตรียมการเปิ ดหลกั สูตรใหม่ ซ่ึงสาขาวชิ าจะตอ้ งดาเนิน
การศึกษาความเป็นไปไดใ้ นการเปิ ดหลกั สูตรโดยศึกษาขอ้ มลู ความตอ้ งการของสถาน
ประกอบการแผนยทุ ธศาสตร์การพฒั นาสถาบนั แผนยทุ ธศาสตร์ชาติ และขอ้ มูลอื่นๆ ที่เก่ียวขอ้ ง
เพอ่ื จดั ทาขอ้ มลู
เสนอขอความเห็นชอบต่อคณะอนุกรรมการวิชาการและสภาสถาบนั เพอื่ ดาเนินการ
พฒั นาหลกั สูตรกรณีไม่ผา่ นความเห็นชอบคณะอนุกรรมการวชิ าการและสภาสถาบนั ให้
อาชีวศึกษาบณั ฑิตส่งกลบั ไปผรู้ ับผิดชอบหลกั สูตรหรือสาขาวิชาเพ่อื ปรับปรุงแกไ้ ข
1.2 การจดั ทารายละเอยี ดของหลักสูตร
การดาเนินการจดั ทารายละเอียดของหลกั สูตรดาเนินการโดยผรู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตร
ร่วมกบั อาชีวศึกษาบณั ฑิตดาเนินการ ดงั แสดงในภาพท่ี 1-3
ภาพที่ 1-3 ข้ันตอนการจดั ทารายละเอยี ดของหลกั สูตร
จากภาพท่ี 1-3 แสดงการจดั ทารายละเอียดของหลกั สูตร โดย สภาสถาบนั แต่งต้งั
คณะกรรมการพฒั นาหลกั สูตรสาขาวิชา เพือ่ ศึกษาเก่ียวกบั กฎระเบียบขอ้ บงั คบั เกี่ยวกบั
เกณฑม์ าตรฐานหลกั สูตรระดบั ปริญญาตรีแนวทางการบริหารหลกั สูตร มาตรฐานอาชีพ และ
มาตรฐานคุณวฒุ ิอาชีวศึกษาระดบั ปริญญาตรี โดยดาเนินการดงั น้ี
1. แต่งต้งั คณะกรรมการพฒั นารายละเอียดของหลกั สูตรใหม้ ีจานวนตามท่ีสานกั งาน
คณะกรรมการการอาชีวศึกษาประกาศ ซ่ึงควรที่จะประกอบดว้ ย 1) อาจารยผ์ รู้ ับผิดชอบ
หลกั สูตร 2) ผทู้ รงคุณวฒุ ิหรือผเู้ ช่ียวชาญในดา้ นการพฒั นาหลกั สูตร 3) ผทู้ รงคุณวฒุ ิหรือ
ผเู้ ช่ียวชาญในสาขาวชิ าซ่ึงเป็นบคุ คลภายนอกสถาบนั 4) ผแู้ ทนของสถานประกอบการที่ร่วมมือ
กบั สถาบนั ในการจดั การเรียนการสอนท่ีมิใช่อาจารยผ์ รู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตร โดยใหป้ ระธาน
ผรู้ ับผิดชอบหลกั สูตรเป็น ประธานกรรมการพฒั นารายละเอียดของหลกั สูตร
ผรู้ ับผิดชอบหลกั สูตร มีหนา้ ท่ีบริหารและพฒั นาหลกั สูตรและการเรียนการสอน การ
วางแผน การควบคุมคุณภาพ การติดตามประเมินผลและการพฒั นาหลกั สูตร และตอ้ งอยปู่ ระจา
หลกั สูตรตลอดระยะเวลาท่ีจดั การศึกษา โดยเป็นผูร้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรเกินกวา่ 1 หลกั สูตรใน
เวลา เดียวกนั ไมไ่ ด้ ยกเวน้ พหุวิทยาการหรือสหวิทยาการ ใหเ้ ป็นอาจารยผ์ รู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตร
ไดอ้ ีกหน่ึง หลกั สูตรและอาจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลกั สูตรสามารถซ้าไดไ้ มเ่ กิน 2 คน
2. ยกร่างรายละเอียดหลกั สูตร
การพฒั นาหลกั สูตรใหผ้ รู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรพฒั นาหลกั สูตรตามประกาศ
กระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง เกณฑม์ าตรฐานหลกั สูตรระดบั ปริญญาตรี พ.ศ. 2558 ประกาศกระ
ทวง ศึกษาธิการ เร่ือง กรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั อุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2552 ประกาศ
กระทรวง ศึกษาธิการ เร่ืองมาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั ปริญญาตรีสาขาเทคโนโลยี พ.ศ. 2560 และ
ประกาศ คณะกรรมการการอาชีวศึกษา เร่ือง เกณฑม์ าตรฐานคุณวฒุ ิอาชีวศึกษาระดบั ปริญญาตรี
สาย เทคโนโลยหี รือสายปฏิบตั ิการ พ.ศ. 2562
3. การวิพากษห์ ลกั สูตร ใหส้ ถาบนั ดาเนินการวพิ ากษห์ ลกั สูตรเพ่อื รับฟังความคิดเห็นใน
การพฒั นา หลกั สูตรจากผทู้ รงคุณวฒุ ิดา้ นการพฒั นาหลกั สูตร ผเู้ ชี่ยวชาญในสาขาวิชาชีพ และ
ผแู้ ทนในสถาน ประกอบการ ที่ไมใ่ ช่คณะกรรมการพฒั นาหลกั สูตรดงั กลา่ ว
4.สรุปขอ้ เสนอแนะการวิพากษห์ ลกั สูตร ใหค้ ณะกรรมการพฒั นารายละเอียดของ
หลกั สูตร พิจารณาและสรุปผลการ วิพากษห์ ลกั สูตร
5.ปรับปรุงแกไ้ ขร่างรายละเอียดหลกั สูตรฉบบั สมบูรณ์ ใหค้ ณะกรรมการพฒั นา
รายละเอียดหลกั สูตร นาผลการสรุปการวิพากษห์ ลกั สูตร มาปรับปรุงร่างรายละเอียดหลกั สูตร
ฉบบั สมบูรณ์ ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการและประกาศ สานกั งานคณะกรรมการการ
อาชีวศึกษา ในขอ้ 2 และท่ีจะมีเพิม่ เติม
1.3 การขอความเห็นชอบหลกั สูตรใหม่
1.3.1การพจิ ารณากลน่ั กรองหลกั สูตรใหมต่ อ่ คณะอนุกรรมการวชิ าการ
การพจิ ารณากลนั่ กรองหลกั สูตรใหมต่ ่อคณะอนุกรรมการวิชาการใหส้ ถาบนั
ดาเนินการตามข้นั ตอน ดงั แสดงในภาพท่ี 1-4
ภาพที่ 1-4 การพิจารณากลนั่ กรองหลกั สูตรใหม่ตอ่ คณะอนุกรรมการวชิ าการ
จากภาพท่ี 1-4 แสดงการพจิ ารณากลน่ั กรองหลกั สูตรต่อคณะอนุกรรมการวชิ าการโดย
คณะจดั ทาสาขาวิชานาร่างหลกั สูตรฉบบั สมบูรณ์ เสนอตอ่ คณะอนุกรรมการวิชาการผา่ น
อาชีวศึกษาบณั ฑิต เพ่ือพิจารณากลนั่ กรอง ประเมินความพร้อมของสาขาวิชาท่ีขอเปิ ดหลกั สูตร
กรณีผลการประเมินไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมินความพร้อมและผลการพิจารณากลนั่ กรองให้
อาชีวศึกษาบณั ฑิตส่งกลบั ไปผรู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรหรือสาขาวชิ าเพอ่ื ปรับปรุงแกไ้ ขก่อน
นาเสนอคณะอนุกรรมการวิชาการอีกคร้ัง
1.4 การปรับปรุงหลกั สูตร
1.4.1 หลกั สูตรปรับปรุง
การปรับปรุงหลกั สูตร ท่ีเป็นการปรับปรุงใน สาระสาคญั ของหลกั สูตร อาทิวตั ถปุ ระสงคข์ อง
หลกั สูตร โครงสร้างหลกั สูตร ช่ือหลกั สูตร ชื่อปริญญา เน้ือหาสาระสาคญั ในหมวดวิชาเฉพาะ
และระบบการศึกษาใหส้ ถาบนั ดาเนินการตามข้นั ตอน
1.4.2 หลกั สูตรปรับปรุงเลก็ นอ้ ยเป็นการปรับปรุงในระดบั รายวิชา อาทิการเปล่ียนชื่อ
รายวชิ า การเปล่ียนรหสั รายวิชาการเพ่ิมรายวิชาเลือก การปรับค าอธิบายรายวชิ า และการ
เปล่ียนแปลงผรู้ ับผิดชอบหลกั สูตร โดยไมก่ ระทบโครงสร้างหลกั สูตร และเน้ือหาสาระในหมวด
วิชาเฉพาะ
1) การปรับปรุงหลกั สูตรเลก็ น้อยในระดบั สถาบนั ใหด้ าเนินการตามข้นั ตอน
แสดงข้นั ตอนการดาเนินการปรับปรุงหลกั สูตรเล็กนอ้ ย ใหผ้ รู้ ับผิดชอบหลกั สูตรจดั ทา
รายละเอียดการปรับปรุงหลกั สูตร เสนอขอความเห็นชอบตอ่ คณะอนุกรรมการวชิ าการและสภา
สถาบนั ผา่ นทางอาชีวศึกษาบณั ฑิต
กรณีคณะอนุกรรมการวิชาการ หรือสภาสถาบนั มีความเห็น “ไม่ผา่ น” ใหอ้ าชีวศึกษา
บณั ฑิตส่งกลบั ไปผรู้ ับผิดชอบหลกั สูตรหรือสาขาวิชาเพือ่ ปรับปรุงแกไ้ ขก่อนนาเสนออีกคร้ัง
2) การปรับปรุงหลกั สูตรเลก็ น้อย ในระดบั สอศ. และ สกอ. ใหด้ าเนินการตามข้นั ตอน
แสดงข้นั ตอนการปรับปรุงหลกั สูตรเลก็ นอ้ ย ในระดบั สอศ. และสกอ. ใหส้ ถาบนั เสนอ
รายละเอียดการปรับปรุงของหลกั สูตรตามความเห็นชอบของสภาสถาบนั เพอ่ื สานกั งาน
คณะกรรมการการอาชีวศึกษาเสนอคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเพือ่ ทราบ
สมอ. เสนอรายละเอียดการปรับปรุงหลกั สูตรตอ่ คณะอนุกรรมการวิชาการเริ่มตน้ สิ้นสุดเสนอ
รายละเอียดการปรับปรุงหลกั สูตรต่อ สมอ.แจง้ สานกั งานคณะกรรมการอุดมศึกษาและสถาบนั
สถาบนั บนั ทึกขอ้ มลู เขา้ ระบบ CHECO17ขออนุมตั ิต่อส านกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
โดยความเห็น ชอบของคณะกรรมกา รการอาชีวศึกษา
กรณีสานกั งานคณะกรรมการอาชีวศึกษา มีความเห็น “ไมอ่ นุมตั ิ” ใหส้ านกั งาน
คณะกรรมการการอาชีวศึกษาส่งกลบั สถาบนั ไปให้ผรู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรหรือสาขาวิชาเพ่อื ปรับ
ปรุงแกไ้ ขก่อนนาเสนอคณะกรรมการการอาชีวศึกษา อีกคร้ัง
1.5 การขอปิ ดหลกั สูตร
1.5.1 ระดบั สถาบนั
การขอปิ ดหลกั สูตรในระดบั สถาบนั ใหด้ าเนินการตามข้นั ตอน แสดงข้นั ตอนการขอปิ ด
หลกั สูตร ระดบั สถาบนั ใหผ้ รู้ ับผิดชอบ หลกั สูตรยนื่ คาร้องขอปิ ดหลกั สูตรพร้อมรายละเอียด
เสนอคณะอนุกรรมการวิชาการ และสภาสถาบนั ผา่ นทางอาชีวศึกษาบณั ฑิต เห็นชอบ
ผรู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรยนื่ คาร้องขอปิ ดหลกั สูตร อาชีวศึกษาบณั ฑิตเสนอคณะอนุกรรมการ
วิชาการ ผลการพิจารณา ไม่เห็นชอบ อาชีวศึกษาบณั ฑิตเสนอสภาสถาบนั เสนอแบบรายละเอียด
ขอปิ ดหลกั สูตร ส้ินสุด เริ่มตน้ แตง่ ต้งั คณะกรรมการ รวบรวมขอ้ มูล เสนอสภาสถาบนั
กรณีผลการพิจารณา ไม่เห็น ชอบ ใหส้ ภา สถา บนั แต่งต้งั คณะกรรมการ ซ่ึง
ประกอบดว้ ยผรู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตร อาชีวศึกษาบณั ฑิต และกรรมการสภาสถาบนั เพ่อื รวบรวม
ขอ้ มูล เสนอตอ่ สภาสถาบนั พิจารณา
1.5.2 ระดบั สอศ. และ สกอ. การขอปิ ดหลกั สูตรในระดบั สอศ. และ สกอ. ใหด้ าเนินการ
ตามข้นั ตอนแสดงข้นั ตอนการขอปิ ดหลกั สูตร ระดบั สอศ. และ สกอ. ใหส้ ถาบนั นาแบบ
รายละเอียดขอปิ ดหลกั สูตรท่ีผา่ นความเห็นชอบจากสภาสถาบนั เสนอขออนุมตั ิต่อสานกั งาน
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผา่ นทางสานกั มาตรฐานอาชีวศึกษาและวิชาชีพ ก่อนแจง้ สกอ.
เพื่อ ขอปิ ดหลกั สูตรดงั กลา่ วและจดั ทาเป็นประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ใหส้ านกั มาตรฐาน
อาชีวศึกษา และวิชาชีพแจง้ ผลการพจิ ารณาตอ่ สถาบนั เพ่ือดาเนินการตอ่ ไป
การบริหารจัดการศึกษา
เพ่ือใหก้ ารดาการจดั การศึกษาของสถาบนั เป็นไปตามระเบียบ ขอ้ บงั คบั และประกาศที่
เกี่ยวขอ้ งกบั การจดั การศึกษาระดบั ปริญญาตรีสายเทคโนโลยหี รือสายปฏิบตั ิการของสานกั งาน
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา สามารถจดั การเรียนการสอนใหบ้ รรลวุ ตั ถุประสงคข์ องการจดั
การศึกษา จึงควรพฒั นาเคร่ืองมือดาเนินการจดั การศึกษาของสถาบนั ประกอบดว้ ย
1. การรับเขา้ ศึกษาตอ่ และการจบของนกั ศึกษา
2. การจดั การระบบทวภิ าคี
3. การบริหารหลกั สูตร
4. การจดั โครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ
5. การจดั กิจกรรมเสริมหลกั สูตร
6. การประเมินมาตรฐานวชิ าชีพ
2.1การรับเข้าศึกษาต่อและการจบของนกั ศึกษา
2.1.1 การรับเข้าศึกษาต่อ
1)การรับสมคั รเขา้ ศึกษาต่อใหว้ ิทยาลยั เสนอตอ่ สถาบนั ดาเนินการแสดงข้นั ตอนการรับ
นกั ศึกษาโดยวิทยาลยั เสนอรายช่ือคณะกรรมทาการ ตอ่ สถาบนั แลว้ สถาบนั โดยอาชีวศึกษา
บณั ฑิตเสนอสภาสถาบนั เพื่อขออนุมตั ิจนวนและแผนการรับ นกั ศึกษา จากน้นั อาชีวศึกษา
บณั ฑิตจึงดาเนินการจดั ทาคูม่ ือ ใบสมคั ร ประชาสัมพนั ธ์ รับสมคั รตาม วนั เวลาที่กาหนด
พจิ ารณาคุณสมบตั ิผสู้ มคั รพร้อมประกาศรายชื่อผมู้ ีสิทธ์ิสอบ แลว้ แจง้ วทิ ยาลยั ทราบ
2)การสอบคดั เลือกเขา้ ศึกษาตอ่ ใหว้ ทิ ยาลยั เสนอรายช่ือคณะกรรมการเสนอต่อ
อาชีวศึกษาบณั ฑิตแสดงข้นั ตอนการสอบคดั เลือกเขา้ ศึกษาต่อ โดยวิทยาลยั เสนอรายช่ือ
คณะกรรมการดาเนินการสอบคดั เลือกเขา้ ศึกษาตอ่ จดั ทาแบบทดสอบและแบบสอบสัมภาษณ์
ดาเนินการสอบคดั เลือกและประกาศรายชื่อผมู้ ีสิทธ์ิเขา้ ศึกษาต่อ เมื่อแลว้ เสร็จส้ินกระบวน
3)การข้ึนทะเบียนนกั ศึกษา ใหอ้ าชีวศึกษาบณั ฑิตการใหเ้ สนอตอ่ สถาบนั แสดงข้นั ตอน
การข้ึนทะเบียนนกั ศึกษา โดยวิทยาลยั เสนอรายชื่อคณะกรรมการข้ึนทะเบียนนกั ศึกษาตอ่
อาชีวศึกษาบณั ฑิต เพือ่ จดั เตรียมเอกสารข้ึนทะเบียน คูม่ ือนกั ศึกษา และดาเนินการใหน้ กั ศึกษา
บนั ทึกขอ้ มูลเอกสารการข้ึนทะเบียน งานทะเบียนวิทยาลยั ดาเนินการบนั ทึกขอ้ มูลเขา้ ระบบ
ฐานขอ้ มูล และอาชีวศึกษาบณั ฑิตรายงานผลการรับนกั ศึกษาตอ่ สภาสถาบนั
4)การลงทะเบียนรายวชิ า ใหอ้ าชีวศึกษาบณั ฑิตดาเนินการแสดงข้นั ตอนลงทะเบียน
รายวชิ า โดยงานหลกั สูตรการเรียนการสอน บนั ทึกแผนการเรียนเขา้ สู่ระบบ ศธ.02 งานทะเบียน
เตรียมเอกสารการลงทะเบียน ใหน้ กั ศึกษา รับคาปรึกษาจากอาจารยท์ ี่ปรึกษาและลงทะเบียน
รายวิชา จากน้นั งานทะเบียนจึงดาเนินการจดั เก็บ ขอ้ มูลและสรุปขอ้ มูลผลู้ งทะเบียนรายวชิ า
เสนอต่ออาชีวศึกษาบณั ฑิต
2.1.2 การสาเร็จการศึกษา
เมื่อนกั ศึกษาไดศ้ ึกษาครบตามโครงสร้างหลกั สูตรแลว้ แสดงข้นั ตอนการสาเร็จการศึกษา
โดยนกั ศึกษาท่ีศึกษาครบตาม โครงสร้างหลกั สูตรยน่ื คาร้องขอสาเร็จการศึกษาตามแบบฟอร์มที่
กาหนดตอ่ งานทะเบียนของวทิ ยาลยั เพอ่ื ตรวจสอบเกณฑก์ ารสาเร็จ และจดั ส่งรายชื่อผสู้ าเร็จ
พร้อมรวบรวมเอกสารคาร้องขอสาเร็จ การศึกษาของนกั ศึกษาต่ออาชีวศึกษาบณั ฑิต เพ่อื
ตรวจสอบและพิจารณาผลการสาเร็จ ถา้ หากมี คุณสมบตั ิครบตามเกณฑก์ ารสาเร็จการศึกษา
อาชีวศึกษาบณั ฑิตเสนอใหอ้ นุกรรมการวชิ าการ พิจารณาและเสนอตอ่ สภาสถาบนั เพื่ออนุมตั ิ
การสาเร็จการศึกษาเป็นล ดบั ตอ่ ไป
2.1.3 การขนึ้ ทะเบยี นบณั ฑิต
ใหผ้ สู้ าเร็จการศึกษาดาเนินการข้ึนทะเบียนบณั ฑิตแสดงข้นั ตอนการข้ึนทะเบียนบณั ฑิต
ใหผ้ สู้ าเร็จการศึกษายน่ื คาร้องขอข้ึน ทะเบียนบณั ฑิตต่องานทะเบียนของวิทยาลยั เพอื่ จดั ส่ง
รายช่ือผสู้ าเร็จพร้อมเอกสารคาร้องขอข้ึน ทะเบียนบณั ฑิตของนกั ศึกษาต่ออาชีวศึกษาบณั ฑิต
จากน้นั อาชีวศึกษาบณั ฑิตออกใบแสดงผล การเรียนใหผ้ สู้ าเร็จการศึกษาตามวนั เวลาที่กาหนด
หมายเหตุ หมายกาหนดการพธิ ีพระราชทานปริญญาบตั ร สถาบนั จะแจง้ ใหบ้ ณั ฑิตทราบต่อไป
2.2 การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี
จากพระราชบญั ญตั ิการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2551 มาตรา 8 ในการจดั การศึกษาระบบทวิภาคี
เป็นการจดั การศึกษาวิชาชีพท่ีเกิดจากขอ้ ตกลงระหวา่ งสถาบนั กบั สถานประกอบการ
รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ ในเร่ือง การจดั หลกั สูตร การเรียนการสอน การวดั ผลและการ
ประเมินผล โดย ผเู้ รียนใชเ้ วลาส่วนหน่ึงในสถาบนั และเรียนภาคปฏิบตั ิในสถานประกอบการ
รัฐวสิ าหกิจ หรือ หน่วยงานของรัฐ โดยมีการจดั แผนการเรียน แผนการฝึกอาชีพ การวดั ผลและ
การประเมินผลเพ่อื ม่งุ เนน้ ผลิตผสู้ าเร็จการศึกษาในระดบั เทคโนโลยใี หเ้ ป็นผมู้ ีความรู้ความ
เขา้ ใจทกั ษะคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชีพและกิจนิสยั ท่ีเหมาะสม ปฏิบตั ิงานไดจ้ ริง
ปฏิบตั ิงานที่ใชเ้ ทคนิคในการทางาน สร้างและพฒั นางาน วางแผน จดั การพฒั นาตนเองและ
ทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมีความสุข ใหม้ ีความกา้ วหนา้ ทางวิชาการและวิชาชีพ มีสมรรถนะ
นาไปปฏิบตั ิงานหรือประกอบอาชีพอิสระได้ ตามมาตรฐานการศึกษาวิชาชีพและมาตรฐาน
สมรรถนะของสาขาวชิ าน้นั ๆ โดยสอดคลอ้ งกบั แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติ และ
แผนการศึกษาแห่งชาติและหลกั เกณฑ์ ตามประกาศ คณะกรรมการการอาชีวศึกษา เร่ือง
หลกั เกณฑล์ กั ษณะของสถานประกอบการท่ีจะเขา้ ร่วมจดั การ อาชีวศึกษาและการฝึกอบรม
วิชาชีพ พ.ศ.2558 โดยมีแนวทางในการปฏิบตั ิดงั น้ี
2.2.1 การคดั เลือกสถานประกอบการ
การคดั เลือกสถานประกอบการเพอ่ื ร่วมจดั การเรียนการสอนอาชีวศึกษาระบบทวภิ าคี ให้
ดาเนินการแสดงข้นั ตอนการคดั เลือกในสถานประกอบการ ใหส้ าขาวิชาเสนอรายชื่อสถาน
ประกอบการ โดยอาชีวศึกษาบณั ฑิตพิจารณาการคดั เลือกสถาประกอบการ เพื่อพจิ ารณา
คุณสมบตั ิสถานประกอบการตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง มาตรฐานการจดั การ
อาชีวศึกษาระบบทวภิ าคีและรวบรวมรายช่ือสถานประกอบการที่ผา่ นการพิจารณา สาระสาคญั
ในการลงนามในบนั ทึกขอ้ ตกลงความร่วมมือ ใหเ้ ป็นไปตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง
มาตรฐานการจดั การอาชีวศึกษาระบบทวภิ าคี5 กรณีที่เป็นหลกั สูตรร่วม ผลิตกบั สถาน
ประกอบการใหร้ ะบุชื่อผรู้ ับผิดชอบหลกั สูตรจากสถานประกอบการลงในบนั ทึกขอ้ ตกลง ความ
ร่วมมือดว้ ย
2.2.2การปฏบิ ัติตามบันทกึ ข้อตกลงความร่วมมือ
1) การพฒั นาและแตง่ ต้งั ครูฝึกในสถานประกอบการ
เพอ่ื ใหค้ รูฝึกซ่ึงเป็นผทู้ ่ีถา่ ยทอด ทกั ษะการทางาน มีความรับผดิ ชอบ มี จรรยาบรรณของ
ผสู้ อนมีความรู้ความสามารถในงานท่ีปฏิบตั ิ6 สามารถควบคุมอารมณ์ การวางตวั มี ระเบียบวนิ ยั
ตรงตอ่ เวลา มีใจรักในการสอนงาน มีมนุษยส์ มั พนั ธ์บุคลิกภาพท่ีดีมีความรู้ความเขา้ ใจ หลกั การ
วธิ ีการ ตลอดจนขอ้ ปฏิบตั ิในการจดั การเรียนร่วมใหด้ าเนินการแสดงข้นั ตอนการพฒั นาและ
แตง่ ต้งั ครูฝึกในสถานประกอบการ ใหว้ ิทยาลยั ประสานงานสถานประกอบการเพื่อเสนอช่ือครู
ฝึกและพจิ ารณาคุณสมบตั ิการเป็นครูฝึกเบ้ืองตน้ แลว้ เสนอชื่อครูฝึกต่ออาชีวศึกษาบณั ฑิต เพ่ือ
จดั การในการฝึกอบรม ทดสอบประเมินความรู้ หรือมี ประสบการณ์การสอนในสถาน
ประกอบการ ท้งั น้ีใหเ้ ป็นไปตามพระราชบญั ญตั ิการอาชีวศึกษาพ.ศ. 2551 มาตรา 55 ประกาศ
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง กาหนดหลกั เกณฑก์ ารแต่งต้งั การทดสอบ การฝึกอบรม และ
การออกใบรับรองการเป็นครูฝึกในสถานประกอบการ 7 ประกาศ คณะกรรมการการอาชีวศึกษา
เร่ือง หลกั เกณฑแ์ ละวิธีการดาเนินการจดั การอาชีวศึกษาและการ ฝึกอบรมวชิ าชีของสถาน
ประกอบการ พ.ศ. 25588 และ ประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เร่ือง หลกั เกณฑเ์ กี่ยวกบั
ลกั ษณะของสถานประกอบการที่จะเขา้ ร่วมจดั การอาชีวศึกษาและการฝึกอบรม วิชาชีพ พ.ศ.
2558
2) การจดั ทาคูม่ ือการจดั การเรียนการสอนวิชาชีพในสถานประกอบการ
การจดั แผนการเรียน แผนการฝึกอาชีพและแผนการนิเทศเพอื่ ใหผ้ เู้ รียนไดร้ ับ ความรู้และ
ทกั ษะวิชาชีพจากครูฝึกในสถานประกอบการ จาเป็นท่ีอาจารยผ์ สู้ อนและครูฝึกจะตอ้ งทา
แผนการเรียน แผนการฝึกอาชีพและแผนการนิเทศเพอ่ื ใหผ้ เู้ รียน ไดเ้ รียนรู้ลกั ษณะวธิ ีการ
ปฏิบตั ิงาน อยา่ งมีประสิทธิภาพ มีพฤติกรรมท่ีเหมาะสม และทางานไดส้ าเร็จอยา่ งมีคุณภาพ ซ่ึง
ในการจดั ทาคู่มือ ผเู้ รียน คู่มือครูฝึกและคู่มือครูนิเทศแสดงข้นั ตอนการจดั ทาคูม่ ือการจดั การ
เรียนการสอนวชิ าชีพใน สถานประกอบการ ใหอ้ าจารยผ์ สู้ อนและครูฝึกวเิ คราะหห์ ลกั สูตร
รายวชิ าในสถานประกอบการ เพือ่ จดั ทาแผนการเรียน แผนการฝึกอาชีพและแผนการนิเทศ
สร้างเคร่ืองมือวดั และประเมินผลการฝึก อาชีพ จนไดแ้ ผนการเรียน แผนการฝึกอาชีพและ
แผนการนิเทศและเคร่ืองมือวดั และประเมินผลท่ี สมบูรณ์พร้อมใชง้ าน
3) การนาคูม่ ือการจดั การเรียนการสอนวิชาชีพในสถานประกอบการไปใช้
การนาคู่มือการจดั การเรียนการสอนวชิ าชีพในสถานประกอบการ ใหส้ ถาบนั โดย
อาชีวศึกษาบณั ฑิต ดาเนินการแสดงข้นั ตอนการนาคู่มือการจดั การเรียนการสอนวชิ าชีพใน
สถาน ประกอบการไปใชใ้ หอ้ าชีวศึกษาบณั ฑิต จดั ทาโครงการ เสนอ สถาบนั ดาเนินการจดั
อบรม สรุป รายงานผลและติดตามผลการดาเนินการ
2.3 การบริหารหลกั สูตร
เพอื่ ใหก้ ารจดั การเรียนการสอนระดบั ปริญญาตรี หลกั สูตรเทคโนโลยบี ณั ฑิต มีคุณภาพ
และ ประสิทธิภาพ สถาบนั จะตอ้ งใหค้ วามสาคญั เก่ียวกบั การบริหารหลกั สูตร ดงั น้ี
2.3.1การแตง่ ต้งั อาจารยผ์ สู้ อน อาจารยผ์ รู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรจะตอ้ งเป็นผพู้ ิจารณาผสู้ อน
รายวิชาในหลกั สูตรท่ี มี คุณสมบตั ิโดยพิจารณาจากคุณวฒุ ิและความเช่ียวชาญของผสู้ อน ตาม
เกณฑม์ าตรฐานหลกั สูตรระดบั ปริญญาตรี พ.ศ. 2558 แสดงข้นั ตอนการพิจารณาอาจารยผ์ สู้ อน
โดยผรู้ ับผิดชอบหลกั สูตร จะตอ้ งทารายช่ืออาจารยผ์ สู้ อนรายวชิ าและครูฝึกในสถาน
ประกอบการ ตามเกณฑม์ าตรฐานหลกั สูตรเสนอต่อคณะอนุกรรมการวิชาการ เพื่อพจิ ารณาผา่ น
อาชีวศึกษาบณั ฑิต และเสนอตอ่ สถาบนั เพ่ือ รับทราบ เพื่อใหส้ าขาวชิ าใชใ้ นการจดั การเรียนการ
สอนต่อไป
2.3.2 การจดั ทารายละเอียดของรายวชิ าในสถานศึกษาและรายละเอียดของรายวชิ าใน
สถาน ประกอบการ ใหอ้ าจารยผ์ สู้ อนรายวิชา จดั ทารายละเอียดของรายวิชาในสถานศึกษาและ
รายละเอียด ของรายวชิ าในสถานประกอบการแสดงข้นั ตอนการจดั ทารายละเอียดของรายวชิ า
ในสถานศึกษาและ รายละเอียดของรายวชิ าในสถานประกอบการ โดยอาจารยผ์ รู้ ับผดิ ชอบ
หลกั สูตรจะตอ้ งดาเนินการ ประชุมช้ีแจงและมอบหมายใหอ้ าจารยผ์ สู้ อนจดั ทารายละเอียดของ
รายวชิ า และพิจารณาความสอดคลอ้ งตามท่ีวางไวใ้ นรายละเอียดของหลกั สูตร และรายงานต่อ
วทิ ยาลยั เพอ่ื ส่งรายงานใหแ้ ก่ อาชีวศึกษาบณั ฑิต
2.3.3 การทารายงานการดาเนินงานของรายวชิ าในสถานศึกษาและรายงานการ
ดาเนินงาน ของรายวิชาในสถานประกอบการ ใหอ้ าจารยผ์ สู้ อนรายวิชา การจดั ทารายงานผลการ
ดาเนินการของรายวชิ าในสถานศึกษา และรายงานการดาเนินงานของรายวิชาในสถาน
ประกอบการ หลงั จากดาเนินการจดั การเรียนการ สอน และส่งผลการเรียนการสอน โดย
ดาเนินการแสดงข้นั ตอนการจดั ทารายงานผลการดาเนินการของรายวชิ าใน สถานศึกษาและ
รายงานผลการดาเนินการของรายวชิ าในสถานประกอบการ โดยอาจารยผ์ สู้ อน รายวิชาจะตอ้ ง
รวบรวมขอ้ มูลตา่ ง ๆ เกี่ยวกบั การจดั การเรียนการสอน และจดั ทารายงานตามรูปแบบท่ีก าหนด
ภายใน 30 วนั หลงั จากการจดั การเรียนการสอนและส่งผลการเรียนการสอนเสร็จส้ิน จากน้นั จึง
เสนอต่ออาจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลกั สูตร เพ่ือพิจารณาความสอดคลอ้ งตามรายละเอียด หลกั สูตร
และรายงานต่อวทิ ยาลยั เพื่อส่งรายงานใหแ้ ก่อาชีวศึกษาบณั ฑิต
2.3.4 การจดั ทารายงานผลการดาเนินการของหลกั สูตร ใหอ้ าจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลกั สูตร
จดั ทารายงานผลการดาเนินการของหลกั สูตร ภายหลงั จากไดร้ ับรายงานผลการดาเนินการของ
รายวชิ าในสถานศึกษาและรายงานผลการดาเนินการ ของรายวชิ าในสถานประกอบการ จาก
อาจารยผ์ สู้ อนรายวชิ า หลงั จากสิ้นปี การศึกษาแสดงข้นั ตอนการจดั ทารายงานผลการดาเนินการ
ของหลกั สูตร โดย อาจารยผ์ รู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรตอ้ งรวบรวมรายงานผลการดาเนินการของ
รายวิชาในสถานศึกษา รายงานผลการดาเนินการในสถานประกอบการ ภายใน 60 วนั หลงั ส้ินปี
การศึกษาเพื่อร่วมกนั จดั ทารายงาน โดยมีครูฝึกในสถานประกอบการร่วมจดั ทาและเสนอตอ่
สถานศึกษาเพ่ือรายงานใหแ้ ก่อาชีวศึกษาบณั ฑิตเสนอต่อคณะอนุกรรมการวิชาการสถาบนั เพื่อ
พิจารณาและรายงานเขา้ ระบบการ ประกนั คุณภาพหลกั สูตรต่อไป
2.3.5 การนิเทศการเรียนการสอนระดบั สาขาวิชา การนิเทศการเรียนการสอน เป็นการ
ดูแลการจดั การเรียนการสอน เพื่อใหค้ าแนะนาคาปรึกษา แกป้ ัญหา เพอื่ ส่งเสริมใหก้ ารจดั การ
จดั การเรียนการสอน มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากข้ึนใหส้ าขาวิชาดาเนินการข้นั ตอนนิเทศ
การเรียนการสอนระดบั สาขาวชิ า ใหส้ าขาวิชาร่วมกบั อาชีวศึกษาบณั ฑิต จดั ทาคูม่ ือนิเทศการ
เรียนการสอน แตง่ ต้งั คณะกรรมการนิเทศการเรียนการสอน ประชุมช้ีแจงรายละเอียดการนิเทศ
ใหก้ บั คณะกรรมการนิเทศการเรียนการสอนถึงข้นั ตอนและวธิ ีการตามคู่มือวางแผน ดาเนินการ
พร้อมใหค้ าแนะนาแก่ผรู้ บั การนิเทศ สรุปรายงานผล เสนอรายงานต่อ สถาบนั
2.4 กระบวนการจดั ทาโครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพ
โครงการพฒั นาทกั ษะวิชาชีพเป็นรายวชิ าที่เปิ ดโอกาสใหผ้ เู้ รียนไดศ้ ึกษาคน้ ความบูรณา
การ ความรู้ทกั ษะ และประสบการณ์จากส่ิงที่ไดเ้ รียนรู้ลงมือปฏิบตั ิดว้ ยตนเอง ตามความถนดั
และความ สนใจ ซ่ึงอาจทาเป็นรายบคุ คลหรือรายกล่มุ ก็ไดท้ ้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั ลกั ษณะของโครงการ
น้นั ๆ โดยการ จดั ทาโครงการดงั กลา่ วมีกระบวนการข้นั ตอนแสดงข้นั ตอนการจดั โครงการ
พฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ ใหอ้ าชีวศึกษา บณั ฑิตจดั ทาคู่มือรายวิชาโครงการพฒั นาทกั ษะวชิ าชีพ
(คู่มือผสู้ อน, คู่มือผเู้ รียน) ผรู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรประชุมอาจารย(์ ผรู้ ับผิดชอบ ร่วมสอน) สอบ
โครงการ ประเมินผลโครงการ และใหผ้ เู้ รียน จดั ทารูปเล่มรายงานฉบบั สมบูรณ์จากน้นั เสนอ
อาชีวศึกษาบณั ฑิตเพื่อนาผลงานเผยแพร่
2.5 การจัดกจิ กรรมเสริมหลกั สูตร
กิจกรรมนอกเหนือจากการเรียนการสอนในช้นั เรียนซ่ึงสถาบนั และสาขาวิชาดาเนินการ
ข้ึน เพื่อเสริมสร้างทกั ษะ ประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถผา่ นการทากิจกรรมตา่ ง ๆ ที่
ครอบคลมุ การพฒั นาดา้ นวิชาการและวิชาชีพ การบาเพญ็ ประโยชน์ การรักษาสิ่งแวดลอ้ ม
ศิลปะวฒั นธรรม คุณธรรม จริยธรรม ตลอดจนกีฬาและนนั ทนาการ เพ่อื ส่งเสริมใหน้ กั ศึกษาเป็น
บณั ฑิตท่ีมีคุณลกั ษณะ ท่ีพงึ ประสงคแ์ ละเสริมสร้างความเป็นคนเก่ง คนดีแก่นกั ศึกษาให้
ดาเนินการแสดงข้นั ตอนการในการจดั กิจกรรมเสริมหลกั สูตร ใหส้ ถาบนั จดั ทา แผนปฏิบตั ิงาน
ของสถาบนั แลว้ แจง้ ผรู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตร เพ่ือขออนุญาตดาเนินงานตามแผนงานให้ ผเู้ รียนได้
เขา้ ร่วมกิจกรรมครบตามเกณฑท์ ่ีสถาบนั กาหนด และสรุปผลการดาเนินตามโครงการเพ่ือ
รายงานต่อสถาบนั
2.6 การประเมนิ มาตรฐานวชิ าชีพ
การประเมินมาตรฐานวชิ าชีพ เพอื่ กาหนดคุณภาพของผสู้ าเร็จการศึกษาระดบั ปริญญาตรี
สายเทคโนโลยหี รือสายปฏิบตั ิการ ตอ้ งประเมินใหค้ รอบคลุมอยา่ งนอ้ ย 4 ดา้ น ตามประกาศ
คณะกรรมการการอาชีวศึกษา เรื่อง เกณฑม์ าตรฐานคุณวฒุ ิอาชีวศึกษาระดบั ปริญญาตรีสาย
เทคโนโลยหี รือสายปฏิบตั ิการ11 พ.ศ. 2562 โดยใหด้ าเนินการแสดงข้นั ตอนการประเมิน
มาตรฐานวชิ าชีพใหส้ าขาวิชาจดั ทาบญั ชี รายช่ือ ผเู้ ขา้ รับการประเมิน จากน้นั แต่งต้งั
คณะกรรมการดาเนินการประเมินมาตรฐานวชิ าชีพประกอบดว้ ย กาหนดสถานที่และเคร่ืองมือท่ี
ใชใ้ นการประเมินมาตรฐานวชิ าชีพ ดาเนินการประเมิน และประกาศผลการประเมินมาตรฐาน
วิชาชีพ เพ่ือออกใบรับรองแก่ผผู้ า่ นการประเมินมาตรฐาน วิชาชีพ ตามลาดบั
การประกนั คุณภาพหลกั สูตร
สถาบนั ตอ้ งวางระบบการประกนั คุณภาพการศึกษาภายในของตนเอง ใหเ้ หมาะสมกบั
พนั ธกิจ และบริบทของสถาบนั โดยพิจารณาจากรายละเอียดของหลกั สูตร หมวด 7 การประกนั
คุณภาพหลกั สูตร หลกั เกณฑแ์ ละแนวปฏิบตั ิเกี่ยวกบั การประกนั คุณภาพภายในการอาชีวศึกษา
ระดบั ปริญญา พ.ศ. 2558 เกณฑม์ าตรฐานการอุดมศึกษาและที่เก่ียวขอ้ ง เพอ่ื ใหเ้ ป็นไปตาม
เกณฑท์ ี่กาหนด และม่งุ สู่เป้าหมาย จุดเนน้ จุดเด่น หรือเอกลกั ษณ์ของสถาบนั การประกนั
คุณภาพประกอบดว้ ย การ ควบคุม การตรวจสอบ และการประเมินผล เพือ่ น าขอ้ มลู ไปปรับปรุง
พฒั นาคุณภาพอยา่ งตอ่ เนื่องและ ยง่ั ยนื สถาบนั จะตอ้ งกาหนดมาตรฐานอาชีวศึกษา จดั ทา
แผนพฒั นาคุณภาพการศึกษา จดั ทา แผนปฏิบตั ิการประจาปี และการรายงานผลการประเมิน
ตนเอง (SAR) และการประกนั คุณภาพภายใน สถานศึกษาระดบั ปริญญาตรีโดยกาหนด
รายละเอียดใหค้ รอบคลุมตามตวั บ่งช้ีคุณภาพของการประกนั คุณภาพหลกั สูตรมีกลไกการ
ดาเนินงานที่ชดั เจน ประกอบดว้ ย การพฒั นาคุณภาพ การตรวจสอบ ติดตามคุณภาพ และการ
ประเมินคุณภาพ โดยผรู้ ับผิดชอบหลกั สูตร ผบู้ ริหารสถาบนั ผเู้ กี่ยวขอ้ งและ ผมู้ ีส่วนไดส้ ่วนเสีย
เมื่อครบหน่ึงปี การศึกษา การประกนั คุณภาพหลกั สูตร ระดบั ปริญญาตรีใหอ้ าชีวศึกษาบณั ฑิต
และอาจารย์ ผรู้ ับผดิ ชอบหลกั สูตรดาเนินการดงั ตอ่ ไปน้ี
1. สร้างคูม่ ือและเคร่ืองมือเก็บรวบรวมขอ้ มูล
2. ตรวจสอบติดตามคุณภาพ
3. จดั ทารายงานการประเมินตนเองระดบั หลกั สูตร
4. ประเมินคุณภาพการศึกษาระดบั หลกั สูตร โดยมีรายละเอียดในการดาเนินการ
ดงั น้ี
3.1 การสร้างคู่มือและเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูล
การสร้างคู่มือและเครื่องมือเก็บรวบรวมขอ้ มูล ใหอ้ าจารยผ์ รู้ ับผิดชอบหลกั สูตร
ดาเนินการแสดงข้นั ตอนการสร้างคูม่ ือและเครื่องมือเก็บรวบรวมขอ้ มลู โดย อาจารยผ์ รู้ ับผดิ ชอบ
หลกั สูตรศึกษากรอบการประกนั คุณภาพการศึกษาระดบั หลกั สูตร หมวด 7 ขอ้ ท่ี 7 โดย
ครอบคลุมตามองคป์ ระกอบ ตวั บง่ ช้ีและเกณฑก์ ารประกนั คุณภาพท้งั 6 ดา้ น ประกอบดว้ ย
1) การกากบั มาตรฐาน
2) บณั ฑิต
3) นกั ศึกษา
4) อาจารย์
5) หลกั สูตร การเรียนการสอน การ ประเมินผเู้ รียน
6) สิ่งสนบั สนุนการเรียนรู้จากน้นั จึงกาหนดแผนการพฒั นาคุณภาพการศึกษา จดั ทาคู่มือ
และเคร่ืองมือดาเนินการ
3.2 การตรวจสอบติดตามคณุ ภาพ
การตรวจสอบติดตามคุณภาพ ใหส้ าขาวิชาดาเนินการตรวจสอบ ติดตาม และเก็บ
รวบรวมขอ้ มลู แสดงข้นั ตอนการตรวจสอบติดตามคุณภาพ ใหส้ าขาวิชาดาเนินการ แตง่ ต้งั
คณะกรรมการติดตามคุณภาพหลกั สูตร จดั ทาแผนปฏิบตั ิการตรวจสอบติดตามคุณภาพ และ เก็บ
รวบรวมขอ้ มลู ตามตวั บ่งช้ี
3.3 การจดั ทารายงานการประเมินตนเองระดับหลกั สูตร
การจดั ทารายงานการประเมินตนเองระดบั หลกั สูตรใหส้ าขาวชิ าดาเนินการประเมิน
คุณภาพหลกั สูตรแสดงข้นั ตอนการจดั ทารายงานการประเมินตนเองระดบั หลกั สูตร ให้
สาขาวชิ าดาเนินการแตง่ ต้งั คณะกรรมการประเมินคุณภาพระดบั หลกั สูตร วเิ คราะหข์ อ้ มลู ของ
องคป์ ระกอบต่าง ๆ ประเมินคุณภาพการศึกษาระดบั หลกั สูตร และจดั ทารายงานการประเมิน
ตนเอง ระดบั หลกั สูตร
3.4 การประเมนิ คณุ ภาพการศึกษาระดบั หลกั สูตร
การประเมินคุณภาพการศึกษาระดบั หลกั สูตร ใหอ้ าชีวศึกษาบณั ฑิตดาเนินการแสดง
ข้นั ตอนการประเมินคุณภาพการศึกษาระดบั หลกั สูตร ใหอ้ าชีวศึกษา บณั ฑิตดาเนินการแต่งต้งั
คณะกรรมการประเมินคุณภาพการศึกษาระดบั หลกั สูตร จดั ทาแผนการ ประเมินคุณภาพ
การศึกษาระดบั หลกั สูตร ประเมินคุณภาพการศึกษาระดบั หลกั สูตร และรายงานผล การประเมิน
คุณภาพหลกั สูตรต่อสภาสถาบนั และ สกอ.
1.4 หลกั สูตรอดุ มศึกษา (ภายใตก้ รอบมาตรฐานคุณวฒุ ิ
อุดมศึกษา)
ประเภทหรือกลุ่มสถาบนั อดุ มศึกษา กลุม่ สถาบนั ที่กาหนดตามมาตรฐานสถาบนั อดุ มศึกษา
แบ่งเป็น 4 กลุม่ ดงั น้ี
กล่มุ ก วทิ ยาลยั ชุมชน
หมายความถึง สถาบนั ท่ีเนน้ การผลิตบณั ฑิตระดบั ต่ากวา่ ปริญญาตรี จดั ฝึกอบรม สนองตอบ
ความตอ้ งการของทอ้ งถิ่น เพื่อเตรียมกาลงั คนที่มีความรู้เขา้ สู่ภาคการผลิตจริง ในชุมชน สถาบนั
สนบั สนุนรองรับการเปล่ียนอาชีพพ้นื ฐาน เช่น แรงงานท่ีออกจากภาคเกษตร เป็นแหลง่ เรียนรู้ที่
ส่งเสริมใหป้ ระชาชนไดม้ ีโอกาสเรียนรู้ตลอดชีวิตอนั จะนาไปสู่ความ เขม้ แขง็ ของชุมชนและ
การพฒั นาที่ยง่ั ยนื
กล่มุ ข สถาบันที่เน้นระดบั ปริญญาตรี
หมายความถึง สถาบนั ท่ีเนน้ การผลิตบณั ฑิตระดบั ปริญญาตรี เพ่อื ใหไ้ ดบ้ ณั ฑิตท่ีมี ความรู้
ความสามารถเป็นหลกั ในการขบั เคลื่อนการพฒั นาและการเปล่ียนแปลงในระดบั ภมู ิภาค
สถาบนั มีบทบาทในการสร้างความเขม้ แขง็ ใหก้ บั หน่วยงาน ธุรกิจและบุคคล ในภมู ิภาคเพ่ือ
รองรับการดารงชีพ สถาบนั อาจมีการจดั การเรียนการสอนในระดบั บณั ฑิตศึกษา โดยเฉพาะ
ระดบั ปริญญาโทดว้ ยกไ็ ด้
กล่มุ ค สถาบันเฉพาะทาง
หมายความถึง สถาบนั ท่ีเนน้ การผลิตบณั ฑิตเฉพาะทางหรือเฉพาะกล่มุ สาขาวชิ า ท้งั สาขาวชิ า
ทางวทิ ยาศาสตร์กายภาพ วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ สังคมศาสตร์หรือมนุษยศาสตร์ รวมท้งั สาขา
วิชาชีพเฉพาะทาง สถาบนั อาจเนน้ การทาวิทยานิพนธ์หรือการวจิ ยั หรือเนน้ การผลิตบณั ฑิตท่ีมี
ความรู้ ความสามารถ ทกั ษะและสมรรถนะในการประกอบ อาชีพระดบั สูง หรือเนน้ ท้งั สองดา้ น
รวมท้งั สถาบนั อาจมีบทบาทในการพฒั นาภาคการผลิตจริง ท้งั อตุ สาหกรรมและบริการ สถาบนั
ในกลมุ่ น้ีอาจจาแนกไดเ้ ป็น 2 ลกั ษณะ
ลกั ษณะที่ 1 เป็นสถาบนั ท่ีเนน้ ระดบั บณั ฑิตศึกษา
ลกั ษณะท่ี 2 เป็นสถาบนั ท่ีเนน้ ระดบั ปริญญาตรี
กล่มุ ง สถาบันทเี่ น้นการวิจัยข้ันสูงและผลติ บณั ฑติ ระดับบัณฑติ ศึกษา โดยเฉพาะ ระดบั ปริญญา
เอก
หมายความถึง สถาบนั ท่ีเนน้ การผลิตบณั ฑิตระดบั บณั ฑิตศึกษาโดยเฉพาะระดบั ปริญญาเอก
และเนน้ การทาวทิ ยานิพนธแ์ ละการวิจยั รวมถึงการวิจยั หลงั ปริญญาเอก สถาบนั เนน้ การผลิต
บณั ฑิตท่ีเป็นผนู้ าทางความคิดของประเทศ สถาบนั มีศกั ยภาพ ในการขบั เคลื่อนอุดมศึกษาไทย
ใหอ้ ยใู่ นแนวหนา้ ระดบั สากล มงุ่ สร้างองคค์ วามรู้ ทฤษฎี และขอ้ คน้ พบใหม่ทางวชิ าการ
สาระสาคญั ของกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ิระดบั อดุ มศึกษาแห่งชาติ
โลกยคุ ปัจจุบนั มีความสะดวกรวดเร็วในการเดินทางและการติดตอ่ สื่อสารเป็ นอยา่ งมาก
ในดา้ น การศึกษา เกิดการเคลื่อนยา้ ยของนกั ศึกษา ครู อาจารยแ์ ละบคุ ลากรเพ่ือแลกเปลี่ยนเรียนรู้
จากตา่ ง สถาบนั อดุ มศึกษาท้งั ในและต่างประเทศ นอกจากน้ีผทู้ ี่ทางานและตอ้ งการศึกษาเพ่มิ เติม
เพ่ือพฒั นา ศกั ยภาพการทางานมีจานวนมากข้ึน จึงจาเป็นตอ้ งพฒั นาระบบการจดั การศึกษาเพ่ือ
รองรับการ เปลี่ยนแปลงดงั กล่าว คือ การปรับปรุงระบบการศึกษาเพอื่ ส่งเสริมการศึกษาตลอด
ชีวติ และพฒั นาคุณภาพ มาตรฐานการจดั การศึกษาใหม้ ีความใกลเ้ คียงกนั กบั สถาบนั อดุ มศึกษาท่ี
ดีอื่นๆ เพอ่ื ใหเ้ กิดความสะดวกแก่ การเคลื่อนยา้ ยของนกั ศึกษาและการเทียบโอนหน่วยกิต และ
นบั ต้งั แต่การประชุมรัฐมนตรีวา่ การกระทรวง ศึกษาของประเทศตา่ งๆ ในทวปี ยโุ รปที่เมือง
Bologna ประเทศอิตาลีเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๒ จนเกิดขอ้ ตกลง Bologna Process ประเทศตา่ งๆ ใน
ทวปี ยโุ รปจึงปรับเปล่ียน ระบบการจดั การศึกษา ท่ีมุ่งเนน้ มาตรฐานผล การเรียนรู้ของบณั ฑิต
(Learning Outcomes) ในแตล่ ะคุณวฒุ ิ และขยายผลการดาเนินการไปตามประเทศ ต่างๆ ทว่ั โลก
สาหรับประเทศไทย การประกาศใชพ้ ระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. ๒๕๔๒ และท่ีแกไ้ ข
เพม่ิ เติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ส่งผลกระทบใหเ้ กิดการปฏิรูปการศึกษาทุกระดบั มีการ
เนน้ หนกั ให้ ปรับปรุงหลกั สูตรและปรับเปลี่ยนวิธีการสอนเพ่อื พฒั นานกั ศึกษาใหค้ ิดเป็น แก่
ปัญหาเป็นและเห็นคุณคา่ ของวฒั นธรรมไทย มีการยกระดบั ของสถาบนั ราชภฏั และสถาบนั
เทคโนโลยี ราชมงคลข้ึนเป็น มหาวิทยาลยั การเปิ ดดาเนินการของวิทยาลยั ชุมชน และใหอ้ ิสระ
ในการดาเนินการแก่สถาบนั อุดมศึกษา เอกชนมากข้ึน การเปล่ียนแปลงเหล่าน้ีทาให้
สถาบนั อดุ มศึกษามีความหลากหลาย มีการขยายตวั เพ่ือให้ ประชาชนมีโอกาสเขา้ เรียนใน
ระดบั อุดมศึกษากนั ไดอ้ ยา่ งทวั่ ถึง ท่ามกลางส่ิงต่าง ๆ ท่ีเกิดข้ึนเหล่าน้ี ก่อใหเ้ กิดปัญหาตามมา
กลา่ วคือ จะทาอยา่ งไรให้สังคมเชื่อมนั่ ไดว้ า่ คุณวฒุ ิที่บณั ฑิตไดร้ ับจาก สถาบนั อุดมศึกษาทุกแห่ง
มีคุณภาพและมาตรฐานท่ีสามารถเทียบเคียงกนั ได้ สานกั งานคณะกรรมการการอดุ มศึกษาใน
ฐานะที่เป็นหน่วยงานกากบั และส่งเสริมการดาเนินการของ สถาบนั อุดมศึกษาจึงไดด้ าเนินการ
โครงการจดั ทากรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั อดุ มศึกษา ของประเทศไทย (Thai Qualifications
Framework for Higher Education; TQF:HEd) เพ่อื เป็นเคร่ืองมือในการนานโยบายที่ ปรากฏใน
พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติเก่ียวกบั มาตรฐานการศึกษาของชาติในส่วนของมาตรฐานการ
อดุ มศึกษาไปสู่การปฏิบตั ิในสถาบนั อุดมศึกษาอยา่ งเป็นรูปธรรม กรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิ
ระดบั อุดมศึกษา มงุ่ เนน้ เป้าหมายการจดั การศึกษาที่ผลการเรียนรู้ (Learning Outcomes) ของ
นกั ศึกษา ซ่ึงเป็นการประกนั คุณภาพบณั ฑิตท่ีไดร้ ับคุณวฒุ ิแตล่ ะคุณวฒุ ิและสื่อสารใหส้ ังคม
ชุมชน รวมท้งั สถาบนั อุดมศึกษาท้งั ในและ ต่างประเทศเขา้ ใจไดต้ รงกนั และเชื่อมนั่ ถึงผลการ
เรียนรู้ท่ีบณั ฑิตไดร้ ับการพฒั นาวา่ มีมาตรฐานที่สามารถ เทียบเคียงกนั ไดก้ บั สถาบนั อดุ มศึกษาท่ี
ดีท้งั ในและต่างประเทศ
1. ความหมายของกรอบมาตรฐานคุณวฒุ ริ ะดบั อดุ มศึกษาแห่งชาติ กรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิ
ระดบั อดุ มศึกษาแห่งชาติ (Thai Qualifications Framework for Higher Education: TQF : HEd)
หมายถึง กรอบท่ีแสดงระบบคุณวฒุ ิการศึกษาระดบั อุดมศึกษาของประเทศ ซ่ึง ประกอบดว้ ย
ระดบั คุณวฒุ ิการแบ่งสายวชิ า ความเช่ือมโยงตอ่ เน่ืองจากคุณวฒุ ิระดบั หน่ึงไปสู่ระดบั ที่ สูงข้ึน
มาตรฐานผลการเรียนรู้ของแต่ละระดบั คุณวฒุ ิซ่ึงเพิม่ สูงข้ึนตามระดบั ของคุณวฒุ ิลกั ษณะของ
หลกั สูตรในแตล่ ะระดบั คุณวฒุ ิปริมาณการเรียนรู้ที่สอดคลอ้ งกบั เวลาที่ตอ้ งใชก้ ารเปิ ดโอกาสให้
เทียบโอนผล การเรียนรู้จากประสบการณ์ซ่ึงเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวติ รวมท้งั ระบบ
และกลไกท่ีใหค้ วามมนั่ ใจ ในประสิทธิผลการดาเนินงานตามกรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิ
ระดบั อุดมศึกษาแห่งชาติของสถาบนั อดุ มศึกษาวา่ สามารถผลิตบณั ฑิตใหบ้ รรลคุ ุณภาพตาม
มาตรฐานผลการเรียนรู้
2. หลกั การสาคญั ของกรอบมาตรฐานคุณวุฒริ ะดับอุดมศึกษาแห่งชาติ
2.1 ยดึ หลกั ความสอดคลอ้ งกบั พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2542 และที่แกไ้ ข
เพิ่มเติม (ฉบบั ท่ี 2) พ.ศ.2545 ตลอดจนมาตรฐานการศึกษาของชาติและมาตรฐานการอดุ มศึกษา
โดยมุง่ ใหก้ รอบมาตรฐานคุณวฒุ ิเป็นเคร่ืองมือในการนาแนวนโยบายในการพฒั นาคุณภาพและ
มาตรฐานการจดั การศึกษาตามที่กาหนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ มาตรฐาน
การศึกษา ของชาติและมาตรฐานการอุดมศึกษาไปสู่การปฏิบตั ิในสถาบนั อดุ มศึกษาไดอ้ ยา่ งเป็น
รูปธรรม เพราะ กรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั อุดมศึกษามีแนวทางที่ชดั เจนในการพฒั นา
หลกั สูตร การปรับเปล่ียนกลวิธี การสอนของอาจารยก์ ารเรียนรู้ของนกั ศึกษา ตลอดจนการวดั
และประเมินผลการเรียนรู้เพอื่ ใหม้ น่ั ใจวา่ บณั ฑิตจะบรรลุมาตรฐานผลการเรียนรู้ตามท่ีมุ่งหวงั
ไดจ้ ริง
2.2 มงุ่ เนน้ ท่ีมาตรฐานผลการเรียนรู้ของบณั ฑิต (Learning Outcomes) ซ่ึงเป็นมาตรฐาน
ข้นั ต่า เชิงคุณภาพ เพือ่ ประกนั คุณภาพบณั ฑิตและส่ือสารใหห้ น่วยงานและผทู้ ี่เก่ียวขอ้ งไดเ้ ขา้ ใจ
และมน่ั ใจถึง กระบวนการผลิตบณั ฑิต โดยเร่ิมท่ีผลผลิตและผลลพั ธข์ องการจดั การศึกษา คือ
กาหนดมาตรฐานผลการ เรียนรู้ของบณั ฑิตที่คาดหวงั ไวก้ ่อน หลงั จากน้นั จึงพจิ ารณาถึง
องคป์ ระกอบอื่นๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งใน กระบวนการจดั การเรียนการสอนที่จะส่งเสริมใหบ้ ณั ฑิตบรรลุ
ถึงมาตรฐานผลการเรียนรู้น้นั อยา่ งสอดคลอ้ ง และส่งเสริมกนั อยา่ งเป็นระบบ
2.3 มุง่ ที่จะประมวลกฎเกณฑแ์ ละประกาศต่างๆ ท่ีไดด้ าเนินการไวแ้ ลว้ เขา้ ดว้ ยกนั และ
เชื่อมโยง เป็นเร่ืองเดียวกนั ซ่ึงจะสามารถอธิบายใหผ้ เู้ กี่ยวขอ้ งไดเ้ ขา้ ใจอยา่ งชดั เจนเกี่ยวกบั
ความหมายและ ความมีมาตรฐานในการจดั การศึกษาของคุณวฒุ ิหรือปริญญาในระดบั ต่างๆ
2.4 มงุ่ ใหค้ ุณวฒุ ิหรือปริญญาของสถาบนั อุดมศึกษาใดๆ ของประเทศไทยเป็นที่ยอมรับ
และ เทียบเคียงกนั ไดก้ บั สถาบนั อดุ มศึกษาท่ีดีท้งั ในและตา่ งประเทศ เนื่องจากกรอบมาตรฐาน
คุณวฒุ ิ ระดบั อดุ มศึกษาจะช่วยกาหนดความมีมาตรฐานในการจดั การศึกษาในทกุ ข้นั ตอนอยา่ ง
เป็นระบบ โดยเปิ ด โอกาสใหส้ ถาบนั อดุ มศึกษาสามารถจดั หลกั สูตร ตลอดจนกระบวนการเรียน
การสอนไดอ้ ยา่ งหลากหลาย โดยมนั่ ใจถึงผลผลิตสุดทา้ ยของการจดั การศึกษา คือ คุณภาพของ
บณั ฑิตซ่ึงจะมีมาตรฐานผลการเรียนรู้ ตามท่ีมงุ่ หวงั สามารถประกอบอาชีพไดอ้ ยา่ งมีความสุข
และภาคภมู ิใจ เป็นที่พึงพอใจของผใู้ ชบ้ ณั ฑิต และ เป็นคนดีของสงั คม ช่วยเพ่มิ ความเขม้ แขง็
และขีดความสามารถในการพฒั นาประเทศไทย
3. วัตถุประสงค์ของการจัดทากรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ริ ะดับอุดมศึกษาแห่งชาติ
3.1 เพ่ือเป็นกลไกหรือเคร่ืองมือในการนาแนวนโยบายการพฒั นาคุณภาพและมาตรฐาน
การศึกษา ตามท่ี กาหนดไวใ้ นพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติพ.ศ. 2542 และท่ีแกไ้ ขเพ่มิ เติม
(ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2545 เก่ียวกบั มาตรฐานการศึกษาของชาติและมาตรฐานการอุดมศึกษาไปสู่การ
ปฏิบตั ิไดอ้ ยา่ งเป็นรูปธรรม ดว้ ยการ นาไปเป็นหลกั ในการพฒั นาหลกั สูตร กระบวนการเรียน
การสอน และการประเมินผลการเรียนรู้ของนกั ศึกษา
3.2 เพอื่ กาหนดเป้าหมายในการผลิตบณั ฑิตใหช้ ดั เจนโดยกาหนดมาตรฐานผลการเรียนรู้
ของ บณั ฑิตท่ีคาดหวงั ในแตล่ ะคุณวฒุ ิ/ปริญญาของสาขา/สาขาวชิ าต่างๆ และเพ่อื ให้
สถาบนั อดุ มศึกษาและ ผทู้ รงคุณวฒุ ิ/ผเู้ ช่ียวชาญในสาขา/สาขาวิชาไดใ้ ชเ้ ป็นหลกั และเป็น
แนวทางในการวางแผน ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงและพฒั นาการจดั การศึกษา เช่น การพฒั นา
หลกั สูตร การปรับเปล่ียนกลวธิ ีการสอน วิธีการ เรียนรู้ตลอดจนกระบวนการวดั และการ
ประเมินผลนกั ศึกษา
3.3 เพื่อเชื่อมโยงระดบั ตา่ งๆของคุณวฒุ ิในระดบั อดุ มศึกษาใหเ้ ป็นระบบ เพอ่ื บุคคลจะได้
มีโอกาส เพิม่ พูนความรู้ไดอ้ ยา่ งต่อเน่ืองและหลากหลายตามหลกั การศึกษาตลอดชีวติ มีความ
ชดั เจนและโปร่งใส สามารถเทียบเคียงกบั มาตรฐานคุณวฒุ ิในระดบั ตา่ งๆ กบั นานาประเทศได้
3.4 เพ่อื ช่วยใหเ้ กิดวฒั นธรรมคุณภาพในสถาบนั อดุ มศึกษาและเป็นกลไกในการประกนั
คุณภาพ ภายในของสถาบนั อุดมศึกษาทุกแห่ง และใชเ้ ป็นกรอบอา้ งอิงสาหรับผปู้ ระเมินของการ
ประกนั คุณภาพ ภายนอกเก่ียวกบั คุณภาพบณั ฑิต และการจดั การเรียนการสอน
3.5เพื่อเป็นกรอบของการสื่อสารท่ีมีประสิทธิภาพในการสร้างความเขา้ ใจและความ
มนั่ ใจในกล่มุ ผทู้ ่ีเก่ียวขอ้ ง อาทินกั ศึกษา ผปู้ กครอง ผปู้ ระกอบการ ชุมชน สงั คมและสถาบนั อื่นๆ
ทงั้ ในและต่างประเทศ เกี่ยวกบั ความหมายของคุณวฒุ ิคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ
ทกั ษะและสมรรถนะในการทางานรวมท้งั คุณลกั ษณะอ่ืนๆ ที่คาดวา่ บณั ฑิตจะพึงมี
3.6 เพื่อประโยชนใ์ นการเทียบเคียงมาตรฐานคุณวฒุ ิระหวา่ งสถาบนั อดุ มศึกษา ท้งั ใน
และ ต่างประเทศในการยา้ ยโอนนกั ศึกษาระหวา่ งสถาบนั อดุ มศึกษา การลงทะเบียนขา้ มสถาบนั
และการรับรอง คุณวฒุ ิผสู้ าเร็จการศึกษาท้งั ในและต่างประเทศ
3.7 เพอ่ื ใหม้ ีการกากบั ดูแลคุณภาพการผลิตบณั ฑิตกนั เองของแต่ละสาขา/สาขาวชิ า
3.8 เพอ่ื นาไปสู่การลดข้นั ตอน/ระเบียบ (Deregulation) การดาเนินการใหก้ บั สถาบนั
อดุ มศึกษาท่ีมีความเขม้ แขง็
4. โครงสร้างและองค์ประกอบของกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ ริ ะดบั อุดมศึกษาแห่งชาติ
4.1 ระดบั คุณวฒุ ิ (Levels of Qualifications) ระดบั ของคุณวฒุ ิแสดงถึงการเพม่ิ ข้ึนของ
ระดบั สติปัญญาที่ตอ้ งการ และความซบั ซ่อนของ การเรียนรู้ท่ีคาดหวงั นอกจากน้ีกรอบ
มาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั อุดมศึกษาแห่งชาติยงั กาหนดคุณลกั ษณะของ นกั ศึกษาระดบั แรกเขา้
หลงั จากสาเร็จการศึกษาข้นั พ้นื ฐานดว้ ย เพราะเป็นพ้นื ฐานความรู้ความสามารถท่ีสาคญั ใน
การศึกษาตอ่ ในระดบั อุดมศึกษา
คุณวฒุ ิระดบั อุดมศึกษาเริ่มตน้ ท่ีระดบั ที่ 1 อนุปริญญา (3 ปี ) และสิ้นสุดท่ีระดบั ท่ี 6
ปริญญาเอก ดงั น้ี
ระดบั ที่ 1 อนุปริญญา (3 ปี )
ระดบั ท่ี 2 ปริญญาตรี
ระดบั ท่ี 3 ประกาศนียบตั รบณั ฑิต
ระดบั ที่ 4 ปริญญาโท
ระดบั ท่ี 5 ประกาศนียบตั รบณั ฑิตช้นั สูง
ระดบั ท่ี 6 ปริญญาเอก
บณั ฑิตท่ีสาเร็จการศึกษาในระดบั ใดระดบั หน่ึงสามารถเขา้ ศึกษาตอ่ ในระดบั ที่สูงข้ึน แต่
ท้งั น้ีข้ึนอยกู่ บั หลกั เกณฑก์ ารเขา้ ศึกษาต่อของแต่ละสถาบนั อดุ มศึกษาซ่ึงอาจข้ึนอยกู่ บั คะแนน
เฉล่ียสะสมหรือเง่ือนไขอ่ืนเพ่อื ใหม้ นั่ ใจวา่ ผสู้ มคั รเขา้ ศึกษาตอ่ จะมีโอกาสประสบความสาเร็จ
ในการศึกษาระดบั ที่สูงข้ึนและซบั ซอ้ นยงิ่ ข้ึน
กรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิฯแบง่ สายวชิ าเป็น 2 สาย ไดแ้ ก่ สายวชิ าการ เนน้ ศาสตร์บริสุทธ์ิ
ทางดา้ นศิลปะศาสตร์หรือดา้ นวิทยาศาสตร์โดยมุ่งศึกษาสาระและวิธีการของศาสตร์สาขาวชิ า
น้นั ๆ เป็นหลกั ไมไ่ ดส้ มั พนั ธโ์ ดยตรงกบั การประกอบอาชีพ และสายวิชาชีพซ่ึงมุ่งเนน้ การศึกษา
ในลกั ษณะของศาสตร์เชิงประยกุ ตเ์ พื่อใหน้ กั ศึกษามีความรู้และทกั ษะระดบั สูงซ่ึงจาเป็นตอ่ การ
ประกอบอาชีพ และนาไปสู่การปฏิบตั ิตามมาตรฐานวชิ าชีพ
การเรียนในสายวิชาการควรจะพฒั นาความสามารถท่ีสาคญั ท้งั ในการทางานและการ
ดารงชีพในชีวิตประจาวนั ส่วนหลกั สูตรสายวิชาชีพควรเกี่ยวขอ้ งกบั ความเขา้ ใจ การวิจยั และ
ความรู้ทางทฤษฎีในสาขา/สาขาวชิ าและสาขา/สาขาวชิ าอ่ืนที่เก่ียวขอ้ งอยา่ งทว่ั ถึง และพฒั นา
ความสามารถในการคิดและการแกไ้ ขปัญหาที่เหมาะสมกบั ทกุ สถานการณ์อยา่ งไรกต็ าม
หลกั สูตรท้งั สองสายดงั กลา่ วมีจุดเนน้ ที่แตกต่างกนั ซ่ึงควรสะทอ้ นใหเ้ ห็นในรายละเอียดของ
เน้ือหาสาระสาคญั และในชื่อปริญญา ผสู้ าเร็จการศึกษาในสายวชิ าหน่ึงสามารถเปล่ียนไปศึกษา
ต่อระดบั สูงข้ึนในอีกสายวิชาหน่ึงไดซ้ ่ึงสถาบนั อุดมศึกษาอาจจะกาหนดเงื่อนไขบางประการ
ของการเขา้ ศึกษาไดเ้ พอ่ื ใหผ้ เู้ รียนมีพ้ืนฐานความรู้และทกั ษะที่จาเป็นเพยี งพอสาหรับการศึกษา
ตอ่ ในระดบั น้นั ๆ และบรรลุผลการเรียนรู้ตามท่ีหลกั สูตรน้นั ๆ คาดหวงั
4.2 การเรียนร้และมาตรฐานผลการเรียนรู้ตามกรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั อดุ มศึกษา
ของประเทศไทย การเรียนรู้หมายถึง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่นกั ศึกษาพฒั นาข้ึนในตนเอง
จาก ประสบการณ์ท่ีไดร้ ับระหวา่ งการศึกษา กรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิระดบั อดุ มศึกษาแห่งชาติ
กาหนดผลการ เรียนรู้ที่คาดหวงั ใหบ้ ณั ฑิตมีอยา่ งนอ้ ย 5 ดา้ น ดงั น้ี
(1) ด้านคุณธรรม จริยธรรม (Ethics and Moral) หมายถึง การพฒั นานิสัยในการ
ประพฤติอยา่ งมีคุณธรรม จริยธรรม และดว้ ยความรับผดิ ชอบท้งั ในส่วนตนและส่วนรวม ความ
สามารถใน การปรับวิถีชีวติ ในความขดั แยง้ ทางคา่ นิยม การพฒั นานิสยั และการปฏิบตั ิตนตาม
ศีลธรรม ท้งั ในเรื่อง ส่วนตวั และสงั คม
(2) ด้านความรู้ (Knowledge) หมายถึง ความสามารถในการเขา้ ใจ การนึกคิด และการ
นาเสนอขอ้ มลู การวิเคราะห์และจาแนกขอ้ เทจ็ จริงในหลกั การ ทฤษฎีตลอดจนกระบวนการ
ตา่ งๆ และ สามารถเรียนรู้ดว้ ยตนเองได้
(3) ด้านทักษะทางปัญญา (Cognitive Skills) หมายถึง ความสามารถในการวเิ คราะห์
สถานการณ์และใชค้ วามรู้ความเขา้ ใจในแนวคิด หลกั การ ทฤษฎีและกระบวนการต่างๆ ในการ
คิด วิเคราะหแ์ ละการแกป้ ัญหา เม่ือตอ้ งเผชิญกบั สถานการณ์ใหม่ๆ ท่ีไมไ่ ดค้ าดคิดมาก่อน
(4) ด้านทกั ษะความสัมพนั ธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ (Interpersonal Skills
and Responsibility) หมายถึง ความสามารถในการทางานเป็นกลุ่มการแสดงถึงภาวะผนู้ า ความ
รับผิดชอบตอ่ ตนเองและสงั คม ความสามารถในการวางแผนและรับผดิ ชอบ ในการเรียนรู้ของ
ตนเอง
(5) ด้านทกั ษะการวเิ คราะห์เชิงตัวเลข การส่ือสาร และการใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ
(Numerical Analysis, Communication and Information Technology Skills) หมายถึง
ความสามารถในการวเิ คราะห์เชิงตวั เลข ความสามารถในการใชเ้ ทคนิคทางคณิตศาสตร์และ
สถิติ ความสามารถในการส่ือสารท้งั การพูด การเขียน และการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ
นอกจากผลการเรียนรู้ท้งั 5 ดา้ นน้ีบางสาขาวชิ าตอ้ งการทกั ษะทางกายภาพสูง เช่น การ เตน้ รา
ดนตรีการวาดภาพ การแกะสลกั พลศึกษา การแพทยแ์ ละวทิ ยาศาสตร์การแพทยจ์ ึงตอ้ งเพม่ิ การ
เรียนรู้ทางดา้ นทกั ษะพิสัย (Domain of Psychomotor Skill) มาตรฐานผลการเรียนรู้คือ ขอ้ กาหนด
เฉพาะซ่ึงเป็นผลท่ีมงุ่ หวงั ใหผ้ เู้ รียนพฒั นาข้ึนจาก การเรียนรู้ท้งั 5 ดา้ นท่ีไดร้ บั การพฒั นาดงั กลา่ ว
และแสดงออกถึงความรู้ความเขา้ ใจและความสามารถจาก การเรียนรู้เหลา่ น้นั ไดอ้ ยา่ งเป็นท่ี
เชื่อถือเมื่อเรียนจบในรายวชิ าหรือหลกั สูตรน้นั แลว้ มาตรฐานผลการเรียนรู้ซ่ึงมีอยา่ งนอ้ ย 5 ดา้ น
ดงั กล่าวขา้ งตน้ เป็นมาตรฐานผลการ เรียนรู้ของบณั ฑิตทุกคนในทกุ ระดบั คุณวฒุ ิโดยแต่ละดา้ น
จะมีระดบั ความซบั ซอ้ นข้ึน เม่ือระดบั คุณวฒุ ิ สูงข้ึน ทกั ษะและความรู้จะเป็นการสะสมจาก
ระดบั คุณวฒุ ิที่ต่ากวา่ สู่ระดบั ท่ีสูงข้ึน ดงั น้นั มาตรฐานผล การเรียนรู้ของระดบั คุณวฒุ ิใดคุณวฒุ ิ
หน่ึงจะรวมมาตรฐานผลการเรียนรู้ในสาขา/สาขาวิชาเดียวกนั ของ ระดบั คุณวฒุ ที่ต่ากวา่ ดว้ ย
มาตรฐานผลการเรียนรู้ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ใชก้ บั นกั ศึกษาทกุ คน แมว้ า่ บาง สาขา/สาขาวชิ า
นกั ศึกษาจาเป็นตอ้ งพฒั นาเป็นการเฉพาะ เช่น จรรยาบรรณของแพทยน์ กั บญั ชีและนกั กฎหมาย
เป็ นตน้
มาตรฐานผลการเรียนรู้ดา้ นความรู้และดา้ นทกั ษะทางปัญญา จะเก่ียวขอ้ ง
โดยตรงกบั สาขา/สาขาวิชาท่ีเรียน ซ่ึงตอ้ งระบรายละเอียดของความรู้และทกั ษะของสาขา/
สาขาวิชาท่ีเหมาะสมกบั ระดบั คุณวฒุ ิไวใ้ นรายละเอียดของหลกั สูตร และรายละเอียดของ
รายวชิ ามาตรฐานผลการเรียนรู้ดา้ นทกั ษะความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง บุคคลและความ
รับผิดชอบมงุ่ หวงั ใหน้ กั ศึกษาทุกคนไม่วา่ จะเป็นระดบั คุณวฒุ ิและสาขา/สาขาวิชาใด ตอ้ งบรรลุ
มาตรฐานผลการเรียนรู้ดา้ นเหลา่ น้ี
มาตรฐานผลการเรียนรู้ดา้ นทกั ษะการวเิ คราะห์เชิงตวั เลข การสื่อสาร และการใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศ มุ่งหวงั ใหน้ กั ศึกษาทุกคนไม่วา่ จะเป็นระดบั คุณวฒุ ิสาขา/สาขาวชิ าใด
ตอ้ งบรรลุมาตรฐานผลการเรียนรู้ดา้ นน้ีแตส่ าหรับนกั ศึกษาท่ีเรียนในสาขา/สาขาวชิ าที่เก่ียวขอ้ ง
โดยตรงกบั มาตรฐานผลการเรียนรู้น้ีจะตอ้ งเนน้ ให้มีความชานาญมากกวา่ นกั ศึกษาสาขา/
สาขาวิชาอื่น ๆ เช่นนกั ศึกษาท่ีเรียนสาขาวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศ จะตอ้ งมีความชานาญและ
ทกั ษะตามมาตรฐานผลการเรียนรู้ดา้ นความรู้และดา้ นทกั ษะทางปัญญาเก่ียวกบั เทคโนโลยี
สารสนเทศ
4.3 มาตรฐานผลการเรียนรู้แตล่ ะดา้ นของแต่ละระดบั คุณวฒุ ิ
มาตรฐานผลการเรียนรู้ที่คาดหวงั ในระดบั แรกเขา้ (สาเร็จการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอน
ปลาย) กรอบมาตรฐานคุณวฒุ ิฯมีแนวคิดพ้นื ฐานวา่ นกั เรียนท่ีเขา้ เรียนในระดบั อดุ มศึกษาจะตอ้ ง
สาเร็จการศึกษาระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย หรือเทียบเท่าท่ีมีพ้นื ฐานความรู้และทกั ษะ เพียง
พอที่จะเขา้ ศึกษาต่อในระดบั อุดมศึกษาอยา่ งมีประสิทธิภาพ พ้ืนฐานในท่ีน้ีรวมถึงความรู้
ความสามารถในสาระการเรียนรู้ท้งั 8 กลุ่ม ตามท่ีไดก้ าหนดไวใ้ นมาตรฐานการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน
มีความสามารถในการคิดดอยา่ งสร้างสรรคแ์ ละประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้และทกั ษะทางปัญญาเหล่าน้นั
เขา้ กบั สาขา/สาขาวิชาท่ีจะเรียนในสถานการณ์ใหม่ ๆ ไดซ้ ่ึงนกั เรียนบางคนอาจมีพ้นื ความรู้และ
ทกั ษะที่จาเป็นสาหรับสาขาวิชาท่ีเขา้ เรียนไม่เพยี งพอตอ้ งเสริมความรู้พ้นื ฐานเพอื่ ใหม้ นั่ ใจวา่
นกั เรียนมีทกั ษะที่จาเป็นทางภาษา ทกั ษะทางการเรียน และพ้ืนฐานทาง วชิ าการเพียงพอที่จะ
ศึกษาต่อในระดบั อดุ ม ศึกษาไดส้ าเร็จ ผสู้ าเร็จการศึกษาระดบั
มธั ยมศึกษาตอนปลาย ควรจะตอ้ งมีมาตรฐานผลการเรียนรู้ในแต่ละดา้ น ดงั น้ี
(1) ด้านคุณธรรม จริยธรรม
มีความเขา้ ใจและซาบซ้ึงในคา่ นิยมของไทยและระบบของคุณธรรม จริยธรรมสามารถ
ปฏิบตั ิตนไดอ้ ยา่ งกลมกลืนกบั ความเชื่อและค่านิยมส่วนตวั ดว้ ยความรับผดิ ชอบต่อครอบครัว
ชุมชน และสังคมไทย มีความสามารถในการวิเคราะหป์ ระเดน็ ปัญหาซ่ึงเป็นความขดั แยง้ ทาง
คา่ นิยม สามารถสรุปผล
การโตแ้ ยง้ และยอมรับผดิ ชอบต่อการตดั สินใจท่ีไดท้ าลงไป
(2) ด้านความรู้
มีความเขา้ ใจอยา่ งครอบคลุมถึงความรู้และทกั ษะท่ีสาคญั ในกลมุ่ สาระการเรียนรู้ท้งั 8
กลุม่ ไดแ้ ก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม กลุ่มพฒั นา
บุคลิกภาพ (สุขศึกษาและพลานามยั ) ศิลปะดนตรีการงานอาชีพและเทคโนโลยแี ละ
ภาษาต่างประเทศ มีการเพ่ิมเติมองคค์ วามรู้ในกลุ่มสาระ/สาขาวชิ าท่ีเลือกเรียนเพอ่ื เตรียมความ
พร้อมในการศึกษาต่อในระดบั อาชีวศึกษาหรือในระดบั อดุ มศึกษา
(3) ด้านทักษะทางปัญญา
มีความเขา้ ใจในแนวคิด หลกั การและทฤษฎีที่สาคญั ในวชิ าท่ีศึกษา มีความสามารถ
ในการประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ความเขา้ ใจที่ลึกซ้ึงในการวิเคราะห์ขอ้ โตแ้ ยง้ และปัญหาใหม่ๆ ในวิชา
ต่างๆ ที่เรียนและในชีวติ ประจาวนั ตระหนกั ในประเด็นปัญหาสาคญั ที่เก่ียวขอ้ งกบั การพฒั นา
เศรษฐกิจและสังคมของประเทศและการมีปฏิสมั พนั ธก์ บั ประเทศอ่ืนๆ สามารถประยกุ ตค์ วาม
เขา้ ใจ อนั ถอ่ งแทจ้ ากการศึกษาเลา่ เรียนมาใชใ้ นการวเิ คราะห์ปัญหาเหล่าน้นั
(4) ด้านทกั ษะความสัมพนั ธ์ระหว่างบุคคลและความรับผดิ ชอบ
มีความรับผดิ ชอบในการเรียนและความประพฤติของตนเอง สามารถท่ีจะริเร่ิม
และพฒั นาการเรียนรู้ทางวิชาการและการพฒั นาลกั ษณะอ่ืนๆ ของตนเองไดโ้ ดยมีการแนะนา
บา้ งเลก็ นอ้ ยสามารถที่จะไวว้ างใจใหท้ างานไดอ้ ยา่ งอิสระและทางานท่ีมอบหมายใหแ้ ลว้ เสร็จ
โดยอาศยั การแนะนาปรึกษาแตเ่ พยี งเล็กนอ้ ย สามารถทางานกลมุ่ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพเพือ่
จุดมุ่งหมายร่วมกนั
(5) ด้านทักษะการวเิ คราะห์เชิงตวั เลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยี
สารสนเทศสามารถใชข้ อ้ มูลสารสนเทศและเทคโนโลยคี อมพิวเตอร์ตลอดจนใชท้ กั ษะทาง
คณิตศาสตร์ข้นั พ้นื ฐานในการแกไ้ ขปัญหาในการศึกษาในการทางาน และในสภาพแวดลอ้ ม
ของสงั คมสามารถส่ือสารไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพในการพูดและเขียน ท้งั ภาษาไทยและ
ภาษาองั กฤษ
2. สภาพปัญหาหลกั สูตรในประเทศไทย
ปัญหาการนาหลกั สูตรไปใช้
1.การศึกษาในรูปแบบอเี ล็กทรอนิกส์ ความเจริญกา้ วหนา้ ของวดิ ิทศั น์สามารถนามาใช้
เป็นเคร่ืองมือในการเรียนการสอนได้ วดี ิโอเทป คาสเสท และดิสคส์ ามารถนามาสอนไดท้ ้งั ใน
หอ้ งเรียน หอ้ งสมุด ศนู ยก์ ารเรียนรู้และท่ีบา้ นของนกั เรียน วดี ิโอทศั นม์ ีความสะดวกที่นามาเรียน
ไดต้ ลอดเวลา ซ่ึงจะช่วยไม่ใหพ้ ลาดบทเรียนไปได้ จากความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยสี ามารถที่
จะพิมพว์ ดิ ิทศั นห์ รือภาพจากจอในรูปของภาพถ่าย ตาราง กราฟ หรือ รูปภาพในแบบต่างๆลงใน
กระดาษสาหรับศึกษาตอ่ ได้
ความรู้ในรูปแบบอีเลก็ ทรอนิกส์น้ียงั สามารถจดั เก็บไวใ้ นสถานท่ีที่ผเู้ รียนสามารถ
เขา้ ถึงไดโ้ ดยผา่ นระบบเครือข่าย ใครๆกส็ ามารถเขา้ ถึงขอ้ มูลสารสนเทศและสามารถใช้
ประโยชนไ์ ด้
2.การรู้ใช้เทคโนโลยี โรงเรียนปัจจุบนั เห็นความสาคญั ในวิวฒั นาการใชเ้ ทคโนโลยี จึงได้
ใหก้ ารศึกษากบั บุคลากรเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์ อีเล็กทรอนิกส์ เลเซอร์และหุ่นยนต์ การเรียนรู้
คอมพวิ เตอร์ เป็นทกั ษะพ้นื ฐานเพิ่มข้ึนจากทกั ษะการอ่านออกเขียนได้ คิดเลขเป็นหรือที่รู้จกั กนั
วา่ 3Rs
3.การเรียนรู้ตลอดชีวติ แนวโนม้ การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นความจาเป็นกบั สังคมสมยั ใหม่
อนั เป็นผลสืบเนื่องจากความรู้ท่ีมีมากมาย การเปล่ียนแปลงของสังคมอยา่ งรวดเร็ว การ
เปล่ียนแปลงทางเทคโนโลยแี ละเศรษฐกิจท่ีมีผลต่อประชาชนในการประกอบอาชีพท่ี
ปรับเปลี่ยนไปสู่การพฒั นาใหม่ที่มีผลต่อเป้าหมายของบคุ คลและสงั คม การศึกษาต่อเน่ืองตลอด
ชีวติ ไม่ใช่เป็นเพยี งการศึกษาในโรงเรียนเท่าน้นั การศึกษาผใู้ หญ่จึงถูกคาดหวงั เพมิ่ ข้ึนในปี
คริสตศ์ ตวรรษท่ี 1990
4.การศึกษานานาชาติ สงั คมอเมริกนั ถือวา่ ไดค้ วามรู้เก่ียวกบั การพฒั นาไดม้ าจากประเทศ
ตา่ งๆ และไดเ้ สนอแนวคิดเกี่ยวกบั หมู่บา้ นโลก(global village) กล่าวถึงมาตรฐานของการ
ดารงชีวิตและเศรษฐกิจของชาติ(อเมริกา)มีความเก่ียวขอ้ งกบั เหตกุ ารณ์ท่ีเกิดข้ึนในท่ีอ่ืนๆของ
โลก
5.สิ่งแวดล้อมศึกษา ผลจากปัญหาต่างๆนาไปสู่ความตอ้ งการความรู้และโปรแกรมใหม่
ในสาขาวชิ านิเวศวิทยาและส่ิงแวดลอ้ มศึกษา ถึงแมว้ า่ เดิมที่มีวิชาที่เก่ียวขอ้ งคือธรณีวิทยา
ชีววิทยา ภูมิศาสตร์ แต่ความตอ้ งการความรู้ที่มีความหมายและมีความสัมพนั ธก์ บั การแกป้ ัญหา
ชีวิตและความเป็นอยขู่ องมวลมนุษยใ์ นยามคบั ขนั หรือช่วงเวลาเร่งด่วน
6.การศึกษาเกย่ี วกบั นวิ เคลยี ร์ การใชพ้ ลงั งานนิวเคลียร์ในทางสันติ ไดแ้ ก่โรงไฟฟ้า การ
ใชป้ ระโยชนท์ างการแพทย์ การบาบดั ดว้ ยการฉายรังสี ความรู้เรื่องหลงั งานนิวเคลียร์มีความ
จาเป็นวา่ พลงั งานดงั กลา่ วน้ีมีผลกระทบต่ออากาศ อาหารอยา่ งไรกรณีท่ีมีการร่ัวไหลจะมี
ผลกระทบในขอบเขตห่างไกลเพยี งใด และความเขม็ ขน้ ของรังสีที่เป็นอนั ตรายตอ่ มนุษยท์ ี่อยู่
ใกลแ้ ละไกลออกไปนบั พนั ไมล์ ดงั น้นั หลกั สูตรที่ใหค้ วามสาคญั กบั การศึกษาเก่ียวกบั นิวเคลียร์
ถกู บรรจุไวใ้ นหลกั สูตรโลกศึกษา
7.สุขศึกษาและการดูแลสุขภาพกาย แนวโนม้ เก่ียวกบั สุขภาพของประชากรชาวอเมริกนั
จะตอ้ งไดร้ ับความรู้จากหลกั สูตรใหมๆ่ ตวั อยา่ งที่จดั เจนคือ นกั การศึกษานาประเด็นเก่ียวกบั
ภูมิคุม้ กนั บกพร่องที่รู้กนั ในช่ือวา่ AIDS นามาใหค้ วามรู้กบั ผเู้ รียน บรรจุเป็นเรื่องหน่ึงใน
หลกั สูตร
8.การศึกษาต่างด้าว สังคมอเมริกนั หลงั สงครามโลกคร้ังท่ีสองมีชาวตา่ งดา้ วเขา้ มาอาศยั
อยจู่ านวนมาก นยั สาคญั ของคนตา่ งดา้ วจานวนมาก มาจากครอบครัวท่ีเรียกวา่ ยากจน เดก็ ท่ีมา
จากประเทศตา่ งๆจะถูกตีตราวา่ ดอ้ ยความสามารถในการเรียนรู้ เพอ่ื ช่วยใหค้ นต่างดา้ วท่ีเขา้ มา
ใหม่นกั การศึกษาใหค้ าแนะนาวา่ โรงเรียนควรไดจ้ ดั หลกั สูตรสองภาษา หลกั สูตรพหุวฒั นธรรม
จะช่วยใหเ้ ดก็ ต่างดา้ วไดเ้ รียนรู้และอยใู่ นสงั คมใหมไ่ ดด้ ียงิ่ ข้ึน
9.ภูมสิ าสตร์ย้อนกลบั การศึกษาเกี่ยวกบั เรื่องน้ีเป็นผลมาจากการตีพมิ พห์ นงั สือ
ชื่อ Nation at Risk ในปี ค.ศ.1983 เดก็ อเมริกนั จะไดเ้ รียนรู้เก่ียวกบั โลกรอบตวั รวมถึงภูมิศาสตร์
พ้ืนฐาน มีการทบทวนสาระสาคญั ทางภูมศาสตร์ อาทิเรื่อง back to basic, การเรียนรู้วฒั นธรรม
นิเวศวทิ ยาศึกษา และโลกศึกษา เร่ืองราวตา่ งๆท่ีศึกษาเล่าเรียนจะเป็นพลงั ขบั เคล่ือนใหร้ ู้จกั
บทบาทของตนเองเพิ่มยง่ิ ข้ึน
10.การศึกษาช่วงเกรดกลาง ผเู้ รียนที่อายรุ ะหวา่ ง 10-15 ปี ซ่ึงเป็นวยั ที่เปล่ียนแปลงความ
เจริญเติบโตและพฒั นาการอยา่ งรวดเร็ว การศึกษาท่ีจดั ใหเ้ ป็นการศึกษาเกี่ยวกบั ก่อนจะเป็น
วยั รุ่น และวยั รุ่นตอนตน้ เม่ือเปรียบเทียบกบั โรงเรียนมธั ยม โรงเรียนเกรดกลางมุ่งให้
ความสาคญั กบั การเรียนรู้สังคมหรือสังคมประกิต ไมเ่ นน้ วชิ าการ แต่ใหค้ วามสาคญั
กบั intramural sport แตไ่ มเ่ นน้ interscholastic sport ถึงวา่ โรงเรียนเกรดกลางจะมีอยโู่ ดยทว่ั ไป
แต่หลกั สูตรใหมท่ ี่เหมาะสมกบั กลมุ่ เดก็ ดงั กล่าวน้ีจาเป็นตอ้ งพฒั นาข้ึน การพฒั นาหลกั ครูผสู้ อน
จะตอ้ งเปลี่ยนโปรแกรมการพฒั นาครูจะตอ้ งมีความแตกตา่ งจากครูประถมศึกษาและ
มธั ยมศึกษา ในอนาคตสถาบนั การผลิตครูจะตอ้ งมุ่งพฒั นาความรู้ ทกั ษะท่ีจาเป็นสาหรับการ
สอนโรงเรียนเกรดกลาง
11.การศึกษาสาคัญผ้สู ูงอายุ สังคมปัจจุบนั จานวนผสู้ ูงอายเุ พ่ิมข้ึนอยา่ งรวดเร็ว นกั
การศึกษามีความเช่ือวา่ โรงเรียนจะตอ้ งสอนใหผ้ เู้ รียนเขา้ ใจปัญหาและความคาดหวงั ของ
ผสู้ ูงอายุ และช่วยใหม้ ีความรักต่อผสู้ ูงอาย(ุ ท้งั พอ่ แมแ่ ละป่ ยู า่ ตายาย)ในโรงเรียนจะตอ้ งประสม
ประสานผสู้ ูงอายทุ ้งั ผทู้ ่ีมีความประสงคจ์ ะเกษยี ณอายแุ ละผเู้ กษยี ณอายจุ ากงานประจามา
ช่วยงานในโรงเรียนในรูปแบบ อาสาสมคั ร ผชู้ ่วยสอนและแหลง่ ทรัพยากรบุคคลในการเรียนรู้
12.ธุรกจิ การศึกษา โรงเรียนหรือสถานศึกษารูปแบบตา่ งๆเกิดข้ึนมากมาย ท้งั ในรูปแบบ
ของเอกชนและหน่วยงานท่ีต้งั ข้ึนเฉพาะกิจ อาทิ สถานเล้ียงเดก็ ศนู ยร์ ับเล้ียงเดก็ ช่วงกลางวนั และ
ช่วงหลงั เลิกเรียน ศนู ยก์ ีฬาและโคชเอกชน ศูนยต์ ิวเตอร์แฟรนไชส์ วทิ ยาลยั เอกชนเพ่อื ใหบ้ ริการ
แนะแนว (ในการเลือกมหาวทิ ยาลยั ) สถาบนั ติวเตอร์สอบ SAT และการทดสอบเพอื่ ขอรับใน
รับรองประกอบวิชาชีพ ท้งั หมดที่กล่าวมาน้ีเป็นการศึกษาเขา้ สู่ตลาดการคา้ ท่ีมีการเก็บ
คา่ ธรรมเนียมในการศึกษาจากผเู้ รียนโดยตรง
13.การศึกษาเพ่ืออนาคต จากงานเขียนของทอฟเลอร์ ท่ีกล่าวถึงอนาคตวา่ มีการ
เปล่ียนแปลงอยา่ งรวดเร็วไมส่ ามารถที่กาหนดขอบข่ายของการเปลี่ยนแปลงไดเ้ ลยน้นั จึงนามา
เป็นหลกั การของความมุ่งหมายการศึกษา ท่ีจะตอ้ งเพ่ิมขีดความสามารถของผเู้ รียนแตล่ ะคน
เพอื่ ท่ีผเู้ รียนแตล่ ะคนสามารถปรับตวั เขา้ กบั การเปลี่ยนแปลงท่ีตอ่ เนื่อง
แนวทางหน่ึงในการเตรียมตวั ผเู้ รียนในอนาคตกค็ ือ ช่วยใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้ไดด้ ว้ ย
ตนเอง โปรแกรมหรือรายวิชาใหม่ จะถูกเรียกว่า การศึกษาเลา่ เรียนเพื่ออนาคต จะเริ่มใน
ระดบั อดุ มศึกษา และมธั ยมศึกษาในโอกาสตอ่ ไป สาระสาคญั ของการศึกษาดงั กล่าวน้ีพิจารณา
จากความเจริญกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยแี ละสถานการณ์ในสงั คมโดยไมม่ ีการแบ่งแยก แตเ่ ป็นท้งั
สององคป์ ระกอบที่ช่วยในการตดั ใจในอนาคต โดยทว่ั ไปการมองอนาคตไมใ่ ช่ภารกิจท่ีเลก็ ๆ แต่
เป็นการนาเสนออนาคตที่มีจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ โดยปกติทว่ั ไปที่ช่วยใหผ้ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้และ
นาไปใชโ้ ดยปรับใหเ้ หมาะสมกบั ตนเองในสงั คมที่มีการเปลี่ยนแปงอยา่ งรวดเร็ว
ปัญหาด้านครู
1. ครูขาดความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั หลกั สูตร และขาดหลกั สูตรกบั เอกสารประกอบ
หลกั สูตร เช่น คูม่ ือการใชห้ ลกั สูตร ฯลฯ ซ่ึงทาใหก้ ารสอนของครูไมม่ ีประสิทธิภาพ
เท่าที่ควร
2. ครูไมย่ อมเปล่ียนพฤติกรรมการสอนใหส้ อดคลอ้ งกบั หลกั สูตร ยงั คงยดึ ถือวธิ ีสอน
แบบ “ยดึ ตวั ครูเป็นศนู ยก์ ลาง” ในการสอน
3. ครูไมม่ ีเวลาศึกษาหลกั สูตรก่อนสอน
ปัญหาด้านผ้บู ริหารโรงเรียน
1. ผบู้ ริหารมีความรู้ความเขา้ ใจในหลกั สูตรนอ้ ย ทาใหไ้ ม่สามารถสนบั สนุนการจดั
กิจกรรมการเรียนการสอนไดด้ ีเท่าท่ีควร
2. ผบู้ ริหารมีความรู้ความสามารถในการนิเทศและการใหค้ าแนะนาเกี่ยวกบั การใช้
หลกั สูตรแก่ครู และ/หรือนิเทศนอ้ ยไม่ทวั่ ถึงและไม่ต่อเน่ือง
3. ผบู้ ริหารไม่ไดใ้ หก้ ารสนบั สนุนการใชห้ ลกั สูตรของคณะครู เช่น การจดั หาเอกสาร
ประกอบหลกั สูตรประเภทตา่ ง ๆ และการจดั หาจดั ทาวสั ดุอปุ กรณ์การเรียนการสอนให้
เพยี งพอกบั ความตอ้ งการของครู การจดั ครูเขา้ สอนไมเ่ หมาะสม การไมไ่ ดส้ นบั สนุนการ
พฒั นาบุคลากรในโรงเรียน เป็นตน้
ปัญหาด้านศึกษานเิ ทศก์
ศึกษานิเทศกน์ ิเทศการใชห้ ลกั สูตรในโรงเรียนตา่ ง ๆ ไมท่ วั่ ถึง ศึกษานิเทศกไ์ ม่มีความรู้
ความเขา้ ใจเก่ียวกบั หลกั สูตรอยา่ งถ่องแท้ และไม่มีความรู้ความสามารถในการนิเทศและให้
คาแนะนาแก่ครูท่ีดีเทา่ ที่ควร
ปัญหาด้านหน่วยงานส่วนกลาง ระดับจังหวัด และระดบั อาเภอ
1. ส่งเอกสารหลกั สูตรและเอกสารประกอบล่าชา้ และไม่เพยี งพอต่อความตอ้ งการของ
โรงเรียน
2. ขาดการประชาสัมพนั ธ์หลกั สูตร โดยเฉพาะกบั ผปู้ กครองทาใหไ้ ม่ไดร้ ับความร่วมมือ
เกี่ยวกบั การใชห้ ลกั สูตร
3. ขาดงบประมาณท่ีจะสนบั สนุนการใชห้ ลกั สูตร
4. การฝึกอบรมใหค้ วามรู้และทกั ษะเก่ียวกบั การนาหลกั สูตรไปใชแ้ ก่ครูและบคุ ลากรท่ี
เกี่ยวขอ้ งยงั ไม่ทว่ั ถึง และ/หรือไม่ตรงกบั ความตอ้ งการของครูและบคุ ลากรท่ีเก่ียวขอ้ ง
2.1 หลกั สูตรปฐมวยั พทุ ธศกั ราช 2560
1.ปรัชญาการศึกษา
จดั การศึกษาใหเ้ ด็กระดบั ปฐมวยั ต้งั แต่อายุ 4-5 ปี โดยม่งุ สร้าง พ้ืนฐานความพร้อมทาง
พฒั นาการตา่ ง ๆ ใหค้ รบทุกดา้ นบนพ้ืนฐานการอบรมเล้ียงดูและส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ท่ี
สนองต่อธรรมชาติและพฒั นาการของเด็กแตล่ ะคน ตามศกั ยภาพภายใตบ้ ริบทของสงั คม
วฒั นธรรมที่เด็กอาศยั อยู่ ดว้ ยความรัก ความเอ้ืออาทรและความเขา้ ใจของทกุ คน เพือ่ สร้าง
รากฐานคุณภาพชีวติ ใหเ้ ดก็ พฒั นาไปสู่ความเป็น มนุษยท์ ่ีสมบรู ณ์ เกิดคุณค่าตอ่ ตนเอง สังคม
และประเทศชาติ
2.วสิ ัยทศั น์
ม่งุ พฒั นาเด็กทุกคนใหไ้ ดร้ ับการพฒั นาดา้ น ร่างกาย อารมณ์ - จิตใจ สังคม และสติปัญญา
อยา่ งมีคุณภาพและตอ่ เน่ือง มีทกั ษะชีวิตสามารถช่วยเหลือตนเองใน การปฏิบตั ิกิจวตั รประจาวนั
และอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นอยา่ งมีความสุข เป็นคนดี มีวนิ ยั อนุรักษค์ วามเป็นไทยและมีนิสัยรัก การอา่ น
ปฏิบตั ิตนตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยความร่วมมือระหวา่ ง โรงเรียน บา้ นชุมชน และ
ทุก หน่วยงานที่เกี่ยวขอ้ งกบั การพฒั นาเด็ก
พนั ธกจิ
1. มุ่งพฒั นาเด็กปฐมวยั ใหม้ ีความพร้อมทางดา้ นร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม และ
สติปัญญา อยา่ งสมดุล และเตม็ ศกั ยภาพ
2. พฒั นาครูและบุคลากรใหม้ ีความสามารถดา้ นการจดั ประสบการณ์เพ่ือพฒั นาเดก็
ปฐมวยั
3. จดั ประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลาย และนอ้ มนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
โดยจดั สภาพแวดลอ้ ม ส่ือ เทคโนโลยี ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน
4. ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผปู้ กครอง ชุมชน ในการพฒั นาเด็กปฐมวยั
เป้าหมาย
1.เด็กปฐมวยั ทุกคนไดร้ ับการพฒั นาใหม้ ีพฒั นาการท้งั ๔ ดา้ นคือ ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ
สงั คม และสติปัญญา อยา่ งสมดุลและเตม็ ศกั ยภาพ
2.ครูและบุคลากรทุกคนมีความรู้ความเขา้ ใจในการจดั ประสบการณ์เพอ่ื พฒั นาเดก็
ปฐมวยั
3.ทกุ หอ้ งเรียนจดั สภาพแวดลอ้ มภายในและภายนอกไดห้ ลากหลาย เหมาะสมกบั การ
จดั การเรียนรู้ และตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
4.ผปู้ กครองหรือชุมชน ร้อยละ 80 ใหค้ วามร่วมมือในการสนบั สนุนและพฒั นาเดก็
ปฐมวยั
3.จุดม่งุ หมาย
หลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั มงุ่ ใหเ้ ด็กมีพฒั นาการตามวยั เตม็ ตามศกั ยภาพ และเม่ือมีความ
พร้อมในการเรียนรู้ ไปหาเพื่อใหเ้ กิดกบั เดก็ เดก็ จบการศึกษาระดบั ปฐมวยั ดงั น้ี
1. มีร่างกายเจริญเติบโตตามวยั แขง็ แรง และมีสุขนิสยั ท่ีดี
2. มีสุขภาพจิตดี มีสุนทรียภาพ มีคุณธรรม จริยธรรมและจิตใจที่ดีงาม
3. มีการปฏิบตั ิตามหลกั เศรษฐกิจ เพยี ง มินิ และอยรู่ ่วมกบั ผอู้ ื่นไดอ้ ยา่ งมี ความสุข
4. มีทกั ษะการคิด การใชภ้ าษาส่ือสาร และการแสวงหาความรู้ไดเ้ หมาะสมกบั วยั
เมื่อการศึกษาเป็น เคร่ืองมือสาคญั ในการพฒั นาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ การ
ใหค้ วามสาคญั กบั การพฒั นาการในทุกดา้ นของช่วงอายแุ รกเกิดจนถึงหา้ ขวบ หรือวยั ก่อนเขา้
เรียนช้นั ประถมศึกษาปี ท่ีหน่ึงที่มกั เรียกกนั วา่ “เด็กปฐมวยั ” ใหม้ ีพฒั นาการอยา่ งเหมาะสมตาม
หลกั วชิ าการแลว้ ก็จะสามารถเติบโตเป็นดีมีคุณภาพ ส่งผลดีตอ่ อนาคตของสงั คมและ
ประเทศชาติดว้ ย ซ่ึงจากขอ้ มลู ของนกั เศรษฐศาสตร์ รางวลั โนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์ ศ.ดร.
เจมส์ เจ เฮกแมน จากมหาวิทยาลยั ชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ไดก้ ล่าววา่ “การลงทนุ พฒั นา
เด็กปฐมวยั เป็นการลงทนุ ท่ีคุม้ คา่ ใหผ้ ลตอบแทนแก่สังคมดีที่สุดในระยะยาว” โดยคืน
ผลตอบแทนกลบั คืนมาในอนาคตมากถึง 7 เท่า เป็นท้งั การเพิ่มคุณภาพทรัพยากรบุคคลของ
ประเทศ ลดอตั ราการสูญเสียท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคต และองคก์ ารยนู ิเซฟซ่ึงเป็นหน่วยงานของ
สหประชาชาติซ่ึงมีหนา้ ท่ีใหค้ วามช่วยเหลือดา้ นมนุษยธรรม พฒั นาการสุขภาพ รวมถึงความ
เป็นอยขู่ องแมแ่ ละเด็กในประเทศกาลงั พฒั นาระบุว่า เดก็ ปฐมวยั ท่ีไดร้ ับการดูแลอยา่ งเหมาะสม
ตามช่วงวยั จะมีทกั ษะทางกายภาพ ความฉลาดทางดา้ นสติปัญญา และความฉลาดทางดา้ น
อารมณ์ สูงข้ึนกวา่ ปกติ และนาไปสู่การมีโอกาสในการเรียนรู้ต่อในระดบั ที่สูงข้ึน และเป็น
แรงงานท่ีมีคุณภาพมีรายไดส้ ูง ส่งผลใหอ้ ตั ราการก่อคดีหรือสร้างปัญหาสังคมลดนอ้ ยลงดว้ ย
(อภิวฒั นก์ ารเรียนรู้...สู่จุดเปลี่ยนประเทศไทย, 2557)
จากนโยบายและยทุ ธศาสตร์การพฒั นาเด็กปฐมวยั (0-5 ปี ) ระยะยาว พ.ศ. 2550-2559 ได้
ใหค้ วามหมายของเดก็ ปฐมวยั วา่ “เดก็ ปฐมวยั ” คือ เดก็ ต้งั แต่ปฏิสนธิจนถึงอายุ 5 ปี 11 เดือน 29
วนั หรือต่ากวา่ 6 ปี การจดั การการศึกษาน้นั ไดแ้ บ่งเป็น 3 รูป แบบคือ การศึกษาในระบบ
การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศยั โดยการจดั การศึกษาปฐมวยั ตอ้ งเนน้ ผเู้ รียนเป็น
สาคญั และจดั กระบวนการเรียนรู้ตามความถนดั และความสนใจของผเู้ รียน เน่ืองจากช่วงปฐมวยั
เป็นช่วงที่มีการพฒั นาการดา้ นสมอง และการเรียนรู้อยา่ งรวดเร็วที่สุด ดงั น้นั จึงถือไดว้ า่ ช่วง
ปฐมวยั เป็นช่วงวยั ที่ตอ้ งการการปลูกฝังดูแลเป็นพเิ ศษ เพอ่ื จะไดเ้ ป็นรากฐานที่สาคญั ของการ
เรียนรู้ และการพฒั นาตลอดชีวิต ใหเ้ ติบโตเป็นเด็กฉลาดและประสบความสาเร็จในชีวติ (การ
ดูแลและการศึกษา เดก็ ปฐมวยั , 2556)
แตจ่ ากการติดตามพฒั นาการของเดก็ ไทยพบวา่ มีพฒั นาการที่ล่าชา้ ท้งั ทางดา้ นสติปัญญา
การคิดวเิ คราะห์ ความคิดสร้างสรรค์ ภาษา และการปรับตวั เนื่องจากขณะน้ีเดก็ ปฐมวยั ไดร้ ับการ
สนบั สนุนที่ไมเ่ หมาะสมกบั ธรรมชาติของวยั เช่น การที่ผปู้ กครองใหเ้ ด็กเรียนกวดวชิ าเพื่อสอบ
เขา้ โรงเรียนช้นั ประถมศึกษาท่ีมีชื่อเสียง และอีกปัญหาหน่ึงที่สาคญั คือ การท่ีโรงเรียนในระดบั
อนุบาลจานวนมากเปิ ดสอนพเิ ศษเพิ่มเติมในช่วงวนั หยดุ หรือปิ ดเทอม รวมถึงการเร่งเรียน เขียน
และอา่ นเกินพฒั นาการของเด็ก ซ่ึงเป็นความเขา้ ใจที่คาดเคลื่อนในการจดั การศึกษาปฐมวยั ทาให้
การศึกษาปฐมวยั ในวนั น้ี มุ่งเนน้ แต่การท่องจาความรู้ เพือ่ สอบแขง่ ขนั และเนน้ เฉพาะ ดา้ น
เน้ือหาสาระมากกวา่ การพฒั นาดา้ นทกั ษะกระบวนการ ไดแ้ ก่ การคิดแกป้ ัญหา การตดั สินใจ การ
ใหเ้ หตผุ ล รวมถึงการขาดการพฒั นาดา้ นคุณธรรม และคุณลกั ษณะท่ีจาเป็ นต่อการเรียนรู้การ
ดาเนินชีวติ ส่งผลใหเ้ ดก็ ขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้ ขาดทกั ษะในการทางานร่วมกบั คนอื่น และ
ขาดทกั ษะความรับผดิ ชอบท้งั ต่อตนเองและผอู้ ่ืน (เปิ ดสถานการณ์เด็กปฐมวยั พบ
ปรากฏการณ์เร่งเรียนต้งั แตว่ ยั อนุบาล, 2557)
นอกจากน้ีขอ้ มลู จากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ในปี พ.ศ. 2555 ไดส้ ารวจ
จานวนเดก็ ปฐมวยั ท่ีมีอายุ 0-5 ปี มีจานวน 4,585,759 คน ซ่ึงแบ่งตามการดูแลและการจดั
การศึกษาสามารถแบ่งไดเ้ ป็น 2 กล่มุ คือ กลุ่มเดก็ อายุ 0-1 ปี จานวน 1,509,017 คน และกลมุ่ เดก็
อายุ 2-5 ปี จานวน 3,076,742 คน พบประเด็นที่น่าสนใจดงั น้ี
- การดูแลเดก็ ปฐมวยั ในช่วงอายุ 0-1 ปี ที่ไดร้ ับการดูแลเบ้ืองตน้ จากครอบครัว ยงั ขาดการ
ส่งเสริมและดูแลอยา่ งเป็นระบบ เนื่องจากครอบครัวส่วนใหญ่ยงั ขาดความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะ
ในการดูแลเด็กปฐมวยั อยา่ งเหมาะสมตามพฒั นาการ
- การเขา้ ไม่ถึงโอกาสทางการศึกษา โดยมีเด็กอายุ 2-5 ปี จานวน 365,506 คน หรือร้อยละ
12 ของเด็กในช่วง 2- 5 ปี ยงั ไม่ไดเ้ รียนหนงั สือ
- ขาดการดูแลที่ดีและมีคณุ ภาพ โดยมีเด็กอายุ 2-5 ปี จานวน 911,111 คน หรือร้อยละ 30
ของเด็กในช่วงอายุ 2-5 ปี อยใู่ นการดูแลของศูนยพ์ ฒั นาเด็กเลก็ ที่ไม่ไดม้ าตรฐาน หรือมี
มาตรฐานในระดบั ข้นั ต่า
- ความหลากหลายในการพฒั นาคุณภาพศูนยเ์ ด็กเลก็ เนื่องจากในปัจจุบนั มีหลาย
หน่วยงานท่ีเขา้ มาดูแลศนู ยเ์ ด็กเลก็ เช่น กรมอนามยั กระทรวงพฒั นาสงั คมและความมนั่ คงของ
มนุษย์ กรมส่งเสริมการปกครองส่วนทอ้ งถิ่น สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ซ่ึง
แตล่ ะหน่วยงานตา่ งดาเนินงานตามแผนงานของ แตล่ ะหน่วยงาน ทาใหไ้ ม่มีมาตรฐานกลางใน
การดูแลและการใหก้ ารศึกษาแก่เดก็ ปฐมวยั (พฒั นาการเด็กปฐมวยั รากแกว้ แห่งชีวิต, 2557)
ปัญหาสาคญั ของการศึกษาปฐมวัย
1. การขาดความรู้ความเขา้ ใจของผปู้ กครองในการส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กปฐมวยั
เน่ืองจากผปู้ กครอง
ส่วนใหญย่ งั ขาดความรู้ความเขา้ ใจท่ีถกู ตอ้ งเกี่ยวกบั การส่งเสริมพฒั นาการท่ีสาคญั ตาม
ช่วงวยั ของเดก็ จึงมีความคาดหวงั ท่ีตอ้ งการใหเ้ ด็กอา่ นออกเขียนได้จึงส่งลูกเขา้ เรียนในโรงเรียน
ท่ีมีระบบการสอนแบบ “เร่งเรียนเขียนอา่ น” นอกจากน้ีการใชส้ ่ือเทคโนโลยใี นการเล้ียงดูเด็ก
เช่น ไอแพต โทรศพั ทม์ ือถือ หรือโทรทศั น์ ก็มีส่วนสาคญั ท่ีทาใหเ้ ด็กมีความบกพร่องในการ
เรียนรู้มากยง่ิ ข้ึน
2. การขาดความรู้ความเขา้ ใจท่ีถูกตอ้ งในการจดั การศึกษาปฐมวยั ของครู ผบู้ ริหารและ
สถานศึกษา การขาดแคลนความรู้และความเขา้ ใจท่ีถกู ตอ้ ง เก่ียวกบั การส่งเสริมพฒั นาการดา้ น
สติปัญญาที่เหมาะสมกบั วยั จึงทาใหค้ รูเนน้ ใหเ้ ด็กอา่ นเขียนมากกวา่ วยั และเนน้ การสอนที่มี
ลกั ษณะใหเ้ ดก็ ทอ่ งจามากกวา่ ทกั ษะดา้ นการคิด การตดั สินใจ ในขณะที่ผบู้ ริหารสถานศึกษา
บางส่วนบริหารงานเพอ่ื ชื่อเสียงของโรงเรียนจึงเตรียมความพร้อมของเด็ก เพอื่ การสอบแข่งขนั
มากกวา่ การศึกษาเพ่อื พฒั นาศกั ยภาพของเด็ก รวมถึงปัญหาสถานศึกษาไม่สามารถจดั การศึกษา
ที่มีคุณภาพอยา่ งเทา่ เทียมและทวั่ ถึง จึงทาใหเ้ กิดการเรียนเพ่ือสอบเขา้ โรงเรียนท่ีมีช่ือเสียงต้งั แต่
ระดบั อนุบาล
3. ระบบการผลิตครูปฐมวยั จากคา่ นิยมของการเขา้ รับราชการที่มีสวสั ดิการท่ีดีและมี
ความมนั่ คงในชีวิต จึงเกิดความตอ้ งการเพ่มิ คุณวฒุ ิดา้ นการศึกษาของครูใหส้ ูงข้ึน แตร่ ะบบการ
ผลิตครูในปัจจุบนั ยงั ขาดกลไกในการติดตามและประเมินคุณภาพ เช่น การเปิ ดรับครูปฐมวยั
จานวนมาก ทาใหอ้ ตั ราส่วนระหวา่ งอาจารยก์ บั จานวนนกั ศึกษาไมส่ อดคลอ้ งกนั ส่งผลตอ่
ประสิทธิภาพในดา้ นการเรียนการสอน เนื่องจากกระบวนการพฒั นาครูปฐมวยั ไม่สามารถทาได้
ดว้ ยการบรรยายเทา่ น้นั แต่จาเป็นตอ้ งมีการฝึกประสบการณ์วชิ าชีพ โดยมีอาจารยท์ ี่เชี่ยวชาญ
ดา้ นการศึกษาปฐมวยั มาดูแลอยา่ งใกลช้ ิด
4. การใหค้ วามสาคญั ดา้ นเน้ือหาและการวดั ผลมากกวา่ การประเมินผลเพอื่ พฒั นา
หลกั สูตรและการวดั ผลระดบั ประถมศึกษาตอ้ นตน้ มงุ่ เนน้ ใหเ้ ด็กทอ่ งจา ความรู้จานวนมากไม่
สอดคลอ้ งและเชื่อมโยงกบั หลกั สูตรของการศึกษาปฐมวยั ที่เนน้ การส่งเสริมพฒั นาการเดก็ โดย
คานึงถึงการพฒั นาการในทกุ ดา้ นอยา่ งสมดุล ไดแ้ ก่ ดา้ นร่างกาย สติปัญญา สังคม อารมณ์และ
จิตใจ นอกจากน้ีครูในโรงเรียนอนุบาล และศนู ยเ์ ดก็ เลก็ ส่วนใหญ่ เนน้ การวดั ผลดา้ นความจา
โดยขาดการประเมินตามสภาพความเป็นจริง รวมถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบทางดา้ นการศึกษา
ของรัฐ ใชห้ ลกั เกณฑต์ ดั สินมากกวา่ การประเมินเพอ่ื พฒั นาผเู้ รียน ทาใหข้ าดแนวทางในการ
ปรับปรุงผเู้ รียนใหด้ ีข้ึน
แนวทางการแกไ้ ขปัญหา แบง่ ออกเป็น 3 ส่วนที่สาคญั คือ
เดก็
- ขยายโอกาสทางการศึกษาปฐมวยั ใหท้ วั่ ถึง ครอบคลุมแก่เด็กทุกคนเพ่อื ใหไ้ ดร้ ับโอกาสในการ
พฒั นาอยา่ งเท่าเทียมตามศกั ยภาพของเดก็
- จดั การเรียนรู้แก่เด็กปฐมวยั ใหส้ อดคลอ้ งกบั ธรรมชาติตามวยั โดยมงุ่ เนน้ การเล่นและเรียนรู้
ตามธรรมชาติที่อยรู่ อบตวั จดั สภาพแวดลอ้ มที่สนบั สนุนการเรียน เพือ่ ส่งเสริมใหเ้ ดก็ เกิดการ
เรียนรู้
- เพิม่ งบประมาณในดา้ นส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็ก โดยครอบคลุมเด็กทุกวยั ทกุ คน และเพมิ่ เติม
ใหก้ บั กลมุ่ เด็กปฐมวยั ที่ดอ้ ยโอกาส เช่น เด็กยากจน เดก็ พิการ เดก็ ออทิสติก เป็นตน้
ครอบครัว
- เผยแพร่ความรู้ใหส้ าธารณชนและสงั คมมีความเขา้ ใจถึงความสาคญั ของการพฒั นาเดก็ ปฐมวยั
เพอ่ื ใหเ้ ดก็ ไทยไดร้ ับการพฒั นาและเติบโตอยา่ งมีคุณภาพ
- ใหก้ ารศึกษากบั พ่อแม่ เพ่อื เตรียมความพร้อมในการมีบตุ รและดูแลส่งเสริมพฒั นาการของเด็ก
ปฐมวยั
- การใหค้ วามช่วยเหลือสนบั สนุน ป่ ู ยา่ ตา ยาย ซ่ึงเป็นผดู้ ูแลหลกั แก่เด็กปฐมวยั ในชนบทให้
ไดร้ ับการอบรมเล้ียงดูที่เหมาะสม เช่น การใหค้ วามรู้ในการเล้ียงดูเดก็ การสนบั สนุนคา่ เล้ียงดู
เป็ นตน้
ระบบการศึกษา
- รัฐตอ้ งกาหนดเป้าหมาย นโยบาย และหลกั สูตรใหช้ ดั เจน สาหรับการพฒั นาเด็กปฐมวยั ให้
เหมาะสมและตอ่ เนื่องท้งั ในระดบั อนุบาล ประถมศึกษา และมธั ยมศึกษา