The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sr.industrial.office, 2022-10-27 22:28:50

คู่มือการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร

คู่มือการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร

ค�ำน�ำ

การเปลยี่ นแปลงภมู ิอากาศ (Climate change) ของโลก ที่สถานการณแ์ ละแนวโน้มความรนุ แรงของภยั
ท่ีจะเกิดข้ึนในอนาคต เช่น การเกิดพายุ อุทกภัย คลื่นความร้อน รวมถึงฤดูกาลที่แปรปรวนและความผันผวนของ
สภาพอากาศท่เี ปลี่ยนแปลงเฉียบพลัน (Extreme weather event) จากรายงานของ Global Climate Risk Index 2020
จดั ให้ประเทศไทยอยู่ในอันดบั ๘ ของประเทศที่ไดร้ ับผลกระทบสงู สดุ จากการเปลยี่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศในชว่ ง ๒๐ ปี
ท่ีผา่ นมา (พ.ศ. ๒๕๔๒ - ๒๕๖๑) นอกจากน้ี คณะกรรมการระหวา่ งรัฐบาลว่าดว้ ยการเปลี่ยนแปลงสภาพภมู ิอากาศ
(Intergovernmental Panel on Climate Change : IPCC) ได้ระบุว่า ภูมิภาคเอเชยี ตะวันออกเฉยี งใตเ้ ป็นภูมภิ าค
ทมี่ คี วามเปราะบางสงู ตอ่ ผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงสภาพภมู อิ ากาศทอี่ าจทำ� ใหร้ ะดบั นำ้� ทะเลเฉลยี่ ทวั่ โลกสงู เพมิ่ ขน้ึ
ถงึ ๑.๑ เมตร ภายในปี พ.ศ. ๒๖๔๓ จากการเปลยี่ นแปลงเหล่านี้ก่อให้เกดิ ผลกระทบท้งั ทางตรงและทางอ้อมต่อชีวิต
และทรัพย์สินเป็นจ�ำนวนมาก กระทรวงการคลังจึงได้ปรับปรุงระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการ
เพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๒ และหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพ่ือช่วยเหลือ
ผู้ประประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังน้ัน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้ออกหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติ
ปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๔ ให้สอดคล้องกับ
สถานการณป์ จั จุบัน

ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดท�ำคู่มือการให้
ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร เพ่ือให้เจ้าหน้าท่ีในระดับพ้ืนที่และส่วนกลาง ตลอดจนหน่วยงาน
ท่ีเกี่ยวข้องได้เข้าใจข้ันตอนและวิธีการปฏิบัติงานในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตรให้เป็นไป
ในแนวทางเดยี วกนั และหวงั เปน็ อยา่ งยง่ิ วา่ คมู่ อื ฉบบั นจ้ี ะเปน็ เครอื่ งมอื ในการปฏบิ ตั งิ านของเจา้ หนา้ ทแ่ี ละผทู้ เี่ กยี่ วขอ้ ง
ในการชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิ เพอื่ บรรเทาความเดอื ดรอ้ นของเกษตรกรไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ รวดเรว็ และถกู ตอ้ ง
ตามระเบียบ หลกั เกณฑ์ เงอ่ื นไขทเี่ กี่ยวข้องตอ่ ไป

ศนู ยต์ ดิ ตามและแกไ้ ขปัญหาภัยพิบตั ดิ ้านการเกษตร
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
พฤษภาคม ๒๕๖๕

คมู่ ือการใหค้ วามช่วยเหลอื ผ้ปู ระสบภยั พิบัติด้านการเกษตร 1

สารบัญ

บทท่ี ๑ กฎหมาย ระเบียบ หน้า
บทท่ี ๒ ระเบยี บกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยเงนิ ทดรองราชการเพอื่ ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ๕
พ.ศ. ๒๕๖๒ ๖
ประกาศกรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั เรื่อง หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงื่อนไขการใชจ้ ่าย
เงนิ ทดรองราชการในเชงิ ป้องกันหรอื ยบั ยงั้ ภยั พบิ ตั ิกรณฉี ุกเฉนิ ๑๘
ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ข้อ ๑๘
ประกาศกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั เรอ่ื ง หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอื่ นไขการประกาศ ๒๑
เขตการให้ความชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภัยพบิ ตั กิ รณีฉุกเฉนิ
ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ขอ้ ๒๐ ๒๓
หลกั เกณฑก์ ารใชจ้ า่ ยเงนิ ทดรองราชการเพอ่ื ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ พ.ศ. ๒๕๖๓ ๓๑
หลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเก่ียวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติ
กรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๔ ๓๕
พระราชบญั ญตั ิป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั พ.ศ. ๒๕๕๐ ๕๑
พระราชบญั ญัตโิ รคระบาดสตั ว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ ๗๕
พระราชบญั ญัติกักพชื พ.ศ. ๒๕๐๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบญั ญตั ิกกั พชื (ฉบับท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๔๒ และพระราชบญั ญัติกักพชื (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑ ๘๗
ระเบยี บกรมประมง วา่ ด้วยการจา่ ยเงนิ ช่วยเหลือเกษตรกรผเู้ พาะเล้ยี งสตั วน์ �้ำหรือชาวประมง
ทปี่ ระสบภัยธรรมชาติ พ.ศ. ๒๕๔๑ ๙๓
ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพ่ือช่วยเหลือประชาชนตามอ�ำนาจหน้าที่ของ
องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๖๐ ๑๐๐
ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอ�ำนาจหน้าที่ของ
องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ ๑๐๔
นโยบาย ยทุ ธศาสตร์ และโครงสรา้ งการบริหารจัดการความเส่ียงจากสาธารณภยั ๑๐๔
นโยบายการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ๑๐๕
ยุทธศาสตร์การจัดการความเสย่ี งจากสาธารณภัย ๑๐๕
วงจรการจดั การความเสี่ยงจากสาธารณภยั ๑๐๖
กลไกการจดั การความเส่ยี งจากสาธารณภัย

2 คมู่ อื การใหค้ วามช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พิบัติดา้ นการเกษตร

สารบัญ

บทที่ ๒ ระดบั การจัดการสาธารณภัย หนา้
(ตอ่ ) การจดั การในภาวะฉกุ เฉนิ ๑๑๐
๑๑๐
การประกาศเขตพื้นท่ปี ระสบสาธารณภยั / ๑๑๒
ประกาศเขตการให้ความชว่ ยเหลือผู้ประสบภยั พบิ ตั กิ รณีฉกุ เฉิน
การบรหิ ารจัดการภยั พิบัตดิ า้ นการเกษตร ๑๑๓
บทท่ี ๓ แนวทางปฏบิ ัติการจัดการภัยพิบตั ดิ า้ นการเกษตร ๑๑๖
บทบาท หน้าที่ ของหน่วยงานในสงั กัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๑๑๗
การป้องกันและการเตรียมการ ๑๑๙
การเผชญิ เหตุ ๑๒๔
การฟนื้ ฟู ๑๒๗
การช่วยเหลอื เพื่อบรรเทาความเดอื ดร้อนเป็นเงนิ ๑๒๗
แผนผงั ขั้นตอนการชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภัยพบิ ัติด้านการเกษตรสว่ นภมู ภิ าค ยกเวน้ กรุงเทพมหานคร ๑๒๘
แนวทางและขนั้ ตอนการให้ความช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภัยพิบตั ดิ ้านการเกษตร ๑๒๙
ตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงนิ ทดรองราชการเพื่อชว่ ยเหลือผู้ประสบภยั พบิ ัติ
กรณีฉุกเฉนิ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๓๗
แนวทางและขัน้ ตอนการใหค้ วามชว่ ยเหลือผู้ประสบภยั พิบัติด้านการเกษตรกรงุ เทพมหานคร ๑๓๙
ภาคผนวก ๑๔๐
ขอ้ มลู ประกอบการพิจารณาความเสียหาย ๑๔๙
แบบ กษ ๐๑ – ๐๓ ดา้ นพชื ๑๕๕
แบบ กษ ๐๑ - ๐๓ ด้านประมง ๑๖๑
แบบ กษ ๐๑ – ๐๓ ด้านปศสุ ัตว์ ๑๖๗
แบบ กษ ๐๑ – ๐๓ ดา้ นเกลอื ทะเล ๑๗๓
แบบ ร๒ ๑๗๕
ตอบข้อหารอื

ค่มู อื การให้ความช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั พิบัติด้านการเกษตร 3



บทที่ ๑

กฎหมาย ระเบียบ

 ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าดว้ ยเงินทดรองราชการเพอ่ื ชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๒
 ประกาศกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั เรอื่ ง หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร และเงอื่ นไขการใชจ้ า่ ยเงนิ ทดรองราชการ
ในเชงิ ปอ้ งกันหรอื ยบั ยงั้ ภัยพบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉิน ตามระเบียบกระทรวงการคลงั ฯ ขอ้ ๑๘
 ประกาศกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย เร่อื ง หลักเกณฑ์ วธิ ีการ และเง่อื นไขการประกาศเขตการให้
ความชว่ ยเหลือผูป้ ระสบภยั พบิ ตั ิกรณีฉกุ เฉนิ ตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ข้อ ๒๐

 หลกั เกณฑก์ ารใชจ้ ่ายเงินทดรองราชการเพอื่ ชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภยั พิบัตกิ รณีฉกุ เฉิน พ.ศ. ๒๕๖๓
 หลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเก่ียวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน

พ.ศ. ๒๕๖๔
 พระราชบัญญตั ิป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐
 พระราชบัญญัตโิ รคระบาดสตั ว์ พ.ศ. ๒๕๕๘
 พระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. ๒๕๐๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดย พระราชบัญญัติกักพืช (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒

และพระราชบัญญัติกกั พชื (ฉบบั ที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
 ระเบยี บกรมประมง วา่ ดว้ ยการจา่ ยเงนิ ชว่ ยเหลอื เกษตรกรผเู้ พาะเลยี้ งสตั วน์ ำ�้ หรอื ชาวประมงทป่ี ระสบภยั ธรรมชาติ

พ.ศ. ๒๕๔๑
 ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอ�ำนาจหน้าท่ีขององค์กรปกครอง

ส่วนทอ้ งถิ่น พ.ศ. ๒๕๖๐
 ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพ่ือช่วยเหลือประชาชนตามอ�ำนาจหน้าท่ีขององค์กรปกครอง

ส่วนทอ้ งถ่นิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑

คู่มอื การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภยั พิบัติดา้ นการเกษตร 5

ระเบยี บกระทรวงการคลัง
วา่ ด้วยเงินทดรองราชการเพ่อื ชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัยพบิ ัตกิ รณีฉกุ เฉนิ

พ.ศ. ๒๕๖๒

___________________________
โดยทเ่ี ปน็ การสมควรปรบั ปรงุ ระเบยี บกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยเงนิ ทดรองราชการเพอ่ื ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบ
ภยั พิบัตกิ รณฉี ุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ ใหม้ คี วามสอดคล้องกบั พระราชบัญญตั ิวนิ ัยการเงินการคลังของรฐั พ.ศ. ๒๕๖๑ และ
เพอ่ื ใหส้ ว่ นราชการมวี งเงนิ ทดรองราชการในการใหค้ วามชว่ ยเหลอื หรอื สนบั สนนุ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิ
เป็นกรณีจ�ำเปน็ เร่งดว่ นท่ไี มส่ ามารถรอการเบกิ เงนิ จากงบประมาณได้
อาศัยอ�ำนาจตามความในมาตรา ๔๑ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังโดยความเหน็ ชอบของคณะรัฐมนตรี จงึ วางระเบยี บไว้ ดงั ต่อไปน้ี
ข้อ ๑ ระเบยี บนเ้ี รยี กว่า “ระเบียบกระทรวงการคลัง วา่ ดว้ ยเงินทดรองราชการเพ่อื ชว่ ยเหลอื ผ้ปู ระสบ
ภยั พิบัตกิ รณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๒”
ขอ้ ๒ ระเบยี บน้ีใหใ้ ชบ้ งั คับตัง้ แตว่ นั ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลกิ
(๑) ระเบียบกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยเงินทดรองราชการเพอ่ื ช่วยเหลอื ผู้ประสบภัยพบิ ตั ิ
กรณฉี ุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖
(๒) ระเบียบกระทรวงการคลงั วา่ ด้วยเงนิ ทดรองราชการเพ่ือช่วยเหลอื ผูป้ ระสบภยั พิบัต ิ
กรณฉี กุ เฉนิ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๙
ขอ้ ๔ ระเบียบน้ีไม่ใช้บังคับกับการจ่ายเงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วย
เงนิ ทดรองราชการเพอื่ ใช้จ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจ�ำเป็นในการรักษาความมัน่ คงของประเทศ พ.ศ. ๒๕๖๒
ขอ้ ๕ ในระเบยี บนี้
“ภยั พิบัต”ิ หมายความวา่ สาธารณภัยอนั ได้แก่ อัคคีภัย วาตภัย อทุ กภัย ภัยแล้ง ภาวะฝนแลง้ ฝนทิ้งช่วง
ภัยจากลูกเห็บ ภัยอันเกิดจากไฟป่า ภัยท่ีเกิดจากโรคหรือการระบาดของแมลง หรือศัตรูพืชทุกชนิด ภัยอันเกิดจาก
โรคท่แี พร่หรือระบาดในมนษุ ย์ อากาศหนาวจัดผิดปกติ ภยั สงคราม และภยั อนั เนือ่ งมาจากการกระทำ� ของผูก้ ่อการรา้ ย
กองก�ำลงั จากนอกประเทศ ตลอดจนภัยอืน่ ๆ ไมว่ า่ เกดิ จากธรรมชาติ หรือมีบคุ คลหรอื สตั วท์ �ำใหเ้ กิดข้ึน ซ่ึงก่อใหเ้ กิด
อันตรายแก่ชีวติ ร่างกายของประชาชน หรอื กอ่ ให้เกิดความเสียหายแกท่ รัพย์สินของประชาชน
“ฉุกเฉิน” หมายความว่า เกิดขึ้นโดยปัจจุบันทันด่วนหรือเป็นท่ีคาดหมายว่าจะเกิดข้ึนในเวลาอันใกล้
และจ�ำเปน็ ตอ้ งรบี แก้ไขโดยฉับพลนั

6 ค่มู ือการใหค้ วามช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภัยพิบัตดิ า้ นการเกษตร

“ผู้ประสบภัยพิบัติ” หมายความว่า ผ้ไู ดร้ บั ความเดอื ดร้อนหรอื เสียหายจากภัยพบิ ตั ิกรณฉี กุ เฉนิ แต่ไมร่ วมถงึ
ส่วนราชการหรอื หน่วยงานของรัฐ

“การให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร” ให้หมายความรวมถงึ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผูป้ ระสบภยั พบิ ัติ
ดา้ นการปศุสตั วแ์ ละด้านการประมงด้วย

“การใหค้ วามช่วยเหลือด้านสงั คมสงเคราะห์และฟนื้ ฟูผ้ปู ระสบภยั ” หมายความว่า การใหค้ วามชว่ ยเหลือ
ผู้ประสบภยั พิบตั ใิ นระยะสน้ั เพ่อื ให้ผู้ประสบภยั พบิ ตั ินน้ั สามารถช่วยตนเองได้ เชน่ การให้ความชว่ ยเหลือเดก็ ผสู้ งู อายุ
หรือคนพิการซ่ึงหัวหน้าครอบครัวเสียชีวิต พิการ หรือบาดเจ็บจากภัยพิบัติ การขนย้ายครอบครัว และการส่งเสริม
อาชพี ระยะสน้ั แกค่ รอบครวั ของผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิ ตลอดจนการใหค้ ำ� ปรกึ ษาแนะนำ� และการสง่ ตอ่ ใหแ้ กห่ นว่ ยงานผมู้ หี นา้ ที่
รับผดิ ชอบ อนั เป็นการจ�ำเป็นเพ่อื ให้การด�ำรงชีวิตเข้าสูส่ ภาวะปกตโิ ดยเรว็

“การให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และการสาธารณสุข” หมายความว่า การให้ความช่วยเหลือ
ผปู้ ระสบภัยพิบัติด้านกายและจติ ซึ่งประกอบด้วยการรักษาพยาบาล การสง่ เสริมสขุ ภาพ การป้องกันและควบคมุ โรค
การฟน้ื ฟูสมรรถภาพและการสาธารณสุขที่จำ� เปน็ เพอื่ ให้การดำ� รงชวี ิตเขา้ สูส่ ภาวะปกตโิ ดยเร็ว

ขอ้ ๖ ให้ปลัดกระทรวงการคลังรักษาการตามระเบียบน้ีและมีอ�ำนาจก�ำหนดหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติ
เพือ่ ใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บน้ี

ขอ้ ๗ การปฏบิ ตั ใิ นกรณใี ดทร่ี ะเบยี บนไี้ มไ่ ดก้ ำ� หนดไว้ หรอื การยกเวน้ การปฏบิ ตั ใิ นกรณใี ดตามระเบยี บ
น้ีใหส้ ่วนราชการขอท�ำความตกลงกบั กระทรวงการคลงั

หมวด ๑

เงินทดรองราชการ

ขอ้ ๘ ให้ส่วนราชการมีวงเงินทดรองราชการเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในการให้
ความชว่ ยเหลอื หรอื สนบั สนนุ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ใิ นระหวา่ งทย่ี งั ไมไ่ ดร้ บั เงนิ งบประมาณรายจา่ ย ดงั นี้
(๑) สำ� นกั เลขาธกิ ารนายกรัฐมนตรี ส�ำนักนายกรฐั มนตรี ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๒) สำ� นกั งานปลัดกระทรวง กระทรวงกลาโหม ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๓) ส�ำนักงานปลดั กระทรวง
กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๔) ส�ำนกั งานปลัดกระทรวง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๕) สำ� นกั งานปลดั กระทรวง กระทรวงมหาดไทย ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๖) สำ� นักงานปลดั กระทรวง กระทรวงสาธารณสขุ ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๗) กรมปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย ๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
(๘) ส�ำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัด แหง่ ละ ๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท
ในการน้ี ให้ปลัดกระทรวงกลาโหมมีอ�ำนาจจัดสรรเงินทดรองราชการตาม (๒) แก่หน่วยงานในสังกัด
กระทรวงกลาโหมตามความจำ� เปน็ และเหมาะสม และใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั มอี ำ� นาจจัดสรรเงนิ ทดรองราชการตาม (๘)
แก่อ�ำเภอหรือกง่ิ อำ� เภอตามความจ�ำเปน็ และเหมาะสม ซ่ึงแต่ละแหง่ ตอ้ งมวี งเงนิ ไมเ่ กิน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ทั้งน้ี ในกรณี
ทม่ี ีความจำ� เปน็ จะจดั สรรเพม่ิ เตมิ ใหอ้ ีกก็ได้ และให้แจ้งกระทรวงการคลงั ทราบดว้ ย

คู่มอื การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภัยพบิ ตั ิดา้ นการเกษตร 7

กรณีเกิดภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีอ�ำนาจอนุมัติให้ส่วนราชการอื่นมีวงเงิน
ทดรองราชการเพอ่ื ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ไดต้ ามความเหมาะสมจำ� เปน็ และกรณที วี่ งเงนิ ทดรองราชการ
ไม่พอ ให้ส่วนราชการดังกล่าวหรือส่วนราชการตามวรรคหนึ่งสามารถขอขยายวงเงินทดรองราชการเพิ่มโดยตรงต่อ
กระทรวงการคลังได้ แล้วใหร้ ายงานการอนมุ ัตดิ งั กลา่ วให้นายกรฐั มนตรีทราบ

ข้อ ๙ การอนุมัติจ่ายเงินทดรองราชการภายในวงเงินตามข้อ ๘ ให้เป็นอ�ำนาจของผู้ด�ำรงต�ำแหน่ง
ดงั ต่อไปน้ี

(๑) นายกรัฐมนตรี สำ� หรับกรณตี ามขอ้ ๘ (๑)
(๒) ปลดั กระทรวงกลาโหม สำ� หรับกรณตี ามข้อ ๘ (๒)
(๓) ปลัดกระทรวงการพฒั นาสังคมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ สำ� หรับกรณตี ามข้อ ๘ (๓)
(๔) ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส�ำหรบั กรณีตามขอ้ ๘ (๔)
(๕) ปลัดกระทรวงมหาดไทย สำ� หรับกรณีตามข้อ ๘ (๕)
(๖) ปลดั กระทรวงสาธารณสุข ส�ำหรบั กรณีตามขอ้ ๘ (๖)
(๗) อธิบดกี รมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำ� หรบั กรณีตามข้อ ๘ (๗)
(๘) ผู้ว่าราชการจังหวัด ส�ำหรับกรณีตามข้อ ๘ (๘) เว้นแต่การอนุมัติจ่ายเงินทดรองราชการ
ของอ�ำเภอหรือกิ่งอ�ำเภอภายในวงเงินที่จัดสรรให้ ให้เป็นอ�ำนาจของนายอ�ำเภอหรือ
ปลัดอ�ำเภอ ผ้เู ปน็ หัวหน้าประจำ� กิง่ อำ� เภอ แลว้ แต่กรณี
ผู้มีอ�ำนาจอนุมัติจ่ายเงินทดรองราชการตามวรรคหน่ึง อาจมอบหมายให้บุคคลอื่นซึ่งเป็นข้าราชการ
ในสงั กดั อนมุ ัตจิ า่ ยเงินทดรองราชการแทนตนก็ได้
ในกรณีท่ีมีเหตุอันควรคาดหมายได้ว่าจะเกิดภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินขึ้นในจังหวัดใด และมีความจ�ำเป็นต้อง
เตรียมเงินสดไว้ เพ่ือใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในวันหยุดราชการ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดน้ันมีอ�ำนาจ
เบกิ เงนิ ทดรองราชการตามข้อ ๘ (๘) ไว้เพือ่ สำ� รองจา่ ยได้ตามความเหมาะสมจำ� เป็น และเม่อื ภัยพบิ ัติกรณฉี กุ เฉินสิน้ สดุ
ลงใหน้ ำ� เงินท่เี หลอื ส่งคนื คลงั
ขอ้ ๑๐ ให้ส่วนราชการตามข้อ ๘ ยุติการอนุมัติจ่ายเงินทดรองราชการเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ
กรณีฉกุ เฉิน ในกรณใี ดกรณีหนงึ่ ท่ีเกดิ ขึน้ กอ่ น ดังต่อไปนี้
(๑) เมื่อส่วนราชการตามข้อ ๘ ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบ
ภยั พบิ ตั แิ ลว้
(๒) เมอ่ื สน้ิ สดุ ระยะเวลาการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ตามประกาศเขตการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบ
ภัยพิบตั ิกรณีฉกุ เฉิน
(๓) มีการประกาศยุติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัยหรอื ผวู้ า่ ราชการจังหวดั แล้วแต่กรณี

8 ค่มู ือการให้ความชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัยพิบัตดิ ้านการเกษตร

หมวด ๒

คณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภยั พบิ ัติ

ขอ้ ๑๑ ให้จังหวัดแต่งตั้งคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับอ�ำเภอหรือกิ่งอ�ำเภอ
คณะหนึง่ เรียกว่า “คณะกรรมการใหค้ วามช่วยเหลอื ผูป้ ระสบภัยพบิ ัตอิ ำ� เภอ” เรยี กโดยยอ่ วา่ “ก.ช.ภ.อ.” หรอื “คณะ
กรรมการให้ความชว่ ยเหลือผ้ปู ระสบภยั พิบตั กิ ง่ิ อ�ำเภอ” เรยี กโดยย่อวา่ “ก.ช.ภ.กอ.” แลว้ แต่กรณี ประกอบดว้ ยนาย
อ�ำเภอหรือปลัดอ�ำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำก่ิงอ�ำเภอ เป็นประธานกรรมการ หัวหน้าส่วนราชการประจ�ำอำ� เภอหรือกิ่ง
อำ� เภอทเี่ กย่ี วขอ้ งหรอื ผแู้ ทนไมเ่ กนิ สค่ี น ผแู้ ทนกระทรวงกลาโหมหนง่ึ คน ผแู้ ทนกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั หนงึ่
คน ผู้แทนองค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่นในเขตอ�ำเภอหรอื กงิ่ อ�ำเภอนนั้ หนงึ่ คน เปน็ กรรมการ และปลดั อ�ำเภอหัวหนา้ ฝ่าย
ความมน่ั คง เปน็ กรรมการและเลขานกุ าร

ข้อ ๑๒ ให้ ก.ช.ภ.อ. หรือ ก.ช.ภ.กอ. มีหน้าท่แี ละอำ� นาจ ดังตอ่ ไปนี้
(๑) ส�ำรวจความเสียหายจากภัยพบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ที่เกดิ ข้นึ ในอ�ำเภอหรือกง่ิ อำ� เภอ แลว้ แต่กรณี
และความต้องการรับความชว่ ยเหลอื ดา้ นตา่ ง ๆ ของผูป้ ระสบภัยพบิ ตั ิ โดยจัดท�ำบัญชีเป็น
ประเภทไว้
(๒) ตรวจสอบและกลน่ั กรองการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ใิ นดา้ นตา่ ง ๆ ตามทอี่ งคก์ ร
ปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ไดส้ ำ� รวจความเสยี หายจากภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ทเี่ กดิ ขนึ้ ในแตล่ ะพนื้ ที่
ที่รบั ผดิ ชอบตามอำ� นาจหนา้ ทท่ี ีก่ ฎหมายกำ� หนด
(๓) พิจารณาช่วยเหลอื ผูป้ ระสบภยั พบิ ัติตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารท่กี ระทรวงการคลังก�ำหนด
(๔) ประสานงานและร่วมด�ำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกับ ก.ช.ภ.อ. หรือ ก.ช.ภ.กอ.
อนื่ ในกรณที ีเ่ กดิ ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉนิ ขึน้ ในหลายอำ� เภอหรือหลายกงิ่ อำ� เภอ
(๕) รายงานผลการสำ� รวจตาม (๑) และการแก้ไขความเดอื ดร้อนเฉพาะหนา้ ท่ีได้ด�ำเนินการไป
แลว้ ให้ ก.ช.ภ.จ. ทราบหรือเพือ่ พจิ ารณาด�ำเนนิ การชว่ ยเหลือผู้ประสบภัยพิบตั ิต่อไป
(๖) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงาน
และให้ความชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภัยพิบัติตามที่ ก.ช.ภ.อ. หรอื ก.ช.ภ.กอ. มอบหมาย แลว้
แตก่ รณี

ขอ้ ๑๓ ให้จังหวดั แตง่ ตงั้ คณะกรรมการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พิบตั ริ ะดับจังหวัดคณะหน่ึง เรยี ก
ว่า “คณะกรรมการใหค้ วามช่วยเหลือผู้ประสบภัยพบิ ตั จิ ังหวดั ” เรียกโดยยอ่ วา่ “ก.ช.ภ.จ.” ประกอบด้วยผูว้ า่ ราชการ
จังหวดั เปน็ ประธานกรรมการ ปลัดจงั หวัด พาณชิ ย์จงั หวัด โยธาธิการและผงั เมอื งจังหวดั ผแู้ ทนกระทรวงกลาโหมหนง่ึ คน
ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์หน่ึงคน ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หนึ่งคน
ผแู้ ทนกระทรวงสาธารณสขุ หนงึ่ คนผแู้ ทนองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ หนง่ึ คน ผแู้ ทนสว่ นราชการทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ภยั พบิ ตั ิ
กรณีฉุกเฉินไม่เกินสี่คน สภาอุตสาหกรรมจังหวัด หรือประธานหอการค้าจังหวัดหรือผู้แทนในเขตจังหวัดนั้นหน่ึงคน
เปน็ กรรมการ และหัวหนา้ ส�ำนกั งานป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวัด เปน็ กรรมการและเลขานุการ

คมู่ ือการให้ความชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภัยพิบัติดา้ นการเกษตร 9

ข้อ ๑๔ ให้ ก.ช.ภ.จ. มีหน้าที่ และอ�ำนาจ ดงั น้ี
(๑) ตรวจสอบและกลนั่ กรองการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ดิ า้ นตา่ ง ๆ ตามที่ ก.ช.ภ.อ.
หรือ ก.ช.ภ.กอ. ได้ส�ำรวจความเสียหายจากภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินที่เกิดขึ้นในแต่ละพื้นที่
ทรี่ ับผิดชอบตามอ�ำนาจหน้าทที่ ี่กฎหมายกำ� หนด
(๒) พจิ ารณาช่วยเหลือผู้ประสบภยั พิบตั ิตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการทกี่ ระทรวงการคลงั ก�ำหนด
(๓) ระดมสรรพก�ำลงั ควบคมุ เร่งรัด และประสานงานระหวา่ งหนว่ ยงานตา่ ง ๆ ในการใหค้ วาม
ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิ เพอ่ื ใหผ้ ปู้ ระสบภยั พบิ ตั ไิ ดร้ บั ความชว่ ยเหลอื อยา่ งรวดเรว็ ทวั่ ถงึ
และไมซ่ ้�ำซ้อน
(๔) พจิ ารณาอนมุ ตั คิ า่ ใชจ้ า่ ยในการชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั สิ ำ� หรบั สว่ นราชการหรอื หนว่ ยงาน
อ่ืนของรัฐท่ีไม่มีวงเงินทดรองราชการเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
แตจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งดำ� เนินการช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ติ ามมติของ ก.ช.ภ.จ.
(๕) จัดท�ำโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ก�ำลังคน อุปกรณ์ เคร่ืองมือ เครื่องใช้
ยานพาหนะ และอนื่ ๆ ทจ่ี ำ� เปน็ จากสว่ นกลาง ในกรณภี ยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เกนิ กวา่
ความสามารถของจังหวัด
(๖) ประสานงานและรว่ มด�ำเนินการชว่ ยเหลือผูป้ ระสบภยั พบิ ตั กิ บั ก.ช.ภ.จ. อ่นื ในกรณภี ยั พิบตั ิ
กรณฉี กุ เฉนิ เกดิ ขนึ้ ในหลายจังหวดั
(๗) รายงานความเสียหายจากภยั พบิ ตั กิ รณีฉกุ เฉนิ ทเ่ี กดิ ขน้ึ ในจังหวดั การแกไ้ ขความเดือดร้อน
เฉพาะหนา้ ทไี่ ด้ดำ� เนินการไปแล้ว และโครงการขอรบั การสนบั สนนุ การช่วยเหลอื ผ้ปู ระสบ
ภยั พบิ ตั จิ ากสว่ นกลาง ใหก้ รมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ทราบหรอื เพอื่ พจิ ารณาดำ� เนนิ
การชว่ ยเหลือผ้ปู ระสบภัยพบิ ัตติ ่อไป
(๘) พจิ ารณาประกาศเขตการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ รว่ มกบั ผวู้ า่ ราชการ
จงั หวดั

ข้อ ๑๕ การประชุมคณะกรรมการตามข้อ ๑๑ หรือขอ้ ๑๓ ตอ้ งมีกรรมการมาประชมุ ไมน่ ้อยกวา่ ก่ึงหนง่ึ
ของจำ� นวนกรรมการทง้ั หมด จึงจะเป็นองคป์ ระชมุ

ในการประชมุ คราวใด ถา้ ประธานกรรมการไมม่ าประชมุ หรอื ไมอ่ าจปฏบิ ตั หิ นา้ ทไี่ ดใ้ หก้ รรมการทม่ี าประชมุ
เลอื กกรรมการคนหน่ึงเปน็ ประธานในที่ประชมุ

มตขิ องทป่ี ระชมุ ใหถ้ อื เสยี งขา้ งมาก กรณที มี่ คี ะแนนเสยี งเทา่ กนั ใหป้ ระธานในทป่ี ระชมุ ลงคะแนนเสยี งอกี
หนึ่งเสยี งเป็นเสียงช้ีขาด

10 คมู่ ือการใหค้ วามชว่ ยเหลือผ้ปู ระสบภยั พบิ ตั ิดา้ นการเกษตร

หมวด ๓

การให้ความชว่ ยเหลอื ผ้ปู ระสบภยั พิบตั ิ

ข้อ ๑๖ การให้ความชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภัยพบิ ตั ิตามระเบยี บนี้ มีวตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื วางหลักเกณฑ์ส�ำหรบั
ส่วนราชการในการด�ำเนินการช่วยเหลือโดยเร่งด่วนตามความจ�ำเป็นและเหมาะสมเมื่อเกิดภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินขึ้น
ในท้องท่ีหนึ่งท้องท่ีใด โดยมุ่งหมายที่จะบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของผู้ประสบภัยพิบัติ แต่มิได้มุ่งหมาย
ที่จะชดใชค้ วามเสยี หายใหแ้ ก่ผใู้ ด

ขอ้ ๑๗ การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินตามระเบียบน้ี
ต้องเป็นค่าใช้จ่ายท่ีจ�ำเป็นในการด�ำรงชีพและความเป็นอยู่ของประชาชน หรือเป็นการซ่อมแซมให้คืนสู่สภาพเดิม
อันเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้า โดยไม่สามารถใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพ่ือสร้างสิ่งก่อสร้างหรือ
สาธารณปู โภคทถ่ี าวรหรอื ก่อสรา้ งใหม่ได้

ขอ้ ๑๘ เมอ่ื เปน็ ทคี่ าดหมายวา่ จะเกดิ ภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ขนึ้ ในเวลาอนั ใกล้ และจำ� เปน็ ตอ้ งรบี ดำ� เนนิ การ
โดยฉับพลัน ให้ส่วนราชการดังต่อไปน้ีอาจใช้จ่ายเงินทดรองราชการในเชิงป้องกันหรือยับย้ังภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินน้ันได้
โดยไม่ตอ้ งประกาศเขตการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัยพบิ ัตกิ รณีฉุกเฉิน ภายในวงเงนิ ไม่เกิน ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท

(๑) ในกรณีกรุงเทพมหานคร ให้เป็นอ�ำนาจหน้าท่ีของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
โดยอธบิ ดกี รมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั เป็นผมู้ อี ำ� นาจอนมุ ตั ิจา่ ยเงนิ

(๒) ในกรณจี งั หวดั อน่ื ใหเ้ ปน็ อำ� นาจหนา้ ทขี่ องสำ� นกั งานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั
โดยผวู้ า่ ราชการจังหวัดเปน็ ผู้มีอำ� นาจอนมุ ัตจิ า่ ยเงนิ

ทั้งน้ี ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยก�ำหนด
โดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลงั

เมื่อด�ำเนินการตามวรรคหน่ึงแล้วแต่ยังไม่สามารถป้องกันหรือยับย้ังภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินดังกล่าวได้
กใ็ ห้ประกาศเขตการให้ความชว่ ยเหลอื ผูป้ ระสบภัยพบิ ัติกรณีฉกุ เฉินโดยใหด้ �ำเนนิ การตามข้อ ๒๐

ความในวรรคหน่ึงและวรรคสอง ไม่ใช้บังคับกับการป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินที่เกิดจากโรค
หรือการระบาดของสตั ว์หรอื พืชทกุ ชนดิ ทงั้ นี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำ� เนนิ การตามขอ้ ๑๙

ข้อ ๑๙ การป้องกันหรือยับย้ังภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน หรือการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากภัย
ท่ีเกิดจากโรคหรือการระบาดของสัตว์หรือพืชทุกชนิด ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้จ่ายจากเงินงบประมาณ
ของหนว่ ยงานกอ่ น เมอื่ ไมส่ ามารถปอ้ งกนั ไดแ้ ละเกดิ โรคหรอื การแพรร่ ะบาดแลว้ และงบประมาณไมเ่ พยี งพอ อาจใชจ้ า่ ย
จากเงนิ ทดรองราชการตามขอ้ ๘ (๔) ได้

ข้อ ๒๐ เม่ือภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเกิดขึ้นในท้องท่ีใด ให้ผู้มีอ�ำนาจด�ำเนินการประกาศให้ท้องที่น้ัน
เป็นเขตการให้ความชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิกรณฉี ุกเฉินตามหลกั เกณฑ์ ดังต่อไปน้ี

(๑) กรณเี กดิ ในกรงุ เทพมหานคร ใหเ้ ปน็ อ�ำนาจของอธบิ ดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
(๒) กรณีเกดิ ในจงั หวดั อนื่ ใหเ้ ปน็ อ�ำนาจของผู้วา่ ราชการจังหวดั รว่ มกับ ก.ช.ภ.จ.

คู่มอื การให้ความช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิด้านการเกษตร 11

การประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินต้องก�ำหนดพื้นท่ีและระยะเวลาของ
การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัตินั้นด้วย ทั้งน้ี ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขท่ีกรมป้องกัน
และบรรเทาสาธารณภยั กำ� หนด โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลงั

ในการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในจังหวัดอ่ืน ๆ หากไม่สามารถ
ประชุม ก.ช.ภ.จ. ได้ทันท่วงที และผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นว่าความเสียหายดังกล่าวเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่
กระทรวงการคลงั กำ� หนด กใ็ หม้ อี ำ� นาจพจิ ารณาประกาศเขตการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ไปกอ่ น
ไดโ้ ดยไมต่ อ้ งขอความเห็นชอบจาก ก.ช.ภ.จ.

ขอ้ ๒๑ เมื่อได้มีการประกาศตามข้อ ๒๐ แล้ว ให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องด�ำเนินการ
ชว่ ยเหลือผู้ประสบภยั พิบตั ิตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารท่ีกำ� หนดในหมวดน้ี

ข้อ ๒๒ การใหค้ วามชว่ ยเหลือผู้ประสบภยั พิบตั ใิ นพนื้ ทก่ี รุงเทพมหานคร ให้ด�ำเนนิ การดังตอ่ ไปนี้
(๑) ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ด�ำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทุกด้าน
เวน้ แตก่ ารใหค้ วามชว่ ยเหลอื ดา้ นสงั คมสงเคราะหแ์ ละฟน้ื ฟผู ปู้ ระสบภยั การใหค้ วามชว่ ยเหลอื
ดา้ นการเกษตร หรอื การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ดา้ นการแพทยแ์ ละการสาธารณสขุ ใหเ้ ปน็ อำ� นาจ
หนา้ ทข่ี องส่วนราชการตามขอ้ ๘ (๓) (๔) และ (๖) แล้วแตก่ รณี
(๒) กรณีส่วนราชการหรือหน่วยงานอ่ืนของรัฐซึ่งไม่มีวงเงินทดรองราชการเพ่ือช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินได้รับการร้องขอให้ช่วยเหลือ หรือถูกส่ังการให้ช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยพิบัติ ให้ขอรับการสนับสนุนจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เว้นแต่
การให้ความช่วยเหลือด้านสังคมสงเคราะห์และฟื้นฟูผู้ประสบภัย การให้ความช่วยเหลือ
ดา้ นการเกษตร หรอื การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ดา้ นการแพทยแ์ ละการสาธารณสขุ ใหเ้ ปน็ อำ� นาจ
หน้าท่ีของสว่ นราชการตามขอ้ ๘ (๓) (๔) และ (๖) แล้วแต่กรณี
(๓) กรณีที่มีเหตุจ�ำเป็นเพื่อประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ให้ส�ำนักเลขาธิการ
นายกรัฐมนตรีหรือส�ำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงมหาดไทย ให้การสนับสนุนเงิน
ทดรองราชการเพอ่ื ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ แกส่ ว่ นราชการตามขอ้ ๘ (๓) (๔)
(๖) และ (๗) โดยไม่ต้องให้ส่วนราชการดงั กลา่ วขอรับการสนบั สนุนก่อนได้
(๔) กรณที ม่ี คี วามจำ� เปน็ เพอื่ ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิ และกระทรวงกลาโหมไดร้ บั การรอ้ งขอ
หรือถกู ส่งั การ หนว่ ยงานดังกลา่ วสามารถดำ� เนินการให้ความชว่ ยเหลอื ไดโ้ ดยตรง

ขอ้ ๒๓ การใหค้ วามชว่ ยเหลือผ้ปู ระสบภยั พิบตั ิในจงั หวดั อ่นื ให้ด�ำเนินการดงั ต่อไปน้ี
(๑) ให้อ�ำเภอหรือก่ิงอ�ำเภอ แล้วแต่กรณี ด�ำเนินการให้ความช่วยเหลือตามมติของ ก.ช.ภ.อ.
หรอื ก.ช.ภ.กอ. แล้วแตก่ รณี ภายในวงเงินทดรองราชการเพ่ือชว่ ยเหลือผู้ประสบภัยพบิ ัติ
กรณีฉกุ เฉนิ ตามท่ีผวู้ ่าราชการจงั หวัดจดั สรรให้ และในกรณีที่มคี วามจำ� เป็นตอ้ งใช้เงนิ เพอ่ื
ดำ� เนนิ การชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั มิ ากกวา่ วงเงนิ ทไี่ ดร้ บั จดั สรร ใหอ้ ำ� เภอหรอื กงิ่ อำ� เภอ
ขอรบั การสนบั สนนุ โดยตรงจากจงั หวดั และใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั อนมุ ตั กิ ารจา่ ยเงนิ ทดรอง
ราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินของจังหวัดเพ่ือสนับสนุนการดังกล่าว
หรือดำ� เนินการใหค้ วามชว่ ยเหลือตามมตขิ อง ก.ช.ภ.จ.

12 คมู่ ือการให้ความชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิดา้ นการเกษตร

ในกรณีท่ไี มส่ ามารถประชมุ ก.ช.ภ.อ. ก.ช.ภ.กอ. หรือ ก.ช.ภ.จ. แลว้ แตก่ รณี ได้ทนั ทว่ งที ถา้ นายอ�ำเภอ
หรือปลัดอ�ำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจ�ำกิ่งอ�ำเภอหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี เห็นว่าความเสียหายดังกล่าว
เป็นไปตามระเบียบน้ี ก็ให้มีอ�ำนาจพิจารณาอนุมัติการให้ความช่วยเหลือไปก่อนได้ โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจาก
คณะกรรมการดงั กลา่ ว

(๒) ในกรณีส่วนราชการหรือหน่วยงานอื่นของรัฐซึ่งไม่มีวงเงินทดรองราชการเพ่ือช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินได้รับการร้องขอให้ช่วยเหลือ หรือถูกส่ังการให้ช่วยเหลือ
ผ้ปู ระสบภยั พิบัตใิ ห้ขอรบั การสนบั สนุนจากจงั หวัด

(๓) ในกรณีท่ีมีความจ�ำเป็นเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ และกรมป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัยหรือกระทรวงกลาโหม แล้วแต่กรณี ได้รับการร้องขอหรือถูกส่ังการ
ให้หน่วยงานดังกล่าวสามารถด�ำเนินการให้ความช่วยเหลือได้โดยตรง และรายงาน
ให้ ก.ช.ภ.อ. ก.ช.ภ.กอ. หรือ ก.ช.ภ.จ. ทราบต่อไป เว้นแต่ในกรณีการให้การสนับสนุน
และช่วยเหลือในด้านวัสดุอุปกรณ์ เคร่ืองมือ เครื่องใช้ ยานพาหนะ และสิ่งอื่น ๆ เพ่ือใช้
ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสามารถ
ด�ำเนนิ การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ไดโ้ ดยไม่ต้องรอ้ งขอ

(๔) ในกรณีท่ีมีความจ�ำเป็นเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคม
และความมน่ั คงของมนษุ ย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หรอื กระทรวงสาธารณสขุ มอี ำ� นาจ
โอนเงนิ ทดรองราชการเพอื่ ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ใหแ้ กจ่ งั หวดั เพอื่ ใชใ้ นการ
ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติได้ตามภารกิจของส่วนราชการเจ้าของเงิน โดยไม่ต้อง
ให้จังหวัดขอรบั การสนบั สนนุ กอ่ นได้

(๕) ในกรณีท่ีมีเหตุจ�ำเป็นเพื่อประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ให้ส�ำนักเลขาธิการ
นายกรัฐมนตรีหรือกระทรวงมหาดไทย มีอ�ำนาจโอนเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือ
ผ้ปู ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี ุกเฉินให้แก่จังหวดั โดยไมต่ อ้ งใหจ้ งั หวัดขอรบั การสนบั สนนุ ก่อนได้

การโอนเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินให้แก่จังหวัด ให้ด�ำเนินการ
ตามวธิ ีการทกี่ ระทรวงการคลังกำ� หนด

ข้อ ๒๔ การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติของกระทรวงกลาโหมท้ังในกรุงเทพมหานคร
และจงั หวดั อน่ื ใหส้ ำ� นกั งานปลดั กระทรวง กระทรวงกลาโหม หรอื หนว่ ยงานในสงั กดั กระทรวงกลาโหมทไี่ ดร้ บั มอบหมาย
ด�ำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติตามข้อตกลงร่วมกันระหว่างกระทรวงกลาโหม กรุงเทพมหานคร กระทรวงการ
พัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข
โดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลงั และสำ� นกั งบประมาณ เพอื่ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื เปน็ ไปโดยทวั่ ถงึ และไมซ่ ำ้� ซอ้ นกนั

การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผ้ปู ระสบภยั พิบตั ิให้เปน็ ไปตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขที่กระทรวงกลาโหม
กำ� หนด โดยความเห็นชอบของกระทรวงการคลงั

ข้อ ๒๕ การขอรับการสนับสนุนการให้ความช่วยเหลือตามข้อ ๒๒ และข้อ ๒๓ ให้ท�ำเป็นหนังสือ
ซึ่งอย่างน้อยให้มีรายการ ดงั ตอ่ ไปนี้

(๑) ประเภทของภยั พิบัติกรณีฉกุ เฉิน
(๒) วัน เดือน ปที ่ีเกดิ ภยั พิบตั กิ รณฉี กุ เฉนิ และวนั เดือน ปีทีเ่ กิดความเสียหาย

คูม่ อื การใหค้ วามชว่ ยเหลือผู้ประสบภยั พิบตั ิดา้ นการเกษตร 13

(๓) สถานท่เี กิดเหตุ (ให้ระบชุ ือ่ ถนน หมูบ่ า้ น ตำ� บล อ�ำเภอ)
(๔) จำ� นวนผูป้ ระสบภัยพบิ ตั โิ ดยประมาณ
(๕) ความเสียหายโดยประมาณ เช่น จ�ำนวนบ้านเรือนที่เสียหาย ทรัพย์สินท่ีเสียหาย รวมท้ัง

มูลค่าความเสียหายทเ่ี กิดขึ้นโดยประมาณ จ�ำนวนผบู้ าดเจ็บ ผเู้ สียชีวติ เป็นต้น
(๖) การชว่ ยเหลอื แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเฉพาะหนา้ ทีไ่ ดด้ ำ� เนนิ การไปแลว้
(๗) ความตอ้ งการในการขอรับความช่วยเหลือหรอื สนบั สนนุ การให้ความชว่ ยเหลอื
กรณีที่มีความจ�ำเป็นเร่งด่วนไม่อาจขอรับการสนับสนุนเป็นหนังสือได้ ให้ขอรับการสนับสนุนการให้
ความช่วยเหลอื โดยเครอื่ งมอื สื่อสารใด ๆ หรอื โดยวธิ ีอ่ืนใดและให้ยืนยนั เป็นหนังสือในภายหลงั โดยด่วนท่สี ุด
การขอรบั การสนบั สนนุ ระหวา่ งสว่ นราชการตามวรรคหน่ึงและวรรคสอง ให้ส่วนราชการทำ� สัญญายืมเงนิ
ตามระเบยี บของทางราชการ
ขอ้ ๒๖ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติให้ส่วนราชการประสานงาน
ระหวา่ งสว่ นราชการหรอื หนว่ ยงานอนื่ ของรฐั ดว้ ยกนั กบั เอกชนและองคก์ รการกศุ ลทเี่ กยี่ วขอ้ งอยา่ งใกลช้ ดิ เพอื่ ใหค้ วาม
ช่วยเหลอื เป็นไปโดยท่ัวถงึ และไมซ่ ้ำ� ซอ้ นกนั

หมวด ๔

การจา่ ยและการชดใชเ้ งนิ ทดรองราชการ

ขอ้ ๒๗ การจ่ายเงินทดรองราชการเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินให้จ่ายเป็นค่าใช้จ่าย
ตามหลักเกณฑ์ วธิ ีการ เง่อื นไข และอัตราทกี่ ระทรวงการคลังก�ำหนด

หากมคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งจา่ ยนอกเหนอื หลกั เกณฑต์ ามวรรคหนง่ึ ตอ้ งไดร้ บั อนมุ ตั จิ ากกระทรวงการคลงั กอ่ น
ข้อ ๒๘ เม่ือผู้มีอ�ำนาจตามข้อ ๙ อนุมัติการจ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณี
ฉุกเฉินแล้ว ให้ส่วนราชการตามข้อ ๘ เบิกเงินจากคลังเป็นเงินทดรองราชการเพ่ือรองจ่ายไปพลางก่อนตามที่ก�ำหนด
ในระเบียบนี้
ขอ้ ๒๙ ในการจ่ายเงินรายใด ผู้รับเงินมิได้ออกใบเสร็จรับเงินให้ไว้เป็นหลักฐานหรือมิได้ลงลายมือช่ือไว้
ในสมดุ ทะเบยี นทใี่ ชเ้ ปน็ หลกั ฐานการจา่ ยเงนิ ของทางราชการ ใหผ้ รู้ บั เงนิ ทำ� ใบสำ� คญั รบั เงนิ ตามระเบยี บของทางราชการ
ข้อ ๓๐ กรณสี ว่ นราชการตามข้อ ๘ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) และ (๗) ได้จา่ ยเงินทดรองราชการเพอื่ ชว่ ย
เหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ไปแลว้ ใหด้ ำ� เนนิ การขอรบั โอนเงนิ งบประมาณรายจา่ ยเพอื่ ชดใชเ้ งนิ ทดรองราชการ ดงั นี้

(๑) รวบรวมใบส�ำคัญและเอกสารที่เก่ียวข้องกับการจ่ายเงินเพื่อส่งให้กรมบัญชีกลางภายใน
สามสิบวันท�ำการนับแต่วันท่ีได้รับเงินจากคลัง เม่ือกรมบัญชีกลางได้รับใบส�ำคัญและ
เอกสารท่ีเกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินแล้วให้ด�ำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานดังกล่าว
เม่ือถูกต้องครบถ้วนแล้วให้เบิกเงินงบประมาณรายจ่ายโดยวิธีเบิกหักผลักส่งเพื่อชดใช้
เงนิ ทดรองราชการให้แก่ส่วนราชการโดยเร็ว

14 คูม่ ือการให้ความช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภัยพิบตั ิดา้ นการเกษตร

(๒) เม่ือได้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินไปแล้ว ให้จัดท�ำ
รายงานการใช้จ่ายเงินซึ่งผู้มีอ�ำนาจอนุมัติรับรองและเก็บหลักฐานใบส�ำคัญต้นฉบับไว้ที่
สว่ นราชการนนั้ เพอ่ื ให้สำ� นักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบ

ขอ้ ๓๑ กรณสี ว่ นราชการหรอื หนว่ ยงานอนื่ ของรฐั ทไี่ ดร้ บั การสนบั สนนุ หรอื ไดร้ บั โอนเงนิ ทดรองราชการ
เพอ่ื ชว่ ยเหลือผ้ปู ระสบภัยพิบัติกรณฉี กุ เฉินจากส่วนราชการตามขอ้ ๘ ใหส้ ว่ นราชการหรือหนว่ ยงานอ่นื ของรฐั ดงั กลา่ ว
สง่ ใบสำ� คญั และเอกสารทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การจา่ ยเงนิ มายงั สว่ นราชการเจา้ ของเงนิ ภายในสสี่ บิ หา้ วนั ทำ� การนบั แตว่ นั ทไี่ ดร้ บั
เงนิ และใหส้ ว่ นราชการเจา้ ของเงนิ เรง่ ดำ� เนนิ การตามวธิ กี ารในขอ้ ๓๐ ทงั้ น้ี ระยะเวลาในการดำ� เนนิ การขอรบั การจดั สรร
เงินงบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้เงินทดรองราชการจะต้องเสร็จส้ินภายในเจ็ดสบิ ห้าวันท�ำการ

กรณีกระทรวงกลาโหมได้จัดสรรเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินให้แก่
หน่วยงานในสังกัด หรือกรณีส�ำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด จะขอรับโอนเงินงบประมาณรายจ่าย
เพอื่ ชดใชเ้ งนิ ทดรองราชการ ใหห้ นว่ ยงานในสงั กดั กระทรวงกลาโหมหรอื สำ� นกั งานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั
ส่งใบส�ำคัญและเอกสารท่ีเก่ียวข้องกับการจ่ายเงินมายังส�ำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม หรือกรมป้องกันและบรรเทา
สาธารณภยั แลว้ แตก่ รณี ภายในสส่ี บิ หา้ วนั ทำ� การนบั แตว่ นั ทไ่ี ดร้ บั เงนิ และใหส้ ำ� นกั งานปลดั กระทรวง กระทรวงกลาโหม
หรือกรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ด�ำเนนิ การตามวธิ ีการในขอ้ ๓๐ ทงั้ นี้ ระยะเวลาในการด�ำเนินการขอรับโอน
เงนิ งบประมาณรายจา่ ยเพอื่ ชดใชเ้ งนิ ทดรองราชการจะตอ้ งเสรจ็ สน้ิ ภายในเจด็ สบิ หา้ วนั ทำ� การ โดยเมอ่ื สำ� นกั งานปอ้ งกนั
และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดส่งใบส�ำคัญและเอกสารที่เก่ียวข้องกับการจ่ายเงินมายังกรมป้องกันและบรรเทา
สาธารณภยั แลว้ ให้ส�ำเนาหนังสือแจง้ สำ� นกั งานจังหวัดทราบด้วย เพอ่ื ให้ส�ำนกั งานคลงั จังหวดั ตรวจสอบ

ท้ังนี้ ให้ส�ำนักงานคลังจังหวัดตรวจสอบการใช้จ่ายเงินทดรองราชการของส�ำนักงานป้องกันและบรรเทา
สาธารณภยั จงั หวัด ตามหลักเกณฑ์และวธิ ีการทีก่ ระทรวงการคลังกำ� หนด

ข้อ ๓๒ ในกรณที เ่ี กดิ ภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ขน้ึ ในเดอื นสงิ หาคมและกนั ยายนและไดจ้ า่ ยเงนิ ทดรองราชการ
เพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินไปแล้ว แต่ไม่สามารถขอรับโอนเงินงบประมาณรายจ่ายเพื่อชดใช้
เงินทดรองราชการในปีงบประมาณได้ทัน ให้น�ำไปขอรับโอนเงินงบประมาณรายจ่ายชดใช้ในปีงบประมาณถัดไป
โดยให้ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายท่ีได้รับอนุมัติให้ก่อหน้ีผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือไปจากท่ีก�ำหนดไว้ในพระราชบัญญัติ
งบประมาณรายจา่ ยประจำ� ปหี รือพระราชบัญญัติงบประมาณรายจา่ ยเพ่มิ เติม

ข้อ ๓๓ วธิ กี ารปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั การเงนิ ในเรอ่ื งใดทม่ี ไิ ดก้ ำ� หนดไวใ้ นระเบยี บนใี้ หถ้ อื ปฏบิ ตั ติ ามระเบยี บของ
ทางราชการ

หมวด ๕

การจัดหาและการควบคุมพัสดุ

ขอ้ ๓๔ การจัดหาพัสดุ การตรวจรับพัสดุ และการบริหารพัสดุ เพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ
ให้ส่วนราชการถือปฏิบตั ิตามกฎหมายว่าดว้ ยการจดั ซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครฐั

คมู่ ือการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัยพิบตั ดิ า้ นการเกษตร 15

หมวด ๖

การตรวจสอบติดตามการใชจ้ ่ายเงนิ ทดรองราชการ

ขอ้ ๓๕ การตรวจสอบตดิ ตามการใชจ้ า่ ยเงนิ ทดรองราชการของสว่ นราชการตามขอ้ ๘ ใหด้ ำ� เนนิ การ ดงั น้ี
(๑) กรณีส่วนราชการตามข้อ ๘ (๑) (๒) (๓) (๔) (๕) (๖) และ (๗) ให้ผู้มีอ�ำนาจตามข้อ ๙
มอบหมายให้ผู้ตรวจสอบภายในราชการของส่วนราชการน้ัน ๆ ด�ำเนินการตรวจสอบ
การใช้จ่ายเงินทดรองราชการแล้วรายงานผลการตรวจสอบให้ผู้มีอ�ำนาจดังกล่าวทราบ
ภายในสามสิบวันนบั แต่วนั ทส่ี ิน้ สุดระยะเวลาการใหค้ วามช่วยเหลอื
(๒) กรณีสว่ นราชการตามข้อ ๘ (๘) ใหผ้ ้วู ่าราชการจงั หวดั มอบหมายให้ผตู้ รวจสอบภายในของ
จังหวัดด�ำเนินการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินทดรองราชการ แล้วรายงานผลการตรวจสอบ
ใหผ้ มู้ อี ำ� นาจดงั กลา่ วทราบ ภายในสามสบิ วนั นบั แตว่ นั ทส่ี นิ้ สดุ ระยะเวลาการใหค้ วามชว่ ยเหลอื

ให้ส�ำนักงานคลังจังหวัดเป็นศูนย์ประสานงานเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยพบิ ตั ิกรณฉี ุกเฉินของจงั หวดั

ขอ้ ๓๖ ให้ส่วนราชการและจงั หวดั สง่ รายงานผลการตรวจสอบการใชจ้ า่ ยเงนิ ทดรองราชการตามขอ้ ๓๕
ไปยังกรมบัญชีกลาง ตามแบบและเง่ือนไขท่ีกระทรวงการคลังก�ำหนด ภายในสิบห้าวันนับแต่วันท่ีได้รับรายงานผล
การตรวจสอบดังกลา่ ว

ขอ้ ๓๗ ใหม้ คี ณะกรรมการตรวจสอบตดิ ตามการใชจ้ า่ ยเงนิ ทดรองราชการกระทรวงการคลงั ประกอบดว้ ย
อธิบดีกรมบัญชีกลาง เป็นประธานกรรมการ ผู้แทนส�ำนักงบประมาณ ผู้แทนส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
เป็นกรรมการ ผแู้ ทนกรมบัญชีกลาง เปน็ กรรมการและเลขานุการ

ใหก้ รมบัญชกี ลางเป็นศูนย์ตรวจสอบติดตามการใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพอ่ื ชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภยั กรณี
ฉกุ เฉนิ และทำ� หนา้ ท่ีสนบั สนนุ การด�ำเนนิ งานของคณะกรรมการตามวรรคหนึง่

ขอ้ ๓๘ ให้คณะกรรมการตรวจสอบติดตามการใช้จ่ายเงินทดรองราชการกระทรวงการคลังมีหน้าท่ีและ
อำ� นาจ ดังต่อไปนี้

(๑) รบั ปญั หาขอ้ รอ้ งเรยี นจากประชาชนหรอื หนว่ ยงานตา่ ง ๆ เกย่ี วกบั ปญั หาการใหค้ วามชว่ ยเหลอื
ผู้ประสบภยั พิบตั ิซ่งึ เปน็ ไปอยา่ งไมถ่ ูกต้อง ไมเ่ ป็นธรรม หรือไมเ่ ป็นไปตามระเบียบนี้ พรอ้ ม
ท้ังตรวจสอบและแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาด�ำเนินการต่อไปตามที่เห็น
สมควร และเม่ือหน่วยงานที่เก่ียวข้องด�ำเนินการแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนแล้ว ให้แจ้ง
คณะกรรมการตรวจสอบตดิ ตามการใช้จา่ ยเงนิ ทดรองราชการกระทรวงการคลังทราบด้วย

(๒) แต่งตั้งคณะท�ำงานเพื่อปฏิบัติงานตามที่คณะกรรมการตรวจสอบติดตามการใช้จ่ายเงิน
ทดรองราชการกระทรวงการคลงั มอบหมาย

16 คมู่ ือการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัยพิบัติดา้ นการเกษตร

บทเฉพาะกาล

ขอ้ ๓๙ การด�ำเนินการและการใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
ส�ำหรบั ภัยพิบตั ิกรณฉี กุ เฉินทเ่ี กดิ ข้นึ อยูก่ อ่ นวันท่ีระเบียบน้ใี ชบ้ งั คับ ใหถ้ อื ปฏิบัติตามระเบยี บกระทรวงการคลัง ว่าดว้ ย
เงนิ ทดรองราชการเพื่อชว่ ยเหลือผู้ประสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ และท่แี ก้ไขเพิ่มเตมิ จนกวา่ จะด�ำเนินการ
แลว้ เสร็จ เว้นแตก่ ารดำ� เนนิ การขั้นตอนใดท่ียงั ไมไ่ ดเ้ ริม่ ดำ� เนินการ ใหถ้ อื ปฏบิ ตั ติ ามระเบียบนี้

ข้อ ๔๐ ในระหว่างท่ียังมิได้ก�ำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เง่ือนไข และอัตราในการจ่ายเงินทดรองราชการ
ตามระเบียบนี้ ใหใ้ ช้หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการเกีย่ วกบั การใหค้ วามช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัตทิ ่ีออกตามระเบยี บกระทรวง
การคลัง ว่าดว้ ยเงินทดรองราชการเพอื่ ช่วยเหลอื ผ้ปู ระสบภยั พิบตั กิ รณฉี กุ เฉนิ พ.ศ. ๒๕๕๖ ไปพลางกอ่ น จนกว่าจะมี
การกำ� หนดหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ เงอื่ นไข และอตั ราท่กี ระทรวงการคลังกำ� หนด เพือ่ ช่วยเหลอื ผู้ประสบภยั พบิ ตั ิตามระเบียบนี้

ขอ้ ๔๑ ในระหว่างที่ยังมิได้ก�ำหนดแบบและเงื่อนไขของรายงานผลการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินทดรอง
ราชการตามระเบียบนี้ ให้ใช้แบบและเงื่อนไขของรายงานการใช้จ่ายเงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลัง
ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติมไปพลางก่อน
จนกวา่ จะมีการก�ำหนดแบบและเงื่อนไขของรายงานผลการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินทดรองราชการตามระเบียบน้ี

ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๒
ลงชือ่ อภิศกั ดิ์ ตันตวิ รวงศ์
(นายอภศิ กั ดิ์ ตนั ตวิ รวงศ์)

รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงการคลัง

คมู่ ือการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัยพบิ ตั ิด้านการเกษตร 17

ประกาศกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั
เร่อื ง หลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเงอื่ นไขการใช้จา่ ยเงนิ ทดรองราชการ

ในเชิงปอ้ งกนั หรอื ยับยง้ั ภัยพิบัติกรณฉี กุ เฉนิ

___________________________

เพอื่ ให้การใชจ้ ่ายเงินทดรองราชการในเชงิ ป้องกนั หรือยับย้งั ภยั พิบตั กิ รณีฉุกเฉนิ เป็นไปอย่างมีระบบ และ
เกิดประสิทธภิ าพ และเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพอื่ ชว่ ยเหลอื ผ้ปู ระสบภัยพบิ ตั ิ
กรณีฉกุ เฉิน พ.ศ. ๒๕๖๒

อาศัยอำ� นาจตามความในขอ้ ๑๘ แหง่ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพือ่ ชว่ ยเหลอื
ผู้ประสบภยั พิบัตกิ รณฉี ุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๒ กรมปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั โดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลงั
จึงก�ำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการใช้จ่ายเงินทดรองราชการในเชิงป้องกันหรือยับย้ังภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินไว้
ดังตอ่ ไปนี้

ขอ้ ๑ ประกาศน้ีเรียกว่า “ประกาศกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงอ่ื นไขการใชจ้ า่ ยเงนิ ทดรองราชการในเชงิ ปอ้ งกันหรอื ยบั ยง้ั ภัยพบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉิน”

ข้อ ๒ ในประกาศน้ี
“ในเชิงป้องกันหรือยับยั้ง หมายความว่า การด�ำเนินการใดที่จ�ำเป็นต้องกระท�ำการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อ
สถานการณภ์ ยั พบิ ตั ทิ คี่ าดหมายวา่ จะเกดิ ขน้ึ ในเวลาอนั ใกล้ และจำ� เปน็ ตอ้ งรบี ดำ� เนนิ การปอ้ งกนั หรอื ยงั ยงั้ ภยั พบิ ตั ดิ งั กลา่ ว
โดยฉับพลัน เพ่ือลดผลกระทบจากภัยพิบัติที่จะเกิดข้ึน ซ่ึงหากไม่ด�ำเนินการป้องกันหรือยับย้ังต่อภัยพิบัติดังกล่าวอาจ
สง่ ผลกอ่ ใหเ้ กิดอนั ตรายแก่ชวี ิต รา่ งกายของประชาชน หรอื ความเสยี หายแกท่ รัพย์สินของประชาชนหรอื ของรฐั
ข้อ ๓ ใหอ้ ธบิ ดกี รมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั หรอื ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั แลว้ แตก่ รณอี นมุ ตั จิ า่ ยเงนิ
ทดรองราชการเพือ่ เปน็ ค่าใชจ้ า่ ยในเชิงป้องกนั หรอื ยบั ย้ังภัยพบิ ัตกิ รณฉี กุ เฉิน
ข้อ ๔ ใหผ้ มู้ อี ำ� นาจอนมุ ตั จิ า่ ยเงนิ ทดรองราชการตามขอ้ ๓ แตง่ ตง้ั เจา้ หนา้ ทข่ี องสว่ นราชการทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
ในการดำ� เนนิ การปอ้ งกนั หรอื ยบั ยง้ั ภยั พบิ ตั ทิ จี่ ะเกดิ ขน้ึ ในเวลาอนั ใกลอ้ ยา่ งนอ้ ยหา้ คนเปน็ คณะกรรมการ เพอื่ ทำ� หนา้ ที่
ในการประเมินสถานการณ์ ระดบั ความรุนแรงของภยั พบิ ัติ วิเคราะหส์ ถานการณค์ วามเป็นไปได้ พฤติการณ์ ปัจจยั บง่ ช้ี
ตา่ ง ๆ วา่ มคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งปอ้ งกนั หรอื ยบั ยงั้ ตามขอ้ ๒ รวมทง้ั การเสนอมาตรการและแนวทางในการปอ้ งกนั หรอื ยบั ยง้ั
ภัยพบิ ัติดงั กลา่ วตอ่ ผู้มีอำ� นาจอนมุ ตั จิ า่ ยเงินทดรองราชการดงั กลา่ ว

18 ค่มู ือการใหค้ วามช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พิบัติด้านการเกษตร

ขอ้ ๕ การใชจ้ ่ายเงินทดรองราชการซ่ึงใช้ในการดำ� เนินการในเชิงป้องกนั หรือยับยงั้ ภยั พบิ ัติกรณีฉุกเฉิน
ให้เบิกจ่ายได้ดงั นี้

(๑) คา่ แรงงาน คา่ จา้ งเหมา
(๒) ค่าวสั ดุ อุปกรณ์ ท่ีใชใ้ นการดำ� เนนิ การปอ้ งกันหรือยับยงั้ ภัยพบิ ตั ิ
(๓) คา่ ซอ่ มแซมเครอ่ื งมอื เครอ่ื งจกั รกล และยานพาหนะ ซงึ่ ชำ� รดุ เสยี หายในระหวา่ งปฏบิ ตั งิ าน

ตามความจำ� เป็น
(๔) คา่ จดั หาพลงั งานเชอ้ื เพลงิ และนำ�้ มนั หลอ่ ลน่ื สำ� หรบั เครอ่ื งมอื เครอื่ งจกั รกล และยานพาหนะ

ที่นำ� มาใช้ในการปฏบิ ตั งิ านตามความจ�ำเป็น
(๕) ค่าจัดหาพลังงานไฟฟา้
(๖) ค่าตอบแทน ค่าใช้จ่ายในการเดินทางส�ำหรับเจ้าหน้าท่ีที่ออกปฏิบัติงานให้เบิกจ่ายได้ใน

กรณที ง่ี บประมาณปกตไิ มเ่ พยี งพอ หรอื มไิ ดต้ ง้ั ไวเ้ พอื่ การน้ี และใหเ้ บกิ จา่ ยตามระเบยี บของ
ทางราชการ
(๗) ค่าอาหารจัดเล้ียงเจ้าหน้าท่ีของทางราชการและผู้มาให้ความช่วยเหลือให้เบิกจ่ายได้วันละ
ไม่เกิน ๓ ม้อื มื้อละไมเ่ กนิ ๕๐ บาทตอ่ คน ท้งั นี้ เจา้ หน้าที่ของทางราชการและผมู้ าใหค้ วาม
ช่วยเหลือตอ้ งไมไ่ ด้รบั เงินอ่นื ใดจากทางราชการอีก
ในกรณที ม่ี คี วามจำ� เปน็ ตอ้ งอพยพประชาชนทอ่ี าจไดร้ บั ผลกระทบจากสถานการณภ์ ยั พบิ ตั ทิ คี่ าดหมายวา่
จะเกิดขน้ึ ในเวลาอนั ใกล้ ให้เบิกจา่ ยคา่ อาหารจดั เลย้ี งใหแ้ กป่ ระชาชนไดว้ ันละไมเ่ กิน ๓ มอื้ มือ้ ละไมเ่ กิน ๕๐ บาทต่อคน
กรณีท่ีมีเหตุจ�ำเป็นที่จะต้องเบิกจ่ายเงินทดรองราชการนอกจากท่ีก�ำหนดไว้ในวรรคหนึ่งเพื่อประโยชน์
ในการด�ำเนินการในเชิงป้องกันหรือยับยั้งภัยพิบัติ ให้คณะกรรมการตามข้อ ๔ เป็นผู้พิจารณาก�ำหนดเป็นรายการ
คา่ ใชจ้ า่ ยและเสนออธิบดกี รมปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ผวู้ า่ ราชการจังหวดั เพอ่ื อนมุ ตั จิ า่ ยเงนิ ต่อไป
ข้อ ๖ เมอ่ื ผมู้ อี ำ� นาจอนมุ ตั จิ า่ ยเงนิ ไดอ้ นมุ ตั ใิ หใ้ ชจ้ า่ ยเงนิ ทดรองราชการในเชงิ ปอ้ งกนั หรอื ยบั ยง้ั ภยั พบิ ตั ิ
กรณีฉุกเฉินไปแลว้ ให้รายงานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ทราบ ภายใน ๒๔ ช่ัวโมง นบั แตอ่ นมุ ตั ิ
ข้อ ๗ ในการจดั ส่งเอกสารเพ่อื ขอรับการจดั สรรงบประมาณเพ่ือชดใช้เงินทดรองราชการ ใหผ้ ู้มีอำ� นาจ
อนุมัติการจ่ายเงินรับรองและยืนยันว่าได้ด�ำเนินการและใช้จ่ายเงินทดรองราชการถูกต้องเป็นจริง และอยู่ภายในวงเงิน
ตามระเบยี บและหลักเกณฑท์ ก่ี ระทรวงการคลังกำ� หนด
ขอ้ ๘ ให้น�ำความในข้อ ๒๘ ขอ้ ๒๙ ขอ้ ๓๐ ข้อ ๓๑ ข้อ ๓๒ ขอ้ ๓๓ ขอ้ ๓๔ ขอ้ ๓๕ ข้อ ๓๖ ขอ้ ๓๗
และข้อ ๓๘ แห่งระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทดรองราชการเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๖๒ การจ่ายเงินและการชดใช้เงินทดรองราชการ การจัดหาและการควบคุมพัสดุ การตรวจสอบติดตาม
การใชจ้ ่ายเงินทดรองราชการมาใชบ้ ังคบั

คูม่ ือการใหค้ วามชว่ ยเหลือผู้ประสบภยั พบิ ตั ิดา้ นการเกษตร 19

ข้อ ๙ ให้อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีอ�ำนาจวินิจฉัยช้ีขาดในการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์
วธิ กี าร และเงือ่ นไขการใช้จ่ายเงินทดรองราชการในเชิงปอ้ งกันหรอื ยบั ยง้ั ภัยพบิ ัติ และค�ำวินิจฉยั ของอธบิ ดีกรมปอ้ งกนั
และบรรเทาสาธารณภยั ใหถ้ ือเปน็ หลักเกณฑ์ วธิ ีการและเงื่อนไขทีก่ ำ� หนดตามประกาศน้ีด้วย

ขอ้ ๑๐ ประกาศนี้ใหใ้ ช้บงั คบั ต้งั แตว่ นั ที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๓ เป็นตน้ ไป
ประกาศ ณ วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓
มณฑล สุดประเสริฐ
(นายมณฑล สดุ ประเสรฐิ )
อธบิ ดกี รมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั

20 คู่มอื การใหค้ วามชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภยั พบิ ัติด้านการเกษตร

ประกาศกรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย
เรือ่ ง หลักเกณฑ์ วิธกี าร และเง่อื นไขการประกาศ
เขตการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พิบตั ิกรณีฉกุ เฉนิ

___________________________
อาศัยอำ� นาจตามความในข้อ ๒๐ แหง่ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าดว้ ยเงนิ ทดรองราชการเพ่อื ชว่ ยเหลอื
ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ พ.ศ.๒๕๖๒ กรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั โดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลงั
จึงก�ำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ไว้ดัง
ต่อไปนี้
ข้อ ๑ เม่ือเกิดภัยพิบัติข้ึนในกรุงเทพมหานครหรือจังหวัดอื่น หากเป็นกรณีฉุกเฉินและจ�ำเป็นต้องให้
ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจากเงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการ
เพอื่ ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ใหอ้ ธบิ ดกี รมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั หรอื ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั รว่ มกบั
คณะกรรมการให้ความช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภัยพิบตั จิ งั หวดั (ก.ช.ภ.จ.) แลว้ แต่กรณี ดำ� เนนิ การประกาศเขตการให้ความ
ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องด�ำเนินการให้ความช่วยเหลือ
ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิ โดยการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลอื ผ้ปู ระสบภยั พบิ ัตกิ รณฉี ุกเฉินน้ัน ให้มีรายการดังต่อไปน้ี

(๑) ประเภทของภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ
(๒) วัน เดือน ปี ท่ีเกิดภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน และวัน เดือน ปี ท่ีสิ้นสุดภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน

ในกรณีที่สถานการณ์ของภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินยังไม่ยุติ ให้ระบุในประกาศว่า “ภัยพิบัติ
กรณฉี ุกเฉินยังไมย่ ุต”ิ และเมอื่ ภยั พิบตั ิดังกลา่ วไดย้ ตุ ิแลว้ ให้ดำ� เนินการประกาศวันสนิ้ สุด
ของภยั ด้วย
(๓) พ้ืนท่ที ีเ่ กิดภัยพบิ ตั ิกรณีฉกุ เฉนิ ใหร้ ะบุเฉพาะพ้นื ท่ีชมุ ชน หมู่บ้าน ตำ� บล อำ� เภอท่เี กดิ ภยั
พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ เทา่ นน้ั หากภยั พบิ ตั สิ ง่ ผลกระทบเปน็ วงกวา้ งขนึ้ กใ็ หป้ ระกาศเพม่ิ เตมิ ตาม
พน้ื ที่ความเสยี หายท่ีเกดิ ขึน้ จรงิ และให้ระบุใหช้ ัดเจนวา่ เป็นการประกาศเขตการให้ความ
ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพบิ ัติกรณฉี ุกเฉินเพิม่ เติม
(๔) ประเภทความเสียหาย ให้ระบุประเภทความเสียหาย อาทิ ชีวิต ทรัพย์สิน ที่อยู่อาศัย
พนื้ ทีก่ ารเกษตร หรอื สิ่งสาธารณประโยชน์ เปน็ ต้น
(๕) เวลาเรม่ิ ตน้ และเวลาสน้ิ สดุ ของการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ทงั้ นตี้ อ้ ง
ไม่เกินสามเดือน นับแต่วนั ทเ่ี กดิ ภยั

คู่มือการให้ความช่วยเหลือผปู้ ระสบภัยพบิ ตั ดิ า้ นการเกษตร 21

เมอ่ื ไดม้ กี ารประกาศเขตการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ รวมทงั้ การประกาศวนั สน้ิ สดุ
ของภัย ใหส้ ่งส�ำเนาประกาศดังกล่าวใหก้ รมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ทราบทนั ที

ขอ้ ๒ กรณไี ม่สามารถด�ำเนนิ การใหค้ วามชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภยั พิบัตไิ ดภ้ ายในระยะเวลาทก่ี ำ� หนดตาม
ขอ้ ๑ (๕) ใหย้ ื่นขอขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภัยพิบัติกรณฉี ุกเฉินก่อนระยะเวลาการใหค้ วามช่วยเหลือ
ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ สนิ้ สดุ ลงไมน่ อ้ ยกวา่ สบิ หา้ วนั โดยใหท้ ำ� หนงั สอื ชแี้ จงเหตผุ ลความจำ� เปน็ และระบรุ ะยะเวลา
ที่ขออนมุ ตั ขิ ยาย พรอ้ มแนบเอกสารประกอบการพิจารณา ดังน้ี

(๑) สำ� เนาประกาศเขตการใหค้ วามช่วยเหลือผู้ประสบภยั พิบัติกรณฉี กุ เฉิน
(๒) ส�ำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอ�ำเภอ

(ก.ช.ภ.อ.) หรอื สำ� เนารายงานการประชมุ คณะกรรมการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิ
กิ่งอ�ำเภอ (ก.ช.ภ.กอ.) หรือส�ำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยพบิ ตั จิ งั หวดั (ก.ช.ภ.จ.) แลว้ แต่กรณี ท่มี มี ติอนมุ ตั ิหรอื เหน็ ชอบการใชจ้ า่ ยเงิน
ทดรองราชการเพอื่ ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ หรอื มหี นงั สอื ขออนมุ ตั ขิ ยายเวลา
การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินจากหน่วยงานที่รับผิดชอบด�ำเนินการ
ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั แิ ตล่ ะดา้ น ในรายการทข่ี ออนมุ ตั ขิ ยายเวลาการใหค้ วามชว่ ยเหลอื
ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ซง่ึ ไดพ้ จิ ารณาใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บและหลกั เกณฑท์ ก่ี ระทรวง
การคลงั กำ� หนดแล้ว
(๓) รายละเอยี ดการขออนมุ ตั ขิ ยายระยะเวลาการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ
ตามแบบทีก่ �ำหนดทา้ ยระเบียบนี้
การอนุมัติขยายระยะเวลาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินให้เป็นอ�ำนาจอธิบดี
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ท้ังนี้ ในการขออนุมัติให้ค�ำนึงถึงความจ�ำเป็นและเหมาะสมเพื่อการแก้ไขปัญหา
เฉพาะหน้า
ข้อ ๓ ในกรณมี เี หตจุ ำ� เปน็ ไมอ่ าจขออนมุ ตั ขิ ยายระยะเวลาการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณี
ฉกุ เฉินไดท้ นั ตามก�ำหนดระยะเวลาตามขอ้ ๒ ให้เป็นดุลยพนิ จิ ของอธิบดกี รมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั ทีจ่ ะรบั ไว้
พิจารณาตามเหตผุ ลและความจ�ำเปน็
ขอ้ ๔ ประกาศนี้ให้ใช้บังคบั ตัง้ แต่วนั ที่ ๒ มีนาคม ๒๕๖๓ เปน็ ต้นไป

ประกาศ ณ วนั ที่ ๑๑ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๓
นายมณฑล สดุ ประเสรฐิ
(นายมณฑล สดุ ประเสรฐิ )

อธบิ ดีกรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั

22 คูม่ ือการใหค้ วามช่วยเหลือผปู้ ระสบภัยพบิ ัติด้านการเกษตร

หลกั เกณฑ์การใช้จา่ ยเงินทดรองราชการเพอื่ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพบิ ัติกรณฉี ุกเฉนิ
พ.ศ. ๒๕๖๓

___________________________
โดยทเี่ ปน็ การสมควรปรบั ปรงุ หลกั เกณฑแ์ ละวธิ ดี ำ� เนนิ การเกยี่ วกบั การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิ
กรณฉี กุ เฉิน ใหม้ คี วามเหมาะสมย่งิ ขน้ึ
อาศยั อ�ำนาจตามความในข้อ ๒๗ แหง่ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าดว้ ยเงินทดรองราชการ เพอ่ื ช่วยเหลอื
ผู้ประสบภยั พิบัติกรณีฉกุ เฉนิ พ.ศ. ๒๕๖๒ กระทรวงการคลงั จึงก�ำหนดหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีด�ำเนินการใหค้ วามช่วยเหลือ
ผูป้ ระสบภัยพิบตั ิกรณฉี ุกเฉินไว้ดังตอ่ ไปน้ี
๑. หลักเกณฑ์นี้เรียกว่า “หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ
กรณีฉกุ เฉิน พ.ศ. ๒๕๖๓”
๒. หลกั เกณฑน์ ้ีใหใ้ ชบ้ ังคับตั้งแต่วันท่ี ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เป็นต้นไป
๓. ให้ยกเลิกหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๕๖ ประกาศ ณ วันท่ี ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖
บรรดาหลักเกณฑ์ และค�ำส่ังอ่นื ใดท่ีก�ำหนดไวแ้ ลว้ ในหลักเกณฑน์ ี้ หรอื ซึ่งขัดหรือแย้งกบั หลักเกณฑน์ ี้
ให้ใชห้ ลักเกณฑ์น้แี ทน
๔. ขอบเขตการจ่ายเงินทดรองราชการ จะต้องเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
ตามความหมายแห่งระเบียบกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยเงนิ ทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผ้ปู ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี ุกเฉิน
๕. การจ่ายเงินทดรองราชการเพ่ือช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเง่อื นไข และอัตราดังต่อไปน้ี

๕.๑ ด้านการด�ำรงชีพ ให้ด�ำเนินการช่วยเหลือเป็นสิ่งของหรือจ่ายเป็นเงิน โดยค�ำนึงถึงสภาพ
และเหตุการณ์ตามความเหมาะสม ดงั นี้
๕.๑.๑ คา่ อาหารจดั เล้ียงวันละไม่เกิน ๓ มอื้ ม้อื ละไม่เกิน ๕๐ บาท ต่อคน
๕.๑.๒ ค่าถุงยงั ชพี ชดุ ละไมเ่ กนิ ๗๐๐ บาท ต่อครอบครัว
๕.๑.๓ ค่าจัดซื้อหรือจัดหาน�้ำส�ำหรับบริโภคและใช้สอยในที่อยู่อาศัย เท่าท่ีจ่ายจริง
ตามความจ�ำเป็นจนกว่าเหตกุ ารณ์ประสบภยั พบิ ตั ิจะเขา้ สภู่ าวะปกติ
๕.๑.๔ ค่าใช้จ่ายในการด�ำรงชีพเบื้องต้น กรณีท่ีอยู่อาศัยได้รับความเสียหายท้ังหลัง
เท่าท่ีจ่ายจรงิ ครอบครวั ละไม่เกนิ ๓,๘๐๐ บาท
๕.๑.๕ ค่าวัสดุซ่อมแซมท่ีอยู่อาศัยประจ�ำ ซึ่งผู้ประสบภัยพิบัติเป็นเจ้าของท่ีได้รับ
ความเสยี หาย เท่าทจ่ี า่ ยจรงิ หลังละไมเ่ กนิ ๔๙,๕๐๐ บาท

คูม่ อื การใหค้ วามช่วยเหลือผปู้ ระสบภัยพบิ ัตดิ า้ นการเกษตร 23

๕.๑.๖ ค่าวัสดุซ่อมแซมหรือสร้างยุ้งข้าว โรงเรือนส�ำหรับเก็บพืชผลและคอกสัตว์ท่ีได้รับ
ความเสยี หาย เทา่ ที่จ่ายจรงิ ครอบครัวละไมเ่ กนิ ๕,๗๐๐ บาท

๕.๑.๗ กรณีท่ีผู้ประสบภัยพิบัติเช่าบ้านเรือนของผู้อ่ืน และบ้านเช่าเสียหายจากภัยพิบัติ
ทง้ั หลงั หรอื เสยี หายบางสว่ นจนอยอู่ าศยั ไมไ่ ด้ ใหช้ ว่ ยเหลอื เปน็ คา่ เชา่ บา้ นแกผ่ ปู้ ระสบ
ภัยพิบตั ิเท่าที่จา่ ยจริง ในอัตราครอบครัวละไมเ่ กนิ เดอื นละ ๑,๘๐๐ บาท เปน็ เวลา
ไม่เกนิ ๒ เดือน

๕.๑.๘ ค่าดัดแปลงสถานที่ส�ำหรับเป็นท่ีพักชั่วคราว เท่าท่ีจ่ายจริง ครอบครัวละไม่เกิน
๒,๕๐๐ บาท หรือค่าผ้าใบหรือผ้าพลาสติกหรือวัสดุอ่ืน ๆ ส�ำหรับกันแดดกันฝน
เทา่ ทจ่ี ่ายจรงิ ครอบครัวละไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท

๕.๑.๙ ค่าใช้จ่ายทส่ี ว่ นราชการจดั หาสาธารณูปโภคในทีพ่ กั ชัว่ คราว
(๑) ค่าไฟฟ้า ให้เป็นไปตามที่การไฟฟ้านครหลวงหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
จะเรียกเก็บ ส�ำหรับกรณีที่ท้องที่น้ันไม่มีไฟฟ้า ให้จัดอุปกรณ์แสงสว่างอ่ืน ๆ
ทดแทนได้เทา่ ท่จี า่ ยจรงิ ตามความจ�ำเปน็
(๒) จัดหาน�้ำบริโภคและใช้สอยจากหน่วยงานท่ีจังหวัดและอ�ำเภอมีอยู่ เช่น
การประปาส่วนภูมภิ าค การประปานครหลวง หนว่ ยดับเพลงิ เทศบาล เปน็ ต้น
หรือจัดซื้ออุปกรณ์บรรจุน้�ำตามความจ�ำเป็นของจ�ำนวนผู้ประสบภัยพิบัติ
รวมทง้ั การจดั ซ้อื เพือ่ บริโภคใชส้ อย เทา่ ท่ีจ่ายจรงิ ตามความจำ� เปน็
(๓) จัดสร้างหรอื จดั หาห้องนำ�้ หอ้ งสว้ ม ๑ ทตี่ อ่ ๑๐ คน เทา่ ที่จา่ ยจรงิ เฉลีย่ ทลี่ ะ
ไม่เกิน ๑,๗๐๐ บาท
(๔) จดั สร้างที่รองรบั ทำ� ลาย หรอื ก�ำจดั ขยะมลู ฝอย เทา่ ที่จ่ายจรงิ ตามความจ�ำเป็น

๕.๑.๑๐ ค่าเคร่ืองนุ่งห่มที่ได้รับความเสียหายและไม่สามารถน�ำกลับมาใช้ได้อีก หรือมี
ความจ�ำเปน็ ต้องใชใ้ นการดำ� รงชพี กรณไี มม่ ีเครื่องนงุ่ ห่มในการด�ำรงชพี ขณะเกิดภัย
รายละไมเ่ กนิ ๑,๑๐๐ บาท

๕.๑.๑๑ ค่าเคร่ืองมือประกอบอาชีพ และหรือเงินทุนส�ำหรับผู้ประสบภัยพิบัติที่เป็นอาชีพ
หลกั ในการหาเลย้ี งครอบครวั ของผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิ เทา่ ทจ่ี า่ ยจรงิ ครอบครวั ละไมเ่ กนิ
๑๑,๔๐๐ บาท

๕.๑.๑๒ ค่าชว่ ยเหลือผ้บู าดเจ็บ
(๑) กรณีบาดเจ็บสาหัสที่ต้องรักษาในสถานพยาบาลติดต่อกันต้ังแต่ ๓ วันขึ้นไป
ให้จ่ายเงนิ ช่วยเหลือเบือ้ งต้นเปน็ เงนิ จ�ำนวน ๔,๐๐๐ บาท
(๒) กรณบี าดเจบ็ จนถึงขั้นพิการไม่สามารถประกอบอาชีพตามปกตไิ ด้ ให้ชว่ ยเหลอื
เบือ้ งตน้ เป็นเงนิ จำ� นวน ๑๓,๓๐๐ บาท
(๓) กรณีภัยพิบัติที่เป็นสาธารณภัยขนาดใหญ่หรือรุนแรงเป็นท่ีสะเทือนขวัญของ
ประชาชนทวั่ ไป ใหจ้ า่ ยเงนิ และหรอื สงิ่ ของปลอบขวญั ผทู้ ไี่ ดร้ บั บาดเจบ็ ทร่ี กั ษาตวั
ในสถานพยาบาล รายละไม่เกนิ ๒,๓๐๐ บาท

24 คู่มือการให้ความช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั พิบตั ิด้านการเกษตร

๕.๑.๑๓ ค่าจัดการศพผู้เสียชีวิต รายละไม่เกิน ๒๙,๗๐๐ บาท และในกรณีผู้ประสบภัย
ท่ีเสียชีวิตเป็นหัวหน้าครอบครัวหรือเป็นผู้หารายได้เลี้ยงดูครอบครัว ให้พิจารณา
ช่วยเหลอื เงินสงเคราะห์ครอบครัวอกี ไมเ่ กนิ ๒๙,๗๐๐ บาท

๕.๑.๑๔ กรณีอากาศหนาวจัดผิดปกติมีอุณหภูมิต�่ำกว่า ๘ องศาเซลเซียส และมีช่วงเวลา
อากาศหนาวยาวนานตดิ ต่อกันเกนิ ๓ วนั ให้จา่ ยคา่ จัดซือ้ เครือ่ งกันหนาวสงเคราะห์
ประชาชนไดเ้ ทา่ ทจ่ี า่ ยจรงิ คนละไมเ่ กนิ ๓๐๐ บาท ทงั้ น้ี จงั หวดั หนงึ่ ไมเ่ กนิ งบประมาณ
ปีละ ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท

๕.๑.๑๕ ค่าเคร่ืองครัวและอุปกรณ์ในการประกอบอาหาร ที่สูญหายหรือได้รับความเสียหาย
และไมส่ ามารถนำ� กลบั มาใช้ไดอ้ ีก เท่าทจี่ ่ายจริงครอบครวั ละไมเ่ กิน ๓,๕๐๐ บาท

๕.๑.๑๖ ค่าเครื่องนอน ท่ีสูญหายหรือได้รับความเสียหายและไม่สามารถน�ำกลับมาใช้ได้อีก
หรือมีความจ�ำเป็นต้องใช้ในการด�ำรงชีพกรณีไม่มีเครื่องนอนในการด�ำรงชีพ
ขณะเกดิ ภยั เท่าท่ีจ่ายจริงคนละไม่เกนิ ๑,๐๐๐ บาท

๕.๒ ด้านสังคมสงเคราะห์ ให้ด�ำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ โดยจัดโครงการฝึกอบรม
ส่งเสริมอาชีพระยะสั้นเฉพาะพื้นท่ีประสบภัยพิบัติแก่ผู้ประสบภัยเพื่อให้มีรายได้เล้ียงดู
ครอบครัวในภาวะวิกฤต โดยใหเ้ บิกค่าใช้จ่ายในการดำ� เนินงาน ดังนี้

(๑) คา่ ใช้จา่ ยสำ� หรบั อปุ กรณ์การฝกึ อาชีพเทา่ ท่จี ่ายจริง คนละ ไม่เกนิ ๒,๐๐๐ บาท
(๒) ค่าใช้จ่ายตอบแทนวทิ ยากร วันละไม่เกนิ ๕๐๐ บาท ไมเ่ กนิ ๑๐ วนั
(๓) ค่าใช้จ่ายในการด�ำเนินงาน ปฏิบัติการฝึกอบรม เท่าที่จ่ายจริงภายในวงเงินไม่เกิน

๑๐,๐๐๐ บาท
(๔) เงนิ ทนุ ประกอบอาชพี ทไ่ี ดร้ บั การฝกึ อบรม เทา่ ทจี่ า่ ยจรงิ ครอบครวั ละไมเ่ กนิ ๔,๐๐๐ บาท
๕.๓ ด้านการแพทย์และการสาธารณสขุ ใหด้ �ำเนนิ การชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภยั พบิ ตั ิ ดังนี้

๕.๓.๑ จดั หาวสั ดุ เคมภี ณั ฑ์ อาหาร และเวชภณั ฑ์ สำ� หรบั แจกจา่ ยประชาชน เพอื่ ใหป้ ระชาชน
ได้บริโภคนำ�้ อาหารทปี่ ลอดภยั ดงั น้ี

(๑) ค่าวัสดุ เคมภี ณั ฑ์ ส�ำหรับไปท�ำความสะอาดบอ่ น�้ำต้นื ของประชาชน บ่อน�ำ้ ละ
ไมเ่ กิน ๒๕๐ บาท

(๒) คา่ นำ้� ดมื่ แกค่ รอบครวั ทขี่ าดแคลนนำ�้ สะอาดบรโิ ภค ครอบครวั ละไมเ่ กนิ ๒๐๐ บาท
(๓) ค่าอาหารเสริมโปรตีน และอาหารท่ีมีประโยชน์ต่อร่างกายแก่ประชาชน
ผู้ประสบภัย เพ่ือการฟื้นฟูสภาพร่างกายและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค
ครอบครวั ละไมเ่ กนิ ๕๗๐ บาท
(๔) ค่าวัสดุ เคมีภัณฑ์ ส�ำหรับแจกจ่ายประชาชน เพื่อการปรับปรุงด้านอนามัย
สงิ่ แวดลอ้ มและสุขาภิบาลครัวเรอื น ครวั เรือนละไม่เกิน ๒๕๐ บาท
(๕) ค่ายาชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย (๘ รายการ) ราคาตามบัญชีราคาส�ำหรับ
หนว่ ยงานราชการ องค์การเภสัชกรรม

คู่มอื การให้ความชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภัยพิบตั ิดา้ นการเกษตร 25

๕.๓.๒ จัดหาวัสดุ เคมีภัณฑ์ วัสดุวิทยาศาสตร์การแพทย์ ส�ำหรับไปปฏิบัติงานช่วยเหลือ
ประชาชน ปรบั ปรงุ สขุ าภบิ าลและอนามยั สง่ิ แวดล้อม รวมทง้ั การควบคุมปอ้ งกนั โรค
ได้ เท่าทีจ่ า่ ยจริงตามความจำ� เปน็ และเหมาะสม ดังนี้

(๑) คา่ ยาและเวชภณั ฑ์ สำ� หรบั การรกั ษาพยาบาลหรอื ปอ้ งกนั ควบคมุ การแพรร่ ะบาดของโรค
(๒) ค่าวสั ดุทางหอ้ งปฏิบตั ิการหาเช้อื ในคน
(๓) ค่าวสั ดุและชดุ ทดสอบทางหอ้ งปฏบิ ัตกิ ารในน�ำ้ อาหาร และอากาศ
(๔) ค่าตรวจวิเคราะหท์ างห้องปฏิบตั ิการหาเชอื้ ในคน
(๕) ค่าตรวจวิเคราะหท์ างห้องปฏบิ ตั กิ ารในน้�ำ อาหาร และอากาศ

๕.๓.๓ จัดหาวัสดุควบคุมและป้องกันโรคระบาดในภาวะภัยพิบัติ จัดหายาและเวชภัณฑ์
ส�ำหรับไปปฏิบัติงาน การควบคุมป้องกันโรคและการปฏิบัติการด้านการแพทย์
เพ่ือช่วยเหลือประชาชนในภาวะภัยพิบัติ ได้แก่ ค่าวัสดุเก็บตัวอย่าง น้�ำยา
และสารเคมีในการเก็บตัวอย่างและวิเคราะห์ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์เท่าท่ีจ่ายจริง
ตามความจำ� เปน็ และเหมาะสม

๕.๔ ดา้ นการเกษตร ใหด้ ำ� เนนิ การชว่ ยเหลอื แกผ่ ปู้ ระสบภยั พบิ ตั ทิ ข่ี นึ้ ทะเบยี นและปรบั ปรงุ ทะเบยี น
กับหน่วยงานท่ีก�ำกับดูแลแต่ละด้านของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก่อนเกิดภัยพิบัติแล้ว
เท่านัน้ โดยเบกิ จา่ ยได้ ดงั น้ี

๕.๔.๑ ด้านพชื
๕.๔.๑.๑ ให้ด�ำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่พืชตายหรือเสียหายตาม
หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และอัตราท่ีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ก�ำหนด ตามจ�ำนวนพื้นที่ท�ำการเกษตรจริงที่ได้รับความเสียหาย ท้ังนี้
ไมเ่ กนิ ๓๐ ไร่ โดยคดิ จากตน้ ทนุ การผลติ เฉลีย่ ดังน้ี

(๑) กรณีพืชอายุสั้นเสียหาย ให้ช่วยเหลือต้นทุนการผลิตเฉล่ีย
เฉพาะรายการคา่ วัสดุ

(๒) กรณไี มผ้ ล ไมย้ นื ตน้ เสยี หาย ใหช้ ว่ ยเหลอื ตน้ ทนุ การผลติ เฉลยี่ เฉพาะ
รายการค่าวัสดแุ ละตน้ ทนุ เฉล่ียกอ่ นใหผ้ ลผลติ

๕.๔.๑.๒ กรณพี น้ื ทีท่ ำ� การเพาะปลกู ไดถ้ ูกหนิ ดิน ทราย ไม้ โคลน รวมทัง้ ซากวสั ดุ
ทุกชนิดทับถมจนไม่สามารถใช้เพาะปลูกได้ และหน่วยงานของรัฐ
ไมส่ ามารถเขา้ ไปใหค้ วามชว่ ยเหลอื กรณดี งั กลา่ วได้ ใหช้ ว่ ยเหลอื คา่ ใชจ้ า่ ย
เป็นคา่ จา้ งเหมาในการขดุ ลอก ขนย้ายหิน ดิน ทราย ไม้ โคลน รวมท้ัง
ซากวัสดุท่ีทับถมพื้นที่แปลงเกษตรกรรม เพื่อให้สามารถใช้พ้ืนท่ีเพ่ือการ
เพาะปลกู พืชอายุส้ันได้ในขนาดพนื้ ที่ไม่เกิน ๕ ไร่

๕.๔.๑.๓ กรณปี ระชาชนมคี วามจำ� เปน็ ตอ้ งขนยา้ ยปจั จยั การผลติ และผลผลติ ทคี่ าดวา่
จะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ ให้ช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในการขนย้าย
ปัจจัยการผลิตและผลผลิตในอัตราร้อยละ ๕๐ ของปัจจัยการผลิต
และผลผลติ ของเกษตรกรท่ดี �ำเนนิ การขนย้าย

26 คมู่ อื การให้ความชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัยพบิ ัตดิ า้ นการเกษตร

๕.๔.๒ ด้านประมง ให้ด�ำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยท่ีสัตว์น้�ำตายหรือสูญหาย
โดยสนับสนุนพันธุ์สัตว์น้�ำ อาหารสัตว์น้�ำ วัสดุทางการประมง ได้ตามความจ�ำเป็น
และเหมาะสม

๕.๔.๓ ดา้ นปศุสตั ว์
๕.๔.๓.๑ ให้ด�ำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในกรณีที่เป็นการจัดหาอาหารสัตว์
วคั ซนี และเวชภณั ฑร์ กั ษาสตั ว์ เพอ่ื ฟน้ื ฟสู ขุ ภาพสตั วเ์ ลย้ี งและจดั หาอาหาร
สตั วต์ ามราคาท้องตลาดหรอื ตามความจ�ำเปน็ และเหมาะสม
๕.๔.๓.๒ ใหด้ ำ� เนินการใหค้ วามช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั ท่ีสัตว์ตาย หรือสญู หาย หรือ
แปลงหญ้าอาหารสัตวเ์ สยี หายไดต้ ามความจำ� เปน็ และเหมาะสม

๕.๔.๔ ดา้ นการเกษตรอน่ื
๕.๔.๔.๑ ค่าใช้จ่ายในการด�ำเนินการปรับเกลี่ยพ้ืนที่ การไถพรวน ยกร่อง
การก่อสร้างคันดิน เพ่ือการเพาะปลูกพืชหรือประกอบกิจกรรม
ดา้ นการเกษตรทเ่ี ปน็ การบรรเทาปญั หาความเดอื ดรอ้ นของผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิ
๕.๔.๔.๒ คา่ ซอ่ มแซมอาคารชลประทานและระบบชลประทาน ใหส้ ามารถใชง้ านได้
ในช่วงฉุกเฉนิ โดยใหด้ �ำเนินการไดเ้ ฉพาะในส่วนท่เี กย่ี วกับการระบายน�ำ้
๕.๔.๔.๓ คา่ จา้ งเหมารถยนต์ ค่าระวางบรรทุกทางรถไฟและเรอื บรรทกุ ของเอกชน
เพอื่ ใชใ้ นการขนยา้ ยสตั วเ์ ลย้ี งทปี่ ระสบภยั และทน่ี ำ� ไปสนบั สนนุ หรอื ขนสง่
พืชหญา้ อาหารสตั วห์ รอื อาหารสัตว์ ให้เบิกจ่ายดังนี้

(๑) ค่าจ้างเหมารถยนต์และเรือบรรทุกของเอกชน ให้จ่ายเป็นรายวัน
ตามราคาท้องถนิ่

(๒) คา่ ระวางบรรทกุ ทางรถไฟ ใหเ้ บกิ จา่ ยไดเ้ ทา่ ทจี่ า่ ยจรงิ ตามความจำ� เปน็
๕.๕ ดา้ นบรรเทาสาธารณภยั ให้ด�ำเนนิ การชว่ ยเหลอื ผ้ปู ระสบภยั พิบตั ิ โดยเบกิ จ่ายได้ ดังนี้
๕.๕.๑ จัดหาภาชนะรองรับนำ�้ เชน่ โอ่งซเี มนต์ ถังเหล็กอาบสงั กะสี ถังเกบ็ น�้ำ ค.ส.ล. ถงั ปูน
ฉาบเสริมลวด หรอื ถังเกบ็ น�ำ้ ประเภทอนื่ ๆ เพ่ือช่วยเหลอื ประชาชนท่ีขาดแคลนน้ำ�
อปุ โภคบรโิ ภค
๕.๕.๒ ซอ่ มแซมภาชนะรองรบั นำ�้ ที่ช�ำรุดเสียหาย เพ่ือให้สามารถใช้เกบ็ น้�ำไว้อุปโภคบรโิ ภค
๕.๕.๓ ซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ท่ีได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติ ซึ่งมิได้อยู่ใน
ความรับผิดชอบของส่วนราชการ ให้กระท�ำได้เฉพาะในกรณีเร่งด่วนจ�ำเป็น
เพื่อให้กลับคืนสู่สภาพเดิม โดยการซ่อมแซมนั้นต้องไม่ซำ�้ ซ้อนกับโครงการท่ีได้รับ
งบประมาณด�ำเนินการในบรเิ วณน้ันอยู่แล้ว

ส�ำหรับการซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ที่อยู่ในความรับผิดชอบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จะต้องเป็นกรณีที่งบประมาณเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจ�ำเป็น ซึ่งตั้งไว้ในปีน้ันได้ใช้จ่ายหมดแล้ว และหากไม่ซ่อมแซม
จะบงั เกดิ ความเสยี หายตอ่ สงิ่ สาธารณประโยชน์ หรอื สรา้ งความเดอื ดรอ้ นแกป่ ระชาชนโดยสว่ นรวม ทง้ั น้ี องคก์ รปกครอง
ส่วนท้องถน่ิ ต้องมีหนงั สอื ยนื ยนั ขอ้ มลู ดังกล่าวดว้ ย

คูม่ อื การใหค้ วามช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบตั ิดา้ นการเกษตร 27

สงิ่ สาธารณประโยชนท์ ต่ี อ้ งใชร้ ะยะเวลาดำ� เนนิ การซอ่ มแซมเกนิ ๔๕ วนั ใหใ้ ชง้ บประมาณปกตดิ ำ� เนนิ การ
ส�ำหรับสะพานหรือถนน หรือถนนที่มีท่อระบายน้�ำที่ได้รับความเสียหายจนไม่สามารถซ่อมแซม
ใหก้ ลบั คืนสสู่ ภาพเดิมได้ ให้กอ่ สรา้ งสะพานไม้ช่ัวคราว หรอื เทา่ ท่จี ำ� เปน็ เรง่ ด่วนเพือ่ แก้ไขปญั หาเฉพาะหน้า
กรณใี นเขตชมุ ชนทเี่ กดิ ภยั พบิ ตั เิ ปน็ ระยะเวลานาน ทำ� ใหป้ ระชาชนไดร้ บั ความเดอื ดรอ้ นในการสญั จร
ไปมา ให้จัดท�ำสะพานไม้ทางเดินช่ัวคราวได้ เพอื่ บรรเทาความเดอื ดรอ้ นตามความจำ� เป็น

๕.๕.๔ จ้างเหมาก�ำจัดส่ิงกีดขวางทางน�้ำ อันได้แก่ ส่ิงก่อสร้างสาธารณประโยชน์ที่กีดขวาง
ทางน�้ำ หรอื กง่ิ ไม้ ต้นไม้ เศษสวะ กอไผ่ ฯลฯ ที่อุดชอ่ งทางน�ำ้ เปน็ อุปสรรคต่อการ
ระบายน�้ำ ท�ำให้ส่ิงสาธารณประโยชน์ต้านทานน้�ำไม่ไหว เกิดความช�ำรุดเสียหาย
หรือเกิดความเสยี หายต่อชีวติ และทรพั ย์สิน

๕.๕.๕ คา่ จัดหาวัสดุ ได้แก่ กระสอบทราย ดิน ลกู รงั เสาเขม็ ไมแ้ บบ เป็นต้น เพ่ือนำ� ไปแกไ้ ข
เหตุการณ์เร่งด่วนฉุกเฉินจากภัยพิบัติที่จะท�ำความเสียหายต่อสิ่งสาธารณประโยชน์
หรือความเสียหายต่อประชาชนโดยส่วนรวม เท่าที่จ่ายจริงตามความจ�ำเป็นและ
เหมาะสม

๕.๖ ด้านการปฏิบัติงานใหค้ วามช่วยเหลือผ้ปู ระสบภยั ให้เบิกคา่ ใช้จา่ ยดังนี้
๕.๖.๑ ค่าซ่อมแซมครุภัณฑ์ ยานพาหนะ เครื่องจักรกล เครื่องสูบน้�ำหรือผลักดันน้�ำ
เครื่องปั่นไฟ ตลอดจนเคร่ืองมืออุปกรณ์ด้านการกู้ชีพกู้ภัยของทางราชการ องค์กร
ปกครองส่วนท้องถ่ินและเอกชน ท่ีน�ำมาช่วยเหลือโดยสมัครใจและไม่คิดมูลค่า
ซ่ึงช�ำรุดเสียหายในระหว่างปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตามความจ�ำเป็นให้อยู่
ในสภาพเดิม เฉพาะกรณีจ�ำเป็นเร่งด่วนเพ่ือให้การให้ความช่วยเหลือประชาชน
ผปู้ ระสบภัยสำ� เร็จลลุ ว่ งไปได้
๕.๖.๒ ค่าน�้ำมันเช้ือเพลิงและหล่อลื่น รวมท้ังค่ากระแสไฟฟ้า ส�ำหรับยานพาหนะ
เคร่ืองจักรกล และเคร่ืองสูบน้�ำหรือผลักดันน�้ำ เครื่องปั่นไฟ ตลอดจนเครื่องมือ
อุปกรณ์ด้านการกู้ชีพกู้ภัยของทางราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและเอกชน
ท่ีน�ำมาใช้ปฏิบัติงานช่วยเหลือโดยความสมัครใจโดยไม่คิดมูลค่าและค�ำนึงถึง
ความจำ� เปน็ และการประหยดั และการใหป้ ระชาชนมสี ว่ นรว่ มในการชว่ ยเหลอื ตนเอง
เปน็ ส�ำคญั
๕.๖.๓ กรณีทีเ่ ครอื่ งสบู นำ้� หรือผลักดันน�้ำ ยานพาหนะ เครื่องจกั รกล เคร่ืองป่ันไฟ ตลอดจน
เคร่ืองมืออุปกรณ์ด้านการกู้ชีพกู้ภัยของทางราชการและเอกชนที่น�ำมาช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยพิบัติมีไม่เพียงพอและไม่สามารถขอความร่วมมือจากภาคเอกชนได้
ให้เช่าหรือจ้างเหมาเครื่องสูบน้�ำหรือผลักดันน้�ำ ยานพาหนะ เครื่องจักรกล
เคร่ืองปั่นไฟ ตลอดจนเครื่องมืออุปกรณ์ด้านการกู้ชีพกู้ภัย เพ่ือน�ำไปช่วยเหลือ
ผู้ประสบภยั พบิ ัตไิ ดเ้ ท่าทจี่ ำ� เปน็ เร่งด่วน โดยจา่ ยคา่ เช่าเป็นรายวนั ตามราคาท้องถิ่น

28 คูม่ อื การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบตั ิด้านการเกษตร

๕.๖.๔ คา่ จ้างเหมาหรอื จา้ งแรงงานแบกหามสง่ิ ของ รวมทัง้ ค่าจา้ งเหมาแรงงานจัดหบี ห่อให้
ใช้เจ้าหน้าที่ของส่วนราชการก่อน ในกรณีที่มีเจ้าหน้าท่ีไม่เพียงพอ ให้จ้างบุคคล
ภายนอกได้ ตามจำ� นวนท่ีเห็นควร ตามอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นตำ่� ตามประกาศของ
กระทรวงแรงงาน

๕.๖.๕ ค่าตอบแทน ค่าตอบแทนการปฏิบัติงานนอกเวลา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางส�ำหรับ
เจา้ หนา้ ทท่ี อี่ อกปฏบิ ตั งิ านใหค้ วามชว่ ยเหลอื ประชาชนในพน้ื ทป่ี ระสบภยั ใหเ้ บกิ จา่ ยได้
ในกรณีที่งบประมาณปกติไม่เพียงพอ หรือมิได้ตั้งไว้เพื่อการนี้ โดยให้เบิกจ่าย
ตามระเบียบของทางราชการ ส�ำหรับเจ้าหน้าท่ีท่ีออกไปปฏิบัติงานดังต่อไปนี้
ให้เบกิ จา่ ยได้ ดังนี้
(๑) เจ้าหนา้ ที่ควบคมุ เครือ่ งสูบน�้ำหรอื เครือ่ งผลักดนั น้�ำให้เบกิ จ่ายได้ ๒ คน ต่อ ๑ จดุ
ที่ต้งั เครอื่ งสบู น้�ำหรอื เคร่อื งผลักดนั น้�ำ
(๒) เจา้ หนา้ ท่คี นขบั รถยนต์บรรทกุ เครอื่ งสูบน�ำ้ วสั ดุ และครภุ ณั ฑ์ ๑ คน ต่อรถยนต์
๑ คนั
(๓) หน่วยแพทยเ์ คลอื่ นที่ ออกปฏบิ ัตงิ าน ไมเ่ กนิ ๑๐ คน ตอ่ หน่วยต่อคร้ัง
(๔) หน่วยสุขศึกษาและประชาสัมพันธ์เคล่ือนที่ ออกปฏิบัติงานไม่เกิน ๓ คน
ตอ่ หนว่ ยตอ่ คร้ัง
(๕) หนว่ ยปฏิบัติงานดา้ นควบคุมป้องกันโรค ออกปฏบิ ตั ิงาน ครั้งละไมเ่ กิน ๓ คน
(๖) ค่าตอบแทนส�ำหรับบุคคลภายนอกให้เบิกจ่ายตามอัตราค่าจ้างแรงงานข้ันต�่ำ
ตามประกาศของกระทรวงแรงงาน

๕.๖.๖ ค่าอาหารจัดเลี้ยงเจ้าหน้าที่ของทางราชการและผู้มาให้ความช่วยเหลือวันละไม่เกิน
๓ ม้อื ม้ือละไมเ่ กนิ ๕๐ บาทตอ่ คน ทงั้ น้ี เจา้ หนา้ ท่ขี องทางราชการและผมู้ าให้ความ
ช่วยเหลือ ตอ้ งไมไ่ ดร้ บั เงินอ่นื ใดจากทางราชการอีก

๕.๖.๗ คา่ ใช้จา่ ยในการรบั -สง่ และติดต่อสื่อสาร เทา่ ท่จี ่ายจรงิ
๕.๖.๘ คา่ วสั ดสุ ำ� นกั งานซง่ึ เกย่ี วเนอื่ งในการชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั และคา่ วสั ดใุ นการจดั หบี หอ่

ค่าจ้างเหมาบริการอื่น ๆ ที่จ�ำเป็น เช่น เช่าเครื่องถ่ายเอกสาร เคร่ืองคอมพิวเตอร์
เปน็ ต้น ให้เบิกไดต้ ามระเบียบของทางราชการ
๕.๗ กรณมี คี วามจำ� เปน็ หากรายการใดมไิ ดก้ ำ� หนดใหจ้ า่ ยเปน็ เงนิ ใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของผมู้ อี ำ� นาจ
อนมุ ตั ใิ หก้ ารชว่ ยเหลอื พจิ ารณาใหจ้ า่ ยเปน็ เงนิ กไ็ ด้ โดยคำ� นงึ ถงึ สภาพและเหตกุ ารณต์ ามความ
เหมาะสม
๖. การให้ความช่วยเหลือข้างต้น ให้มีการประสานงานกันระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานอ่ืนของรัฐ
องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ เอกชน และองคก์ รการกศุ ลทีเ่ กยี่ วข้อง เพ่ือใหก้ ารชว่ ยเหลือทั่วถึงไม่ซ้ำ� ซอ้ นกนั และการให้
ความชว่ ยเหลือดงั กลา่ วใหถ้ อื ปฏบิ ตั เิ ชน่ เดียวกับเงนิ งบประมาณรายจา่ ยโดยอนุโลม

คู่มอื การให้ความช่วยเหลอื ผู้ประสบภัยพบิ ตั ดิ ้านการเกษตร 29

๗. ให้จังหวัดรายงานผลการปฏิบัติงานให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ไปให้กรมป้องกัน
และบรรเทาสาธารณภัยและส�ำนักงานคลังจังหวดั ทราบทกุ ๆ ๑๕ วนั จนกว่าจะดำ� เนินการแล้วเสร็จ

ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบติดตามผลการปฏิบัติงาน
ของจงั หวดั อกี ทางหน่ึงด้วย

๘. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวง
สาธารณสขุ และกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั มอี ำ� นาจกำ� หนดหลกั เกณฑว์ ธิ ปี ฏบิ ตั ปิ ลกี ยอ่ ยเกยี่ วกบั การใหค้ วาม
ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารใหค้ วามชว่ ยเหลอื ตามขอ้ ๕ และเสนอตอ่ กระทรวงการคลงั เพอื่ พจิ ารณา
ให้ความเหน็ ชอบ

๙. กรณที มี่ คี วามจำ� เปน็ ตอ้ งใหค้ วามชว่ ยเหลอื นอกเหนอื จากหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ดี ำ� เนนิ การน้ี ใหข้ ออนมุ ตั ิ
ตอ่ กระทรวงการคลงั

๑๐. ใหส้ ว่ นราชการทม่ี วี งเงนิ ทดรองราชการตามระเบยี บนี้ แจง้ ขอ้ มลู และรายละเอยี ดเกยี่ วกบั การใชจ้ า่ ย
เงนิ ทดรองราชการเพือ่ ช่วยเหลือผปู้ ระสบภัยพบิ ัติตามแบบและเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำ� หนด

๑๑. ในระหว่างที่ยังมิได้ก�ำหนดหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ตามหลักเกณฑ์น้ี ให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการเก่ียวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติท่ีออกตามหลักเกณฑ์
การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖ ไปพลางก่อน จนกว่าจะมีการ
ก�ำหนดหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยที่ส่วนราชการตามข้อ ๘ ก�ำหนด เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
ตามหลกั เกณฑ์นี้

ประกาศ ณ วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๓
ลงชอื่ จ�ำเริญ โพธยิ อด
(นายจำ� เรญิ โพธยิ อด)
รองปลัดกระทรวงการคลงั

หวั หนา้ กลุ่มภารกจิ ดา้ นรายจา่ ยและหน้สี นิ
ปฏบิ ัติราชการแทนปลดั กระทรวงการคลงั

30 ค่มู อื การให้ความชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภยั พิบัติด้านการเกษตร

หลกั เกณฑว์ ิธีปฏิบตั ิปลีกยอ่ ยเก่ียวกับการให้ความช่วยเหลือ
ดา้ นการเกษตรผู้ประสบภยั พบิ ัตกิ รณีฉกุ เฉนิ พ.ศ. ๒๕๖๔

___________________________
โดยที่เป็นการสมควรก�ำหนดหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณีฉกุ เฉนิ ให้มคี วามเหมาะสมย่ิงขึน้
อาศัยอ�ำนาจตามความในข้อ ๘ ของหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบ
ภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๓ ซ่ึงกระทรวงการคลังก�ำหนดข้ึนโดยอาศัยอ�ำนาจตามความในข้อ ๒๗ แห่งระเบียบ
กระทรวงการคลงั ว่าดว้ ยเงนิ ทดรองราชการเพอ่ื ชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ิกรณฉี ุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๖๒ กระทรวงเกษตร
และสหกรณ์จึงก�ำหนดหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติ
กรณฉี ุกเฉินไวด้ งั ต่อไปนี้
๑. หลักเกณฑ์นี้เรียกว่า “หลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตร
ผปู้ ระสบภยั พิบตั ิกรณีฉกุ เฉิน พ.ศ. ๒๕๖๔”
๒. หลักเกณฑน์ ใี้ ห้ใช้บงั คบั วันทเ่ี กิดภัย ตั้งแต่วันท่ี ๑ กนั ยายน ๒๕๖๔
๓. ให้ยกเลิก หลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านการเกษตรผู้ประสบภัย
พบิ ตั ิกรณฉี กุ เฉิน พ.ศ. ๒๕๕๖
๔. ขอบเขตการจ่ายเงินทดรองราชการ จะต้องเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
ตามความหมายแห่งระเบยี บกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพอื่ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัตกิ รณีฉกุ เฉิน
๕. การจา่ ยเงนิ ทดรองราชการเพอื่ ชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั กิ รณฉี กุ เฉนิ ดา้ นการเกษตรใหด้ ำ� เนนิ การ
ชว่ ยเหลอื แกผ่ ปู้ ระสบภยั พบิ ตั ทิ ขี่ นึ้ ทะเบยี นและปรบั ปรงุ ทะเบยี นกบั หนว่ ยงานทกี่ ำ� กบั ดแู ลแตล่ ะดา้ นของกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ก่อนเกิดภัยพิบัติแล้วเท่าน้ัน โดยการเบิกจ่ายให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เง่ือนไข และอัตรา
ดังต่อไปนี้

๕.๑ ดา้ นพืช ใหด้ ำ� เนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพบิ ัติ เป็นเงิน ดงั นี้
๕.๑.๑ กรณีพ้ืนท่ีท�ำการเพาะปลูกมีพืชตายหรือเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟูหรือเยียวยาให้
กลับสู่สภาพเดมิ ไดอ้ ีก ให้ชว่ ยเหลอื ตามจำ� นวนพืน้ ท่ีเพาะปลูกท่ีเสียหายจรงิ ไม่เกนิ
ครวั เรือนละ ๓๐ ไร่ ในอัตรา ดังนี้
- ข้าว ไร่ละ ๑,๓๔๐ บาท
- พืชไร่และพชื ผกั ไรล่ ะ ๑,๙๘๐ บาท
- ไม้ผลไม้ยนื ตน้ และอน่ื ๆ ไรล่ ะ ๔,๐๔๘ บาท

คมู่ อื การให้ความชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภัยพบิ ัติดา้ นการเกษตร 31

๕.๑.๒ กรณีพ้ืนที่ท�ำการเพาะปลูกได้ถูกหิน ดิน ทราย ไม้ โคลน รวมทั้งซากวัสดุทุกชนิด
ทับถม จนไม่สามารถใช้เพาะปลูกได้และหน่วยงานของรัฐไม่สามารถเข้าไปให้ความ
ช่วยเหลือกรณีดังกล่าวได้ ให้ช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายในการขุดลอก ขนย้ายหิน ดิน
ทราย ไม้ โคลน รวมท้ังซากวัสดุที่ทับถมพ้ืนที่แปลงเกษตรกรรม เพื่อให้สามารถใช้
พ้ืนท่ีเพื่อการเพาะปลูกพืชได้ในขนาดพื้นท่ีไม่เกิน ๕ ไร่ ทั้งนี้ ราคาไม่เกินไร่ละ
๗,๐๐๐ บาท

๕.๒ ดา้ นประมง ใหด้ ำ� เนนิ การชว่ ยเหลอื ผเู้ พาะเลยี้ งสตั วน์ ำ�้ ทป่ี ระสบภยั พบิ ตั ทิ สี่ ตั วต์ ายหรอื สญู หาย
ให้ด�ำเนนิ การช่วยเหลอื เปน็ เงนิ ดงั น้ี
๕.๒.๑ กุ้งก้ามกราม กงุ้ ทะเล หรอื หอยทะเล ไร่ละ ๑๑,๗๘๐ บาท ไมเ่ กนิ รายละ ๕ ไร่
๕.๒.๒ ปลาหรือสัตว์น�้ำอ่ืนนอกจากข้อ ๕.๒.๑ ที่เล้ียงในบ่อดิน นาข้าวหรือร่องสวน
(คดิ เฉพาะพื้นทีเ่ ลี้ยง) ไรล่ ะ ๔,๖๘๒ บาท ไม่เกนิ รายละ ๕ ไร่
๕.๒.๓ สัตว์น้�ำตามข้อ ๕.๒.๑ และข้อ ๕.๒.๒ ที่เล้ียงในกระชัง บ่อซีเมนต์ หรือท่ีเล้ียงใน
ลักษณะอน่ื ที่คลา้ ยคลึงกัน ตารางเมตรละ ๓๖๘ บาท ไมเ่ กนิ รายละ ๘๐ ตารางเมตร

ทั้งน้ี หากคิดค�ำนวณพื้นท่ีเล้ียงแล้ว ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้�ำที่ประสบภัยพิบัติรายใด
จะได้รับการช่วยเหลือเป็นเงินต�่ำกว่า ๓๖๘ บาท ให้ช่วยเหลือในอัตรารายละ
๓๖๘ บาท

๕.๓ ด้านปศุสัตว์
๕.๓.๑ ให้ด�ำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติในกรณีท่ีเป็นการจัดหาอาหารสัตว์ วัคซีน
และเวชภัณฑ์รักษาสัตว์ เพ่ือการฟื้นฟูสุขภาพสัตว์เล้ียง และการจัดหาอาหารสัตว์
ตามราคาท้องตลาด หรือตามความจ�ำเป็นเหมาะสม
๕.๓.๒ การให้ความช่วยเหลือกรณีแปลงหญ้าเล้ียงสัตว์ของเกษตรกรตายหรือเสียหาย
จนไมส่ ามารถฟน้ื ฟหู รอื เยยี วยาใหก้ ลบั สสู่ ภาพเดมิ ได้ ใหด้ ำ� เนนิ การชว่ ยเหลอื เปน็ เงนิ
ในอตั ราไร่ละ ๑,๙๘๐ บาท แต่ไมเ่ กนิ รายละ ๓๐ ไร่
๕.๓.๓ การให้ความช่วยเหลือกรณีสัตว์ตายหรือสูญหาย ให้ช่วยเหลือตามจ�ำนวนที่เสียหาย
จริง แต่ไม่เกินเกณฑ์การช่วยเหลือที่ก�ำหนด โดยให้ด�ำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบ
ภยั พิบตั ิ เปน็ เงิน ดงั น้ี

32 คู่มือการใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ดิ ้านการเกษตร

ชนิดสตั ว์ อตั ราตวั ละไมเ่ กนิ (บาท) เกณฑก์ ารชว่ ยเหลอื ตอ่ ราย
๑. โค ๑๓,๐๐๐ ไม่เกินรายละ ๕ ตัว
- อายุน้อยกว่า ๖ เดอื น ๒๒,๐๐๐
- อายุ ๖ เดอื น ถึง ๑ ปี ๒๙,๐๐๐ ไม่เกินรายละ ๕ ตัว
- อายมุ ากกว่า ๑ ปี ถึง ๒ ปี ๓๕,๐๐๐
- อายุมากกว่า ๒ ปขี ้นึ ไป ๑๕,๐๐๐ ไมเ่ กนิ รายละ ๑๐ ตัว
๒. กระบือ ๒๔,๐๐๐ ไม่เกนิ รายละ ๑๐ ตัว
- อายนุ ้อยกวา่ ๖ เดอื น ๓๒,๐๐๐ ไมเ่ กินรายละ ๓๐๐ ตวั
- อายุ ๖ เดือน ถงึ ๑ ปี ๓๙,๐๐๐ ไม่เกนิ รายละ ๑,๐๐๐ ตัว
- อายุมากกวา่ ๑ ปี ถึง ๒ ปี ๑,๕๐๐ ไมเ่ กนิ รายละ ๑,๐๐๐ ตวั
- อายุมากกวา่ ๒ ปีข้ึนไป ๓,๐๐๐
๓. สุกร ๑,๕๐๐
- อายุ ๑ – ๓๐ วนั ๓,๐๐๐
- อายมุ ากกว่า ๓๐ วันขึ้นไป ๓๐
๔. แพะ/แกะ ๘๐
- อายุ ๑ – ๓๐ วัน ๓๐
- อายุมากกวา่ ๓๐ วนั ๑๐๐
๒๐
๕. ไก่พนื้ เมือง/ไก่งวง ๕๐
- อายุ ๑ – ๒๑ วัน
- อายมุ ากกว่า ๒๑ วัน ขึ้นไป ๓๐ ไม่เกินรายละ ๑,๐๐๐ ตวั
๖. ไกไ่ ข่ ๑๐๐
- อายุ ๑ – ๒๑ วัน
- อายุมากกวา่ ๒๑ วนั ขึ้นไป ๓๐ ไมเ่ กนิ รายละ ๑,๐๐๐ ตวั
๘๐
๗. ไกเ่ นือ้
- อายุ ๑ – ๒๑ วนั ๑๐ ไมเ่ กนิ รายละ ๑,๐๐๐ ตวั
- อายุมากกวา่ ๒๑ วัน ข้นึ ไป ๓๐
๒,๐๐๐ ไมเ่ กนิ รายละ ๑๐ ตวั
๘. เปด็ ไข่ ๑๐๐ ไมเ่ กินรายละ ๓๐๐ ตวั
- อายุ ๑ – ๒๑ วนั
- อายุมากกวา่ ๒๑ วัน ขน้ึ ไป
๙. เปด็ เนอ้ื /เปด็ เทศ
- อายุ ๑ – ๒๑ วัน
- อายุมากกว่า ๒๑ วนั ขน้ึ ไป
๑๐. นกกระทา
- อายุ ๑ – ๒๑ วัน
- อายมุ ากกว่า ๒๑ วัน ขึ้นไป
๑๑. นกกระจอกเทศ
๑๒. หา่ น

คมู่ ือการให้ความช่วยเหลือผูป้ ระสบภยั พิบตั ดิ ้านการเกษตร 33

๕.๔ ด้านการเกษตรอื่น ให้ด�ำเนนิ การช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ัติ ดงั นี้
๕.๔.๑ การปรับเกลี่ยพ้ืนที่ด้านการเกษตรที่เป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบ
ภัยพิบัติ ค่าใช้จ่ายในการด�ำเนินการปรับเกลี่ยพ้ืนท่ีการไถพรวน การก่อสร้าง
คันดิน เพื่อการเพาะปลูกพืชหรือประกอบกจิ กรรมด้านการเกษตรที่เป็นการบรรเทา
ความเดอื ดรอ้ นของผปู้ ระสบภยั พบิ ตั ใิ หช้ ว่ ยเหลอื คา่ ใชจ้ า่ ยโดยเหมาจา่ ย โดยชว่ ยเหลอื
พื้นท่ที ่เี สยี หายจรงิ ในอตั ราไรล่ ะ ๘๐๐ บาท
๕.๔.๒ การปรับเกล่ียพื้นท่ีนาเกลือทะเลท่ีเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบ
ภัยพิบัติ ค่าใช้จ่ายในการด�ำเนินการปรับพ้ืนท่ีท�ำนาเกลือทะเล ให้ช่วยเหลือ
ตามจำ� นวนพื้นที่ทีเ่ สยี หายจริง ในอตั ราไรล่ ะ ๑,๒๒๐ บาท ไมเ่ กินครวั เรือนละ ๓๐ ไร่
๕.๔.๓ คา่ ซอ่ มแซมอาคารชลประทานและระบบชลประทานใหส้ ามารถใชง้ านไดใ้ นชว่ งฉกุ เฉนิ
โดยให้ดำ� เนนิ การได้เฉพาะในสว่ นที่เกี่ยวกบั การระบายน้�ำ

ในกรณีใช้เครื่องจักรกลของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพ่ือด�ำเนินการขุดลอก
เปิดทางนำ้� งานก�ำจดั วชั พืชทกี่ ดี ขวางการระบายน�้ำ งานขุดลอกดนิ ทราย วัสดทุ ท่ี บั ถมทางระบายนำ้� ให้นำ� อตั ราราคางาน
ตามราคากลางทีไ่ ดร้ บั อนุมตั ิจากสำ� นกั งบประมาณหรอื กระทรวงการคลังมาใชโ้ ดยอนโุ ลม

๕.๔.๔ ค่าจ้างเหมารถยนต์ ค่าระวางบรรทุกรถไฟและเรือบรรทุกของเอกชน เพื่อใช้ในการ
ขนย้ายสัตว์เลี้ยงที่ประสบภัย และท่ีน�ำไปสนับสนุนหรือขนส่งพืชหญ้าอาหารสัตว์
หรอื อาหารสตั ว์ ใหเ้ บกิ จา่ ยดังนี้
๕.๔.๔.๑ คา่ จา้ งเหมารถยนตแ์ ละเรอื บรรทกุ ของเอกชน ใหจ้ า่ ยเปน็ รายวนั ตามราคา
ท้องถิ่น
๕.๔.๔.๒ ค่าระวางบรรทุกทางรถไฟ ให้เบกิ จา่ ยได้เท่าท่จี า่ ยจรงิ ตามความจำ� เป็น

๖. กรณมี คี วามจำ� เปน็ หากรายการใดมไิ ดก้ ำ� หนดใหจ้ า่ ยเปน็ เงนิ ใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของผมู้ อี ำ� นาจอนมุ ตั ิ
ใหก้ ารชว่ ยเหลอื พิจารณาใหจ้ า่ ยเป็นเงินกไ็ ด้ โดยค�ำนงึ ถงึ สภาพและเหตุการณ์ ตามความเหมาะสม

ประกาศ ณ วนั ที่ ๒๗ สงิ หาคม ๒๕๖๔
ลงชอ่ื ทองเปลว กองจันทร์
(นายทองเปลว กองจันทร)์

ปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

34 คมู่ อื การใหค้ วามชว่ ยเหลือผูป้ ระสบภัยพิบตั ิดา้ นการเกษตร

พระราชบัญญตั ิ
ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย

พ.ศ. ๒๕๕๐
ภูมพิ ลอดลุ ยเดช ป.ร.

ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๐
เปน็ ปที ่ี ๖๒ ในรชั กาลปัจจุบัน

___________________________

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภมู ิพลอดุลยเดช มพี ระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ ให้ประกาศว่า
โดยทเ่ี ปน็ การสมควรมกี ฎหมายวา่ ดว้ ยการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ
ให้ตราพระราชบญั ญตั ขิ ้นึ ไว้โดยค�ำแนะนำ� และยนิ ยอมของสภานิติบัญญตั ิแห่งชาติ ดงั ตอ่ ไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตนิ ้เี รยี กว่า “พระราชบญั ญัตปิ อ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐”
มาตรา ๒ [๑] พระราชบัญญตั ินี้ให้ใช้บงั คบั เมอื่ พน้ กำ� หนดหกสบิ วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานเุ บกษา
เป็นตน้ ไป
มาตรา ๓ ใหย้ กเลกิ

(๑) พระราชบัญญัติปอ้ งกันภยั ฝา่ ยพลเรอื น พ.ศ. ๒๕๒๒
(๒) พระราชบัญญตั ปิ ้องกันและระงบั อคั คภี ัย พ.ศ. ๒๕๔๒
มาตรา ๔ ในพระราชบญั ญตั ิน้ี
“สาธารณภัย” หมายความว่า อัคคีภัย วาตภัย อุทกภัย ภัยแล้ง โรคระบาดในมนุษย์ โรคระบาดสัตว์
โรคระบาดสัตว์น�้ำ การระบาดของศัตรูพืช ตลอดจนภัยอื่น ๆ อันมีผลกระทบต่อสาธารณชน ไม่ว่าเกิดจากธรรมชาติ
มีผู้ท�ำให้เกิดข้ึน อุบัติเหตุ หรือเหตุอ่ืนใด ซ่ึงก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกายของประชาชน หรือความเสียหาย
แกท่ รพั ย์สินของประชาชน หรอื ของรัฐ และใหห้ มายความรวมถงึ ภัยทางอากาศ และการก่อวนิ าศกรรมดว้ ย
“ภยั ทางอากาศ” หมายความวา่ ภยั อันเกดิ จากการโจมตที างอากาศ
“การก่อวินาศกรรม” หมายความว่า การกระท�ำใด ๆ อันเป็นการมุ่งท�ำลายทรัพย์สินของประชาชน
หรือของรัฐ หรือส่ิงอันเป็นสาธารณูปโภค หรือการรบกวน ขัดขวางหน่วงเหน่ียวระบบการปฏิบัติงานใด ๆ ตลอดจน
การประทุษรา้ ยตอ่ บคุ คลอนั เป็นการกอ่ ให้เกดิ ความป่นั ป่วนทางการเมอื งการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยมงุ่ หมาย
ทจี่ ะก่อให้เกดิ ความเสยี หายต่อความมน่ั คงของรฐั
“หน่วยงานของรฐั ” หมายความว่า สว่ นราชการ รฐั วสิ าหกิจ องค์การมหาชน และหน่วยงานอืน่ ของรัฐ
แต่ไมห่ มายความรวมถึงองคก์ รปกครองสว่ นท้องถิน่

คู่มอื การใหค้ วามช่วยเหลอื ผู้ประสบภัยพิบตั ดิ ้านการเกษตร 35

“องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น” หมายความว่า องค์การบริหารส่วนต�ำบล เทศบาล องค์การบริหาร
ส่วนจังหวัด เมืองพทั ยา กรงุ เทพมหานคร และองคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ อ่ืนที่มีกฎหมายจัดตั้ง

“องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ แหง่ พ้ืนท่”ี หมายความวา่ องค์การบริหารสว่ นตำ� บล เทศบาล เมอื งพทั ยา
และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอ่ืนท่ีมีกฎหมายจัดตั้ง แต่ไม่หมายความรวมถึงองค์การบริหารส่วนจังหวัด
และกรุงเทพมหานคร

“จงั หวัด” ไมห่ มายความรวมถงึ กรงุ เทพมหานคร
“อ�ำเภอ” หมายความรวมถงึ กิง่ อำ� เภอ แตไ่ ม่หมายความรวมถงึ เขตในกรงุ เทพมหานคร
“นายอ�ำเภอ” หมายความรวมถึงปลดั อ�ำเภอผู้เป็นหัวหนา้ ประจำ� ก่ิงอ�ำเภอ
“ผู้บริหารท้องถิ่น” หมายความว่า นายกองค์การบริหารส่วนต�ำบล นายกเทศมนตรี นายกเมืองพัทยา
และหวั หนา้ ผบู้ ริหารขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถน่ิ แหง่ พน้ื ทอี่ ืน่
“ผบู้ ัญชาการ” หมายความว่า ผู้บญั ชาการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ
“ผู้อ�ำนวยการ” หมายความว่า ผอู้ ำ� นวยการกลาง ผ้อู �ำนวยการจังหวดั ผ้อู �ำนวยการอำ� เภอ ผอู้ ำ� นวยการ
ท้องถนิ่ และผูอ้ ำ� นวยการกรุงเทพมหานคร
“เจ้าพนักงาน” หมายความว่า ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ในพืน้ ทตี่ ่าง ๆ ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี
“อาสาสมคั ร” หมายความว่า อาสาสมัครป้องกันภัยฝา่ ยพลเรือนตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี
“อธบิ ดี” หมายความวา่ อธบิ ดกี รมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย
“รัฐมนตร”ี หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ี และให้มีอ�ำนาจออก
กฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบงั คับและประกาศเพือ่ ปฏิบตั กิ ารตามพระราชบญั ญัตนิ ี้
กฎกระทรวงนัน้ เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานเุ บกษาแลว้ ให้ใช้บงั คับได้

หมวด ๑

บททั่วไป

มาตรา ๖ ใหม้ คี ณะกรรมการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาตเิ รยี กโดยยอ่ วา่ “กปภ.ช.” ประกอบดว้ ย
นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมายเป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เปน็ รองประธานกรรมการคนทหี่ นงึ่ ปลดั กระทรวงมหาดไทย เปน็ รองประธานกรรมการคนทสี่ อง ปลดั กระทรวงกลาโหม
ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม
ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ผู้อ�ำนวยการส�ำนักงบประมาณ ผู้บัญชาการต�ำรวจแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
และผูท้ รงคณุ วุฒอิ ีกไมเ่ กนิ ห้าคน ซงึ่ คณะรัฐมนตรีแตง่ ต้งั จากผูม้ ีความรู้ ความเชย่ี วชาญ หรือประสบการณ์ท่ีเกี่ยวข้อง
กบั การผงั เมือง และการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย เป็นกรรมการ

36 คูม่ ือการให้ความช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภัยพิบตั ิดา้ นการเกษตร

ให้อธิบดีเป็นกรรมการและเลขานุการ และให้แต่งตั้งข้าราชการในกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
จ�ำนวนไมเ่ กินสองคนเป็นผูช้ ว่ ยเลขานุการ

มาตรา ๗ ให้ กปภ.ช. มอี �ำนาจหนา้ ที่ ดงั ต่อไปน้ี
(๑) กำ� หนดนโยบายในการจดั ท�ำแผนการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ
(๒) พิจารณาใหค้ วามเห็นชอบแผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั แห่งชาตติ ามมาตรา
๑๑ (๑) กอ่ นเสนอคณะรฐั มนตรี
(๓) บูรณาการพัฒนาระบบการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ระหว่างหน่วยงานของรัฐ
องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ และหนว่ ยงานภาคเอกชนท่เี ก่ยี วขอ้ งให้มีประสทิ ธิภาพ
(๔) ให้ค�ำแนะน�ำ ปรึกษาและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัย
(๕) วางระเบียบเก่ียวกับค่าตอบแทน ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายในการด�ำเนินการป้องกัน
และบรรเทาสาธารณภัย โดยความเหน็ ชอบของกระทรวงการคลงั
(๖) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติน้ีหรือกฎหมายอ่ืนหรือตามท่ี
คณะรฐั มนตรีมอบหมาย

ในการปฏิบตั กิ ารตามอ�ำนาจหน้าท่ีในวรรคหน่ึง กปภ.ช. จะแต่งตง้ั คณะอนุกรรมการเพอ่ื ปฏิบัติการอยา่ งหน่งึ
อย่างใดแทนหรือตามท่ีมอบหมายก็ได้ ทั้งน้ี ให้น�ำบทบัญญัติในมาตรา ๑๐ มาใช้บังคับกับการประชุมของ
คณะอนกุ รรมการโดยอนุโลม

เพ่ือประโยชน์ในการปฏิบัติการตามอ�ำนาจหน้าท่ีตามวรรคหน่ึง กปภ.ช. อาจเรียกให้หน่วยงานของรัฐ
องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ หรือหนว่ ยงานของภาคเอกชน ทเ่ี กี่ยวข้องมารว่ มประชมุ หรือชแี้ จงหรอื ใหข้ อ้ มูลก็ได้

มาตรา ๘ ให้กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิอยู่ในตำ� แหน่งคราวละส่ีปี
ในกรณีท่ีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากต�ำแหน่งก่อนวาระ หรือในกรณีที่คณะรัฐมนตรีแต่งตั้งกรรมการ
ผทู้ รงคณุ วฒุ เิ พม่ิ ขน้ึ ในระหวา่ งทก่ี รรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ซิ ง่ึ แตง่ ตง้ั ไวแ้ ลว้ ยงั มวี าระอยใู่ นตำ� แหนง่ ใหผ้ ไู้ ดร้ บั แตง่ ตง้ั ใหด้ ำ� รง
ต�ำแหน่งแทน หรือเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเพ่ิมขึ้นอยู่ในต�ำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
ซง่ึ ไดแ้ ตง่ ตั้งไวแ้ ล้ว
เมื่อครบก�ำหนดตามวาระดังกล่าวในวรรคหน่ึง หากยังมิได้มีการแต่งต้ังกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่
ให้กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงพ้นจากต�ำแหน่งตามวาระนั้น อยู่ในต�ำแหน่งเพื่อด�ำเนินงานต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งต้ัง
กรรมการผทู้ รงคุณวุฒใิ หม่
กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ซงึ่ พน้ จากตำ� แหนง่ ตามวาระอาจไดร้ บั การแตง่ ตงั้ อกี ได้ ทง้ั น้ี ไมเ่ กนิ สองวาระตดิ ตอ่ กนั
มาตรา ๙ นอกจากการพน้ จากตำ� แหนง่ ตามวาระตามมาตรา ๘ กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ พิ น้ จากตำ� แหนง่ เมอ่ื

(๑) ตาย
(๒) ลาออก โดยยืน่ หนงั สือลาออกต่อประธานกรรมการ
(๓) คณะรฐั มนตรีให้ออก
(๔) เปน็ บคุ คลล้มละลาย
(๕) เปน็ คนไรค้ วามสามารถ หรือคนเสมอื นไรค้ วามสามารถ
(๖) ได้รับโทษจ�ำคุกโดยค�ำพิพากษาถึงที่สุดให้จ�ำคุก เว้นแต่เป็นโทษส�ำหรับความผิดที่ได้

กระท�ำโดยประมาทหรอื ความผดิ ลหุโทษ

คู่มอื การใหค้ วามชว่ ยเหลือผู้ประสบภยั พิบัตดิ า้ นการเกษตร 37

มาตรา ๑๐ การประชุมของ กปภ.ช. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหน่ึงของจ�ำนวนกรรมการ
ทั้งหมด จึงจะเป็นองค์ประชุม

ในการประชมุ คราวใด ถา้ ประธานกรรมการไมอ่ ยใู่ นทป่ี ระชมุ หรอื ไมส่ ามารถปฏบิ ตั หิ นา้ ทไ่ี ด้ ใหร้ องประธาน
กรรมการคนที่หน่ึงเป็นประธานในท่ีประชุม ถ้ารองประธานคนท่ีหน่ึงไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่
ได้ ให้รองประธานคนท่ีสองเป็นประธานในที่ประชุม ถ้าประธานกรรมการและรองประธานกรรมการทั้งสองไม่อยู่ในที่
ประชมุ หรอื ไมส่ ามารถปฏบิ ตั หิ นา้ ทไี่ ด้ ใหก้ รรมการซง่ึ มาประชมุ เลอื กกรรมการคนหนงึ่ เปน็ ประธานในทป่ี ระชมุ สำ� หรบั
การประชุมคราวนนั้

การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหน่ึงให้มีเสียงหนึ่ง ในการลงคะแนน
ถ้าคะแนนเสยี งเทา่ กนั ใหป้ ระธานในทปี่ ระชุมออกเสียงเพ่ิมขนึ้ อกี เสยี งหนง่ึ เปน็ เสยี งชข้ี าด

มาตรา ๑๑ ใหก้ รมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั เป็นหน่วยงานกลางของรัฐ ในการด�ำเนินการเกีย่ วกบั
การปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ของประเทศ โดยมอี �ำนาจหน้าที่ ดังต่อไปน้ี

(๑) จัดทำ� แผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาตเิ สนอ กปภ.ช. เพอ่ื ขออนุมตั ติ ่อ
คณะรฐั มนตรี

(๒) จัดให้มีการศึกษาวิจัยเพ่ือหามาตรการในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้มี
ประสิทธิภาพ

(๓) ปฏบิ ัตกิ าร ประสานการปฏิบตั ิ ใหก้ ารสนับสนนุ และชว่ ยเหลอื หน่วยงานของรฐั องคก์ ร
ปกครองสว่ นท้องถ่นิ และหนว่ ยงานภาคเอกชน ในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั
และใหก้ ารสงเคราะหเ์ บอื้ งตน้ แกผ่ ปู้ ระสบภยั ผไู้ ดร้ บั ภยนั ตราย หรอื ผไู้ ดร้ บั ความเสยี หาย
จากสาธารณภยั

(๔) แนะน�ำ ให้ค�ำปรึกษา และอบรมเกี่ยวกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแก่
หนว่ ยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ และหนว่ ยงานภาคเอกชน

(๕) ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการด�ำเนินการตามแผนการป้องกันและบรรเทา
สาธารณภยั ในแตล่ ะระดบั

(๖) ปฏิบัติการอ่ืนใดตามท่ีบัญญัติไว้ในพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่น หรือตามท่ี
ผ้บู ัญชาการ นายกรัฐมนตรี กปภ.ช. หรอื คณะรฐั มนตรมี อบหมาย

เมือ่ คณะรฐั มนตรอี นมุ ตั แิ ผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั แห่งชาตติ าม (๑) แลว้ ให้หนว่ ยงานของรฐั
และองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ ท่เี กีย่ วขอ้ งปฏบิ ตั กิ ารใหเ้ ป็นไปตามแผน ดังกลา่ ว

ในการจัดท�ำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติตาม (๑) ให้กรมป้องกันและบรรเทา
สาธารณภยั ร่วมกับหนว่ ยงานของรัฐทเ่ี ก่ียวข้องและตวั แทนองคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ แตล่ ะประเภทมาปรึกษาหารอื
และจัดท�ำ ทั้งนี้ จะจัดให้หน่วยงานภาคเอกชนเสนอข้อมูลหรือความเห็นเพ่ือประกอบการพิจารณาในการจัดท�ำแผน
ด้วยก็ได้

เพ่อื ประโยชน์ในการปฏิบัตหิ นา้ ทต่ี าม (๓) (๔) (๕) และ (๖) กรมป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จะจดั ให้
มีศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยข้ึนในบางจังหวัด เพื่อปฏิบัติงานในจังหวัดน้ันและจังหวัดอื่นท่ีอยู่ใกล้เคียงกันได้
ตามความจำ� เปน็ และจะใหม้ สี ำ� นกั งานปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั ขนึ้ เพอื่ กำ� กบั ดแู ลและสนบั สนนุ การปฏบิ ตั ิ
การป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ในจังหวัดหรือตามที่ผอู้ ำ� นวยการจังหวดั มอบหมายดว้ ยกไ็ ด้

38 คูม่ ือการให้ความชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภัยพบิ ตั ิดา้ นการเกษตร

มาตรา ๑๒ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติตาม มาตรา ๑๑ (๑) อยา่ งน้อยต้องมสี าระ
ส�ำคญั ดงั ตอ่ ไปน้ี

(๑) แนวทาง มาตรการ และงบประมาณที่จ�ำเป็นต้องใช้ในการป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัยอยา่ งเป็นระบบและตอ่ เนอ่ื ง

(๒) แนวทางและวิธีการในการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น
เฉพาะหน้าและระยะยาวเมื่อเกิดสาธารณภัย รวมถึงการอพยพประชาชน หน่วยงาน
ของรฐั และองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ การสงเคราะห์ผปู้ ระสบภัย การดูแลเก่ียวกบั
การสาธารณสุข และการแกไ้ ขปัญหาเก่ยี วกบั การสื่อสารและการสาธารณูปโภค

(๓) หนว่ ยงานของรฐั และองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ทรี่ บั ผดิ ชอบในการดำ� เนนิ การตาม (๑)
และ (๒) และวธิ ีการให้ไดม้ าซ่ึงงบประมาณเพอื่ การดำ� เนินการดงั กล่าว

(๔) แนวทางในการเตรยี มพร้อมด้านบุคลากร อปุ กรณ์และเคร่ืองมือเครอ่ื งใช้ และจัดระบบ
การปฏบิ ตั กิ ารในการดำ� เนนิ การปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั รวมถงึ การฝกึ บคุ ลากร
และประชาชน

(๕) แนวทางในการซ่อมแซม บูรณะ ฟื้นฟู และให้ความช่วยเหลือประชาชนภายหลัง
ทีส่ าธารณภยั สนิ้ สดุ

การก�ำหนดเรอื่ งตามวรรคหนึ่ง จะต้องกำ� หนดให้สอดคล้องและครอบคลุมถึงสาธารณภัยตา่ ง ๆ โดยอาจ
ก�ำหนดตามความจ�ำเป็นแห่งความรุนแรงและความเส่ียงในสาธารณภัยด้านน้ัน และในกรณีท่ีมีความจ�ำเป็นต้องมีการ
แก้ไขหรือปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือมติของคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ระบุไว้ในแผนการป้องกัน
และบรรเทาสาธารณภยั แห่งชาติด้วย

มาตรา ๑๓ ให้รัฐมนตรีเป็นผู้บัญชาการมีอ�ำนาจควบคุมและก�ำกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
ท่ัวราชอาณาจักรให้เป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติและพระราชบัญญัตินี้ ในการนี้
ให้มีอ�ำนาจบังคับบัญชาและส่ังการผู้อ�ำนวยการ รองผู้อ�ำนวยการ ผู้ช่วยผู้อ�ำนวยการ เจ้าพนักงาน และอาสาสมัคร
ไดท้ ่ัวราชอาณาจักร

ให้ปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นรองผู้บัญชาการมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้บัญชาการในการป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัย และปฏิบัติหน้าท่ีตามที่ผู้บัญชาการมอบหมาย โดยให้มีอ�ำนาจบังคับบัญชาและส่ังการตามวรรคหนึ่ง
รองจากผ้บู ัญชาการ

มาตรา ๑๔ ให้อธิบดีเป็นผู้อ�ำนวยการกลางมีหน้าท่ีป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยท่ัวราชอาณาจักร
และมีอ�ำนาจควบคุมและก�ำกับการปฏิบัติหน้าท่ีของผู้อ�ำนวยการ รองผู้อ�ำนวยการ ผู้ช่วยผู้อ�ำนวยการ เจ้าพนักงาน
และอาสาสมคั ร ได้ท่ัวราชอาณาจักร

มาตรา ๑๕ ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อ�ำนวยการจังหวัด รับผิดชอบในการป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัยในเขตจงั หวดั โดยมอี ำ� นาจหน้าทีด่ งั ต่อไปนี้

(๑) จัดท�ำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ซึ่งต้องสอดคล้องกับแผนการ
ปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ

(๒) กำ� กบั ดูแลการฝึกอบรมอาสาสมคั รขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน

คมู่ อื การให้ความชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภยั พบิ ตั ดิ า้ นการเกษตร 39

(๓) ก�ำกับดูแลองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินให้จัดให้มีวัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือเครื่องใช้
ยานพาหนะ และส่ิงอื่น เพื่อใช้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตามท่ีก�ำหนด
ในแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวดั

(๔) ดำ� เนนิ การให้หนว่ ยงานของรฐั และองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นใหก้ ารสงเคราะหเ์ บื้องต้น
แก่ผู้ประสบภัย หรือผู้ได้รับภยันตรายหรือเสียหายจากสาธารณภัย รวมตลอดทั้ง
การรกั ษาความสงบเรยี บรอ้ ยและการปฏบิ ตั กิ ารใด ๆ ในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั

(๕) สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในการป้องกัน
และบรรเทาสาธารณภยั

(๖) ปฏิบตั หิ นา้ ทอ่ี น่ื ตามทผ่ี ูบ้ ัญชาการและผูอ้ �ำนวยการกลางมอบหมาย
เพ่ือประโยชน์ในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ีตาม (๓) (๔) และ (๕) ให้ผูอ้ �ำนวยการจงั หวัด มอี �ำนาจสัง่ การหน่วยงาน
ของรฐั และองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ซง่ึ อยใู่ นจงั หวดั ใหด้ ำ� เนนิ การในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ตามแผนการ
ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั และมีอ�ำนาจสั่งการ ควบคุม และกำ� กบั ดูแลการปฏิบัติหน้าทีข่ องเจา้ พนกั งาน
และอาสาสมคั รใหเ้ ป็นไปตามพระราชบญั ญัติน้ี
มาตรา ๑๖ แผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั จงั หวดั ตามมาตรา ๑๕ (๑) อยา่ งนอ้ ยตอ้ งมสี าระสำ� คญั
ตามมาตรา ๑๒ และสาระสำ� คัญอน่ื ดงั ตอ่ ไปน้ี

(๑) การจัดต้ังศูนย์อ�ำนวยการเฉพาะกิจเมื่อเกิดสาธารณภัยข้ึน โครงสร้าง และผู้มีอ�ำนาจ
สัง่ การด้านต่าง ๆ ในการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั

(๒) แผนและข้นั ตอนขององค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ ในการจดั หาวสั ดุ อุปกรณ์ เคร่อื งมือ
เครื่องใช้ และยานพาหนะ เพอ่ื ใช้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั

(๓) แผนและข้ันตอนขององคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น ในการจัดใหม้ ีเคร่ืองหมาย สญั ญาณ
หรอื ส่ิงอ่ืนใด ในการแจ้งใหป้ ระชาชนได้ทราบถึงการเกิดหรอื จะเกิดสาธารณภัย

(๔) แผนปฏบิ ัติการในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น
(๕) แผนการประสานงานกบั องค์การสาธารณกศุ ล
มาตรา ๑๗ ในการจัดท�ำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้ง
คณะกรรมการขึน้ คณะหน่งึ ประกอบดว้ ย
(๑) ผู้วา่ ราชการจังหวดั เปน็ ประธานกรรมการ
(๒) รองผู้ว่าราชการจังหวัดซึง่ ผู้วา่ ราชการจงั หวัดมอบหมาย เป็นรองประธานกรรมการ
(๓) ผบู้ ญั ชาการมณฑลทหารบกหรอื ผบู้ งั คบั การจงั หวดั ทหารบกหรอื ผแู้ ทนเปน็ รองประธาน

กรรมการ
(๔) นายกองค์การบรหิ ารสว่ นจงั หวัด เป็นรองประธานกรรมการ
(๕) กรรมการอืน่ ประกอบดว้ ย
(ก) ผแู้ ทนหนว่ ยงานของรฐั ทป่ี ระจำ� อยใู่ นพน้ื ทจี่ งั หวดั ตามจำ� นวนทผ่ี วู้ า่ ราชการจงั หวดั

เหน็ สมควรแตง่ ต้งั

40 คู่มอื การใหค้ วามชว่ ยเหลอื ผปู้ ระสบภัยพิบตั ดิ า้ นการเกษตร

(ข) ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งพ้ืนท่ีจ�ำนวนเจ็ดคน ซ่ึงประกอบด้วยผู้แทน
เทศบาลจำ� นวนสองคนและผแู้ ทนองคก์ ารบริหารส่วนตำ� บลจ�ำนวนห้าคน

(ค) ผ้แู ทนองคก์ ารสาธารณกุศลในจังหวัดตามจ�ำนวนทผี่ ู้วา่ ราชการจงั หวัดเหน็ สมควร
แตง่ ตง้ั

(๖) หัวหน้าส�ำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด หรือผู้แทนกรมป้องกันและ
บรรเทาสาธารณภยั เป็นกรรมการและเลขานกุ าร

ในกรณที จี่ งั หวดั ใดเปน็ ทต่ี ง้ั ของสถาบนั การศกึ ษาระดบั อดุ มศกึ ษา ใหพ้ จิ ารณาแตง่ ตง้ั ผบู้ รหิ ารของสถาบนั
การศึกษานนั้ เปน็ ท่ีปรกึ ษาหรือกรรมการตามจำ� นวนท่ผี ูว้ า่ ราชการจังหวัดเห็นสมควร

ให้คณะกรรมการตามวรรคหน่ึงมีหน้าท่ีจัดท�ำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเสนอ
ผ้วู ่าราชการจงั หวดั เพอื่ ประกาศใช้ตอ่ ไป

การปฏิบัติหน้าที่และการประชุมของคณะกรรมการตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัด
ก�ำหนด

ในกรณีที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเห็นว่าแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด
ไมส่ อดคลอ้ งกบั แผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั แหง่ ชาติ ใหแ้ จง้ ใหผ้ วู้ า่ ราชการจงั หวดั ทราบเพอื่ ดำ� เนนิ การแกไ้ ข
ใหแ้ ลว้ เสร็จภายในสามสิบวันนับแตว่ ันทไ่ี ดร้ บั แจ้ง

มาตรา ๑๘ ใหน้ ายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั เปน็ รองผอู้ ำ� นวยการจงั หวดั มหี นา้ ทชี่ ว่ ยเหลอื ผอู้ ำ� นวยการ
จงั หวัดในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั และปฏบิ ตั หิ น้าทอ่ี นื่ ตามที่ผู้อำ� นวยการจังหวัดมอบหมาย

มาตรา ๑๙ ใหน้ ายอำ� เภอเปน็ ผอู้ ำ� นวยการอำ� เภอ รบั ผดิ ชอบและปฏบิ ตั หิ นา้ ทใี่ นการปอ้ งกนั และบรรเทา
สาธารณภยั ในเขตอ�ำเภอของตน และมหี นา้ ทีช่ ว่ ยเหลือผ้อู ำ� นวยการจังหวัดตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย

ในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอตามวรรคหน่ึง ให้ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ มีอ�ำนาจสั่งการ
หนว่ ยงานของรฐั และองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ ทเี่ กยี่ วขอ้ งซงึ่ อยใู่ นเขตอำ� เภอใหด้ ำ� เนนิ การในการปอ้ งกนั และบรรเทา
สาธารณภยั ตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั จังหวดั และมีอ�ำนาจสั่งการ ควบคุม และกำ� กับดแู ลการปฏบิ ัติ
หนา้ ที่ของเจ้าพนกั งานและอาสาสมคั รให้เป็นไปตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี

มาตรา ๒๐ ใหอ้ งคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ แหง่ พน้ื ทมี่ หี นา้ ทป่ี อ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ในเขตทอ้ งถน่ิ
ของตน โดยมผี บู้ รหิ ารทอ้ งถน่ิ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ แหง่ พน้ื ทน่ี นั้ เปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบในฐานะผอู้ ำ� นวยการทอ้ งถนิ่
และมหี นา้ ท่ชี ว่ ยเหลือผอู้ ำ� นวยการจังหวัดและผอู้ �ำนวยการอ�ำเภอตามที่ไดร้ บั มอบหมาย

ในการปฏบิ ตั หิ นา้ ทขี่ องผอู้ ำ� นวยการทอ้ งถนิ่ ตามวรรคหนง่ึ ใหผ้ อู้ ำ� นวยการทอ้ งถนิ่ มอี ำ� นาจสง่ั การ ควบคมุ
และก�ำกบั ดูแลการปฏบิ ตั หิ นา้ ทขี่ องเจ้าพนกั งานและอาสาสมคั รให้เป็นไปตามพระราชบญั ญตั ินี้

ให้ปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแห่งพ้ืนที่นั้น เป็นผู้ช่วยผู้อ�ำนวยการ
ท้องถ่นิ รับผดิ ชอบและปฏิบตั ิหนา้ ท่ใี นการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั ในเขตท้องถน่ิ ของตนและมีหนา้ ทีช่ ่วยเหลือ
ผอู้ ำ� นวยการทอ้ งถิน่ ตามท่ีได้รบั มอบหมาย

ค่มู ือการใหค้ วามชว่ ยเหลือผปู้ ระสบภัยพิบัตดิ า้ นการเกษตร 41

หมวด ๒

การป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย

มาตรา ๒๑ เม่ือเกิดหรือคาดว่าจะเกิดสาธารณภัยข้ึนในเขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแห่งพื้นที่ใด
ใหผ้ อู้ ำ� นวยการทอ้ งถนิ่ ขององคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถนิ่ แหง่ พนื้ ทน่ี น้ั มหี นา้ ทเ่ี ขา้ ดำ� เนนิ การปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั
โดยเรว็ และแจ้งใหผ้ ู้อ�ำนวยการอ�ำเภอที่รบั ผิดชอบในเขตพนื้ ท่นี นั้ และผอู้ �ำนวยการจังหวัดทราบทันที

ในการปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ตี ามวรรคหนึ่ง ให้ผอู้ �ำนวยการทอ้ งถนิ่ มอี �ำนาจหน้าที่ ดงั ต่อไปนี้
(๑) ส่ังข้าราชการฝ่ายพลเรือน พนักงานส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าท่ีของหน่วยงานของรัฐ
เจ้าพนักงาน อาสาสมัคร และบุคคลใด ๆ ในเขตองค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ แหง่ พื้นที่
ที่เกิดสาธารณภัย ให้ปฏิบัติการอย่างหน่ึงอย่างใดตามความจ�ำเป็นในการป้องกันและ
บรรเทาสาธารณภยั
(๒) ใช้อาคาร สถานที่ วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือเครื่องใช้ และยานพาหนะของหน่วยงาน
ของรัฐและเอกชนท่ีอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแห่งพื้นที่ที่เกิดสาธารณภัย
เทา่ ทจี่ �ำเปน็ เพอื่ การปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย
(๓) ใชเ้ ครอื่ งมอื สอื่ สารของหนว่ ยงานของรฐั หรอื เอกชนทกุ ระบบทอ่ี ยใู่ นเขตองคก์ รปกครอง
ส่วนท้องถน่ิ แห่งพื้นที่ทีเ่ กิดสาธารณภัยหรือท้องทีท่ ีเ่ กยี่ วเนอื่ ง
(๔) ขอความช่วยเหลือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินอื่นในการป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัย
(๕) สง่ั หา้ มเขา้ หรือใหอ้ อกจากพ้นื ที่ อาคารหรอื สถานท่ีท่ีกำ� หนด
(๖) จัดใหม้ กี ารสงเคราะหผ์ ู้ประสบภยั โดยทั่วถงึ และรวดเรว็

มาตรา ๒๒ เมือ่ มกี รณีตามมาตรา ๒๑ เกิดข้ึน ใหผ้ ูอ้ �ำนวยการอำ� เภอ และผ้อู �ำนวยการจงั หวัดมอี �ำนาจ
หน้าที่เช่นเดียวกับผู้อ�ำนวยการท้องถ่ิน โดยในกรณีผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ ให้สั่งการได้ส�ำหรับในเขตอ�ำเภอของตน และ
ในกรณผี ู้อำ� นวยการจังหวัด ใหส้ ัง่ การไดส้ ำ� หรับในเขตจังหวัด แลว้ แต่กรณี

ในกรณีที่ผู้อ�ำนวยการท้องถ่ินมีความจ�ำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าท่ีของรัฐหรือหน่วยงาน
ของรัฐที่อยู่นอกเขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งพ้ืนที่ของตน ให้แจ้งให้ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอหรือผู้อ�ำนวยการ
จังหวดั แลว้ แตก่ รณี เพอื่ ส่งั การโดยเรว็ ตอ่ ไป

ในกรณีจ�ำเป็นเพ่ือประโยชน์ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยใด ผู้อ�ำนวยการจังหวัดจะสั่งการ
ให้หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน เจ้าหน้าท่ีของรัฐ หรือบุคคลใด กระท�ำหรืองดเว้นการกระท�ำใดที่มี
ผลกระทบตอ่ การปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั นน้ั ก็ได้ ค�ำสั่งดงั กล่าวใหม้ ผี ลบงั คับเป็นระยะเวลาตามที่กำ� หนดในคำ� สัง่
แต่ต้องไม่เกินย่ีสิบสี่ชั่วโมง ในกรณีท่ีมีความจ�ำเป็นต้องให้ค�ำสั่งดังกล่าวมีผลบังคับเกินย่ีสิบส่ีช่ัวโมง ให้เป็นอ�ำนาจของ
ผู้บัญชาการทจ่ี ะส่งั การไดต้ ามความจำ� เป็นแตต่ ้องไมเ่ กินเจ็ดวนั

ในกรณีที่พื้นที่ท่ีเกิดหรือจะเกิดสาธารณภัยตามวรรคหนึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของผู้อ�ำนวยการท้องถิ่น
หลายคน ผู้อ�ำนวยการทอ้ งถิ่นคนหนงึ่ คนใด จะใชอ้ �ำนาจหรือปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ตี ามมาตรา ๒๑ ไปพลางกอ่ นกไ็ ด้ แลว้ ให้แจง้
ผู้อำ� นวยการท้องถนิ่ อน่ื ทราบโดยเร็ว

42 คูม่ อื การให้ความชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภัยพบิ ตั ดิ ้านการเกษตร

มาตรา ๒๓ เมอ่ื เกิดสาธารณภยั ข้ึนในเขตพ้ืนท่ขี ององคก์ รปกครองส่วนท้องถิน่ แห่งพืน้ ทีใ่ ด ให้เปน็ หนา้ ท่ี
ของผู้อ�ำนวยการท้องถ่ินซึ่งมีพื้นท่ีติดต่อหรือใกล้เคียงกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งพ้ืนที่นั้น ที่จะสนับสนุน
การป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยทีเ่ กิดขนึ้

มาตรา ๒๔ เมื่อเกิดสาธารณภัย ให้เป็นหน้าท่ีของเจ้าพนักงานท่ีประสบเหตุ ต้องเข้าด�ำเนินการเบ้ืองต้น
เพื่อระงับสาธารณภัยนั้น แล้วรีบรายงานให้ผู้อ�ำนวยการท้องถ่ินที่รับผิดชอบในพื้นท่ีน้ันเพ่ือสั่งการต่อไป และในกรณี
จำ� เป็นอนั ไมอ่ าจหลกี เลย่ี งได้ ให้เจา้ พนักงานมอี �ำนาจดำ� เนนิ การใด ๆ เพอ่ื คุ้มครองชวี ิตหรอื ปอ้ งกนั ภยันตรายที่จะเกิด
แก่บคุ คลได้

มาตรา ๒๕ ในกรณีที่เกิดสาธารณภัยและภยันตรายจากสาธารณภัยนั้นใกล้จะถึง ผู้อ�ำนวยการมีอ�ำนาจ
ส่งั ให้เจ้าพนกั งานดัดแปลง ท�ำลาย หรอื เคลือ่ นย้ายส่งิ กอ่ สร้าง วัสดุ หรือ ทรัพย์สินของบุคคลใดทเี่ ป็นอุปสรรคแกก่ าร
บ�ำบดั ปัดป้องภยันตรายได้ ทงั้ น้ี เฉพาะเท่าทจี่ ำ� เป็นแกก่ ารยบั ยง้ั หรือแกไ้ ขความเสยี หายท่ีจะเกิดขนึ้ จากสาธารณภัยน้ัน

ความในวรรคหนง่ึ ใหใ้ ชบ้ งั คบั กบั กรณมี คี วามจำ� เปน็ ตอ้ งดำ� เนนิ การเพอ่ื ปอ้ งกนั ภยั ตอ่ สว่ นรวมดว้ ยโดยอนโุ ลม
ในกรณที ก่ี ารดดั แปลง ทำ� ลาย หรอื เคลอ่ื นยา้ ยสงิ่ กอ่ สรา้ ง วสั ดุ หรอื ทรพั ยส์ นิ จะมผี ลทำ� ใหเ้ กดิ สาธารณภยั
ขนึ้ ในเขตพนื้ ทอ่ี น่ื หรอื กอ่ ใหเ้ กดิ ความเสยี หายเพม่ิ ขน้ึ แกเ่ ขตพน้ื ทอ่ี นื่ ผอู้ ำ� นวยการทอ้ งถน่ิ จะใชอ้ ำ� นาจตามวรรคหนง่ึ หรอื
วรรคสองมไิ ด้ เว้นแตจ่ ะไดร้ ับความเห็นชอบจากผ้อู ำ� นวยการจงั หวัด
มาตรา ๒๖ เมื่อมีกรณีที่เจ้าพนักงานจ�ำเป็นต้องเข้าไปในอาคารหรือสถานที่ท่ีอยู่ใกล้เคียงกับพื้นท่ีท่ีเกิด
สาธารณภัยเพ่ือท�ำการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยให้กระท�ำได้ เม่ือได้รับอนุญาตจากเจ้าของหรือผู้ครอบครอง
อาคารหรอื สถานทแี่ ลว้ เวน้ แตไ่ มม่ เี จา้ ของหรอื ผคู้ รอบครองอยใู่ นเวลานนั้ หรอื เมอ่ื อยภู่ ายใตก้ ารควบคมุ ของผอู้ ำ� นวยการ
กใ็ หก้ ระทำ� ไดแ้ ม้เจ้าของหรือผู้ครอบครองจะไม่ได้อนุญาต
ในกรณีท่ีทรัพย์สินที่อยู่ในอาคารหรือสถานท่ีตามวรรคหน่ึง เป็นส่ิงท่ีท�ำให้เกิดสาธารณภัยได้ง่ายให้
เจ้าพนกั งานมอี ำ� นาจสง่ั ให้เจ้าของหรอื ผ้คู รอบครองขนย้ายทรพั ย์สนิ น้ันออกจากอาคารหรือสถานที่ดังกลา่ วได้
ในกรณีท่ีเจ้าของหรือผู้ครอบครองไม่ปฏิบัติตามค�ำส่ังของเจ้าพนักงานตามวรรคสอง ให้เจ้าพนักงาน
มอี ำ� นาจขนยา้ ยทรพั ยส์ นิ นนั้ ไดต้ ามความจำ� เปน็ แกก่ ารปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั โดยเจา้ พนกั งานไมต่ อ้ งรบั ผดิ ชอบ
บรรดาความเสียหายอันเกิดจากการกระท�ำดงั กลา่ ว
มาตรา ๒๗ ในการบรรเทาสาธารณภยั ผอู้ ำ� นวยการและเจา้ พนกั งานซงึ่ ไดร้ บั มอบหมายจากผอู้ ำ� นวยการ
มีอำ� นาจหนา้ ทดี่ ำ� เนินการดงั ตอ่ ไปนี้

(๑) จัดให้มีสถานท่ีช่ัวคราวเพื่อให้ผู้ประสบภัยอยู่อาศัยหรือรับการปฐมพยาบาล และการ
รกั ษาทรัพย์สนิ ของผ้ปู ระสบภยั

(๒) จดั ระเบยี บการจราจรชวั่ คราวในพนื้ ทที่ เ่ี กดิ สาธารณภยั และพนื้ ทใ่ี กลเ้ คยี ง เพอ่ื ประโยชน์
ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั

(๓) ปิดกัน้ มิให้ผไู้ มม่ สี ว่ นเกย่ี วข้องเขา้ ไปในพน้ื ทีท่ ่ีเกดิ สาธารณภัยและพน้ื ทใ่ี กลเ้ คียง
(๔) จดั ให้มีการรกั ษาความสงบเรียบรอ้ ยและป้องกนั เหตุโจรผรู้ ้าย
(๕) ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และช่วยขนย้ายทรัพย์สินในพ้ืนท่ีท่ีเกิดสาธารณภัยและพ้ืนท่ี

ใกลเ้ คยี ง เมอื่ เจา้ ของหรือผ้คู รอบครองทรัพยส์ ินร้องขอ
ผอู้ ำ� นวยการหรอื เจา้ พนกั งานซง่ึ ไดร้ บั มอบหมายจากผอู้ ำ� นวยการจะจดั ใหม้ เี ครอื่ งหมายหรอื อาณตั สิ ญั ญาณ
เพื่อใช้ในการกำ� หนดสถานที่หรอื การดำ� เนินการใดตามวรรคหนงึ่ กไ็ ด้

คมู่ ือการให้ความชว่ ยเหลอื ผู้ประสบภยั พบิ ัติดา้ นการเกษตร 43

ในการดำ� เนนิ การตาม (๒) (๓) (๔) และ (๕) ผอู้ ำ� นวยการหรอื เจา้ พนกั งาน จะดำ� เนนิ การเองหรอื มอบหมาย
ใหพ้ นกั งานฝา่ ยปกครองหรอื ตำ� รวจในพนื้ ทเ่ี ปน็ ผดู้ ำ� เนนิ การ หรอื ชว่ ยดำ� เนนิ การกไ็ ด้ และในกรณตี าม (๕) จะมอบหมาย
ให้องคก์ ารสาธารณกุศลเป็นผดู้ ำ� เนินการหรือชว่ ยด�ำเนินการดว้ ยก็ได้

มาตรา ๒๘ เมื่อเกิดหรือใกล้จะเกิดสาธารณภัยข้ึนในพื้นท่ีใด และการที่ผู้ใดอยู่อาศัยในพื้นที่น้ัน
จะก่อใหเ้ กดิ ภยันตรายหรอื กดี ขวางตอ่ การปฏิบัติหน้าท่ขี องเจา้ พนักงาน ใหผ้ ้บู ญั ชาการ รองผู้บญั ชาการ ผอู้ �ำนวยการ
และเจา้ พนกั งานซงึ่ ไดร้ บั มอบหมายมอี ำ� นาจสง่ั อพยพผซู้ งึ่ อยใู่ นพน้ื ทน่ี นั้ ออกไปจากพนื้ ทดี่ งั กลา่ ว ทง้ั น้ี เฉพาะเทา่ ทจี่ ำ� เปน็
แก่การป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั

มาตรา ๒๙ เม่ือเกิดหรือใกล้จะเกิดสาธารณภัยข้ึนในพื้นที่ใดและการอยู่อาศัยหรือด�ำเนินกิจการใด ๆ
ในพื้นท่ีนั้นจะเป็นอันตรายอย่างร้ายแรง ผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ ผู้อ�ำนวยการกลาง ผู้อ�ำนวยการจังหวัด
ผู้อ�ำนวยการอ�ำเภอ และผูอ้ ำ� นวยการทอ้ งถ่นิ โดยความเห็นชอบของผอู้ ำ� นวยการอ�ำเภอ จะประกาศห้ามมใิ หบ้ ุคคลใด ๆ
เข้าไปอยู่อาศัยหรือด�ำเนินกิจการใดในพ้ืนท่ีดังกล่าวก็ได้ ประกาศดังกล่าวให้ก�ำหนดระยะเวลาการห้ามและเขตพื้นที่
ท่ีห้ามตามท่ีจ�ำเปน็ ไวด้ ้วย

มาตรา ๓๐ ให้ผู้อ�ำนวยการในเขตพ้ืนที่ท่ีรับผิดชอบส�ำรวจความเสียหายจากสาธารณภัยท่ีเกิดขึ้นและ
ท�ำบัญชีรายช่ือผู้ประสบภัยและทรัพย์สินที่เสียหายไว้เป็นหลักฐาน พร้อมทั้งออกหนังสือรับรองให้ผู้ประสบภัย
ไว้เป็นหลกั ฐานในการรับการสงเคราะห์และฟน้ื ฟู

หนังสือรับรองตามวรรคหน่ึงต้องมีรายละเอียดเกี่ยวกับการสงเคราะห์และการฟื้นฟูท่ีผู้ประสบภัยมีสิทธิ
ได้รับจากทางราชการ พร้อมทั้งระบุหน่วยงานที่เป็นผู้ให้การสงเคราะห์หรือฟื้นฟู และสถานท่ีติดต่อของหน่วยงานน้ัน
ไว้ด้วย ทงั้ นี้ ตามแบบท่อี ธบิ ดกี �ำหนด

บรรดาเอกสารราชการของผู้ประสบภัยท่ีสูญหายหรือเสียหายเนื่องจากสาธารณภัยท่ีเกิดขึ้น เม่ือผู้ประสบภัย
ร้องขอต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินแห่งพื้นท่ีที่เกิดสาธารณภัย หรือที่เป็นภูมิล�ำเนาของผู้ประสบภัย ให้เป็นหน้าที่
ขององคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ แห่งพน้ื ทีน่ น้ั แจง้ ใหห้ นว่ ยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถิ่นที่เกย่ี วข้องทราบ
และให้หนว่ ยงานของรัฐ และองค์กรปกครองสว่ นท้องถิน่ ท่ีเกย่ี วขอ้ งออกเอกสารทางราชการดงั กลา่ วใหใ้ หม่ตามหลกั ฐาน
ที่อยู่ในความครอบครองของตนส่งมอบให้แก่ผู้ประสบภัยหรือส่งมอบผ่านทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งพ้ืนท่ี
ท่ีเป็นผู้แจ้ง ทง้ั น้ี โดยผู้ประสบภัยไม่ต้องเสียคา่ ธรรมเนียมหรือค่าบริการ แม้วา่ ตามกฎหมายทเ่ี กี่ยวกับการออกเอกสาร
ราชการดงั กลา่ วจะก�ำหนดให้ต้องเสียคา่ ธรรมเนียมหรอื ค่าบรกิ ารกต็ าม

ในกรณีที่ผู้ประสบภัยหรือเจ้าของหรือผู้ครอบครองทรัพย์สินร้องขอหลักฐานเพื่อรับการสงเคราะห์หรือ
บรกิ ารอืน่ ใด ใหผ้ ้อู ำ� นวยการในเขตพืน้ ท่ที ีร่ ับผิดชอบ ออกหนังสอื รับรองใหต้ ามระเบียบที่กระทรวงมหาดไทยก�ำหนด

มาตรา ๓๑ ในกรณีท่ีเกิดสาธารณภัยร้ายแรงอย่างย่ิง นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีซึ่งนายก
รัฐมนตรีมอบหมายมีอ�ำนาจส่ังการผู้บัญชาการ ผู้อ�ำนวยการ หน่วยงานของรัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ใหด้ ำ� เนนิ การอยา่ งหนงึ่ อยา่ งใดเพอ่ื ปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั รวมตลอดทงั้ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื แกป่ ระชาชนในพนื้ ท่ี
ทกี่ �ำหนดก็ได้ โดยให้มีอำ� นาจเช่นเดียวกับ ผูบ้ ญั ชาการตามมาตรา ๑๓ และผูอ้ ำ� นวยการตามมาตรา ๒๑ และมีอำ� นาจ
กำ� กับและควบคุม การปฏบิ ัตหิ น้าที่ของผบู้ ัญชาการ รองผบู้ ญั ชาการ ผอู้ �ำนวยการ รองผู้อำ� นวยการ ผูช้ ว่ ยผู้อ�ำนวยการ
และเจ้าพนกั งานในการดำ� เนินการตามมาตรา ๒๕ มาตรา ๒๘ และมาตรา ๒๙ ด้วย

เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดไมป่ ฏบิ ตั ิตามคำ� สัง่ ของนายกรัฐมนตรี หรอื รองนายกรัฐมนตรตี ามวรรคหน่ึง ใหถ้ ือวา่
เปน็ การปฏิบตั ิหน้าทีโ่ ดยไม่ชอบหรอื เป็นความผิดวินยั อย่างรา้ ยแรงแล้วแต่กรณี

44 คมู่ อื การให้ความช่วยเหลอื ผปู้ ระสบภยั พบิ ัติดา้ นการเกษตร

หมวด ๓

การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในเขตกรุงเทพมหานคร

มาตรา ๓๒ ให้ผูว้ ่าราชการกรงุ เทพมหานครเปน็ ผูอ้ �ำนวยการกรงุ เทพมหานคร รับผดิ ชอบในการปอ้ งกนั
และบรรเทาสาธารณภยั ในเขตกรงุ เทพมหานคร และมอี ำ� นาจหน้าที่ ดังตอ่ ไปน้ี

(๑) จัดท�ำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ซึ่งต้องสอดคล้องกับ
แผนการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ

(๒) ก�ำกบั ดแู ลการฝกึ อบรมอาสาสมคั รของกรงุ เทพมหานคร
(๓) จัดใหม้ วี สั ดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมอื เครือ่ งใช้ ยานพาหนะ และสิง่ อ่นื เพอื่ ใชใ้ นการปอ้ งกนั

และบรรเทาสาธารณภัยตามท่ีก�ำหนดในแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กรงุ เทพมหานคร
(๔) ดำ� เนนิ การใหก้ ารสงเคราะหเ์ บอ้ื งตน้ แกผ่ ปู้ ระสบภยั หรอื ผไู้ ดร้ บั ภยนั ตรายหรอื เสยี หาย
จากสาธารณภัย รวมตลอดท้ังการรักษาความสงบเรียบร้อย และการปฏิบัติการใด ๆ
ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั
(๕) สนับสนุนและให้ความช่วยเหลือแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินซึ่งมีพ้ืนที่ติดต่อหรือ
ใกล้เคยี งในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภยั
(๖) ปฏิบตั หิ น้าทอ่ี น่ื ตามท่ผี บู้ ัญชาการและผู้อ�ำนวยการกลางมอบหมาย
เพอ่ื ประโยชน์ในการปฏิบัติหนา้ ทต่ี าม (๓) (๔) และ (๕) ให้ผอู้ �ำนวยการกรุงเทพมหานครมีอำ� นาจส่ังการ
ส่วนราชการและหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร รวมท้ังประสานกับหน่วยงานของรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ที่เก่ียวข้องในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อให้เป็นไปตามแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กรุงเทพมหานคร และมีอ�ำนาจสั่งการ ควบคุม และก�ำกับดูแลการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าพนักงานและอาสาสมัครของ
กรงุ เทพมหานคร ให้เปน็ ไปตามพระราชบัญญัติน้ี
มาตรา ๓๓ แผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ตามมาตรา ๓๒ (๑) อย่างน้อย
ตอ้ งมีสาระสำ� คัญตามมาตรา ๑๒ และสาระสำ� คัญอืน่ ดังตอ่ ไปน้ี
(๑) การจดั ต้งั ศูนยอ์ ำ� นวยการเฉพาะกจิ เมือ่ เกิดสาธารณภัยขนึ้ โครงสรา้ ง และผู้มอี ำ� นาจสงั่ การ
ดา้ นตา่ ง ๆ ในการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั
(๒) แผนและขนั้ ตอนในการจัดหาวสั ดุ อุปกรณ์ เครื่องมือเคร่ืองใช้ และยานพาหนะ เพ่ือใช้
ในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั
(๓) แผนและข้ันตอนในการจัดให้มีเคร่ืองหมายสัญญาณ หรือสิ่งอื่นใด ในการแจ้งให้
ประชาชนได้ทราบถงึ การเกดิ หรอื จะเกดิ สาธารณภยั
(๔) แผนปฏิบตั กิ ารในการปอ้ งกันและบรรเทาสาธารณภยั ในเขตกรงุ เทพมหานคร
(๕) แผนการประสานงานกบั องคก์ ารสาธารณกศุ ลในเขตกรงุ เทพมหานคร

ค่มู ือการใหค้ วามช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั พิบตั ดิ ้านการเกษตร 45

มาตรา ๓๔ ในการจัดท�ำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร ให้ผู้ว่าราชการ
กรงุ เทพมหานครแต่งตัง้ คณะกรรมการขึน้ คณะหนงึ่ ประกอบดว้ ย

(๑) ผวู้ า่ ราชการกรงุ เทพมหานคร เปน็ ประธานกรรมการ
(๒) ปลัดกรุงเทพมหานคร เปน็ รองประธานกรรมการ
(๓) กรรมการอ่ืน ประกอบดว้ ย
(ก) ผู้แทนส่วนราชการหรือหน่วยงานของกรุงเทพมหานครตามจ�ำนวนท่ีผู้ว่าราชการ

กรุงเทพมหานครเห็นสมควรแต่งตง้ั
(ข) ผแู้ ทนกรมปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภัย
(ค) ผู้แทนองค์การสาธารณกุศลในเขตกรุงเทพมหานครตามจ�ำนวนที่ผู้ว่าราชการ

กรุงเทพมหานครเห็นสมควรแตง่ ตงั้
(ง) ผู้แทนชุมชนในเขตกรุงเทพมหานครตามจ�ำนวนท่ีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

เห็นสมควรแต่งตง้ั
ใหแ้ ตง่ ตง้ั ผแู้ ทนกระทรวงกลาโหมและผแู้ ทนสถาบนั การศกึ ษาระดบั อดุ มศกึ ษาเปน็ ทป่ี รกึ ษาหรอื กรรมการ
ตามจำ� นวนท่ีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเหน็ สมควรแตง่ ตง้ั
ให้คณะกรรมการตามวรรคหน่ึงมีหน้าที่จัดท�ำแผนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร
เสนอผูว้ า่ ราชการกรุงเทพมหานครเพือ่ ประกาศใชต้ ่อไป
การปฏิบัติหน้าที่และการประชุมของคณะกรรมการตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามที่ ผู้ว่าราชการ
กรงุ เทพมหานครกำ� หนด
มาตรา ๓๕ ใหป้ ลดั กรงุ เทพมหานครเปน็ รองผอู้ ำ� นวยการกรงุ เทพมหานครมหี นา้ ทชี่ ว่ ยเหลอื ผอู้ ำ� นวยการ
กรุงเทพมหานครในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และปฏิบัติหน้าที่อ่ืนตามที่ผู้อ�ำนวยการกรุงเทพมหานคร
มอบหมาย และให้น�ำความในวรรคสองของมาตรา ๓๒ มาใช้บังคับกับการปฏิบัติหน้าที่ของรองผู้อ�ำนวยการ
กรงุ เทพมหานครดว้ ยโดยอนุโลม
ความรับผิดชอบ และอ�ำนาจหน้าท่ีของปลัดกรุงเทพมหานครในฐานะรองผู้อำ� นวยการกรุงเทพมหานคร
ตามวรรคหน่ึง ปลดั กรุงเทพมหานครจะมอบหมายให้รองปลัดกรงุ เทพมหานครเป็นผชู้ ่วยปฏิบัติด้วยกไ็ ด ้
มาตรา ๓๖ ใหผ้ อู้ ำ� นวยการเขตในแตล่ ะเขตของกรงุ เทพมหานครเปน็ ผชู้ ว่ ยผอู้ ำ� นวยการกรงุ เทพมหานคร
รับผิดชอบและปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในเขตของตน และมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้อ�ำนวยการ
กรงุ เทพมหานครตามท่ไี ดร้ บั มอบหมาย
ในการปฏิบัติหน้าท่ีของผู้ช่วยผู้อ�ำนวยการกรุงเทพมหานครตามวรรคหน่ึง ให้ผู้ช่วยผู้อ�ำนวยการ
กรุงเทพมหานครมีอ�ำนาจสั่งการส่วนราชการและหน่วยงานของกรุงเทพมหานครท่ีอยู่ในเขตพ้ืนท่ีให้ช่วยเหลือหรือ
รว่ มมอื ในการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั ตามแผนการปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั กรงุ เทพมหานคร และมอี ำ� นาจ
สั่งการ ควบคุม และก�ำกับดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานและอาสาสมัครของกรุงเทพมหานครให้เป็นไปตาม
พระราชบัญญัตินี้
ความรับผิดชอบ และอ�ำนาจหน้าท่ีของผู้อ�ำนวยการเขตในฐานะผู้ช่วยผู้อ�ำนวยการกรุงเทพมหานครตาม
วรรคหนง่ึ และวรรคสอง ผอู้ �ำนวยการเขตจะมอบหมายให้ผู้ช่วยผอู้ ำ� นวยการเขตเปน็ ผูช้ ว่ ยปฏบิ ัติด้วยก็ได้

46 ค่มู ือการให้ความชว่ ยเหลอื ผ้ปู ระสบภัยพิบัติด้านการเกษตร


Click to View FlipBook Version