งานพัฒนาวิชาการ และหลักสูตรสถานศึกษา
โรงเรียนภัทรญาณวิทยา
หลักสูตร
โรงเรียนภัทรญาณวิทยา
พุทธศักราช 2565
กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยี
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครปฐม
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ
หลกั สูตรโรงเรยี นภทั รญาณวทิ ยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
หลกั สตู รโรงเรียนภัทรญาณวทิ ยา
พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี
งานพัฒนาวิชาการ และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนภทั รญาณวิทยา
180
หลักสูตรโรงเรยี นภัทรญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ทำไมตอ้ งเรียนวทิ ยาศาสตร์
วิทยาศาสตร์มีบทบาทสำคัญยิ่งในสังคมโลกปัจจุบันและอนาคต เพราะวิทยาศาสตร์
เกี่ยวข้องกับทุกคนทั้งในชีวิตประจำวันและการงานอาชีพต่าง ๆ ตลอดจนเทคโนโลยี เครื่องมือ
เครื่องใช้และผลผลิตต่าง ๆ ที่มนุษย์ได้ใช้เพื่ออำนวยความสะดวกในชีวิตและการทำงานเหล่าน้ี
ล้วนเป็นผลของความรู้วทิ ยาศาสตร์ ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และศาสตร์อื่น ๆ วิทยาศาสตร์
ช่วยให้มนุษย์ได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ วิจารณ์
มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าหาความรู้ มีความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถ
ตัดสินใจโดยใช้ข้อมูล ที่หลากหลายและมีประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ วิทยาศาสตร์เป็นวัฒนธรรม
ของโลกสมัยใหม่ซึ่งเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ (knowledge-based society) ดังนั้นทุกคนจึง
จำเป็นตอ้ งได้รับการพัฒนาให้รู้วิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะมีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติและเทคโนโลยี
ที่มนุษยส์ ร้างสรรคข์ ้ึน สามารถนำความร้ไู ปใชอ้ ยา่ งมีเหตุผล สร้างสรรค์ และมีคุณธรรม
เปา้ หมายของวิทยาศาสตร์
ในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้ค้นพบความรู้ด้วนตนเองมากที่สุด
เพื่อให้ได้ทั้งกระบวนการและความรู้ จากวิธีการสังเกต สำรวจตรวจสอบ การทดลอง แล้วนำผล
ทไ่ี ด้มาจดั ระบบเปน็ หลักการ แนวคิดและองค์ความรู้
การจดั การเรียนการสอนวทิ ยาศาสตรม์ ีเปา้ หมายสำคัญดังน้ี
1. เพ่อื ให้เข้าใจหลกั การ ทฤษฎี และกฎทีเ่ ป็นพนื้ ฐานในวชิ าวทิ ยาศาสตร์
2. เพื่อให้เข้าใจขอบเขตของธรรมชาติของวิชาวิทยาศาสตร์และข้อจำกัดในการศึกษาวิชา
วทิ ยาศาสตร์
3. เพอื่ ให้มที กั ษะทส่ี ำคัญในการศกึ ษาค้นควา้ และคดิ ค้นทางเทคโนโลยี
4. เพื่อให้ตระหนักถึงความสัมพันธ์ระหว่างวิชาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มวลมนุษย์และ
สภาพแวดลอ้ มในเชิงทีม่ อี ทิ ธพิ ลและผลกระทบซ่งึ กนั และกนั
5. เพื่อนำความรู้ ความเข้าใจ ในวิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อ
สังคมและการดำรงชีวติ
6. เพื่อพัฒนากระบวนการคิดและจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปัญหาและจัดการ
ทกั ษะในการส่อื สารและความสามารถในการตดั สินใจ
7. เพื่อใหเ้ ป็นผู้มีจิตวิทยาศาสตร์ มคี ณุ ธรรม จริยธรรมและคา่ นยิ มในการใชว้ ิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยอี ย่างสรา้ งสรรค์
งานพัฒนาวชิ าการ และหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา
181
หลกั สูตรโรงเรียนภทั รญาณวทิ ยา พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
เรยี นรู้อะไรในวทิ ยาศาสตร์
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมุ่งหวังใหผ้ ู้เรียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตรท์ ีเ่ น้น
การเชื่อมโยงความรู้ กับกระบวนการ มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าและสร้างองค์ความรู้ โดยใช้
กระบวนการในการสืบเสาะหาความรู้ และแก้ปัญหาที่หลากหลาย ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้
ทุกขั้นตอน มีการทำกิจกรรมด้วยการลงมือปฏิบัติจริง อย่างหลากหลาย เหมาะสมกับระดับชั้นโดย
กำหนดสาระสำคญั ดงั น้ี
o วิทยาศาสตร์ชีวภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ชีวิตในสิ่งแวดล้อม องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต
การดำรงชีวิตของมนุษย์และสัตว์ การดำรงชีวิตของพืช พันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพและ
ววิ ัฒนาการของส่งิ มีชวี ติ
o วิทยาศาสตร์กายภาพ เรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมชาติของสาร การเปลี่ยนแปลงของสาร
การเคลอ่ื นที่ พลงั งาน และคล่นื
o วิทยาศาสตร์โลกและอวกาศ เรียนรู้เกี่ยวกับ โลกในเอกภพ ระบบโลก และมนุษย์กับ
การเปลี่ยนแปลงของโลก
o เทคโนโลยี
• การออกแบบและเทคโนโลยี เรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้
ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีเพือ่ ดำรงชีวติ ในสังคมที่มกี ารเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และ
ทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมี
ความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบ เชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม
โดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชวี ติ สงั คม และส่ิงแวดล้อม
• วิทยาการคำนวณ เรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะ
การคิด เชิงคำนวณ การคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหาเป็นขั้นตอนและเป็นระบบ ประยุกต์ใช้ความรู้
ดา้ นวิทยาการคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศสอ่ื สารในการแก้ปญั หาที่พบในชวี ิตจริงได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพ
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระท่ี ๑ วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ
สิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ
การถ่ายทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของ
ประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
งานพัฒนาวิชาการ และหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นภัทรญาณวิทยา
182
หลักสตู รโรงเรียนภัทรญาณวิทยา พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
แนวทางในการอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมรวมท้งั
นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารผ่านเซลล์
ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์ท่ี
ทำงานสมั พันธก์ นั ความสัมพนั ธข์ องโครงสร้างและหน้าท่ขี องอวัยวะต่าง ๆ ของพชื
ท่ที ำงานสัมพนั ธ์กนั รวมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
สารพนั ธุกรรม การเปล่ยี นแปลงทางพนั ธกุ รรมทม่ี ผี ลต่อส่งิ มชี วี ติ ความหลากหลาย
ทางชีวภาพและวิวัฒนาการของสงิ่ มีชีวติ รวมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์
สาระที่ ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ
สสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคหลักและธรรมชาติของ
การเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิดปฏกิ ริ ิยาเคมี
มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะ
การเคล่ือนทีแ่ บบตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของ
คลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทั้ง
นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์
สาระที่ ๓ วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ
กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผล
ต่อสิ่งมชี วี ิต และการประยุกตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง
ภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ
และภูมอิ ากาศโลกรวมทง้ั ผลต่อสิ่งมีชีวติ และสิ่งแวดล้อม
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.๑ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง
อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์และศาสตร์
อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการ
งานพฒั นาวชิ าการ และหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนภัทรญาณวิทยา
183
หลักสูตรโรงเรยี นภทั รญาณวทิ ยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบ
ตอ่ ชีวิต สงั คม และสง่ิ แวดลอ้ ม
มาตรฐาน ว 4.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน
และการแกป้ ัญหาได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ รู้เท่าทนั และมจี ริยธรรม
คณุ ภาพผเู้ รียน
จบชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3
o เข้าใจลักษณะและองค์ประกอบที่สำคัญของเซลล์สิ่งมีชีวิต ความสัมพันธ์ของการทำงาน
ของระบบต่าง ๆ ในร่างกายมนุษย์ การดำรงชีวิตของพืช การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
การเปลี่ยนแปลงของยีนหรือโครโมโซม และตัวอย่างโรคที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม
ประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชวี ิตดัดแปรพันธุกรรม ความหลากหลายทางชีวภาพ ปฏิสัมพันธ์ของ
องคป์ ระกอบของระบบนิเวศและการถา่ ยทอดพลงั งานในสง่ิ มีชวี ติ
o เข้าใจองค์ประกอบและสมบัติของธาตุ สารละลาย สารบริสทุ ธิ์ สารผสม หลักการแยกสาร
การเปลี่ยนแปลงของสารในรูปแบบของการเปลี่ยนสถานะ การเกิดสารละลายและการเกิดปฏิกิริยา
เคมีและสมบัตทิ างกายภาพ และการใช้ประโยชน์ของวัสดปุ ระเภทพอลิเมอร์ เซรามิกและวัสดุผสม
o เข้าใจการเคลื่อนที่ แรงลัพธ์และผลของแรงลัพธ์กระทำต่อวัตถุ โมเมนต์ของแรง แรงที่
ปรากฏในชีวิตประจำวัน สนามของแรง ความสัมพันธ์ของงาน พลังงานจลน์ พลังงานศักย์โน้มถ่วง
กฎการอนุรักษ์พลังงาน การถ่ายโอนพลังงาน สมดุลความร้อน ความสัมพันธ์ของปริมาณทางไฟฟ้า
การตอ่ วงจรไฟฟา้ ในบ้าน พลังงานไฟฟ้า และหลักการเบอื้ งตน้ ของวงจรอิเล็กทรอนกิ ส์
o เข้าใจสมบัติของคลื่น และลักษณะของคลื่นแบบต่าง ๆ แสง การสะท้อน การหักเห
ของแสงและทศั นอปุ กรณ์
o เข้าใจการโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ การเกิดฤดู การเคลื่อนที่ ปรากฏของ
ดวงอาทิตย์ การเกิดข้างขึ้นข้างแรม การขึ้นและตกของดวงจันทร์ การเกิดน้ำขึ้นน้ำลง ประโยชน์ของ
เทคโนโลยอี วกาศและความกา้ วหนา้ ของโครงการสำรวจอวกาศ
o เข้าใจลักษณะของชั้นบรรยากาศ องค์ประกอบและปัจจัยที่มีผลต่อลมฟ้าอากาศ
การเกิดและผลกระทบของพายุฟ้าคะนอง พายุหมุนเขตร้อน การพยากรณ์อากาศ สถานการณ์
การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก กระบวนการเกิดเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์และการใช้ประโยชน์
พลังงานทดแทนและการใช้ประโยชน์ ลักษณะโครงสร้างภายในโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงทาง
ธรณีวิทยาบนผิวโลก ลักษณะชั้นหน้าตัดดิน กระบวนการเกิดดิน แหล่งน้ำผิวดิน แหล่งน้ำใต้ดิน
กระบวนการเกดิ และผลกระทบของภัยธรรมชาติ และธรณพี บิ ัติภยั
งานพฒั นาวิชาการ และหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นภัทรญาณวิทยา
184
หลกั สตู รโรงเรยี นภัทรญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
o เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบทางเทคโนโลยี การเปลี่ยนแปลงของ
เทคโนโลยี ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือวิทยาศาสตร์
วเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บ และตัดสินใจเพื่อเลือกใชเ้ ทคโนโลยี โดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชีวิต สังคมและ
สิ่งแวดล้อม ประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะ และทรัพยากรเพื่อออกแบบและสร้างผลงานสำหรับ
การแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันหรือการประกอบอาชีพ โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม
รวมทั้งเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ และเครื่องมือได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย รวมทั้งคำนึงถึง
ทรัพย์สนิ ทางปัญญา
o นำข้อมูลปฐมภูมิเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ วิเคราะห์ ประเมิน นำเสนอข้อมูลและ
สารสนเทศไดต้ ามวัตถปุ ระสงค์ ใช้ทกั ษะการคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตจริงและเขียน
โปรแกรมอย่างง่ายเพื่อช่วยในการแก้ปัญหา ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารอย่างรู้เ ท่าทัน
และรับผดิ ชอบต่อสงั คม
o ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาท่ีเชื่อมโยงกับพยานหลักฐาน หรือหลักการทางวิทยาศาสตร์
ที่มีการกำหนดและควบคุมตัวแปร คิดคาดคะเนคำตอบหลายแนวทาง สร้างสมมติฐานที่สามารถ
นำไปสกู่ ารสำรวจตรวจสอบ ออกแบบและลงมือสำรวจตรวจสอบโดยใช้วัสดุและเครื่องมือที่เหมาะสม
เลอื กใช้เครอ่ื งมอื และเทคโนโลยีสารสนเทศท่เี หมาะสมในการเก็บรวบรวมข้อมูล ทั้งในเชิงปรมิ าณและ
คณุ ภาพทไ่ี ดผ้ ลเท่ียงตรงและปลอดภัย
o วิเคราะห์และประเมินความสอดคล้องของข้อมูลที่ได้จากการสำรวจตรวจสอบจาก
พยานหลกั ฐาน โดยใช้ความรูแ้ ละหลักการทางวิทยาศาสตร์ในการแปลความหมายและลงข้อสรุปและ
สือ่ สารความคิด ความรู้ จากผลการสำรวจตรวจสอบหลากหลายรูปแบบ หรอื ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ
เพื่อใหผ้ ู้อนื่ เข้าใจไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
o แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซื่อสัตย์ ในสิ่งที่จะเรียนรู้มีความคดิ
สร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องที่จะศึกษาตามความสนใจของตนเอง โดยใช้เครื่องมือและวิธีการที่ให้ได้ผล
ถูกต้อง เชื่อถือได้ ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมจากแหล่งความรู้ต่าง ๆ แสดงความคิดเห็นของตนเอง รับฟัง
ความคิดเห็นผู้อื่น และยอมรับการเปลี่ยนแปลงความรู้ที่ค้นพบ เมื่อมีข้อมูลและประจักษ์พยานใหม่
เพิม่ ข้นึ หรือโต้แยง้ จากเดิม
o ตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีใช้ในชีวิตประจำวนั ใช้ความรู้
และกระบวนการทางวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยใี นการดำรงชีวติ และการประกอบอาชีพ แสดงความ
ช่นื ชม ยกยอ่ ง และเคารพสทิ ธิในผลงานของผู้คิดคน้ เขา้ ใจผลกระทบท้ังดา้ นบวกและด้านลบของการ
พัฒนาทางวิทยาศาสตร์ต่อสิ่งแวดล้อมและต่อบริบทอื่น ๆ และศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำโครงงาน
หรือสรา้ งชนิ้ งานตามความสนใจ
งานพัฒนาวชิ าการ และหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนภทั รญาณวิทยา
185
หลกั สตู รโรงเรียนภัทรญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
o แสดงถึงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการดูแลรักษาความสมดุลของระบบ
นเิ วศ และความหลากหลายทางชีวภาพ
จบชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6
o เขา้ ใจการลำเลยี งสารเขา้ และออกจากเซลล์ กลไกการรกั ษาดุลยภาพของมนุษย์ ภมู ิคุ้มกัน
ในร่างกายของมนุษย์และความผดิ ปกติของระบบภูมิคมุ้ กนั การใช้ประโยชน์จากสารต่าง ๆ ท่ีพืชสร้าง
ขึ้น การถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพนั ธุกรรม วิวัฒนาการทที่ ำให้เกิดความ
หลากหลายของสิ่งมีชีวิต ความสำคัญและผลของเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอต่อมนุษย์ สิ่งมีชีวิตและ
สิ่งแวดลอ้ ม
o เข้าใจความหลากหลายของไบโอมในเขตภูมิศาสตร์ต่าง ๆ ของโลก การเปลี่ยนแปลง
แทนที่ในระบบนิเวศ ปญั หาและผลกระทบทมี่ ีต่อทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แนวทางในการ
อนุรักษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละการแกไ้ ขปัญหาส่งิ แวดลอ้ ม
o เข้าใจชนิดของอนุภาคสำคัญที่เป็นส่วนประกอบในโครงสร้างอะตอม สมบัติบางประการ
ของธาตุ การจัดเรียงธาตุในตารางธาตุ ชนิดของแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคและสมบัติต่าง ๆ ของ
สารทีม่ ีความสัมพนั ธ์กบั แรงยึดเหนี่ยว พนั ธะเคมี โครงสร้างและสมบัติของพอลเิ มอร์ การเกดิ ปฏกิ ิริยา
เคมี ปจั จัยทมี่ ีผลตอ่ อัตราการเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี และการเขยี นสมการเคมี
o เข้าใจปริมาณท่ีเก่ียวกับการเคลื่อนท่ี ความสัมพันธร์ ะหว่างแรง มวลและความเร่งผลของ
ความเร่งที่มีต่อการเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุ แรงโน้มถ่วง แรงแม่เหล็ก ความสัมพันธ์ระหว่าง
สนามแมเ่ หลก็ และกระแสไฟฟ้า และแรงภายในนิวเคลยี ส
o เข้าใจพลังงานนิวเคลียร์ ความสัมพันธ์ระหว่างมวลและพลังงาน การเปลี่ยนพลังงาน
ทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีดา้ นพลังงาน การสะท้อน การหักเห การเลี้ยวเบนและการรวม
คล่นื การได้ยิน ปรากฏการณ์ท่ีเกยี่ วขอ้ งกับเสียง สีกับการมองเห็นสี คลื่นแมเ่ หลก็ ไฟฟ้าและประโยชน์
ของคลืน่ แม่เหล็กไฟฟา้
o เข้าใจการแบ่งชัน้ และสมบัติของโครงสร้างโลก สาเหตุ และรูปแบบการเคลื่อนท่ีของแผ่น
ธรณีที่สัมพันธ์กับการเกิดลักษณะธรณีสัณฐาน สาเหตุ กระบวนการเกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด
สึนามิ ผลกระทบ แนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏบิ ัติตนใหป้ ลอดภยั
o เข้าใจผลของแรงเนื่องจากความแตกต่างของความกดอากาศ แรงคอริออลิสที่มีต่อ
การหมุนเวียนของอากาศ การหมุนเวียนของอากาศตามเขตละติจูด และผลที่มีต่อภูมิอากาศ
ความสัมพันธ์ของการหมุนเวียนของอากาศ และการหมุนเวียนของกระแสน้ำผิวหน้าในมหาสมุทร
และผลต่อลักษณะลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง
ภูมิอากาศโลก และแนวปฏิบัติเพื่อลดกิจกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก
รวมทั้งการแปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟา้ อากาศท่ีสำคัญจากแผนท่ีอากาศและข้อมูลสารสนเทศ
งานพฒั นาวิชาการ และหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนภทั รญาณวิทยา
186
หลักสตู รโรงเรียนภัทรญาณวิทยา พุทธศักราช 2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
o เข้าใจการกำเนิดและการเปลี่ยนแปลงพลังงาน สสาร ขนาด อุณหภูมิของเอกภพ
หลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบง ประเภทของกาแล็กซี โครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซี
ทางช้างเผือก กระบวนการเกิดและการสร้างพลังงาน ปัจจัยที่ส่งผลต่อความส่องสว่างของดาวฤกษ์
และความสัมพันธ์ระหว่างความส่องสว่างกับโชติมาตรของดาวฤกษ์ ความสัมพันธ์ระหว่างสี อุณหภูมิ
ผิว และสเปกตรัมของดาวฤกษ์ วิวัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงสมบัติบางประการของดาวฤกษ์
กระบวนการเกดิ ระบบสุรยิ ะ การแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์ ลักษณะของดาวเคราะห์ท่ีเอื้อต่อการ
ดำรงชวี ิต การเกดิ ลมสรุ ิยะ พายสุ ุรยิ ะและผลที่มีต่อโลก รวมท้ังการสำรวจอวกาศและการประยุกต์ใช้
เทคโนโลยอี วกาศ
o ระบุปัญหา ตั้งคำถามที่จะสำรวจตรวจสอบ โดยมีการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
ต่าง ๆ สืบค้นข้อมูลจากหลายแหลง่ ต้ังสมมติฐานทีเ่ ปน็ ไปไดห้ ลายแนวทาง ตดั สนิ ใจเลือก ตรวจสอบ
สมมติฐานทีเ่ ปน็ ไปได้
o ตั้งคำถามหรือกำหนดปัญหาที่อยู่บนพื้นฐานของความรู้และความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์
ที่แสดงให้เห็นถึงการใช้ความคิดระดับสูงที่สามารถสำรวจตรวจสอบหรือศึกษาค้นคว้าได้อย่าง
ครอบคลุมและเชื่อถือได้ สร้างสมมติฐานที่มีทฤษฎีรองรับหรือคาดการณ์สิ่งที่จะพบ เพื่อนำไปสู่
การสำรวจตรวจสอบ ออกแบบวิธีการสำรวจตรวจสอบตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ได้อย่างเหมาะสม
มหี ลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ เลือกวสั ดุ อุปกรณ์ รวมทง้ั วิธีการในการสำรวจตรวจสอบอย่างถกู ต้องทง้ั ในเชิง
ปรมิ าณและคุณภาพ และบนั ทกึ ผลการสำรวจตรวจสอบอยา่ งเปน็ ระบบ
o วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล และประเมินความสอดคล้องของข้อสรุปเพื่อตรวจสอบ
กับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงวิธีการสำรวจตรวจสอบ จัดกระทำข้อมูลและ
นำเสนอข้อมูลด้วยเทคนิควิธีที่เหมาะสม สื่อสารแนวคิด ความรู้จากผลการสำรวจตรวจสอบโดย
การพูด เขียน จัดแสดงหรือใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจโดยมีหลักฐานอ้างอิง หรือมี
ทฤษฎีรองรับ
o แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซื่อสัตย์ ในการสืบเสาะหาความรู้
โดยใช้เครื่องมือและวิธีการที่ให้ได้ผลถูกต้อง เชื่อถือได้ มีเหตุผลและยอมรับได้ว่าความรู้ทาง
วทิ ยาศาสตรอ์ าจมีการเปลี่ยนแปลงได้
o แสดงถึงความพอใจและเห็นคุณค่าในการค้นพบความรู้ พบคำตอบ หรือแก้ปัญหาได้
ทำงานร่วมกบั ผู้อนื่ อย่างสร้างสรรค์ แสดงความคิดเหน็ โดยมขี ้อมลู อ้างอิงและเหตุผลประกอบเก่ียวกับ
ผลของการพัฒนาและการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรมต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
และยอมรับฟังความคดิ เห็นของผอู้ ่นื
งานพฒั นาวิชาการ และหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนภัทรญาณวทิ ยา
187
หลกั สูตรโรงเรียนภัทรญาณวทิ ยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
o เข้าใจความสมั พันธ์ของความรูว้ ทิ ยาศาสตรท์ ีม่ ีผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ
และการพัฒนาเทคโนโลยีที่สง่ ผลให้มีการคิดค้นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ท่ีก้าวหน้า ผลของเทคโนโลยี
ตอ่ ชวี ิต สงั คม และสง่ิ แวดล้อม
o ตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใช้ใน
ชีวิตประจำวัน ใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำรงชีวิต และ
การประกอบอาชีพ แสดงความช่ืนชม ภูมิใจ ยกย่อง อ้างอิงผลงาน ชิ้นงานท่ีเป็นผลมาจากภูมิปัญญา
ท้องถิ่น และการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำโครงงานหรือสร้างชิ้นงาน
ตามความสนใจ
o แสดงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และรักษาทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า เสนอตัวเองร่วมมือปฏิบัติกับชมุ ชนในการป้องกัน ดูแลทรัพยากรธรรมชาติ
และสิง่ แวดล้อมของท้องถ่นิ
o วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยี ได้แก่ ระบบทางเทคโนโลยีที่ซับซ้อนการเปลี่ยนแปลง
ของเทคโนโลยี ความสัมพันธ์ระหว่างเทคโนโลยีกับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์หรือ
วิทยาศาสตร์ วิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเพื่อเลือกใช้เทคโนโลยีโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อ
ชีวิต สังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ประยุกต์ใช้ความรู้ ทักษะ ทรัพยากรเพื่อออกแบบ สร้างหรือ
พัฒนาผลงาน สำหรับแก้ปัญหาที่มีผลกระทบต่อสังคม โดยใช้กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม ใช้
ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบและนำเสนอผลงาน เลอื กใช้วัสดุ อปุ กรณ์ และเครอ่ื งมอื ได้อย่างถูกต้อง
เหมาะสม ปลอดภัย รวมทัง้ คำนงึ ถงึ ทรพั ย์สินทางปญั ญา
o ใช้ความรูท้ างด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทลั เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร
เพื่อรวบรวมข้อมูลในชีวิตจริงจากแหล่งต่าง ๆ และความรู้จากศาสตร์อื่น มาประยุกต์ใช้สร้างความรู้
ใหม่ เข้าใจการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มีผลต่อการดำเนินชีวิต อาชีพ สังคมวัฒนธรรมและใช้
อย่างปลอดภัย มจี ริยธรรม
งานพัฒนาวิชาการ และหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนภัทรญาณวิทยา
188
หลักสูตรโรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้ และตวั ชี้วดั
สาระท่ี ๑ วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว ๑.๑ เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งไม่มีชีวิตกับ
สิ่งมีชีวิต และความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ
การถ่ายทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของ
ประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปญั หาส่ิงแวดลอ้ มรวมทงั้
นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
ตวั ช้วี ดั
ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 1
-
ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 2
-
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
1. อธิบายปฏิสัมพันธ์ขององคป์ ระกอบของระบบนิเวศที่ไดจ้ ากการสำรวจ
2. อธบิ ายรูปแบบความสัมพันธ์ระหว่างส่ิงมีชีวิตกับส่ิงมชี วี ิตรูปแบบต่าง ๆ ในแหล่งที่อยู่เดียวกันที่ได้
จากการสำรวจ
3. สรา้ งแบบจำลองในการอธบิ ายการถา่ ยทอดพลงั งานในสายใยอาหาร
4. อธบิ ายความสัมพันธข์ องผผู้ ลิต ผบู้ รโิ ภค และผยู้ อ่ ยสลายสารอนิ ทรยี ์ในระบบนเิ วศ
5. อธิบายการสะสมสารพษิ ในสง่ิ มชี วี ิตในโซอ่ าหาร
6. ตระหนักถึงความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต และสิ่งแวดล้อมในระบบนิเวศ โดยไม่ทำลายสมดุล
ของระบบนิเวศ
ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4
๑. สืบค้นข้อมูลและอธิบายความสัมพันธ์ของสภาพทางภูมิศาสตร์บนโลกกับความหลากหลายของ
ไบโอมและยกตวั อยา่ งไบโอมชนิดตา่ ง ๆ
๒. สืบค้นข้อมลู อภปิ รายสาเหตุและยกตวั อย่างการเปล่ยี นแปลงแทนทีข่ องระบบนิเวศ
งานพฒั นาวิชาการ และหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนภัทรญาณวิทยา
189
หลักสตู รโรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๓. สืบค้นข้อมูล อธิบายและยกตัวอย่างเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงขององค์ประกอบทางกายภาพและ
ทางชวี ภาพท่มี ีผลตอ่ การเปล่ียนแปลงขนาดของประชากรสงิ่ มชี ีวติ ในระบบนิเวศ
๔. สบื คน้ ขอ้ มลู และอภิปรายเก่ียวกบั ปัญหาและผลกระทบทม่ี ีต่อทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม
พรอ้ มทงั้ นำเสนอแนวทางในการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาสิง่ แวดล้อม
ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 5
-
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 6
-
สาระที่ ๑ วทิ ยาศาสตร์ชวี ภาพ
มาตรฐาน ว ๑.๒ เข้าใจสมบัติของสิ่งมีชีวิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเลียงสารผ่านเซลล์
ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์
ที่ทำงานสัมพันธ์กนั ความสมั พันธข์ องโครงสร้าง และหนา้ ท่ขี องอวยั วะต่าง ๆ ของ
พืชท่ที ำงานสัมพนั ธ์กนั รวมทง้ั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
ตวั ชวี้ ดั
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
1. เปรียบเทียบรูปร่างและโครงสร้างของเซลล์พืชและเซลล์สัตว์ รวมทั้งบรรยายหน้าทีข่ องผนังเซลล์
เยื่อหุ้มเซลล์ ไซโทพลาซมึ นิวเคลียส แวคิวโอล ไมโทคอนเดรียและคลอโรพลาสต์
2. ใช้กล้องจุลทรรศน์ใชแ้ สงศกึ ษาเซลล์ และโครงสรา้ งต่าง ๆ ภายในเซลล์
3. อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหว่างรปู ร่างกับการทำหนา้ ท่ขี องเซลล์
4. อธิบายการจดั ระบบของส่ิงมีชวี ติ โดยเรมิ่ จากเซลล์ เนอ้ื เยือ่ อวัยวะ ระบบอวัยวะ จนเป็นสิ่งมีชวี ิต
5. อธิบายกระบวนการแพร่และออสโมซิสจากหลักฐานเชิงประจักษ์และยกตัวอย่างการแพร่และ
ออสโมซสิ ในชีวิตประจำวัน
6. ระบุปัจจัยที่จำเป็นในการสังเคราะห์ด้วยแสงและผลผลิตที่เกิดขึ้นจากการสังเคราะห์ด้วยแสง
โดยใช้หลักฐานเชงิ ประจักษ์
7. อธบิ ายความสำคญั ของการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพชื ต่อสง่ิ มีชีวติ และสิ่งแวดลอ้ ม
8. ตระหนักในคุณค่าของพืชที่มีต่อสิ่งมีชวี ติ และสิง่ แวดล้อมโดยการร่วมกันปลูกและดูแลรักษาต้นไม้
ในโรงเรียนและชมุ ชน
9. บรรยายลกั ษณะและหน้าท่ขี องไซเลม็ และโฟลเอ็ม
10. เขียนแผนภาพที่บรรยายทิศทางการลำเลยี งสารในไซเล็มและโฟลเอม็ ของพชื
งานพฒั นาวิชาการ และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นภัทรญาณวิทยา
190
หลักสตู รโรงเรยี นภทั รญาณวทิ ยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
11. อธบิ ายการสืบพนั ธ์ุแบบอาศยั เพศและไม่อาศัยเพศของพืชดอก
12. อธิบายลักษณะโครงสร้างของดอกที่มีส่วนทำให้เกิดการถา่ ยเรณูรวมท้ังบรรยายการปฏิสนธขิ อง
พืชดอก การเกิดผลและเมล็ด การกระจายเมล็ด และการงอกของเมลด็
13. ตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์ที่ช่วยในการถ่ายเรณูของพืชดอกโดยการไม่ทำลายชีวิตของสัตว์
ท่ีชว่ ยในการถา่ ยเรณู
14. อธิบายความสำคญั ของธาตุอาหารบางชนดิ ที่มผี ลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตและการดำรงชวี ติ ของพชื
15. เลอื กใชป้ ยุ๋ ที่มธี าตอุ าหารเหมาะสมกับพืชในสถานการณท์ ่ีกำหนด
16. เลอื กวธิ ีการขยายพนั ธุ์พชื ให้เหมาะสมกบั ความต้องการของมนุษย์โดยใช้ความรู้เกี่ยวกับการสืบพันธ์ุ
ของพชื
17. อธบิ ายความสำคญั ของเทคโนโลยีการเพาะเล้ียงเน้ือเยื่อพชื ในการใชป้ ระโยชน์ด้านต่าง ๆ
18. ตระหนักถึงประโยชนข์ องการขยายพันธพุ์ ชื โดยการนำความรู้ไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2
๑. ระบอุ วัยวะและบรรยายหนา้ ที่ของอวัยวะทเี่ กยี่ วข้องในระบบหายใจ
๒. อธบิ ายกลไกการหายใจเข้าและออกโดยใช้แบบจำลองรวมท้ังอธิบายกระบวนการแลกเปล่ียนแกส๊
๓. ตระหนักถึงความสำคัญของระบบหายใจโดยการบอกแนวทางในการดูแลรักษาอวัยวะในระบบ
หายใจให้ทำงานเป็นปกติ
๔. ระบุอวยั วะและบรรยายหนา้ ท่ีของอวัยวะในระบบขับถ่ายในการกำจดั ของเสียทางไต
๕. ตระหนักถึงความสำคัญของระบบขับถ่ายในการกำจัดของเสียทางไตโดยการบอกแนวทางในการ
ปฏบิ ตั ิตนท่ีช่วยใหร้ ะบบขับถ่ายทำหนา้ ที่ไดอ้ ย่างปกติ
๖. บรรยายโครงสร้างและหน้าทข่ี องหัวใจ หลอดเลอื ดและเลือด
๗. อธบิ ายการทำงานของระบบหมุนเวยี นเลอื ดโดยใชแ้ บบจำลอง
๘. ออกแบบการทดลองและทดลองในการเปรียบเทียบอัตราการเต้นของหัวใจขณะปกติและหลังทำ
กจิ กรรม
๙. ตระหนักถึงความสำคัญของระบบหมุนเวียนเลือดโดยการบอกแนวทางในการดูแลรักษาอวัยวะ
ในระบบหมนุ เวยี นเลือดใหท้ ำงานเปน็ ปกติ
๑๐. ระบุอวัยวะและบรรยายหน้าท่ีของอวัยวะในระบบประสาทส่วนกลางในการควบคุมการทำงาน
ตา่ ง ๆ ของรา่ งกาย
๑๑. ตระหนักถึงความสำคัญของระบบประสาท โดยการบอกแนวทางในการดูแลรักษา รวมถึง
การปอ้ งกันการกระทบกระเทือนและอันตรายต่อสมองและไขสันหลัง
๑๒. ระบุอวัยวะและบรรยายหน้าที่ของอวัยวะในระบบสืบพันธุ์ของเพศชายและเพศหญิงโดยใช้
แบบจำลอง
งานพัฒนาวชิ าการ และหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนภทั รญาณวิทยา
191
หลักสตู รโรงเรยี นภทั รญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๑๓. อธิบายผลของฮอร์โมนเพศชายและเพศหญิงที่ควบคุมการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อเข้าสู่
วยั หนุ่มสาว
๑๔. ตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาวโดยการดูแลรักษาร่างกายและ
จติ ใจของตนเองในชว่ งทีม่ ีการเปลยี่ นแปลง
๑๕. อธิบายการตกไข่ การมีประจำเดอื น การปฏิสนธิ และการพฒั นาของไซโกตจนคลอดเปน็ ทารก
๑๖. เลอื กวิธีการคมุ กำเนิดทีเ่ หมาะสมกบั สถานการณท์ ก่ี ำหนด
๑๗. ตระหนกั ถึงผลกระทบของการต้งั ครรภก์ ่อนวัยอนั ควรโดยการประพฤติตนใหเ้ หมาะสม
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3
-
ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4
๑. อธิบายโครงสร้างและสมบัติของเยื่อหุ้มเซลล์ที่สัมพันธ์กับการลำเลียงสารและเปรียบเทียบ
การลำเลยี งสารผา่ นเยอื่ หมุ้ เซลลแ์ บบต่าง ๆ
๒. อธิบายการควบคุมดลุ ยภาพของนำ้ และสารในเลือดโดยการทำงานของไต
๓. อธิบายการควบคุมดลุ ยภาพของกรด-เบสของเลือดโดยการทำงานของไตและปอด
๔. อธิบายการควบคุมดุลยภาพของอุณหภูมิภายในร่างกายโดยระบบหมุนเวียนเลือด ผิวหนัง
และกล้ามเน้ือโครงรา่ ง
๕. อธิบายและเขียนแผนผังเกี่ยวกับการตอบสนองของร่างกายแบบไม่จำเพาะและแบบจำเพาะ
ตอ่ ส่งิ แปลกปลอมของรา่ งกาย
๖. สืบค้นข้อมูล อธิบายและยกตวั อยา่ งโรคหรืออาการที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภมู คิ ุ้มกัน
๗. อธิบายภาวะภมู คิ ุม้ กันบกพร่องทมี่ ีสาเหตุมาจากการติดเช้อื HIV
๘. ทดสอบและบอกชนิดของสารอาหารท่พี ืชสังเคราะห์ได้
๙. สืบค้นข้อมูล อภิปราย และยกตัวอย่างเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากสารต่าง ๆ ที่พืชบางชนิด
สร้างขน้ึ
๑๐. ออกแบบการทดลอง ทดลอง และอธิบายเกี่ยวกับปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อการเจริญเติบโต
ของพชื
๑๑. สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืชที่มนุษย์สังเคราะห์ขึ้นและยกตัวอย่าง
การนำมาประยุกต์ใช้ทางดา้ นการเกษตรของพชื
๑๒. สังเกตและอธบิ ายการตอบสนองของพืชตอ่ ส่ิงเร้าในรปู แบบต่าง ๆ ทีม่ ผี ลต่อการดำรงชวี ิต
งานพัฒนาวชิ าการ และหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา
192
หลักสตู รโรงเรยี นภทั รญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 5
-
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6
-
สาระท่ี ๑ วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม
สารพันธกุ รรม การเปลี่ยนแปลงทางพนั ธกุ รรมทีม่ ผี ลตอ่ สิง่ มีชวี ติ ความหลากหลาย
ทางชวี ภาพและววิ ัฒนาการของส่งิ มชี วี ิต รวมทัง้ นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
ตวั ช้วี ัด
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1
-
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2
-
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
๑. อธิบายความสมั พนั ธร์ ะหว่าง ยีน ดเี อ็นเอ และโครโมโซม โดยใชแ้ บบจำลอง
๒. อธิบายการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากการผสมโดยพิจารณาลักษณะเดียวท่ีแอลลีลเด่น
ข่มแอลลีลด้อยอยา่ งสมบูรณ์
๓. อธิบายการเกิดจีโนไทป์และฟีโนไทป์ของลูก และคำนวณอัตราส่วนการเกิดจีโนไทป์และฟีโนไทป์
ของรนุ่ ลูก
๔. อธิบายความแตกตา่ งของการแบง่ เซลล์แบบไมโทซิสและไมโอซสิ
๕. บอกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงของยีน หรือโครโมโซมอาจทำให้เกิดโรคทางพันธุกรรมพร้อมท้ัง
ยกตัวอย่างโรคทางพนั ธุกรรม
๖. ตระหนักถึงประโยชน์ของความรเู้ ร่ืองโรคทางพนั ธุกรรมโดยรู้วา่ ก่อนแต่งงานควรปรกึ ษาแพทย์เพ่ือ
ตรวจและวนิ จิ ฉัยภาวะเสีย่ งของลกู ทอี่ าจเกิดโรคทางพนั ธุกรรม
๗. อธิบายการใช้ประโยชน์จากสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมและผลกระทบที่อาจมีต่อมนุษย์และ
สิง่ แวดลอ้ มโดยใชข้ ้อมลู ทร่ี วบรวมได้
๘. ตระหนักถึงประโยชน์และผลกระทบของสิ่งมีชีวิตดัดแปรพันธุกรรมที่อาจมีต่อมนุษย์
และสง่ิ แวดลอ้ มโดยการเผยแพร่ความรทู้ ี่ได้จากการโต้แยง้ ทางวทิ ยาศาสตร์ซึ่งมีข้อมลู สนบั สนนุ
งานพัฒนาวิชาการ และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนภทั รญาณวทิ ยา
193
หลกั สตู รโรงเรียนภัทรญาณวทิ ยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
๙. เปรียบเทียบความหลากหลายทางชีวภาพ ในระดับชนดิ สง่ิ มีชีวติ ในระบบนเิ วศต่าง ๆ
๑๐. อธิบายความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพที่มีต่อการรักษาสมดุลของระบบนิเวศและ
ตอ่ มนุษย์
๑๑. แสดงความตระหนักในคุณคา่ และความสำคัญของความหลากหลายทางชวี ภาพโดยมีส่วนร่วมใน
การดูแลรักษาความหลากหลายทางชวี ภาพ
ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4
๑. อธิบายความสัมพันธ์ระหวา่ งยนี การสงั เคราะห์โปรตีนและลักษณะทางพนั ธกุ รรม
๒. อธิบายหลักการถา่ ยทอดลักษณะทถี่ ูกควบคุมด้วยยนี ท่อี ยู่บนโครโมโซมเพศและมัลตเิ ปลิ แอลลีล
๓. อธิบายผลที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงลำดับนิวคลีโอไทด์ในดีเอ็นเอต่อการแสดงลักษณะของ
ส่ิงมีชีวติ
๔. สบื ค้นขอ้ มลู และยกตวั อย่างการนำมิวเทชันไปใช้ประโยชน์
๕. สืบค้นข้อมูลและอภิปรายผลของเทคโนโลยที างดีเอน็ เอท่ีมตี ่อมนุษย์และสงิ่ แวดลอ้ ม
๖. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย และยกตวั อย่างความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตซึ่งเปน็ ผลมาจากวิวฒั นาการ
ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 5
-
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6
-
สาระท่ี ๒ วิทยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว ๒.๑ เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว่างสมบัติของ
สสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคหลักและธรรมชาติของ
การเปลย่ี นแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลายและการเกดิ ปฏิกิรยิ าเคมี
ตัวช้ีวัด
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
๑. อธิบายสมบัติทางกายภาพบางประการของธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ โดยใช้หลักฐานเชิง
ประจักษ์ที่ได้จากการสังเกตและการทดสอบและใช้สารสนเทศที่ไดจ้ ากแหลง่ ข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้ง
จดั กลุ่มธาตเุ ปน็ โลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ
๒. วิเคราะหผ์ ลจากการใช้ธาตโุ ลหะ อโลหะ กงึ่ โลหะ และธาตุกัมมันตรงั สีท่ีมีต่อสงิ่ มีชีวิต ส่ิงแวดล้อม
เศรษฐกิจและสังคมจากข้อมลู ที่รวบรวมได้
งานพฒั นาวชิ าการ และหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นภทั รญาณวทิ ยา
194
หลกั สูตรโรงเรียนภทั รญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
๓. ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ ธาตุกัมมันตรังสีโดยเสนอแนวทางการใช้
ธาตอุ ย่างปลอดภัย คมุ้ คา่
๔. เปรียบเทียบจุดเดอื ด จุดหลอมเหลวของสารบริสทุ ธ์ิและสารผสม โดยการวัดอุณหภูมิ เขียนกราฟ
แปลความหมายขอ้ มูลจากกราฟหรือสารสนเทศ
๕. อธบิ ายและเปรียบเทยี บความหนาแน่นของสารบรสิ ุทธิ์และสารผสม
๖. ใชเ้ ครอ่ื งมือเพ่ือวัดมวลและปริมาตรของสารบรสิ ทุ ธ์ิและสารผสม
๗. อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอะตอม ธาตุและสารประกอบโดยใช้แบบจำลองและ
สารสนเทศ
๘. อธิบายโครงสร้างอะตอมที่ประกอบด้วยโปรตอน นิวตรอน และอเิ ล็กตรอนโดยใชแ้ บบจำลอง
๙. อธิบายและเปรียบเทียบการจัดเรียงอนุภาค แรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคและการเคลื่อนที่ของ
อนภุ าคของสสารชนดิ เดียวกนั ในสถานะของแขง็ ของเหลว และแกส๊ โดยใช้แบบจำลอง
๑๐. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างพลังงาน ความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของสสารโดยใช้หลักฐาน
เชิงประจักษแ์ ละแบบจำลอง
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2
๑. อธิบายการแยกสารผสมโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกลั่นอย่างง่าย โครมาโทกราฟี
แบบกระดาษการสกัดดว้ ยตัวทำละลาย โดยใช้หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์
๒. แยกสารโดยการระเหยแห้ง การตกผลึก การกลั่นอย่างง่าย โครมาโทกราฟีแบบกระดาษการสกัด
ดว้ ยตัวทำละลาย
๓. นำวิธีการแยกสารไปใช้แก้ปัญหาในชวี ิตประจำวนั โดยบูรณาการวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยี
และวศิ วกรรมศาสตร์
๔. ออกแบบการทดลองและทดลองในการอธิบายผลของชนิดตัวละลาย ชนิดตัวทำละลาย อุณหภูมิ
ท่ีมีตอ่ สภาพละลายได้ของสาร รวมทั้งอธิบายผลของความดันทม่ี ีต่อสภาพละลายได้ของสารโดยใช้
สารสนเทศ
๕. ระบุปริมาณตัวละลายในสารละลายในหน่วยความเข้มข้นเป็นร้อยละ ปริมาตรต่อปริมาตร
มวลตอ่ มวล และมวลต่อปรมิ าตร
๖. ตระหนักถึงความสำคัญของการนำความรู้เรื่องความเข้มข้นของสารไปใช้โดยยกตัวอย่างการใช้
สารละลายในชีวิตประจำวันทีอ่ ยา่ งถูกต้องและปลอดภยั
งานพัฒนาวชิ าการ และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนภัทรญาณวทิ ยา
195
หลักสตู รโรงเรยี นภัทรญาณวิทยา พุทธศักราช 2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 3
๑. ระบุสมบัติทางกายภาพและการใช้ประโยชน์วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์ และวัสดุผสม
โดยใชห้ ลักฐานเชิงประจักษ์และสารสนเทศ
๒. ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้วัสดุประเภทพอลิเมอร์ เซรามิกส์ และวัสดุผสม โดยเสนอแนะ
แนวทางการใช้วัสดุอยา่ งประหยัดและคุม้ ค่า
๓. อธิบายการเกิดปฏิกิริยาเคมีรวมถึงการจัดเรียงตัวใหม่ของอะตอมเมื่อการเกิดปฏิกิริยาเคมีโดยใช้
แบบจำลองและสมการข้อความ
๔. อธิบายกฎทรงมวล โดยใชห้ ลักฐานเชงิ ประจักษ์
๕. วิเคราะห์ปฏิกิริยาดูดความร้อนและปฏิกิริยาคายความร้อนจากการเปลี่ยนแปลงพลังงาน
ความรอ้ นของปฏิกิรยิ า
๖. อธิบายปฏิกิริยาการเกิดสนิมของเหล็ก ปฏิกิริยาของกรดกับโลหะ ปฏิกิริยาของกรดกับเบส
และปฏิกิริยาของเบสกับโลหะโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์และอธิบาย ปฏิกิริยาการเผาไหม้
การเกิดฝนกรด การสังเคราะห์ด้วยแสงโดยใช้สารสนเทศรวมทั้งเขียนสมการข้อความแสดง
ปฏิกริ ิยาดงั กลา่ ว
๗. ระบุประโยชน์และโทษของปฏิกิริยาเคมีท่ีมีต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมและยกตัวอย่างวิธีการ
ป้องกันและแกป้ ัญหาท่ีเกิดจากปฏิกิรยิ าเคมที ี่พบในชีวติ ประจำวนั จากการสืบค้นข้อมูล
๘. ออกแบบวิธีแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันโดยใช้ความรู้เกี่ยวกับปฏิกิริยาเคมีโดยบูรณาการ
วทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์
ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
-
ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 5
๑. ระบุวา่ สารเปน็ ธาตหุ รือสารประกอบและอยใู่ นรูปอะตอม โมเลกุลหรอื ไอออนจากสตู รเคมี
๒. เปรียบเทยี บความเหมือนและความแตกตา่ งของแบบจำลองอะตอมของโบร์กับแบบจำลองอะตอม
แบบกลมุ่ หมอก
๓. ระบุจำนวนโปรตอน นิวตรอน และอเิ ลก็ ตรอนของอะตอมและไอออนที่เกดิ จากอะตอมเดียว
๔. เขียนสัญลกั ษณ์นิวเคลยี ร์ของธาตุและระบุการเป็นไอโซโทป
๕. ระบุหมู่และคาบของธาตุและระบุว่าธาตุเป็นโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ กลุ่มธาตุเรพรีเซนเททีฟหรือ
กลุ่มธาตุแทรนซชิ นั จากตารางธาตุ
๖. เปรียบเทยี บสมบตั กิ ารนำไฟฟ้า การให้และรบั อเิ ล็กตรอนระหวา่ งธาตุในกลุ่มโลหะกับอโลหะ
งานพฒั นาวิชาการ และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนภทั รญาณวิทยา
196
หลักสตู รโรงเรยี นภัทรญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
๗. สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอย่างประโยชน์และอันตรายที่เกิดจากธาตุเรพรีเซนเททีฟและ
ธาตุแทรนซชิ ัน
๘. ระบุว่าพันธะโคเวเลนต์เป็นพันธะเดี่ยว พันธะคู่ หรือพันธะสาม และระบุจำนวนคู่อิเล็กตรอน
ระหว่างอะตอมคู่รว่ มพันธะจากสตู รโครงสร้าง
๙. ระบุสภาพขว้ั ของสารที่โมเลกุลประกอบดว้ ย 2 อะตอม
๑๐. ระบสุ ารที่เกดิ พันธะไฮโดรเจนได้จากสตู รโครงสรา้ ง
๑๑. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างจุดเดือดของสารโคเวเลนต์กับแรงดึงดูดระหว่างโมเลกุลตามสภาพ
ขั้วหรือการเกดิ พันธะไฮโดรเจน
๑๒. เขียนสูตรเคมขี องไอออนและสารประกอบไอออนิก
๑๓. ระบวุ ่าสารเกิดการละลายแบบแตกตัวหรือไม่แตกตัว พรอ้ มให้เหตุผลและระบวุ ่าสารละลายที่ได้
เปน็ สารละลายอิเล็กโทรไลต์หรอื นอนอเิ ล็กโทรไลต์
๑๔. ระบุสารประกอบอนิ ทรีย์ประเภทไฮโดรคาร์บอนวา่ อ่ิมตวั หรือไม่อ่ิมตัวจากสูตรโครงสร้าง
๑๕. สืบค้นข้อมูลและเปรียบเทียบสมบัติทางกายภาพระหวา่ งพอลิเมอร์และมอนอเมอร์ของพอลิเมอร์
ชนดิ นนั้
๑๖. ระบุสมบตั คิ วามเปน็ กรด-เบส จากโครงสรา้ งของสารประกอบอินทรีย์
๑๗. อธิบายสมบัตกิ ารละลายในตวั ทำละลายชนดิ ต่าง ๆ ของสาร
๑๘. วเิ คราะหแ์ ละอธิบายความสัมพันธ์ระหวา่ งโครงสร้างกับสมบตั ิเทอร์มอพลาสติกและเทอร์มอเซต
ของพอลิเมอรแ์ ละการนำพอลเิ มอร์ไปใชป้ ระโยชน์
๑๙. สืบค้นข้อมูลและนำเสนอผลกระทบของการใช้ผลิตภัณฑ์พอลิเมอร์ท่ีมีต่อสิ่งมีชีวิตและ
สิง่ แวดลอ้ มพร้อมแนวทางปอ้ งกันหรือแก้ไข
๒๐. ระบุสูตรเคมีของสารตั้งต้น ผลิตภัณฑ์ และแปลความหมายของสัญลักษณ์ในสมการเคมีของ
ปฏิกิริยาเคมี
๒๑. ทดลองและอธิบายผลของความเข้มข้น พื้นที่ผิว อุณหภูมิและตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีผลต่ออัตรา
การเกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี
๒๒. สบื ค้นข้อมูลและอธบิ ายปจั จัยที่มผี ลต่ออัตราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมที ่ีใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจำวัน
หรอื ในอุตสาหกรรม
๒๓. อธบิ ายความหมายของปฏกิ ิรยิ ารดี อกซ์
๒๔. อธบิ ายสมบตั ขิ องสารกมั มนั ตรังสีและคำนวณครง่ึ ชีวิตและปริมาณของสารกัมมนั ตรงั สี
๒๕. สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอย่างประโยชน์ของสารกัมมันตรังสีและการป้องกันอันตรายที่เกิด
จากกมั มนั ตภาพรงั สี
งานพัฒนาวิชาการ และหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนภัทรญาณวทิ ยา
197
หลักสตู รโรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6
-
สาระที่ ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว ๒.๒ เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุ ลักษณะ
การเคล่อื นท่แี บบตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมทง้ั นาความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์
ตวั ชีว้ ัด
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
1. สร้างแบบจำลองทอ่ี ธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหวา่ งความดันอากาศกบั ความสงู จากพื้นโลก
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2
๑. พยากรณ์การเคลื่อนที่ของวัตถุที่เป็นผลของแรงลัพธ์ที่เกิดจากแรงหลายแรงที่กระทำต่อวัตถุใน
แนวเดียวกนั จากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์
๒. เขียนแผนภาพแสดงแรงและแรงลพั ธ์ที่เกดิ จากแรงหลายแรงท่ีกระทำต่อวัตถุในแนวเดียวกัน
๓. ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีที่เหมาะสมในการอธิบายปัจจัยที่มีผลต่อความดันของ
ของเหลว
๔. วิเคราะห์แรงพยุงและการจม การลอยของวัตถุในของเหลวจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์
๕. เขยี นแผนภาพแสดงแรงทก่ี ระทำตอ่ วตั ถุในของเหลว
๖. อธบิ ายแรงเสยี ดทานสถิตและแรงเสยี ดทานจลน์จากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์
๗. ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธีที่เหมาะสมในการอธิบายปัจจัยที่มีผลต่อขนาดของแรง
เสยี ดทาน
๘. เขยี นแผนภาพแสดงแรงเสียดทานและแรงอนื่ ๆทีก่ ระทำต่อวัตถุ
๙. ตระหนกั ถงึ ประโยชนข์ องความรู้เร่ือง แรงเสียดทานโดยวิเคราะห์สถานการณ์ปญั หาและเสนอแนะ
วธิ ีการลดหรือเพม่ิ แรงเสยี ดทานทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวนั
๑๐. ออกแบบการทดลองและทดลองด้วยวิธี ที่เหมาะสมในการอธิบายโมเมนต์ของแรงเมื่อวตั ถอุ ยูใ่ น
สภาพสมดลุ ต่อการหมุนและคำนวณโดยใชส้ มการ M = Fl
๑๑. เปรียบเทียบแหล่งของสนามแม่เหล็ก สนามไฟฟ้า และสนามโน้มถ่วง และทิศทางของแรง
ท่ีกระทำตอ่ วตั ถุทีอ่ ยู่ในแต่ละสนามจากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้
๑๒. เขียนแผนภาพแสดงแรงแมเ่ หลก็ แรงไฟฟา้ และแรงโน้มถ่วงทีก่ ระทำตอ่ วตั ถุ
๑๓. วเิ คราะห์ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งขนาดของแรงแมเ่ หล็ก แรงไฟฟา้ และแรงโนม้ ถว่ งท่กี ระทำต่อวัตถุ
ทอ่ี ยใู่ นสนามนนั้ ๆ กบั ระยะห่างจากแหลง่ ของสนามถึงวตั ถุจากข้อมูลท่รี วบรวมได้
งานพฒั นาวิชาการ และหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนภทั รญาณวิทยา
198
หลักสตู รโรงเรียนภทั รญาณวิทยา พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๑๔. อธิบายและคำนวณอัตราเรว็ และความเรว็ ของการเคลือ่ นที่ของวตั ถโุ ดยใช้สมการ
และ จากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์
๑๕. เขียนแผนภาพแสดงการกระจัดและความเร็ว
ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3
-
ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 4
-
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 5
๑. วิเคราะห์และแปลความหมายข้อมูลความเร็วกับเวลาของการเคลื่อนที่ของวัตถุเพื่ออธิบาย
ความเร่งของวตั ถุ
๒. สงั เกตและอธบิ ายการหาแรงลัพธ์ท่ีเกิดจากแรงหลายแรงที่อยู่ในระนาบเดยี วกนั ท่ีกระทำต่อวตั ถุ
โดยการเขยี นแผนภาพการรวมแบบเวกเตอร์
๓. สังเกต วิเคราะห์ และอธิบายความสัมพนั ธ์ระหวา่ งความเร่งของวตั ถุกบั แรงลัพธ์ที่กระทำต่อวตั ถุ
และมวลของวัตถุ
๔. สงั เกตและอธบิ ายแรงกิรยิ าและแรงปฏิกิรยิ าระหว่างวตั ถุคู่หนงึ่ ๆ
๕. สังเกตและอธิบายผลของความเร่งที่มีต่อการเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุ ได้แก่ การเคลื่อนที่
แนวตรง การเคลือ่ นท่ีแบบโพรเจกไทล์ การเคลือ่ นทแี่ บบวงกลมและการเคลื่อนท่แี บบส่นั
๖. สบื ค้นขอ้ มูลและอธบิ ายแรงโน้มถ่วงทเ่ี ก่ยี วกับการเคลอ่ื นท่ีของวัตถุต่าง ๆ รอบโลก
๗. สงั เกตและอธิบายการเกดิ สนามแมเ่ หล็กเน่ืองจากกระแสไฟฟ้า
๘. สังเกตและอธิบายแรงแม่เหล็กที่กระทำต่ออนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าที่เคลื่อนที่ในสนามแม่เหล็ก
และแรงแม่เหล็กที่กระทำต่อลวดตัวนำท่ีมีกระแสไฟฟ้าผ่านในสนามแม่เหล็ก รวมทั้งอธิบาย
หลกั การทำงานของมอเตอร์
๙. สงั เกตและอธบิ ายการเกดิ อเี อ็มเอฟรวมทั้งยกตวั อยา่ งการนำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์
๑๐. สืบค้นขอ้ มลู และอธิบายแรงเข้มและแรงอ่อน
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6
-
งานพัฒนาวชิ าการ และหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นภทั รญาณวทิ ยา
199
หลกั สตู รโรงเรียนภัทรญาณวทิ ยา พุทธศักราช 2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
สาระที่ ๒ วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว ๒.๓ เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลังงาน
ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของ
คลื่น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมท้ัง
นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์
ตัวชี้วัด
ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 1
๑. วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูล และคำนวณปริมาณความร้อนที่ทำให้สสารเปลี่ยนอุณหภูมิและ
เปลี่ยนสถานะ โดยใช้สมการ โดยใชส้ มการ Q = mct และ Q = mL
๒. ใช้เทอรม์ อมิเตอรใ์ นการวดั อณุ หภมู ิของสสาร
๓. สร้างแบบจำลองท่ีอธบิ ายการขยายตวั หรือหดตัวของสสารเน่ืองจากได้รบั หรอื สูญเสยี ความรอ้ น
๔. ตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ของการหดและขยายตัวของสสารเนื่องจากความร้อน
โดยวเิ คราะห์สถานการณป์ ัญหา และเสนอแนะวธิ กี ารนำความร้มู าแกป้ ัญหาในชีวติ ประจำวนั
๕. วเิ คราะหส์ ถานการณ์การถ่ายโอนความร้อนและคำนวณปริมาณความร้อนท่ีถ่ายโอนระหว่างสสาร
จนเกิดสมดลุ ความร้อนโดยใชส้ มการ Qสูญเสยี = Q ไดร้ ับ
๖. สร้างแบบจำลองที่อธิบายการถ่ายโอนความร้อนโดยการนำความร้อน การพาความร้อน การแผ่
รงั สีความรอ้ น
๗. ออกแบบ เลือกใช้และสร้างอุปกรณ์ เพ่อื แก้ปญั หาในชวี ิตประจำวันโดยใชค้ วามรูเ้ กย่ี วกับการถ่ายโอน
ความรอ้ น
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
๑. วิเคราะห์สถานการณ์และคำนวณเกี่ยวกับงานและกำลังที่เกิดจากแรงที่กระทำต่อวัตถุโดยใช้
สมการ และ จากข้อมลู ที่รวบรวมได้
๒. วิเคราะห์หลกั การทำงานของเครอ่ื งกล อย่างง่ายจากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้
๓. ตระหนักถึงประโยชน์ของความรู้ของเครื่องกลอย่างง่ายโดยบอกประโยชน์และการประยุกต์ใช้ใน
ชีวิตประจำวนั
๔. ออกแบบและทดลองด้วยวิธีที่เหมาะสม ในการอธิบายปัจจัยที่มีผลต่อพลังงานจลน์และพลังงาน
ศักย์โน้มถว่ ง
๕. แปลความหมายข้อมูลและอธิบายการเปลี่ยนพลังงาน ระหว่างพลังงานศักย์โน้มถ่วงและ
พลงั งานจลนข์ องวัตถุโดยพลังงานกลของวตั ถมุ ีค่าคงตัวจากข้อมูลทรี่ วบรวมได้
งานพัฒนาวิชาการ และหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนภัทรญาณวิทยา
200
หลกั สูตรโรงเรียนภทั รญาณวทิ ยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๖. วิเคราะห์สถานการณ์และอธิบายการเปลี่ยนและการถ่ายโอนพลังงานโดยใช้กฎการอนุรักษ์
พลังงาน
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3
๑. วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างความต่างศักย์ กระแสไฟฟ้า และความต้านทานและคำนวณ
ปรมิ าณทเ่ี ก่ียวขอ้ งโดยใชส้ มการ = จากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์
๒. เขียนกราฟความสมั พนั ธร์ ะหว่างกระแสไฟฟ้าและความตา่ งศักย์ไฟฟา้
๓. ใช้โวลต์มิเตอร์ แอมมเิ ตอร์ในการวดั ปริมาณทางไฟฟ้า
๔. วิเคราะห์ความต่างศักย์ไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าในวงจรไฟฟ้าเมื่อต่อตัวต้านทานหลายตัว
แบบอนุกรมและแบบขนานจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์
๕. เขยี นแผนภาพวงจรไฟฟา้ แสดงการตอ่ ตวั ตา้ นทานแบบอนุกรมและขนาน
๖. บรรยายการทำงานของชิ้นสว่ นอิเลก็ ทรอนิกสอ์ ย่างง่ายในวงจรจากข้อมลู ทีร่ วบรวมได้
๗. เขียนแผนภาพและต่อช้ินสว่ นอิเลก็ ทรอนิกสอ์ ยา่ งงา่ ยในวงจรไฟฟ้า
๘. อธิบายและคำนวณพลังงาน ไฟฟ้าโดยใช้สมการ = รวมทั้งคำนวณค่าไฟฟ้าของ
เคร่อื งใช้ไฟฟ้าในบา้ น
๙. ตระหนักในคุณค่าของการเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าโดยนำเสนอแนะวิธีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง
ประหยดั และปลอดภัย
๑๐. สร้างแบบจำลองทีอ่ ธิบายการเกิดคลนื่ และบรรยายสว่ นประกอบของคล่ืน
๑๑. อธิบายคลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ และสเปกตรมั คล่ืนแมเ่ หล็กไฟฟา้ จากขอ้ มลู ทีร่ วบรวมได้
๑๒. ตระหนักถึงประโยชน์และอันตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโดยนำเสนอการใช้ประโยชน์ในด้าน
ตา่ ง ๆและอนั ตรายจากคล่นื แมเ่ หล็กไฟฟ้าในชีวติ ประจำวนั
๑๓. ออกแบบการทดลอง และดำเนินการทดลองด้วยวิธีที่เหมาะสมในการอธิบาย กฎการสะท้อน
ของแสง
๑๔. เขียนแผนภาพการเคลื่อนท่ขี องแสง แสดงการเกดิ ภาพจากกระจกเงา
๑๕. อธิบายการหักเหของแสงเมื่อผ่านตัวกลางโปร่งใสที่แตกต่างกัน และอธิบายการกระจายแสง
ของแสงขาวเม่อื ผา่ นปริซึมจากหลักฐานเชงิ ประจักษ์
๑๖. เขียนแผนภาพการเคลอ่ื นทข่ี องแสงแสดงการเกิดภาพจากเลนส์บาง
๑๗. อธบิ ายปรากฏการณท์ ี่เกยี่ วกับแสง และการทำงานของทัศนอปุ กรณจ์ ากข้อมลู ทรี่ วบรวมได้
๑๘. เขียนแผนภาพการเคลอื่ นท่ีของแสง แสดงการเกดิ ภาพของทัศนอปุ กรณ์และเลนสต์ า
๑๙. อธิบายผลของความสวา่ งท่ีมตี ่อดวงตาจากข้อมูลท่ีไดจ้ ากการสบื ค้น
๒๐. วดั ความสว่างของแสงโดยใชอ้ ุปกรณว์ ัดความสว่างของแสง
งานพัฒนาวิชาการ และหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นภทั รญาณวทิ ยา
201
หลกั สูตรโรงเรยี นภทั รญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๒๑. ตระหนักในคณุ ค่าของความรู้เร่อื ง ความสวา่ งของแสงทม่ี ีต่อดวงตาโดยวิเคราะหส์ ถานการณ์
ปญั หาและเสนอแนะการจดั ความสว่างใหเ้ หมาะสมในการทำกิจกรรมต่าง ๆ
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4
-
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5
๑. สืบค้นข้อมูลและอธิบายพลังงาน นิวเคลียร์ ฟิชชันและฟิวชันและความสัมพันธ์ระหว่างมวล
กับพลงั งาน ท่ปี ลดปล่อยออกมาจากฟชิ ชนั และฟิวชัน
๒. สืบค้นข้อมูลและอธิบายการเปลี่ยนพลังงาน ทดแทนเป็นพลังงาน ไฟฟ้า รวมทั้งสืบค้นและ
อภิปรายเกี่ยวกับเทคโนโลยี ที่นำมาแก้ปัญหาหรือตอบสนองความต้องการทางด้านพลังงาน
โดยเน้นดา้ นประสิทธภิ าพและความคมุ้ ค่าดา้ นคา่ ใชจ้ ่าย
๓. สังเกตและอธบิ ายการสะท้อน การหกั เห การเลย้ี วเบนและการรวมคลนื่
๔. สังเกตและอธิบาย ความถ่ีธรรมชาติ การสั่นพ้องและผลท่ีเกดิ ขึน้ จากการสนั่ พ้อง
๕. สังเกตและอธบิ ายการสะทอ้ น การหักเห การเลี้ยวเบนและการรวมคลนื่ ของคลื่นเสยี ง
๖. สืบค้นข้อมูลและอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มเสียงกับระดับเสียงและผลของความถี่
กับระดับเสียงทีม่ ีต่อการไดย้ ินเสียง
๗. สังเกตและอธิบายการเกิดเสียงสะท้อนกลับ บตี ดอปเพลอร์ และการสัน่ พอ้ งของเสียง
๘. สืบคน้ ขอ้ มูลและยกตัวอยา่ งการนำความร้เู ก่ยี วกบั เสียงไปใช้ประโยชน์ในชีวติ ประจำวนั
๙. สงั เกตและอธิบายการมองเห็นสขี องวัตถแุ ละความผิดปกติในการมองเหน็ สี
๑๐. สังเกตและอธิบายการทำงานของแผ่นกรองแสงสี การผสมแสงสี การผสมสารสีและการนำไปใช้
ประโยชนใ์ นชวี ติ ประจำวัน
๑๑. สืบคน้ ขอ้ มูลและอธบิ ายคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าส่วนประกอบคล่นื แมเ่ หล็กไฟฟา้ และหลักการทำงาน
ของอปุ กรณ์บางชนดิ ทีอ่ าศยั คลนื่ แม่เหล็กไฟฟ้า
๑๒. สืบค้นข้อมูลและอธิบายการสื่อสารโดยอาศัยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการส่งผ่านสารสนเทศและ
เปรยี บเทียบการสอื่ สารด้วยสญั ญาณแอนะล็อกกบั สัญญาณดจิ ิทัล
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6
-
งานพัฒนาวิชาการ และหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นภทั รญาณวทิ ยา
202
หลักสูตรโรงเรยี นภทั รญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
สาระท่ี ๓ วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๑ เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการของเอกภพ
กาแล็กซี ดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายในระบบสุริยะที่ส่งผล
ตอ่ สิง่ มีชวี ิตและการประยกุ ต์ ใช้เทคโนโลยอี วกาศ
ตวั ช้วี ัด
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1
-
ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2
-
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 3
๑. อธิบายการโคจรของดาวเคราะหร์ อบดวงอาทิตย์ด้วยแรงโน้มถว่ งจากสมการ F=(Gm1m2) / r2
๒. สรา้ งแบบจำลองท่อี ธบิ ายการเกดิ ฤดู และการเคลอื่ นที่ปรากฏของดวงอาทิตย์
๓. สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิดข้างขึ้นข้างแรม การเปลี่ยนแปลงเวลาการขึ้นและตก
ของดวงจันทร์และการเกิดนำ้ ข้ึนนำ้ ลง
๔. อธบิ ายการใชป้ ระโยชนข์ องเทคโนโลยีอวกาศและยกตัวอย่างความกา้ วหน้าของโครงการสำรวจ
อวกาศจากข้อมูลทร่ี วบรวมได้
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4
-
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5
-
ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 6
๑. อธบิ ายการกำเนดิ และการเปล่ยี นแปลงพลังงาน สสาร ขนาด อณุ หภูมขิ องเอกภพหลงั เกิดบิกแบง
ในชว่ งเวลาต่าง ๆ ตามววิ ัฒนาการของเอกภพ
๒. อธิบายหลักฐานที่สนับสนุนทฤษฎีบิกแบงจากความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วกับระยะทางของ
กาแลก็ ซี รวมทัง้ ข้อมูลการคน้ พบไมโครเวฟพน้ื หลงั จากอวกาศ
๓. อธิบายโครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซีทางช้างเผือกและระบุตำแหน่งของระบบสุริยะ
พรอ้ มอธิบายเช่อื มโยงกบั การสังเกตเห็นทางช้างเผอื กของคนบนโลก
งานพัฒนาวิชาการ และหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นภทั รญาณวิทยา
203
หลกั สูตรโรงเรยี นภทั รญาณวิทยา พุทธศักราช 2565
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
๔. อธบิ ายกระบวนการเกิดดาวฤกษโ์ ดยแสดงการเปลี่ยนแปลงความดนั อุณหภูมิ ขนาด จากดาวฤกษ์
กอ่ นเกิดจนเป็นดาวฤกษ์
๕. ระบุปัจจัยที่ส่งผลต่อความส่องสว่างของ ดาวฤกษ์ และอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างความส่อง
สว่างกับโชตมิ าตรของดาวฤกษ์
๖. อธบิ ายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสี อณุ หภูมิผิว และสเปกตรมั ของดาวฤกษ์
๗. อธิบายลำดับววิ ัฒนาการท่ีสัมพันธ์กบั มวลตั้งต้นและวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงสมบตั ิบางประการ
ของดาวฤกษ์
๘. อธิบายกระบวนการเกิดระบบสุริยะ และการแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์ และลักษณะของ
ดาวเคราะหท์ ีเ่ อ้อื ตอ่ การดำรงชวี ิต
๙. อธิบายโครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิดลมสุริยะ พายุสุริยะ และสืบค้นข้อมูล วิเคราะห์
นำเสนอปรากฏการณ์หรือเหตุการณ์ทเี่ กีย่ วขอ้ งกับผลของลมสุริยะและพายสุ ุริยะท่ีมีต่อโลกรวมท้ัง
ประเทศไทย
๑๐. สืบค้นข้อมูล อธิบายการสำรวจอวกาศ โดยใช้กล้องโทรทรรศน์ในช่วงความยาวคลื่นต่าง ๆ
ดาวเทียม ยานอวกาศ สถานอี วกาศและนำเสนอแนวคิดการนำความรู้ทางดา้ นเทคโนโลยีอวกาศ
มาประยกุ ต์ใช้ ในชวี ติ ประจำวันหรือในอนาคต
สาระท่ี ๓ วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว ๓.๒ เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง
ภายในโลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศ
และภูมอิ ากาศโลกรวมทัง้ ผลตอ่ ส่ิงมีชวี ติ และสิ่งแวดล้อม
ตัวชี้วดั
ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 1
๑. สร้างแบบจำลองที่อธิบายการแบ่งชั้นบรรยากาศ และเปรียบเทียบประโยชน์ของบรรยากาศ
แตล่ ะช้ัน
๒. อธบิ ายปัจจัยที่มีผลต่อการเปล่ียนแปลงองค์ประกอบของลมฟา้ อากาศ จากขอ้ มลู ท่ีรวบรวมได้
๓. เปรียบเทียบกระบวนการเกิดพายุ ฝนฟ้าคะนองและพายุหมุนเขตร้อน และผลที่มีต่อสิ่งมีชีวิต
และสงิ่ แวดล้อมรวมทัง้ นำเสนอแนวทางการปฏิบัตติ นให้เหมาะสมและปลอดภยั
๔. อธิบายการพยากรณ์อากาศ และพยากรณอ์ ากาศอย่างง่ายจากข้อมูลที่รวบรวมได้
๕. ตระหนักถึงคณุ คา่ ของการพยากรณ์อากาศโดยนำเสนอแนวทางการปฏบิ ัติตนและการใชป้ ระโยชน์
จากคำพยากรณ์อากาศ
๖. อธบิ ายสถานการณ์และผลกระทบการเปลี่ยนแปลงภูมอิ ากาศโลกจากขอ้ มลู ทีร่ วบรวมได้
งานพฒั นาวชิ าการ และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นภทั รญาณวทิ ยา
204
หลักสตู รโรงเรียนภัทรญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๗. ตระหนักถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกโดยนำเสนอแนวทางการปฏิบัติตน
ภายใต้การเปล่ียนแปลงภมู ิอากาศโลก
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2
๑. เปรียบเทียบกระบวนการเกิด สมบัติ และการใช้ประโยชน์รวมทั้งอธิบายผลกระทบจากการใช้
เชอ้ื เพลิงซากดกึ ดำบรรพ์จากขอ้ มลู ที่รวบรวมได้
๒. แสดงความตระหนักถึงผลจากการใช้เชอ้ื เพลิงซากดึกดำบรรพโ์ ดยนำเสนอแนวทางการใช้เช้ือเพลิง
ซากดึกดำบรรพ์
๓. เปรียบเทียบข้อดีและข้อจำกัดของพลังงาน ทดแทนแต่ละประเภทจากการรวบรวมข้อมูล
และนำเสนอแนวทางการใชพ้ ลงั งานทดแทนท่เี หมาะสมในท้องถนิ่
๔. สรา้ งแบบจำลองทอี่ ธบิ ายโครงสร้างภายในโลกตามองคป์ ระกอบทางเคมีจากข้อมูลทร่ี วบรวมได้
๕. อธิบายกระบวนการผุพังอยู่กับที่ การกร่อน และการสะสมตัวของตะกอนจากแบบจำลองรวมทั้ง
ยกตัวอย่างผลของกระบวนการดงั กลา่ วทท่ี ำให้ผิวโลกเกิดการเปล่ียนแปลง
๖. อธบิ ายลักษณะของช้ันหนา้ ตัดดินและกระบวนการเกิดดนิ จากแบบจำลองรวมทง้ั ระบปุ จั จัยที่ทำให้
ดนิ มีลกั ษณะและสมบัติแตกต่างกัน
๗. ตรวจวัดสมบัติบางประการของดินโดยใช้เครื่องมือที่เหมาะสมและนำเสนอแนวทางการใช้
ประโยชน์ดินจากขอ้ มลู สมบตั ขิ องดนิ
๘. อธบิ ายปจั จยั และกระบวนการเกดิ แหลง่ นำ้ ผวิ ดินและแหลง่ นำ้ ใตด้ ินจากแบบจำลอง
๙. สร้างแบบจำลองทีอ่ ธิบายการใช้นำ้ และนำเสนอแนวทางการใช้น้ำอยา่ งยัง่ ยืนในท้องถ่ินของตนเอง
๑๐. สร้างแบบจำลองที่อธิบายกระบวนการเกิดและผลกระทบของน้ำท่วม การกัดเซาะชายฝั่ง
ดินถล่ม หลุมยุบ แผน่ ดนิ ทรดุ
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 3
-
ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 4
-
ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 5
-
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6
๑. อธิบายการแบง่ ชน้ั และสมบัตขิ องโครงสร้างโลก พร้อมยกตวั อย่างข้อมูลท่ีสนบั สนุน
๒. อธิบายหลกั ฐานทางธรณวี ทิ ยาท่สี นับสนุนการเคล่อื นทข่ี องแผ่นธรณี
งานพัฒนาวชิ าการ และหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนภทั รญาณวทิ ยา
205
หลักสูตรโรงเรยี นภัทรญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
๓. ระบุสาเหตุและอธิบายรูปแบบแนวรอยตอ่ ของแผ่นธรณที ส่ี มั พนั ธ์การเคล่อื นทีข่ องแผน่ ธรณี พร้อม
ยกตวั อยา่ งหลักฐานทางธรณวี ทิ ยาที่พบ
๔. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิด รวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย ออกแบบและ
นำเสนอแนวทางการเฝา้ ระวังและการปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภยั
๕. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด ขนาดและความรุนแรง และผลจากแผ่นดินไหวรวมทั้งสืบค้น
ข้อมูลพ้นื ที่เส่ียงภัย ออกแบบและนำเสนอแนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภัย
๖. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิด และผลจากสึนามิ รวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย ออกแบบ
และนำเสนอแนวทางการเฝา้ ระวังและการปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภยั
๗. อธิบายปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการได้รับพลังงาน จากดวงอาทิตย์แตกต่างกันในแต่ละบริเวณของ
โลก
๘. อธบิ ายการหมนุ เวียนของอากาศท่เี ปน็ ผลมาจากความแตกต่างของความกดอากาศ
๙. อธบิ ายทิศทางการเคล่อื นทขี่ องอากาศท่เี ปน็ ผลมาจากการหมุนรอบตัวเองของโลก
๑๐. อธบิ ายการหมนุ เวียนของอากาศตามเขตละติจูดและผลที่มตี ่อภมู ิอากาศ
๑๑. อธบิ ายปัจจัยทีท่ ำใหเ้ กดิ การหมุนเวียนของนำ้ ผวิ หนา้ ในมหาสมุทรและรปู แบบการหมนุ เวียนของ
นำ้ ผิวหนา้ ในมหาสมทุ ร
๑๒. อธิบายผลของการหมุนเวียนของอากาศและน้ำผิวหน้าในมหาสมุทรที่มีต่อลักษณะภูมิอากาศ
ลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชวี ติ และสิง่ แวดลอ้ ม
๑๓. อธิบายปัจจยั ท่ีมีผลต่อการเปล่ียนแปลงและภมู ิอากาศของโลก พร้อมทั้งนำเสนอแนวปฏบิ ัติเพือ่
ลดกิจกรรมของมนุษย์ที่ส่งผลต่อการเปลยี่ นแปลงภมู อิ ากาศโลก
๑๔. แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศที่สำคัญจากแผนที่อากาศและนำข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ
มาวางแผนการดำเนนิ ชีวติ ให้สอดคล้องกับสภาพลมฟ้าอากาศ
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.๑ เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลง
อย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์
อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ด้วยกระบวนการ
ออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมโดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อ
ชีวิต สงั คม และสงิ่ แวดล้อม
งานพฒั นาวิชาการ และหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นภัทรญาณวิทยา
206
หลักสตู รโรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
ตัวชว้ี ดั
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1
๑. อธิบายแนวคิดหลักของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันและวิเคราะห์สาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อ
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
๒. ระบุปัญหาหรือความต้องการในชีวิตประจำวนั รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมลู และแนวคิดท่ีเก่ียวข้องกับ
ปญั หา
๓. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จำเป็น
นำเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาให้ผ้อู ืน่ เขา้ ใจ วางแผนและดำเนินการแกป้ ัญหา
๔. ทดสอบ ประเมินผล และระบุข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งหาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข
และนำเสนอผลการแกป้ ญั หา
๕. ใช้ความร้แู ละทกั ษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครอ่ื งมือ กลไก ไฟฟา้ หรืออเิ ล็กทรอนิกส์เพ่ือแก้ปัญหา
ไดอ้ ย่างถูกต้อง เหมาะสมและปลอดภัย
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2
๑. คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยีท่ีจะเกิดขึ้นโดยพิจารณาจากสาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลต่อ
การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยแี ละวเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ ตดั สนิ ใจเลือกใช้เทคโนโลยโี ดยคำนึงถึง
ผลกระทบทเ่ี กิดขึ้นต่อชวี ิต สงั คม และส่งิ แวดล้อม
๒. ระบุปญั หาหรอื ความต้องการในชุมชนหรือท้องถิ่น สรุปกรอบของปัญหา รวบรวม วเิ คราะห์ข้อมูล
และแนวคดิ ทเี่ กย่ี วข้องกบั ปัญหา
๓. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จำเป็นภายใต้
เงื่อนไขและทรัพยากรที่มีอยู่ นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นเข้าใจ วางแผนขั้นตอน
การทำงานและดำเนนิ การแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ข้ันตอน
๔. ทดสอบ ประเมินผล และอธิบายปัญหา หรอื ข้อบกพร่องที่เกดิ ข้นึ ภายใตก้ รอบเงอ่ื นไขพร้อมทั้งหา
แนวทางการปรบั ปรุงแกไ้ ขและนำเสนอผลการแกป้ ัญหา
๕. ใช้ความรแู้ ละทักษะเกีย่ วกับวัสดุ อุปกรณ์ เครอื่ งมือ กลไก ไฟฟ้า และอเิ ล็กทรอนิกสเ์ พ่ือแก้ปัญหา
หรือพฒั นางานไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง เหมาะสมและปลอดภยั
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3
๑. วิเคราะห์สาเหตุ หรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและความสัมพันธ์ของ
เทคโนโลยกี ับศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ เพื่อเป็นแนวทางการแก้ปัญหา
หรือพัฒนางาน
งานพัฒนาวิชาการ และหลักสตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนภัทรญาณวิทยา
207
หลกั สตู รโรงเรยี นภัทรญาณวิทยา พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๒. ระบุปัญหาหรือความต้องการของชุมชนหรือท้องถิ่นเพื่อพัฒนางานอาชีพ สรุปกรอบของปัญหา
รวบรวม วิเคราะห์ขอ้ มูลและแนวคดิ ทเ่ี ก่ียวข้องกบั ปญั หา โดยคำนึงถึง ความถูกตอ้ งด้านทรัพย์สิน
ทางปญั ญา
๓. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยวิเคราะห์เปรียบเทียบและตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จำเป็นภา ยใต้
เงอ่ื นไขและทรัพยากรท่ีมีอยู่ นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาใหผ้ ู้อน่ื เข้าใจด้วยเทคนิคหรือวิธีการที่
หลากหลาย วางแผนข้ันตอน การทำงานและดำเนนิ การแก้ปัญหาอยา่ งเปน็ ข้นั ตอน
๔. ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์และให้เหตุผลของปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นภายใต้
กรอบเงอ่ื นไข พร้อมทั้งหาแนวทางการปรบั ปรุงแก้ไขและนำเสนอผลการแกป้ ญั หา
๕. ใช้ความรู้และทักษะเกี่ยวกับวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ให้ถูกต้องกับ
ลักษณะของงานและปลอดภัยเพื่อแกป้ ญั หาหรือพัฒนางาน
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
๑. วิเคราะห์แนวคิดหลักของเทคโนโลยีความสัมพันธ์กับศาสตร์อื่นโดยเฉพาะวิทยาศาสตร์หรือ
คณิตศาสตร์ รวมทั้งประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อมนุษย์ สังคม เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
เพ่ือเป็นแนวทางในการพฒั นาเทคโนโลยี
๒. ระบุปัญหาหรือความต้องการที่มีผลกระทบต่อสังคม รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดที่
เกี่ยวข้องกับปัญหาที่มีความซับซ้อนเพื่อสังเคราะห์วิธีการ เทคนิคในการแก้ปัญหาโดยคำนึงถึง
ความถูกตอ้ งด้านทรพั ย์สนิ ทางปญั ญา
๓. ออกแบบวิธีการแก้ปัญหาโดยวิเคราะห์เปรียบเทียบและตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จำเป็นภายใต้
เงื่อนไขและทรัพยากรที่มีอยู่ นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อื่นเข้าใจด้วยเทคนิคหรือวิธีการ
ที่หลากหลายโดยใช้ซอฟต์แวร์ช่วยในการออกแบบ วางแผนขั้นตอน การทำงานและดำเนินการ
แก้ปญั หา
๔. ทดสอบ ประเมินผล วิเคราะห์และให้เหตุผลของปัญหาหรือข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นภายใต้กรอบ
เงื่อนไข หาแนวทางการปรับปรุงแก้ไข และนำเสนอผลการแก้ปัญหา พร้อมทั้งเสนอแนวทาง
การพฒั นาตอ่ ยอด
๕. ใชค้ วามร้แู ละทกั ษะเกี่ยวกับวสั ดุ อุปกรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์และเทคโนโลยี
ทีซ่ ับซอ้ นในการแก้ปญั หาหรือพฒั นางาน ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง เหมาะสมและปลอดภัย
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5
๑. ประยุกต์ใชค้ วามรแู้ ละทักษะจากศาสตร์ ตา่ ง ๆ รวมท้ังทรัพยากร ในการทำโครงงานเพื่อแกป้ ัญหา
หรอื พฒั นางาน
งานพฒั นาวิชาการ และหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนภัทรญาณวทิ ยา
208
หลกั สตู รโรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
-
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.๒ เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอน
และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน
และการแก้ปญั หาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ รู้เทา่ ทัน และมีจริยธรรม
ตวั ชว้ี ดั
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 1
๑. ออกแบบอลั กอรทิ ึมที่ใชแ้ นวคดิ เชงิ นามธรรมเพอื่ แก้ปญั หาหรืออธบิ ายการทำงานที่พบในชีวิตจรงิ
๒. ออกแบบและเขียนโปรแกรมอย่างงา่ ยเพอื่ แก้ปญั หาทางคณติ ศาสตรห์ รือวทิ ยาศาสตร์
๓. รวบรวมข้อมูลปฐมภูมิ ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์
โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือบริการบนอินเทอร์เนต็ ท่หี ลากหลาย
๔. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภัย ใช้สอื่ และแหล่งข้อมูลตามข้อกำหนดและข้อตกลง
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2
๑. ออกแบบอัลกอรทิ มึ ที่ใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการแกป้ ัญหาหรือการทำงานที่พบในชีวติ จรงิ
๒. ออกแบบและเขียนโปรแกรมทใ่ี ช้ตรรกะและฟังกช์ ันในการแก้ปัญหา
๓. อภิปรายองค์ประกอบและหลักการทำงานของระบบคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยี การสื่อสารเพื่อ
ประยุกต์ใช้งานหรือแกป้ ัญหาเบื้องตน้
๔. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย มีความรับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธิในการเผยแพร่
ผลงาน
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3
๑. พัฒนาแอพพลเิ คชันท่มี กี ารบูรณาการกบั วิชาอนื่ อย่างสร้างสรรค์
๒. รวบรวมข้อมูล ประมวลผล ประเมินผล นำเสนอข้อมูลและสารสนเทศตามวัตถุประสงค์โดยใช้
ซอฟต์แวร์ หรอื บรกิ ารบนอินเทอรเ์ น็ตทห่ี ลากหลาย
๓. ประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล วิเคราะห์สื่อและผลกระทบจากการให้ข่าวสารที่ผิดเพื่อการใช้
งานอย่างรู้เท่าทัน
๔. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ปฏิบัติตามกฎหมาย
เก่ยี วกบั คอมพิวเตอรใ์ ช้ลขิ สิทธิข์ องผู้อนื่ โดยชอบธรรม
งานพฒั นาวชิ าการ และหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นภทั รญาณวิทยา
209
หลกั สูตรโรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4
1. ประยกุ ต์ใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการพัฒนาโครงงานทม่ี ีการบูรณาการกบั วิชาอืน่ อย่างสรา้ งสรรค์
และเชอื่ มโยงกบั ชวี ิตจรงิ
ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 5
๑. รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และใช้ความรู้ ด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ สื่อดิจิทัล เทคโนโลยี
สารสนเทศในการแก้ปัญหา หรือเพิ่มมูลค่าให้กับบริการหรือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ในชีวิตจริงอย่าง
สร้างสรรค์
ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
๑. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศในการนำเสนอและแบง่ ปนั ข้อมลู อย่างปลอดภยั มีจรยิ ธรรมและวิเคราะห์
การเปล่ียนแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศทมี่ ีผลตอ่ การดำเนินชีวิต อาชพี สังคมและวฒั นธรรม
งานพัฒนาวิชาการ และหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนภัทรญาณวทิ ยา
210
หลกั สูตรโรงเรียนภัทรญาณวทิ ยา พุทธศักราช 2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560)
วทิ ยาศาสตรเ์ พิม่ เติม
วิทยาศาสตรเ์ พมิ่ เติมจัดทำขึ้นสำหรบั ผู้เรยี นในระดับช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลาย แผนการเรียน
วิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต้องเรียนเนื้อหาในสาระชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ และโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ
ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญและเพียงพอสำหรับการศึกษาต่อในระดับอุ ดมศึกษาในด้านวิทยาศาสตร์
เพื่อประกอบวิชาชีพในสาขาที่ใช้วิทยาศาสตร์เป็นฐาน เช่น แพทย์ ทันตแพทย์ สัตวแพทย์
เทคโนโลยีชีวภาพ เทคนิคการแพทย์ วิศวกรรม สถาปัตยกรรม ฯลฯ โดยมีผลการเรียนรู้ที่ครอบคลมุ
ดา้ นเนอื้ หา ทกั ษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์และทักษะแห่งศตวรรษท่ี ๒๑ รวมทงั้ จิตวิทยาศาสตร์
ที่ผู้เรียนจำเป็นต้องมี วิทยาศาสตร์เพิ่มเติมน้ีได้มีการปรับปรงุ เพื่อให้มีเนื้อหาที่ทัดเทียมกับนานาชาติ
เน้นกระบวนการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหารวมทั้งเชื่อมโยงความรู้สู่การนำไปใช้ในชี วิตจริง
สรุปไดด้ งั น้ี
๑. ลดความซ้ำซ้อนของเนื้อหาระหว่างตัวชี้วัดในรายวิชาพื้นฐานและผลการเรียนรู้รายวิชา
เพมิ่ เติมเพอ่ื ใหผ้ ู้เรียนไดม้ เี วลาสำหรบั การเรียนรแู้ ละทำปฏิบตั ิการทางวทิ ยาศาสตรเ์ พ่ิมข้ึน
๒. ลดความซ้ำซ้อนของเนื้อหาระหว่างสาระชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ และโลก ดาราศาสตร์
และอวกาศ โดยมกี ารพิจารณาเนอ้ื หาทม่ี คี วามซำ้ ซ้อนกนั แล้วจัดให้เรียนท่สี าระใดสาระหนงึ่ เช่น
o เรื่องสารชีวโมเลกุล เดิมเรียนทั้งในสาระชีววิทยาและเคมี ได้พิจารณาแล้วจัดให้เรียน
ในสาระชีววทิ ยา
o เรอื่ งปโิ ตรเลยี ม เดิมเรยี นทง้ั ในสาระเคมีและโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ ได้พิจารณา
แลว้ จัดให้เรยี นในสาระโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ
o เรื่องกฎของบอยล์ กฎของชาร์ล ไอโซโทปกัมมันตรังสี ได้พิจารณาแล้วจัดให้เรียนใน
สาระเคมี และเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ จัดให้เรียนในสาระฟิสิกส์ เนื่องจากเดิมเนื้อหาเหล่านี้ทับซ้อน
กันในสาระเคมีและฟสิ กิ ส์
o เรื่องการทดลองของทอมสันและการทดลองของมิลลิแกน เดิมเรียนทั้งในสาระเคมี
และฟิสกิ ส์ ไดพ้ จิ ารณาแลว้ จัดใหเ้ รียนในสาระเคมี
๓. ลดความซ้ำซ้อนกนั ระหว่างระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ และระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
เชน่
o เรื่องระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมในสาระชีววิทยา ได้ปรับให้สาระการเรียนรู้ เนื้อหา
และกจิ กรรม มคี วามแตกต่างกันตามความเหมาะสมของระดบั ผเู้ รยี น
o เรื่องเทคโนโลยีอวกาศ การเกิดลม การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของโลก พายุ และมรสมุ
ได้มีการปรับให้สาระการเรียนรู้ เนื้อหา และกิจกรรม เรียนต่อเนื่องกันจากระดับมัธยมศึกษาตอนตน้
ไปส่รู ะดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลายเพอ่ื ไม่ให้ทบั ซอ้ นกัน
๔. ลดทอนเน้ือหาที่ยากเพ่อื ใหเ้ หมาะสมกบั กลมุ่ ของผูเ้ รยี นในระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย
งานพฒั นาวชิ าการ และหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา
211
หลักสูตรโรงเรียนภัทรญาณวิทยา พุทธศักราช 2565
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๕. มีการเพิ่มเนื้อหาด้านต่าง ๆ ที่มีความทันสมัย สอดคล้องต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบัน
และอนาคตมากขึ้น เช่น เรื่องเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ ที่มีต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อมในสาระชีววิทยา
เรื่องทักษะและความปลอดภัยในปฏิบัติการเคมี นวัตกรรมและการแก้ปัญหาที่เน้นการบูรณาการ
ในสาระเคมี เรื่องเทคโนโลยีด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม การสื่อสารด้วยสัญญาณดิจิทัลที่เหมาะสม
กับสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัลในปัจจุบัน รวมทั้งเนื้อหาเกี่ยวกับการค้นคว้าวิจัยด้านฟิสิกส์อนุภาค
เพื่อความสอดคลอ้ งกบั ความก้าวหน้าของวิชาฟิสกิ ส์ในปจั จบุ ัน
วิทยาศาสตร์เพิ่มเติมนี้ ถึงแม้ว่าสถานศึกษาสามารถจัดให้ผู้เรียนได้เรียนตามความเหมาะสม
และตามจุดเน้นของสถานศกึ ษา แต่ในแนวทางปฏิบัติสถานศึกษาควรจัดให้ผู้เรียนได้เรียนทุกสาระ
เพื่อให้มีความรู้เพียงพอในการนำไปใช้เพื่อการศึกษาต่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อหาของสาระ
โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ ที่สถานศึกษามักมองข้ามความสำคัญของการเรียนสาระน้ี ซึ่งเป็น
การบูรณาการความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ ทั้งฟิสิกส์ เคมี และชีววิทยา รวมทั้งศาสตร์อื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องเพื่อมาช่วยในการอธิบายและเข้าใจปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในธรรมชาติ ทั้งการเปลี่ยนแปลง
บนผิวโลก การเปลี่ยนแปลงภายในโลกและการเปลี่ยนแปลงทางลมฟ้าอากาศ ซึ่งกระบวนการ
เปลี่ยนแปลงทั้งหมดดังกล่าวล้วนส่งผลซึ่งกันและกัน รวมทั้งสิ่งมีชีวิตด้วย และที่สำคัญคือความรู้ใน
สาระนี้สามารถนำไปใช้ในการศึกษาต่อเพื่อประกอบอาชีพในหลาย ๆ ด้าน เช่น อาชีพที่เกี่ยวกับ
วัสดุศาสตร์ การเดินเรือ การบิน การเกษตร การศึกษาประวัติศาสตร์ วิศวกร อุตสาหกรรมน้ำมัน
เหมือง นักธรณีวิทยา นักอุตุนิยมวิทยา นักดาราศาสตร์ นักบินอวกาศ ดังนั้นพื้นฐานความรู้สาระ
โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ จะช่วยเปิดโอกาสทางด้านอาชีพที่หลากหลายให้กับผู้เรียน เพราะใน
อนาคตข้างหน้า นอกจากมนุษย์จะต้องมีความเข้าใจเกี่ยวกับโลกที่ตัวเองอาศัยอยู่แล้วยังต้องพัฒนา
ตนเองเพ่อื ศกึ ษาขอ้ มลู ต่าง ๆ ทีอ่ ยู่นอกโลกเพื่อนำขอ้ มลู เหลา่ นั้นกลบั มาพัฒนาคุณภาพชีวติ ใหด้ ขี น้ึ
เรยี นรอู้ ะไรในวิทยาศาสตร์เพมิ่ เติม
วทิ ยาศาสตร์เพม่ิ เตมิ ผ้เู รียนจะไดเ้ รยี นรู้สาระสำคญั ดังนี้
o ชีววิทยา เรียนรู้เกี่ยวกับ การศึกษาชีววิทยา สารที่เป็นองค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต
เซลล์ของสิ่งมีชีวิต พันธุกรรมและการถ่ายทอด วิวัฒนาการ ความหลากหลายทางชีวภาพ โครงสร้าง
และการทำงานของส่วนต่าง ๆ ในพืชดอก ระบบและการทำงานในอวัยวะต่าง ๆ ของสัตว์และมนุษย์
และสงิ่ มชี ีวิตและส่งิ แวดลอ้ ม
o เคมี เรียนรู้เกี่ยวกับ ปริมาณสาร องค์ประกอบและสมบัติของสาร การเปลี่ยนแปลง
ของสาร ทักษะและการแกป้ ญั หาทางเคมี
o ฟิสิกส์ เรียนรู้เกี่ยวกับ ธรรมชาติและการค้นพบทางฟิสิกส์ แรงและการเคลื่อนที่
และพลังงาน
งานพัฒนาวิชาการ และหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นภทั รญาณวิทยา
212
หลักสูตรโรงเรยี นภทั รญาณวิทยา พุทธศักราช 2565
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
o โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ เรียนรู้เกี่ยวกับ โลกและกระบวนการเปลี่ยนแปลงทาง
ธรณีวิทยา ข้อมูลทางธรณีวิทยาและการนำไปใช้ประโยชน์ การถ่ายโอนพลังงานความร้อนของโลก
การเปลี่ยนแปลงลักษณะลมฟ้าอากาศกับการดำรงชีวิตของมนุษย์โลกในเอกภพและดาราศาสตร์กับ
มนุษย์
สาระวทิ ยาศาสตรเ์ พิ่มเติม
สาระชวี วิทยา
๑. เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ สารที่เป็น
องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิต ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต กล้องจุลทรรศน์ โครงสร้างและหน้าที่
ของเซลล์ การลำเลียงสารเข้าและออกจากเซลล์ การแบง่ เซลล์ และการหายใจระดับเซลล์
๒. เขา้ ใจการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถา่ ยทอดยนี บนโครโมโซม สมบัตแิ ละหน้าท่ี
ของสารพันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐาน ข้อมูล และแนวคิดเกี่ยวกับ
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก การเกิดสปีชีส์ใหม่ ความหลากหลายทาง
ชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและอนุกรมวิธาน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้
ประโยชน์
๓. เข้าใจส่วนประกอบของพืช การแลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้ำของพืช การลำเลียงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสง การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเติบโตและการตอบสนองของพืช
รวมทง้ั นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
๔. เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์รวมทั้งการหายใจและการแลกเปลี่ยนแก๊ส
การลำเลียงสารและการหมุนเวียนเลือด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขับถ่าย การรับรู้และ
การตอบสนอง การเคลื่อนที่ การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษาดุลยภาพและ
พฤตกิ รรมของสัตว์ รวมทง้ั นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์
๕. เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียนสาร
ในระบบนิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ
ประชากรและรูปแบบการเพิ่มของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาและ
ผลกระทบทเี่ กดิ จากการใชป้ ระโยชน์ และแนวทางการแกไ้ ขปัญหา
สาระเคมี
1. เขา้ ใจโครงสร้างอะตอม การจัดเรยี งธาตใุ นตารางธาตุ สมบตั ขิ องธาตุ พันธะเคมแี ละสมบตั ิของสาร
แก๊สและสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบัติของสารประกอบอินทรีย์และพอลิเมอร์ รวมท้ัง
การนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
งานพัฒนาวิชาการ และหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนภัทรญาณวิทยา
213
หลกั สตู รโรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
2. เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี ปริมาณสัมพันธ์ในปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี
สมดุลในปฏิกิริยาเคมี สมบัติและปฏิกิริยาของกรด–เบส ปฏิกิริยารีดอกซ์และเซลล์เคมีไฟฟ้า
รวมท้งั การนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
3. เข้าใจหลักการทำปฏิบัติการเคมี การวัดปริมาณสาร หน่วยวัดและการเปลี่ยนหน่วย การคำนวณ
ปริมาณของสาร ความเขม้ ขน้ ของสารละลาย รวมท้งั การบูรณาการความรูแ้ ละทกั ษะในการอธิบาย
ปรากฏการณใ์ นชีวิตประจำวนั และการแกป้ ัญหาทางเคมี
สาระฟิสกิ ส์
1. เข้าใจธรรมชาติทางฟิสิกส์ ปริมาณและกระบวนการวัด การเคลื่อนที่แนวตรง แรงและ
กฎการเคลื่อนที่ของนิวตัน กฎความโน้มถ่วงสากล แรงเสียดทาน สมดุลกลของวัตถุ งานและ
กฎการอนุรักษ์พลังงานกล โมเมนตัมและกฎการอนุรักษ์โมเมนตัม การเคลื่อนที่แนวโค้งรวมท้ัง
นำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
2. เข้าใจการเคลอ่ื นทีแ่ บบฮาร์มอนิกส์อยา่ งง่าย ธรรมชาตขิ องคลน่ื เสยี งและการไดย้ นิ ปรากฏการณ์
ที่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และการเห็น ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับแสงรวมทั้งนำความรู้ ไปใช้
ประโยชน์
3. เข้าใจแรงไฟฟ้าและกฎของคูลอมบ์ สนามไฟฟ้า ศักย์ไฟฟ้า ความจุไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าและ
กฎของโอห์ม วงจรไฟฟ้ากระแสตรง พลังงานไฟฟ้า และกำลังไฟฟ้า การเปลี่ยนพลังงานทดแทน
เป็นพลังงานไฟฟ้า สนามแม่เหล็ก แรงแม่เหล็กที่กระทำกับประจุไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้า
การเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้าและกฏของฟาราเดย์ ไฟฟ้ากระแสสลับ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและ
การสื่อสารรวมทั้งนำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์
4. เข้าใจความสัมพันธ์ของความร้อนกับการเปล่ียนอุณหภูมแิ ละสถานะของสสาร สภาพยืดหยุ่นของ
วัสดุและมอดุลัสของยัง ความดันในของไหล แรงพยุง และหลักของอาร์คิมีดิส ความตึงผิวและ
แรงหนืดของของเหลวของไหลอุดมคติ และสมการแบร์นูลลี กฎของแก๊ส ทฤษฎีจลน์ของ
แก๊สอุดมคติและพลังงานในระบบ ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก
ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค กัมมันตภาพรังสี แรงนิวเคลียร์ ปฏิกิริยานิวเคลียร์ พลังงาน
นวิ เคลียร์ ฟิสกิ สอ์ นภุ าค รวมทง้ั นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์
สาระโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ
1. เข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก ธรณีพิบัติภัย และผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
รวมทงั้ การศกึ ษาลำดับชนั้ หนิ ทรัพยากรธรณี แผนท่ี และการนำไปใชป้ ระโยชน์
2. เข้าใจสมดุลพลังงานของโลก การหมุนเวียนของอากาศบนโลก การหมุนเวียนของน้ำในมหาสมทุ ร
การเกิดเมฆ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก และผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม รวมท้ัง
การพยากรณ์อากาศ
งานพฒั นาวชิ าการ และหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรียนภทั รญาณวทิ ยา
214
หลักสตู รโรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
3. เข้าใจองค์ประกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกิด และววิ ฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซี ดาวฤกษ์และ
ระบบสุริยะ ความสัมพันธ์ของดาราศาสตร์กับมนุษย์จากการศึกษาตำแหน่ง ดาวบนทรงกลมฟ้า
และปฏิสมั พันธ์ภายในระบบสุริยะรวมท้งั การประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยอี วกาศในการดำรงชีวติ
คณุ ภาพผู้เรียน
ผเู้ รยี นทีเ่ รียนครบทุกผลการเรยี นรู้ มีคณุ ภาพดังนี้
o เข้าใจวิธีการทางวิทยาศาสตร์ในการคน้ หาคำตอบเก่ยี วกับส่ิงมีชวี ิต สารทเ่ี ป็นองค์ประกอบ
ของสิ่งมีชีวิตและปฏิกิริยาเคมีภายในเซลล์ การใช้กล้องจุลทรรศน์ โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
การลำเลยี งสารเข้าและออกจากเซลล์ การแบง่ เซลล์และการหายใจระดบั เซลล์
o เข้าใจหลกั การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมของสิ่งมีชีวิต การถ่ายทอดยีนบนออโตโซม
และโครโมโซมเพศ โครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมีของดเี อ็นเอ การจำลองดีเอ็นเอ กระบวนการ
สังเคราะห์โปรตีน การเกิดมิวเทชันในสิ่งมีชีวิต หลักการและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ
หลักฐานและข้อมูลที่ใช้ ในการศึกษาวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต แนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของ
สิ่งมีชีวิต เงื่อนไขของภาวะสมดุลของ ฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก กระบวนการเกิดสปีชีส์ใหม่ของสิ่งมีชีวิต
ความหลากหลายทางชีวภาพ กำเนดิ ของสิ่งมชี ีวิต ลักษณะสำคญั ของส่ิงมีชวี ติ กลมุ่ แบคทีเรีย โพรทิสต์
พืช ฟงั ไจ และสตั ว์ การจำแนกส่งิ มชี วี ิตออกเปน็ หมวดหมู่และวิธกี ารเขียนชื่อวทิ ยาศาสตร์
o เข้าใจโครงสร้างและส่วนประกอบของพืชทั้งราก ลำต้น และใบ การแลกเปลี่ยนแก๊ส
การคายน้ำ การลำเลียงน้ำและธาตุอาหาร การลำเลียงอาหาร การสังเคราะห์ด้วยแสงของพืช
กระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์และการปฏิสนธิของพืชดอก การเกิดผลและเมล็ด บทบาทของสาร
ควบคุมการเจริญเติบโตของพชื และการประยุกต์ใช้และการตอบสนองของพชื
o เข้าใจกลไกการรักษาดุลยภาพของสิ่งมีชีวิต โครงสร้าง หน้าที่ และกระบวนการต่าง ๆ
ของสัตว์และมนุษย์ ได้แก่ การย่อยอาหาร การแลกเปลี่ยนแก๊ส การเคลื่อนที่ การกำจัดของเสียออก
จากร่างกายของส่ิงมีชีวิต ระบบหมุนเวียนเลือด ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายของมนษุ ย์ การทำงานของ
ระบบประสาท และอวัยวะรับความรู้สึก ระบบสืบพันธุ์ การปฏิสนธิ การเจริญเติบโต ฮอร์โมนและ
พฤติกรรมของสัตว์
o เข้าใจกระบวนการถ่ายทอดพลังงาน และการหมุนเวียนสารในระบบนิเวศ
ความหลากหลายของไบโอม การเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การเปลี่ยนแปลง
จำนวนประชากรมนุษย์ในระดับท้องถิ่น ระดับประเทศและระดับโลก แนวทางการป้องกันและแก้ไข
ปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม
งานพัฒนาวชิ าการ และหลกั สตู รสถานศึกษา โรงเรยี นภทั รญาณวทิ ยา
215
หลักสตู รโรงเรยี นภัทรญาณวิทยา พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
o เข้าใจการศึกษาโครงสร้างอะตอมของนักวิทยาศาสตร์ การจัดเรียงอิเล็กตรอนในอะตอม
สมบัติบางประการของธาตุและการจัดเรียงธาตุในตารางธาตุพันธะเคมี สมบตั ขิ องสารที่มีความสัมพันธ์
กับพันธะเคมี กฎต่าง ๆ ของแก๊สและสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบัติของสารประกอบอินทรีย์
และประเภทและสมบตั ิของพอลิเมอร์
o เข้าใจการเขียนและการดุลสมการเคมี การคำนวณปริมาณสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ
ปฏิกิริยาเคมี อัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมีและปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี สมดุลใน
ปฏิกิริยาเคมีและปัจจัยที่มีผลต่อสมดุลเคมี ทฤษฎีกรด–เบส สมบัติและปฏิกิริยาของกรด–เบส
สารละลายบัฟเฟอร์ ปฏิกิริยารดี อกซ์และเซลล์เคมไี ฟฟ้า
o เข้าใจข้อปฏิบัติเบื้องต้นเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำปฏิบัติการเคมี การเลือกใช้
อุปกรณ์หรือเครื่องมือในการทำปฏิบัติการ หน่วยวัดและการเปลี่ยนหน่วยวัดด้วยการใช้แฟกเตอร์
เปลี่ยนหน่วย การคำนวณเกี่ยวกับมวลอะตอม มวลโมเลกุล และมวลสูตร ความสัมพันธ์ของโมล
จำนวนอนุภาค มวล และปริมาตรของแก๊สที่ STP การคำนวณสูตรอย่างง่ายและสูตรโมเลกุลของสาร
ความเขม้ ข้นของสารละลาย การเตรียมสารละลาย และการบูรณาการความรู้และทักษะในการอธิบาย
ปรากฏการณ์ในชวี ติ ประจำวันและการแก้ปญั หาทางเคมี
o เข้าใจธรรมชาติของฟิสิกส์ กระบวนการวัด ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณที่เกี่ยวข้องกับ
การเคล่ือนท่ี การเคล่อื นทใ่ี นแนวตรง แรงลัพธ์ กฎการเคลือ่ นที่ แรงเสยี ดทาน กฎความโนม้ ถ่วงสากล
สนามโน้มถ่วง งาน กฎการอนุรักษ์พลังงาน กล สมดุลกลของวัตถุ เครื่องกลอย่างง่าย โมเมนตัมและ
การดล กฎการอนุรักษ์ โมเมนตัม การชน และการเคลอื่ นทใ่ี นแนวโคง้
o เข้าใจการเคลื่อนท่แี บบคลื่น ปรากฏการณ์คลื่น การสะทอ้ น การหกั เห การเลี้ยวเบนและ
การแทรกสอด หลักการของฮอยเกนส์ การเคลื่อนที่ของคลื่นเสียง ปรากฏการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเสียง
ความเขม้ เสียงและระดับเสยี ง การไดย้ ิน ภาพที่เกิดจากกระจกเงาและเลนส์ ปรากฏการณ์ท่ีเก่ียวข้อง
กบั แสงและการมองเหน็ แสงสี
o เข้าใจสนามไฟฟ้า แรงไฟฟ้า กฎของคูลอมบ์ ศักย์ไฟฟ้า ตัวเก็บประจุ ตัวต้านทานและ
กฎของโอห์ม พลังงานไฟฟ้า การเปลี่ยนพลังงานทดแทนเป็นพลังงานไฟฟ้า เทคโนโลยีด้านพลังงาน
สนามแม่เหล็ก ความสัมพันธ์ระหว่างสนามแม่เหล็กกับกระแสไฟฟ้า การเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า
ไฟฟา้ กระแสสลับ คล่ืนแม่เหล็กไฟฟา้ และประโยชนข์ องคลน่ื แมเ่ หลก็ ไฟฟา้
o เข้าใจผลของความร้อนต่อสสาร สภาพยืดหยุ่น ความดันในของไหล แรงพยุง ของไหล
อุดมคติ ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส แนวคิดควอนตัมของพลังงาน ทฤษฎีอะตอมของโบร์ ปรากฏการณ์
โฟโตอิเล็กทริก ทวิภาวะของคลื่นและอนุภาค การสลายของนิวเคลียสกัมมันตรังสี กัมมันตภาพ
ปฏิกิริยานิวเคลียร์ พลังงานนิวเคลียร์ ความสัมพันธ์ระหว่างมวลและพลังงานแรงภายในนิวเคลียส
และการค้นควา้ วิจยั ดา้ นฟสิ กิ สอ์ นภุ าค
งานพฒั นาวชิ าการ และหลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา
216
หลกั สูตรโรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา พุทธศักราช 2565
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
o เข้าใจการแบง่ ชั้นและสมบตั ิของโครงสร้างโลก สาเหตุ และรูปแบบการเคลื่อนท่ีของแผ่น
ธรณีทส่ี มั พันธ์ กบั การเกิดลกั ษณะธรณีสัณฐานและธรณีโครงสร้างแบบตา่ ง ๆ หลกั ฐานทางธรณีวิทยา
ทีพ่ บในปัจจบุ นั และ การลำดบั เหตุการณ์ทางธรณีวิทยาในอดีต สาเหตุ กระบวนการเกิดแผ่นดินไหว
ภูเขาไฟระเบิด สึนามิ ผลกระทบ แนวทางการเฝ้าระวัง และการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย สมบัติและ
การจำแนกชนิดของแร่ กระบวนการเกิดและ การจำแนกชนิดหิน กระบวนการเกิดและการสำรวจ
แหล่งปิโตรเลียมและถ่านหิน การแปลความหมายจากแผนที่ ภูมิประเทศและแผนที่ธรณีวิทยา
และการนำข้อมูลทางธรณีวทิ ยาไปใช้ประโยชน์
o เข้าใจปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการรับและปลดปล่อยพลังงาน จากดวงอาทิตย์ กระบวนการ
ที่ทำใหเ้ กิดสมดุลพลังงานของโลก ผลของแรงเน่ืองจากความแตกต่างของความกดอากาศ แรงคอริออลิส
แรงสู่ศูนยก์ ลาง และแรงเสียดทานทีม่ ีต่อการหมุนเวียนของอากาศ การหมุนเวียนของอากาศตามเขต
ละติจูดและผลที่มีต่อภูมิอากาศ ปัจจัยที่ทำให้เกิดการแบ่งชั้นน้ำและการหมุนเวียนของน้ำใน
มหาสมุทร รูปแบบการหมนุ เวยี นของน้ำ ในมหาสมุทร และผลของการหมุนเวียนของน้ำในมหาสมุทร
ที่มีต่อลักษณะลมฟ้าอากาศ สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์ระหว่างเสถียรภาพอากาศและ
การเกดิ เมฆ การเกิดแนวปะทะอากาศแบบต่าง ๆ และลกั ษณะลมฟ้าอากาศทีเ่ กี่ยวข้องปัจจัยต่าง ๆ ที่
มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก รวมทั้งการแปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศและ
การพยากรณล์ ักษณะลมฟ้าอากาศเบ้ืองต้นจากแผนท่ีอากาศและข้อมูลสารสนเทศ
o เข้าใจการกำเนิดและการเปลย่ี นแปลงพลังงาน สสาร ขนาดอุณหภมู ขิ องเอกภพ หลกั ฐาน
ที่สนับสนุน ทฤษฎีบิกแบง ประเภทของกาแล็กซี โครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซีทาง
ช้างเผือก กระบวนการเกิดดาวฤกษ์และการสร้างพลังงานของดาวฤกษ์ ปัจจัยท่ีส่งผลต่อความส่อง
สว่างของดาวฤกษ์และความสัมพันธ์ระหว่างความส่องสว่างกับโชติมาตรของดาวฤกษ์ ความสัมพันธ์
ระหว่างสี อุณหภูมิผิว และสเปกตรัมของดาวฤกษ์ วิธีการหาระยะทางของดาวฤกษ์ด้วยหลักการ
แพรัลแลกซ์ วิวัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงสมบัติบางประการของดาวฤกษ์ กระบวนการเกิด
ระบบสุริยะ การแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์ ลักษณะของดาวเคราะห์ที่เอื้อต่อ การดำรงชีวิต
การโคจรของดาวเคราะห์รอบดวงอาทิตย์ด้วยกฎเคพเลอร์ และกฎความโน้มถ่วงของนิวตัน
โครงสร้างของดวงอาทิตย์ การเกิดลมสุริยะ พายุสุริยะและผลที่มีต่อโลก การระบุพิกัดของดาว
ในระบบขอบฟ้าและระบบศูนยส์ ตู ร เส้นทางการข้ึนการตกของดวงอาทิตยแ์ ละดาวฤกษ์ เวลาสุรยิ คติ
และการเปรยี บเทียบเวลาของแตล่ ะเขตเวลาบนโลก การสำรวจอวกาศและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
อวกาศ
o ระบุปัญหา ตั้งคำถามที่จะสำรวจตรวจสอบ โดยมีการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
ต่าง ๆ สืบค้นข้อมูลจากหลายแหล่ง ตั้งสมมติฐานที่เป็นไปได้หลายแนวทาง ตัดสินใจเลือกตรวจสอบ
สมมติฐานท่ีเป็นไปได้
งานพัฒนาวชิ าการ และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนภัทรญาณวทิ ยา
217
หลักสตู รโรงเรยี นภัทรญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
o ต้งั คำถามหรือกำหนดปัญหาท่อี ยูบ่ นพ้ืนฐานของความรูแ้ ละความเขา้ ใจทางวิทยาศาสตร์ที่
แสดงให้เห็นถึงการใช้ความคิดระดับสูงที่สามารถสำรวจตรวจสอบหรือศึกษาค้นคว้าได้อย่าง
ครอบคลุมและเชื่อถือได้ สร้างสมมติฐานที่มีทฤษฎีรองรับหรือคาดการณ์สิ่งที่จะพบเพื่อนำไปสู่
การสำรวจตรวจสอบ ออกแบบวิธีการสำรวจตรวจสอบตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ได้อย่างเหมาะสม
มีหลักฐานเชิงประจักษ์ เลือกวัสดุ อุปกรณ์ รวมทั้งวิธีการ ในการสำรวจตรวจสอบอย่างถูกต้องทั้งใน
เชงิ ปริมาณและคณุ ภาพและบนั ทกึ ผลการสำรวจตรวจสอบอยา่ งเป็นระบบ
o วิเคราะห์ แปลความหมายข้อมูลและประเมินความสอดคล้องของข้อสรุปเพื่อตรวจสอบ
กับสมมติฐานที่ตั้งไว้ ให้ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงวิธีการสำรวจตรวจสอบ จัดกระทำข้อมูลและ
นำเสนอข้อมูลด้วยเทคนิควิธีที่เหมาะสม สื่อสารแนวคิด ความรู้จากผลการสำรวจตรวจสอบ โดย
การพูด เขียน จัดแสดง หรือใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อให้ผู้อื่นเข้าใจโดยมีหลักฐานอ้างอิงหรือมี
ทฤษฎรี องรับ
o แสดงถึงความสนใจ มุ่งมั่น รับผิดชอบ รอบคอบ และซื่อสัตย์ ในการสืบเสาะหาความรู้
โดยใช้เครื่องมือและวิธีการที่ให้ได้ผลถูกต้อง เชื่อถือได้ มีเหตุผลและยอมรับได้ว่าความรู้ทาง
วิทยาศาสตรอ์ าจมีการเปล่ียนแปลงได้
o แสดงถึงความพอใจและเห็นคุณค่าในการค้นพบความรู้ พบคำตอบ หรือแก้ปัญหาได้
ทำงานร่วมกับผอู้ น่ื อยา่ งสร้างสรรค์ แสดงความคดิ เหน็ โดยมีข้อมลู อ้างอิงและเหตผุ ลประกอบเกี่ยวกับ
ผลของการพัฒนาและการใช้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างมีคุณธรรมต่อสังคมและส่ิงแวดล้อมและ
ยอมรับฟงั ความคิดเห็นของผู้อน่ื
o เข้าใจความสมั พันธ์ของความรู้วทิ ยาศาสตรท์ ีม่ ีผลตอ่ การพัฒนาเทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ
และการพัฒนาเทคโนโลยที ี่ส่งผลใหม้ ีการคิดคน้ ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่ก้าวหน้า ผลของเทคโนโลยี
ตอ่ ชวี ิต สังคม และสิง่ แวดลอ้ ม
o ตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใช้ใน
ชีวิตประจำวัน ใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการดำรงชีวิต
และการประกอบอาชีพ แสดงความชื่นชม ภูมิใจ ยกย่อง อ้างอิงผลงาน ชิ้นงานที่เป็นผลมาจาก
ภูมิปัญญาท้องถิ่นและการพัฒนาเทคโนโลยีที่ทันสมัย ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทำโครงงานหรือ
สรา้ งช้นิ งานตามความสนใจ
o แสดงความซาบซึ้ง ห่วงใย มีพฤติกรรมเกี่ยวกับการใช้และรักษาทรัพยากรธรรมชาติและ
สงิ่ แวดลอ้ ม อยา่ งรู้คุณค่า เสนอตวั เองรว่ มมือปฏิบัติกับชุมชนในการป้องกนั ดแู ลทรัพยากรธรรมชาติ
และสง่ิ แวดลอ้ มของท้องถ่ิน
งานพัฒนาวชิ าการ และหลกั สูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนภทั รญาณวทิ ยา
218
หลกั สูตรโรงเรียนภัทรญาณวิทยา พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
ผลการเรียนรู้และสาระการเรยี นรเู้ พ่มิ เตมิ
สาระชีววิทยา
1. เข้าใจธรรมชาติของสิ่งมีชีวิต การศึกษาชีววิทยาและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ สารที่เป็นองค์ประกอบ
ของสิ่งมีชีวิต ปฏิกิริยาเคมีในเซลล์ของสิ่งมีชีวิต กล้องจุลทรรศน์ โครงสร้างและหน้าที่ของเซลล์
การลำเลยี งสารเข้าและออกจากเซลล์ การแบ่งเซลล์ และการหายใจระดับเซลล์
ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4
1. อธบิ ายและสรุปสมบัติท่สี ำคัญของสง่ิ มีชีวิต และความสัมพันธ์ของการจดั ระบบในสิ่งมีชีวิตท่ีทำให้
สงิ่ มชี ีวติ ดำรงชวี ติ อยูไ่ ด้
2. อภิปรายและบอกความสำคัญของการระบุปัญหา ความสัมพันธ์ระหว่างปัญหา สมมติฐานและ
วิธีการตรวจสอบสมมติฐาน รวมทัง้ ออกแบบการทดลองเพื่อตรวจสอบสมมตฐิ าน
3. สืบค้นข้อมูล อธิบายเกี่ยวกับสมบัติของน้ำและบอกความสำคัญของน้ำที่มีต่อสิ่งมีชีวิตและ
ยกตวั อยา่ งธาตุชนิดต่าง ๆ ที่มคี วามสำคัญต่อร่างกายส่งิ มีชวี ติ
4. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างของคาร์โบไฮเดรต ระบุกลุ่มของคาร์โบไฮเดรตรวมทั้งความสำคัญ
ของคารโ์ บไฮเดรตที่มตี อ่ สิง่ มีชีวติ
5. สบื ค้นขอ้ มูล อธบิ ายโครงสร้างของโปรตนี และความสำคญั ของโปรตนี ทม่ี ีตอ่ สง่ิ มชี ีวติ
6. สบื คน้ ข้อมูล อธบิ ายโครงสร้างของลิพดิ และความสำคัญของลิพิดทมี่ ตี อ่ สงิ่ มีชีวติ
7. อธิบายโครงสร้างของกรดนิวคลิอิก และระบุชนิดของกรดนิวคลิอิกและความสำคัญของ
กรดนิวคลิอิกท่มี ตี อ่ ส่ิงมชี ีวิต
8. สืบค้นข้อมูลและอธิบายปฏิกิริยาเคมี ท่ีเกิดขนึ้ ในส่งิ มชี วี ติ
9. อธิบายการทำงานของเอนไซม์ในการเร่งปฏิกิริยาเคมีในสิ่งมีชีวิตและระบุปัจจัยที่มีผลต่อการ
ทำงานของเอนไซม์
10. บอกวิธีการและเตรียมตัวอย่างสิ่งมีชีวิตเพื่อศึกษาภายใต้กล้องจุลทรรศน์ใช้แสงวัดขนาด
โดยประมาณและวาดภาพที่ปรากฏภายใต้กล้อง บอกวิธีการใช้และการดูแลรักษากล้อง
จุลทรรศนใ์ ช้แสงทถี่ ูกต้อง
11. อธบิ ายโครงสรา้ งและหนา้ ทขี่ องสว่ น ที่ห่อหุ้มเซลล์ของเซลลพ์ ืชและเซลล์สัตว์
12. สบื ค้นข้อมูล อธิบาย และระบชุ นิดและหนา้ ที่ของออรแ์ กเนลล์
13. อธิบายโครงสรา้ งและหน้าท่ขี องนวิ เคลียส
14. อธบิ ายและเปรยี บเทยี บการแพร่ ออสโมซสิ การแพร่แบบฟาซิลเิ ทตและแอกทีฟทรานสปอร์ต
งานพัฒนาวิชาการ และหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นภัทรญาณวิทยา
219
หลกั สตู รโรงเรยี นภัทรญาณวทิ ยา พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
15. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเขียนแผนภาพการลำเลียงสารโมเลกุลใหญ่ออกจากเซลล์ด้วย
กระบวนการเอกโซไซโทซิสและการลำเลียงสารโมเลกุลใหญ่เข้าสู่เซลล์ด้วยกระบวนการ
เอนโดไซโทซสิ
16. สังเกตการแบ่งนิวเคลียสแบบไมโทซิสและแบบไมโอซิสจากตัวอย่างภายใต้กล้องจุลทรรศน์
พร้อมท้งั อธิบายและเปรียบเทยี บการแบง่ นวิ เคลียสแบบไมโทซิสและแบบไมโอซิส
17. อธิบาย เปรียบเทียบ และสรุปขั้นตอน การหายใจระดับเซลล์ในภาวะที่มีออกซิเจนเพียงพอ
และภาวะท่มี อี อกซิเจนไมเ่ พียงพอ
ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 5
-
ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6
-
สาระชวี วิทยา
2. เขา้ ใจการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม การถา่ ยทอดยนี บนโครโมโซม สมบัติและหน้าท่ีของสาร
พันธุกรรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลักฐาน ข้อมูล และแนวคิดเกี่ยวกับ
วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก การเกิดสปีชีส์ใหม่ ความหลากหลาย
ทางชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และอนุกรมวิธาน รวมท้ัง
นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4
๑. สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบายและสรุปผลการทดลองของเมนเดล
๒. อธิบายและสรุปกฎแห่งการแยกและกฎแห่งการรวมกลุ่มอย่างอิสระและนำกฎของเมนเดลน้ี
ไปอธบิ ายการถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธุกรรมและใชใ้ นการคำนวณโอกาสในการเกดิ ฟีโนไทป์และจี
โนไทป์แบบตา่ ง ๆ ของรุ่น F1 และ F2
๓. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ อธิบาย และสรุปเกี่ยวกับการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วน
ขยายของ พนั ธศุ าสตรเ์ มนเดล
๔. สืบค้นข้อมูล วิเคราะห์ และเปรียบเทียบลักษณะทางพันธุกรรมที่มีการแปรผันไม่ต่อเนื่องและ
ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมทมี่ ีการแปรผันตอ่ เน่ือง
๕. อธิบายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอย่างลักษณะทางพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วยยีน
บนออโตโซมและยนี บนโครโมโซมเพศ
งานพัฒนาวิชาการ และหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนภัทรญาณวิทยา
220
หลกั สตู รโรงเรียนภทั รญาณวทิ ยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ. 2560)
๖. สืบค้นข้อมูล อธิบายสมบัติและหน้าที่ของสารพันธุกรรม โครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมีของ
DNA และสรุปการจำลอง DNA
๗. อธิบายและระบุขั้นตอนในกระบวนการสังเคราะห์โปรตีนและหน้าที่ของ DNA และ RNA
แต่ละชนดิ ในกระบวนการสังเคราะห์ โปรตีน
๘. สรุปความสัมพันธ์ระหว่างสารพันธกุ รรม แอลลีล โปรตีน ลักษณะทางพันธุกรรมและเชื่อมโยงกับ
ความรูเ้ รอื่ งพนั ธุศาสตร์เมนเดล
๙. สืบค้นข้อมูล และอธิบายการเกิดมิวเทชันระดับยีนและระดับโครโมโซม สาเหตุ การเกิดมิวเทชัน
รวมทงั้ ยกตวั อยา่ งโรคและกลมุ่ อาการท่ีเปน็ ผลของการเกิดมิวเทชัน
๑๐. อธบิ ายหลกั การสร้างสงิ่ มชี ีวิตดัดแปรพนั ธกุ รรมโดยใชด้ ีเอ็นเอรคี อมบแิ นนท์
๑๑. สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และอภิปรายการนำเทคโนโลยีทางดีเอ็นเอไปประยุกต์ ทั้งในด้าน
สิ่งแวดล้อม นิติวิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตร และอุตสาหกรรม และข้อควรคำนึงถึงด้าน
ชีวจริยธรรม
๑๒. สืบค้นข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับหลักฐานที่สนับสนุนและข้อมูลที่ใช้อธิบายการเกิดวิวัฒนาการ
ของส่งิ มชี วี ิต
๑๓. อธิบายและเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของฌอง ลามาร์ก และทฤษฎี
เก่ียวกบั ววิ ฒั นาการของสง่ิ มีชีวิตของชาลส์ ดารว์ นิ
๑๔. ระบุสาระสำคัญและอธิบายเงื่อนไขของภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ปัจจัยที่ทำให้เกิด
การเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีล ในประชากร พร้อมทั้งคำนวณหาความถี่ของแอลลีลและ
จีโนไทปข์ องประชากรโดยใชห้ ลกั ของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก
๑๕. สบื คน้ ข้อมูล อภปิ ราย และอธิบายกระบวนการเกิดสปีชสี ใ์ หม่ของสิ่งมชี วี ติ
ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 5
-
ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6
๑. อภิปรายความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพและความเชื่อมโยงระหว่างความหลากหลาย
ทางพนั ธุกรรม ความหลากหลายของสปีชีส์และความหลากหลายของระบบนิเวศ
๒. อธิบายการเกดิ เซลลเ์ ริ่มแรกของส่งิ มีชีวิตและววิ ัฒนาการของสิ่งมชี ีวิตเซลล์เดยี ว
๓. อธบิ ายลกั ษณะสำคัญและยกตวั อยา่ งสิ่งมีชีวิตกลุ่มแบคทเี รีย สง่ิ มชี วี ติ กลุ่มโพรทิสต์ สิ่งมีชีวิตกลุ่ม
พชื สิง่ มีชีวิตกลุ่มฟังไจ และส่งิ มชี วี ิตกลุม่ สัตว์
๔. อธิบายและยกตวั อยา่ งการจำแนกสิ่งมีชีวติ จากหมวดหมู่ใหญจ่ นถงึ หมวดหมู่ย่อยและวธิ ีการเขยี น
ชื่อวิทยาศาสตรใ์ นลำดับขนั้ สปีชีส์
งานพฒั นาวิชาการ และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนภทั รญาณวทิ ยา
221
หลกั สตู รโรงเรียนภทั รญาณวทิ ยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
๕. สรา้ งไดโคโทมสั คีย์ในการระบุสงิ่ มีชวี ติ หรือตวั อยา่ งที่กำหนดออกเป็นหมวดหมู่
สาระชีววทิ ยา
3. เข้าใจส่วนประกอบของพืช การแลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้ำของพืช การลำเลียงของพืช
การสังเคราะห์ด้วยแสง การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเติบโต และการตอบสนองของพืช
รวมท้งั นำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์
ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4
-
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5
๑. อธิบายเก่ียวกบั ชนดิ และลกั ษณะของเน้ือเย่ือพชื และเขียนแผนผังเพอื่ สรปุ ชนดิ ของเนือ้ เย่ือพืช
๒. สังเกต อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างภายในของรากพืชใบเลี้ยงเดี่ยวและรากพืช ใบเลี้ยงคู่
จากการตัดตามขวาง
๓. สังเกต อธบิ าย และเปรียบเทยี บโครงสร้างภายในของลำตน้ พชื ใบเล้ยี งเด่ียวและลำตน้ พืชใบเล้ียงคู่
จากการตดั ตามขวาง
๔. สังเกต และอธิบายโครงสร้างภายในของใบพชื จากการตดั ตามขวาง
๕. สบื คน้ ข้อมูล สังเกต และอธิบายการแลกเปลยี่ นแก๊สและการคายนำ้ ของพืช
๖. สืบคน้ ขอ้ มูลและอธิบายกลไกการลำเลียงน้ำและธาตุอาหารของพชื
๗. สืบค้นข้อมูล อธิบายความสำคัญของธาตุอาหาร และยกตัวอย่างธาตุอาหารที่สำคัญที่มีผลต่อ
การเจรญิ เติบโตของพืช
๘. อธิบายกลไกการลำเลียงอาหารในพชื
๙. สืบค้นข้อมูลและสรุปการศึกษาที่ได้จาก การทดลองของนักวิทยาศาสตร์ในอดีตเกี่ยวกับ
กระบวนการสังเคราะหด์ ว้ ยแสง
๑๐. อธิบายขนั้ ตอนทีเ่ กิดข้ึนในกระบวนการสงั เคราะห์ด้วยแสงของพชื C3
๑๑. เปรียบเทยี บกลไกการตรงึ คาร์บอนไดออกไซดใ์ นพืช C3 พืช C4 และ พชื CAM
๑๒. สืบค้นข้อมูล อภิปรายและสรุปปัจจัยความเข้มของแสง ความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์
และอุณหภมู ิ ท่ีมผี ลต่อการสงั เคราะหด์ ้วยแสงของพชื
๑๓. อธิบายวัฏจกั รชีวิตแบบสลบั ของพืชดอก
๑๔. อธิบายและเปรียบเทียบกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมียของพืชดอกและ
อธบิ ายการปฏสิ นธิของพืชดอก
๑๕. อธิบายการเกิดเมล็ดและการเกิดผลของพืชดอก โครงสร้างของเมล็ดและผลและยกตัวอย่าง
การใชป้ ระโยชนจ์ ากโครงสร้างต่าง ๆ ของเมล็ดและผล
งานพฒั นาวชิ าการ และหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนภัทรญาณวทิ ยา
222
หลกั สตู รโรงเรียนภทั รญาณวทิ ยา พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
๑๖. ทดลอง และอธิบายเกี่ยวกับปจั จัยตา่ ง ๆ ที่มีผลต่อการงอกของเมลด็ สภาพพักตัวของเมลด็ และ
บอกแนวทางในการแกส้ ภาพพักตวั ของเมลด็
๑๗. สืบค้นข้อมูล อธิบายบทบาทและหน้าที่ของออกซิน ไซโทไคนิน จิบเบอเรลลิน เอทิลีนและ
กรดแอบไซซกิ และอภิปรายเกย่ี วกบั การนำไปใช้ประโยชนท์ างการเกษตร
๑๘. สืบคน้ ขอ้ มูล ทดลอง และอภปิ รายเกีย่ วกับส่ิงเร้าภายนอกทม่ี ผี ลตอ่ การเจรญิ เติบโตของพชื
ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6
-
สาระชีววทิ ยา
4. เข้าใจการย่อยอาหารของสัตว์และมนุษย์ รวมทั้งการหายใจและการแลกเปลี่ยนแก๊ส การลำเลียง
สารและการหมุนเวียนเลือด ภูมิคุ้มกันของร่างกาย การขับถ่าย การรับรู้และ การตอบสนอง
การเคลื่อนที่ การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต ฮอร์โมนกับการรักษาดุลยภาพและพฤติกรรมของ
สตั ว์ รวมทั้งนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4
-
ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5
๑. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและกระบวนการย่อยอาหารของสัตว์ที่ไม่มี
ทางเดนิ อาหาร สตั วท์ มี่ ที างเดินอาหารแบบไม่สมบูรณ์ และสตั ว์ทม่ี ที างเดนิ อาหารแบบสมบรู ณ์
๒. สงั เกต อธิบาย การกนิ อาหารของไฮดรา และพลานาเรยี
๓. อธิบายเกี่ยวกับโครงสร้าง หน้าที่ และกระบวนการย่อยอาหาร และการดูดซึมสารอาหารภายใน
ระบบย่อยอาหารของมนุษย์
๔. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างที่ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนแก๊สของฟองน้ำ ไฮดรา
พลานาเรยี ไสเ้ ดอื นดนิ แมลง ปลา กบ และนก
๕. สงั เกต และอธบิ ายโครงสร้างของปอดในสัตวเ์ ลยี้ งลูกด้วยน้ำนม
๖. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนแก๊สและกระบวนการแลกเปลี่ยนแก๊สของ
มนุษย์
๗. อธิบายการทำงานของปอดและทดลองวัดปริมาตรของอากาศในการหายใจออกของมนุษย์
๘. สบื คน้ ข้อมูล อธบิ ายและเปรียบเทยี บระบบหมนุ เวยี นเลือดแบบเปดิ และระบบหมุนเวยี นเลอื ดแบบ
ปิด
งานพัฒนาวิชาการ และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรยี นภทั รญาณวิทยา
223
หลกั สูตรโรงเรียนภัทรญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
๙. สังเกตและอธิบายทิศทางการไหลของเลือดและการเคลื่อนที่ของเซลล์เม็ดเลือดในหางปลาและ
สรุปความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของหลอดเลือดกบั ความเรว็ ในการไหลของเลือด
๑๐. อธบิ ายโครงสร้างและการทำงานของหัวใจและหลอดเลอื ดในมนุษย์
๑๑. สังเกตและอธิบายโครงสรา้ งหัวใจของสตั ว์เลี้ยงลกู ดว้ ยน้ำนม ทศิ ทางการไหลของเลือดผ่านหัวใจ
ของมนุษย์ และเขียนแผนผังสรุป การหมุนเวียนเลือดของมนษุ ย์
๑๒. สืบค้นข้อมูล ระบุความแตกต่างของเซลล์เม็ดเลือดแดง เซลล์เม็ดเลือดขาว เพลตเลตและ
พลาสมา
๑๓. อธบิ ายหม่เู ลือดและหลกั การใหแ้ ละ รับเลือดในระบบ ABO และระบบ Rh
๑๔. อธิบาย และสรปุ เกย่ี วกบั ส่วนประกอบและหนา้ ที่ของน้ำเหลือง รวมท้งั โครงสร้างและหน้าท่ีของ
หลอดน้ำเหลือง และต่อมนำ้ เหลอื ง
๑๕. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบกลไกการต่อต้านหรือทำลายสิ่งแปลกปลอมแบบไม่จำเพาะ
และแบบจำเพาะ
๑๖. สืบค้นขอ้ มลู อธบิ าย และเปรยี บเทยี บ การสร้างภูมิค้มุ กนั กอ่ เองและภูมคิ ุ้มกนั รับมา
๑๗. สืบค้นข้อมูลและอธิบายเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่ทำให้เกิดเอดส์ ภูมิแพ้
การสรา้ งภูมติ า้ นทานต่อเนื้อเยอ่ื ตนเอง
๑๘. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ าย และเปรียบเทยี บโครงสรา้ งและหน้าที่ในการกำจดั ของเสียออกจากร่างกาย
ของฟองนำ้ ไฮดรา พลานาเรีย ไสเ้ ดือนดนิ แมลง และสัตว์มีกระดกู สนั หลัง
๑๙. อธบิ ายโครงสร้างและหน้าท่ีของไต และโครงสรา้ งทใ่ี ชล้ ำเลยี งปัสสาวะออกจากรา่ งกาย
๒๐. อธบิ ายกลไกการทำงานของหน่วยไต ในการกำจัดของเสยี ออกจากรา่ งกาย และเขียนแผนผงั สรุป
ขั้นตอนการกำจดั ของเสีย ออกจากรา่ งกายโดยหนว่ ยไต
๒๑. สบื ค้นข้อมูล อธบิ ายและยกตวั อยา่ งเกีย่ วกบั ความผิดปกตขิ องไตอนั เนอ่ื งมาจากโรคตา่ ง ๆ
ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6
๑. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทียบโครงสร้างและหน้าที่ของระบบประสาทของไฮดรา พลานาเรีย
ไส้เดอื นดนิ ก้งุ หอย แมลง และสัตว์มกี ระดกู สนั หลัง
๒. อธบิ ายเก่ียวกับโครงสร้างและหน้าทขี่ องเซลลป์ ระสาท
๓. อธิบายเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของศักย์ไฟฟ้าที่เยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาท และกลไก
การถ่ายทอดกระแสประสาท
๔. อธิบายและสรุปเกย่ี วกับโครงสรา้ งของระบบประสาทส่วนกลางและระบบประสาทรอบนอก
๕. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของส่วนต่าง ๆ ในสมองส่วนหน้า สมองส่วนกลาง
สมองส่วนหลังและไขสันหลงั
งานพฒั นาวชิ าการ และหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรียนภัทรญาณวทิ ยา
224
หลักสูตรโรงเรยี นภัทรญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
๖. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างการทำงานของระบบประสาทโซมาติกและ
ระบบประสาทอัตโนวัติ
๗. สืบค้นข้อมูล อธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของ ตา หู จมูก ลิ้น และผิวหนังของมนุษย์ ยกตัวอย่าง
โรคตา่ ง ๆ ท่ีเกย่ี วขอ้ ง และบอกแนวทางในการดูแลปอ้ งกันและรักษา
๘. สังเกตและอธบิ ายการหาตำแหน่งของ จุดบอด โฟเวีย และความไวในการรับสัมผสั ของผิวหนงั
๙. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทยี บโครงสรา้ งและหน้าที่ของอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนท่ี
ของแมงกะพรุน หมึก ดาวทะเล ไส้เดอื นดิน แมลง ปลา และนก
๑๐. สืบค้นข้อมูลและอธิบายโครงสร้างและหน้าที่ของกระดูกและกล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้องกับการ
เคล่อื นไหวและการเคลอื่ นที่ของมนุษย์
๑๑. สังเกตและอธิบายการทำงานของข้อต่อชนิดต่าง ๆ และการทำงานของกล้ามเนื้อโครงร่างท่ี
เก่ยี วขอ้ งกับการเคล่ือนไหวและการเคลื่อนที่ของมนุษย์
๑๒. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่าง การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศและการสืบพันธุ์แบบอาศัย
เพศในสัตว์
๑๓. สืบค้นข้อมลู อธิบายโครงสรา้ งและหนา้ ท่ีของอวยั วะในระบบสบื พนั ธุเ์ พศชายและระบบสืบพันธ์ุ
เพศหญิง
๑๔. อธบิ ายกระบวนการสร้างสเปิร์ม กระบวนการสรา้ งเซลล์ไข่ และการปฏสิ นธใิ นมนุษย์
๑๕. อธบิ ายการเจริญเติบโตระยะเอม็ บรโิ อและระยะหลงั เอ็มบรโิ อของกบ ไก่ และมนษุ ย์
๑๖. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเขียนแผนผังสรุปหน้าทีข่ องฮอร์โมนจากต่อมไร้ท่อและเนื้อเยื่อที่สร้าง
ฮอร์โมน
๑๗. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างพฤติกรรมที่เป็นมาแต่กำเนิดและพฤติกรรม
ทีเ่ กดิ จากการเรยี นรู้ของสัตว์
๑๘. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอย่างความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับวิวัฒนาการของ
ระบบประสาท
๑๙. สืบคน้ ข้อมลู อธบิ าย และยกตวั อยา่ งการสอ่ื สารระหว่างสตั วท์ ่ที ำใหส้ ตั วแ์ สดงพฤติกรรม
งานพฒั นาวชิ าการ และหลักสูตรสถานศึกษา โรงเรียนภทั รญาณวทิ ยา
225
หลักสูตรโรงเรียนภทั รญาณวิทยา พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560)
สาระชีววิทยา
5. เข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับระบบนิเวศ กระบวนการถ่ายทอดพลังงานและการหมุนเวียนสาร ในระบบ
นิเวศ ความหลากหลายของไบโอม การเปลี่ยนแปลงแทนที่ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ ประชากร
และรูปแบบการเพิ่มของประชากร ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหา และผลกระทบ
ท่เี กิดจากการใช้ประโยชน์ และแนวทางการแก้ไขปญั หา
ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4
-
ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 5
-
ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6
๑. วิเคราะห์ อธิบาย และยกตัวอย่างกระบวนการถ่ายทอดพลังงานในระบบนเิ วศ
๒. อธบิ าย ยกตวั อยา่ งการเกดิ ไบโอแมกนิฟเิ คชัน และบอกแนวทางในการลดการเกดิ ไบโอแมกนฟิ ิเคชัน
๓. สืบค้นข้อมูล และเขียนแผนภาพเพื่ออธิบายวัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกำมะถันและวัฏจักร
ฟอสฟอรัส
๔. สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และอธิบายลักษณะของไบโอมที่กระจายอยู่ตามเขตภูมิศาสตร์ต่าง ๆ
บนโลก
๕. สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง อธิบาย และเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงแทนที่แบบปฐมภูมิและ
การเปลยี่ นแปลงแทนทแ่ี บบทตุ ยิ ภมู ิ
๖. สืบค้นข้อมูล อธิบาย ยกตัวอย่างและสรุปเกี่ยวกับลักษณะเฉพาะของประชากรของสิ่งมีชีวิต
บางชนิด
๗. สบื คน้ ข้อมลู อธิบาย เปรียบเทยี บ และยกตัวอย่างการเพิ่มของประชากรแบบเอ็กโพเนนเชียลและ
การเพม่ิ ของประชากรแบบลอจสิ ตกิ
๘. อธบิ ายและยกตวั อย่างปัจจยั ทค่ี วบคมุ การเตบิ โตของประชากร
๙. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหา การขาดแคลนน้ำ การเกิดมลพิษทางน้ำและผลกระทบที่มีตอ่
มนษุ ยแ์ ละส่ิงแวดล้อม รวมทงั้ เสนอแนวทางการวางแผนการจดั การน้ำและการแก้ไขปญั หา
๑๐. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหามลพิษทางอากาศ และผลกระทบที่มีต่อมนุษย์และส่ิงแวดล้อม
รวมทงั้ เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหา
๑๑. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหาที่เกิดกับทรัพยากรดิน และผลกระทบที่มีต่อมนุษย์และ
สิ่งแวดล้อม รวมท้งั เสนอแนวทางการแกไ้ ขปญั หา
งานพฒั นาวชิ าการ และหลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรยี นภทั รญาณวิทยา
226
หลกั สตู รโรงเรยี นภทั รญาณวทิ ยา พุทธศักราช 2565
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560)
๑๒. วเิ คราะห์ อภปิ ราย และสรุปปัญหาผลกระทบท่เี กิดจากการทำลายป่าไม้ รวมทั้งเสนอแนวทางใน
การป้องกันการทำลาย ป่าไมแ้ ละการอนุรักษป์ า่ ไม้
๑๓. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหาผลกระทบที่ทำให้สัตว์ป่ามีจำนวนลดลง และแนวทางใน
การอนรุ ักษ์สตั วป์ ่า
สาระเคมี
๑. เข้าใจโครงสรา้ งอะตอม การจัดเรียงธาตใุ นตารางธาตุ สมบตั ิของธาตุ พันธะเคมีและสมบัติของสาร
แก๊สและสมบัติของแก๊ส ประเภทและสมบัติของสารประกอบอินทรีย์และพอลิเมอร์ รวมท้ัง
การนำความรูไ้ ปใช้ประโยชน์
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4
1. สืบค้นข้อมูลสมมติฐาน การทดลอง หรือผลการทดลองที่เป็นประจักษ์พยานในการเสนอ
แบบจำลองอะตอมของนักวิทยาศาสตร์ และอธิบายววิ ัฒนาการของแบบจำลองอะตอม
2. เขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุและระบุจำนวนโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอนของอะตอม
จากสัญลักษณน์ ิวเคลียร์ รวมทงั้ บอกความหมายของไอโซโทป
3. อธิบายและเขียนการจัดเรียงอิเล็กตรอน ในระดับพลังงานหลัก และระดับพลังงานย่อยเมื่อทราบ
เลขอะตอมของธาตุ
4. ระบุหมู่ คาบ ความเป็นโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ของธาตุเรพรีเซนเททีฟ และธาตุแทรนซิชัน
ในตารางธาตุ
5. วิเคราะห์และบอกแนวโนม้ สมบตั ขิ องธาตเุ รพรีเซนเททีฟตามหมูแ่ ละตามคาบ
6. บอกสมบตั ขิ องธาตุโลหะแทรนซชิ นั และเปรียบเทยี บสมบัติกบั ธาตโุ ลหะในกลุ่มธาตุเรพรเี ซนเททีฟ
7. อธิบายสมบัตแิ ละคำนวณคร่งึ ชีวิตของไอโซโทปกัมมันตรังสี
8. สืบค้นข้อมูลและยกตัวอย่างการนำธาตุมาใช้ประโยชน์ รวมทั้งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและ
สง่ิ แวดลอ้ ม
9. อธิบายการเกิดไอออนและการเกิดพันธะ ไอออนิก โดยใช้แผนภาพ หรือสัญลักษณ์แบบจุดของ
ลวิ อิส
10. เขยี นสตู รและเรยี กชอ่ื สารประกอบไอออนกิ
11. คำนวณพลงั งาน ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับปฏิกิรยิ าการเกดิ สารประกอบไอออนิกจากวฏั จักรบอร์น-ฮาเบอร์
12. อธิบายสมบตั ิของสารประกอบไอออนกิ
13. เขยี นสมการไอออนกิ และสมการไอออนกิ สุทธิของปฏิกิริยาของสารประกอบไอออนิก
14. อธิบายการเกดิ พันธะโคเวเลนตแ์ บบพนั ธะเด่ยี ว พันธะคู่ และพนั ธะสาม ด้วยโครงสรา้ งลวิ อสิ
15. เขียนสูตรและเรยี กช่อื สารโคเวเลนต์
งานพฒั นาวิชาการ และหลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนภัทรญาณวิทยา
227
หลักสตู รโรงเรยี นภทั รญาณวิทยา พทุ ธศักราช 2565
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
16. วิเคราะห์และเปรียบเทียบความยาวพันธะและพลังงานพันธะในสารโคเวเลนต์ รวมทั้งคำนวณ
พลังงานทีเ่ กย่ี วขอ้ งกับปฏิกิรยิ าของสารโคเวเลนตจ์ ากพลังงาน พันธะ
17. คาดคะเนรูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์โดยใช้ทฤษฎีการผลักระหว่างคู่อิเล็กตรอนในวงเวเลนซ์และ
ระบุสภาพขว้ั ของโมเลกุลโคเวเลนต์
18. ระบุชนิดของแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลโคเวเลนต์ และเปรียบเทียบจุดหลอมเหลว จุดเดือด
และการละลายน้ำของสารโคเวเลนต์
19. สบื ค้นข้อมูลและอธิบายสมบตั ิของสารโคเวเลนตโ์ ครงร่างตาข่ายชนดิ ตา่ ง ๆ
20. อธิบายการเกิดพันธะโลหะและสมบตั ขิ องโลหะ
21. เปรียบเทยี บสมบัตบิ างประการของสารประกอบไอออนิก สารโคเวเลนต์ และโลหะ สืบคน้ ข้อมูล
และนำเสนอตวั อย่างการใชป้ ระโยชนข์ องสารประกอบไอออนกิ สารโคเวเลนต์ และโลหะไดอ้ ยา่ ง
เหมาะสม
ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 5
๑. อธิบายความสัมพันธ์และคำนวณปริมาตร ความดัน หรืออุณหภูมิของแก๊สที่ภาวะต่าง ๆ
ตามกฎของบอยล์ กฎของชาร์ล กฎของ เกย์–ลูสแซก
๒. คำนวณปริมาตร ความดัน หรืออุณหภมู ิ ของแกส๊ ทีภ่ าวะต่าง ๆ ตามกฎรวมแกส๊
๓. คำนวณปริมาตร ความดัน อุณหภูมิ จำนวนโมล หรือมวลของแก๊สจากความสัมพันธ์ตามกฎของ
อาโวกาโดร และกฎแกส๊ อดุ มคติ
๔. คำนวณความดนั ย่อยหรอื จำนวนโมลของแก๊สในแกส๊ ผสมโดยใชก้ ฎความดันย่อยของดอลตัน
๕. อธิบายการแพร่ของแก๊สโดยใช้ทฤษฎีจลน์ของแก๊ส คำนวณและเปรียบเทียบอัตราการแพร่
ของแก๊สโดยใช้กฎการแพรผ่ า่ นของเกรแฮม
๖. สืบค้นข้อมูล นำเสนอตัวอย่าง และอธิบายการประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับสมบัติและกฎต่าง ๆ
ของแกส๊ ในการอธบิ ายปรากฏการณ์ หรือแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวันและในอตุ สาหกรรม
ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6
๑. สืบค้นข้อมูลและนำเสนอตัวอย่างสารประกอบอินทรีย์ทีม่ ีพันธะเด่ียว พันธะคู่หรือพันธะสามท่พี บ
ในชวี ิตประจำวัน
๒. เขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส สูตรโครงสร้างแบบย่อ และสูตรโครงสร้างแบบเส้นของสารประกอบ
อนิ ทรยี ์
๓. วเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งและระบุประเภทของสารประกอบอนิ ทรยี ์จากหมูฟ่ ังกช์ นั
๔. เขียนสตู รโครงสรา้ งและเรียกชื่อสารประกอบอนิ ทรยี ป์ ระเภทตา่ ง ๆ ท่ีมหี มู่ฟงั กช์ ันไม่เกิน ๑ หมู่
ตามระบบ IUPAC
งานพัฒนาวิชาการ และหลักสตู รสถานศึกษา โรงเรยี นภทั รญาณวทิ ยา
228