สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง 65
ได้ไม่ชัดเจน และ วัตถุทบึ แสงทำใหม้ องไมเ่ หน็ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น
รของเอกภพ กาแลก็ ซีดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมท้งั ปฏสิ มั พันธภ์ ายใน
าระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่นิ
องโลก โดยดวงจนั ทร์หมุนรอบตัวเองขณะโคจร -
น รอบตวั เองดว้ ยเชน่ กัน การหมุนรอบตวั เอง
ไปทิศตะวนั ออกในทิศทางทวนเข็มนาฬกิ าเมื่อ -
ใหม้ องเหน็ ดวงจนั ทร์ปรากฏข้นึ ทางดา้ นทศิ
นทศิ ตะวันตกหมนุ เวยี นเปน็ แบบรูปซำ้ ๆ
ป็นทรงกลม แต่รูปร่างของดวงจนั ทร์ทมี่ องเห็น
วงจนั ทร์บนท้องฟา้ แตกต่างกนั ไปในแต่ละวัน โดย
มีรูปรา่ งปรากฏเป็นเสยี้ วที่มขี นาดเพ่มิ ขน้ึ อย่าง
นน้ั รูปร่างปรากฏของดวงจนั ทร์จะแหวง่ และมี
งจนมองไม่เหน็ ดวงจันทร์ จากนั้นรปู ร่างปรากฏ
วใหญ่ขึน้ จนเต็มดวงอกี ครั้ง การเปลี่ยนแปลง
ทุกเดือน
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศกั ราช 2564 โรงเรียนแกว้ อินทร์สุธาอุทิศ
รหัสตัวช้ีวดั ตวั ชี้วัด สา
ว 3.1 ป.4/3 3. สร้างแบบจำลองแสดงองค์ประกอบ - ระบบสรุ ิยะเป็นระบบท
ของระบบสุรยิ ะ และอธิบาย ประกอบด้วย ดาวเคราะห
เปรยี บเทียบคาบ การโคจรของดาว ขนาดและระยะหา่ งจากด
เคราะห์ตา่ ง ๆ จากแบบจำลอง เคราะห์แคระ ดาวเคราะห
อย่รู อบดวงอาทิตย์ วตั ถุข
เน่อื งจากแรงโน้มถว่ งของ
อกุ กาบาต
สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวน
เปลีย่ นแปลงลมฟา้ อากาศและภมู ิอากาศโลกรวมทง้ั ผลต่อส่ิงมีชีวติ และสิ่งแวดล้อม
รหัสตัวช้ีวัด ตัวช้วี ัด
--
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่ม
คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้า
เหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สงั คม และสง่ิ แวดล้อม
รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชว้ี ดั
--
หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้วิท
าระการเรยี นรู้แกนกลาง 66
ทมี่ ีดวงอาทติ ย์เป็นศนู ยก์ ลางและมีบรวิ าร
ห์แปดดวงและบริวาร ซงึ่ ดาวเคราะห์แตล่ ะดวงมี สาระการเรียนร้ทู ้องถ่ิน
ดวงอาทิตย์แตกตา่ งกัน และยงั ประกอบด้วย ดาว -
ห์น้อย ดาวหาง และวัตถขุ นาดเล็กอ่นื ๆ โคจร
ขนาดเลก็ อ่นื ๆ เมื่อเข้ามาในชนั้ บรรยากาศ
งโลก ทำใหเ้ กดิ เป็นดาวตกหรือผีพุ่งไต้และ
นการเปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการ
ม
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่
--
มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์
างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อย่าง
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรูท้ ้องถน่ิ
- -
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศกั ราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อินทรส์ ุธาอุทิศ
สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปัญหาที่พบในชีวิตจร
ในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธิภาพ รูเ้ ท่าทัน และมจี
รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชีว้ ัด
ว 4.2 ป.4/1 1. ใช้เหตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หา - การใชเ้ หตุผลเชิงตรร
การอธบิ ายการทำงาน การคาดการณ์ ทุกกรณีมาใช้พจิ ารณา
ผลลัพธ์ จากปัญหาอยา่ งง่าย คาดการณ์ผลลพั ธ์
- สถานะเรมิ่ ตน้ ของกา
- ตวั อยา่ งปญั หา เช่น
ตัวละครหลายตัวและ
กัน, การเดินทางไปโรง
ว 4.2 ป.4/2 2. ออกแบบ และเขยี นโปรแกรมอย่างง่าย - การออกแบบโปรแก
โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ หรอื ส่ือ และตรวจหา หรือการออกแบบอัลก
ข้อผิดพลาดและแก้ไข - การเขยี นโปรแกรมเป
เพื่อให้ได้ผลลพั ธต์ าม
ทำงานทลี ะคำส่งั เม่ือ
จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่
- ตัวอย่างโปรแกรมท่ีม
สน้ั เล่ากิจวตั รประจำว
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ
67
ริงอย่างเป็นขัน้ ตอนและเป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
จริยธรรม
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรูท้ ้องถน่ิ
รกะเป็นการนำกฎเกณฑ์ หรือเงือ่ นไขทคี่ รอบคลุม -
าในการแกป้ ญั หา การอธิบายการทำงาน หรอื การ
ารทำงานทแี่ ตกต่างกนั จะใหผ้ ลลพั ธ์ท่ีแตกตา่ งกนั
เกม OX, โปรแกรมทีม่ ี การคำนวณ, โปรแกรมท่มี ี
มีการสงั่ งานที่แตกตา่ ง หรือมีการสื่อสารระหวา่ ง
งเรยี นโดยวิธกี ารต่าง ๆ
กรมอย่างง่าย เช่น การออกแบบโดยใช้ storyboard
กอรทิ มึ
ปน็ การสรา้ งลำดบั ของคำสงั่ ให้คอมพวิ เตอร์ทำงาน
ความต้องการ หากมขี ้อผิดพลาดใหต้ รวจสอบ การ
อพบจดุ ท่ีทำใหผ้ ลลพั ธ์ ไม่ถูกต้อง ให้ทำการแก้ไข
ถกู ต้อง
มเี รอ่ื งราว เชน่ นทิ านท่มี ี การตอบโต้กับผู้ใช้ การต์ ูน
วนั ภาพเคลือ่ นไหว
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศกั ราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทร์สธุ าอทุ ศิ
รหสั ตวั ชี้วัด ตวั ชว้ี ดั
3. ใช้อนิ เทอร์เนต็ คน้ หาความรู้ และ การฝึกตรวจหาข้อผดิ พ
ประเมนิ ความน่าเชื่อถือของข้อมลู การหาสำเหตุของปญั ห
-ซอฟต์แวรท์ ี่ใชใ้ นการ
4. รวบรวม ประเมิน นำเสนอข้อมูลและ - การใช้คำคน้ ทต่ี รงปร
สารสนเทศ โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ท่ีหลากหลาย ตรงตามความต้องการ
เพือ่ แกป้ ัญหาในชวี ิตประจำวัน - การประเมินความน่า
เวบ็ ไซต์ ผ้เู ขียน วันท
- เมือ่ ได้ขอ้ มูลทตี่ ้องกา
เปรียบเทียบ แล้วเลือก
- การทำรายงานหรือก
สรุป เปน็ ภาษาของตน
นำเสนอ (บรู ณาการก
- การรวบรวมข้อมูล ท
การจดบนั ทกึ
- การประมวลผลอยา่
ผลรวม
- วเิ คราะห์ผลและสร้า
(เปรยี บเทียบ ตดั สนิ )
- การนำเสนอข้อมลู ท
บอกเล่า เอกสารรายง
หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้วิท
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 68
พลาดจากโปรแกรมของผู้อ่ืนจะช่วยพัฒนาทกั ษะ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน
หาได้ดยี ่ิงขึ้น
รเขยี นโปรแกรม เช่น Scratch, logo
ระเด็น กระชับ จะทำให้ได้ ผลลพั ธท์ ่ีรวดเร็วและ
ร
าเชอื่ ถอื ของข้อมูล เช่น พจิ ารณาประเภทของ
ทเ่ี ผยแพร่ข้อมลู การอ้างอิง
ารจากเว็บไซตต์ า่ ง ๆ จะตอ้ งนำเนือ้ หามาพิจารณา
กขอ้ มูล ท่มี คี วามสอดคล้องและสัมพนั ธ์กนั
การนำเสนอข้อมลู จะต้อง นำข้อมลู มาเรียบเรยี ง
นเอง ที่เหมาะสมกบั กล่มุ เป้าหมายและวธิ ีการ
กบั วิชาภาษไทย)
ทำได้โดยกำหนดหัวขอ้ ที่ตอ้ งการ เตรียมอุปกรณใ์ น
างง่าย เชน่ เปรยี บเทียบ จดั กล่มุ เรียงลำดับ การหา
างทางเลือกท่ีเป็นไปได้ ประเมนิ ทางเลือก
ทำไดห้ ลายลักษณะตาม ความเหมาะสม เชน่ การ
งาน โปสเตอร์ โปรแกรมนำเสนอ
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศกั ราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อินทรส์ ุธาอทุ ิศ
รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ช้วี ดั
5. ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย - การใช้ซอฟต์แวร์เพื่อ
เขา้ ใจสทิ ธแิ ละหนา้ ที่ของตน เคารพใน เมนูอาหารกลางวนั โด
สทิ ธิของผู้อนื่ แจ้งผเู้ ก่ยี วข้องเมื่อพบข้อมลู ซอฟตแ์ วร์ตารางทำงา
หรอื บคุ คลที่ไม่เหมาะสม คุณคา่ ทางโภชนาการแ
นำเสนอผลการสำรวจ
โภชนาการ
- การใชเ้ ทคโนโลยีสาร
เคารพในสิทธขิ องผู้อ่ืน
ความเดอื ดร้อนต่อผอู้ ืน่
ข้อมลู สว่ นตวั ของผูอ้ ืน่
การบ้านของบุคคลอน่ื
บญั ชีของผู้อื่น
- การส่อื สารอยา่ งมีมา
- การปกป้องข้อมูลส่ว
รหสั ผ่าน ไม่บอกเลขป
หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 69
อแกป้ ญั หาในชีวิตประจำวนั เช่น การสำรวจ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ
ดยใช้ซอฟต์แวรส์ ร้างแบบสอบถามและเกบ็ ขอ้ มูล ใช้
านเพื่อประมวลผลข้อมลู รวบรวมข้อมูลเกีย่ วกับ
และสรา้ งรายการอาหารสำหรับ 5 วัน ใชซ้ อฟต์แวร์
จ รายการอาหารทเ่ี ป็นทางเลือก และข้อมูลดา้ น
รสนเทศอยา่ งปลอดภัย เข้าใจสทิ ธิและหนา้ ที่ของตน
น เชน่ ไมส่ ร้างขอ้ ความเท็จและส่งให้ผูอ้ ่ืน ไม่สรา้ ง
นโดยการสง่ สแปม ข้อความลูกโซ่ ส่งต่อโพสต์ท่ีมี
น สง่ คำเชิญเล่นเกม ไม่เขา้ ถึงข้อมูลส่วนตวั หรือ
นโดยไม่ไดร้ ับอนุญาต ไม่ใชเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์/ ชอ่ื
ารยาทและรกู้ าลเทศะ
วนตวั เชน่ การออกจากระบบเมื่อเลิกใช้งาน ไม่บอก
ประจำตัวประชำชน
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศกั ราช 2564 โรงเรียนแกว้ อนิ ทร์สุธาอทุ ศิ
ตวั ชว้ี ดั และสาระการเ
ช้ันประถมศกึ ษ
สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่าง
ตา่ งๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การเปลยี่ นแปลงแทนทีใ่ นระบบนิเวศ ค
และส่ิงแวดล้อม แนวทางในการอนรุ ักษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ ละการแกไ้ ขปัญหาสิ่ง
รหสั ตัวชี้วัด ตวั ชีว้ ัด
ว 1.1 ป.5/1 1. บรรยายโครงสรา้ งและลักษณะของสงิ่ มชี วี ิต - สิง่ มชี วี ิตทั้งพชื แ
ทเ่ี หมาะสมกบั การดำรงชีวติ ซ่ึงเปน็ ผลมาจาก ละแหล่งที่อยู่ ซง่ึ
การปรับตวั ของสิ่งมีชวี ิตในแต่ละแหลง่ ที่อยู่ ดำรงชีวิตและอย
อากาศในก้านใบ
มรี ากคำ้ จุนทำให
ว 1.1 ป.5/2 2. อธิบายความสมั พันธร์ ะหว่างสิ่งมชี วี ิตกบั - ในแหลง่ ที่อยหู่ น
สิ่งมชี ีวติ และความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งส่ิงมีชีวิตกับ สัมพันธ์กับส่งิ ไม่ม
ความสัมพนั ธก์ ัน
ว 1.1 ป.5/3 3. เขียนโซอ่ าหารและระบุบทบาทหนา้ ทีข่ อง หลบภยั และเล้ียง
ส่งิ มชี วี ิตทีเ่ ปน็ ผผู้ ลติ และผบู้ รโิ ภคในโซ่อาหาร
หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรู้วิท
70
เรียนรู้แกนกลาง
ษาปที ่ี 5
งสิ่งไม่มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต
ความหมายของประชากรปญั หาและผลกระทบท่ีมตี ่อทรัพยากรธรรมชาติ
งแวดลอ้ มรวมทั้งนำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน
และสัตวม์ โี ครงสรา้ งและลกั ษณะ ท่เี หมาะสมในแต่ -
งเปน็ ผลมาจาก การปรับตัวของส่ิงมีชีวิต เพื่อให้
ย่รู อดได้ในแต่ละแหลง่ ที่อยู่ เช่น ผักตบชวามีชอ่ ง
ชว่ ยใหล้ อยน้ำได้ ต้นโกงกางที่ขึ้นอยู่ใน ป่าชายเลน
ห้ลำตน้ ไมล่ ้ม ปลามีครีบช่วยในการเคลื่อนท่ีในนำ้
นึ่ง ๆ สิง่ มีชวี ิตจะมคี วามสมั พนั ธ์ ซ่ึงกันและกนั และ - สำรวจ และอธบิ ายความสัมพันธ์
มีชวี ติ เพ่ือประโยชนต์ อ่ การดำรงชีวติ เช่น ของสิ่งมีชวี ติ ที่พบในโรงเรียน และ
ด้านการกินกนั เปน็ อาหาร เปน็ แหลง่ ทีอ่ ยู่อาศัย บรเิ วณบา้ น
งดูลกู อ่อน ใช้อากาศในการหายใจ
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศกั ราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอุทศิ
รหัสตวั ชี้วดั ตวั ช้ีวดั - ส่งิ มีชีวติ มกี ารก
ว 1.1 ป.5/4 4. ตระหนักในคุณค่าของส่ิงแวดล้อมทีม่ ตี ่อ รูปแบบของโซ่อา
การดำรงชวี ิตของสง่ิ มชี วี ิต โดยมีสว่ นร่วม ใน เปน็ ผ้ผู ลิตและผู้บ
การดแู ลรักษาสง่ิ แวดลอ้ ม
สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัติของส่ิงมีชีวิต หนว่ ยพน้ื ฐานของสิ่งมีชีวติ การลำเล
ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท
ประโยชน์
รหสั ตัวช้ีวัด ตัวชว้ี ดั
--
สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสำคัญของการถา่ ยทอดลักษณะทา
สงิ่ มีชวี ิต ความหลากหลายทางชวี ภาพและววิ ัฒนาการของสิ่งมชี ีวิต รวมทั้งนำควา
รหัสตัวชี้วดั ตัวช้ีวดั
ว 1.2 ป.5/1 1. อธบิ ายลักษณะทางพันธกุ รรมที่มกี าร - สงิ่ มชี ีวติ ทัง้ พืช สัตว์ แ
ถา่ ยทอดจากพ่อแมส่ ่ลู กู ของพืช สตั ว์ จำนวนและดำรงพันธุ์ โด
และมนุษย์
หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ
71
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น
กนิ กนั เปน็ อาหารโดยกนิ ต่อกัน เปน็ ทอด ๆ ใน - เขยี นโซ่อาหารแสดงความสมั พนั ธ์
าหารทำให้สามารถระบบุ ทบาทหนา้ ทีข่ องสิ่งมีชวี ิต ของสง่ิ มชี วี ติ ภายในโรงเรียน และ
บรโิ ภค บรเิ วณบ้าน
ลยี งสารผา่ นเซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าที่ของระบบต่าง ๆ
ที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชท่ี ทำงานสัมพันธ์กันรวมทั้งนำความรู้ไปใช้
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่
- -
างพนั ธุกรรม สารพนั ธกุ รรม การเปลี่ยนแปลงทางพนั ธกุ รรมท่ีมผี ลต่อ
ามรู้ไปใช้ประโยชน์
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถน่ิ
และมนุษย์ เมือ่ โตเตม็ ท่จี ะมกี ารสบื พันธุ์เพ่อื เพิ่ม -
ดยลกู ท่เี กิดมาจะไดร้ บั การถ่ายทอดลกั ษณะทาง
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปีพุทธศักราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ุธาอุทศิ
รหัสตัวช้ีวัด ตวั ช้วี ดั พันธุกรรมจากพ่อแม่ทำใ
ว 1.2 ป.5/2 2. แสดงความอยากร้อู ยากเห็นโดยการ สงิ่ มชี ีวิตชนดิ อ่ืน
ถามคำถามเกีย่ วกบั ลกั ษณะท่ีคล้ายคลงึ - พืชมีการถ่ายทอดลักษ
กันของตนเองกับพ่อแม่ - สตั ว์มกี ารถา่ ยทอดลกั ษ
ลักษณะของหู
- มนุษย์มกี ารถ่ายทอดล
ลักษณะหนังตำ การหอ่ ล
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพันธร์ ะห
และธรรมชาตขิ องการเปลยี่ นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเก
รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชีว้ ัด
ว 2.1 ป.5/1 1. อธบิ ายการเปลยี่ นสถานะของสสาร - การเปลย่ี นสถานะของ
เมือ่ ทำให้สสารร้อนขนึ้ หรือเย็นลง โดยใช้ ความรอ้ นให้กบั สสารถงึ
หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ สถานะเป็นของเหลว เร
จนถงึ อีกระดบั หนึ่งของเ
แต่เมอ่ื ลดความรอ้ นลงถ
เรยี กวา่ การควบแนน่ แ
ของเหลวจะเปล่ยี นสถา
หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนร้วู ิท
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 72
ให้มลี ักษณะทางพนั ธกุ รรมทเี่ ฉพาะแตกตา่ งจาก
สาระการเรียนรทู้ ้องถนิ่
ษณะทางพนั ธุกรรม เช่น ลักษณะของใบ สีดอก -
ษณะทางพนั ธุกรรม เช่น สขี น ลกั ษณะของขน
ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม เชน่ เชิงผมท่ีหน้าผาก ลักยมิ้
ลิน้ ลกั ษณะของตงิ่ หู
หวา่ งสมบัตขิ องสสารกับโครงสรา้ งและแรงยึดเหนี่ยวระหวา่ งอนุภาค หลัก
กดิ ปฏิกริ ยิ าเคมี
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถ่นิ
งสสารเป็นการเปล่ยี นแปลงทางกายภาพ เมื่อเพมิ่ -
งระดบั หนึง่ จะทำให้สสารท่เี ปน็ ของแขง็ เปลยี่ น
รียกวา่ การหลอมเหลว และเม่ือเพ่มิ ความรอ้ นต่อไป
เหลวจะเปลย่ี นเป็นแก๊ส เรยี กวา่ การกลายเปน็ ไอ
ถงึ ระดับหนง่ึ แกส๊ จะเปลย่ี นสถานะเปน็ ของเหลว
และถ้าลดความร้อนต่อไปอีกจนถึงระดบั หน่ึง
านะเป็นของแข็ง เรยี กว่า การแข็งตัว สสารบางชนดิ
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศกั ราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทร์สุธาอทุ ิศ
รหัสตวั ชี้วดั ตวั ชี้วดั
ว 2.1 ป.5/2
ว 2.1 ป.5/3 สามารถเปล่ียนสถานะจ
ว 2.1 ป.5/4 เรียกวา่ การระเหิด สว่ น
โดยไมผ่ ่าน การเป็นของ
2. อธบิ ายการละลายของสารในน้ำ โดย - เม่อื ใสส่ ารลงในน้ำแลว้
ใชห้ ลักฐานเชิงประจกั ษ์ วา่ สารเกดิ การละลาย เร
3. วิเคราะหก์ ารเปลี่ยนแปลงของสาร - เม่ือผสมสาร 2 ชนิดข้นึ
เม่อื เกิดการเปล่ยี นแปลงทางเคมี โดยใช้ หรือเมื่อสารชนดิ เดียว เก
หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ เปลย่ี นแปลงนเ้ี รียกว่า ก
ตา่ งจากสารเดิม หรือ มีฟ
ลดลงของอุณหภูมิ
4. วเิ คราะห์และระบุการเปลี่ยนแปลงที่ เมื่อสารเกิดการเปลยี่ นแ
ผันกลบั ไดแ้ ละการเปลี่ยนแปลงทผ่ี ันกลบั เปน็ การเปลยี่ นแปลงท่ีผ
ไมไ่ ด้ การละลาย แตส่ ารบางอ
กลับเปน็ สารเดิมได้ เปน็
การเกดิ สนมิ
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 73
จากของแขง็ เปน็ แกส๊ โดยไมผ่ า่ นการเปน็ ของเหลว สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่นิ
นแกส๊ บางชนดิ สามารถเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง
งเหลว เรยี กว่า การะเหดิ กลับ -
วสารนั้นรวมเป็นเนอ้ื เดียวกันกับนำ้ ท่ัวทกุ สว่ น แสดง -
รยี กสารผสมท่ีได้ว่าสารละลาย
นไปแล้วมสี ารใหม่เกิดข้ึน ซง่ึ มสี มบัติต่างจากสารเดิม -
กิดการเปลย่ี นแปลงแล้วมสี ารใหมเ่ กดิ ขึ้น การ
การเปล่ียนแปลงทางเคมี ซ่งึ สังเกตได้จากมีสี หรือกลิ่น
ฟองแกส๊ หรือมีตะกอนเกดิ ข้ึน หรือมกี ารเพิ่มขึ้นหรอื
แปลงแลว้ สารสามารถเปล่ียนกลับเปน็ สารเดิมได้
ผันกลับได้ เช่น การหลอมเหลว การกลายเป็นไอ
อยา่ งเกิดการเปลี่ยนแปลง แลว้ ไมส่ ามารถเปลี่ยน
นการเปลย่ี นแปลงทผ่ี นั กลบั ไม่ได้ เช่น การเผาไหม้
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศักราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อินทร์สุธาอทุ ิศ
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงท่ีกระทำต่อ
ประโยชน์
รหัสตวั ชี้วดั ตัวชว้ี ัด ส
ว 2.1 ป.5/1 1. อธิบายวธิ กี ารหาแรงลัพธข์ องแรง - แรงลัพธเ์ ป็นผลรวมขอ
หลายแรงในแนวเดียวกนั ที่กระทำต่อ แรงที่กระทำต่อวัตถเุ ดยี
วตั ถใุ นกรณีทีว่ ัตถอุ ยนู่ ิ่งจากหลกั ฐานเชงิ แรงท้ังสอง อย่ใู นแนวเด
ประจกั ษ์ เทา่ กับผลต่างของแรงทัง้
ว 2.1 ป.5/2 2. เขยี นแผนภาพแสดงแรงท่ีกระทำต่อ ทางตรงขา้ มกัน สำหรบั ว
วัตถทุ ่ีอยใู่ นแนวเดียวกนั และแรงลัพธท์ ่ี ศนู ย์
กระทำต่อวตั ถุ - การเขียนแผนภาพของ
ว 2.1 ป.5/3 3. ใช้เคร่อื งชั่งสปรงิ ในการวดั แรงท่ี ลกู ศร โดยหัวลกู ศรแสด
กระทำต่อวัตถุ ขนาดของแรงท่ีกระทำต
ว 2.1 ป.5/4 4. ระบผุ ลของแรงเสียดทานที่มตี ่อ การ - แรงเสยี ดทานเปน็ แรงท
เปลย่ี นแปลงการเคลื่อนทขี่ องวัตถุจาก เคลอื่ นที่ของวตั ถุน้นั โดย
หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ใหเ้ คลื่อนที่ แรงเสยี ดทา
ว 2.1 ป.5/5 5. เขียนแผนภาพแสดงแรงเสยี ดทาน แต่ถ้ำวตั ถุกำลังเคล่ือนท
และแรง ท่ีอยู่ในแนวเดียวกนั ท่กี ระทำ หรือหยุดนง่ิ
ตอ่ วัตถุ
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ
74
วัตถุ ลกั ษณะการเคล่อื นทีแ่ บบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมท้ังนำความรู้ไปใช้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่
องแรงท่ีกระทำต่อวตั ถุ โดยแรงลัพธ์ของแรง 2 -
ยวกันจะมีขนาดเท่ากบั ผลรวมของแรงทง้ั สองเม่ือ
ดียวกันและมที ิศทางเดียวกนั แตจ่ ะมีขนาด -
งสองเมื่อแรงทง้ั สอง อยใู่ นแนวเดียวกนั แต่มีทิศ
วตั ถุที่อยู่นิง่ แรงลัพธ์ท่ีกระทำต่อวัตถุมคี ่าเปน็
งแรงที่กระทำต่อวัตถสุ ามารถเขยี นไดโ้ ดยใช้ -
ดงทิศทางของแรง และความยาวของลกู ศรแสดง -
ต่อวัตถุ
-
ท่เี กดิ ขึน้ ระหว่างผิวสัมผัสของวตั ถุ เพือ่ ต้านการ
ยถา้ ออกแรงกระทำต่อวัตถุท่ีอย่นู งิ่ บนพนื้ ผวิ หน่ึง
านจากพื้นผวิ นั้นก็จะต้านการเคล่อื นท่ขี องวตั ถุ
ที่ แรงเสียดทานก็จะทำให้วตั ถุนัน้ เคลือ่ นท่ีชำ้ ลง
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศกั ราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทร์สุธาอุทิศ
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปล่ียนแปลงและการ
พลังงานในชวี ิตประจำวนั ธรรมชาตขิ องคล่นื ปรากฏการณ์ทเ่ี กีย่ วขอ้ งกับ
ประโยชน์
รหสั ตวั ชี้วดั ตวั ชวี้ ัด
ว 2.3 ป.5/1 1. อธบิ ายการได้ยินเสยี งผ่านตวั กลาง จาก - การได้ยินเสยี ง
หลักฐานเชิงประจักษ์ ของเหลว หรืออา
ว 2.3 ป.5/2 2. ระบุตวั แปร ทดลองและอธบิ าย ลักษณะ - เสียงทไ่ี ด้ยนิ มรี ะ
และการเกดิ เสยี งสูง เสียงต่ำ สน่ั ของแหลง่ กำเน
ว 2.3 ป.5/3 3. ออกแบบกำรทดลองและอธิบาย ลกั ษณะ ต่ำจะเกิดเสยี งต่ำ
และการเกิดเสยี งดัง เสยี งค่อย ดังค่อยท่ีไดย้ ินข้ึน
ว 2.3 ป 5/4 4. วัดระดับเสียงโดยใชเ้ ครื่องมือวัดระดบั เสียง เมอื่ แหลง่ กำเนดิ เ
ว 2.3 ป.5/5 5. ตระหนักในคุณค่ำของความร้เู ร่ืองระดบั เสียง แหล่งกำเนดิ เสยี ง
โดยเสนอแนะแนวทางในการหลีกเลย่ี งและลด - เสยี งดังมาก ๆ
มลพิษทางเสยี ง ความรำคาญเป็น
ความดังของเสียง
หลักสูตรกลุม่ สาระการเรียนรู้วิท
75
รถ่ายโอนพลังงาน ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งสสารและพลงั งาน
บเสียง แสง และคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟ้า รวมทั้งนำความรู้ไปใช้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่นิ
งน้นั ต้องอาศัยตัวกลางโดยอาจเป็นของแข็ง -
ากาศ เสยี งจะส่งผ่านตัวกลางมายังหู
ะดบั สูงต่ำของเสยี งตา่ งกันขน้ึ กับความถ่ีของการ -
นดิ เสยี ง โดยเม่ือแหล่งกำเนิดเสียงส่นั ด้วยความถ่ี
ำ แต่ถ้ำสน่ั ด้วยความถส่ี ูงจะเกิดเสียงสงู สว่ นเสยี ง
นกบั พลงั งานการสัน่ ของแหลง่ กำเนิดเสียง โดย
เสียงสั่นพลังงานมากจะเกิดเสยี งดัง แตถ่ ้า
งส่นั ดว้ ยพลงั งานน้อยจะเกดิ เสียงคอ่ ย
เปน็ อันตรายต่อการไดย้ ินและเสียงที่ก่อให้เกิด
นมลพิษทางเสียง เดซเิ บลเปน็ หน่วยทบ่ี อกถึง
ง
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศักราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทร์สุธาอุทศิ
สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองคป์ ระกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และวิวัฒนาการ
ระบบสุรยิ ะทส่ี ่งผลตอ่ สงิ่ มีชีวิตและการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ
รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชี้วดั ส
ว 3.1 ป.5/1 1. เปรยี บเทียบความแตกตา่ งของดาว - ดาวทม่ี องเห็นบนท้องฟ
เคราะหแ์ ละดาวฤกษ์จากแบบจำลอง บรรยากาศของโลกมีท้งั ด
แหลง่ กำเนดิ แสงจึงสามา
แหลง่ กำเนดิ แสง แตส่ าม
กระทบดาวเคราะห์แล้ว
ว 3.1 ป.5/2 2. ใช้แผนทีด่ าวระบตุ ำแหน่งและ - การมองเห็นกลุ่มดาวฤ
เสน้ ทาง การขึ้นและตกของกลุ่มดาว สงั เกต กลุ่มดาวฤกษต์ ่าง
ฤกษบ์ นท้องฟา้ และอธิบายแบบรูป ละดวงเรยี งกันท่ีตำแหน
เสน้ ทางการขนึ้ และตก ของกล่มุ ดาว เดิมทุกคนื ซึ่งจะปรากฏ
ฤกษ์บนทอ้ งฟา้ ในรอบปี ตกของดาวฤกษแ์ ละกลุม่
มมุ ทศิ และมุมเงยท่ีกลุม่ ด
ประมาณคา่ ของมุมเงยเม
หลักสูตรกลุม่ สาระการเรยี นรู้วิท
76
รของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพนั ธภ์ ายใน
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่
ฟา้ อยู่ในอวกาศซ่ึงเป็นบริเวณทอี่ ยู่นอก -
ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์เปน็
ารถมองเห็นได้ สว่ นดาวเคราะห์ ไม่ใช่ -
มารถมองเห็นไดเ้ น่อื งจากแสงจากดวงอาทติ ย์ตก
วสะท้อนเขา้ สู่ตำ
ฤกษม์ ีรูปรา่ งตา่ ง ๆ เกดิ จากจนิ ตนาการของผู้
ง ๆ ที่ปรากฏในทอ้ งฟา้ แต่ละกลมุ่ มีดาวฤกษแ์ ต่
นง่ คงที่ และมีเสน้ ทางการข้ึนและตกตามเส้นทาง
ฏตำแหน่งเดิมการสงั เกตตำแหนง่ และการขนึ้ และ
มดาวฤกษส์ ามารถทำไดโ้ ดยใชแ้ ผนทดี่ าว ซ่งึ ระบุ
ดาวน้ันปรากฏ ผู้สงั เกตสามารถใช้มือในการ
มื่อสงั เกตดาวในท้องฟา้
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพุทธศกั ราช 2564 โรงเรียนแกว้ อินทรส์ ธุ าอทุ ิศ
สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวน
เปล่ยี นแปลงลมฟา้ อากาศและภูมอิ ากาศโลกรวมทง้ั ผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวช้วี ดั
ว 3.2 ป.5/1 1. เปรียบเทยี บปริมาณนำ้ ในแต่ละแหลง่ - โลกมที ั้งนำ้ จืดและน
และระบปุ ริมาณนำ้ ที่มนุษยส์ ามารถ ดนิ เช่น ทะเล มหาสม
นำมาใชป้ ระโยชนไ์ ด้ จากขอ้ มลู ทร่ี วบรวม และน้ำบาดาล นำ้ ทั้งห
ได้ ซ่งึ อยใู่ นมหาสมทุ รแล
2.5 เป็นน้ำจืด ถ้ำเรยี ง
นำ้ แข็งและพืดน้ำแข็ง
ทะเลสาบ ความชนื้ ใน
สง่ิ มีชีวิต
ว 3.2 ป.5/2 2. ตระหนกั ถึงคณุ คา่ ของน้ำโดยนำเสนอ - นำ้ จดื ทีม่ นุษยน์ ำมาใ
แนวทาง การใช้น้ำอยา่ งประหยดั และการ ประหยดั และร่วมกนั อ
อนุรักษน์ ้ำ
ว 3.2 ป.5/3 3. สรา้ งแบบจำลองที่อธิบายการหมนุ เวียน - วัฏจกั รนำ้ เปน็ การห
ของน้ำในวฏั จักรนำ้ ระหวา่ งนำ้ ในบรรยาก
ดำรงชีวติ ของพชื และส
ว 3.2 ป.5/4 4. เปรียบเทยี บกระบวนการเกิดเมฆ - ไอนำ้ ในอากาศจะคว
หมอก น้ำคา้ ง และนำ้ คา้ งแขง็ จาก เชน่ เกลอื ฝนุ่ ละออง
แบบจำลอง จำนวนมากเกาะกลุ่มร
หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ
77
นการเปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการ
ม
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ
น้ำเคม็ ซ่ึงอย่ใู นแหล่งนำ้ ต่าง ๆ ทีม่ ีทัง้ แหลง่ นำ้ ผวิ -
มุทร บึง แมน่ ำ้ และแหล่งน้ำใต้ดิน เช่น น้ำในดิน
หมดของโลกแบง่ เป็นน้ำเค็มประมาณร้อยละ 97.5
ะแหลง่ นำ้ อ่นื ๆ และทเ่ี หลอื อกี ประมาณร้อยละ
งลำดบั ปริมาณนำ้ จดื จากมากไปน้อยจะอย่ทู ่ี ธาร
นำ้ ใตด้ ิน ชัน้ ดินเยอื กแข็งคงตัวและน้ำแข็งใต้ดิน
นดิน ความชน้ื ในบรรยากาศ บงึ แม่น้ำ และนำ้ ใน
ใชไ้ ด้มีปรมิ าณนอ้ ยมาก จงึ ควรใชน้ ำ้ อยา่ ง
อนุรักษน์ ้ำ
หมนุ เวยี นของน้ำทีม่ ีแบบรปู ซ้ำเดมิ และต่อเนื่อง
กาศ น้ำผิวดิน และน้ำใต้ดนิ โดยพฤติกรรมการ
สตั ว์ส่งผลตอ่ วัฏจักรน้ำ
วบแน่นเป็นละอองน้ำเล็ก ๆ โดยมีละอองลอย
เกสรดอกไม้ เปน็ อนุภาคแกนกลาง เมอื่ ละอองนำ้
รวมกันลอยอย่สู งู จากพื้นดินมาก เรียกวา่ เมฆ แต่
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศักราช 2564 โรงเรียนแกว้ อนิ ทรส์ ุธาอทุ ศิ
รหสั ตวั ชี้วัด ตวั ชี้วดั
ว 3.2 ป.5/5 5. เปรียบเทียบกระบวนการเกดิ ฝน หิมะ ละอองนำ้ ท่ีเกาะกลุ่มร
และลูกเหบ็ จากขอ้ มลู ท่ีรวบรวมได้ ควบแนน่ เปน็ ละอองน
น้ำค้าง ถำ้ อุณหภมู ิ ใก
นำ้ คา้ งแข็ง
- ฝน หิมะ ลกู เห็บ เป็น
ฟ้าถึงพื้นดนิ ฝน เกดิ จ
สามารถ
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่ม
คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้า
เหมาะสมโดยคำนงึ ถึงผลกระทบตอ่ ชีวิต สงั คม และสิง่ แวดลอ้ ม
รหัสตวั ช้ีวัด ตวั ชว้ี ัด
--
หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 78
รวมกนั อยู่ใกลพ้ ื้นดิน เรียกว่า หมอก สว่ นไอนำ้ ที่ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถนิ่
น้ำเกาะอยู่บนพื้นผวิ วตั ถใุ กล้พน้ื ดิน เรยี กว่า
กลพ้ ื้นดินต่ำกวา่ จุดเยือกแข็ง น้ำคา้ งก็จะกลายเปน็
นหยาดนำ้ ฟ้าซง่ึ เป็นน้ำทีม่ สี ถานะตา่ ง ๆ ที่ตกจาก
จากละอองนำ้ ในเมฆทร่ี วมตวั กันจนอากาศไม่
มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์
างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อย่าง
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน
- -
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศักราช 2564 โรงเรียนแกว้ อนิ ทรส์ ุธาอทุ ิศ
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปญั หาที่พบในชีวิตจร
ในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ รูเ้ ท่าทัน และมจี
รหัสตวั ชี้วดั ตัวช้วี ัด
ว 4.2 ป.5/1 1. ใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หา - การใช้เหตผุ ลเชิงตรรก
การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ ทกุ กรณมี าใช้พจิ ารณา ใ
ผลลพั ธ์ จากปัญหาอย่างง่าย คาดการณ์ผลลัพธ์
- สถานะเริ่มตน้ ของการ
- ตัวอย่างปัญหา เช่น เก
สรา้ งรูปเรขาคณิตตามค
วันหยดุ , จดั วางของในค
ว 4.2 ป.5/2 2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมทมี่ กี าร - การออกแบบโปรแกรม
ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะอยา่ งงา่ ย ตรวจหา - การออกแบบและเขียน
ขอ้ ผิดพลาดและแก้ไข ทุกกรณีเพ่ือให้ได้ผลลพั
- หากมีข้อผิดพลาดให้ต
ให้ผลลัพธ์ไม่ถูกตอ้ ง ใหท้
- การฝกึ ตรวจหาข้อผดิ พ
การหาสาเหตขุ องปัญหา
- ตวั อยา่ งโปรแกรม เช่น
ขอ้ มูลนำ้ หนักหรอื สว่ นส
โปรแกรมส่ังให้ ตัวละคร
หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ
79
ริงอย่างเป็นข้ันตอนและเป็นระบบใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
จริยธรรม
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่
กะเป็นการนำกฎเกณฑ์ หรือเงอื่ นไขทค่ี รอบคลมุ -
ในการแกป้ ญั หา การอธิบายการทำงาน หรือ การ
รทำงานท่ีแตกตา่ งกนั จะใหผ้ ลลัพธท์ ่ีแตกตา่ งกนั -
กม Sudoku , โปรแกรมทำนายตวั เลข, โปรแกรม
คา่ ข้อมูลเขา้ , การจดั ลำดับการทำงานบา้ นในชว่ ง
ครัว
มสามารถทำไดโ้ ดยเขียน เป็นข้อความ หรอื ผงั งาน
นโปรแกรมที่มกี ารตรวจสอบเง่ือนไขที่ครอบคลมุ
พธ์ทถ่ี ูกตอ้ งตรงตามความตอ้ งการ
ตรวจสอบการทำงาน ทลี ะคำสัง่ เมื่อพบจุดทีท่ ำ
ทำการแกไ้ ขจนกวา่ จะได้ผลลัพธ์ที่ถูกตอ้ ง
พลาดจากโปรแกรมของผู้อ่นื จะช่วยพฒั นาทกั ษะ
าได้ดยี ิ่งขึ้น
น โปรแกรมตรวจสอบเลขคเู่ ลขค่ี โปรแกรมรบั
สงู แลว้ แสดงผลความสมส่วนของร่างกาย,
รทำตามเง่ือนไขท่ีกำหนด
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศักราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อินทร์สุธาอุทิศ
รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชว้ี ัด
ว 4.2 ป.5/3
- ซอฟต์แวร์ท่ีใชใ้ นการเ
ว 4.2 ป.5/4
3. ใช้อินเทอร์เน็ตคน้ หาข้อมลู - การค้นหาข้อมูลในอิน
ตดิ ต่อส่ือสารและทำงานร่วมกนั ประเมนิ - การติดตอ่ สื่อสารผ่านอ
ความนา่ เช่ือถือของข้อมลู - การเขียนจดหมาย (บรู
- การใช้อนิ เทอร์เน็ตในก
หมายในการประชมุ กลุ่ม
แลกเปล่ยี นความรู้ ควา
- การประเมนิ ความนา่ เ
สมบรู ณข์ องข้อมลู จากห
เผยแพรข่ ้อมูล
- ขอ้ มูลท่ดี ีต้องมรี ายละ
และโทษ
4. รวบรวม ประเมนิ นำเสนอ ข้อมลู และ - การรวบรวมข้อมลู ปร
สารสนเทศ ตามวตั ถปุ ระสงค์โดยใช้ สารสนเทศเพ่ือใช้ในการ
ซอฟต์แวรห์ รือบริการบนอนิ เทอรเ์ นต็ ที่ ประสิทธภิ าพ
หลากหลาย เพอ่ื แกป้ ัญหาใน - การใช้ซอฟตแ์ วร์หรอื บ
ชีวติ ประจำวนั รวบรวม ประมวลผล สร
แก้ปัญหาทำได้อย่างรวด
- ตวั อยา่ งปัญหา เช่น ถ
แนวทางในการจัดการพ
หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิท
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 80
เขียนโปรแกรม เช่น Scratch, logo สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่นิ
นเทอร์เนต็ และการพิจารณาผลการค้นหา
อินเทอร์เนต็ เชน่ อเี มล บลอ็ ก โปรแกรมสนทนา -
รณาการกับวชิ าภาษาไทย)
การติดต่อสือ่ สารและทำงานร่วมกัน เชน่ ใช้นดั -
ม ประชำสมั พนั ธก์ ิจกรรมในห้องเรียน การ
ามคิดเห็นในการเรียน ภายใต้การดูแลของครู
เชื่อถอื ของข้อมลู เช่น เปรยี บเทียบความสอดคล้อง
หลายแหลง่ แหล่งตน้ ตอของข้อมูล ผู้เขยี น วนั ท่ี
ะเอียดครบทกุ ดา้ น เช่น ข้อดีและข้อเสยี ประโยชน์
ระมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมนิ ผล จะทำให้ได้
รแกป้ ัญหาหรือการตัดสินใจได้อย่างมี
บรกิ ารบนอินเทอรเ์ นต็ ทหี่ ลากหลายในการ
ร้างทางเลอื ก ประเมินผล นำเสนอ จะชว่ ยให้การ
ดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ
ถ่ายภาพและสำรวจแผนท่ี ในท้องถ่ินเพอ่ื นำเสนอ
พื้นทว่ี า่ งใหเ้ กดิ ประโยชน์ ทำแบบสำรวจความคิด
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศกั ราช 2564 โรงเรียนแกว้ อินทรส์ ุธาอุทิศ
รหัสตวั ช้ีวัด ตวั ช้วี ัด เหน็ ออนไลน์ และวิเครา
ว 4.2 ป.5/5 web page
5. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่าง อนั ตรายจากการใช้งานแ
ปลอดภยั มมี ารยาท เขา้ ใจสิทธแิ ละ - มารยาทในการติดต่อส
หน้าท่ีของตน เคารพในสิทธขิ องผอู้ ่ืน เกี่ยวขอ้ ง)
แจง้ ผู้เกี่ยวขอ้ งเมื่อพบข้อมูลหรอื บคุ คลท่ี
ไมเ่ หมาะสม
หลักสตู รกลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 81
าะห์ข้อมลู นำเสนอขอ้ มูลโดยการใช้ Blog หรอื สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ
และอาชญากรรม ทางอนิ เทอร์เนต็ -
สื่อสารผ่านอนิ เทอรเ์ นต็ (บูรณาการกับวิชาท่ี
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศกั ราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อินทรส์ ธุ าอุทศิ
ตัวชว้ี ดั และสาระการเ
ชั้นประถมศกึ ษ
สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่า
ต่างๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การเปล่ยี นแปลงแทนที่ในระบบนเิ วศ ค
และสิ่งแวดลอ้ ม แนวทางในการอนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละการแกไ้ ขปัญหาสิง่
รหสั ตัวชี้วดั ตัวชีว้ ดั
--
สาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบตั ขิ องสิ่งมีชวี ิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวิต การลาเล
ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท
ประโยชน์
รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชีว้ ัด
ว 1.2 ป.6/1 1. ระบสุ ารอาหารและบอกประโยชน์ของ - สารอาหารทอ่ี ย
สารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารท่ี ไขมัน เกลอื แร่ ว
ตนเองรบั ประทาน - อาหารแตล่ ะชน
ว 1.2 ป.6/2 2. บอกแนวทางในการเลือกรับประทาน บางอยา่ งประกอ
อาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วนในสัดสว่ นที่ ประกอบด้วยสาร
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิท
82
เรียนร้แู กนกลาง
ษาปที ่ี 6
งสิ่งไม่มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต
ความหมายของประชากรปญั หาและผลกระทบท่ีมีต่อทรัพยากรธรรมชาติ
งแวดล้อมรวมท้ังนำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่นิ
--
ลยี งสารผา่ นเซลล์ความสมั พันธ์ของโครงสรา้ ง และหน้าทีข่ องระบบตา่ งๆ
ที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทางานสัมพันธ์กันรวมทั้งนำควา มรู้ไปใช้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ
ยูใ่ นอาหารมี 6 ประเภท ไดแ้ ก่ คารโ์ บไฮเดรต โปรตนี -
วติ ามินและนำ้
นดิ ประกอบด้วยสารอาหาร ที่ แตกต่างกัน อาหาร -
อบดว้ ยสารอาหารประเภทเดียว อาหารบางยา่ ง
รอาหารมากกว่าหน่ึงประเภท
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศักราช 2564 โรงเรียนแกว้ อนิ ทรส์ ุธาอุทิศ
รหสั ตวั ชี้วัด ตัวช้ีวัด - สารอาหารแตล่
ว 1.2 ป.6/3 เหมาะสมกับเพศและวยั รวมทง้ั ความ คาร์โบไฮเดรต โป
ปลอดภยั ต่อสุขภาพ รา่ งกาย ส่วนเกล
ว 1.2 ป.6/4 3. ตระหนักถึงความสำคัญของสารอาหาร แกร่ า่ งกาย แต่ชว่
โดยการเลอื กรับประทานอาหารท่มี ีสารอำ อาหารเพื่อให้รา่ ง
หารครบถว้ นในสดั ส่วนทเ่ี หมาะสมกับเพศ เพศและวยั และ
และวัย รวมท้งั ปลอดภัยต่อสุขภาพ เพียงพอกับความ
ในสดั สว่ นทเี่ หมา
4. สรา้ งแบบจำลองระบบยอ่ ยอาหาร และ ปรมิ าณของวตั ถุ
บรรยายหน้าทข่ี องอวยั วะในระบบยอ่ ย - ระบบย่อยอาห
อาหาร รวมท้งั อธิบายการย่อยอาหารและ อาหาร กระเพาะ
การดดู ซมึ สารอาหาร ออ่ น ซ่งึ ทำหนา้ ท
หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนร้วู ิท
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง 83
ละประเภทมีประโยชนต์ อ่ รา่ งกายแตกต่างกัน โดย สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่นิ
ปรตีน และไขมนั เป็นสารอาหารท่ีให้พลงั งานแก่
ลอื แร่ วติ ามนิ และน้ำ เปน็ สารอาหารทไ่ี ม่ให้พลังงาน -
วยให้รา่ งกายทำงานได้เปน็ ปกติ – การรบั ประทาน
งกายเจริญ เติบโต มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตาม -
ะ มสี ุขภาพดี จำเป็นต้องรบั ประทานให้ได้พลงั งาน
มต้องการของร่างกาย และให้ไดส้ ารอาหารครบถว้ น
าะสมกบั เพศ และวยั รวมทั้งตอ้ งคำนงึ ถงึ ชนดิ และ
เจือปนในอาหารเพือ่ ความปลอดภัยต่อสขุ ภาพ
หารประกอบด้วยอวยั วะต่าง ๆ ไดแ้ ก่ ปาก หลอด
ะอาหาร ลำไส้เลก็ ลำไส้ใหญ่ ทวารหนัก ตับ และตับ
ทรี่ ่วมกันในการยอ่ ยและดูดซึมสารอาหาร
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศักราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทร์สุธาอทุ ิศ
รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชีว้ ัด - ปาก มีฟันช่วยบ
ว 1.2 ป.6/5 5. ตระหนักถึงความสำคัญของระบบย่อย คลุกเคล้าอาหาร
อาหาร โดยการบอกแนวทางในการดแู ล น้ำตาล
รักษาอวัยวะในระบบย่อยอาหารให้ทำงาน – หลอดอาหาร
เป็นปกติ อาหาร ภายในกร
ท่ีสร้างจากกระเพ
- ลำไส้เล็กมเี อน
ชว่ ยยอ่ ยโปรตีน
และไขมนั ท่ผี ่าน
ได้ รวมถึงนำ้ เกล
กระแสเลือด เพ่ือ
คาร์โบไฮเดรต แ
ในกจิ กรรมต่าง ๆ
ทำงานได้เป็นปก
- ตับสร้างน้ำดีแล
- ลำไส้ใหญ่ทำห
ไมไ่ ด้ หรอื ยอ่ ยไม
หนกั
- อวยั วะต่าง ๆ ใ
ดูแลรกั ษาอวัยวะ
หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 84
บดเคีย้ วอำหารให้มีขนาดเล็กลงและมีลิ้นชว่ ย สาระการเรียนรูท้ อ้ งถน่ิ
รกบั น้ำลาย ในน้ำลาย มีเอนไซม์ย่อยแปง้ ใหเ้ ป็น
ทำหน้าทล่ี ำเลียงอาหารจากปาก ไปยังกระเพาะ
ระเพาะอาหารมกี ารย่อยโปรตีนโดยกรดและเอนไซม์
พาะอาหาร
นไซมท์ ส่ี รา้ งจากผนงั ลำไสเ้ ลก็ เองและจากตับอ่อนท่ี
คารโ์ บไฮเดรต และไขมัน โดยโปรตนี คารโ์ บไฮเดรต
นการย่อยจนเปน็ สารอาหารขนาดเล็กพอท่ีจะ ดูดซึม
ลือแร่ และวติ ามิน จะถูกดูดซึม ทีผ่ นงั ลำไสเ้ ลก็ เข้าสู่
อลำเลียงไปยังส่วนต่าง ๆ ของรา่ งกาย ซงึ่ โปรตีน
และไขมนั จะถกู นำไปใชเ้ ปน็ แหลง่ พลังงานสำหรบั ใช้
ๆ ส่วนน้ำ เกลือแร่ และวิตามิน จะชว่ ยใหร้ ่างกาย
กติ
ลว้ ส่งมายงั ลำไสเ้ ล็กชว่ ยใหไ้ ขมันแตกตวั
หนา้ ท่ดี ูดน้ำและเกลือแร่ เป็นบรเิ วณทีม่ ีอาหารทยี่ อ่ ย
ม่หมด เป็นกากอาหาร ซง่ึ จะถูกกำจัดออกทางทวาร
ในระบบย่อยอาหาร มีความสำคญั จงึ ควรปฏบิ ัติตน
ะใหท้ ำงานเป็นปกติ
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศักราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อินทร์สุธาอทุ ศิ
สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสำคัญของการถ่ายทอดลกั ษณะทา
สงิ่ มีชวี ิต ความหลากหลายทางชวี ภาพและวิวัฒนาการของสิ่งมชี ีวติ รวมท้ังนำควา
รหัสตวั ช้ีวดั ตัวชว้ี ัด
--
สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัตขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพนั ธ์ระห
และธรรมชาติของการเปลีย่ นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเก
รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชีว้ ดั
ว 2.1 ป.6/1 1. อธิบายและเปรียบเทียบการแยกสารผสม - สารผสมประกอบ
โดยการหยิบออก การร่อน การใชแ้ ม่เหลก็ ผสมน้ำ ข้าวสารปน
ดึงดูด การรนิ ออก การกรอง และการ ผสมขึน้ อยู่กบั ลักษ
ตกตะกอน โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจักษ์ ของสารผสมเปน็ ข
รวมทง้ั ระบุวิธีแกป้ ญั หาในชีวิตประจำวนั อาจใช้วิธกี ารหยิบอ
เก่ียวกบั การแยกสาร เป็นสารแม่เหลก็ อา
ของแข็งที่ไมล่ ะลาย
การตกตะกอน ซึ่งว
ชีวติ ประจำวนั ได้
หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ
85
างพันธุกรรม สารพนั ธุกรรม การเปล่ยี นแปลงทางพนั ธกุ รรมที่มผี ลต่อ
ามรไู้ ปใช้ประโยชน์
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ
--
หว่างสมบตั ิของสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหน่ียวระหว่างอนุภาคหลัก
กิดปฏกิ ริ ิยาเคมี
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น
บด้วยสารตั้งแต่ 2 ชนดิ ขน้ึ ไปผสมกนั เช่น น้ำมัน -
นกรวดทราย วธิ กี าร ท่ีเหมาะสมในการแยกสาร
ษณะและสมบตั ขิ องสารท่ผี สมกนั ถ้าองค์ประกอบ
ของแขง็ กบั ของแข็งทีม่ ีขนาดแตกตา่ งกนั อย่างชดั เจน
ออกหรือการร่อนผ่านวสั ดุ ที่มรี ู ถำ้ มีสารใดสารหนง่ึ
าจใชว้ ธิ ี การใช้แมเ่ หลก็ ดงึ ดูด ถ้ำองค์ประกอบเป็น
ยในของเหลว อาจใช้วธิ กี ารรนิ ออก การกรอง หรือ
วิธกี ารแยกสารสามารถนำไปใช้ประโยชน์ใน
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปีพุทธศักราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อินทรส์ ุธาอทุ ศิ
สาระท่ี 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ติ ประจำวัน ผลของแรงทีก่ ระทาต
ประโยชน์
รหสั ตัวชี้วัด ตัวชี้วัด ส
ว 2.2 ป.6/1 1. อธบิ ายการเกดิ และผลของแรงไฟฟา้ - วัตถุ 2 ชนดิ ที่ผ่านการ
ซึง่ เกดิ จากวตั ถุทผี่ า่ นการขัดถูโดยใช้ แรงทเ่ี กดิ ขึ้นน้เี ป็นแรงไฟ
หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ประจุไฟฟ้า ซึ่งประจุไฟฟ
ลบ วตั ถทุ ีม่ ีประจุไฟฟ้าช
สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ
ชวี ิตประจำวัน ธรรมชาตขิ องคลนื่ ปรากฏการณท์ ี่เกี่ยวข้องกับเสียง แสง และคลนื่ แ
รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวชีว้ ัด
ว 2.3 ป.6/1 1. ระบสุ ว่ นประกอบและบรรยายหนา้ ท่ี - วงจรไฟฟา้ อยา่ งง่ายป
ของแตล่ ะส่วนประกอบของวงจรไฟฟา้ เครื่องใช้ไฟฟา้ หรอื อปุ ก
อยา่ งงา่ ยจากหลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ หรือแบตเตอรี่ ทำหนา้ ท
ว 2.3 ป.6/2 2. เขยี นแผนภาพและต่อวงจรไฟฟา้ หนา้ ทเ่ี ชอื่ มต่อระหวา่ งแ
อยา่ งงา่ ย เครื่องใช้ไฟฟา้ มีหนา้ ที่เป
หลักสตู รกลุม่ สาระการเรียนร้วู ิท
86
ต่อวัตถุ ลกั ษณะการเคลือ่ นทแี่ บบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ
รขัดถูแลว้ เมือ่ นำเขา้ ใกลก้ นั อาจดงึ ดดู หรอื ผลกั กัน -
ฟฟ้า ซ่ึงเป็นแรงไม่สัมผสั เกิดขึน้ ระหว่างวัตถุทีม่ ี
ฟา้ มี 2 ชนดิ คือ ประจุไฟฟ้าบวกและประจไุ ฟฟ้า
ชนิดเดียวกันผลกั กัน ชนดิ ตรงข้ามกันดึงดูดกัน
ถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานใน
แมเ่ หล็กไฟฟา้ รวมทง้ั นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิ่น
ประกอบดว้ ยแหลง่ กำเนดิ ไฟฟา้ สายไฟฟ้า และ -
กรณ์ไฟฟ้า แหลง่ กำเนิดไฟฟา้ เชน่ ถ่านไฟฉาย
ที่ให้พลงั งานไฟฟา้ สายไฟฟา้ เป็นตัวนำไฟฟ้าทำ
แหลง่ กำเนิดไฟฟา้ และเครื่องใชไ้ ฟฟ้าเขา้ ดว้ ยกนั
ปลยี่ นพลงั งานไฟฟ้าเป็นพลงั งานอื่น
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศกั ราช 2564 โรงเรียนแกว้ อินทร์สธุ าอทุ ศิ
รหัสตวั ช้ีวดั ตัวช้ีวดั - เมอื่ นำเซลล์ไฟฟ้าหลา
ว 2.3 ป.6/3 3. ออกแบบกำรทดลองและทดลองด้วย เซลล์ไฟฟ้าเซลลห์ นงึ่ ต่อ
ว 2.3 ป.6/4 วธิ ที ีเ่ หมาะสมในการอธบิ ายวิธกี ารและ ทำใหม้ ีพลังงานไฟฟ้าเห
ผลของการต่อเซลล์ไฟฟา้ แบบอนกุ รม แบบอนกุ รมสามารถนำ
ว 2.3 ป.6/5 4. ตระหนกั ถึงประโยชน์ของความรูข้ อง เซลลไ์ ฟฟา้ ในไฟฉาย
การตอ่ เซลล์ไฟฟา้ แบบอนุกรมโดยบอก
ว 2.3 ป.6/6 ประโยชนแ์ ละการประยุกต์ใช้ใน - การต่อหลอดไฟฟา้ แบ
ชวี ิตประจำวนั ทำใหห้ ลอดไฟฟ้าท่เี หลือ
ว 2.3 ป.6/7 5. ออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ย เมื่อถอดลอดไฟฟ้าดวงใ
ว 2.3 ป.6/8 วิธีทเ่ี หมาะสมในการอธิบายการต่อ การตอ่ หลอดไฟฟ้าแต่ล
หลอดไฟฟา้ แบบอนุกรมและแบบขนาน หลอดไฟฟา้ หลายดวงใน
หลอดไฟฟ้าดวงใดดวงห
6. ตระหนกั ถงึ ประโยชนข์ องความรูข้ อง
การตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบอนกุ รมและแบบ - เมอ่ื นำวตั ถทุ บึ แสงมาก
ขนาน โดยบอกประโยชน์ ข้อจำกัด และ โดยเงามรี ูปรา่ งคล้ายวัต
การประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวนั ตกลงบนฉาก สว่ นเงามืด
7. อธบิ ายการเกดิ เงามดื เงามัวจาก
หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์
8. เขยี นแผนภาพรังสขี องแสงแสดงการ
เกดิ เงามืดเงามัว
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิท
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 87
ายเซลล์มาตอ่ เรยี งกนั โดยใหข้ ั้วบวกของ สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่นิ
อกบั ข้ัวลบของอกี เซลล์หนง่ึ เป็นการต่อแบบอนกุ รม
หมาะสมกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งการตอ่ เซลล์ไฟฟา้
ำไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจำวนั เชน่ การตอ่
บบอนุกรมเม่ือถอดหลอดไฟฟา้ ดวงใดดวงหน่งึ ออก -
อดบั ท้ังหมด ส่วนการต่อหลอดไฟฟ้าแบบขนาน -
ใดดวงหนึง่ ออก หลอดไฟฟ้าที่เหลือก็ยงั สวา่ งได้
ละแบบสามารถนำไปใชป้ ระโยชนไ์ ด้ เช่น การต่อ
นบา้ นจึงต้องต่อหลอดไฟฟา้ แบบขนานเพ่ือเลือกใช้
หน่ึงได้ตามต้องการ
กน้ั แสงจะเกิดเงาบนฉากรับแสงที่อยู่ดา้ นหลังวัตถุ
ตถุทที่ ำให้เกดิ เงา เงามัวเป็นบริเวณท่ีมีแสงบางสว่ น
ดเป็นบริเวณทไี่ ม่มแี สงตกลงบนฉากเลย
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพุทธศกั ราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอุทิศ
สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และวิวฒั นาการ
ระบบสรุ ิยะท่ีสง่ ผลต่อสง่ิ มีชีวิตและการประยุกต์ใชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ
รหัสตวั ชี้วดั ตวั ชวี้ ัด
ว 3.1 ป.6/1 1. สรา้ งแบบจำลองท่ีอธบิ ายการเกดิ - เมอ่ื โลกและดวงจันทร
และเปรยี บเทยี บปรากฏการณ์ ในระยะทางทเี่ หมาะสม
สรุ ิยปุ ราคา และจันทรปุ ราคา ทอดมายงั โลก ผสู้ ังเกตท
ปรากฏการณส์ รุ ิยปุ รำคำ
และสุริยุปราคาวงแหวน
เดียวกันกบั ดวงอาทติ ย์ แ
ดวงจนั ทรม์ ืดไป เกดิ ปรา
และจันทรุปราคาบางส่ว
ว 3.1 ป.6/2 2. อธิบายพฒั นาการของเทคโนโลยี - เทคโนโลยีอวกาศเริม่ จ
อวกาศ และยกตัวอยา่ งการนำ ท้องฟ้าโดยใช้ตาเปล่า ก
เทคโนโลยอี วกาศมาใชป้ ระโยชนใ์ น สำรวจอวกาศด้วยจรวดแ
ชีวิตประจำวัน จากข้อมูลท่ีรวบรวมได้ ต่อเน่ือง ปัจจบุ นั มีการน
ชีวติ ประจำวัน เช่น การ
หรือการสำรวจทรัพยาก
หวั ใจ หมวกนริ ภยั ชดุ กฬี
หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรูว้ ทิ
88
รของเอกภพ กาแลก็ ซีดาวฤกษ์ และระบบสรุ ยิ ะ รวมท้งั ปฏิสมั พันธ์ภายใน
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถ่นิ
ร์ โคจรมาอยใู่ นแนวเส้นตรงเดยี วกนั กับดวงอาทติ ย์ -
ทำให้ดวงจันทร์บงั ดวงอาทติ ย์ เงาของดวงจนั ทร์
ที่อยบู่ รเิ วณเงาจะมองเห็น ดวงอาทิตยม์ ดื ไป เกิด -
ำ ซ่งึ มีทงั้ สุริยปุ ราคาเต็มดวง สุรยิ ุปราคาบางส่วน
น หากดวงจนั ทรแ์ ละโลกโคจรมาอยู่ในแนวเสน้ ตรง
แลว้ ดวงจนั ทร์เคล่อื นทผ่ี า่ นเงาของโลก จะมองเห็น
ากฏการณ์จนั ทรุปราคา ซึ่งมที ัง้ จนั ทรปุ ราคาเต็มดวง
วน
จากความตอ้ งการของมนษุ ย์ในการสำรวจวตั ถุ
กล้อง-โทรทรรศน์ และได้พัฒนาไปสู่การขนส่งเพ่ือ
และยานขนส่งอวกาศ และยังคงพัฒนาอยา่ ง
นำเทคโนโลยอี วกาศบางประเภทมาประยุกตใ์ ชใ้ น
รใช้ดาวเทียมเพื่อการส่ือสาร การพยากรณ์อากาศ
กรธรรมชำติ การใชอ้ ปุ กรณว์ ดั ชพี จรและการเตน้ ของ
ฬา
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศกั ราช 2564 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอทุ ิศ
สาระท่ี 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวน
เปล่ยี นแปลงลมฟา้ อากาศและภมู ิอากาศโลกรวมทัง้ ผลต่อส่ิงมีชวี ิตและสิ่งแวดล้อม
รหสั ตวั ชี้วัด ตัวชี้วดั
ว 3.2 ป.6/1 1. เปรยี บเทียบกระบวนการเกดิ หินอัคนี - หนิ เปน็ วสั ดุแขง็ เ
หินตะกอน และหนิ แปรและอธิบายวัฏจกั รหนิ หน่ึงชนิดขึ้นไป สา
จากแบบจำลอง ประเภท ไดแ้ ก่ หนิ
- หินอคั นีเกดิ จากก
ทั้งผลึกขนาดใหญ่แ
พรนุ
- หินตะกอน เกิดจ
สารเชื่อมประสานจ
เป็นเม็ดตะกอน มที
ผลกึ ทยี่ ดึ เกาะกันเก
โดยเฉพาะน้ำทะเล
ชนั้
- หินแปร เกดิ จาก
ตะกอน หรือหินแป
ปฏิกิรยิ าเคมี เน้ือห
กัน เปน็ แถบ บา
ทม่ี คี วามแข็งมาก
หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ
89
นการเปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการ
ม
สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิน่
เกดิ ขึน้ เองตามธรรมชำติ ประกอบดว้ ยแร่ต้ังแต่ -
ามารถจำแนกหินตามกระบวนการเกดิ ไดเ้ ป็น 3
นอัคนี หินตะกอน และหินแปร
การเยน็ ตัวของแมกมา เน้ือหนิ มีลักษณะเป็นผลึก
และขนาดเล็ก บางชนิดอาจเป็นเนื้อแก้ว หรือมรี ู
จากการทบั ถมของตะกอนเม่ือถูกแรงกดทับและมี
จงึ เกิดเป็นหนิ เนือ้ หินกลุม่ นีส้ ่วนใหญ่มลี ักษณะ
ทง้ั เนื้อหยาบและเน้อื ละเอียด บางชนดิ เป็นเน้ือ
กิดจากการตกผลึกหรือตกตะกอนจากนำ้
ล บางชนิดมีลกั ษณะเปน็ ช้ัน ๆ จึงเรียกอกี ช่อื วา่ หนิ
กการแปรสภาพของหินเดิมซึง่ อาจเปน็ หนิ อคั นี หนิ
ปร โดยการกระทำของความร้อน ความดัน และ
หนิ ของหินแปรบางชนิดผลึกของแร่เรียงตัวขนาน
างชนิดแซะออกเป็นแผน่ ได้ บางชนิด เปน็ เนอื้ ผลึก
ทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศกั ราช 2564 โรงเรียนแกว้ อินทร์สธุ าอุทิศ
รหัสตวั ชี้วดั ตัวชี้วัด - หินในธรรมชาติท
ว 3.2 ป.6/2 ไปเป็นอีกประเภท
ว 3.2 ป.6/3 2. บรรยายและยกตัวอย่างการใชป้ ระโยชน์ เปลีย่ นแปลงคงท่ีแ
ของหนิ และแร่ในชวี ติ ประจำวันจากข้อมลู หินและแรแ่ ต่ละชน
ท่ีรวบรวมได้ ประโยชนจ์ ากแร่ใน
ทำเครอ่ื งสำอาง ยา
3. สร้างแบบจำลองท่ีอธบิ ายการเกดิ นำหินมาใช้ในงานก
ซากดึกดำบรรพแ์ ละคาดคะเนสภาพแวดล้อม - ซากดกึ ดำบรรพ์เ
ในอดีตของซากดึกดำบรรพ์ สง่ิ มีชวี ิตในอดีต จน
สิ่งมชี วี ติ ทป่ี รากฏอ
หลากหลาย เชน่ พ
สตั ว์
- ซากดกึ ดำบรรพ์ส
สภาพแวดล้อมของ
ซากดึกดำบรรพ์ขอ
เปน็ แหล่งน้ำจดื มา
สภาพแวดล้อมบริเ
ดำบรรพย์ ังสามารถ
ววิ ฒั นาการของสิ่ง
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรู้วิท