หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปี 2565

ตวั ชี้วัดและสาระการเ

ชัน้ ประถมศึกษ

สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งส

ๆ ในระบบนิเวศ การถา่ ยทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลงแทนทใ่ี นระบบนิเวศ ความ

ส่งิ แวดลอ้ ม แนวทางในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและการแกไ้ ขปญั หาสง่ิ แวด

รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ชี้วดั สาระ

--

สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบัติของส่ิงมีชวี ติ หนว่ ยพืน้ ฐานของสิ่งมีชีวติ การลำเล

ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท

ประโยชน์

รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวช้ีวดั

ว 1.2 ป.2/1 1. ระบวุ า่ พืชตอ้ งการแสงและน้ำเพอื่ การเจริญ - พชื ต้องการนำ้

เตบิ โต โดยใช้ข้อมูลจากหลกั ฐานเชิงประจักษ์

ว 1.2 ป.2/2 2. ตระหนักถึงความจำเป็นที่พืชตอ้ งไดร้ บั นำ้

และแสงเพอ่ื การเจริญเตบิ โต โดยดแู ลพชื ให้

ไดร้ ับสิง่ ดังกล่าวอยา่ งเหมาะสม

 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศา

42

เรยี นรแู้ กนกลาง

ษาปที ี่ 2

สงิ่ ไมม่ ีชีวิตกับส่ิงมีชีวติ และความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสิง่ มชี ีวติ กับส่งิ มีชีวิตต่าง

มหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบทม่ี ีตอ่ ทรัพยากรธรรมชาติและ

ดลอ้ มรวมท้งั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์

ะการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถ่นิ

--

ลียงสารผา่ นเซลลค์ วามสัมพันธ์ของโครงสรา้ ง และหนา้ ทข่ี องระบบตา่ ง ๆ
ที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กันรวมทั้งนำควา มรู้ไปใช้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่นิ
แสง เพื่อการเจริญเตบิ โต - นำพืชท้องถน่ิ มาทดลองเกยี่ วกบั
ปัจจยั ในการเจรญิ เติบโตของพชื

-

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศักราช 2565 โรงเรยี นแก้วอนิ ทรส์ ธุ าอุทศิ 

รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชี้วดั

ว 1.2 ป.2/3 3. สร้างแบบจำลองที่บรรยายวฏั จักรชวี ติ ของ - พืชดอกเม่ือเจร
เปลย่ี นแปลงไปเป
พชื ดอก ทีอ่ ยภู่ ายในเมลด็
เจริญเตบิ โต ออก
ตอ่ เนื่องเปน็ วัฏจ

สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ

มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคญั ของการถา่ ยทอดลัก

พันธกุ รรมทมี่ ีผลต่อสง่ิ มีชวี ิต ความหลากหลายทางชวี ภาพและววิ ัฒนากา

รหัสตวั ชี้วดั ตวั ช้วี ดั สาระ

ว 1.3 ป.2/1 1. เปรียบเทยี บลักษณะของส่ิงมีชีวติ และ - สง่ิ ทอี่ ยู่รอบตวั เรามีทงั้

ส่งิ ไมม่ ชี ีวติ จากข้อมลู ท่รี วบรวมได้ ตอ้ งการอาหาร มีการหา

ตอบสนองต่อสิ่งเรา้ และ

พ่อแม่ ส่วนสงิ่ ไม่มีชวี ติ จ

 หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศา

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 43
รญิ เติบโตและมีดอก ดอกจะมี การสบื พันธ์ุ สาระการเรยี นรทู้ ้องถนิ่
ป็นผล ภายในผลมีเมลด็ เมอ่ื เมล็ดงอก ต้นอ่อน
ดจะเจรญิ เติบโตเปน็ พชื ตน้ ใหม่ พชื ต้นใหมจ่ ะ
กดอกเพ่ือสืบพันธม์ุ ีผลตอ่ ไปได้อีกหมุนเวยี น
จกั รชีวิตของพืชดอก

กษณะทางพันธุกรรม สารพันธกุ รรม การเปล่ยี นแปลงทาง

ารของสิ่งมีชีวิต รวมทงั้ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ะการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่น

งทีเ่ ปน็ สิง่ มชี วี ิตและสิง่ ไม่มชี ีวิต ส่ิงมชี วี ติ - สำรวจส่ิงมชี วี ิต และส่ิงไม่มีชีวิตบรเิ วณรอบ

ายใจ เจริญเติบโต ขับถ่าย เคลื่อนไหว โรงเรยี น

ะสืบพันธ์ไุ ดล้ ูกท่มี ีลักษณะคลา้ ยคลึงกับ

จะไม่มีลักษณะดังกลา่ ว

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศักราช 2565 โรงเรยี นแกว้ อินทรส์ ธุ าอุทศิ 

สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เข้าใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพนั ธร์ ะห

และธรรมชาติของการเปล่ยี นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเก

รหัสตวั ชี้วัด ตัวชีว้ ัด

ว 2.1 ป.2/1 1. เปรียบเทยี บสมบัติการดูดซับน้ำของวสั ดุโดยใชห้ ลักฐาน - ว

เชิงประจกั ษ์ และระบุการนำสมบัตกิ ารดดู ซับน้ำของวัสดุไป นำไ

ประยกุ ตใ์ ช้ ในการทำวัตถุในชวี ิตประจำวัน ดดู

ทำ

ว 2.1 ป.2/2 2. อธบิ ายสมบัตทิ สี่ งั เกตได้ของวสั ดุท่เี กดิ จากการนำวัสดุมา - ว

ผสมกัน โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ เหม

ผส

ผส

แล

ว 2.1 ป.2/3 3. เปรยี บเทียบสมบตั ิท่สี ังเกตได้ของวัสดุ เพื่อนำมาทำเป็น - ก

วัตถใุ นการใชง้ านตามวตั ถปุ ระสงค์ และอธบิ ายการนำวสั ดุท่ี วตั ถ

ใช้แลว้ กลับมาใช้ใหมโ่ ดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ นำก

ว 2.1 ป.2/4 4. ตระหนักถึงประโยชนข์ องการนำวสั ดทุ ใ่ี ชแ้ ล้วกลับมาใช้ เปน็

ใหม่ โดยการนำวสั ดุท่ีใช้แลว้ กลบั มาใชใ้ หม่

 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศา

44

หวา่ งสมบัติของสสารกับโครงสรา้ งและแรงยดึ เหนี่ยวระหวา่ งอนภุ าค หลัก

กิดปฏกิ ริ ิยาเคมี

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิน่

วสั ดแุ ตล่ ะชนดิ มีสมบตั ิการดูดซบั น้ำแตกตา่ งกนั จึง -

ไปทำวตั ถุเพื่อใช้ประโยชน์ได้แตกตา่ งกัน เชน่ ใช้ผำ้ ที่

ดซับนำ้ ได้มากทำผ้ำเชด็ ตวั ใช้พลาสติก ซ่งึ ไม่ดดู ซับน้ำ

ำรม่

วัสดุบางอย่างสามาถนำมาผสมกนั ซึง่ ทำใหไ้ ด้สมบัตทิ ่ี -

มาะสมเพือ่ นำไปใชป้ ระโยชน์ตามตอ้ งการ เช่น แปง้

สมน้ำตาลและน้ำกะทิ ใชท้ ำขนมไทย ปูนปลาสเตอร์

สมเยื่อกระดาษใช้ทำกระปุกออมสิน ปูนผสมหิน ทราย

ละน้ำใช้ทำคอนกรตี

การนำวสั ดมุ าทำเป็นวตั ถใุ นการใช้งาน ตาม - นำวัสดทุ ่พี บในท้องถิน่ มา

ถปุ ระสงค์ขนึ้ อยู่กับสมบัติของวัสดุ วัสดุทใ่ี ช้แล้วอาจ ออกแบบ และสร้างชนิ้ งานใหมท่ ี่

กลบั มาใช้ใหม่ได้ เช่น กระดาษใช้แลว้ อาจนำมาทำ ใช้ประโยชน์ได้

นจรวดกระดาษ ดอกไม้ประดษิ ฐ์ ถงุ ใส่ของ เป็นต้น

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแก้วอนิ ทรส์ ธุ าอทุ ศิ 

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชวี ิตประจาวัน ผลของแรงที่กระทำต

ประโยชน์

รหัสตัวช้ีวดั ตวั ชว้ี ัด ส

ว 2.2 ป.2/1 1. ทดลองและอธบิ ายแรงทเ่ี กิดจาก - แมเ่ หลก็ มแี รงดงึ ดูดห

แมเ่ หลก็ มสี นามแมเ่ หล็กและสาม

ว 2.2 ป.2/2 2. อธิบายการนำแม่เหลก็ มาใชป้ ระโยชน์ - แม่เหลก็ มีประโยชน์ใ

แม่เหลก็ ออกจากวัตถุอ่นื

ว 2.2 ป.2/3 3. ทดลองและอธบิ ายแรงไฟฟ้าที่เกดิ - เมื่อถูวัตถุบางชนิดแล

จากการถวู ตั ถบุ างชนดิ เกดิ ข้นึ นี้เรยี กว่าแรงไฟฟ

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปลี่ยนแปลงและก

พลงั งานในชีวติ ประจำวัน ธรรมชาติของคลนื่ ปรากฏการณ์ที่เก่ียวข้องกับ

ประโยชน์

รหัสตวั ช้ีวดั ตัวชว้ี ัด ส

ว 2.3 ป.2/1 1. บรรยายแนวการเคล่ือนที่ของแสงจาก - แสงเคลอ่ื นที่จากแหลง่

แหลง่ กำเนดิ แสง และอธิบายการ จากวตั ถุมาเข้าตาจะทำใ

มองเหน็ วัตถุจากหลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ แหล่งกำเนิดแสง แสงจา

 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศา

45

ต่อวัตถุ ลักษณะการเคลือ่ นที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรูไ้ ปใช้

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถน่ิ
หรือผลักระหวา่ งแท่งแม่เหล็ก รอบแทง่ แมเ่ หล็ก -
มารถดงึ ดดู วตั ถทุ ่ีทำด้วยสารแมเ่ หล็ก
ในการทำของเลน่ ของใช้ และนำไปแยกสาร -
นได้
ลว้ นำเข้าใกล้กัน จะดึงดูดหรอื ผลักกันได้ แรงท่ี -
ฟา้ และวัตถุน้นั จะดึงดดู วัตถุเบาๆได้

การถา่ ยโอนพลงั งาน ปฏิสัมพนั ธ์ระหวา่ งสสารและพลังงาน
บเสยี ง แสง และคล่นื แมเ่ หล็กไฟฟา้ รวมทง้ั นำความร้ไู ปใช้

สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น
งกำเนิดแสงทุกทิศทางเปน็ แนวตรง เมอ่ื มีแสง -
ให้มองเห็นวัตถนุ ้นั การมองเหน็ วัตถทุ ี่เป็น
ากวัตถุนัน้ จะเข้าสู่ตาโดยตรง ส่วนการมองเห็น

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปีพุทธศักราช 2565 โรงเรียนแก้วอินทรส์ ธุ าอทุ ิศ 

รหสั ตวั ชี้วดั ตวั ชีว้ ดั ส
ว 2.3 ป.2/2 2. ตระหนกั ในคุณคา่ ของความรู้ของการ วัตถุท่ไี ม่ใช่แหลง่ กำเนดิ
มองเหน็ โดยเสนอแนะแนวทางการ วตั ถุแลว้ สะทอ้ นเขา้ ตา
ป้องกนั อนั ตราย จากการมองวตั ถทุ ่อี ยใู่ น ต่อตาได้ จึงตอ้ งหลีกเลยี่
บริเวณที่มแี สงสว่าง ไม่เหมาะสม จำเปน็ และตอ้ งจดั ความ
เช่น การอ่านหนงั สอื กา
แท็บเลต็

สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกดิ และวิวฒั นาการข

ระบบสุริยะท่สี ่งผลต่อสง่ิ มีชีวติ และการประยุกตใ์ ช้เทคโนโลยอี วกาศ

รหสั ตัวชี้วัด ตัวชว้ี ดั ส

--

 หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศา

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 46
ดแสง ต้องมแี สงจากแหลง่ กำเนดิ แสงไปกระทบ สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ
ถ้ามแี สงทส่ี วา่ ง มาก ๆ เขา้ สตู่ าอาจเกิดอันตราย
ยงการมองหรือใชแ้ ผ่นกรองแสงที่มีคณุ ภาพเมอ่ื
มสว่างให้เหมาะสมกับ การทำกิจกรรมต่าง ๆ
ารดจู อโทรทัศน์ การใชโ้ ทรศัพท์เคลอื่ นทแี่ ละ

ของเอกภพ กาแล็กซดี าวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสมั พนั ธภ์ ายใน

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น
- -

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปีพุทธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแก้วอินทร์สธุ าอทุ ิศ 

สาระที่ 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวน

เปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภมู ิอากาศโลกรวมทั้งผลตอ่ ส่ิงมีชีวติ และสิ่งแวดล้อม

รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชีว้ ดั สาระ

ว 2.3 ป.2/1 1. ระบุสว่ นประกอบของดนิ และจำแนก - ดินประกอบดว้ ยเศษห

ชนดิ ของดินโดยใช้ลักษณะเน้ือดนิ และ อากาศและน้ำแทรกอยู่ต

การจบั ตัวเป็นเกณฑ์ ดนิ รว่ น ดนิ เหนยี ว และ

ว 2.3 ป.2/2 2. อธิบายการใชป้ ระโยชน์จากดิน จาก จับตัวของดินซึ่งมีผลต่อก

ขอ้ มูลที่รวบรวมได้ - ดนิ แต่ละชนิดนำไปใชป้

และสมบัตขิ องดนิ

สาระที่ 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่ม

คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้า

เหมาะสมโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ิต สงั คม และสง่ิ แวดลอ้ ม

รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชว้ี ดั สาระ

--

 หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศา

47

นการเปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการ

ม

ะการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่

หิน ซากพชื ซากสัตวผ์ สมอยใู่ นเน้ือดิน มี -ทดลองปลกู พืชอยา่ งง่ายในดินแตล่ ะชนิด

ตามช่องวา่ ง ในเน้ือดิน ดินจำแนกเปน็ -ดนิ ในท้องถิ่น และการนำไปใช้ประโยชน์

ดนิ ทราย ตามลักษณะเน้ือดินและการ

การอุ้มน้ำท่ีแตกต่างกัน

ประโยชนไ์ ดแ้ ตกต่างกนั ตามลกั ษณะ

มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์
างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อย่าง

ะการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถนิ่
- -

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศักราช 2565 โรงเรยี นแก้วอินทร์สธุ าอุทศิ 

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.2 เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชีวติ จร

ในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ รเู้ ทา่ ทนั และมจี

รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชวี้ ัด

ว 4.2 ป.2/1 1. แสดงลำดบั ขนั้ ตอนการทำงาน หรอื - การแสดงข้ันตอนกา

การแกป้ ัญหาอย่างงา่ ยโดยใช้ภาพ หรือใช้สญั ลักษณ์

สญั ลักษณ์ หรือขอ้ ความ ปัญหาอย่างงา่ ย เช่น

ว 4.2 ป.2/2 2. เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ - ตัวอยา่ งโปรแกรม เช

ซอฟตแ์ วร์หรอื ส่อื และตรวจหา ตอ้ งการ และตรวจสอ

ข้อผิดพลาดของโปรแกรม กำหนด

- การตรวจหาขอ้ ผิดพ

หรือหากผลลัพธ์ไม่เปน็

คำส่งั

ซอฟต์แวร์ หรอื สือ่ ท่ีใ

การเขยี นโปรแกรม, C

ว 4.2 ป.2/3 3. ใช้เทคโนโลยใี นการสร้าง จดั หมวดหมู่ - การใชง้ านซอฟตแ์ ว

คน้ หา จดั เก็บ เรียกใช้ขอ้ มูลตาม การสร้างไฟล์ การจัดเ

วตั ถุประสงค์ ทำได้ ในโปรแกรม เชน่

โปรแกรมนำเสนอ

- การสรา้ ง คัดลอก ย้า

อยา่ งเปน็ ระบบจะทำใ

 หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศา

48

ริงอย่างเปน็ ข้นั ตอนและเป็นระบบใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

จรยิ ธรรม

สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน

ารแกป้ ญั หาทำได้โดยการเขียน บอกเล่า วาดภาพ -

เกมตัวต่อ 6-12 ชิ้น การแต่งตัวมาโรงเรยี น
ช่น เขยี นโปรแกรมส่งั ให้ ตัวละครทำงานตามท่ี
อบขอ้ ผดิ พลาด ปรับแก้ไขให้ได้ผลลพั ธ์ตามที่

พลาดทำได้โดยตรวจสอบคำสง่ั ที่แจ้งข้อผดิ พลาด
นไปตามทต่ี ้องการให้ตรวจสอบการทำงานทีละ

ใช้ในการเขียนโปรแกรม เชน่ ใช้บัตรคำส่งั แสดง
Code.org
วร์เบ้ืองต้น เชน่ การเขา้ และออกจากโปรแกรม
เก็บ การเรยี กใช้ไฟล์ กรแก้ไขตกแตง่ เอกสาร
น โปรแกรมประมวลคำ โปรแกรมกราฟิก

าย ลบ เปล่ียนช่อื จดั หมวดหมไู่ ฟลแ์ ละโฟลเดอร์
ให้เรยี กใช้ ค้นหำข้อมลู ได้ง่ายและรวดเรว็

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศักราช 2565 โรงเรียนแก้วอนิ ทร์สธุ าอทุ ศิ 

รหสั ตัวช้ีวดั ตวั ชีว้ ดั - การใชเ้ ทคโนโลยีสาร
ว 4.2 ป.2/4 4. ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภัย อันตรายจากการเผยแ
ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลงในการใช้คอมพิวเตอร์ บุคคลอ่นื ยกเวน้ ผปู้ กค
รว่ มกนั ดูแลรักษาอุปกรณ์เบื้องตน้ ใช้งาน ช่วยเหลือเกยี่ วกบั การ
อย่างเหมาะสม - ข้อปฏิบัตใิ นการใชง้ า
บนอปุ กรณ์ ทำความส
- การใชง้ านอย่างเหมา
เมอื่ ใช้อปุ กรณเ์ ปน็ เวล

 หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศา

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 49
รสนเทศอย่างปลอดภยั เช่น รจู้ ักข้อมูลส่วนตวั สาระการเรยี นร้ทู ้องถน่ิ
แพร่ข้อมูลส่วนตัว และไม่บอกข้อมลู ส่วนตวั กบั
ครอง หรือครู แจ้งผู้เก่ียวข้องเม่อื ต้องการ ความ
รใชง้ าน
านและการดูแลรักษาอุปกรณ์ เช่น ไม่ขีดเขยี น
สะอาด ใช้อุปกรณ์อย่างถกู วิธี
าะสม เชน่ จัดท่าน่ังใหถ้ กู ต้อง การพักสายตา
ลานาน ระมดั ระวงั อบุ ัติเหตจุ ากการใช้งาน

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรียนแกว้ อินทร์สธุ าอุทศิ 

ตัวชีว้ ดั และสาระการเ

ชั้นประถมศกึ ษ

สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ

มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพนั ธร์ ะหว่างส

ๆ ในระบบนเิ วศ การถ่ายทอดพลงั งาน การเปล่ยี นแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความ

สิง่ แวดลอ้ ม แนวทางในการอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละการแก้ไขปัญหาสิ่งแวด

รหัสตัวช้ีวัด ตวั ชวี้ ัด สาระ

--

สาระท่ี 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เขา้ ใจสมบตั ิของสง่ิ มชี ีวิต หน่วยพนื้ ฐานของสิ่งมชี ีวติ การลำเล

ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท

ประโยชน์

รหัสตวั ชี้วัด ตวั ชี้วดั

ว 1.2 ป.3/1 1. บรรยายส่งิ ทจ่ี ำเปน็ ตอ่ การดำรงชวี ิต และการ -มนุษย

เจรญิ เติบโตของมนษุ ยแ์ ละสตั ว์ โดยใชข้ อ้ มลู ที่รวบรวมได้ ดำรงช

ว 1.2 ป.3/2 2. ตระหนกั ถงึ ประโยชน์ของอาหาร นำ้ และอากาศ โดย - อาหา

การดูแลตนเองและสตั วใ์ ห้ได้รบั สิง่ เหล่านอ้ี ยา่ งเหมาะสม ให้รา่ งก

 หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศา

50

เรียนร้แู กนกลาง

ษาปที ี่ 3

สิ่งไม่มีชวี ิตกับสิ่งมีชีวติ และความสัมพนั ธร์ ะหว่างส่งิ มีชีวิตกับสง่ิ มีชีวิตต่าง

มหมายของประชากรปญั หาและผลกระทบทม่ี ีตอ่ ทรัพยากรธรรมชาติและ

ดลอ้ มรวมทงั้ นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

ะการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น

--

ลียงสารผา่ นเซลลค์ วามสมั พันธข์ องโครงสรา้ ง และหนา้ ทข่ี องระบบตา่ ง ๆ
ที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทางานสัมพันธ์กันรวมทั้งนำควา มรู้ไปใช้

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
ยแ์ ละสัตวต์ ้องการอาหาร น้ำ และอากาศ เพ่อื การ -
ชีวติ และการเจริญเติบโต
ารช่วยให้รา่ งกายแข็งแรงและเจริญเติบโต นำ้ ช่วย -
กายทำงานไดอ้ ย่างปกติ อากาศใช้ ในการหายใจ

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรียนแก้วอนิ ทรส์ ธุ าอทุ ิศ 

รหสั ตัวชี้วดั ตวั ชี้วัด - สตั วเ์
ว 1.2 ป.3/3 3. สร้างแบบจำลองทบ่ี รรยายวัฏจกั รชีวิตของสัตว์ และ เจริญเต
เปรียบเทียบวัฏจกั รชีวติ ของสัตว์ บางชนดิ หมุนเว
ว 1.2 ป.3/4 4. ตระหนกั ถึงคณุ คา่ ของชีวติ สัตว์ โดยไมท่ ำใหว้ ัฏจกั ร ละชนิด
ชีวติ ของสตั วเ์ ปลยี่ นแปลง เฉพาะ

สาระที่ 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ

มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสำคัญของการถา่ ยทอดลักษ

พันธุกรรมทม่ี ผี ลตอ่ สิง่ มีชวี ติ ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนากา

รหสั ตวั ชี้วัด ตัวช้วี ดั

--

 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศา

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง 51
เมอ่ื เปน็ ตวั เต็มวยั จะสืบพันธุม์ ลี ูก เม่ือลูก
ตบิ โตเป็นตัวเต็มวัยก็สืบพนั ธุม์ ลี ูกต่อไปได้อกี สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น
วยี นตอ่ เน่อื งเปน็ วัฏจักรชีวิตของสตั ว์ ซ่ึงสตั ว์ แต่ -
ด เช่น ผีเสอ้ื กบ ไก่ มนุษย์จะมีวฏั จกั รชวี ติ ท่ี
ะ และแตกต่างกนั -

ษณะทางพนั ธกุ รรม สารพันธุกรรม การเปล่ียนแปลงทาง

ารของส่ิงมีชวี ติ รวมท้งั นำความรไู้ ปใชป้ ระโยชน์

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถิ่น

--

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแก้วอินทร์สธุ าอทุ ศิ 

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พ

ระหวา่ งอนภุ าค หลักและธรรมชาติของการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร

รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชว้ี ดั สาระ

ว 2.1 ป.3/1 1. อธบิ ายว่าวตั ถุประกอบข้นึ จากชนิ้ - วตั ถุอาจทำจากช้นิ ส่วน

ส่วนย่อย ๆ ซ่ึงสามารถแยกออกจากกนั มาประกอบเข้าด้วยกัน เ

ไดแ้ ละประกอบกนั เป็นวัตถชุ ้ินใหมไ่ ด้ ออกจากกัน สามารถนำ

โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ ใหม่ได้ เชน่ กำแพงบ้าน

ดว้ ยกนั และสามารถนำ

พ้นื ทางเดินได้

ว 2.1 ป.3/2 2. อธิบายการเปล่ียนแปลงของวสั ดุเมอ่ื - เม่อื ให้ความร้อนหรือท

ทำใหร้ ้อนขน้ึ หรือทำให้เย็นลง โดยใช้ หรือทำให้วัสดเุ ยน็ ลง วสั

หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ เปลยี่ น รปู ร่างเปลย่ี น

 หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศา

52

พันธ์ระหว่างสมบัตขิ องสสารกบั โครงสร้างและแรงยดึ เหน่ียว

ร การเกิดสารละลาย และการเกดิ ปฏกิ ริ ิยาเคมี

ะการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ

นย่อย ๆ ซงึ่ แต่ละชิ้นมลี ักษณะเหมือนกนั -

เมื่อแยกช้นิ สว่ นย่อย ๆ แตล่ ะชิ้นของวตั ถุ

ำช้ินส่วนเหลา่ น้นั มาประกอบเปน็ วัตถุชน้ิ

นมกี ้อนอิฐหลาย ๆ ก้อน ประกอบเข้า

ำก้อนอิฐจากำแพงบ้านมาประกอบเป็น

ทำใหว้ ัสดุรอ้ นขึ้น และเม่อื ลดความรอ้ น -
สดจุ ะเกิด การเปลยี่ นแปลงได้ เชน่ สี

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปีพุทธศักราช 2565 โรงเรียนแก้วอนิ ทร์สธุ าอทุ ิศ 

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทาต

ประโยชน์

รหัสตัวชี้วดั ตวั ชว้ี ัด

ว 2.2 ป.3/1 1.ระบุผลของแรงทมี่ ีต่อการเปลีย่ นแปลง การ - การดงึ หรือ

เคล่ือนท่ีของวตั ถุจากหลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ การเคล่ือนท่ขี

เปล่ียนตำแหน

- การเปลยี่ นแ

เปล่ยี นเป็นเค

ขึน้ หรอื ชำ้ ลงห

ว 2.2 ป.3/2 2.เปรียบเทยี บและยกตัวอย่างแรงสัมผัสและแรงไม่ การดึงหรอื กา

สัมผสั ท่ีมีผลต่อการเคลือ่ นทีข่ องวัตถุ โดยใช้ อกี วตั ถุหนง่ึ โ

หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ การออกแรงโ

แรงทว่ี ัตถตุ ้อง

ดงึ ดูดหรือผลกั

จำเป็นต้องสมั

ว 2.2 ป.3/3 3. จำแนกวตั ถโุ ดยใช้การดงึ ดูดกับแมเ่ หล็ก เป็น - แม่เหลก็ สาม

เกณฑ์จากหลักฐานเชิงประจักษ์ - แรงแมเ่ หล

ว 2.2 ป.3/4 4. ระบขุ ัว้ แม่เหลก็ และพยากรณผ์ ลท่ีเกิดขน้ึ หรอื แมเ่ หลก็ ก

ระหว่างข้ัวแม่เหล็กเมื่อนำมาเขา้ ใกล้กนั จาก ขัว้ แม่เหล็กชน

หลักฐานเชิงประจักษ์

 หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศา

53

ต่อวัตถุ ลักษณะการเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถ่นิ
อการผลัก เป็นการออกแรงกระทำตอ่ วัตถุ แรงมผี ลต่อ -
ของวตั ถุ แรงอาจทำใหว้ ตั ถเุ กดิ การเคลื่อนท่ีโดย
น่งจากทีห่ นึ่ง ไปยังอีกท่หี นง่ึ -
แปลงการเคล่ือนท่ีของวัตถุ ได้แก่ วัตถุที่อยูน่ ่งิ
คล่อื นท่ี วัตถุที่กำลังเคลอ่ื นท่เี ปลยี่ นเปน็ เคล่ือนทเ่ี ร็ว
หรือหยดุ นิง่ หรือเปลี่ยนทิศทางการเคลอื่ นที่
ารผลักเป็นการออกแรงที่เกดิ จากวัตถุหน่งึ กระทำกับ
โดยวัตถุทง้ั สองอาจสมั ผสั หรอื ไมต่ ้องสัมผสั กนั เชน่
โดยใชม้ อื ดึงหรือการผลักโตะ๊ ใหเ้ คล่ือนทีเ่ ป็นการออก
งสัมผัสกนั แรงนี้จงึ เปน็ แรงสัมผัส ส่วนการที่แมเ่ หล็ก
กระหว่างแม่เหล็กเปน็ แรงท่เี กิดขน้ึ โดยแมเ่ หล็กไม่
มผัสกนั แรงแมเ่ หลก็ นจ้ี งึ เป็นแรงไมส่ มั ผัส
มารถดึงดดู สารแม่เหล็กได้
ล็กเป็นแรงท่เี กิดขึ้นระหวา่ งแม่เหล็ก กบั สารแม่เหล็ก
กับแมเ่ หลก็ แม่เหลก็ มี 2 ขวั้ คอื ขั้วเหนือและข้วั ใต้
นิดเดยี วกันจะผลกั กัน ต่างชนิดกนั จะดึงดดู กัน

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรียนแก้วอินทร์สธุ าอทุ ิศ 

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปล่ียนแปลงและการถ่ายโอน

ธรรมชาติของคลนื่ ปรากฏการณ์ที่เกยี่ วขอ้ งกบั เสยี ง แสง และคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟา้ ร

รหัสตวั ชี้วัด ตัวช้ีวัด

ว 2.3 ป.3/1 1. ยกตวั อยา่ งการเปลีย่ นพลังงานหน่ึงไปเป็น - พลังงานเป็นปรมิ

อกี พลังงานหนึง่ จากหลักฐานเชิงประจกั ษ์ พลงั งานมหี ลายแบ

พลังงานเสียง และ

จากพลงั งานหนึ่งไป

เปน็ การเปลย่ี นพล

เปลย่ี นพลงั งานแส

พลังงานไฟฟา้ เปน็

ว 2.3 ป.3/2 2. บรรยายการทำงานของเคร่ืองกำเนิดไฟฟ้า - ไฟฟ้าผลติ จากเค

และระบุแหล่งพลังงานในการผลติ ไฟฟ้า จาก ธรรมชาติหลายแห

ขอ้ มูลทรี่ วบรวมได้ จากแก๊สธรรมชำต

ว 2.3 ป.3/3 3. ตระหนักในประโยชนแ์ ละโทษของไฟฟา้ - พลังงานไฟฟ้ามีค

โดยนำเสนอวธิ ีการใช้ไฟฟา้ อย่างประหยดั นอกจากต้องใชอ้ ย

และปลอดภยั ความปลอดภยั ด้วย

 หลกั สูตรกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศา

54

นพลงั งาน ปฏสิ ัมพันธร์ ะหวา่ งสสารและพลังงาน พลังงานในชีวติ ประจำวัน

รวมทั้งนำความร้ไู ปใช้ประโยชน์

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ

มาณท่ีแสดงถึงความสามารถ ในการทำงาน -

บบ เช่น พลงั งานกล พลงั งานไฟฟ้า พลงั งานแสง

ะพลงั งานความร้อน โดยพลงั งานสามารถเปลยี่ น

ปเป็นอีกพลงั งานหนง่ึ ได้ เชน่ การถูมือจนรู้สกึ ร้อน

ลงั งานกลเป็นพลังงานความร้อน แผงเซลลส์ รุ ิยะ

สง เป็นพลังงานไฟฟา้ หรือเครื่องใชไ้ ฟฟา้ เปลี่ยน

นพลงั งานอน่ื

คร่ืองกำเนดิ ไฟฟ้าซ่งึ ใช้พลงั งานจากแหล่งพลงั งาน -

หล่ง เช่น พลงั งานจากลม พลงั งานจากน้ำ พลังงาน

ติ

ความสำคญั ตอ่ ชวี ติ ประจำวัน การใชไ้ ฟฟ้า -

ย่างถกู วธิ ี ประหยดั และคุ้มคา่ แล้ว ยงั ต้องคำนึงถึง

ย

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศกั ราช 2565 โรงเรียนแก้วอนิ ทร์สธุ าอุทศิ 

สาระที่ 3 วิทยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการข

ระบบสุริยะทีส่ ง่ ผลต่อส่งิ มชี ีวิตและการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ

รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชีว้ ัด

ว 3.1 ป.3/1 1. อธบิ ายแบบรูปเส้นทางการข้ึนและตก ของ - คนบนโลกมอ

ดวงอาทิตย์โดยใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ทางอีกดา้ นหน่งึ

ว 3.1 ป.3/2 2. อธบิ ายสาเหตกุ ารเกิดปรากฏการณ์การข้ึน - โลกกลมและห

และตกของดวงอาทิตย์ การเกดิ กลางวนั กลางคืน บริเวณของโลก

และการกำหนดทิศ โดยใช้แบบจำลอง แสงจากดวงอา

แสงจะเปน็ กลา

ว 3.1 ป.3/3 3.ตระหนักถึงความสำคัญของดวงอาทติ ย์ โดย อาทิตยป์ รากฏข

บรรยายประโยชนข์ องดวงอาทิตยต์ ่อส่งิ มีชีวติ และมองเห็นดว

ทศิ ตะวันตก แล

ซ้ายมอื อยู่ทางท

ดา้ นหลงั จะเป็น

- ในเวลากลางว

รอ้ นจากดวงอา

 หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศา

55

ของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภาย ใน

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ
องเห็นดวงอาทิตย์ปรากฏขน้ึ ทางดา้ นหนึ่งและตก -
งทุกวนั หมนุ เวียนเป็นแบบรูปซ้ำ ๆ -
หมุนรอบตวั เองขณะโคจรรอบดวงอาทิตย์ ทำให้
กไดร้ บั แสงอาทิตยไ์ ม่พรอ้ มกนั โลกด้านท่ีไดร้ ับ -
าทิตย์จะเป็นกลางวัน สว่ นด้านตรงขา้ มที่ไม่ได้รับ
างคืน นอกจากนี้คนบนโลกจะมองเห็นดวง
ขนึ้ ทางดา้ นหนึ่งซึ่งกำหนดใหเ้ ปน็ ทศิ ตะวนั ออก
วงอาทติ ยต์ กทางอีกด้านหน่ึง ซึ่งกำหนดใหเ้ ป็น
ละเมื่อใหด้ า้ นขวามืออยู่ทางทิศตะวนั ออก ด้าน
ทิศตะวันตก ด้านหน้าจะเปน็ ทิศเหนือ และ
นทิศใต้
วันโลกจะได้รับพลังงานแสงและพลงั งานความ
าทิตย์ ทำให้ส่งิ มชี วี ติ ดำรงชีวติ อยไู่ ด้

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอุทิศ 

สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวน

เปลีย่ นแปลงลมฟา้ อากาศและภมู ิอากาศโลกรวมทัง้ ผลต่อส่ิงมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม

รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชีว้ ัด ส

ว 3.2 ป.3/1 1. ระบุสว่ นประกอบของอากาศ - อากาศโดยทัว่ ไปไม่มสี

บรรยายความสำคญั ของอากาศ และ ออกซเิ จน แกส๊ คารบ์ อน

ผลกระทบของมลพษิ ทางอากาศตอ่ ละออง อากาศมคี วามสำ

สง่ิ มชี วี ิต จากขอ้ มูล ทร่ี วบรวมได้ ไมเ่ หมาะสม เน่ืองจากม

ว 3.2 ป.3/2 2. ตระหนกั ถงึ ความสำคัญของอากาศ เป็นอนั ตรายต่อสงิ่ มีชวี ิต

โดยนำเสนอแนวทางการปฏบิ ตั ติ นใน - แนวทางการปฏบิ ตั ติ น

การลด การเกดิ มลพิษทางอากาศ พาหนะร่วมกนั หรอื เลือ

ว 3.2 ป 3/3 3. อธบิ ายการเกดิ ลมจากหลักฐานเชิง - ลม คืออากาศที่เคลอ่ื น

ประจกั ษ์ อากาศบรเิ วณที่อยใู่ กล้ก

สูงข้ึน และอากาศบริเวณ

ว 3.2 ป.3/4 4.บรรยายประโยชนแ์ ละโทษของลม -ลมสามารถนำมาใชเ้ ป็น

จากข้อมูลที่รวบรวมได้ นำไปใชป้ ระโยชน์

 หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศา

56

นการเปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการ

ม

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ

สี ไม่มีกลิ่น ประกอบด้วย แก๊สไนโตรเจน แก๊ส -

นไดออกไซด์ แกส๊ อนื่ ๆ รวมท้ังไอนำ้ และ ฝนุ่

ำคัญต่อสงิ่ มีชีวิต หากสว่ นประกอบของอากาศ

มีแก๊สบางชนิดหรือฝนุ่ ละอองในปริมาณมาก อาจ

ตชนิดตา่ ง ๆ จดั เป็นมลพิษ ทางอากาศ - ระบุปัญหามลพิษทางอากาศใน

นเพื่อลดการปลอ่ ยมลพษิ ทางอากาศ เชน่ ใช้ ชมุ ชน และเสนอแนวทางแก้ไขปญั หา

อกใชเ้ ทคโนโลยีทล่ี ดมลพษิ ทางอากาศ

นท่ี เกิดจากความแตกต่างกนั ของอุณหภูมิ

กนั โดยอากาศบรเิ วณท่ีมอี ุณหภมู ิสงู จะลอยตวั

ณทีม่ ีอุณหภมู ติ ำ่ กว่าจะเคล่อื นเข้าไปแทนท่ี

นแหลง่ พลงั งานทดแทน ในการผลิตไฟฟ้า และ -

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแก้วอินทรส์ ธุ าอทุ ศิ 

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดารงชีวิตในสังคมที่มีก

คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้าง

เหมาะสมโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อชีวติ สังคม และสง่ิ แวดลอ้ ม

รหสั ตัวช้ีวดั ตวั ชีว้ ดั ส

--

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาท่พี บในชวี ิตจริงอ

การเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหาได้อย่างมีประสิทธภิ าพ รูเ้ ท่าทนั และมีจริย

รหัสตัวช้ีวัด ตัวช้ีวดั สาระ

ว 3.2 ป.3/1 1. แสดงอัลกอรทิ มึ ในการทำงาน หรอื - อัลกอริทึมเปน็ ขน้ั ตอน

การแก้ปัญหาอยา่ งงา่ ยโดยใช้ภาพ - การแสดงอลั กอรทิ ึมทำ

สัญลักษณ์ หรือข้อความ ใชส้ ญั ลักษณ์

- ตัวอย่างปญั หา เชน่ เก

OX การเดนิ ไปโรงอาหา

ว 3.2 ป.3/2 2. เขียนโปรแกรมอย่างง่าย โดยใช้ - การเขียนโปรแกรมเปน็

ซอฟตแ์ วรห์ รือส่อื และตรวจหำ คอมพวิ เตอร์ทำงาน

ข้อผดิ พลาดของโปรแกรม - ตัวอย่างโปรแกรม เชน่

ซ้ำไม่สิน้ สุด

 หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศา

57

การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิท ยาศาสตร์
งสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่
- -

อย่างเปน็ ข้ันตอนและเป็นระบบใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สารใน

ยธรรม

ะการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น

นท่ีใช้ในการแก้ปัญหา -

ำไดโ้ ดยการเขยี น บอกเลา่ วาดภาพ หรือ

กมเศรษฐี เกมบนั ไดงู เกม Tetris เกม -
าร การทำความสะอาดห้องเรยี น
นการสร้างลำดบั ของคำสัง่ ให้

น เขียนโปรแกรมที่ส่ังให้ ตวั ละครทำงาน

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศักราช 2565 โรงเรียนแกว้ อนิ ทร์สธุ าอทุ ิศ 

รหัสตัวชี้วัด ตัวช้ีวัด สาระ
- การตรวจหาขอ้ ผดิ พลา
ว 3.2 ป.3/3 3.ใช้อนิ เทอร์เน็ตค้นหาความรู้ ข้อผดิ พลาด หรือหากผล
ตรวจสอบการทำงำนทีล
ว 3.2 ป.3/4 4. รวบรวม ประมวลผล และนำเสนอ - ซอฟต์แวร์หรือส่ือท่ีใช้ใ
ขอ้ มลู โดยใชซ้ อฟต์แวรต์ าม แสดงการเขยี นโปรแกรม
วตั ถปุ ระสงค์ - อนิ เทอรเ์ นต็ เป็นเครือข
ทำได้สะดวกและรวดเรว็
การเรยี น และการดำเนิน
- เวบ็ เบราว์เซอรเ์ ปน็ โปร
- การสืบคน้ ข้อมูลบนอนิ
สบื คน้ และต้องกำหนดค
ต้องการ ข้อมลู ความรู้ เช
ตา่ ง ๆ ขอ้ มูลประวตั ิศาส
หรอื เร่อื งท่ีเป็นประเด็นท
- การใช้อินเทอร์เนต็ อย
หรอื ผู้ปกครอง
- การรวบรวมข้อมลู ทำ
อุปกรณ์ในการจดบนั ทกึ
- การประมวลผลอยา่ งง

 หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศา

ะการเรยี นรแู้ กนกลาง 58
าดทำได้โดยตรวจสอบคำสงั่ ที่แจง้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ
ลลพั ธ์ไม่เปน็ ไปตามที่ต้องการให้
ละคำส่ัง -
ในการเขียนโปรแกรม เช่น ใชบ้ ตั รคำสงั่
ม, Code.org -
ข่ายขนาดใหญ่ชว่ ยให้ การตดิ ต่อสอื่ สาร
ว และ เป็นแหลง่ ขอ้ มลู ความรทู้ ่ชี ่วยใน
นชีวิต
รแกรมสำหรับอ่านเอกสารบนเวบ็ เพจ
นเทอร์เนต็ ทำไดโ้ ดยใชเ้ วบ็ ไซตส์ ำหรับ
คำคน้ ที่เหมาะสมจงึ จะได้ข้อมูลตาม
ชน่ วธิ ีทำอาหาร วิธพี ับกระดาษ เป็นรปู
สตรช์ าติไทย (อาจเป็นความรใู้ นวิชาอ่นื ๆ
ที่สนใจ ในช่วงเวลาน้ัน)
ยา่ งปลอดภัยควรอย่ใู นการดแู ลของครู

ำไดโ้ ดยกำหนดหวั ข้อทีต่ อ้ งการ เตรียม
ก
ง่าย เช่น เปรียบเทียบ จดั กลมุ่ เรียงลำดับ

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปีพุทธศักราช 2565 โรงเรียนแก้วอนิ ทร์สธุ าอุทิศ 

รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชว้ี ัด สาระ
- การนำเสนอข้อมูลทำไ
ว 3.2 ป.3/5 5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง การบอกเล่า การทำเอก
ปลอดภัย ปฏิบตั ิตามข้อตกลงในการใช้ - การใชซ้ อฟต์แวรท์ ำงา
อนิ เทอรเ์ นต็ นำเสนอหรอื ซอฟต์แวรก์
ซอฟต์แวร์ประมวลคำ ท
ซอฟตแ์ วรต์ ารางทำงานใ
- การใช้เทคโนโลยีสารส
สว่ นตวั
- ขอความชว่ ยเหลอื จาก
การใชง้ าน เม่ือพบขอ้ มลู
- การปฏบิ ตั ิตามข้อตกล
ความเสียหายตอ่ ตนเองแ
ทอ ทำใหผ้ ู้อื่นเสียหาย ห

 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศา

ะการเรียนรูแ้ กนกลาง 59
ไดห้ ลายลกั ษณะตาม ความเหมาะสม เชน่ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ
กสารรายงาน การจัดทำป้ายประกาศ
านตามวตั ถุประสงค์ เชน่ ใช้ซอฟต์แวร์ -
กรำฟิก สรา้ งแผนภมู ิรูปภาพ ใช้
ทำปา้ ยประกาศ หรือเอกสารรายงาน ใช้
ในการประมวลผลขอ้ มลู
สนเทศอยา่ งปลอดภัย เชน่ ปกป้องข้อมูล

กครู หรอื ผู้ปกครองเม่ือเกดิ ปัญหาจาก
ลหรอื บคุ คลทที่ ำให้ไมส่ บายใจ
ลงในการใชอ้ นิ เทอร์เนต็ จะทำให้ไมเ่ กิด
และผู้อ่ืน เช่น ไม่ใช้คำหยาบ ล้อเลียน ด่ำ
หรือเสียใจ

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพุทธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแกว้ อินทร์สธุ าอุทิศ 

ตวั ชีว้ ัดและสาระการเ

ชั้นประถมศึกษ

สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ

มาตรฐาน ว 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหวา่ งส่ิง

ในระบบนิเวศ การถ่ายทอดพลังงาน การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความ

สงิ่ แวดล้อม แนวทางในการอนรุ กั ษท์ รัพยากรธรรมชาตแิ ละการแกไ้ ขปญั หาสิ่งแวด

รหสั ตวั ช้ีวัด ตวั ชีว้ ัด สาระ

--

สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ

มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัติของส่ิงมีชวี ติ หน่วยพ้ืนฐานของส่ิงมีชีวิต การลำเลียง

ของสตั ว์และมนุษย์ทีท่ ำงานสมั พนั ธ์กนั ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท่ีของ

ประโยชน์

รหัสตัวชี้วดั ตวั ชวี้ ัด สาระ

ว 1.2 ป 4/1 1. บรรยายหน้าท่ีของราก ลำต้น ใบ - ส่วนต่าง ๆ ของพืชดอก

และดอกของพชื ดอกโดยใชข้ ้อมูลท่ี - รากทำหน้าที่ดูดน้ำแล

รวบรวมได้ - ลำตน้ ทำหน้าที่ลำเลียง

- ใบทำหน้าทีส่ ร้างอาหา

เปลี่ยนเปน็ แปง้

 หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศา

60

เรยี นรแู้ กนกลาง

ษาปีท่ี 4

งไม่มีชีวติ กับสิ่งมีชวี ติ และความสัมพันธร์ ะหวา่ งสง่ิ มีชีวิตกับสิง่ มีชีวิตต่างๆ

มหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติและ

ดลอ้ มรวมทัง้ นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ะการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่

--

งสารผา่ นเซลล์ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหนา้ ท่ขี องระบบตา่ ง ๆ
งอวยั วะตา่ ง ๆ ของพืชทีท่ ำงานสมั พนั ธก์ นั รวมทง้ั นำความรไู้ ปใช้

ะการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถน่ิ
อกทำหนา้ ทแ่ี ตกต่างกัน - ศึกษา โครงสร้างของพืชทพ่ี บในบริเวณ
ละแร่ธาตุขน้ึ ไปยังลำตน้ โรงเรยี น
งนำ้ ต่อไปยงั สว่ นตา่ ง ๆ ของพืช
าร อาหารท่พี ืชสรา้ งขน้ึ คือน้ำตาลซึ่งจะ

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศักราช 2565 โรงเรียนแก้วอินทรส์ ธุ าอทุ ิศ 

รหสั ตัวชี้วัด ตวั ช้ีวดั สาระ
- ดอกทำหน้าท่สี บื พนั ธ์ุ
กลบี เลี้ยง กลีบดอก เกส
สว่ นประกอบแตล่ ะส่วน

สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ

มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสำคญั ของการถ่ายทอดลักษณะทางพ

สงิ่ มีชีวติ ความหลากหลายทางชีวภาพและววิ ัฒนาการของส่ิงมชี ีวิต รวมท้ังนำควา

รหสั ตัวชี้วดั ตวั ช้วี ัด

ว 1.3 ป.4/1 1. จำแนกสิ่งมีชีวติ โดยใชค้ วามเหมือนและ - สิ่งมีชีวติ มหี ลาย

ความแตกต่างของลักษณะของส่งิ มีชวี ิต และความแตกตา่

ออกเป็น กลมุ่ พืช กลุม่ สตั ว์ และกลุ่มท่ีไม่ใช่พชื เองได้ และเคล่ือน

และสตั ว์ อาหารและเคลอ่ื น

จุลนิ ทรีย์

ว 1.3 ป.4/2 2. จำแนกพืชออกเปน็ พืชดอกและพืชไมม่ ดี อก - การจำแนกพชื

โดยใช้การมดี อกเป็นเกณฑ์ โดยใชข้ อ้ มูล ที่ ได้เปน็ พืชดอกแล

รวบรวมได้ กระดูกสันหลัง เป

หลังและสตั ว์ไมม่

 หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศา

ะการเรียนรแู้ กนกลาง 61
ประกอบดว้ ยส่วนประกอบตา่ ง ๆ ได้แก่ สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน
สรเพศผู้ และเกสรเพศเมยี ซง่ึ
นของดอก ทำหน้าที่แตกต่างกัน

พันธกุ รรม สารพันธุกรรม การเปลยี่ นแปลงทางพนั ธุกรรมท่มี ผี ลต่อ

ามรู้ไปใชป้ ระโยชน์

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ

ยชนดิ สามารถจดั กลุ่มได้โดยใช้ ความเหมือน - สำรวจ จดั กลมุ่ สิง่ มีชีวติ ทีพ่ บบริเวณ

างของลกั ษณะต่าง ๆ เชน่ กลมุ่ พชื สร้างอาหาร โรงเรียน และบริเวณชุมชนโดยรอบ

นท่ดี ว้ ยตนเองไม่ได้ กลุ่มสัตวก์ นิ ส่ิงมีชีวติ อื่นเป็น

นทไ่ี ด้ กล่มุ ท่ีไมใ่ ช่พชื และสตั ว์ เชน่ เห็ด รา

ช สามารถใช้การมดี อกเปน็ เกณฑ์ ในการจำแนก -
ละพืชไมม่ ีดอก การจำแนกสตั ว์ สามารถใช้การมี
ปน็ เกณฑ์ในการจำแนก ไดเ้ ป็นสตั ว์มีกระดูกสัน
มีกระดกู สันหลัง

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศกั ราช 2565 โรงเรียนแกว้ อินทร์สธุ าอุทศิ 

รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชี้วดั - สตั วม์ ีกระดูกสนั
ว 1.3 ป.4/3 3. จำแนกสตั วอ์ อกเป็นสตั ว์มีกระดูกสนั หลงั สะเทินนำ้ สะเทนิ
และสตั วไ์ มม่ ีกระดกู สันหลงั โดยใชก้ ารมกี ระดูก เลี้ยงลกู ด้วยน้ำนม
ว 1.3 ป.4/4 สันหลังเป็นเกณฑ์ โดยใช้ข้อมูลทรี่ วบรวมได้
4. บรรยายลักษณะเฉพาะทีส่ ังเกตได้ของสตั ว์มี
กระดูกสันหลังในกลมุ่ ปลา กลุ่มสัตวส์ ะเทนิ น้ำ
สะเทินบก กลมุ่ สตั วเ์ ลอื้ ยคลาน กลุ่มนก และ
กลมุ่ สัตว์เลย้ี งลกู ด้วยน้ำนม และยกตวั อยา่ ง
สง่ิ มชี ีวิตในแตล่ ะกลุ่ม

สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัตขิ องสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสัมพันธ์ระหว

และธรรมชาตขิ องการเปลีย่ นแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเ

รหัสตัวชี้วดั ตวั ชวี้ ดั สา

ว 2.1 ป.4/1 1. เปรยี บเทยี บสมบัติทางกายภาพด้าน - วัสดุแต่ละชนดิ มสี มบตั

ความแขง็ สภาพยืดหยุ่น การนำความ จะทนต่อแรงขูดขดี วัสด

รอ้ น และการนำไฟฟ้าของวัสดโุ ดยใช้ มแี รงมากระทำและกลับ

หลกั ฐานเชิงประจักษ์จากการทดลอง เรว็ เมื่อไดร้ บั ความร้อน แ

และระบุการนำสมบัติเร่ืองความแข็ง ผา่ นได้ ดังน้ันจึงอาจนำส

สภาพยดื หยนุ่ การนำความร้อน และ กระบวนการออกแบบชิ้น

 หลกั สูตรกล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศา

สาระการเรียนรู้แกนกลาง 62
นหลงั มหี ลายกลมุ่ ได้แก่ กลมุ่ ปลา กลมุ่ สตั ว์
นบก กลมุ่ สตั วเ์ ล้อื ยคลาน กล่มุ นก และกลุ่มสตั ว์ สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่
ม ซึ่งแต่ละกลุม่ จะมีลกั ษณะเฉพาะทสี่ ังเกตได้ -

วา่ งสมบตั ขิ องสสารกับโครงสร้างและแรงยึดเหนย่ี วระหว่างอนภุ าค หลกั

เกดิ ปฏกิ ิริยาเคมี

าระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ

ติทางกายภาพแตกตา่ งกนั วัสดทุ ่มี ีความแข็ง - สำรวจ ขยะที่พบบริเวณโรงเรียน และ

ดุที่มสี ภาพยืดหยนุ่ จะเปล่ยี นแปลงรูปร่างเม่อื เปรียบเทียบสมบตั ิของวัสดุ

บสภาพเดมิ ได้ วสั ดุท่ีนำความร้อนจะรอ้ นได้

และวัสดทุ ่นี ำไฟฟ้าได้ จะให้กระแสไฟฟ้าไหล

สมบัติตา่ ง ๆ มาพิจารณาเพื่อใช้ใน

นงานเพ่ือใชป้ ระโยชนใ์ นชวี ิตประจำวัน

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปีพุทธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแก้วอินทร์สธุ าอทุ ศิ 

รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชวี้ ดั สา
ว 2.1 ป.4/2 การนำไฟฟ้าของวัสดุไปใชใ้ น
ว 2.1 ป.4/3 ชวี ติ ประจำวนั ผา่ นกระบวนกำรออก - วัสดุเป็นสสารเพราะมมี
ว 2.1 ป.4/4 แบบชิ้นงาน ของแขง็ ของเหลว หรือ
2. แลกเปลยี่ นความคดิ กบั ผู้อื่นโดยการ ของเหลวมปี ริมาตรคงท
อภิปรายเกีย่ วกบั สมบัติทางกายภาพของ ท่บี รรจขุ องเหลว ส่วนแก
วัสดอุ ยา่ งมีเหตผุ ลจากการทดลอง ภาชนะทบ่ี รรจุ
3. เปรียบเทียบสมบตั ขิ องสสารทงั้ 3
สถานะ จากขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการสังเกต
มวล การต้องการท่ีอยู่ รูปร่างและ
ปรมิ าตรของสสาร
4. ใช้เคร่อื งมือเพื่อวัดมวล และปรมิ าตร
ของสสารทงั้ 3 สถานะ

สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ

มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต

ประโยชน์

รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวช้วี ดั สา

ว 2.2 ป.4/1 1. ระบุผลของแรงโน้มถ่วงทีม่ ีต่อวตั ถุ - แรงโน้มถ่วงของโลกเป

จากหลักฐานเชงิ ประจักษ์ สศู่ ูนย์กลางโลก และเปน็

 หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศา

าระการเรยี นรู้แกนกลาง 63
สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น

มวลและตอ้ งการที่อยู่ สสารมีสถานะเป็น -
อแก๊ส ของแข็ง มีปริมาตรและรปู ร่างคงที่ -
ท่ี แต่มีรูปรา่ งเปลี่ยนไปตามภาชนะเฉพาะส่วน
กส๊ มปี ริมาตรและรปู รา่ งเปลยี่ นไปตาม

ต่อวัตถุ ลักษณะการเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ของวัตถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้

าระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิน่
ปน็ แรงดงึ ดูดท่ีโลกกระทำตอ่ วัตถุ มีทศิ ทางเข้า -
นแรงไม่สมั ผัส แรงดึงดดู ทโ่ี ลกกระทำกบั วัตถุ

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศกั ราช 2565 โรงเรียนแก้วอนิ ทร์สธุ าอทุ ิศ 

รหสั ตวั ชี้วดั ตวั ช้ีวัด สา
หนึง่ ๆ ทำให้วตั ถตุ กลงส
ว 2.2 ป.4/2 2. ใช้เคร่อื งช่งั สปรงิ ในการวัดน้ำหนกั ของวตั ถุไดจ้ ากเครื่องชงั่
โดยวตั ถุที่มมี วลมากจะม
ของวตั ถุ น้อย
- มวล คอื ปริมาณเน้ือข
ว 2.2 ป.4/3 3. บรรยายมวลของวตั ถุท่ีมผี ลต่อการ ตอ่ ความยากง่ายในการเ
เปล่ยี นแปลงการเคลื่อนท่ีของวัตถุจาก มากจะเปลย่ี นแปลงการ
หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ มวลของวตั ถนุ อกจากจะ
หมายถึงการตา้ นการเปล

สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ

มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปลย่ี นแปลงและกา

พลังงานในชวี ิตประจำวนั ธรรมชาติของคล่นื ปรากฏการณ์ทเี่ กีย่ วข้องกับ

ประโยชน์

รหสั ตวั ชี้วัด ตัวชีว้ ดั ส

ว 2.3 ป.4/1 1. จำแนกวัตถุเป็นตวั กลางโปร่งใส - เม่ือมองสงิ่ ตา่ ง ๆ โดยม

ตวั กลางโปร่งแสง และวตั ถุทึบแสง จาก การมองเหน็ สง่ิ น้นั ๆ ชดั เ

ลักษณะการมองเหน็ สง่ิ ตา่ งๆ ผา่ นวตั ถุ ตวั กลางโปร่งใส ซง่ึ ทำให

 หลักสตู รกลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศา

าระการเรยี นรู้แกนกลาง 64
สู่พ้ืนโลก และทำให้วตั ถมุ นี ้ำหนัก วัดนำ้ หนกั สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่
งสปริง น้ำหนกั ของวัตถุขึน้ กับมวลของวัตถุ
มนี ้ำหนกั มาก วตั ถุทมี่ มี วลน้อยจะมีน้ำหนัก -

ของสารทั้งหมดทป่ี ระกอบกนั เป็นวัตถุ ซึง่ มีผล
เปล่ยี นแปลงการเคล่ือนท่ีของวัตถุ วัตถุทีม่ ีมวล
รเคลอ่ื นท่ไี ดย้ ากกวา่ วัตถุที่มีมวลน้อย ดังนนั้
ะหมายถึงเนื้อทัง้ หมดของวตั ถนุ น้ั แล้วยัง
ล่ียนแปลง การเคล่อื นทข่ี องวตั ถนุ น้ั ดว้ ย

ารถา่ ยโอนพลงั งาน ปฏสิ มั พนั ธ์ระหว่างสสารและพลังงาน
บเสยี ง แสง และคลนื่ แม่เหลก็ ไฟฟา้ รวมทัง้ นำความรไู้ ปใช้

สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ
มวี ตั ถุต่างชนดิ กนั มาก้นั แสง จะทำให้ลกั ษณะ -
เจนต่างกนั จงึ จำแนกวตั ถทุ ีม่ ากน้ั ออกเป็น
ห้มองเห็นสง่ิ ตา่ ง ๆ ไดช้ ดั เจน ตวั กลางโปรง่ แสง

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรียนแก้วอนิ ทรส์ ธุ าอุทศิ 

รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ชวี้ ัด ส

นั้นเปน็ เกณฑ์โดยใชห้ ลักฐานเชิง ทำใหม้ องเห็น สง่ิ ตา่ ง ๆ

ประจักษ์ ส่งิ ต่าง ๆ นนั้

สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.1 เขา้ ใจองค์ประกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวฒั นาการ

ระบบสุริยะท่ีส่งผลตอ่ สงิ่ มชี ีวติ และการประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ

รหสั ตัวช้ีวัด ตัวช้วี ัด สา

ว 3.1 ป.4/1 1. อธิบายแบบรูปเสน้ ทางการขนึ้ และ - ดวงจนั ทรเ์ ปน็ บริวารขอ

ตก ของดวงจันทร์ โดยใชห้ ลกั ฐานเชงิ รอบโลก ขณะที่โลกกห็ มนุ

ประจักษ์ ของโลกจากทศิ ตะวันตกไ

มองจากขว้ั โลกเหนอื ทำใ

ตะวันออกและตกทางด้าน

ว 3.1 ป.4/2 2. สร้างแบบจำลองที่อธิบายแบบรูป - ดวงจนั ทรเ์ ปน็ วัตถุท่ีเป

การเปล่ียนแปลงรปู รา่ งปรากฏของดวง หรอื รูปรา่ งปรากฏของดว

จนั ทร์ และพยากรณร์ ูปร่างปรากฏของ ในแตล่ ะวนั ดวงจันทร์จะม

ดวงจนั ทร์ ต่อเนื่องจนเตม็ ดวง จากน

ขนาดลดลง อยา่ งต่อเนื่อง

ของดวงจันทรจ์ ะเปน็ เสย้ี ว

เชน่ น้ีเปน็ แบบรปู ซำ้ กัน ท

 หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศา

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 65
ได้ไม่ชดั เจน และ วัตถทุ บึ แสงทำใหม้ องไม่เหน็ สาระการเรียนรู้ท้องถน่ิ

รของเอกภพ กาแลก็ ซีดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทงั้ ปฏิสมั พันธ์ภายใน

าระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
องโลก โดยดวงจันทรห์ มนุ รอบตวั เองขณะโคจร -
น รอบตวั เองดว้ ยเช่นกนั การหมนุ รอบตัวเอง
ไปทิศตะวนั ออกในทิศทางทวนเข็มนาฬกิ าเม่ือ -
ใหม้ องเห็น ดวงจันทรป์ รากฏขึ้นทางด้านทศิ
นทิศตะวันตกหมุนเวยี นเปน็ แบบรูปซำ้ ๆ
ปน็ ทรงกลม แต่รูปร่างของดวงจันทร์ท่มี องเหน็
วงจนั ทร์บนทอ้ งฟา้ แตกต่างกนั ไปในแตล่ ะวนั โดย
มีรูปร่างปรากฏเป็นเสย้ี วทีม่ ีขนาดเพมิ่ ข้นึ อยา่ ง
นนั้ รูปรา่ งปรากฏของดวงจนั ทรจ์ ะแหว่งและมี
งจนมองไม่เหน็ ดวงจันทร์ จากน้นั รูปร่างปรากฏ
วใหญข่ ้นึ จนเตม็ ดวงอีกคร้ัง การเปล่ียนแปลง
ทุกเดือน

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพุทธศักราช 2565 โรงเรยี นแกว้ อินทร์สธุ าอุทิศ 

รหสั ตัวช้ีวัด ตวั ช้วี ดั สา

ว 3.1 ป.4/3 3. สร้างแบบจำลองแสดงองค์ประกอบ - ระบบสุรยิ ะเปน็ ระบบท

ของระบบสุริยะ และอธิบาย ประกอบด้วย ดาวเคราะห

เปรยี บเทยี บคาบ การโคจรของดาว ขนาดและระยะหา่ งจากด

เคราะห์ต่าง ๆ จากแบบจำลอง เคราะห์แคระ ดาวเคราะห

อยู่รอบดวงอาทิตย์ วัตถุข

เนือ่ งจากแรงโน้มถว่ งของ

อกุ กาบาต

สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ

มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวน

เปลีย่ นแปลงลมฟา้ อากาศและภูมอิ ากาศโลกรวมทั้งผลตอ่ ส่ิงมีชวี ิตและส่ิงแวดล้อม

รหัสตวั ช้ีวดั ตวั ช้ีวัด

--

สาระท่ี 4 เทคโนโลยี

มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่ม

คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้า

เหมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ชวี ิต สงั คม และส่งิ แวดลอ้ ม

รหสั ตวั ชี้วัด ตัวช้ีวัด

--

 หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศา

าระการเรยี นรู้แกนกลาง 66
ทีม่ ีดวงอาทติ ย์เปน็ ศนู ยก์ ลางและมีบรวิ าร
ห์แปดดวงและบริวาร ซึ่งดาวเคราะห์แตล่ ะดวงมี สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิน่
ดวงอาทิตย์แตกต่างกนั และยังประกอบดว้ ย ดาว -
ห์น้อย ดาวหาง และวัตถุขนาดเล็กอน่ื ๆ โคจร
ขนาดเล็กอน่ื ๆ เม่ือเข้ามาในชัน้ บรรยากาศ
งโลก ทำให้เกดิ เปน็ ดาวตกหรอื ผีพุ่งไต้และ

นการเปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการ

ม

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถิ่น

--

มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์
างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อย่าง

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถ่ิน
- -

าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศักราช 2565 โรงเรยี นแก้วอนิ ทร์สธุ าอทุ ศิ 