สาระท่ี 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตจร
ในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ รเู้ ท่าทนั และมีจ
รหัสตวั ชี้วดั ตัวชีว้ ดั
ว 4.2 ป.4/1 1. ใช้เหตผุ ลเชิงตรรกะในการแก้ปญั หา - การใช้เหตผุ ลเชิงตรร
การอธิบายการทำงาน การคาดการณ์ ทกุ กรณมี าใช้พจิ ารณา
ผลลัพธ์ จากปญั หาอยา่ งง่าย คาดการณผ์ ลลพั ธ์
- สถานะเร่มิ ต้นของกา
- ตัวอยา่ งปัญหา เชน่
ตัวละครหลายตัวและ
กนั , การเดนิ ทางไปโรง
ว 4.2 ป.4/2 2. ออกแบบ และเขียนโปรแกรมอยา่ งง่าย - การออกแบบโปรแก
โดยใชซ้ อฟตแ์ วร์ หรอื ส่ือ และตรวจหา หรอื การออกแบบอัลก
ข้อผดิ พลาดและแก้ไข - การเขยี นโปรแกรมเป
เพื่อให้ไดผ้ ลลัพธต์ าม
ทำงานทลี ะคำสงั่ เม่ือ
จนกว่าจะไดผ้ ลลัพธ์ที่
- ตวั อยา่ งโปรแกรมท่ีม
สั้น เลา่ กิจวตั รประจำว
การฝกึ ตรวจหาข้อผดิ พ
การหาสำเหตขุ องปญั ห
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศา
67
ริงอย่างเป็นขัน้ ตอนและเป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร
จรยิ ธรรม
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ
รกะเป็นการนำกฎเกณฑ์ หรือเงอ่ื นไขท่ีครอบคลมุ -
าในการแกป้ ญั หา การอธิบายการทำงาน หรอื การ
ารทำงานทแ่ี ตกต่างกนั จะใหผ้ ลลพั ธ์ที่แตกต่างกนั
เกม OX, โปรแกรมทมี่ ี การคำนวณ, โปรแกรมทมี่ ี
มีการสัง่ งานทีแ่ ตกต่าง หรือมีการส่ือสารระหวา่ ง
งเรยี นโดยวิธีการตา่ ง ๆ
กรมอย่างงา่ ย เชน่ การออกแบบโดยใช้ storyboard
กอริทมึ
ป็นการสรา้ งลำดบั ของคำสัง่ ใหค้ อมพวิ เตอร์ทำงาน
ความต้องการ หากมขี ้อผิดพลาดให้ตรวจสอบ การ
อพบจุดท่ีทำให้ผลลัพธ์ ไม่ถูกต้อง ใหท้ ำการแก้ไข
ถูกต้อง
มีเรอ่ื งราว เช่น นทิ านทมี่ ี การตอบโต้กับผ้ใู ช้ การ์ตูน
วนั ภาพเคล่อื นไหว
พลาดจากโปรแกรมของผู้อืน่ จะชว่ ยพัฒนาทกั ษะ
หาไดด้ ยี ิ่งข้นึ
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอุทศิ
รหสั ตวั ชี้วัด ตัวชวี้ ัด
3. ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตคน้ หาความรู้ และ
ประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมลู -ซอฟต์แวรท์ ่ใี ช้ในการ
- การใชค้ ำค้นท่ตี รงปร
4. รวบรวม ประเมนิ นำเสนอข้อมลู และ ตรงตามความต้องการ
สารสนเทศ โดยใชซ้ อฟต์แวร์ที่หลากหลาย - การประเมินความนา่
เพ่ือแกป้ ญั หาในชวี ติ ประจำวนั เว็บไซต์ ผ้เู ขยี น วนั ท
- เมือ่ ได้ข้อมูลที่ต้องกา
เปรียบเทียบ แล้วเลือก
- การทำรายงานหรือก
สรปุ เปน็ ภาษาของตน
นำเสนอ (บรู ณาการก
- การรวบรวมขอ้ มูล ท
การจดบนั ทึก
- การประมวลผลอยา่
ผลรวม
- วิเคราะห์ผลและสรา้
(เปรียบเทยี บ ตัดสนิ )
- การนำเสนอข้อมลู ท
บอกเล่า เอกสารรายง
- การใชซ้ อฟต์แวรเ์ พื่อ
เมนูอาหารกลางวนั โด
หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศา
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 68
รเขียนโปรแกรม เชน่ Scratch, logo สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ
ระเดน็ กระชับ จะทำใหไ้ ด้ ผลลพั ธท์ ่ีรวดเรว็ และ
ร
าเชอ่ื ถือของข้อมูล เชน่ พจิ ารณาประเภทของ
ทีเ่ ผยแพร่ข้อมูล การอ้างอิง
ารจากเว็บไซตต์ า่ ง ๆ จะต้องนำเนอื้ หามาพจิ ารณา
กขอ้ มลู ทมี่ ีความสอดคล้องและสัมพันธก์ นั
การนำเสนอข้อมูลจะต้อง นำข้อมลู มาเรียบเรียง
นเอง ที่เหมาะสมกบั กลมุ่ เป้าหมายและวธิ ีการ
กับวชิ าภาษไทย)
ทำไดโ้ ดยกำหนดหัวขอ้ ท่ีตอ้ งการ เตรียมอปุ กรณใ์ น
างง่าย เช่น เปรยี บเทียบ จดั กล่มุ เรียงลำดับ การหา
างทางเลือกทเี่ ปน็ ไปได้ ประเมินทางเลือก
ทำได้หลายลักษณะตาม ความเหมาะสม เช่น การ
งาน โปสเตอร์ โปรแกรมนำเสนอ
อแกป้ ัญหาในชีวิตประจำวนั เช่น การสำรวจ
ดยใช้ซอฟตแ์ วรส์ รา้ งแบบสอบถามและเกบ็ ข้อมลู ใช้
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรียนแกว้ อนิ ทร์สธุ าอุทิศ
รหัสตัวชี้วดั ตัวชว้ี ัด
5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภยั ซอฟต์แวรต์ ารางทำงา
เขา้ ใจสิทธิและหนา้ ทขี่ องตน เคารพใน คณุ คา่ ทางโภชนาการแ
สิทธขิ องผูอ้ ่นื แจ้งผู้เก่ียวข้องเมอื่ พบข้อมูล นำเสนอผลการสำรวจ
หรอื บุคคลท่ีไม่เหมาะสม โภชนาการ
- การใช้เทคโนโลยสี าร
เคารพในสิทธขิ องผู้อน่ื
ความเดือดร้อนต่อผู้อ่นื
ข้อมูลสว่ นตวั ของผู้อื่น
การบ้านของบุคคลอ่ืน
บัญชีของผู้อน่ื
- การส่ือสารอยา่ งมมี า
- การปกปอ้ งข้อมูลสว่
รหัสผา่ น ไมบ่ อกเลขป
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศา
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง 69
านเพ่ือประมวลผลขอ้ มลู รวบรวมข้อมูลเกีย่ วกับ สาระการเรยี นรู้ท้องถน่ิ
และสรา้ งรายการอาหารสำหรับ 5 วนั ใช้ซอฟต์แวร์
จ รายการอาหารทเ่ี ปน็ ทางเลอื ก และขอ้ มูลดา้ น
รสนเทศอยา่ งปลอดภยั เขา้ ใจสิทธแิ ละหนา้ ท่ีของตน
น เช่น ไมส่ รา้ งข้อความเท็จและส่งให้ผอู้ ื่น ไม่สร้าง
นโดยการส่งสแปม ขอ้ ความลกู โซ่ ส่งตอ่ โพสต์ที่มี
น สง่ คำเชิญเล่นเกม ไม่เข้าถึงข้อมูลสว่ นตัวหรือ
นโดยไม่ไดร้ ับอนญุ าต ไมใ่ ชเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์/ ช่ือ
ารยาทและรกู้ าลเทศะ
วนตวั เชน่ การออกจากระบบเม่ือเลิกใช้งาน ไมบ่ อก
ประจำตัวประชำชน
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปีพุทธศกั ราช 2565 โรงเรียนแก้วอินทร์สธุ าอุทศิ
ตัวชวี้ ัดและสาระการเ
ชั้นประถมศึกษ
สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่าง
ต่างๆ ในระบบนเิ วศ การถ่ายทอดพลังงาน การเปลย่ี นแปลงแทนที่ในระบบนเิ วศ ค
และส่ิงแวดลอ้ ม แนวทางในการอนรุ กั ษ์ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละการแกไ้ ขปญั หาสิ่ง
รหัสตวั ชี้วัด ตัวช้ีวัด
ว 1.1 ป.5/1 1. บรรยายโครงสร้างและลักษณะของสิ่งมีชวี ติ - สิง่ มีชวี ติ ทั้งพชื แ
ทเี่ หมาะสมกับการดำรงชีวิตซ่ึงเป็นผลมาจาก ละแหลง่ ท่ีอยู่ ซ่งึ
การปรบั ตัวของสง่ิ มีชวี ิตในแต่ละแหลง่ ที่อยู่ ดำรงชีวติ และอย
อากาศในก้านใบ
มรี ากคำ้ จนุ ทำให
ว 1.1 ป.5/2 2. อธบิ ายความสัมพนั ธร์ ะหว่างส่งิ มชี ีวิตกับ - ในแหลง่ ที่อยูห่ น
ส่ิงมีชีวติ และความสัมพันธร์ ะหว่างสิ่งมชี ีวิตกับ สัมพนั ธก์ บั สิ่งไมม่
ความสัมพนั ธก์ ัน
ว 1.1 ป.5/3 3. เขียนโซ่อาหารและระบุบทบาทหนา้ ท่ีของ หลบภัยและเล้ียง
สิ่งมีชวี ติ ท่เี ปน็ ผู้ผลติ และผบู้ รโิ ภคในโซ่อาหาร
หลักสตู รกล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศา
70
เรียนรแู้ กนกลาง
ษาปีที่ 5
งสิ่งไม่มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต
ความหมายของประชากรปญั หาและผลกระทบที่มีต่อทรัพยากรธรรมชาติ
งแวดล้อมรวมท้ังนำความร้ไู ปใช้ประโยชน์
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน
และสตั ว์มีโครงสรา้ งและลักษณะ ท่ีเหมาะสมในแต่ -
งเปน็ ผลมาจาก การปรับตัวของสง่ิ มชี วี ิต เพื่อให้
ยู่รอดได้ในแต่ละแหลง่ ที่อยู่ เชน่ ผักตบชวามชี อ่ ง
ช่วยใหล้ อยน้ำได้ ตน้ โกงกางท่ีข้นึ อยูใ่ น ป่าชายเลน
ห้ลำต้นไม่ล้ม ปลามคี รีบช่วยในการเคลื่อนที่ในน้ำ
นงึ่ ๆ สิง่ มีชวี ิตจะมีความสัมพันธ์ ซงึ่ กันและกนั และ - สำรวจ และอธิบายความสมั พันธ์
มีชีวติ เพ่ือประโยชนต์ อ่ การดำรงชีวิต เชน่ ของสงิ่ มชี วี ิตท่ีพบในโรงเรียน และ
ด้านการกินกนั เปน็ อาหาร เป็นแหล่งทีอ่ ยู่อาศัย บรเิ วณบา้ น
งดลู กู อ่อน ใช้อากาศในการหายใจ
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแก้วอินทร์สธุ าอุทิศ
รหสั ตัวชี้วัด ตวั ช้วี ัด - ส่งิ มีชวี ติ มีการก
ว 1.1 ป.5/4 4. ตระหนักในคุณค่าของส่ิงแวดล้อมที่มตี ่อ รูปแบบของโซ่อา
การดำรงชวี ติ ของส่งิ มชี ีวติ โดยมสี ว่ นรว่ ม ใน เปน็ ผู้ผลิตและผูบ้
การดแู ลรกั ษาสิ่งแวดลอ้ ม
สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบัตขิ องสง่ิ มีชีวิต หนว่ ยพนื้ ฐานของสิ่งมีชีวิต การลำเล
ของสัตว์และมนุษย์ที่ทำงานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท
ประโยชน์
รหสั ตวั ชี้วัด ตัวช้วี ดั
--
สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.3 เขา้ ใจกระบวนการและความสำคัญของการถา่ ยทอดลกั ษณะทา
ส่ิงมีชวี ิต ความหลากหลายทางชีวภาพและวิวัฒนาการของส่ิงมชี ีวติ รวมทง้ั นำควา
รหสั ตวั ช้ีวดั ตวั ชี้วดั
ว 1.2 ป.5/1 1. อธิบายลักษณะทางพนั ธกุ รรมที่มีการ - สิง่ มีชีวติ ทัง้ พชื สัตว์ แ
ถา่ ยทอดจากพ่อแมส่ ู่ลกู ของพืช สัตว์ จำนวนและดำรงพันธุ์ โด
และมนุษย์
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศา
71
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรทู้ ้องถ่ิน
กินกนั เปน็ อาหารโดยกินต่อกนั เปน็ ทอด ๆ ใน - เขียนโซอ่ าหารแสดงความสมั พนั ธ์
าหารทำให้สามารถระบุบทบาทหน้าท่ีของส่ิงมชี วี ิต ของสิ่งมีชีวิตภายในโรงเรยี น และ
บริโภค บรเิ วณบ้าน
ลียงสารผ่านเซลลค์ วามสมั พนั ธ์ของโครงสร้าง และหน้าทีข่ องระบบต่าง ๆ
ที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทำงานสัมพันธ์กันรวมทั้งนำควา มรู้ไปใช้
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น
- -
างพันธุกรรม สารพันธกุ รรม การเปลย่ี นแปลงทางพันธุกรรมท่ีมผี ลต่อ
ามรูไ้ ปใช้ประโยชน์
สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิน่
และมนุษย์ เม่อื โตเต็มทจ่ี ะมีการสบื พันธเุ์ พอ่ื เพ่มิ -
ดยลกู ท่ีเกิดมาจะไดร้ บั การถ่ายทอดลกั ษณะทาง
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศักราช 2565 โรงเรียนแก้วอินทรส์ ธุ าอทุ ิศ
รหัสตัวชี้วัด ตัวชว้ี ัด พนั ธุกรรมจากพ่อแม่ทำใ
ว 1.2 ป.5/2 2. แสดงความอยากรู้อยากเห็นโดยการ ส่ิงมีชีวติ ชนดิ อนื่
ถามคำถามเกย่ี วกับลกั ษณะที่คลา้ ยคลึง - พืชมกี ารถ่ายทอดลักษ
กันของตนเองกบั พ่อแม่ - สัตว์มกี ารถา่ ยทอดลกั ษ
ลักษณะของหู
- มนุษย์มกี ารถ่ายทอดล
ลกั ษณะหนงั ตำ การห่อล
สาระที่ 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบตั ขิ องสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสมั พันธร์ ะห
และธรรมชาตขิ องการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเก
รหัสตวั ชี้วดั ตวั ชว้ี ดั
ว 2.1 ป.5/1 1. อธบิ ายการเปล่ยี นสถานะของสสาร - การเปลยี่ นสถานะของ
เมื่อทำให้สสารรอ้ นขึ้นหรือเย็นลง โดยใช้ ความร้อนให้กับสสารถึง
หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ สถานะเป็นของเหลว เร
จนถึงอีกระดบั หน่ึงของเ
แต่เม่ือลดความรอ้ นลงถ
เรียกวา่ การควบแน่น แ
ของเหลวจะเปลย่ี นสถา
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศา
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 72
ใหม้ ีลักษณะทางพนั ธกุ รรมท่ีเฉพาะแตกต่างจาก
สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน
ษณะทางพนั ธกุ รรม เช่น ลักษณะของใบ สีดอก -
ษณะทางพันธกุ รรม เช่น สีขน ลกั ษณะของขน
ลกั ษณะทางพนั ธุกรรม เชน่ เชิงผมท่ีหน้าผาก ลกั ย้มิ
ลิ้น ลกั ษณะของต่ิงหู
หวา่ งสมบตั ขิ องสสารกับโครงสรา้ งและแรงยดึ เหนี่ยวระหวา่ งอนภุ าค หลัก
กดิ ปฏกิ ิรยิ าเคมี
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น
งสสารเป็นการเปลย่ี นแปลงทางกายภาพ เม่ือเพิ่ม -
งระดบั หน่งึ จะทำให้สสารท่ีเป็นของแข็งเปล่ียน
รียกว่า การหลอมเหลว และเม่ือเพ่มิ ความรอ้ นต่อไป
เหลวจะเปล่ยี นเปน็ แก๊ส เรยี กวา่ การกลายเป็นไอ
ถงึ ระดับหนึ่งแก๊สจะเปลีย่ นสถานะเป็นของเหลว
และถา้ ลดความรอ้ นต่อไปอีกจนถงึ ระดบั หน่ึง
านะเป็นของแขง็ เรียกว่า การแข็งตัว สสารบางชนิด
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแก้วอนิ ทรส์ ธุ าอุทศิ
รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชีว้ ัด
ว 2.1 ป.5/2
ว 2.1 ป.5/3 สามารถเปล่ยี นสถานะจ
ว 2.1 ป.5/4 เรยี กวา่ การระเหิด ส่วน
โดยไมผ่ า่ น การเปน็ ของ
2. อธบิ ายการละลายของสารในน้ำ โดย - เมือ่ ใส่สารลงในนำ้ แลว้
ใชห้ ลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ วา่ สารเกดิ การละลาย เร
3. วเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลงของสาร - เม่ือผสมสาร 2 ชนดิ ขึ้น
เมอ่ื เกดิ การเปล่ยี นแปลงทางเคมี โดยใช้ หรอื เมื่อสารชนดิ เดยี ว เก
หลกั ฐานเชงิ ประจกั ษ์ เปลีย่ นแปลงน้เี รียกว่า ก
ตา่ งจากสารเดิม หรือ มีฟ
ลดลงของอุณหภมู ิ
4. วิเคราะหแ์ ละระบุการเปลี่ยนแปลงที่ เม่อื สารเกิดการเปลย่ี นแ
ผันกลบั ได้และการเปลย่ี นแปลงทีผ่ นั กลับ เป็นการเปล่ยี นแปลงที่ผ
ไม่ได้ การละลาย แตส่ ารบางอ
กลบั เป็นสารเดมิ ได้ เปน็
การเกดิ สนิม
หลักสูตรกล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศา
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 73
จากของแข็งเปน็ แกส๊ โดยไมผ่ า่ นการเป็น ของเหลว สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ
นแกส๊ บางชนดิ สามารถเปลยี่ นสถานะเปน็ ของแขง็
งเหลว เรยี กว่า การะเหิดกลบั -
วสารนั้นรวมเปน็ เนื้อเดยี วกนั กับนำ้ ทั่วทุกส่วน แสดง -
รียกสารผสมทไี่ ดว้ ่าสารละลาย
นไปแล้วมสี ารใหม่เกิดข้ึน ซ่งึ มีสมบตั ิต่างจากสารเดิม -
กิดการเปลีย่ นแปลงแล้วมีสารใหม่เกดิ ข้นึ การ
การเปลี่ยนแปลงทางเคมี ซงึ่ สังเกตได้จากมสี ี หรือกล่ิน
ฟองแก๊ส หรือมีตะกอนเกดิ ขึ้น หรือมกี ารเพ่ิมข้นึ หรือ
แปลงแล้ว สารสามารถเปลย่ี นกลบั เปน็ สารเดิมได้
ผนั กลับได้ เชน่ การหลอมเหลว การกลายเป็นไอ
อย่างเกิดการเปลีย่ นแปลง แล้วไมส่ ามารถเปลี่ยน
นการเปล่ียนแปลงทผ่ี นั กลับไมไ่ ด้ เช่น การเผาไหม้
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรียนแก้วอนิ ทร์สธุ าอทุ ิศ
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวติ ประจำวัน ผลของแรงที่กระทำต่อ
ประโยชน์
รหัสตัวช้ีวัด ตวั ชี้วดั ส
ว 2.1 ป.5/1 1. อธิบายวิธกี ารหาแรงลัพธ์ของแรง - แรงลพั ธเ์ ป็นผลรวมขอ
หลายแรงในแนวเดยี วกนั ท่ีกระทำต่อ แรงทีก่ ระทำต่อวตั ถุเดยี
วตั ถใุ นกรณีทว่ี ัตถอุ ยู่น่ิงจากหลักฐานเชิง แรงทง้ั สอง อยูใ่ นแนวเด
ประจักษ์ เท่ากบั ผลต่างของแรงท้ัง
ว 2.1 ป.5/2 2. เขียนแผนภาพแสดงแรงที่กระทำตอ่ ทางตรงข้ามกัน สำหรับว
วัตถทุ ีอ่ ยใู่ นแนวเดียวกันและแรงลพั ธ์ท่ี ศูนย์
กระทำต่อวัตถุ - การเขยี นแผนภาพของ
ว 2.1 ป.5/3 3. ใชเ้ คร่ืองชง่ั สปรงิ ในการวดั แรงท่ี ลกู ศร โดยหัวลกู ศรแสด
กระทำตอ่ วตั ถุ ขนาดของแรงท่กี ระทำต
ว 2.1 ป.5/4 4. ระบผุ ลของแรงเสียดทานที่มตี ่อ การ - แรงเสียดทานเปน็ แรงท
เปลี่ยนแปลงการเคล่ือนทขี่ องวตั ถจุ าก เคลอื่ นที่ของวัตถุนน้ั โดย
หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ใหเ้ คลือ่ นท่ี แรงเสียดทา
ว 2.1 ป.5/5 5. เขียนแผนภาพแสดงแรงเสียดทาน แต่ถ้ำวัตถุกำลังเคล่ือนท
และแรง ที่อยู่ในแนวเดยี วกันท่ีกระทำ หรอื หยุดน่ิง
ตอ่ วัตถุ
หลกั สูตรกลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศา
74
วตั ถุ ลกั ษณะการเคลอ่ื นทแี่ บบตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมทั้งนำความรู้ไปใช้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่นิ
องแรงท่ีกระทำต่อวตั ถุ โดยแรงลพั ธ์ของแรง 2 -
ยวกนั จะมีขนาดเทา่ กบั ผลรวมของแรงทัง้ สองเมื่อ
ดียวกนั และมีทิศทางเดียวกนั แต่จะมีขนาด -
งสองเมอ่ื แรงทงั้ สอง อยใู่ นแนวเดียวกันแตม่ ีทศิ
วตั ถุที่อยู่น่งิ แรงลัพธ์ท่ีกระทำต่อวัตถมุ คี า่ เป็น
งแรงทก่ี ระทำต่อวัตถุสามารถเขียนไดโ้ ดยใช้ -
ดงทิศทางของแรง และความยาวของลูกศรแสดง -
ต่อวตั ถุ
-
ทเ่ี กดิ ขึ้นระหว่างผวิ สมั ผัสของวตั ถุ เพือ่ ต้านการ
ยถา้ ออกแรงกระทำต่อวตั ถุที่อยู่นิง่ บนพ้นื ผิวหนงึ่
านจากพนื้ ผวิ น้นั กจ็ ะตา้ นการเคลือ่ นทีข่ องวัตถุ
ที่ แรงเสยี ดทานกจ็ ะทำให้วตั ถนุ ั้นเคล่อื นทช่ี ้ำลง
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศักราช 2565 โรงเรยี นแก้วอินทรส์ ธุ าอทุ ศิ
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว 2.3 เขา้ ใจความหมายของพลังงาน การเปลย่ี นแปลงและการ
พลงั งานในชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลืน่ ปรากฏการณ์ทเ่ี กีย่ วขอ้ งกบั
ประโยชน์
รหัสตัวช้ีวัด ตวั ชีว้ ัด
ว 2.3 ป.5/1 1. อธบิ ายการไดย้ ินเสียงผา่ นตัวกลาง จาก - การได้ยนิ เสยี ง
หลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ ของเหลว หรอื อา
ว 2.3 ป.5/2 2. ระบตุ วั แปร ทดลองและอธิบาย ลักษณะ - เสียงทไ่ี ด้ยนิ มีระ
และการเกดิ เสียงสูง เสยี งตำ่ ส่ันของแหลง่ กำเน
ว 2.3 ป.5/3 3. ออกแบบกำรทดลองและอธบิ าย ลกั ษณะ ต่ำจะเกิดเสียงต่ำ
และการเกิดเสียงดัง เสียงคอ่ ย ดังคอ่ ยท่ีได้ยินขึน้
ว 2.3 ป 5/4 4. วัดระดบั เสยี งโดยใชเ้ คร่ืองมือวดั ระดับเสียง เม่ือแหล่งกำเนิดเ
ว 2.3 ป.5/5 5. ตระหนกั ในคุณคำ่ ของความร้เู รื่องระดับเสยี ง แหลง่ กำเนดิ เสยี ง
โดยเสนอแนะแนวทางในการหลกี เล่ยี งและลด - เสียงดังมาก ๆ
มลพิษทางเสียง ความรำคาญเป็น
ความดงั ของเสียง
หลกั สูตรกลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศา
75
รถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสมั พนั ธ์ระหวา่ งสสารและพลังงาน
บเสียง แสง และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า รวมทงั้ นำความรู้ไปใช้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
งน้ันต้องอาศัยตวั กลางโดยอาจเป็นของแข็ง -
ากาศ เสยี งจะส่งผา่ นตัวกลางมายังหู
ะดับสูงต่ำของเสยี งต่างกันข้ึนกบั ความถี่ของการ -
นดิ เสยี ง โดยเมอื่ แหล่งกำเนดิ เสียงสน่ั ด้วยความถี่
ำ แต่ถ้ำสนั่ ด้วยความถี่สูงจะเกิดเสียงสงู สว่ นเสยี ง
นกบั พลังงานการส่ันของแหล่งกำเนิดเสยี ง โดย
เสยี งสน่ั พลังงานมากจะเกดิ เสียงดัง แต่ถ้า
งสั่นด้วยพลงั งานนอ้ ยจะเกิดเสยี งคอ่ ย
เปน็ อนั ตรายตอ่ การไดย้ นิ และเสียงท่ีกอ่ ใหเ้ กดิ
นมลพิษทางเสียง เดซิเบลเปน็ หนว่ ยท่ีบอกถึง
ง
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรียนแก้วอนิ ทร์สธุ าอทุ ศิ
สาระท่ี 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองคป์ ระกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการ
ระบบสุริยะทสี่ ง่ ผลตอ่ สงิ่ มชี ีวิตและการประยกุ ต์ใชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ
รหสั ตวั ชี้วัด ตัวช้ีวดั ส
ว 3.1 ป.5/1 1. เปรียบเทยี บความแตกตา่ งของดาว - ดาวท่ีมองเหน็ บนท้องฟ
เคราะห์และดาวฤกษจ์ ากแบบจำลอง บรรยากาศของโลกมีทัง้ ด
แหล่งกำเนดิ แสงจงึ สามา
แหลง่ กำเนดิ แสง แต่สาม
กระทบดาวเคราะห์แลว้
ว 3.1 ป.5/2 2. ใชแ้ ผนที่ดาวระบตุ ำแหนง่ และ - การมองเห็นกลมุ่ ดาวฤ
เส้นทาง การขนึ้ และตกของกลุ่มดาว สงั เกต กล่มุ ดาวฤกษต์ ่าง
ฤกษ์บนท้องฟ้า และอธบิ ายแบบรูป ละดวงเรียงกันที่ตำแหน
เส้นทางการข้นึ และตก ของกลุ่มดาว เดิมทุกคนื ซ่งึ จะปรากฏ
ฤกษบ์ นท้องฟา้ ในรอบปี ตกของดาวฤกษ์และกลุ่ม
มุมทิศและมุมเงยที่กลุม่ ด
ประมาณค่าของมมุ เงยเม
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศา
76
รของเอกภพ กาแล็กซีดาวฤกษ์ และระบบสุริยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธภ์ ายใน
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถน่ิ
ฟา้ อยู่ในอวกาศซ่งึ เป็นบริเวณท่อี ยู่นอก -
ดาวฤกษ์และดาวเคราะห์ ดาวฤกษเ์ ปน็
ารถมองเหน็ ได้ ส่วนดาวเคราะห์ ไม่ใช่ -
มารถมองเหน็ ได้เน่ืองจากแสงจากดวงอาทติ ยต์ ก
วสะท้อนเข้าสู่ตำ
ฤกษม์ ีรปู ร่างตา่ ง ๆ เกิดจากจินตนาการของผู้
ง ๆ ที่ปรากฏในท้องฟา้ แต่ละกลุ่มมีดาวฤกษแ์ ต่
น่งคงท่ี และมเี สน้ ทางการขึ้นและตกตามเสน้ ทาง
ฏตำแหน่งเดมิ การสงั เกตตำแหน่งและการข้ึนและ
มดาวฤกษ์สามารถทำได้โดยใช้แผนทด่ี าว ซึง่ ระบุ
ดาวน้ันปรากฏ ผู้สังเกตสามารถใชม้ อื ในการ
มอ่ื สงั เกตดาวในท้องฟ้า
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศักราช 2565 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอุทศิ
สาระที่ 3 วิทยาศาสตร์โลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวน
เปลี่ยนแปลงลมฟา้ อากาศและภูมิอากาศโลกรวมทงั้ ผลตอ่ ส่ิงมีชีวติ และส่ิงแวดล้อม
รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชว้ี ดั
ว 3.2 ป.5/1 1. เปรยี บเทียบปริมาณนำ้ ในแต่ละแหล่ง - โลกมที ้ังนำ้ จืดและน
และระบปุ ริมาณนำ้ ทีม่ นุษยส์ ามารถ ดิน เชน่ ทะเล มหาสม
นำมาใช้ประโยชน์ได้ จากขอ้ มลู ที่รวบรวม และนำ้ บาดาล น้ำทั้งห
ได้ ซ่ึงอยใู่ นมหาสมทุ รแล
2.5 เปน็ นำ้ จืด ถ้ำเรยี ง
น้ำแข็งและพืดน้ำแข็ง
ทะเลสาบ ความช้ืนใน
สง่ิ มชี วี ิต
ว 3.2 ป.5/2 2. ตระหนกั ถงึ คณุ ค่าของน้ำโดยนำเสนอ - น้ำจดื ทมี่ นุษยน์ ำมาใ
แนวทาง การใชน้ ้ำอย่างประหยัดและการ ประหยัดและร่วมกันอ
อนรุ ักษน์ ้ำ
ว 3.2 ป.5/3 3. สร้างแบบจำลองท่ีอธบิ ายการหมุนเวยี น - วัฏจกั รนำ้ เป็นการห
ของนำ้ ในวฏั จักรน้ำ ระหว่างนำ้ ในบรรยาก
ดำรงชวี ิตของพืชและส
ว 3.2 ป.5/4 4. เปรียบเทียบกระบวนการเกดิ เมฆ - ไอน้ำในอากาศจะคว
หมอก นำ้ ค้าง และนำ้ คา้ งแข็ง จาก เช่น เกลอื ฝนุ่ ละออง
แบบจำลอง จำนวนมากเกาะกลุ่มร
หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศา
77
นการเปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการ
ม
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ
นำ้ เค็มซึ่งอยู่ในแหล่งนำ้ ต่าง ๆ ทม่ี ีทง้ั แหล่งนำ้ ผิว -
มทุ ร บงึ แมน่ ้ำ และแหลง่ น้ำใต้ดนิ เช่น นำ้ ในดิน
หมดของโลกแบง่ เป็นนำ้ เค็มประมาณร้อยละ 97.5
ะแหล่งน้ำอ่ืน ๆ และท่เี หลอื อีกประมาณรอ้ ยละ
งลำดับปรมิ าณน้ำจืดจากมากไปน้อยจะอยู่ท่ี ธาร
นำ้ ใต้ดิน ช้นั ดินเยอื กแข็งคงตวั และน้ำแขง็ ใต้ดนิ
นดิน ความชื้นในบรรยากาศ บงึ แมน่ ้ำ และนำ้ ใน
ใชไ้ ดม้ ีปริมาณนอ้ ยมาก จึงควรใช้น้ำอย่าง
อนรุ ักษน์ ้ำ
หมนุ เวยี นของนำ้ ทม่ี แี บบรปู ซ้ำเดิม และตอ่ เนื่อง
กาศ นำ้ ผิวดนิ และน้ำใต้ดนิ โดยพฤตกิ รรมการ
สตั ว์สง่ ผลตอ่ วัฏจักรนำ้
วบแนน่ เป็นละอองนำ้ เลก็ ๆ โดยมลี ะอองลอย
เกสรดอกไม้ เปน็ อนภุ าคแกนกลาง เมือ่ ละอองนำ้
รวมกนั ลอยอยสู่ งู จากพื้นดนิ มาก เรียกวา่ เมฆ แต่
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศักราช 2565 โรงเรียนแก้วอินทร์สธุ าอทุ ศิ
รหัสตวั ช้ีวดั ตวั ชวี้ ดั
ว 3.2 ป.5/5 5. เปรยี บเทียบกระบวนการเกดิ ฝน หิมะ ละอองน้ำท่ีเกาะกลมุ่ ร
และลกู เห็บ จากข้อมลู ทร่ี วบรวมได้ ควบแนน่ เปน็ ละอองน
น้ำคา้ ง ถำ้ อณุ หภมู ิ ใก
น้ำค้างแขง็
- ฝน หมิ ะ ลูกเห็บ เปน็
ฟา้ ถึงพ้ืนดนิ ฝน เกิดจ
สามารถ
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมที่ม
คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนางานอย่างมีความคิดสร้า
เหมาะสมโดยคำนงึ ถงึ ผลกระทบต่อชีวติ สังคม และส่งิ แวดลอ้ ม
รหสั ตัวช้ีวดั ตัวช้วี ดั
--
หลกั สตู รกลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศา
สาระการเรียนร้แู กนกลาง 78
รวมกันอยูใ่ กลพ้ น้ื ดนิ เรยี กว่า หมอก ส่วนไอนำ้ ท่ี สาระการเรยี นรู้ท้องถนิ่
น้ำเกาะอยู่บนพื้นผวิ วตั ถุใกล้พ้ืนดิน เรียกว่า
กลพ้ ้นื ดินตำ่ กวา่ จดุ เยือกแข็ง น้ำค้างก็จะกลายเป็น
นหยาดน้ำฟา้ ซึง่ เป็นน้ำทีม่ สี ถานะต่าง ๆ ที่ตกจาก
จากละอองน้ำในเมฆที่รวมตัวกันจนอากาศไม่
มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์
างสรรค์ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยี อย่าง
สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรูท้ อ้ งถน่ิ
- -
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศักราช 2565 โรงเรียนแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอุทศิ
สาระที่ 4 เทคโนโลยี
มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแก้ปญั หาท่ีพบในชีวิตจร
ในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หาไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ รู้เทา่ ทัน และมีจ
รหัสตัวชี้วดั ตวั ช้ีวัด
ว 4.2 ป.5/1 1. ใชเ้ หตผุ ลเชงิ ตรรกะในการแกป้ ญั หา - การใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรก
การอธบิ ายการทำงาน การคาดการณ์ ทกุ กรณีมาใช้พจิ ารณา ใ
ผลลัพธ์ จากปัญหาอยา่ งงา่ ย คาดการณผ์ ลลพั ธ์
- สถานะเรมิ่ ต้นของการ
- ตัวอย่างปญั หา เช่น เก
สร้างรปู เรขาคณิตตามค
วนั หยดุ , จดั วางของในค
ว 4.2 ป.5/2 2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีมกี าร - การออกแบบโปรแกรม
ใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะอย่างง่าย ตรวจหา - การออกแบบและเขยี น
ข้อผิดพลาดและแก้ไข ทุกกรณีเพื่อให้ไดผ้ ลลพั
- หากมีข้อผิดพลาดให้ต
ใหผ้ ลลพั ธ์ไมถ่ ูกตอ้ ง ให้ท
- การฝึกตรวจหาข้อผดิ พ
การหาสาเหตุของปัญหา
- ตัวอยา่ งโปรแกรม เช่น
ข้อมูลน้ำหนักหรอื สว่ นส
โปรแกรมสั่งให้ ตัวละคร
หลักสูตรกล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศา
79
ริงอยา่ งเป็นข้ันตอนและเป็นระบบใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร
จรยิ ธรรม
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ
กะเปน็ การนำกฎเกณฑ์ หรือเงอื่ นไขทค่ี รอบคลมุ -
ในการแกป้ ญั หา การอธบิ ายการทำงาน หรอื การ
รทำงานท่แี ตกตา่ งกันจะใหผ้ ลลพั ธท์ ่ีแตกตา่ งกัน -
กม Sudoku , โปรแกรมทำนายตัวเลข, โปรแกรม
ค่าข้อมูลเข้า, การจัดลำดบั การทำงานบา้ นในช่วง
ครัว
มสามารถทำได้โดยเขียน เป็นข้อความ หรือผังงาน
นโปรแกรมที่มกี ารตรวจสอบเงอ่ื นไขทค่ี รอบคลมุ
พธ์ทถ่ี ูกต้องตรงตามความต้องการ
ตรวจสอบการทำงาน ทลี ะคำสงั่ เม่ือพบจดุ ท่ีทำ
ทำการแก้ไขจนกว่าจะได้ผลลัพธท์ ่ีถูกต้อง
พลาดจากโปรแกรมของผู้อืน่ จะชว่ ยพฒั นาทกั ษะ
าไดด้ ยี ิ่งข้ึน
น โปรแกรมตรวจสอบเลขค่เู ลขค่ี โปรแกรมรับ
สูงแล้วแสดงผลความสมสว่ นของรา่ งกาย,
รทำตามเงือ่ นไขที่กำหนด
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศักราช 2565 โรงเรยี นแกว้ อินทร์สธุ าอุทิศ
รหสั ตวั ช้ีวดั ตวั ชว้ี ัด
ว 4.2 ป.5/3
- ซอฟต์แวร์ที่ใชใ้ นการเ
ว 4.2 ป.5/4
3. ใชอ้ นิ เทอร์เน็ตคน้ หาข้อมูล - การคน้ หาข้อมลู ในอิน
ตดิ ตอ่ สือ่ สารและทำงานร่วมกนั ประเมนิ - การตดิ ต่อส่ือสารผา่ นอ
ความน่าเช่ือถือของข้อมูล - การเขียนจดหมาย (บูร
- การใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตในก
หมายในการประชมุ กลมุ่
แลกเปลย่ี นความรู้ ควา
- การประเมนิ ความนา่ เ
สมบูรณ์ของข้อมลู จากห
เผยแพรข่ ้อมลู
- ขอ้ มลู ทด่ี ีต้องมรี ายละ
และโทษ
4. รวบรวม ประเมนิ นำเสนอ ข้อมลู และ - การรวบรวมข้อมูล ปร
สารสนเทศ ตามวัตถปุ ระสงค์โดยใช้ สารสนเทศเพ่ือใชใ้ นการ
ซอฟตแ์ วร์หรอื บรกิ ารบนอินเทอรเ์ น็ตท่ี ประสิทธภิ าพ
หลากหลาย เพอ่ื แก้ปญั หาใน - การใชซ้ อฟต์แวร์หรือบ
ชีวติ ประจำวัน รวบรวม ประมวลผล สร
แก้ปญั หาทำได้อย่างรวด
- ตวั อยา่ งปญั หา เชน่ ถ
แนวทางในการจัดการพ
หลกั สตู รกล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศา
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 80
เขยี นโปรแกรม เช่น Scratch, logo สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
นเทอร์เนต็ และการพิจารณาผลการค้นหา
อนิ เทอรเ์ น็ต เช่น อีเมล บล็อก โปรแกรมสนทนา -
รณาการกับวชิ าภาษาไทย)
การติดต่อสอื่ สารและทำงานรว่ มกัน เชน่ ใช้นดั -
ม ประชำสัมพนั ธก์ ิจกรรมในห้องเรยี น การ
ามคดิ เห็นในการเรียน ภายใตก้ ารดูแลของครู
เช่ือถือของขอ้ มูล เช่น เปรยี บเทียบความสอดคล้อง
หลายแหล่ง แหล่งตน้ ตอของข้อมลู ผู้เขียน วันที่
ะเอียดครบทกุ ด้าน เช่น ข้อดีและข้อเสีย ประโยชน์
ระมวลผล สรา้ งทางเลือก ประเมนิ ผล จะทำใหไ้ ด้
รแกป้ ัญหาหรือการตัดสนิ ใจได้อย่างมี
บริการบนอนิ เทอรเ์ น็ต ทห่ี ลากหลายในการ
รา้ งทางเลอื ก ประเมินผล นำเสนอ จะชว่ ยใหก้ าร
ดเร็ว ถูกต้อง และแม่นยำ
ถา่ ยภาพและสำรวจแผนที่ ในทอ้ งถ่ินเพอื่ นำเสนอ
พ้นื ท่วี า่ งใหเ้ กิดประโยชน์ ทำแบบสำรวจความคดิ
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพุทธศักราช 2565 โรงเรียนแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอทุ ิศ
รหสั ตัวช้ีวดั ตัวชว้ี ัด เห็นออนไลน์ และวเิ ครา
ว 4.2 ป.5/5 web page
5. ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศอย่าง อันตรายจากการใชง้ านแ
ปลอดภัย มมี ารยาท เข้าใจสิทธิและ - มารยาทในการติดตอ่ ส
หนา้ ท่ีของตน เคารพในสิทธิของผู้อื่น เกีย่ วข้อง)
แจ้งผู้เกี่ยวขอ้ งเม่ือพบขอ้ มลู หรอื บุคคลที่
ไม่เหมาะสม
หลักสตู รกล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศา
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 81
าะห์ข้อมูล นำเสนอขอ้ มลู โดยการใช้ Blog หรอื สาระการเรียนร้ทู อ้ งถ่นิ
และอาชญากรรม ทางอินเทอรเ์ น็ต -
ส่ือสารผ่านอินเทอร์เนต็ (บรู ณาการกบั วชิ าท่ี
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทร์สธุ าอทุ ศิ
ตัวชว้ี ดั และสาระการเ
ชั้นประถมศึกษ
สาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.1 เข้าใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ระหว่า
ตา่ งๆ ในระบบนิเวศ การถา่ ยทอดพลังงาน การเปล่ียนแปลงแทนท่ใี นระบบนเิ วศ ค
และสง่ิ แวดลอ้ ม แนวทางในการอนรุ กั ษ์ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละการแกไ้ ขปญั หาสิ่ง
รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชวี้ ัด
--
สาระท่ี 1 วทิ ยาศาสตรช์ ีวภาพ
มาตรฐาน ว 1.2 เข้าใจสมบตั ิของสิ่งมีชวี ิต หน่วยพื้นฐานของสิ่งมีชีวติ การลาเล
ของสัตว์และมนุษย์ที่ทางานสัมพันธ์กัน ความสัมพันธ์ของโครงสร้าง และหน้าท
ประโยชน์
รหัสตัวช้ีวัด ตัวช้ีวัด
ว 1.2 ป.6/1 1. ระบสุ ารอาหารและบอกประโยชน์ของ - สารอาหารท่ีอย
สารอาหารแต่ละประเภทจากอาหารท่ี ไขมัน เกลอื แร่ ว
ตนเองรบั ประทาน - อาหารแต่ละชน
ว 1.2 ป.6/2 2. บอกแนวทางในการเลือกรับประทาน บางอย่างประกอ
อาหารใหไ้ ดส้ ารอาหารครบถ้วนในสัดสว่ นที่ ประกอบดว้ ยสาร
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศา
82
เรียนรู้แกนกลาง
ษาปีที่ 6
งสิ่งไม่มีชีวิตกับสิ่งมีชีวิตและความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับสิ่งมีชีวิต
ความหมายของประชากรปัญหาและผลกระทบท่ีมีต่อทรัพยากรธรรมชาติ
งแวดล้อมรวมทั้งนำความร้ไู ปใช้ประโยชน์
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนร้ทู ้องถน่ิ
--
ลยี งสารผ่านเซลล์ความสมั พันธ์ของโครงสร้าง และหน้าทีข่ องระบบตา่ งๆ
ที่ของอวัยวะต่าง ๆ ของพืชที่ทางานสัมพันธ์กันรวมทั้งนำควา มรู้ไปใช้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ
ยู่ในอาหารมี 6 ประเภท ได้แก่ คารโ์ บไฮเดรต โปรตีน -
วิตามนิ และนำ้
นดิ ประกอบด้วยสารอาหาร ที่ แตกตา่ งกนั อาหาร -
อบด้วยสารอาหารประเภทเดยี ว อาหารบางยา่ ง
รอาหารมากกว่าหนึ่งประเภท
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปีพุทธศกั ราช 2565 โรงเรียนแก้วอนิ ทรส์ ธุ าอทุ ิศ
รหัสตวั ช้ีวัด ตัวช้ีวดั - สารอาหารแต่ล
ว 1.2 ป.6/3 เหมาะสมกับเพศและวัย รวมทง้ั ความ คาร์โบไฮเดรต โป
ปลอดภัยต่อสขุ ภาพ รา่ งกาย ส่วนเกล
ว 1.2 ป.6/4 3. ตระหนักถึงความสำคัญของสารอาหาร แก่รา่ งกาย แต่ชว่
โดยการเลือกรบั ประทานอาหารทม่ี สี ารอำ อาหารเพื่อให้รา่ ง
หารครบถว้ นในสดั สว่ นท่เี หมาะสมกับเพศ เพศและวยั และ
และวัย รวมทงั้ ปลอดภัยต่อสขุ ภาพ เพยี งพอกับความ
ในสัดส่วนทีเ่ หมา
4. สร้างแบบจำลองระบบยอ่ ยอาหาร และ ปรมิ าณของวตั ถุ
บรรยายหนา้ ทขี่ องอวยั วะในระบบยอ่ ย - ระบบย่อยอาห
อาหาร รวมท้ังอธบิ ายการย่อยอาหารและ อาหาร กระเพาะ
การดูดซึมสารอาหาร อ่อน ซึง่ ทำหนา้ ท
หลกั สตู รกลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศา
สาระการเรียนรู้แกนกลาง 83
ละประเภทมีประโยชน์ต่อรา่ งกายแตกตา่ งกนั โดย สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ
ปรตีน และไขมัน เป็นสารอาหารท่ีใหพ้ ลงั งานแก่
ลือแร่ วิตามนิ และนำ้ เป็นสารอาหารท่ไี ม่ให้พลังงาน -
วยให้ร่างกายทำงานได้เปน็ ปกติ – การรบั ประทาน
งกายเจรญิ เตบิ โต มกี ารเปลยี่ นแปลงของร่างกายตาม -
ะ มสี ุขภาพดี จำเปน็ ตอ้ งรบั ประทานใหไ้ ด้พลังงาน
มต้องการของรา่ งกาย และใหไ้ ด้สารอาหารครบถ้วน
าะสมกับเพศ และวยั รวมท้งั ตอ้ งคำนึงถงึ ชนิดและ
เจือปนในอาหารเพื่อความปลอดภยั ต่อสขุ ภาพ
หารประกอบด้วยอวัยวะต่าง ๆ ได้แก่ ปาก หลอด
ะอาหาร ลำไส้เลก็ ลำไสใ้ หญ่ ทวารหนกั ตับ และตบั
ที่รว่ มกันในการยอ่ ยและดดู ซมึ สารอาหาร
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพุทธศักราช 2565 โรงเรยี นแกว้ อินทรส์ ธุ าอทุ ิศ
รหัสตวั ช้ีวดั ตัวชีว้ ดั - ปาก มีฟันช่วยบ
ว 1.2 ป.6/5 5. ตระหนกั ถงึ ความสำคัญของระบบยอ่ ย คลุกเคลา้ อาหาร
อาหาร โดยการบอกแนวทางในการดูแล น้ำตาล
รกั ษาอวยั วะในระบบย่อยอาหารให้ทำงาน – หลอดอาหาร
เป็นปกติ อาหาร ภายในกร
ท่สี รา้ งจากกระเพ
- ลำไสเ้ ลก็ มเี อน
ช่วยย่อยโปรตนี
และไขมนั ที่ผา่ น
ได้ รวมถงึ นำ้ เกล
กระแสเลือด เพ่ือ
คารโ์ บไฮเดรต แ
ในกิจกรรมต่าง ๆ
ทำงานได้เปน็ ปก
- ตับสร้างนำ้ ดแี ล
- ลำไสใ้ หญท่ ำห
ไมไ่ ด้ หรอื ย่อยไม
หนัก
- อวัยวะตา่ ง ๆ ใ
ดแู ลรักษาอวัยวะ
หลักสตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศา
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง 84
บดเคี้ยวอำหารใหม้ ีขนาดเล็กลงและมีลน้ิ ช่วย สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ
รกบั น้ำลาย ในน้ำลาย มีเอนไซม์ย่อยแป้งให้เปน็
ทำหน้าทลี่ ำเลียงอาหารจากปาก ไปยังกระเพาะ
ระเพาะอาหารมกี ารย่อยโปรตีนโดยกรดและเอนไซม์
พาะอาหาร
นไซม์ท่ีสรา้ งจากผนังลำไส้เล็กเองและจากตับอ่อนท่ี
คารโ์ บไฮเดรต และไขมนั โดยโปรตีน คาร์โบไฮเดรต
นการย่อยจนเปน็ สารอาหารขนาดเล็กพอท่ีจะ ดูดซึม
ลือแร่ และวิตามิน จะถูกดูดซึม ท่ีผนงั ลำไสเ้ ลก็ เขา้ สู่
อลำเลียงไปยังสว่ นต่าง ๆ ของร่างกาย ซงึ่ โปรตีน
และไขมนั จะถกู นำไปใช้เป็นแหลง่ พลังงานสำหรับใช้
ๆ ส่วนน้ำ เกลือแร่ และวิตามนิ จะชว่ ยให้ร่างกาย
กติ
ลว้ ส่งมายงั ลำไสเ้ ล็กชว่ ยใหไ้ ขมันแตกตัว
หน้าท่ีดดู น้ำและเกลอื แร่ เปน็ บริเวณท่มี ีอาหารที่ย่อย
มห่ มด เป็นกากอาหาร ซง่ึ จะถูกกำจัดออกทางทวาร
ในระบบย่อยอาหาร มคี วามสำคญั จงึ ควรปฏบิ ัตติ น
ะให้ทำงานเป็นปกติ
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปพี ทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอทุ ิศ
สาระที่ 1 วิทยาศาสตรช์ วี ภาพ
มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคญั ของการถ่ายทอดลักษณะทา
ส่ิงมีชวี ิต ความหลากหลายทางชวี ภาพและววิ ัฒนาการของสิ่งมชี ีวิต รวมทัง้ นำควา
รหสั ตัวช้ีวัด ตัวชว้ี ัด
--
สาระที่ 2 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.1 เขา้ ใจสมบัติของสสาร องค์ประกอบของสสาร ความสมั พนั ธ์ระห
และธรรมชาติของการเปล่ียนแปลงสถานะของสสาร การเกดิ สารละลาย และการเก
รหสั ตวั ชี้วดั ตัวชี้วดั
ว 2.1 ป.6/1 1. อธบิ ายและเปรียบเทยี บการแยกสารผสม - สารผสมประกอบ
โดยการหยิบออก การร่อน การใช้แมเ่ หล็ก ผสมนำ้ ข้าวสารปน
ดึงดดู การรินออก การกรอง และการ ผสมขน้ึ อยู่กับลักษ
ตกตะกอน โดยใช้หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์ ของสารผสมเป็นข
รวมท้งั ระบุวิธแี ก้ปัญหาในชีวติ ประจำวัน อาจใชว้ ิธีการหยบิ อ
เกย่ี วกบั การแยกสาร เปน็ สารแมเ่ หล็กอา
ของแข็งท่ีไม่ละลาย
การตกตะกอน ซึง่ ว
ชวี ิตประจำวันได้
หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศา
85
างพนั ธุกรรม สารพันธุกรรม การเปล่ยี นแปลงทางพนั ธกุ รรมท่ีมผี ลต่อ
ามรไู้ ปใชป้ ระโยชน์
สาระการเรียนร้แู กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่ิน
--
หว่างสมบัติของสสารกับโครงสรา้ งและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาคหลัก
กิดปฏิกริ ิยาเคมี
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถิ่น
บด้วยสารตั้งแต่ 2 ชนดิ ขนึ้ ไปผสมกัน เชน่ นำ้ มนั -
นกรวดทราย วธิ กี าร ท่เี หมาะสมในการแยกสาร
ษณะและสมบตั ิของสารทีผ่ สมกันถ้าองค์ประกอบ
ของแข็งกบั ของแข็งทม่ี ีขนาดแตกต่างกนั อยา่ งชัดเจน
ออกหรือการร่อนผา่ นวัสดุ ที่มรี ู ถำ้ มีสารใดสารหนึง่
าจใชว้ ธิ ี การใช้แมเ่ หล็กดงึ ดดู ถ้ำองคป์ ระกอบเป็น
ยในของเหลว อาจใช้วิธีการรินออก การกรอง หรอื
วิธกี ารแยกสารสามารถนำไปใชป้ ระโยชนใ์ น
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรียนแกว้ อินทรส์ ธุ าอทุ ิศ
สาระท่ี 2 วิทยาศาสตรก์ ายภาพ
มาตรฐาน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาติของแรงในชีวติ ประจำวัน ผลของแรงทกี่ ระทาต
ประโยชน์
รหัสตวั ช้ีวดั ตัวช้วี ดั ส
ว 2.2 ป.6/1 1. อธบิ ายการเกิดและผลของแรงไฟฟ้า - วตั ถุ 2 ชนิดที่ผา่ นการ
ซงึ่ เกิดจากวัตถุท่ผี ่านการขัดถูโดยใช้ แรงทเ่ี กิดขน้ึ นเ้ี ป็นแรงไฟ
หลกั ฐานเชงิ ประจักษ์ ประจุไฟฟ้า ซึ่งประจุไฟฟ
ลบ วัตถุท่มี ีประจุไฟฟ้าช
สาระที่ 2 วิทยาศาสตร์กายภาพ
มาตรฐาน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลี่ยนแปลงและการถ
ชีวิตประจำวัน ธรรมชาติของคลืน่ ปรากฏการณท์ ่เี กี่ยวข้องกับเสยี ง แสง และคลื่นแ
รหัสตวั ช้ีวัด ตัวชี้วดั
ว 2.3 ป.6/1 1. ระบสุ ว่ นประกอบและบรรยายหน้าที่ - วงจรไฟฟ้าอยา่ งง่ายป
ของแตล่ ะส่วนประกอบของวงจรไฟฟ้า เครอ่ื งใช้ไฟฟ้าหรืออุปก
อย่างงา่ ยจากหลักฐานเชงิ ประจกั ษ์ หรอื แบตเตอร่ี ทำหนา้ ท
ว 2.3 ป.6/2 2. เขียนแผนภาพและต่อวงจรไฟฟ้า หนา้ ท่ีเชื่อมต่อระหวา่ งแ
อย่างงา่ ย เครื่องใช้ไฟฟ้ามีหนา้ ท่ีเป
หลกั สตู รกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศา
86
ต่อวัตถุ ลักษณะการเคลอ่ื นที่แบบต่าง ๆ ของวตั ถุ รวมทง้ั นำความรไู้ ปใช้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
รขัดถูแลว้ เม่อื นำเข้าใกลก้ นั อาจดงึ ดูดหรอื ผลักกนั -
ฟฟา้ ซ่ึงเปน็ แรงไมส่ ัมผสั เกิดขึน้ ระหวา่ งวตั ถทุ ่ีมี
ฟ้ามี 2 ชนดิ คือ ประจุไฟฟา้ บวกและประจุไฟฟา้
ชนิดเดียวกนั ผลักกนั ชนิดตรงข้ามกันดงึ ดูดกนั
ถ่ายโอนพลังงาน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานใน
แม่เหลก็ ไฟฟา้ รวมทง้ั นำความรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นรูท้ อ้ งถิ่น
ประกอบดว้ ยแหล่งกำเนิดไฟฟา้ สายไฟฟา้ และ -
กรณ์ไฟฟ้า แหล่งกำเนิดไฟฟา้ เช่น ถ่านไฟฉาย
ที่ให้พลังงานไฟฟา้ สายไฟฟา้ เปน็ ตัวนำไฟฟา้ ทำ
แหลง่ กำเนิดไฟฟ้า และเครื่องใชไ้ ฟฟ้าเข้าด้วยกัน
ปลยี่ นพลงั งานไฟฟา้ เปน็ พลงั งานอื่น
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพุทธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอุทิศ
รหสั ตัวชี้วดั ตัวชีว้ ัด - เมื่อนำเซลลไ์ ฟฟ้าหลา
ว 2.3 ป.6/3 3. ออกแบบกำรทดลองและทดลองด้วย เซลล์ไฟฟา้ เซลลห์ น่ึงต่อ
ว 2.3 ป.6/4 วิธีทีเ่ หมาะสมในการอธิบายวิธีการและ ทำใหม้ ีพลงั งานไฟฟา้ เห
ผลของการต่อเซลล์ไฟฟ้าแบบอนกุ รม แบบอนกุ รมสามารถนำ
ว 2.3 ป.6/5 4. ตระหนกั ถงึ ประโยชน์ของความรขู้ อง เซลลไ์ ฟฟา้ ในไฟฉาย
การต่อเซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนุกรมโดยบอก
ว 2.3 ป.6/6 ประโยชน์และการประยุกต์ใช้ใน - การตอ่ หลอดไฟฟ้าแบ
ชวี ิตประจำวัน ทำให้หลอดไฟฟา้ ทเี่ หลือ
ว 2.3 ป.6/7 5. ออกแบบการทดลองและทดลองดว้ ย เม่ือถอดลอดไฟฟ้าดวงใ
ว 2.3 ป.6/8 วิธที ่ีเหมาะสมในการอธิบายการต่อ การตอ่ หลอดไฟฟ้าแตล่
หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบขนาน หลอดไฟฟา้ หลายดวงใน
หลอดไฟฟ้าดวงใดดวงห
6. ตระหนกั ถึงประโยชนข์ องความรูข้ อง
การตอ่ หลอดไฟฟ้าแบบอนุกรมและแบบ - เมอ่ื นำวัตถทุ ึบแสงมาก
ขนาน โดยบอกประโยชน์ ขอ้ จำกดั และ โดยเงามรี ปู ร่างคล้ายวตั
การประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวัน ตกลงบนฉาก สว่ นเงามดื
7. อธบิ ายการเกิดเงามดื เงามัวจาก
หลกั ฐานเชิงประจกั ษ์
8. เขยี นแผนภาพรงั สีของแสงแสดงการ
เกดิ เงามืดเงามัว
หลักสตู รกล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศา
สาระการเรียนรู้แกนกลาง 87
ายเซลล์มาต่อเรยี งกนั โดยให้ข้วั บวกของ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
อกับขัว้ ลบของอกี เซลลห์ น่งึ เป็นการต่อแบบอนุกรม
หมาะสมกบั เคร่ืองใช้ไฟฟา้ ซึ่งการตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้
ำไปใชป้ ระโยชน์ในชีวติ ประจำวัน เช่น การต่อ
บบอนุกรมเม่ือถอดหลอดไฟฟ้าดวงใดดวงหนงึ่ ออก -
อดับทั้งหมด สว่ นการต่อหลอดไฟฟ้าแบบขนาน -
ใดดวงหนง่ึ ออก หลอดไฟฟ้าทเ่ี หลือกย็ งั สวา่ งได้
ละแบบสามารถนำไปใช้ประโยชนไ์ ด้ เชน่ การตอ่
นบ้านจงึ ตอ้ งต่อหลอดไฟฟา้ แบบขนานเพ่อื เลือกใช้
หน่ึงได้ตามต้องการ
กั้นแสงจะเกดิ เงาบนฉากรับแสงท่ีอย่ดู ้านหลงั วัตถุ
ตถุทที่ ำให้เกิดเงา เงามวั เปน็ บรเิ วณที่มแี สงบางส่วน
ดเป็นบรเิ วณท่ไี ม่มีแสงตกลงบนฉากเลย
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ปพี ุทธศกั ราช 2565 โรงเรียนแกว้ อนิ ทร์สธุ าอุทิศ
สาระที่ 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.1 เข้าใจองคป์ ระกอบ ลักษณะ กระบวนการเกิด และวิวัฒนาการ
ระบบสรุ ยิ ะท่ีส่งผลตอ่ ส่งิ มชี ีวติ และการประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีอวกาศ
รหัสตัวชี้วดั ตวั ชีว้ ัด
ว 3.1 ป.6/1 1. สร้างแบบจำลองที่อธิบายการเกิด - เมื่อโลกและดวงจนั ทร
และเปรียบเทยี บปรากฏการณ์ ในระยะทางที่เหมาะสม
สรุ ยิ ุปราคา และจนั ทรุปราคา ทอดมายังโลก ผูส้ ังเกตท
ปรากฏการณส์ รุ ิยุปรำคำ
และสรุ ิยปุ ราคาวงแหวน
เดยี วกันกบั ดวงอาทิตย์ แ
ดวงจนั ทรม์ ืดไป เกดิ ปรา
และจนั ทรปุ ราคาบางส่ว
ว 3.1 ป.6/2 2. อธบิ ายพัฒนาการของเทคโนโลยี - เทคโนโลยอี วกาศเริม่ จ
อวกาศ และยกตวั อย่างการนำ ทอ้ งฟา้ โดยใช้ตาเปล่า ก
เทคโนโลยีอวกาศมาใชป้ ระโยชนใ์ น สำรวจอวกาศดว้ ยจรวดแ
ชีวติ ประจำวัน จากขอ้ มูลท่ีรวบรวมได้ ตอ่ เน่อื ง ปจั จุบันมกี ารน
ชีวิตประจำวัน เช่น การ
หรอื การสำรวจทรพั ยาก
หัวใจ หมวกนิรภยั ชดุ กฬี
หลักสตู รกล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศา
88
รของเอกภพ กาแลก็ ซดี าวฤกษ์ และระบบสรุ ิยะ รวมทั้งปฏิสัมพันธ์ภายใน
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
ร์ โคจรมาอย่ใู นแนวเส้นตรงเดียวกันกบั ดวงอาทติ ย์ -
ทำให้ดวงจนั ทรบ์ งั ดวงอาทิตย์ เงาของดวงจันทร์
ท่ีอยบู่ รเิ วณเงาจะมองเห็น ดวงอาทิตย์มืดไป เกดิ -
ำ ซึ่งมีทงั้ สุรยิ ุปราคาเต็มดวง สรุ ิยปุ ราคาบางสว่ น
น หากดวงจันทรแ์ ละโลกโคจรมาอยู่ในแนวเส้นตรง
แล้วดวงจนั ทรเ์ คลื่อนที่ผ่านเงาของโลก จะมองเห็น
ากฏการณ์จนั ทรุปราคา ซ่ึงมีท้งั จันทรุปราคาเต็มดวง
วน
จากความตอ้ งการของมนุษย์ในการสำรวจวัตถุ
กล้อง-โทรทรรศน์ และได้พฒั นาไปสู่การขนสง่ เพือ่
และยานขนส่งอวกาศ และยังคงพัฒนาอยา่ ง
นำเทคโนโลยอี วกาศบางประเภทมาประยกุ ต์ใช้ใน
รใชด้ าวเทียมเพื่อการส่ือสาร การพยากรณ์อากาศ
กรธรรมชำติ การใช้อปุ กรณ์วัดชพี จรและการเต้นของ
ฬา
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศักราช 2565 โรงเรียนแกว้ อินทร์สธุ าอทุ ิศ
สาระท่ี 3 วทิ ยาศาสตรโ์ ลก และอวกาศ
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวน
เปลี่ยนแปลงลมฟา้ อากาศและภูมิอากาศโลกรวมท้งั ผลต่อส่ิงมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
รหสั ตวั ช้ีวัด ตัวชวี้ ัด
ว 3.2 ป.6/1 1. เปรยี บเทียบกระบวนการเกดิ หนิ อัคนี - หินเป็นวัสดุแข็งเ
หินตะกอน และหินแปรและอธบิ ายวฏั จักรหนิ หนง่ึ ชนิดขึ้นไป สา
จากแบบจำลอง ประเภท ได้แก่ หิน
- หนิ อคั นีเกดิ จากก
ทง้ั ผลกึ ขนาดใหญ่แ
พรุน
- หินตะกอน เกิดจ
สารเชอ่ื มประสานจ
เป็นเม็ดตะกอน มที
ผลกึ ท่ยี ดึ เกาะกันเก
โดยเฉพาะน้ำทะเล
ชัน้
- หนิ แปร เกิดจาก
ตะกอน หรอื หนิ แป
ปฏิกิรยิ าเคมี เน้ือห
กัน เปน็ แถบ บา
ท่ีมีความแขง็ มาก
หลักสตู รกลุม่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศา
89
นการเปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการ
ม
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่นิ
เกดิ ข้นึ เองตามธรรมชำติ ประกอบดว้ ยแร่ตง้ั แต่ -
ามารถจำแนกหินตามกระบวนการเกิดได้เป็น 3
นอัคนี หินตะกอน และหินแปร
การเยน็ ตวั ของแมกมา เน้ือหนิ มีลักษณะเป็นผลกึ
และขนาดเล็ก บางชนิดอาจเปน็ เนื้อแกว้ หรอื มีรู
จากการทบั ถมของตะกอนเม่ือถูกแรงกดทับและมี
จงึ เกดิ เปน็ หิน เนอื้ หินกลมุ่ น้สี ว่ นใหญ่มีลักษณะ
ทง้ั เนื้อหยาบและเนื้อละเอียด บางชนดิ เป็นเนอื้
กดิ จากการตกผลึกหรอื ตกตะกอนจากนำ้
ล บางชนิดมีลักษณะเปน็ ชน้ั ๆ จงึ เรียกอีกช่ือว่าหนิ
กการแปรสภาพของหินเดมิ ซ่ึงอาจเป็นหนิ อัคนี หนิ
ปร โดยการกระทำของความร้อน ความดัน และ
หนิ ของหินแปรบางชนิดผลึกของแร่เรยี งตัวขนาน
างชนดิ แซะออกเปน็ แผ่นได้ บางชนิด เป็นเนอ้ื ผลกึ
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรุง พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแก้วอินทร์สธุ าอุทิศ
รหัสตัวช้ีวดั ตัวช้ีวัด - หินในธรรมชาตทิ
ว 3.2 ป.6/2 ไปเป็นอีกประเภท
ว 3.2 ป.6/3 2. บรรยายและยกตวั อยา่ งการใช้ประโยชน์ เปลยี่ นแปลงคงท่ีแ
ของหินและแรใ่ นชีวติ ประจำวันจากข้อมลู หินและแร่แต่ละชน
ที่รวบรวมได้ ประโยชน์จากแรใ่ น
ทำเครอื่ งสำอาง ยา
3. สรา้ งแบบจำลองที่อธิบายการเกิด นำหนิ มาใชใ้ นงานก
ซากดกึ ดำบรรพแ์ ละคาดคะเนสภาพแวดลอ้ ม - ซากดึกดำบรรพ์เ
ในอดีตของซากดึกดำบรรพ์ สงิ่ มีชีวติ ในอดีต จน
สิง่ มีชวี ติ ทปี่ รากฏอ
หลากหลาย เช่น พ
สัตว์
- ซากดกึ ดำบรรพ์ส
สภาพแวดล้อมของ
ซากดึกดำบรรพ์ขอ
เป็นแหล่งน้ำจดื มา
สภาพแวดลอ้ มบรเิ
ดำบรรพ์ยงั สามารถ
ววิ ัฒนาการของส่ิง
หลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศา
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 90
ทัง้ ประเภท มกี ารเปลย่ี นแปลงจากประเภทหนึง่ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
ทหน่งึ หรอื ประเภทเดิมได้ โดยมีแบบรูปการ
และต่อเน่ืองเปน็ วัฏจกั ร -
นิดมลี กั ษณะและสมบัติแตกตา่ งกัน มนษุ ยใ์ ช้
นชีวติ ประจำวัน ในลักษณะตา่ ง ๆ เชน่ นำแร่มา -
าสีฟนั เคร่ืองประดบั อุปกรณท์ างการแพทย์ และ
ก่อสรา้ งต่าง ๆ เป็นตน้
เกิดจากการทบั ถม หรอื การประทบั รอยของ
นเกดิ เป็นโครงสร้างของซากหรอื ร่องรอยของ
อยูใ่ นหิน ในประเทศไทยพบซากดึกดำบรรพ์ ท่ี
พืช ปะกำรัง หอย ปลา เต่า ไดโนเสาร์ และรอยตีน
สามารถใชเ้ ปน็ หลักฐานหนง่ึ ท่ีช่วยอธบิ าย
งพื้นท่ใี นอดีตขณะเกิดสง่ิ มีชวี ติ นั้น เชน่ หากพบ
อง หอยน้ำจืด สภาพแวดล้อมบรเิ วณนนั้ อาจเคย
าก่อน และหากพบซากดึกดำบรรพ์ของพืช
เวณน้ันอาจเคยเป็นป่ามาก่อน นอกจากน้ีซากดึก
ถใชร้ ะบุอายุของหิน และเป็นข้อมูลในการศกึ ษา
งมชี วี ติ
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ปีพทุ ธศกั ราช 2565 โรงเรยี นแกว้ อนิ ทร์สธุ าอุทิศ
รหสั ตวั ช้ีวดั ตัวชี้วดั - ลมบก ลมทะเล แ
ว 3.2 ป.6/4 4. เปรยี บเทยี บการเกิดลมบก ลมทะเล และ ไม่เท่ากันทำใหอ้ ุณ
ว 3.2 ป.6/5 มรสมุ รวมทง้ั อธบิ ายผลที่มีต่อส่ิงมชี วี ิตและ เกดิ การเคล่ือนท่ีข
ส่ิงแวดลอ้ ม จากแบบจำลอง ที่มีอุณหภูมิสงู
ว 3.2 ป.6/6 - ลมบกและลมทะ
5. อธบิ ายผลของมรสมุ ตอ่ การเกิดฤดูของ บกเกิดในเวลากลา
ประเทศไทย จากข้อมูลทร่ี วบรวมได้ ทะเลเกิดในเวลากล
- มรสมุ เป็นลมประ
6. บรรยายลกั ษณะและผลกระทบของน้ำทว่ ม กว้างระดับภูมิภาค
การกัดเซาะชายฝ่งั ดนิ ถล่ม แผน่ ดินไหว ตะวนั ออกเฉยี งเหน
สึนามิ กมุ ภาพันธ์ทำให้เก
ใต้ในชว่ งประมาณ
ใหเ้ กิดฤดูฝน ส่วนช
กลางเดือนพฤษภา
เส้นศนู ย์สูตร แสงอ
เวลาเทยี่ งวันทำให
จงึ รอ้ นอบอ้าวทำให
- น้ำทว่ ม การกดั เซ
มีผลกระทบต่อชีวิต
หลักสตู รกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศา
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง 91
และมรสมุ เกิดจากพนื้ ดินและ พ้นื นำ้ ร้อนและเย็น สาระการเรียนรู้ทอ้ งถ่นิ
ณหภมู อิ ากาศเหนือพื้นดนิ และพ้ืนนำ้ แตกต่างกนั จงึ
ของอากาศจากบริเวณทีม่ ีอณุ หภูมิตำ่ ไปยังบรเิ วณ -
ะเลเปน็ ลมประจำถิน่ ที่พบบรเิ วณชายฝง่ั โดยลม -
างคนื ทำให้มลี มพดั จากชายฝัง่ ไปสู่ทะเล สว่ นลม
ลางวัน ทำให้มลี มพัดจากทะเลเข้าส่ชู ายฝั่ง -
ะจำฤดเู กิดบรเิ วณเขตรอ้ นของโลก ซึง่ เป็นบรเิ วณ
ค ประเทศไทยได้รบั ผลจากมรสุม
นอื ในช่วงประมาณกลางเดือนตุลาคมจนถึงเดอื น
กิด ฤดหู นาว และไดร้ บั ผลจากมรสุมตะวนั ตกเฉยี ง
ณกลางเดือนพฤษภาคมจนถึงกลางเดือนตุลาคมทำ
ชว่ งประมาณกลางเดือนกุมภาพนั ธจ์ นถงึ
าคมเป็นช่วงเปลีย่ นมรสุมและประเทศไทยอยใู่ กล้
อาทติ ย์เกือบต้งั ตรงและตั้งตรงประเทศไทย ใน
หไ้ ดร้ บั ความร้อนจำกดวงอาทิตย์อย่างเต็มทอ่ี ากาศ
ห้เกดิ ฤดรู อ้ น
ซาะชายฝงั่ ดินถลม่ แผ่นดนิ ไหว และ สนึ ามิ
ตและส่ิงแวดล้อมแตกต่างกัน
าสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ. 2560) ปีพุทธศักราช 2565 โรงเรยี นแก้วอนิ ทรส์ ธุ าอุทิศ