The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หนังสือสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกห้วยขาแข้ง ฉบับปรุงปรุงใหม่ (2nd Edition) เป็นฉบับแก้ไขเนื้อหาจากการพิมพ์ครั้งที่ 1 ให้มีเนื้อที่ถูกต้องตามการแก้ไขในปัจจุบันตามหลักวิชาการ โดยจำนวนชนิดที่ปรากฎในเล่ม จากการอ้างอิงถึงจำนวนสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกประเทศไทย 170 กว่าชนิด และโดยการสำรวจและการตรวจเอกสารของทีมผู้จัดทำ พบจำนวน 48 ชนิดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rabbitinthemoon399, 2022-10-17 11:58:28

Amphibians Of Huai Kha Khaeng 2nd Edition

หนังสือสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกห้วยขาแข้ง ฉบับปรุงปรุงใหม่ (2nd Edition) เป็นฉบับแก้ไขเนื้อหาจากการพิมพ์ครั้งที่ 1 ให้มีเนื้อที่ถูกต้องตามการแก้ไขในปัจจุบันตามหลักวิชาการ โดยจำนวนชนิดที่ปรากฎในเล่ม จากการอ้างอิงถึงจำนวนสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกประเทศไทย 170 กว่าชนิด และโดยการสำรวจและการตรวจเอกสารของทีมผู้จัดทำ พบจำนวน 48 ชนิดในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง

Keywords: amphibians,HuaiKhaKhaeng,Thailand

ÊѵǏÊÐà·Ô¹¹ํÒ้ ÊÐà·¹Ô º¡ ˌǢÒá¢1Œ§97197

กบหงอน เปน็ กบขนาดกลาง ความยาวจาก

หวั ถงึ กน้ 50-60 มิลลเิ มตร อยู่ในกลมุ่ กบดอเรยี
2 เพศมคี วามแตกต่างกัน โดยตัวผู้หัวโตกวา้ ง
อย่างชดั เจน สว่ นตวั เมยี ไม่ต่างจากกบในกลุ่ม
ดอเรียชนิดอ่นื ตัวผ้บู ริเวณท้ายทอยมแี ผน่ หนงั
นูนยื่นและสามารถยกพบั ขน้ึ มาได้ ระยะหา่ ง
ระหวา่ งตากวา้ งกวา่ ความกว้างเปลือกตา แผน่
หสู เี ดยี วกับผิวปรากฏชดั เจนขนาดใหญ่กว่าตา
สว่ นตวั เมยี แผ่นหขู นาดพอ ๆ กับตา มหี นังนนู
เปน็ สนั จากหางตาถงึ ไหล่ มอื ไม่มีพงั ผดื ส่วน
เทา้ มีพังผืดเกือบเตม็ ความยาวนิว้ ปลายนิว้
พองเป็นปมุ่ ขนาดเล็ก ล�าตัวและขาหลงั มีตมุ่
หลายขนาดกระจายหา่ ง ๆ หลังสีน�า้ ตาล หรือ
สีน�า้ ตาลเทา มีลายแตม้ สีด�าจาง ๆ ระหว่างตา
มแี ถบสดี �าหรอื สสี ม้ ขามลี ายพาดสีน�้าตาล คาง
สีเทา อกและทอ้ งสขี าว ปากสคี รมี สลับน�้าตาล
ฝา่ เท้าสนี า้� ตาลดา� ลูกออ๊ ดมขี นาดตัวเลก็ หัว
และลา� ตัวกวา้ ง หางยาวและใหญ่แต่แผ่นครีบ
หางเลก็ ล�าตัวสีน�้าตาลอมเหลืองและมลี าย
191988 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

รา่ งแหสเี ทาเข้มสลบั กบั จดุ สขี าวกระจาย ปากอยูป่ ลาย
สดุ ของหัวคอ่ นไปทางดา้ นลา่ ง

ชว่ งสบื พันธต์ุ วั ผู้เตม็ วัยจะขดุ แอ่งในลา� ห้วย
เปน็ หลมุ เพือ่ ผสมพันธุ์กบั ตวั เมีย และตัวผมู้ ีพฤตกิ รรม
เฝ้าไข่

ออกหากนิ เวลากลางคืน
อาศยั อยู่ตามลา� ธารขนาดเล็กถงึ ล�าธารขนาด
กลาง หรอื ร่องหว้ ย ในปา่ เตง็ รัง ปา่ เบญจพรรณ ปา่ ดบิ
แลง้ และปา่ ดิบเขาระดบั ต�่า มักพบอาศยั หมกตัวใน
ลา� ธารตนื้ ๆ หรอื ห้วยทม่ี เี ศษใบไม้หรือ เศษไมร้ ะเกะ
ระกะ
กระจายพันธ์ใุ นประเทศไทย ลาว และกัมพูชา
ในไทยพบกระจายท่วั ยกเว้นทางภาคใต้

浄 Çʏ Ðà·Ô¹¹้Òํ ÊÐà·¹Ô º¡ ˌǢÒá¢1§Œ 99199

กบกา

Limborg s Frog
Limnonectes limborgi (Sclater, 1892)

202000 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

ÊѵǏÊÐà·Ô¹¹ํÒ้ ÊÐà·¹Ô º¡ ˌǢÒá¢2Œ§01201

กบกา เป็นกบขนาดเล็ก ความยาวจากหัวถึงกน้

26-31 มลิ ลเิ มตร แผน่ หสู เี ดียวกับผิวปรากฏชดั เจน
มหี นังนนู เป็นสันจากหางตาถึงไหล่ มือไมม่ พี ังผืด ส่วน
เทา้ มพี ังผืดเล็กน้อย ปลายนวิ้ เรียว ปมุ่ ทฝี่ ่าตีนดา้ นใน
มีลกั ษณะแหลม หลงั สีนา้� ตาล หรอื สนี ้า� ตาลอมสม้
มลี ายแตม้ เล็ก ๆ และรปู อักษรดบั เบล้ิ ยู ( ) หรือวคี ว�่า
( ) สีดา� บางตัวมีเส้นสคี รีมจากปลายจมูกตามแนวสนั
หลังไปถงึ กน้ ระหว่างตามแี ถบสีด�า ปลายหวั สีเหลือง
หรอื สเี ทาอ่อน ขามลี ายพาดสเี ทาจาง ๆ ท้องสีขาว
ตวั ผมู้ ีเขย้ี วเทยี มดา้ นหนา้ ของขากรรไกรลา่ ง

มักหลบซ่อนตวั ใต้กองใบไม้ เม่ือถูกรบกวน
มกั หมอบตวั ต่�าลงแนบพ้ืน หรือกระโดดหนอี ย่าง
รวดเร็วเมื่อจวนตวั
202022 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

อาศัยอยู่ตามพน้ื ดนิ ทม่ี ีใบไม้ทบั ถม
หนาแน่น มักพบอยู่ใกล้กับรอ่ งห้วยขนาดเลก็
ทม่ี นี �า้ ไหลเอือ่ ย ในป่าเต็งรงั ปา่ เบญจพรรณ
ป่าดบิ แลง้ และปา่ ดิบเขาระดับตา่�

กระจายพนั ธใ์ุ นประเทศพมา่ ไทย
และลาว

ในไทยพบตัง้ แต่ภาคเหนอื ลง
ไปตามแนวปา่ ตะวนั ตก จนถึงจังหวดั
ประจวบครี ีขันธ์

ÊѵÇʏ Ðà·Ô¹¹Òํ้ ÊÐà·¹Ô º¡ ËÇŒ ¢Òá¢2§Œ 03203

กบห้วยขาป่มุ เหนอื

กบห้วยขาปมุ่ เทเลอร์, กบเปอะ, เขยี ดขุน
ตาน, กบมน่ื , กบล่นื
Taylor s Stream Frog
Limnonectes taylori Matsui, Panha,
honsue and uraishi, 2010

202044 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

ÊѵǏÊÐà·Ô¹¹ํÒ้ ÊÐà·¹Ô º¡ ˌǢÒá¢2Œ§05205

กบห้วยขาปุม่ เหนือ เปน็ กบขนาดใหญ่ ตัวผู้มี

ความยาวจากหัวถงึ กน้ 46-93 มลิ ลิเมตร ตัวเมยี มี
ความยาวจากหวั ถึงก้น 40-62 มิลลิเมตร ตวั ผูห้ วั
โตกวา้ งอยา่ งชดั เจน ระยะหา่ งระหว่างตาพอ ๆ กับ
ความกวา้ งเปลือกตา แผน่ หไู มป่ รากฏ มหี นังนนู เป็น
สนั จากหางตาถึงไหล่ ขาสั้น มือไมม่ ีพงั ผดื สว่ นเทา้
มพี ังผดื เตม็ ความยาวน้ิว ปลายน้ิวเรยี ว นวิ้ มือนว้ิ ที่
1 และ 2 ยาวเทา่ กัน ลา� ตวั และขาหลงั มตี ุ่มกระจาย
ท่วั ไป หลังสนี ้า� ตาล สนี ้�าตาลแดง หรอื สนี า�้ ตาลเทา
มีลายแตม้ สดี �าจาง ๆ ระหวา่ งตามแี ถบสีด�า ขามีลาย
พาดสนี �า้ ตาล ท้องสีขาวออกเหลอื ง ตัวผ้มู ีเข้ียวเทียม
ดา้ นหนา้ ของขากรรไกรลา่ งและมีปมุ่ แบน (nuptial
pad) ใตน้ ิ้วแรก ตา่ งจากกบห้วยขาปมุ่ ใต้ทต่ี ุ่มตามขา
ของกบห้วยขาปมุ่ เหนอื ดูมากและชิดกวา่ ลายบนหัว
202066 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

ข้างตัว และขาชัดกวา่ ของกบห้วยขาป่มุ ใต้
ผสมพนั ธ์ใุ นฤดูฝนชว่ งเดอื นสิงหาคม เวลาผสมพนั ธ์ุกบตัวผ้จู ะหาแอง่ น�า้ ทไ่ี หลริน

ทม่ี ีกองใบไม้ทบั ถมกนั ไขม่ ลี ักษณะเปน็ สาย แตล่ ะฟองขนาดใหญ่ กลม มเี มอื กหุ้ม ลกู ออ๊ ดมี
ขนาดเลก็

อาศัยอยตู่ ามล�าธารในป่าเบญจพรรณ ป่าดบิ แล้ง และปา่ ดบิ เขาระดับตา่�
กระจายพนั ธุใ์ นประเทศไทย พม่า ลาว และอาจพบในเวียดนาม
ในไทยพบกระจายตัง้ แตภ่ าคเหนอื ไล่ลงมาทางป่าฝ่ังตะวนั ตก

ÊµÑ ÇÊÐà·Ô¹¹Òํ้ ÊÐà·Ô¹º¡ ˌǢÒá¢2Œ§07207

เขยี ดจะนา

อีแอ๊ด, เขียดทราย
Common Puddle Frog
Occidozyga lima ( ravenhorst, 1829)

เปน็ กบขนาดเล็ก ความยาวจากหวั ถงึ กน้ 39 มลิ ลิเมตร ผวิ หยาบสากมือ หนา้ ส้นั มือมพี งั ผืด
ระหวา่ งนิ้วเลก็ นอ้ ย เทา้ มพี ังผืดเตม็ ความยาวนวิ้ ปลายน้ิวเรยี ว แผน่ หูสนี �า้ ตาลแต่เหน็ ไดไ้ มค่ ่อยชัดเจน
เนอ่ื งจากมีหนงั ปกคลมุ ลา� ตัวสีน้�าตาลเทา หรือสีน้า� ตาลอมส้ม อาจมีสีเขยี วเร่ือ ๆ บางตัวมแี ถบหรอื เสน้ สี
ครมี หรอื สีเขยี วออ่ น จากปลายจมกู ถงึ กน้ ตวั ผู้มีถุงขยายเสียงสดี �าใตค้ าง ลูกออ๊ ดรูปร่างเพรียวสีน้�าตาลเขม้
ถงึ สดี �า ปากอย่ดู า้ นหน้าสดุ ของหวั ริมฝีปากลา่ งโคง้ คลา้ ยเกือกม้าและยืด-หดได้ ครบี หางใหญ่โดยดา้ นบน
ใหญ่กว่าดา้ นล่าง

202088 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

กลางวนั มกั หลบอยู่ตามกอพืชรมิ น้า� ฤดแู ล้ง
จะหมกตวั อยใู่ ต้โคลน ฤดฝู นมักพบลอยคออย่ตู ามผวิ นา้�
สง่ เสียงร้อง “แอด๊ ” ชาวบ้านจงึ มักเรียก “เขียดอแี อด๊ ”
เมื่อถกู รบกวนจะกระโดดหนลี งน้า� และมุดลงไปซ่อน
ใต้ดนิ โคลนทอ้ งนา�้ อยา่ งรวดเรว็ มักพบอยรู่ ว่ มกับเขยี ด
ทราย ลกู ออ๊ ดอาศัยและหากินตะกอนอยตู่ ามท้องน้า�

อาศัยอยตู่ ามกอพชื รมิ แอง่ น�้า ท่ีมพี ื้นเปน็ ดิน
หรอื ดินปนทราย บรเิ วณพนื้ ทีช่ มุ่ นา้� ในทรี่ าบลมุ่ ป่าเต็ง
รงั ปา่ เบญจพรรณ

กระจายพนั ธุใ์ นประเทศพมา่ จีนตอนใต้ ไทย
ลาว กัมพชู า เวยี ดนาม มาเลเซยี และอนิ โดนีเซยี

ในไทยพบกระจายทัว่ ประเทศ

ÊѵǏÊÐà·¹Ô ¹Òํ้ ÊÐà·¹Ô º¡ ˌǢÒá¢2§Œ 09209

212100 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

เขียดทราย

เขียดนา้� นอง
Martens s Puddle Frog
Occidozyga martensii (Peters,
1867)

ÊѵÇʏ Ðà·Ô¹¹Ò้ํ ÊÐà·Ô¹º¡ ËÇŒ ¢Òá¢2Œ§11211

เขียดทราย เปน็ กบขนาดเลก็ ความยาวจากหัว

ถงึ ก้น 25.5 มลิ ลเิ มตร ระยะหา่ งระหว่างตาแคบ
กวา่ ความกว้างเปลอื กตา มอื ไม่มีพังผดื เทา้ มีพงั ผืด
เกือบเต็มความยาวนวิ้ ปลายนิว้ เรียว แผน่ หปู รากฏ
แตไ่ ม่คอ่ ยชดั เจน เน่ืองจากมหี นงั ปกคลมุ ล�าตวั
และขาหลังเป็นป่มุ หา่ ง ๆ หลังสนี า้� ตาลเทา อาจมี
ลายแตม้ สีด�าจาง ๆ บางตวั มแี ถบสสี ้มพาดบริเวณ
ท้ายทอย และบางตัวมีแถบหรอื เส้นสีครมี หรือสสี ้ม
จากปลายจมูกถงึ กน้ ทอ้ งผิวเรยี บสีขาวออกเหลือง
โปรยดว้ ยจุดสนี ้า� ตาลอ่อน ลกู อ๊อดตัวเล็ก หัวเรยี ว
ล�าตวั สนี ้�าตาล มีจดุ สีดา� กระจาย มแี ถบสเี ขม้ จาก
จมูกผา่ นตาถึงด้านท้ายของตา ตาใหญแ่ ละอยคู่ อ่ น
มาทางดา้ นบนของหัว หางยาวแผ่นครบี หางเล็ก
ปากอย่ดู ้านหน้าสดุ ของหวั ริมฝปี ากลา่ งโคง้ คล้าย
เกือกมา้ และยืด-หดได้
212122 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

กลางวนั มักหลบอย่ตู ามกอพชื ริมนา้� ฤดูแลง้
จะหมกตวั อยใู่ ต้โคลน สว่ นฤดูฝนมักพบลอยคออยู่ตาม
ผิวน�า้ เมอ่ื ถูกรบกวนจะกระโดดหนลี งน�้าและมดุ ลงไป
ซ่อนใตด้ นิ โคลนทอ้ งนา�้ อย่างรวดเรว็ มักอาศัยอยรู่ ว่ ม
กับเขียดจะนา ลกู ออ๊ ดอาศยั และหากนิ ตะกอนอยูต่ าม
ท้องนา้�

อาศยั อยู่ตามกอพชื ริมแอ่งนา�้ ทีม่ พี ืน้ เปน็ ดนิ
หรือดนิ ปนทราย บริเวณพ้นื ท่ีช่มุ น�้า ทง้ั น้า� นงิ่ และนา้�
ไหล ในป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแลง้ และพน้ื ที่
เกษตร

กระจายพันธุใ์ นประเทศจีนตอนใต้ พม่า ไทย
ลาว เวียดนาม และมาเลเซยี

ในไทยพบกระจายทัว่ ประเทศ
浄 Çʏ Ðà·Ô¹¹Ò้ํ ÊÐà·¹Ô º¡ ËÇŒ ¢Òá¢2§Œ 13213

ปาดจิวพม่า (Chiromantis vittatus) ปาดจิวลายแตม้ ปาดแคระป่า (Raorchestes parvulus)
(Chiromantis nongkhorensis)

ปาดลายเลอะเหนอื ปาดตะปุ่มจันทบุรี ปาดตะปมุ่ เล็ก
(Kurixalus verrucosus) (Theloderma stellatum) (Theloderma albopunctatum)

ปาดตีนเหลืองเหนอื ปาดจิวหลงั ขดี (Chiromantis doriae)
(Rhacophorus bipunctatus)

ปาดเขียวตนี ลาย (Rhacophorus kio)

ปาดเหนือ (Polypedates megacephalus) ปาดแคระขาเรียว ปาดลายเลอะภเู ขา
(Gracixalus seesom) (Gracixalus carinensis)

212144 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

วงศป์ าด R AC P RIDA
“ปาด” ไม่ปรากฏที่มาของชอ่ื อาจมาจากพฤติกรรมการใชม้ ือหรอื เทา้ ปาดหนา้
และล�าตวั เวลาท่มี สี ่งิ สกปรกติดตามตวั และเวลาทตี่ วั เริม่ แห้ง ภาษาอังกฤษใช้คา� ว่า “ y-
ing frog” แปลว่า กบทบ่ี นิ ได้ หรือ “tree frog” แปลว่ากบต้นไม้ เนือ่ งจากส่วนใหญอ่ าศยั
อยู่บนต้นไมส้ ูง มีการเคลือ่ นท่แี บบรอ่ น โดยการกางแขนขา นวิ้ ทมี่ พี งั ผืดเต็มความยาวนวิ้
และแผน่ หนงั บริเวณหลังแขนขาและเหนือก้น ร่อนจากตน้ ไมต้ น้ หน่ึงไปยังอีกตน้ หน่งึ ได้
สว่ นชื่อวงศม์ าจากค�าในภาษากรีกวา่ “rhakos” แปลวา่ เศษผ้า และ “pherein” แปลวา่
กดดัน อาจหมายถงึ ส่วนเท้าทแี่ บนยาวและมพี ังผืดคล้ายเศษผ้า ใชใ้ นการกระโดดไกล

หัวใหญก่ วา้ ง ตาโปนโต บางกลมุ่ มีผิวหนงั ตดิ กับกระดูกสว่ นหลัง ปลายน้วิ เป็นแผน่
กลม ระหวา่ งน้ิวตนี อาจมีหรอื ไม่มีพังผดื ขนาดตวั หลากหลาย อาศัยอยตู่ ามพุ่มไม้ โพรงไม้
หรือบนต้นไมต้ ั้งแตร่ ะดับต�่าถงึ เรือนยอด บางชนิดวางไขใ่ นฟองโฟม ขณะที่บางชนดิ ไมม่ ี
ฟองโฟม สามารถเปลย่ี นสตี วั ไดด้ ี มีพฤตกิ รรมพรางตัวโดยการเก็บแขนขาแนบลา� ตวั และ
ท�าตวั แบนราบติดกับวสั ดุ

กระจายพันธ์ทุ ั่วโลก จา� แนกเปน็ 3 วงศย์ อ่ ย ในประเทศไทยพบ 1 วงศ์ย่อย คือ
R AC P RI A กระจายพนั ธ์ุอยู่ในป่าเขตรอ้ นของแอฟรกิ า เอเชีย จนถึงเขตอบอุน่
ในจนี และญปี่ นุ่ พบท้ังหมด 17 สกุล ในประเทศไทยพบ 7สกุล 38 ชนดิ หว้ ยขาแข้งพบ
7 สกุล 12 ชนดิ ได้แก่ ปาดจิวหลังขดี (Chiromantis doriae) ปาดจวิ ลายแตม้ (Chi-
romantis nongkhorensis) ปาดจวิ พม่า (Chiromantis vittatus) ปาดแคระขาเรียว
(Gracixalus seesom) ปาดลายเลอะภเู ขา (Gracixalus carinensis) ปาดลายเลอะ
เหนือ (Kurixalus verrucosus) ปาดเหนอื (Polypedates megacephalus) ปาดแคระ
ป่า (Raorchestes parvulus) ปาดตนี เหลอื งเหนือ (Rhacophorus bipunctatus) ปาด
เขยี วตนี ลาย (Rhacophorus kio) ปาดตะปุม่ เล็ก (Theloderma albopunctatum)
และปาดตะป่มุ จนั ทบรุ ี (Theloderma stellatum)

ÊѵǏÊÐà·¹Ô ¹Ò้ํ ÊÐà·Ô¹º¡ ËÇŒ ¢Òá¢2Œ§15215

ปาดจิวหลงั ขีด

ปาดจวิ ดอเรีย, ปาดยอดหญ้าหลังขดี
Doria s Bush Frog
Chirixarus doriae (Boulenger, 1893)

212166 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

ÊѵǏÊÐà·Ô¹¹ํÒ้ ÊÐà·¹Ô º¡ ˌǢÒá¢2Œ§17217

ปาดจิวหลงั ขีด เป็นปาดขนาดเล็ก ความยาวจาก

หัวถงึ ก้น 35 มลิ ลิเมตร หวั คอ่ นข้างโต ระยะหา่ ง
ระหว่างตากวา้ งกว่าความกว้างเปลอื กตา แผ่นหูสี
กลมกลนื กบั ล�าตวั โคนนิว้ มอื ตดิ กันเป็น 2 คู่ ปลาย
นิว้ แผ่ออกเปน็ แผน่ ขนาดใหญ่ มือมีพังผืดเล็กน้อย
ระหว่างนว้ิ คนู่ อก เทา้ มีพงั ผดื ประมาณครึง่ หน่ึง
ของความยาวน้ิว มีปุ่มขนาดเล็กบนฝา่ เทา้ ด้านใน
ไมม่ ปี มุ่ ดา้ นนอก หลังสนี ้า� ตาลอมม่วง หรอื สีเทา
อมม่วง มีลายแถบสเี ทา 3 แถบ สามารถเปลี่ยน
สเี ป็นสนี �า้ ตาลออ่ น หรอื สีเทาอมชมพู มลี ายจุดสี
น้า� ตาลเข้มขนาดเลก็ ละเอียดโปรยทัว่ ลา� ตัวหรือ
เรียงเป็นแถว ทอ้ งสขี าวออกเหลือง หรอื สีเหลอื ง
ตัวผู้มีถงุ ขยายเสยี ง ลกู ออ๊ ดมีล�าตัวสนี ้�าตาลอ่อน
มีลายขดี สจี างพาดตามแนวยาว
212188 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

ช่วงฤดผู สมพันธ์ตุ วั เมียจะสรา้ งฟองโฟม
สีเหลอื งติดกับใบไม้ริมน้�า ไขส่ ีเขียวออ่ น พบลูก
อ๊อดเฉพาะบริเวณแอ่งน้า� ขังทม่ี คี ณุ ภาพดี

อาศัยอยู่ตามไม้พุ่มริมน้�า บริเวณทุง่
หญา้ น้�าขงั เปดิ โล่ง หรือแอง่ น้า� บนภูเขาสูง ในป่า
เบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง และปา่ ดบิ เขาระดับต�่า

กระจายพนั ธ์ตุ ง้ั แต่ประเทศอนิ เดีย พมา่
จีนตอนใต้ ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม

ในไทยพบกระจายทางภาคเหนอื ภาค
ตะวันออกเฉียงเหนอื ลงไปจนถงึ ภาคตะวนั ตก
อาจพบรายงานเพม่ิ เตมิ ในภาคตะวนั ออก

浄 Çʏ Ðà·¹Ô ¹Ò้ํ ÊÐà·Ô¹º¡ ˌǢÒá¢2Œ§19219

222200 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

ปาดจวิ ลายแต้ม

ปาดจวิ หนองค้อ, ปาดแคระหนองคอ้
ongkhor Bush Frog
Chirixarus nongkhorensis (Co-
chran, 1927)

ÊµÑ ÇÊÐà·Ô¹¹ํ้ÒÊÐà·¹Ô º¡ ˌǢÒá¢2§Œ 21221

ปาดจิวลายแต้ม เปน็ ปาดขนาดเลก็ ความยาวจาก

หัวถงึ ก้น 38 มิลลเิ มตร ลา� ตวั ใหญ่ป้อมกวา่ ปาดจิวชนดิ
อนื่ หัวคอ่ นข้างโต ระยะห่างระหว่างตากวา้ งกวา่ ความ
กว้างเปลือกตา แผน่ หสู ีกลมกลืนกับล�าตัว โคนน้ิวมอื ตดิ
กันเปน็ 2 คู่ ปลายนิว้ แผ่ออกเป็นแผน่ ขนาดใหญ่ มือมี
พังผดื เลก็ น้อยระหวา่ งนว้ิ เทา้ มีพงั ผืดประมาณครงึ่ หนงึ่
ของความยาวนวิ้ มปี ุ่มขนาดเล็กบนฝ่าเทา้ ดา้ นใน ไม่มี
ปุม่ ดา้ นนอก ลา� ตัวด้านบนสีนา�้ ตาลอมม่วง ระหวา่ งตามี
ลายแถบรปู สามเหล่ียม หลงั มีลายสีน้า� ตาลเขม้ ตอ่ เนื่อง
กนั สามารถเปลีย่ นสเี ป็นสีเหลือง มลี ายจดุ สนี า้� ตาลเข้ม
ขนาดเลก็ ละเอียดโปรยท่ัวล�าตวั ทอ้ งสีขาว ตัวผู้มีถุง
ขยายเสยี ง ลกู อ๊อดมีขนาดเล็ก สีน�้าตาลอมเทาและมจี ุด
หรือปน้ สีเข้มกระจายทวั่ ลา� ตัว มีแถบสีเข้มพาดยาวจาก
สว่ นปลายของปากถงึ ดา้ นหน้าตา ปากอย่ทู างดา้ นลา่ ง
คอ่ นไปทางดา้ นหนา้ ของหัว
222222 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

ในฤดผู สมพนั ธุ์ เวลากลางวันหลบซอ่ น
ตวั อยู่ตามใบไมร้ ิมน้า� หรือใตก้ องใบไม้ กลางคืนตัว
ผจู้ ะออกมาเกาะรอ้ งอย่ตู ามใบไม้ ตวั เมียสรา้ งฟอง
ไขส่ ีเหลอื ง ไม่เปน็ สเี ขียวอยา่ งไขข่ องปาดจิวชนิด
อ่ืน หากถูกรบกวนมกั ไตส่ ูงข้นึ และขยบั ตัวมองหา
ก่ิงไม้ใกล้เคียงกอ่ นกระโดดหนไี ป

อาศยั อยู่ตามพุม่ ไมข้ นาดใหญ่ มักอยู่บน
ที่สูงกวา่ ปาดจิวชนดิ อ่นื ในบรเิ วณทงุ่ หญา้ เปดิ โลง่
ในปา่ เบญจพรรณ ปา่ ดิบแลง้ ผสมพันธุต์ ามแอ่งน้า�
หรอื หนองน�้า

กระจายพันธ์ใุ นประเทศพมา่ ไทย ลาว
กัมพชู า เวยี ดนาม และมาเลเซีย

ในไทยพบกระจายทวั่ ยกเว้นทางภาคใต้
ตอนล่าง

ÊµÑ ÇÊÐà·Ô¹¹ํ้ÒÊÐà·Ô¹º¡ ˌǢÒá¢2Œ§23223

ปาดจวิ พม่า

ปาดยอดหญา้ สีมว่ ง
Burmese Bush Frog
Rohanixalus vittatus (Boulenger,
1887)

222244 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

ÊѵǏÊÐà·Ô¹¹ํÒ้ ÊÐà·¹Ô º¡ ˌǢÒá¢2Œ§25225

ปาดจิวพมา่ เปน็ ปาดขนาดเลก็ ความยาวจาก

หัวถึงก้น 27-32 มลิ ลิเมตร หน้าเล็กแหลม ระยะ
หา่ งระหวา่ งตาใกล้เคยี งกบั ความกว้างเปลอื กตา
แผ่นหปู กคลุมดว้ ยหนงั กลมกลืนกบั ลา� ตัว โคนนว้ิ
มือตดิ กันเปน็ 2 คู่ ปลายนิ้วแผอ่ อกเปน็ แผน่ ขนาด
ใหญ่ มอื มพี งั ผืดเล็กน้อย เทา้ มพี ังผดื 3 ใน 4 ส่วน
ของความยาวนวิ้ มีปมุ่ ขนาดเลก็ บนฝา่ เท้าด้านใน
ไมม่ ปี ุม่ ดา้ นนอก ล�าตัวดา้ นบนสีน้า� ตาลเขม้ มลี าย
แถบสคี รีมจากจมูกผา่ นเหนอื ตาไปบนสีข้างถงึ โคน
ขาหลัง หรอื สีเทาออ่ นอมม่วง โปรยดว้ ยจุดเล็ก
ละเอียดสดี �า มีแถบสีเข้ม 3 แถบตามความยาวลา�
ตัว ทอ้ งสีเหลืองครีม ตวั ผมู้ ีถุงขยายเสียง ลูกออ๊ ด
มขี นาดเล็ก ลา� ตัวเพรยี วยาว สีน�า้ ตาลเหลอื ง มี
แถบสดี า� กว้างพาดจากสว่ นหนา้ ของหัวผ่านตาไป
ท่สี ่วนทา้ ยของลา� ตัว และมแี ถบสดี า� พาดยาวจาก
ชอ่ งเปิดจมกู ผ่านไปทางดา้ นบนของลา� ตัวและต่อ
ไปทางขอบด้านบนของหางจนถึงปลายหาง แผ่น
ครีบหางโปรง่ ใสขนาดใหญ่ แผน่ ครีบหางบนมจี ุด
222266 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

สเี ข้มกระจาย ปากอยู่ทางด้านลา่ งค่อนไปทางด้าน
หนา้ ของหวั

พบเจอได้เฉพาะฤดูฝน โดยกลางวันซอ่ น
ตวั อยูต่ ามใตก้ องวสั ดุ หรือกองใบไมต้ ามพน้ื เวลา
กลางคนื จะข้นึ มาอยูบ่ นใบของพชื ทีข่ น้ึ รมิ นา�้ ตวั ผู้
จะส่งเสยี งร้อง ตวั เมียวางไข่ในฟองรังสเี หลืองออก
เขยี วขนาดเลก็ ตามใบไม้ ใบหญ้า และพมุ่ ไม้ ตวั เมยี
มพี ฤตกิ รรมเฝ้าไข่ทัง้ เวลากลางวนั และเวลากลางคนื
หากถูกรบกวนก็จะกระโดดหนีไป แต่จะกลบั มาเฝา้
ไขอ่ ีกเสมอ ลกู ออ๊ ดหากินตามพน้ื ลา่ งของแอง่ น�้า

อาศัยอยู่บริเวณท่งุ หญา้ เปดิ โล่ง ผสมพนั ธุ์
ในหนองนา�้ หรอื แอง่ น้�าฝนขัง ในปา่ เต็งรัง
ปา่ เบญจพรรณ และปา่ ดบิ แลง้

กระจายพนั ธุ์ในประเทศอินเดยี พมา่ ไทย
ลาว กมั พชู า เวยี ดนาม และจีนตอนใต้

ในไทยพบทางภาคเหนือ ภาคตะวนั ออก
เฉียงเหนือ และภาคตะวันตก ไลล่ งไปจนถึงภาคใต้
ตอนกลาง ท่ีอ�าเภอท่งุ สง จงั หวัดนครศรธี รรมราช

ÊѵÇʏ Ðà·Ô¹¹ํÒ้ ÊÐà·Ô¹º¡ ˌǢÒá¢2§Œ 27227

ปาดแคระขาเรยี ว

ปาดแคระสสี ม้
range Bush frog
Gracixalus seesom Matsui, honsue,
Panha and to, 2015

222288 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

ÊѵǏÊÐà·Ô¹¹ํÒ้ ÊÐà·¹Ô º¡ ˌǢÒá¢2Œ§29229

ปาดแคระขาเรียว ปาดขนาดเล็ก ความยาว

จากปลายจมกู ถงึ กน้ 22 มิลลิเมตร ตัวเมยี ขนาด
ใหญก่ วา่ ตัวผู้ ล�าตวั สีเหลืองหรือสสี ม้ สด มีจุดสี
ดา� กระจายทวั่ ตัว บนหลงั มีลายรูปกากบาท หรือ
ลายแถบตามยาว ขามลี ายพาดสนี า้� ตาลเขม้ ไมม่ ี
พงั ผืดระหวา่ งนิ้ว ปลายนิ้วแผ่ออกเล็กนอ้ ย ท้อง
สีขาวใส

อาศัยอยู่ตามพ่มุ ไมเ้ ตยี้ ๆ แต่บางครั้ง
พบอาศัยอย่บู นตน้ ไมส้ งู กว่า 2 เมตร ริมลา� ธาร
บริเวณทีม่ นี �า้ ไหล หรอื เป็นน้า� ซบั ในป่าดิบเขา
ระดับต่�า เวลากลางวันมกั หลบซอ่ นตวั อย่ตู ามซอก
กาบใบของตน้ เฟิร์น และ ใบบอนริมแอง่ นา้� ชว่ ง
ฤดฝู น ตัวผ้สู ่งเสียงรอ้ งดัง “ติก๊ ๆ ๆ” ดังระงมท่วั
พนื้ ที่ ตั้งแตช่ ว่ งหวั ค่า� และจะค่อย ๆ เบาลงช่วง
กลางดกึ มักพบอาศยั ร่วมกับ ปาดลายเลอะภูเขา
ปาดลายเลอะเหนือ และปาดตนี เหลือง ท�าฟอง
ไขต่ ิดกับใบไม้ในชว่ งฝนแรก ในบริเวณท่มี นี ้า� ไหล
ผ่าน หรอื แอง่ นา�้ ขังขนาดใหญ่ ลูกอ๊อดมขี นาดเลก็
สีน้า� ตาลอมแดง ปลายปากมีแต้มสจี าง มักซอ่ นตัว
ตามใตก้ องใบไม้ หรือเศษวัสดุใต้น้�า

232300 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

กระจายพันธใ์ุ นประเทศไทย พบทาง
ภาคเหนอื ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื และภาค
ตะวนั ตก

浄 Çʏ Ðà·Ô¹¹Òํ้ ÊÐà·¹Ô º¡ ËÇŒ ¢Òá¢2§Œ 31231

ปาดลายเลอะภเู ขา

ปาดหลงั ขดี
arin ill Bush Frog
Gracixalus carinensis (Boulenger, 1893)

232322 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

ÊѵǏÊÐà·Ô¹¹ํÒ้ ÊÐà·¹Ô º¡ ˌǢÒá¢2Œ§33233

ปาดลายเลอะภูเขา เปน็ ปาดขนาดเล็ก ความยาว

จากปลายจมูกถงึ กน้ 38 มลิ ลเิ มตร ดวงตาโปนโต
ระหวา่ งนิว้ ไม่มีพงั ผดื ปลายนิ้วแผ่บานออกเล็กนอ้ ย
มตี ุ่มกระจายท่ัวตัว ล�าตัวสนี า�้ ตาลอมเทา หรอื สี
น้า� ตาลอ่อน ระหวา่ งตามีแถบสีน้า� ตาลเข้ม ต่อเนื่อง
กับลายตามยาวล�าตัว 2 แถบ บนหลงั และค่อย ๆ
เลอื นทางด้านทา้ ยล�าตัว ขามลี ายพาดสนี ้�าตาลเข้ม
ทอ้ งสีเทาอมน�้าตาล มลี ายประสีนา้� ตาลเข้ม คางสี
เหลอื งสด

เวลากลางวัน มักซอ่ นตวั ตามซอกกาบใบ
กล้วย อาจอยดู่ ้วยกัน 2-3 ตวั กลางคนื มกั พบเกาะ
อยู่บนใบกลว้ ยหรอื ใบเฟริ น์ บางครงั้ พบเกาะบน
ต้นไมส้ งู กว่า 3 เมตร ตามริมล�าธารท่มี ีพืชจา� พวก
กลว้ ยหรือเฟิร์นขึ้นหนาแนน่ ในปา่ ดบิ เขา พบมาก
ช่วงต้นฤดฝู น เม่ือถูกรบกวนจะเกบ็ แขนขา เกรง็ ตัว
จนแข็ง แลว้ ทงิ้ ตัวลงพนื้ ดูคลา้ ยกับเศษไมห้ รือ
232344 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

ก่ิงไมห้ กั รว่ ง ในช่วงหนา้ แลง้ อาจพบหลบซอ่ น
ตัวในโพรงไมท้ ี่มีนา้� ขงั หรอื อยรู่ ่วมกับปาดลาย
เลอะเหนอื ชอบซ่อนตวั ในซอกรทู ่แี คบ ซ่ึงตา่ ง
กับ ปาดตะปมุ่ ทตี่ อ้ งการโพรงไม้ทม่ี ีนา้� ขัง และ
ความกว้างของปากโพรงคอ่ นขา้ งกวา้ งกวา่

พบอาศัยในปา่ ดบิ เขาระดับต�่า โดย
เกาะตามไม้พ้นื ลา่ ง หรือซอ่ นตวั ในแอ่งน�้าขัง
คลา้ ยปาดตะป่มุ

กระจายพันธใ์ุ นประเทศไทย ทาง
ภาคเหนือตอนบน ไล่ลงมาทางตะวนั ตก
ท่จี ังหวดั กา� แพงเพชร ล่าสุดเพิ่งสา� รวจพบ
ท่ีอุทยานแหง่ ชาติภหู นิ ร่องกลา้ จงั หวดั
เพชรบรู ณ์

ÊѵǏÊÐà·¹Ô ¹ํÒ้ ÊÐà·¹Ô º¡ ËÇŒ ¢Òá¢2Œ§35235

ปาดลายเลอะเหนือ

Boulenger s Tree Frog
Kurixalus verrucosus (Boulenger, 1893)

232366 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

ÊѵǏÊÐà·Ô¹¹ํÒ้ ÊÐà·¹Ô º¡ ˌǢÒá¢2Œ§37237

ปาดลายเลอะเหนือ เป็นปาดขนาดเลก็

ความยาวจากหัวถึงกน้ 29-30 มลิ ลเิ มตร หวั
แบน แผน่ หูสกี ลมกลนื กบั ล�าตวั มีหนงั นูนเปน็
สนั จากหางตาถึงโคนแขน ปลายน้ิวแผอ่ อกเปน็
แผ่นขนาดใหญ่ มอื มีพังผืดเล็กน้อย มแี ผ่นหนงั
ระหว่างข้อพับแขนและขา เท้าหลงั มพี งั ผืดสี
นา้� ตาลเขม้ ประมาณครึ่งหนง่ึ ของความยาวน้ิว
มีแผน่ หนงั ขอบหยกั สเี ดียวกบั ลา� ตัวบรเิ วณหลัง
มือ หลังแขน หลังเทา้ หลังขา และเหนอื กน้
ล�าตวั ดา้ นบนสนี า้� ตาลออ่ น สนี �้าตาลเขม้ หรอื
สีน้�าตาลเทา มีลายแต้มสนี ้�าตาลเข้ม บางตัวมี
ลายแต้มสีเขยี วด้วย ทอ้ งสีครีม หรอื สเี หลืองมี
ลายจุดสีเทา ใต้ขาและซอกขาหลงั สสี ม้ ใตน้ วิ้
เท้าสสี ม้ โดยเท้าหน้าสีออ่ นกว่าเท้าหลงั
232388 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

กลางวันอาจพบตวั ตามเปลอื กไม้
หรือโพรงไม้ที่มีน้า� ขัง กลางคนื พบเกาะบนใบ
บอน หรอื เกาะตามพชื คลมุ ดนิ เชน่ พวกขิงขา่
ในปา่ ดบิ แล้ง มกั พบออกมารอ้ งรวมกนั เป็น
กลุ่ม ๆ ก่อนทีฝ่ นจะตกหนัก เสยี งรอ้ งคล้าย
กับเสยี งปาดแคระป่า แตเ่ สียงดังนอ้ ยกวา่ และ
ถี่กวา่ มาก

กระจายพันธุ์ในประเทศพมา่ จนี
ตอนใต้ ไทย และเวียดนาม

ในไทยพบกระจายทางภาคเหนือ
ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ตอนบน ภาค
ตะวันตก ลงไปถึงภาคใต้ตอนกลาง ทจี่ งั หวดั
นครศรธี รรมราช

ÊµÑ ÇÊÐà·¹Ô ¹ํ้ÒÊÐà·¹Ô º¡ ËÇŒ ¢Òá¢2§Œ 39239

242400 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

ปาดเหนือ

ปาดอสี าน, ปาดบ้าน, เขียดตะปาด
Spot-legged Tree Frog
Polypedates megacephalus ( allowell, 1861)

ÊѵÇʏ Ðà·Ô¹¹้Òํ ÊÐà·¹Ô º¡ ËÇŒ ¢Òá¢2Œ§41241

ปาดเหนือ เป็นปาดขนาดใหญ่ ความยาวจากหวั ถึง

กน้ 50-80 มลิ ลเิ มตร หวั แบน หนา้ สน้ั กว้าง ระยะหา่ ง
ระหว่างตากวา้ งกว่าความกว้างเปลือกตา แผ่นหขู นาด
ใหญป่ กคลมุ ด้วยหนังสีเดยี วกบั ล�าตวั ปลายนิ้วแผ่ออก
เป็นแผน่ แบน มอื มีพังผดื เล็กน้อย ปมุ่ บนฝ่ามอื ดา้ น
ในแบน ปุ่มกลางกลม และปุม่ ดา้ นนอกขนาดเลก็ ขา
ยาว เทา้ มีพังผืดเกือบเต็มความยาวน้วิ ล�าตวั ดา้ นบนสี
น�า้ ตาลเหลือง สเี หลือง สนี ้�าตาลแดง หรอื สนี า�้ ตาลเทา
มีลายสีเทาจาง ๆ มลี ายรูปสามเหล่ยี มบริเวณหัว หลงั
มกั มีลายรปู นา กิ าทราย อาจมีลายแตม้ สดี �า หรือลาย
ขดี ตามยาวสเี ทา 4-6 เสน้ ขนานกนั บางตัวมแี ถบสดี า�
จากหางตาผ่านเหนอื หไู ปยงั สขี า้ ง ขามลี ายพาดสีเทา
ลา� ตวั ด้านลา่ งสขี าวครีม
242422 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

หากินเวลากลางคนื อาหารหลัก
ได้แก่ แมลง สัตวม์ ีข้อปลอ้ ง และบางครัง้ กนิ
สตั ว์มกี ระดกู สนั หลังขนาดเล็กพวกสตั ว์ใน
กลุ่มจ้ิงจกตุ๊กแก ผสมพันธ์แุ ละวางไข่ไดต้ ลอด
ทง้ั ปี ตวั ผูจ้ ะสง่ เสียงร้องดงั “กรอด” เสียง
เปน็ เอกลักษณ์ รอ้ งอยู่ตามต้นหญ้า ไม้พุ่ม
หรือวสั ดุทอี่ ย่ใู กลแ้ หลง่ น�า้ ตัง้ แตร่ ะดับพ้นื ถงึ
ระดับเหนอื หวั ตัวเมยี วางไข่ในฟองรังรปู รา่ ง
กลมขนาดใหญป่ ระมาณลกู เทนนิส สนี ้�าตาล
อ่อน ตามใบไม้ บนตน้ ไมส้ ูง โขดหิน หรือวัตถุ
ทีอ่ ยู่เหนือแอ่งนา�้ หรอื ลอยอยทู่ ่ีผวิ นา�้ หากถูก
รบกวนจะเอามือปิดเหนือตา เกบ็ แขนเก็บขา
ท�าตวั แข็ง เมื่อสบโอกาสจงึ ขยบั มองหากิ่งไม้
ใกลเ้ คียงแลว้ กระโดดหนไี ป

อาศัยอยตู่ ามต้นไม้ และผนงั สิ่งกอ่ สรา้ ง ใน
พ้ืนทที่ ุกประเภท ตง้ั แต่ชมุ ชน พ้นื ท่ีเพาะปลกู ปา่ เต็ง
รงั ป่าเบญจพรรณ ป่าดบิ แล้ง จนถึงปา่ ดิบเขา

กระจายพนั ธ์ใุ นแถบรอ้ น และก่งึ รอ้ นของ
ประเทศจีน ไตห้ วัน ไหหลา� ฮอ่ งกง ตะวันออกเฉียง
เหนือของอนิ เดีย เวียดนาม ไทย นา่ จะพบในพมา่
และลาว

ในไทยพบกระจายเหนือคอคอดกระขน้ึ มา
ÊµÑ ÇÊÐà·¹Ô ¹้Òํ ÊÐà·¹Ô º¡ ËÇŒ ¢Òá¢2Œ§43243

242444 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG

ปาดแคระป่า

ปาดแคระ, ปาดต๊ิก
Dwarf Bush Frog
Raorchestes parvulus (Boulenger, 1893)

ÊѵǏÊÐà·¹Ô ¹้Òํ ÊÐà·¹Ô º¡ ˌǢÒá¢2§Œ 45245

ปาดแคระปา่ เป็นปาดขนาดเล็ก ความยาว

จากหัวถงึ ก้น 18-21 มลิ ลิเมตร หัวส้นั ระยะ
ห่างระหว่างตากวา้ งกว่าความกว้างเปลอื ก
ตา แผน่ หูไมป่ รากฏ ปลายน้วิ แผ่ออกเป็นแผ่น
ขนาดใหญ่ มอื ไมม่ ีพงั ผืด เทา้ มพี งั ผดื เล็กน้อย
ลา� ตัวด้านบนสเี ทา หรือสีนา�้ ตาล มีลายเส้น
2 เสน้ โคง้ ออกจากกนั ดังรูป )( บรเิ วณข้าง
ตะโพกมจี ดุ สีด�า สขี า้ งสนี า้� ตาลออ่ น ทอ้ งคอ่ น
ข้างใสโปรยดว้ ยจดุ สขี าว ตัวผ้มู ถี ุงขยายเสยี ง
ขนาดใหญม่ าก
242466 AMPHIBIANS OF HUAI KHA KHAENG


Click to View FlipBook Version