หลักสตู รสถานศึกษาปฐมวยั โรงเรียนวดั กกม่วง
ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช 2565
ตามหลกั สูตรการจดั การศกึ ษาปฐมวัย พทุ ธศักราช 2560
สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาสพุ รรณบรุ ี เขต ๒
สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ก
กระทรวงศึกษาธิการมีคำสั่ง ที่ สพฐ. 1223/2560 เรื่อง ให้ใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
พุทธศักราช 2560 แทนหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2560
เพื่อให้สถานศึกษาหรือสถาบันพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัดนําหลักสูตรไปใช โดยปรับปรุงให้เหมาะสมกับเด็ก
และสภาพทองถิน่ ต้งั แต่ปกี ารศกึ ษา 2564 เปน็ ตน้ ไป
โรงเรียนวัดกกม่วง จัดการศึกษาปฐมวัย โดยยึดนโยบายการพัฒนาการศึกษาปฐมวัย และหลักสูตร
การศึกษาปฐมวยั ของกระทรวงศึกษาธิการ เปน็ กรอบและทศิ ทางในการพัฒนาการจัดการศึกษามาอยา่ งจริงจัง
และต่อเนื่อง ดังนั้นจากคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ.1223/2560 โรงเรียนจึงแต่งตั้งคณะกรรมการ
จัดทำหลกั สตู รสถานศกึ ษาระดบั ปฐมวยั โรงเรียนวดั กกม่วง ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช 2564 ตามหลักสตู ร
การศึกษาปฐมวัย พุทธศกั ราช 2560 ขนึ้ เพ่ือดำเนินการจดั ทำหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยให้มีคุณภาพและ
มาตรฐานตามจุดหมายหลกั สูตรการศึกษาปฐมวัย พ.ศ. 2560 ที่กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัย
ให้มีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ จิตใจ สังคม เป็นคนดี มีวินัย มีสํานึกความเป็นไทย มีความรับผิดชอบต
อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติในอนาคต โดยพิจารณาถึงความสอดคล องกับสภาพการ
เปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจ สังคม และความเจริญการหนาทางเทคโนโลยี รวมถึงสภาพและความตองการของ
ท้องถิ่น เพื่อให้เป็นหลักสูตรที่มีความเหมาะสมกับเป้าหมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัยสอดคลองและทันต่อ
สภาพการเปล่ียนแปลงได้อยา่ งแท้จริง
โรงเรียนวัดกกม่วง ขอขอบคุณผู้ที่มีสวนเกี่ยวของทุกท่านทั้งผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาปฐมวัย
ศึกษานิเทศก คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้บริหารโรงเรียน ครูปฐมวัย ตัวแทนผู้ปกครอง ตัวแทนชุมชน
ตลอดจนบุคลกรทุกคนที่มีสวนร่วมการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยโรงเรียนวัดกกม่วง ฉบับปรับปรุง
พุทธศกั ราช 2565 ตามหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวยั พทุ ธศกั ราช 2560 ให้มีความเหมาะสมตอการนําไปใชจัด
การศึกษาปฐมวยั
คณะทำงาน
ข หนา้
ก
สารบญั ข
คำนำ 1
สารบัญ 1
๑
1 ปรชั ญาการศึกษาปฐมวัยโรงเรยี นวดั กกมว่ ง 2
2 วิสยั ทศั น์ พนั ธกิจ 2
๓ หลกั การจัดการศกึ ษาปฐมวัย ๒
๔ จุดหมาย ๑๐
๕ มาตรฐานคณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ ๑๐
๖ เปา้ หมาย ๑๐
๗ โครงสรา้ งหลกั สูตร ๑๘
๘ การจัดเวลาเรยี น ๒๗
๙ สาระการเรยี นรู้ ๔๑
๑๐ การจัดประสบการณ์ปฐมวัยตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๕๗
๑๑ สาระการเรียนร้รู ายปี ๗๓
๘๙
การวเิ คราะห์สาระการเรียนรรู้ ายปี ระดบั ชน้ั อนบุ าลปีที่ ๑ ๙๒
การวเิ คราะหส์ าระการเรยี นรรู้ ายปี ระดบั ชั้นอนุบาลปีท่ี ๒ ๙๔
การวเิ คราะหส์ าระการเรยี นรู้รายปี ระดับชน้ั อนุบาลปีที่ ๓ ๙๕
๑๒ การจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัยอายุ 3-6 ปี ๙๖
๑๓ การสร้างบรรยากาศการเรยี นรู้ ๙๗
๑๔ สื่อและแหล่งเรยี นรู้ ๑๐๑
๑๕ การจัดสภาพแวดลอ้ ม ๑๐๑
๑๖ การประเมนิ พัฒนาการ ๑๐๓
๑๗ การบริหารจดั การหลักสูตร
๑๘ การจดั การศึกษาระดับปฐมวัย (อายุ ๓-๕ ปี) สำหรับกลมุ่ เปา้ หมายเฉพาะ ๑๐๔
๑๙ การสร้างรอยเชอ่ื มต่อระหวา่ งการศึกษาระดบั ปฐมวัยกบั ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑
๒๐ การกำกบั ตดิ ตาม ประเมิน และรายงาน
บรรณานุกรม
๑
หลักสูตรการศกึ ษาปฐมวยั
พทุ ธศักราช 2560
ปรัชญาการศกึ ษาปฐมวัย
การศึกษาปฐมวัยเปน็ การพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปีบริบูรณ์ อย่างเป็นองค์รวม บนพื้นฐานการ
อบรมเลี้ยงดูและส่งเสรมิ กระบวนการเรียนรู้ที่สนองต่อธรรมชาติและพฒั นาการตามวยั ของเด็กแตล่ ะคนให้เต็ม
ตามศักยภาพ ภายใต้บริบทสังคมและวัฒนธรรมที่เด็กอาศัยอยู่ด้วยความรัก ความเอื้ออาทร และความเข้าใจ
ของทุกคน เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็กพัฒนาไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เกิดคุณค่าต่อตนเอง
ครอบครัว สงั คม และประเทศชาติ
วสิ ัยทศั น์โรงเรยี นวดั กกม่วง
โรงเรียนวัดกกม่วง มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษา มีคุณธรรม จริยธรรม
ก้าวทันเทคโนโลยี มีชุมชนร่วมพัฒนาการจัดการศึกษา มีจิตอาสาและน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง
พันธกจิ
1. สง่ เสริมและสนับสนุนใหผ้ ้เู รียนทกุ คนมีคุณภาพตามเกณฑ์มาตรฐานการศึกษา
2. สง่ เสริมให้ผเู้ รียนเปน็ คนดี มีคุณธรรม จริยธรรม มคี ุณลักษณะอนั พึงประสงคต์ ามหลักสูตร
3. สง่ เสรมิ และสนบั สนุนการใช้เทคโนโลยี ในการศกึ ษาหาความรู้
4. สง่ เสรมิ และพัฒนาครสู ู่ความเป็นมืออาชีพ
5. สนบั สนุนการมีส่วนรว่ มของชมุ ชนและองค์กรตา่ งๆ ในการบริหารจดั การศกึ ษา โดยยึดหลักประชาธปิ ไตย
6. สง่ เสรมิ การดำรงชวี ติ โดยยดึ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
หลกั การจดั การศึกษาปฐมวยั
หลักการจัดการศึกษาปฐมวัยของโรงเรียนวัดกกม่วง ต้องการให้เด็กปฐมวัยทุกคนต้องได้รับการ
สง่ เสริมพัฒนาการ จัดประสบการณ์ได้อยา่ งเหมาะสมตามวฒุ ิภาวะ มีความร่วมมอื ระหว่างโรงเรียนกับพ่อแม่
ผู้ปกครอง และความร่วมมือกับบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถในการอบรมเลี้ยงดูและให้การศึกษาแก่เด็ก
ปฐมวัย เพ่ือใหเ้ ดก็ ได้มีพัฒนาการทุกด้าน อยา่ งเตม็ ตามศกั ยภาพ โดยมหี ลกั การ ดงั นี้
1. ส่งเสรมิ การจดั ประสบการณ์ท่ีมคี วามเหมาะสมกบั เด็กปฐมวยั ตามช่วงอายุ
2. จดั ประสบการณ์การศึกษาท่ีเนน้ เด็กเปน็ สำคญั โดยคำนึงถงึ ความแตกต่างระหว่างบุคคล และวิถี
ชีวิตของเด็กตามบริบทของชุมชน สังคม และวฒั นธรรมไทย
3. ส่งเสรมิ พฒั นาการเดก็ โดยองคร์ วมผา่ นการเลน่ และกจิ กรรมทห่ี ลากหลาย เหมาะสมกับช่วงอายุ
4. จัดประสบการณก์ ารศกึ ษาให้เด็กสามารถดำรงชวี ิตประจำวันตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ
พอเพียงอย่างมีคุณภาพและมีความสุข
5. สรา้ งความรู้ ความเข้าใจ และประสานความรว่ มมือในการพัฒนาเดก็ ระหวา่ งสถานศึกษากบั พ่อแม่
ครอบครวั และชุมชนทุกฝา่ ยทเ่ี กย่ี วข้องกับการพฒั นาเดก็ ปฐมวัย
๒
จุดหมาย
จุดหมายของหลกั สูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เป็นความดาดหวงั เพื่อใหเ้ กิดกับเด็กเมอื่
จบการศึกษาระดับปฐมวยั แล้ว โดยจุดหมายอยู่บนพ้นื ฐานพฒั นาการทัง้ ๔ ดา้ นคือ ด้านร่างกาย อารมณ์ จติ ใจ
สงั คมและสติปัญญาท่นี ำไปสู่การกำหนดมาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ตวั บ่งชี้ และสภาพที่ประสงค์ ดงั นี้
๑. ร่างกายเจริญเติบโตตามวยั แขง็ แรง และมสี ุขนสิ ยั ท่ีดี
๒. สขุ ภาพจติ ดี มสี นุ ทรียภาพ มีคณุ ธรรม จริยธรรม และจติ ใจท่ดี ีงาม
๓. มที กั ษะชีวติ และปฏบิ ัตติ นตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีวนิ ัย
๔. มีทกั ษะการคิด การใชภ้ าษาสื่อสาร และการแสวงหาความรู่ไดเ้ หมาะสมกบั วัย
มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์
หลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัยกำหนดมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงคจ์ ำนวน ๑๒ มาตรฐาน ประกอบด้วย
๑.พฒั นาการดา้ นร่างกาย ประกอบด้วย ๒ มาตรฐานคือ
มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจรญิ เติบโตตามวัยและมสี ุขนิสยั ท่ีดี
มาตรฐานที่ ๒ กลา้ มเน้ือใหญ่และกลา้ มเน้ือเล็กแข็งแรงใช้ได้อยา่ งคล่องแคล่วและประสานสัมพนั ธ์กนั
๒.พัฒนาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ ประกอบด้วย ๓ มาตรฐานคือ
มาตรฐานที่ ๓ มสี ขุ ภาพจิตดีและมีความสขุ
มาตรฐานที่ ๔ ช่ืนชมและแสดงออกทางศลิ ปะ ดนตรี และการเคล่ือนไหว
มาตรฐานที่ ๕ มีคณุ ธรรม จริยธรรม และมจี ิตใจทีด่ ีงาม
๓.พัฒนาการด้านสงั คม ประกอบด้วย ๓ มาตรฐานคือ
มาตรฐานที่ ๖ มที กั ษะชีวติ และปฏิบตั ติ นตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
มาตรฐานที่ ๗ รักธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม วฒั นธรรม และความเปน็ ไทย
มาตรฐานที่ ๘ อยู่รว่ มกบั ผู้อื่นได้อยา่ งมีความสุขและปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชกิ ท่ดี ีของสังคมใน
ระบอบประชาธปิ ไตย อันมพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข
๔.พัฒนาการด้านสตปิ ญั ญา ประกอบดว้ ย ๔ มาตรฐานคือ
มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาส่อื สารไดเ้ หมาะสมกบั วยั
มาตรฐานท่ี ๑๐ มีความสามารถในการคดิ ทเี่ ปน็ พื้นฐานการเรยี นรู้
มาตรฐานที่ ๑๑ มีจนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
มาตรฐานท่ี ๑๒ มเี จตคติที่ดตี ่อการเรียนรู้และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกบั วัย
เป้าหมาย
1. เดก็ ปฐมวัยทกุ คนไดร้ บั การพัฒนาให้เกดิ ความพรอ้ ม ด้านรา่ งกาย อารมณ์ – จิตใจ สังคม และ
สติปญั ญา เต็มตามศกั ยภาพ
2. เด็กปฐมวยั ทกุ คนได้รบั การปลูกฝังด้านคุณธรรม จริยธรรม ปฏบิ ตั ิตนตามหลักศาสนา
3. เด็กปฐมวัยทกุ คนรู้จกั ใช้ชวี ิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่เหมาะสม
4. เด็กปฐมวยั ทกุ คนรัก และภาคภูมใิ จในความเปน็ ไทย รักษาประเพณี วฒั นธรรมไทย
5. เด็กปฐมวยั ทุกคนมีความรักในธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม
6. ครทู กุ คนจัดประสบการณ์การเรยี นรใู้ หไ้ ดร้ ับประสบการณต์ รงจากแหลง่ การเรยี นร้ใู นท้องถิน่
ชมุ ชน และจังหวัด พรอ้ มทั้งจังหวดั ใกลเ้ คยี ง
๓
ตวั บง่ ช้ี ตวั บ่งช้ีเป็นเป้าหมายในการพฒั นาเด็กที่มีความสมั พันธ์สอดคล้องกับมาตรฐานคณุ ลักษณะท่ีพึง
ประสงค์
สภาพที่พึงประสงค์ สภาพทพี่ งึ ประสงค์เป็นพฤติกรรมหรือความสามารถตามวัยท่คี าดหวงั ใหเ้ ดก็ เกิด บน
พ้นื ฐานพฒั นาการตามวยั หรือความสามารถตามธรรมชาติในแตล่ ะระดับอายุเพื่อนำไปใช้ในการกำหนดสาระ
เรยี นรใู้ น การจดั ประสบการณ์ กิจกรรมและประเมนิ พฒั นาการ
มาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตวั บ่งชี้ และสภาพทพี่ งึ ประสงค์ มีดงั นี้
รายละเอียดของมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ตัวบง่ ชี้ และสภาพท่ีพงึ ประสงค์ มีดังนี้
มาตรฐานที่ 1 ร่างกายเจรญิ เตบิ โตตามวัยและสุขนิสยั ทด่ี ี
สภาพทีพ่ ึงประสงค์
ตัวบ่งชี้ อายุ 3-4 ปี อายุ 4-5 ปี อายุ 5-6 ปี
1.1 นำ้ หนักและ 1.1.1 นำ้ หนักและ 1.1.1 และส่วนสงู ตาม 1.1.1 นำ้ หนักและ
ส่วนสูงตามเกณฑ์ สว่ นสงู ตามเกณฑข์ อง เกณฑ์ของกรมอนามัย สว่ นสงู ตามเกณฑ์ของ
กรมอนามัย กรมอนามยั
1.2 มสี ุขภาพอนามัย 1.2.1 ยอ่ มรบั ประทาน 12.1 รับประทาน 12.1 รับประทาน
สุขนิสยั ทีด่ ี อาหารท่มี ปี ระโยชน์ อาหารทมี่ ีประโยชน์ อาหารท่มี ปี ระโยชนไ์ ด้
และดืม่ น้ำสะอาดเม่ือมี และด่มื นำ้ สะอาดดว้ ย หลายชนิดและดื่มนำ้
ผู้ชี้นำ ตนเอง สะอาดไดด้ ว้ ยตนเอง
1.2.2 ล้างมอื ก่อน 1.2.2 ล้างมือก่อน 1.2.2 ล้างมือก่อน
รับประทานอาหารและ รบั ประทานอาหารและ รบั ประทานอาหารและ
หลงั จากใช้ห้องนำ้ ห้อง หลงั จากใช้หอ้ งนำ้ ห้อง หลังจากใช้ห้องนำ้ ห้อง
สว้ มเมื่อมผี ชู้ ี้นำ ส้วมดว้ ยตนเอง ส้วมดว้ ยตนเอง
1.2.3 นอนพักผอ่ นเป็น 1.2.3 นอนพกั ผอ่ นเปน็ 1.2.3 นอนพักผอ่ นเปน็
เวลา เวลา เวลา
1.2.4 ออกกำลงั กาย 1.2.4 ออกกำลงั กาย 1.2.4 ออกกำลงั กาย
เป็นเวลา เป็นเวลา เปน็ เวลา
1.3 รักษาความ 1.3.1 เลน่ และทำ 1.3.1 เลน่ และทำ 1.3.1 เลน่ และทำ
ปลอดภยั ของตนเอง กิจกรรมอยา่ งปลอดภยั กจิ กรรมอยา่ งปลอดภยั กจิ กรรมและปฏบิ ตั ิตอ่
และผ้อู ่นื เมือ่ มีผชู้ ้แี นะ ด้วยตนเอง ผอู้ ่นื อย่างปลอดภัย
๔
มาตรฐานที่ 2 กลา้ มเนอ้ื ใหญแ่ ละกล้ามเน้อื เล็กแข็งแรง ใช้ไดอ้ ย่างคล่องแคลว่ และประสานสัมพันธก์ นั
สภาพทีพ่ ึงประสงค์
ตัวบ่งชี้ อายุ 3-4 ปี อายุ 4-5 ปี อายุ 5-6 ปี
2.1 2.1.1 เดนิ ตามแนวที่ 2.1.1 เดนิ ต่อเทา้ ไป 2.1.1 เดนิ ตอ่ เท้าถอยหลงั
เคลอื่ นไหว กำหนดได้ ขา้ งหนา้ เป็นเส้นตรงได้โดย เปน็ เสน้ ตรงได้โดยไมต่ อ้ ง
ร่างกายอย่าง ไมต่ ้องกางแขน กางแขน
คล่องแคล่ว 2.1.2 กระโดดสองขาข้ึน 2.1.2 กระโดดขาเดยี วอยู่ 2.1.2 กระโดดขาเดยี วไป
ประสาน
ลงอยู่กับท่ีได้ กับที่ได้โดยไมเ่ สยี การทรง ขา้ งหน้าได้อยา่ งตอ่ เน่ือง
สมั พนั ธแ์ ละ
ตวั โดยไมเ่ สยี การทรงตัว
ทรงตวั ได้ 2.1.3 วง่ิ แลว้ หยดุ ได้ 2.1.3 วงิ่ หลบหลีกสิ่งกดี 2.1.3 ว่งิ หลบหลีกส่ิงกีด
ขวางได้ ขวางได้อยา่ งคล่องแคล่ว
2.1.4 รับลกู บอลโดยใช้ 2.1.4 รบั ลกู บอลโดยใช้ 2.1.4 รบั ลกู บอลที่
มือและลำตวั ช่วย มอื ทง้ั 2 ข้าง กระดอนขึน้ จากพืน้ ได้
2.2ใช้มอื -ตา 2.2.1 ใช้กรรไกรตัด 2.2.1 ใชก้ รรไกรตัด 2.2.1 ใช้กรรไกรตดั
ประสาน กระดาษขาดจากกนั ได้โดย กระดาษตามแนวเส้นตรง กระดาษตามแนวเส้นโคง้
สัมพนั ธ์กนั ใชม้ อื เดยี ว ได้ ได้
2.2.2 เขียนรูปวงกลม 2.2.2 เขยี นรูปสีเ่ หลยี่ ม 2.2.2 เขียนรูปสามเหลีย่ ม
ตามแบบได้ ตามแบบได้อยา่ งมมี ุม ตามแบบไดอ้ ยา่ งมีมุม
ชดั เจน ชดั เจน
2.2.3 ร้อยวสั ดุท่มี ีรขู นาด 2.2.3 ร้อยวสั ดุทม่ี รี ูขนาด 2.2.3 รอ้ ยวสั ดทุ ม่ี รี ขู นาด
เส้นผ่าศนู ย์กลาง 1 ซม.ได้ เส้นผ่าศนู ยก์ ลาง 0.5 ซม. เส้นผา่ ศูนยก์ ลาง 0.25
ได้ ซม.ได้
มาตรฐานที่ 3 มสี ุขภาพจติ ดีและมสี ุข
สภาพทพ่ี งึ ประสงค์
ตัวบ่งชี้ อายุ 3-4 ปี อายุ 4-5 ปี อายุ 5-6 ปี
3.1 แสดงออก 3.1.1 แสดงอารมณ์ 3.1.1 แสดงอารมณ์ 3.1.1 แสดงอารมณ์
ทางอารมณ์ได้ ความรสู้ กึ ไดเ้ หมาะสมกับ ความรสู้ กึ ได้ตาม ความรูส้ ึก ไดส้ อดคล้องกบั
อยา่ งเหมาะสม บางสถานการณ์ สถานการณ์ สถานการณ์อย่าง
เหมาะสม
3.2 มี 3.2.1 กลา้ พดู กลา้ 3.2.1 กล้าพูดกลา้ 3.2.1 กลา้ พูดกลา้
ความรูส้ ึกทดี่ ี แสดงออก แสดงออกอย่างเหมาะสม แสดงออกอยา่ งเหมาะสม
ตอ่ ตนเองและ บางสถานการณ์ ตามสถานการณ์
ผูอ้ ื่น 3.2.2 แสดงความพอใจใน 3.2.2 แสดงความพอใจใน 3.2.2 แสดงความพอใจใน
ผลงานตนเอง ผลงานและความสามารถ ผลงานและความสามารถ
ของตนเอง ของตนเองและผู้อ่นื
๕
มาตรฐานที่ 4 ชน่ื ชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคลือ่ นไหว
สภาพท่พี งึ ประสงค์
ตัวบ่งช้ี อายุ 3-4 ปี อายุ 4-5 ปี อายุ 5-6 ปี
4.1 สนใจ มี 4.1.1 สนใจ มคี วามสขุ 4.1.1 สนใจ มคี วามสุข 4.1.1 สนใจ มคี วามสขุ
และแสดงออกผา่ นงาน
ความสุขและ และแสดงออกผา่ นงาน และแสดงออกผา่ นงาน ศลิ ปะ
แสดงออกผ่าน ศลิ ปะ ศิลปะ 4.1.2 สนใจ มีความสุข
และแสดงออกผา่ น
งานศิลปะ 4.1.2 สนใจ มคี วามสุข 4.1.2 สนใจ มีความสขุ เสียงเพลง ดนตรี
ดนตรี และการ และแสดงออกผ่าน
เคล่ือนไหว เสยี งเพลง ดนตรี และแสดงออกผา่ น 4.1.3 สนใจ มคี วามสขุ
และแสดงท่าทาง/
เสียงเพลง ดนตรี เคล่ือนไหวประกอบเพลง
ดนตรี
4.1.3 สนใจ มคี วามสุข 4.1.3 สนใจ มคี วามสุข
และแสดงท่าทาง/ และแสดงท่าทาง/
เคล่อื นไหวประกอบเพลง เคลือ่ นไหวประกอบเพลง
ดนตรี ดนตรี
มาตรฐานท่ี 5 มีคณุ ธรรม จริยธรรม และมีจิตใจท่ีดีงาม
สภาพทพี่ งึ ประสงค์
ตัวบ่งช้ี อายุ 3-4 ปี อายุ 4-5 ปี อายุ 5-6 ปี
5.1.1 ขออนญุ าตหรอื รอ
5.1 ซ่อื สัตย์ 5.1.1 บอกหรอื ช้ไี ด้วา่ ส่ิง 5.1.1 ขออนุญาตหรอื รอ คอยเม่ือต้องการสิ่งของ
ของผู้อน่ื ดว้ ยตนเอง
สุจรติ ใดเปน็ ของตนเองและสง่ิ ใด คอยเมื่อต้องการส่งิ ของ 5.2.1 แสดงความรกั
เพ่อื นและมีเมตตาสตั ว์
เป็นของผู้อืน่ ของผู้อน่ื เมื่อมผี ูช้ แี้ นะ เล้ียง
5.2.2 ช่วยเหลือและ
5.2มเี มตตา 5.2.1 แสดงความรกั 5.2.1 แสดงความรกั แบง่ ปันผอู้ ืน่ ได้ ดว้ ยตนเอง
กรณุ า มีนำ้ ใจ เพ่อื นและมเี มตตาสัตว์ เพื่อนและมีเมตตาสัตว์ 5.3.1 แสดงสีหน้าหรอื
ท่าทางรับรูค้ วามร้สู กึ ผู้อืน่
และช่วยเหลือ เลย้ี ง เล้ยี ง อย่างสอดคล้องกับ
สถานการณ์
แบง่ ปนั 5.2.2 แบง่ ปนั ผูอ้ ืน่ ได้ เม่อื 5.2.2 ชว่ ยเหลอื และ 5.4.1 ทำงานทไี่ ด้รับ
มอบหมายจนเสร็จด้วย
มีผชู้ แ้ี นะ แบง่ ปนั ผอู้ ่ืนได้ เม่ือมีผู้ ตนเอง
ชแี้ นะ
5.3มี 5.3.1 แสดงสหี น้าหรอื 5.3.1 แสดงสหี นา้ หรอื
ความเหน็ อก ทา่ ทางรับรคู้ วามรูส้ ึกผูอ้ นื่ ท่าทางรับรู้ความรู้สกึ ผู้อนื่
เห็นใจผอู้ น่ื
5.4มคี วาม 5.4.1 ทำงานท่ไี ดร้ บั 5.4.1 ทำงานที่ไดร้ ับ
รบั ผดิ ชอบ มอบหมายจนเสร็จเม่อื มี มอบหมายจนเสร็จเมือ่ มผี ู้
ผู้ชว่ ยเหลือ ช้ีแนะ
๖
มาตรฐานท่ี 6 มีทกั ทักษะชวี ติ และปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
สภาพท่พี ึงประสงค์
ตวั บง่ ชี้ อายุ 3-4 ปี อายุ 4-5 ปี อายุ 5-6 ปี
6.1 ช่วยเหลือ 6.1.1 แต่งตวั โดยมผี ู้ 6.1.1 แตง่ ตวั ดว้ ยตนเอง 6.1.1 แต่งตวั ดว้ ยตนเอง
ตนเองในการ ช่วยเหลอื ไดอ้ ยา่ งคล่องแคล่ว
ปฏบิ ตั กิ จิ วัตร 6.1.2 รับประทานอาหาร 6.1.2 รบั ประทานอาหาร 6.1.2 รบั ประทานอาหาร
ประจำวัน ดว้ ยตนเอง ด้วยตนเอง ด้วยตนเองอย่างถูกวิธี
6.1.3 ใชห้ อ้ งน้ำห้องส้วม 6.1.3 ใชห้ อ้ งน้ำห้องสว้ ม 6.1.3 ใช้และทำความ
โดยมผี ู้ช่วยเหลอื ดว้ ยตนเอง สะอาดหลังใช้ห้องน้ำห้อง
สว้ ม
ด้วยตนเอง
6.2 มวี ินยั ใน 6.2.1 ของเลน่ ของใชเ้ ขา้ 6.2.1 เก็บของเล่นของใช้ 6.2.1 เกบ็ ของเลน่ ของใช้
ตนเอง ท่เี ม่อื มผี ู้ชแ้ี นะ เข้าท่ีด้วยตนเอง เขา้ ท่ีอย่างเรยี บร้อยด้วย
ตนเอง
6.2.2 แถวตามลำดับก่น 6.2.2 เข้าแถวตามลำดบั 6.2.2 แถวตามลำดับกน่
หลงั ได้เม่ือมีผู้ชแ้ี นะ ก่นหลังได้ดวั ยตนเอง หลงั ได้ดัวยตนเอง
6.3 ประหยดั 6.3.1 ใชส้ งิ่ ของเคร่ืองใช้ 6.3.1 ใชส้ ่ิงของเครื่องใช้ 6.3.1 ใชส้ งิ่ ของเคร่ืองใช้
และพอเพียง อย่างประหยดั และ อย่างประหยัดและ อยา่ งประหยดั และ
พอเพยี งเม่ือมีผชู้ ีแ้ นะ พอเพียงเมื่อมผี ชู้ แ้ี นะ พอเพียงด้วยตนเอง
มาตรฐานที่ 7 รกั ธรรมชาติ สงิ่ แวดล้อม วัฒนธรรม และความเปน็ ไทย
สภาพทพ่ี งึ ประสงค์
ตัวบง่ ช้ี อายุ 3-4 ปี อายุ 4-5 ปี อายุ 5-6 ปี
7.1.1 มีสว่ นร่วมดแู ลรักษา
7.1 ดแู ลรกั ษา 7.1.1 มีสว่ นร่วมดแู ล 7.1.1 มีสว่ นร่วมดูแล ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม
ดว้ ยตนเอง
ธรรมชาตแิ ละ รักษาธรรมชาตแิ ละ รักษาธรรมชาติและ 7.1.2 ทิ้งขยะได้ถูกที่
7.2.1 ปฏบิ ตั ติ นตาม
สง่ิ แวดล้อม ส่ิงแวดลอ้ ม เม่ือมีผชู้ ้ีแนะ สิ่งแวดล้อม เม่ือมีผู้ชแ้ี นะ มารยาทไทยได้ตามกาลเทศะ
7.1.2 ทง้ิ ขยะได้ถูกท่ี 7.1.2 ขยะได้ถกู ท่ี 7.2.2 กลา่ วคำขอบคณุ และ
ขอโทษด้วยตนเอง
7.2 มีมารยาท 7.2.1 ปฏบิ ัตติ นตาม 7.2.1 ปฏบิ ัติตนตาม 7.2.3 หยุดยืนเมื่อไดย้ นิ เพลง
ชาตแิ ละเพลงสรรเสริญพระ
ตามวัฒนธรรม มารยาทไทยไดเ้ มอื่ มผี ู้ มารยาทไทยได้ด้วยตนเอง บารมี
ไทยและรัก ชี้แนะ
ความเป็นไทย 7.2.2 กล่าวคำขอบคณุ 7.2.2 กล่าวคำขอบคณุ
และขอโทษเม่ือมผี ู้ชีแ้ นะ และขอโทษด้วยตนเอง
7.2.3 หยุดยืนเมื่อไดย้ ิน 7.2.3 หยุดยืนเมอื่ ไดย้ ิน
เพลงชาติและเพลง เพลงชาตแิ ละเพลง
สรรเสรญิ พระบารมี สรรเสรญิ พระบารมี
๗
มาตรฐานท่ี 8 อย่รู ่วมกับผู้อ่นื ไดอ้ ย่างมีความสุขและปฏบิ ัติตนเป็นสมาชกิ ทีด่ ีของสังคมในระบอบ
ประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั รยิ ์เปน็ ประมขุ
สภาพที่พงึ ประสงค์
ตวั บง่ ช้ี อายุ 3-4 ปี อายุ 4-5 ปี อายุ 5-6 ปี
8.1 ยอมรับ 8.1.1 เลน่ และทำกิจกรรม 8.1.1 เล่นและทำกิจกรรม 8.1.1 เลน่ และทำกจิ กรรม
ความเหมือน รว่ มกับเดก็ ที่แตกต่างไปจาก รว่ มกับเด็กทแี่ ตกตา่ งไปจาก รว่ มกับเดก็ ท่ีแตกตา่ งไปจากตน
และความ ตน ตน
แตกต่าง
ระหว่างบุคคล
8.2 มี 8.2.1 เลน่ รว่ มกบั เพ่ือน 8.2.1 เล่นหรอทำงาน 8.2.1 เล่นหรอทำงานรว่ มกบั
ปฏสิ มั พันธ์ทดี่ ี รว่ มกับเพื่อนเปน็ กลุ่ม เพอ่ื นอยา่ งมเี ป้าหมาย
กับผูอ้ น่ื 8.1.2 ยิม้ และทกั ทายผู้ใหญ่ 8.1.2 ยม้ิ ทกั ทายหรือ 8.1.2 ย้มิ ทกั ทายหรอื พดู คยุ
และบคุ คลที่คนุ้ เคยเมอ่ื มผี ู้ พดู คยุ กับผูใ้ หญแ่ ละบคุ คลที่ กบั ผใู้ หญ่และบคุ คลที่คนุ้ เคยได้
ชีแ้ นะ คนุ้ เคยไดด้ ว้ ยตนเอง เหมาะสมกบั สถานการณ์
8.3 ปฏบิ ัตติ น 8.3.1 ปฏิบัตติ นตาม 8.3.1 มสี ว่ นรว่ มสรา้ ง 8.3.1 มีส่วนรว่ มสรา้ งข้อตกลง
เบ้อื งต้นในการ ข้อตกลงเมอื่ มผี ู้ช้ีแนะ ข้อตกลงและปฏิบัตติ นตาม และปฏบิ ตั ติ นตามข้อตกลงดว้ ย
เปน็ สมาชดิ ที่ดี ขอ้ ตกลงเมื่อมผี ู้ชแี้ นะ ตนเอง
ของสังคม 8.3.2 ปฏิบตั ติ นเป็นผ้นู ำ 8.3.2 ปฏิบัตติ นเป็นผูน้ ำ 8.3.2 ปฏบิ ตั ติ นเป็นผ้นู ำและผู้
และผู้ตามเมือ่ มผี ูช้ ้แี นะ และผู้ตามได้ด้วยตนเอง ตามได้เหมาะสมกบั สถานการณ์
8.3.3 ยอมรับการ 8.3.3 ประนปี ระนอมแก้ไข 8.3.3 ประนปี ระนอมแก้ไข
ประนปี ระนอมแกไ้ ขปัญหา ปญั หาโดยปราศจากการใช้ ปัญหาโดยปราศจากการใช้
เมือ่ มีผ้ชู แี้ นะ ความรนุ แรงเม่ือมีผ้ชู ี้แนะ ความรุนแรงดว้ ยตนเอง
มาตรฐานที่ 9 ใชภ้ าษาสื่อสารไดเ้ หมาะสมกับวัย
สภาพทพ่ี งึ ประสงค์
ตวั บ่งชี้ อายุ 3-4 ปี อายุ 4-5 ปี อายุ 5-6 ปี
9.1 สนทนา 9.1.1 ฟังผอู้ ่ืนพดู จนจบ 9.1.1 ฟงั ผอู้ ืน่ พดู จนจบและ 9.1.1 ฟงั ผ้อู ่ืนพดู จนจบและ
โต้ตอบและเล่า และพูดโต้ตอบเก่ยี วกับเรื่อง สนทนาโตต้ อบสอดคลอ้ งกับ สนทนาโต้ตอบอย่างต่อเนือ่ ง
เรือ่ งให้ผู้อน่ื ทฟ่ี ัง เร่อื งท่ฟี งั เชอื่ มโยงกบั เรอื่ งท่ฟี งั
เข้าใจ 9.1.2 เลา่ เรื่องดว้ ยประโยค 9.1.2 เล่าเร่อื งเปน็ ประโยค 9.1.2 เลา่ เป็นเร่ืองราวต่อเนื่อง
ส้นั ๆ อยา่ งต่อเนอ่ื ง ได้
9.2 อา่ น เขียน 9.2.1 อ่านภาพ และพดู 9.2.1 อ่านภาพ สญั ลกั ษณ์ 9.2.1 อา่ นภาพ สญั ลกั ษณ์ คำ
ภาพและ ข้อความด้วยภาษาของ คำพร้อมท้ังช้หี รือวาดภาพ ด้วยการช้ีหรอื วาดภาพตามอง
สัญลกั ษณไ์ ด้ ตนเอง ตามองขอ้ ความตามบรรทดั จดุ เรมิ่ ตน้ และจดุ จบของ
ข้อความ
9.2.2 เขยี น ขีด เขี่ยอย่างมี 9.2.2 เขยี นคลา้ ยตัวอักษร 9.2.2 เขียนชือ่ ตนเองตามแบบ
ทิศทาง เขยี นข้อความดว้ ยวธิ ที ี่คิดขนึ้
เอง
๘
มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคดิ ทเ่ี ป็นพ้ืนฐานในการเรยี นรู้
สภาพท่ีพึงประสงค์
ตวั บง่ ช้ี อายุ 3-4 ปี อายุ 4-5 ปี อายุ 5-6 ปี
10.1 มี 10.1.1 บอกลักษณะของ 10.1.1 บอกลกั ษณะและ 10.1.1 บอกลกั ษณะ
ความสามารถ ส่งิ ตา่ งๆจากการสงั เกตโดย ส่วนประกอบของสิ่งตา่ งๆ สว่ นประกอบการ
ในการคดิ รวบ ใช้ประสาทสมั ผสั จากการสังเกตโดยใช้ เปลย่ี นแปลงหรอื
ยอด ประสาทสมั ผสั ความสมั พันธ์ของส่งิ ตา่ งๆ
จากการสังเกตโดยใช้
ประสาทสมั ผัส
10.1.2 จับคหู่ รือ 10.1.2 จบั คู่หรอื 10.1.2 จับค่หู รอื
เปรียบเทยี บส่ิงต่างๆโดยใช้ เปรยี บเทียบความแตกต่าง เปรยี บเทียบความแตกตา่ ง
ลักษณะหรือหนา้ ที่การใช้ หรือความเหมือนของสงิ่ หรือความเหมือนของสิง่
งานเพยี งลกั ษณะเดยี ว ต่างๆโดยใช้ลกั ษณะที่ ตา่ งๆโดยใช้ลักษณะท่ี
สงั เกตพบเพยี งลักษณะ สงั เกตพบสองลักษณะขึ้น
เดียว ไป
10.1.3 คดั แยกสิง่ ต่างๆ 10.1.3 จำแนกและจับ 10.1.3 และจบั กล่มุ ส่งิ
ตามลกั ษณะหรือหน้าที่ กลมุ่ สิง่ ตา่ งๆโดยใช้อยา่ ง ต่างๆโดยใช้ตั้งแตส่ อง
การใช้งาน นอ้ ยหนึ่งลกั ษณะเป็น ลกั ษณะข้นึ ไปเปน็ เกณฑ์
เกณฑ์
10.1.4 เรียงลำดับสิ่งของ 10.1.4 เรียงลำดับสงิ่ ของ 10.1.4 เรยี งลำดับส่ิงของ
หรือเหตกุ ารณ์อยา่ งน้อย หรือเหตกุ ารณอ์ ย่างน้อย หรอื เหตุการณอ์ ยา่ งน้อย
3 ลำดบั 4 ลำดบั 5 ลำดับ
10.2 มี 10.2.1 ระบุผลทเี่ กิดข้นึ 10.2.1 ระบุสาเหตผุ ลที่ 10.2.1 อธบิ ายเชอ่ื มโยง
ความสามารถ ในเหตกุ ารณ์หรือการ
ในการคิดเชงิ กระทำเมือ่ มีผ้ชู ี้แนะ เกิดขึน้ ในเหตุการณ์หรือ สาเหตแุ ละผลที่เกดิ ข้ึนใน
เหตุผล
10.2.2 คาดเดาหรอื การกระทำเม่ือมผี ้ชู ้ีแนะ เหตุการณ์หรือการกระทำ
คาดคะเนสง่ิ ที่อาจจะ
เกดิ ขึน้ ดว้ ยตนเอง
10.2. คาดเดาหรอื 10.2.2 คาดคะเนสิ่งท่ี
คาดคะเนสงิ่ ที่อาจจะ อาจจะเกดิ ขึน้ และมีสว่ น
เกิดขนึ้ หรอื มสี ่วนรว่ มใน รว่ มในการลงความเหน็
การลงความเหน็ จากข้อมูล จากข้อมลู อย่างมเี หตุผล
10.3 มี 10.3.1 ตัดสนิ ใจในเรื่อง 10.3.1 ตัดสินใจในเรือ่ ง 10.3.1 ตัดสนิ ใจในเร่ือง
ความสามารถ ง่ายๆและยอมรบั ผลที่
ในการคิด งา่ ยๆ ง่ายๆและเร่ิมเรยี นรู้ผลที่ เกดิ ขน้ึ
แก้ปญั หาและ
ตัดสนิ ใจ เกิดขึ้น 10.3.2 ระบุปัญหาสรา้ ง
ทางเลือกและเลือกวิธี
10.3.2 แกป้ ัญหาโดยลอง 10.3.2 ระบุปญั หาและ แก้ปญั หา
ผดิ ลองถูก แก้ปัญหาโดยลองผดิ ลอง
ถกู
๙
มาตรฐานที่ 11 มีจินตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์
สภาพท่พี ึงประสงค์
ตวั บง่ ช้ี อายุ 3-4 ปี อายุ 4-5 ปี อายุ 5-6 ปี
11.1 ทำงาน 11.1.1 สร้างงานศลิ ปะ 11.1.1 สร้างงานศลิ ปะ 11.1.1 สร้างงานศลิ ปะ
ศิลปะตาม เพอ่ื สื่อสารความคดิ เพอ่ื สื่อสารความคดิ เพอื่ สื่อสารความคดิ
จินตนาการ ความรูส้ กึ ของตนเอง ความรสู้ ึกของตนเองโดยมี ความรูส้ ึกของตนเองโดยมี
และความคิด การดัดแปลงและแปลก การดัดแปลงและแปลก
สรา้ งสรรค์ ใหมจ่ ากเดิมหรอื มี ใหม่จากเดิมหรือมี
รายละเอียดเพ่ิมขน้ึ รายละเอยี ดเพมิ่ ขึน้
11.2 แสดง 11.2.1 เคล่อื นไหวท่าทาง 11.2.1 เคลือ่ นไหวทา่ ทาง 11.2.1 เคลือ่ นไหวทา่ ทาง
ทา่ ทาง/ เพ่ือส่ือสารความคดิ เพ่อื ส่ือสารความคิด เพ่อื ส่ือสารความคิด
เคลื่อนไหวตาม ความร้สู กึ ของตนเอง ความรสู้ ึกของตนเองอย่าง ความรูส้ กึ ของตนเองอยา่ ง
จนิ ตนาการ หลากหลายหรือแปลกใหม่ หลากหลายและแปลกใหม่
อย่าง
สรา้ งสรรค์
มาตรฐานท่ี 12 มเี จตคติท่ีดีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ไดเ้ หมาะสมกับวัย
สภาพทพี่ งึ ประสงค์
ตวั บ่งชี้ อายุ 3-4 ปี อายุ 4-5 ปี อายุ 5-6 ปี
12.1 มี 12.1.1 สนใจฟงั อา่ นหรือ 12.1.1 สนใจซกั ถาม 12.1.1 สนใจหยบิ หนังสอื
จนิ ตนาการที่ดี อ่านหนงั สอื ด้วยตนเอง เกย่ี วกบั เก่ยี วกบั สัญลกั ษณ์ มาอา่ นและเขียนส่ือ
ต่อการเรยี นรู้ หรือตวั หนงั สอื ที่พบเหน็ ความคิดของตนเองเป็น
ประจำอยา่ งตอ่ เน่ือง
12.2 มี 12.2.1 ค้นหาคำตอบของ 12.2.1 คน้ หาคำตอบของ 12.2.1 คน้ หาคำตอบของ
ความสามารถ ข้อสงสยั ต่างๆตามวธิ กี ารที่ ข้อสงสยั ต่างๆตามวิธีการ ขอ้ สงสยั ต่างๆ โดยใชว้ ธิ ีการ
ในการแสวงหา มีผูช้ ้แี นะ ของตนเอง ทหี่ ลากหลายด้วยตนเอง
ความรู้ 12.2.2 ใชป้ ระโยคคำถาม 12.2.2 ใชป้ ระโยคคำถาม 12.2.2 ใช้ประโยคคำถาม
ว่า “ใคร” “อะไร” ในการ วา่ “ทไ่ี หน” “ทำไม” ใน ว่า “เมอ่ื ไร” “อย่างไร” ใน
ค้นหาคำตอบ การค้นหาคำตอบ การคน้ หาคำตอบ
๑๐
โครงสรา้ งของหลักสตู ร
เพื่อให้การจัดการศึกษาเป็นไปตามหลักการ จุดมุ่งหมายที่กำหนดไว้ในสถานศึกษาและผู้ที่เกี่ยวข้อง
กับการอบรมเลียงดูเด็กปฐมวัย ในการจัดหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยซึ่งให้สัมพันธ์กับเศรษฐกิจพอเพียง จึง
กำหนดโครงสร้างหลกั สตู รการศึกษาปฐมวัย ดังนี้
โครงสรา้ งหลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั และเวลาเรยี นของโรงเรียนวัดกกมว่ ง
ชว่ งอายุ อายุ 3-6 ปี
ประสบการณ์สำคัญ สาระที่ควรเรียนรู้
ด้านรา่ งกาย - เร่ืองราวเกี่ยวกับตวั เด็ก
ด้านอารมณ์ และจิตใจ - เร่ืองราวเก่ยี วกับบคุ คล และ
สาระการเรียนรู้ ดา้ นสงั คม สถานที่ แวดลอ้ มเด็ก
ด้านสติปญั ญา - ธรรมชาติรอบตวั
- สงิ่ ต่าง ๆ รอบตัวเด็ก
ระยะเวลาเรียน 1 ปีการศกึ ษา ( 2 เทอม )
การจัดเวลาเรียน
สำหรับหลกั สูตรการศึกษาปฐมวัยกำหนดกรอบการการจดั เวลาเรียนในการจดั ประสบการณ์ใหก้ บั เด็ก
เปน็ เวลา ๓-๔ ปีการศกึ ษาโดยประมาณ ทัง้ นี้ ขนึ้ อยู่กับอายุของเด็กทเ่ี ริ่มเข้าสถานศกึ ษาหรือหรอื สถานพฒั นา
เดก็ ปฐมวัยเวลาเรยี นสำหรบั เด็กปฐมวัยจะขึ้นอยู่กับสถานศึกษาแตล่ ะแหง่ โดยมเี วลาเรียนไมน่ อ้ ยกว่า ๑๘๐
วนั ตอ่ ๑ ปกี ารศกึ ษาในแต่ละวันจะใช้เวลาไมน่ อ้ ยกวา่ ๕ ชั่วโมง โดยสามารถปรับให้เหมาะสมตามบรบิ ทของ
สถานศกึ ษาหรือสถานพัฒนาปฐมวยั
สาระการเรยี นรู้
หลักสูตรสถานศกึ ษา โรงเรียนวัดกกม่วง ระดับการศึกษาปฐมวยั ไดก้ ำหนดสิ่งที่เด็กควรเรยี นรู้ในแต่ละ
ช่วงอายุ โดยพิจารณาจากสาระที่ควรเรียนรู้และประสบการณ์สำคัญ ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย
พุทธศักราช 2560 ประกอบด้วย 2 สว่ น คือ
ประสบการณ์สำคัญ
ประสบการณ์สำคัญเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ในการพัฒนาเด็กทางด้านร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม
และสติปัญญา ช่วยให้เด็กเกิดทักษะที่สำคัญสำหรับการสร้างองค์ความรู้โดยให้เด็กได้มีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุ
ส่ิงของบุคคลตา่ งๆ ที่อยู่รอบตัวรวมท้งั ปลกู ฝังคุณธรรม จรยิ ธรรม ไปพร้อมกัน
สาระทีค่ วรเรียนรู้
สาระที่ควรเรียนรู้ เป็นเรื่องราวรอบตัวเด็กที่นำมาเป็นสื่อกลาง ในการจัดกิจกรรมให้เด็กเกิดการ
เรียนรู้ ไม่เน้นการท่องจำเนือ้ หา ผสู้ อนสามารถกำหนดรายละเอียดข้ึนเองให้สอดคล้องกับวัยความตอ้ งการและ
ความสนใจของเด็ก โดยให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์สำคัญ ทั้งนี้อาจยืดหยุ่นเนื้อหา โดยคำนึงถึง
ประสบการณแ์ ละสิง่ แวดล้อมในชีวติ จรงิ ของเด็ก
๑๑
สาระท่ีเดก็ ควรเรยี นรมู้ ี 4 เร่ืองดงั น้ี
1. เรื่องราวเกี่ยวกับตัวเด็ก เด็กควรรู้จักชื่อ นามสกุล รูปร่าง หน้าตา รู้จักอวัยวะต่าง ๆ วิธีระวัง
รักษาร่างกายให้สะอาด ปลอดภัย การรับประทานอาหารที่ถูกสุขลกั ษณะ เรียนรู้ที่จะเล่นและทำสิ่งต่างๆดว้ ย
ตนเองคนเดียว หรอื กับผอู้ ่ืน ตลอดจนเรยี นรทู้ จี่ ะแสดงความคดิ เห็น ความรู้สึก และแสดงมารยาททด่ี ี
2.เรอ่ื งราวเกย่ี วกับบุคคลและสถานท่ีแวดล้อมเดก็ เด็กควรได้มีโอกาสร้จู ักและรบั รู้เรอื่ งราวเกี่ยวกับ
ครอบครัว สถานศกึ ษา ชุมชน รวมทงั้ บุคคลตา่ ง ๆ ท่เี ด็กต้องเก่ียวข้องหรือมีโอกาสใกลช้ ิดและมีปฏิสัมพันธ์ใน
ชีวติ ประจำวัน
3. ธรรมชาติรอบตัว เด็กควรเรียนรู้สิ่งมีชีวิต สิ่งไม่มีชีวิต รวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของโลกที่
แวดลอ้ มเดก็ ตามธรรมชาติ เชน่ ฤดกู าล กลางวัน กลางคืน ฯลฯ
4. สิง่ ตา่ งๆรอบตวั เดก็ ควรจะได้รจู้ ักสี ขนาด รปู ร่าง รปู ทรง นำ้ หนกั ผิวสัมผัสของสงิ่ ต่าง ๆ รอบตัว
สิง่ ของเครอ่ื งใช้ ยานพาหนะ และการส่อื สารต่าง ๆทใ่ี ชอ้ ยู่ในชวี ติ ประจำวัน
ประสบการณส์ ำคัญ
เป็นแนวทางสำหรับผู้สอนนำไปใช้ในการออกแบบการจัดประสบการณ์ให้เด็กเรียนรู้ ลงมือปฏิบัติ
และได้รับการส่งเสริมพฒั นาการครอบคลุมทุกดา้ น ดังน้ี
1.ประสบการณ์สำคัญท่สี ง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นร่างกาย
เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้มีโอกาสพัฒนาการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ กล้ามเนื้อเล็ก และการประสานสัมพันธ์
ระหว่างกล้ามเนื้อและระบบประสาทในการทำกิจวัตรประจำวันหรือกิจกรรมต่างๆ และสนับสนุนให้เด็กมี
โอกาสดแู ลสุขภาพและอนามยั สุขนสิ ัย และการรกั ษาความปลอดภยั ดังนี้
ด้านรา่ งกาย ประสบการณ์สำคัญ ตัวอย่างประสบการณ์และกิจกรรม
1.1.1 การเคลอื่ นไหวอยู่กบั ท่ี
1.1 การใช้ ตบมอื ผงกศรี ษะ เคล่ือนไหวไหล่ เอว
กลา้ มเนือ้ ใหญ่ 1.1.2 การเคลอ่ื นไหวเคลอื่ นท่ี แขนและขา มือและน้ิวมือ เคาะเทา้
เท้าและปลายเทา้ อยู่กบั ท่ี
1.1.3 การเคล่อื นไหวพรอ้ มวัสดุอปุ กรณ์
คลาน คบื เดนิ วิ่ง กระโดด สไลด์
1.1.4 การเคลอ่ื นไหวที่ใชก้ ารประสาน ควบมา้ กา้ วกระโดด เคลือ่ นท่ีไป
สมั พันธข์ องการใช้กลา้ มเน้ือใหญ่ในการ ขา้ งหนา้ -ขา้ งหลงั ข้างซ้าย-ข้างขวา
ขว้าง การจบั การโยน การเตะ หมุนตวั
1.1.5 การเล่นเครอื่ งเลน่ สนามอย่าง
อสิ ระ เคลอื่ นไหวร่างกายพร้อมเชือก ริบบน้ิ
วสั ดุอื่นๆทีเ่ หมาะสม ตามจนิ ตนาการ
เพลงบรรเลง คำบรรยายของผสู้ อน
เลน่ เกมกลางจ้า เชน่ ลิงชงิ บอล ขว้าง
ลกู บอล ถงุ ทราย โยนลูกบอลหรือวสั ดุ
อ่ืนลงตะกร้า เตะบอล
เลน่ อิสระ เลน่ เคร่ืองเลน่ สนาม เล่นปนี
ปา่ ย โหน มุด ลอดเครือ่ งเลน่
ปั่นจักรยานสามล้อ
๑๒
ดา้ นรา่ งกาย ประสบการณส์ ำคญั ตัวอยา่ งประสบการณแ์ ละกิจกรรม
1.2. การใช้ 1.2.1 การเล่นเครอื่ งเล่นสัมผสั และการ ต่อเลโก้ กระดานตะปู บล๊อกไมห้ รือ
กลา้ มเนอ้ื เลก็ สร้างสิ่งตา่ งๆจากแทง่ ไม้ บล็อก พลาสตกิ
1.2.2 การเขียนภาพและการเลน่ กับสี เขยี นภาพดว้ ยสีเทียน สีไม้ สีจากวัสดุ
1.3. การรกั ษา ธรรมชาติ เลน่ กบั สีน้ำ เชน่ เปา่ สี ทับสี
สุขภาพอนามยั 1.2.3 การปนั้ พบั สี หยดสี ละเลงสี กล้ิงสี
ส่วนตวั 1.2.4 การประดษิ ฐ์สิง่ ตา่ งๆ ดว้ ยเศษ ปั้นดินน้ำมัน ปั้นดินเหนียว ปั้นแป้งโดว์
1.4. การรักษา วสั ดุ สรา้ งชิ้นงานจากวสั ดธุ รรมชาติ
ความปลอดภัย 1.2.5 การหยบิ จับ การใช้กรรไกร การ
ฉกี การตัด การปะและการร้อยวัสดุ ใชก้ รรไกรปลายมลตัดกระดาษหรอื ตัด
1.5. การตระหนกั รู้ ใบไม้ ร้อยดอกไม้และวสั ดุตา่ งๆ ฉีก ตดั
เกย่ี วกับรา่ งกาย 1.3.1 การปฏิบตั ิตนตามสขุ อนามัย สขุ ปะกระดาษหรือวสั ดุธรรมชาติ
ของตน นิสัยท่ีดใี นกจิ วตั รประจำวนั ลา้ งมือก่อนรบั ประทานอาหาร ทำความ
สะอาดหลังจากเขา้ ห้องนำ้ ห้องสว้ ม
1.4.1 การปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภยั ใน รบั ประทานอาหารกลางวนั ครบ 5หมู่
กิจวตั รประจำวัน นอนกลางวนั ออกกำลังกาย ดแู ลรักษา
ความสะอาดของใช้ส่วนตวั
1.4.2 การฟงั นทิ าน เลา่ เรื่อง เหตกุ ารณ์
เก่ียวกับการป้องกันและการรักษาความ เลน่ เครอื่ งเล่นที่ถกู วธิ ี ลา้ งมอื ทกุ ครั้ง
ปลอดภยั เม่ือเสร็จส้นิ การเลน่ ระวังรักษาและ
ดแู ลตนเองขณะเจ็บปว่ ย เช่น ปดิ ปาก
1.4.4 การเลน่ บทบาทสมมติเหตกุ ารณ์ ไอในขณะเปน็ หวดั ไม่ขยีต้ าในขณะตา
ต่างๆ แดง
ฟังนทิ าน เรื่องราว เหตกุ ารณ์ที่มีเนอ้ื หา
1.5.1 การเคล่อื นไหวโดยควบคมุ ตนเอง เกย่ี วกับการป้องกนั และรักษาความ
ไปในทิศทาง ระดบั และพื้นที่ ปลอดภัย เชน่ การข้ามถนนการรบั ของ
จากคนแปลกหน้า ของมีคม สัตว์มพี ษิ
และอนั ตรายจากสารมีพษิ
เล่นบทบาทสมมติการปฏบิ ัติตามกฎ
จราจร เช่น การขา้ มถนน การซ้อนทา้ ย
จกั รยานยนต์ การคาดเขม็ ขัดนริ ภัยและ
การปฏิบัติตนเมื่อเกดิ เหตุฉกุ เฉนิ เชน่
ไฟไหม้ แผน่ ดนิ ไหว พายฯุ ลฯ และ
สรปุ ผลท่ีเกดิ จากการเล่นบทบาทสมมติ
เคลือ่ นไหวรา่ งกายไปในทิศทางตา่ ง
เชน่ ซ้าย ขวา หนา้ ทั่วบรเิ วณท่ี
กำหนดใหใ้ นระดบั สูงกลางต่ำ มีการ
๑๓
1.5.2 การเคลือ่ นไหวข้ามส่ิงกดี ขวาง เคล่อื นไหวที่หลากหลายเช่น มุด ลอด
คลาน กลง้ิ
การเดนิ ว่งิ กระโดด หลบหลีกขา้ มสิ่งกดี
ขวางต่างๆ เชน่ ลอ้ รถยนต์ ถังนำ้ มนั
2. ประสบการณ์สำคัญท่สี ่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จติ ใจ เป็นการสนับสนุนให้เด็กได้
แสดงออกทางอารมณแ์ ละความรสู้ ึกของตนเองที่เหมาะสมกบั วัย มคี วามสุข รา่ เริง แจ่มใส เหน็ ใจผอู้ น่ื ได้
พฒั นาคุณธรรม จรยิ ธรรม สุนทรียภาพ ความรสู้ กึ ทดี่ ตี อ่ ตนเอง ดงั นี้
ดา้ นอารมณ์ ประสบการณส์ ำคัญ ตัวอยา่ งประสบการณแ์ ละกิจกรรม
จิตใจ
2.1. การฟังเพลง การร้องเพลง ทำทา่ ทางเคลือ่ นไหวร่างกายในลกั ษณะต่างๆ เชน่
2.1 สนุ ทรีภาพ และการแสดงปฏกิ ริ ยิ าโต้ตอบ โยกตวั ส่ายสะโพก ตบมือ ยำ่ เท้าตามจงั หวะและ
ดนตรี เสียงเพลง เสยี งเพลง เชน่ เพลงบรรเลง เพลงตามสมัยนยิ ม
เพลงตามหน่วยประสบการณ์ เพลงทส่ี นใจ เพลง
ประจำโรงเรียน และเพลงพนื้ บา้ น
2.2 การเลน่ 2.1.2 การเล่นเครือ่ งดนตรี เลน่ เครื่องดนตรตี ่างๆ หรอื วัสดอุ นื่ ๆประกอบ
ประกอบจังหวะ จังหวะ เช่น เคาะ เขย่า ตี
2.13 การเคลื่อนไหวตาม
เสยี งเพลง/ดนตรี แสดงทา่ ทางเคลื่อนไหวประกอบเสียงเพลง
2.14. การเลน่ บทบาทสมมติ เสยี งดนตรีหรอื จงั หวะชา้ และเรว็
2.1.5 การทำกจิ กรรมศลิ ปะ เลน่ และแสดงบทบาทสมมตเิ ปน็ ตัวละครตามหน่วย
ตา่ งๆ ประสบการณ์หรือนทิ าน
2.1.6 การสร้างสรรค์สงิ่ สวยงาม
ทำกจิ กรรมศลิ ปะ เชน่ วาดภาพระบายสี ปน้ั ร้อย
2.2.1 การเล่นอิสระ ฉีกตัดปะ เล่นกับสีน้ำ ประดิษฐเ์ ศษวัสดุ
2.2.2 การเลน่ รายบุคคล กลมุ่ สรา้ งงานศลิ ปะตามความคดิ สร้างสรรคใ์ นรปู แบบ
ย่อย และกลุม่ ใหญ่ ตา่ งๆ เช่น วาดภาพระบายสี ปั้น ร้อย ฉีกตดั ปะ
พับ เล่นกัลป์สนี ำ้ ประดิษฐเ์ ศษวสั ดุ การทำสวน
2.2.3 ลน่ ตามมมุ ประสบการณ์/ ถาด และแสดงความคิดเหน็ ต่อผลงานศิลปะ
มุมเล่นตา่ งๆ
เลน่ อิสระ การเล่นท่ีใช้จนิ ตนาการ เล่นสมมตุ ิ การ
เลน่ ของเลน่ ในห้องเรยี น บริเวณสนามเด็กเล่น
เล่นเสรี เลน่ อิสระในมุม เลน่ รายบุคคล เล่นกลุม่
ย่อยและกลมุ่ ใหญ่ เลน่ รว่ มกับเพอ่ื น เลน่ แบบ
รว่ มมอื และเล่นแบบสรา้ งสรรค์
เล่นตามมุมในห้องเรยี น เล่นสมมตุ ิ
๑๔
2.2.4 การเลน่ นอกห้องเรยี น เล่นกลางแจง้ เช่น เล่นเครอ่ื งเลน่ สนามรูปแบบ
ต่างๆ เลน่ นำ้ เล่นทราย การละเล่นพนื้ บา้ น
ด้านอารมณ์ ประสบการณ์สำคัญ ตวั อยา่ งประสบการณแ์ ละกิจกรรม
จติ ใจ
2.3.๑ การปฏิบตั ิตนตามหลกั ทำกิจกรรมทางศาสนาทว่ี ัด มัสยดิ โบสถ์ ปฏบิ ัติ
2.3 คณุ ธรรม ศาสนาท่นี บั ถือ ตนตามคำสอนของศาสนาทน่ี ับถอื
จรยิ ธรรม 2.3.2 การฟงั นทิ านเกี่ยวกบั ฟงั นิทาน เรอื่ งราว เหตุการณเ์ กย่ี วกับความ
คุณธรรม จริยธรรม ซ่อื สัตย์ ความเมตากรุณา มีน้ำใจชว่ ยเหลือแบง่ ปัน
ความเห็นอกเห็นใจ ความรบั ผดิ ชอบ ประหยดั
2.3.3 การร่วมสนทนาและ พอเพียง และความมีวนิ ัย
แลกเปลยี่ นความคิดเหน็ เชงิ ร่วมสนทนาและแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั ขา่ ว
จริยธรรม เรอื่ งราง เหตกุ ารณ์ นทิ านเก่ียวกับคณุ ธรรม
จริยธรรม ตามบรบิ ทของชมุ ชนหรอื กลุ่มเปา้ หมาย
2.4 การ 2.4.1 การพูดสะทอ้ นความรู้สกึ เฉพาะ
แสดงออกทาง ของตนเองและผู้อน่ื บอกเล่า ทำทา่ ทางท่ีเก่ยี วขอ้ งความรู้สกึ ของตนเอง
อารมณ์ และผู้อ่ืน ปรับเปลยี่ นความคิดหรือกระทำเมื่อมี
สถานการณ์ที่เปน็ ปญั หา พดู แสดงสีหน้า ท่าทาง
2.๔.2 การเลน่ บทบาทสมมติ บทบาทตามตัวละคร
เล่นและแสดงบทบาทสมมตเิ ปน็ ตวั ละครตาม
2.๔.3 การเคล่ือนไหวตาม หนว่ ยประสบการณห์ รือนทิ าน
เสียงเพลง/ดนตรี แสดงท่าทาง เคลือ่ นไหวประกอบเสียงเพลง
เสยี งดนตรี หรอื จังหวะชา้ และเร็ว
2.๔.4 การร้องเพลง ร้องเพลงประกอบหนว่ ยการจัดประสบการณ์หรือ
เพลงท่ีสนใจอยา่ งสนุกสนาน
2.๔.5 การทำงานศลิ ปะ ทำกิจกรรมศิลปะ เชน่ วาดภาพระบายสี ปัน้ ร้อย
ฉีกตดั ปะ พบั เล่นกบั สี ประดิษฐ์เศษวัสดุ
2.5 การมี 2.5.1 การปฏิบตั กิ จิ กรรมต่างๆ เล่น/ทำงานอยา่ งอิสระตามความถนดั ความสนใจ
อตั ลกั ษณ์เฉพาะ ตามความสามารถของตนเอง และความสามารถของตนเอง เชน่ กิจกรรมศลิ ปะ
ตนและเช่อื วา่ กจิ กรรมการเคลื่อนไหว กิจกรรมในกิจวัตร
ตนเองมี ประจำวัน (โดยเปิดโอกาสให้เดก็ มสี ่วนร่วมในการ
ความสามารถ ตดั สินใจ เลือกทำกิจกรรมเอง บอกได้วา่ ตนเองเปน็
อย่างไร ทำอะไรไดบ้ า้ ง บอกความเหมอื น ความ
2.6 การเหน็ อก 2.6.1 การแสดงความยนิ ดเี มื่อ แตกต่างของตนเองและผู้อ่ืน และบอกความคิดของ
เหน็ ใจผ้อู ืน่ ผอู้ นื่ มีความสขุ เห็นใจเมื่อผูอ้ ่ืน ตนเองวา่ “อยากเป็นอะไรเมื่อหนูโตข้นึ ไป)
1 การแสดงความยนิ ดีกับเพ่อื นเมือ่ เพ่ือนมี
ความสุข เช่นวันเกิด และแสดงความเห็นใจเพ่อื น
๑๕
แสดงความเศรา้ หรือเสียใจ และ หรือผอู้ ่ืน เชน่ ชว่ ยเหลอื ปลอบโยนเมือ่ เพ่ือน
การชว่ ยเหลือปลอบโยนเมือ่ ผู้อ่นื รอ้ งไห้
ไดร้ บั บาดเจ็บ
3. ประสบการณส์ ำคัญทส่ี ่งเสริมพฒั นาการดา้ นสังคม เป็นการสนบั สนนุ ใหเ้ ด็กมโี อกาสปฏสิ ัมพันธ์กับบคุ คล
และสงิ่ แวดล้อมตา่ งไรอบตัวจากการปฏิบัติกจิ กรรมตา่ งๆ ผ่านการเรียนรทู้ างสังคม เช่น การปฏบิ ัตกิ ิจวตั ร
ประจำวัน การดูแลรักษาธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม การเล่น คณุ ธรรม จริยธรรม ดังน้ี
ด้านสงั คม ประสบการณส์ ำคญั ตัวอย่างประสบการณ์และกิจกรรม
3.1 การปฏบิ ัติ
กจิ วตั รประจำวัน 3.1.1 การชว่ ยเหลอื ตนเองในกจิ วตั ร ทำกิจวตั รประจำวนั ด้วยตนเอง เชน่
3.2 การดแู ลรกั ประจำวัน แตง่ ตัว ลา้ งมือ รับประทานอาหาร เข้า
ธรรมชาติและ
ส่งิ แวดล้อม ห้องสว้ ม
3.1.2 การดแู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละ นำวัสดุเหลือใชม้ าสรา้ งชิน้ งาน ใช้ส่ิงของ
สิ่งแวดล้อม เครือ่ งใช้อย่างประหยัดและพอเพียง เชน่
ยาสีฟนั น้ำ วสั ดุทำงานศลิ ปะ
3.2.1 การมีสว่ นร่วมรับผิดชอบดูแลรกั ษา รับผดิ ชอบหนา้ ทท่ี ่ีได้รับมอบหมาย เช่น
สงิ่ แวดลอ้ มทัง้ ภายในและภายนอก ดูแลรกั ษาความสะอาดห้องเรียน รดน้ำ
หอ้ งเรียน ต้นไม้ เก็บขยะ นำวสั ดุท้องถ่ินวสั ดเุ หลอื
ใชม้ าสร้างชิ้นงาน ใชน้ ำ้ สงิ่ ของเครื่องใช้
อย่างประหยดั คมุ้ คา่ เช่น ดินสอ สี
กระดาษสี
3.2.2 การใช้วสั ดุและส่งิ ของเครื่องใช้ นำวสั ดุเหลอื ใช้มาสรา้ งชน้ิ งาน ใช้ส่ิงของ
อย่างคุ้มค่า อย่างประหยดั เช่น ดนิ สอ สี กระดาษสี
3.2.3 การทำงานศลิ ปะที่นำวัสดหุ รอื ประดิษฐส์ ิ่งของตา่ งๆจากวัสดุเหลอื ใช้ เชน่
สงิ่ ของเครอ่ื งใช้ทใี่ ช้แลว้ มาใช้ซำ้ หรือแปร ขวดน้ำพลาสตกิ กล่อง เศษผ้า แกน
รปู แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ กระดาษ กระดาษสี ไม้ไอศรมี
3.2.4 การเพราะปลูกและดูแลต้นไม้ ปลูกตน้ ไม้ ไม้ดอกไม้ประดบั ผกั สวนครวั
ดแู ลรดนำ้ พรวนดิน เช่น เพาะถ่วั งอก
ปลูกผกั บงุ้ ต้นหอม
3.2.5 การเลี้ยงสัตว์ เลีย้ งและดูแลให้อาหารสัตว์ เชน่ ปลา ไก่
นก
3.2.6 การสนทนาข่าวและเหตุการณ์ท่ี สนทนาเกี่ยวกบั เหตุการณ์ ผลกระทบที่
เก่ียวกับธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ มใน เกิดจากความเปล่ียนแปลงทางธรรมชาติ
ชีวิตประจำวัน และส่ิงแวดล้อม เชน่ ฝนตก นำ้ ทว่ ม ฝน
แลง้ ลมพายุ
๑๖
3.3 การปฏบิ ตั ติ าม 3.3.1 การเล่นบทบาทสมมติการปฏิบตั ิ เลน่ บทบาทสมมติเกี่ยวกับการไหว้ การ
วฒั นธรรมท้องถิ่น ตนในความเปน็ ไทย ทกั ทายและการปฏิบตั ิในวันสำคัญของ
และความเปน็ ไทย ไทย และวนั สำคัญของท้องถิ่น
3.3.2 การปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรมท้อง ทำกิจกรรมในวนั สำคญั และประเพณี
ถิ่นที่อาศัยและประเพณีไทย ท้องถนิ่ ของตน
ดา้ นสังคม ประสบการณส์ ำคัญ ตัวอย่างประสบการณ์และกิจกรรม
3.3.3 การประกอบอาหารไทย
ทำอาหารง่ายๆตามหน่วยการจัด
3.3.4 การศกึ ษานอกสถานที่ ประสบการณ์ อาหารในทอ้ งถ่ินหรอื
อาหารประภาคของตนเอง
3.3.5 การละเล่นพนื้ บ้านไทย
วางแผน สำรวจ ศกึ ษาแหลง่ เรียนรนู้ อก
3.4 การมี 3.4.1 การรว่ มกำหนอข้อตกลงของ สถานที่ สัมภาษณ์บุคคลต่างๆ บนั ทึก
ปฏิสัมพนั ธ์ มีวนิ ยั หอ้ งเรยี น ข้อมูล
มสี ว่ นรว่ มและ 3.4.2 การปฏิบัตติ นเปน็ สมาชกิ ท่ีดขี อง
บทบาทสมาชกิ ของ หอ้ ง การละเลน่ ไทย เช่น มอญซ่อนผ้า งูกินหาง
สังคม รรี ีข้าวสาร โพงพาง
3.4.2 การปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชิกที่ดีของ
หอ้ ง มสี ่วนรว่ มในการกำหนดและจดั ทำ
ขอ้ ตกลงของห้องเรียน
3.4.4 การดูแลห้องเรยี นรว่ มกนั
ปฏบิ ัติตามข้อตกลงของห้องเรยี นทร่ี ว่ มกัน
3.4.5 การรว่ มกิจกรรมวนั สำคัญ กำหนด เช่น การเกบ็ ของเล่นของใชเ้ ข้าที่
การเขา้ แถวรับของ
3.5 การเล่นและ 3.5.1 การรว่ มสนทนาและการ
ทำงานแบบรว่ มมือ แลกเปล่ยี นความคิดเห็น ปฏบิ ัติตามข้อตกลงของห้องเรียนทร่ี ว่ มกนั
รว่ มใจ กำหนด เช่น การเก็บของเล่นของใชเ้ ขา้ ที่
3.5.2 การเล่นและทำงานร่วมกับผูอ้ ่นื การเข้าแถวรับของ
ดูแลความสะอาดเรียบร้อยของหอ้ งเรียน
เช่น จัดของเลน่ ของใช้เขา้ ท่ี เทขยะ รดนำ้
ตน้ ไม้
ปฏิบัติกจิ กรรมเกี่ยวกับวนั สำคญั ใน
สถานการณ์จริงหรือสถานการณจ์ ำลอง
ตามความเหมาะสมและบรบิ ทของแต่ละ
สถานศกึ ษา
สนทนาแลกเปล่ียนแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกบั เหตุการณใ์ นนิทาน เรอ่ื งราว และ
รบั ฟังความคิดเห็นของผู้อนื่
เลน่ และทำงานร่วมกันเปน็ คู่ กล่มุ เลก็ หรอื
กลุ่มใหญ่
๑๗
3.6 การแกป้ ญั หา 3.5.3 การทำศลิ ปะแบบรว่ มมอื ทำงานศลิ ปะร่วมกนั เปน็ กลุ่มอยา่ งมี
ความขดั แย้ง เป้าหมายร่วมกนั เช่น ป้นั ดินนำ้ มัน วาด
3.6.1 การมสี ่วนร่วมในการเลือกวธิ ีการ ภาพ ตดั ฉีกปะ งานประดษิ ฐ์
แก้ปัญหา
รว่ มกันแสดงความคิดเห็นและนำเสนอ
ความคิดและตัดสินใจเลือกวิธีแก้ปญั หา
เกยี่ วกบั เรอื่ งราว เหตกุ ารณต์ ่างๆ
ด้านสังคม ประสบการณ์สำคัญ ตวั อยา่ งประสบการณ์และกิจกรรม
3.6.2 การมีส่วนรว่ มในการแกป้ ญั หา มีสว่ นรว่ มในการเสนอความคิด ตัดสินใจ
ความขดั แย้ง เลือกวธิ ีแก้ปัญหาตา่ งๆ ทเี่ กิดขนึ้ อย่าง
สันตวิ ธิ ใี นสถานการณ์ที่มคี วามขดั แย้ง
3.7 การยอมรับใน 3.7.1 การเลน่ หรอื ทำกจิ กรรมร่วมกับ
ความเหมอื นและ กลมุ่ เพ่ือน การเล่นหรอื ทำกิจกรรมตา่ งๆร่วมกบั เพ่ือน
ความแตกต่าง เช่น กิจกรรมศลิ ปะ กจิ กรรมการเลน่ ตาม
ระหวา่ งบุคคล มุม กิจกรรมเลน่ น้ำ เล่นทราย และ
ยอมรบั ความคิดของเพ่ือนทตี่ ่างไปจากตน
4. ประสบการณ์สำคัญที่ส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา เป็นการสนับสนุนให้เด็กๆได้เรียนรู้การใช้ภาษา
พัฒนาการคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผล การตัดสินใจและการแก้ปัญหา การมีจินตนาการและความคิด
สร้างสรรค์ ให้เป็นไปตามสภาพที่พึงประสงค์อย่างเหมาะสมกับพัฒนาการ ผ่านการใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า
และการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลและสิ่งต่างๆรอบตัว รวมถึงส่งเสริม เจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้และการแสวงหา
ความรู้ ดงั น้ี
ดา้ นสตปิ ัญญา ประสบการณ์สำคัญ ตวั อยา่ งประสบการณแ์ ละกิจกรรม
4.1 การใชภ้ าษา 4.1.1 การฟังเสียงตา่ งๆ ในสิ่งแวดลอ้ ม ฟงั เสียงต่างๆรอบตัวและบอกเสยี งทไี่ ด้
ยิน เช่น เสยี งหายใจ ลมพัด นกร้อง
รถยนต์ คนเดิน
สัตวร์ ้อง
4.1.2 การฟงั และปฏิบตั ิตามคำแนะนำ ฟงั และปฏบิ ตั ิตามคำแนะนำ เชน่ การ
เล่นเกม การเคลือ่ นไหวตามคำบรรยาย
รวมทง้ั ขอ้ ตกลงในห้องเรยี น
4.1.3 การฟังเพลง นิทาน คำคลอ้ งจอง ฟงั เพลง นิทาน คำคล้องจอง บทรอ้ ย
บทร้อยกรอง หรือเรื่องราวต่างๆ กรองง่ายๆ หรอื เร่ืองราวตา่ งๆ
4.1.4 การพดู แสดงความคดิ เหน็ พดู แสดงความคิดเหน็ ความรู้สกึ ความ
ความรูส้ ึก และความต้องการ ตอ้ งการในส่ิงต่างๆ ใชค้ ำถาม ใคร อะไร
ทำไม
อยา่ งไร ในส่งิ ทต่ี อ้ งการทราบ
๑๘
4.1.5 การพดู กบั ผอู้ น่ื เกีย่ วกับ พดู เล่าข่าว เล่าประสบการณ์ หรอื
ประสบการณ์ของตนเองหรือพูดเลา่ เรอื่ งราวเก่ียวกบั ตนเองหรือเหตุการณ์
เรื่องราวเกย่ี วกับตนเอง ประจำวนั เช่น ครอบครัวของฉนั
4.1.6 การพดู อธิบายเกี่ยวกับสง่ิ ของ พดู บอกลกั ษณะสง่ิ ของท่สี งั เกต เล่าข่าว
เหตกุ ารณ์ และความสมั พนั ธ์ของสง่ิ ต่างๆ เลา่ ประสบการณ์ เชน่ กิจกรรมท่ที ำใน
วนั หยดุ กจิ กรรมที่ได้ทำด้วยตนเอง หรอื
ทำรว่ มกับเพือ่ นหรือครู หรอื เหตกุ ารณท์ ี่
เกดิ ขนึ้ ตามละดับหรือตามช่วงเวลา
ด้านสตปิ ญั ญา ประสบการณ์สำคัญ ตวั อย่างประสบการณแ์ ละกิจกรรม
4.1.7 การพูดอยา่ งสร้างสรรคใ์ นการเล่น เลา่ สิ่งทกี่ ำลังเลน่ กำลงั ทำ พูดให้กำลงั ใจ
ละการกระทำตา่ งๆ ปลอบใจ คำแนะนำเพ่อื นในการเลน่ และ
การทำงาน
4.1.8 การรอจังหวะทเ่ี หมาะสมในการพูด ตอบคำถามและมีมารยาทในการพดู เช่น
ยกมอื ก่อนพูดไม่พดู แทรกในขณะที่ผู้อืน่
กำลังพูด
4.1.9 การพูดเรียงลำดับเพ่ือใชใ้ นการ เรยี งคำพดู ในสงิ่ ที่คดิ เพ่ืออธิบายใหผ้ ูอ้ ื่น
ส่ือสาร เขา้ ใจ เชน่ พดู เลา่ เร่ืองจากภาพ หรอื
เหตกุ ารณท์ ี่พบเห็น
4.1.10 การอา่ นหนงั สือภาพ นิทาน อ่านภาพ นทิ าน อา่ นปา้ ยและสญั ลกั ษณ์
หลากหลายประเภท/รปู แบบ ที่เดก็ สนใจ อ่านนทิ านให้เพื่อนฟงั
4.1.11 การอา่ นอย่างอิสระตามลำพงั อา่ นนทิ านหรือหนงั สือภาพท่ีสนใจอยา่ ง
การอ่านรว่ มกนั การอ่านโดยมผี ชู้ ้แี นะ อสิ ระตามลำพงั ในมมุ หนังสือ อ่านร่วมกัน
โดยครแู นะนำสว่ นต่างๆ ของหนงั สอื
ต้งั แต่ปกหนา้ จนถงึ ปกหลังแลว้ เปน็ ผู้นำ
การอ่านโดยชค้ี ำในหนังสือจากซา้ ยไป
ขวา เดก็ ชแ้ี ละอ่านตามครูพร้อมกนั อ่าน
ชี้แนะโดยครูเป็นผูน้ ำการอ่านกบั เด็กกลมุ่
ย่อย 3-5 คน
4.1.12 การเหน็ แบบอยา่ งของการอา่ นที่ ดูตวั อย่างครูช้แี ละกวาดสายตาจากการ
ถกู ต้อง อา่ นหนังสอื นิทาน ปา้ ย บตั รข้อความ
แถบประโยค หรือแผนภูมเิ พลง
4.1.13 การสงั เกตทิศทางการอา่ น ดตู ัวอย่างการกวาดสายตาอา่ นตัวอักษร
ตัวอักษร คำ และข้อความ คำ และข้อความจากซา้ ยไปขวา บนมา
ล่าง
๑๙
การจัดประสบการณป์ ฐมวยั
ตามแนวหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
"เศรษฐกจิ พอเพียง" เปน็ แนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หวั ท่พี ระราชทานมานานกว่า
30 ปี ซึ่งเป็นแนวคิดทีต่ ั้งอยู่บนรากฐานของวัฒนธรรมไทย เป็นแนวทางการพัฒนาขั้นพื้นฐานที่ตั้งอยู่บนทาง
สายกลาง และความไม่ประมาทซึ่งคำนึงถึงความพอประมาณ ความมีเหตุมีผล การสร้างภูมิคุ้มกันในตัวเอง
ตลอดจนการใช้ความรูแ้ ละคุณธรรมเพื่อเป็นพื้นฐานในการดำเนินชีวิต ซึ่งต้องมี "สติ ปัญญา และความเพียร".
เปน็ ที่ตงั้ ซึ่งจะนำไปสคู่ วามสุขในชีวิตทิ ่แี ท้จริง
หลกั การสอนเศรษฐกจิ พอเพียงในระดับปฐมวยั
3 ห่วง 2 เง่อื นไข สำหรับเด็กปฐมวัย คือ
3 ห่วง คือ
- ความมีเหตุผล
- ความพอประมาณ
- การมีภูมคิ ุ้มกันในตวั ทด่ี ี
ความมีเหตุผล คอื
- การกิน
- การอยู่
- ความน่าอยู่
๒๐
ความพอประมาณ คอื
การกนิ การใช้ การอยู่ ในเชิงปริมาณที่พอเหมาะพอดีกบั ความจำเปน็ ความตอ้ งการ เป็น
องค์ความรู้ทีข่ ้นึ อยู่กบั บุคคลนั้นๆ
การมภี ูมิคมุ้ กันในตวั ท่ดี ี
- การปอ้ งกันความเส่ยี ง ดูแลตนเองให้ปลอดภยั จากสิง่ แวดลอ้ มตา่ งๆ ปจั จัยนอกเหนือการควบคมุ
- คาดเดาล่วงหนา้ ดว้ ยการมสี ตทิ ่รี ู้เท่าทนั สติท่ีตัง้ อยบู่ นความไม่ประมาท
2 เง่ือนไข สำหรบั เดก็ ปฐมวัย คอื
เงอ่ื นไขที่ 1 คือ
- รอบรู้
- รอบคอบ
- ระมัดระวงั
รอบรู้
-องค์ความรูต้ ามความเป็นจริงทเ่ี ดก็ เรียนรู้ เล่าเรอ่ื งราวต่างๆ
- แสวงหาคำตอบด้วยวิธกี ารที่หลากหลาย เล่าเรือ่ งจากผลงาน
- สนใจ กระตอื รือรน้ เรียนรสู้ ง่ิ ต่างๆรอบตวั
- แกป้ ัญหาในการเล่นหรือทำกิจกรรมต่างๆ
รอบคอบ
- รว่ มกจิ กรรมดว้ ยความสนใจตง้ั แต่ตน้ จนจบอย่างมีความสขุ
- รกั ษาสขุ ภาพร่างกายให้สะอาด ปฏิบตั ติ นตามสุขอนามยั
- ดืม่ นมทุกวัน และรับประทานอาหารท่มี ปี ระโยชน์
- ดูแลตนเองใหป้ ลอดภัยในกิจวตั รประจำวนั
ระมัดระวงั
- ระมัดระวังดูแลตนเองให้ปลอดภัยในกจิ วตั รประจำวัน
- กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ
- แปรงฟัน นอนพักผ่อน
เงอ่ื นไขท่ี 2 คอื คุณธรรม 8 ประการ
- ขยนั
- ประหยดั
- ซื่อสัตย์
- มวี นิ ัย
- สุภาพ
- สะอาด
- สามัคคี
- มนี ้ำใจ
๒๑
คณุ ธรรม 8 ประการ สำหรับเดก็ ปฐมวัย คือ
ขยัน
- เลน่ หรือทำงานจนสำเร็จ
- สนใจในงานท่ีทำ
ประหยัด
- ใช้ของ/วัสดคุ มุ้ ค่า รู้จักเกบ็ ออม
- ใชน้ ้ำใชไ้ ฟอยา่ งประหยัด
- รไี ซเคิล นำกลับมาใช้ใหม่
- ด่มื กินจนหมด
ซ่อื สัตย์
- เกบ็ ของได้แลว้ คืนเจ้าของ
- ทำงานทีร่ ับผดิ ชอบ
-ยอมรบั ในสงิ่ ที่ตนทำ
- มีความจรงิ ใจไมพ่ ูดปด
มวี ินัย
- เกบ็ ของเข้าท่ี
- ทำตามกฎจราจร
- ยืนตรงเมือ่ ไดย้ นิ เพลงชาติ
- ปฏบิ ตั ติ นตามขอ้ ตกลงได้
สุภาพ
-ทำความเคารพเมื่อพบผู้ใหญ่
- ปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรม
- ก้มหลงั เมอื่ เดินผา่ นผู้ใหญ่
- พดู จาไพเราะ
สะอาด
- ลา้ งมือก่อน – หลังรับประทานอาหาร
- เก็บทำความสะอาดอุปกรณ์
- รักษาความสะอาดเส้ือผา้ และร่างกาย
- แปรงฟันหลังรบั ประทานอาหาร
สามัคคี
- พูดและรับฟงั ความคิดเหน็
- เล่นและทำงานรว่ มกันจนสำเรจ็
- ปฏบิ ตั ิตนในการเป็นผนู้ ำผ้ตู าม
มีน้ำใจ
- แบ่งปนั ของเล่น ของใชแ้ ละสง่ิ ตา่ งๆ
- อาสาชว่ ยเพือ่ นหรือผูใ้ หญ่
- พดู หรอื ทำท่าทางห่วงใยผอู้ ่ืน
๒๒
การประยกุ ตใ์ ชเ้ ศรษฐกิจพอเพียง ในชีวิตประจำวนั ระดบั ปฐมวัย
- รจู้ กั ช่วยเหลอื ตนเอง
- การใช้ทรัพยากรอย่างประหยดั
- ร้จู ักแบง่ ปนั สิง่ ของทมี่ ีอยู่ให้กบั ผอู้ ่นื
- ชว่ ยเหลอื ตนเองในการแตง่ ตวั
- ดูแลรักษาของด้วยการเก็บเขา้ ท่ี
- แบ่งปนั ของใชใ้ ห้เพื่อนๆ
- ปิดนำ้ หลังเลิกใช้งาน
- ปิดไฟหลงั เลกิ ใชง้ าน
- ช่วยเหลอื เพื่อน
- รจู้ กั การรอคอย
๒๓
07.00 – 0๘.00 น. ตารางกจิ กรรมประจาวนั
0๘.00 – 08.๒0 น.
08.๒0 – 08.๓๐ น. รบั เดก็ ตรวจสุขภาพ
08.๓๐ – 0๙.๐0 น. เคารพธงชาตแิ ละสวดมนต์
0๙.๐0 – 0๙.๓๐ น. สนทนา ข่าว เหตุการณ์ ตรวจสุขภาพ
09.๓๐ – 10.๐0 น. กจิ กรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ
10.๐0 – 10.30 น. กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์
10.30 – 11.00 น. กิจกรรมสร้างสรรค์
11.00 – 12.00 น. กจิ กรรมเสรี
12.00 – 1๒.๓0 น. กจิ กรรมกลางแจ้ง
1๒.๓0 – 14.๓0 น. พกั ( รบั ประทานอาหารกลางวัน )
14.๓0 – 1๕.๓0 น. กิจกรรมเกมการศึกษา
1๕.๓0 – เป็นต้นไป นอนพกั ผอ่ น (เกบ็ ทน่ี อน ล้างหน้า รบั ประทานอาหารเสรมิ นม)
โครงการ/กจิ กรรม
10.๐0 – 10.30 น. เตรียมตวั กลับบ้าน
10.30 – 11.00 น.
11.00 – 12.00 น.
12.00 – 1๒.๓0 น.
1๒.๓0 – 14.๓0 น.
14.๓0 – 1๕.๓0 น.
1๕.๓0 – เป็นต้นไป
๒
กำหนดหนว่ ยการจดั ประสบ
ชนั้ อนบุ าลปีที่ 1 อนบุ าลปที ่ี 2 และ
สัปดาห์ท่ี หนว่ ยการจัดประสบการณ์ สาระการเรยี นรู้ หน่วยการจัด
อนบุ าลปที ี่ 1 ประสบการณ์
อนุบาลปที ่ี 2
1 ปฐมนิเทศ เรอื่ งราวเกยี่ วกบั ตัวเด็ก ปฐมนเิ ทศ
ปฐมนเิ ทศ
2 โรงเรยี นของเรา เร่ืองราวเก่ยี วกับบุคคลฯ น่คี ือตวั ฉัน
3 ตวั เรา เรื่องราวเกย่ี วกบั ตัวเด็ก ตวั เรา
วนั วิสาขบชู า
4 หนูทำได้ เรื่องราวเก่ียวกับตวั เด็ก สตั ว์เล้ยี งของหน
ผักสเี ขยี ว
5 ครอบครัวมสี ุข เรอ่ื งราวเกี่ยวกบั ตวั เด็ก สัตว์น่ารัก (สตั วบ์ ก
วันเขา้ พรรษา
6 อาหารดมี ปี ระโยชน์ เร่อื งราวเก่ยี วกบั บุคคลฯ
สตั วน์ า่ รกั (สัตว์น
7 ฝน ธรรมชาตริ อบตัว ประสาทสมั ผสั ทงั้
8 ข้าว ธรรมชาติรอบตัว วนั แม่
การเดนิ ทาง
9 วันเฉลิมฯ เร่อื งราวเก่ียวกบั วัน
เรารกั ฤดูฝน
สำคญั
10 ปลอดภยั ไว้ก่อน เรื่องราวเกี่ยวกบั ตวั เด็ก
11 วันแม่ เร่ืองราวเก่ยี วกบั วนั
สำคัญ
12 รกั เมอื งไทย เรอ่ื งราวเกีย่ วกับบุคคลฯ
13 ของเลน่ ของใช้ เร่อื งราวเกี่ยวกบั สง่ิ ต่างๆ
รอบตวั
๑๔ ชุมชนของเรา เรื่องราวเก่ยี วกบั บุคคลฯ
๒๔
บการณ์และสาระการเรยี นรู้
ะอนบุ าลปีท่ี 3 ปกี ารศกึ ษา 256๕
สาระการเรยี นรู้ หน่วยการจัด สาระการเรยี นรู้
ประสบการณ์
อนุบาลปที ่ี 3
เรอ่ื งราวเกย่ี วกบั ตวั เด็ก ปฐมนิเทศ เรอ่ื งราวเกย่ี วกับตวั เด็ก
เรื่องราวเก่ยี วกับบุคคลฯ หนูเปน็ เด็กดี เรอื่ งราวเก่ยี วกับตัวเด็ก
เรอ่ื งราวเกย่ี วกับตวั เด็ก นค่ี อื ตัวฉนั 1 เรอื่ งราวเกีย่ วกบั ตวั เด็ก
เรือ่ งราวเกยี่ วกบั ตวั เด็ก นี่คือตัวฉนั 2 เรอ่ื งราวเกย่ี วกับตัวเด็ก
เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลฯ วันวสิ าขบูชา เรอ่ื งราวเก่ยี วกับบุคคลฯ
นู ธรรมชาตริ อบตัว สัตวเ์ ลี้ยงนา่ รัก เรื่องราวเก่ยี วกับตวั เด็ก
เรื่องราวเก่ียวกบั ตวั เด็ก ผกั สะอาด เร่อื งราวเกยี่ วกับตัวเด็ก
ก) ธรรมชาติรอบตวั สัตว์น่ารกั (สตั ว์บก) ธรรมชาตริ อบตวั
เรือ่ งราวเกีย่ วกบั บุคคลฯ วันเข้าพรรษา เร่อื งราวเกีย่ วกบั บุคคลฯ
น้ำ) ธรรมชาติรอบตัว สัตว์น่ารัก (สตั วน์ ้ำ) ธรรมชาติรอบตวั
5 เรือ่ งราวเกย่ี วกบั ตัวเด็ก ประสาทสัมผัสทง้ั 5 เรื่องราวเกี่ยวกับตวั เด็ก
เรอื่ งราวเกีย่ วกับตัวเด็ก วันแม่ เรื่องราวเก่ียวกบั บุคคลฯ
สิ่งตา่ งรอบตวั เด็ก การคมนาคม สิ่งต่างรอบตวั เด็ก
ธรรมชาติรอบตวั เรารกั ฤดฝู น ธรรมชาตริ อบตัว
๒
15 ต้นไมท้ ่รี ัก ธรรมชาติรอบตวั ครอบครวั อบอนุ่
16 หนิ ดิน ทราย ธรรมชาติรอบตัว ความปลอดภัย
สัปดาหท์ ี่ หน่วยการจัดประสบการณ์ สาระการเรยี นรู้ หน่วยการจัด
อนุบาลปีที่ 1 ประสบการณ์
อนุบาลปีท่ี 2
17 สัตวน์ ่ารัก ธรรมชาติรอบตัว ชุมชนของหนู
บุคคลท่ีหนสู นใจ
18 คมนาคม สิง่ ต่างๆรอบตวั เด็ก
ธรรมชาตสิ วยงาม
19 ทบทวน/ประเมินพัฒนาการ
ฤดูหนาว
20 ทบทวน/ประเมินพฒั นาการ
สิ่งมชี ีวิต
21 วันชาติ เรอ่ื งราวเก่ยี วกับวัน
สง่ิ ไม่มีชีวิต
สำคญั วันลอยกระทง
22 รอบรูป้ ลอดภัย เรอ่ื งราวเก่ยี วกับตัวเด็ก ลมหนาว
อากาศสดช่ืน
23 ลอยกระทง เร่อื งราวเกี่ยวกบั วัน
วันพอ่
สำคญั วันมาฆบชู า
24 กลางวัน กลางคืน ธรรมชาตริ อบตัว ตน้ ไม้ของหนู
25 ค่านยิ มไทย เร่อื งราวเกีย่ วกับตวั เด็ก
26 เศรษฐกจิ พอเพบี ง สิง่ ต่างๆรอบตัวเด็ก
27 เทคโนโลยีและการสอ่ื สาร สิ่งตา่ งๆรอบตวั เด็ก
28 สนกุ กบั ตัวเลข สิง่ ต่างๆรอบตัวเด็ก
29 วนั ข้ึนปีใหม่ เรอ่ื งราวเกย่ี วกับวนั
สำคัญ
30 ขนาด รูปร่าง รูปทรง ส่งิ ต่างๆรอบตวั เด็ก
๒๕ บา้ นของฉนั เร่ืองราวเก่ียวกับตัวเด็ก
ความปลอดภัย สง่ิ ตา่ งรอบตวั เด็ก
น เรือ่ งราวเกย่ี วกบั บุคคลฯ
สิ่งตา่ งรอบตวั เด็ก หนว่ ยการจดั สาระการเรียนรู้
ประสบการณ์
สาระการเรียนรู้ อนบุ าลปที ่ี 3 เร่ืองราวเกี่ยวกบั บุคคลฯ
ชุมชนแสนสขุ เร่อื งราวเกย่ี วกบั บุคคลฯ
เรื่องราวเกี่ยวกบั บุคคลฯ บคุ คลทีค่ วรรู้จกั
จ เรือ่ งราวเกย่ี วกบั บุคคลฯ
ม ธรรมชาติรอบตัว ธรรมชาตสิ วยงาม ธรรมชาตริ อบตวั
ธรรมชาตริ อบตัว คณิตศาสตรใ์ น สง่ิ ต่างๆรอบตวั
ธรรมชาติรอบตวั ชีวติ ประจำวัน 1 ธรรมชาติรอบตัว
สงิ่ มีชวี ิต
ธรรมชาตริ อบตวั ส่ิงไมม่ ีชีวติ ธรรมชาติรอบตัว
เร่ืองราวเกี่ยวกับบุคคลฯ วนั ลอยกระทง เร่อื งราวเกี่ยวกับบุคคลฯ
ธรรมชาตริ อบตวั อากาศ ธรรมชาตริ อบตวั
ธรรมชาติรอบตวั ฤดูหนาว ธรรมชาติรอบตัว
เรื่องราวเกยี่ วกับบุคคลฯ วนั พ่อ เรอื่ งราวเกย่ี วกบั บุคคลฯ
เรอ่ื งราวเกี่ยวกับบุคคลฯ ต้นไม้แสนดี ธรรมชาติรอบตวั
ธรรมชาตริ อบตวั **อาเซยี นศึกษา เรอ่ื งราวเกีย่ วกับบุคคลฯ
๒
31 วันเดก็ วันครู เร่ืองราวเก่ยี วกบั วนั วันปีใหม่
สำคญั
32 โลกสวยดว้ ยสสี ัน คณิตศาสตร์ใน
ธรรมชาตริ อบตวั ชีวติ ประจำวนั 2
33 ฤดหู นาว
34 ธรรมชาตริ อบตวั ของเลน่ ของใช้
แรงและพลังงานใน สิ่งตา่ งๆรอบตัวเด็ก วันเดก็ วันครู
สปั ดาห์ที่ ชีวติ ประจำวนั
สาระการเรยี นรู้ หนว่ ยการจดั
หน่วยการจัดประสบการณ์ ประสบการณ์
อนุบาลปีที่ 1 อนบุ าลปีท่ี 2
35 เสยี งรอบตวั สง่ิ ตา่ งๆรอบตวั เด็ก สี
36 รกั การอา่ น สง่ิ ตา่ งๆรอบตัวเด็ก ข้าวแสนอร่อย
37 ปรมิ าตร น้ำหนัก สงิ่ ตา่ งๆรอบตวั เด็ก
38 ฤดูรอ้ น ธรรมชาตริ อบตวั นำ้
39 ทบทวน/ประเมนิ พฒั นาการ กลางวนั กลางคืน
40 ทบทวน/ประเมินพฒั นาการ
๒๖
(ของเล่นของใช้ สิ่งต่างรอบตัว
เรื่องราวเกีย่ วกับบุคคลฯ วันปีใหม่ เรอื่ งราวเกีย่ วกบั บุคคลฯ
ส่งิ ตา่ งๆรอบตัว คณิตศาสตร์ใน ส่ิงต่างๆรอบตัว
ชีวติ ประจำวัน 2
ส่งิ ต่างๆรอบตวั เด็ก ส่งิ ตา่ งๆรอบตัวเด็ก
เร่อื งราวเกีย่ วกับบุคคลฯ เศรษฐกจิ พอเพยี ง เร่ืองราวเกย่ี วกบั บุคคลฯ
วันเดก็ วนั ครู
สาระการเรยี นรู้ หน่วยการจดั สาระการเรียนรู้
ประสบการณ์
อนบุ าลปที ี่ 3
ธรรมชาตริ อบตัว สี ธรรมชาติรอบตัว
ธรรมชาติรอบตัว ข้าว ธรรมชาติรอบตวั
ธรรมชาติรอบตวั นำ้ ธรรมชาตริ อบตวั
น ธรรมชาตริ อบตัว กลางวัน..กลางคืน ธรรมชาตริ อบตัว
๒
สาระการเร
หน่วยการจัดประสบการณ์ และกำหนดเวลาเรยี น ชน้ั
ชน้ั อนุบาลปีที่ 1 ช้ันอนุบา
สปั ดาห์ท่ี 1 ปฐมนเิ ทศ
สปั ดาห์ที่ 1-2 หนว่ ย ปฐมนิเทศ - คณุ ครขู องหนู
- ทำความคนุ้ เคยกับครูและเพื่อน - การเล่นในหอ้ งเรยี น
- ช่อื ตนเองและเพ่ือน - การเล่นเครอื่ งเลน่ สนาม
- ชื่อครู เพือ่ น - มารยาทในการรบั ประทาน
- รูจ้ กั เครื่องหมายประจำตัว - การใช้ห้องน้ำหอ้ งสว้ ม
- รจู้ ักเคร่อื งใช้ประจำตวั
- การใช้ห้องนำ้ ห้องส้วม สปั ดาห์ท่ี 2 ปฐมนิเทศ
- ห้องพยาบาล ห้องสมุด - ห้องเรยี นของหนู
- มารยาทในการพดู - ตวั เดก็
- มารยาทการรบั ประทานอาหาร - เคร่อื งหมายประจำตวั
- เครอื่ งใชป้ ระจำตัว
- การปฏบิ ัติตนในห้องเรียน
๒๗
รียนรรู้ ายปี
นอนุบาลปที ่ี 1 ช้ันอนบุ าลปีท่ี 2 และชน้ั อนุบาลปที ี่ 3
าลปีที่ 2 ชัน้ อนุบาลปีที่ 3
นอาหาร
สปั ดาหท์ ่ี 1 ปฐมนิเทศ
- คณุ ครูของหนู
- การเลน่ ในหอ้ งเรยี น
- การเลน่ เครื่องเล่นสนาม
- มารยาทในการรับประทานอาหาร
- การใช้ห้องน้ำหอ้ งส้วม
สปั ดาห์ที่ 2 หนูเป็นเด็กดี
- หน้าท่ีเด็ก
- หนอู ยากเป็นอะไร
- การปฏิบตั ติ นในห้องเรียน
- การปฏบิ ัตติ นต่อครอบครวั
น - คณุ สมบตั ขิ องเด็กดี
ช้นั อนบุ าลปที ี่ 1 ๒
สปั ดาหท์ ี่ 3 หน่วย โรงเรยี นของหนู
- ชื่อโรงเรยี น ช้นั อนบุ า
- สถานที่ต้งั ของโรงเรยี น สปั ดาหท์ ่ี 3 นคี่ ือฉนั
- รจู้ ักคุณครปู ระจำชั้น เพ่ือนของเรา - อวัยวะต่างๆ
- ร้จู กั หอ้ งน้ำ ห้องสว้ ม -หนา้ ที่ของอวยั วะ
- การปฏบิ ัตติ นในการใช้ห้องน้ำ ห้องสว้ ม - การรกั ษาความสะอาด
- การระวังตนเองใหพ้ น้ จาก
สปั ดาห์ท่ี 4 ห้องเรยี นของเรา - ร่างกายสมบรู ณแ์ ขง็ แรง
- ช่ือตนเอง ชอื่ เพื่อน
- ของใช้ประจำตวั ของใชใ้ นห้องเรยี น สปั ดาหท์ ่ี 4 ตัวเรา
- สัญลักษณป์ ระจำตัว - น่ีตัวหนู
- การรักษาความสะอาดของห้องเรยี น - ความต้องการของหนู
- การปฏิบัตติ นในหอ้ งเรียน - หนูทำได้
สปั ดาหท์ ี่ 7 วนั วสิ าขบชู า - กจิ วัตรของหนู
- ความหมายสำคัญ - หนูเปน็ เด็กดี
- การจัดกจิ กรรม สปั ดาหท์ ่ี 7 วนั วิสาขบูชา
- วนั สำคญั ในพระพทุ ธศาสนา - ความหมายสำคัญ
- วนั วิสาขบูชา - การจัดกิจกรรม
- การรว่ มกจิ กรรมและปฏิบตั ิตน - วนั สำคญั ในพระพทุ ธศาสน
- วันวิสาขบูชา
- การรว่ มกิจกรรมและปฏิบ
๒๘ ชั้นอนุบาลปีที่ 3
าลปที ี่ 2 สัปดาหท์ ่ี 3 ตัวเรา (1)
กอันตราย - อวยั วะตา่ งๆ
- หนา้ ที่ของอวยั วะตา่ งๆ
นา - การรกั ษาความสะอาดร่างกาย
บัติตน - การระวังตนเองให้พ้นจากอันตราย
- ร่างกายสมบรู ณแ์ ขง็ แรง
สัปดาห์ที่ 4 ตัวเรา (2)
- นตี่ ัวหนู
- ความตอ้ งการของหนู
- หนูทำได้
- กจิ วตั รของหนู
- หนูเปน็ เดก็ ดี
สปั ดาหท์ ี่ 7 วนั วสิ าขบชู า
- ความหมายสำคญั
- การจัดกิจกรรม
- วันสำคัญในพระพทุ ธศาสนา
- วนั วิสาขบูชา
- การรว่ มกิจกรรมและปฏบิ ัติตน
ชั้นอนบุ าลปที ี่ 1 ๒
สปั ดาห์ท่ี 6 บา้ นของหนู ชนั้ อนุบา
- สถานท่ตี ้งั ของบา้ น สปั ดาหท์ ่ี 6 สตั วเ์ ล้ยี งของ
- สมาชกิ ในบา้ น - สตั วท์ ่ีหนูเลีย้ ง
- การชว่ ยพอ่ แม่ทำงาน - ขนาดและรปู รา่ ง
- การรักษาความสะอาดของบา้ น - ความเปน็ อยู่
- การปฏบิ ัตติ นเปน็ คนดี - ประโยชนแ์ ละโทษ
- ความเมตตา กรุณา
สัปดาหท์ ี่ 7 หนดู ื่มนม..หนกู ินกล้วย สปั ดาหท์ ่ี 7 ผักสีเขยี ว
- ประโยชน์ของนม - ผกั ชนิดตา่ งๆ
- แหลง่ ผลิตนมสตั ว์และพชื - การใช้ผกั แตล่ ะชนิดประก
- ประโยชนข์ องกลว้ ย - วธิ ีทำความสะอาดผัก
- อาหารท่ที ำจากกลว้ ย - ประโยชน์และโทษของผัก
- รว่ มกันดมื่ นมและกนิ กล้วย - การเกบ็ และถนอมอาหาร
สัปดาห์ที่ 8 สัตว์นา่ รัก (สัต
สัปดาหท์ ่ี 8 มากนิ ผลไม้ - ชื่อและความหมายของส
- ประเภทของผลไม้ - รปู ร่างลักษณะของสัตวบ์
- ส่วนประกอบของผลไม้แต่ละชนดิ - ธรรมชาติและความเปน็ อ
- รสชาติของผลไมแ้ ตล่ ะชนดิ - ประโยชนแ์ ละโทษของสตั
- ประโยชนข์ องผลไม้ - การให้อาหาร
- การทำน้ำผลไม้
๒๙ ชัน้ อนบุ าลปีที่ 3
าลปที ี่ 2 สปั ดาหท์ ่ี 6 สตั วเ์ ลย้ี งน่ารกั
งหนู - สตั ว์ท่ีหนเู ลย้ี ง
- ขนาดและรปู รา่ ง
กอบอาหาร - ความเปน็ อยู่
ก - ประโยชน์และโทษ
รประเภทผกั - ความเมตตา กรุณา
ตว์บก)
สตั วบ์ ก สปั ดาหท์ ี่ 7 ผกั สะอาด
บก - รสชาติของผกั แตล่ ะชนดิ
อยู่ของสตั ว์บก - ชือ่ และลักษณะของผัก
ตว์บก - วิธีรับประทานผกั
- ประโยชนแ์ ละโทษของผกั
- การถนอมอาหารประเภทผัก
สัปดาห์ที่ 8 สตั ว์น่ารกั (สตั วบ์ ก)
- ชือ่ และความหมายของสตั วบ์ ก
- รูปร่างลักษณะของสัตวบ์ ก
- ธรรมชาติและความเป็นอยู่ของสัตวบ์ ก
- ประโยชน์และโทษของสัตว์บก
- การใหอ้ าหาร
ชั้นอนุบาลปที ่ี 1 ๓
สปั ดาหท์ ี่ 9 วันเข้าพรรษา ชั้นอนบุ า
- วันอาสาฬหบชู า สัปดาหท์ ่ี 9 วันเขา้ พรรษา
- วนั เข้าพรรษา - วันสำคัญของท้องถ่นิ
- การปฏบิ ัตติ นในวันเข้าพรรษา - รว่ มกจิ กรรม
- เทยี นจำนำพรรษาและผ้าอาบน้ำฝน - วันสำคัญในพระพุทธศาสน
- การทำบุญตกั บาตร - วนั เขา้ พรรษา
- การปฏิบตั ิตนของพระสงฆ
สปั ดาห์ท่ี 10 หนูชอบกนิ ไข่ สัปดาห์ท่ี 10 สัตว์นา่ รัก
- ประเภทของไข่ - ช่อื และชนิดของสตั วน์ ำ้
- สัตว์ทใี่ ห้ไข่รบั ประทานได้ - รปู รา่ งลักษณะของสตั ว์นำ้
- ลักษณะความแตกตา่ งของไขช่ นดิ ต่างๆ - ธรรมชาติและความเปน็ อย
- ประโยชน์ของไข่ - ประโยชนแ์ ละโทษของสัต
- อาหารท่ีทำจากไข่ - การอนุรกั ษแ์ ละความแสด
สปั ดาห์ที่ 11 ประสาทสัม
สปั ดาห์ที่ 11 ขา้ วจากนา..มาสู่จาน - การมองเห็น
- อาชพี ชาวนาทปี่ ลูกข้าว - การดมกลิ่น
- ประเภทของข้าว ขา้ วเหนยี ว ขา้ วสาร ข้าวกล่อง - การฟงั เสียง
- ขา้ วเปลอื ก ข้าวสาร ขา้ วสวย ข้าวเหนียว - การชมิ รส
- ประโยชน์ของข้าว - การสมั ผัส
- อาหารทที่ ำจากข้าว
๓๐ ชน้ั อนบุ าลปที ี่ 3
าลปีที่ 2 สัปดาหท์ ่ี 9 วนั เขา้ พรรษา
า - วนั สำคัญของท้องถิ่น
- กิจกรรม
นา - วนั สำคัญในพระพทุ ธศาสนา
- ความสำคัญของวนั เขา้ พรรษา
ฆ์ - การปฏบิ ัตติ นของพระสงฆ์
(สตั วน์ ำ้ )
สัปดาหท์ ่ี 10 สัตว์นา่ รกั (สตั ว์นำ้ )
ำ - ชือ่ และชนิดของสตั ว์นำ้
ยู่ของสัตว์น้ำ - รปู ร่างลกั ษณะของสัตว์น้ำ
ตว์นำ้ - ธรรมชาติและความเป็นอยู่ของสัตวน์ ้ำ
ดงความเมตตา - ประโยชนแ์ ละโทษของสัตวน์ ำ้
มผัสทั้ง 5 - การอนุรกั ษ์และความแสดงความเมตตา
สปั ดาหท์ ี่ 11 ประสาทสัมผัสทงั้ 5
- การมองเห็น
- การดมกล่นิ
- การฟังเสียง
- ชมิ รส
- การสัมผสั
ชน้ั อนบุ าลปีท่ี 1 ๓
สปั ดาหท์ ่ี 12 วันแม.่ ..แม่รักลกู
- พระคุณของแม่ ช้ันอนุบา
- สญั ลักษณ์วันแม่ สปั ดาห์ท่ี 12 วันแม่
- แมข่ องแผ่นดนิ - วันสำคัญของชาติ
- การตอบแทนพระคุณแม่ - วนั แมข่ องชาติ
- การทำตวั เป็นเด็กดี - แม่ของเรา
สปั ดาห์ที่ 13 ดอกไมแ้ สนสวย - พระคุณแม่
- ชื่อดอกไม้ชนดิ ตา่ งๆ - การตอบแทนพระคุณแม่
- ดอกไม้ที่มีกล่นิ หอม และไม่มกี ล่ิน สัปดาห์ที่ 13 การเดนิ ทาง
- สว่ นประกอบของดอกไม้ - ความหมายของการคมนา
- ประโยชน์และโทษของดอกไม้ - การคมนาคมทางบก
- สำรวจดอกไมใ้ นโรงเรียน - การคมนาคมทางอากาศ
- การคมนาคมทางน้ำ
สัปดาหท์ ่ี 14 ฝนจา๋ - ความปลอดภยั ในการเดิน
- ฝนมาจากไหน
- ปรากฏการณ์ธรรมชาติ สปั ดาห์ท่ี 14 เรารักฤดฝู น
- ประโยชน์ของน้ำฝน - อากาศแตล่ ะวนั
- โทษของฝน - กอ้ นเมฆบนทอ้ งฟา้
- สตั ว์ในฤดูฝน - การเกดิ ฝน
- อาชีพในฤดฝู น
- และโทษของฝน
๓๑ ชั้นอนุบาลปีที่ 3
าลปที ี่ 2 สัปดาห์ท่ี 12 วนั แม่
- วนั สำคญั ของชาติ
ง - วนั แมข่ องชาติ
าคม - แม่ของเรา
- พระคุณแม่
นทาง - การตอบแทนพระคุณแม่
น สปั ดาห์ท่ี 13 การคมนาคม
- ความหมายของการคมนาคม
- การคมนาคมทางบก
- การคมนาคมทางอากาศ
- การคมนาคมทางน้ำ
- ความปลอดภัยในการเดนิ ทาง
สปั ดาห์ที่ 14 เรารกั ฤดฝู น
- อากาศแต่ละวนั
- ก้อนเมฆบนทอ้ งฟา้
- การเกิดฝน
- ในฤดฝู น
- ประโยชน์และโทษของฝน
ชนั้ อนุบาลปีที่ 1 ๓
สปั ดาหท์ ่ี 15 อากาศทีบ่ ริสุทธ์ิ
- อากาศที่บริสทุ ธิ์ ช้นั อนบุ า
- อากาศทไ่ี มบ่ ริสทุ ธิ์ สัปดาห์ท่ี 15 ครอบครัวอบ
- แหล่งเกิดอากาศเสยี - ความสำคัญของบ้าน
- อวัยวะที่ใชใ้ นการหายใจ - สมาชิกในบ้าน
- ประโยชนแ์ ละโทษของอากาศ - การจดั ตกแตง่ บ้าน
- หอ้ งต่างๆในบา้ น
สัปดาห์ที่ 16 นำ้ มคี ณุ คา่ - อุปกรณเ์ คร่อื งใช้ประจำบ
- ลกั ษณะของน้ำท่สี ะอาด ดื่มได้
- ประโยชนข์ องน้ำ สปั ดาหท์ ่ี 16 ความปลอด
- การใช้น้ำอยา่ งประหยดั และถูกวธิ ี - ระมดั ระวงั ปลอดภยั
- นำ้ ประปา น้ำจากแหลง่ ธรรมชาติ - ความปลอดภัยในการทำก
-แม่น้ำ........................ - ความปลอดภัยในการขา้ ม
สัปดาห์ที่ 17 ของเล่น ของใช้ - อันตรายจากของใช้
- ประเภทของเลน่ - การใช้ยาที่ถูกวิธี
- การเล่นของเล่นที่ถูกวิธี สัปดาหท์ ี่ 17 ชุมชนของห
- ประเภทของใช้ - ความหมายของชมุ ชน
- ของใชท้ ่ีอนั ตราย - สถานทีส่ ำคัญในชุมชน
- การเกบ็ รกั ษาของเล่น ของใช้ - อาชพี ของคนในชุมชน
- การปฏิบตั ิตนในการอย่รู ่ว
- สมาชิกทีด่ ขี องชุมชน
๓๒ ชน้ั อนุบาลปีที่ 3
าลปที ี่ 2 สปั ดาห์ท่ี 16 บา้ นของฉัน
บอุ่น - ความสำคัญของบา้ น
- สมาชกิ ในบา้ น
บ้าน - การจัดตกแต่งบ้าน
ดภยั - ห้องต่างๆในบา้ น
กิจกรรม - อปุ กรณ์เครอ่ื งใช้ประจำบ้าน
มถนน
สัปดาห์ที่ 16 ความปลอดภัย
หนู - ระมัดระวังปลอดภยั
- ปลอดภยั ในการทำกิจกรรม
วมกัน - ความปลอดภัยในการข้ามถนน
- อันตรายจากของใช้
- การใช้ยาท่ถี ูกวธิ ี
สัปดาหท์ ี่ 17 ชุมชนแสนสุข
- ความหมายของชุมชน
- สถานที่สำคญั ในชุมชน
- อาชพี ของคนในชุมชน
- การปฏบิ ตั ิตนในการอยรู่ ่วมกัน
- สมาชกิ ทดี่ ขี องชุมชน
ชั้นอนบุ าลปที ี่ 1 ๓
สปั ดาหท์ ี่ 18 นกน้อย ช้ันอนบุ า
- นกชนดิ ตา่ งๆ สปั ดาห์ที่ 18 บคุ คลท่ีหนสู
- ลักษณะของนก - บคุ คลสำคัญของประเทศ
- ท่ีอยู่อาศยั ของนก - บคุ คลสำคัญในชมุ ชน
- อาหารของนก - หนา้ ทสี่ ำคัญของบุคคลในช
- ความเมตตา กรุณาต่อสตั ว์ - หน้าทีส่ ำคัญของบคุ คลในช
- การปฏบิ ัตติ นเมือ่ พบบุคค
สปั ดาหท์ ่ี 19 รา่ งกายของหนู สัปดาหท์ ี่ 19 เน้อื นม ไข่
- อวยั วะต่างๆในร่างกาย ตา หู จมูก ปาก - ความหมายและประเภทข
- การรกั ษาความสะอาดรา่ งกาย - อาหารประเภทเนื้อ
- การอาบน้ำและการแปรงฟัน - อาหารประเภทนม
- การรกั ษาความสะอาดผม - อาหารประเภทไข่
- การรักษาความสะอาดเลบ็ - ประโยชน์ของอาหาร
สปั ดาห์ท่ี 20 ธรรมชาตแิ ล
สปั ดาห์ที่ 20 สนุก๊ กับตัวเลข - พลังงานความร้อน
- การนบั จำนวน - พลังงานจากลม
- การนับเพิม่ - พลังงานจากนำ้
- การจบั ค่ภู าพ - พลังงานความร้อนจากดวง
- รปู รา่ ง รปู ทรง -ประโยชน์ของพลงั งาน
- การนับลด
๓๓ ชน้ั อนบุ าลปีท่ี 3
าลปที ี่ 2
สนใจ สปั ดาห์ที่ 18 บคุ คลทคี่ วรรูจ้ ัก
- บุคคลสำคัญของประเทศ
ชุมชน (1) - บุคคลสำคัญในชมุ ชน
ชมุ ชน (2) - หนา้ ทีส่ ำคัญของบุคคลในชุมชน (1)
คลสำคัญ - หน้าที่สำคัญของบุคคลในชุมชน (2)
ของอาหาร - การปฏบิ ตั ิตนเม่อื พบบุคคลสำคัญ
ละแหล่งพลังงาน สัปดาหท์ ่ี 19 อาหารแสนอรอ่ ย
- ความหมายและประเภทของอาหาร
งอาทิตย์ - อาหารประเภทเนื้อ
- อาหารประเภทนม
- อาหารประเภทไข่
- ประโยชนข์ องอาหาร
สปั ดาหท์ ่ี 20 ธรรมชาตแิ ละแหลง่ พลังงาน
- พลังงานความร้อน
- พลงั งานจากลม
- พลังงานจากนำ้
- พลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์
- ประโยชน์ของพลงั งาน
ชัน้ อนุบาลปีที่ 1 ๓
สปั ดาห์ท่ี 21 สัตวเ์ ล้ยี งนา่ รกั ช้นั อนุบา
- สตั ว์เล้ยี งชนดิ ต่างๆ สปั ดาหท์ ่ี 21 ธรรมชาตสิ ว
- ประเภทของสตั วเ์ ลีย้ ง - ความหมายของส่งิ แวดล้อ
- ประโยชนข์ องสตั วเ์ ลย้ี ง - ชนดิ ของสง่ิ แวดล้อมธรรม
- โทษของสัตว์เล้ยี ง - ธรรมชาติสวยงาม
- ความเมตตากรุณาต่อสตั ว์ - ประโยชนข์ องส่ิงแวดลอ้ ม
- การอนรุ กั ษ์สิ่งแวดลอ้ ม
สปั ดาห์ที่ 22 ผีเส้ือปกี งาม สปั ดาห์ที่ 22 ฤดูหนาว
- ลกั ษณะของผเี ส้ือ - เดอื นในฤดูหนาว
- วงจรชวี ิตของผีเสือ้ - ลกั ษณะอากาศหนาว
- อาหารของผีเสอ้ื - การปฏบิ ัติตนในฤดหู นาว
- ประโยชน์และโทษของผีเส้อื - สตั ว์ในฤดูหนาว
- ความเมตตากรุณาต่อสตั ว์ - ผัก ผลไมใ้ นฤดหู นาว
สปั ดาหท์ ี่ 23 สิ่งมีชวี ติ
สัปดาหท์ ี่ 23 ปรากฏการณธ์ รรมชาติ - ลกั ษณะของส่ิงมีชวี ิต
- การเกิดฝน - ความหมายของสิ่งมีชวี ติ
- ฟ้าแลบ ฟา้ ผ่า ฟ้ารอ้ ง - การดำรงชีวติ ของสง่ิ มีชวี ิต
- รุ้งกนิ น้ำ - ประโยชนข์ องส่งิ มชี ีวิต
- การทดลองเปา่ ฟองสบู่ - การอนุรักษส์ ิ่งมชี วี ิต
- กลางวัน กลางคนื
๓๔ ชั้นอนุบาลปีที่ 3
าลปที ี่ 2
วยงาม สัปดาห์ที่ 21 ธรรมชาตสิ วยงาม
อม - ความหมายของสิ่งแวดล้อม
มชาติ - ชนดิ ของสิง่ แวดลอ้ มธรรมชาติ
ม - ธรรมชาติสวยงาม
- ประโยชนข์ องสิง่ แวดล้อม
ต - การอนรุ ักษ์ส่งิ แวดล้อม
สัปดาห์ท่ี 22 คณิตศาสตรใ์ นชีวิตประจำวัน (1)
- การจัดขนาดเลก็ ใหญ่
- การวดั ระยะไกล ใกล้
- การชั่งตวง
- นาฬกิ า เวลา
- การคาดคะเน
สัปดาหท์ ่ี 23 ส่ิงมีชีวิต
- ความหมายของส่ิงมชี วี ติ
- ความสำคัญของสิ่งมชี ีวติ
- การดำรงชวี ิตของสงิ่ มชี ีวิต
- การพึง่ พาอาศยั ของสิ่งมชี ีวติ
- การปฏบิ ัตติ วั เพ่อื ความอยู่รอด
๓
ชนั้ อนบุ าลปที ี่ 1 ชัน้ อนบุ า
สัปดาหท์ ี่ 24 กลางคนื ดวงจนั ทร์ กลางวันดวงอาทติ ย์ สัปดาห์ที่ 24 ส่ิงไม่มีชีวติ
- ลกั ษณะของสิ่งไม่มีชีวิต
- เวลากลางวัน - ความหมายของสงิ่ ไม่มีชีวิต
- เวลากลางคืน - ประโยชน์ของสงิ่ ไมม่ ีชวี ิต
- เวลาเชา้ กลางวัน เย็น - ประเภทของสง่ิ ไม่มีชีวิต
- ประโยชน์ของแสงแดด - การอนรุ ักษส์ งิ่ ไม่มชี วี ติ
- การปฏิบตั ิตนในเวลากลางคืน
สัปดาหท์ ี่ 25 วนั ลอยกร
สปั ดาหท์ ี่ 25 ฤดูหนาว - ความหมายของวันลอยกร
- เดอื นในฤดหู นาว - การขอขมาพระแม่คงคา
- ลกั ษณะอากาศหนาว - ประเพณวี ันลอยกระทง
- การปฏิบัตติ นในฤดูหนาว - การประดิษฐ์กระทง
- สัตว์ในฤดูหนาว - กจิ กรรมในวันลอยกระทง
- ผกั ผลไม้ในฤดูหนาว
สัปดาห์ท่ี 26 ลมหนาว
สปั ดาหท์ ่ี 26 หนูรักเมืองไทย - ฤดใู นประเทศไทย
- ธงชาติไทย - ลมหนาวมาแลว้
- เพลงชาตไิ ทย - การดแู ลสขุ ภาพในฤดูหนา
- ศาสนาประจำชาตไิ ทย - การปฏบิ ัตติ นในฤดูหนาว
- เมืองหลวงของประเทศไทย - โรคภยั ไขเ้ จบ็ ท่เี กดิ ในฤดูห
- อาหาร สัตว์ ดอกไม้ ประจำชาตไิ ทย