The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยโรงเรียนวัดกกม่วง ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรการจัดการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ing27342, 2022-09-21 02:31:47

หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยโรงเรียนวัดกกม่วงฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕

หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยโรงเรียนวัดกกม่วง ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ ตามหลักสูตรการจัดการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐

๖๐

งค์ สาระการเรียนรู้

สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สำคัญ

รู - การรอ้ ยลกู ปัด ร้อย การใชก้ ล้ามเนอื้ เล็ก

ลาง หลอดกาแฟทต่ี ดั เปน็ 1. หยิบจบั การใชก้ รรไกร การฉีก การตัด

เป็นท่อน ๆ ฯลฯ การปะ และการร้อยวัสดุ

ณ์ - ควบคมุ อารมณค์ วาม การเล่น

ไม่พอใจ ไม่ถูกใจตอ่ 1. การเลน่ อิสระ

บุคคลหรือสิง่ ตา่ งๆ 2. การเล่นรายบุคคล กล่มุ ย่อย กลมุ่ ใหญ่

รอบตวั ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. การเลน่ ตามมมุ ประสบการณ์

กับสถานการณ์ 4. การเล่นนอกห้องเรยี น

การมีอตั ลักษณ์เฉพาะตนและเชือ่ วา่ ตนเองมี

ความสามารถ

1. การปฏิบัติกิจกรรมตา่ งๆตามความสามารถของ

ตนเอง

การเห็นอกเห็นใจผูอ้ ื่น

1. การแสดงความยนิ ดีเมอื่ ผู้อ่ืนมาความสขุ เห็นใจ

เมอื่ ผู้อนื่ เศร้าหรือเสยี ใจ และการชว่ ยเหลอื ผู้อนื่

เมอื่ ไดร้ ับบาดเจ็บ

พอใจ - มีความรสู้ กึ ทีด่ ีและ การสดงออกทางอารมณ์

แสดงพงึ พอใจตอ่ ผลงาน 1. พดู สะทอ้ นความรสู้ ึกของตนเองและผ้อู น่ื

นเอง ของตนเอง คุณธรรม จริยธรรม

- บอกความรู้สึกทด่ี ีต่อ 1. รว่ มสนทนาและแลกเปลย่ี นความคิดเห็นเชงิ

ผลงานของตนเองให้ จรยิ ธรรม

ผอู้ ืน่ รับร้ไู ด้



พฒั นาการ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพทพ่ี ึงประสง
ด้านอารมณ์ (๔-๕ป)ี
มาตรฐานท่ี 4 ตวั บง่ ชีท้ ่ี 4.1
4.1.1 สนใจ มีความ
ช่นื ชมและ สนใจ มคี วามสุขและ และแสดงออกผา่ นง
ศิลปะ ดนตรี และกา
แสดงออกทางศิลปะ แสดงออกผ่านงาน เคล่ือนไหว

ดนตรี และการ ศิลปะและการ

เคลอ่ื นไหว เคลอ่ื นไหว

4.1.2 สนใจ มีความ
และแสดงออกผ่าน
เสยี งเพลงดนตรี

4.1.3 สนใจ มคี วาม
และแสดงทา่ ทาง/
เคล่อื นไหวประกอบ
เพลง จงั หวะและดน

๖๑

งค์ สาระการเรียนรู้

สาระที่ควรเรียนรู้ ประสบการณ์สำคัญ

มสขุ - การทำกิจกรรมศิลปะ สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี

งาน ดว้ ยความสนใจ และมี 1. ทำกิจกรรมศิลปะต่างๆ

าร ความสุข แสดงความพงึ 2. การสรา้ งสรรคส์ ่ิงสวยงาม

พอใจต่อผลงานตนเอง การสดงออกทางอารมณ์

- เคลือ่ นไหวทา่ ทางตาม 1. การทำงานศิลปะ

จังหวะ

มสขุ - รอ้ งเพลง และแสดง สุนทรยี ภาพ ดนตรี

ท่าทางประกอบ 1. การฟงั เพลง การร้องเพลง และการแสดง

เสยี งเพลงและดนตรไี ด้ ปฏิกริ ยิ าโตต้ อบเสยี งดนตรี

อยา่ งมีความสขุ และ 2. การเลน่ เครอ่ื งดนตรีประกอบจงั หวะ

สนใจตอ่ กิจกรรม การแสดงออกทางอารมณ์

1. เคลือ่ นไหวตามเสียงเพลง ดนตรี

2. การรอ้ งเพลง

มสขุ - เคลอ่ื นไหวท่าทางตาม สนุ ทรียภาพ ดนตรี

จังหวะเสียงดนตรี 1. การเคล่ือนไหวตามเสียงเพลง/ดนตรี

บ การแสดงออกทางอารมณ์

นตรี 1. เคลื่อนไหวตามเสียงเพลง ดนตรี



พฒั นาการ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพที่พึงประสง
ด้านอารมณ์ (๔-๕ปี)
มาตรฐานท่ี 5 ตวั บง่ ชีท้ ี่ 5.1
5.1.1 ขออนญุ าตห
มคี ุณธรรม ซอ่ื สตั ย์สจุ รติ รอคอยเม่ือต้องการ
สิง่ ของของผู้อ่นื เมื่อม
จรยิ ธรรม ละมจี ิตใจ ช้แี นะ

ทีด่ งี าม

ตวั บง่ ช้ที ี่ 5.2 5.2.1 แสดงความร
มีความเมตตา กรุณา เพื่อนและมีเมตตาส
มีนำ้ ใจและชว่ ยเหลือ เล้ียง
แบง่ ปนั

5.2.2 ชว่ ยเหลือแล
แบ่งปนั ผอู้ ่นื ได้เมอื่ ม
ชแ้ี นะ

ตัวบ่งช้ีท่ี 5.3 5.3.1 แสดงสีหน้าห

มคี วามเห็นอกเห็นใจ ท่าทางรบั รูค้ วามรูส้ ึก

ผอู้ ืน่ ผู้อ่ืน

๖๒

งค์ สาระการเรียนรู้

สาระทีค่ วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั

หรอื -ไม่หยิบสิ่งของผูอ้ น่ื โดย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม

ไมข่ ออนญุ าตเจ้าของ 1. การปฏบิ ัตติ นตามหลักศาสนาทีน่ บั ถอื

มีผู้ ก่อน 2. การฟงั นิทานเกีย่ วกับคณุ ธรรม จริยธรรม

3. รว่ มสนทนาและแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นเชงิ

จริยธรรม

รกั - มคี วามรักและ คณุ ธรรม จริยธรรม

สัตว์ ความรสู้ กึ ทีด่ ตี อ่ เพอื่ น 1. การปฏบิ ตั ิตนตามหลักศาสนาทนี่ บั ถือ

- มเี มตตา กรุณาต่อสตั ว์ 2. การฟงั นทิ านเกีย่ วกับคุณธรรม จริยธรรม

เลย้ี งและสตั วต์ า่ ง ๆ ไม่ 3. ร่วมสนทนาและแลกเปลยี่ นความคดิ เห็นเชงิ

ทำร้ายหรอื รงั แกสัตว์ จริยธรรม

ละ - มนี ำ้ ใจตอ่ เพ่ือนและ คุณธรรม จริยธรรม

มีผู้ ช่วยเหลอื เพื่อนเมอื่ 1. การปฏบิ ัตติ นตามหลกั ศาสนาที่นบั ถือ

ต้องการชว่ ยความ 2. การฟงั นทิ านเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม

ชว่ ยเหลือ

หรอื - มคี วามรู้สกึ ท่ีแสดง การสดงออกทางอารมณ์

ก ออกทางทางสหี นา้ ทม่ี ี 1. พดู สะท้อนความรสู้ กึ ของตนเองและผูอ้ น่ื

ตอ่ ผ้อู ่นื ในสถานการณ์ การเห็นอกเหน็ ใจผูอ้ ืน่

นั้นๆ 1. การแสดงความยินดเี มอ่ื ผูอ้ ่นื มคี วามสุข เห็นใจ

เม่อื ผู้อ่ืนเศรา้ หรือเสียใจและการช่วยเหลอื

พัฒนาการ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ ๖

ตัวบ่งชท้ี ่ี 5.4 สภาพทพ่ี งึ ประสง
มีความรบั ผดิ ชอบ (๔-๕ป)ี

5.4.1 ทำงานทไี่ ดร้
มอบหมายจนสำเร็จ
มีผู้ชี้แนะ

ด้านสงั คม มาตรฐานท่ี 6 ตวั บ่งชีท้ ่ี 6.1 6.1.1 แต่งตัวไดด้ ว้ ย
มที กั ษะชีวิตและ
ปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ชว่ ยเหลอื ตนเองในการ ตนเอง

หลักปรชั ญาของ ปฏิบตั ิกิจวตั ร
เศรษฐกจิ พอเพยี ง
ประจำวนั 6.1.2 รับประทาน

อาหารดว้ ยตนเอง

6.1.3 ใชห้ ้องน้ำห้อ
ส้วมดว้ ยตนเอง

๖๓

งค์ สาระการเรียนรู้

สาระท่ีควรเรยี นรู้ ประสบการณ์สำคัญ

รบั - ทำงานและกิจกรรม สุนทรียภาพ ดนตรี

จเมือ่ ตา่ งๆ จนประสบ 1. การกจิ กรรมศลิ ปะต่าง ๆ

ความสำเร็จ และมคี วาม 2. การสรา้ งสรรคส์ ่งิ สวยงาม

ช่ืนชมและภาคภมู ิใจใน การมอี ัตลักษณ์เฉพาะตนและเชือ่ วา่ ตนเองมี

ผลงานตนเอง ความสามารถ

1. การปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆตามความสามารถของ

ตนเอง

ย - แต่งตัวดว้ ยตนเอง การปฏบิ ัตกิ ิจวตั รประจำวัน

1. การช่วยเหลอื ตนเองในกจิ วตั รประจำวนั

- ปฏิบตั ิตนในการ การปฏิบตั กิ จิ วตั รประจำวัน
รับประทานอาหารอยา่ ง 1. การชว่ ยเหลอื ตนเองในกิจวตั รประจำวนั
ถูกตอ้ งในการใชช้ อ้ น
ส้อม แก้วน้ำ
-รบั ประทานอาหารที่มี
ประโยชน์ต่อรา่ งกาย

อง - ปฏบิ ตั ิตนในการใช้ การปฏบิ ตั ิกิจวตั รประจำวัน
ห้องน้ำห้องส้วมดว้ ย 1. การชว่ ยเหลือตนเองในกจิ วตั รประจำวนั
ตนเองได้
-ล้างมือทุกครั้งทเ่ี สรจ็
ภารกจิ ในการใช้หอ้ งสว้ ม



พัฒนาการ มาตรฐาน ตัวบง่ ช้ี สภาพทพ่ี งึ ประสง
(๔-๕ปี)

6.1.3 ใชห้ อ้ งน้ำห้อ

สว้ มดว้ ยตนเอง

ตวั บง่ ชีท้ ่ี 6.2 6.2.1 เก็บของเล่นข
มีวนิ ัยในตนเอง ใชเ้ ขา้ ทด่ี ว้ ยตนเอง

6.2.2เข้าแถวตามล
กอ่ นหลังไดด้ ว้ ยตนเ

ตวั บง่ ชท้ี ี่ 6.3 6.3.1 ใชส้ ่ิงของ
ประหยดั และพอเพียง เครื่องใช้อย่างประห
และพอเพยี งเมื่อมีผู้
ช้ีแนะ

๖๔

งค์ สาระการเรยี นรู้

สาระที่ควรเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคัญ

อง - ปฏบิ ตั ิตนในการใช้ การปฏบิ ัตกิ ิจวัตรประจำวัน

หอ้ งนำ้ หอ้ งส้วมด้วย 1. การชว่ ยเหลอื ตนเองในกจิ วตั รประจำวนั

ตนเองได้

- ลา้ งมือทุกครัง้ ทีเ่ สรจ็

ภารกจิ ในการใช้หอ้ งสว้ ม

ของ - เก็บของเลน่ เม่อื เล่น การมปี ฏิสมั พนั ธ์ มวี ินยั มีส่วนรว่ ม และบทบาท

เสรจ็ เรียบรอ้ ยทุกครัง้ สมาชิกของสังคม

- เกบ็ ของใชป้ ระจำตวั 1. การรว่ มกำหนดขอ้ ตกลงของหอ้ งเรียน

เขา้ ทใ่ี ห้เรียบรอ้ ยและ 2. การปฏิบตั ติ นเปน็ สมาชิกทด่ี ขี องหอ้ งเรียน

ถกู วิธี 3. การใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏิบตั ิกจิ กรรมต่างๆ

- เก็บอุปกรณ์การทำ 4. การดูแห้องเรียนรว่ มกัน

กจิ กรรมทกุ ครั้งเมื่อทำ

เสร็จแลว้ และวาง

ในท่ที ก่ี ำหนดไว้

ลำดบั - เข้าแถวตามลำดบั การมีปฏสิ มั พนั ธ์ มวี นิ ยั มีส่วนรว่ ม และบทบาท

เอง กอ่ นหลังและร้จู กั การรอ สมาชกิ ของสงั คม

คอย 1. การรว่ มกำหนดข้อตกลงของห้องเรียน

2. การปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ทีด่ ขี องหอ้ งเรยี น

3. การให้ความรว่ มมือในการปฏิบตั ิกิจกรรมต่างๆ

- ใชส้ ง่ิ ของเครอื่ งใช้อย่าง การปฏิบตั กิ ิจวตั รประจำวัน

หยัด ถูกวธิ ี และใช้อยา่ ง 1. การปฏิบตั ิตนตามแนวทางหลักปรชั ญา

ประหยดั เศรษฐกิจพอเพียง

- เลือกใช้สิ่งของเคร่ืองใช้

พฒั นาการ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ ๖
ด้านสงั คม
มาตรฐานที่ 7 ตัวบง่ ช้ีที่ 7.1 สภาพที่พงึ ประสง
รักธรรมชาติ ดแู ลธรรมชาตแิ ละ (๔-๕ปี)
ส่ิงแวดลอ้ ม สงิ่ แวดลอ้ ม
วฒั นธรรม และ 7.1.1 มีส่วนรว่ มดูแ
ความเป็นไทย รักษาธรรมชาติและ
สงิ่ แวดล้อมเมื่อมผี ้ชู

7.1.2 ท้ิงขยะไดถ้ ูก

ตัวบ่งชี้ท่ี 7.2 7.2.1 ปฏิบัตติ นตา
มีมารยาทตาม มารยาทไทยด้วยตน
วัฒนธรรมไทยและรัก
ความเป็นไทย

7.2.2 การกล่าวคำ
ขอบคณุ และขอโทษ
ดว้ ยตนเอง

๖๕

งค์ สาระการเรยี นรู้

สาระทีค่ วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคญั

แล - ร่วมกันดูแลรักษาต้นไม้ การดแู ลรกั ษาธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม

สิง่ แวดลอ้ มทอ่ี ยู่ใน 1. มีสว่ นรว่ มรับผดิ ชอบดูแลรักษาสง่ิ แวดล้อมทงั้

ชี้แนะ บริเวณโรงเรียนและนอก ภายในและภายนอกหอ้ งเรียน

โรงเรียน 2. การเพาะปลกู และดูแลตน้ ไม้

- การอนรุ ักษส์ งิ่ แวดล้อม 3. การสนทนาขา่ วและเหตกุ ารณ์ที่เกี่ยวกับ

และสาธารณสมบัติ ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อมในชีวติ ประจำวนั

กที่ - ทิง้ ขยะลงในถังขยะทุก การดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม

ทุกครัง้ ไมค่ วรทง้ิ ลงใน 1. มสี ่วนร่วมรับผดิ ชอบดูแลรักษาส่ิงแวดลอ้ มทั้ง

บริเวณทั่วไป ภายในและภายนอกห้องเรียน

2. การสนทนาขา่ วและเหตุการณ์ที่เก่ยี วกบั

ธรรมชาติและสิง่ แวดลอ้ มในชวี ติ ประจำวนั

าม - ประพฤติปฏบิ ตั ติ น การปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมท้องถ่นิ และความ

นเอง อยา่ งมมี ารยาท รู้จัก เปน็ ไทย

เคารพผใู้ หญ่ พูดจาให้ 1. การเล่นบทบาทสมมตกิ ารปฏบิ ัติตนในความ

ไพเราะ ฯลฯ อยา่ ง เป็นไทย

สมำ่ เสมอ 2. การปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมทอ้ งถน่ิ ท่ีอาศยั และ

ประเพณไี ทย

- กล่าวคำขอบคณุ เมื่อ การปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมท้องถนิ่ และความ

ษได้ รบั ของจากผู้อื่น และ เปน็ ไทย

ขอโทษทกุ ครั้งทที่ ำอะไร 1. การเล่นบทบาทสมมตกิ ารปฏิบัติตนในความ

ผิดพลาด เปน็ ไทย



พัฒนาการ มาตรฐาน ตัวบง่ ช้ี สภาพทีพ่ ึงประสง
(๔-๕ป)ี

7.2.3 หยดุ ยนื เมอ่ื ไ

เพลงชาตไิ ทยและเพ

สรรเสรญิ พระบารม

ดา้ นสังคม มาตรฐานท่ี 8 ตัวบง่ ชที้ ี่ 8.1 8.1.1 เลน่ และทำ
กจิ กรรมรว่ มกบั เด็กท
อยรู่ ่วมกับผอู้ ่ืนได้ ยอมรับความเหมอื น แตกต่างไปจากตน

อยา่ งมีความสุขและ และความแตกตา่ ง 8.2.1 เล่นหรอื ทำง
รว่ มกับเพือ่ นเป็นกล
ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ระหว่างบคุ คล

สมาชกิ ที่ดีของ

สงั คมในระบอบ

ประชาธปิ ไตยอนั มี ตวั บง่ ช้ีท่ี 8.2

พระมหากษัตริยท์ รง มปี ฏสิ มั พันธท์ ี่ดกี บั
เป็นประมขุ
ผ้อู ืน่

๖๖

งค์ สาระการเรียนรู้

สาระทค่ี วรเรียนรู้ ประสบการณ์สำคญั

ได้ยนิ - เมือ่ ได้ยินเพลงชาตไิ ทย การปฏบิ ตั ติ นตามวัฒนธรรมท้องถน่ิ และความ

พลง และเพลงสรรเสรญิ เป็นไทย

มี พระบารมีตอ้ งยนื ตรงใน 1. การปฏิบตั ิตนตามวฒั นธรรมทอ้ งถิน่ ท่ีอาศัยและ

ทกุ ครง้ั ไม่ควรทำกิริยาที่ ประเพณีไทย

ไม่สำรวมและต้องแสดง

ความเคารพดว้ ยการยนื

ตรง

- เลน่ รว่ มกับเพื่อนได้ทุก การเลน่ และทำงานแบบรว่ มมอื รว่ มใจ

ที่ คนอยา่ งมคี วามสขุ และ 1. การเลน่ และทำงานรว่ มกบั ผอู้ นื่

มีความรัก ชว่ ยเหลือซ่งึ 2. การทำศิลปะแบบรว่ มมือ

กันและกัน การยอมรบั ในความเหมือนและความแตกตา่ ง

ระหวา่ งบุคคล

1. การเล่นหรือการทำกิจกรรมรว่ มกบั เพือ่ น

งาน - เล่นร่วมกบั เพือ่ นไดท้ ุก การมีปฏิสัมพันธ์ มวี ินยั มีส่วนร่วม และบทบาท

ลุ่ม คนอย่างมีความสุข และ สมาชิกของสงั คม

มคี วามรัก ช่วยเหลือซงึ่ 1. การให้ความร่วมมือในการปฏบิ ัติกจิ กรรมต่าง ๆ

กันและกนั เมือ่ มีปัญหา การแก้ปัญหาความขัดแย้ง

ให้ความใหอ้ ภยั กัน มี 1. การมสี ว่ นร่วมในการเลือกวธิ ีการแกป้ ัญหา

ความรักความสามัคคี



พฒั นาการ มาตรฐาน ตัวบ่งช้ี สภาพที่พึงประสง
(๔-๕ปี)

8.2.2 ย้มิ หรือทกั ทา

ผใู้ หญแ่ ละบุคคลท่ี

คุน้ เคยได้ด้วยตนเอง

ตัวบ่งชท้ี ี่ 8.3 8.3.1 มีส่วนร่วมสร

ปฏบิ ตั ติ นเบ้อื งตน้ ใน ข้อตกลงและปฏบิ ัตติ

การเปน็ สมาชกิ ท่ดี ีของ ข้อตกลงเมอ่ื มีผู้ชี้แน

สังคม

8.3.2 ปฏบิ ัติตนเปน็

ผ้นู ำและผู้ตามไดด้ ้ว

ตนเอง

8.3.3 ประนีประนอ

แกไ้ ขโดยปราศจากก

ใชค้ วามรนุ แรงเมื่อม

ช้ีแนะ

ดา้ น มาตรฐานท่ี 9 ตวั บง่ ช้ที ี่ 9.1 9.1.1 ฟงั ผูอ้ ืน่ พดู จน
สติปญั ญา ใชภ้ าษาส่ือสารได้
สนทนาโตต้ อบและเลา่ และสนทนาโต้ตอบ
เหมาะสมกับวัย
เรื่องใหผ้ ูอ้ ืน่ เข้าใจ สอดคลอ้ งเรอ่ื งที่ฟงั

๖๗

งค์ สาระการเรียนรู้

สาระท่ีควรเรียนรู้ ประสบการณ์สำคญั

าย - เม่ือพบบคุ คลอื่นควร การมีปฏสิ มั พันธ์ มีวินยั มีส่วนร่วม และบทบาท

แสดงกริ ยิ าทกั ทายดว้ ย สมาชิกของสังคม

ง การยิ้มในทุกคร้ังอยา่ ง 1. การใหค้ วามร่วมมอื ในการปฏิบตั ิกิจกรรมต่าง ๆ

สม่ำเสมอ ไม่ควรแสดงสี การเล่นและการทำงานแบบร่วมมอื รว่ มใจ

หนา้ บึ้งตงึ 1. การรว่ มสนทนาและแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็

รา้ ง - ปฏบิ ัติตนตามระเบยี บ การมีปฏิสัมพนั ธ์ มีวินัย มีส่วนร่วม และบทบาท

ตาม ของหอ้ งเรยี นอย่าง สมาชกิ ของสังคม

นะ สม่ำเสมอ 1.การรว่ มกำหนดขอ้ ตกลงหอ้ งเรยี น

2. การเปน็ สมาชกิ ที่ดีของหอ้ งเรียน

น - มคี วามเช่ือม่นั ใน การเล่นและทำงานแบบรว่ มมอื รว่ มใจ

วย ตนเองในการเปน็ ผนู้ ำที่ดี 1. การเล่นและทำงานรว่ มกับผอู้ ่นื

และถกู ตอ้ งและเป็น

ผตู้ ามไดอ้ ยา่ งเต็มใจ

อม - เม่อื มปี ญั หากับผู้อ่ืนไม่ การแก้ปญั หาความขัดแยง้

การ ควรทะเลาะกนั หรือใช้ 1. การมีสว่ นรว่ มในการเลอื กวิธแี ก้ปญั หา

มีผู้ ความรนุ แรง ควรใหอ้ ภัย 2. การมสี ่วนรว่ มในการแกป้ ัญหาความขดั แย้ง

ซึง่ กนั และกนั

นจบ - ฟังเรื่องราวตา่ งๆ จาก การใช้ภาษา

ผอู้ ืน่ ใหจ้ บเรอื่ งจงึ แสดง 1. การฟังเรือ่ งตา่ งๆ ในสิง่ แวดล้อม

ความคดิ เหน็ ของตนเอง 2. การฟังและปฏิบตั ิตามคำแนะนำ

3. การรอจงั หวะเหมาะสมในการพดู



พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพทีพ่ งึ ประสง
(๔-๕ป)ี

9.1.2 เลา่ เรื่องเป็น

ประโยคอยา่ งต่อเนอ่ื

ตัวบ่งช้ที ี่ 9.2 9.2.1 อ่านภาพ
อา่ น เขยี นภาพและ สัญลักษณ์ คำ พร้อม
สญั ลกั ษณ์ได้ ชห้ี รอื กวาดสายตาม
ขอ้ ความตามบรรทัด

9.2.2 เขียนคล้าย
ตัวอกั ษร

๖๘

งค์ สาระการเรยี นรู้

สาระทค่ี วรเรียนรู้ ประสบการณส์ ำคญั

- เล่าเรอ่ื งราวที่ได้พบ การใช้ภาษา

อง เห็น เปน็ ประโยคได้ 1. การพูดแสดงความคดิ ความรสู้ กึ และความ

อยา่ งตอ่ เนือ่ งให้ผู้อนื่ ฟัง ต้องการ

และเข้าใจได้ใน 2. การพดู กบั ผอู้ ื่นเก่ยี วกับประสบการณข์ องตนเอง

เหตกุ ารณน์ นั้ ๆ หรือพูดเล่าเร่ืองราวเกยี่ วกับตนเอง

3. การพูดอธบิ ายเก่ียวกับสง่ิ ของ เหตกุ ารณ์ และ

ความสัมพันธ์ของสิ่งตา่ ง ๆ

4. การพดู อย่างสรา้ งสรรค์ในการเล่า และการ

กระทำต่างๆ

5. การพดู เรยี งลำดบั คำเพอ่ื ใชใ้ นการสือ่ สาร

- อา่ นภาพกับคำและพดู การใช้ภาษา

มทั้ง ใหต้ รงกบั ภาพและคำ 1. การพดู เรยี งลำดับคำเพอ่ื ใชใ้ นการสอ่ื สาร

มอง อยา่ งถูกตอ้ ง 2. การอ่านภาพหนงั สือภาพ นทิ าน หลากหลาย

ด ประเภท/รปู แบบ

3. การอ่านและชข้ี อ้ ความโดยกวาดสายตาตาม

บรรทัดจากซา้ ยไปขวา จากบนลงล่าง

- การเขียนเส้นต่างๆ การใชภ้ าษา

อย่างต่อเนอื่ งคล้าย 1. การเห็นแบบอยา่ งการเขียนที่ถูกตอ้ ง

ตวั อักษร 2. การเขยี นร่วมกันตามโอกาสและการเขยี นอสิ ระ

3. การเขียนคำท่ีมคี วามหมายกบั ตัวเดก็ /คำค้นุ เคย

4. การที่สะกดและเขยี นเพือ่ สอ่ื ความหมายด้วย

ตนเองอย่างอิสระ



พฒั นาการ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ สภาพทพี่ ึงประสง
(๔-๕ป)ี
ด้าน มาตรฐานที่ 10 ตวั บง่ ชี้ที่ 10.1
สตปิ ัญญา มีความสามารถใน มีความสามารถในการ 10.1.1 บอกลกั ษณ
การคิดทเ่ี ปน็ คดิ รวบยอด และส่วนประกอบขอ
พ้ืนฐานในการ ต่างๆจากการสงั เกต
เรยี นรู้ ใชป้ ระสาทสมั ผสั

10.1.2 จบั ค่หู รือ
เปรยี บเทียบความ
แตกต่างหรือความ

เหมือน โดยใชล้ ักษณ
สังเกตพบเพยี งลักษ
เดียว

10.1.3 จำแนกหรอื
กลุ่มสิ่งตา่ งๆโดยใช้อ
นอ้ ย 1 ลักษณะเปน็
เกณฑ์

๖๙

งค์ สาระการเรียนรู้

สาระทคี่ วรเรียนรู้ ประสบการณ์สำคญั

ณะ - สังเกตอวัยวะตา่ งๆ ใน การคดิ รวบยอด การคิดเชงิ เหตุผล การตดั สินใจ
องสิง่ รา่ งกาย ของตนเอง และแกป้ ัญหา
ตโดย - บอกถงึ ความแตกต่าง 1. การสังเกตลักษณะ ส่วนประกอบ การ
เปล่ยี นแปลงและความสัมพนั ธข์ องสง่ิ ตา่ งๆ โดยใช้
ของสง่ิ ต่างๆรอบตัวดว้ ย ประสาทสัมผสั อยา่ งเหมาะสม
การสัมผัส

- จบั ค่สู ่ิงของที่ การคดิ รวบยอด การคดิ เชงิ เหตุผล การตดั สนิ ใจ

เหมอื นกนั หรือบอก และแกป้ ัญหา

ลกั ษณะสงิ่ ของและ 1. การเล่นกับสือ่ ตา่ งๆท่ีเปน็ ทรงกลม ทรงสี่เหล่ยี ม

ณะที่ ประโยชนท์ ่ีใช้ มุมฉาก ทรงกระบอก กรวย

ษณะ - จบั คู่ขนาด รปู รา่ ง 2. การจับคู่ การเปรยี บเทยี บ และการเรียงลำดบั

รปู ทรง ปริมาตร สิ่งตา่ งๆตามลักษณะความยาว/ความสูง นำ้ หนัก

ปริมาตร

3. การคดั แยก การจัดกลุม่ และการจำแนกสง่ิ

ตา่ งๆ ตามลักษณะและรูปรา่ ง รปู ทรง

อจดั - การจดั กลุ่มสง่ิ ของ การคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผล การตัดสินใจ

อย่าง ต่างๆ ตามลักษณะการ และแกป้ ญั หา

น ใช้งาน 1. การคดั แยก การจดั กลุ่ม และการจำแนกสงิ่

และประโยชน์การใช้งาน ต่างๆ ตามลกั ษณะและรูปรา่ ง รปู ทรง

2. การคัดแยก การจดั กลุม่ และการจำแนกสงิ่

ต่างๆ ตามลกั ษณะรปู ร่าง รปู ทรง



พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี สภาพท่ีพงึ ประสง
(๔-๕ปี)

10.1.4 เรยี งลำดับ

ส่ิงของหรือเหตกุ ารณ

อยา่ งนอ้ ย 4 ลำดับ

ตวั บง่ ชี้ที่ 10.2 10.2.1 ระบสุ าเหต
มีความสามารถในการ ผลทเี่ กดิ ขนึ้ ในเหตกุ า
คดิ เชิงเหตุผล หรือการกระทำเม่ือม
ชี้แนะ

10.2.2 คาดเดาหร
คาดคะเนสิง่ ทีอ่ าจจะ
เกิดขึน้ หรือมีส่วนร่ว
การลงความเหน็ จาก
ข้อมูล

ตัวบ่งชี้ท่ี 10.3 10.3.1 การตัดสนิ ใ
มีความสามารถในการ เรื่องงา่ ยๆและเร่ิมเร
คิดแก้ปญั หาและการ ผลท่เี กดิ ขน้ึ
ตดั สินใจ

๗๐

งค์ สาระการเรยี นรู้

สาระทีค่ วรเรยี นรู้ ประสบการณ์สำคญั

บ - การเรยี งลำดับสงิ่ ของที่ การคดิ รวบยอด การคิดเชงิ เหตุผล การตดั สินใจ

ณ์ มีจำนวนแตกตา่ งกนั และแกป้ ญั หา

- เรยี งลำดับเหตกุ ารณ์ 1. การเปรยี บเทียบและเรยี งลำดบั จำนวนสงิ่ ของ

ต่างๆ ได้อยา่ งถกู ต้อง ตา่ งๆ

และเขา้ ใจ 2.การบอกและแสดงอนั ดับท่ขี องสงิ่ ต่างๆ

ตหุ รือ - ส่วนประกอบ การ การคิดรวบยอดการคดิ เชิงเหตผุ ล การตัดสินใจ

ารณ์ เปล่ียนแปลงและ และแก้ปัญหา

มีผู้ ความสมั พนั ธ์ของสง่ิ 1. การบอกแล้วเรียงลำดับกจิ กรรมหรือเหตุการณ์

ตา่ งๆรอบตัว ตามชว่ งเวลา

- เวลา ที่เปลย่ี นแปลง 2. การใชภ้ าษาทางคณิตศาสตรก์ ับเหคุการณใ์ น

- วฏั จักรชีวิตของสัตว์ ชีวติ ประจำวนั

3. การอธบิ ายเชอ่ื มโยงสาเหตแุ ละผลท่เี กิดขนึ้ ใน

เหตุการณห์ รือการกระทำ

รอื - สว่ นประกอบ การ การคดิ รวบยอดการคดิ เชิงเหตผุ ล การตัดสินใจ

ะ เปลีย่ นแปลงและ และแกป้ ัญหา

วมใน ความสมั พันธ์ของสงิ่ 1. การคาดเดาหรอื การคาดคะเนส่ิงทอี่ าจเกิดข้ึน

ก ต่างๆรอบตัว อย่างมีเหตผุ ล

- เวลา ทเี่ ปลย่ี นแปลง

ใจใน - ตดั สินใจในเร่ืองที่เกดิ การคิดรวบยอด การคิดเชิงเหตุผล การตัดสินใจ
รียนรู้ ขึน้ กบั ตนเองและมกี าร และแก้ปัญหา

แก้ปญั หา 1. การตัดสนิ ใจและมสี ่วนรว่ มใน
กระบวนการแกป้ ัญหา



พฒั นาการ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ สภาพท่พี ึงประสง
(๔-๕ปี)

10.3.2 ระบุปญั หา

แก้ปัญหาโดยลองผิด

ถกู

ด้าน มาตรฐานที่ 11 ตวั บง่ ช้ีท่ี 11.1 11.1.1 สรา้ งผลงาน
สติปัญญา มีจินตนาการและ ทำงานศลิ ปะตาม ศลิ ปะเพอ่ื สอ่ื สาร
ความคดิ สร้างสรรค์ จนิ ตนาการและ ความคิด ความ
ความคดิ สรา้ งสรรค์ รู้สึกของตนเองโดยม
ดัดแปลงและแปลกใ
ตวั บง่ ชี้ท่ี 11.2 จากเดมิ หรือมี
แสดงทา่ ทาง รายละเอยี ดเพ่ิมข้ึน
เคล่อื นไหวตาม
จนิ ตนาการอย่าง 11.2.1 แสดงทา่ /
เคลื่อนไหวตาม
สร้างสรรค์ จนิ ตนาการอย่าง
สร้างสรรค์

๗๑

งค์ สาระการเรยี นรู้
สาระทีค่ วรเรยี นรู้
ประสบการณส์ ำคัญ
าและ - ตดั สินใจในเร่ืองท่ีเกิด
ดลอง ขน้ึ กบั ตนเองและมกี าร การคิดรวบยอด การคิดเชงิ เหตุผล การตดั สนิ ใจ
และแก้ปัญหา
แก้ปญั หา 1. การมีส่วนรว่ มในการลงความเหน็ จากขอ้ มูล
อย่างมเี หตผุ ล
น - ผลงานศิลปะทแี่ สดง 2. การตัดสนิ ใจและมสี ว่ นรว่ มในกระบวนการ
ความคิดสรา้ งสรรค์และ แก้ปัญหา
ประสบการณ์
จนิ ตนาการและความคิดสร้างสรรค์
มกี าร - สร้างสรรค์ผลงาน 1. รับร้แู ละแสดงความคิดความรู้สึกผ่านสอื่ วัสดุ
ใหม่ ศลิ ปะใหม้ คี วามแปลก ของเลน่ และชนิ้ งาน
2. สรา้ งสรรค์ชิ้นงานโดยใช้รปู รา่ ง รปู ทรงจากวัสดุ
ใหมแ่ ละเปลยี่ นแปลง ทห่ี ลากหลาย
จากเดิม

- การเคลอ่ื นไหวตาม จินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์
คำบรรยาย เพลง 1. การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านภาษา ทา่ ทาง
คำคลอ้ งจอง การเคลอื่ นไหว และศิลปะ
- การเคลื่อนไหวตาม

จนิ ตนาการ



พฒั นาการ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พึงประสง
(๔-๕ป)ี
ด้าน มาตรฐานที่ 12 ตัวบ่งชท้ี ี่ 12.1
สตปิ ญั ญา มเี จตคตทิ ่ีดีต่อการ มเี จตคตทิ ี่ดีต่อการ 12.1.1 สนใจซกั ถา
เรียนรู้ และมี เรียนรู้ เกยี่ วกบั สัญลักษณ์ห
ความสามารถใน ตัวหนงั สอื ทีพ่ บเห็น
การแสวงหาความรู้
12.1.2 กระตือรอื ร
การเขา้ ร่วมกจิ กรรม

ตวั บ่งชีท้ ่ี 12.2 12.2.1 ค้นหาคำตอ
มคี วามสามารถในการ ของข้อสงสัยต่างๆตา
แสวงหาความรู้ วธิ ีการทมี่ ีผู้ชแี้ นะ

12.2.2 ใช้ประโยค
คำถามว่า "ใคร" "อ
ในการคน้ หาคำตอบ

๗๒

งค์ สาระการเรยี นรู้

สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคัญ

าม - การดูหนังสอื ภาพ เจตคติท่ดี ตี ่อการเรยี นรแุ้ ละการแสวงหาความรู้
หรอื นทิ าน การฟังคำ 1. สำรวจสง่ิ ตา่ งๆและแหลง่ เรียนรรู้ อบตวั
2. การสืบเสาะหาความรเู้ พ่ือคน้ หาคำตอบของข้อ
คลอ้ งจอง สงสัยตา่ งๆ
- เข้ารว่ มกจิ กรรมดว้ ย
ความสขุ

รน้ ใน - เขา้ รว่ มกิจกรรมด้วย เจตคติทดี่ ตี อ่ การเรียนร้แุ ละการแสวงหาความรู้
ม ความสุข 1. สำรวจสิง่ ตา่ งๆและแหล่งเรียนรรู้ อบตัว
2. การสบื เสาะหาความรู้เพือ่ คน้ หาคำตอบของขอ้
สงสยั ตา่ งๆ

อบ - สนทนาและถามข้อ เจตคตทิ ่ีดตี ่อการเรียนรแุ้ ละการแสวงหาความรู้
ตาม สงสยั จากเรอ่ื งทีอ่ ยากรู้ 1. สำรวจส่ิงตา่ งๆและแหล่งเรยี นรู้รอบตวั

ค - สนทนาและต้งั คำถาม เจตคตทิ ดี่ ตี ่อการเรียนรแุ้ ละการแสวงหาความรู้
อะไร" จากเรื่องทสี่ งสยั และ 1. สำรวจสง่ิ ตา่ งๆและแหล่งเรยี นรรู้ อบตัว
บ ตอ้ งการคำตอบ 2. การตัง้ คำถามในเร่ืองที่สนใจ
3. การสบื เสาะหาความรเู้ พื่อค้นหาคำตอบของข้อ
สงสยั ตา่ งๆ



วเิ คราะห์สาระก
ช้นั อนบุ าลปีท่ี 3 ( 5-๖

พฒั นาการ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพทพี่ งึ ประสง
(๕-๖ ป)ี
ดา้ นรา่ งกาย มาตรฐานที่ 1 ตัวบ่งช้ที ่ี 1.1
ร่างกายเจรญิ เตบิ โต น้ำหนกั สว่ นสงู 1.1.1 น้ำหนัก สว่ น
ตามวยั และมี ตามเกณฑอ์ ายุ ตามเกณฑข์ อง
สุขนิสยั ทดี่ ี กรมอนามัย

ตัวบ่งชท้ี ี่ 1.2 1.2.1 รบั ประทาน
มสี ขุ ภาพอนามัย อาหารท่มี ีประโยชน
สขุ นิสัยท่ีดี ดื่มนำ้ สะอาดดว้ ยตน

1.๒.2 ล้างมอื ก่อน
รับประทานอาหารแ
หลังจากใชห้ อ้ งน้ำ
หอ้ งสว้ มดว้ ยตนเอง

๗๓

การเรียนรู้รายปี
๖ป)ี โรงเรียนวดั กกม่วง

งค์ สาระการเรียนรู้

สาระทีค่ วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคัญ

การรกั ษาสขุ ภาพอนามยั สว่ นตน

นสงู - การรบั ประทานอาหาร 1. การปฏิบัตติ นตามสขุ อนามยั สุขนิสัยทดี่ ใี น

ที่มปี ระโยชน์ กิจวัตรประจำวนั

- การออกกำลังกาย

อย่างสม่ำเสมอ

- การพักผอ่ นอยา่ ง

เพยี งพอ

- การรักษาความสะอาด

ของร่างกาย

การรักษาสขุ ภาพอนามัยสว่ นตน

- การรบั ประทานอาหาร 1. การปฏบิ ัติตนตามสุขอนามัย สุขนสิ ัยที่ดใี น

นแ์ ละ ทม่ี ปี ระโยชน์ และดืม่ นำ้ กจิ วตั รประจำวนั

นเอง ทีส่ ะอาด บรสิ ุทธ์ิ

- ล้างมือใหส้ ะอาดกอ่ น การรกั ษาสุขภาพอนามัยส่วนตน
และ รับประทานอาหารและ 1. การปฏิบตั ิตนตามสขุ อนามยั สขุ นิสัยทดี่ ใี น

หลงั จากท่ีใชห้ ้องสว้ ม กิจวตั รประจำวนั
ทกุ ครง้ั



พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ สภาพทพี่ ึงประ
(๕-๖ ปี)

1.2.3 นอนพักผ่อน

เปน็ เวลา

1.2.4 ออกกำลงั กายเ

ตัวบง่ ช้ที ี่ 1.3 1.3.1 เลน่ และทำกิจก

รักษาความปลอดภยั ผูอ้ น่ื อยา่ งปลอดภยั

ของตนเองและผ้อู ่ืน

๗๔

ะสงค์ สาระทีค่ วรเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
เป็นเวลา - นอนพกั ผ่อนเปน็ เวลา
กรรมตอ่ อย่างสม่ำเสมอ ไม่ควร ประสบการณส์ ำคญั
นอนดึก
- ออกกำลงั กายอย่าง การรกั ษาสขุ ภาพอนามยั สว่ นตน
สมำ่ เสมอและถกู วธิ ี 1. การปฏบิ ตั ติ นตามสุขอนามยั สขุ นิสัยท่ดี ใี น
กิจวตั รประจำวนั
- การเลน่ หรือทำ
กิจกรรมกบั ผู้อื่นโดย การใช้กล้ามเนอ้ื ใหญ่
ระมัดระวังไมใ่ ห้เกดิ 1. การเคล่ือนไหวอยกู่ บั ที่
อันตราย 2. การเคล่อื นไหวเคลือ่ นท่ี
- การปฏิบัตติ อ่ ผูอ้ ื่นให้ 3. การเคล่อื นไหวพรอ้ มวสั ดอุ ปุ กรณ์
เกดิ ความปลอดภยั 4. การเคล่อื นไหวที่ใช้การประสานสมั พันธ์ของ
การใชก้ ล้ามเนือ้ ใหญใ่ นการขว้าง การจบั การ
โยน การเตะ

การรักษาความปลอดภัย
1. การปฏิบัติตนให้ปลอดภัยในกิจวตั ร
ประจำวนั
2. การฟังนทิ าน เรอ่ื งราว เหตกุ ารณ์ เก่ียวกับ
การป้องกันและรักษาความปลอดภยั
๓. การเลน่ เครอื่ งเล่นอย่างปลอดภยั
๔. การเลน่ บทบาทสมมตุ เิ หตุการณ์ต่าง ๆ



พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพทพี่ งึ ประ
รา่ งกาย (๕-๖ ป)ี
มาตรฐานที่ 2 ตวั บ่งชที้ ี่ 2.1
กลา้ มเนื้อใหญ่และ เคล่อื นไหวร่างกาย 2.1.1 เดินตอ่ เทา้ ถอย
กลา้ มเนื้อเลก็ อย่างคล่องแคล่วและ เส้นตรงโดยไมต่ ้องกาง
2.1.2 กระโดดขาเดยี
แขง็ แรง ใชไ้ ด้อย่าง ประสานสัมพนั ธแ์ ละ ข้างหนา้ ได้อย่างต่อเน
คลอ่ งแคล่ว และ ทรงตวั ได้ เสยี การทรงตวั
ประสานสัมพันธก์ ัน 2.1.3 วิง่ หลบหลีกสง่ิ
อยา่ งคล่องแคลว่
2.1.4 รับลกู บอลทีก่ ร
จากพืน้ ได้

ตัวบ่งช้ีที่ 2.2 2.2.1 การใช้กรรไกรต

ใช้มือและตาประสาน ตามแนวเสน้ โค้งได้

สัมพันธก์ ัน

2.2.2 เขยี นรปู สามเห
แบบได้อยา่ งมมี มุ ชดั เจ

2.2.3 รัอยวัสดุที่มีรขู
เส้นผา่ ศนู ยก์ ลาง
0.25 เซนตเิ มตร ได้

๗๕

ะสงค์ สาระการเรยี นรู้

สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคัญ

การตระหนักรูเ้ กย่ี วกับร่างกายตนเอง

ยหลังเป็น - การเคลอื่ นไหว 1. การเคลอ่ื นไหวควบคมุ ตนเองในทศิ ทาง

งแขน ร่างกายไดค้ ลอ่ งแคลว่ ระดับ และพนื้ ท่ี

ยวไป ท้ังการว่ิง เดนิ โยน เตะ
นอ่ื งโดยไม่ และทรงตัวได้ม่นั คง
- การโยนลูกบอลลงพน้ื

งกีดขวางได้ ใหก้ ระดอนขึ้นและรบั
ด้วยมอื ได้

ระดอนข้ึน การใช้กล้ามเน้อื ใหญ่

1. การเคล่อื นไหวที่ใช้การประสานสัมพนั ธข์ อง

การใชก้ ลา้ มเน้อื ใหญ่ในการขว้าง การจับ การ

โยน การเตะ

ตัดกระดาษ - จับกรรไกรได้อยา่ ง การใชก้ ลา้ มเนื้อเลก็

ถกู ตอ้ ง คล่องแคลว่ 1. การประดิษฐ์ส่ิงตา่ งๆดว้ ยเศษวสั ดุ

และตดั กระดาษเปน็ 2. การหยิบจับ การใชก้ รรไกร การฉีก การตัด

เสน้ โค้งได้ การปะ และการร้อยวัสดุ

หลย่ี มตาม - เขียนรปู สามเหลยี่ ม การใช้กลา้ มเนอ้ื เลก็
จน ตามแบบได้ 1. การเขียนภาพและการเล่นกบั สี

ขนาด - การร้อยลกู ปัด รอ้ ย การใช้กล้ามเนอื้ เลก็
หลอดกาแฟทต่ี ดั เป็น 1. การหยิบจับ การใชก้ รรไกร การฉีก การตัด
เปน็ ทอ่ น ๆ ฯลฯ การปะ และการรอ้ ยวัสดุ



พฒั นาการ มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี สภาพที่พึงประ
(๕-๖ ปี)
ด้านอารมณ์ มาตรฐานที่ 3
มีสุขภาพจติ ทด่ี ี ตัวบง่ ชที้ ี่ 3.1
และมตี วามสขุ
แสดงออกทางอารมณ์ 3.1.1 แสดงอารมณ์ค

ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ไดส้ อดคลอ้ งกบั สถาน

อยา่ งเหมาะสม

ตัวบง่ ชีท้ ่ี 3.2 3.2.1 กล้าพูดกล้าแส
มคี วามรสู้ ึกทด่ี ตี ่อ อย่างเหมาะสมตามสถ
ตนเองและผู้อ่ืน

๗๖

ะสงค์ สาระที่ควรเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้
ความรู้สกึ - ควบคมุ อารมณค์ วาม
นการณ์ ไม่พอใจ ไม่ถกู ใจต่อ ประสบการณส์ ำคัญ
บุคคลหรือสิ่งต่างๆ
สดงออก รอบตวั ได้อยา่ ง การเลน่
ถานการณ์ เหมาะสมกบั 1. การเลน่ อิสระ
สถานการณ์ 2. การเล่นรายบคุ คล กลมุ่ ย่อย กลมุ่ ใหญ่
- แสดงความรูส้ กึ ได้ 3. การเลน่ ตามมุมประสบการณ์
ตามสถานการณ์ท่ี 4. การเลน่ นอกห้องเรียน
เกิดข้นึ อย่างเหมาะสม การมอี ตั ลกั ษณ์เฉพาะตนและเช่อื ว่าตนเองมี
ความสามารถ
- การแสดงความ 1. การปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆตามความสามารถ
คิดเหน็ ของตนเองดว้ ย ของตนเอง
ความม่ันใจและยอมรบั การเห็นอกเหน็ ใจผู้อน่ื
ฟังความคดิ เห็นของ 1.การแสดงความยนิ ดเี มือ่ ผู้อื่นมาความสขุ เหน็
ผู้อืน่ ดว้ ยความเต็มใจ ใจเมือ่ ผู้อืน่ เศร้าหรือเสยี ใจ และการชว่ ยเหลือ

คณุ ธรรม จริยธรรม
1. การปฏบิ ตั ิตนตามหลักศาสนาทน่ี บั ถือ
2. การฟงั นทิ านเก่ียวกับคุณธรรม จริยธรรม
3. รว่ มสนทนาและแลกเปลย่ี นความคิดเห็นเชงิ
จรยิ ธรรม
การสดงออกทางอารมณ์
1. พูดสะทอ้ นความรสู้ กึ ของตนเองและผู้อน่ื
การเหน็ อกเห็นใจผ้อู ื่น
1. การแสดงความยินดีเมือ่ ผู้อื่นมีความสุข เหน็
ใจเม่อื ผูอ้ ่ืนเศรา้ หรือเสยี ใจและการชว่ ยเหลือ



พฒั นาการ มาตรฐาน ตวั บง่ ชี้ สภาพทพ่ี ึงประ
(๕-๖ ปี)

3.2.2 แสดงความพอ

ผลงานและความสามา

ตนเองและผู้อื่น

ดา้ นอารมณ์ มาตรฐานที่ 4 ตัวบ่งชท้ี ่ี 4.1 4.1.1 สนใจ มคี วามส
ชื่นชมและ สนใจ มคี วามสุขและ และแสดงออกทางศิล
แสดงออกทาง แสดงออกผา่ นงาน
4.1.2 สนใจ มคี วามส
ศลิ ปะ ดนตรี และ ศิลปะและการ และแสดงออกผ่านเสยี
การเคลื่อนไหว เคลื่อนไหว ดนตรี

4.1.3 สนใจ มคี วามส
แสดงทา่ ทาง/เคลอ่ื นไ
ประกอบเพลง จังหวะ

๗๗

ะสงค์ สาระท่ีควรเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้

อใจใน - มคี วามรสู้ กึ ท่ดี ีและ ประสบการณ์สำคัญ
ารถของ แสดงพึงพอใจต่อ
ผลงานของตนเอง การสดงออกทางอารมณ์
- บอกความรสู้ ึกที่ดีต่อ 1. พดู สะท้อนความรสู้ กึ ของตนเองและผู้อน่ื
ผลงานของตนเองให้ คุณธรรม จรยิ ธรรม
ผอู้ ืน่ รับรไู้ ด้ 1. รว่ มสนทนาและแลกเปล่ียนความคดิ เหน็ เชงิ
จรยิ ธรรม

สขุ - การทำกจิ กรรมศลิ ปะ สนุ ทรียภาพ ดนตรี
ลปะ
ดว้ ยความสนใจ และมี 1. การทำกจิ กรรมศิลปะตา่ งๆ
สขุ
ยงเพลง ความสุข แสดงความพึง 2. การสร้างสรรคส์ งิ่ สวยงาม

สุข และ พอใจตอ่ ผลงานตนเอง การสดงออกทางอารมณ์
หว
ะและดนตรี 1. การทำงานศลิ ปะ

- ร้องเพลง และแสดง สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี

ท่าทางประกอบ 1. การฟงั เพลง การร้องเพลง และการแสดง

เสยี งเพลงและดนตรีได้ ปฏิกริ ยิ าโต้ตอบเสยี งดนตรี

อยา่ งมีความสขุ และ 2. การเล่นเคร่ืองดนตรีประกอบจงั หวะ

สนใจต่อกจิ กรรม การแสดงออกทางอารมณ์

1. เคล่อื นไหวตามเสียงเพลง ดนตรี

2. การรอ้ งเพลง

- เคล่อื นไหวท่าทางตาม สนุ ทรียภาพ ดนตรี

จังหวะเสียงดนตรี 1. การเคลอ่ื นไหวตามเสยี งเพลง/ดนตรี

การแสดงออกทางอารมณ์

พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ ๗

ด้านอารมณ์ มาตรฐานที่ 5 ตวั บ่งชีท้ ี่ 5.1 สภาพทพี่ งึ ประ
มคี ณุ ธรรม ซือ่ สตั ย์สจุ รติ (๕-๖ ป)ี
จริยธรรม ละมี
จิตใจทดี่ งี าม 5.1.1 ขออนุญาตหรือ
รอคอยเมื่อต้องการสิ่ง
ผู้อื่นดว้ ยตนเอง

ตัวบ่งชี้ที่ 5.2 5.2.1 แสดงความรักเ
มคี วามเมตตา กรณุ า เมตตาสตั ว์เลย้ี ง
มนี ้ำใจและช่วยเหลือ
แบง่ ปนั

5.2.2 ชว่ ยเหลอื และแ
ผ้อู นื่ ไดด้ ว้ ยตนเอง

ตัวบง่ ชที้ ่ี 5.3 5.3.1 แสดงสีหนา้ หร

มคี วามเห็นอกเห็นใจ ความรูส้ กึ ผอู้ ื่นอยา่ งสอ

ผู้อ่นื กบั สถานการณ์

๗๘

ะสงค์ สาระทีค่ วรเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
อ - ขออนญุ าตทกุ ครัง้ ที่ ประสบการณ์สำคัญ
งของของ หยิบยมื ส่ิงของของผอู้ น่ื
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม
เพือ่ นและมี - มีความรกั และ 1. การปฏบิ ัตติ นตามหลักศาสนาท่นี บั ถือ
ความรสู้ กึ ท่ีดีตอ่ เพอื่ น 2. การฟังนิทานเกยี่ วกับคุณธรรม จริยธรรม
แบ่งปนั - มเี มตตา กรุณาต่อ 3. รว่ มสนทนาและแลกเปลย่ี นความคดิ เห็นเชิง
สตั ว์เลี้ยงและสัตว์ตา่ งๆ จริยธรรม
รือรบั รู้ ไม่ทำร้ายหรอื รังแก คณุ ธรรม จริยธรรม
อดคล้อง สตั ว์ 1. การปฏิบตั ิตนตามหลกั ศาสนาที่นบั ถือ
- มีน้ำใจตอ่ เพอื่ นและ 2. การฟังนทิ านเก่ยี วกบั คณุ ธรรม จริยธรรม
ชว่ ยเหลอื เพ่อื นเมือ่ 3. รว่ มสนทนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชงิ
ตอ้ งการชว่ ยความ จรยิ ธรรม
ชว่ ยเหลอื ด้วยความ
เต็มใจ คณุ ธรรม จริยธรรม
- มีความรู้สึกทีแ่ สดง 1. การปฏิบัติตนตามหลกั ศาสนาท่นี บั ถอื
ออกทางทางสหี นา้ ท่ีมี 2. การฟังนิทานเกี่ยวกับคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
ตอ่ ผู้อน่ื สอดคล้องกับ 3. รว่ มสนทนาและแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นเชงิ
สถานการณ์ จรยิ ธรรม
การแสดงออกทางอารมณ์
1. พูดสะท้อนความรสู้ กึ ของตนเองและผอู้ น่ื
การเหน็ อกเห็นใจผู้อืน่
1. การแสดงความยนิ ดเี มื่อผ้อู ืน่ มคี วามสขุ เหน็ ใจ
เมอ่ื ผอู้ ืน่ เศร้าหรอื เสยี ใจและการชว่ ยเหลือ



พฒั นาการ มาตรฐาน ตัวบ่งชี้ สภาพที่พงึ ประส
(๕-๖ ป)ี
ตัวบง่ ชที้ ี่ 5.4
มีความรับผิดชอบ 5.4.1 ทำงานทไี่ ดร้ บั
มอบหมายจนสำเรจ็ ดว้

ด้านสงั คม มาตรฐานท่ี 6 ตวั บง่ ช้ที ่ี 6.1 6.1.1 แตง่ ตวั ไดด้ ้วยต
มที กั ษะชวี ติ และ ชว่ ยเหลอื ตนเองใน อย่างคล่องแคล่ว
ปฏิบตั ติ นตามหลัก การปฏิบัติกจิ วตั ร
ประจำวนั 6.1.2 รบั ประทานอา
หลกั ปรัชญาของ ตนเองอยา่ งถกู วธิ ี
เศรษฐกิจพอเพียง

6.1.3 ใชแ้ ละทำความ
ห้องนำ้ ห้องส้วมด้วยต

๗๙

สงค์ สาระการเรยี นรู้
สาระทค่ี วรเรยี นรู้
ประสบการณส์ ำคัญ
- ทำงานและกจิ กรรม
วยตนเอง ตา่ งๆ จนประสบ สนุ ทรยี ภาพ ดนตรี
1. การกจิ กรรมศิลปะต่าง ๆ
ความสำเรจ็ และมีความ 2. การสรา้ งสรรค์ส่ิงสวยงาม
ชื่นชมและภาคภมู ใิ จใน การมอี ตั ลกั ษณเ์ ฉพาะตนและเชอื่ ว่าตนเองมี
ผลงานตนเอง ความสามารถ
1. การปฏบิ ัติกิจกรรมต่างๆตามความสามารถ
ตนเอง - แตง่ ตวั ดว้ ยตนเองได้ ของตนเอง
คลอ่ งแคล่วและถกู ตอ้ ง
การปฏิบัตกิ จิ วัตรประจำวนั
1.การชว่ ยเหลอื ตนเองในกิจวัตรประจำวนั

าหารด้วย - ปฏบิ ตั ิตนในการ การปฏบิ ตั ิกิจวัตรประจำวัน
รับประทานอาหารอยา่ ง 1. การช่วยเหลือตนเองในกิจวตั รประจำวนั
มสะอาด ถกู ตอ้ งในการใช้ภาชนะ
ตนเอง ตา่ งๆ การปฏบิ ัติกจิ วัตรประจำวัน
- รบั ประทานอาหารที่มี 1. การช่วยเหลือตนเองในกจิ วัตรประจำวนั
ประโยชน์ต่อร่างกาย

- ปฏบิ ตั ิตนในการใช้
ห้องน้ำห้องส้วมด้วย
ตนเองได้
- ดแู ลทำความสะอาด
ห้องนำ้ ห้องสว้ มได้
- ล้างมอื ทุกครัง้ ทเ่ี สรจ็

พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บ่งชี้ ๘

ตวั บง่ ช้ที ่ี 6.2 สภาพทพี่ ึงประส
มวี นิ ยั ในตนเอง (๕-๖ ป)ี

6.2.1 เก็บของเล่นขอ
ท่อี ยา่ งเรยี บร้อยดว้ ยต

6.2.2 เข้าแถวตามลำ
กอ่ นหลงั ไดด้ ้วยตนเอง

ตวั บ่งชี้ที่ 6.3 6.3.1 ใช้ส่งิ ของเครื่อ

ประหยดั และพอเพียง ประหยัดและพอเพยี ง

ตนเอง

๘๐

สงค์ สาระการเรียนรู้

สาระที่ควรเรียนรู้ ประสบการณส์ ำคญั

องใชเ้ ขา้ - เกบ็ ของเล่นเม่ือเล่น การมปี ฏสิ มั พันธ์ มวี นิ ัย มสี ่วนร่วม และ

ตนเอง เสร็จเรยี บร้อยทุกครัง้ บทบาทสมาชกิ ของสงั คม

- เก็บของใช้ประจำตวั เข้า 1. การร่วมกำหนดข้อตกลงของหอ้ งเรยี น

ที่ใหเ้ รยี บร้อยและ 2. การปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชกิ ทด่ี ขี องหอ้ งเรียน

ถกู วิธี 3. การให้ความร่วมมอื ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม

- เกบ็ อปุ กรณ์การทำ ตา่ งๆ

กจิ กรรมทุกครัง้ เม่ือทำ 4. การดแู ห้องเรียนรว่ มกัน

เสรจ็ แลว้ และวาง

ในทท่ี ่กี ำหนดไว้

ำดบั - เขา้ แถวตามลำดบั การมีปฏสิ ัมพันธ์ มีวินยั มสี ่วนรว่ ม และ

ง ก่อนหลังและร้จู ักการรอ บทบาทสมาชกิ ของสังคม

คอย 1. ร่วมกำหนดข้อตกลงของหอ้ งเรยี น

2. การปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชกิ ที่ดขี องหอ้ งเรียน

3. ให้ความร่วมมอื ในการปฏิบตั กิ ิจกรรมตา่ งๆ

องใช้อยา่ ง - ใชส้ ่งิ ของเครอื่ งใช้อยา่ ง การปฏิบัตกิ ิจวัตรประจำวนั

งดว้ ย ถกู วธิ ี และใช้อยา่ ง 1. ปฏิบัติตนตามแนวทางหลักปรัชญาเศรษฐกจิ

ประหยดั พอเพยี ง

- เลือกใช้สิง่ ของเครื่องใช้ การดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดล้อม

ทมี่ ีประโยชน์ 1. การใชว้ ัสดุและสงิ่ ของเครือ่ งใช้อยา่ งคมุ้ คา่



พฒั นาการ มาตรฐาน ตัวบง่ ชี้ สภาพทพี่ งึ ประส
ดา้ นสังคม (๕-๖ ปี)
มาตรฐานที่ 7 ตวั บง่ ชีท้ ่ี 7.1
รักธรรมชาติ ดแู ลธรรมชาตแิ ละ 7.1.1 ดูแลรักษาธรรม
สิ่งแวดลอ้ ม ส่ิงแวดล้อม และส่งิ แวดลอ้ มดว้ ยต
วฒั นธรรม และ
ความเป็นไทย

7.1.2 ท้งิ ขยะไดถ้ ูกท

ตวั บ่งชี้ท่ี 7.2 7.2.1 ปฏบิ ัตติ นตามม

มีมารยาทตาม ไทยตามกาลเทศะ

วัฒนธรรมไทยและรัก

ความเป็นไทย

7.2.2 การกลา่ วคำขอ
และขอโทษไดด้ ้วยตน

๘๑

สงค์ สาระการเรียนรู้
มชาติ
ตนเอง สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ประสบการณส์ ำคัญ

ท่ี - รว่ มกนั ดแู ลรกั ษาตน้ ไม้ การดแู ลรักษาธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม

มารยาท สิ่งแวดล้อมท่อี ยใู่ นบริเวณ 1. มีสว่ นร่วมรบั ผิดชอบดแู ลรกั ษาสิ่งแวดลอ้ ม

อบคุณ โรงเรยี นและนอกโรงเรียน ทัง้ ภายในและภายนอกหอ้ งเรยี น
นเอง
- ปลกู ตน้ ไม้ ดอกไม้ 2. การเพาะปลูกและดแู ลตน้ ไม้

- การอนุรักษ์สงิ่ แวดล้อม 3. การสนทนาข่าวและเหตุการณท์ ่ีเก่ียวกับ

และสาธารณสมบัติ ธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อมในชีวติ ประจำวนั

- ทง้ิ ขยะลงในถงั ขยะทุก การดูแลรกั ษาธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อม

ทุกครั้ง ไม่ควรท้งิ ลงใน 1. สว่ นรว่ มรบั ผิดชอบดแู ลรกั ษาส่งิ แวดล้อมทัง้

บริเวณท่วั ไป ภายในและภายนอกหอ้ งเรียน

- แยกขยะตามประเภท 2. การสนทนาข่าวและเหตกุ ารณท์ ่ีเก่ียวกบั

ขยะได้ ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ มในชวี ติ ประจำวนั

- ประพฤติปฏิบตั ติ นอยา่ ง การปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมทอ้ งถนิ่ และความ

มีมารยาท รู้จักเคารพ เป็นไทย

ผ้ใู หญ่ พูดจาใหไ้ พเราะ 1. การเล่นบทบาทสมมติการปฏิบตั ติ นในความ

ฯลฯ อยา่ งสมำ่ เสมอ เปน็ ไทย

2. การปฏิบตั ติ นตามวฒั นธรรมทอ้ งถ่นิ ท่ีอาศัย

และประเพณไี ทย

- กลา่ วคำขอบคณุ เมื่อรับ การปฏบิ ตั ติ นตามวัฒนธรรมท้องถิ่นและความ

ของจากผู้อ่ืน และ เป็นไทย

ขอโทษทุกครัง้ ท่ีทำอะไร 1. การเลน่ บทบาทสมมติการปฏิบตั ิตนในความ

ผิดพลาด เปน็ ไทย

๒. การปฏิบัตติ นตามทอ้ งถิ่นและประเพณีไทย



พฒั นาการ มาตรฐาน ตัวบง่ ช้ี สภาพท่ีพึงประส
(๕-๖ ป)ี

7.2.3 หยดุ ยนื เม่ือไดย้

ชาตไิ ทยและเพลงสรร

พระบารมี

ด้านสังคม มาตรฐานท่ี 8 ตัวบ่งช้ีที่ 8.1 8.1.1 เลน่ และทำกิจ
อยู่รว่ มกบั ผ้อู ืน่ ได้ ยอมรบั ความเหมอื น รว่ มกับเดก็ ทแ่ี ตกตา่ งไ
อยา่ งมคี วามสขุ และความแตกต่าง ตน
และปฏบิ ตั ติ นเปน็ ระหวา่ งบคุ คล
สมาชิกท่ีดีของ 8.2.1 เล่นหรือทำงาน
สังคมในระบอบ ตวั บ่งชท้ี ่ี 8.2 เพ่ือนอย่างมีเป้าหมาย
ประชาธปิ ไตยอนั มี มีปฏสิ มั พันธท์ ่ดี กี ับ
พระมหากษัตรยิ ์ ผอู้ ่ืน
ทรงเปน็ ประมุข

๘๒

สงค์ สาระที่ควรเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้
ยนิ เพลง - เมอ่ื ได้ยนิ เพลงชาตไิ ทย ประสบการณส์ ำคญั
รเสริญ และเพลงสรรเสริญ
พระบารมีตอ้ งยนื ตรงใน การปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมทอ้ งถิ่นและความ
จกรรม ทกุ ครง้ั ไม่ควรทำกริ ยิ าที่ เปน็ ไทย
ไปจาก ไมส่ ำรวมและต้องแสดง 1. การปฏบิ ัติตนตามวฒั นธรรมทอ้ งถ่ินทอ่ี าศยั
ความเคารพด้วยการยนื และประเพณไี ทย
นร่วมกับ ตรง
ย - เล่นรว่ มกับเพอื่ นได้ทุก การเลน่ และทำงานแบบร่วมมือร่วมใจ
คนอย่างมคี วามสขุ และมี 1. การเลน่ และทำงานร่วมกบั ผอู้ ื่น
ความรกั ชว่ ยเหลอื ซ่งึ กนั 2. การทำศลิ ปะแบบร่วมมือ
และกัน การยอมรับในความเหมือนและความแตกตา่ ง
- มีความรกั เพ่ือนทุกคน ระหว่างบุคคล
1. การเล่นหรือการทำกิจกรรมรว่ มกับเพ่ือน
- เล่นร่วมกบั เพื่อนไดท้ กุ การมปี ฏสิ ัมพันธ์ มีวนิ ัย มีส่วนรว่ ม และ
คนอยา่ งมคี วามสขุ และมี บทบาทสมาชกิ ของสงั คม
ความรัก ช่วยเหลอื ซึง่ กนั 1. การใหค้ วามร่วมมอื ในการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
และกัน เม่ือมีปัญหาให้ ต่างๆ
ความใหอ้ ภยั กนั มีความ การแก้ปัญหาความขดั แยง้
รักความสามคั คี 1. การมีสว่ นร่วมในการเลอื กวธิ กี ารแก้ปญั หา



พฒั นาการ มาตรฐาน ตวั บ่งช้ี สภาพท่พี ึงประส
(๕-๖ ปี)

8.2.2 ย้มิ ทักทายแล

กับผใู้ หญ่และบคุ คลท

ได้ตามสถานการณ์ทเ่ี ห

ตัวบง่ ช้ีท่ี 8.3 8.3.1 มสี ่วนรว่ มสร้า
ปฏิบัตติ นเบื้องต้นใน ข้อตกลงและปฏิบัตติ า
การเปน็ สมาชิกทดี่ ี ข้อตกลงด้วยตนเอง
ของสังคม
8.3.2 ปฏบิ ัติตนเปน็ ผ
ผตู้ ามไดเ้ หมาะสมตาม
สถานการณ์

8.3.3 ประนปี ระนอม
โดยปราศจากการใชค้
รนุ แรงเมื่อมีผู้ช้แี นะ

ดา้ น มาตรฐานที่ 9 ตวั บ่งช้ีท่ี 9.1 9.1.1 ฟังผู้อน่ื พูดจนจ

สติปญั ญา ใช้ภาษาส่ือสารได้ สนทนาโต้ตอบและ สนทนาโตต้ อบอยา่ งต

เหมาะสมกับวยั เล่าเรือ่ งให้ผอู้ นื่ เขา้ ใจ เชอ่ื มโยงเรือ่ งที่ฟัง

๘๓

สงค์ สาระทคี่ วรเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
ละพูดคยุ - เม่ือพบบุคคลอ่ืนควร ประสบการณส์ ำคญั
ทค่ี ุน้ เคย แสดงกิรยิ าทกั ทายดว้ ย
หมาะสม การยมิ้ ในทุกครัง้ อย่าง การมีปฏิสมั พันธ์ มวี ินยั มีส่วนรว่ ม และ
สม่ำเสมอ ไม่ควรแสดงสี บทบาทสมาชิกของสังคม
ง หน้าบ้ึงตงึ 1. การให้ความรว่ มมอื ในการปฏิบตั กิ จิ กรรม
าม ต่างๆ
- นำเสนอขอ้ ระเบยี บ การเลน่ และการทำงานแบบรว่ มมอื รว่ มใจ
ผู้นำและ ปฏบิ ตั ติ นตามระเบยี บ 1. การรว่ มสนทนาและแลกเปลยี่ นความคดิ เหน็
ม ของหอ้ งเรยี นอย่าง การมปี ฏิสัมพนั ธ์ มีวินยั มีส่วนรว่ ม และ
สม่ำเสมอ บทบาทสมาชิกของสงั คม
มแกไ้ ข - มคี วามเชอ่ื มนั่ ในตนเอง 1. การรว่ มกำหนดขอ้ ตกลงห้องเรียน
ความ ในการเปน็ ผนู้ ำทดี่ ีและ 2. การเป็นสมาชิกที่ดขี องหอ้ งเรียน
ถกู ต้องและเป็น การเลน่ และทำงานแบบรว่ มมือร่วมใจ
จบและ ผตู้ ามไดอ้ ยา่ งเต็มใจ 1. การเล่นและทำงานร่วมกบั ผอู้ น่ื
ต่อเนื่อง - เม่ือมปี ัญหากับผู้อน่ื ไม่
ควรทะเลาะกนั หรอื ใช้ การแก้ปญั หาความขดั แย้ง
ความรุนแรง ควรให้อภยั 1. การมสี ว่ นรว่ มในการเลือกวิธีแกป้ ญั หา
ซง่ึ กนั และกนั 2. การมสี ว่ นรว่ มในการแก้ปัญหาความขดั แยง้
- ฟังเรือ่ งราวตา่ งๆ จาก
ผอู้ ื่นให้จบเรอื่ งจงึ แสดง การใช้ภาษา
ความคิดเห็นของตนเอง 1. การฟงั เร่อื งต่างๆ ในส่งิ แวดล้อม
- เช่ือมโยงเรื่องท่ฟี ังกบั 2. การฟงั และปฏบิ ตั ิตามคำแนะนำ
สถานการณไ์ ด้ 3. การรอจังหวะเหมาะสมในการพดู



พัฒนาการ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพท่พี งึ ประส
(๕-๖ ปี)

9.1.2 เลา่ เป็นเร่ืองรา

ตอ่ เน่อื งได้

ตัวบ่งชีท้ ี่ 9.2 9.2.1 อา่ นภาพ สัญล
อ่าน เขยี นภาพและ คำ ด้วยการช้หี รือกวา
สญั ลกั ษณ์ได้ จุดเร่ิมตน้ และจดุ จบข
ขอ้ ความ

9.2.2 เขยี นชือ่ ของตน
แบบ เขยี นข้อความดว้
คิดขน้ึ เอง

๘๔

สงค์ สาระที่ควรเรียนรู้ สาระการเรียนรู้
าว - เลา่ เรื่องราวใน
สถานการณ์ตา่ งๆ เปน็ ประสบการณส์ ำคัญ
ลักษณ์ ประโยคได้อยา่ งต่อเนือ่ ง
าดตามอง ให้ผ้อู ื่นฟังและเข้าใจไดใ้ น การใช้ภาษา
ของ เหตุการณน์ ้ันๆ 1. การพดู แสดงความคดิ ความรู้สกึ และความ
ตอ้ งการ
นเองตาม - อ่านภาพกบั คำและ 2. การพดู กบั ผ้อู ่ืนเกย่ี วกับประสบการณข์ อง
วยวธิ ที ี่ สญั ลักษณ์ ตามบรรทดั ตนเองหรอื พูดเล่าเร่อื งราวเก่ียวกับตนเอง
ได้ถกู ต้อง 3. การพดู อธบิ ายเก่ียวกบั สงิ่ ของ เหตกุ ารณ์
และความสมั พันธ์ของสิง่ ต่าง ๆ
- การเขยี นชอ่ื ของตนเอง 4. การพดู อยา่ งสร้างสรรคใ์ นการเลา่ และการ
ตามแบบ กระทำตา่ งๆ
5. การพูดเรยี งลำดบั คำเพือ่ ใช้ในการสอ่ื สาร

การใช้ภาษา
1. การพูดเรียงลำดบั คำเพ่ือใชใ้ นการส่อื สาร
2. การอ่านภาพหนังสือภาพ นทิ าน หลากหลาย
ประเภท/รูปแบบ
3. การอ่านและช้ีข้อความโดยกวาดสายตาตาม
บรรทัดจากซา้ ยไปขวา จากบนลงลา่ ง

การใช้ภาษา
1. การเหน็ แบบอย่างการเขยี นทถ่ี ูกตอ้ ง
2. การเขยี นร่วมกันตามโอกาสและการเขยี น
อสิ ระ
3. การเขียนคำทม่ี ีความหมายกบั ตวั เด็ก/คำ
คนุ้ เคย



พฒั นาการ มาตรฐาน ตวั บง่ ช้ี สภาพทพ่ี ึงประส
(๕-๖ ปี)
ดา้ น มาตรฐานที่ 10
สตปิ ญั ญา มคี วามสามารถใน ตวั บ่งชท้ี ่ี 10.1 10.1.1 บอกลักษณะ
การคิดที่เปน็
พืน้ ฐานในการ มคี วามสามารถในการ ส่วนประกอบ การ
เรียนรู้
คิดรวบยอด เปล่ียนแปลงหรือความ

ของสง่ิ ต่าง ๆจากการส

โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั

10.1.2 จับค่แู ละเปร
ความแตกตา่ งและควา
เหมือน โดยใช้ลกั ษณะ
พบสองลกั ษณะข้นึ ไป

10.1.3 จำแนกและจ
ตา่ งๆโดยใชต้ ัง้ แตส่ อง
ขึ้นไปเปน็ เกณฑ์


Click to View FlipBook Version