The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Talanueaschool, 2022-06-01 22:56:52

หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6

หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง โรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน้ำดี ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6

หน่วยการเรยี นรู้ เร่อื งโรคพยาธใิ บไมต้ ับและมะเรง็ ทอ่ น้�ำดรี ะดับช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 - 6 (ฉบบั ปรบั ปรงุ คร้งั ท่ี 2 พทุ ธศักราช 2560)

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551

ภาพท่ี 6 อตั ราความชกุ โรคพยาธใิ บไมต้ บั เขตสุขภาพที่ 7 ปี 2557
ที่มา : สำ� นกั งานป้องกนั ควบคุมโรคท่ี 7 จังหวดั ขอนแกน่

เม่ือพจิ ารณาอตั ราการตดิ เชอ้ื จ�ำแนกรายกลุม่ อายุ พบว่า กลมุ่ อายุ มีอตั ราการติดเช้ือมากทส่ี ุด คอื กลมุ่ อายุ
40 – 60 ปี

ภาพที่ 7 อัตราความชุกโรคพยาธใิ บไมต้ บั เขตสขุ ภาพท่ี 7 จำ� แนกรายกล่มุ อายปุ ี 2558
ท่มี า : ส�ำนักงานปอ้ งกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวดั ขอนแก่น

พฤตกิ รรมสขุ ภาพและการปอ้ งกนั ควบคุมโรค
พฤตกิ รรมการกนิ ของกลมุ่ ตวั อยา่ งในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนบน พบวา่ ประชาชนมกี ารกนิ กอ้ ยปลาดบิ
ร้อยละ 53.2 กินลาบปลาดบิ รอ้ ยละ 53.2 กนิ ส้มตำ� ใส่ปลารา้ ดิบร้อยละ 86.7 และกินปลาส้มดิบรอ้ ยละ 56.1 ในสว่ น
การปอ้ งกนั ควบคุมโรคในพื้นท่ี พบว่า การเคยกนิ ยารกั ษาพยาธใิ บไมต้ บั พบรอ้ ยละ 10.5 และสว่ นใหญ่ซอื้ มาจากรา้ น
ขายยาในหมบู่ า้ น การเคยตรวจอจุ จาระพบไขพ่ ยาธใิ บไมต้ บั พบรอ้ ยละ 6 สว่ นการถา่ ยอจุ จาระในสว้ มทถี่ กู สขุ ลกั ษณะ
เมอ่ื อยู่นอกบ้าน พบวา่ มีการปฏบิ ตั ิเป็นประจำ� ร้อยละ 96.4

191

หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่ืองโรคพยาธิใบไมต้ ับและมะเรง็ ท่อนำ�้ ดีระดับช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 - 6 (ฉบบั ปรับปรงุ ครั้งที่ 2 พุทธศกั ราช 2560)

กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551

ตารางที่ 3 พฤตกิ รรมสขุ ภาพและการป้องกันควบคุมโรคของกลมุ่ ตวั อย่าง (n = 3,916)

พฤตกิ รรมสุขภาพและการป้องกนั ควบคุมโรค จำ� นวน ร้อยละ
1. การกินก้อยปลาดิบ
1,834 46.8
ไมก่ ิน 2,082 53.2
กิน
2. การกนิ ลาบปลาดบิ 1,834 46.8
ไม่กิน 2,082 53.2
กิน
3. การกนิ ส้มตำ� ใสป่ ลารา้ ดิบ 520 13.3
ไม่กิน 3,396 86.7
กนิ
4. การกินปลาสม้ ดบิ 1,720 43.9
ไม่กิน 2,196 56.1
กนิ
5. การเคยตรวจอุจจาระแล้วพบพยาธิใบไมต้ บั 3,682 94.0
ไมพ่ บ 234 6.0
พบ
6. การเคยกินยารักษาพยาธิใบไม้ตบั 3,505 89.5
ไมก่ นิ 411 10.5
กิน
7. ในกรณีทเ่ี คยกินยาไดย้ ามาจาก 139 33.8
รพ.สต., รพช. , รพท. 9 2.2
หนว่ ยตรวจพยาธเิ คลือ่ นที่ 47.5
ซือ้ ยาจากรา้ นขายยาในหมู่บา้ น 195 16.5
อน่ื ๆระบุ 68
8. การถา่ ยอจุ จาระในส้วมทถ่ี ูกสุขลักษณะเม่ืออยู่ทบ่ี ้าน 0.7
ไมเ่ คยปฏบิ ัติเลย 27 2.9
ท�ำเปน็ บางคร้งั 115
9. การถา่ ยอุจจาระในส้วมทถ่ี กู สขุ ลักษณะเม่ืออยนู่ อกบา้ น 0.7
ไมเ่ คยปฏิบตั ิเลย 26 2.9
ทำ� เปน็ บางครัง้ 115 96.4
ทำ� เปน็ ประจ�ำ 3,775

192

หนว่ ยการเรียนรู้ เรอื่ งโรคพยาธิใบไมต้ บั และมะเร็งท่อน�้ำดรี ะดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 (ฉบับปรับปรุงครง้ั ท่ี 2 พุทธศักราช 2560)

กลุ่มสาระการเรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551

จากการเก็บขอ้ มูลเชงิ คณุ ภาพในพ้ืนที่ พบวา่ ประชาชนยังคงกินปลาดบิ เนอ่ื งจาก ความอร่อย การมยี ารกั ษา
พยาธิ และมีความเชื่อว่าการรบั ประทานดบิ จะทำ� ใหร้ ่างกายแข็งแรง
โสตาย มนั แซบ่ ประชาชนสว่ นใหญย่ งั คงกนิ ปลาดบิ กนั อยแู่ ละถอื วา่ เปน็ เรอ่ื งปกติ เชน่ กอ้ ยปลาดบิ ลาบปลา
ดบิ หรือปลาร้าดบิ เป็นต้น โดยใหเ้ หตผุ ลว่า อรอ่ ย ตดิ ใจในรสชาด ดังค�ำพดู ของประชาชนทีส่ ะท้อนถึงพฤติกรรมการ
กินปลาดบิ ในขณะทีส่ นทนากลมุ่ ว่า “โสตาย มนั แซบ่ ก้างกะบม่ ี เนอื้ ปลาหวาน นัว ตา่ งกบั กนิ สกุ ถา้ เฮาเอาปลาไปเฮด็
สุก กา้ งกะหลาย บ่แซ่บ” ชาวบ้านคนอนื่ ๆ เห็นด้วยกับค�ำพดู น้ี นอกจากนี้ “เคยกนิ ตะพ่อตะแม่ กะบ่เป็นหยงั กินสุก
ก้างหลายติดคอกนิ ดบิ มนั แซบ่ ” และจากการสมั ภาษณเ์ ด็กหน่มุ อายุ 16 ปที ่ีตดิ เช้ือพยาธใิ บไมต้ ับท่ไี ดส้ ะท้อนมุมมอง
ของการกินดิบวา่ “เกดิ มาผมกเ็ ห็นพ่อกะแม่กนิ ผมกเ็ ลยกนิ น�ำ กนิ บ่อยๆ เลยติดใจ ปลามันสด เนอ้ื หวานดี บ่มกี า้ งก็
เลยกินมาเร่ือยๆ ก็ไมเ่ หน็ เปน็ ไร” นอกจากน้ีประชาชนในพ้นื ท่ี สะท้อนว่า “ในชว่ งหนา้ ที่มปี ลาเยอะๆ เช่น หน้าฝน
พวกผมจะน�ำปลาทีจ่ บั ไดเ้ ยอะๆ มาหมักไวท้ ำ� เป็นปลาร้า ปลาจอ่ ม เกบ็ ไวก้ นิ นานๆ ส่วนปลาดบิ จะกินนานๆ ครงั้ เวลา
พบปะสังสรรคก์ ันระหวา่ งเพ่อื นฝงู ครับของดไี ม่ได้กนิ บ่อย” จากการสงั เกตประชาชนในพ้ืนทม่ี ีการรับประทานปลาร้า
เกือบทุกหลังคาเรือน และถือว่าเป็นเร่ืองปกติ ในส่วนการรับประทานก้อยปลาดิบจะรับประทานในช่วงท่ีมีกิจกรรม
ส�ำคัญๆ ในพื้นทเี่ ชน่ งานเล้ยี งหรอื การสังสรรคร์ ะหวา่ งเครือญาตหิ รอื เพ่อื นฝงู
มียากนิ ประชาชนยงั คงมพี ฤตกิ รรมการกนิ ปลาดบิ เนอ่ื งจากสามารถไปซือ้ ยารกั ษาพยาธไิ ดง้ ่าย ก็เลยไมก่ ลัว
การตดิ เชอื้ พยาธใิ บไมต้ บั ยารกั ษาพยาธใิ บไมต้ บั หรอื ยารกั ษาพยาธทิ กุ ชนดิ สามารถซอ้ื ไดจ้ ากรถทมี่ าเรข่ ายยาในหมบู่ า้ น
รา้ นขายของชำ� อสม.หรอื รพ.สต. เปน็ ตน้ สง่ ผลใหป้ ระชาชนในพนื้ ทม่ี กี ารกนิ ยารกั ษาพยาธปิ ลี ะหนงึ่ ถงึ สองครงั้ ดงั คำ�
พูดที่ชาวบ้านสะท้อนในขณะสนทนากลุ่มว่า “บ่ย่านดอกพยาธิ เพราะว่ามียากิน หลังจากผมกินก้อยปลาขาวนาไป
สองสามเดอื น ถา้ รสู้ ึกวา่ ท้องไส้ไม่ดี เช่น แน่นอดึ อัด ไม่สบายทอ้ ง กจ็ ะไปซ้อื ยาถ่ายพยาธมิ ากินเอง กท็ ำ� แบบนี้มานานแลว้
จะกินปีละสองถึงสามคร้ังต่อปี” ชาวบ้านคนอื่นๆ เห็นด้วยกับค�ำพูดน้ีนอกจากน้ี “ผมบ่ย่านดอกพยาธิ บ่เคยเห็นตัว
จกั เทอ่ื สมยั นมี้ ยี าดี กนิ ไปโลด” ประชาชนในพนื้ ทมี่ กี ารบอกตอ่ ๆกนั ในเรอื่ งการซอ้ื ยารกั ษาพยาธไิ มต้ บั มารบั ประทานเอง
แหล่งที่นิยมบอกต่อๆ ให้ไปซื้อมากที่สุดคือร้านขายยาในตลาดในอ�ำเภอโดยไม่ต้องไปตรวจอุจจาระโดยให้เหตุผลว่า
เสียเวลาไปตรวจท่โี รงพยาบาล ซ้ือยามารกั ษาเลย
กินดิบร่างกายแขง็ แรง ประชาชนในพนื้ ท่ีมีความเชอ่ื วา่ การกินปลาดบิ ท�ำให้ร่างกายแข็งแรง ทำ� งานไดด้ ี วยั
หนมุ่ สาวสามารถบรโิ ภคปลาดบิ ไดเ้ พราะรา่ งกายมคี วามตา้ นทานและจะไปชว่ ยเสรมิ ใหแ้ ขง็ แรงมากยง่ิ ขนึ้ สว่ นเดก็ และ
ผสู้ งู อายไุ มค่ วรกนิ ดบิ เพราะความตา้ นทานของรา่ งกายไมด่ ี ดงั คำ� พดู หนงึ่ ทส่ี ะทอ้ นขนึ้ ในขณะสนทนากลมุ่ วา่ “คนหนมุ่
คนสาวกินได้ เพราะธาตุไฟดี เฮ็ดให้แข็งแรง เด็กน้อยกับผู้เฒ่า ห้ามกินธาตุยังอ่อนอยู่” นอกจากนี้ ประชาชนมี
ความเชอื่ ว่า “ให้ผมเลกิ กนิ ปลาดบิ ผมเลกิ ไมไ่ ด้ดอก พอเหน็ หมู่กนิ ผมก็นกึ อยากกนิ กินแล้วแข็งแรง เฮ็ดเวยี กบเ่ มอื่ ยเลย”
สอดคลอ้ งกบั คำ� พูดหนง่ึ ทสี่ ะทอ้ นขึน้ ขณะสมั ภาษณ์ “กนิ ดบิ เฮ็ดให้มเี ฮอื มีแฮง (แข็งแรง) บ่ย่านดอกพยาธิ บ่เคยเหน็ โต
จกั เทอื่ ” ประชาชนคนอนื่ ๆเหน็ ดว้ ยกบั คำ� พดู น้ี จากการสงั เกตการณใ์ นพนื้ ท่ี พบวา่ มชี ายวยั กลางคนนง่ั ลอ้ มวงกนิ เหลา้
ดว้ ยกันประมาณ 9-10 คน ชนิดอาหารทก่ี ำ� ลงั รบั ประทานคือก้อยปลาซวิ
กนิ มาโดน เลกิ บไ่ ด้ ประชาชนในภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนบนสว่ นใหญม่ วี ธิ กี ารถนอมอาหารประเภทปลา
ทส่ี ามารถหาไดใ้ นชมุ ชนเพอื่ เกบ็ ไวร้ บั ประทานนานๆโดย การทำ� ปลารา้ ปลาจอ่ ม ปลาสม้ เปน็ ตน้ เกอื บทกุ หลงั คาเรอื น
จะกนิ ปลารา้ สว่ นประกอบของอาหารทกี่ นิ จะมปี ลารา้ รว่ มดว้ ย อยา่ งไรกต็ ามปลารา้ ทปี่ ระชาชนหมกั เองจะหมกั ไวน้ าน
เกอื บหนงึ่ ปีถงึ สองปถี งึ จะนำ� มากิน นอกจากนพ้ี บวา่ ปลาส้มเปน็ อาหารทปี่ ระชาชนชอบกนิ โดยจะหมักปลาขาวสรอ้ ย
ไวป้ ระมาณ 3-7 วนั และจะนำ� มารบั ประทานกบั ขา้ วเหนยี วรว่ มกบั พรกิ ดบิ โดยทไี่ มไ่ ดท้ ำ� ใหส้ กุ กอ่ น ดงั คำ� พดู ของชาวบา้ น
ท่านหนึ่งสะท้อนข้ึนขณะสนทนากลุ่ม “ปลาแดก (ปลาร้า) ผมกินมาตั้งแต่จ�ำความได้ กินทุกมื้อ ติดแล้วครับกินทุก

193

หนว่ ยการเรยี นรู้ เรื่องโรคพยาธใิ บไมต้ ับและมะเร็งทอ่ นำ้� ดรี ะดับชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 - 6 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ครงั้ ท่ี 2 พทุ ธศกั ราช 2560)

กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ุขศึกษาและพลศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

หลงั คาเรือน” นอกจากนี้ “นึง่ ข้าวเหนยี วฮ้อนๆ กินกับปลาสม้ กบั บกั พรกิ ดิบ แซ่บหลายครับกนิ มาโดนแล้วครับ” จาก
การสังเกตการณ์ในพ้ืนที่ พบว่าปัจจุบันปลาร้าที่ขายในท้องตลาดจะหมักนานประมาณ 2-3 เดือน ก็จะน�ำมาขายให้
ประชาชน และเมนูสม้ ตำ� ใสป่ ลาร้าดิบกเ็ ปน็ เมนยู อดฮติ ของประชาชนในพ้ืนที่
เอกสารอา้ งองิ
สถาบันมะเร็งแห่งชาติกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. Cancer in Thailand 2550-2552. Retrieved 2

พฤศจิกายน 2557 from http://www.nci.go.th/th/cancer_record/cancer_rec1.html
ส�ำนกั นโยบายและยทุ ธศาสตร์ กระทรวงสาธารณสขุ . สถติ กิ ารเกดิ และสาเหตกุ ารตายทสี่ �ำคญั ของประเทศไทยปี 2555.

Retrieved 2 ตุลาคม 2557 from http://bps.ops.moph.go.th/index.php?mod=bps&doc=5
Sriamporn S, Parkin DM, Pisani P, et al. A prospective study of diet, lifestyle, and genetic factors and

the risk of cancer in Khon Kaen Province, northeast Thailand: description of the cohort. Asian
Pac J Cancer Prev 2005; 6: 295-303
Sripa B, Pairojkul C. Cholangiocarcinoma: lessons from Thailand. Curr OpinGastroenterol 2008;24:
349-56
ฐิติมา วงศาโรจน์ ดวงเดือน ไกรลาศ พงศ์ราม รามสูตร และคณะ. การศึกษาสถานการณ์โรคหนอนพยาธิและ
โปรโตซัวในล�ำไสใ้ นประเทศไทยปี พ.ศ.2552. The 96 Years of Opisthorchiasis: Past, Present and
Future InternationalCongress of Liver Flukes 7-8 March 2011, Pullman Raja Orchid Hotel,
KhonKaen, Thailand
Kesorn Thaewnongiew, Seri Singthong, Saowalux Kutchamart, Sasithorn Tangsawad, Supannee
Promthet, Supan Sailugkum, Narong Wongba. Prevalence and Risk Factors for Opisthorchis-
viverrini Infections in Upper Northeast Thailand.Asian Pac J Cancer Prev, 15 (16), 6609-6612

194

ภาคผนวก ค



หนว่ ยการเรียนรู้ เร่ืองโรคพยาธิใบไมต้ บั และมะเรง็ ท่อน้�ำดีระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 - 6 (ฉบบั ปรบั ปรุงครง้ั ที่ 2 พทุ ธศกั ราช 2560)

กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั๑ร๕าช๕2551

แบบประเมนิ การนําเสนอผลงาน

กลุ่มท่ี...................ช่ือกลุ่ม............................................ โรงเรียน ................................................................
ช่ือสมาชิกกลมุ่
๑. ............................................................................ ๖. ...........................................................................
๒. ............................................................................ ๗. ...........................................................................
๓. ............................................................................ ๘. ...........................................................................
๔. ............................................................................ ๙. ...........................................................................
๕. ............................................................................ ๑๐. ........................................................................
คําชแ้ี จง ให้ทาํ เครอ่ื งหมาย √ ลงในชอ่ งระดับการประเมินตามความจริง
เกณฑใ์ หค้ ะแนน
คะแนน ๑๖ – ๒๐ ดีมาก
คะแนน ๑๑ – ๑๕ ดี
คะแนน ๖ – ๑๐ พอใช้
คะแนน ๐ – ๕ ปรับปรุง
ระดบั การประเมิน
ลําดับ รายการประเมนิ ดมี าก (๔) ดี (๓) พอใช้ (๒) ปรบั ปรงุ (๑)

๑ กลวธิ กี ารนาํ เสนอ
๒ เน้ือหา
๓ สือ่ และอปุ กรณ์
๔ การยอมรับฟังความคดิ เห็น
๕ ผลสําเร็จของงาน
รวม
รวมคะแนน
สรปุ ผลการประเมิน

ข้อคิดเหน็ / ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เติมอ่ืนๆ
...........................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ผู้ประเมิน
(..........................................................)

วันท่ี ........../................./..............

197

หน่วยการเรียนรู้ เรื่องโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเรง็ ท่อน�้ำดีระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 - 6 (ฉบับปรบั ปรุงคร้งั ที่ 2 พุทธศักราช 2560)

กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551

เกณฑก์ ารประเมินการนำ� เสนอผลงาน

ประเดน็ ดีมาก (๔) เกณฑก์ ารให้ระดับคะแนน ปรบั ปรุง (๑) นำ้� หนัก
การประเมิน ดี (๓) พอใช้ (๒) คะแนน
ขาดหรือไม่
๑. กลวิธีการ ๑.มีการน�ำเขา้ สู่เนื้อเร่ือง ขาดหรือไม่ชัดเจน ขาดหรอื ไมช่ ดั เจน ชดั เจน มากกวา่ ๒
นำ� เสนอ ๒ ขั้นตอน
๒.มคี วามสัมพนั ธก์ ับเนือ้ เร่อื ง ๑ ขนั้ ตอน ๒ ขนั้ ตอน ๓
ขาดหรือไม่
๓.มีความม่นั ใจในการนำ� เสนอ ชดั เจน มากกวา่ ๒
๒ ขั้นตอน
๒. เนอื้ หา ๑.เนอ้ื หาถูกต้องครบถ้วน ขาดหรือไม่ชัดเจน ขาดหรอื ไม่ชดั เจน
๒.รายละเอียดชดั เจน ขาดหรอื ไม่
๓.มีสาระที่เปน็ ประโยชน์ ๑ ข้ันตอน ๒ ขั้นตอน ชัดเจน มากกวา่
๒ ข้นั ตอน
๓. สอื่ และ ๑.เหมาะสมและสอดคล้องกับ ขาดหรอื ไม่ชัดเจน ขาดหรือไม่ชัดเจน
อปุ กรณ์ เนื้อหา ๑ ขั้นตอน ๒ ขน้ั ตอน
๒.มคี วามเหมาะสมกบั ผู้เรยี น
๓.สื่อมีความนา่ สนใจ

๔. การยอมรับ แนวคิดแปลกใหม่ไม่เหมือน แนวคิดมีการ แนวคดิ มีการ เลียนแบบ ๔
ดัดแปลงจาก ของเดิมท่ีมีอยู่
ฟงั ความคดิ เหน็ ใคร ดดั แปลงจาก ของเดมิ เปน็
บางส่วน
ของเดมิ

๕. ความสำ� เรจ็ พูดจบเนอื้ หาในเวลาที่กำ� หนด ใช้เวลามากหรือ ใช้เวลามากหรอื ใชเ้ วลามากหรอื ๑
นอ้ ยกวา่ ก�ำหนด น้อยกว่าก�ำหนด
ของงาน นอ้ ยกว่าก�ำหนด ไม่เกิน ๑๐ นาที มากกวา่ ๑๐ นาที

ไมเ่ กิน ๕ นาที

198

หน่วยการเรียนรู้ เรอื่ งโรคพยาธิใบไมต้ ับและมะเรง็ ทอ่ น�้ำดีระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 - 6 (ฉบับปรบั ปรงุ ครั้งที่ 2 พทุ ธศักราช 2560)

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
๑๕๗

แบบประเมนิ พฤติกรรมการทํางานกลมุ่

กลมุ่ ท่ี ........................ชอ่ื กลมุ่ ............................................โรงเรยี น................................................................
สมาชิกในกลมุ่ ๑. ..................................................๒. ...................................................................

๓. ..................................................๔. ...................................................................
๕.................................................... ๖. ...................................................................

คาํ ช้แี จง: ใหน้ ักเรยี นทําเคร่ืองหมาย  ในชอ่ งที่ตรงกบั ความเป็นจริง

พฤติกรรมทีส่ งั เกต คะแนน ๑
๓๒

๑. มีสว่ นรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็
๒. มีความกระตือรอื ร้นในการทํางาน
๓. รบั ผิดชอบในงานที่ได้รบั มอบหมาย
๔. มขี ้นั ตอนในการทาํ งานอยา่ งเป็นระบบ
๕. ใชเ้ วลาในการทํางานอย่างเหมาะสม

รวม

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

พฤติกรรมทที่ าํ เป็นประจาํ ให้ ๓ คะแนน
พฤติกรรมทที่ าํ เป็นบางคร้งั ให้ ๒ คะแนน
พฤตกิ รรมที่ทํานอ้ ยครง้ั ให้ ๑ คะแนน

เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดบั คุณภาพ ดี
คะแนน ๑๓-๑๕ ระดับคุณภาพ ปานกลาง
คะแนน ๘-๑๒ ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง
คะแนน ๕-๗

199

หนว่ ยการเรยี นรู้ เรือ่ งโรคพยาธใิ บไมต้ ับและมะเร็งท่อน�้ำดรี ะดับชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 - 6 (ฉบับปรับปรงุ คร้ังท่ี 2 พทุ ธศักราช 2560) ๑๕๘

กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานของผเู้ รยี นเปน็ รายบคุ คล

คาํ ชแี้ จง ผูส้ อนสังเกตการทํางานของนักเรียน โดยทาํ เคร่อื งหมาย  ลงในช่องที่ตรงกับความเป็นจริง

การมสี ว่ น การรับฟัง ความรับ
พฤตกิ รรม รว่ มแสดง ความคดิ ผดิ ชอบ
ความสนใจ ความคดิ เหน็ ของ การตอบ ต่องาน รวม
ชอื่ -สกุล ในการเรียน เห็นในการ คาํ ถาม ทีไ่ ด้รบั คะแนน
๑. ๒๑๐ อภปิ ราย ผอู้ น่ื ๒๑๐
๒. ๒๑๐ ๒๑๐ มอบหมาย
๓. ๒ ๑ ๐ ๑๐
๔.
๕.
๖.
๗.
๘.
๙.
๑๐.

เกณฑก์ ารประเมนิ คะแนน ๘-๑๐ ระดับคุณภาพ ดี
คะแนน ๕-๗ ระดับคุณภาพ ปานกลาง
คะแนน ๐-๔ ระดบั คณุ ภาพ ปรับปรงุ

ลงชอ่ื ……………………………………………………
(………………………………………………….)
................/......................./.............
ผูป้ ระเมิน

200

หนว่ ยการเรียนรู้ เรอื่ งโรคพยาธิใบไมต้ บั และมะเรง็ ทอ่ นำ�้ ดีระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 - 6 (ฉบับปรบั ปรุงครั้งท่ี 2 พทุ ธศักราช 2560)

กลมุ่ สาระการเรียนรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
๑๕๙

แบบประเมนิ ความพงึ พอใจ

การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนตามหลกั สูตรโรคพยาธิใบไมใ้ นตบั และมะเรง็ ท่อนา้ํ ดี จงั หวัดขอนแกน่

๑. สถานภาพผตู้ อบ ( ) นักเรยี น ชน้ั ...................
( ) ผู้บรหิ าร ( ) ครู
( ) ผปู้ กครอง ( ) อน่ื ๆ (ระบุ) ..................................
๒. เพศ
( ) ชาย ( ) หญงิ
๓. คาํ ช้ีแจง ให้ทาํ เครื่องหมาย  ลงในช่องประเมนิ ระดับความพงึ พอใจตามความจริง
เกณฑ์ให้คะแนน
มาก ๓ คะแนน ปานกลาง ๒ คะแนน น้อย ๑ คะแนน

ขอ้ ท่ี รายการประเมนิ ระดับความพึงพอใจ
๑ ผเู้ รยี นมีความเข้าใจจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๓ ๒๑
๒ ผูเ้ รยี นมีความเขา้ ใจเน้ือหาสาระท่ไี ดเ้ รยี นรู้
๓ ผเู้ รียนมคี วามสามารถนาํ ไปใช้ประโยชน์ใน

ชวี ิตประจาํ วนั
๔ กจิ กรรมการเรยี นการสอน สง่ เสรมิ ให้ผูเ้ รียนร้จู กั

คดิ วเิ คราะห์ และมีความคิดรเิ รม่ิ สรา้ งสรรค์
๕ ผู้เรยี นมีจติ สาธารณะ จิตอาสา อยากช่วยเหลอื

ผอู้ ่นื และสงั คม
๖ ผูเ้ รียนทําให้ร้จู กั การทํางานร่วมกับผอู้ น่ื
๗ ผู้เรยี นทาํ ใหร้ ู้จกั การวางแผนทํางาน
๘ ผ้เู รียนรู้สึกประทบั ใจผลการทาํ งานกลมุ่
๙ ผู้เรยี นไดร้ ับคาํ ปรกึ ษาและช่วยเหลือการทํางาน

กลุ่มจากครผู สู้ อนด้วยดี
๑๐ กจิ กรรรรมมกกาารรเรเรยี ยีนนกการาสรสอนอนตาตมาหมลหกั ลสกั ตู สรูตสรรสา้ งรภา้ มูงคิ มุ้ กนั

ขภอูมงิคตมุ้ นกเนัอขงอคงรตอนบเคอรงวั คชรอมุ บชนครแัวละชสมุ งั ชคนมแไลดะ้ สังคมได้

ขอ้ คิดเห็น / ขอ้ เสนอแนะเพ่มิ เตมิ อืน่ ๆ
...........................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................

201

หน่วยการเรยี นรู้ เร่อื งโรคพยาธิใบไมต้ ับและมะเร็งท่อน้�ำดรี ะดบั ช้ันประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 (ฉบับปรบั ปรงุ คร้งั ที่ 2 พุทธศักราช 2560) ๑๖๐

กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ุขศึกษาและพลศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551

แบบประเมินสมรรถนะของผู้เรียน

วิชา .................................................................................... ภาคเรยี นท่ี ........................... ปกี ารศกึ ษา ............................
ช่อื – สกุล ............................................................โรงเรยี น..................................ช้นั ........................... เลขที่ ..................
คาํ ชแี้ จง ๑. ใหน้ ักเรียนประเมินตนเอง แลว้ ทาํ เครื่องหมาย  ลงในชอ่ งระดับคะแนน
๒. ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี น แล้วทาํ เคร่อื งหมาย  ลงในช่องระดบั คะแนน
๓. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ัติชดั เจนสมํา่ เสมอ ๓ คะแนน
พฤตกิ รรมท่ีปฏบิ ัตชิ ัดเจนและบ่อยครง้ั ๒ คะแนน
พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ๑ คะแนน
นักเรยี นประเมนิ ครผู สู้ อนประเมิน
ระดับคะแนน ระดบั คะแนน สรปุ
สมรรถนะ รายการประเมิน ดเี ยี่ยม ดี ผา่ น สรปุ ดีเย่ยี ม ดี ผา่ น สรปุ รวม

๑. ๑.๑ มคี วามสามารถในการรบั ส่งสาร (๓) (๒) (๑) (๓) (๒) (๑)

ความสามารถ ๑.๒ มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคดิ
ในการส่อื สาร ความเข้าใจของตนเองโดยใชภ้ าษาอย่างเหมาะสม

๑.๓ ใชว้ ิธกี ารสอื่ สารทเี่ หมาะสม

๑.๔ วิเคราะหแ์ สดงความคิดเหน็ อยา่ งเหมาะสม

๑.๕ เขยี นบนั ทึกเหตกุ ารณ์ประจาํ วันและเลา่ ให้เพอ่ื นฟังได้

๒. ๒.๑ มคี วามสามารถในการคดิ วเิ คราะห์ สังเคราะห์
ความสามารถ ๒.๒ มีทกั ษะในการคดิ นอกกรอบอย่างสรา้ งสรรค์
ในการคิด ๒.๓ สามารถคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ
๒.๔ มีความสามารถในการคดิ อยา่ งมีระบบ

๒.๕ ตัดสินใจแกป้ ัญหาเก่ียวกบั ตนเองได้

๓. ๓.๑ สามารถแก้ปญั หาและอปุ สรรคตา่ งๆ ท่เี ผชิญได้
ความสามารถ ๓.๒ ใช้เหตุผลในการแกป้ ัญหา
ในการ ๓.๓ เขา้ ใจความสมั พันธ์และการเปลย่ี นแปลงในสงั คม
แกป้ ญั หา ๓.๔ แสวงหาความรู้ ประยุกตค์ วามร้มู าใชใ้ นการปอ้ งกนั

และแก้ปญั หา
๓.๕ สามารถตดั สินใจไดเ้ หมาะสมตามวยั

๔. ๔.๑ เรียนรู้ด้วยตนเองได้เหมาะสมตามวัย
ความสามารถ ๔.๒ สามารถทาํ งานกลุ่มร่วมกบั ผอู้ ืน่ ได้
ในการใช้ ๔.๓ นําความรูท้ ีไ่ ด้ไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตประจาํ วัน
ทกั ษะชวี ติ ๔.๔ จัดการแก้ปญั หาและความขดั แยง้ ได้เหมาะสม

๔.๕ หลกี เลี่ยงพฤติกรรมไม่พงึ ประสงค์ที่ส่งผลกระทบตอ่ ตนเอง

๕. ๕.๑ เลอื กใช้เทคโนโลยีได้เหมาะสมตามวัย
ความสามารถ ๕.๒ มที กั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยี
ในการใช้ ๕.๓ สามารถนําเทคโนโลยไี ปใช้พฒั นาตนเอง
เทคโนโลยี ๕.๔ ใชเ้ ทคโนโลยีในการแก้ปญั หาอย่างสรา้ งสรรค์

๕.๕ มีคณุ ธรรม จริยธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี

สรปุ ผลการประเมนิ

ลงชอื่ .............................................................นกั เรียน ลงช่ือ ............................................................. ครผู สู้ อน
(...............................................................) (............................................................)
………………./…………………/………………. ………………./…………………/………………

202

หนว่ ยการเรียนรู้ เรื่องโรคพยาธใิ บไม้ตบั และมะเรง็ ท่อน้�ำดรี ะดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 - 6 (ฉบบั ปรับปรงุ ครั้งท่ี 2 พทุ ธศักราช 2560)

กลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551
๑๖๑

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

วิชา …………………………………………………….. ภาคเรยี นท่ี ........................... ปกี ารศกึ ษา .........................
ช่อื – สกลุ .........................................................โรงเรียน.......................................ช้นั ...................... เลขที่ ..................
คําชีแ้ จง ๑. ใหน้ กั เรยี นประเมนิ ตนเอง แลว้ ทําเคร่อื งหมาย  ลงในชอ่ งระดับคะแนน
๒. ให้ผูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน แลว้ ทําเครอื่ งหมาย  ลงในช่องระดบั คะแนน
๓. เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พฤตกิ รรมที่ปฏิบัตชิ ัดเจนสม่าํ เสมอ ๓ คะแนน
พฤตกิ รรมทีป่ ฏิบัติชดั เจนและบ่อยครง้ั ๒ คะแนน
พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ัตบิ างครง้ั ๑ คะแนน
คุณลกั ษณะ นกั เรียนประเมนิ ครูผ้สู อนประเมนิ
อันพงึ ระดับคะแนน ระดับคะแนน
ประสงค์ รายการประเมนิ ดเี ย่ยี ม ดี ผ่าน สรปุ ดีเยีย่ ม ดี ผา่ น สรุป สรุป
(๓) (๒) (๑) รวม
(๓) (๒) (๑)

๑. ๑.๑ มีความรกั และภมู ใิ จในความเปน็ ชาติ
รักชาติ ศาสน์ ๑.๒ ปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมของศาสนา
กษตั รยิ ์ ๑.๓ แสดงออกถงึ ความจงรกั ภกั ดีตอ่ สถาบัน
พระมหากษัตริย์
๒. ๒.๑ ปฏิบัติตามระเบยี บการสอนและไมล่ อกการบา้ น
ความซ่ือสตั ย์ ๒.๒ ประพฤติ ปฏบิ ัติ ตรงต่อความเปน็ จริงตอ่ ตนเอง
สุจรติ ๒.๓ ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงตอ่ ความเป็นจรงิ ต่อผู้อืน่
๓. ๓.๑ เข้าเรยี นตรงเวลา
มวี นิ ยั ๓.๒ แต่งกายเรยี บรอ้ ยเหมาะสมกบั กาลเทศะ
๓.๓ ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบยี บของห้อง
๔. ๔.๑ แสวงหาขอ้ มลู จากแหลง่ เรียนรตู้ า่ ง ๆ
ใฝเ่ รียนรู้ ๔.๒ มีการจดบันทึกความรู้อย่างเปน็ ระบบ
๔.๓ สรปุ ความรู้ไดอ้ ยา่ งมีเหตผุ ล
๕. ๕.๑ ใช้ทรพั ย์และสงิ่ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั
อยอู่ ย่าง ๕.๒ ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยัดและรูค้ ุณคา่
พอเพยี ง ๕.๓ ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยัดและมกี ารเกบ็ ออมเงนิ
๖. ๖.๑ มคี วามตง้ั ใจและพยายามในการทํางานทไ่ี ด้รบั
มุ่งม่นั ในการ มอบหมาย
ทํางาน ๖.๒ มีความอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพอ่ื
ความสาํ เรจ็
๗. ๗.๑ มีจิตสาํ นกึ ในการอนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมไทยและภูมิ
รักความเป็น ปญั ญาไทย
ไทย ๗.๒ เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัตติ ามวฒั นธรรมไทย
๘. ๘.๑ รจู้ กั การใหเ้ พอ่ื สว่ นรวมและเพอื่ ผอู้ น่ื
มีจติ ๘.๒ แสดงออกถงึ การมนี าํ้ ใจหรือการให้ความช่วยเหลือผอู้ ่นื
สาธารณะ ๘.๓ เข้ารว่ มกิจกรรมบาํ เพ็ญตนเพื่อส่วนรวมเมอื่ มโี อกาส
สรปุ ผลการประเมิน

ลงชอื่ .............................................................นกั เรียน ลงชือ่ ............................................................. ครผู สู้ อน
(...............................................................) (............................................................)
………………./…………………/………………. ………………./…………………/………………

203

หน่วยการเรียนรู้ เรื่องโรคพยาธใิ บไมต้ ับและมะเรง็ ทอ่ น้�ำดรี ะดับชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 - 6 (ฉบบั ปรับปรงุ ครั้งที่ 2 พทุ ธศักราช 2560) ๑๖๒

กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551

แบบประเมนิ ความสามารถในการอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขียน

วิชา ............................................................................. ภาคเรียนที่ ....................... ปกี ารศกึ ษา .........................

ชอื่ – สกุล ......................................................................................................ชั้น .............................. เลขที่ ...................

คาํ ชแ้ี จง ๑. ใหน้ กั เรยี นประเมินตนเอง แล้วทาํ เคร่ืองหมาย  ลงในช่องระดบั คะแนน
๒. ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียน แล้วทําเครือ่ งหมาย  ลงในช่องระดับคะแนน
๓. เกณฑก์ ารให้คะแนน
พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ดั เจนสมํา่ เสมอ ๓ คะแนน
พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ัตชิ ัดเจนและบ่อยครง้ั ๒ คะแนน
พฤตกิ รรมทป่ี ฏิบัติบางคร้งั ๑ คะแนน

นักเรียนประเมิน ครผู ูส้ อนประเมนิ
ระดับคะแนน ระดบั คะแนน สรปุ
ข้อ รายการประเมนิ ดเี ย่ยี ม ดี ผ่าน สรปุ ดีเยย่ี ม ดี ผา่ น สรุป รวม

๑ สามารถอา่ นเพ่อื การศึกษา คน้ ควา้ เพิ่มพูนความรู้ (๓) (๒) (๑) (๓) (๒) (๑)

ประสบการณแ์ ละการประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ ประจําวนั
๒ สามารถจบั ประเด็นสําคญั ลาํ ดับเหตกุ ารณ์จากการอ่าน
สื่อทม่ี คี วามซับซ้อน
๓ สามารถวเิ คราะหส์ ิ่งที่ผู้เขียนตอ้ งการสือ่ สารกับผู้อา่ น
และสามารถวพิ ากษใ์ ห้ข้อเสนอแนะในแงม่ มุ ตา่ งๆ
๔ สามารถประเมนิ ความน่าเชื่อถือ คุณคา่ แนวคดิ ทไ่ี ดจ้ าก
สง่ิ ทีอ่ ่านอยา่ งหลากหลาย
๕ สามารถแสดงความคิดเหน็ โต้แยง้ สรปุ โดยมขี ้อมูล
อธบิ าย สนับสนุนอย่างเพียงพอและสมเหตุสมผล
สรปุ ผลการประเมนิ

ลงชอ่ื .............................................................นักเรียน ลงชื่อ ............................................................. ครผู สู้ อน
(...............................................................) (............................................................)
………………./…………………/………………. ………………./…………………/………………

204

หนว่ ยการเรยี นรู้ เรื่องโรคพยาธใิ บไมต้ บั และมะเร็งทอ่ น้�ำดีระดับช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 - 6 (ฉบบั ปรบั ปรงุ คร้งั ที่ 2 พทุ ธศกั ราช 2560)

กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

สุขบัญญัติแหง่ ชาติ (National Health Disciplines) ๑๐ ประการ
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สขุ บญั ญตั แิ หง่ ชาติ หรอื ทคี่ นไทยรจู้ กั ในอดตี วา่ “กตกิ าอนามยั ” เปน็ แนวทางปฏบิ ตั ติ วั ดา้ นสขุ ภาพขน้ั พน้ื ฐาน
เพอ่ื สรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ และลดความเสย่ี งจากโรคภยั ไขเ้ จบ็ รวมทงั้ อนั ตรายตอ่ สขุ ภาพทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ ในชวี ติ ประจำ� วนั ซงึ่
คณะรัฐมนตรีฝ่ายสังคมได้มีการอนุมัติให้เป็นนโยบายระดับชาติเม่ือวันท่ี ๑๘ พฤษภาคม๒๕๓๙ และก�ำหนดให้วันที่
๒๘ พฤษภาคมของทกุ ปี เปน็ วนั สุขบญั ญัตแิ ห่งชาติ โดยมีเป้าหมายให้คนไทยทุกคน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน ได้รับ
การปลูกฝังและสร้างเสริมสุขภาพที่ถูกต้องต้ังแต่เยาว์วัย เพราะผู้ท่ีปฏิบัติตามสุขบัญญัติ ๑๐ ประการ จะเป็นคนมี
สขุ ภาพดี ทงั้ รา่ งกาย จติ ใจ และสงั คม ซงึ่ จะสง่ ผลใหม้ สี ขุ ภาพแขง็ แรงมสี มรรถภาพในการเรยี น การทำ� งาน และยงั ชว่ ย
ให้มภี มู ิตา้ นทานโรค ไม่เจบ็ ป่วยงา่ ยๆ ด้วย
ขอ้ กำ� หนดทเี่ ดก็ และเยาวชน ตลอดจนประชาชนทวั่ ไป พงึ ปฏบิ ตั อิ ยา่ งสมำ่� เสมอ จนเปน็ สขุ นสิ ยั เพอื่ ใหม้ สี ขุ ภาพ
ท้ังร่างกาย จิตใจ และสังคม ๑๐ ประการได้แก่
๑. ดแู ลรกั ษาร่างกายและของใชใ้ ห้สะอาด
๒. รกั ษาฟันให้แข็งแรงและแปรงฟันทกุ วันอยา่ งถกู ตอ้ ง
๓. ลา้ งมอื ใหส้ ะอาดกอ่ นกนิ อาหารและหลงั การขบั ถ่าย
๔. กินอาหารสุก สะอาดปราศจากสารอันตราย และหลกี เลีย่ งอาหารรสจดั สฉี ูดฉาด
๕. งดสูบบหุ ร่ีสรุ า สารเสพตดิ การพนัน และการสำ� ส่อนทางเพศ
๖. สร้างความสมั พนั ธ์ในครอบครวั ให้อบอนุ่
๗. ป้องกันอุบตั ภิ ยั ดว้ ยการไม่ประมาท
๘. ออกก�ำลงั กายสม่ำ� เสมอและตรวจสขุ ภาพประจ�ำปี
๙. ท�ำจติ ใจใหร้ ่าเริงแจ่มใสอยู่เสมอ
๑๐. มสี �ำนึกตอ่ สว่ นรวม รว่ มสรา้ งสรรค์สังคม

205

หนว่ ยการเรยี นรู้ เรื่องโรคพยาธใิ บไมต้ ับและมะเรง็ ท่อน�ำ้ ดรี ะดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 - 6 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ครงั้ ท่ี 2 พุทธศักราช 2560)

กล่มุ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขน้ั พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551

สถิตกิ ารเกิดโรคพยาธิใบไม้ตบั และมะเรง็ ท่อน้ำ� ดใี นประเทศไทย

โรคพยาธใิ บไม้ตบั ยังคงส่งผลกระทบตอ่ ประชาชนชาวไทย ทง้ั ต่อภาวะสุขภาพ เศรษฐกิจ และสงั คมพบมาก
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนอื ของประเทศไทย คาดว่าคนไทย รอ้ ยละ ๑๐ หรอื หกลา้ นคน ติดพยาธใิ บไม้ตบั
การเปน็ โรคพยาธใิ บไมต้ บั เปน็ ตน้ เหตหุ ลกั ทท่ี ำ� ใหค้ นไทยเปน็ โรคมะเรง็ ทอ่ นำ�้ ดสี งู สดุ ในโลก พยาธทิ กี่ อ่ ใหเ้ กดิ โรคพยาธิ
ใบไมต้ บั ท่ีสำ� คัญ คือ Opisthorchis viverrini จากการศกึ ษาข้อมลู ทางระบาดวิทยาของโรคใบไมต้ บั สถานการณโ์ รค
ลา่ สุดปี ๒๕๕๒ พบว่า ในภาพรวมระดบั ประเทศมคี วามชุก ร้อยละ ๘.๗ และพบผ้ปู ว่ ยโรคพยาธใิ บไมต้ ับ มากทส่ี ุด
ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื รอ้ ยละ ๑๘.๗ โดยพบในระดับหม่บู า้ นสูงถึงร้อยละ ๘๕.๒ รองลงมาคอื ภาคเหนือ รอ้ ยละ
๑๐ ระดับหม่บู า้ นสูงถึงร้อยละ ๔๕.๖ ดังนน้ั จึงกลา่ วไดว้ า่ ความชกุ ของโรคพยาธใิ บไม้ตับในพ้ืนท่ีภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื
ของประเทศไทยยงั มปี ัญหาสูงอยู่มาก ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั ข้อมูลการเกิดโรคมะเรง็ ท่อน้ำ� ดี
จากอัตราอุบัติการณ์ของโรคมะเร็งท่อน้�ำดีในประเทศไทย พบมากท่ีสุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ
ภาคเหนอื ผปู้ ว่ ยสว่ นใหญอ่ ยใู่ นชว่ งอายุ ๔๕-๕๕ ปี ซงึ่ อยใู่ นวยั ทำ� งานทส่ี ำ� คญั ของครอบครวั พบมากในเพศชายมากกวา่
เพศหญิง โดยเพศชายมีอตั ราอบุ ัติการณเ์ ปน็ ๓๘.๖ และเพศหญงิ เป็น ๑๔.๖ ตอ่ ประชากรแสนคน นอกจากน้ยี งั พบวา่
ผู้เสียชีวิตจากโรคมะเรง็ ตบั และทอ่ น้ำ� ดีในตบั สงู ถงึ ปลี ะประมาณ ๒๘,๐๐๐ ราย โดยในปี ๒๕๕๔ มผี ู้เสียชีวติ จากโรค
มะเร็งตับและท่อน�้ำดีในตับ จ�ำนวน ๑๔,๓๑๔ ราย มากท่ีสุดเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๗,๕๙๓ ราย รองลงมา
ภาคเหนอื ๒,๖๓๘ ราย
จากการศกึ ษาการกระจายของอบุ ตั กิ ารณข์ องมะเรง็ ทอ่ นำ�้ ดี จำ� แนกตามพน้ื ที่ ของจงั หวดั ขอนแกน่ พบวา่ เขต
ท่มี ีพนื้ ท่ีใกลเ้ คยี งแหล่งน้�ำมีอตั ราสูง ได้แก่ ชนบท บ้านไผ่ อุบลรัตน์ มอี ตั ราป่วย เป็น ๑๕๘.๒, ๙๒.๒และ ๘๔.๒ ตอ่
ประชากรแสนคนในเพศชาย และ ๕๒.๒, ๔๕.๖ และ ๒๖.๗ ต่อประชากรแสนคน ในเพศหญิง ดงั ตาราง

ที่ อำ� เภอ อตั ราอบุ ตั ิการณ์ ต่อประชากรแสนคน

๑ ชนบท เพศชาย เพศหญงิ
๒ บ้านไผ่
๓ อบุ ลรัตน์ ๑๕๘.๒ ๕๒.๒

๙๒.๒ ๔๕.๖

๘๔.๒ ๒๖.๗

ที่มา :
๑ ยุทธศาสตร์ ลดพยาธใิ บไมต้ ับ ก�ำจัดมะเรง็ ทอ่ น�้ำดี วาระคนอีสาน ปี ๒๕๕๕ ของกรมควบคุมโรค
กระทรวงสาธารณสขุ
๒ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั ขอนแกน่
206

หนว่ ยการเรียนรู้ เรือ่ งโรคพยาธใิ บไมต้ ับและมะเร็งทอ่ นำ้� ดีระดบั ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 - 6 (ฉบบั ปรบั ปรงุ คร้ังที่ 2 พทุ ธศกั ราช 2560)

กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
๑๖๕

สรภัญญะปอ้ งกนั โรค

เนื้อร้อง สมุ าลี เทย่ี งภกั ด์ิ ทาํ นองสรภญั ญะ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………

เชิญชวนมวลพี่นอ้ ง ไทยทัง้ ผองมาป้องกนั
โรคภยั ใกลเ้ รานั้น อยา่ ใหม้ นั มาราวี (ซํา้ )
จะนาํ พาใหส้ ุขศรี
กินอาหารสกุ เถิดหนา ก่อนรับประทานอาหารพลัน
ล้างมือสะอาดดี สว้ มเรามใี ชท้ ุกวนั
ไม่รบกวนมวลประชา
ขับถา่ ยใหถ้ กู ท่ี ตะเพียนนอ้ ยในธารา
พยาธทิ ัง้ หลายนัน้ มีตวั อ่อนพยาธิรา้ ย
มวลพี่นอ้ งไทยทัง้ หลาย
ปลาซิวและปลาสรอ้ ย ป้องกนั ไดถ้ า้ ช่วยกัน
ตวั การเกดิ ปัญหา

หลกี ไกลอยา่ ไดล้ อง
โรคตบั จะมลาย

207

หนว่ ยการเรียนรู้ เร่ืองโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเร็งท่อน�้ำดรี ะดับชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 - 6 (ฉบับปรับปรุงคร้งั ท่ี 2 พทุ ธศักราช 2560)

กลุ่มสาระการเรยี นรูส้ ุขศึกษาและพลศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551

เพลงโรคพยาธิใบไมต้ ับ

เน้อื ร้อง สุมาลี เท่ียงภักด์ิ ท�ำนองเพลงนมจากเต้า
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….………

นี่โรคอะไรรูไ้ หมเธอจ๋า โรคเกิดจากปลานำ้� จดื ไงเลา่
ปลามเี กล็ดขาวนำ� เชือ้ ไมเ่ บา ทำ� สุกเถอะเราคณุ คา่ สารพัด
พยาธิใบไม้ตบั นัน้ น่ากลัว โรคระบาดท่วั ทัง้ คนและสตั ว์
มาเถอะพวกเรามารบี กำ� จดั โรคไมส่ ะพดั ถ้าทำ� สุกเอย

208

หนว่ ยการเรยี นรู้ เรื่องโรคพยาธใิ บไม้ตับและมะเร็งทอ่ นำ้� ดีระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 - 6 (ฉบบั ปรบั ปรงุ ครง้ั ที่ 2 พทุ ธศักราช๑๖2๗560)

กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551

เพลงโรคภยั ใกลต้ วั

เนื้อร้อง สุมาลี เที่ยงภักด์ิ ทาํ นองเพลงคณุ ลําไย
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….………………………………………...
เรามาเรยี นเรื่องโรคภยั ใกล้ไกลตวั เราน่หี นา
เกิดจากติดเช้ือนานา หนอนพยาธินี้หนาพาให้เป็นโรคตับ
โรคมะเรง็ ในทอ่ นํา้ ดี มากมีคนตายลาลับ
ปอ้ งกนั รกั ษา กาํ กบั จะไมล่ าวงลบั ลาโลกไปโดยง่าย
(พูด) โรคพยาธิใบไม้ในตบั เรามากาํ กับให้มนั หมดไป
อยา่ กนิ ปลาดิบเด็ดขาด โรคพยาธิระบาดรวดเรว็ ทันใด
ปลารา้ ก้อยปลา ปลาหมกั กนิ แล้วทกุ ข์หนกั เพราะเกิดโรคภัย
ปลานํา้ จดื กินสกุ เถิดอ้าย(ซ้ํา) อายจุ ะไดย้ นื ยาวต่อไป
พวกเรามาชว่ ยกนั เถดิ อยา่ ให้โรคเกิดข้ึนได้
ป้องกันรักษาง่ายๆ กินสุกเขา้ ไว้โรคภัยไมม่ ี

209

หนว่ ยการเรยี นรู้ เรอ่ื งโรคพยาธใิ บไมต้ บั และมะเรง็ ท่อน�ำ้ ดีระดบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 - 6 (ฉบับปรับปรงุ ครั้งที่ 2 พทุ ธศกั ราช 2560)

กลมุ่ สาระการเรียนรูส้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

๑๖๘

เพลง อสม. มาเตือน

เรียบเรียง ทนิ กร แสงนกิ ุล ทํานองลําภไู ท
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

โอย้ ..น้อ..ออละท่าน ผู้ฟังเอ๋ย บดั น้ี สิได้จาปน็ ขอ้ เปน็ คําเตือนจาก อสม.
รพ.สต.บ้านละว้า ละนา..เจา้ เอย โอน้อ พอ่ แม่เอยจงฟงั ไว้ต้ังจิตใจในบทเรยี น
ให้ทา่ นเพียรจดจําไวเ้ ป็นความรู้ อย่าได้หลไู่ ด้จ่มอสม.บห่ ลอกต้ม
จั่งเล่าให้แมใ่ หญฟ่ งั แม่เอย..นน้ั แลว้ ฟังเด้อ... แกง่ ละวา้ แต่กอ่ นเก่า
เพน่ิ เคยเวา้ ว่าอุดม ดินดีสมเฮ็ดนาดี ปลาน้ําซยี ามแลง้ หานําแก่งบเ่ คยขาด
เอาไปขายส่งตลาดธรรมชาติแก่งละว้า ไผไดม้ าเท่ยี วชม เปน็ ติดใจเดน้ อ้ ..พ่อเอย
โอนอ้ ขอพอ่ แม่จงฟังไว้ นา้ํ ใสไหลแก่งละวา้ ทั้งววั ควาย ปูปลา
ทงั้ คนถา่ ยใสล่ งหนองไหลเป็นฮอง วนตามนาํ้ บักหอยไซผดั ใหญต่ ามไขพ่ ยาธิเป็นตัวอ่อน
มนั ซอนไซใหญไ่ ว..แม่นโอวนี ่ันแล้ว...พอ่ เอย คนฟงั แมน่ พยาธิใบไม้ ตัวอ่อนมันติดตอ่ บแ่ ม่นพออยู่ท่อน้ัน
บัดแม่นมันใหญแ่ ล้วมนั กะแจวออกจากหอย คอยหมน่ ไชในเกล็ดปลา
ปลามีเกลด็ นล่ี ะหนาผใู้ ดก๋ นิ กะหยึ่งทอ้ ง เขาเลยฮ้องใบไม้ตบั ..นั่นแลว้ ....พ่อเอย...แมเ่ อย
โอน้ ้อ...คณาอาจารยจ์ าก มข. ไดม้ าต่องานวิจยั พยาธิใบไมใ้ นตับ เจา้ เอย..นน่ั แล้ว
โอนอ้ บ่แมน่ มาเว้าเลน่ เปน็ เร่ืองท่านตอ้ งฟัง ไผกนิ ดิบให้ระวงั อยา่ พลาดพล้งั พยาธริ า้ ย
ให้สงั เกตอาการกนิ อาหารแลว้ บ่ย่อย เจ็บบน่ อ้ ยชายโครงขวา เบอื่ อาหาร คล่ืนไส้
คนั เปน็ หลายรนุ แรง กะแหง่ เหลือง พุน่ แล้วท่านเอย...
โอน้อ ให้กินสกุ แตบ่ ดั น้ดี ิบดิบนบ่ี เ่ อาแลว้ ปลาใดแนวมันมีเกลด็ ให้เฮด้ สกุ แมน่ เอาไว้
ทง้ั ปลารา้ ปลาแดกไหให้แนใ่ จวา่ สุกแท้ แม่นยามอยากก้อยปลา อย่าลืมคําอสม.เวา้
ขอเท่าน้.ี .จงเจรญิ สขุ ภาพดีทกุ ทา่ นเอย ท่านเอย....

210

หน่วยการเรียนรู้ เรื่องโรคพยาธใิ บไม้ตบั และมะเรง็ ท่อน้�ำดีระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ 4 - 6 (ฉบบั ปรบั ปรุงครั้งที่ 2 พุทธศักราช 2560)

กลมุ่ สาระการเรยี นรูส้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551
๑๖๙

เพลงอยากเลกิ กนิ ดิบ

เรียบเรยี ง ทนิ กร แสงนกิ ลุ ทํานองเพลงหมอลาํ
------------------------------------------------------------- ------------------------------------------------------------
อา้ ยอยแู่ กง่ ละวา้ หาแต่ปลา เหมิดมอื้ เหมดิ เวน็
เจ้าหละ่ แนมอา้ ยบ่เห็น พอสเิ ปน็ ค่อู ยู่กับสาว
จบั ปลาไดห้ ลาย กส็ ะพายไปขายยามเซา้
แตง่ โตกะโก้ต่างเขา สาวใดเหล่ กะเบป๋ ากใส่
แสนดใี จเหลือ เมอ่ื อสม.มาขอเคียงข้าง
บอกสิมาสอยลา้ ง แก่งละว้า กลับมาสดใส
ยอ้ นบ้านเฮาน้ี แหลง่ นํ้ามี แต่พยาธิใบไม้
กินปลาดบิ แต่น้อยเทา่ ใหญ่ มาสอยเบ่งิ อา้ ย แนเดอ้ คนดี
ดิบอหี ลี ตาก้ี บ่แม่นมาเว้าเล่น
ไดป้ ลาโตเป็นเปน็ หกั คอไดใ้ สป่ ากทกุ ที
ตัง้ วงกันแล้ว เหล้าขาวแกว้ กะม่วนอีหลี
พอไดเ้ วา้ เท่าสมู่ ือ่ นี้ ว่ากนิ ดิบม.ี .อยูเ่ ทงิ หวั เรอื ...
ให้ อสม. ขอใหเ้ ผิ่น เซาเดอ้ น้องหลา่
ให้เผน่ิ เลิก กินสา ปลาดิบฮา้ ย มนั ร้ายเอาเหลือ
ขั่นเวา้ เผิน่ แลว้ ขน่ั เผนิ่ ฮู้ แล้วคงสิเสอื่
อยา่ ใหอ้ ้ายเสียใจเหลอื เมอื่ คนใกล้เฮา เขาเป็นมะเร็ง น้าํ ดี
ดบิ อีหลี อ้ายนี้ บ่แมน่ มาเวา้ เล่น
ไดป้ ลาโตเป็นเปน็ หักคอไดใ้ ส่ปากทกุ ที
ตงั้ วงกนั แล้ว เหล้าขาวแก้ว กะมว่ นอีหลี
พอได้เว้า เท่าส่มู ่ือน้ี ว่ากนิ ดิบมี..อย่เู ทงิ หวั เรอื ...
ให้ อสม. ขอใหเ้ ผ่ิน เซาเดอ้ นอ้ งหลา่
ใหเ้ ผ่นิ เลกิ กนิ สา ปลาดิบฮา้ ย มันรา้ ยเอาเหลือ
ข่ันเวา้ เผน่ิ แล้ว ขนั่ เผน่ิ ฮู้ แล้วคงสิเสือ่
อย่าใหอ้ ้ายเสียใจเหลอื เม่อื คนใกลเ้ ฮา เขาเปน็ มะเร็ง น้ําดี

211

หน่วยการเรียนรู้ เร่ืองโรคพยาธิใบไม้ตบั และมะเร็งทอ่ น�ำ้ ดีระดับช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 (ฉบับปรับปรงุ คร้ังที่ 2 พุทธศกั ราช 2560)

กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551

๑๗๐

เพลงเสนห่ ์สาวละวา้

คาํ ร้อง นายทนิ กร แสงนกิ ลุ ทํานองเพลงปลาคอ่ ใหญ่
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
...ฮอดยาม เดือนสี่ เดอื นห้า บา้ นละวา้ ก็นา้ํ ลงขอดแก่ง
น้ํา สิแหง้ ขอดสาย นา้ํ จิตนํ้าใจเฮาบ่แหง้ คือแก่ง
ยงั มีเออื้ เฟอ้ื เผ่ือแบง่ จติ ใจแฝงด้วยประเพณีอันดีงาม....
มาเดอ้ มายามบ้านน้อง ให้มาลองกินขา้ วปลานํา
มากนิ ปลาหน้าแล้ง ปลาริมแกง่ มีแตโ่ ตอา่ํ หลาํ่
ไผมาอยู่เป็นทฮ่ี ูท้ ่ถี าม ว่าแกง่ ละวา้ งามสุดลูกหลู กู ตา....
โอ.่ .เด๋ เอ้ เอ.๋ .เอ.้ .เอ โอ่..เด้..เอ.้ .เอ เอ้..เอ๋…เอ..
โอเ่ ด..อ้ายคนไกลเอ๊ย โอเ่ ด....อา้ ยคนไคเอ้ย
อ้ายเอย้ แกง่ ละวา้ น่นั เดอ้ อ้าย
ใหอ้ า้ ย หนอ..อดสาใส่ดางไว้
โอ๊ย สไิ ด้กนิ ปลา โตใหญ…่ ผแู้ พงเอ๋ย
อา้ ยเอ๊ย ปลาโตใหญ่มาฮอดแลว้
ปลาโตใหญม่ าฮอดแล้ว สิเฮ็ดสกุ สู่อ้ายกนิ
สเิ ฮด็ สุกสู่อ้ายกิน
เออ…เอ่อ…เอ๊ย…น่นั นา…อา้ ยเอ๊ย
ฮอยยมิ้ พิมพใ์ จหวานฉ่ํา มากนิ ขา้ วนาํ อย่าลืมจา้ํ แจว่ ขา่
มาซอยตาํ หกู เขน็ ฝ้าย วา่ งามหลายสาวละว้าคนส่า
นอ้ งสติ ํ่าหมีเ่ สือ้ ผ้าไหมไว้ถา่
สมบตั ลิ ํา้ คา่ แต่ปู่ยา่ ตายาย
สมบตั ลิ าํ้ คา่ แตป่ ู่ย่าตายาย.......
โอ.่ .เด๋ เอ้ เอ๋..เอ้..เอ โอ.่ .เด.้ .เอ้..เอ เอ.้ .เอ๋…เอ..
โอ่เด..อ้ายคนไกลเอย๊ โอเ่ ด....อ้ายคนไคเอย้
อา้ ยเอ้ย แกง่ ละว้าน่นั เด้ออ้าย
ใหอ้ ้าย หนอ..อดสาใส่ดางไว้
โอ๊ย สไิ ดก้ ินปลา โตใหญ…่ ผแู้ พงเอ๋ย
อ้ายเอ๊ย ปลาโตใหญ่มาฮอดแล้ว
ปลาโตใหญ่มาฮอดแล้ว สิเฮด็ สุกสู่อา้ ยกนิ
สิเฮ็ดสกุ สู่อ้ายกนิ

212

หน่วยการเรยี นรู้ เรื่องโรคพยาธิใบไม้ตบั และมะเรง็ ทอ่ นำ้� ดีระดบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 - 6 (ฉบับปรบั ปรุงครง้ั ท่ี 2 พทุ ธศักราช 2560)

กลมุ่ สาระการเรียนรู้สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศกั ราช 2551
๑๗๑

เพลงขอกินแบบใหม่

เรียบเรยี ง ทนิ กร แสงนกิ ุล ทํานองขอหอมกอ่ นแตง่
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ชาย มาทุกปี ทีพ่ นี่ มี้ าแกง่ ละวา้ มาหากนิ แต่ปลา อย่แู ก่งละว้า จนมืดคํ่า
หญงิ จรงิ บ่หนอท่กี ลา่ วหรอื มามายสาวอยลู่ าํ ชีนํา สิแม่นมาร้อยถอ้ ยคํา บ่อยากจดจาํ ดอกคาํ อ้ายว่า
ชาย อา้ ยมา อา้ ยกอ็ ยากเวา้ เรอ่ื งราวของแกง่ ละวา้ อยากมากนิ กอ้ ยกนิ ปลาทบ่ี า้ นน้องหนา อยา่ ราํ คาญ
หญิง ชาวบา้ นร้เู รื่องพยาธิ เขาประกาศวาระอสี าน นบั ตอ่ แตน่ ี้ไปนาน คนอิสานเลกิ ดบิ กันถม
ชาย ชว่ั นาตาปี บา้ นเรานี้ชา่ งนา่ ภิรมย์ ท่วั แก่งบแ่ ลง้ คนชม ผคู้ นนยิ มช่ืนชมหนักหนา
หญิง กนิ สกุ เถิดพ่ี มนั บ่ดีกนิ กอ้ ยดิบปลา สกั วัน ถึงอนั ตรายมา ป่วยแล้วหนาจะพาอับจน
ชาย ขอถามเจา้ สักนดิ ปลาหยงั มพี ิษปลดิ ชีวิตคน
หญิง ปลาดบิ มไี ขพ่ ยาธปิ น
ชาย โถ..อา้ ยบ่สนดอกคนดี
หญิง ให้ฟา้ วกนิ สุกเถดิ อา้ ย เดยี๋ วอาจตายด้วยมะเรง็ ทอ่ นํ้าดี
ชาย กินดบิ กอ้ ยปลา มาหลายปี
หญงิ ลองตรวจหน่อยซี พยาธใิ บไม้
ชาย เจา้ คงจะตอ้ งรักพ่ี นบั ตอ่ แตน่ ี้ จะขอกนิ แบบใหม่
หญงิ เลกิ กนิ ดบิ ให้ได้นะ พช่ี าย
ชาย ก็อยากกนิ สกุ กับเธอกอ่ น..ไดไ้ หมละ่
หญงิ สัญญาไดไ้ หม กนิ ปลาดิบน้ี ไมเ่ อา...สัญญาได้ไหม กนิ ปลาดบิ นี้ ไม่เอา...
ชาย ขอถามเจ้าสกั นดิ ปลาหยังมพี ิษปลดิ ชวี ติ คน
หญิง ปลาดิบมีไขพ่ ยาธปิ น
ชาย โถ..อ้ายบส่ นดอกคนดี
หญิง ใหฟ้ ้าวกินสกุ เถิดอา้ ย เดี๋ยวอาจตายดว้ ยมะเรง็ ท่อนํ้าดี
ชาย กินดบิ กอ้ ยปลา มาหลายปี
หญงิ ลองตรวจหน่อยซี พยาธใิ บไม้
ชาย เจา้ คงจะตอ้ งรักพ่ี นบั ตอ่ แตน่ ้ี จะขอกินแบบใหม่
หญิง เลกิ กนิ ดบิ ให้ไดน้ ะ พี่ชาย
ชาย กอ็ ยากกนิ สุก กับเธอก่อน..ได้ไหมล่ะ
หญิง สัญญาได้ไหม กนิ ปลาดบิ นี้ ไมเ่ อา...

สญั ญาไดไ้ หม กินปลาดบิ นี้ ไม่เอา...
สัญญาได้ไหม กินปลาดบิ นี้ ไม่เอา...

213

หนว่ ยการเรียนรู้ เร่อื งโรคพยาธิใบไม้ตบั และมะเร็งท่อน้�ำดีระดับช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 - 6 (ฉบบั ปรบั ปรงุ คร้ังที่ 2 พทุ ธศักราช 2560)

กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551

๑๗๒

เพลงฟงั เมยี

เรยี บเรียง ทนิ กร แสงนิกลุ ทาํ นองนาํ้ ตาหลน่ บนทนี่ อน
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

นาํ้ ตาหล่นลงแก่งละวา้ เม่อื มาก็พบพช่ี ายเหมือนเดิม
ทาํ ใจเสมอื นวา่ ไมต่ า่ งเดิมพช่ี ายก็เรม่ิ ออกอาการให้เห็น
เห็นกินกอ้ ยดบิ ปลาแกล้มสุราอยู่ไม่เวน้ เปน็ อยา่ งน้ีทุกวนั

นา้ํ ตาหลน่ รมิ แกง่ ละว้าพย่ี าไมซ่ ับไมซ่ ึมคํานนั้
บอกไปกไ็ ม่ใสใ่ จกับฉันขอรอ้ งทุกวัน ใหเ้ ลิกกนิ
กินแล้วไดอ้ ะไรมแี ต่ตบั ไตจะพัง ฟังเถิดนะ..คุณสามี

น้าํ ดี แม่นมไี วย้ อ่ ยนาํ้ ดีแมน่ มไี วย้ อ่ ย
กินดบิ บถ่ อย ก้อยแซบทกุ อยา่ ง

วา่ แม่นตับสิฮ่างอุดตนั เป็นมะเรง็ ย้อนว่าเก่ง จบั ปลานาํ แกง่
แซบเอาแฮงหักหวั กนิ ก้อยถอยใจแลว้ ซงั คนกนิ ทั่ว
บต่ ๋วั ดอกอ้าย..พยาธใิ บไม้ตดิ มา
ฟังคนพูดคนจาอย่าลืม...ถึงจะลมื ให้เมยี ทักสกั หน่อย

ปลาดิบร้ายทาํ ท่อนํ้าดีมรี อยรกั ลกู รกั เมียใหเ้ ลิกกินเสียปลาดบิ ก้อย
พี่จ๋าอยา่ ปลอ่ ยใหพ้ ยาธริ า้ ยมนั รมุ
ถงึ หวิ พท่ี นเอาไว้กินดบิ พ่เี ซาใหไ้ ด้

บ่วา่ ไผๆสิเลิกบ่วา่ บูชาแตอ่ ้ายหนักแน่นแกน่ หมาย
ขอแต่อา้ ยยอมรับความจรงิ ชงิ เปลยี่ นมานาํ พาคือนอ้ ง
ให้เขาย้องวา่ เฮาทําดีน้องขอรอ้ งพี่ ปลาดิบรา้ ย..บเ่ อา
แก่งละวา้ แสนเศร้าบา้ นเฮากินดบิ แต่ก่อน บัดน้ีมา กินปลาสุกฮอ้ นฮอ้ น

สุกแล้วจัง่ ฮ่วมพาปลาเนอ้ื ออ่ น ตม้ สกุ เดอ้ พ่ี
ปลารา้ สุกดี จ่งั กนิ เด้อ.. เอ้อ ...เออ.....

ฟงั คนพูดคนจาอยา่ ลมื ...ถึงจะลืมใหเ้ มยี ทักสกั หน่อย
ปลาดบิ ร้ายทาํ ท่อน้าํ ดีมีรอยรกั ลกู รกั เมียให้เลกิ กนิ เสยี ปลาดบิ ก้อย

พจ่ี ๋าอย่าปลอ่ ยให้พยาธริ ้ายมันรมุ
ถึงหวิ พ่ที นเอาไวก้ ินดิบพเี่ ซาให้ได้
บ่วา่ ไผๆสเิ ลิกบ่วา่ บูชาแต่อ้ายหนักแน่นแกน่ หมาย
ขอแต่อา้ ยยอมรบั ความจริงชงิ เปลี่ยนมานําพาคอื น้อง
ใหเ้ ขายอ้ งว่าเฮาทําดนี อ้ งขอรอ้ งพ่ี ปลาดบิ ร้าย..บเ่ อา
แกง่ ละว้า แสนเศรา้ บ้านเฮากนิ ดิบแตก่ ่อน บดั นม้ี า กนิ ปลาสุกฮ้อนฮอ้ น
สุกแล้วจั่งฮว่ มพา ปลาเนอื้ อ่อน ตม้ สกุ เด้อพ่ี
ปลาร้าสุกดี จัง่ กินเดอ้ ..จัง่ กนิ เด้อเออ้ ...เออ.....

214

หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่อื งโรคพยาธใิ บไม้ตบั และมะเร็งทอ่ นำ้� ดีระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 - 6 (ฉบบั ปรบั ปรุงคร้ังท่ี 2 พุทธศกั ราช 2๑5๗6๓0)

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศกึ ษาและพลศึกษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551

เกมอะไรเอ่ย
“โรคอะไรเอ่ย ติดต่อทางอาหาร ชาวภาคอีสานเปน็ มากที่สดุ ”
“โรคอะไรเอย่ เกดิ จากการกนิ ปลาดบิ อยา่ ทาํ งบุ งบิ ตอบมาเรว็ ไว”

215

หน่วยการเรียนรู้ เรือ่ งโรคพยาธิใบไมต้ บั และมะเรง็ ทอ่ น�้ำดีระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 - 6 (ฉบบั ปรับปรุงครง้ั ท่ี 2 พทุ ธศักราช 2560) ๑๗๔

กลมุ่ สาระการเรียนร้สู ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551

แบบทดสอบความรู้ความเขา้ ใจเรือ่ งโรคพยาธิใบไม้ตับและมะเรง็ ท่อนาํ้ ดี ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๔ - ๖

 กอ่ นเรยี น  หลังเรียน

ชอ่ื ..........................................นามสกลุ ....................................โรงเรียน............................................ช้ัน..............

คําชแ้ี จง ให้ทาํ เครอ่ื งกากบาท X ทบั ตวั เลอื กของคาํ ตอบท่ีถกู ทส่ี ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว

๑. โรคพยาธิทพี่ บได้บ่อยที่สดุ ในพ้ืนท่ขี องนักเรยี น คือ?
ก. โรคพยาธใิ บไม้ในตับ
ข. โรคพยาธปิ ากขอ
ค. โรคพยาธติ ัวจ๊ีด
ง. โรคพยาธิไส้เดือน

๒. โรคพยาธใิ บไม้ตับ เข้าสู่รา่ งกายมนุษยไ์ ด้ทางใดบ้าง?
ก. กินปลานํา้ จดื ทมี่ เี กล็ดขาว สกุ ๆ ดิบๆ
ข. ตัวอ่อนไชเข้าทางผวิ หนัง เช่น เท้า มอื
ค. กิน กบ กุ้ง ปูนา ที่ปรุงไม่สกุ
ง. กินเนื้อสตั ว์ เชน่ เนื้อวัว หมู หนู ทป่ี รงุ ไม่สกุ

๓. อาหารประเภทใดท่ีมโี อกาสมเี ช้อื พยาธิใบไม้ตบั ?
ก. ส้มตําปู
ข. ก้อยปลาดบิ
ค. หมูแหนมดิบ
ง. กอ้ ยกุ้ง

๔. การปอ้ งกนั พยาธใิ บไมต้ ับทําได้อยา่ งไร?
ก. ใส่รองเท้าเมอื่ เดินบนพน้ื ดิน
ข. กนิ เนอื้ ปลานาํ้ จดื ทมี่ ีเกลด็ ขาว ทปี่ รงุ สกุ
ค. กินเนอ้ื สัตว์ เชน่ หมู วัว หนู ที่ปรงุ สุก
ง. กนิ ปูนา กุง้ ฝอย ทป่ี รุงสกุ

๕. การรักษาพยาธิใบไม้ตับควรทําอย่างไร?
ก. กนิ ยาพราซิควอนเทล
ข. กนิ ยาพาราเซตามอล
ค. กนิ เบนดา ๕๐๐
ง. ไม่มยี ารกั ษาโดยตรง

๖. ลักษณะของการเกดิ โรคมะเร็งทอ่ นา้ํ ดี คอื ขอ้ ใด?
ก. โรคน้ีเกิดในเพศหญิงมากกวา่ เพศชาย
ข. การตดิ เชอ้ื พยาธิใบไมต้ บั เปน็ สาเหตสุ าํ คญั ของการเกิดโรคมะเรง็ ทอ่ นาํ้ ดี
ค. โรคนเี้ กิดในกลมุ่ คนอายุ ๑๕ – ๓๐ ปมี ากทสี่ ดุ
ง. ถกู ทกุ ข้อทกี่ ลา่ วมา

216

๗. พฤตหิกนรว่ รยมกใานรเรขยี อ้ นใรดู้ เทร่ือ่ีจงะโรมคีคพวยาามธใิ บเสไมย่ี ้ตงบั ตแล่อะมกะเารร็งทเป่อนน็ ้�ำโดรรี คะดมบั ะช้ันเรป็งรทะถ่อมศนกึ า้ํ ษดา?ีปที ่ี 4 - 6 (ฉบับปรบั ปรุงครงั้ ที่ 2 พุทธศักราช 2560)
ก. คนที่รับประทานอาหารปลานํ้ากจลืดุ่มสสารกุ ะๆการดเรยีิบนๆรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศกั รา๑ช๗25๕51
ข. คนทม่ี ีประวตั ิเคยเปน็ พยาธใิ บไม้ตับ
นนววขขพิธธิ้้ออกกััฤีกกีใใเเตงงขคคกคขงขขคคกกคคกงงกงงกกขขดดรราา.......กิ....................ียียรรตตรรรนน่ออ่ รัักกคคไไกปคคใททไไตตขถขถงงมมปปถถคคคคมษษปปชปปดดิดดิอกูู้กอ้กููกาััววววนนนนออีีลววาาใย้าานนหหนดดววรเเรรนนดดททททาาอ่ททททหหโโกกาผ่่าากก้ี้ีื่ม่มืาาขกกแแรรยกุกุุุกกีม่่ีีช่ช่รีเเปคคลลหห่าหหนินิสสปปอ้าาคคหหไับขขขขแแออปีตืออืฏววรรรรวมมออรุรุใมม็นน็ออ้้ลล้ออ้นนปบบรรรดดัืือองงแแส้ิชาาาาออะะออะะททมมะกกรกกทนนกัวีหหสสตตเเาาแเเะวกีก่่ีินนิดดนนิิรรนพขขสส่นน่่ีจาามมาากกตัลทลลงง็็ิิบบออปปะะรรยยีีเเททกัุนนุาาททิะเถถาาา่่หหาาททมลลคดดรรจออ้้ปปไไเนววููกกอ่อ่หหลลคปข่ี่ขปีีคาาพพชชยะงงมมลลอนนาาืืออรรมออวเาาหรรรราาาารรปาปป้าา้ําํา้้งงยยางงุุงงีบารรหปปดดดดเเ็นสสมววโโโโยททาํพพา้า้รรคคารรบิบิีีดดุุกกเพบเดดคคคค้อ้อสอืือ่่ระะรรอททใใยบิบิดัอืือปแแมมงงเเีย่งงซซหหง้้ออภภาโโดดขขหหงละะอ้อื้ืมมตตเเธงงถททต้้าา้อ้อเปปเานนยย่่ใิรรา้นนใใอ่นนนใใบาา็น็นมมง็ง็ดดหดดบบกสส้ํ้ําา้าํไททดดบบททา??มหหจามมนนบบิิ่อ่อาาก่จจีี่รืดต้นนนนุุขขงงนนเเะะสับคคปัักกววปไไํา้า้ํลลพพุกาารรลลน็น็ดดดดง้งัั้ๆรรดดเ??ีีโคคพมมรลลดววคาายีงงาาิบททมอองมมๆเาายยะลเเนนเา่า่สสก็รงง่ยียี่ ง็นรรงงทววอ้ กกอ่ดดยาานเเรรรรา้ํเเ็ว็วกกดิดดิี?โโรรคคมมะะเเรรงง็็ ททออ่่ นนา้ํํ้าดด?ี?ี
๗.
๘.

๘.
๙.

๙.
๑๐.

๑๐.

ข. ปล่อยไวส้ ักพกั จะหายเอง ถ้าหากเป็นเพียงเล็กน้อย
ค. การผ่าตดั และเคมีบาํ บัด
ง. ใชย้ าปฏิชวี นะ

เฉลย ขอ้ ๑ – ก ข้อ ๒ – ก ขอ้ ๓ – ข ขอ้ ๔ – ข ข้อ ๕ – ก ข้อ ๖ – ข ขอ้ ๗ – ง ข้อ ๘ – ง
ข้อ ๙ – ง ขอ้ ๑๐ – ค

*ลด ละ เลกิ กินปลาดบิ จะปลอดพยาธิใบไมต้ บั และมะเรง็ ทอ่ นํ้าด*ี ดว้ ยความปรารถนาดจี าก ศูนยป์ ฏิบตั กิ ารวจิ ัยโรคเขตรอ้ น คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น

เฉลย ข้อ ๑ – ก ขอ้ ๒ – ก ข้อ ๓ – ข ข้อ ๔ – ข ขอ้ ๕ – ก ข้อ ๖ – ข ขอ้ ๗ – ง ข้อ ๘ – ง
ข้อ ๙ – ง ข้อ ๑๐ – ค
217

*ลด ละ เลกิ กนิ ปลาดิบ จะปลอดพยาธใิ บไม้ตบั และมะเร็งทอ่ นาํ้ ด*ี ด้วยความปรารถนาดีจาก ศูนยป์ ฏบิ ตั ิการวจิ ยั โรคเขตรอ้ น คณะแพทยศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ขอนแกน่

หน่วยการเรยี นรู้ เรอื่ งโรคพยาธใิ บไม้ตบั และมะเรง็ ทอ่ น�้ำดีระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 - 6 (ฉบบั ปรับปรุงครั้งที่ 2 พทุ ธศกั ราช 2560)

กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศึกษาและพลศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551

ผ้เู รียบเรยี งการจัดทำ� หนว่ ยการเรียนรู้

เรื่อง โรคพยาธใิ บไม้ตบั และมะเรง็ ท่อน�ำ้ ดี ระดับประถมศึกษาปที ่ี 4-6

นายเชดิ พงษ์ มงคลศลิ ป์ นายพงษศ์ ักดิ์ ภูกาบขาว
ส�ำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวดั ขอนแก่น ส�ำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศึกษามัธยมศึกษา
รศ.ดร.บรรจบ ศรีภา เขต 25 ขอนแกน่
มหาวิทยาลัยขอนแก่น นายเชษฐพงษ์ สินทรพั ย์
นายอดิศกั ดิ ์ คงวฒั นานนท ์ สำ� นกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษา
สำ� นกั งานสาธารณสขุ จงั หวดั ขอนแก่น ขอนแก่น เขต 1
นางลักษณา หลายทวีวฒั น ์ นางธนพร นฤนาทวฒั นา
สำ� นกั งานป้องกันควบคุมโรคที่ 7 จงั หวัดขอนแกน่ สำ� นักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษา
นางสาวเทวารักษ์ ภูครองนาค ขอนแก่น เขต 2
สำ� นกั งานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น นางสาวยุพาพร หรเสรฐิ
นางสาวสภุ ควดี ธนสลี ังกูร สำ� นักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษา
ส�ำนักงานสาธารณสุขจังหวดั ขอนแกน่ ขอนแก่น เขต 3
นางพิณญาดา เหมอื นชาติ นายพิภพ เอกวุธ
ส�ำนักงานสาธารณสขุ จังหวดั ขอนแกน่ สำ� นักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษา
นายบญุ จนั ทร ์ จันทร์มหา ขอนแกน่ เขต 3
สำ� นักงานปอ้ งกนั ควบคุมโรคท่ี 7 จังหวัดขอนแกน่ นางสาวชนกนาถ วงศ์คำ� จันทร์
นางศจุ นิ ันท ์ ตรีเดช สำ� นกั งานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษา
ส�ำนกั งานปอ้ งกันควบคมุ โรคท ่ี 7 จังหวดั ขอนแก่น ขอนแก่น เขต 4
นางวราพร สดุ บญุ มา นางสุภาวด ี ทองสนี าค
สำ� นกั งานปอ้ งกนั ควบคุมโรคท ่ี 7 จังหวดั ขอนแกน่ ส�ำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษา
ขอนแกน่ เขต 4
นายสนุ ันท ์ พนั ธุลาวัณย์
ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษา
ขอนแกน่ เขต 4
นายศขิ รนิ ตันเจียง
ส�ำนักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษา
ขอนแก่น เขต 5
นายกรี ตวิ ทิ ย์ สวุ รรณธรรมา
ส�ำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษา
ขอนแกน่ เขต 5
นางสมุ าลี เท่ยี งภกั ด ี
โรงเรยี นบ้านดอนบม ส�ำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษา
ประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1

218

หน่วยการเรยี นรู้ เร่อื งโรคพยาธิใบไม้ตบั และมะเร็งทอ่ น้�ำดรี ะดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 - 6 (ฉบับปรับปรงุ คร้ังท่ี 2 พุทธศกั ราช 2560)

กลุม่ สาระการเรียนรูส้ ุขศึกษาและพลศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551

นางอมั พร อรรคแสง
โรงเรยี นบ้านหนองแสงโคกน้อย สำ� นักงานเขตพ้นื ที่
การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 1
นายวฒุ ชิ าติ ออ่ นละมุล
โรงเรยี นบา้ นละวา้ สำ� นกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา
ประถมศกึ ษาขอนแกน่ เขต 2
นางธญั ชนก ร่งุ สว่าง
โรงเรยี นบ้านเหลา่ กกห่งุ สวา่ ง ส�ำนักงานเขตพืน้ ท่ี
การศกึ ษาประถมศกึ ษาขอนแกน่ เขต 2
นางสาวพัชรางส์ุ อาดอน้
โรงเรยี นบ้านห้วยแคน สำ� นักงานเขตพ้ืนท่ี
การศกึ ษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 3
ส.ต.อ.เฉลิมศักดิ ์ ยุระไชย
โรงเรียนเบญจคามสามคั ค ี ส�ำนกั งานเขตพื้นท่ี
การศึกษาประถมศึกษาขอนแกน่ เขต 3
นายสำ� ราญ ลาภูมี
โรงเรียนน�ำ้ พองประชานุกลู สำ� นักงานเขตพน้ื ที่
การศกึ ษาประถมศึกษาขอนแกน่ เขต 4
นางเพลินพิศ ปฎเิ ตนงั
โรงเรยี นโคกสงู ใหญ่วทิ ยา สำ� นักงานเขตพ้ืนท่ี
การศึกษาประถมศกึ ษาขอนแกน่ เขต 4
นางวารุณ ี จ�ำบญุ
โรงเรยี นบา้ นฟา้ เหล่ียม ส�ำนักงานเขตพ้ืนที่
การศึกษาประถมศกึ ษาขอนแก่น เขต 4
นางกรรณกิ าร์ อำ� ท้าว
โรงเรยี นบา้ นทา่ ศาลาคุรุราษฎรว์ ิทยา ส�ำนักงาน
เขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5
นายอุทัย ไลไธสง
โรงเรยี นบา้ นละว้า
นายภิญโญ สีทบั
โรงเรยี นเบญจมติ รวิทยาคม
นายวิบลู ย ์ ชาปัญญา
โรงเรยี นบา้ นเป้าประชาบำ� รุง
นายวีรศักด ์ิ บางปา
โรงเรยี นบ้านเมอื งเพีย
นายสรุ ชัย จติ ต์อดุ มศักด ์ิ
โรงเรยี นบา้ นหนองนางขวญั

219

หน่วยการเรยี นรู้ เรือ่ งโรคพยาธิใบไม้ตบั และมะเร็งทอ่ น�ำ้ ดีระดับชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4 - 6 (ฉบับปรับปรงุ ครัง้ ท่ี 2 พทุ ธศกั ราช 2560)

กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พุทธศกั ราช 2551

นายประเสรฐิ พ้ืนหัวสระ
โรงเรียนบ้านดอนปอแดง
นายชัยพร เจือจนุ
โรงเรียนบ้านละว้า ส�ำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษา
ประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2
นางศริ ิรัตน ์ ปนั ค�ำ
โรงเรียนบ้านเบญจมติ รวิทยาคม ส�ำนกั งาน
เขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแกน่ เขต 2
นางหทัยมาศ พงษ์สิมา
โรงเรียนบ้านเบญจมติ รวิทยาคม ส�ำนกั งาน
เขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาขอนแก่น เขต 2
นางจงจิต จา่ ยนอก
โรงเรียนบ้านเป้าประชาบำ� รงุ ส�ำนกั งานเขตพน้ื ท่ี
การศกึ ษาประถมศกึ ษาขอนแก่น เขต 2
นายคะนอง ดวงทองมา
โรงเรียนบ้านเมืองเพยี ส�ำนักงานพ้นื ทีก่ ารศึกษา
ประถมศกึ ษาขอนแก่น เขต 2
นางสาวบัญฑติ า ผิวฝาก
โรงเรียนบ้านเมืองเพีย ส�ำนักงานเขตพนื้ ที่
การศึกษาประถมศกึ ษาขอนแกน่ เขต 2
นางนิภาภรณ ์ ภสู อดเงนิ
โรงเรียนบ้านหนองนาขวญั สำ� นกั งานเขตพืน้ ที่
การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2
นายทองคำ� แสงเพช็ ร
โรงเรยี นบ้านดอนปอแดง ส�ำนักงานเขตพืน้ ที่
การศกึ ษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2
นางวีรกานต์ ศรสี ทิ ธรตั น์
โรงเรียนบ้านโคกสำ� ราญ สำ� นกั งานเขตพนื้ ท่ี
การศกึ ษาประถมศึกษาขอนแกน่ เขต 2
นางสาวพชั รญี า ศรีหาบุญนาค
โรงเรียนบ้านเมืองเพยี สำ� นกั งานเขตพ้ืนที่
การศกึ ษาประถมศกึ ษาขอนแก่น เขต 2
นายฒชิ ยั วรครบรุ ี
โรงเรยี นบา้ นหนองลุมพกุ บงุ่ แสง
สำ� นักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษา
ขอนแก่น เขต 5

220

หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่ืองโรคพยาธิใบไม้ตบั และมะเร็งท่อน้ำ� ดรี ะดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 4 - 6 (ฉบับปรบั ปรงุ คร้ังท่ี 2 พทุ ธศกั ราช 2560)

กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551

คณะทำ� งานจัดทำ� หน่วยการเรียนรู้

เรื่อง โรคพยาธิใบไม้ตบั และมะเร็งท่อน้�ำดแี บบบูรณาการ

*****************

คณะทป่ี รึกษา ประธานทีป่ รึกษา
นายแพทย์เจษฎา โชคดำ� รงสขุ รองประธานที่ปรกึ ษา
นายแพทยส์ วุ รรณชัย วัฒนาย่งิ เจรญิ ชัย
นายแพทย์วิทยา หลวิ เสรี
แพทย์หญงิ หรรษา รักษาคม
แพทยห์ ญงิ ศศธิ ร ต้ังสวัสดิ์
แพทยห์ ญงิ ฉนั ทนา ผดุงทศ
นายแพทย์ธรี วฒั น์ วลยั เสถียร
นายแพทยศ์ รายุธ อตุ ตมางคพงศ์
แพทยห์ ญงิ ผลนิ กมลวัทน์
นายแพทย์รงุ่ เรอื ง กิจผาติ

คณะทำ� งานจดั ทำ� หนว่ ยการเรยี นรู้

แพทย์หญิงศศิธร ต้ังสวัสด์ิ นางสขุ เกษม เทพสทิ ธ ์ิ
ส�ำนกั งานป้องกันควบคมุ โรคที่ 7 จังหวดั ขอนแก่น ส�ำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน
นางสาวเกษร แถวโนนงวิ้ นายพงษศ์ ักดิ์ ภกู าบขาว
สำ� นักงานปอ้ งกันควบคุมโรคที่ 7 จงั หวัดขอนแกน่ ส�ำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษามัธยมศึกษา
นายเชิดพงษ์ มงคลสนิ ธ์ุ เขต 25 ขอนแก่น
สำ� นักงานปอ้ งกันควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น นางนัตยา หล้าทนู ธีรกลุ
นางสาวสมุ าลี จนั ทลกั ษณ์ ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ส�ำนกั งานปอ้ งกันควบคุมโรคท่ี 7 จงั หวัดขอนแก่น ขอนแก่น เขต 5
นายบุญจันทร ์ จนั ทร์มหา นางนภาพร ยุทไธสง
สำ� นักงานปอ้ งกนั ควบคุมโรคที่ 7 จังหวัดขอนแก่น โรงเรยี นบ้านไผ่ศกึ ษา สำ� นกั งานเขตพน้ื ที่
นางศุจินันท์ ตรเี ดช การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต 25 ขอนแกน่
สำ� นักงานปอ้ งกนั ควบคุมโรคท่ี 7 จงั หวดั ขอนแกน่ นายนวิ ัติ ตอ่ นี
นายวชั รวรี ์ จนั ทรป์ ระเสริฐ โรงเรยี นโคกสีพทิ ยาสรรพ์ สำ� นักงานเขตพืน้ ที่
ส�ำนักงานปอ้ งกันควบคมุ โรคที่ 7 จงั หวดั ขอนแก่น การศึกษามธั ยมศึกษา เขต 25 ขอนแก่น
นายตอ่ พงษ์ กงั สวร นายนิคม ชมพูหลง
สำ� นักงานป้องกนั ควบคมุ โรคที่ 7 จงั หวัดขอนแก่น สำ� นกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษา
นายณฐั กิตต์ โคตมะ มหาสารคาม เขต 1
ส�ำนกั งานปอ้ งกันควบคุมโรคที่ 7 จงั หวดั ขอนแกน่

221

หนว่ ยการเรียนรู้ เร่อื งโรคพยาธิใบไม้ตบั และมะเร็งทอ่ น้�ำดีระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 - 6 (ฉบับปรบั ปรุงคร้งั ท่ี 2 พุทธศักราช 2560)

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้สุขศึกษาและพลศกึ ษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศักราช 2551

นายศุภฤกษ์ รตั นถา
โรงเรยี นบา้ นหนองโก
สำ� นกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษา
ขอนแกน่ เขต 5
นายวุฒชิ ยั วรครบรุ ี
โรงเรยี นบ้านหนองลุมพกุ บุ่งแสง
ส�ำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ขอนแกน่ เขต 5
นางเสาวลกั ษณ์ วรครบรุ ี
โรงเรยี นบา้ นนาก้านเหลือง
ส�ำนักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษา
ขอนแกน่ เขต 5

222


Click to View FlipBook Version