The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยการเรียนรู้เรื่องเศษศ่วน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by voizmanopor6, 2022-09-03 01:17:49

หน่วยการเรียนรู้เรื่องเศษศ่วน

หน่วยการเรียนรู้เรื่องเศษศ่วน

แผนการจัดการเรียนรู้
เรื่อง เศษส่วน

ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

1. ตวั ชี้วัดสาคัญ หน่วยการเรยี นรู้ 3. ชนิ้ งาน / ภาระงาน

ค1.1 ป.5/3 ค1.1 ป.5/3 2. สาระสาคัญ -แบบฝึกทกั ษะ
ค1.1 ป.5/3 -ใบงาน
-การเปรียบเทียบและเรียงลาดับ -ชิน้ งาน
เศษสว่ นและจานวนคละ
-การบวก ลบ คูณ หาร เศษส่วน 4. Content Analysis
และจานวนคละ
-การแก้โจทย์ปัญหาการบวก ลบ
คณู หาร เศษส่วน 2 ขน้ั ตอน

7. วธิ กี ารวดั ผล ชื่อหนว่ ย จาเปน็ / ต้องรู้
เศษสว่ น
- แบบทดสอบเตรยี มความพรอ้ ม - นั ก เ รี ย น เ ป รี ย บ เ ที ย บ แ ล ะ รี ย ง ล า ดั บ
- แบบประเมินใบงาน ชนั้ ป.5 เวลา 30 ช่ัวโมง เศษสว่ นและจานวนคละได้
- แบบประเมินสมรรถนะผู้เรยี น -นักเรียนบวกลบคูณหารเศษส่วนและ
- แบบประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ จานวนคละได้
-นักเรียนแกโ้ จทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู
หาร เศษส่วน 2 ขน้ั ตอน

6. Active Learning+สื่อ 5. หวั ใจนกั ปราชญ์

- การเรยี นแบบทบทวนบทเรียน/สาธิต/ครูสาธติ /นักเรยี นสาธิต สุ+ฟัง+อา่ น จ+ิ คดิ +ลิ ปุ+ถาม+ทา
- การเรียนแบบบกั ทกึ รวบรวม เขียน เสนอ
- นักเรียนอ่าน นักเรยี นคดิ /ลงมือ
-เพ่ือนอา่ น ปฏบิ ตั ิ นาเสนอชิน้ งาน
-นกั เรียนฟงั

1. ข้นั รบั รู้ 2. การคิดวเิ คราะห์ (การเช่ือมโยง K.4) 3. ขัน้ ประยุกต์ใช้ (k.5)
ครู นักเรยี น
1. สนทนา 1. โตต้ อบ ครู นกั เรียน ครู นกั เรียน
2. อธิบาย 2. ทาความ
1. สนทนา 1. โต้ตอบ 1. แนะนา 1. ปฏบิ ัติ
เขา้ ใจ
3.ยกตัวอย่าง 3.ทาความ 2. สาธติ 2. เรียนรู้ 2. ตั้งสถานการณ์ 2. แก้ปัญหา

เขา้ ใจ 3.ยกตัวอย่าง 3.เรยี นรู้ 3.สร้างโจทย์ 3.แสดงวิธีหาคาตอบ

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1

รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ค15101 กล่มุ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 1 เศษส่วน : ทบทวนเศษสว่ นทเี่ ทา่ กัน เวลา 1 ชวั่ โมง

ผู้สอน นายบวร ศรีประเสริฐ วนั ท่ี ..................................................................

………………………………………………………………………………………………………………….………………………………………

มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชว้ี ัด

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน
ตัวชีว้ ัด
การดาเนนิ การของจานวน ผลทีเ่ กดิ ขนึ้ จากการดาเนินการ
สมบตั ิของการดาเนินการ และนาไปใช้

-

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. เมอื่ กำหนดเศษส่วนให้ สำมำรถเขียนให้เป็นเศษส่วนท่ีเท่ำกับเศษสว่ นเดิม โดยมีตัวส่วนตำมท่กี ำหนดให้

2. นักเรียนทำงำนท่ีไดร้ ับมอบหมำยสง่ ตรงตำมเวลำทีก่ ำหนด

สาระสาคญั

กำรหำเศษสว่ นท่ีเทำ่ กัน ทำไดโ้ ดยนำจำนวนที่เท่ำกนั ท่ไี ม่ใช่ศนู ยม์ ำคูณทงั้ ตัวเศษและตัวส่วน หรือหำร

ทง้ั ตัวเศษและตวั ส่วน

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

1. ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร
2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ
3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ญั หำ

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. มวี ินัย
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มน่ั ในกำรทำงำน

การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

1. ครูติดแถบเศษสว่ นบนกระดำนและให้นกั เรยี นรว่ มกนั พิจำรณำ ดังน้ี

แถบท่ี 1 แถบที่ 2

ใหผ้ ู้แทนนักเรียน 2 คน ออกมำเขียนเศษส่วนบนกระดำน ดังนี้

 เศษส่วนแถบที่ 1 คือ  1 

5

 เศษส่วนแถบที่ 2 คอื  2 

10 

ให้นักเรยี นพิจำรณำว่ำเศษส่วนใน แถบที่ 1 และแถบที่ 2 มีค่ำเทำ่ กนั หรอื ไม่ จำกนัน้ ครูนำแถบ
เศษส่วนท้ัง 2 มำประกบกันให้นักเรียนเห็นว่ำท้ัง 2 แถบมีขนำดและกำรแบ่งตำรำงในแนวต้ังเท่ำกัน นักเรียน
และครูร่วมกันสรุปว่ำ แถบเศษส่วนที่ 1 เท่ำกับ แถบเศษส่วนที่ 2 แล้วให้ผู้แทนนักเรียนออกมำเขียนบนกระดำน
ดงั น้ี 1 = 2

5 10

2. ครตู ิดแถบแสดงเศษส่วนทเ่ี ทำ่ กันลงบนกระดำน ดังตวั อยำ่ ง

จำกนั้นครใู ห้นกั เรยี นรว่ มกันบอกค่ำของเศษส่วนท้งั 3 แถบ โดยครูใชค้ ำถำม ดังน้ี

 สว่ นท่ีแรเงำในแถบแสดงเศษส่วนท่ี 1, 2, 3 เทำ่ กนั หรอื ไม่ (เทำ่ กนั )
 เม่อื ส่วนท่แี รเงำในแถบแสดงเศษส่วนท่ี 1, 2, 3 เทำ่ กนั แลว้ ค่ำของเศษส่วน
ในแถบที่ 1, 2, 3 จะเท่ำกันหรอื ไม่ (เท่ำกนั , ครูอำจนำแถบแสดงเศษสว่ นท้ัง 3 มำประกบกัน)

 นกั เรียนจะเขียนสัญลักษณ์แทนกำรเท่ำกนั ของเศษสว่ นท้งั 3 ค่ำไดอ้ ยำ่ งไร
ให้นักเรียนร่วมกนั ตอบปำกเปล่ำ จำกน้ันเลอื กผแู้ ทนนกั เรยี น 1 คนออกมำเขยี นสัญลักษณ์บน

กระดำน ดังน้ี 1 = 2 = 4
248
ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบควำมถกู ต้อง

3. ให้นกั เรยี นร่วมกนั พจิ ำรณำควำมสมั พนั ธ์จำกสัญลกั ษณ์เศษส่วน 1 = 2 = 4
248

โดยครใู ช้คำถำมกระตุ้นควำมคิดของนักเรยี น ดงั น้ี

 จำกเศษสว่ น 1 เท่ำกับ 2 ตัวส่วนมคี วำมสัมพนั ธก์ ันอยำ่ งไร (ตัวส่วนเพิม่ ขึน้ เป็น 2 เท่ำ คอื
2 4

2 × 2 = 4) และตัวเศษมีควำมสมั พนั ธก์ นั อยำ่ งไร (ตัวเศษเพ่ิมข้ึนเปน็ 2 เทำ่ คือ 1 × 2 = 2)

 จำกเศษส่วน 1 เท่ำกับ 4 ตัวสว่ นมีควำมสัมพันธก์ ันอย่ำงไร (ตัวส่วนเพ่ิมขึน้ เปน็ 4 เทำ่ คือ
2 8

2 × 4 = 8) และตัวเศษมคี วำมสัมพันธ์กนั อย่ำงไร (ตัวเศษเพมิ่ ขน้ึ เป็น 4 เท่ำคอื 1 × 4 = 4)

จำกนนั้ ครูใหผ้ ู้แทนนกั เรียนออกมำเขยี นแสดงกำรทำเศษสว่ นให้มีค่ำเท่ำกัน ดังนี้

 1 = 1 2 = 2
2 22 4

 1 = 1 4 =4
2 24 8

ดังนนั้ 1=2 =4
8
24

4. ดำเนนิ กจิ กรรมเหมือนขอ้ 3 อีก 2-3 คร้งั เพ่อื ให้นกั เรยี นฝกึ ทักษะกำรเขยี นเศษสว่ นทเี่ ทำ่ กนั ดงั ตัวอย่ำง

48 2
3
6 12

จำกนัน้ ครใู ชค้ ำถำมกระตุ้นควำมคิดของนกั เรียน ดงั น้ี

 นกั เรียนคดิ วำ่ 4 เทำ่ กบั 8 หรอื ไม่ (เทำ่ กัน)
6 12

 นกั เรียนทรำบได้อย่ำงไร (นำ 2 มำคูณท้ังตวั เศษและตัวส่วนของ 4 เท่ำกับ 8 )

6 12

ให้ผแู้ ทนนกั เรยี น 1 คน ออกมำเขียนแสดงกำรทำเศษส่วนให้เท่ำกนั ดงั น้ี

4 = 42 = 8

6 6  2 12

ดงั นนั้ 4 = 8
6 12

 นอกจำกวธิ นี ำจำนวนนับมำคณู ทง้ั ตวั เศษและตัวสว่ นแล้ว มีวธิ ีอ่ืนอกี หรือไม่
(ม,ี ใช้วธิ กี ำรนำจำนวนนบั มำหำรทงั้ ตัวเศษและตัวส่วน กไ็ ดเ้ ศษสว่ นทเ่ี ท่ำกัน)

ครูให้ผู้แทนนักเรยี นอกี 1 คน มำแสดงวธิ ีหำเศษสว่ นทเ่ี ทำ่ กันโดยวิธหี ำร

8  2 = 4 ดังน้ัน 8 =4
12  2 6
12 6

หรือ 8  4 = 2 ดงั นน้ั 8 =2
12  4 3
12 3

นกั เรียนทุกคนร่วมกันสรุปไดว้ ำ่ 2 = 4 = 8
3 6 12

5. นักเรยี นและครูรว่ มกันอภปิ รำยและสรปุ ไดว้ ่ำ กำรทำเศษส่วนให้เท่ำกนั ทำได้ 2 วิธี คอื

1) นำจำนวนเดยี วกนั ท่ีไมเ่ ป็นศูนย์ มำคณู ท้ังตัวเศษและตัวสว่ น

2) นำจำนวนเดียวกันทไ่ี มเ่ ป็นศนู ย์ มำหำรท้ังตวั เศษและตัวส่วน

6. ครูตดิ บัตรเศษส่วนบนกระดำน 3-4 จำนวน ให้นกั เรยี นนำวธิ ีทำเศษสว่ นใหเ้ ทำ่ กันมำใช้ โดยครู

กำหนดเศษส่วน ดังตัวอย่ำง

3 2 7 15
6 5 10 30

แบ่งกลุ่มนกั เรยี นออกเปน็ กลุ่มละ 4-5 คน แจกกระดำษเปล่ำใหน้ กั เรียนรว่ มกันทำเศษสว่ นให้เท่ำกัน
โดยวธิ คี ณู หรือวิธีหำร ในหนึง่ จำนวนอำจใชเ้ พยี งหนึ่งวธิ หี รือท้งั 2 วิธีกไ็ ด้ จำกนัน้ ให้ผู้แทนนกั เรียนแต่ละกลุ่ม
ออกมำนำเสนอผลงำนหน้ำชนั้ เรยี น ครูและนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบควำมถูกต้อง

7. ให้นกั เรียนรว่ มกันสรปุ ควำมรู้ ดังนี้

 กำรหำเศษสว่ นท่ีเทำ่ กัน ทำได้โดยนำจำนวนทเี่ ท่ำกันท่ไี ม่ใช่ศนู ยม์ ำคูณทง้ั ตัวเศษและตัวส่วน
หรอื หำรท้ังตวั เศษและตวั ส่วน

8. ให้นกั เรียนทำใบงำนท่ี 1 เร่อื ง เศษสว่ นทีเ่ ท่ำกัน จำกนน้ั ร่วมกันตรวจสอบควำมถกู ตอ้ ง

สอ่ื การเรยี นรู้

1. แถบแสดงเศษส่วน

2. บัตรเศษส่วน

3. ใบงำนท่ี 1 เร่อื ง เศษสว่ นทีเ่ ท่ำกัน

การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สิง่ ที่ต้องการประเมิน วธิ กี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ผ่าน

1. เม่อื กำหนดเศษสว่ นให้ สำมำรถเขียนให้เป็นตรวจควำมถกู ตอ้ งของ ใบงำนที่ 1 เศษสว่ นท่ี รอ้ ยละ 60 ขึน้

เศษส่วนที่เทำ่ กบั เศษส่วนเดิม โดยมตี ัวสว่ น ใบงำนท่ี 1 เศษส่วนท่ี เท่ำกัน ไป

ตำมทกี่ ำหนดให้ เทำ่ กัน

2.นักเรียนทำงำนทไี่ ดร้ ับมอบหมำยส่งตรง -ประเมนิ คณุ ลกั ษณะที่ -แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดับคุณภำพ

ตำมเวลำทกี่ ำหนด พึงประสงค์ ทพี่ งึ ประสงค์ 2 ขนึ้ ไป

ของนักเรียนรำยบุคคล ของนักเรียนรำยบคุ คล

-สังเกตพฤตกิ รรมกำร -แบบสงั เกตพฤตกิ รรมกำร

ทำงำนกลมุ่ ทำงำนกล่มุ

เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : มีวนิ ยั

คะแนน : ระดับคุณภาพ คุณลักษณะท่ปี รากฏให้เห็น

4 : ดีเยีย่ ม - ผลงำนสะอำดเรยี บร้อย
- ปฏิบตั ิตนอยใู่ นข้อตกลงท่ีกำหนดให้รว่ มกนั ทกุ ครั้ง

3 : ดี - ผลงำนสว่ นใหญ่สะอำดเรียบร้อย
- ปฏิบตั ิตนอยใู่ นขอ้ ตกลงทีก่ ำหนดให้ร่วมกันเปน็ สว่ นใหญ่

2 : ผำ่ น - ผลงำนไม่คอ่ ยเรยี บร้อย
- ปฏบิ ตั ิตนอยใู่ นขอ้ ตกลงทีก่ ำหนดใหร้ ่วมกนั บำงคร้งั ตอ้ งอำศยั กำรแนะนำ

1 : ไม่ผ่ำน - ผลงำนไมเ่ รยี บร้อย
- ไม่ปฏบิ ตั ติ นอยู่ในข้อตกลงท่ีกำหนดใหร้ ่วมกัน

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : ใฝ่เรยี นรู้

คะแนน : ระดับคณุ ภาพ คณุ ลกั ษณะที่ปรากฏให้เหน็

4 : ดีเยย่ี ม - มีควำมสนใจ/ควำมตัง้ ใจตลอดระยะเวลำกำรเรยี นรู้

3 : ดี - มีควำมสนใจ/ควำมต้งั ใจเปน็ บำงครง้ั

2 : ผำ่ น - มีควำมสนใจ/ควำมตัง้ ใจในระยะเวลำสนั้ ๆ ชอบเลน่ ในเวลำเรยี น

1 : ไม่ผำ่ น - ไม่สนใจ/ไมต่ ง้ั ใจ ชอบเล่นในเวลำเรียน

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : มงุ่ ม่นั ในการทางาน

คะแนน : ระดับคุณภาพ คณุ ลกั ษณะทป่ี รากฏให้เหน็

- ส่งงำนก่อนหรือตรงกำหนดเวลำนดั หมำย

4 : ดีเยยี่ ม - รับผดิ ชอบในงำนทีไ่ ด้รบั มอบหมำยและปฏิบัตติ นเองจนเป็นนสิ ัย

เป็นตัวอยำ่ งแก่ผ้อู ่นื และแนะนำชักชวนให้ผอู้ ่นื ปฏบิ ัตติ ำมได้

3 : ดี - สง่ งำนชำ้ กวำ่ กำหนด แต่ไดม้ กี ำรตดิ ตอ่ ชี้แจงผ้สู อน มเี หตผุ ลทีร่ บั ฟงั ได้
- รับผิดชอบในงำนท่ีได้รบั มอบหมำยและปฏิบัตติ นเองจนเป็นนิสยั

2 : ผำ่ น - ส่งงำนชำ้ กวำ่ กำหนด
- ปฏบิ ัติงำนโดยตอ้ งอำศัยกำรชแ้ี นะ แนะนำ ตกั เตือนหรือใหก้ ำลงั ใจ

1 : ไมผ่ ่ำน -ไม่ส่งงำนช้ำ
- ไม่ปฏบิ ตั งิ ำนแมจ้ ะชีแ้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรอื ให้กำลงั ใจแลว้

คะแนน

ใบงานท่ี 1 เรือ่ ง เศษสว่ นท่เี ทา่ กัน

คาชี้แจง เตมิ คำตอบลงใน เพ่อื ให้เป็นเศษสว่ นท่เี ท่ำกนั

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2

รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 เศษส่วน : การเปรียบเทียบและเรยี งลาดบั เศษสว่ นและจานวนคละ เวลา 1 ช่วั โมง

ผ้สู อน นายบวร ศรีประเสรฐิ วนั ที่ ..................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………….………………………………

มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชีว้ ัด

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน
การดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกิดขึน้ จากการดาเนนิ การ
สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวช้ีวัด
-

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. เม่ือกำหนดเศษส่วนให้ สำมำรถเปรยี บเทยี บและเรยี งลำดับเศษสว่ นท่ีมีตัวส่วนเทำ่ กนั ได้

2. นกั เรียนทำงำนทไี่ ดร้ ับมอบหมำยสง่ ตรงตำมเวลำทก่ี ำหนด

สาระสาคัญ

กำรเปรียบเทียบเศษส่วนท่ีตวั ส่วนเท่ำกนั ให้พิจำรณำทตี่ ัวเศษ ถำ้ ตัวเศษของเศษส่วนใดมำกกวำ่
เศษส่วนนั้นจะมำกกว่ำ

สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน

1. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร
2. ควำมสำมำรถในกำรคิด
3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ญั หำ

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มวี ินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุง่ มน่ั ในกำรทำงำน

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้

1. ครตู ดิ แถบแสดงเศษสว่ นท่มี ีตวั ส่วนเทำ่ กนั ดงั น้ี

3

5
4

5

ใหน้ กั เรยี นพิจำรณำรว่ มกนั ว่ำ จำกแถบเศษส่วนทัง้ 2 เศษส่วน จำนวนใดมีค่ำมำกกว่ำกัน

( 4 มำกกวำ่ 3 )
55
ใหน้ กั เรยี นเขยี นเปรียบเทยี บเศษสว่ นโดยใชส้ ัญลักษณ์ > หรือ < โดยครเู ลือกผ้แู ทนนักเรียน

ออกมำเขยี นบนกระดำนดงั นี้ 4 > 3 หรือ 3 < 4
55 55

ครูและนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบควำมถูกต้อง

2. ครูยกตวั อย่ำงกำรเปรยี บเทียบเศษสว่ นเพ่ิมเตมิ อีก 2-3 ตวั อย่ำง โดยอำจเปรยี บเทยี บเศษส่วนจำกสว่ นที่

แรเงำและส่วนทไ่ี มไ่ ดแ้ รเงำของรูปเดยี วกนั เชน่

3>2

55

(ส่วนท่ีแรเงำแทนด้วย 3 สว่ นท่ไี ม่ได้แรเงำแทนดว้ ย 2 )

55

3. ครแู จกแถบกระดำษท่ีมขี นำดเท่ำกนั ให้นักเรียนแบง่ และระบำยสี เพ่ือแสดงเศษสว่ นท่ีครกู ำหนด เชน่

1 , 2 , 3 , 1 , 2 , 3 , 4 , 1 , 2 , ... แลว้ ใหน้ กั เรียนเปรียบเทียบเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ำกนั

3 3 3 4 4 4 4 55

จำกน้นั ครูติดแถบโจทย์นกั เรยี นฝกึ เปรยี บเทยี บเศษส่วนที่มีตัวส่วนเท่ำกนั โดยไม่ใช้ภำพเพ่ิมเติมอกี
1-2 ขอ้ ใหน้ ักเรยี นเปรยี บเทียบเป็นคู่ๆ เชน่

1) 2 กบั 1 2) 4 กบั 5
77 88

ครูให้ผู้แทนนักเรียนออกมำเขยี นเครื่องหมำย > , < ระหว่ำงเศษสว่ นทั้งสอง

( 2 > 1 หรือ 1 < 2 , 4 < 5 หรือ 5 > 4 )
77 7 788 88

ครแู ละนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบควำมถูกตอ้ ง

4. ครยู กตัวอยำ่ งเศษสว่ นที่มตี ัวสว่ นเท่ำกัน ให้นกั เรียนเปรยี บเทียบโดยไม่ใช้ภำพ จนนักเรียนตอบได้คล่อง

จำกนนั้ ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ ว่ำ กำรเปรียบเทียบเศษส่วนท่มี ีตวั สว่ นเท่ำกนั ใหพ้ ิจำรณำท่ตี ัวเศษ ถ้ำตวั เศษ

ของจำนวนใดมำกกวำ่ เศษส่วนนน้ั จะมำกกวำ่

5. ครูใหน้ ักเรียนจบั คูผ่ ลัดกนั บอกเศษสว่ นทมี่ ำกกว่ำโดยเรยี งลำดบั จำกนอ้ ยไปมำก 5 จำนวน เชน่

คนที่ 1 บอก 2

5

คนท่ี 2 บอก 3

5

คนท่ี 1 บอก 4

5

คนที่ 2 บอก 5

5

คนที่ 1 บอก 6 เปน็ ต้น

5

6. ให้นักเรียนทบทวนกำรเปรียบเทียบและเรียงลำดับเศษส่วนท่ีตัวส่วนเท่ำกัน แล้วทำใบงำนที่ 2
เรอ่ื ง กำรเปรียบเทียบและเรียงลำดับเศษสว่ นท่ีตัวสว่ นเทำ่ กนั จำกน้ันร่วมกันตรวจสอบควำมถกู ตอ้ ง

ส่อื การเรยี นรู้

1. แถบแสดงเศษสว่ น
2. บัตรเศษส่วน
3. ใบงำนที่ 2 เร่อื ง กำรเปรียบเทียบและเรียงลำดับเศษสว่ นที่ตวั สว่ นเทำ่ กัน

การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ วิธกี าร เคร่ืองมือ เกณฑ์ผา่ น
ตรวจควำมถกู ต้องของ ใบ ใบงำนที่ 2 เรือ่ ง กำร ร้อยละ 60 ข้ึน
สง่ิ ท่ีตอ้ งการประเมิน งำนท่ี 2 เร่อื ง กำร เปรียบเทยี บและ ไป
1. เมื่อกำหนดเศษส่วนให้ สำมำรถ เปรยี บเทยี บและเรยี งลำดับ เรยี งลำดบั เศษส่วนที่ตัว
เปรียบเทยี บและเรยี งลำดับเศษสว่ น เศษส่วนที่ตวั ส่วนเท่ำกัน ส่วนเทำ่ กนั ระดับคุณภำพ
ทม่ี ีตัวสว่ นเท่ำกันได้ 2 ข้นึ ไป
-ประเมนิ คณุ ลักษณะทพ่ี ึง -แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ
2.นักเรยี นทำงำนทไ่ี ด้รบั มอบหมำย ประสงค์ ที่พึงประสงค์
สง่ ตรงตำมเวลำที่กำหนด ของนกั เรยี นรำยบคุ คล ของนกั เรียนรำยบุคคล

เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : มีวินัย

คะแนน : ระดับคุณภาพ คณุ ลกั ษณะทป่ี รากฏใหเ้ ห็น

4 : ดีเยยี่ ม - ผลงำนสะอำดเรียบร้อย
- ปฏิบัติตนอย่ใู นขอ้ ตกลงที่กำหนดใหร้ ว่ มกันทุกคร้ัง

3 : ดี - ผลงำนส่วนใหญส่ ะอำดเรียบรอ้ ย
- ปฏบิ ตั ิตนอยใู่ นขอ้ ตกลงท่กี ำหนดใหร้ ว่ มกันเป็นส่วนใหญ่

2 : ผ่ำน - ผลงำนไม่คอ่ ยเรียบรอ้ ย
- ปฏิบัติตนอยใู่ นขอ้ ตกลงท่กี ำหนดใหร้ ่วมกนั บำงคร้ัง ตอ้ งอำศัยกำรแนะนำ

1 : ไม่ผำ่ น - ผลงำนไมเ่ รียบรอ้ ย
- ไม่ปฏบิ ัติตนอย่ใู นขอ้ ตกลงที่กำหนดใหร้ ่วมกนั

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ : ใฝ่เรียนรู้

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลักษณะท่ปี รากฏใหเ้ หน็

4 : ดีเยย่ี ม - มคี วำมสนใจ/ควำมตงั้ ใจตลอดระยะเวลำกำรเรยี นรู้

3 : ดี - มคี วำมสนใจ/ควำมตง้ั ใจเป็นบำงคร้ัง

2 : ผ่ำน - มีควำมสนใจ/ควำมตัง้ ใจในระยะเวลำสน้ั ๆ ชอบเล่นในเวลำเรยี น

1 : ไมผ่ ำ่ น - ไม่สนใจ/ไมต่ ั้งใจ ชอบเล่นในเวลำเรียน

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ : มุง่ มน่ั ในการทางาน

คะแนน : ระดับคุณภาพ คณุ ลกั ษณะท่ีปรากฏใหเ้ หน็

- ส่งงำนก่อนหรือตรงกำหนดเวลำนัดหมำย

4 : ดีเยี่ยม - รับผิดชอบในงำนที่ได้รับมอบหมำยและปฏบิ ตั ิตนเองจนเปน็ นิสัย

เปน็ ตัวอย่ำงแกผ่ ู้อืน่ และแนะนำชกั ชวนให้ผู้อน่ื ปฏิบตั ิตำมได้

3 : ดี - ส่งงำนช้ำกว่ำกำหนด แต่ไดม้ ีกำรตดิ ตอ่ ช้ีแจงผ้สู อน มีเหตุผลทร่ี บั ฟงั ได้
- รบั ผดิ ชอบในงำนท่ไี ด้รับมอบหมำยและปฏิบัติตนเองจนเป็นนสิ ยั

2 : ผำ่ น - สง่ งำนช้ำกว่ำกำหนด
- ปฏิบตั ิงำนโดยต้องอำศัยกำรช้ีแนะ แนะนำ ตกั เตอื นหรอื ใหก้ ำลงั ใจ

1 : ไมผ่ ำ่ น -ไม่สง่ งำนช้ำ
- ไม่ปฏิบัติงำนแมจ้ ะชี้แนะ แนะนำ ตักเตือนหรอื ให้กำลงั ใจแล้ว

คะแนน

ใบงานท่ี 2 เร่ือง การเปรียบเทียบ
และเรยี งลาดบั เศษสว่ นท่ีตวั สว่ นเทา่ กัน

คาชแ้ี จง เตมิ เครอ่ื งหมำย > , < หรือ = ลงในชอ่ งวำ่ งให้ถูกต้อง

6)
7)
8)
9)
10 )

คาช้ีแจง เรยี งลำดบั เศษสว่ นตอ่ ไปนีจ้ ำกน้อยไปมำก

1) 3 , 5 , 1 ……………………………………………..
……………………………………………..
666 ……………………………………………..
……………………………………………..
2) 5,3,2

777

3) 4 , 8 , 2 , 5

9999

4) 5 , 10 , 20 , 25 , 15

50 50 50 50 50

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3

รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์

ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เศษส่วน : การเปรียบเทยี บและเรยี งลาดบั เศษสว่ นและจานวนคละ เวลา 1 ชว่ั โมง

ผูส้ อน นายบวร ศรปี ระเสรฐิ วันท่ี ..................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………….………………………………

มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชวี้ ัด

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน
ตัวช้วี ัด
การดาเนินการของจานวน ผลทเ่ี กิดข้นึ จากการดาเนินการ
สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้

-

จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. เมอ่ื กำหนดเศษส่วนสองจำนวนทีต่ ัวสว่ นตัวหนง่ึ เป็นพหุคูณของตวั ส่วนอีกตวั หนงึ่ ให้ สำมำรถ

เปรยี บเทยี บและเรยี งลำดับเศษสว่ นได้

2. นกั เรยี นทำงำนทไี่ ดร้ ับมอบหมำยส่งตรงตำมเวลำทก่ี ำหนด

สาระสาคญั

กำรเปรียบเทยี บเศษส่วนท่ีตวั ส่วนไม่เทำ่ กัน ใช้วธิ ีทำเศษสว่ นให้ตวั ส่วนเท่ำกนั ก่อน แล้วจึงเปรียบเทียบกัน
โดยพิจำรณำตวั เศษ เศษสว่ นใดที่ตวั เศษมำกกว่ำ เศษส่วนนน้ั จะมำกกว่ำ

สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน

1. ควำมสำมำรถในกำรสือ่ สำร
2. ควำมสำมำรถในกำรคิด
3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปญั หำ

คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รียนรู้
3. มุ่งมนั่ ในกำรทำงำน

การจัดกิจกรรมการเรียนรู้

1. ครตู ิดแถบเศษส่วนบนกระดำนและให้นกั เรยี นเขยี นเศษสว่ น  1  บนกระดำนขำ้ งแถบเศษสว่ น

5

1

5

จำกน้นั ครูติดแถบเศษส่วนอกี แผ่นหนึง่ ซึ่งมีขนำดเทำ่ เดมิ บนกระดำนแต่มสี ว่ นทร่ี ะบำยสี

แสดง 4 คกู่ ับแผ่นแรก เพอื่ นำมำเปรยี บเทียบส่วนทีร่ ะบำยสี ให้นกั เรยี นเขียนเศษสว่ น  4  บนกระดำน

10 10 

ข้ำงแถบเศษสว่ น ดงั นี้

1
5

4
10

ให้นกั เรยี นตอบคำถำม ดังน้ี

 สว่ นที่ระบำยสีแสดงเศษส่วนใด ( 1 กบั 4 )

5 10

 1 กบั 4 เท่ำกันหรือไม่ เพรำะเหตใุ ด (ไม่เท่ำกัน เพรำะสว่ นที่ระบำยสีไมเ่ ท่ำกนั )

5 10

 สว่ นที่ระบำยสีแสดงเศษสว่ นใดมำกกวำ่ ( 4 มำกกวำ่ )

10

 ดงั นน้ั 1 กับ 4 จำนวนใดมำกกวำ่ กัน ( 4 )
5 10 10

 ครูเขยี น 4 > 1 บนกระดำน

10 5

ครูจดั กิจกรรมลักษณะเดียวกนั น้ีอกี 2-3 ตวั อย่ำง เชน่ 3 กับ 1 , 1 กับ 1 , 3 กับ 12

6 2 4 8 5 15

2. ครเู ขยี นโจทยก์ ำรเปรียบเทยี บเศษส่วนท่ีตัวสว่ นไม่เท่ำกัน (ตัวส่วนเปน็ พหคุ ณู ของตวั ส่วนอกี ตัวหน่ึง)
บนกระดำน เชน่

9 4

21 7

ใหน้ กั เรยี นตอบคำถำม ดังนี้
 ตัวส่วนของเศษสว่ นท้ังสองเทำ่ กนั หรือไม่ (ไมเ่ ท่ำกนั )
 นกั เรยี นตอบได้ทันทหี รือไมว่ ่ำเศษสว่ นใดมำกกว่ำ ถำ้ นักเรียนตอบไดใ้ หบ้ อกวธิ ีคิด

ถ้ำนักเรียนตอบไม่ไดใ้ ห้ครูตั้งคำถำมตอ่ ไปน้ี
 ถำ้ นกั เรยี นทำตวั ส่วนให้เท่ำกันนักเรียนจะเปรียบเทียบไดง้ ่ำยขนึ้ หรือไม่ (ง่ำยข้ึน)
 ถำ้ นกั เรียนจะทำตวั สว่ น 7 ให้เปน็ 21 จะทำได้อยำ่ งไร (นำ 3 มำคณู 7)

จะทำได้อยำ่ งไร  ดังนน้ั ทำ 4 ใหเ้ ป็นเศษส่วนท่ีตวั สว่ นเป็น 21 โดยทีเ่ ศษส่วนทไี่ ดใ้ หม่นั้นยังคงเทำ่ เดมิ

7

ครแู ละนักเรยี นช่วยกนั เขยี นแสดงวธิ ที ำ

4 = 43 = 12

7 73 21

ใหน้ ักเรยี นเปรยี บเทียบ 9 กบั 12 ( 9 < 12 )

21 21 21 21

แล้วใหน้ ักเรียนเปรยี บเทียบ 9 กบั 4 ( 9 < 4 )

21 7 21 7

ครอู ธิบำยวำ่ จำกโจทย์กำรเปรยี บเทียบเศษสว่ นคูเ่ ดมิ นี้

9 4

21 7

สำมำรถทำอกี วธิ ีหนง่ึ ไดค้ อื แทนที่จะทำ 4 ให้เปน็ เศษส่วนทีต่ วั ส่วนเป็น 21 แล้ว

7

เปรียบเทยี บ อำจทำ 9 ให้เป็นเศษส่วนทตี่ วั ส่วนเป็น 7 แลว้ เปรียบเทียบ ซ่งึ จะได้ดงั น้ี

21

9 = 93 = 3

21 21  3 7

3<4

77

ดังน้นั 9 < 4

21 7

จำกนั้นให้นกั เรียนสงั เกตและรว่ มกนั สรปุ ให้ไดว้ ำ่ กำรเปรียบเทยี บเศษสว่ นที่ตัวสว่ นไม่เทำ่ กนั
ใช้วธิ ที ำเศษส่วนใหต้ วั สว่ นเทำ่ กันกอ่ น แลว้ จงึ เปรยี บเทียบกนั โดยพิจำรณำตวั เศษ เศษส่วนใดทต่ี วั เศษมำกกว่ำ
เศษส่วนนัน้ จะมำกกวำ่

3. ครูยกตัวอย่ำงเพิ่มเตมิ อีกหลำยๆ ตวั อยำ่ งให้นักเรียนฝกึ เขยี นแสดงกำรเปรียบเทยี บ เชน่

2 กับ 4 , 4 กับ 21 , 6 กับ 2

7 14 5 25 18 3

4. ครยู กตวั อย่ำงเศษส่วน 4 จำนวน ซึง่ เศษสว่ นเหลำ่ นนั้ มีตวั สว่ นตวั หนึง่ เป็นพหุคูณของตวั ส่วนของ

เศษสว่ นอีก 3 จำนวนท่เี หลอื เชน่ 4 , 6 , 9 , 30 ใหน้ ักเรยี นอภปิ รำยร่วมกนั ว่ำ

7 21 14 42

 ถ้ำจะเรียงลำดับเศษส่วนเหล่ำน้ีจำกน้อยไปมำกควรมวี ธิ คี ิดอย่ำงไร (ทำเศษสว่ นทกุ จำนวน
ให้มีตัวสว่ นเท่ำกันกอ่ นแล้วเปรยี บเทียบ)

 ให้นักเรยี นสงั เกตตวั ส่วนทัง้ หมดแล้วหำควำมสัมพนั ธ์ของตวั ส่วนเหลำ่ น้ี (7 21 14 ตำ่ งก็
หำร 42 ลงตัว)

 ให้พิจำรณำว่ำควรทำเศษสว่ นทงั้ หมดให้ตัวส่วนเป็นจำนวนใดก่อน (42) จำกนัน้ ใหน้ กั เรียน
ชว่ ยกันคิดและออกมำเขยี นคำตอบบนกระดำน ดังนี้

4= 46 = 24

7 76 42
12
6= 62 =
42
21 21 2 27

9= 93 = 42

14 14  3

เนื่องจำก 12 < 24 < 27 < 30

42 42 42 42

ดงั นัน้ เรียงลำดับจำกนอ้ ยไปมำกไดด้ ังนี้ 6 4 9 30

21 7 14 42

5. ให้นักเรียนทำใบงำนที่ 3 เร่ือง กำรเปรียบเทียบและเรยี งลำดับเศษส่วน จำกนั้นร่วมกนั ตรวจสอบ
ควำมถกู ต้อง

ส่อื การเรียนรู้

1. แถบแสดงเศษส่วน
2. บัตรเศษสว่ น
3. ใบงำนท่ี 3 เร่อื ง กำรเปรยี บเทียบและเรยี งลำดับเศษสว่ น

การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วธิ กี าร เคร่ืองมอื เกณฑ์ผา่ น
ตรวจควำมถูกต้องของ ใบ ใบงำนที่ 3 เรอื่ ง กำร ร้อยละ 60 ข้นึ
ส่งิ ท่ีต้องการประเมนิ งำนที่ 3 เรอื่ ง กำร เปรียบเทยี บและ ไป
1. เม่อื กำหนดเศษสว่ นสองจำนวนที่ เปรยี บเทยี บและเรยี งลำดบั เรยี งลำดับเศษสว่ น
ตวั สว่ นตวั หนึ่งเป็นพหุคูณของตวั ส่วน เศษสว่ น ระดบั คณุ ภำพ
อีกตวั หนง่ึ ให้ สำมำรถเปรียบเทียบ -แบบประเมินคณุ ลักษณะ 2 ขึ้นไป
และเรียงลำดับเศษส่วนได้ -ประเมินคณุ ลกั ษณะทพ่ี ึง ทพ่ี งึ ประสงค์
2.นักเรียนทำงำนท่ีได้รบั มอบหมำย ประสงค์ ของนักเรียนรำยบคุ คล
สง่ ตรงตำมเวลำทีก่ ำหนด ของนกั เรียนรำยบคุ คล

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ : มีวินัย

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คุณลกั ษณะที่ปรากฏให้เหน็

4 : ดีเยีย่ ม - ผลงำนสะอำดเรยี บร้อย
- ปฏบิ ตั ิตนอยใู่ นข้อตกลงท่กี ำหนดใหร้ ่วมกันทกุ คร้ัง

3 : ดี - ผลงำนส่วนใหญส่ ะอำดเรยี บร้อย
- ปฏิบตั ิตนอยใู่ นข้อตกลงท่ีกำหนดให้ร่วมกนั เปน็ สว่ นใหญ่

2 : ผ่ำน - ผลงำนไม่คอ่ ยเรยี บร้อย
- ปฏิบตั ิตนอยู่ในขอ้ ตกลงท่ีกำหนดให้รว่ มกนั บำงครงั้ ตอ้ งอำศัยกำรแนะนำ

1 : ไมผ่ ่ำน - ผลงำนไมเ่ รียบรอ้ ย
- ไม่ปฏิบตั ติ นอยใู่ นขอ้ ตกลงทกี่ ำหนดให้ร่วมกนั

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : ใฝเ่ รียนรู้

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลกั ษณะท่ีปรากฏใหเ้ ห็น

4 : ดีเยี่ยม - มีควำมสนใจ/ควำมตั้งใจตลอดระยะเวลำกำรเรียนรู้

3 : ดี - มีควำมสนใจ/ควำมต้ังใจเปน็ บำงคร้ัง

2 : ผำ่ น - มคี วำมสนใจ/ควำมตั้งใจในระยะเวลำสน้ั ๆ ชอบเลน่ ในเวลำเรยี น

1 : ไมผ่ ่ำน - ไมส่ นใจ/ไม่ต้งั ใจ ชอบเลน่ ในเวลำเรียน

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : มุ่งมน่ั ในการทางาน

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลกั ษณะท่ีปรากฏให้เหน็

- ส่งงำนก่อนหรอื ตรงกำหนดเวลำนัดหมำย

4 : ดีเย่ียม - รับผดิ ชอบในงำนท่ไี ดร้ บั มอบหมำยและปฏิบตั ติ นเองจนเป็นนิสัย

เปน็ ตัวอย่ำงแกผ่ อู้ ่ืน และแนะนำชกั ชวนให้ผูอ้ ่ืนปฏิบตั ติ ำมได้

3 : ดี - ส่งงำนชำ้ กวำ่ กำหนด แต่ได้มีกำรตดิ ต่อชี้แจงผสู้ อน มเี หตผุ ลทร่ี บั ฟงั ได้
- รับผดิ ชอบในงำนที่ได้รับมอบหมำยและปฏิบัตติ นเองจนเป็นนสิ ยั

2 : ผ่ำน - สง่ งำนช้ำกว่ำกำหนด
- ปฏบิ ัตงิ ำนโดยต้องอำศัยกำรช้ีแนะ แนะนำ ตักเตือนหรอื ให้กำลงั ใจ

1 : ไมผ่ ำ่ น -ไมส่ ง่ งำนชำ้
- ไม่ปฏิบตั ิงำนแม้จะชแ้ี นะ แนะนำ ตักเตือนหรือใหก้ ำลังใจแล้ว

คะแนน

ใบงานที่ 3 เรอื่ ง การเปรียบเทยี บ
และเรยี งลาดับเศษส่วน

คาชี้แจง เติมเคร่อื งหมำย > , < หรอื = ลงในชอ่ งว่ำงให้ถกู ต้อง
6)
7)

8)

9)

10 )

คาช้แี จง เรยี งลำดบั เศษส่วนตอ่ ไปนีจ้ ำกนอ้ ยไปมำก

1) 5 , 1 , 7 ……………………………………………..
……………………………………………..
8 2 16

2 ) 1 , 17 , 4

3 18 9

คาชแ้ี จง เรียงลำดับเศษส่วนตอ่ ไปนจ้ี ำกมำกไปน้อย

1) 2 , 2 , 2 ……………………………………………..
3 9 18 ……………………………………………..

2) 6 ,1, 7

10 2 20

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4

รายวิชา คณติ ศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรยี นรูค้ ณติ ศาสตร์

ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564

หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 1 เศษส่วน : ทบทวนเศษส่วนอย่างตา่ เวลา 1 ชั่วโมง

ผู้สอน นายบวร ศรปี ระเสรฐิ วนั ท่ี ..................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………….………………………………

มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้วี ัด

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน
ตัวชวี้ ัด
การดาเนินการของจานวน ผลทเี่ กดิ ขึ้นจากการดาเนนิ การ
สมบตั ิของการดาเนนิ การ และนาไปใช้

-

จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. เมื่อกำหนดเศษสว่ นให้ สำมำรถทำเปน็ เศษส่วนอยำ่ งต่ำได้

2. นกั เรียนทำงำนทีไ่ ด้รบั มอบหมำยสง่ ตรงตำมเวลำทกี่ ำหนด

สาระสา่ คญั

กำรทำเศษส่วนใหเ้ ป็นเศษสว่ นอย่ำงต่ำ ทำไดโ้ ดยนำจำนวนนบั ท่เี ท่ำกันหำรท้ังตวั เศษและตวั ส่วนจนไมม่ ี

จำนวนนับใดนอกจำก 1 ท่ีหำรทัง้ ตวั เศษและตัวส่วนได้ลงตวั

สมรรถนะสา่ คัญของผ้เู รียน

1. ควำมสำมำรถในกำรสื่อสำร
2. ควำมสำมำรถในกำรคิด
3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปญั หำ

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ ม่ันในกำรทำงำน

การจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

1. ครูทบทวนเรอื่ งเศษสว่ นที่เทำ่ กันโดยติดแถบเศษสว่ นบนกระดำน ดังน้ี

ใหน้ กั เรยี นเขียนเศษส่วนแสดงส่วนที่แรเงำแต่ละภำพ ( 4 และ 2 ) และใหบ้ อกวำ่

10 5

เศษส่วนทง้ั สองเทำ่ กนั หรือไม่ เพรำะเหตใุ ด (เท่ำกนั เพรำะสว่ นที่แรเงำเท่ำกนั )
2. ครเู ขยี น 4 = 2 บนกระดำน ใหน้ กั เรยี นช่วยกันคิดว่ำ ถำ้ จะทำตัวส่วน 10 ใหเ้ ป็นตัวส่วน 5

10 5

จะต้องนำจำนวนใดมำหำรและจะต้องกำรตัวเศษ 4 ด้วยหรือไม่ เพรำะเหตุใด (ต้องนำ 2 มำหำร และนำไป
หำร 4 ด้วย เพรำะถำ้ ไมน่ ำ 2 ไปหำร 4 จะทำใหเ้ ศษสว่ นท่ีไดไ้ มเ่ ท่ำกบั เศษสว่ นเดิม)

ครูสรุปและเขียนแสดงวธิ ีทำบนกระดำนดังน้ี
4 = 4÷2

10 10÷2

=2

5

ใหน้ กั เรยี นคิดและรว่ มกันอภิปรำยวำ่ จะมจี ำนวนนบั ใดทีห่ ำรตวั เศษและตัวสว่ นของ 2

5

ลงตวั (มแี ค่ 1 เทำ่ นั้น) ครแู นะนำใหน้ กั เรยี นทรำบวำ่ 2 เปน็ เศษสว่ นอย่ำงตำ่ ของ 4

5 10

ครูยกตัวอย่ำงเพ่ิมเติมอีก เช่น 15 ให้นักเรียนช่วยกันคิดและร่วมกันอภิปรำยว่ำจะมี

35

จำนวนนับใดท่ีหำรตัวเศษและตัวส่วนได้ลงตัว จำกน้ันให้ตัวแทนนักเรียนช่วยกนั เขียนแสดงวธิ ีทำบนกระดำน
ดังนี้

15 = 15÷5 = 3

35 35÷5 7

ใหน้ กั เรียนตอบวำ่ 3 เป็นเศษสว่ นอยำ่ งตำ่ หรือไม่ เพรำะอะไร (เปน็ เศษสว่ นอยำ่ งตำ่

7

เพรำะไม่มจี ำนวนนับใดนอกจำก 1 ท่ีหำรตวั เศษและตวั สว่ นของ 3 ไดล้ งตวั )

7

ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปวำ่ เศษส่วนอย่ำงตำ่ คือ เศษสว่ นทีไ่ ม่มจี ำนวนนบั ใดที่มำกกวำ่ 1
หำรทงั้ ตวั เศษและตัวสว่ นไดล้ งตัว

ครูแนะนำวำ่ กำรทำ 15 ให้เปน็ เศษส่วนอย่ำงต่ำ อำจเขียนแสดงไดอ้ ีกแบบหนึ่งดังนี้

35

15 = 15 3 = 3

35 35 7 7

ครูกำหนดเศษส่วนเพ่มิ เติมอกี หลำยๆ จำนวนใหน้ กั เรยี นทำเป็นเศษสว่ นอย่ำงตำ่ เช่น
12 , 8 , 9 , 18

16 12 27 54

2. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั สรุปวำ่ กำรทำเศษส่วนให้เป็นเศษส่วนอยำ่ งตำ่ ทำไดโ้ ดยนำจำนวนนับทเ่ี ท่ำกนั
หำรทงั้ ตัวเศษและตวั สว่ นจนไม่มจี ำนวนนบั ใดนอกจำก 1 ที่หำรทง้ั ตัวเศษและตัวส่วนได้ลงตวั จำกนั้นให้นกั เรียนทำ
ใบงำนที่ 4 เร่ือง เศษสว่ นอย่ำงต่ำ จำกนน้ั ร่วมกนั ตรวจสอบควำมถูกต้อง

ส่อื การเรยี นรู้

1. แถบแสดงเศษสว่ น
2. ใบงำนท่ี 4 เรื่อง เศษส่วนอย่ำงตำ่

การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้

สง่ิ ท่ตี ้องการประเมนิ วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์ผ่าน

1. เมอ่ื กำหนดเศษส่วนให้ สำมำรถ ตรวจควำมถกู ต้องของ ใบ ใบงำนที่ 4 เรอ่ื ง เศษสว่ น ร้อยละ 60 ข้ึน
ทำเป็นเศษส่วนอย่ำงต่ำได้ งำนท่ี 4 เร่อื ง เศษส่วน
อย่ำงต่ำ อยำ่ งต่ำ ไป

2.นักเรียนทำงำนท่ีได้รบั มอบหมำย -ประเมินคณุ ลักษณะท่ีพงึ -แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดับคุณภำพ

ส่งตรงตำมเวลำที่กำหนด ประสงค์ ทพี่ ึงประสงค์ 2 ขน้ึ ไป

ของนักเรียนรำยบคุ คล ของนักเรยี นรำยบุคคล

เกณฑก์ ารให้คะแนนดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : มีวินยั

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลักษณะท่ีปรากฏใหเ้ หน็

4 : ดีเย่ียม - ผลงำนสะอำดเรียบร้อย
- ปฏิบตั ิตนอยใู่ นข้อตกลงทกี่ ำหนดใหร้ ว่ มกนั ทกุ คร้ัง

3 : ดี - ผลงำนส่วนใหญส่ ะอำดเรียบร้อย
- ปฏบิ ัติตนอย่ใู นข้อตกลงที่กำหนดให้รว่ มกนั เป็นส่วนใหญ่

2 : ผ่ำน - ผลงำนไมค่ อ่ ยเรียบรอ้ ย
- ปฏิบัติตนอย่ใู นขอ้ ตกลงท่ีกำหนดใหร้ ่วมกัน บำงครงั้ ต้องอำศัยกำรแนะนำ

1 : ไม่ผ่ำน - ผลงำนไมเ่ รียบรอ้ ย
- ไม่ปฏบิ ตั ิตนอยู่ในขอ้ ตกลงทก่ี ำหนดใหร้ ว่ มกัน

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ : ใฝ่เรียนรู้

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คุณลกั ษณะทีป่ รากฏใหเ้ หน็

4 : ดีเยย่ี ม - มีควำมสนใจ/ควำมตงั้ ใจตลอดระยะเวลำกำรเรยี นรู้

3 : ดี - มีควำมสนใจ/ควำมต้ังใจเปน็ บำงคร้ัง

2 : ผ่ำน - มคี วำมสนใจ/ควำมตงั้ ใจในระยะเวลำสั้นๆ ชอบเล่นในเวลำเรยี น

1 : ไม่ผำ่ น - ไม่สนใจ/ไมต่ งั้ ใจ ชอบเลน่ ในเวลำเรยี น

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ : มุ่งม่นั ในการท่างาน

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คุณลกั ษณะท่ีปรากฏใหเ้ หน็

- สง่ งำนกอ่ นหรือตรงกำหนดเวลำนัดหมำย

4 : ดีเยี่ยม - รบั ผิดชอบในงำนทีไ่ ด้รับมอบหมำยและปฏบิ ตั ิตนเองจนเป็นนิสัย

เป็นตัวอยำ่ งแก่ผอู้ นื่ และแนะนำชักชวนใหผ้ ูอ้ ่ืนปฏบิ ัติตำมได้

3 : ดี - ส่งงำนชำ้ กวำ่ กำหนด แตไ่ ด้มีกำรติดต่อช้ีแจงผูส้ อน มีเหตุผลทร่ี บั ฟงั ได้
- รบั ผดิ ชอบในงำนทไี่ ด้รับมอบหมำยและปฏิบตั ติ นเองจนเปน็ นสิ ยั

2 : ผ่ำน - สง่ งำนช้ำกวำ่ กำหนด
- ปฏบิ ัติงำนโดยต้องอำศัยกำรชีแ้ นะ แนะนำ ตกั เตือนหรือใหก้ ำลงั ใจ

1 : ไม่ผำ่ น -ไม่ส่งงำนช้ำ
- ไม่ปฏิบัติงำนแมจ้ ะชแ้ี นะ แนะนำ ตกั เตือนหรอื ให้กำลงั ใจแล้ว

คะแนน

ใบงานท่ี 4 เร่อื ง เศษสว่ นอยา่ งต่า

คา่ ช้แี จง ทำใหเ้ ปน็ เศษสว่ นอยำ่ งต่ำ

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5

รายวิชา คณติ ศาสตร์ ค15101 กลมุ่ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 1 เศษส่วน : ทบทวนเศษเกินและจานวนคละ เวลา 1 ชัว่ โมง

ผ้สู อน นายบวร ศรีประเสรฐิ วนั ที่ ..................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………….………………………………

มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชว้ี ดั

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน

การดาเนนิ การของจานวน ผลทเี่ กิดขน้ึ จากการดาเนินการ
สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้
ตัวชว้ี ัด

-

จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. เม่อื กำหนดเศษเกินให้ สำมำรถเขียนในรปู จำนวนคละ และเมือ่ กำหนดจำนวนคละให้ สำมำรถ

เขยี นในรปู เศษเกินได้

2. นกั เรยี นทำงำนท่ีไดร้ ับมอบหมำยสง่ ตรงตำมเวลำที่กำหนด

สาระสาคญั

กำรเขยี นเศษเกนิ ในรปู จำนวนคละ อำจทำได้โดยนำตัวส่วนไปหำรตัวเศษผลหำรทไี่ ด้จะเป็นจำนวนนับ

เศษท่เี หลอื เป็นตัวเศษ โดยมีตวั ส่วนคงเดมิ

กำรเขียนจำนวนคละในรปู เศษเกิน ทำได้โดยนำตัวส่วนไปคณู จำนวนนบั แลว้ บวกกบั ตวั เศษ ผลลัพธ์ที่ได้

จะเปน็ ตัวเศษของเศษเกิน โดยมีตวั สว่ นคงเดิม

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน

1. ควำมสำมำรถในกำรส่อื สำร
2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ
3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ญั หำ

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. มีวนิ ัย
2. ใฝ่เรียนรู้
3. มุง่ ม่ันในกำรทำงำน

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

1. ครูติดแถบเศษสว่ นบนกระดำน ดงั นี้

รปู ที่ 1 รปู ท่ี 2

ใหน้ ักเรยี นตอบคำถำมต่อไปน้ี

 สว่ นทแ่ี รเงำของรูปท่ี 1 เขียนแสดงดว้ ยเศษส่วนใด ( 3 )
3
(2)
 ส่วนทีแ่ รเงำของรูปท่ี 2 เขยี นแสดงด้วยเศษส่วนใด
3
3 2 ไดเ้ ทำ่ ใด ( 5 )
3 รวมกบั 3
3
ครเู ขียนแสดงบนกระดำน

5 =3+2

3 33

=1+2

3

= 1 2
3

ดังนน้ั 5 = 1 2

33

จดั กจิ กรรมแบบเดียวกนั อีก 2-3 ตวั อย่ำง แลว้ ครูทบทวนว่ำกำรเขียนเศษสว่ นให้เปน็ จำนวนนบั

ทำไดโ้ ดยนำตัวสว่ นไปหำรตวั เศษ ครูแนะนำใหน้ ักเรียนใช้วิธกี ำรเดยี วกันนใี้ นกำรเขียนเศษเกนิ ในรูปจำนวนคละ

เช่น 5 เนื่องจำก 5 ÷ 3 จะได้ 1 เศษ 2 ดงั น้นั 5 = 1 2
3 3 3

หรือ 7 เนอื่ งจำก 7 ÷ 2 จะได้ 3 เศษ 1 ดงั น้นั 7 = 3 1
2 2 2

จำกนั้นครูให้นักเรียนสังเกตจำนวนคละที่ได้ในแต่ละตัวอย่ำงแล้วให้นักเรียนร่วมกันอภิปรำย
จนได้ข้อสรุปว่ำ กำรเขียนเศษเกินในรูปจำนวนคละ อำจทำได้โดยนำตัวส่วนไปหำรตัวเศษผลหำรที่ได้จะเป็น
จำนวนนบั เศษทเ่ี หลอื เป็นตวั เศษ โดยมตี วั ส่วนคงเดมิ

2. ครูติดแถบเศษส่วนบนกระดำน ดังนี้

ให้นักเรยี นตอบคำถำมตอ่ ไปน้ี

 รูปวงกลมที่แรเงำเตม็ รปู มกี ่ีรูป (2 รปู )

 รปู วงกลมท่แี รเงำไม่เต็มรูปเขียนแสดงดว้ ยเศษส่วนใด ( 1 )
4

 สว่ นท่แี รเงำทั้งหมดเขยี นแสดงด้วยจำนวนคละใด (2 1 )
4
4 4 1
 ส่วนท่ีแรเงำแตล่ ะรูปเขยี นแสดงดว้ ยเศษสว่ นใด ( 4 , 4 , 4 )

ครูเขยี นเศษส่วนใตภ้ ำพ ดังนี้

4 41
4 44

ครเู ขยี นแสดงควำมสมั พนั ธ์

1 = 2 + 1
24 4

= 1 + 1 + 1
4

= 4+4+ 1

44 4

= 4+4+1

4

= (2×4)+1

4

=9

4

ครูให้นกั เรยี นสงั เกตว่ำแต่ละรูปแบ่งเปน็ 4 ส่วนเท่ำๆ กนั มรี ปู ท่แี รเงำเตม็ รปู 2 รูป คิดเปน็
2  4 = 8 ส่วน กับอกี 1 ส่วนทเี่ หลอื ดังน้ันส่วนทแ่ี รเงำทั้งหมดมี 8 + 1 = 9 สว่ น

ครเู ขียนสรุปควำมสัมพนั ธ์ ดงั นี้

1 = (2×4)+1 = 9
24
44

ครแู นะนำให้นักเรยี นสังเกต (2  4 ) + 1 ได้จำกกำรนำตวั ส่วน 4 ไปคณู กับจำนวนนบั 2

แลว้ บวกดว้ ยตัวเศษ 1 น่ันเอง

จัดกิจกรรมแบบเดยี วกันอกี 2-3 ตวั อย่ำง เมื่อนกั เรียนเขำ้ ใจแลว้ ให้นักเรยี นช่วยกนั สรปุ วำ่
กำรเขยี นจำนวนคละในรูปเศษเกิน ทำได้โดยนำตวั ส่วนไปคุณจำนวนนับ แลว้ บวกกบั ตัวเศษ ผลลพั ธท์ ี่ได้จะเป็น
ตวั เศษของเศษเกนิ โดยมตี วั สว่ นคงเดมิ

3. ให้นกั เรยี นทำใบงำนท่ี 5 เร่ือง เศษเกนิ และจำนวนคละ จำกนั้นรว่ มกนั ตรวจสอบควำมถูกต้อง

สื่อการเรียนรู้

1. แถบแสดงเศษส่วน
2. ใบงำนท่ี 5 เรื่อง เศษเกินและจำนวนคละ

การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

สงิ่ ที่ต้องการประเมนิ วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์ผา่ น
ใบงำนที่ 5 เรือ่ ง เศษเกนิ ร้อยละ 60 ข้นึ
1. เม่อื กำหนดเศษเกนิ ให้ สำมำรถ ตรวจควำมถูกตอ้ งของ ใบ และจำนวนคละ ไป

เขยี นในรปู จำนวนคละ และเมือ่ งำนที่ 5 เรื่อง เศษเกนิ และ -แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดบั คณุ ภำพ
ทีพ่ งึ ประสงค์ 2 ขน้ึ ไป
กำหนดจำนวนคละให้ สำมำรถเขียน จำนวนคละ ของนักเรยี นรำยบุคคล

ในรูปเศษเกนิ ได้

2.นักเรียนทำงำนท่ไี ดร้ บั มอบหมำย -ประเมินคณุ ลักษณะทพ่ี งึ

สง่ ตรงตำมเวลำทก่ี ำหนด ประสงค์

ของนักเรยี นรำยบุคคล

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ : มีวินยั

คะแนน : ระดับคุณภาพ คุณลักษณะท่ปี รากฏใหเ้ ห็น

4 : ดีเยย่ี ม - ผลงำนสะอำดเรียบรอ้ ย
- ปฏิบตั ิตนอยู่ในข้อตกลงทกี่ ำหนดใหร้ ว่ มกันทุกครงั้

3 : ดี - ผลงำนส่วนใหญส่ ะอำดเรียบร้อย
- ปฏบิ ตั ิตนอยู่ในข้อตกลงท่กี ำหนดให้ร่วมกนั เปน็ ส่วนใหญ่

2 : ผำ่ น - ผลงำนไม่คอ่ ยเรียบร้อย
- ปฏบิ ัติตนอยู่ในข้อตกลงทก่ี ำหนดใหร้ ่วมกนั บำงครง้ั ตอ้ งอำศัยกำรแนะนำ

1 : ไมผ่ ำ่ น - ผลงำนไมเ่ รียบรอ้ ย
- ไม่ปฏบิ ัตติ นอยูใ่ นข้อตกลงทก่ี ำหนดใหร้ ่วมกัน

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : ใฝ่เรยี นรู้

คะแนน : ระดับคุณภาพ คณุ ลกั ษณะที่ปรากฏใหเ้ หน็

4 : ดีเยย่ี ม - มคี วำมสนใจ/ควำมตั้งใจตลอดระยะเวลำกำรเรยี นรู้

3 : ดี - มคี วำมสนใจ/ควำมตั้งใจเป็นบำงคร้งั

2 : ผำ่ น - มคี วำมสนใจ/ควำมตัง้ ใจในระยะเวลำสนั้ ๆ ชอบเลน่ ในเวลำเรียน

1 : ไม่ผ่ำน - ไม่สนใจ/ไม่ต้งั ใจ ชอบเลน่ ในเวลำเรยี น

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : มุ่งมั่นในการทางาน

คะแนน : ระดับคณุ ภาพ คณุ ลักษณะท่ปี รากฏให้เหน็

- สง่ งำนก่อนหรือตรงกำหนดเวลำนัดหมำย

4 : ดีเยย่ี ม - รับผดิ ชอบในงำนท่ไี ดร้ ับมอบหมำยและปฏบิ ตั ติ นเองจนเปน็ นิสัย

เปน็ ตวั อย่ำงแกผ่ อู้ ่ืน และแนะนำชักชวนให้ผู้อน่ื ปฏิบตั ติ ำมได้

3 : ดี - สง่ งำนช้ำกว่ำกำหนด แต่ได้มีกำรติดตอ่ ชี้แจงผูส้ อน มเี หตผุ ลทีร่ บั ฟงั ได้
- รับผดิ ชอบในงำนท่ไี ดร้ ับมอบหมำยและปฏบิ ตั ติ นเองจนเปน็ นสิ ัย

2 : ผ่ำน - ส่งงำนชำ้ กว่ำกำหนด
- ปฏิบตั งิ ำนโดยตอ้ งอำศัยกำรชแี้ นะ แนะนำ ตกั เตอื นหรอื ใหก้ ำลังใจ

1 : ไมผ่ ำ่ น -ไมส่ ่งงำนชำ้
- ไมป่ ฏบิ ัติงำนแมจ้ ะช้แี นะ แนะนำ ตกั เตอื นหรอื ให้กำลงั ใจแลว้

คะแนน

ใบงานที่ 5 เรื่อง เศษเกินและจานวนคละ

คาชแ้ี จง เขยี นเศษเกนิ ในรปู จำนวนคละ

คาชี้แจง เขยี นจำนวนคละในรปู เศษเกนิ

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 6

รายวชิ า คณติ ศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564

หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 1 เศษส่วน : การบวก การลบเศษสว่ นและจานวนคละ เวลา 1 ช่ัวโมง

ผู้สอน นายบวร ศรปี ระเสรฐิ วนั ท่ี ..................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………….………………………………

มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชว้ี ดั

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน

การดาเนินการของจานวน ผลท่ีเกิดขึน้ จากการดาเนนิ การ
สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้
ตัวชว้ี ัด

ค 1.1 ป.5/3 หาผลบวก ผลลบ ของเศษส่วนและจานวนคละ

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. เมื่อกำหนดโจทย์กำรบวกหรือกำรลบเศษสว่ นให้ สำมำรถหำคำตอบ พรอ้ มท้งั ตระหนักถึงควำม

สมเหตุสมผลของคำตอบที่ได้ และแสดงวิธที ำได้

2. นักเรยี นทำงำนที่ได้รับมอบหมำยส่งตรงตำมเวลำทีก่ ำหนด

สาระสาคญั

กำรบวกหรอื กำรลบเศษส่วนที่ตวั ส่วนไมเ่ ท่ำกนั จะตอ้ งทำตัวส่วนให้เทำ่ กนั ก่อน แลว้ จึงหำผลบวก

หรอื ผลลบ

สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น

1. ควำมสำมำรถในกำรสือ่ สำร
2. ควำมสำมำรถในกำรคิด
3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปญั หำ

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. มวี นิ ยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มงุ่ ม่นั ในกำรทำงำน

การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

1. ทบทวนกำรหำเศษส่วนที่เทำ่ กนั โดยครูติดแถบโจทย์เศษส่วนบนกระดำน เช่น

ให้นักเรียนรว่ มกันอภิปรำยจนได้ขอ้ สรปุ วำ่ กำรหำเศษสว่ นท่ีเท่ำกบั เศษส่วนท่กี ำหนดให้
ทำได้โดยนำจำนวนนับที่เทำ่ กนั มำคูณทั้งตัวเศษและตวั สว่ น หรือหำรท้งั ตวั เศษและตวั ส่วน ดงั นี้

1 = 1×2 = 2

6 6×2 12

18 = 18÷18 = 1

36 36÷18 2

ใหน้ กั เรยี นฝกึ หำเศษสว่ นที่เท่ำกนั อีก 5-6 ข้อ เชน่

2. ครูนำโจทยก์ ำรบวกเศษส่วนที่ตวั ส่วนตัวหน่งึ เป็นพหุคูณของตัวส่วนอีกตวั หนึ่งมำใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั
หำผลลพั ธ์ เชน่

ให้นกั เรียนสงั เกตและตอบคำถำม ดังนี้

 เศษส่วนที่นำมำบวกกนั มีตวั สว่ นเทำ่ กันหรอื ไม่ (ไม่เทำ่ กัน)

 กำรบวกเศษส่วน ตวั ส่วนต้องเท่ำกันหรือไม่ (ต้องเท่ำกัน)

 ทำตวั ส่วนให้เทำ่ กนั ไดอ้ ย่ำงไร และไดเ้ ทำ่ ใด (นำ 5 มำคูณ 1 ท้ังตัวเศษและตวั ส่วนได้ 5 )

2 10
ครแู นะนำว่ำสำมำรถหำผลบวกของ 1 + 8 โดยวิธีคำนวณ ได้ดังน้ี
2 10
1 + 8 = (1×5) + 8
2 10 2×5 10
= 5+8
10 10
= 13
10
3
= 1 10

ครูแนะนำว่ำผลบวกหรอื ผลลบท่ีได้จำกกำรบวกหรือกำรลบเศษสว่ น ควรทำให้เป็น “รปู อยำ่ งงำ่ ย”
ซึง่ อำจอยู่ในรูปเศษส่วนอยำ่ งตำ่ จำนวนคละ จำนวนนับ หรอื ศนู ย์

ครูยกตวั อย่ำงอกี 1-2 ตัวอยำ่ ง แลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั สรปุ วำ่ กำรบวกเศษส่วนท่ีตวั ส่วน
ไม่เทำ่ กัน จะต้องทำตวั ส่วนให้เทำ่ กันกอ่ น แล้วจงึ หำผลบวก

3. ครูยกตวั อยำ่ งโจทย์กำรลบเศษส่วนท่ีตัวสว่ นตวั หนึ่งเปน็ พหคุ ณู ของตัวส่วนอกี ตัวหนงึ่ มำใหน้ กั เรยี น
ช่วยกันหำผลลัพธ์ โดยให้นกั เรียนตอบคำถำมทำนองเดยี วกนั กับกำรบวก ดังน้ี

 เศษส่วนทีน่ ำมำลบกันมตี วั ส่วนเทำ่ กันหรือไม่ (ไม่เทำ่ กัน)

 กำรลบเศษสว่ น ตัวส่วนตอ้ งเท่กันหรอื ไม่ (ต้องเทำ่ กัน)

 ทำตัวส่วนใหเ้ ท่ำกนั ไดอ้ ยำ่ งไร และไดเ้ ทำ่ ใด (นำ 5 มำคณู 1 ทั้งตวั เศษและตัวส่วนได้ 5 )

ครแู ละนักเรยี นช่วยกันสรุปเป็นวิธีคำนวณ ดงั นี้ 2 10

7 +1 = 7 - (12××55)
10
10 2

= 7 -5

10 10

=2

10

= 1 (ทำใหเ้ ป็นเศษส่วนอย่ำงตำ่ )

5

ครูยกตวั อยำ่ งอกี 1-2 ตัวอยำ่ ง แล้วใหน้ กั เรียนช่วยกันสรุปวำ่ กำรลบเศษส่วนท่ีตัวสว่ น

ไมเ่ ท่ำกนั จะต้องทำตัวสว่ นให้เท่ำกันก่อน แล้วจงึ หำผลลบ

4. ครูทบทวนเรื่องกำรทำใหเ้ ป็นเศษส่วนอย่ำงต่ำ กำรเขียนเศษเกินในรปู จำนวนคละ กำรเขียนจำนวน

นับในรูปเศษส่วน แล้วให้นักเรียนทำใบงำนที่ 6 เรื่อง กำรบวกและกำรลบเศษส่วน จำกน้ันร่วมกันตรวจสอบ

ควำมถกู ต้อง

สื่อการเรยี นรู้

1. แถบโจทย์เศษสว่ น

2. ใบงำนที่ 6 เรื่อง กำรบวกและกำรลบเศษส่วน

การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

ส่ิงท่ตี อ้ งการประเมนิ วิธกี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ผ่าน
ใบงำนที่ 6 เรอ่ื ง กำรบวก ร้อยละ 60 ข้ึน
1. เมื่อกำหนดโจทย์กำรบวกหรอื กำร ตรวจควำมถกู ต้องของ ใบ และกำรลบเศษส่วน ไป

ลบเศษส่วนให้ สำมำรถหำคำตอบ งำนท่ี 6 เรื่อง กำรบวกและ -แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดบั คณุ ภำพ
ที่พึงประสงค์ 2 ข้ึนไป
พร้อมทง้ั ตระหนกั ถงึ ควำม กำรลบเศษสว่ น ของนกั เรียนรำยบคุ คล

สมเหตุสมผลของคำตอบทไ่ี ด้ และ

แสดงวธิ ที ำได้

2.นักเรียนทำงำนทีไ่ ด้รบั มอบหมำย -ประเมินคุณลักษณะทพ่ี ึง

สง่ ตรงตำมเวลำทีก่ ำหนด ประสงค์

ของนกั เรียนรำยบุคคล

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ : มีวนิ ยั

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เหน็

4 : ดีเยีย่ ม - ผลงำนสะอำดเรยี บร้อย
- ปฏิบัติตนอยใู่ นข้อตกลงทก่ี ำหนดใหร้ ว่ มกันทุกครงั้

3 : ดี - ผลงำนส่วนใหญ่สะอำดเรยี บร้อย
- ปฏบิ ัติตนอยใู่ นข้อตกลงที่กำหนดใหร้ ่วมกันเป็นสว่ นใหญ่

2 : ผ่ำน - ผลงำนไมค่ อ่ ยเรยี บรอ้ ย
- ปฏบิ ตั ิตนอยใู่ นข้อตกลงทกี่ ำหนดให้ร่วมกัน บำงคร้งั ต้องอำศัยกำรแนะนำ

1 : ไมผ่ ่ำน - ผลงำนไม่เรียบรอ้ ย
- ไมป่ ฏิบัติตนอย่ใู นข้อตกลงท่ีกำหนดให้ร่วมกนั

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ : ใฝเ่ รียนรู้

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลักษณะทป่ี รากฏใหเ้ ห็น

4 : ดีเยี่ยม - มีควำมสนใจ/ควำมตัง้ ใจตลอดระยะเวลำกำรเรยี นรู้

3 : ดี - มคี วำมสนใจ/ควำมตง้ั ใจเป็นบำงครัง้

2 : ผำ่ น - มีควำมสนใจ/ควำมตงั้ ใจในระยะเวลำสั้นๆ ชอบเลน่ ในเวลำเรยี น

1 : ไม่ผำ่ น - ไม่สนใจ/ไม่ต้ังใจ ชอบเล่นในเวลำเรยี น

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : มุ่งมั่นในการทางาน

คะแนน : ระดับคณุ ภาพ คณุ ลักษณะท่ปี รากฏให้เหน็

- สง่ งำนก่อนหรือตรงกำหนดเวลำนัดหมำย

4 : ดีเยย่ี ม - รับผดิ ชอบในงำนท่ไี ดร้ ับมอบหมำยและปฏบิ ตั ติ นเองจนเป็นนิสัย

เปน็ ตวั อย่ำงแกผ่ อู้ ่ืน และแนะนำชักชวนให้ผู้อน่ื ปฏบิ ัตติ ำมได้

3 : ดี - สง่ งำนช้ำกว่ำกำหนด แต่ได้มีกำรติดตอ่ ชี้แจงผูส้ อน มีเหตผุ ลทีร่ บั ฟงั ได้
- รับผดิ ชอบในงำนท่ไี ดร้ ับมอบหมำยและปฏบิ ตั ติ นเองจนเปน็ นสิ ัย

2 : ผ่ำน - ส่งงำนชำ้ กว่ำกำหนด
- ปฏิบตั งิ ำนโดยตอ้ งอำศัยกำรชแี้ นะ แนะนำ ตกั เตอื นหรอื ให้กำลังใจ

1 : ไมผ่ ำ่ น -ไมส่ ่งงำนชำ้
- ไมป่ ฏบิ ัติงำนแมจ้ ะช้แี นะ แนะนำ ตกั เตอื นหรอื ให้กำลงั ใจแลว้

คะแนน

ใบงานที่ 6 เรือ่ ง การบวกและการลบเศษสว่ น

คาชแี้ จง แสดงวธิ ีทำและตอบเปน็ รปู อย่ำงง่ำย

1) + = 2) + =


……………………………………………………………………. …………………………………………………………………….

……………………………………………………………………. …………………………………………………………………….

……………………………………………………………………. …………………………………………………………………….

……………………………………………………………………. …………………………………………………………………….

3) + = 4) - =



……………………………………………………………………. …………………………………………………………………….

……………………………………………………………………. …………………………………………………………………….

……………………………………………………………………. …………………………………………………………………….

……………………………………………………………………. …………………………………………………………………….

5) - = 6) - =



……………………………………………………………………. …………………………………………………………………….
……………………………………………………………………. …………………………………………………………………….
……………………………………………………………………. …………………………………………………………………….
……………………………………………………………………. …………………………………………………………………….

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 7

รายวชิ า คณิตศาสตร์ ค15101 กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์

ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2564

หน่วยการเรยี นรู้ที่ 1 เศษส่วน : การบวก การลบเศษสว่ นและจานวนคละ เวลา 1 ชัว่ โมง

ผูส้ อน นายบวร ศรีประเสรฐิ วันท่ี ..................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………….………………………………

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ัด

มาตรฐานการเรยี นรู้

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน
การดาเนนิ การของจานวน ผลท่ีเกดิ ขนึ้ จากการดาเนนิ การ
สมบัติของการดาเนนิ การ และนาไปใช้

ตัวชวี้ ัด

ค 1.1 ป.5/3 หาผลบวก ผลลบ ของเศษส่วนและจานวนคละ

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. เม่ือกำหนดโจทย์กำรบวกหรอื กำรลบเศษสว่ นให้ สำมำรถหำคำตอบ พรอ้ มท้งั ตระหนักถงึ ควำม

สมเหตุสมผลของคำตอบทไ่ี ด้ และแสดงวธิ ที ำได้

2. นกั เรยี นทำงำนท่ีไดร้ บั มอบหมำยสง่ ตรงตำมเวลำทกี่ ำหนด

สาระสาคญั

กำรบวกหรือกำรลบเศษสว่ นทตี่ ัวส่วนไมเ่ ทำ่ กัน จะต้องทำตวั สว่ นใหเ้ ทำ่ กนั กอ่ น แลว้ จึงหำผลบวก
หรือผลลบ

สมรรถนะสาคัญของผเู้ รยี น

1. ควำมสำมำรถในกำรสอื่ สำร
2. ควำมสำมำรถในกำรคดิ
3. ควำมสำมำรถในกำรแก้ปัญหำ

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ มนั่ ในกำรทำงำน

การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

1. ทบทวนกำรบวกและกำรลบเศษส่วน โดยครูถำมนำแล้วให้นักเรียนช่วยกันสรุปว่ำ กำรบวกหรือ
กำรลบเศษส่วนท่ีตัวสว่ นไม่เท่ำกัน จะตอ้ งทำตวั สว่ นให้เท่ำกนั ก่อน แลว้ จงึ หำผลบวกหรือผลลบ และผลบวก

หรือผลลบท่ีได้ ควรทำให้เป็น “รูปอย่ำงง่ำย” ซึ่งอำจอยู่ในรูปเศษส่วนอย่ำงต่ำ จำนวนคละ จำนวนนับ
หรือศูนย์

2. ครูยกตวั อย่ำงโจทย์กำรบวกหรอื กำรลบเศษส่วนทต่ี ัวส่วนตวั หนึง่ เปน็ พหุคณู ของตัวส่วนอีกตัวหน่งึ
แล้วใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั หำผลลพั ธ์ เชน่

ตวั อยา่ งที่ 1 1+2 =

5

1 + 2 = (11××55) + 2
5 5

= 5+ 2

55

=7

5

= 12

5

ตวั อย่างที่ 2 1 + 9 =
4 12

1 + 9 = (1×3) + 9
4 12 4×3 12

= 3+ 9

12 12

= 12

12

=1

ตัวอย่างท่ี 3 1 − 4 =
2 8

1 − 4 = (1×4) − 4
28 2×4 8

= 4−4

88

=0

8

=0

3. ให้นักเรยี นทำใบงำนท่ี 7 เร่ือง กำรบวกและกำรลบเศษส่วน จำกน้ันร่วมกันตรวจสอบควำมถกู ตอ้ ง

สื่อการเรยี นรู้

1. แถบโจทย์เศษสว่ น
2. ใบงำนที่ 7 เร่อื ง กำรบวกและกำรลบเศษสว่ น

การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ วิธกี าร เครือ่ งมอื เกณฑ์ผ่าน
ตรวจควำมถกู ตอ้ งของ ใบ ใบงำนท่ี 7 เร่อื ง กำรบวก ร้อยละ 60 ข้นึ
ส่งิ ทตี่ อ้ งการประเมนิ งำนท่ี 7 เรอ่ื ง กำรบวกและ และกำรลบเศษส่วน ไป
1. เมอ่ื กำหนดโจทยก์ ำรบวกหรือกำร กำรลบเศษส่วน
ลบเศษส่วนให้ สำมำรถหำคำตอบ -แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ระดบั คุณภำพ
พร้อมทง้ั ตระหนักถงึ ควำม -ประเมนิ คณุ ลักษณะท่พี งึ ทพ่ี ึงประสงค์ 2 ขึ้นไป
สมเหตุสมผลของคำตอบทีไ่ ด้ และ ประสงค์ ของนกั เรียนรำยบคุ คล
แสดงวธิ ีทำได้ ของนกั เรยี นรำยบคุ คล
2.นกั เรยี นทำงำนทีไ่ ด้รบั มอบหมำย
สง่ ตรงตำมเวลำทกี่ ำหนด

เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ : มีวนิ ัย

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คณุ ลกั ษณะทีป่ รากฏให้เหน็

4 : ดีเยี่ยม - ผลงำนสะอำดเรียบร้อย
- ปฏิบัติตนอยใู่ นขอ้ ตกลงที่กำหนดใหร้ ว่ มกันทุกคร้งั

3 : ดี - ผลงำนสว่ นใหญ่สะอำดเรียบร้อย
- ปฏบิ ัติตนอย่ใู นขอ้ ตกลงท่กี ำหนดใหร้ ่วมกันเปน็ สว่ นใหญ่

2 : ผ่ำน - ผลงำนไมค่ ่อยเรียบรอ้ ย
- ปฏบิ ตั ิตนอย่ใู นขอ้ ตกลงท่กี ำหนดใหร้ ว่ มกัน บำงครั้ง ตอ้ งอำศยั กำรแนะนำ

1 : ไม่ผ่ำน - ผลงำนไมเ่ รยี บรอ้ ย
- ไมป่ ฏบิ ตั ติ นอย่ใู นข้อตกลงทีก่ ำหนดให้รว่ มกนั

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ : ใฝเ่ รยี นรู้

คะแนน : ระดับคุณภาพ คณุ ลักษณะท่ีปรากฏให้เหน็

4 : ดีเยย่ี ม - มคี วำมสนใจ/ควำมต้งั ใจตลอดระยะเวลำกำรเรยี นรู้

3 : ดี - มีควำมสนใจ/ควำมตงั้ ใจเป็นบำงคร้งั

2 : ผ่ำน - มคี วำมสนใจ/ควำมตงั้ ใจในระยะเวลำสน้ั ๆ ชอบเล่นในเวลำเรียน

1 : ไมผ่ ำ่ น - ไม่สนใจ/ไมต่ งั้ ใจ ชอบเล่นในเวลำเรียน

คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : ม่งุ มัน่ ในการทางาน

คะแนน : ระดับคณุ ภาพ คณุ ลักษณะท่ปี รากฏใหเ้ หน็

- สง่ งำนกอ่ นหรือตรงกำหนดเวลำนัดหมำย

4 : ดีเยี่ยม - รับผิดชอบในงำนทไี่ ด้รับมอบหมำยและปฏิบัติตนเองจนเปน็ นิสัย

เป็นตวั อย่ำงแก่ผูอ้ ่นื และแนะนำชกั ชวนให้ผ้อู ่ืนปฏบิ ตั ติ ำมได้

3 : ดี - ส่งงำนชำ้ กวำ่ กำหนด แต่ได้มีกำรตดิ ตอ่ ช้ีแจงผูส้ อน มเี หตผุ ลทรี่ บั ฟงั ได้
- รับผิดชอบในงำนที่ได้รบั มอบหมำยและปฏิบัติตนเองจนเปน็ นิสยั

2 : ผำ่ น - สง่ งำนช้ำกว่ำกำหนด
- ปฏบิ ตั งิ ำนโดยต้องอำศัยกำรชแี้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรอื ใหก้ ำลงั ใจ

1 : ไม่ผำ่ น -ไม่สง่ งำนช้ำ
- ไม่ปฏิบัตงิ ำนแมจ้ ะชแ้ี นะ แนะนำ ตกั เตอื นหรือใหก้ ำลงั ใจแล้ว

คะแนน

ใบงานที่ 7 เรื่อง การบวกและการลบเศษสว่ น

คาช้ีแจง หำผลลพั ธแ์ ละตอบเปน็ รูปอย่ำงง่ำย

1) + = 2) + =



3) + = 4) + =



5 ) + = 6) − =



7) − = 8 ) − =



9) − = 10 ) − =



ช่อื .....................................................................................ช้ัน...........เลขที.่ ...................

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 8

รายวิชา คณติ ศาสตร์ ค15101 กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์

ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เศษส่วน : การบวก การลบเศษสว่ นและจานวนคละ เวลา 1 ชว่ั โมง

ผู้สอน นายบวร ศรปี ระเสริฐ วนั ที่ ..................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………….………………………………

มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ัด

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน
การดาเนินการของจานวน ผลที่เกดิ ขนึ้ จากการดาเนนิ การ
สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวชี้วัด

ค 1.1 ป.5/3 หาผลบวก ผลลบ ของเศษส่วนและจานวนคละ

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. เมื่อกำหนดโจทย์กำรบวกหรือกำรลบจำนวนคละให้ สำมำรถหำคำตอบ พร้อมท้ังตระหนักถงึ

ควำมสมเหตสุ มผลของคำตอบทไ่ี ด้ และแสดงวิธที ำได้

2. นักเรยี นทำงำนท่ีไดร้ ับมอบหมำยส่งตรงตำมเวลำท่ีกำหนด

สาระสาคัญ

กำรบวกหรือกำรลบจำนวนคละ อำจเขียนจำนวนคละในรปู เศษเกินกอ่ น แลว้ จงึ หำผลบวกหรือผลลบ

สมรรถนะสาคัญของผู้เรียน

1. ควำมสำมำรถในกำรสือ่ สำร
2. ควำมสำมำรถในกำรคิด
3. ควำมสำมำรถในกำรแกป้ ัญหำ

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์

1. มวี นิ ยั
2. ใฝ่เรยี นรู้
3. มงุ่ ม่ันในกำรทำงำน

การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้

1. ทบทวนกำรเขียนจำนวนคละในรปู เศษเกิน โดยครตู ิดแถบจำนวนคละบนกระดำน ดงั นี้

ให้นักเรียนช่วยกันบอกวิธีกำรเขียนจำนวนคละในรูปเศษเกิน จนได้ข้อสรุปว่ำ กำรเขียน
จำนวนคละในรูปเศษเกิน ทำได้โดยนำตัวส่วนไปคูณกับจำนวนนับแล้วบวกกับตัวเศษ ผลลัพธ์ท่ีได้จะเป็น
ตวั เศษของเศษเกนิ โดยมตี ัวส่วนคงเดมิ

จำกนน้ั ใหต้ ัวแทนนกั เรียนออกมำเขยี นแสดงควำมสมั พนั ธ์ ดงั น้ี

7 1 = (7×3)+1
3 3

= 21+1

3

= 22
3

2. ครูยกตวั อยำ่ งกำรบวกจำนวนคละ โดยติดแถบโจทยบ์ นกระดำน เชน่

ครูนำอภปิ รำยในประเดน็ ต่ำงๆ ดังนี้
 กำรบวกจำนวนคละทำได้อย่ำงไร (เขียนจำนวนคละในรูปเศษเกินกอ่ น แล้วจึง

หำผลบวก)  4 1 เขยี นในรปู เศษเกนิ ได้เทำ่ ใด (1401)
ได้ 86 ) 10

10  8 3 เขียนในรปู เศษเกนิ ได้เท่ำใด (43)

55

 กำรบวกเศษส่วน ตวั สว่ นตอ้ งเท่ำกันหรือไม่ (เทำ่ กัน)

 ทำตวั สว่ นให้เท่ำกนั ไดอ้ ย่ำงไร และได้เทำ่ ใด (นำ 2 มำคูณ 43 ทั้งตวั เศษและตัวส่วน

5

ครแู ละนักเรยี นชว่ ยกันสรุปเปน็ วธิ ีคำนวณ ดงั น้ี

4 1 + 8 3 = 41 + 43
10 5 10 5

= 41 + (453××22)
10

= 41 + 86

10 10

= 127

10

= 12 7

10

3. ครูยกตวั อยำ่ งกำรลบจำนวนคละ โดยตดิ แถบโจทย์บนกระดำน เช่น

ครนู ำอภปิ รำยในประเดน็ ต่ำงๆ ทำนองเดียวกบั กำรบวกดังน้ี
 กำรลบจำนวนคละทำไดอ้ ย่ำงไร (เขียนจำนวนคละในรูปเศษเกนิ ก่อน แลว้ จึงหำ

ผลลบ)  6 5 เขียนในรูปเศษเกนิ ไดเ้ ท่ำใด (47)
ได้ 94 ) 7
7
14
 2 4 เขียนในรปู เศษเกนิ ไดเ้ ทำ่ ใด (32)
14
14

 กำรลบเศษสว่ น ตวั สว่ นต้องเทำ่ กนั หรือไม่ (เทำ่ กัน)

 ทำตวั สว่ นให้เท่ำกันไดอ้ ย่ำงไร และได้เทำ่ ใด (นำ 2 มำคณู 47 ทัง้ ตัวเศษและตวั ส่วน

7

ครแู ละนกั เรียนชว่ ยกันสรุปเปน็ วธิ คี ำนวณ ดงั นี้

6 5 - 2 4 = 47 - 32
7 14
7 14

= (47×2) - 32

7×2 14

= 94 - 32

14 14

= 62

14

= 46

14

= 43 (ทำให้เปน็ เศษสว่ นอยำ่ งตำ่ )

7

ครยู กตัวอยำ่ งอีก 1-2 ตัวอยำ่ ง แลว้ ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั สรุปวำ่ กำรบวกหรอื กำรลบ
จำนวนคละ อำจเขยี นจำนวนคละในรปู เศษเกนิ ก่อน แล้วจงึ หำผลบวกหรอื ผลลบ

4. ให้นกั เรยี นทำใบงำนท่ี 8 เรอ่ื ง กำรบวก กำรลบจำนวนคละ จำกนั้นร่วมกนั ตรวจสอบควำมถกู ต้อง

ส่อื การเรยี นรู้

1. แถบโจทย์กำรบวก กำรลบจำนวนคละ
2. ใบงำนที่ 8 เรอ่ื ง กำรบวก กำรลบจำนวนคละ

การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้ วิธีการ เครื่องมอื เกณฑ์ผ่าน
ตรวจควำมถูกตอ้ งของ ใบ ใบงำนท่ี 8 เรอ่ื ง กำรบวก รอ้ ยละ 60 ข้นึ
สิ่งท่ตี อ้ งการประเมิน งำนที่ 8 เรื่อง กำรบวก กำร กำรลบจำนวนคละ ไป
1. เมอื่ กำหนดโจทยก์ ำรบวกหรอื กำร ลบจำนวนคละ
ลบเศษส่วนให้ สำมำรถหำคำตอบ -แบบประเมินคณุ ลกั ษณะ ระดับคุณภำพ
พร้อมทง้ั ตระหนักถงึ ควำม -ประเมินคณุ ลกั ษณะทพี่ ึง ท่ีพงึ ประสงค์ 2 ขน้ึ ไป
สมเหตุสมผลของคำตอบที่ได้ และ ประสงค์ ของนกั เรียนรำยบคุ คล
แสดงวิธีทำได้ ของนักเรยี นรำยบคุ คล
2.นักเรียนทำงำนที่ไดร้ บั มอบหมำย
ส่งตรงตำมเวลำทีก่ ำหนด

เกณฑ์การให้คะแนนดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์

คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : มีวินัย

คะแนน : ระดบั คณุ ภาพ คุณลักษณะทป่ี รากฏให้เหน็

4 : ดีเยย่ี ม - ผลงำนสะอำดเรยี บร้อย
- ปฏบิ ตั ิตนอย่ใู นข้อตกลงท่กี ำหนดให้รว่ มกนั ทกุ ครงั้

3 : ดี - ผลงำนสว่ นใหญ่สะอำดเรยี บรอ้ ย
- ปฏบิ ัติตนอยู่ในข้อตกลงทีก่ ำหนดใหร้ ว่ มกนั เปน็ ส่วนใหญ่

2 : ผำ่ น - ผลงำนไมค่ อ่ ยเรียบรอ้ ย
- ปฏบิ ัติตนอยใู่ นข้อตกลงท่ีกำหนดใหร้ ่วมกัน บำงครง้ั ตอ้ งอำศัยกำรแนะนำ

1 : ไม่ผำ่ น - ผลงำนไมเ่ รยี บร้อย
- ไมป่ ฏิบตั ติ นอยู่ในข้อตกลงทก่ี ำหนดให้ร่วมกนั

คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ : ใฝ่เรียนรู้

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลกั ษณะทีป่ รากฏใหเ้ หน็

4 : ดีเยย่ี ม - มีควำมสนใจ/ควำมตั้งใจตลอดระยะเวลำกำรเรยี นรู้

3 : ดี - มีควำมสนใจ/ควำมตั้งใจเป็นบำงคร้ัง

2 : ผ่ำน - มคี วำมสนใจ/ควำมตั้งใจในระยะเวลำส้นั ๆ ชอบเล่นในเวลำเรยี น

1 : ไม่ผำ่ น - ไมส่ นใจ/ไมต่ ้งั ใจ ชอบเลน่ ในเวลำเรียน

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ : มุ่งม่นั ในการทางาน

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คุณลักษณะทป่ี รากฏใหเ้ หน็

- สง่ งำนกอ่ นหรอื ตรงกำหนดเวลำนดั หมำย

4 : ดีเยี่ยม - รบั ผิดชอบในงำนทีไ่ ด้รับมอบหมำยและปฏบิ ตั ิตนเองจนเป็นนิสัย

เป็นตัวอยำ่ งแกผ่ อู้ ืน่ และแนะนำชกั ชวนให้ผ้อู ่นื ปฏบิ ัติตำมได้

3 : ดี - ส่งงำนชำ้ กวำ่ กำหนด แต่ไดม้ กี ำรตดิ ต่อช้ีแจงผูส้ อน มีเหตุผลทร่ี บั ฟงั ได้
- รบั ผดิ ชอบในงำนท่ไี ด้รบั มอบหมำยและปฏิบตั ิตนเองจนเปน็ นสิ ยั

2 : ผ่ำน - สง่ งำนช้ำกวำ่ กำหนด
- ปฏบิ ัติงำนโดยตอ้ งอำศยั กำรชี้แนะ แนะนำ ตักเตือนหรือใหก้ ำลงั ใจ

1 : ไม่ผำ่ น -ไม่ส่งงำนชำ้
- ไมป่ ฏิบัตงิ ำนแมจ้ ะชแี้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรือให้กำลงั ใจแล้ว

คะแนน

ใบงานที่ 8 เรอื่ ง การบวก การลบจานวนคละ

คาชีแ้ จง แสดงวธิ ีหำผลลพั ธแ์ ละตอบเปน็ รปู อยำ่ งง่ำย

1) + = 2) − =



………………………………………….……………………… ………………………………………….………………………

………………………………………….……………………… ………………………………………….………………………

………………………………………….……………………… ………………………………………….………………………

………………………………………….……………………… ………………………………………….………………………

………………………………………….……………………… ………………………………………….………………………

………………………………………….……………………… ………………………………………….………………………

………………………………………….……………………… ………………………………………….………………………

3) + = 4 ) − =



………………………………………….……………………… ………………………………………….………………………
………………………………………….……………………… ………………………………………….………………………
………………………………………….……………………… ………………………………………….………………………
………………………………………….……………………… ………………………………………….………………………
………………………………………….……………………… ………………………………………….………………………
………………………………………….……………………… ………………………………………….………………………
………………………………………….……………………… ………………………………………….………………………

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 9

รายวชิ า คณิตศาสตร์ ค15101 กลุม่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์

ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 เศษส่วน : การบวก การลบเศษสว่ นและจานวนคละ เวลา 1 ชว่ั โมง

ผ้สู อน นายบวร ศรีประเสรฐิ วันที่ ..................................................................

……………………………………………………………………………………………………………………….………………………………

มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชว้ี ัด

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจถงึ ความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน
การดาเนนิ การของจานวน ผลที่เกิดขน้ึ จากการดาเนินการ
สมบัตขิ องการดาเนินการ และนาไปใช้

ตัวช้วี ัด

ค 1.1 ป.5/3 หาผลบวก ผลลบ ของเศษส่วนและจานวนคละ

จุดประสงค์การเรียนรู้

1. เมอ่ื กาหนดโจทยก์ ารบวกหรอื การลบจานวนคละให้ สามารถหาคาตอบ พร้อมทง้ั ตระหนักถึง

ความสมเหตสุ มผลของคาตอบท่ีได้ และแสดงวธิ ที าได้

2. นักเรยี นทางานทไ่ี ดร้ ับมอบหมายส่งตรงตามเวลาทกี่ าหนด

สาระสาคัญ

การบวกหรอื การลบเศษส่วนทต่ี วั ส่วนไม่เทา่ กัน จะตอ้ งทาตัวส่วนใหเ้ ท่ากนั ก่อน แลว้ จึงหาผลบวก
หรือผลลบ

การบวกหรอื การลบจานวนคละ อาจเขียนจานวนคละในรูปเศษเกนิ กอ่ น แล้วจึงหาผลบวกหรอื ผลลบ

สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รยี น

1. ความสามารถในการสอื่ สาร
2. ความสามารถในการคดิ
3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

1. มวี นิ ัย
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. มุง่ มัน่ ในการทางาน

การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้

1. ทบทวนการการบวก การลบ เศษส่วนและจานวนคละ โดยให้นักเรียนช่วยกันสรุปว่า การบวก
หรือการลบเศษส่วนท่ีตัวส่วนไม่เท่ากัน จะต้องทาตัวส่วนให้เท่ากันก่อน แล้วจึงหาผลบวกหรือผลลบ
และการบวกหรือการลบจานวนคละ อาจเขียนจานวนคละในรูปเศษเกินกอ่ น แล้วจงึ หาผลบวกหรือผลลบ

2. ครูยกตวั อยา่ งการบวก การลบเศษสว่ นและจานวนคละ โดยตดิ แถบโจทยบ์ นกระดาน เชน่

4 1 + 2 =
28

ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันหาผลลัพธแ์ ละออกมาเขยี นแสดงวิธีคานวณบนกระดาน ดงั นี้

4 1 + 2 = 9 + 2
2 8 2 8

= (9×4) + 2

2×4 8

= 36 + 2

88

= 38

8

= 46
8

= 43
4

3. ครูยกตัวอย่างอีก 1-2 ตัวอย่าง แล้วให้นักเรียนทาใบงานท่ี 9 เรื่อง การบวก การลบเศษส่วน
และจานวนคละ จากน้นั รว่ มกันตรวจสอบความถูกต้อง

สอ่ื การเรยี นรู้

1. แถบโจทย์การบวก การลบเศษสว่ นและจานวนคละ
2. ใบงานที่ 9 เร่อื ง การบวก การลบเศษส่วนและจานวนคละ

การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

ส่งิ ท่ตี ้องการประเมิน วิธีการ เครื่องมอื เกณฑผ์ ่าน
ใบงานที่ 9 เร่อื ง การบวก รอ้ ยละ 60 ขน้ึ
1. เมื่อกาหนดโจทย์การบวกหรือการลบ ตรวจความถูกต้องของ การลบเศษสว่ นและ ไป
จานวนคละ
เศษสว่ นให้ สามารถหาคาตอบ พรอ้ มทง้ั ใบงานท่ี 9 เรอ่ื ง การ

ตระหนกั ถึงความสมเหตสุ มผลของ บวก การลบเศษสว่ น
และจานวนคละ
คาตอบทไ่ี ด้ และแสดงวธิ ีทาได้

2.นักเรยี นทางานที่ไดร้ บั มอบหมายส่ง -ประเมินคุณลกั ษณะท่ี -แบบประเมนิ คณุ ลักษณะ ระดับคุณภาพ

ตรงตามเวลาท่กี าหนด พงึ ประสงค์ ท่ีพงึ ประสงค์ 2 ขึน้ ไป

ของนักเรียนรายบคุ คล ของนักเรยี นรายบคุ คล

เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ : มีวินยั

คะแนน : ระดับคณุ ภาพ คุณลักษณะท่ปี รากฏใหเ้ หน็

4 : ดีเย่ียม - ผลงานสะอาดเรียบรอ้ ย
- ปฏิบตั ิตนอยใู่ นข้อตกลงท่กี าหนดใหร้ ว่ มกันทุกคร้งั

3 : ดี - ผลงานสว่ นใหญส่ ะอาดเรียบรอ้ ย
- ปฏิบัติตนอยใู่ นขอ้ ตกลงทกี่ าหนดใหร้ ว่ มกันเปน็ ส่วนใหญ่

2 : ผ่าน - ผลงานไมค่ ่อยเรียบร้อย
- ปฏบิ ตั ิตนอยู่ในข้อตกลงทก่ี าหนดใหร้ ว่ มกนั บางคร้ัง ตอ้ งอาศัยการแนะนา

1 : ไมผ่ า่ น - ผลงานไมเ่ รยี บรอ้ ย
- ไมป่ ฏิบัตติ นอยใู่ นขอ้ ตกลงที่กาหนดให้ร่วมกนั

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ : ใฝ่เรียนรู้

คะแนน : ระดบั คุณภาพ คณุ ลกั ษณะที่ปรากฏใหเ้ ห็น

4 : ดีเยยี่ ม - มคี วามสนใจ/ความต้งั ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้

3 : ดี - มีความสนใจ/ความต้งั ใจเป็นบางคร้ัง

2 : ผ่าน - มีความสนใจ/ความตงั้ ใจในระยะเวลาสน้ั ๆ ชอบเล่นในเวลาเรยี น

1 : ไมผ่ า่ น - ไมส่ นใจ/ไมต่ งั้ ใจ ชอบเล่นในเวลาเรียน


Click to View FlipBook Version