The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน เล่ม 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by yokolok_tsu, 2022-05-05 23:10:04

แผนการสอน เล่ม 1

แผนการสอน เล่ม 1

148

-ความหมายการรับลูกฟุตบอลในระดบั หนา้ อก
-วธิ ีการการรับลูกฟุตบอลในระดบั หนา้ อก
*กำรรับลูกฟุตบอลในระดับสูง
-ความหมายการรับลูกฟุตบอลในระดบั สูง
-วธิ ีการการรับลูกฟุตบอลในระดบั สูง
*ประโยชน์ของกำรเป็ นผู้รักษำประตู

-กำรออกกำลงั กำย
-ความหมายของหลกั การออกกาลงั กาย
-ความสาคญั ของการออกกาลงั กาย

-ลกั ษณะของกำรออกกำลงั กำย
-แอนาแอโรบิค
-แอโรบิค

-แอนำแอโรบคิ
-ความหมายของแอนาแอโรบิค
-ความสาคญั ของแอนาแอโรบิค

-ลกั ษณะของแอนำแอโรบิค
-กำรบริหำรคอ
-วธิ ีการปฏิบตั ิการบริหารคอ
-กำรบริหำรลำตวั
-วธิ ีการปฏิบตั ิการบริหารลาตวั

-แอโรบิค
-ความหมายของแอโรบิค
-ความสาคญั ของแอโรบิค

-ลกั ษณะของแอโรบคิ
-กำรเดนิ
-วธิ ีการปฏิบตั ิการเดิน
-กำรวง่ิ
-วธิ ีการปฏิบตั ิการวง่ิ
-ประโยชน์ของกำรออกกำลงั กำย
-สมรรถภำพทำงกำย

149

-ความหมายของสมรรถภาพทางกาย
-ความสาคญั ของสมรรถภาพทางกาย

-ลกั ษณะของกำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย

-กำรนั่งงอตวั ไปข้ำงหน้ำ
-ความหมายของการนงั่ งอตวั ไปขา้ งหนา้
-อุปกรณ์การนง่ั งอตวั ไปขา้ งหนา้
-วธิ ีการทดสอบการนง่ั งอตวั ไปขา้ งหนา้
-เกณฑก์ ารนง่ั งอตวั ไปขา้ งหนา้
-กำรดันพนื้ 30 วนิ ำที
-ความหมายของการดนั พ้ืน 30 วนิ าที
-อุปกรณ์การทดสอบการดนั พ้ืน 30 วนิ าที
-วธิ ีการทดสอบการดนั พ้ืน 30 วนิ าที
-เกณฑก์ ารทดสอบการดนั พ้ืน 30 วนิ าที
-กำรลุกนั่ง 30 วนิ ำที
-ความหมายของการลุกนงั่ 30 วนิ าที-
-อุปกรณ์การทดสอบการลุกนงั่ 30 วนิ าที
-วธิ ีการทดสอบการลุกนงั่ 30 วนิ าที
-เกณฑก์ ารลุกนง่ั 30 วนิ าที
-กำรยนื ยกเข่ำขนึ้ ลง 3 นำที
-ความหมายของการยนื ยกเข่าข้ึนลง 3 นาที
-อุปกรณ์การทดสอบการยนื ยกเขา่ ข้ึนลง 3 นาที
-วธิ ีการทดสอบการยืนยกเขา่ ข้ึนลง 3 นาที
-เกณฑก์ ารยนื ยกเข่าข้ึนลง 3 นาที
-กำรวงิ่ 50 เมตร
-ความหมายของการวงิ่ 50 เมตร
-อุปกรณ์การทดสอบการวง่ิ 50 เมตร
-วธิ ีการทดสอบการวง่ิ 50 เมตร
-เกณฑก์ ารวง่ิ 50 เมตร
-ประโยชน์ของสมรรถภำพทำงกำย

-กำรสร้ำงเสริมบุคลกิ ภำพ
-ความหมายการเสริมสร้างบุคลิกภาพ

150

-ความสาคญั ของการเสริมสร้างบุคลิกภาพ
-ลกั ษณะของกำรเสริมสร้ำงบุคลกิ ภำพ
-กำรกระโดด
-ความหมายของกระโดด
-วธิ ีการปฏิบตั ิการกระโดด
-กำรย่อตวั
-ความหมายของการยอ่ ตวั
-วธิ ีการปฏิบตั ิการยอ่ ตวั
-ประโยชน์ของเสริมสร้ำงบุคลกิ ภำพ
-กำรสร้ำงเสริมสมรรถภำพทำงกำย
-ความหมายของการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย
-ความสาคญั ของการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย
-ลกั ษณะของกำรสร้ำงเสริมสมรรถภำพทำงกำย
-กำรหลบหลกี
-ความหมายของการหลบหลีก
-วธิ ีการปฏิบตั ิการหลบหลีก
-กำรกระโดดกำงเท้ำชิดเท้ำไปข้ำงหน้ำ
-ความหมายของการกระโดดกางเทา้ ชิดเทา้ ไปขา้ งหนา้
-วธิ ีการปฏิบตั ิการกระโดดกางเทา้ ชิดเทา้ ไปขา้ งหนา้
-ประโยชน์ของกำรสร้ำงเสริมสมรรถภำพทำงกำย

-กำรเล่นเกม
-ความหมายของเกม
-ความสาคญั ของเกม
-ลกั ษณะของของเกม
-เกมเบด็ เตลด็
-ความหมายเกมเบด็ เตลด็
-ความสาคญั เกมเบ็ดเตล็ด
-ลกั ษณะของเกมเบ็ดเตลด็
-เกมวงิ่ ผลดั ลูกฟุตบอล
-เกมแข่งขนั วางลูกบอล 2 จงั หวะ

151

-ประโยชน์ของเกมเบ็ดเตลด็
*เกมนำไปสู่กฬี ำ
-ความหมายเกมนาไปสู่กีฬา
-ความสาคญั เกมนาไปสู่กีฬา
-ลกั ษณะของเกมนำไปสู่กฬี ำ
-เกมลิงชิงเตะบอล
-เกมเตะและรับลูกบอล
-ประโยชน์ของเกมนำไปสู่กีฬำ
*เกมแบบผลดั
-ความหมายเกมแบบผลดั
-ความสาคญั เกมแบบผลดั
-ลกั ษณะของเกมแบบผลดั
-เกมจบั คูห่ ลบบอลในวง
-เกมเตะบอลขา้ มแดน
-ประโยชน์ของเกมแบบผลดั
-กำรรุก
-ความหมายของการรุก
-ความสาคญั ของการรุก
-ลกั ษณะของการรุก
-การรุกแบบ 1 ตอ่ 1

-การรุกแบบ 2 ต่อ 1ได้
-การรุกแบบ 3 ตอ่ 2
-ประโยชน์ของกำรรุก
*กำรป้ องกนั
-ความหมายของการป้ องกนั
-ความสาคญั ของการป้ องกนั
-ลกั ษณะของการป้ องกนั
-การป้ องกนั แบบ 1 ตอ่ 1
-การป้ องกนั แบบ 2 ตอ่ 1
-การป้ องกนั แบบ 3 ต่อ 2ได้
-ประโยชน์ของกำรป้ องกนั

152

-จุดประสงค์กำรเรียนรู้
-กำรเคลอ่ื นไหวร่ำงกำย
-อธิบายความหมายของการเคล่ือนไหวร่างกายได้
-อธิบายความสาคญั ของการเคลื่อนไหวร่างกายได้
-บอกลกั ษณะของกำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำยได้
-อธิบายการเคล่ือนไหวร่างกายแบบอยกู่ บั ที่ได้
-อธิบายการเคลื่อนไหวแบบเคล่ือนท่ีได้
-อธิบายการเคลื่อนไหวแบบมีอุปกรณ์ได้
-อธิบายการเคล่ือนไหวแบบผสมผสานได้
-อธิบายการเคลื่อนไหวแบบผลดั ได้
-กำรเคลอ่ื นไหวร่ำงกำยแบบอย่กู บั ท่ี
-อธิบายความหมายของการเคล่ือนไหวร่างกายแบบอยกู่ บั ท่ีได้
-อธิบายความสาคญั ของการเคล่ือนไหวร่างกายแบบอยกู่ บั ที่ได้
-บอกลกั ษณะของกำรเคลอื่ นไหวแบบอย่กู บั ทไ่ี ด้
-กำรบิดตวั
-อธิบายความหมายของการบิดตวั ได้
-อธิบายวธิ ีการปฏิบตั ิการบิดตวั ได้
-กำรดนั
-อธิบายความหมายของการดนั ได้
-อธิบายวธิ ีการปฏิบตั ิการดนั ได้
-กำรดึง
-อธิบายความหมายของการดึงได้
-อธิบายวธิ ีการปฏิบตั ิการการดึงได้
-กำรเหวยี่ งแขน
-อธิบายความหมายของการเหวย่ี งแขนได้
-อธิบายวธิ ีการปฏิบตั ิการเหวี่ยงแขนได้
-บอกประโยชน์ของกำรเคลอื่ นไหวแบบอยู่กบั ทไ่ี ด้
*กำรเคลอ่ื นไหวแบบเคลอ่ื นท่ี
-อธิบายความหมายของการเคล่ือนไหวแบบเคลื่อนที่ได้
-อธิบายความสาคญั ของการเคลื่อนไหวแบบเคล่ือนที่ได้
-บอกลกั ษณะของกำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำยแบบอย่กู บั ทไี่ ด้

153

-กำรเดิน
-อธิบายความหมายของการเดินได้
-อธิบายวธิ ีการปฏิบตั ิการเดินได้
-กำรวงิ่
-อธิบายความหมายของการวิ่งได้
-อธิบายวธิ ีการปฏิบตั ิการวง่ิ ได้
-กำรกระโดด
-อธิบายความหมายของการกระโดดได้
-อธิบายวธิ ีการปฏิบตั ิการกระโดดได้
-กำรสไลด์
-อธิบายความหมายของการสไลดไ์ ด้
-อธิบายวธิ ีการปฏิบตั ิการสไลด์ได้
-บอกประโยชน์ของกำรเคลอ่ื นไหวแบบอยู่กบั ทไ่ี ด้
*กำรเคลอ่ื นไหวแบบมีอุปกรณ์
-อธิบายความหมายของการเคล่ือนไหวแบบมีอุปกรณ์ได้
-อธิบายความสาคญั ของการเคล่ือนไหวแบบมีอุปกรณ์ได้
*บอกลกั ษณะของกำรเคลอื่ นไหวแบบมอี ปุ กรณ์ได้
-กำรเดำะลูกฟุตบอลด้วยหลงั เท้ำ
-อธิบายความหมายการเดาะลูกฟุตบอลดว้ ยหลงั เทา้ ได้
-อธิบายวธิ ีการการเดาะลูกฟุตบอลดว้ ยหลงั เทา้ ได้
-กำรเดำะลูกฟุตบอลด้วยข้ำงเท้ำด้ำนใน
-อธิบายความหมายการเดาะลูกฟุตบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นในได้
-อธิบายวธิ ีการการเดาะลูกฟุตบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นในได้
-กำรเดำะลูกฟุตบอลด้วยหน้ำขำ
-อธิบายความหมายการเดาะลูกฟุตบอลดว้ ยหนา้ ขาได้
-อธิบายวธิ ีการการเดาะลูกฟุตบอลดว้ ยหนา้ ขาได้
-กำรเดำะลูกฟุตบอลด้วยศีรษะ
-อธิบายความหมายการเดาะลูกฟุตบอลดว้ ยศีรษะได้
-อธิบายวธิ ีการการเดาะลูกฟุตบอลดว้ ยศีรษะได้
-บอกประโยชน์ของกำรเคลอื่ นไหวแบบมีอปุ กรณ์ได้

154

*กำรเคลอื่ นไหวแบบผสมผสำน
-อธิบายความหมายของการเคล่ือนไหวแบบผสมผสานได้
-อธิบายความสาคญั ของการเคลื่อนไหวแบบผสมผสานได้
*บอกลกั ษณะของกำรเคลอ่ื นไหวแบบผสมผสำนได้
-กำรวงิ่ เป็ นรูปสี่เหลี่ยม
-อธิบายความหมายการวง่ิ เป็ นรูปสี่เหล่ียมได้
-อธิบายวธิ ีการการวง่ิ เป็ นรูปส่ีเหล่ียมได้
-กำรวงิ่ สลบั ฟันปลำ
-อธิบายความหมายการวงิ่ สลบั ฟันปลาได้
-อธิบายวธิ ีการการวง่ิ สลบั ฟันปลาได้
-กำรวง่ิ ตบเท้ำข้ำมช่องบนั ได
-อธิบายความหมายการวง่ิ ตบเทา้ ขา้ มช่องบนั ไดได้
-อธิบายวธิ ีการการวง่ิ ตบเทา้ ขา้ มช่องบนั ไดได้
-กำรกระโดดกำงเท้ำชิดเท้ำไปข้ำงหน้ำ
-อธิบายความหมายการกระโดดกางเทา้ ชิดเทา้ ไปขา้ งหนา้ ได้
-อธิบายวธิ ีการการกระโดดกางเทา้ ชิดเทา้ ไปขา้ งหนา้ ได้
-บอกประโยชน์ของกำรเคลอ่ื นไหวแบบผสมผสำนได้
*กำรเคลอ่ื นไหวแบบผลดั
-อธิบายความหมายของการเคลื่อนไหวแบบผลดั ได้
-อธิบายความสาคญั ของการเคลื่อนไหวแบบผลดั ได้
*บอกลกั ษณะของกำรเคลอื่ นไหวแบบผลดั ได้
-กำรเลยี้ งลูกฟุตบอลอ้อมหลกั
-อธิบายความหมายการเล้ียงลูกฟุตบอลออ้ มหลกั ได้
-อธิบายวธิ ีการการเล้ียงลูกฟุตบอลออ้ มหลกั ได้
-กำรวง่ิ หลบสิ่งกดี ขวำง
-อธิบายความหมายการวง่ิ หลบส่ิงกีดขวางได้
-อธิบายวธิ ีการการวงิ่ หลบสิ่งกีดขวางได้
-บอกประโยชน์ของกำรเคลือ่ นไหวแบบผลดั ได้
*กำรรับแรง
-อธิบายความหมายของการรับแรงได้

155

-อธิบายความสาคญั ของการรับแรงได้
*บอกลกั ษณะกำรรับแรงได้
-กำรรับส่ งลูกฟุตบอลด้วยเท้ำ
-อธิบายความหมายการรับส่งลูกฟุตบอลดว้ ยเทา้ ได้
-อธิบายวธิ ีการการรับส่งลูกฟุตบอลดว้ ยเทา้ ได้
-กำรเลยี้ งลูกบอลด้วยเท้ำ
-อธิบายความหมายการเล้ียงลูกบอลดว้ ยเทา้ ได้
-อธิบายวธิ ีการการเล้ียงลูกบอลดว้ ยเทา้ ได้
-กำรยงิ ประตูด้วยเท้ำ
-อธิบายความหมายการยงิ ประตูดว้ ยเทา้ ได้
-อธิบายวธิ ีการการยงิ ประตูดว้ ยเทา้ ได้
-บอกประโยชน์ของกำรรับแรงได้
*กำรใช้แรง
-อธิบายความหมายการใชแ้ รงได้
-อธิบายความสาคญั การใชแ้ รงได้
*บอกลกั ษณะของกำรรับแรงได้
-กำรท่มุ บอลแบบยนื เท้ำคู่
-อธิบายความหมายการทุ่มบอลแบบยนื เทา้ คู่ได้
-อธิบายวธิ ีการการทุ่มบอลแบบยนื เทา้ คู่ได้
-กำรทุ่มบอลแบบยนื เท้ำนำเท้ำตำม
-อธิบายความหมายการทุ่มบอลแบบยนื เทา้ นาเทา้ ตามได้
-อธิบายวธิ ีการการทุม่ บอลแบบยนื เทา้ นาเทา้ ตามได้
-บอกประโยชน์ของกำรใช้แรงได้
*ควำมสมดุลในกำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำย
-อธิบายความหมายของความสมดุลในการเคลื่อนไหวได้
-อธิบายความสาคญั ของความสมดุลการเคล่ือนไหวได้
-บอกลกั ษณะควำมสมดุลกำรเคลอ่ื นไหวได้
-การวง่ิ ซิกแซก
-อธิบายความหมายการวงิ่ ซิกแซกได้
-อธิบายวธิ ีการการวงิ่ ซิกแซกได้
-การกระโดดขา้ มช่องส่ีเหล่ียมขาเดียว

156

-อธิบายความหมายการกระโดดขา้ มช่องส่ีเหล่ียมขาเดียวได้
-อธิบายวธิ ีการการกระโดดขา้ มช่องส่ีเหลี่ยมขาเดียวได้
-บอกประโยชน์ของควำมสมดุลกำรเคลอื่ นไหวได้
*กฬี ำฟุตบอล
-บอกประวตั ิความเป็ นมาของกีฬาฟุตบอลได้
-บอกประวตั ิความเป็ นมาของกีฬาฟุตบอลภายในประเทศได้
-บอกประวตั ิความเป็ นมาของกีฬาฟุตบอลในต่างประเทศได้
-บอกมารยาทในการเล่นกีฬาฟุตบอลได้
-บอกมารยาทในการชมกีฬาฟุตบอลได้
-บอกวธิ ีการดูแลรักษาอุปกรณ์กีฬาฟุตบอลได้
-บอกประโยชน์ของกีฬาฟุตบอลได้
-กตกิ ำฟุตบอล
-อธิบายกติกาฟุตบอลได้
-อธิบายความหมายของกติกาฟุตบอลได้
-อธิบายความสาคญั ของกติกาฟุตบอลได้
-บอกประโยชน์ของกติกาฟุตบอลได้
-ควำมสำมคั คี
-อธิบายความหมายของความสามคั คีได้
-อธิบายความสาคญั ของความสามคั คีได้
-บอกประโยชนข์ องความสามคั คีได้

-กำรมนี ำ้ ใจนักกฬี ำ
-อธิบายความหมายการมีน้าใจนกั กีฬาได้
-อธิบายความสาคญั ของการมีน้าใจนกั กีฬาได้
-บอกประโยชนข์ องการมีน้าใจนกั กีฬาได้
*กำรเตะลกู ฟุตบอล
-อธิบายความหมายของการเตะลูกฟุตบอลได้
-อธิบายความสาคญั ของการเตะลูกฟุตบอลได้
-บอกลกั ษณะของกำรเตะลูกฟุตบอลได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการเตะลูกฟุตบอลดว้ ยหลงั เทา้ ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการเตะลูกฟุตบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นในได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการเตะลูกฟุตบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นนอกได้

157

-อธิบายและปฏิบตั ิการเตะลูกฟุตบอลโด่งได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการเตะลูกฟุตบอลดว้ ยหวั รองเทา้ ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการเตะลูกวอลเลยไ์ ด้
*กำรเตะลูกบอลด้วยหลงั เท้ำ
-อธิบายความหมายของการเตะลูกบอลดว้ ยหลงั เทา้ ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการเตะลูกบอลดว้ ยหลงั เทา้ ได้
-ประเมินทกั ษะการเตะลูกบอลดว้ ยหลงั เทา้ ได้
*กำรเตะลกู บอลด้วยข้ำงเท้ำด้ำนใน
-อธิบายความหมายของการเตะลูกบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นในได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการเตะลูกบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นในได้
-ประเมินทกั ษะการเตะลูกบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ได้
*กำรเตะลูกบอลด้วยข้ำงเท้ำด้ำนนอก
-อธิบายความหมายของการเตะลูกบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นนอกได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการเตะลูกบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นนอกได้
-ประเมินทกั ษะการเตะลูกบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นนอกได้
*กำรเตะลกู ฟุตบอลด้วยหัวรองเท้ำ
-อธิบายความหมายของการเตะลูกฟุตบอลหวั รองเทา้ ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการเตะลูกฟุตบอลดว้ ยหวั รองเทา้ ได้
-ประเมินทกั ษะการเตะลูกฟุตบอลดว้ ยหวั รองเทา้ ได้
*กำรเตะลูกบอลโด่ง
-อธิบายความหมายของการเตะลูกฟุตบอลโด่งได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการเตะลูกฟุตบอลโด่งได้
-ประเมินทกั ษะการเตะลูกฟุตบอลโด่งได้
*กำรเตะลูกวอลเลย์
-อธิบายความหมายของการเตะลูกวอลเลยไ์ ด้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการเตะลูกวอลเลยไ์ ด้
-ประเมินทกั ษะการเตะลูกวอลเลยไ์ ด้
-บอกประโยชน์ของกำรเตะลูกฟุตบอลได้
*กำรหยดุ ลกู ฟุตบอล
-อธิบายความหมายของการหยดุ ลูกฟุตบอลได้
-อธิบายความสาคญั ของการหยดุ ลูกฟุตบอลได้

158

-บอกลกั ษณะของกำรหยดุ ลูกฟุตบอลได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการหยดุ ดว้ ยฝ่ าเทา้ ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการหยดุ บอลดว้ ยหนา้ ขาหรือเข่าได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการหยดุ บอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นนอกได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการหยดุ บอลดว้ ยหนา้ อกได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการหยดุ บอลดว้ ยศีรษะได้
*กำรหยดุ บอลด้วยฝ่ ำเท้ำ
-อธิบายความหมายของการหยดุ บอลดว้ ยฝ่ าเทา้ ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการหยดุ บอลดว้ ยฝ่ าเทา้ ได้
-ประเมินทกั ษะการหยดุ บอลดว้ ยฝ่ าเทา้ ได้
*กำรหยุดบอลด้วยหน้ำขำหรือเข่ำ
-อธิบายความหมายของการหยดุ บอลดว้ ยหนา้ ขาหรือเขา่ ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการหยดุ บอลดว้ ยหนา้ ขาหรือเข่าได้
-ประเมินทกั ษะการหยดุ บอลดว้ ยหนา้ ขาหรือเข่าได้
*กำรหยดุ บอลด้วยข้ำงเท้ำด้ำนนอก
-อธิบายความหมายของการหยดุ บอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นนอกได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการหยดุ บอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นนอกได้
-ประเมินทกั ษะการหยดุ บอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นนอกได้
*กำรหยดุ บอลด้วยหน้ำอก
-อธิบายความหมายของการหยดุ บอลดว้ ยหนา้ อกได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการหยดุ บอลดว้ ยหนา้ อกได้
-ประเมินทกั ษะการหยดุ บอลดว้ ยหนา้ อกได้
*กำรหยดุ บอลด้วยศีรษะ
-อธิบายความหมายของการหยดุ บอลดว้ ยศีรษะได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการหยดุ บอลดว้ ยศีรษะได้
-ประเมินทกั ษะการหยดุ บอลดว้ ยศีรษะได้
-บอกประโยชน์ของกำรหยุดลกู ฟุตบอลได้
-กำรเลยี้ งลูกฟุตบอล
-อธิบายความหมายของการเล้ียงลูกฟุตบอลได้
-อธิบายความสาคญั ของการเล้ียงลูกฟุตบอลได้
-บอกลกั ษณะของกำรเลยี้ งลูกฟุตบอลได้

159

-อธิบายและปฏิบตั ิการเล้ียงลูกฟุตบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นในได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการเล้ียงลูกฟุตบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นนอกได้
-กำรเลยี้ งลกู ฟุตบอลด้วยข้ำงเท้ำด้ำนใน
-อธิบายความหมายของการเล้ียงลูกฟุตบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นในได้
-วธิ ีการเล้ียงลูกฟุตบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นในได้
-ประเมินทกั ษะการเล้ียงลูกฟุตบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นในได้
-กำรเลยี้ งลูกฟุตบอลด้วยข้ำงเท้ำด้ำนนอก
-อธิบายความหมายของการเล้ียงลูกฟุตบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นนอกได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการเล้ียงลูกฟุตบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นนอกได้
-ประเมินทกั ษะการเล้ียงลูกฟุตบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นนอกได้
-กำรเลยี้ งลูกฟุตบอลด้วยหลังเท้ำ
-อธิบายความหมายของการเล้ียงลูกฟุตบอลดว้ ยหลงั เทา้ ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการเล้ียงลูกฟุตบอลดว้ ยหลงั เทา้ ได้
-ประเมินทกั ษะการเล้ียงลูกฟุตบอลดว้ ยหลงั เทา้ ได้
-บอกประโยชน์ของกำรเลยี้ งลกู ฟุตบอลได้

*กำรโหม่งลูกฟุตบอล
-อธิบายความหมายของการโหม่งลูกฟุตบอลได้
-อธิบายความสาคญั ของการโหม่งลูกฟุตบอลได้
-บอกลกั ษณะของกำรโหม่งลูกฟุตบอลได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการยนื โหม่งลูกฟุตบอลได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการวงิ่ โหมง่ ลูกฟุตบอลได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการกระโดดโหม่งลูกฟุตบอลได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการโหมง่ ลูกฟุตบอลลงพ้ืนได้
*กำรยนื โหม่งลูกฟุตบอล
-อธิบายความหมายของการยนื โหมง่ ลูกฟุตบอลได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการยนื โหม่งลูกฟุตบอลได้
-ประเมินทกั ษะการยนื โหม่งลูกฟุตบอลได้

*กำรวง่ิ โหม่งลูกฟุตบอล
-อธิบายความหมายของการวิ่งโหมง่ ลูกฟุตบอลได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการวง่ิ โหมง่ ลูกฟุตบอลได้
-ประเมินทกั ษะการวง่ิ โหมง่ ลูกฟุตบอลได้

160

*กำรกระโดดโหม่งลูกฟุตบอล
-อธิบายความหมายของการกระโดดโหมง่ ลูกฟุตบอลได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการกระโดดโหมง่ ลูกฟุตบอลได้
-ประเมินทกั ษะการกระโดดโหมง่ ลูกฟุตบอลได้
*กำรโหม่งลูกฟุตบอลลงพนื้
-อธิบายความหมายของการโหม่งลูกฟุตบอลลงพ้นื ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการโหม่งลูกฟุตบอลลงพ้ืนได้
-ประเมินทกั ษะการโหม่งลูกฟุตบอลลงพ้ืนได้
-บอกประโยชน์ของกำรโหม่งลกู ฟุตบอลได้

*กำรเป็ นผู้รักษำประตู
-อธิบายความหมายการเป็ นผรู้ ักษาประตูได้
-อธิบายความสาคญั ของการเป็นผรู้ ักษาประตูได้
-บอกลกั ษณะของกำรรับลูกฟุตบอลได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการรับลูกฟุตบอลในระดบั ต่าได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการรับลูกฟุตบอลในระดบั หนา้ อกได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการรับลูกฟุตบอลในระดบั สูงได้
*กำรรับลูกฟุตบอลในระดบั ต่ำ
-อธิบายความหมายการรับลูกฟุตบอลในระดบั ต่าได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการการรับลูกฟุตบอลในระดบั ต่าได้
*กำรรับลูกฟุตบอลในระดบั หน้ำอก
-อธิบายความหมายการรับลูกฟุตบอลในระดบั หนา้ อกได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการการรับลูกฟุตบอลในระดบั หนา้ อกได้
*กำรรับลกู ฟุตบอลในระดับสูง
-อธิบายความหมายการรับลูกฟุตบอลในระดบั สูงได้
-อธิบายและปฏิบตั ิวธิ ีการการรับลูกฟุตบอลในระดบั สูงได้
*บอกประโยชน์ของกำรเป็ นผู้รักษำประตูได้

-กำรออกกำลงั กำย
-อธิบายความหมายของการออกกาลงั กายได้
-อธิบายความสาคญั ของการออกกาลงั กายได้

-บอกลกั ษณะของกำรออกกำลงั กำยได้
-แอนาแอโรบิค

161

-แอโรบิค
-แอนำแอโรบิค
-อธิบายความหมายของแอนาแอโรบิคได้
-อธิบายความสาคญั ของแอนาแอโรบิคได้
-บอกลกั ษณะของแอนำแอโรบิคได้
-อธิบำยกำรบริหำรคอได้
-บอกวธิ ีการปฏิบตั ิการบริหารคอได้
-อธิบำยกำรบริหำรลำตวั ได้
-บอกวธิ ีการปฏิบตั ิการบริหารลาตวั ได้
-แอโรบิค
-อธิบายความหมายของแอโรบิคได้
-อธิบายความสาคญั ของแอโรบิคได้
-บอกลกั ษณะของแอโรบิคได้
-อธิบำยกำรเดนิ ได้
-บอกวธิ ีการปฏิบตั ิการเดินได้
-อธิบำยกำรวง่ิ ได้
-บอกวธิ ีการปฏิบตั ิการวงิ่ ได้
-บอกประโยชน์ของกำรออกกำลงั กำยได้
-สมรรถภำพทำงกำย
-อธิบายความหมายของสมรรถภาพทางกายได้
-อธิบายความสาคญั ของสมรรถภาพทางกายได้
-บอกลกั ษณะของกำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำยได้
-กำรนั่งงอตวั ไปข้ำงหน้ำ
-บอกอุปกรณ์การนง่ั งอตวั ไปขา้ งหนา้ ได้
-บอกวธิ ีการทดสอบการนงั่ งอตวั ไปขา้ งหนา้ ได้
-อธิบายเกณฑก์ ารนง่ั งอตวั ไปขา้ งหนา้ ได้
-กำรดันพนื้ 30 วนิ ำที
-บอกอุปกรณ์การทดสอบการดนั พ้นื 30 วนิ าทีได้
-บอกวธิ ีการทดสอบการดนั พ้นื 30 วนิ าทีได้
-อธิบายเกณฑก์ ารทดสอบการดนั พ้นื 30 วนิ าทีได้

162

-กำรลกุ น่ัง 60 วนิ ำที
-บอกอุปกรณ์การทดสอบการลุกนงั่ 60 วนิ าทีได้
-บอกวธิ ีการทดสอบการลุกนงั่ 60 วนิ าทีได้
-อธิบายเกณฑก์ ารลุกนงั่ 60 วนิ าทีได้
-กำรยนื ยกเข่ำขนึ้ ลง 3 นำที

-บอกอุปกรณ์การทดสอบการยนื ยกเขา่ ข้ึนลง 3 นาทีได้
-บอกวธิ ีการทดสอบการยนื ยกเขา่ ข้ึนลง 3 นาทีได้
-อธิบายเกณฑก์ ารยนื ยกเขา่ ข้ึนลง 3 นาทีได้
-กำรวงิ่ 50 เมตร
-บอกอุปกรณ์การทดสอบการวง่ิ 50 เมตรได้
-บอกวธิ ีการทดสอบการวงิ่ 50 เมตรได้
-อธิบายเกณฑก์ ารวงิ่ 50 เมตรได้
-บอกประโยชน์ของสมรรถภำพทำงกำยได้
-กำรสร้ำงเสริมบุคลกิ ภำพ
-อธิบายความหมายการเสริมสร้างบุคลิกภาพได้
-อธิบายความสาคญั ของการเสริมสร้างบุคลิกภาพได้
-บอกลกั ษณะของกำรเสริมสร้ำงบุคลกิ ภำพได้
-กำรกระโดด
-อธิบายความหมายของการกระโดดได้
-บอกวธิ ีการปฏิบตั ิการกระโดดได้
-กำรย่อตัว
-อธิบายความหมายของการยอ่ ตวั ได้
-บอกวธิ ีการปฏิบตั ิการยอ่ ตวั ได้
-บอกประโยชน์ของเสริมสร้ำงบุคลกิ ภำพได้
-กำรสร้ำงเสริมสมรรถภำพทำงกำย
-อธิบายความหมายของการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายได้
-อธิบายความสาคญั ของการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายได้
-บอกลกั ษณะของกำรสร้ำงเสริมสมรรถภำพทำงกำยได้

-กำรหลบหลกี
-อธิบายความหมายของการหลบหลีก
-บอกวธิ ีการปฏิบตั ิการหลบหลีก

163

-กำรกระโดดกำงเท้ำชิดเท้ำไปข้ำงหน้ำ
-อธิบายความหมายของการกระโดดกางเทา้ ชิดเทา้ ไปขา้ งหนา้
-บอกวธิ ีการปฏิบตั ิการกระโดดกางเทา้ ชิดเทา้ ไปขา้ งหนา้
-บอกประโยชน์ของกำรสร้ำงเสริมสมรรถภำพทำงกำยได้
-กำรเล่นเกม
-อธิบายความหมายของเกมได้
-อธิบายความสาคญั ของเกมได้
-บอกลกั ษณะของของเกมได้
*เกมเบด็ เตลด็
-อธิบายความหมายเกมเบด็ เตล็ดได้
-อธิบายความสาคญั เกมเบด็ เตล็ดได้
-บอกลกั ษณะของเกมเบด็ เตลด็ ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิเกมวงิ่ ผลดั ลูกฟุตบอลได้
-อธิบายและปฏิบตั ิเกมแขง่ ขนั วางลูกบอล 2 จงั หวะได้
-บอกประโยชน์ของเกมเบด็ เตลด็ ได้
*เกมนำไปสู่กฬี ำ
-อธิบายความหมายเกมนาไปสู่กีฬาได้
-อธิบายความสาคญั เกมนาไปสู่กีฬาได้
-บอกลกั ษณะของเกมนำไปสู่กฬี ำได้
-อธิบายและปฏิบตั ิเกมลิงชิงเตะบอลได้
-อธิบายและปฏิบตั ิเกมเตะและรับลูกบอลได้
-บอกประโยชนข์ องเกมนาไปสู่กีฬาได้
*เกมแบบผลดั
-อธิบายความหมายเกมแบบผลดั ได้
-อธิบายความสาคญั เกมแบบผลดั ได้
-บอกลกั ษณะของเกมแบบผลดั ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิเกมจบั คูห่ ลบบอลในวงได้
-อธิบายและปฏิบตั ิเกมเตะบอลขา้ มแดนได้
-บอกประโยชน์ของเกมแบบผลดั ได้
-กำรรุก

164

-อธิบายความหมายของการรุกได้
-อธิบายความสาคญั ของการรุกได้
-บอกลกั ษณะของการรุกได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการรุกแบบ 1 ตอ่ 1ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการรุกแบบ 2 ตอ่ 1ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการรุกแบบ 3 ตอ่ 2ได้
-บอกประโยชน์ของกำรรุกได้
-กำรป้ องกัน
-อธิบายความหมายของการป้ องกนั ได้
-อธิบายความสาคญั ของการป้ องกนั ได้
-บอกลกั ษณะของการป้ องกนั ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการป้ องกนั แบบ 1 ต่อ 1ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการป้ องกนั แบบ 2 ตอ่ 1ได้
-อธิบายและปฏิบตั ิการป้ องกนั แบบ 3 ตอ่ 2ได้
-บอกประโยชน์ของกำรป้ องกนั ได้

-สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
-ความสามารถในการสื่อสาร
-ความสามารถในการคิด
-ความสามารถในการแกป้ ัญหา
-ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวติ
-ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
-คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
-รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
-ซื่อสัตยส์ ุจริต
-มีวนิ ยั
-ใฝ่ เรียนรู้
- อยอู่ ยา่ งพอเพียง
- มุง่ มน่ั ในการทางาน
- รักความเป็ นไทย
- มีจิตสาธารณะ

165

-กระบวนกำรจดั กำรเรียนรู้กระบวนกำรทำงพลศึกษำ 5 ข้นั

- ข้ันเตรียม

1. ครูแนะนาตวั กบั นกั เรียนและสนทนากบั นกั เรียน พร้อมใหน้ กั เรียนไดด้ ูรูปภาพ เปิ ดวิดีโอเก่ียวกบั เร่ืองการ

แข่งขนั กีฬาฟุตบอลระดบั ชาติใหน้ กั เรียนดูและสนทนากบั นกั เรียนวา่ ไดข้ อ้ คิดอะไรบา้ ง

(การแข่งขนั กีฬาฟตุ บอลเป็นท่ีนิยมทว่ั โลก)

2. เชค็ ช่ือ เตรียมความเรียบร้อยของนกั เรียนและอธิบายเงื่อนไขการจดั การเรียนรู้ กฎ ระเบียบ ขอ้ บงั คบั
2.1 ระเบียบแถว เขา้ แถวแบบหนา้ กระดาน แถวละ่ 6 คน นงั่ ใหเ้ ป็นระเบียบเรียบร้อย
2.2 การเขา้ ช้นั เรียนตรงเวลา ไม่มาสายเกิน 10 นาที
2.3 การแต่งกายนกั เรียนแต่งกายดว้ ยชุดพละของโรงเรียน แต่งกายเรียบร้อย ใส่รองเทา้ ผา้ ใบ
2.4 แจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ

- ข้ันอธิบำย/สำธิต

1. ใหน้ กั เรียนแบ่งกล่มุ นงั่ ใหต้ ามเลขท่ี ตามแบบบนั ทึกพฒั นาคุณภาพผเู้ รียนเป็นรายบุคคล (ปพ.5)
2. แจกแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน จานวน 30 ขอ้ คนละชุด
3. ครูอธิบายการทาขอ้ สอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน 30 ขอ้ ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจ ทุกข้นั ตอนปฏิบตั ิ
- ข้ันฝึ กปฏบิ ัติ

1. นกั เรียนแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน (ก่อนเรียน) จานวน 30 ขอ้

2. ครูประเมินสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

- ข้ันนำไปใช้ -

- ข้ันสรุป

1. นกั เรียนทาแบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ทนั เวลาทุกคน

2. ครูประเมินคุณลกั ษณะที่พึงประสงคข์ องผเู้ รียน

- กำรวดั และประเมนิ ผล

รำยกำร เคร่ืองมอื วธิ ีกำร เกณฑ์กำรประเมนิ

ระดบั คะแนน ระดบั คุณภำพ

แบบทดสอบวดั แบบทดสอบวดั ตรวจแบบทดสอบวดั ผล 21-30 ดี
ผลสมั ฤทธ์ิทางการ ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน สมั ฤทธ์ิทางการเรียนก่อน 10-20 พอใช้
เรียน ก่อนเรียน 0-9 ปรับปรุง
ก่อนเรียน เรียน
จานวน 30 ขอ้ จานวน 30 ขอ้ จานวน 30 ขอ้ 7-9 ดี
สมรรถนะสาคญั ของ แบบประเมินสมรรถนะ ประเมินสมรรถนะสาคญั 4-6 พอใช้
สาคญั ของผเู้ รียน ของผเู้ รียน 1-3 ปรับปรุง
ผเู้ รียน 7-9
4-6 ดี
คุณลกั ษณะท่ีพึง แบบประเมินคุณลกั ษณะ ประเมินคุณลกั ษณะท่ีพึง 1-3 พอใช้
ประสงคข์ องผเู้ รียน ที่พึงประสงคข์ องผเู้ รียน ประสงคข์ องผเู้ รียน ปรับปรุง

166

บนั ทกึ หลงั กำรสอน
ด้ำนควำมรู้
....................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ด้ำนทกั ษะ/กระบวนกำร
....................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ด้ำนสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
....................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
ด้ำนคุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ของผ้เู รียน
....................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

ลงช่ือ..............................................
นำยโยฮัน ปี ระมะลกึ
ครูโรงเรียนบ้ำนโคกตำ

ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหำรหรือผ้ทู ไี่ ด้รับมอบหมำย
....................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

ลงช่ือ..........................................
นำยบุญชู รำชสุวรรณ

ผู้อำนวยกำรโรงเรียนบ้ำนโคกตำ

167

แบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ ำงกำรเรียน (ก่อนเรียน 30 ข้อ)

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ รำยวชิ ำพลศึกษำ (กฬี ำฟุตบอล)

ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี 6 เวลำ 1 ชั่วโมง

โรงเรียนบ้ำนโคกตำ คะแนนเตม็ 30 คะแนน

คำชี้แจง.....ให้นักเรียนเลอื กคำตอบทถ่ี ูกต้องเพยี งคำตอบเดยี ว

1. ข้อใดไม่ใช่หลกั กำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำย (พ.3.1 ป.6/1)

ก. แรงและการเคล่ือนที่

ข. ความสมดุล

ค. การรับแรง

ง. การใชแ้ รง

2. ข้อใดเป็ นกำรเคลอ่ื นไหวแบบเคลอ่ื นที่ (พ.3.1 ป.6/1)

ก. การหมุนลาตวั

ข. การสไลดเ์ ทา้

ค. การบิดตวั

ง. กม้ หวั

3. กำรเคลอ่ื นไหวมคี วำมสำคัญอย่ำงไรมำกทสี่ ุด (พ.3.1 ป.6/1)

ก. ทาใหว้ ง่ิ ไดเ้ ร็วข้ึน

ข. ทาใหบ้ ุคลิกภาพ ทา่ ทางและการทรงตวั ดีข้ึนและช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย

ค. ทาใหเ้ หนื่อยชา้ ลงกวา่ เดิม

ง. ทาใหม้ ีพลงั งานในร่างกายมากข้ึน

4. ข้อใดคือลกั ษณะของกำรเคลอ่ื นไหวร่ำงกำยแบบเคลอื่ นที่ (พ.3.1 ป.6/1)

ก. การเดาะลูกฟุตบอล

ข. การวงิ่

ค. ยนื ตรงเคารพธงชาติ

ง. การวงิ่ ในห้องเรียน

5. กำรรับแรง หมำยถงึ อะไร (พ.3.1 ป.6/2)

ก. พฒั นาการทางานของระบบประสาทและกลา้ มเน้ือในส่วนตา่ ง ๆ

ข. การสปริงตวั จากพ้ืน

ค. การกา้ วเทา้ ใดเทา้ หน่ึงไปชิด

ง. เป็นการเคลื่อนไหวร่างกาย โดยร่างกายจะออกแรงรับนาหนกั ของ ตนเองขณะเคล่ือนไหว

168

6. กำรใช้แรง หมำยถึงอะไร (พ.3.1 ป.6/2)
ก. การทางานประสานกนั ระหวา่ งระบบประสาทกบั ระบบกลา้ มเน้ือ
ข. เป็นการเคล่ือนไหว ร่างกายท่ีกลา้ มเน้ือไดอ้ อกแรง เป็นการปฏิบตั ิ กิจกรรมท่ีทาใหก้ ลา้ มเน้ือแขง็ แรง
ค.อาการบาดเจบ็ ท่ีเกิดจากการเล่นกีฬา
ง. การใหม้ ีระบบหายใจท่ีดีข้ึน
7. สำนักงำนใหญ่ของสหพนั ธ์ฟุตบอลนำนำชำติ FIFA อยู่ทป่ี ระเทศอะไร (พ.3.2 ป.6/3)
ก. ประเทศไทย
ข. ประเทศองั กฤษ
ค. ประเทศบราซิล
ง. ประเทศเยอรมนั
8. ประเทศไทยมกี ำรเล่นฟุตบอลในสมยั รัชกำลใดเป็ นคร้ังแรก (พ.3.2 ป.6/3)
ก.รัชกาลท่ี 5
ข. รัชกาลที่ 6
ค. รัชกาลท่ี 7
ง. รัชกาลท่ี 9
9. กำรรักษำอปุ กรณ์กฬี ำฟุตบอลมคี วำมสำคญั อย่ำงไร (พ.3.2 ป.6/3)
ก. เพอ่ื ใหอ้ ุปกรณ์มีอายกุ ารใชง้ านไดน้ านที่สุด
ข. เพอ่ื ใหเ้ ล่นกีฬาฟุตบอลไดเ้ ก่งข้ึน
ค. เพ่อื ลดอาการบาดเจบ็ ได้
ง. เพอ่ื ฝึกความมีระเบียบวนิ ยั ในทีม
10. ข้อใดคือหัวใจสำคญั ของกติกำฟุตบอล (พ.3.2 ป.6/4)
ก. ตอ้ งชนะเท่าน้นั
ข. แพไ้ ม่ไดเ้ พราะมีศกั ด์ิศรี
ค. การเล่นใหอ้ ยใู่ นกติกา รู้แพ้ ชนะ และอภยั ชนะใจตวั เองใหไ้ ด้
ง. การวางแผนใหช้ นะคู่ต่อสู้

169

11. กำรแข่งขันฟุตบอลจะแบ่งออกเป็ นสองครึ่ง โดยคร่ึงละกน่ี ำที (พ.3.2 ป.6/4)
ก. 15 นาที
ข. 25 นาที
ค. 45 นาที
ง. 90 นาที
12. กำรแข่งขนั ฟุตบอลจะจัดขนึ้ กปี่ ี ต่อคร้ัง (พ.3.2 ป.6/3)
ก. 2 ปี
ข. 3 ปี
ค. 6 ปี
ง. 4 ปี
13. กำรเตะลูกฟุตบอลด้วยข้ำงเท้ำด้ำนในจุดสัมผสั ลูกฟุตบอลคือข้อใด (พ.3.1 ป.6/4)
ก. หลงั เทา้
ข. ตาตุม้
ค. ปลายเทา้
ง. ขา้ งเทา้
14. กำรเตะลูกแปคอื กำรใช้ทักษะใดในกำรเล่นลูกฟุตบอล (พ.3.1 ป.6/4)
ก. การยงิ ประตู
ข. การเล้ียงลูกฟุตบอล
ค. ทกั ษะการเตะฟุตบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นใน
ง. ทกั ษะการเตะฟุตบอลดว้ ยหลงั เทา้
15. ข้อใดคอื ควำมหมำยของกำรเลยี้ งลกู บอล (พ.3.1 ป.6/4)
ก. การเตะลูกฟุตบอล
ข. การแตะลูกฟุตบอล
ค. การหยดุ ลูกฟุตบอล
ง. การครอบครองลูกฟุตบอล

170

16. กำรเลยี้ งลูกฟุตบอลควรให้นำ้ หนักตวั อยู่ส่วนใดของลูกฟุตบอล (พ.3.1 ป.6/4)
ก. ขา้ งลูกฟุตบอล
ข. ใกลล้ ูกฟุตบอล
ค. เหนือลูกฟุตบอล
ง. ต่ากวา่ ลูกฟุตบอล
17. ข้อใดเป็ นกำรหยดุ ลกู ฟุตบอลทง่ี ่ำยทสี่ ุด (พ.3.1 ป.6/4)
ก. การหยดุ ลูกฟุตบอลดว้ ยหนา้ ขา
ข. การหยดุ ลูกฟุตบอลดว้ ยฝ่ าเทา้
ค. การหยดุ ลูกฟุตบอลดว้ ยหนา้ อก
ง. การหยดุ ลูกฟุตบอลดว้ ยหนา้ แขง้
18. ลกั ษณะเด่นของผู้รักษำประตูฟุตบอลควรมีอย่ำงไร (พ.3.1 ป.6/4)
ก. จิตใจที่มน่ั คง
ข. แขง็ แรง สายตาดี
ค. รูปร่างอว้ นใหญ่
ง. มีการตดั สินใจที่ดี
19. คนทต่ี ้องกำรเลยี้ งลกู ฟุตบอลหลบหลกี คู่ต่อสู่ได้ดีจะต้องทำตำมข้อใด (พ.3.1 ป.6/4)
ก. มีความเร็ว
ข. ขอ้ เทา้ ดี
ค. มีความแขง็ แรง
ง. ถูกทุกขอ้
20. ข้อใดคอื ควำมหมำยของกำรออกกำลงั กำยทถี่ ูกต้อง (พ.3.2 ป.6/1)
ก. การออกแรงเพื่อใหก้ ลา้ มเน้ือทางานหนกั และมีประสิทธิภาพมากข้ึน
ข. การทากิจกรรมท่ีไดอ้ อกแรงหรือเคล่ือนไหวร่างกายซ่ึงมีหลากหลายรูปแบบ
ค. การออกกาลงั กายควรฝึกจากหนกั ไปเบาในการออกกาลงั กาย
ง. การออกกาลงั กายท่ีหนกั ๆจะทาใหร้ ่างกายแขง็ แรงมากข้ึน

171

21. กำรออกกำลงั กำย Aerobic แอโรบิค คอื แบบใด (พ.3.2 ป.6/1)
ก. การออกกาลงั กายแบบไม่ใชอ้ อกซิเจนมาช่วยในการเผาผลาญ
ข. การออกกาลงั กายแบบมีเครื่องมืออุปกรณ์ช่วยในการเคล่ือนไหว
ค. การออกกาลงั กายแบบใชอ้ อกซิเจน เป็นการออกกาลงั กายท่ีใชเ้ วลาไมต่ ่ากวา่ 25 นาที
ง. เป็นการออกกาลงั กายโดยการวงิ่ อยา่ งเดียว ใชเ้ วลา 30 นาทีข้ึนไป
22. ข้อใดคือประโยชน์ของกำรออกกำลงั กำย (พ.3.2 ป.6/1)
ก. ทาใหร้ ่างกายมีสุขภาพแขง็ แรง สามารถป้ องกนั รักษา และฟ้ื นฟูสภาพร่างกายได้
ข. ทาใหก้ ลา้ มเน้ือแขง็ แรงและใหญ่เพม่ิ มากข้ึน
ค. ทาใหม้ ีอายยุ นื นานมากข้ึนเพราะออกกาลงั กายทุกวนั
ง. ทาใหม้ ีความฉลาดในการแกไ้ ขปัญหาตา่ งๆได้
23. ข้อใดคอื จุดประสงค์ของกำรทดสอบสมรรถภำพทำงกำย (พ.3.2 ป.6/4)
ก. วดั ความแขง็ แรงของร่างกาย
ข. วดั ความสมดุลของร่างกาย
ค. เพ่ือเสริมสร้างความแขง็ แรงของร่างกาย
ง. เพือ่ ปรับปรุงขอ้ บกพร่องของร่างกาย

24. สมรรถภำพหมำยถงึ ข้อใด (พ.3.2 ป.6/1)
ก. เล่นกีฬาไดเ้ ก่งมากข้ึน
ข. มีจิตใจท่ีร่างเริงแจ่มใส
ค. มีความแขง็ แรงของร่างกายและทาใหส้ มรรถภาพดีมากข้ึน
ง. มีร่างกายที่แขง็ แรงสามารถยกของหนกั ๆได้
25. เพรำะเหตุใดนักเรียนควรออกกำลงั กำยเป็ นประจำ (พ.3.2 ป.6/4)
ก. เพราะนกั เรียนเป็นวยั ท่ีตอ้ งใชก้ าลงั
ข. เพราะทาใหน้ กั เรียนมีร่างกายท่ีแขง็ แรง
ค. เพราะวยั รุ่นตอ้ งการเป็ นท่ียอมรับในกลุ่มเพอ่ื น
ง. การออกกาลงั กายกระตุน้ ใหร้ ่างกายเจริญเติบโตเตม็ ที่

172

26. ข้อใดคอื ควำมหมำยของเกม (พ.3.2 ป.6/2)
ก. กิจกรรมท่ีตอ้ งเล่นในสนามหญา้ เทา่ น้นั และเล่นเพยี งคนเดียว
ข. กิจกรรมที่คนเราใชเ้ วลาวา่ งจากภารกิจงานประจาโดยเขา้ ร่วมดว้ ยความสมคั รใจ
ค. กิจกรรมที่ตอ้ งสมคั รและตอ้ งเสียเงินในการลงทะเบียน
ง. กิจกรรมที่บงั คบั ให้เล่นใครเล่นแพต้ อ้ งเสียเงิน
27. ข้อใดคอื ประโยชน์ของกำรเล่นเกม (พ.3.2 ป.6/2)
ก. ช่วยส่งเสริมใหค้ นรู้จกั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์
ข. ช่วยใหเ้ กิดความสนุกสนามเพลิดเพลิน และมีความสุข
ค. ช่วยสร้างความรัก ความสามคั คีใหเ้ กิดในครอบครัว
ง. ถูกทุกขอ้
28. ข้อใดคอื ควำมหมำยของรุก (พ.3.2 ป.6/5)
ก. การป้ องกนั ไม่ใหเ้ สียคะแนน หรือประตู
ข. การยงิ ประตูโดยใชท้ กั ษะต่างๆ
ค. การวางแผนระบบตา่ งๆเพื่อนาไปใชแ้ ข่งขนั
ง. การจ่โู จมหรือการเขา้ กระทาเพื่อทาคะแนน การยงิ ประตู
29. กำรป้ องกนั หมำยถึงอะไร (พ.3.2 ป.6/5)
ก. การทาอยา่ งไรกไ็ ด้ อยา่ งไมผ่ ดิ กฎ กติกา เพื่อไม่ใหฝ้ ่ ายตรงขา้ มบุกมายงิ ประตขู องเราได้
ข. การเล้ียงบอลไปทาประตู
ค. การบุกข้ึนแดนคู่แขง่ เพ่ือไปทาประตูเพียงอยา่ งเดียว
ง. ถูกทุกขอ้
30. ข้อใดต่อไปนีไ้ ม่ใช่หลกั ของกำรรับ (พ.3.2 ป.6/5)
ก. การดึงเกมใหช้ า้ ลง
ข. การสร้างความสมดุล
ค. การแกป้ ัญหาเฉพาะหนา้
ง. การคุมพ้นื ที่

173

เฉลยแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ทิ ำงกำรเรียนก่อนเรียน 30 ข้อ

ข้อ คำตอบ
1 ก. แรงและการเคล่ือนท่ี
2 ข. การสไลดเ์ ทา้
3 ข. ทาใหบ้ ุคลิกภาพ ท่าทางและการทรงตวั ดีข้ึนและช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย
4 ก. การเดาะลูกฟุตบอล
5 ง. เป็นการเคลื่อนไหวร่างกาย โดยร่างกายจะออกแรงรับนาหนกั ของ ตนเองขณะเคล่ือนไหว
6 ข. เป็นการเคล่ือนไหว ร่างกายท่ีกลา้ มเน้ือไดอ้ อกแรง เป็นการปฏิบตั ิ
7 ข. ประเทศองั กฤษ
8 ข. รัชกาลที่ 6
9 ก. เพ่ือใหอ้ ุปกรณ์มีอายกุ ารใชง้ านไดน้ านท่ีสุด
10 ค. การเล่นใหอ้ ยใู่ นกติกา รู้แพ้ ชนะ และอภยั ชนะใจตวั เองใหไ้ ด้
11 ค. 45 นาที
12 ง. 4 ปี
13 ง. ขา้ งเทา้
14 ค. ทกั ษะการเตะฟุตบอลดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นใน
15 ง. การครอบครองลูกฟุตบอล
16 ข. ใกลล้ ูกฟุตบอล
17 ข. การหยดุ ลูกฟุตบอลดว้ ยฝ่ าเทา้
18 ง. มีการตดั สินใจท่ีดี
19 ง. ถูกทุกขอ้
20 ข. การทากิจกรรมท่ีไดอ้ อกแรงหรือเคล่ือนไหวร่างกายซ่ึงมีหลากหลายรูปแบบ
21 ค. การออกกาลงั กายแบบใชอ้ อกซิเจน เป็นการออกกาลงั กายที่ใชเ้ วลาไมต่ ่ากวา่ 25 นาที
22 ก. ทาใหร้ ่างกายมีสุขภาพแขง็ แรง สามารถป้ องกนั รักษา และฟ้ื นฟูสภาพร่างกายได้
23 ง. เพอ่ื ปรับปรุงขอ้ บกพร่องของร่างกาย
24 ค. มีความแขง็ แรงของร่างกายและทาใหส้ มรรถภาพดีมากข้ึน
25 ง. การออกกาลงั กายกระตุน้ ใหร้ ่างกายเจริญเติบโตเตม็ ท่ี
26 ข. กิจกรรมท่ีคนเราใชเ้ วลาวา่ งจากภารกิจงานประจาโดยเขา้ ร่วมดว้ ยความสมคั รใจ
27 ง. ถูกทุกขอ้
28 ง. การจ่โู จมหรือการเขา้ กระทาเพ่ือทาคะแนน การยงิ ประตู
29 ก. การทาอยา่ งไรก็ได้ อยา่ งไม่ผดิ กฎ กติกา เพอ่ื ไมใ่ หฝ้ ่ ายตรงขา้ มบุกมายงิ ประตูของเราได้
30 ข. การสร้างความสมดุล

174

แบบบนั ทกึ คะแนนแบบทดสอบวดั ผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียน (ก่อนเรียน จำนวน 30 ข้อ)

วชิ ำสุขศึกษำและพลศึกษำ รำยวชิ ำพลศึกษำ (กฬี ำฟุตบอล)

ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี 6

ที่ ชื่อ-สกลุ เกณฑ์กำรประเมนิ

1 เดก็ ชายฟิ รเดาร์ แวหามะ ระดับคะแนน ระดับคะแนน
2 เดก็ ชายอบั ดุลกอฟาร์ บือราเฮง 30 คะแนน คุณภำพ
3 เด็กชายอานามี ยโู ซ๊ะ ดี
4 เด็กชายมูฮมั หมดั นูรุดดีน เจะมซู อ 22 ดี
5 เด็กชายมูหมดั ฮาฟี ซนั สือแม 22 พอใช้
6 เด็กชายกฤษฎา ดอเลาะห์ 18 ดี
7 เดก็ ชายอลั ฟาร์ มะอารง 22 ดี
8 เด็กชายนูรดิน เจะ๊ กา 18 ดี
9 เด็กชายกาไฟล์ เจิมแกว้ 28 พอใช้
10 เด็กชายมฮู าหมดั อาสระห์ มามุ 16 ดี
11 เด็กชายสัลมาน ดอแม 25 ดี
12 เด็กชายอฮั ลมั เจะ๊ อาแซ 22 พอใช้
13 เดก็ ชายอิลฮมั อาแซ 15 ปรับปรุง
14 เดก็ ชายซบั รี อารง 8 ดี
15 เดก็ ชายมฮู าหมดั ฮาฟี ซี อาแว 24 พอใช้
16 เดก็ ชายซอบบรี สนิสุริวงศ์ 18 พอใช้
17 เดก็ ชายฟาริฟ ยโู ซะ 16 ปรับปรุง
18 เดก็ ชายมูฮาหมดั มะแซ 9 ปรับปรุง
19 เดก็ ชายอาดมั เจะ๊ หลง 10 ดี
22 พอใช้
20 ปรับปรุง
9

175

20 เดก็ ชายฮสั วารี เจะ๊ เตะ๊ 9 ปรับปรุง
21 เดก็ ชายอบั ดุลอาริฟ ตาเเห 18 พอใช้
22 เดก็ หญิงอาเมเรีย เปาะแต 23
23 เด็กหญิงนูรูลอกั มาลียะฮ์ ยะโกะ 18 ดี
24 เดก็ หญิงนูรฮดู าดีณี ยะโกะ 15 พอใช้
25 เดก็ หญิงอายู เจะ๊ นาแว 15 พอใช้
26 เดก็ หญิงซุลวาณี แวยโู ซ๊ะ 18 พอใช้
27 เดก็ หญิงรุสมีนี ดว้ งประโคน 16 พอใช้
28 เดก็ หญิงนูซีฮะห์ บินเจะ๊ บือราเฮง 15 พอใช้
29 เดก็ หญิงบุษรอ มะยนู ุ 20 พอใช้
30 เด็กหญิงฮาลาวาตี มามะ 22 พอใช้
31 เด็กหญิงมารียมั มามะ 23
32 เดก็ หญิงนูรนิสรีน สะมะแอ 16 ดี
33 เดก็ หญิงนูรกาฟี ลา มาหามะ 16 ดี
34 เดก็ หญิงวนั พุตรี สาอะ 22 พอใช้
35 เดก็ หญิงฟาติน ยะเอ 26 พอใช้
36 เดก็ หญิงณฐั ชา แซลีมา 20 ดี
37 เด็กหญิงนูรอยั ดา สาเมาะ 22 ดี
38 เด็กหญิงโนรอีฟานี มะวเี ดง็ 22 พอใช้
39 เด็กหญิงนูรอุสนี มามะ 23 ดี
40 เด็กหญิงซุลฟา อาแวหลง 22 ดี
ดี
ดี

เกณฑ์กำรประเมนิ

ระดับคะแนน ระดบั คุณภำพ

21-30 ดี

11-20 พอใช้

0-10 ปรับปรุง

176

แบบบนั ทกึ คะแนนสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
รำยวชิ ำพลศึกษำ (กฬี ำฟุตบอล) ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี 6

ที่ ช่ือ-สกุล รำยกำรประเมนิ ระดบั ระดบั
คะแนน คุณภำพ

ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถใน 9

ในกำรส่ือสำร ในกำรคดิ กำรใช้ทกั ษะชีวติ

33 3

1 เด็กชายฟิ รเดาร์ แวหามะ 32 3 8 ดี

2 เด็กชายอบั ดุลกอฟาร์ บือราเฮง 2 2 2 6 พอใช้

3 เด็กชายอานามี ยโู ซ๊ะ 22 2 6 พอใช้

4 เด็กชายมฮู มั หมดั นูรุดดีน เจะมซู อ 3 3 3 9 ดี

5 เด็กชายมูหมดั ฮาฟี ซนั สือแม 2 2 1 5 พอใช้

6 เดก็ ชายกฤษฎา ดอเลาะห์ 33 3 9 ดี

7 เด็กชายอลั ฟาร์ มะอารง 23 3 8 ดี

8 เด็กชายนูรดิน เจะ๊ กา 22 2 6 พอใช้

9 เดก็ ชายกาไฟล์ เจิมแกว้ 22 3 7 ดี

10 เด็กชายมูฮาหมดั อา สระห์มามุ 2 2 2 6 พอใช้

11 เดก็ ชายสลั มาน ดอแม 11 1 3 ปรับปรุง

12 เดก็ ชายอฮั ลมั เจะ๊ อาแซ 22 2 6 พอใช้

13 เดก็ ชายอิลฮมั อาแซ 21 2 5 พอใช้

14 เด็กชายซบั รี อารง 22 2 6 พอใช้

15 เด็กชายมฮู าหมดั ฮาฟี ซี อาแว 1 1 1 3 ปรับปรุง

16 เดก็ ชายซอบบรี สนิสุริวงศ์ 12 3 6 พอใช้

17 เดก็ ชายฟาริฟ ยโู ซะ 23 3 8 ดี

18 เด็กชายมูฮาหมดั มะแซ 22 1 5 พอใช้

19 เดก็ ชายอาดมั เจะ๊ หลง 11 1 3 ปรับปรุง

20 เดก็ ชายฮสั วารี เจะ๊ เตะ๊ 11 2 4 พอใช้

21 เดก็ ชายอบั ดุลอาริฟ ตาเเห 2 2 177
22 เด็กหญิงอาเมเรีย เปาะแต 3 3
23 เดก็ หญิงนูรูลอกั มาลียะฮ์ ยะโกะ 2 2 2 6 พอใช้
24 เดก็ หญิงนูรฮดู าดีณี ยะโกะ 2 2 3 9 ดี
25 เด็กหญิงอายู เจะ๊ นาแว 3 3 2 6 พอใช้
26 เด็กหญิงซุลวาณี แวยโู ซ๊ะ 2 1 3 7 ดี
27 เดก็ หญิงรุสมีนี ดว้ งประโคน 2 2 3 9 ดี
28 เดก็ หญิงนูซีฮะห์บิน เจะ๊ บือราเฮง 3 2 2 5 พอใช้
29 เด็กหญิงบุษรอ มะยนู ุ 3 3 1 5 พอใช้
30 เดก็ หญิงฮาลาวาตี มามะ 3 2 2 7 ดี
31 เด็กหญิงมารียมั มามะ 2 2 3 9 ดี
32 เดก็ หญิงนูรนิสรีน สะมะแอ 1 2 3 8 ดี
33 เด็กหญิงนูรกาฟี ลา มาหามะ 2 2 2 6 พอใช้
34 เดก็ หญิงวนั พุตรี สาอะ 3 3 2 5 พอใช้
35 เด็กหญิงฟาติน ยะเอ 3 3 3 7 ดี
36 เด็กหญิงณฐั ชา แซลีมา 3 3 3 9 ดี
37 เด็กหญิงนูรอยั ดา สาเมาะ 2 8 ดี
38 เด็กหญิงโนรอีฟานี มะวเี ด็ง 2 3 2 8 ดี
39 เดก็ หญิงนูรอุสนี มามะ 2 2 2 7 ดี
40 เด็กหญิงซุลฟาอา แวหลง 2 3 2 6 พอใช้
2 2 3 8 พอใช้
2 6 พอใช้

เกณฑ์กำรประเมนิ

ระดับคะแนน ระดบั คุณภำพ

7-9 ดี

4-6 พอใช้

1-3 ปรับปรุง

178

เกณฑ์กำรประเมินสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
รำยวชิ ำพลศึกษำ (กฬี ำฟุตบอล) ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี 6 กำรส่ือสำร/กำรคิด/ทกั ษะชีวติ

รำยกำร เกณฑ์กำรให้คะแนน

ประเมนิ 3=ดี 2=พอใช้ 1=ปรับปรุง

ควำมสำมำรถ มีความสามารถในการทา มีความสามารถในการทา มีความสามารถในการทา

ในกำรสื่อสำร แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ

ทางการเรียนก่อนเรียนและ ทางการเรียนก่อนเรียนและ ทางการเรียนก่อนเรียนและ

สามรถทาคะแนนในการ สามรถทาคะแนนในการ สามรถทาคะแนนในการ

สอบ ไดด้ ี สอบ ไดพ้ อใช้ สอบ ไดบ้ างส่วน

ควำมสำมำรถ มีความรู้และเขา้ สามารถ มีความรู้และเขา้ สามารถ มีความรู้และเขา้ สามารถ

ในกำรคดิ วเิ คราะห์สรุปเป็นข้นั ตอน วเิ คราะห์สรุปเป็นข้นั ตอน วเิ คราะห์สรุปเป็นข้นั ตอน

แกไ้ ขปัญหาโดยใชเ้ หตผุ ล แกไ้ ขปัญหาโดยใชเ้ หตุผล แกไ้ ขปัญหาโดยใชเ้ หตุผล

และสามารถทาแบบทดสอบ และสามารถทาแบบทดสอบ และสามารถทาแบบทดสอบ

วดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน วดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน วดั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน

ก่อนเรียน ไดด้ ี ก่อนเรียน ไดพ้ อใช้ ก่อนเรียน ไดบ้ างส่วน

ควำมสำมำรถ มีทกั ษะในการแกป้ ัญหาและ มีทกั ษะในการแกป้ ัญหาและ มีทกั ษะในการแกป้ ัญหาและ

ในกำรใช้ การทาแบบทดสอบวดั ผล การทาแบบทดสอบวดั ผล การทาแบบทดสอบวดั ผล

ทกั ษะชีวติ สมั ฤทธ์ิทางการเรียนก่อน สมั ฤทธ์ิทางการเรียนก่อน สมั ฤทธ์ิทางการเรียนก่อน

เรียน ไดด้ ี เรียน ไดพ้ อใช้ เรียน ไดพ้ อใช้

เกณฑ์กำรให้คะแนน ระดับคุณภำพ
ดี
ระดบั คะแนน
7-9 พอใช้
4-6 ปรับปรุง
1-3

179

แบบบันทกึ คะแนนคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผู้เรียน
รำยวชิ ำพลศึกษำ (กฬี ำฟุตบอล)ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี 6

ที่ ช่ือ-สกลุ รำยกำรประเมิน ระดบั ระดบั
คะแนน คุณภำพ
1 เดก็ ชายฟิ รเดาร์ แวหามะ
2 เด็กชายอบั ดุลกอฟาร์ บือราเฮง มวี นิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ ม่งุ มน่ั ในกำร 9
3 เดก็ ชายอานามี ยโู ซ๊ะ
4 เดก็ ชายมฮู มั หมดั นูรุดดีน เจะมูซอ ทำงำน
5 เดก็ ชายมูหมดั ฮาฟี ซนั สือแม 333
6 เดก็ ชายกฤษฎา ดอเลาะห์
7 เด็กชายอลั ฟาร์ มะอารง 3 3 2 6 พอใช้
8 เดก็ ชายนูรดิน เจะ๊ กา 2 2 2 6 พอใช้
9 เด็กชายกาไฟล์ เจิมแกว้ 1 2 2 5 พอใช้
10 เดก็ ชายมูฮาหมดั อา สระห์มามุ 2 3 3 8 ดี
11 เดก็ ชายสัลมาน ดอแม 2 2 2 6 พอใช้
12 เด็กชายอฮั ลมั เจะ๊ อาแซ 3 3 3 9 ดี
13 เด็กชายอิลฮมั อาแซ 2 2 2 6 พอใช้
14 เดก็ ชายซบั รี อารง 2 3 2 7 ดี
15 เด็กชายมฮู าหมดั ฮาฟี ซี อาแว 2 2 2 6 พอใช้
16 เด็กชายซอบบรี สนิสุริวงศ์ 1 2 2 5 พอใช้
17 เดก็ ชายฟาริฟ ยโู ซะ 1 1 1 3 ปรับปรุง
18 เด็กชายมฮู าหมดั มะแซ 2 2 2 6 พอใช้
19 เดก็ ชายอาดมั เจะ๊ หลง 3 3 2 8 ดี
20 เด็กชายฮสั วารี เจะ๊ เตะ๊ 2 2 2 6 พอใช้
2 2 1 5 พอใช้
2 2 2 6 พอใช้
3 3 2 8 ดี
2 2 2 6 พอใช้
1 1 1 3 ปรับปรุง
1 2 2 5 พอใช้

180

21 เดก็ ชายอบั ดุลอาริฟ ตาเเห 2 3 2 7 ดี

22 เด็กหญิงอาเมเรีย เปาะแต 2 2 2 6 พอใช้

23 เดก็ หญิงนูรูลอกั มาลียะฮ์ ยะโกะ 2 2 3 7 ดี

24 เด็กหญิงนูรฮูดาดีณี ยะโกะ 3 3 2 8 ดี

25 เดก็ หญิงอายู เจะ๊ นาแว 2 2 2 6 พอใช้

26 เดก็ หญิงซุลวาณี แวยโู ซ๊ะ 2 2 2 6 พอใช้

27 เด็กหญิงรุสมีนี ดว้ งประโคน 2 3 2 7 ดี

28 เด็กหญิงนูซีฮะห์บิน เจะ๊ บือราเฮง 2 2 1 5 พอใช้

29 เดก็ หญิงบุษรอ มะยนู ุ 3 3 3 9 ดี

30 เด็กหญิงฮาลาวาตี มามะ 2 3 3 8 ดี

31 เด็กหญิงมารียมั มามะ 2 2 2 6 พอใช้

32 เดก็ หญิงนูรนิสรีน สะมะแอ 2 2 1 5 พอใช้

33 เดก็ หญิงนูรกาฟี ลา มาหามะ 3 3 2 8 ดี

34 เด็กหญิงวนั พตุ รี สาอะ 2 2 3 7 ดี

35 เด็กหญิงฟาติน ยะเอ 3 3 3 9 ดี

36 เดก็ หญิงณฐั ชา แซลีมา 3 3 3 9 ดี

37 เดก็ หญิงนูรอยั ดา สาเมาะ 2 2 2 6 พอใช้

38 เด็กหญิงโนรอีฟานี มะวเี ดง็ 2 2 2 6 พอใช้

39 เดก็ หญิงนูรอุสนี มามะ 2 2 3 7 ดี

40 เดก็ หญิงซุลฟาอา แวหลง 2 2 2 6 พอใช้

เกณฑ์กำรประเมนิ

ระดบั คะแนน ระดับคุณภำพ

7-9 ดี

4-6 พอใช้

1-3 ปรับปรุง

181

เกณฑ์กำรประเมินคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผ้เู รียน
รำยวชิ ำพลศึกษำ (กฬี ำฟุตบอล) ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี 6 มีวนิ ัย/ใฝ่ เรียนรู้/มุ่งมน่ั ในกำรทำงำน

รำยกำร เกณฑ์กำรให้คะแนน
ประเมนิ
ใฝ่ เรียนรู้ 3=ดี 2=พอใช้ 1=ปรับปรุง
ต้งั ใจทาแบบทดสอบวดั ผล
มุ่งมัน่ สัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อน ต้งั ใจทาแบบทดสอบวดั ผล ต้งั ใจทาแบบทดสอบวดั ผล
ในกำรทำงำน เรียนและสามารถทาคะแนน
ไดด้ ี สัมฤทธ์ิทางการเรียนก่อนเรียน สมั ฤทธ์ิทางการเรียนก่อน
มีวนิ ัย นกั เรียนต้งั ใจ รับผดิ ชอบใน
การทาต้งั ใจทาแบบทดสอบ และสามารถทาคะแนน เรียนและสามารถทาคะแนน
วดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
ก่อนเรียนและสามรถทา ไดพ้ อใช้ ไดบ้ างส่วน
คะแนนในการสอบ ไดด้ ี
นกั เรียนต้งั ใจ รับผดิ ชอบใน นกั เรียนต้งั ใจ รับผดิ ชอบใน
ปฏิบตั ิตนตามขอ้ ตกลง
กฎเกณฑ์ ระเบียบขอ้ บงั คบั การทาต้งั ใจทาแบบทดสอบ การทาต้งั ใจทาแบบทดสอบ
ของโรงเรียนและหอ้ งเรียน
และตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิ วดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วดั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
กิจกรรมตา่ งๆ ไดด้ ี
ก่อนเรียนและสามรถทา ก่อนเรียนและสามรถทา

คะแนนในการสอบ ไดพ้ อใช้ คะแนนในการสอบ

ไดบ้ างส่วน

ปฏิบตั ิตนตามขอ้ ตกลง ปฏิบตั ิตนตามขอ้ ตกลง

กฎเกณฑ์ ระเบียบขอ้ บงั คบั กฎเกณฑ์ ระเบียบขอ้ บงั คบั

ของโรงเรียนและหอ้ งเรียนและ ของโรงเรียนและหอ้ งเรียน

ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิ และตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิ

กิจกรรมต่างๆ ไดพ้ อใช้ กิจกรรมต่างๆ ไดบ้ างคร้ัง

เกณฑ์กำรให้คะแนน ระดับคุณภำพ
ดี
ระดบั คะแนน
7-9 พอใช้
4-6 ปรับปรุง
1-3

182

แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ท่ี 2

กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ รำยวชิ ำพลศึกษำ (กฬี ำฟุตบอล) รหัส พ 16101

หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี 1 กำรเคล่อื นไหวร่ำงกำย เวลำ 4 ชั่วโมง

เร่ือง กำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำย เวลำ 1 ช่ัวโมง

ช้ันประถมศึกษำปี ที่ 6 ครูผู้สอน นำยโยฮัน ปี ระมะลกึ

สำระท่ี 3 กำรเคลอ่ื นไหว กำรออกกำลงั กำย กำรเล่นเกม กฬี ำไทย และกฬี ำสำกล

มำตรฐำน พ 3.1 เข้ำใจ มีทกั ษะในกำรเคลอ่ื นไหว กจิ กรรมทำงกำย กำรเล่นเกม และกฬี ำ

ตัวชี้วดั ป 6/1 แสดงทกั ษะการเคล่ือนไหวร่วมกบั ผอู้ ่ืนในลกั ษณะแบบผลดั และแบบผสมผสานไดต้ ามลาดบั

ท้งั แบบอยกู่ บั ท่ี เคล่ือนท่ี และใชอ้ ุปกรณ์ประกอบ และการเคล่ือนไหวประกอบเพลง

สำระสำคัญ

ความหมาย ความสาคญั ลักษณะ การเคลื่อนไหวร่างกายแบบอยู่กับท่ี การเคล่ือนไหวแบบมีอุปกรณ์

การเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน การเคล่ือนไหวแบบผลัด การเคล่ือนไหวร่างกายแบบอยู่กับท่ี ความหมาย

ความสาคญั ลกั ษณะ การบิดตวั ความหมาย วธิ ีการปฏิบตั ิการบิดตวั การดนั ความหมาย วิธีการปฏิบตั ิการดนั การ

ดึง ความหมาย วธิ ีการปฏิบตั ิการการดึง การเหว่ยี งแขน ความหมาย วธิ ีการปฏิบตั ิการเหวยี่ งแขน ประโยชน์ของ

การเคลื่อนไหวแบบอยกู่ บั ที่ และมีทกั ษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา

-สำระกำรเรียนรู้
-ความหมายของการเคล่ือนไหวร่างกาย

-ความสาคญั ของการเคลื่อนไหวร่างกาย

-ลกั ษณะของกำรเคลอ่ื นไหวร่ำงกำย

-การเคลื่อนไหวร่างกายแบบอยกู่ บั ท่ี

-การเคล่ือนไหวแบบเคล่ือนที่

-การเคล่ือนไหวแบบมีอุปกรณ์

-การเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน

-การเคลื่อนไหวแบบผลดั

-กำรเคลอ่ื นไหวร่ำงกำยแบบอย่กู บั ที่

-ความหมายของการเคล่ือนไหวร่างกายแบบอยกู่ บั ที่

-ความสาคญั ของการเคลื่อนไหวร่างกายแบบอยกู่ บั ที่

-ลกั ษณะของกำรเคลอื่ นไหวแบบอย่กู บั ที่

-กำรบดิ ตัว

-ความหมายของการบิดตวั

183

-วธิ ีการปฏิบตั ิการบิดตวั
-กำรดัน
-ความหมายของการดนั
-วธิ ีการปฏิบตั ิการดนั
-กำรดงึ
-ความหมายของการดึง
-วธิ ีการปฏิบตั ิการการดึง
-กำรเหวยี่ งแขน
-ความหมายของการเหวย่ี งแขน
-วธิ ีการปฏิบตั ิการเหวยี่ งแขน
-ประโยชน์ของกำรเคลอื่ นไหวแบบอยู่กบั ที่
-จุดประสงค์กำรเรียนรู้
-กำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำย
-อธิบายความหมายของการเคลื่อนไหวร่างกายได้
-อธิบายความสาคญั ของการเคลื่อนไหวร่างกายได้
-บอกลกั ษณะของกำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำยได้
-อธิบายการเคล่ือนไหวร่างกายแบบอยกู่ บั ที่ได้
-อธิบายการเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนที่ได้
-อธิบายการเคลื่อนไหวแบบมีอุปกรณ์ได้
-อธิบายการเคลื่อนไหวแบบผสมผสานได้
-อธิบายการเคล่ือนไหวแบบผลดั ได้
-กำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำยแบบอยู่กบั ท่ี
-อธิบายความหมายของการเคล่ือนไหวร่างกายแบบอยกู่ บั ที่ได้
-อธิบายความสาคญั ของการเคลื่อนไหวร่างกายแบบอยกู่ บั ที่ได้
-บอกลกั ษณะของกำรเคลอื่ นไหวแบบอยู่กบั ทไี่ ด้
-กำรบดิ ตัว
-อธิบายความหมายของการบิดตวั ได้
-อธิบายวธิ ีการปฏิบตั ิการบิดตวั ได้
-กำรดนั
-อธิบายความหมายของการดนั ได้
-อธิบายวธิ ีการปฏิบตั ิการดนั ได้

184

-กำรดึง
-อธิบายความหมายของการดึงได้
-อธิบายวธิ ีการปฏิบตั ิการการดึงได้
-กำรเหวย่ี งแขน
-อธิบายความหมายของการเหวยี่ งแขนได้
-อธิบายวธิ ีการปฏิบตั ิการเหว่ียงแขนได้
-บอกประโยชน์ของกำรเคลอื่ นไหวแบบอยู่กบั ทไี่ ด้
สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน
-ความสามารถในการส่ือสาร
-ความสามารถในการคิด
-ความสามารถในการแกป้ ัญหา
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

-มีวนิ ยั
-ใฝ่ เรียนรู้
- มุ่งมน่ั ในการทางาน
กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้กระบวนกำรทำงพลศึกษำ 5 ข้นั
- ข้นั เตรียม

1. แบ่งกลุ่มนกั เรียนออกเป็ นกลุ่มล่ะ 5 คน จานวน 8 กลุ่ม โดยใชร้ ูปแบบการนบั เลข 1-8 ให้นกั เรียนเขา้
กลุ่มตามเลขท่ีตนเองนบั แลว้ ทาการเลือกประธาน รองประธาน และเลขานุการ

2. นาสื่อรูปภาพลกั ษณะของการเคลื่อนไหวร่างกายการบิดตวั การดนั การดึง การเหวย่ี งแขน
ใหน้ กั เรียนดูสนทนากบั นกั เรียนวา่ ไดข้ อ้ คิดอะไรบา้ งจากการดูรูปภาพ (เห็นการเคลื่อนไหวร่างกาย
ของมนุษยม์ ีความสาคญั ในการใชช้ ีวติ อยใู่ นปัจจุบนั ได)้

3. ครูอธิบายการทาขอ้ สอบก่อนเรียน จานวน 10 ขอ้ ใหน้ กั เรียนเขา้ ใจทุกคน
4. แจกแบบทดสอบก่อนเรียน จานวน 10 ขอ้ ใหน้ กั เรียนทุกคน
5. ใหน้ กั เรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียน จานวน 10 ขอ้
6. ใหน้ กั เรียนอบอุน่ ร่างกาย

6.1 วง่ิ รอบสนามฟุตบอล 2 รอบ
6.2 กระโดดตบ 10 คร้ัง
7. แจง้ จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ

185

- ข้นั อธิบำย/สำธิต

1. นกั เรียนนง่ั ตามกลุ่มเดิม

2. ตวั แทนกลุ่มรับเอกสารประกอบการเรียน เล่มที่ 1 เรื่องการเคลื่อนไหวร่างกายแจกสมาชิกทุกคน

3. ครูอธิบายและสาธิต ความหมาย ความสาคญั ลกั ษณะ การเคล่ือนไหวร่างกายแบบอยู่กบั ท่ี การ

เคล่ือนไหวแบบมีอุปกรณ์ การเคล่ือนไหวแบบผสมผสาน การเคลื่อนไหวแบบผลัด การ

เคล่ือนไหวร่างกายแบบอยู่กบั ที่ ความหมาย ความสาคญั ลกั ษณะ การบิดตวั ความหมาย วธิ ีการปฏิบตั ิการ

บิดตวั การดนั ความหมาย วธิ ีการปฏิบตั ิการดนั การดึง ความหมาย วิธีการปฏิบตั ิการการดึง การเหว่ยี งแขน

ความหมาย วิธีการปฏิบตั ิการเหว่ียงแขน ประโยชน์ของการเคล่ือนไหวแบบอย่กู บั ท่ี ให้กบั นกั เรียนเขา้ ใจ

และสุ่มนกั เรียนออกมาสาธิตใหเ้ พอื่ นในหอ้ งดูครูช้ีแนะใหค้ าแนะนาระหวา่ งนกั เรียนฝึกปฏิบตั ิ

- ข้นั ฝึ กปฏบิ ตั ิ

1. สมาชิกแต่ละกลุ่มศึกษาและปฏิบตั ิตามเอกสารประกอบการเรียน เล่มท่ี 1 เร่ืองการเคลื่อนไหว

ร่างกายความหมาย ความสาคญั ลกั ษณะ การเคล่ือนไหวร่างกายแบบอยกู่ บั ท่ี การเคล่ือนไหวแบบ มี

อุปกรณ์ การเคลื่อนไหวแบบผสมผสาน การเคล่ือนไหวแบบผลดั การเคลื่อนไหวร่างกายแบบอยู่กบั ที่

ความหมาย ความสาคญั ลกั ษณะ การบิดตวั ความหมาย วิธีการปฏิบตั ิการบิดตวั การดนั ความหมาย วิธีการ

ปฏิบตั ิการดนั การดึง ความหมาย วิธีการปฏิบตั ิการการดึง การเหวี่ยงแขน ความหมาย วิธีการปฏิบตั ิการ

เหวย่ี งแขน ประโยชน์ของการเคล่ือนไหวแบบอยกู่ บั ท่ี ครูใหค้ าแนะนาระหวา่ งนกั เรียนฝึกปฏิบตั ิใหถ้ ูกตอ้ ง

2. แบง่ กลุ่มนกั เรียนออกเป็นกลุ่มล่ะ 10 คน จานวน 4 กลุ่ม โดยใชร้ ูปแบบการนบั 1-4 ใหน้ กั เรียนเขา้

กลุ่มตามเลขท่ีตนเองนบั ดงั ต่อไปน้ี

กลุ่มท่ี 1 การบิดตวั

กลุ่มท่ี 2 การดนั

กลุ่มที่ 3 การดึง

กลุ่มที่ 4 การเหวย่ี งแขน

- ข้นั นำไปใช้

1. ใหน้ กั เรียนนง่ั ตามกลุ่มเดิม จานวน 4 กลุ่ม เพ่ือแขง่ ขนั เกมการเคลื่อนไหวแบบอยกู่ บั ที่

วธิ ีกำรแข่งขันเกมกำรเคลอื่ นไหวแบบอย่กู บั ที่

1.1 ครูให้นกั เรียนเล่นเกมเร่ืองการเคลื่อนไหวร่างกายแบบอยกู่ บั ท่ี โดยให้แต่ล่ะกลุ่มเลือกการ

เคล่ือนไหวแบบอยกู่ บั ที่กลุ่มล่ะ 1 ท่ามา ปฏิบตั ิใหก้ บั เพ่ือนในหอ้ งไดด้ ู

1.2 ส่งตวั แทนกลุ่มล่ะ 5 คน เพอื่ ทาการแข่งขนั เกมการเคล่ือนไหวแบบอยกู่ บั ที่

1.3 ส่งตวั แทนมากลุ่มล่ะ 2 คน เพอื่ เป็นกรรมการ

1.4 การใหค้ ะแนนดูจากความพร้อมเพรียงของสมาชิกในกลุ่มจากการเคล่ือนไหวร่างกาย

1.5 กลุ่มไหนท่ีทาพร้อมเพรียงที่สุดเป็นฝ่ ายชนะ โดยคะแนนจากครูและกรรมการ 2 คน

186

1.6 กลุ่มท่ีไม่พร้อมเพรียงไม่มีความสามคั คีมากที่สุดจะเป็ นฝ่ ายแพแ้ ละตอ้ งช่วยครูเก็บอุปกรณ์
การเรียนไปหอ้ งพลศึกษา

2. ครูใหน้ กั เรียนทาใบงานที่ 1 เร่ือง การเคลื่อนไหวร่างกาย
3. ครูใหน้ กั เรียนคลายกลา้ มเน้ือ
3.1 บิดตวั 10 คร้ัง
3.2 เหวยี่ งแขน 10 คร้ัง

4. ครูประเมินสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน

- ข้ันสรุป
1. นักเรี ยนและครูร่วมกันสรุ ป สาระการเรี ยนรู้ เรื่ องการเคลื่อนไหวร่างกาย ความหมาย

ความสาคญั ลกั ษณะ การเคลื่อนไหวร่างกายแบบอยกู่ บั ท่ี การเคล่ือนไหวแบบมีอุปกรณ์ การเคลื่อนไหวแบบ
ผสมผสาน การเคล่ือนไหวแบบผลดั การเคลื่อนไหวร่างกายแบบอยู่กบั ที่ ความหมาย ความสาคญั ลกั ษณะ
การบิดตวั ความหมาย วธิ ีการปฏิบตั ิการบิดตวั การดนั ความหมาย วธิ ีการปฏิบตั ิการดนั การดึง ความหมาย
วิธีการปฏิบตั ิการการดึง การเหว่ียงแขน ความหมาย วิธีการปฏิบตั ิการเหว่ียงแขน ประโยชน์ของการ
เคลื่อนไหวแบบอยกู่ บั ท่ีในลกั ษณะความเรียง

2. ครูใหน้ กั เรียนทาความสะอาดร่างกายใหเ้ รียบร้อยพร้อมที่เรียนวชิ าตอ่ ไป
3. ครูประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
- ส่ือ/แหล่งเรียนรู้

1. แบบทดสอบก่อนเรียนเรื่องการเคลื่อนไหวร่างกาย จานวน 10 ขอ้
2. เอกสารประกอบการเรียน เล่มท่ี 1 เร่ืองการเคลื่อนไหวของเรา
3. ใบงานที่ 1 เรื่อง การเคล่ือนไหวร่างกาย
4. แบบประเมินสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
5. แบบประเมินคุณลกั ษณะสาคญั ของผเู้ รียน
6. รูปภาพการเคลื่อนไหวร่างกาย

187

- กำรวดั และประเมนิ ผล

รำยกำร เครื่องมือ วธิ ีกำร เกณฑ์กำรประเมนิ

แบบทดสอบก่อน/หลงั แบบทดสอบก่อน/หลงั ตรวจแบบทดสอบก่อน/ ระดบั คะแนน ระดบั คุณภำพ
เรียน เรียน หลงั เรียนจานวน 10 ขอ้ 7-10 ดี
5-6 พอใช้
จานวน 10 ขอ้ จานวน 10 ขอ้ ตรวจใบงานท่ี 1 0-4 ปรับปรุง
ใบงานที่ 1 เรื่อง ใบงานท่ี 1 เร่ือง เร่ือง การเคล่ือนไหว 7-9 ดี
การเคลื่อนไหวร่างกาย การเคล่ือนไหวร่างกาย 4-6 พอใช้
ร่างกาย 1-3 ปรับปรุง
สมรรถนะสาคญั ของ แบบประเมินสมรรถนะ ประเมินสมรรถนะ 7-9 ดี
ผเู้ รียน สาคญั ของผเู้ รียน สาคญั ของผเู้ รียน 4-6 พอใช้
1-3 ปรับปรุง

คุณลกั ษณะท่ีพงึ แบบประเมิน ประเมินคุณลกั ษณะท่ี 7-9 ดี
ประสงคข์ องผเู้ รียน คุณลกั ษณะที่พึง พึงประสงคข์ องผเู้ รียน 4-6 พอใช้
ประสงคข์ องผเู้ รียน 1-3 ปรับปรุง

188

บันทกึ หลงั กำรสอน
ด้ำนควำมรู้
....................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ด้ำนทกั ษะ/กระบวนกำร
....................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................
ด้ำนสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
....................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
ด้ำนคุณลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงค์ของผ้เู รียน
....................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

ลงช่ือ..............................................
นำยโยฮัน ปี ระมะลกึ
ครูโรงเรียนบ้ำนโคกตำ

ข้อเสนอแนะของผู้บริหำรหรือผ้ทู ไี่ ด้รับมอบหมำย
....................................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................

ลงชื่อ..........................................
นำยบุญชู รำชสุวรรณ

ผู้อำนวยกำรโรงเรียนบ้ำนโคกตำ

189

รูปภำพกำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำย

กำรบดิ ตวั

190
กำรดัน

กำรดงึ กำรเหวี่ยง

191

แบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องกำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำย
กลุ่มสำระกำรเรียนรู้สุขศึกษำและพลศึกษำ รำยวชิ ำพลศึกษำ (กฬี ำฟุตบอล) ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี 6

ข้อสอบท้งั หมด 10 ข้อ จำนวน 10 คะแนน เวลำ 20 นำที
คำชี้แจง ให้นักเรียนเลือกคำตอบทถี่ ูกต้องทสี่ ุดเพยี งข้อเดียว
1. ข้อใดไม่ใช่หลกั กำรเคลอ่ื นไหวร่ำงกำย (พ.3.1 ป.6/1)
ก. แรงและการเคลื่อนท่ี
ข. ความสมดุล
ค. การรับแรง
ง. การใชแ้ รง
2. ข้อใดเป็ นกำรเคลอื่ นไหวแบบเคลอื่ นที่ (พ.3.1 ป.6/1)
ก. การหมุนลาตวั
ข. การสไลดเ์ ทา้
ค. การบิดตวั
ง. กม้ หวั
3. เหตุใดกำรเดินทรงตวั บนรำวไม้ ผู้ปฏิบตั ติ ้องกำงแขนออกท้งั สองข้ำง (พ.3.1 ป.6/2)
ก. เพื่อถ่วงน้าหนกั ใหเ้ กิดความสมดุล
ข. เพ่อื ทาใหเ้ ดินไดเ้ ร็วข้ึน
ค. เพอ่ื ทาใหเ้ ทา้ รับน้าหนกั ไดด้ ี
ง. เพื่อทาใหม้ ีลมช่วยพยงุ ไดด้ ีข้ึน
4. ข้อใดกล่ำวถูกต้องเกย่ี วกบั กำรเดินลงบนั ได(พ.3.1 ป.6/2)
ก. มือตอ้ งแนบขา้ งลาตวั
ข. ยนื ตวั ตรงเสมอ
ค. ควรเดินลงส้นเทา้
ง.ใหเ้ ทา้ ใดเทา้ หน่ึงเดินนาหนา้ เสมอ
5. ถ้ำนักเรียนต้องกำรเคลอื่ นย้ำยรถยนต์ทจ่ี อดอยู่คนเดียว ควรเลอื กใช้วธิ ีใด (พ.3.1 ป.6/1)
ก. การดึง
ข. การยก
ค. การแบก
ง. การดนั

192

6. ถ้ำนักเรียนไม่รู้หลกั กำรเคลอ่ื นไหวในชีวติ ประจำวนั ทถ่ี ูกต้อง จะเกดิ ผลเสียในแง่ใด (พ.3.1 ป.6/1)
ก. ทาใหเ้ คลื่อนไหวไม่ได้
ข. ทาใหไ้ ดร้ ับบาดเจบ็
ค. ทาใหเ้ คล่ือนไหวไดน้ าน
ง. ทาใหเ้ ล่นกีฬาไม่เก่ง
7. ใครใช้วธิ ีเคลอ่ื นย้ำยส่ิงของไม่ถูกต้อง (พ.3.1 ป.6/1)
ก. เหมียวแบกตูเ้ ยน็ ไปซ่อม
ข. แมวยกเกา้ อ้ีไปไวห้ ลงั หอ้ ง
ค. มกดึงโตะ๊ นกั เรียนใหเ้ คล่ือนท่ี
ง.ไหมดนั เตียงใหเ้ ขา้ ท่ี
8. ข้อใดคอื ควำมหมำยของเกมเบ็ดเตลด็ (พ.3.1 ป.6/2)
ก. การเล่นเกมท่ีไมม่ ีกติกาสลบั ซบั ซอ้ นมาก มุ่งใหเ้ กิดความสนุกสนาน
ข. การเล่นเกมที่มีกติกาและบทลงโทษที่ชดั เจน
ค. การเล่นเกมในโทรศพั ทม์ ือถือ
ง. การเล่นเกมแบบที่ตอ้ งสมคั รเขา้ แขง่ ขนั
9. เกมนำไปสู่กฬี ำและเกมแบบผลดั มีประโยชน์อย่ำงไรบ้ำง (พ.3.1 ป.6/2)
ก. ชยั ชนะท่ียง่ิ ใหญ่
ข. เงินทอง
ค. ความมีน้าใจนกั กีฬาและสนุกสนานจากเกม
ง. ชื่อเสียง
10. กำรเคลอ่ื นไหวมคี วำมสำคญั อย่ำงไรมำกทสี่ ุด (พ.3.1 ป.6/1)
ก. ทาใหว้ ง่ิ ไดเ้ ร็วข้ึน
ข. ทาใหบ้ ุคลิกภาพ ท่าทางและการทรงตวั ดีข้ึนและช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย
ค. ทาใหเ้ หน่ือยชา้ ลงกวา่ เดิม
ง. ทาใหม้ ีพลงั งานในร่างกายมากข้ึน

193

เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน
เร่ือง กำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำย

ข้อ คำตอบ
1 ก.
2 ข.
3 ก.
4 ง.
5 ง.
6 ค.
7 ก.
8 ก.
9 ค.
10 ข.

ระดับคะแนน เกณฑ์กำรประเมิน
7-10
5-6 ระดบั คุณภำพ
0-4 ดี

พอใช้
ปรับปรุง

194

แบบบันทกึ คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียน

เรื่องกำรเคลอ่ื นไหวร่ำงกำยจำนวน 10 ข้อ

รำยวชิ ำพลศึกษำ (กฬี ำฟุตบอล) ช้ันประถมศึกษำปี ท่ี 6

ที่ ช่ือ-สกุล เกณฑ์กำรประเมิน

1 เดก็ ชายฟิ รเดาร์ แวหามะ ระดับคะแนน ระดบั คะแนน
2 เด็กชายอบั ดุลกอฟาร์ บือราเฮง 10 คะแนน คุณภำพ
3 เดก็ ชายอานามี ยโู ซ๊ะ ดี
4 เดก็ ชายมูฮมั หมดั นูรุดดีน เจะมูซอ 8
5 เด็กชายมูหมดั ฮาฟี ซนั สือแม ดี
6 เด็กชายกฤษฎา ดอเลาะห์ 7 ดี
7 เด็กชายอลั ฟาร์ มะอารง 7 ดี
8 เด็กชายนูรดิน เจะ๊ กา 9 พอใช้
9 เดก็ ชายกาไฟล์ เจิมแกว้ 5 ดี
10 เดก็ ชายมูฮาหมดั อาสระห์ มามุ 8 พอใช้
11 เดก็ ชายสลั มาน ดอแม 5 ดี
12 เด็กชายอฮั ลมั เจะ๊ อาแซ 8 ดี
13 เด็กชายอิลฮมั อาแซ 7 พอใช้
14 เดก็ ชายซบั รี อารง 6 พอใช้
15 เดก็ ชายมูฮาหมดั ฮาฟี ซี อาแว 6 ดี
16 เดก็ ชายซอบบรี สนิสุริวงศ์ 8 ดี
17 เด็กชายฟาริฟ ยโู ซะ 8 ดี
18 เดก็ ชายมฮู าหมดั มะแซ 9 พอใช้
19 เด็กชายอาดมั เจะ๊ หลง 6 พอใช้
20 เดก็ ชายฮสั วารี เจะ๊ เตะ๊ 6 ดี
7 พอใช้
6 พอใช้
5 ดี
7

195

21 เดก็ ชายอบั ดุลอาริฟ ตาเเห 7 ดี
ดี
22 เดก็ หญิงอาเมเรีย เปาะแต 9 ดี
ดี
23 เดก็ หญิงนูรูลอกั มาลียะฮ์ ยะโกะ 9 ดี
ดี
24 เด็กหญิงนูรฮดู าดีณี ยะโกะ 9 ดี
พอใช้
25 เดก็ หญิงอายู เจะ๊ นาแว 8 ดี
ดี
26 เดก็ หญิงซุลวาณี แวยโู ซ๊ะ 7 ดี
พอใช้
27 เด็กหญิงรุสมีนี ดว้ งประโคน 9 พอใช้
ดี
28 เด็กหญิงนูซีฮะห์ บินเจะ๊ บือราเฮง 6 ดี
ดี
29 เดก็ หญิงบุษรอ มะยนู ุ 8 ดี
ดี
30 เดก็ หญิงฮาลาวาตี มามะ 8 ดี
ดี
31 เดก็ หญิงมารียมั มามะ 9

32 เด็กหญิงนูรนิสรีน สะมะแอ 6

33 เด็กหญิงนูรกาฟี ลา มาหามะ 6

34 เด็กหญิงวนั พุตรี สาอะ 7

35 เดก็ หญิงฟาติน ยะเอ 8

36 เดก็ หญิงณฐั ชา แซลีมา 8

37 เด็กหญิงนูรอยั ดา สาเมาะ 9

38 เดก็ หญิงโนรอีฟานี มะวเี ด็ง 9

39 เด็กหญิงนูรอุสนี มามะ 8

40 เดก็ หญิงซุลฟา อาแวหลง 9

เกณฑ์กำรประเมิน

ระดับคะแนน ระดับคุณภำพ
7-10 ดี
5-6
0-4 พอใช้
ปรับปรุง

196

ใบงำนที่ 1
เรื่อง กำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำย

*จุดประสงค์กำรเรียนรู้

1. อธิบายความหมายของการเคล่ือนไหวร่างกายได้ 2. อธิบายความสาคญั ของการเคลื่อนไหวร่างกายได้

3. บอกลกั ษะของการเคลื่อนไหวแบบอยกู่ บั ท่ีได้ 4. อธิบายความหมายของการเคล่ือนไหวแบบอยกู่ บั ท่ีได้

5. อธิบายความสาคญั ของการเคล่ือนไหวร่างกายอยกู่ บั ท่ีได้ 6.อธิบายลกั ษณะของการเคล่ือนไหวอยกู่ บั ท่ีได้

7. อธิบายและปฏิบตั ิการบิดตวั ได้ 8. อธิบายและปฏิบตั ิการดึงได้

9. อธิบายและปฏิบตั ิการดนั ได้ 10. อธิบายและปฏิบตั ิการเหวยี่ งแขนได้

11.บอกประโยชน์ของการเคล่ือนไหวแบบอยกู่ บั ท่ีได้

คำชี้แจง ให้นักเรียนตอบคำถำมต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง
1. กำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำย หมำยถึงอะไร

2. กำรเคลอื่ นไหวมีควำมสำคัญอย่ำงไร

3. ลกั ษณะของกำรเคลอื่ นไหวร่ำงกำยมอี ะไรบ้ำง

4. กำรเคลอื่ นไหวอย่กู บั ที่ หมำยถงึ อะไร

5. กำรบดิ ตวั twisting หมำยถึงอะไร

6. กำรดนั pushing หมำยถงึ อะไร

7. กำรเหวย่ี งแขน Swinging หมำยถึงอะไร

8. กำรดึง Pulling หมำยถึงอะไร

9. ประโยชน์ของกำรเคลอ่ื นไหวแบบอย่กู บั ท่ี มีอะไรบ้ำง

197

เฉลยใบงำนที่ 1
เร่ือง กำรเคลอ่ื นไหวร่ำงกำย

จุดประสงค์กำรเรียนรู้

1. อธิบายความหมายของการเคล่ือนไหวร่างกายได้
2. อธิบายความสาคญั ของการเคล่ือนไหวร่างกายได้
3. บอกลกั ษณะของการเคล่ือนไหวแบบอยกู่ บั ท่ีได้
4. อธิบายความหมายของการเคลื่อนไหวแบบอยกู่ บั ท่ีได้
5. อธิบายความสาคญั ของการเคลื่อนไหวร่างกายแบบอยกู่ บั ท่ีได้
6. อธิบายลกั ษณะของการเคล่ือนไหวแบบอยกู่ บั ที่ได้
7. อธิบายและสาธิตการบิดตวั ได้
8. อธิบายและสาธิตการดึงได้
9. อธิบายและสาธิตการดนั ได้
10. อธิบายและสาธิตการเหว่ียงแขนได้
11. บอกประโยชนข์ องการเคลื่อนไหวแบบอยกู่ บั ที่ได้


Click to View FlipBook Version